Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore S e x u a l I t

S e x u a l I t

Published by pukwan77, 2018-06-30 00:38:57

Description: S e x u a l I t

Search

Read the Text Version

 6. การมีเพศสมั พนั ธใ์ นวยั รุ่นไมใ่ ชเ่ ร่ืองเสียหายอะไร ถา้ รูจ้ กั ป้องกนั การตงั้ ครรภ์ มีวยั รุ่นหญิง จานวนหน่ึงท่ีรบั ประทานยาคุมกาเนิดทุกวนั เพ่ือป้องกนั การตง้ั ครรภ์ หรือไมฝ่ ่ายชาย ก็ใชถ้ ุงยาง อนามยั 7. เป็นเร่ืองธรรมดาท่ีผูช้ ายจะมีเพศสมั พนั ธก์ บั หญิงมากกวา่ 1 คน เร่ืองน้ีผูช้ ายจะคิดแบบน้ีมาก แลว้ นาไปสูก่ ารปฏิบตั ิจริงดว้ ย เม่ือเขามีโอกาสหรือบางคนก็แสวงหาโอกาส 8. เป็นเร่ืองงา่ ยท่ีจะคุยเร่ืองการมีเพศสมั พนั ธก์ บั แฟน เพราะวยั รุ่นสมยั น้ียอมรับ การเป็นสามี ภรรยากนั หนา้ ตาเฉย 9. สมยั น้ีถือวา่ เป็นเร่ืองแปลกถา้ เรียนระดบั อาชีวะแลว้ ยงั ไมม่ ีแฟน มีวยั รุ่นคิดเชน่ น้ีมาก ทง้ั ผูช้ ายและผูห้ ญิง จึงทาใหแ้ สวงหาแฟนกนั เพ่ือใหข้ ้ึนช่ือวา่ มีแฟนแลว้ 10.การมีเพศสมั พนั ธก์ บั เพ่ือน ก๊ิก หรือแฟน ปลอดภยั จากโรคเอดส์ จึงทาใหผ้ ูช้ ายมุง่ ท่ีจะมี เพศสมั พนั ธก์ บั เพ่ือน ก๊ิก หรือแฟน เม่ือมีโอกาสบางคร้ังอาจใชก้ าลงั ขม่ ขืนเพราะไมก่ ลา้ ไปเท่ียว ผูห้ ญิงขายบริการทางเพศ เพราะกลวั ติดโรคเอดส์ หรืออาจเป็นเพราะไมม่ ีเงินพอ หรือไมก่ ลา้ ไป ดว้ ยเหตุผลอ่ืน

 1. การอยูก่ นั ตามลาพงั สองตอ่ สองในท่ีลบั หูลบั ตาคน อาจเป็นในหอ้ งนอน ท่ี บา้ น ในรถ ในสวนสาธารณะ ในป่า หรือแมแ้ ตใ่ นหอ้ งน้า การอยูใ่ นสถานท่ี ดงั กลา่ วมาแลว้ น้นั สามารถนาไปสูก่ ารมีเพศสมั พนั ธด์ ว้ ยกนั ทง้ั นัน้ 2. การไปคา้ งคืนดว้ ยกนั อาจไปกนั สองตอ่ สอง หรือเป็นหมูค่ ณะการไปกนั สองคนก็มีโอกาสเส่ียงมากกวา่ แตก่ ารไปเป็นหมูค่ ณะก็อยา่ ไวใ้ จเพ่ือนหรือ แฟนมากนกั 3. การสมั ผสั ร่างกายกนั จนเกิดอารมณท์ างเพศ อาจเกิดจากการน่ังรถไปเท่ียว ดว้ ยกนั น่ังคูก่ นั แลว้ สมั ผสั กนั ไป การน่งั ใกลช้ ิดกนั แลว้ สมั ผสั กนั ไป การดู ภาพยนตร์ในท่ีคอ่ นขา้ งมืด การอยูใ่ นสถานเริงรมยท์ ่ีคอ่ นขา้ งมืด 4. การด่ืมเคร่ืองด่ืมท่ีมีแอลกอฮอลห์ รือใชย้ ากลอ่ มประสาทจะทาใหข้ าดสติเกิด อารมณเ์ คลิบเคล้ิม สบั สน หากมีการเลา้ โลมเกิดข้ึนก็อาจจบลงดว้ ยการมี เพศสมั พนั ธไ์ ด้ 5. การไปเท่ียวกนั สองตอ่ สองในยามค่าคืน จะทาใหม้ ีโอกาสใกลช้ ิดกนั สมั ผสั ซ่ึงกนั และกนั ยอ่ มเป็นการปลุกเรา้ อารมณท์ างเพศ

 6. การอยูใ่ นสถานบนั เทิงซ่ึงมกั มีการด่ืมเคร่ื องด่ืมท่ีมีแอลกอฮอล์ การใชส้ ารเสพติด เป็นแหลง่ ของคนชอบสนุก แลว้ ไปตอ่ ดว้ ยการมีเพศสมั พนั ธ์ หรือไมก่ ็ไปมีอะไรกนั กบั คนท่ีตนเองไปดว้ ย 7. การอยูห่ อพกั มีวยั รุ่นจานวนมากท่ีถือโอกาสใชห้ อพกั เป็นเรือนหอชว่ั คราว เพราะ การอยูห่ อพกั เป็นอิสระ สว่ นตวั ไมม่ ีผูใ้ หญด่ ูแล และหอพกั สว่ นมากก็มกั ไมแ่ ยกหอพกั ชายและหอพกั หญิง 8. การอยูแ่ ฟลต อพารต์ เมนต์ คอนโดมิเนียม ตามลาพงั สถานท่ีดงั กลา่ วเปิ ดโอกาสให้ วยั รุ่นมว่ั กามกนั ไดอ้ ยา่ งสบายถา้ พอ่ แมเ่ ชา่ ใหอ้ ยูต่ ามลาพงั 9. การดูส่ือลามก ถา้ ดูกบั เพ่ือนๆ เพ่ือนตา่ งเพศหรือแฟน อาจเกิดปัญหาข้ึนได้ แมจ้ ะ เป็นเพศเดียวกนั ท่ีเป็นเกย์ ทอม ด้ี ก็เกิดปัญหาไดเ้ ชน่ กนั 10. การไปดูบา้ นผีสิง เคยมีขา่ วอยูเ่ สมอวา่ มีการชกั ชวนกนั ไปดูบา้ นผีสิงแลว้ พากนั ไป ท่ีอ่ืนซ่ึงถา้ เคราะหร์ า้ ยก็อาจถูกขม่ ขืนจากผูช้ ายหลายคน

 ส่ือตา่ งๆ เชน่ โทรทศั น์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิ ตยสารตา่ งๆ โดยเฉพาะนิตยสารท่ีมีภาพโป๊ วีซีดีลามกท่ีมีอยู่ทว่ั ไป เป็นตน้ ส่ือตา่ งๆ เหลา่ น้ีมีอิทธิพลตอ่ การมีเพศสมั พนั ธท์ ง้ั ส้ิน วฒั นธรรมท่ีเปล่ียนไป วยั รุ่นปัจจุบนั น้ีไดล้ ะเลยวฒั นธรรมอนั ดีงามของไทยอยา่ งมาก เชน่ การไมร่ กั นวลสงวนตวั การแตง่ กายท่ีเปิดเผยสว่ นสดั เน้ือหนังมงั สาอยา่ งไมอ่ าย การไมเ่ ห็น คุณค่าของความเป็ นสาวบริ สุทธ์ิ การอยู่ดว้ ยกนั โดยไม่ แต่งงาน การมีคู่เสพสมท่ีเป็ นอิสระต่อกนั หรื อก๊ิก การ เปล่ียนคูน่ อนกนั หรือสวิงกิง กลุม่ เพ่ือน นับวา่ มีอิทธิพลตอ่ เพ่ือนมาก ถา้ ไปคบกบั เพ่ือนท่ี เคยมีเพศสัมพันธ์มาแลว้ หรื อเป็ นคนเจา้ ชู้ ชอบการมี เพศสมั พนั ธเ์ ป็นพิเศษ เห็นวา่ การมีเพศสมั พนั ธเ์ ป็ นเร่ืองปกติ ถา้ หาแฟนไมไ่ ดถ้ ือวา่ เชย

 ครอบครัวท่ีขาดความอบอุน่ ปัจจุบนั ในสงั คมเรามีครอบครัวท่ีแตกแยกกันมากข้ึน ลูก อาจจะอยูก่ บั พอ่ หรื อแม่ หรื อไมก่ ็อยูก่ บั ปู่ ยา่ ตา ยาย หรื อญาติพ่ีนอ้ ง เพราะพอ่ แม่ ตา่ งฝ่ายตา่ งไปมีครอบครวั ใหม่ ระบบการศึกษา ท่ีขาดวิชาศีลธรรมโดยตรงเหมือนอยา่ งสมยั กอ่ น การท่ีวยั รุ่นมี คุณลกั ษณะท่ีไมพ่ ึงประสงคต์ า่ งๆ นั้นเป็นเพราะจิตใจของเขาขาดการอบรม กลอ่ ม เกลาใหใ้ สสะอาด จะเห็นไดว้ า่ วยั รุ่นท่ีสนใจทางศีลธรรม ผูป้ กครองพาเขา้ วดั มีการ ฝึกอบรมจิตใจ น่ังสมาธิ ฟงั เทศน์ ฟงั ธรรม จิตใจของเขาจะไมฝ่ กั ใฝ่ในเร่ื องเพศมากมาย เหมือนกบั คนอ่ืนๆ แหลง่ บนั เทิงตา่ งๆ ซ่ึงมีอยูม่ ากมาย ทาใหว้ ยั รุ่นใจแตก ชอบเท่ียว และก็ไปมว่ั สุมกนั ทงั้ มว่ั ยา มว่ั เพศ ซ่ึงสถานบนั เทิงเหลา่ น้ีมองเห็นวยั รุ่นเป็นเหย่ืออนั โอชะ เคยจากดั อายุผูท้ ่ี ไปเท่ียว มีการตรวจบตั รประชาชน แตก่ ็ทากนั เป็นพกั ๆ ไมส่ ามารถจะควบคุมไดอ้ ยา่ ง จริงจงั

 การท่ีผูม้ ีสถานภาพท่ีเหนื อกวา่ ปฏิบตั ิกามกิจทุกรูปแบบ เชน่ การสัมผสั ลูบคลา ใช้ วตั ถุกระทาตอ่ อวยั วะเพศ การกระตุน้ อวยั วะเพศดว้ ยรูปแบบตา่ งๆ การร่วมเพศ เป็น ตน้ การกระทาดงั กลา่ วเป็นการกระทาท่ีผิดกฎหมาย การลว่ งเกินทางเพศท่ีผูใ้ หญก่ ระทาน้ันมีทง้ั การขม่ ขูใ่ หก้ ลวั จะไดไ้ มก่ ลา้ เปิดเผย และ ชนิดท่ีไมใ่ ชก้ าลงั ขม่ ขูแ่ ตใ่ ชก้ ารหลอกลอ่ หรือใหเ้ งิน ส่ิงของ ซ่ึงมกั ใชก้ บั เด็กท่ียงั ไมม่ ี วุฒิภาวะเพียงพอ การลว่ งเกินทางเพศแบง่ ไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะ คือ  1. การลว่ งเกินท่ีเกิดข้ึนระหวา่ งเครือญาติ  2. การลว่ งเกินท่ีเกิดข้ึนจากผูก้ ระทาท่ีเป็นคนอ่ืนนอกครอบครัว

 1. ชนิดไมร่ ุนแรง สว่ นมากจะเป็นลกั ษณะของการพูดแทะโลม ชกั ชวนหรือหลอกลอ่ ใหด้ ูส่ือลามก การ อวดอวยั วะเพศ 2. ชนิดรุนแรงปานกลาง จะมีการถูกเน้ือตวั มีการเลา้ โลมลูบคลาของสงวน ใหเ้ ด็กสาเร็จความใคร่ให้ 3. ชนิดรุนแรงมาก จะมีการร่วมเพศโดยการสอดใสอ่ วยั วะเพศทางชอ่ งคลอด หรือทวารหนกั ทางปาก อาจ มีการทารา้ ยร่างกายถา้ มีการขดั ขืน บางรายอาจถูกฆา่ ปิดปาก

 ทางดา้ นร่างกาย อาจพบอาการบาดเจ็บ มีรอยแผลบอบชา้ ตามร่างกาย มีการฉีกขาดท่ี อวยั วะเพศ ปวดทอ้ ง ปสั สาวะลาบาก เจ็บปวดบริเวณทวารหนกั เม่ือถา่ ยอุจจาระ ทางดา้ นจิตใจ จะชอกชา้ ปวดรา้ ว หวาดกลวั ลงั เลท่ีจะเลา่ ความจริงคิดวา่ ตนเองโชค รา้ ย ตนเองเป็ นผูผ้ ิด โตข้ึนอาจเป็ นผูท้ ารา้ ยผูอ้ ่ืนหรื อทาตวั ให้ถูกทารา้ ยซา้ ซาก อาจ กลายเป็นผูห้ ญิงขายบริการทางเพศ หรือผูช้ ายขายตวั ทางดา้ นอารมณ์ จะกลายเป็นคนกา้ วรา้ ว แสดงพฤติกรรมรุนแรงหรือซึมเศรา้ หันไปเสพ ส่ิงเสพติดหรือสุรา อาจคิดฆา่ ตวั ตาย ทางดา้ นสงั คม เขาอาจจะไปกระทากบั เด็กท่ีเล็กกวา่ หรือกลายเป็นผูท้ ่ีทารา้ ยผูอ้ ่ืน เม่ือเขา โตข้ึน

 1. การทาแทง้ เม่ือเขาคิดวา่ ไมต่ อ้ งการใหท้ ารกท่ีอยูใ่ นครรภอ์ อกมาลื มตาดูโลก เพราะเขายงั ไมพ่ รอ้ มท่ีจะรบั ภาระเป็นพอ่ หรือแมไ่ ด้ หรือกลวั คนจะรูว้ า่ ตนเองตง้ั ครรภ์ หรือจะดว้ ยเหตุผลอ่ืนใดก็ตาม เขาก็จะกินยาขบั เลือดหรือไมก่ ็จะไปทาแทง้ ซ่ึงถือวา่ เป็นการกระทาท่ีผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม และสถานท่ีทาแทง้ ก็มกั เป็นคลินิกเถ่ือน บางคร้ังหมอเถ่ือนทาใหก้ ็ทาใหเ้ กิดอนั ตรายตอ่ ตนเองดว้ ย การทาแทง้ อาจมีอนั ตราย ถึงชีวิต และอาจมีผลกระทบตอ่ การตง้ั ครรภใ์ นคร้ังตอ่ ๆ ไป ปีหน่ึงมีหญิงสาวไปทา แทง้ เป็นแสนๆ คน

 2. การนาทารกไปท้ิง เม่ือไมท่ าแทง้ อาจจะสองจิตสองใจวา่ จะทาดีหรื อไม่ หรือไม่ กลา้ ไปทาเพราะกลวั หรือดว้ ยเหตุผลอ่ืนใดก็ตาม เม่ือคลอดบุตรออกมาแลว้ และไม่ ตอ้ งการ ก็จะนาเด็กไปท้ิง ซ่ึงมีอยู่ 2 ลกั ษณะใหญๆ่ คือ ฆา่ ใหต้ ายแลว้ นาไปท้ิง หรือนาไปท้ิงใหต้ ายไปเลย กบั อีกแบบหน่ึงคือเจตนาใหผ้ ูพ้ บเห็นแจง้ ตารวจเพ่ือท่ี ตารวจจะไดน้ าเด็กไปไวใ้ นสถานสงเคราะหต์ อ่ ไป

 3. การเพ่ิมจานวนเด็กกาพร้า การนาเด็กไปท้ิงและเป็ นภาระของผูอ้ ่ื นหรื อ หน่วยงานตอ้ งเอาไปเล้ียง หรื อการท้ิงเด็กไวก้ บั คนเล้ียงเด็ก พอ่ แม่ พ่ี ป้า นา้ อา แลว้ ตนเองก็หนีไปนั้น เด็กท่ีเกิดมาจะมีปมดอ้ ย เป็นเด็กท่ีกาพร้าทง้ั พอ่ และแม่ หรือ พอ่ อาจจะหนีไปไมร่ ับผิดชอบ แมจ่ ึงตอ้ งรบั เล้ียงลูกท่ีเกิดมา เด็กก็จะกาพรา้ พอ่

 4. การกอ่ ใหเ้ กิดปัญหาครอบครัว เพราะพอ่ แมจ่ ะตอ้ งชว่ ยรับภาระเม่ือลูกของ ตนเองมีลูกเม่ือยงั ไมพ่ รอ้ มซ่ึงจะตอ้ งเป็นภาระทง้ั คา่ ใชจ้ า่ ยในการเล้ียงดูหลานและ ตอ้ งมารับภาระในการดูแลสาหรับตวั พอ่ แมเ่ ด็กเองก็เกิดความทุกขไ์ ปดว้ ยเพราะการ กระทาของตนเอง สว่ นใหญภ่ าระน้ีมกั ตกอยูก่ บั ครอบครัวของฝ่ายหญิง เพราะฝ่าย ชายมกั จะไมร่ บั ผิดชอบ

 5.การฆา่ ตวั ตาย ผูห้ ญิงจะเป็นฝ่ายท่ีรับผิดชอบและประสบปญั หามากกวา่ ผูช้ าย เป็นอยา่ งมากดงั นั้นถา้ เขาคิดไมต่ ก แกป้ ญั หาไมไ่ ดอ้ าจตดั สินใจฆา่ ตวั ตายเพ่ือหลีก หนีปญั หาท่ีหนกั อ้ึงของเธอ

 6. การเล้ียงดูเด็กอาจจะไมส่ มบูรณ์ เม่ือตนเองยงั ไมพ่ รอ้ มแลว้ มีบุตรข้ึนมา ถา้ พอ่ แมห่ รือญาติพ่ีนอ้ งไมม่ าชว่ ย ปลอ่ ยใหเ้ ล้ียงดูกนั ตามลาพงั เล้ียงไปตามมีตามเกิด ก็ จะเล้ียงลูกไดไ้ มด่ ี กระทอ่ นกระแทน่ ขดั สน อาหารการกินจะไมส่ มบูรณ์ การศึกษาอาจไมม่ ี หรือมีก็เพียงแคต่ ามเกณฑภ์ าคบงั คบั

 7. การเสียโอกาส แทนท่ีจะเอาดีทางการศึกษา เลา่ เรียนจนจบ มีงานทา แตก่ ลบั ตอ้ งมารบั ผิดชอบตอ่ ลูกท่ีเกิดมาขณะท่ีตนเองยงั อยูใ่ นวยั เรียน จึงทาใหเ้ สียโอกาส ดีๆ ทงั้ ในปจั จุบนั และอนาคต

 8. การติดเช้ือโรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธแ์ ละโรคเอดสเ์ พราะความไมพ่ รอ้ มนัน้ อาจ ไมไ่ ดเ้ ตรียมถุงยางอนามยั ไมไ่ ดใ้ ชถ้ ุงยางอนามยั ในการมีเพศสมั พนั ธค์ ร้ังนน้ั และจะ แน่ใจไดอ้ ยา่ งไรวา่ คูร่ กั ของเราไมไ่ ดไ้ ปมีอะไรกบั ใครมากอ่ นถา้ มีมากอ่ น คนคนนั้น จะเป็นผูต้ ิดเช้ือเอดสแ์ ละโรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธห์ รือไม่

 9. การขาดโอกาสในการศึกษาตอ่ ในกรณีผูห้ ญิงเม่ือมีลูกทาใหต้ อ้ งเล้ียงลูกเป็นผล ใหข้ าดโอกาสในการศึกษาตอ่ สาหรับผูช้ ายนนั้ ถา้ จะชว่ ยฝ่ายหญิงรับผิดชอบก็ตอ้ ง ชว่ ยทามาหากินจึงตอ้ งยุติเร่ืองการเรียนไปโดยปริยายแตก่ ็มีบางรายท่ีไปทาแทง้ หรือไปคลอดลูกแลว้ กลบั มาเรียนตอ่ โดยอาจยา้ ยสถานท่ีเรียน

 10. การเกิดความวิตกกงั วล เชน่ กลวั คนอ่ืนรู้ กงั วลกบั ความสมั พนั ธท์ ่ีจะมีตอ่ ไป กบั แฟน ซ่ึงอาจนาไปสูค่ วามเครียด ไมส่ บายใจ เรียนหนังสือไมร่ ูเ้ ร่ื อง ความคิด สบั สน เป็นตน้

 1. หลีกเล่ียงการสมั ผสั การโอบกอดและการจูบ แมก้ ารกระทาเชน่ น้ีจะเป็นการสมั ผสั แคภ่ ายนอก 2. หลีกเล่ียงการสมั ผสั ภายใน ไดแ้ ก่ การสมั ผสั ในร่มผา้ ดว้ ยการจบั หนา้ อก ลูบไลต้ ามร่างกาย การ สมั ผสั อวยั วะเพศการกระทาลกั ษณะน้ีมีโอกาสนาไปสูก่ ารมีเพศสมั พนั ธไ์ ด้ 99.99% 3. หลีกเล่ียงการอยูใ่ นท่ีลบั หูลบั ตาสองตอ่ สอง 4. หลีกเล่ียงการดูส่ือลามกดว้ ยกนั กบั เพศตรงขา้ ม 5. หลีกเล่ียงการไปดูบา้ นผีสิง เน่ืองจากคูร่ กั หลายคนกลบั พาไปขม่ ขืนแทน 6. หลีกเล่ียงการด่ืมเคร่ืองด่ืมท่ีมีแอลกอฮอล์ และการใชส้ ารเสพติด 7. หลีกเล่ียงการไปเท่ียวสถานบนั เทิงเริงรมย์ การไปเท่ียวสถานบนั เทิงเริงรมย์ มกั ไปในยามค่าคืน 8. หลีกเล่ียงการไปคา้ งคืนสองตอ่ สอง บางครั้งคูร่ ักกนั มีการไปเท่ียวสองตอ่ สอง แลว้ คา้ งคืนตาม บงั กะโล โรงแรม 9. หลีกเล่ียงการไปกบั คนแปลกหนา้ อยา่ ไวใ้ จคนแปลกหนา้ ซ่ึงเขา้ มาตีสนิททาเป็นดีดว้ ย 10. ตอ้ งรักอยา่ งมีสติ ผูช้ ายมกั จะคิดไปถึงการมีเพศสมั พนั ธก์ บั แฟน แตผ่ ูห้ ญิงขอเพียงแคใ่ กลช้ ิดก็ อบอนุ่ และมีความสุขแลว้

 จินตนาการทางเพศ เป็นเร่ืองปกติของมนุษยท์ ุกคน ทงั้ ชายและหญิง เป็นการนึก คิดเก่ียวกบั เร่ืองทางเพศ เม่ือนึกคิดแลว้ เกิดความสุข และเกิดความตอ้ งการทางเพศ ข้ึนมา การจินตนาการอาจคิดเอาเองโดยไมต่ อ้ งเห็นภาพ หรือมองเห็นภาพแลว้ เกิด จินตนาการข้ึน ซ่ึงตวั อยา่ งของการจินตนาการ มีดงั น้ี 1. การจินตนาการโดยนึกคิดวาดมโนภาพเอาเอง เชน่ คิดวา่ ไดส้ มั ผสั ร่างกายกบั คนรัก หรือคนท่ีตนเองสนใจ คิดวา่ มีเพศสมั พนั ธก์ บั คนท่ีตนเองรกั หรือคนท่ีตนเอง สนใจ คิดวา่ ในคืนน้ีจะไดม้ ีเพศสมั พนั ธก์ บั ใครสกั คน ตนเองจะทากิจกรรมอยา่ งไร บา้ ง

 2. การจินตนาการดว้ ยการดูภาพ สว่ นใหญจ่ ะเป็นภาพโป๊ เม่ือดูแลว้ ก็จะ จินตนาการไปตา่ งๆ นานา จินตนาการวา่ ไดส้ มั ผสั กบั บุคคลในภาพ หรือ แมก้ ระทง่ั การมีเพศสมั พนั ธด์ ว้ ย บางคนอาจดูรูปไปดว้ ยและชว่ ยตวั เองโดย จินตนาการไปดว้ ยก็มี 3. จินตนาการดว้ ยการดูเรือนร่างเพศตรงขา้ ม เม่ือมองเพศตรงขา้ มแลว้ ก็ จินตนาการตอ่ ถึงสว่ นสดั ความสวยงาม อวยั วะท่ีซอ่ นอยูใ่ นร่มผา้ ย่ิงถา้ แตง่ กายโป๊ ดว้ ยแลว้ ก็จะทาใหก้ ารจินตนาการออกรสชาติมากข้ึน

 4. จินตนาการไปกบั ภาพเคล่ือนไหว สว่ นใหญเ่ กิดจากการดูวีซีดีลามกแลว้ เกิด จินตนาการข้ึนมาการจินตนาการในเร่ืองน้ีจะทาใหเ้ กิดอารมณท์ างเพศไดม้ าก ทีเดียว ทง้ั น้ีเพราะจะมีอารมณเ์ คลิบเคล้ิมไปกบั ภาพเหลา่ น้นั 5. การจินตนาการตามเร่ืองราวท่ีอา่ น มกั ไดแ้ ก่ หนังสือลามกตา่ งๆ หรือนิตยสารท่ี มีเร่ืองราวเก่ียวขอ้ งในทางเพศ.ผูอ้ า่ นเม่ือไดอ้ า่ นแลว้ จะเกิดจินตนาการและเกิด ความรูส้ ึกทางเพศข้ึนมา

 การช่วยตวั เอง เป็นทางออกตามธรรมชาติของมนุษยท์ ่ีปลอดภยั ประหยดั และไมใ่ ช่ เร่ืองผิดปกติทางจิตแตอ่ ยา่ งใด และถา้ กระทาในจานวนท่ีเหมาะสมอยา่ งมีความสุขแลว้ ก็ไมเ่ ป็นอนั ตรายตอ่ ร่างกายแตอ่ ยา่ งใด สิทธิทางเพศ ไดร้ ับการประกาศเม่ือปี ค.ศ. 1994 ท่ีกรุ งวาเลนเซีย ประเทศ สเปน “บุคคลใดบุคคลหน่ึงมีสิทธิท่ีจะกระทาตอ่ ตนเอง เพ่ือตอบสนองอารมณ์เพศท่ี เกิดข้ึนตามธรรมชาติ ถา้ การกระทาดงั กลา่ วทาไปดว้ ยวิธีการท่ีจะไมเ่ ป็ นอนั ตรายตอ่ สุขภาพและกระทาในจานวนท่ีเหมาะสมรวมทงั้ ไมห่ มกมุน่ จนเกินไปจนทาใหก้ ารดาเนิน ชีวิตประจาวนั ผิดปกติเม่ือเป็นดงั น้ีแลว้ ก็สามารถชว่ ยตวั เองไดไ้ ม่วา่ จะอยูใ่ นสถานะท่ี เป็นโสด แตง่ งานแลว้ หรือเป็นหมา้ ยก็ตามการกระทาดงั กลา่ วควรจะกระทาในท่ีอนั เป็น สว่ นตวั และไมไ่ ดท้ าใหผ้ ูอ้ ่ืนเดือดรอ้ น”

1. การช่วยตวั เองบ่อยๆจะทาใหเ้ ป็ นบา้ และวิกลจริต2. การช่วยตวั เองเป็ นประจาจะทาใหห้ ย่อนสมรรถภาพทางเพศ3. การช่วยตวั เองจะทาใหอ้ วยั วะเพศชายคดงอ และอวยั วะเพศ หญิงด่างดาผิดรปู4. การช่วยตวั เองจะทาใหเ้ ป็ นหมนั หรือมีบุตรยาก5. ผหู้ ญิงท่ีช่วยตวั เองบ่อยๆช่องคลอดจะหลวม6. การช่วยตวั เองจะทาใหเ้ ป็ นมะเร็ง

 เพศสมั พนั ธ์ หรือความสมั พนั ธท์ างเพศ เป็นความสมั พนั ธร์ ูปแบบหน่ึง ซ่ึงสว่ นใหญ่ เกิดข้ึนระหวา่ งคนรกั มกั จะเกิดข้ึนกบั บุคคลท่ีเรามีความรูส้ ึกอยากใกลช้ ิดเป็นพิเศษ เพศสมั พนั ธ์ หมายถึงความสมั พนั ธท์ ่ีเกิดข้ึนระหวา่ งบุคคลสองคน เพ่ือใหค้ วามสุข และความพึงพอใจทางเพศแกก่ นั และกนั ความสมั พนั ธท์ างเพศซ่ึงเป็นท่ียอมรับในสงั คม เป็นความสมั พนั ธท์ ่ีเกิดข้ึนกบั คนรกั ซ่ึงอยูก่ ินกนั ฉันสามีภรรยากนั แลว้ หรือแตง่ งานกนั แลว้ แตส่ าหรบั วยั รุ่น วยั เรียน หรือคนท่ียงั ไมไ่ ดแ้ ตง่ งานกนั น้ัน สงั คมไมย่ อมรับ

 ความบกพร่องทางเพศ หมายถึง สภาวะท่ีร่างกายไมส่ ามารถตอบสนองตอ่ การ กระตุน้ ทางเพศไดต้ ามปกติ ทาใหเ้ กิดปัญหาในการร่วมเพศ ประกอบดว้ ยความ บกพร่องในลกั ษณะตา่ งๆ ดงั น้ี ความบกพร่องทางเพศชาย• กามตายดา้ น• การหลง่ั น้าอสุจิ• การไมส่ ามารถหลง่ั น้าอสุจิในชอ่ งคลอด ความบกพร่องทางเพศหญิง ที่พบมากคือกามตายดา้ น ซ่ึงร่างกายและจิตใจของเธอ ไมส่ ามารถตอบสนองตอ่ การกระตุน้ ทางเพศ ไมว่ า่ จะเป็น การกระตุน้ ทางร่างกายหรื อจิตใจ จะกระตุน้ ดว้ ยตนเอง หรื อคูร่ ัก แมแ้ ต่ขณะร่วมเพศกนั ก็ไมม่ ีความรู้สึกหรื อมี อารมณท์ างเพศ

 1. การสาเร็จความใคร่ดว้ ยตนเองบอ่ ยๆ จะทาใหจ้ ิตใจไมป่ กติหรือเป็นโรคจิต 2. ถา้ ผูช้ ายมีน้าอสุจิเคล่ือนออกมาทางอวยั วะเพศในขณะนอนหลบั แสดงวา่ ร่างกายไมป่ กติ 3. คนท่ีมีสิวมากมกั จะเป็นคนท่ีมีความรูส้ ึกทางเพศสูง มีวยั รุ่นจานวนมากท่ีชอบลอ้ เพ่ ื อนท่ ีมีสิว 4. ในขณะมีประจาเดือนหา้ มออกกาลงั กายทุกชนิด การออกกาลงั กายสม่าเสมอ จะทาใหค้ นเรามีสุขภาพดี 5. คนท่ีตาเป็นกุง้ ยิงแสดงวา่ ไปแอบดูหรือเห็นคนแกผ้ า้ กงุ้ ยิงเป็นโรคติดตอ่ อยา่ ง หน่ ึ ง 6. การโฆษณายาหรืออุปกรณบ์ างชนิดในเร่ืองเพศทางส่ือมวลชนเป็นส่ิงท่ีเช่ือถือ ได้ ยาหรืออุปกรณต์ า่ งๆ

 7. มีวิธีท่ีจะบอกไดว้ า่ ผูห้ ญิงคนใดเคยมีเพศสมั พนั ธม์ าแลว้ 8. หญิงสาวท่ีมีหนา้ อกหรือทรวงอกใหญเ่ ป็นคนท่ีมีความรูส้ ึกทางเพศสูง 9. ความสุขทางเพศของผูห้ ญิงข้ึนอยูก่ บั ขนาดอวยั วะเพศของผูช้ าย 10. การหลง่ั น้าอสุจิบอ่ ยๆจะทาใหน้ ้าอสุจิหมด 11. การทาหมนั ชายทาใหส้ มรรถภาพทางเพศลดลง 12. ผูช้ ายตอ้ งไปข้ึนครูกบั หญิงขายบริการทางเพศกอ่ นมิฉะน้ันจะมีเพศสมั พนั ธท์ ่ี ไมด่ ี 13. ถา้ มีปัญหาทางเพศควรปรึกษาเพ่ือนสนิทจะดีกวา่ ปรึกษาพอ่ แมห่ รื อครู 14. การมีเพศสมั พนั ธค์ รง้ั เดียวจะไมท่ าใหต้ งั้ ครรภห์ รือมีโอกาสตง้ั ครรภน์ อ้ ยมาก 15. การใชถ้ ุงยางอนามยั ทาใหค้ วามสุขทางเพศลดลง



 การคุมกาเนิด เป็นสว่ นหน่ึงของการวางแผนครอบครัว เป็นการป้องกนั ไมใ่ หเ้ กิด การตง้ั ครรภข์ ้ึน วิธีการคุมกาเนิดสว่ นใหญจ่ ะใชว้ ิธีป้องกนั ไมใ่ หเ้ ช้ืออสุจิผสมกบั ไข่ ป้องกนั มิใหม้ ีไขส่ ุกหรือรบกวนการฝงั ตวั ของไขใ่ นมดลูกจึงไมเ่ กิดการตง้ั ครรภ์1. วิธีการคุมกาเนิดแบบชว่ั คราว - การกินยาเม็ดคุมกาเนิด -การใชถ้ ุงยางอนามยั - การใชย้ าฉีดคุมกาเนิด - การใสห่ ว่ ง

 2. วิธีการคุมกาเนิดแบบถาวร วิธีคุมกาเนิดแบบถาวร เป็นวิธีคุมกาเนิดเพ่ือหยุดการมีบุตรอยา่ งถาวร เหมาะสาหรับผูท้ ่ี มีบุตรเพียงพอแลว้ หรือผูท้ ่ี ไมส่ มควรจะมีบุตร เชน่ คนปัญญาออ่ น คนบา้ คนท่ีมีโรครา้ ยแรงบางอยา่ ง เป็นตน้ การคุมกาเนิ ดวิธีน้ีทาไดท้ งั้ ผูห้ ญิงและผูช้ าย

 - การทาหมนั ชาย ปจั จุบนั น้ีนิยมทาหมนั ชายมากข้ึน โดยใชค้ ีมปลายแหลมเจาะผิวหนังบริเวณสว่ นกลาง ของถุงอณั ฑะ แลว้ ดึงเอาหลอดนาอสุจิมาทง้ั สองขา้ ง และตดั สว่ นกลางออกประมาณ 1 เซนติเมตร การทา หมนั ชายน้ีใชเ้ วลาตง้ั แตเ่ ร่ิมลงมือทาจนเสร็จประมาณ 5 นาที หลงั ทาหมนั แลว้ ตอ้ งคุมกาเนิดชว่ั คราวเป็น เวลา 3 เดือน เพราะยงั มีตวั อสุจิคา้ งอยูเ่ หนือสว่ นท่ีตดั ตอ้ งหลง่ั น้าอสุจิอีกประมาณ 15 ครงั้ ตวั อสุจิจึงจะ หมด และควรกลบั ไปตรวจน้าเช้ือเพ่ือใหแ้ น่ใจ วา่ ตวั อสุจิหมดแน่แลว้ การทาหมนั ชายเป็นการปิดกนั้ ทางเดิน ของตวั อสุจิ ไมม่ ีผลตอ่ สุขภาพและสมรรถภาพทางเพศแตอ่ ยา่ งใด สว่ นฮอรโ์ มนเพศชายนัน้ ลูกอณั ฑะยงั คง ผลิตตอ่ ไปตามปกติ และถุงน้าอสุจิก็ยงั คงผลิตน้ากามหรือน้าอสุจิปกติ

 - การทาหมนั หญิง ทาไดท้ ง้ั ภาวะปกติ ซ่ึงเรียกวา่ หมนั แหง้ หรือทาในระยะหลงั การคลอด บุตรใหมๆ่ ซ่ึงเรียกวา่ หมนั เปียก การทาหมนั ทงั้ สองแบบทาโดยการผา่ หนา้ ทอ้ งเหนือ หวั หน่าว ผูกปีกมดลูกทงั้ สองขา้ ง และตดั สว่ นกลางของปีกมดลูกออก เพ่ือปิดกนั้ มิใหไ้ ข่ ตกมาผสมกบั ตวั อสุจิ วิธีน้ีจะคุมกาเนิดไดท้ นั ที หลงั การทาหมนั ไมม่ ีผลขา้ งเคียงตอ่ ร่างกายแตอ่ ยา่ งใด การทาหมนั หญิงน้ีใชเ้ วลาตง้ั แตเ่ ร่ิมลงมือทาจนเสร็จประมาณ 15 นาที และตอ้ งทาในหอ้ งผา่ ตดั

 เม่ือเกิดการตง้ั ครรภท์ ่ีไมพ่ ึงประสงคข์ ้ึนมา ควรไปปรึกษาแพทย์ เพราะจะพบ ทางออกอ่ืนๆ ท่ีดีกวา่ การทาแทง้ ในขอ้ กฎหมายเปิดชอ่ งไวใ้ หท้ าไดใ้ นบางกรณี ไดแ้ ก่ ถูกขม่ ขืน ถูกลอ่ ลวงใหไ้ ปคา้ ประเวณี ซ่ึงหญิงน้นั อาจจะยินยอม หรือมีความ จาเป็นตอ้ งทาแทง้ เน่ืองจากสุขภาพของแมซ่ ่ึงจะกระทาแทง้ ใหโ้ ดยแพทยแ์ ละเป็น การทาแทง้ ท่ีไมผ่ ิดกฎหมาย

 1. ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา301 หญิงใดทาใหต้ นแทง้ ลูกหรื อยอมใหผ้ ูอ้ ่ืนทาใหต้ นเองแทง้ ลูกตอ้ ง ระวางโทษจาคุกไมเ่ กินสามปี หรือปรบั ไมเ่ กินหกพนั บาท หรือทง้ั จาทง้ั ปรบั 2. ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 302ผูใ้ ดทาใหห้ ญิงแทง้ ลูกโดยหญิงนั้นยินยอมตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่ เกินหา้ ปีหรือปรับไมเ่ กินหน่ึงหม่ืนบาท หรือทงั้ จาทง้ั ปรับ ถา้ กระทานั้นเป็นเหตุใหห้ ญิงรับอนั ตรายสาหสั ตอ้ ง ระวางโทษจาคุกไมเ่ กินเจ็ดปี หรือปรับไมเ่ กินหน่ึงหม่ืนส่ีพนั บาท หรือทง้ั จาทง้ั ปรับถา้ กระทาใหห้ ญิงถึงแกค่ วาม ตาย ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กินสิบปี และปรบั ไมเ่ กินสองหม่ืนบาท



 การส่ือสารในเร่ืองเพศ จากการวิจยั โดยองคก์ ารอนามยั โลกท่ีติดตามผลการใหก้ ารศึกษาเร่ืองเพศศึกษาท่ี เนน้ เร่ือง การนาไปปฏิบตั ิไดเ้ หมาะสม ถูกตอ้ ง ในหลายประเทศทว่ั โลก พบผล ใกลเ้ คียงกนั วา่ การสอนเพศศึกษาไมไ่ ดท้ าใหว้ ยั รุ่นมีเพศสมั พนั ธก์ นั เร็วข้ึนหรือมาก ข้ึนแตว่ า่ วยั รุ่นสามารถทาใหเ้ พศสมั พนั ธข์ องตนเองมีความปลอดภยั มากข้ึน

 ถา้ พอ่ แมค่ ิดวา่ เร่ืองเพศเป็นเร่ืองท่ีไมด่ ีงาม ไมค่ วรนามาพูดจากนั ในครอบครวั เร่ือง เพศเป็นเร่ืองไมส่ มควรจะเปิดเผยเร่ืองเพศเป็นเร่ืองท่ีเรียนรูไ้ ดเ้ องเม่ือแตง่ งานแลว้ การพูดเร่ืองเพศจะเป็นดาบสองคม และเป็นการช้ีโพรงใหก้ ระรอก ในขณะท่ีลูกก็ กลวั จะถูกพอ่ แมด่ ุดา่ วา่ กลา่ วจึงไมย่ อมปรึกษาพอ่ แมใ่ นเร่ืองเพศและรวมถึงปญั หา ทางเพศท่ีเกิดข้ึนกบั ตนเอง

 1. การดูแลรักษาความสะอาดของอวยั วะเพศ ควรสอนลูกใหเ้ รียกช่ืออวยั วะเพศให้ สุภาพ 2. ใหค้ วามรักความอบอุน่ ในครอบครัว เป็นการสอนโดยการปฏิบตั ิ โดยแสดงให้เห็น ความรกั ความผูกพนั ของพอ่ กบั แม่ ความรักของพอ่ และแมท่ ่ีมีตอ่ ลูก 3. ตอ้ งปลูกฝงั เร่ืองการเป็นสุภาพบุรุษและการเป็นสุภาพสตรี 4. สอนใหล้ ูกเขา้ ใจอย่างถูกตอ้ ง ไม่ว่าจะเป็ นเร่ื องของการช่วยตวั เอง การมี พฤติกรรมทางเพศท่ีเบ่ียงเบนเป็ นทอม ด้ี ตุ๊ด ตลอดจนการแสดงออกทางเพศท่ีไม่ เหมาะสม 5. การตอบสนองตอ่ ส่ิงเรา้ ทางอารมณ์ ควรแนะนาวา่ ควรจะเป็นไปในทางใดจึงจะ เหมาะสมกบั วยั สถานภาพของตนเอง

 6. ทกั ษะการปฏิเสธการมีความสมั พนั ธท์ างเพศ โดยเฉพาะการสอนลูกสาว เพราะลูก สาวมีโอกาสเส่ียงกวา่ ลูกชายมาก 7. ใหร้ ูจ้ กั การเอาตวั รอดจากภยั ทางเพศ โดยเฉพาะลูกผูห้ ญิงในเร่ืองการถูกลวนลาม การขม่ ขืน ไมว่ า่ จะเป็นจากแฟน เพ่ือน คนใกลช้ ิด ญาติ หรือคนรา้ ย 8. การมีความสมั พนั ธท์ างเพศท่ีรับผิดชอบและปลอดภยั สอนทง้ั ลูกชายและลูกสาวใน เร่ืองการมีเพศสมั พนั ธท์ ่ีตอ้ งรับผิดชอบกบั เหตุการณท์ ่ีกระทาลงไป 9. ทกั ษะการดาเนินชีวิตของวยั รุ่นชาย ไมใ่ หเ้ ลียนแบบพฤติกรรมท่ีไม่ดีงามของเพ่ือน ในเร่ ื องเพศ 10. เร่ืองท่ีจะสนทนาอ่ืนๆ ท่ีมีเหตุการณเ์ กิดข้ึน อาจเกิดข้ึนกับตวั วยั รุ่นเอง กบั เพ่ือน หรือเหตุการณ.์ ตามขา่ วในหนังสือพิมพ์ โทรทศั น์ ก็สามารถหยิบยกมาเป็นกรณีศึกษา

 การใชค้ าพูด การพูดท่ีดีหรื อท่ีเรียกวา่ มีศิลปะในการพูด ตอ้ งฝึกการพูด วิธีพูด และการ แสดงออกใหเ้ หมาะสม โดยคานึงถึงส่ิงตอ่ ไปน้ี 1. พูดกบั ใคร (พูดใหถ้ ูกคน) คือ การพูดคุยหรือการสนทนากบั คนแตล่ ะคน ปัจจยั ตา่ งๆ เชน่ ควรพิจารณาถึงสถานะทางสงั คม วยั ของบุคคลท่ีเราทาการสนทนาดว้ ยและเลือกใชถ้ อ้ ยคาท่ี เหมาะสม เชน่ การพูดกบั ผูใ้ หญก่ ็ควรใชค้ าพูดท่ีสุภาพ ใชส้ รรพนามแทนตนเองและแทน บุคคลท่ีเราพูดดว้ ยอยา่ งเหมาะสม 2. พูดท่ีไหน (พูดใหถ้ ูกท่ี) สถานท่ีท่ีเราจะพูดเป็ นท่ีสาธารณะหรื อสถานท่ีส่วนตวั หาก สนทนาในท่ีสาธารณะก็ตอ้ งระวงั คาพูด แมว้ า่ จะเป็นการพูดกบั เพ่ือนสนิทก็ตาม 3. พูดเวลาใด (พูดใหถ้ ูกเวลา) เวลาในการพูดก็เป็นเร่ืองสาคญั การพูดตอ้ งคานึงถึงอารมณ์ ของผูท้ ่ีเราสนทนาดว้ ย เชน่ ไมค่ วรพูดเลน่ ในขณะท่ีคูส่ นทนากาลงั พูดเป็ นงานเป็นการหรื อ จริงจงั ในการพูด 4. พูดในโอกาสใด (งานอะไร) การพูดคุยในโอกาสตา่ งๆ ก็จะแตกตา่ งกนั เชน่ งานสงั สรรค์ งานบวช งานแตง่ งาน หรืองานศพ ดงั นั้นการพูดคุยในแตล่ ะงาน

 การเป็นผูฟ้ งั ท่ีดี ก็สามารถสรา้ งความประทบั ใจใหก้ บั ผูพ้ ูดหรือผูท้ ่ีสนทนาดว้ ยไดเ้ ป็นอยา่ งดี วิธีฝึกใหเ้ กิดทกั ษะในการฟงั มีดงั น้ี 1. ตงั้ ใจฟงั จบั เน้ือหาและทาความเขา้ ใจในเร่ืองท่ีผูพ้ ูดกาลงั พูดใหไ้ ด้ คือ ตอ้ งมีสมาธิในการฟงั น่นั เอง 2. ไมส่ อดแทรก ขดั จงั หวะโตแ้ ยง้ หรื อซกั ถามในขณะท่ีผูพ้ ูดยงั พูดไมจ่ บ หรื อ ยงั ไมเ่ ปิดให้ ซกั ถาม 3. คิดตาม คิดตามไปกบั เร่ืองท่ีกาลงั ฟงั อยา่ งมีเหตุผลถูกไมถ่ ูกใชไ่ มใ่ ช่เป็นไปไดเ้ ป็นไปไมไ่ ด้ จริงหรือไมจ่ ริงเป็นตน้ 4. มีความสงบเยือกเย็นและทาจิตใจใหม้ ีสมาธิในการฟงั เร่ืองตา่ งๆ และสนใจผูพ้ ูดตลอดเวลา 5. ควบคุมอารมณใ์ นการฟงั หรือไมแ่ สดงอารมณว์ า่ ไมพ่ อใจเม่ือไมอ่ ยากฟงั ผูอ้ ่ืนพูด

 การตอ่ รองเป็นการ บอกเลิก บอกปัด บอกไมเ่ อา ไมส่ นใจ ไมช่ อบ ไมใ่ ช้ ไมไ่ ป ไมท่ า ไมเ่ ลน่ เป็นตน้ เพ่ือท่ีจะไมต่ อ้ งกระทาส่ิงเหลา่ นน้ั หรือไมเ่ ขา้ ไปอยูส่ ถานการณน์ ้ัน การปฏิเสธนั้น บางครัง้ ปฏิเสธแลว้ อาจเป็นผลดี หรืออาจเป็นผลเสียก็ได้ ดงั น้ันควรท่ีจะพิจารณาใหด้ ีวา่ เร่ืองใดควรปฏิเสธ เร่ืองใดไมค่ วร ปฏิเสธ การปฏิเสธเป็นสิทธิสว่ นตวั ท่ีทุกคนควรเคารพและยอมรับ ควรปฏิเสธใหไ้ ดผ้ ลในสถานการณ์ท่ีถูกชวน ไปทาในส่ิงท่ีไมเ่ กิดประโยชน์หรือเกิดผลรา้ ยตามมาถา้ เป็นเร่ืองรา้ ยแรงอยา่ เกรงใจ หรือกลวั วา่ จะเสีย เพ่ือน การปฏิเสธจะตอ้ งแสดงทา่ ทางจริงจงั ประกอบกบั คาพูด และน้าเสียงท่ี หนักแน่นเพ่ือแสดงความ ตงั้ ใจจริง แตต่ อ้ งแสดงความผูกพนั และหว่ งใยผูช้ วนไวด้ ว้ ย ตอ้ งใชว้ ิธีการปฏิเสธท่ีนุ่มนวล ถนอมน้าใจ กนั กอ่ น แต่ถา้ จาเป็ นตอ้ งปฏิเสธเด็ดขาด เพราะคนชวนต๊ือมากไม่ฟังเหตุผล ก็ตอ้ งเด็ ดขาดบา้ ง เหมือนกนั การปฏิเสธน้ัน ประกอบดว้ ย 3 ขน้ั ตอน ดงั น้ี 1. ใชค้ วามรูส้ ึกเป็นขอ้ อา้ งประกอบเหตุผล 2. การขอปฏิเสธ 3. การขอความเห็นชอบ



 คาวา่ เอดส์ (AIDS) นั้นยอ่ มาจากคาวา่ Acquired Immune Deficiency Syndrome ซ่ึงแปลวา่ กลุม่ อาการซ่ึงเป็นผลเน่ืองมาจากภูมิคุม้ กนั ลดลงหรือบกพร่องหรือเรียกสน้ั ๆ วา่ “ภูมิคุม้ กนั บกพร่อง” ดงั นนั้ อาจเรียกโรคเอดสว์ า่ โรคภูมิคุม้ กนั บกพร่องก็ได้ เม่ือร่างกายไดร้ ับเช้ือ HIV แลว้ เช้ือน้ีจะคอ่ ยๆ ทาลายภูมิตา้ นทานของร่างกาย ในระยะแรกซ่ึงภูมิตา้ นทานยงั ไมต่ ่ามาก เรียกวา่ “ผูต้ ิดเช้ือเอดส”์ ซ่ึงจะยงั ไมแ่ สดงอาการผิดปกติออกมาแตใ่ นระยะตอ่ มาซ่ึงอาจใชเ้ วลาโดย เฉล่ีย 5-10 ปี (แตบ่ างคนอาจนอ้ ยหรือมากกวา่ น้ี) ภูมิตา้ นทานจะลดต่าลงจนทาใหไ้ มส่ ามารถตอ่ สูก้ บั เช้ือโรค ตา่ งๆ ท่ีเขา้ สูร่ ่างกายได้ ซ่ึงเรียกระยะน้ีวา่ “ผูป้ ่วยเอดส”์ ในระยะน้ีผูป้ ่วยจะมีอาการเบ่ืออาหาร ออ่ นเพลีย น้าหนักลดและจะมีอาการ เจ็บป่วยจากโรคติดเช้ือ เชน่ วณั โรค งูสวดั ปอดอกั เสบ เย่ือหุม้ สมองอกั เสบ เช้ือราข้ึนสม อง เป็นตน้ ซ่ึงเรียก โรคพวกน้ีวา่ “โรคฉวยโอกาส”

 1. ละเวน้ การมีเพศสมั พนั ธท์ ่ีเส่ียงตอ่ การติดเช่ือ แตถ่ า้ ละเวน้ ไมไ่ ดจ้ ะตอ้ งใชถ้ ุงยางอนามยั ทุกครง้ั 2.ไมใ่ ชเ้ ข็มฉีดยาร่วมกบั คนอ่ืนโดยเฉพาะผูเ้ สพสารเสพติด 3.ควรตรวจเลือดกอ่ นแตง่ งานและกอ่ นตดั สินใจมีบุตร 4. งดเวน้ สารเสพติดและของมีนเมาเพราะจะนาไปสูก่ ารมีเพศสมั พนั ธโ์ ดยปราศจากการป้องกนั 5. การชว่ ยตวั เองเป็นอกี ทางเลือกหน่ึงท่ีปลอดภยั 6. รูจ้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ เชน่ เลน่ ดนตรี เลน่ กีฬา เป็นตน้

 เป็นท่ีเขา้ ใจกนั โดยทว่ั ไปแลว้ วา่ โรคเอดสส์ ว่ นใหญต่ ิดตอ่ กนั ทางการมีเพศสมั พนั ธก์ บั ผูท้ ่ีมีเช้ือ โดยปราศจากการป้องกนั คือไมใ่ ชถ้ ุงยางอนามยั การรับถา่ ยเลือดจากผูท้ ่ีมีเช้ือ HIV การใช้ เข็มฉีดยาร่วมกบั ผูท้ ่ีมีเช้ือ HIV และจากหญิงท่ีติดเช้ือ HIV แลว้ ตง้ั ครรภ์ ซ่ึงจะติดตอ่ ไปถึง ทารก 1. การมีเพศสมั พนั ธโ์ ดยไมใ่ ชถ้ ุงยางอนามยั ถา้ เป็นคนท่ีไวใ้ จได้ 100% ก็ไมเ่ ส่ียง 2. การใชเ้ ข็มฉีดสารเสพติดร่วมกนั มีโอกาสสูงมาก เพราะในการฉีดยาเสพติดนน้ั ผูเ้ สพจะดึง เลือดเขา้ มาผสมกบั สารเสพติดในกระบอกฉีดแลว้ ดึงเขา้ ออกหรือท่ีเรียกวา่ “โชก้ ” 3. การใชเ้ ข็มฉีดยารกั ษาโรคหรือฉีดวคั ซีน เซรุ่มร่วมกนั ก็มีโอกาสบา้ ง 4. การใชม้ ีดโกนร่วมกนั ถา้ มีดโกนไปบาดหรือสมั ผสั เลือดและยงั ติดอยูแ่ ละไปใชก้ บั คนตอ่ ไป

 5. การใชก้ รรไกรตดั เล็บร่วมกนั ก็มีเหตุผลคลา้ ยกบั การใชม้ ีดโกนร่วมกนั 6. การจูบปาก เช้ือ HIV จะไมต่ ิดตอ่ กนั ทางน้าลาย แตถ่ า้ ทงั้ คูป่ ากเป็นแผลและมีการสมั ผสั เลือดกนั โดยตรง ก็มีโอกาสติดเช้ือไดเ้ ชน่ กนั 7. การใหก้ ารปฐมพยาบาลหรือรักษาพยาบาลถา้ สมั ผสั เลือดผูป้ ่วยโดยตรงและตนเองมี บาดแผล 8. ถูกยุงกดั ไมต่ ิดเช้ือ HIV แน่นอน เพราะเช้ือไมส่ ามารถอยูใ่ นตวั ยุงได้ 9. จากแมท่ ่ีติดเช้ือ HIV เขา้ สูท่ ารกความจริงแลว้ ระหวา่ งตง้ั ครรภแ์ ตท่ ่ีทารกติดเช้ือ HIV จากแมก่ ็เพราะขณะคลอดนั้นทารกจะสมั ผสั เลือดของแมอ่ ยา่ งมาก ซ่ึงเลือดจะมีโอกาสผา่ น เขา้ ทางเย่ือบุออ่ นได้ 10. การสมั ผสั แผล เลือด น้าเหลืองของผูต้ ิดเช้ือHIV ก็มีโอกาสสูงถา้ เรามีบาดแผล แตถ่ า้ เราไมม่ ีบาดแผลเช้ือโรคก็ไมส่ ามารถซึมผา่ นผิวหนงั คนเราเขา้ ไปได้

 1. การใชถ้ ุงยางอนามยั ทุกคร้ังท่ีมีเพศสมั พนั ธถ์ า้ ผูป้ ่วยเอดสเ์ ป็นผูห้ ญิงก็ตอ้ งใหผ้ ูช้ ายใช้ ทุกครงั้ หรือแมก้ ระทง่ั เป็นผูป้ ่วยเอดสท์ ง้ั คูก่ ็ตอ้ งใชถ้ ุงยางอนามยั เพ่ือมิใหเ้ พ่ิมปริมาณ ของเช้ือ HIV 2. พบแพทยเ์ ป็นระยะๆ และปฏิบตั ิตามคาแนะนาของแพทยอ์ ยา่ งเคร่งครัด 3. ออกกาลงั กายอยูเ่ สมอ ทงั้ น้ีตอ้ งเหมาะสมกบั สภาพร่างกายของตนเองดว้ ย การ ออกกาลงั กายจะทาใหร้ ่างกายแข็งแรงมีภูมิคุม้ กนั เพ่ิมข้ึน 4. ดูแลรักษาร่างกาย เคร่ืองใช้ และท่ีอยูอ่ าศยั ใหส้ ะอาดอยูเ่ สมอ 5. พยายามปรบั ใจและยอมรับใหไ้ ดแ้ ละมีกาลงั ใจสูก้ บั โรคเอดส์ ควรหางานอดิเรกทา หรื อทางานไปตามปกติ

 6. ควรหมน่ั ทาสมาธิ ยึดถือธรรมะ นามาปรับใชเ้ พ่ือใหจ้ ิตใจสงบและรูเ้ ทา่ ทนั ความ ไมเ่ ท่ียงของชีวิต ถา้ ทาไดด้ ีจะทาใหม้ ีชีวิตอยูไ่ ดน้ านกวา่ คนท่ีหมดหวงั ในชีวิต 7. รบั ประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ ควรรบั ประทานอาหารจาพวกขา้ วซอ้ มมือ ปลา ผกั ผลไม้ เมล็ดทานตะวนั เป็นตน้ และงดอาหารประเภทหมกั ดอง สุกๆ ดิบๆ 8. งดส่ิงเสพติดทุกชนิด แมก้ ระทง่ั บุหร่ีและเคร่ืองด่ืมท่ีมีแอลกอฮอลก์ ็ตอ้ งงด 9. ผูห้ ญิงตอ้ งหลีกเล่ียงการตง้ั ครรภเ์ พราะทารกมีโอกาสติดเช้ือ HIV จากแมไ่ ด้ และการตง้ั ครรภท์ าใหท้ ารกมีโอกาสติดเช้ือฉวยโอกาสงา่ ย 10. ควรพกั ผอ่ นใหม้ าก ควรนอนหลบั อยา่ งนอ้ ยวนั ละ 8 ชว่ั โมง จึงจะเพียงพอ 11. ควรอยูใ่ นสภาพแวดลอ้ มท่ีมีอากาศถา่ ยเทไดส้ ะดวก 12. ฝึกการขบั ถา่ ยอุจจาระใหเ้ ป็นเวลาและสม่าเสมอควรด่ืมน้าสะอาดมากๆ รบั ประทานผกั ผลไมท้ ่ีมีกากใยมากๆ จะชว่ ยใหก้ ารขบั ถา่ ยดีข้ึน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook