บนทอ้ งฟา้ ในแต่ละวนั แตกต่างกนั โดยช่วงเวลาทีม่ องเห็นดวงจนั ทรม์ สี ว่ นสวา่ งมากขึ้นจนสวา่ งเต็มดวง เปน็ ข้างข้ึน ส่วนช่วงเวลาทสี่ ว่ นสว่างลดลง จนมืดทง้ั ดวงเปน็ ขา้ งแรม 5. สมรรถนะท่ีสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั สรา้ งความสนใจ 1. ครูถามคำถามเพื่อทบทวนความรู้พื้นฐานและตรวจสอบความรู้เดิมเก่ยี วกับปรากฏการณ์การข้ึนและตก ของดวงอาทติ ย์และดวงจนั ทร์ โดยใชค้ ำถามดงั นี้ 1.1 ดวงอาทิตยม์ ปี รากฏการณ์การขน้ึ และตกหรอื ไม่ อยา่ งไร (ดวงอาทิตยข์ ้นึ และตก โดยจะ ปรากฏขึน้ ทางดา้ นทิศตะวันออก และตกทางด้านทิศตะวนั ตกเสมอ) 1.2 ปรากฏการณ์การขนึ้ และตกของดวงอาทิตย์ เกิดจากสาเหตุใด (การหมุนรอบตวั เองของ โลกในทศิ ทางทวนเข็มนาฬิกา เม่ือมองจากบรเิ วณเหนอื ขัว้ โลกเหนือ) 1.3 ดวงจันทรม์ ีปรากฏการณก์ ารข้นึ และตกหรือไม่ อยา่ งไร (นักเรยี นตอบได้ตามความเขา้ ใจ ของตนเอง) 1.4 ปรากฏการณก์ ารขนึ้ และตกของดวงจนั ทร์ เกิดจากสาเหตใุ ด (นักเรยี นตอบไดต้ ามความ เข้าใจของตนเอง แต่เมอ่ื เรียนจบแล้วนักเรยี นควรตอบได้วา่ ปรากฏการณ์การข้นึ และตกของดวงจันทร์เกิดจากการ หมนุ รอบตวั เองของโลกในทศิ ทางทวนเขม็ นาฬกิ า เมือ่ มองจากบรเิ วณเหนือขัว้ โลกเหนอื ) ขน้ั สำรวจและค้นหา 2. ครูชกั ชวนนกั เรียนใหค้ ิดและเสนอวิธหี าคำตอบว่า ปรากฏการณ์การขึ้นและตกของดวงจนั ทร์น่าจะเกิด จากสาเหตุใด ครยู ังไม่เฉลยคำตอบ แต่ชักชวนนกั เรยี นใหห้ าคำตอบจากการทำกิจกรรม 3. นักเรียนอ่าน ชื่อกิจกรรม ดวงจันทร์มีการขึ้นและตกหรือไม่ อย่างไร และ ทำเป็นคิดเป็น โดยร่วมกัน อภิปรายทลี ะประเด็นเพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจเก่ียวกับจุดประสงค์ ในการทำกจิ กรรมโดยใช้คำถามดังนี้ 3.1 กิจกรรมน้ีนักเรยี นจะได้เรียนเร่ืองอะไร (ปรากฏการณ์การขึ้นและตกของดวงจนั ทร์) 3.2 นักเรยี นจะได้เรียนร้เู รอื่ งนดี้ ้วยวิธใี ด (สรา้ งแบบจำลอง) 3.3 เม่ือเรียนแล้วนักเรียนจะทำอะไรได้ (อธบิ ายปรากฏการณ์การขึน้ และตกของดวงจนั ทร์) ครูให้นกั เรียนบนั ทึกจดุ ประสงคล์ งในแบบบันทึกกจิ กรรม หน้า 78 และ อ่าน ส่ิงท่ีต้องใช้ ในการทำกจิ กรรม ครูยัง ไมแ่ จกวัสดุอุปกรณแ์ กน่ ักเรียน แต่นำมาแสดงให้นักเรยี นดูทีละอยา่ ง ทบทวนวิธใี ช้และข้อควรระวงั ในการใช้ 4. นักเรยี นอ่าน ทำอย่างไร ทลี ะข้อแล้วร่วมกันอภปิ รายเพื่อสรปุ ลำดับข้ันตอนตามความเข้าใจโดยครูอาจ ชว่ ยเขียนสรปุ สัน้ ๆ บนกระดานและร่วมกันอภิปรายเพ่มิ เตมิ ตามแนวคำถามดังตอ่ ไปนี้ 4.1 นักเรยี นตอ้ งคาดคะเนเกีย่ วกับสิ่งใด (จะมองเหน็ ดวงจันทรม์ เี สน้ ทางการข้ึนและตก
อยา่ งไร) 4.2 เมื่อนักเรียนดวู ดี ิทศั น์นักเรียนต้องทำอะไรบ้าง (สังเกตเสน้ ทางการขน้ึ และตกของดวง จันทร์ เปรยี บเทยี บกบั ที่คาดคะเนไว้ และอภปิ รายถึงสาเหตุการเกิดปรากฏการณ์นี้ บนั ทึกผล) 4.3 นกั เรียนตอ้ งทำอะไรอกี บา้ ง (ออกแบบแบบจำลอง บันทึกผล จากน้ันสร้างแบบจำลอง ตามที่ออกแบบไว้) 5. เมื่อนักเรียนเข้าใจขั้นตอนการทำกิจกรรม ครูให้นักเรียนเริ่มทำกิจกรรมโดยคาดคะเนว่า จะมองเห็น ดวงจันทร์มีเส้นทางการขึ้นและตกอย่างไร แล้วบันทึกผลการคาดคะเน ด้วยการวาดรูปและเขียนคำอธิบายลงใน แบบบนั ทกึ กิจกรรมหนา้ 78 6. ครูเปิดวีดิทัศน์การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาว หรือใช้สมาร์ตโฟน แสกนไปท่ี QR code เพื่อเปิดวีดิทัศน์ จากนั้น ให้นักเรียนสังเกตเส้นทางการขึ้นและตกของดวงจันทร์ บันทึกผลการสังเกต จากนั้น ครูกระตุ้นให้นักเรียนอภิปรายเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว (S8) โดยครูอาจใช้คำถามใน การอภิปราย ดังน้ี 6.1 เมอื่ สงั เกตดวงจนั ทรจ์ ากอวกาศ (ภาพจากวดี ทิ ศั นใ์ นช่วงแรก) ดวงจนั ทร์มีปรากฏการณ์ การขึ้นและตกหรือไม่ อย่างไร (ไม่มีปรากฏการณ์การขึ้นและตก โดยดวงจันทร์มีการเคลื่อนที่รอบโลก ขณะที่โลก หมุนรอบตัวเอง) 6.2 เมอ่ื สงั เกตจากบนโลก ดวงจนั ทร์มปี รากฏการณก์ ารขน้ึ และตกหรือไม่ อยา่ งไร (ดวง จันทร์มีการข้ึนและตก โดยดวงจันทรจ์ ะปรากฏข้นึ ทางด้านตะวันออก และดูเหมอื นเคลื่อนที่ไปบนท้องฟ้า จากน้ัน ดวงจนั ทรล์ ับขอบฟ้าทางด้านตะวนั ตก) 6.3 ปรากฏการณด์ ังกล่าว ใชร้ ะยะเวลาเท่าใด (ประมาณ 12 ชั่วโมง หรือ 1 คนื ) 6.4 จากวีดิทศั น์ เมื่อโลกหมนุ รอบตัวเอง 1 รอบซึ่งใชเ้ วลา 1 วนั ดวงจันทรม์ กี ารเคลอื่ นท่ี หรือไม่ อยา่ งไร (ดวงจันทรม์ ีการเคลอ่ื นที่ โดยเมอื่ โลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบซง่ึ ใชเ้ วลา 1 วัน ดวงจนั ทร์มีการโคจร รอบโลกได้ระยะทางเพียงเล็กน้อย) หากนักเรียนไม่สามารถตอบได้ ครูอาจอธิบายเพิ่มเติมว่า โลกหมุนรอบตัวเอง ใชเ้ วลา 1 วนั ขณะที่ดวงจนั ทร์โคจรรอบโลกใชเ้ วลาประมาณ 30 วัน ดงั นน้ั ใน 1 วนั ดวงจนั ทรจ์ ะโคจรรอบโลกไป ไดเ้ ป็นระยะทางประมาณ 1/30 รอบ หรือเคล่อื นท่ีไปไดเ้ พยี งเล็กน้อย 6.5 ปรากฏการณก์ ารข้นึ และตกของดวงจันทรซ์ ่งึ เกิดข้นึ ภายใน 1 วนั น่าจะเกิดจากสาเหตใุ ด (การหมุนรอบตัวเองของโลก) นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง โดยครูยังไม่เฉลยคำตอบ แต่ให้นักเรียนหา คำตอบรว่ มกันจากการสร้างแบบจำลองในกิจกรรม ขนั้ อภิปรายและลงข้อสรปุ 7. ครใู ห้นักเรียนออกแบบแบบจำลองโดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่กำหนดใหเ้ พ่ืออธิบายการเกิดปรากฏการณ์การ ขนึ้ และตกของดวงจนั ทร์ บนั ทกึ ผล (C1) จากนน้ั เริ่มสร้างแบบจำลองการขึ้นและตกของดวงจนั ทรต์ ามความเข้าใจ ของตนเอง (S14) (C5) โดยครูอาจเนน้ ย้ำกับนักเรียนวา่ แบบจำลองทีน่ ักเรียนสร้างข้นึ ต้องแสดงใหเ้ ห็นว่าคนท่ีอยู่ บนโลกซ่งึ หมนุ รอบตัวเอง จะเห็น ดวงจนั ทร์มีการเคลอ่ื นที่อยา่ งไร
8. ครูสำรวจแบบจำลองของแต่ละกลุ่มแล้วเลือกแบบจำลองที่มีแนวคิดแตกต่างกัน 2 – 3 กลุ่มเพื่อให้ นำเสนอหน้าชัน้ เรยี น (C4) 9. นกั เรียนอาจนำเสนอแนวคิดว่า ปรากฏการณ์การขึ้นและตกของดวงจันทรเ์ กิดจากการทด่ี วงจันทร์โคจร รอบโลก ครูแก้ไขแนวคิดคลาดเคลื่อนน้ี โดยจัดกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ 3 คน กำหนดให้ แต่ละคนแทน ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ แล้วแสดงบทบาทสมมติ แสดงการเคลื่อนที่ที่สัมพันธ์กันของดาวเหล่านี้อีกครั้ง จากนั้นให้ นกั เรียนสงั เกตวา่ นกั เรยี นท่ีแสดงเป็นโลกหมนุ รอบตัวเองในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาเม่ือมองจากบรเิ วณเหนือศีรษะ 1 รอบซึ่งนับเป็นเวลา 1 วัน จะมองเห็นดวงจันทร์เป็นอย่างไร ดวงจันทร์โคจรรอบโลกไปได้เพียงเล็กน้อยหรือเป็น ระยะทางประมาณ 1/30 รอบ (นักเรียนที่แสดงเป็นโลก จะมองเห็นดวงจันทร์ปรากฏขึ้นทางด้านหนึ่งและลับ สายตาไปอีกดา้ นหน่ึง) 10. ครใู ช้แบบจำลอง ดงั รปู เพอ่ื อภิปรายรว่ มกบั นกั เรียนเกี่ยวกับการเกิดปรากฏการณ์การขึ้นและตกของ ดวงจันทร์ โดยใชแ้ นวคำถาม ดังน้ี 10.1 จากแบบจำลอง ขณะทโี่ ลกหมุนรอบตวั เอง 1 รอบ คนบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์ ตลอด ใน 1 วันหรอื ไม่ อยา่ งไร (คนบนโลกไมส่ ามารถมองเหน็ ดวงจันทร์ไดต้ ลอดใน 1 วนั แตจ่ ะมองเหน็ ดวงจนั ทร์ เมื่อคนบนโลกอยูใ่ นตำแหนง่ ทีห่ ันเขา้ หาดวงจนั ทร์ หรือมองเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคนื ) 10.2 จากแบบจำลอง ดงั รูป คนบนโลกจะมองเหน็ ปรากฏการณก์ ารขน้ึ และตกของดวง อาทติ ยแ์ ละดวงจันทรเ์ หมือนหรือแตกต่างกันอยา่ งไร (เหมอื นกัน คือ จะมองเหน็ เหมือนดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เคลื่อนที่ไปบนท้องฟ้า โดยปรากฏขึ้นทางด้านทิศตะวันออกและลับขอบฟ้าทางด้านทิศตะวันตก แต่แตกต่างกัน ตรงช่วงเวลาที่สงั เกต) 10.3 ปรากฏการณ์การขึน้ และตกของดวงจนั ทรเ์ กิดข้นึ อยา่ งต่อเนอ่ื งและมลี กั ษณะซ้ำ แบบเดิมจนเป็นแบบรูปหรือไม่ เพราะเหตุใด (เป็นแบบรูปเนื่องจาก คนบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์ปรากฏขึ้น ทางด้านทศิ ตะวันออกและลับขอบฟ้าทางด้านทิศตะวันตกทุกวนั แบบเดมิ จึงเป็นแบบรูป) 11. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปร่วมกันว่า ปรากฏการณ์การขึ้นและตกของดวงจันทร์ เกิดจากการหมุนรอบตัวเองของโลกในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาเมื่อมองจากบริเวณเหนือขั้วโลกเหนือ ทำให้คนบน โลกมองเห็นดวงจันทร์ปรากฏขึ้นทางด้านตะวันออกและลับขอบฟ้าทางด้านตะวันตกหมุนเวียนซ้ำเดิมทุกวันเป็น แบบรปู ขัน้ ขยายความรู้ 12. นักเรียนร่วมกันอภิปรายคำตอบใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้คำถามเพิ่มเติมในการอภิปรายเพื่อให้ได้ คำตอบที่ถูกต้องตามทเี่ ฉลยทา้ ยกิจกรรมน้ี 13. ครูให้นักเรียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมน้ี จากนั้นครูให้นักเรียนอ่าน สิ่งที่ได้เรียนรู้ และ เปรยี บเทยี บกบั ขอ้ สรุปของตนเอง ขนั้ ประเมิน 14. ครกู ระตุ้นใหน้ กั เรียนฝึกตั้งคำถามเกี่ยวกับเรอื่ งที่สงสยั หรอื อยากรู้เพิม่ เติมใน อยากรู้อกี วา่
จากนั้นครูอาจสุ่มนักเรียน 2 -3 คน นำเสนอคำถามของตนเองหน้าชั้นเรียน และให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย เก่ียวกบั คำถามทนี่ ำเสนอ 15. ครูนำอภิปรายเพื่อให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่ง ศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างและในขน้ั ตอนใดบา้ ง และบนั ทึกลงในแบบบนั ทกึ กิจกรรมหนา้ 81 7. สือ่ การสอน 1. หนังสือเรยี น 2. แบบบันทกึ กจิ กรรม 3. PowerPoint 4. รปู ภาพ 5. วดี ทิ ศั น์ 6. ลูกโลก 7. ดนิ น้ำมัน 2 สี 8. ไม้ปลายแหลม 8. การวดั และประเมินผล 1. ประเมนิ ความรเู้ ดมิ จากการอภปิ รายในชนั้ เรยี น 2. ประเมนิ การเรยี นรจู้ ากคาตอบของนกั เรยี นระหว่างการจดั การเรยี นรแู้ ละจากแบบบนั ทกึ กจิ กรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 จากการทากจิ กรรม ของนกั เรยี น
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 14101 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 เรื่อง ในแตล่ ะวันมองเห็นดวงจันทรม์ รี ปู รา่ งอยา่ งไร เวลา 2 ชัว่ โมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วัสดุและสสาร เวลาเรยี น 16 ช่วั โมง ครผู ้สู อน นางสาวนวฉัตร นาเมอื งรักษ์ สอนวนั ท่ี …..….. เดอื น ….………… พ.ศ. …..………. โรงเรียนชุมชนวดั บ้านระกาศ สำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 2 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชี้วดั สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลตอ่ สิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ ตัวช้วี ดั ป. 4/1. อธิบายแบบรูปเสน้ ทางการขนึ้ และตกของดวงจันทร์ โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ ป. 4/2 สร้างแบบจำลองที่อธิบายแบบรูปการเปลี่ยนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์และ พยากรณร์ ปู ร่างปรากฏของดวงจนั ทร์ 2. สาระสำคญั ดวงจันทร์เป็นดาวที่มีลักษณะคล้ายทรงกลม เป็นบริวารของโลก ในคืนวันเพ็ญจะมองเห็นดวง จันทร์มีรูปร่างคล้ายวงกลม มีสีขาวนวล มีร่องรอยสีเทาแต่งแต้ม ดวงจันทร์มีปรากฏการณ์การขึ้นและตกและการ เปล่ียนแปลงรปู ร่างอยา่ งต่อเน่อื งและคงท่เี ป็นแบบรูป 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายลักษณะการเคล่อื นทที่ ่สี ัมพันธ์กนั ของดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์ 2. สรา้ งแบบจำลองและอธบิ ายปรากฏการณ์การขน้ึ และตกของดวงจันทร์ 3. สร้างแบบจำลองทอี่ ธิบายและพยากรณป์ รากฏการณก์ ารเปลยี่ นแปลงรูปร่างของ ดวงจนั ทรใ์ นแต่ละวัน 4. พยากรณก์ ารเปล่ียนแปลงรูปรา่ งของดวงจันทรใ์ นแตล่ ะวนั 4. สาระการเรียนรู้ ดวงจันทร์เป็นดาวที่มีลักษณะคล้ายทรงกลม เป็นบริวารของโลก ในคืนวันเพ็ญจะมองเห็นดวงจันทร์มี รูปรา่ งคล้ายวงกลม มสี ีขาวนวล มีรอ่ งรอยสเี ทาแต่งแตม้ ดวงจันทรม์ ีปรากฏการณ์การขึ้นและตก ซง่ึ เกิดจากการท่ี โลกหมุนรอบตัวเองในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาเม่ือมองจากบริเวณเหนือขั้วโลกเหนือ ทำให้คนบนโลกมองเห็นดวง จันทร์ปรากฏขึ้นจากขอบฟ้าทางด้านตะวันออกและลับ ขอบฟ้าทางด้านตะวันตก รูปร่างของดวงจันทร์ที่มองเห็น
บนท้องฟ้าในแต่ละวนั แตกต่างกัน โดยช่วงเวลาทม่ี องเห็นดวงจันทรม์ สี ่วนสว่างมากขึน้ จนสวา่ งเต็มดวง เป็นข้างขึ้น ส่วนชว่ งเวลาท่สี ่วนสว่างลดลง จนมืดท้ังดวงเป็นข้างแรม 5. สมรรถนะท่ีสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นสร้างความสนใจ 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับดวงจันทร์โดยนำรูปวาดดวงจันทร์ที่นักเรียนเคยเห็นใน กิจกรรมสำรวจความรู้ก่อนเรียนมานำเสนอเพื่อสรุปแนวคิดเกี่ยวกับรูปร่างของดวงจันทร์ ซึ่งอาจสรุปแนวคิดได้ ดังต่อไปน้ี ดวงจันทร์สว่างท้ังดวง ดวงจันทร์มีรูปร่างเป็นเสี้ยว ดวงจันทร์มีรูปกระต่าย เป็นต้น จากนั้น ใช้คำถาม ดงั น้ี 1.1 เรามองเหน็ ดวงจันทร์ในแตล่ ะวัน เหมือนหรือแตกต่างกันหรอื ไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบ ไดต้ ามความเข้าใจของตนเอง แต่เมอ่ื เรียนจบควรตอบได้ว่า ดวงจันทรม์ รี ูปร่างเปลี่ยนแปลงไปในแตล่ ะวนั ) 1.2 ถ้าวันน้เี ป็นวนั ท่ดี วงจันทรเ์ ตม็ ดวง อกี ก่ีวนั จงึ จะเหน็ ดวงจนั ทร์เตม็ ดวงอกี ครงั้ หนงึ่ (นักเรียนตอบได้ตามความเข้าใจของตนเอง แต่เมื่อเรียนจบควรตอบได้ว่า ประมาณ 30 วัน) คำตอบของนักเรียน อาจเหมอื นหรือแตกตา่ งกันก็ได้ ท้ังน้ีครูชักชวนนกั เรยี นให้มาร่วมกันหาคำตอบท่ีถูกตอ้ งจากการทำกิจกรรมตอ่ ไป ข้ันสำรวจและค้นหา 2. นกั เรียนอ่านชอื่ กิจกรรมในแต่ละวันมองเห็นดวงจันทร์มีรูปร่างอยา่ งไรและ ทำเป็นคดิ เปน็ โดยร่วมกัน อภปิ รายทลี ะประเดน็ เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจเกี่ยวกบั จดุ ประสงค์ ในการทำกจิ กรรมโดยใช้คำถามดังนี้ 2.1 กจิ กรรมนี้นกั เรียนจะไดเ้ รยี นเรอ่ื งอะไร (การเปล่ยี นแปลงรูปรา่ งของดวงจันทร์ในแตล่ ะ วัน) 2.2 นักเรยี นจะได้เรียนร้เู รอ่ื งนด้ี ้วยวธิ ใี ด (สร้างแบบจำลอง) 2.3 เม่อื เรียนแล้วนกั เรยี นจะทำอะไรได้ (อธบิ ายและพยากรณป์ รากฏการณก์ ารเปลย่ี นแปลง รปู รา่ งของดวงจนั ทร์ในแตล่ ะวนั ) นกั เรียนบันทึกจุดประสงค์ลงในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม 3. นักเรียนอ่าน ทำอย่างไร ข้อ 1-2 แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อสรุปลำดับขั้นตอนตามความเข้าใจโดยครู อาจชว่ ยเขยี นสรปุ สั้น ๆ บนกระดานและนำอภปิ รายตามแนวคำถามดงั ต่อไปนี้ 3.1 นักเรียนจะต้องแบ่งหน้าทก่ี นั สังเกตและบนั ทึกรูปรา่ งของดวงจนั ทร์ทั้งหมดกวี่ ัน (7 วนั ) 3.2 นักเรยี นจะสงั เกตดวงจันทร์วันใดบา้ ง (วันขึ้น 15 คำ่ แรม 5 คำ่ แรม 10 ค่ำ แรม 15 คำ่
ขึน้ 6 ค่ำ ขน้ึ 9 ค่ำ และขน้ึ 15 คำ่ ของเดือนถัดไป) 3.3 นักเรยี นจะทราบไดอ้ ย่างไรวา่ วันเหลา่ นี้เป็นวนั ทเี่ ทา่ ใด (ดจู ากปฏทิ ิน) 3.4 เมือ่ นกั เรียนบนั ทกึ ผลการสังเกตดวงจันทรค์ รบทั้ง 7 วัน แล้วนกั เรยี นต้องทำอะไรตอ่ ไป (ออกแบบและสร้างแบบจำ ลองปรากฏการณก์ ารเปลี่ยนแปลงรปู รา่ งของดวงจนั ทร์ บนั ทกึ ผล) 3.5 นกั เรยี นสามารถสรา้ งแบบจำลองเป็นแบบใด และใช้วัสดุอะไรได้บ้าง (นักเรียนตอบได้ ตามความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง เช่น สรา้ งแบบจำลองโดยการวาดรูปลงบนกระดาษวาดเขียน สร้างแบบจำลอง โดยการปนั้ ด้วยดินนำ้ มนั หรอื ใช้วัตถุ เช่น ค้กุ ก้ีสอดใส้ครมี สีขาว และแกว้ น้ำ ตวั อย่างดังรปู ) 4. เมื่อแน่ใจว่านักเรียนสามารถทำกิจกรรมได้ ครูให้นักเรียนเริ่มทำกิจกรรม โดยนำผลการสังเกตดวง จนั ทร์ตามที่ครูมอบหมายให้นักเรียนสังเกตรูปรา่ งของดวงจนั ทรบ์ นท้องฟ้าในวนั ขึน้ 15 ค่ำ แรม 5 คำ่ แรม 10 ค่ำ แรม 15 คำ่ ขึน้ 5 คำ่ ขนึ้ 10 คำ่ และขน้ึ 15 คำ่ ของเดือนถัดไปมาลว่ งหน้า (S1) แล้วนำผลการสงั เกตมาอภิปราย ร่วมกันในชั้นเรียน เพอื่ ออกแบบและสร้างแบบจำลองการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของดวงจันทร์ (S14) จากนั้นร่วมกัน อภปิ รายรปู ร่างของดวงจนั ทร์ โดยครูสามารถใช้ตวั อยา่ งคำถามดังนี้ 4.1 รปู ร่างของดวงจันทรใ์ นแตล่ ะวนั เปน็ อย่างไร (รปู ร่างของดวงจนั ทร์ในแต่ละวันแตกตา่ ง กนั ดังนี้ บางวันเป็นเส้ยี วเล็ก ๆ บางวันเป็นเส้ยี วใหญ่ บางวนั คล้ายครึง่ วงกลม และบางวันคลา้ ยวงกลม 4.2 รปู รา่ งของดวงจนั ทรส์ งั เกตเหน็ ได้อยา่ งไร (รปู ร่างของ ดวงจันทรส์ งั เกตเห็นไดจ้ ากส่วน สว่างของดวงจนั ทร์) 4.3 ดวงจันทรใ์ นวนั ขึ้น 15 ค่ำ หรอื วันเพ็ญมลี ักษณะอยา่ งไร (ดวงจันทร์ในคืนวันเพ็ญมี รปู รา่ งคลา้ ยวงกลม และสวา่ งเต็มดวง) 4.4 ในช่วงข้างแรมดวงจนั ทร์มกี ารเปลยี่ นแปลงรปู รา่ งอยา่ งไร (ช่วงขา้ งแรม รปู รา่ งของดวง จันทร์จะแหว่งไปทีละน้อยจนเหลือคล้ายครึ่งวงกลมและจะแหว่งต่อไปจนเป็นเสี้ยวเล็กลงเรื่อย ๆ จนไม่สามารถ เห็นดวงจันทร์ในท้องฟ้า) 4.5 ในช่วงขา้ งข้ึนดวงจันทร์มีการเปล่ียนแปลงรูปร่างอยา่ งไร (ชว่ งข้างขน้ึ ดวงจนั ทร์ เปลี่ยนแปลงรูปร่างจากเส้ียวเล็ก ๆ แล้วเพิ่มขนาดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเสี้ยวใหญ่, ครึ่งวงกลม, และคล้ายวงกลม ตามลำดบั ) 4.6 ในชว่ งเวลา 1 เดือน รูปรา่ งของดวงจนั ทรท์ มี่ องเห็นในแตล่ ะวนั เหมือนหรือแตกตา่ งกัน หรอื ไม่ อย่างไร (แตกต่างกนั ถา้ สงั เกตในวันข้ึน 15 ค่ำ เราจะมองเหน็ ดวงจันทร์มรี ูปร่างคลา้ ยวงกลมสว่างเต็มดวง หลังจากน้ันดวงจันทร์จะค่อย ๆ ลดสว่ นสว่างลงจนเห็นเป็นเส้ียว ครง่ึ วงกลม และลดลงเป็นเสี้ยวขนาดเล็กลงเร่ือย ๆ จนไม่สามารถเห็นดวงจันทร์ ตามลำดับ จากน้นั ดวงจนั ทร์จะมสี ว่ นสว่างมากข้นึ เร่ือย ๆ จากรปู ร่างเป็นเส้ียวเล็ก ๆ จนมีรปู รา่ งเป็นคร่ึงวงกลม และคล้ายวงกลมสวา่ งทัง้ ดวงตามลำดบั อกี คร้งั หน่ึง) ขนั้ อภิปรายและลงข้อสรปุ 5. นักเรียนอ่าน ทำอย่างไร ข้อ 3-5 แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อสรุปลำดับขั้นตอนตามความเข้าใจโดยครู อาจชว่ ยเขียนสรปุ สน้ั ๆ บนกระดานและนำอภปิ รายตามแนวคำถามดังตอ่ ไปน้ี 5.1 หลังจากนกั เรยี นดวู ีดิทัศนก์ ารเปลย่ี นแปลงรปู ร่างสว่ นสว่างของดวงจันทร์ใน 3 เดอื น
แลว้ นักเรียนตอ้ งทำอะไรต่อไป (อภิปรายเปรยี บเทยี บรูปร่างดวงจนั ทร์จากแบบจำลองที่นักเรียนสรา้ งข้ึนกับรูปร่าง ดวงจนั ทร์ในวดี ิทศั นว์ า่ เหมอื นหรือแตกต่างกนั อย่างไร พร้อมเสนอแนวทางการปรบั ปรุงแบบจำลอง และนำเสนอ) 5.2 แบบจำลองที่นักเรยี นสรา้ งขึ้นมปี ระโยชน์อย่างไร (อธิบายปรากฏการณ์การเปล่ยี นแปลง รูปร่างของดวงจันทร์) 6. ครเู ปดิ วดี ิทศั นส์ อ่ื เสรมิ เพิ่มความรู้ จาก QR code ซง่ึ ใหข้ อ้ มลู การเปล่ียนแปลงรปู ร่างของดวงจันทร์ใน 3 เดอื น นักเรยี นสงั เกตและอภิปรายเปรียบเทยี บรปู ร่างดวงจันทรจ์ ากแบบจำลองท่ีนักเรียนสร้างขึ้นกับรูปร่างดวง จันทรใ์ นวีดทิ ศั นว์ า่ เหมือนหรือแตกตา่ งกนั อยา่ งไร พรอ้ มเสนอแนวทางการปรบั ปรุงแบบจำลอง 7. นกั เรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอแบบจำลอง โดยใชแ้ บบจำลองอธิบายปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ของ ดวงจันทร์ และรว่ มกัน อภิปรายเก่ยี วกับปรากฏการณด์ ังกลา่ ว โดยครสู ามารถใชต้ ัวอย่างคำถามดังนี้ 7.1 การเปล่ยี นแปลงรปู รา่ งของดวงจันทร์ท่นี กั เรยี นสงั เกตเหมือนกับการเปล่ียนแปลงรปู ร่าง ของดวงจันทร์ในวีดิทัศน์หรือไม่ อย่างไร (เหมือนกัน คือ ดวงจันทร์ที่สังเกตเห็นจะมี การเปลี่ยนแปลงรูปร่าง โดย เริ่มจากมองไม่เห็นดวงจันทร์ จากนั้นดวงจันทร์จะมีรูปร่างเป็นเสี้ยวขนาดเล็กและเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้น จนมองเห็น ดวงจันทร์มีรูปร่างกลมสวา่ งเต็มดวง หลังจากนั้น ดวงจันทร์จะปรากฏเป็นเส้ียวจากขนาดใหญ่ แล้วส่วนสวา่ งค่อย ๆ ลดขนาดเล็กลงจนเหลอื คร่ึงดวงและส่วนสวา่ งนอ้ ยลงเร่ือยจนไม่สามารถสงั เกตในท้องฟา้ ไดอ้ ีกคร้ังหนึ่ง 7.2 การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของดวงจันทร์ จากรปู ร่างคล้ายวงกลมสว่างเต็มดวง จนกลบั มา สวา่ งเตม็ ดวงอกี ครง้ั ใช้เวลาเท่าใด (ประมาณ 1 เดอื น) 7.3 การเปลี่ยนแปลงรปู ร่างของดวงจนั ทร์เป็นแบบรูปหรือไม่ รูไ้ ด้อยา่ งไร (เปน็ แบบรปู โดย ปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของดวงจันทร์นี้จะมีลักษณะซ้ำแบบเดิมอยา่ งต่อเนื่องซงึ่ ใช้เวลาประมาณ 30 วันหรือ 1 เดอื น โดยในเดือนถดั ไปการเปลยี่ นแปลงนีก้ ็มีลักษณะเชน่ เดมิ ต่อไปไม่มีทสี่ นิ้ สุด) 7.4 ถ้าวันนี้เป็นวนั ท่ดี วงจันทรส์ วา่ งเต็มดวง พยากรณว์ ่า อกี 45 วัน เราจะสามารถมองเหน็ ดวงจันทร์บนท้องฟ้าได้หรือไม่ และมีรูปร่างอย่างไร (ในวันดังกล่าว เราจะมองไม่เห็นรูปร่างของดวงจันทร์ เพราะ ไม่สามารถสงั เกตดวงจันทรบ์ นท้องฟา้ ได้ เนือ่ งจากเป็นวนั แรม 15 ค่ำ) (S7) 8. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายและลงข้อสรปุ ร่วมกนั ว่า ดวงจันทรม์ ีปรากฏการณก์ ารเปลยี่ นแปลง รูปร่าง โดยในช่วงข้างขึ้น ส่วนสว่างจะเพิ่มขึ้น ทำให้มองเห็นดวงจันทร์มีรูปร่างเป็นเสี้ยวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนมี รปู รา่ งกลมและสว่างเต็มดวง สว่ นในชว่ งข้างแรม จะมองเหน็ ดวงจันทรจ์ ากที่มสี ่วนสว่างเต็มดวง จนสว่ นสว่างค่อย ๆ ลดลง ทำให้มองเหน็ ดวงจนั ทรม์ รี ปู รา่ งเป็นเสย้ี วเล็กลงเรอื่ ย ๆ และมองไม่เหน็ ดวงจันทร์ในท่สี ุด ซึง่ ปรากฏการณ์ การเปลี่ยนแปลงรูปรา่ งของดวงจนั ทร์นี้จะมลี กั ษณะซำ้ ๆ แบบเดิมอยา่ งตอ่ เน่ืองทุกเดือนจนเปน็ แบบรูป 9. นักเรียนร่วมกันอภิปรายคำตอบใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้คำถามเพิ่มเติมในการอภิปรายเพื่อให้ได้ คำตอบที่ถกู ต้อง ข้ันขยายความรู้ 10. นักเรียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรูจ้ ากกิจกรรมนี้ จากนั้นครูให้นักเรียนอ่าน สิ่งที่ได้เรียนรู้ และเปรียบเทียบ กบั ขอ้ สรุปของตนเอง
11. ครกู ระตุน้ ให้นักเรยี นฝึกตั้งคำถามเกย่ี วกบั เร่อื งทส่ี งสัยหรืออยากรเู้ พิ่มเตมิ ใน อยากรอู้ กี วา่ จากนนั้ ครู อาจสมุ่ นกั เรยี น 2 -3 คน นำเสนอคำถามของตนเองหน้าชั้นเรยี น และให้นักเรียนร่วมกนั อภปิ รายเกี่ยวกับคำถามที่ นำเสนอ ขั้นประเมิน 12. ครูนำอภิปรายเพื่อให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่ง ศตวรรษท่ี 21 อะไรบา้ งและในขั้นตอนใดบ้าง แลว้ บนั ทกึ ลงในแบบบนั ทึกกิจกรรม หน้า 83 13. นักเรียนร่วมกันอ่านรู้อะไรในเรื่องนี้ ในหนังสือเรียน หน้า 84 ครูนำอภิปรายเพื่อนำไปสู่ข้อสรุป เกี่ยวกบั สิง่ ท่ีได้เรียนรูใ้ นเร่ืองนี้ จากนนั้ ครกู ระตุ้นใหน้ ักเรยี นตอบคำถามในช่วงท้ายของเนื้อเร่ือง ดังนี้ “เคยสังเกต หรือไม่ว่า ดาวต่าง ๆ มีปรากฏการณ์การขึ้นและตกเหมือนดวงอาทิตย์และดวงจันทร์หรือไม่ อย่างไร ถ้าต้องการ สังเกตดาวบนท้องฟ้าให้ชัดเจน นักเรียนจะเลือกสังเกตในวันใด” ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายแนวการตอบ คำถาม เช่น ดาวต่าง ๆ มีปรากฏการณ์การขึ้นและตกเหมือนดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เนื่องจากการหมุนรอบ ตัวเองของโลก ทำให้คนบนโลกมองเหน็ วัตถุท้องฟ้า เหมือนกำลังเคลื่อนท่ีไปบนท้องฟ้า และถ้าต้องการสังเกตดาว บนท้องฟ้าใหช้ ัดเจน นักเรยี นจะเลือกสังเกตในวันทไี่ ม่เห็นดวงจันทรป์ รากฏบนท้องฟ้า เนอ่ื งจากไม่มีแสงสว่างของ ดวงจันทร์กลบแสงจากดาวอื่น นักเรียนอาจมีคำตอบที่แตกต่างจากน้ี ครูควรเน้นให้นักเรียนตอบคำถามพร้อม อธบิ ายเหตุผลประกอบ 14. นักเรียนอ่าน เกร็ดน่ารู้ และสามารถใช้แอฟลิเคชัน ชื่อ วิทย์ ป.5 สำหรับการสังเกตภาพเสมือนจริง (AR) ในหนังสือเรียน หน้า 85 และร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการมองเห็นดวงจันทร์ในชั่วโมงหรือนอกเวลาเรียน ร่วมกนั 7. สอ่ื การสอน 1. หนังสอื เรยี น 2. แบบบันทึกกจิ กรรม 3. PowerPoint 4. รูปภาพ 5. วีดทิ ัศน์ 6. สี 8. การวัดและประเมินผล 1. ประเมนิ ความรเู้ ดมิ จากการอภปิ รายในชนั้ เรยี น 2. ประเมนิ การเรยี นรจู้ ากคาตอบของนกั เรยี นระหวา่ งการจดั การเรยี นรแู้ ละจากแบบบนั ทกึ กจิ กรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 จากการทากจิ กรรม ของนกั เรยี น
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 14101 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เร่อื ง กิจกรรมท้ายบทเร่อื งดวงจันทร์ เวลา 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 วัสดแุ ละสสาร เวลาเรียน 16 ช่วั โมง ครผู ู้สอน นางสาวนวฉัตร นาเมืองรักษ์ สอนวันที่ …..….. เดอื น ….………… พ.ศ. …..………. โรงเรยี นชุมชนวัดบา้ นระกาศ สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาสมทุ รปราการ เขต 2 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชว้ี ดั สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลตอ่ สิ่งมีชีวติ และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ ตวั ชวี้ ดั ป. 4/1. อธบิ ายแบบรูปเส้นทางการขน้ึ และตกของดวงจันทร์ โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์ ป. 4/2 สร้างแบบจำลองที่อธิบายแบบรูปการเปลี่ยนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์และพยากรณ์ รปู รา่ งปรากฏของดวงจนั ทร์ 2. สาระสำคญั ดวงจันทร์เป็นดาวที่มีลักษณะคล้ายทรงกลม เป็นบริวารของโลก ในคืนวันเพ็ญจะมองเห็นดวง จันทร์มีรูปร่างคล้ายวงกลม มีสีขาวนวล มีร่องรอยสีเทาแต่งแต้ม ดวงจันทร์มีปรากฏการณ์การขึน้ และตกและการ เปลีย่ นแปลงรูปร่างอยา่ งตอ่ เนือ่ งและคงทีเ่ ป็นแบบรปู 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายลักษณะการเคลือ่ นท่ที ส่ี มั พนั ธ์กนั ของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์ 2. สรา้ งแบบจำลองและอธบิ ายปรากฏการณ์การขึน้ และตกของดวงจนั ทร์ 3. สร้างแบบจำลองท่อี ธิบายและพยากรณป์ รากฏการณ์การเปลีย่ นแปลงรูปรา่ งของ ดวงจนั ทร์ในแต่ละวนั 4. พยากรณก์ ารเปลยี่ นแปลงรปู รา่ งของดวงจันทร์ในแต่ละวนั 4. สาระการเรยี นรู้ ดวงจันทร์เป็นดาวที่มีลักษณะคล้ายทรงกลม เป็นบริวารของโลก ในคืนวันเพ็ญจะมองเห็นดวงจันทร์มี รูปร่างคลา้ ยวงกลม มีสีขาวนวล มีรอ่ งรอยสีเทาแต่งแตม้ ดวงจนั ทร์มปี รากฏการณ์การข้นึ และตก ซ่ึงเกิดจากการท่ี โลกหมุนรอบตัวเองในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาเม่ือมองจากบริเวณเหนือขั้วโลกเหนือ ทำให้คนบนโลกมองเห็นดวง
จันทร์ปรากฏขึ้นจากขอบฟ้าทางด้านตะวันออกและลับ ขอบฟ้าทางด้านตะวันตก รูปร่างของดวงจันทร์ที่มองเหน็ บนท้องฟา้ ในแต่ละวันแตกตา่ งกนั โดยชว่ งเวลาทม่ี องเหน็ ดวงจนั ทรม์ สี ว่ นสวา่ งมากขึ้นจนสวา่ งเต็มดวง เปน็ ข้างขึ้น ส่วนชว่ งเวลาทส่ี ่วนสวา่ งลดลง จนมืดทั้งดวงเปน็ ขา้ งแรม 5. สมรรถนะท่ีสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ ักเรียนวาดรูปหรือเขียนสรปุ ส่ิงทีไ่ ด้เรยี นรู้จากบทนี้ ในแบบบันทึกกิจกรรม 2. นักเรยี นตรวจสอบการสรุปสง่ิ ท่ีได้เรียนรู้ของตนเองโดยเปรียบเทยี บกับ ผังมโนทศั น์ในหวั ข้อ รู้อะไรใน บทนี้ ในหนังสือเรียน หนา้ 86 3. นักเรียนกลับไปตรวจสอบคำตอบของตนเองในสำรวจความรู้ก่อนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 76 อีกครั้ง ถ้าคำตอบของนักเรียนไม่ถูกต้องให้ขีดเส้นทับข้อความเหล่านั้น แล้วแก้ไขให้ถูกต้อง หรืออาจแก้ไข คำตอบด้วยปากกาที่มีสีต่างจากเดิม นอกจากนี้ครูอาจนำคำถาม ในหนังสือเรียน หน้า 74 มาร่วมกันอภิปราย คำตอบกับนักเรียนอีกครั้ง ดังน้ี “ดวงจันทร์มีปรากฏการณ์การขึ้นและตกและรูปร่างเป็นอย่างไรในขณะที่โคจร รอบโลก” ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายแนวทางการตอบคำถาม โดยนักเรียนควรตอบคำถามตามความเข้าใจ ด้วยคำพูดของตนเอง เช่น เมื่อสังเกตดวงจนั ทร์จากบนโลก จะเห็นปรากฏการณ์การขึ้นและตกของดวงจนั ทรแ์ ละ ปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของดวงจันทร์เป็นแบบรูป โดยดวงจันทร์จะปรากฎขึ้นที่ขอบฟ้าด้าน ตะวันออกแล้วเคลื่อนที่ไปบนท้องฟ้า จนลับขอบฟ้าทางด้านตะวันตก นอกจากนี้ดวงจันทร์บนท้องฟ้าจะ เปลี่ยนแปลงรปู รา่ งไปในแตล่ ะวัน 4. นักเรียนทำ แบบฝึกหัดท้ายบทท่ี 1 ดวงจันทร์ของเรา จากนั้นนักเรียนนำเสนอคำตอบหน้าชั้นเรียน หากคำตอบยงั ไม่ถูกตอ้ ง ครูนำอภิปรายหรือให้สถานการณเ์ พิ่มเตมิ เพือ่ แกไ้ ขแนวคดิ คลาดเคลื่อนให้ถูกตอ้ ง 5. นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรม ร่วมคิดร่วมทำ โดยสืบค้นโปรแกรมประยุกต์ที่ช่วยอธิบายปรากฏการณ์ การข้ึนและตกของดวงจันทร์และปรากฏการณ์การเปลีย่ นแปลงรปู ร่างของดวงจันทร์ เช่น Lumos, The moon 7. ส่ือการสอน 1. หนังสือเรยี น 2. แบบบนั ทกึ กจิ กรรม 3. PowerPoint 4. รูปภาพ 8. การวัดและประเมินผล 1. ประเมนิ ความรเู้ ดมิ จากการอภปิ รายในชนั้ เรยี น
2. ประเมนิ การเรยี นรจู้ ากคาตอบของนกั เรยี นระหวา่ งการจดั การเรยี นรแู้ ละจากแบบบนั ทกึ กจิ กรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 จากการทากจิ กรรม ของนกั เรยี น
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 14101 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4 เร่ือง ระบบสุรยิ ะของเรา เวลา 2 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 วสั ดแุ ละสสาร เวลาเรยี น 16 ชัว่ โมง ครผู ู้สอน นางสาวนวฉตั ร นาเมืองรกั ษ์ สอนวันที่ …..….. เดือน ….………… พ.ศ. …..………. โรงเรียนชมุ ชนวดั บ้านระกาศ สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาสมทุ รปราการ เขต 2 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชว้ี ัด สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่สง่ ผลตอ่ สิ่งมีชีวติ และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ ตัวชีว้ ดั ป. 4/3 สร้างแบบจำลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบคาบการ โคจรของดาวเคราะหต์ า่ ง ๆ จากแบบจำลอง 2. สาระสำคัญ ระบบสุริยะของเราเป็นระบบที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง โดยมีดาวเคราะห์ บริวารของดาว เคราะห์ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง และวัตถุขนาดเล็กอื่นโคจรรอบดวงอาทิตย์ โดยดาวเคราะห์ และวัตถตุ ่าง ๆ มีขนาด ตำแหน่ง และคาบการโคจรรอบดวงอาทติ ยแ์ ตกตา่ งกัน 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สร้างแบบจำลองทีแ่ สดงองค์ประกอบของระบบสรุ ยิ ะ 2. อธบิ ายเปรียบเทียบคาบการโคจรของดาวเคราะหแ์ ต่ละดวง 4. สาระการเรยี นรู้ ระบบสุริยะเป็นระบบที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางและมีดาวบริวารโคจรอยู่โดยรอบ ระบบสุริยะ ประกอบด้วย ดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์ 8 ดวง ดาวเคราะห์ แต่ละดวงมีขนาดและระยะทางเฉลี่ยจากดวง อาทิตย์แตกต่างกัน ดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลจากดวงอาทิตย์จึงมีคาบการโคจรหรือเวลาที่ใช้ในการโคจรรอบดวง อาทติ ยม์ ากกวา่ ดาวเคราะหด์ วงอื่น นอกจากนี้ ระบบสุริยะยังประกอบด้วย ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง และวัตถุขนาดเล็ก อนื่ ๆ โคจรอยูร่ อบดวงอาทติ ย์
5. สมรรถนะท่ีสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั สรา้ งความสนใจ 1. ครทู บทวนความรู้พน้ื ฐานเกย่ี วกับโลก และอวกาศ โดยอาจใชค้ ำถามดังน้ี 1.1 โลก ดวงอาทติ ย์ และดวงจันทร์มกี ารเคล่อื นทสี่ มั พันธ์กนั อย่างไร (โลกโคจรรอบดวง อาทิตย์ และดวงจันทร์โคจรรอบโลก) 1.2 ถ้านกั เรยี นนัง่ ยานอวกาศออกไปในอวกาศ นกั เรยี นคิดวา่ นักเรยี นจะพบอะไรบา้ ง (นักเรียนตอบได้ตามความคดิ ของตนเอง โดยนักเรยี นอาจตอบว่า ดาวพุธ ดาวศกุ ร์ ดาวเคราะหน์ ้อย ดาวหาง) ขน้ั สำรวจและค้นหา 2. ครูชักชวนนักเรียนหาคำตอบจากคำถามข้อ 1.2 โดยการศึกษาเรื่อง ระบบสุริยะของเรา นักเรียนอ่าน หนังสือเรยี นบทที่ 2 ของหน่วยท่ี 5 โดยเรมิ่ จากการอ่าน ชอ่ื บท และจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรปู้ ระจำบท จากนั้นครใู ช้ คำถามดงั น้ี 2.1 เมื่อจบบทเรยี นนักเรยี นจะสามารถทำอะไรได้บา้ ง (สร้างแบบจำลองที่แสดง องคป์ ระกอบของระบบสุริยะอธิบายเปรยี บเทยี บคาบการโคจรของดาวเคราะห์แตล่ ะดวง) 3. นักเรียนเปิดหนงั สอื เรยี น อา่ น ชือ่ บท อา่ น แนวคิดสำคญั โดยครอู าจใชค้ ำถาม ดงั นี้ 3.1 ในบทน้จี ะเรียนเรอื่ งอะไรบา้ ง (ในบทน้ีจะได้เรยี นเรือ่ งองค์ประกอบของระบบสุรยิ ะและ คาบการโคจรของดาวเคราะห์แต่ละดวง) 3.2 ระบบสรุ ยิ ะของเรามลี กั ษณะเป็นอย่างไร (ระบบสรุ ยิ ะของเราเปน็ ระบบทีม่ ดี วงอาทติ ย์ เป็นศูนย์กลาง โดยมีดาวเคราะห์บริวารของดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง และวัตถุ ขนาดเลก็ อนื่ โคจรโดยรอบ) ข้นั อภปิ รายและลงข้อสรปุ 4. ครูให้นักเรียนอ่านเนื้อเรื่องในหนังสือเรียน โดยครูกำหนดวิธีอ่านตามความสามารถของนักเรียน เม่ือ อ่านจบครูประเมินความเขา้ ใจจากการอ่านทลี ะย่อหน้าตามแนวคำถามดงั ต่อไปน้ี 4.1 เนือ้ เรือ่ งท่ีอา่ นกล่าวถึงสถานท่ีใด และมลี ักษณะอย่างไร (อวกาศ ซงึ่ เป็นสถานทที่ ่ีกว้าง ใหญไ่ พศาล ประกอบด้วยกาแล็กซีต่าง ๆ นับลา้ นกาแล็กซี) 4.2 จากรปู สว่ นใดเรียกว่า กาแล็กซี และกาแลก็ ซมี รี ูปร่างอยา่ งไร (นกั เรยี นระบุตำแหน่งที่ เปน็ กาแลก็ ซไี ด้ ดังรูป โดยกาแลก็ ซีมรี ูปรา่ งกลม รี และไรร้ ปู ร่าง) 4.3 นกั เรยี นเรยี งลำดับขนาดของ โลก กาแล็กซี และ ระบบสรุ ิยะจากเล็กไปหาใหญไ่ ด้
อยา่ งไร (โลก ระบบสรุ ยิ ะ และกาแลก็ ซี) 4.4 โลก กาแล็กซี ระบบสุริยะและอวกาศสมั พันธก์ ันอย่างไร (โลกเปน็ สว่ นหนึ่งของระบบ สรุ ยิ ะ ระบบสุริยะกอ็ ยูใ่ นกาแลก็ ซีทางช้างเผอื ก ซึ่งเปน็ เพียงกาแล็กซีหนง่ึ ในอวกาศ) 4.5 ในระบบสรุ ยิ ะมอี งคป์ ระกอบ และลกั ษณะอยา่ งไร (นักเรยี นตอบได้ตามความเข้าใจของ ตนเอง) จากนนั้ ครชู กั ชวนนักเรยี นไปหาคำตอบร่วมกันจากการทำกจิ กรรม ขน้ั ขยายความรู้ 5. ครูชักชวนนกั เรียนทำสำรวจความรู้กอ่ นเรียน ตั้งคำถามวา่ นกั เรียนรู้อะไรแล้วบ้างเกยี่ วกับระบบสุริยะ ของเรา 6. ครใู หน้ ักเรยี นทำสำรวจความรกู้ อ่ นเรียน ในแบบบนั ทกึ กิจกรรม โดยอ่าน ช่ือหนว่ ย ช่อื บท ขน้ั ประเมนิ 7. ครูใหน้ กั เรียนอ่านคำถามและตรวจสอบความเขา้ ใจวิธกี ารตอบคำถามแตล่ ะข้อ โดยใช้คำถามดังนี้ 7.1 กจิ กรรมนน้ี กั เรยี นตอ้ งทำอะไร (วาดภาพระบบสุรยิ ะตามความคิดของตนเอง และตอบ คำถามเกยี่ วกับองคป์ ระกอบของระบบสุริยะ) 7.2 ภาพที่นักเรยี นวาดตอ้ งเขยี นชอ่ื ดาวต่าง ๆ ดว้ ยหรือไม่ เพราะเหตุใด (ตอ้ งเขยี นชือ่ ดาว เพราะจะได้ทราบว่าดาวแต่ละดวงชื่ออะไร) เมื่อครูแน่ใจว่านักเรียนเข้าใจคำถามแล้ว จึงให้นักเรียนตอบคำถาม ตามความเขา้ ใจของตนเอง โดยคำตอบของแตล่ ะคนอาจแตกต่างกนั ได้ และอาจตอบถกู หรือผดิ ก็ได้ 8. ครูสังเกตการตอบคำถามของนักเรียนเพื่อตรวจสอบว่านักเรียนมีแนวคิดเกี่ยวกับลักษณะและ องค์ประกอบของระบบสุรยิ ะของเราอย่างไรบ้าง หรืออาจสุ่มให้นักเรยี น 2-3 คน นำเสนอคำตอบของตนเองในแต่ ละข้อ โดยยังไม่ต้องเฉลยคำตอบให้นักเรียน แต่จะให้นักเรียนย้อนกลับมาตรวจสอบอีกคร้ังหลังเรียนจบบทนี้แล้ว ท้งั น้ีครูอาจบันทึกแนวคิดคลาดเคลื่อนหรือแนวคิดที่น่าสนใจของนักเรียน แล้วนำมาออกแบบการจัดการเรียนการ สอนเพื่อแกไ้ ขแนวคดิ ใหถ้ กู ต้องต่อไป 7. สื่อการสอน 1. หนังสือเรียน 2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม 3. PowerPoint 4. รปู ภาพ 8. การวัดและประเมินผล 1. ประเมนิ ความรเู้ ดมิ จากการอภปิ รายในชนั้ เรยี น 2. ประเมนิ การเรยี นรจู้ ากคาตอบของนกั เรยี นระหว่างการจดั การเรยี นรแู้ ละจากแบบบนั ทกึ กจิ กรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 จากการทากจิ กรรม ของนกั เรยี น
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 7 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 14101 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 เรอ่ื ง ระบบสุรยิ ะของเรา เวลา 2 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 วัสดุและสสาร เวลาเรียน 16 ชั่วโมง ครผู ูส้ อน นางสาวนวฉตั ร นาเมอื งรกั ษ์ สอนวนั ที่ …..….. เดือน ….………… พ.ศ. …..………. โรงเรยี นชุมชนวัดบ้านระกาศ สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาสมทุ รปราการ เขต 2 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีว้ ดั สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลตอ่ สิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ ตัวช้วี ัด ป. 4/3 สร้างแบบจำลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบคาบการ โคจรของดาวเคราะห์ตา่ ง ๆ จากแบบจำลอง 2. สาระสำคัญ ระบบสุริยะของเราเป็นระบบที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง โดยมีดาวเคราะห์ บริวารของดาว เคราะห์ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง และวัตถุขนาดเล็กอื่นโคจรรอบดวงอาทิตย์ โดยดาวเคราะห์ และวตั ถุตา่ ง ๆ มีขนาด ตำแหน่ง และคาบการโคจรรอบดวงอาทติ ยแ์ ตกต่างกนั 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สร้างแบบจำลองและอธิบายลักษณะและองค์ประกอบของระบบสรุ ิยะ 2. เปรยี บเทียบคาบการโคจรของดาวเคราะหแ์ ตล่ ะดวง 4. สาระการเรยี นรู้ ระบบสุริยะเป็นระบบที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางและมีดาวบริวารโคจรอยู่โดยรอบ ระบบสุริยะ ประกอบด้วย ดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์ 8 ดวง ดาวเคราะห์ แต่ละดวงมีขนาดและระยะทางเฉลี่ยจากดวง อาทิตย์แตกต่างกัน ดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลจากดวงอาทิตย์จึงมีคาบการโคจรหรือเวลาที่ใช้ในการโคจรรอบดวง อาทิตย์มากกวา่ ดาวเคราะห์ดวงอ่ืน นอกจากนี้ ระบบสุริยะยังประกอบด้วย ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง และวัตถุขนาดเล็ก อืน่ ๆ โคจรอย่รู อบดวงอาทติ ย์
5. สมรรถนะทส่ี ำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันสรา้ งความสนใจ 1. ครูนำเข้าสู่บทเรียน โดยให้นักเรียนดูรูปปริศนาซึ่งเป็นรูปดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ หรือองค์ประกอบต่าง ๆ ในระบบสุริยะ เช่น ดาวหาง ดาวเคราะห์น้อย โดยใช้กระดาษหรือโปรแกรมนำเสนออื่น ๆ ทำเป็นจิ๊กซอว์ปิด ภาพไว้ แล้วค่อย ๆ เปิดภาพทีละส่วน เพื่อให้นักเรียนสังเกตภาพหรือเล่นเกมทายชื่อดาว พร้อมบอกเหตุผล ประกอบ ว่าเหตุใดจึงคิดว่าเป็นสิ่งนั้น ครูเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมของนักเรียนสู่การเรียนเรื่องระบบสุริยะและ ชักชวนนักเรยี นอา่ นเร่อื งระบบสุริยะ ขนั้ สำรวจและคน้ หา 2. ครูให้นกั เรียนอา่ นช่ือเรอื่ ง และคำถามในคิดก่อนอ่าน ในหนังสือเรยี น หน้า 94 แลว้ รว่ มกนั อภปิ รายใน กลุ่มเพื่อหาแนวคำตอบ ครูบันทึกคำตอบของนกั เรยี นบนกระดานเพ่ือใช้เปรียบเทยี บกับคำตอบหลงั การอา่ นเร่ือง 3. นักเรียนอ่านคำใน คำสำคัญ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และอาจให้นักเรียนอธิบายความหมาย ของคำตามความเข้าใจ และชักชวนไปหาความหมายหลงั จากการอา่ นเนื้อเรอ่ื ง 4. ครูชวนนักเรียนอ่านเนื้อเรื่อง โดยฝึกการอ่านด้วยวิธีที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน แล้ว รว่ มกนั อภปิ รายใจความสำคญั ตามแนวคำถามดังน้ี ยอ่ หนา้ ที่ 1 4.1 โลกโคจรรอบดวงอาทิตยด์ ว้ ยความเรว็ เท่าใด (ประมาณ 30 กิโลเมตรต่อวนิ าที ซ่งึ เร็ว กวา่ เคร่ืองบนิ ความเร็วสงู ถงึ 100 เท่า) 4.2 เหตใุ ดคนบนโลกจงึ ไมร่ สู้ ึกวา่ ตนเองกำลังเคลื่อนท่ีอยู่ (นักเรยี นตอบไดต้ ามความเข้าใจ ของตนเอง โดยครูอาจเฉลยคำตอบและยกตัวอย่างประกอบว่า เพราะ เราอยู่บนโลก จึงเคลื่อนที่ไปพร้อมกับโลก คล้ายกับการน่งั รถท่กี ำลงั แลน่ ) ย่อหนา้ ที่ 2 4.3 ระบบสรุ ยิ ะมลี ักษณะอย่างไร (ระบบสุริยะเป็นระบบท่ีมดี วงอาทิตยเ์ ปน็ ศนู ยก์ ลาง มดี าว เคราะหโ์ คจรอยูโ่ ดยรอบ) 4.4 เส้นสมมติทแ่ี ทนเสน้ ทางทด่ี าวเคราะหโ์ คจรรอบดวงอาทิตยม์ ชี ่อื เรยี กว่าอะไร และมี ลกั ษณะอยา่ งไร (วงโคจรของดาวเคราะห์ มลี ักษณะเป็นวงรที เี่ กอื บกลม) 4.5 ดาวเคราะห์ คืออะไร และแตกต่างจากดวงอาทติ ยอ์ ยา่ งไร (ดาวเคราะห์เป็นดาวท่ีไม่มี
แสงในตัวเอง และโคจรรอบดวงอาทิตย์ ซง่ึ เป็นศูนยก์ ลางของระบบสรุ ิยะ สว่ นดวงอาทิตยเ์ ป็นดาวฤกษด์ วงเดียวใน ระบบและมแี สงในตัวเอง) ย่อหนา้ ที่ 3 4.6 ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะมีกดี่ วง อะไรบ้าง (8 ดวง ดาวพธุ ดาวศกุ ร์ โลก ดาวองั คาร ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดาวยูเรนสั และดาวเนปจนู ) 4.7 การมองเห็นดาวเคราะหข์ ึ้นอย่กู บั อะไรบา้ ง (ขนาดของดาวเคราะหแ์ ละระยะทางที่หา่ ง จากโลก) ย่อหน้าท่ี 4 4.8 คาบการโคจรของดาวเคราะห์คอื อะไร (ระยะเวลาท่ดี าวเคราะหใ์ ช้ในการโคจรรอบดวง อาทิตยค์ รบ 1 รอบ) ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป 5. ครูชักชวนนักเรียนช่วยกันสรุปเรื่องที่อ่านซึ่งควรสรุปได้ว่า ระบบสุริยะเป็นระบบที่มีดวงอาทิตย์เป็น ศูนยก์ ลาง โดยมวลส่วนใหญ่ของระบบสุริยะเป็นมวลของดวงอาทิตย์เกือบทั้งหมด นอกจากนี้ ระบบสุริยะยังมีดาว เคราะห์ 8 ดวง โคจรโดยรอบ ซ่ึงคนบนโลกสามารถเหน็ ดาวเคราะหบ์ างดวงได้ดว้ ยตาเปล่า ขัน้ ขยายความรู้ 6. นกั เรียนตอบคำถามใน รู้หรือยัง ในแบบบนั ทกึ กิจกรรม ข้ันประเมนิ 7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคำตอบของนักเรียนในรู้หรือยังกับคำตอบที่เคยตอบ และบันทกึ ไว้ในคดิ ก่อนอา่ น 8. ครูชักชวนนักเรียนลองตอบคำถามท้ายเรื่องที่อ่าน โดยกระตุ้นให้นักเรียนสงสัยและตอบคำถามตาม ความเขา้ ใจของตนเอง วา่ นอกจากดวงอาทติ ย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะหแ์ ล้ว ระบบสุรยิ ะยงั ประกอบไป ด้วยอะไรอีกบ้างและมีลักษณะอย่างไร ตำแหน่งของดาวเคราะห์มีผลต่อคาบการโคจรหรือระยะเวลาที่ใช้ในการ โคจรรอบดวงอาทิตย์ครบ 1 รอบอย่างไร ครูบันทึกคำตอบของนักเรียนบนกระดานโดยยังไม่เฉลยคำตอบแต่ ชักชวนใหน้ กั เรียนไปหาคำตอบจากการทำกจิ กรรม 9. ครูให้นักเรียน อ่านการผจญภัยของพิท แพทและป็อกก้ี โดยครูแบ่งกลุ่มนักเรียนเพื่อแสดงบทบาท สมมติเป็นพิท แพท ป็อกก้ี และดาวแตล่ ะดวง แต่ละกลมุ่ ต้องเลือกหมายเลขดาวท่ีนักเรียนสนใจท่ีพิท แพทและ ป็ อกก้ีจะเดินทางไป และเมือ่ พิท แพทและป็อกกี้เดนิ ทางมาถึงดาวหมายเลขนน้ั ๆ ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ แสดงบทบาทสมมติ แสดงทา่ ทางทบ่ี อกลักษณะของดาวดวงน้ัน แลว้ ใหเ้ พอื่ นแขง่ กนั ทายว่า ดาวหมายเลขดงั กล่าวเป็นดาวอะไร เพ่ือให้ นักเรียนไดร้ ว่ มกนั รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับดวงอาทิตย์และดาวเคราะหแ์ ตล่ ะดวงผ่านการแสดงบทบาทสมมติ สือ่ การสอน 1. หนังสือเรียน 2. แบบบันทึกกิจกรรม
3. PowerPoint 4. รูปภาพ 5. วิดที ัศน์ การวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรเู้ ดมิ จากการอภปิ รายในชนั้ เรยี น 2. ประเมนิ การเรยี นรจู้ ากคาตอบของนกั เรยี นระหว่างการจดั การเรยี นรแู้ ละจากแบบบนั ทกึ กจิ กรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 จากการทากจิ กรรม ของนกั เรยี น
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 14101 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เร่ือง ระบบสุริยะมลี กั ษณะอย่างไร เวลา 2 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 วัสดุและสสาร เวลาเรียน 16 ช่วั โมง ครูผูส้ อน นางสาวนวฉัตร นาเมืองรักษ์ สอนวันที่ …..….. เดอื น ….………… พ.ศ. …..………. โรงเรียนชมุ ชนวดั บา้ นระกาศ สำนกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาสมุทรปราการ เขต 2 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้ีวัด สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวติ และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ ตัวชีว้ ัด ป. 4/3 สร้างแบบจำลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบคาบการ โคจรของดาวเคราะหต์ า่ ง ๆ จากแบบจำลอง 2. สาระสำคญั ระบบสุริยะของเราเป็นระบบที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง โดยมีดาวเคราะห์ บริวารของดาว เคราะห์ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง และวัตถุขนาดเล็กอื่นโคจรรอบดวงอาทิตย์ โดยดาวเคราะห์ และวตั ถตุ า่ ง ๆ มีขนาด ตำแหนง่ และคาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์แตกตา่ งกนั 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. สรา้ งแบบจำลองและอธิบายลักษณะของระบบสุรยิ ะ 2. วิเคราะห์ข้อมูลและเปรียบเทียบคาบการโคจรของ ดาวเคราะห์แต่ละดวงสังเกต และจำแนกประเภท ส่งิ ของตามลักษณะทีเ่ หมอื นหรือแตกต่างกนั 4. สาระการเรียนรู้ ระบบสุริยะเป็นระบบที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางและมีดาวบริวารโคจรอยู่โดยรอบ ระบบสุริยะ ประกอบด้วย ดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์ 8 ดวง ดาวเคราะห์ แต่ละดวงมีขนาดและระยะทางเฉลี่ยจากดวง อาทิตย์แตกต่างกัน ดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลจากดวงอาทิตย์จึงมีคาบการโคจรหรือเวลาที่ใช้ในการโคจรรอบดวง อาทิตยม์ ากกว่าดาวเคราะห์ดวงอนื่ นอกจากนี้ ระบบสุริยะยังประกอบด้วย ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง และวัตถุขนาดเล็ก อน่ื ๆ โคจรอยู่รอบดวงอาทติ ย์
5. สมรรถนะทีส่ ำคัญของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั สร้างความสนใจ 1. ครูนำรูปที่ใช้นำเข้าสู่บทเรียน เรื่องท่ี 1 ระบบสุริยะ มาใช้ตรวจสอบความรู้เดิมและทบทวนความรู้ พ้ืนฐานเกี่ยวกบั ระบบสรุ ยิ ะ โดยใชค้ ำถามดงั น้ี 1.1 ครูนำภาพดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ ดาวหาง และดาวเคราะหน์ อ้ ยตดิ บนกระดาน จากนน้ั ให้นักเรียนระบุตำแหน่งของดาวเหล่านั้น (นักเรียนตอบได้ตามความคิดของตนเอง โดยครูอาจบันทึกคำตอบของ นักเรียนไวบ้ นกระดาน เชน่ ให้ดวงอาทติ ยเ์ ป็นศนู ยก์ ลางของระบบสรุ ิยะ ดาวพุธอยู่ถัดจากดวงอาทติ ย์ ดาวเคราะห์ น้อยอยูร่ ะหวา่ งดาวองั คารและดาวพฤหัส เป็นต้น) 1.2 ระบบสรุ ิยะยังมอี งคป์ ระกอบอะไรอีกบา้ ง (นักเรยี นตอบได้ตามความคดิ ของตนเอง เช่น ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง) 1.3 คาบการโคจรของดาวเคราะห์คอื อะไร (นักเรยี นตอบไดต้ ามความคิดของตนเอง) 1.4 ดาวเคราะห์ดวงใดนา่ จะใชเ้ วลาในการโคจรรอบดวงอาทิตยใ์ น 1 รอบยาวนานที่สุด หรือ มคี าบการโคจรยาวนานทส่ี ุด เพราะเหตุใด (นักเรยี นตอบไดต้ ามความคิดของตนเอง) 2. ครูกระตุ้นให้นักเรียนตอบคำถามข้อ 1.1-1.4 แต่ยังไม่เฉลยคำตอบ แต่ชักชวนให้นักเรียนหาคำตอบ จากการทำกจิ กรรมที่ 1 ระบบสุรยิ ะมลี กั ษณะอย่างไร ขน้ั สำรวจและค้นหา 3. นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม ระบบสุริยะมีลักษณะอย่างไร และ ทำเป็นคิดเป็น โดยร่วมกันอภิปรายทีละ ประเดน็ เพือ่ ตรวจสอบความเขา้ ใจเกี่ยวกับจดุ ประสงค์ ในการทำกจิ กรรมโดยใชค้ ำถามดังน้ี 3.1 กิจกรรมนนี้ กั เรยี นจะได้เรยี นเรือ่ งอะไร (ลักษณะของระบบสุรยิ ะ) 3.2 นักเรียนจะได้เรียนร้เู รอื่ งน้โี ดยวิธใี ด (สรา้ งแบบจำลอง) 3.3 เมอื่ เรียนแล้วนกั เรียนจะทำอะไรได้ (อธิบายลักษณะของระบบสุริยะ) 4. นักเรียนบันทึกจุดประสงค์ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 92 แล้ว อ่านสิ่งที่ต้องใช้ในการทำกิจกรรม ครูยังไม่แจกวัสดุอุปกรณ์แก่นักเรียน แต่นำวัสดุอุกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำกิจกรรมมาแสดงให้นักเรียนดูทีละอย่าง นักเรียนอ่าน ทำอย่างไร ทีละข้อแล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อสรุปลำดับขั้นตอนตามความเข้าใจโดยครูอาจช่วยเขียน สรปุ สั้น ๆ บนกระดานและนำอภิปรายตามแนวคำถามดังต่อไปนี้ 4.1 นักเรยี นตอ้ งรวบรวมขอ้ มูลเก่ยี วกับส่ิงใด (องค์ประกอบและลกั ษณะของระบบสรุ ิยะ) 4.2 นกั เรียนสามารถรวบรวมข้อมูลไดจ้ ากแหล่งขอ้ มลู ใดบา้ ง (จากการอ่าน เร่อื ง พิท แพท
ผจญภัย และใบความรู้เรื่อง วตั ถุท้องฟา้ ) 4.3 นักเรียนตอ้ งทำอะไรอกี บ้าง (ออกแบบแบบจำลอง บนั ทึกผล จากนั้นสร้างแบบจำลอง) 4.4 นกั เรียนสามารถสรา้ งแบบจำลองในรูปแบบใดไดบ้ า้ ง (นักเรียนตอบตามความคดิ ของ กลุ่ม เช่น สร้างแบบจำลองโดยการวาดรูป ปั้นดินน้ำมัน ปั้นกระดาษ หรือ ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น Paint หรอื โปรแกรมประยุกต์อื่น ๆ เชน่ Sketches ในการวาดภาพ 2 มิต)ิ 5. เมื่อนักเรียนเข้าใจข้ันตอนการทำกิจกรรม ครูให้นักเรียนบันทึกข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นเกี่ยวกับ องค์ประกอบและลักษณะของระบบสุริยะ โดยการวาดรูปหรือเขียนคำอธิบายลงในแบบบันทึกกิจกรรมหน้า 92 จากนั้น วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์จากการสืบค้นเรื่อง พิท แพท ผจญภัย แล้วบันทึกลง ในตาราง หน้า 93 และคำนวณ (S3) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของดาวในแบบจำลอง ระยะทางจากดวงอาทิตย์ไป ยังดาวเคราะห์แต่ละดวงในแบบจำลองเมื่อเทียบกับโลก และบันทึกคาบการโคจรของดาวเคราะห์แต่ละดวงลงใน ตาราง ครูอาจให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิเคราะห์ข้อความ จากเรื่องพิท แพทผจญภัย จากนั้น ตีความหมายเป็นโจทย์ทางคณิตศาสตร์ เพื่อคำนวณขนาดเสน้ ผ่านศูนย์กลางของดาวในแบบจำลอง ระยะทางจาก ดวงอาทิตย์ไปยังดาวเคราะห์แต่ละดวงในแบบจำลองเมื่อเทียบกับโลก ดังตัวอย่าง จากตาราง ขนาดเส้นผ่าน ศนู ย์กลางของดาวพฤหัสบดีมีขนาดเป็น 10 เท่าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของโลกในแบบจำลอง สามารถคำนวณได้ โดย นำ 10 คูณกับ 1 มิลลิเมตร ดังนั้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ของดาวพฤหัสบดีในแบบจำลองมีค่าเท่ากับ 10 มลิ ลิเมตร 6. ให้นักเรียนพิจารณาว่า นักเรียนสามารถสร้างแบบจำลองโดยใช้ขนาดและระยะทางที่คำนวณตาม มาตราสว่ นไดห้ รือไม่ ควรสร้างแบบจำลองบริเวณใด (นักเรยี นสามารถตอบได้ตามความคดิ ของตนเอง หากตอบว่า ทำได้ แบบจำลองนี้ควรสร้างในสนามของโรงเรยี นซึ่งมีขนาดใหญ่ แตห่ ากตอบวา่ ไมส่ ามารถทำได้ นักเรียนควรให้ เหตุผลได้ว่า ดาวพุธมีขนาดเล็กมากเกินไปไม่สามารถสร้างแบบจำลองได้ ห้องเรียนมีขนาดเล็กมากเกินไป ซึ่งครู อาจเสนอแนะให้นักเรียนปรบั มาตราสว่ นขนาดและระยะทางตามความเหมาะสม) 7. นกั เรียนแต่ละกล่มุ ร่วมกนั ออกแบบแบบจำลองระบบสุริยะ เพ่อื อธิบายลักษณะของระบบสุริยะ บันทึก ผล จากนั้นเริ่มสร้างแบบจำลองระบบสุริยะตามที่ได้ออกแบบไว้ ซึ่งนักเรียนอาจสร้างได้แตกต่างกัน เช่น สร้าง แบบจำลองโดยการวาดรูป ปั้นดินน้ำมัน ปั้นกระดาษ หรือ ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมประยุกต์อื่น ๆ เพือ่ สรา้ งแบบจำลองเป็นภาพ 2 มติ หิ รอื 3 มติ ิ 8. ครูตรวจสอบ แบบจำลองของแต่ละกลุ่ม แล้วเลือกแบบจำลองที่มีแนวคิดแตกต่างกัน 2 – 3 กลุ่มเพื่อ นำเสนอ 9. ครูกระตุ้นให้นักเรียนเปรียบเทียบแบบจำลองระบบสุริยะของตนเองกับแบบจำลองระบบสุริยะจาก แหล่งเรียนรู้อื่น ๆ เพื่อปรับแบบจำลองของตนเองให้ถูกต้องสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยครูอาจเน้นย้ำให้นักเรียนพิจารณา ประเดน็ ต่าง ๆ รว่ มกัน ดงั นี้ 9.1 องค์ประกอบในระบบสุรยิ ะ ซงึ่ ประกอบด้วยดวงอาทติ ย์ บรวิ าร คอื ดาวเคราะห์ 8 ดวง และองค์ประกอบอนื่ ๆ ไดแ้ ก่ ดวงจนั ทรบ์ ริวารของดาวเคราะห์ ดาวเคราะหแ์ คระ ดาวเคราะหน์ ้อย และดาวหาง 9.2 ลักษณะของวงโคจรของดาวเคราะห์ มีลกั ษณะเปน็ วงรที เี่ กือบกลม แตใ่ นแบบจำลอง
อาจไม่แสดงเส้นวงโคจร เนื่องจากในอวกาศก็ไม่ปรากฏเส้นดงั กลา่ ว เพราะเส้นดังกล่าวเป็นเพียงเส้นสมมติไม่ได้มี อยูจ่ ริง 9.3 ตำแหนง่ ขององคป์ ระกอบต่าง ๆ ระบบสรุ ิยะประกอบด้วยดวงอาทิตย์เป็นศนู ยก์ ลาง และมีบริวาร คือ ดาวเคราะห์ 8 ดวง โคจรรอบดวงอาทิตย์ โดยดาวเคราะห์แต่ละดวงมีวงโคจรของตัวเอง ดังน้ัน ดาวเคราะห์ต่าง ๆ จงึ ดเู หมือนกระจายอยูโ่ ดยรอบดวงอาทิตย์ บางดวงอยู่ใกล้ และบางดวงอยู่ไกลจากดวงอาทิตย์ มาก ส่วนดาวเคราะห์น้อย สว่ นมากจะโคจรอยูร่ ะหว่างวงโคจรของดาวอังคารและดาวพฤหสั 9.4 สี รูปร่าง และขนาดของดาวตา่ ง ๆ แตกต่างกนั เช่น ดาวเสาร์มีสีเหลือง ขนาดใหญ่รอง จากดาวพฤหัส และมวี งแหวนโดยรอบ ขน้ั อภิปรายและลงข้อสรปุ 10. นักเรียนจัดแสดงแบบจำลอง และร่วมกันอธิบายองค์ประกอบและลักษณะของระบบสุริยะ รวมท้ัง เปรียบเทียบคาบการโคจรของดาวเคราะห์แต่ละดวง (S5) (C4) ครูอาจใช้คำถาม เพื่อเป็นแนวทางให้นักเรียน นำเสนอ ดังต่อไปนี้ 10.1 จากแบบจำลอง ระบบสรุ ยิ ะมลี ักษณะอยา่ งไร (ระบบสรุ ยิ ะเป็นระบบที่มีดวงอาทิตย์เป็น ศนู ย์กลาง และมีบริวาร คอื ดาวเคราะห์ 8 ดวง โคจรรอบดวงอาทิตยโ์ ดยมีวงโคจรของตัวเอง ซงึ่ วงโคจรมีลักษณะ เป็นวงรที ีเ่ กือบกลม) 10.2 จากแบบจำลอง ระบบสุรยิ ะมีองคป์ ระกอบอะไรบ้าง (ระบบสรุ ิยะประกอบดว้ ยดวง อาทิตย์ และมีบริวาร คือ ดาวเคราะห์ 8 ดวง นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ได้แก่ ดวงจันทร์บริวารของดาว เคราะห์ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะหน์ อ้ ย และดาวหาง) 10.3 แบบจำลองนีเ้ หมอื นระบบสรุ ยิ ะจรงิ อย่างไร (นักเรยี นตอบได้ตามความคดิ ของตนเอง เช่น แบบจำลองมีองค์ประกอบครบถว้ นคลา้ ยระบบสรุ ยิ ะจรงิ ) 10.4 แบบจำลองนแ้ี ตกต่างจากระบบสุรยิ ะจริงอยา่ งไร (นกั เรยี นตอบไดต้ ามความคิดของ ตนเอง เชน่ แบบจำลองมีขนาดท่แี ตกต่างจากระบบสรุ ิยะจริง) 10.5 แบบจำลองนเ้ี หมอื นหรือแตกตา่ งจากทน่ี กั เรยี นวาดภาพในกจิ กรรมสำรวจความรกู้ ่อน เรยี นหรอื ไม่อยา่ งไร (นกั เรียนตอบได้ตามผลการทำกจิ กรรม) 10.6 ดาวเคราะหด์ วงทอี่ ยูไ่ กลจากดวงอาทิตยม์ คี าบการโคจรของดาวเคราะห์หรือเวลาทใี่ ช้ ในการโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบ 1 รอบ เหมือนหรือแตกต่างจากดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้กว่าหรือไม่ อย่างไร (แตกต่างกัน ดาวเคราะห์ท่ีมีระยะห่างจากดวงอาทิตย์ยิ่งมากจะมีระยะเวลาในการโคจรรอบดวงอาทิตย์หรือคาบ การโคจรของดาวเคราะห์มากกว่า เช่น โลก ซึ่งอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากกว่าดาวพุธ จะมีคาบการโคจรยาวนาน กว่าดาวพธุ ) ขัน้ ขยายความรู้ 11. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายและลงข้อสรปุ รว่ มกันว่า ระบบสรุ ิยะของเราประกอบดว้ ยดวงอาทิตย์ เปน็ ศนู ย์กลาง โดยมีดาวเคราะห์ ดวงจันทรบ์ รวิ ารของดาวเคราะหโ์ คจรอยโู่ ดยรอบและวตั ถุท้องฟ้าอื่น ๆ กระจาย อยโู่ ดยรอบ ดาวเคราะหแ์ ต่ละดวงมรี ะยะทางเฉลี่ยท่ีห่างจากดวงอาทิตย์แตกต่างกันเปน็ ผลใหด้ าวเคราะห์ท่ีอยู่ห่าง
จากดวงอาทิตย์ยง่ิ มากจะมีคาบการโคจรหรือเวลาที่ใชใ้ นการโคจรรอบดวงอาทิตย์มากกวา่ ดาวเคราะห์ดวงอ่ืนท่ีอยู่ ใกล้กวา่ 12. นักเรียนร่วมกันอภิปรายคำตอบใน ฉันรอู้ ะไร โดยครอู าจใชค้ ำถามเพม่ิ เตมิ ในการอภิปราย ข้ันประเมิน 13. ครูให้นักเรียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมน้ี จากนั้นครูให้นักเรียนอ่าน สิ่งที่ได้เรียนรู้ และ เปรยี บเทียบกับขอ้ สรปุ ของตนเอง 14. ครกู ระตุ้นให้นกั เรยี นฝกึ ต้ังคำถามเกีย่ วกับเร่ืองทส่ี งสัยหรืออยากรู้เพ่มิ เตมิ ใน อยากรอู้ กี ว่า จากนัน้ ครู อาจสมุ่ นกั เรยี น 2 -3 คน นำเสนอคำถามของตนเองหน้าชัน้ เรียน และใหน้ กั เรยี นร่วมกนั อภปิ ราย 15. ครนู ำอภิปรายใหน้ ักเรียนทบทวนวา่ ไดฝ้ ึกทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทักษะแห่งศตวรรษ ท่ี 21 อะไรบา้ งและในขน้ั ตอนใดบา้ ง และใหบ้ ันทกึ ในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม 7. ส่ือการสอน 1. หนงั สอื เรยี น 2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม 3. PowerPoint 4. รูปภาพ 5. วดิ ที ัศน์ 6. ดนิ น้ำมนั 7. กรรไกร 8. สเี มจกิ 9. ไมบ้ รรทดั หรือตลับเมตร 10. กระดาษสี กระดาษแข็ง หรือกระดาษลูกฟกู กระดมุ แบบต่าง ๆ 8. การวัดและประเมินผล 1. ประเมนิ ความรเู้ ดมิ จากการอภปิ รายในชนั้ เรยี น 2. ประเมนิ การเรยี นรจู้ ากคาตอบของนกั เรยี นระหวา่ งการจดั การเรยี นรแู้ ละจากแบบบนั ทกึ กจิ กรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 จากการทากจิ กรรม ของนกั เรยี น
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 9 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 14101 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 เรือ่ ง ทบทวนระบบสุรยิ ะ เวลา 1 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วัสดุและสสาร เวลาเรยี น 16 ช่วั โมง ครผู ้สู อน นางสาวนวฉัตร นาเมอื งรักษ์ สอนวนั ท่ี …..….. เดือน ….………… พ.ศ. …..………. โรงเรียนชุมชนวัดบา้ นระกาศ สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 2 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวดั สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่สง่ ผลต่อสิ่งมีชีวติ และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ ตัวช้วี ัด ป. 4/3 สร้างแบบจำลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบคาบการ โคจรของดาวเคราะหต์ า่ ง ๆ จากแบบจำลอง 2. สาระสำคญั ระบบสุริยะของเราเป็นระบบที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง โดยมีดาวเคราะห์ บริวารของดาว เคราะห์ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง และวัตถุขนาดเล็กอื่นโคจรรอบดวงอาทิตย์ โดยดาวเคราะห์ และวัตถุต่าง ๆ มีขนาด ตำแหนง่ และคาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์แตกตา่ งกนั 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สร้างแบบจำลองและอธบิ ายลกั ษณะของระบบสุรยิ ะ 2. วิเคราะห์ข้อมูลและเปรียบเทียบคาบการโคจรของ ดาวเคราะห์แต่ละดวงสังเกต และจำแนกประเภท สง่ิ ของตามลกั ษณะที่เหมือนหรอื แตกตา่ งกัน 4. สาระการเรียนรู้ ระบบสุริยะเป็นระบบที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางและมีดาวบริวารโคจรอยู่โดยรอบ ระบบสุริยะ ประกอบด้วย ดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์ 8 ดวง ดาวเคราะห์ แต่ละดวงมีขนาดและระยะทางเฉลี่ยจากดวง อาทิตย์แตกต่างกัน ดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลจากดวงอาทิตย์จึงมีคาบการโคจรหรือเวลาที่ใช้ในการโคจรรอบดวง อาทิตยม์ ากกว่าดาวเคราะห์ดวงอนื่
นอกจากนี้ ระบบสุริยะยังประกอบด้วย ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง และวัตถุขนาดเล็ก อน่ื ๆ โคจรอยู่รอบดวงอาทติ ย์ 5. สมรรถนะที่สำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 6. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครใู หน้ ักเรยี นวาดรูปหรอื เขียนสรุปสิ่งทีไ่ ดเ้ รยี นรจู้ ากบทนี้ ในแบบบันทกึ กิจกรรม หนา้ 98 2. นักเรยี นตรวจสอบการสรุปส่ิงท่ไี ด้เรยี นรขู้ องตนเองโดยเปรียบเทียบกับ แผนภาพในหัวข้อ รู้อะไรในบท น้ี ในหนังสอื เรียน หน้า 104 3. นกั เรียนกลบั ไปตรวจสอบคำตอบของตนเองในสำรวจความรู้ก่อนเรียน ในแบบบันทกึ กิจกรรม หน้า 90 อีกครั้ง หากคำตอบของนักเรียนไม่ถูกต้องให้ขีดเส้นทับข้อความเหล่านั้น แล้วแก้ไขให้ถูกต้อง หรืออาจแก้ไข คำตอบด้วยปากกาต่างสี นอกจากนี้ครูอาจนำคำถาม ในหนังสือเรียน หน้า 92 มาร่วมกันอภิปรายคำตอบกับ นกั เรียนอีกครง้ั ดังนี้ “ระบบสรุ ิยะของเรานั้นมีลักษณะเป็นอยา่ งไร กว้างใหญ่ขนาดไหน และนอกจากโลกแล้วยังมี อะไรอีกบ้างในระบบสุริยะแห่งนี้” ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายแนวทางการตอบคำถาม โดยนักเรียนควรตอบ คำถามตามความเข้าใจ และโดยใช้คำพูดของตนเอง เช่น ระบบสุริยะของเราประกอบด้วยดวงอาทิตย์เป็น ศูนย์กลาง มีดาวเคราะห์ ดวงจันทร์บริวารของดาวเคราะห์โคจรอยู่โดยรอบ ดาวเคราะห์แต่ละดวงมีวงโคจรเป็น ของตัวเอง ลักษณะคล้ายวงรที ีเ่ กอื บกลม นอกจากนน้ั ยงั มวี ตั ถุท้องฟา้ อื่น ๆ กระจายอยูโ่ ดยรอบ 4. นักเรียนทำ แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 2 ระบบสุริยะของเรา จากนั้นนำเสนอคำตอบหน้าชั้นเรียน ถ้า คำตอบยงั ไม่ถกู ตอ้ งครูนำอภปิ รายหรือให้สถานการณเ์ พ่ิมเติมเพื่อแก้ไขแนวคิดคลาดเคลอ่ื นให้ถกู ต้อง 5. นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรม ร่วมคิดร่วมทำ โดยออกแบบยานอวกาศ เพื่อสำรวจดาวเคราะห์ โดย นักเรยี นควรออกแบบยานอวกาศให้มีลักษณะเฉพาะเพื่อลงจอดทด่ี าวเคราะหต์ ามท่นี กั เรียนเลือกได้ 6. นักเรียนร่วมกันอ่านและอภิปรายเนื้อเรื่องในหัวข้อ วิทย์ใกล้ตัว โดยครูกระตุ้นให้นักเรยี นตอบคำถาม วา่ เหตุใดเราจึงให้ความสนใจกบั ดาวเคราะหน์ อกระบบสุรยิ ะเหลา่ น้แี ละการคน้ พบน้ีเกยี่ วข้องกบั เราอย่างไร 7. สอ่ื การสอน 1. หนังสอื เรียน 2. แบบบันทกึ กิจกรรม 3. PowerPoint 4. รปู ภาพ 8. การวดั และประเมินผล 1. ประเมนิ ความรเู้ ดมิ จากการอภปิ รายในชนั้ เรยี น
2. ประเมนิ การเรยี นรจู้ ากคาตอบของนกั เรยี นระหวา่ งการจดั การเรยี นรแู้ ละจากแบบบนั ทกึ กจิ กรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 จากการทากจิ กรรม ของนกั เรยี น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127