Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานการศึกษา การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในผู้ป่วยในประเทศอินเดีย

โครงงานการศึกษา การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในผู้ป่วยในประเทศอินเดีย

Published by captain.nitithon, 2021-09-10 06:55:23

Description: โครงงานการศึกษา การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในผู้ป่วยในประเทศอินเดีย เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเเอง

Keywords: โดวิดอินเดีย

Search

Read the Text Version

โครงงานการศกึ ษาการแพรร่ ะบาดของเชือ้ ไวรสั Covid-19 ในผ้ตู ดิ เชอ้ื ในประเทศอนิ เดีย เสนอ ครูเพชรณา บริพนั ธ์ จดั ทำโดย นายจริ กิตต์ิ หลกั เพชร เลขที่ 1 (จนี ) นายณัฐกิตติ์ กลับใจ เลขท่ี 3 (จนี ) นายนติ ธิ ร เจ๊ะหนู เลขที่ 5 (จนี ) นางสาวณัฐวดี เงินสมทอง เลขที่ 15 (จีน) นายวิรวัฒน์ ร่าเหม เลขที่ 5 (ญปี่ ุ่น) นายสรยุทธ์ ชเู ล็ก เลขท่ี 6 (ญปี่ ุน่ ) นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ม.5/12 โครงานฉบับน้ีเป็นสว่ นหนงึ่ ของวิชาการศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง ( I30201 ) ภาคเรยี นที่ 1 ประจำปกี ารศึกษา 2564 โรงเรยี นสภาราชนิ ี จงั หวดั ตรัง อำเภอเมอื ง จงั หวดั ตรัง

ก ชอื่ เร่อื ง : การศกึ ษาการแพรร่ ะบาดของเชื้อไวรสั Covid-19 ในผู้ป่วยในประเทศอินเดีย ผู้จัดทำ : นายจิรกติ ติ์ หลกั เพชร นายณฐั กิตติ์ กลบั ใจ นายนิติธร เจะ๊ หนู นางสาวณฐั วดี เงินสมทอง นายวริ วฒั น์ รา่ เหม นายสรยุทธ์ ชูเล็ก ครูท่ปี รึกษา : คุณครูเพชรณา บริพันธ์ ปีการศึกษา : 2564 บทคัดย่อ เรื่อง การศึกษาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ในผู้ป่วยติดเชื้อ ในประเทศอินเดีย มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ทุกคนได้รู้และเข้าใจ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศอินเดีย และได้รู้เกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ ในสถานการณ์ที่อินเดีย ได้รับปัญหาอย่างหนัก ในที่นี้คณะผู้จัดทำ ได้ทำการลงมือปฏิบัติ ทำโครงงานการศึกษา การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในผู้ป่วยติดเช้ือ ในประเทศอินเดีย ในขั้นแรก เราต้องมีการปรึกษากับสมาชิก ภายในกลุ่ม เพื่อให้ได้หัวข้อที่เราตั้งใจ จะศึกษาร่วมกัน จากนั้นก็มีการประชุมวางแผน ว่าจะทำอะไรก่อนหลัง และเตรียมอุปกรณ์ในการ ลงมือทำ การทำการศึกษาในครั้งนี้ โดยเราจะเริ่มจากการที่ค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเช ้ือ ไวรัสในประเทศอินเดีย และนำมาสรุปผลต่างๆ เพื่อทำเป็นรูปเล่มโครงงานเกี่ยวกับ การศึกษาเชื้อไวรัส และผลของเช้ือไวรัสท่ีทำใหป้ ระเทศอนิ เดยี ประสบปัญหา ดังนั้นเราจึงสามารถนำเอาโครงงานเรื่องนี้มาใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงได้ โดยการนำเอามาเป็น แนวทางในการดำเนินชีวิต อย่างเช่น การป้องกันตนเอง อย่างไรจากเชื้อไวรัส Covid-19 ที่แพร่ ระบาดอย่าง หนักในปจั จุบนั

ข กิตตกิ รรมประกาศ โครงงานฉบับนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดีจากความกรุณาจากคุณครู เพชรณา บริพันธ์ คุณครู ที่ปรึกษาโครงงานที่ได้ให้คำเสอนแนะ แนวคิด ตลอดจนแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ มาโดยตลอด จน โครงงานเรื่องน้เี สรจ็ สมบูรณ์ คณะผู้จัดทำจึงขอกราบขอบพระคุณเปน็ อย่างสงู ขอกราบขอบพระคุณคุณพ่อ คุณแม่ของคณะผู้จัดทำทุกคน ที่ให้คำปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งเปน็ กำลังใจทีด่ เี สมอมา สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อน ๆ สมาชิกในกลุ่มคณะผู้จัดทำทุกคน ที่ได้ช่วยเหลือและคอยให้ กำลังใจซึ่งกันและกัน ในการทำโครงงานเรื่องนี้ จึงทำให้เสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และคณะผู้จัดทำ หวังว่าโครงงานเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจทุกคนไม่มากก็น้อย ถ้าหากโครงงานเรื่องน้ี ผดิ พลาดประการใดก็ต้องขออภยั มา ณ ท่นี ้ีด้วย คณะผจู้ ัดทำ

ค สารบัญ บทที่ 1 บทนำ.....................................................................................................................................................1 ทม่ี าและความสำคัญ………………………………………………………………………………………..……………………..1 วตั ถุประสงค…์ ………………………………………………………………………………………………………..………………1 ขอบเขตการศึกษาเรยี นร…ู้ …………………………………………………………………………………..……………….….1 ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั ……………………………………………………………………………………………….……………………2 บทท่ี 2 เอกสารท่เี กย่ี วข้อง........................................................................................................................... 3-12 บทท่ี 3 ขนั้ ตอนการดำเนนิ งาน.........................................................................................................................13 วสั ดุ เครื่องมอื และอุปกรณ์ทใี่ ชใ้ นการศกึ ษา…………………………………………………………………….………13 ขนั้ ตอนการดำเนินงาน……………………………………………………………………………………….……………..….13 แผนการดำเนินงาน………………………………………………………………………………………………….….….13-14 งบประมาณ……………………………………………………………………………………………………………..……..…..14 ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ บั ……………………………………………………………………………………………….……14 บทท่ี 4 ผลการดำเนินงาน...............................................................................................................................15 ผลการดำเนินงาน………………………………………………………………………………………………………..…….….15 บนั ทกึ ผลและการดำเนนิ งาน……………………………………………………………………..………………….….15-16 บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ.....................................................................................................17 สรุป……………………………………………………………………………………………………………………………….…….17 อภิปราย………………………………………………………………………………………………………………………...…….17 ประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับ…………………………………………………………………………..………………………………….……17 บรรณานุกรม ....................................................................................................................................................17

1 บทที่ 1 บทนำ 1.1 ทมี่ าและความสำคัญ เพราะเนื่องจากเมื่อปลายปี2019 ในประเทศจีนเกิดการระบาดของเชื้อไวรัส ซึ่งนักวิจัยต่างพากัน วิเคราะห์ว่าสัตว์อาจเป็นพาหะ ทำให้ไวรัสชนิดนีเ้ กิดการแพร่ระบาด ไปทั่วโลก ซึ่งไวรัสชนิดน้ี คือไวรัสโคโรน่า หรือ ชื่อใหม่ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ตั้งขึ้น คือ Covid-19 และเมื่อเกิดการ แพร่ระบาดอย่างหนัก ในทั่วโลก จึงทำให้หลายประเทศ ควบคุมการแพร่เชื้อ ของเชื้อไวรัสไม่ได้ และหนึ่งในประเทศที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้เกิดการแพรร่ ะบาดอยา่ งหนกั คอื ประเทศอินเดีย สมาชิกภายในกลุ่มจึงอยากศึกษาเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ในประเทศอินเดีย ว่ามีสาเหตุอะไรถึงทำให้ประเทศอินเดียไม่สามารถหยุดตัวเลขของผู้ติดเชื้อได้ มีการแพร่ระบาดได้อย่างไร และทำไมอินเดียถึงมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของโลก สมาชิกภายในกลุ่มจึงเริ่ม คดิ วางแผนและเริ่มศึกษาเก่ยี วกับขอ้ มูลของเชอ้ื ไวรัส Covid-19 ในประเทศอินเดยี สาเหตทุ ค่ี ิดจะศึกษาเรื่องน้ี เพราะอยากรู้เกี่ยววิถีชีวิตของคนอินเดีย ว่าผู้คนในอินเดียใช้ชีวิตอย่างไร และรวมถึงการดำเนิน กิจวตั รประจำวันอยา่ งไรจึงทำใหม้ ผี ตู้ ดิ เช้อื เปน็ จำนวนมาก 1.2 วตั ถุประสงค์ 1.2.1 เพ่ือใหน้ กั เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในเรื่อง Covid-19 สายพันธอุ์ นิ เดยี 1.2.2 เพื่อให้นักเรียนมีทักษะ ประสบการณ์ ในการป้องตัวจากโควิดหรือ การแพร่กระจายของเชื้อ Covid-19 1.2.3 เพื่อให้นักเรียนมีเจตคติที่ดี มีทักษะการทำงานกลุ่ม มีความรับผิดชอบ และสามารถ นำความรู้ทไ่ี ด้รบั ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ 1.3 ขอบเขตการศึกษาเรียนรู้ 1.3.1พน้ื ท่ี/สถานที่ : บ้าน 1.3.2ระยะเวลา : เดอื นพฤษภาคม - เดอื นกรกฎาคม 1.3.3ด้านเนือ้ หา : - ศึกษาเกย่ี วกบั การแพร่ระบาดของเชอ้ื Covid-19 ในประเทศอนิ เดยี - ศกึ ษาเกย่ี วกับปญั หาทีเ่ กดิ ขนึ้ จากการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในประเทศอินเดยี - ศกึ ษาเกี่ยวกับผตู้ ิดเชื้อ Covid-19 ในประเทศอนิ เดีย

2 1.4 ประโยชนท์ ไี่ ด้รับจากการศึกษาค้นคว้า 1.4.1 ทำใหท้ ราบและเข้าใจในเรอ่ื งของ Covid-19สายพันธอ์ุ นิ เดีย 1.4.2 ทำให้ได้มที กั ษะและประสบการณใ์ นการรู้จักทีจ่ ะป้องกันตัวจาก Covid-19 หรอื การแพร่กระจายของเชอื้ Covid-19 1.4.3 เป็นแนวทางในการนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างสร้างสรรค์ และอยา่ งระมัดระวงั

3 บทที่ 2 เอกสารท่เี กยี่ วข้อง โครงงานการศึกษาการแพรร่ ะบาดของเชอ้ื Covid-19 ในผูต้ ิดเชอื้ ในประเทศอินเดยี ผ้จู ดั ทำไดร้ วบรวมเนือ้ หาทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั โครงงานแบง่ ออก เป็น 9 เรอ่ื งดงั น้ี 1. ความหมายCovid 19 2. Covid-19 สายพนั ธุ์อนิ เดีย 3. ปัจจัยทที่ ำให้เกดิ Covid-19 4. การจัดการศพใประเทศอนิ เดยี จากากรติดเชือ้ covid-19 5. ความเป็นผนู้ ำท่ลี ม้ เหลวของ นเรนทรา โมดี นายกรฐั มนตรอี ินเดยี 6. การจา่ ยเงนิ เยยี วยาครอบครัวผูป้ ่วยติดเชอ้ื Covid-19 ในประเทศอนิ เดีย 7. วัคซีนทใ่ี ช้รกั ษาและวคั ซนี ทผ่ี ลิตในประเทศอินเดีย 8. เช้อื ราขาว เชือ้ ราดำ และเชือ้ ราเหลืองของผตู้ ดิ เช้ือ Covid-19 ในประเทศอินเดีย 9. วิธปี อ้ งกันการแพรร่ ะบาด 1. ความหมายของ Covid 19 คือ ไวรัสที่ถูกพบครั้งแรกในปี 1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาอย่างชัดเจนว่ามาจากที่ใด แต่เป็นไวรัสที่สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์ และสัตว์ปัจจุบันมีการค้นพบไวรัสสายพันธุ์นี้แล้ว ทั้งหมด 6 สายพันธ์ุ ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลกตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคย พบมาก่อน คือ สายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่าเป็น “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” และในภายหลัง ถูกตั้งชื่ออย่าง เป็นทางการว่า“โควิด-19”(COVID-19) นั่นเอง และไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นตระกูลของ ไวรัสที่ก่อให้อาการป่วยตั้งแต่โรคไข้หวัดธรรมดา ไปจนถึงโรคที่มีความรุนแรงมาก เช่น โรคระบบ ทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS-CoV) และโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS-CoV) เป็นต้น ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน ในมนุษย์ก่อให้เกิดอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ ในคน และสามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ โดยเชื้อไวรัสนี้พบครั้งแรกในการระบาดในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ สาธารณรฐั ประชาชนจีน ในชว่ งปลายปี 2019

4 2. covid-19 สายพันธอ์ุ ินเดีย “สายพันธุ์อินเดีย” เป็นเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พบเป็นครั้งแรกในประเทศอินเดียตั้งแต่เดือน ตุลาคมปี 2563 เชื้อไวรัสโควิด “สายพันธุ์อินเดีย” ตัวนี้มีชื่อว่า “B.1.617” จากการศึกษาทางทฤษฎี พบว่า การกลายพันธุ์ ของโควิด“สายพันธุ์อินเดีย” ในครั้งนี้อาจมีแนวโน้มทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของ วัคซีนลดลงได้ แต่ยังไม่มีการยืนยันทฤษฎี ดังกล่าวอย่างแน่ชัด ทั้งนี้ “สายพันธุ์อินเดีย” กลายพันธุ์ 2 จุด (Double Mutant) คือ E484Q และ L452R ส่งผลให้มีความสามารถในการ กระจายตัวที่สูงมากข้ึน รวมถึง“สายพันธุ์อินเดีย” กลายพันธุ์ 3 จุด (Triple Mutant Variant) เป็นชนิด B.1.618 หรือที่เรารู้จัก กันในชื่อ “โควิดสายพันธุ์เบงกอล” เกิดจากการหายไปของหนามตำแหน่ง H146 และ Y145 และมีการ กลายพนั ธ์ุในตำแหน่ง E484K และ D614G E484Q - การกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง 484 ซึ่งงเป็นการทดแทนกรดกลูตามิกเป็นกลูตามีน ทำให้ไวรัส มีศักยภาพในการจับกับตัวรับในร่างกายของมนุษย์ได้ดีขึ้น รวมถึงมีความสามารถในการหลบเลี่ยง ระบบภูมคิ มุ้ กันของรา่ งกายโฮสต์ได้ดขี ้ึน L452R - การกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง 452 ซึ่งเป็นการทดแทนลิวซีนด้วยอาร์จินีน ทำให้โปรตีนหนาม ของไวรสั แข็งแกร่งขนึ้ และทำใหค้ วามสามารถ ในการรับร้ขู องระบบภูมิค้มุ กันลดลง P681R - การกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง 681 ซึ่งเป็นการทดแทนโปรลีนด้วยอาร์จินีน อาจมีช่วยเพิ่มโอกาส การตดิ เชื้อในระดบั เซลล์ อาการของเชอื้ Covid-19 สายพนั ธอ์ุ ินเดีย ถึงแม้เชื้อโควิดจะมีหลายสายพันธุ์ แต่โดยมากแล้วอาการที่แสดงออกมามักใกล้เคียงกัน สำหรบั โควิด สายพนั ธุ์เดลต้านนั้ จะมอี าการคล้ายไข้หวดั ธรรมดา ได้แก่ ➢ ปวดศีรษะ ➢ เจ็บคอ ➢ มนี ำ้ มกู ไหล ➢ ไมค่ อ่ ยพบการสญู เสยี การรับรส ➢ เป็นอาการที่อาจสังเกตไดย้ าก หรอื อาจทำใหผ้ ู้ป่วยคดิ ไปเอง วา่ ตนเองไม่ได้ติดเชือ้ โควิดสายพนั ธ์เุ ดลตา้

5 3. ปจั จัยท่ีทำให้เกิดโรค Covid 19 1. ประชาชนที่ถูกปลดปล่อยจากมาตรการต่างๆ คือ ประชาชนที่นับถือศาสนาฮินดูร่วมเทศกาล กุมภเมลา ซึง่ เปน็ พธิ ีทางศาสนาของชาวฮนิ ดู มปี ระชาชนหลายล้านคนลงไปแชต่ ัว เพื่อล้างบาปใน แมน่ ำ้ คงคา 2. ผู้นำประเทศที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม คือ นเรนทรา โมดี (Narendra Modi) นายก รฐั มนตรีอินเดีย กอ็ อกมาเดินสายหาเสียงเลอื กตั้ง ทำใหเ้ กิดการรวมตัวของผ้คู นจำนวนมาก 3.ระบบกระทรวงสาธารณสุขของอินเดียเกิดความผิดพลาด คือ กระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถ จัดการปัญหาจากผู้ติดเชื้อได้ และทำให้มีผู้เสียชิวิตคาเตียงจำนวนมาก และยังมีคิวที่รอเผา โดยไม่ได้รับ การรกั ษาเป็นจำนวนมากเช่นกนั 4.รัฐบาลที่เพิกเฉย คือ ก่อนหน้านี้เบอร์มา มูเคอร์จี (Bhramar Mukherjee) นักชีวสถิติ แห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า“อินเดียจำเป็นต้องรีบฉีดวัคซีน ในขณะที่จำนวนผู้ป่วยมีน้อย” แตร่ ัฐบาลกลบั เลือกเพิกเฉยต่อสัญญาณ และคำเตือนเหลา่ น้ี 5.สังคมของคนในประเทศอินเดีย คือ อย่างที่เรารู้ดีว่าในอินเดียมี “ระบบวรรณะ” ซึ่งทำให้ เกิดการแบ่งชนชั้น ในสังคมตามวรรณะนั้น ๆ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่จะอยู่ในวรรณะแพศย์ หรือพ่อค้าแม่ค้า นั่นเอง ซึ่งเป็นอาชีพและวรรณะที่เยอะที่สุดในอินเดีย ทำให้ผู้คนในวรรณะนี้ จะอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วย ผู้คนที่แออดั ทำให้เสยี่ งตอ่ การตดิ เชือ้ และแพร่เช้ือไดง้ ่าย 6.อาชีพของคนอินเดีย คือ ผู้คนอินเดียอาศัยอยู่ทั่วทุกมุมโลก และเมื่อมีการระบาด ทำให้ผู้คน ต้องกลับบ้านเกิดกันมากขึ้น ซึ่งคนอินเดียคือหนึ่งในประเทศนั้น ที่ผู้คนต่างพากันกลับบ้าน ทำให้ต้อง มีการกักตัว และตรวจเชื้อก่อนเข้าประเทศ แต่ทว่าเชื้อไวรัสไม่แสดงอาการเมื่อครบ 14 วัน จึงทำให้ เป็นจดุ เปล่ียนทีท่ ำให้ตวั เลขในประเทศอนิ เดยี เพ่ิมมากข้นึ 7.นิสัยของคนอินเดีย คือ คนอินเดียมีนิสัยที่ชอบกลัว เพราะสมัยก่อนอินเดียเกิดการระบาด ของโรคต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคอหิวาตกโรค กาฬโรค ซึ่งทำให้ผู้คนในประเทศล้มตาย เป็นจำนวนมาก และเมื่อ เกิดการระบาดครั้งนี้ ผู้คนอินเดียจึงปกปิดข้อมูล เพราะกลัวจะต้องล้มตายกันอีก จึงทำใหห้ น่วยงานแพทย์ ไมส่ ามารถรูต้ ัวเลขของผตู้ ิดเช้อื ได้อยา่ งชดั เจน

6 4. การจัดการศพในประเทศอินเดยี จากการติดเชือ้ Covid-19 เมื่อตอนผู้เสียชีวิตจำนวนแรก ๆ จะถูกนำไปฝังไว้ที่ริมฝั่งของแม่น้ำคงคา เพราะเชื่อว่า แม่น้ำคงคาคือแม่น้ำที่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา แต่มันมีไม่ได้มีแค่การฝังศพเท่านั้น มีการนำศพ ไปท้ิง ในแม่น้ำคงคาอีกด้วย ซึ่งผู้คนได้รับผลกระทบ จากกลิ่นที่เน่าเหม็น และสภาาพศพที่อืดพอง แต่รัฐบาลยังเพิกเฉยและยังคงนำไปทิ้งต่อไป แต่เมื่อมีการระบาดมากขึ้น ส่งผลต่อตัวเลข ผู้เสียชีวิตจึงต้องมีการเผาศพเกิดขึ้น ซึ่งผู้ที่เผาศพส่วนใหญ่ไม่ใส่ชุด PPE เพื่อป้องกันเชื้อโรค และอัตราการเผาต่อวันสูงประมาณ 100 ศพ ซึ่งมีตู้เผาเพียงแค่ 6 -7 เตาเท่านั้นต่อรัฐ ซึ่งการเผา ในระยะนานและเยอะขนาดนี้ จึงทำให้โลหะของตู้เผาเกิดการเสื่อมและเปราะลงแล้ว ซึ่งการเผา และการฝังศพนั้นเริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปจนถึง 5 ทุ่ม และในบางรัฐ บางครอบครัว ไม่อนุญาต ใหเ้ ผาหรอื ให้ฝงั ศพ เพราะอุปกรณไ์ ม่เพยี งพอ และตามความสมคั รใจ ของครอบครัวผเู้ สยี ชีวติ นน้ั ๆ 5.ความเป็นผูน้ ำท่ีล้มเหลวของ นเรนทรา โมดี นายกรฐั มนตรีอนิ เดยี 1.ประชาสัมพันธ์ตัวเองในช่วงเวลาวิกฤต : ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 โมดีกระตือรือร้นที่จะให้ชื่อและภาพของตนไปเกี่ยวข้องกับแง่มุมเชิงบวกของมาตรการรับมือการแพร่ ระบาด เช่น ชาวอินเดียที่ได้รับการฉีดวัคซีน จะได้รับใบรับรองที่มีใบหน้าของเขา ปรากฏอยู่และประกอบ กับยอดผู้ติดเชื้อ ในการระบาดรอบแรกไม่ร้ายแรงอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญ บางคนหวาดกลัว และการที่อินเดีย สามารถผลิตวัคซีนได้เองในประเทศ จึงดูเหมือนว่าการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของอินเดีย จะเป็น ชัยชนะของโมดีในแง่ของการประชาสัมพันธ์ตัวเอง และจากข้อเท็จจริงที่ว่าประมาณ 300 ล้านคนของ ประชากร 1.3 พันล้านคนในอินเดีย เป็นผู้ที่ไม่รู้หนังสือ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาอาจไม่รู้เลยว่ากำลัง มอี ะไรเกดิ ข้นึ กับพวกเขาบา้ ง 2.ประกาศชัยชนะเร็วเกินไป : โมดีได้ออกแถลงการณ์ถึงทั่วโลก ว่าเขาเองสามารถที่จะหยุด การแพร่ระบาดของครั้งนีไ้ ด้ แต่หลังจากวนั ที่เขาแถลงมีเช้ือเพ่ิมถึง 81,000 ราย แตเ่ ขามนั่ ใจและยังคง บอกว่า สถานการณ์ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ นักการเมืองเอเชียออก มาบอกว่าโมดดี ูหยิ่งผยองกบั ส่ิงน้ี ท้งั ๆ ทีป่ ระเทศที่พฒั นาแลว้ ยงั คงต้องรับมืออย่างหนัก

7 3.ไม่ล็อกดาวน์เพราะกลัวเสียคะแนนเสียง : ระลอกแรกที่มีการระบาดเกิดขึ้น โมดีได้ประกาศ ล็อกดาวน์ ประเทศ ซึ่งเป็นมาตรการที่เข้มงวดที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เพราะเขาประกาศปิดประเทศดว้ ยตวั เลข ผู้ติดเชื้อแค่ 519 คนเท่านั้น แต่การล็อกดาวน์ครั้งนั้นยาวนาน จนส่งผลถึงค่าแรงงานรายวัน เศรษฐกิจ ของประเทศหดตัวลงเป็นประวัติการณ์ 24% ในไตรมาสที่ 2 และ GDP หดตัว โดยรวม 6.9% ในปีที่แล้ว เมอื่ เกดิ ระลอกทส่ี องเขาไม่ประกาศลอ็ กดาวน์ แตเ่ ขากำหนดให้ มมี าตรการท่ีเรียกว่า “เขตควบคุมขนาดเล็ก” (Micro Containment Zone) โดยมุ่งเน้น การบังคับใช้ข้อจำกัดต่างๆ ในพื้นที่ที่มีความน่ากังวล และขึ้นอยู่ กับแต่ละรัฐ ที่จะตัดสินใจว่า จะบังคับใช้เมื่อใดและอย่างไร ซึ่งจนถึงขณะนี้มีอย่างน้อย 8 รัฐและดินแดน ของอินเดีย ที่ประกาศลอ็ กดาวน์บางรูปแบบ ตั้งแต่เคอร์ฟิวในรัฐกรณาฏกะและคชุ ราต ไปจนถึงการล็อกดาวน์ เต็มรูปแบบในนิวเดลี สาเหตุที่โมดีไม่ประกาศล็อกดาวน์นั้นเข้าใจง่ายมาก นั่นคือ ‘ครั้งที่แล้ว การล็อกดาวน์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นความล้มเหลว’ เพราะมาตรการ ดังกล่าว สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล และสร้างความเดือดร้อนให้กับคนยากจน และเหตุผลนี้ อาจทำให้ผู้คนในอนิ เดยี ไม่เลือกเขาเป็นนายกสมยั ตอ่ ไปได้ 4.ขาดการเตรียมพร้อม : โมดีไม่ได้สนใจถึงการเตือนของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เลย ว่าพวกเขา ขาดออกซิเจนในเดือนเมษายน ปีที่แล้วและอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน แต่รัฐบาลไม่ดำเนินการใด ๆ เลย แต่การวิพากษ์วิจารณ์ถึงการขาดความพร้อม ของรัฐบาลอินเดียนั้นไม่ได้พุ่งเป้าไปที่โมดีเพียงคนเดียว แตย่ งั หมายรวมถงึ ระบบสาธารณสุข ของอินเดียที่หยดุ น่งิ มานานหลายทศวรรษกอ่ นทีโ่ มดีจะเขา้ มารับตำแหน่ง 5.เป็นแบบอย่างที่ล้มเหลว : เมื่อวันที่ 17 เมษายนมีการปราศรัยชุมนุม ก่อนการเลือกตั้งระดับรัฐ โมดีไม่สวมหน้ากากอนามัยในการเข้าร่วมครั้งนั้น การชุมนุมปราศรัยทางการเมืองยังคงจัดขึ้น ทั้งๆ ที่ประเทศอินเดียกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านสาธารณสุขและมนุษย ธรรม โดยในวันดังกล่าว อินเดีย มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 261,000 ราย ซึ่งมากกว่าทุกประเทศในโลก ความเป็นที่นิยมชมชอบ และชื่อเสียงที่ไม่ธรรมดาของโมดีนั้นหมายความว่าการกระทำของเขามีอำนาจและมีอิทธิพลต่อคนจำนวนมาก ดังนั้นการมองข้ามความเสี่ยงของการแพร่ระบาด อาจส่งผลต่อการกระทำของผู้ติดตามหลายล้านคน ทั่วประเทศ และนั่นจึงเป็นสาเหตุ ให้เมื่อช่วงต้นปีนี้ผู้คนจำนวนมากในอินเดียเลิกสวมหน้ากากอนามัย และไมม่ ีใครสนใจ ทจ่ี ะปฏบิ ัตติ ามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอีกตอ่ ไป

8 6.การจ่ายเงนิ เยียวยาครอบครวั ผู้ป่วยติดเชอ้ื Covid-19 ในประเทศอินเดีย ศาลสูงสุดของอินเดียมีคำสั่งให้ศูนย์จัดการภัยพิบัติแห่งชาติ (NDMA) ผู้รับผิดชอบการบริหาร สถานการณ์ โควิด-19 ต้องจ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้ครอบครัว ของประชาชนที่เสียชีวิตจากโรคระบาดโควิด- 19 พร้อมกันนี้ ศาลยังสั่งให้ศูนย์ NDMA จัดทำแนวนโยบายการจ่ายเงินเยียวยาประชาชนให้แล้วเสร็จภายใน 6 สัปดาห์ และต้องจ่ายในรูปแบบ 'สินไหมกรุณา' (Ex-Gratia Payment) หรือเงินสินไหมทดแทน ที่บริษัทประกัน จ่ายให้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดร้ายแรง และอยู่นอกเหนือข้อตกลงของกรมธรรม์ แต่โมดี ได้ยื่นคำร้องงต่อศาลเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อขอความเห็นใจ ว่ารัฐบาลท้องถิ่นของแต่ละรัฐไม่มีเงิน มากพอที่จะนำมาจ่ายชดเชยเยียวยา แต่จะขยาย มาตรการจัดการโรคและดูแลประชาชน ซึ่งรวมถึง การแทรกแซงการจัดการด้านสาธารณสุข และแถลงคำให้การต่อศาลว่า ขณะนี้อินเดีย มีผู้เสียชีวิตจากโควิด- 19 มากเกือบ 400,000 คน ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตมีมากเกินกว่าเงินที่รัฐบาลระดับท้องถิ่นของแต่ละรัฐ จะนำมาจ่ายชดเชยให้ได้ พร้อมระบุว่าหากต้องจ่ายเงินให้ญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งมันอาจจะต้องใช้เงิน ทั้งหมด ในกองทุนบรรเทาสาธารณภัยแห่งรัฐ ซึ่งจะทำให้แต่ละรัฐของอินเดีย ไม่มีเงินเหลือมากพอ ที่จะจัดการปัญหาโรคระบาดหรือไม่มีเงินเหลือสำหรับจัดการภัยพิบัติอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ในอนาคต โดยรัฐบาลอินเดียชี้แจงต่อศาลว่า การสาธารณสุขถือเป็น อำนาจหน้าที่ของรัฐบาลท้องถิ่นระดับรัฐ ตามบทบัญญัติที่ 7 แห่งมาตรา 246 ของรัฐธรรมนูญ อินเดีย ทั้งยังระบุว่างบที่กองทุนบรรเทาสาธารณภัย แห่งรัฐได้รับในปีงบประมาณ 2564-2565 สำหรับจัดการสาธารณภัย 12 ประเภทในทุกรัฐของอินเดียน้ัน มีทั้งหมด 221,840 ล้านรูปี หรือประมาณ 95,600 ล้านบาทเท่านั้น แต่ศาลสูงสุดปฏิเสธคำร้องขอของศูนย์ NDMA ซึ่งรัฐบาลกลางอินเดียเป็นผู้ควบคุมดูแล โดยศาลกล่าวว่าศูนย์ NDMA ไม่สามารถปฏิบัติหน้าท่ี ตามมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.ภัยพิบัติฯ ซึ่งกำหนดให้การเยียวยาและบรรเทาสาธารณภัยเป็น 'ข้อบังคับ' ที่รัฐต้องปฏิบัติตาม ไม่ใช่ 'การใช้วิจารณญาณ' โดยปัจเจก อีกทั้งกฎหมายมาตรา 12 ยังระบุว่าการจ่ายเงิน สินไหมกรุณาเป็นหนึ่งในมาตรการเยียวยาและบรรเทาสาธารณภัย ศาลจึงยืนยันคำสั่งให้รัฐบาลต้องจ่าย เงินเยียวยาและชดเชยแก่ประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมระบุว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้ องไปจัดสรรต่อ ว่าจะจ่ายเงินชดเชยให้ครอบครัวของผู้เสียชิวิตอย่างไรและเป็นจำนวนเงินเท่าไร ให้พิจารณาจากเงื่อนไข งบประมาณรายจา่ ยประจำปี และสภาพเศรษฐกจิ ในช่วงโรคระบาด

9 7.วคั ซีนทีใ่ ช้รกั ษาและวัคซนี ทผี่ ลิตในประเทศอินเดยี วัคซีนทใี่ ช้รักษา กลุ่มชาวบ้านในรัฐอุตตรประเทศของอินเดียอ้างว่าพวกตนได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดสที่ 2 ด้วยโควาซิน (Covaxin) ขณะที่โดสแรกที่ได้รับคือวัคซีนโควิชีลด์ (Covishield) ซึ่งเป็นการฉีดวัค ซีนสองเข็มที่คนละยี่ห้อกัน เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน คณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (Oxford University) รายงานผลเบื้องต้น ของการศึกษาการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบผสม ซึ่งได้รับการเผยแพร่ในวารสารแลนเซต (Lancet) โดยชี้ว่าผู้ที่ได้รับวัคซีน แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) หรือที่ในอินเดียเรียกว่าโควิชีลด์ เป็นโดสแรก และได้รับวัคซีนไฟเซอร์ ( Pfizer) เป็นโดสที่ 2 นัน้ มีผลขา้ งเคยี งในระยะส้ันกวา่ ปกติ และสว่ นใหญ่ อาการไม่รุนแรง วคั ซนี ทผี่ ลติ โดยอนิ เดยี 1.Covaxin : ได้รับการพัฒนาโดย บริษัท ภารัต ไบโอเทค (Bharat Biotech) ร่วมกับสถาบัน ไวรัสวิทยา แห่งชาติอินเดีย สามารถต่อต้านเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ย่อย 617 หรือ “สายพันธุ์อินเดียได้” ที่ใช้เทคนิค เชื้อตาย (Inactivated vaccines) ซึ่งผลิตมาจากไวรัสซาร์ส-โควี-2 (SARS-CoV-2) ที่ถูกทำให้ตายแล้ว ด้วยสารเคมีหรือความร้อน เมื่อฉีดเข้าไป ในร่างกายจะกระตุ้นให้ร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส เป็นเทคนิคที่เคยใช้ กับการผลิตวัคซีนตับอักเสบเอ หรือวัคซีนโปลิโอ (ชนิดฉีด) มาแล้ว และเป็นวัคซีน ที่ใช้เทคนิค เดียวกันกับวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) ของประเทศจีน สำหรับ ประสิทธิภาพของวัคซีนโควาซินนั้น รายงานอย่างเป็นทางการของรัฐบาลอินเดีย ภายหลังการอนุมัติ ให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา พบว่า วัคซีนโควาซินมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด- 19 ไดป้ ระมาณ 78 เปอร์เซ็นต์ 2. Covishield : ของบริษัท แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ผ่านสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (Serum Institute of India) หรือ SII หนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของโลก และสามารถ ผลิตวัคซีนได้มากกว่า 60 ลา้ นโดสต่อเดอื น

10 8.เช้อื ราขาว เชอ้ื ราดำ และเชอ้ื ราเหลืองของผู้ตดิ เชอื้ Covid-19 ในประเทศอินเดีย ราขาว วันที่ 1 มิถุนายน 2564 อินเดียประกาศว่าพบผู้ป่วยโควิด ติดเชื้อ “ราขาว” หรือแดนดิรา ออรีส ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต และยังดื้ออยู่ในกระแสเลือดผู้ป่วยชาวอินเดียที่หายจากโควิด-19 หลายรายมากยิ่งข้ึน โดยมักพบแผลดังกล่าว บริเวณหลอดอาหารซึ่งส่งผลให้กลืนอาหารลำบาก นอกจากนี้ยังพบรอบสีขาว ได้ทั่วไปในปากของผู้ป่วย และพบที่เมืองโกลกัตตาในการระบาดระลอก 2 สาเหตุอาจมาจากผู้ป่วย ที่มีอาการวิกฤตจากโควิด-19และต้องรักษาด้วยสเตียรอยด์ที่มีผลลดภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ติดเชื้อราได้ง่ายกว่าปกติ ทั้งนี้ ราขาวทำให้เกิดการติดเชื้ อ ในกระแสเลือดเกิดขึ้นบ่อยที่สุด ในหอผู้ปว่ ยวกิ ฤต หรือไอซยี ู ทั่วโลก ราดำ วันที่ 10 มิถุนายน 2564 ประเทศอินเดียพบคนป่วยด้วยโรคติดเชื้อราดำมากกว่า 28,000 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 250 คนแล้ว พบที่บริเวณโพรงจมูก ไซนัส ลุกลามเฉียบพลันเข้ากระดูก เบ้าตา และสมองในคนที่กำลังป่วยหรือหายป่วยจากโรคโควิด-19 ซึ่งเชื้อราดำ เป็นสิ่งมีชีวิต อยู่ในสิ่งแวดล้อมทั่วไป เชื้อราดำจะปล่อยสปอร์ ล่องลอยอยู่ในอากาศ เมื่อคนหายใจเอาสปอร์ ของเชื้อราดำเข้าไปในโพรงอากาศ ในจมกู และไซนสั เช้อื ราจะเจริญเติบโตงอกงาม อยา่ งรวดเร็วในคนทเี่ ปน็ เบาหวาน และภมู ิต้านทานต่ำ นอกจากนี้แล้วประเทศอินเดียกำลังขาดแคลนออกซิเจนที่ใช้ในทางการแพทย์อย่างหนัก คนอินเดีย จำนวนมากป่วยเป็นปอดอักเสบ ออกซิเจนในเลือดต่ำ ไม่มีทางเลือก ต้องหันไปใช้ถังออกซิเจนที่ใช้ในทาง อุตสาหกรรมซ่ึงไม่แน่ใจในความสะอาด อาจมีเชื้อราดำปนเปื้อนได้ นอกจากนี้เวลาใช้ออกซิเจนต้องให้ ก๊าซออกซิเจนผ่านน้ำเพื่อเพิ่มความชื้น น้ำที่ใช้ ต้องเป็น น้ำสะอาดปราศจากเชื้อโรค ถ้าน้ำไม่สะอาด อาจเป็นตัวนำเชื้อราดำเข้าจมูกและไซนัสอีกทางหนึ่ง การรักษาโรคติดเชื้อราดำยากมาก ต้องให้ยาฆ่าเชื้อรา ทางเส้นเลอื ดเปน็ เวลานาน บางคนตอ้ งผา่ ตดั กระดูก และเอาลกู ตาออก ผปู้ ่วยตดิ เช้อื ราดำ มีอตั ราการเสียชวี ิต สูงมาก สาเหตุสำคัญของการตดิ เชอื้ ราดำในคนอนิ เดยี ช่วงนี้ คอื ● ตดิ เช้ือไวรสั โควดิ -19 ● เป็นโรคเบาหวาน ● การให้สเตียรอยด์เพ่อื ลดการอกั เสบของปอดจากโรคไวรสั โควดิ -19 ถ้าให้ขนาดสงู และเปน็ เวลานาน มผี ลเสยี ทำใหน้ ำ้ ตาลในเลอื ดข้นึ สงู และภมู ิต้านทานตำ่ เหมาะกับการเจรญิ เติบโตของเชื้อราดำ

11 ราเหลอื ง กระทรวงสาธารณสขุ อนิ เดียยืนยันว่า เช้ือราสีเหลอื งนี้ ถอื เปน็ เชอ้ื ราท่มี อี ันตราย มากกวา่ เช้ือราสีดำ และมีโอกาสที่ผู้ติดเชื้อราสีเหลือง อาจเสียชีวิต มากถึงร้อยละ 96-97 จนถึงขณะนี้มีการยืนยัน ว่าพบผู้ติดเชื้อ ราสีเหลืองนี้แล้วอย่างน้อย 1 รายซึ่งเข้ารับการตรวจแล้ว แต่คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อรา สีเหลืองที่ยังตรวจไม่พบ อีกเป็นจำนวนมาก สำนักข่าว Times of India รายงานอ้างผู้เชี่ยวชาญว่า \"เชื้อราเหลือง\" นี้ไม่ได้พบบ่อยนกั จึงยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน 100% ของโรคนี้ แต่สาเหตุเบื้องต้นของการติด \"เชื้อราเหลือง\" เกิดจากสุขอนามัย ที่ไมส่ ะอาด, การปนเป้อื นในทรพั ยากรที่เราดม่ื -กนิ เชน่ อาหาร หรือแม้กระท่งั การใช้ ยาสเตยี รอยดใ์ นปริมาณ มาก ๆ รวมถึงการใชย้ าต้านเชื้อแบคทีเรีย อาการต่าง ๆ ของการติด \"เช้ือราเหลือง\" นนั้ มีตง้ั แต่ - เซื่องซึม โดยเมื่อมันแพร่ไปในร่างกาย โดยมันจะไปเน้นที่อวัยวะสำคัญ ๆ ทำให้ผู้ป่วยไม่มีกำลัง ทำให้แสดงอาการเซอื่ งซึม เหนือ่ ยลา้ และอ่อนเพลยี - ไม่อยากอาหาร จะสง่ ผลกระทบต่อระบบย่อยอาหาร ทำใหผ้ ู้ปว่ ย จะเรมิ่ แสดงอาการ ไมอ่ ยากอาหาร - น้ำหนักลด/ระบบเผาผลาญพัง เบื้องต้นแพทย์ชี้ว่าน่าจะเป็นอาการของโรคนี้ด้วย โดยน้ำหนัก ที่ลดลง อย่างผิดปกติ อาจเปน็ สัญญาณของผตู้ ดิ เชอื้ ราเหลอื ง และจำเป็น ต้องเร่งเขา้ รบั การรักษาโดยเร็ว รักษาอยา่ งไร? \"เชื้อราดำ\" หรือเชื้อราชนิดอื่น ๆ จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วย Amphotericin B ที่เป็นยาต้าน เชื้อรา ยังคงเปน็ หนทางเดียวทใ่ี ช้ในการรกั ษาการติดเช้อื นี้ ความเสี่ยงที่สุดในการติดเชื้อรา ไม่ว่าจะสีใดก็ตามแต่ คือกลุ่มคนที่มีระดับ \"น้ำตาล\" ในเลือดสูง หรือการป่วย เป็น \"เบาหวาน\" โดยโรคเบาหวานทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง และยับยั้ง ภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกท้ัง ระดับกลูโคสที่สูง ยังช่วยให้เชื้อราเข้าสู่ร่างกาย และแพร่ไป ทั่วร่างกายได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิด ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง อีกทั้งคนป่วยเบาหวาน ยังเกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ง่าย และแผลที่ผิวหนัง กท็ ำใหเ้ ชือ้ ราเขา้ รา่ งกายได้งา่ ยข้นึ

12 9.วิธปี อ้ งกนั การแพร่ระบาด 1. สวมหนา้ กากอนามยั ทุกคร้ังเมอ่ื อยใู่ นทสี่ าธารณะ 2. ระมัดระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด และอาจมีเชื้อโรคเกาะอยู่ รวมถึงสิ่งที่มีคน จับบ่อยครั้ง เช่น ที่จับบน BTS, MRT, Airport Link ที่เปิด-ปิดประตูในรถ กลอนประตูต่าง ๆ ก๊อกน้ำ ราวบันได ฯลฯ เมื่อจับแล้วอย่าเอามอื สัมผัสหนา้ และขา้ วของเครื่องใชส้ ว่ นตัวตา่ ง ๆ เชน่ โทรศัพทม์ อื ถือ กระเป๋า ฯลฯ 3. ล้างมือให้สม่ำเสมอด้วยสบู่ หรอื แอลกอฮอล์เจล อย่างนอ้ ย 20 วนิ าที ความเข้มข้น ของแอลกอฮอล์ ไมต่ ่ำกว่า 70% (ไม่ผสมน้ำ) 4. งดจับตา จมกู ปากขณะท่ไี มไ่ ดล้ า้ งมือ 5. หลีกเลย่ี งการใกล้ชิด สัมผัสสตั ว์ตา่ ง ๆ โดยที่ไม่มีการปอ้ งกัน 6. รับประทานอาหารสุก สะอาด ไมท่ านอาหารทที่ ำจากสัตว์หายาก 7. สำหรบั บุคลากรทางการแพทยห์ รอื ผทู้ ี่ต้องดูแลผูป้ ว่ ยที่ติดเชือ้ ไวรสั โคโรนาสายพันธุใ์ หม่ หรือโควิด- 19 โดยตรง ควรใส่หน้ากากอนามัย หรือใส่แว่นตานิรภัย เพื่อป้องกันเชื้อในละอองฝอยจากเสมหะ หรอื สารคดั หล่ังเข้าตา 8.หลีกเล่ยี งการใกลช้ ิดกับผู้ป่วยทมี่ ีอาการไอ จาม น้ำมกู ไหล เหนื่อยหอบ เจบ็ คอ 9. หลกี เลย่ี งการเดินทางไปในพื้นทีเ่ ส่ียง

13 บทที่ 3 ขน้ั ตอนการดำเนินงาน โครงงานการศึกษาการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ อินเดีย มวี ธิ กี ารดําเนินโครงงานตามข้ันตอนต่อไปน้ี 1.วัสดุ เคร่ืองมอื และอปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการศกึ ษา 1.1 เคร่อื งคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊ค พรอ้ มเช่อื มตอ่ เครอื ขา่ ยอินเตอรเ์ นต็ จำนวน 6 เครอื่ ง 1.2 โทรศพั ท์มอื ถอื จำนวน 6 เครื่อง 2. ขัน้ ตอนการดำเนนิ งาน 2.1 สมาชิกในกลุ่มช่วยกันตั้งประเด็นปัญหาหรือหัวข้อที่สนใจจากนั้น ระดม ความคิด และเขียนเค้าโครงและกรอบโครงงาน 2.2 สมาชิกในกลุ่มแบง่ กนั หาข้อมลู ตามหวั ขอ้ ที่ได้รบั มอบหมาย 2.3 นำข้อมูลของสมาชกิ ทกุ คนมารวมกนั และนำมาทำรูปเลม่ ในรูปแบบของโครงงาน 2.4 นำข้อมลู ที่รวบรวมเสรจ็ แล้วไปนำเสนอหรือเผยแพร่ขอ้ มลู ของโครงงานน้ี 2.5 เขยี นสรปุ ผลการศกึ ษาเร่ืองการแพรร่ ะบาดของเชอ้ื Covid-19 ในผู้ตดิ เช้อื ในประเทศอินเดีย 3. แผนการดำเนนิ งาน ระยะเวลา รายการท่ีตอ้ งปฏบิ ตั ิ ผู้รบั ผิดชอบ ผ้เู กีย่ วขอ้ ง 21 พค. -4 มิย.64 1. การกำหนดปญั หา จิรกิตต์ิ สมาชกิ ในกลมุ่ 8 มยิ . -15 กค.64 และหัวข้อการศึกษาคน้ คว้า ครทู ป่ี รึกษา 2.ศกึ ษาค้นควา้ หาเอกสารอ้างองิ และงาน ณฐั กติ ติ์ สมาชิกในกลมุ่ 1-16 กค.64 วจิ ยั ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง สรยุทธ์ ครทู ีป่ รึกษา นิติธร 3.การเขยี นเค้าโครงโครงงาน ณัฐกิตต์ิ สมาชกิ ในกลมุ่

17 กค. - 10 สค. 64 4. ทำบทที่ 1 และบทที่2 นิติธร 14 รวบรวมเอกสารทเ่ี ก่ยี วข้อง ณัฐวดี สรยทุ ธ์ ครูที่ปรกึ ษา 11 - 20 สค. 64 5.ทำบทที่ 3 ขนั้ ตอนการดำเนินงาน วริ วัฒน์ 20 สค. - 3 กย. 64 และทำบรรณานุกรม สรยทุ ธ์ สมาชิกในกลมุ่ 3 - 5 กย. 64 6. ทำบทที่ 4 และบทท่ี 5 ณัฐวดี ครทู ปี่ รึกษา และรายละเอยี ดทั้งหมด 7.ทำบทคดั ยอ่ และ สารบัญ ณฐั กิตติ์ สมาชกิ ในกลมุ่ และรวบรวมทำรูปเลม่ วริ วัฒน์ ครูทป่ี รึกษา จริ กิตต์ิ สมาชิกในกลมุ่ นิตธิ ร ครูท่ีปรึกษา จิรกิตติ์ สมาชิกในกลมุ่ ณัฐกติ ต ครูที่ปรึกษา นิตธิ ร ณฐั วดี สรยุทธ์ วริ วฒั น์ งบประมาณ ประมาณการค่าใชจ้ ่ายในการค้นคว้าอิสระทั้งสิน้ - บาท (เนื่องจากเปน็ การทำโครงงานออนไลนจ์ ึงไมเ่ สียคา่ ใชจ้ า่ ย) ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รบั ผลการศึกษาค้นคว้าครัง้ นี้ คาดว่าจะก่อให้เกิดประโยชนด์ ังนี้ 1. ทำใหท้ ราบและเข้าใจในเรอ่ื งของ Covid-19สายพันธุ์อนิ เดีย 2. ทำให้ได้มีทักษะและประสบการณ์ในการรู้จักที่จะป้องกันตัวจาก Covid-19 หรือการแพร่ กระจายของเชือ้ Covid-19 3. เป็นแนวทางในการนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่าง สร้างสรรค์ และอยา่ งระมดั ระวงั

15 บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน 4.1 ผลการดำเนินงาน การจัดทำโครงงานการศึกษาการการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในผู้ติดเชื้อในประเทศ อินเดีย มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่อง Covid-19 สายพันธุ์อินเดีย และเพื่อให้นักเรียนมีทักษะ ประสบการณ์ ในการป้องกันตัวเองจากโควิด หรือการแพร่กระจาย ของเช้ือ Covid-19 ผจู้ ดั ทำได้ดำเนินงานตามจดุ ประสงค์ ดงั น้ี 4.1.1 เพื่อใหน้ ักเรยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจ ในเร่อื ง Covid-19 สายพนั ธอ์ุ ินเดยี 4.1.2 เพื่อให้นักเรียนมีทักษะ ประสบการณ์ ในการป้องตัวจากโควิด หรือการแพร่กระจาย ของเช้ือ Covid-19 4.1.3 เพื่อให้นักเรียนมีเจตคติที่ดี มีทักษะการทำงานกลุ่ม มีความรับผิดชอบ และสามารถ นำความรู้ทีไ่ ดร้ บั ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์ 4.2 บันทึกผลและการดำเนนิ งาน ลำดับที่ ขนั้ ตอนการดำเนนิ งาน ปัญหาอปุ สรรค /แนวทางแก้ไข 1 ข้ันวางแผน 1.ศกึ ษาและหาขอ้ มลู ปญั หา/อปุ สรรค 2.นำเสนอหัวขอ้ โครงงาน การคดิ หวั ขอ้ โครงงาน 3.ส่งแบบร่างโครงงาน นัน้ มผี ลสรปุ ออกมาไมเ่ หมือนกัน จากสมาชิกในกลมุ่ แนวทางการแก้ไข สมาชิกไดต้ กลงกัน และทำการโหวตหัวข้อ และเลอื กหัวขอ้ จากเสียงสว่ นมาก จากสมาชกิ ภายในกลุม่

16 2 ช้นั เตรยี ม ปัญหา/อุปสรรค 1.จัดหาอุปกรณ์ในการทำโครงงาน 1.อปุ กรณข์ องสมาชกิ ภายในกลมุ่ บางคน 2.ทดลองการทำโครงงาน มปี ัญหา 2.ไมม่ สี ญั ญาณอินเตอรเ์ นต็ แนวทางการแก้ไข 1.งานในส่วนของคนที่มปี ญั หา ให้สมาชิกคนอนื่ ในกลุ่มช่วยทำและรวบรว มขอ้ มูล เม่อื แกป้ ญั หาไดใ้ ห้คนท่ีรบั ผดิ ชอบงานมาท ำงานในสว่ นทีย่ งั เหลืออยู่ 3 ข้นั ดำเนินการ ปัญหา/อุปสรรค 1.กำหนดปญั หาและหัวข้อการศกึ ษาค้นคว้า การคน้ ควา้ หางานวจิ ยั ทเี่ กี่ยวข้องท่เี ผยแพ 2.ศึกษาค้นควา้ หาเอกสารอา้ งอิงและงานวจิ ัยท่ี รใ่ นประเทศไทยไมม่ ากพอ เกี่ยวข้อง 3.เขยี นเคา้ โครงโครงงาน แนวทางแก้ไข 4.ทำบทที่ 1-5 ศึกษาจากงานวจิ ยั ท่ีเก่ียวข้องจากเวบ็ ไซต์ต่ 5.รวบรวมรูปเล่ม างประเทศ 4 ขั้นประเมนิ ผล ปญั หา/อปุ สรรค 1.ตรวจสอบโครงงาน ไมม่ ีสมาชิกในกลุ่มอยากนำเสนอ 2.บันทกึ ผล สรุปผล 3.นำเสนอโครงงาน แนวทางการแกไ้ ข ให้สมาชิกในกลุม่ เสนอชื่อและถามความสมั ครใจของผทู้ ่ีถกู เสนอชอื่ อกี คร้ัง

17 บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สรุปผลการศึกษา จากการจัดทำโครงงานการศึกษาการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในผู้ป่วยติดเชื้อ ในประเทศ อินเดีย ทำให้สรุปผลจากการสมมติฐานได้ว่าการฝังศพผู้เสียชีวิตจากโรค Covid-19 สายพันธุ์อินเดียไม่ได้ ฝังที่สุสาน แต่ฝังที่ริมแม่น้ำคงคา วัคซีนในประเทศก็มีไม่เพียงพอ และปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มข้ึน ก็มาจากการใช้ชวี ิตของคนอนิ เดยี ทล่ี ะเลยจากมาตรการของรัฐบาล เชน่ กัน อภิปรายผล ในทุกๆ วันจะมีข้อมูลข่าวสารต่างๆ มากมาย เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์อินเดีย ซึ่งเราจะต้องอ่านข่าว คิดวิเคราะห์ตาม และต้องมั่นใจในเรื่องของแหล่งที่มา ว่าเป็น ข้อเท็จจริง ดังนั้นถ้าข้อมูลนั้นเป็นจริงก็แสดงว่า สมเหตุสมผล ตามหลักความเป็นจริง แต่ถ้าข้อมูลนั้น ไมเ่ ป็นจริงกแ็ สดงวา่ ไม่สมเหตุสมผล ประโยชน์ทีไ่ ด้รบั 1. ทำใหท้ ราบและเข้าใจในเรอื่ งของ Covid-19สายพนั ธ์ุอินเดีย 2. ทำให้ได้มีทักษะและประสบการณ์ในการรู้จักที่จะป้องกันตัวจาก Covid-19 หรือ การแพร่ กระจายของเช้ือ Covid-19 3. เป็นแนวทางในการนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างสร้างสรรค์ และอย่างระมดั ระวงั ขอ้ เสนอแนะ 1. ควรนำเสนอในเว็บไซตห์ รือ web blog ใหผ้ ทู้ ี่สนใจหรือสงสยั เข้ามาศกึ ษาได้ 2. ควรแทรกข้อมลู เกี่ยวกับ Covid-19 ใหม้ ากข้นึ

18 บรรณานุกรม ใชเ้ อกสารที่เกี่ยวข้องกบั การค้นคว้าอสิ ระในครง้ั น้ดี ังน้ี ควบคุมโรค,กรม . โรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา่ 2019 (COVID-19). 2563. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2564 . จาก https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/contact.php ศูนย์การแพทย์การญจนาพิเษก. covid-19 และวธิ ีป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 สายพันธอ์ุ ินเดีย สบื คน้ เมือ่ วนั ท่ี 22 มถิ ุนายน 2564 จาก https://www.gj.mahidol.ac.th/main/covid19/covid19is/ B B C New.ไทย. โควิด-19 : การจัดการศพในประเทศอินเดยี จากการติดเช้ือ Covid-19 2563. สบื ค้นเม่อื 22 มิถุนายน 2564 .จาก https://www.bbc.com/thai/international-57170963 โรงพยาบาลเพชรเวช. อาการของเชื้อโควิด19สายพนั ธ์อนิ เดีย สบื ค้นเมอ่ื วันที่ 22มถิ นุ ายน 2564. จาก https://www.petcharavejhospital.com/th/Delta-strain-of-Covid PPT .HD 36. รายละเอยี ด โควดิ -19 สายพันธุ์อนิ เดยี “B.1.617” สืบคน้ เม่ือวนั ท่ี 22 มถิ นุ ายน 2564 จาก https://www.pptvhd36.com/news/145886 The matter. ปัจจยั ท่ที ำใหอ้ นิ เดยี มโี ควิดมากข้นึ สืบค้นเมอ่ื วนั ที่ 22 มิถนุ ายน 2564 จาก https://thematter.co/brief/141218/141218 THE STANDARD. ความเปน็ ผู้นำท่ลี ้มเหลวของ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรอี ินเดยี สบื ค้นเมื่อวันท2ี่ 2มิถนุ ายน 2564 จาก https://thestandard.co/india-failed-leader-lesson-off-narendra-modi/

19 กรงุ เทพธุรกจิ . การแพรร่ ะบาดของเช้อื Covid-19 สายพนั ธ์ุอินเดีย สบื ค้นเมอื่ 22มถิ นุ ายน 2564 จาก https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/937112 ประชาไท/ขา่ ว. การจ่ายเงนิ เยยี วยาครอบครัวผูป้ ว่ ยติดเช้อื Covid-19 สบื ค้นเมอ่ื 22 มถิ นุ ายน 2564 จาก https://prachatai.com/journal/2021/07/93759 Khaosod Online. ราขาว สืบค้นเมือ่ 21 กรกฎาคม 2564 จาก https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_6430102 ไทยรฐั ออนไลน์. ราดำ สืบค้นเมอื่ 21 กรกฎาคม 2564 จาก https://www.thairath.co.th/news/local/2113990 TNN.ONLINE.ราเหลอื ง สบื คน้ เมอ่ื 21 กรกฎาคม 2564 จาก https://www.tnnthailand.com/news/covid19/80883/ คมชดั ลกึ .ศกึ ษาข่าว.ตดิ เชื้อราเหลอื งมอี าการอย่างไร สืบค้นเม่อื 21 กรกฎาคม 2564 จาก https://www.komchadluek.net/news/regional/468237 มหาวิทยาลยั มหิดล. คณะแพทยศาสตร์ศริ ิราชพยาบาล. ศูนย์การแพทย์กาญจนาพเิ ษก วธิ ปี อ้ งกนั การแพรร่ ะบาด สืบคน้ เมือ่ 21 กรกฎาคม 2564 จาก https://www.gj.mahidol.ac.th/main/covid19/covid19is/