อีบุ๊ค ระบบสุริยะ กัญญภัส 104

1. ด้านความรู้ : Knowledge (K) อธบิ าย หนังสืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เรอ่ื งระบบสรุ ิยะ สาระการ การกาเนิดระบบสรุ ิยะองคป์ ระกอบของระบบสุริยะ เรยี นรู้วทิ ยาศาสตรจ์ ดั ทาขน้ึ โดยการนาเทคโนโลยมี าประยกุ ต์กบั การเรยี นการสอน ซึง่ จะชว่ ยให้ผเู้ รียนมีความสนใจในเนอ้ื หาและ 2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ : Process การเรียนร้ไู ดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ (P) สามารถคิดตามและอธบิ ายการกาเนดิ ระบบสุรยิ ะ องค์ประกอบของระบบสรุ ยิ ะ ผูจ้ ัดทาหวังเปน็ อยา่ งยิ่งวา่ หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์เลม่ นีจ้ ะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรยี นและผทู้ ส่ี นใจจะศกึ ษาไมม่ ากก็น้อย 3. ดา้ นเจตคติ : Attitude (A) เห็น หากมขี อ้ ผิดพลาดประการใดผจู้ ัดทาก็ขออภยั ไว้ ณ ที่น้ี ความสาคญั ของการกาเนดิ ระบบสุรยิ ะองค์ประกอบของ ระบบสรุ ยิ ะ กัญญภสั เพ็ชร์ชัย

หนา้ ตอ่ ไป ย้อนกลับ กลบั มาหน้าสารบญั



ระบบสรุ ิยะเกดิ จากกลุ่มฝุ่นและแกส๊ ในอวกาศซ่ึง แรงโน้มถ่วงทเี่ พิ่มขน้ึ สร้างแรงกดดันท่ใี จ เรยี กวา่ “โซลารเ์ นบวิ ลา” (Solar Nebula) รวมตวั กัน กลางจนอณุ หภมู สิ ูงถงึ 15 ล้านเคลวิน จุดปฏิกริ ิยา เม่อื ประมาณ 4,600 ลา้ นปีมาแลว้ (นกั วิทยาศาสตร์ นิวเคลยี รฟ์ วิ ชนั หลอมรวมอะตอมของไฮโดรเจนใหเ้ ป็น คานวณจากอัตราการหลอมรวมไฮโดรเจนเป็นฮีเลียม ฮเี ลียม ดวงอาทติ ยก์ าเนดิ เปน็ ดาวฤกษ์ ภายในดวงอาทิตย)์ เมื่อสสารมากข้ึนแรงโนม้ ถ่วงระหว่าง มวลสารมากขนึ้ ตามไปดว้ ย กล่มุ ฝุ่นและแกส๊ ยุบตัวหมุน เปน็ รูปจานตามหลักอนุรักษโ์ มเมนตมั เชงิ มุม แรงโนม้ ถว่ ง ทเี่ พิม่ ขน้ึ สรา้ งแรงกดดนั ทีใ่ จกลางจนอณุ หภมู สิ งู ถงึ 15 ล้านเคลวนิ

วัสดรุ อบๆ ดวงอาทติ ย์ (Planetisimal) เนอ่ื งจากเปน็ ดาวเคราะหข์ นาดใหญ่มมี วลมาก ยังคงหมุนวนและโคจรรอบดวงอาทิตยด์ ว้ ยโมเมนตมั ท่มี ี จงึ มีแรงโน้มถว่ งมาก ตา่ งกับดาวพุธซึง่ เปน็ ดาวเคราะห์ อยูเ่ ดมิ มวลสารในวงโคจรแต่ละช้นั รวมตัวกันเป็นดาว ขนาดเลก็ มีมวลนอ้ ยจึงมีแรงโน้มถ่วงน้อยจึงไมม่ ีดวง เคราะห์ อิทธิพลจากแรงโน้มถว่ งทาให้วสั ดทุ ่ีอยู่รอบๆ จนั ทร์บริวารเลย สว่ นดาวเคราะหน์ ้อยและดาวหางน้นั พงุ่ เข้าหาดาวเคราะห์จากทกุ ทศิ ทาง ถา้ ทิศทางของการ มรี ปู ทรงเหมอื นอุกกาบาต เพราะเป็นดาวขนาดเล็กมี เคล่อื นท่มี มี ุมลึกก็จะพงุ่ ชนดาวเคราะห์ ทาใหด้ าว มวลนอ้ ย แรงโน้มถ่วงจึงไม่สามารถเอาชนะแรงยดึ เคราะหน์ นั้ มีขนาดใหญแ่ ละมีมวลเพ่ิมข้นึ แต่ถ้ามมุ ของ เหน่ยี วระหว่างสสารให้ยบุ รวมเปน็ ทรงกลมได้ การพงุ่ ชนต้นื เกินไปกอ็ าจจะทาให้แฉลบเข้าสู่วงโคจร และเกดิ การรวมตวั กลายเป็นดวงจนั ทรบ์ รวิ าร ดงั จะ เห็นวา่ ดาวเคราะหข์ นาดใหญ่ เชน่ ดาวพฤหสั บดแี ละ ดาวเสารม์ ดี วงจนั ทร์บรวิ ารหลายดวง

1. ดวงอาทติ ย์ (The Sun) เปน็ ดาวฤกษ์ซ่งึ 3. ดวงจันทร์บริวาร(Moons) มีมวลรอ้ ยละ 99 ของระบบสุรยิ ะ จึงทาให้อวกาศโค้ง หมายถงึ ดาวทีเ่ ป็นบรวิ ารโคจรรอบดาวเคราะห์อกี ท่ี เกดิ เปน็ ศนู ย์กลางของแรงโน้มถว่ ง หน่งึ มไิ ด้โคจรรอบดวงอาทิตยโ์ ดยตรง 2. ดาวเคราะห์ (Planets) คอื บรวิ ารขนาด 4. ดาวเคราะห์แคระ (Dwarf Planets) ใหญข่ องดวงอาทติ ย์ 8 ดวง เรยี งลาดับจากใกล้ไป เปน็ นยิ ามใหม่ของสมาพนั ธด์ าราศาสตรส์ ากล (International Astronomical Union) ท่ีกลา่ วถึง ไกล ได้แก่ ดาวพุธ ดาวศกุ ร์ โลก ดาวองั คาร ดาว วตั ถุขนาดเลก็ ทม่ี รี ปู ร่างคลา้ ยทรงกลม มีวงโคจรเปน็ พฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจนู ดาว รอบดวงอาทิตย์ ซ้อนทับกบั ดาวเคราะหด์ วงอื่น และไม่ เคราะห์ทงั้ แปดโคจรรอบดวงอาทติ ย์ โดยมีระนาบ อยูใ่ นระนาบของสรุ ิยวถิ ี ยกตวั อย่าง ดาวพลูโตถูก ใกล้เคียงกบั ระนาบสรุ ิยวิถี จัดเปน็ ดาวเคราะหแ์ คระ

5. ดาวเคราะห์น้อย (Asteroids) คอื วตั ถุที่ 7. ดาวหาง (Comets) เปน็ วัตถขุ นาดเลก็ ไมส่ ามารถรวมตัวกันเป็นดาวเคราะห์ได้ เน่ืองจากถูก เช่นเดยี วกับดาวเคราะหน์ อ้ ย แตม่ ีวงโคจรรอบดวง รบกวนจากแรงโนม้ ถว่ งของดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ เช่น อาทติ ย์เปน็ วงรแี คบ และทามมุ เอยี งตัดกบั ระนาบของสุ ดาวพฤหสั บดี และดาวเสาร์ ทาใหแ้ รงไทดลั ท่ีเกิดขึ้นมี รยิ วถิ เี ปน็ มมุ สูง ดาวหางมอี งค์ประกอบเปน็ น้าแขง็ กาลังมากกว่าแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งสสารภายในดาว (Ice water) และแก๊สในสถานะของแข็ง ดาวเคราะห์นอ้ ยส่วนใหญ่มีองค์ประกอบหลักเปน็ หิน 8. เมฆออร์ต นักดาราศาสตร์ชาว 6. วัตถุแถบคอยเปอร์ (Kuiper Belt เนเธอร์แลนด์ชื่อ แจน ออร์ต (Jan Oort) ตงั้ ทฤษฏี Objects) มอี งคป์ ระกอบหลกั เป็นหนิ ปนน้าแขง็ มีวง วา่ บริเวณขอบนอกของระบบสรุ ิยะเปน็ ทรงกลม ซ่ึงมี โคจรรอบดวงอาทติ ยอ์ ยู่ถัดจากดาวเนปจนู ออกไป วง ขนาดรศั มีประมาณ 50,000 AU จากดวงอาทิตย์ โคจรของัวตั ถุในแถบคอยเปอรเ์ อยี งทามุมกับระนาบสุ หอ่ หุม้ ด้วยวัสดจุ าพวกน้าแข็ง ริยวิถเี ล็กน้อย โดยมรี ะยะหา่ งจากดวงอาทติ ย์ 40 – 500 AU

ในยคุ ก่อนมียานอวกาศ นักดาราศาสตร์ ดาวเคราะห์วงนอก (Superior Planets) จาแนกประเภทดาวเคราะห์ โดยใชว้ งโคจรของโลกเปน็ หมายถึง ดาวเคราะหท์ ี่อยูไ่ กลดวงอาทติ ยม์ ากกว่าโลก เกณฑ์ในการแบง่ ดาวเคราะห์ออกเปน็ ไดแ้ ก่ ดาวอังคาร ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาว ยเู รนัส และดาวเนปจูน ดาวเคราะห์ชั้นนอกสามารถ ดาวเคราะห์วงใน (Inferior Planets) ปรากฏให้เหน็ ตอนกลางคนื ในช่วงเวลาใดก็ได้ ไม่ หมายถงึ ดาวเคราะหท์ ี่อยู่ใกลด้ วงอาทติ ย์มากกว่าโลก จาเป็นตอ้ งอยู่ใกลด้ วงอาทติ ยเ์ วลาขึน้ หรอื ตก เมอ่ื ส่องดู ได้แก่ ดาวพธุ และดาวศกุ ร์ เราจงึ มองเห็นเคราะห์จึง ดว้ ยกล้องโทรทรรศน์จะเห็นว่า ดาวเคราะหช์ ้ันนอก มองเหน็ ดาวเคราะห์วงในอยู่ใกลด้ วงอาทิตย์ เหนอื ขอบ ปรากฏใหเ้ ห็นเปน็ วงคอ่ นข้างกลมและมีขนาดค่อนข้าง ฟา้ ด้านทศิ ตะวนั ตกเวลาพลบค่า หรอื เหนอื ขอบฟา้ ดา้ น คงท่ี เนือ่ งจากอยูไ่ กลจากโลกมากวา่ ดวงอาทิตย์ จงึ ทศิ ตะวันออกเวลารงุ่ เช้าเทา่ นัน้ โดยดาวพธุ จะห่างจาก หันดา้ นท่ีสะทอ้ นแสงอาทิตย์เขา้ สู่โลกเสมอ ดวงอาทิตย์ไม่เกนิ 28° และดาวศุกร์อย่หู า่ งจากดวง อาทิตยไ์ มเ่ กิน 44° (Greatest elongation)

ในยุคอวกาศ นกั ดาราศาสตร์จาแนก ดาวเคราะห์ชน้ั นอก (Outer Planets) หรอื แบบฝึกหดั ดาวเคราะห์แก๊ส (Giant Gas Planets) หมายถงึ ประเภทดาวเคราะห์ ตามลกั ษณะทางกายภาพซ่งึ ได้ ดาวเคราะหท์ มี่ ีบรรยากาศหนาแนน่ ไดแ้ ก่ ข้อมูลมาจากยานอวกาศ ซ่งึ แบง่ ออกเปน็ ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนสั และดาวเนปจูน เปน็ ดาวเคราะหท์ ่ีมขี นาดใหญ่และมีมวลมาก เนอ่ื งจาก ดาวเคราะหช์ น้ั ใน (Inner Planets) หรอื อยูห่ ่างไกลจากอิทธพิ ลของรังสแี ละลมสรุ ิยะ ดาวเคราะห์แขง็ (Terrestrial planets) หมายถึง ดาว บรรยากาศจึงสามารถคงอยไู่ ดอ้ ย่างหนาแน่น เคราะหท์ ม่ี พี ื้นผวิ เป็นของแข็ง ไดแ้ ก่ ดาวพุธ ดาวศกุ ร์ ดาวเคราะหช์ ้ันนอกมมี วลมากจงึ มแี รงโน้มถ่วงสูง ทาให้ โลก และดาวอังคาร เปน็ ดาวเคราะห์ท่มี ีขนาดเล็กและ ดงึ ดดู สสารท้ังหลายมาสะสมไว้ภายใน มมี วลนอ้ ย เนอ่ื งจากบรรยากาศทห่ี อ่ หุม้ ดาวถูกทาลาย โดยรังสีคลืน่ สัน้ และอนภุ าคพลงั งานสูงท่ีมากับลม สุริยะ จงึ เหลอื แต่พ้นื ผิวที่เป็นของแข็ง

แบบฝึกหัด ถกู ต้อง เธอเกง่ มาก คาชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นคลกิ เลอื กคาตอบท่ีถกู ท่สี ุด พยายามหนอ่ ยนะ ดาวเคราะห์ช้นั นอกเรียกอกี ช่ือหนงึ่ ว่าอะไร ดาวเคราะหอ์ ่อน ต้ังใจอีกนดิ นะคนเกง่ ดาวเคราะห์แข็ง ดาวเคราะห์แกส๊

คอื ดาวฤกษ์ท่อี ยู่ตรงศนู ย์กลางของระบบ แก่นปฏกิ รณน์ วิ เคลียร์ (Fusion core) อยู่ สรุ ยิ ะ มีขนาดเส้นผา่ นศูนย์กลาง 1.4 ล้านกิโลเมตร ที่ใจกลางของดวงอาทิตย์แรงโนม้ ถว่ งของดวงอาทิตย์ทา หรอื 109 เทา่ ของเสน้ ผา่ นศนู ย์กลางโลก อย่หู ่างจาก ใหม้ วลสารของดาวกดทบั กันจนอุณหภูมิทใี่ จกลางสงู ถงึ โลก 149,600,000 กโิ ลเมตร หรือ 1 หน่วยดารา 15 ลา้ นเคลวิน ศาสตร์ (AU) ดวงอาทติ ยม์ มี วลมากกว่าโลก 333,000 เท่า แตม่ ีความหนาแน่นเพียง 0.25 เทา่ ของ โซนการแผร่ งั สี (Radiative zone) โลก เนอื่ งจากมีองคป์ ระกอบเปน็ ไฮโดรเจน 74% พลงั งานท่เี กิดขนึ้ จากแก่นปฏกิ รณน์ วิ เคลยี รถ์ กู นาขน้ึ สู่ ฮีเลียม 25% และธาตชุ นิดอ่นื 1% ชั้นบนโดยการแผร่ ังสีดว้ ยอนุภาคโฟตอน โซนการพาความรอ้ น (Convection zone) พลงั งานทีเ่ กิดขนึ้ ไม่สามารถแผ่สอู่ วกาศไดโ้ ดยตรง เน่ืองจากมวลของดวงอาทิตยเ์ ตม็ ไปดว้ ยแก๊สไฮโดรเจน ซึ่งเคล่ือนทหี่ มนุ วนด้วยกระบวนการพาความรอ้ น

คอื บริวารขนาดใหญ่ของดวงอาทิตย์ 8 ดวง ไดแ้ ก่ ดาวพธุ (Mercury) เปน็ ดาวเคราะหซ์ ง่ึ อยู่ เรียงลาดบั จากใกลไ้ ปไกล ได้แก่ ดาวพุธ ดาวศกุ ร์ โลก ดาวองั คาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ใกล้กบั ดวงอาทิตยม์ ากทสี่ ุด เป็นดาวเคราะห์ขนาดเล็ก และดาวเนปจูน ดาวเคราะหท์ ง้ั แปดโคจรรอบดวง และไมม่ ีดวงจนั ทร์เป็นบรวิ าร อาทติ ย์ โดยมีระนาบใกลเ้ คียงกับระนาบสุรยิ วถิ ี ดาว เคราะห์ชน้ั ใน 4 ดวงแรก มีองค์ประกอบหลกั เป็น โลก (The Earth) เปน็ ดาวเคราะห์ดวงเดียว ของแขง็ ดาวเคราะหช์ นั้ นอก 4 ดวงหลงั มี ในระบบสรุ ิยะทีม่ สี ภาวะแวดลอ้ มเอื้ออานวยตอ่ การ องค์ประกอบหลกั เป็นแกส๊ ไฮโดรเจนเชน่ เดยี วกบั ดวง ดารงชวี ติ ของสิ่งมีชวี ติ อยหู่ า่ งจากดวงอาทิตย์เป็น อาทติ ย์ ดาวเคราะห์เกอื บทุกดวงหมนุ รอบตัวเองและ ลาดบั ที่ 3 โครงสร้างภายในของโลกประกอบไปดว้ ย โคจรรอบดวงอาทิตยใ์ นทศิ ทางเดียวกนั แกน่ ช้ันในท่ีเป็นหอ่ หมุ้ ดว้ ยแก่นช้ันนอกท่ีเป็นของเหลว ประกอบด้วยเหล็กและนิเกลิ ถดั ข้นึ มาเปน็ ชัน้ แมนเทิล ซึ่งเป็นของแข็งเน้อื อ่อนทย่ี ืดหยุ่นได้

ดาวศุกร์ (Venus) อย่หู ่างจากดวงอาทติ ย์ ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) เป็นวตั ถุทอ้ งฟ้าทมี่ ี เปน็ ลาดับที่ 2 ไมม่ ีดวงจันทรบ์ ริวาร ดาวศกุ รม์ ี ความสว่างมากเปน็ อันดับท่ี 4 รองจากดวงอาทติ ย์ ลักษณะที่คล้ายคลึงกบั โลก จนไดช้ อื่ วา่ เป็นดาวเคราะห์ ดวงจันทร์ และดาวศุกร์ และเปน็ ที่ร้จู ักกันมาต้ังแต่ ฝาแฝดกับโลกของเรา ยุคกอ่ นประวตั ิศาสตร์ ดาวอังคาร (Mars) เปน็ ดาวเคราะห์ทอ่ี ย่หู า่ งจาก ดาวเสาร์ (Saturn) เปน็ ดาวเคราะหท์ ี่รจู้ ักกันมาตง้ั แต่ ดวงอาทิตยเ์ ป็นอนั ดับท่ี 4 ในบรรดาดาวเคราะห์ ก่อนยคุ ประวัตศิ าสตร์ ดาวเสารม์ มี วลมากจึงมแี รงโนม้ ทง้ั หมด ดาวองั คารมขี นาดเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางประมาณ ถว่ งมาก สามารถดูดจบั ดาวเคราะหน์ อ้ ยและดาวหางมา 0.5 เทา่ ของโลก เป็นบริวาร ได้เปน็ จานวนมาก

ยเู รนัส (Uranus) ดาวยูเรนัสมีสีฟ้าเนอ่ื งจากแก๊สมีเทนดดู กลนื สแี ดง และสะทอ้ นสนี ้าเงิน บรรยากาศมลี มพดั แรงมาก ลึก ลงไปท่แี กน่ ของดาวหอ่ หุ้มด้วยโลหะไฮโดรเจนเหลว ดาวเนปจนู (Neptune) ดาวเนปจนู มวี งแหวน 4 วง แตล่ ะวงมีความ สว่างไม่มากนัก เพราะประกอบด้วยอนุภาคท่เี ป็นผงฝุ่น ขนาดเลก็ จนถึงขนาดประมาณ 10 เมตร เชน่ เดียวกับวงแหวนของดาวพฤหสั บดแี ละดาวยูเรนสั

หมายถึง เทหวัตถทุ มี่ ีสมบตั ดิ ังตอ่ ไปนี้ ครบถว้ น โคจรรอบดวงอาทติ ย์ มมี วลมากพอทจ่ี ะแรงโน้มถ่วงของดาวสามารถ เอาชนะความแขง็ ของเนื้อดาว ส่งผลใหด้ าวอยู่ในสภาวะ สมดุลไฮโดรสแตติก (hydrostatic equilibrium) เช่น ทรงกลม หรือเกือบกลม มวี งโคจรรอบดวงอาทิตย์ไม่ชัดเจน ไมเ่ ปน็ บริวารของดาวเคราะหด์ วงอ่ืน

สว่ นใหญม่ รี ูปทรงไมส่ มมาตรไม่เป็นทรงกลม มีขนาดตง้ั แต่ 1 - 1,000 กิโลเมตร ดาวเคราะห์นอ้ ย มมี วลนอ้ ยจึงมแี รงโนม้ ถ่วงน้อยไม่สามารถเอาชนะแรง ยดึ เหนยี่ วระหว่างสสารทเี่ ป็นเนื้อดาว จงึ ไม่มีรูปร่าง เปน็ ทรงกลม ดาวเคราะหน์ ้อยเปรยี บเสมือนฟอสซิล ของระบบสรุ ยิ ะ เพราะว่าพวกมันคือวสั ดุทพี่ ยายามจะ รวมตวั กันเป็นดาวเคราะห์ แต่ไม่สาเร็จเน่อื งจากถูก รบกวนโดยแรงโนม้ ถว่ งมหาศาลของดาวพฤหสั บดีซ่ึงมี วงโคจรอยใู่ กลเ้ คียง

เป็นวัตถุขนาดเลก็ เช่นเดยี วกบั ดาวเคราะห์ นอ้ ย แตม่ ีวงโคจรรอบดวงอาทติ ยเ์ ป็นวงรแี คบ และทา มมุ เอยี งตดั กบั ระนาบของสุริยวถิ เี ปน็ มุมสูง ดาวหางมี องค์ประกอบเป็นน้าแขง็ (Ice water) และแก๊สใน สถานะของแขง็ เมอ่ื ดาวหางเคล่ือนทเ่ี ข้าหาดวงอาทติ ย์ พลงั งานจากดวงอาทติ ย์ทาให้มวลของดาวหางระเหิด กลายเป็นแกส๊ ลมสุรยิ ะเปา่ ให้แก๊สเหลา่ น้ีใหพ้ ุง่ ไป ในทิศทางตรงขา้ มกบั ดวงอาทติ ย์ ปรากฏเปน็ หางยาว หลายลา้ นกโิ ลเมตร

วตั ถุจาพวกดาวเคราะห์นอ้ ยท่ีมีขนาดเลก็ กว่า จงึ เสยี ดสกี ับอากาศจนรอ้ นมากจนเผาไหม้ 1 กโิ ลเมตร เรียกวา่ \"สะเกด็ ดาว\" (Meteoroids) หมดกอ่ นทจ่ี ะตกถงึ พื้นผิวโลก เมื่อสะเก็ดดาวตกลงสูโ่ ลกและเสยี ดสกี ับบรรยากาศจน เกิดความร้อนและลุกติดไฟ มองเหน็ เป็นทางยาวใน อยา่ งไรก็ตามถ้าสะเกด็ ดาวขนาดใหญต่ กลง เวลากลางคืนเรยี กวา่ \"ดาวตก\" หรอื \"ผพี ุ่งใต้\" มากจ็ ะเผาไหมไ้ มห่ มด เหลอื ชน้ิ สว่ นตกคา้ งบน (Meteor หรือ Shooting star) ดาวตกทีม่ องเหน็ พน้ื ผวิ โลกซึง่ เรยี กว่า \"อุกกาบาต\" (Meteorite) ส่วนมากมีขนาดประมาณเมด็ ทราย แต่เคลื่อนท่ดี ้วย ความเร็วสงู ประมาณ 40 - 70 กโิ ลเมตร/วนิ าที

วิดโี อระบบสุริยะ - https://www.youtube.com/watch?v=Uf5gBF559a Y&feature=share&fbclid วดิ ีโอน้มี ีความยาว 7 นาที 30 วินาที

เกมระบบสรุ ยิ ะ ภาพน้เี ป็นภาพของอะไร คาช้ีแจง : ให้นกั เรยี นคลกิ เลือกคาตอบที่ถกู ท่ีสดุ ดาวเคราะห์นมี้ ชี ่ือวา่ อะไร โลก ดาวองั คาร อุกกาบาต ดาวหาง

เกมระบบสรุ ิยะ ดาวเคราะหน์ ีม้ ชี อ่ื ว่าอะไร คาชีแ้ จง : ให้นักเรยี นคลกิ เลือกคาตอบทถ่ี กู ที่สุด ภาพนเ้ี ปน็ ภาพของอะไร ดาวหาง ดาวเสาร์ ดาวยูเรนสั ดาวพุธ

เกมระบบสรุ ยิ ะ ดาวเคราะหน์ ้มี ีชื่อวา่ อะไร คาชี้แจง : ให้นกั เรียนคลิกเลือกคาตอบท่ถี กู ที่สดุ ภาพน้ีเปน็ ภาพของอะไร อุกกาบาต ดาวเคราะหแ์ คระ ดาวยเู รนสั ดาวอังคาร

คาชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนคลิกเลือกคาตอบท่ีถูกที่สดุ พยายามหน่อยนะ ดาวเคราะห์ ถกู ตอ้ ง ดาวเคราะหน์ อ้ ย เธอเกง่ มาก ดาวฤกษ์ ตงั้ ใจอีกนิดนะคนเกง่

ดาวเคราะห์ใดทอ่ี ยู่ใกลด้ วงอาทติ ยม์ ากที่สดุ พยายามหนอ่ ยนะ ดาวอังคาร ดาวศุกร์ ถูกตอ้ ง ดาวพธุ เธอเก่งมาก ต้งั ใจอกี นดิ นะคนเกง่

ดาวเคราะห์ใดทม่ี แี รงโน้มถว่ งมากที่สดุ พยายามหน่อยนะ ดาวเสาร์ โลก ถกู ต้อง ดาวองั คาร เธอเก่งมาก ต้ังใจอกี นดิ นะคนเกง่

มปป. (2562). ระบบสรุ pิ t. สบื ค้น 30 กันยายน 2564,จาก นางสาวกญั ญภัส เพ็ชร์ชัย http://www.lesa.biz/astronomy/solar-system รหสั นักศึกษา 61031050104 ชัน้ ปีท่ี 4 คณะครศุ าสตร์ สาขาวทิ ยาศาสตร์ท่ัวไป ย้อนกลับ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั อุตรดิตถ์ หนา้ ตอ่ ไป