Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การแนะแนวการศึกษา.

การแนะแนวการศึกษา.

Published by จันทร์จิรา ภิละคํา, 2020-09-20 03:18:01

Description: การแนะแนวการศึกษา.

Search

Read the Text Version

1 การแนะแนวการศึกษา (Educational Guidance)

สารบญั 2 เนอื้ หา หนา้ 3 ข้อมูลเบอื้ งต้นการแนะแนวการศึกษา 5 7 แนะนาการศึกษาต่อสายสามัญ (ม.4-ม.6) 16 แนะแนวการศกึ ษาต่อสายอาชีวศึกษา ปวช. ปวส. 24 แนวทางการเลือกสถานศึกษาเพ่อื ศึกษาต่อ แนะแนวการศกึ ษาต่อต่างประเทศ

3 ขอ้ มลู เบ้ืองตน้ การแนะแนวการศกึ ษา การแนะแนวการศึกษาจะเร่ิมต้ังแต่วันแรกของนักศึกษาที่เข้าสู่สถานศึกษา และดาเนินไปจนถึงการ ส้ินสุดการเรียนเพื่อไปประกอบอาชีพและการศึกษาต่อในระดับสูง ประกอบด้วยกิจกรรม 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ กิจกรรมช่วยเหลือนักศึกษาด้านการเรียน คือ การให้ข้อสนเทศทางการเรียนการศึกษาต่อการทางาน เพื่อหารายได้ระหว่างเรียน การติดต่อขอรับทุนทางการศึกษาวารสารและหนังสือทางราชการแนะแนวทาง การศึกษา ประการที่สอง การช่วยเหล่ือนักศึกษาด้านการปรับตัว ส่งเสริมทางด้านสติปัญญา ตลอดจนความ เข้าใจในเร่ืองความสามารถของตนเองให้สามารถตดั สินใจเพื่อมุ่งความสาเร็จทางด้านการศึกษา ความสามารถ ท่ัวไป ความถนัดเฉพาะ ค่านิยม การค้นหาข้อมูลส่วนบุคคลและนักศึกษาท่ีมีแนวโน้มของความเคล่ือนไหว ดา้ นพฤติกรรมท่ีไมพ่ ึงประสงค์ วตั ถุประสงค์ 1. เพ่ือช่วยให้นักศึกษาได้รับข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับการเรียนและสามารถเข้าใจคุณสมบัติของ บคุ คลท่จี ะศกึ ษาตอ่ 2. เพ่อื ช่วยให้นักศึกษาสามารถปรบั ตนเองไหเ้ ข้ากบั การเรียนในแตล่ ะสาขาวชิ า และวางแผนทางการ ศกึ ษาได้อยา่ งเหมาะสม จุดม่งุ หมายของการแนะแนวการศกึ ษา 1. เพ่ือช่วยให้นักเรียนได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนการสอน การวัดประเมินผล ตลอดจนระเบยี บกฎเกณฑ์ตา่ งๆ ของโรงเรียนเพือ่ ท่นี ักเรียนจะได้ปฏบิ ัตติ นได้อยา่ งถูกต้อง 2. เพื่อช่วยให้นักเรียนได้รู้จักและเข้าใจตนเองอย่างถ่องแท้ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนสามารถตัดสินใจ เลือกแผนการเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งตรงกบั ความเข้าใจ ความตอ้ งการ ความถนดั และความสามารถของตน 3. เพื่อช่วยให้นักเรียนได้รับข้อสนเทศทางการศึกษาต่อในด้านต่างๆ คุณสมบัติของผู้ท่ีจะเข้าศึกษา วิธกี ารเขา้ ศึกษา จานวนท่ีรับ คา่ ใชจ้ ่ายในการศกึ ษาเลา่ เรยี นและระยะเวลาทีใ่ ชใ้ นการศึกษา เปน็ ต้น 4. เพื่อช่วยให้นักเรียนสามารถตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตรท่ีทางโรงเรียนจัดขึ้นได้อย่าง เหมาะสม ซง่ึ จะช่วยใหค้ วามสามารถพิเศษของนกั เรียนปรากฏเดน่ ชดั และไดร้ บั การส่งเสริมพัฒนาอย่างเต็มที่ 5. เพื่อช่วยให้นกั เรยี นไดป้ ระสบความสาเร็จในการศกึ ษาตามแผนการเรยี นของตน

4 ประโยชนข์ องการแนะแนว การแนะแนวนับว่าเปน็ การท่ีสาคัญท่เี กีย่ วข้องกบั การศกึ ษาอย่ตู ลอด แนะแนวมปี ระโยชน์มากมาย ดงั น้ี 1. ช่วยให้นกั เรียนศึกษาความรอู้ ย่างถูกวธิ ี ทาใหเ้ กิดประสิทธิภาพในการเรียนการสอน 2. ช่วยให้นักเรยี นสามารถเรียนไปตามความถนัดของตน สามารถเลือกวิชาตามความรู้ ความสามารถ ของตนเอง 3. ช่วยใหน้ กั เรียนรูจ้ กั คดิ และร่วมกิจกรรมตา่ งๆ ไปตามความพอใจ และความสามารถของตนเอง 4. ช่วยใหน้ ักเรยี นสามารถเลอื กอาชพี ไปตามความถนัดของตนเองอันจะเป็นแนวทางไปสคู่ วาม สัมฤทธผิ์ ลในวิชาที่ตนเองเลือกเรยี น 5. ชว่ ยใหน้ ักเรียนเกิดความคิดริเร่มิ สรา้ งสรรค์ รูจ้ กั คดิ และประดษิ ฐ์สิง่ ใหม่ๆ ได้ดว้ ยตนเอง สร้าง ความเชื่อม่ันให้กับตนเอง 6. ช่วยให้นักเรียนประสบความสาเร็จในการศึกษาเล่าเรียน ลามารถนาความรู้ท่ีได้รับไปปรับตัว ใหอ้ ยู่ในสังคมได้อยา่ งราบรนื่ 7. ช่วยให้นักเรียนเข้าใจตนอง รู้จักคิดแลแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง รู้จักวางแผนชีวิตในอนาคตและ ดาเนนิ ชวี ิตไปตามทีต่ นเองตอ้ งการ 8. ชว่ ยให้นกั เรียนรจู้ กั เละเข้าใจสภาพแวดลอ้ มรอบๆ ตัว รจู้ ักและเข้าใจบคุ คลอ่นื ได้ดี 9. ชว่ ยให้นกั เรียนเปน็ คนทีม่ ีเหตุผล รู้จักคณุ ค่าของตนเองและนาคุณคา่ ของตนเองไปใชป้ ระโยชน์ 10. ช่วยใหน้ ักเรยี นเป็นบคุ คลท่ีมีคณุ ภาพ

5 แนะนาการศกึ ษาตอ่ สายสามัญ (ม.4-ม.6) การศึกษาต่อของนักเรียนท่ีจบช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 มีความสาคัญอย่างยิ่งต่อตัวนักเรียนเพราะนั่น จะเป็นตัวกาหนดอนาคตของเส้นทางอาชีพว่าจะเดินต่อไปในทางใด การศึกษาต่อหลังจากจบชั้นมัธยมศึกษา ปีท่ี 3 การเข้าศึกษาต่อในสายสามัญ คือระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 เป็นการศึกษาในหลักสูตรการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ในช่วงช้ันท่ี 4 เป็นหลักสูตรการศึกษาท่ีเน้นการศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาระดับปริญญาตรี ในสาขาวิชาต่างๆ ใช้ระยะเวลาในการศึกษาตามหลักสูตรคือ 3 ปี โดยแบ่งการศึกษาออกเป็นกลุ่มสาระต่างๆ ตามความถนัดและความสนใจของนักเรยี น ดงั นี้ 1. กลุม่ ทเ่ี น้นการเรียนรู้ด้าน วิทยาศาสตร์-คณติ ศาสตร(์ วิทย์-คณติ ) เน้ือหาที่เรียนเป็นหลักในสายวิทย์-คณิต วิชาวิทยาศาสตร์ ม.ปลายจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ซึ่งแต่ละ วิชาย่อยนั้น จะต้องเรียนทั้งภาคบรรยายในห้องเรียน และ ภาคปฏิบัติที่จะได้ทาการทดลองต่างๆ ส่วนคณิตศาสตร์ในระดับม. ปลาย จะมีปริมาณเน้ือหาคณิตศาสตร์ท่ีมีความซับซ้อนและจะต้อง เรียนรายวิชาภาษาไทย สังคม อังกฤษ ซ่ึงเป็นวิชาพ้ืนฐานตาม หลกั สูตรทีก่ ระทรวงศกึ ษาไดก้ าหนด ทางเลอื กคณะของแผนการเรียนวิทย์-คณติ แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เภสัชศาสตร์ สหเวชศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ สัตวแพทยศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ เกษตรศาสตร์ ครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ จิตวิทยา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์การกีฬา วิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ อุตสาหกรรม บริหารธุรกิจ ศิลปะกรรมศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ อักษรศาสตร์ มนุษยศาสตร์ นิเทศศาสตร์ ประมง วนศาสตร์ ส่ิงแวดล้อม ศลิ ปศาสตร์ 2. กล่มุ ทีเ่ นน้ การเรยี นรดู้ า้ น ศิลปศาสตร์-คณิตศาสตร์ (ศิลป์-คานวณ) การเรียนจะเน้นหนักไปที่ 2 วิชา ได้แก่ วิชา ภาษาอังกฤษและวิชาคณิตศาสตร์ โดยวิชาภาษาอังกฤษ จะเรียนต้ังแต่พ้ืนฐานไปจนถึงระดับสูง ส่วนวิชา คณิตศาสตร์จะเรียนเน้ือหาเดียวกับสายวิทย์-คณิต ซึ่งมีความซับซ้อนของเนื้อหาตามหลักสูตรท่ีกระทรวง- ศึกษาไดก้ าหนด

6 ทางเลอื กคณะของแผนการเรียนศลิ ปค์ านวณ นิตศิ าสตร์ รฐั ศาสตร์ อกั ษรศาสตร์ มนุษยศาสตร์ นเิ ทศศาสตร์ บริหารธรุ กจิ แพทยศาสตร์ ครศุ าสตร์/ศึกษาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์การกีฬา มัฑณศิลป์ จิตวิทยา อตุ สาหกรรม วศิ วกรรมศาสตร์ ภูมสิ ารสนเทศศาสตร์ เทคโนโลยีทางทะเล อญั มณี เทคโนโลยีสารสนเทศ ศลิ ปศาสตร์ 3. กลุม่ ทเี่ น้นการเรียนรู้ดา้ น ศลิ ปศาสตร์-ภาษา (ศลิ ป์-ภาษา) จะเน้นไปท่ภี าษาองั กฤษ และภาษาที่ 3 เชน่ ภาษาจนี ภาษาญีป่ ุ่น ภาษา เกาหลี ภาษาเยอรมนั ภาษาอิตาลี เป็นต้น สว่ นวิชาอืน่ ๆ จะเรียนเพียงแค่ความรู้ พนื้ ฐาน ทางเลือกคณะของแผนการเรยี นศิลป์ภาษา นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ อักษรศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ ครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ จิตวิทยา สถาปัตยกรรมศาสตร์ อตุ สาหกรรม บริหารธรุ กจิ โบราณคดี ศลิ ปศาสตร์ 4. กลมุ่ ทเี่ น้นการเรียนรดู้ า้ น ศิลปทัว่ ไป (ศลิ ป-์ สังคม) จะเน้นไปทว่ี ิชาสงั คมสว่ นวชิ าอืน่ ๆ จะเรยี นเพียงแค่ความรู้พ้นื ฐาน ทางเลือกคณะของแผนการเรียนศลิ ปท์ ัว่ ไป นิเทศศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ อักษรศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปกรรมศาสตร์ ครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์การกีฬา วิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ อตุ สาหกรรม บริหารธรุ กิจ ศลิ ปศาสตร์

7 แนะแนวทางการศกึ ษาต่ออาชวี ศกึ ษา ปวช. ปวส. สถาบันการอาชีวศึกษา (Vocational Education Institution) สถาบันการอาชีวศึกษาและสถาบัน การอาชีวศึกษาเกษตร เปิดสอนหลักสูตร 3 ระดับชั้น ตามมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติ พ.ศ. 2556 ได้แก่ 3 หลักสูตรหลัก ดังนี้ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) , ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และปริญญาตรสี ายเทคโนโลยหี รอื สายปฏบิ ัตกิ าร (ทล.บ.) หลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) ตามคาส่ังสานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ปี พ.ศ. 2556 – 2561 กาหนดมาตรฐานหลกั สูตร และสาขาวชิ า 9 ประเภทวิชา 51 สาขาวชิ า ดงั น้ี 1. อุตสาหกรรม ชา่ งยนตช์ ่างกลโรงงานชา่ งซ่อมบารงุ ช่างตอ่ เรือชา่ งเขียนแบบเครื่องกลช่างเช่อื ม โลหะช่างไฟฟา้ กาลงั ช่างอิเลก็ ทรอนิกสโ์ ทรคมนาคมมคคาทรอนิกส์ช่างก่อสร้างสถาปัตยกรรมสารวจโยธาชา่ ง เคร่อื งเรือนและตกแต่งภายในชา่ งพิมพอ์ ุตสาหกรรมยางเทคนิคแวน่ ตาและเลนสเ์ ทคนิคคอมพิวเตอร์สตุ สาหกร รมฟอกหนงั 2. พาณชิ ยกรรม การบญั ชีการตลาดการเลขานุการคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจธุรกิจคา้ ปลกี ธุรกิจ สถานพยาบาลการประชาสัมพันธภ์ าษาต่างประเทศการจัดการดา้ นความปลอดภัย 3. ศลิ ปกรรม วจิ ติ รศลิ ปก์ ารออกแบบศิลปหัตกรรมอตุ สาหกรรมเครื่องหนังศิลปกรรมเซรามกิ การ ถ่ายภาพและะวดี ที ัศน์.เทคโนโลยีศลิ ปกรรมคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ ศิลปการดนตรีศลิ ปหตั ถกรรมรปู พรรณและ เคร่อื งประดับเคร่ืองประดบั อัญมณชี ่างทองหลวงการพิมพ์สกรนี ออกแบบนเิ ทศศลิ ป์ 4. คหกรรม แฟชัน่ และส่ิงทออาหารและโภชนาการคหกรรมศาสตรเ์ สริมสวยธุรกจิ คหกรรม 5. เกษตรกรรม เกษตรศาสตร์

8 6. ประมง เพาะเลยี้ งสตั วน์ ้าแปรรปู สัตว์นา้ 7. อตุ สาหกรรมท่องเที่ยว การโรงแรมการท่องเทีย่ ว 8. อุตสาหกรรมส่ิงทอ เทคโนโลยีสิ่งทอเคมสี ิง่ ทอเทคโนโลยีเคร่ืองนุ่งห่ม 9. เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร เทคโนโลยสี ารสนเทศ หลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสงู ตามคาส่งั สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ที่ 552/2557 ปี พ.ศ. 2557 กาหนดมาตรฐาน หลักสตู รและสาขาวชิ า และการปรับปรุงเพ่ิมเติมในปี พ.ศ. 2558 – 2561 มี 9 ประเภทวชิ า และสาขาวิชา ตา่ ง ๆ ดังน้ี 1. อตุ สาหกรรม เทคนคิ เครอ่ื งกล เทคนคิ การผลิต ไฟฟ้า อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ชา่ งก่อสร้างอุตสาหกรรม เคร่ืองเรือนและตกแต่งภายในเทคนิคสถาปัตยกรรมสารวจเทคนิคพลังงานเทคนคิ กายอุปกรณ์โยธาเทคโนโลยี ยางเทคนคิ โลหะเขียนแบบเครื่องกลเทคนิคอุตสาหกรรมการพมิ พ์เทคโนโลยีการต่อเรือเทคโนโลยีโทรคมนาคม เครื่องมือวัดและควบคุมเคมีอุตสาหกรรมปิโตรเคมีช่างอากาศยาน เมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์เทคโนโลยี ปโิ ตรเลยี มเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์การตรวจสอบโดยไม่ทาลาย [f]ช่างเทคนิคระบบขนสง่ ทางราง เทคนคิ ขึน้ รูป พลาสติก เทคนคิ เครอ่ื งทาความเย็นและปรบั อากาศ 2. บรหิ ารธุรกจิ การบัญชกี ารตลาด การเลขานุการคอมพิวเตอร์ธรุ กจิ การจัดการธุรกจิ ค้าปลกี การ จัดการโลจสิ ตกิ ส์การจดั การสานักงานการเงินและการธนาคารการจัดการทรัพยากรมนุษย์ธุรกิจสถานพยาบาล ภาษาต่างประเทศธุรกจิ การจัดการท่ัวไปธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ 3. ศลิ ปกรรม วจิ ติ รศลิ ป์การออกแบบศลิ ปหัตกรรมเทคโนโลยผี ลิตภัณฑอ์ ตุ สาหกรรมเครื่องหนัง เทคโนโลยเี ซรามิกการถา่ ยภาพและมัลตมิ เี ดยี เทคโนโลยศี ลิ ปกรรมคอมพิวเตอร์กราฟิกศิลปหตั ถกรรม รูปพรรณและเครื่องประดบั เครอ่ื งประดับอัญมณีการออกแบบเครอื่ งประดบั และอัญมณีชา่ งทองหลวงดนตรี และเทคโนโลยกี ารพมิ พส์ กรีน บรรณาธกิ ารกิจออกแบบนเิ ทศศิลป์ บรรณาธิการกจิ 4. คหกรรม เทคโนโลยีแฟช่ันและส่ิงทอเทคโนโลยกี ารออกแบบแฟชนั่ และสิ่งทอเทคโนโลยสี ่ิงทอ และเครื่องนุ่มห่มอาหารและโภชนาการ เพ่มิ เติมสาขางานเชพอาหารนานาชาติอตุ สาหกรรมอาหารการ บริหารงานคหกรรมศาสตรเ์ ทคโนโลยีความงามธุรกิจคหกรรมการดแู ลผ้สู งู อายุเชฟอาหารไทย 5. เกษตรกรรม เกษตรศาสตร์พชื ศาสตรส์ ตั วศาสตร์สัตวรักษ์ช่างกลเกษตรอุตสาหกรรมเกษตร เกษตรอุตสาหกรรมเทคโนโลยีภมู ทิ ัศนธ์ ุรกิจเกษตรและสหกรณ์ บรรณาธิการกจิ 6. ประมง เพาะเล้ียงสตั ว์นา้ แปรรปู สตั ว์น้า 7. อตุ สาหกรรมท่องเที่ยว การโรงแรมการท่องเทยี่ วการจัดการธรุ กจิ ท่องเท่ยี วเกษตรเชิงนิเวศการจัด ประชุมและนิทรรศการการโรงแรม สปาและความงาม

9 8. อุตสาหกรรมสิ่งทอ เทคโนโลยีสงิ่ ทอเคมสี งิ่ ทอเทคโนโลยีเครื่องน่งุ ห่ม [k]เทคโนโลยกี ารทอผา้ ไหม และผา้ พน้ื เมอื ง 9. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร เทคโนโลยีสารสนเทศคอมพิวเตอร์โปรแกรมเมอร์ ซอฟตแ์ วร์ระบบสมองกลฝังตวั คอมพิวเตอร์เกมและแอนิเมชนั หลกั สูตรปริญญาตรสี ายเทคโนโลยหี รือสายปฏิบัติการ การเปดิ สอนหลักสูตรปริญญาตรีในสถาบันการอาชีวศึกษา ใช้มาตรฐานคุณวฒุ ิอาชวี ศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรสี ายเทคโนโลยหี รอื สายปฏิบัติการ ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2557 ปจั จบุ ันเปิดสอน 6 สาขาวชิ า ดงั นี้ อตุ สาหกรรม เทคโนโลยียานยนต์ (ทล.บ. (เทคโนโลยียานยนต์)) เทคโนโลยีไฟฟ้า (ทล.บ. (เทคโนโลยีไฟฟา้ )) เทคโนโลยีอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (ทล.บ. (บญั ชี)) บรหิ ารธรุ กจิ กาตลาด (ทล.บ. (การตลาด)) บญั ชี (ทล.บ. (บญั ช)ี ) คอมพวิ เตอร์ธุรกจิ (ทล.บ. (คอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ ))

10 เรียนสายอาชีพดอี ยา่ งไร ? 1. ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ มีรายได้ระหว่างเรียน นอกจากการเรียนทฤษฎีแล้ว หลักสูตรสาย อาชพี ยงั เน้นการลงมือภาคปฏิบัตอิ ย่างเข้มข้น ทกุ หลกั สูตรมกี ารฝกึ งานเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์และทักษะ วิชาชีพตั้งแต่ยังเรียนอยู่ไม่น้อยกว่า 300 ช่ัวโมง นักเรียนจะได้มีโอกาสลงมือปฏิบัติงานจริง ฝึกใช้อุปกรณ์ เรียนรู้ กระบวนการในสายอาชีพนน้ั ๆ เป็นประสบการณ์ตรงจากหน้างาน 2. มีทักษะวิชาชีพติดตัว การได้มีโอกาสฝึกงานระหว่างเรียนสายอาชีพให้อะไรมากกว่าการเรียนรู้ จากตาราเพียงอย่างเดยี ว เพราะการฝึกฝนปฏิบัตงิ านเป็นประจาย่อมทาใหเ้ กิดทกั ษะและความเช่ียวชาญติดตัว นกั เรียนไปตลอด เมือ่ ศกึ ษาจบระดับประกาศนยี บตั รวิชาชพี สามารถใช้เปน็ ใบเบิกทางสมัครงานได้เลย 3. สามารถเลือกเรียนได้หลากหลาย หลักสูตรสายอาชีพมีให้ เลือกเรียนหลากหลายสาขาวิชา ซึ่งแต่ละสาขามีความน่าสนใจ จบแล้วมี ตาแหน่งงานรองรับ นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจและ ความถนัดของตวั เอง 4. ได้รับความนิยมจากตลาดแรงงาน ตาแหน่งงานในปัจจุบัน กาลังขาดแคลนช่างฝีมือและบุคลากรวิชาชีพทักษะเฉพาะอยู่เป็นจานวน มาก หลายคนแม้จะเรียนจบปริญญาตรงกับสายงาน แต่ยังขาด ประสบการณ์ในการทางานจริง การเรียนสายอาชีพจึงมีข้อได้เปรียบ มากกว่า 5. โอกาสเรียนต่อระดับอุดมศึกษา วุฒิการศึกษาในการเรียน สายอาชีพไม่ใช่แค่ ปวช. ปวส. เท่าน้ัน เพราะหลายๆ สถาบันอุดมศึกษา ในปัจจุบันหันมารับนักเรียนสายอาชีพให้เข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี โดยเปิดหลักสูตรพิเศษท่ีน่าสนใจ เพ่ือสนับสนุนให้นักเรียนสายอาชีพได้ เรียนตอ่ ในระดับสูงข้นึ การเรยี นอาชีวศกึ ษาควบคกู่ บั การทางาน - ระบบปกตเิ รียนวันจันทร์ – ศกุ ร์ นักเรยี นสามารถทางาน Part Time ได้ - ระบบทวิภาคี เรียนคร่ึงหลักสูตรและฝึกงานครึ่งหลักสูตร นักเรียนสามารถทางาน Part Time ได้ - การเรียนภาคสมทบหรือภาคค่า เฉพาะผู้ท่ีทางานแล้ว สามารถเรียนวันเสาร์ – อาทิตย์ หรอื ภาคคา่ (เปิดสอนเฉพาะบางสาขาเทา่ น้ัน)

11 คา่ ใชจ่ ่ายในการเรียนอาชีวศกึ ษาในระดับ ปวช. หากต้องการศึกษาต่อในระดับอาชีวศึกษา น อ ก จ า ก ก า ร พิ จ า ร ณ า เ ลื อ ก ส า ข า ที่ ต้ อ ง ก า ร แ ล้ ว ระยะทางและการเดินทางไปยังสถานศึกษาถือว่ามี ความสาคญั เชน่ เดียวกัน

12 การจดการเรยี นการสอนระดบั ปวช. การเรยี นอาชีวศกึ ษาแบบทวิภาคี (เปดิ สอนบางวทิ ยาลัยเทา่ นนั้ ) การเรียนระบบทวิภาคี คือ การจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่างสถาบันกับสถาน ประกอบการในการจัดหลังสูตร จัดการเรียนการสอน จัดฝึกอาชีพ การวัดและการประเมินผลโดยผู้เรียนใช้ เวลาส่วนหน่ึงเรียนในสถานศึกษาหรือสถาบันและเรียนภาคปกติในสถานประกอบการ การเรียนในระบบ ทวิภาคีน้ีไม่ใช่เพียงการฝึกงานในบริษัท แต่เป็นการฝึกทางานในอาชีพเฉพาะทาง ตลอดทังหลักสูตรที่เรียน นักเรยี นจะไดท้ างานในสิ่งแวดล้อมของการทางานจริงใกล้ชิดกับหัวหนางานมีพี่เล้ยี งในท่ีทางาน มีรุ่นพเี่ ป็นเพ่ือ ร่วมงาน รวมถึงการพบปะกับลูกค้าในสายงานของตนเอง ต้องเผชิญกับสถานการณ์จริงแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ได้จริง อาชีวศึกษามีระบบทวิภาคีท้ังระบบ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี ดังน้ันไม่ว่าจะจบ ม.3 ม.6 หรือ ปวช. สามารถเรียนทวิภาคไี ด้

13 การเรียนอาชีวศกึ ษาแบบทวิภาคี (เปดิ สอนบางโรงเรียนเท่านนั้ การเรียนแบบทวิศึกษา คือ การจัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ให้แก่ นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายท่ีมีความประสงค์จะเรียนในสายวิชาชีพ เม่ือนักเรียนสาเร็จการศึกษา ครบตามหลักสูตร จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองวุฒิการศึกษา ท้ังในระดับมัธยมศึกษาปีท่ี 6 และระดับ ประกาศนียบัตรวชิ าชพี พรอ้ มกนั การจดั การศกึ ษารปู แบบทวิศึกษา เป็นแนวคดิ ใหมแ่ ลเป็นการสรา้ งนวตั กรรม ในการจัดการศึกษารูปแบบใหม่ ที่เป็นการเพ่ิมโอกาสทางการศึกษาใหน้ ักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) ในการศึกษาทางด้านวิชาชีพ เพ่ือเพิ่มทักษะและความรู้ ความสามารถต่างๆ ซ่งึ เป็นพื้นฐานสาคัญในการ ประกอบอาชีพ รวมทั้งเพ่ิมโอกาสในการทางานมากกวา่ การมีวฒุ ิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) เพียงอยา่ งเดยี ว ประโยชน์ทน่ี กั เรียนไดร้ บั จากการเรียนแบบทวภิ าคี - ไดร้ ับคา่ เบ้ยี เลี้ยงและสวัสดกิ ารอืน่ ๆ ตามทตี่ กลง - มีโอกาสทจ่ี ะเขา้ ทางานสถานประกอบการทีไ่ ด้ฝกึ อาชพี - ไดร้ บั ใบรับรองจากสถานประกอบการ - ได้รับประกาศนียบัตร ปวช. และ ปวส. เชน่ เดียวกบั นกั เรยี นปกติ - ไดโ้ อกาสศึกษาตอ่ ในระดบั สงู ตอ่ ไป - สามารถนาความรู้ทางทฤษฎีไปใช้ประยุกต์เข้ากับภาคปฏิบัตใิ นสถานประกอบการได้ทันทีไม่ต้องรอ ให้จบการศึกษา เป็นการเสรมิ สรา้ งความรู้ ความเข้าใจและประสบการณก์ ารทางาน

14

15

16 แนวทางการเลือกสถานศึกษาเพอ่ื ศกึ ษาตอ่ รายชือ่ สถานศึกษาในสังกัด สอศ. จาแนกตามจงั หวดั สถานศกึ ษาในสงั กัด (จาแนกตามจังหวัด) ภาคเหนือ มี 9 จังหวัด จงั หวดั เชยี งราย จังหวดั เชยี งใหม่ จงั หวดั น่าน จังหวดั พะเยา จงั หวดั แพร่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวดั ลาปาง จงั หวัดลาพูน จังหวัดอตุ รดติ ถ์ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ มี 20 จังหวดั จังหวดั กาฬสนิ ธุ์ จังหวดั ขอนแก่น จังหวดั ชยั ภมู ิ จังหวดั นครพนม จังหวดั นครราชสีมา จงั หวัดบรุ รี มั ย์ จังหวดั มหาสารคาม จังหวดั มุกดาหาร จงั หวดั ยโสธร จังหวดั รอ้ ยเอ็ด จังหวดั เลย จังหวัดสกลนคร จังหวัดสุรนิ ทร์ จงั หวัดศรสี ะเกษ จงั หวัดบึงกาฬ จงั หวัดหนองคาย จงั หวัดหนองบวั ลาภู จังหวดั อดุ รธานี จังหวัดอบุ ลราชธานี จังหวดั อานาจเจริญ ภาคกลาง มี 22 จงั หวดั จงั หวดั กรุงเทพฯ จงั หวัดกาแพงเพชร จังหวัดชัยนาท จงั หวดั นครนายก จังหวดั นครปฐม จงั หวดั นครสวรรค์ จังหวดั นนทบุรี จงั หวัดปทมุ ธานี จงั หวัดพระนครศรอี ยุธยา จงั หวดั พจิ ิตร จงั หวัดพษิ ณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ จงั หวดั ลพบรุ ี จังหวดั สมุทรปราการ จงั หวัดสมทุ รสงคราม จังหวัดสมทุ รสาคร จังหวัดสิงหบ์ รุ ี จังหวัดสโุ ขทัย จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี จังหวัดสระบุรี จังหวดั อ่างทอง จังหวัดอุทัยธานี ภาคตะวันออก มี 7 จังหวดั จังหวดั จนั ทบรุ ี จงั หวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบรุ ี จังหวดั ตราด จังหวัดปราจนี บุรี จังหวดั ระยอง จงั หวัดสระแกว้ ภาคตะวันตก มี 5 จังหวดั จังหวัดกาญจนบุรี จงั หวดั ตาก จังหวัดประจวบครี ขี ันธ์ จังหวดั เพชรบุรี จงั หวดั ราชบรุ ี ภาคใต้ มี 14 จังหวัด จังหวดั กระบี่ จังหวดั ชมุ พร จังหวดั ตรงั จงั หวัดนครศรธี รรมราช จังหวัดนราธิวาส จงั หวัดปตั ตานี จังหวัดพงั งา จังหวัดพทั ลงุ จังหวัดภูเกต็ จังหวัดระนอง จงั หวัดสตลู จังหวัดสงขลา จังหวัดสุราษฎรธ์ านี จงั หวดั ยะลา

17 การคัดเลอื กบุคคลเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลยั รูปแบบท่ี 1 Portfolio 1. ไม่ใชค้ ะแนนสอบ 2. เอกสารท่จี ดั ส่งไมเ่ กนิ 10 หน้ากระดาษ A4 (ไมร่ วมปก) 3. ถ้าจะใชค้ ะแนน GPAX จะเป็นคะแนน 4 ภาคเรียน หรือ 5 ภาคเรยี น 4. รายละเอยี ดอ่นื ๆ นามาเพ่ิมเตมิ ในวนั สอบสมั ภาษณ์ได้ กลมุ่ เป้าหมาย : นักเรยี นท่มี ีความสามารถพิเศษ การกาหนดองคป์ ระกอบ/เกณฑ์ : สาขาวชิ า/มหาวทิ ยาลยั วธิ ีการ 1. สถาบันอดุ มศกึ ษากาหนดเกณฑ์การคดั เลือกโดยไมม่ ีการสอบ 2. สามารถ Pee-Screening แลว้ สมั ภาษณไ์ ด้ 3. สง่ ชอื่ เขา้ ระบบการบริหารจดั การสทิ ธิ์

18 รูปแบบท่ี 2 โควตา 1. ใช้คะแนนสอบของ สทศ. หรือมหาวิทยาลัยจดั สอบเอง 2. ทปอ. กาหนดให้จดั สอบรายวิชาเฉพาะของสาขาที่อยู่นอกเหนอื การจัดสอบของ สทศ. ซง่ึ ผลสอบนี้สามารถนาไปใช้ในรปู แบบท่ี 2, 3 และ 5 ได้ 3. สาขาวิชาสามารถดงึ คะแนนจาก สทศ. มาใช้ในการคัดเลอื กได้ เช่น คะแนนสามัญ 9 วชิ า, คะแนน GAT/PAT และใช้คะแนน GPAX 5 หรอื 6 ภาคเรียนจากศนู ย์ข้อมูลสารสนเทศเพ่อื การศ คัดเลือกเขา้ สถาบันอุดมศึกษา กล่มุ เป้าหมาย : นักเรียนจากโควตาพืน้ ท่ี เครือข่าย โครงการพิเศษเขตพเิ ศษของประเทศ การกาหนดองคป์ ระกอบ/เกณฑ์ : สาขาวิชา/มหาวิทยาลัย วิธีการ 1. สถาบันอุดมศกึ ษากาหนดเกณฑ์การคดั เลือก (ซงึ่ อาจจะมีการใช้คะแนนสอบข้อเขียน หรอื สอบปฏิบตั ิรว่ มดว้ ย) 2. สง่ ชื่อเข้าระบบการบริหารจดั การสทิ ธ์ิ รปู แบบท่ี 3 รับตรงร่วมกัน 1. สมัครผา่ นระบบ TCAS กลางร่วมกัน เลือกได้สงู สุด 6 สาขาวชิ าและเรยี งลาดับของแต่ละ สาขาที่เลอื กสมัคร ท้ังน้ี การเลือกสาขาวิชากับการชาระเงินแยกอสิ ระ สามารถชาระเงนิ เพิ่มเพ่อื เลือก สาขาเพมิ่ ได้ซึ่งระบบอนญุ าตให้เปลย่ี นแปลงข้อมลู สาขาวิชาท่ีเลือกได้ จนถงึ เวลาปดิ ระบบ 2. ชาระเงินคา่ สมคั รตามจานวนสาขาวิชาทเ่ี ลอื กสมคั รโดยชาระผา่ นระบบ ATM Mobile Banking และ Internet Banking กลมุ่ เปา้ หมาย : นักเรยี นทั่วไป นกั เรยี นในโครงการ กสพท นักเรียนในโครงการอืน่ ๆ การกาหนดองค์ประกอบ/เกณฑ์ : สาขาวิชา/มหาวิทยาลยั วธิ กี าร 1. นักเรียนเลือกได้ 6 สาขาวิชา 2. สถาบันอดุ มศกึ ษากาหนดเกณฑ์การรับ (ซ่งึ อาจจะมกี ารใช้คะแนนสอบข้อเขยี นร่วมด้วย) 3. การบริหารการจดั การสิทธเ์ ปน็ แบบ Auto-Clearing

19 รูปแบบที่ 4 Admission 1. การใช้สัดส่วน GPAX ONET ยงั คงมีจนครบ 3 ปี ถงึ ปี 2564 คะแนน GAT/PAT มีอายุ 2 ปี 2. สาขา ทันตแพทย์ ขอปรับน้าหนกั ตง้ั แต่ 2561 GAT 20% ->20% PAT2 30% -> PAT1 10% + PAT2 20% ตงั้ แต่ปี 2561 มีกลุ่ม 10 กลุ่มแพทยศาสตร์ วิชาเฉพาะแพทย์ 30% วชิ าสามัญ 70% O-NET 5 วชิ าไม่น้อยกวา่ 60% กลุม่ เป้าหมาย : นกั เรียนทว่ั ไป นักเรียนในโครงการ กสพท. นักเรยี นในโครงการอ่ืนๆ การกาหนดองคป์ ระกอบ/เกณฑ์ : - วิธีการ 1. นกั เรียนเลอื กได้ 4 สาขาวิชา 2. สถาบันอุดมศกึ ษาแต่ละแหง่ กาหนดเกณฑ์การรบั ตามข้อตกลงตามองค์ประกอบของ Admission 3. การบรหิ ารจัดการสิทธ์เป็นแบบ Auto-Clearing รปู แบบท่ี 5 รับตรงอิสระ การรบั ตรงอสิ ระ แต่ละมหาวทิ ยาลยั จะ เปดิ รบั และพิจารณาจากคะแนน GAT/PATใช้ คะแนนสอบของ สทศ. หรือมหาวทิ ยาลยั จดั สอบเอง กลุม่ เปา้ หมาย : นักเรียนทั่วไปทยี่ งั ไมม่ ี สิทธ์ิเขา้ ศึกษา วิธีการ 1. สถาบันอุดมศึกษากาหนดเกณฑ์การรบั (อาจจะมกี ารใชค้ ะแนนสอบข้อเขยี นรว่ มด้วย) 2. จัดสอบเพิ่มเติมได้กรณีทน่ี ักเรียนไม่มี คะแนนของวชิ าทีต่ ้องการ 3. สถาบันอุดมศึกษาส่งชื่อเข้าระบบการ บรหิ ารจัดการสิทธิ์

20 รายชื่อมหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศกึ ษาในประเทศไทย มหาวิทยาลัยของรัฐและมหาวิทยาลัยในสังกัดของรฐั มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสนิ ธุ์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ มหาวิทยาลัยทกั ษณิ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มหาวิทยาลัยนครพนม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรธี รรมราช มหาวิทยาลัยนราธวิ าสราชนครนิ ทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม มหาวิทยาลัยรามคาแหง มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยราชภัฏราไพพรรณี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลาปาง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

21 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน สถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ ของรัฐ โรงเรียนนายร้อยตารวจ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ โรงเรียนนายเรืออากาศ วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ วิทยาลัยพยาบาลตารวจ วิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า สถาบันดนตรีกลั ยาณวิ ัฒนา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบงั สถาบันการบินพลเรอื น สถาบันการพลศกึ ษา สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน สถาบันบัณฑิตพัฒนบรหิ ารศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สถาบันพระบรมราชชนก

มหาวิทยาลัยเอกชน 22 มหาวิทยาลัยเกรกิ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา มหาวิทยาลัยคริสเตียน มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น มหาวิทยาลัยชินวัตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร มหาวิทยาลัยตาปี มหาวิทยาลัยเนชั่น มหาวิทยาลัยธนบุรี มหาวิทยาลัยเวบสเตอร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเอเชียน มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ มหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชีย-แปซิฟิก มหาวิทยาลัยปทุมธานี มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลัยปทุมธานี มหาวิทยาลัยพิษณุโลก มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี มหาวิทยาลัยพิษณุโลก มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอรน์ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี มหาวิทยาลัยภาคกลาง มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอรน์ มหาวิทยาลัยภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยภาคกลาง มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยราชธานี มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล มหาวิทยาลัยราชธานี มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล มหาวิทยาลัยสยาม มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยสยาม มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยอสั สัมชัญ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ มหาวิทยาลัยอีสเทริ ์นเอเชีย มหาวิทยาลัยอสั สัมชัญ มหาวิทยาลัยอสี เทิร์นเอเชีย

สถาบนั อดุ มศกึ ษาอ่ืนๆของเอกชน 23 วิทยาลยั เชยี งราย วิทยาลัยพชิ ญบณั ฑิต วทิ ยาลยั เซนตห์ ลยุ ส์ วิทยาลัยพุทธศาสนานานาชาติ วทิ ยาลัยเซาธ์อีสบางกอก วทิ ยาลยั ราชพฤกษ์ วทิ ยาลัยเทคโนโลยจี ิตรลดา วทิ ยาลยั ลุ่มน้าปิง วทิ ยาลัยเทคโนโลยีพนมวนั ท์ วิทยาลยั สนั ตพล วทิ ยาลัยเทคโนโลยภี าคใต้ วทิ ยาลัยอนิ เตอร์เทคลาปาง วทิ ยาลยั เทคโนโลยีสยาม สถาบันเทคโนโลยแี หง่ เอเชยี วทิ ยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) สถาบันเทคโนโลยีแหง่ อโยธยา วิทยาลัยแสงธรรม สถาบนั เทคโนโลยีไทย-ญี่ปนุ่ วิทยาลยั กรงุ เทพสุวรรณภมู ิ สถาบนั เทคโนโลยยี านยนตม์ หาชยั วิทยาลัยดสุ ิตธานี สถาบนั กันตนา วิทยาลัยทองสขุ สถาบันการเรยี นรเู้ พ่ือปวงชน วทิ ยาลัยนครราชสมี า สถาบนั การจัดการปญั ญาภิวัฒน์ วิทยาลัยนานาชาติเซนตเ์ ทเรซา สถาบนั บัณฑิตศึกษาจฬุ าภรณ์ วิทยาลัยบณั ฑิตเอเชยี สถาบันรัชต์ภาคย์ สถาบันอาศรมศลิ ป์

24 แนะแนวการศึกษาต่อตา่ งประเทศ ผู้ที่สนใจไปเรียนต่อต่างประเทศก่อนท่ีจะตัดสินใจเลือกเรียนต่อที่ใดหรือหลักสูตรใดน้ัน ส่ิงท่ีควร พิจารณาก่อนตัดสินใจ เพราะการไปเรียนต่อต่างประเทศถือเป็นก้าวแรกท่ีสาคัญที่เกี่ยวข้องกับความสาเร็จใน ชีวิต ซ่ึงการมีข้อมูลท่ีดีรวมถึงการเตรียมความพร้อมก่อนเป็นสิ่งสาคัญที่จะทาให้การไปเรียนต่อท่ีต่างประเทศ เป็นไปไดอ้ ย่างราบรื่นและชว่ ยลดปญั หาต่างๆ ท่ีอาจส่งผลกระทบตอ่ การเรียนได้ ข้อมูลของประเทศนักเรียนไทยส่วนใหญ่จะไปศึกษาต่อ มีดังน้ี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ อเมริกา สกอตแลนด์ ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ มาเลเซีย ญ่ีปุ่น ฝร่ังเศส สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน สเปน อิตาลี เนเธอรแ์ ลนด์ เกาหลี เปน็ ตน้ ข้อมูลตามสาขาวิชาที่สนใจศึกษาต่อต่างประเทศ มีดังนี้ อังกฤษธุรกิจ – Business English เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว English Camp การโรงแรม-การท่องเที่ยว ศิลปะในการทาอาหาร ทาขนม บริหารธรุ กจิ – MBA ออกแบบภายใน – Interior Design แฟช่นั – Fashion Design เป็นต้น ปัจจัยท่คี วรพจิ ารณา ก่อนตดั สนิ ใจไปเรียนต่อตา่ งประเทศ มดี ังน้ี 1. เป้าหมายหลังจากท่ีสาเร็จการศึกษา เป็นสิ่งท่ีควรพิจารณาอันดับแรก เพราะการมีเป้าหมาย หรือ การได้เรียนในสิ่งที่ชอบ จะเป็นตัวแปรที่ช่วยผลักดันให้ประสบความสาเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือการ ทางานในอนาคต 2. ประเทศท่ีสนใจไปเรียนต่อ มีหลากหลายประเทศที่มีความแตกต่าง ข้อดี ข้อด้อยแตกต่างกันไป สามารถอ่านขอ้ มูลได้จากเมนู เรียนตอ่ ต่างประเทศ ทางขวามอื (PC) หรือ ลงิ ค์ดา้ นลา่ ง (Mobile) ประกอบการ พจิ ารณา 3. หลักสูตรที่สนใจ ควรพิจารณาจากเน้ือหาของหลักสูตรและรายวิชาที่ต้องเรียน รวมถึงระยะเวลา ทตี่ ้องใช้ในการศกึ ษาใหเ้ หมาะสม และตรงกับส่งิ ทเ่ี ราอยากจะเรียน 4. สถาบันการศึกษา สามารถพิจารณาได้จากความน่าเชื่อถือของสถาบัน นโยบายการเรียนการสอน รางวัลที่เคยได้รบั และอนั ดับ (Ranking) รวมถงึ การได้รับการรับรองจากสถานทูตของประเทศน้ันๆ ด้วย

25 5. เสน้ ทางการศึกษา ควรท่จี ะทราบเส้นทางการศกึ ษาในหลักสตู รทเี่ ราต้องการเรยี น เพราะแตล่ ะ สถาบนั อาจจะมีเสน้ ทางการศึกษาที่แตกต่างกัน 6. วุฒกิ ารศกึ ษา และผลการเรียน ทต่ี ้องใช้ในการสมคั รเรยี น ต้องสารวจตวั เองว่ามวี ฒุ กิ ารศกึ ษาหรือ ระดบั ผลการเรียนที่สามารถสมัครเรยี นกบั สถาบันทเ่ี ราสนใจไดห้ รอื ไม่ โดยส่วนใหญแ่ ล้ว แตล่ ะสถาบันจะมี เกณฑ์การสมัครขนั้ ตา่ แจง้ ให้ทราบ 7. ความสามารถในการใช้ภาษาและระดบั ภาษา ระดับภาษาทีต่ ้องใชใ้ นการสมัครเรียนนนั้ จะสงู มาก นอ้ ยขนาดไหนน้นั ข้ึนอยกู่ บั ระดบั การศกึ ษา หลกั สตู ร และกฎของสถานทตู น้ัน ๆ (ในบางประเทศ) ยกตวั อย่างเช่น การไปเรยี นและพฒั นาภาษาองั กฤษ ในบางประเทศ ไม่จาเป็นตอ้ งแนบใบประกาศรบั รองผล ทกั ษะภาษา แต่ในบางประเทศตอ้ งใช้ หรอื กรณตี ้องการเรียนตอ่ ปรญิ ญาโท บางสถาบันอาจต้องการผล ทกั ษะภาษา เชน่ IELTS ที่ 6.5 ขึ้นไป เป็นตน้ 8. คา่ ใชจ้ า่ ยและงบประมาณ นอกเหนือจากค่าเรียนแล้ว ยังตอ้ งคานวณงบประมาณคา่ กินคา่ อยู่ ค่าใช้ ชีวิตประจาวนั คา่ เดินทาง คา่ อปุ กรณ์การเรยี น ตลอดทั้งหลักสตู ร รวมถงึ เงนิ การนั ตีทีต่ ้องใช้ในการขอวซี า่ สาหรับไปเรียนตอ่ ต่างประเทศ อีกดว้ ย 9. สภาพแวดลอ้ มและสภาพอากาศ ควรพจิ ารณาถงึ อุณหภูมิ สภาพแวดลอ้ มและสภาพอากาศของ เมอื งทเี่ ราสนใจไปเรยี น วา่ จะสามารถปรบั ตวั กบั สภาพอากาศท่ีแตกต่างไดห้ รอื ไม่ เพราะหากปรบั ตวั ไม่ได้ หรอื ปรบั ตวั ได้ชา้ อาจส่งผลใหม้ ีการเจ็บป่วย ทาใหเ้ รียนตามเพ่ือน ๆ ไม่ทนั ซง่ึ จะสง่ ผลกระทบต่อการเรยี นใน ระยะยาวได้ 10. ลกั ษณะการใชช้ ีวติ และวัฒนธรรมที่แตกตา่ ง การไป เรียนต่อต่างประเทศ นักเรยี นจะตอ้ งเผชญิ กบั วัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึงกฎระเบยี บ กฎหมาย ธรรมเนยี ม มารยาท ทตี่ า่ งกัน ดงั นนั้ จึงไมค่ วรมองข้าม ท่ีจะหาและเก็บขอ้ มลู ใชป้ ระกอบการตัดสินใจ วา่ หากต้องไปใชช้ ีวติ นกั เรยี น จะสามารถปรับตวั ยอมรับกบั ส่ิง ใหม่ ๆ ไดห้ รือไม่

26 การเตรยี มความพร้อมในแผนการเรยี นตอ่ ต่างประเทศ ของตวั เอง หากมีแผนหรือสนใจเรียนในหลักสูตรใด ๆ แล้ว ควรสารวจความพร้อมของตนเอง กับ ความต้องการ ของหลักสูตร ที่ต้องใช้สาหรับสมัครเรียนด้วย โดยคะแนนเฉลี่ยท่ีเป็นเกณฑ์โดยทั่วไป อาจจะรับพิจารณา นกั ศกึ ษาท่สี าเร็จปรญิ ญาตรีดว้ ยคะแนนสะสมเฉลยี่ (GPA) ทีร่ ะดบั 3.00 ขึน้ ไป หรอื สถาบันอ่ืนๆ โดยสว่ นใหญ่ จะรับพิจารณานักศึกษาท่ีสาเร็จปริญญาตรีด้วยคะแนนสะสมเฉลี่ย (GPA) ท่ีระดับ 2.75 ขึ้นไป และระดับ ปรญิ ญาโท คะแนนสะสมเฉลีย่ (GPA) ท่รี ะดับ 3.50 ข้นึ ไป การเตรียมความพร้อมในส่วนของทักษะภาษา ก่อนไปเรียนตอ่ ตา่ งประเทศ นักศึกษาควรที่จะเตรียมความพร้อมในส่วนของทักษะภาษาท่ีต้องใช้ในการเรียนในประเทศที่ตนเอง สนใจ โดยหากทักษะภาษาดีอยู่แล้ว อาจเลือกสอบวัดผลคะแนนภาษาท่ีเป็นที่ยอมรับของสถาบันการศึกษา หรือตามคุณสมบัติในการขอวีซ่า เช่น IELTS, UKVI IELTS (สาหรับสถานศึกษาใน UK), TOEFL, DELF เป็นต้น ซึ่งหากได้คะแนนผลสอบสูงกว่าหรือเท่ากับ Requirement ของหลักสูตร ก็สามารถนาผลสอบ กับเอกสารประกอบอ่ืนๆ สมัครเรียนในหลักสูตรท่ีต้องการได้ทันที แต่หากคะแนนสอบวัดผลภาษายังไม่ถึง เกณฑ์ท่ีหลักสูตรกาหนด หรือในกรณีที่ไม่มั่นใจในทักษะภาษาของตนเอง ก็อาจเลือกเส้นทางที่ไปเรียนและ ฝึกฝนภาษาที่ต่างประเทศได้เช่นกัน โดยการฝึกฝนการใช้ภาษาที่ต่างประเทศ (ในประเทศที่เราตั้งใจไปเรียน) มีขอ้ ดีหลายอยา่ ง เชน่ 1. มโี อกาสไดฝ้ กึ ฝนภาษากับเจ้าของภาษาอยา่ งสม่าเสมอ ซ่งึ ส่งผลดีต่อการพฒั นาทักษะภาษา 2. มโี อกาสได้ไปเรียนรู้และลองใชช้ ีวติ รวมถงึ ดูการปรับตวั ของตนเองวา่ จะสามารถอยู่เรียนในระยะ ยาวได้หรือไม่ 3. มโี อกาสได้เรยี นรูว้ ัฒนธรรม และธรรมเนยี มปฏบิ ัติ ของประเทศน้นั ๆ 4. มีโอกาสไดล้ องใชช้ ีวติ ดว้ ยตนเอง ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ซงึ่ มสี ว่ นชว่ ยให้ ร้จู ักพึ่งตัวเองและเปน็ ผใู้ หญม่ ากขึน้ การเตรียมความพร้อมในส่วนของเงนิ สนับสนุนและการเงนิ ท่ีต้องใชจ้ า่ ย การไปเรียนต่อต่างประเทศ จาเป็นต้องใช้เงินสนับสนุนท่ี เพยี งพอ ซึง่ เงินสว่ นใหญท่ ใี่ ช้ไดน้ ้ันมกั อยู่ในรปู ของเงินที่มสี ภาพคล่อง สูง และเป็นเงินที่เตรียมไว้สาหรับใช้เป็นทุนการศึกษา ยกตัวอย่าง เช่น เงนิ ในบญั ชีออมทรัพย์ เงนิ ฝากประจา เป็นต้น ซ่ึงปัจจัยในส่วนน้ี มักจะเกี่ยวข้องกับการดาเนินการในสว่ นของการขอวีซา่ เป็นส่วนใหญ่ โดยบัญชีสนับสนุนนั้นอาจอยู่ในช่ือของนักเรียนเอง หรือช่ือของ ผู้สนับสนุน (โดยส่วนใหญ่ควรต้องเป็นผู้ปกครองหรือญาติใกล้ชิด ข้ึนอยู่กับข้อกาหนดของสถานทูต) ก็ได้ โดยแต่ละประเทศ ต่างเมือง ต่างสถาบัน อาจกาหนดงบประมาณท่ีแตกตา่ งกัน

27 การเตรยี มความพร้อมในส่วนของการขอวีซ่า สาหรับประเทศที่ต้องขอวีซ่า ควรตรวจสอบคุณสมบตั ิในการสมัคร และหาข้อมูลวา่ สถานทตู ตอ้ งการ เอกสารใดประกอบการพิจารณาบ้าง เพ่ือเปน็ การเตรยี มความพร้อมก่อนไปเรยี นตา่ งประเทศ แนวทางการพิจารณาอ่นื ๆ ในการเลอื กศึกษาต่อต่างประเทศ 1.ระบบการศึกษา 2.โครงสรา้ งของหลักสตู ร 3.ระยะเวลาของหลักสูตร 4.คา่ ใช้จ่าย 5.ท่ตี ง้ั ของสถาบนั 6.สิ่งอานวยความสะดวก 7.สภาพแวดล้อม 8.มาตรฐานการศึกษา 9.วุฒิการศกึ ษาที่ไดร้ บั หลงั จากท่ีจบหลักสูตร 10.การรับรองวิทยฐานะ 11.วธิ ีทใี่ ชใ้ นการเรยี นการสอน และ อุปกรณ์ที่ใชใ้ นการเรียนการสอน 12.จานวนนักศึกษา และสัดส่วนนกั เรียนต่อ 1 หอ้ ง 13.การเดนิ ทาง 14.ความนา่ เชือ่ ถอื ของสถาบัน 15.สถาบนั 16.หลักสตู รได้รับความน่าเชอื่ ถือจากสถานทตู

28


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook