Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือ-องค์กรชุมชนและองค์กรเอกชน-online2

คู่มือ-องค์กรชุมชนและองค์กรเอกชน-online2

Published by วารสาร สพม.ปจนย, 2021-02-19 01:41:53

Description: คู่มือ-องค์กรชุมชนและองค์กรเอกชน-online2

Search

Read the Text Version

ส�ำ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วย สิทธิขององค์กรชมุ ชน และองค์กรเอกชน ในการจดั การศึกษาขัน้ พ้ืนฐานในศูนย์การเรยี น



ค่มู อื การจดั การศึกษา วา่ ด้วย สิทธิขององค์กรชมุ ชน และองค์กรเอกชน ในการจดั การศึกษาข้นั พ้นื ฐานในศูนย์การเรยี น สำ�นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วย สิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชน ในการจดั การศึกษาข้นั พ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น พมิ พค์ รง้ั ท่ี ๒ พ.ศ. ๒๕๖๒ จ�ำ นวนพมิ พ์ ๓๐๐ เล่ม ผูจ้ ดั พิมพ์ สำ�นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร พมิ พท์ ี่ พิมพ์ท่ี ร้านรว่ มเจริญปรนิ้ ๒๐๙/๕๔ หมู่ ๓ ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ. เชยี งใหม่ ๕๐๒๒๐ โทรศัพท์ ๐๘๑ ๖๐๒ ๔๗๗๓ ผสู้ นบั สนุน มูลนิธหิ ม่บู ้านเด็กเพซตาลอ๊ ตซี่ ๑๘๘/๗๖๓ หมู่ ๑๐ ต.สนั นาเม็ง อ.สนั ทราย จ.เชียงใหม่ ๕๐๒๑๐ โทรศพั ท์ ๐๕๓ ๓๔๔ ๕๔๐

คำ�นำ� รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ ก�ำหนดให้ หมวด ๕ หนา้ ทขี่ องรฐั มาตรา ๕๔ ระบวุ า่ “รัฐต้องด�ำเนินการให้เดก็ ทกุ คนไดร้ ับการศึกษาเป็นเวลาสิบสองปี ต้ังแตก่ อ่ นวยั เรียนจนจบการศึกษา ภาคบังคับอยา่ งมคี ณุ ภาพโดยไม่เกบ็ ค่าใชจ้ ่าย รัฐต้องด�ำเนนิ การใหเ้ ดก็ เลก็ ได้รบั การดูแลและพัฒนาก่อนเขา้ รับ การศึกษาตามวรรคหนึ่งเพ่อื พัฒนาร่างกาย จติ ใจ วนิ ยั อารมณ์ สังคม และสตปิ ัญญาใหส้ มกบั วยั โดยส่งเสริม และสนับสนนุ ใหอ้ งค์กรปกครองทอ้ งถ่ินและภาคเอกชนเขา้ มสี ว่ นรว่ มในการด�ำเนนิ การดว้ ย รฐั ต้องด�ำเนนิ การ ใหป้ ระชาชนไดร้ บั การศกึ ษาตามความตอ้ งการในระบบตา่ งๆ รวมทง้ั สง่ เสรมิ ใหม้ กี ารเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ และจดั ใหม้ ี การรว่ มมอื กนั ระหวา่ งรฐั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และภาคเอกชนในการจดั การศกึ ษาทกุ ระดบั โดยรฐั มหี นา้ ที่ ด�ำเนินการ ก�ำกับ ส่งเสริม และสนับสนุนให้การจัดการศึกษาดังกล่าวมีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ท้ังน้ี ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติอย่างน้อยต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับการจัดท�ำแผนการศึกษาแห่งชาติ และการด�ำเนนิ การและตรวจสอบการด�ำเนนิ การใหเ้ ปน็ ไปตามแผนการศกึ ษาแหง่ ชาตดิ ว้ ย การศกึ ษาทงั้ ปวงตอ้ ง มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ คนดี มวี นิ ยั ภมู ใิ จในชาติ สามารถเชยี่ วชาญไดต้ ามความถนดั ของตน และมคี วามรบั ผดิ ชอบ ต่อครอบครวั ชุมชน สังคม และประเทศชาติ” โดยเฉพาะในหมวด ๔ หน้าทข่ี องปวงชนชาวไทย มาตรา ๕๐ (๔) ระบุ บุคคลมีหนา้ ท่ีเขา้ รับการศึกษาอบรมในการศึกษาภาคบงั คบั นอกจากนี้ พระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ตามมาตรา ๑๒ ได้ให้การรับรองสิทธิในการจัดการศึกษาแก่ภาคสังคมและประชาชน โดยก�ำหนดว่า นอกเหนือจากรัฐ เอกชน และองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ ใหบ้ ุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวชิ าชพี สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการและสถาบนั สงั คมอน่ื ๆ มสี ทิ ธใิ นการจดั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ซง่ึ ในขณะนม้ี กี ฎกระทรวงวา่ ดว้ ย สทิ ธขิ ององคก์ รชมุ ชนและองคก์ รเอกชนในการจดั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานในศนู ยก์ ารเรยี น พ.ศ. ๒๕๕๕ ซงึ่ ก�ำหนดให้ องคก์ รชมุ ชนและองคก์ รเอกชนมีสทิ ธใิ นการจัดการศึกษาข้ันพน้ื ฐานตามที่ก�ำหนดในกฎกระทรวง ทง้ั นี้ เพื่อให้ องคก์ รชมุ ชนและองคก์ รเอกชนซงึ่ มคี วามประสงคแ์ ละมคี วามพรอ้ มเขา้ มาชว่ ยเหลอื รฐั ในการจดั การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน ในรูปแบบการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย โดยรัฐจะส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษา อันจะท�ำให้ผู้เรียนได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพเท่าเทียมกับการศึกษาในรูปแบบอ่ืน โดยก�ำหนดให้องค์กรชุมชน และองคก์ รเอกชนมสี ทิ ธใิ นการจดั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานในศนู ยก์ ารเรยี น และใหส้ ถานศกึ ษาทจี่ ดั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ตามกฎกระทรวงน้ี เรยี กวา่ “ศนู ยก์ ารเรยี น”

กระทรวงศึกษาธกิ ารในฐานะท่ีเป็นหน่วยงานที่รบั ผิดชอบด้านการศกึ ษาของประเทศ จึงไดจ้ ัดท�ำ แนวทางในการด�ำเนินการจัดต้ังศูนย์การเรียนตามกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กรชุมชนและองค์กรเอกชน ในการจดั การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานในศนู ยก์ ารเรยี น พ.ศ. ๒๕๕๕ เพอื่ ใหก้ ารจดั การศกึ ษาขององคก์ รชมุ ชนและองคก์ ร เอกชนในการจดั การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานในศนู ยก์ ารเรยี นสามารถด�ำเนนิ การได้อย่างสะดวกและเกดิ ความคลอ่ งตวั ยิ่งขึ้น จึงได้จัดท�ำแนวทางการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานโดยองค์กรชุมชน และองค์กรเอกชนในศูนย์การเรียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางในการด�ำเนินการจัดตั้งศูนย์การเรียนส�ำหรับการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ตามกฎกระทรวง ให้แก่ผู้ท่ีประสงค์จะขอจัดการศึกษาให้มีความรู้ ความเข้าใจและสามารถน�ำไปสู่การปฏิบัติ ได้อย่างสะดวก ถกู ตอ้ งเป็นมาตรฐานเดยี วกนั ตามแนวทางทก่ี �ำหนดไว้ในกฎกระทรวง พร้อมท้ังเป็นแนวทาง ในการส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแก่ศูนย์การเรียนที่จะพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นมนุษย์ ที่สมบูรณ์ท้ังร่างกายอารมณ์ สังคม สติปัญญา มีคุณธรรมน�ำความรู้คู่ทักษะ และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ อย่างมคี วามสุขโดยค�ำนงึ ถึงสิทธปิ ระโยชนข์ องผเู้ รยี น คุณภาพผูเ้ รยี นตามทห่ี ลกั สูตรก�ำหนด ความเป็นเอกภาพ และความมั่นคงของชาติ โดยมีคุณภาพเทา่ เทยี มกบั การศกึ ษาในรปู แบบอนื่ ๆ ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้จัดท�ำแนวทาง การจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานโดยสิทธิขององค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนในศูนย์การเรียน โดยได้แต่งต้ัง คณะท�ำงาน ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้แทนจากส�ำนักงาน เขตพ้ืนที่ หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง และตัวแทนจากองค์กรชุมชน องค์กรเอกชน มูลนิธิและสมาคม ร่วมเป็น คณะท�ำงาน พร้อมท้ัง ได้ด�ำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง จนได้คู่มือแนวทางการจัดการศึกษา วา่ ดว้ ยสทิ ธขิ ององค์กรชุมชนและองคก์ รเอกชนในการจดั การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐานในศูนย์การเรยี น ทีม่ ีความถูกตอ้ ง เหมาะสม ซง่ึ จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผทู้ มี่ สี ทิ ธใิ นการจดั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานในศนู ยก์ ารเรยี นและผทู้ เี่ กยี่ วขอ้ งสามารถ น�ำไปสกู่ ารปฏิบัติไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพตอ่ ไป (นายบญุ รักษ์ ยอดเพชร) เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน

สารบัญ สิทธขิ ององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชน หน้า ส่วนท่ี ๑ บทน�ำ ๑ หลกั การและความเป็นมา ๑ ส่วนที่ ๒ บทบาทและอ�ำนาจหน้าท่ีการจดั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐานโดยองค์กรชมุ ชน และองค์กรเอกชนในศูนยก์ ารเรยี น ๕ คณุ สมบัตขิ องผขู้ อจัดการศกึ ษาขน้ั พื้นฐานในรูปแบบศนู ยก์ ารเรยี น ๕ คณุ สมบตั ิของผเู้ รียน ๖ บทบาทหนา้ ท่ขี องผ้ขู อจัดตั้งศูนยก์ ารเรียน ๖ บทบาทหนา้ ทข่ี องศนู ยก์ ารเรียน ๘ บทบาทหนา้ ที่ของคณะกรรมการศูนยก์ ารเรยี น ๙ บทบาทหนา้ ทีข่ องส�ำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษา ๙ บทบาทหนา้ ทข่ี องคณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจงั หวัด ๑๑ บทบาทหนา้ ทขี่ องส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน ๑๑ บทบาทหนา้ ทีข่ องคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ๑๑ การเลกิ จดั การศึกษาโดยองคก์ รชมุ ชนและองคก์ รเอกชน ๑๒ กรณที ี่ ๑ ส�ำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาอนญุ าตให้เลกิ ตามค�ำขอของผ้จู ดั การศึกษา ๑๒ กรณที ี่ ๒ ส�ำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามคี �ำส่งั ใหเ้ ลิกศนู ย์การเรียน ส่วนที่ ๓ แนวทางด�ำเนินการจดั การศึกษา ๑๗ คณุ สมบตั ิของผ้เู รยี น ๑๗ แผนการจัดการศึกษา ๑๗ หลักสตู รหรอื ลักษณะกิจกรรมการเรยี นการสอน ๑๙ บทบาทหนา้ ท่ีของศูนยก์ ารเรียนและส�ำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาในการวัดผล และประเมนิ ผลการเรยี น ๒๕ บทบาทหนา้ ท่ีของศนู ย์การเรียน ๒๕ บทบาทหนา้ ที่ของส�ำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษา ๒๕ ระบบประกันคุณภาพภายในของศูนย์การเรยี น ๒๕ บทบาทหนา้ ทข่ี องคณะกรรมการศูนยก์ ารเรียนและ ส�ำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาในการพัฒนา ๒๖ ระบบประกันคุณภาพภายใน บทบาทหนา้ ทคี่ ณะกรรมการศูนยก์ ารเรียน ๒๖ บทบาทหนา้ ทสี่ �ำนักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษา ๒๗ ภาคผนวก ๒๙ คณะท�ำงาน ๑๒๐

เอกสารที่เกี่ยวขอ้ งกับกฎกระทรวงวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชน ในการจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานในศูนยก์ ารเรยี น พ.ศ. ๒๕๕๕ แบบขอจดั ตั้งองค์กรชมุ ชน แบบ อชศ.๑ : แบบประสงค์ขอจัดการศึกษาขน้ั พ้ืนฐานโดยองคก์ รชมุ ชนในศนู ย์การเรยี น แบบ อชศ.๒ : แผนการจัดการศึกษาขนั้ พ้ืนฐานโดยองคก์ รชุมชนในศูนย์การเรียน แบบ อชศ.๓ : แบบขอจัดการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานโดยองค์กรชุมชนในศนู ยก์ ารเรียน แบบ อชศ.๔ : แบบแสดงการรบั รองรายละเอียดของคณะบุคคลและวัตถุประสงคข์ ององคก์ รชุมชน แบบ อชศ.๕ : แบบตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารของผ้ยู น่ื ขอความเห็นชอบ จัดการศึกษาขององค์กรชุมชน แบบ อชศ.๖ : ประกาศแตง่ ต้ังผู้แทนชุมชนแทนผ้แู ทนผปู้ กครองของผ้เู รยี น ในคณะกรรมการศนู ยก์ ารเรยี น แบบ อชศ.๗ : ประกาศแต่งตงั้ คณะกรรมการศูนยก์ ารเรียนขององค์กรชมุ ชน แบบแจง้ ผลการพิจารณาองค์กรชมุ ชน แบบ อชศ.๘ : แบบแจง้ ผลการพิจารณาการจดั ต้งั ศูนย์การเรยี นขององค์กรชุมชน แบบ อชศ.๙ : แบบอนญุ าตการจดั การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐานโดยองค์กรชมุ ชนในศนู ยก์ ารเรยี น แบบ อชศ.๑๐ : แบบขอเปลยี่ นแปลงแกไ้ ข / เพ่ิมเตมิ แผนการจดั การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน โดยองคก์ รชมุ ชนในศูนย์การเรยี น แบบ อชศ.๑๑ : แบบแจ้งผลการพิจารณาขอเปล่ียนแปลงแก้ไข / เพ่ิมเติม แผนการจัดการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน โดยองค์กรชมุ ชนในศนู ยก์ ารเรียน แบบขอขอเลิกองค์กรชมุ ชน แบบ อชศ.๑๒ : แบบค�ำขอเลกิ จดั การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐานโดยองคก์ รชุมชนในศนู ยก์ ารเรียน แบบ อชศ.๑๓ : ค�ำสั่งใหเ้ ลกิ การจดั การศึกษาขน้ั พื้นฐานโดยองค์กรชมุ ชนในศนู ย์การเรยี น (กรณเี ลิกตามค�ำขอของผจู้ ัดการศกึ ษา) แบบ อชศ.๑๔ : ค�ำสง่ั ให้เลิกการจัดการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐานโดยองคก์ รชุมชนในศูนย์การเรยี น (กรณสี �ำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาส่งั ให้เลิก) แบบขอจดั ตั้งองค์กรเอกชน แบบ อกศ.๑ : แบบประสงค์ขอจัดการศึกษาข้ันพืน้ ฐานโดยองค์กรเอกชนในศนู ย์การเรยี น แบบ อกศ.๒ : แผนการจดั การศึกษาขนั้ พื้นฐานโดยองคก์ รเอกชนในศูนย์การเรยี น แบบ อกศ.๓ : แบบขอจดั การศกึ ษาขน้ั พื้นฐานโดยองคก์ รเอกชนในศูนย์การเรยี น แบบ อกศ.๔ : แบบตรวจสอบคุณสมบัตแิ ละเอกสารของผูย้ ่ืนขอความเหน็ ชอบ จดั การศึกษาขององคก์ รเอกชนเปน็ นิติบุคคลซงึ่ จดทะเบยี นในประเทศไทย แบบ อกศ.๕ : แบบตรวจสอบคุณสมบตั แิ ละเอกสารของผู้ยื่นขออนุญาตจัดการศกึ ษา ขององคก์ รเอกชนเปน็ นติ ิบคุ คลซึง่ ไม่ได้จดทะเบยี นในประเทศไทย

  แบบประกาศแต่งตั้งองค์กรเอกชน แบบ อกศ.๖ : ประกาศแต่งตงั้ ผู้ตง้ั ผู้แทนชุมชนแทนผแู้ ทนผ้ปู กครองของผู้เรยี น ในคณะกรรมการศนู ย์การเรยี น แบบ อกศ.๗ : ประกาศแตง่ ตง้ั ผูแ้ ทนชุมชนแทนผูแ้ ทนผปู้ กครองของผู้เรยี น ในคณะกรรมการศนู ย์การเรยี นกรณีองคก์ รเอกชนเปน็ นิติบคุ คลซ่ึงไม่ไดจ้ ดทะเบยี นในประเทศไทย แบบ อกศ.๘ : ประกาศแตง่ ต้ังคณะกรรมการศนู ยก์ ารเรียนขององคก์ รเอกชน เปน็ นิตบิ คุ คลซึ่งไดจ้ ดทะเบียนในประเทศไทย แบบ อกศ.๙ : ประกาศแตง่ ตงั้ คณะกรรมการศูนย์การเรยี นขององค์กรเอกชน เปน็ นติ ิบคุ คลซึ่งไม่ไดจ้ ดทะเบียนในประเทศไทย แบบแจง้ ผลการพิจารณาองค์กรเอกชน แบบ อกศ.๑๐ : แบบแจ้งผลการพิจารณาการจดั ตงั้ ศนู ย์การเรียนขององคก์ รเอกชน เป็นนิตบิ คุ คลซง่ึ ได้จดทะเบียนในประเทศไทย แบบ อกศ.๑๑ : แบบแจ้งผลการพิจารณาการจัดต้ังศูนย์การเรียนขององคก์ รเอกชน เป็นนิติบคุ คลซึง่ ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย(กรณศี นู ยก์ ารเรยี นท่ีมผี ู้เรียนจ�ำนวนไม่เกิน ๕๐ คน) แบบ อกศ.๑๒ : แบบแจ้งผลการพจิ ารณาการจดั ต้งั ศูนย์การเรยี นขององค์กรเอกชน เป็นนิติบุคคลซึ่งไมไ่ ด้จดทะเบยี นในประเทศไทย (กรณศี นู ย์การเรียนท่ีมผี ู้เรยี น จ�ำนวนเกนิ กวา่ ๕๐ คน แต่ไม่เกนิ ๑๐๐ คน) แบบ อกศ.๑๓ : แบบแจ้งผลการพิจารณาการจดั ตง้ั ศูนยก์ ารเรยี นขององคก์ รเอกชน เป็นนติ ิบคุ คลซ่ึงไมไ่ ดจ้ ดทะเบยี นในประเทศไทย (กรณีศูนยก์ ารเรียนที่มีผ้เู รยี นจ�ำนวนเกนิ กวา่ ๑๐๐ คน) แบบอนุญาตองค์กรเอกชน แบบ อกศ.๑๔ : แบบอนุญาตการจดั การศึกษาข้ันพื้นฐานโดยองค์กรเอกชน ในศนู ยก์ ารเรยี นขององค์กรเอกชนเป็นนติ บิ ุคคลซ่งึ ได้จดทะเบยี นในประเทศไทย แบบ อกศ.๑๕ : แบบอนญุ าตการจัดการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐานโดยองค์กรเอกชนในศูนยก์ ารเรียน ขององคก์ รเอกชนเป็นนิตบิ ุคคลซ่งึ ไมไ่ ด้จดทะเบียนในประเทศไทย (กรณศี ูนย์การเรียนทีม่ ีผู้เรียน จ�ำนวนไมเ่ กิน ๕๐ คน) แบบ อกศ.๑๖ : แบบอนุญาตการจัดการศึกษาข้นั พน้ื ฐานโดยองค์กรเอกชนในศูนย์การเรยี น ขององคก์ รเอกชนเปน็ นติ ิบุคคลซงึ่ ไม่ไดจ้ ดทะเบยี นในประเทศไทย (กรณีศูนย์การเรียนท่มี ีผเู้ รยี น จ�ำนวนเกินกวา่ ๕๐ คน แตไ่ ม่เกิน ๑๐๐ คน) แบบ อกศ.๑๗ : แบบอนุญาตการจัดการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐานโดยองคก์ รเอกชนในศูนย์การเรยี น ขององค์กรเอกชนเป็นนิตบิ ุคคลซงึ่ ไม่ได้จดทะเบยี นในประเทศไทย (กรณีศูนย์การเรยี นท่ีมีผเู้ รียน จ�ำนวนเกินกวา่ ๑๐๐ คน)  

แบบขอเปล่ียนแปลงองค์กรเอกชน แบบ อกศ.๑๘ : แบบขอเปลยี่ นแปลงแกไ้ ข / เพิ่มเติม แผนการจดั การศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน โดยองคก์ รเอกชนเป็นนิติบคุ คลซ่ึงได้ จดทะเบยี นในประเทศไทย แบบ อกศ.๑๙ : แบบขอเปลย่ี นแปลงแกไ้ ข / เพ่ิมเตมิ แผนการจัดการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน โดยองคก์ รเอกชนเปน็ นิตบิ ุคคลซึ่ง ไม่ได้ จดทะเบียนในประเทศไทย (กรณศี นู ย์การเรยี นทีม่ ผี เู้ รยี น จ�ำนวนไมเ่ กิน 50 คน) ไมไ่ ด้จดทะเบียนในประเทศไทย (กรณศี นู ยก์ ารเรียนท่ีมผี เู้ รยี น จ�ำนวนไม่เกนิ ๕๐ คน) แบบ อกศ.๒๐ : แบบขอเปล่ียนแปลงแกไ้ ข / เพมิ่ เติม แผนการจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน โดยองค์กรเอกชนเป็นนติ ิบุคคลซง่ึ ไม่ได้ จดทะเบยี นในประเทศไทย (กรณศี นู ย์การเรยี นที่มีผเู้ รยี น จ�ำนวนเกนิ กวา่ ๕๐ คน แต่ไมเ่ กิน ๑๐๐ คน) แบบ อกศ.๒๑ : แบบขอเปล่ียนแปลงแกไ้ ขแผนการจัดการศกึ ษาโดยองคก์ รเอกชน ในศูนยก์ ารเรียนขององค์กรเอกชนเปน็ นติ บิ คุ คลซ่ึงไม่ไดจ้ ดทะเบยี นในประเทศไทย (กรณีศูนยก์ ารเรยี นท่มี ีผเู้ รยี น จ�ำนวนเกินกวา่ ๑๐๐ คน) แบบ อกศ.๒๒ : แบบแจ้งผลการพจิ ารณาขอเปล่ียนแปลงแก้ไข / เพ่ิมเตมิ แผนการจดั การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน โดยองค์กรเอกชนเป็นนติ บิ ุคคลซึ่งได้ จดทะเบยี นในประเทศไทย แบบ อกศ.๒๓ : แบบแจง้ ผลการพิจารณาขอเปลีย่ นแปลงแก้ไข / เพิ่มเตมิ แผนการจัดการศึกษาขัน้ พื้นฐาน โดยองคก์ รเอกชนเปน็ นิติบุคคลซึ่ง ไมไ่ ด้ จดทะเบยี นในประเทศไทย (กรณีศูนยก์ ารเรียนท่ีมผี เู้ รียน จ�ำนวนไมเ่ กนิ ๕๐ คน) แบบ อกศ.๒๔ : แบบแจง้ ผลการพิจารณาขอเปล่ียนแปลงแกไ้ ข / เพมิ่ เตมิ แผนการจัดการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน โดยองคก์ รเอกชนเป็นนติ บิ คุ คลซ่ึง ไม่ได้ จดทะเบยี นในประเทศไทย (กรณีศูนยก์ ารเรียนทีม่ ผี เู้ รียน จ�ำนวนเกินกวา่ ๕๐ คน แตไ่ ม่เกิน ๑๐๐ คน) แบบ อกศ.๒๕ : แบบแจง้ ผลการพิจารณาขอเปลยี่ นแปลงแกไ้ ข / เพมิ่ เติม แผนการจดั การศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน โดยองค์กรเอกชนเป็นนิติบคุ คลซง่ึ ไม่ได้ จดทะเบียนในประเทศไทย (กรณศี ูนย์การเรียนทม่ี ีผ้เู รียน จ�ำนวนเกนิ กวา่ ๑๐๐ คน) แบบขอเลิกองค์กรเอกชน แบบ อกศ.๒๖ : แบบค�ำขอเลิกจดั การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานโดยองคก์ รเอกชนในศนู ยก์ ารเรยี น แบบ อชศ.๒๗ : ค�ำสั่งให้เลกิ การจัดการศึกษาข้นั พื้นฐานโดยองคก์ รเอกชนในศูนยก์ ารเรียน (กรณีเลิกตามค�ำขอของผูจ้ ัดการศกึ ษา) แบบ อกศ.๒๘ : ค�ำสั่งใหเ้ ลิกการจัดการศึกษาขั้นพ้นื ฐานโดยองคก์ รเอกชนในศนู ยก์ ารเรียน (กรณีส�ำนกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาส่ังให้เลิก) แบบการเทียบโอนผลการเรยี น ค�ำรอ้ งขอเทยี บโอนผลการเรยี น แบบบันทึกการเทียบโอนผลการเรียน

แบบรายงานผลการเทยี บโอนผลการเรยี น แบบค�ำรอ้ งขอเทยี บโอนความรูแ้ ละประสบการณ์ แบบรายงานผลการเทยี บโอนความร้แู ละประสบการณ์ แบบบนั ทึกผลการประเมินการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น แบบบันทึกผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค ์ แบบบันทกึ ผลการประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน แบบสรุปผลการอนมุ ัตเิ ล่อื นชน้ั เรียน ประกาศ กพฐ. เอกสารแนบท้ายประกาศคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน เรอื่ งคณุ สมบัติของผู้เรียน ในศนู ยก์ ารเรียนทจี่ ดั การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐานโดยองคก์ รเอกชนเป็นนิติบคุ คล ซ่งึ ไมไ่ ดจ้ ดทะเบยี นในประเทศไทย เอกสารแนบท้ายประกาศคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน เรือ่ งหลกั สตู รหรอื ลักษณะกิจกรรมการเรียนการสอนในศูนยก์ ารเรยี นขององค์กรเอกชนเป็นนิติบคุ คล ซงึ่ ไม่ได้จดทะเบยี นในประเทศไทย (กรณที ่มี ีผเู้ รยี น จ�ำนวนเกนิ กวา่ ๕๐ คน) ประกาศ กพฐ. เร่ือง คุณสมบัตขิ องผเู้ รียนในศูนย์การเรยี นทจี่ ดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน โดยองคก์ รเอกชนเปน็ นติ บิ ุคคลซ่งึ ไม่ไดจ้ ดทะเบยี นในประเทศไทย ประกาศ กพฐ. เรื่อง ก�ำหนดท่ตี ัง้ ศนู ยก์ ารเรียนขององค์กรเอกชนเป็นนิตบิ ุคคล ซง่ึ ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย (กรณที ม่ี ผี เู้ รียน จ�ำนวนเกินกวา่ ๕๐ คน) ประกาศ กพฐ. เรอ่ื ง ระดับการศกึ ษาท่ีจดั การศกึ ษานอกระบบในศนู ย์การเรียน ขององค์กรเอกชนเป็นนติ บิ ุคคลซง่ึ ไม่ไดจ้ ดทะเบียนในประเทศไทย (กรณที ม่ี ีผ้เู รียน จ�ำนวนเกนิ กวา่ ๕๐ คน) ประกาศ กพฐ. เรื่อง หลักสตู รหรอื ลักษณะกิจกรรมการเรียนการสอนในศูนยก์ ารเรยี นของ องค์กรเอกชนเปน็ นติ ิบคุ คลซึ่งไม่ได้จดทะเบยี นในประเทศไทย (กรณที ่มี ผี ้เู รยี นจ�ำนวนเกินกวา่ ๕๐ คน) ประกาศ กพฐ. เรื่อง รายชือ่ และคุณสมบัตขิ องบุคลากรทางการศกึ ษาของศนู ยก์ ารเรยี น ขององคก์ รเอกชนเปน็ นิติบคุ คลซง่ึ ไม่ไดจ้ ดทะเบียนในประเทศไทย (กรณที ี่มผี เู้ รยี น จ�ำนวนเกนิ กวา่ ๕๐ คน) ประกาศ กพฐ. เรือ่ ง ก�ำหนดระบบประกนั คุณภาพในศูนยก์ ารเรียนขององคก์ รเอกชน เปน็ นิตบิ ุคคลซึง่ ไม่ได้จดทะเบยี นในประเทศไทย (กรณีทม่ี ผี ้เู รยี น จ�ำนวนเกนิ กวา่ ๕๐ คน)

ค�ำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ค�ำสง่ั กระทรวงศึกษาธกิ าร ที่ สพฐ ๑๗๙๕ /๒๕๕๘ เรื่องการจัดท�ำระเบียนแสดงผลการเรียน หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน (ปพ.๑) ส�ำหรบั กลมุ่ เป้าหมายเฉพาะ ค�ำสัง่ กระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ ๑๗๙๖/๒๕๕๘ เรอ่ื งการจดั ท�ำประกาศนียบตั ร หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน (ปพ.๒) ส�ำหรับกลุม่ เปา้ หมายเฉพาะ ค�ำสงั่ กระทรวงศกึ ษาธิการ ที่ สพฐ ๑๗๙๗/๒๕๕๘ เรื่อง การจัดท�ำแบบรายงาน ผ้สู �ำเรจ็ การศกึ ษาตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน (ปพ.๓) ส�ำหรบั กลุม่ เปา้ หมายเฉพาะ ค�ำสั่งกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ท่ี สพฐ. ๑๗๙๘ / ๒๕๕๘ เร่อื งการจัดท�ำทะเบยี นผ้เู รียน ส�ำหรบั กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ข้อกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง กฎกระทรวงวา่ ดว้ ยสิทธขิ ององคก์ รชุมชน และองคก์ รเอกชนในการจัดการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน ในศูนย์การเรยี น พ.ศ. ๒๕๕๕



ส่วนท่ี ๑ บทนำ�

ส่วนท่ี ๑ บทนำ� หลักการและความเปน็ มา การศกึ ษาเปน็ เครอื่ งมอื ในการพฒั นาคนใหเ้ ปน็ มนษุ ยท์ ส่ี มบรู ณ์ โดยการพฒั นาการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาชีวิต การพัฒนาทักษะการท�ำงานหรือการสร้างสรรค์ นวัตกรรมในการด�ำรงชีวิต คนที่ขาดการศึกษาหรือการเรียนรู้ จะไมส่ ามารถใช้องค์ความรูใ้ นการแกป้ ญั หาและด�ำรงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ดงั นน้ั มนษุ ยจ์ งึ ตอ้ งเรยี นรอู้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งโดยเกดิ จากการผสมผสานระหวา่ งการศกึ ษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยเพ่ือให้สามารถพัฒนาคุณภาพได้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต การจัดการศึกษา มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันตามกฎธรรมชาติบนความหลากหลาย การพึ่งพาซึ่งกันและกัน การเปล่ียนแปลง ไม่หยุดน่ิง และการวิวัฒน์พัฒนาจากการจัดการตัวเองให้เกิดความสมดุลกับส่วนต่าง ๆ ในสังคมและพลโลก อย่างสนั ติสุข การจดั การศกึ ษามจี ดุ มงุ่ หมายสงู สดุ เพอ่ื พฒั นาความเปน็ มนษุ ยท์ ส่ี มบรู ณ์ เขา้ ถงึ ความจรงิ ความดงี าม ความสุข ในโลกของความร่วมมือและมีสันติสุข เปล่ียนจากการพัฒนามนุษย์ในฐานะที่เป็นเพียงทรัพยากร ของระบบการผลิตท่ีให้คุณค่าทางวัตถุ ท่ีเน้นการบริโภค มาสู่การให้คุณค่าและความส�ำคัญในทางจิตวิญญาณ คุณธรรม สติปัญญา เพื่อใหส้ ามารถอยู่ในสังคมสมยั ใหม่อยา่ งมคี ณุ ภาพ รู้เท่าทนั และมสี ่วนร่วมในการจรรโลง สร้างสรรคส์ งั คม จากปรชั ญาและจดุ มุ่งหมายการจดั การศึกษาดังกลา่ ว จงึ ควรมกี ารปรบั เปลยี่ นแนวทางการเรยี นรู้ จากการเน้นที่รายวิชาในการเรียนรู้มาเป็นการใช้วิถีชีวิตในการจัดการความรู้โดยบูรณาการอยู่ในทุกสาระ การเรียนรู้ เพื่อให้เกดิ การปรับเปลย่ี นกระบวนการเรียนรแู้ บบแยกรายวชิ าไปสกู่ ระบวนการเรยี นรู้แบบองค์รวม ปรบั เปลย่ี นมาตรฐานการศกึ ษาจากมาตรฐานเดยี วไปสมู่ าตรฐานทหี่ ลากหลายตามสภาพแวดลอ้ ม โดยการเชอื่ มโยง จากการศึกษาในระบบโรงเรียนไปสู่การศึกษาที่หลากหลายรูปแบบ จากสภาพแวดล้อมมาเป็นแหล่งเรียนรู้ และภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ กระบวนการเรยี นรเู้ นน้ ในเรอ่ื งการเคารพสทิ ธขิ องผเู้ รยี น ซงึ่ มคี วามแตกตา่ งกนั ตามธรรมชาติ โดยการจดั การและก�ำกบั ของรฐั เพอ่ื ทจ่ี ะใหส้ งั คมทกุ ฝา่ ยมสี ว่ นรว่ มในการจดั การศกึ ษาไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ จากบคุ คล ครอบครัว องค์กรชมุ ชน องค์กรเอกชน องค์กรวชิ าชีพ และสถาบันต่าง ๆ ในสงั คมบนความมีอิสระภายใต้กรอบ วฒั นธรรม ศีลธรรมอนั ดีงามตอ่ ไป ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนย์การเรยี น 1

รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ ไดเ้ ปดิ โอกาสทางการศกึ ษาโดยใหค้ วามส�ำคญั กบั การมีบทบาทในการจดั การศึกษาของประชาชน โดยเฉพาะในหมวด ๔ หนา้ ทข่ี องปวงชนชาวไทย มาตรา ๕๐ บคุ คลมหี นา้ ท่ี (๔) เขา้ รบั การศกึ ษาอบรมในการศกึ ษาภาคบงั คบั ในมาตรา ๕๔ วรรคหนงึ่ ประกอบวรรคสาม ระบุ รัฐต้องด�ำเนินการให้เดก็ ทกุ คนไดร้ บั การศึกษาเป็นเวลาสบิ สองปี ตัง้ แต่กอ่ นวยั เรยี นจนจบการศึกษาภาคบงั คบั อย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บคา่ ใช้จ่าย ก�ำหนดให้รฐั ต้องด�ำเนนิ การใหป้ ระชาชนไดร้ ับการศกึ ษาตามความตอ้ งการ ในระบบต่าง ๆ อีกท้ังในรัฐธรรมนูญได้กลายมาเป็นเจตนารมณ์และหลักการส�ำคัญของการปฏิรูปการศึกษา ซ่งึ มีความสัมพนั ธ์สอดคลอ้ งกับหลักการของการศึกษาทางเลือก จะเห็นไดว้ ่า มิติของการศกึ ษาทางเลือกได้ เขา้ มามบี ทบาทไมน่ อ้ ยในการปฏริ ปู การศกึ ษา ของสงั คมไทยในครง้ั น้ี โดยเฉพาะทศิ ทางทช่ี ดั เจนในการขยายฐาน จากการศกึ ษาในระบบโรงเรยี นไปสกู่ ารศกึ ษาในรปู แบบทม่ี คี วามหลากหลายออกไป และการปรบั บทบาทของภาครฐั จากการด�ำเนินการเองมาเป็นการส่งเสริมสนับสนุน เปิดโอกาสให้สถาบันทางสังคมท้ังมวลได้เข้ามามีส่วนร่วม ในการจดั การศกึ ษา สรา้ งสรรคน์ วตั กรรมทางการศกึ ษาซงึ่ ปรากฏในพระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และทแี่ กไ้ ขเพ่ิมเตมิ ดงั น้ี มาตรา ๘ (๒) ระบใุ ห้การจดั การศกึ ษายดึ หลกั ใหส้ ังคมมีส่วนรว่ มในการจดั การศึกษา มาตรา ๙ (๑) (๕) และ (๖) ก�ำหนดให้การจัดระบบ โครงสร้างและกระบวนการจัดการศึกษา ให้ยดึ หลักความมีเอกภาพด้านนโยบายและมีความหลากหลายในการปฏิบัติ ระดมทรพั ยากรจากแหล่งตา่ ง ๆ มาใชใ้ นการจดั การศกึ ษา และการมสี ว่ นรว่ มของบคุ คล ครอบครวั ชมุ ชน องคก์ รชมุ ชน องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ เอกชน องคก์ รเอกชน องคก์ รวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการและสถาบันสงั คมอื่น มาตรา ๑๒ ได้ให้การรับรองสิทธิในการจัดการศึกษาแก่ภาคสังคมและประชาชน โดยก�ำหนดว่า นอกเหนือจากรัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ให้บุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวชิ าชพี สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอน่ื มสี ทิ ธใิ นการจัดการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน ท้ังนี้ ให้เป็นตามที่ก�ำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งในขณะน้ีมีกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กรชุมชนและองค์กร เอกชนในการจดั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานในศนู ยก์ ารเรยี น พ.ศ. ๒๕๕๕ ประกาศแลว้ เมอื่ วนั ท่ี ๑๙ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ก�ำหนดใหส้ ถานทเี่ รยี นทอี่ งคก์ รชมุ ชนหรอื องคก์ รเอกชนจดั ตงั้ ขน้ึ เพอ่ื จดั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ตามกฎกระทรวงน้ี เรยี กวา่ “ศูนย์การเรียน” มาตรา ๑๔ ก�ำหนดให้บคุ คล ครอบครัว ชมุ ชน องค์กรชุมชน องคก์ รเอกชน องค์กรวชิ าชพี สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น ซ่ึงสนับสนุนหรือจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีสิทธิได้รับสิทธิ ประโยชน์ตามควรแก่กรณีดังตอ่ ไปน้ี (๑) การสนับสนุนจากรัฐให้มีความรู้ความสามารถในการอบรมเลี้ยงดูบุคคลซ่ึงอยู่ในความดูแล รบั ผดิ ชอบ (๒) เงินอุดหนนุ จากรัฐส�ำหรบั การจดั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐานตามทีก่ ฎหมายก�ำหนด (๓) การลดหย่อนหรอื ยกเว้นภาษีส�ำหรบั คา่ ใช้จ่ายการศึกษาตามท่กี ฎหมายก�ำหนด และมาตรา ๖๑ ก�ำหนดใหร้ ัฐจัดสรรเงนิ อุดหนนุ การศกึ ษาท่ีจดั โดยบุคคล ครอบครวั องค์กรชมุ ชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอ่ืน ตามความเหมาะสม และความจ�ำเป็น 2 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

กระทรวงศกึ ษาธกิ ารในฐานะทเ่ี ปน็ หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบดา้ นการศกึ ษาของประเทศไดต้ อบสนอง พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม โดยการออกกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิ ขององคก์ รชุมชนและองคก์ รเอกชนในการจดั การศึกษาข้นั พนื้ ฐานในศูนย์การเรียน พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึง่ บัญญัตใิ ห้ องคก์ รชมุ ชนและองคก์ รเอกชนมสี ทิ ธใิ นการจดั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานตามทก่ี �ำหนดในกฎกระทรวง เพอ่ื ใหอ้ งคก์ ร ชุมชนและองค์กรเอกชน ซึง่ มีความประสงค์และมคี วามพรอ้ มเข้ามาชว่ ยเหลอื รฐั ในการจัดการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน ในรูปแบบการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โดยรัฐจะส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษา อนั จะท�ำใหผ้ เู้ รยี นไดร้ บั การศกึ ษาทม่ี คี ณุ ภาพเทา่ เทยี มกบั การศกึ ษาในรปู แบบอน่ื สมควรก�ำหนดใหอ้ งคก์ รชมุ ชน และองคก์ รเอกชนมีสทิ ธใิ นการจดั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานในศนู ยก์ ารเรียน ในการนี้ เพอ่ื ใหก้ ารจดั การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานขององคก์ รชมุ ชนและองคก์ รเอกชนในการจดั การศกึ ษา ข้นั พน้ื ฐานในศนู ยก์ ารเรยี นสามารถด�ำเนนิ การได้อยา่ งสะดวกและเกิดความคล่องตวั ยิง่ ขึน้ จงึ ได้จดั ท�ำแนวทาง การจดั การศึกษาข้นั พนื้ ฐานโดยองค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนในศนู ยก์ ารเรียน โดยมีวัตถุประสงค์ ดังน้ี ๑. เพอ่ื เปน็ แนวทางในการด�ำเนนิ การจดั ตงั้ ศนู ยก์ ารเรยี นโดยองคก์ รชมุ ชนและองคก์ รเอกชนในการ จัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐานตามกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนในการจัดการศึกษา ข้นั พื้นฐานในศูนยก์ ารเรียน พ.ศ. ๒๕๕๕ ๒. เพ่ือเป็นแนวทางในการจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐานตามรูปแบบที่ก�ำหนดให้ผู้เรียนมีคุณภาพ ตามมาตรฐานการศึกษาในพระราชบัญญัติการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และทีแ่ กไ้ ขเพิม่ เตมิ ๓. เพอ่ื เปน็ การสง่ เสรมิ สนบั สนนุ การจดั การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานใหผ้ เู้ รยี นไดร้ บั การศกึ ษาทมี่ คี ณุ ภาพ เท่าเทียมกับการศึกษาในรปู แบบอืน่ ๆ ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนย์การเรยี น 3

ส่วนท่ี ๒ บทบาทและอ�ำ นาจหน้าท่ีการจดั การ ศึกษาข้นั พ้ืนฐานโดยองค์กรชมุ ชน และองค์กรเอกชนในศูนย์การเรยี น

ส่วนท่ี ๒ บทบาทและอ�ำ นาจหน้าท่ีการจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน โดยองค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในศูนย์การเรยี น การจดั การศกึ ษาโดยองคก์ รชมุ ชนและองคก์ รเอกชนตามกฎกระทรวงวา่ ดว้ ยสทิ ธขิ ององคก์ รชมุ ชน และองค์กรเอกชนในการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานในศูนย์การเรียน พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้เกิดความยืดหยุ่นคล่องตัว และสนองตอบวัตถุประสงค์ของศูนย์การเรียน ซึ่งได้ก�ำหนดรูปแบบไว้ในลักษณะการศึกษานอกระบบ หรือการศึกษาตามอัธยาศัย โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติ บทบาท อ�ำนาจหน้าที่ของผู้ที่เก่ียวข้องเพื่อ เปน็ แนวปฏิบัติไว้ ดังน้ี คณุ สมบัติของผู้ขอจดั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐานในรปู แบบศูนยก์ ารเรยี น องค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนที่จะขอจัดตง้ั ศูนย์การเรยี น ตอ้ งมีคุณสมบตั ดิ งั ตอ่ ไปน้ี องค์กรชมุ ชน ๑. เปน็ คณะบคุ คลประกอบดว้ ยผทู้ ่ีบรรลุนิตภิ าวะไม่น้อยกวา่ ๗ คน ๒. มีภูมิล�ำเนาหรือถน่ิ ทอ่ี ย่อู าศยั ประจ�ำอย่ใู นชมุ ชนหรือทอ้ งถ่ินร่วมกัน ๓. มวี ตั ถปุ ระสงคข์ ององคก์ รรว่ มกนั เพอื่ ด�ำเนนิ กจิ กรรมทเ่ี ปน็ สาธารณประโยชนแ์ ละไมแ่ สวงหาก�ำไร ๔. มที ่ตี ้งั องคก์ รอยใู่ นท้องทเี่ ดียวกันกบั ศนู ย์การเรียนทีข่ อจดั ตงั้ ๕. รายการตามข้อ ๑ และขอ้ ๓ ต้องไดร้ บั การรบั รองจากสมาชิกในชมุ ชนซึ่งเป็นผบู้ รรลนุ ติ ภิ าวะ จ�ำนวนไมน่ ้อยกวา่ ๒๐ คน ผ้แู ทนหรอื ผรู้ บั มอบอ�ำนาจ ทไี่ ด้รบั มอบหมายใหเ้ ปน็ ผ้ขู อจดั ตง้ั ศนู ยก์ ารเรยี นตอ้ งมีคณุ สมบตั ิ ดงั นี้ ๑) เป็นสมาชกิ ของคณะบคุ คลตามข้อ ๑ ๒) มีสัญชาติไทย ๓) เป็นผู้บรรลนุ ติ ิภาวะตามกฎหมาย ๔) ไมเ่ ป็นผู้มีความประพฤตเิ ส่อื มเสียหรือบกพรอ่ งในศีลธรรมอนั ดี องค์กรเอกชนในประเทศ ๑. เปน็ สมาคม มลู นิธิ หรือองค์กรท่ีเรียกช่อื อย่างอืน่ ทจี่ ดทะเบียนเปน็ นติ บิ คุ คลหรอื เป็นส่วนงาน หรอื โครงการในองค์กรนติ ิบคุ คล ๒. มีวัตถปุ ระสงคเ์ พอื่ ด�ำเนินกิจกรรมท่เี ป็นสาธารณประโยชนแ์ ละไม่แสวงหาก�ำไร ๓. มที ตี่ ้งั หรือมสี ่วนงานหรอื โครงการรบั ผดิ ชอบอยใู่ นท้องที่เดยี วกนั กบั ศนู ย์การเรยี น ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น 5

องค์กรเอกชนซ่งึ ไม่ได้จดทะเบยี นในประเทศไทย ๑. เป็นสมาคม มลู นิธิ หรอื องค์กรทีเ่ รยี กช่ืออย่างอ่ืนทีจ่ ดทะเบยี นเป็นนิติบุคคลหรอื เป็นสว่ นงาน หรือโครงการในองค์กรนติ ิบุคคล ๒. มีวตั ถุประสงคเ์ พ่อื ด�ำเนนิ กิจกรรมทเ่ี ปน็ สาธารณประโยชนแ์ ละไม่แสวงหาก�ำไร ๓. มที ี่ตงั้ หรอื มสี ่วนงานหรือโครงการรับผิดชอบอยู่ในท้องทเี่ ดยี วกันกับศนู ย์การเรยี น ๔. มีผู้รบั มอบอ�ำนาจ มสี ญั ชาติไทย และมีภมู ิล�ำเนาในประเทศไทย คณุ สมบัติของผู้เรยี น ผ้เู รยี นในศูนยก์ ารเรยี นโดยองค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนมคี ณุ สมบัติ ดังนี้ ๑. เปน็ ผซู้ ่ึงขาดโอกาสในการเขา้ ศึกษาในระบบโรงเรยี นปกติ หรือเป็นผมู้ ีความตอ้ งการเขา้ ศึกษา ในศูนย์การเรียน ๒. กรณีองค์กรเอกชนท่ีไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย คุณสมบัติของผู้เรียนให้เป็นไปตามที่ คณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐานประกาศก�ำหนด บทบาทหน้าที่ของผู้ขอจดั ตั้งศูนยก์ ารเรยี น องคก์ รชมุ ชนหรอื องคก์ รเอกชนซงึ่ มคี วามประสงคแ์ ละมคี วามพรอ้ มในการจดั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ในรูปแบบศูนยก์ ารเรยี นให้ด�ำเนินการ ดังน้ี ๑. การจดั ตั้งศูนย์การเรยี น ๑.๑ องคก์ รชมุ ชน ทีม่ คี ณุ สมบตั ิ ยื่นแบบค�ำขอจัดตัง้ ศนู ย์การเรยี นเป็นหนังสือตอ่ ส�ำนกั งาน เขตพน้ื ท่กี ารศึกษา โดยมรี ายละเอยี ดการขอจัดต้ังอยา่ งน้อย ๖ รายการ ดงั ต่อไปนี้ (๑) ชือ่ องค์กรชมุ ชน (๒) รายละเอียดของคณะบุคคล ได้แก่ ชือ่ สญั ชาติ อายุ ท่ีอยูแ่ ละอาชีพ (๓) วตั ถปุ ระสงค์ขององค์กรชุมชน (๔) ทีต่ ัง้ องคก์ รชุมชน (๕) ประวัติความเป็นมาขององคก์ รชุมชน (๖) ผลการด�ำเนนิ งานขององคก์ รชมุ ชน รายการตามขอ้ (๒) และ (๓) ตอ้ งไดร้ บั การรบั รองจากสมาชกิ ในชมุ ชนซงึ่ เปน็ ผบู้ รรลนุ ติ ภิ าวะ จ�ำนวนไม่นอ้ ยกวา่ ๒๐ คน ๑.๒ องคก์ รเอกชน ทีม่ ีคุณสมบตั ิย่ืนแบบค�ำขอจดั ตงั้ ศูนยก์ ารเรียนเปน็ หนังสือตอ่ ส�ำนักงาน เขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา โดยมีรายละเอียดการขอจัดตง้ั อยา่ งน้อย ๖ รายการ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) ชอ่ื องคก์ รเอกชน (๒) วัตถุประสงคข์ ององคก์ รเอกชน (๓) ทีต่ ั้งองคก์ รชุมชน (๔) ประวตั ิความเปน็ มาขององค์กรเอกชน 6 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

(๕) ผลการด�ำเนนิ งานขององค์กรเอกชน (๖) หลักฐานการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลขององค์กรหรือหลักฐานการเป็นส่วนงาน หรือโครงการในองคก์ รนิตบิ ุคคล (๗) หลกั ฐานใบรบั มอบอ�ำนาจ พรอ้ มส�ำเนาบตั รประจ�ำตวั ประชาชนและส�ำเนาทะเบยี นบา้ น ของผู้แทนหรอื ผูร้ ับมอบอ�ำนาจยื่นค�ำขอ (ถ้ามี) ๒. จดั ท�ำแผนการจดั การศกึ ษา ใหศ้ นู ยก์ ารเรยี นรว่ มกบั ส�ำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา หรอื สถานศกึ ษา หรอื เครอื ข่ายทางการศกึ ษาทสี่ �ำนกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามอบหมาย โดยแผนการจดั การศกึ ษาตอ้ งมรี ายละเอยี ด ประกอบการขออนญุ าตอยา่ งนอ้ ย ๙ รายการ ดงั นี้ (๑) ช่อื ศูนย์การเรียน (๒) วตั ถปุ ระสงคข์ องศูนยก์ ารเรียน (๓) ท่ตี งั้ ศูนย์การเรียน (๔) รูปแบบการจัดการศกึ ษา (๕) ระดบั การศกึ ษาทจี่ ัดในกรณที ่เี ป็นการจดั การศึกษานอกระบบ (๖) หลกั สตู รหรือลกั ษณะกจิ กรรมการเรียนการสอน (๗) ระบบประกันคณุ ภาพภายใน (๘) รายช่อื และคณุ สมบตั ิของบุคลากรทางการศึกษาของศนู ย์การเรียน (๙) ขอ้ ก�ำหนดเกย่ี วกบั คณะกรรมการศูนยก์ ารเรียน ๓. การย่ืนค�ำขอจดั ต้ังศูนยก์ ารเรยี น ๓.๑ ใหอ้ งคก์ รชมุ ชนหรอื องคก์ รเอกชนซงึ่ ประสงคจ์ ะจดั ตงั้ ศนู ยก์ ารเรยี น ยน่ื ค�ำขอเปน็ หนงั สอื พรอ้ มแผนการจัดการศึกษา ต่อส�ำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาทศ่ี นู ย์การเรียนต้งั อยู่ โดยมีเอกสารและหลักฐาน ประกอบค�ำขอ ดังนี้ (๑) เอกสารหลักฐานที่แสดงถึงความเป็นองค์กรชุมชนหรือองค์กรเอกชนตามข้อ ๑.๑ หรือ ข้อ ๑.๒ (๒) หนังสอื มอบอ�ำนาจใหผ้ แู้ ทนหรอื ผ้รู ับมอบอ�ำนาจยน่ื ค�ำขอ (๓) ส�ำเนาบัตรประจ�ำตัวประชาชนและส�ำเนาทะเบียนบ้านของผู้แทนหรือผู้รับมอบอ�ำนาจ ยน่ื ค�ำขอ ๓.๒ ผู้ขอจัดการศึกษาสามารถย่ืนค�ำขอได้ตามความจ�ำเป็น และยื่นค�ำขอได้ปีละ ๒ คร้ัง ก่อนเปิดภาคเรียนแต่ละภาค ไม่น้อยกว่า ๑๒๐ วัน โดยสอดคล้องกับเวลาเปิดปิดภาคเรียนของสถานศึกษา และศนู ยก์ ารเรียนเพ่ือสทิ ธปิ ระโยชน์ต่าง ๆ เชน่ การศกึ ษาตอ่ ในระดบั ท่ีสงู ขน้ึ เป็นต้น ๓.๓ การยนื่ ค�ำขอจดั ต้งั ศนู ย์การเรยี น แบ่งเปน็ ๒ กรณี ดังน้ี ๓.๓.๑ การจัดการศึกษาท่ีเริ่มจากระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา ให้ยน่ื ต่อส�ำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาทศ่ี ูนยก์ ารเรยี นตัง้ อยู่ ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น 7

๓.๓.๒ การจัดการศึกษาที่เร่ิมจากระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรือมัธยมศึกษา ตอนปลาย หรอื เทียบเทา่ ให้ย่ืนตอ่ ส�ำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษาท่ีศนู ยก์ ารเรยี นตง้ั อยู่ อนงึ่ ในกรณที ่ีประสงคจ์ ะขยายระดับการจัดการศึกษาเพิม่ จากทีไ่ ดร้ บั อนุญาต ให้ ยน่ื ขอขยายตอ่ ส�ำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาเดมิ ทยี่ น่ื ขอไว้ หรอื กรณที ป่ี ระสงคจ์ ะจดั การศกึ ษาระดบั ประกาศนยี บตั ร วชิ าชพี (ปวช.) ให้ ผขู้ อจดั การศกึ ษาขออนญุ าตใชห้ ลกั สตู รตอ่ ส�ำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวง ศกึ ษาธิการ ก่อนเสนอแผนการจดั การศึกษา ๔. กรณีองค์กรเอกชนเป็นนิติบุคคลซ่ึงไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย การขอจัดตั้ง ศนู ยก์ ารเรยี นจะต้องได้รบั อนุญาตจากผมู้ ีอ�ำนาจ ดังนี้ ๔.๑ ศูนย์การเรียนท่ีมีผู้เรียนจ�ำนวนไม่เกิน ๕๐ คน ให้ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เปน็ ผู้พจิ ารณาอนุญาต ๔.๒ ศูนย์การเรียนท่ีมีผู้เรียนจ�ำนวนเกินกว่า ๕๐ คนแต่ไม่เกิน ๑๐๐ คน ให้ส�ำนักงาน เขตพืน้ ท่ีการศึกษาเสนอให้คณะกรรมการศึกษาธกิ ารจงั หวดั เป็นผ้พู ิจารณาอนญุ าต ๔.๓ ศูนย์การเรียนที่มีผู้เรียนจ�ำนวนเกินกว่า ๑๐๐ คน ให้ส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เสนอใหค้ ณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐานเป็นผู้พิจารณาอนุญาต ๕. เม่อื ได้รบั อนุญาตใหจ้ ดั ต้ังศูนย์การเรยี นและแผนการจดั การศึกษาแล้ว ใหผ้ ู้จดั การศึกษา ด�ำเนินการจดั การศึกษาได้ หากมีการเปล่ียนแปลงแก้ไขแผนการจัดการศึกษาที่ได้รับอนุญาตไว้แล้ว จะต้องเสนอแผน การจดั การศกึ ษาทขี่ อเปลย่ี นแปลงเพอ่ื ขออนญุ าตตอ่ ผใู้ หค้ วามเหน็ ชอบตามกฎกระทรวงฯ ขอ้ ๖ หรอื ผ้อู นญุ าต ตามกฎกระทรวงฯ ขอ้ ๗ แล้วแตก่ รณี เมอ่ื ไดร้ ับอนุญาตแลว้ จงึ จะด�ำเนนิ การจัดการศกึ ษาได้ ๖. กรณีเลิกศูนย์การเรยี น ให้ผู้ขอจัดตั้งศูนย์การเรียนร่วมกับส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา จดั หาศูนยก์ ารเรียนอืน่ ให้แกผ่ เู้ รียน แตไ่ ม่ตัดสิทธผิ ู้เรียนท่ีจะสมัครเข้าเรยี นในสถานศกึ ษาอืน่ บทบาทหน้าท่ีของศูนย์การเรยี น เพื่อให้การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยองค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนในศูนย์การเรียนมีคุณภาพ และมาตรฐานเท่าเทียมกับการศึกษาในรูปแบบอ่ืน ให้ศูนย์การเรียนด�ำเนินการตามแนวทางการจัดการศึกษา ดงั น้ี ๑. ด�ำเนินการจัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน โดยมุ่งเรียนรู้จากสถานท่ีจริง แหล่งเรียนรู้ในเขตพื้นท่ี และภูมิปัญญาท้องถ่ิน ตามหลักสูตรของศูนย์การเรียน ซ่ึงอาจจัดการศึกษาแบบคละช้ันและอายุ หรือจัดให้มี การศกึ ษารว่ มกบั สถานศึกษาอืน่ โดยมีข้อตกลงรว่ มกันและเทยี บโอนผลการเรยี นซง่ึ กนั และกนั ได้ ๒. ด�ำเนนิ การวดั และประเมนิ ผลผเู้ รยี นดว้ ยวธิ กี ารทหี่ ลากหลาย หรอื ตามสภาพจรงิ ของพฒั นาการ ของผเู้ รียนเปน็ รายบคุ คล ในกรณที ี่มีการจัดการเรียนรรู้ ่วมกับสถานศึกษาอ่นื ให้มกี ารวดั และประเมนิ ผลร่วมกัน ๓. ออกหลักฐานทางการศึกษาแก่ผู้เรียน หรือผู้ส�ำเร็จการศึกษาจากศูนย์การเรียนว่าได้ศึกษา หรอื ส�ำเรจ็ การศกึ ษา ภายใตก้ ารก�ำกบั และการรบั รองของส�ำนกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาแลว้ แตก่ รณี ตามหลกั สตู ร การศกึ ษาขั้นพ้นื ฐานของกระทรวงศึกษาธกิ าร 8 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนย์การเรยี น

๔. จัดท�ำรายงานผลการด�ำเนินงานและสภาพปัญหาท่ีเกี่ยวกับการจัดการศึกษาให้ส�ำนักงาน เขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาทราบอย่างนอ้ ยปีละ ๑ ครั้ง ๕. จัดท�ำทะเบียน หลักฐานทางการเงินและบัญชี ในกรณีที่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านเงินอุดหนุน จากรฐั องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น หรอื องค์กรเอกชนอ่นื เพอื่ จดั การศึกษา ๖. สามารถแสวงหาความรว่ มมือกับหน่วยงานทง้ั ภาครฐั และภาคเอกชน เพอ่ื สร้างความเข้มแขง็ ให้แกศ่ ูนย์การเรียน บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการศูนยก์ ารเรยี น เพ่ือให้การส่งเสริมสนับสนุนในการจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐานโดยองค์กรชุมชนและองค์กรเอกชน ในศนู ย์การเรยี นมปี ระสิทธภิ าพ ให้ศูนย์การเรยี นมีคณะกรรมการศูนย์การเรยี นมบี ทบาทหนา้ ที่ ดังนี้ ๑. ก�ำหนดนโยบายการบริหารและการจัดการศึกษาของศูนย์การเรียนให้เหมาะสมกับสภาพ การจดั การศึกษาของผู้จัดการศึกษาและสอดคลอ้ งกับนโยบายการศึกษา ๒. ส่งเสริม สนับสนุน ก�ำกับ และดูแลระบบการประกันคุณภาพภายในเพื่อพัฒนาคุณภาพ และมาตรฐานการศกึ ษา บทบาทหน้าท่ีของส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ในการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยองค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนใน ศนู ยก์ ารเรียนใหเ้ ปน็ ไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ใหส้ �ำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาด�ำเนินการ ดังน้ี ๑. ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กรชุมชน และองคก์ รเอกชนในการจดั การศกึ ษาขน้ั พื้นฐานในศูนย์การเรียน พ.ศ. ๒๕๕๕ ๒. รบั แบบยื่นความประสงคข์ อจดั ต้งั ศนู ยก์ ารเรยี นจากองคก์ รชุมชนหรอื องคก์ รเอกชน ๓. แต่งตั้งคณะกรรมการจัดท�ำแผนการจัดการศึกษารว่ มกับผขู้ อจดั การศกึ ษาหรอื อาจมอบหมาย ให้สถานศึกษา หรือเครือข่ายทางการศกึ ษาร่วมจัดท�ำแทนก็ได้ ๔. รบั ค�ำขอจัดต้งั ศูนย์การเรียนจากผ้ขู อจดั การศึกษา พรอ้ มแผนการจัดการศกึ ษา ๕. พิจารณาค�ำขอจัดต้ังศูนย์การเรียน และแผนการจัดการศึกษาของศูนย์การเรียน ขององค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนท่ีเป็นนิติบุคคลท่ีจดทะเบียนในประเทศไทยให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน นับแตว่ นั ทไ่ี ดร้ บั ค�ำขอ ๖. ส่งเสริม สนับสนุนให้ศูนย์การเรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ท่ีส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จัดขึ้น ทั้งนี้ ตามความพร้อมของศูนย์การเรียน ๗. กรณีองค์กรเอกชนเป็นนิติบุคคลซ่ึงไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย ให้พิจารณาค�ำขอจัดตั้ง ศูนยก์ ารเรียนตามแนวทางดังตอ่ ไปนี้ ๗.๑ ศนู ยก์ ารเรยี นทมี่ ผี เู้ รยี นจ�ำนวนไมเ่ กนิ ๕๐ คน ใหเ้ สนอค�ำขอและเอกสารประกอบตอ่ ผอู้ �ำนวยการ ส�ำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาเป็นผพู้ จิ ารณาอนุญาต โดยให้แจง้ ผลการพจิ ารณาใหผ้ ขู้ อจดั การศึกษาภายใน ๖๐ วัน นบั ต้งั แตว่ ันทไ่ี ด้รบั ค�ำขอ และเอกสารประกอบ กรณีท่ีไม่ได้รับการอนุญาต ผู้ขอจัดการศึกษามีสิทธิอุทธรณ์ต่อผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานเขต พื้นที่การศกึ ษาภายใน ๑๕ วัน นับตง้ั แตว่ นั ทไ่ี ด้รับหนังสือแจ้งจากส�ำนกั งาน ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น 9

กรณที ผี่ อู้ �ำนวยการส�ำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาเหน็ ดว้ ยกบั ค�ำขออทุ ธรณ์ ไมว่ า่ ทง้ั หมด หรอื บางสว่ น ให้ด�ำเนนิ การเปล่ยี นแปลงผลการพจิ ารณาค�ำขออนุญาตดงั กลา่ วภายใน ๓๐ วันนบั แตว่ นั ทีไ่ ด้รบั อุทธรณ์ กรณที ผ่ี อู้ �ำนวยการส�ำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาไมเ่ หน็ ดว้ ยกบั ค�ำอทุ ธรณไ์ มว่ า่ ทง้ั หมด หรอื บางสว่ น ให้เร่งรายงานความเห็นพร้อมเหตุผลไปยังเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานภายใน ๓๐ วัน นบั แตว่ นั ทไ่ี ดร้ บั อทุ ธรณ์ และเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานตอ้ งพจิ ารณาใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายใน ๓๐ วนั นับแต่วนั ท่ไี ดร้ ับรายงานจากส�ำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษา ๗.๒ ศูนย์การเรียนที่มีผู้เรียนจ�ำนวนเกินกว่า ๕๐ คน แต่ไม่เกิน ๑๐๐ คน ให้ส�ำนักงานเขต พ้ืนที่การศึกษาเสนอคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด เป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้แล้วเสร็จภายใน ๙๐ วัน นับแตว่ ันที่ไดร้ ับค�ำขอ กรณที ไ่ี มไ่ ดร้ บั อนญุ าต ผขู้ อจดั การศกึ ษามสี ทิ ธยิ นื่ ขอใหท้ บทวนค�ำสง่ั ทไ่ี มอ่ นญุ าตตอ่ คณะกรรมการ ศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั ผา่ นผอู้ �ำนวยการส�ำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา ทง้ั น้ี ไมต่ ดั สทิ ธผิ ขู้ อจดั การศกึ ษาในการฟอ้ งคดี ตอ่ ศาลปกครองภายใน ๙๐ วัน นบั แตว่ นั ท่ีไดร้ บั ทราบค�ำสง่ั ๗.๓ ศนู ยก์ ารเรียนท่มี ีผเู้ รยี นจ�ำนวนเกนิ กวา่ ๑๐๐ คน ให้ส�ำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาเสนอค�ำขอ ต่อเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพ่ือน�ำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ให้แล้วเสร็จภายใน ๑๒๐ วัน นบั แตว่ นั ทีไ่ ด้รบั ค�ำขอ กรณที ไ่ี มไ่ ดร้ บั อนญุ าต ผขู้ อจดั การศกึ ษามสี ทิ ธยิ น่ื ขอใหท้ บทวนค�ำสง่ั ทไ่ี มอ่ นญุ าตตอ่ คณะกรรมการ การศึกษาขั้นพ้ืนฐานผ่านเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ท้ังนี้ ไม่ตัดสิทธิผู้ขอจัดการศึกษา ในการฟอ้ งคดีตอ่ ศาลปกครองภายใน ๙๐ วนั นบั แต่วนั ท่ีได้รบั ทราบค�ำส่ัง ๗.๔ กรณีศนู ย์การเรยี นขององค์กรเอกชนเปน็ นติ ิบุคคลซ่ึงไม่ได้จดทะเบยี นในประเทศไทยทไ่ี ดร้ บั การอนุญาตจัดตั้งแล้ว หากประสงค์จะรับผู้เรียนเพ่ิมข้ึนเกินกว่าจ�ำนวนที่ได้รับอนุญาตจัดตั้งไว้ ให้ย่ืนค�ำขอ อนุญาตจัดตั้งศูนยก์ ารเรียนใหม่ตอ่ ผูม้ อี �ำนาจอนญุ าตตามข้อ ๗ แหง่ กฎกระทรวงฯ ๘. ก�ำกับ และรับรอง การออกหลักฐานทางการศึกษาแก่ผู้เรียน หรือผู้ส�ำเร็จการศึกษาจาก ศูนย์การเรียนว่าได้ศึกษาหรือส�ำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐานของกระทรวงศึกษาธิการ แลว้ แต่กรณี ๙. ให้ค�ำปรึกษา ค�ำแนะน�ำ และความรู้ ส่งเสริม และสนบั สนนุ ด้านวชิ าการ ดา้ นการบริหารดา้ น การจดั การศกึ ษา และดา้ นอื่น ๆ แกผ่ จู้ ดั การศึกษา รวมท้งั ใหก้ ารพฒั นาทกั ษะความรู้ความสามารถแกบ่ คุ ลากร ทางการศกึ ษาของศนู ยก์ ารเรยี น ตลอดจนด�ำเนนิ การเทยี บโอนผลการเรยี นแกผ่ เู้ รยี นในศนู ยก์ ารเรยี นตามระเบยี บ กระทรวงศึกษาธิการว่าดว้ ยการเทียบโอนผลการเรียนการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน ๑๐. เรียกคืนเงินอุดหนุนหรือเงินชว่ ยเหลอื ต่าง ๆ จากรฐั ทย่ี งั เหลอื อยู่ ในรอบปจี ากศูนย์การเรียน ท่เี ลิกจัดการศึกษา เพ่อื น�ำสง่ เปน็ รายไดแ้ ผน่ ดิน ๑๑. พจิ ารณาเลกิ การจดั การศกึ ษาของศนู ยก์ ารเรยี นตามกฎกระทรวงฯ ขอ้ ๑๕ และแจง้ เปน็ หนงั สอื ให้ผู้จัดการศึกษาทราบภายใน ๓๐ วัน ๑๒. รว่ มกบั ผจู้ ดั การศกึ ษาจดั หาศนู ยก์ ารเรยี นอน่ื ใหแ้ กผ่ เู้ รยี นในกรณเี ลกิ ศนู ยก์ ารเรยี น แตไ่ มต่ ดั สทิ ธิ ผเู้ รยี นทจ่ี ะสมคั รเข้าเรยี นในสถานศกึ ษาอืน่ ๑๓. รายงานการจดั ตงั้ ศนู ยก์ ารเรยี น และการเลกิ ศนู ยก์ ารเรยี นใหค้ ณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั และส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐานทราบ 10 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการศึกษาธิการจงั หวดั ตามค�ำสงั่ หวั หนา้ คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาติ ที่ ๑๙/๒๕๖๐ เรอื่ ง การปฏริ ปู การศกึ ษาในภมู ภิ าค ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ขอ้ ๘ (๑) ให้อ�ำนาจตามกฎหมายวา่ ด้วยการศึกษาแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยระเบยี บ บรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร และกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาก�ำหนดให้ เป็นอ�ำนาจหนา้ ท่ขี องคณะกรรมการเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาและ อ.ก.ค.ศ. เขตพนื้ ทก่ี ารศึกษา และข้อ ๘ (๒) ก�ำหนด ยุทธศาสตร์ แนวทางการจัดการศึกษา และการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาทุกระดับและทุกประเภท ประสานและสง่ เสรมิ การบรหิ ารและการจดั การศกึ ษาขององคก์ ารปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ รวมทงั้ สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การจดั การศกึ ษาของบคุ คล ครอบครวั องคก์ รชมุ ชน องคก์ รเอกชน องคก์ รวชิ าชพี สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ และสถาบนั สังคมอื่นทจ่ี ัดการศึกษาในรปู แบบทห่ี ลากหลาย โดยมหี น้าทีด่ ังน้ี ในการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ การจดั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานโดยองคก์ รชมุ ชนและองคก์ รเอกชนในศนู ยก์ ารเรยี น คณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั มบี ทบาทหนา้ ที่ ดงั น้ี ๑. พจิ ารณาอนญุ าตการจดั ตง้ั ศนู ยก์ ารเรยี น และการอนญุ าตเปลย่ี นแปลงแกไ้ ขแผนการจดั การศกึ ษา กรณีศูนย์การเรียนท่ีมีผู้เรียนจ�ำนวนเกินกว่า ๕๐ คน แต่ไม่เกิน ๑๐๐ คน และผู้ขออนุญาตจัดต้ังเป็นองค์กร เอกชนเปน็ นติ ิบคุ คลซึ่งไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย ๒. พจิ ารณาแตง่ ตงั้ ผแู้ ทนชมุ ชนทศ่ี นู ยก์ ารเรยี นตงั้ อยเู่ ปน็ คณะกรรมการศนู ยก์ ารเรยี นแทนในกรณที ่ี ศนู ยก์ ารเรียนใดไม่อาจมผี ู้แทนผูป้ กครองผเู้ รียนได้ บทบาทหน้าที่ของส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน ในการด�ำเนนิ การสง่ เสรมิ สนบั สนนุ การจดั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานโดยองคก์ รชมุ ชนและองคก์ รเอกชน ในศนู ย์การเรยี น ส�ำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานมบี ทบาทหน้าท่ี ดงั น้ี ๑. จัดท�ำข้อมูลสารสนเทศของศูนย์การเรยี น ๒. ประชาสัมพันธ์ และให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กรชุมชน และองคก์ รเอกชนในการจดั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานในศนู ยก์ ารเรยี น พ.ศ. ๒๕๕๕ ตอ่ สถานศกึ ษาในสงั กดั นอกสงั กดั และระดับอดุ มศกึ ษา เพอ่ื สิทธปิ ระโยชนข์ องผเู้ รียนในการเข้าศึกษาตอ่ ในระดบั ทสี่ งู ขึน้ ๓. กล่ันกรอง ตรวจสอบค�ำขอจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานในศูนย์การเรียนขององค์กรเอกชนเป็น นิตบิ คุ คลซึง่ ไมไ่ ดจ้ ดทะเบยี นในประเทศไทย ในกรณศี นู ยก์ ารเรยี นทีม่ ีผ้เู รียนจ�ำนวนเกินกวา่ ๑๐๐ คน เสนอให้ คณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พื้นฐานพจิ ารณาอนญุ าต ๔. จดั ท�ำร่างประกาศของคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานตามที่กฎกระทรวงก�ำหนด บทบาทหน้าท่ีของคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน ในการด�ำเนนิ การสง่ เสรมิ สนบั สนนุ การจดั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานโดยองคก์ รชมุ ชนและองคก์ รเอกชน ในศูนยก์ ารเรยี น คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานมบี ทบาทหน้าที่ ดังนี้ ๑. พจิ ารณาออกประกาศคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐานตามท่ีกฎกระทรวงก�ำหนด ๒. พจิ ารณาอนญุ าตการขอจดั ตงั้ ศนู ยก์ ารเรยี นและการอนญุ าตเปลยี่ นแปลงแกไ้ ข แผนการจดั การศกึ ษา กรณศี นู ย์การเรยี นทม่ี ีผ้เู รยี นจ�ำนวนเกนิ กว่า ๑๐๐ คน และผขู้ ออนญุ าตจัดต้ังเปน็ องคก์ รเอกชนเปน็ นติ บิ ุคคล ซงึ่ ไม่ได้จดทะเบยี นในประเทศไทย 11ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนย์การเรยี น

การเลิกจดั การศึกษาโดยองค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชน ศนู ยก์ ารเรยี นทจ่ี ดั ตงั้ โดยองคก์ รชมุ ชนและองคก์ รเอกชน เลกิ จดั การศกึ ษาดว้ ยเหตอุ ยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ ดังต่อไปน้ี ๑. ส�ำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาอนญุ าตให้เลกิ ตามค�ำขอของผู้จดั การศกึ ษา ๒. ส�ำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามคี �ำสง่ั ใหเ้ ลกิ เพราะเหตทุ ศ่ี นู ยก์ ารเรยี นหยดุ ด�ำเนนิ การเกนิ กวา่ ๑ ปี โดยไมม่ เี หตอุ นั สมควร หรอื การด�ำเนนิ การของศนู ยก์ ารเรยี น ขดั ตอ่ วตั ถปุ ระสงคข์ องศนู ยก์ ารเรยี นขดั ตอ่ กฎหมาย เปน็ ภยั ตอ่ เศรษฐกจิ หรอื ความมนั่ คงของประเทศ หรอื ขดั ตอ่ ความสงบเรยี บรอ้ ย หรอื ศลี ธรรมอนั ดขี องประชาชน กรณีที่ ๑ ส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาอนุญาตใหเ้ ลิกตามค�ำขอของผู้จดั การศึกษา ๑. ผูจ้ ัดการศกึ ษายน่ื ค�ำขอเลิกศนู ย์การเรียน ๒. ผจู้ ดั การศกึ ษาแจง้ ผปู้ กครองของผเู้ รยี นทราบกอ่ นขออนญุ าตเลกิ ศนู ยก์ ารเรยี นไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๒๐ วนั โดยใหส้ อดคลอ้ งกบั เวลาการเปดิ ปิดภาคเรยี นของสถานศึกษา ๓. ส�ำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาออกค�ำสง่ั ใหเ้ ลิกศูนยก์ ารเรยี น ๔. ผู้จัดการศึกษาร่วมกับส�ำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาจัดหาศูนย์การเรียนอื่นให้แก่ผู้เรียน แตไ่ มต่ ัดสทิ ธผิ เู้ รียนที่จะสมัครเขา้ เรียนในสถานศึกษาอนื่ ๕. ให้ส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้จัดการศึกษาทราบภายใน ๓๐ วัน และให้ผู้จัดการศึกษารวบรวมหลักฐาน และเอกสารท่ีเกี่ยวข้องกับการศึกษาของศูนย์การเรียนน้ันมอบให้แก่ ส�ำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาภายใน ๓๐ วัน นับแตว่ ันที่ไดร้ บั หนังสือแจง้ การเลกิ ศูนยก์ ารเรยี น ประกอบด้วย ๕.๑ ใบอนญุ าตการจดั ตั้งศนู ย์การเรยี น ๕.๒ ทะเบยี นผู้เรยี นและหลักฐานการศกึ ษาของผูเ้ รยี น ๕.๓ ทะเบยี นบคุ ลากรทางการศึกษาของศูนยก์ ารเรียน ๕.๔ ทะเบยี นหลักฐานทางการเงนิ /บัญชี ๕.๕ เงนิ รายไดท้ กุ ประเภททไี่ ดร้ บั การอดุ หนนุ หรอื เงนิ ชว่ ยเหลอื ตา่ ง ๆ จากรฐั ทย่ี งั เหลอื อยู่ ในรอบปี น�ำสง่ เปน็ รายได้แผน่ ดิน ๕.๖ หลักฐานและเอกสารทเ่ี กีย่ วข้องกบั การศึกษาของศนู ย์การเรยี น ๖. ส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษารายงานต่อคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด และส�ำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กรณีท่ี ๒ ส�ำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามคี �ำส่ังใหเ้ ลิกศูนย์การเรยี น ๑. ส�ำนักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาตรวจสอบข้อเทจ็ จริง ๒. ส�ำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาออกค�ำสัง่ เลกิ ศูนย์การเรยี น ๓. ในกรณที ผี่ จู้ ดั การศกึ ษาไมเ่ หน็ ดว้ ยกบั ค�ำสง่ั ใหเ้ ลกิ ศนู ยก์ ารเรยี น ใหย้ น่ื อทุ ธรณต์ อ่ ส�ำนกั งานเขต พืน้ ที่การศึกษาภายใน ๑๕ วนั นับแต่วันท่ไี ด้รบั หนังสือแจง้ จากส�ำนกั งาน 12 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

กรณที ผี่ อู้ �ำนวยการส�ำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาเหน็ ดว้ ยกบั ค�ำขออทุ ธรณ์ ไมว่ า่ ทง้ั หมด หรอื บางสว่ น ให้ด�ำเนินการเปล่ยี นแปลงผลการพิจารณาค�ำสงั่ ให้เลกิ ศนู ยก์ ารเรยี นภายใน ๓๐ วัน นบั แต่วนั ที่ได้รับอทุ ธรณ์ กรณที ผ่ี อู้ �ำนวยการส�ำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาไมเ่ หน็ ดว้ ยกบั ค�ำอทุ ธรณ์ ไมว่ า่ ทง้ั หมด หรอื บางสว่ น ให้เร่งรายงานความเห็นพร้อมเหตุผลไปยังเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานภายใน ๓๐ วัน นบั แตว่ นั ทไ่ี ดร้ บั อทุ ธรณ์ และเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานตอ้ งพจิ ารณาใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายใน ๓๐ วนั นับแต่วนั ท่ไี ด้รบั รายงานจากส�ำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ๔. ให้ส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้จัดการศึกษาทราบภายใน ๓๐ วัน และให้ผู้จัดการศึกษารวบรวมหลักฐาน และเอกสารที่เก่ียวข้องกับการศึกษาของศูนย์การเรียนนั้น มอบให้แก่ ส�ำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาภายใน ๓๐ วนั นบั แตว่ ันทไี่ ด้รบั หนังสอื แจง้ การเลิกศนู ยก์ ารเรียน ประกอบดว้ ย ๔.๑ ใบอนญุ าตการจดั ต้งั ศนู ย์การเรียน ๔.๒ ทะเบียนผเู้ รยี นและหลักฐานการศึกษาของผเู้ รยี น ๔.๓ ทะเบยี นบคุ ลากรทางการศึกษาของศนู ย์การเรียน ๔.๔ ทะเบยี นหลักฐานทางการเงิน/บญั ชี ๔.๕ เงนิ รายไดท้ ุกประเภทท่ไี ด้รับการอุดหนุนหรือเงนิ ช่วยเหลือ ตา่ ง ๆ จากรฐั ทย่ี งั เหลืออยู่ ในรอบปีน�ำส่งเปน็ รายได้แผ่นดนิ ๔.๖ หลกั ฐานและเอกสารท่ีเกยี่ วข้องกบั การศึกษาของศูนยก์ ารเรียน ๕. ผู้จัดการศึกษาร่วมกับส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาจัดหาศูนย์การเรียนอ่ืนให้แก่ผู้เรียน แตไ่ มต่ ดั สทิ ธิผ้เู รยี นทจ่ี ะสมัครเขา้ เรียนในสถานศกึ ษาอ่นื ๖. องค์กรชุมชนหรือองค์กรเอกชนใดเคยเป็นผู้จัดการศึกษาของศูนย์การเรียนท่ีส�ำนักงาน เขตพนื้ ท่ีการศึกษามีค�ำสั่งให้เลิกศนู ยก์ ารเรียน กรณนี ี้ จะขอจดั ตงั้ ศนู ยก์ ารเรยี นอกี มิได้ ๗. ส�ำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาแจง้ เวยี นการเลกิ ศนู ยก์ ารเรยี นใหแ้ กส่ �ำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา อนื่ ทราบ ๘. ส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษารายงานต่อคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด และส�ำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน 13ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

แผนภมู กิ ารเลิกศูนยก์ ารเรยี น การเลิกศูนย์การเรียน มี ๒ กรณี กรณผี จู้ ดั การศกึ ษาขอเลกิ กรณมี ีค�ำ สงั่ ใหเ้ ลิก ผู้จดั การศึกษาย่นื คำ�ขอยกเลิก สำ�นกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษา จัดการศกึ ษา ตรวจสอบขอ้ เทจ็ จริง **ส�ำ นักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษา เหน็ ด้วย ออกคำ�สงั่ เลิกศนู ย์การเรยี น ไมเ่ ห็นดว้ ย ผจู้ ดั การศึกษารวบรวมหลกั ฐาน **ผ้จู ดั การศึกษา ยืน่ อุทธรณ์ เอกสารสง่ สำ�นกั งานเขตพ้นื ท่ี ภายใน ๑๕ วัน การศึกษา ภายใน ๓๐ วนั ผ้จู ัดการศึกษารว่ มกบั ส�ำ นกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา จดั หาศนู ย์การเรียนอ่นื ให้กับผู้เรียน ส�ำ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา แจ้งเวียนส�ำ นักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาอ่ืน และรายงานคณะกรรมการศกึ าาธิการจังหวัด และส�ำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน 14 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น



ส่วนท่ี ๓ แนวทางดำ�เนินการ จดั การศึกษา

ส่วนท่ี ๓ แนวทางดำ�เนินการจดั การศึกษา เพื่อให้ศูนย์การเรียนสามารถด�ำเนินการจัดการศึกษาได้อย่างเหมาะสมและมีคุณภาพจึงก�ำหนด คุณสมบัติผู้เรียน แนวทางการด�ำเนินงาน โดยก�ำหนดให้องค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนท่ีมีสิทธิจัดการศึกษา ทจ่ี ะจดั ตงั้ ศนู ยก์ ารเรยี นจดั ท�ำแผนจดั การศกึ ษา หลกั สตู รและกจิ กรรมการเรยี น การสอน และจดั ระบบประกนั คณุ ภาพ ภายในศนู ยก์ ารเรยี นโดยมแี นวทางด�ำเนินการ ดังนี้ คณุ สมบตั ิของผู้เรยี น ผเู้ รยี นในศนู ยก์ ารเรยี นตอ้ งเปน็ ผขู้ าดโอกาสในการเขา้ การศกึ ษาในระบบโรงเรยี นปกติ หรอื เปน็ ผมู้ ี ความตอ้ งการเข้าศึกษาในศูนย์การเรยี น ในกรณีศูนย์การเรียนที่จัดต้ังโดยองค์กรเอกชนเป็นนิติบุคคลซ่ึงไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย ให้เป็นไปตามประกาศของคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน แผนการจดั การศึกษา การจัดการศึกษาโดยองค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนในศูนย์การเรียน ผู้จัดการศึกษาที่จะจัดตั้ง ศูนย์การเรียนต้องเสนอค�ำขอการจัดต้ังศูนย์การเรียนและแผนการจัดการศึกษา ซ่ึงได้ร่วมจัดท�ำกับส�ำนักงาน เขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา หรอื สถานศึกษาที่ส�ำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษามอบหมาย โดยแผนการจดั การศึกษาตอ้ งมี รายการอยา่ งนอ้ ย ดังตอ่ ไปนี้ ๑. ชอื่ ศนู ยก์ ารเรียน องค์กรชุมชนหรอื องคก์ รเอกชนต้องก�ำหนดชอื่ ศนู ย์การเรียนท่มี คี วามหมาย สุภาพเหมาะสม ๒. วัตถุประสงค์ของศูนย์การเรียน องค์กรชุมชนหรือองค์กรเอกชนต้องก�ำหนดวัตถุประสงค์ ของศนู ยก์ ารเรยี นทต่ี ง้ั ขน้ึ ใหส้ อดคลอ้ งตามปรชั ญาขององคก์ รชมุ ชนหรอื องคก์ รเอกชน โดยค�ำนงึ ถงึ สทิ ธปิ ระโยชน์ ของผเู้ รียนและเป็นไปตามทห่ี ลักสตู รของศนู ยก์ ารเรียนท่กี �ำหนด ๓. ที่ต้ังศูนย์การเรียน องค์กรชุมชนหรือองค์กรเอกชนต้องมีพ้ืนท่ีท่ีเหมาะสมกับจ�ำนวนผู้เรียน ทั้งนีต้ ้องระบุสถานท่ตี ้ังของศูนยก์ ารเรียนท่ชี ัดเจน พรอ้ มแผนท่ีตง้ั ศนู ย์การเรียน กรณีศูนย์การเรียนที่จัดต้ังโดยองค์กรเอกชนเป็นนิติบุคคลซึ่งไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย ที่มีผ้เู รยี นจ�ำนวนเกินกวา่ ๕๐ คน ให้เปน็ ไปตามประกาศคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน เร่อื ง การก�ำหนด ที่ตั้งศูนย์การเรียนขององค์กรเอกชนเป็นนิติบุคคลซึ่งไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย กรณีที่มีผู้เรียนจ�ำนวน เกินกว่า ๕๐ คน ๔. รปู แบบการจดั การศกึ ษา การจดั การศกึ ษาในศนู ยก์ ารเรยี นสามารถจดั เปน็ การศกึ ษานอกระบบ หรอื การศึกษาตามอัธยาศยั โดยยึดหลกั การดังต่อไปนี้ 17ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

๔.๑ การจัดการศกึ ษานอกระบบ เป็นการศึกษาที่มคี วามยดื หยนุ่ ในการก�ำหนดจดุ มงุ่ หมาย รปู แบบวธิ ีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศกึ ษา การวดั และประเมนิ ผลซง่ึ เปน็ เง่อื นไขส�ำคัญของการส�ำเร็จ การศึกษาโดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการ ของบุคคลแต่ละกลุม่ ๔.๒ การจัดการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษาท่ีให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ตามความสนใจ ศกั ยภาพ ความพร้อมและโอกาส โดยศึกษาจากบคุ คล ประสบการณ์ สังคม สภาพแวดลอ้ ม สอื่ หรอื แหลง่ ความรู้อน่ื ๆ ใช้สงิ่ ท่เี อ้ือต่อการเรียนรู้ทอี่ ยรู่ อบ ๆ ตวั ทผ่ี ูเ้ รียนสามารถเขา้ ถงึ ได้ซง่ึ เป็นการเรยี นรู้ จากสถานการณ์ ปจั เจกบคุ คลหรอื ชมุ ชน การจัดการศึกษาในศูนย์การเรียนสามารถจัดในรูปแบบการจัดการศึกษานอกระบบ การจดั การศึกษาตามอธั ยาศยั หรือผสมผสานทงั้ สองรูปแบบ ๕. ระดับการศึกษา องค์กรชุมชนหรอื องค์กรเอกชนทีป่ ระสงค์จัดตั้งศนู ยก์ ารเรียน ตอ้ งระบุระดบั การศึกษาให้ชัดเจน คือ ระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖) หรือระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑-๓) หรือระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย (ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๔-๖) หรือเทยี บเท่า กรณีศูนย์การเรียนที่จัดต้ังโดยองค์กรเอกชนเป็นนิติบุคคลซ่ึงไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย ที่มี ผูเ้ รียนจ�ำนวนเกินกวา่ ๕๐ คน ใหเ้ ป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน เรอ่ื ง ระดับการศกึ ษา ที่จัดการศึกษานอกระบบในศูนย์การเรียนขององค์กรเอกชนเป็นนิติบุคคล ซ่ึงไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย กรณที ม่ี ีผเู้ รยี นจ�ำนวนเกนิ กวา่ ๕๐ คน ๖. หลักสูตรหรือลักษณะกิจกรรมการเรียนการสอน องค์กรชุมชนหรือองค์กรเอกชนท่ีประสงค์ จัดตั้งศูนย์การเรียน ต้องก�ำหนดหลักสูตรหรือลักษณะกิจกรรมการเรียนการสอนโดยระบุเป้าหมายคุณภาพ ของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณะของผเู้ รยี น สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น การจดั การเรยี นรโู้ ครงสร้างเวลาเรยี น การวัดและประเมินผล การเทยี บโอน และเกณฑก์ ารจบการศกึ ษา กรณีศนู ย์การเรียนท่ีจดั ต้งั โดยองคก์ รเอกชน เป็นนิติบุคคลซ่ึงไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย ท่ีมีผู้เรียนจ�ำนวนเกิน ๕๐ คน ให้เป็นไปตามประกาศ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง หลักสูตรหรือลักษณะกิจกรรมการเรียนการสอนในศูนย์การเรียน ขององคก์ รเอกชนเป็นนติ ิบุคคลซ่งึ ไม่ไดจ้ ดทะเบยี นในประเทศไทย กรณที ี่มีผเู้ รยี นจ�ำนวนเกนิ กว่า ๕๐ คน ๗. ระบบประกนั คณุ ภาพภายใน องคก์ รชมุ ชนหรอื องคก์ รเอกชนทปี่ ระสงคจ์ ะจดั ตงั้ ศนู ยก์ ารเรยี น ตอ้ งจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในศูนย์การเรียน เพื่อสร้างความม่ันใจให้แก่ผู้ทเ่ี กย่ี วขอ้ งวา่ ผู้เรยี นทุกคนจะไดร้ บั การศกึ ษาท่ีมีคุณภาพจากศูนย์การเรียนโดยจะพฒั นาผ้เู รียน พฒั นาความรู้ ความสามารถ และคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงคข์ องผเู้ รยี นตามมาตรฐานการศกึ ษาและตวั บง่ ชที้ กี่ �ำหนดในหลกั สตู รของศนู ยก์ ารเรยี น น้นั ๆ กรณศี ูนยก์ ารเรยี นท่จี ดั ต้ังโดยองคก์ รเอกชนเป็นนิตบิ คุ คลซ่ึงไม่ไดจ้ ดทะเบียนในประเทศไทย ทม่ี ีผู้เรยี น จ�ำนวนเกนิ กวา่ ๕๐ คน ใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน เรอ่ื ง ก�ำหนดระบบประกนั คณุ ภาพ ภายในศนู ย์การเรยี นขององค์กรเอกชนเปน็ นิตบิ คุ คลซ่ึงไมไ่ ดจ้ ดทะเบียนในประเทศไทย กรณีที่มผี ้เู รียนจ�ำนวน เกินกว่า ๕๐ คน ๘. รายชอื่ และคุณสมบตั ขิ องบคุ ลากรทางการศกึ ษาของศนู ยก์ ารเรียน องคก์ รชุมชนหรือองคก์ ร เอกชนท่ีประสงคจ์ ัดตัง้ ศนู ย์การเรยี น ต้องแสดงรายชอ่ื และคณุ สมบัตขิ องผจู้ ดั การศึกษา ผู้บรหิ ารศนู ยก์ ารเรียน รวมทง้ั ผสู้ นบั สนนุ การศกึ ษาซงึ่ ท�ำหนา้ ทใี่ หบ้ รกิ ารหรอื ปฏบิ ตั งิ านเกยี่ วเนอื่ งกบั การจดั กระบวนการเรยี นการสอน การนเิ ทศ และการบรหิ ารการศกึ ษาของศนู ยก์ ารเรยี น กรณศี นู ยก์ ารเรยี นทจ่ี ดั ตง้ั โดยองคก์ รเอกชนเปน็ นติ บิ คุ คล 18 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย ท่ีมีผู้เรียนจ�ำนวนเกินกว่า ๕๐ คนให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการ การศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน เร่อื ง รายช่อื และคุณสมบัตขิ องบุคลากรทางการศกึ ษาของศูนยก์ ารเรยี นขององค์กรเอกชน เปน็ นิติบคุ คลซง่ึ ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย กรณที ีม่ ผี ู้เรยี นจ�ำนวนเกินกวา่ ๕๐ คน ๙. ข้อก�ำหนดเก่ียวกับคณะกรรมการศูนย์การเรียน องค์กรชุมชนหรือองค์กรเอกชนท่ีประสงค์ จัดต้ังศูนย์การเรียนต้องจัดให้มีคณะกรรมการศูนย์การเรียนประกอบด้วย ผู้จัดการศึกษาหรือผู้แทนผู้ปกครอง ของผูเ้ รยี น และผทู้ รงคณุ วุฒิ กรณีท่ีศูนย์การเรียนใดไม่อาจมีผู้แทนผู้ปกครองของผู้เรียนให้คณะกรรมการเขตพื้นท่ีการศึกษา แต่งต้ังผู้แทนชุมชนที่ศูนย์การเรียนต้ังอยู่เป็นกรรมการแทนได้ โดยให้คณะกรรมการศูนย์การเรียน ท�ำหน้าที่ ก�ำหนดนโยบายการบริหารและการจัดการศึกษาของศูนย์การเรียนให้เหมาะสมกับสภาพการจัดการศึกษา ของผู้จัดการศึกษาและสอดคล้องกับนโยบายการศึกษา รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุน ก�ำกับและดูแลระบบ การประกนั คณุ ภาพภายในเพ่อื พฒั นาคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษา หลักสูตรหรอื ลักษณะกิจกรรมการเรยี นการสอน การจดั การศกึ ษาโดยศนู ยก์ ารเรยี น ตามพระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และทแี่ กไ้ ข เพ่ิมเติม โดยกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนในการจัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน ในศูนย์การเรียน พ.ศ. ๒๕๕๕ ได้ก�ำหนดให้ผู้จัดการศึกษาจัดท�ำแผนการจัดการศึกษา ในส่วนของหลักสูตร หรือลักษณะกิจกรรมการเรยี นการสอนน้ัน ศูนยก์ ารเรยี นจะต้องด�ำเนินการจัดท�ำตามองคป์ ระกอบตอ่ ไปน้ี ๑. เป้าหมายคุณภาพผเู้ รียน ศนู ยก์ ารเรยี นจะต้องก�ำหนดเป้าหมายคณุ ภาพของผเู้ รียนโดยเลอื ก หรือปรับใช้มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน ในการพัฒนาผู้เรียน อาจน�ำไปจัดการเรียนการสอนเป็นรายปี รายภาค หรือหลอมรวมบูรณาการจัดเป็นกลุ่มประสบการณ์ ทั้งนี้ ใหค้ รอบคลุมองค์ความรู้ ทกั ษะ และคุณลกั ษณะส�ำคัญทร่ี ะบไุ ว้ในมาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชี้วัดของหลกั สูตร แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐานและเหมาะสมกับสภาพบรบิ ท ธรรมชาตกิ ารเรียนรแู้ ละศกั ยภาพของผู้เรยี น ๒. คณุ ลกั ษณะของผเู้ รยี น ศนู ยก์ ารเรยี นก�ำหนดคณุ ลกั ษณะของผเู้ รยี นใหส้ อดคลอ้ งกบั คณุ ลกั ษณะ อันพึงประสงค์ตามที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ก�ำหนด และสามารถเพ่ิมเติมให้สอดคล้องกับ สภาพและบรบิ ทของศนู ยก์ ารเรยี น ทง้ั น้ี ควรเนน้ การปลกู ฝงั และพฒั นาผา่ นการจดั การเรยี นการสอน การปฏบิ ตั ิ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพ่ือให้เกิดคุณธรรม จริยธรรม จิตส�ำนึกที่ดีในด้านการเมืองการปกครองในระบอบ ประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ความเปน็ พลเมอื งทดี่ ขี องชาติ รกั ษาผลประโยชนข์ องสว่ นรวม ค�ำนงึ ถงึ ประเทศชาติเปน็ หลัก มจี ิตส�ำนึกอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และมีทักษะชวี ิต ๓. สาระการเรยี นรู้ ใหศ้ นู ยก์ ารเรยี นก�ำหนดเนอื้ หาสาระทป่ี ระกอบดว้ ยองคค์ วามรู้ ทกั ษะ และคา่ นยิ ม ท่ีผู้เรียนควรเรียนรู้ตามผลการเรียนรู้ท่ีปรับใช้ เพื่อจะช่วยน�ำพาให้บรรลุคุณภาพตามเป้าหมายที่ก�ำหนด ซงึ่ ผจู้ ดั การศกึ ษาสามารถจดั การเรยี นการสอนแยกรายวชิ า หรอื หลอมรวมบรู ณาการเปน็ กลมุ่ ประสบการณต์ า่ ง ๆ ไดต้ ามความเหมาะสม และสอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของศนู ยก์ ารเรยี น โดยสามารถด�ำเนนิ การปรบั หลกั สตู รแกนกลาง การศึกษาข้ันพ้ืนฐานตามหลักเกณฑ์และวิธีการปรับใช้หลักสูตรแกนกลางข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ส�ำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ทั้งในส่วน ของโครงสร้างเวลาเรียน มาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ความต้องการ และวัตถุประสงคข์ องศนู ย์การเรียน โดยมีแนวด�ำเนินการ ดังนี้ 19ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

๓.๑ ศนู ยก์ ารเรยี น ศกึ ษามาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรยี นรขู้ องหลกั สตู รแกนกลาง การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ๓.๒ วเิ คราะหห์ ลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน เพอ่ื จดั ท�ำหลกั สตู รของศนู ยก์ ารเรยี น โดยตอ้ งก�ำหนดเปา้ หมายคณุ ภาพผเู้ รยี น ใหส้ อดคลอ้ งกบั ลกั ษณะการจดั สาระการเรยี นรู้ ซงึ่ ศนู ยก์ ารเรยี นสามารถ จดั เปน็ สาระการเรยี นรู้ กลมุ่ ประสบการณ์ หนว่ ยบรู ณาการและสามารถหลอมรวมบรู ณาการไดต้ ามความเหมาะสม ส�ำหรับระดับมัธยมศึกษาตอนปลายควรจัดเป็นรายวิชา เพื่อประโยชน์ในการศึกษาต่อในระดับ อุดมศึกษา ดังตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี ตัวอยา่ งที่ ๑ การจดั สาระการเรยี นรู้ เป้าหมายคณุ ภาพผเู้ รยี น สาระการเรยี นรู้ กลมุ่ ประสบการณ์ เวลาเรยี น/ - มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั (หมายถงึ องค์ความรู้ ทกั ษะ ค�ำนิยมที่ /หนว่ ยบูรณาการ หนว่ ยกิต ท่ปี รับใช้ ผู้เรยี นเรียนรเู้ พอ่ื ช่วยน�ำพาให้บรรลุ - ผลการเรยี นรู้ /รายวิชา ตามเป้าหมายท่กี �ำหนด) ๑..................................... ๒..................................... เวลาเรียนรวม ตัวอยา่ งที่ ๒ การจดั สาระการเรยี นรู้ กลุ่มประสบการณ์ เป้าหมายคุณภาพผ้เู รยี น สาระการเรยี นรู้ ลกั ษณะ เวลาเรียน/ /หน่วยบูรณาการ - มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ดั (หมายถึง องค์ความรู้ ทกั ษะ กจิ กรรม หน่วยกิต ที่ปรบั ใช้ ค�ำนิยมทผ่ี ู้เรยี นเรียนรเู้ พ่ือช่วย /รายวชิ า - ผลการเรยี นรู้ น�ำพาให้บรรลตุ ามเป้าหมาย การ เรยี นรู้ ทีก่ �ำหนด) ๑..................................... ๒..................................... เวลาเรียนรวม อย่างไรก็ตามศูนย์การเรียนสามารถจัดสาระการเรียนรู้ได้ตามความเหมาะสม เช่น ปรับใช้ หลักสูตรนอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานของส�ำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย หรือจดั เป็นโครงการ กิจกรรม เปน็ ตน้ ทงั้ น้ี ต้องเป็นหลกั สูตรท่ีครอบคลมุ ทง้ั ดา้ นความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ของศูนย์การเรียน 20 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

๓.๓ ก�ำหนดกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี วามสอดคลอ้ งกบั คณุ ลกั ษณะผเู้ รยี นของศนู ยก์ ารเรยี น ๓.๔ น�ำเสนอตอ่ คณะกรรมการศูนยก์ ารเรียนเพือ่ พจิ ารณา ๔. กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ศนู ยก์ ารเรยี นควรจดั ใหผ้ เู้ รยี นไดม้ โี อกาสเข้ารว่ มกจิ กรรมต่าง ๆ ซงึ่ อาจ เป็นกิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ หรือกิจกรรมอ่ืน ๆ ตามความเหมาะสมโดยค�ำนงึ ถงึ วยั และศกั ยภาพของผูเ้ รียนแต่ละระดบั ๕. การจดั การเรยี นรู้ ศนู ยก์ ารเรยี นควรจดั การเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ กดิ คณุ ภาพตามมาตรฐาน การเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั ทปี่ รบั ใชข้ องหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ใหเ้ กดิ ขนึ้ ไดท้ กุ เวลาทกุ สถานท่ี ผจู้ ดั การ ศึกษาควรมกี ารประสานความร่วมมือกบั บิดา มารดา ผู้ปกครอง ชุมชนเพอื่ ร่วมกนั พฒั นาผ้เู รยี นตามศักยภาพ สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน โดยค�ำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล สถานศึกษา และผู้จัดการศึกษาสามารถจัดการเรียนการสอนได้หลากหลายรูปแบบ วิธีการตามปรัชญาและความต้องการ ในการพฒั นาใหผ้ เู้ รยี นบรรลคุ ณุ ภาพตามมาตรฐาน โดยอาจสอดแทรกบรู ณาการสาระวชิ าตา่ ง ๆ รวมทงั้ สมรรถนะ ส�ำคญั และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคเ์ ขา้ ดว้ ยกนั ตามแนวคดิ หรอื ปรชั ญาการศกึ ษา สภาพและบรบิ ททม่ี ลี กั ษณะ เฉพาะของกลมุ่ เปา้ หมายนน้ั ๆ และควรใหผ้ เู้ รยี นไดฝ้ กึ ทกั ษะกระบวนการคดิ การจดั การ การเผชญิ สถานการณ์ มกี ารประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ในสถานการณต์ า่ ง ๆ ใหผ้ ู้เรยี นไดเ้ รียนรจู้ ากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏบิ ตั ิให้ท�ำได้ คดิ เปน็ ท�ำเป็น และเกดิ การใฝ่รอู้ ย่างตอ่ เน่ือง มุ่งเรยี นร้จู ากสถานท่ีจริง แหลง่ เรียนร้ใู นเขตพื้นท่ี และภูมิปัญญา ท้องถิ่น โดยอาจจัดการศึกษาแบบคละช้ันและอายุหรือจัดให้มีการศึกษาร่วมกับสถานศึกษาอ่ืนโดยมีข้อตกลง รว่ มกันและเทียบโอนผลการเรยี นซึ่งกันและกันได้ ๖. โครงสรา้ งเวลาเรยี น ศูนย์การเรียนสามารถปรับเวลาเรยี นเปน็ รายภาค รายปี หรอื ช่วงชั้นได้ โดยสามารถยืดหยุ่นเวลาเรียนตามเน้ือหาสาระการเรียนรู้หรือกลุ่มประสบการณ์ เพ่ือให้มีเวลาเรียนเหมาะสม ท่ีจะพฒั นาผเู้ รียนให้เกดิ คุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรทู้ ี่ปรบั ใช้ ๗. การวดั และประเมินผล และการเทียบโอน ๗.๑ การวดั และประเมนิ ผล หลกั เกณฑ์ วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ในศูนย์การเรียน เป็นกระบวนการเก็บรวบรวม ตรวจสอบ ตีความ ผลการเรียนรู้และพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของผู้เรียน เพ่ือน�ำผลไปปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนรู้และใช้เป็นข้อมูลส�ำหรับการตัดสินผลการเรียน ศูนย์การเรียนต้องมีกระบวนการจัดการที่เป็นระบบเพ่ือให้การด�ำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นไปอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ และได้ผลการประเมินท่ีตรงตามความรู้ความสามารถท่ีแท้จริง ของผูเ้ รียน ถกู ต้องตามหลักการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้รวมท้ังสามารถรองรบั การประเมินคุณภาพภายใน ตามระบบประกันคุณภาพการศกึ ษาได้ ทั้งน้ีศูนย์การเรียนและส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาต้องร่วมกันก�ำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เครื่องมือ และหลักฐาน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดสินเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ โดยมีหลักการ ดังน้ี ๑) การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรมู้ จี ดุ มุ่งหมายเพือ่ พัฒนาผูเ้ รยี นและตัดสนิ ผลการเรยี น ๒) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ต้องสอดคล้องและครอบคลุมหลักสูตรหรือลักษณะ กิจกรรมการเรียนการสอนของศูนย์การเรยี น 21ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

๓) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการจัดการเรียนการสอน ตอ้ งด�ำเนินการดว้ ยเทคนคิ วิธีการที่หลากหลาย ๔) การประเมนิ ผเู้ รยี นพจิ ารณาจากพฒั นาการของผเู้ รยี น ความประพฤติ การสงั เกตพฤตกิ รรม การเรยี นรู้ การรว่ มกจิ กรรมและการทดสอบควบคไู่ ปในกระบวนการเรยี นการสอนตามความเหมาะสมของแตล่ ะ ระดับการศกึ ษา ๕) เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนและผมู้ ีสว่ นเกี่ยวข้องตรวจสอบผลการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๖) ให้มกี ารเทยี บโอนผลการเรยี นระหว่างศูนยก์ ารเรียนและรปู แบบการศกึ ษาต่าง ๆ ท้ังน้ี ศูนย์การเรียนต้องด�ำเนินการวัดและประเมินผล จัดท�ำรายงานผลการด�ำเนินงาน และสภาพปัญหาที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษาให้ส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาทราบ อย่างน้อยปีละ ๑ คร้ัง โดยการวัดและประเมินผลต้องครอบคลุมด้านความรู้ ทักษะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยมีแนวทาง การด�ำเนนิ งานดงั ต่อไปน้ี ๑) ให้ความส�ำคัญในการประเมินตามสภาพจริงของพัฒนาการของผเู้ รยี นเป็นรายบคุ คล ๒) กรณีทีม่ กี ารจัดการเรียนร้รู ่วมกบั สถานศึกษาอืน่ ใหม้ ีการวดั ผลและประเมนิ ผลร่วมกัน ๓) ประเมนิ ผลจากผลงาน/ช้นิ งาน/ภาระงานหรอื ประสบการณข์ องผเู้ รยี น ๔) จัดใหม้ กี ารประเมินผลโดยการมสี ่วนร่วมจากผูท้ ีเ่ กยี่ วขอ้ ง ๕) อน่ื ๆ ตามความเหมาะสม สอดคลอ้ งกบั จดุ หมายการจดั การศกึ ษาและกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๗.๑.๑ การตดั สินผลการเรยี น ศูนย์การเรียนต้องมีการตัดสินผลการเรียนส�ำหรับผู้เรียนท่ีเรียนตามหลักสูตร การศึกษาขนั้ พื้นฐานในศนู ย์การเรยี น ซง่ึ มลี ักษณะแตกตา่ งกนั ไปตามบรบิ ทและความจ�ำเป็น สามารถปรับจาก ขอ้ ก�ำหนดของหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน โดยใหพ้ ิจารณาตัดสินผลการเรยี นตามความเหมาะสม อาจใชก้ ารตดั สินผลการเรยี นเป็นรายปี รายภาค หรือตามหลักสูตรทศ่ี ูนย์การเรยี นก�ำหนด ๗.๑.๒ เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการเรียน ศูนย์การเรียนตัดสินผลการเรียนตามเป้าหมายคุณภาพผู้เรียน สาระการเรียนรู้ หรอื กลมุ่ ประสบการณต์ า่ ง ๆ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รวมทง้ั กจิ กรรมพฒั นา ผเู้ รยี น ควรประเมนิ ในระยะท่ีเหมาะสม มีการเก็บข้อมลู ของผเู้ รยี นทกุ ดา้ นอย่างตอ่ เนื่องสม�่ำเสมอเพื่อปรับปรุง การจัดการเรียนรใู้ ห้ผเู้ รยี นสามารถพฒั นาอย่างเตม็ ศักยภาพ โดยสามารถเลอื กตดั สนิ ผลการเรียนเปน็ รายภาค รายปี หรอื เป็นระดับช้ัน เกณฑ์การตัดสินผลการเรียน ศนู ยก์ ารเรยี นควรค�ำนงึ ถึงส่งิ ส�ำคญั ดังตอ่ ไปน้ี ๑) เวลาเรยี น : ยดื หยนุ่ ตามบรบิ ท จดุ เนน้ ปรชั ญาของการจดั การศกึ ษาของศนู ยก์ ารเรยี น โดยมีร่องรอยหลกั ฐานทผ่ี ู้เรยี นไดเ้ รียนเรื่องใดเรอื่ งหน่ึงมากพอท่จี ะน�ำมาใชต้ ดั สนิ ผลการเรยี นได้ ๒) คุณภาพผูเ้ รียน : ผูเ้ รียนจะตอ้ งได้รบั การประเมินคณุ ภาพทีส่ อดคลอ้ งสมั พนั ธ์ กับมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชว้ี ดั ทศ่ี นู ย์การเรยี น / ผูจ้ ัดการศึกษาปรบั ใช้ ๓) มติ ขิ องการประเมนิ : ผเู้ รยี นไดร้ บั การประเมนิ และตดั สนิ ผลการเรยี นครอบคลมุ ทั้งในด้านวิชาการ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมการพัฒนาผู้เรียนตามเกณฑ์ท่ีส�ำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาและศูนย์การเรยี นรว่ มกันก�ำหนด 22 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

๗.๑.๓ การให้ระดบั ผลการเรียน ศูนย์การเรียนสามารถก�ำหนดระดับผลการเรียน เป็นระดับคณุ ภาพ ระบบตวั เลข ระบบตัวอักษร ระบบร้อยละ ระบบที่ใช้ค�ำส�ำคัญสะท้อนมาตรฐานตามความเหมาะสมโดยเป็นระบบเดียวกัน ตลอดหลักสูตร ส่วนในระดับมัธยมศึกษาควรให้ระดับผลการเรียนเป็นระบบตัวเลข ๘ ระดับ เพ่ือประโยชน์ ในการเทียบเคยี งกบั รูปแบบการศึกษาอนื่ หรือการศึกษาต่อในระดับที่สงู ขึ้น ตามตารางแสดงระบบการให้ระดับ ผลการเรยี น ดังน้ี ตารางแสดงระบบการใหร้ ะดับผลการเรยี น ระบบตัวเลข ระบบตวั อกั ษร ระบบรอ้ ยละ ระบบทีใ่ ชค้ �ำส�ำคัญสะท้อนมาตรฐาน ๔ A ๙๐-๑๐๐ ๕ ระดับ ๔ ระดับ ๒ ระดบั ๓.๕ B+ ๗๕-๗๙ ๓ B ๗๐-๗๔ ดเี ยี่ยม ดเี ย่ยี ม ๒.๕ C+ ๖๕-๖๙ ๒ C ๖๐-๖๔ ดี ดี ผา่ น ๑.๕ D+ ๕๕-๕๙ ไม่ผา่ น ๑ D ๕๐-๕๔ พอใช้ ผา่ น ๐ F ๐-๔๙ ไมผ่ า่ น ผา่ น ไมผ่ ่าน ๗.๑.๔ เกณฑก์ ารจบการศกึ ษา ศูนย์การเรียนก�ำหนดเกณฑ์การจบการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ของศูนยก์ ารเรยี นทุกระดับการศกึ ษา ครอบคลมุ หลักการส�ำคญั ดงั นี้ ๑) ผู้เรียนต้องเรยี นรู้ตามสาระการเรยี นรู้/กลมุ่ ประสบการณ์ และได้รับการตัดสิน ผลการเรียนอยู่ในระดับผา่ นขึน้ ไป ๒) ผเู้ รยี นตอ้ งมผี ลการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นและไดร้ บั การตดั สนิ ผลการเรยี นอย่ใู นระดับผา่ นขึ้นไป ๓) ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และได้รับการตัดสิน ผลการเรยี นอยใู่ นระดับผา่ นข้ึนไป ๔) ผเู้ รียนต้องเข้าร่วมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนและมีผลการประเมินอยใู่ นระดบั ผ่าน ๗.๒ การเทยี บโอนผลการเรียน ตามพระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และทแี่ กไ้ ขเพมิ่ เตมิ ไดร้ ะบใุ หม้ กี ารเทยี บโอน ผลการเรียนที่ผู้เรียนสะสมไว้ระหว่างการศึกษารูปแบบเดียวกัน หรือต่างรูปแบบได้ ไม่ว่าจะเป็นผลการเรียน จากสถานศึกษาเดียวกันหรือไม่ก็ตาม รวมทั้งจากการเรียนรู้นอกระบบ ตามอัธยาศัยการฝึกอาชีพ หรือจาก ประสบการณ์ การท�ำงาน ดงั นั้น ส�ำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาหรอื ศูนยก์ ารเรียนสามารถด�ำเนินการเทยี บโอน 23ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

ผลการเรียนได้ตามข้อก�ำหนด โดยส�ำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา/สถานศึกษาท่ีรับเทียบโอนผลการเรียน ของศูนย์การเรียน ให้ใช้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการเทียบโอนผลการเรียนการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ตามท่กี ระทรวงศกึ ษาธิการก�ำหนด หลกั เกณฑ์ และวธิ กี าร ปรบั ใชห้ ลักสตู รแกนกลางขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ รวมท้งั แนวปฏบิ ตั ิเก่ยี วกบั การเทยี บโอนผลการเรียนเข้าสู่การศกึ ษาในระบบ ระดบั การศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน และกฎกระทรวงที่เก่ียวขอ้ ง ๗.๒.๑ แนวทางการเทยี บโอนผลการเรียน การเทียบโอนผลการเรียน เป็นการน�ำผลการเรียนรู้ของผู้เรียนท้ังจากการศึกษา นอกระบบ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั หรอื จากประสบการณ์ การท�ำงาน หรอื การด�ำเนนิ ชวี ติ มาเทยี บโอนผลการเรยี น ทผ่ี เู้ รยี นสะสมไวร้ ะหวา่ งการศกึ ษารปู แบบเดยี วกนั หรอื ตา่ งรปู แบบ ซง่ึ สามารถเทยี บโอนผลการเรยี นไดใ้ นกรณที ่ี ผ้เู รียนยังไมจ่ บการศกึ ษาระดับใดระดับหนงึ่ หรือเป็นการเทียบโอนกลางคัน พิจารณาด�ำเนนิ การได้ ดังนี้ ๑) การเทยี บโอนผลการเรยี นในกรณีที่ผู้เรยี นยังไม่จบชน้ั ปสี ดุ ท้ายของแต่ละระดับ การศึกษา (ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า) หรือย้ายสถานศึกษากลางคัน ให้ผู้ที่รับเข้าเรียนพิจารณาความรู้และประสบการณ์ของผู้เรียนจากเอกสาร การศกึ ษา หรอื หลกั ฐานอนื่ หรอื มกี ารประเมนิ ความรู้ ทกั ษะ ประสบการณข์ องผเู้ รยี นเพมิ่ เตมิ เพอ่ื จดั ใหเ้ ขา้ เรยี น ในชนั้ ท่ขี อเทยี บโอน ๒) การเทียบโอนผลการเรียนท่ีมีรูปแบบการจัดการศึกษาแตกต่างจากระบบชั้นปี เช่น จัดเป็นช่วงชั้น หรือช่วงเวลาตามกลุ่มประสบการณ์ต่าง ๆ ให้ผู้ที่รับเข้าเรียนพิจารณาความรู้และทักษะ จากเอกสารการศึกษา หรือหลักฐานอ่ืน หรือใช้การประเมินความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ของผู้เรียนเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาให้เขา้ เรยี นในช้นั ทีเ่ หมาะสม โดยค�ำนึงถงึ ประโยชน์ทจ่ี ะเกิดกบั ผเู้ รยี นเป็นส�ำคญั ๓) ผเู้ รยี นทเี่ รยี นรดู้ ว้ ยตนเอง หรอื เรยี นรจู้ ากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ หากมคี วามประสงค์ ขอเข้ารับการเทียบโอนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ของตน ให้สถานศึกษา/ผู้จัดการศึกษาที่รับเข้าเรียน แต่งต้งั คณะกรรมการ และจดั ให้มีการประเมินตามระเบยี บหรอื แนวปฏิบตั กิ ารเทียบโอนของสถานศกึ ษา เมอื่ พจิ ารณาผลการเทยี บโอนผลการเรยี นเรยี บรอ้ ยแลว้ ฝา่ ยทะเบยี นวดั ผลแจง้ ผล การเทียบโอนผลการเรียนให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ และแจ้งผู้ขอเทียบโอนทราบ (แบบรายงานผลการเทียบโอนผล การเรยี น ดังแสดงในภาคผนวก) ทงั้ น้ี ให้เก็บหลักฐานการอนมุ ัตผิ ลการเทียบโอนผลการเรยี นไว้ทีฝ่ า่ ยทะเบยี น อย่างเปน็ ระบบเพ่ือการอ้างอิง ๗.๒.๒ วธิ กี ารเทยี บโอนผลการเรยี น ในการเทยี บโอนผลการเรยี นจากศนู ยก์ ารเรยี นสสู่ ถานศกึ ษาในระบบ และจากสถานศกึ ษา ในระบบสู่ศูนย์การเรียน แนวทางการพิจารณาการเทียบโอนผลการเรียนให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา/ ศูนยก์ ารเรียนที่รับเขา้ เรยี น ทงั้ น้ี ให้ด�ำเนินการพิจารณาโดยคณะกรรมการหรอื ผูท้ ไ่ี ด้รับมอบหมายตามวิธีการ เทยี บโอนผลการเรยี น วธิ ีการใด วิธกี ารหนงึ่ หรอื ท้ังสองวธิ ีร่วมกนั ดังนี้ ๑) พิจารณาจากเอกสารการศึกษา เชน่ ระเบียนแสดงผลการเรยี นประกาศนียบัตร ใบรับรองผลการศึกษา สมุดบันทึกผลการเรียนรู้ หรือหลักฐานอ่ืน ท่ีแสดงถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ ประสบการณ์ของผ้ขู อเทียบโอน เปน็ ต้น 24 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนย์การเรยี น

๒) ประเมินความรู้ ความสามารถ ทักษะ และประสบการณ์ที่มีมาก่อนของผู้ขอ เทยี บโอน ซง่ึ สามารถประเมนิ ดว้ ยเครอื่ งมอื และวธิ กี ารทหี่ ลากหลาย เชน่ แบบทดสอบ การปฏบิ ตั ิ การสมั ภาษณ์ แฟม้ สะสมงาน เป็นต้น ๘. การรายงานผลการเรียน การรายงานผลการเรียนเป็นการรายงานความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของผู้เรียน และเป็นข้อมูล ในการวางแผน ปรบั ปรงุ แกไ้ ข สง่ เสรมิ พฒั นาการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น รวมทง้ั เปน็ ขอ้ มลู ในการออกเอกสารหลกั ฐาน ตรวจสอบและรับรองผลการเรียน โดยศูนย์การเรียนสรุปผลการประเมินและจัดท�ำเอกสารหลักฐาน รายงาน อย่างน้อยปีละ ๑ ครง้ั โดยท่ศี ูนย์การเรียนและส�ำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาร่วมกนั ก�ำหนด รปู แบบและข้อมูล ท่ีรายงานไดต้ ามความเหมาะสม ๙. เอกสารหลักฐานการศึกษา เอกสารหลักฐานการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ก�ำหนดแบ่งเป็น ๒ ประเภท ดงั นี้ ๑) เอกสารหลักฐานการศึกษาท่ีกระทรวงศึกษาธิการก�ำหนดส�ำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้แก่ ระเบยี นแสดงผลการเรียน ประกาศนียบัตร แบบรายงานผู้ส�ำเร็จการศกึ ษา ๒) เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาทศี่ นู ยก์ ารเรยี นก�ำหนด สามารถก�ำหนดรปู แบบและขอ้ มลู ทร่ี ายงาน ได้ตามความเหมาะสม บทบาทหน้าที่ของศูนย์การเรยี นและส�ำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาในการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น บทบาทหน้าที่ของศูนยก์ ารเรยี น ๑) วัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตามหลักเกณฑ์และวิธีการวัดและประเมินผลตาม มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั ท่ีศนู ยก์ ารเรยี นปรับใช้ ๒) รายงานการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น การจดั การเรยี นการสอน และสภาพปญั หา ทเี่ กย่ี วกบั การจดั การศึกษา ใหส้ �ำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาทราบอย่างน้อยปลี ะ ๑ คร้ัง ๓) กรณที ีม่ กี ารจดั การเรยี นรู้รว่ มกบั สถานศกึ ษาอนื่ ให้มีการวดั และประเมนิ ผลรว่ มกัน ๔) ออกหลักฐานทางการศึกษาแก่ผู้เรียนหรือผู้ส�ำเร็จการศึกษา จากศูนย์การเรียนว่าได้ศึกษา หรือส�ำเร็จการศกึ ษาตามหลักสูตรการศกึ ษาขัน้ พื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการ บทบาทหน้าท่ีของส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ๑) ให้ค�ำปรึกษา ค�ำแนะน�ำ และความรู้ ส่งเสริมและสนับสนุนด้านวิชาการ ด้านการบริหาร ด้านจัดการศึกษา และด้านอนื่ ๆ แกผ่ จู้ ัดการศกึ ษา ๒) พัฒนาทกั ษะ ความรู้ ความสามารถ แกบ่ ุคลากรทางการศกึ ษาของศนู ยก์ ารเรยี น ๓) ด�ำเนินการเทียบโอนผลการเรียนแก่ผู้เรียนในศูนย์การเรียนตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ วา่ ดว้ ยการเทยี บโอนผลการเรียนการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน 25ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนย์การเรยี น

ระบบประกันคณุ ภาพภายในของศูนย์การเรยี น ระบบการประกนั คณุ ภาพภายในเปน็ ระบบทศี่ นู ยก์ ารเรยี นสรา้ งความมน่ั ใจแกผ่ เู้ กย่ี วขอ้ งวา่ สามารถ จัดการศึกษาให้มีคุณภาพได้ตามมาตรฐาน/ตัวชี้วัดท่ีศูนย์การเรียนปรับใช้ ผู้ส�ำเร็จการศึกษา มีความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ และมีคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ สามารถด�ำรงชีวิตอยใู่ นสงั คมได้อย่างมีความสขุ รวมท้งั สร้างประโยชนใ์ หแ้ กค่ รอบครัวและชุมชนตามความเหมาะสม หลกั การการพฒั นาระบบประกนั คุณภาพการศึกษาภายในของศนู ย์การเรียน มี ๓ ประการ ดงั น้ี ๑. การกระจายอ�ำนาจ ศูนย์การเรียนมีอิสระและมีความคล่องตัวในการบริหารและตัดสินใจ ด�ำเนนิ งานทั้งดา้ นการบริหารงานวิชาการ งบประมาณ บุคลากร และทรพั ยากร เป็นต้น ๒. การเปิดโอกาสการมีสว่ นร่วมในการท�ำงาน หน่วยงานทง้ั ภาครฐั ภาคเอกชน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนท่ีจัดการศึกษาโดยศูนย์การเรียน โดยมีการร่วมกันคิด ตดั สินใจ สนับสนนุ สง่ เสรมิ และติดตามตรวจสอบการด�ำเนินงาน ตลอดจนรว่ มภาคภมู ใิ จ ในความส�ำเรจ็ ของศนู ย์การเรยี น ๓. การแสดงภาระรบั ผิดชอบทีต่ รวจสอบได้ มาตรฐานการศึกษาของศูนยก์ ารเรียนเป็นเปา้ หมาย ทผ่ี เู้ รยี น ผปู้ กครองและชมุ ชน ตอ้ งไดร้ บั รเู้ พอื่ การพฒั นารว่ มกนั ศนู ยก์ ารเรยี นตอ้ งสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มในการจดั ท�ำ แผนการจดั การศึกษาท่ีมีคณุ ภาพและเกิดผลตอ่ คณุ ภาพของผู้เรยี นเป็นส�ำคญั บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการศูนย์การเรยี นและส�ำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ในการพัฒนาระบบประกันคณุ ภาพภายใน บทบาทหน้าท่ีคณะกรรมการศูนยก์ ารเรยี น ๑. ก�ำหนดนโยบายการบริหารและการจัดการศึกษาของศูนย์การเรียนให้เหมาะสมกับสภาพ การจดั การศกึ ษาของผู้จดั การศกึ ษา ให้สอดคลอ้ งกับนโยบายการศึกษา ๒. สง่ เสริม สนับสนนุ ก�ำกับ ดูแลระบบประกันคุณภาพภายในเพื่อพัฒนาคณุ ภาพและมาตรฐาน การศกึ ษา ๓. ให้ความเห็นชอบมาตรฐานการศึกษาของศูนย์การเรียนและรายงานการจัดการศึกษาประจ�ำปี ของศูนย์การเรียน ใหศ้ ูนย์การเรยี นจัดให้มีการด�ำเนนิ งานตามระบบประกันคณุ ภาพภายในโดยมแี นวทางดังตอ่ ไปนี้ ๑. ก�ำหนดมาตรฐานการศกึ ษาของศนู ยก์ ารเรียน ๒. จดั ท�ำแผนพฒั นาการศกึ ษาของศนู ยก์ ารเรยี นทมี่ งุ่ คณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาของศนู ยก์ ารเรยี น ๓. จดั ระบบบรหิ ารและสารสนเทศ ๔. ด�ำเนนิ งานตามแผนพฒั นาการจัดการศึกษาของศูนยก์ ารเรียน ๕. จดั ใหม้ ีการติดตามตรวจสอบคณุ ภาพการศึกษา ๖. จดั ใหม้ กี ารประเมนิ คุณภาพภายในตามมาตรฐานการศกึ ษาของศนู ยก์ ารเรยี น ๗. จัดท�ำรายงานประจ�ำปีที่เป็นรายงานประเมนิ คุณภาพภายใน ๘. จดั ใหม้ ีการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาอย่างตอ่ เนื่อง 26 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนย์การเรยี น

หากศูนย์การเรียนไม่สามารถปฏิบัติงานบางประการตามข้อตกลงได้ ให้ส�ำนักงานเขตพ้ืนที่ การศึกษาผ่อนผันการปฏิบัติตามที่ระบุไว้ใน ข้อ ๑๔ วรรคสอง ของกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธกี ารประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๓ บทบาทหน้าที่ส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ๑. ส่งเสรมิ สนับสนุนและร่วมพัฒนาระบบประกันคณุ ภาพภายในของศนู ย์การเรียน ๒. ติดตาม ตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของศูนย์การเรียนอย่างน้อยปีละ ๑ คร้ัง และแจ้งผล การติดตาม ตรวจสอบให้ศนู ยก์ ารเรียนทราบ ๓. น�ำผลการตดิ ตาม ตรวจสอบคุณภาพไปใชใ้ นการวางแผนและพัฒนาคณุ ภาพของศนู ย์การเรียน อย่างต่อเนอ่ื ง ๔. เผยแพรผ่ ลการติดตาม การตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของศนู ยก์ ารเรียน ๕. สรา้ งเครอื ข่ายคุณภาพเพ่ือรว่ มพฒั นาระบบประกันคุณภาพการศกึ ษาของศูนยก์ ารเรยี น บทบาทหน้าที่ในการพัฒนาระบบประกันคณุ ภาพภายในของศูนยก์ ารเรยี น โดยผู้มสี ่วนเก่ียวข้อง ดังภาพ คณะกรรมการศูนยก์ ารเรยี น ศนู ยก์ ารเรยี น ส�ำนักงานเขตพน้ื ที่ การศึกษา - ก�ำหนดนโยบาย จดั ระบบประกัน - ส่งเสรมิ สนับสนุน คุณภาพภายใน - สง่ เสริม สนับสนุน - ก�ำกบั ดแู ล - ติดตาม ตรวจสอบคุณภาพ - เผยแพร่ ขยาผล ผู้เรียนมคี ณุ ภาพ 27ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

ภาคผนวก

แบบ อชศ.๑ แบบยนื่ ความประสงคข์ อจดั การศกึ ษาข้ันพื้นฐานโดยองค์กรชมุ ชนในศนู ย์การเรียน เขียนที่ ................................................................................ วนั ท่ี ...................... เดอื น ...............................................พ.ศ. ......................... เรอื่ ง ประสงค์ขอจดั การศึกษาขัน้ พืน้ ฐานโดยองค์กรชมุ ชนในศนู ยก์ ารเรียน เรียน ผูอ้ �ำนวยการส�ำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษา ........................................................................................................... ดว้ ยข้าพเจา้ (นาย/นาง/นางสาว).......................................................................................................................................... เลขประจ�ำตัวประชาชนเลขที่ .....................................................................บ้านเลขที่......................................หมู่ท่ี.......................... ต�ำบล/แขวง......................................................อ�ำเภอ/เขต............................................................. จงั หวดั ..................................................................... เปน็ ผ้แู ทนหรอื ผู้รับมอบอ�ำนาจขององค์กรชมุ ชน.........................................................ทะเบยี นเลขที่............................................ ท่ีตั้งเลขที่............................หมู่ที่.......................................................................ต�ำบล/แขวง..................................................................... อ�ำเภอ/เขต.............................................................. จังหวัด............................................................มีความประสงค์ขอจัดการศึกษา ข้ันพน้ื ฐานในศนู ย์การเรยี น........................ท่ีตัง้ เลขที่........................หมูท่ .่ี ...............ซอย......................ถนน....................................... ต�ำบล/แขวง......................................................อ�ำเภอ/เข..........................................................จงั หวัด............................................................ ในระดับการศึกษา.............................................................................. รูปแบบ................................................................................................ ตงั้ แตป่ ีการศกึ ษา........................................................................ เปน็ ต้นไป พรอ้ มน้ไี ด้แนบเอกสารประกอบการพิจารณามาด้วยแลว้ ดังนี้ ส�ำเนาบตั รประจ�ำตวั ประชาชน ของผู้แทนหรอื ผรู้ ับมอบอ�ำนาจ ส�ำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้แทนหรือผูร้ บั มอบอ�ำนาจ หลกั ฐานแสดงถึงความเป็นองค์กรชุมชน หนังสอื มอบอ�ำนาจกรณผี ูแ้ ทนองค์กรชมุ ชน มอบอ�ำนาจใหบ้ คุ คลอนื่ ท�ำการแทน จึงแจ้งความประสงค์มาเพ่ือขอให้ส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือได้มอบหมายให้สถานศึกษา ไดร้ ว่ มจดั ท�ำแผนการจดั การศกึ ษา เพอื่ ใชเ้ ปน็ เอกสารหลกั ฐานประกอบการขอจดั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานโดยองคก์ ร ชมุ ชนในศนู ย์การเรยี นตอ่ ไป จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดพิจารณา ลงชอ่ื ........................................................................ ผูย้ นื่ ค�ำขอ (........................................................................) 29ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนย์การเรยี น

แบบ อชศ.๒ แผนการจดั การศกึ ษาข้นั พื้นฐานโดยองค์กรชุมชนในศนู ยก์ ารเรียนประกอบด้วย ๑. ชือ่ ศูนย์การเรียน ๒. วัตถปุ ระสงคข์ องศูนย์การเรียน ๓. ที่ตั้งศนู ย์การเรียน ๔. รูปแบบการจดั การศึกษา ๕. ระดับการศึกษาท่จี ัด (กรณีที่เปน็ การศึกษานอกระบบ) ๖. หลกั สูตรหรอื ลักษณะกิจกรรมการเรยี นการสอน ๗. ระบบประกนั คุณภาพภายใน ๘. รายช่อื และคณุ สมบัตขิ องบคุ ลากรทางการศึกษาของศนู ยก์ ารเรียน ๙. ขอ้ ก�ำหนดเก่ยี วกับคณะกรรมการศนู ย์การเรยี น และข้อมูลอน่ื ๆ (ถา้ ม)ี หมายเหตุ : โดยแนบแผนการจัดการศกึ ษาฉบับสมบูรณ์ 30 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

แบบ อชศ.๓ แบบขอจดั การศึกษาข้ันพน้ื ฐานโดยองคก์ รชุมชนในศูนยก์ ารเรียน เขียนท่ี ........................................................................ วันที่...................เดือน....................................................... พ.ศ. ....................... เร่อื ง ขอจัดการศกึ ษาขนั้ พื้นฐานโดยองคก์ รชมุ ชนในศูนยก์ ารเรียน เรียน ผูอ้ �ำนวยการส�ำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษา ........................................................................................................................ ด้วยข้าพเจ้า (นาย/นาง/นางสาว)................................................................................................................................... เลขประจ�ำตวั ประชาชนเลขที.่ ...............................................................................บ้านเลขท.ี่ ....................................... หมทู่ ี่ ................. ต�ำบล/แขวง.........................................................อ�ำเภอ/เขต........................................................จงั หวดั ...........................................​........... เปน็ ผแู้ ทนหรอื ผรู้ บั มอบอ�ำนาจขององคก์ รชมุ ชน............................................................................................................................................ ทต่ี ั้งเลขท่.ี .........................หมูท่ .่ี .....................ต�ำบล/แขวง...........................................................อ�ำเภอ/เขต............................................ จังหวัด...................................................มีความประสงค์ขอจัดการศึกษาข้ันพื้นฐานในศูนย์การเรียน................................... .....................................................................................................................................................ท่ตี ้ังเลขที่ .............................หมทู่ ่.ี ..................... ต�ำบล/แขวง.............................................................อ�ำเภอ/เขต....................................................จงั หวัด .................................................... ในระดับการศึกษา .......................................................................................รูปแบบ...................................................................................... ตงั้ แตป่ ีการศึกษา..................................................................................................เป็นต้นไป พร้อมน้ไี ด้แนบเอกสารประกอบการพิจารณามาด้วยแลว้ ดงั น้ี ส�ำเนาบตั รประจ�ำตัวประชาชน ของผแู้ ทนหรอื ผู้รบั มอบอ�ำนาจ ส�ำเนาทะเบยี นบ้าน ของผูแ้ ทนหรอื ผู้รบั มอบอ�ำนาจ หนงั สือมอบอ�ำนาจกรณผี ูแ้ ทนองคก์ รชุมชนมอบอ�ำนาจให้บคุ คลอ่นื ท�ำการแทน แผนการจดั การศกึ ษา ช่ือองคก์ รชุมชน รายละเอียดของคณะบคุ คล ไดแ้ ก่ ชื่อ สญั ญาติ อายุ ท่ีอยู่ และอาชพี วตั ถุประสงค์ขององค์กรชมุ ชน ทตี่ ้งั องคก์ รชุมชน ประวัติและความเป็นมาขององคก์ รชมุ ชน ผลการด�ำเนินงานขององค์กรชมุ ชน เอกสารแสดงการรับรองรายละเอียดของคณะบุคคลและวัตถุประสงค์ขององค์กรชุมชน จากสมาชิกในชมุ ชนซึ่งเป็นผ้บู รรลุนติ ิภาวะจ�ำนวนไม่นอ้ ยกวา่ ๒๐ คน จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดพิจารณา ลงชื่อ...................................................................................ผูย้ น่ื ค�ำขอ (......................................................................................)  31ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

แบบ อชศ.๔ แบบแสดงการรับรองรายละเอียดของคณะบุคคลและวัตถุประสงค์ขององค์กรชุมชน เอกสารฉบับนี้ สมาชกิ ในชมุ ชน...................................................................................ไดร้ ว่ มกันลงนามรับรองวา่ องค์กรชุมชน....................................................................ซึ่งประกอบดว้ ยคณะบุคคล ดงั มีรายละเอยี ดดงั น้ี ๑. นาย / นาง /นางสาว............................................................................................................................................................... สัญชาติ ..................................อายุ..................................ปี ท่ีอยู่ ........................................................................................................................ ......................................................................................................................อาชพี ........................................................................................................................................ ๒. นาย / นาง /นางสาว............................................................................................................................................................... สัญชาติ ..................................อาย.ุ .................................ปี ทอ่ี ยู่ ........................................................................................................................ ......................................................................................................................อาชพี ........................................................................................................................................ ๓. นาย / นาง /นางสาว............................................................................................................................................................... สญั ชาติ ..................................อาย.ุ .................................ปี ทีอ่ ยู่ ........................................................................................................................ ......................................................................................................................อาชพี ........................................................................................................................................ ๔. นาย / นาง /นางสาว............................................................................................................................................................... สญั ชาติ ..................................อาย.ุ .................................ปี ท่ีอยู่ ........................................................................................................................ ......................................................................................................................อาชพี ........................................................................................................................................ ๕. นาย / นาง /นางสาว............................................................................................................................................................... สญั ชาติ ..................................อายุ..................................ปี ท่ีอยู่ ........................................................................................................................ ......................................................................................................................อาชพี ........................................................................................................................................ ๖. นาย / นาง /นางสาว............................................................................................................................................................... สญั ชาติ ..................................อาย.ุ .................................ปี ท่ีอยู่ ........................................................................................................................ ......................................................................................................................อาชพี ........................................................................................................................................ ๗. นาย / นาง /นางสาว............................................................................................................................................................... สัญชาติ ..................................อาย.ุ .................................ปี ทอี่ ยู่ ........................................................................................................................ ......................................................................................................................อาชพี ........................................................................................................................................ ซงึ มวี ัตถปุ ระสงค์ขององค์กรชมุ ชน....................................................................................................................ดงั น้ี ๑. .............................................................................................................................................................................. ๒. .............................................................................................................................................................................. ๓. .............................................................................................................................................................................. ฯลฯ 32 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

แบบ อชศ.๔ (ต่อ) เปน็ คณะบคุ คลขององคก์ รชุมชนทมี่ ีความประสงค์ทจ่ี ะจดั ต้งั ศูนยก์ ารเรยี น .............................................. ............................................................ มีท่ีตัง้ เลขท่ี......................................ถนน.................................................ต�ำบล..................................... อ�ำเภอ..............................................................จังหวดั ..................................................................และมีวัตถุประสงคข์ ององคก์ รชุมชน ดงั กลา่ วขา้ งตน้ เปน็ ความจรงิ ทกุ ประการ จงึ ลงลายมอื ชอ่ื และแนบเอกสารอนั ไดแ้ ก่ ส�ำเนาบตั รประจ�ำตวั ประชาชน หรือส�ำเนาบตั รอ่นื ๆ ทอี่ อกโดยหนว่ ยงานราชการ พร้อมรบั รองส�ำเนาถูกต้องมาเพื่อไวเ้ ปน็ หลักฐาน ดังน้ี ล�ำดบั ท่ี ๑. ชอื่ - สกลุ นาย / นาง /นางสาว ..........................................................................สญั ชาต.ิ ....................................... ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน..........................................................................อาย.ุ .............ปี ลายมอื ชอ่ื .............................................................. ล�ำดบั ท่ี ๒. ชอ่ื - สกลุ นาย / นาง /นางสาว ..........................................................................สญั ชาต.ิ ....................................... ทอี่ ยู่ตามทะเบียนบา้ น..........................................................................อาย.ุ .............ปี ลายมือชอ่ื .............................................................. ล�ำดบั ที่ ๓. ชอ่ื - สกลุ นาย / นาง /นางสาว ..........................................................................สญั ชาต.ิ ....................................... ทอ่ี ยตู่ ามทะเบยี นบา้ น..........................................................................อายุ..............ปี ลายมือช่อื .............................................................. ฯลฯ ล�ำดบั ท่ี ๒๐. ชอื่ - สกลุ นาย / นาง /นางสาว ...................................................................สญั ชาต.ิ ....................................... ทอ่ี ยตู่ ามทะเบยี นบ้าน..........................................................................อายุ..............ปี ลายมือช่อื .............................................................. 33ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนย์การเรยี น

แบบ อชศ.๕ แบบตรวจสอบคุณสมบตั ิและเอกสารของผยู้ ่ืนขออนุญาตจัดการศกึ ษา ขององค์กรชุมชน รายการ ผลการตรวจสอบคณุ สมบัติ หมายเหตุ ผา่ น ( ) ไมผ่ ่าน ( ) คณุ สมบตั ติ ามความในข้อ ๓ แห่งกฎกระทรวง ฯ ............................... ......................... ๑. ชอ่ื องคก์ รชุมชน ............................... ......................... ๒. รายละเอียดของคณะบุคคล .............................. ......................... ๓. วตั ถุประสงคข์ ององคก์ รชุมชน .............................. ......................... ๔. ทต่ี ัง้ องค์กรชมุ ชน ............................... ......................... ๕. ประวตั แิ ละความเป็นมาขององค์กรชมุ ชน ............................... ......................... ๖. ผลการด�ำเนินงานขององค์กรชุมชน ............................... ......................... ๗. เอกสารรบั รองของสมาชกิ ชมุ ชน ............................... ......................... คุณสมบตั ติ ามความในข้อ ๕ แหง่ กฎกระทรวง ฯ ............................... ......................... ๑. ชื่อศูนยก์ ารเรียน ............................... ......................... ๒. วตั ถุประสงค์ของศนู ยก์ ารเรียน ............................... ......................... ๓. ที่ต้งั ของศูนยก์ ารเรยี น ............................... ......................... ๔. รปู แบบการจัดการศึกษา ............................... ......................... ๕. ระดับการศึกษาทีจ่ ดั ในกรณที เ่ี ปน็ การจัดการศึกษา ............................... ......................... ............................... ......................... นอกระบบ ............................... ......................... ๖. หลกั สูตรหรอื ลักษณะกจิ กรรม การเรยี นการสอน ............................... ......................... ๗. ระบบประกนั คณุ ภาพภายใน ............................... ......................... ๘. รายชอ่ื และคุณสมบัตขิ องบคุ ลากรทางการศึกษา ............................... ......................... ............................... ........................ ของศูนยก์ ารเรียน ๙. ข้อก�ำหนดเกยี่ วกับคณะกรรมการของศนู ย์การเรยี น คุณสมบตั ติ ามความในข้อ ๑๗ แห่งกฎกระทรวง ฯ องคก์ รชมุ ชนใดเคยเปน็ ผจู้ ดั การศกึ ษาของศนู ยก์ ารเรยี น ท่ี ส�ำนกั งานเขตพนื้ กี่ ารศกึ ษามคี �ำสงั่ ใหเ้ ลกิ ศนู ยก์ ารเรยี นตาม ขอ้ ๑๕(๒) จะขอจดั ตั้งศนู ย์การเรยี นอีกมไิ ด้ จ�ำนวนผ้เู รยี นในศูนย์การเรยี น .................................. คน 34 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

แบบ อชศ.๕ (ต่อ) สรุป ผลการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว ปรากฏว่า ค�ำร้องขององค์กรชุมชนเพื่อจัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน ในศนู ยก์ ารเรยี น มคี ณุ สมบัติครบถ้วน ขาดคณุ สมบตั ิ ตามขอ้ เนอ่ื งจาก/เหตผุ ล ลงชอ่ื ....................................................................ผู้ตรวจสอบคุณสมบตั ิ (........................................................................) ต�ำแหน่ง .......................................................................................... 35ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนยก์ ารเรยี น

แบบ อชศ.๖ ประกาศแตง่ ตง้ั ผแู้ ทนชมุ ชนแทนผูแ้ ทนผปู้ กครองของผู้เรยี น ในคณะกรรมการศนู ย์การเรียน ประกาศคณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั ......................................................................... เรื่อง แตง่ ตั้งผู้แทนชุมชนแทนผแู้ ทนผู้ปกครองของผู้เรยี นในคณะกรรมการศนู ยก์ ารเรียน ตามท่ี (นาย/นาง/นางสาว)............................................................................................................................................... เป็นผู้แทนหรือผู้รับมอบอ�ำนาจขององค์กรชุมชน...........................................................................................ได้ยื่นขออนุญาต จดั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานในศนู ยก์ ารเรยี นนนั้ อาศยั อ�ำนาจตามความในขอ้ ๘ วรรคสอง แหง่ กฎกระทรวงศกึ ษาธกิ าร วา่ ดว้ ยสทิ ธขิ ององคก์ รชมุ ชนและเอกชนในการจดั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานในศนู ยก์ ารเรยี น พ.ศ. ๒๕๕๕ คณะกรรมการ ศกึ ษาธิการจงั หวดั ................................................ในคราวประชุมครงั้ ท่ี ........ /...................เมื่อวนั ท่ี .......... เดอื น .......................... พ.ศ. ...................... จึงแตง่ ตั้งผู้แทนชมุ ชนแทนผปู้ กครองของผ้เู รยี นในคณะกรรมการศนู ยก์ ารเรียน .............................. ..........................................................ประกอบดว้ ย ๑. ............................................................................................................................................................................................... ๒. ................................................................................................................................................................................................ ๓. ................................................................................................................................................................................................ ๔. ............................................................................................................................................................................................... ๕. ................................................................................................................................................................................................ ๖. ................................................................................................................................................................................................ ฯลฯ จึงประกาศให้ทราบโดยทว่ั กัน ประกาศ ณ วันที่ ............เดือน. .......................................... พ.ศ. ........................ (....................................................................................) ประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด 36 ค่มู อื การจดั การศึกษาวา่ ด้วยสิทธิขององค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานในศูนย์การเรยี น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook