ชุดกิจกรรมนักเรียน สังคมศึกษา ป.3

๙๔ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู สําหรบั นกั เรยี น ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (สังคมศกึ ษา ป.3) ตอนที่ 2 คําชี้แจง ใหนักเรียนยกตัวอยา งการเปล่ียนแปลงที่เกดิ ข้นึ ในช้นั เรยี น โรงเรียน อยา งละ 1 ตัวอยา ง 1. การเปล่ียนแปลงในชัน้ เรยี น คอื ........................................................................................ ........................................................................................................................................... • บุคคลหรอื กลมุ คนท่ที าํ ใหเ กดิ การเปลย่ี นแปลง คือ ........................................................................................................................................ • ผลจากการเปลีย่ นแปลง คือ ....................................................................................................................................... 2. การเปลีย่ นแปลงในโรงเรยี น คือ........................................................................................ .......................................................................................................................................... • บคุ คลหรือกลุมคนท่ที ําใหเ กดิ การเปลย่ี นแปลง คือ ........................................................................................................................................ • ผลจากการเปล่ยี นแปลง คอื .......................................................................................................................................

หนวยการเรยี นรทู ่ี 7 เร่อื ง ประชาธปิ ไตย ๙๕ ใบงานท่ี 5 เรอื่ ง การเปลี่ยนแปลงในชมุ ชน หนว ยการเรยี นรทู ี่ 7 เรื่อง ประชาธปิ ไตย แผนการจดั การเรยี นรูที่ 5 เรอ่ื ง การเปล่ยี นแปลงในชมุ ชน รายวิชาสังคมศกึ ษา รหสั ส13101 ภาคเรยี นท่ี 1 ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี 3 ตอนที่ 1 คําชีแ้ จง ใหนกั เรยี นวเิ คราะหส ถานการณ แลวเขียนเคร่ืองหมาย √ ลงในหนา คาํ ตอบที่ ถูกตอง และตอบคาํ ถาม 1. นายกเทศมนตรเี มืองหัวหินไดประชุมประชาชนในพน้ื ที่อําเภอหัวหิน ในเรื่องการทํา แฮลกอฮอล ลา งมือ สูโควิด 19 ดวยตนเอง เพ่ือลดการใชจ ายของประชาชนในพื้นทีอ่ ําเภอหวั หนิ ประชาชน สว นใหญมีความคิดเหน็ ตรงกบั นายกเทศมนตรี 1) การทําแฮลกอฮอลลา งมอื สโู ควิด 19 ดว ยตนเอง เปน การเปลี่ยนแปลงระดับใด ชุมชน โรงเรยี น 2) การทาํ แฮลกอฮอลล า งมอื สูโควดิ 19 ดว ยตนเอง เกดิ จากการตัดสนิ ใจของใคร .................................................................................................................................... ตอนท่ี 2 คําชี้แจง ใหนักเรียนยกตัวอยา งการเปล่ียนแปลงท่เี กดิ ข้ึนในชมุ ชน อยา งละ 1 ตัวอยา ง 1. การเปล่ยี นแปลงในชมุ ชน คือ .......................................................................................... .......................................................................................................................................... • บุคคลหรือกลุมคนทที่ ําใหเ กดิ การเปลีย่ นแปลง คือ ........................................................................................................................................ • ผลจากการเปลยี่ นแปลง คอื .......................................................................................................................................

๙๖ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู สําหรบั นักเรียน ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 1 (สังคมศกึ ษา ป.3) แบบประเมินตนเอง ชอ่ื : _________________ สกลุ : _________________วัน____ เดอื น____________พ.ศ._____ หนว ยการเรียนรูท ่ี 7 เรอื่ ง ประชาธปิ ไตย คําช้ีแจง ๑. ระบายสีลงใน ของแตล ะกิจกรรมทน่ี ักเรยี นคดิ วา ทาํ ไดตามระดบั การประเมินเหลาน้ี เพ่อื ประเมนิ การเรยี นรขู องนกั เรียน ปรบั ปรุง พอใช คอ นขางดี ดี ดีมาก กจิ กรรม ระดับความสามารถ 1. ระบุบทบาทหนา ท่ีทสี่ มาชกิ ในโรงเรียนและชุมชนพงึ ปฏบิ ัติ 2. อธบิ ายการออกเสยี งโดยตรงและการเลอื กตวั แทนออกเสยี งได 3. วเิ คราะหค วามแตกตา งของการออกเสียงโดยตรงกบั การเลอื กตัวแทนออก เสยี งได 4. ยกตัวอยา งการเปลีย่ นแปลงในช้ันเรียน โรงเรียนได 5. อธิบายองคประกอบทีม่ ีผลตอ การเปลยี่ นแปลงในชุมชนได ๒. นบั จํานวนดาวจากตารางขา งบนเพื่อบนั ทกึ ผลการเรยี นรขู องนกั เรียน ดังน้ี จํานวน.............................. จํานวน........................ จํานวน.............................. จาํ นวน........................ จาํ นวน.............................. สรปุ : วงกลมรอบผลการเรียนรขู องนกั เรยี น โดยนบั จากขอ ท่ไี ดดาวมากทส่ี ดุดีมาก ปรบั ปรงุ พอใช ดี คอ นขา งดี 3. กาเคร่ืองหมาย √ ลงใน  ท่นี ักเรียนวางแผนจะทําเพอ่ื พัฒนาการเรียนในครงั้ ตอ ไป (เลอื กไดม ากกวา 1 ขอ )  มคี วามรบั ผิดชอบในการเรยี น  ตง้ั คําถามจะเกดิ การเรียนรู และการแสวงหาความรอู ยเู สมอ ๆ  ลงมือปฏิบัติใหเกิดความชํานาญ  ทบทวน ทอง และทําแบบฝกหดั ซ้าํ ๆ

หนวยการเรียนรูท่ี 7 เรื่อง ประชาธิปไตย ๙๗ บันทึกการเรียนรู (Learning logs) ช่อื : ___________________ สกลุ : _________________วัน____ เดอื น______________ พ.ศ. _____ สิง่ ทฉ่ี ันชอบในการเรยี นวิชาน้ี คือ ............................................................................ ............................................................................ ........................................................... ......................................................... สง่ิ ท่ีฉนั ไมช อบในการเรียนวชิ านี้ คือ ............................................................................ ............................................................................ ................................................................. .............................................................. สิง่ ท่ฉี นั จะทาํ ใหด ีข้นึ คอื ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ........................................................................

๙๘ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู สาํ หรบั นักเรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 1 (ประวัติศาสตร ป.3) ตอนที่ 2 ประวัติศาสตร

หนว ยการเรยี นรทู ่ี 1 เร่อื ง นกั เดินทางขา มเวลา ๙๙ หนวยการเรียนรูท่ี 1 นักเดนิ ทางขา มเวลา

๑๐๐ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู สาํ หรบั นกั เรยี น ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 1 (ประวตั ศิ าสตร ป.3) ใบความรทู ี่ 1 เร่อื ง ความหมายและทม่ี าของศักราช หนว ยการเรยี นรทู ่ี 1 เร่ือง นักเดินทางขามกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 1 เรื่องความหมายและท่มี าของศักราช รายวชิ าประวตั ิศาสตร รหสั ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั ประถมศึกษาปที่ 3 ศกั ราช (สกั -กะ-หฺราด) หมายถึง อายเุ วลาซ่ึงกําหนดต้งั ขน้ึ เปน ทางการ เรมิ่ แตจ ดุ ใดจดุ หน่ึง ซงึ่ ถือวา เปนทห่ี มายเหตุการณสําคัญ เรยี งลําดับกนั เปนป ๆ ไป เชน พทุ ธศกั ราช ๑ พุทธศกั ราชท่ี ๒ ..... ครสิ ตศักราช ๑ ครสิ ตศักราช ๒ ....... พุทธศักราช เปนศักราชที่เรมิ่ นับเมื่อพระพุทธเจา ปรินิพพาน ในประเทศไทยเรม่ิ นับเม่ือปรินิพพานแลว ๑ ป ถา ประเทศไทยเปนป พ.ศ. ๒๕๖๓ สวนในประเทศอ่นื ๆ จะเปน ป พ.ศ. ๒๕๖๔ เชน ประเทศพมา นอกจากน้ี ยงั มคี าํ วา \"พุทธกาล\" และ \"พุทธสมยั \" ใชกลาวถงึ ชว งเวลาทีพ่ ระพทุ ธเจายังมีพระชนมอยู คอื ชวงเวลา ๘๐ ปก อ นพุทธศกั ราช แตบ างทกี ็ใชค ําเหลานี้หมายถึง ชวงเวลาที่เชื่อวา พทุ ธศาสนาจะดํารงอยู หลังการปรนิ ิพพานของพระพทุ ธเจา ฉะน้ัน จึงมีการใช x ปกอนพุทธกาล เพ่ือหมายถึง x ปกอนพุทธศักราช เปนตนไป คริสตศ กั ราช ปข องพระเยซคู รสิ ต โดยเร่ิมนบั จากปท่เี ช่อื วาพระเยซทู รงประสูติ เปน ค.ศ. ๑ ซง่ึ ตรงกับป พุทธศักราช ๕๔๔ และมรี ะยะเวลาหางจากพุทธศกั ราช ๕๔๓ ป ใชว นั ท่ี ๑ มกราคม ของทกุ ปเ ปน วัน เปลีย่ นศกั ราช และเปน ปท ใ่ี ชอ างองิ สากล นอกจากน้ียงั มกี ารใช กอ นคริสตกาล ในการกลา วถงึ ชว งเวลากอนทพี่ ระเยซูทรงประสตู ิ หรือ มา รับสภาพมนุษย จึงมีการใชค าํ วา x ปกอนครสิ ตกาล ซงึ่ มคี วามหมายเหมอื นกบั x ปก อ นครสิ ตศ ักราช ฮจิ เราะหศ ักราช เปนระบบปฏทิ ินจันทรคติ ซ่งึ ประกอบดว ย ๑๒ เดือนทางจนั ทรคติ ซ่ึงในหน่ึงปจะมี ๓๕๔ หรอื ๓๕๕ วนั ใชกาํ หนดวนั เหตกุ ารณใ นหลายประเทศมุสลมิ ใชโ ดยมุสลิมทวั่ โลกเพื่อกําหนดวนั ทีเ่ หมาะสมใน การเฉลิมฉลองวันสําคัญและเทศกาลในศาสนาอสิ ลาม ปฏิทินฮิจเราะหเริ่มนับเมื่อศาสดาแหงอสิ ลาม นบีมฮุ มั มัดอพยพจากมกั กะฮไปยังมะดนี ะฮ ทีม่ า : ความรูเรอ่ื งศักราชทใ่ี ชใ นหนงั สอื ไทย จากเวบ็ ไซตข องสาํ นักงานคณะกรรมการวัฒนธรรม

หนว ยการเรยี นรทู ี่ 1 เร่ือง นกั เดนิ ทางขา มเวลา ๑๐๑ ใบความรทู ่ี 2 เรื่อง ศกั ราชเทยี บอยางไร หนว ยการเรยี นรทู ี่ 1 เร่อื งนกั เดนิ ทางขา มกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 2 เรือ่ งการเทียบศักราช รายวชิ าประวตั ศิ าสตร รหสั ส13102 ภาคเรยี นท่ี 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี 3 เรยี นเกี่ยวกับอะไร ที่มาของศกั ราชท่ีปรากฏในปฏิทินและวิธกี ารเทียบศักราช ทเ่ี กยี่ วของกับนักเรียน พ.ศ. ใหเ ปน ค.ศ. ค.ศ. ใหเ ปน พ.ศ. ถาเราอยากรูวา พ.ศ. นั้นเทียบ ถาเราอยากรวู า พ.ศ. นน้ั เทยี บได ไดก ับ ค.ศ.ใดหรอื แปลง พ.ศ. ใหเ ปน ค.ศ. กับ ค.ศ.ใด ก็สามารถทํางายๆ ดังนี้ โดย ก็สามารถทํางาย ๆ ดังนี้ การใชหลักการตรงกันขามกับการแปลง นาํ พ.ศ. ทเี่ ราตอ งการทราบมาตั้ง พ.ศ. ใหเปน ค.ศ. คือนํา ค.ศ.+ ๕๔๓ นํา ๕๔๓ มาลบกบั พ.ศ. นนั้ = พ.ศ. เนื่องจากพุทธศักราชเกิดกอน คาํ ตอบทไ่ี ดก ค็ อื ค.ศ. คริสตศักราช เชน ตองการทราบวา ค.ศ. ๑๔๕๗ ตรงกับพุทธศักราชใด การนาํ ๕๔๓ มาลบดว ยก็เพราะวา ๑๔๕๗ + ๕๔๓ คริสตศักราชเกิดทีหลังพุทธศักราช = ๒๐๐๐ เปนเวลา ๕๔๓ ป หรือกลา วไดวา ดงั นน้ั พ ศ .๑.๔๕๗ จะตรงกบั พ.ศ.- ๕๔๓ = ค.ศ. ค.ศ. ๒๐๐๐ ๒๕๖๔ - ๕๔๓ = ๒๐๒๑ ดงั นัน้ พ.ศ. ๒๕๖๔ จะตรงกบั ค.ศ. ๒๐๒๑

๑๐๒ ชดุ กิจกรรมการเรียนรู สําหรับนกั เรยี น ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 1 (ประวัตศิ าสตร ป.3) ใบความรทู ่ี 3 เรอื่ ง บนั ทึกของนะโม หนว ยการเรียนรทู ่ี 1 เรือ่ ง นกั เดนิ ทางขามกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 3 เร่อื ง การเทยี บศักราชในชีวติ ประจาํ วนั รายวชิ าประวตั ศิ าสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท่ี 3 “สวัสดีครับเพ่ือนๆ ผมชื่อนะโมครับ ในชีวิตของผมมีเรื่องราว เกิดขึ้นมากมาย ทั้งเร่ืองที่เกี่ยวกับตวั ผมและเรอ่ื งราวที่เกี่ยวกบั ครอบครวั ของผมการบนั ทึกเหตกุ ารณสําคญั ในชวี ติ ของผม เอาไว ทําใหผมสามารถเขาใจเรื่องราวท่ีเกิดข้ึนไดอยางชัดเจน และ สามารถเรียงลําดบั เหตุการณที่เกดิ ขนึ้ กอนและหลงั ไดดว ย ผมจะ ยกตัวอยา งการบันทกึ เรือ่ งราวของผมใหเพ่อื นๆ ดู ตามตารางท่ีอยู ดานลา งนี้นะครับ” ลําดับ เหตกุ ารณสําคัญในชวี ติ นะโม ปพ ุทธศักราช (พ.ศ.) ตรงกบั ปครสิ ตศ ักราช (ค.ศ.) 1 ปทีผ่ มลืมตาดูโลก 2553 2010 2 ผมเร่มิ เรยี นอนุบาล 1 ทีโ่ รงเรียนวงั ไกลกงั วล 2557 2014 3 ผมไดร ับรางวัลวง่ิ ผลัดระดับปฐมวยั ชนะเลศิ 2558 2015 4 คณุ ยา เสียชีวิต เปนชวงเวลาทีผ่ มเสียใจที่สดุ 2559 2016 5 ผมเขา เรยี นระดับช้ันประถมศึกษาปท ี่ 1 2560 2017 ทโี่ รงเรยี นวงั ไกลกงั วล 2018 6 ผมมีผลการเรยี นระดบั ดีเยีย่ ม เมอ่ื จบช้นั 2561 2019 ประถมศึกษาปท่ี 2 2020 7 พอ และแมพ าผมไปเทยี่ วจังหวัดเชยี งใหมเ ปน 2562 คร้งั แรก ที่เชียงใหมหนาวมากครับ 8 ตอนน้ผี มเรยี นอยูช ้นั ประถมศึกษาปท่ี 3 แลว 2563 ครบั ผม ชอบเรยี นวิชา คณติ ศาสตรแ ละวิชา ประวัตศิ าสตรท ส่ี ุดครบั

หนว ยการเรียนรทู ี่ 1 เร่อื ง นักเดินทางขามเวลา ๑๐๓ ใบความรทู ี่ 4 เร่อื ง หลกั ฐานทใ่ี ชในการสบื คน ขอมูลของโรงเรียนและชมุ ชน หนว ยการเรยี นรทู ่ี 1 เรอื่ ง นกั เดินทางขามกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 4 เรื่อง หลักฐานท่สี บื คน เหตกุ ารณส ําคัญของโรงเรยี น รายวิชาประวตั ศิ าสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรยี นที่ 1 ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี 3 หลกั ฐานทใ่ี ชใ นการสืบคน ขอมูลของโรงเรียนและชุมชน 1. หองสมุดประจาํ อําเภอ จังหวดั เปน แหลง รวบรวมหนังสือประเภทตา ง ๆ ท่ีเกยี่ วกับท่ัวๆ ไป และหนังสือที่เก่ียวกับประวัตศิ าสตรมากมาย เราสามารถคนควาหาความรูตา งๆ ได จากหอ งสมุด และอาจมเี นื้อหาเก่ียวกับชมุ ชนทเ่ี ราอาศยั อยู เชน หนังสือบุคคลสําคัญใน ทองถ่นิ หนังสอื เก่ยี วกับการทองเทยี่ ว วัฒนธรรม ประเพณี และการประกอบอาชีพ facebook หองสมดุ ประชาชนอําเภอละอุน 2. สถานท่ีราชการตาง ๆ จะมีขอมูลเกี่ยวของกับสภาพปจจุบันและอดีตของชุมชนที่เรา สามารถศึกษาเร่ืองราวความเปนมาของชุมชนได เชน พิพิธภัณฑทองถิ่น ศูนยบริการ การทองเที่ยว หรือสํานักงานผังงานก็จะมีขอมูลเกี่ยวกับสภาพทางภูมิศาสตรของชุมชน ซ่งึ สถานทรี่ าชการตา ง ๆ จะมีเจา หนา ท่แี ละฝายประชาสมั พันธท ําหนาทใี่ หบริการขอมูล กับประชาชนทต่ี องการ https://thehumans.sac.or.th/sac/articles/37

๑๐๔ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู สําหรบั นักเรียน ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 (ประวตั ศิ าสตร ป.3) 3. วัดหรือศาสนสถานในชุมชน เปนสถานที่ที่รวบรวมความรูดานศิลปะ วัฒนธรรม จิตรกรรมฝาผนัง ซ่ึงบางวัดจะเปนเรื่องเลาเก่ียวกับความเปนมาของชุมชนหรือเรื่องราว ทางศาสนา เชน พุทธประวัติ โบสถของคริสตศาสนาหรือมัสยิดของศาสนาอิสลาม ซึ่ง สว นมากแลวจะเปนแหลง รวบรวมความรแู ขนงตา ง ๆ หรือพระสงฆ นักบวช สว นมากจะ เปน ผรู เู รอ่ื งราวของชุมชนเปน อยางดี เราสามารถสอบถามหาความรูจ ากทา นได https://www.agoda.com/ 4. ศูนยว ฒั นธรรม เปนสถานท่ีเกบ็ รวบรวมเรอื่ งราวเก่ียวกับวฒั นธรรมไทยโดยเฉพาะ วฒั นธรรมทองถ่นิ https://sunitasaisorn.wordpress.com/ 5. สถานที่สําคัญตาง ๆ ในชุมชน เชน แหลงโบราณคดี อุทยานประวัตศิ าสตร อนุสรณ สถานท่ีจัดสรางข้ึนเพ่อื เปนท่ีระลึกถึงเหตกุ ารณส ําคัญตา ง ๆ รวมถึงผูรูซึ่งบางทานเปน ผเู ชยี่ วชาญดา นโบราณคดี บางทา นกเ็ ก็บรวบรวมของเกา และหายากสะสมไว

หนวยการเรียนรทู ่ี 1 เร่อื ง นกั เดินทางขา มเวลา ๑๐๕ ใบความรทู ่ี 5 เรือ่ ง ตัวอยา งการลาํ ดับเร่อื งราวตามเวลา หนว ยการเรียนรทู ี่ 1 เร่อื ง นักเดนิ ทางขามกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 6 เรอ่ื ง เสนเวลา (Time Line) โรงเรียนของฉนั รายวชิ าประวตั ิศาสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี 3 การใชเสนเวลา (Time Line) ลาํ ดบั เหตุการณท ีเ่ กดิ ขน้ึ ในโรงเรยี นและชมุ ชน เสน เวลา (Time Line) หมายถงึ ระยะเวลาชัว่ ขณะ ความยาวนานทมี่ อี ยหู รอื เปนอยูโดยกาํ หนดข้นึ เปน วัน เดือน ป ซงึ่ จะบอกถงึ เหตุการณ และการสิ้นสดุ ของเหตุการณนั้น เราสามารถใชเสนเวลา ลําดับ เหตกุ ารณท เี่ กดิ ขึ้นในโรงเรียนและชุมชนของเราได เชน ปท ่ีกอตัง้ โรงเรียน ปท ส่ี รา งอาคารหลังใหม 2 หลงั ตวั อยางการลาํ ดับเร่ืองราวตามเวลา ทม่ี า :https://www.thairath.co.th/infographic/1334

๑๐๖ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู สําหรับนักเรยี น ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ 1 (ประวตั ศิ าสตร ป.3) ใบความรทู ี่ 6 เรื่อง การเสาะหาแหลงขอ มลู และรวบรวมขอมลู หนว ยการเรียนรทู ี่ 1 เรอ่ื ง นักเดนิ ทางขา มกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรูที่ 7 เร่อื ง หลักฐานที่สืบคน เหตุการณสําคัญของชมุ ชน รายวิชาประวตั ิศาสตร รหัสวชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 3 การเสาะหาแหลงขอมูลและรวบรวมขอมูลทดี่ ีควรใชขอมูลหลากหลาย แหลง ขอ มลู ที่เรา สามารถสบื คนไดอ าจจะมาจากหนงั สือที่มีเน้อื หาทีเ่ กย่ี วขอ งกับเร่อื งท่เี ราสนใจ หลักฐานตางๆ เชน ภาพถาย แผนที่ จดหมาย บันทึก เอกสารทางราชการ หลักฐานเหลานี้มักจะอยูหองสมุดของ โรงเรียน หองสมดุ ชมุ ชน พพิ ิธภณั ฑชุมชน นอกจากน้ันเรายงั อาจจะเสาะหาขอมูลจากแหลงอื่นๆ ไดอีก เชน สอบถามผูรู ผูเชี่ยวชาญในที่เรือ่ งท่ีเราสนใจ บุคคลท่ีรูเรื่องราวในโรงเรยี นและชุมชน ขอมูลจากอินเตอรเน็ต แตการเสาะหาขอมูลจากอินเตอรเน็ตจะตองใชอยางระมัดระวัง ตอง พจิ ารณาเว็ปไซตทม่ี ีความนาเชือ่ ถอื เชน เว็ปไซตท างราชการ https://www.facebook.com/librarysaifc/ https://www.schoolofchangemakers.com/kn หอ งสมุดโรงเรยี น สอบถามผรู ู https://www.museumthailand.com/th/muse https://www.thaihealth.or.th/ พิพธิ ภัณฑช มุ ชน ขอ มลู จากอินเทอรเน็ต

หนวยการเรียนรูท่ี 1 เรอ่ื ง นักเดนิ ทางขา มเวลา ๑๐๗ ใบความรทู ่ี 7 เร่ือง เหตุการณส ําคญั ของชมุ ชน หนว ยการเรียนรทู ี่ 1 เร่ือง นักเดินทางขา มกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 8 เรื่อง เสน เวลา (Time Line) ชมุ ชนของฉัน รายวิชาประวตั ศิ าสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี 3 ลาํ ดบั เหตุการณสําคญั ของชุมชนบานรอน พ.ศ. ค.ศ. 2524 ลาํ ดบั เหตกุ ารณ 1 ชุมชนบา นรอน เลือกตงั้ ผใู หญบ านคนใหมเ พอื่ เขามาทําหนา ทีด่ แู ละ 2526 ความเปน ระเบยี บเรยี บรอ ยในหมบู า น 2530 2 มีการสรางฝายกนั้ นา้ํ ภายในหมูบา น 2545 3 มกี ารสรา งถนนเพื่อเช่ือมตอกบั หมบู านภายนอก 2547 4 มกี ารสรางถนนคอนกรตี เขามาในหมบู า น เพอ่ื ความสะดวกของชุมชน 2552 5 บูรณะอโุ บสถวัดครี กี นั สรางกาํ แพงวัดใหม 2558 6 มีคนตางถ่ินยายถน่ิ ฐานเขามาในชุมชนมากขึ้น 7 มกี ารเปลยี่ นแปลง ยกฐานนะชุมชนเปนเทศบาลตาํ บลบานรอน

๑๐๘ ชุดกิจกรรมการเรียนรู สาํ หรับนกั เรยี น ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 1 (ประวตั ศิ าสตร ป.3) แผนภาพการเรียงลําดับเหตุการณโดยใชเ สน เวลาของชมุ ชนบา นรอ น ชุมชนบา นรอ น เลือกตงั้ พ.ศ.2520 มกี ารสรา งฝายกนั้ นาํ้ ภายใน ผใู หญบา นคนใหมเพ่อื เขา มา พ.ศ.2524 หมูบ า น ทําหนา ที่ดูและความเปน พ.ศ.2525 ระเบียบเรยี บรอยในหมูบ า น พ.ศ.2526 มีการสรา งถนนคอนกรตี เขา มีการสรางถนนเพอื่ เช่ือมตอ พ.ศ.2527 มาในหมูบ า น เพือ่ ความ กบั หมูบานภายนอก พ.ศ.2528 สะดวกของชุมชน บูรณะอโุ บสถวดั ครี ีกนั พ.ศ.2529 มคี นตางถิ่นยายถน่ิ ฐานเขา สรา งกําแพงวดั ใหม พ.ศ.2530 มาในชมุ ชนมากข้นึ มีการเปล่ียนแปลง ยกฐานะ พ.ศ.2535 ชุ ม ช น เ ป น เ ท ศ บ า ล ตํ าบล พ.ศ.2540 บา นรอ น พ.ศ.2545 พ.ศ.2547 พ.ศ.2548 พ.ศ.2549 พ.ศ.2550 พ.ศ.2552 พ.ศ.2558

หนว ยการเรียนรูที่ 1 เรอื่ ง นักเดินทางขา มเวลา ๑๐๙ ใบงานที่ 1 เรื่อง ทม่ี าของศกั ราช หนว ยการเรียนรทู ี่ 1 เรอื่ ง นักเดินทางขามกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรูที่ 1 เรื่องความหมายและทม่ี าของศักราช รายวชิ าประวตั ศิ าสตร รหสั ส13102 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 3 คาํ ชี้แจง ใหน ักเรยี นสรุป ท่ีมาของศกั ราชทัง้ 3 ศักราช ไดแ กพทุ ธศักราช ครสิ ตศ ักราช และ ฮจิ เราะหศักราช ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ท่ีมาของศักราช ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................................ ...................................................... ......................................................

๑๑๐ ชดุ กิจกรรมการเรียนรู สาํ หรับนักเรยี น ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 1 (ประวตั ศิ าสตร ป.3) ใบงานท่ี 2 เรือ่ ง การเทยี บศักราช หนว ยการเรียนรทู ่ี 1 เรอ่ื ง นกั เดนิ ทางขามกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 2 เรอื่ ง การเทียบศักราช รายวชิ าประวตั ศิ าสตร รหัส ส13102 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี 3 ตอนที่ 1 คําชแ้ี จง ใหนกั เรียนเทยี บศกั ราชตามทกี่ าํ หนดใหถกู ตองและตอบคําถาม หลักการเทียบ พ.ศ. เปน ค.ศ. หลักการเทียบ ค.ศ. เปน พ.ศ. พ.ศ. วิธกี ารเทยี บ ตรงกับ ค.ศ. ค.ศ. วิธกี ารเทยี บ ตรงกับ พ.ศ. 2310 1789 2381 1895 2481 1995 2501 2005 2538 2021 ตอนที่ 2 คําชแ้ี จง ใหน ักเรยี นอา นขอมูล แลว เทยี บศักราชตามทก่ี าํ หนดใหถูกตองและตอบคาํ ถาม 1. การเสียกรงุ ศรีอยธุ ยาครัง้ ที่หนง่ึ เมอื่ ป พ.ศ. 2112 ตรงกับป ค.ศ. 2. การเสยี กรงุ ศรอี ยุธยาครั้งทีส่ อง เม่ือป พ.ศ. 2310 ตรงกบั ป ค.ศ. 3. รชั กาลท่ี 7 พระราชทานรัฐธรรมนูญ เม่อื วันที่ 10 ธนั วาคม พ.ศ. 2475 ตรงกับป ค.ศ. 4. ถานักเรียนเกิดเม่อื ป ค.ศ. 2009 แสดงวา นกั เรียนเกิด ตรงกบั ป พ.ศ. 5. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกลาเจาอยหู วั พระราชสมภพ เมอื่ วนั ที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1952 ตรงกบั ป พ.ศ.

หนวยการเรยี นรทู ี่ 1 เรอื่ ง นกั เดนิ ทางขามเวลา ๑๑๑ ใบงานที่ 3 เรือ่ ง การเทยี บศักราชเหตุการณสําคัญของหนู หนว ยการเรยี นรทู ี่ 1 เรอื่ ง นกั เดินทางขามกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 3 เรือ่ ง การเทียบศกั ราชในชีวติ ประจาํ วนั รายวิชาประวตั ศิ าสตร รหัสวชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 3 คําช้ีแจง ใหนกั เรียนเขยี นบนั ทกึ เหตุการณส าํ คญั ทเ่ี กิดขน้ึ กบั ตนเองและครอบครัว โดยเทยี บศกั ราชใหถูกตอง ลําดบั เหตกุ ารณส าํ คญั ในชวี ิต ปพ ุทธศกั ราช (พ.ศ.) ตรงกับ ปค ริสตศักราช (ค.ศ.) 1 ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… 2 ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… 3 ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… 4 ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… 5 ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… 6 ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… 7 ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ……………………………………………………… ช่อื ...............................................................นามสกลุ ..................................................................เลขท.่ี ................. ช่อื ...............................................................นามสกลุ ..................................................................เลขท่.ี .................

๑๑๒ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู สาํ หรับนักเรยี น ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี 1 (ประวตั ิศาสตร ป.3) ใบงานที่ 4 เรอ่ื ง โรงเรียนของหนู หนว ยการเรียนรทู ่ี 1 เร่อื ง นักเดนิ ทางขามกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 4 เรอ่ื ง ข้ันตอนสืบคนเร่ืองราวในอดตี ของโรงเรยี น รายวิชาประวตั ิศาสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ ประถมศึกษาปที่ 3 คาํ ช้แี จง ใหนักเรียนแตละกลุมรว มกนั สบื คนและรวบรวมขอมลู ตา ง ๆ ของโรงเรียน และบันทึกลงตามประเดน็ ดังนี้ .1......ช...่ือ..โ.ร..ง..เ.ร..ีย..น...ข...อ..ง..ห..น...มู ..คี..ว...า..ม..เ.ป...น..ม...า..อ..ย..า..ง..ไ..ร....................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 2. โรงเรยี นของหนูกอตัง้ มาแลวกป่ี  ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 3. ปจจบุ ันมีคุณครแู ละนกั เรยี นกค่ี น ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 4. เหตุการณส ําคญั ที่เกิดขึน้ ในโรงเรียนของหนู ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................

หนว ยการเรยี นรูท่ี 1 เร่ือง นกั เดินทางขามเวลา ๑๑๓ แบบสํารวจหลกั ฐานทใี่ ชใ นการศกึ ษาประวตั ิและเหตุการณส าํ คัญของโรงเรยี น หนว ยการเรียนรทู ี่ 1 เร่อื ง นกั เดนิ ทางขามกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 5 เร่ือง หลกั ฐานทีส่ บื คน เหตุการณสําคญั ของโรงเรียน รายวชิ าประวตั ศิ าสตร รหัสวชิ า ส13102 ภาคเรียนที่ 1 ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี 3 คําช้ีแจง ใหนกั เรียนสํารวจวา ในโรงเรยี นของนกั เรยี น มีหลกั ฐานอะไรบา งทสี่ ามารถใชใ นการศกึ ษาประวตั ิ และเหตุการณส ําคัญของโรงเรียน สรปุ แลวเขยี นบันทกึ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๑๔ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู สาํ หรับนักเรียน ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ 1 (ประวัติศาสตร ป.3) ใบงานท่ี 5 เรื่อง โรงเรยี นของหนู หนว ยการเรียนรทู ี่ 1 เร่ือง นกั เดนิ ทางขา มกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 6 เร่ือง เสน เวลา (Time Line) โรงเรยี นของฉนั รายวิชาประวตั ศิ าสตร รหัสวชิ า ส13102 ภาคเรียนที่ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 3 ตอนท่ี 1 คาํ ช้แี จง ใหนักเรยี นแตละกลมุ บนั ทกึ ขอ มูลเกย่ี วกบั เหตุการณสาํ คัญตางๆ ท่เี กิดข้ึนในโรงเรียน เหตกุ ารณสําคญั ของโรงเรียน ……………………………………………………………………………………………………….. ลําดบั เหตกุ ารณ พ.ศ. ค.ศ. 1 …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………… …………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… 2 …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………… …………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… 3 …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………… …………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… 4 …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………… …………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… 5 …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………… …………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… 6 …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………… …………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… 7 …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………… …………… …………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………

หนว ยการเรยี นรูที่ 1 เรอื่ ง นกั เดินทางขามเวลา ๑๑๕ ตอนท่ี 2 คําช้แี จง ใหนกั เรยี นแตละกลมุ เรยี งลาํ ดบั เหตกุ ารณสําคัญทเ่ี กิดขน้ึ ในโรงเรียนโดยใชเ สน เวลา แผนภาพการเรยี งลําดับเหตุการณส าํ คญั ของโรงเรียน................................................. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ………………………….

๑๑๖ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู สําหรับนักเรียน ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (ประวัติศาสตร ป.3) แบบสาํ รวจหลกั ฐานทใ่ี ชในการศึกษาประวตั ิและเหตกุ ารณสาํ คัญของชมุ ชน หนว ยการเรียนรทู ี่ 1 เรื่อง นกั เดนิ ทางขา มกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรูที่ 7 เร่ือง หลักฐานที่สบื คน เหตกุ ารณส ําคญั ของชุมชน รายวิชาประวตั ศิ าสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรียนที่ 1 ช้ันประถมศกึ ษาปท ี่ 3 คําช้แี จง ใหน กั เรียนสํารวจวา ชมุ ชนของนกั เรยี นมีหลกั ฐานอะไรบา งที่สามารถใชใ นการศึกษา ประวัตแิ ละเหตุการณสาํ คญั ของชุมชน สรุปแลวเขยี นบนั ทึก .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

หนว ยการเรยี นรูที่ 1 เร่ือง นกั เดนิ ทางขา มเวลา ๑๑๗ ใบงานท่ี 6 เร่ือง ชุมชนของหนู หนว ยการเรยี นรทู ่ี 1 เร่ือง นักเดนิ ทางขามกาลเวลา แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 8 เรอื่ ง เสน เวลา (Time Line) ชุมชนของฉนั รายวิชาประวตั ศิ าสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั ประถมศึกษาปที่ 3 ตอนท่ี 1 คําชแี้ จง ใหน กั เรียนแตละกลุมบันทึกขอ มูลเกี่ยวกบั เหตุการณส ําคญั ตา งๆ ที่เกิดขนึ้ ในชุมชน เหตุการณสําคัญของชุมชน ……………………………………………………………………………………………… ลาํ ดับ เหตุการณ พ.ศ. ค.ศ. 1 ………………………………………………………………………………………….......... ………………………………………………………………………………………….......... ……………… ……………… ………………………………………………………………………………………….......... 2 ………………………………………………………………………………………….......... ………………………………………………………………………………………….......... ……………… ……………… ………………………………………………………………………………………….......... 3 ………………………………………………………………………………………….......... ………………………………………………………………………………………….......... ……………… ……………… ………………………………………………………………………………………….......... 4 ………………………………………………………………………………………….......... ………………………………………………………………………………………….......... ……………… ……………… ………………………………………………………………………………………….......... 5 ………………………………………………………………………………………….......... ………………………………………………………………………………………….......... ……………… ……………… ………………………………………………………………………………………….......... 6 ………………………………………………………………………………………….......... ………………………………………………………………………………………….......... ……………… ……………… ………………………………………………………………………………………….......... 7 ………………………………………………………………………………………….......... ………………………………………………………………………………………….......... ……………… ……………… …………………………………………………………………………………………..........

๑๑๘ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู สําหรบั นกั เรยี น ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (ประวตั ิศาสตร ป.3) ตอนท่ี 2 คําชีแ้ จง ใหนกั เรยี นแตล ะกลุมเรียงลาํ ดบั เหตกุ ารณส าํ คญั ท่ีเกดิ ขนึ้ ในชุมชนโดยใชเสน เวลา แผนภาพเรียงลาํ ดบั เหตุการณโ ดยใชเ สนเวลาของชุมชน.............................. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ…………………………. พ.ศ………………………….

หนวยการเรยี นรูที่ 1 เร่อื ง นักเดินทางขา มเวลา ๑๑๙ แบบประเมนิ ตนเอง ชื่อ : _________________ สกลุ : _________________วนั ____ เดอื น____________พ.ศ._____ หนวยการเรยี นรทู ่ี 1 เรื่อง นกั เดินทางขามเวลา คําชแ้ี จง ๑. ระบายสลี งใน ของแตล ะกิจกรรมทน่ี ักเรยี นคดิ วาทาํ ไดต ามระดับการประเมินเหลานี้ เพือ่ ประเมนิ การเรยี นรขู องนกั เรยี น ปรับปรุง พอใช คอ นขางดี ดี ดมี าก กจิ กรรม ระดับความสามารถ 1. บอกความหมายและทม่ี าของศกั ราชได 2. ฝก การเทยี บศักราชไดถ ูกตอ ง 3. สืบคนและรวบรวมขอมูลของโรงเรียนและชุมชนจากหลักฐานได 4. ใชเสนเวลา (Time Line) ลาํ ดบั เหตกุ ารณท เี่ กิดข้ึนในโรงเรียนและชุมชนได 5. มที กั ษะการสํารวจขอ มูลของโรงเรยี น ๒. นับจํานวนดาวจากตารางขางบนเพอ่ื บนั ทึกผลการเรยี นรขู องนกั เรยี น ดงั นี้ จาํ นวน............................. จํานวน............................. จาํ นวน............................. จํานวน............................. จํานวน............................. สรุป : วงกลมรอบผลการเรียนรขู องนักเรยี น โดยนับจากขอ ทไี่ ดดาวมากที่สุด ปรับปรงุ พอใช ดี คอนขางดี ดมี าก 3. กาเครอ่ื งหมาย √ ลงใน  ท่ีนักเรียนวางแผนจะทําเพ่ือพัฒนาการเรยี นในครัง้ ตอไป (เลือกไดม ากกวา 1 ขอ )  มคี วามรับผดิ ชอบในการเรียน  ตง้ั คาํ ถามจะเกิดการเรยี นรู และการแสวงหาความรูอ ยูเสมอ ๆ  ลงมอื ปฏบิ ตั ใิ หเ กดิ ความชาํ นาญ  ทบทวน ทอง และทาํ แบบฝก หดั ซํ้า ๆ

๑๒๐ ชุดกิจกรรมการเรียนรู สาํ หรบั นักเรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี 1 (ประวัติศาสตร ป.3) บนั ทึกการเรียนรู (Learning logs) ช่ือ : ___________________ สกุล : _________________วนั ____ เดอื น______________ พ.ศ. _____ ส่งิ ทฉ่ี ันชอบในการเรียนวิชานี้ คือ ............................................................................ ............................................................................ ........................................................... ......................................................... สิง่ ที่ฉนั ไมชอบในการเรียนวิชานี้ คือ ............................................................................ ............................................................................ ................................................................. .............................................................. ส่งิ ทีฉ่ ันจะทําใหดขี นึ้ คอื ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ........................................................................

หนว ยการเรียนรทู ี่ 2 เรื่อง ภมู ิใจในภมู ิถนิ่ ๑๒๑ หนวยการเรียนรูที่ ๒ ภูมิใจในภมู ิถ่ิน

๑๒๒ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู สาํ หรับนักเรยี น ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 (ประวตั ิศาสตร ป.3) ใบความรทู ี่ 1 เร่อื ง ปจ จยั ทางภูมศิ าสตรท ่มี อี ิทธพิ ลตอการตัง้ ถ่นิ ฐาน หนว ยการเรียนรทู ่ี 2 เร่ือง ภูมใิ จในภูมิถ่ิน แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี ๑ เรอื่ ง ปจจัยทางภมู ิศาสตรท ม่ี ผี ลตอ การตง้ั ถนิ่ ฐาน รายวชิ าประวตั ิศาสตร รหัสวชิ า ส13102 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ 3 ปจจยั ทางภมู ศิ าสตรท ีม่ ีอิทธิพลตอการต้งั ถ่ินฐาน การต้ังถ่ินฐานของประชากรในทองถ่ินตา ง ๆ ขน้ึ อยูกับสภาพภมู ศิ าสตร ภมู อิ ากาศ และความ อดุ มสมบูรณของทรพั ยากรธรรมชาติ ซง่ึ เปน ปจ จยั สาํ คญั ดังนี้ 1. ลกั ษณะภูมิประเทศ หมายถงึ ลกั ษณะของแผน ดนิ ทีอ่ าจมลี กั ษณะสงู ๆ ต่าํ ๆ เปน ภเู ขา ทร่ี าบ ทีร่ าบสูง แมน ้าํ และบริเวณท่ีเปน ที่ราบลุมแมน ํ้าและทรี่ าบลุมชายฝง ทะเล จะมีความอุดม สมบูรณ การคมนาคมสะดวกสบาย ก็จะเปนบริเวณท่ีมีพัฒนาการดา นความเจริญรุงเรืองอยาง รวดเร็วและมีประชากรตั้งถิ่นฐานอยูอยางหนาแนน เขตที่ราบสูง ทุรกันดาร ขาดความอุดม สมบูรณ การคมนาคมไมส ะดวก พฒั นาการดานความเจรญิ รุง เรืองก็จะชา 2. ลักษณะภมู อิ ากาศ หมายถึง ลักษณะของอากาศที่เกิดขึน้ เปน ประจาํ ในทองถ่นิ ใดทอ งถ่ิน หนึ่ง เปน ระยะท่ียาวนานพอสมควร แตในเขตทมี่ ีอณุ หภูมิไมรอน ไมหนาวจนเกนิ ไปจะเปนปจจัยท่ี ทําใหชมุ ชนมพี ฒั นาการท่ีรวดเร็ว และเขตใดที่มีฝนฟา ตกตามฤดูกาล จะทําใหส ามารถประกอบ อาชีพการเกษตรไดดี ก็เปนแรงจูงใจใหช มุ ชนมพี ัฒนาการดานตา ง ๆ ไดรวดเรว็ กวาเขตทีม่ ีความ แหงแลง 3. ทรพั ยากรธรรมชาติ หมายถงึ สง่ิ ท่เี กิดข้นึ หรือมีอยูเองตามธรรมชาติ โดยทมี่ นุษยไมได เปน ผสู ราง และสามารถนําไปใชป ระโยชนใ นการดาํ รงชวี ติ ได เชน แรธ าตุ ปา ไม น้าํ อากาศ ชมุ ชน ใดมที รพั ยากรธรรมชาติท่ีมีความอุดมสมบูรณ ก็จะทาํ ใหพฒั นาการของชุมชนเปนไปอยางรวดเร็ว และชุมชนใดไมม ีทรพั ยากรธรรมชาติที่อุดมสมบรู ณพัฒนาการกจ็ ะลาชา

หนว ยการเรยี นรทู ี่ 2 เร่ือง ภูมใิ จในภูมถิ ่ิน ๑๒๓ ใบความรทู ี่ 2 เรอื่ ง ปจ จยั ทางสงั คมทมี่ ีอิทธพิ ลตอ การต้งั ถิ่นฐาน หนว ยการเรยี นรทู ่ี 2 เรื่อง ภูมิใจในภูมิถ่ิน แผนการจดั การเรยี นรูท ่ี ๒ เร่อื ง ปจจยั ทางสงั คมทีม่ ผี ลตอการตัง้ ถ่ินฐาน รายวชิ าประวตั ศิ าสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรียนที่ 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 3 ปจจยั ทางสังคมท่ีมอี ทิ ธิพลตอการตัง้ ถิ่นฐาน ความเปนมาทาง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร แตล ะชมุ ชนมกั จะมีความเปนมาแตกตาง คนสวนใหญม ักจะเลอื กอยูใ นชมุ ชนท่ีมี เจอภัยธรรมชาติ สงครามตา งๆมาดวยกนั วัฒนธรรมเหมอื นกนั นบั ถอื ศาสนา และไดรว มมอื รว มใจสรา งชุมชนทําใหคน เหมอื นกนั ภาษาเดียวกัน ทาํ ใหอยู ในชมุ ชนมีความผูกพันกัน อยูร ว มกนั แบบ รว มกันอยางมีสนั ตสิ ุข มคี วามรวมมอื กัน พึ่งพาอาศยั ชมุ ชนจงึ มลี ักษณะทเ่ี ขม แขง็ ในชุมชน ความเจรญิ ความปลอดภัยทง้ั ทางสังคม รางกายและทรพั ยส ิน ความเจรญิ ดา นวตั ถุ เชน บา นเรอื น การสรางกําแพงเมอื ง คูเมือง การจดั เสน ทางคมนาคมความเจรญิ ดา น ระเบียบสงั คม เชน การออกกฏหมาย วฒั นธรรม เชน ภมู ิปญ ญาในการแพทย และกฎระเบียบตา งๆ เพื่อใหผูคนอยู การประกอบอาชีพ รว มกันอยางสงบสุข

๑๒๔ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู สําหรับนักเรยี น ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 (ประวัตศิ าสตร ป.3) ใบความรทู ี่ 3 เรือ่ ง ปจจัยทมี่ ีอทิ ธพิ ลตอพฒั นาการของชุมชน หนว ยการเรียนรทู ่ี 2 เรือ่ ง ภมู ใิ จในภมู ิถ่ิน แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๓ เรอื่ ง ปจ จยั ทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ พฒั นาการของชุมชน รายวิชาประวตั ิศาสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรยี นท่ี 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ 3 ปจ จยั ทางภมู ิศาสตร ปจ จยั ทางภมู ศิ าสตรประกอบดว ยตําแหนง ท่ีตัง้ ท่ีเหมาะสมเชน อยใู กลแ มนาํ้ ลําคลอง หรือมีเสน ทางออกสทู ะเลไดสะดวก รวมทง้ั มเี สนทางคมนคมทางบกทีส่ ามารถติดตอ คาขายกบั ชุมชนอืน่ ไดสะดวกรวดเร็ว มที รพั ยกรรรมชาติทอี่ ดุ มสมบรู ณ เชน มดี นิ อุดมสมบูรณเ หมาะแก การเพาะปลูก มีแหลง นํ้าเพยี งพอแกการอปุ โภคบริโภครวมทั้งมที รพั ยากรธรรมชาติที่มีคา เชน แรธาตุ ปาไม จะทําใหผ ูค นเขามาต้งั ถ่นิ ฐาน มกี ารแลกเปลยี่ นวัฒนธรรมและความเจรญิ ทางดานเทคโนโลยกี บั ชุมชนอน่ื ปจจยั ทีม่ อี ิทธิพลตอ พฒั นาการของชุมชน ปจจยั ทางสังคม ปจจัยทางสังคมเปนสิ่งที่มนุษยไดสรางขึ้น ประกอบดวยชุมชนท่ีมีความปลอดภัย มีความสงบเรยี บรอยและมคี วามม่ันคงซึง่ เกดิ จากการมีระบอบการปกครองทีม่ ีประสิทธิภาพ มีผูนําที่เขมแข็งสามารถจัดระเบียบสงั คมใหม ีระเบียบวินัย ดวยการสรางกฎหมายที่สามารถ ควบคมุ พฤติกรรม ของผูค นในสงั คมใหอยูร วมกนั อยา งสนั ตสิ ุข ประชาชนมีความรับผดิ ชอบตอ ชุมชน นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรม อันเปนปจจัยสําคญั ที่เปนพ้ืนฐานใหชุมชนมีความเขม แข็ง เชน ขนบธรรมเน่ียมประเพณที ่สี รางความสามคั คีในชมุ ชนการเคารพในผูอาวุโส การชวยเหลือ เกอ้ื กลู กนั การศึกษาหรือการเรยี นรูของผูคนในชมุ ชน

หนวยการเรยี นรูท ี่ 2 เรื่อง ภมู ิใจในภมู ถิ น่ิ ๑๒๕ ใบความรทู ี่ 4 เรื่อง ปจจัยท่มี ผี ลตอ การต้ังถนิ่ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคเหนอื หนว ยการเรียนรทู ่ี 2 เรอ่ื ง ภมู ิใจในภมู ถิ ่นิ แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๔ เร่ือง ปจจัยทมี่ ผี ลตอการต้ังถน่ิ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคเหนือ รายวชิ าประวตั ิศาสตร รหัสวชิ า ส13102 ภาคเรยี นที่ 1 ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี 3 ปจ จัยทางภูมศิ าสตร ลักษณะภมู ปิ ระเทศ เทือกเขาสงู สลับซบั ซอน เปน แหลง กําเนดิ แมนํา้ สายสาํ คัญในภาคเหนอื มีที่ ราบระหวางหุบเขา ลกั ษณะภูมิอากาศ ภมู อิ ากาศหนาวเยน็ ไดรบั ลมมรสุมตะวนั ออกเฉยี งเหนือในชวงฤดูหนาว ทรัพยากรธรรมชาติ ปา ไมแ ละตน กาํ เนิดแหลง นา้ํ https://www.sanook.com/travel/1417855/ ปจ จยั ทางสังคม ผูคนในภาคเหนือมกั อาศยั อยบู ริเวณที่ราบหุบเขา การดาํ รงชีวิตของคนในภาคเหนือมักจะ มคี วามเชอ่ื ทอ งถนิ่ เกย่ี วของกับธรรมชาติ เพราะพื้นทีล่ อมรอบไปดวยภูเขาและปาไม พธิ ีกรรมสว น ใหญจึงเก่ียวกับธรรมชาติ ความเช่ือในเร่ืองผีวิญญาณ อาชีพสวนใหญเปนเกษตรกรรม โดย เพาะปลูกบริเวณทร่ี าบหบุ เขา มชี าวไทยภูเขาอาศยั อยูตามภเู ขาสูง เชน แมว มเู ซอ เยา อีกอ ผูที่ อยอู าศัยในเขตภูเขาสูงมักจะทําการเพาะปลูกแบบข้ันบันได บรเิ วณที่มีผูคนอาศัยอยา งหนาแนน ยอมเกิดความแตกตางทางดา นขนบธรรมเนียมประเพณแี ละวฒั นธรรมของชุมชน

๑๒๖ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู สาํ หรับนักเรียน ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 1 (ประวตั ศิ าสตร ป.3) ใบความรทู ี่ 5 เรอ่ื ง ปจ จยั ที่มผี ลตอการตั้งถ่ินฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคกลาง หนว ยการเรียนรทู ่ี 2 เรือ่ ง ภูมใิ จในภมู ถิ ่นิ แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๕ เร่อื ง ปจจัยทมี่ ีผลตอการตัง้ ถนิ่ ฐานและพัฒนาการของชุมชนภาคกลาง รายวชิ าประวตั ศิ าสตร รหัสวชิ า ส13102 ภาคเรยี นท่ี 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ 3 ปจ จยั ทางภมู ศิ าสตร ลกั ษณะภมู ิประเทศ เปน ทร่ี าบลุมแมน า้ํ และทรี่ าบลูกฟกู (เนินเขาสลับกบั ท่ีราบ) มแี มนา้ํ หลาย สายและลําคลองใหญน อ ยท่ัวไป ลักษณะภมู อิ ากาศ ฝนตกปานกลาง และสลบั กบั ฤดแู ลง บริเวณภาคกลางตอนลา งจะมีอากาศชุม ชืน้ มากกวา เน่ืองจากอยใู กลทะเลมากกวา ภาคกลางตอนบน ทรัพยากรธรรมชาติ เปน ภาคทีอ่ ดุ มสมบรู ณที่สุดของประเทศ ปจ จัยทางสงั คม อาชีพหลักในอดีต คือ การทํานา การดําเนินชีวิตประจําวันผูกพันกับน้ําและดิน จึงมี ประเพณเี กีย่ วกับอาชีพและภมู ศิ าสตร เชน ประเพณีทําขวญั ขา ว โยนบัว การเลนเพลงเรอื เปน ตน บริเวณภาคกลางมีผูคนอาศัยอยูหนาแนนประกอบดวยคนไทยหลายเช้ือสายผูคนในภาคกลาง โดยเฉพาะเขตกรุงเทพและปริมณฑล เปนบริเวณท่ีมีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยูมาก ทําใหมี ประชากรจากภาคตา งๆ อพยพยายถนิ่ ฐานเขา มาอาศยั อยหู นาแนนเพอื่ หางานทํา เปน สังคมเมือง ทใี่ หความสําคญั ดานวตั ถุมากกวาจติ ใจ สง ผลใหมีลกั ษณะของตา งคนตางอยู บานเมอื งขยายตัวทาํ ใหเ กดิ ปญ หาส่ิงแวดลอ มปญ หานํ้าทวม

หนว ยการเรียนรทู ี่ 2 เร่อื ง ภมู ิใจในภมู ิถน่ิ ๑๒๗ ใบความรทู ่ี 6 เร่ือง ปจ จยั ท่มี ผี ลตอการตัง้ ถ่ินฐานและพัฒนาการของชุมชนภาคใต หนว ยการเรียนรทู ี่ 2 เรอื่ ง ภูมิใจในภูมิถนิ่ แผนการจดั การเรยี นรูที่ ๖ เร่ือง ปจจัยทมี่ ผี ลตอ การต้ังถนิ่ ฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคใต รายวิชาประวตั ศิ าสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรยี นท่ี 1 ชน้ั ประถมศึกษาปที่ 3 ปจ จัยทางภูมิศาสตร ลกั ษณะภมู ิประเทศ เปนคาบสมทุ รทม่ี ที ะเลขนาบอยู 2 ดาน คือ ตะวนั ออกดานอาวไทย และ ตะวันตกดา นทะเลอนั ดามนั เปนชายฝง ทะเลทสี่ วยงาม มภี เู ขาและปา ไมอ ดุ มสมบรู ณ ลักษณะภูมอิ ากาศ มีฝนตกชุกสลับกับฤดูแลงส้ัน ๆ ภาคใตไ มมีฤดหู นาว เนอื่ งจากอยูใกลเ สน ศูนยสตู ร และไดรบั อิทธพิ ลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใตและลมมรสุมตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ทาํ ให ฝนตกชกุ ตลอดทั้งป ทรัพยากรธรรมชาติ ทรพั ยากรปาไมพน้ื ที่ปาไมส ว นใหญใ นภาคใตเปนปา ดิบช้ืนตามเทอื กเขา และปา ชายเลนภาคใตมแี รธ าตุหลายชนดิ เชนแรด ีบุก พบมากที่สดุ ในภาคใตแ ละของประเทศไทย https://mgronline.com/south/detail/95900 00064000 ปจ จัยทางสงั คม ผูคนในภาคใตชุมชนที่มีความหลากหลายดานประชากร ในพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู รวมกันเปน จํานวนมากหลายเช้ือสาย ยอ มเกดิ ความแตกตา งทางดานวฒั นธรรมและประเพณีของ ชุมชน ทําใหแตละชุมชนมีความหลากหลายและผสมผสานทางดา นวัฒนธรรมและประเพณีจาก การนบั ศาสนาท่แี ตกตา งกนั ท้งั พทุ ธ อิสลาม จีนลกั ษณะอาคารบา นเรอื นมีความแตกตางกนั เพราะ ไดร บั อทิ ธพิ ลจากชาวจนี ชาวตะวันตก รายไดส ําคญั ไดม าจากอุตสาหกรรมการทอ งเทีย่ วเน่อื งจาก ฝงทะเลที่สวยงามมีปา นํ้าตก มีวัฒนธรรมประเพณีที่มีเอกลักษณแ ละหลากหลายจึงเปนที่นยิ ม ของนกั ทอ งเท่ียว

๑๒๘ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู สําหรบั นักเรยี น ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (ประวตั ศิ าสตร ป.3) ใบความรทู ่ี 7 เรือ่ ง ปจจยั ท่มี ผี ลตอ การตงั้ ถน่ิ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื หนว ยการเรยี นรทู ี่ 2 เรือ่ ง ภมู ิใจในภมู ถิ ิน่ แผนการจดั การเรยี นรูท ี่ ๗ เรอ่ื ง ปจ จัยที่มผี ลตอ การต้ังถน่ิ ฐานและพัฒนาการของชุมชน ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื รายวชิ าประวตั ศิ าสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรยี นท่ี 1 ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี 3 ปจ จยั ทางภูมศิ าสตร ลกั ษณะภูมิประเทศ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือตงั้ อยบู นแอง โคราชและแองสกลนคร มแี มน้าํ สาย หลัก คือ แมนา้ํ มูล และแมน า้ํ ชีแมน าํ้ โขงกน้ั พรมแดนระหวา งไทยกับลาว ภมู ปิ ระเทศแหง แลง ลกั ษณะภมู ิอากาศ ลกั ษณะสภาพภมู อิ ากาศแบบทงุ หญาสะวนั นา เปนภมู อิ ากาศแบบรอ นชืน้ สลับแหง และมปี รมิ าณนาํ้ ฝนปานกลาง ทรพั ยากรธรรมชาติ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือมีพน้ื ดนิ ปนทรายเปนแหลง หินทราย ซ่งึ เมือ่ สลายตัวจะเปนดินทรายทขี่ าดความอุดมสมบูรณแ ละไมเกบ็ นาํ้ ทาํ ใหเกดิ ปญ หา ความแหง แลง https://mgronline.com/south/detail/95900 00064000 ปจ จยั ทางสังคม ผูคนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน เปนชุมชนท่ีมีความหลากหลายดาน ประชากร ในพืน้ ท่ที ม่ี ปี ระชากรอาศัยอยรู วมกนั เปนจาํ นวนมาก มีอาณาเขตตดิ ลาวและกัมพูชา ยอ มเกดิ ความแตกตา งทางดา นวัฒนธรรมและประเพณีของชุมชน อีสานตอนบนตดิ กบั ลาว เปน วัฒนธรรมลุมน้าํ โขง อีสานตอนลา งตดิ กบั กมั พูชา มกี ลุม ชนอาศยั อยูหลากหลาย เชน ไทยโคราช ลาวสวย ลาวกระโซ ชาวเขมร ทําใหบางจงั หวัดพดู ภาษาเขมร แตละชุมชนมีความหลากหลาย ทางดานวัฒนธรรมและประเพณี

หนวยการเรยี นรทู ่ี 2 เรอ่ื ง ภูมิใจในภมู ิถน่ิ ๑๒๙ ใบความรทู ่ี 8 เรือ่ ง ประเพณแี ละวัฒนธรรมของชมุ ชนที่เกดิ จากสภาพทางภมู ิศาสตรและทางสังคม หนว ยการเรียนรทู ี่ 2 เรอื่ ง ภมู ิใจในภูมถิ ิ่น แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๘ เรือ่ ง ประเพณแี ละวัฒนธรรมของชมุ ชนที่เกดิ จากสภาพ ทางภมู ิศาสตรแ ละทางสงั คม รายวิชาประวตั ิศาสตร รหัสวชิ า ส13102 ภาคเรียนที่ 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 3 ประเพณีของชมุ ชนเปนส่งิ ท่ีดงี ามที่สมาชิกในชมุ ชนไดปฏิบัตสิ ืบตอกันมาชานาน แสดงถึง ความเจรญิ ของชุมชนท่ไี ดสัง่ สมและปรับปรุงใหสอดคลองกับวิถีการดําเนนิ ชีวติ ในปจ จุบัน ถือวา เปนสวนหนึ่งของวัฒนธรรมของชุมชน ปจจัยทางภูมิศาสตรและปจจัยทางสังคมมีอิทธิพลตอ การตั้งถ่ินฐานและพฒั นาการของชุมชน ขนบธรรมเนยี มประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชนดว ย กลาวคือ วัฒนธรรมในแตล ะชุมชนมคี วามเหมือน ความคลายคลึง หรือความแตกตางขึ้นอยกู บั ปจ จัยทางภมู ิศาสตร และปจจัยทางสงั คม ดังน้ี ปจจยั ทางภูมิศาสตร ซ่ึงประกอบดว ย ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ภูมิอากาศและทรัพยากรธรรมชาติ ทีเ่ หมอื นกันมกั มีขนบธรรมเนียมประเพณที ี่เหมือนกนั ดว ย เชน • ชมุ ชนทอี่ ยูใกลแ มนํา้ มปี ระเพณแี ขง เรอื • ชุมชนทต่ี ง้ั ถ่ินฐานอยบู นภูเขาซ่งึ ปาไมมีมาก สง ผลใหมปี ระเพณีบวชปา สืบชะตาแมน ํ้าเพื่อ อนรุ ักษป า ไม • ชมุ ชนท่อี ยูบริเวณที่ราบลมุ แมน้ํา สวนใหญจ ะประกอบอาชพี ทาํ นาจงึ มีประเพณที ําขวญั ขาว ปจ จัยทางสังคม เชน การนับถือศาสนา ความเชอ่ื เช้อื ชาติ ความเปน มาของชุมชนก็เปน ปจจัยที่ ทําใหเ กดิ ความเหมอื นและความแตกตา งทางวัฒนธรรม เชน • พุทธศาสนกิ ชนไมว า จะอยใู นพื้นทใ่ี ดกจ็ ะประกอบพธิ ีกรรมทางพระพุทธศาสนาเหมอื นกัน เชน ประเพณีบวชพระ ประเพณเี ขาพรรษา ประเพณีออกพรรษา • ชุมชนชาวมสุ ลมิ ก็เชน กนั ก็ยอมประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลามในชว งเวลาตางๆ เชน ประเพณีถอื ศีลอด • การประกอบอาชีพทแ่ี ตกตางกนั ทําใหม วี ฒั นธรรมทแ่ี ตกตางกนั อาชพี ทํานา ชาวนาจะมี ประเพณเี กีย่ วกับการทํานา เชน การบูชาแมโ พสพ การทาํ ขวญั ขาว อาชพี ทอผา ใน ภาคเหนือ จะมีการรําเรียกวา การรําสาวไหม

๑๓๐ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู สาํ หรบั นักเรียน ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 (ประวตั ิศาสตร ป.3) ใบความรทู ่ี 9 เรอ่ื ง ประเพณีของชมุ ชนท่เี กดิ จากความเช่อื และศาสนา หนว ยการเรียนรทู ่ี 2 เรือ่ ง ภมู ิใจในภูมิถน่ิ แผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๙ เร่อื ง ประเพณีของชุมชนท่ีเกดิ จากความเช่ือและศาสนา รายวิชาประวตั ศิ าสตร รหัสวชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 3 ชมุ ชนภาคเหนอื ประเพณีทานตงุ (ธง) ของชมุ ชนในภาคเหนอื เนือ่ งจากชาวเหนอื มคี วามเชอื่ วา การนําธง ไปถวายวัดเปนการทําบญุ ทําทานแกญาตพิ ี่นอ งท่ีลวงลับ การทานตุงจึงเปนประเพณีที่แสดงถึง ความกตัญูหรือความระลึกถึงผูท่ีเสียชีวิตไปแลว ผูที่ทานตุงจึงมีความสุขใจท่ีไดทําความดี ประเพณกี าทานตุงจึงมคี ุณคา ตอชมุ ชน และเปนการสรา งความสามัคคี เพระการทาํ ตงุ ขนาดใหญ ตอ งใชความรว มมือ รว มแรงรวมใจของชาวบานในชุมชนใหช ว ยกนั ทําท้ังยงั เปนการรักษาชา งฝมือ และศิลปะทอ งถิน่ ดว ย ชุมชนภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ประเพณีบุญบัง้ ไฟ ของชุมชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรอื ชุมชนชาวอีสาน จะจดั ประเพณีน้ขี ึ้นในเดือน ๖ (ประมาณเดือนพฤษภาคม) เพระมคี วามเชือ่ วา การจดั งานบุญบัง้ ไฟจะ ทาํ ใหฝ นตกตามฤดกู าล เกดิ ความอุดมสมบูรณ บญุ บัง้ ไฟถอื เปนงานประเพณที ี่สาํ คญั ของชมุ ชน ชาวอสี าน เพราะเปน การสรา งความรกั และความสามคั คีของคนในชมุ ชน https://www.chiangmainews.co.th/page/arc https://travel.mthai.com/news/209699.html ประเพณที านตงุ ประเพณีบุญบัง้ ไฟ

หนวยการเรยี นรทู ่ี 2 เรอ่ื ง ภมู ใิ จในภมู ิถ่ิน ๑๓๑ ชุมชนภาคใต ประเพณีชักพระภาคใต ของชุมชนทางภาคใต เชน ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา จะจัดงานชักพระหรือชักลากพระพุทธรูปซ่ึงเปน ท่นี ับถืออยา งใหญโต งานชกั พระจึงเปน ประเพณีหน่ึงของชุมชนตา งๆในภาคใตท ่ีปฏิบัตสิ ืบตอ กนั มาเปนเวลานานประเพณชี ักพระเกิดจาก ความเชอื่ ของผูที่นับถือพระพุทธศาสนา คอื มคี วามเชื่อวาพระพุทธเจา ไดเสดจ็ ขน้ึ ไปเทศนาโปรด พระมารดาบนสรรค แลว เสดจ็ กลับมายังโลกมนษุ ยในวนั น้ี ดงั น้นั ประเพณชี กั พระจึงเปรียบเสมือน การรับเสด็จพระพุทธเจา โดยชาวบานตางชวยกันตกแตง พาหนะท่ีจะใชชักหรือลากพระ ซ่ึงใน สมัยกอนมักใชล อ เล่ือนหรือเรือ ตอ มาจงึ ใชร ถยนต การท่ีใชพาหนะแตกตา งกันเนือ่ งจากสภาพภูมิ ประเทศ ซงึ่ เปน ทต่ี ัง้ ของวัดแตกตา งกัน ดังนนั้ จึงมีการชกั พระทางบกในชุมชนทวี่ ัดต้งั อยใู นท่ีดอน และการชักพระทางนาํ้ ในชมุ ชนที่วดั ตงั้ อยูรมิ น้ําการชกั พระเปนประเพณีที่แสดงออกถึงความเช่ือ ทางศาสนาและการสรา งความรัก ความสามัคคีใหแกคนในทองถ่ิน ท้ังยังมีผลใหมีการถา ยทอด ฝม ือชางตกแตง พาหนะจากคนรนุ หนง่ึ ไปสอู ีกรนุ หนึ่ง ประเพณีโยนบัว ของชุมชนทางภาคกลางเปนงานประเพณีที่เก่ียวเนอ่ื งกับพุทธศาสนาซ่ึงจดั ขึ้น เปน ประจาํ ทุกปเปน งานประเพณที ่ียง่ิ ใหญมากเปน ท่รี ูจักของคนทัว่ ไปและนกั ทองเท่ียวท้งั ชาวไทย และชาวตา งชาตเิ ปน อยางดี วันจดั งานตรงกบั วนั ข้ึน 14 คา่ํ เดอื น 11 คอื กอนออกพรรษา 1 วนั ที่จัดกอนวันออกพรรษาเพราะวันออกพรรษาจะเปนวันที่พุทธศาสนิกชนทําบุญกัน แตวันงาน ประเพณีโยนบวั จะเปนวันท่ีทกุ คนสนกุ สนานร่ืนเริงเปรยี บเหมือนการเฉลิมฉลองกอนเทศกาล ออกพรรษา http://www.tic.co.th/index.php?op=blog- https://sites.google.com/site/photcharapon ประเพณีชกั พระ ประเพณโี ยนบัว

๑๓๒ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู สาํ หรับนกั เรียน ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 1 (ประวตั ศิ าสตร ป.3) ใบความรทู ่ี 10 เร่อื ง ความเหมือนและความแตกตา งทางวฒั นธรรมของชมุ ชน หนว ยการเรียนรทู ี่ 2 เรือ่ ง ภมู ิใจในภมู ถิ ิ่น แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 1๐ เร่อื ง ความเหมอื นและความแตกตางทางวฒั นธรรมของชมุ ชน รายวชิ าประวตั ศิ าสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรยี นท่ี 1 ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ 3 ประเพณีและวฒั นธรรมของชมุ ชนที่เหมอื นกัน วัฒนธรรมที่เหมือนกันของชุมชน มักเกิดจากสภาพแวดลอมทางธรรมชาติ และ สภาพแวดลอมทางสังคมที่มีความคิดความเชื่อทางศาสนาและความเปนมาทางประวัตศิ าสตร ซงึ่ พบวาส่ิงทเี่ หมือนกันของประเพณีในชุมชนตาง ๆ คอื ความหมายและคณุ คาของประเพณกี ลาวคือ ประเพณีดังกลาวตางตองการใหช มุ ชนมีความอุดมสมบรู ณม ั่นคงปลอดภยั โดยมีพธิ กี รรมเพ่ือสราง ความเปนสิริมงคลใหแกตนเองและชุมชน รวมทั้งเปนการแสดงความกตัญูและตองการให บรรพบุรุษ ที่ลวงลับไปแลวใหความคุมครองแกคนในชุมชน ในดานคุณคาของประเพณี ก็เชนเดียวกัน คือ เปนการใหคุณคา ทางจติ ใจท่ีทําใหผูคนมคี วามสุข และเปนการสรางความรัก ความสามคั คีใหเ กิดข้ึนในชมุ ชน ประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชนทแี่ ตกตางกัน ความแตกตางของขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมเกิดจากความแตกตา ง ทางสงิ่ แวดลอมทางธรรมชาติ ทั้งดานภมู ิประเทศภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ เชน ในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือมีประเพณีเก่ียวกับการขอฝน เพราะมีภูมิประเทศที่แหงแลง ภาคเหนือมี ภูมปิ ระเทศเปนภเู ขาสลับกับที่ราบ มีทรัพยากรปาไมมากและเปนแหลงตนนํ้าจึงเกิดประเพณีบวช ปาสบื ชะตาแมน า้ํ เพ่อื อนรุ ักษป าไมซ ่งึ เปน แหลงตน น้ําใหอ ดุ มสมบรู ณความแตกตางของประเพณี และวัฒนธรรมในแตละชุมชนในภาคตางๆ เกิดจากการถายทอดจากบรรพบุรุษ และการรับ วฒั นธรรมจากภายนอก จึงทาํ ใหม รี ปู แบบพธิ กี รรมตางกันออกไป

หนว ยการเรยี นรูท ี่ 2 เรอื่ ง ภมู ใิ จในภมู ถิ ิ่น ๑๓๓ ใบงานที่ 1 เรอื่ ง ปจจัยทางภมู ิศาสตรทมี่ ีอิทธิพลตอ การตงั้ ถนิ่ ฐาน หนว ยการเรียนรทู ี่ 2 เรื่อง ภูมใิ จในภมู ถิ ่นิ แผนการจดั การเรยี นรูที่ ๑ เรอ่ื ง ปจจยั ทางภูมิศาสตรท ี่มีผลตอ การตั้งถน่ิ ฐาน รายวิชาประวตั ศิ าสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ 3 คําชแ้ี จง ใหน ักเรียนระบุปจจยั ทางภมู ิศาสตรท่ีมอี ทิ ธพิ ลตอการตงั้ ถนิ่ ฐาน มีอะไรบา ง และมี ประโยชนห รือความสาํ คัญอยางไร ปจ จยั ดา น.................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... .......................... ปจจัยท่ีมีอทิ ธิพลตอ การต้งั ถนิ่ ฐาน .......................... .......................... (ดานภมู ศิ าสตร) .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... .......................... ..........................

๑๓๔ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู สาํ หรบั นกั เรยี น ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 (ประวตั ศิ าสตร ป.3) ใบงานท่ี 2 เรือ่ ง ปจจยั ทางสังคมทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอการตัง้ ถนิ่ ฐาน หนว ยการเรียนรทู ่ี 2 เรอื่ ง ภมู ใิ จในภูมถิ ิน่ แผนการจดั การเรยี นรูที่ ๒ เร่ือง ปจจัยทางสังคมทีม่ อี ทิ ธพิ ลตอการต้งั ถ่ินฐาน รายวชิ าประวตั ิศาสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี 3 คําชีแ้ จง ใหน กั เรียนระบปุ จจยั ทางสังคมที่มอี ิทธพิ ลตอ การตั้งถนิ่ ฐานมอี ะไรบาง และมี ความสาํ คญั อยางไร ปจจัย.................. ปจจัย..................................... ปจ จัย................. ............................ .......................... ....................................................................................... .......................... ....................................................................................... .......................... .......................... ....................................................................................... .......................... .......................... ....................................................................................... .......................... .......................... .......................... .......................... ปจจยั ท่ีมอี ิทธิพลตอการตง้ั ถิ่นฐาน .......................... .......................... (ดานสงั คม) .......................... .......................... .......................... .......................... ปจจัย..................................... .......................... .......................... .......................... .......................... ....................................................................................... .......................... .......................... ....................................................................................... .......................... ....................................................................................... .......................................................................................

หนว ยการเรียนรูท่ี 2 เร่ือง ภูมใิ จในภมู ถิ ่ิน ๑๓๕ ใบงานท่ี 3 เรื่อง ปจ จัยที่มีอทิ ธพิ ลตอ พัฒนาการของชมุ ชน หนว ยการเรยี นรทู ี่ 2 เรื่อง ภูมใิ จในภูมถิ ่นิ แผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๓ เร่ือง ปจจยั ทมี่ อี ทิ ธิพลตอพฒั นาการของชุมชน รายวิชาประวตั ิศาสตร รหสั วชิ า ส13102ภาคเรียนที่ 1 ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี 3 คําช้แี จง จากภาพ ใหน ักเรยี นวเิ คราะหว า เปนปจจยั ทางภูมศิ าสตรหรอื ปจจัยทางสังคม และมผี ล ตอ พฒั นาการของชุมชนอยางไร https://mgronline.com/travel/detail/9610000106 https://www.springnews.co.th/society/475478 ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... https://www.newtv.co.th/news/46436 https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/4921 ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ......................................................................

๑๓๖ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู สาํ หรับนกั เรียน ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (ประวตั ิศาสตร ป.3) ใบงานท่ี 4 เร่ือง ปจจัยที่มผี ลตอการต้ังถนิ่ ฐานและพัฒนาการของชมุ ชนภาคเหนอื หนว ยการเรียนรทู ี่ 2 เรื่อง ภมู ใิ จในภมู ิถิ่น แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี ๔ เรอ่ื ง ปจจยั ท่ีมผี ลตอการต้งั ถนิ่ ฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคเหนือ รายวิชาประวตั ศิ าสตร รหัสวชิ า ส13102 ภาคเรียนที่ 1 ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี 3 คาํ ชแ้ี จง ใหนกั เรยี นวิเคราะหป จ จัยทางภูมศิ าสตรและปจ จยั ทางสงั คมท่มี ีอิทธิพลตอการตั้งถิ่น ฐานและพัฒนาการของชุมชนภาคเหนือ ปจ จัยทางภมู ิศาสตร ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ปจ จัยทางสังคม ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………

หนวยการเรียนรทู ี่ 2 เร่ือง ภูมใิ จในภมู ิถิ่น ๑๓๗ ใบงานที่ 5 เรอ่ื ง ปจ จัยทีม่ ผี ลตอ การตง้ั ถนิ่ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคกลาง หนว ยการเรยี นรทู ี่ 2 เรอ่ื ง ภูมใิ จในภมู ถิ ิน่ แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๕ เรื่อง ปจ จยั ทม่ี ีผลตอ การตง้ั ถน่ิ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคกลาง รายวชิ าประวตั ศิ าสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ 3 คําชี้แจง ใหน กั เรยี นวิเคราะหป จจยั ทางภมู ิศาสตรแ ละปจจยั ทางสงั คมทีม่ อี ิทธพิ ลตอการตง้ั ถน่ิ ฐานและพัฒนาการของชุมชนภาคกลาง ปจจัยทางภูมิศาสตร ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ปจจัยทางสังคม ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………

๑๓๘ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู สําหรบั นักเรียน ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 1 (ประวตั ิศาสตร ป.3) ใบงานท่ี 6 เร่ือง ปจจยั ท่มี ีผลตอการต้งั ถน่ิ ฐานและพัฒนาการของชมุ ชนภาคใต หนว ยการเรยี นรทู ่ี 2 เรอื่ ง ภูมใิ จในภมู ิถน่ิ แผนการจดั การเรยี นรูที่ ๖ เรื่อง ปจ จยั ทมี่ ีผลตอ การต้งั ถนิ่ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคใต รายวิชาประวตั ศิ าสตร รหัสวชิ า ส13102 ภาคเรียนที่ 1 ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ 3 คาํ ช้แี จง ใหนกั เรียนวเิ คราะหป จจยั ทางภมู ิศาสตรและปจ จัยทางสงั คมทีม่ อี ทิ ธิพลตอการตง้ั ถน่ิ ฐานและพัฒนาการของชมุ ชนภาคใต ปจจยั ทางภมู ศิ าสตร ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ปจจัยทางสงั คม ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………

หนวยการเรยี นรูท ่ี 2 เรอื่ ง ภมู ใิ จในภูมิถิ่น ๑๓๙ ใบงานที่ 7 เรอื่ ง ปจจยั ท่มี ผี ลตอ การต้งั ถิ่นฐานและพัฒนาการของชุมชนภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื หนว ยการเรยี นรทู ่ี 2 เร่อื ง ภมู ิใจในภูมถิ น่ิ แผนการจัดการเรยี นรูที่ ๗ เรือ่ ง ปจจยั ที่มผี ลตอ การตงั้ ถนิ่ ฐานและพัฒนาการของชุมชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื รายวชิ าประวัตศิ าสตร รหัสวิชา ส13102 ภาคเรยี นที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 3 คําชแี้ จง ใหน ักเรียนวเิ คราะหป จ จัยทางภมู ิศาสตรแ ละปจ จัยทางสงั คมท่มี อี ทิ ธพิ ลตอการตั้งถน่ิ ฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ปจจยั ทางภมู ิศาสตร ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ปจจัยทางสงั คม ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………

๑๔๐ ชุดกิจกรรมการเรียนรู สําหรับนักเรยี น ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 (ประวตั ิศาสตร ป.3) ใบงานที่ 8 เรอื่ ง ลักษณะท่ีสาํ คญั ของประเพณแี ละวัฒนธรรมของชุมชน ทเ่ี กดิ จากสภาพทางภูมศิ าสตรและทางสังคม หนว ยการเรียนรทู ่ี 2 เร่ือง ภมู ใิ จในภมู ิถิน่ แผนการจดั การเรยี นรูที่ ๘ เรื่อง ประเพณแี ละวฒั นธรรมของชุมชนทเี่ กดิ จากสภาพ ทางภมู ศิ าสตรแ ละทางสังคม รายวชิ าประวตั ิศาสตร รหัสวชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ ประถมศึกษาปที่ 3 คาํ ชี้แจง ใหน กั เรยี นดภู าพทก่ี ําหนดให แลว อธบิ ายลกั ษณะสาํ คญั ของประเพณีและวัฒนธรรมของ ชุมชนท่เี กดิ จากสภาพทางภูมิศาสตรและทางสงั คม ๑. ภาพนค้ี อื .................................................................... ประเพณี / วัฒนธรรมของภาค.................................. ทํา ๔ ภาพ ทั้ง๔ ภาค มีลักษณะสาํ คญั ดงั นี.้ ................................................ ................................................................................... https://www.thairath.co.th/ ................................................................................... ปจ จยั ทีท่ ําใหเกิดประเพณี / วฒั นธรรมน้ี คือ ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... 2. ภาพนีค้ อื .................................................................... ประเพณี / วัฒนธรรมของภาค.................................. ทํา ๔ ภาพ ทัง้ ๔ ภาค มีลกั ษณะสาํ คญั ดงั นี้................................................. ................................................................................... https://www.bangkokbiznews.com/ne ................................................................................... ปจ จัยที่ทําใหเ กิดประเพณี / วัฒนธรรมนี้ คอื ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ...................................................................................

หนวยการเรียนรูท่ี 2 เรอ่ื ง ภมู ใิ จในภมู ิถิ่น ๑๔๑ 3. ภาพนคี้ อื .................................................................... ประเพณี / วฒั นธรรมของภาค.................................. ทาํ ๔ ภาพ ท้งั ๔ ภาค มีลกั ษณะสาํ คญั ดงั น้ี................................................. ................................................................................... https://sites.google.com/site/pphawrinthrsri ................................................................................... ปจ จัยทีท่ าํ ใหเกดิ ประเพณี / วฒั นธรรมนี้ คือ ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... 4. ภาพนีค้ อื .................................................................... ประเพณี / วฒั นธรรมของภาค.................................. ทาํ ๔ ภาพ ทัง้ ๔ ภาค มีลักษณะสาํ คญั ดงั น้.ี ................................................ ................................................................................... https://siamrath.co.th/n/3880 ................................................................................... ปจ จยั ทท่ี าํ ใหเ กดิ ประเพณี / วฒั นธรรมน้ี คอื ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ...................................................................................

๑๔๒ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู สาํ หรบั นกั เรยี น ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี 1 (ประวัติศาสตร ป.3) ใบงานที่ 9 เร่อื ง ลักษณะสาํ คัญของประเพณขี องชุมชนทเ่ี กิดจากความเชือ่ และศาสนา หนว ยการเรียนรทู ่ี 2 เรือ่ ง ภมู ิใจในภูมิถิ่น แผนการจดั การเรยี นรูที่ ๙ เรื่อง ประเพณขี องชมุ ชนทเี่ กดิ จากความเชื่อและศาสนา รายวิชาประวตั ิศาสตร รหัสวชิ า ส13102 ภาคเรยี นท่ี 1 ชนั้ ประถมศึกษาปท ่ี 3 คาํ ชแี้ จง ใหน ักเรียนดูรูปภาพ แลว อธบิ ายลกั ษณะสาํ คัญของประเพณที ีเ่ กดิ จากความเช่ือและ ศาสนา 1. ประเพณี .............................................. 2. ประเพณี ............................................. ภาค........................................................... ภาค........................................................... ลักษณะสาํ คัญ........................................... ลักษณะสําคัญ........................................... ................................................................. ................................................................. แหน างแมว 3. ประเพณี ............................................. 4. ประเพณี ............................................. ภาค........................................................... ภาค........................................................... ลกั ษณะสําคัญ........................................... ลกั ษณะสาํ คัญ........................................... ................................................................. .................................................................

หนวยการเรยี นรูที่ 2 เรอ่ื ง ภูมิใจในภมู ถิ ิน่ ๑๔๓ ใบงานท่ี 10 เรื่อง ความเหมอื นและความแตกตา งทางวฒั นธรรมของชมุ ชน หนว ยการเรียนรทู ี่ 2 เรอ่ื ง ภูมิใจในภูมิถน่ิ แผนการจดั การเรยี นรูที่ 1๐ เร่ือง ความเหมอื นและความแตกตางทางวฒั นธรรมของชุมชน รายวชิ าประวตั ิศาสตร รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรยี นที่ 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 3 คําช้ีแจง ใหนักเรียนแตละกลุมเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกตางทางวัฒนธรรม ระหวางชมุ ชนของตนเองและชมุ ชนอื่น(ประเพณี อาชพี อาหาร) เปน แผนภาพความคิด ชุมชนตนเองคือ............... ชุมชนอนื่ คอื .................. ...................................................... ความเหมอื น ...................................................... ...................................................... ………………………. ...................................................... ...................................................... ………………………. ...................................................... ...................................................... ……………………… ...................................................... ……………………. ...................................................... ………………. ...................................................... ปจ จยั ทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอความเหมือนและความตา งทางวฒั นธรรมของชุมชนตนเองกบั ชมุ ชนอ่ืนๆ .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................