Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตรวจสอบเอกสารเฉพาะเจาะจง E-BOOK

ตรวจสอบเอกสารเฉพาะเจาะจง E-BOOK

Published by lilbadflynn, 2021-05-30 16:38:58

Description: ตรวจสอบเอกสารเฉพาะเจาะจง E-BOOK

Search

Read the Text Version

ร่าง คมู่ อื การตรวจสอบเอกสารเบกิ จ่ายเงนิ จากการจัดซอ้ื จดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง https://online.pubhtml5.com/pann/ikxo กองคลัง สำนกั งานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2564

(ก) คำนำ ตามที่กระทรวงการคลัง ได้ออกพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ฉบับใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และสภาวการณ์ปัจจุบัน ประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเมือ่ วนั ท่ี 24 กมุ ภาพนั ธ์ 2560 และมผี ลบังคับใช้ตั้งแต่วันท่ี 23 สิงหาคม 2560 เปน็ ตน้ ไป ใหห้ น่วยงานของรัฐทุกแหง่ ถือปฏิบัติ โดยหนว่ ยงานของรฐั ต้องดำเนินการจดั ซอื้ จดั จ้างตามวธิ กี ารท่ีกำหนด และจากการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย วิธีปฏิบัติต่าง ๆ ทำให้เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบเอกสาร การเบิกจ่ายเงนิ จากการจัดซ้ือจัดจ้าง ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในกฎหมาย ระเบียบ หนังสือเวียนท่ีเกี่ยวขอ้ ง และขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงเอกสารประกอบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อใช้ในการ ตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วนของเอกสารประกอบการเบิกจ่ายเงิน ก่อนนำเสนอผู้มีอำนาจอนุมัติ เบิกจา่ ยเงนิ ใหก้ บั เจา้ หนีห้ รอื ผูม้ ีสทิ ธิ ดังนั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงินจากการ จัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เข้าใจถึงขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เพื่อใช้เป็นแนวทาง ในการตรวจสอบเอกสารประกอบการเบิกจ่ายเงินให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงได้จัดทำคู่มือเล่มนี้ขึ้น โดยผู้จัดทำหวังว่าคู่มือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานหรือผู้สนใจ หากมีส่วนใดขาดตกบกพร่อง หรือมีข้อเสนอแนะ ขอให้แจ้งผู้จัดทำไปเพื่อจักได้ปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ขึ้น โดยแจ้งไปยัง E-mail : [email protected] ตอ่ ไปด้วย จกั ขอบคุณมาก วนิดา โฆษิตเสถียรกลุ เมษายน 2564

สารบญั (ข) คำนำ หน้า สารบญั บทที่ 1 บทนำ (ก) (ข) - หลักการและเหตุผล 1 - วัตถปุ ระสงค์ 1 - ขอบเขต 1 บทที่ 2 สาระสำคัญของกฎหมาย และระเบยี บทเ่ี กยี่ วข้อง 2 - นิยามศัพท์เฉพาะ 3 บทที่ 3 กระบวนการจดั ซ้อื จัดจ้าง 3 - Work Flow กระบวนการจัดซอ้ื จัดจา้ ง 12 - Work Flow กระบวนการจัดซ้ือจดั จ้างวธิ ีเฉพาะเจาะจง 12 บทที่ 4 การตรวจสอบเอกสารเบกิ จ่ายเงนิ 25 - ขั้นตอนการดำเนินการ 34 - มาตรฐานคุณภาพงาน 35 บรรณานุกรม 115 116

บทท่ี 1 บทนำ หลักการและเหตุผล ตามที่กระทรวงการคลัง ไดอ้ อกพระราชบัญญตั กิ ารจัดซื้อจดั จ้างและการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. 2560 ฉบับใหม่ เพือ่ ให้สอดคลอ้ งกับกฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บังคบั และสภาวการณ์ปจั จุบัน มผี ลบังคบั ใช้ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2560 ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งถือปฏิบัติ โดยการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐ จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและ การบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและ การบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าดว้ ยการจดั ซือ้ จดั จ้างและการบรหิ าร พัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ตลอดจนหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เป็นวิธีหนึ่งที่ถูกกำหนดขึ้นให้ส่วนราชการเลือกใช้หากเข้าหลักเกณฑ์ของวิธีดังกล่าว และจากการ เปลี่ยนแปลงกฎหมาย วิธีปฏิบัติต่าง ๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบเอกสารการ เบิกจ่ายเงินจากการจัดซื้อจัดจ้าง จำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจในกฎหมาย ระเบียบ หนังสือเวียน ที่เกี่ยวข้อง และขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงเอกสารประกอบการดำเนินงานตามขั้นตอนต่าง ๆ เพ่ือ ใช้ในการตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วนของเอกสารประกอบการเบิกจ่ายเงินก่อนนำเสนอผู้มีอำนาจ อนุมัตเิ บกิ จา่ ยเงินใหก้ ับเจ้าหนห้ี รอื ผมู้ สี ทิ ธิ เพอื่ ใหก้ ารตรวจสอบเอกสารประกอบการจัดซอื้ จัดจ้างโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง ของหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานรัฐมนตรี สำหรับการขออนุมัติ เบิกจ่ายเงินต่อปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นไปด้วยความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และสามารถเบิกจ่ายเงินได้รวดเร็วขึ้น จึงเห็นควรจัดทำคู่มือการตรวจสอบเอกสาร การเบิกจ่ายเงินจาการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ของเจา้ หน้าทผี่ ู้ปฏบิ ตั งิ านดา้ นการตรวจสอบเอกสารใหม้ ีประสทิ ธิภาพมากยิง่ ข้ึน 1. วัตถุประสงค์ 1.1 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงินจากการจัดซื้อ จัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ทราบถึงขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ตามพระราชบัญญัติ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซ้ือ จัดจา้ งและการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ.2560 1.2 เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วนของเอกสาร ประกอบการเบกิ จ่ายเงิน ให้มแี นวทางปฏบิ ตั เิ ปน็ ไปในแนวทางเดยี วกัน และสามารถปฏบิ ัตงิ านแทนกนั ได้

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 2 2. ขอบเขต คู่มือปฏิบัติงานนี้อธิบายถึงการจัดซื้อจัดจ้างตามหมวดที่ 6 พระราชบัญญัติการจดั ซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เพื่อให้ทราบถึงหลักการ ขั้นตอน การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงิน ใหก้ บั เจ้าหน้าท่ีผปู้ ฏบิ ัติงานด้านการตรวจสอบเอกสารก่อนนำเสนอขออนมุ ตั ิเบิกจา่ ยเงินต่อผมู้ อี ำนาจอนมุ ัติ

บทที่ 2 สาระสำคัญของกฎหมาย และระเบียบท่ีเก่ยี วขอ้ ง 1. กฎหมายทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับการจดั ซือ้ จดั จ้างและการบริหารพัสดภุ าครัฐ 1. พระราชบัญญัตกิ ารจัดซือ้ จัดจ้างและการบรหิ ารพัสดภุ าครัฐ พ.ศ. 2560 2. กฎกระทรวงท่อี อกตามความในพระราชบัญญตั กิ ารจดั ซื้อจดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดุ ภาครัฐ พ.ศ. 2560 3. ระเบยี บกระทรวงการคลังวา่ ดว้ ยการจัดซอื้ จดั จ้างและการบรหิ ารพัสดภุ าครัฐ พ.ศ. 2560 2. นิยามศัพทเ์ ฉพาะ การจัดซื้อจัดจ้าง หมายความว่า การดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งพัสดุโดยการซื้อ จ้าง เช่า แลกเปลย่ี น หรือโดยนติ กิ รรมอน่ื ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง พัสดุ หมายความว่า สินค้า งานบริการ งานก่อสร้าง งานจ้างที่ปรึกษาและงานจ้างออกแบบ หรือควบคุมงานก่อสรา้ ง รวมท้งั การดำเนินการอื่นตามท่กี ำหนดในกฎกระทรวง สินค้า หมายความว่า วัสดุ ครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินอื่นใด รวมท้ัง งานบริการทร่ี วมอยูใ่ นสนิ ค้านั้นด้วย แต่มูลค่าของงานบริการต้องไม่สูงกว่ามลู คา่ ของสินค้านัน้ งานบริการ หมายความว่า งานจ้างบริการ งานจา้ งเหมาบรกิ าร งานจา้ งทำของและการรบั ขน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล แต่ไม่หมายความรวมถึงการจ้าง ลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ การรับขนในการเดินทางไปราชการหรือไปปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐ งานจ้างที่ปรึกษา งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง และการจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณชิ ย์ งานก่อสร้าง หมายความว่า งานก่อสร้างอาคาร งานก่อสร้างสาธารณูปโภค หรือสิ่งปลูกสร้าง อื่นใด และการซ่อมแซม ตอ่ เตมิ ปรับปรงุ รื้อถอน หรือการกระทำอืน่ ทม่ี ลี กั ษณะทำนองเดยี วกนั ตอ่ อาคาร สาธารณูปโภค หรือสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว รวมทั้งงานบริการที่รวมอยู่ในงานก่อสร้างนั้นด้วย แต่มูลค่าของ งานบริการตอ้ งไม่สงู กว่ามลู คา่ ของงานกอ่ สรา้ งนัน้ อาคาร หมายความว่า สง่ิ ปลกู สร้างถาวรทบี่ คุ คลอาจเข้าอยหู่ รอื ใช้สอยได้ เช่น อาคารท่ที ำการ โรงพยาบาล โรงเรียน สนามกีฬา หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นท่ีมีลกั ษณะทำนองเดยี วกนั รวมทั้งสิ่งก่อสรา้ งอื่น ๆ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยสำหรับอาคารนั้น ๆ เช่น เสาธง รั้ว ท่อระบายน้ำ หอถังน้ำ ถนน ประปา ไฟฟา้ หรอื ส่งิ อนื่ ๆ ซง่ึ เปน็ สว่ นประกอบของตัวอาคาร เช่น เครือ่ งปรบั อากาศ ลิฟท์ หรือเครือ่ งเรอื น สาธารณูปโภค หมายความว่า งานอันเกี่ยวกับการประปา การไฟฟ้า การโทรคมนาคม การสื่อสาร การระบายน้ำ การขนส่งทางท่อ ทางน้ำ ทางบก ทางอากาศ หรือทางราง หรือการอ่ืน ทเี่ ก่ียวขอ้ งซึ่งดำเนินการในระดับพืน้ ดิน ใต้ดิน หรือเหนอื พนื้ ดนิ

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 4 งานจ้างที่ปรึกษา หมายความว่า งานจ้างบริการจากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลเพื่อเป็น ผู้ให้คำปรึกษาหรือแนะนำแก่หน่วยงานของรัฐในด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม ผังเมือง กฎหมาย เศรษฐศาสตร์ การเงิน การคลัง สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สาธารณสุข ศิลปวัฒนธรรม การศกึ ษาวิจัย หรือดา้ นอ่นื ท่อี ยู่ในภารกิจของรัฐหรอื ของหน่วยงานของรัฐ งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง หมายความว่า งานจ้างบริการจากบุคคล ธรรมดาหรอื นิตบิ ุคคลเพอ่ื ออกแบบหรอื ควบคมุ งานก่อสร้าง การบริหารพัสดุ หมายความว่า การเก็บ การบันทึก การเบิกจ่าย การยืม การตรวจสอบ การบำรุงรกั ษา และการจำหนา่ ยพัสดุ ราคากลาง หมายความว่า ราคาเพื่อใช้เป็นฐานสำหรับเปรียบเทียบราคาที่ผู้ยื่นข้อเสนอ ได้ย่นื เสนอไว้ซ่ึงสามารถจดั ซอ้ื จัดจา้ งไดจ้ รงิ ตามลำดับ ดังต่อไปน้ี (1) ราคาทีไ่ ด้มาจากการคำนวณตามหลกั เกณฑ์ทคี่ ณะกรรมการราคากลางกำหนด (2) ราคาทีไ่ ดม้ าจากฐานข้อมลู ราคาอา้ งอิงของพัสดทุ ก่ี รมบญั ชีกลางจดั ทำ (3) ราคามาตรฐานที่สำนกั งบประมาณหรือหน่วยงานกลางอื่นกำหนด (4) ราคาทไี่ ดม้ าจากการสบื ราคาจากท้องตลาด (5) ราคาทีเ่ คยซือ้ หรอื จา้ งครั้งหลังสดุ ภายในระยะเวลาสองปงี บประมาณ (6) ราคาอ่ืนใดตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร หรือแนวปฏิบัติของหนว่ ยงานของรฐั นั้น ๆ ในกรณีที่มีราคาตาม (1) ให้ใช้ราคาตาม (1) ก่อน ในกรณีที่ไม่มีราคาตาม (1) แต่มีราคา ตาม (2) หรือ (3) ให้ใช้ราคาตาม (2) หรือ (3) ก่อน โดยจะใช้ราคาใดตาม (2) หรือ (3) ให้คำนึงถึง ประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐเป็นสำคัญ ในกรณีที่ไม่มีราคาตาม (1) (2) และ (3) ให้ใช้ราคาตาม (4) (5) หรือ (6) โดยจะใช้ราคาใดตาม (4) (5) หรือ (6) ให้คำนึงถึงประโยชนข์ องหน่วยงานของรัฐเปน็ สำคญั เงินงบประมาณ หมายความว่า เงินงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือกฎหมายเกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ เงินซึ่งหน่วยงานของรัฐ ได้รับไว้โดยได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีให้ไม่ต้องนำส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือ กฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง เงินซึ่งหน่วยงานของรัฐได้รับไว้โดยไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ตามกฎหมาย และเงินภาษีอากร ค่าธรรมเนียม หรือผลประโยชน์อื่นใดที่ตกเป็นรายได้ของราชการ ส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายหรือที่ราชการส่วนท้องถิ่นมีอำนาจเรียกเก็บตามกฎหมาย และให้หมายความ รวมถึงเงินกู้ เงนิ ชว่ ยเหลอื และเงินอน่ื ตามท่ีกำหนดในกฎกระทรวง หน่วยงานของรัฐ หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการ ส่วนท้องถิน่ รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ องค์การมหาชน องค์กรอสิ ระ องค์กรตาม รัฐธรรมนูญ หน่วยธุรการของศาล มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ หน่วยงานสังกัดรัฐสภาหรือในกำกับของ รัฐสภา หนว่ ยงานอสิ ระของรฐั และหน่วยงานอนื่ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ หมายความว่า ผู้ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งในกรณี ราชการสว่ นกลาง หมายถึง อธบิ ดี หรอื หวั หน้าสว่ นราชการทเ่ี รยี กช่อื อยา่ งอนื่ และมฐี านะเปน็ นติ ิบคุ คล

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 5 หัวหน้าเจ้าหน้าท่ี หมายความว่า ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสายงานซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับ การจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุตามที่กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐนั้น กำหนด หรอื ผูท้ ่ีได้รับมอบหมายจากหวั หนา้ หนว่ ยงานของรัฐให้เปน็ หวั หนา้ เจ้าหนา้ ท่ี เจ้าหน้าที่ หมายความว่า ผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ หรือผู้ที่ ได้รบั มอบหมายจากผู้มีอำนาจให้ปฏิบตั หิ น้าท่ีเก่ยี วกบั การจัดซือ้ จดั จ้างหรือการบรหิ ารพสั ดขุ องหน่วยงาน ของรฐั ผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน หมายความว่า บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่เข้าเสนอราคา หรือ เข้าย่ืนข้อเสนอในการจดั ซือ้ จัดจ้างตอ่ หน่วยงานของรัฐใด เปน็ ผูม้ ีสว่ นได้เสียไม่วา่ โดยทางตรงหรือทางอ้อม ในกิจการของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลอื่นที่เข้าเสนอราคาหรือเข้ายื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐนั้น ในคราวเดียวกนั ผู้มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติ หมายความว่า คณะกรรมการพจิ ารณาผลการประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ คณะกรรมการพิจารณาผลการสอบราคา คณะกรรมการซื้อหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือก คณะกรรมการดําเนินงานจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป คณะกรรมการดําเนินงานจ้าง ที่ปรึกษาโดยวิธีคัดเลือก คณะกรรมการดําเนินงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างโดยวิธีประกาศ เชิญชวนทั่วไป คณะกรรมการดําเนินงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างโดยวิธีคัดเลือก และ คณะกรรมการดําเนินงานจา้ งออกแบบงานก่อสรา้ งโดยวิธปี ระกวดแบบ 3. คณะกรรมการจัดซ้อื จดั จ้าง 1. การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแต่ละครั้ง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการ ซื้อหรือจ้างขึน้ เพื่อปฏิบัติการตามระเบยี บ พร้อมกับกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาของคณะกรรมการ แลว้ แต่กรณี ดงั น้ี 1.1 คณะกรรมการพจิ ารณาผลการประกวดราคาอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 1.2 คณะกรรมการพจิ ารณาผลการสอบราคา 1.3 คณะกรรมการซ้ือหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือก 1.4 คณะกรรมการซือ้ หรอื จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง 1.5 คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ 2. ให้คณะกรรมการซื้อหรือจ้างแต่ละคณะ รายงานผลการพิจารณาต่อหัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐภายในระยะเวลาที่กำหนด ถ้ามีเหตุที่ทำให้การรายงานล่าช้า ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ พิจารณาขยายเวลาให้ตามความจำเป็น 3. คณะกรรมการซื้อหรือจ้างแต่ละคณะประกอบด้วย ประธานกรรมการ 1 คน และ กรรมการอย่างน้อย 2 คน ซึ่งแต่งตั้งจากข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ พนักงาน มหาวิทยาลัย พนักงานของรัฐ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่น โดยให้คำนึงถึง ลกั ษณะหนา้ ท่ีและความรบั ผดิ ชอบของผทู้ ไี่ ด้รบั แตง่ ตงั้ เปน็ สำคญั

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 6 4. ในกรณีจำเป็นหรือเพื่อประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐจะแต่งตั้งบุคคลอื่นร่วมเป็น กรรมการด้วยก็ได้ แต่จำนวนกรรมการที่เปน็ บุคคลอน่ื น้นั จะต้องไม่มากกวา่ จำนวนกรรมการตามทีก่ ำหนด 5. การซื้อหรือจ้างครั้งเดียวกัน ห้ามแต่งตั้งผู้ที่เป็นกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา อิเลก็ ทรอนิกส์ กรรมการพิจารณาผลการสอบราคา หรอื กรรมการซอื้ หรือจ้างโดยวธิ ีคดั เลอื กเป็นกรรมการ ตรวจรบั พัสดุ 6. คณะกรรมการซื้อหรือจ้างทุกคณะ ควรแต่งตั้งผู้ชำนาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับ งานซื้อหรอื จ้างนนั้ ๆ เข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย 7. การประชุมของคณะกรรมการแต่ละคณะ ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของจำนวนกรรมการทั้งหมด ให้ประธานกรรมการและกรรมการแต่ละคนมีเสียงหนึ่งในการลงมติ โดยประธานกรรมการต้องอยู่ด้วยทุกครั้งในการประชุม หากประธานกรรมการไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้หัวหนา้ หน่วยงานของรฐั แต่งตัง้ ประธานกรรมการคนใหมเ่ ปน็ ประธานกรรมการแทน 8. มติของคณะกรรมการให้ถือเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานกรรมการ ออกเสียงเพ่ิมขึ้นอีกเสยี งหนึ่งเปน็ เสยี งชี้ขาด เว้นแต่ คณะกรรมการตรวจรับพสั ดุให้ถอื มตเิ อกฉันท์ 9. กรรมการของคณะใดไม่เหน็ ดว้ ยกบั มติของคณะกรรมการ ให้ทำบนั ทึกความเห็นแยง้ ไวด้ ้วย 10. ประธานกรรมการและกรรมการ จะตอ้ งไม่เปน็ ผ้มู สี ่วนไดเ้ สียกับผยู้ ่ืนข้อเสนอหรอื ค่สู ญั ญา ในการซื้อหรือจ้างครั้งนั้น ทั้งนี้ การมีส่วนได้เสียในเรื่องซึ่งที่ประชุมพิจารณาของประธานกรรมการและ กรรมการใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวธิ ีปฏิบัติราชการทางปกครอง หากประธานหรือกรรมการทราบวา่ ตนเป็นผมู้ ีสว่ นได้เสียกับผยู้ ่ืนข้อเสนอหรอื ค่สู ญั ญาในการซ้ือหรือจ้างครงั้ นน้ั ใหป้ ระธานหรือกรรมการผ้นู ัน้ ลาออกจากการเป็นประธานหรือกรรมการในคณะกรรมการท่ีตนได้รับการแต่งตั้งนั้น และให้รายงาน หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั ทราบเพ่ือส่ังการตามท่ีเห็นสมควรตอ่ ไป 4. การตรวจสอบผ้มู ผี ลประโยชนร์ ว่ มกัน 1. เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม ให้ผู้มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบตั ิ ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายว่าเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันหรือไม่ หากปรากฏว่ามีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน ให้ผู้มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติตัดรายช่ือ ผยู้ ืน่ ข้อเสนอออกจากการเปน็ ผู้ยื่นขอ้ เสนอในครั้งน้ัน 2. ในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละราย ให้เจ้าหน้าที่กำหนดให้ ผยู้ ่ืนข้อเสนอย่นื เอกสารแสดงคุณสมบัตแิ ยกมาต่างหาก โดยอย่างน้อยตอ้ งมเี อกสารดงั ตอ่ ไปนี้ 2.1 ในกรณผี ู้ยน่ื ข้อเสนอเป็นนิติบคุ คล 2.1.1 ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการ จดทะเบียนนติ ิบคุ คล บญั ชรี ายชือ่ หุ้นส่วนผู้จดั การ ผู้มอี ำนาจควบคุม (ถ้าม)ี พรอ้ มทั้งรับรองสำเนาถกู ตอ้ ง

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 7 2.1.2 บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจด ทะเบยี นนติ บิ ุคคล หนงั สือบริคณห์สนธิ บัญชีรายช่ือกรรมการผจู้ ดั การ ผมู้ อี ำนาจควบคุม (ถา้ ม)ี และบญั ชี รายชอ่ื ผถู้ ือหนุ้ รายใหญ่ (ถา้ มี) พร้อมท้ังรบั รองสำเนาถกู ต้อง 2.2 ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นบุคคลธรรมดาหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้ยื่นสำเนา บัตรประจำตัวประชาชนของผู้นั้น สำเนาข้อตกลงที่แสดงถึงการเข้าเป็นหุ้นส่วน (ถ้ามี) สำเนาบัตรประจำตวั ประชาชนของผู้เป็นห้นุ ส่วน พรอ้ มทงั้ รบั รองสำเนาถกู ตอ้ ง 2.3 ในกรณีผยู้ น่ื ข้อเสนอเปน็ ผู้ยืน่ ข้อเสนอร่วมกนั ในฐานะเป็นผรู้ ่วมคา้ ใหย้ น่ื สำเนาสญั ญา ของการเข้าร่วมค้า สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ร่วมค้า และในกรณีที่ผู้เข้าร่วมค้าฝ่ายใดเป็นบุคคล ธรรมดาที่มิได้ถือสัญชาติไทย ก็ให้ยื่นสำเนาหนังสือเดินทาง หรือถ้าผู้ร่วมค้าฝ่ายใดเป็นนิติบุคคลให้ยื่น เอกสารตามที่ระบุไว้ใน 2.1 2.4 เอกสารอื่นตามที่หน่วยงานของรัฐกำหนด เช่น สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ สำเนา ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิม่ การยื่นเอกสารแสดงคุณสมบัติให้ยื่นมาพร้อมกับการยื่นข้อเสนอตามวิธีการ ท่ีกำหนด ในระเบยี บน้ี การมีส่วนไดเ้ สยี ไม่วา่ โดยทางตรงหรือทางออ้ มของบุคคลธรรมดาหรือนติ บิ คุ คล ไดแ้ ก่ การที่ บคุ คลธรรมดาหรือนิติบุคคลมคี วามสัมพันธก์ นั ในลกั ษณะ ดังตอ่ ไปนี้ (1) มีความสัมพันธ์กันในเชิงบริหาร โดยผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร หรอื ผมู้ อี าํ นาจในการดําเนนิ งานในกจิ การของบคุ คลธรรมดาหรอื ของนติ บิ คุ คลรายหนึ่ง มีอํานาจ หรือสามารถใช้อํานาจในการบริหารจัดการกิจการของบุคคลธรรมดา หรือของนิติบุคคลอีกรายหน่ึง หรอื หลายราย ทีเ่ ข้าเสนอราคาหรอื เข้ายื่นขอ้ เสนอตอ่ หน่วยงานของรฐั น้นั ในคราวเดียวกนั (2) มีความสัมพันธ์กันในเชิงทุน โดยผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือผู้เป็นหุ้นส่วน ไม่จํากัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจํากัด หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัด เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจํากัด หรือเป็นผู้ถือหุ้นราย ใหญ่ในบริษัทจํากัด หรือบริษัทมหาชนจํากัดอีกรายหนึ่งหรือหลายราย ที่เข้าเสนอราคาหรือเข้ายื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐ นน้ั ในคราวเดียวกัน คําวา่ “ผู้ถอื ห้นุ รายใหญ”่ หมายความวา่ ผ้ถู อื หนุ้ ซ่ึงถอื หุ้นเกนิ กว่ารอ้ ยละยี่สิบหา้ ในกิจการนั้น หรือในอัตราอื่นตามที่ผู้รักษาการตามระเบียบเห็นสมควรประกาศกําหนดสําหรับกิจการบางประเภท หรือบางขนาด (3) มีความสัมพันธ์กันในลักษณะไขว้กันระหว่าง (1) และ (2) โดยผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอํานาจในการดําเนินงานในกิจการของบุคคลธรรมดา หรือของ นิติบุคคลรายหนึ่ง เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจํากัด หรือเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ในบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัดอีกรายหนึ่งหรือหลายราย ที่เข้าเสนอราคาหรือเข้ายื่นข้อเสนอ ต่อหนว่ ยงานของรัฐนัน้ ในคราวเดียวกัน หรอื ในนยั กลับกนั

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 8 การดํารงตําแหน่ง การเป็นหุ้นส่วน หรือการเข้าถือหุ้นดังกล่าวข้างต้นของคู่สมรสหรือบุตร ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของบุคคลใน (1) (2) หรือ (3) ให้ถือว่าเป็นการดํารงตําแหน่ง การเป็นหุ้นส่วนหรือ การถอื หุ้นของบคุ คลดงั กล่าว ในกรณีบุคคลใดใช้ชื่อบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร ผเู้ ปน็ หุน้ ส่วน หรอื ผถู้ อื หนุ้ โดยทีต่ นเองเปน็ ผใู้ ช้อํานาจในการบรหิ ารท่ีแท้จรงิ หรือเป็นหุ้นส่วน หรอื ผู้ถือหุ้น ที่แท้จริงของห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทจํากัด หรือบริษัทมหาชนจํากัด แล้วแต่กรณี และห้างหุ้นส่วน หรือ บริษัทจํากัด หรือบริษัทมหาชนจํากัดที่เกี่ยวข้องได้เข้าเสนอราคาหรือเข้ายื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐนน้ั ในคราวเดยี วกนั ใหถ้ อื วา่ ผูย้ น่ื ข้อเสนอนัน้ มคี วามสัมพันธก์ ันตาม (1) (2) หรอื (3) แลว้ แตก่ รณี 5. การอุทธรณ์ ผู้ซึ่งได้ยื่นข้อเสนอเพื่อทําการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุกับหน่วยงานของรัฐมีสิทธิอุทธรณ์เกี่ยวกับ การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ในกรณีที่เห็นว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการท่ี กําหนดในพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ี เป็นเหตุใหต้ นไม่ไดร้ ับการประกาศผลเปน็ ผชู้ นะหรอื ไมไ่ ด้รับการคดั เลอื กเป็นคู่สญั ญากบั หน่วยงานของรฐั ผู้มสี ทิ ธอิ ุทธรณจ์ ะย่ืนอุทธรณ์ในเรือ่ งดงั ตอ่ ไปนี้ ไม่ได้ (1) การเลือกใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างหรือเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณาผลการจัดซื้อจัดจ้าง ตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ของหนว่ ยงานของรัฐ (2) การยกเลกิ การจดั ซอ้ื จดั จา้ งตามมาตรา ๖๗ โดยมีรายละเอยี ด ดังนี้ - หน่วยงานของรัฐนั้นไม่ได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดซื้อจัดจ้าง หรอื เงนิ งบประมาณที่ได้รบั การจดั สรรไมเ่ พียงพอทจี่ ะทำการจัดซอ้ื จดั จา้ งน้นั ตอ่ ไป - ผู้ได้รับการคัดเลือกมีผลประโยชน์ร่วมกัน หรือมีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรอื มีการขัดขวางการแข่งขันอยา่ งเปน็ ธรรม หรือสมยอมกันกับผ้ยู น่ื ขอ้ เสนอรายอน่ื - เป็นการจัดซื้อจัดจ้างที่ถ้าดำเนินการต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงาน ของรัฐหรอื กระทบตอ่ ประโยชน์สาธารณะ - กรณอี นื่ ตามท่ีกำหนดในกฎกระทรวง (3) การละเว้นการอ้างถึงพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตาม พระราชบัญญัตนิ ี้ ในส่วนที่เก่ียวข้องโดยตรงกับการจัดซื้อจดั จ้างในประกาศ เอกสาร หรือหนังสือเชิญชวน ของหนว่ ยงานของรัฐ (4) กรณอี ่นื ตามทกี่ าํ หนดในกฎกระทรวง การอุทธรณ์ต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้อุทธรณ์ ต้องใช้ถ้อยคำสุภาพ และระบุ ข้อเท็จจรงิ และเหตุผลอนั เป็นเหตแุ ห่งการอทุ ธรณใ์ หช้ ัดเจน พร้อมแนบเอกสารหลกั ฐานทเ่ี ก่ียวข้อง

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 9 ผู้มีสิทธิอุทธรณ์ยื่นอุทธรณ์ต่อหน่วยงานของรัฐนั้นภายในเจ็ดวันทําการ นับแต่วันประกาศ ผลการจดั ซ้อื จัดจา้ งในระบบเครอื ข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง มาตรา 118 กำหนดให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน เจ็ดวันทําการนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ ในกรณีที่เห็นด้วยกับอุทธรณ์ก็ให้ดําเนินการตามความเห็นน้ัน ภายในกาํ หนดเวลาดังกลา่ ว ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐไม่เห็นด้วยกับอุทธรณ์ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนให้เร่งรายงาน ความเห็นพร้อมเหตุผลไปยงั คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตามมาตรา ๑๑๙ ภายในสามวันทําการนับแต่ วนั ทคี่ รบกาํ หนดตามวรรคหนึ่ง เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้รับรายงานจากหน่วยงานของรัฐแล้วให้พิจารณา อุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับรายงานดังกล่าว หากเรื่องใดไม่อาจพิจารณาได้ทัน ในกําหนดนั้น ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ขยายระยะเวลาออกไปได้ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกิน สิบห้าวันนับแต่วันที่ครบกําหนดเวลาดังกล่าว และแจ้งให้ผู้อุทธรณ์และผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผูไ้ ดร้ บั การคัดเลือกทราบ ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เห็นว่าอุทธรณ์ฟังขึ้นและมีผลต่อการจัดซื้อจัดจ้าง อย่างมีนัยสําคัญ ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์สั่งให้หน่วยงานของรัฐดําเนินการให้มีการจัดซื้อ จัดจ้างใหม่ หรือเริ่มจากขั้นตอนใดตามที่เห็นสมควร ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เห็นว่า อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น หรือไม่มีผลต่อการจัดซื้อจัดจ้างอย่างมีนัยสําคัญ ให้แจ้งหน่วยงานของรัฐเพื่อทําการ จดั ซื้อจดั จา้ งตอ่ ไป การวินจิ ฉยั ของคณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณใ์ ห้เป็นทีส่ ดุ ในกรณีที่พ้นกําหนดระยะเวลาพิจารณาอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่งแล้ว คณะกรรมการพิจารณา อทุ ธรณย์ งั พิจารณาไม่แล้วเสร็จ ใหย้ ตุ เิ รื่อง และใหค้ ณะกรรมการพิจารณาอุทธรณแ์ จ้งผูอ้ ุทธรณแ์ ละผู้ชนะ การจัดซอ้ื จัดจา้ งหรือผูไ้ ดร้ บั การคดั เลอื กทราบ พร้อมกบั แจ้งใหห้ น่วยงานของรัฐทําการจดั ซื้อจดั จ้างตอ่ ไป ผู้อุทธรณ์ผู้ใดไม่พอใจคําวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ หรือการยุติเรื่อง และ เห็นว่าหน่วยงานของรัฐต้องรับผดิ ชดใช้ค่าเสยี หาย ผู้นั้นมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลเพื่อเรียกให้หนว่ ยงานของรฐั ชดใช้ค่าเสียหายได้ แต่การฟ้องคดีดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการจัดซื้อจัดจ้างที่หน่วยงานของรัฐได้ลงนาม ในสญั ญาจดั ซื้อจดั จ้างน้นั แลว้ 6. หลักการจดั ซื้อจดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุในหน่วยงานของรัฐต้องก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด แก่หนว่ ยงานของรัฐ และตอ้ งสอดคลอ้ งกบั หลกั การดังนี้ 1. คุ้มค่า คือ พัสดุท่ีดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างต้องมีคุณภาพหรือคุณลักษณะที่ตอบสนอง วัตถุประสงค์ในการใช้งานของหน่วยงานของรัฐ มีราคาเหมาะสม และมีแผนการบริหารพัสดุที่เหมาะสม และชดั เจน

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 10 2. โปร่งใส คือ การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุต้องกระทําโดยเปิดเผย เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม มีการปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายโดยเท่าเทียมกัน มีระยะเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการยื่นข้อเสนอ มีหลักฐานการดําเนินงานชัดเจน และมีการ เปิดเผยขอ้ มลู การจัดซ้ือจดั จ้างและการบรหิ ารพสั ดุในทกุ ขน้ั ตอน 3. มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล คือ ต้องมีการวางแผนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหาร พัสดุล่วงหน้าเพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีการกําหนดเวลา ที่เหมาะสมโดยมีการประเมินและเปิดเผยผลสัมฤทธ์ขิ องการจดั ซ้ือจดั จ้างและการบริหารพัสดุ 4. ตรวจสอบได้ คอื มีการจัดเก็บข้อมูลการจดั ซอ้ื จัดจา้ งและการบรหิ ารพสั ดอุ ยา่ งเป็นระบบ เพ่ือประโยชนใ์ นการตรวจสอบ 7. บทกำหนดโทษ มาตรา 120 กำหนดว่า ผใู้ ดเป็นเจา้ หนา้ ที่หรือเปน็ ผมู้ อี าํ นาจหน้าที่ในการดําเนินการเกยี่ วกับ การจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้างหรือ การบริหารพัสดุตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความใน พระราชบัญญัตินี้โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าท่ี ตามพระราชบัญญัติน้ี โดยทุจริต ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาท ถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรบั ผู้ใดเป็นผู้ใช้หรือผู้สนับสนุนในการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง ผู้นั้นต้องระวางโทษตามที่ กำหนดไวส้ ำหรับความผิดตามวรรคหนงึ่ 8. ผู้มอี ำนาจและการมอบอำนาจ ผู้มีอำนาจดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหาร พัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ได้แก่ ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่กระทรวงกลาโหม หรือหน่วยงานของรัฐอื่นที่ผู้รักษาการตามระเบียบประกาศกำหนดให้หน่วยงานของรัฐนั้นสามารถกำหนด หน่วยงานระดบั ใด ผบู้ งั คับบัญชาชนั้ ใด ตำแหนง่ ใด มีอำนาจดำเนนิ การตามระเบยี บนี้ก็ใหก้ ระทำได้ ผู้มีอำนาจดำเนินการข้างต้น หรือผู้มีอำนาจสั่งซื้อหรือสั่งจ้างตามระเบียบนี้จะมอบอำนาจ เป็นหนังสือให้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งใดก็ได้ซึ่งสังกัดหน่วยงานของรัฐเดียวกัน โดยให้คำนึงถึงระดับตำแหน่ง หนา้ ท่ีและความรบั ผดิ ชอบของผู้ท่ีได้รับมอบอำนาจเปน็ สำคญั เมื่อมีการมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจมีหน้าที่ตอ้ งรบั มอบอำนาจนัน้ และจะมอบอำนาจนั้น ใหแ้ ก่ผดู้ ำรงตำแหน่งอ่นื ต่อไปไมไ่ ด้ เวน้ แต่ (1) การมอบอำนาจให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดอาจมอบอำนาจนั้นต่อไปได้ ในกรณดี ังตอ่ ไปน้ี

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 11 (ก) กรณีมอบอำนาจใหแ้ กร่ องผู้ว่าราชการจงั หวัด ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวดั หรอื หัวหน้าสว่ นราชการประจำจังหวัด ใหผ้ ูว้ ่าราชการจังหวัดแจ้งใหผ้ ้มู อบอำนาจชน้ั ตน้ ทราบดว้ ย (ข) กรณีมอบอำนาจให้แก่บุคคลอื่น นอกจากที่กล่าวใน (ก) จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับ ความเห็นชอบจากผู้มอบอำนาจช้ันตน้ แลว้ (2) การมอบอำนาจและการมอบอำนาจต่อตามระเบียบหรือคำสั่งกระทรวงกลาโหมหรือ ของหน่วยงานของรฐั อื่นทีร่ ฐั มนตรีประกาศกำหนด ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดเรื่องการมอบอำนาจและการมอบอำนาจต่อไว้เป็นการเฉพาะ กใ็ หเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายว่าดว้ ยการนน้ั เพื่อความคล่องตัวในการจัดซื้อจัดจ้าง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐมอบอำนาจในการสั่งการ และดำเนินการจัดซือ้ จดั จ้าง ใหแ้ กผ่ ู้ดำรงตำแหน่งรองลงไปเปน็ ลำดบั

บทที่ 3 กระบวนการจัดซือ้ จดั จ้าง Work Flow กระบวนการจดั ซอื้ จัดจ้าง ไดร้ ับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณ จดั ทำแผนจดั ซือ้ /จา้ ง/(จัดทำแผนเพมิ่ เตมิ ) จัดทำร่างขอบเขตของงาน หรือรายละเอียดคณุ ลกั ษะเฉพาะของพัสดุ จัดทำรายงานขอซอ้ื ขอจ้าง ดำเนินการซื้อหรอื จา้ ง จัดทำสญั ญา บรหิ ารสัญญา/ตรวจรบั พัสดุ บรหิ ารพัสดุ เบกิ จา่ ยเงิน 1. การจัดทำและประกาศแผนการจดั ซ้ือจัดจ้าง 1.1 เมื่อหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดซื้อจัดจ้าง จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้มีอำนาจในการพิจารณางบประมาณแล้ว ให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่ได้รับ มอบหมายในการปฏิบัติงานนั้น จัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ เพ่อื ขอความเหน็ ชอบ 1.2 แผนการจดั ซื้อจัดจ้างประจำปี ใหป้ ระกอบดว้ ยรายการอยา่ งน้อย ดงั ต่อไปนี้ 1.2.1 ชือ่ โครงการท่ีจะจดั ซื้อจัดจ้าง 1.2.2 วงเงนิ ที่จะจัดซื้อจัดจา้ งโดยประมาณ 1.2.3 ระยะเวลาทคี่ าดว่าจะจดั ซ้อื จัดจา้ ง 1.2.4 รายการอ่ืนตามทกี่ รมบัญชีกลางกำหนด 1.3 เมอ่ื หัวหน้าหน่วยงานของรัฐใหค้ วามเห็นชอบแผนการจัดซอื้ จัดจ้างประจำปตี ามข้อ 1.1 แล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง และของหน่วยงาน

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 13 ของรัฐตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด และให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ปิดประกาศ ของหน่วยงานของรฐั หากไม่ได้ประกาศเผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการใดในระบบเครือข่ายสารสนเทศ ของกรมบญั ชีกลาง จะไม่สามารถดำเนินการจดั ซื้อจัดจ้างในโครงการน้ันได้ เวน้ แต่ กรณดี ังต่อไปนี้ ไม่ตอ้ ง ประกาศแผนการจดั ซอื้ จัดจ้าง 1.3.1 กรณที ีม่ ีความจำเป็นเรง่ ด่วนหรอื เปน็ พสั ดทุ ี่ใช้ในราชการลบั 1.3.2 กรณีที่มีวงเงินในการจัดซื้อจัดจ้างตามที่กำหนดในกฎกระทรวงหรือมีความจำเป็น ตอ้ งใชพ้ ัสดุโดยฉกุ เฉนิ หรอื เป็นพสั ดุทีจ่ ะขายทอดตลาด 1.3.3 กรณีที่เป็นงานจ้างที่ปรึกษาที่มีวงเงินค่าจ้างตามที่กำหนดในกฎกระทรวงหรือที่มี ความจำเปน็ เร่งด่วนหรอื ที่เกี่ยวกบั ความมัน่ คงของชาติ 1.3.4 กรณีที่เป็นงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หรอื ที่เกีย่ วกับความมนั่ คงของชาติ 1.4 หลังจากที่ได้ประกาศเผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีแล้วให้หน่วยงานของรัฐ รีบดำเนินการจดั ซือ้ จดั จ้างใหเ้ ปน็ ไปตามแผนและขนั้ ตอน เพอื่ ใหพ้ รอ้ มทจี่ ะทำสัญญาหรือข้อตกลงไดท้ ันที เม่ือไดร้ บั อนุมัตทิ างการเงินแล้ว 1.5 ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี ให้เจ้าหน้าที่ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายในการปฏิบัติงานนั้นจัดทำรายงานพร้อมระบุเหตุผลที่ขอเปลี่ยนแปลงเสนอ หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั เพ่อื ขอความเหน็ ชอบ และเมอ่ื ได้รับความเหน็ ชอบแล้วให้ดำเนนิ การตามข้อ 1.3 กรณีที่ถือว่าหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณ ที่ใช้ในการจัดซื้อ จัดจา้ งตามระเบยี บฯ 2560 คือกรณดี งั ต่อไปน้ี 1. กรณีใช้งบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือพระราชบญั ญัติ งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม หรือพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... หมายถึง เม่ือ คณะกรรมาธิการวิสามญั พจิ ารณารา่ งพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ได้พิจารณาร่างพระราชบญั ญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. .... หรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม หรือ พระราชบัญญตั โิ อนงบประมาณรายจา่ ย พ.ศ. .... แล้วเสรจ็ กอ่ นเสนอสภาผ้แู ทนราษฎรพิจารณาในวาระท่ี 2 2. กรณีที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีออกใช้ไม่ทัน ซึ่งตามพระราชบัญญัติ วธิ ีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 12 บัญญัติว่า “ในกรณีที่พระราชบัญญตั ิงบประมาณรายจ่ายประจำปี ออกใช้ไม่ทันปีงบประมาณใหม่ ให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณที่ล่วงแล้วไปพลางก่อนได้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ผู้อำนวยการกำหนดโดยอนุมัตินายกรัฐมนตรี” หมายถึง การจัดซื้อจัดจ้าง โดยใชเ้ งนิ งบประมาณรายจ่ายของหนว่ ยงานของรัฐ ตามหลักเกณฑแ์ ละเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. .... ไปพลางก่อน สำหรับวงเงินงบประมาณเมื่อสำนักงบประมาณเห็นชอบ

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 14 แผนปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณของแต่ละหน่วยงานของรัฐแล้ว ถือว่าหน่วยงานของรัฐ ได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณท่จี ะใชจ้ ดั ซื้อจัดจ้างตามระเบยี บ ขอ้ 11 3. กรณีเป็นเงินงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ จำเป็น หมายถึง หน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่หน่วยงานของรัฐได้รับการอนุมัติแล้วตามกฎหมายว่าด้ วย วธิ ีการงบประมาณ 4. กรณีเป็นเงินงบประมาณเบิกแทนกัน หมายถึง หน่วยงานของรัฐเจ้าของงบประมาณ ที่ได้รับอนุมัติเงินจัดสรรจากสำนักงบประมาณแล้ว และหน่วยงานผู้เบิกแทนได้ยื่นแบบใบแจ้งการเบิกเงิน งบประมาณแทนกันต่อกรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด แล้วแต่กรณี และกรมบัญชีกลางหรือ สำนักงานคลงั จงั หวดั ได้ตรวจสอบรายการถกู ต้องและมีเงินจัดสรรเพยี งพอแล้ว 5. กรณีเป็นเงินงบประมาณที่ต้องดำเนินการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่าย ซงึ่ ตามกฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บังคับ ประกาศ ข้อบัญญตั ิ และขอ้ กำหนดใด ๆ เก่ยี วกบั การโอนเปลยี่ นแปลง งบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานของรัฐ หมายความถึง หัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือผู้ได้รับมอบอำนาจ จากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐได้อนุมัติให้โอนและหรือเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายแล้ว หรือสำนัก งบประมาณไดอ้ นมุ ัตแิ ลว้ แลว้ แตก่ รณี 2. การจัดทำรา่ งขอบเขตของงานหรือรายละเอยี ดคณุ ลกั ษณะเฉพาะของพสั ดุ 2.1 การกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะทำการจัดซื้อจัดจ้าง ให้หน่วยงานของรัฐ คำนึงถึงคุณภาพ เทคนิค และวัตถุประสงค์ของการจัดซือ้ จัดจ้างพัสดุนั้น และห้ามมิใหก้ ำหนดคุณลักษณะ เฉพาะของพัสดุให้ใกล้เคียงกับยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง หรือของผู้ขายรายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะ เว้นแต่พัสดุ ที่จะทำการจัดซื้อจัดจ้างตามวัตถุประสงค์นั้นมียี่ห้อเดียวหรือจะต้องใช้อะไหล่ของยี่ห้อใด ก็ให้ระบุยี่ห้อ นั้นได้ 2.2 ในการซือ้ หรอื จา้ งท่ีมใิ ช่การจา้ งก่อสร้าง ใหห้ วั หนา้ หน่วยงานของรัฐแตง่ ตั้งคณะกรรมการ ขึ้นมาคณะหนึ่ง หรือจะให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งรับผิดชอบในการจัดทำร่างขอบเขตของงาน หรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณา คดั เลือกข้อเสนอดว้ ย 2.3 เพื่อให้การกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างมีมาตรฐาน และเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ หากพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างใดมีประกาศกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมแล้ว ให้กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง หรือรายการในการ ก่อสร้างตามมาตรฐานผลติ ภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือเพื่อความสะดวกจะระบุเฉพาะหมายเลขมาตรฐานก็ได้ หรือในกรณีพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างใดยังไม่มีประกาศกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแต่มีผู้ได้รับ การจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ไว้กับกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว ให้กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 15 ของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างหรือรายการในการก่อสร้างให้สอดคล้องกับรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะตามที่ ระบุในคู่มือผซู้ อื้ หรือใบแทรกคมู่ อื ผ้ซู ้ือทก่ี ระทรวงอุตสาหกรรมจดั ทำขน้ึ 2.4 ในการจ้างก่อสร้างให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหน่ึง หรือจะให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง หรือจะดำเนินการจ้าง ตามความในหมวด 4 งานจา้ งออกแบบหรอื ควบคมุ งานก่อสรา้ งก็ได้ 2.5 องค์ประกอบ ระยะเวลาการพิจารณา และการประชุมของคณะกรรมการให้เป็นไปตามท่ี หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั กำหนดตามความจำเปน็ และเหมาะสม 3. การจัดทำรายงานขอซ้อื ขอจ้าง 3.1 ในการซื้อหรือจ้างแต่ละวิธี นอกจากการซื้อที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ให้เจ้าหน้าที่จัดทำ รายงานขอซื้อหรือขอจ้างเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ โดยเสนอผ่านหัวหน้า เจ้าหนา้ ที่ ตามรายการดงั ต่อไปน้ี 3.1.1 เหตุผลและความจำเปน็ ท่ตี อ้ งซอ้ื หรอื จ้าง 3.1.2 ขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดหุ รอื แบบรูปรายการ งานกอ่ สรา้ งที่จะซ้ือหรอื จา้ ง แลว้ แตก่ รณี 3.1.3 ราคากลางของพสั ดุทจ่ี ะซ้อื หรอื จ้าง 3.1.4 วงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง โดยให้ระบุวงเงินงบประมาณ ถ้าไม่มีวงเงินดังกลา่ วให้ระบุ วงเงนิ ทป่ี ระมาณว่าจะซ้อื หรอื จา้ งในครง้ั นน้ั 3.1.5 กำหนดเวลาท่ตี อ้ งการใช้พัสดนุ ั้นหรอื ใหง้ านนั้นแลว้ เสรจ็ 3.1.6 วิธีทจี่ ะซื้อหรือจ้างและเหตผุ ลทต่ี ้องซอื้ หรือจา้ งโดยวิธนี ้นั 3.1.7 หลักเกณฑ์การพจิ ารณาคดั เลอื กขอ้ เสนอ 3.1.8 ข้อเสนออื่น ๆ เช่น การขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จำเป็นในการซ้ือ หรือจ้าง การออกประกาศและเอกสารเชิญชวน และหนงั สอื เชญิ ชวน การซื้อหรือจ้างกรณีจำเป็นเร่งด่วนอันเนื่องมาจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดหมายได้ หรือ กรณีมีความจำเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน หรือกรณีการซื้อหรือจ้างที่มีวงเงินเล็กน้อยตามที่กำหนด ในกฎกระทรวง ซึ่งไม่อาจทำรายงานตามปกติได้ เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานนั้นจะทำ รายงานเฉพาะรายการทีเ่ หน็ ว่าจำเป็นกไ็ ด้ เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบตามรายงานที่เสนอแล้ว ให้เจ้าหน้าท่ี ดำเนนิ การตามวิธซี อ้ื หรือจ้างน้นั ตอ่ ไปได้ 4. การจดั ทำและเปดิ เผยราคากลาง กรมบัญชีกลางมีหนังสือเวียน ด่วนที่สุด ที่ กค 0433.2/ว 206 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 แจ้งแนวทางการประกาศรายละเอียดข้อมูลราคากลางและการคำนวณราคากลางเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 16 ของหน่วยงานของรัฐ สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินเกิน 500,000 บาท ให้หน่วยงานของรัฐประกาศ รายละเอียดข้อมูลราคากลางและการคำนวณราคากลางไว้ในเว็บไซต์ของหน่วยงานของรัฐและ เว็บไซต์ ศนู ยข์ อ้ มลู การจัดซ้อื จดั จ้างภาครฐั (www.gprocurement.go.th) ของกรมบญั ชีกลาง แบบตารางแสดงวงเงินงบประมาณได้รับจัดสรรและรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซ้ือ จัดจ้าง มีจำนวน 6 ประเภท ดังนี้ 1) ตารางแสดงวงเงนิ งบประมาณทไ่ี ด้รบั จัดสรรและราคากลางในงานจา้ งก่อสร้าง 2) ตารางแสดงวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรและราคากลางในงานจ้างควบคุมงาน ก่อสร้าง 3) ตารางแสดงวงเงินงบประมาณทไ่ี ด้รบั จดั สรรและราคากลางในงานจ้างออกแบบ 4) ตารางแสดงวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรและรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการ จ้างท่ปี รกึ ษา 5) ตารางแสดงวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรและรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการจ้างพัฒนา ระบบคอมพวิ เตอร์ 6) ตารางแสดงวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรและรายละเอียดค่าใช้จ่ายการจัดซื้อจัดจ้าง ทีม่ ใิ ช่งานก่อสร้าง 5. วธิ กี ารจดั ซอื้ จดั จา้ ง วิธกี ารดำเนนิ การจดั ซือ้ จัดจา้ งพสั ดตุ ามพระราชบัญญตั กิ ารจดั ซ้อื จดั จ้างและการบริหารพัสดุ ภาครฐั พ.ศ. 2560 มาตรา 55 กำหนดไว้ 3 วธิ ี คอื 1. วิธีประกาศเชญิ ชวนทั่วไป 2. วิธคี ดั เลอื ก 3. วธิ เี ฉพาะเจาะจง

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 17 การจัดซือ้ จัดจา้ ง มาตรา 55 ข้อ 28,29 วิธีประกาศเชญิ ชวน วธิ ีคัดเลอื ก วิธเี ฉพาะเจาะจง ทัว่ ไป วิธตี ลาดอิเล็กทรอนิกส์ วิธปี ระกวดราคา วธิ ีสอบราคา (e-market) อิเลก็ ทรอนิกส์ (e-bidding) การเสนอราคา การเสนอราคาโดยการ โดยใบเสนอราคา ประมูลอิเล็กทรอนิกส์ 1. วธิ ีประกาศเชิญชวนทั่วไป ได้แก่ การทห่ี น่วยงานของรฐั เชิญชวนผู้ประกอบการท่ัวไป ทม่ี คี ุณสมบตั ิตรงตามเงอ่ื นไขทห่ี นว่ ยงานของรฐั กำหนดให้เขา้ ยื่นข้อเสนอ โดยทำได้ 3 วธิ ี ดงั นี้ 1.1 วิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Market : e - market) คือ การซื้อหรือจ้างที่มี รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่ไม่ซับซ้อนหรือเป็นสินค้าหรืองานบริการที่มีมาตรฐาน และ กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อสินค้าหรืองานบริการที่กำหนดไว้ในระบบข้อมูลสินค้า (e – catalog) สามารถดำเนินการได้ 2 แบบ ดังนี้ 1) การเสนอราคาโดยใบเสนอราคา (Request for Quotation: RFQ) คอื การจัดซือ้ จัดจา้ งพสั ดคุ รั้งหน่ึง ซง่ึ มวี งเงนิ เกนิ 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท 2) การเสนอราคาโดยการประมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Thai Auction) คือ การจัดซื้อ จัดจา้ งพสั ดคุ ร้ังหนึง่ ซงึ่ มวี งเงนิ เกนิ 5,000,000 บาท 1.2 วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding: e – bidding) คือ การจัดซื้อ จัดจ้างพัสดุครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 500,000 บาท โดยเป็นการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีรายละเอียด คุณลักษณะเฉพาะที่มีความซับซ้อน มีเทคนิคเฉพาะ หรือเป็นสินค้าหรืองานบริการที่ไม่ได้กำหนด รายละเอียดคณุ ลกั ษณะเฉพาะของพสั ดไุ วใ้ นระบบข้อมูลสินคา้ (e – catalog)

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 18 1.3 วิธีสอบราคา คือ การซื้อหรือจ้างพัสดุครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท กระทำได้ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐนั้นตั้งอยู่ในสภาพพื้นที่มีข้อจำกัดในการ ดำเนินการซื้อหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) หรือวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) หรือหากดำเนินการซื้อหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์แล้ว อาจก่อให้เกิดความล่าช้าหรือเป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน ให้หน่วยงานของ รัฐรายงานเหตุผลความจำเป็นที่ไม่อาจดำเนินการซื้อหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธี ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ไว้ในรายงานขอซอื้ ขอจา้ งดว้ ย 2. วิธีคัดเลือก ได้แก่ การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนเฉพาะผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติ ตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐกำหนด ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 3 ราย ให้เข้ายื่นข้อเสนอ เว้นแต่ในงานนั้น มผี ้ปู ระกอบการทม่ี คี ณุ สมบัตติ รงตามท่ีกำหนดน้อยกวา่ 3 ราย 3. วิธีเฉพาะเจาะจง ไดแ้ ก่ การทีห่ น่วยงานของรัฐเชญิ ชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติ ตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐกำหนดรายใดรายหนึ่งให้เข้ายื่นข้อเสนอ หรือให้เข้ามาเจรจาต่อรอง ราคา รวมทั้งการจัดซอ้ื จัดจา้ งพัสดุกับผู้ประกอบการโดยตรงในวงเงินเล็กน้อย ตามทกี่ ำหนดในกฎกระทรวง ทีอ่ อกตามความในมาตรา 96 วรรค 2 6. เกณฑ์การพจิ ารณาคัดเลอื กข้อเสนอ การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปหรือวิธีคัดเลือก ให้หน่วยงาน ของรัฐดําเนินการโดยพิจารณาถึงประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐ และวัตถุประสงค์ของการใช้งานเป็นสําคัญ ตามหลักเกณฑ์ ดังน้ี (1) การซอ้ื หรือจา้ งท่มี กี ารกาํ หนดคณุ ลักษณะเฉพาะของพัสดทุ ีเ่ ป็นมาตรฐาน และมีคณุ ภาพดี เพียงพอตามความต้องการใช้งาน และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐแล้ว กรณีนี้หน่วยงานของรัฐ สามารถใช้เกณฑ์ราคาในการคัดเลือกผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดเป็นผู้ชนะการซื้อหรือจ้างหรือเป็นผู้ได้รับการ คดั เลอื ก (2) การซ้ือหรือจา้ งที่มคี วามซบั ซอ้ น มเี ทคโนโลยีสงู หรอื มเี ทคนิคเฉพาะ จําเป็นต้องคัดเลือก พัสดุมีคุณภาพดีตามความต้องการใช้งานของหน่วยงานของรัฐนั้น และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐ มากท่สี ดุ กรณนี ้หี น่วยงานของรฐั สามารถใช้เกณฑ์ราคาประกอบเกณฑอ์ ื่นตามความในมาตรา 65 วรรคหนงึ่ ในการพิจารณาคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณภาพและคุณสมบัติถูกต้อง ครบถ้วน ซึ่งได้คะแนนรวมสูงสุด เป็นผู้ชนะการซื้อหรือจ้างหรือเป็นผู้ได้รับการคัดเลือก แต่หากหน่วยงานของรัฐไม่อาจเลือกใช้เกณฑ์อื่น ประกอบและจาํ เป็นตอ้ งใช้เกณฑ์เดยี วในการพิจารณา ให้ใช้เกณฑร์ าคา (3) การซื้อหรือจ้างที่มีการกําหนดคุณลักษณะเฉพาะที่จะต้องคํานึงถึงเทคโนโลยีของพัสดุ หรือคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ซึ่งอาจจะมีข้อเสนอที่ไม่อยู่ในฐานเดียวกันเป็นเหตุให้มีปัญหาในการ พิจารณาคัดเลือกข้อเสนอให้หน่วยงานของรัฐกําหนดเป็นเงื่อนไขให้มีการยื่นข้อเสนอด้านเทคนิค

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 19 หรือข้อเสนออื่นแยกมาต่างหาก และให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณสมบัติ ถกู ตอ้ ง ครบถ้วน และเปน็ ประโยชน์ตอ่ หนว่ ยงานของรฐั ซ่งึ ได้คะแนนขอ้ เสนอด้านเทคนคิ หรือขอ้ เสนออื่น ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่หน่วยงานของรัฐกําหนด แล้วให้ดําเนินการตาม (1) หรอื (2) ตอ่ ไป ความตามมาตรา 65 วรรคหนึ่ง ในการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอโดยวิธีตามมาตรา 55 (1) คือวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป หรือ (2) คือวิธีคัดเลือก ให้หน่วยงานของรัฐดําเนินการโดยพิจารณาถึง ประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐ และวตั ถปุ ระสงค์ของการใชง้ านเป็นสําคัญ โดยใหค้ าํ นงึ ถึงเกณฑ์ราคาและ พิจารณาเกณฑ์อนื่ ประกอบดว้ ย ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ต้นทุนของพสั ดนุ ้นั ตลอดอายุการใชง้ าน 2. มาตรฐานของสินคา้ หรอื บริการ 3. บรกิ ารหลงั การขาย 4. พสั ดุทีร่ ฐั ตอ้ งการส่งเสริมหรือสนบั สนนุ 5. การประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านของผปู้ ระกอบการ 6. ข้อเสนอด้านเทคนิคหรือข้อเสนออื่น ในกรณีที่กําหนดให้มีการยื่นข้อเสนอ ดา้ นเทคนิค หรือขอ้ เสนออื่นกอ่ นตามวรรคหก 7. เกณฑอ์ ่ืนตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง พัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนตามข้อ 4 ให้เป็นไปตามที่กำหนดใน กฎกระทรวง ซึ่งอยา่ งน้อยตอ้ งส่งเสริมหรือสนับสนุนพสั ดุทสี่ ร้างนวตั กรรมหรือพัสดทุ ี่อนุรักษ์พลังงานหรือ สง่ิ แวดลอ้ ม 7. การอนุมัตสิ ่ังซอ้ื สง่ั จา้ ง อำนาจในการสั่งซื้อหรือสั่งจ้างให้เป็นอำนาจของผู้ดำรงตำแหน่งและภายในวงเงินตามท่ี ระเบยี บกระทรวงการคลงั ว่าดว้ ยการจัดซื้อจัดจา้ งและการบริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ. 2560 กำหนดไว้ ดังน้ี ผู้มอี ำนาจ หัวหน้าหนว่ ยงานของรัฐ ผมู้ ีอำนาจเหนอื ขนึ้ ไปหนึ่งชน้ั วิธซี ื้อ/จา้ ง ประกาศเชิญชวนทั่วไป ไม่เกนิ 200 ลา้ นบาท เกนิ 200 ล้านบาท คัดเลอื ก ไม่เกนิ 100 ลา้ นบาท เกนิ 100 ลา้ นบาท เฉพาะเจาะจง ไมเ่ กิน 50 ลา้ นบาท เกนิ 50 ลา้ นบาท 8. การจัดทำสญั ญาและหลกั ประกัน การลงนามในสัญญาและการแก้ไขสัญญาเป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ หรือผู้ท่ี ไดร้ ับมอบอำนาจ และจะกระทำได้เม่อื พ้นระยะเวลาการอทุ ธรณแ์ ลว้

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 20 1) รูปแบบของสัญญา หน่วยงานของรัฐต้องทำสัญญาตามแบบที่คณะกรรมการนโยบาย กำหนด หรืออาจจัดทำข้อตกลงเป็นหนังสือโดยไม่ทำตามแบบสัญญา ตามความในมาตรา 96 ของ พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ หรือในกรณีการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงิน เล็กน้อยตามที่กำหนดในกฎกระทรวงจะไม่ทำข้อตกลงเป็นหนังสือไว้ต่อกันก็ได้ แต่ต้องมีหลักฐานในการ จดั ซื้อจัดจ้างนนั้ แบบสัญญาท่คี ณะกรรมการนโยบายกำหนด (1) สญั ญาจ้างก่อสรา้ ง (2) สญั ญาซื้อขาย (3) สญั ญาจะซอ้ื จะขายแบบราคาคงทไ่ี มจ่ ำกดั ปรมิ าณ (4) สัญญาซ้อื ขายคอมพิวเตอร์ (5) สญั ญาซอื้ ขายและอนุญาตใหใ้ ช้สิทธิในโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ (6) สญั ญาเชา่ คอมพิวเตอร์ (7) สัญญาจา้ งบริการบำรุงรกั ษาและซ่อมแซมแกไ้ ขคอมพวิ เตอร์ (8) สญั ญาเชา่ รถยนต์ (9) สัญญาจ้างทำความสะอาดอาคาร (10) สญั ญาจา้ งใหบ้ รกิ ารรกั ษาความปลอดภยั (11) สญั ญาเช่าเครื่องถ่ายเอกสาร (12) สญั ญาแลกเปลี่ยน (13) สญั ญาจา้ งออกแบบและควบคุมงานก่อสรา้ ง (14) สญั ญาจ้างผ้เู ช่ยี วชาญรายบคุ คลหรอื จา้ งบริษทั ทีป่ รกึ ษา (15) สัญญาจ้างทำของ การทำสัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือ นอกจากการจ้างที่ปรึกษาให้กำหนดค่าปรับ เป็นรายวันในอัตราตายตัวระหว่างร้อยละ 0.01 – 0.20 ของราคาพัสดุที่ยังไม่ได้รับมอบ เว้นการจ้าง ซึ่งต้องการผลสำเร็จของงานทั้งหมดพร้อมกัน ให้กำหนดค่าปรับเป็นรายวันเป็นจำนวนเงินตายตัวในอัตรา รอ้ ยละ 0.01 – 0.10 ของราคางานจ้างนั้น แตจ่ ะตอ้ งไม่ต่ำกว่าวันละ 100 บาท การกําหนดค่าปรับในอัตราหรือเป็นจำนวนเงินเท่าใด ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐคำนึงถึง ราคา กําหนดระยะเวลาของการใช้งาน และลักษณะของพัสดุซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการที่คู่สัญญาของ หน่วยงานของรัฐจะหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามสัญญา หรือกระทบต่อการจราจร หรือความเสียหาย แกป่ ระโยชนส์ าธารณะ แล้วแตก่ รณี ใ น ก ร ณ ี ท ี ่ ห น ่ ว ย ง า น ข อ ง ร ั ฐ เ ห ็ น ว ่ า ม ี ค ว า ม จ ํ า เ ป ็ น จ ะ ต ้ อ ง ก ํ า ห น ด ค ่ า ป ร ั บ น อ ก เ ห นื อ จากที่กําหนดไว้ในระเบียบ ข้อ ๑๖๒ เนื่องจากถ้าไม่กําหนดค่าปรับไว้ในสัญญาจะเกิดความเสียหายแก่ หนว่ ยงานของรัฐ เช่น งานท่ีเก่ียวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ หรืองานทอ่ี ย่รู ะหวา่ งการรับประกันความชํารุด

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 21 บกพร่องจากการซื้อขายคอมพิวเตอร์ ให้พิจารณากําหนดอัตราค่าปรับในกรณีดังกล่าว โดยคํานึงถึง ความสําคัญ และลักษณะของงานที่จะกําหนด และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่หน่วยงานของรัฐ เปน็ สําคญั โดยหลักแล้วสัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือที่ได้ลงนามแล้วจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เว้นแต่ ในกรณีดงั ตอ่ ไปนี้ ใหอ้ ยู่ในดุลพนิ จิ ของผมู้ ีอำนาจทจี่ ะพจิ ารณาอนุมัติให้แกไ้ ขได้ (1) เป็นการแกไ้ ขสัญญาตามความเห็นของสำนกั งานอัยการสงู สดุ (2) ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลง หากการแก้ไขนั้นไม่ทำให้ หน่วยงานของรัฐเสียประโยชน์ (3) เปน็ การแก้ไขเพอ่ื ประโยชนแ์ กห่ น่วยงานของรฐั หรอื ประโยชนส์ าธารณะ (4) กรณอี ื่นตามท่ีกำหนดในกฎกระทรวง การแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลง ต้องอยู่ภายในขอบข่ายแห่งวัตถุประสงค์เดิมของสัญญาหรือ ข้อตกลงนั้น โดยหน่วยงานของรัฐต้องพิจารณาเปรียบเทียบคุณภาพของพัสดุ หรือรายละเอียดของงาน รวมทั้งราคาของพัสดุหรืองานตามสัญญาหรือข้อตกลงกับพัสดุที่จะทำการแก้ไขนั้นก่อนแก้ไขสัญญาหรือ ขอ้ ตกลงดว้ ย ในกรณีการแก้ไขสัญญาที่หน่วยงานของรัฐเห็นว่าจะมีปัญหาในทางเสียประโยชน์หรือ ไมร่ ัดกมุ พอ กใ็ ห้ส่งรา่ งสญั ญาท่แี ก้ไขนน้ั ไปใหส้ ำนกั งานอยั การสูงสุดพจิ ารณาใหค้ วามเหน็ ชอบกอ่ น การแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง หากมีความจำเป็นต้องเพิ่มหรือลดวงเงิน หรือเพิ่มหรือลดระยะเวลาส่งมอบหรือ ระยะเวลาในการทำงาน ใหต้ กลงพร้อมกนั ไป ในกรณีที่มีการแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงเพื่อเพิ่มวงเงิน เมื่อรวมวงเงินตามสัญญาหรือ ข้อตกลงเดิมและวงเงินที่เพิ่มขึ้นใหม่แล้ว หากวงเงินรวมดังกล่าวมีผลทำให้ผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งซื้อหรือ สั่งจ้างเปลี่ยนแปลงไป จะต้องดำเนินการให้ผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งซื้อหรือสั่งจ้างตามวงเงินรวมดังกล่าว เปน็ ผู้อนุมัติการแกไ้ ขสัญญาหรอื ขอ้ ตกลงด้วย ในกรณีที่มีการแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงเพื่อลดวงเงิน ให้ผู้มีอำนาจอนุมัติส่ังซื้อหรือสั่งจ้าง ตามวงเงินเดมิ เป็นผอู้ นุมตั กิ ารแก้ไขสญั ญาหรือขอ้ ตกลง 2) หลักประกันสัญญา หมายถึง หลักประกันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง ที่เป็นคู่สัญญากับ หน่วยงานของรัฐ นำมาวางขณะทำสัญญาเพื่อประกันความเสียหายจากการผิดเงื่อนไขตามข้อกำหนด ในสัญญา ใชเ้ ปน็ หลักประกันจนกวา่ จะส้นิ สุดข้อผกู พนั ตามสัญญา โดยมลู คา่ หลักประกันสัญญาจะกําหนด มูลค่าเป็นจํานวนเต็ม ในอัตราร้อยละห้าของวงเงินงบประมาณหรือราคาพัสดุที่จัดซื้อจัดจ้างครั้งนั้น แล้วแต่กรณี เว้นแต่การจัดซ้ือจัดจ้างทีห่ ัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่ามีความสําคัญเป็นพิเศษ จะกําหนด อตั ราสูงกว่าร้อยละห้าแต่ไมเ่ กนิ ร้อยละสิบก็ได้

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 22 3) หลักประกนั การเสนอราคา/หลกั ประกนั สญั ญา ใหใ้ ชห้ ลกั ประกนั อย่างใดอยา่ งหนงึ่ ดงั นี้ (1) เงนิ สด (2) เช็คหรือดารฟท์ท่ธี นาคารเซ็นสั่งจ่าย (3) หนังสอื ค้ำประกนั ของธนาคารในประเทศ (4) หนังสอื ค้ำประกนั ของบริษัทเงนิ ทนุ (5) พนั ธบัตรรัฐบาลไทย 4) การคืนหลกั ประกัน ในสัญญาจะมขี ้อกำหนดการคนื หลกั ประกัน โดยมหี ลักเกณฑ์ ดงั นี้ - หลักประกันการเสนอราคา ให้คืนภายใน 15 วัน นับถัดจากวันที่หัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐได้พจิ ารณาเหน็ ชอบรายงานผลคัดเลือกผ้ชู นะการซอ้ื จัดหรือจา้ งเรยี บร้อยแล้ว - หลักประกันสัญญา ให้คืนโดยเร็ว อย่างช้าไม่เกิน 15 วัน นับถัดจากวันที่คู่สัญญา พ้นข้อผกู พันแล้ว 9. การตรวจรบั พัสดุ คณะกรรมการตรวจรบั พสั ดใุ นงานซื้อหรอื งานจา้ ง มีหนา้ ทด่ี ังน้ี (1) ตรวจรบั พสั ดุ ณ ท่ที าํ การของผูใ้ ช้พสั ดุนั้น หรอื สถานทซี่ ง่ึ กาํ หนดไว้ในสัญญาหรือ ขอ้ ตกลง การตรวจรับพัสดุ ณ สถานที่อื่น ในกรณีที่ไม่มีสัญญาหรือข้อตกลง จะต้องได้รับอนุมัติจาก หวั หน้าหนว่ ยงานของรฐั กอ่ น (2) ตรวจรับพัสดุให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักฐานที่ตกลงกันไว้ สําหรับกรณีที่มีการทดลอง หรือตรวจสอบในทางเทคนิคหรือทางวิทยาศาสตร์ จะเชิญผู้ชํานาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับพัสดุน้ัน มาให้คําปรึกษา หรือส่งพัสดุนั้นไปทดลองหรือตรวจสอบ ณ สถานที่ของผู้ชํานาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิ น้ัน ๆ ก็ได้ ในกรณจี ําเปน็ ท่ไี ม่สามารถตรวจนับเป็นจาํ นวนหน่วยท้งั หมดได้ ใหต้ รวจรับตามหลกั วิชาการ สถติ ิ (3) ให้ตรวจรับพัสดุในวันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนําพัสดุมาส่งและให้ดําเนินการให้เสร็จสิ้น โดยเรว็ ท่สี ดุ (4) เมื่อตรวจถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้รับพัสดุไว้และถือว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างได้ส่งมอบพัสดุ ถูกต้องครบถว้ นตง้ั แตว่ นั ทผี่ ูข้ ายหรือผู้รับจา้ งนําพัสดนุ ั้นมาสง่ แล้วมอบแก่เจ้าหน้าที่พรอ้ มกับทําใบตรวจรับ โดยลงชื่อไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อย 1 ฉบับ มอบแก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง 1 ฉบับ และเจ้าหน้าที่ 1 ฉบับ เพ่อื ดาํ เนนิ การเบกิ จา่ ยเงินตามระเบยี บของหน่วยงานของรัฐและรายงานให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐทราบ ในกรณีที่เห็นว่าพัสดุที่ส่งมอบ มีรายละเอียดไม่เป็นไปตามข้อกําหนดในสัญญาหรือข้อตกลง ให้รายงานหวั หน้าหน่วยงานของรฐั ผา่ นหวั หน้าเจา้ หน้าที่ เพื่อทราบและส่ังการ

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 23 (5) ในกรณีที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างส่งมอบพัสดุถูกต้องแต่ไม่ครบจํานวน หรือส่งมอบครบ จาํ นวนแตไ่ ม่ถกู ต้องทั้งหมด ถา้ สัญญาหรือขอ้ ตกลงมิได้กําหนดไว้เป็นอยา่ งอน่ื ให้ตรวจรับไวเ้ ฉพาะจํานวน ที่ถูกต้อง โดยถือปฏิบัติตาม (4) และให้รีบรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ เพ่ือ แจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทราบภายใน 3 วันทําการ นับถัดจากวันตรวจพบ แต่ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิ์หน่วยงาน ของรัฐท่ีจะปรับผขู้ ายหรือผ้รู บั จ้างในจาํ นวนที่ส่งมอบไมค่ รบถว้ นหรอื ไมถ่ ูกต้องน้นั (6) การตรวจรับพัสดุทีป่ ระกอบกนั เป็นชุดหรือหน่วย ถ้าขาดสว่ นประกอบอย่างใดอย่างหนึง่ ไปแล้วจะไม่สามารถใช้การได้โดยสมบูรณ์ ให้ถือว่าผู้ขายหรือผู้รับจา้ งยังมิได้ส่งมอบพัสดุนั้น และโดยปกติ ให้รีบรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อแจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทราบภายใน 3 วันทําการ นับถัดจาก วนั ท่ตี รวจพบ (7) ถ้ากรรมการตรวจรับพัสดุบางคนไม่ยอมรับพัสดุโดยทําความเห็นแย้งไว้ให้เสนอหัวหน้า หน่วยงานของรัฐเพื่อพิจารณาสั่งการ ถ้าหัวหน้าหน่วยงานของรัฐสั่งการให้รับพัสดุนั้นไว้ จึงดําเนินการ ตาม (4) หรือ (5) แลว้ แต่กรณี การคิดค่าปรับ กรณีที่สัญญาหรือข้อตกลงได้ครบกำหนดส่งมอบแล้ว และมีค่าปรับเกิดขึ้น ให้หน่วยงานงานของรัฐแจ้งการเรียกค่าปรับตามสัญญาหรือข้อตกลงจากคู่สัญญาภายใน 7 วันทำการ นับถัดจากวันครบกำหนดส่งมอบ และเมื่อคู่สัญญาได้ส่งมอบพัสดุ ให้หน่วยงานของรัฐบอกสงวนสิทธ์ิ การเรียกคา่ ปรบั ในขณะท่ีรับมอบพัสดนุ ้นั ดว้ ย การนับวันปรับ ให้นับถัดจากวันครบกำหนดส่งมอบตามสัญญา/ข้อตกลงจนถึงวันที่ผู้ขาย หรือผู้รับจ้างส่งมอบสิ่งของถูกต้องครบถ้วน หรือจนถึงวันที่บอกเลิกสัญญา/ข้อตกลง (หักด้วยระยะเวลาท่ี คณะกรรมการตรวจรับใช้ไปในการตรวจรบั ออกจากจำนวนวนั ท่ีต้องถกู ปรับด้วย) การงดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือการขยายเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลง ใหอ้ ยู่ในดลุ พินิจของผู้มีอำนาจท่ีจะพจิ ารณาได้ตามจำนวนวนั ท่มี เี หตุเกดิ ข้ึนจรงิ เฉพาะในกรณดี งั ต่อไปน้ี 1. เหตุเกิดจากความผิดหรอื ความบกพรอ่ งของหน่วยงานของรฐั 2. เหตุสุดวสิ ยั 3. เหตุเกดิ จากพฤตกิ ารณ์อนั หนงึ่ อนั ใดทคี่ สู่ ญั ญาไมต่ ้องรบั ผิดตามกฎหมาย 4. เหตุอืน่ ตามท่ีกำหนดในกฎกระทรวง ในกรณีที่มีเหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐ หรือเหตุสุดวิสัย หรือเกิดจากพฤติการณ์อนั หนึง่ อันใดที่คู่สัญญาไม่ต้องรบั ผิดตามกฎหมาย หรือเหตุอื่นตามที่กําหนด ในกฎกระทรวง ทาํ ใหค้ ูส่ ัญญาไม่สามารถสง่ มอบสิ่งของหรอื งานตามเงื่อนไขและกําหนดเวลาแห่งสัญญาได้ ให้หน่วยงานของรัฐระบุไว้ในสัญญาหรือข้อตกลงกําหนดให้คู่สัญญาต้องแจ้งเหตุดังกล่าวให้หน่วยงาน ของรัฐทราบภายใน 15 วัน นับถัดจากวันทีเ่ หตุนั้นได้ส้ินสุดลง หรือตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง หากมิได้ แจ้งภายในเวลาที่กําหนด คู่สัญญาจะยกมากล่าวอ้างเพื่อของด หรือลดค่าปรับ หรือขอขยายเวลา

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 24 ในภายหลังมิได้ เว้นแต่กรณีเหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐซึ่งมีหลักฐาน ชัดแจง้ หรอื หน่วยงานของรัฐทราบดีอยูแ่ ล้วต้ังแตต่ ้น การงด ลดค่าปรบั หรอื การขยายเวลา 1. การพิจารณางดหรือลดค่าปรับ จะเป็นการพิจารณาอนุมัติให้ในเวลาที่ล่วงเลยกำหนด ระยะเวลาของสญั ญาหรอื ข้อตกลงไปแลว้ และเป็นกรณที ี่มีค่าปรบั เกดิ ขึ้นแลว้ 2. การพิจารณาขยายเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลง ซึ่งจะเป็นการพิจารณาอนุมัติ ให้ก่อนทจี่ ะครบกำหนดสัญญา และคา่ ปรับยังไมเ่ กดิ 10. การจดั ทำบันทกึ รายงานผลการพิจารณา (ข้อ 16) เมื่อสิ้นสุดกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในแต่ละโครงการ ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการบันทกึ รายงานผลการพิจารณา รายละเอียดวิธีการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างพร้อมทั้งเอกสารหลักฐาน ประกอบเพอ่ื การตรวจสอบ โดยอย่างนอ้ ยต้องมีรายการดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) รายงานขอซอื้ ขอจ้าง (๒) ร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง และ ร่างเอกสารเชิญชวน รวมทง้ั เอกสารเกี่ยวกับการรับฟงั ความคดิ เหน็ และผลการพจิ ารณาในเรื่องนนั้ (ถา้ มี) (๓) ประกาศและเอกสารเชิญชวน หรือหนังสือเชิญชวน และเอกสารอนื่ ทเี่ ก่ียวข้อง (๔) ข้อเสนอของผู้ย่นื ข้อเสนอทกุ ราย (๕) บันทกึ รายงานผลการพิจารณาคัดเลอื กข้อเสนอ (๖) ประกาศผลการพิจารณาคดั เลอื กผู้ชนะการจดั ซือ้ จดั จา้ งหรือผู้ได้รับการคัดเลอื ก (๗) สัญญาหรือขอ้ ตกลงเป็นหนังสือ รวมทงั้ การแกไ้ ขสัญญาหรือขอ้ ตกลงเป็นหนังสอื (ถ้ามี) (๘) บนั ทกึ รายงานผลการตรวจรบั พสั ดุ

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 25 Work flow กระบวนการจดั ซือ้ จัดจ้างวิธีเฉพาะเจาะจง จนท.พสั ด/ุ ผทู้ ไ่ี ด้รับมอบหมายจัดทำแผนจดั ซ้อื จัดจา้ ง ยกเวน้ กรณีซือ้ /จ้าง (พรบ.มาตรา 11 + ระเบยี บฯ ข้อ 11) ตาม ม.56 (2) (ข) (ง) หรือ (ฉ) ไม่ คณะกรรมการ/เจา้ หน้าทีพ่ ัสดุ/ผู้ที่ได้รบั มอบหมาย จัดทำร่างขอบเขตของงาน (ขอ้ 21) ต้องจัดทำแผน เจ้าหนา้ ที่พสั ดุจดั ทำรายงานขอซื้อหรอื จา้ งโดยวธิ เี ฉพาะเจาะจง (ขอ้ 78 ประกอบ 22) (พรบ.มาตรา 11) หัวหน้าหน่วยงานของรฐั ให้ความเหน็ ชอบรายงานขอซอ้ื หรอื จ้าง การเชญิ ชวน/เจรจาตอ่ รอง กรณีตาม ม.56(2)(ก)(ค)(ง)(จ)(ฉ)(ช) คณะกรรมการซ้อื หรอื จ้าง กรณีตาม ม.56(2)(ข) (ไม่เกิน 500,000 บาท) โดยวธิ ีเฉพาะเจาะจงจดั ทำหนงั สอื เชญิ ชวนสง่ ไปยังผปู้ ระกอบการ เจา้ หนา้ ทเี่ จรจาตกลงราคากับผปู้ ระกอบการทมี่ อี าชพี ทีม่ ีคณุ สมบัตติ ามทก่ี ำหนด (ขอ้ 78(1) หรือรับจ้างนน้ั โดยตรง (ข้อ 79) คณะกรรมการฯ จดั ทำรายงานผลการพิจารณาข้อเสนอ/ เจ้าหน้าทีพ่ ัสดจุ ดั ทำรายงานผลการจดั ซือ้ จดั จา้ ง ตอ่ รองราคาตามความเหมาะสมแลว้ แต่กรณี คณะกรรมการฯ รายงานผลการพจิ ารณาและเสนอความเห็น หวั หนา้ เจา้ หน้าท่ซี อื้ หรอื จ้างภายในวงเงินทไี่ ด้รบั ต่อหวั หนา้ หน่วยงานของรฐั (อนุโลมขอ้ 55(4) ประกอบ ข้อ 78(2) ความเหน็ ชอบจากหัวหน้าหนว่ ยงานของรฐั (ข้อ 79) หัวหน้าหนว่ ยงานของรฐั และผมู้ อี ำนาจอนุมัติซ้อื หรือจ้างเหน็ ชอบ แจ้งคณะกรรมการ ผลการคดั เลอื ก (ขอ้ 81) ตรวจรับพัสดุ วิธเี ฉพาะเจาะจงไม่จำเป็นต้องรอให้ ประกาศผทู้ ีไ่ ด้รับการคดั เลอื กการจัดซ้อื จดั จา้ ง กรณีวงเงนิ เกิน พน้ ระยะเวลาอทุ ธรณ์ (มาตรา 66) ดว้ ยวธิ เี ฉพาะเจาะจง (ขอ้ 81) 1 ล้านบาท แจ้ง สตง./สรรพากร ลงนามในสัญญาตามแบบทคี่ ณะกรรมการนโยบายกำหนด หรือขอ้ ตกลง (มาตรา66) และระเบียบฯ ขอ้ 161

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 26 การจดั ซอ้ื จดั จ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง วิธีเฉพาะเจาะจง ได้แก่ การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการทีม่ ีคุณสมบัติตรงตาม เงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐกําหนดรายใดรายหนึ่งให้เข้ายื่นข้อเสนอหรือให้เข้ามาเจรจาต่อรองราคา กบั หนว่ ยงานของรฐั รวมทงั้ การจัดซอ้ื จัดจา้ งพัสดุกับผู้ประกอบการโดยตรงในวงเงนิ เล็กนอ้ ยตามท่ีกำหนด ในกฎกระทรวง การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 56 (2) กำหนดให้หน่วยงานของรัฐเลือกใช้วิธีประกาศเชิญชวนทัว่ ไปและวิธีคดั เลือกก่อน เว้นแต่ กรณดี ังต่อไปน้ีให้ใชว้ ธิ เี ฉพาะเจาะจง (ก) ใช้ทั้งวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้ว แต่ไม่มีผู้ย่ืน ขอ้ เสนอหรือข้อเสนอน้ันไม่ได้รบั การคัดเลอื ก (ข) การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีการผลิต จำหน่าย ก่อสร้าง หรือให้บริการทั่วไป และมีวงเงิน ในการจดั ซอื้ จัดจ้างครัง้ หนึง่ ไม่เกินวงเงนิ ตามท่กี ำหนดในกฎกระทรวง (ค) การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีผู้ประกอบการซึ่งมีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียว หรือ การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุจากผู้ประกอบการซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือตัวแทนผู้ให้บริการโดยชอบด้วย กฎหมายเพยี งรายเดยี วในประเทศ และไม่มพี ัสดุอน่ื ทจ่ี ะใชท้ ดแทนได้ (ง) มีความจำเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน เนื่องจากอุบัติภัยหรือภัยธรรมชาติหรือ เกิดโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวน หรือ วธิ ีคัดเลือกอาจกอ่ ให้เกดิ ความลา่ ช้า และอาจทำใหเ้ กดิ ความเสียหายรา้ ยแรง (จ) พสั ดทุ จี่ ะทำการจดั ซือ้ จัดจ้างเปน็ พัสดุทเ่ี กีย่ วพนั กับพสั ดุท่ไี ดท้ ำการจดั ซ้อื จดั จา้ งไวก้ อ่ นแล้ว และมีความจำเป็นต้องทำการจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มเติมเพื่อความสมบูรณ์หรือต่อเนื่องในการใช้พัสดุน้ัน โดยมลู คา่ ของพัสดทุ ที่ ำการจัดซื้อจดั จา้ งเพ่มิ เตมิ ต้องไม่สูงกว่าพสั ดทุ ไ่ี ดท้ ำการจัดซ้ือจดั จา้ งไว้ก่อนแลว้ (ฉ) เป็นพัสดุที่จะขายทอดตลาดโดยหน่วยงานของรัฐ องค์การระหว่างประเทศ หรือ หนว่ ยงานของตา่ งประเทศ (ช) เปน็ พสั ดุท่ีเป็นรายการท่ีดนิ และส่งิ ก่อสร้าง ซง่ึ จำเปน็ ตอ้ งจัดซอื้ เฉพาะแหง่ (ซ) กรณีอนื่ ตามท่กี ําหนดในกฎกระทรวง กฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัตกิ ารจัดซื้อจัดจา้ งและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ได้กำหนดวงเงินการจัดซ้ือจดั จ้างพัสดุโดยวธิ เี ฉพาะเจาะจง ไว้ดงั นี้ 1. การจัดซ้ือจัดจ้างสนิ ค้า งานบริการ หรืองานก่อสร้าง ที่มีการผลิต จำหน่าย ก่อสร้าง หรือ ให้บริการทัว่ ไป และมีวงเงินในการจดั ซอ้ื จัดจา้ งคร้ังหนงึ่ ไม่เกนิ 500,000 บาท 2. งานจา้ งทป่ี รกึ ษาที่มีวงเงินค่าจา้ งคร้ังหนง่ึ ไมเ่ กนิ 500,000 บาท

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 27 3. งานจ้างที่มีที่ปรึกษาในงานที่จะจ้างนั้นจำนวนจำกัด และมีวงเงินค่าจ้างครั้งหนึ่งไม่เกิน 5,000,000 บาท 4. งานจา้ งออกแบบหรอื ควบคุมงานกอ่ สร้างที่มีวงเงนิ งบประมาณค่าก่อสร้างคร้ังหน่ึงไม่เกิน 5,000,000 บาท ขั้นตอนการจดั ซอื้ จัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ดำเนินการดงั นี้ 1. จัดทำแผนการจดั ซื้อจัดจ้าง เมื่อหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณท่ี จะใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้มีอำนาจในการพิจารณางบประมาณแล้ว ให้เจ้าหน้าที่พัสดุหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายในการปฏิบัติงานนั้นจัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ โดยแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีให้ประกอบด้วย รายการอยา่ งนอ้ ยดังตอ่ ไปน้ี (1) ชื่อโครงการท่จี ะจัดซือ้ จัดจ้าง (2) วงเงนิ ทจ่ี ะจัดซื้อจดั จา้ งโดยประมาณ (3) ระยะเวลาที่คาดว่าจะจัดซ้อื จดั จ้าง (4) รายการอ่ืนตามทีก่ รมบัญชกี ลางกำหนด เมือ่ หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั ใหค้ วามเหน็ ชอบแผนการจดั ซ้ือจัดจ้างประจำปีตามที่เสนอแล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประกาศเผยแพร่แผนดังกล่าวในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง และของหน่วยงานของรัฐตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด และให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ ปดิ ประกาศของหนว่ ยงานของรฐั ยกเว้น กรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุตามมาตรา 56 (2) (ข) (ง) หรือ (ฉ) ไม่ต้องจัดทำแผน การจดั ซอ้ื จดั จ้าง ดังรายการตอ่ ไปน้ี - การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีการผลิต จำหน่าย ก่อสร้าง หรือให้บริการทั่วไป และ มีวงเงนิ ในการจัดซอ้ื จัดจา้ งคร้ังหนง่ึ ไม่เกินวงเงินตามทกี่ ำหนดในกฎกระทรวง (มาตรา 56 (2) (ข)) - มีความจำเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน เนื่องจากอุบัติภัยหรือภัยธรรมชาติ หรือ เกิดโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และ การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวน หรือ วิธคี ัดเลือกอาจกอ่ ใหเ้ กดิ ความลา่ ชา้ และอาจทำให้เกดิ ความเสยี หายร้ายแรง (มาตรา 56 (2) (ง)) - เป็นพสั ดทุ ่ีจะขายทอดตลาดโดยหนว่ ยงานของรฐั องค์การระหวา่ งประเทศ หรอื หนว่ ยงานของต่างประเทศ (มาตรา 56 (2) (ฉ)) ในกรณีที่มีความเป็นจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี ให้เจ้าหน้าที่ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานนั้น จัดทำรายงานพร้อมระบุเหตุผลที่ขอเปลี่ยนแปลง เสนอหัวหน้า หน่วยงานของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ และเมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประกาศ เผยแพร่แผนดงั กล่าวตามวธิ ีการท่กี รมบัญชีกลางกำหนดตอ่ ไป

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 28 2. จัดทำร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอยี ดคณุ ลักษณะเฉพาะของพสั ดุ ให้หวั หนา้ หนว่ ยงาน ของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง หรือให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจัดทำร่างขอบเขต ของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง กำหนดราคากลาง (ราคาอ้างอิง) รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอไว้ด้วย และเพื่อให้การกำหนดรายละเอียด คุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างมีมาตรฐาน และเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ หากพัสดุที่จะ ซื้อหรือจ้างใดมีประกาศกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแล้ว ให้กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะ เฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง หรือรายการในการก่อสร้างตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ เพื่อความสะดวกจะระบเุ ฉพาะหมายเลขมาตรฐานกไ็ ด้ หรอื ในกรณีพสั ดทุ จ่ี ะซ้อื หรือจ้างใดยงั ไมม่ ปี ระกาศ กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแต่มีผู้ได้รับการจดทะเบียนผลิตภั ณฑ์ไว้กับกระทรวง อุตสาหกรรมแล้ว ให้กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง หรือรายการในการ ก่อสร้างให้สอดคล้องกับรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะตามที่ระบุในคู่มือผู้ซื้อหรือใบแทรกคู่มือผู้ซื้อ ทีก่ ระทรวงอตุ สาหกรรมจดั ทำขึน้ ทั้งนี้ องค์ประกอบ ระยะเวลาการพิจารณา และการประชุมของคณะกรรมการให้เป็นไป ตามทหี่ ัวหนา้ หน่วยงานของรัฐกำหนดตามความจำเป็นและเหมาะสม 3. จัดทำรายงานขอซื้อหรือขอจ้างโดยวิธีฉพาะเจาะจง เจ้าหน้าที่จัดทำรายงานขอซื้อ หรือขอจ้างเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ โดยเสนอผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ตามรายการดังตอ่ ไปนี้ 3.1 เหตผุ ลและความจำเป็นทตี่ อ้ งซื้อหรือจา้ ง 3.2 ขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคณุ ลักษณะเฉพาะของพัสดุหรือแบบรปู รายการ งานก่อสร้างทจ่ี ะซอ้ื หรือจา้ ง แลว้ แตก่ รณี 3.3 ราคากลางของพัสดุที่จะซอื้ หรือจ้าง 3.4 วงเงินทจ่ี ะซ้ือหรือจ้าง โดยใหร้ ะบวุ งเงินงบประมาณ ถา้ ไม่มีวงเงนิ ดงั กล่าวใหร้ ะบุ วงเงินท่ปี ระมาณวา่ จะซื้อหรอื จ้างในครง้ั น้ัน 3.5 กำหนดเวลาที่ต้องการใช้พัสดนุ ้ันหรือให้งานนัน้ แล้วเสร็จ 3.6 วิธีที่จะซอ้ื หรือจ้างและเหตุผลทต่ี อ้ งซ้ือหรอื จา้ งโดยวิธีนั้น 3.7 หลกั เกณฑก์ ารพิจารณาคดั เลอื กขอ้ เสนอ 3.8 ขอ้ เสนออื่น ๆ เชน่ การขออนุมัตแิ ต่งตงั้ คณะกรรมการต่าง ๆ ที่จำเปน็ ในการซอ้ื หรอื การจา้ ง การออกประกาศและเอกสารเชิญชวน และหนงั สือเชิญชวน ทั้งนี้ หากการจัดซื้อจดั จ้างเป็นไปตามเงอ่ื นไขดังนี้ เจา้ หน้าทีห่ รอื ผู้ท่รี บั ผดิ ชอบในการ ปฏิบตั ิงานนนั้ จะทำรายงานขอซอื้ ขอจา้ งเฉพาะรายการท่เี หน็ วา่ จำเป็นก็ได้

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 29 - หน่วยงานมีความจำเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน เนื่องจากอุบัติภัยหรือ ภัยธรรมชาติหรือเกิดโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธี ประกาศเชิญชวน หรอื วธิ คี ดั เลือกอาจกอ่ ใหเ้ กดิ ความล่าช้า และอาจทำใหเ้ กดิ ความเสยี หายร้ายแรง - กรณีการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินเล็กน้อยตามที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตาม ความในมาตรา 96 วรรคสอง ซ่งึ ไม่อาจทำรายงานตามปกตไิ ด้ 4. เม่อื หวั หน้าหน่วยงานของรฐั ให้ความเหน็ ชอบรายงานขอซอ้ื ขอจ้างแลว้ ให้คณะกรรมการ ซ้ือหรือจ้างโดยวธิ เี ฉพาะเจาะจง ดำเนนิ การดังต่อไปน้ี 4.1 จัดทำหนงั สือเชิญชวนผ้ปู ระกอบการท่ีมคี ุณสมบตั ติ รงตามเงื่อนไขทห่ี น่วยงานของรฐั กำหนดรายใดรายหนึง่ ใหเ้ ข้ายนื่ ขอ้ เสนอหรอื ให้เข้ามาเจรจาต่อรองราคา โดยให้ดำเนนิ การดงั ต่อไปนี้ 4.1.1 กรณีตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (ก) คือ ใช้ทั้งวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปและ วิธีคดั เลือก หรือใชว้ ิธีคัดเลอื กแล้ว แต่ไมม่ ีผยู้ นื่ ข้อเสนอ หรือข้อเสนอนั้นไม่ได้รบั การคัดเลอื ก • ให้เชญิ ผ้ปู ระกอบการทมี่ อี าชพี ขายหรอื รบั จ้างนน้ั โดยตรงหรือจากผยู้ ืน่ ขอ้ เสนอ ในการซื้อหรือจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปหรือวิธีคัดเลือกซึ่งถูกยกเลิกไป (ถ้ามี) ให้มายื่นเสนอราคา ทั้งนี้ หากเห็นว่าผู้ประกอบการรายที่เห็นสมควรซือ้ หรือจ้างเสนอราคาสูงกว่าราคาในท้องตลาด หรือราคา ทีป่ ระมาณได้ หรือราคาท่คี ณะกรรมการเห็นสมควร ใหต้ ่อรองราคาลงเทา่ ท่ีจะทำได้ 4.1.2 กรณีตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (ค) , (ง) คือ การจัดซือ้ จัดจา้ งพสั ดทุ ่ีมี ผู้ประกอบการซึ่งมีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียว หรือการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุจากผู้ประกอบการซึ่งเป็น ตัวแทนจำหน่ายหรือตัวแทนผู้ให้บริการโดยชอบด้วยกฎหมายเพียงรายเดียวในประเทศไทย และไม่มีพัสดุ อื่นที่จะใช้ทดแทนได้ (ค), หรือมีความจำเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน เนื่องจากเกิดอุบัติภัยหรือภัย ธรรมชาติหรือเกิดโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประกาศ เชิญชวนทัว่ ไปหรอื วธิ คี ดั เลือกอาจกอ่ ให้เกิดความลา่ ชา้ และอาจทำให้เกิดความเสยี หายอยา่ งร้ายแรง (ง) • ให้เชิญผู้ประกอบการที่มีอาชีพขายหรือรับจ้างนั้นโดยตรงมายื่นเสนอราคา หากเห็นว่าราคาที่เสนอนั้นยังสูงกว่าราคาในท้องถิ่น หรือราคาที่ประมาณได้ หรือราคาที่คณะกรรมการ เหน็ สมควร ให้ต่อรองราคาลงเทา่ ทจ่ี ะทำได้ 4.1.3 กรณีตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (จ) คือ พัสดุที่จะทำการจัดซื้อจัดจ้างเป็น พัสดุที่เกี่ยวพันกับพัสดุที่ได้ทำการจัดซื้อจัดจ้างไว้ก่อนแล้ว และมีความจำเป็นต้องทำการจัดซื้อจัดจ้าง เพิ่มเติมเพื่อความสมบูรณ์หรือต่อเนื่องในการใช้พัสดุนั้น โดยมูลค่าของพัสดุที่ทำการจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มเติม จะตอ้ งไม่สงู กว่าพัสดุที่ได้ทำการจดั ซ้อื จดั จ้างไวก้ ่อนแล้ว • ให้เจรจากับผู้ประกอบการรายเดิมตามสัญญาหรือข้อตกลงซึ่งยังไม่สิ้นสุด ระยะเวลาส่งมอบ เพื่อขอให้มีการซื้อหรือจ้างตามรายละเอียดและราคาที่ต่ำกว่าหรือราคาเดิมภายใต้

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 30 เงื่อนไขที่ดีกว่าหรือเงื่อนไขเดิม โดยคำนึงถึงราคาต่อหน่วยตามสัญญาเดิม (ถ้ามี) เพื่อให้เกิดประโยชน์ สงู สดุ ต่อหนว่ ยงานของรฐั 4.1.4 กรณีตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (ฉ) คือ เป็นพัสดุที่จะขายทอดตลาดโดย หน่วยงานของรัฐ องค์การระหว่างประเทศหรือหน่วยงานของต่างประเทศ • ใหด้ ำเนินการโดยวิธเี จรจาตกลงราคา 4.1.5 กรณีตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (ช) คือ เป็นพัสดุที่เป็นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ซงึ่ จำเป็นตอ้ งซ้ือเฉพาะแหง่ • ให้เชิญเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างโดยตรงมาเสนอราคา หากเห็นว่าราคา ที่เสนอนัน้ ยงั สูงกว่าราคาในทอ้ งตลาด หรือราคาทีค่ ณะกรรมการเห็นสมควร ให้ต่อรองราคาลงเท่าทีจ่ ะทำได้ 4.1.6 กรณีตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (ข) คือ การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีการผลิต จำหน่าย ก่อสร้าง หรือให้บริการทั่วไป และมีวงเงินในการจัดซือ้ จัดจ้างครั้งหนึ่งไม่เกินวงเงนิ ตามที่กำหนด ในกฎกระทรวง (ไม่เกิน 500,000 บาท) • ให้เจ้าหน้าที่เจรจาตกลงราคากับผู้ประกอบการที่มีอาชีพขายหรือรับจ้างนั้น โดยตรง แล้วให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ซื้อหรือจ้างได้ภายในวงเงินที่ได้รับความเห็นชอบจากหัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐ • กรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดหมายไว้ก่อน และ ไม่อาจดำเนินการตามปกติได้ทัน ให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานนั้น ดำเนินการไปก่อน แล้วรีบรายงานขอความเห็นชอบต่อหัวหน้าหน่วนงานของรัฐ และเมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรั ฐ ใหค้ วามเห็นชอบแล้ว ใหถ้ อื ว่ารายงานดังกล่าวเป็นหลกั ฐานการตรวจรับโดยอนโุ ลม 5. จัดทำรายงานผลการพิจารณาและความเห็นพร้อมด้วยเอกสารที่ได้รับไว้ทั้งหมดเสนอ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ท้ั งน้ี รายงานผลการ พจิ ารณาดงั กลา่ ว ให้ประกอบด้วยรายการอยา่ งนอ้ ย ดงั ต่อไปน้ี 5.1 รายการพัสดทุ ีจ่ ะซือ้ หรอื จ้าง 5.2 รายชอ่ื ผยู้ ่นื ขอ้ เสนอ ราคาทีเ่ สนอ และขอ้ เสนอของผู้ย่ืนข้อเสนอทกุ ราย 5.3 รายชอื่ ผยู้ ื่นข้อเสนอท่ผี า่ นการคัดเลอื กว่าไม่เป็นผมู้ ผี ลประโยชนร์ ว่ มกัน 5.4 หลักเกณฑก์ ารพิจารณาคัดเลอื กข้อเสนอ พรอ้ มเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 5.5 ผลการพจิ ารณาคัดเลอื กข้อเสนอและการให้คะแนนขอ้ เสนอของผู้ย่นื ขอ้ เสนอ ทกุ รายพรอ้ มเหตุผลสนบั สนนุ ในการพิจารณา 6. ประกาศผลผู้ได้รบั การคดั เลอื กโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง โดยเมือ่ หัวหน้าหนว่ ยงานของรัฐ ให้ความเห็นชอบรายงานผลการพิจารณาและผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งซื้อหรือสั่งจ้างแล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ ประกาศผลผู้ชนะการซื้อหรือจ้างในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงาน

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 31 ของรัฐตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด และให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ปิดประกาศของ หน่วยงานของรัฐนั้น และแจ้งให้ผู้เสนอราคาทุกรายทราบผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ตามแบบทก่ี รมบัญชีกลางกำหนด 7. การจัดทำสญั ญาและลงนามในสัญญา เมอื่ ล่วงพน้ ระยะเวลาอุทธรณแ์ ละไม่มีผู้ใดอุทธรณ์ ตามมาตรา 117 คือ ให้ผู้มีสิทธิอุทธรณ์ยื่นอุทธรณ์ต่อหน่วยงานของรัฐนั้นภายในเจ็ดวันทำการนับแต่ วันประกาศผลการจัดซื้อจัดจ้างในระบบเครือข่ายสนเทศของกรมบัญชีกลาง ให้แจ้งผู้ชนะการเสนอราคา เข้ามาทำสัญญาตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด โดยการลงนามในสัญญาและการแก้ไขสัญญา เปน็ อำนาจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ กรณีการจดั ซื้อจดั จ้างโดยวิธเี ฉพาะเจาะจง หรือการจดั ซ้ือจัดจ้างทีม่ ีวงเงินเล็กน้อยตามท่ี กำหนดในกฎกระทรวง ไม่ต้องรอใหพ้ ้นระยะเวลาอทุ ธรณ์ 7.1 หน่วยงานของรัฐอาจจัดทำข้อตกลงเป็นหนังสือโดยไม่ทำสัญญาตามแบบท่ี คณะกรรมการนโยบายกำหนดกไ็ ด้ เฉพาะในกรณี ดังต่อไปน้ี 7.1.1 การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ตามมาตรา 56 (2) หรือการจ้าง ทปี่ รกึ ษาโดยวิธเี ฉพาะเจาะจง ตามมาตรา 70 (3) กรณี ดังน้ี - การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีการผลิต จำหน่าย ก่อสร้าง หรือให้บริการทั่วไป และมวี งเงินในการจดั ซ้ือจัดจ้างครง้ั หนง่ึ ไม่เกินวงเงินตามท่กี ำหนดในกฎกระทรวง มาตรา 56 (2) (ข) - มีความจำเปน็ ตอ้ งใชพ้ ัสดุนน้ั โดยฉุกเฉิน เนื่องจากอุบัติภยั หรอื ภยั ธรรมชาติ หรือเกิดโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และ การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวน หรือ วิธีคัดเลือกอาจก่อใหเ้ กิดความลา่ ชา้ และอาจทำใหเ้ กิดความเสียหายร้ายแรง มาตรา 56 (2) (ง) - เป็นพสั ดุท่จี ะขายทอดตลาดโดยหนว่ ยงานของรฐั องคก์ ารระหว่างประเทศ หรือหน่วยงานของตา่ งประเทศ มาตรา 56 (2) (ฉ) - งานจ้างที่มีวงเงินค่าจ้างครั้นหนึ่งไม่เกินวงเงินตามที่กำหนดในกฎกระทรวง มาตรา 70 (3) (ข) 7.1.2 การจดั ซื้อจัดจา้ งจากหนว่ ยงานของรัฐ 7.1.3 กรณีที่คู่สัญญาสามารถส่งมอบพัสดุได้ครบถ้วนภายในห้าวันทำการนับตั้งแต่ วนั ถดั จากวันทำข้อตกลงเปน็ หนังสือ 7.1.4 การเชา่ ซึง่ ผู้เชา่ ไมต่ ้องเสยี เงนิ อื่นใดนอกจากคา่ เช่า 7.1.5 กรณอี นื่ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา 7.2 การจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินเล็กน้อยตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (ไม่เกิน 100,000 บาท) จะไม่ทำข้อตกลงเป็นหนงั สือไวต้ อ่ กันกไ็ ด้ แต่ต้องมีหลกั ฐานในการจัดซอ้ื จดั จา้ งน้ัน

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 32 8. การตรวจรบั พัสดุ ใหค้ ณะกรรมการตรวจรบั พสั ดุในงานซ้อื หรืองานจ้าง มหี นา้ ทด่ี ังน้ี 8.1 ตรวจรับพสั ดุ ณ ทที่ าํ การของผ้ใู ช้พัสดนุ ั้น หรือสถานทซ่ี ่งึ กําหนดไวใ้ นสัญญาหรอื ข้อตกลง การตรวจรบั พสั ดุ ณ สถานท่ีอื่น ในกรณีท่ไี มม่ ีสัญญาหรือขอ้ ตกลง จะต้องไดร้ ับอนุมัติจาก หัวหน้าหน่วยงานของรฐั ก่อน 8.2 ตรวจรับพสั ดุให้ถกู ต้องครบถ้วนตามหลักฐานทต่ี กลงกันไว้ สําหรบั กรณีท่ีมีการทดลอง หรือตรวจสอบในทางเทคนิคหรือทางวิทยาศาสตร์ จะเชิญผู้ชํานาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับพัสดุนั้น มาให้คําปรึกษา หรือส่งพัสดุนั้นไปทดลองหรือตรวจสอบ ณ สถานที่ของผู้ชํานาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิ น้นั ๆ ก็ได้ ในกรณีจําเป็นที่ไม่สามารถตรวจนับเป็นจํานวนหน่วยทั้งหมดได้ ให้ตรวจรับตาม หลักวชิ าการสถิติ 8.3 ให้ตรวจรับพัสดุในวันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนําพัสดุมาส่ง และให้ดําเนินการให้เสร็จส้ิน โดยเร็วทีส่ ุด 8.4 เมื่อตรวจถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้รับพัสดุไว้และถือว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างได้ส่งมอบ พัสดุถูกต้องครบถ้วนตั้งแต่วันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนําพัสดุนั้นมาส่ง แล้วมอบแก่เจ้าหน้าที่พร้อมกับ ทําใบตรวจรับ โดยลงชื่อไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อย 2 ฉบับ มอบแก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง 1 ฉบับ และ เจ้าหน้าที่ 1 ฉบับ เพื่อดําเนินการเบิกจ่ายเงินตามระเบียบของหน่วยงานของรัฐและรายงานให้หัวหน้า หนว่ ยงานของรัฐทราบ ในกรณีที่เห็นว่าพัสดุที่ส่งมอบ มีรายละเอียดไม่เป็นไปตามข้อกําหนดในสัญญา หรือข้อตกลง ใหร้ ายงานหัวหน้าหนว่ ยงานของรฐั ผา่ นหวั หน้าเจ้าหนา้ ท่ี เพื่อทราบและสงั่ การ 8.5 ในกรณที ่ีผูข้ ายหรือผรู้ บั จา้ งส่งมอบพัสดุถูกต้องแตไ่ มค่ รบจํานวน หรอื สง่ มอบครบจำนวน แต่ไม่ถูกต้องทั้งหมด ถ้าสัญญาหรือข้อตกลงมิได้กําหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้ตรวจรับไว้เฉพาะจํานวน ที่ถูกต้อง โดยถือปฏิบัติตาม (8.4) และให้รีบรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ เพื่อแจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทราบภายใน 3 วันทําการ นับถัดจากวันตรวจพบ แต่ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธ์ิ หน่วยงานของรฐั ที่จะปรบั ผขู้ ายหรอื ผรู้ บั จ้างในจาํ นวนท่ีสง่ มอบไมค่ รบถว้ นหรอื ไมถ่ กู ตอ้ งนั้น 8.6 การตรวจรบั พสั ดุทป่ี ระกอบกนั เปน็ ชดุ หรือหน่วย ถ้าขาดสว่ นประกอบอย่างใดอยา่ งหนึ่ง ไปแล้วจะไม่สามารถใชก้ ารไดโ้ ดยสมบรู ณ์ ให้ถือว่าผู้ขายหรือผู้รับจา้ งยังมไิ ด้ส่งมอบพสั ดุน้ัน และโดยปกติ ให้รีบรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อแจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทราบภายใน 3 วันทําการ นับถัดจาก วันทตี่ รวจพบ 8.7 ถ้ากรรมการตรวจรับพัสดุบางคนไม่ยอมรับพัสดุโดยทําความเห็นแย้งไว้ ให้เสนอ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อพิจารณาสั่งการ ถ้าหัวหน้าหน่วยงานของรัฐสั่งการให้รับพัสดุนั้นไว้ จึงดําเนนิ การตาม (8.4) หรอื (8.5) แลว้ แตก่ รณี

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 33 ในกรณีท่ีการจดั ซื้อจัดจา้ งมวี งเงนิ เลก็ น้อยตามทก่ี ำหนดในกฎกระทรวง (ไมเ่ กนิ 100,000 บาท) จะแต่งตั้งบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นผู้ตรวจรับพัสดุนั้น โดยให้ปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกับคณะกรรมการ ตรวจรับพัสดกุ ไ็ ด้

บทท่ี 4 การตรวจสอบเอกสารเบกิ จ่ายเงิน การตรวจสอบเอกสารเบิกจ่ายเงินจากการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ของกลุ่มตรวจสอบ กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นการตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ ของเอกสารประกอบการขอเบิกเงินให้กับเจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิ ตามที่สำนัก กอง ศูนย์ สถาบัน หรือ สำนักงานต่าง ๆ ส่งเรื่องขออนุมัติเบิกจ่ายเงินหลังจากผู้ขายหรือผู้รับจ้างได้ดำเนินการส่งมอบพัสดุ และ แจ้งหนี้ โดยผู้ตรวจรับพัสดุหรือคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ทำการตรวจรับพัสดุเรียบร้อยแล้ว ในที่นี้ จะกล่าวถึงการตรวจสอบเอกสารเบิกจ่ายเงินจากการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ต าม พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 56 (2) (ข) วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท โดยมีเนอ้ื หาสาระ และขนั้ ตอนการดำเนินการตามรายละเอยี ด ดงั นี้ Work Flow ขั้นตอนการตรวจสอบ เมอ่ื ไดร้ ับเรอ่ื งขออนุมตั ิเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้อื /จดั จา้ งพัสดุ 1. ตรวจสอบเอกสารแนบประกอบการขออนมุ ตั ิเบกิ เงิน ดังน้ี 1.1 รายละเอยี ดคณุ ลักษณะเฉพาะของพสั ดุท่จี ะซอ้ื หรือขอบเขตของงานจา้ งฯ 1.2 รายงานขอซอ้ื หรือขอจ้าง 1.3 ใบเสนอราคา 1.4 รายงานผลการพจิ ารณาและอนุมตั ริ ับราคาซ้อื หรอื จ้าง 1.5 ประกาศผลผชู้ นะการจัดซื้อ/จดั จ้างหรือผ้ไู ดร้ ับการคัดเลอื ก 1.6 สญั ญา/ใบสัง่ ซอ้ื /ใบสั่งจา้ งหรอื ขอ้ ตกลงเปน็ หนงั สือ 1.7 ใบ PO หรอื เอกสารการบนั ทกึ การก่อหนีผ้ ูกพนั ในระบบ GFMIS 1.8 เอกสารส่งมอบพัสดขุ องคสู่ ัญญา (ใบสง่ ของ/ใบแจง้ หน)้ี 1.9 รายงานผลการตรวจรบั พัสดขุ องคณะกรรมการตรวจรบั พัสดหุ รอื ผตู้ รวจรบั พสั ดุ 1.10 หนงั สอื ขออนมุ ตั เิ บกิ เงินของสำนัก/กอง/ศูนย์/สถาบนั กรณีเอกสารถกู ต้อง ครบถว้ น กรณีเอกสารไม่ถกู ตอ้ ง ไมค่ รบถว้ น 2. นำเสนอผ้มู ีอำนาจลงนามอนุมตั ิ ส่งคนื หนว่ ยงานเจา้ ของเรอื่ ง เบิกจา่ ยเงนิ ค่าจดั ซอื้ /จดั จา้ งพสั ดุ เพ่ือดำเนนิ การแกไ้ ขเอกสาร ใหก้ ับเจ้าหนห้ี รือผ้มู ีสิทธริ บั เงนิ ให้ถกู ตอ้ ง

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 35 ขัน้ ตอนการดำเนินการ เมื่อกลุ่มตรวจสอบ กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับเรื่องจาก สำนกั กอง ศูนย์ สถาบนั หรือสำนกั งานต่าง ๆ ท่สี ่งเร่อื งมาขออนมุ ตั เิ บิกจา่ ยเงนิ ค่าจัดซื้อจดั จ้างพสั ดใุ หก้ ับ เจา้ หน้หี รอื ผู้มีสิทธิ จะมขี ั้นตอนการดำเนินการ จำนวน 2 ขัน้ ตอน ดังนี้ 1. ตรวจสอบเอกสารแนบประกอบการขออนุมัติเบิกเงินให้ครบถ้วน ถูกต้อง เป็นไปตาม กฎหมาย ระเบยี บ ข้อบงั คับ และหนังสอื เวียนทเ่ี กย่ี วข้อง โดยตรวจสอบเอกสารแนบประกอบ ดงั นี้ 1.1 รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือขอบเขตของงานจ้างหรือแบบ รูปรายการงานก่อสร้างที่จะซื้อหรือจ้าง แล้วแต่กรณี กรณีที่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดขอบเขต ของงาน หรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ ต้องแนบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนด ราคากลาง (ถ้ามี) โดยจะต้องมีรายงานผลของคณะกรรมการ และในเอกสารขอบเขตของงานจ้างหรือ รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ ต้องมีลายมือชื่อของกรรมการทุกคนเซ็นต์กำกับบนเอกสารทุกฉบับ พร้อมทั้งมีการเผยแพร่ราคากลางโดยใช้แบบถูกต้องตามประเภทของการจัดซื้อจัดจ้าง ตามหนังสือ กรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0433.2/ว 206 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 และแนบเอกสารเกี่ยวกับการ รับฟังความคิดเห็นร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง และ ผลการพจิ ารณาในครัง้ นน้ั (ถ้าม)ี ดงั ตวั อยา่ งต่อไปนี้

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 36 หนังสือขออนมุ ัตแิ ตง่ ตง้ั คณะกรรมการจัดทำรายละเอียดคุณลกั ษณะเฉพาะ และราคากลาง

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 37 ลงนามอนมุ ัตโิ ดยหัวหน้า หนว่ ยงานของรัฐ หรือ ผู้ไดร้ บั มอบอำนาจ

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 38 รายงานผลการจดั ทำรายละเอยี ดคณุ ลกั ษณะเฉพาะและราคากลางของคณะกรรมการฯ

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 39

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 40

คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 41 รายละเอียดคณุ ลักษณะเฉพาะ กรรมการลงลายมอื ชื่อกำกับทุกฉบบั

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 42

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 43

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 44

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 45 เงอ่ื นไขการสง่ มอบงานทีต่ ้องตรวจสอบวา่ ผ้รู บั จา้ งสง่ มอบงาน ครบถว้ น ถูกตอ้ งเป็นไปตามเงอ่ื นไข และกรรมการตรวจรบั พัสดุ ได้ตรวจรับถกู ต้องแลว้

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 46

ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 47


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook