Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือเข้าใจสมรรถนะอย่างง่ายๆ

หนังสือเข้าใจสมรรถนะอย่างง่ายๆ

Published by educat tion, 2021-04-08 09:50:27

Description: หนังสือเข้าใจสมรรถนะอย่างง่ายๆ

Search

Read the Text Version

เขา้ ใจ สมรรถนะ อย่างงา่ ยๆ ฉบบั ประชาชน เข้าใจ หลักสูตรฐานสมรรถนะ อย่างง่ายๆ ฉบบั ครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา สำ�นกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร

371.42 ส�ำ นกั งานเลขาธิการสภาการศึกษา ส 691 ข เขา้ ใจสมรรถนะอย่างง่ายๆ ฉบบั ประชาชน และเข้าใจหลกั สูตร ฐานสมรรถนะอย่างงา่ ยๆ ฉบับครู ผูบ้ รหิ าร และบุคลากรทางการศึกษา กรุงเทพฯ : สกศ., 2562 24 หน้า ISBN : 978-616-270-194-8 1. การจดั การศกึ ษาฐานสมรรถนะ 2. ช่ือเร่อื ง เข้าใจสมรรถนะอยา่ งงา่ ยๆ ฉบบั ประชาชน และเข้าใจหลกั สตู รฐานสมรรถนะอย่างงา่ ยๆ ฉบบั ครู ผู้บรหิ าร และบคุ ลากรทางการศกึ ษา สงิ่ พมิ พ์สกศ. อันดบั ท่ี 20/2562 ISBN 978-616-270-194-8 พมิ พ์ครั้งที่ 1 พฤษภาคม 2562 จำ�นวนพิมพ ์ 2,000 เลม่ พิมพเ์ ผยแพรโ่ ดย กลมุ่ มาตรฐานการศกึ ษา สำ�นักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรยี นรู้ ส�ำ นักงานเลขาธิการสภาการศกึ ษา 99/20 ถนนสุโขทยั เขตดุสติ กรงุ เทพฯ 10300 โทรศัพท์ : 0 2668 7123 ตอ่ 2528, 2529 โทรสาร : 0 2243 1129 Website : www.onec.go.th พิมพ์ท ่ี บริษทั 21 เซน็ จูรี่ จำ�กัด 19/25 ม.8 ถนนเต็มรกั -หนองกางเขน ต.บางครู ดั อ.บางบัวทอง จ.นนทบรุ ี 11000 โทรศัพท์ : 0 2150 9676-8 โทรสาร : 0 2150 9679 E-mail : [email protected] Website : www.21century.co.th

ค�ำ นำ� สำ�นักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้ดำ�เนินการศึกษาวิจัยและพัฒนา กรอบสมรรถนะหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษาตอนต้น ร่วมกับ คณะวิจัยและคณะทำ�งานวางแผนจัดทำ�กรอบสมรรถนะหลักสูตรการศึกษา ขนั้ พน้ื ฐานในคณะกรรมการอสิ ระเพอ่ื การปฏริ ปู การศกึ ษา โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือพัฒนากรอบสมรรถนะผู้เรียนระดับประถมศึกษาตอนต้น สำ�หรับ หลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน และนำ�เสนอแนวทางการใช้กรอบสมรรถนะ ดังกล่าวในการพัฒนาผู้เรียน เอกสารเรื่องเข้าใจสมรรถนะอย่างง่ายๆ สำ�หรับประชาชนและเข้าใจหลักสูตรฐานสมรรถนะอย่างง่ายๆ สำ�หรับครู ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาเล่มน้ี จัดทำ�ขึ้นเพ่ือให้ความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับสมรรถนะแก่ผู้สนใจท่ัวไป ครู ผู้บริหาร และผู้เกี่ยวข้อง เพ่อื การน�ำ ไปปรบั ใช้ในการพฒั นาผเู้ รียนใหเ้ กดิ สมรรถนะท่ีต้องการ ส�ำ นกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา ขอขอบคณุ คณะวจิ ยั และคณะท�ำ งาน ในโครงการวจิ ยั และพฒั นากรอบสมรรถนะผเู้ รยี นระดบั ประถมศกึ ษาตอนตน้ สำ�หรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตลอดจนทุกฝ่ายที่เก่ียวข้อง และ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารฉบับนี้จะเป็นประโยชน์แก่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู ผู้บริหาร บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนประชาชนทั่วไป ในการพัฒนา ส่งเสรมิ ให้เด็กมีทักษะและสมรรถนะอนั พงึ ประสงค์ (นายสภุ ทั ร จ�ำ ปาทอง) เลขาธกิ ารสภาการศึกษา

สารบัญ หนา้ เข้าใจสมรรถนะอยา่ งงา่ ยๆ ฉบบั ประชาชน............................. 1 การจัดการศึกษาฐานสมรรถนะ............................................ 1 ตวั อย่างสมรรถนะต่างๆ ในชีวิตประจ�ำ วัน.................................. 1 คณุ สมบัตหิ รือลักษณะสำ�คญั ของสมรรรถนะ.............................. 8 ความหมายของสมรรถนะ................................................. 9 อะไรไมใ่ ช่สมรรถนะ....................................................... 9 สมรรถนะเกิดขนึ้ ได้อย่างไร................................................ 10 ระดับของสมรรถนะ....................................................... 10 องคป์ ระกอบสำ�คญั ของสมรรถนะ......................................... 11 วิธีการพฒั นาสมรรถนะให้เกดิ ข้ึน.......................................... 12 เขา้ ใจหลกั สตู รฐานสมรรถนะอย่างงา่ ยๆ .............................. 13 ฉบับครู ผ้บู ริหาร และบคุ ลากรทางการศกึ ษา ลกั ษณะสำ�คัญของหลักสตู รอิงมาตรฐาน.................................. 13 ลักษณะสำ�คัญของหลักสูตรฐานสมรรถนะ................................. 13 (Competency-Based Curriculum) องคป์ ระกอบสำ�คญั ของหลกั สูตรฐานสมรรถนะ............................ 14 สมรรถนะหลกั ............................................................ 14 สมรรถนะเฉพาะ......................................................... 15 ระดบั ของสมรรถนะ....................................................... 15 หลักสูตรฐานสมรรถนะโดยท่ัวไป.......................................... 16 การจดั การเรียนการสอนฐานสมรรถนะ.................................... 17 (Competency–Based Instruction) การวดั และประเมินผลฐานสมรรถนะ...................................... 17 (Competency–Based Assessment) การออกแบบหลักสตู ร.................................................... 18

เข้าใจสมรรถนะอยา่ งง่ายๆ ฉบบั ประชาชน การจัด จากปญั หาความดอ้ ยคุณภาพของผเู้ รยี นทีไ่ ม่สามารถ การศกึ ษา น�ำ ความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและคณุ ลักษณะตา่ งๆ ทต่ี น ฐานสมรรถนะ เรยี นรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการท�ำ งานและการด�ำ รงชวี ติ ประจ�ำ วนั ได้ ส่งผลให้การศึกษาจำ�เป็นจะต้องปรับเปลี่ยนจุดเน้นจาก ฐานเนือ้ หา (content - based) ไปเป็นฐานสมรรถนะ (competency-based) ดงั นนั้ จงึ จ�ำ เปน็ ทผี่ เู้ กยี่ วขอ้ งและผสู้ นใจทง้ั หลายจะตอ้ งเขา้ ใจ วา่ “ สมรรถนะ” คอื อะไร ในชีวิตประจำ�วันทั่วๆ ไป ตัวอยา่ ง เราคงได้เคยพบเห็นเหตุการณ์ สมรรถนะต่างๆ ทำ�นองน้ีเกดิ ขึน้ ในชีวติ ประจำ�วนั 1

1 ตัวอย่างสมรรถนะการใชภ้ าษาไทยเพ่อื การสอ่ื สาร เด็กหญิงคนหนึ่งว่ิงเข้ามากอดคุณยายซ่ึงกำ�ลังจะออกไป ซอื้ ของ เธอทกั ทายถามไถค่ ณุ ยายดว้ ยถอ้ ยค�ำ ทไ่ี พเราะนา่ รกั และ ออดออ้ นใหค้ ณุ ยายซอื้ ของเลน่ มาฝากเธอไมร่ วู้ า่ ของเลน่ ทเี่ ธอเหน็ เพือ่ นเล่นและอยากไดน้ ้ัน เรยี กวา่ อะไร แต่เธอก็พยายามอธบิ าย ให้คุณยายเข้าใจด้วยภาษาของเธอเอง จนคุณยายเข้าใจว่า หลานสาวต้องการอะไร • เด็กหญงิ คนนน้ี บั วา่ เปน็ ผมู้ สี มรรถนะการใช้ภาษาไทยเพื่อการสอื่ สาร 2 ตวั อยา่ งสมรรถนะการใชภ้ าษาอังกฤษเพอ่ื การส่อื สาร กระเป๋ารถสองแถวเห็นคนต่างชาติยืนงงอยู่ จึงถามเป็นภาษาอังกฤษแบบ ชาวบ้านว่า จะไปไหน Where you go? ชาวต่างชาติเข้าใจ ตอบกลับ กระเป๋ารถ ก็เชญิ ข้นึ รถ บอกว่าคันนีไ้ ปยังทีเ่ ขาตอ้ งการ • กระเปา๋ รถคนนี้ ถอื วา่ มสี มรรถนะการใชภ้ าษาองั กฤษเพอื่ การสอ่ื สาร ในระดบั พื้นฐานใช้งานไดใ้ นชวี ติ ประจ�ำ วนั Where you go? Market 2

3 ตวั อย่างสมรรถนะคณติ ศาสตร์ในชวี ิตประจำ�วนั เม่ือโรงเรียนต้องจัดงานท่ีต้องเชิญแขกมาทั้งส้ิน 200 คน คุณครูให้นักเรียน ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ช่วยวางแผนในการจัดโต๊ะว่าควรจัดจำ�นวนเท่าไร นักเรียน ไดอ้ ภปิ รายร่วมกัน มีฝ่ายหน่งึ เสนอใหจ้ ดั น้อยกว่า 200 โตะ๊ เพราะโดยส่วนใหญ่แขก ที่มางานย่อมน้อยกว่าจำ�นวนที่เชิญเสมอ และอาจมีแขกบางคนซ่ึงติดธุระ มาในวันงานไม่ได้ อีกฝ่ายก็ค้านว่าควรจัดโต๊ะให้ครบตามจำ�นวนท่ีเชิญ เหลือดีกว่า ขาด อีกฝ่ายค้านว่าการเหลือท่ีน่ังเอาไว้ เป็นการส้ินเปลือง งบประมาณ ท้ังปริมาณอาหาร ปริมาณโต๊ะและเก้าอ้ี น้องแจนเสนอให้ใช้ฟังก์ชันของไมโครซอฟท์เอกซ์เซล ทไี่ ดเ้ รยี นมา คอื NORMDIST ในการคำ�นวณหา จำ�นวนที่น่ังที่เหมาะสมมีความเส่ียงน้อย ที่สุด ทุกคนเห็นด้วยเพราะเป็นวิธีท่ีมี เหตุผลรองรับ ไม่ได้ใช้เพียงความรู้สึก ในการแกป้ ัญหา ช•ี ว ินต้อปงแรจะนจำม�ีสวมั นร รเพถนระาคะณแกิต้ศปัาญสหตรา์ ใน ของโรงเรยี นโดยใชค้ วามรทู้ างคณติ ศาสตร์ ที่เรียน เช่ือมโยงกับปัญหาที่ตนเองพบ ในชีวิตจรงิ ได้อยา่ งมเี หตุผลตามวัย 3

4 ตัวอย่างสมรรถนะด้านการสืบสอบทางวทิ ยาศาสตร์และ ความเป็นผู้มจีิ ิตวทิ ยาศาสตร์ ชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย เขาเป็น คนมคี วามสนใจใฝ่รู้ เมอ่ื สนใจหรอื สงสัยในเรอื่ งใด เขาจะ พยายามหาคำ�ตอบให้แก่ตนเอง โดยการค้นคว้าหา ขอ้ มลู ความรจู้ ากแหลง่ ตา่ งๆทน่ี า่ เชอื่ ถอื แลว้ วเิ คราะห์ และนำ�เสนอผลท่ีได้ผ่านส่ือออนไลน์ เพ่ือรับฟัง ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะ •นักศึกษาคนนี้มีสมรรถนะด้านการสืบสอบ ทางวิทยาศาสตร์และเป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ สามารถระบุส่ิงที่สงสัย ตั้งคำ�ถาม วิเคราะห์ข้อมูล สืบสอบความรู้ได้ด้วยตนเอง รวมท้ังเป็นผู้มีจิต วิทยาศาสตร์ มีความใฝ่รู้ และมุ่งม่ันหาคำ�ตอบให้แก่ ตนเอง 4

5 ตวั อยา่ งสมรรถนะทักษะชีวิต สาวทำ�งานออฟฟิศ 2 คน ท�ำ งานทีเ่ ดียวกัน เงินเดือนเท่ากัน แต่คนหน่ึงรู้จักวางแผน เก็บออม อกี คนใชจ้ า่ ยโดยไม่มีแผน สาว•คสนาทว่ีค2นแเรพกรนาา่ ะจเะธมออี เปน็านคผตู้มทีสมี่ มนั่ รครงกถวนา่ ะ ทักษะชีวิต รู้จักการบริหารจัดการการเงิน และ ใช้ชีวติ อย่างพอเพียง วันหนึ่งเจ้ากาแฟสุนัขของทิมถูกรถชนตาย ทิมเสียใจและมีความโศกเศร้ามาก หลังจาก ฝังเจ้ากาแฟแล้ว เขาก็เกิดความคิดว่า ถึงอยา่ งไรเจา้ กาแฟกจ็ ากไปแล้ว การเสยี ใจ ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เขาคิดว่า เขาน่าจะ ไ ป ห า สุ นั ข ที่ ไ ม่ มี เ จ้ า ข อ ง ม า เ ลี้ ย ง แ ท น เจ้ากาแฟจะดีกว่า เพราะเท่ากับว่าเขาได้ ช่วยชีวิตสุนัขอีกตัวหน่ึง รวมทั้งเป็นการทำ�บุญ ให้เจา้ กาแฟดว้ ย ป ัญ•ห ทาิมแมกีส้ปมัญรรหถาน ยะทอักมษรัะบชผีวลิตทเ่ีเปก็นิดผขู้พึ้นร้อแมลระับฟกื้นาครืเนปสลภี่ยานพแจปาลกงปสัญาหมาารไถดเ้อผยช่าิญง รวดเรว็ 5

6 ตัวอย่างสมรรถนะการคดิ ขา้ ราชการ 2 คน คนหนึ่งทำ�งานตามทไี่ ด้รับมอบหมาย อีกคน หนง่ึ ท�ำ เช่นเดยี วกนั แต่มักท�ำ ไดด้ กี ว่า และมากกวา่ ท่สี ่ัง รวมทง้ั มี ความคดิ ดีๆ เสนอมาด้วย •ขา้ ราชการคนที่ 2 เปน็ ผ้ทู ่ีท�ำ งานโดยใชส้ มรรถนะการคิด รจู้ กั แสวงหาความรู้ และใชค้ วามรใู้ นการท�ำ งาน มคี วามรบั ผดิ ชอบและความตงั้ ใจในการท�ำ งานสงู ท�ำ ให้ ไดผ้ ลงานทดี่ ี ขา้ ราชการผนู้ นี้ ่าจะมีอนาคตท่สี ดใส เจริญรงุ่ เรืองในหน้าทก่ี ารงาน 7 ตวั อย่างสมรรถนะดา้ นทักษะอาชพี และการเปน็ ผู้ประกอบการ แจ่มใสมีฝีมือในการทำ�อาหาร โดยเฉพาะสนใจเร่ืองการทำ�นํ้าพริกเป็นพิเศษ หมู่บ้านของแจ่มใสมีการเลี้ยงปลาสลิด และมีสินค้าล้นตลาด แจ่มใสจึงคิดสูตร นาํ้ พรกิ ปลาสลดิ หลากหลายสตู รและมกี ารจดั จ�ำ หนา่ ยในหลายชอ่ งทางทง้ั ศนู ยผ์ ลติ ภณั ฑ์ ของหมู่บา้ น และขายแบบออนไลน์ คดิ ส•รแ้างจง่มาในสมสีสรมา้ รงนรถวตันกะดรร้ามนทท่ีเักปษ็นะปอราะชโีพยแชลนะ์ตกอ่ าตรนเป็นคผรอู้ปบรคะกรัวอบหกราอื รสังเคพมราะสามารถ 6

8 ตวั อย่างสมรรถนะการรู้เทา่ ทันสอื่ และสารสนเทศ กลุม่ แมบ่ า้ น 4-5 คน ไปเดนิ ห้างสรรพสนิ คา้ เพอ่ื ซอื้ ของ พบวา่ มรี า้ นขนึ้ ปา้ ย“ลดสงู สดุ 70%”จงึ ชวนกนั เข้าไปเลือกซื้อ แม่บ้านท่านหนึ่งเตือนสติเพ่ือนว่า ความหมายของป้ายอาจมีสินค้าเพียงไม่ก่ีช้ินท่ีลดราคา 70% การใช้ป้ายตัวโตสีแดง เป็นการจงู ใจให้คนเขา้ ไปเลอื กซ้อื เมอ่ื มลี กู ค้าจ�ำ นวนมาก อาจทำ�ให้เราลมื ตรวจสอบราคา ลดของสนิ คา้ แตล่ ะชิ้น •แมบ่ า้ นทา่ นนมี้ สี มรรถนะการรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื และสารสนเทศ และชว่ ยใหเ้ พอ่ื นทไี่ ป ด้วยกันมีหลกั ในการเลือกซอ้ื สนิ ค้า 9 ตวั อยา่ งสมรรถนะการทำ�งานแบบรวมพลัง เปน็ ทมี และมภี าวะผนู้ �ำ ในชว่ งเวลาทเี่ กดิ พายปุ าบกึ ปา้ สายไดร้ วบรวมแมบ่ า้ นในหมบู่ า้ น 10 คน ชว่ ยเจา้ หนา้ ท่ี ในการดูแลเด็ก ๆ และคนแก่ ในศูนย์อพยพ ป้าสายแบ่งหน้าท่ีให้ทำ�ตามถนัด ทง้ั การจดั หาอาหาร การจดั ยาดแู ลผเู้ จบ็ ปว่ ย และใหก้ �ำ ลงั ใจ แกผ่ ทู้ เี่ ปน็ หว่ งกงั วลเกยี่ วกบั ทรพั ยส์ นิ ทเี่ สยี หาย โดยมปี า้ สาย เปน็ ผูป้ ระสานงาน ซงึ่ ทำ�ให้ทุกคนมีสขุ ภาพกายใจทด่ี ี พรอ้ ม รบั มือกบั ปัญหาทีเ่ กิดข้ึนตอ่ ไป •ป้าสาย และกลุ่มแม่บ้านมีสมรรถนะการทำ�งานแบบ รวมพลงั เป็นทมี เพราะมที ักษะในการท�ำ งานรว่ มกนั และปฏิบตั ติ าม บทบาทเพอ่ื การท�ำ งานใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย ในสว่ นปา้ สายนนั้ มสี มรรถนะ การเป็นผู้นำ�และใช้ภาวะผู้นำ�อย่างเหมาะสม สามารถประสานและ นำ�กลุ่มแม่บ้านให้ปฏิบัติงานได้ โดยนำ�ความสามารถของสมาชิก แตล่ ะคนมาใชเ้ พอ่ื การปฏิบัตงิ านให้ประสบความสำ�เร็จ 7

10 ตัวอย่างสมรรถนะในการเปน็ พลเมืองตนื่ รู้ นักเรียนพบว่า แหล่งนํ้าของหมู่บ้านเร่ิมส่งกล่ินเหม็น เพราะมีคนนำ�สิ่งปฏิกูลไปทิ้ง เม่ือศึกษาระเบียบของ หมู่บ้านพบว่า มีข้อห้ามอยู่แต่ไม่ได้บังคับใช้จริงจัง จึงรวมตัวกันกับเพ่ือนๆ ไปปรึกษาผู้ใหญ่บ้าน เพื่อหา วิธีการแก้ปัญหา สรุปได้ว่า ควรมีการแจ้งข้อมูลผ่านเสียงตามสายของหมู่บ้านและ ติดป้ายประกาศเตือนพรอ้ มแจง้ บทลงโทษผ้ฝู ่าฝืน •ปญั หาสาธารณะไมใ่ ช่เรอ่ื งของใครคนใดคนหน่งึ แต่เปน็ เร่ืองของทกุ คน ท่ตี ้อง มีคนกลา้ คิด และรวมตัวกันเพื่อพิจารณาหาผู้มอี �ำ นาจหน้าทใี่ นการด�ำ เนินการแก้ไข ปญั หาตามระบบ นักเรยี นกล่มุ นี้จดั ว่าเปน็ ผูม้ สี มรรถนะการเปน็ พลเมอื งต่นื รู้ จากตัวอย่างท่ียกมาดังกล่าว แสดงให้เห็นถึง ลกั ษณะของผมู้ สี มรรถนะ 10 ดา้ น ซงึ่ คงไมม่ ใี ครปฏเิ สธวา่ คุณสมบัติหรอื เปน็ คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ และหากวเิ คราะหเ์ จาะลกึ ลกั ษณะสำ�คญั ลงไปอีกจะเห็นได้ว่า ผู้ที่มีสมรรถนะต่างๆ ดังกล่าวนั้น ของสมรรถนะ มคี ณุ สมบตั ริ ว่ มทเ่ี หมอื นกนั คอื สามารถ ทำ�(งาน/กจิ กรรม) ไดส้ ำ�เร็จ การทีบ่ คุ คลจะสามารถท�ำ งานใดๆ ไดส้ ำ�เรจ็ นน้ั ต้องอาศยั ปจั จัยส�ำ คัญหลายประการ ไดแ้ ก่ 1. มีความรู้และนำ�ความรู้มาใช้ในสถานการณ์ได้ เช่น เด็กหญิงไม่รู้ว่าของเล่น มชี ื่อเรยี กวา่ อะไร แตเ่ ธอกใ็ ชค้ วามรู้จากค�ำ ท่เี ธอรู้ พยายามชี้แจง จนคณุ ยายเขา้ ใจ 2. มีทักษะ เด็กหญิงมีทักษะการใช้ภาษาสื่อสารเป็นทุนเดิมและพยายามใช้ทักษะ การพูดของเธอช้ีแจงจนคณุ ยายเข้าใจ 3. มีเจตคติ แรงจูงใจ และคุณลักษณะท่ีส่งเสริมพฤติกรรม การกระทำ�ให้บรรลุผล เชน่ ความอยากไดข้ องเล่น เปน็ แรงจูงใจที่ทำ�ให้เดก็ หญิงพยายามอธิบายจนคณุ ยายเข้าใจ 8

สมรรถนะจึงเป็นความสามารถของบุคคลในระดับ ท่ีสามารถปฏิบัติงานใดงานหนึ่งได้สำ�เร็จ โดยใช้ความรู้ ความหมาย ทักษะ เจตคติ/คุณลกั ษณะ ท่ีตนมอี ยู่ ของสมรรถนะ สมรรถนะเปน็ พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกถงึ ความสามารถ ของบคุ คลในการน�ำ ความรู้ทกั ษะและคณุ ลกั ษณะเฉพาะ ของตน มาประยุกต์ใช้ในงาน หรอื ในสถานการณต์ ่างๆ ไดจ้ นประสบความส�ำ เรจ็ สมรรถนะจึงเป็นผลรวมของความรู้ ทักษะ เจตคติ หรือคุณลักษณะ ท่ีทำ�ให้บุคคล ประสบความสำ�เร็จในการทำ�งาน การแก้ปญั หา และการดำ�รงชีวิต สรปุ ว่า คนที่มีสมรรถนะ คอื คนทที่ �ำ งานได้ส�ำ เร็จ โดยใช้ความรู้ ทักษะ เจตคติ / คณุ ลักษณะ ตา่ งๆ ที่ตนมีอยู่ อะไร - คนมีความรู้ แต่ไม่ใช้ความรู้หรือไม่สามารถใช้ ไมใ่ ชส่ มรรถนะ ความรู้ในสถานการณ์ต่างๆ ยังไม่ถือว่ามีสมรรถนะ (เช่น ผู้มีความรู้ภาษาอังกฤษ แต่ไม่สามารถพูดคุยกับ ชาวต่างชาติหรือใช้ความรู้ภาษาอังกฤษในการปฎิบัติ งานได้) - คนมีทักษะ แต่ไม่สามารถนำ�ทักษะนั้นมาใช้ใน สถานการณต์ า่ งๆ กย็ งั ไมถ่ อื วา่ มสี มรรถนะ (เชน่ มที กั ษะ การอ่าน เขียน ฟัง พูดภาษาอังกฤษ สอบผ่าน การทดสอบ แต่ไม่กล้า หรือไม่สามารถสื่อสารกับ ชาวต่างชาตไิ ด)้ - คนมีเจตคติที่ดี แต่ไม่นำ�มาใช้ในสถานการณ์ต่างๆ กถ็ อื วา่ ยังไม่มีสมรรถนะ (เชน่ ชอบภาษาอังกฤษ มีเจตคติ ที่ดีต่อภาษาอังกฤษ แต่อาย หรือไม่กล้าพูดส่ือสารกับ 9 ชาวตา่ งชาติ)

สมรรถนะ สมรรถนะเกิดขึ้นได้ เม่ือบุคคลมีโอกาสได้ฝึกใช้ เกดิ ข้นึ ไดอ้ ย่างไร ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่ตนมีในการทำ�งาน การแกป้ ญั หา ในสถานการณต์ า่ งๆ จนเกดิ ความชำ�นาญ ดงั ตัวอย่าง และความมัน่ ใจ ทำ�ให้สามารถทำ�งานตา่ งๆ ได้สำ�เร็จ พอ่ แมใ่ นชนบทมกั ใชใ้ หล้ กู ๆชว่ ยท�ำ งานตา่ งๆในชวี ติ ประจ�ำ วนั ตง้ั แตเ่ ลก็ โดยการสง่ั /สอน ให้ท�ำ บ้าง ทำ�ใหด้ หู รอื ใหเ้ ห็นเป็นตัวอยา่ งบา้ ง เดก็ ตอ้ งท�ำ ตาม เมื่อทำ�บ่อยๆ กจ็ ะท�ำ ได้เอง และเรยี นรกู้ ารใชท้ กั ษะทเี่ กดิ ขนึ้ ในสถานการณต์ า่ งๆ จนเกดิ ความช�ำ นาญ เชน่ นี้ กลา่ วไดว้ า่ เดก็ มีสมรรถนะในการท�ำ งานนัน้ ในกรณีขา้ งตน้ เด็กมีสมรรถนะในการทำ�งานนนั้ เพราะเด็กใช้ความรูจ้ ากทีพ่ ่อแมบ่ อก หรือทำ�ให้ดู แล้วลองทำ�ตาม ขั้นแรกอาจทำ�ผิดๆ ถูกๆ พ่อแม่ให้ทำ�ใหม่ ก็เรียนรู้เพิ่มขึ้น ต่อๆ มาก็เรมิ่ คดิ แก้ปญั หาเอง และทำ�ไดด้ ีขึน้ จนคล่องแคลว่ ช�ำ นาญ ระดบั สมรรถนะมีได้หลายระดับตามความจำ�เป็นหรือ ของสมรรถนะ ความตอ้ งการในหลายๆ เรอื่ ง เราจ�ำ เปน็ ตอ้ งมสี มรรถนะ ในระดบั พอใชก้ ารได้ จงึ จะอยู่รอด อย่ดู ี แต่ในบางเรือ่ ง เราจำ�เป็นต้องมีสมรรถนะในระดับสูงขึ้น ดังนั้น ใน การพัฒนาและการวัดสมรรถนะ จึงต้องมีการกำ�หนดเกณฑ์การปฏิบัติ (Performance Criteria) ว่าต้องการในระดับใด เช่น สำ�หรับคนทั่วไปอาจจำ�เป็นต้องมีสมรรถนะ การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสารในระดับพอใช้การได้ คือ สามารถส่ือสารเรื่องทั่วๆ ไป พอเข้าใจกัน แต่สำ�หรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อต่างประเทศ ความสามารถทางด้านนี้ ก็จ�ำ เป็นต้องอยู่ในระดบั สูง ซ่ึงมักจะมกี ารกำ�หนดมาตรฐานเอาไว้ สมรรถนะท่ีสูงข้ึน ก็จะต้องอาศัยความรู้ ทักษะ ท่ีสูงข้ึนด้วย แต่ความรู้ ทักษะ ท่ีสูงข้ึนน้ันอาจส่งผลหรือไม่ส่งผลต่อการเกิดสมรรถนะก็ได้ ข้ึนอยู่กับประสบการณ์ในการนำ� ความรแู้ ละทกั ษะเหล่านั้นมาใช้ รวมทง้ั คณุ ลกั ษณะสว่ นตนทม่ี วี า่ เออื้ อำ�นวยเพียงใด 10

องค์ประกอบสำ�คญั มี 7 ประการ คือ ของสมรรถนะ 1) ความรู้ (Knowledge) 2) ทักษะ (Skill) 3) คณุ ลักษณะ / เจตคติ (Attribute / Attitude) 4) การประยกุ ต์ใช้ (Application) 5) การกระท�ำ / การปฏิบตั ิ (Performance) 6) งานและสถานการณ์ตา่ งๆ (Tasks / Jobs / Situations) 7) ผลสำ�เร็จ (Success) ตามเกณฑ์ที่ก�ำ หนด (Performance Criteria) สมรรถนะ = ความรู้ + ทกั ษะ + คณุ ลกั ษณะ ประยุกตใ์ ช้ ประ ุยก ์ตใ ้ช ประยุก ์ตใช้ ทำ�/ปฏิบัติ ระดบั / การแก้ปัญหา เกณฑ์การปฏบิ ตั ิ ความสำ�เรจ็ 11

วธิ ีการ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ใหญ่รอบข้างเด็ก สามารถ พัฒนาสมรรถนะ ชว่ ยพฒั นาเดก็ ใหม้ สี มรรถนะทจ่ี �ำ เปน็ เพอ่ื การด�ำ รง ให้เกดิ ขนึ้ ชวี ติ อยา่ งมคี ณุ ภาพในระดบั ทตี่ อ้ งการไดไ้ มย่ ากนกั โดยการส่งเสริมให้เด็กนำ�ความรู้และทักษะต่างๆ ท่ีได้เรียนรู้มาแล้ว ไปใช้ในการทำ�งาน การแก้ปัญหา ในสถานการณ์ต่างๆ และช่วยให้ กำ�ลังใจในการทำ�งาน ให้คำ�แนะนำ� ส่งเสริมคุณลักษณะท่ีจำ�เป็น และเพ่ิมความรู้และ ทักษะใหเ้ ด็กท�ำ งานไดด้ ขี นึ้ ตามลำ�ดับ เดก็ กจ็ ะเกิดสมรรถนะท่ีสงู ขนึ้ เรอื่ ยๆ มารว่ มชว่ ยกันพัฒนาเดก็ ไทย ใหเ้ ปน็ คนดี มีสมรรถนะสูง คดิ เปน็ ทำ�เปน็ แก้ปญั หาเปน็ ชว่ ยกนั พฒั นาเดก็ ไทยให้เปน็ คน ที่มคี ุณภาพ เพอื่ พัฒนาประเทศ ใหม้ ั่นคง มัง่ ค่ัง และยงั่ ยืนตลอดไป 12 F a m i l y

เข้าใจหลกั สูตรฐานสมรรถนะอยา่ งงา่ ยๆ ฉบบั ครู ผูบ้ รหิ าร และบคุ ลากรทางการศึกษา ลักษณะสำ�คัญ ทกุ คนคงจะเขา้ ใจกนั แลว้ วา่ หลกั สตู รปจั จบุ นั ทใ่ี ชก้ นั อยู่ ของหลักสตู ร เปน็ หลกั สตู รองิ มาตรฐาน(Standards-Based Curriculum) อิงมาตรฐาน ซงึ่ ก�ำ หนดมาตรฐานและตวั ชวี้ ดั ใหค้ รใู ชเ้ ปน็ เปา้ หมายในการ จดั การเรยี นการสอน โดยมาตรฐานและตวั ชวี้ ดั จะครอบคลมุ ความรู้ ทักษะ และเจตคติ หรือคุณลักษณะท่ีจำ�เป็นต่อ การบรรลมุ าตรฐานและตัวชีว้ ดั นัน้ ๆ ลักษณะสำ�คัญ หลักสูตรฐานสมรรถนะแตกต่างจาก ของหลกั สตู รฐานสมรรถนะ หลกั สตู รปจั จบุ นั ตรงที่ การก�ำ หนดเปา้ หมาย (Competency-Based จะมุ่งไปที่สมรรถนะของผู้เรียนว่า ผู้เรียน จะต้องทำ�อะไรได้ ซ่ึงต่างจากหลักสูตร Curriculum) อิงมาตรฐานที่มาตรฐานและตัวช้ีวัดจำ�นวนมาก เนน้ ไปทผี่ เู้ รยี นวา่ จะตอ้ งรอู้ ะไร สรปุ ไดว้ า่ หลกั สตู รฐานสมรรถนะเนน้ ทกั ษะ(Skill)ในขณะท่ี หลกั สูตรอิงมาตรฐานค่อนข้างเน้นเน้ือหาสาระ (Content) หลักสูตรฐานสมรรถนะจึงเป็นหลักสูตรท่ียึดความสามารถที่ผู้เรียนพึงปฏิบัติได้ เป็นหลัก เพื่อประกันว่า ผู้ท่ีจบการศึกษาระดับหนึ่งๆ จะมีทักษะและความสามารถ ในด้านตา่ งๆ ตามทีต่ อ้ งการ 13

องคป์ ระกอบสำ�คัญ หลักสูตรฐานสมรรถนะ จะกำ�หนดมาตรฐาน ของหลักสตู ร สมรรถนะ (Competency Standards) ข้ึนเป็น ฐานสมรรถนะ สมรรถนะข้ันต่ําที่จำ�เป็นสำ�หรับผู้เรียน เพื่อ การด�ำ รงชวี ติ อยา่ งมคี ณุ ภาพ สมรรถนะทก่ี �ำ หนด ให้ผเู้ รียน โดยท่ัวไปมี 2 ลกั ษณะ คือ สมรรถนะหลกั สมรรถนะหลักที่เรียกว่า Core Competency มีลักษณะเป็นสมรรถนะข้ามวิชาหรือคร่อมวิชา คือ เปน็ สมรรถนะทส่ี ามารถพฒั นาใหเ้ กดิ ขน้ึ แกผ่ เู้ รยี นได้ ในสาระการเรียนรู้ต่างๆ ที่หลากหลาย หรือสามารถนำ�ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนา ผู้เรียนให้เรียนรู้สาระต่างๆ ได้ดีขึ้น ลึกซ้ึงขึ้น สมรรถนะในลักษณะน้ี กล่าวได้ว่า เป็นสมรรถนะทมี่ ีลักษณะ “content – free” คือ ไม่เกาะตดิ เนื้อหา หรือไมข่ ึน้ กับเนอ้ื หา ตวั อยา่ งสมรรถนะประเภทนี้ เชน่ สมรรถนะการคดิ ขนั้ สงู สมรรถนะการท�ำ งานแบบรวมพลงั สมรรถนะทักษะชีวิต ซึ่งสมรรถนะเหล่าน้ี สามารถใช้เน้ือหาสาระใดๆ ก็ได้ในการพัฒนา เพยี งแตว่ า่ สมรรถนะบางสมรรถนะ อาจพัฒนาไดด้ กี วา่ ในเนอ้ื หาบางเน้อื หา การทำ�งานแบบรทวักมษพะลชังีวิต การคิดขน้ั สูง ทกั ษะชวี ิต 14

สมรรถนะเฉพาะ สมรรถนะอีกประเภทหนึ่ง เรียกว่า สมรรถนะเฉพาะ Specific Competency เปน็ สมรรถนะเฉพาะวชิ า/สาขาวชิ า ซ่ึงจำ�เป็นสำ�หรับวิชาน้ันๆ เช่น ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จะมีสมรรถนะเฉพาะของวิชา เช่น สมรรถนะด้านการพูดในโอกาสต่างๆ สมรรถนะ ด้านการประพันธ์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ก็มีสมรรถนะด้านการวาดภาพ การป้ัน การประดิษฐ์ สาระวิชาต่างๆ จะมีสมรรถนะเฉพาะวิชาของตน ซ่ึงมีลักษณะเป็น “ทักษะ” (Skill) หากผู้เรียนได้รับการฝึกทักษะจนสามารถใช้งานได้ และสามารถประยุกต์ใช้ทักษะนั้น ระดับ สมรรถนะท้ัง 2 ประเภท ไม่ว่าจะเปน็ สมรรถนะหลกั หรอื ของสมรรถนะ สมรรถนะเฉพาะ ต่างก็มีระดับต้ังแต่ง่ายไปยาก ซึ่งหลักสูตร จะกำ�หนดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้แบบไต่ระดับ ไปตามระดับ ความสามารถของตน ตัวอย่างเช่น สมรรถนะหลักด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งก็คือ การคิดที่มีการใช้ วิจารณญาณพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนการตัดสินใจ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำ�หรับผู้เรียนในระดับประถมศึกษาจะเร่ิมต้นตั้งแต่ระดับง่าย คือ สามารถคิดจำ�แนกข้อมูล ทเ่ี ป็นข้อเท็จจรงิ และเป็นข้อคิดเหน็ ก่อน ตอ่ ไปจงึ เพ่ิมระดบั ใหก้ ว้างขนึ้ ครอบคลมุ มากข้นึ 15

หลกั สตู ร หลกั สตู รฐานสมรรถนะโดยทวั่ ไป จะก�ำ หนดจดุ ประสงค์ ฐานสมรรถนะ การเรียนรู้เชิงสมรรถนะ (Learning Competencies) สำ�หรบั ผเู้ รียนในชว่ งวัยหรือช่วงช้นั ต่างๆ ให้แก่ครู เพอ่ื ใช้ โดยทั่วไป ในการจดั การเรยี นการสอนให้แก่ผู้เรยี น หลักสูตรฐานสมรรถนะนอกจากจะกำ�หนดสมรรถนะไว้ให้แล้ว อาจกำ�หนดสาระ การเรยี นรขู้ นั้ ตา่ํ ส�ำ หรบั การพฒั นาสมรรถนะทก่ี �ำ หนดใหแ้ กผ่ เู้ รยี นหรอื อาจใหโ้ รงเรยี นและ ครูกำ�หนดได้ตามความเหมาะสม สมรรถนะและสาระการเรียนรู้ท่ีกำ�หนดให้นั้นเป็นข้ันต่ําที่จำ�เป็นสำ�หรับเด็กไทยทุกคน หลักสูตรจะต้องจัดให้มีพื้นท่ีสำ�หรับโรงเรียนและครูในการจัดการเรียนรู้สาระ ทักษะ และ คณุ ลกั ษณะเฉพาะ เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการตามความแตกตา่ งกนั ของผเู้ รยี น ภมู สิ งั คม และบริบท ในสดั ส่วนทีเ่ หมาะสมกบั ผู้เรยี นในแต่ละช่วงวัย การกำ�หนดสมรรถนะท่ีเป็นเกณฑ์กลาง/มาตรฐานกลางสำ�หรับการจัดการศึกษา ในแต่ละช่วงวัย จะเอ้ืออำ�นวยให้สถานศึกษาสามารถพัฒนาหลักสูตรในรูปแบบต่างๆ ตามแนวคดิ ของตนได้ โดยยึดสมรรถนะเปน็ เกณฑ์กลาง หลักสูตร ฐานสมรรถนะ 16

การจดั การเรียนการสอน ในการจัดการเรียนการสอนฐาน ฐานสมรรถนะ สมรรถนะนั้น ครูจะมีมาตรฐานสมรรถนะ และจุดประสงค์การเรียนรู้เชิงสมรรถนะ (Competency–Based ที่จัดไว้อย่างเป็นลำ�ดับ เป็นกรอบใน Instruction) การจัดการเรียนการสอน ครูมีเป้าหมาย ท่ีจะช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนทำ�อะไรได้ (ในระดับที่กำ�หนด) ครูจะต้องวิเคราะห์ว่า ผู้เรียน จำ�เป็นต้องรู้อะไร จึงจะช่วยให้ทำ�ส่ิงนั้นได้ ซึ่งเอื้อให้มีการบูรณาการความรู้ข้ามศาสตร์ และลดสาระการเรียนรู้ที่ไม่จำ�เป็น ผู้เรียนต้องได้รับความรู้และฝึกใช้ความรู้ในการทำ� รวมท้ังพัฒนาคุณลักษณะท่ีควรจะต้องมีในการทำ�สิ่งนั้น ให้ประสบผลสำ�เร็จได้ ในระดับที่กำ�หนด ครูจัดการเรียนรู้เชิงรุก ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการคิด การปฏิบัติ การลงมือทำ� การได้รับข้อมูลย้อนกลับ การปรับปรุง พัฒนา และได้รับการส่งเสริมให้นำ� ความรู้ ทกั ษะ และคณุ ลกั ษะทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ ไปใชใ้ นสถานการณต์ า่ งๆ จนเกดิ สมรรถนะในระดบั ท่ีต้องการ โดยผ้เู รียนแต่ละคน อาจจะใชเ้ วลาในการเรียนรู้มากนอ้ ยแตกต่างกนั ได้ การวดั และประเมินผล การวัดสมรรถนะเป็นการช่วยให้เห็น ฐานสมรรถนะ ความสามารถท่ีเป็นองค์รวมของผู้เรียนโดย ค รู ทำ � ก า ร ท ด ส อ บ พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร ป ฏิ บั ติ (Competency–Based (Performance Assessment) ของผู้เรียน Assessment) ตามเกณฑท์ ีก่ ำ�หนด (Performance Criteria) ซ่ึงจะเน้นการประเมินองค์รวมของสมรรถนะ ด้วยเคร่ืองมือประเมินตามความเหมาะสม และประเมินเม่ือผู้เรียนพร้อมที่จะรับ การประเมิน หากประเมินผ่าน ผู้เรียนจะสามารถก้าวสู่จุดประสงค์การเรียนรู้ขั้นต่อไปได้ หากยังไม่ผ่าน ผู้เรียนจะได้รับการสอนซ่อมเสริม จนกระทั่งบรรลุผล ผู้เรียนแต่ละคน จะก้าวหน้าไปตามความสามารถของตน อาจก้าวหน้าไปได้เร็วในบางสาระ และอาจ ไปไดช้ า้ ในบางสาระตามความถนัดของตน 17

การออกแบบ หลักสูตรฐานสมรรถนะโดยทั่วไปมีหลักการและ หลักสตู ร ลกั ษณะส�ำ คญั ดังกลา่ ว แต่ในประเทศต่างๆ การก�ำ หนด สมรรถนะ และการออกแบบหลักสูตรอาจมีลักษณะที่ แตกตา่ งกัน ซึง่ มกั เปน็ ไปตามความต้องการ บริบท และ ลกั ษณะเฉพาะของแตล่ ะประเทศ เนื่องจากเด็กไทยส่วนใหญ่ได้รับความรู้จำ�นวนมาก แต่ยังไม่สามารถใช้ความรู้ให้ เป็นประโยชน์ต่อชีวิตได้เท่าที่ควร รวมท้ังยังขาดทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ท่ีจำ�เป็นต่อ การดำ�รงชีวิตในโลกปัจจุบันและอนาคต ทำ�ให้มีขีดความสามารถต่ําในการแข่งขันกับ นานาประเทศ ซง่ึ จะกระทบตอ่ ความอย่รู อดและความอยดู่ ขี องประชาชนและประเทศชาติ จึงจำ�เป็นท่ีครูและผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาให้แก่เด็กซ่ึงเป็นอนาคตของชาติ ได้มีความตระหนักในบทบาทหน้าที่ของตนในการช่วยกันพัฒนาผู้เรียนในทุกระดับ การศึกษา ให้เป็นผู้มีทักษะและสมรรถนะท่ีจำ�เป็น ทันต่อความก้าวหน้าและการ เปลีย่ นแปลงของโลก 18

คณะผจู้ ัดท�ำ เอกสาร ที่ปรกึ ษา ดร.สภุ ัทร จ�ำ ปาทอง เลขาธกิ ารสภาการศึกษา ดร.วัฒนาพร ระงบั ทกุ ข ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธ ์ิ รองเลขาธกิ ารสภาการศึกษา นายส�ำ เนา เนอ้ื ทอง ผูอ้ �ำ นวยการสำ�นักงานมาตรฐานการศกึ ษา และพฒั นาการเรยี นรู้ คณะจดั ท�ำ ตน้ ฉบบั รองศาสตราจารย์ ดร.ทิศนา แขมมณี รองศาสตราจารย์ ดร.พมิ พนั ธ์ เดชะคุปต์ รองศาสตราจารย์ ดร.บังอร เสรีรตั น์ ดร.เฉลมิ ชยั พันธ์เลิศ ดร.กณุ ฑลี บรริ กั ษ์สนั ติกุล นางสุทธิดา ธาดานิติ นางอำ�ภา พรหมวาทย์ ดร.ทรงพร พนมวัน ณ อยุธยา ดร.นาฎฤดี จิตรังสรรค์ 19

บรรณาธกิ ารและเรียบเรยี งเอกสาร ดร.ประวีณา อสั โย ผอู้ ำ�นวยการกลมุ่ มาตรฐานการศึกษา นางสาวกรกมล จงึ ส�ำ ราญ นักวชิ าการศกึ ษาชำ�นาญการพิเศษ นางสาวนรู ียา วาจ ิ นักวิชาการศึกษาปฏบิ ตั กิ าร ผปู้ ระสานงานการจดั พิมพ์เอกสาร นางสาวกรกมล จึงสำ�ราญ นกั วิชาการศกึ ษาชำ�นาญการพิเศษ หน่วยงานรับผิดชอบ กลมุ่ มาตรฐานการศึกษา ส�ำ นกั มาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรยี นรู้ ส�ำ นักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา 99/20 ถนนสโุ ขทัย เขตดสุ ิต กรงุ เทพฯ 10300 โทรศัพท์ 0 2668 7123 โทรสาร 0 2243 1129 Website : www.onec.go.th 20


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook