2

คมู่ อื การปฏบิ ตั งิ าน การเบกิ จา่ ยเงนิ สวสั ดกิ ารดา้ นการศกึ ษา บตุ รขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ จดั ทาโดย นางวนั วสิ าข์ ศริ ริ งุ่ โรจนก์ ลุ นกั จดั การงานทว่ั ไปชานาญการ ฝา่ ยวนิ ยั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรม กองการเจา้ หนา้ ท่ี องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาญจนบรุ ี

สารบญั 1. วัตถปุ ระสงค์ 1 2. ขอบเขต 1 3. สาระสาคญั ของกฎหมายและระเบียบท่เี กย่ี วขอ้ ง 2 4. คาจากดั ความ 3 5. การยน่ื ขอเบกิ เงิน 11 6. กระบวนการ/ขั้นตอน 12 7. เอกสารอ้างองิ 14

1 สวสั ดกิ ารดา้ นการศกึ ษาบตุ รขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ 1. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอื่ ให้ องค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั กาญจนบรุ ี มคี ูม่ อื การเบกิ จา่ ยเงินสวัสดกิ ารดา้ นศกึ ษา บุตรของขา้ ราชการ ลูกจ้างประจำขา้ ราชการบำนาญ 2. เพ่อื ให้เจ้าหนา้ ที่ผู้รบั ผดิ ชอบการปฏบิ ัตงิ านดา้ น การเบกิ จ่ายสวสั ดกิ ารค่าการศกึ ษาบุตร ใช้เปน็ แนวทางในการปฏบิ ัตงิ านให้เปน็ ไปอยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพเปน็ มาตรฐานเดยี วกนั 3. เพือ่ เป็นแนวทางศึกษาทำความเขา้ ใจ เกยี่ วกบั ระเบียบกฎหมายในการเบกิ จา่ ย 2. ขอบเขต คู่มอื การปฏบิ ตั งิ านการเบิกจ่ายเงนิ สวสั ดิการด้าน การศกึ ษาบุตร ใชก้ บั ผปู้ ฏบิ ัตงิ านของทุกส่วนราชการ ภายในองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัดกาญจนบรุ ี

2 3. สาระสำคญั ของกฎหมายและระเบยี บทเ่ี กย่ี วขอ้ งของสวสั ดิ การเกย่ี วกบั คา่ การศกึ ษาบตุ ร 1.ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าดว้ ยเงินสวัสดกิ ารเกย่ี วกับ การศึกษาของบตุ รองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น พ.ศ.2563 2.พระราชกฤษฎกี า เงนิ สวสั ดกิ ารเกย่ี วกบั การศึกษาของบุตร พ.ศ.2562 3.ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอ่ื ง หลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารเบิกจา่ ยเงนิ สวสั ดกิ ารเกี่ยวกับ การศึกษาบุตรพนกั งานส่วนทอ้ งถ่นิ ประกาศ ณ วนั ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2542 4.หนงั สอื ท่ี มท 0809.3/ว4188 ลว 9 ธค 2548 เรื่องแนวทางปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกบั สทิ ธิการเบกิ เงนิ สวสั ดกิ ารของผู้บริหารทอ้ งถนิ่ 5.หนงั สอื สงั การเรอื่ งประเภทและอตั ราเงนิ บ่ารงุ การศกึ ษาและ คา่ เลา่ เรยี น

4. คาจากดั ความ 3 “เงินสวัสดิการเก่ียวกับการศึกษาของบุตร” หมายถึง เงิ น ท่ี ท า ง ร า ช ก า ร ช่ ว ย เห ลื อ เก ่ีย ว กบั คา่ ใ ช้ จ่ า ย ใ น ก า ร ศึ ก ษ า ส ำ ห รั บ บุ ต ร ข อ ง ข้ า ร า ช ก า ร ขา้ ราชการบำนาญ และลกู จา้ งประจำ “องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน” หมายความว่า องค์การ บริหารสว่ นจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารสว่ นตาบล “ผู้บริหารท้องถิ่น” หมายความว่า นายกองค์การบริหาร ส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรีและนายกองค์การบริหารส่วน ตาบล “ พ นั ก ง า น ส่ ว น ท้ อ ง ถ่ิ น ” หมายความว่ า ข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด พนักงานเทศบาล พนกั งานสขุ าภบิ าล และพนักงานส่วนตำบล “บตุ ร” หมายความวา่ บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายซงึ่ มี อายคุ รบสามปแี ต่ไมเ่ กนิ ยส่ี บิ หา้ ปี ทงั้ น้ไี มร่ วมถงึ บุตรบญุ ธรรม และบตุ รซึง่ บิดามารดาไดย้ กให้เป็นบตุ รบญุ ธรรมของ ผู้อื่น “ผมู้ สี ทิ ธ”ิ หมายความวา่ (1) พนักงานส่วนท้องถิ่น หรือลูกจ้างประจา ซึ่งได้รับ เงินเดือนหรือค่าจ้างประจาจากเงินงบประมาณรายจ่าย งบ บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน หรือเงินอุดหนุนที่ รัฐบาลจัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ไม่ หมายความรวมถงึ พนักงานจา้ ง

4 (2) ผู้ได้รับบานาญ ปกติ หรือผู้ได้รับบานาญ พิเศษ เพราะเหตุทุพพลภาพ ตามกฎหมายว่าด้วยบาเหน็จบานาญ ข้าราชการท้องถิ่น หรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบาเหน็จ บานาญข้าราชการส่วนท้องถ่ิน (3) ผบู้ รหิ ารท้องถน่ิ ข้อ 6 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินตั้งงบประมาณ รายจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาบุตรไว้ในหมวด ค่าตอบแทน ใช้สอยและวัสดุ ประเภทเงนิ ช่วยเหลอื การศึกษา บตุ ร ข้อ 7 การเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเก่ียวกับการศึกษาบุตร ให้นาหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ประเภทและอัตราตามพระราช กฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเก่ียวกับการศึกษาของบุตร รว ม ทั้ งร ะเบี ย บ ป ร ะก าศ ห รื อ ห นั งสื อ สั่ งก า ร ส าห รั บ ข้าราชการพลเรือนมาใชบ้ ังคบั โดยอนโุ ลม กรณีหลักเกณฑ์ตามวรรคหน่ึง หากกาหนดให้ต้องขอ ทาความตกลงกับกระทรวงการคลังก่อนดาเนินการหรือเบิก จา่ ยเงนิ หรือมีความจาเป็นตอ้ งปฏิบัตนิ อกเหนอื จากท่ีกาหนด ไว้ในระเบยี บน้ี ใหห้ มายความถึงกระทรวงมหาดไทยแทน การเบิกจ่ายเงิน และหลักฐานการจ่ายเงินสวัสดิการ เกี่ยวกับการศึกษาบุตร ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การ เบิกจ่าย การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงิน ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ข้อ 8 ให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการตามระเบียบน้ีเป็นผู้ รบั รองการมีสทิ ธดิ ้วยตนเอง ข้อ 9 การเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเก่ียวกับการศึกษาของ บุตร ให้ผู้มีสิทธิย่ืนคาขอรับเงินค่าการศึกษาบุตรตามแบบ แนบทา้ ยระเบยี บน้ี พรอ้ มดว้ ยหลกั ฐานท่ีออกโดยสถานศกึ ษา

5 ต่อผู้บังคับบัญชา และผู้บริหารท้องถิ่น ณ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินต้นสังกัด หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่ี ข อ รั บ บ า น า ญ ต า ม ก ฎ ห ม า ย ว่ า ด้ ว ย บ า เห น็ จ บ า น า ญ ขา้ ราชการท้องถนิ่ ข้อ 10 การดาเนินการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับ การศึกษาบุตรคนใดท่ีได้ยื่นไว้ก่อนวันที่ระเบียบน้ีใช้บังคับ แต่ยังดาเนนิ การไมแ่ ล้วเสร็จ ใหถ้ ือว่าไดย้ ืน่ ไว้ตามระเบียบน้ี ข้อ 11 ให้ปลัดกระท รวงมหาดไท ยรักษ าการตาม ระเบียบน้ี และให้มีอานาจตีความ วินิจฉัยปัญหาในการ ปฏบิ ตั ิตามระเบยี บน้ี กาหนดหลักเกณฑ์ และกาหนดวิธปี ฏิบตั ิ เพอ่ื ดาเนนิ การให้เปน็ ไปตามระเบยี บน้ี

6 สถานศกึ ษาของทางราชการ หมายความวา่ 1. มหาวทิ ยาลัย หรอื สถาบนั อดุ มศกึ ษาท่ีเรยี กชื่ออยา่ งอ่นื ในสังกดั ทบวงมหาวทิ ยาลยั 2.วทิ ยาลยั ในสงั กดั กระทรวงศึกษาธิการ หรอื สงั กดั สว่ นราชการอนื่ ท่ี ก.พ. รบั รองคณุ วุฒิ 3.โรงเรยี นในสังกดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร มหาวทิ ยาลัย วทิ ยาลัย กรงุ เทพมหานคร หรือ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น 4.โรงเรยี นในสังกดั สว่ นราชการอนื่ หรอื องค์การของรฐั บาลที่ ก.พ. รับรองคุณวุฒิ 5.โรงเรยี นในสงั กดั สว่ นราชการที่กระทรวงการคลงั กำ หนด สถานศกึ ษาเอกชน หมายความวา่ 1. สถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสถาบั นอดุ มศึกษาเอกชนซ่ึงจดั หลักสูตรระดบั อนปุ รญิ ญาหรอื เทยี บเทา่ แยกต่างหากจากปริญญาตรี 2.โรงเรียนตามกฎหมายว่าดว้ ยโรงเรยี นราษฎร์ แต่ไมร่ วมถงึ โรงเรียนราษฎรป์ ระเภท

7 อาชวี ศกึ ษาทีใ่ ช้หลกั สตู รของโรงเรียนเอง และโรงเรยี นการศกึ ษาพเิ ศษ “เงนิ บำรงุ การศกึ ษา” หมายความว่า เงนิ ประเภทตา่ ง ๆ ทีส่ ถานศึกษาของทางราชการเรยี กเก็บ ตามอัตราที่ไดร้ บั อนุมัตจิ ากกระทรวงศกึ ษาธิการสว่ นราช การเจา้ สงั กดั มหาวิทยาลัยกรงุ เทพมหานคร องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ หรอื องคก์ ารของรฐั บาล “เงนิ คา่ เลา่ เรยี น” หมายความวา่ เงินค่าธรรมเนยี มการเรยี น หรือค่าธรรมเนยี มต่าง ๆ ซ่ึง สถานศกึ ษาของเอกชนเรยี กเกบ็ ตามอัตราท่ไี ดร้ ับอนมุ ตั ิ จากกระทรวงศกึ ษาธิการ หรอื ทบวงมหาวทิ ยาลัย “ปกี ารศกึ ษา” หมายความว่า ปีการศึกษาทก่ี ำหนดโดยกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ทบวงมหาวทิ ยาลัย ส่วนราชการเจา้ สงั กดั มหาวิทยาลยั กรุงเทพมหานคร องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ หรือองคก์ ารของรฐั บาล

8 บตุ รทมี่ สี ทิ ธไิ ดร้ บั การชว่ ยเหลอื เกยี่ วกบั เงนิ การศกึ ษาของบตุ ร ไดแ้ ก่ 1. เป็นบตุ รคนท่1ี ถึงคนท่ี 3 โดยนบั เรยี งตามลาดบั เกิดก่อนหลัง ท้ังนไ้ี มว่ า่ จะเปน็ บตุ รที่ เกิดจากการสมรสคร้ังใดหรอื อยใู นอำนาจ ปกครองของตนเองหรอื ไม่ 2.กรณผี มู้ สี ทิ ธผิ ูใ้ ดยังไม่มบี ุตรหรอื มบี ุตรที่มสี ิทธิ ได้รบั เงนิ สวสั ดกิ ารเกย่ี วกบั การศกึ ษาบุตรยงั ไม่ครบ 3 คน ตอ่ มามบี ุตรแฝดทำ ใหจ้ ำนวนบตุ รเกิน 3 คน ให้ผนู้ นั้ มีสทิ ธไิ ดร้ บั สวัสดิการสำหรบั บตุ รคนท่ี 1 ถงึ คนสุดทา้ ย แตบ่ ตุ รแฝดดังกลา่ วจะตอ้ งเปน็ บตุ รซง่ึ เกดิ จาก คู่สมรสหรอื เปน็ บตุ รของตนเองในกรณที ่หี ญงิ เป็น ผู้ใชส้ ิทธิ 3.บุตรที่เกิน 3 คน แตใ่ นจำนวน 3 คน น้นั ถา้ ตาย กายพกิ ารหรอื เปน็ คนไรค้ วามสามารถ วิกลจรติ หรอื จติ ฟัน่ เฟือนไม่สมประกอบกอ่ นอายุ ครบ 25 ปี บรบิ รู ณ์ ใหเ้ อาบตุ รลำดับต่อไป นำมาเบิกได้ใหค้ รบ 3 คน อยา่ งเดมิ จนกวา่ จะหมดสทิ ธิ

ประเภทและอตั ราการเบกิ จา่ ย 9 การเบิกจา่ ยต้องเป็นไปตามประเภทและไมเ่ กินอตั รา ท่ีกระทรวงการคลังกำหนด การใชส้ ทิ ธิ กรณีผูม้ สี ทิ ธิขอรบั เงนิ สวสั ดิการเกี่ยวกับการศกึ ษา ของบุตรในกรณีผมู้ ีสทิ ธมิ คี ่สู มรสเปน็ พนกั งานส่วนทอ้ งถิ่นหรอื ลกู จา้ งประจำ หรือผทู้ ่รี บั บำนาญใหค้ ่สู มรสฝา่ ยใดฝา่ ยหนง่ึ เปน็ ผใู้ ชส้ ทิ ธิ ขอรบั เงินสวสั ดกิ ารเก่ียวกบั การศกึ ษาของบตุ รทุกคนแต่ เพยี งฝ่ายเดียว ในกรณที ผ่ี ู้มีสทิ ธิมีคสู่ มรสเปน็ พนกั งานสว่ นทอ้ งถ่ิน หรอื ลูกจา้ งประจำ หรือผรู้ บั บำนาญที่อยู่ ในหน่วยงานผ้เู บกิ แหง่ เดยี วกนั ผ้ใู ช้สิทธติ อ้ งรบั รองตนเองในใบเบกิ เงนิ สวสั ดิการเกย่ี วกับ การศึกษาของบุตรวา่ ตนเองเปน็ ผใู้ ชส้ ิทธเิ บกิ เงินสวสั ดิการ เก่ียววกบั ศกึ ษาของบตุ รแตเ่ พยี งฝ่ายเดยี ว ในกรณที ี่ผูม้ ีสทิ ธิมคี สู่ มรสเปน็ พนกั งานสว่ นทอ้ งถน่ิ หรอื ลกู จา้ งประจำ หรือผู้รบั บำนาญอยู่ ต่างหนว่ ยงาน ก่อนการใชส้ ทิ ธติ ามวรรคหนึ่ง ในกรณที ี่เปลย่ี นหน่วยงาน ผ้ใู ชส้ ิทธิตอ้ งรบั รองตนเองวา่ เปน็ ผู้ใช้สทิ ธิแต่เพียงฝ่ายเดยี ว โดยหน่วยงานเจ้าสังกดของผู้ใชส้ ิทธิตอ้ งแจ้งการใชส้ ทิ ธิ

ตามทผี่ นู้ ้ันรอ้ งขอ หนว่ ยงานเจา้ สังกดั ของคู่ 10 สมรสอีกฝ่ายหนงึ่ ทราบและตอบรบั ตามแบบหนงั สอื แจ้งการใชส้ ทิ ธิ (แบบ ก.บ.3) และหนงั สอื ตอบรบั การแจง้ สทิ ธิ (แบบ ก.บ.4) การใช้สทิ ธิขอรับเงนิ สวสั ดกิ ารเกี่ยวกบั การศึกษาของบตุ รในกรณที ผี่ ูม้ สี ทิ ธมิ คี ูส่ มรสเปน็ ผ้ปู ฏบิ ัตงิ านในสว่ นราชการรฐั วสิ าหกจิ หน่วยงานอ่นื ของ รัฐหรอื กรุงเทพมหานครและมสี ิทธิไดร้ ับการ ชว่ ยเหลือจากสว่ นราชการรฐั วสิ าหกจิ หรอื หนว่ ยงานน้นั ๆ ใหผ้ ู้มสี ทิ ธิใชส้ ทิ ธิขอรับเงนิ สวสั ดกิ ารเก่ียวกับ การศึกษาของบุตรได้ตามสทิ ธทิ ่พี งึ จะไดต้ ามระเบยี บกระ ทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยเงนิ สวสั ดกิ ารเกี่ยวกับ การศกึ ษาบตุ ร ในกรณที ี่หย่าหรอื แยกกนั อยโู ดยมไิ ด้หย่ากนั ตาม กฎหมายและบตุ รอยใู่ นความปกครองหรอื อปุ การะเลยี้ งดขู องผูม้ สี ิทธิ ใหผ้ ู้มีสทิ ธเิ ปน็ ผขู้ อใช้สทิ ธิขอรับเงนิ สวสั ดกิ ารเก่ยี วกบั การศกึ ษาของบตุ รเฉพาะบุตรที่อยูในอ่านาจปกครองหรอื อ ยใู นความอุปการะเลีย้ งดขู องตน

การยน่ื ขอเบกิ เงนิ 11 1.ภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปี นบั แตว่ นั เปดิ ภาคเรยี นของแตล่ ะภาค สำหรบั สถานศกึ ษาท่ี เรยี กเกบ็ เงนิ คา่ การศึกษาเปน็ รายภาคเรียน 2.ภายในกาหนดระยะเวลา 1 ปี นบั แตว่ นั เปดิ เรยี นภาคตน้ ของปีการศึกษา สำหรบั สถานศกึ ษาท่เี รยี กเกบ็ เงนิ คา่ การศกึ ษาครงั้ เดยี วตลอดปี สาหรบั ภาคการศกึ ษานน้ั หรือปีการศึกษานั้น แล้วแตก่ รณี หากพน้ กำหนดเวลานใี้ ห้ถอื วาผู้มสี ิทธหิ มดสิทธใิ น การขอรับเงินสวสั ดิการเก่ยี วกบั การศกึ ษาของบตุ ร

4. กระบวนการ/ขนั้ ตอน 12 4.1หลกั ฐานประกอบการเบกิ จา่ ยเงินเกย่ี วกับ การศกึ ษาของบุตร ประกอบดว้ ย 1. ใบเบิกเงินสวสั ดกิ ารเกย่ี วกบั การศึกษาบตุ รของ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ (แบบ ก.บ.1) 2. ใบเสรจ็ รบั เงินคา่ การศึกษาของสถานศกึ ษา อยา่ งนอ้ ยตอ้ งมรี ายละเอียด ดังนี้ 1. ชือ่ ทอ่ี ยู่หรือทที่ ำการของสถานศึกษา 2. วนั เดือน ปี ทร่ี บั เงนิ 3. รายละเอยี ดรายการแสดงการรับเงนิ 4. จำนวนเงนิ ทั้งตวั เลข และตัวอกั ษร 5. ลายมอื ชอ่ื ผรู้ ับเงิน 6. ช่อื นกั เรยี น/นกั ศึกษา 7. ระดบั ชน้ั 8. ภาคเรียน/ปี การศกึ ษา 9. คณะ/สาขา 3. หนงั สอื รบั รองหรือประกาศของสถานศึกษาท่ีได้รบั อนุญาตจากหนว่ ยงานทสี่ ังกดั เรยี กเก็บ เพอื่ ตรวจสอบว่า รายการที่สถานศึกษาเรยี กเก็บ

13 ทร่ี ะบใุ นใบเสรจ็ รับเงินมรี ายการตรงกบทรี่ ะบใุ นหนังสือ ฉบบั น้ีหรือไม่ หาไม่มีหรอื ระบไุ ม่ตรงกัน ไมส่ ามารถเบิกได้ 4. ใบอนุญาตให้เกบ็ เงินค่าเลา่ เรยี น กรณีสถานศึกษาเอกชน 5. เอกสารความสมั พนั ธข์ องผู้มสี ทิ ธกิ ับบตุ รวา่ เปน็ มา มารดาหรอื บดิ าตอ้ งเป็นบิดาโดยชอบด้วย กฎหมาย /สำเนาหนังสอื สำคญั แสดงการรบั รองบตุ ร กรณีไมไ่ ด้จดทะเบยี นสมรส 6. หนงั สอื แจง้ การใชส้ ทิ ธิและหนงั สือตอบรบั การแจง้ ใช้สทิ ธิ (กรณสี ามแี ละภรรยาเป็นผู้มสี ทิ ธทิ ้งั ค)ู่ 7. อนื่ ๆ ที่เกีย่ วขอ้ ง (ถ้าม)ี 4.2 ตรวจสอบประเภทและอตั ราการเบกิ จา่ ย ตรงตามประกาศทบี่ งั คบั ใชใ้ นปัจจบุ นั ลงทะเบยี นคุม รายบคุ คลตามภาคเรียนของปกี ารศกึ ษานัน้ ๆ

14 เอกสารอ้างองิ

ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ยเงนิ สวสั ดกิ ารเกยี่ วกบั การศกึ ษาบตุ ร ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 2563













ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอ่ื ง หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารเบกิ จา่ ยเงนิ สวสั ดกิ าร การศกึ ษาของบตุ รพนกั งานสว่ นทอ้ งถนิ่





















หนังสอื ที่ มท 0809.3/ว4188 ลว 9 ธค 2548 เรื่องแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกบั สทิ ธิการเบิ กเงินสวัสดกิ ารของผบู้ ริหารทอ้ งถ่ิน



หนังสอื ดว่ นทสี่ ุด ท่ี กค 0422.3/ว0257 ลว 28 มยิ 2559 เรือ่ งประเภทและอัตราเงนิ บารงุ การศึกษาและคา่ เลา่ เรียน





หนงั สอื ดว่ นทส่ี ดุ ท่ี 0408.5/ว 22 ลว 12 มค 2561 เร่อื งประเภทและอัตราเงนิ คา่ เลา่ เรยี นในสถานศึกษาของเอ กชนประเภทอาชีวศกึ ษา



เอกสารอา้ งองิ 1.ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ยเงนิ สวัสดกิ ารเกย่ี วกับ การศึกษาบุตรขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ พ.ศ.2563 2.ประกาศกระทรวงมหาดไทยเร่อื งหลักเกณฑ์และวิธีการ เบิกจา่ ยเงินสวสั ดิการเก่ียวกบั การศกึ ษาของบตุ ร พนกั งานส่วนทอ้ งถ่นิ 3.หนังสอื ที่ มท 0809.3/ว4188 ลว 9 ธนั วาคม 2548 เรือ่ งแนวทางปฏิบตั เิ กี่ยวกบั สทิ ธิการเบิกเงนิ สวสั ดิการั ของผบู้ รหิ ารทอ้ งถ่นิ 4.หนังสอื ด่วนท่ีสดุ ที่ กค 0422.3/ว0257 ลว 28 มถิ ุนายน 2559 เร่อื งประเภทและอตั ราเงนิ บำรงุ การศึกษา และคา่ เลา่ เรยี น 5.หนังสอื ดว่ นทส่ี ุด ท่ี 0408.5/ว 22 ลว 12 มกราคม 2561 เรื่องประเภทและอตั ราเงนิ ค่าเลา่ เรยี นใน สถานศกึ ษาของเอกชนประเภทอาชีวศกึ ษา