Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดกิจกรรมนักเรียน สังคมศึกษา ป.3

ชุดกิจกรรมนักเรียน สังคมศึกษา ป.3

Published by kroobantim Satang, 2021-06-22 10:02:38

Description: ชุดกิจกรรมนักเรียน สังคมศึกษา ป.3

Search

Read the Text Version

๔๔ ชุดกิจกรรมการเรียนรู สําหรบั นกั เรียน ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี 1 (สังคมศกึ ษา ป.3) การละหมาด เปน การปฏิบัตศิ าสนกิจอยา งหนงึ่ ในศาสนาอสิ ลาม เพือ่ เปนการภักดีตออัลลอฮฺ มสุ ลิมทุก คนจะตองละหมาด วันละ 5 เวลา เรียกวา ละหมาดฟรฎ ละหมาด หมายถึง การขอพร ความหมายทางศาสนาหมายถงึ การกลาวและการกระทํา ซ่ึงเริ่มตนดวยตกั บีร และ จบลงดวย สลาม การละหมาดเปน การสรา งเอกภาพอยางหน่งึ ของมุสลิม เมื่อละหมาดมสุ ลมิ ทว่ั โลก หันหนา ไปทางกิบละฮฺ เพ่ือเคารพภักดีตออัลลอฮฺ การละหมาด ฝกฝนใหเปนคนตรงตอ เวลา มีความอดทน และขดั เกลาจติ ใจ ใหบรสิ ทุ ธ์ผิ อ งแผว ไมป ระพฤตสิ ่งิ หนงึ่ สิ่งใดในทางชวั่ ราย ฮารรี ายอ เปนภาษามลายูปตตานี สวนในภาษามลายูกลาง แปลวา วันใหญ หรือ วันอีด เปนวันเฉลิม ฉลองเทศกาลวนั ขน้ึ ปใ หมข องชาวมุสลิม โดยกอนวันงาน ชาวมสุ ลมิ จะออกมาจบั จา ยซ้อื ของ เสือ้ ผา และหมวกกะปเ ยาะ เพือ่ เตรยี มตอนรับเทศกาลฮารรี ายอกนั อยา งคกึ คกั และในวนั ดังกลา วชาวมสุ ลมิ จะไปเย่ียมเยียนพอแม ญาติพ่นี อง เพื่อนบาน เพ่ืออภัยตอกันในสิ่งที่ผานมา มีการแสดงออกดว ย การสวมกอด การจบู มือ การหอมแกมทั้งสองของพอแม เปนการแสดงความรัก ลูกหลานทีอ่ ยตู า ง ภูมลิ าํ เนาตา งกลบั บา น เมอื่ มาขออภยั และอาํ นวยพรใหพ อ แม ทกุ ครัวเรอื นจะมคี วามอบอุนไปดว ย บรรดาลูก ๆ หลาน ๆ กลับบานโดยพรอมเพรียงกนั ประโยชนของการปฏิบัตติ นตามประเพณีและวฒั นธรรมในทองถิ่นเก่ียวกับศาสนา 1. สามารถนาํ มาประยุกตใชก ับชวี ิตประจาํ วันได เพราะหลักคาํ สอนและแนวคดิ ของ บรรพบุรุษมีความเฉียบแหลมและสามารถใชไ ดก ับทกุ ยุคทุกสมยั 2. เพือ่ ใหเราเปน คนไทยทที่ ําหนา ที่ความเปน ไทยไดอยางไมขาดตกบกพรอ งอะไรท่เี ปน ประโยชนของประเทศชาตกิ ค็ วรรว มดวยชวยกนั 3. เพอื่ ทาํ ใหเ ขาใจอยา งถองแทเกี่ยวกับประเพณีไทยในแตละทองถิน่ ไดอ ยา งลกึ ซ้ึง 4. สามารถนําเอาความรคู วามเขาใจและขอ มูลและแนวปฏิบัติเก่ยี วกับประเพณไี ป เผยแพรตอ

หนวยการเรียนรทู ่ี 3 เรอ่ื ง ประเพณแี ละวัฒนธรรม ๔๕ ใบความรทู ่ี 5 เรอื่ ง ประเพณแี ละวัฒนธรรมทเ่ี กยี่ วขอ งกับการดาํ เนนิ ชวี ติ หนว ยการเรียนรทู ่ี 3 เรือ่ ง ประเพณีและวฒั นธรรม แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 5 เรือ่ ง ประเพณแี ละวัฒนธรรมท่ีเกี่ยวขอ งกบั การดาํ เนนิ ชวี ติ รายวชิ าสงั คมศกึ ษา รหัสวชิ า ส13101 ภาคเรียนที่ 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท่ี 3 ประเพณีที่เกี่ยวกับการเกิด ประเพณกี ารเกิด การเกิดเปนเร่อื งที่สังคมไทยใหค วามสาํ คญั สว นจะมพี ิธีรีตองมากนอย เพยี งไรกแ็ ลว แตความเชื่อของแตล ะคน หรือสังคมท่ีตนอยรู วมดว ย คนสมัยกอ นทาํ พธิ ีตางๆก็เพอื่ ปองกันอนั ตรายที่อาจจะเกิดในระหวา งตั้งครรภ เพอ่ื ใหค ลอดไดง า ย แมจ ะไดไ มเ ปน อนั ตรายถึง ตาย เพ่อื คุมครองปกปก ษรักษาทารกท่ีคลอดใหออกมาโดยปลอดภัย แตเ ดมิ มคี วามเชื่อวา การทาํ พธิ เี กิดจะชวยปองกนั ปด เปาผีรายท่จี ะมาทําอันตรายแกทารกและแม เพราะวทิ ยาการตา งๆ ใน สมัยนนั้ ยังไมเจริญ คนจงึ ไปเชอ่ื ในส่งิ ลึกลบั ตอมาเมื่อมนษุ ยเจริญขนึ้ ความเชือ่ ในเรื่องผีคอ ย ๆ หมดไป แตช นบางพวกบางกลุม ก็ยงั นยิ มปฏบิ ตั ทิ เ่ี ขาทํา เชนนน้ั ก็เพอื่ ความสบายใจ หรอื เขาทําให เพราะทองถิ่นท่เี ขาอยูเห็นวาควรทาํ ไมทําจะเดือดรอ น แกค นสว นใหญ เขาจงึ ทาํ ตามเพอ่ื ไมใ หผดิ ประเพณี และดเู ปนคนนอกรีตนอกรอยไป เชน ประเพณกี ารทาํ ขวัญเดก็ แรกเกดิ ประเพณีเก่ียวกับงานศพ ชาวไทยมปี ระเพณีเก่ยี วกบั งานศพหลายข้ันตอน นบั ตัง้ แตว นั ตาย จะมีประเพณกี ารตง้ั ศพ วันเผาศพหรือวันฌาปนกิจศพ และทําบุญหลังวันเผาศพ ท้ังนี้เพื่อใหญาติมติ รที่สนิทสนมกับคน ตายไดรบั รรู ว มกันและรวมในพิธศี พได บางคนนยิ มทําบุญเกยี่ วกับงานศพหลายวัน อาจจะเกบ็ ศพ ไวร ะยะเวลาหนงึ่ เชน 50 วัน 100 วัน กอนทีจ่ ะเผาตามความเชอ่ื ทางพระพทุ ธศาสนา ประเพณเี ก่ียวกบั งานสมรส (งานแตง ) การแตงงาน เปน ประเพณที สี่ าํ คญั สาํ หรบั วถิ ีชีวติ ไทย เพราะเปนการบงบอกวาผูท ีแ่ ตง งาน น้ันมคี วามเปน ผใู หญแลว มคี วามรบั ผิดชอบมากขึ้น และพรอ มที่จะเปน ครอบครวั รบั ผิดชอบชวี ิตอีก หลายคนเพม่ิ ขน้ึ นอกจากชีวิตของตนเอง และยังไดท ําหนาท่ีแสดงความสามารถ ตามบทบาทของ ตนเองในฐานะหัวหนาของครอบครัว ดังนั้นการแตง งาน ตามทัศนะของผูเขยี นน้ันยอม หมายถงึ การที่ชาย-หญิง ของไทย มีความรักใครตอกันจนสุกงอม มีความเห็นอกเห็นใจกันและพรอ มทจี่ ะ ดาํ เนินชีวิตรวมกันเปน ครอบครวั อยา งสามีภรรยา จงึ จําเปน ตอ งแตง งานกันใหเ ปนไปตามประเพณี ของสังคม มีผูใหญทั้งสองฝายยอมรับและสังคมตองรับรูดว ยเชนเดยี วกัน ดวยเหตุนี้ประเพณีการ

๔๖ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู สาํ หรบั นักเรียน ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 (สงั คมศึกษา ป.3) แตงงานจงึ จําเปนตองจัดใหมีพิธีกรรมตามขน้ั ตอนของประเพณไี ทย เร่ิมต้ังแต การทาบทาม สูขอ หมนั้ และแตงงาน พิธีการแตง งานนี้ถา จะใหถ กู ตองเหมาะสม จะตองประกอบพิธีทางศาสนาดวยใน ตอนเชา และอีกพธิ ีกค็ ือจะตองจดทะเบยี นแตงงานใหถ ูกตองตามกฎหมาย ก็ถอื วา การแตงงานนนั้ ถกู ตองสมบรู ณ สว นจะทาํ พธิ ีหลงั่ นํา้ พระพุทธมนตแ ละประสาทพรน้ันจะกระทําตอนเย็นและเลี้ยง รับรองแขกผูมีเกียรติไปพรอ มกันหลังจากหลั่งน้ําพระพุทธมนตแ ละประสาทพรแลว หรือจะทาํ ให เสรจ็ ภายในภาคเชา เลยกไ็ ด ประเพณกี ารบวช การบวชถือเปนส่งิ ที่ชวยอบรมสงั่ สอน ใหเปน คนดี ตลอดจนเปนการทดแทนคุณพอ แมท่ีให กาํ เนิดเพอ่ื ใหพ อแมเ ปนสุข และตวั ผูบ วชเองก็จะไดมโี อกาสศกึ ษาธรรมวนิ ยั สวดมนตภาวนาทาํ ใจ ใหส งบ เปนตน การบวชจึงมี 2 แบบ คอื 1. บรรพชา (บวชเณร) เด็กชายที่จะบวชเปนสามเณรได จะตองมีอายุตง้ั แต 7 ปข้ึนไป สมัยกอ นการบวชเณรเปนการฝากลูกใหพระดแู ลอบรมสั่งสอน เพราะวดั เปน เสมอื นโรงเรยี นหรือ สถานที่สอนคนใหเปนคนดี แตสมัยน้ีการบวชมักเปนการบวชเพอื่ แกบน บวชหนาศพ บวชเพ่ือ ศกึ ษาธรรมวินัย 2. การอปุ สมบท (บวชพระ)ชายทจ่ี ะบวชไดต องมีอายุครบ 20 ปบ ริบรู ณ การอปุ สมบท เปนประเพณีท่ีมีความสําคัญมาก ท้ังนี้เพราะชายทมี่ ีอายุครบ 20 ป เปนวัยท่ีเขาเขตผูใ หญ ซึ่ง จะตอ งมคี วามรับผดิ ชอบในชวี ติ ของตน

หนว ยการเรียนรูท ี่ 3 เร่ือง ประเพณแี ละวัฒนธรรม ๔๗ ใบงานท่ี 1 เร่ือง ความหมายและความสําคัญของประเพณแี ละวัฒนธรรม หนว ยการเรียนรทู ี่ 3 เร่อื ง ประเพณีและวัฒนธรรม แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 1 เรอื่ ง ความหมายและความสาํ คญั ของประเพณีและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส13101 ภาคเรยี นท่ี 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 3 ๑) คําชี้แจง ใหน กั เรียนอธิบายเก่ยี วกับความหมายของประเพณแี ละวัฒนธรรม ประเพณีและวฒั นธรรมมีความหมายวาอยางไร .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ๒) คาํ ชแ้ี จง ใหนกั เรยี นวเิ คราะหความสาํ คญั ของประเพณีและวัฒนธรรมโดยใชแผนผงั ความคดิ ความสาํ คัญของ ประเพณแี ละวัฒนธรรม

๔๘ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู สาํ หรับนกั เรียน ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 (สงั คมศกึ ษา ป.3) ใบงานท่ี 2 เร่อื ง คุณคา ของประเพณีและวฒั นธรรมในครอบครวั หนว ยการเรียนรทู ี่ 3 เรอ่ื ง ประเพณแี ละวฒั นธรรม แผนการจดั การเรยี นรูที่ 2 เร่ือง ประเพณีและวัฒนธรรมในครอบครัว รายวิชาสงั คมศกึ ษา รหสั วชิ า ส13101 ภาคเรยี นที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 3 คําชีแ้ จง ใหน กั เรียนศกึ ษากรณีตวั อยางเรือ่ ง ครอบครวั อบอุน แลว ตอบคําถาม กรณีตัวอยาง เร่อื ง ครอบครวั อบอุน วันเสาร- อาทิตยน้ี พนี่ ะโมและนองใบหมอนชวยกันทาํ งานบา นตามท่ีคุณแมเคยส่ัง ใหทํา คุณแมทํางานบานและทําอาหารพิเศษกวาทุกวันใหสมาชิกในครอบครัวไดรับ ประทานรวมกันในตอนเย็น สวนคุณพอดูแลรดนํ้าผักสวนครัวและปลูกสมุนไพรขางบาน เพ่ิมขนึ้ เม่อื คณุ แมทาํ อาหารเสรจ็ แลว ไดมอบหนาที่ใหพ่ีนะโม นําไปใหคุณยายซึ่งอยูบาน ใกล ๆ กัน พ่ีนะโมไหวคุณยายหลังจากสงอาหารเรียบรอยแลว คุณยายชมวาพี่นะโมมี มารยาทดี ออนนอ มตอผูใหญ เย็นวันนั้นสมาชกิ ในครอบครัวทกุ คนรับประทานอาหารพรอม กันและสนทนากันอยางสนุกสนาน พอถึงตอนกลางคืน ทุกคนไหวพระสวดมนตกอนนอน ทกุ คืน เมอ่ื เชาตรทู ง้ั ครอบครัวก็ไดมาทําบญุ ตักบาตรทว่ี ัดเนื่องจากเปนวนั พระ คาํ ถาม 1. ประเพณีและวัฒนธรรมสาํ คัญของครอบครวั อบอุน มอี ะไรบาง .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 2. การทีส่ มาชิกทกุ คนในครอบครวั อบอุนตางก็ปฏิบตั ติ นตามประเพณีและวฒั นธรรม สง ผลดี หรือเกิดประโยชนอยางไร .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรอ่ื ง ประเพณีและวฒั นธรรม ๔๙ ใบงานที่ 3 เร่อื ง ประเพณีและวัฒนธรรมในท้องถิน่ (ศาสนาพุทธ) หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอื่ ง ประเพณีและวัฒนธรรม แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่อื ง ประเพณีและวัฒนธรรมในท้องถน่ิ (ศาสนาพทุ ธ) รายวิชาสังคมศกึ ษา รหัส ส13101 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 คาช้ีแจง ให้นกั เรียนเขียนบรรยายใต้ภาพท่แี สดงถึงประเพณแี ละวฒั นธรรมในทอ้ งถ่ิน 1) 2) https://www.chiangmainews.co.th/page/ https://www.piteethai.com/content/6782 archives/890403/ ............................................................................ ........................................................................... ........................................................................... ........................................................................... ............................................................................ ........................................................................... 4) 3) https://travel.mthai.com/blog/214441.html https://sites.google.com/site/photcharapon ........................................................................... 44499/prapheni-thiy-phakh-klang/prapheni- ........................................................................... ........................................................................... ......r.a..b..-.b..a..w............................................................ 5) ............................................................................ ........................................................................... 6) https://mgronline.com/travel/detail/ https://siamrath.co.th/n/108818 9630000020724 ............................................................................ ............................................................................ ........................................................................... ........................................................................... ........................................................................... ...........................................................................

๕๐ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู สาํ หรบั นกั เรียน ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี 1 (สังคมศกึ ษา ป.3) ใบงานท่ี 4 เรอื่ ง ประเพณแี ละวฒั นธรรมในทองถ่ิน (ศาสนาครสิ ตแ ละศาสนาอิสลาม) หนว ยการเรียนรทู ี่ 3 เรือ่ ง ประเพณีและวัฒนธรรม แผนการจดั การเรยี นรูท ี่ 4 เร่อื ง ประเพณีและวัฒนธรรมในทองถน่ิ (ศาสนาครสิ ตแ ละศาสนาอสิ ลาม) รายวิชาสงั คมศึกษา รหสั วชิ า ส13101 ภาคเรียนท่ี 1 ช้นั ประถมศกึ ษาปที่ 3 ตอนท่ี 1 คําช้แี จง ใหน กั เรียนเขยี นบรรยายใตภ าพท่ีแสดงถงึ ประเพณีและวัฒนธรรมในทองถน่ิ (ศาสนาคริสตและศาสนาอิสลาม) 1) 2) https://shantideva.net/2019/05/08/ https://www.m-culture.go.th/satun/ พิธกี รรมของศาสนาครสิ ต/ ewt_news.php?nid=1166&filename=index ........................................................................... ............................................................................ ........................................................................... ............................................................................ ........................................................................... ........................................................................... 3) 4) https://www.pptvhd36.com/news https://pantip.com/topic/37094123 news/ประเด็นรอ น/124250 ............................................................................ ........................................................................... ............................................................................ ........................................................................... ........................................................................... ........................................................................... ตอนท่ี 2 คําช้แี จง ใหนกั เรียนตอบคาํ ถามดงั ตอ ไปนี้ 1. การปฏบิ ตั ติ นตามประเพณแี ละวัฒนธรรมในทองถ่นิ มีประโยชนอยา งไร .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................

หนวยการเรียนรูที่ 3 เร่อื ง ประเพณีและวฒั นธรรม ๕๑ ใบงานที่ 5 เรื่อง ประเพณีและวฒั นธรรมท่ีเก่ียวขอ งกบั การดาํ เนนิ ชวี ติ หนว ยการเรียนรทู ี่ 3 เร่ือง ประเพณีและวัฒนธรรม แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 5 เรื่อง ประเพณแี ละวัฒนธรรมทีเ่ กีย่ วของกับการดําเนนิ ชวี ติ รายวชิ าสงั คมศกึ ษา รหสั วชิ า ส13101 ภาคเรยี นที่ 1 ช้ันประถมศึกษาปท่ี 3 ตอนที่ 1 คําชแี้ จง ใหนักเรยี นทําแผนผังความคิด เรื่อง ประเพณแี ละวัฒนธรรมทเ่ี กี่ยวของกับ การดําเนินชวี ติ คนไทย .............................................. การตาย ............................................................ .............................................. การดําเนินชีวติ ............................................................ .............................................. ............................................................ .............................................. ............................................................ .............................................. ............................................................ .............................................. .............................................. การเกดิ ............................................................. .............................................. ............................................................. ............................................................. .............................................. ............................................................. .............................................. ............................................................. .............................................. .............................................. ตอนที่ 2 คําชแ้ี จง ใหนกั เรยี นบนั ทกึ การเขา รว มประเพณแี ละวัฒนธรรมทเี่ ก่ียวขอ งกบั การดาํ เนนิ ชวี ิตของนกั เรียน ประเพณที ่นี กั เรียนเขารวม ............................................................................................................... กิจกรรมท่เี ขารวม ............................................................................................................................. .......................................................................................................................................................... ประโยชนทไ่ี ดร บั .............................................................................................................................. .......................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................

๕๒ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู สาํ หรบั นกั เรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี 1 (สงั คมศกึ ษา ป.3) แบบประเมินตนเอง ช่ือ : _________________ สกลุ : _________________วนั ____ เดอื น____________พ.ศ._____ หนวยการเรยี นรูที่ 3 เรอ่ื ง ประเพณีและวฒั นธรรม คําชแ้ี จง ๑. ระบายสีลงใน ของแตล ะกจิ กรรมทน่ี กั เรยี นคดิ วาทาํ ไดตามระดับการประเมินเหลาน้ี เพื่อประเมินการเรยี นรขู องนักเรยี น ปรับปรุง พอใช คอนขางดี ดี ดีมาก กจิ กรรม ระดับความสามารถ 1. บอกความหมายของประเพณแี ละวัฒนธรรมได 2. อธบิ ายและยกตัวอยางประเพณแี ละวฒั นธรรมในครอบครัวได 3. อธิบายและยกตวั อยางประเพณแี ละวฒั นธรรมในทอ งถิน่ (ศาสนาพทุ ธ) 4. อธบิ ายและยกตวั อยางประเพณแี ละวฒั นธรรมในทอ งถนิ่ (ศาสนาครสิ ตและ ศาสนาอสิ ลาม) 5. อธิบายและยกตัวอยา งประเพณแี ละวฒั นธรรมท่เี ก่ียวของกบั การดาํ เนินชีวติ ๒. นบั จาํ นวนดาวจากตารางขา งบนเพอื่ บันทึกผลการเรียนรขู องนกั เรยี น ดงั นี้ จาํ นวน............................. จํานวน............................. จาํ นวน............................. จํานวน............................. จํานวน............................. สรปุ : วงกลมรอบผลการเรียนรขู องนกั เรียน โดยนับจากขอทไ่ี ดดาวมากท่สี ุด ดมี าก ปรบั ปรงุ พอใช ดี คอนขา งดี 3. กาเคร่อื งหมาย √ ลงใน  ทนี่ กั เรียนวางแผนจะทําเพ่อื พฒั นาการเรยี นในครั้งตอ ไป (เลือกไดม ากกวา 1 ขอ )  มีความรบั ผดิ ชอบในการเรียน  ตง้ั คําถามจะเกิดการเรียนรู และการแสวงหาความรูอยเู สมอๆ  ลงมือปฏบิ ตั ิใหเ กิดความชํานาญ  ทบทวน ทอ ง และทาํ แบบฝกหัดซํ้า ๆ

หนว ยการเรยี นรูท่ี 4 เรื่อง พฤตกิ รรมการดาํ เนนิ ชีวติ ๕๓ หนว ยการเรียนรูท่ี 4 พฤตกิ รรมการดําเนินชีวิต

๕๔ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู สาํ หรบั นกั เรยี น ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (สังคมศึกษา ป.3) ใบความรทู ่ี 1 เรือ่ ง การทกั ทายและการทาํ ความเคารพ หนว ยการเรยี นรทู ่ี 4 เร่ือง พฤตกิ รรมการดําเนินชีวติ แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 1 เรื่อง พฤตกิ รรมการดําเนนิ ชีวติ ดา นการทักทายและการทําความเคารพ รายวิชาสงั คมศึกษา รหสั วิชา ส13101 ภาคเรยี นท่ี 1 ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี 3 คาํ ทักทายท่ีนักเรียนควรรู คาํ ทักทาย ภาษา สวัสดี สวสั ดเี จา ภาษาไทยกลาง ไปไส ภาษาทองถนิ่ ภาคเหนอื พันพรอื ภาษาทอ งถน่ิ ภาคอสี าน Hello ภาษาทอ งถ่นิ ภาคใต หน่ีหาว ภาษาอังกฤษ บง ชูร ภาษาจนี ซาํ บายดี ภาษาฝร่งั เศส ภาษาลาว วฒั นธรรมการทําความเคารพ การไหวแบบไทย การไหวระดับที่ 1ไหวพระ ประนมมือข้นึ กมศรี ษะ จรดหัวแมม ือท่ีกลางหวางคว้ิ น้ิวชแ้ี ตะท่เี หนือหนาผาก กมหวั ใหห นา ขนานกับพืน้ คอ มหลงั พอประมาณ https://sites.google.com/site/so cial023/home/kar-hiw/--kar- hiw 3radab

หนว ยการเรียนรทู ี่ 4 เร่อื ง พฤตกิ รรมการดาํ เนินชวี ติ ๕๕ https://sites.google.com/site/so การไหวระดับที่ 2 ไหวผมู ีพระคณุ และผอู าวุโส cial023/home/kar-hiw/--kar- เชนเดยี วกบั การไหวพ ระ แตน้ิวหวั แมมือจรดปลายจมกู hiw-3radab นิ้วชจ้ี ดหวา งคว้ิ https://sites.google. การไหวระดับที่ 3ไหวบุคคลทัว่ ไปและผูเสมอกนั com/site/social023/ ประนมมอื ขึ้น กม ศรี ษะเลก็ นอ ย หวั แมมือจรดทป่ี ลาย home/kar-hiw/--kar- คาง นิ้วช้ีแตะทจ่ี มกู คอ มหลงั พอประมาณ https://jpninfo.com/thai/4312 จับมือทักทาย(Handshake)แบบชาวตะวนั ตก การโคงคาํ นับแบบชาวตะวันออก (ญีป่ ุน)

๕๖ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู สาํ หรับนักเรียน ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (สงั คมศึกษา ป.3) ใบความรทู ่ี 2 เรอ่ื ง พฤติกรรมการดาํ เนนิ ชวี ติ ท่แี ตกตา งกนั ดานศาสนาและศาสนพธิ ี หนว ยการเรียนรทู ่ี 4 เร่อื ง พฤติกรรมการดาํ เนนิ ชีวติ แผนการจดั การเรยี นรูที่ 2 เรื่อง พฤติกรรมการดําเนนิ ชีวติ ทีแ่ ตกตางกันดา นศาสนาและศาสนพิธี รายวิชาสังคมศึกษา รหสั วิชา ส13101 ภาคเรยี นที่ 1 ช้นั ประถมศกึ ษาปที่ 3 ศาสนาพุทธ ศาสนาและศาสนพิธีท่นี ักเรียนควรรูจัก การเวียนเทียน คือการเดินเวียนรอบปูชนียสถานสําคัญ เชน อุโบสถวิหาร หรอื พระพุทธรูป เพอื่ ระลกึ ถงึ คณุ ของพระรตั นตรัยในวันสาํ คญั โดยใชเ ทียนธปู และดอกไมเปน เคร่ืองสักการบชู า ถอื ไว ในมอื แลวเดินเวยี น 3 รอบ ขณะทีเ่ ดนิ รอบนั้นพงึ ตั้งจิตใหส งบ พรอ มสวดมนตระลึกถงึ พระพุทธคุณ ดว ยการสวดบท \"อติ ิปโส\" ระลึกถึงพระธรรมคณุ ดว ยการสวด สวากขาโต และ ระลกึ ถึงพระสังฆคุณ ดว ยการสวด สปุ ะฏปิ นโน จนกวาจะเวียนจบ 3 รอบ https://www.watsrakesa.com/content/19569/ http://www.madchima.org/forum/index.php?t opic=3147.0 การเวยี นเทียน ในพระพุทธศาสนา ศาสนาครสิ ต ศลี มหาสนิทเปนพิธีกรรมที่ชาวคริสตจ ะตองไปฟง มสิ ซาในโบสถทุกวันอาทิตย เพอ่ื ระลึก ถงึ พระเยซชู าวครสิ ตจะสวดมนตรับขนมปงและเหลาองุน (ดงั ภาพ) จากบาทหลวงมารับประทาน ถือเปนการให เลือดของผูเขา พธิ ีกับเลือดของพระเยซูเปนอนั หนงึ่ อนั เดียวกนั เปน การแสดงความ เปนหนงึ่ เดยี วกันของ เหลา ชาวคริสตแ ละความสนทิ สัมพันธกับพระเจา ผานการระลึกถงึ https://pohnpawee089.wordpress.com/ https://ramswaroop.me/archives/946 2015/ 2015/03/09/ศลี มหาสนิท/ ขนมปงและเหลา องนุ การรับศลี มหาสนิท

หนวยการเรยี นรูท่ี 4 เรือ่ ง พฤตกิ รรมการดาํ เนินชวี ติ ๕๗ ศาสนาอสิ ลาม ละหมาด หรือ นมาซ หรือเรยี กกันในภาษามลายูปต ตานวี า มาแย คือการนมสั การพระเจา อันเปน ศาสนกจิ อยางหนึง่ ในศาสนาอิสลาม เพือ่ แสดงถงึ ความเคารพสักการะ ความขอบคณุ และ ความภักดตี ออัลลอฮ โดยท่ัวไปการละหมาดคือการขอพร สว นทางศาสนาหมายถงึ การกลา วและ การกระทํา การละหมาดจะกระทาํ 5 เวลา https://dawa-news.netเสาหลกั -5-ประการ-ของ https://dawa-news.netเสาหลกั -5-ประการ-ของ ศาสนา/ ศาสนา/ การละหมาด ของศาสนาอิสลาม

https://dawa -news.net 5- /??????????????????? /??????? -?????? -???????? / ๕๘ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู สําหรับนกั เรียน ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (สงั คมศกึ ษา ป.3) ใบความรทู ี่ 3 เรื่อง พฤติกรรมการดาํ เนนิ ชีวติ ทแ่ี ตกตางกนั ดา นอาหารและภาษา หนว ยการเรยี นรทู ่ี 4 เรื่องพฤติกรรมการดําเนนิ ชวี ติ แผนการจดั การเรยี นรูที่ 3 เรอื่ ง พฤติกรรมการดาํ เนนิ ชีวติ ดา นอาหารและภาษา รายวิชาสังคมศึกษา รหัสวิชา ส13101 ภาคเรียนท่ี 1 ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี 3 ภาคเหนือ https://dawa-news.net 5- /ประเพณีรบั บัวโยนบัว/เสาหลัก-ประการ-ข http://myfood108.blogs http://mywifeishealthygi ขา วซอยไก ภาคกลาง t /2ไ0ส1อ6วั่/04/bl l ขนม/ จi ีนน้ําเงdย้ีl ว https://www.fnthaidairie http://www.thaifoodheri https://www.condotiddo /ตf ม dยํากุง t แกง/มัสมัน่ ไก แกงเขiยี วหว/านdลกู ชtiิน้ lปลhาก?ราย ภาคอสี าน http://www.thaifoodheri https://www.xn-- https://www.posttoday.c 12cg3cq6bmlr1hc3fujdh.com/688 t แกง/ออมหมู / สม t ต/5าํ 66997 ภาคใต แจว บอง http://www.foodallergyt https://pantip.com/topi https://cooking.kapook. lk ค่วั /กลง้ิhหi มู / 6 / ใบ6เหลยี/dงผดัk ไข ผ/ดั iกะปสะ6ตอhกงุ l

หนวยการเรยี นรทู ี่ 4 เรือ่ ง พฤตกิ รรมการดําเนินชวี ติ ๕๙ อทิ ธิพลตางประเทศ ซูชิ แฮมเบอรเ กอร https://www.iampizza.com การรับประทานอาหาร พิชซา แบบไทยในอดีต แบบไทยในปจ จบุ นั https://www.youtube.com/watch? https://www.youtube.com/watch?v=pw 6 bK B0OLP bBM แบบชาวตะวันตก แบบชาวตะวันออก http://chinesexpert.blogspot.com/2015 /06/7 ht l http://www.gourmet.co.th/japanese t bl /

๖๐ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู สาํ หรบั นักเรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี 1 (สงั คมศึกษา ป.3) ในอดตี คนไทยใชมอื รับประทานอาหาร ปจ จุบันใชช อ นสอ มรับประทานอาหารตาม วฒั นธรรมของชาติตะวนั ตก https://infothaifood.wordpress.com/category category/ คนไทยใชมอื รบั ประทานอาหาร ในการใชภ าษา ประเทศไทยใชภ าษาไทยกลาง สวนตามภมู ิภาคตา ง ๆ ของประเทศไทยจะ ใชภ าษาถน่ิ เชน ภาษาอสี าน ภาษาพื้นเมืองทางภาคเหนือ ภาษาถ่ินทางภาคใต และยงั มีชนเชอ้ื ชาตอิ ่นื ที่อาศัยอยูเมืองไทยใชภ าษาของตนเอง เชน ภาษาองั กฤษ จนี ญ่ปี ุน ตวั อยา งภาษาไทยภาคกลางกับภาษาไทยทองถน่ิ ตา ง ๆ ทุกชาติ ทุกศาสนา ทกุ ภาษา ลวนมีวถิ ีชวี ิตตามวฒั นธรรมของตนเอง วัฒนธรรมของทุก ชาติ มเี อกลักษณแ ละความสาํ คญั ในตัวของวัฒนธรรมเอง วัฒนธรรมไมสามารถนาํ มาวัดหรือเทยี บ คาความสูงตา่ํ ได เพราะทุกวฒั นธรรมมีคณุ คา ของตวั มนั เอง การเคารพวัฒนธรรมของตนเอง อยางไรใหเ คารพหรอื ใหเ กยี รตติ อวัฒนธรรมของคนอืน่ อยา งนัน้ ความสงบสขุ กจ็ ะเกดิ ขึ้นในสงั คม การทกั ทาย การทาํ ความเคารพ การปฏิบตั ิตนตามศาสนพธิ ี การรับประทานอาหารและการใช ภาษาเปนพฤติกรรมในการดาํ เนนิ ชีวติ ท่มี ีความหลากหลายทางวัฒนธรรมในสังคมไทย แหลงทมี่ าของภาพและขอมลู http://saranukromthai.or.th/sub/book/bookinfodetail08.html

หนว ยการเรยี นรทู ี่ 4 เร่อื ง พฤตกิ รรมการดําเนินชวี ติ ๖๑ ใบงานที่ 1 เรือ่ ง ศาสนาและศาสนพิธี หนว ยการเรยี นรทู ่ี 4 เร่ือง พฤติกรรมการดาํ เนินชีวติ แผนการจดั การเรยี นรูที่ 1 เร่ือง พฤติกรรมการดําเนนิ ชีวติ ดา นศาสนาและศาสนพธิ ี รายวิชาสงั คมศกึ ษา รหัสวชิ า ส13101 ภาคเรียนที่ 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 3 คาํ ชี้แจง ใหนักเรียนวเิ คราะหพ ฤติกรรมการดําเนินชีวติ ในดา นศาสนาและศาสนพิธีและอธบิ าย ตามหัวขอท่กี าํ หนดใหใ นตาราง พฤติกรรม ความหลากหลาย สาเหตทุ ี่ทําใหพฤติกรรมแตกตา ง ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ...............................................

๖๒ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู สาํ หรบั นกั เรยี น ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (สังคมศกึ ษา ป.3) ใบงานท่ี 2 เร่อื ง อาหารและภาษา หนว ยการเรยี นรทู ี่ 4 เร่ือง พฤติกรรมการดาํ เนนิ ชวี ติ แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 3 เรือ่ ง พฤตกิ รรมการดาํ เนนิ ชีวติ ดา นอาหารและภาษา รายวชิ าสงั คมศึกษา รหสั วชิ า ส13101 ภาคเรียนที่ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี 3 คาํ ชแี้ จง ใหนกั เรียนวเิ คราะหพ ฤตกิ รรมการดาํ เนินชวี ิตในดานอาหารและภาษาและอธบิ ายตาม หัวขอที่กาํ หนดใหในตาราง พฤตกิ รรม ความหลากหลาย สาเหตุท่ีทาํ ใหพฤติกรรมแตกตา ง ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ............................................. ...............................................

หนวยการเรียนรูท่ี 4 เรอื่ ง พฤตกิ รรมการดาํ เนนิ ชวี ติ ๖๓ แบบประเมนิ ตนเอง ชอื่ : _________________ สกลุ : _________________วนั ____ เดอื น____________พ.ศ._____ หนวยการเรยี นรทู ี่ 4 เรอื่ ง พฤตกิ รรมการดาํ เนนิ ชีวิต คําช้ีแจง ๑. ระบายสลี งใน ของแตล ะกิจกรรมที่นกั เรยี นคิดวาทาํ ไดต ามระดบั การประเมินเหลา น้ี เพ่อื ประเมินการเรยี นรขู องนักเรียน ปรับปรงุ พอใช คอนขา งดี ดี ดีมาก กิจกรรม ระดบั ความสามารถ 1. อธบิ ายพฤตกิ รรมการดาํ เนนิ ชวี ติ ที่แตกตางกันดา นการทักทายและการทํา ความเคารพได 2. อธบิ ายพฤติกรรมการดาํ เนนิ ชีวิตทแ่ี ตกตา งกนั ดานศาสนาและศาสนพธิ ไี ด 3. อธิบายพฤติกรรมการดําเนินชวี ิตท่ีแตกตางกนั ดานอาหารและภาษาได 4. สาธติ การทักทายและการทาํ ความเคารพ 5. วเิ คราะหพ ฤติกรรมการดําเนินชวี ติ ทแี่ ตกตา งกนั ดา นศาสนาและศาสนพธิ ีได ๒. นับจาํ นวนดาวจากตารางขางบนเพือ่ บนั ทึกผลการเรยี นรูของนักเรยี น ดังนี้ จาํ นวน............................. จํานวน............................. จาํ นวน............................. จาํ นวน............................. จาํ นวน............................. สรุป : วงกลมรอบผลการเรยี นรขู องนกั เรียน โดยนับจากขอที่ไดด าวมากทส่ี ดุ ปรบั ปรงุ พอใช ดี คอ นขางดี ดมี าก 3. กาเคร่อื งหมาย √ ลงใน  ที่นกั เรียนวางแผนจะทําเพอ่ื พัฒนาการเรยี นในครั้งตอ ไป (เลอื กไดมากกวา 1 ขอ )  มีความรบั ผิดชอบในการเรยี น  ตง้ั คาํ ถามจะเกิดการเรยี นรู และการแสวงหาความรูอ ยเู สมอ ๆ  ลงมือปฏิบตั ิใหเกิดความชํานาญ  ทบทวน ทอง และทาํ แบบฝก หดั ซํ้า ๆ

๖๔ ชดุ กิจกรรมการเรียนรู สําหรับนกั เรยี น ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 1 (สังคมศึกษา ป.3) บันทึกการเรยี นรู (Learning logs) ชื่อ : ___________________ สกลุ : _________________วนั ____ เดอื น______________ พ.ศ. _____ ส่งิ ทฉ่ี ันชอบในการเรยี นวิชานี้ คือ ............................................................................ ............................................................................ ........................................................... ......................................................... สง่ิ ทีฉ่ นั ไมชอบในการเรียนวชิ านี้ คือ ............................................................................ ............................................................................ ................................................................. .............................................................. สงิ่ ท่ีฉันจะทําใหดีขึ้น คือ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ........................................................................

หนว ยการเรียนรทู ี่ 5 เรื่อง วนั สําคญั ของไทย ๖๕ หนว ยการเรยี นรูท่ี 5 วันสําคัญของไทย

๖๖ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู สําหรบั นกั เรียน ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี 1 (สังคมศกึ ษา ป.3) ใบความรทู ่ี 1 เรื่อง วันหยดุ ราชการทเี่ ก่ียวกบั ชาตแิ ละพระมหากษตั รยิ  หนว ยการเรียนรทู ี่ 5 เรื่อง วันสาํ คญั ของไทย แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 1 เร่อื ง วันสาํ คญั ทีเ่ กยี่ วกบั ชาติและพระมหากษตั รยิ  รายวชิ าสงั คมศึกษา รหัส ส13101 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 3 วันสาํ คญั ทเ่ี กี่ยวกบั ชาติและพระมหากษัตริย วันจักรี  วนั จกั รีตรงกบั วันท่ี 6 เมษายนของทกุ ป  ในวันจักรีเกิดเหตุการณสาํ คัญข้ึน คือเปนวันที่สมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เสด็จขึ้นครองราชยเปนพระมหากษัตริยองคแรกแหงราชวงศจ ักรีและ กรุงรัตนโกสินทร  ในวันจกั รี นักเรียนควรปฏิบตั ิตนเปน เด็กดีของพอแมและครอู าจารยมีความรักในชาติ วนั รฐั ธรรมนูญ  วันรฐั ธรรมนูญ ตรงกบั วนั ท่ี 10 ธันวาคม ของทุกป  ในวนั รัฐธรรมนูญเกิดเหตกุ ารณสําคัญ คอื เปนวนั ทพี่ ระบาทสมเด็จพระปกเกลาเจา อยหู วั (รัชกาลที่ 7) พระราชทานรัฐธรรมนญู แกป ระชาชนชาวไทยใน พ.ศ. 2475 ทาํ ใหม ีการ ปกครอง แบบประชาธปิ ไตยขนึ้ คร้ังแรกในประเทศไทย  ในวนั รฐั ธรรมนญู นักเรียนควรปฏบิ ตั ิตนเปนพลเมอื งดขี องชาติ เคารพกฎหมายบานเมือง วนั ฉัตรมงคล  วนั ฉตั รมงคลตรงกบั วันที่ 4 พฤษภาคม ของทกุ ป  ในวันฉตั รมงคลเกิดเหตกุ ารณส ําคญั คือเปน วันท่พี ระบาทสมเด็จพระเจาอยูหวั รัชกาลที่ 10 เสดจ็ ขนึ้ ครองราชยส มบตั ิ  ในวันฉัตรมงคลนักเรยี นควรปฏบิ ตั ติ นเปน พสกนิกรท่ดี ขี องพระองค เชน เปน เด็กดีของพอแม เช่ือฟง ครอู าจารย

หนวยการเรียนรทู ่ี 5 เรือ่ ง วนั สําคญั ของไทย ๖๗ วันคลา ยวนั พระราชสมภพพระบาทสมเดจ็ พระมหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร  วนั ท่ี 5 ธันวาคม ของทกุ ป มีความสําคญั คอื เปน วันเฉลมิ พระชนมพรรษาของ พระบาทสมเดจ็ พระเจา อยูหัวภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช รชั กาลท่ี 9  ในหลวงทรงมคี วามสาํ คัญตอ ประเทศไทย ทานทรงเปน พระประมุขของปวงชนชาวไทย เปนพระมหากษตั รยิ ท่ที รงมีพระเมตตาตอราษฎรชาวไทย เปน พระมหากษัตริยท ่ที รง ครองราชยยาวนานท่สี ดุ ในโลก  วันที่ 5 ธนั วาคมนกั เรียนจะปฏิบัตติ นโดยการทําความดตี า ง ๆ ถวายเปน พระราชกศุ ลแด ในหลวง และทาํ ความดกี ับคณุ พอและคณุ แม วนั คลายวนั พระราชสมภพสมเด็จพระนางเจาสริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชินนี าถพระบรมราช ชนนีพันปหลวง  วนั ท่ี 12 สงิ หาคม ของทกุ ป ซ่งึ เปน วนั แมแ หงชาติ และเปน วันคลายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจา สริ ิกิต์ิ พระบรมราชนิ นี าถพระบรมราชชนนีพันปหลวง  12 สิงหาคม เปนวันทม่ี คี วามสําคญั ตอ ประชาชนชาวไทยซึ่งเปน วนั ทใ่ี หช าวไทยทุกคนนกึ ถงึ บญุ คณุ ของแมท มี่ ีพระคุณตอเรา และคณุ ความดีที่สมเด็จพระนางเจา พระบรมราชนิ ีนาถ ทรงมีพระเมตตาตอ พสกนกิ รชาวไทย เชน มโี ครงการศูนยศ ิลปาชพี โครงการปา รกั ษน าํ้ เพ่อื ให คนไทยหวงแหนและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ  วนั ที่ 12 สงิ หาคม นักเรยี นควร ทําความดถี วายเปนพระราชกุศลแดส มเดจ็ พระราชินี เชน ทําบญุ ตกั บาตร นาํ ดอกมะลไิ ปกราบคณุ แมขอบคณุ ทที่ า นใหก าํ เนิดเรามา วันคลายวนั พระราชสมภพพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลาเจา อยูหัวฯ  วันที่ 28 กรกฎาคม ของทุกป เปนวันคลายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระ วชิรเกลาเจาอยูหัวฯ  ในหลวงทรงมคี วามสําคัญตอ ประเทศไทย ทา นทรงเปน พระประมุขของปวงชนชาวไทย เปนพระมหากษัตริยท่ที รงมีพระเมตตาตอ ราษฎรชาวไทย

๖๘ ชุดกิจกรรมการเรียนรู สาํ หรับนักเรียน ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี 1 (สงั คมศกึ ษา ป.3) ใบความรทู ี่ 2 เร่ือง วนั หยุดราชการท่เี กย่ี วกบั ศาสนา หนว ยการเรียนรทู ่ี 5 เร่อื ง วันสําคัญของไทย แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 2 เรื่อง วนั หยดุ ราชการท่ีเกย่ี วกบั ศาสนา รายวชิ าสงั คมศึกษา รหัส ส13101 ภาคเรียนที่ 1 ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี 3 วนั มาฆบูชา วันมาฆบูชาตรงกบั วนั ขนึ้ 15 คา่ํ เดือน 3 ในวันมาฆบชู าเกดิ เหตกุ ารณสาํ คญั คอื พระสงฆซึง่ เปนอรหันตท ่พี ระพทุ ธเจาบวชให จํานวน 1,250 องค มาประชมุ กันโดยมไิ ดน ัดหมาย ในวันเพ็ญ 15 คา่ํ เดอื น 3 พระพทุ ธเจา ทรง แสดงธรรมโอวาทปาติโมกขแกพระสงฆเหลานน้ั ในวนั มาฆบูชานักเรียนทํากจิ กรรม ดงั น้ี ทําบุญตักบาตร ฟง ธรรม เวยี นเทยี น ในวันมาฆบชู านกั เรยี นทาํ กจิ กรรมใดบา ง (ตัวอยางคาํ ตอบ ทําบญุ ตกั บาตร) วันวิสาขบูชา วนั วสิ าขบชู าตรงกบั วนั ข้ึน 15 คํ่า เดอื น 6 ในวนั วิสาขบูชาเกิดเหตกุ ารณสาํ คญั คอื เปน วันคลา ยวนั ประสูติ ตรัสรู และปรนิ พิ พาน ของพระพุทธเจา ในวันวสิ าขบชู านักเรยี นทาํ กิจกรรม ดังน้ี ทาํ บญุ ตักบาตร ฟง ธรรม เวยี นเทียน

หนว ยการเรียนรทู ่ี 5 เรอื่ ง วันสําคญั ของไทย ๖๙ วนั อาสาฬหบูชา วนั อาสาฬหบชู าตรงกบั วันขึ้น 15 คาํ่ เดือน 8 ในวนั อาสาฬหบชู าเกิดเหตุการณสําคัญ คือ พระพทุ ธเจาแสดงธรรมครง้ั แรก ชื่อ ธัมมจกั กปั ปวัตนสูตร มีพระสงฆเกดิ ขน้ึ องคแ รก มพี ระรตั นตรัยครบ 3 ประการ ในวันอาสาฬหบชู านกั เรยี นทํากจิ กรรม ดงั นท้ี ําบญุ ตกั บาตร ฟง ธรรม เวยี นเทียน วนั เขาพรรษา วันเขาพรรษาตรงกบั วันแรม 1 ค่าํ เดอื น 8 ถดั จากวันอาสาฬหบชู า 1 วัน ในวนั เขา พรรษาเกดิ เหตกุ ารณสาํ คัญ คอื เปน วันที่พระพทุ ธเจาใหพ ระสงฆจาํ พรรษาอยู กบั วัด โดยไมไปคา งแรมท่ีอืน่ เปนเวลา 3 เดือน ในชวงพระสงฆจ ําพรรษา นกั เรยี นควรทํากจิ กรรม ทําบุญตักบาตรทกุ เชาและแบงเวลาไป ทาํ บญุ ที่วัด

๗๐ ชดุ กิจกรรมการเรียนรู สําหรับนักเรยี น ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (สังคมศึกษา ป.3) ใบความรทู ี่ 3 เร่ือง วันหยุดราชการท่เี กีย่ วกบั ประเพณแี ละวฒั นธรรม หนว ยการเรยี นรทู ี่ 5 เร่อื ง วนั สาํ คญั ของไทย แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 3 เรอ่ื ง วันหยดุ ราชการทเี่ ก่ียวกับประเพณีและวฒั นธรรม รายวชิ าสงั คมศึกษา รหสั ส13101 ภาคเรยี นที่ 1 ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ 3 วันสงกรานต ประเพณวี นั สงกรานตตรงกับ วันท่ี 13-15 เมษายน ของทกุ ป เปน ประเพณีขึ้นปใหมข องไทย เริ่มตนจากวนั ท่ี 13 เมษายน เรยี กวา วนั มหาสงกรานต วันท่ี 14 เมษายน เรียกวา วันเนา เปน วนั ที่ครอบครัวอยูพรอมหนาทํากิจกรรมรวมกัน และวนั ที่ 15 เมษายน เปนวนั เถลงิ ศกหรือข้ึนป ใหมของไทย กจิ กรรมทส่ี ําคัญในวนั สงกรานต เชน ทาํ บุญตักบาตรทวี่ ัด สรงน้าํ พระ กอเจดยี ท ราย รดน้ําดําหัวขอพรจากผูใหญ วันพชื มงคล วันพืชมงคลตรงกับวันใดของป ตรงกับเดือนพฤษภาคม เพราะเปนชวงเขาฤดูฝน เปนชวงที่ เกษตรกรเริ่มทํานา ประเพณีวันพืชมงคลมีความสําคัญตอสังคมไทยคือ สังคมไทยเปนสังคม เกษตรกรรม โดยสวนใหญการสงเสรมิ ทางดา นการทําอาชีพทางการเกษตรจงึ มีความสําคญั ตอ ประเทศไทย คําขวัญที่วา “ในนํ้ามีปลา ในนามีขาว” แสดงถึงความอุดมสมบูรณทางดาน เกษตรกรรมของไทย จดุ มุงหมายของการจัดพระราชพิธีในวนั พืชมงคลเพ่ือวัตถปุ ระสงคใ ด เพ่อื ทาํ ขวัญเมล็ดพันธุตาง ๆ กอนการเพาะปลูก และสนับสนุนสงเสริมขวัญกําลังใจของชาวนาและ เกษตรกรไทย http://event.sanook.com/day/songkran/ https://www.sanook.com/campus/921418/ วันสงกรานต วันพชื มงคล

หนว ยการเรยี นรทู ่ี 5 เรอ่ื ง วนั สําคญั ของไทย ๗๑ ใบงานที่ 1 เรอื่ ง วนั หยดุ ราชการทเ่ี กย่ี วกับชาติและพระมหากษตั รยิ  หนว ยการเรยี นรทู ี่ 5 เรอ่ื ง วันสาํ คัญของไทย แผนการจดั การเรยี นรูที่ 1 เรื่อง วนั สําคญั ท่เี กี่ยวกับชาติและพระมหากษตั รยิ  รายวชิ าสังคมศึกษา รหัส ส13101 ภาคเรียนที่ 1 ชนั้ ประถมศึกษาปท ่ี 3 ตอนท่ี 1 คําช้แี จง ใหน ักเรียนเติมคําลงในชอ งวา ง ทเ่ี ก่ียวกบั เหตกุ ารณท ่เี กิดข้ึน ใน วันหยดุ ราชการทเี่ กีย่ วกบั ชาตแิ ละพระมหากษตั ริย วนั จักรี วนั ฉตั รมงคล วนั รัฐธรรมนูญ วันพระราชสมภพ รชั กาลที่ 9 วันพระราชสมภพพระบรมราชชนนีพันปห ลวง วันพระราชสมภพ รชั กาลที่ 10 1. เปน วนั ทพ่ี ระบาทสมเด็จพระเจา อยูห ัว รชั กาลท่ี 10 เสด็จขึ้นครองราชยส มบัติ .......................................................................................................................................................... 2. เปนวนั ท่ีรัชกาลท่ี 1 เสด็จข้นึ ครองราชย .......................................................................................................................................................... 3. เปน วันชาติ และเปน วนั พอแหง ชาติ .......................................................................................................................................................... 4. เปนวันที่พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา เจาอยูห วั (รัชกาลท่ี 7) พระราชทานรฐั ธรรมนญู แก ประชาชนชาวไทย .......................................................................................................................................................... 5. เปนวันแมแหง ชาติ ..........................................................................................................................................................

๗๒ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู สาํ หรบั นักเรียน ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ 1 (สังคมศึกษา ป.3) ตอนท่ี 2 คําช้ีแจง ใหนักเรียนบอกความสําคญั และการปฏบิ ตั ิตนในวนั หยดุ ราชการท่เี กีย่ วกับ ชาตแิ ละพระมหากษัตริย 1. วันจกั รี มคี วามสาํ คญั อยา งไร นักเรยี นควรปฏบิ ัตติ นอยางไร .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 2. วันฉัตรมงคล มีความสาํ คญั อยางไร นกั เรียนควรปฏิบตั ิตนอยา งไร .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 3. วันรัฐธรรมนูญ มคี วามสาํ คญั อยางไร นักเรยี นควรปฏิบตั ิตนอยา งไร .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 4. วันพระราชสมภพ รชั กาลท่ี 9 มีความสําคญั อยางไร นักเรียนควรปฏิบัติตนอยา งไร .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 5. วันพระราชสมภพพระบรมราชชนนพี นั ปหลวงมีความสําคัญอยางไร นกั เรียนควรปฏบิ ัติตน อยา งไร .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 6. วนั พระราชสมภพ รชั กาลที่ 10 มคี วามสาํ คัญอยา งไร นักเรียนควรปฏิบตั ิตนอยางไร .......................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................

หนว ยการเรียนรูท ี่ 5 เร่อื ง วันสาํ คญั ของไทย ๗๓ ใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง วนั หยดุ ราชการท่ีเกี่ยวกบั ศาสนา หนว ยการเรยี นรทู ี่ 5 เรอ่ื ง วนั สาํ คญั ของไทย แผนการจดั การเรยี นรูท ่ี 2 เร่ือง วันหยดุ ราชการท่ีเกี่ยวกบั ศาสนา รายวิชาสังคมศกึ ษา รหสั ส13101 ภาคเรยี นท่ี 1 ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ 3 คาํ ช้แี จง ใหนกั เรยี นเขียนเครือ่ งหมาย ลงใน หนา ขอความทีถ่ ูกตองและเขียนเครือ่ งหมาย หนา ขอความทีไ่ มถูกตองเกยี่ วกบั วันหยดุ ราชการทเี่ กยี่ วกับศาสนา 1. ...........วันมาฆบูชาเปนวันที่พระอรหนั ตจ าํ นวน 1,250 องคม าประชุมพรอมกันโดยมไิ ดนดั หมาย 2. ...........วันวสิ าขบูชาตรงกบั วนั ขน้ึ 15 ค่ํา เดอื น 6 3. ...........วนั วิสาขบชู าเปนวันทพ่ี ระอรหนั ตจ าํ นวน 200 องคม าประชมุ พรอมกนั โดยมไิ ดน ดั หมาย 4. ...........วนั วิสาขบชู าเปน วันที่เปน วนั คลายวันประสตู ิ ตรสั รู และปรนิ ิพพานของพระพทุ ธเจา 5. ...........วันเขาพรรษาตรงกบั วันแรม 1 คาํ่ เดือน 8 ถดั จากวันอาสาฬหบชู า 1 วนั 6. ...........วันอาสาฬบูชาเปนวันทีม่ ีพระรัตนตรัยครบ 3 ประการ 7. ...........วันวิสาขบูชาเปนวันท่พี ระพุทธเจา ทรงแสดงธรรมโอวาทปาติโมกขแ กพระสงฆ 8. ...........วันมาฆบชู าบูชาเปน วันท่พี ระพทุ ธเจา ใหพ ระสงฆจําพรรษาอยูก บั วดั 9. ...........วนั อาสาฬหบูชาเกดิ เหตกุ ารณส ําคัญ คือมพี ระสงฆร ปู แรกเกดิ ขึ้นในพระพุทธศาสนา

๗๔ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู สําหรบั นกั เรียน ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี 1 (สงั คมศกึ ษา ป.3) ใบงานท่ี 3 เรือ่ ง วนั หยดุ ราชการทเ่ี กี่ยวกบั ประเพณีและวฒั นธรรม หนว ยการเรยี นรทู ี่ 5 เร่อื ง วนั สาํ คญั ของไทย แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 3 เรอื่ ง วันหยดุ ราชการทเ่ี กย่ี วกับประเพณีและวฒั นธรรม รายวิชาสังคมศกึ ษา รหสั ส13101 ภาคเรียนที่ 1 ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ 3 คาํ ช้แี จง นักเรียนหาภาพหรือขาวเกี่ยวกับวันหยดุ ราชการที่เกี่ยวกับประเพณแี ละวัฒนธรรม มา 1 วัน ติดลงใน แลวตอบคาํ ถาม ตรงกับ ชอ่ื ภาพ มีความสําคัญอยางไร เขารวมกจิ กรรมใดบา ง ประโยชนท ไ่ี ดร ับ

หนวยการเรยี นรทู ่ี 5 เรือ่ ง วันสาํ คญั ของไทย ๗๕ แบบประเมินตนเอง ชอ่ื : _________________ สกลุ : _________________วัน____ เดอื น____________พ.ศ._____ หนว ยการเรียนรทู ่ี 5 เรอื่ ง วันสําคญั ของไทย คําชแ้ี จง๑. ระบายสลี งใน ของแตล ะกจิ กรรมท่ีนกั เรยี นคดิ วาทาํ ไดตามระดับการประเมนิ เหลา นี้ เพื่อประเมนิ การเรียนรขู องนกั เรยี น ดี ดมี าก ปรับปรงุ พอใช คอนขางดี กจิ กรรม ระดับความสามารถ 1. รู เขา ใจและอธิบายความสําคัญของวนั หยดุ ราชการทีเ่ ก่ียวกบั ชาติและ พระมหากษัตรยิ ไ ด 2. อธิบายความสําคัญของวนั หยดุ ราชการท่ีเกีย่ วกบั ศาสนาได 3. บอกวนั สําคญั และอธิบายความสาํ คญั ของวันหยุดราชการทเ่ี กยี่ วกบั ประเพณี และวฒั นธรรมได 4. วิเคราะหความสาํ คญั และเสนอแนวทางในการปฏิบัติตนทถี่ กู ตอ งในวนั สําคญั ท่เี กี่ยวกับศาสนาได 5. ศึกษาวนั สาํ คัญทเ่ี ก่ียวกบั ประเพณีและวฒั นธรรมในทอ งถน่ิ ของตนเอง ๒. นบั จาํ นวนดาวจากตารางขางบนเพือ่ บันทึกผลการเรยี นรขู องนกั เรียน ดงั น้ี จาํ นวน.............................. จํานวน.............................. จาํ นวน.............................. จํานวน.............................. จํานวน.............................. สรปุ : วงกลมรอบผลการเรยี นรูของนกั เรียน โดยนบั จากขอ ท่ไี ดดาวมากท่ีสุด ปรบั ปรงุ พอใช ดี คอนขางดี ดมี าก 3. กาเครื่องหมาย √ ลงใน  ท่นี กั เรียนวางแผนจะทําเพอื่ พัฒนาการเรยี นในครั้งตอ ไป (เลือกไดม ากกวา 1 ขอ)  มคี วามรับผดิ ชอบในการเรยี น  ตง้ั คําถามจะเกิดการเรยี นรู และการแสวงหาความรูอยเู สมอ ๆ  ลงมือปฏิบตั ใิ หเกดิ ความชาํ นาญ  ทบทวน ทอ ง และทําแบบฝกหดั ซ้าํ ๆ

๗๖ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู สาํ หรับนกั เรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 1 (สงั คมศึกษา ป.3) หนว ยการเรียนรูท่ี 6 บคุ คลสําคญั ของทองถิน่

หนวยการเรียนรูที่ 6 เรื่อง บคุ คลสาํ คญั ในทอ งถิ่น ๗๗ ใบความรทู ี่ 1 เรอ่ื ง บุคคลสาํ คญั ในทองถน่ิ หนว ยการเรียนรทู ี่ 6 เรือ่ ง บุคคลสาํ คญั ของทอ งถนิ่ แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 1 เรอื่ ง บุคคลท่มี ผี ลงานเปน ประโยชนแกช ุมชนและทองถิน่ รายวิชาสงั คมศึกษา รหัส ส13101 ภาคเรียนที่ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี 3 นายประยงค รณรงค ประวัติและผลงานของนายประยงค รณรงค นายประยงค รณรงค เกิดเมื่อวันท่ี 24 สิงหาคม 2480 ณ ตําบลไมเรียง อําเภอถลาง จังหวดั นครศรธี รรมราช เกดิ ในครอบครวั ท่ีทําเกษตร มฐี านะยากจน แตเ ปน คนท่ีมคี วามคดิ ริเรม่ิ สรา งสรรค เปนคนใฝร ู พัฒนาตนเองตลอดเวลา ผลงานสาํ คญั เปน ผนู ําในการพัฒนาเศรษฐกจิ ที่สําคญั ของชมุ ชนตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯ โดยทําใหชาวตําบลไมเรียงสามารถพ่ึงพาต นเอง ในการแกปญ หาการทํากินและรวมมือกนั แกป ญหาของชมุ ชน จนเปน ชมุ ชนตนแบบในการพึ่งพา ตนเองจนทําใหนายประยงค รณรงค เปนผูนําชุมชนที่ไดรับการยกยองจากทั่วประเทศวาเปน ปราชญชาวบานที่สรางแรงบันดาลใจใหคนในชุมชนตื่นตัวในการเรียนรแู ละตอสูเพอื่ การพึ่งพา ตนเอง นายประยงค รณรงค

๗๘ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู สาํ หรับนกั เรียน ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 1 (สังคมศกึ ษา ป.3) แพทยหญงิ เพ็ญนภา ทรพั ยเจริญ ประวัติและผลงานของแพทยหญิงเพ็ญนภา ทรพั ยเ จริญ แพทยหญิงเพ็ญนภา ทรัพยเ จรญิ เกิดวนั ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2495 จงั หวัดปราจนี บรุ ี ทานเปนแพทยแ ผนปจ จบุ ันคนแรกของไทยท่บี ุกเบกิ นําสมุนไพรไทยมาใชรวมกบั การรักษาโรคแผน ปจจบุ ันในโรงพยาบาลวงั นาํ้ เย็น จังหวดั สระแกว และเปน ตน แบบของโรงพยาบาลที่นาํ การรักษา แบบแพทยแ ผนไทยควบคูก บั การรักษาแบบแพทยแผนปจ จุบัน แพทยหญงิ เพ็ญนภา มคี วามมุง มนั่ ต้งั ใจเรียนรตู าํ รบั ยาแผนโบราณ รวมท้งั ไดเผยแพรค วามรใู หแกป ระชาชนเปนการอนรุ ักษภ มู ปิ ญ ญา ไทย แพทยหญงิ เพ็ญนภาไดร ับการเชดิ ชเู กียรติใหเ ปน แพทยด ีเดน ชนบทประจํา พ.ศ. 2529 ผลงานสาํ คัญ 1. รวบรวมตาํ ราแผนโบราณและนาํ มาแปล เพื่อเผยแพรค วามรูและนําไปใชในการรักษาโรค 2. รวบรวมตําราประมวลทฤษฎี การแพทยแผนไทย 3. จัดทาํ โปรแกรมสขุ ภาพสาํ เรจ็ รูป การใชค อมพวิ เตอรในการวิเคราะหสขุ ภาพดวยทฤษฎี การแพทยแผนไทย ใน พ.ศ. 2537 4. รวบรวมทาบรหิ ารกายแบบไทยในทาฤาษดี ดั ตน 5. สง เสรมิ การใชส มนุ ไพรในสถานบริการสาธารณสขุ ของรฐั แพทยหญงิ เพญ็ นภา ทรัพยเ จริญ

หนวยการเรียนรูท่ี 6 เรื่อง บคุ คลสําคญั ในทอ งถน่ิ ๗๙ ใบงานท่ี 1 เร่อื ง บุคคลสําคญั ในทอ งถิน่ หนว ยการเรียนรทู ่ี 6 เรอ่ื ง บุคคลสาํ คัญของทอ งถนิ่ แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 1 เรื่อง บคุ คลท่มี ผี ลงานเปนประโยชนแ กชุมชนและทองถน่ิ รายวชิ าสังคมศึกษา รหัส ส13101 ภาคเรียนที่ 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 3 คําชแี้ จง นักเรียนแบง กลมุ รว มกันคน ควาหาขอมลู บคุ คลที่มผี ลงานเปน ประโยชนแ กช มุ ชนและทองถิน่ ของตนเอง จากแหลงขอมลู ตาง ๆ มา 1 ทา น แลวตอบคําถามลงในแบบบันทึก (ตัวอยา งคาํ ตอบ) 1. บุคคลชือ่ (นายชูช าติ ดลุ ยประภสั สาร (ผใู หญกบ) 2. ประวัติของบคุ คล (นายชูชาติ ดุลยประภสั สร สามประเภทสอง ในอดีตเปน นักเทย่ี วตามสถานบนั เทิง ปจจุบนั หนั ม าชว ยเหลือสงั คม สะสมความดจี นสามารถเอาชนะใจชา วบา นทายใหม จงั หวสั มทุ ร และไดรบั เลอื กใหเ ปน ผู ใหญ 3. ผลงานทเี่ ปน ประโยชนแ กชุมชนและทอ งถิ่น (ชวยเหลือสงั คมทุกรปู แบบ เชน ชว ยเหลอื ผูทเี่ ดอื ดรอน ชว ยจับงู ชว ยเหลือคนท่ถี ูกทํารา ย ชวยเหลือ ปจ จบุ นั หันม าชว ยเหลือสังคม สะสมความดีจนสามารถเอาชนะใจชา วบานทา ยใหม จังหวสั มทุ ร และไดรบั เลือกใหเ ปน ผู ใหญ 4. นักเรียนไดข อ คิดจากการศกึ ษาอยางไร (คณุ คา ของคน อยูทผี่ ลของ ปจจบุ นั หันม าชวยเหลือสังคม สะสมความดีจนสามารถเอาชนะใจชา วบานทายใหม จังหวสั มุทร และไดร บั เลือกใหเ ปน ผู ใหญ 5. นักเรียนจะทําประโยชนใหแ กชุมชนของตนเองไดอยางไร และไดร บั เลือกใหเ ปน ผู ใหญ

๘๐ ชุดกิจกรรมการเรียนรู สาํ หรบั นกั เรยี น ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (สงั คมศึกษา ป.3) แบบประเมินตนเอง ช่ือ : _________________ สกลุ : _________________วนั ____ เดอื น____________พ.ศ._____ หนว ยการเรียนรูที่ 6 เร่อื ง บุคคลสาํ คญั ทองถนิ่ คําช้ีแจง ๑. ระบายสลี งใน ของแตล ะกจิ กรรมทีน่ ักเรียนคิดวา ทาํ ไดตามระดับการประเมนิ เหลา นี้ เพ่อื ประเมินการเรียนรขู องนักเรยี น ปรับปรงุ พอใช คอ นขา งดี ดี ดมี าก กิจกรรม ระดบั ความสามารถ 1. อธบิ ายขอ มลู ของบุคคลที่ทาํ ประโยชนใ นชุมชนและทองถ่นิ 2. ยกตวั อยา งบุคคลซงึ่ มีผลงานท่เี ปน ประโยชนแ กชุมชนและทอ งถ่ินของตน และเสนอแนวทางการนาํ แบบอยา งทีด่ ีไปปฏิบัติในชีวิตประจาํ วัน 3. เหน็ ประโยชนข องการยกตวั อยา งบุคคลซึ่งมผี ลงานทเ่ี ปน ประโยชนแ กชุมชน และทองถิน่ ของตน ๒. นับจํานวนดาวจากตารางขางบนเพือ่ บนั ทกึ ผลการเรยี นรูของนกั เรียน ดงั นี้ จํานวน............................. จํานวน............................. จํานวน............................. จํานวน............................. จาํ นวน............................. สรปุ : วงกลมรอบผลการเรยี นรขู องนักเรยี น โดยนับจากขอ ที่ไดดาวมากท่ีสุด ดมี าก ปรบั ปรงุ พอใช ดี คอ นขา งดี 3. กาเคร่ืองหมาย √ ลงใน  ทีน่ ักเรียนวางแผนจะทําเพื่อพฒั นาการเรยี นในคร้ังตอ ไป (เลือกไดมากกวา 1 ขอ)  มคี วามรับผดิ ชอบในการเรยี น  ตง้ั คําถามจะเกิดการเรยี นรู และการแสวงหาความรูอ ยูเ สมอ ๆ  ลงมือปฏบิ ัตใิ หเ กิดความชํานาญ  ทบทวน ทอง และทําแบบฝก หดั ซํา้ ๆ

หนว ยการเรยี นรทู ี่ 7 เรื่อง ประชาธปิ ไตย ๘๑ หนว ยการเรียนรูที่ 7 ประชาธิปไตย

๘๒ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู สาํ หรบั นักเรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี 1 (สังคมศึกษา ป.3) ใบความรทู ี่ 1 เรื่อง กระบวนการประชาธปิ ไตย หนว ยการเรยี นรทู ่ี 7 เร่ือง ประชาธิปไตย แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 1 เรอื่ ง กระบวนการประชาธิปไตย รายวชิ าสังคมศกึ ษา รหัส ส13101 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั ประถมศึกษาปที่ 3 หลักการประชาธิปไตย การอยรู วมกนั โดยยึดถือเสยี งสว นใหญ ความเสมอภาค หลกั การ การมีสวนรวมโดยบทบาทและหนาที่ การยอมรับกตกิ าของเสยี งสวน ประชาธิปไตย การเคารพการแสดงความคดิ เหน็ ของผอู ื่น บทบาทหนาท่ีการเปนสมาชกิ ชมุ ชน มสี วนรวมในกิจกรรมของชุมชน การปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บของชมุ ชน ดูแลรกั ษาสาธารณสมบัติและส่ิงแวดลอม อนรุ ักษวัฒนธรรม ประเพณที ี่ดีงามของชุมชน

หนวยการเรียนรทู ่ี 7 เรือ่ ง ประชาธิปไตย ๘๓ การมีสวนรว มในกิจกรรมตา งๆ ตามกระบวนการประชาธิปไตย สมาชิกในชุมชนควรมีสวนรวมในกิจกรรมตางๆ ตามกระบวนการประชาธิปไตย เชน การออกเสยี งเลือกตัง้ ผนู ําชุมชนเขา รวมประชุมเพื่อแสดงความคดิ เหน็ เชน การออกเสียงเลือกตั้ง ในโรงเรียน การเลือกตั้งผูนําชุมชน เขารวมประชุมเพ่ือแสดงความคิดเห็น การมีสวนรวมใน การพัฒนาโรงเรยี นและชุมชนในดา นตา ง ๆ https://www.thaipost.net/main/detail/3747 https://data.bopp-obec.info/emis/news/news_ view.php?ID_New=71516 การใชส ิทธ์ิออกเสียงเลอื กตัง้ ตามระบอบประชาธิปไตยของโรงเรียนวังไกลกงั วล ในพระบรมราชูปถมั ภ https://district.cdd.go.th/nikhomkhamsoi/gallery/ http://www.hanhuaysai.go.th/activity/user_select_ photo.php?news_id=16 การเขา ไปมสี วนรวมในการแสดงความคดิ เหน็ ทเ่ี ปนประโยชนต อชมุ ชน

๘๔ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู สาํ หรับนักเรียน ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี 1 (สงั คมศกึ ษา ป.3) ใบความรทู ี่ 2 เรื่อง ประชาธิปไตยในชนั้ เรียน หนว ยการเรียนรทู ่ี 7 เร่อื ง ประชาธิปไตย แผนการจดั การเรยี นรูท ี่ 2 เรอื่ ง การออกเสียงโดยตรงและการเลอื กตวั แทนออกเสียงในชนั้ เรียน รายวชิ าสังคมศกึ ษา รหัส ส13101 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี 3 กระบวนการเรียนรูประชาธิปไตยในโรงเรียนจะเปนการสงเสริมใหนักเรียนไดตระหนักถึง ความสําคัญของระบอบประชาธิปไตยซ่ึงเปนพ้ืนฐานสําหรับการนําไปใชสังคมและชุมชนเปน การเตรียมความพรอ มผูเรียนใหเติบโตเปนผูใ หญที่ดใี นอนาคตเปนการสรา งลักษณะนิสัยใหเ ด็กได รูจักระเบียบ ขอบังคับ กฎเกณฑและกติกาของสังคม ตลอดจนรูจักรับผิดชอบหนาท่ีของตน ทีมงาน รบั ผิดชอบชมุ ชน และสงั คมไดอ ยางเหมาะสม โดยโรงเรยี นตอ งนํารปู แบบประชาธิปไตย มาใชในโรงเรียน เพื่อพัฒนาเด็กใหมีความเปนประชาธิปไตย รูจักปฏิบัติตนใหถูกตองตาม ภาระหนา ที่ และมวี ถิ ชี วี ิตตามหลกั ประชาธิปไตย สามารถดํารงตนใหอยูในสงั คมไดอยางมีความสขุ ดังน้ัน เพ่ือใหเกิดความเปนประชาธิปไตย คุณครูทุกทานในฐานะที่เปนผูสงเสริมและ อํานวยความสะดวกในการจดั การเรียนการสอน จงึ ควรสนับสนนุ สง่ิ ตางๆ ดงั นี้ 1. กิจกรรมสงเสริมประชาธิปไตยในโรงเรยี น เชน กิจกรรมวันสําคญั กิจกรรมดําเนนิ ตาม นโยบาย กิจกรรมสรา งเสรมิ ความคดิ รเิ ร่มิ สรางสรรค กจิ กรรมพเิ ศษตา ง ๆ กจิ กรรมกลุม การแสดง กิจกรรมชมรมและองคกรตา ง ๆ ตลอดจนกจิ กรรมกีฬา เปน กจิ กรรมที่สง เสริม ประชาธปิ ไตยในโรงเรยี นเปนอยางดี 2. ตองสงเสริมการสรางบรรยากาศประชาธิปไตย โดยการจัดบรรยากาศและสิ่งแวดลอ ม ภายในโรงเรียนใหดี จะชว ยเสริมสรางแนวความคิด จิตใจทเี่ ปน ประชาธปิ ไตย 3. สง เสรมิ ใหจ ดั การเรยี นการสอนเกยี่ วกบั ประชาธิปไตยโดยใหส อดแทรกอยา งสมา่ํ เสมอท้ัง ในหองเรยี น และนอกหองเรยี นโดยสัมพันธก บั วิชาทต่ี นเองรับผิดชอบ 4. สงเสริมนักเรียนใหเขาใจในความเปนประชาธิปไตย รูจักปกครองตนเอง สามารถแสดง ความคิดเห็นและยอมรับฟงความคิดเห็นของผูอื่นมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบตอ ตนเองและสังคม และสามารถนําความเปนประชาธิปไตยไปใชในชีวิตประจําวันไดอยา ง เหมาะสม ทมี่ า : https://sites.google.com/site/societyadaption/home

หนว ยการเรียนรทู ่ี 7 เร่ือง ประชาธิปไตย ๘๕ ประชาธิปไตยในชัน้ เรยี น การออกเสยี งโดยตรง การลงคะแนนเสยี งเลือกหัวหนา ช้นั การยกมือเลือกหัวหนา กลมุ การเลอื กตวั แทนออกเสียง การมอบหนา ท่ีใหก ับหัวหนา ชนั้ การใหห ัวหนา กลุม ทําหนา ท่ีแทนสมาชกิ ประชาธปิ ไตยในโรงเรยี น การออกเสยี งโดยตรง การลงคะแนนเสียงเลอื กประธานนักเรยี นการเลือกคณะกรรมการนกั เรียน การเลอื กตวั แทนออกเสียง ประธานนกั เรยี นทําหนาท่เี ปน ตัวแทนนักเรยี นคณะกรรมการนักเรยี นเปน ตวั แทนชน้ั เรียนตา ง ๆ

๘๖ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู สาํ หรับนกั เรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ 1 (สงั คมศึกษา ป.3) ใบความรทู ี่ 3 เรื่อง ความแตกตา งของการออกเสียงโดยตรงกบั การเลือกตวั แทนออกเสียง หนว ยการเรยี นรทู ี่ 7 เร่อื ง ประชาธปิ ไตย แผนการจดั การเรยี นรูที่ 3 เรอ่ื ง การออกเสยี งโดยตรงและการเลอื กตวั แทนออกเสียงในชนั้ เรยี น รายวิชาสงั คมศกึ ษา รหสั ส13101 ภาคเรยี นท่ี 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ 3 การออกเสียงโดยตรง การออกเสียงโดยตรง การยกมอื โหวต การมีสวนรวมใน เลือกหัวหนา ชั้น การดูแลรกั ษา การเขาคหู ากาบตั ร ผลประโยชน เลือกประธาน อํานาจการตดั สินใจ นักเรยี น อยูกบั เรา ท่มี า : https://sites.google.com/ การเลือกตัวแทนออกเสยี ง มอบอาํ นาจให การเลือกตวั แทนออกเสียง การมอบหนา ท่ใี ห ตัวแทนเปน ผรู กั ษา หวั หนา ชน้ั ไปรวม ผลประโยชนแ ทน ประชุมกับชน้ั อ่ืน การมอบหนาทใ่ี ห ผูแทนมอี ํานาจ ประธานนกั เรยี น ตดั สนิ ใจแทนเรา ทาํ กิจกรรมของ โรงเรียน

หนวยการเรยี นรูท่ี 7 เรือ่ ง ประชาธปิ ไตย ๘๗ ใบความรทู ี่ 4 เรอ่ื ง การเปลีย่ นแปลงในช้ันเรยี น และโรงเรยี น หนว ยการเรยี นรทู ี่ 7 เร่อื ง ประชาธิปไตย แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 4 เร่ือง การเปลยี่ นแปลงในชนั้ เรียน และโรงเรยี น รายวชิ าสงั คมศึกษา รหสั ส13101 ภาคเรยี นที่ 1 ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ 3 การตัดสนิ ใจของบุคคลและกลมุ ที่มผี ลตอ การเปลี่ยนแปลงในชั้นเรียน บคุ คลและกลมุ ทีม่ ีผลตอ การเปลยี่ นแปลงในชั้นเรยี น ไดแก ครูประจาํ ชนั้ หัวหนา หอ ง สมาชิกในหอ งเรียน การเปลยี่ นแปลงในชน้ั เรยี น เชน การเลอื กหัวหนาชั้นเรียนคนใหม การเลือก คณะกรรมการหอ งเรยี น การเปลีย่ นแปลงในช้นั เรียนท่เี ปน ผลมาจากการตัดสนิ ใจของสมาชกิ ใน หอ งเรียน เชน - มีกิจกรรมเกี่ยวกับการเรียน ทําใหเกิดการแลกเปลย่ี นความรแู ละความคดิ เหน็ ซงึ่ กันและกันเพิ่มข้นึ - นกั เรียนมีระเบยี บวนิ ยั ในการเรียน - มีการจัดเวรทําความสะอาดช้ันเรยี นและดูแลความเปน ระเบยี บเรยี บรอย การตัดสนิ ใจของบคุ คลและกลุมท่ีมีผลตอการเปลี่ยนแปลงในโรงเรยี น โรงเรียนถือเปนสถานที่ท่ีสมาชิกทุกคนในโรงเรยี นมีสวนรวมในการดูแลรกั ษา และพัฒนาใหมี การเปลยี่ นแปลงไปในทางที่ดขี ้ึน นอกจากนกั เรยี นและคณุ ครแู ลว ประธานนกั เรียน และคณะกรรมการ สภานักเรียน เปนบุคคลและกลุมที่มีผลตอการเปล่ียนแปลงในโรงเรียน ซ่ึงจะมีบทบาทสําคัญใน การควบคมุ ดูแลความประพฤตขิ องนักเรียนในโรงเรียน และชว ยดูรกั ษาความเปน ระเบียบเรียบรอยใน โรงเรียน ซ่งึ หากประธานนกั เรยี น คณะกรรมการสภานักเรียนและสมาชิกของโรงเรียนทุกคนตางมีความ รับผิดชอบตอหนาท่ีของตนที่มีตอโรงเรียนแลว ยอมทําใหเกิดการเปล่ียนแปลงที่ดีในโรงเรียน การเปลย่ี นแปลงในชั้นเรียนท่เี ปน ผลมาจากการตดั สนิ ใจของบุคคลในโรงเรยี น เชน - โรงเรียนสะอาดมคี วามเปน ระเบยี บเรียบรอย - มกี ิจกรรมสง เสรมิ และพัฒนาศลิ ปวัฒนธรรมในทองถนิ่ - นักเรยี นในชน้ั ตา งๆ มีความสมั พันธท ี่ดตี อ กัน ทมี่ า : https://sites.google.com/site/sumalee

๘๘ ชุดกิจกรรมการเรียนรู สาํ หรับนักเรียน ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 1 (สังคมศึกษา ป.3) ใบความรทู ่ี 5 เรือ่ ง การเปลีย่ นแปลงในชมุ ชน หนว ยการเรียนรทู ่ี 7 เร่อื ง ประชาธิปไตย แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 5 เรอ่ื ง การเปลย่ี นแปลงในชุมชน รายวิชาสังคมศกึ ษา รหัส ส13101 ภาคเรียนที่ 1 ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี 3 องคป ระกอบของชุมชน กํานัน สมาชกิ ของชมุ ชน คณะกรรมการชุมชน ผใู หญบ าน องคการบริหารสว นตาํ บล องคการบริหารสว นจังหวดั การเปล่ยี นแปลงในชมุ ชนท่เี ปน ผลมาจากการตัดสินใจของบุคคลในชมุ ชน เชน - เกิดความรกั และความสามคั คใี นชุมชน - มีการปรับตัวใหเ ขากบั การเปลีย่ นแปลงท่เี กิดขึ้นไดอ ยา งตอ เนือ่ ง - ความเปนอยขู องคนในชุมชนดีข้นึ - ชมุ ชนเกิดความพฒั นามีความเจรญิ กา วหนา

หนวยการเรยี นรูท่ี 7 เร่ือง ประชาธปิ ไตย ๘๙ เกดิ จากบทบาทของผูน าํ ชุมชน สาเหตุ เกิดจากนโยบายของรฐั บาลโดยการเสนอของชมุ ชน การเปล่ียนแปลง การตัดสนิ ใจรวมกนั ของสมาชิกในชุมชน ในชุมชน เกดิ จากเหตุปจ จัยภายนอก เชน การยายเขา การเปลีย่ นแปลงในชุมชนขน้ึ อยูกับการตดั สินใจของสมาชิกในชุมชน การเลือกตวั แทนเพื่อ เขามาพัฒนาชุมชนใหเปลยี่ นแปลงไปในทางท่ีดีเปนสิ่งสําคญั ดังน้ัน สมาชิกทุกคนจึงควรเลือก ตวั แทนทมี่ คี วามรู ความสามารถ มีความเสยี สละ และทําประโยชนเพ่ือสวนรวมเขามาทําหนาที่ แทนสมาชกิ ในชมุ ชน ที่มา : https://sites.google.com/site/socialscience31/hnwy-kar-reiyn-ru-thi-4-chumchn-khxng-chan/kar- peliynpaelng-ni-chumchn

๙๐ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู สาํ หรบั นกั เรียน ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 (สังคมศึกษา ป.3) ใบงานที่ 1 เร่ือง กระบวนการประชาธปิ ไตย หนว ยการเรียนรทู ่ี 7 เร่ือง ประชาธปิ ไตย แผนการจดั การเรยี นรูที่ 1 เร่ือง กระบวนการประชาธปิ ไตย รายวิชาสงั คมศกึ ษา รหสั ส13101 ภาคเรียนที่ 1 ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ 3 ตอนท่ี 1 คําชแี้ จง ใหน ักเรยี นยกตวั อยางบทบาทหนา ที่ท่ีสมาชกิ ในโรงเรยี นและชมุ ชนพึงปฏบิ ัติ มา 4 อยาง .......................... ...................................................................... .......................... .......................... ...................................................................... .......................... .......................... ...................................................................... .......................... .......................... ...................................................................... .......................... .......................... .......................... .......................... บทบาทหนา ทีท่ ่สี มาชิกในโรงเรียนและชุมชน .......................... .......................... .......................... .......................... ...................................................................... .......................... .......................... ...................................................................... .......................... .......................... ...................................................................... .......................... ...................................................................... ตอนที่ 2 คําชี้แจง ใหนักเรียนวงกลมลอมรอบขอความทีเ่ ปน กิจกรรมตามกระบวนประชาธิปไตย การแสดงความ การแสดงความ การเลือกซ้อื สินคา คดิ เหน็ ในงานกลุม คดิ เหน็ ในงานกลมุ ตามความตอ งการ การมติเห็นชอบใน การเลือกหัวหนา การทํากจิ กรรม กลุม

หนวยการเรียนรูท่ี 7 เรอ่ื ง ประชาธิปไตย ๙๑ ใบงานที่ 2 เร่อื ง ประชาธปิ ไตยในชน้ั เรียน หนว ยการเรยี นรทู ่ี 7 เรื่อง ประชาธปิ ไตย แผนการจดั การเรยี นรูท ่ี 2 เรื่อง การออกเสียงโดยตรงและการเลือกตวั แทนออกเสยี งในชนั้ เรียน รายวชิ าสังคมศกึ ษา รหัส ส13101 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี 3 คาํ ชี้แจง ใหน ักเรียนตอบคาํ ถามดังนี้ 1. การออกเสยี งโดยตรงและการเลือกตวั แทนออกเสียงมผี ลดอี ยา งไร • ผลดขี องการออกเสียงโดยตรง .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... • ผลดขี องการเลอื กตวั แทนออกเสยี ง .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 2. นักเรยี นเสนอวิธกี ารเลอื กตวั แทนอยา งถกู ตองเหมาะสม ลงในแผนภาพความคดิ การเลอื กตัวแทนอยางถกู ตองเหมาะสม

๙๒ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู สาํ หรับนักเรียน ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี 1 (สงั คมศึกษา ป.3) ใบงานท่ี 3 เรื่อง ความแตกตา งของการออกเสยี งโดยตรงกับการเลือกตวั แทนออกเสยี ง หนว ยการเรียนรทู ี่ 7 เร่ือง ประชาธปิ ไตย แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 3 เรอ่ื ง การออกเสยี งโดยตรงและการเลอื กตวั แทนออกเสยี งในชน้ั เรยี น รายวชิ าสงั คมศึกษา รหสั ส13101 ภาคเรยี นท่ี 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 3 คาํ ชแ้ี จง ใหนักเรียนเปรยี บเทียบความเหมอื นและความแตกตางของการออกเสยี งโดยตรงและ การเลือกตัวแทนออกเสยี ง ลงในแผนภาพความคิด การออกเสยี งโดยตรง เหมือน การเลอื กตวั แทนออกเสียง ........................................................ ..................... ........................................................ ........................................................ ..................... ........................................................ ..................... ........................................................ ............... ........................................................ ........................................................ ........................................................ ........................................... ...........................................

หนว ยการเรียนรูที่ 7 เรอ่ื ง ประชาธปิ ไตย ๙๓ ใบงานท่ี 4 เรื่อง การเปล่ียนแปลงในชนั้ เรียน และโรงเรียน หนว ยการเรียนรทู ี่ 7 เร่ือง ประชาธิปไตย แผนการจดั การเรยี นรูท ี่ 4 เร่ือง การเปลย่ี นแปลงในชนั้ เรียน และโรงเรยี น รายวชิ าสังคมศึกษา รหสั ส13101 ภาคเรียนที่ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ 3 ตอนที่ 1 คําชแ้ี จง ใหน กั เรยี นวิเคราะหสถานการณ แลว เขยี นเครื่องหมาย √ ลงในหนาคาํ ตอบที่ ถูกตอง และตอบคําถาม 1. ในวันเปดภาคเรยี นคร้ังที่ 1 นักเรียนช้ันประถมศึกษาปท ี่ 3 รวมกันเลือกหวั หนาหอ งเรยี นมา ปฎิบัติหนา ท่ี ดูแลเพือ่ นๆ และรกั ษากฎระเบียบของหองเรยี น 1) การไดห ัวหนา ช้ันเรยี นเปนการเปลยี่ นแปลงระดับใด ชั้นเรยี น โรงเรียน 2) การไดหวั หนาหองเรยี นมาจากใคร .................................................................................................................................... 2. ผูก าํ กับลูกเสือประกาศหนา เสาธงใหน ักเรยี นทกุ คนรว มกันทาํ กจิ กรรมอาสา บาํ เพ็ญประโยชน เกบ็ ขยะในโรงเรียนและบริเวณรอบโรงเรียน ซ่งึ ทุกคนมารวมกจิ กรรมดว ยความยนิ ดี 1) กจิ กรรมอาสา บําเพญ็ ประโยชนเ ก็บขยะเกดิ จากการตดั สนิ ใจของใคร .................................................................................................................................... ....................................................................................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook