ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 ฉบบั ปรบั ปรงุ ใหม่ ปีการศกึ ษา 2564 วเิ คราะห์ขอ้ สอบตาม Test Blueprint (ข้อสอบยอ้ นหลงั 5 ปี) ปีการศึกษา 2559-2563
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
Test Blueprint O-NET ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ปีการศกึ ษา 2563 รูปแบบปรนยั 4 ตวั เลอื ก 1 คาตอบ จานวน 32 ขอ้ 80 คะแนน (ขอ้ ละ 2.5 คะแนน) สาระที่ 1 การอ่าน รูปแบบข้อสอบ 4 ตวั เลอื ก 1 คาตอบ จานวน 10 ข้อ 25 คะแนน (ขอ้ ละ 2.5 คะแนน) ท 1.1 ป.6/2 อธิบายความหมายของคา ประโยค และขอ้ ความท่เี ปน็ โวหาร ท 1.1 ป.6/4 แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นจากเรือ่ งท่ีอ่าน ท 1.1 ป.6/5 อธบิ ายการนาความรแู้ ละความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสนิ ใจแก้ปัญหาในการ ดาเนนิ ชีวติ ท 1.1 ป.6/7 อธิบายความหมายของขอ้ มลู จากการอา่ นแผนผงั แผนที่ แผนภมู ิ และกราฟ สาระท่ี 2 การเขียน รูปแบบข้อสอบ 4 ตวั เลอื ก 1 คาตอบ จานวน 2 ข้อ 5 คะแนน (ขอ้ ละ 2.5 คะแนน) ท 2.1 ป.6/6 เขยี นจดหมายส่วนตัว สาระท่ี 3 การฟงั การดู และการพดู รปู แบบขอ้ สอบ 4 ตัวเลอื ก 1 คาตอบ จานวน 5 ข้อ 12.50 คะแนน (ขอ้ ละ 2.5 คะแนน) ท 3.1 ป.6/2 ตั้งคาถาม และคาตอบเชงิ เหตผุ ลจากเรื่องที่ฟงั และดู ท 3.1 ป.6/3 วิเคราะหค์ วามน่าเชื่อถอื จากการฟังและดโู ฆษณาอย่างมเี หตุผล สาระท่ี 4 กาหลักการใชภ้ าษาไทย รูปแบบขอ้ สอบ 4 ตวั เลือก 1 คาตอบ จานวน 10 ขอ้ 25 คะแนน (ข้อละ 2.5 คะแนน) ท 4.1 ป.6/1 วเิ คราะห์ชนิดและหนา้ ท่ขี องคาในประโยค ท 4.1 ป.6/2 ใช้คาไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะและบคุ คล ท 4.1 ป.6/3 รวบรวมและบอกความหมายของคาภาษาต่างประเทศท่ใี ชใ้ นภาษาไทย ท 4.1 ป.6/4 ระบุลกั ษณะของประโยค ท 4.1 ป.6/5 แต่งบทรอ้ ยกรอง ท 4.1 ป.6/6 วิเคราะหแ์ ละเปรยี บเทียบสานวนทเ่ี ปน็ คาพงั เพย และสุภาษติ ตะลุยแนวขอ้ สอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
สาระท่ี 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม รูปแบบข้อสอบ 4 ตัวเลอื ก 1 คาตอบ จานวน 5 ขอ้ 12.50 คะแนน (ข้อละ 2.5 คะแนน) ท 5.1 ป.5/2 ระบคุ วามรูแ้ ละขอ้ คดิ เหน็ จากการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรมท่สี ามารถนาไปใช้ ในชีวิตจริง ท 5.1 ป.6/1 แสดงความคิดเหน็ จากวรรณคดหี รอื วรรณกรรมที่อา่ น ท 5.1 ป.6/3 อธบิ ายคุณค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีอา่ นและนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จริง ข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563 รูปแบบอัตนัยเขียนตอบ จานวน 2 ขอ้ 20 คะแนน (ขอ้ ละ 10 คะแนน) สาระท่ี 2 การเขยี น รปู แบบอตั นยั เขียนตอบ จานวน 2 ข้อ 20 คะแนน (ขอ้ ละ 10 คะแนน) ท 2.1 ป.6/2 เขยี นสอ่ื สารโดยใชค้ าได้ถูกตอ้ ง ชัดเจน และเหมาะสม ท 2.1 ป.6/5 เขียนยอ่ ความจากเรอื่ งทอี่ ่าน ท 2.1 ป.6/8 เขียนเร่อื งตามจนิ ตนาการและสรา้ งสรรค์ - สรปุ จานวนตัวช้ีวัด 19 ตัวชี้วดั (รวม 2 รูปแบบ) - สรุปจานวนข้อ 34 ขอ้ (100 คะแนน) รูปแบบปรนัย 32 ขอ้ (80 คะแนน) รปู แบบอตั นยั 2 ขอ้ (20 คะแนน) - จานวนเวลาที่ใช้สอบ 90 นาที **หมายเหตุ การวเิ คราะห์ Test Blueprint ข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 เป็นการใช้ Test Blueprint ปีการศึกษา 2564 เพื่อเปรียบเทียบตัวชี้วัด และ ขอ้ สอบย้อนหลัง 4 ปีการศึกษา (ปีการศกึ ษา 2559-2562) ตะลยุ แนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
สาระท่ี 1 การอ่าน “อา่ นออก บอกความหมาย จับใจความ” หลกั การอ่าน (อ้างอิง : สตู รการจาครูทิวลปิ 8 กระบวนทา่ ) 1. ฝกึ หาคาซา้ 5. ค้นหาขัดแยง้ 2. คลาหาคาหาย 6. ฝกึ แต่งคาถาม 3. ขยายหรอื หลกั 7. ตีความหรือพดู ตรง 4. รู้จักสรปุ ผล 8. บรรจงสรา้ งแผนภาพ โครงสร้างระบบเสยี งและอักษรไทย 1. พยญั ชนะไทย 44 ตัว (ก-ฮ) จาแนกเปน็ 3 หมู่ (ไตรยางศ)์ อักษรสงู 9 ตวั ได้แก่ ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ส ษ ห 2. ไตรยางศ์ อักษรกลาง 11 ตัว ได้แก่ ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป อ อกั ษรต่า 24 ตวั ไดแ้ ก่ ค ฅ ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท ธ น พฟภมยรลวฬฮ 3. อกั ษรควบ อักษรควบแท้ คาที่มี พยัญชนะ ร ล ว ควบกับพยัญชนะตัวหน้า ประสมสระตัว เดียวกนั เวลาอา่ นออกเสียงพยัญชนะทงั้ สองตวั พร้อมกนั อกั ษรควบไมแ่ ท้ - คาควบไม่แท้ที่ออกเสียงอักษรนาอย่างเดียว ไม่ออกเสียง ร เวลาอ่าน ก็คือ ร ตาม พยัญชนะ จ ซ ศ ส เช่น จริง ไซร้ สรง สร้าง อาศรม เศร้า - คาควบไม่แทท้ ่ีออกเสียงเปน็ เสียงอ่นื กค็ ือ ร ตาม ท แลว้ ออกเสยี งเปน็ เสียง ซ เช่น ทราบ ทราย ทรง อินทรี ชอ่ งนนทรี มทั รี พุทรา ทรดุ โทรม พยญั ชนะท่ีควบตวั ร แลว้ ออกเสยี งแปรเป็นเสยี งอน่ื คือ ทฺร ออกเสียงเปน็ ซ กลอนทอ่ งจาคาควบไมแ่ ท้ ทรวดทรง ทราบ ทราม ทราย ทรุดโทรม หมาย นกอินทรยี ์ มทั รี อนิ ทรยี ์ มี เทริด นนทรี พทุ รา เทรา ทรวง ไทร ทรพั ย์ แทรก วัด โทรมนสั ย์ ฉะเชงิ เทรา ตัว ทร เหล่านเ้ี รา ออกสาเนยี งเปน็ เสยี ง ซ ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
4. อักษรนา - อักษรสูงหรอื อักษรกลางนาอกั ษรตา่ เดยี ว เช่น สนุกสนาน ฉลาม ตลาด จริต - ห นา เช่น หนาว หวาน ไหว้ หงาย ฯลฯ - อ นา ย มเี พียง 4 คา คอื อยา่ อยู่ อยา่ ง อยาก 5. พยางคแ์ ละคา - พยางค์ เสียงที่เปลง่ ออกมา อาจมีความหมายหรือมคี วามหมายกไ็ ด้ เสยี งทเ่ี ปล่ง ออกมา 1 คร้งั นับเป็น 1 พยางค์ - คา เสียงที่เปลง่ ออกมาแล้วมีความหมายใชส้ อื่ สารได้ **คา 1 คา อาจมีพยางค์เดยี วหรือหลายพยางค์กไ็ ด้ ตวั อยา่ ง แมว มี 1 คา 1 พยางค์ สตรี มี 1 คา 2 พยางค์ อทุ ยาน มี 1 คา 3 พยางค์ วฒั นธรรม มี 1 คา 4 พยางค์ พฤศจกิ ายน มี 1 คา 5 พยางค์ 6. ขอ้ เท็จจรงิ และข้อคดิ เห็น ลักษณะของขอ้ เทจ็ จรงิ - มคี วามเปน็ ไปได้ มคี วามสมจริง มีหลักฐานเช่ือถอื ได้ มคี วามสมเหตสุ มผล เชน่ ดวงตาเป็นอวัยวะทที่ าใหม้ องเหน็ (พสิ ูจน์ได้ดว้ ยหลักวิชาการ) ลกั ษณะของขอ้ คิดเห็น - เป็นขอ้ ความท่ีแสดงความรูส้ ึก - เป็นข้อความที่แสดงการคาดคะเน - เปน็ ขอ้ ความทแ่ี สดงการเปรียบเทียบหรืออุปมาอปุ ไมย - เปน็ ข้อความทเ่ี ปน็ เป็นขอ้ เสนอแนะหรือเป็นความคิดของผู้พูดและผู้เขียนเอง เชน่ คนเรยี นเกง่ ยอ่ มประสบผลสาเรจ็ ในชวี ติ เสมอ (ไม่มขี อ้ ยนื ยนั ) ตะลุยแนวขอ้ สอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
7. การอ่านแผนผัง แผนที่ แผนภูมิ และกราฟ จากศูนย์บริการนกั ท่องเทย่ี ววังกวางเดนิ ทางเท้าไปทผ่ี าหล่มสกั ให้นกั เรยี นทดลองหาระยะทางท่ีสนั้ ที่สดุ ตอบ............................................................................................ .................................................................................................... .................................................................................................... .................................................................................................... ตะลยุ แนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
สาระที่ 2 การเขียน “สะกดคาถกู ผูกประโยคได้ ใช้ภาษาถกู ตอ้ ง” หลกั การสะกดคา - สะกดดว้ ยอะไร ใหใ้ ชก้ ารเชอื่ มโยง - สะกดการันต์ หมนั่ แยกความหมาย ผูกประโยคได้ ใชภ้ าษาถูกต้อง - เรียงคาตามลาดบั - จบั วางตามหน้าท่ี - มคี ลงั คาในหวั - ตวั เช่ือมใช้ใหเ้ ปน็ - เล่นโวหารประกอบ เน้ือหาท่มี ักออกข้อสอบบอ่ ย **การเขียนจดหมาย** - จดหมายส่วนตัว เป็นจดหมายที่ใช้ติดต่อระหว่างบุคคลท่ีสนิทสนมคุ้นเคยกัน หรือ จดหมายทเ่ี ขยี นตดิ ต่อกันเป็นส่วนตัว ระหว่างญาตสิ นทิ มิตรสหาย ซ่ึงโดยทั่วไปแล้ว การเขียน จดหมายสว่ นตวั มวี ัตถปุ ระสงคเ์ พอื่ 1. เล่าเรื่องราวตา่ ง ๆ หรอื สอบถามเรอื่ งราว 2. ไต่ถามสารทุกขส์ ขุ ดิบ หรอื ทกุ ขส์ ขุ สว่ นตัว 3. เพ่อื ส่งข่าวคราว 4. เพอ่ื แลกเปลี่ยนข้อมลู ทสี่ นใจ 5. เพื่อแสดงไม่ตรีจติ หรือเพอ่ื ขอบคุณ เป็นตน้ การใชถ้ ้อยคาในการเขยี นจดหมาย 1. การใช้ถ้อยคา ต้องใช้ถ้อยคาในการเขียนให้ถูกต้องเหมาะสมกับประเภทของ จดหมายและผรู้ บั จดหมายดว้ ย หลกั การใชถ้ อ้ ยคาสาหรับการเขียนจดหมาย มดี ังน้ี 2. ใช้คาขึ้นต้นและคาลงท้ายจดหมายส่วนตัวให้เหมาะสม และถูกต้องตามแบบแผน การใช้คาข้นึ ต้นและคาลงท้ายจดหมายส่วนตวั การเขียนจดหมายส่วนตวั ไมม่ ขี อ้ กาหนด เก่ียวกับ การใช้คาขึ้นต้นและคาลงท้ายท่ีตายตัว เพียงแต่เลือกใช้ให้เหมาะสมเท่าน้ัน คาขึ้นต้น และลง ทา้ ยสาหรบั บคุ คลท่ัวไป มีแนวทางสาหรับเป็นตัวอยา่ งให้เลือกใชด้ ังนี้ ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
1. ญาตผิ ใู้ หญ่ เช่น พอ่ แม่ ปู่ ยา่ ตา ยาย - คาขน้ึ ตน้ ได้แก่ กราบเทา้ …ทเ่ี คารพอยา่ งสูง - คาลงท้าย ได้แก่ กราบเท้าด้วยความเคารพอย่างสูง หรือกราบมาด้วยความเคารพรัก อย่างยิง่ 2. ญาตลิ าดับรองลงมา เช่น ลงุ ป้า นา้ อา - คาขน้ึ ต้น ได้แก่ กราบ......ทีเ่ คารพ หรอื กราบ.....ท่ีเคารพอยา่ งสงู - คาลงท้าย ได้แก่ กราบมาด้วยความเคารพ, ด้วยความเคารพ หรือด้วยความเคารพ อยา่ งสูง 3. พหี่ รอื ญาติช้ันพี่ - คาขนึ้ ตน้ ได้แก่ พี่......ทร่ี กั , ถึง......ท่ีรกั , .......เพ่อื นรกั หรอื ..........น้องรัก - คาลงท้าย ได้แก่ ด้วยความรกั , รกั หรือคิดถึง หรอื รักและคดิ ถึง 4. ครู อาจารย์ - คาขึน้ ต้น ได้แก่ กราบเรียน…ทเ่ี คารพอย่างสูง - คาลงท้าย ได้แก่ ดว้ ยความเคารพอยา่ งสงู รูไ้ วใ้ ช่วา่ จากสถติ ติ งั้ แตป่ กี ารศึกษา 2559 – 2562 ข้อสอบเรือ่ งการเขียนจดหมาย ออกข้อสอบทกุ ปี ปีละ 1-2 ขอ้ ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
สาระที่ 3 การฟงั การดู และการพูด 1. การจบั ใจความสาคัญและรายละเอียดของเร่ืองท่ีฟังและดู คือ การแยกแยะเร่ืองที่ ฟงั หรือดวู ่าส่วนใดเปน็ ใจความสาคัญ ใจความประกอบหรือพลความ ซง่ึ ชว่ ยใหผ้ ูฟ้ ังหรือผู้ดูทราบ วา่ ผู้พดู ต้องการสอ่ื อะไร เพื่อให้เกิดการทาความเข้าใจ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่าเรื่อง นนั้ ๆ โดยหลกั ของการจบั ใจความสาคญั และรายละเอียดของเรื่องที่ฟงั และดู มดี ังน้ี 1.1 ตั้งใจฟังหรือดูต้ังแต่ต้นจนจบ เพราะอาจมีการสรุปใจความสาคัญไว้ตอนกลางหรือ ทา้ ยเร่ือง 1.2 พยายามจบั ประเด็นวา่ ใคร ทาอะไร ท่ไี หน เมือ่ ไร และอย่างไร 1.3 พิจารณาประโยคใจความสาคัญ ซึ่งจะกล่าวถึงใจความสาคัญของเรื่องเอาไว้ ส่วน ขอ้ ความอ่นื ๆ เป็นพลความท่ีนามาใชข้ ยายหรอื สนับสนุนใจความสาคญั 2. การสรุปความจากเรอื่ งท่ฟี ังและดู การสรุปความจากเรื่องที่ฟังและดู คือ การจับประเด็นเร่ืองนั้น ๆ เพื่อรับรู้ถึง สารประโยชนต์ ามทผี่ ูส้ ่งสารต้องการสอ่ื มีหลักการดงั น้ี 2.1 จับประเด็นว่าใคร ทาอะไร ทไี่ หน เมื่อไร อย่างไร 2.2 แยกแยะข้อเทจ็ จริงออกจากความคิดเห็น 2.3 เรียงประเดน็ ทส่ี าคญั หรือมปี ระโยชนต์ ามลาดบั ให้สละสลวย 2.4จดบันทึกและรวบรวมขอ้ มลู ให้เปน็ ระบบ เพอ่ื ใหน้ าไปไดใ้ ชใ้ นแต่ละโอกาส 3. การวิพากษ์วจิ ารณจ์ ากเรื่องที่ฟังและดู การวิพากษว์ จิ ารณ์ คือ การพนิ ิจเร่ือง (สาร) เพ่อื แสดงความคดิ เหน็ ตามหลกั เหตุผล มหี ลกั การดงั น้ี 3.1 จบั ใจความของเร่อื งที่ฟังให้ได้ 3.2 พจิ ารณาแยกแยะขอ้ เทจ็ จริงและความคิดเหน็ และความม่งุ หมายของผู้พดู 3.3 แยกแยะขอ้ ความสว่ นใดเป็นเหตุ - ผล และพจิ ารณาความนา่ เชอื่ ถอื ของเรื่อง 3.4 แสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั เร่ืองที่ฟังหรอื ดูอย่างสมเหตุสมผล ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
สาระท่ี 3 การฟัง การดู และการพดู 4. โฆษณา การโฆษณา คือ การส่ือสารโน้มน้าวใจเพื่อให้ซ้ือสินค้าและบริการ แต่มักการกล่าวเกิน จริง เราจึงรบั สารอยา่ งรอบคอบก่อนตัดสินใจเชื่อ ซึง่ หลักการฟังหรอื ดูโฆษณา มดี ังน้ี 4.1 ฟงั หรือดูด้วยความต้งั ใจ 4.2 เก็บรายละเอียดสนิ ค้าเพอ่ื ใชเ้ ปรียบเทียบกับสินค้ายห่ี ้อ หรือรา้ นอ่นื ในเรื่องคณุ ภา ราคา และบรกิ ารเสริมต่าง ๆ เพ่ือเปน็ ข้อมลู ในการตดั สินใจ 4.3 ใช้วิจารณญาณในการพิจารณาขอ้ มลู ของสินค้าวา่ มคี วามนา่ เชอ่ื ถอื หรอื ไม่ ตวั อยา่ ง พสิ จู น์ความมหัศจรรย์นา้ หนักลดลงได้ถึง ๑๐ กิโลกรมั ภายใน ๒ วนั โดยคุณไม่ตอ้ งทา้ อะไรเลย เพียงโทรมาปรึกษาเราซิคะ “สลมิ บี คลินิก” ๐–๒๙๐๘๗๑๗๐, ๐๒๙๐๘ ๗๑๑๕ ทกุ วนั ตงั แต่ ๑๐.๐๐–๒๐.๐๐น. คุณจะหมดความกงั วลใจทนั ทีถ้าคณุ โทรหาเราตงั แตต่ อนนี โฆษณาน้ีใช้ข้อความจูงใจเกินจริง คือ “น้าหนักลดลงได้ถึง 10 กิโลกรัมภายใน 2 วัน โดยคุณไม่ต้องทาอะไรเลย” หากพิจารณาจะพบว่ามีความเป็นไปได้น้อยมาก โฆษณานี้จึงขาด ความน่าเช่ือถือ ดังน้ันผู้ฟังและผู้ดูจึงควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเลือก นอกจากนี้ในส่วน รายละเอยี ดของโฆษณาก็ไมส่ มบูรณ์ เพราะขาดสถานทใี่ หบ้ รกิ าร และชื่อผู้ท่ีจะตดิ ตอ่ ทักษะการฟงั และการดูควรหมั่นฝกึ ฝนเพื่อเพิ่มประสิทธภิ าพ เป็นประโยชน์ต่อการแสวงหา ความรู้ การตดั สินใจ การแก้ปัญหา การพัฒนาตนเองและผูอ้ ่ืน นาไปสู่ความสาเร็จทุกด้านในการ ดาเนนิ ชีวิต ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
สาระที่ 4 หลักการใชภ้ าษา “เสียงอักษรแม่นยา ชนดิ ของคาถูกหนา้ ท่ี คานไี้ ทยหรอื เทศ บอกประเภทประโยคใหม่ เขา้ ใจราชาศพั ท์ บอกระดบั ของภาษา” ชนดิ ของคาในภาษาไทย (อ้างองิ ตามหนงั สือบรรทดั ฐานภาษาไทย กระทรวงศกึ ษาธกิ าร) 1. คานาม 1.1 คานามสามัญ 1.2 คานามวสิ ามัญ 1.3 คาอาการนาม 1.4 คาลกั ษณนาม 2. คาสรรพนาม 2.1 คาบุรษุ สรรพนาม 2.2 คาสรรพนามถาม 2.3 คาสรรพนามชี้เฉพาะ 2.4 คาสรรพนามไมช่ เ้ี ฉพาะ 2.5 คาสรรพนามแยกฝ่าย 3. คากริยา 3.1 คากรยิ าทมี่ ีหนว่ ยกรรม 3.1.1 คากริยาสกรรม คือ คากริยาท่ีต้องมีกรรมมารองรับ เช่น กิน เขียน เห็น ฯลฯ 3.1.2 คากรยิ าทวิกรรม คอื คากรยิ าทต่ี ้องมีนามวลี 2 นามวลีตามหลงั (นามวลี แรก = กรรมตรง, นามวลีหลงั = กรรมรอง) เชน่ สอน ป้อน ให้ แจก อบรม 3.2 คากริยาทไี่ มม่ หี น่วยกรรม 3.2.1 คากริยาอกรรม คือ คากริยาที่ไม่ต้องมีกรรมมารองรับ เช่น ว่ิง เดิน บิน ฯลฯ 3.2.2 คากริยาคุณศัพท์ คือ คากริยาที่แสดงคุณสมบัติหรือสภาพของคานาม หรือคาสรรพนาม เชน่ ดี สวย วอ่ งไว สูง ฯลฯ **คากริยาคุณศัพท์สามารถใช้ร่วมกับคาว่า กว่า ที่สุด ได้ เช่น เขาสวยกว่า เธอสวยท่ีสุด (ใช้ สาหรับเปรยี บเทยี บ) ตะลุยแนวขอ้ สอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
3.2.3 คากริยาต้องเติมเตม็ 3.2.4 คากริยานา คือ คากริยาที่ต้องปรากฏหน้าคากริยาอื่นเสมอ ได้แก่ ชอบ พยายาม อยาก ฝนื หัด ตงั้ ใจ ห้าม ชว่ ย กรุณา วาน ฯลฯ 3.2.5 คากริยาตาม คือ คากริยาที่ปรากฏหลังคาอื่นเสมอ โดยปรากฏอยู่หลัง คากรยิ าหรอื หลังกรรมของกรยิ าก็ได้ เชน่ ไป มา ข้นึ ลง เข้า ออก ให้ ไว้ เสยี เอา ฯลฯ 4. คาชว่ ยกรยิ า คากริยาชว่ ย คอื คาที่ไม่ใช่คากริยาและไม่ปรากฏเพียงลาพัง แต่ต้องปรากฏอยู่หน้าคา กรยา 5. คาวิเศษณ์ คาวิเศษณ์ คอื คาขยายหนว่ ยกริยาและเปน็ ส่วนหลักของวิเศษณว์ ลี (กล่มุ คาขยาย) 5.1 คาวิเศษณ์สามญั คอื คาวเิ ศษณท์ ่ีขยายกริยาโดยท่วั ไป เช่น วนั นีแ้ ดดร้อนจงั 5.2 คาวิเศษณ์ขยายเฉพาะ คือ คาวิเศษณ์ท่ีใช้ขยายกริยาคาใดคาหนึ่งเท่าน้ัน เชน่ แดงแจ๋ ขาวจั๊วะ แพงหฉู ี่ เปยี กซก แบนแต๊ดแต๋ เผ่นแน่บ ฯลฯ 5.3 คาวิเศษณ์แสดงคาถาม 5.4 คาวเิ ศษณบ์ อกเวลา 6. คาเก่ียวกับจานวน 6.1 คาบอกจานวน เช่น 1 2 3 4 5 ทกุ หลาย กี่ บาง ครงึ่ ฯลฯ 6.2 คาท่ีบอกลาดับ มักมีคาว่า “ท่ี” เช่น ที่หนึ่ง ที่หน้า และคาว่า หน่ึง (ออก เสยี งวา่ “นึง”) เดียว แรก สดุ ทา้ ย หน้า กลาง หลัง ร้งั ทา้ ย บว๊ ย ท่ีโหล่ 6.3 คาหน้าจานวน คอื คาทป่ี รากฏด้านหน้าคาบอกจานวนและมักมี คาลักษณนามตาม เช่น อีก สกั ต้งั ทัง้ เพยี ง ประมาณ ราว เกอื บ 6.4 คาหลังจานวน คือ คาที่อยู่หลังคาบอกจานวนแต่จะอยู่หน้าหรือหลังคา ลักษณนามก็ได้ 7. คาบอกกาหนด คาบอกกาหนด คอื คาขยายคานามที่อยู่ตาแหน่งท้ายสุดในนามวลี 7.1 คาบอกกาหนดชเ้ี ฉพาะ 7.2 คาบอกกาหนดไมช่ เี้ ฉพาะ 8. คาบุพบท คาบุพบท คือ คาที่ปรากฏหน้านามวลีแล้วประกอบกันเป็นบุพบทวลี คาบุพบทมักมี ความหมายบอกตาแหน่ง หน้าท่ี ความเกี่ยวข้อง ความมุ่งหมาย ความเป็นเจ้าของ เช่น ต่อ แด่ แก่ กบั ของ ใน ที่ บน แหง่ จาก ขา้ ง รมิ ดว้ ย โดย เพราะ เพอ่ื กว่า ฯลฯ ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
9. คาเชอื่ ม คาเชอื่ ม คอื คาที่ใช้เชื่อมคา วลหี รือประโยคเขา้ ดว้ ยกนั 9.1 คาเชื่อมสมภาค (สะ-มะ-พาก) คือ คาเชื่อมที่ใช้เชื่อมหน่วยภาษาชนิด เดยี วกันใหเ้ ป็นหนว่ ยเดยี วกัน 9.2 คาเช่ือมอนุประโยค คือ คาเชื่อมท่ีนาหน้าอนุประโยค (ประโยคย่อย) ใน ประโยคซ้อน 9.2.1 คาเช่ือมนามานุประโยค ได้แก่ ท่ี ว่า ให้ ที่ว่า จะนาหน้า ประโยคย่อยท่ที าหนา้ ทเ่ี ปน็ ประธาน กรรม หรือสว่ นเติมเต็มของประโยคซอ้ น 9.2.2 คาเช่อื มคณุ านุประโยค ไดแ้ ก่ ที่ ซึง่ อัน 9.2.3 คาเช่ือมวิเศษณานุประโยค ได้แก่ เพราะ ถ้า จนกระท่ัง เมื่อ ขณะท่ี ฯลฯ 9.3 คาเช่ือมเสริม ได้แก่ จึง เลย ถึง ก็ คาเช่ือมเสริมนี้เป็นคาเช่ือมท่ีเพิ่มข้ึน เพ่อื ให้หนว่ ยภาษา 2 หนว่ ยชดั เจนขึน้ 9.4 คาเชื่อมสัมพันธสาร เป็นคาเชื่อมที่เชื่อมประโยค 2 ประโยคขึ้นไป ให้ รวมกนั เป็นสมั พันธสารเดยี ว กค็ อื เชอื่ มใหเ้ ป็นสว่ นเดยี วกนั นัน่ เอง ได้แก่ กล่าวคือ อย่างไรก็ตาม อย่างไรกด็ ี อยา่ งไรเสยี แม้กระนน้ั ในท่ีสดุ ทวา่ แต่ทว่า ทั้งนี้ อน่งึ ฯลฯ 10. คาลงท้าย คาลงทา้ ย คือ คาที่ปรากฏหลงั สดุ ในประโยค ไม่มคี วามหมายชัดเจนในตัว มี 2 ประเภท คือ คาลงท้ายท่แี สดงทศั นภาวะ (เจตนาความรสู้ กึ ) และคาลงทา้ ยแสดงมารยา เช่น ละ่ นะ ซิ เถอะ น่า เถอะนะ ซินะ วะ ครบั คะ่ คะ ขอรับ เจ้าค่ะ ขา จ๋า ฯลฯ 11. คาอุทาน คาอุทาน คือ คาที่เปล่งออกมาเพ่ือแสดงอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ เช่น ตกใจ ดีใจ ประหลาดใจ สงสาร สะเทือนใจ ฯลฯ คาอุทานมักอยู่หน้าประโยคและมีเครื่องหมาย อัศเจรีย์ (!) กากับ เช่น ว้าย! โถ! โธ่! ไชโย! เชอะ! คณุ พระชว่ ย! 12. คาปฏิเสธ คาปฏิเสธ คอื คาท่ีใช้บอกปัด หรือไม่ยอมรับ 12.1 คาปฏเิ สธกรยิ า เชน่ มิ ไม่ หาไม่ ผมมิใช่คนดีอะไร เขาเดินไม่ระวัง เธอจะสานึก ผดิ ก็หาไม่ ฯลฯ 12.2 คาปฏิเสธข้อความ เช่น หามิได้ มไิ ด้ เปลา่ มักใชต้ อบปฏิเสธคาถาม เชน่ หามิได้ มิได้ เปลา่ ฯลฯ ตะลยุ แนวขอ้ สอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
คายมื ภาษาตา่ งประเทศและคาไทยแท้ **ขอ้ พิจารณา - ไม่ตรงมาตรา - มกั มีการันต์ - มักเปน็ คาแผลง - แปลงรูปศัพท์ได้ 1. คาที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต จะเปลี่ยนรูปศัพท์ได้โดยท่ีความหมายคงเดิม เช่น โลก-โลกา, วน-วนา ฯลฯ 2. คาที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต ส่วนมากจะสะกดไม่ตรงมาตรา บ้างก็มีการรันต์ เช่น อาทิตย์ จันทร์ ภาพ ศาสตร์ ธรรม กร แต่ท่ีสาคัญยังคงลักษณะเฉพาะ คือ เปลี่ยนรูปศัพท์ ไดโ้ ดยทีค่ วามหมายคงเดมิ เช่น อาทติ ย์-อาทติ ยา, จนั ทร์-จันทรา ฯลฯ 3. คาที่มาจากภาษาเขมร - มกั มี บงั บา บรร นาหน้า เชน่ บังคม บาเรอ บรรทุก บนั ดาล ฯลฯ - มักลงท้ายดา้ ย จ ญ ล ร เช่น อาจ เสรจ็ เผอญิ ควร ฯลฯ - มักเป็นคาแผลง เช่น สราญ-สาราญ, ตรวจ-ตารวจ, ทาย-ทานาย ฯลฯ - มักเปน็ คาควบกล้า เช่น โปรด ขลาด ควาญ กระบอื เพลงิ ฯลฯ - มกั มสี ระอา นาหนา้ เช่น กาจัด การาบ คารบ ชารดุ ทานาย ฯลฯ 4. คาทมี่ าจากภาษาจนี - มักมาจากช่ืออาหารการกิน เชน่ ก๋วยเตี๋ยว เต้าทงึ แป๊ะซะ เฉาก๊วย จบั ฉ่าย ฯลฯ - มกั เป็นคาที่เกยี่ วกบั สง่ิ ของเครือ่ งใช้ เชน่ ตะหลวิ ตึก เกา้ อี้ เกง๋ ฮวงซุ้ย ฯลฯ - มักเปน็ คาทเ่ี ก่ียวกบั การคา้ เช่น เจง๋ บ๋วย หุ้น ห้าง โสหุย้ ฯลฯ - มัก เป็นคาท่ีใช้วรรณยุกต์ตรี จัตวา เป็นส่วนมาก เช่น ก๋วยจ๊ับ กุ๊ย เก๊ เก๊ก ก๋ง ตุ๋น ฯลฯ 5. คาท่ีมาจากภาษาองั กฤษ การทับศัพท์ โดยการถ่ายเสียงและถอดตัวอักษร คายืมจากภาษาอังกฤษโดยวิธีการทับ ศพั ท์มจี านวนมาก game คาทับศพั ท์ เกม graph คาทับศพั ท์ กราฟ cartoon คาทับศพั ท์ การ์ตูน clinic คาทบั ศัพท์ คลินิก quota คาทบั ศัพท์ โควตา technology คาทับศัพท์ เทคโนโลยี ตะลยุ แนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
6. คาไทยแท้ สังเกตง่าย ๆ คอื - สะกดตรงตามมาตรา - ไม่ตอ้ งแปลเพ่มิ เติม - มกั มี ห นา หรือ อ นา เชน่ เหน็ เขา นอน น่งั เจา้ เอา ทม่ิ เข้า ปู พ่อ แม่ ฯลฯ การสรา้ งคา 1. คามูล คือ คาพ้ืนฐานท่ีมีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง กล่าวคือ เป็นคาท่ีสร้างขึ้น โดยเฉพาะอาจเป็นคาไทยดั้งเดิมหรือเป็นคาที่มาจากภาษาอ่ืนก็ได้ และจะเป็น คา \" พยางค์ \" เดียวหรือหลายพยางค์กไ็ ด้ 2. คาประสม คือ การนาเอาคามูลต้งั แต่ 2 คามารวมกันเป็นคาใหม่ การประสมคาน้ีทา ใหเ้ กิดถอ้ ยคาใชใ้ นภาษาไทยมากข้นึ ขอ้ สงั เกต 2.1 คาทจี่ ะนามาประสมกันนั้น จะเป็นคาในภาษาใดก็ได้ แต่ส่วนมากจะเป็นคาไทยกับ คาไทย ตวั อย่างเช่น คาไทย+คาไทย เช่น ลกู บ้าน แมส่ ่อื พ่อตา น้องชาย ดาวตก ฯลฯ 2.2 เกิดเป็นคาใหม่ที่มีความหมายคล้ายคามูลเดิม ตัวอย่างเช่น แม่+บ้าน แม่บ้าน ความหมาย หญิงผจู้ ัดการงานในบ้าน 2.3 เกิดเป็นคาใหม่ท่ีมีความมหายแตกต่างจากคามูลเดิม ตัวอย่างเช่น ลูก+น้อง ลกู น้อง ความหมาย ผู้ใตบ้ งั คับบญั ชา ผอู้ ยู่ในปกครอง 2.4 เปน็ การนาคาทเี่ ป็นการย่อขอ้ ความยาว ๆ มาประสม แต่เดิมท่ีมีความหมายหนึ่งให้ เป็นคาทใี่ ชเ้ ฉพาะมาประสมกบั คาอน่ื ตัวอย่างเชน่ - ผ้ชู านาญการฝีมืออย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ช่างทอง ช่างไม้ ช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างสิบ หมู่ - กลมุ่ ทม่ี อี าชีพเดยี วกัน เช่น ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ ชาวไทย ชาวประมง - กลมุ่ คนที่มอี าชีพอยา่ งใดอย่างหน่ึง เชน่ นกั เรียน นักรอ้ ง นักพดู นักบิน นักสืบ 2.5 เกดิ จากการนาเอาคาว่า การ ครือ ความ มาประสม นาหน้าคานาม คากริยา หรือ คาวิเศษณ์ ตัวอย่างเช่น การเรียน การเล่น การคลัง การบ้าน การเมือง การเขียน ความช่ัว ความบรสิ ทุ ธิ์ ความสะอาด ฯลฯ ตะลุยแนวขอ้ สอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
3. คาซ้า คือ คาท่ีออกเสียงซ้าคาเดิมให้ต่อเนื่องกันโดยใช้เคร่ืองหมายไม้ยมก (ๆ) เติม หลังคา คาท่ีซ้าเสียงอาจจะมีความหมายคงเดิมหรือแตกต่างกันไปจากเดิมข้ึนอยู่กับความหมาย ของคาและบรบิ ทท่ปี ระกอบ 3.1 นาคาในภาษาไทยทุกชนดิ ทงั้ นาม สรรพนาม กริยา วิเศษณ์ บุพบท สันธาน อุทาน มาซา้ เสียงได้ท้ังหมด เชน่ เด็ก ๆ เธอ ๆ หลับ ๆ ต่า ๆ ใกล้ ๆ ราว ๆ โฮ ๆ ฯลฯ 3.2 นาคาซอ้ นมาออกเสียงซา้ ๆ เช่น สวย ๆ งาม ๆ งก ๆ เงิ่น ๆ เตาะ ๆ แตะ ๆ เลียบ ๆ เคียง ๆ ฯลฯ 4. คาซ้อน คือ คาประสมที่เกิดจากการนาคาที่มีความหมายคล้ายกัน หรือตรงกันข้าม มาประสมกัน เมอ่ื ประสมกันแลว้ จะช่วยขยายความของกันและกัน และอาจจะมีเสียงที่กลมกลืน หรอื คลอ้ งจองกนั 4.1 คาซ้อนท่ีความมหายเหมือนกัน หรือใกล้เคียงกัน เช่น กีดขวาง ปิดบัง ขัดแย้ง คัดเลือก ใช้จ่าย ดูแล ทุบตี ทิ้งขว้าง ปิดบัง ดูดด่ืม ใหญ่โต อุ้มชู แกว่งไกว เห่ียวแห้ง นุ่มนวล เสือ่ สาด โกรธแคน้ เล็กนอ้ ย วดั วาอาราม ภตู ผปี ศี าจ กอ่ รา่ งสร้างตัว ฯลฯ 4.2 คาซ้อนท่ีความหมายตรงกันข้าม เช่น ชั่วดี ถ่ีห่าง ดีร้าย อ้วนผอม ยากง่าย ผิดถูก มากนอ้ ย หน้าหลัง เท็จจริง ตนื้ ลึกหนา้ บาง สูงตา่ ดาขาว บาปบญุ คุณโทษ ฯลฯ 4.3 คาซ้อนท่ีมีเสียงสัมผัสคล้องจอง หรือเรียกว่า คาซ้อนเพื่อเสียง ได้แก่ คาซ้อนท่ีมี พยัญชนะต้นตัวเดียวกัน หรือมีสระเสียงเดียวกัน แต่จะมีความหมายเพียงคาเดียวเท่านั้น เช่น งอแง จู้จ้ี ซอกแซก โผงผาง รุ่มร่าม อวบอิ่ม โลเล โวยวาย เอะอะ อุ้ยอ้าย เปรี้ยงปร้าง คลอน แคลน มากมายกา่ ยกอง สวงิ สวาย อนิ ังขังขอบ เตลิดเปดิ เปิง เปน็ ตน้ ตะลยุ แนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
การจาแนกประโยคตามหนงั สือบรรทัดฐานภาษาไทย 1. ประโยคสามญั ขอ้ สังเกต - กรยิ าวลีเดยี ว เช่น ฉันกนิ ขนม - กรยิ าหลายวลีเรยี งกนั โดยไมม่ คี าเชอื่ ม เชน่ พี่นัง่ ฟังเพลงในห้อง (นง่ั -ฟัง) 2. ประโยครวม ข้อสงั เกต - สงั เกตคาเชอ่ื ม และ และก็ แต่ แตท่ ว่า หรอื เพราะ เพราะ...จึง เชน่ พอ่ จะไปตลาดแต่ฝนก็ตกเสยี ก่อน, คนไทยนยิ มปลกู ข้าวและเล้ยี งสตั ว์ ประโยคย่อย 1 ประโยคย่อย 2 คาเชอ่ื ม 1. เราควรดืม่ นา้ วันละ 6-8 แก้ว (เราควร)นอนหลับวนั ละ 6-8 ช่วั โมง และ แล้ว 2. เขาลงจากรถโดยสารทที่ ่าพระจันทร์ (เขา)นั่งเรอื ข้ามฟากไปตลาดวังหลัง แลว้ จงึ แต่ 3. นกั ฟตุ บอลอบอุ่นรางกาย (นกั ฟุตบอล)ลงสนามแข่งขนั แต่ทวา่ หรือ 4. เราไม่ไดต้ อ่ ส้กู ับ “คนโหดรา้ ย” เราต่อสกู้ ับ “ความโหดร้าย” ในตัวคน มฉิ ะน้นั 5. เขาเหน็ เหตุการณ์ท้ังหมด (เขา)ไม่ยอมให้การเป็นพยานในคดนี ้ี ไมเ่ ช่นน้นั 6. นักเรยี นสามารถนาอาหารกลางวนั (นักเรียน)จะซอ้ื อาหารกลางวันทโี่ รงอาหาร จากบ้านมารบั ประทานทโี่ รงเรยี น ของโรงเรียนก็ได้ 7. เราต้องไมข่ บั รถขณะมนึ เมา อาจเกดิ อบุ ตั ิเหตุได้ 8. นกั เรียนต้องไมข่ อ้ งเกีย่ วกับยาเสพ (นักเรียน)อาจต้องเสียใจไปตลอดชวี ิต ติด ตะลยุ แนวขอ้ สอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
การจาแนกประโยคตามหนงั สอื บรรทดั ฐานภาษาไทย 3. ประโยคซ้อน - นามานปุ ระโยค (ท่ี ท่ีวา่ วา่ ให้) - คณุ านุประโยค (ที่ ซ่ึง อัน) - วิเศษณานุประโยค (เม่ือ ขณะท่ี ก่อน หลัง หลังจากท่ี ต้ังแต่ เพราะ เน่ืองจาก จน จนกระทงั่ เพอื่ ถา้ หาก หากวา่ ถ้าหากว่า ท้งั ท่ี แมว้ า่ ) ประโยคหลกั อนปุ ระโยค คาเชอ่ื ม 1. เป็นความจริงทง้ั หมด พยานใหก้ ารในศาลนนั้ ท่ี 2. ประชาชนตอ้ งการ รฐั บาลบรหิ ารประเทศด้วยความซอ่ื สตั ย์สจุ รติ ให้ 3. ปรากฏการณ์ฝนดาวตกเปน็ สนใจของคนจานวนมาก ที่ 4. พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ จะมองเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงที่บ้านหว้ากอ วา่ เจา้ อยู่หวั ไดท้ รงคานวณไว้ล่วงหนา้ ต า บ ล ค ล อ ง ว า ฬ อ า เ ภ อ เ มื อ ง จั ง ห วั ด ว่า ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 5. นางอองซาน ซจู ี กลา่ ว 2411 คนทีป่ ราศจากความบากบ่นั ยอ่ มไมม่ ีสทิ ธ์ิหวัง 6. นกั ทอ่ งเท่ยี วตา่ งต่ืนเตน้ จะไดล้ ่องแกง่ เปน็ คร้ังแรก ท่ี 7. เขาเป็นคน รักศักด์ศิ รขี องตนเองเป็นอยา่ งยง่ิ ที่ 8. เขาเป็นเจ้าของภาพวาด (ภาพวาด)มอี ายุราว 350 ปี ซึ่ง ตะลุยแนวขอ้ สอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
การศึกษาเรือ่ งคาราชาศัพท์ เร่อื งคาราชาศัพทม์ ปี ระเดน็ ท่ีควรศึกษาและออกขอ้ สอบเป็นประจา ไดแ้ ก่ 1. คานามราชาศัพท์ 2. คาสรรพนามราชาศัพท์ 3. คากรยิ าราชาศพั ท์ 4. คาข้นึ ตน้ คาลงท้าย คาขานรับ 5. คาต่างลาดับชั้นที่มคี วามหมายเดียวกนั 6. หลักการใชค้ าราชาศัพทท์ ี่ควรทราบ 7. คาราชาศพั ท์ทีใ่ ช้สาหรบั พระสงฆ์ ตะลุยแนวขอ้ สอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
สาระท่ี 5 วรรณคดีและวรรณกรรม “แต่งกลอนและกาพย์ ทราบกฎการประพันธ์ หรรษาภาพพจน์ จดจาอาขยาน ชานาญถอดบทประพัน์” ท่ี ชนิด จานวนคา จานวนคาตอ่ วรรค การบงั คับ ต่อบท ลักษณะการเรียงคา สาคัญ 1 กาพย์สุรางคนางค์ 28 28 2 กาพยย์ านี 11 22 4*7 สมั ผัส 3 อินทรวเิ ชยี รฉนั ท์ 11 22 5-6-5-6 4 โคลงสองสุภาพ 14+2 5-6-5-6 สัมผัส 5 โคลงสามสุภาพ 19+2 5-5-4-(2) 6 โคลงสีส่ ุภาพ 30+2+2 5-5-5-4-(2) คร-ุ ลหุ 7 กาพยฉ์ บัง 16 16 5-2-(2)*3, 5-4 6-4-6 เอก-โท 8 กลอนสุภาพ 32 8-8-8-8 เอก-โท 9 วสนั ตดิลกฉนั ท์ 14 28 10 รา่ ยสุภาพ ไมจ่ ากดั 8-6-8-6 เอก-โท 5 วรรณยุกต์ ปลายวรรค สมั ผัส/ วรรณยกุ ต์ คร-ุ ลหุ วรรณยกุ ต์ ปลายวรรค ลีลาการประพนั ธ์ 1. เสาวรจนี บทชมโฉม ชมความงาม บรรยายฉากและสิ่งตา่ ง ๆ 2. นารีปราโมทย์ บทเกี้ยว โอโ้ ลม เกีย้ วพาราสี 3. พโิ รธวาทงั บทแสดงอารมณโ์ กรธ 4. สลั ลาปงั คพสิ ัย บทแสดงการครา่ ครวญ โศกเศรา้ ตะลยุ แนวขอ้ สอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
รหัสวชิ า 61 ภาษาไทย รหัสชดุ ข้อสอบ 100 สอบวันเสารท์ ่ี 13 มนี าคม 2564 ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
สาระที่ 1 การอ่าน รูปแบบข้อสอบ 4 ตวั เลือก 1 คาตอบ จานวน 10 ข้อ ท 1.1 ป.6/2 อธบิ ายความหมายของคา ประโยค และขอ้ ความทเี่ ปน็ โวหาร ท 1.1 ป.6/2 อธิบายความหมายของคา ประโยค และข้อความที่เป็นโวหาร ท 1.1 ป.6/2 อธิบายความหมายของคา ประโยค และขอ้ ความทเี่ ปน็ โวหาร ตะลยุ แนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
สาระที่ 1 การอา่ น รปู แบบข้อสอบ 4 ตวั เลอื ก 1 คาตอบ จานวน 10 ขอ้ ท 1.1 ป.6/4 แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อา่ น ท 1.1 ป.6/4 แยกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็นจากเร่อื งท่ีอา่ น ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
สาระท่ี 1 การอา่ น รูปแบบขอ้ สอบ 4 ตัวเลือก 1 คาตอบ จานวน 10 ขอ้ ท 1.1 ป.6/5 อธบิ ายการนาความรแู้ ละความคดิ จากเร่อื งท่อี า่ นไปตัดสินใจแกป้ ญั หาในการ ดาเนินชวี ติ ท 1.1 ป.6/5 อธบิ ายการนาความร้แู ละความคิดจากเร่ืองท่อี า่ นไปตดั สนิ ใจแกป้ ญั หาในการ ดาเนนิ ชวี ิต ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
สาระท่ี 1 การอา่ น รูปแบบขอ้ สอบ 4 ตัวเลือก 1 คาตอบ จานวน 10 ขอ้ ท 1.1 ป.6/5 อธบิ ายการนาความรแู้ ละความคดิ จากเร่อื งท่อี า่ นไปตัดสินใจแกป้ ญั หาในการ ดาเนินชวี ติ ท 1.1 ป.6/5 อธบิ ายการนาความร้แู ละความคิดจากเร่ืองท่อี า่ นไปตดั สนิ ใจแกป้ ญั หาในการ ดาเนนิ ชวี ิต ตะลุยแนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
สาระท่ี 1 การอา่ น รปู แบบขอ้ สอบ 4 ตัวเลอื ก 1 คาตอบ จานวน 10 ขอ้ ท 1.1 ป.6/7 อธบิ ายความหมายของขอ้ มลู จากการอ่านแผนผงั แผนท่ี แผนภูมิ และกราฟ ตะลยุ แนวขอ้ สอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครูวรยา
สาระท่ี 2 การเขยี น รูปแบบข้อสอบ 4 ตวั เลือก 1 คาตอบ จานวน 2 ข้อ ท 2.1 ป.6/6 เขียนจดหมายส่วนตวั ท 2.1 ป.6/6 เขียนจดหมายส่วนตัว ตะลยุ แนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
สาระท่ี 3 การฟงั การดู และการพดู รูปแบบข้อสอบ 4 ตัวเลอื ก 1 คาตอบ จานวน 5 ข้อ ท 3.1 ป.6/2 ตั้งคาถาม และคาตอบเชงิ เหตุผลจากเรอ่ื งทฟ่ี ังและดู ตะลยุ แนวขอ้ สอบ O-NET ภาษาไทย ป.6 โดยครวู รยา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203