Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore RMUTP

RMUTP

Published by taweelap_s, 2019-05-21 02:38:29

Description: RMUTP

Search

Read the Text Version

โครงการประชุมสมั มนาเครือข่ายการจดั การความรูฯ้ ครั้งที่ 12 “การจดั การความร้สู ู่มหาวทิ ยาลัยนวัตกรรม” (Knowledge Management : Innovative University) สาหรับอาจารย์และบุคลากรสายสนบั สนนุ ช่อื เรอ่ื ง/แนวปฏิบัตทิ ด่ี ี การสร้างความรว่ มมือด้านการจัดการความร้สู ู่มหาวทิ ยาลยั นวตั กรรม ชื่อ – นามสกลุ ผูน้ าเสนอ อาจารยน์ ฤศร มังกรศิลา ชื่อสถาบันการศึกษา มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร หน่วยงาน คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ เบอร์โทรศัพทม์ ือถอื 089-020-4555 เบอร์โทรสาร 0-2665-3888 ตอ่ 5236 E-Mail address [email protected]

โครงการประชุมสมั มนาเครอื ข่ายการจดั การความรูฯ้ ครั้งท่ี 12 “การจัดการความรู้สู่มหาวิทยาลยั นวัตกรรม” (Knowledge Management : Innovative University) สาหรบั อาจารย์และบุคลากรสายสนบั สนุน การสรา้ งความรว่ มมือด้านการจดั การความรู้สู่มหาวทิ ยาลยั นวัตกรรม Development of Knowledge Management Collaboration to Innovative University นฤศร มังกรศิลา (Narusorn Mangkornsila)1 1หวั หน้างานจัดการความรู้ คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร [email protected] ……………………………………………………………………………………………………………………………………… บทสรุป การสร้างความร่วมมือการจัดการความรู้ตั้งแต่อดีตจึงถึงปัจจุบัน มีแนวโน้มในการ พัฒนาการจัดการความรู้ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพ่ิมข้ึน เนื่องจากการใช้เครื่องมือการ จัดการความรู้ (KM Tools) ท่ีเหมาะสมกับการสร้างความร่วมมือในช่วงแรกที่เริ่มต้นการพัฒนา และสง่ เสริมจากการจัดการความรู้ในรูปแบบเดิมของหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย เช่น การเล่า เรื่องทรงพลัง (Story Telling), แผ่นพับการจัดการความรู้ (KM Brochure), แนวปฏิบัติที่ดี (Good Practice) และเครื่องมอื การจดั การความรู้อ่นื ๆ ที่เกิดข้ึนจากการปฏิบัติได้จริงจนเกิดเป็น ผลสัมฤทธิ์ของบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย แต่สิ่งที่เป็นกาแพงขวางกั้นการพัฒนาและส่งเสริม การจัดการความรู้ให้เกิดการต่อยอด คือ การรับรู้การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อขับเคลื่อนการ จัดการความรู้ให้เกิดประโยชน์นั้นควรดาเนินการให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม และส่ิงท่ีเป็นอุปสรรคใน การสร้างความร่วมมือด้านการจัดการความรู้ คือ ความไม่กล้าที่จะสร้างสรรค์ หรือ เปล่ียนแปลง ไปสู่นวัตกรรมการจดั การความรู้ใหมๆ่ รวมถงึ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจัดการความรู้ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มองเห็นถึง คณุ ค่าและความสาคญั ของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อสร้างความร่วมมือในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศเพ่ือการบริหารจัดการความรู้มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรมอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศทางด้านการจดั การความรู้ที่มหาวิทยาลัยได้จัดเตรียมไว้ให้ เพ่ือการพัฒนาองค์ความรู้ และการถ่ายทอด หรือเผยแพร่องค์ความรู้ในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน จนเปลยี่ นเป็นพลงั ในการสร้างความร่วมมือดา้ นการจดั การความรู้จึงเป็นสิ่งที่สาคัญต่อการพัฒนา องคค์ วามรรู้ ่วมกันของหนว่ ยงานภายในมหาวิทยาลัยนวัตกรรมได้ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ มหาวิทยาลัยได้จัดเตรียมเอาไว้ เช่น เว็บบล็อก (Web Blog) หรือส่ือสังคมออนไลน์ (Social Media) ทีม่ ศี ักยภาพมาใชใ้ นการสรา้ งความร่วมมือด้านการจัดการความรู้ระหว่างกันได้ คาสาคญั : การสร้างความร่วมมอื การจัดการความรู้ มหาวิทยาลัยนวตั กรรม

Summary From the past to the present, Knowledge Management Collaboration that is trended in developing efficiency and effectiveness Knowledge Management with appropriately KM Tools using for early developing and supporting Knowledge Management in University such as Story Telling, KM Brochure, Good Practice and other KM tools. Actually, there is real case for Knowledge Management Developing that are achieved for Good KM personnel. But what is the barrier to Developing and supporting for Knowledge Management Collaboration that is not appeared about Personnel’s Information Technology Perception for driving Knowledge Management to make benefit and Knowledge Management Collaboration should be concreted. And then Core Obstacle of Knowledge Management Collaboration that is not brave to creating or changing to the New Knowledge Management Innovative and using Knowledge Management Information Tehnology. Faculty of Home Economics Technology, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon that has profoundly vision to value and importance of using Information Tehnology for Knowledge Management Collaboration to Innovative University. Especially, Using Knowledge Management Information Tehnology that has prepared as RMUTP KM Web Blog for developing and supporting to share knowledge in the long-term sustainability. As a result, there is important to develop Collaborative Learning within the Innovative University by using Information Technology appropriately such as Web Blog or Social Media that has potential Knowledge Management Sharing for Developing Collaborative Knowledge Management. Keywords : Collaboration Knowledge Management Innovative University

บทนา จากนโยบายดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม (Digital Economy and Digital Society) ของภาครัฐบาล มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ในฐานะสถาบันการศึกษาของภาครัฐ ได้ปรับตัวเข้าสู่การเป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรมมาเป็นเวลาระยะหนึ่งแล้วโดยร่วมมือกับ ภาคเอกชนในประเทศ ซ่ึงในวันท่ี 20 กรกฎาคม 2560 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระ นคร (ศนู ยพ์ ณิชยการพระนคร) ทางมหาวิทยาลยั พรอ้ มจะประกาศตวั เป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรม (Innovative University) อย่างเป็นทางการ ภายใต้ช่ืองาน RMUTP Go Digital : Student Activity Day โดยการพัฒนาวัฒนธรรมการทางานขององค์กร ไปสู่การเป็น “สังคมดิจิทัลท่ีมี คุณภาพ” ด้วยการรับข้อมูลข่าวสารและบริการต่างๆ ท่ีเอ้ืออานวยทุกระดับ เข้าถึงได้ทุกท่ี ทุก เวลาเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทางานขององค์กร โดยใช้เทคโนโลยีอานวยความสะดวกและ สง่ เสรมิ การใช้เทคโนโลยีแก่บุคลากร และนักศึกษา รวมท้ังเพื่อเตรียมความพร้อมในการมุ่งสู่การ เป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรม (Innovative University) ท่ีสมบูรณ์แบบในอนาคต (กองสื่อสาร องคก์ ร, 2560) สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาและอุปสรรคในการสร้างความร่วมมือการจัดการความรู้ภายในของ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร คือ ความไม่กล้าท่ีจะ สร้างสรรค์ หรือ เปลีย่ นแปลงไปสู่การใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ทางด้านการจัดการความรู้ โดยแนวทาง การกระตุ้นให้บุคลากรใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางด้านการจัดการความรู้ รวมท้ังมีการกระตุ้น ด้วยการใช้คู่มือการส่งเสริมและการพัฒนาการจัดการความรู้ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (KM HEC Manual) เพื่อขับเคลื่อนไปสู่การจัดการ ความรู้เพ่ือมุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรม แต่บุคลากรยังมีความรู้สึกท่ีไม่ดีต่อการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการความรู้มองว่าเป็นการเพ่ิมภาระงาน หรือมีทัศนคติท่ีไม่ดีต่อ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือดาเนินการให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาองค์ความรู้ และการ บริหารจัดการความรู้เพ่ือถ่ายทอด หรือเผยแพร่องค์ความรู้ท่ีเหมาะสมกับการขับเคล่ือนพันธกิจ ตา่ งๆ ในระยะยาวได้อยา่ งย่งั ยืน ดังน้ัน การจัดการความรู้ภายในองค์กร ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สาคัญอย่างหน่ึงในการขับเคลื่อน องคก์ รให้เกดิ การพัฒนาต่อยอดองค์ความรอู้ ยา่ งต่อเนื่อง เพ่ือให้บุคลากรสามารถพัฒนาตนเองได้ จากการศึกษา ค้นคว้า หรือไดร้ ับการฝึกอบรมจากบุคลากรภายในท่ีมีความรู้ความสามารถ โดยมี ความเช่ียวชาญจนเกิดเป็นแนวปฏิบัติที่ดี (Good Practice) และนามาบริหารจัดการความรู้เพื่อ ถ่ายทอด หรือเผยแพร่องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นในรูปแบบเดิมภายในมหาวิทยาลัยผ่านเคร่ืองมือการ จัดการความรู้ท่ีหลากหลาย เช่น การเล่าเรื่องทรงพลัง (Story Telling), แผ่นพับการจัดการ ความรู้ (KM Brochure), แนวปฏิบัติท่ีดี (Good Practice) และเครื่องมือการจัดการความรู้อ่ืนๆ นามาปรับใช้ตามความเหมาะสม ส่ิงท่ีสาคัญ คือ การมองเห็นคุณค่าและความสาคัญของการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ สร้างความรว่ มมือในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการบริหารจัดการ ความรู้ของบุคลากรคณะฯ แตล่ ะบุคคลมีความแตกต่างกัน โดยคณะฯ ให้ความสาคัญกับบุคลากร ในกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการความรู้ มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ และการรับรู้การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในระดับสูง สามารถขับเคล่ือนตัวเองให้เป็นนักจัดการ

ความรู้ของคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครได้อย่างดี โดยมที กั ษะทางดา้ นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือมุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรมได้อย่าง ยงั่ ยืน เกิดการสร้างความร่วมมือด้านการจัดการความรู้ท่ีมีความสาคัญต่อการพัฒนาองค์ความรู้ ร่วมกันของหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยนวัตกรรมได้ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ศูนย์การ จัดการความรู้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ได้จัดเตรียมเอาไว้ เช่น เว็บบล็อก (Web Blog) หรือสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ที่มีศักยภาพมาใช้ในการสร้างความร่วมมือ ด้านการจดั การความรู้ภายในคณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ และระหว่างหน่วยงานต่อไปได้ วธิ กี ารดาเนนิ งาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มีการกาหนดระดับการสร้างความร่วมมือ ด้านการจัดการความรู้ที่ชัดเจน เพ่ือให้เกิดการสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อ การพัฒนาไปสกู่ ารเปน็ มหาวทิ ยาลยั นวัตกรรม แน่นอนวา่ การขับเคลอ่ื นมหาวทิ ยาลัยไปสู่การเป็น มหาวทิ ยาลยั นวัตกรรมไดน้ นั้ มวี ิธกี ารสร้างความร่วมมอื ท่สี าคญั ในทกุ ระดับ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ระดับสูง (CEO), คณบดี ผู้อานวยการสานัก สถาบัน กอง (Dean and Director) และบุคลากร สายวิชาการ (Lecturer) และบุคลากรสายสนับสนุน (Support Staff) ต่างมีความสาคัญในการ พัฒนาและสง่ เสรมิ การจัดการความรู้เปน็ อย่างดใี นระดบั ต่างๆ ต้ังแต่ระดับสาขาวิชา, ระดับคณะ/ สานัก สถาบนั กอง และระดบั มหาวิทยาลยั โดยคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครส่งเสริม ให้เกิดการจัดการความรู้ผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีศูนย์การจัดการความรู้ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (RMUTP Knowledge Management Center) ได้จัดเตรียมไว้ให้ บุคลากรคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครสามารถ ถ่ายทอด และเผยแพร่ความรู้ในระดับปัจเจก (Individual Knowledge) ได้อย่างเป็นอิสระผ่าน เว็บบล็อกการจัดการความรู้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (RMUTP KM Web Blog) และนอกจากน้ียังมีการส่งเสริมการใช้เครื่องมือการจัดการความรู้หลัก (Core KM Tools) โดยใช้การแลกเปล่ียนเรียนรู้ในรูปแบบชุมชนแนวปฏิบัติแบบออนไลน์ (Online CoP) ผ่านเว็บ บล็อกชุมชนแนวปฏิบัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (RMUTP CoP Web Blog) เนื่องจากการกระตุ้นเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างกันของบุคลากรในหน่วยงานส่งผลดีต่อการ ได้มาซงึ่ การแบ่งบนั สารสนเทศและองค์ความรู้ท่ีมีประโยชน์ในการพัฒนากระบวนการการจัดการ ความรู้ท่ีกว้างขวางข้ึนได้ และสามารถนามาใช้เพ่ือการตัดสินใจในการดาเนินการในการทางาน ของบุคลากรได้ในทุกระดบั (Costa et al, 2016)

ภาพท่ี 1 การแลกเปล่ยี นเรยี นร้ใู นรูปแบบชมุ ชนแนวปฏิบัติแบบออนไลน์ (Online CoP) ผ่านเว็บบลอ็ กชมุ ชนแนวปฏบิ ตั ิ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (RMUTP CoP Web Blog) ที่มา : http://blog.rmutp.ac.th/cop/2017/01/05/cop_online_coop_qa/ ภาพที่ 2 การถา่ ยทอด และเผยแพร่องค์ความรู้ในระดบั ปัจเจก (Individual Knowledge) ผ่านเวบ็ บล็อกการจัดการความรู้ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (RMUTP KM Web Blog) ที่มา : http://blog.rmutp.ac.th/narusorn.m/

โดยบคุ ลากรคณะฯ สามารถเข้าไปดาเนินการกาหนดองค์ความรู้ต่างๆ ท่ีเป็นแนวปฏิบัติ ท่ดี ี หรอื เปน็ องค์ความรู้ทตี่ อ้ งการถา่ ยทอด เผยแพรใ่ ห้กับบุคลากรในทุกระดับ รวมถึงผู้ที่สนใจได้ เข้ามาค้นหาองค์ความรู้ที่จาเป็นต่อการพัฒนาตนเอง หน่วยงาน และคณะเทคโนโลยีคหกรรม ศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล พระนครไดก้ าหนดโครงสร้างความร่วมมือด้านการ จดั การความรู้เพอื่ ความย่งั ยืน (Yamamoto, 2013) โดยมีข้ันตอนวธิ กี ารดาเนนิ การ ดงั นี้ 1. แผนการจัดการความรู้ของคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (KM HEC Policy) ได้กาหนดเป็น 3 แผน ได้แก่ การผลิตบัณฑิต การวิจัย และการพัฒนาสมรรถนะหลักในการทางาน เป็นต้น พร้อมทั้งบุคลากรจะต้องมุ่งมั่นปฏิบัติตามแผนการจัดการความรู้ของคณะ เทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครอย่างจริงจัง หรือ ในกรณีท่ีบุคลากรคณะฯ ยังไม่สามารถดาเนินการตามแผนการจัดการความรู้ แน่นอนว่าอาจจะพัฒนาไปสู่การกาหนดเกณฑ์การพิจารณาผลการปฏิบัติงาน ทางด้านการจดั การความรู้ของบคุ ลากรคณะฯ ในการประเมินสมรรถนะหลักสาหรับ การทางานทางด้านการจัดการความรู้ท้ังบุคลากรสายวิชาการ และบุคลากรสาย สนับสนนุ ต่อไปในอนาคต 2. เครื่องมือการจัดการความรู้หลัก (Core KM tools) ของคณะเทคโนโลยีคหกรรม ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร คือ ชุมชนแนวปฏิบัติแบบ ออนไลน์ (Online CoP) กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันของ บุคลากรคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร อย่างต่อเน่ือง เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรพัฒนาและค้นหาองค์ความรู้ใหม่ๆ เพ่ือนามา พฒั นาตนเองอยตู่ ลอดเวลา 3. คมู่ ือการสง่ เสริมและพัฒนาการจดั การความร้ขู องคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (KM HEC Manual) จัดทาโดยงาน จัดการความรู้ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พระนคร โดยมีความมงุ่ หวังให้บุคลากรคณะฯ สามารถดาเนินการเรียนรู้ด้วยตนเอง เก่ียวกับการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศทางด้านการจัดการความรู้ได้อย่างสะดวก และ เพื่อกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือทางด้านการจัดการความรู้เพิ่มขึ้นตามกระบวนการ จัดการความรู้ (KM Process) 4. ส่ือสังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นช่องทางการสื่อสารท่ีสาคัญของบุคลากร คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ในยุค ของมหาวิทยาลัยนวัตกรรม ได้นามาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นช่องทางการถ่ายทอด และ เผยแพร่อีกทางหน่ึง เพ่ือให้บุคลากรคณะฯ สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ท่ีจาเป็นต่อ

การพัฒนาตนเองได้ในสื่อสังคมออนไลน์ท่ีหลากหลาย เช่น แฟนเพจงานจัดการ ความรู้ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (KM HEC RMUTP FanPage), ไลน์ทางการของงานจัดการความรู้ คณะ เทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (Line Official : KM HEC RMUTP) และช่องทางสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ ท่ีสามารถส่ือสาร ระหวา่ งบคุ ลากรคณะฯ ได้ 5. บุคลากรคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พระนคร (Active CEO and Active HEC Personnel) ทุกคนที่มีศักยภาพใน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการความรู้ให้ถ่ายทอด และเผยแพร่ในวง กวา้ งขึ้น ดังน้ันส่ิงสาคัญท่ีจะต้องดาเนินการ คือ การเปลี่ยนวิธีคิด (Mind Set) ของ บุคลากรคณะฯ ใหม่ท้ังหมดเกี่ยวกับการจัดการความรู้ เพื่อให้เกิดการเปล่ียนแปลง ทัศนคติท่ีไม่ดีกับการจัดการความรู้ มุ่งให้บุคลากรมองเห็นถึงคุณค่าของการ ขับเคลื่อนการจัดการความรู้ของคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลพระนครไปสู่ความสาเร็จ โดยการส่งเสริมให้บุคลากรคณะฯ มี การใช้การจัดการความรู้ในทุกกระบวนการจัดการความรู้ และส่งต่อความรู้ไปยัง บุคลากรคณฯ รุ่นต่อไป เพื่อถ่ายทอด และเผยแพร่องค์ความรู้อย่างต่อเน่ือง และ สามารถคน้ หาองค์ความรู้ทีบ่ คุ ลากรคณะฯ รนุ่ กอ่ นๆ เคยถ่ายทอด และเผยแพร่องค์ ความรูเ้ อาไวม้ าพฒั นาสมรรถนะการทางานได้เป็นอยา่ งดี เม่ือดาเนินการได้อย่างจริงจังครบท้ัง 5 ขั้นตอนแน่นอนว่า สิ่งท่ีเกิดขึ้นกับคณะ เทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร คือ การสร้างความ ร่วมมือทางด้านการจัดการความรู้ (Knowledge Collaboration) และเป็นพลังขับเคล่ือน การจัดการความรู้อย่างย่ังยืน (Sustainable KM Power) จากการเข้าถึงองค์ความรู้ของ บุคลากรของคณะฯ ได้อย่างสะดวกสบายมากข้ึน ไม่ต้องไปสอบถามผู้เช่ียวชาญ หรือผู้รู้ในเร่ือง ต่างๆ ดว้ ยตนเอง เพยี งแค่เข้าไปค้นหาองค์ความรู้ท่ีจาเป็นต่อการพัฒนาตนเองภายในเทคโนโลยี สารสนเทศทางดา้ นการจดั การความรู้ท่ไี ดจ้ ดั เตรียมเอาไว้ ทั้งน้ีบุคลากรของคณะเทคโนโลยีคหกร รมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครจะต้องดาเนินการตามข้ันตอนวิธีการ ดาเนินการอย่างเคร่งครัด เพ่ือเป็นการสร้างสรรค์องค์ความรู้ในยุคมหาวิทยาลัยนวัตกรรมต่อไป ในอนาคตได้

ภาพที่ 3 ผังความคดิ พลังแห่งการสร้างความรว่ มมือด้านการจดั การความรู้ ของคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร เพื่อมงุ่ สู่การเป็นมหาวิทยาลยั นวัตกรรม (Digital KM HEC Power Model) ที่มา : นฤศร มังกรศลิ า (2560)

สรุป การสร้างความร่วมมือด้านการจัดการความรู้สู่มหาวิทยาลัยนวัตกรรม (Innovative University) ในครง้ั น้ี ทาให้เกิดแนวปฏบิ ัติทด่ี ี ดังน้ี 1. แนวปฏิบตั ทิ ี่ดี 1.1 แนวปฏิบตั ิท่ดี ีสาหรบั สถาบนั การศกึ ษา การสร้างความร่วมมือตามขั้นตอนวิธีดาเนินการทั้ง 5 ข้ันตอน ช่วยสร้างความ ร่วมมือทางด้านการจัดการความรู้ (Knowledge Collaboration) และเป็นพลังขับเคลื่อนการ จดั การความรู้อย่างย่งั ยืน (Sustainable KM Power) ตามผงั ความคิด ท้ังรวมทั้งเป็นการมุ่งสู่การ เป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรม (Innovative University) อย่างเต็มรูปแบบของมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลพระนครอกี ด้วย 1.2 แนวปฏิบตั ิทด่ี ีสาหรับบคุ ลากรคณะฯ บุคลากรคณะฯ จะต้องมองเห็นถึงคุณค่าของการจัดการความรู้ในระดับปัจเจก (Individual Knowledge) ว่ามคี วามสาคญั ทีส่ ุดสาหรับการขับเคลอ่ื นองค์กร โดยบุคลากรคณะฯ หรือผทู้ ่สี นใจจะตอ้ งไดร้ บั การกระตุ้นให้เกิดการถ่ายทอด และเผยแพร่องค์ความรู้ พร้อมท้ังนาไป ต่อยอดจนกลายเป็นองค์ความรู้ใหม่ๆ ด้วยวิธีดาเนินการท้ัง 5 ข้ันตอนอย่างต่อเนื่อง เพ่ือให้ บุคลากรคณะฯ สามารถพฒั นาตนเองเป็นนักการจดั การความรู้ในระดับปัจเจกไดอ้ ย่างย่ังยนื 2. ความท้าทายในอนาคตสาหรบั การสง่ เสริมและพฒั นาการจดั การความรู้ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มี แนวความคดิ ในการสง่ เสรมิ และพฒั นาการจัดการความรู้ไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรม โดย ต้องการที่จะขับเคล่ือนด้วยองค์ความรู้ (Knowledge Organization) จนกลายเป็นการเรียนรู้ ตลอดชวี ิต (Life Long Learning) ของบุคลากรคณะฯ ส่งผลดีตอ่ การเป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรม และองคก์ รแห่งการเรยี นรู้ตอ่ ไปในอนาคต บรรณานุกรม กองสื่อสารองค์กร. 2560. “ราชมงคลพระนคร เปิดงาน RMUTP go Digital ประกาศก้าวสู่ Digital University อย่างย่ังยืน”. สืบค้น พฤศจิกายน 10, 2560, จาก http://www.rmutp.ac.th/2017/07/godigital/ นฤศร มงั กรศลิ า. 2560. “ผงั ความคดิ พลังแหง่ การสร้างความรว่ มมือดา้ นการจดั การความรู้ ของคณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร เพอ่ื มุ่งส่กู ารเป็นมหาวิทยาลัย นวัตกรรม (Digital KM HEC Power Model)” สืบคน้ พฤศจิกายน 14, 2560, จาก http://blog.rmutp.ac.th/narusorn.m/files/2017/11/HEC-RMUTP-DU- Power-Fin-HEC.png Costa, E., Soares, A.L., Pinho de Sousa, J. 2016. Information, knowledge and collaboration management in the internationalization of SMEs : A systematic literature review. International Journal of Information Management, 36, pp. 557-569.

Yamamoto, S. 2013. Knowledge collaboration through enterprise information Services. Precedia Computer Science, 22, pp. 1038-1046.

รูปแบบการนําเสนอแนวปฏิบตั ทิ ่ดี ี โครงการประชุมสัมมนาเครอื ขายการจดั การความรูฯ ครงั้ ท่ี 12 “การจดั การความรูสูมหาวิทยาลัยนวตั กรรม” (Knowledge Management: Innovative University) โครงการบูรณาการการมีสว่ นร่วมเพ่ือพฒั นาแอปพลเิ คชันฐานขอ้ มูลความเช่ียวชาญ สาหรบั นักวิจัยคณะวศิ วกรรมศาสตร์ An Integrated Project for Participation to Improve Database Application Expertise for Engineering Faculty Researchers อาจารยธ์ วชั ชยั ชาติตานาญ (Thawachchai Chattamnan)1 ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์สุรสิทธิ์ ประกอบกิจ (Surasit Prakobkit)2 ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์กุลยศ สวุ นั ทโรจน์ (Kullayot Suwantaroj)3 หวั หน้างานการจดั การความรู้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร [email protected] หัวหนา้ งานบริการวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร [email protected] ผ้ชู ่วยคณบดี คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร [email protected] ............................................................................................................................. ............................. บทสรุป ภาษา จาวา (Java) สามารถพัฒนาเปน็ โปรแกรมต่าง ๆ ที่ทางานอย่บู น เดส์กท้อป(Desktop) บน เว็ป เซอร์เวอร์ เว็ปเซอวิส เว็ปไคล์นแอนท์(Web Server / Web Service / Web Client) เหมือนกับภาษาอ่ืนๆ เช่น ภาษา พีเอซพี(PHP) ใช้พัฒนาโปรแกรมบน เว็ปเซอร์เวอร์ ที่ทางานผ่าน เว็ปเบราเซอร์(Web Browser) และกลุ่ม วีบีดอทเน็ต(VB.NET) ก็สามารถพัฒนาโปรแกรมบน เดส์กท้อป หรือจะแบ่งออกเป็นพวก Web (ASP.Net) / Web Services และอ่ืน ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน และท่ีสาคัญในขณะนี้ภาษา จาวา สามารถพัฒนา โปรแกรมบน โมบายด์(Mobile) ของ แอนดรอย(Android) ได้และมีความน่าเชื่อถือสามารถขยายระบบได้ง่าย ซ่ึงในระดับองค์กรมีการนาไปใช้งานเป็นจานวนมาก และซัพพอร์ทได้ง่ายต่อการใช้งานของบุคคล ภาษา จาวา มีเคร่ืองมือ (tools) ที่เป็น Open Source ให้ใช้งานหลากหลายครอบคลุมมีกลุ่มคนช่วยพัฒนาเรื่อยๆและนา มาใช้งานไดจ้ รงิ มี library และ framework หลายแบบและเป็น Open source รวมถงึ ใช้ได้กับระบบปฏบิ ตั กิ าร ทว่ั ไป คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร มีนกั วิจัยท่มี ีความเชีย่ วชาญทางด้าน วิศวกรรมหลายแขนง เช่น สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมเคร่ืองกล วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมอุตสาหการ เป็นต้น แต่เน่ืองจากการเก็บข้อมูลในรูปแบบเอกสารทาเกิดขั้นตอนสาหรับการสืบค้น อีกท้ังต้องเก็บเอกสาร หลักไว้ที่สานักงาน โครงการวิจัยน้ีจึงได้สร้างแอปพลิเคชันฐานข้อมูลความเช่ียวชาญของนักวิจัยของคณะ วิศวกรรมศาสตร์ไว้ในรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แนวคิดการออกแบบเพ่ือเข้าถึงข้อมูลของนักวิจัยเบ้ืองต้น

สามารถทาได้โดยใช้รหัสของผู้ใช้ระบบ จากแนวคิดการสร้างแอปพลิเคชันฐานข้อมูลนักวิจัยบน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ดังกล่าวจะแก้ปัญหาการสืบค้นข้อมูลนักวิจัย โดยท่ีการใช้สมาร์ทโฟนทาให้ได้รับ ความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลอย่างรวดเร็ว เพ่ือสอบรับกับนโยบาย มหาวิทยาลัยดิจิตอล และ การสร้าง นวัตกรรม คาํ สาํ คัญ ภาษาจาวา ฐานขอ้ มูล สาเรจ็ รปู โทรศพั ทม์ อื ถอื Summary Java language can be developed as a program running on the desktop on the Web Server / Web Service / Web Client, like other languages, such as PAP (PHP) Develop programs on Web servers running through the Web browser and the VB.NET Internet Group (VB.NET) can develop programs on the desktop or be divided into Web (ASP.Net) / Web Services and others as well and most importantly, Java language can now be developed on Mobile by Android (Android) can be reliable and can easily expand the system. Which at the corporate level is used in a large number of applications and support for ease of use by people. The Java language has tools that are open source to be used in a wide range of applications. It can be used by many libraries and frameworks and is an open source and can be used with many libraries and frameworks and is an open source and can be used with general operating systems. Faculty of Engineering Rajamangala University of Technology Phra Nakhon There are researchers with many engineering expertise, such as civil engineering. Mechanical Engineering, Electronic engineering Industrial engineering, etc. However, due to the collection of information in the form of documents, the process for searching and must keep the main document at the office Therefore, this research project has created a database of expertise of researchers of the Faculty of Engineering in an electronic document format. The design concept for accessing the data of the initial researchers can be done using the system user ID. Based on the concept of creating database applications, researchers on the Android operating system will solve the problem of researching data. With the use of smartphones, allowing quick access to information to take the examination with the policy Digital University and Innovation. Keyword Java Database Application mobile

บทนํา ปัจจุบันคณะวิศวกรรมศาสตร์มีนักวิจัยที่มีความเช่ียวชาญทางด้านวิศวกรรมหลายแขนง เช่น สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมเคร่ืองกล วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมอุตสาหการ เป็นต้น แต่เน่ืองจากการ เก็บข้อมูลในรูปแบบเอกสารทาเกิดขั้นตอนสาหรับการสืบค้น อีกทั้งต้องเก็บเอกสารหลักไว้ที่สานักงาน โครงการวิจัยน้ีจึงได้สร้างแอปพลิเคชันฐานข้อมูลความเชี่ยวชาญของนักวิจัยของคณะวิศวกรรมศาสตร์ไว้ใน รูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แนวคิดการออกแบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลของนักวิจัยเบ้ืองต้นสามารถทาได้โดยใช้ รหัสของผู้ใช้ระบบโดยแสดงเป็นหน้าจอได้ดงั รปู ที่ 1 รูปที่ 1 หน้าจอข้อมูลนกั วิจยั จากรูปที่ 1 เมื่อทาการกรอกชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านของผู้ใช้แล้ว จะสามารถเข้าถึงข้อมูล ของ นักวิจยั ทต่ี อ้ งการคน้ หาไดด้ ังรปู ที่ 2

รปู ท่ี 2 หนา้ จอข้อมลู นกั วิจัย จากแนวคดิ การสรา้ งแอปพลิเคชนั ฐานขอ้ มูลนักวิจยั บนระบบปฏิบัตกิ ารแอนดรอยด์ดังกล่าวจะ แกป้ ญั หาการสบื คน้ ข้อมูลนักวจิ ัย โดยทก่ี ารใชส้ มารท์ โฟนทาใหไ้ ด้รบั ความสะดวกในการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู อย่าง รวดเร็ว วธิ กี ารดําเนนิ งาน 1. ศึกษางานวิจัยที่เกยี่ วข้อง ทบทวนวรรณกรรม 2. กาหนดแนวทางของปัญหา 3. เก็บรวบรวมข้อมลู 4. เขยี นรูปแอปพลิเคชัน 5. ประมวลผลทดสอบและวเิ คราะห์ผล 6. สรุปผลการทดสอบ 7. จดั พิมพร์ ปู เล่มงานวิจยั 8. ถา่ ยทอดและเผยแพร่ผลงานวจิ ยั ผลและอภิปรายผลการดาํ เนินงาน กรณีเข้าใช้งานผา่ นโมบายโฟน ระบบจะแสดงข้อมลู ดงั นี้ 1. หน้าจอเข้าสรู่ ะบบ

รปู หน้าจอเข้าสู่ระบบ

2. หน้าจอคน้ หาขอ้ มูลนกั วจิ ยั รปู หนา้ จอคน้ หาขอ้ มลู นกั วจิ ัย

3. หน้าจอข้อมลู นักวจิ ัย รปู หนา้ จอข้อมลู นักวิจยั สรปุ ภาษา Java เป็นภาษาที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากเม่ือเทียบกับ ภาษาอ่ืนๆ เนื่องจากเป็น โปรแกรมท่ีง่ายในการเรยี นรู้ การเขียนด้วยภาษา Java จะสามารถเขยี นเช่อื มต่อขา้ มแพล็ตฟอร์ม (Platforms) ตา่ งๆ ได้ และเป็นโปรแกรมแบบ OOP (Object-Oriented Programming) ตวั โปรแกรมของ Java มีขนาดไม่ ใหญ่ และมีวิธีการเขียนที่ไม่ซับซ้อน โปรแกรมท่ีเขียนด้วยภาษา Java สามารถคอมไพล์ได้ง่าย รวมถึงการ Debug เพื่อตรวจสอบหา Error ข้อผิดพลาดของโปรแกรมก็ทาได้ไม่ยุ่งยาก ภาษา java เป็นภาษามี ประสิทธิภาพในการทางานและมคี วามยดื หยุ่นสงู เขยี นคาสั่งได้งา่ ย ยากทจ่ี ะเกดิ ข้อผดิ พลาดอีกท้ัง ภาษา Java เป็นอิสระต่อแพล็ตฟอร์ม (Java is Platform-Independent) Java เป็นอิสระต่อแพล็ตฟอร์ม ท้ังระดับซอร์ ซโค้ด (Source Code) และไบนารีโค้ด (Binary Code) การติดตั้งโปรแกรมทาได้ไม่ยุ่งยากสะดวก เนื่องจาก โปรแกรมภาษา Java รวมคาส่ังต่างๆ ไว้ใน library class เป็น Java Packages ช่วยให้การเขียนคาส่ังต่างๆ เมื่อย้ายโปรแกรมไปยังแพล็ตฟอร์มอ่ืน โดยไม่ต้องเขียนซอร์ซโค้ด (Source Code) ขึ้นใหม่ เมื่อคอมไพล์ซอร์ ซโค้ด จะได้ไฟล์ไบนารีโค้ด ที่เรียกว่า Bytecode การรันโปรแกรมของ Java จะทางานในลักษณะอินเทอร์พรี เตอร์ (Interpreter) ของไฟล์ Bytecode ซึ่งสามารถรันบนแพล็ตฟอร์ม (Platforms) ต่างๆได้ รวมท้ัง ระบบปฏบิ ตั กิ ารทใี่ ช้งานกันทั่วไป ได้แก่ ระบบ Windows, Solaris, Linux หรือ Mac OS โดยการแปลคาสั่งที

ละคาสั่ง แพล็ตฟอร์มที่ Java ทางานได้จะต้องประกอบด้วย 2 ส่วน คือ Java Virtual Machine (JVM) และ Java Application Programming Interface (Java API) โดย Java Virtual Machine คือเครื่องมือทีร่ วบรวม คาสั่งคอมไฟล์และรันโปรแกรม Java ส่วน Java API เป็นกลุ่มของคลาส และอินเตอร์เฟส (Interface) ที่ รวมอยู่ในไลบรารีท่ีเรียกว่า Java Package เช่น java.awt, java.util หรือ java.io เป็นต้น การทางานท่ีเป็น อิสระต่อแพล็ตฟอรม์ (Platforms) การเขียนโปรแกรมเพยี งครัง้ เดียวแต่สามารถนาไปใชท้ างานยังเคร่ืองอืน่ ๆ การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ OOP (Object-Oriented Programming) เป็นเทคนิคการเขียน โปรแกรมให้มีลักษณะเป็นโมดูล (Module) แบ่งโปรแกรมเป็นส่วนๆ การทางานของโปรแกรมซ่ึงเรียกว่า Method ซง่ึ แตล่ ะ Method จะทางานเฉพาะหน้าท่ีของตวั เอง โดยจะถกู รวบรวมอยใู่ นคลาส หรอื วตั ถุ เรียกวา่ Object ไดแ้ ก่ วตั ถุทีม่ องเหน็ ได้ เช่น สิ่งของตา่ ง หรอื วตั ถทุ ี่ไม่สามารถมองเห็นได้ เชน่ เหตุการณ์ต่างๆ ขอ้ มูล ต่างๆของ Object จะถูกซ่อนไว้คลาสเรียกว่า Data Encapsulation มีประโยชน์ในการแก้ไขข้อมูลหรือ Methodท่ีอยู่ในคลาส โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการทางานหรือเรียกใช้งานของ Object ใด ๆภาษา Java มี ระบบการทางานที่ดีและมีความปลอดภัย Java จะคาสั่งต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบของ Java API โดยมีการ รวบรวมเป็นคลาสต่างๆ ไว้ และยังมี Garbage Collector ระบบจัดการหน่วยความจาเพ่ือเก็บขยะของ โปรแกรมและคืนหน่วยความจาให้กับระบบ โปรแกรมท่เี ขียนด้วยภาษา Java มีระบบจัดการข้อผดิ พลาดท่ีเกิด จากการทางานของโปรแกรมที่เรียกวา่ Exception Handling ดว้ ยทาให้สามารถตรวจสอบขอ้ ผิดพลาด (Error) และการ (Debug) โปรแกรมไดง้ า่ ยขนึ้ ภาษา Java มีระบบความปลอดภัยทีด่ ี โปรแกรม Java ทีท่ างานบนเว็บ บราวเซอร์ (Web Browser) ที่เรียกว่า Java Applet น้ันจะทางานเฉพาะบนเคร่ืองแม่ข่าย (Server) โดยไม่ สามารถเข้าถึงเคร่ืองลูกข่าย (Client) ไปทาลายไฟล์ หรือไฟล์ระบบ (System file) ได้ ทาให้มีความเช่ือม่ันใน ระบบความปลอดภยั ไดด้ ี และเพอื่ ปอ้ งกนั ข้อมูลจากไวรัส ภาษา Java สามารถพัฒนาเป็นโปรแกรมต่าง ๆ ท่ีทางานอยู่บน Desktop , บน Web Server / Web Service / Web Client เหมือนกับภาษาอื่นๆ เช่น ภาษา PHP ใช้พัฒนาโปรแกรมบน Web Server ที่ ทางานผ่าน Web Browser และกลุ่ม VB.NET ก็สามารถพัฒนาโปรแกรมบน Desktop หรือจะแบ่งออกเป็น พวก Web (ASP.Net) / Web Services และอนื่ ๆ ก็ได้เชน่ เดยี วกัน และที่สาคญั ในขณะนี้ภาษา Java สามารถ พัฒนาโปรแกรมบน Mobile ของ Android ได้และมีความน่าเชื่อถือสามารถขยายระบบได้ง่าย ซ่ึงในระดับ องค์กรมีการนาไปใช้งานค่อนข้างเยอะ และมีคนมาซัพพอร์ทได้ง่าย ภาษา Java มีเครื่องมือ (tools) ที่เป็น Open Source ให้ใช้งานเยอะครอบคลุมมคี นช่วยพัฒนาเรื่อยๆและนา มาใชง้ านไดจ้ ริงมี library และ framework หลายแบบและเป็น Open source รวมถงึ ใชไ้ ดก้ ับระบบปฏิบตั กิ ารท่วั ไป

บรรณานุกรม [1] ประวตั คิ วามเปน็ มาภาษา JAVA. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://nongtha57.wordpress.com /ความเป็นมา-java/. (วนั ท่ีสบื คน้ ขอ้ มลู : 16 กนั ยายน 2560) [2] ภาษาจาวา. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก : https://th.wikipedia.org/wiki/ภาษาจาวา. (วนั ที่สืบค้นข้อมูล: 16 กันยายน 2560) [3] รจู้ ักกับ ionic framework. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://ionicframework-docs.blogspot. com/. (วนั ทส่ี บื คน้ ขอ้ มลู : 16 กันยายน 2560) [4] รู้จักกบั SVN (Subversion) คืออะไร. [ออนไลน]์ . เข้าถึงได้จาก http://www.thaicreate.com/ tutorial/svn-subversion-version-control.html. (วันทสี่ ืบค้นขอ้ มลู : 16 กันยายน 2560) [5] Nopphanan Mayoe. เกยี่ วกับ PostgreSQL. [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://admin.wikidot. com/pgsqlintro. (วันทีส่ บื ค้นข้อมูล: 16 กันยายน 2560) [6] ORM คืออะไร. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก : https://www.facebook.com/CybersecThaiArmy /posts/425525747506091. (วันที่สบื ค้นขอ้ มลู : 16 กันยายน 2560) [7] Ploypailin Noonboon. Spring MVC Framework. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://www. fusionidea.biz/spring-mvc-framework-part-1- ยินดตี ้อนรบั สู่ -spring-mvc-frame work. (วันท่ีสืบค้นข้อมูล: 16 กันยายน 2560) [8] Sarunyoo Keawsopa. ทาความรูจ้ กั กับ Spring Framework. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://workcs.blogspot.com/2010/08/spring-framework.html. (วันทส่ี ืบคน้ ข้อมลู : 16 กันยายน 2560) [9] Visual Studio Code คืออะไร. [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก : https://www.facebook.com/ thephyllconnect/posts/1339637642755128:0. (วันที่สืบคน้ ข้อมูล: 16 กนั ยายน 2560) [10] Woraperth. ANGULAR JS คอื อะไร. [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก : https://www.designil.com/angularjs-free-video-course.html. (วนั ท่ีสืบคน้ ข้อมูล: 16 กันยายน 2560)

รปู แบบการนาํ เสนอแนวปฏบิ ตั ทิ ดี่ ี โครงการประชมุ สมั มนาเครอื ขายการจดั การความรฯู ครงั้ ท่ี 12 “การจดั การความรสู มู หาวทิ ยาลยั นวัตกรรม” (Knowledge Management: Innovative University) โครงการบริการวชิ าการแกส่ งั คมการผลิตตวั เรอื นเครื่องประดบั แหวนเงนิ ลงยาถมเงนิ กล่มุ ชมุ ชนบ้านพพุ ลู อําเภอหนองหญา้ ปล้อง จงั หวดั เพชรบุรี Academic service project for the society, the production of jewelry, silver rings, niello Ban Phu Phlu Community Group Nong Ya Plong District Phetchaburi Province อาจารย์จกั รกฤษณ์ ยม้ิ แฉง่ (Jakkrit Yimchang)1 อาจารยธ์ วชั ชัย ชาติตํานาญ (Thawachchai Chattamnan)2 ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์สุรสิทธิ์ ประกอบกจิ (Surasit Prakobkit)3 ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์กลุ ยศ สวุ นั ทโรจน์ (Kullayot Suwantaroj)4 วศิ วกรรการผลิตเครื่องประดบั คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร [email protected] หวั หน้างานการจดั การความรู้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร [email protected] หัวหนา้ งานบริการวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร [email protected] ผ้ชู ่วยคณบดี คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร [email protected] .......................................................................................................................................................... บทสรปุ การบริการวชิ าการดา้ นการผลติ เคร่ืองประดบั ลงยาถมเงิน ซง่ึ เปน็ เครอ่ื งประดับท่ีมีความงามเฉพาะตัว ของเครื่องถมจะยังคงได้รับความนิยมตลอดมา จนช่างไม่สามารถผลิตได้ทัน แต่ช่างผู้ผลิตเครื่องถมต่างต้อง ประสบกบั ปัญหาต้นทนุ การผลิตท่ีสูงขึ้นเป็นอย่างมาก นอกจากน้ีช่างฝีมือดีก็นับวันจะลดลง เพราะเป็นงานที่ ตอ้ งใช้ฝีมอื และความละเอียดประณีตสูง เครื่องถมเป็นศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย กลุ่มชุมชนบ้านพุ พลู อําเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี มีเอกลักษณ์ทางด้านส่ิงทอที่มีลวดลายประจําท้องถิ่น การทํา อาชพี เสริมเป็นแนวทางในการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง มีรายได้เสริมในครัวเรือน การบริการวิชาการแก่สังคม โดยนําองค์ความรู้ด้านการผลิตเคร่ืองประดับแหวนเงินลงยาถมเงิน จึงเป็นองค์ความรู้ที่นักวิจัยได้สะสม ประสบการณ์การผลติ ผลิตเครอ่ื งประดบั ทจี่ ะถา่ ยทอดสูช่ ุมชนไดเ้ ป็นอย่างดี สาขาวิชาวิศวกรรมการผลิตเครื่องประดับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พระนคร มีนักวิจัยที่มีความเช่ียวชาญทางด้านการผลิตเครื่องประดับ เช่น การข้ึนรูปตัวเรือน งานฝังอัญมณี งานเครอ่ื งถมลงยา เป็นตน้ แต่เน่อื งจากการเก็บข้อมูลเบ้ืองต้นของกลุ่มชุมชนบ้านพุพลู ยังขาดความเข้าใจใน กระบวนการผลิตเครื่องประดับ นักวจิ ยั จึงจดั ทํากระบวนการผลิตในรปู แบบเอกสารบรรยายขัน้ ตอนสําหรับการ ผลิตตัวเรือนเคร่ืองประดับ โครงการบริการวิชาการแก่สังคมน้ีจึงได้ถ่ายทอดองค์ความรู้พื้นฐาน แนวคิดการ ออกแบบ การใชเ้ ครอื่ งมือ การสร้างชิน้ งานตน้ แบบแหวน เพ่อื เขา้ ถึงข้อมลู ของผรู้ ับการอบรมและฝกึ ปฏิบัติครั้ง นี้นักวิจัยสามารถวดั ผลจากพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มวดั ผลจากชิน้ งานสําเรจ็ หลงั การฝึกอบรม คาํ สําคญั การออกแบบ เงนิ เครื่องถม

Summary Academic services in jewelry production Which is a jewelry that has the unique beauty of the filling machine will remain popular all the time Until the technician couldn't produce it immediately But technicians who produce fillers have to suffer a lot of higher production costs. In addition, good craftsmen will count down days. Because it is a job that requires skill And high resolution The filling machine is an art, culture and Thai wisdom. Ban Phu Phlu Community Group Nong Ya Plong District Phetchaburi Province With unique local textile patterns Career enhancement is a way to strengthen the community. Have extra income in the household Academic services to society by bringing knowledge in the production of jewelry, silver rings, medicine, silver Therefore, it is the knowledge that researchers have accumulated experience in producing jewelry that will be well conveyed to the community. Jewelry Production Engineering Faculty of Engineering Rajamangala University of Technology Phra Nakhon There are researchers who have expertise in jewelry production, such as moldings. Gemstone work, machine filling, etc. But due to the initial data collection of Ban Phu Phlu community group Still lack understanding in the production process of jewelry The researchers therefore produced the production process in the form of a document describing the steps for the production of jewelry. The academic service project for this society has therefore conveyed basic knowledge. Design concept Use of tools Creating a master piece ring In order to access the information of the trainees, this researcher can measure results from participation behavior, measured from the successful work after training. Keyword Design, Silver,Niello

บทนาํ ปจั จบุ ันคณะวิศวกรรมศาสตร์มีนักวิจัยท่ีมีความเชี่ยวชาญทางด้านการผลิตเครื่องประดับในหลาย แขนง เช่น การออกแบบ การทําตัวเรือน การถมลงยา การหล่อเคร่ืองประดับ เป็นต้น เน่ืองจากการเก็บข้อมูล ของกลุ่มชุมชนบ้านพพุ ลู ผู้วิจัยตอ้ งอบรมพ้นื ฐานการผลิตเครอ่ื งประดับ โดยใช้รูปแบบเอกสารบรรยายข้ันตอน การผลติ เครื่องประดับโดยละเอยี ด โดยการใช้สื่อประกอบในการบรรยายขั้นตอนต่าง ๆ วธิ กี ารดาํ เนนิ งาน 1. ศกึ ษางานวจิ ยั ที่เกย่ี วข้อง ทบทวนวรรณกรรม 2. กําหนดแนวทางของปัญหา 3. เกบ็ รวบรวมข้อมลู 4. วเิ คราะห์การออกแบบ 5. ประมวลผลงานและวเิ คราะห์ผลงาน 6. สรปุ ผลการบริการวิชาการ 7. จัดพิมพ์รปู เลม่ งานวจิ ยั 8. ถ่ายทอดและเผยแพร่ผลงาน ผลและอภปิ รายผลการดาํ เนนิ งาน ผลการดาํ เนนิ การบรกิ ารวชิ าการ ตามข้นั ตอนดังนี้ 1.การบรรยาย เมื่อผู้เข้าอบรมไดร้ บั ความรู้พน้ื ฐานในการผลติ เครือ่ งประดับเงินลงยาถมเงนิ แล้ว จะ สามารถเข้าถงึ องคค์ วามร้นู นั้ มาปฏิบตั ิงานจรงิ ได้ดงั รูปท่ี 1 รปู ที่ 1 การบรรยายพื้นฐานการผลติ เครื่องประดบั

2.การออกแบบลวดลาย เมือ่ ผ้เู ข้าอบรมได้รับความรู้พน้ื ฐานในการผลิตเครื่องประดบั เงนิ ลง ยาถมเงนิ แลว้ จะสามารถเข้าถงึ องคค์ วามร้นู ้ันมาออกแบบลวดลาย ดงั รปู ท่ี 2 รปู ท่ี 2 การออกแบบลวดลาย 3.การกดั กรดลวดลายและการลงยาถมเงิน ดังรปู ที่ 3 รปู ท่ี 3 การกัดกรดและลงยาถมเงนิ

4.ชิ้นงานสําเรจ็ หลงั จากรับการถ่ายทอดองค์ความรู้การผลติ เคร่อื งปรดับแหวนลงยาถมเงนิ

สรปุ การถา่ ยทอดองคค์ วามรูแ้ ก่สังคม ในการผลิตเครอ่ื งประดับแหวนลงยาถมเงิน แก่กลมุ่ ชุมชนบ้านพพุ ลู อําเภอหนองหญ้าปล้อง จงั หวัดเพชรบุรี เป็นชุมชนท่ีเหมาะสมต่อการถา่ ยทอด ควบค่กู ับการผลิตเครื่องประดับ ในปัจจุบนั และเป็นแนวทางสรา้ งตวั เรือนเครอื่ งประดับเงินลงยาถมเงิน ทีช่ มุ ชนสามารถนําผลผลติ ไปสู่การ ประกอบอาชีพไดอ้ ย่างสมบูรณ์แบบสรา้ งรายไดแ้ ละประสบการณ์การผลิตเคร่อื งประดับของประชากรและ ชมุ ชนกล่มุ ชมุ ชนบา้ นพุพลู อําเภอหนองหญ้าปลอ้ ง จงั หวัดเพชรบรุ ี โดยฝกึ อบรมถ่ายทอดองคค์ วามรใู้ หช้ ุมชน ใหม้ คี วามรู้เสรมิ ท่ีย่ังยนื ในกระบวนการผลิตและวธิ ีการขน้ึ รปู ตน้ แบบเครอื่ งประดับแหวนเงินพร้อม กระบวนการลงยาถมเงนิ ผลิตตวั เรอื นแหวนโดยใช้วัสดเุ งนิ 925ใหไ้ ดร้ ปู รา่ งและขนาดท่ีตอ้ งการและนํา เทคโนโลยกี ารลงยาถมเงนิ มาผลติ ตัวเรอื นเคร่อื งประดบั ตอ่ ไป การบริการวิชาการแก่สงั คมครัง้ นี้ผู้เข้ารับการ อบรมสามารถใชป้ ระโยชนไ์ ด้จริงและมคี วามพงึ พอใจมากกวา่ เฉลย่ี รอ้ ยละ 97

บรรณานกุ รม [1] ไสว สทุ ธิ์พทิ ักษ์ .2531. ศลิ ปหัตถกรรมพื้นบา้ นนครศรธี รรมราช เร่อื ง เคร่ืองถม. กรุงเทพฯ. มหาวิทยาลยั ธรุ กิจบณั ฑติ ย์. [2] เครอ่ื งถมนคร. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก : https:// nakhononline.com/419/ (วนั ทีส่ ืบคน้ ขอ้ มลู : 18 มกราคม 2562) [3] เครอ่ื งถมนคร. [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก http:// pinterest.com/ThomNakhon/กําไลถมทอง-เคร่ืองถม นคร/ (วนั ที่สบื ค้นข้อมลู : 18 มกราคม 2562) [4] สมศกั ด์ิ เทพพทิ กั ษ์. 2538. ศึกษาเครือ่ งถมเมืองนครศรีธรรมราช. สงขลา. มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ.

รปู แบบการนําเสนอแนวปฏิบัติทด่ี ี โครงการประชุมสมั มนาเครือขายการจดั การความรูฯ ครงั้ ที่ 12 “การจดั การความรสู มู หาวิทยาลยั นวตั กรรม” (Knowledge Management : Innovative University) ชอื่ เรือ่ ง/แนวปฏบิ ตั ิทีด่ ี ระบบจดั การเรยี นการสอนแบบออนไลน (MOOC) ช่ือ-นามสกลุ ผนู ําเสนอ นางสาวรุงอรณุ คงสวสั ด์ิ ชื่อสถาบนั การศึกษา มหาวทิ ยาเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร หนว ยงาน สถาบันสหวทิ ยาการดิจิทลั และหุนยนต เบอรโทรศัพทมือถือ 089-8810404 E-Mail [email protected] บทสรุป การสรางสรรคส่ือการเรียนการสอนแบบออนไลนในศตวรรษท่ี 21 สูองคกรแหงการ เรียนรูท่ียังยืน เปนส่ิงที่ผูสอนและผูเรียนจะตองปรับรูปแบบการเรียนและการสอนใหเหมาะสม ตามยุคตามสมยั เปน การประยกุ ตใชเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาที่มีความทันสมัยเพิ่มขึ้น ในสถาบันการศกึ ษา (Acadamia) ระหวางผูเ รยี นและผสู อนโดยมีความสะดวกรวดเร็วเนนผูเรียน เปนศูนยกลาง (Child Center) เพ่ือใหเกิดการแลกเปล่ียนเรียนรู (Knowledge Sharing) วิธีการเรียนการสอนแบบออนไลนทําใหผูเรียนสามารถเขาใจในเน้ือหาบทเรียนไดอยางรวดเร็ว ผูเ รียนสามารถเขาถึงการเรยี นการสอนแบบออนไลน (MOOC) ไดทุกท่ี ทุกเวลา ระบบการเรียน การสอนแบบออนไลน (MOOC) เนนการใชเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาเพ่ือสงเสริมให ผูสอนและผเู รยี นไดใ ชท กั ษะทางดา นเทคโนโลยีดจิ ทิ ัล ทําใหเกิดการเปล่ียนแปลงของผูเรียนท่ีเขา สูยุคศตวรรษท่ี 21 ประกอบกับการออกนอกระบบของสถาบันการศึกษาในประเทศไทย สื่อการ เรียนและวิธีการเรียนเองก็มีการปรับเปล่ียนไปตามสมัย ในตอนนี้เราจะวากันดวยเรื่องของ MOOC (Massive Open Online Course) หรอื การศกึ ษาแบบเปดในรูปแบบบทเรียนออนไลน คาํ สาํ คัญ : ระบบการเรยี นการสอนแบบออนไลน, องคก รแหงการเรยี นรทู ยี่ งั ยนื

Summary The Creative Teaching Online in the 21st Century organization of learning that still (this is not complete so I don't know how to check this ) the teacher will have to adjust the style of teaching and strategies to suit the modern students who loves different, diversed and flexible learning situations and activities. The application of information technology in education is the modern rise in Acadamia between learners and instructors with a fast child center to achieve Knowledge Sharing. how to make teaching and learning online more effective where students can understand the lesson quickly is the challenge that a teacher should be prepared with so it would be best if they have an access to guided and independent studies. Students can access the course online (MOOCs : Massive Open Online Course) at anywhere, anytime and MOOCs use information technology in education to encourage teachers and students to use the skills in digital technology. Modern and flexible learning causes the changes of courses into the 21st century outside of educational institutions in the country. Learning and how to study has adapted to the times. Now we will be working with the MOOCs or open course through online lessons. บทนาํ ระบบการเรียนการสอนออนไลน (MOOC) Massive Open Online Course รูปแบบ การนาํ เสนอการเรียนรูหลักสูตรตางๆ ทางออนไลน ท่ีเขาถึงผูเรียนจํานวนมากๆ ไดผานทางหนา เว็บไซต สว นใหญเปน การใหบรกิ ารฟรี โดยการนําเทคโนโลยีและวธิ ีการเรียนการสอนสมัยใหมมา ผสมผสานกัน ทําใหคนท่ัวโลกสามารถเขาถึงการศึกษาไดผานชองทางออนไลนซ่ึงตอนนี้มี เครือขา ยครอบคลมุ ไปท่วั ทกุ มุมโลกแลว สิ่งที่ MOOC มีนอกเหนือจากส่ือประกอบการเรียนแบบ ปรกติ รวมทั้งสามารถใชเปนเคร่ืองมือสําหรับจัดการความรูในรูปแบบการจัดเก็บเปนคลังความรู ของสถาบนั การศกึ ษาเพ่อื มงุ สูการเปนองคก ารแหงการเรยี นรู จากปญหาในการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบเดิม โดยผูสอนและผูเรียนตองเตรียม ความพรอมตนเองในทุกสัปดาหกอนการเขาชั้นเรียน เชน หนังสือเรียน แบบฝกหัด และอุปกรณ

ในการฝกปฏิบัติตางๆ และตองเขาหองเรียนเพ่ือรับฟงองคความรูที่อาจารยผูสอนไดสรุปเน้ือหา การเรียนการสอนไวตามช่ัวโมงการเรียนการสอนในแตละสัปดาห ซ่ึงมีขอจํากัดในเรื่องของเวลา ในการเขาหองเรียนใหตรงกับชวงเวลาที่อาจารยผูสอนกําหนดไวในตารางสอน ผูเรียนบางคน อาจจะมีปญหาการเดินทาง หรือปญหาทางดานอ่ืนๆ ซึ่งทําใหผูเรียนไมสามารถเขาหองเรียนได ทนั ตามเวลาที่ผสู อนกําหนดเอาไว และผเู รยี นไมสามารถติดตามเน้ือหาบทเรียนจากผูสอนรวมทั้ง การสง งานในรายวิชาตา งๆ รวมทั้งผูเรียนที่สงงานไวในบางคร้ังอาจมีการสูญหาย ซ่ึงเปนส่ิงท่ีเกิด ปญ หามายาวนาน และเปนการส้นิ เปลืองทรพั ยากรอยา งย่ิง โดยประเด็นปญหาในการเรียนการสอนแบบออนไลน (MOOC) Massive Open Online Course พบวา 1. หากไมม ีสญั ญาณอนิ เทอรเ น็ตก็ไมส ามารถเขา ระบบได 2. อาจไมสะดวกกับผูที่ไมมีอุปกรณทางเทคโนโลยี เชน โทรศัพทมือถือ คอมพิวเตอร แทปเลต เปน ตน 3. MOOC เปน โปรแกรมท่ยี ังไมเ ปนที่รจู กั อยา งแพรหลาย วธิ กี ารดําเนนิ งาน การดําเนินการสรางสรรคระบบการเรียนการสอนออนไลน (MOOC) Massive Open Online Course ไดประยุกตใชหลักการ PDCA ของ Deming มากําหนดเปนวิธีการดําเนินการ ดงั นีค้ ือ 1. การวางแผน (Plan) ระบบการเรียนการสอนแบบออนไลน (MOOC) ได กาํ หนดแนวทางการวางแผนการเรียนการสอนแบบออนไลน ตองการกระตุนความคิดสรางสรรค (Creativity) ใหผูเรียนไดเกิดการเรียนรู (Knowledge Sharign) รวมกันและตอยอดความรูจาก การเรียนระบบออนไลน สงเสริมใหผูเรียนคิดเปน ทําเปน สรางสรรคผลงานทางดานเทคโนโลยี ดิจิทัลตอไปในอนาคต เกิดการเรียนรูตลอดชีวิต (Life Long Learning) โดยใหผูเรียนสามารถ วิเคราะห สังเคราะหได และผูสอนไดมีการจัดเตรียมหลักสูตรทางดานเทคโนโลยีดิจิทัล พรอมท้ัง กําหนดวตั ถุประสงคในการสรางรายวิชาทางออนไลน เพ่ือใหผูเรียนสามารถศึกษาบทเรียนไดทุก ที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime), กําหนดใหมีชองทางการติดตอกับผูสอนโดยตรงเพิ่มขึ้นอีก ชองทางหน่ึง, กําหนดใหมีชองทางการสงงาน มีแบบทดสอบ ไดสะดวกมากย่ิงขึ้น, กําหนดใหมี ชอ งทางในการแลกเปลยี่ นเรียนรรู วมกัน

2. ปฏบิ ัติการ (Do) เมอ่ื ดําเนินการวางแผนเรียบรอยแลว ก็ถึงเวลาสําหรับเตรียม ความพรอมที่จะลงมือปฏิบัติ อยางจริงจัง เพื่อใหเกิดผลสัมฤทธิ์ตามเปาหมาย และ วัตถุประสงคท่ีกําหนดไว โดยเริ่มจากการเรียนรูและพรอมปฏิบัติตามวิธีการใชสื่อเทคโนโลยี ดิจิทัล เชนวิธีการเขาดูเนื้อหาบทเรียน, การเขาเรียนในระบบ, และการสอบถามขอสงสัยตางๆ ระหวางการเรียนการสอนในระบบออนไลน (E-learning) โดยผานชอ งทางส่ือสังคมออนไลน เพื่อ การถา ยทอดองคค วามรทู ีจ่ าํ เปนสําหรบั การเรียนรใู นหนวยการเรียนน้ันๆ เพิ่มความสะดวกใหกับ ผเู รียนในกรณที ่ตี ดิ ภาระกิจตางๆ 3. ตรวจสอบ (Check) หลังจากผเู รยี นไดผ า นการเรียนตามข้นั ตอนการเรยี นรู หลกั สตู รการอบรม ไดแก วิทยาการหุนยนต อุตสาหกรรม เวอรชวลริแอลลิที อินเตอรเน็ตในทุก ส่ิง การพัฒนาซอฟตแวร และสมารทซิตี้ โดยสังเกตจากการทําแบบฝกหัดและสงการบาน หลงั จากการเรียนหลักสูตรตางๆทกี่ ําหนดในระบบออนไลน มีการตัดเกรดจากอาจารยผูสอนและ มอบใบรับรองความสําเร็จของ ID สําหรับหลักสูตร (\"Certificate Verified\") หรือใบรับรอง สําหรับโปรแกรมตางๆ (เชนใบรับรองของโปรแกรมท่ีเรียน) สําหรับผูเรียนซึ่งไดแสดงใหเห็นถึง ความเช่ียวชาญในหลักสูตรหรือเน้อื หาของโปรแกรมใบรบั รองจะออกโดย RMUTPMOOC 3.1 ประเมนิ ผลจากการเขาถึงระบบการเรยี นการสอนแบบออนไลน (MOOC) ของผเู รียนในแตล ะคร้งั 3.2 ประเมนิ ผลผเู รยี นเก่ียวกับการทําแบบฝกหัดและการสงการบาน 4. ปรับปรุง (Action) ขนั้ ตอนนถ้ี ือเปน ขั้นตอนที่สาํ คญั เพ่ือนาํ ผลการดาํ เนนิ การ พิจารณาปรบั ปรงุ เปล่ยี นแปลงการจัดการรปู แบบการเรยี นการสอนแบบออนไลนผา นส่อื การ เรียนการสอนแบบออนไลน (MOOC) มกี ารพฒั นา วิธกี ารในการเขาถงึ การเรียนการสอนแบบทุกชองทางใหสามารถเขาถงึ ไดงา ยข้นึ ชอ งทางในการ ส่อื สารทส่ี ง ผลดีใหก บั ผูเรียนไดเขา ถึงการเรียนการสอนแบบออนไลนเ พ่ิมขึน้ การส่ือสารโดยผา น ชอ งทางโทรศัพทมือถือทําใหผสู อนและผเู รียนเกดิ การรับรูการใชเทคโนโลยสี ารสนเทศไดด ยี ่ิงข้ึน รวมท้งั เปน การกระตนุ ผเู รียนใหส ามารถโตตอบกบั ผูสอนไดโดยผา นระบบปญ ญาประดิษฐห รอื AI หรือ(Chat Bot) เพ่อื ใหผูส อนและผูเ รยี นสามารถติดตอสื่อสารกันไดแ ละนาํ มาเพ่ือการปรับปรุง พัฒนาระบบการเรยี นการสอนออนไลน (MOOC) ตอไป

ผลและอภปิ รายผลการดาํ เนินงาน 1. ดา นความรู ผเู รยี นไดร จู กั รายวชิ าเกย่ี วกบั ทางดา นเทคโนโลยีดจิ ิทัลและความรู ทางดานหนุ ยนต ทําใหผ ูเรยี น ไดร ับองคความรูในวชิ าทผ่ี ูเรียนมคี วามสนใจ 2. ดานการปฏิบัติ ผเู รียนไดเพม่ิ พนู ทกั ษะการใชเ ทคโนโลยสี ารสนเทศทางการศึกษา สามารถรบั รูก ารใชเ ครือ่ งมือ ในส่ือการเรยี นการสอนแบบออนไลน (MOOC) ไดเปนอยางดีเพอ่ื นําความรูไปตอยอดสูการ ประยุกตใชเ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการปฏิบตั งิ านจรงิ ในอนาคต 3. ดานเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา ผูส อนสามารถนําผลการเขา ถึงสื่อการ เรียนการสอนแบบออนไลน (MOOC) ของผเู รยี นในระบบ RMUTPMOOC ของมหาวทิ ยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ผูเรียนสามารนาํ ผลของการเรียนการสอนในระบบออนไลน (MOOC) นํามาปรบั เปนเกณฑคะแนนของวิชาการเรยี นการสอนได สว นสําหรับบคุ คลภายนอก หรอื ผทู ใ่ี หค วามสนใจในระบบการเรยี นการสอนออนไลน (MOOC) ทางสถาบันออกใบรับรองการ เรยี นการสอนระบบออนไลน Certificate นําผลการเรยี นของผูเรยี นมาดาํ เนินการปรับปรงุ และ วิธกี ารสรา งสรรคส อ่ื การเรียนการสอนใหเ หมาะสมกับผูเรยี นตอไป ปจจัยความสาํ เรจ็ 1. การสรา งลกั ษณะการใชง านการเรยี นการสอนที่เนนผเู รียนเปน สาํ คญั (Child Center) พรอ มท้ังเปน การฝกทกั ษะการใชเ ทคโนโลยสี ารสนเทศทางการศึกษาใหก บั ผเู รียน จาก การประยุกตใ ชส ่อื การเรยี นการสอนแบบออนไลน (MOOC) หรอื RMUTPMOOC ของมหาวทิ ยา ลบั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เพื่อมุงสอู งคกรแหง การเรียนรู 2. เพ่อื เปน การสรา งสรรคส่ือการเรยี นการสอนแบบออนไลน (MOOC) และเตรยี ม ความพรอมเขาสรู ปู แบบการศึกษาในศตวรรษที่ 21 อยางเปน อสิ ระ เพื่อมุงสกู ารเปนองคก รแหง การเรียนรู ปญหา อปุ สรรค 1. ระดบั การรับรูของการใชเทคโนโลยสี ารสนเทศทางการศกึ ษาของสถาบันการศึกษา ของผสู อนและผูเรยี นแตละบุคคลมคี วามแตกตางกัน สงผลตอ การสรา งสรรคส ื่อการเรียนการ สอนแบบออนไลน (MOOC) ทต่ี อ งมีการปรบั เปลี่ยนใหตรงตามความตองการของผูสอนและ ผูเ รยี น

แนวทางแกไ ข 1. เพ่ือใหเกดิ การพัฒนาองคค วามรทู างดานการเรียนการสอนอยางตอเน่อื ง สถาบันการศึกษา ระดบั สาขาวชิ าระดบั คณะ และระดับมหาวทิ ยาลยั จะตอ งมสี ว นรว มในการ สรา งการรบั รใู นการใชเ ทคโนโลยีสารสนเทศทางการศกึ ษาใหก ับผูสอนและผเู รยี น โดยวธิ ีการจัด ฝกอบรม หรือจัดทําเปนระบบการเรยี นการสอนแบบออนไลน (MOOC) ตอไป สรปุ ระบบการเรยี นการสอนออนไลน (MOOC) Massive Open Online Course ในครงั้ นี้ ทําใหเ กดิ แนวปฏิบตั ิทดี่ ี ดงั น้ี 1. แนวปฏิบตั ิท่ีดี 1.1 แนวปฏบิ ัติทด่ี ีสาํ หรับสถาบนั การศึกษา เพ่ือสรางแนวปฏิบัติที่ดีของการสนับสนุนการเรียนการสอน การเรียนรูของบุคลากร ภาคอุตสาหกรรม และประชาชนท่ัวไป ใหเปนแบบอยางความสําเร็จสําหรับการสรางสรรคสื่อ การเรียนการสอนแบบออนไลน (MOOC) Massive Open Online Course เพ่ือพัฒนาคุณภาพ การศกึ ษาในสถาบนั การศกึ ษาใหกลายเปน องคกรแหงการเรยี นรอู ยา งย่ังยืนตอไป รวมทั้งเปนการ มุงสูการเปนมหาวิทยาลับดิจิทัล (Digital University) อยางเต็มรูปแบบของมหาวิทยาลัย เทคโนโลยรี าชมงคลพระนครอกี ดวย 1.2 แนวปฏบิ ตั ิที่ดีสาํ หรับผูเรียน/บุคคลภายนอก ผลจากการดําเนินกิจกรรมการเรียนการสอนแบบออนไลน (MOOC) ของผูเรียนและ บคุ คลภายนอก การเรียนรูโดยการปฏิบัติ (Accion Learning) ของผเู รยี นผานระบบการเรียนการ สอนแบบออนไลน จนเกิดเปนแนวปฏิบัติท่ีดีสงผลใหเกิดการเรียนรูในการพัฒนาบทเรียนแบบ MOOC และนาํ ไปตอ ยอดจนกลายเปน องคค วามรใู หมทางดานเทคโนโลยีดิจทิ ัล 2. ความทาทายในอนาคตสําหรับการพัฒนาระบบการเรียนการสอนแบบออนไลน (MOOC) มุงเนนการถายทอดองคความรู มีการนําระบบทดสอบมาบูรณาการกับระบบ MOOC แบบดั้งเดิม ทาํ ใหเ กิด ความสะดวกในการใชเพอ่ื การเรียนการสอน และเปนประโยชนอยางย่ิงตอ การเรียนรูดวยตนเอง เพราอาจารยผูสอน หรือผูสรางเนื้อหา สามารถสรางขอสอบ เพื่อสราง ความม่ันใจแกผูเรียนวามีความเขาใจตอการเรียนอยางดีโดยผานการเรียนการสอนแบบออนไลน

(MOOC) จนกลายเปนการเรียนรูตลอดชีวิต (Life Long Learning) ซึ่งสงผลดีตอองคกรแหงการ เรยี นรูตอไปในอนาคต บรรณานุกรม ชชั ชยั เผา พงค. 2551. การพัฒนาชุดการเรียนรอู อนไลน กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เนาวนิตย สงคราม(ใจม่นั ). 2554. การสรา ง Digital video & digital storytelling เพือ่ การเรยี นการสอนยคุ ดิจิทัล กรุงเทพฯ: สํานกั พมิ พแ หง จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย https://www.rmutpmooc.org/

รูปแบบการนาเสนอแนวปฏิบตั ิทดี่ ี โครงการประชมุ สมั มนาเครือข่ายการจัดการความรู้ฯ ครง้ั ที่ 12 “การจดั การความรสู้ ู่มหาวิทยาลยั นวัตกรรม” (Knowledge Management : Innovative University) สาหรบั อาจารย์/บคุ ลากรสายสนบั สนนุ /นักศึกษา ช่ือเรื่อง/แนวปฏิบัติท่ีดี การพฒั นาทกั ษะนกั ประดษิ ฐ์หุน่ ยนตจ์ ๋วิ ชือ่ -นามสกลุ ผู้นาเสนอ อาจารย์ขนิษฐา ดสี ุบิน ชื่อสถาบนั การศกึ ษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร หนว่ ยงาน คณะครศุ าสตร์อุตสาหกรรม เบอร์โทรศัพท์มือถือ 08-9741-5402 เบอร์โทรสาร 02-2665-3774 E-Mail address [email protected] [email protected]

การพัฒนาทกั ษะนักประดิษฐ์หุ่นยนตจ์ ิ๋ว The Acquisition inventor tiny Robots อาจารย์ขนิษฐา ดีสุบิน อาจารย์ สาขาวชิ าวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรม E-mail address : [email protected] [email protected] ............................................................................................................................. ............................ บทสรปุ ในการจัดกระบวนการเรียนการสอน โดยนานวัตกรรมการศึกษามาประยุกต์ใช้ จะช่วย ส่งเสริมให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถเรียนรู้ได้ทุกเวลาตามความต้องการ นวัตกรรมการเรียนรู้ จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัย วิธีคิด ท่ีออกนอกกรอบเดิม พอสมควร คือ จะต้อง ออกนอก “ร่อง” หรือ ช่องทางเดิม ๆ ที่เคยชิน เรียกได้ว่าจะต้องปรับเปล่ียนแนวคิด หรือ กระบวนทัศน์ที่มีอยู่เดิมเก่ียวกับการเรียนรู้เสียใหม่ จากท่ีเคยเข้าใจว่า การเรียนรู้ คือ การศึกษา เพียงเพ่ือให้ ได้รู้น้ัน มาเป็นการเรียนรู้ที่นามาใช้พัฒนางาน พัฒนา ชีวิต และพัฒนา สังคม ประเทศชาติ ซึ่งเป็น ความรู้ที่แนบแน่นอยู่กับงาน เกี่ยวพันอยู่กับปัญหา เป็นความรู้ท่ีมีบริบท การเรียนรู้ตามกระบวนทัศน์ใหม่นี้จึงมักเร่ิมต้นด้วยการพัฒนาตัวโจทย์ขึ้นมาก่อน โดยใช้ปัญหา หรือส่ิงที่เกิดขึ้นในชีวิตประจาวันเป็นหลักเรียกได้ว่ามีความต้องการท่ีจะแก้ไขปั ญหาหรือพัฒนา สิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้นจึงเป็นแรงผลักดันท่ีทาให้เกิดการเรียนรู้น้ีข้ึน มีวิธีการอย่างไรที่จะทาให้ผู้เรียน สามารถเรียนรู้ได้เอง สามารถคิดเอง ทาเอง และแก้ปัญหาเองได้ โดยครูเป็นเพียงผู้ชี้แนะ คอย ใหค้ าแนะนาในการเรียนรู้ ทถ่ี ูกต้องและเหมาะสม เคร่ืองมือท่ีใช้ในการดาเนินกิจกรรมเป็นส่ือการเรียนการสอนด้านเทคโนโลยีที่เลือก นาไปใช้ในการพัฒนาทักษะนักเรียน คือ 1) เทคโนโลยี LEGO WeDo 2.0 2) แบบประเมินผล การพัฒนาทักษะนักประดิษฐ์หุ่นยนต์จิ๋ว กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนโรงเรียนบ้านแก่งประลอม จานวน 20 คน (เป็นนกั เรยี นสัญชาติ ไทย มอญ พม่า ลาว) วธิ กี ารเกบ็ ข้อมูลจากการนาเสนอและ อภิปรายผลงานจนได้หวั ขอ้ โครงการและแนวทางการดาเนินโครงการ ผลการวิเคราะห์ผู้เข้าอบรมนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ และความพึงพอใจของผู้เข้ารับ การอบรม ปรากฏว่า ด้านความพึงพอใจในภาพรวมของการจัดกิจกรรมคิดเป็นร้อยละ 95 ด้านการประเมินผลเนื้อหาวิชา 1) ความรู้ก่อนเข้ารับการฝึกอบรมคิดเป็นร้อยละ 43 2) ความรู้ท่ี ได้รับ หลังการฝึกอบรม คิดเป็นร้อยละ 86 3) เน้ือหาวิชามีความสอดคล้องกับหัวข้อที่บรรยาย คิดเป็นร้อยละ 94 และ 4) ความรู้ท่ีสามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการปฏบิ ัติงานได้ คิดเป็น ร้อยละ 96 ผลการประเมินตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม ปรากฏว่า 1) การสร้างโอกาส การเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีการประดิษฐ์และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมหุ่นยนต์ใหก้ บั เยาวชน คิดเป็นร้อยละ 98 2) เยาวชนได้มีโอกาสเสริมสร้างเทคนิคการเรียนรู้ด้วยหุ่นยนต์และ แลกเปล่ียนประสบการณ์ กับวิทยากรที่ให้ความรู้และผู้ที่ร่วมอบรม คิดเป็นร้อยละ 99

3) เยาวชนรู้จักวิเคราะห์เป็นและรู้จักการใช้ความคิดพิจารณาในเรื่องที่สนใจ เข้าถึงแหล่งข้อมูล ความรู้ คิดเป็นร้อยละ 99 คาสาคญั : หุ่นยนต์ Summary In the teaching process. By bringing innovative educational applications. To encourage learners the self-learning you can learn anytime, on-demand learning innovation. Happens to live that way of thinking out of the box the fair is to leave the \"groove\" or channel, the same that will be called to alter the concept or paradigm, existing on learning reconfiguration. From ever understanding that learning is an education just to know that learning is applied to the development of life and society, a strong knowledge on the job. Problems associated with it is learned that in context to learn the new paradigm, it will often start with the development of our strength together. The problem is what happens on a daily basis is primarily known that there is a need to fix or improve things. The better is the driving force that makes learning more. How do you make those classes. I think I can learn to do it yourself and solve the problem itself. The teacher is a mentor To advise on learning. The correct and appropriate The tools used to carry out activities as a medium of instruction, the technology chosen to develop the skills of students are 1) Technology LEGO WeDo 2.0 and 2) Assessment skills inventor miniature robots. The target group are students of Ban Kaeng Lombardo, 20 (a student in Thailand, Laos, Myanmar Mon) to collect information from the presentation and discussion of the topic until the project approach and project implementation. Analysis of the participants put their knowledge to good use. And satisfaction of the participants showed that satisfaction in the whole of the event, representing 95 percent of the evaluated subjects. Evaluation subjects: 1) Knowledge prior to training accounted for 43 percent, 2) The knowledge gained. After training 86 percent 3) Is consistent with the content of the lecture topics. Accounted for 94 percent and 4) Knowledge can be put to good use in their work. 96 percent. Evaluation of the objectives of the activity are: 1) Creating a learning opportunity, technology innovators and programming computer-controlled robot to youth 98 percent. 2) Youth have the opportunity to reinforce the techniques learned by the robot and share experiences. With guest speakers who share knowledge and training 99 percent and 3) Youth recognize, analyze, and introduced

the idea to the scrap. Access to information and knowledge, representing 99 percent. Keyword : robot 1. บทนา ในการจัดกระบวนการเรียนการสอน โดยนานวัตกรรมการศึกษามาประยุกต์ใช้ จะช่วย ส่งเสริมให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถเรียนรู้ได้ทุกเวลาตามความต้องการ นวัตกรรมการเรียนรู้ จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัย วิธีคิด ที่ออกนอกกรอบเดิม พอสมควร คือ จะต้อง ออกนอก “ร่อง” หรือ ช่องทางเดิม ๆ ที่เคยชิน เรียกได้ว่าจะต้องปรับเปล่ียนแนวคิด หรือ กระบวนทัศน์ที่มีอยู่เดิมเกี่ยวกับการเรียนรู้เสียใหม่ จากที่เคยเข้าใจว่า การเรียนรู้ คือ การศึกษา เพียงเพื่อให้ ได้รู้นั้น มาเป็นการเรียนรู้ท่ีนามาใช้พัฒนางาน พัฒนา ชีวิต และพัฒนา สังคม ประเทศชาติ ซึ่งเป็น ความรู้ท่ีแนบแน่นอยู่กับงาน เกี่ยวพันอยู่กับปัญหา เป็นความรู้ท่ีมีบริบท การเรียนรู้ตามกระบวนทัศน์ใหม่นี้จึงมักเร่ิมต้นด้วยการพัฒนาตัวโจทย์ขึ้นมาก่อน โดยใช้ปัญหา หรือสิ่งท่ีเกิดข้ึนในชีวิตประจาวันเป็นหลักเรียกได้ว่ามีความต้องการที่จะแก้ไขปั ญหาหรือพัฒนา สิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้นจึงเป็นแรงผลักดันที่ทาให้เกิดการเรียนรู้นี้ข้ึน มีวิธีการอย่างไรท่ีจะทาให้ผู้เรียน สามารถเรียนรู้ได้เอง สามารถคิดเอง ทาเอง และแก้ปัญหาเองได้ โดยครูเป็นเพียงผู้ชี้แนะ คอย ให้คาแนะนาในการเรยี นรู้ ทถี่ กู ต้องและเหมาะสม น วั ต ก ร ร ม ก า ร เ รี ย น รู้ จ ะ เ กิ ด ข้ึ น ไ ด้ เ อ ง โ ด ย ป ริ ย า ย จ า เ ป็ น จ ะ ต้ อ ง อ า ศั ย ปั จ จั ย แ ล ะ องค์ประกอบอื่นๆ มาสนบั สนุน จงึ จะประสบผลสาเร็จ ในทน่ี ีจ้ ะขอยก 3 องคป์ ระกอบหลัก ทีถ่ ือ ว่าจาเป็นต่อการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ให้เกิดข้ึน ได้แก่ 1) เวลา 2) โอกาส หรือเวที และ 3) ไมตรี เวลาเป็นปัจจัยที่สาคัญย่ิงสาหรับการเรียนรู้ องค์กร ชุมชน หรือครอบครัวใดท่ีมัวแต่ยุ่ง ตกอยู่ในสภาพที่เรียกว่า โงหัวไม่ขึ้น จะทาให้หมดโอกาสท่ีจะเรียนรู้ สิ่งใหม่ ๆ และไม่มีเวลา สาหรับใช้คิดสร้างสรรค์ได้เลย องค์ประกอบตัวต่อไปท่ีจะช่วยสนับสนุนและสร้างนวัตกรรมการ เรียนรู้ได้ก็คือ โอกาส หรือเวที ท่ีจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน วิธีการแลกเปล่ียนอาจจัดเวทีการ เรียนรู้ที่มีรูปแบบที่หลากหลาย คือ มีทั้งเวทีท่ีจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ เช่น การจัดประชุม สัมมนาในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น และเวที ในรูปแบบที่อาจจะไม่เป็นทางการมากนัก คืออาจจะ จัดในลักษณะท่ีเป็นการร่วมตัวของคนท่ีสนใจ ไม่มีการบังคับและองค์ประกอบท่ีสาม ท่ีจาเป็น สาหรับสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้คือ ไมตรี คือต้องมีน้าใจให้แก่กัน การแลกเปล่ียนเรียนรู้คงจะ ไม่เกดิ ขึ้นอย่างแนน่ อน ถา้ ต่างฝ่ายต่างไม่ยื่นน้าใจอนั ดีแก่กัน นวตั กรรมการเรยี นรู้จะเกิดขึ้นได้จึง จาเปน็ ต้องอาศยั ใจท่ีเปิดกวา้ ง ต้องเป็นใจที่วา่ ง วา่ งพอทีจ่ ะรบั ส่ิงใหม่ ๆ ทีห่ ล่ังไหลเข้ามาโดยไม่ ยึดติดอยู่กับสิ่งเก่า ๆ จะต้องพัฒนาให้คนมีความสามารถท่ีจะละท้ิงสิ่งเก่า ๆ ได้ด้วยใจที่ไม่มีอคติ ต้องมองทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นในลักษณะท่ีใหม่หมด สดเสมอให้เป็นความรู้สึกเหมือนกับเป็นส่ิงที่

กาลังเกดิ ข้ึนเป็นครง้ั แรก ไม่ซา้ กบั สิ่งท่ีไดเ้ กดิ ไปแล้วในอดตี เป็นความรูส้ กึ ตืน่ ตอ้ งการ แบง่ ปัน และกระตอื รอื รน้ ท่ีจะเรียนรอู้ ยตู่ ลอดเวลา การพัฒนาทักษะนักประดิษฐ์หุ่นยนต์จิ๋ว เป็นการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ให้กับเยาวชน ได้มีเวลาสาหรับการเรียนรู้ โอกาส หรือเวทีท่ีจะได้แลกเปล่ียนเรียนรู้กัน โดยมีอาจารย์และ นักศึกษาในสาขาวิชาวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม เป็นผู้สร้างโอกาส และ ไมตรี ให้กบั เยาวชนท่ดี ้อยโอกาส 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อพัฒนาทักษะนกั ประดิษฐ์หนุ่ ยนต์จวิ๋ ให้กบั เยาวชนที่ด้อยโอกาส 2.2 เพ่ือเปน็ การสรา้ งนวัตกรรมการเรยี นรู้ใหก้ บั เยาวชนท่ีดอ้ ยโอกาส 2.3 เพือ่ นานวตั กรรมการศกึ ษามาประยกุ ต์ใช้ในการสง่ เสรมิ ให้ผู้เรยี นเกดิ การเรยี นรู้ ดว้ ยตนเอง 3. วธิ กี ารดาเนินงาน สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ได้เลือกโรงเรียนที่เข้าร่วม โครงการคือ โรงเรียนบ้านแก่งประลอม ตาบลท่าเสา อาเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ในการ พัฒนาคุณภาพของโรงเรียนทางสาขาวชิ าวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ได้ จัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561) ตามหลักสูตรแกนกลาง กระทรวงศึกษาธิการ โดยได้ ดาเนินการดงั นี้ 3.1 ขน้ั เตรียมโครงการ 3.2 กาหนดกลุ่มเป้าหมาย 3.3 กจิ กรรมฝกึ อบรมเชิงปฏิบตั กิ าร 3.4 เครอ่ื งมือท่ใี ช้ฝึกอบรมเชิงปฏบิ ัติการ 3.5 วิธีการดาเนินการและเกบ็ รวบรวมข้อมลู 36. สถติ ทิ ่ใี ชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมูล 3.1 ขน้ั เตรียมโครงการ สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มีข้ันตอนการดาเนิน โครงการ ดังนี้

ภาพที่ 3.1 ขน้ั ตอนการเตรยี มโครงการ 3.1.1 ศึกษาขอ้ มูล/เขียนโครงการ สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ได้พิจารณาเลือกโรงเรียน ตามท่ีสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา มีนโยบายให้สถาบันอุดมศึกษาท่ัวประเทศเข้ารว่ ม โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาท้องถ่ิน โดยมีสถาบันการอุดมศึกษาเป็นพ่ีเล้ยี ง ในเขตพื้นที่ภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันตกที่กาหนด เพื่อใช้พัฒนาและส่งเสริมความรู้ด้าน การจดั การเรยี นการสอนและเกดิ การเรียนรไู้ ด้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ไดพ้ จิ ารณาเลือกโรงเรยี นบ้าน แก่งประลอม ซ่ึงทางโรงเรียนบ้านแก่งประลอม ต้ังอยู่หมู่ที่ 1 ตาบลไทรโยค อาเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3 สานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ปัจจุบันมี นายวัชระ สถิตพงศ์พิพัฒน์ เปน็ ผู้บริหารสถานศกึ ษา มีระดับช้ันในการจดั การเรียนการสอนตง้ั แตช่ ้ันอนุบาล 1 ถงึ ชัน้ อนบุ าล 3 และ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 มีนักเรียนทั้งหมดจานวน 80 คน แยก เป็นนักเรียนชาย 48 คน นักเรียนหญิง 32 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2561) มีครูและ บุคลากรทางการศึกษา จานวน 9 คน แยกเปน็ ข้าราชการครู 6 คน อตั ราจ้างช่ัวคราว 1 คน ครผู ู้ ทรงคณุ ค่าแหง่ แผน่ ดนิ 1 คน นักจดั การงานทวั่ ไป 1 คน ทางสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม จากท่ีได้เคยลงพ้ืนที่ จะเห็นว่าทางโรงเรียนต้ังอยู่ในพื้นท่ีที่เทคโนโลยีเข้าไปไม่ถึง สภาพโรงเรียนขาดสื่อการเรียนการ

สอนด้านเทคโนโลยีและบุคลากรที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีมีจานวนน้อยจึงทาให้นักเรียนไม่ได้รับ การพัฒนาความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีเท่าท่ีควรเหมือนกับโรงเรียนในเขตตัวเมือง ประกอบ กับทางโรงเรียนมีนักเรียนท่ีเรียนด้วยกันหลายสัญชาติ เช่น ไทย มอญ พม่า ด้วยความ หลากหลายทางสญั ชาติทาให้เกดิ ความแตกตา่ งทางด้านภาษา วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ เมื่อ มาเรียนที่โรงเรียนครูจึงเป็นผู้หล่อหลอมให้ผู้เรียนสามารถเรียนและอยู่ร่วมกันได้ สถานที่ตั้งของ โรงเรียนอยู่หา่ งไกลจากตวั เมือง เทคโนโลยหี รือส่อื การเรยี นการสอนต่างๆจงึ เข้าไปไม่ถึง โรงเรียน ท่ีอยู่ในเมืองค่อนข้างได้เปรียบในเร่ืองเทคโนโลยีสื่อการเรียนการสอน สามารถหาได้หลากหลาย แต่โรงเรียนท่ีอยู่ห่างไกลหรืออยู่ตามชนบท ซึ่งเทคโนโลยีและส่งเสริมการพัฒนาทักษะการเรียน การสอนเข้าไปไม่ถึง จึงทาให้ผู้เรียนขาดโอกาสในการเรียนรู้ จึงเป็นสาเหตุที่สาขาวิชาวิศวกรรม คอมพิวเตอร์ คณะครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรมเลือกที่จะเขียนโครงการเพื่อของบประมาณลงไปพัฒนา นักเรยี นท่โี รงเรียน ดงั กลา่ ว สื่อการเรียนการสอนด้านเทคโนโลยที ี่เลือกนาไปใช้ในโครงการพัฒนาทักษะนักเรียน คือ เทคโนโลยี LEGO WeDo 2.0 เปน็ อปุ กรณ์ทถ่ี ูกออกแบบมาสาหรบั เดก็ ปฐมวยั ซึ่งการทางานของ WeDo 2.0 จะช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็ก ด้วยการให้เด็กเรียนรู้ผ่านการแก้ไข ปัญหาต่าง ๆ และยังเสริมสร้างทักษะพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และ เทคโนโลยี โยในหนึ่งกล่องจะประกอบด้วยตัวต่อรูปแบบต่าง ๆ ที่ถูกคัดสรรอย่างดี เพ่ือการใช้ งานอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพสูงสดุ และถูกจัดเกบ็ ไว้ในกล่องเกบ็ อปุ กรณ์พรอ้ มถาดแยกช้ินสว่ น และมี สต๊ิกเกอร์สาหรับการจัดเก็บอุปกรณ์ Smart hub มอเตอร์เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว เซ็นเซอร์ตรวจจับความเอียง และมีโปรแกรมสาเร็จรูป พร้อมวิธีการต่อเบ้ืองต้น รวมไปถึงแบบ การเรยี นร้ทู ี่จะชว่ ยใหเ้ ด็กไดเ้ รียนรู้เกย่ี วกบั อปุ กรณ์ ภาพที่ 3.2 LEGO WeDo 2.0 3.1.2 ผลการพิจารณา สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ได้รับการพิจารณา งบประมาณปีงบประมาณ 2561 โครงการพัฒนาทักษะนักประดิษฐ์หุ่นยนต์จิ๋ว เป็นจานวนเงิน 60,000 บาท (หกหมน่ื บาทถว้ น) ดังน้ี

รายการ จานวนเงิน (บาท) งบดาเนินงาน 1. ค่าตอบแทน (ไมเ่ กินร้อยละ 10 ของงบดาเนนิ งาน) 6,000 1.1 ค่าตอบแทนวทิ ยากรภายใน (2 คน) 6,000 1.2 ค่าตอบแทนผู้ชว่ ยวทิ ยากรภายใน ปฏิบตั ิ (4 คน) 2. คา่ ใชส้ อย 32,535 2.1 ค่าอาหารว่างและเคร่ืองดืม่ (27 คน x 5 มื้อ x 35 บาท) 4,725 2.2 ค่าอาหารกลางวนั (27 คน x 3 มื้อ x 150 บาท) 12,150 2.3 ค่าเบีย้ เลย้ี ง อาจารยแ์ ละเจ้าหนา้ ท่ี 2.3.1 อาจารย์และเจ้าหน้าที่ (3 คน x 3 วนั x 160 บาท) 1,440 2.3.2 นักศกึ ษา ( 4 คน x 3 วนั x 160 บาท) 1,920 2.4 ค่าทพี่ ัก 2.4.1 อาจารย์และเจ้าหน้าที่ ( 3 คน x 2 คนื x 700 บาท) 4,200 2.4.2 นักศึกษา 4 คน ( 2 หอ้ ง x 2 คนื x 700 บาท) 2,800 2.5 คา่ พาหนะ อาจารย์ เจ้าหนา้ ที่ (3 คน x 400 บาท) 1,200 2.6 คา่ จ้างเหมารถรบั -ส่ง นกั เรียนทเ่ี ข้าอบรม จานวน 3 วัน 4,100 3. ค่าวัสดุ 21,465 3.1 วสั ดฝุ ึกอบรม 20,000 3.2 นา้ มันเช้ือเพลงิ 1,465 ค่าธรรมเนยี มอุดหนนุ สถาบนั (ทาง สกอ. ขอให้ยกเวน้ ธรรมเนยี มในสว่ น น)ี้ รวมงบประมาณทีเ่ สนอขอ 60,000 หมายเหตุ ขอถว่ั จ่ายทุกรายการในโครงการ (หกหม่ืนบาทถ้วน) 3.2 กาหนดกลุ่มเป้าหมาย นกั เรียน จานวน 20 คน (เปน็ นักเรยี นสญั ชาติ ไทย มอญ พมา่ ลาว) 3.3 กิจกรรมฝกึ อบรมเชงิ ปฏิบัตกิ าร กิจกรรมที่ใช้ในการพัฒนาทักษะของนักเรียนโรงเรียนบ้านแก่งประลอม สาขาวิชาวิศวกรรม คอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ได้จัดกระบวนการเรียนรู้ (Learning Process) เพื่อ การออกแบบท่ีมีต่อผลการเรียน การแก้ปัญหาและการถ่ายโยงการเรียนรู้ สาขาวิชาวิศวกรรม คอมพิวเตอร์ คณะครศุ าสตร์อุตสาหกรรม ไดใ้ ช้วธิ ีสอนแบบโครงงาน (Project Method) ซง่ึ เป็น วธิ กี ารจัดการเรยี นร้ทู ใ่ี ห้ผู้เรียนไดศ้ ึกษาคน้ คว้า หรือปฏบิ ัติงานตามหวั ข้อที่ผู้เรยี นสนใจ ซง่ึ ผู้เรยี น จะตอ้ งฝึกกระบวนการทางานอย่างมีขั้นตอน มกี ารวางแผนในการทางานหรือการแก้ปญั หาอย่าง เป็นระบบ จนการดาเนนิ งานสาเรจ็ ลุลว่ งตามวตั ถุประสงค์ ส่งผลให้ผู้เรยี นมีทกั ษะการเรยี นรูอ้ ย่าง หลากหลาย อนั เปน็ ประสบการณ์ตรงท่ีมคี ุณค่า สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในการดาเนนิ งานตา่ ง ๆ

ได้ วธิ ีการสอนโครงงานสามารถสอนต่อเนื่องกับวิธสี อนแบบบรู ณาการได้ ท้งั ในรปู แบบบรู ณาการ ภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้ และบูรณาการระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนได้นาองค์ ความร้แู ละประสบการณ์ที่ไดม้ าบูรณาการเพ่อื ทาโครงงาน แบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 ส่วน ดงั น้ี 1. เรียนรูอ้ ุปกรณต์ า่ ง ๆ ทใี่ ชใ้ นการสร้างหุน่ ยนต์จว๋ิ 1.1 การตดิ ตั้งโปรแกรม WeDo 2.0 และ Core Set 1.2 กระบวนการเรยี นรู้ WeDo 2.0 1.3 ทดสอบโปรแกรม 2. ฝกึ ออกแบบลักษณะการควบคุมการทางานของหุ่นยนต์จ๋วิ 2.1 กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ 2.2 วธิ กี ารแก้ไขปญั หาตา่ ง ๆ 2.3 ขนั้ ตอนการพฒั นาโปรแกรมดว้ ย WeDo 2.0 และ Core Set 2.4 ออกแบบการทางานของหุน่ ยนต์ 2.5 ประกอบหนุ่ ยนตต์ ามทอ่ี อกแบบและทดสอบการทางาน 3. การนาความรูท้ ี่ไดไ้ ปถ่ายทอดต่อกบั เพื่อน ๆ ในโรงเรียน 3.4 เคร่ืองมือทีใ่ ช้ฝกึ อบรมเชิงปฏิบตั กิ าร ในการจัดกิจกรรมโครงการพัฒนาทักษะของผูเ้ รยี น สาขาวิชาวศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์ คณะ ครุศาสตร์อตุ สาหกรรม ได้มีการนาเครือ่ งมือเข้ามาใช้ในการจัดโครงการ ดังน้ี 1. ชุด LEGO WeDo 2.0 2. แบบประเมินผลโครงการพฒั นาทักษะนักประดษิ ฐ์หนุ่ ยนตจ์ ๋วิ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลทั่วไป เชน่ เพศ ส่วนที่ 2 เนอื้ หาสาระการอบรมสมั มนา มี 4 ด้าน คือ ความพงึ พอใจ การประเมินผล เนอ้ื หาวชิ า การประเมนิ ผลวิทยากร และการประเมินผลวตั ถุประสงคโ์ ครงการ โดยมเี กณฑร์ ะดบั ความพอใจ อยู่ 5 ระดับ คือ คะแนนเฉลี่ย ระดบั ความคิดเห็น 4.51 - 5.00 มากทส่ี ดุ 3.51 - 4.50 มาก 2.51 – 3.50 ปานกลาง 1.51 – 2.50 นอ้ ย 1.00 – 1.50 น้อยท่สี ุด 3.5 วิธกี ารดาเนนิ การและเก็บรวบรวมข้อมูล สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ดาเนินการจัดโครงการ พัฒนาทักษะนักประดิษฐ์หุ่นยนต์จ๋ิว ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ มีนักเรียนเขา้ รบั การฝึกอบรมจานวน 20 คน และได้แบ่งกลมุ่ นักเรียนออกเปน็ กลุ่มละ 5 คน และแตล่ ะกลุ่มจะ มพี ี่เลีย้ ง (นักศกึ ษาสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพวิ เตอร)์ ประจากลุ่มเพ่ือให้ความรู้และแนะนาน้อง ๆ ขณะท่ฝี กึ ปฏิบัติ โดยมีหวั ขอ้ ทใี่ ช้ฝกึ อบรมดังนี้

วันที่ 1 (25 เมษายน 2561) เรียนรโู้ ปรแกรม WeDo 2.0 และ Core Set (บรรยาย+ ปฏบิ ตั )ิ 1. การตดิ ต้งั โปรแกรม WeDo 2.0 และ Core Set 2. กระบวนการเรยี นรู้ WeDo 2.0 3. ทดสอบโปรแกรม 4. กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ 5. วิธกี ารแกไ้ ขปญั หาต่าง ๆ วนั ที่ 2 (26 เมษายน 2561) 1. ขนั้ ตอนการพฒั นาโปรแกรมด้วย WeDo 2.0 และ Core Set 2. การออกแบบการทางานและการควบคุมหนุ่ ยนต์ (บรรยาย+ปฏิบตั ิ) 2.1 ออกแบบการทางานของหุ่นยนต์ 2.2 ประกอบหุ่นยนตต์ ามท่อี อกแบบและทดสอบการทางาน วันท่ี 3 (27 เมษายน 2561) 1. ออกแบบการทางานของหุ่นยนต์ (ตอ่ ) 2. ประกอบหุ่นยนตต์ ามที่ออกแบบและทดสอบการทางาน (ตอ่ ) 3. นาเสนอผลงาน ในส่วนของการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลขณะท่ีมีการฝึกอบรมและ หลงั ฝึกอบรมเสรจ็ โดยมีการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนทเ่ี ข้าอบรมว่ามีความรู้สกึ อยา่ งไรในการ เข้ารับการอบรมในคร้ังนี้ โดยใช้แบบประเมินผลโครงการพัฒนาทักษะนักประดิษฐ์หุ่นยนต์จิ๋ว และประเมินผลจาก ช้ินงานที่ผู้เข้าอบรมได้สร้างข้ึนตามโจกท์ของปัญหาต่าง ๆ ในการทา โครงงานทีม่ อบหมาย 3.6 สถติ ทิ ใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ในการจัดโครงการพัฒนาทักษะนักประดิษฐห์ นุ่ ยนตจ์ ๋วิ สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรม ได้นาสถติ ิมาใช้ในการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ดงั น้ี ค่าเฉลย่ี เลขคณติ (Arithmetic Mean) หมายถงึ การหารผลรวมของข้อมูลทั้งหมดดว้ ย จานวนข้อมูลท้งั หมด คือ สามารถคานวณได้จากสูตร = (3.1) เมื่อ (เอ็กซบ์ าร์) คอื ค่าเฉล่ยี เลขคณิต คือ ผลบวกของข้อมลู ทุกค่า คอื จานวนข้อมูลทัง้ หมด

4. ผลและอภิปรายผลการดาเนินงาน ในการจัดโครงการพัฒนาทักษะนักประดิษฐ์หุ่นยนต์จิ๋ว เมื่อวันท่ี 25 – 27 เมษายน 2561 นั้น สรปุ ผลในภาพรวม คือ 4.1.1 เป้าหมายของผลผลติ (output) 1) ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการประดิษฐ์หุ่นยนต์จ๋ิว จะเห็นไดจ้ ากการสร้าง/ประกอบหนุ่ ยนต์ จากแนวคดิ ของผ้เู ข้าอบรมเอง ผลงานที่ได้ 2) ความพึงพอใจของผู้เข้าอบรมในกระบวนการให้บรกิ าร จะเห็นว่าผู้เข้าอบรม มีความพึงพอใจและเป็นกันเองกับทีมผู้อบรม เชน่ ใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบัตขิ ณะท่จี ัดอบรม 4.1.2 เปา้ หมายของผลลพั ธ์ (outcome) 1) ผู้เข้าอบรมสามารถนาความรู้ที่ได้รับการอบรมไปใช้ประโยชน์ ร้อยละ 96 ซ่ึง สงู กวา่ เกณฑ์ท่ีตงั้ ไว้ (เกณฑ์ท่ีต้งั ไว้ รอ้ ยละ 80) 2) ผู้เข้าอบรมมีความพึงพอใจในการจัดโครงการฯ ร้อยละ 95 ซ่ึงสูงกว่า เกณฑ์ ทีต่ ง้ั ไว้ (เกณฑท์ ต่ี งั้ ไว้ ร้อยละ 90) 4.1.3 การติดตามและการประเมนิ ผลหลงั เสรจ็ สนิ้ โครงการ ชว่ ง 3 - 6 เดอื น การติดตามประเมินผลหลังดาเนินการ 3 - 6 เดือน ผู้เข้าอบรมได้นากระบวนการของ การเรียนรู้ที่อบรมไปใช้ ในการเรียนและการใช้ชีวิตในปัจจุบัน โดยนักเรียนที่ผ่านกระบวนการ เรียนรู้ ไปเริ่ม คิดเป็น ทาเป็น และแก้ปัญหาเป็น ซ่ึงผู้เรียนสามารถถ่ายโยงความรู้ที่เรียนไปใช้ใน ชีวิตจรงิ ได้ และยังนาสง่ิ ที่ได้จากการอบรมไปถ่ายทอดให้กบั รุ่นน้องๆ ทีโ่ รงเรียนดว้ ย (ทม่ี า : จาก การสอบถามกบั อาจารยพ์ เี่ ลีย้ งทม่ี าดูแลนกั เรียนท่เี ข้าอบรม) 5. สรปุ ผลการวจิ ยั 5.1 การเปลย่ี นแปลงที่เกิดขึ้นกบั ครู : ครพู เ่ี ล้ยี งไดเ้ รียนรู้ในการนาเทคโนโลยกี ารประดิษฐ์เขา้ มาใชใ้ นการเรียนการสอน เพ่ือพฒั นาทักษะในการเรียนของนักเรยี น นักเรยี น : 1. นกั เรียนทเี่ ขา้ รบั การฝกึ อบรมไดพ้ ฒั นาทักษะในการเรียนรจู้ ากการลงมือ ปฏบิ ตั ิจริงและได้แลกเปล่ียนเรยี นรกู้ นั 2. นกั เรียนเกิดการเรียนรู้ ทักษะการประดษิ ฐห์ นุ่ ยนต์ 3. นกั เรยี นเกิดความคิดสร้างสรรค์สรา้ งสิง่ ประดิษฐ์ 4. นักเรียนรจู้ ักวิเคราะหเ์ ปน็ และรู้จักการใชค้ วามคิดพจิ ารณาในเรอ่ื งทีส่ นใจ เขา้ ถงึ แหล่งขอ้ มลู ความรู้ โรงเรยี น : โรงเรียนได้พัฒนานักเรียนให้มีความรู้และเกิดการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี การประดษิ ฐ์

5.2 ตัวชี้วดั การเปลีย่ นแปลง ผลการประเมนิ โดยเปรียบเทียบระหวา่ ง Pre-test / Post-test รายการประเมนิ รวม เฉลี่ย ระดับความ พอใจ การประเมนิ ผลเนอื้ หาวชิ า 43 2.15 1. ความรู้ กอ่ น เข้ารับการฝึกอบรม 86 4.3 ปานกลาง 2. ความรู้ทีไ่ ด้รับ หลัง การฝึกอบรม เฉล่ีย มาก ผลลพั ธท์ างการเรยี นของนักเรียน 4.95 ระดับความ รายการประเมนิ รวม 4.95 พอใจ 1. เยาวชนได้มีโอกาสเสริมสร้างเทคนิคการเรียนรู้ด้วย 99 มากทสี่ ดุ หุ่นยนต์และแลกเปล่ียนประสบการณ์ กับวิทยากรท่ีให้ 99 ความรแู้ ละผ้ทู ีร่ ว่ มอบรม มากทส่ี ดุ 2. เยาวชนรู้จักวิเคราะห์เป็นและรู้จักการใช้ความคิด พิจารณาในเรือ่ งท่สี นใจ เขา้ ถงึ แหลง่ ข้อมูลความรู้ 5.3 ประโยชนท์ โี่ รงเรยี นและชุมชนไดร้ ับจากการดาเนนิ กจิ กรรม โรงเรียน : 1. โรงเรยี นไดพ้ ัฒนานกั เรียนใหม้ ีความร้แู ละเกดิ การพัฒนาทกั ษะด้าน เทคโนโลยกี ารประดษิ ฐ์ 2. โรงเรียนเปิดโอกาส และหาเวทีให้กับนักเรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันใน การพฒั นาทกั ษะ 3. โรงเรยี นไดฝ้ กึ นกั เรยี นให้มกี ระบวนการคดิ วิเคราะห์เป็นในการใชค้ วามคดิ พจิ ารณาในเร่อื งที่สนใจ เขา้ ถึงแหลง่ ขอ้ มูลความรู้ ชมุ ชน : 1. ชมุ ชนมคี วามยินดีทไี่ ดเ้ ห็นลูกหลานในชุมชนได้เรยี นรแู้ ละพฒั นาทกั ษะดา้ น เทคโนโลยีการประดิษฐ์ 2. ชมุ ชนเห็นวา่ ลูกหลานในชมุ ชนสามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชนใ์ น การปฏิบตั ิงานได้จรงิ 5.4 ประโยชน์ทีส่ ถาบนั อุดมศึกษาได้รับจากการดาเนินกจิ กรรม 1. สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ได้ถ่ายทอดทักษะ ดา้ นเทคโนโลยกี ารประดิษฐ์ ให้กบั เยาวชนที่ดอ้ ยโอกาส 2. ได้ถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และปลูกฝงั ความเป็นครูช่างใหก้ บั ลูกศิษย์ ร่นุ ต่อๆ ไป

6. กิตตกิ รรมประกาศ กิ จ ก ร ร ม ค ร้ั ง น้ี ส า เ ร็ จ ลุ ล่ ว ง ไ ป ไ ด้ ด้ ว ย ค ว า ม เ ม ต ต า จ า ก ค ณ ะผู้ บ ริ ห า ร ม ห า วิ ท ย า ลั ย เทคโนโลยีราชมงคลพระนครทุกท่าน ท่ีช่วยเหลือ/ชี้แนะในการจัดทาโครงการ และความร่วมมือ ของนักศกึ ษา สาขาวชิ าวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ทชี่ ่วยกันจัดกิจกรรม ให้สาเร็จลุล่วงไปด้วยดี และสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ตามนโยบายให้ สถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาท้องถิ่น โดยมีสถาบนั การอดุ มศึกษาเปน็ พ่เี ลยี้ ง ไดพ้ จิ ารณาใหง้ บประมาณในการดาเนนิ โครงการในคร้ังน้ี 7. บรรณานกุ รม Clark, C.L. A Student' Guide to the Internet. Saddle River, New Jersey : Prentice- Hall, 1996.

กิจกรรมการฝกึ อบรมเชิงปฏิบัตกิ ารในโครงการพฒั นาทักษะนักประดิษฐ์หนุ่ ยนตจ์ ิว๋ ภาพกจิ กรรมการฝึกอบรมเชิงปฏิบตั ิการในโครงการพฒั นานกั ประดิษฐ์หุ่นยนตจ์ วิ๋ ให้กับ นกั เรียน โรงเรยี นบ้านแกง่ ประลอม ตาบลทา่ เสา อาเภอไทรโยค จงั หวัดกาญจนบุรี เมอ่ื วันที่ 25- 27 เมษายน 2561 ณ ศนู ย์ฝกึ อบรม กองการเกษตรและสหกรณ์ สาหนกั งานทหารพัฒนา หนว่ ย บญั ชาการทหารพฒั นา กองทพั ไทย มีดังน้ี

จากภาพตัวอย่างกิจกรรม คณะทีมงานมีพี่เล้ียงประจากลุ่มคอยให้คาแนะนาการใช้งาน ของโปรแกรม การเชื่อมต่อโปรแกรมที่ออกแบบเข้ากับตัวหุ่นยนต์ท่ีน้อง ๆ สร้างขึ้น และนามา ประลองแข่งขันกัน เช่น แข่งความเร็ว ชักขะเยอ บรรทุกสิ่งของ หลังเสร็จสิ้นโครงการมีการมอบ วุฒิบตั รและของที่ระลึกให้กบั น้องๆ ทีม่ าเข้ารว่ มอบรม และถ่ายภาพหมูร่ วมกัน

โครงการถา ยทอดความรูดานการออกแบบเชิงบรู ณาการ สกู ารขบั เคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนดวยเทคโนโลยีทางการออกแบบ Integrated design knowledge transfer for local economic development from design technology project นางสาวณฐั ณิชา สวนทอง1 นายวชั รพล สนุ นทรราช2 นายศิรวัชร พัฒคมุ 3 1นักศกึ ษา สาขาวชิ าการออกแบบผลิตภณั ฑอ ุตสาหกรรม คณะสถาปต ยกรรมศาสตรแ ละการออกแบบ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร 2นกั ศกึ ษา สาขาวชิ าการออกแบบบรรจุภัณฑ คณะสถาปตยกรรมศาสตรแ ละการออกแบบ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร 3นกั วิชาการการศึกษา ผคู วบคมุ โครงการ คณะสถาปตยกรรมศาสตรแ ละการออกแบบ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร E-mail: [email protected], [email protected], [email protected] ......................................................................................................................................................... บทสรุป จากการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรูในเร่ืองรูปแบบการเรียนการสอนโดยการใชหลัก การบูรณาการโดยใหนักศึกษามีประสบการณจริงจากการทํางานโดยการแลกเปล่ียนเรียนรูจาก กลุมของผูนํานักศึกษาโดยมีอาจารยเปนผูคอยเสนอแนะ ทําใหเกิดโครงการพัฒนาและถายทอด ความรูดานการออกแบบเชิงพาณิชย สูการขับเคล่ือนเศรษฐกิจชุมชนดวยเทคโนโลยีทางการ ออกแบบ ซึ่งมรี ูปแบบการจดั การเรียนการสอนท่ีควบคูไปกับปฏิบัติงานจริง ซ่ึงจัดเปนโครงการท่ี ไดนําโจทยจากชุมชน มาสูหองเรียน และจากหองเรียนสูการถายทอดความรูของนักศึกษาสู ชุมชนภายนอก โดยนักศึกษาแตละคนจะนําความรูมาเขาสูกระบวนการทางการจัดการความรู โดยอาศัยเครื่องมือตาง ๆ ของการจัดการความรูรวมกับเพื่อนนักศึกษาของทางคณะ และ นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแหงชาติลาว เพ่ือใหงานสําเร็จลุลวง โดยจากการจัดโครงการดังกลาว ทําใหท างชมุ ชน ไดร ับความรใู หมทางดานเทคโนโลยีทางการออกแบบและยังมีการสรางเครื่อขาย วิสาหกิจระหวางชุมชน และการนําความรูที่ไดรับไปตอยอดทางเชิงพาณิชย ซ่ึงการแลกเปล่ียน เรียนรูในครั้งน้ีสามารถนําไปปรับใชในการพัฒนาตนเองในดานการทํางานแบบเปนกลุม โดยรับ ฟง ความคดิ เห็นจากสวนรวมเพอ่ื นาํ มาประยุกตใ นเกิดผลสมั ฤทธิ์อยางมปี ระสิทธภิ าพ Summary This is a project that has brought the needs of the community to the classroom and from the classroom and transfers of knowledge to the outside community. Each student will bring knowledge into the knowledge management


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook