ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ เร่ือง การอา่ นออกเสียง บทร้อยกรอง ทักษะการอ่าน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรยี นสหราษฎร์รังสฤษดิ์ จังหวดั นครพนม ๓ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ โดย นายศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
แบบฝกึ ทักษะ เรอื่ ง การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ โดยนายศกั ทาวฒุ โคตรชมภู ัศกทา ุวฒ
| กชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรับนักเรยี นชน้ั ม. ๓ คานา การอ่านเป็นทักษะท่ีสาคัญและจาเป็นต่อการศึกษาหาความรู้และพัฒนาชีวิต ซ่ึงนอกจาก จะทาให้มีความรแู้ ลว้ ยังก่อให้เกดิ ความเพลิดเพลนิ ความคดิ ริเร่มิ สรา้ งสรรค์ ชว่ ยให้เกิดความงอกงาม ทางสตปิ ัญญา อนรุ กั ษณ์วัฒนธรรมทางภาษาของชาติ และสง่ เสรมิ ใหส้ ังคมเจรญิ ก้าวหนา้ การอ่านจึงเป็นเครอ่ื งมือสาคญั และเป็นพน้ื ฐานในการเรียนรู้ของผู้เรียน ชุดแบบฝกึ ทกั ษะการ อ่านออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ รายวิชาภาษาไทยพ้ืนฐานรหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ โรงเรียนสหราษฎร์รังสฤษดิ์ จัดทาข้ึนเพ่ือให้สอดคล้องกับมาตรฐานเรียนรู้ตัวช้ีวัด และคาอธิบายรายวิชาตามหลักสูตรแกนกลางข้ันพ้ืนฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นนวัตกรรมประกอบการเรียนการสอนการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ให้ ผู้เรียนได้ศึกษาความรู้ฝึกฝนทักษะกระบวนการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง เสริมนิสัยรักการอ่าน และสามารถนาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าแบบฝึกทักษะ เร่ือง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง จะเป็น แนวทางหน่ึงให้ครูสามารถจัดการเรียนการสอน สอดคล้องกับหลักสตู รแล้วจะเปน็ ประโยชน์ต่อผู้เรียน ในการเรียนรอู้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพต่อไป นายศกั ทาวฒุ โคตรชมภู นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชพี คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั นครพนม ๒๙ ตลุ าคม ๒๕๖๒ ัศกทา ุวฒ
| ขชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรับนกั เรียนช้ัน ม. ๓ สารบญััศกทา ุวฒ หนา้ ก คานา ข สารบญั ๑ คาแนะนาในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรสู้ าหรบั ครู ๒ คาแนะนาในการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนรู้สาหรับนักเรยี น ๓ มาตรฐานการเรยี นรู้ ๔ แบบทดสอบการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง กอ่ นเรียน ๖ ใบความรู้ท่ี ๑ เร่ือง ความรู้พ้นื ฐานและมารยาทในการอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ๙ แบบฝึกหัดท่ี ๑ เรอ่ื ง ความรพู้ ืน้ ฐานและมารยาทในการอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง ๑๑ ใบความร้ทู ่ี ๒ เรื่อง อวัยวะทใี่ ชใ้ นการออกเสยี ง ๑๓ แบบฝกึ หัดท่ี ๒ เรื่อง อวัยวะทใี่ ชใ้ นการออกเสียง ๑๕ ใบความร้ทู ี่ ๓ เรอ่ื ง ศิลปะการออกเสียง ๑๗ แบบฝึกหัดที่ ๓ เรอ่ื ง ศิลปะการออกเสียง ๑๘ ใบความร้ทู ี่ ๔ เรือ่ ง การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองประเภทกลอนบทละคร ๒๑ แบบฝกึ หดั ท่ี ๔ เรือ่ ง การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกลอนบทละคร ๒๒ ใบความรูท้ ่ี ๕ เร่ือง การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทกลอนเสภา ๒๕ แบบฝึกหัดที่ ๕ เร่ือง การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองประเภทกลอนเสภา ๒๖ ใบความรทู้ ี่ ๖ เรื่อง การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกาพยย์ านี ๑๑ ๒๙ แบบฝกึ หัดที่ ๖ เร่ือง การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ านี ๑๑ ๓๐ ใบความรทู้ ่ี ๗ เร่อื ง การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองประเภทกาพยฉ์ บงั ๑๖ ๓๓ แบบฝึกหัดท่ี ๗ เร่อื ง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทกาพยฉ์ บัง ๑๖ ๓๔ ใบความร้ทู ่ี ๘ เร่ือง การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทโคลงส่ีสุภาพ ๓๗ แบบฝกึ หัดที่ ๘ เรอ่ื ง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทโคลงส่ีสภุ าพ ๓๘ แบบทดสอบการอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง หลังเรยี น ๔๐ บรรณานกุ รม
| คชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรับนักเรียนชั้น ม. ๓ สารบญั หนา้ ๔๒ ภาคผนวก ๔๓ เกณฑ์การใหค้ ะแนนการออกเสียงบทร้อยกรอง แบบทดสอบก่อนเรียน ๔๕ เกณฑ์การให้คะแนนการออกเสียงบทรอ้ ยกรอง แบบทดสอบกอ่ นเรียน ๔๗ เฉลยแบบฝึกหัดที่ ๑ เรื่อง ความรู้พ้นื ฐานและมารยาทในการอา่ นออกเสยี ง บทร้อยกรอง ๔๙ เฉลยแบบฝกึ หัดที่ ๒ เรอื่ ง อวยั วะที่ใช้ในการออกเสียง ๕๑ เกณฑ์การให้คะแนนแบบฝกึ หัดท่ี ๓ เร่อื ง ศิลปะการออกเสยี ง ๕๒ เกณฑ์การให้คะแนนแบบฝึกหัดท่ี ๔-๘ ๕๔ แบบบนั ทกึ คะแนนแบบฝึกหัดท่ี ๓ เรอื่ ง ศลิ ปะการออกเสยี ง ๕๕ แบบบันทกึ คะแนนแบบฝึกหัดที่ ๔-๘ ๕๖ แบบบนั ทกึ คะแนน ๕๗ การใชง้ าน Application HP Revel ัศกทา ุวฒ
ัศกทา ุวฒ | ๑ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นกั เรียนชน้ั ม. ๓ คาชแ้ี จงสาหรบั ครู ชุดแบบฝึกทักษะการอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรับนกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ เลม่ น้ี มีคาชีแ้ จงสาหรบั ครู ดงั น้ี ๑. ครูศึกษามาตรฐานการเรียนรู้สาระการเรียนรู้และจุดประสงค์การเรียนรู้ของหลักสูตร สถานศึกษากลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทยชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ใหค้ รบถว้ น ๒. ครูศึกษาลาดับข้ันตอนและเน้ือหาของดแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรบั นกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ให้เข้าใจชดั เจน ๓. ครูศึก ษาการใช้ง าน Application HP Reveal ให้เข้าใจท้ัง กร ะบวน การสร้าง และกระบวนการใชง้ านงาน ๔. ครูอธบิ ายใหน้ ักเรยี นทราบถงึ วัตถุประสงคใ์ นการทาชุดแบบฝกึ ทักษะ เพอ่ื ช้ใี หน้ กั เรียนเห็น ถึงประโยชน์และคณุ คา่ ๕. ครูอธิบายการใช้งานชุดแบบฝึกทักษะประกอบการใช้งาน Application HP Reveal ให้ นกั เรยี นเขา้ ใจ ๖. ครูดาเนินการจัดการเรียนการสอนด้วยชุดแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรบั นกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ โดยใช้ควบคกู่ ับแผนการจัดการเรยี นรู้ ๗. ครูกาชบั ใหน้ ักเรยี นมคี วามซ่ือสตั ย์ และมคี วามรบั ผดิ ชอบตลอดการจัดการเรียนการสอน ๘. ครูสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนกั เรียนอย่างใกล้ชิดหากนักเรียนมีปญั หาหรือข้อสงสัย ขณะใช้ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรบั นักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ครูตอ้ งให้ ความชว่ ยเหลอื ทนั ที ๙. หลงั เสร็จส้ินกระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ดู ้วยชุดแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงบท ร้อยกรอง สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ครูกับนกั เรียนควรร่วมกันสรุปสาระสาคญั ๑๐. ครูบันทกึ ผลการใช้ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรับนักเรียนชั้น มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๒ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรับนักเรียนชน้ั ม. ๓ คาชแี้ จงสาหรบั นกั เรยี น ชดุ แบบฝึกทักษะการอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรับนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ เล่มน้ี มีคาชแ้ี จงสาหรบั นักเรยี น ดังนี้ ๑. นกั เรียนควรศึกษาคาชี้แจงสาหรบั นักเรยี นและการใช้งานชุดแบบฝึกทกั ษะประกอบการใช้ งาน Application HP Reveal ใหเ้ ข้าใจชัดเจน ๒. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนเพอ่ื ประเมินความร้พู ้ืนฐานของตนเองโดยแบบทดสอบ ก่อน เรียนเปน็ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองทค่ี รกู าหนดให้รายบคุ คล ๓. นกั เรียนศึกษาการอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองจากใบความร้อู ย่างละเอยี ด ๔. ในการทาแบบฝึกหัดหากนักเรียนไม่เขา้ ใจ หรือตอบคาถามไมไ่ ด้ หรืออ่านไม่ได้ใหน้ ักเรียน ยอ้ นกลับไปอ่านใบความร้แู ลว้ ทาแบบฝึกหดั อีกคร้ังหรือขอคาแนะนาจากครผู ู้สอน ๕. นักเรยี นจะตอ้ งมีความซ่ือสัตย์ และมคี วามรับผิดชอบตลอดการทาชดุ แบบฝึกทักษะ ๗. หลังเสร็จส้ินการทาแบบฝึกหดั แตล่ ะข้ันตอนใหน้ ักเรียนควรตรวจสอบและทบทวนการอา่ น ออกเสียงของตนเองจากเฉลยหรือคาช้แี นะของครูผู้สอน ๘. นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี นเพ่ือประเมินความรู้พื้นฐานของตนเองโดยแบบทดสอบ กอ่ น เรยี นเป็นการอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองทคี่ รกู าหนดให้รายบุคคล ๙. หากนักเรยี นมปี ัญหาหรอื ข้อสงสยั เกี่ยวกับชุดแบบฝกึ ทกั ษะการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรับนกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ใหน้ ักเรียนปรกึ ษาครูผ้สู อนทนั ที ๑๐. นกั เรียนต้องทาแบบทดสอบหลังเรยี นให้ได้ร้อยละ ๖๐ คิดเปน็ ๑๘ คะแนน จากคะแนน เต็ม ๓๐ จึงถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ ศักทาวฒุ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๓ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นกั เรยี นชั้น ม. ๓ มาตรฐานการเรยี นรู้ ชุดแบบฝึกทักษะ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง โดยใชโ้ ปรแกรม HP Reveal มีเนือ้ หา สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ดังน้ี มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพ่ือนาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนินชวี ติ และมนี สิ ยั รักการอา่ น ตัวชีว้ ัด ท ๑.๑ ม.๓/๑ อ่านออกเสียง บทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้องและเหมาะสม กบั เรื่องท่อี า่ น ท ๑.๑ ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอ่าน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง และมารยาท ของการอ่าน (K) ๒. นักเรียนสามารถปฏบิ ัตกิ ารอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองได้อย่างถกู ตอ้ ง และเหมาะสม (P) ๓. นักเรียนสามารถนาความรู้ที่ได้จากเรื่องการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ไปใช้เป็น แนวทางในการอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองเรอ่ื งต่าง ๆ ได้ (A) ๔. นักเรยี นมีความซ่อื สัตย์สจุ ริต มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งม่นั ในการทางาน (A) ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
| ๔ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรับนักเรยี นชน้ั ม. ๓ แบบทดสอบการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ก่อนเรยี น คาชแ้ี จง : ให้นักเรยี นอา่ นบกรอ้ ยกรองต่อไปน้ี เปน็ ทานองปกติ และทานองเสนาะ ๑. บทรอ้ ยกรองประเภทกลอนบทละคร บัดนัน้ นนทกนา้ ใจแกล้วกลา้ กร้วิ โกรธรอ้ งประกาศตวาดมา อนจิ จาขม่ เหงเลน่ ทุกวนั จนหวั ไมม่ ีผมตดิ สุดคดิ ท่เี ราจะอดกล้ัน วันนจ้ี ะได้เห็นกนั ขบฟันแลว้ ชนี้ ิ้วไป (รามเกียรติ์ ตอน นารายณป์ ราบนนทก) ัศกทา ุวฒ ๒. บทรอ้ ยกรองประเภทกลอนเสภา อันชาติใดไรศ้ านติสุขสงบ ต้องมัวรบราญรอนหาผ่อนไม่ ณ ชาตินน้ั นรชนไมส่ นใจ ในศิลปะวิไลละวาดงาม แต่ชาตใิ ดรุ่งเรืองเมอื งสงบ วางการรบอริพลอนั ล้นหลาม ยอ่ มจานงศิลปาสง่างาม เพื่ออร่ามเรอื งระยับประดับประดา (บทเสภาสามคั คีเสวก) ๓. บทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ านี ๑๑ ไมจ่ าคาพระเจา้ เหไปเข้าภาษาไสย ถอื ดมี ีข้าไท ฉ้อแต่ไพร่ใส่ขอ่ื คา คะดที ่ีมีคู่ คอื ไก่หมูเจ้าสภุ า ใครเอาเขา้ ปลามา ใหส้ ภุ ากว็ ่าดี (กาพย์พระไชยสรุ ยิ า) ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
| ๕ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นักเรียนช้นั ม. ๓ ๔. บทรอ้ ยกรองประเภทกาพยฉ์ บงั ๑๖ อินทรชิตบิดเบือนกายิน เหมอื นองคอ์ มรนิ ทร์ ทรงคชเอราวณั เผือกผอ่ งผวิ พรรณ ชา้ งนมิ ติ ฤทธแิ รงแขง็ ขนั สีสงั ขส์ ะอาดโอฬาร์ (บทพากย์เอราวณั ) ๕. บทรอ้ ยกรองประเภทโคลงสสี่ ภุ าพ ขนุ มอญร่อนงา้ วฟาด ฉาดฉะ ขาดแลง่ ตราบอุระ หรบุ ดิน้ ัศกทา ุวฒ โอรสรบี กนั พระ- ศพสู่ นครแฮ สญู ชพี ไปส่ ญู ส้ิน พจนผ์ ู้สรรเสริญ (โคลงภาพพระราชพงศาวดาร) ศักทาวุฒ โคตรชมภู
| ๖ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นักเรียนชน้ั ม. ๓ ใบความรทู้ ่ี ๑ เร่ือง ความรพู้ ้นื ฐานและมารยาทในการอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง การอ่านบทร้อยกรองถือเป็นทักษะการอ่านชั้นสูง อันเป็นเอกลักษณ์การออกเสียงของไทย ผู้ที่อ่านออกเสียงบทร้อยกรองได้จึงถือได้ว่าเป็นผู้ท่ีมีความสามารถในการอ่าน อีกท้ังได้ข้ึนชื่อว่าเป็นผู้ อนุรักษภ์ ูมปิ ัญญาทางภาษาไทยไว้ด้วย การที่จะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้อ่านออกเสียงบทร้อยกรองได้ดี จะต้องอาศยั การฝึกฝนอย่าสมา่ เสมอ ภายใตห้ ลกั การต่าง ๆ ดงั น้ี ความหมายของการอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง กขฃ การถา่ ยทอดข้อความ ัศกทา ุวฒ ดว้ ยการเปล่งเสยี ง เพ่อื ใหผ้ ฟู้ ัง ทเ่ี ป็นลายลักษณอ์ กั ษร ในลักษณะตา่ ง ๆ รบั รคู้ วามหมาย มกี ารเรียบเรยี ง ตามฉนั ทลกั ษณ์ ลกั ษณะการอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง การอา่ นบทรอ้ ยกรองทานองปกติ การอ่านบทร้อยกรองทานองเสนาะ อ่านเว้นจงั หวะวรรคตอน ตามฉันทลักษณ์ อา่ นเวน้ จงั หวะวรรคตอน ตามฉนั ทลักษณ์ อา่ นด้วยนา้ เสียงเน้นคา เนน้ สมั ผัส อ่านดว้ ยน้าเสียงเน้นคา เนน้ สมั ผัส อ่านด้วยนา้ เสยี งคลา้ ยเสยี งพูด อา่ นโดยใช้การออกเสียงลกั ษณะต่าง ๆ หรือคลา้ ยการอ่านรอ้ ยแก้ว ศักทาวฒุ โคตรชมภู
| ๗ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นักเรียนช้ัน ม. ๓ ลักษณะของนกั อา่ นออกเสียงบทร้อยกรองทดี่ ี ใฝเ่ รยี นรู้ ใฝ่ฝกึ ฝน - เรยี นรูเ้ ทคนิคการอา่ น - ฝึกฝนการออกเสยี งให้ ออกเสียง ถกู ต้อง ชดั เจน - เรียนร้ฉู ันทลักษณ์ - ฝึกการใช้เสยี ง บทร้อยกรองต่าง ๆ ลักษณะตา่ ง ๆ - แสวงหาแหลง่ ข้อมูล - ฝกึ อา่ นออกเสยี งบท ของบทรอ้ ยกรอง ร้อยกรองประเภทตา่ ง ๆ - ฝึกสมาธิให้แนว่ แน่ ัศกทา ุวฒ ใฝท่ าสม่าเสมอ - ใฝเ่ รยี นรู้อยเู่ สมอ - ใฝ่ฝกึ ฝน ลบั คม เปน็ ประจา มารยาทในการอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง ระดบั เสยี ง เพยี งไดย้ นิ อยา่ งทวั่ ถงึ ใช้ระดบั เสยี งใหไ้ ด้ยนิ ท่วั ถึง ไมด่ ัง ๑ หรอื ค่อยเกินไป ใหค้ านงึ คาผดิ อยา่ คิดอา่ น อา่ นคาให้ถูกต้อง ให้เกดิ เนอ้ื ความท่ี แท้จริง เปน็ การใหเ้ กยี รติผู้แตง่ ๒ควรอ้างองิ ผปู้ ระพนั ธ์ ซงึ่ ผลงาน ควรอา้ งช่อื ผู้ประพันธ์บทรอ้ ยกรอง ๓ ไวใ้ นชว่ งต้นหรือทา้ ยของการอา่ น ศักทาวฒุ โคตรชมภู
| ๘ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นกั เรียนช้นั ม. ๓ ๔มารยาทในการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง (ต่อ) ขณะอา่ น ไมท่ างานอน่ื ปะปน ในขณะที่อ่านควรมีสมาธิ ไมท่ า กิจกรรมอ่ืน เสนห่ บ์ ทรอ้ ยกรอง เจา้ ดอกเอย๋ เจา้ ดอกคานามารอ้ ยกรอง ให้คล้องจองเสียงสัมผัสจัดใหส้ วย เติมรสชาตใิ ห้ช่ืนฉา่ คอยอานวย ไพเราะดว้ ยรสคาและรสความ ดจุ ผืนผา้ ชคู ่าให้คนใส่ สรา้ งเอกลักษณ์เดน่ ไวใ้ ห้คนสวม หากอา่ นเอย่ ให้เพราะเสนาะความ จะเป็นท่หี ลอมรวมเสนห่ เ์ อย ัศกทา ุวฒ ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๙ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นักเรยี นช้ัน ม. ๓ แบบฝกึ หดั ที่ ๑ เรอ่ื ง ความรพู้ ้นื ฐานและมารยาทในการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง คาชี้แจง : จงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ ๑. จงบอกความหมายของการอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. จงอธิบายลกั ษณะการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๑๐ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นกั เรียนชน้ั ม. ๓ ๓. นักเรยี นมแี นวทางการพัฒนาตนเองให้เป็นนักอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองทด่ี อี ยา่ งไร จงอธิบาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. เมื่อนักเรียนได้รับมอบหมายให้ไปอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทโคลงส่ีสุภาพ หนา้ ชั้นเรียน โดยมีผฟู้ ังเปน็ เพอ่ื น ๆ ในห้องจานวน ๕ คน ซึง่ บททอ่ี า่ นคือ พระอภยั มณี นกั เรียน จะอ่านอย่างผู้มมี ารยาทอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ศักทาวุฒ โคตรชมภู
| ๑๑ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นักเรยี นชน้ั ม. ๓ ใบความรทู้ ่ี ๒ เร่ือง อวัยวะที่ใชใ้ นการออกเสียง เสียงท่ีคนเราเปล่งออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ล้วนแล้วต้องอาศัยอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ของเรา เพ่ือให้เกิดเสียงตามทเ่ี ราปรารถนา การเรียนรู้เกยี่ วกับอวัยวะในการออกเสียงถือได้ว่าเป็นส่ิงที่ สาคัญ เพราะนกั เรียนบางคนออกเสียงสระหรือพยญั ชนะบางตัวไม่ได้ หรือเกิดความไม่สมบูรณ์ของคา เมอ่ื ออกเสียง อวัยวะที่ใช้ในการออกเสียง หมายถึง ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ใช้ในการกาหนดการ กาหนดการเคลอื่ นของลมจากปอด ทาให้เกิดเสียงในลักษณะตา่ ง ๆ รมิ ฝีปากบน (upper lip) ปมุ่ เหงอื ก (gum ride or alveolar ride) ฟนั บน (upper teeth) เพดานแขง็ (hard palate) ลิน้ ไก่ (uvula) เพดานออ่ น (soft palate or velum) ัศกทา ุวฒ เสน้ เสยี ง (vocal chords) ลิน้ (tongue) ฟนั ลา่ ง (lower teeth) ปอด (lung) รมิ ฝปี ากลา่ ง (lower lip) ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
| ๑๒ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรบั นักเรียนชัน้ ม. ๓ ในทางสทั ศาสตร์สามารถแบ่งอวัยวะในการออกเสียงเปน็ ๒ ประเภท ดงั น้ี ฐาน | กลมุ่ ท่เี คล่อื นที่ไม่ได้ กรณ์ | กลุ่มทเ่ี คลือ่ นที่ได้ ๑) รมิ ฝีปากบน ๑) รมิ ฝีปากล่าง ๒) ฟนั บน ๒) ลน้ิ มีลักษณะทม่ี คี วามยืดหยนุ่ ในตัวสูง ๓) ปมุ่ เหงือก ๔) เพดานแขง็ ๕) เพดานอ่อน ๖) ลิ้นไก่ (uvula) อวัยวะชิน้ นี้แม้ว่าจะถกู จดั อ ยู่ ใ น ก ลุ่ ม ท่ี เ ค ลื่ อ น ที่ ไ ม่ ไ ด้ ต า ม ลั ก ษ ณ ะ ตาแหน่งของอวัยวะชิ้นนี้ แต่จริงแท้แล้ว อวัยวะช้ินน้ีเคลอ่ื นท่ีได้ ัศกทา ุวฒ การเคลื่อนที่ของกลุ่มอวัยวะกรณ์เข้าหาฐาน หรือเข้าใกล้ฐาน หรือเข้าประชิดฐาน จะทาให้ เกดิ เสยี งพยญั ชนะ อันได้แก่ ๑) เสียงทเี่ กิดจากริมฝีปากบนและรมิ ฝปี ากลา่ ง ไดแ้ กเ่ สยี งพยัญชนะ ป, บ, พ, ภ, ม ๒) เสียงทเี่ กดิ จากรมิ ฝีปากล่างและฟันบน ไดแ้ ก่เสียงพยัญชนะ ฝ, ฟ ๓) เสียงท่ีเกิดจากปลายล้ินหรือส่วนถัดจากปลายล้ินกับฟันบน ไดแ้ กเ่ สียงพยัญชนะ ต, ฏ, ด, ฎ ๔) เสียงที่เกดิ จากปลายลิ้นหรือสว่ นถัดจากปลายลิ้นกับปมุ่ เหงือก ไดแ้ ก่เสยี งพยัญชนะ จ, น, ณ, ท, ธ, ฑ, ฒ ๕) เสียงท่ีเกดิ จากปลายลน้ิ หรอื ส่วนใต้ปลายลนิ้ กับสว่ นปลายสุดของปมุ่ เหงือก ไดแ้ ก่เสียง พยัญชนะ ร, ล, ฬ ๖) เสยี งทเ่ี กิดจากส่วนถัดจากปลายล้นิ กบั สว่ นปลายสุดของปุม่ เหงอื ก ไดแ้ กเ่ สียงพยญั ชนะ ฉ, ช, ฌ ๗) เสยี งท่ีเกดิ จากล้ินส่วนหลงั กับเพดานออ่ น ได้แก่เสยี งพยญั ชนะ ค, ฅ, ฆ, ข, ฃ ๘) เสียงท่เี กิดจากโคนลน้ิ กับผนังช่องคอดา้ นหลัง ได้แก่เสยี งพยญั ชนะ อ, ห, ฮ ๙) เสียงท่ีเกิดจากโคนล้นิ กบั เพดานอ่อน ได้แก่เสียงพยญั ชนะ ก, ง, ญ, ย ๑๐) เสียงท่เี กิดจากปลายล้ินกับฟนั บน ได้แกเ่ สยี ง ศ, ษ, ส (โดยไมต่ อ้ งนาปลายลิ้นออกมา นอกฟันบน ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๑๓ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรับนกั เรยี นชนั้ ม. ๓ แบบฝกึ หดั ท่ี ๒ เรื่อง อวยั วะในการออกเสยี ง คาชี้แจง : จงตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. จงบอกอวัยวะที่ทาใหเ้ กิดเสยี งต่อไปน้ี .............................................................................................................. ป .............................................................................................................. .......................................................................... ด .............................................................................................................. ............................................................................................................. ฟ .............................................................................................................. ............................................................................................................. ห .............................................................................................................. ............................................................................................................. ง .............................................................................................................. ............................................................................................................. ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
| ๑๔ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรับนักเรยี นชน้ั ม. ๓ ๒. นักเรียนคดิ ว่านักเรียนมขี อ้ บกพรอ่ งในการออกเสียงหรอื ไม่ และนักเรียนคดิ วา่ สาเหตเุ กดิ จากความบกพรอ่ งของอวัยวะใด หากไมม่ ขี อ้ บกพรอ่ งเพราะอะไร (ใหเ้ ลือกตอบอย่างใดอยา่ งหนงึ่ ) มขี อ้ บกพรอ่ ง ............................................................................................................. ............................................................................................................. ............................................................................................................. ............................................................................................................. .......................................................................................................... ............................................................................................................. ............................................................................................................. ............................................................................................................. ............................................................................................................. .......................................................................................................... ไมม่ ี ัศกทา ุวฒ ขอ้ บกพรอ่ ง ศักทาวุฒ โคตรชมภู
| ๑๕ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง สาหรับนกั เรียนชน้ั ม. ๓ ใบความรทู้ ี่ ๓ เร่อื ง ศิลปะการออกเสียง ภาพการอา่ นอย่างมศี ลิ ปะ เมื่อนักเรียนเข้าใจอวัยวะในการออกเสียงแล้ว นักเรียนจะเห็นว่าในการออกเสียงตามที่เรา ตอ้ งการตอ้ งอาศัยการควบคุมอวัยวะต่าง ๆ เชน่ เดียวกันในการออกเสยี งให้เกิดความไพเราะ เพ่ือใหผ้ ู้ฟัง ข้ึนถึงอารมณ์ หรือเกิดจินตนาการในเรื่องที่เราอ่านออกเสียงนั้น โดยเฉพาะการอ่านประเภททานอง เสนาะ ผูอ้ ่านจะตอ้ งมกี ารกาหนดเสยี งให้มีลักษณะต่าง ๆ ซ่ึงเรยี กว่า ศิลปะการใช้เสียง ดังน้ี การลากเสียง ัศกทา ุวฒ การยืดเสียงให้ยาวข้ึนโดยยังคงระดับเสียงสูง ต่าและระดบั ทานองเสยี ง(key) เดิมไว้ การเอือ้ นเสยี ง นิยมใช้ในการอ่านบทร้อยกรองที่มีการฉีกคา เพื่อให้ตรงกับ ฮ ฉันทลักษณ์ การหวนเสียง การเปล่ง /ฮ/ แล้วกาหนดให้กล้ามเน้ือกล่อง เสยี งขยับเขยอื้ นจนเกดิ ทานอง นิยมใช้ในการอ่านคาท้ายวรรค หรือคาที่มีเสียงวรรณยุกต์ จัตวา เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความไพเราะ การลากเสียงจากต่าขึ้นไปสูงเรียกว่า หวนข้ึน หรือลากเสียงจากสงู ลงไปตา่ เรยี กวา่ หวนลง นยิ มใช้ในการอ่านคาภายในวรรคให้เกิดความไพเราะ ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
การหลบเสยี ง ัศกทา ุวฒ | ๑๖ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การกระแทกเสยี ง การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นักเรยี นชั้น ม. ๓ การทอดเสียง การคร่นั เสยี ง การลดระดับเสียงจากสูงลงมาต่าเรียกว่า หลบตา่ หรอื เพิ่มระดับเสียงจากตา่ ไปสูงเรยี กว่า หลบขึ้น สูง นิยมใช้สาหรับผู้ชายที่ใช้เสียงสูงเกินไปไม่ได้ หรือสาหรับ ผชู้ ายทีใ่ ช้เสียงต่าเกินไปไมไ่ ด้ ก า ร เ ป ล่ ง เ สี ย ง ด้ ว ย ก า ร ร ะ เ บิ ด ล ม อ อ ก ม า กระทบกับอวยั วะการออกเสยี ง นยิ มใช้กบั บทอา่ นทโ่ี กรธ คับแค้นใจ ระทกึ ใจ การผ่อ นจังหวะและลากเสียงให้ช้าลง จนกระทั่งหยุดในตอนจบ นยิ มใช้กบั การจบบท หรือจบเรื่อง การทาเสียงใหส้ ะดุดสะเทอื น เพ่ือให้เกิดความ ไพเราะเหมาะสมกบั เนื้อความท่อี า่ น นิยมใช้กบั บทอา่ นทเี่ ศร้า หรือบทอ่านทต่ี วั ละครจะขาดใจ ศักทาวฒุ โคตรชมภู
| ๑๗ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง สาหรับนักเรยี นช้ัน ม. ๓ แบบฝกึ หดั ที่ ๓ เร่ือง ศิลปะการออกเสียง คาชี้แจง : ให้นกั เรยี นแบ่งเป็น ๗ กลมุ่ กล่มุ ละเทา่ ๆ กัน จากนน้ั ใหน้ กั เรียนอา่ นบทประพนั ธท์ ีก่ าหนดให้ โดยเลือกใชศ้ ิลปะการออกเสียงให้เหมาะสมกบั เน้อื เรื่อง ขุนมอญร่อนง้าวฟาด ฉาดฉะ ขาดแร่งตราบอรุ ะ หรุบดิ้น โอรสรีบกนั พระ- ศพสู่ นครเฮย สญู ชีพไปส่ ญู สิ้น พจน์ผสู้ รรเสรญิ (โคลงภาพพระราชพงศาวดาร) สมาชกิ ในกลมุ่ ๑. ช่ือ-สกุล..................................................................... ชั้น ม. ๓/.... เลขที่...... ๒. ชื่อ-สกุล..................................................................... ชั้น ม. ๓/.... เลขท.่ี ..... ัศกทา ุวฒ ๓. ช่อื -สกุล..................................................................... ชั้น ม. ๓/.... เลขท่ี...... ๔. ชื่อ-สกุล..................................................................... ชั้น ม. ๓/.... เลขที่...... ๕. ช่ือ-สกุล..................................................................... ชั้น ม. ๓/.... เลขท.่ี ..... ๖. ชอ่ื -สกุล..................................................................... ชั้น ม. ๓/.... เลขที่...... ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
| ๑๘ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นักเรียนชนั้ ม. ๓ ใบความรทู้ ่ี ๔ เรือ่ ง การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ประเภทกลอนบทละคร ความเปน็ มาของกลอน กลอน รงุ่ เรอื งสงู สุดในรัชสมยั พระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลยั รชั กาลท่ี ๒ มมี าต้ังแต่ง สมัยตอนปลายของอยุธยา ปัจจุบนั น้ี กลอน มคี าจากัดความท่แี คบเขา้ คนโบราณจะเรียกงานประพันธท์ ุกชนิด ท่ีมีการสัมผสั ของคาวา่ กลอน ัศกทา ุวฒความหมายของกลอนบทละคร กลอนบทละคร หมายถงึ บทรอ้ ยกรองประเภทหน่งึ ท่ใี ช้คาในวรรคหนง่ึ ไดต้ ั้งแต่ ๖ ถึง ๙ คา แต่ไม่นยิ มกนั มักนยิ มเปน็ ๖ หรอื ๗ คา มีสมั ผัสคลา้ ยกบั กลอนสุภาพ วรรคแรกของกลอนบทละครแต่ ละบทมักมคี าขนึ้ ตน้ ว่า เมอ่ื นนั้ บัดนน้ั และมาจะกล่าวบทไป ซ่งึ ใชก้ บั ตัวละครในเรอื่ งแตกต่างกนั ดงั น้ี เมอ่ื น้นั ใชก้ บั ตวั ละครท่เี ปน็ กษัตริย์ หรอตวั ละครเอก บัดนั้น บัดนนั้ ใชก้ ับเสนา ขนุ นาง หรอื บคุ คลท่วั ไป มาจะกล่าวบทไป ใช้สาหรับนาเกร่นิ เรอื่ ง กลอนบทละครจะแต่งขึ้นเพื่อแสดงละคร ซง่ึ การอ่านออกเสียงเป็นทานองเสนาะจะเรียกว่า การขับร้อง โดยจะขบั รอ้ งประกอบดนตรี โดยจะต้องใชศ้ ิลปะการออกเสยี งถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก ของตวั ละครออกมาใหไ้ ด้ ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๑๙ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรับนักเรยี นชนั้ ม. ๓ หลักการอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ประเภทกลอนบทละคร การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ประเภทกลอนบทรอ้ ยกรอง มีหลกั การ ดังนี้ ๑. เว้นจังหวะใหต้ รงกบั ฉนั ทลักษณ์ ดงั น้ี / / // / / // / / // / / // / หมายถึง เว้นจังหวะหายใจช่วงสั้น ๆ // หมายถึง เว้นจังหวะหายใจค่อนข้างยาว ๒. อา่ นโดยศิลปะการออกเสียง กลอนบทละคร จะมเี น้ือหาบอกเล่าเรือ่ งราวเหตุการณต์ า่ งผา่ นตวั ละคร ดงั น้ัน ผู้อ่านจะต้อง ใชศ้ ิลปะการออกเสียงมาใช้เพ่อื ท่จี ะถา่ ยทอดอารมณ์ ความรสู้ ึก ของตัวละของไปยังผฟู้ ังให้ได้ ๓. เลอื กอ่านบททีเ่ หมาะสมกบั ผู้อ่าน การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทกลอนบทละคร จะมีตัวละครในเรื่องหลายตัว ดังน้นั ในการอา่ นจะต้องอาศัยคนอ่านหลายคนจงึ จะเหมาะสม ผู้อ่านเองจะตอ้ งเลอื กอ่านบทของตัว ละครให้เหมาะสมกบั ตวั เอง เชน่ ระดบั เสียงต่าควรอา่ นบทของตัวละครทเี่ ปน็ ผูช้ าย เปน็ ตน้ ๔. ใช้ระดบั เสยี งใหเ้ หมาะสม การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ประเภทกลอนบทละคร ส่วนมากจะนิยมอ่านกับเสยี งดนตรี ดังน้ัน ในการอ่านจะต้องใช้ระดับเสียงท่ีผู้ฟังสามารถได้ยินชัดเจน ไม่เบาจนเสียงดนตรีกลบเสียง หรือดงั เกนิ ไปจนรสู้ กึ หนวกหู ๕. ใช้สีหนา้ ทา่ ทางประกอบการอา่ น การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทกลอนบทละคร นอกจากจะมีการใช้น้าเสียง ศิลปะการอ่านออกเสียงแล้ว ควรจะมีการแสดงภาษากายท่ีเรียกว่าอวัจนภาษาดว้ ย เพ่ือเป็นการสื่อ อารมณ์ความรู้สกึ อีกอยา่ งหน่งึ ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๒๐ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นักเรียนช้นั ม. ๓ มาฝกึ ฝนการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ประเภทกลอนบทละคร จากตวั อยา่ งการอา่ นกนั เลยครบั SCAN ME ดว้ ย Application HP Reveal ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
| ๒๑ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรับนักเรยี นช้ัน ม. ๓ แบบฝกึ หดั ท่ี ๔ เรื่อง การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง ประเภทกลอนบทละคร คาชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกลอนบทละครท่กี าหนดให้ตอ่ ไปน้ี บัดนนั้ นนทกนา้ ใจแกลว้ กลา้ กรวิ้ โกรธร้องประกาศตวาดมา อนิจจาขม่ เหงเลน่ ทกุ วนั จนหวั ไมม่ ผี มติด สุดคิดทเ่ี ราจะอดกลนั้ วนั นี้จะไดเ้ ห็นกัน ขบฟนั แลว้ ช้ีน้วิ ไป (รามเกียรต์ิ ตอน นารายณ์ปราบนนทก) ัศกทา ุวฒ ศักทาวุฒ โคตรชมภู
| ๒๒ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นกั เรียนช้ัน ม. ๓ ใบความรทู้ ่ี ๕ เรอื่ ง การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ประเภทกลอนเสภา ความเปน็ มาของกลอนเสภา การอ่านกลอนสภุ าพ - ใส่ทานองพเิ ศษขึ้น การขับเสภา เปน็ ทานองเสนาะ - ใช้กรับเป็นเคร่อื งดนตรี ประกอบจังหวะ ความหมายของกลอนเสภาัศกทา ุวฒ กลอนเสภา หมายถงึ การอา่ นบทรอ้ ยกรองทม่ี ีฉันทลักษณ์ ดงั นี้ ๑ บท มี ๒ บาทหรอื ๔ วรรค วรรคละ ๗-๙ คา มสี มั ผัสคลา้ ยกบั กลอนสภุ าพ ลักษณะพิเศษอกี ประการหนึง่ กค็ ือ ในแต่ละตอน มักนยิ มขึน้ ตน้ ดว้ ยคาวา่ ครานั้น และคาว่า จะกล่าวถึง หลักการอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง ประเภทกลอนเสภา การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ประเภทกลอนบทรอ้ ยกรอง มีหลักการ ดงั น้ี ๑. เว้นจงั หวะให้ตรงกบั ฉนั ทลกั ษณ์ ดังนี้ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง แบ่งจังหวะเป็น ๒ / ๒ / ๓ หรือ ๓ / ๒ / ๓ หรือ ๓ / ๓ / ๓ เชน่ / / // / / // / / // / / // / หมายถงึ เว้นจังหวะหายใจชว่ งสัน้ ๆ // หมายถงึ เวน้ จังหวะหายใจคอ่ นขา้ งยาว ศักทาวุฒ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๒๓ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นักเรียนช้ัน ม. ๓ ๒. อ่านโดยศลิ ปะการออกเสยี ง กลอนบทเสภา จะมีเนอื้ หาบอกเล่าเร่ืองราวเหตุการณ์ต่างผ่านตวั ละคร เช่นเดียวกับกลอน บทละคร ดังนั้น ผู้อ่านจะต้องใช้ศิลปะการออกเสียงมาใช้เพ่ือท่ีจะถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ของตัวละของไปยังผฟู้ ังให้ได้ ๓. เลอื กใช้เสียงขน้ึ บทเสภาให้เหมาะสม การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทกลอนเสภา สง่ิ หน่ึงที่เป็นเอกลักษณ์ คือ การขึ้นต้น การอ่านด้วยการเอื้อน ในการเป็นนักอ่านบทเสภามือสมัครเล่น ครูจะแนะนาการข้ึนด้วยการเอนคา ว่า เอย เพียงอย่างเดียว ซึ่งจะเป็นการข้ึนบทเสภาท่ีมีลักษณะกลาง ๆ สามารถใช้ได้กับทุกอารมณ์ ของบทเสภา แต่ขนึ้ อยู่กบั นักเรียนจะใช้นา้ เสียงอยา่ งไรในการข้นึ เพ่ือบง่ บอกลกั ษณะเน้ือความทจ่ี ะ อ่าน เช่น ถ้าเน้ือความเปน็ บทโกรธ การเอ้อื นคาว่า เอย อาจจะส้ัน หากเป็นบทเศร้า การเอ้ือนคาว่า เอย อาจจะมคี วามยาวขึน้ เป็นตน้ ๔. ใช้ระดับเสียงใหเ้ หมาะสม การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง ประเภทกลอนเสภา ส่วนมากจะนิยมขับกับกรบั ซึ่งกรับจะ มคี วามดังในระดับหน่ึง ดังนั้น ในการอ่านจะตอ้ งใชร้ ะดับเสยี งท่ีผฟู้ ังสามารถได้ยินชัดเจน ไม่เบาจน เสยี งกรบั กลบเสยี ง หรือดังเกินไปจนรูส้ ึกหนวกหู ๕. ใช้สีหนา้ ทา่ ทางประกอบการอ่าน การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทกลอนเสภา นอกจากจะมีการใช้น้าเสียง ศลิ ปะการอ่านออกเสียงแลว้ ควรจะมีการแสดงภาษากายท่ีเรียกว่าอวจั นภาษาดว้ ย เพื่อเป็นการสื่อ อารมณ์ความรู้สกึ อกี อย่างหนึง่ ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๒๔ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นักเรียนช้นั ม. ๓ มาฝกึ ฝนการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ประเภทกลอนเสภา จากตวั อยา่ งการอา่ นกนั เลยครบั SCAN ME ดว้ ย Application HP Reveal ศักทาวุฒ โคตรชมภู
| ๒๕ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นักเรยี นชน้ั ม. ๓ แบบฝกึ หดั ที่ ๕ เรอ่ื ง การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ประเภทกลอนเสภา คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทกลอนเสภาทีก่ าหนดให้ต่อไปน้ี อนั ชาติใดไร้ศานตสิ ุขสงบ ตอ้ งมวั รบราญรอนหาผอ่ นไม่ ณ ชาติน้นั นรชนไม่สนใจ ในศิลปะวไิ ลละวาดงาม แต่ชาติใดรุ่งเรอื งเมอื งสงบ ว่างการรบอริพลอันล้นหลาม ย่อมจานงศลิ ปาสง่างาม เพอ่ื อร่ามเรอื งระยับประดับประดา (บทเสภาสามคั คเี สวก) ัศกทา ุวฒ ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
| ๒๖ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นกั เรียนชัน้ ม. ๓ ใบความรทู้ ่ี ๖ เร่อื ง การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทกลอนกาพยย์ านี ๑๑ ความเปน็ มาของกาพยย์ านี ๑๑ สมัยอยุธยายุคกลาง ช่วงของสุนทรภู่ และยคุ ปลายไดเ้ พ่มิ มกี ารเพ่มิ สัมผัสระหว่าง ยคุ แรก ๆ บังคบั เฉพาะ สมั ผสั ระหว่างวรรคแรก วรรคที่ ๓ กับวรรคที่ ๔ สัมผสั ระหวา่ งบาท กบั วรรคท่ี ๒ และสัมผสั ระหวา่ งบทเท่านนั้ สมั ผสั ระหวา่ งวรรคไมบ่ งั คบั ความหมายของกาพยย์ านี ๑๑ ัศกทา ุวฒ การอ่านกาพย์ยานี ๑๑ หมายถงึ การอ่านบทร้อยกรองท่ีมีฉันทลักษณ์ ดังน้ี ๑ บทมี ๒ บาท บาทละ๑๑ คา คอื วรรคหน้า ๕ คา วรรคหลงั ๖ คา โดยในคาประพันธไ์ ทยประเภทกาพยห์ น่ึงทก่ี วนี ยิ ม แตง่ มากทส่ี ุด มที ง้ั แต่งสลบั กับคาประพันธ์ประเภทอื่นและแต่งเพยี งลาพัง หลกั การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทกาพยย์ านี ๑๑ การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ประเภทกลอนบทร้อยกรอง มีหลักการ ดงั นี้ ๑. เว้นจงั หวะให้ตรงกบั ฉนั ทลกั ษณ์ ดงั นี้ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง แบ่งจังหวะการอ่านเป็น ๒ / ๓ หรือ ๓ / ๓ ในการอ่าน จะต้องใช้ศิลปะการออกเสยี งทีห่ ลากหลายเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความไพเราะ / // / // / // / // / หมายถงึ เวน้ จงั หวะหายใจชว่ งส้นั ๆ // หมายถึง เวน้ จังหวะหายใจคอ่ นข้างยาว ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๒๗ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นกั เรียนชั้น ม. ๓ ๒. อา่ นโดยศิลปะการออกเสียง กาพย์ยานี ๑๑ ส่วนมากจะใช้ศิลปะการออกเสยี งในการออกเสยี งคาเป็นส่วนใหญ่ จะไม่ได้ เน้นถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกตัวละคร เพราะว่าการแต่งกาพย์ยานี ๑๑ จะมีเนื้อหาท่ีหลากหลาย ผู้อา่ นจึงตอ้ งใช้ทักษะการอ่านเน้อื ความให้เข้าใจ ๓. ใช้ระดับเสียงใหเ้ หมาะสม การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ ควรใช้ระดบั เสียงท่ีผูฟ้ ังสามารถได้ ยินชัดเจน ไม่เบาจนเสยี งดนตรีกลบเสียง หรือดังเกนิ ไปจนรูส้ ึกหนวกหู ๔. ใช้สหี น้าท่าทางประกอบการอ่าน การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ นอกจากจะมีการใช้น้าเสียง ศลิ ปะการอ่านออกเสียงแล้ว ควรจะมีการแสดงภาษากายท่ีเรียกว่าอวัจนภาษาดว้ ย เพื่อเป็นการส่ือ อารมณ์ความรู้สกึ อีกอย่างหน่ึง ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๒๘ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรบั นักเรยี นชน้ั ม. ๓ มาฝกึ ฝนการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ประเภทกาพยย์ านี ๑๑ จากตวั อยา่ งการอา่ นกนั เลยครบั SCAN ME ดว้ ย Application HP Reveal ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
| ๒๙ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรบั นกั เรยี นชน้ั ม. ๓ แบบฝกึ หดั ที่ ๖ เร่ือง การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง ประเภทกลอนกาพย์ยานี ๑๑ คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกาพย์ยานี ๑๑ ท่ีกาหนดใหต้ ่อไปนี้ ไม่จาคาพระเจ้า เหไปเข้าภาษาไสย ถอื ดมี ขี า้ ไท ฉ้อแต่ไพรใ่ สข่ ่ือคา คะดที ่มี คี ู่ คือไก่หมูเจ้าสภุ า ใครเอาเขา้ ปลามา ให้สภุ าก็วา่ ดี (กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ า) ัศกทา ุวฒ ศักทาวฒุ โคตรชมภู
| ๓๐ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรับนกั เรยี นช้นั ม. ๓ ใบความรทู้ ี่ ๗ เรื่อง การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ประเภทกลอนกาพย์ฉบัง ๑๖ ความเปน็ มาของกาพยย์ านี ๑๑ เมื่อมาพิจารณา บทร้อยกรองในหนงั สือจินดามณี ดว้ ยชอ่ื คาว่าฉบัง ทีม่ ีรากศัพท์ กจ็ ะพบบทประพนั ธ์ทมี่ ี มาจากภาษาเขมร ฉนั ทลกั ษณ์แบบกาพย์ฉบงั ๑๖ จงึ สันนิฐานว่า กาพย์ฉบังจะนา จึงคาดว่าน่าจะเริ่มนิยมแต่งในช่วงอยุธยา ฉันทลักษณ์การแตง่ มาจากเขมร ความหมายของกาพยฉ์ บงั ๑๖ัศกทา ุวฒ การอ่านกาพย์ฉบัง ๑๖ หมายถึง การอ่านบทร้อยกรองที่มีฉันทลักษณ์ ดังนี้ การอ่าน บทร้อยกรองที่มีฉันทลักษณ์ ดังนี้ ๑ บทมี ๑๖ คา แบ่งเป็น ๓ วรรค วรรคที่ ๑ และ ๓ มี ๖ คา ส่วนวรรคที่ ๒ มี ๔ คา คาว่า ฉบัง หมายความว่า รบ หรือสงคราม ทานองการอ่านจึงมีลักษณะ ห้าวหาญ หลกั การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ประเภทกาพย์ฉบัง ๑๖ การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ประเภทกลอนบทร้อยกรอง มหี ลกั การ ดังนี้ ๑. เว้นจังหวะใหต้ รงกับฉนั ทลักษณ์ ดงั น้ี การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง แบ่งจังหวะการอ่านวรรคท่ี ๑ และ ๓ เป็น ๒ / ๒ / ๒ และวรรคที่ ๒ แบ่งจังหวะการอา่ นเปน็ ๒ / ๒ ในการอ่านจะต้องใชศ้ ิลปะการออกเสียงท่ีหลากหลาย เพ่อื ใหเ้ กิดความไพเราะ / / // / // / / // / หมายถงึ เวน้ จังหวะหายใจชว่ งส้นั ๆ // หมายถงึ เวน้ จงั หวะหายใจคอ่ นข้างยาว ศักทาวฒุ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๓๑ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นักเรยี นช้ัน ม. ๓ ๒. อ่านโดยศลิ ปะการออกเสียง กาพย์ฉบัง ๑๖ เนื้อหาการแต่งจะมีลักษณะบอกเล่าเร่ืองราวเหตุการณ์ต่าง ๆ รวมถึงนิยม นามาแต่งเป็นบทพากย์ การใช้ศิลปะการออกเสียงนกั เรียนจะต้องพิจารณาเนื้อหาให้ดี เพ่ือท่ีจะส่ือ ความหมายโดยใช้ศลิ ปะการออกเสียง ๓. ใชร้ ะดบั เสยี งให้เหมาะสม การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทกาพย์ฉบัง ๑๖ คาว่า ฉบัง แปลว่า รบ, สงคราม เสยี งทีใ่ ช้จงึ มีความชัดเจน หรือเรียกอกี อย่างหน่งึ วา่ จะใช้เสียงเต็มเสยี งตลอดบท ๔. ใช้สีหนา้ ท่าทางประกอบการอา่ น การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทกาพย์ฉบัง ๑๖ นอกจากจะมีการใช้น้าเสียง ศลิ ปะการอ่านออกเสียงแล้ว ควรจะมีการแสดงภาษากายที่เรียกว่าอวจั นภาษาด้วย เพื่อเป็นการส่ือ อารมณ์ความรูส้ กึ อีกอย่างหนึง่ ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๓๒ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นักเรียนช้นั ม. ๓ มาฝกึ ฝนการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ประเภทกาพยฉ์ บงั ๑๖ จากตวั อยา่ งการอา่ นกนั เลยครบั SCAN ME ดว้ ย Application HP Reveal ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
| ๓๓ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นกั เรียนชน้ั ม. ๓ แบบฝกึ หดั ที่ ๗ เรอ่ื ง การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ประเภทกลอนกาพยฉ์ บัง ๑๖ คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทกาพยฉ์ บงั ๑๖ ท่กี าหนดใหต้ อ่ ไปนี้ อินทรชติ บดิ เบือนกายิน เหมือนองคอ์ มรินทร์ ทรงคชเอราวณั เผอื กผ่องผิวพรรณ (บทพากยเ์ อราวัณ) ช้างนิมิตฤทธิแรงแข็งขัน สสี งั ขส์ ะอาดโอฬาร์ ัศกทา ุวฒ ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
| ๓๔ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นกั เรียนช้นั ม. ๓ ใบความรทู้ ่ี ๘ เรอ่ื ง การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง ประเภทกลอนโคลงสี่สภุ าพ ความเปน็ มาของโคลง โคลงเป็นคาประพนั ธเ์ ก่าแก่ อยา่ งหนึ่งของไทย สันนษิ ฐานวา่ เป็นของภาคเหนอื ดังปรากฏในหนังสือนิราศหริภญุ ชัย ซงึ่ แต่งเปน็ โคลงยาว ราวสมัยพระเจ้า ปราสาททองซึ่งเป็นหนงั สอื โคลงเล่มแรก ความหมายของกาพย์ฉบัง ๑๖ัศกทา ุวฒ การอ่านโคลงสี่สุภาพ หมายถงึ การอา่ นบทร้อยกรองที่มฉี ันทลกั ษณ์ ดังน้ี ๑ บท มีจานวนคา ต้ังแต่ ๓๐-๓๔ คา บทหนึ่งมี ๔ บาท บาทละ ๒ วรรค ซ่ึงบาที่ ๑-๓ มีบาทละ ๗ คา (วรรคหน้า ๕ คา วรรคหลัง ๒ คาและอาจมีคาสร้อยในท้ายบาท ๑ กับ ๓ ได้วรรคละ ๒ คา) ส่วนบาทสุดท้ายมี ๙ คา (วรรคหนา้ ๕ คา วรรคหลงั ๔ คา) และยังมีการบังคับตาแหน่งคาเอก-โท โดยบังคับคาเอก ๗ คา คาโท ๔ คา หลักการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ประเภทกาพยฉ์ บงั ๑๖ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทกลอนบทร้อยกรอง มีหลักการ ดังนี้ ๑. เวน้ จังหวะให้ตรงกบั ฉนั ทลกั ษณ์ ดงั น้ี การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง แบ่งจังหวะการอ่านถ้าวรรคใดมี ๕ คา แบ่งเป็น ๓ / ๒ หรือ ๒ / ๓ หรือ ๑ / ๔ วรรคใดมี ๔ คา แบง่ เปน็ ๒ / ๒ และวรรคท่ีมี ๒ คา ไมม่ ีการแบง่ จงั หวะ ใน การอา่ นจะต้องใช้ศลิ ปะการออกเสียงที่หลากหลายเพือ่ ใหเ้ กิดความไพเราะ ดังน้ี ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
| ๓๕ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรับนกั เรียนช้นั ม. ๓ ๑. เวน้ จังหวะใหต้ รงกบั ฉนั ทลกั ษณ์ (ต่อ) / // / () // / // // / // / () // / // // / หมายถึง เว้นจังหวะหายใจชว่ งส้ัน ๆ // หมายถงึ เวน้ จงั หวะหายใจคอ่ นขา้ งยาว ๒. อ่านโดยศิลปะการออกเสียง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทโคลงสีส่ ุภาพ ด้วยฉนั ทลกั ษณ์ที่มีการจากัดจานวน คาแต่ละวรรคนอ้ ย จึงทาให้บางคาแยกออกจากกัน เรียกว่า ฉกี คา ผอู้ ่านจะตอ้ งอาศยั การลากเสียง เพ่ือให้เกิดความถูกต้องเชิงฉันทลักษณ์ และให้ได้เน้ือความ นอกจากน้ีหากคาใดหรือเน้ือหาของบท เอือ้ ตอ่ การใช้ศิลปะการออกเสยี งลักษณะใดก็สามารถใช้ไดเ้ พ่อื ใหเ้ กดิ ความไพเราะ ัศกทา ุวฒ ๓. ใชร้ ะดับเสียงใหเ้ หมาะสม การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทโคลงสุภาพ จะมีความเหมาะสมกบั เสียงของผู้ชาย เป็นอย่างย่ิง แต่ก็ใช่ว่าผู้หญิงจะไม่สามารถอ่านได้ เพราะโคลงจะเอื้อให้กับการอ่านโดยใช้เสียง ระดับต่า ท้งั นี้ ระดับต่าก็จริงแต่เสียงจะต้องมีความชดั เจนและเข้มแข็ง คล้ายกบั ลกั ษณะของผู้ชาย ๔. ใช้สีหนา้ ท่าทางประกอบการอา่ น การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทโคลงส่ีสุภาพ นอกจากจะมีการใช้น้าเสียง ศิลปะการอ่านออกเสียงแล้ว ควรจะมีการแสดงภาษากายท่ีเรียกว่าอวจั นภาษาด้วย เพื่อเป็นการสื่อ อารมณ์ความร้สู ึกอีกอย่างหน่งึ ศักทาวุฒ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๓๖ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นักเรยี นช้นั ม. ๓ มาฝกึ ฝนการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ประเภทกาพยโ์ คลงสส่ี ภุ าพ จากตวั อยา่ งการอา่ นกนั เลยครบั SCAN ME ดว้ ย Application HP Reveal ศักทาวุฒ โคตรชมภู
| ๓๗ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นักเรียนช้นั ม. ๓ แบบฝกึ หดั ท่ี ๘ เรือ่ ง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทโคลงสส่ี ุภาพ คาช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทกาพย์ฉบงั ๑๖ ที่กาหนดให้ต่อไปน้ี ขนุ มอญรอ่ นง้าวฟาด ฉาดฉะ ขาดแล่งตราบอุระ หรบุ ดน้ิ โอรสรีบกันพระ- ศพสู่ นครแฮ สูญชพี ไป่สูญส้นิ พจน์ผู้สรรเสริญ (โคลงภาพพระราชพงศาวดาร) ัศกทา ุวฒ ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
| ๓๘ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง สาหรับนักเรยี นชน้ั ม. ๓ แบบทดสอบการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง หลงั เรียน คาชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นอ่านบกรอ้ ยกรองตอ่ ไปนี้ เปน็ ทานองปกติ และทานองเสนาะ ๑. บทรอ้ ยกรองประเภทกลอนบทละคร บดั น้ัน นนทกน้าใจแกล้วกลา้ กรว้ิ โกรธรอ้ งประกาศตวาดมา อนิจจาข่มเหงเล่นทุกวนั จนหวั ไมม่ ผี มติด สุดคิดท่เี ราจะอดกลนั้ วันนี้จะได้เห็นกนั ขบฟนั แล้วชีน้ ้ิวไป (รามเกยี รต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก) ัศกทา ุวฒ ๒. บทรอ้ ยกรองประเภทกลอนเสภา อนั ชาตใิ ดไร้ศานติสขุ สงบ ตอ้ งมวั รบราญรอนหาผ่อนไม่ ณ ชาตนิ ัน้ นรชนไม่สนใจ ในศิลปะวิไลละวาดงาม แต่ชาติใดรงุ่ เรืองเมอื งสงบ วางการรบอรพิ ลอนั ล้นหลาม ย่อมจานงศิลปาสงา่ งาม เพือ่ อรา่ มเรอื งระยับประดับประดา (บทเสภาสามัคคีเสวก) ๓. บทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ านี ๑๑ ไม่จาคาพระเจา้ เหไปเขา้ ภาษาไสย ถอื ดมี ีขา้ ไท ฉ้อแตไ่ พรใ่ สข่ ือ่ คา คะดที ี่มคี ู่ คอื ไกห่ มูเจ้าสุภา ใครเอาเข้าปลามา ให้สภุ าก็วา่ ดี (กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ า) ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
| ๓๙ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรับนักเรียนช้นั ม. ๓ ๔. บทรอ้ ยกรองประเภทกาพยฉ์ บงั ๑๖ อินทรชติ บดิ เบือนกายนิ เหมือนองค์อมรนิ ทร์ ทรงคชเอราวัณ เผือกผอ่ งผวิ พรรณ ชา้ งนิมิตฤทธแิ รงแข็งขนั สีสังข์สะอาดโอฬาร์ (บทพากยเ์ อราวณั ) ๕. บทรอ้ ยกรองประเภทโคลงสส่ี ภุ าพ ขนุ มอญร่อนง้าวฟาด ฉาดฉะ ขาดแล่งตราบอรุ ะ หรุบด้ิน ัศกทา ุวฒ โอรสรีบกันพระ- ศพสู่ นครแฮ สูญชพี ไป่สญู สิ้น พจนผ์ ู้สรรเสริญ (โคลงภาพพระราชพงศาวดาร) ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๔๐ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นักเรยี นชน้ั ม. ๓ บรรณานกุ รม กรมวิชาการ. (๒๕๔๔). แทนคุณแผ่นดินเกิดเทิดคุณค่าภาษาไทย. กรุงเทพ ฯ : องค์การรับส่งสินค้า และพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.). กญั ณฐา พงศ์พิริยะวนิช. (๒๕๖๑). การอ่านรอ้ ยแก้วร้อยกรองเชิงนวัตกรรมวรรณศลิ ป์. พิมพ์คร้ังที่ ๒. นนทบรุ ี : สัมปชัญญะ. การณุ นั ทน์ รตั นแสนวงษ์. (๒๕๔๙). การใช้ภาษาไทย. พิมพค์ รง้ั ท่ี ๔. กรุงเทพ ฯ : โรงพมิ พม์ หาวิทยาลัย ศรปี ทมุ . กาชยั ทองหลอ่ . (๒๕๕๖). หลกั ภาษาไทย. พมิ พค์ ร้งั ที่ ๕๔. กรุงเทพ ฯ : รวมสาส์น (๑๙๗๗). คณะกรรมการกลุ่มปรับปรุงชุดวิชาภาษาเพ่ือการสื่อสาร. (๒๕๕๘). ภาษาเพื่อการส่ือสาร Language for Communication. เอกสารประกอบการสอน หน่วยที่ ๑-๗. พิมพค์ ร้ังท่ี ๒๑. นนทบุรี : โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. เจรญิ เจษฎาวลั ย์. (๒๕๔๖). ศาสตร์และศลิ ปภ์ าษาไทย. กรงุ เทพ ฯ : พอด.ี ทพิ ยส์ ุเนตร อนัมบตุ ร. (๒๕๕๑). การอา่ นเพื่อการวเิ คราะห์. กรงุ เทพ ฯ : มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง. นภาพร บารุงศลิ ป์. (๒๕๖๐). การพัฒนาชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอ่านออกเสียงคาศัพทภ์ าษาจีน สาหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา หลกั สตู รและการสอน วิทยาลัยครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธุรกจิ บณั ฑติ . ประทีป วาทิกทนิ กร. (๒๕๔๒). รอ้ ยกรอง. กรงุ เทพ ฯ : มหาวิทยาลยั รามคาแหง. ปรีชา ช้างขวัญยืน. (๒๕๔๐). วิพากษ์การใช้ภาษาไทย. กรุงเทพ ฯ : สานักพิมพ์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั . ผกาศรี เย็นบุญ. (๒๕๔๒). การอ่าน. กรุงเทพ ฯ : ภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ ประสานมติ ร. พลายพิชยั ศิริอรรถ. (๒๕๕๓). การพัฒนาการดาเนนิ งานส่งเสริมนิสัยรักการอา่ นของนกั เรยี นโรงเรยี น ไพโรจนว์ ชิ ชาลยั อาเภอเมืองรอ้ ยเอ็ด จังหวดั ร้อยเอด็ . วิทยานพิ นธ์ศกึ ษาศาสตรมหาบัณฑติ บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. พริ ุณ อนวัชศิริวงศ์ และถิรนนั ท์ อนวชั ศิรวิ งศ์. (๒๕๕๔). อา่ นสร้างสุข : สร้างวัฒนธรรมการอ่าน สร้าง การอา่ นให้เป็นวฒั นธรรม. กรงุ เทพ ฯ : แปลนพลน้ิ ท์ต้ิง. ฟองจันทร์ สุขย่ิง และคณะ. (ม.ป.ป.). ภาษาไทย หลักภาษาและการใช้ภาษา ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓. พิมพ์ครั้งที่ ๑๗. กรงุ เทพ ฯ : อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. ศักทาวุฒ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๔๑ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นกั เรยี นช้ัน ม. ๓ ราชบัณฑิตยสถาน. (๒๕๔๖). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒. กรุงเทพ ฯ : นานมีบคุ๊ ส์พับลิเคชนั่ ส.์ สมบัติ จาปาเงิน และสาเนยี ง มณีกาญจน์. (๒๕๓๙). หลักนักอ่าน. พิมพค์ รงั้ ที่ ๒. กรุงเทพ ฯ : ตน้ อ้อ แกรมมี่ จากัด. สุนันทา มั่นเศรษฐวิทย์. (๒๕๔๓). หลักและวิธีสอนอ่านภาษาไทย. พิมพ์คร้ังที่ ๕. กรุงเทพฯ : บรษิ ทั โรงพิมพ์ไทยวฒั นาพานชิ จากดั . สนทิ สตั โยภาส. (๒๕๕๖). ภาษาไทยเพ่อื การสอื่ สารและสบื คน้ . พิมพ์คร้งั ท่ี ๒. กรุงเทพ ฯ : ธารอกั ษร. สายใจ ทองเนยี ม. (๒๕๖๐). ภาษาไทยเพอื่ การส่ือสาร. กรุงเทพ ฯ : ซีเอด็ ยูเคช่ัน. สานักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๔๘). ตัวช้ีวัดและสาระการเรยี นรู้ ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพ้ืนฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพ ฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย. สุทธิลักษณ์ สวรรยาวิสุทธิ์. (ม.ป.ป.). สัทศาสตร์ (Phonetics). เอกสารประกอการเรียนวิชา ภาษาศาสตร์ภาษาไทยเบ้ืองต้น Introduction to Thai Linguistics (๓๐๔๑๖๒๐๑). นครพนม : คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนครพนม. สภุ าพร มากแจ้ง. (๒๕๓๕). กวนี ิพนธ์ไทย. กรุงเทพ ฯ : โอเดียนสโตร์. เสถียร โกเศศ. (๒๕๐๗). การศึกษาวรรณคดแี ง่วรรณศิลป์. กรงุ เทพ ฯ : ราชบณั ฑิตสถาน. อรทัย วิมลโนธ และคณะ. (๒๕๔๐). ภาษาไทย ๒. พิมพ์ครั้งที่ ๕. กรุงเทพ ฯ : สานักพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. อรอุรา มุสิกสาร. (๒๕๕๙). ภาษาไทยพนื้ ฐาน. กรุงเทพ ฯ : ซีเอด็ ยูเคช่ัน. อัมพร สขุ เกษม. (๒๕๒๔). ความรู้พน้ื ฐานเกี่ยวกับร้อยกรอง. กรุงเทพ ฯ : พีระพันธนา. Francis Bacon. ( ๑ ๙ ๖ ๗ ) . The home book of quotations : classical and modern. New York : Mead & Company. วราภรณ์ สามโกเศศ. (๒๕๕๔). การอ่านกับชีวีมีราคา. มติชนรายวัน. สืบค้นเม่ือวันท่ี ๖ มิถุนายน ๒ ๕ ๖ ๒ , จ า ก http://www.varakorn.com/upload/page/matichon_daily/๘ _sep_ ๑๑_daily.pdf. ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
ัศกทา ุวฒ | ๔๒ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นกั เรยี นชัน้ ม. ๓ ภาคผนวก ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู
| ๔๓ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นักเรียนช้นั ม. ๓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ประเดน็ การ ระดบั คะแนน ประเมนิ ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑. ความรคู้ วาม มีความรคู้ วามเข้าใจ มีความรู้ความเข้าใจ คอ่ นขา้ งมีความรู้ ค่อนข้างมีความรู้ ไมม่ ีความรู้ เข้าใจเกยี่ วกับ เกีย่ วกบั หลกั การ เก่ียวกับหลักการ ความเข้าใจเกย่ี วกับ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั ความเขา้ ใจเกย่ี วกับ หลักการอา่ นออก อ่านออกเสียง อ่านออกเสยี ง หลักการ หลกั การ หลักการ เสียงบทรอ้ ยกรอง บทรอ้ ยกรอง บทร้อยกรอง บาง อ่านออกเสยี ง อา่ นออกเสียง อ่านออกเสยี ง ประเภทต่าง ๆ ประเภทต่าง ๆ ประเภท บทร้อยกรอง บทร้อยกรอง บาง บทร้อยกรอง ประเภทต่าง ๆ ประเภท ประเภทต่าง ๆ ัศกทา ุวฒ ๒. ความสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ คอ่ นข้างมี ค่อนขา้ งมี ไม่มคี วามสามารถ ในการอ่านออก ในการอา่ นออกเสียง ในการอ่านออกเสยี ง ความสามารถ ความสามารถ ในการอา่ นออกเสียง เสยี งบทรอ้ ยกรอง บทร้อยกรอง บทร้อยกรอง ในการอ่านออกเสยี ง ในการอ่านออกเสยี ง บทรอ้ ยกรอง ประเภทต่าง ๆ ประเภทตา่ ง ๆ ได้ บางประเภทได้ บทร้อยกรอง บทรอ้ ยกรอง ประเภทต่าง ๆ ได้ ประเภทตา่ ง ๆ ได้ บางประเภทได้ ๓. การอ่านถูกต้อง อา่ นออกเสียง อา่ นออกเสียง อา่ นออกเสียง อ่านออกเสียง อา่ นออกเสียง ตามอกั ขรวธิ ี ถูกตอ้ งตามอกั ขรวิธี ไมถ่ ูกต้องตาม ไม่ถกู ตอ้ งตาม ไม่ถูกต้องตาม ไมถ่ ูกต้องตาม ทุกคา อักขรวธิ ี อักขรวธิ ี อกั ขรวธิ ี อกั ขรวธิ ี ๑-๒ คา ๓-๔ คา ๕-๖ คา ๗ คา ขึ้นไป ๔. การใช้นา้ เสยี ง มีการใช้นา้ เสยี ง มีการใช้น้าเสยี ง มกี ารใช้น้าเสียงท่มี ี มีการใช้น้าเสยี ง ไม่มกี ารใช้น้าเสียง ๕. การเว้นจังหวะ ทเ่ี หมาะสม ท่ีเหมาะสม กบั เนอ้ื เรอื่ ง กับเนอ้ื เร่อื ง ความไพเราะ ในการอ่าน และมคี วามไพเราะ เวน้ จงั หวะถูกต้อง เวน้ จงั หวะไมถ่ กู ตอ้ ง เว้นจงั หวะไม่ถูกตอ้ ง เว้นจงั หวะไมถ่ ูกตอ้ ง เว้นจังหวะไม่ถกู ตอ้ ง ตามฉนั ทลกั ษณ์ ทง้ั หมด ตามฉันทลักษณ์ ตามฉนั ทลกั ษณ์ ตามฉนั ทลกั ษณ์ ตามฉนั ทลักษณ์ ๑-๒ แห่ง ๓-๔ แหง่ ๕-๖ แห่ง ๗ แห่ง ข้ึนไป ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
| ๔๔ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง สาหรบั นกั เรียนช้นั ม. ๓ ประเดน็ การ ๕ ัศกทา ุวฒ๔ ระดบั คะแนน ๒ ๑ ประเมนิ มีการใช้ศิลปะ มีการใช้ศิลปะ ๓ มกี ารใชศ้ ิลปะ ไม่มีการใช้ศลิ ปะ การออกเสยี ง การออกเสยี ง การออกเสยี ง การออกเสียง ๖. การใช้ศิลปะ ทเี่ หมาะสม ทีเ่ หมาะสม มกี ารใช้ศิลปะ การออกเสยี ง กับบททอี่ ่าน กับบทท่ีอ่าน การออกเสียงทมี่ ี ทา ๒ ข้อในประเด็น ไมท่ าทกุ ขอ้ และมคี วามไพเราะ ความไพเราะ ทก่ี าหนด ดงั น้ี ในประเดน็ ๗. การมมี ารยาท ทาครบทุกข้อ ทา ๓ ขอ้ ในประเด็น ๑) ใชร้ ะดับเสยี ง ทีก่ าหนดให้ ดังน้ี ในการอ่านออก ในประเดน็ ท่กี าหนด ทกี่ าหนด ดังนี้ ทา ๒ ข้อในประเด็น เหมาะสม ๑) ใช้ระดบั เสียง เสียงบทรอ้ ยกรอง ดงั น้ี ๑) ใชร้ ะดับเสียง ทกี่ าหนด ดังน้ี ๒) มีการอ้างองิ ที่มา เหมาะสม ๑) ใช้ระดับเสียง เหมาะสม ๑) ใช้ระดบั เสียง ของบททอ่ี า่ น ๒) มีการอ้างอิงทม่ี า ๘. มีคณุ สมบตั ิการ เหมาะสม ๒) มกี ารอ้างองิ ที่มา เหมาะสม ๓) ในขณะทอี่ า่ นไม่ ของบททีอ่ า่ น เป็นนักอา่ นออก ๒) มกี ารอ้างอิงท่ีมา ของบททอ่ี า่ น ๒) มีการอา้ งองิ ท่ีมา ทางานอน่ื ๓) ในขณะทอ่ี ่านไม่ เสียงบทรอ้ ยกรอง ของบททีอ่ ่าน ๓) ในขณะทีอ่ ่านไม่ ของบททอ่ี ่าน ๔) ไมอ่ ่านคาผดิ ทางานอื่น ทีด่ ี ๓) ในขณะท่อี า่ นไม่ ทางานอนื่ ๓) ในขณะท่ีอ่านไม่ ตัดคา เพ่มิ คา ๔) ไมอ่ ่านคาผดิ ทางานอืน่ ๔) ไมอ่ า่ นคาผิด ทางานอ่นื ตัดคา เพ่ิมคา ๔) ไม่อ่านคาผิด ตดั คา เพมิ่ คา ๔) ไม่อ่านคาผิด ทา ๑ ข้อในประเด็น ไม่ทาทกุ ขอ้ ตดั คา เพม่ิ คา ตดั คา เพิม่ คา ทก่ี าหนด ดังน้ี ในประเด็น ทาครบทกุ ข้อ ทา ๓ ขอ้ ในประเด็น ๑) ใฝ่เรียนรู้ ทก่ี าหนดให้ ดังนี้ ในประเด็นท่ีกาหนด ท่กี าหนด ดังนี้ ทา ๒ ข้อในประเด็น ๒) ใฝ่ฝกึ ฝน ๑) ใฝ่เรียนรู้ ดังน้ี ๑) ใฝ่เรยี นรู้ ท่กี าหนด ดงั นี้ ๓) ใฝ่ทาสม่าเสมอ ๒) ใฝ่ฝึกฝน ๑) ใฝเ่ รียนรู้ ๒) ใฝ่ฝกึ ฝน ๑) ใฝ่เรียนรู้ ๔) มคี วามต้ังใจใน ๓) ใฝ่ทาสม่าเสมอ ๒) ใฝ่ฝกึ ฝน ๓) ใฝ่ทาสม่าเสมอ ๒) ใฝ่ฝกึ ฝน การอา่ น ๔) มีความต้งั ใจใน ๓) ใฝ่ทาสม่าเสมอ ๔) มคี วามตงั้ ใจใน ๓) ใฝ่ทาสม่าเสมอ การอา่ น ๔) มคี วามต้งั ใจใน การอา่ น ๔) มีความตัง้ ใจใน การอา่ น การอา่ น ศักทาวุฒ โคตรชมภู
| ๔๕ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะ การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง สาหรบั นักเรียนช้นั ม. ๓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง แบบทดสอบหลังเรยี น ประเดน็ การ ระดบั คะแนน ประเมนิ ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑. ความรคู้ วาม มีความรคู้ วามเข้าใจ มีความรู้ความเข้าใจ คอ่ นขา้ งมีความรู้ ค่อนข้างมีความรู้ ไมม่ ีความรู้ เข้าใจเกยี่ วกับ เกีย่ วกบั หลกั การ เก่ียวกับหลักการ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั ความเขา้ ใจเกย่ี วกับ หลักการอา่ นออก อ่านออกเสียง อ่านออกเสยี ง หลักการ หลกั การ หลักการ เสียงบทรอ้ ยกรอง บทรอ้ ยกรอง บทร้อยกรอง บาง อ่านออกเสยี ง อา่ นออกเสียง อ่านออกเสยี ง ประเภทต่าง ๆ ประเภทต่าง ๆ ประเภท บทร้อยกรอง บทร้อยกรอง บาง บทร้อยกรอง ประเภทต่าง ๆ ประเภท ประเภทต่าง ๆ ัศกทา ุวฒ ๒. ความสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ คอ่ นข้างมี ค่อนขา้ งมี ไม่มคี วามสามารถ ในการอ่านออก ในการอา่ นออกเสียง ในการอ่านออกเสยี ง ความสามารถ ความสามารถ ในการอา่ นออกเสียง เสยี งบทรอ้ ยกรอง บทร้อยกรอง บทร้อยกรอง ในการอา่ นออกเสยี ง ในการอ่านออกเสยี ง บทรอ้ ยกรอง ประเภทต่าง ๆ ประเภทตา่ ง ๆ ได้ บางประเภทได้ บทร้อยกรอง บทรอ้ ยกรอง ประเภทต่าง ๆ ได้ ประเภทตา่ ง ๆ ได้ บางประเภทได้ ๓. การอ่านถูกต้อง อา่ นออกเสียง อา่ นออกเสียง อา่ นออกเสียง อ่านออกเสียง อา่ นออกเสียง ตามอกั ขรวธิ ี ถูกตอ้ งตามอกั ขรวิธี ไมถ่ ูกต้องตาม ไม่ถกู ตอ้ งตาม ไม่ถูกต้องตาม ไมถ่ ูกต้องตาม ทุกคา อักขรวธิ ี อักขรวธิ ี อกั ขรวธิ ี อกั ขรวธิ ี ๑-๒ คา ๓-๔ คา ๕-๖ คา ๗ คา ขึ้นไป ๔. การใช้นา้ เสยี ง มีการใช้นา้ เสยี ง มีการใช้น้าเสยี ง มกี ารใช้น้าเสียงท่มี ี มีการใช้น้าเสยี ง ไม่มกี ารใช้น้าเสียง ๕. การเว้นจังหวะ ทเ่ี หมาะสม ท่ีเหมาะสม กบั เนอ้ื เรอื่ ง กับเนอ้ื เร่อื ง ความไพเราะ ในการอ่าน และมคี วามไพเราะ เวน้ จงั หวะถูกต้อง เวน้ จงั หวะไมถ่ กู ตอ้ ง เว้นจงั หวะไม่ถูกตอ้ ง เว้นจงั หวะไมถ่ ูกตอ้ ง เว้นจังหวะไม่ถกู ตอ้ ง ตามฉนั ทลกั ษณ์ ทง้ั หมด ตามฉันทลักษณ์ ตามฉนั ทลกั ษณ์ ตามฉนั ทลกั ษณ์ ตามฉนั ทลักษณ์ ๑-๒ แห่ง ๓-๔ แหง่ ๕-๖ แห่ง ๗ แห่ง ข้ึนไป ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู
Search