pan01-merged-compressed

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง ไฟฟ้าสถติ

100 แผนจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรื่องประจุไฟฟ้า และแรงระหว่างประจุ

101รายวชิ า ฟิ สิกส์เพิม่ เติม แผนจดั การเรียนรู้ที่ 1 ผลการเรียนที่คาดหวงั ที่ 1รหสั วชิ า ………………. ช้นั ม.6 สปั ดาห์ที่ 1 – 2 คาบท่ี 3 – 8 เรื่อง ไฟฟ้าสถิต หัวข้อเร่ือง ประจุไฟฟ้าและแรงระหว่างประจุผลการเรียนทค่ี าดหวงั สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายแรงระหวา่ งอนุภาคที่มีประจุและนาปริมาณที่เกี่ยวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้แนวความคดิ หลกั ประจุไฟฟ้ามี 2 ชนิด คือ ประจุบวกและประจุลบ เมื่อนาวตั ถุท่ีมีประจุเขา้ ใกลก้ นั จะเกิดแรงกระทาระหวา่ งกนั ถา้ ประจุเหมือนกนั จะเกิดแรงผลกั กนั ถา้ ประจุตา่ งกนั จะเกิดแรง ดึงดูดกนั การทาใหว้ ตั ถุมีประจุไฟฟ้าไม่ใช่เป็ นการสร้างประจุข้ึนใหม่แต่เป็ นการยา้ ยประจุ ผลรวมของประจุท้งั หมดของระบบยงั คงเหมือนเดิม ซ่ึงเรียกวา่ เป็นกฎการอนุรักษป์ ระจุไฟฟ้า วตั ถุท่ีไดร้ ับการถ่ายเทอิเล็กตรอนโดยอิเล็กตรอนยงั คงอยู่ ณ บริเวณน้นั ไม่เคล่ือนที่จากที่หน่ึงไปสู่อีกท่ีหน่ึงในเน้ือวตั ถุ เรียกวตั ถุน้ันว่า ฉนวน แต่ถ้าอิเล็กตรอนท่ีถูกถ่ายเทสามารถเคล่ือนที่กระจายไปตลอดเน้ือของวตั ถุโดยง่าย เรียกวตั ถุน้นั วา่ ตวั นา การทาใหว้ ตั ถุมีประจุไฟฟ้าโดยการถูและโดยการเหน่ียวนาพร้อมกบั ต่อสายดิน ไม่ ใช่เป็ นการสร้างประจุข้ึนใหม่ แตเ่ ป็นการยา้ ยประจุโดยจานวนประจุท้งั หมดยงั คงเท่าเดิม จากการทดลองของคูลอมบ์ทาให้ทราบว่าแรงระหว่างประจุแปรผนั ตรงกบั ผลคูณของจานวนประจุท้งั สอง และแปรผกผนั กบั กาลงั สองของระยะห่างระหวา่ งประจุเนื้อหา 1. ประจุไฟฟ้า และแรงระหวา่ งประจุ 2. กฎของคูลอมบ์กระบวนจัดการเรียนรู้ 1. ข้นั สร้างความสนใจ 1.1 นกั เรียนและครูร่วมกนั ทากิจกรรม โดยใชบ้ รรทดั พลาสติกถูกบั เส้นผมแลว้นาไปล่อเศษกระดาษที่ถูกฉีกเนชิ้นเล็กๆ 1.2 นกั เรียนตอบขอ้ ซกั ถามของครูวา่ “วตั ถุที่มีประจุไฟฟ้า และวตั ถุที่ไม่มีประจุไฟฟ้าแตกต่างกนั อยา่ งไร” ( ทิง้ ช่วงใหน้ กั เรียนคิด )

102 1.3 นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายในแต่ละกลุ่ม พร้อมท้งั บนั ทึกความเห็นของกลุ่มในใบงาน 1.1 เฉพาะขอ้ 1 และขอ้ 2 (เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดแ้ สดงความคิดเห็นโดยยงั ไม่เนน้ ถูกผดิ ) 1.4 ตวั แทนนกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอความเห็นของกลุ่ม ( ของแต่ละคนในกลุ่มโดยตวั แทนของกลุ่ม และขอ้ สรุปของกลุ่ม ) 1.5 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปรายเก่ียวกบั วตั ถุท่ีมีประจุไฟฟ้า และวตั ถุท่ีไม่มีประจุไฟฟ้าแตกต่างกนั อยา่ งไร ท่ีครูเตรียมให้ และบนั ทึกลงในใบงาน 1.1 1.6 นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน จานวนขอ้ สอบ 10 ขอ้ 1.7 แจง้ ใหน้ กั เรียนทราบวา่ จะไดศ้ ึกษาเกี่ยวกบั ประจุไฟฟ้า และแรงระหวา่ งประจุไฟฟ้า 2. ข้นั สารวจและค้นหา 2.1นักเรียนสืบค้นข้อมูลเก่ียวกบั ประจุไฟฟ้า และแรงระหว่างประจุไฟฟ้าจากใบความรู้ 1 พร้อมกบั ใบงาน 1.2 แลว้ สรุปสาระสาคญั บนั ทึกลงในสมุดจดบนั ทึกและตอบคาถาม 2.2 สุ่มนกั เรียน 1 กลุ่มนาเสนอผลการสืบคน้ ขอ้ มูล 3. ข้ันอธิบายและลงข้อสรุป 3.1 นกั เรียนนาขอ้ มูลจากข้นั การสืบคน้ ขอ้ มูล มาอภิปรายร่วมกบั ครู 3.2 ครูอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกบั ประจุไฟฟ้า และแรงระหว่างประจุไฟฟ้าเพื่อให้นกั เรียนสรุปสาระสาคญั ลงในสมุดจดบนั ทึก4. ข้ันขยายความรู้4.1 นกั เรียนสนทนาซักถามครูและตอบคาถามว่า “แรงระหวา่ งประจุข้ึนกบัปริมาณใดบา้ ง” ( ทิ้งช่วงใหน้ กั เรียนคิด ) เพื่อนาไปสู่ การคานวณหาขนาดของแรงระหวา่ งประจุตามกฎของคูลอมบ์ kq1q 2 r24.2 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปราย เกี่ยวกบั สมการ F = และตวั อยา่ งการหาขนาดของแรงระหวา่ งประจุ จากใบความรู้ 14.3 นกั เรียนร่วมกนั สืบคน้ แกป้ ัญหา ในใบงาน 1.34.4 นกั เรียนทาแบบฝึกทกั ษะ 1

103 5. ข้นั ประเมนิ 1.1 นกั เรียนเขียนเร่ืองราวส้ันๆ เกี่ยวกบั ประจุไฟฟ้า และแรงระหวา่ งประจุ ในใบกิจกรรม 1 1.2 นกั เรียนนาเรื่องส้ัน ของเพ่ือนมาอ่าน และประเมิน ครูนาเรื่องส้ันจากการประเมินของนกั เรียน โดยใหเ้ จา้ ของผลงานอา่ น แลว้ ร่วมอภิปราย 1.3 นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียนส่ือการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ รายการส่ือ จานวน สภาพการใช้สื่อ1. ไมบ้ รรทดั พลาสติกและเศษกระดาษ 1 ชุด ใชข้ ้นั สร้างความสนใจที่ถูกฉีกเป็ นชิ้นเล็กๆ2. แบบทดสอบก่อนเรียน 1 ชุด ใชข้ ้นั สร้างความสนใจ3. ใบงาน 1.1 1 ชุด ใชข้ ้นั สร้างความสนใจ4. แบบฝึกทกั ษะ 1 1 ชุด ใชอ้ ธิบายและลงขอ้ สรุป ( ใชข้ ้นั ประเมิน )5. ใบความรู้ 1 1 ชุด ใชอ้ ธิบายและลงขอ้ สรุป6. ใบงาน 1.2 1 ชุด ใชส้ ารวจและคน้ หา7. ใบงาน 1.3 1 ชุด ใชข้ ยายความรู้และลงขอ้ สรุป8. ใบกิจกรรม 1 1 ชุด ใชข้ ้นั ประเมินและลงขอ้ สรุป9. แบบทดสอบหลงั เรียน 1 ชุด ใชข้ ้นั ประเมินการวดั ผลและประเมินผล เครื่องมือทใี่ ช้ เกณฑ์ผ่าน รายการวดั ผลและประเมนิ ผล สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน ตรวจใบงาน 1.1 – 1.3 -1. การวดั ผลคุณธรรม จิตพสิ ยั ตรวจแบบฝึกทกั ษะ 1 -2. การประเมินผลจากสภาพจริง ตรวจสมุดจด ร้อยละ 50 ข้ึนไป ตรวจใบกิจกรรม 1 -3. การวดั ผลหลงั เรียน แบบทดสอบรายจุดประสงคท์ ี่ 1 ระดบั 3 ข้ึนไป ร้อยละ 50 ข้ึนไป

104กจิ กรรมเสริมทกั ษะหรือซ่อมเสริม วธิ ีดาเนินกจิ กรรม รายการ 1. ครูควบคุมดูแลใหอ้ ยใู่ นกรอบระหวา่ งเรียน1. ปรับปรุง – แกไ้ ขขอ้ บกพร่องของผเู้ รียน 2. ครูคอยเสริมหรือแกไ้ ขเมื่อการอภิปรายของนกั เรียน ไมส่ มบูรณ์2. ส่งเสริมความรู้ความสามารถของผเู้ รียน 3. ครูช้ีแจงขอ้ บกพร่องในการทากิจกรรม 4. ครูเฉลยขอ้ สงสยั ท่ีนกั เรียนทาไมไ่ ด้ 5. สอนซ่อมเสริมนกั เรียนที่ไมผ่ า่ นประเมินหลงั เรียน 1. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงาน 1 ชิ้นงาน

105รายวชิ าฟิ สิกส์เพม่ิ เติม แบบบนั ทกึ ผลหลงั สอน ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 6 รหสั วชิ า ………… ผลการเรียนทค่ี าดหวงั ที่ 1 คาบท่ี 3 – 8 เรื่อง ไฟฟ้าสถติ หัวข้อเร่ือง ประจุไฟฟ้าและแรงระหว่างประจุ1. ความเหมาะสมของแผนการสอนรายการประเมิน ระดบั คุณภาพ ขอ้ เสนอแนะ 43211. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้2. เน้ือหาสาระ3. กิจกรรมการเรียนการสอน4. สื่อการสอน5. การวดั ผลประเมินผล6. ความสอดคลอ้ ง ( ขอ้ 1 – 5 ) ( 4 = มากที่สุด , 3 = มาก , 2 = พอใช้ , 1 = ควรปรับปรุง )2. ผลการสอน………………………………………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………………3. ปัญหา / อุปสรรค…………………………………………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………….4. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………….………..ผสู้ อน (……………………………..) วนั ท่ี…....เดือน………………………..พ.ศ………….

106 ส่ือประกอบแผนจดั การเรียนรู้

แผนจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง สนามไฟฟ้า

100รายวชิ า ฟิ สิกส์เพ่ิมเติม แผนจดั การเรียนรู้ที่ 2 ผลการเรียนท่ีคาดหวงั ท่ี 2รหสั วชิ า ………………… ช้นั ม.6 สปั ดาห์ที่ 3 – 4 คาบที่ 9 - 16 เร่ือง ไฟฟ้าสถติ หัวข้อเรื่อง สนามไฟฟ้าผลการเรียนทค่ี าดหวงั สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายสนามไฟฟ้า และนาปริมาณที่เก่ียวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้แนวความคดิ หลกั บริเวณที่มีแรงระหว่างประจุกระทาต่อประจุทดสอบ บริเวณน้ันจะมีสนามไฟฟ้า และขนาดของสนามไฟฟ้า จะข้ึนกบั ปริมาณของประจุไฟฟ้า ขนาดและทิศของสนามไฟฟ้าลพั ธ์ของสนามไฟฟ้าเนื่องจากจุดประจุหลาย ๆ จุด เท่ากบั ผลรวมของเวกเตอร์ของสนามไฟฟ้าเน่ืองจากจุดประจุแต่ละจุดประจุ เส้นแรงไฟฟ้าจะเป็ นเส้นแสดงขนาดและทิศของสนามไฟฟ้า เม่ือศึกษาและฝึ ก แกป้ ัญหาเกี่ยวกบั เส้นแรงไฟฟ้า จะเกิดความคิดรวบยอดจนสามารถใชค้ วามรู้เกี่ยวกบั เส้นแรงไฟฟ้า อธิบายเกี่ยวกบั สนามไฟฟ้าได้กระบวนจัดการเรียนรู้ 1. ข้นั สร้างความสนใจ 1.1 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปราย เก่ียวกบั แรงทางไฟฟ้าที่กระทาต่อวตั ถุ น้นัมาจากไหน 1.2 นกั เรียนตอบขอ้ ซกั ถามของครูวา่ “บริเวณที่มีแรงทางไฟฟ้ากระทาต่อวตั ถุท่ีมีประจุ เราเรียกบริเวณน้ีวา่ อะไร” ( ทิง้ ช่วงใหน้ กั เรียนคิด ) 1.3 นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายในแต่ละกลุ่ม พร้อมท้งั บนั ทึกความเห็นของกลุ่มในใบงาน 2.1 เฉพาะขอ้ 1 และขอ้ 2 (เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดแ้ สดงความคิดเห็นโดยยงั ไม่เนน้ ถูกผดิ ) 1.4 ตวั แทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอความเห็นของกลุ่ม ( ของแต่ละคนในกลุ่มโดยตวั แทนของกลุ่ม และขอ้ สรุปของกลุ่ม ) 1.5 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปรายเกี่ยวกบั “บริเวณท่ีมีแรงทางไฟฟ้ากระทาต่อวตั ถุที่มีประจุ เราเรียกบริเวณน้ีวา่ อะไร” ที่ครูเตรียมให้ และบนั ทึกลงในใบงาน 2.1 1.6 นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน จานวนขอ้ สอบ 10 ขอ้ 1.7 แจง้ ใหน้ กั เรียนทราบวา่ จะไดศ้ ึกษาเก่ียวกบั สนามไฟฟ้า

101 2. ข้นั สารวจและค้นหา 2.1 นกั เรียนสืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สนามไฟฟ้า จากใบความรู้ 2 พร้อมกบั ใบงาน2.2 แลว้ สรุปสาระสาคญั บนั ทึกลงในสมุดจดบนั ทึกและตอบคาถาม 2.2 สุ่มนกั เรียน 1 กลุ่มเสนอผลการสืบคน้ ขอ้ มูล 3. ข้ันอธิบายและลงข้อสรุป 3.1 นกั เรียนนาขอ้ มูลจากข้นั การสืบคน้ ขอ้ มูล มาอภิปรายร่วมกบั ครู 3.2 ครูอธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกบั สนามไฟฟ้า เพ่ือใหน้ กั เรียนสรุปสาระสาคญั ลงในสมุดจดบนั ทึก4. ข้ันขยายความรู้4.1 นกั เรียนสนทนาซกั ถามครูและตอบคาถามวา่ “ สนามไฟฟ้า ณ ตาแหน่งใดๆเนื่องจากประจุบนตวั นาทรงกลม จะข้ึนอยกู่ บั ปริมาณใดบา้ ง ” ( ทิง้ ช่วงใหน้ กั เรียนคิด ) เพื่อนาไปสู่การคานวณหาขนาดของสนามไฟฟ้า ณ ตาแหน่งใดๆ เน่ืองจากประจุบนตวั นาทรงกลม4.2 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปราย เกี่ยวกบั สมการ E = kQ และ ตวั อยา่ ง r2การหาขนาดของสนามไฟฟ้า ณ ตาแหน่งใดๆ รอบตวั นาที่มีประจุไฟฟ้า จากใบความรู้ 24.3 นกั เรียนร่วมกนั สืบคน้ แกป้ ัญหา ในใบงาน 2.34.4 นกั เรียนทาแบบฝึกทกั ษะ 2 5. ข้นั ประเมิน 5.1 นกั เรียนเขียนเร่ืองราวส้นั ๆ เกี่ยวกบั สนามไฟฟ้า ในใบงานกิจกรรม 2 5.2 นกั เรียนนาเรื่องส้ัน ของเพ่ือนมาอ่าน และประเมิน ครูนาเรื่องส้ันจากการประเมินของนกั เรียน โดยใหเ้ จา้ ของผลงานอา่ น แลว้ ร่วมอภิปราย 5.3 นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน

102ส่ือการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ จานวน สภาพการใช้สื่อ 1 ชุด ใชข้ ้นั สร้างความสนใจ รายการส่ือ 1 ชุด ใชข้ ้นั สร้างความสนใจ1. แบบทดสอบก่อนเรียน 1 ชุด ใชอ้ ธิบายและลงขอ้ สรุป ( ใชข้ ้นั ประเมิน )2. ใบงาน 1.1 1 ชุด ใชอ้ ธิบายและลงขอ้ สรุป3. แบบฝึกทกั ษะ 1 1 ชุด ใชส้ ารวจและคน้ หา4. ใบความรู้ 1 1 ชุด ใชข้ ยายความรู้และลงขอ้ สรุป5. ใบงาน 1.2 1 ชุด ใชข้ ้นั ประเมินและลงขอ้ สรุป6. ใบงาน 1.3 1 ชุด ใชข้ ้นั ประเมิน7. ใบกิจกรรม 18. แบบทดสอบหลงั เรียนการวดั ผลและประเมนิ ผล เครื่องมือทใี่ ช้ เกณฑ์ผ่าน รายการวดั ผลและประเมินผล สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน ตรวจใบงาน 1.1 – 1.3 -1. การวดั ผลคุณธรรม จิตพสิ ัย ตรวจแบบฝึกทกั ษะ 1 -2. การประเมินผลจากสภาพจริง ตรวจสมุดจด ร้อยละ 50 ข้ึนไป ตรวจใบกิจกรรม 1 -3. การวดั ผลหลงั เรียน แบบทดสอบรายจุดประสงคท์ ่ี 1 ระดบั 3 ข้ึนไป ร้อยละ 50 ข้ึนไปกจิ กรรมเสริมทกั ษะหรือซ่อมเสริม วธิ ีดาเนินกจิ กรรม รายการ 1. ครูควบคุมดูแลใหอ้ ยใู่ นกรอบระหวา่ งเรียน1. ปรับปรุง – แกไ้ ขขอ้ บกพร่องของผเู้ รียน 2. ครูคอยเสริมหรือแกไ้ ขเม่ือการอภิปรายของนกั เรียน ไมส่ มบูรณ์2. ส่งเสริมความรู้ความสามารถของผเู้ รียน 3. ครูช้ีแจงขอ้ บกพร่องในการทากิจกรรม 4. ครูเฉลยขอ้ สงสัย ท่ีนกั เรียนทาไม่ได้ 5. สอนซ่อมเสริมนกั เรียนท่ีไม่ผา่ นประเมินหลงั เรียน 1. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงาน 1 ชิ้นงาน

103รายวชิ าฟิ สิกส์เพิ่มเติม แบบบนั ทกึ ผลหลงั สอน ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 รหสั วชิ า ………… ผลการเรียนทค่ี าดหวงั ท่ี 2 คาบท่ี 9 - 16 เรื่อง ไฟฟ้าสถติ หัวข้อเรื่อง สนามไฟฟ้า1. ความเหมาะสมของแผนการสอนรายการประเมิน ระดบั คุณภาพ ขอ้ เสนอแนะ 43211. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้2. เน้ือหาสาระ3. กิจกรรมการเรียนการสอน4. สื่อการสอน5. การวดั ผลประเมินผล6. ความสอดคลอ้ ง ( ขอ้ 1 – 5 ) ( 4 = มากที่สุด , 3 = มาก , 2 = พอใช้ , 1 = ควรปรับปรุง )2. ผลการสอน………………………………………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………………3. ปัญหา / อุปสรรค…………………………………………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………….4. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………….………..ผสู้ อน (……………………………..) วนั ที่…....เดือน………………………..พ.ศ………….

104 ส่ือประกอบแผนจดั การเรียนรู้

แผนจดั การเรียนรู้

64ปฐมนิเทศก่อนเรียน

65 คาบที่ 1-2 ปฐมนิเทศ( เอกสารคาชี้แจง การเรียนรายวชิ า ฟิ สิกส์เพม่ิ เติม รหสั วชิ า ……… ) ทดสอบ แบบทดสอบกลางภาคก่อนเรียน

66 ข้อตกลงเกย่ี วกบั การเรียนการสอนชื่อ ……………………………………………………………….ช้นั ……………..เลขท่ี…………1. ช่ืออาจารยผ์ สู้ อน …………………………………………..2. สอนรายวชิ า ฟิ สิกส์เพ่มิ เติม รหสั วชิ า …………………….3. จานวน 4 คาบ ( ชว่ั โมง ) / สปั ดาห์ จานวนหน่วยการเรียน 2.0 หน่วยการเรียน4. การเรียนการสอนวชิ าน้ีตอ้ งมีสมุดอยา่ งนอ้ ย 2 เล่ม เป็น4.1 สมุดจดบนั ทึกวชิ าความรู้ท่ีครูสอน 1 เล่ม4.2 สมุดแบบฝึกหดั 1 เล่ม5. นกั เรียนจะตอ้ งเขา้ เรียนใหม้ ีเวลาเรียน ในรายวชิ าน้ี อยา่ งนอ้ ยร้อยละ 80 ของเวลาเรียนท้งั หมด5.1 ภาคเรียนน้ี มีเวลาเรียน 80 คาบ ( ชว่ั โมง )5.2 นกั เรียนตอ้ งมีเวลาเขา้ เรียนเตม็ เวลาอยา่ งนอ้ ย 64 คาบ ( ชว่ั โมง ) ( ขาดเรียนวชิ าน้ีอยา่ งมากได้เพียง 16 คาบ ) จึงจะมีเวลาเรียนครบร้อยละ 80 ของเวลาเรียนท้งั หมด6. การประเมินผลการเรียน อตั ราส่วนคะแนนระหวา่ งภาคเรียน : ปลายภาคเรียน = 80 : 206.1 แบ่งเป็นคะแนนเก็บระหวา่ งภาคเรียน 80 คะแนน ดงั น้ี1) คะแนนสอบรายผลการเรียนท่ีคาดหวงั 60 คะแนน คะแนนวดั ความรู้ความเขา้ ใจ 30 คะแนน คะแนนวดั กระบวนการเรียนรู้ 10 คะแนน คะแนนวดั เจตคติ 20 คะแนนพจิ ารณาจาก 1. การตรงตอ่ เวลา ( การมาเรียน ) 2. ความขยนั หมน่ั เพยี ร ( งานที่ไดร้ ับมอบหมายขณะเรียน ) 3. ความรับผดิ ชอบ ( งานท่ีไดร้ ับมอบหมายนอกเวลาเรียน ) 4. ความมีระเบียบ ( ความสะอาดของหอ้ งเรียน , การแต่งกาย ) 5. การปฏิบตั ิตามหลกั ธรรม ( ความซ่ือสัตย์ , กิริยามารยาท )2) คะแนนสอบกลางภาคเรียน 20 คะแนน6.2 คะแนนสอบปลายภาคเรียน 20 คะแนน6.3 คะแนนรวมตลอดภาคเรียน 100 คะแนน

677. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั รายวชิ า ฟิ สิกส์ 3 รหสั วชิ า ว 40203 ดงั ตารางต่อไปน้ี การประเมิน การประเมิน ความ ู้รท่ี ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั ทักษะ ุคณธรรม รวมคะแนน ่อาน ิคดวิเคราะ ์ห เ ีขยน ่ืสอความ1. สืบคน้ ขอ้ มลู อธิบายแรงระหวา่ งอนุภาคท่ีมีประจุ และนาไปแกป้ ัญหาได้ 30 10 20 60 / / /2. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายสนามไฟฟ้า และนาปริมาณท่ีเกี่ยวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้ 30 10 20 60 / / /3. สืบคน้ ขอ้ มลู อธิบายศกั ยไ์ ฟฟ้า และนาปริมาณท่ีเกี่ยวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้ 30 10 20 60 / / /4. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย ตวั เก็บประจุ ความจไุ ฟฟ้า และนาไปแกป้ ัญหาได้ 30 10 20 60 / / /5. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายการเคลื่อนที่ของประจุไฟฟ้าผา่ นตวั กลาง และนาปริมาณที่เก่ียวขอ้ งไป 30 10 20 60 / / /แกป้ ัญหาได้6. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายกฎของโอห์ม กฎของเคอร์ชอฟฟ์ และนาไปแกป้ ัญหาได้ 30 10 20 60 / / /7. สืบค้นขอ้ มูล อธิบายแรงเคล่ือนไฟฟ้าซ่ึงเป็ นงานต่อหน่ึงหน่วยประจุ และนาปริมาณท่ี 30 10 20 60 / / /เก่ียวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้8. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย วงจรวีทสโตนบริดส์ และนาปริมาณท่ีเกี่ยวขอ้ งไป 30 10 20 60 / / /แกป้ ัญหาได้9. สารวจตรวจสอบ วิเคราะห์ อธิบายแรงกระทาต่ออนุภาคในสนามแม่เหล็ก และนาปริมาณท่ี 30 10 20 60 / / /เก่ียวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้10. สารวจตรวจสอบ วิเคราะห์ อธิบายโมเมนต์ของแรงคู่ควบต่อลวดตวั นา ในบริเวณที่มี 30 10 20 60 / / /สนามแม่เหลก็ มอเตอร์ ไดนาโม และนาปริมาณท่ีเกี่ยวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้11. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนา และนาไปแกป้ ัญหาได้ 30 10 20 60 / / /12. สารวจตรวจสอบ วิเคราะห์ อธิบายหลกั การทางานของหมอ้ แปลงไฟฟ้าซ่ึงเป็ นอุปกรณ์ที่ใช้ 30 10 20 60 / / /เปล่ียนความตา่ งศกั ยไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั และนาไปแกป้ ัญหาได้คะแนนการประเมนิ ผล ความรู้/ทักษะ/คุณธรรม 360 120 240 720คะแนนการจริงประเมนิ ผล ความรู้/ทกั ษะ/คณุ ธรรมคะแนนการประเมินผลกลางภาค 60คะแนนการประเมนิ ผลปลายภาค 20 20 รวมคะแนน 100

68แบบทดสอบกลางภาคก่อนเรียน

69 วชิ า ฟิ สิกส์เพมิ่ เตมิ แบบทดสอบกลางภาค ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 6โรงเรียน………………. รหัสวชิ า ……………. จังหวดั ………………… อาเภอ…………………..คาชี้แจง1. แบบทดสอบฉบบั น้ี มี 2 ตอน 1.1. เป็นแบบปรนยั ชนิดเลือกตอบ 4 ตวั เลือก จานวน 24 ขอ้ คะแนนเตม็ 12 คะแนน 1.2. เป็นแบบอตั นยั 6 ขอ้ 8 คะแนนใหเ้ วลาทา 120 นาที2. การตอบแบบทดสอบ 2.1. ใหก้ าเคร่ืองหมาย  ลงใน  ใตต้ วั อกั ษร ก, ข, ค และ ง ที่เป็ นคาตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุดเพียง คาตอบเดียว ลงในกระดาษคาตอบ 2.2. ใหอ้ ธิบายเหตุผลที่ถูกตอ้ งและเกี่ยวขอ้ งที่สุด หรือแสดงวธิ ีทาลงในกระดาษคาตอบ3. หา้ มขีดเขียนหรือทาเครื่องหมายใดๆ ลงในแบบทดสอบ และเม่ือทาแบบทดสอบเสร็จแลว้ ใหน้ า แบบทดสอบพร้อมกระดาษคาตอบ ส่งกรรมการกากบั ห้องสอบทนั ท่ี4. ขอ้ สอบออกตามผลการเรียนท่ีคาดหวงั ท้งั หมด 6 ผลการเรียนท่ีคาดหวงั โดยแบง่ ไดด้ งั น้ี จ.1 สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายแรงระหวา่ งอนุภาคที่มีประจุ และนาปริมาณท่ีเกี่ยวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้ จ.2 สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายสนามไฟฟ้า และนาปริมาณท่ีเก่ียวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้ จ.3 สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายศกั ยไ์ ฟฟ้า และนาปริมาณที่เกี่ยวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้ จ.4 สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย ตวั เกบ็ ประจุ ความจุไฟฟ้า และนาปริมาณที่เก่ียวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้ จ.5 สืบคน้ ขอ้ มูล และอธิบายการเคล่ือนที่ของประจุไฟฟ้าผา่ นตวั กลาง จ.6 สืบคน้ ขอ้ มูล และอธิบายกฎของโอห์มและกฎของเคอร์ชอฟฟ์ 

70ตอนที่ 1ใหก้ าเครื่องหมาย  ลงใน  ใตต้ วั อกั ษร ก, ข, ค และ ง ท่ีเป็นคาตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งคาตอบเดียว ลงในกระดาษคาตอบ ( 14 คะแนน )ผลการเรียนทคี่ าดหวงั ที่ 1 สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายแรงระหวา่ งอนุภาคท่ีมีประจุ และนาปริมาณท่ีเก่ียวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้ ( 2 คะแนน )1. จงพจิ ารณาขอ้ ความต่อไปน้ี 1. เม่ือนาสาร ก มาถูกบั สาร ข พบวา่ สาร ก มีประจุไฟฟ้าเกิดข้ึน สาร ก ตอ้ งเป็ นฉนวน 2. เม่ือนาแทง่ แกว้ ถูกบั ผา้ ไหม จะพบวา่ วตั ถุท้งั สองมีประจุ การที่วตั ถุท้งั สองมีประจุได้ เนื่องจาก การถ่ายเทของประจุ 3. ถา้ จบั แทง่ โลหะถูกบั ผา้ ขนสัตว์ ( ถือวา่ คนเป็ นตวั นาและยนื เทา้ เปล่าบนพ้ืน ) ผลท่ีเกิดข้ึน จะ มีประจุอิสระบนแท่งโลหะแต่จะไมม่ ีประจุอิสระบนผา้ ขนสัตว์ขอ้ ความใดถูกก. ขอ้ 1 และ 2 ข. ขอ้ 2 และ 3 ค. ขอ้ 1 และ 3 ง. ขอ้ 1 , 2 และ 32. นาแผน่ พีวซี ี ที่มีประจุเขา้ ใกลล้ ูกพทิ สองลูกที่แขวนอยโู่ ดยผวิ ของลูกพทิ ท้งั สองสัมผสั กนั ต่อมาแยกลูกพทิ ท้งั สองออกห่างกนั 4 ซม. แลว้ จึงดึงแผน่ พีวซี ีออก ปรากฏวา่ ลูกพทิ ท้งั สองดูดกนั ดว้ ยแรงขนาด 0.9 N มีการถ่ายเทประจุชนิดใดและจานวนเท่าใดจากลูกพทิ ลูกหน่ึงไปยงั ลูกพิทอีกลูกหน่ึงก. ลบ , 2.5 x 1014 ตวั ข. บวก , 2.5 x 1014 ตวัค. ลบ , 2.5 x 1024 ตวั ง. บวก , 2.5 x 1024 ตวั3. ทรงกลมขนาดเท่ากนั 2 อนั แต่ละอนั มีรัศมี 1 ซม.ทรงกลมอนั แรกมีประจุ 5x10-5 C อนั หลงั - 1x10-5 C เม่ือใหท้ รงกลมท้งั สองแตะกนั แลว้ แยกนาไปวางไวใ้ หผ้ วิ ทรงกลมท้งั สองห่างกนั 2 ซม. ขนาดของแรงระหวา่ งทรงกลมคือก. 4,500 นิวตนั ข. 2,250 นิวตนั ค. 1,250 นิวตนั ง. 1,000 นิวตนั4. เม่ือวางลูกพทิ ท่ีมีประจุห่างกนั 3 cm ปรากฏวา่ มีแรงกระทาต่อกนั 5x10-4 N ถา้ วางลูกพิทท้งั สองห่างกนั 5 cm จะมีแรงกระทาระหวา่ งกนั กี่นิวตนัก. 1.8 x 10- 4 ข. 1.5 x 10- 4 ค. 0.6 x 10- 4 ง. 0.25 x 10- 4

71ผลการเรียนทค่ี าดหวงั ที่ 2 สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายสนามไฟฟ้า และนาปริมาณท่ีเกี่ยวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้ ( 2 คะแนน )5. ตวั นาทรงกลมรัศมี 10 cm มีประจุ 5 ไมโครคูลอมบ์ สนามไฟฟ้าท่ีระยะห่างจากผวิ 20 cm จะมีค่าเท่าไรก. 3x105 N/C ข. 4x105 N/C ค. 5x105 N/C ง. 6x105 N/C6. ท่ีตาแหน่งซ่ึงห่างจากจุดประจุหน่ึงเป็ นระยะ 3.0 cm มีขนาดของสนามไฟฟ้าเป็ น 8  105 N/Cจงหาขนาดของสนามไฟฟ้าที่ห่างจากจุดน้ี 4.0 cmก. 1.8x106 N/C ข. 2.25x105 N/C ค. 3.2 x105 N/C ง. 4.5x105 N/C7. ประจุขนาด + 4 C และ + 16 C วางห่างกนั 30 cm จงหาจุดที่สนามไฟฟ้าเป็ นศูนย์ก. ห่างจาก 4 C ไปทางขวา 10 ซม. ข. ห่างจาก + 16 C ไปทางขวา 10 ซม.ค. ห่างจาก 4 C ไปทางขวา 16 ซม. ง. ห่างจาก + 16 C ไปทางขวา 16 ซม8. สนามไฟฟ้าสม่าเสมอ(E) มีขนาด 104 นิวตนั /คูลอมบ์ มีทิศลงตามแนวด่ิง มีลูกพทิ มวล 0.02กรัม ลอยนิ่งอยใู่ นสนามไฟฟ้าน้ี ลูกพทิ มีประจุชนิดใดและค่าประจุก่ีคูลอมบ์ก. บวก , 2 นาโนคูลอมบ์ ข. ลบ , 2 นาโนคูลอมบ์ค. บวก , 20 นาโนคูลอมบ์ ง. ลบ , 20 นาโนคูลอมบ์ผลการเรียนทคี่ าดหวงั ที่ 3 สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายศกั ยไ์ ฟฟ้า และนาปริมาณท่ีเกี่ยวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้ ( 2 คะแนน )9. ในสนามไฟฟ้าสม่าเสมอดงั รูป ถา้ เล่ือนประจุไฟฟ้า 2 คูลอมบ์ จากระยะอนนั ตม์ าที่ A และ Bตอ้ งทางาน 100 จูล และ 60 จูล ตามลาดบั ถา้ จุด A และ B อยหู่ ่างกนั 0.4 เมตร ขนาดศกั ยไ์ ฟฟ้า Aตา่ งจากศกั ยไ์ ฟฟ้า B กี่โวลต์ A B Eก. ศูนย์ ข. 20 0.4 เมตร.ค. 30 ง. 5010. จุดประจุ +4  10-8 คูลอมบ์ และ -6  10-8 คูลอมบ์ อยหู่ ่างกนั 0.5 เมตร จงหาตาแหน่งบน แนวเส้นตรงซ่ึงผา่ นจุดประจุท้งั สองท่ีมีขนาดของศกั ยไ์ ฟฟ้าเป็นศูนย์ก. ห่างจาก +4  10-8 C ไปทางขวา 10 ซม. ข. ห่างจาก -6  10-8 C ไปทางขวา 10 ซม.ค. ห่างจาก +4  10-8 C ไปทางขวา 20 ซม. ง. ห่างจาก -6  10-8 C ไปทางขวา 20 ซม

7211. ตวั นาทรงกลมลูกหน่ึงรัศมีผิวใน 8 เซนติเมตร รัศมีผวิ นอก 10 เซนติเมตร มีประจุ 8.0 x 10-10 คูลอมบ์ ศกั ยไ์ ฟฟ้าภายในทรงกลมเป็นเทา่ ใดก. 64 V ข. 72 V ค. 80 V ง. 90 V12. วางประจุไฟฟ้า 3x10-4 C ท่ีตาแหน่ง X = -2 m , Y = 0 m และประจุลบขนาดเทา่ กนั ที่ตาแหน่ง X= 0 m , Y = 3 m ศกั ยไ์ ฟฟ้าที่ตาแหน่งจุดกาเนิด ( 0, 0 ) จะเป็นก่ีโวลต์ (0,3) - 3x10-4 Cก. 9.5x105 V ข. 8.5x105 V 3x10-4 C (0,0)ค. 6.5x105 V ง. 3.5x105 V ( -2 , 0 )ผลการเรียนทคี่ าดหวงั ที่ 4 สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย ตวั เก็บประจุ ความจุไฟฟ้า และนาปริมาณที่เก่ียวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้ ( 2 คะแนน )13. ตวั เกบ็ ประจุขนาด 50 ไมโครฟารัด ท่ีมีความต่างศกั ย์ 16 โวลต์ และตวั เก็บประจุขนาด 30 ไมโครฟารัด ท่ีมีความต่างศกั ย์ 20 โวลต์ จะมีจานวนประจุต่างกนั กี่คูลอมบ์ก. 16 x 10- 4 ข. 8 x 10- 4 ค. 6 x 10- 4 ง. 2 x 10- 414. ตวั เก็บประจุขนาดความจุ 6 ไมโครฟารัด นามาตอ่ กบั แบตเตอร่ีขนาด 12 โวลต์ จะมีพลงั งานสะสมในตวั เกบ็ ประจุก่ีไมโครจูลก. 36 ข. 144 ค. 432 ง. 86415. ตวั เกบ็ ประจุ 3 ตวั มีความจุ C1 = 2 F , C2 = 3 F และ C3 = 5 F นามาต่อกนั แบบอนุกรมแลว้นาไปตอ่ กบั ความต่างศกั ย์ 310 โวลต์ จงหาประจุไฟฟ้าบนตวั เกบ็ ประจุ C3 ในหน่วยคูลอมบ์ก. 1.0 x 10- 4 ข. 1.5 x 10- 4 ค. 3.0 x 10- 4 ง. 0.6 x 10- 416. ตวั เกบ็ ประจุขนาด 3 F และ 6 F เมื่อนามาต่อขนานกนั แลว้ นาไปต่อ กบั ความต่างศกั ย์ 15โวลตจ์ ะสามารถเก็บประจุไดต้ ่างจากการนาตวั เก็บประจุขนาด 3 F และ 6 F ท่ีนามาตอ่อนุกรมกนั แลว้ นาไปต่อกบั ความตา่ งศกั ย์ 15 โวลต์ ก่ีคูลอมบ์ก. 0.30 x 10- 4 ข. 1.05 x 10- 4 ค. 1.35 x 10- 4 ง. 1.65 x 10- 4

73ผลการเรียนทคี่ าดหวงั ท่ี 5 สืบคน้ ขอ้ มูล และอธิบายการเคล่ือนท่ีของประจุไฟฟ้าผา่ นตวั กลาง17. เมื่อทาใหป้ ลายท้งั สองขา้ งของแท่งโลหะมีความตา่ งศกั ยจ์ ะมีก. การเคล่ือนที่ของอิเล็กตรอนอิสระในแท่งโลหะจากปลายที่มีศกั ยไ์ ฟฟ้าสูงไปยงั ปลายท่ีมีศกั ย์ ไฟฟ้าต่าข. การถ่ายเทประจุไฟฟ้าผา่ นพ้ืนที่หนา้ ตดั ของแท่งโลหะจากปลายที่มีศกั ยไ์ ฟฟ้าสูงไปยงั ปลายที่มี ศกั ยไ์ ฟฟ้าต่าค. กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นแท่งโลหะจากปลายท่ีมีศกั ยไ์ ฟฟ้าสูงไปยงั ปลายที่มีศกั ยไ์ ฟฟ้าต่าง. การเคล่ือนที่ของประจุไฟฟ้าบวกไปยงั ข้วั ลบและประจุไฟฟ้าลบไปยงั ข้วั บวก18. จงพิจารณาขอ้ ความต่อไปน้ี1. การนาไฟฟ้าในหลอดบรรจุก๊าซ เกิดจากการถ่ายเทประจุไฟฟ้าบวก และประจุไฟฟ้าลบ2. การนาไฟฟ้าในแทง่ โลหะเกิดจากการถ่ายเทประจุไฟฟ้าลบ3. การนาไฟฟ้าในอิเลก็ โทรไลต์ เกิดจากการเคลื่อนที่ของประจุไฟฟ้าบวกอยา่ งเดียวเทา่ น้นัคาตอบที่ถูกคือก. ขอ้ 1 และ 2 ข. ขอ้ 2 และ 3 ค. ขอ้ 1 และ 3 ง. ขอ้ 1, 2 และ 319. กระแสไฟฟ้าขนาดคงที่ 1.6 แอมแปร์ ไหลในลวดตวั นา 2 นาที อิเลก็ ตรอนที่ถ่ายเทในตวั นาน้ีเป็นก่ีอนุภาคก. 0.8 x 1021 ข. 1.2 x 1021 ค. 1.6 x 1021 ง. 2.0 x 102120. สารตวั นาหน่ึงมีประจุ +15 คูลอมบ์ เคล่ือนท่ีจากข้วั บวกไปยงั ข้วั ลบ ในเวลา 0.5 นาที และมีประจุ–45 คูลอมบ์ เคล่ือนที่จากข้วั ลบไปยงั ข้วั บวก ในเวลาเดียวกนั จงหาขนาดของกระแสไฟฟ้าในลวดตวั นาน้ีก. 2 แอมแปร์ ข. 3 แอมแปร์ ค. 9 แอมแปร์ ง. 12 แอมแปร์ผลการเรียนทค่ี าดหวงั ท่ี 6 สืบคน้ ขอ้ มูล และอธิบายกฎของโอห์มและกฎของเคอร์ชอฟฟ์21. จากรูป จงหาความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้าระหวา่ ง AB เม่ือ ความต่างศกั ยร์ ะหวา่ ง CD เทา่ กบั 18 V 9ก. 10 V ข. 20 V 4ค. 30 V ง. 36 V A C 18 D B

7422. จากรูป ความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้าระหวา่ งจุด A กบั B = 6 โวลต์ ความตา่ งศกั ยร์ ะหวา่ ง A กบั D เทา่ กบั34 โวลต์ จงหาความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้าระหวา่ ง A กบั C เทา่ กบั ก่ีโวลต์ I 3  R 12 ก. 14 V ABCD ง. 8 V ข. 12 V ค. 10 Vจากรูป ใชต้ อบคาถาม ขอ้ 23 – ขอ้ 24 I 10 20ใหก้ ระแสไฟฟ้าที่ผา่ นตวั ตา้ นทาน 10  = 6 A 3023. จงหากระแสไฟฟ้าท่ีผา่ นตวั ตา้ นทาน 30 โอห์มมีคา่ กี่แอมแปร์ ง. 110ก. 11 ข. 6ค. 3 ง. 2 A B24. ความตา่ งศกั ยร์ ะหวา่ งจุด A กบั จุด B มีค่ากี่โวลต์ก. 10 ข. 60 ค. 90ตอนที่ 2 จงเลือกจากคาถามในตอนท่ี 1 มาแสดงวธิ ีทา 6 ขอ้ โดยเลือกผลการเรียนที่คาดหวงั ละ 1 ขอ้ ( 8 คะแนน ) ผลการเรียนที่คาดหวงั ที่ 2 และ 3 ขอ้ ละ 2 คะแนน ผลการเรียนท่ี คาดหวงั ที่ 1 , 4 , 5 และ 6 ขอ้ ละ 1 คะแนน

75 รายวชิ าฟิ สิกส์เพมิ่ เติม เฉลยแบบทดสอบ ภาคเรียนที่ …… ปี การศึกษา………..รหสั วชิ า …………………… กลางภาค ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 เฉลยแบบทดสอบ ข้อ คาตอบ 1ก 2ก 3ข 4ก 5ข 6ง 7ก 8ง 9ข 10 ค 11 ข 12 ง 13 ง 14 ค 15 ค 16 ข 17 ข 18 ข 19 ค 20 ง 21 ข 22 ก 23 ข 24 ก

76แบบทดสอบปลายภาคก่อนเรียน

77 วชิ า ฟิ สิกส์เพม่ิ เติม แบบทดสอบปลายภาค ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ….โรงเรียน…………….. จังหวดั ………………… รหสั วชิ า …………… อาเภอ………………คาชี้แจง1. แบบทดสอบฉบบั น้ี มี 2 ตอน 1.1. เป็นแบบปรนยั ชนิดเลือกตอบ 4 ตวั เลือก จานวน 24 ขอ้ คะแนนเตม็ 12 คะแนน 1.2. เป็นแบบอตั นยั 6 ขอ้ 8 คะแนนใหเ้ วลาทา 120 นาที2. การตอบแบบทดสอบ 2.1. ใหก้ าเครื่องหมาย  ลงใน  ใตต้ วั อกั ษร ก, ข, ค และ ง ที่เป็ นคาตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุดเพียง คาตอบเดียว ลงในกระดาษคาตอบ 2.2. ใหอ้ ธิบายเหตุผลท่ีถูกตอ้ งและเก่ียวขอ้ งท่ีสุด หรือแสดงวธิ ีทาลงในกระดาษคาตอบ3. หา้ มขีดเขียนหรือทาเคร่ืองหมายใดๆ ลงในแบบทดสอบ และเมื่อทาแบบทดสอบเสร็จแลว้ ใหน้ า แบบทดสอบพร้อมกระดาษคาตอบ ส่งกรรมการกากบั ห้องสอบทนั ที่4. ขอ้ สอบออกตามผลการเรียนท่ีคาดหวงั ท้งั หมด 6 ผลการเรียนที่คาดหวงั โดยแบง่ ไดด้ งั น้ี จ.7 สืบคน้ ขอ้ มูล และอธิบายแรงเคล่ือนไฟฟ้าซ่ึงเป็นงานต่อหน่ึงหน่วยประจุ จ.8 สืบคน้ ขอ้ มูล และอธิบายวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย และ วงจรวที สโตนบริดส์ จ.9 สารวจตรวจสอบ วเิ คราะห์และอธิบายแรงกระทาต่ออนุภาค ในสนามแมเ่ หลก็ จ.10 สารวจตรวจสอบ วิเคราะห์และอธิบายโมเมนต์ของแรงคู่ควบต่อลวดตวั นา ในบริเวณที่มี สนามแมเ่ หล็ก มอเตอร์ ไดนาโม จ.11 สืบคน้ ขอ้ มูล และอธิบายแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหน่ียวนา จ.12 สารวจตรวจสอบวิเคราะห์และอธิบายหลกั การทางานของหมอ้ แปลงไฟฟ้าซ่ึงเป็ นอุปกรณ์ท่ี ใชเ้ ปลี่ยนความตา่ งศกั ยไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั 

78ตอนท่ี 1 ใหก้ าเคร่ืองหมาย  ลงใน  ใตต้ วั อกั ษร ก, ข, ค และ ง ที่เป็ นคาตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุดเพียงคาตอบเดียว ลงในกระดาษคาตอบ ( 12 คะแนน )ผลการเรียนทคี่ าดหวงั ท่ี 7 สืบคน้ ขอ้ มูล และอธิบายแรงเคล่ือนไฟฟ้าซ่ึงเป็นงานต่อหน่ึงหน่วยประจุ1. เซลลไ์ ฟฟ้าเซลลห์ น่ึง มีแรงเคลื่อนไฟฟ้า 2 โวลต์ ความตา้ นทานภายใน 2 โอห์ม ตอ่ เป็ นวงจรดว้ ยลวดเส้นหน่ึงมีความตา้ นทาน 3 โอห์ม จงหากระแสไฟฟ้าในวงจรก. 0.4 A ข. 1.0 Aค. 1.5 A ง. 2.5 A2. จากรูป จงหาความตา่ งศกั ยร์ ะหวา่ งข้วั เซลล์ 9 4 AC 18 D Bก. 24 V ข. 12 Vค. 10 V ง. 8 V 12V,2จากรูป ใชต้ อบคาถาม ขอ้ 3 – ขอ้ 4 6 6 3. จงหากระแสไฟฟ้าที่ผา่ นตวั ตา้ นทาน 8 โอห์มก. 0.4 A ข. 0.3 A AC 3 D Bค. 0.2 A ง. 0.1 A 10V,1 4. จงหาความต่างศกั ยร์ ะหวา่ งข้วั เซลล์ก. 9.6 V ข. 9.7 Vค. 9.8 V ง. 9.9 V 8ผลการเรียนทคี่ าดหวงั ท่ี 8 สืบคน้ ขอ้ มูล และอธิบายวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย และ วงจรวที สโตนบริดส์5. จงหากระแสไฟฟ้าท่ีผา่ นความตา้ นทาน 8 โอห์ม เป็นก่ีแอมแปร์ 8 V, 1  5  7 8 V, 2 ก. 0.2 ข. 0.4 4 8ค. 0.5 ง. 0.7

796. จากรูป จงหากระแสไฟฟ้าในวงจร เป็นก่ีแอมแปร์ 3  15 ก. 1.0 A ข. 1.2 A 9 V, 2  10  18 ค. 1.5 A ง. 1.8 A 10 V, 2 จากรูป ใชต้ อบคาถาม ขอ้ 7 – ขอ้ 8 9 V, 2  2 4 V, 1  17. จงหากระแสไฟฟ้าในวงจร 16V 1 4Vก. 1.8 A ข. 1.2 A 3  4 2 1ค. 0.6 A ง. 0.2 A 48. จงหาความตา่ งศกั ยร์ ะหวา่ ง ข้วั เซลล์ 16 V, 3 ก. 10.6 V ข. 12.4 V ค. 14.8 V ง. 15.4 Vผลการเรียนท่ีคาดหวังท่ี 9 สารวจตรวจสอบ วิเคราะห์และอธิบายแรงกระทาต่ออนุภาค ในสนามแม่เหล็ก9. อนุภาคแอลฟาซ่ึงมีประจุ 3.2x10-19 คูลอมบ์ กาลงั เคลื่อนที่ดว้ ยความเร็ว 100 m/s ในแนวทามุม 30องศากบั สนามแม่เหลก็ ขนาด 0.2 เทสลา ขนาดของแรงท่ีกระทาต่อประจุมีขนาด นิวตนัก. 5.5x10-18 N ข. 6.4x10-18 N ค. 3.2x10-18 N ง. 4.5x10-18 N10. ประจุไฟฟ้า 4 x 10-15 คูลอมบ์ เคล่ือนท่ีดว้ ยความเร็ว 1.5 x 105 เมตรตอ่ วนิ าที ผา่ นเขา้ ไปในบริเวณท่ีมีสนามแมเ่ หลก็ ขนาด 2 เทสลา โดยทิศของความเร็วต้งั ฉากกบั ทิศของสนามแมเ่ หล็ก ขนาดของแรงท่ีกระทาตอ่ ประจุไฟฟ้าน้ีมีค่าเทก่ บั ก่ีนิวตนัก. 1.2 x 10- 9 ข. 2.4 x 10- 9 ค. 3.0 x 10- 9 ง. 6.0 x 10- 911. อนุภาค A มีประจุไฟฟ้า เคลื่อนที่ดว้ ยความเร็ว 2.5 x 107 เมตรต่อวินาที ในทิศต้งั ฉากกบัสนามแม่เหล็กที่มีขนาด 2 เทสลา และมีแรงขนาด 1 x 10-11 นิวตนั กระทาต่ออนุภาค A จะมีประจุไฟฟ้าบนอนุภาค A เทา่ กบั ก่ีคูลอมบ์ก. 1 x 10-18 ข. 1 x 10-17 ค. 0.2 x 10-18 ง. 0.2 x 10-17

8012. เส้นลวดยาว 8 เซนติเมตร วางตวั อยใู่ นแนวต้งั ฉากกบั สนามแม่เหล็กท่ีมีขนาด 1 เทสลา ถา้ ลวดตวั นามีกระแสไฟฟ้าผา่ น 4 แอมแปร์ มีมวลเท่ากบั 32 กรัม จะเกิดความเร่งกบั ลวดน้ีเท่ากบั กี่เมตรต่อวนิ าทีกาลงั สองก. 4 ข. 6 ค. 8 ง. 10ผลการเรียนท่คี าดหวังท่ี 10 สารวจตรวจสอบ วิเคราะห์และอธิบายโมเมนตข์ องแรงคู่ควบต่อลวดตวั นา ในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็ก มอเตอร์ ไดนาโม13. ขดลวดวงกลมมีจานวน 100 รอบ รัศมีเฉล่ียเท่ากบั 0.1 m วางอยใู่ นบริเวณที่มีสนามแม่เหล็ก2 เทสลา โดยระนาบของขดลวดทามุม 60 องศากบั สนามแมเ่ หล็ก เม่ือผา่ นกระแสไฟฟ้าเขา้ ไปในขดลวด ทาใหเ้ กิดโมเมนตข์ องแรงคู่ควบ 22.44 N.m จงหากระแสที่ไหลผา่ นขดลวดน้ีก. 1.74 A ข. 7.14 A ค. 4.17 A ง. 0.174 A14. ขดลวดตวั นารูปส่ีเหลี่ยมจตั ุรัสขนาด 4 x 4 ตารางเซนติเมตร จานวน 10 รอบ วางอยูใ่ นบริเวณท่ีมีสนามแม่เหล็กสม่าเสมอขนาด 0.5 เทสลา โดยระนาบของขดลวดอยู่ในแนวเดียวกบั ทิศของสนามแมเ่ หล็ก เม่ือใหก้ ระแสไฟฟ้า 5 แอมแปร์ ผา่ นขดลวดน้ี โมเมนตข์ องแรงคู่ควบจะมีขนาดกี่นิวตนั .เมตรก. 0 ข. 0.01 ค. 0.04 ง. 10015. จงหาโมเมนตม์ ากท่ีสุดของขดลวดพ้ืนท่ี 100 ตารางเซนติเมตร จานวน 400 รอบ มีกระแสไฟฟ้าผา่ น 0.2 แอมแปร์ วางอยใู่ นสนามแมเ่ หลก็ 0.5 เทสลาก. 0.2 N.m ข. 0.24 N.m ค. 0.32 N.m ง. 0.4 N.m16. ขดลวดตวั นาส่ีเหลี่ยมจตั ุรัสยาวดา้ นละ 4 ซม มีจานวน 100 รอบ มีกระแสไฟฟ้าผา่ น 10 แอมแปร์ ขดลวดน้ีอยู่ในสนามแม่เหล็กคงที่ 2x10-2 เทสลา จงหาขนาดโมเมนต์ของแรงคู่ควบเม่ือระนาบ ขดลวดทามุม 60 องศากบั สนามแมเ่ หลก็ก. 0.8 x 10-2 N.m ข. 1.6 x 10-2 N.m ค. 2.4 x 10-2 N.m ง. 3.2 x 10-2 N.m

81ผลการเรียนทคี่ าดหวงั ที่ 11 สืบคน้ ขอ้ มูล และอธิบายแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนา17. การเหนี่ยวนาแม่เหลก็ ไฟฟ้า หมายความวา่1). การท่ีกระแสไฟฟ้าในเส้นลวดตวั นาตดั เส้นแรงแม่เหล็ก2). การท่ีเส้นลวดตวั นาเคลื่อนท่ีตดั ฟลกั ซ์แม่เหลก็ เกิดกระแสไฟฟ้าในตวั นา3). การที่ฟลกั ซ์แมเ่ หลก็ มีค่าเปล่ียนแปลงผา่ นเส้นลวดตวั นา เกิดกระแสไฟฟ้าในตวั นา4). การที่สนามแมเ่ หล็กที่เกิดข้ึนเน่ืองจากกระแสไฟฟ้าในเส้นลวดตวั นากระทากบั สนามแม่เหล็กภายนอกที่เส้นลวดตวั นาวางอยู่ขอ้ ท่ีถูกตอ้ งคือก. ขอ้ 1 และ 2 ข. ขอ้ 2 เทา่ น้นั ค. ขอ้ 2 และ 3 ง. ถูกทุกขอ้18. จงพจิ ารณาขอ้ ความตอ่ ไปน้ี1. ลวดวงกลม เมื่ออยใู่ นสนามแมเ่ หลก็ คงที่ จะเกิดกระแสเหน่ียวนาคงท่ี2. ลวดวงกลม เมื่ออยใู่ นสนามแม่เหล็กท่ีเปล่ียนแปลง จะทาใหเ้ กิดกระแสเหน่ียวนาขอ้ ที่ถูกตอ้ งคือก. ขอ้ 1 เทา่ น้นั ข. ขอ้ 2 เทา่ น้นั ค. ขอ้ 1 และ ขอ้ 2 ง. ผดิ ท้งั สองขอ้19. จงพิจารณาวา่ รูปใดแสดงทิศทางของกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนาในลวดวงกลมไดถ้ ูกตอ้ ง เม่ือเคล่ือน แท่งแม่เหล็กผา่ นขดลวดก. N ข. N S S I I ค. ง. I I20. จากผลการทดลองเรื่องกระแสเหนี่ยวนา ไดผ้ ลดงั น้ี1). ถา้ เคลื่อนแทง่ แม่เหลก็ เขา้ หาขดลวด จะเกิดกระแสเหน่ียวนาในขดลวด2). ถา้ แทง่ แม่เหล็กมีแรงข้วั สูง กระแสในขดลวดจะมากข้ึนทา่ นเห็นวา่ ขอ้ ความดงั กล่าวเป็นอยา่ งไรก. ผดิ ท้งั คู่ ข. ขอ้ ความ ขอ้ 1 ถูก แต่ ขอ้ 2 ผดิค. ถูกท้งั คู่ แต่ ขอ้ 2 ไมส่ มั พนั ธ์กบั ขอ้ 1 ง. ถูกท้งั คู่ และ ขอ้ 2 เป็นผลสืบเน่ืองจาก ขอ้ 1

82ผลการเรียนที่คาดหวงั ท่ี 12 สารวจตรวจสอบวิเคราะห์และอธิบายหลกั การทางานของหมอ้ แปลงไฟฟ้าซ่ึงเป็นอุปกรณ์ที่ใชเ้ ปล่ียนความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั21. ขดลวดทุติยภูมิของหมอ้ แปลงตวั หน่ึงมีความตา้ นทาน 100 โอห์ม ระหว่างปลายท้งั สองของขดลวดน้ีตอ่ เขา้ กบั เคร่ืองตม้ น้า ซ่ึงตวั ตา้ นทานมีขนาด 200 โอห์ม กินกระแสสูงสุด 5 แอมแปร์ ถา้ประสิทธิภาพของหมอ้ แปลงมีค่า 100 % กาลงั ไฟฟ้าที่ใส่ให้แก่ขดลวดปฐมภูมิมีค่าเท่าไร ในหน่วยกิโลวตั ต์ก. 1.5 ข. 2.5 ค. 5.0 ง. 7.522. หมอ้ แปลงไฟฟ้าอนั หน่ึง ขดลวดปฐมภูมิมีจานวน 500 รอบ ขดลวดทุติยภูมิมีจานวน 300 รอบ ถา้ขดลวดปฐมภูมิต่อกบั ไฟฟ้า 220 โวลต์ อยากทราบวา่ ความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้าท่ีไดจ้ าก หมอ้ แปลงน้ีมีคา่ เทา่ ใด และหมอ้ แปลงน้ีเป็นชนิดใดก. 88 โวลต์ , แปลงลง ข. 132 โวลต์ , แปลงลงค. 264 โวลต์ , แปลงข้ึน ง. 352 โวลต์ , แปลงข้ึน23. หมอ้ แปลงไฟฟ้าจาก 2200 โวลต์ เป็ น 220 โวลต์ เกิดกาลงั ไฟฟ้าท่ีขดลวดทุติยภูมิ 8 กิโลวตั ต์หมอ้ แปลงน้ีมีประสิทธิภาพ 80 % ถา้ ขดลวดปฐมภูมิมีจานวน 5000 รอบ กาลงั ไฟฟ้าท่ีขดลวดปฐมภูมิเป็ นเท่าใดก. 15 kW ข. 12 kW ค. 10 kW ง. 8 kW24. หมอ้ แปลงเคร่ืองหน่ึงมีขดลวดปฐมภูมิจานวน 80 รอบ ขดลวดทุติยภูมิจานวน 240 รอบ ขดลวดทุติยภูมิต่ออยู่กบั ความตา้ นทาน 60 โอห์ม ถา้ ให้พลงั งานไฟฟ้าแก่ขดลวดปฐมภูมิ 100 จูลต่อคูลอมบ์ จะมีกระแสไฟฟ้าผา่ นตวั ตา้ นทาน 60 โอห์ม เท่ากบั ก่ีแอมแปร์ก. 1 ข. 3 ค. 5 ง. 7ตอนที่ 2 จงเลือกจากคาถามในตอนที่ 1 มาแสดงวธิ ีทา 6 ขอ้ โดยเลือกผลการเรียนท่ีคาดหวงั ละ 1 ขอ้ ( 8 คะแนน ) ผลการเรียนที่คาดหวงั ที่ 8 และ 12 ขอ้ ละ 2 คะแนน ผลการเรียนท่ี คาดหวงั ที่ 7 , 9 , 10 และ 11 ขอ้ ละ 1 คะแนน

83รายวชิ าฟิ สิกส์เพมิ่ เติม เฉลยแบบทดสอบ ภาคเรียนที่ …… ปี การศึกษา………..รหสั วชิ า …………………… ปลายภาค ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 เฉลยแบบทดสอบ ข้อ คาตอบ 1ก 2ค 3ง 4ง 5ค 6ค 7ข 8ข 9ค 10 ก 11 ค 12 ง 13 ข 14 ค 15 ง 16 ข 17 ค 18 ข 19 ข 20 ข 21 ง 22 ข 23 ค 24 ค

แผนจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง ศักย์ไฟฟ้า

100รายวชิ า ฟิ สิกส์เพ่มิ เติม แผนจดั การเรียนรู้ท่ี 3 ผลการเรียนที่คาดหวงั ที่ 3รหสั วชิ า ………….. ช้นั ม.6 สปั ดาห์ที่ 5 – 6 คาบที่ 17 - 24 เร่ือง ไฟฟ้าสถิต หัวข้อเร่ือง ศักย์ไฟฟ้าผลการเรียนทค่ี าดหวงั สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายศกั ยไ์ ฟฟ้า และนาปริมาณท่ีเก่ียวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้แนวความคดิ หลกั เม่ือประจุอยูท่ ี่ตาแหน่งต่างๆในบริเวณท่ีมีสนามไฟฟ้าจะมีพลงั งานศกั ย์ เรียกวา่ พลงั งานศกั ยไ์ ฟฟ้า พลงั งานศกั ยไ์ ฟฟ้าท่ีตาแหน่งใดๆต่อหน่ึงหน่วยประจุ เรียกวา่ ศกั ยไ์ ฟฟ้าที่ตาแหน่งน้นัและขนาดของศกั ยไ์ ฟฟ้า ณ ตาแหน่งใดๆ จะข้ึนกบั ปริมาณประจุไฟฟ้า และระยะห่างจากประจุศกั ยไ์ ฟฟ้ามีคา่ เป็นบวกหรือลบข้ึนอยกู่ บั ชนิดของประจุที่ทาใหเ้ กิดสนามไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้าที่ตาแหน่งต่าง ๆ ภายในตัวนาทรงกลมมีค่าเท่ากันเท่ากับศักย์ไฟฟ้าท่ีผิวศกั ยไ์ ฟฟ้าที่นบั จากผวิ นอกออกไปมีคา่ เท่ากบั ศกั ยไ์ ฟฟ้าของประจุ ที่เสมือนวา่ เกิดจากประจุท้งั หมดไปรวมกนั ที่จุดศูนยก์ ลางของทรงกลมน้นั ความสัมพนั ธ์ของความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้าระหวา่ งตาแหน่งใดๆ ในแนวขนานกบั สนามไฟฟ้าจะข้ึนอยกู่ บั ระยะห่างระหวา่ งความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้ากบั ขนาดของสนามไฟฟ้าสม่าเสมอกระบวนจัดการเรียนรู้ 1. ข้นั สร้างความสนใจ 1.1 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปราย เก่ียวกบั พลงั งานศกั ยโ์ นม้ ถ่วงของวตั ถุอยู่ ณตาแหน่งใดๆ 1.2 นกั เรียนตอบขอ้ ซกั ถามของครูวา่ “ ในการเคล่ือนวตั ถุ จากตาแหน่งหน่ึงไปยงัอีกตาแหน่งหน่ึง จะมีการทางานอยา่ งไร ” ( ทิง้ ช่วงใหน้ กั เรียนคิด ) 1.3 นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายในแต่ละกลุ่ม พร้อมท้งั บนั ทึกความเห็นของกลุ่มในใบงาน 3.1 เฉพาะขอ้ 1 และขอ้ 2 (เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดแ้ สดงความคิดเห็นโดยยงั ไม่เนน้ ถูกผดิ ) 1.4 ตวั แทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอความเห็นของกลุ่ม ( ของแต่ละคนในกลุ่มโดยตวั แทนของกลุ่ม และขอ้ สรุปของกลุ่ม ) 1.5 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปรายเกี่ยวกบั “ ในการเคลื่อนวตั ถุ จากตาแหน่งหน่ึงไปยงั อีกตาแหน่งหน่ึง จะมีการทางานอยา่ งไร ” ที่ครูเตรียมให้ และบนั ทึกลงในใบงาน 3.1

1011.6 นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน จานวนขอ้ สอบ 10 ขอ้1.7 แจง้ ใหน้ กั เรียนทราบวา่ จะไดศ้ ึกษาเกี่ยวกบั ศกั ยไ์ ฟฟ้า 2. ข้นั สารวจและค้นหา 2.1 นกั เรียนสืบคน้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั ศกั ยไ์ ฟฟ้า จากใบความรู้ 3 พร้อมกบั ใบงาน 3.2แลว้ สรุปสาระสาคญั บนั ทึกลงในสมุดจดบนั ทึกและตอบคาถาม 2.2 สุ่มนกั เรียน 1 กลุ่มเสนอผลการสืบคน้ ขอ้ มูล 3. ข้ันอธิบายและลงข้อสรุป 3.1 นกั เรียนนาขอ้ มูลจากข้นั การสืบคน้ ขอ้ มูล มาอภิปรายร่วมกบั ครู 3.2 ครูอธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกบั ศกั ยไ์ ฟฟ้า เพ่ือให้นกั เรียนสรุปสาระสาคญั ลงในสมุดจดบนั ทึก4. ข้นั ขยายความรู้4.1 นกั เรียนสนทนาซักถามครูและตอบคาถามวา่ “ ศกั ยไ์ ฟฟ้า ณ ตาแหน่งใดๆเนื่องจากประจุบนตวั นาทรงกลม จะข้ึนอยกู่ บั ปริมาณใดบา้ ง ” ( ทิง้ ช่วงใหน้ กั เรียนคิด ) เพ่ือนาไปสู่การคานวณหาขนาดของศกั ยไ์ ฟฟ้า ณ ตาแหน่งใดๆ เน่ืองจากประจุบนตวั นาทรงกลม kQ4.2 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปราย เกี่ยวกบั สมการ V = r และ ตวั อยา่ งการหาขนาดของศกั ยไ์ ฟฟ้า ณ ตาแหน่งใดๆ รอบตวั นาที่มีประจุไฟฟ้า จากใบความรู้ 34.3 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปรายเกี่ยวกบั สมการ E = V และ ตวั อยา่ ง dการหาขนาดของความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้าของแผน่ โลหะคูข่ นานที่มีประจุไฟฟ้า จากใบความรู้ 34.4 นกั เรียนร่วมกนั สืบคน้ แกป้ ัญหา ในใบงาน 3.34.5 นกั เรียนทาแบบฝึกทกั ษะ 3 5. ข้นั ประเมนิ 5.1 นกั เรียนเขียนเร่ืองราวส้นั ๆ เกี่ยวกบั ศกั ยไ์ ฟฟ้า ในใบกิจกรรม 3 5.2 นกั เรียนนาเร่ืองส้ัน ของเพื่อนมาอ่าน และประเมิน ครูนาเร่ืองส้ันจากการประเมินของนกั เรียน โดยใหเ้ จา้ ของผลงานอา่ น แลว้ ร่วมอภิปราย 5.3 นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน

102ส่ือการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ จานวน สภาพการใช้ส่ือ 1 ชุด ใชข้ ้นั สร้างความสนใจ รายการส่ือ 1 ชุด ใชข้ ้นั สร้างความสนใจ1. แบบทดสอบก่อนเรียน 1 ชุด ใชอ้ ธิบายและลงขอ้ สรุป ( ใชข้ ้นั ประเมิน )2. ใบงาน 3.1 1 ชุด ใชอ้ ธิบายและลงขอ้ สรุป3. แบบฝึกทกั ษะ 3 1 ชุด ใชส้ ารวจและคน้ หา4. ใบความรู้ 3 1 ชุด ใชข้ ยายความรู้และลงขอ้ สรุป5. ใบงาน 3.2 1 ชุด ใชข้ ้นั ประเมินและลงขอ้ สรุป6. ใบงาน 3.3 1 ชุด ใชข้ ้นั ประเมิน7. ใบกิจกรรม 38. แบบทดสอบหลงั เรียนการวดั ผลและประเมนิ ผล เครื่องมือทใี่ ช้ เกณฑ์ผ่าน รายการวดั ผลและประเมินผล สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน ตรวจใบงาน 3.1 – 3.3 -1. การวดั ผลคุณธรรม จิตพสิ ัย ตรวจแบบฝึกทกั ษะ 3 -2. การประเมินผลจากสภาพจริง ตรวจสมุดจด ร้อยละ 50 ข้ึนไป ตรวจใบกิจกรรม 3 -3. การวดั ผลหลงั เรียน แบบทดสอบรายจุดประสงคท์ ี่ 3 ระดบั 3 ข้ึนไป ร้อยละ 50 ข้ึนไปกจิ กรรมเสริมทกั ษะหรือซ่อมเสริม วธิ ีดาเนินกจิ กรรม รายการ 1. ครูควบคุมดูแลใหอ้ ยใู่ นกรอบระหวา่ งเรียน1. ปรับปรุง – แกไ้ ขขอ้ บกพร่องของผเู้ รียน 2. ครูคอยเสริมหรือแกไ้ ขเม่ือการอภิปรายของนกั เรียน ไมส่ มบูรณ์2. ส่งเสริมความรู้ความสามารถของผเู้ รียน 3. ครูช้ีแจงขอ้ บกพร่องในการทากิจกรรม 4. ครูเฉลยขอ้ สงสัย ท่ีนกั เรียนทาไม่ได้ 5. สอนซ่อมเสริมนกั เรียนท่ีไม่ผา่ นประเมินหลงั เรียน 1. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงาน 1 ชิ้นงาน

103รายวชิ าฟิ สิกส์เพิม่ เติม แบบบนั ทกึ ผลหลงั สอน ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 รหสั วชิ า ………… ผลการเรียนทค่ี าดหวงั ที่ 3 คาบท่ี 17 - 24 เร่ือง ไฟฟ้าสถิต หวั ข้อเร่ือง ศักย์ไฟฟ้า1. ความเหมาะสมของแผนการสอนรายการประเมิน ระดบั คุณภาพ ขอ้ เสนอแนะ 43211. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้2. เน้ือหาสาระ3. กิจกรรมการเรียนการสอน4. สื่อการสอน5. การวดั ผลประเมินผล6. ความสอดคลอ้ ง ( ขอ้ 1 – 5 ) ( 4 = มากที่สุด , 3 = มาก , 2 = พอใช้ , 1 = ควรปรับปรุง )2. ผลการสอน………………………………………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………………3. ปัญหา / อุปสรรค…………………………………………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………….4. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………….………..ผสู้ อน (……………………………..) วนั ที่…....เดือน………………………..พ.ศ………….

104 ส่ือประกอบแผนจดั การเรียนรู้

แผนจดั การเรียนรู้ที่ 4 เร่ืองตัวเกบ็ ประจุและความจุไฟฟ้า

100รายวชิ า ฟิ สิกส์เพิ่มเติม แผนจดั การเรียนรู้ท่ี 4 ผลการเรียนที่คาดหวงั ท่ี 4รหสั วชิ า ………….. ช้นั ม.6 สปั ดาห์ที่ 7 – 8 คาบท่ี 25 - 30 เรื่อง ไฟฟ้าสถติ หัวข้อเร่ือง ตัวเกบ็ ประจุและความจุไฟฟ้าผลการเรียนทค่ี าดหวงั สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย ตวั เกบ็ ประจุ ความจุไฟฟ้า และนาปริมาณท่ีเก่ียวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้แนวความคิดหลกั ตวั นาท่ีทาหนา้ ที่เก็บประจุ เรียกวา่ ตวั เก็บประจุ ความสมารถในการเก็บประจุของตวั นาทรงกลมข้ึนกบั ขนาดของตวั นา ซ่ึงพิจารณาไดจ้ าก อตั ราส่วนของปริมาณประจุต่อศกั ยไ์ ฟฟ้าของตวัเกบ็ ประจุ เรียกวา่ ความจุไฟฟ้า เมื่อตอ่ ตวั เก็บประจุเขา้ กบั ความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้า จะเกิดพลงั งานสะสมบนตัวเก็บประจุน้ัน เม่ือศึกษาและฝึ กคานวณ จะมีความคิดรวบยอดและนาไปแก้ปัญหาในชีวติ ประจาวนั ได้ ความสามรถในการการเก็บประจุ และพลงั งานสะสมบนตวั เก็บประจุน้นั จะมีค่าข้ึนกบัจานวนตวั เกบ็ ประจุและการตอ่ ตวั เก็บประจุกระบวนจัดการเรียนรู้ 1. ข้นั สร้างความสนใจ 1.1 นกั เรียนดูแผงวงจรอิเล็กทรอนิค ท่ีครูเตรียมมาให้ 1.2 นกั เรียนตอบขอ้ ซกั ถามของครูวา่ “ ในแผงวงจรน้นั มีอุปกรณ์อะไรบา้ งและทาหนา้ ที่อะไร ” ( ทิ้งช่วงใหน้ กั เรียนคิด ) แลว้ ตอบคาถามในใบงาน 4.1 1.3 นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายในแต่ละกลุ่ม พร้อมท้งั บนั ทึกความเห็นของกลุ่มในใบงาน 4.1 เฉพาะขอ้ 1 และขอ้ 2 (เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดแ้ สดงความคิดเห็นโดยยงั ไม่เนน้ ถูกผดิ ) 1.4 ตวั แทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอความเห็นของกลุ่ม ( ของแต่ละคนในกลุ่มโดยตวั แทนของกลุ่ม และขอ้ สรุปของกลุ่ม ) 1.5 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปรายเก่ียวกบั ตวั เก็บประจุและความจุไฟฟ้าเป็ นอยา่ งไร ท่ีครูเตรียมให้ และบนั ทึกลงในใบงาน 4.1 1.6 นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน จานวนขอ้ สอบ 10 ขอ้ 1.7 แจง้ ใหน้ กั เรียนทราบวา่ จะไดศ้ ึกษาเกี่ยวกบั ตวั เก็บประจุไฟฟ้า และการต่อตวัเกบ็ ประจุไฟฟ้า

101 2. ข้นั สารวจและค้นหา 2.1 นกั เรียนสืบคน้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั ศกั ยไ์ ฟฟ้า จากใบความรู้ 4 พร้อมกบั ใบงาน 4.2แลว้ สรุปสาระสาคญั บนั ทึกลงในสมุดจดบนั ทึกและตอบคาถาม 2.2 สุ่มนกั เรียน 1 กลุ่มเสนอผลการสืบคน้ ขอ้ มูล 3. ข้ันอธิบายและลงข้อสรุป 3.1 นกั เรียนนาขอ้ มูลจากข้นั การสืบคน้ ขอ้ มูล มาอภิปรายร่วมกบั ครู 3.2 ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกบั ตวั เก็บประจุ และพลงั งานสะสมในตวั เก็บประจุเพื่อใหน้ กั เรียนสรุปสาระสาคญั ลงในสมุดจดบนั ทึก 4. ข้ันขยายความรู้ 4.1 นกั เรียนสนทนาซกั ถามครูและตอบคาถามวา่ “ การนาตวั เก็บประจุไฟฟ้าหลายๆตวั มาต่อกนั จะมีผลทาใหก้ ารเกบ็ ประจุเปล่ียนแปลงอยา่ งไร ” ( ทิง้ ช่วงใหน้ กั เรียนคิด ) เพื่อนาไปสู่ การคานวณหาคา่ ความจุประจุไฟฟ้า จากการตอ่ ตวั เก็บประจุในแต่ละแบบ 4.2 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปราย เกี่ยวกบั การต่อตวั เก็บประจุแบบอนุกรมและตวั อยา่ งการหาคา่ ความจุประจุไฟฟ้า จากใบความรู้ 4 4.3 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปราย เก่ียวกบั การต่อตวั เก็บประจุแบบขนาน และตวั อยา่ งการหาคา่ ความจุประจุไฟฟ้า จากใบความรู้ 4 4.4 นกั เรียนร่วมกนั สืบคน้ แกป้ ัญหา ในใบงาน 4.3 4.5 นกั เรียนทาแบบฝึกทกั ษะ 4 5. ข้นั ประเมนิ 5.1 นกั เรียนเขียนเร่ืองราวส้ันๆ เก่ียวกบั ตวั เกบ็ ประจุ ลงในใบกิจกรรม 4 5.2 นกั เรียนนาเร่ืองส้ัน ของเพ่ือนมาอ่าน และประเมิน ครูนาเร่ืองส้ันจากการประเมินของนกั เรียน โดยใหเ้ จา้ ของผลงานอ่าน แลว้ ร่วมอภิปราย 5.3 นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน

102สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ จานวน สภาพการใช้สื่อ 1 ชุด ใชข้ ้นั สร้างความสนใจ รายการส่ือ 1 ชุด ใชข้ ้นั สร้างความสนใจ1. แผงวงจรอิเล็กทรอนิค 1 ชุด ใชข้ ้นั สร้างความสนใจ2. แบบทดสอบก่อนเรียน 1 ชุด ใชอ้ ธิบายและลงขอ้ สรุป ( ใชข้ ้นั ประเมิน )3. ใบงาน 4.1 1 ชุด ใชอ้ ธิบายและลงขอ้ สรุป4. แบบฝึกทกั ษะ 4 1 ชุด ใชส้ ารวจและคน้ หา5. ใบความรู้ 4 1 ชุด ใชข้ ยายความรู้และลงขอ้ สรุป6. ใบงาน 4.2 1 ชุด ใชข้ ้นั ประเมินและลงขอ้ สรุป7. ใบงาน 4.3 1 ชุด ใชข้ ้นั ประเมิน8. ใบกิจกรรม 49. แบบทดสอบหลงั เรียนการวดั ผลและประเมินผลรายการวดั ผลและประเมนิ ผล เคร่ืองมือทใี่ ช้ เกณฑ์ผ่าน1. การวดั ผลคุณธรรม จิตพิสยั สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน -2. การประเมินผลจากสภาพจริง ตรวจใบงาน 4.1 – 4.3 - ตรวจแบบฝึกทกั ษะ 4 ร้อยละ 50 ข้ึนไป ตรวจสมุดจด - ตรวจใบกิจกรรม 4 ระดบั 3 ข้ึนไป3. การวดั ผลหลงั เรียน แบบทดสอบรายจุดประสงคท์ ่ี 4 ร้อยละ 50 ข้ึนไปกจิ กรรมเสริมทกั ษะหรือซ่อมเสริมรายการ วธิ ีดาเนินกจิ กรรม1. ปรับปรุง – แกไ้ ขขอ้ บกพร่องของผเู้ รียน 1. ครูควบคุมดูแลใหอ้ ยใู่ นกรอบระหวา่ งเรียน 2. ครูคอยเสริมหรือแกไ้ ขเม่ือการอภิปรายของนกั เรียน ไมส่ มบูรณ์ 3. ครูช้ีแจงขอ้ บกพร่องในการทากิจกรรม 4. ครูเฉลยขอ้ สงสยั ท่ีนกั เรียนทาไมไ่ ด้ 5. สอนซ่อมเสริมนกั เรียนที่ไม่ผา่ นประเมินหลงั เรียน2. ส่งเสริมความรู้ความสามารถของผเู้ รียน 1. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงาน 1 ชิ้นงาน

103รายวชิ าฟิ สิกส์เพ่มิ เติม แบบบนั ทกึ ผลหลงั สอน ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 6 รหสั วชิ า ………… ผลการเรียนทค่ี าดหวงั ท่ี 4 คาบท่ี 25 - 30 เร่ือง ไฟฟ้าสถิต หวั ข้อเร่ือง ตัวเกบ็ ประจุและความจุไฟฟ้า1. ความเหมาะสมของแผนการสอนรายการประเมิน ระดบั คุณภาพ ขอ้ เสนอแนะ 43211. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้2. เน้ือหาสาระ3. กิจกรรมการเรียนการสอน4. สื่อการสอน5. การวดั ผลประเมินผล6. ความสอดคลอ้ ง ( ขอ้ 1 – 5 ) ( 4 = มากท่ีสุด , 3 = มาก , 2 = พอใช้ , 1 = ควรปรับปรุง )2. ผลการสอน………………………………………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………………3. ปัญหา / อุปสรรค…………………………………………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………….4. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………….………..ผสู้ อน (……………………………..) วนั ที่…....เดือน………………………..พ.ศ………….

104 ส่ือประกอบแผนจดั การเรียนรู้

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ไฟฟ้ากระแส

121 แผนจัดการเรียนรู้ที่ 5 เร่ืองการเคลื่อนทีข่ องประจุไฟฟ้าผ่านตวั กลาง

122รายวชิ า ฟิ สิกส์เพิม่ เติม แผนจดั การเรียนรู้ที่ 5 ผลการเรียนที่คาดหวงั ที่ 5รหสั วชิ า ………………… ช้นั ม.6 สปั ดาห์ท่ี 8 – 9 คาบท่ี 31 - 34 เร่ือง ไฟฟ้ากระแส หัวข้อเร่ือง การเคลื่อนทข่ี องประจุไฟฟ้าผ่านตวั กลางสาระสาคัญ การเคล่ือนที่ของประจุไฟฟ้าผา่ นตวั นาใดๆ จะเกิดข้ึนเม่ือปลายท้งั สองของตวั นามีความต่างศักย์ไฟฟ้า สิ่งที่เกิดข้ึนเรียกว่า กระแสไฟฟ้า แหล่งท่ีทาให้เกิดความต่างศักย์ไฟฟ้าเรียกว่าแหล่งกาเนิดไฟฟ้า จะเรี ยกตามหลักการเปล่ียนรูปพลังงานรู ปอ่ืนเป็ นพลังงานไฟฟ้า เช่นเซลล์ไฟฟ้า-เคมี เครื่องกาเนิดไฟฟ้า เซลล์สุริยะเป็ นตน้ การนาไฟฟ้าในตวั กลางชนิดต่างๆทาให้สรุปไดว้ า่ อาจเกิดจากการเคลื่อนท่ีของอิเล็กตรอน ไอออนบวก และไอออนลบ หรือเกิดจากการเคล่ือนที่ท้งั ประจุบวก และประจุลบ กระแสไฟฟ้าในตวั กลางใดๆเท่ากบั ประจุไฟฟ้าผ่านภาคตดั ขวางของตวั กลางน้นั ในหน่ึงหน่วยเวลา มีทิศเดียวกบั ทิศของสนามไฟฟ้า หรือกระแสไฟฟ้าจะมีทิศเดียวกบั ทิศการเคล่ือนท่ีของอนุภาคท่ีมีประจุบวกหรือมีทิศจากจุดท่ีมีศกั ยไ์ ฟฟ้าสูงไปยงั จุดท่ีมีศกั ยไ์ ฟฟ้าต่า กระแสไฟฟ้าในลวดโลหะ จะมีความสัมพนั ธ์กบั ความเร็วลอยเลื่อนของอิเล็กตรอนอิสระในลวดโลหะ จานวนอิเล็กตรอนอิสระ และภาคตดั ขวางของลวดโลหะผลการเรียนทคี่ าดหวงั สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายการเคลื่อนที่ของประจุไฟฟ้าผา่ นตวั กลาง และนาปริมาณที่เกี่ยวขอ้ งไปแกป้ ัญหาได้เนื้อหา 1. กระแสไฟฟา้ 2. แหลง่ กาเนิดไฟฟา้ 3. การนาไฟฟ้า 4. กระแสไฟฟ้าในตวั นา