Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้

ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้

Published by chunukulpong2562, 2021-09-06 04:24:30

Description: ตัวอย่างแผนทั้ง 8 กลุ่มสาระ.docx

Search

Read the Text Version

6. คุณธรรมอัตลักษณ์  มมี ารยาท  มจี ิตอาสา  มรี ะเบียบวนิ ยั  มีความรบั ผิดชอบ  มจี ิตสาธารณะ. 7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคข์ องโรงเรียนสุจริต  ความมวี นิ ยั  ความพอเพียง  ซือ่ สัตย์สุจริต  ทกั ษะกระบวนการคิด 8. ด้านเจตคติ/คณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (Attitude : A)  มีวนิ ัย  ใฝเ่ รยี นรู้  รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  ซื่อสัตย์สุจรติ  อยู่อย่างพอเพียง  มุ่งมนั่ ในการทางาน  รักความเป็นไทย  มจี ิตสาธารณะ 9. ทักษะในศตวรรษที่ 21 (3R 8C )  1. ทักษะการอ่าน (Reading)  2. ทกั ษะการ เขียน (Writing)  3. ทกั ษะการคิดคานวณ (Arithmetic)  4. ทักษะด้านการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกป้ ญั หา (Critical thinking and problem solving)  5. ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation)  6. ทกั ษะด้านความร่วมมือการทางานเป็นทมี และภาวะผ้นู า (Collaboration, teamwork and leadership)  7. ทักษะดา้ นความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)  8. ทกั ษะดา้ นการสอื่ สารสารสนเทศและรู้เทา่ ทันส่อื (Communication information and media literacy)  9. ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (ComputingandICTLiteracy)  10. ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)  11. มคี ณุ ธรรม มีเมตตา กรุณา มรี ะเบียบวินัย (compassion) 10. โรงเรียนวิถพี ุทธ (ไตรสกิ ขา)  1. ศลี  2. สมาธิ  3. ปัญญา 11. การบรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง พอประมาณ ผู้เรยี นพอประมาณในการทากิจกรรมโดยใช้เวลาตามท่ีกาหนด มีเหตผุ ล ผเู้ รียนมเี หตุผลในการเรยี นรู้โดยการร่วมกนั สรุปเน้อื หาของกจิ กรรมการเรียนรู้

มภี มู คิ ุม้ กัน ผ้เู รียนสามารถเรียนรู้ ทาความเข้าใจ กฎ กติกา ในการเรียนวชิ าสขุ ศกึ ษา ความรู้ ผู้เรยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั ธรรมชาติของชวี ิตมนษุ ย์ท่ีสัมพันธ์กับธรรมชาติ ตามวยั คณุ ธรรม ผูเ้ รยี นมคี วามรบั ผดิ ชอบในตนเองกบั กจิ กรรมที่ปฏิบตั ิ 12. วิธีการสอนแบบ Active Learning  แบบระดมสมอง (Brainstorming)  แบบเนน้ ปญั หา/โครงงาน/กรณีศกึ ษา (Problem/Project-based Learning/Case Study)  แบบแสดงบทบาทสมมตุ ิ (Role Playing)  แบบแลกเปลย่ี นความคิด (Think – Pair – Share)  แบบสะทอ้ นความคดิ (Student’s Reflection)  แบบตง้ั คาถาม (Questioning-based Learning)  แบบใชเ้ กม (Games-based Learning)  อื่นๆ โปรดระบุ ........................................................................................................ 13. การใชส้ อ่ื  การพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาดว้ ยเทคโนโลยีการศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทยี ม (DLTV : Distance Learning Television)  การพฒั นาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยสี ารสนเทศ (DLIT : Distance Learning Information Technology  อ่ืนๆ ใช้สอ่ื อินเทอรเ์ น็ต (Internet) 14. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. ครูและนกั เรยี นสนทนาร่วมกันโดยใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรู้จากการเรียนรูแ้ ละการปฏบิ ตั ิกิจกรรมในการเรียน คร้ังท่ผี ่านมา เพอ่ื เป็นการทบทวนความรู้ 2. นักเรยี นผลัดเปล่ยี นกันออกมานาเสนอ(Reading)ผลการศึกษาคน้ คว้าและการสารวจข้อมูลเกย่ี วกบั บุคคล ในครอบครวั และแนวทางการปฏิบัติต่อบุคคลในครอบครวั หนา้ ชัน้ เรยี นตามที่ได้รับมอบหมายในการเรียนครง้ั ที่ ผา่ นมา ขัน้ กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูสุ่มนกั เรยี นออกมารายงาน(Reading)ผลการศึกษาในหัวข้อ ธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ ในเรื่อง วัยทารก วัยเดก็ วยั รุ่น วัยผู้ใหญ่ วัยสูงอายุ และคาถามท่ีสงสัยจากการอ่านเนือ้ หาจากหนงั สือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน สุข

ศึกษาและพลศึกษา ป. 2 มาลว่ งหน้า ตามทีม่ อบหมายในการเรียนคร้งั ท่ีผ่านมา โดยครอู ธบิ ายคาตอบของคาถามที่ นักเรยี นสงสัยทลี ะขอ้ 2. ครูให้ความรู้เก่ยี วกบั ธรรมชาติตามวัยทเี่ กี่ยวกบั ความหมายและลักษณะพัฒนาการของแต่ละช่วงวัย ตามลาดบั โดยใชภ้ าพประกอบ(Internet) ขั้นฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. ครูสุ่มนกั เรียน 2–3 คนออกมานาเสนอผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมเหตุการณ์ในวนั เกิดของฉนั เปน็ อย่างไรนะ 2. ครใู ห้ข้อเสนอแนะในการปฏิบตั ิกิจกรรมดังกลา่ วเพิม่ เติม 3. นักเรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละประมาณ 5–6 คนปฏิบัตกิ ิจกรรมเลา่ เรื่องจากภาพตามจินตนาการ แลว้ ร่วมกนั ระดมสมอง(Brainstorming) จากภาพทัง้ 4 ภาพตามจินตนาการ ดงั รายละเอยี ดในแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 2 โดยไมค่ ดั ลอกคาตอบจากกลมุ่ อื่น(compassion) 4. แต่ละกล่มุ สง่ ตัวแทนผลดั เปลี่ยนกนั ออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น(Collaboration, teamwork and leadership) ข้ันนาไปใช้ นกั เรยี นปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเหตกุ ารณใ์ นวันเกิดของฉนั เป็นอย่างไรนะ ดงั รายละเอียดในแบบฝึกทักษะ รายวิชา พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2 ข้ันสรปุ 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้ ธรรมชาตติ ามวัย วัยทารก วยั เดก็ วัยรุ่น วยั ผูใ้ หญ่ วัยสูงอายุ 2. นกั เรียนรว่ มกันทาแบบทดสอบความรู้หลังเรยี น(Questioning-based Learning) หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนษุ ย์ โดยใชเ้ วลาตามท่กี าหนด 3. ครเู ฉลยขอ้ คาถามพร้อมกับการอภปิ รายข้อคาถาม และใหน้ ักเรียนทต่ี อบผดิ แกค้ าตอบท่ถี ูกต้อง 4. มอบหมายให้นกั เรยี นไปอ่านเนอ้ื หาในหน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 ชีวิตและครอบครวั จากบทเรยี นมาลว่ งหนา้ แล้วนามาพดู คยุ ในการเรียนครง้ั ตอ่ ไป 9. สือ่ การเรยี นรู้/ แหลง่ การเรยี นรู้ 1. ส่อื การเรยี นรู้ 1.1 ภาพแสดงลักษณะของบคุ คลในช่วงวัยต่าง ๆ 1.3 ใบกจิ กรรมเร่ือง เล่าเร่ืองจากภาพตามจนิ ตนาการ 1.4 ใบกจิ กรรมเรอ่ื ง เหตุการณ์ในวันเกดิ ของฉันเปน็ อย่างไรนะ 1.5 หนงั สอื เรยี น รายวิชาพื้นฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 2 1.6 แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพน้ื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 2

1.7 คมู่ อื การสอน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 2 2. แหลง่ การเรยี นรู้ 2.1 อนิ เทอร์เนต็ 16. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วิธีวัด เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ ด้านความรู้ความเข้าใจ - สงั เกต แบบบันทกึ /แบบสงั เกต ระดับคณุ ภาพ 2 - ตั้งคาถาม รายบคุ คล ผ่านเกณฑ์ - การตอบคาถาม สังเกตพฤตกิ รรมขณะ แบบบนั ทกึ /แบบสงั เกต ระดับคุณภาพ 2 ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ร่วมกิจกรรม รายบุคคล ผ่านเกณฑ์ - การสังเกต สังเกตทกั ษะ แบบบันทึก/แบบสังเกต ระดบั คุณภาพ 2 ดา้ นทักษะกระบวนการ กระบวนการขณะ รายบคุ คล ผ่านเกณฑ์ - การสังเกต ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ลงชอื่ ครูผู้สอน (นายอนชุ ิต แว่นจันลา) ........../..................../.............

กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง เล่าเรอื่ งจากภาพตามจินตนาการ คาชี้แจง 1. แบ่งกลุม่ รว่ มกันระดมสมอง เพื่อชว่ ยกนั เลา่ เรื่องจากภาพท้งั 4 ภาพตามจินตนาการ 2. ส่งตัวแทนออกมาเล่าท่หี นา้ ชั้นเรียน และร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น 3. ตอบคาถาม 1) นักเรียนรู้สึกอยา่ งไรต่อภาพเหล่าน้ี 2) นักเรยี นไม่ชอบภาพใด เพราะเหตุใด

สมาชกิ ในกลุ่ม ๑. ชื่อ............................................นามสกลุ ..........................................ชัน้ ......................เลขที่................. ๒. ชอ่ื ............................................นามสกุล..........................................ชน้ั ......................เลขท.ี่ ................ ๓. ชอื่ ............................................นามสกุล..........................................ชน้ั ......................เลขที่................. ๔. ชอ่ื ............................................นามสกลุ ..........................................ชน้ั ......................เลขที.่ ................ ๕. ช่ือ............................................นามสกลุ ..........................................ชั้น......................เลขที่.................

กิจกรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง เหตุการณใ์ นวันเกดิ ของฉันเปน็ อยา่ งไรนะ คาช้ีแจง 1. พดู คยุ กบั พอ่ แม่ หรอื ผู้ปกครองเกยี่ วกบั เหตกุ ารณ์ในวันทีน่ กั เรียนเกิด แลว้ บนั ทกึ ลง ในแบบบนั ทึก 2. ผลัดกนั เล่าให้เพ่ือน ๆ ฟัง



แผนการจดั การเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 2 ช่วั โมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ รหสั วิชา ศ 15101 เวลา 1 ชวั่ โมง หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เร่ือง เคร่ืองดนตรีบรรเลงจังหวะและทานอง แผนการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง เครอ่ื งดนตรไี ทยบรรเลงจงั หวะและทานอง 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 2.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษว์ จิ ารณ์คณุ ค่าดนตรี ถ่ายทอดความร้สู ึก ความคิดตอ่ ดนตรอี ยา่ งอิสระ ช่นื ชม และประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ตัวชว้ี ดั ศ 2.1 ป.5/4 ใชเ้ คร่ืองดนตรีบรรเลงจงั หวะและทานอง 2. จุดประสงค์การเรียนรู้/จุดประสงค์การเรียนร้หู ลักสตู รต้านทุจริต 1.อธิบายเกี่ยวกบั เคร่ืองดนตรีไทยประกอบจังหวะและทานองได้ (K) 2.จาแนกเครือ่ งดนตรไี ทยประเภทเคร่ืองประกอบจังหวะและเครอื่ งดาเนนิ ทานองได้ (P) 3.ชื่นชมบทเพลงทีม่ ีเครอื่ งดนตรีไทยประกอบจังหวะและทานองได้ (A) 4.ปฏิบัตติ ามกฎระเบียบไม่ทจุ รติ ตอ่ กจิ กรรมทที่ า 3. สาระสาคัญ เคร่อื งดนตรีประกอบจงั หวะและทานองแต่ละประเภท มวี ิธีการบรรเลงแตกต่างกัน เมอื่ นามาบรรเลง รว่ มกนั จะเกดิ เป็นบทเพลงท่มี ที ่วงทานองไพเราะนา่ ฟงั 4. สาระการเรียนรู้ เครอื่ งดนตรไี ทยบรรเลงจงั หวะและทานอง 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นหลักสตู รการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551  ความสามารถในการส่ือสาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. คุณธรรมอัตลกั ษณ์  มีมารยาท  มจี ิตอาสา  มรี ะเบยี บวนิ ัย  มีความรบั ผิดชอบ

7. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องโรงเรียนสุจริต  มีจิตสาธารณะ.  ความมวี ินยั  ความพอเพยี ง  ซือ่ สตั ยส์ ุจรติ  ทักษะกระบวนการคิด 8. ด้านเจตคติ/คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ (Attitude : A)  รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ซอ่ื สัตย์สจุ รติ  มีวนิ ยั  ใฝ่เรยี นรู้  อยู่อย่างพอเพียง  มงุ่ ม่ันในการทางาน  รักความเปน็ ไทย  มจี ิตสาธารณะ 9. การบรู ณาการไตรสิขา  ศลี  สมาธิ  ปัญญา 10. ทกั ษะในศตวรรษที่ 21 (3R 8C )  1. ทักษะการอา่ น (Reading)  2. ทักษะการ เขยี น (Writing)  3. ทักษะการคิดคานวณ (Arithmetic)  4. ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแกป้ ญั หา (Critical thinking and problem solving)  5. ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation)  6. ทักษะดา้ นความร่วมมือการทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, teamwork and leadership)  7. ทกั ษะดา้ นความเข้าใจต่างวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)  8. ทักษะด้านการส่ือสารสารสนเทศและรูเ้ ทา่ ทนั สอื่ (Communication information and media literacy)  9. ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (ComputingandICTLiteracy)  10. ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)  11. มคี ณุ ธรรม มเี มตตา กรณุ า มรี ะเบียบวนิ ัย (compassion) 11. การบูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง พอประมาณ ผเู้ รียนพอประมาณในการศึกษาคน้ ควา้ ความรู้โดยใช้เวลาทางานเสรจ็ ตามทกี่ าหนด มีเหตผุ ล ผเู้ รยี นมีเหตุผลในการเรียนรู้ สรุปผลและออกมานาเสนอผลงานหน้าช้นั เรยี น มภี มู ิคมุ้ กนั ผเู้ รยี นสามารถเรียนรู้ ทาความเข้าใจ กบั สงิ่ ทเี่ ห็นคานึงถึงความเปน็ ไปได้ของการเรียนรู้ ความรู้ ผู้เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับประเภทเครื่องดนตรไี ทยประกอบจงั หวะและดาเนนิ ทานอง คณุ ธรรม ผเู้ รียน มีความอดทน เพยี รพยายามในการเรียนรู้ มคี วามสามัคคีช่วยเหลอื กนั ในกลุ่ม

12. วิธกี ารสอนแบบ Active Learning  แบบระดมสมอง (Brainstorming)  แบบเน้นปัญหา/โครงงาน/กรณศี กึ ษา (Problem/Project-based Learning/Case Study)  แบบแสดงบทบาทสมมตุ ิ (Role Playing)  แบบแลกเปลยี่ นความคิด (Think – Pair – Share)  แบบสะทอ้ นความคิด (Student’s Reflection)  แบบตงั้ คาถาม (Questioning-based Learning)  แบบใช้เกม (Games-based Learning)  อน่ื ๆ โปรดระบุ ........................................................................................................ 13. การใช้ส่ือ  การพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาดว้ ยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทยี ม (DLTV : Distance Learning Television)  การพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาทางไกลผ่านเทคโนโลยสี ารสนเทศ (DLIT : Distance Learning Information Technology  อ่นื ๆ โปรดระบุ PowerPoint / YouTube/ (Website : Wheelofnames) 14. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นา 1. นักเรยี นนงั่ สมาธิกอ่ นเรยี นด้วยการการเปดิ เพลง “ด่งั ดอกไม้บาน” (สมาธิ) 2.นกั เรียนดูคลปิ วีดโี อ และฝึกปฏิบัตกิ ิจกรรมนนั ทนาการ เพลงตบมอื ตบอก ตบไหล่ เพือ่ เป็นการ เตรียมความพร้อมกอ่ นเรียน(Games-based Learning) ขนั้ สอน 1.ครแู จง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ 2.นกั เรียนดูคลิปวีดีโอการบรรเลงวงดนตรไี ทย ครูใชค้ าถามเพ่อื ให้นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นให้ นกั เรยี นดดู ว้ ยความต้งั ใจ และให้มีสมาธิจดจ่อกบั คลปิ วดิ โี อทคี่ รเู ปิดให้ดู (สมาธิ) https://www.youtube.com/watch?v=oBsAVO4E1Hs 3.นกั เรยี น ดู PowerPoint เรือ่ ง เครื่องดนตรไี ทยประกอบจังหวะและดาเนนิ ทานอง และฟังคาอธบิ าย จากครู

4.นักเรียนตอบคาถาม โดยครูใช้สื่อจาก (Website : Wheelofnames) ในการสุ่มนักเรียนตอบคาถามใน แต่ละข้อโดยให้นักเรียนสร้างข้อตกลงร่วมกันว่าจะตอบคาถามด้วยความเป็นระเบียบ ปฏิบัติตามกฎกติกา มี มารยาทในการตอบ ไมเ่ อะอะโวยวาย ไม่เยาะเย้ยเพ่อื นที่ตอบคาถามไม่ได้ รจู้ ักใหก้ าลงั ใจเพ่ือน (ศลี ) 5.นกั เรยี นแบ่งกล่มุ ออกเปน็ 4 กลมุ่ ใหป้ ฎบิ ัตติ ามกฎระเบยี บไมท่ จุ ริตในการศกึ ษาคน้ คว้าเนือ้ หาเก่ียวกับ ประเภทเครือ่ งดนตรไี ทยประกอบจงั หวะและดาเนินทานอง จากหนังสอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน ศลิ ปะ 5 แล้วให้แต่ ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลงานและสรปุ ให้ครูและเพอื่ นๆฟังหน้าชน้ั เรียน (Reading) (Collaboration, teamwork and leadership) 6. นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับประโยชน์ของประเภทเคร่อื งดนตรีไทยประกอบจังหวะและ ดาเนินทานอง โดยครูใช้คาถาม(Think – Pair – Share) ข้ันสรุป นักเรียนรว่ มกนั สรปุ เนื้อหา เรอ่ื งเคร่อื งดนตรไี ทยประกอบจงั หวะและดาเนินทานอง (ปัญญา) โดยครู คอยใหค้ วามรูเ้ สริมในส่วนทน่ี กั เรียนไมเ่ ข้าใจและสรุปไม่ตรงกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ 15. สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ 1. คลปิ วีดโี อ เพลงตบมอื ตบอก ตบไหล่ https://www.youtube.com/watch?v =Voci0iGct64&list=RDcaSmAlLGE7c&index=16 2. PowerPoint เร่ือง เครือ่ งดนตรีไทยประกอบจังหวะและดาเนินทานอง 3. คลิปวีดโี อ การบรรเลงวงดนตรีไทย https://www.youtube.com/watch?v=oBsAVO4E1Hs 4. (Website : Wheelofnames) 16. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน 1.การนาเสนอผลงาน 1.แบบประเมินการ 1.เกณฑ์การประเมนิ การ คะแนน 18-20 ระดับ ดมี าก คะแนน 14-17 ระดับ ดี 2.สงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วม นาเสนอผลงาน นาเสนอผลงาน คะแนน 10-13 ระดบั พอใช้ กิจกรรม ต่ากว่า 10 ระดบั ปรับปรุง 2.สงั เกตพฤติกรรม 2.เกณฑ์การประเมนิ แบบ ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น การเข้ารว่ มกจิ กรรม สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วม ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่าไมผ่ ่าน กจิ กรรม

รายการวัด วธิ ีวดั เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 3.คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 3.สังเกตการใฝ่ เรยี นรู้ 3.แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ พึงประสงค์ ลงช่อื .....................................................ครูผู้สอน (นางสาวรนิ ทรน์ ภา ตลาดเงนิ )

แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คาช้แี จง :ให้ผูส้ อนประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรียนตามรายการทกี่ าหนด แลว้ ขดี ✔ ลงในช่องที่ตรง กบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 4 321 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การลาดบั ขัน้ ตอนของเนือ้ เรื่อง 3 การนาเสนอมคี วามน่าสนใจ 4 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุม่ 5 การตรงตอ่ เวลา รวม แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม (ในช้นั เรยี น) คาชี้แจง ให้ทาเคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งรายการสงั เกตพฤติกรรมทน่ี ักเรียนปฏบิ ตั ิ รายการ เลขที่ ช่ือ-สกลุ ร่วมมอื ในการ กลา้ ออกมาแสดง เขา้ ร่วมกจิ กรรม สรปุ ผลการ ทากจิ กรรม ความสามารถ ดว้ ยความสนุกสนาน ประเมนิ เพลิดเพลนิ ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผา่ น ผา่ น ไมผ่ ่าน ผา่ น ไม่ผ่าน

แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น คาชแ้ี จง : ใหส้ งั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน สมรรถนะทปี่ ระเมนิ ระดบั คะแนน 321 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1.1 มคี วามสามารถในการรับ – สง่ สาร 1.2 มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดย ใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม 1.3 ใชว้ ิธีการสอ่ื สารทเ่ี หมาะสม คะแนนเฉลยี่ 2 คะแนน 2. ความสามารถในการคดิ 2.1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เพื่อการสร้างองค์ความรู้ 2.2 มคี วามสามารถในการคิดเป็นระบบ เพอ่ื การสรา้ งองค์ความรู้ คะแนนเฉล่ีย 2 คะแนน 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3.1 แก้ปัญหาโดยใช้เหตุผล 3.2 แสวงหาความรมู้ าใช้ในการแกป้ ัญหา 3.3 ตดั สนิ ใจโดยคานึงถึงผลกระทบต่อตนเองและผ้อู นื่ คะแนนเฉลี่ย 2 คะแนน 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 4.1 ทางานและอย่รู ว่ มกับผอู้ นื่ ดว้ ยความสัมพนั ธ์อันดี 4.2 มีวธิ แี ก้ไขความขัดแย้งอยา่ งเหมาะสม คะแนนเฉลย่ี 2 คะแนน 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลือกใช้ข้อมลู ในการพฒั นาตนเองอยา่ งเหมาะสม 5.2 เลือกใช้ขอ้ มลู ในการทางานและอยู่รว่ มกับผู้อืน่ อยา่ งเหมาะสม คะแนนเฉลยี่ 2 คะแนน รวมคะแนนเตม็ 10 คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : - พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบตั ิชัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิชดั เจนและบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั ิบางครงั้ ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารประเมินด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตวั ช้ีวัด เกณฑ์การประเมนิ 1. มีวนิ ัย ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเย่ียม (3) 2. ใฝเ่ รยี นรู้ ไม่ปฏบิ ตั ิตนตาม ปฏิบัตติ นตามข้อตกลง ปฏิบตั ติ นตาม ปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลง 3. ม่งุ มั่นในการ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ทางาน ระเบยี บ ข้อบงั คบั กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อตกลง กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับ ของโรงเรยี น 4.รักความเป็นไทย ข้อบงั คับ ของ ระเบยี บ ขอ้ บังคับ ของครอบครวั และโรงเรียน ไมต่ ้ังใจเรยี น ครอบครวั และโรงเรียน ของครอบครัวและ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ ตรงตอ่ เวลาในการ โรงเรียน ตรงต่อเวลา กจิ กรรมตา่ งๆใน ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ในการปฏบิ ตั ิ ชีวิตประจาวนั และ ในชวี ิตประจาวนั แต่ กิจกรรมต่างๆใน รับผิดชอบในการทางานได้ ต้องมกี ารเตือนเป็น ชีวิตประจาวนั แต่ ด้วยตวั เอง ส่วนใหญ่ ต้องมีการเตือนเป็น บางคร้งั ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั้ ใจเรียน เอาใจใส่ ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่และมี และมคี วามเพียร- และมีความเพยี ร- ความเพียร- พยายามในการเรียนรู้ พยายามในการเรียนรู้ พยายามในการเรียนรเู้ ข้าร่วม เขา้ ร่วมกจิ กรรม เข้ารว่ มกจิ กรรม กจิ กรรม การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ การเรยี นร้ตู า่ ง ๆ บางครงั้ บอ่ ยครง้ั เปน็ ประจา ไมต่ ั้งใจปฏบิ ตั ิ ตั้งใจและรับผิดชอบ ตั้งใจและรบั ผิดชอบ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบ หน้าที่การงาน ในการปฏิบตั ิหน้าที่ ในการปฏบิ ัตหิ น้าท่ี ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ใหส้ าเร็จ ใหส้ าเรจ็ มีการ ใหส้ าเร็จ มีการ ปรับปรงุ การทางาน ปรบั ปรุงและพัฒนา ใหด้ ขี ้นึ การทางานใหด้ ีขน้ึ ดว้ ย ตนเอง ไมส่ นใจ บอกชอ่ื ภูมิปัญญาไทย บอกช่อื ภมู ิปัญญาไทย บอกช่อื ภูมิปัญญาไทย ภูมิปญั ญาไทย ท่ใี ช้ในท้องถน่ิ ทีใ่ ช้ในท้องถ่ินของตน ที่ใช้ในท้องถิ่นของตนเข้าร่วม ของตนได้ เขา้ ร่วมกจิ กรรม และชักชวนคนในครอบครวั ทเ่ี กยี่ วข้องกบั หรือเพอ่ื นเข้ารว่ มกิจกรรมท่ี ภูมิปัญญาไทย เกีย่ วข้องกับภูมิปญั ญาไทย



แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ รหัสวิชา ง 11101 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง เส้ือผา้ และเครือ่ งแต่งกาย เวลา 4 ชวั่ โมง แผนการเรียนรทู้ ่ี 5 เร่อื ง เสื้อผา้ และเครอ่ื งแตง่ กาย เวลา 1 ช่ัวโมง *********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทางาน มีความคิดสรา้ งสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการจดั การ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทกั ษะการทางานรว่ มกัน และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มคี ุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทางาน มีจิตสานกึ ในการใชพ้ ลงั งาน ทรพั ยากร และสง่ิ แวดล้อม เพอ่ื การดารงชวี ิตและครอบครัว ตวั ช้ีวัด ง 1.1 ป.1/1 บอกวธิ ีการทางานเพ่ือช่วยเหลือตนเอง 2. จุดประสงค์การเรียนรู้/ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้หลกั สูตรต้านทจุ ริต 1. สรปุ ความร้เู กีย่ วกับการเลือกใช้เส้อื ผ้าลงในแผนภาพ (K) 2. เลอื กใชเ้ ส้ือผ้าได้เหมาะสมกับสภาพอากาศและโอกาส ( P) 3. เหน็ ประโยชนข์ องการเลือกใชเ้ ส้อื ผา้ ไดเ้ หมาะสมกบั สภาพอากาศและโอกาส (A) 4. บอกความสาคญั ของกจิ กรรมนักเรยี นได้ 5. ปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บไมท่ ุจริตตอ่ กจิ กรรมที่ทา 3. สาระสาคญั การเลือกใช้เสือ้ ผ้า ควรเลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั สภาพอากาศและโอกาส เพอ่ื ให้ผู้สวมใสม่ ีร่างกายแขง็ แรง ไมเ่ จ็บป่วยดว้ ยโรคแพอ้ ากาศ มีความม่นั ใจในการเข้าสงั คม ส่งเสริมบุคลกิ ภาพ และผู้พบเหน็ รู้สึกช่นื ชม 4. สาระการเรียนรู้ การเลอื กใช้เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและโอกาส 5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียนหลกั สูตรการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551  ความสามารถในการสือ่ สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปญั หา  ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณธรรมอัตลักษณ์  มีความรบั ผิดชอบ  มมี ารยาท  มจี ติ อาสา  มรี ะเบียบวนิ ัย

7. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของโรงเรียนสุจริต  มีจิตสาธารณะ.  ความมีวนิ ัย  ความพอเพยี ง  ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต  ทักษะกระบวนการคิด 8. ด้านเจตคติ/คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ (Attitude : A)  รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ  มีวนิ ัย  ใฝ่เรยี นรู้  อยู่อย่างพอเพียง  มุ่งมนั่ ในการทางาน  รกั ความเป็นไทย  มีจิตสาธารณะ 9. การบรู ณาการไตรสิกขา  ศีล  สมาธิ  ปัญญา 10. ทักษะในศตวรรษที่ 21 (3R 8C ) 1. ทกั ษะการอา่ น (Reading) 2. ทกั ษะการ เขียน (Writing)  3. ทกั ษะการคดิ คานวณ (Arithmetic)  4. ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทักษะในการแก้ปญั หา (Critical thinking and problem solving) 5. ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 6. ทกั ษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ า Collaboration, teamwork and leadership)  7. ทกั ษะด้านความเขา้ ใจตา่ งวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)  8. ทักษะด้านการส่อื สารสารสนเทศและรเู้ ท่าทนั สื่อ (Communication information and media literacy)  9. ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (ComputingandICTLiteracy)  10. ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)  11. มคี ณุ ธรรม มีเมตตา กรณุ า มีระเบียบวนิ ัย (compassion) 10. การบรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง พอประมาณ ผเู้ รียนพอประมาณในการปฏิบัติจรงิ โดยใช้เวลาทางานเสรจ็ ตามที่กาหนด มีเหตผุ ล ผู้เรียนมีเหตผุ ลในการเรียนรู้ อภปิ รายและสรปุ ผลจากการได้ลงมอื ปฏิบตั จิ รงิ มีภมู ิคมุ้ กนั ผูเ้ รยี นมภี ูมคิ ุ้มกันเกี่ยวกับความปลอดภยั ในการเลือกใช้เสื้อผา้ ในโอกาสตา่ งๆ ความรู้ ผู้เรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับการใช้อุปกรณ์ เคร่ืองมอื และเคร่อื งใช้ในบ้าน คณุ ธรรม ผเู้ รียนมีความซอ่ื สตั ย์สจุ รติ ในการปฏิบัติ มีความอดทน มรี ะเบียบวินัย

11. วธิ ีการสอนแบบ Active Learning แบบระดมสมอง (Brainstorming) แบบเน้นปญั หา/โครงงาน/กรณีศึกษา (Problem/Project-based Learning/Case Study)  แบบแสดงบทบาทสมมตุ ิ (Role Playing) แบบแลกเปลีย่ นความคิด (Think – Pair – Share) แบบสะท้อนความคดิ (Student’s Reflection)  แบบต้ังคาถาม (Questioning-based Learning)  แบบใชเ้ กม (Games-based Learning)  อนื่ ๆ โปรดระบุ ........................................................................................................ 12. การใชส้ อ่ื  การพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาดว้ ยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม (DLTV : Distance Learning Television)  การพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาทางไกลผ่านเทคโนโลยสี ารสนเทศ (DLIT : Distance Learning Information Technology  อืน่ ๆ โปรดระบุ สือ่ จาก YouTube https://www.youtube.com/watch?v=7BeRa7s6quI สอ่ื PowerPoint เรอื่ ง เสอ้ื ผ้าและเคร่ืองแตง่ กาย 13. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นา 1. ครูทกั ทายนักเรียนในกล่มุ ไลนว์ ชิ าการงานอาชพี ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 และให้นักเรยี นรายงาน การเข้าเรียน เพื่อตรวจสอบความพร้อมในการเรียน 2. นักเรยี นเตรยี มความพร้อมก่อนเรยี นด้วยเพลงจา จา จา https://www.youtube.com/watch?v=0iT37Xx_RUE (สมาธ)ิ ขัน้ สอน 1. นกั เรยี นศึกษาวดี ีโอประกอบการสอน เรือ่ ง เสอื้ ผา้ และเครือ่ งแต่งกาย https://www.youtube.com/watch?v=BEoJmehTIMA&t=16s โดยเน้นให้นักเรียนศึกษาวีดีโอน้ีด้วยความ ตง้ั ใจ (ศลี ) 2. ครูและนกั เรยี นร่วมกันอภิปรายผา่ นกลุ่มไลน์วชิ าการงานอาชพี ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 และ มกี ารติดตามงานที่ทา (Think – Pair – Share) รายละเอียดข้นั ตอนการทาใบงานทมี่ อบหมายเพ่อื ให้นกั เรียน สามารถทาดว้ ยตนเองได้

ข้นั สรปุ นักเรียนวาดรปู การแตง่ กายพร้อมอธบิ ายการนาไปใชใ้ นโอกาสอะไร(Questioning-based Learning) จากนน้ั ให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียนด้วย Google-Form เร่อื ง เส้ือผ้าและเคร่ืองแต่งกาย (ปัญญา) 15. สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานการงานอาชพี ป.1 2. .ใบงาน เรอื่ ง เสอ้ื ผ้าและเครอื่ งแต่งกาย 3. PowerPoint เรื่อง เส้ือผ้าและเครอื่ งแต่งกาย 4. แบบทดสอบ google form เรื่อง เส้ือผ้าและเครื่องแต่งกาย 16. การวัดและประเมนิ ผล รายการประเมนิ วธิ ีการประเมิน เครอ่ื งมือการประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน ดา้ นความรู้ (K) : - แบบทดสอบ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สรปุ ความร้เู ก่ียวกับการเลือกใชเ้ สอ้ื ผา้ ลง - ตรวจแบบทดสอบ - ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ในแผนภาพ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) : - ตรวจใบงาน เลอื กใช้เส้อื ผา้ ไดเ้ หมาะสมกับสภาพ อากาศและโอกาส ด้านคุณลักษณะ (A) : - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ พฤตกิ รรมใฝ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 เหน็ ประโยชน์ของการเลือกใช้เส้อื ผา้ ได้ ใฝ่เรียนรู้ มุง่ มั่นในการ เรียนรู้ และ มุ่งมั่นในการ ผ่านเกณฑ์ เหมาะสมกบั สภาพอากาศและโอกาส ทางาน ทางาน ลงช่อื .....................................................ครูผู้สอน (นางบญุ ยง่ิ พรมจารีย์)

ใบงานท่3ี วิชาการงานอาชีพ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่ือง เสอ้ื ผ้าและเครือ่ งแต่งกาย ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 ชอื่ .....................................................................................................เลขที่..................ชนั้ ............... ............................................................................................................................. ................................................. คาชแี้ จง: ให้นักเรยี นวาดรปู ภาพระบายสีเคร่อื งแตง่ กายมา 1 อย่าง พรอ้ มอธบิ ายการนาไปใช้ การนาไปใช้ ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ………………………………………………………………..……



แผนการจัดการเรยี นรู้ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๒ เวลา ๑๐ ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ รหสั วิชา อ ๑๒๑๐๑ เวลา ๑ ช่วั โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่ือง At Home แผนการเรียนรู้ท่ี ๑ เรือ่ ง Rooms in my home ๑. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเรื่องทฟี่ งั และอ่านจากสอื่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น อยา่ งมเี หตผุ ล ตวั ช้ีวัด ต ๑.๑ ป.๒/๒ ระบุตัวอกั ษรและเสยี ง อ่านออกเสยี งคาและสะกดคาและอา่ นประโยคง่าย ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้/จุดประสงค์การเรยี นรหู้ ลกั สูตรตา้ นทุจรติ ๑. อ่านออกเสียงและบอกความหมายของคาศัพท์เกยี่ วกับห้องตา่ งๆได(้ K) ๒. อา่ นสะกดคาไดถ้ กู ตอ้ ง(P) ๓. มคี วามกล้าแสดงออก(A) ๔. ตระหนักและมีความละอายและไม่ทนต่อความทจุ ริต ๓. สาระสาคญั การเรยี นรู้คาศัพทเ์ กีย่ วกับหอ้ งต่างๆ รวมถึงการอ่านออกเสยี งและสะกดคา เป็นการเรยี นรภู้ าษาอังกฤษเพื่อ นาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ๔. สาระการเรียนรู้ ห้องรับประทานอาหาร - คาศพั ท์เก่ยี วกบั ห้องตา่ งๆภายในบ้าน หอ้ งนงั่ เล่น/หอ้ งรบั แขก dining room ห้องน้า living room ห้องครวั bathroom หอ้ งนอน kitchen bedroom

๕. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียนหลักสตู รการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๖. คุณธรรมอัตลักษณ์  มีระเบยี บวนิ ยั  มีความรับผดิ ชอบ  มีมารยาท  มจี ติ อาสา ๗. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรยี นสจุ รติ  มจี ิตสาธารณะ.  ความมวี นิ ัย  ความพอเพียง  ซอ่ื สัตยส์ ุจรติ  ทกั ษะกระบวนการคดิ ๘. ด้านเจตคติ/คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ (Attitude : A)  รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ซอื่ สตั ย์สุจริต  มวี นิ ยั  ใฝ่เรียนรู้  อยู่อย่างพอเพียง  มงุ่ ม่ันในการทางาน  รักความเป็นไทย  มีจิตสาธารณะ ๙. ทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ (๓R ๘C )  ๑. ทกั ษะการอา่ น (Reading)  ๒. ทกั ษะการเขยี น (Writing) ๔. ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและทักษะในการแกป้ ัญหา (Critical thinking and problem solving)  ๕. ทักษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม (Creativity and innovation)  ๖. ทกั ษะดา้ นความรว่ มมอื การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, teamwork and leadership)  ๗. ทักษะด้านความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรมต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)  ๘. ทกั ษะดา้ นการสือ่ สารสารสนเทศและรูเ้ ทา่ ทนั ส่ือ (Communication information and media literacy)  ๙. ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร (ComputingandICTLiteracy)  ๑๐. ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)  ๑๑. มคี ณุ ธรรม มเี มตตา กรุณา มีระเบยี บวนิ ัย (compassion) ๑๐. ไตรสิกขา  ศีล  สมาธิ  ปญั ญา

๑๑. การบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง พอประมาณ ผูเ้ รียนพอประมาณในการทากิจกรรมโดยใช้เวลาทางานเสร็จตามท่ีกาหนด มเี หตุผล ผู้เรียนมเี หตุผลในการตัดสนิ ใจแก้ปญั หาทก่ี าหนดให้ มีภูมิคุ้มกัน ผเู้ รยี นสามารถเรียนรู้ ทาความเข้าใจ กับส่ิงที่เหน็ คานงึ ถงึ ความเป็นไปได้ของการเรยี นรู้ ความรู้ ผูเ้ รียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในคาศัพทเ์ กีย่ วกบั ห้องต่างๆภายในบ้าน คุณธรรม ผู้เรียนมีความซอ่ื สัตย์สุจริตในการตอบคาถาม มคี วามเพียรพยายามใน การเรยี นรู้ ๑๒. วธิ ีการสอนแบบ Active Learning  แบบระดมสมอง (Brainstorming)  แบบเนน้ ปัญหา/โครงงาน/กรณศี ึกษา (Problem/Project-based Learning/Case Study)  แบบแสดงบทบาทสมมตุ ิ (Role Playing)  แบบแลกเปลีย่ นความคิด (Think – Pair – Share)  แบบสะท้อนความคดิ (Student’s Reflection)  แบบตั้งคาถาม (Questioning-based Learning)  แบบใชเ้ กม (Games-based Learning)  อ่ืนๆ โปรดระบุ ........................................................................................................ ๑๓. การใช้สอ่ื  การพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาดว้ ยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม (DLTV : Distance Learning Television)  การพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาทางไกลผา่ นเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT : Distance Learning Information Technology  อื่นๆ โปรดระบุ www.youtube.com (rooms in my house) ๑๔. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นา ๑. ครูให้นกั เรียนเตรยี มความพร้อมโดยการนง่ั สมาธิเพลง flowers bloom(สมาธ)ิ ๒. ให้นกั เรียนดวู ิดีทศั นเ์ รอื่ ง rooms in my house

๓. หลังจากนั้นใหน้ กั เรียนร่วมกนั บอกคาศพั ท์ท่ไี ด้จากวิดีทัศน์ (ปญั ญา) (Think – Pair – Share) (Student’s Reflection) ๔. บอกจุดประสงค์การเรียนรู้และเรอื่ งทจ่ี ะเรียนในชวั่ โมง ข้นั สอน ๑.ครนู าเสนอคาศัพทเ์ ก่ียวกับสถานทตี่ า่ งๆ พรอ้ มทงั้ ให้นักเรียนอา่ นออกเสียงตาม (communicative language teaching) (Reading)

๒. เมือ่ นักเรยี นสามารถอ่านได้คล่องแล้ว ใหน้ กั เรียนที่เปน็ อาสาสมัคร ๓-๔ คน อ่านให้เพือ่ นฟัง (ปญั ญา) (Reading) ๓. ครูแบ่งนักเรยี นออกเป็น ๒ กลุ่ม แจ้งกตกิ าการเล่นเกมดงั นี้(Games-based Learning) ๑. ครชู รู ูปภาพให้นักเรียนดู ๒. นกั เรยี นคนใดทตี่ อบคาถามให้ยกมอื ค้างไว้ ห้ามนกั เรยี นพดู คาศัพทก์ อ่ นท่ีครูอนญุ าต ๔. ให้นกั เรยี นพูดคาศัพทจ์ ากรูปภาพใหถ้ ูกตอ้ ง ๕. กลุ่มใดตอบถูก ได้ ๑ คะแนน กลมุ่ ใดตอบไม่ถูก ไม่ไดค้ ะแนน ขนั้ สรุป นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ คาศพั ท์ พร้อมทงั้ ทาใบงาน ร่วมกนั เฉลยตรวจคาตอบโดยมีความซื่อสัตย์ต่อ ตนเองโดยไม่แกไ้ ขคา (Student’s Reflection) (Writing) (ศลี ) ๑๕. ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ ๑. Youtube เร่ือง rooms in my house ๒. Power Point เรื่อง rooms in my house ๓. ใบงานเรอื่ ง Rooms in my house ๑๕. ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ ๑. สอื่ ๑.๑ บัตรภาพ บตั รคา ๑.๒ สื่อการสอนเพลงเรือ่ ง Rooms in my house ๑.๓ ใบงานเรือ่ ง Do you like……..? ๒. แหล่งเรียนรู้ ๒.๑ หอ้ งเรยี น ๒.๒ อินเทอร์เนต็

๑๖. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์ ท่ี วิธีการ ใบงาน รอ้ ยละ ๗๐ ผ่านเกณฑ์ ๑ ตรวจใบงาน แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ๒ สงั เกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วม การทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ในกิจกรรม อนั พงึ ประสงค์ ๓ สงั เกตความ ใฝ่เรียนรู้ และ ม่งุ มนั่ ในการทางาน ลงช่อื .....................................................ครูผู้สอน (นางสาววลั ภา จานงค์ไว)

ช่ือ ......................................................................................................... ชนั้ ...... เลขท่ี....


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook