Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือผู้รับบริการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยด้านค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม

คู่มือผู้รับบริการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยด้านค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม

Published by Kanticha Poomee, 2019-06-18 03:14:44

Description: ฐาน นักสืบสายน้ำ

Search

Read the Text Version

คำนำ คู่มือผู้รับบริการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยด้านค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เป็นเอกสารสาหรับให้ผู้รับบริการปฏิบัติกิจกรรมท่ีกาหนดไว้ในฐานการเรียนรู้ค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้รับบริการมีสมรรถนะด้านค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ สิ่งแวดล้อม ได้เรียนรู้ในองค์ความรู้และทักษะทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สามารถนามาแก้ปัญหาในชีวิต จริง ผ่านกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและส่งิ แวดล้อม ซง่ึ กิจกรรมการศกึ ษาตามอธั ยาศัยด้านค่าย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดล้อม จะเป็นกิจกรรมท่ีทดสอบความรู้ความเข้าใจ และฝึกทักษะ ประสบการณ์ที่จาเป็นในฐานการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีสนกุ สนานและท้าทายซ่ึงจะช่วยสง่ เสรมิ ให้ผู้รบั บรกิ ารมีศกั ยภาพในการเรียนรู้เพมิ่ ข้ึน โดยกจิ กรรม จะ ประกอบดว้ ยแบบทดสอบก่อนเรยี น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ท่ีเกิดจากการทางานร่วมกนั ในการรวบรวม ค้นหา ข้อมูล สรรหาและเลือกวิธีการแกป้ ัญหา จนเกิดองค์ความรู้ท่ีสามารถแก้ปัญหาในกิจกรรมได้ตามเงอ่ื นไขและ ข้อจากัดต่าง ๆ ภายใต้การอานวยความสะดวกของผู้จัดกิจกรรม ทั้งน้ี ผู้รับบริการจะปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั ฐานการเรียนรู้คา่ ยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละสิ่งแวดล้อม และกจิ กรรมทกี่ าหนดจะมีเฉลยแนว คาตอบให้ผรู้ บั บริการได้ตรวจสอบไดด้ ้วยตนเอง และแบบทดสอบหลงั เรยี นพร้อมเฉลยคาตอบ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพ่ือการศึกษาสระแก้วหวังว่า คู่มือผู้รับบริการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย ดา้ นคา่ ยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสงิ่ แวดล้อม จะเป็นประโยชน์ตอ่ ผู้รบั บริการ เมื่อผูร้ ับบริการได้เรยี นรู้จาก คู่มือดังกล่าว พร้อมได้ทดสอบและปฏิบัติกิจกรรมตามคาแนะนาในเอกสารอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนแล้ว ผ้รู ับบริการจะประสบความสาเร็จในการเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมจากฐานการเรียนรูไ้ ดอ้ ยา่ งมีคณุ ภาพ (นางยวุ ดี แจง้ กร) ผอู้ านวยการศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พือ่ การศึกษาสระแก้ว พฤษภาคม 2562

คำชแ้ี จง กำรใชค้ ู่มอื ผู้รบั บริกำรกิจกรรมกำรศึกษำตำมอัธยำศยั ดำ้ นค่ำยวทิ ยำศำสตร์ เทคโนโลยแี ละส่ิงแวดล้อม คู่มือผู้รับบริการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยด้านค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดล้อมน้ี จัดทาขึ้นเพ่ือให้ผู้รับบริการได้ใช้ประกอบกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ค่ายค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ซง่ึ ประกอบไปดว้ ย ฐานการเรยี นรู้ จานวน 8 ฐาน ได้แก่ ฐานการเรยี นรู้ที่ 1 ดาราศาสตร์ ฐานการเรยี นรทู้ ี่ 2 แรงและการเคลื่อนท่ี ฐานการเรียนรู้ท่ี 3 เปิดโลกพลังงานเพอ่ื ชีวติ ฐานการเรียนรทู้ ่ี 4 สารเพ่ือชีวติ ฐานการเรยี นรู้ที่ 5 โลกใต้เลนส์ ฐานการเรียนรทู้ ี่ 6 โลกและการเปลยี่ นแปลง ฐานการเรียนรู้ท่ี 7 นกั สืบสายนา้ ฐานการเรยี นรู้ท่ี 8 ระบบนเิ วศ คู่มือผู้รับบริการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยค่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดล้อมน้ี กาหนดให้ผรู้ บั บริการปฏบิ ตั ิดังนี้ 1. ให้ผู้รับบริการทาแบบทดสอบก่อนเรียนตามท่ีแต่ละฐานการเรียนรู้กาหนด เพื่อให้ ผู้รับบริการทราบความรู้พื้นฐานของคนในเรื่องที่จะเรียนรู้ตามฐานการเรียนรู้ และตรวจคาตอบจากเฉลย แบบทดสอบท้ายกจิ กรรมการเรยี นรู้ 2. ให้ผู้รบั บริการปฏิบัติกิจกรรมตามทีฐ่ านการเรยี นรกู้ าหนด ได้แก่ การแลกเปล่ียนเรียนร้รู ่วมกัน การออกแบบและทากิจกรรมตามท่ีกาหนด ซึ่งผู้รับบริการสามารถตรวจคาตอบจากเฉลยแนวคาตอบ หากผู้รับบริการทากิจกรรมไม่ถูกต้องให้กลับไปทบทวนเน้ือหาสาระในเร่ืองนั้นให้เข้าใจหลังทากิจกรรม การเรียนรู้ซ้าอีกครั้งจนถกู ตอ้ ง 3. เม่ือผู้รับบริการทากิจกรรมการเรียนรู้ครบทุกฐานการเรียนรู้แล้ว ให้ทาแบบทดสอบหลังเรียน และตรวจคาตอบจากเฉลยแบบทดสอบท้ายกิจกรรมการเรยี นรู้ ในการทากิจกรรมฐานการเรยี นรู้ค่ายวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดล้อมน้ี ผรู้ บั บริการ จะตอ้ งทากจิ กรรมให้ครบถว้ นทกุ กิจกรรมของฐานการเรียนรู้ เพอื่ ให้การเรียนรู้ของผู้เรียนมีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล บรรลุวัตถุประสงค์ของแต่ละฐานการเรียนรตู้ ามคู่มือผู้รับบริการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย ด้านคา่ ยวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละส่งิ แวดล้อม

สารบัญ หนา้ คานา ก คาชี้แจงการใช้คูม่ ือ ข สารบญั ค ฐานการเรยี นรูท้ ่ี 7 นกั สืบสายน้า 1 1 กิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง นักสืบสายนา้ 3 กจิ กรรมการทดสอบก่อนเรียน เรอื่ ง นักสบื สายนา้ 4 กิจกรรมการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ เร่ือง นกั สบื สายน้า 5 กจิ กรรมเร่ืองนกั สืบสายน้า 13 กจิ กรรมแบบทดสอบหลงั เรียน เรอ่ื ง นักสบื สายน้า 14 กจิ กรรมการประเมนิ ความพึงพอใจของผรู้ บั บรกิ าร เรื่อง นกั สบื สายนา้ 15 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 15 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน

1 ฐานการเรียนรู้ที่ 7 เรอื่ ง นกั สบื สายนา้

2 แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 7 เรื่อง นกั สืบสายนา้ เวลา 2 ชว่ั โมง แนวคิด น้ำ เป็นทรัพยำกรที่ส้ำคัญต่อกำรด้ำรงชีวิตของมนุษย์และส่ิงมีชีวิตทุกชนิด มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์จำก แหล่งน้ำธรรมชำติ เพ่ือกำรอุปโภค บริโภค กำรเกษตรกรรม กำรประมง กำรอุตสำหกรรม และกำรคมนำคม ในลำ้ น้ำจะมีสง่ิ มชี ีวติ หลำยชนิดอำศยั อยู่ เมื่อเรำศึกษำค้นควำ้ ทดลอง จะพบว่ำสัตว์น้ำจดื ที่ไม่มกี ระดูกสันหลัง ขนำดเล็กสำมำรถใช้เป็นดัชนีบ่งชีคุณภำพของน้ำได้ดว้ ย วตั ถุประสงค์ เมื่อสนิ สดุ แผนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้นีแล้ว ผู้รับบรกิ ำรสำมำรถ 1. ผู้รบั บริกำรอธิบำยควำมหมำย และประโยชน์ของแหล่งนำ้ ได้ 2. ผรู้ บั บรกิ ำรทดลองใช้สัตว์นำ้ จืดทไี่ ม่มีกระดูกสันหลงั ขนำดเลก็ เป็นดัชนีบง่ ชีในกำรวดั คุณภำพนำ้ 3. ผู้รับบรกิ ำรตรวจคุณภำพของแหลง่ น้ำ 4. ผรู้ ับบริกำรเห็นควำมส้ำคัญของแหลง่ นำ้ เนือหา 1. แหล่งน้ำ 1.1 ควำมหมำย และประโยชน์ของแหล่งนำ้ 1.2 ปญั หำของแหลง่ น้ำ 1.3 ผลกระทบของน้ำเสยี ต่อส่งิ แวดล้อม 1.4 กำรอนรุ ักษ์แหลง่ น้ำ 2. กำรใช้สัตวน์ ้ำจดื ที่ไม่มกี ระดกู สันหลงั ขนำดเลก็ เป็นดัชนีบ่งชีคณุ ภำพนำ้ 2.1 ควำมหมำยของดชั นีคุณภำพน้ำ 2.2 ตัวอยำ่ งสตั วท์ ไ่ี ดร้ ับผลกระทบจำกคณุ ภำพน้ำ 2.3 กำรตรวจวดั คณุ ภำพน้ำทำงชีวภำพ 3. กำรตรวจคุณภำพน้ำ 3.1 ทำ้ ไมต้องตรวจคุณภำพนำ้ 3.2 คุณภำพนำ้ บอกอะไร ขันตอนการปฏิบัตกิ ิจกรรมของผ้รู ับบริการ กิจกรรมการทา้ แบบทดสอบก่อนเรียน เรอื่ ง นักสบื สายนา้ คา้ ชแี จง ใหผ้ ้รู ับบรกิ ำรทำ้ แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรื่อง นกั สืบสายนา้ ซึง่ มีขอ้ สอบทงั หมดจำ้ นวน 5 ขอ้

3 (เม่อื ผรู้ ับบริกำรทำ้ แบบทดสอบเสร็จเรียบรอ้ ยแล้ว ผรู้ ับบรกิ ำรสำมำรถตรวจค้ำตอบได้ตำมเฉลยคำ้ ตอบท้ำย กิจกรรม) แบบทดสอบกอ่ นเรยี น คะแนนทไ่ี ด.้ .............คะแนน เรอ่ื ง นกั สืบสายนา้ คะแนนเต็ม 5 คะแนน คา้ ชแี จง 1. ให้ผ้รู ับบริกำรกำเครื่องหมำย X (กำกบำท) หน้ำข้อทีถ่ ูกต้องเพียงข้อเดียว 2. แบบทดสอบนีมีข้อสอบจำ้ นวน 5 ข้อ ๆ ละ 1 คะแนน 3. เมื่อผรู้ ับบริกำรท้ำแบบทดสอบเสร็จเรยี บร้อยแลว้ ผู้รับบรกิ ำรสำมำรถตรวจค้ำตอบได้ตำมเฉลย คำ้ ตอบทำ้ ยกิจกรรม 1. ลักษณะทำงกำยภำพของแหลง่ นำ้ ทีจ่ ะส้ำรวจ ควรดจู ำกอะไร ก. สี อณุ หภมู ิ ควำมเร็วของน้ำ ข. ควำมอดุ มสมบูรณข์ องแหลง่ น้ำ ค. ส่ิงแวดลอ้ มทำงชีวภำพของแหล่งน้ำ ง. สิ่งมีชีวติ ต่ำง ๆ ในแหล่งนำ้ 2. สขี องน้ำและลักษณะทว่ั ไปของแหล่งน้ำทีด่ คี วรเปน็ อยำ่ งไร ก. สีขุ่น กระแสนำ้ แรง ไม่มีหิน ข. สีขนุ่ กระแสน้ำไมแ่ รง มหี ินและใบไม้ ค. สีใส กระแสน้ำแรง ไม่มีหิน ง. สีใส กระแสนำ้ ไม่แรง มหี นิ และใบไม้ 3. ผเู้ รียนจะวิเครำะห์ชนิดของสัตว์นำ้ โดยวธิ ีใด ก. ให้เพ่ือนในกลมุ่ ชว่ ยกันวิเครำะห์ ข. ใช้แว่นขยำยสอ่ งดูรำยละเอยี ดและ เปรยี บเทยี บกบั คู่มือ ค. สอบถำมวิทยำกรผเู้ ช่ียวชำญในกำรส้ำรวจ ง. สังเกตพฤติกรรมของสัตว์ตัวอย่ำง 4. อุปกรณ์ใดใชว้ ัดควำมขุ่นใสของนำ้ คอื ก. จำนเพำะเชือ ข. บีกเกอร์ ค. เทอรโ์ มมเิ ตอร์ ง. เซคิดิสก์ 5. เรำสำมำรถดูแลรกั ษำส่ิงแวดล้อมและทรัพยำกรธรรมชำตทิ ำงนำ้ ไดอ้ ย่ำงไร ก. ไมท่ ิงขยะมูลฝอยลงแหลง่ นำ้ ข. ไม่จับสตั วใ์ นฤดูวำงไข่ ค. กำ้ จดั ชีวพชื ในแหล่งนำ้ ง. ถกู ทุกขอ้

4 กจิ กรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรเู้ รอ่ื ง นกั สบื สายนา้ คา้ ชีแจง 1. ให้ผ้รู ับบริกำรตอบค้ำถำม จ้ำนวน 3 ประเด็น ดังนี ประเด็นที่ 1 “ท่ำนทรำบหรือไมว่ ำ่ แหล่งนำ้ คอื อะไรและมีประโยชนอ์ ย่ำงไร จงอธบิ ำยมำพอเขำ้ ใจ” ประเดน็ ท่ี 2 “ท่ำนทรำบหรือไม่ว่ำ มีสตั ว์นำ้ จดื ท่ีไม่มกี ระดูกสนั หลังขนำดเล็ก อะไรบ้ำงที่สำมำรถเป็น ดชั นบี ง่ ชคี ณุ ภำพนำ้ ได้” ประเด็นท่ี 3 “ท่ำนทรำบหรือไม่ว่ำ สัตว์น้ำจืดที่ไม่มีกระดูกสันหลังขนำดเล็ก สำมำรถเป็นดัชนีบ่งชี คุณภำพนำ้ ได”้ 2. ผู้รับบริกำรและผู้จัดกิจกรรมสรุปผลกำรเรียนรู้จำกกิจกรรมกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง นักสืบ สำยนำ้ ร่วมกนั เฉลยแนวคา้ ตอบ ประเด็นท่ี 1 “ทำ่ นทรำบหรือไมว่ ำ่ แหล่งนำ้ คืออะไรและมปี ระโยชนอ์ ย่ำงไร จงอธิบำยมำพอเขำ้ ใจ” แหล่งน้ำ คือ ที่อยู่อำศัยของสัตว์น้ำต่ำง ๆ และมนุษย์สำมำรถใช้ประโยชน์ได้จำกแหล่งน้ำ เช่น ใช้ อำบนำ้ บรโิ ภค เปน็ ตน้ ประเด็นท่ี 2 “ท่ำนทรำบหรือไมว่ ำ่ มีสตั ว์นำ้ จดื ท่ีไม่มกี ระดูกสันหลังขนำดเลก็ อะไรบำ้ งทีส่ ำมำรถเป็น ดชั นีบ่งชีคุณภำพนำ้ ได้” กุ้ง หอย ตัวออ่ นทไี่ ม่มกี ระดกู สนั หลัง ประเด็นท่ี 3 “ท่ำนทรำบหรือไม่ว่ำ สัตว์น้ำจืดท่ีไม่มีกระดูกสันหลังขนำดเล็ก สำมำรถเป็นดัชนีบ่งชี คุณภำพน้ำได”้ ทรำบ เพรำะสัตวน์ ำ้ จดื ท่ีไมม่ กี ระดูสนั หลังขนำดเล็กจะอำศัยในแหล่งน้ำท่สี ะอำด ไมท่ รำบ เพรำะไมร่ ้จู กั สัตว์นำ้ จืดที่ไม่มีกระดูกสนั หลังขนำดเล็ก กจิ กรรมผูร้ ับบรกิ ารปฏิบัติตามกจิ กรรมที่ก้าหนด ค้าชีแจง 1. ใหผ้ ู้รับบรกิ ำรศกึ ษำพรอ้ มปฏิบตั กิ จิ กรรมตำมใบควำมรู้ เร่อื ง นักสืบสำยนำ้ 2. ใหผ้ ู้รบั บรกิ ำรเป็นรำยบุคคลปฏบิ ัติกิจกรรมตำมใบกิจกรรม เรือ่ ง นกั สืบสำยน้ำ มรี ำยละเอียด ดงั นี 2.1 สังเกตสขี องน้ำ และลกั ษณะท่ัวไปของแหล่งนำ้ ในฐำนกำรเรียนรู้ เรื่อง นักสบื สำยนำ้ 2.2 หำคำ่ ควำมเปน็ กรด – เบส (pH) ของน้ำ โดยใช้กระดำษยนู เิ วอรแ์ ซลอินดิเคเตอร์ และ วัดอณุ หภูมิ (C) ของนำ้ โดยใชเ้ ทอรโ์ มมิเตอร์ และวดั ควำมขนุ่ ใสของน้ำ โดยใช้เซคิดิสก์ 3. ใหผ้ รู้ บั บรกิ ำรจะต้องบนั ทกึ ผลกำรทดลอง ลงในใบกจิ กรรม 4. ผรู้ ับบริกำรและผ้จู ดั กจิ กรรมสรปุ ผลกำรเรียนรูจ้ ำกกจิ กรรมปฏิบตั จิ ำมกิจกรรมที่กำ้ หนดร่วมกนั

5 ใบความรู้ เรื่อง นักสบื สายนา้ วัตถุประสงค์ 1. ผรู้ บั บรกิ ำรอธบิ ำยควำมหมำย และประโยชนข์ องแหล่งนำ้ ได้ 2. ผ้รู ับบริกำรทดลองใช้สตั วน์ ำ้ จืดท่ีไม่มกี ระดกู สนั หลงั ขนำดเล็ก เป็นดัชนีบง่ ชีวัดคุณภำพ นำ้ ได้ 3. ผ้รู บั บริกำรสำมำรถตรวจคุณภำพของแหลง่ น้ำได้ 4. ผูร้ บั บริกำรเห็นควำมสำ้ คญั ของแหล่งนำ้ เนือหา 1. แหลง่ นำ้ 1.1 ควำมหมำย และประโยชน์ของแหล่งน้ำ 1.2 ปัญหำของแหลง่ น้ำ 1.3 ผลกระทบของน้ำเสียต่อสงิ่ แวดล้อม 1.4 กำรอนรุ ักษ์แหลง่ นำ้ 2. กำรใช้สัตวน์ ำ้ จดื ท่ีไมม่ ีกระดูกสันหลังขนำดเล็ก เป็นดชั นบี ง่ ชคี ุณภำพนำ้ 2.1 ควำมหมำยของดชั นีคุณภำพน้ำ 2.2 ตัวอย่ำงสัตว์ที่ไดร้ ับผลกระทบจำกคณุ ภำพน้ำ 2.3 กำรตรวจวัดคุณภำพน้ำทำงชีวภำพ 3. กำรตรวจคุณภำพน้ำ 3.1 ทำ้ ไมต้องตรวจคุณภำพนำ้ 3.2 คณุ ภำพนำ้ บอกอะไร เนือหาแหล่งนา้ โลกของเรำประกอบขึนด้วยพืนดินและพืนน้ำ โดยส่วนท่ีเป็นผืนน้ำนัน มีอยู่ประมำณ 3 ส่วน (75%) และเป็นพืนดนิ 1 ส่วน (25%) นำ้ มีควำมสำ้ คัญอยำ่ งย่งิ กบั ชวี ิตของพชื และสัตว์บนโลกรวมทงั มนุษย์เรำด้วย น้ำเป็นทรัพยำกรท่ีสำมำรถเกิดหมุนเวียนได้เรื่อย ๆ ไม่มีวันหมดสิน เม่ือแสงแดดส่องมำบนพืนโลก น้ำจำก ทะเลและมหำสมุทรก็จะระเหยเป็นไอน้ำลอยขึนสู่เบืองบนเนื่องจำกไอน้ำมีควำมเบำกวำ่ อำกำศ เม่ือไอน้ำลอย สู่เบืองบนแล้ว จะได้รับควำมเย็นและกลั่นตัวกลำยเป็นละอองน้ำเล็ก ๆ ลอยจับตัวกันเป็นกลุ่มเมฆ เมื่อจับตัว กันมำกขนึ และกระทบควำมเยน็ ก็จะกลั่นตัวกลำยเปน็ หยดน้ำตกลงสู่พืนโลก น้ำบนพืนโลกจะระเหยกลำยเป็น ไอน้ำอีกเมื่อได้รับควำมร้อนจำกดวงอำทิตย์ ไอน้ำจะรวมตัวกันเป็นเมฆและกล่ันตัวเป็นหยดน้ำกระบวนกำร เช่นนี เกิดขึนเป็นวัฏจักรหมุนเวียนต่อเน่ืองกันตลอดเวลำ เรียกว่ำ วัฏจักรน้ำท้ำให้มีน้ำเกิดขึนบนผิวโลกอยู่ สม้่ำเสมอ น้า ของเหลวที่เกิดจำกกำรรวมตัวกันของก๊ำซไฮโดรเจน และก๊ำซออกซิเจน น้ำ เป็นสิ่งท่ีเกิดขึนเอง ตำมธรรมชำติ มีกำรหมุนเวียนเคลื่อนที่จำกที่แห่งหน่ึงไปยังอีกแห่งหนึ่ง และเปล่ียนแปลงจำกสถำนะหน่ึงไป เป็นอีกสถำนะหน่ึง เช่น เป็นของแข็ง ของเหลว เป็นตน้ กำรหมุนเวียนเปล่ียนไปของน้ำนเี รยี กวำ่ วัฏจักร ของ น้ำ

6 น้า เป็นทรัพยำกรท่ีส้ำคัญย่ิงต่อกำรด้ำรงชีวิตของมนุษย์และส่ิงมีชีวิตทุกชนิด มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์ จำกแหล่งน้ำ เพื่อกำรอุปโภค บริโภค กำรเกษตรกรรม กำรประมง กำรอุตสำหกรรม กำรคมนำคม ประเทศ ไทยเป็นประเทศที่ใช้ทรัพยำกรจำกแหล่งน้ำอย่ำงมหำศำล คือทรัพยำกรประมง ได้แก่ ทรัพยำกรสัตว์น้ำ เช่น กงุ้ หอย ปู ปลำ เป็นตน้ ประโยชน์ของแหล่งนา้ น้ำเป็นแหล่งก้ำเนิดชีวิตของสัตว์และพืชคนเรำมีชีวิตอยู่โดยขำดน้ำได้ไม่เกิน 3 วัน และน้ำยังมีควำม จ้ำเป็นทังในภำคเกษตรกรรมและอุตสำหกรรม ซ่ึงมีควำมส้ำคัญอย่ำงยิ่งในกำรพัฒนำประเทศ ประโยชน์ของ น้ำ ได้แก่ น้ำเป็นส่ิงจ้ำเปน็ ท่ีเรำใช้สำ้ หรับกำรดืม่ กิน กำรประกอบอำหำร ชำ้ ระร่ำงกำย ฯลฯ น้ำมีควำมจำ้ เป็น ส้ำหรบั กำรเพำะปลูกเลียงสตั ว์ แหลง่ นำ้ เปน็ ทีอ่ ยอู่ ำศยั ของปลำและสตั ว์น้ำอืน่ ๆ ซึ่งคนเรำใช้เป็นอำหำรในกำร อตุ สำหกรรม ต้องใชน้ ้ำในขบวนกำรผลติ ใชล้ ้ำงของเสียใชห้ ล่อเครื่องจักรและระบำยควำมรอ้ น ฯลฯ ปญั หาของแหล่งนา้ 1. ปัญหำกำรมีน้ำน้อยเกินไป เกิดกำรขำดแคลนอันเป็นผลเน่ืองจำกกำรตัดไม้ท้ำลำยป่ำ ท้ำให้ ปริมำณน้ำฝนนอ้ ยลง เกดิ ควำมแหง้ แล้งเสยี หำยต่อพชื เพำะปลูกและกำรเลยี งสัตว์ 2. ปัญหำกำรมีน้ำมำกเกินไป เป็นผลมำจำกกำรตัดไม้มำกเกินไป ท้ำให้เกิดน้ำท่วมไหลบ่ำในฤดูฝน สรำ้ งควำมเสยี หำยแกช่ ีวติ และทรัพย์สิน 3. ปัญหำน้ำเสีย เป็นปัญหำใหม่ในปัจจุบัน สำเหตุท่ีท้ำให้เกิดน้ำเสีย ได้แก่ น้ำทิงจำกบ้ำนเรือน ขยะ มลู ฝอยและสิง่ ปฏิกูลท่ีถูกทิงสู่แม่น้ำล้ำคลอง น้ำเสียจำกโรงงำนอุตสำหกรรม นำ้ ฝนพัดพำเอำสำรพิษทตี่ กค้ำง จำกแหลง่ เกษตรกรรมลงสู่แม่นำ้ ล้ำคลอง น้ำเสียท่ีเกดิ ขึนนสี ่งผลเสียหำยทังตอ่ สขุ ภำพอนำมัย เปน็ อันตรำยต่อ สัตว์น้ำ และมนุษย์ ส่งกล่ินเหม็น รบกวน ท้ำให้ไม่สำมำรถน้ำแหล่งน้ำนันมำใช้ประโยชน์ได้ทังกำรอุปโภค บริโภค เกษตรกรรม และอุตสำหกรรม ผลกระทบของน้าเสียตอ่ ส่ิงแวดล้อม เปน็ แหล่งแพรร่ ะบำดของเชอื โรค เช่น อหิวำตกโรค บิด ท้องเสยี เปน็ แหล่งเพำะพันธุข์ องแมลงน้ำโรค ต่ำง ๆ ทำ้ ให้เกดิ ปัญหำมลพษิ ตอ่ ดิน น้ำ และอำกำศ ท้ำให้เกดิ เหตุรำ้ คำญ เช่น กล่ินเหม็นของนำ้ โสโครก ทำ้ ให้ เกิดกำรสูญเสียทัศนียภำพ เกิดสภำพที่ไม่น่ำดู เช่น สภำพน้ำท่ีมีสีด้ำคล้ำไปด้วยขยะ และส่ิงปฏิกูล ท้ำให้เกิด กำรสูญเสียทำงเศรษฐกิจ เช่น กำรสูญเสียพันธ์ุปลำบำงชนิดจ้ำนวนสัตว์น้ำลดลง ท้ำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลง ระบบนเิ วศในระยะยำว การอนุรักษ์แหลง่ นา้ น้ำมคี วำมสำ้ คญั และมีประโยชน์มหำศำล เรำจึงควรชว่ ยแก้ไขปัญหำนำ้ เสียหรือกำรสูญเสียทรพั ยำกร นำ้ ด้วยกำรอนุรกั ษน์ ำ้ ดงั นี 1. กำรใช้น้ำอย่ำงประหยัด กำรใช้น้ำอย่ำงประหยัดนอกจำกจะลดค่ำใช้จ่ำยเกี่ยวกับค่ำน้ำลงได้แล้ว ยงั ทำ้ ให้ปริมำณนำ้ เสยี ท่ีจะทงิ ลงแหลง่ นำ้ มปี รมิ ำณนอ้ ย และปออ งกนั กำรขำดแคลนน้ำไดด้ ว้ ย 2. กำรสงวนน้ำไว้ใช้ ในบำงฤดูหรือในสภำวะที่มีน้ำมำกเหลือใช้ควรมีกำรเกบ็ น้ำไว้ใช้ เช่น กำรท้ำบ่อ เกบ็ น้ำ กำรสร้ำงโอง่ น้ำ ขดุ ลอกแหล่งน้ำ รวมทงั กำรสร้ำงอำ่ งเกบ็ นำ้ และระบบชลประทำน 3. กำรพัฒนำแหล่งน้ำ ในบำงพืนที่ท่ีขำดแคลนนำ้ จ้ำเป็นท่ีจะต้องหำแหล่งน้ำเพิ่มเติม เพ่ือให้สำมำรถ มีน้ำไว้ใช้ ทังในครัวเรือนและในกำรเกษตรได้อย่ำงพอเพียง ปัจจุบันกำรน้ำน้ำบำดำลขึนมำใช้ก้ำลังแพร่หลำย มำกขึนแตอ่ ำจมปี ัญหำเร่อื งแผ่นดนิ ทรุด

7 4. กำรปอองกันน้ำเสีย กำรไม่ทิงขยะและสิ่งปฏิกูลและสำรพิษลงในแหล่งน้ำ น้ำเสียท่ีเกิดจำกโรงงำน อตุ สำหกรรม โรงพยำบำล ควรมกี ำรบ้ำบัดและขจดั สำรพิษก่อนทจี่ ะปลอ่ ยลงสู่แหลง่ น้ำ 5. กำรน้ำน้ำเสียกลับไปใช้ นำ้ ที่ไม่สำมำรถใช้ได้ในกจิ กำรอยำ่ งหนึ่งอำจใช้ได้ในอีกกจิ กำรหน่งึ เช่น น้ำ ทิงจำกกำรลำ้ งภำชนะอำหำร สำมำรถน้ำไปรดตน้ ไม้ได้ โดยปัจจบุ นั แหลง่ น้ำธรรมชำติลดน้อยลงไป โดยเฉพำะตำมเมืองใหญ่ เพรำะมกี ำรดดั แปลงสภำพไปใช้ ในกิจกำรอ่ืน ๆ เช่น ถมคลองท้ำถนน อำคำรบ้ำนเรือน โรงงำนอุตสำหกรรม เป็นต้น นอกจำกนันแหล่งน้ำที่ เหลืออยู่หลำยแห่งถูกท้ำลำยคุณภำพของน้ำ โดยกำรทิงสำรเคมี โลหะมีพิษ น้ำมัน ส่ิงปฏิกูลต่ำง ๆ หรือมีกำร ระบำยน้ำจำกบ้ำนเรือน โรงงำนอุตสำหกรรม ลงสู่แมน่ ้ำจำกบ้ำนเรือน จำกโรงงำนลงสู่แหล่งน้ำในจ้ำนวนมำก เกนิ ขนำด ท้ำให้แหลง่ น้ำอยู่ในสภำพไมเ่ หมำะสมที่จะน้ำมำใช้ เพรำะนำ้ เป็นพษิ และเน่ำเสีย ท้ำให้เกดิ อันตรำย ตอ่ สงิ่ มชี ีวิตที่อำศัยอยใู่ นแหลง่ นำ้ ทังทำงตรงและทำงออ้ ม ซง่ึ เรยี กวำ่ เกดิ มลภำวะทำงนำ้ (Water Pollution) มลพษิ ทางน้า (Water Pollution) “มลพษิ ” หมำยควำมวำ่ ของเสยี วัตถอุ ันตรำยและมลสำรอื่น ๆ รวมทงั กำกตะกอนหรือสิ่งตกค้ำงจำก ส่ิงเหล่ำนัน ท่ีถูกปล่อยทิงจำกแหล่งก้ำเนิดมลพิษ หรือท่ีมีอยู่ในสิ่งแวดล้อมตำมธรรมชำติ ซึ่งก่อให้เกิด ผลกระทบต่อคุณภำพ สิ่งแวดล้อมหรือภำวะที่เป็นพิษภัยอันตรำยต่อสุขภำพอนำมัยของประชำชนได้ และให้ หมำยควำมรวมถึง รังสี ควำมร้อน เสยี ง แสง กลิ่น ควำมส่ันสะเทือนหรอื เหตุรำ้ คำญอนื่ ๆ ที่เกดิ หรือถูกปล่อย จำกแหลง่ กำ้ เนดิ มลพษิ ด้วย “ภำวะมลพิษ” หมำยควำมว่ำ สภำวะที่สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงหรือปนเป้ือนโดยมลพิษ ซึ่งท้ำให้ คุณภำพของสงิ่ แวดล้อมเสอ่ื มโทรมลง เช่น มลพษิ ทำงนำ้ มลพิษทำงอำกำศ และมลพษิ ในดนิ “นำ้ เสยี ” หมำยควำมวำ่ ของเสีย ทอ่ี ยใู่ นสภำพเป็นของเหลว รวมทงั มลสำรทีป่ ะปน หรือปนเปื้อนอยู่ ในของเหลวนนั ดังนัน มลพิษทำงน้ำ หมำยถึง สภำพน้ำที่เสื่อมคุณภำพ น้ำจะมีคุณสมบัติเปล่ียนไปจำกสภำพ ธรรมชำติ เน่ืองจำกมสี ำรมลพิษเข้ำไปปะปนอยู่มำก น้ำในสภำพเช่นนีไม่เหมำะตอ่ กำรดำ้ รงชีวิตของสตั วน์ ำ้ ไม่ เหมำะต่อกำรบริโภคและอุปโภคของมนุษย์ เช่น น้ำท่ีมีสีผิดปกติ มีกล่ินเหม็นน้ำที่มีสำรเคมีท่ีเป็นพิษหรือเชือ โรคปะปนอยู่ รวมทงั น้ำทีม่ อี ุณหภูมิสงู ผิดปกติ มลพิษทำงน้ำ เป็นปัญหำทำงน้ำมีสำเหตุส้ำคัญมำจำกกำรน้ำทิงจำกโรงงำนอุตสำหกรรม ซึ่งเป็นน้ำ เสียจำกขันตอนและกระบวนกำรผลิต กำรล้ำง ขบวนกำร หล่อเย็น เป็นต้น แม้ว่ำจะมีกฎหมำยบังคับให้ โรงงำนอุตสำหกรรมต้องบ้ำบัดน้ำทิงเหล่ำนีก่อนปล่อยออกสู่แหล่งน้ำธรรมชำติก็ตำม แต่ในทำงปฏิบัติรัฐบำล ไม่สำมำรถควบคุมได้อย่ำงท่ัวถึง กำรก่อสร้ำงอำคำรบ้ำนเรือนและชุมชน โดยเฉพำะในชุมชนเขตเมืองเช่น กรงุ เทพมหำนคร ทมี่ ปี ระชำกรอำศัยอยู่หนำแนน่ ทกุ ครัวเรอื นปล่อยน้ำทิงส่แู หล่งน้ำธรรมชำตโิ ดยตรง มิไดผ้ ำ่ น ขบวนกำรก้ำจัดใด ๆ นอกจำกนี ยงั มีกำรทิงขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลตำ่ ง ๆ ลงสูแ่ มน่ ้ำลำ้ คลองอนั เปน็ กำรเพ่ิม ควำมสกปรกให้กับแหลง่ น้ำต่ำง ๆ อีก การใชส้ ัตว์หน้าดนิ เปน็ ดัชนบี ง่ ชีคณุ ภาพน้า \"สัตว์เล็กน้ำจืด\" หรือตัวอ่อนแมลงน้ำท่ีอำศัยอยู่ตำมก้อนหิน พืนทรำยใต้ท้องน้ำ ซ่ึงใช้เป็นตัวบ่งชี คุณภำพน้ำด้วยวิธีทำงชีวภำพได้ โดยประเมินร่วมกับลักษณะทำงกำยภำพอ่ืน ๆ ของสำยน้ำ เช่น ลักษณะ ควำมคดเคียว สี อุณหภูมิและควำมเร็วของน้ำ เป็นกิจกรรมท่ีเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกำรลงมือปฏิบัติ กิจกรรม กิจกรรมการปฏบิ ัตกิ ารหาความหมายของดัชนีคุณภาพนา้

8 ค้าชแี จง ให้ผู้รับบริกำรแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 4 – 8 คน โดยให้แต่ละกลุ่มส้ำรวจ สัตว์น้ำจืดท่ีไม่มี กระดูกสันหลังขนำดเล็กที่อำศัยอยู่ริมฝั่งแหล่งน้ำ หลังจำกนันให้แต่ละกลุ่มน้ำสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังขนำด เล็กที่ส้ำรวจวิเครำะห์ชนิดของสัตว์ เปรียบเทียบกับคู่มือจ้ำแนกพันธ์ุสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในบึงและล้ำธำร ไทย พรอ้ มลงตำรำงคะแนนวัดคุณภำพน้ำ ลงในใบกิจกรรมที่ไดร้ บั มอบหมำย ความหมายของดัชนีคณุ ภาพนา้ คะแนน 7.6-10 น้ำสะอำดมำก คะแนน 5.1-7.5 น้ำสะอำด คะแนน 2.6-5.0 คะแนน 1.0-2.5 นำ้ คุณภำพพอใช้ได้ น้ำสกปรก คะแนน 0 นำ้ เน่ำ (ไม่มีสตั วอ์ ยู่เลย) ล้าดับที่ คุณลักษณะของน้า ผลการศกึ ษา 1 สขี องนำ้ 2 ลักษณะท่วั ไปของแหลง่ น้ำ 3 ควำมเปน็ กรด-เบส (pH) 4 5 อณุ หภมู ิ ( C ) ควำมขุน่ ใส ตารางคะแนนวัดคุณภาพนา้ คะแนน ชอื่ สตั ว์ 10 ตัวอ่อนแมลงเกำะหนิ 10 ตวั ออ่ นชปี ะขำวตวั แบน 10 ตัวอ่อนชปี ะขำวเหงอื กแฉก 10 ตัวอ่อนแมลงหนอนปลอกน้ำอยูใ่ นปลอกเมด็ กรวดทรำย 10 ตวั ออ่ นแมลงหนอนปลอกน้ำไมอ่ ยู่ในปลอก (ยกเวน้ ซโิ ก้)* 10 มวนจำนปำกยำว 9 ตัวอ่อนแมลงชำ้ งกรำมโต 8 กงุ้ นำ้ ตก

9 ตวั ออ่ นแมลงหนอนปลอกนำ้ อยใู่ นปลอกใบไม้ 7 ตัวอ่อนแมลงปอ 6 ตวั อ่อนแมลงปอเขม็ 6 หอยหมวกเจก๊ น้ำจดื 6 หอยกำบน้ำจดื 6 หอยเจดีย์ 6 มวนวน 5 มวนกรรเชียง 5 มวนน้ำอนื่ ๆ 5 ด้วงนำ้ ตัวเต็มวยั 5 หนอนด้วงนำ้ 5 หนอนตัวแบน 5 หนอนแมลงวัน (ยกเว้น แมลงวนั ดอกไม้ & รนิ น้ำจดื ) 5 ตัวอ่อนแมลงหนอนปลอกน้ำซโิ ก้ 5 ตัวออ่ นชปี ะขำววำ่ ยน้ำ 5 ตัวออ่ นชีปะขำวกระโปรง 4 กุ้งฝอย 4 ตัวออ่ นแมลงช้ำงปีกลำย 4 หอยฝำเดยี วอนื่ ๆ 3 หอยกำบเมลด็ ถว่ั 3 เหำนำ้ 3 ปลู ำ้ หว้ ย 3 ปลิง 3 หนอนแมลงวนั ดอกไม้ 3 หนอนรินน้ำจดื 2 ไสเ้ ดือนนำ้ 1 คะแนนรวม จา้ นวนประเภทสัตว์ คา่ ดชั นีคุณภาพนา้ สรุปคุณภาพน้า เปน็ ............................................................................................................................. .......................

10 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… วิธีใช้ตารางวดั คณุ ภาพน้า กำรให้คะแนนเพื่อประเมินคำ่ คณุ ภำพน้ำ โดยใช้สัตว์ไมม่ ีกระดูกสันหลงั ที่อำศัยในน้ำเป็นดัชนีชีวัดนี เป็นกำรประเมินคุณภำพน้ำในส่วนปริมำณออกซิเจนที่ละลำยในน้ำ เมื่อพบสัตว์ในข้อไหนก็ตำม (แม้เพียงตัว เดียว) ใหก้ รอกคะแนนของประเภทสัตว์ลงในช่องทำงขวำมือ โดยนับสัตว์แต่ละประเภทได้เพียงครังเดียว และ ไม่นับสัตว์ท่ีไม่อยู่ในตำรำง เม่ือบันทึกคะแนนของสัตว์ท่ีพบครบหมดแล้ว ให้รวมคะแนนทังหมด แล้วหำร คะแนนรวมดว้ ยจ้ำนวนประเภทสตั ว์ท่บี นั ทึกได้ในตำรำง กำรหำรเฉล่ียคะแนนนีจะชว่ ยลดควำมผดิ พลำดท่อี ำจ เกิดขึนไดจ้ ำกกำรเก็บตัวอยำ่ งสตั วห์ รือปัจจยั อื่น ๆ ผลลพั ธท์ ีไ่ ด้ คือ คำ่ ดัชนีคณุ ภำพน้ำ ตวั อยา่ งสัตว์ทไี่ ด้รับผลกระทบจากคุณภาพน้า แบง่ ออกเปน็ 3 ประเภท 1. พวกท่ีได้รับผลกระทบมากที่สุด เป็นพวกที่มีเหงือก แมลงพวกนีในระยะตัวอ่อนหำยใจด้วย เหงือก จึงต้องใช้ออกซิเจนในนำ้ โดยตรง ชปี ะขาว แมลงเกาะหนิ หนอนปลอกน้า 2. พวกที่ไดร้ บั ผลกระทบรองลงมา เป็นพวกทส่ี ำมำรถใช้ออกซเิ จนจำกอำกำศหรือเกบ็ กกั อำกำศไว้ กับตวั แมลงพวกนหี ำยใจโดยใชอ้ อกซเิ จนในอำกำศได้โดยตรง มวนแมงปอ่ งนา้ จิงโจ้นา้ ดว้ งดิ่ง ตัวอ่อนยุง

11 3. พวกทไี่ ดร้ ับผลกระทบนอ้ ยทส่ี ดุ เปน็ พวกทีม่ ีควำมสำมำรถในกำรจับออกซิเจนในน้ำ ดงั นันจึง สำมำรถทนอยไู่ ด้ในนำ้ ทมี่ ีปริมำณออกซิเจนละลำยต่้ำมำก หนอนรินน้าจดื ไสเ้ ดอื นน้า หอยฝาเดยี ว กงุ้ ฝอย การตรวจวัดคณุ ภาพนา้ ทางชีวภาพ เป็นกำรน้ำสิ่งมีชีวิตมำเป็นตัวชีวัดคุณภำพน้ำ เช่น แบคทีเรีย แพลงก์ตอนพืช แพลงก์ตอนสัตว์ สำหร่ำยขนำดใหญ่ พืชน้ำ ปลำ และสัตว์หน้ำดินที่ไม่มีกระดูกสันหลัง เป็นต้น สิ่งมีชีวิตท่ีนิยมใช้เป็นตัวชีวัด คุณภำพน้ำตัวหนึ่ง คือ กำรใช้สตั ว์หน้ำดนิ มำใช้เปน็ ตัวชีวดั คุณภำพน้ำ เน่อื งจำก มคี วำมไวตอ่ กำรเปล่ียนแปลง ของสิง่ แวดลอ้ มหรอื สภำวะทำงนำ้ โดยเฉพำะอยำ่ งยิ่งสำรมลพิษทปี่ นเป้ือนอยู่ในแหล่งน้ำ การตรวจคุณภาพน้า ท้าไมต้องตรวจคุณภาพนา้ สัตว์น้ำจ้ำเป็นต้องอำศัยในกำรด้ำรงชีวิต คุณสมบัติน้ำจะแตกต่ำงกันตำมสภำพแวดล้อมและที่ตัง ต่ำงกัน เช่น แม่น้ำ ล้ำธำรคลอง จะมีคุณสมบัติของน้ำแตกต่ำงจำก หนอง บึง อ่ำงเก็บน้ำ ซึ่งเป็นแหล่ง น้ำน่ิงรวมถึงบำดำลที่มีคุณสมบัติแตกต่ำงจำกแหล่งน้ำผิวดินอ่ืน ๆ กำรตรวจวัดคุณภำพจึงเป็นสิ่งส้ำคัญ เพ่อื ทจ่ี ะได้ปรับปรุงใหอ้ ยู่ในสภำพท่ีเหมำะสมกับกำรอยู่อำศัยของสัตวน์ ้ำ ซ่งึ เป็นปัจจัยสำ้ คัญในกำรเพำะเลยี ง สัตวน์ ้ำและกำรด้ำรงชวี ิตของมนษุ ย์ใหป้ ระสบควำมส้ำเร็จ คุณภาพน้าบอกอะไร อณุ หภมู ิน้ำ ควรอยใู่ นชว่ ง 23-32 องศำเซลเซียส วิธีง่ำยๆ คือสมั ผสั ด้วยมือ น้ำจะต้องไมร่ ้อยหรือ เย็นจนเกนิ ไป ถ้ำนำ้ เย็นมำกปลำกินอำหำรน้อยลง ควรลดปรมิ ำณน้ำในบ่อและลดปรมิ ำณอำหำรลง

12 ควำมเป็นกรด-ด่ำง (pH) ควรอยู่ระหว่ำง 6.5-9 กำรเปล่ียนแปลงของ pH ที่เกิดขึนจะท้ำให้ คุณสมบัติของน้ำเปลีย่ นไป และมีผลต่อควำมเป็นพิษของสำรบำงชนิดได้ เช่น ควำมเป็นพิษของแอมโมเนีย มำกขนึ หรือลดลงได้ ควำมขุ่น ตะกอนดินท่แี ขวนลอยอยใู่ นน้ำ ถำ้ ปรมิ ำณมำกเกินไปจะเปน็ ตัวขวำงกนั ไม่ให้แสงสวำ่ งลง ไปไดล้ ึก ท้ำให้พชื และแพลงก์ตอนไม่สำมำรถสังเครำะห์แสงได้ สง่ ผลให้ปรมิ ำณอำหำรธรรมชำตใิ นบ่อลดลง ควำมโปรง่ ใส ควรมคี ำ่ ระหวำ่ ง 30-60 เซนตเิ มตร ถ้ำพบว่ำในน้ำของบ่อเปน็ สีเขียวจัด ควรเปลย่ี น ถำ่ ยนำ้ เพ่ือลดควำมเข้มขน้ ของสีน้ำลง ส้ำหรบั บ่อท่มี นี ำ้ ใส ควรเตมิ ปยุ๋ ลงในบอ่ เพื่อเพ่ิมธำตอุ ำหำรให้กับพชื และแพลงกต์ อนพชื ให้สำมำรถเจรญิ เติบโตเพ่ิมจ้ำนวนขนึ กิจกรรมการระบุปัญหาและสรปุ ส่งิ ทไี่ ด้เรยี นรรู้ ่วมกนั คา้ ชแี จง 1. ใหผ้ ู้รบั บริกำรระบุปัญหำ พร้อมทังแนะนำ้ แนวทำงในกำรตรวจสอบคุณภำพนำ้ 2. ผู้รับบริกำรและผู้จัดกิจกรรมสรุปผลกำรเรียนรู้จำกกิจกรรมกำรระบุปัญหำและสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ รว่ มกนั กิจกรรมการนา้ สิ่งที่ไดเ้ รยี นรู้ไปปฏิบัตแิ ละประยกุ ตใ์ ช้ เรอ่ื ง นกั สบื สายนา้ ค้าชีแจง 1. ใหผ้ ้รู บั บริกำรแตล่ ะคน ตอบคำ้ ถำมในประเดน็ “ท่ำนจะนำ้ ควำมรเู้ ร่ือง นักสบื สำยน้ำไปปฏบิ ัตแิ ละประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำ้ วันอย่ำงไร” 2. ผู้รับบริกำรและผู้จัดกิจกรรมสรุปผลกำรเรียนรู้จำกกิจกรรมกำรน้ำสิ่งท่ีได้เรียนรู้ไปปฏิบัติและ ประยกุ ต์ใช้รว่ มกนั

13 กจิ กรรมการทดสอบหลงั เรียน เรอ่ื ง นักสบื สายนา้ ค้าชีแจง ให้ผูร้ บั บรกิ ำรท้ำแบบทดสอบหลงั เรียน เร่อื ง นักสืบสำยน้ำ ซงึ่ มีข้อสอบทังหมดจำ้ นวน 5 ข้อ (เมื่อผู้รับบริกำรท้ำแบบทดสอบเสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ ผู้รับบรกิ ำรสำมำรถตรวจค้ำตอบได้ตำมเฉลยคำ้ ตอบทำ้ ย กจิ กรรม) แบบทดสอบหลงั เรยี น คะแนนท่ีได.้ .............คะแนน เร่อื ง นกั สืบสายน้า คะแนนเต็ม 5 คะแนน ค้าชแี จง 1. ให้ผูร้ บั บรกิ ำรกำเครื่องหมำย X (กำกบำท) หนำ้ ข้อทถ่ี ูกตอ้ งเพียงข้อเดียว 2. แบบทดสอบนมี ีขอ้ สอบจำ้ นวน 5 ขอ้ ๆ ละ 1 คะแนน 3. เมือ่ ผรู้ บั บรกิ ำรท้ำแบบทดสอบเสร็จเรยี บรอ้ ยแลว้ ผู้รับบรกิ ำรสำมำรถตรวจค้ำตอบได้ตำมเฉลย ค้ำตอบท้ำยกจิ กรรม 1.ผู้เรียนจะวเิ ครำะห์ชนิดของสัตวน์ ้ำโดยวธิ ใี ด ก. ใหเ้ พื่อนในกล่มุ ช่วยกันวเิ ครำะห์ ข. ใช้แว่นขยำยสอ่ งดูรำยละเอียดและเปรยี บเทยี บกับคู่มือ ค. สอบถำมวทิ ยำกรผู้เช่ยี วชำญในกำรสำ้ รวจ ง. สังเกตพฤติกรรมของสตั วต์ วั อย่ำง 2.อุปกรณ์ใดใช้วัดควำมข่นุ ใสของน้ำ คือ ก. จำนเพำะเชือ ข. บีกเกอร์ ค. เทอร์โมมเิ ตอร์ ง. เซคดิ สิ ก์ 3.เรำสำมำรถดแู ลรกั ษำสง่ิ แวดล้อมและทรพั ยำกรธรรมชำติทำงนำ้ ไดอ้ ยำ่ งไร ก. ไมท่ งิ ขยะมลู ฝอยลงแหลง่ นำ้ ข. ไม่จบั สัตวใ์ นฤดวู ำงไข่ ค. ก้ำจดั ชวี พชื ในแหล่งนำ้ ง. ถกู ทุกขอ้ 4.ลักษณะทำงกำยภำพของแหล่งนำ้ ทจ่ี ะส้ำรวจ ควรดูจำกอะไร ก. สี อณุ หภมู ิ ควำมเรว็ ของน้ำ ข. ควำมอดุ มสมบูรณ์ของแหล่งน้ำ ค. สิ่งแวดลอ้ มทำงชวี ภำพของแหล่งนำ้ ง. ส่ิงมชี ีวติ ต่ำง ๆ ในแหล่งน้ำ 5.สขี องน้ำและลักษณะทวั่ ไปของแหล่งน้ำที่ดีควรเป็นอยำ่ งไร ก. สีข่นุ กระแสนำ้ แรง ไม่มหี ิน ข. สีข่นุ กระแสน้ำไม่แรง มหี นิ และใบไม้ ค. สใี ส กระแสน้ำแรง ไม่มหี นิ ง. สีใส กระแสนำ้ ไมแ่ รง มีหนิ และใบไม้

14 กจิ กรรม การประเมินความพึงพอใจของผ้รู ับบรกิ าร เร่อื ง นักสบื สายน้า คา้ ชีแจง ใหผ้ ู้รับบริกำรทำ้ แบบประเมินควำมพึงพอใจของผ้รู ับบริกำร กิจกรรมกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยด้ำน วทิ ยำศำสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดลอ้ ม แบบประเมนิ ความพึงพอใจของผ้รู ับบริการ กจิ กรรมการศกึ ษาตามอัธยาศัย ดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่งิ แวดลอ้ ม ช่ือ-สกลุ ผรู้ บั บริกำร......................................................................................... ช่ือฐำนกำรเรยี นรู.้ .......................................................ช่ือ – สกุล ผู้จัดกจิ กรรม................................................... วนั ท่ี............เดอื น...........................พ.ศ................... เวลำ..................น. ควำมพงึ พอใจทมี่ ีต่อกำรจัดกิจกรรม ประเด็น ระดบั ควำมพงึ พอใจ 5 4 3 21 1. กิจกรรมตรงตำมควำมถนัดและตอ้ งกำรของผู้รบั บริกำร 2. ขนั ตอนกำรท้ำกิจกรรมมีควำมชัดเจน 3. ส่ือ/วัสด/ุ อปุ กรณ์ที่ใช้ท้ำกิจกรรมมคี วำมเหมำะสม 4. ระยะเวลำท่ีใชใ้ นกำรท้ำกจิ กรรมมคี วำมเหมำะสม 5. ควำมรูท้ ีไ่ ดร้ บั สำมำรถน้ำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ จรงิ ได้ 6. ผู้รบั ริกำรมคี วำมสขุ /สนกุ ในกำรท้ำกิจกรรม ควำมพงึ พอใจในภำพรวมตอ่ กำรจัดกจิ กรรม ระดับ 5 หมำยถึง ระดบั 4 หมำยถึง ระดับ 3 หมำยถึง ระดบั 2 หมำยถึง ระดบั 1 หมำยถึง พึงพอใจมำกที่สดุ พึงพอใจมำก พงึ พอใจปำนกลำง พึงพอใจน้อย พงึ พอใจน้อยทส่ี ุด ควำมรู้ประสบกำรณ์ท่ีไดร้ บั ควำมคิดเห็นเพม่ิ เติม .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... .........................................................................

15 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 1. ค. สงิ่ แวดลอ้ มทำงชวี ภำพของแหลง่ น้ำ 2. ง. สีใส กระแสนำ้ ไม่แรง มหี ินและใบไม้ 3. ข. ใช้แวน่ ขยำยสอ่ งดรู ำยละเอียดและเปรียบเทยี บกับคูม่ ือ 4. ง. เซคิดิสก์ 5. ง. ถกู ทุกข้อ เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น 1. ข. ใชแ้ ว่นขยำยสอ่ งดูรำยละเอยี ดและเปรียบเทียบกบั คู่มือ 2. ง. เซคิดิสก์ 3. ง. ถูกทุกข้อ 4. ก. สี อุณหภมู ิ ควำมเรว็ ของน้ำ 5. ง. สใี ส กระแสน้ำไม่แรง มหี นิ และใบไม้