ยุทธศาสตรท์ ่ี ๑ การวิจัยและนวตั กรรมเพื่อการสร้างความมั่งค่งั ทางเศรษฐกิจ ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรมเพอ่ื การสรา้ งความมง่ั คงั่ ทางเศรษฐกจิ เนน้ การกำ� หนดโจทยว์ จิ ยั ทมี่ าจาก ความตอ้ งการของประเทศ (Demand side) เพอื่ สรา้ งนวัตกรรมทส่ี ามารถนำ� ไปใชป้ ระโยชนเ์ ชิงพาณชิ ย์ได้จรงิ โดยเลอื กการวจิ ยั และนวตั กรรมในสาขาทปี่ ระเทศไทยมศี กั ยภาพทง้ั ภาคอตุ สาหกรรมการผลติ และบรกิ าร และ ภาคเกษตร ด้วยการสรา้ งนวตั กรรมแบบเกลยี ว ๓ สาย (Triple helix) ทเ่ี นน้ ความรว่ มมอื กนั ของมหาวทิ ยาลยั สถาบนั วจิ ยั และภาคเอกชนในทกุ ระดบั โดยสง่ เสรมิ ใหภ้ าคเอกชนมบี ทบาทนำ� รวมทงั้ การสรา้ งเครอื ขา่ ยความรว่ มมอื ระดบั นานาชาติ โดยมภี าครัฐในการส่งเสริมและสนบั สนนุ ใหเ้ กิดความรว่ มมอื ดังกลา่ ว วัตถปุ ระสงค์ ๑. สนบั สนนุ ภาคการผลิต บรกิ าร และภาคเกษตร รวมทงั้ วิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises: SMEs) และวิสาหกิจเร่มิ ตน้ (Startup) ใหว้ ิจยั และสรา้ งนวัตกรรม เพอ่ื สามารถ สรา้ งมลู คา่ และเปน็ ผู้นำ� ตลาดในสาขาท่มี ีศกั ยภาพในห่วงโซ่มลู ค่าของโลก ๒. สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ใหภ้ าคเอกชนมบี ทบาทนำ� ในการกำ� หนดโจทย์ ลงทนุ และดำ� เนนิ การวจิ ยั และ นวตั กรรมทเ่ี นน้ การนำ� ไปใชป้ ระโยชนเ์ ชงิ พาณชิ ย์ โดยมคี วามเชอ่ื มโยงและรว่ มมอื กนั กบั มหาวทิ ยาลยั สถาบนั วจิ ยั และหนว่ ยงานทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง ๓. สรา้ งเครอื ขา่ ยความรว่ มมอื ระดบั นานาชาติ (Global collaborative network) ใหเ้ กดิ การวจิ ยั และ พฒั นา การได้มาซึ่งเทคโนโลยี การพฒั นาบคุ ลากรท่มี ีทักษะ ความรู้ และประสบการณส์ งู และการพัฒนาธุรกิจ เทคโนโลยีนวัตกรรม เปา้ หมายยทุ ธศาสตร์ ๑. ภาคอตุ สาหกรรมการผลติ และบรกิ าร สรา้ งมูลคา่ เพ่มิ สูงขึ้นจากการวจิ ัยและนวตั กรรมส่งผลใหเ้ กิด การขยายตวั เพ่ิมขนึ้ จากปัจจบุ ันเฉลยี่ ร้อยละ ๕ ตอ่ ปี ๒. เกษตรกรมรี ายไดส้ ทุ ธเิ พมิ่ สงู ขน้ึ จากการวจิ ยั และนวตั กรรมโดยรวมทงั้ ประเทศเฉลย่ี รอ้ ยละ ๑๐ ตอ่ ปี ๓. จำ� นวนวสิ าหกจิ ทมี่ นี วตั กรรม (มสี ดั สว่ นของรายไดจ้ ากผลติ ภณั ฑน์ วตั กรรมตอ่ รายไดท้ งั้ หมด (Vitality index) มากกวา่ รอ้ ยละ ๑๐) เพมิ่ ขน้ึ ๕ เท่า ๔. ภาคเอกชนลงทุนการวจิ ยั และพัฒนาไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๑.๖ ของผลติ ภณั ฑ์มวลรวมในประเทศ ๕. ดชั นีความสามารถของประเทศในการดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถสงู จดั โดยสภาเศรษฐกจิ โลก (World Economic Forum: WEF) เพ่ิมขน้ึ เป็น ๙๐ เปอรเ์ ซ็นไทล์ ๖. มูลค่าธุรกรรมท่ีเกิดในประเทศไทยจากความร่วมมือทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากเครือข่าย ความร่วมมือระดับนานาชาตมิ ีจ�ำนวนเพิม่ มากขนึ้ บทท่ี ๕ : ยทุ ธศาสตร์การวิจยั และนวัตกรรม 35 (รา่ ง) ยุทธศาสตร์การวจิ ยั และนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
ยุทธศาสตรท์ ่ี ๑ ประกอบดว้ ย ๕ ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ ไดแ้ ก่ ๑) อาหาร เกษตร เทคโนโลยี ชวี ภาพและเทคโนโลยกี ารแพทย์ ๒) เศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั และขอ้ มลู ๓) ระบบโลจสิ ตกิ ส์ ๔) การบรกิ าร มูลคา่ สูง และ ๕) พลังงาน โดยมรี ายละเอียด ดังน้ี ๑.๑ อาหาร เกษตร เทคโนโลยีชวี ภาพและเทคโนโลยกี ารแพทย์ ๑.๑.๑ วัตถปุ ระสงค์ ๑) เพ่ือให้การวิจัยและนวัตกรรมยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร การแพทย์ และเกดิ ประโยชน์ต่อหว่ งโซ่อปุ ทาน ๒) เพ่อื ใหเ้ กิดการวจิ ยั ทน่ี ำ� ไปสนู่ วตั กรรมในอุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร การแพทย์ ๓) เพื่อให้เกิดการวิจยั และพัฒนาในประเดน็ ท่ปี ระเทศไทยมศี กั ยภาพในการแขง่ ขัน ๔) เพอ่ื ใหเ้ กิดการวจิ ยั พฒั นานำ� ความหลากหลายทางชวี ภาพของประเทศไทยไปสเู่ ชงิ เศรษฐกจิ และ สงั คม อยา่ งมีประสิทธภิ าพและย่งั ยืน ๕) เพ่ือให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม การเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียของผลิตผล การเกษตร เพ่ิมประสทิ ธภิ าพในการผลติ พืชและสัตวเ์ ศรษฐกจิ รวมถึงมกี ารพฒั นาองคค์ วามรู้ เทคโนโลยี และ นวัตกรรมการเกษตรสมยั ใหม่ (Modern agriculture) ๑.๑.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) การยกระดบั ภาคการเกษตรไทยใหเ้ ปน็ การเกษตรสมยั ใหมโ่ ดยการใชเ้ ทคโนโลยี นำ� ไปสกู่ ารพฒั นา อุตสาหกรรมอาหารและเครอ่ื งด่ืมทม่ี สี ารออกฤทธ์เิ ชิงหน้าท่ี ๒) นำ� ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละองคค์ วามรทู้ างการแพทยข์ องประเทศไทย มาพฒั นาผลติ ภณั ฑช์ วี วตั ถุ และเครอ่ื งมือแพทย์ ๓) ปรบั ปรุงกฎหมายให้เอ้อื ต่อการพัฒนาอตุ สาหกรรมทางการแพทย์ ๔) สร้างและพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ (Modern agriculture) ๑.๑.๓ แผนงานวจิ ัยและนวตั กรรมส�ำคญั ๑) การเกษตรสมัยใหม่ (Modern agriculture) ในกลมุ่ พชื ไรท่ เี่ ปน็ วตั ถดุ บิ สำ� หรบั อตุ สาหกรรม มงุ่ เนน้ การลดตน้ ทนุ แรงงานและปจั จยั การผลติ โดยใช้ข้อมูลเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้ผลผลิตมีคุณภาพและปริมาณสม�่ำเสมอ ด้วย การพฒั นาเครอ่ื งจกั รกลเกษตรหรอื อปุ กรณต์ อ่ พว่ งทม่ี เี ทคโนโลยกี ารใหป้ จั จยั การผลติ ตามสภาพความแตกตา่ งของ พ้นื ท่ี (Variable rate technology) เทคโนโลยีตดิ ตามและคาดการณป์ ริมาณและคุณภาพผลผลิต โครงสร้าง พน้ื ฐานหรอื บรกิ ารขอ้ มลู แผนทเี่ พอ่ื การเกษตรความละเอยี ดสงู ระดบั แปลง (High resolution) เชน่ แผนทสี่ ภาพ อากาศและพยากรณ์อากาศเพ่ือการเกษตร การเปล่ียนแปลงสภาพดินและน้�ำ คลังภาพถ่ายดาวเทียม 36 บทที่ ๕ : ยุทธศาสตรก์ ารวิจัยและนวตั กรรม (รา่ ง) ยุทธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
เพ่อื การเกษตร เปน็ ตน้ การแปลผลและการพัฒนาแบบจ�ำลอง เพื่อต่อยอดเปน็ ซอฟทแ์ วรห์ รอื บรกิ ารเกษตรรูป แบบใหม่ เช่น สร้างและเผยแพร่ฐานข้อมูลสำ� หรับการพยากรณ์ผลผลิต วิเคราะห์ความเสี่ยงเพ่ือจัดลำ� ดับการ ชดเชยและการเยยี วยาในกรณีภยั พิบัติ และวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการประกันภัยพชื ผล เปน็ ต้น ในกลมุ่ ผลติ ผลการเกษตรมลู คา่ สงู มงุ่ เนน้ การเพม่ิ มลู คา่ ความปลอดภยั และการใชท้ รพั ยากรอยา่ งคมุ้ คา่ ดว้ ยการวจิ ยั ตน้ แบบสายพนั ธพ์ุ ชื เศรษฐกิจลกั ษณะพิเศษ (ทนแล้ง รสชาติดี เกบ็ รกั ษาไดย้ าวนาน เหมาะกับการขนสง่ มีสาร มูลคา่ สูง) เทคโนโลยเี ซนเซอรแ์ ละโรงเรือนอัจฉรยิ ะส�ำหรบั พชื ผลเกษตรเมืองรอ้ นท่มี ปี ระสทิ ธิภาพสงู ต้นทุนต�่ำ สารชีวภัณฑ์ เทคโนโลยีตรวจวัดสารตกค้างและสารพิษ การตรวจสอบโรคพืชและโรคสัตว์ การประเมินผล กระทบต่อส่ิงแวดล้อม เทคโนโลยีเพื่อการปรับตัวต่อการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ การวิจัยเพื่อส่งเสริม ผลิตภัณฑ์แปรรูปและส่วนผสมทางอุตสาหกรรม การพัฒนาชุดตรวจด้านเกษตรและอาหาร การปรับปรุงพันธุ์ พชื และพนั ธส์ุ ตั วใ์ หม้ คี ณุ สมบตั ติ ามความตอ้ งการของตลาดหรอื เพอื่ อตุ สาหกรรมเฉพาะ และการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ ปลอดภัยและเปน็ มิตรกบั สิ่งแวดล้อม ๒) อาหารมลู คา่ เพิ่มสงู และสารออกฤทธเ์ิ ชงิ หนา้ ท่ี (High value added food and functional ingredient) มุ่งเน้นให้เกิดอุตสาหกรรมอาหารและสารออกฤทธิ์เชิงหน้าท่ี จากการใช้ประโยชน์ทรัพยากร ชวี ภาพและความหลากหลายทางชวี ภาพของประเทศ การพฒั นาสง่ิ บง่ ชที้ างภมู ศิ าสตร์ (Geographical Indications: GI) ซง่ึ จะเพ่มิ มลู ค่าให้แก่วตั ถดุ ิบทางการเกษตร ลดการนำ� เขา้ จากตา่ งประเทศ และเกิดผลิตภัณฑม์ ูลคา่ เพ่มิ สูง โดย การกระตุ้นให้ภาคเอกชนลงทุนวิจัยและพัฒนานวัตกรรมจากความร่วมมือของมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัย ทงั้ ในประเทศและตา่ งประเทศ การสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การขยายธรุ กจิ การเพม่ิ กำ� ลงั การผลติ การตอ่ ยอดงานวจิ ยั จาก งานตน้ แบบไปสเู่ ชงิ พาณชิ ย์ การสนบั สนนุ ใหม้ มี าตรการในการลดอปุ สรรคการขนึ้ ทะเบยี นผลติ ภณั ฑเ์ ครอ่ื งสำ� อาง อาหารและยา การสรา้ งความสามารถในการรบั รองมาตรฐานทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ สะดวก และรวดเรว็ ของหนว่ ยงาน ภาครฐั ท่ีเกย่ี วขอ้ ง การสนบั สนนุ ให้มโี ครงสร้างพื้นฐานทเ่ี ก่ยี วขอ้ งในดา้ นตา่ ง ๆ อาทิ โรงงานต้นแบบ และการ มีมาตรการป้องกันหรือปกป้องแหล่งสารออกฤทธ์ิเชิงหน้าท่ีจากธรรมชาติท่ีเป็นของไทยจากการลักลอบศึกษา พชื พนั ธแ์ุ ละส่งิ มชี วี ิตในไทยแล้วน�ำไปจดสิทธบิ ตั รโดยต่างชาติ ๓) ชวี วตั ถุ (Biologics) ในระยะส้ัน (๑ - ๕ ปี) มุ่งเน้นการวิจัยพัฒนาและผลิตยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) โมโนโคลนอลแอนตบิ อดี และวคั ซนี พนื้ ฐาน โดยแนวทางการพฒั นาเทคโนโลยจี ะเนน้ ไปทง่ี านวจิ ยั และพัฒนาท่ตี ่อยอดได้ (Translational research) คือ การพัฒนาสูตร การผลติ และการวิเคราะห์ การทดสอบ ประสิทธิภาพและความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการและในสัตว์ทดลอง การทดสอบประสิทธิภาพและ ความปลอดภยั ในมนษุ ยโ์ ดยท้ังหมดตอ้ งเปน็ กระบวนการที่ไดม้ าตรฐานสากล (GMP/ISO/OECD) ในระยะกลาง (๕ - ๑๐ ป)ี จะมงุ่ เน้นการวิจัย พฒั นาและผลิตยาชีววตั ถชุ นดิ ใหม่ และวัคซนี ชัน้ สูง ในระยะยาว (๑๑ - ๑๕ ปี) ประเทศไทยจะต้องมีความสามารถในการวจิ ยั พฒั นาและผลติ ยาชวี วตั ถชุ นดิ ใหมท่ ม่ี คี วามจำ� เพาะเจาะจงสงู รวม ทงั้ การนำ� ยาชวี วตั ถเุ กา่ หรอื ทหี่ มดความคมุ้ ครองมาวจิ ยั พฒั นาตอ่ ยอด วคั ซนี ทมี่ คี วามจำ� เพาะเจาะจงสงู และใช้ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ผลแบบมงุ่ เปา้ (Targeted therapy) ได้อย่างครบวงจรและเป็นมาตรฐานสากล บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวัตกรรม 37 (รา่ ง) ยุทธศาสตรก์ ารวิจัยและนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๔) เคร่อื งมอื แพทย์ (Medical devices) ในระยะสน้ั (๑ - ๕ ป)ี มงุ่ เนน้ วจิ ยั และพฒั นาเครอ่ื งมอื แพทย์ วสั ดแุ ละอปุ กรณต์ รวจวนิ จิ ฉยั โรค ทีใ่ ช้สนับสนุนการตรวจวินิจฉัยโรค การป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ การช่วยดูแล และการช่วยผ่าตัด เช่น เทคโนโลยชี วี ภาพทใี่ ชช้ ว่ ยการตรวจวนิ จิ ฉยั ทมี่ คี วามจำ� เพาะสงู เทคโนโลยกี ารพมิ พส์ ามมติ เิ พอื่ ใชเ้ ปน็ วสั ดทุ ดแทน ในรา่ งกายมนษุ ย์ และวสั ดอุ ปุ กรณท์ างการแพทย์ เปน็ ตน้ การพฒั นาการใชป้ ระโยชนจ์ ากหนุ่ ยนตท์ างการแพทย์ เพ่อื รองรบั การใช้งานในอนาคต เช่น ห่นุ ยนต์ช่วยผ่าตัด หุ่นยนตฝ์ กึ แพทย์ พยาบาล หุน่ ยนตช์ ่วยเหลือผพู้ กิ าร หนุ่ ยนตส์ ำ� หรบั ชว่ ยฟน้ื ฟู หนุ่ ยนตอ์ ำ� นวยความสะดวกในบา้ น เปน็ ตน้ การพฒั นาระบบเชอื่ มตอ่ อปุ กรณก์ ารแพทย์ กับสารสนเทศเพื่อการดูแลสุขภาพ การวิจัยเพ่ือพัฒนาและสนับสนุนการเตรียมความพร้อมโรงงานระดับก่ึง อุตสาหกรรมเพ่ือขอรับการรบั รองมาตรฐาน GMP/PICs การสนบั สนนุ การลงทุนวิจยั และพฒั นาศนู ย์สอบเทยี บ มาตรฐาน (Certifying center) ทป่ี ระกอบดว้ ยการทดสอบผลติ ภณั ฑ์ ทงั้ ในหอ้ งทดลองและทางคลนิ กิ ใหเ้ ปน็ ไปตาม มาตรฐานสากล (GMP/ISO) ในระยะกลางและระยะยาว ประเทศไทยจะตอ้ งสามารถผลิตอปุ กรณก์ ารแพทยท์ ่ี ใชเ้ ทคโนโลยรี ะดบั สงู และตอ่ ยอดเทคโนโลยเี ดมิ ใหม้ มี ลู คา่ เพมิ่ มากขนึ้ รวมทงั้ เปน็ ศนู ยก์ ลางการผลติ ชนิ้ สว่ นและ อปุ กรณก์ ารแพทย์ในภูมิภาคอาเซียน ๑.๒ เศรษฐกิจดิจิทัลและข้อมลู ๑.๒.๑ วัตถปุ ระสงค์ ๑) เพ่ือประยุกต์ใช้วิทยาการหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีดิจิทัล เพ่ือเพ่ิมขีดความ สามารถในการแข่งขนั ของอุตสาหกรรมการผลิตและบริการ ๒) เพอ่ื พฒั นาเทคโนโลยแี ละนวตั กรรมระบบดิจิทัลท่ีสนับสนนุ การผลติ และพฒั นา และการสรา้ ง โอกาสใหม่ในภาคการผลติ อุตสาหกรรมการผลติ และบริการ รวมท้ังสงั คมและสงิ่ แวดลอ้ ม ๓) เพ่ือให้เกิดระบบบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) และเกิดการน�ำข้อมูลไปใช้ ประโยชน์ ท้ังด้านการประกอบการตดั สินใจและเข้าใจพฤตกิ รรมและความตอ้ งการของผใู้ ช้ ผู้บริโภค น�ำส่กู าร วางกลยทุ ธ์และแนวทางการดำ� เนินธุรกจิ ๔) เพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber security) และความน่าเชื่อถือของ เทคโนโลยดี จิ ทิ ัล ๑.๒.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและผลิตภาพของอุตสาหกรรมผลิตและบริการดว้ ย วิทยาการหนุ่ ยนต์ ระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีดจิ ทิ ัล ๒) การจัดให้มแี พลตฟอร์มเทคโนโลยีและโครงสร้างพ้ืนฐานดา้ นดิจิทัล เพ่ือรองรับภาคการผลิต และบรกิ ารของประเทศ ๓) การเพิ่มศกั ยภาพของอตุ สาหกรรมเนอื้ หาดจิ ทิ ัลของประเทศไทย ๔) ศกึ ษาวิจัยอปุ กรณอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ท่มี ีความชาญฉลาดภายในตวั ๕) พฒั นานวตั กรรมดา้ นความม่ันคง ปลอดภยั ทางไซเบอร์ 38 บทท่ี ๕ : ยุทธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม (ร่าง) ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๑.๒.๓ แผนงานวิจยั และนวัตกรรมสำ� คัญ ๑) วทิ ยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Robotics and Automation) มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเพ่ือส่งเสริมการผลิตและการใช้ผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์และระบบ อัตโนมัติท่ีพัฒนาขึ้นเองภายในประเทศเพ่ือเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) และขีดความสามารถในการแข่งขัน ของภาคอุตสาหกรรมการผลิต เช่น เครื่องจักรกลอัตโนมัติ (Automated Guided Vehicle: AGV) โมดลู ดา้ น ระบบอัตโนมัติท่ีใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต เป็นต้น การพัฒนาหุ่นยนต์บริการท่ีมีมูลค่าสูง (High-value services robots) และหุ่นยนต์ท�ำงานเฉพาะทางท่ีช่วยอ�ำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ และท�ำให้มีคุณภาพ ชีวิตท่ีดีขึ้น เช่น หุ่นยนต์ทางการแพทย์ที่ช่วยในการฟื้นฟูหรือช่วยเหลือผู้ป่วย หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ หุ่นยนต์ บริการในที่พักอาศัย ส�ำนักงาน และร้านค้า หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติท่ีใช้งานทางการเกษตร และหุ่นยนต์ เพื่อการศึกษา เป็นต้น ๒) อากาศยานไรค้ นขับ (Unmanned Aerial Vehicle: UAV) มงุ่ เนน้ การวจิ ยั และนวตั กรรม UAV โดยเฉพาะโดรน (Drone) เพอ่ื ใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นความมนั่ คง ทางทหาร การเกษตร การสำ� รวจทรพั ยากรธรรมชาติ การใชใ้ นภาคอตุ สาหกรรม รวมทง้ั การใชเ้ พอื่ การสนั ทนาการ โดยการทดแทนการนำ� เขา้ เทคโนโลยแี ละการสง่ เสรมิ ฐานอตุ สาหกรรมโดรนในประเทศไทย การพฒั นาเทคโนโลยี ฐานทจ่ี ำ� เปน็ สำ� หรบั การวจิ ยั และนวตั กรรม เชน่ แบตเตอร่ี ซอฟตแ์ วร์ เซน็ เซอร์ ระบบสอ่ื สาร และวสั ดตุ า่ ง ๆ เปน็ ตน้ รวมทงั้ การวจิ ยั เพอื่ ปรบั ปรงุ กฎหมาย ขอ้ บงั คบั มาตรฐาน และการควบคมุ และกำ� กบั ดแู ลเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ๓) เทคโนโลยีเพื่ออตุ สาหกรรมอวกาศ (Space industry technology) มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมในด้านเทคโนโลยีอวกาศท่ีครอบคลุมดาวเทียมส�ำรวจโลก ดาวเทยี มสอ่ื สาร และดาวเทยี มเพอ่ื ความมนั่ คง เชน่ การสรา้ งดาวเทยี มขนาดเลก็ วสั ดคุ อมโพสทิ สำ� หรบั ชน้ิ สว่ น โครงสร้างดาวเทยี ม ระบบควบคมุ ดาวเทยี ม (Satellite control) อาทิ Versatite Operation System for Satellite Control and Administration (VOSSCA) ระบบวางแผนและเพ่ิมประสิทธิภาพการถ่ายภาพของ ดาวเทียม (Operation Planning for Thailand Earth observation MISsion: OPTEMIS) อุปกรณ์ระบบ สื่อสารดาวเทียมภาคพื้นดินย่านความถี่ S-band (Down converter) เป็นต้น โดยมุ่งสร้างขีดความสามารถ ภายในประเทศ ทง้ั ในด้านการออกแบบและพฒั นาดาวเทยี ม การวิจัยและส�ำรวจอวกาศ (Space exploration) การพฒั นาศนู ยท์ ดสอบมาตรฐานและผลติ ภณั ฑก์ ารบนิ และอวกาศ (Aerospace) การพฒั นาชน้ิ สว่ นอปุ กรณข์ อง ดาวเทยี มและระบบภาคพนื้ ดนิ การตอ่ ยอดองคค์ วามรจู้ ากอตุ สาหกรรมเดมิ ทมี่ ภี ายในประเทศ เชน่ อตุ สาหกรรม ยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ เป็นต้น รวมท้ังการใช้ประโยชน์จากฐาน อตุ สาหกรรมต่อเนื่องอืน่ ๆ เพอื่ มงุ่ ไปส่กู ารสรา้ งอตุ สาหกรรมอวกาศ ๔) อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและเทคโนโลยีอุปกรณ์ปลายทาง (Smart electronics and terminal endpoint technologies) มุ่งเน้นการพฒั นาและผลิตอปุ กรณอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ท่ีมีความชาญฉลาดภายในตัว (Intelligent and smart) ดว้ ยการตดิ ต้ังระบบฝงั ตวั (Embedded system) และเซนเซอร์ลงไปในอปุ กรณ์ เพ่ือให้สามารถ บทท่ี ๕ : ยุทธศาสตรก์ ารวิจยั และนวตั กรรม 39 (ร่าง) ยุทธศาสตร์การวิจยั และนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
ดจิ ทิ ลั รายใหญข่ องโลก ทง้ั นี้ ตอ้ งสง่ เสรมิ การเขา้ ถงึ เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั สำ� หรบั การผลติ การสรา้ งสรรคแ์ อนเิ มชน่ั เกม และ เนอ้ื หาดจิ ทิ ลั อน่ื ๆ เชน่ Virtual Reality (VR), Augmented Reality (AR), Immersive technology, Artificial Intelligence (AI) เปน็ ตน้ การจดั เกบ็ มรดกทางวฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาของไทยในรปู แบบดจิ ทิ ลั เพอื่ ให้สามารถ คงอยู่ได้แม้เวลาจะผ่านไปและสามารถน�ำมาบูรณาการ การสกัดองค์ความรู้และน�ำมาประยุกต์ใช้ใน การสรา้ งสรรคเ์ นอื้ หาดจิ ทิ ลั ใหม่ ๆ การสง่ เสรมิ การพฒั นาเรอ่ื งราวใหน้ า่ สนใจ การวจิ ยั ตลาดเพอ่ื ใหท้ ราบความ ได้เปรยี บทางการแข่งขนั เปรยี บเทียบกบั ประเทศอื่น ๆ การพยากรณข์ อ้ มลู ในอนาคตเพ่อื ชใี้ หเ้ หน็ ถงึ ทศิ ทางของ อตุ สาหกรรม เชน่ อตุ สาหกรรมเกมและแอนเิ มชนั่ เปน็ ตน้ รวมทง้ั การวจิ ยั ดา้ นกฎหมายทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญาและ การจดั การสทิ ธิดิจทิ ัล ๑.๓ ระบบโลจสิ ตกิ ส์ (Logistics) ๑.๓.๑ วตั ถุประสงค์ ๑) เพอ่ื พัฒนาอตุ สาหกรรมการผลติ ยานยนตไ์ ทยและหว่ งโซ่อุปทานไปสกู่ ารผลิตยานยนตส์ มัยใหม่ ๒) เพอ่ื ยกระดบั ระบบโลจสิ ตกิ ส์ ของประเทศไทยทงั้ ทางบก ทางนำ�้ และทางอากาศใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ ดว้ ยการใชเ้ ทคโนโลยี ๓) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยใหไ้ ดม้ าตรฐานในระดบั นานาชาติ ๔) เพอื่ พฒั นาอุตสาหกรรมโลจิสติกสร์ วมถงึ อากาศยานไรค้ นขบั การผลติ ยานยนตไ์ ทยรนุ่ ใหม่ และ ไฮบรดิ ส์ ๑.๓.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) ยกระดบั อตุ สาหกรรมการผลติ ยานยนตไ์ ทยใหร้ องรบั อตุ สาหกรรมยานยนตส์ มยั ใหม่ ๒) เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพของระบบโลจสิ ตกิ สข์ องประเทศไทย ๓) เพม่ิ ศกั ยภาพของอตุ สาหกรรมการบนิ ของประเทศไทยใหเ้ ปน็ ผนู้ ำ� ในระดบั ภมู ภิ าค ๑.๓.๓ แผนงานวจิ ัยและนวัตกรรมสำ� คญั ๑) ยานยนตส์ มัยใหม่ (Next-generation automotive) มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีส�ำหรับการคมนาคมที่สะอาด ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อ ส่ิงแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดอุบัติเหตุทางการจราจร การพัฒนาระบบขับเคลื่อนท่ีมี ประสทิ ธภิ าพ การพฒั นาระบบโครงสรา้ งนำ�้ หนกั เบา การพฒั นาระบบการกกั เกบ็ พลงั งานไฟฟา้ ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ สงู ขน้ึ การพฒั นาระบบไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ สค์ วบคมุ และการพฒั นาเครอื ขา่ ยโครงสรา้ งพนื้ ฐานทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ ซึ่งมีการเชื่อมโยงกับระบบพลังงานใหม่ของสังคม เช่น พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์และพลังงานลม เป็นต้น การพัฒนาระบบการขับเคลื่อนเช่ือมโยงกับเทคโนโลยีการเช่ือมต่อของสรรพส่ิง ข้อมูลขนาดใหญ่ และ ระบบคลาวด์ (Cloud) การพฒั นายานยนตข์ บั เคลอ่ื นอตั โนมตั ิ การพฒั นาระบบมาตรฐานการตรวจสอบ การวเิ คราะห์ ทดสอบคณุ ภาพ มาตรฐาน ความปลอดภยั ใหไ้ ดร้ บั มาตรฐานระดบั สากล การสรา้ งขดี ความสามารถทางเทคโนโลยี และยกระดับห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ การสนับสนุนการใช้วัตถุดิบและชิ้นส่วนภายในประเทศเพื่อการพัฒนา อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ การพัฒนาระบบรองรับการบริหารจัดการแบตเตอร่ีท่ีใช้แล้วโดยการน�ำกลับมา บทท่ี ๕ : ยทุ ธศาสตร์การวจิ ัยและนวตั กรรม 41 (รา่ ง) ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
ใช้ใหม่และการก�ำจัดซากแบตเตอรี่ การพฒั นาระบบรองรบั เศรษฐกิจแบบแบ่งปนั (Sharing economy) และ การพัฒนาบุคลากรทรี่ องรบั อุตสาหกรรมยานยนตส์ มยั ใหม่ระดับโลกในประเทศไทย ๒) ระบบโลจสิ ติกส์อจั ฉริยะ (Smart logistics) มุ่งเน้นการพฒั นาระบบโลจสิ ตกิ ส์ให้มปี ระสิทธภิ าพเพอื่ ช่วยลดต้นทุน การขนส่ง การเดินทาง และการสื่อสาร การพัฒนาระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในอนาคตท่ีเป็น Smart people ซึ่งมคี วามต้องการบรโิ ภค Smart product โดยพฒั นาเทคโนโลยีการผลติ ให้เชอ่ื มโยงกับสินค้า และเคร่ืองจักร อาทิ ใช้การเช่ือมต่อของสรรพส่ิง (Internet of Things) เชื่อมโยงการผลิตตามความต้องการ และใหเ้ ชอื่ มโยงกบั การขนสง่ ใหส้ ง่ มอบกบั ลกู คา้ ตามสถานทแ่ี ละเวลาทกี่ ำ� หนด การพฒั นาโครงขา่ ยความเชอ่ื มโยง ของระบบขนส่งภายในประเทศทง้ั ทางบก ทางนำ�้ และทางอากาศ การพฒั นา Intelligent logistics ในพื้นที่ รวมท้ังการพัฒนาระบบธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการการไหลของข้อมูลและเงิน เพ่ือยกระดับการจัดการระบบโลจสิ ติกส์ของประเทศ ๓) อุตสาหกรรมการบนิ (Aviation) มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานรองรับอุตสาหกรรมการบินให้ได้มาตรฐาน การพัฒนา ศูนยซ์ ่อมบำ� รุงอากาศยาน (Maintenance Repair and Overhaul: MRO) รองรบั อากาศยานขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ การออกแบบและพัฒนาอากาศยานขนาดเล็กซ่ึงรวมถึงอากาศยานไร้คนขับ การวิจัยและพัฒนา เพือ่ การผลิตชนิ้ ส่วนอากาศยาน วัสดตุ กแต่งภายในเครอื่ งบิน และอุปกรณภ์ าคพื้นดนิ รวมท้ังการผลิตบคุ ลากร (นักบิน ช่างซ่อมบ�ำรุง) ทีม่ มี าตรฐานในระดับนานาชาติ ๔) การขนสง่ ทางราง ม่งุ เนน้ การมีส่วนร่วมของภาคอุตสาหกรรมและการสนบั สนุนจากหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ของภาครฐั เพอ่ื ผลักดนั ใหเ้ กดิ การพัฒนาบคุ ลากร การวจิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยีทเ่ี กยี่ วขอ้ งในดา้ นต่าง ๆ เช่น การกอ่ สร้าง และบ�ำรุงรักษา การสื่อสารและควบคุมระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตช้ินส่วนรถไฟโดยเฉพาะตัวรถ และสว่ นควบ การใชว้ สั ดภุ ายในประเทศเพอื่ ทดแทนวสั ดจุ ากตา่ งประเทศ เปน็ ตน้ โดยมงุ่ เนน้ การดดู ซบั และเรยี นรู้ เทคโนโลยีจากต่างประเทศเพื่อเป็นการต่อยอดฐานความรู้และส่ังสมองค์ความรู้เพิ่มข้ึนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ยานยนต์ และไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ สข์ องประเทศ ซง่ึ เปน็ การสง่ เสรมิ การพง่ึ พาตนเองของประเทศ รวมทง้ั สง่ เสรมิ การวิจัยและพัฒนาระบบจัดการผู้โดยสาร ระบบจัดการเส้นทาง และมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านระบบ ขนส่งทางราง ๑.๔ การบรกิ ารมูลค่าสูง ๑.๔.๑ วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพื่อยกระดับการบริการและนวัตกรรมดา้ นตา่ ง ๆ โดยเฉพาะทางดา้ นสุขภาพ การแพทยแ์ ละ ความงาม ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของประเทศให้คนไทยสามารถเขา้ ถงึ การให้บริการและสรา้ งรายได้ เข้าประเทศ 42 บทท่ี ๕ : ยทุ ธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม (รา่ ง) ยุทธศาสตรก์ ารวจิ ัยและนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๒) เพือ่ เพิม่ ความหลากหลายของอตุ สาหกรรมการท่องเทยี่ วไทย ๓) เพอื่ นำ� วัฒนธรรมไทยมาเปน็ จุดดงึ ดดู นักทอ่ งเทย่ี วด้วยการใช้เทคโนโลยี ๑.๔.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) เพ่มิ โอกาสในการเข้าถึงบรกิ ารทางการแพทยข์ องคนไทย และสร้างรายไดเ้ ขา้ ประเทศ ๒) ใชจ้ ดุ แขง็ ของอตุ สาหกรรมทอ่ งเทย่ี วไทยในภาคสว่ นทป่ี ระเทศไทยมศี กั ยภาพเพอ่ื เปน็ การยกระดบั ภาคสว่ น ๓) น�ำขนบธรรมเนยี ม ประเพณี วฒั นธรรมไทยมาเป็นจุดดงึ ดดู นกั ทอ่ งเทย่ี วด้วยการใชเ้ ทคโนโลยี ๔) สนับสนุนนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและพัฒนาระบบนิเวศธรรมชาติให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวท่ีย่ังยืน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่ไปกับธรรมาภิบาลส่ิงแวดล้อม ๑.๔.๓ แผนงานวจิ ัยและนวตั กรรมส�ำคัญ ๑) การบริการทางการแพทย์ (Medical services) มงุ่ เนน้ การวจิ ยั พฒั นาและจัดระบบบรกิ ารทมี่ คี ณุ ภาพมาตรฐาน ทที่ ำ� ใหป้ ระชาชนสามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารทางการแพทยไ์ ดร้ วดเร็ว สะดวก ปลอดภยั และท่ัวถึง ทง้ั ในภาวะปกติและสาธารณภยั โดยการพัฒนา ระบบการแพทยป์ ฐมภมู ิและเครือขา่ ยระบบสุขภาพระดบั อ�ำเภอ การวิจยั และพัฒนาเพอ่ื ดูแลผู้สงู อายุ คนพกิ าร และผดู้ อ้ ยโอกาส การพฒั นาระบบบรกิ ารสขุ ภาพและระบบสารสนเทศดจิ ทิ ลั การสรา้ งฐานขอ้ มลู พนั ธกุ รรมและ ธนาคารชวี ภาพ นอกจากน้ี มงุ่ เนน้ การพฒั นาศนู ยค์ วามเปน็ เลศิ ดา้ นการแพทยแ์ ละศนู ยท์ ดลองทางคลนิ กิ การเปน็ Caretaker training hub โดยเฉพาะด้านการปฏิบัติดูแล การสื่อสาร และการใช้อุปกรณ์เคร่ืองมือ การเป็น ศนู ยก์ ลางดา้ นบรกิ ารทางการแพทยใ์ นระดบั ภมู ภิ าค (Regional clinical trial center) เพอื่ เพม่ิ ขดี ความสามารถ ในการแข่งขัน โดยเน้นให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางในสาขาที่ไทยมีความช�ำนาญและมีความเข้มแข็ง เพอ่ื สรา้ งมลู คา่ เพม่ิ และชว่ ยเพมิ่ สดั สว่ นรายไดข้ องธรุ กจิ บรกิ ารสขุ ภาพ เชน่ การผา่ ตดั หวั ใจ การผา่ ตดั เปลยี่ นขอ้ ศัลยกรรมตกแต่ง ทันตกรรม เวชศาสตร์ฟื้นฟู การท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ (Health Tourism) เป็นต้น รวมถึง การวิจัยเพื่อศึกษาผลกระทบต่อการดูแลสขุ ภาพคนไทย ๒) การท่องเทยี่ วเชิงสง่ เสรมิ สุขภาพ (Wellness tourism) มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพ่ิมสัดส่วนรายได้ของธุรกิจบริการสุขภาพ โดยพัฒนาธุรกิจ บริการทางการแพทย์เป็นหลัก และธุรกิจบริการส่งเสริมสุขภาพ ธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพและสมุนไพรไทยเป็น ธุรกิจสนับสนุน โดยการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการท่ีเกี่ยวข้อง เช่น ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลใน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ค้นหาและวิเคราะห์ศักยภาพความพร้อมของพื้นท่ี/บุคลากร/กิจกรรม เพื่อรองรับ การทองเท่ียวเชิงกฬี า เป็นตน้ การพฒั นามาตรฐานของสินคา้ และการบริการ การพัฒนารูปแบบธรุ กจิ ใหมข่ อง การท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ การยกระดับคุณภาพของโรงพยาบาลให้ได้มาตรฐาน การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ และทกั ษะด้านการบริการเฉพาะดา้ น และการจดั ท�ำ Market intelligence เพอื่ ด�ำเนินการวจิ ัยทางการตลาด เชงิ ลกึ และวเิ คราะห์พฤติกรรมผบู้ ริโภคดา้ นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพอ่ื เจาะตลาดใหมท่ ี่มศี ักยภาพ บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ัยและนวตั กรรม 43 (รา่ ง) ยทุ ธศาสตร์การวิจัยและนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๔) เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายไฟฟ้าและระบบการกักเก็บพลังงานของประเทศไทย ให้ สามารถรองรับการเพ่มิ การใชพ้ ลังงานหมุนเวียนและการบริหารจดั การพลงั งานอยา่ งเป็นระบบ ๑.๕.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) พัฒนาความสามารถในการผลิตและบริหารจัดการวัตถุดิบ และผลักดันความต้องการการใช้ พลังงานหมนุ เวยี น ๒) สรา้ งความตระหนกั และความรคู้ วามเขา้ ใจตอ่ การผลติ การใชพ้ ลงั งานทดแทนอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และย่ังยนื และการสง่ เสรมิ การอนุรกั ษพ์ ลังงาน ๓) สร้างแรงจูงใจ เช่น มาตรการด้านภาษีหรือสนับสนุนการลงทุน เพือ่ เพ่ิมการผลิตและการใช้ พลังงานชีวภาพและเช้อื เพลงิ ชวี ภาพ รวมถึงเพิม่ ประสิทธภิ าพการใช้พลังงาน ๑.๕.๓ แผนงานวิจยั และนวัตกรรมสำ� คญั ๑) พลังงานชวี ภาพ (Bioenergy) มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานชีวภาพโดยมุ่งเน้นประเด็นที่ สำ� คญั เรง่ ดว่ น โดยการเพม่ิ ศกั ยภาพในการผลติ ไฟฟา้ และความรอ้ นจากกา๊ ซชวี ภาพ เชอ้ื เพลงิ ชวี มวลตา่ ง ๆ ขยะ และไม้โตเรว็ รวมทั้งกระบวนการแปรรปู เปน็ พลังงาน การเพ่ิมประสทิ ธิภาพการผลติ และการใช้กา๊ ซชีวภาพจาก ของเสยี อตุ สาหกรรมและเกษตรกรรมเพอื่ ผลติ ไฟฟา้ การพฒั นารปู แบบและระบบในการจดั การชวี มวลและขยะ เพ่ือผลิตพลังงานที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม การพัฒนาทางเลือกและรูปแบบส�ำหรับพลังงานชนบท รวมถึง โรงไฟฟา้ ชมุ ชนทเ่ี ปน็ มติ รตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มและสามารถพง่ึ พาตนเองได้ การพฒั นาและเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพเทคโนโลยี ภายในประเทศและการบริหารจัดการวัตถุดิบท่ีครอบคลุมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิต การแปรรูป การขนส่ง การเก็บ ศูนย์ทดสอบ และมาตรฐานท่ีเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สอดคล้องกับความต้องการ ในประเทศและส่งออก และการพัฒนาระบบปา่ ชมุ ชนในทอ้ งถ่ินเพือ่ ผลติ ชีวมวล ๒) เชือ้ เพลงิ ชวี ภาพ (Biofuel) มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านเชื้อเพลิงชีวภาพโดยมุ่งเน้นประเด็น ที่ส�ำคัญเร่งด่วน โดยการลดต้นทุนต่อหน่วยของการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ (เอทานอลและไบโอดีเซล) จากพืชน�ำ้ มนั ทป่ี ลกู ไดใ้ นประเทศ เช่น การเพม่ิ ผลผลิตต่อไรข่ องอ้อย มนั สำ� ปะหลงั และปาล์มน้�ำมนั (พันธ์พุ ชื ) การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการเกบ็ เกยี่ ว รวบรวม และขนสง่ พชื พลงั งาน การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในกระบวนการผลติ เอทานอลและไบโอดเี ซล เปน็ ตน้ การนำ� ผลผลติ ทางการเกษตรและสว่ นทเ่ี หลอื ใชจ้ ากการบรโิ ภคภายในประเทศ และการสง่ ออกมาเปน็ วตั ถดุ บิ ในการผลติ พลงั งาน โดยตอ้ งคำ� นงึ ถงึ การสรา้ งสมดลุ ระหวา่ งพชื พลงั งานและอาหาร ทกี่ อ่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การศึกษาเปรยี บเทียบศกั ยภาพของพชื ตา่ ง ๆ ที่เหมาะสมในการเปน็ วตั ถดุ บิ สำ� หรับ เชอื้ เพลงิ ชวี ภาพ การวิจยั และพฒั นาพืชทีม่ ีศักยภาพมีความเหมาะสมส�ำหรบั เชอื้ เพลงิ ชวี ภาพ และการวิจัยและ พัฒนาเชื้อเพลงิ ชวี ภาพรุ่นที่ ๒ และ ๓ รวมท้ังการพฒั นาบคุ ลากรวิจัยและนวตั กรรมคูข่ นานไปกับการวิจยั และ พัฒนานวัตกรรมดา้ นเชือ้ เพลิงชีวภาพ บทท่ี ๕ : ยทุ ธศาสตรก์ ารวิจัยและนวตั กรรม 45 (ร่าง) ยุทธศาสตรก์ ารวิจยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๓) การเพิม่ ประสทิ ธภิ าพการใชพ้ ลังงาน (Energy efficiency) มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมดา้ นการเพิ่มประสทิ ธิภาพการใชพ้ ลงั งาน โดยม่งุ เน้นประเดน็ ที่ส�ำคญั เร่งดว่ น โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการใชพ้ ลงั งานในภาคขนส่ง การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพ การใชพ้ ลงั งานในภาคอตุ สาหกรรมและอาคารทกุ ระดบั การสรา้ งมาตรการเพอ่ื เพมิ่ การเดนิ ทางดว้ ยระบบขนสง่ สาธารณะ ดว้ ยวธิ กี ารสรา้ งแรงจงู ใจและแกไ้ ขปญั หาอปุ สรรค โดยเนน้ ทกี่ รงุ เทพฯ ปรมิ ณฑล และเมอื งใหญ่ การพฒั นา เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพของเทคโนโลยภี ายในประเทศ การนำ� เขา้ เทคโนโลยจี ากตา่ งประเทศเพอ่ื พฒั นาใหเ้ หมาะสมกบั บรบิ ทของประเทศไทย (Technology acquisition) การบรหิ ารจดั การทค่ี รอบคลมุ ไปถงึ ศนู ยท์ ดสอบ มาตรฐาน และมาตรการที่เอ้ือให้ประเทศลดการใช้พลังงานลงได้ และการประเมินผลกระทบท่ีส�ำคัญระดับประเทศหรือ ภาค (ดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม สงิ่ แวดลอ้ ม) ของการใชน้ โยบาย มาตรการ และแผนพลงั งานดา้ นการเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ การใชพ้ ลงั งานเพอ่ื การสรา้ งสรรคแ์ ละปรบั ปรงุ นโยบาย มาตรการ และแผนอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน ๔) การกักเก็บพลังงาน (Energy storage) มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการกักเก็บพลังงานเพ่ือความมั่นคง ในการใชพ้ ลงั งานหมนุ เวยี นและเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการใชพ้ ลงั งานของประเทศ โดยมงุ่ เนน้ ประเดน็ ทส่ี ำ� คญั เรง่ ดว่ น โดยการวางระบบกกั เกบ็ พลงั งานเพอื่ ใชร้ ว่ มกบั โครงขา่ ยไฟฟา้ อจั ฉรยิ ะ (Smart grid/microgrid) และระบบผลติ ไฟฟ้าแบบกระจายตัว (Distributed generation system) การพัฒนาระบบการกักเก็บพลังงานชนิดต่าง ๆ ส�ำหรับอุตสาหกรรมต่อเนื่องและยานยนต์ไฟฟ้า การวิจัยและการพัฒนาวัสดุส�ำหรับระบบการกักเก็บพลังงาน การพัฒนาระบบจดั การแบตเตอรี่ (Battery management system) การจดั การแบตเตอรหี่ ลงั ใชง้ าน ระบบ โครงสรา้ งพน้ื ฐานรองรบั ใชย้ านยนตไ์ ฟฟา้ ซง่ึ รวมถงึ สถานปี ระจไุ ฟฟา้ การใชท้ รพั ยากรภายในประเทศในการผลติ ระบบการกกั เกบ็ พลังงาน และการสนับสนุนการตั้งโรงงานผลิตภายในประเทศตามมาตรฐานสากล รวมท้ังการ พัฒนาบุคลากรด้านวจิ ยั และพัฒนาระบบการกกั เกบ็ พลังงาน 46 บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม (รา่ ง) ยุทธศาสตรก์ ารวิจยั และนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
ยุทธศาสตรท์ ี่ ๒ การวจิ ัยและนวตั กรรมเพอ่ื การพัฒนาสังคมและส่งิ แวดล้อม ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาสังคมและส่ิงแวดล้อม เน้นประเด็นส�ำคัญทางสังคม ของประเทศทต่ี อ้ งใชก้ ารวจิ ยั และนวตั กรรม เปน็ เครอื่ งมอื ในการขบั เคลอ่ื นสงั คมไทย ไดแ้ ก่ การเขา้ สสู่ งั คมสงู วยั แรงงานทักษะสูงและเฉพาะทางซ่ึงมีแนวโน้มขาดแคลน แรงงานทักษะต�่ำซึ่งมีโอกาสตกงาน การแก้ปัญหา ความเหลอื่ มลำ�้ หรอื ความไมเ่ ทา่ เทยี ม การยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ของประชาชนทกุ กลมุ่ ทงั้ ดา้ นสขุ ภาพ การศกึ ษา และการเขา้ ถงึ บรกิ ารและสวสั ดกิ ารของรฐั การเตรยี มความพรอ้ มของสงั คมไทยใหพ้ รอ้ มรองรบั กระแสโลกาภวิ ตั น์ ของวฒั นธรรมโลกทร่ี วดเรว็ ขน้ึ ในยคุ ดจิ ทิ ลั และการพฒั นาระบบบรหิ ารจดั การนำ�้ ทรพั ยากรธรรมชาตอิ นื่ ๆ และ ส่งิ แวดล้อมทมี่ ีประสิทธิภาพ วตั ถุประสงค์ ๑. เตรียมความพร้อมประชากรทกุ ชว่ งวยั ใหพ้ รอ้ มเรยี นร้ตู ลอดชีวติ มอี าชพี ทดี่ ี อยรู่ ว่ มกนั และดำ� รงชวี ติ อย่างมคี ณุ ค่า เพื่อเข้าสูส่ ังคมสงู วยั และสังคมในศตวรรษท่ี ๒๑ ๒. ยกระดับคณุ ภาพชวี ติ ของคนไทยโดยยดึ แนวทางการพฒั นาตามแนวพระราชดำ� ริ และหลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพอ่ื ใหท้ กุ คนเขา้ ถงึ บรกิ ารสขุ ภาพ ดา้ นการศกึ ษา การพฒั นาทักษะ บรกิ ารสาธารณะ และ สวสั ดกิ ารสงั คมอื่น ๆ ที่มีคุณภาพ ไดม้ าตรฐานและทวั่ ถงึ ๓. พัฒนาการบริหารจัดการน้�ำตามแนวทางพระราชด�ำริ (น�้ำจากฟ้า น้�ำผิวดิน และน�้ำบาดาล) ให้มีประสทิ ธภิ าพ ในดา้ นปรมิ าณ คณุ ภาพ เวลาและสถานที่ ใชท้ รพั ยากรอยา่ งมเี หตผุ ล ไมเ่ กดิ มลภาวะตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม จนเกินความสามารถในการรองรับของระบบนิเวศ รวมท้ังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปรับตัวต่อ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ๔. ลดความเหลอื่ มล�้ำทางเศรษฐกิจและสงั คมระหวา่ งประชากรทกุ กลมุ่ เพม่ิ การกระจายความเจรญิ ไปสู่ ท้องถ่ินและชุมชน และพัฒนาเมืองนา่ อยู่ในภมู ิภาค เป้าหมายยทุ ธศาสตร์ ๑. ผสู้ ูงวัยรอ้ ยละ ๑๐๐ ได้รับโอกาสในการพฒั นาศกั ยภาพสว่ นตนในการศกึ ษาและการทำ� งาน ๒. นกั เรยี นร้อยละ ๖๐ มีผลสมั ฤทธิ์ทางการศึกษาทกุ ระดับช้นั ผ่านเกณฑ์คะแนนรอ้ ยละ ๕๐ ๓. เกษตรกรร้อยละ ๙๐ ใชน้ วัตกรรมและเทคโนโลยีในการผลิตผลผลติ และสนิ ค้าทางการเกษตร ๔. ปญั หาโรคเรอ้ื รังของประเทศลดลง ทงั้ โรคตดิ ต่อและโรคไม่ติดต่อ ๔.๑ อตั ราผปู้ ว่ ยรายใหมข่ องวณั โรคลดเหลอื นอ้ ยกวา่ ๑๐ คน ตอ่ ประชากร ๑๐๐,๐๐๐ คน ในปี ๒๕๗๘ ๔.๒ การติดเช้อื เอชไอวีรายใหม่ลดลงร้อยละ ๙๐ ๔.๓ อัตราตายด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคระบบทางเดนิ หายใจ เร้ือรงั ในประชากรอายรุ ะหวา่ ง ๓๐-๗๐ ปี ลดลงเหลอื ๒๕๗ คน ตอ่ ประชากร ๑๐๐,๐๐๐ คน ภายในปี ๒๕๖๘ บทท่ี ๕ : ยุทธศาสตร์การวิจยั และนวตั กรรม 47 (รา่ ง) ยทุ ธศาสตร์การวจิ ยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๕. ประเทศไทยมีการลดการปล่อยก๊าซเรอื นกระจกลงร้อยละ ๒๐ - ๒๕ ภายในปี ๒๕๗๓ และลดมลู คา่ ความเสยี หายจากการเปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ ๖. ประเทศไทยลดค่าเฉลยี่ ปรมิ าณการใช้นำ้� ในภาคการเกษตร ภาคการผลิต ภาคครัวเรอื น ลงรอ้ ยละ ๑๕ และปรมิ าณนำ�้ ทนี่ ำ� ไปใชป้ ระโยชนไ์ ดจ้ ากแหลง่ นำ�้ ตน้ ทนุ ตา่ ง ๆ เพม่ิ ขนึ้ เปน็ รอ้ ยละ ๘๕ รวมทงั้ เพม่ิ พน้ื ทป่ี า่ ไม้ ของประเทศให้มีไม่ต�่ำกว่าร้อยละ ๔๐ ของพื้นที่ประเทศ และรักษาพ้ืนท่ีชุ่มน้�ำธรรมชาติไว้ได้ไม่ต�่ำกว่าร้อยละ ๑๕ ของพนื้ ที่ประเทศ ๗. ประเทศไทยมเี มอื งอจั ฉริยะ ๒๐ เมอื ง ใน ๔ ภมู ภิ าค ภมู ภิ าคละ ๕ เมอื ง ๘. ประเทศไทยสามารถลดความเหลอื่ มลำ้� ในสงั คม โดยมคี า่ สมั ประสทิ ธคิ์ วามไมเ่ สมอภาค (Gini index) ไมเ่ กนิ ๐.๓๖ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๒ ประกอบดว้ ย ๕ ประเดน็ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ๑) สงั คมสูงวยั และสงั คมไทย ในศตวรรษที่ ๒๑ ๒) คนไทยในศตวรรษท่ี ๒๑ ๓) สขุ ภาพและคุณภาพชวี ติ ๔) การบริหาร จดั การนำ�้ การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ และสงิ่ แวดลอ้ ม และ ๕) การกระจายความเจรญิ และเมืองน่าอยู่ โดยมรี ายละเอยี ด ดังนี้ ๒.๑ สังคมสงู วยั และสังคมไทยในศตวรรษท่ี ๒๑ ๒.๑.๑ วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพื่อสร้างองคค์ วามรูแ้ ละนวัตกรรมสำ� หรบั เตรียมความพรอ้ มของประเทศไทยสสู่ งั คมสงู วยั ๒) เพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมส�ำหรับเตรียมความพร้อมของประเทศไทยสู่สังคมไทยใน ศตวรรษที่ ๒๑ ในการเปน็ สังคมที่มคี วามหวัง เปน็ สงั คมทีเ่ ปยี่ มสขุ และเป็นสังคมทีม่ คี วามสมานฉันท์ ๒.๑.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) ส่งเสรมิ ให้ผู้สูงวัยด�ำรงชีวิตอยู่อยา่ งมีคุณค่า มีศกั ด์ิศรี และมีสว่ นรว่ มในสังคม ๒) ส่งเสริมอาชีพของผสู้ งู วัยตามศักยภาพและความตอ้ งการใหผ้ ูส้ ูงวัยมหี ลกั ประกนั รายไดท้ ม่ี น่ั คง ๓) เรง่ รดั ใหบ้ คุ ลากรภาครฐั ปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั การดำ� เนนิ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสงั คมในยคุ ดจิ ทิ ลั ทเ่ี ปดิ กวา้ งและเชอื่ มโยงถงึ กนั โดยยดึ ประชาชนเปน็ ศนู ยก์ ลาง และพฒั นาการปฏบิ ตั งิ านในลกั ษณะ Smart and high performance government ๔) ส่งเสรมิ ให้มกี ารเข้าถึงระบบประกันสขุ ภาพของประชาชนอย่างทัว่ ถงึ ๕) สนับสนุนและเพ่ิมศักยภาพของการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ โดยใช้นวัตกรรมและ เทคโนโลยี เพอ่ื ให้ประชาชนทุกคนอยา่ งน้อยต้องจบการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน ๖) ปรบั ปรงุ กฎ ระเบยี บ และกฎหมายทเี่ กยี่ วขอ้ ง และการสง่ เสรมิ กระบวนการยตุ ธิ รรม เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเปน็ ธรรมและลดความเหลอ่ื มล�้ำในสังคม ๗) สง่ เสริมให้เกดิ ชุมชนแห่งการเรยี นรู้ และขยายผลการเป็นสังคมชมุ ชน ให้มีความเข้มแข็ง ตาม หลักของปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 48 บทที่ ๕ : ยุทธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวัตกรรม (ร่าง) ยทุ ธศาสตร์การวิจัยและนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
บรกิ ารสาธารณะ การลงทนุ การออม และการประกอบอาชีพ เปน็ ต้น การมีความเสมอภาคและความยตุ ธิ รรม เช่น การส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ การส่งเสริมบทบาทของสตรี การพัฒนากฎหมายเพื่อบริหารจัดการ ความเหลอื่ มลำ้� ทางสงั คม การจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มกบั ความยตุ ธิ รรมทางสงั คม การสง่ เสรมิ ให้ประชาชนเขา้ ถึงกระบวนการยุติธรรมได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รวมทง้ั นวตั กรรมทชี่ ่วยใหก้ ารสืบสวนสอบสวน มปี ระสทิ ธภิ าพ มคี วามนา่ เชอื่ ถอื การกำ� หนดโทษทม่ี คี วามเหมาะสมกบั การกระทำ� ผดิ ทง้ั ทางอาญา แพง่ ปกครอง และมาตรการจูงใจ การส่งเสริมกระบวนการยุติธรรมให้มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ มีการบังคับใช้ท่ีเสมอภาคและ เกดิ ความเปน็ ธรรมในสงั คม การมสี ว่ นรว่ มของยตุ ธิ รรมชมุ ชน และเครอื ขา่ ยอน่ื ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง รวมทงั้ ความรทู้ อ้ งถนิ่ กับการลดความเหลื่อมล�้ำ บทบาทของกองทุนหมุนเวียนภาครัฐที่เกี่ยวกับความเป็นธรรมทางสังคม สวัสดิการ และเงินช่วยเหลือเด็กยากจน ผู้สูงอายุ คนพิการ การแสวงหาทางเลือกทางนโยบายเพ่ือยกระดับสถานะและ คณุ ภาพชวี ติ ยกระดบั สทิ ธแิ ละโอกาส รวมทงั้ การลดกระบวนการทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ เปน็ คนชายขอบ การสรา้ งนวตั กรรม และเทคโนโลยสี มัยใหมเ่ พ่ือขบั เคลื่อนชมุ ชนด้อยโอกาส การเข้าถึงประสิทธผิ ลและประสทิ ธิภาพของฐานขอ้ มลู ระดับชาติ เพื่อการวางแผนลดความเหลื่อมล�้ำในระยะยาว การจัดท�ำฐานข้อมูลรายบุคคลทุกช่วงวัย ท้ังด้านสาธารณสุข สังคม ภูมิสารสนเทศ แรงงาน และการศึกษา การจัดท�ำฐานข้อมูลทรัพย์สินครัวเรือน การสรา้ งนวตั กรรมเพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ และสรา้ งความเสมอภาคของชมุ ชนสงั คมในบรบิ ทดา้ นเทคโนโลยแี ละ ดิจิทัล การลดความเหลื่อมล้�ำระดับครัวเรือนและความเหลื่อมล้�ำข้ามรุ่น การเข้าถึงความรู้และเทคโนโลยีของ ประชากรระดบั ฐานราก ๒.๒ คนไทยในศตวรรษท่ี ๒๑ ๒.๒.๑ วัตถปุ ระสงค์ ๑) ปรับเปลี่ยนให้คนไทยเป็นคนท่สี มบูรณ์ มีความรู้ ความสามารถและทักษะสงู มคี วามสามารถ ในการรังสรรค์นวัตกรรม มีคณุ ธรรม จริยธรรม มวี นิ ยั ค่านยิ มทีด่ ี มจี ิตสาธารณะ และมคี วามสขุ โดยมสี ุขภาวะ และสขุ ภาพที่ดี ครอบครัวอบอนุ่ ตลอดจนพฒั นาตนเองได้ต่อเนอื่ งตลอดชีวิต ๒) เพื่อเติมเต็มศักยภาพของคนไทยให้สามารถเปน็ ตวั หลกั ในการขบั เคลอ่ื นการเจรญิ เตบิ โตและ นำ� พาประเทศไปสคู่ วามมัน่ คง มง่ั ค่งั และยัง่ ยืน ๒.๒.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) ขยายความรว่ มมอื ระหวา่ งสถานศกึ ษากบั ภาคการผลติ /อตุ สาหกรรม ในการจดั การเรยี นการสอน เพื่อสร้างให้ผู้ส�ำเร็จการศึกษามีสมรรถนะท่ีตรงกับความต้องการของตลาดงาน ๒) พัฒนาปรับปรุงกระบวนการจดสิทธิบัตรหรือทรัพย์สินทางปัญญาให้มีประสิทธิภาพและ ความรวดเรว็ มากข้ึน ๓) ขยายการพัฒนาโรงเรยี นคณุ ภาพดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยี และสะเตม็ ศกึ ษา ให้ครอบคลมุ ทุกโรงเรยี นในอำ� เภอท่วั ประเทศ ๔) รณรงค์สรา้ งจติ อาสาในสังคมไทยทกุ ระดับอย่างตอ่ เน่ือง โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในกลมุ่ เยาวชน ๕) เรง่ รดั การสรา้ งสมรรถนะของคนไทยในทกุ ระดบั ด้านภาษาองั กฤษและภาษาสากลอนื่ รวมทงั้ สมรรถนะด้านการใช้คอมพิวเตอรแ์ ละอินเทอร์เน็ต โดยความรว่ มมอื ของทุกภาคสว่ น พร้อมกับมาตรการจูงใจ บทที่ ๕ : ยุทธศาสตร์การวิจยั และนวตั กรรม 51 (รา่ ง) ยทุ ธศาสตร์การวจิ ัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
เช่น การลดหย่อนภาษีส�ำหรับคา่ ใชจ้ ่ายในการพฒั นาสมรรถนะภาษาองั กฤษและภาษาสากลอื่น ๖) เร่งรัดสนบั สนนุ ใหค้ นไทยมผี ลงานระดบั นานาชาตแิ ละประเทศ มจี ำ� นวนศนู ยค์ วามรว่ มมอื กบั ต่างประเทศ/นานาชาติ ด้านต่าง ๆ ๗) เรง่ รดั การใชป้ ระโยชนจ์ ากการวจิ ยั และนวตั กรรมเพอื่ การพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา ในดา้ นนโยบาย หลกั สูตร กระบวนการเรียนการสอน การประเมิน การบริหารจัดการ ๒.๒.๓ แผนงานวิจยั และนวัตกรรมสำ� คญั ๑) คนไทย ๔.๐ มุ่งเนน้ การวจิ ยั และนวตั กรรมเพอื่ สนบั สนนุ ใหค้ นทกุ ชว่ งวยั ใหม้ ที กั ษะชวี ติ ความรคู้ วามสามารถ และคุณภาพชีวิตที่เหมาะสม เต็มศักยภาพในแต่ละช่วงวัย การสร้างเสริมและปรับเปล่ียนค่านิยมของคนไทย ใหม้ พี ฤติกรรมทีพ่ งึ ประสงค์ เช่น มีวนิ ัย จติ สาธารณะ รับผิดชอบตอ่ สังคม พทิ ักษ์ผลประโยชน์สาธารณะ รวมท้ัง การใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการด�ำเนินชีวิต มีความมุ่งมั่นสู่การสร้างความส�ำเร็จ ในชวี ติ มีการใช้ประโยชนแ์ ละร้เู ท่าทันเทคโนโลยี และส่ือสงั คม (Social media) ทีส่ อดรับกับการเขา้ สูย่ คุ ดิจิทลั เป็นต้น การสร้างนวัตกรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่สามารถยืนอย่างมีศักด์ิศรีบนเวทีสากล การสร้าง การรบั รู้ ความเขา้ ใจ เกย่ี วกบั การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ การสรา้ ง ระบบและกลไกการตรวจสอบการใชอ้ ำ� นาจอธปิ ไตย การสง่ เสรมิ และสรา้ งกลไกการรบั รกู้ ฎหมายของประชาชน เพ่ือใหเ้ กดิ สังคมท่ีเคารพกติกา (Culture of lawfulness) ๒) เดก็ และเยาวชน ๔.๐ มงุ่ เนน้ การวจิ ยั และนวตั กรรมเพอ่ื พฒั นาเดก็ ทกุ วยั ใหไ้ ดร้ บั การเลยี้ งดทู ไ่ี ดม้ าตรฐาน มคี วามผกู พนั ทด่ี กี บั ผปู้ กครอง มพี ฒั นาการดที กุ ดา้ น มวี นิ ยั ทกั ษะชวี ติ สามารถรบั รแู้ ละควบคมุ อารมณ์ มวี ฒุ ภิ าวะและสามารถ ปรับตัวในโลกและสังคมท่ีเปล่ียนแปลง การสร้างฐานข้อมูล การค้นหาปัจจัยเสี่ยง การคิดค้นวิธีการช่วยเหลือ แกไ้ ขและฟน้ื ฟเู ดก็ ทมี่ ปี ญั หาทางอารมณแ์ ละพฤตกิ รรม รวมทง้ั เพอื่ พฒั นาเยาวชนใหม้ ที กั ษะดา้ นการคดิ อยา่ งมี วจิ ารณญาณ ดา้ นการแกป้ ญั หา ดา้ นการมคี วามคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ การสรา้ งนวตั กรรมลดการลอกเลยี นแบบ ดา้ นความเขา้ ใจตา่ งวฒั นธรรมตา่ งกระบวนทศั น์ ดา้ นความรว่ มมอื ดา้ นการทำ� งานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ ำ� ดา้ นการสอื่ สาร และรู้เท่าทันสื่อ ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ การมคี วามเมตตากรุณา วนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจติ สำ� นึกความรกั ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ การสรา้ งหรอื สง่ เสรมิ ความรแู้ ละทกั ษะความเปน็ พลเมอื งทดี่ แี ละคา่ นยิ มการปฏบิ ตั ติ ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง การพัฒนานวัตกรรม และการบูรณาการความรู้หลากหลายศาสตร์เข้าด้วยกัน การจัดท�ำมาตรการ ท่เี กี่ยวข้องเพื่อปรับใชก้ ระบวนการเรยี นรใู้ นบรบิ ทตา่ ง ๆ ทง้ั ในสถาบนั การศกึ ษา สถาบนั ครอบครัว ชมุ ชน และ แหลง่ การเรยี นรนู้ อกหอ้ งเรยี นอน่ื ๆ และในกระบวนการยตุ ธิ รรม รวมถงึ การขยายผลในกลมุ่ ผดู้ อ้ ยโอกาสในสงั คม การศึกษาด้านสมอง จิตใจและพฤติกรรมเพ่ือสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่ ๆ เกี่ยวกับโครงสร้างกลไก การท�ำงานของระบบประสาทและสมองท่ีมีอิทธิพลต่อพัฒนาการ ตลอดจนการท�ำงานของสมอง จิตใจและ พฤติกรรมทุกช่วงวัย การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อพัฒนาคนด้านจิตพฤติกรรมให้มีคุณธรรมและจริยธรรม ทกุ ชว่ งวยั 52 บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ัยและนวตั กรรม (รา่ ง) ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ัยและนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๓) เกษตรกร ๔.๐ มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรม เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร โดยใชก้ ระบวนการมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชนและการบรหิ ารจดั การเพอื่ เพมิ่ ความสามารถในการแขง่ ขนั ดว้ ยเทคโนโลยี และนวตั กรรมและความเขม้ แขง็ ของภาคเกษตร การพฒั นาเกษตรกรใหเ้ ปน็ เกษตรกรอจั ฉรยิ ะ การพฒั นาระบบ อุปกรณ์และเครอื่ งมอื เครอ่ื งจกั รเพอ่ื การเกษตร การพัฒนาซอฟท์แวรเ์ พอ่ื ใช้ในการบริหารจัดการการผลติ และ การตลาด การพฒั นาระบบข้อมูลเพือ่ คาดการณก์ ารเปลี่ยนแปลงทศิ ทางของตลาดท่ีทนั เหตกุ ารณ์ และการเปน็ ผู้ประกอบการวิสาหกิจการเกษตร การบริหารจัดการแรงงานภาคเกษตรและเทคโนโลยีเพื่อทดแทนแรงงาน อย่างเป็นระบบรองรับสังคมเกษตรสูงอายุ การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพมาตรฐานสินค้าสู่ มาตรฐานระดับสากลและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและมูลค่าสูง สารสนเทศเพื่อการเกษตรด้วย เทคโนโลยที เี่ หมาะสม ๔) แรงงาน ๔.๐ ม่งุ เนน้ การวจิ ัยและนวตั กรรมเพือ่ พฒั นาทกั ษะและศักยภาพของแรงงานและผปู้ ระกอบการให้ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดเพ่ือเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก การสร้าง ความรว่ มมอื และพฒั นาเครอื ขา่ ยพนั ธมติ รภาครฐั สถาบนั การศกึ ษา ภาคเอกชน และองคก์ รตา่ งประเทศในการพฒั นา แรงงานของอตุ สาหกรรมเปา้ หมาย การสรา้ งมาตรฐานทดสอบและสรา้ งระบบมาตรฐานฝมี อื แรงงานใหค้ รอบคลมุ สาขาอาชพี และกลมุ่ อตุ สาหกรรมสำ� คญั การสง่ เสรมิ และพฒั นาสถานประกอบการใหม้ คี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ดา้ นแรงงาน การสร้างแรงจงู ใจดว้ ยการเพิม่ สิทธิประโยชน์ใหก้ ับสถานประกอบกจิ การที่มีการพัฒนาทกั ษะฝีมือ แรงงานใหก้ บั ลกู จา้ งตามกฎหมาย การพฒั นาแรงงานใหม้ คี วามพรอ้ มในการใชเ้ ทคโนโลยชี น้ั สงู เพอื่ การผลติ และ บริการ รวมท้ังการส่งเสริมการเพ่ิมผลติ ภาพแรงงาน ๕) การศึกษาไทย ๔.๐ ดา้ นนโยบาย มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเพ่ือหารูปแบบของสถานศึกษาทีม่ ีธรรมาภบิ าล (Good governance) สถาบันการศึกษาท่ีจะผลติ คนตามความตอ้ งการในการพฒั นาประเทศ สถาบนั การศกึ ษา และหน่วยงานทีจ่ ดั การศกึ ษาผลิตบณั ฑิตท่มี ีความเชยี่ วชาญและเปน็ เลิศเฉพาะด้าน การศกึ ษาวจิ ยั ด้านการเงิน และงบประมาณทางการศึกษาของประเทศเพ่ือการบริหารจัดการให้เกิดความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ การศกึ ษาวจิ ยั ประสทิ ธผิ ลและผลกระทบของนโยบายทางการศกึ ษาในชว่ งทศวรรษทผี่ า่ นมา ระบบทจ่ี ะสรา้ งแรง จูงใจให้เยาวชนเข้าศกึ ษาระดับอาชีวศกึ ษามากขึน้ การวิจัยและพัฒนาโครงสรา้ ง บทบาทของระบบการบริหาร จัดการการศึกษา และระบบวจิ ยั ของมหาวทิ ยาลยั ที่มคี วามคลอ่ งตัว ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้ แนวทาง การกระจายอำ� นาจทางการศกึ ษาโดยยดึ สถานศกึ ษาเปน็ เปา้ หมายสำ� คญั การศกึ ษาวจิ ยั ปญั หาและอปุ สรรคของ การปฏิรูปการศึกษาของประเทศทุกระดับ การศึกษาวิจัยพฤติกรรมกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาและความย่ังยืน ของกองทนุ กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ด้านหลักสูตร กระบวนการเรยี นการสอน มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อหาแนวปฏบิ ตั ิ และมาตรการจงู ใจในการสรา้ งความรว่ มมอื ของทกุ ภาคสว่ นเพอื่ สรา้ งความเสมอภาคดา้ นการศกึ ษา สำ� หรบั เดก็ และเยาวชน โดยเฉพาะเยาวชนในถน่ิ ทุรกนั ดาร เยาวชนท่มี ีความต้องการพเิ ศษ และเยาวชนชายขอบ การวิจัย บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตร์การวิจัยและนวตั กรรม 53 (ร่าง) ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
พัฒนาเครอื ข่ายแหลง่ เรียนรชู้ มุ ชนทต่ี อบสนองความต้องการเดก็ เยาวชน และพอ่ แม่ที่มาจากหลากหลายกลุ่ม การศึกษาเปรียบเทียบกับต่างประเทศในด้านหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอน ค่านิยมพฤติกรรมของ นักเรียนเพ่ือปรับปรุงการเรียนการสอนในอาชีวศึกษา การสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ท่ีมีความหลากหลายตอบ สนองต่อสังคม ประชาคมอาเซยี น และประเทศไทย ๔.๐ การพฒั นาหลักสูตรและกระบวนการเรยี นการสอนให้ ตอบสนองการปฏิรูปและการพัฒนาประเทศตามช่วงวัยกลุ่มผู้เรียน ได้แก่ กลุ่มปฐมวัย กลุ่มประถมศึกษา กลุ่มมธั ยมศึกษา/อาชวี ศึกษา และกลุ่มเยาวชนอาชีวศกึ ษา/อุดมศกึ ษา ด้านการบริหารจดั การ มุ่งเน้นการวจิ ัยและนวัตกรรมเพ่ือพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการ ท้องถ่ินและสังคมเมืองให้มีการเข้าถึงทางการศึกษา การยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาเชิงพ้ืนที่ (ภมู ภิ าค เขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกจิ จงั หวดั ชายแดนภาคใตแ้ ละพน้ื ทพ่ี เิ ศษ) การประเมนิ ผลการศกึ ษา การหาวธิ ี การรูปแบบใหม่เพ่ือการประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนในระดับมัธยมเพ่ือการเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษา การศึกษาผลกระทบการสอบวัดความรู้ระดับชาติ การประเมินผลการเรียนรู้ระดับต่าง ๆ กับการจัดการเรียน การสอน ดา้ นคณุ ภาพครู มุง่ เนน้ การวิจยั และนวัตกรรมเพือ่ พัฒนาคุณภาพและเส้นทางความกา้ วหนา้ ในอาชีพ ระบบการผลิตครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษาลกั ษณะเชงิ พนื้ ท่ี ผลกระทบจากกระบวนการ เล่อื นวทิ ยฐานะ การเขยี นผลงานทางวชิ าการและการวจิ ยั การสร้างนวตั กรรมเพ่อื การสง่ เสรมิ และพฒั นาชุมชน การเรยี นร้ทู างวิชาชพี (Professional Learning Community: PLC) ด้านพัฒนาหรือสรา้ งระบบ/เครื่องมือ มงุ่ เนน้ การวจิ ัยและนวตั กรรมเพอื่ พฒั นาแหลง่ เรยี นรู้ และสอื่ การเรยี นรู้ ใหม้ คี วามเหมาะสม ไดม้ าตรฐานทกุ ชว่ งวยั และสามารถเขา้ ถงึ ไดโ้ ดยไมจ่ ำ� กดั เวลาและสถานท่ี การวิจัยท่ีพัฒนาคลังข้อมูล สื่อ และนวัตกรรมการเรียนรู้ ท่ีมีคุณภาพและมาตรฐาน การสร้างนวัตกรรมเพ่ือ การท�ำงานขา้ มวฒั นธรรมภายใต้บริบทสังคมแหง่ ปญั ญาและภมู ิธรรม การปรบั ปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบยี บ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เพอ่ื เปดิ โอกาสใหช้ าวตา่ งชาตทิ มี่ คี วามรู้ ความสามารถ มปี ระสบการณใ์ นสาขาวชิ าชพี ตา่ ง ๆ ทจ่ี ำ� เปน็ และตรงตามความตอ้ งการของประเทศ เข้ามาชว่ ยจัดการเรยี นการสอนในสถานศกึ ษา สถาบันอาชวี ศึกษาและ อุดมศึกษาได้ ด้านพฒั นาหรอื สร้างศักยภาพคน มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเพ่ือพัฒนาคนทกุ ช่วงวยั ให้มีทักษะ ความรู้ความสามารถ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเหมาะสม เต็มศักยภาพในแต่ละช่วงวัย การสรา้ งเสรมิ และปรบั เปลยี่ นคา่ นยิ มของคนไทยใหม้ วี นิ ยั จติ สาธารณะ พฤตกิ รรมทพ่ี งึ ประสงค์ และมคี วามมงุ่ มน่ั สกู่ ารสรา้ งความสำ� เรจ็ ในชวี ติ รวมทงั้ มกี ารครองตนตามหลกั ศาสนา วฒั นธรรม และการมสี นุ ทรยี ภาพในศลิ ปะตา่ ง ๆ การสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลและพัฒนาเด็กเล็ก การพัฒนาก�ำลังคนสู่ตลาดแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพและอย่างยั่งยืน การพัฒนาแรงงานให้เป็นผู้มีทักษะสูง และการพฒั นาการศกึ ษาและทกั ษะชวี ติ ของคนทกุ กลมุ่ เชน่ กลมุ่ ผเู้ รยี นในระบบ กลมุ่ ผดู้ อ้ ยโอกาส กลมุ่ ผทู้ อี่ อก กลางคนั และออกจากระบบการศกึ ษาภาคบังคับ กลุ่มผสู้ ูงวัย และกล่มุ ผ้อู ยใู่ นกระบวนการยุติธรรม เปน็ ตน้ 54 บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ัยและนวตั กรรม (ร่าง) ยุทธศาสตรก์ ารวิจยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๒.๓ สขุ ภาพและคณุ ภาพชีวิต ๒.๓.๑ วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่ือให้การวิจัยและนวัตกรรมพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขของประเทศให้มีความพร้อม มศี กั ยภาพและขดี ความสามารถทรี่ องรบั การรกั ษาและจดั การความเจบ็ ปว่ ยตา่ ง ๆ รวมทงั้ ประชาชนทกุ คนสามารถ เข้าถึงระบบบรกิ ารสขุ ภาพอยา่ งเทา่ เทียมกัน ๒) เพือ่ ให้การวิจัยและนวตั กรรมสง่ เสริมศักยภาพในการป้องกันโรคและเสริมสรา้ งสุขภาพ ๓) เพื่อให้การวิจัยและนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการดูแลรักษา รวมทั้ง คณุ ภาพชวี ิตของผปู้ ว่ ย ๔) เพ่ือให้การวิจัยและนวัตกรรมยกระดับระบบสวัสดิการสังคมให้มีคุณภาพ ครอบคลุม ท่ัวถึง และเท่าเทียม ๒.๓.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) เร่งรัดวิจัยระบบบริการสุขภาพ รวมท้ังพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านบริการสุขภาพ เพ่อื รบั มอื กับสถานการณ์ทเ่ี ปลยี่ นแปลง ๒) เร่งรัดวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมในการดูแลสุขภาพ การปรับเปล่ียนพฤตกิ รรม ทางสขุ ภาพ และการลดปจั จัยเสีย่ งดา้ นสภาพแวดล้อมทส่ี ง่ ผลต่อสุขภาพ ๓) สนบั สนนุ และยกระดบั งานวจิ ยั และการคดิ คน้ นวตั กรรมทส่ี ง่ เสรมิ การกนิ ดอี ยแู่ ละการใชผ้ ลติ ภณั ฑ์ ทผี่ ลิตจากคนไทย ๔) สรา้ งความรว่ มมอื กบั ภาคเี ครอื ขา่ ยในการวจิ ยั เพอื่ เพมิ่ ขดี ความสามารถของระบบบรกิ ารสขุ ภาพ และระบบสวัสดกิ ารสงั คมพ้นื ฐาน ๒.๓.๓ แผนงานวิจยั และนวตั กรรมส�ำคัญ ๑) ระบบบรกิ ารสขุ ภาพ มงุ่ เนน้ การวจิ ยั และนวตั กรรมเพอื่ พฒั นาและยกระดบั ระบบบริการสขุ ภาพใหร้ วดเรว็ ไรร้ อยตอ่ มคี วามหลากหลาย ครอบคลมุ ทว่ั ถงึ และมปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ เชน่ การสรา้ งเสรมิ ระบบบรกิ ารสขุ ภาพปฐมภมู ิ ท่ีเอื้อต่อการเข้าถึงบริการสุขภาพที่จ�ำเป็น การสร้างความตระหนักและความรอบรู้ในสุขภาพของประชาชน ทุกกล่มุ วยั การลดปจั จัยพฤตกิ รรมเสี่ยง การบูรณาการการทำ� งานของภาคส่วนตา่ ง ๆ ในระบบสุขภาพเพือ่ ให้ เชอ่ื มโยงกนั และเกดิ เอกภาพ การพัฒนาระบบบรหิ ารจดั การกำ� ลงั คนด้านสขุ ภาพ การพัฒนาบุคลากรในระบบ บรกิ ารสขุ ภาพใหม้ บี ทบาทวจิ ยั และพฒั นาระบบบรกิ ารสขุ ภาพ การสง่ เสรมิ และพฒั นาเทคโนโลยแี ละนวตั กรรม ทางดา้ นการแพทย์ สขุ ภาพ ผสู้ งู อายแุ ละคนพกิ ารทม่ี งุ่ ไปสกู่ ารพงึ่ พาตนเองไดเ้ ปน็ หลกั การจดั ระบบหรอื การจดั บรกิ ารท่ีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้แก่หน่วยบริการต่าง ๆ การพัฒนาระบบบริการสุขภาพครอบคลุม การเตรียมความพร้อมของระบบบริการเพื่อรองรบั ความเป็นศูนยก์ ลางสขุ ภาพนานาชาติ (Medical hub) การ พฒั นาระบบและรปู แบบบรกิ ารสำ� หรบั ผปู้ ว่ ยเรอ้ื รงั (Chronic care) การใชป้ ระโยชนจ์ ากระบบขอ้ มลู สารสนเทศ และเทคโนโลยีสุขภาพ เพื่อพัฒนาคณุ ภาพและประสทิ ธิภาพของระบบบริการสขุ ภาพ การพฒั นาระบบจัดการ คณุ ภาพและความปลอดภัยของผปู้ ว่ ยในสถานพยาบาล การวจิ ัยเพ่ือพฒั นาการดูแลสขุ ภาพท่บี ้าน บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตร์การวจิ ยั และนวัตกรรม 55 (รา่ ง) ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๒) การป้องกนั และเสริมสรา้ งสุขภาพ มงุ่ เนน้ การวจิ ยั และนวตั กรรมเกยี่ วกบั การปอ้ งกนั และเสรมิ สรา้ งสขุ ภาพ รวมถงึ การลดปจั จยั เสย่ี ง ต่อโรคและภัยสุขภาพ โดยเป็นการพัฒนาและส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องผ่านงานวิจัยสหสาขา รวมถึงชีววิทยาศาสตร์ การแพทย์ วิศวกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ ภูมิปัญญาเดิมของไทย การแพทยแ์ ผนไทย (การแพทยพ์ น้ื บา้ น) การแพทยท์ างเลอื กและสรา้ งงานวจิ ยั ใหเ้ กดิ บรกิ ารทางการแพทยท์ างเลอื ก ทไี่ ดม้ าตรฐาน การสรา้ งความรอบรู้ ความเทา่ ทนั ดา้ นสขุ ภาพและการเปน็ แพทยข์ องตนเองของประชาชน รวมทง้ั ทกั ษะและแรงจงู ใจในการลดพฤตกิ รรมเสย่ี งและสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพอยา่ งเปน็ องคร์ วม การสรา้ งสขุ ภาวะในประชากร ทกุ ชว่ งอายเุ พอ่ื ลดการพงึ่ พงิ รฐั และลดภาระทางสงั คม เชน่ การลดปจั จยั เสย่ี งดา้ นสขุ ภาพและใหป้ ระชาชนรวมทงั้ ทกุ ภาคสว่ นคำ� นงึ ถงึ ผลกระทบจากปจั จยั เสยี่ งและสภาวะแวดลอ้ มทางสงั คมทม่ี ผี ลตอ่ สขุ ภาพทง้ั สขุ ภาพกาย สขุ ภาพ จิต การส่งเสริมการเรียนรู้วิธีการบริโภคอย่างถูกหลักโภชนาการ และสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ ผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพ เปน็ ตน้ การวางแผน ตดิ ตาม และประเมนิ ผลอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพเกย่ี วกบั โรคอบุ ตั ใิ หม/่ โรคอบุ ตั ซิ ำ�้ / โรคติดต่อไม่เร้ือรัง การสร้างสภาพแวดล้อมและการจัดการทางสังคมท่ีเอื้อให้ประชาชนมีสุขภาพท่ีดีและ มคี วามปลอดภยั และเปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม (การจดั การผงั เมอื ง การจดั การพนื้ ทอ่ี ตุ สาหกรรม การพฒั นาโครงสรา้ ง พน้ื ฐาน กจิ กรรมทางสงั คมและระบบบรกิ ารสาธารณะทส่ี ง่ เสรมิ สขุ ภาวะ) การสง่ เสรมิ การผลติ และบรโิ ภคอาหาร เครอื่ งดมื่ และผลติ ภณั ฑท์ ส่ี ง่ ผลดตี อ่ สขุ ภาพ และการใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพการหาแนวทางในการลด ตน้ ทนุ เสรมิ สรา้ งปญั ญา (Wisdom) และสรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ทางสตปิ ญั ญา รวมทง้ั การปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตจุ ากการจราจร ๓) ระบบการดูแลและรกั ษาโรค มุ่งเนน้ การวิจัยและนวตั กรรมเพ่ือเพ่ิมประสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ลของการดแู ลรกั ษา รวมทงั้ คุณภาพชีวิตของผู้ป่วย การพัฒนาระบบการดูแลรักษาโรค การแพทย์แบบแม่นย�ำ และการวินิจฉัยและรักษา ในระดบั โมเลกลุ ครอบคลมุ กลมุ่ โรคไมต่ ดิ เชอ้ื โรคตดิ เชอื้ ทง้ั ทเี่ ปน็ โรคเรอื้ รงั โรคระบาด โรคอบุ ตั ใิ หมแ่ ละโรคอบุ ตั ซิ ำ�้ รวมท้งั โรคทางจติ เวช เพ่ือเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการวนิ ิจฉัย การป้องกัน และการรกั ษาโรคและภาวะแทรกซ้อนท่ี อาจเกิดจากการรักษาในระบบการดูแลรักษาท้ังระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ รวมท้ังการศึกษาติดตาม ระยะยาว (Long-term cohort study) การวจิ ยั และพัฒนาเทคโนโลยแี ละนวตั กรรมทางการแพทย์เพ่ือรองรับ ผู้สูงอายุและคนพิการ และเพ่ือการวินิจฉัยและรักษาโรคท่ีส�ำคัญ การวิจัยเพื่อน�ำข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) ทางด้านสุขภาพและการแพทยส์ าธารณสุขมาใช้ ๔) ระบบสวัสดิการสังคม มงุ่ เนน้ การวจิ ยั และนวตั กรรมเพอื่ พฒั นาและยกระดบั ระบบสวสั ดกิ ารสงั คมพนื้ ฐาน ทปี่ ระชาชน พึงได้รับให้ครอบคลุม ทั่วถึง เท่าเทียมและมีคุณภาพ ใน ๔ เสาหลักของระบบสวัสดิการสังคม ได้แก่ ระบบ การใหบ้ รกิ ารสงั คม เชน่ ปรบั ระบบประกนั สขุ ภาพ กองทนุ กยู้ มื เพอื่ การศกึ ษา เปน็ ตน้ ระบบประกนั สงั คม เชน่ ระบบประกันสังคมของแรงงานนอกระบบ กองทุนการออมแห่งชาติ เป็นต้น ระบบช่วยเหลือทางสังคม อาทิ ระบบดูแลผดู้ อ้ ยโอกาส ไดแ้ ก่ คนพกิ าร คนปว่ ยเรอื้ รงั /โครงขา่ ยความคมุ้ ครองทางสงั คม และระบบการสง่ เสรมิ สนับสนุนหุ้นส่วนทางสังคม อาทิ วิสาหกิจเพ่ือสังคม รวมทั้งการวางแผนจัดการภาษีและแผนการจัดการ งบประมาณแผน่ ดินของประเทศใหเ้ กดิ ความสมดลุ สอดคลอ้ งกนั 56 บทท่ี ๕ : ยทุ ธศาสตร์การวิจัยและนวตั กรรม (ร่าง) ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๒.๔ การบรหิ ารจัดการน�ำ้ การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ และส่ิงแวดลอ้ ม ๒.๔.๑ วัตถุประสงค์ ๑) เพ่ือสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมให้ประเทศไทยมีทรัพยากรน�้ำ (นำ้� จากฟ้า นำ้� ผิวดิน และ นำ้� บาดาล) ทงั้ ในเชงิ ปรมิ าณและคณุ ภาพทส่ี ามารถรองรบั การเตบิ โตในอนาคต ดว้ ยการบรหิ ารจดั การทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ และยง่ั ยืน ๒) เพ่ือสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมในการพัฒนาขีดความสามารถในการลดกา๊ ซเรอื นกระจก สง่ เสรมิ การพฒั นาทป่ี ล่อยคารบ์ อนต�ำ่ และสง่ เสริมการปรับตัวเพ่อื รองรบั การเปล่ยี นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ ๓) เพื่อสรา้ งองคค์ วามรแู้ ละนวตั กรรมดา้ นการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม โดยควบคุมมลภาวะให้ไม่เกินความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศได้เพ่ือให้ประเทศไทย สามารถเตบิ โตได้อยา่ งยง่ั ยนื ๒.๔.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) สนบั สนนุ ใหม้ แี ผนปฏบิ ตั กิ ารระดบั ประเทศในการด�ำเนินงานดา้ นการศกึ ษาวจิ ยั และนวตั กรรม ดา้ นการบริหารจัดการนำ�้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมอิ ากาศ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม รวมทงั้ การทำ� ผงั เมืองและการใชป้ ระโยชน์ท่ดี ินในภาพรวมของประเทศ ๒) สร้างระบบเครือข่ายของภาคประชาชน ภาคการพัฒนาการวิจัยและนวัตกรรม และการน�ำ ผลการวจิ ยั และนวตั กรรมไปใชป้ ระโยชนท์ ง้ั ในเชงิ นโยบายและการปฏบิ ตั ิ เพอื่ แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ รบั ทราบ ปัญหา และหาวธิ กี ารแกไ้ ขด้วยการวิจยั และนวตั กรรมท่เี หมาะสม ๓) พัฒนาฐานข้อมูลสนับสนุนการด�ำเนินงานด้านการบริหารจัดการน�้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมอิ ากาศ และสง่ิ แวดล้อมใหไ้ ด้มาตรฐานสากลด้วยผลการวิจยั และนวัตกรรมอย่างตอ่ เน่ือง และสร้างชอ่ งทาง การเข้าถึงข้อมลู ทเ่ี ข้าถึงง่ายด้วยการบรหิ ารแบบเบ็ดเสรจ็ ๔) ส่งเสริมให้มีการเช่ือมโยงความร่วมมือระหว่างประเทศเพ่ือรองรับการวิจัยและนวัตกรรม ด้านการบริหารจัดการน�้ำ การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิด การถ่ายทอดและพัฒนาองค์ความรู้ ๕) เสริมสรา้ งความแขง็ แกรง่ ใหแ้ กก่ ารวจิ ยั และนวตั กรรมทเ่ี ออ้ื ตอ่ การผลติ และการบรโิ ภค เพอื่ ลด ผลกระทบตอ่ ทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มอย่างย่ังยืน ๖) สง่ เสริมการวจิ ยั และนวัตกรรมเพอ่ื เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ�้ (นำ�้ จากฟา้ น�ำ้ ผิวดิน และนำ้� บาดาล) ในระดบั ลุ่มนำ�้ สำ� คญั ของประเทศ รวมถึงการปกป้อง เยียวยาและฟืน้ ฟูระบบนเิ วศ ๗) สง่ เสรมิ การวจิ ยั และนวตั กรรมเพอ่ื เพม่ิ ขดี ความสามารถในการลดกา๊ ซเรอื นกระจกและการปรบั ตวั เพ่อื รองรับการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศ ๘) ส่งเสรมิ การวจิ ยั และนวัตกรรมเพือ่ การสร้างคุณภาพสง่ิ แวดลอ้ มทดี่ ี ลดปรมิ าณขยะมลพษิ ทจี่ ะ ส่งผลกระทบตอ่ คณุ ภาพชวี ิตของประชาชนและระบบนิเวศ ๙) ส่งเสรมิ การวจิ ยั และนวตั กรรมเพ่อื น�ำของเสียและของเหลอื ท้ิงมาใชป้ ระโยชน์ บทท่ี ๕ : ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม 57 (รา่ ง) ยทุ ธศาสตร์การวจิ ยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๒.๔.๓ แผนงานวิจยั และนวตั กรรมส�ำคญั ๑) การบริหารจดั การน�้ำแบบบูรณาการ มงุ่ เนน้ การวิจยั และนวตั กรรมเพ่ือพัฒนาการประเมินและคาดการณท์ างอทุ กวิทยาในเชงิ พนื้ ท่ี การบรหิ ารจดั การนำ้� แบบบรู ณาการในพน้ื ทเี่ มอื งใหญ/่ เมอื งทอ่ งเทย่ี ว/เมอื งอตุ สาหกรรม/พนื้ ทลี่ มุ่ นำ้� ของประเทศ การบรหิ ารจดั การนำ้� นอกเขตชลประทาน การบรหิ ารจดั การอทุ กภยั อยา่ งบรู ณาการ การพฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐาน ท่ีจ�ำเปน็ ในการกกั เกบ็ /การระบายน้ำ� ทเี่ หมาะสมตามภูมิสังคม การปอ้ งกันและควบคมุ มลพิษทางน้ำ� และการใช้ แบบจำ� ลองคณติ ศาสตรใ์ นการศกึ ษาและหาแนวทางในการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� (นำ�้ จากฟา้ นำ้� ผวิ ดนิ และ นำ�้ บาดาล) ในระดบั ลมุ่ นำ้� เพอ่ื ตอบโจทยก์ ารพฒั นาทอ้ งถน่ิ ภมู ภิ าค และประเทศในมติ เิ ชงิ ปรมิ าณ คณุ ภาพ และ สถานท่ี ๒) ระบบน�ำ้ ชุมชนและเกษตร มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเพือ่ พัฒนาระบบนิเวศวทิ ยาของแหล่งต้นน�้ำ การศึกษาปริมาณ และแหลง่ นำ�้ ตน้ ทนุ ระบบการเกบ็ นำ้� และระบบการใชน้ ำ�้ ทเี่ หมาะสมกบั การเกษตรของชมุ ชน การวจิ ยั เพอ่ื พฒั นา พน้ื ทสี่ งู และพน้ื ทลี่ มุ่ แบบบรู ณาการ การบรหิ ารจดั การนำ้� และพนื้ ทกี่ ารเกษตรทเี่ หมาะสม และการคมุ้ ครองพน้ื ที่ เกษตรกรรม การวจิ ยั และพฒั นา และการถ่ายทอดเทคโนโลยขี องระบบการใหน้ ำ้� ทเี่ หมาะสมกบั การเกษตรของ ชุมชนเป้าหมาย การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้�ำในภาคการเกษตร/ภาคครัวเรือน การใช้น�้ำในช่วงน�้ำแล้งและ น�้ำหลากในภาคเกษตร การเพ่ิมประสิทธิภาพระบบรวบรวมระบบบ�ำบัดน้�ำเสียและการน�ำกลับมาใช้ของชุมชน การประยุกตใ์ ชว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยเี พอ่ื จัดทำ� แผนทผ่ี ังนำ�้ ๓) การลดกา๊ ซเรอื นกระจกและส่งเสรมิ การเติบโตทีป่ ล่อยคารบ์ อนต�่ำ มงุ่ เนน้ การวจิ ยั และนวตั กรรมเพอ่ื ลดการปลอ่ ยก๊าซเรอื นกระจกตอ่ หนว่ ยกจิ กรรมทเี่ ปน็ คา่ เฉพาะ ของประเทศ การพัฒนาฐานข้อมูลการด�ำเนินการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศให้ได้มาตรฐานและสามารถ เชื่อมโยงกันได้ การลดและการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกภาคเกษตรและป่าไม้ กลไกการสนับสนุนทุกภาคส่วน ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การผลติ และบริโภคที่ย่งั ยนื เพ่ือเศรษฐกิจสเี ขยี ว การสง่ เสริมอตุ สาหกรรม เชิงนิเวศ ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก การทดแทนเทคโนโลยีท่ีมีอยู่กับ เทคโนโลยีสมยั ใหมท่ ี่มีประสิทธิภาพสูง เปน็ มติ รกับสงิ่ แวดล้อมและเหมาะสมกับประเทศไทย ๔) การปรับตัวตอ่ ผลกระทบจากการเปลีย่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเพ่ือพัฒนาการจ�ำลองภูมิอากาศในอนาคตให้มีความถูกต้อง แม่นย�ำ ระบบการเตือนภัยล่วงหน้าและระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System: DSS) ในอนาคตโดยมงุ่ เนน้ พนื้ ทที่ ม่ี คี วามเสย่ี งสงู การประเมนิ ผลกระทบตอ่ พนื้ ทเี่ พอ่ื นำ� ไปสกู่ ารกำ� หนดแผนการปรบั ตวั แผนปอ้ งกนั เมอื งและการวางผงั เมอื ง ระบบการจดั การภยั พบิ ตั ใิ นภาวะฉกุ เฉนิ และแนวทางการจดั การโดยมชี มุ ชน เป็นศูนย์กลาง ระบบการฟื้นฟูหลังการเกิดภัยพิบัติท่ีตอบสนองต่อความต้องการของผู้ประสบภัยได้อย่างท่ัวถึง และเป็นธรรม การแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล การพัฒนากลไกหรือเครื่องมือเพื่อสนับสนุนการปรบั ตวั ต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้านต่าง ๆ ความม่ันคงของมนุษย์ต่อการเปลี่ยนแปลงของ 58 บทท่ี ๕ : ยุทธศาสตรก์ ารวจิ ัยและนวตั กรรม (รา่ ง) ยทุ ธศาสตร์การวิจยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
ภมู อิ ากาศโลกในอนาคต การสรา้ งองคค์ วามรใู้ หมแ่ ละสรา้ งกลไกการบรหิ ารจดั การองคค์ วามรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตร์ ช้ันบรรยากาศและการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต การวิจัยและนวัตกรรมเพ่ือลดผลกระทบการ เปลี่ยนแปลงสภาพภมู อิ ากาศต่อทรัพยากรโลกและส่งิ แวดล้อมในอนาคตบนพ้นื ฐานการพฒั นาท่ยี ่งั ยืน ๕) การบรหิ ารจัดการทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการบริหารจัดการ อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มทง้ั ในเชงิ เศรษฐกจิ และสงั คม การหยดุ ยงั้ การสญู เสยี ชนดิ พนั ธข์ุ องสงิ่ มชี วี ติ ทอี่ ยใู่ นภาวะถกู คกุ คาม หรือใกล้สูญพันธุ์ การสนับสนุนและยกระดับงานวิจัยเชิงลึกที่เก่ียวกับการสร้างความเข้าใจผลกระทบและ การเปลี่ยนแปลงของส่ิงแวดล้อมจากมนุษย์ การปรับเปล่ียนไปสู่การผลิตและบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การพฒั นาเทคโนโลยใี นการเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการลดและการจดั การขยะมลู ฝอยและของเสยี อนั ตราย การบรู ณาการ จัดการคุณภาพอากาศและมลพิษทางอากาศ ในพื้นที่วิกฤตทั้งในระยะส้ันและระยะยาว การวิจัยเชิงป้องกัน/ คมุ้ ครองทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม รวมทง้ั การเตรยี มความพรอ้ มในการปอ้ งกนั ภยั ธรรมชาติ การพฒั นา นวัตกรรมและการใช้เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์และสังคมที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาวิกฤตสิ่งแวดล้อม การพัฒนาระบบการจัดการให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของประชาคมโลกซึ่งเป็นที่ยอมรับร่วมกัน การสร้าง องคค์ วามรู้ จติ สำ� นกึ และการมสี ว่ นรว่ มในการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม การสง่ เสรมิ การจดั ตง้ั กลมุ่ องค์กรภาคประชาชน และเครือข่ายนักวิจัยด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม การยกระดับฐานข้อมูล ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มตามมาตรฐานสากลและระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งบรู ณาการ เพอื่ เปน็ โครงสร้างพ้นื ฐานในการเฝ้าระวงั เตือนภัยและการจดั การอย่างมีประสิทธภิ าพ ๒.๕ การกระจายความเจริญและเมอื งนา่ อยู่ ๒.๕.๑ วตั ถุประสงค์ เพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมในการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคอย่างทั่วถึง อันเป็น การเตรยี มพรอ้ มกบั สถานการณแ์ ละแนวโนม้ การเปลยี่ นแปลงทางดา้ นประชากรเมอื งของประเทศ และเพอื่ สรา้ ง เมืองน่าอยู่ ทม่ี ีการใช้ประโยชนท์ ่ีดนิ อยา่ งเหมาะสม โครงสร้างพื้นฐานเพยี งพอสำ� หรับคนทกุ กล่มุ มีความมน่ั คง ดา้ นทอ่ี ยอู่ าศยั ปลอดภยั และเศรษฐกจิ มนั่ คง รวมทงั้ การเสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ และความเจรญิ ของชมุ ชนและ สมาชกิ ชมุ ชน ๒.๕.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) สนบั สนนุ ใหม้ กี ารใชน้ โยบายและแผนการใชท้ ด่ี นิ ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ ม ออกแบบเมอื ง ใหส้ อดคลอ้ งกบั การรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม สวนสาธารณะ พน้ื ทส่ี เี ขยี ว การบรหิ ารจดั การนำ้� มลภาวะทางนำ้� มลภาวะ ทางอากาศ การบริหารจัดการขยะและของเสีย และปรากฏการณ์เกาะความร้อน และบริหารจัดระบบพื้นที่ การเกษตรเพื่อเป็นแหล่งผลิตอาหารสู่เมือง โดยให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากหลักเกณฑ์การใช้ ทีด่ ินน้นั มีสว่ นรว่ มในการตัดสนิ ใจดว้ ย บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม 59 (ร่าง) ยุทธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๒) วางแผนการใช้ระบบโครงสร้างพ้ืนฐานทางกายภาพในพ้ืนท่ีเมืองส�ำหรับคนทุกกลุ่มสามารถ ใช้งานไดอ้ ยา่ งเต็มประสทิ ธภิ าพ มกี ารบริหารจัดการพลังงาน และส่งเสริมการใช้พลงั งานทดแทน ๓) ส่งเสริมมาตรฐานคุณภาพชีวิตที่ดี ทงั้ ในดา้ นความปลอดภยั สวัสดิภาพ สุขภาพ การศึกษา รวมถึงระบบตรวจวดั คณุ ภาพอากาศ ระบบเตอื นภัยและการปอ้ งกันภัยพิบตั ิ การดแู ลผู้สงู อายแุ ละผพู้ ิการ ๔) พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการบรหิ ารจดั การเมอื งทง่ี า่ ยตอ่ การใชง้ าน และสามารถ ตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการของเมอื งได้อยา่ งรวดเร็วและมปี ระสิทธิภาพ ๕) เพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสาร เปิดกว้างและสามารถเข้าถึงผู้ใช้ในทุกระดับ สามารถแกไ้ ขใหเ้ หมาะสมกับความตอ้ งการในการใช้งานทแ่ี ตกต่างกนั ได้ ๖) พัฒนาระบบกลไกกฎหมายการบริหารจัดการเมืองให้มีประสิทธิภาพเพ่ือประโยชน์ในการ ใชท้ ่ดี ินและการดูแลรักษาทรพั ยากรธรรมชาติอย่างย่ังยนื ๗) สร้างเครือข่ายความร่วมมือ และความรู้สึกร่วมเป็นเจ้าของของจังหวัดและองค์กรปกครอง ส่วนทอ้ งถนิ่ ท่ีเป็นพ้นื ท่เี ปา้ หมาย ๘) สรา้ งความเขม้ แขง็ และพฒั นาความเจรญิ ของชมุ ชน โดยการมสี ว่ นรว่ มของสมาชกิ ในชมุ ชน ๒.๕.๔ แผนงานวจิ ยั และนวัตกรรมส�ำคญั ๑) การพัฒนาภมู ภิ าคและจงั หวัด ๔.๐ มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเพ่ือพัฒนากลไกการกระจายความเจริญและยกระดับรายได้ การพฒั นาดา้ นโครงสรา้ งพน้ื ฐานทางเศรษฐกจิ สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ มเพอ่ื รองรบั การขยายความเจรญิ การพฒั นา ระบบโลจิสตกิ ส์ การพฒั นาระบบขนส่งทางรางและการสร้างโครงขา่ ยท่ีเชื่อมโยงระบบการขนส่งหลายภาคสว่ น การทอ่ งเทย่ี ว ทกั ษะรองรบั ตามศกั ยภาพของพน้ื ท่ี (จงั หวดั /กลมุ่ จงั หวดั ) และพนื้ ที่ (ภาค/กลมุ่ จงั หวดั ทม่ี ศี กั ยภาพ แตกต่างกัน) เพ่ือรองรับการขยายความเจริญทั้งในภาคพาณิชย์ อุตสาหกรรม บริการและเกษตร รวมท้ังพื้นที่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ การพัฒนาเมืองท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การสร้างเศรษฐกิจระดับฐานรากชุมชน การสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในระดับท้องถ่ิน การสร้างโอกาสใน การพฒั นาเศรษฐกจิ ของทอ้ งถนิ่ การกระจายอำ� นาจสทู่ อ้ งถน่ิ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและปราศจากการคอรร์ ปั ชนั การจดั สรรงบประมาณแผน่ ดนิ และการคลงั ทอ้ งถน่ิ การรว่ มมอื กบั ประเทศเพอ่ื นบา้ นในการพฒั นาและเสรมิ สรา้ ง ความเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกิจในพ้ืนทช่ี ายแดน ๒) เมืองอัจฉรยิ ะ มงุ่ เนน้ การวจิ ยั และนวตั กรรมเพอื่ พฒั นาการสรา้ งระบบตน้ แบบเมอื งอจั ฉรยิ ะ การวางโครงขา่ ย การส่ือสารพน้ื ฐานท่ีสามารถรองรับระบบอุปกรณอ์ จั ฉรยิ ะและระบบ Cloud data service การจดั การระบบ ศูนยเ์ มืองอจั ฉริยะ การพฒั นาเจา้ หน้าท่ใี นการดแู ลจดั การระบบ การพัฒนาประชากรเพื่อเตรยี มความพร้อมตอ่ การก้าวเขา้ สเู่ มอื งอจั ฉรยิ ะ การสร้างระบบเศรษฐกจิ ดจิ ทิ ัลเพ่อื เช่ือมระบบต่าง ๆ ของเมืองอัจฉรยิ ะ การพฒั นา และประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื ออกแบบโครงสรา้ งพน้ื ฐานและระบบบรหิ ารจดั การรองรบั การพฒั นาเมอื งสำ� หรบั การอยอู่ าศยั การดำ� เนนิ ธรุ กิจในอนาคต และการยกระดบั คณุ ภาพชีวิตและรายได้ของชุมชน 60 บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ัยและนวตั กรรม (รา่ ง) ยทุ ธศาสตร์การวจิ ัยและนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๓) ผังเมอื งและการใช้ประโยชน์ทีด่ ิน มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเชิงนโยบายเพ่ือใช้เปน็ แนวทางในการกำ� หนดกรอบ นโยบายแหง่ ชาตดิ ้านการผังเมอื งและการพัฒนาพน้ื ท่ี การปรับปรงุ กฎหมายผังเมืองให้สอดคลอ้ งกบั การปฏิรปู การใชโ้ ครงสรา้ งพืน้ ฐาน ทรัพยากร ระบบสาธารณูปโภค สาธารณปู การ บรกิ ารสาธารณะ และดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม อยา่ งเป็นระบบ เกดิ ความสมดุล ยงั่ ยนื และเป็นธรรมกับทกุ ภาคส่วน การก�ำหนดการแบ่งย่านการใชป้ ระโยชน์ ท่ีดินประเภทต่าง ๆ การก�ำหนดระบบการคมนาคมขนส่งและระบบสาธารณูปโภคให้สอดคล้องสัมพันธ์กับ การใชป้ ระโยชนท์ ด่ี นิ ๔) ศักยภาพของชุมชนและสมาชิกชุมชน มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเพ่ือพัฒนาศักยภาพของชมุ ชนและสมาชกิ ชมุ ชน รวมถึงปจั จยั ทส่ี ง่ ผลตอ่ การพฒั นาความเขม้ แขง็ และความเจรญิ ของชมุ ชน ซง่ึ เปน็ ฐานรากทางเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศ การเพมิ่ โอกาสการเขา้ ถงึ บรกิ ารทางสงั คมและเศรษฐกจิ ของรฐั รวมทงั้ องคค์ วามรู้ เทคโนโลยี และนวตั กรรมเพอ่ื การผลิตและการด�ำรงชีพของสมาชิกชุมชนที่อยู่ในเมืองและชนบท รวมถึงสมาชิกชุมชนที่ด้อยโอกาสหรืออยู่ หา่ งไกลหรือชายแดนหรอื ถูกรงั เกียจ กดี กัน ตีตรา บทท่ี ๕ : ยุทธศาสตร์การวิจยั และนวตั กรรม 61 (รา่ ง) ยุทธศาสตร์การวจิ ัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
ยุทธศาสตรท์ ่ี ๓ การวจิ ยั และนวตั กรรมเพอื่ การสรา้ งองคค์ วามรพู้ ้นื ฐานของประเทศ ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมเพ่ือการสร้างองค์ความรู้พ้ืนฐานของประเทศ เน้นการวิจัยท่ีสร้าง องค์ความรู้พ้ืนฐานเพ่ือการสะสมองค์ความรู้ การต่อยอดไปสู่การประยุกต์ใช้องค์ความรู้ และการต่อยอดไปสู่ นวตั กรรมทางเศรษฐกิจหรือนวตั กรรมทางสังคม รวมท้งั การสร้างนวัตกรรมเพ่อื ให้ภาคอตุ สาหกรรมสามารถน�ำ ไปใชป้ ระโยชนโ์ ดยตรง ผ่านการสร้างและพัฒนาเทคโนโลยฐี าน เพ่อื ให้ประเทศไทยเป็นผนู้ �ำในระดบั นานาชาติ ในงานวิจัยทป่ี ระเทศไทยมีความเขม้ แขง็ วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพ่ือให้ประเทศไทยมีองค์ความรู้พื้นฐานและเทคโนโลยีฐานทส่ี ามารถพฒั นาไปสู่เทคโนโลยเี ฉพาะ และสนับสนนุ ต่อการพฒั นาเทคโนโลยีส�ำหรับอุตสาหกรรม ๒. เพื่อให้สามารถใช้องค์ความรู้พื้นฐานทางสงั คมและความเปน็ มนษุ ยแ์ กป้ ญั หาทางสังคมและพฒั นา สงั คมได้ ๓. เพื่อใหป้ ระเทศไทยเปน็ ผู้นำ� ในระดับนานาชาติในงานวิจยั ทปี่ ระเทศไทยมคี วามเชี่ยวชาญสงู เปา้ หมายยุทธศาสตร์ ๑. ประเทศไทยมีขดี ความสามารถของเทคโนโลยีฐานทง้ั ๔ ด้าน คอื เทคโนโลยชี วี ภาพ เทคโนโลยีวัสดุ นาโนเทคโนโลยี และเทคโนโลยีดจิ ทิ ัล ทัดเทียมประเทศท่ีก้าวหน้าในเอเชยี ๒. ประเทศไทยมอี งคค์ วามรพู้ น้ื ฐานทางสงั คมและความเปน็ มนษุ ยท์ ส่ี ามารถตอ่ ยอดไปแกป้ ญั หาสำ� คญั ของประเทศและสามารถบรหิ ารจัดการกระแสการเปล่ียนแปลงของโลกท่สี ง่ ผลกระทบสำ� คญั ตอ่ ประเทศไทย ๓. ประเทศไทยเป็นผู้น�ำการวิจัยในระดับโลกด้านเกษตร (พืชและสัตว์เศรษฐกิจของไทย) ด้าน ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านการแพทย์และสุขภาพ (โรคเขตร้อน) ด้านฟิสิกส์และเคมี (บางสาขา) และ ดา้ นสงั คม (ระบบประกนั สขุ ภาพ) ยทุ ธศาสตร์ท่ี ๓ ประกอบดว้ ย ๓ ประเด็นยทุ ธศาสตร์ ไดแ้ ก่ ๑) องค์ความร้พู นื้ ฐานและ เทคโนโลยีฐาน ๒) องค์ความรู้พื้นฐานทางสังคมและความเป็นมนุษย์ และ ๓) การวิจัยเพ่ือ ความเปน็ เลศิ ทางวชิ าการ โดยมีรายละเอยี ด ดงั นี้ 62 บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตร์การวจิ ัยและนวตั กรรม (รา่ ง) ยุทธศาสตร์การวจิ ัยและนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๓.๑ องคค์ วามรพู้ ้ืนฐานและเทคโนโลยีฐาน ๓.๑.๑ วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้พ้ืนฐานและเทคโนโลยีฐานซึ่งจะน�ำไปสู่การยกระดับขดี ความสามารถทาง การแขง่ ขนั ในสาขาอตุ สาหกรรมทป่ี ระเทศไทยมคี วามไดเ้ ปรยี บหรอื ศกั ยภาพสงู และสามารถแขง่ ขนั เชงิ นวตั กรรม ได้ในอนาคต ๓.๑.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้พ้ืนฐานและเทคโนโลยีฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ การแขง่ ขนั ในสาขาที่ประเทศไทยมีความได้เปรยี บหรอื มีศักยภาพสงู ๒) เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัยและพัฒนา และมาตรฐานด้านความปลอดภัย ที่เกยี่ วขอ้ งกบั การวิจยั และพัฒนาองคค์ วามร้พู ้นื ฐานและเทคโนโลยีฐาน ๓) ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาให้องค์ความรู้พ้ืนฐานและเทคโนโลยีฐานได้รับการพัฒนาเป็น เทคโนโลยีเฉพาะ และใช้เทคโนโลยีฐานเป็นปัจจัยสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมท่ีไทยมีศักยภาพและเป็น อุตสาหกรรมแหง่ อนาคต ๔) ส่งเสริมการเข้าถึงเครื่องมือในการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมในแต่ละกลุ่ม (Cluster) เช่น กล่มุ อาหาร กลุม่ ยานยนต์ อิเลก็ ทรอนิกส์ เปน็ ตน้ ๓.๑.๓ แผนงานวจิ ยั และนวตั กรรม ๑) เทคโนโลยชี วี ภาพ (Biotechnology) มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพเพ่ือเพ่ิมขีดความสามารถการแข่งขันในสาขา ทป่ี ระเทศไทยมคี วามได้เปรียบหรอื ศกั ยภาพสูง ไดแ้ ก่ สาขาการแพทยแ์ ละสขุ ภาพ เกษตรและอาหาร พลังงาน ชีวภาพ และอตุ สาหกรรมชีวภาพ โดยมุ่งสร้างองคค์ วามรู้ดา้ นการประเมินผลห้องปฏิบตั กิ ารบนชิป (Lab-on-a- chip) การเพาะเลี้ยงเซลลส์ ามมติ ิรวมถงึ เซลล์ต้นกำ� เนิด (3D Cell culture including stem cells) การผ่าตัด ด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer aided surgery) แบบจ�ำลองการเจริญเตบิ โตพืชและสรรี วทิ ยาพืชทตี่ อบสนอง ต่อส่ิงแวดล้อมเพ่ือการพยากรณ์ผลผลิตทางการเกษตร (Modelling and forecasting for agriculture) เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงพันธุ์พืช สัตว์ และจุลินทรีย์ ประสิทธิภาพสูง ชีววิทยาระบบ (Systems biology) รวมทง้ั เทคโนโลยที างดา้ นโอมกิ สต์ า่ ง ๆ (Genomics, Proteomics, Metabolomics และอ่นื ๆ) เทคนคิ การหา ลำ� ดบั เบสประสทิ ธิภาพสงู (Next generation sequencing technology) เทคนคิ การตัดตอ่ พนั ธกุ รรม และ เทคโนโลยชี วี วทิ ยาสงั เคราะห์ (Synthetic biology) การใชเ้ ซลลเ์ ปน็ โรงงานเพอ่ื การผลติ (Microbial technology) เทคโนโลยีเอนไซม์ และวิศวกรรมกระบวนการชวี ภาพ (Bioprocess engineering) ๒) เทคโนโลยวี ัสดุ (Material technology) มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีวัสดุที่ทันสมัยเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตของ ประเทศไปสู่การผลิตด้วยเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง และ พฒั นาอตุ สาหกรรมไปสอู่ ตุ สาหกรรมฐานชวี ภาพซงึ่ เปน็ พนื้ ฐานสำ� คญั ของประเทศ การวจิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยวี สั ดุ บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตรก์ ารวิจัยและนวัตกรรม 63 (รา่ ง) ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
เพ่ือพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในระดับชุมชน รวมท้ังลดต้นทุนสินค้าและบริการสาธารณะให้ประชาชน เขา้ ถงึ ได้อย่างท่ัวถึงและเท่าเทียมกันเพื่อลดความเหลื่อมล้�ำและเพ่ิมคุณภาพสังคมไทย และการวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีวัสดุเพ่ือการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมและใช้ทรัพยากร ในกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น Light-weight materials, Conductive nanomaterial for anti-static, Bio-based Materials, Automation and Robotic, 3D printing, Active packing, Photo selective film, Functional/Technical textiles, Technologies for self-cleaning, Biocompatible materials for Implantation, Drug delivery technology/system, Rehabitation engineering, Modelling and testing technology for materials, Materials for energy saving design, Technologies for self-cleaning, Material coating technology, Solar Photovoltaic, Catalytic materials, Waste treatment, Hydrogen storage, Fuel cell technologies, Capacitor, Carbon Capture and Sequestration, Green technology for construction, Corrosion and erosion resistant technology for infrastructure เป็นต้น รวมทงั้ การ ลดผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม โดยพัฒนากระบวนการออกแบบ การผลิต และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม โดยใช้แนวคิดตลอดวัฎจักรชีวิต (Life cycle thinking) บนหลักการของการใช้ทรัพยากรอย่างมี ประสิทธิภาพ (Resource use efficiency) ๓) นาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology) มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาขีดความสามารถด้านนาโนเทคโนโลยีส�ำหรับเซ็นเซอร์เพ่ือใช้ใน การตรวจวนิ จิ ฉยั และการรกั ษาโรคทม่ี คี วามสำ� คญั ทงั้ ในคนและในสตั ว์ การพฒั นาพลาสตกิ ควบคมุ การแลกเปลย่ี น กา๊ ซส�ำหรบั ทำ� บรรจุภณั ฑผ์ กั และผลไม้โดยใช้นาโนเทคโนโลยี การพฒั นาวัสดุทางการแพทย์ การผลิตผลิตภัณฑ์ และเคร่ืองส�ำอางจากวัตถุดิบธรรมชาติ การพัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาและวัสดุนาโนเพ่ือผลิตพลังงาน การรักษา สิ่งแวดลอ้ มใหส้ ะอาด การพฒั นาเทคโนโลยฐี านและโครงสร้างพืน้ ฐานด้านการวิจยั และพฒั นา รวมถึงมาตรฐาน ดา้ นความปลอดภัย ทงั้ น้ี การพัฒนาผลติ ภณั ฑต์ า่ งๆ ได้น้ัน จำ� เปน็ ต้องมกี ารพัฒนาเทคโนโลยีฐานซึ่งประกอบ ดว้ ย ๓ ส่วน ได้แก่ (๑) เทคโนโลยฐี านดา้ นการสงั เคราะห์ และออกแบบวัสดนุ าโน (Nanomaterials design and synthesis) มเี ทคโนโลยหี ลกั (Core technology) ๓ ดา้ น ไดแ้ ก่ ๑) การออกแบบและการสรา้ งแบบจำ� ลอง (Design and simulation) ๒) การสงั เคราะหว์ สั ดรุ ะดบั นาโน (Nanomaterials synthesis) และ ๓) การปรบั แตง่ และการขึ้นรูปวัสดุระดับนาโน (Nanomaterials modification and assembly) ซ่ึงสามารถน�ำไปใช้ใน การสงั เคราะหโ์ ครงสร้างนาโน การข้ึนรปู หรอื จดั เรยี งอะตอม (หรือโมเลกุล) ให้มคี ุณสมบตั ิตามทตี่ ้องการ เช่น ควอนตัมดอท อนุภาคนาโน ท่อคาร์บอนนาโน กราฟีน ฟิล์มบางนาโน วัสดุนาโนคอมโพสิต รวมถึงการใช้ คอมพิวเตอร์ออกแบบโครงสร้างโมเลกุล เป็นต้น (๒) เทคโนโลยีฐานด้านระบบวิศวกรรมและการผลิตข้นั สูง ในระดบั นาโน (Nano systems engineering & advanced manufacturing) ช่วยเพมิ่ คุณสมบัติพเิ ศษของ ผลติ ภณั ฑ์ หรอื การพฒั นาใหเ้ กดิ นวตั กรรมใหมซ่ ง่ึ เปน็ เทคโนโลยฐี านทใ่ี ชใ้ นการผลติ การประกอบ และการสรา้ ง ผลิตภัณฑ์นาโนให้เป็นรูปธรรม (๓) เทคโนโลยีฐานทางด้านการวัดวิเคราะห์ มาตรวิทยาระดับนาโน (Nano metrology & characterization and standards) ช่วยให้การวัดวิเคราะห์มีความแม่นย�ำระดับสูง ตรวจสอบและสรา้ งการวเิ คราะหท์ ดสอบมาตรฐาน เพอ่ื ตรวจสอบคณุ ภาพประสทิ ธภิ าพของผลติ ภณั ฑน์ าโน และ ด้านความปลอดภยั 64 บทที่ ๕ : ยุทธศาสตร์การวจิ ยั และนวัตกรรม (ร่าง) ยทุ ธศาสตร์การวิจยั และนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๔) เทคโนโลยดี จิ ิทลั (Digital technology) มงุ่ เนน้ การวจิ ยั และพัฒนาเทคโนโลยแี ละข้อมลู เพ่อื ปฏริ ปู การผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร เพอ่ื พฒั นา อตุ สาหกรรมเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ของไทยใหม้ คี วามเขม้ แขง็ และสามารถแขง่ ขนั เชงิ นวตั กรรมไดใ้ นอนาคต โดยเฉพาะ อยา่ งยง่ิ อตุ สาหกรรมทไ่ี ทยมศี กั ยภาพและเปน็ อตุ สาหกรรมแหง่ อนาคต โดยอาศยั เทคโนโลยสี อื่ สาร ทม่ี คี วามเรว็ และคณุ ภาพสงู มาก (New communication technology) เทคโนโลยอี ปุ กรณแ์ บบสวมใสไ่ ดแ้ ละพกพาทสี่ ามารถ เชื่อมต่ออนิ เตอร์เน็ตแบบทุกทีท่ ุกเวลา เทคโนโลยกี ารประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud computing) เทคโนโลยี การวิเคราะห์ข้อมลู ขนาดใหญ่ (Big data analytics) เทคโนโลยีการเชื่อมต่อของสรรพสงิ่ (Internet of Things) เทคโนโลยีการพมิ พส์ ามมติ ิ (3D printing) และเทคโนโลยคี วามมนั่ คงปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber security) โดย มเี ทคโนโลยอี นื่ เช่น ปัญญาประดษิ ฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ รถยนตอ์ ตั โนมตั ิ (Autonomous cars) เป็นเทคโนโลยีที่ส�ำคัญในอนาคตระยะยาว การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงิน พัฒนาระบบ Fintech ทมี่ คี วามปลอดภยั สงู ประชาชนเขา้ ถงึ ไดง้ า่ ย การศกึ ษาและวจิ ยั ผลกระทบทม่ี ตี อ่ อตุ สาหกรรมตา่ ง ๆ ในประเทศ รวมท้งั การวจิ ยั และพัฒนาการก�ำกบั ดแู ลและกฎหมายที่เกยี่ วขอ้ ง ๓.๒ องค์ความรู้พ้ืนฐานทางสังคมและความเปน็ มนุษย์ ๓.๒.๑ วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพอื่ สรา้ งองคค์ วามรพู้ น้ื ฐานดา้ นวชิ าการทางสงั คมศาสตร์ มนษุ ยศาสตร์ และศลิ ปวฒั นธรรม / อารยธรรม ท่ีสามารถใช้ท�ำความเข้าใจความสัมพันธ์ของปัจจัยที่ส่งผลต่อการด�ำเนินชีวิตของคนไทยและ ปรากฏการณ์ทางสงั คมไทยในการน�ำมาพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของคนไทย ๒) เพ่ือสร้างองค์ความรู้พ้ืนฐานที่แสดงศักยภาพในด้านภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ ภูมิสังคมและ วัฒนธรรมของสังคมไทยในทอ้ งถน่ิ ตา่ ง ๆ เพื่อนำ� มาเสรมิ สร้างใหเ้ กิดเป็นเอกลกั ษณข์ องความเปน็ ไทย ๓) เพื่อสรา้ งองคค์ วามรู้พน้ื ฐานเพื่อการพัฒนาของคนไทยทกุ ช่วงวยั ใหม้ คี วามสามารถในการคดิ เชงิ สร้างสรรค์ สุขภาพกายและจิตใจ สติปัญญา ความรู้ คณุ ธรรม จริยธรรมและศลิ ปวฒั นธรรม นำ� ไปสู่ความมี คณุ ภาพชวี ติ ท่ดี ี มีศกั ด์ศิ รขี องความเป็นมนษุ ย์ ภาคภูมิใจในความเป็นไทย และเกดิ ส�ำนกึ ในการดูแลรบั ผดิ ชอบ ต่อบา้ นเมือง และสง่ เสรมิ การวิจัยและนวตั กรรมเพื่อสรา้ งภูมคิ มุ้ กันทางมรดกวัฒนธรรม ๔) เพื่อสร้างองค์ความรพู้ น้ื ฐานความรคู้ วามเขา้ ใจในหลกั การทางการเมอื ง การปกครอง เศรษฐกจิ สงั คม ศลิ ปะ วฒั นธรรมของชาติ ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ภูมปิ ญั ญาไทยและภมู ปิ ญั ญาสากล นำ� ไปสู่การมจี ิตสำ� นึก ในการดำ� รงอยขู่ องชาติ รจู้ กั พงึ่ ตนเอง ใฝร่ แู้ ละเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง และมกี ารประยกุ ตท์ ฤษฎเี พอื่ นำ� ไปสู่ การปฏิบตั ิตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งโดยมีเงือ่ นไขความร้แู ละคณุ ธรรม ๕) เพ่อื การสรา้ งภูมิคุม้ กนั ทางจติ ตปัญญาและศาสนธรรม ๖) เพื่อเสริมสร้างการรู้เท่าทันในพฤติกรรมความเสี่ยงตอ่ การเกิดปญั หาสงั คมและความสูญเสยี ในชวี ติ และทรัพยส์ ินภายใต้บริบทสงั คมแห่งปัญญาและภูมิธรรม บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตร์การวิจยั และนวัตกรรม 65 (รา่ ง) ยทุ ธศาสตรก์ ารวิจัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๓.๒.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) สรา้ งองคค์ วามรสู้ าขาสงั คมศาสตรใ์ นประเดน็ ความรพู้ น้ื ฐานทางดา้ นสงั คม ชมุ ชนของไทย ๒) สร้างองค์ความรูส้ าขามนษุ ยศาสตรใ์ นประเดน็ ความรพู้ นื้ ฐานทางดา้ นศลิ ปะ วฒั นธรรม ภาษา ดนตรี วรรณกรรมของไทย ๓) เพ่อื สร้างองคค์ วามรู้พนื้ ฐานเพอื่ การพัฒนาของคนไทยทุกช่วงวัยให้มีความสามารถในการคดิ เชงิ สรา้ งสรรค์ สขุ ภาพกายและจิตใจ สติปญั ญา ความรู้ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมและศลิ ปวัฒนธรรม นำ� ไปส่กู ารมี คณุ ภาพชวี ิตทด่ี ี มีศกั ด์ิศรขี องความเปน็ มนุษย์ ภาคภูมิใจในความเป็นไทย และเกดิ ส�ำนกึ ในการดูแลรับผิดชอบ ตอ่ บ้านเมือง และสง่ เสริมการวจิ ัยและนวตั กรรมเพ่อื สร้างภมู ิคมุ้ กันทางมรดกวฒั นธรรม ๔) สง่ เสรมิ การวจิ ยั เพือ่ สร้างศาสนธรรมสากลของสงั คมพหวุ ัฒนธรรม ๕) ส่งเสริมการวิจัยเพ่ือสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตตปัญญาให้บุคคลและสังคมเพ่ือรองรับ การเปล่ียนแปลงและการแข่งขันทางเศรษฐกิจไทยในยุค ๔.๐ ๖) สง่ เสรมิ การวจิ ยั เชงิ เปรยี บเทยี บความเชอ่ื คา่ นยิ ม อดุ มการณ์ วถิ ชี วี ติ ของคนตา่ งวยั ตา่ งประสบการณ์ เพ่อื ชแี้ นวโนม้ ความเชอ่ื คา่ นิยม อุดมการณ์ วิถชี ีวิตในอนาคต ๗) สง่ เสรมิ การวิจยั แนวทางการบริหารจัดการศาสนสถานให้เกิดประสทิ ธิผล ๓.๒.๓ แผนงานวจิ ยั และนวัตกรรม ๑) การสรา้ งภูมิคุ้มกนั ทางมรดกวฒั นธรรม มุ่งเน้นการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ทางประวตั ิศาสตร์ ศิลปกรรม วัฒนธรรม และโบราณคดี แนวทางการจัดการมรดกวัฒนธรรมอยา่ งสร้างสรรคแ์ ละมสี ่วนรว่ ม การฟนื้ ฟู สบื สาน และสรา้ งสรรคศ์ ิลปาชีพ ระดบั ชมุ ชน มรดกวฒั นธรรมเพอ่ื สรา้ งคณุ คา่ และเพม่ิ มลู คา่ ทางการทอ่ งเทยี่ ว แหลง่ โบราณคดที มี่ คี วามเชอื่ มโยง กบั นทิ านพนื้ บา้ นในภมู ภิ าคตา่ ง ๆ เพอ่ื สรา้ งความภาคภมู ใิ จในวฒั นธรรมไทย วาทกรรม การสอ่ื สารจากเทคโนโลยี สารสนเทศสมัยใหม่ เพอื่ ให้มภี มู ิค้มุ กันและรูเ้ ท่าทนั ใหค้ นทกุ วยั ทกุ อาชีพสามารถเขา้ ถงึ ได้ ๒) การสร้างภูมิคมุ้ กันทางจิตตปญั ญาและศาสนธรรม มุ่งเน้นการวิจัยเพ่ือสร้างศาสนธรรมสากลของสังคมพหุวัฒนธรรมเพ่ือลดความขัดแย้งสร้าง ภูมิคุ้มกันทางจิตตปัญญาให้บุคคลและสังคมเพ่ือรองรับการเปล่ียนแปลงและการแข่งขันทางเศรษฐกิจไทยใน ยคุ ๔.๐ ความเช่อื คา่ นยิ ม อุดมการณ์ วิถีชีวิต ของคนต่างวัยต่างประสบการณ์ เพื่อชแ้ี นวโน้มความเชื่อคา่ นยิ ม อุดมการณ์ วิถีชีวิตในอนาคต การบริหารจัดการศาสนสถานให้เกิดประสิทธิผล ความโปร่งใสและสร้างศรัทธา ให้กับคนในสงั คม ๓) การร้เู ท่าทนั ในพฤติกรรมความเส่ียงต่อการเกิดปญั หาสงั คมและความสูญเสยี ในชีวิต และทรพั ยส์ ินภายใต้บริบทสงั คมแห่งปัญญาและภูมิธรรม มงุ่ เนน้ การวจิ ยั เพอื่ สรา้ งสงั คมแหง่ ความรอบรแู้ ละความอยดู่ มี ีสุข (Well-being) ของประชาชน ทุกพื้นที่ เช่น ประชาชนท่ัวไป ชุมชน องค์กร สถานประกอบการ สถานศึกษา เป็นต้น การสร้างความมั่นคง ทางสุขภาพอย่างยั่งยืนด้วยการส่งเสริมความรอบรู้และการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีของประชาชนทุกกลุ่มวัย 66 บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ัยและนวัตกรรม (ร่าง) ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
การยอ่ ยสลายทางชวี ภาพ ชวี สารสนเทศ (Bioinformatics) ชวี วทิ ยาระบบ (Systems biology) และอณชู วี วทิ ยา (Molecular biology) ๒) วิศวกรรม (Engineering) มงุ่ เนน้ การวจิ ัยเพอื่ ใหไ้ ดอ้ งคค์ วามรพู้ ้ืนฐานทสี่ ามารถประยุกตใ์ ชเ้ พอ่ื แกป้ ัญหาของสาขาตา่ ง ๆ เชน่ วสั ดเุ ฉพาะทาง (Functional materials) ประเภทตา่ ง ๆ ยานยนต์ การประดษิ ฐ์ (Fabrication) การออกแบบ การขนส่ง การกอ่ สรา้ ง การทดสอบ เป็นตน้ โดยองค์ความร้ทู ี่เกิดขน้ึ จะนำ� ไปสูว่ ธิ แี กป้ ญั หา (Solution) ใหม่ ๆ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การวจิ ยั ในดา้ นวศิ วกรรมทส่ี ามารถสรา้ งสรรคส์ ง่ิ ตา่ ง ๆ ซง่ึ จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ สงั คมโดยอาศยั พื้นความรทู้ างวทิ ยาศาสตรแ์ ละเศรษฐศาสตรม์ าช่วยในการสรา้ งสรรค์ ๓) วิทยาศาสตรข์ ้อมลู (Data science) มุ่งเน้นการวิจัยเก่ียวกับการเก็บ การจัดการข้อมูลและการใช้ข้อมูลที่เกิดขึ้นในวิทยาศาสตร์ สาขาตา่ ง ๆ โดยครอบคลมุ การสรา้ งและการใชอ้ ลั กอรทิ มึ และเทคนคิ ใหม่ ๆ การจดั ระเบยี บและการสำ� รวจขอ้ มลู จำ� นวนมหาศาล (Big data) การใชข้ อ้ มลู เพอ่ื การออกแบบ การสรา้ งโมเดลและการบรหิ ารจดั การ ปญั ญาประดษิ ฐ์ (Artificial Intelligence) โดยเฉพาะอย่างย่ิงการวจิ ยั ในด้านข้อมูลเพ่ือพฒั นาระบบการรวบรวมข้อมลู ประเภท ตา่ ง ๆ ทส่ี ามารถนำ� ไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั การบรหิ ารจดั การในภาคสว่ นของรฐั เอกชน และอตุ สาหกรรม โดยนำ� ระบบ เทคโนโลยเี ขา้ มาเชื่อมโยงตงั้ แตต่ น้ น�้ำจนถงึ ปลายนำ้� ๔) วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ (Life science) มงุ่ เนน้ การวิจยั เกย่ี วกบั สิ่งมีชีวิต โดยครอบคลมุ การสร้างองค์ความรูใ้ นดา้ นตา่ ง ๆ เชน่ ตวั บง่ ช้ี ชวี ภาพ (Biomarkers) สำ� หรบั โรคมะเรง็ กลไกควบคมุ การแสดงออกของยนี ตา่ ง ๆ (Gene regulation) ในจโี นม และความผิดปกตทิ ่เี กยี่ วข้อง จโี นมขนั้ ต่ำ� (Minimal genome) กลไกควบคมุ การแปรสภาพจากเซลลต์ ้นกำ� เนิด (Stem cell) ไปเป็นเซลล์ที่ท�ำหน้าที่เฉพาะอย่าง (Differentiated cell) เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิจัย ในดา้ นวทิ ยาศาสตรท์ างการแพทย์ท่เี ก่ียวขอ้ งกับสุขภาพของมนษุ ย์ ๕) ประสาทวทิ ยาศาสตรแ์ ละพฤตกิ รรมการรคู้ ดิ (Neuroscience and cognitive behavior) มุ่งเน้นการวิจัยเพ่ือสร้างองค์ความรู้พื้นฐานในการเพิ่มประสิทธิภาพการท�ำงานของสมอง ทสี่ ามารถประยกุ ตใ์ ชเ้ พอ่ื แกไ้ ขปญั หาดา้ นคณุ ลกั ษณะทางจติ และพฤตกิ รรมเบยี่ งเบนหรอื พฤตกิ รรมทไ่ี มพ่ งึ ประสงค์ ของคนไทย ให้เกิดการเปลยี่ นแปลงศกั ยภาพและพฤติกรรมของคนไทยพนั ธุ์ใหม่ ทส่ี ามารถสร้างสรรคส์ งิ่ ต่าง ๆ ทเ่ี กดิ ประโยชนต์ อ่ สงั คม โดยอาศยั พน้ื ฐานความรทู้ างจติ วทิ ยาสงั คมมาชว่ ยในการสรา้ งสรรค์ การวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การรบั รหู้ รอื ประชานศาสตร์ (Cognitive science) โดยมงุ่ เนน้ การวจิ ยั ในดา้ นการนำ� ผลการศกึ ษาทาง ประสาทวทิ ยาไปพฒั นารวมกบั การศกึ ษาทางประสาทวทิ ยาศาสตรท์ เ่ี กย่ี วกบั การรบั รู้ (Cognitive neuroscience) และน�ำไปพัฒนาวิชาจิตวิทยาการรับรู้ เพื่อความก้าวหน้าในการพัฒนาระบบการศึกษาเรียนรู้ รวมถึงการวิจัย เพอื่ ใหส้ รา้ งองคค์ วามรเู้ กย่ี วกบั โครงสรา้ งและการทำ� หนา้ ทขี่ องสมอง ทง้ั ในเชงิ พนั ธศุ าสตร์ กายวภิ าค สรรี วทิ ยา ชวี เคมี เภสชั วทิ ยา พยาธวิ ทิ ยา ตงั้ แตร่ ะดบั โมเลกลุ ระดบั เซลล์ จนถงึ ระดบั กลมุ่ เซลลป์ ระสาทและเซลลท์ เี่ กย่ี วขอ้ ง 68 บทท่ี ๕ : ยทุ ธศาสตร์การวิจยั และนวัตกรรม (รา่ ง) ยทุ ธศาสตร์การวจิ ัยและนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๖) เศรษฐศาสตร์พฤติกรรมและนโยบายสาธารณะส�ำหรบั เศรษฐกจิ ยคุ ใหม่ มุ่งเนน้ การวิจยั เชงิ ทดลองเกี่ยวกับพฤตกิ รรมทางเศรษฐกิจ (Experimental and behavioral economics) การศึกษาวิจัยความเหลื่อมล�้ำข้ามรุ่น (Intergenerational inequality) การวิจัยเทคโนโลยี พลกิ โฉมฉบั พลนั (Disruptive technology) และผลกระทบตอ่ ภาคการผลติ (Impact on production sector) การวิจัยผลกระทบของการจ้างงานต่อเทคโนโลยีใหม่ที่มีคุณลักษณะทดแทนแรงงาน (Employment effects from new technology) และเศรษฐศาสตรส์ าธารณะส�ำหรบั เศรษฐกิจยคุ ใหม่ ๗) สังคมศาสตร์และสหสาขาวิชากับนโยบายสาธารณะในโลกยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ยุคที่ ๔ (The fourth industrial revolution) การเรียนรู้และคุณค่าทางสังคมภายใต้ภาวะความเสี่ยงและความไม่แน่นอนของการปฏิวัติ อุตสาหกรรม ยุคที่ ๔ การเมืองและสงั คมในยคุ หลงั ความจรงิ (Post-truth politics) ความเหลื่อมล�ำ้ ทางสงั คม และเทคโนโลยกี บั ปัญญาขา้ มแดน อ�ำนาจ (Power) ความรู้ (Knowledge) ในโลกยคุ ดจิ ทิ ัล สังคมศาสตรว์ ่าดว้ ย วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยกี บั นโยบายอดุ มศกึ ษาเพอ่ื ความยง่ั ยนื และสงั คมศาสตรส์ ำ� หรบั โลกยคุ ปฏวิ ตั อิ ตุ สาหกรรม ยุคท่ี ๔ การวิจัยนโยบายสาธารณะในโลกแห่งความขัดแย้งและดิจิทัล การปฏิวัติอุตสาหกรรม ยุคท่ี ๔ กับ ภาวะคนชายขอบ (Marginalization) พหวุ ฒั นธรรมและมนษุ ยชาตใิ นยคุ สมยั แหง่ ความรนุ แรงดจิ ทิ ลั การปฏริ ปู สงั คมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตรก์ บั นโยบายเพื่อการพัฒนาทยี่ ั่งยืน บทท่ี ๕ : ยทุ ธศาสตรก์ ารวิจัยและนวตั กรรม 69 (รา่ ง) ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๔ การพัฒนาโครงสรา้ งพ้นื ฐาน บุคลากร และระบบวิจยั และนวัตกรรมของประเทศ ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาโครงสรา้ งพนื้ ฐาน บคุ ลากร และระบบวจิ ยั และนวตั กรรมของประเทศ เนน้ การพฒั นา โครงสร้างพ้ืนฐานทางด้านการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ การพัฒนาระบบสนับสนุนเพื่อยกระดับคุณภาพ ผลงานวจิ ัยและนวตั กรรมให้สามารถสร้างผลกระทบสูงทางเศรษฐกิจและสงั คม การพัฒนาระบบบริหารจัดการ งานวิจัยเพ่ือน�ำไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม การพัฒนามาตรการแรงจูงใจเพ่ือส่งเสริมให้ภาคเอกชน ลงทุนวิจัยและนวัตกรรม การเพ่มิ จ�ำนวนบุคลากรวจิ ยั และนวัตกรรมในภาครฐั ภาคการศึกษา และภาคเอกชน รวมท้งั การปฏิรูประบบวจิ ยั และนวตั กรรมของประเทศ วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพม่ิ จำ� นวนบคุ ลากรวจิ ยั และนวตั กรรมในภาครฐั ภาคการศกึ ษา และภาคเอกชน ทม่ี ที กั ษะในการสรา้ ง นวตั กรรมและการเป็นผ้ปู ระกอบการ รองรับการขบั เคลอ่ื นไปสปู่ ระเทศที่พฒั นาแล้วดว้ ยนวตั กรรม ๒. พฒั นาระบบสนับสนุนเพือ่ ยกระดับคุณภาพผลงานวิจัยและนวัตกรรมใหส้ ามารถสรา้ งผลกระทบสูง ทางเศรษฐกิจและสังคม ทั้งระบบบริหารจัดการงานวิจัยเพื่อน�ำไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม และ โครงสรา้ งพ้นื ฐานดา้ นคณุ ภาพเพอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพสนิ ค้าและบริการใหไ้ ด้ระดบั สากล ๓. ส่งเสริมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นฐานในการผลิตสินค้าและ บริการ เพ่ือขับเคลอื่ นอุตสาหกรรมเปา้ หมายของประเทศ ๔. พัฒนามาตรการแรงจงู ใจเพ่ือสง่ เสรมิ ใหภ้ าคเอกชนลงทนุ วิจัยและนวตั กรรมอยา่ งกา้ วกระโดด เป้าหมายยุทธศาสตร์ ๑. จ�ำนวนบคุ ลากรวิจัยและพฒั นาเพ่มิ ขึน้ เปน็ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๖๐ คน ต่อประชากร ๑๐,๐๐๐ คน ๒. สดั สว่ นการลงทุนวจิ ัยและพฒั นาของภาคเอกชนต่อภาครฐั เพ่มิ ขน้ึ เปน็ ๘๐:๒๐ ๓. ผลงานวิจัยและเทคโนโลยีพร้อมใช้ท่ีถูกน�ำไปใช้ในการสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์และสังคม มีจ�ำนวน เพิ่มขึน้ ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๕๐ ๔. อนั ดบั ดา้ นกฎระเบยี บทสี่ นบั สนนุ การพฒั นานวตั กรรม (Technological regulation) จดั โดยสถาบนั การจดั การนานาชาติ (International Institute for Management Development: IMD) อยใู่ นลำ� ดบั ๑ ใน ๓๐ ยุทธศาสตร์ท่ี ๔ ประกอบดว้ ย ๗ ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ ไดแ้ ก่ ๑) การปรบั ระบบวจิ ยั และนวตั กรรม ของประเทศ ๒) บุคลากรและเครือข่ายการวิจัยและนวัตกรรม ๓) ระบบบริหารจัดการงานวิจัย ๔) เขตเศรษฐกิจนวัตกรรม ๕) ระบบแรงจูงใจ ๖) โครงสร้างพ้ืนฐานทางคุณภาพของประเทศ และ ๗) โครงสรา้ งพนื้ ฐานทางการวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยเี พอ่ื ตอ่ ยอดอตุ สาหกรรมการเกษตร และสขุ ภาพ โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี 70 บทที่ ๕ : ยุทธศาสตรก์ ารวิจัยและนวตั กรรม (รา่ ง) ยทุ ธศาสตรก์ ารวิจยั และนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๔.๑ การปรบั ระบบวิจัยและนวตั กรรมของประเทศ ๔.๑.๑ วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือปฏิรูประบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศให้มีหน่วยงานเดียวท่ีท�ำหน้าที่เชิงนโยบายใน การบริหารจัดการระบบวิจัยและนวัตกรรม รวมทั้งการทบทวนและการปรับบทบาท หน้าท่ีหน่วยงานในระบบ วิจัยและนวตั กรรม ๔.๑.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) จัดตั้งสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ และสำ� นกั งานสภานโยบายวิจยั และนวตั กรรม แหง่ ชาติ เพอื่ รบั ผดิ ชอบงานวชิ าการและงานธรุ การของสภานโยบายวจิ ยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ โดยมหี นา้ ทห่ี ลกั ซ่งึ สอดคลอ้ งกบั (ร่าง) พระราชบัญญัติการวิจยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ พ.ศ. .... ได้แก่ (๑) การก�ำหนดทิศทาง นโยบาย และยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม (Policy direction) ทมี่ เี ปา้ หมายทช่ี ดั เจนในเชงิ รกุ (Proactive) และก�ำกับงานวิจัยและนวัตกรรม (Top-down approach) ในภาพรวมของประเทศ (๒) การบริหารจัดการ งบประมาณวจิ ยั และนวตั กรรม (Budget allocation) (๓) การตดิ ตามและประเมนิ การดำ� เนนิ งานดา้ นการวจิ ยั และ นวตั กรรม (Monitoring and evaluation) และ (๔) การบูรณาการหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม (Integration) ๒) ปรับบทบาทหนา้ ทข่ี องหนว่ ยงานในระบบวิจยั และนวตั กรรม ใหม้ คี วามชัดเจน เหมาะสมและ สามารถปฏบิ ัติงานได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ โดยแบง่ เปน็ ๕ กลุ่ม ไดแ้ ก่ (๑) หน่วยงานนโยบายวจิ ัยและนวตั กรรม (๒) หนว่ ยงานการใหท้ นุ หรอื บรหิ ารจดั การวจิ ยั และนวตั กรรม (๓) หนว่ ยงานทำ� วจิ ยั และนวตั กรรม (๔) หนว่ ยงาน สนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ตรวจวิเคราะห์ และรับรองมาตรฐาน และ (๕) หน่วยงานจัดการความรู้จาก งานวิจัยและนวัตกรรมและหนว่ ยงานซึ่งเป็นผใู้ ชป้ ระโยชนจ์ ากงานวิจัยและนวัตกรรม ๔.๒ บคุ ลากรและเครอื ขา่ ยการวจิ ัยเเละนวัตกรรม ๔.๒.๑ วัตถุประสงค์ เพ่ือผลิตและพัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมของประเทศให้เพียงพอ ทั้งในเชิงปริมาณและ คณุ ภาพ รองรบั การเพมิ่ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศดว้ ยการวจิ ยั และนวตั กรรม และเตรยี มความพรอ้ ม ส�ำหรบั การเปลีย่ นแปลงในอนาคต ๔.๒.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) เพ่ิมจ�ำนวนบุคลากรวิจยั และนวตั กรรมระดบั หัวรถจักรเพื่อเป็นผู้นำ� ในการพฒั นา ภาคการผลติ บรกิ าร สงั คมและชุมชน ในการขบั เคล่อื นประเทศ โดยการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การพฒั นาบคุ ลากรเพอื่ รองรบั การเตบิ โตของกจิ กรรมวจิ ยั และ นวตั กรรมของภาคการผลติ บรกิ าร สงั คมและชมุ ชน ผา่ นแนวทางตา่ ง ๆ เชน่ สนบั สนนุ การวจิ ยั ระดบั หลงั ปรญิ ญา เอก หรือหลังปริญญาโท เพื่อเป็นแหล่งสะสมนักวิจัยคุณภาพสูงของประเทศ สร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชน รว่ มพฒั นาและจ้างงานบุคลากรวิจยั และนวัตกรรม บรู ณาการและปรบั แนวทางการจดั สรรทนุ การศกึ ษาของรัฐ ใหต้ อบยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาประเทศ เปน็ ตน้ ขยายผลหลกั สตู รระดบั อดุ มศกึ ษาดา้ นการพฒั นาทกั ษะความเปน็ บทที่ ๕ : ยุทธศาสตรก์ ารวิจัยและนวตั กรรม 71 (ร่าง) ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๔) สรา้ งเครอื ขา่ ยวิจัยและนวตั กรรม โดยการสนับสนุนเครือข่ายวิจัยและนวัตกรรมของภาคส่วนและระดับต่าง ๆ ให้เข้มแข็งและ สามารถด�ำเนินการอย่างตอ่ เนื่อง การบรหิ ารจัดการและกลไกการประสานงานของเครือขา่ ยวิจัยและนวตั กรรม ระดบั ชาติ ภมู ิภาค ท้องถนิ่ และเครอื ขา่ ยวิจยั และนวตั กรรมของภาคสว่ นต่าง ๆ ให้มีประสทิ ธิภาพ ประสิทธิผล และยึดหลักธรรมาภิบาล การพัฒนากลไกประสานความร่วมมือแบบหุ้นส่วนความร่วมมือ (Collaborative partnership) และการท�ำงานแบบบูรณาการระหว่างเครือข่ายวิจัยและนวัตกรรมต่างระดับ และตา่ งภาคสว่ น การสนบั สนนุ ใหเ้ ครอื ขา่ ยวจิ ยั และนวตั กรรมทกุ ภาคสว่ นและทกุ ระดบั มสี ว่ นรว่ มเพม่ิ ขนึ้ ในการ ก�ำหนดยุทธศาสตร์ ทิศทางการวิจัยและนวัตกรรม โจทย์วิจัย ตลอดจนร่วมลงทุน/อุดหนุนทรัพยากรในการ วิจัยและนวัตกรรม การสนบั สนนุ การแลกเปล่ยี นเรียนรู้ในการพัฒนาเครือข่าย บริหารจดั การเครอื ขา่ ย บรหิ าร การวจิ ัยและนวตั กรรม และบริหารทุนวจิ ัยและนวัตกรรมระหวา่ งเครือขา่ ยวิจยั และนวตั กรรมของภาคส่วนและ ระดับต่าง ๆ การส่งเสริมภาคเอกชนให้ท�ำงานวิจัยได้เองและส่งเสริมการจัดตั้งและขึ้นทะเบียนหน่วยงานวิจัย ภาคเอกชนใหภ้ าคเอกชนทม่ี ศี กั ยภาพสามารถใหบ้ รกิ ารแกผ่ ปู้ ระกอบการรายอนื่ ได้ นอกจากน้ี มงุ่ สง่ เสรมิ ความ ร่วมมือด้านการวิจัยและนวัตกรรมกับต่างประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์การทูตวิทยาศาสตร์ การผลักดันให้มี ข้อตกลงความร่วมมือเพ่ือการวิจัยและนวัตกรรม การพัฒนานักวิจัยและการแลกเปล่ียนนักวิจัย/องค์ความรู้/ เทคโนโลยีด้านการวิจัยและนวัตกรรมกับต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมให้มีศูนย์ความร่วมมือระดับ ชาติและหน่วยงานส�ำหรับการวิจัยและนวัตกรรมด้านต่าง ๆ เพ่ือประสานความร่วมมือกับเครือข่ายและ หนว่ ยงานวจิ ยั ตา่ งประเทศ การสนบั สนนุ การสอ่ื สาร ประชาสมั พนั ธแ์ ละเผยแพรผ่ ลงานวจิ ยั และนวตั กรรม รวมทง้ั การจัดท�ำฐานข้อมูลบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ และการสร้างสถาบันคลังสมองระดับชาติหรือ สรา้ งศนู ยเ์ ชย่ี วชาญเฉพาะทางเพอ่ื เปน็ แหลง่ สะสมองคค์ วามรแู้ ละเครอื ขา่ ยงานวจิ ยั ดา้ นตา่ ง ๆ อาทิ ดา้ นความมน่ั คง ๔.๓ ระบบบรหิ ารจดั การงานวิจยั ๔.๓.๑ วตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื พัฒนาระบบบรหิ ารจดั การงานวจิ ยั ทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพและประสิทธผิ ล น�ำไปสู่การสร้างผลงาน วิจัยท่ีสามารถต่อยอดให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม ตรงตามทิศทางการพัฒนาประเทศและ ความต้องการของภาคเอกชนและชุมชน ๔.๓.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) ปรับระบบงบประมาณการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศเพอื่ รองรับแผนงานวิจัย และนวตั กรรมขนาดใหญแ่ ละส่งเสริมบทบาทการทำ� วิจยั ของภาคเอกชน โดยให้สามารถจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการตามยุทธศาสตร์การวิจัยและ นวัตกรรมในรปู แบบเปน็ กอ้ น (Block grant) เพอ่ื ให้เกิดความต่อเน่อื งในการท�ำวจิ ยั รวมทง้ั ก�ำหนดความรับผิด รบั ชอบ (Accountability) ในการสง่ มอบผลงานของหน่วยงานการใหท้ นุ หรอื บรหิ ารจดั การวจิ ยั เเละนวัตกรรม และใหภ้ าคเอกชน รวมถงึ สถาบนั การศกึ ษาเอกชนสามารถรบั ทนุ วจิ ยั และนวตั กรรมตามเงอื่ นไขทก่ี ำ� หนด รวมทง้ั สง่ เสรมิ ใหม้ กี ลไกความรว่ มมอื ระหวา่ งภาคเอกชนและวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มเพอื่ ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระกอบ การวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ มให้เขา้ ถึงแหลง่ ทุนจากภาครัฐได้ บทที่ ๕ : ยุทธศาสตร์การวจิ ยั และนวตั กรรม 73 (รา่ ง) ยทุ ธศาสตร์การวจิ ัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๒) พัฒนาระบบสารสนเทศอัจฉรยิ ะเพือ่ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการบริหารจดั การงานวจิ ัย ประกอบด้วยการพัฒนาระบบบูรณาการและเชื่อมโยงฐานข้อมูลที่เก่ียวข้องกับการวิจัยและ นวัตกรรมที่ส�ำคัญ เช่น ฐานข้อมูลบุคลากรวิจัยและนวัตกรรม ฐานข้อมูลผลงานวิจัย และฐานข้อมูลทรัพย์สิน ทางปัญญา เป็นต้น การพัฒนาระบบวิเคราะห์และคัดเลือกประเด็นวิจัยที่ประเทศมีศักยภาพส�ำหรับก�ำหนด ทิศทางการวิจัยของประเทศ การพัฒนาระบบกล่ันกรองโปรแกรมวิจัยและระบบติดตามและประเมินผล ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ รวมทงั้ ระบบคดั กรองผลงานวจิ ยั ตามระดบั ความพรอ้ มของเทคโนโลยี (Technology Readiness Level: TRL) โดยมีการเช่ือมโยงระบบต่าง ๆ เหล่านีเ้ ข้าดว้ ยกัน ๓) พัฒนากลไกการน�ำผลงานวิจัยไปใชป้ ระโยชนเ์ ชงิ พาณชิ ย์และเชงิ สังคมให้มปี ระสทิ ธผิ ล มากขนึ้ โดยพฒั นาระบบ Online technology marketplace ที่เชื่อมโยงกบั ฐานข้อมูลผลงานวิจัย ที่คัดกรองตามระดับความพร้อมของเทคโนโลยี เพื่อให้ภาคเอกชนและชุมชนสามารถค้นหาเทคโนโลยีหรือ ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ส่งเสริมให้มีหน่วยงานเชิงรุกท�ำหน้าที่น�ำผลงานวิจัยออกไปสู่ตลาด ทั้งในและต่างประเทศ ส่งเสริมให้นักวิจัยยื่นจดทรัพย์สินทางปัญญาควบคู่กับการเผยแพร่ผลงานตีพิมพ์ และ ประสานการเจรจาระหว่างเจ้าของผลงานและผู้ท่ีสนใจเพ่ือให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีหรือร่วมทุนพัฒนา งานวิจยั รวมท้ังสนบั สนนุ การสร้างความเขม้ แข็งใหแ้ ก่หนว่ ยจัดการทรพั ย์สนิ ทางปัญญา ๔) สง่ เสริมกระบวนการกำ� หนดทิศทางการวิจัยและนวตั กรรม ด้วยการส่งเสริมกระบวนการเพื่อคาดการณ์การเปล่ียนแปลงในอนาคตโดยอาศัยระบบ ฐานข้อมูลท่ีเกี่ยวข้อง เช่น การคาดการณ์ตลาดและขีดความสามารถในการแข่งขันของงานวิจัยและ นวตั กรรม การคาดการณด์ า้ นความมน่ั คง การคาดการณเ์ กย่ี วกบั ภยั คกุ คามทอี่ าจจะเกดิ ขนึ้ ในอนาคต การคาดการณ์ เกย่ี วกบั ภัยพิบัติ เป็นตน้ กระบวนการก�ำหนดโจทย์วจิ ยั จากกล่มุ อุตสาหกรรม และกระบวนการมีส่วนร่วมของ หน่วยงานที่เก่ยี วขอ้ งในการพิจารณาโครงการที่ส�ำคัญ ๔.๔ เขตเศรษฐกิจนวัตกรรม ๔.๔.๑ วัตถปุ ระสงค์ เพอื่ สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ พนื้ ทเ่ี ศรษฐกจิ ใหมบ่ นฐานการวจิ ยั พฒั นาและนวตั กรรม โดยมงุ่ ผลติ สนิ คา้ และ บริการมูลคา่ สงู สร้างธรุ กจิ เทคโนโลยใี หม่ สง่ ผลให้เกดิ การปรบั เปลยี่ นระบบเศรษฐกิจจากการใชแ้ รงงานเขม้ ขน้ ไปสกู่ ารขับเคลอื่ นเศรษฐกิจดว้ ยนวตั กรรม ๔.๔.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การพัฒนาและยกระดับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษท่รี ัฐบาล ก�ำหนดให้เปน็ พนื้ ทเ่ี ศรษฐกจิ ใหม่ดว้ ยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ได้แก่ การยกระดับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกให้เป็นเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจ ภาคตะวนั ออก (Eastern Economic Corridor of Innovation: EECi) ให้เกดิ การวจิ ยั และพัฒนา เทคโนโลยี 74 บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตรก์ ารวิจัยและนวตั กรรม (ร่าง) ยุทธศาสตรก์ ารวิจยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
และนวัตกรรมขั้นสูง โดยการพัฒนา EECi ให้เป็นพ้ืนที่ท่ีเอ้ือต่อการท�ำวิจัย พัฒนาและสร้างนวัตกรรมร่วมกัน ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน มหาวิทยาลัย และการใช้ทรัพยากรร่วมกันเพ่ือก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การรวมศูนยห์ อ้ งปฏบิ ัตกิ ารและสนามทดสอบนวัตกรรม (Fabrication laboratory & Test-bed sandbox) ศูนย์รับรองมาตรฐานนวัตกรรมทางด้านระบบและอุปกรณ์อัจฉริยะ เป็นต้น การจัดตั้ง EECi เป็นเขตทดสอบ นวัตกรรมอัจฉริยะของประเทศที่ผ่อนปรนกฎระเบียบที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการคิดค้นนวัตกรรม รวมท้ัง การพฒั นาใหเ้ ปน็ ชมุ ชนการจา้ งงานผเู้ ชยี่ วชาญเทคโนโลยรี ะดบั สงู ของทง้ั หนว่ ยงานภาครฐั และภาคเอกชน ควบคู่ กบั การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพ้ืนที่ดว้ ยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพอื่ นำ� ไปสู่การพฒั นาทีย่ ั่งยืน ๒) ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศูนย์กลางวิจัยและนวัตกรรม (Research and innovation hub) รองรับอตุ สาหกรรมเปา้ หมายทรี่ ฐั บาลกำ� หนด ไดแ้ ก่ การพฒั นาเมอื งนวตั กรรมอาหาร (Food Innopolis) เพื่อดึงดูดบริษัทอาหารชั้นน�ำ ของโลกมาลงทนุ นวตั กรรมอาหารในประเทศไทย และเชอื่ มโยงใหเ้ กดิ การวจิ ยั และพฒั นา การถ่ายทอดเทคโนโลยี และองคค์ วามรสู้ บู่ รษิ ทั เอกชนไทยและสถาบนั การศกึ ษาหรอื สถาบนั วจิ ยั ของไทย รวมถงึ การจดั ตงั้ และขยายการ ดำ� เนนิ งานเมอื งนวตั กรรมอาหารไปในพนื้ ทที่ มี่ คี วามพรอ้ มดา้ นโครงสรา้ งพนื้ ฐานและบคุ ลากร อาทิ มหาวทิ ยาลยั เครือข่ายท่ีมีความร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อน�ำไปสู่การเป็นศูนย์กลางวิจัยและ นวัตกรรมดา้ นอาหารท่สี �ำคัญของโลก ๓) ส่งเสริมและสนับสนนุ อทุ ยานวทิ ยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) ใหพ้ ัฒนาไปสู่ “เมืองวิทยาศาสตร์ ปทมุ ธาน”ี โดยอาศัยการมีส่วนร่วมอย่างเข้มข้นของหน่วยงานต่าง ๆ ท้ังจากภายในและโดยรอบ อวท. เพอื่ ใหเ้ ปน็ แหลง่ รวมของการวจิ ยั และพฒั นา การถา่ ยทอดเทคโนโลยี และการจา้ งงานทางดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ๔) ยกระดับอุทยานวิทยาศาสตร์ภมู ภิ าคทีม่ อี ยู่เดิมให้เข้มแขง็ สามารถรองรับการสร้างนวัตกรรมของภาคเอกชนและสนบั สนุนภาคเอกชนใหล้ งทุนท�ำวจิ ยั และพฒั นาไดแ้ บบกา้ วกระโดด รวมทงั้ สง่ เสรมิ ใหม้ อี ทุ ยานวทิ ยาศาสตรภ์ มู ภิ าคเพมิ่ ขนึ้ โดยผลกั ดนั มหาวทิ ยาลยั เครอื ขา่ ยในภมู ภิ าครว่ มดำ� เนนิ การใหย้ กระดบั เปน็ อทุ ยานวทิ ยาศาสตรอ์ ยา่ งเตม็ รปู แบบ หรอื เปน็ อทุ ยานวทิ ยาศาสตร์ เฉพาะทาง เพ่ือเป็นการเพิ่มและขยายจุดการให้บริการและโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ นวตั กรรม ใหก้ ระจายครอบคลมุ อยา่ งทว่ั ถงึ ทงั้ ประเทศ ๕) ส่งเสรมิ มหาวิทยาลัยให้พฒั นา University industrial park โดยผลักดันมหาวิทยาลัยให้ใช้ความพร้อมและความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีไปเชื่อมโยงและสนับสนุนภาคเอกชนในการสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรม มีการจัดสรรพื้นท่ีของ มหาวิทยาลัยให้เป็นพื้นท่ีต้ังศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทเอกชน และอ�ำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชนได้ใช้ โครงสรา้ งพืน้ ฐานในการท�ำกิจกรรมวิจัย พฒั นา และนวตั กรรม เชน่ ห้องปฏบิ ัตกิ ารวจิ ัย โรงงานตน้ แบบ และ บทท่ี ๕ : ยุทธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม 75 (รา่ ง) ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
หน่วยบ่มเพาะเทคโนโลยี เป็นต้น และสนับสนุนให้เกิดการท�ำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างนักวิจัยของ ภาคเอกชนและบคุ ลากรวจิ ยั ของมหาวทิ ยาลัย ๖) จัดใหม้ ีมาตรการทส่ี ามารถดงึ ดูดภาคเอกชนใหท้ ำ� การวิจัยและพฒั นาในพ้ืนท่เี ขต เศรษฐกจิ นวตั กรรมที่เหมาะสม เช่น สิทธิประโยชน์ทางภาษี การยกเว้นภาษีบุคคลธรรมดาส�ำหรับนักวิจัยท่ีด�ำเนินการใน เขตเศรษฐกจิ นวตั กรรม รวมถงึ อำ� นวยความสะดวกดา้ นกฎหมายเรอื่ งใบอนญุ าตทำ� งาน (Immigration work permit) ใหแ้ กบ่ คุ ลากรดา้ นการวจิ ยั และนวตั กรรมที่เป็นชาวตา่ งชาตใิ หส้ ามารถทำ� งานได้อย่างตอ่ เนอื่ ง ๔.๕ ระบบแรงจูงใจ ๔.๕.๑ วัตถปุ ระสงค์ เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้เกิดบรรยากาศด้านการวิจัยและการสร้างนวัตกรรมท่ีดี รวมถึงขจัด อปุ สรรคหรอื ขอ้ จำ� กดั ทม่ี อี ยใู่ นการดำ� เนนิ กจิ กรรมวจิ ยั พฒั นาและนวตั กรรม ใหส้ อดคลอ้ งกบั ทศิ ทางและนโยบาย ดา้ นการวจิ ยั และนวตั กรรมของประเทศ ๔.๕.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) พฒั นามาตรการทางการเงินทที่ ันสมัยเพ่อื สนับสนุนการสรา้ งนวตั กรรม เช่น กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสําหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (Competitiveness fund) มงุ่ เนน้ การสนบั สนนุ กจิ กรรมทสี่ รา้ งขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของอตุ สาหกรรม เป้าหมายตามที่รัฐบาลก�ำหนดในนโยบายประเทศไทย ๔.๐ และกองทุนสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรม (Technology and Innovation-Based Enterprise Development Fund: TED Fund) มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถด้านการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมให้แก่ผู้ประกอบการเทคโนโลยีและ นวัตกรรมในระยะเริ่มต้นให้สามารถก้าวผ่านช่วงการลงทุนที่มีความเส่ียงสูง เพ่ือส่งเสริมให้เกิดวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) และวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม ๒) ปรบั ปรุงมาตรการทางภาษีใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพเพ่อื จงู ใจเอกชนให้ลงทุนทำ� วิจยั เช่น การปรับปรุงการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีด้านการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม โดย เพม่ิ การลดหยอ่ นภาษขี องคา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นการวจิ ยั พฒั นาและนวตั กรรมของภาคเอกชน จากเดมิ ๒ เทา่ เปน็ ๓ เทา่ (ภาษี ๓๐๐%) และปรบั ปรงุ ขนั้ ตอนการขอรบั สทิ ธปิ ระโยชนใ์ หม้ คี วามคลอ่ งตวั มากขนึ้ ดว้ ยระบบ Self declaration เปน็ ตน้ ๓) ขับเคลือ่ นมาตรการจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐเพื่อเปน็ กลไกส่งเสริมการสรา้ งนวัตกรรม โดยผปู้ ระกอบการไทย เช่น การจัดซื้อผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในบัญชีนวัตกรรมไทย และผลักดันให้ส่ิงประดิษฐ์ในบัญชี ส่งิ ประดษิ ฐไ์ ทยได้ขน้ึ บญั ชีนวัตกรรมไทย เพื่อผลักดันผลงานวิจยั ไปส่กู ารใช้ประโยชนเ์ ชงิ พาณชิ ย์ การสรา้ งแรง 76 บทที่ ๕ : ยุทธศาสตร์การวจิ ยั และนวัตกรรม (ร่าง) ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
จูงใจโดยใช้กลไกของระบบทรัพย์สินทางปัญญาให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้วิจัยและหน่วยงานวิจัยภาครัฐ รวมถึง การกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวโดยมุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูงในภาคผลิตและบริการ อันจะสง่ ผลถึงการปรับโครงสรา้ งอุตสาหกรรมไทยใหเ้ ปน็ อตุ สาหกรรมทีข่ ับเคล่อื นโดยนวัตกรรม เปน็ ต้น ๔) พัฒนามาตรการสรา้ งความเขม้ แขง็ แกส่ ภาพแวดล้อมทเ่ี อ้ือตอ่ การสร้างนวัตกรรม การปลดลอ็ คกฎระเบียบต่าง ๆ ทีเ่ ปน็ อุปสรรคต่อการสรา้ งงานวิจัยและนวตั กรรม การผลกั ดนั ให้มีพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... เพ่ือเป็นการใช้ระบบ ทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญาในการสง่ เสรมิ การใชป้ ระโยชนจ์ ากผลงานวจิ ยั ทร่ี ฐั ใหท้ นุ สนบั สนนุ และสง่ เสรมิ กจิ กรรมความ ร่วมมือระหว่างองค์กรภาคธุรกิจกับมหาวิทยาลัยหรือสถาบันวิจัย การส่งเสริมการรวมกลุ่มผู้ประกอบการใน อตุ สาหกรรมเปา้ หมาย (Industrial consortium) โดยผา่ นกลไกสานพลงั ประชารฐั เพอ่ื มงุ่ ใหเ้ กดิ การวจิ ยั พฒั นา และนวัตกรรมทต่ี รงตามโจทยค์ วามตอ้ งการของภาคเอกชนและวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม การขบั เคลอื่ น มาตรการสง่ เสรมิ มหาวิทยาลัยเพ่ือพัฒนาผู้ประกอบการ (Entrepreneurial university) เพ่ือสร้างโอกาสให้ นักศึกษาได้เรียนรู้ ฝึกปฏิบัติ และคิดวิเคราะห์ รวมถึงส่งเสริมให้มีกิจกรรมบ่มเพาะและเร่งการเจริญเติบโต เพื่อพัฒนาธุรกิจฐานนวัตกรรม การส่งเสริมให้จ�ำนวนผลิตภัณฑ์ท่ีอยู่ในบัญชีนวัตกรรมไทยเพิ่มมากข้ึน เพ่อื สนบั สนุนการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์นวตั กรรมในประเทศ ๔.๖ โครงสร้างพ้ืนฐานทางคณุ ภาพของประเทศ ๔.๖.๑ วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือพัฒนาระบบโครงสร้างพ้ืนฐานทางคุณภาพของประเทศ รวมถึงกฎระเบียบที่เก่ียวข้องกับ การพัฒนามาตรฐาน และกลไกการสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานทางคุณภาพของประเทศ ๔.๖.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) พฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานทางคณุ ภาพของประเทศ (National quality infrastructure) ให้มคี ณุ ภาพระดับโลก โดยน�ำระบบ “มาตรวิทยา การมาตรฐาน การทดสอบและการบริหารคุณภาพ” ที่ได้รับ การยอมรับในระดับนานาชาติ มาปฏิบัติเพ่ือให้เกิดหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าผลิตภัณฑ์และบริการมีคุณสมบัติ ตามที่ก�ำหนดไว้ ช่วยสนับสนุนการผลักดันงานวิจัยของภาครัฐและภาคเอกชนให้สามารถใช้ประโยชน์ใน เชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นการเช่ือมโยงจากงานวิจัยในระดับห้องปฏิบัติการสู่การทดลองผลิต และการผลติ ระดับอุตสาหกรรม • มาตรวิทยา (Metrology) พัฒนาความสามารถของระบบมาตรวิทยา มุ่งเน้นพัฒนา มาตรฐานการวัดและความสามารถทางการวัดท่ีแม่นย�ำ และได้รับการยอมรับจากนานาชาติ เพ่ือท�ำให้ กระบวนการผลิต การควบคมุ คุณภาพ และการทดสอบถูกตอ้ งและน่าเชื่อถือ • การมาตรฐาน (Standardization) ศึกษาและพัฒนาความสามารถของการก�ำหนด มาตรฐานคุณภาพและข้อก�ำหนดทางเทคนิคขั้นต่�ำ การพัฒนามาตรฐานการวิจัยให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั่วประเทศและให้เปน็ ที่ยอมรับของนานาชาติ ตลอดจนการพัฒนาบคุ ลากรดา้ นการมาตรฐานของประเทศไทย บทท่ี ๕ : ยทุ ธศาสตรก์ ารวิจยั และนวตั กรรม 77 (รา่ ง) ยุทธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
ที่มีศกั ยภาพเพ่อื รว่ มกำ� หนดมาตรฐานระหว่างประเทศ การทดสอบ (Testing) พฒั นาความสามารถของการวเิ คราะห์ ทดสอบสนิ คา้ และบรกิ าร โดยการยกระดับความสามารถด้านการวิเคราะห์ ทดสอบของห้องปฏิบัติการไทยสู่มาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 และพัฒนาให้มีจ�ำนวนเพียงพอต่อความต้องการของภาคเอกชน ซ่ึงจะช่วยลดต้นทุนและเวลาส�ำหรับ ผู้ส่งออกที่ต้องส่งสินค้าไปตรวจสอบต่างประเทศ ส่งเสริมให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเข้าถึงบริการ การทดสอบสนิ ค้าและบริการใหม้ ากขึ้น • การบริหารคุณภาพ (Quality management) ตรวจสอบและรับรองคุณภาพของ ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ทดสอบ สอบเทียบเคร่ืองมือวัด ทวนสอบกระบวนการผลิตของสินค้าและบริการ เพื่อรับรองวา่ สินคา้ และบริการมคี ณุ ภาพและความปลอดภัย ๒) พัฒนามาตรฐานและจริยธรรมการวจิ ัย (Standards and ethics for research) มงุ่ เนน้ การกำ� หนดมาตรการหลกั เกณฑใ์ นการดำ� เนนิ งานวจิ ยั ซงึ่ ตงั้ อยบู่ นพน้ื ฐานของจรยิ ธรรม และหลักวิชาการที่เหมาะสม ได้แก่ มาตรฐานการวิจัยในมนุษย์ มาตรฐานการเล้ียงและใช้สัตว์เพ่ืองาน ทางวิทยาศาสตร์ มาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ มาตรฐานความปลอดภัยทางชีวภาพ มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ด้านนาโนเทคโนโลยี มาตรฐานที่เก่ียวข้องกับนักวิจัย มาตรฐานผู้ทรงคุณวุฒิในการประเมินข้อเสนอ การวิจัย มาตรฐานการเผยแพร่ผลงานวิจัยและผลงานทางวิชาการ มาตรฐานการจัดสรรสิทธิประโยชน์ จากทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญาทไ่ี ดจ้ ากการวจิ ยั จรรยาวชิ าชพี วจิ ยั และแนวทางปฏบิ ตั ิ และจรยิ ธรรมสำ� หรบั ผปู้ ระเมนิ โครงการวจิ ยั ผลงานวชิ าการและผลงานวิจัย ๔.๗ โครงสร้างพน้ื ฐานทางการวิจัย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดอตุ สาหกรรม การเกษตร และสขุ ภาพ ๔.๗.๑ วตั ถุประสงค์ เพอื่ พัฒนาโครงสรา้ งพน้ื ฐานการวิจัย วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่จ�ำเป็นต้องใช้ในการต่อยอด ส�ำหรบั การพัฒนาอุตสาหกรรมทป่ี ระเทศไทยมศี กั ยภาพ ๔.๗.๒ แนวทาง / มาตรการ ๑) พัฒนาธนาคารเมลด็ พนั ธ์ุ (Seed bank) เพ่ือใชใ้ นการทดลองปลกู พชื สำ� หรบั การปรบั ปรงุ พนั ธพ์ุ ชื ท่สี ำ� คญั ต่อเศรษฐกิจของไทย ๒) พัฒนาธนาคารเชื้อพันธุกรรม (Germplasm bank) เพอ่ื เปน็ แหลง่ จดั เกบ็ พนั ธพ์ุ ชื สตั ว์ และจุลินทรีย์ และการศึกษาวิจัยคุณสมบัติเพ่ือใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงพันธุ์ การผลิตสารชีวภาพ ในอุตสาหกรรม ๓) จัดต้ังธนาคารยีน (Gene bank) เพ่ือเป็นแหล่งรวบรวมตัวอย่างเซลล์ที่มีสารพันธุกรรม ของบุคคลและฐานข้อมูลจีโนม (Genome) ของประชากรเพ่ือประโยชน์ในการศึกษาวิจัย การป้องกันรักษา โรคตา่ ง ๆ และพัฒนาใช้ประโยชนอ์ น่ื ๆ 78 บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตร์การวจิ ัยและนวัตกรรม (ร่าง) ยุทธศาสตรก์ ารวิจัยและนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๔) พฒั นาโรงเรือนทมี่ รี ะบบอตั โนมตั สิ ำ� หรบั การประเมนิ เชอื้ พนั ธกุ รรมพืชประสทิ ธภิ าพสงู และการเพิม่ ปรมิ าณเมล็ดพันธุ์ เพ่ือประเมินเชื้อพันธุกรรมพืชประสิทธิภาพสูงและเพ่ิมปริมาณเมล็ดพันธุ์ท่ีมี ประสทิ ธภิ าพจากการวจิ ยั ใหม้ จี ำ� นวนมากเพยี งพอตอ่ การกระจายใหก้ บั เกษตรกรนำ� ไปเพาะปลกู หรอื ขยายพนั ธ์ุ ๕) พัฒนาศูนย์วิจัยไพรเมท (Primates center) และห้องปฏิบัติการสัตว์ทดลอง ทม่ี มี าตรฐานสากล เพอ่ื สนบั สนนุ ใหม้ กี ารผลติ สตั วเ์ พอ่ื งานทางวทิ ยาศาสตรใ์ หม้ คี ณุ ภาพและปรมิ าณทเ่ี พยี งพอ ๖) พัฒนาศูนย์ข้อมูลและการวเิ คราะหข์ ้อมลู การวจิ ยั ดา้ นวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ (Biomedical informatics) มุ่งพัฒนาและผสมผสานศาสตร์ทางคอมพิวเตอร์ การจัดการสารสนเทศ วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ ตลอดจนสหสาขาวชิ าทน่ี ำ� มาใชร้ ว่ มกนั ในการวเิ คราะหแ์ ละจดั การขอ้ มลู สารสนเทศ และ องค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้เป็นประโยชน์ ประกอบด้วยสารสนเทศของผู้ป่วย การรักษา พยาบาล การป้องกันโรค การสง่ เสริมสุขภาพ และการฟ้นื สภาพ รวมทง้ั การใช้สารสนเทศเพอ่ื การวิจยั ทางดา้ น การแพทย์หรือวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งจะช่วยอ�ำนวยประโยชน์ในการเพ่ิมศักยภาพการรักษาพยาบาลและ การวิจัย ซึ่งน�ำไปสกู่ ารวิเคราะห์ข้อมลู ขนาดใหญ่ในมิตติ า่ ง ๆ ๗) จัดต้ังธนาคารสารออกฤทธ์ิทางชีวภาพ (Bioactive compounds) เพื่อเป็นแหล่ง รวบรวมสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพท่ีมีการค้นพบโดยนักวิจัยไทยท่ีกระจัดกระจายตามท่ีต่าง ๆ มาไว้ที่เดียวกัน เพ่อื ให้สามารถสบื คน้ เพ่ือการวจิ ัยตอ่ ยอดและการนำ� ไปใช้ประโยชน์เชงิ พาณชิ ย์ได้ ๘) พัฒนาห้องปฏิบัติการเพื่อการทดสอบท่ีส�ำคัญในการพัฒนาผลิตผลจากการวิจัย สภู่ าคการผลิตทีส่ ำ� คญั เช่น ห้องปฏบิ ัตกิ ารท่ไี ดม้ าตรฐาน Good Laboratory Practice (GLP) ตามก�ำหนด ขององคก์ ารเพอ่ื ความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ และการพฒั นา (The Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) ๙) พัฒนาโรงงานต้นแบบท่ีได้มาตรฐานสากลในด้านท่ีก�ำหนด เพื่อใช้ในการวิจัยเชิง อตุ สาหกรรม การทดลองผลติ น�ำร่องในระดับอุตสาหกรรม การสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมแปลงผลงานวจิ ยั ไปสูก่ ารผลิตสนิ ค้าในเชงิ พาณชิ ย์ และการพัฒนาบุคลากรทม่ี ปี ระสบการณ์จรงิ ในการผลติ ในระดบั โรงงาน ๑๐) พัฒนาระบบการใช้ประโยชน์ร่วมกันจากโครงสร้างพ้ืนฐานด้านการวิจัยและ นวตั กรรมทล่ี งทนุ สงู เพอื่ หากลไกและวธิ กี ารในการเขา้ ถงึ และใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นวชิ าการ การผลติ และบรกิ าร จากโครงสรา้ งพืน้ ฐานด้านการวิจยั และนวตั กรรมทลี่ งทนุ สงู ของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา ๑๑) สนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพ้นื ฐานขนาดใหญ่ทางด้านวทิ ยาศาสตร์ในสาขา ที่ประเทศไทยมีศักยภาพ เพื่อให้นักวิจัยสามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพ้ืนฐานขนาดใหญ่ทาง ด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะน�ำไปสู่ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และสนับสนุนให้ประเทศไทยมีความเป็นเลิศ ทางวชิ าการในระดบั นานาชาติ เปน็ ศนู ย์กลางการวิจัยในสาขาท่ปี ระเทศไทยมีศกั ยภาพในระดับภมู ิภาค บทที่ ๕ : ยทุ ธศาสตร์การวิจัยและนวตั กรรม 79 (รา่ ง) ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
บทที่ ๖ กลไกกากราตรปิดขรับตะเเามคมนิลแผ่อื ลนละ ๖.๑ กลไกการขบั เคลอ่ื น การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) สู่การปฏิบัติ ใหป้ ระสบความสำ� เรจ็ จำ� เปน็ ตอ้ งมสี ว่ นรว่ มจากหนว่ ยงานทกุ ภาคสว่ นในระบบวจิ ยั และนวตั กรรมในการเชอ่ื มโยง ยทุ ธศาสตร์และแผนปฏิบตั ิการอย่างเปน็ ระบบ ท้ังระดบั นโยบาย ระดบั ขบั เคล่อื น และระดับปฏิบัติ โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง หน่วยงานที่มีภารกิจด้านวิจัยและนวัตกรรมตามกฎหมาย และเครือข่ายวิจัย ท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศกึ ษา และภาคประชาชน อกี ทงั้ หนว่ ยงานราชการ ระดบั กระทรวงและกรม จงั หวดั /กลุม่ จงั หวัด และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องร่วมกันบูรณาการเพ่ือขับเคล่ือนยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) ให้สามารถบรรลุเป้าหมายหลักของการปฏิรูปการวิจัยและนวัตกรรมซ่ึงเป็นหนึ่ง ในวาระการปฏิรูปของรัฐบาล คือ เพื่อให้ระบบการวิจัยและนวตั กรรมมปี ระสิทธภิ าพ มกี ารบูรณาการการวจิ ยั และนวตั กรรมของประเทศใหต้ รงตามความตอ้ งการและเปน็ ไปในทศิ ทางเดยี วกนั สามารถผลกั ดนั ใหม้ กี ารนำ� ไป ใช้ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม เพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและคุณภาพชีวิตของ ประชาชนอยา่ งเปน็ รูปธรรม และได้ก�ำหนดไวใ้ นยุทธศาสตร์ของหน่วยงาน ๖.๑.๑ ก�ำหนดให้ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) เปน็ กรอบในการด�ำเนินงานและจัดสรรงบประมาณ โดยใหห้ นว่ ยงานในระบบวจิ ยั และนวตั กรรมดำ� เนนิ การตามนโยบายตง้ั แตต่ น้ ทาง กลางทาง และปลายทาง 80 (รา่ ง) ยุทธศาสตร์การวิจยั และนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
ให้เกิดประโยชน์ เพ่ิมมูลค่าให้ได้โดยเร็ว และให้มีการบูรณาการท้ังบุคลากร งบประมาณ และแผนงานอย่าง ครบวงจร โดยก�ำหนดกรอบการพัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรม กรอบแนวทางการจัดสรรงบประมาณวิจัย และนวัตกรรมแบบบูรณาการ และกรอบการพฒั นากลไกการบรหิ ารจดั การงานวจิ ัยและนวัตกรรมให้สอดคล้อง กบั ยุทธศาสตรก์ ารวจิ ัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) ๖.๑.๒ ใหจ้ ัดทำ� พระราชบญั ญตั กิ ารวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... เปน็ กฎหมายหลกั ซงึ่ กำ� หนดแนวทางการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การวจิ ยั และนวตั กรรม พฒั นาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศลิ ปวทิ ยาการแขนงต่าง ๆ ของประเทศทั้งระบบ เพอื่ สรา้ งความร้แู ละการพัฒนางานวจิ ยั และ นวตั กรรมให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ และประโยชนท์ างสังคม ความม่ันคง และสง่ิ แวดล้อม โดยมหี ลักการดงั น้ี ๑) กำ� หนดนโยบายและยทุ ธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมแหง่ ชาตใิ หส้ อดคล้องกับยทุ ธศาสตรช์ าติ ๒) จัดสรรงบประมาณและจัดโครงสร้างพื้นฐานเพ่อื การวิจยั และนวัตกรรมทเ่ี พยี งพอ ๓) จดั ให้มกี ลไกและมาตรการสนบั สนนุ อ�ำนวยความสะดวกแก่การวจิ ยั และนวตั กรรม และการใหส้ ทิ ธิ ประโยชน์และแรงจงู ใจทีเ่ หมาะสม ๔) สนับสนุนการใชป้ ระโยชน์ผลงานวจิ ยั และนวัตกรรม ๕) สง่ เสรมิ และสนับสนนุ การผลติ และพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ ๖) ปรบั ปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ ขอ้ บงั คบั ท่เี กี่ยวข้องให้เออื้ ต่อการพฒั นาการวจิ ัยและนวตั กรรม โดย ใหม้ สี ภานโยบายวจิ ยั และนวตั กรรมแหง่ ชาตเิ พอื่ กำ� หนดแนวทางการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การวจิ ยั และนวตั กรรม ของประเทศ และส�ำนักงานสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเพ่ือรับผิดชอบงานวิชาการและงานธุรการ ของสภานโยบายวจิ ยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ โครงสรา้ งหนว่ ยงานในการขบั เคลอ่ื นยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) ๑) สภานโยบายวจิ ยั และนวัตกรรมแหง่ ชาติ ประกอบดว้ ย นายกรฐั มนตรเี ปน็ ประธาน รองนายกรฐั มนตรที น่ี ายกรฐั มนตรมี อบหมาย เปน็ รองประธาน รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงทเี่ กย่ี วขอ้ ง ผแู้ ทนจากภาครฐั ภาคเอกชน และผทู้ รงคณุ วฒุ ิ มจี ำ� นวนและองคป์ ระกอบที่ เหมาะสม โดยมีเลขาธิการส�ำนักงานสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเป็นกรรมการและเลขานุการ ซ่ึง สภานโยบายวจิ ยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ มอี ำ� นาจหนา้ ท่ี ดงั นี้ (๑) เสนอนโยบายซงึ่ สอดคลอ้ งกบั พระราชบญั ญตั ิ การวจิ ยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ พ.ศ. .... ตอ่ คณะรฐั มนตรเี พอื่ พจิ ารณาอนมุ ตั ิ รวมทงั้ กำ� กบั ตดิ ตามและประเมนิ ผล การดำ� เนนิ การตามนโยบาย (๒) กำ� หนดเปา้ หมายและแผนทนี่ ำ� ทางเกยี่ วกบั นโยบายและยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และ นวตั กรรม และนโยบายเฉพาะดา้ น ใหส้ อดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตรช์ าตแิ ละนโยบายรฐั บาล (๓) กำ� กบั ใหห้ นว่ ยงานใน ระบบวจิ ยั และนวตั กรรมของประเทศมนี โยบายและการดำ� เนนิ งานเปน็ ไปในทศิ ทางเดยี วกนั และกำ� กบั เรง่ รดั ตดิ ตาม ใหม้ กี ารยบุ เลกิ ปรบั ปรงุ หรอื แกไ้ ขโครงสรา้ ง ภารกจิ อำ� นาจหนา้ ทแี่ ละกฎหมายของหนว่ ยงานในระบบวจิ ยั และ นวตั กรรมใหม้ คี วามเชอ่ื มโยงและสอดคลอ้ งกบั นโยบาย ตลอดจนเสนอแนะตอ่ คณะรฐั มนตรใี หม้ กี ารจดั ตงั้ หนว่ ยงาน ในระบบวิจัยและนวัตกรรมข้ึนใหม่ (๔) ก�ำกับ เร่งรัด และติดตามให้มีการปรับปรุงและแก้ไขระบบหรือกลไก การบรหิ ารจดั การงานวจิ ยั และนวตั กรรมใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ มมี าตรฐาน เพอ่ื ใหส้ ามารถนำ� ผลงานวจิ ยั ทม่ี อี ยแู่ ละท่ี เกดิ ขนึ้ ใหม่ ไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ (๕) เสนอระบบการจดั สรรและบรหิ ารงบประมาณแบบบรู ณาการทม่ี งุ่ ผล บทที่ ๖ : กลไกการขับเคล่ือนการติดตามและประเมนิ ผล 81 (ร่าง) ยุทธศาสตรก์ ารวจิ ัยและนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
สมั ฤทธใิ์ หส้ อดคลอ้ งกบั นโยบาย พจิ ารณาใหค้ วามเหน็ ชอบกรอบวงเงนิ งบประมาณและการจดั สรรงบประมาณให้ หนว่ ยงานในระบบวิจยั และนวตั กรรม รวมทง้ั ก�ำกบั เรง่ รดั ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการใชง้ บประมาณของหน่วยงาน ของรฐั (๖) กำ� กบั เรง่ รดั และตดิ ตามใหม้ กี ารจดั ทำ� และดำ� เนนิ การตามแผนพฒั นาบคุ ลากรของประเทศ (๗) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ การทำ� งานรว่ มกนั ระหวา่ งภาครฐั และภาคเอกชนในดา้ นการวจิ ยั และนวตั กรรม รวมถงึ เสนอแนะตอ่ คณะ รฐั มนตรใี หม้ กี ารกำ� หนดมาตรการ สทิ ธปิ ระโยชน์ และแรงจงู ใจ เพอื่ ใหก้ ารวจิ ยั และนวตั กรรมเกดิ ผลเปน็ รปู ธรรม และ (๘) เรง่ รดั และตดิ ตามใหม้ กี ารปรบั ปรงุ แกไ้ ขกฎหมาย กฎระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การวจิ ยั และนวตั กรรม และการนำ� ผลงานวจิ ยั และนวตั กรรมไปสกู่ ารใชป้ ระโยชนใ์ หเ้ กดิ ความคลอ่ งตวั และมปี ระสทิ ธภิ าพ ๒) สำ� นักงานสภานโยบายวิจยั และนวัตกรรมแห่งชาติ เพ่ือให้การขับเคลือ่ นยทุ ธศาสตร์การวจิ ยั และนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) เปน็ ไปตาม เป้าหมายตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ จึงได้จัดตั้งส�ำนักงานสภานโยบาย วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติข้ึน เป็นหน่วยนโยบายสูงสุดด้านการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศเพ่ือรับผิดชอบ งานวิชาการและงานธุรการของสภานโยบายวจิ ัยและนวัตกรรมแหง่ ชาติ ซ่ึงมีอำ� นาจและหนา้ ท่ี ดังน้ี ๒.๑) ศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ภาพรวมในด้านการวิจัยและนวัตกรรมในระดับชาติและ นานาชาติ เพอื่ นำ� เสนอตอ่ สภานโยบายวจิ ยั และนวตั กรรมแหง่ ชาตใิ นการกำ� หนดนโยบายและยทุ ธศาสตรร์ วมทงั้ งบประมาณเพ่ือการวิจัยและนวัตกรรมในด้านต่าง ๆ และส่งเสริมและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่ เก่ียวข้องกับการวจิ ยั และนวตั กรรมในระดบั ประเทศและระหว่างประเทศ ๒.๒) ประมวล วเิ คราะห์แผนงาน โครงการ และงบประมาณของหนว่ ยงานของรฐั ประสานแผนงาน และโครงการวิจัยและนวัตกรรมเหล่านั้น เพื่อวางแผนส่วนรวมและการจัดสรรงบประมาณรายปีตามนโยบาย ตามกำ� ลงั ทรพั ยากรทม่ี ีอยู่ และตามล�ำดบั ความสำ� คญั กอ่ นหลังในการใช้ทรัพยากรนนั้ ๒.๓) อ�ำนวยการ ประสานการปฏิบัติงาน ก�ำกับ ติดตาม และประเมินผลการด�ำเนินงาน ดา้ นการวจิ ัยและนวตั กรรมในระบบวจิ ัยและนวัตกรรมด้านตา่ ง ๆ และให้คำ� แนะนำ� เกย่ี วกบั การเรง่ รดั ปรับปรงุ แผนงานและโครงการอันหนง่ึ อันใดเมอื่ เหน็ สมควร ทั้งนีเ้ พ่อื เสนอตอ่ สภานโยบายวิจัยและนวตั กรรมแหง่ ชาติ ๒.๔) จัดท�ำข้อเสนอริเริ่มโครงการวิจัยและนวัตกรรมท่ีส�ำคัญของประเทศที่ต้องด�ำเนินการ ของหน่วยงานของรัฐและเอกชน และขับเคลื่อนและประสานการด�ำเนนิ งานดังกล่าวให้สัมฤทธิ์ผล ๒.๕) จัดให้มีการจัดท�ำและบริหารจัดการระบบข้อมูลกลาง สารสนเทศ ดัชนีการวิจัยและ นวตั กรรมของประเทศ และเชื่อมโยงกับระบบขอ้ มูลในระดับชาตแิ ละนานาชาติ ๒.๖) จัดท�ำมาตรฐาน ขอ้ กำ� หนด หรอื แนวทางปฏิบัตทิ ีเ่ กยี่ วกับการวิจยั และนวตั กรรมของประเทศ รวมถงึ จรยิ ธรรมการวจิ ยั เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานสากล รวมทง้ั กำ� กบั ดแู ล และตดิ ตามใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐาน และจรยิ ธรรมนั้น ๒.๗) ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กร ภาคประชาสังคม องค์การของต่างประเทศหรือระหว่างประเทศในเร่ืองท่ีเก่ียวกับอ�ำนาจและหน้าที่ของ สภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ และส�ำนักงานสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ โดยเฉพาะ การนำ� ผลการวิจัยและนวตั กรรมไปใชป้ ระโยชน์ในเชิงเศรษฐกจิ และสงั คม 82 บทท่ี ๖ : กลไกการขับเคลอื่ นการติดตามและประเมินผล (ร่าง) ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
เพ่ือเร่งรัดการขับเคล่ือนการวิจัย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้เกิดประโยชน์ใน การพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมตามยทุ ธศาสตรช์ าติ และนำ� ประเทศไทยไปสปู่ ระเทศไทย ๔.๐ แบง่ การดำ� เนนิ การ ออกเป็น ๒ ระยะ ดงั นี้ ๑) การดำ� เนนิ การในระยะที่ ๑ (ตงั้ แตเ่ ดือนกันยายน - ตลุ าคม ๒๕๖๐) ๑.๑) ใหอ้ อกระเบยี บสำ� นกั นายกรฐั มนตรี เรอื่ งการจดั ตง้ั สำ� นกั งานการวจิ ยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ โดยในระยะแรกจัดต้ังข้ึนเป็นการชั่วคราวในสังกัดส�ำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อให้สามารถเร่ิมปฏิบัติงานได้ทันทีไป พลางก่อนจนกว่าจะมีพระราชบัญญัติการวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... โดยให้ส�ำนักงานการวิจัยและ นวตั กรรมแหง่ ชาตนิ ้ี มอี ำ� นาจหนา้ ทใี่ นการดำ� เนนิ งานสอดคลอ้ งกบั พระราชบญั ญตั กิ ารวจิ ยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ พ.ศ. …. ดงั น้ี คอื (๑) จดั ทำ� นโยบายและยทุ ธศาสตรร์ ะบบวจิ ยั และนวตั กรรมของประเทศใหส้ อดคลอ้ งกบั แผนที่ น�ำทาง (Roadmap) เก่ียวกับนโยบายและยุทธศาสตร์ระบบวิจัยเเละนวัตกรรมของประเทศตามท่ีสภานโยบาย วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติก�ำหนด (๒) เสนอกรอบงบประมาณและแผนการจัดสรรงบประมาณส�ำหรับแผน งานและโครงการของหน่วยงานตา่ ง ๆ ในระบบวิจยั และนวัตกรรมตามยุทธศาสตร์ระบบวิจยั และนวตั กรรมของ ประเทศ (๓) กำ� กับ เร่งรัด ตดิ ตามแผนงานของหนว่ ยงานในระบบวิจยั และนวัตกรรมของประเทศเพ่ือให้ผลงาน วิจัยและนวัตกรรมเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม ตามระยะเวลาและเป้าหมายท่ีก�ำหนดในยุทธศาสตร์ ระบบวจิ ยั และนวตั กรรม (๔) จดั ทำ� แนวทางบรู ณาการหนว่ ยงานในระบบวจิ ยั และนวตั กรรมในรปู แบบกลมุ่ (Cluster) ทง้ั ดา้ นแผนงานโครงการ และงบประมาณ เพอ่ื เรง่ ขบั เคลอื่ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ระบบวิจัยและนวัตกรรม (๕) ศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์แนวโน้มในด้านระบบวิจัยและนวัตกรรมของโลกและของประเทศเพื่อจัดท�ำ นโยบายและแผนการส่งเสริม สนับสนุน และขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมตามนโยบายรัฐบาล (๖) จัดท�ำ ตวั ชวี้ ดั และดชั นดี า้ นระบบวจิ ยั และนวตั กรรม เพอื่ ใชใ้ นการตดิ ตามและประเมนิ ผลการด�ำเนนิ แผนงานและโครงการ ทส่ี ำ� คญั ของหนว่ ยงานตา่ ง ๆ และการกำ� หนดนโยบาย และ (๗) จดั ทำ� ฐานข้อมูลแผนงานและโครงการ ข้อมูล บุคลากรและข้อมูลอื่น ๆ ให้เป็นศูนย์สารสนเทศ และฐานข้อมูลกลางดา้ นระบบวจิ ยั และนวตั กรรมของประเทศ ๑.๒) ใหส้ ภานโยบายวจิ ยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ ตามคำ� สงั่ หวั หนา้ คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาติ ที่ ๖๒/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๖ ตลุ าคม ๒๕๕๙ มีอ�ำนาจหน้าท่ใี นการกำ� กับส�ำนักงานสภานโยบายวิจยั และนวัตกรรม แห่งชาติ โดยส�ำนักงานฯ มีหน้าที่หลัก ๔ ประการ สอดคล้องกับท่ีระบุไว้ใน (ร่าง) พระราชบัญญัติการวิจัย และนวตั กรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... ดังนี้ ๑) การกำ� หนดทศิ ทาง นโยบาย และยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม (Policy direction) ทมี่ เี ปา้ หมายทชี่ ดั เจนในเชงิ รกุ (Proactive) และกำ� กบั งานวจิ ยั และนวตั กรรม (Top-down approach) ในภาพรวม ของประเทศ ๒) การบริหารจัดการงบประมาณวจิ ัยและนวัตกรรม (Budget allocation) ๓) การตดิ ตามและประเมินการด�ำเนินงานด้านการวิจัยและนวัตกรรรม (Monitoring and evaluation) ๔) การบูรณาการหนว่ ยงานในระบบวจิ ยั และนวตั กรรม (Integration) บทที่ ๖ : กลไกการขับเคลอ่ื นการติดตามและประเมินผล 83 (ร่าง) ยทุ ธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
๑.๓) จ�ำแนกและจัดกลุ่มหน่วยงานที่เก่ียวข้องในระบบวิจัยและนวัตกรรม ให้มีบทบาทหน้าท่ี ชัดเจนและเหมาะสม ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในระยะเริ่มต้นให้ยังคงภารกิจเดิม ตามกฎหมายของหน่วยงาน โดยแบ่งบทบาทภารกิจหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมเป็น ๕ กลุ่ม ซึ่งแต่ละ หน่วยงานจะมบี ทบาทหนา้ ทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบทชี่ ดั เจน มที ศิ ทางและยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรมของ หน่วยงานสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) เพื่อให้สามารถ ดำ� เนนิ การประสานความรว่ มมอื สนบั สนนุ และมสี ว่ นรว่ มในการขบั เคลอ่ื นยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายของยทุ ธศาสตร์ ดงั นี้ (๑) หนว่ ยงานนโยบายวจิ ยั และนวตั กรรม ทำ� หนา้ ทจี่ ดั ทำ� นโยบายและยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวัตกรรม ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมรายสาขา และแผนปฏิบัติการระยะ ๕ ปี ที่สอดคล้องกับ ยทุ ธศาสตรก์ ารวิจัยและนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) ทง้ั การพัฒนากำ� ลงั คน การพัฒนาโครงสรา้ ง พ้ืนฐานและปัจจัยเอ้ือท่ีเกี่ยวข้องกับการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมเพ่ือน�ำไปสู่การใช้ประโยชน์ จัดท�ำกรอบ งบประมาณด้านการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศร่วมกับสำ� นักงบประมาณ พร้อมท้ังติดตามและประเมินผล การดำ� เนนิ งาน และกำ� กบั ดแู ล เรง่ รดั ตดิ ตาม และประเมนิ ผลการดำ� เนนิ แผนงานและโครงการของทกุ หนว่ ยงาน ในระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ รวมทั้งบูรณาการการท�ำงาน ท้ังนี้การจัดท�ำนโยบายและยุทธศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม จะต้องจัดกลไกให้ภาคเอกชนและผู้ใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรม เข้ามามี สว่ นรว่ มตัง้ แตก่ ารกำ� หนดนโยบาย เปา้ หมาย ไปจนถึงการน�ำผลงานไปใช้ประโยชน์ตงั้ แตเ่ ร่ิมต้น (๒) หน่วยงานการให้ทุนหรือบริหารจัดการวิจัยและนวัตกรรม ท�ำหน้าที่ก�ำหนดแผนการ จดั สรรทนุ วจิ ยั และนวตั กรรมใหส้ อดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) และ บริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคลัสเตอร์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีส�ำหรับ อุตสาหกรรม หรือประชาคมทางสังคมรายสาขาให้เกิดบูรณาการท�ำงานร่วมกันในการพัฒนาการวิจัยและ นวัตกรรมไปสู่การสร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจหรือประโยชน์ทางสังคม ให้สามารถน�ำไปใช้ประโยชน์ได้ อย่างเป็นรปู ธรรม (๓) หนว่ ยงานทำ� วจิ ยั และนวตั กรรม ทำ� หนา้ ทดี่ ำ� เนนิ การวจิ ยั และนวตั กรรมรว่ มกบั หนว่ ยงาน ท่ีเก่ียวข้องเพ่ือให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐาน การพัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรม การจัดหา เทคโนโลยีทเ่ี หมาะสม ตลอดจนการสรา้ งต้นแบบและทดลองผลิตสนิ คา้ และบรกิ ารที่สามารถน�ำไปใชป้ ระโยชน์ เชงิ พาณชิ ยแ์ ละเชงิ สงั คมไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ โดยใชย้ ทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) เปน็ กรอบหรือแนวทางด�ำเนนิ การ และจดั ทำ� แผนงาน/โครงการทีส่ อดคล้องกบั ยทุ ธศาสตรด์ งั กล่าว (๔) หน่วยงานสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ตรวจวิเคราะห์ และรับรองมาตรฐาน ท�ำหน้าทใี่ นการตรวจวิเคราะห์ ทดสอบคณุ ภาพ สอบเทยี บเครือ่ งมือ/อปุ กรณ์ และรับรองมาตรฐานทีไ่ ดร้ ับการ ยอมรบั ในระดบั สากล รวมถงึ การพฒั นาระบบ กระบวนการ บคุ ลากร โครงสรา้ งพน้ื ฐานดา้ นมาตรฐานของประเทศ กลมุ่ หนว่ ยงานสนบั สนนุ การวจิ ยั และนวตั กรรม มาตรฐานและตรวจวเิ คราะห์ พฒั นาระบบโครงสรา้ งพนื้ ฐานและ มาตรฐาน เพ่อื สนบั สนนุ การดำ� เนนิ งานตามยทุ ธศาสตร์การวิจยั และนวัตกรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) (๕) หนว่ ยงานจดั การความรจู้ ากงานวจิ ยั และนวตั กรรมและหนว่ ยงานซงึ่ เปน็ ผใู้ ชป้ ระโยชน์ จากงานวิจัยและนวัตกรรม มีส่วนร่วมในการพัฒนาและก�ำหนดโจทย์วิจัยและนวัตกรรมส�ำคัญท่ีส่งผลกระทบ 84 บทที่ ๖ : กลไกการขับเคลือ่ นการตดิ ตามและประเมนิ ผล (รา่ ง) ยุทธศาสตร์การวิจยั และนวตั กรรม ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152