1 รายงานผลการฝกึ ปฏบิ ตั วิ ชิ าชพี ระหวา่ งเรยี น 1 (Practicum 1) ช่ือ-สกุล นักศึกษา นางสาวณฐั วดี ครุธคลา้ ย รหสั นกั ศกึ ษา 61111806016 ช้ันปที ่ี 4 ห้อง 1 สาขาวิชา คอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีการศกึ ษา ภาคการศึกษาที่ 1 ปกี ารศกึ ษา2564 คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั นครสวรรค์
2 คำนำ รายงานผลการฝึกปฏบิ ตั วิ ิชาชพี ระหวา่ งเรยี น 1 (Practicum 1) รายงานฉบับนี้เปน็ รายงานสว่ นหนึ่ง ของรายวิชา 1003801 การฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 1 จัดทำขึ้นเพื่อรายงานผลการฝึกปฏิบัติงาน ในสถานศึกษาตลอดระยะเวลา 5 วัน ณ โรงเรียนทับกฤชพัฒนา ซึ่งรายงายฉบับนี้ประกอบไปด้วยข้อมูล สถานศึกษา ข้อมูลหลักสูตรสถานศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้และแบบแสดงสื่อการเรียนการสอน โดยผู้จัดทำได้ทำการศึกษารวบรวมข้อมูลต่างๆ และทำการบันทึกผลการปฏิบัติหน้าที่ครูประจำชั้น ครูผู้สอน รวมไปถงึ ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ เพอ่ื รายงานให้อาจารยผ์ สู้ อนรบั ทราบต่อไป นางสาวณัฐวดี ครธุ คลา้ ย นักศกึ ษาฝึกปฏบิ ัตวิ ิชาชพี ระหวา่ งเรยี น 1
3 สารบญั ตอนที่ 1 ข้อมลู สถานศกึ ษา……………………………………………………………………………...………………. หน้า ตอนท่ี 2 ข้อมูลหลกั สูตรสถานศึกษา………………………………………………………..……………………….. 4 ตอนท่ี 3 รายงานการฝกึ ปฏิบัติงานในหนา้ ที่ครู............................................................................ 7 ตอนที่ 4 แผนการจัดการเรียนรู้..................................................................................................... 41 ตอนท่ี 5 ผลการประเมนิ …………………………………………………………………………………………………… 45 ภาคผนวก....................................................................................... ................................................ 77 88
4 ตอนที่ 1 ขอ้ มูลสถานศกึ ษา ขอ้ มูลโรงเรยี นฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู 1.ชือ่ โรงเรียน ทบั กฤชพฒั นา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษาเขต 42 ทต่ี ้ัง 14 หมู่ 8 ซอย – ถนน – ตำบล ทบั กฤช อำเภอ ชุมแสง จงั หวัด นครสวรรค์ รหสั ไปรษณยี ์ 60250 โทรศพั ท์ 056-289114 E-mail : [email protected] 2. ชอื่ ผ้อู ำนวยการ นายกจิ จา เอี่ยมระหงษ์ ช่ือรอง/ผชู้ ว่ ยผอู้ านวยการ ฝ่ายวิชาการ นายศภุ ฤกษ์ ศิโรทศ ฝ่ายธุรการ ว่าทรี่ อ้ ยตรหี ญงิ ดวงใจ กลุ ประดิษฐ์ ฝ่ายงบประมาณ นางศศิธร วงศ์พานิช ฝา่ ยบริหารงานทวั่ ไป นายประเสริฐ อนันตอาจ ฝา่ ยบรหิ ารงานบคุ คล นางสมภรณ์ องอาจ 3. รายช่ือคณะกรรมการสถานศกึ ษา 1. นายพัทรฐ์ นนิ ท์ ธญั ญาวินชิ กุล ผู้ทรงคณุ วฒุ ิ ประธานกรรมการ 2. นายอาทิตย์ กฤชกาญจนพันธ์ ผู้ทรงคณุ วฒุ ิ กรรมการ 3. นายประทปี หนูอิ่ม ผู้ทรงคุณวฒุ ิ กรรมการ 4. นายธวชั หาญลำยวง ผู้ทรงคณุ วฒุ ิ กรรมการ 5. นายสมหมาย เมฆพยบั ผู้ทรงคุณวฒุ ิ กรรมการ 6. นางพวงทพิ ย์ สวนคำศรี ผูท้ รงคณุ วฒุ ิ กรรมการ 7. พระมหาประเสรฐิ ปุณฺณสริ ิ ผแู้ ทนพระภิกษุสงฆ์ กรรมการ 8. นายบญุ ยืน คามเกตุ ผู้แทนองคก์ รศาสนา กรรมการ 9. นายสมชายปล่งั สวุ รรณ ผู้แทนองคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ กรรมการ 10. นายจรรยา จนั ทรค์ ำ ผ้แู ทนองค์กรชุมชน กรรมการ 11. นางนภาพร ฤทธมิ์ หันต์ ผู้แทนปกครอง กรรมการ 12. นายสาธติ แพ่งสภุ า ผแู้ ทนศิษย์เก่า กรรมการ 13. นายชลิต แป้นแกว้ ผู้แทนครู กรรมการ 14. นายไพรฑูรย์ กรไกร ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา กรรมการและเลขานุการ 4. ปรัชญาของโรงเรยี น ปญั ญาประดจุ ดั่งอาวธุ 5. วิสัยทัศน์ของโรงเรียน สร้างคนดี มีความรู้ คคู่ ณุ ธรรม น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง เทียบเคียงมาตรฐานสากล พฒั นาตนส่ทู กั ษะอาชีพ เพื่อดำรงชีวติ สอดคลอ้ งกบั การเปลีย่ นแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21
5 6. พนั ธกจิ ของโรงเรยี น 1. ส่งเสริม สนบั สนุน และประสานงานกบั ทุกภาคส่วนทเี่ กี่ยวข้อง เพ่ือพฒั นาโรงเรยี นใหม้ คี วาม เข้มแข็งด้วยระบบคุณภาพ 2. ส่งเสรมิ สนับสนุน และพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพเทียงเคียงมาตรฐานสากล มีคณุ ธรรม จริยธรรม มีทกั ษะอาชีพ และมภี มู ิคุม้ กันต่อการเปล่ียนแปลงการพฒั นาประเทศในอนาคต 3. สง่ เสรมิ สนบั สนุน การพฒั นาครูและบุคลากรทางการศกึ ษาใหจ้ ดั การเรียนการสอนอยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ สอดคลอ้ งกบั การเปลีย่ นแปลงของโลกศตวรรษท่ี 21 4. ส่งเสริม สนับสนุน และน้อมนำหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใชใ้ นการจัดการศึกษา 5. พฒั นาระบบบริหารจดั การใหม้ ปี ระสิทธภิ าพและประสิทธิผล 7. ยุทธศาสตร์ของโรงเรียน 1. พัฒนาคณุ ภาพและมาตรฐานการศกึ ษาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา และส่งเสริม ความสามารถ ด้านเทคโนโลยเี พ่อื เป็นเครือ่ งมือในการเรียนรู้ 2. ปลูกฝังคุณธรรม ความสํานึกในความเป็นชาติไทย และวิถีชีวิตตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจ พอเพียง 3. ขยายโอกาสทางการศกึ ษาใหท้ วั่ ถึงครอบคลุม ผเู้ รยี นได้รบั โอกาสในการพฒั นา เต็มศักยภาพ 4. พัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ใหส้ ามารถจดั การเรียนการสอนได้อย่าง มคี ณุ ภาพ 5. พฒั นาประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารการศกึ ษาตามแนวทางกระจายอำนาจทางการศึกษา หลักธรรมาภิบาล เน้นการมีส่วนร่วมจากทุกสว่ นและความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริม สนับสนนุ การจัดการศกึ ษา 8. อัตลกั ษณ์ของโรงเรยี น ลูกทับกฤช ยม้ิ ไหว้ทักทายกนั 9. ข้อมลู บคุ ลากร 1) ผู้บรหิ ารและรองผบู้ รหิ าร จำนวน 6 คน ชาย 3 คน หญงิ 3 คน 2) ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 27 คน ชาย 6 คน หญิง 21 คน แยกตามวฒุ กิ ารศึกษา ดงั นี้ ปริญญาเอก จำนวน - คน ปรญิ ญาโท จำนวน 8 คน ปรญิ ญาตรี จำนวน 17 คน วฒุ ิการศึกษา จำนวน 2 คน 10. ข้อมลู นกั เรยี น นักเรยี นทัง้ หมด จำนวน 713 คน ชาย 327 คน หญงิ 386 คน ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี1 จำนวน 105 คน ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่2 จำนวน 88 คน ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี3 จำนวน 98 คน ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่4 จำนวน 51 คน
6 11. ประวตั โิ รงเรยี น (โดยสังเขป) โรงเรยี นทับกฤชพัฒนามีพ้ืนท่ีรวม 35 ไร่ ได้รบั ประกาศจัดตง้ั เป็นโรงเรยี นมธั ยมศึกษา ประจำตำบล เปน็ โรงเรยี นขนาดเล็ก เปดิ เรียนครัง้ แรกเมื่อวันท่ี 20 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2522 และไดเ้ ปดิ ทำการ สอนเปน็ ปแี รกเม่ือวนั ท่ี 16 พฤษภาคม พ.ศ.2522 เป็นโรงเรียนแบบสหศึกษา สังกัดกองการมัธยมศึกษากรม สามญั ศกึ ษากระทรวงศึกษาธิการ มีครู – อาจารย์ 4 คน นักเรยี น 68 คน มีนายประทวนศาสตร์ศรี เป็น ผูบ้ รหิ ารคนแรก ปีการศึกษา 2522 – 2538 โรงเรียนทบั กฤชพัฒนาได้จดั การเรยี นการสอนระดบั มธั ยมตอนตน้ และเม่ือปี พ.ศ. 2539 ได้รบั อนุญาตจากกรมสามญั ศึกษาให้จดั การเรียนการสอนในระดบั มธั ยมตอนปลาย โดย ตอนนัน้ ได้จดั การเรียนการสอนตง้ั แตร่ ะดบั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ถึงมธั ยมศึกษาปีท่ี 6
7 ตอนที่ 2 ขอ้ มลู หลกั สูตรสถานศึกษา ชอ่ื หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนทับกฤชพัฒนา พุทธศักราช 2561 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐานพุทธศักราช 2551 1. ข้อมูลหลักสตู รสถานศกึ ษา 1.1 วิสัยทศั นห์ ลกั สูตร หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนอนบุ าลเมืองนครสวรรค์ (เขากบ วิวรณ์สขุ วิทยา) พุทธศักราช 2561 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ม่งุ พฒั นาผู้เรียนให้เป็น มนษุ ย์ท่มี สี มบรู ณ์ มี ความสมดลุ ทัง้ ด้านร่างกาย ความรู้ คณุ ธรรม ยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ภมู ใิ จในทอ้ งถิ่น มีสำนึก ความเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ยึดมน่ั ในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รง เป็นประมุข มีความรู้และทักษะท่ีจำเป็นในศตวรรษที่ 21 โดยมุ่งเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญบนพนื้ ฐานความเช่ือว่า ทกุ คนสามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ 1.2 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ หลักสูตรสถานศึกษามงุ่ พฒั นาผเู้ รียนให้มีคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เพื่อสามารถอยู่ร่วมกับอื่นอย่างมีความสุข ในฐานะเป็นบุคคลในชุมชนเป็นพลเมืองไทยและพลเมืองโลกท่ี สอดคล้องกับหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน ดงั นี้ 1) รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2) ซื่อสัตยส์ ุจริต 3) มวี นิ ยั 4) ใฝเ่ รียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพยี ง 6) ม่งุ มน่ั ในการทำงาน 7) รกั ความเปน็ ไทย 8) มจี ิตสาธารณะ 1.3 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน มุ่งใหผ้ ู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดงั นี้ 1) ความสามารถในการส่อื สาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวฒั นธรรมในการ ใช้ ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ะ และ ประสบการณ์อนั จะเป็นประโยชน์ตอ่ การพฒั นาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลด 7 ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจน การ เลือกใชว้ ิธีการส่ือสาร ท่ีมีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบทีม่ ตี ่อตนเองและสงั คม 2) ความสามารถในการคดิ เป็นความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ สงั เคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ สารสนเทศ เพือ่ การตัดสนิ ใจเก่ยี วกบั ตนเองและสังคมได้อยา่ งเหมาะสม 3) ความสามารถในการแก้ปญั หา เปน็ ความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ทีเ่ ผชิญได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปล่ยี นแปลงของเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรมู้ าใช้ใน
8 การป้องกันและ แก้ไข ปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สงั คมและสิ่งแวดล้อม 4) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต เป็นความสามารถในการนาํ กระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน การดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงานและการอยู่ร่วมกันใน สังคม ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จัก หลีกเล่ียง พฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ที่สง่ ผลกระทบต่อตนเองและผอู้ นื่ 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลอื กและใชเ้ ทคโนโลยดี ้าน ต่างๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การแก้ปญั หาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมคี ณุ ธรรม 1.4 โครงสร้างหลักสูตร หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน ไดก้ ำหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรียนข้นั ตำ่ สำหรับกลุ่มสาระ การเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ซึ่งโรงเรียนสามารถ เพิ่มเติมได้ ตามความพร้อมและจดุ เนน้ โดยสามารถปรบั ใหเ้ หมาะสมตามบริบทของโรงเรยี นและสภาพของผู้เรียน
9 1.5 สาระ/ มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวดั ช้นั ปี/ชว่ งชั้น สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ ศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสม โดยคำนึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชีวติ สงั คม และสง่ิ แวดลอ้ ม ชั้น ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.1 - - ป.2 - - ป.3 - - ป.4 - - ป.5 - - ป.6 - - ม.1 1. อธบิ ายแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีใน • เทคโนโลยเี ป็นส่ิงทม่ี นษุ ย์สร้างหรอื พฒั นาขนึ้ ชีวิตประจำวัน และวิเคราะห์สาเหตหุ รอื ซ่ึงอาจเปน็ ไดท้ ั้งช้นิ งานหรือวิธีการ เพื่อใช้ ปจั จัยทส่ี ง่ ผลต่อ แกป้ ญั หา สนองความต้องการ หรือเพ่ิม การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี ความสามารถ ในการทำงานของมนุษย์ • ระบบทางเทคโนโลยเี ปน็ กลมุ่ ของสว่ นต่าง ๆ ต้งั แต่สองสว่ นขน้ึ ไปประกอบเข้าด้วยกนั และ ทำงานรว่ มกันเพ่ือใหบ้ รรลวุ ัตถปุ ระสงคโ์ ดย ในการทำงานของระบบทางเทคโนโลยจี ะ ประกอบ ไปดว้ ยตัวปอ้ น (input) กระบวนการ (process) และผลผลติ (output) ท่ีสัมพันธ์กนั นอกจากน้ี ระบบ ทางเทคโนโลยีอาจมขี ้อมลู ย้อนกลับ (feedback) เพื่อใช้ปรบั ปรงุ การทำงานได้ ตาม วัตถปุ ระสงค์ซ่งึ การวเิ คราะห์ระบบทาง เทคโนโลยชี ว่ ยให้เขา้ ใจองค์ประกอบและ การทำงานของเทคโนโลยีรวมถึงสามารถ ปรบั ปรงุ ให้เทคโนโลยที ำงานได้ตามต้องการ • เทคโนโลยมี ีการเปล่ยี นแปลงตลอดเวลา ตง้ั แต่อดีต จนถึงปัจจบุ นั ซึง่ มีสาเหตุหรือ ปจั จัยมาจาก หลายดา้ น เช่น ปญั หาความ ต้องการความก้าวหน้า ของศาสตรต์ า่ ง ๆ เศรษฐกจิ สังคม
ช้ัน ตวั ชี้วัด 10 2. ระบปุ ัญหาหรือความต้องการใน ชวี ิตประจำวนั รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมลู สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง และแนวคดิ ท่ีเกี่ยวข้อง • ปญั หาหรือความต้องการในชีวติ ประจำวัน กับปญั หา พบได้จากหลายบรบิ ทขนึ้ กบั สถานการณ์ท่ี 3. ออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหา โดย ประสบ เช่น การเกษตร การอาหาร วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ และตัดสินใจเลอื ก • การแกป้ ัญหาจำเป็นต้องสืบค้น รวบรวม ขอ้ มลู ท่ีจำเปน็ นำเสนอแนวทางการ ขอ้ มลู ความรู้จากศาสตร์ตา่ ง ๆ ท่เี ก่ียวข้อง แกป้ ญั หาใหผ้ ู้อน่ื เขา้ ใจ วางแผนและ เพ่อื นำไปสู่ การออกแบบแนวทางการ ดำเนินการแก้ปัญหา แกป้ ญั หา • การวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทียบ และตัดสินใจเลอื ก 4. ทดสอบ ประเมนิ ผล และระบุ ข้อมลู ท่ีจำเปน็ โดยคำนึงถงึ เง่อื นไข และ ข้อบกพร่อง ทีเ่ กิดขึ้น พร้อมทั้งหาแนว ทรัพยากร ท่มี ีอยูช่ ว่ ยให้ไดแ้ นวทางการ ทางการปรบั ปรุงแก้ไข และนำเสนอผล แก้ปัญหาทเี่ หมาะสม การแกป้ ัญหา • การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทำได้ หลากหลายวิธีเชน่ การร่างภาพ การเขียน 5. ใช้ความรู้และทักษะเก่ยี วกับวสั ดุ แผนภาพ การเขยี นผังงาน อปุ กรณ์ เครือ่ งมอื กลไก ไฟฟ้า หรือ • การกำหนดขน้ั ตอนและระยะเวลาในการ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เพ่อื แกป้ ัญหาได้อยา่ ง ทำงาน ก่อนดำเนนิ การแกป้ ัญหาจะ ถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภัย ช่วยให้ทำงานสำเรจ็ ไดต้ ามเป้าหมายและลด ข้อผิดพลาด ของการทำงานท่ีอาจเกดิ ขึน้ • การทดสอบ และประเมินผลเป็นการ ตรวจสอบ ช้ินงานหรอื วิธีการว่าสามารถ แกป้ ญั หาได้ตาม วตั ถปุ ระสงค์ภายใตก้ รอบ ของปัญหา เพ่ือหา ข้อบกพร่อง และ ดำเนนิ การปรับปรงุ โดยอาจ ทดสอบซ้ำ เพอื่ ใหส้ ามารถแก้ปัญหาได้ • การนำเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคดิ เพอื่ ให้ผ้อู น่ื เขา้ ใจเก่ยี วกับกระบวนการ ทำงาน และชิ้นงานหรือวธิ ีการท่ีไดซ้ ่ึง สามารถทำได้ หลายวธิ ีเชน่ การเขยี น รายงาน การทำแผน่ นำเสนอ ผลงาน การจดั นิทรรศการ การนำเสนอผา่ น ส่อื ออนไลน์ • วสั ดุแต่ละประเภทมีสมบตั ิแตกต่างกนั เช่น ไม้ โลหะ พลาสตกิ จึงต้องมกี ารวิเคราะห์ สมบัติ เพ่อื เลือกใช้ให้เหมาะสมกับลกั ษณะ ของงาน • การสร้างชน้ิ งานอาจใช้ความรู้เรอ่ื งกลไก ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์เชน่ LED บัซเซอร์ มอเตอร์ วงจรไฟฟ้า
ช้นั ตัวชวี้ ดั 11 ม.2 1. คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยที จ่ี ะ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง เกดิ ขึ้น โดยพิจารณาจากสาเหตุหรอื ปจั จยั • อุปกรณ์และเครอ่ื งมอื ในการสรา้ งช้นิ งานหรือ ที่ส่งผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงของ เทคโนโลยีและวิเคราะห์ เปรียบเทยี บ พัฒนาวธิ ีการมหี ลายประเภท ต้องเลือกใช้ ตดั สนิ ใจเลอื กใช้เทคโนโลยี โดยคำนงึ ถึง ให้ถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภัย รวมทั้ง ผลกระทบที่เกิดขนึ้ ต่อชวี ติ สังคม รูจ้ ักเก็บรักษา และสง่ิ แวดลอ้ ม • สาเหตหุ รอื ปจั จยั ต่าง ๆ เช่น ความก้าวหน้า ของ ศาสตร์ต่าง ๆ การเปล่ียนแปลงทางด้าน 2. ระบุปญั หาหรอื ความต้องการในชมุ ชน เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ทำให้เทคโนโลยี หรือ ทอ้ งถนิ่ สรุปกรอบของปัญหา มกี าร เปล่ยี นแปลงตลอดเวลา รวบรวม วเิ คราะห์ ขอ้ มลู และแนวคดิ ที่ • เทคโนโลยีแต่ละประเภทมผี ลกระทบต่อชวี ิต เกย่ี วขอ้ งกบั ปญั หา สังคม และสิ่งแวดล้อมท่ีแตกต่างกนั จึงต้อง วิเคราะหเ์ ปรยี บเทยี บข้อดขี ้อเสยี และ 3. ออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา โดย ตดั สนิ ใจ เลือกใช้ให้เหมาะสม วเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ และตัดสนิ ใจเลือก • ปัญหาหรอื ความต้องการในชุมชนหรือ ข้อมลู ทีจ่ ำเป็น ภายใตเ้ งื่อนไขและ ทอ้ งถนิ่ มหี ลายอย่าง ข้ึนกับบรบิ ทหรือ ทรัพยากรท่มี ีอยู่ นำเสนอ แนวทางการ สถานการณ์ ท่ีประสบ เชน่ ดา้ นพลงั งาน แกป้ ญั หาใหผ้ ู้อ่ืนเขา้ ใจ วางแผน ขั้นตอน สง่ิ แวดลอ้ ม การเกษตร การอาหาร การทำงานและดำเนินการแก้ปญั หา อยา่ ง • การระบปุ ญั หาจำเปน็ ต้องมีการวิเคราะห์ เป็นข้นั ตอน สถานการณ์ของปัญหาเพ่ือสรุปกรอบของ ปัญหา แลว้ ดำเนินการสบื คน้ รวบรวมข้อมูล 4. ทดสอบ ประเมนิ ผล และอธบิ ายปญั หา ความรู้ จากศาสตรต์ ่าง ๆ ที่เกยี่ วข้อง เพ่ือ หรอื ขอ้ บกพร่องที่เกิดขึน้ ภายใต้กรอบ นำไปสู่การ ออกแบบแนวทางการแก้ปัญหา เง่อื นไข พร้อมทั้งหาแนวทางการปรับปรงุ • การวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทยี บ และตัดสนิ ใจ แกไ้ ข และ นำเสนอผลการแก้ปัญหา เลอื กข้อมลู ที่จำเป็น โดยคำนึงถงึ เง่ือนไข และทรัพยากร เช่น งบประมาณ เวลา ขอ้ มูล และสารสนเทศ วัสดุ เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ ชว่ ยให้ได้แนวทางการแก้ปญั หาทเี่ หมาะสม • การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทำได้ หลากหลายวิธเี ชน่ การร่างภาพ การเขยี น แผนภาพ การเขียนผงั งาน • การกำหนดขัน้ ตอนระยะเวลาในการทำงาน กอ่ นดำเนินการแก้ปญั หาจะชว่ ยให้การ ทำงาน สำเร็จไดต้ ามเป้าหมาย และลด ข้อผดิ พลาด ของการทำงานท่ีอาจเกิดข้นึ • การทดสอบและประเมนิ ผลเป็นการ ตรวจสอบ ชน้ิ งาน หรอื วิธกี ารวา่ สามารถ แก้ปญั หาได้ ตามวัตถุประสงคภ์ ายใตก้ รอบ ของปัญหา เพ่ือ หาข้อบกพร่อง และ
12 ช้นั ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ดำเนินการปรับปรุงใหส้ ามารถ แก้ไขปญั หา ได้ • การนำเสนอผลงานเปน็ การถ่ายทอดแนวคิด เพอื่ ให้ผู้อ่ืนเขา้ ใจเกี่ยวกับกระบวนการ ทำงาน และชิน้ งานหรือวิธกี ารทีไ่ ดซ้ ่ึง สามารถทำได้ หลายวธิ เี ช่น การเขียน รายงาน การทำแผ่นนำเสนอผลงาน การจดั นิทรรศการ 5. ใช้ความรแู้ ละทักษะเก่ียวกับวสั ดุ • วสั ดแุ ตล่ ะประเภทมสี มบัติแตกตา่ งกัน เช่น อุปกรณ์ เคร่อื งมือ กลไก ไฟฟ้า และ ไม้ โลหะ พลาสตกิ จึงต้องมีการวิเคราะห์ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เพือ่ แกป้ ญั หาหรอื พฒั นา สมบตั ิ เพอื่ เลือกใชใ้ ห้เหมาะสมกับลกั ษณะ งานได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม ของงาน และปลอดภยั • ารสร้างชนิ้ งานอาจใชค้ วามรูเ้ รือ่ งกลไก ไฟฟ้า อิเลก็ ทรอนิกส์เชน่ LED มอเตอร์บัซเซอร์ เฟอื ง รอก ล้อ เพลา • อปุ กรณ์และเคร่ืองมือในการสรา้ งชิ้นงาน หรอื พัฒนาวธิ กี ารมีหลายประเภท ตอ้ ง เลอื กใช้ ใหถ้ ูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย รวมทงั้ รู้จัก เก็บรักษา ม.3 1. วิเคราะหส์ าเหตุ หรอื ปจั จัยทีส่ ง่ ผลตอ่ • เทคโนโลยีมีการเปลยี่ นแปลงตลอดเวลา การ เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยแี ละ ตง้ั แตอ่ ดีต จนถึงปัจจบุ ัน ซ่ึงมีสาเหตหุ รอื ความสัมพนั ธ์ ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อ่นื ปจั จยั มาจาก หลายดา้ น เช่น ปญั หาหรือ โดยเฉพาะ วทิ ยาศาสตร์หรอื คณิตศาสตร์ ความต้องการของมนษุ ย์ ความกา้ วหนา้ ของ เพอ่ื เป็นแนวทาง การแก้ปญั หาหรือพัฒนา ศาสตร์ต่างๆการเปลีย่ นแปลง ทางด้าน งาน เศรษฐกจิ สังคม วัฒนธรรม สง่ิ แวดล้อม • เทคโนโลยีมีความสมั พันธ์กบั ศาสตรอ์ ่นื โดยเฉพาะ วิทยาศาสตรโ์ ดยวิทยาศาสตร์เปน็ พ้ืนฐานความรู้ ท่ีนำไปส่กู ารพัฒนา เทคโนโลยแี ละเทคโนโลยที ่ี ได้สามารถเป็น เคร่อื งมือที่ใช้ในการศึกษา ค้นควา้ เพ่อื ให้ ไดม้ าซ่ึงองคค์ วามรู้ใหม่ 2. ระบุปญั หาหรอื ความตอ้ งการของ • ปญั หาหรือความตอ้ งการอาจพบได้ในงาน ชุมชนหรือ ท้องถิ่น เพ่ือพัฒนางานอาชีพ อาชีพ ของชมุ ชนหรือทอ้ งถิ่น ซงึ่ อาจมีหลาย สรุปกรอบของ ปัญหา รวบรวม วิเคราะห์ ด้าน เชน่ ดา้ นการเกษตร อาหาร พลังงาน ขอ้ มูลและแนวคดิ ที่เกยี่ วข้องกบั ปญั หา การขนส่ง โดยคำนงึ ถึงความถูกต้อง ด้านทรัพย์สิน ทางปัญญา
ช้ัน ตัวชีว้ ดั 13 3. ออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา สาระการเรียนรแู้ กนกลาง โดยวเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ และตดั สินใจ • การวิเคราะห์สถานการณป์ ัญหาช่วยให้เข้าใจ เลอื กข้อมลู ท่จี ำเป็น ภายใต้เงื่อนไขและ ทรพั ยากรทม่ี ีอยู่ นำเสนอ แนวทางการ เง่อื นไขและกรอบของปญั หาได้ชัดเจน แก้ปญั หาใหผ้ ู้อื่นเขา้ ใจด้วยเทคนคิ หรือ จากนน้ั ดำเนินการสบื คน้ รวบรวมข้อมูล วธิ กี ารที่หลากหลาย วางแผนขนั้ ตอน การ ความรู้ จากศาสตร์ต่าง ๆ ท่เี กี่ยวขอ้ ง เพ่ือ ทำงานและดำเนนิ การแกป้ ญั หาอย่างเปน็ นำไปสู่ การออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหา ขนั้ ตอน • การวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทยี บ และตัดสินใจเลือก ข้อมูลทจ่ี ำเป็น โดยคำนงึ ถึงทรัพยส์ นิ ทาง 4. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์และให้ ปัญญา เง่ือนไขและทรัพยากร เชน่ เหตุผล ของปัญหาหรือข้อบกพรอ่ งท่ี งบประมาณ เวลา ข้อมลู และสารสนเทศ เกิดขึน้ ภายใต้ กรอบเงื่อนไข พรอ้ มทงั้ หา วัสดุ เครื่องมือและอุปกรณ์ ช่วยให้ไดแ้ นว แนวทางการปรับปรุง แก้ไข และนำเสนอ ทางการแกป้ ญั หาทเ่ี หมาะสม ผลการแกป้ ญั หา • การออกแบบแนวทางการแก้ปญั หาทำได้ หลากหลายวิธเี ชน่ การร่างภาพ การเขยี น แผนภาพ การเขยี นผงั งาน • เทคนคิ หรือวธิ ีการในการนำเสนอแนวทาง การแกป้ ัญหามีหลากหลาย เช่น การใช้ แผนภูมิ ตาราง ภาพเคลื่อนไหว • การกำหนดขนั้ ตอนและระยะเวลาในการ ทำงาน ก่อนดำเนินการแกป้ ัญหาจะชว่ ยให้ การทำงาน สำเรจ็ ได้ตามเป้าหมาย และลด ข้อผิดพลาด ของการทำงานท่ีอาจเกิดขน้ึ • การทดสอบและประเมนิ ผลเป็นการ ตรวจสอบ ชนิ้ งานหรือวธิ กี ารวา่ สามารถ แกป้ ญั หาไดต้ าม วัตถปุ ระสงค์ภายใต้กรอบ ของปญั หา เพื่อหา ข้อบกพร่อง และ ดำเนินการปรับปรงุ โดยอาจ ทดสอบซ้ำ เพือ่ ใหส้ ามารถแก้ไขปญั หาได้ • การนำเสนอผลงานเปน็ การถ่ายทอดแนวคดิ เพ่ือให้ผ้อู นื่ เข้าใจเกย่ี วกับกระบวนการ ทำงาน และชิ้นงานหรือวิธกี ารทไี่ ด้ซง่ึ สามารถทำได้ หลายวธิ ีเช่น การเขียน รายงาน การทำแผน่ นำเสนอผลงาน การจัด นทิ รรศการ การนำเสนอ ผ่านส่ือออนไลน์
ช้นั ตวั ชว้ี ัด 14 5. ใชค้ วามรู้และทักษะเก่ยี วกับวสั ดุ อปุ กรณ์ เคร่อื งมือ กลไก ไฟฟ้าและ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ให้ถูกต้องกบั ลักษณะของ • วสั ดแุ ตล่ ะประเภทมีสมบตั ิแตกตา่ งกัน เชน่ งาน และปลอดภยั เพ่อื แกป้ ัญหาหรือ พฒั นางาน ไม้ โลหะ พลาสติก เซรามกิ จึงตอ้ งมีการ วเิ คราะห์ สมบตั ิเพ่ือเลือกใช้ให้เหมาะสมกับ ม.4 1. วเิ คราะห์แนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยี ลกั ษณะ ของงาน ความสัมพนั ธ์ กบั ศาสตรอ์ ื่น โดยเฉพาะ • การสรา้ งชิ้นงานอาจใช้ความรู้เร่ืองกลไก วิทยาศาสตร์หรอื คณติ ศาสตรร์ วมท้งั ไฟฟา้ อิเล็กทรอนิกสเ์ ชน่ LED LDR มอเตอร์ ประเมนิ ผลกระทบท่ี จะเกิดขึ้นตอ่ มนษุ ย์ เฟอื ง คาน รอก ลอ้ เพลา สังคม เศรษฐกจิ และ สง่ิ แวดล้อม • อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน เพ่ือเปน็ แนวทางในการพัฒนา เทคโนโลยี หรอื พฒั นาวธิ กี ารมหี ลายประเภท ต้อง เลอื กใช้ ให้ถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภยั 2. ระบุปัญหาหรอื ความตอ้ งการทม่ี ี รวมทั้งรู้จัก เกบ็ รักษา ผลกระทบต่อ สงั คม รวบรวม วเิ คราะห์ • ระบบทางเทคโนโลยเี ป็นกลุ่มของส่วนต่างๆ ข้อมลู และแนวคดิ ที่เก่ยี วข้องกับปัญหาที่ ตั้งแต่ สองสว่ นขนึ้ ไปประกอบเข้าด้วยกนั มีความซับซ้อน เพื่อสงั เคราะห์วิธกี าร และทำงาน ร่วมกนั เพ่ือใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์ เทคนิคในการแกป้ ัญหา โดยคำนึงถึงความ โดยในการทำงาน ของระบบทางเทคโนโลยี ถกู ต้องด้านทรัพยส์ นิ ทาง ปัญญา จะประกอบไปดว้ ย ตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) และ ผลผลติ (output) ที่สมั พนั ธ์กนั นอกจากนี้ ระบบทาง เทคโนโลยอี าจมีข้อมูลย้อนกลับ (feedback) เพ่อื ใชป้ รบั ปรุงการทำงานได้ตาม วตั ถุประสงค์โดยระบบทางเทคโนโลยีอาจมี ระบบย่อยหลายระบบ (sub-systems) ท่ี ทำงาน สมั พันธ์กนั อยูแ่ ละหากระบบย่อยใด ทำงาน ผดิ พลาดจะสง่ ผลตอ่ การทำงานของ ระบบอ่นื ดว้ ย • เทคโนโลยมี ีการเปลีย่ นแปลงตลอดเวลา ต้งั แต่ อดีตจนถึงปัจจบุ ัน ซ่งึ มีสาเหตหุ รอื ปจั จยั มาจากหลายดา้ น เชน่ ปญั หา ความ ตอ้ งการ ความกา้ วหนา้ ของศาสตร์ต่าง ๆ เศรษฐกิจ สงั คม วัฒนธรรม สง่ิ แวดล้อม • ปญั หาหรอื ความตอ้ งการที่มีผลกระทบต่อ สังคม เช่น ปญั หาด้านการเกษตร อาหาร พลงั งาน การขนส่ง สุขภาพและการแพทย์ การบริการ ซง่ึ แต่ละดา้ นอาจมีได้หลากหลาย ปญั หา
ช้ัน ตวั ชี้วัด 15 3. ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา โดย สาระการเรยี นร้แู กนกลาง วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ และตัดสนิ ใจเลอื ก • การวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาโดยอาจใช้ ข้อมูลทจี่ ำเปน็ ภายใตเ้ งื่อนไขและ ทรัพยากรท่มี ีอยู่ นำเสนอ แนวทางการ เทคนคิ หรือวิธกี ารวเิ คราะห์ท่ีหลากหลาย แกป้ ญั หาใหผ้ ู้อน่ื เข้าใจด้วยเทคนิค หรือ ช่วยใหเ้ ข้าใจ เงอื่ นไขและกรอบของปัญหาได้ วิธกี ารที่หลากหลาย โดยใช้ซอฟต์แวร์ ชัดเจน จากนัน้ ดำเนินการสืบค้น รวบรวม ช่วยในการออกแบบ วางแผนขั้นตอนการ ข้อมูล ความรจู้ าก ศาสตรต์ ่างๆ ที่เก่ียวข้อง ทำงาน และดำเนินการแก้ปญั หา เพ่อื นำไปสู่การออกแบบ แนวทางการ แก้ปัญหา 4. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์และให้ • การวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสนิ ใจเลอื ก เหตุผล ของปญั หาหรือข้อบกพรอ่ งท่ี ข้อมูล ท่ีจำเปน็ โดยคำนึงถงึ ทรพั ยส์ ินทาง เกดิ ขึ้นภายใต้ กรอบเง่ือนไข หาแนวทาง ปญั ญา เงื่อนไขและทรัพยากร เช่น การปรับปรงุ แก้ไข และนำเสนอผลการ งบประมาณ เวลา ขอ้ มลู และสารสนเทศ แก้ปญั หา พร้อมท้งั เสนอ แนวทางการ วสั ดุ เครอื่ งมือและอปุ กรณ์ ช่วยให้ได้แนว พฒั นาต่อยอด ทางการแกป้ ัญหาท่เี หมาะสม • การออกแบบแนวทางการแก้ปญั หาทำได้ หลากหลายวิธเี ชน่ การร่างภาพ การเขียน แผนภาพ การเขียนผงั งาน • ซอฟต์แวรช์ ่วยในการออกแบบและนำเสนอ มีหลากหลายชนิดจงึ ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับ งาน • การกำหนดขนั้ ตอนและระยะเวลาในการ ทำงาน ก่อนดำเนินการแกป้ ัญหาจะช่วยให้ การทำงาน สำเรจ็ ไดต้ ามเป้าหมาย และลด ข้อผดิ พลาดของ การทำงานท่ีอาจเกดิ ขนึ้ • การทดสอบและประเมนิ ผลเป็นการ ตรวจสอบ ชิ้นงานหรอื วธิ ีการว่าสามารถ แก้ปญั หาได้ตาม วตั ถปุ ระสงค์ภายใตก้ รอบ ของปัญหา เพ่ือหา ขอ้ บกพร่อง และ ดำเนินการปรบั ปรุง โดยอาจ ทดสอบซำ้ เพอ่ื ใหส้ ามารถแก้ไขปญั หาได้อยา่ งมี ประสิทธภิ าพ • การนำเสนอผลงานเปน็ การถ่ายทอดแนวคิด เพ่ือใหผ้ ู้อ่นื เข้าใจเก่ยี วกับกระบวนการ ทำงาน และชิ้นงานหรือวธิ กี ารท่ีไดซ้ ่ึง สามารถทำได้ หลายวธิ เี ชน่ การทำแผน่ นำเสนอผลงาน การจดั นทิ รรศการ การ นำเสนอผ่านส่อื ออนไลน์หรอื การนำเสนอต่อ
ชนั้ ตวั ชีว้ ดั 16 5. ใชค้ วามรู้และทักษะเก่ยี วกับวสั ดุ อปุ กรณ์ เครอื่ งมือ กลไก ไฟฟ้าและ สาระการเรียนร้แู กนกลาง อเิ ลก็ ทรอนิกส์ และเทคโนโลยที ี่ซบั ซ้อน ภาคธรุ กิจ เพ่อื การพัฒนาตอ่ ยอด สงู่ านอาชีพ ในการแก้ปัญหา หรือพฒั นางาน ได้อยา่ ง • วัสดุแตล่ ะประเภทมีสมบตั ิแตกต่างกนั เช่น ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภยั ไม้สังเคราะห์โลหะ จงึ ต้องมีการวิเคราะห์ สมบตั ิ เพอื่ เลือกใชใ้ ห้เหมาะสมกบั ลกั ษณะ ม.5 1. ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้และทักษะจาก ของงาน ศาสตร์ตา่ ง ๆ รวมทั้งทรัพยากรในการทำ • การสรา้ งชิ้นงานอาจใชค้ วามรู้เร่อื งกลไก โครงงานเพื่อแก้ปญั หา หรือพัฒนางาน ไฟฟา้ อเิ ล็กทรอนิกส์เชน่ LDR sensor เฟอื ง รอก คาน วงจรสำเร็จรูป ม.6 - • อปุ กรณ์และเคร่อื งมือในการสรา้ งช้ินงาน หรอื พฒั นาวิธกี ารมีหลายประเภท ต้อง เลอื กใช้ ให้ถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย รวมทั้ง รู้จักเก็บรักษา • การทำโครงงาน เป็นการประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ และทกั ษะจากศาสตร์ต่าง ๆ รวมทงั้ ทรัพยากร ในการสรา้ งหรือพัฒนาชิน้ งาน หรือวธิ ีการ เพอื่ แก้ปัญหาหรืออำนวยความ สะดวกในการทำงาน • การทำโครงงานการออกแบบและเทคโนโลยี สามารถดำเนินการไดโ้ ดยเร่ิมจาก การสำรวจ สถานการณป์ ัญหาที่สนใจ เพื่อกำหนดหวั ข้อ โครงงาน แล้วรวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่ เกย่ี วขอ้ ง กบั ปญั หาออกแบบแนวทางการ แกป้ ญั หา วางแผน และดำเนินการแก้ปัญหา ทดสอบ ประเมนิ ผล ปรับปรงุ แกไ้ ขวิธกี าร แก้ปญั หาหรือชน้ิ งาน และ นำเสนอวธิ ีการ แก้ปญั หา -
17 สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมจี ริยธรรม ช้ัน ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.1 1. แก้ปญั หาอย่างงา่ ยโดยใช้การลองผิด • การแก้ปัญหาให้ประสบความสำเรจ็ ทำไดโ้ ดย ลองถกู การเปรียบเทยี บ ใช้ ขั้นตอนการแกป้ ัญหา • ปญั หาอยา่ งง่าย เชน่ เกมเขาวงกต เกมหา จุดแตกตา่ งของภาพ การจดั หนงั สอื ใส่ กระเปา๋ 2. แสดงลำดบั ขนั้ ตอนการทำงานหรือการ • การแสดงข้ันตอนการแก้ปัญหา ทำได้โดยการ แก้ปญั หา อย่างงา่ ยโดยใชภ้ าพ สญั ลกั ษณ์ เขียน บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สัญลกั ษณ์ หรือข้อความ • ปญั หาอย่างง่าย เช่น เกมเขาวงกต เกมหาจุด แตกต่างของภาพ การจัดหนังสือใส่กระเปา๋ 3. เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ • การเขยี นโปรแกรมเป็นการสร้างลำดับของ ซอฟตแ์ วร์ หรอื สอื่ คำสงั่ ให้คอมพวิ เตอร์ทำงาน • ตวั อย่างโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรมส่งั ให้ ตัวละครยา้ ยตำแหนง่ ย่อขยายขนาดเปล่ียน รูปรา่ ง • ซอฟต์แวร์หรอื ส่ือทใ่ี ชใ้ นการเขยี นโปรแกรม เช่น ใชบ้ ัตรคำสัง่ แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org 4. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสร้าง จดั เกบ็ • การใชง้ านอุปกรณเ์ ทคโนโลยเี บื้องต้น เช่น เรยี กใช้ข้อมูล ตามวตั ถุประสงค์ การใช้ เมาสค์ ียบ์ อร์ด จอสมั ผัส การเปิด-ปิด อุปกรณ์ เทคโนโลยี • การใชง้ านซอฟต์แวรเ์ บ้อื งตน้ เช่น การเข้า และ ออกจากโปรแกรม การสร้างไฟล์การ จดั เก็บ การเรียกใชไ้ ฟล์ทำได้ในโปรแกรม เชน่ โปรแกรม ประมวลคำ โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนำเสนอ • การสร้างและจดั เกบ็ ไฟล์อยา่ งเปน็ ระบบจะ ทำให้ เรียกใช้คน้ หาข้อมูลไดง้ ่ายและรวดเรว็ 5. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติ ตามข้อตกลงในการใช้คอมพวิ เตอร์ เชน่ รู้จักข้อมูลสว่ นตวั อันตรายจากการ รว่ มกัน ดูแล รกั ษาอปุ กรณ์เบื้องต้น ใช้ เผยแพร่ ขอ้ มูลส่วนตัว และไม่บอกขอ้ มูล งานอย่างเหมาะสม ส่วนตัวกับ บคุ คลอ่ืนยกเว้นผู้ปกครองหรือครู แจ้งผูเ้ กยี่ วข้อง เม่อื ต้องการความชว่ ยเหลือ เกี่ยวกบั การใชง้ าน
ช้นั ตัวช้ีวัด 18 ป.2 1. แสดงลำดบั ข้ันตอนการทำงานหรือการ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง แก้ปัญหา อย่างงา่ ยโดยใช้ภาพ สญั ลกั ษณ์ • ข้อปฏิบตั ิในการใชง้ านและการดูแลรกั ษา หรอื ขอ้ ความ 2. เขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ อปุ กรณ์ เช่น ไมข่ ดี เขยี นบนอุปกรณท์ ำความ ซอฟต์แวร์ หรือสอ่ื และตรวจหา สะอาด ใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี ข้อผิดพลาดของโปรแกรม • การใช้งานอย่างเหมาะสม เช่น จัดท่าน่ังให้ ถูกต้อง การพกั สายตาเมื่อใช้อปุ กรณ์เปน็ 3. ใชเ้ ทคโนโลยีในการสรา้ ง จดั หมวดหมู่ เวลานาน ระมดั ระวังอบุ ตั เิ หตุจากการใช้งาน ค้นหา จัดเกบ็ เรยี กใช้ขอ้ มูลตาม • การแสดงข้นั ตอนการแก้ปัญหา ทำได้โดยการ วตั ถุประสงค์ เขยี น บอกเล่า วาดภาพ หรอื ใชส้ ัญลักษณ์ • ปัญหาอย่างง่าย เชน่ เกมตัวต่อ ๖-๑๒ ชน้ิ 4. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั การแต่งตวั มาโรงเรียน ปฏบิ ตั ิ ตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ • ตวั อย่างโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรมสั่งให้ ร่วมกัน ดแู ล รกั ษาอุปกรณ์เบ้ืองตน้ ใช้ ตวั ละครทำงานตามท่ตี ้องการ และตรวจสอบ งานอย่างเหมาะสม ขอ้ ผดิ พลาด ปรบั แก้ไขให้ไดผ้ ลลัพธ์ตามที่ กำหนด • การตรวจหาข้อผิดพลาด ทำได้โดยตรวจสอบ คำส่งั ท่แี จง้ ข้อผิดพลาด หรอื หากผลลัพธไ์ ม่ เป็นไปตาม ท่ีตอ้ งการให้ตรวจสอบการ ทำงานทีละคำส่ัง • ซอฟต์แวร์หรอื สอื่ ท่ใี ชใ้ นการเขียนโปรแกรม เช่น ใชบ้ ตั รคำส่งั แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org • การใชง้ านซอฟต์แวร์เบอื้ งตน้ เชน่ การเข้า และออกจากโปรแกรม การสรา้ งไฟล์การ จัดเกบ็ การเรียกใชไ้ ฟลก์ ารแก้ไขตกแต่ง เอกสาร ทำได้ ในโปรแกรม เช่น โปรแกรม ประมวลคำ โปรแกรมกราฟิก โปรแกรม นำเสนอ • การสรา้ ง คดั ลอก ย้าย ลบ เปล่ยี นชอ่ื จัด หมวด หมไู่ ฟลแ์ ละโฟลเดอรอ์ ย่างเป็นระบบ จะทำให้ เรียกใชค้ น้ หาข้อมูลได้ง่ายและ รวดเรว็ • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั เช่น รูจ้ ักข้อมลู สว่ นตัว อนั ตรายจากการ เผยแพร่ ข้อมูลสว่ นตัว และไม่บอกขอ้ มูล ส่วนตวั กบั บุคคล อื่นยกเวน้ ผู้ปกครองหรือครู แจง้ ผู้เก่ียวขอ้ งเม่ือ ตอ้ งการความชว่ ยเหลอื เกย่ี วกับการใชง้ าน
ช้นั ตวั ช้วี ัด 19 ป.3 1. แสดงอัลกอริทึมในการทำงานหรือการ สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง แก้ปญั หา อย่างง่ายโดยใช้ภาพ สญั ลกั ษณ์ • ข้อปฏบิ ัติในการใชง้ านและการดแู ลรักษา หรอื ขอ้ ความ อปุ กรณ์ เช่น ไม่ขีดเขียนบนอุปกรณ์ทำความ 2. เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ สะอาด ใช้อุปกรณ์อยา่ งถูกวิธี ซอฟตแ์ วร์ หรือสอื่ และตรวจหา • การใชง้ านอย่างเหมาะสม เช่น จดั ทา่ น่งั ให้ ขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม ถกู ต้อง การพักสายตาเมื่อใชอ้ ุปกรณ์เป็น เวลานาน ระมัดระวังอุบัตเิ หตุจากการใชง้ าน 3. ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ค้นหาความรู้ • อัลกอริทมึ เปน็ ข้นั ตอนทีใ่ ชใ้ นการแก้ปัญหา • การแสดงอลั กอริทึม ทำได้โดยการเขยี น บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์ • ตวั อยา่ งปัญหา เช่น เกมเศรษฐีเกมบันไดงู เกม Tetris เกม OX การเดินไปโรงอาหาร การทำความสะอาดห้องเรียน • การเขยี นโปรแกรมเปน็ การสร้างลำดับของ คำสง่ั ใหค้ อมพิวเตอรท์ ำงาน • ตวั อย่างโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรมที่สงั่ ให้ ตัวละครทำงานซำ้ ไม่สน้ิ สดุ • การตรวจหาข้อผดิ พลาด ทำได้โดยตรวจสอบ คำสั่ง ท่แี จง้ ข้อผดิ พลาด หรือหากผลลัพธ์ไม่ เป็นไปตาม ท่ีตอ้ งการใหต้ รวจสอบการ ทำงานทลี ะคำสงั่ • ซอฟต์แวรห์ รือส่ือทใี่ ชใ้ นการเขียนโปรแกรม เชน่ ใชบ้ ตั รคำส่ังแสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org • อนิ เทอร์เนต็ เปน็ เครือขา่ ยขนาดใหญ่ช่วยให้ การติดต่อสื่อสารทำไดส้ ะดวกและรวดเร็ว และเป็นแหล่งข้อมูลความรทู้ ่ีช่วยในการเรยี น และการดำเนนิ ชีวิต • เว็บเบราว์เซอรเ์ ปน็ โปรแกรมสำหรบั อา่ น เอกสาร บนเว็บเพจ • การสืบคน้ ข้อมลู บนอนิ เทอรเ์ น็ต ทำไดโ้ ดยใช้ เวบ็ ไซต์สำหรับสืบคน้ และต้องกำหนดคำคน้ ที่เหมาะสมจึงจะได้ข้อมลู ตามตอ้ งการ • ขอ้ มลู ความรู้เชน่ วธิ ที ำอาหาร วิธพี ับ กระดาษ เปน็ รปู ต่าง ๆ ข้อมลู ประวัตศิ าสตร์ ชาติไทย (อาจเปน็ ความรู้ในวชิ าอ่นื ๆ หรอื เร่อื งท่เี ป็น ประเดน็ ท่สี นใจในช่วงเวลาน้ัน)
ช้นั ตวั ชวี้ ัด 20 4. รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอ ขอ้ มลู โดยใช้ ซอฟตแ์ วรต์ ามวัตถุประสงค์ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง • การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั ควรอยู่ ใน 5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏิบตั ิ ตามข้อตกลงในการใช้อินเทอรเ์ น็ต การดูแลของครูหรือผปู้ กครอง • การรวบรวมข้อมูล ทำได้โดยกำหนดหัวขอ้ ท่ี ป.4 1. ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การอธบิ าย การทำงาน การคาดการณ์ ต้องการ เตรยี มอปุ กรณ์ในการจดบันทึก ผลลพั ธ์จากปญั หา อย่างงา่ ย • การประมวลผลอย่างงา่ ย เช่น เปรยี บเทยี บ จดั กลุ่ม เรียงลำดบั • การนำเสนอข้อมลู ทำได้หลายลกั ษณะตาม ความเหมาะสม เชน่ การบอกเล่า การทำ เอกสาร รายงาน การจดั ทำป้ายประกาศ • การใช้ซอฟต์แวร์ทำงานตามวัตถปุ ระสงค์เช่น ใชซ้ อฟต์แวร์นำเสนอ หรอื ซอฟตแ์ วร์กราฟิก สร้างแผนภมู ิรูปภาพ ใช้ซอฟตแ์ วรป์ ระมวล คำ ทำป้ายประกาศหรอื เอกสารรายงาน ใช้ ซอฟต์แวรต์ ารางทำงานในการประมวลผล ข้อมลู • การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั เชน่ ปกปอ้ งข้อมูลส่วนตัว • ขอความช่วยเหลือจากครูหรือผูป้ กครอง เมื่อ เกดิ ปัญหาจากการใชง้ าน เม่ือพบข้อมลู หรือ บคุ คลที่ทำใหไ้ ม่สบายใจ • การปฏิบัติตามข้อตกลงในการใชอ้ ินเทอร์เน็ต จะทำให้ไมเ่ กดิ ความเสียหายต่อตนเองและ ผอู้ ื่น เชน่ ไม่ใช้คำหยาบ ลอ้ เลยี น ดา่ ทอ ทำ ใหผ้ ู้อน่ื เสียหายหรือเสยี ใจ • ขอ้ ดีและข้อเสียในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร • การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะเปน็ การนำกฎเกณฑ์ หรอื เง่อื นไขทค่ี รอบคลมุ ทกุ กรณีมาใช้ พิจารณา ในการแก้ปญั หา การอธิบายการ ทำงาน หรือ การคาดการณ์ผลลพั ธ์ • สถานะเรม่ิ ต้นของการทำงานท่ีแตกตา่ งกันจะ ให้ ผลลพั ธ์ท่แี ตกตา่ งกัน • ตัวอยา่ งปญั หา เช่น เกม OX โปรแกรมทีม่ ี การคำนวณ โปรแกรมทมี่ ตี วั ละครหลายตวั และมกี ารส่ังงานท่ีแตกตา่ งหรอื มกี ารสอ่ื สาร ระหว่างกนั การเดินทางไปโรงเรียน โดย วิธีการ ตา่ ง ๆ
ช้ัน ตวั ชว้ี ดั 21 2. ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ ซอฟต์แวร์หรือส่ือ และตรวจหา สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ขอ้ ผดิ พลาด และแก้ไข • การออกแบบโปรแกรมอยา่ งง่ายเช่น การ 3. ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ คน้ หาความรแู้ ละ ออกแบบ โดยใช้storyboard หรอื การ ประเมนิ ความน่าเช่ือถือของข้อมูล ออกแบบอลั กอริทึม • การเขยี นโปรแกรมเปน็ การสร้างลำดับของ 4. รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมูลและ คำสัง่ ใหค้ อมพวิ เตอรท์ ำงาน เพื่อใหไ้ ด้ สารสนเทศ โดยใชซ้ อฟต์แวร์ท่หี ลากหลาย ผลลัพธ์ตาม ความต้องการ หากมี เพอ่ื แก้ปญั หา ในชีวติ ประจำวนั ขอ้ ผิดพลาดใหต้ รวจสอบ การทำงานทีละ คำสัง่ เมอ่ื พบจุดท่ีทำให้ผลลพั ธ์ ไมถ่ กู ต้อง ใหท้ ำการแก้ไขจนกว่าจะได้ผลลพั ธ์ ทถี่ ูกต้อง • ตวั อย่างโปรแกรมทม่ี ีเร่ืองราว เช่น นิทานทมี่ ี การโต้ตอบกบั ผใู้ ช้การ์ตนู สั้น เล่ากจิ วัตร ประจำวนั ภาพเคลือ่ นไหว • การฝกึ ตรวจหาข้อผิดพลาดจากโปรแกรม ของผู้อน่ื จะช่วยพฒั นาทักษะการหาสาเหตุ ของปญั หาไดด้ ี ยิ่งข้ึน • ซอฟต์แวรท์ ใี่ ช้ในการเขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, logo • การใช้คำค้นทีต่ รงประเดน็ กระชบั จะทำให้ ได้ ผลลัพธท์ ่ีรวดเรว็ และตรงตามความ ตอ้ งการ • การประเมินความนา่ เช่ือถือของข้อมลู เช่น พิจารณาประเภทของเว็บไซต์(หน่วยงาน ราชการ สำนกั ขา่ ว องค์กร) ผู้เขียน วันท่ี เผยแพร่ข้อมูล การอา้ งองิ • เมือ่ ไดข้ ้อมูลที่ต้องการจากเว็บไซตต์ ่าง ๆ จะตอ้ ง นำเนื้อหามาพจิ ารณา เปรยี บเทยี บ แลว้ เลือก ข้อมูลทีม่ ีความสอดคลอ้ งและ สมั พนั ธ์กนั • การทำรายงานหรือการนำเสนอข้อมูลจะต้อง นำขอ้ มูลมาเรยี บเรยี ง สรุป เป็นภาษาของ ตนเอง ท่เี หมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและ วิธีการนำเสนอ (บรู ณาการกบั วิชาภาษาไทย) • การรวบรวมข้อมูล ทำได้โดยกำหนดหัวข้อ ที่ ตอ้ งการ เตรียมอุปกรณ์ในการจดบนั ทกึ • การประมวลผลอย่างง่าย เชน่ เปรยี บเทยี บ จดั กล่มุ เรียงลำดบั การหาผลรวม
ช้นั ตวั ชว้ี ดั 22 5. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย สาระการเรยี นร้แู กนกลาง เข้าใจ สทิ ธิและหนา้ ที่ของตน เคารพ • วิเคราะห์ผลและสรา้ งทางเลือกท่เี ปน็ ไปได้ ในสิทธขิ องผู้อน่ื แจ้งผู้เกย่ี วข้องเมื่อพบ ขอ้ มลู หรือบคุ คลท่ี ไมเ่ หมาะสม ประเมนิ ทางเลอื ก (เปรยี บเทียบ ตดั สิน) • การนำเสนอข้อมลู ทำไดห้ ลายลักษณะตาม ป.5 1. ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หา การอธบิ าย การทำงาน การคาดการณ์ ความ เหมาะสม เชน่ การบอกเล่า ผลลพั ธจ์ ากปัญหา อยา่ งง่าย เอกสารรายงาน โปสเตอรโ์ ปรแกรมนำเสนอ • การใชซ้ อฟตแ์ วรเ์ พื่อแกป้ ัญหาใน ชวี ิตประจำวัน เช่น การสำรวจเมนอู าหาร กลางวันโดยใช้ ซอฟต์แวรส์ รา้ งแบบสอบถาม และเก็บขอ้ มลู ใช้ ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน เพอ่ื ประมวลผลขอ้ มูล รวบรวมข้อมูล เกย่ี วกบั คุณค่าทางโภชนาการและ สร้าง รายการอาหารสำหรับ ๕ วนั ใชซ้ อฟต์แวร์ นำเสนอผลการสำรวจรายการอาหารท่ีเปน็ ทางเลอื กและข้อมูลด้านโภชนาการ • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เขา้ ใจ สิทธิและหน้าท่ขี องตน เคารพในสิทธิ ของผู้อ่นื เชน่ ไม่สรา้ งข้อความเท็จและสง่ ให้ ผู้อ่นื ไม่สรา้ ง ความเดอื ดร้อนต่อผู้อื่นโดยการ ส่งสแปม ขอ้ ความลูกโซ่ส่งต่อโพสต์ทม่ี ขี ้อมูล สว่ นตัวของผอู้ ่นื ส่งคำเชิญเล่นเกม ไมเ่ ข้าถงึ ข้อมูลส่วนตัวหรือ การบา้ นของบคุ คลอน่ื โดย ไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต ไม่ใช้ เคร่อื งคอมพิวเตอร/์ ช่ือบัญชีของผู้อน่ื • การสอื่ สารอย่างมมี ารยาทและรู้กาลเทศะ • การปกป้องข้อมลู ส่วนตวั เช่น การออกจาก ระบบ เมอื่ เลกิ ใชง้ าน ไมบ่ อกรหัสผา่ น ไม่ บอกเลข ประจำตวั ประชาชน • การใช้เหตุผลเชิงตรรกะเปน็ การนำกฎเกณฑ์ หรอื เงื่อนไขท่ีครอบคลมุ ทุกกรณีมาใช้ พจิ ารณาในการ แก้ปัญหาการอธิบายการ ทำงาน หรือการคาดการณ์ ผลลพั ธ์ • สถานะเรม่ิ ตน้ ของการทำงานท่ีแตกต่างกันจะ ให้ ผลลัพธ์ทแี่ ตกตา่ งกัน • ตัวอย่างปัญหา เช่น เกม Sudoku โปรแกรม ทำนายตวั เลข โปรแกรมสรา้ งรูปเรขาคณติ ตามค่าข้อมลู เข้า การจัดลำดับการทำงาน บ้าน ในชว่ งวนั หยดุ จัดวางของในครวั
ช้ัน ตวั ชวี้ ดั 23 2. ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมทีม่ กี ารใช้ เหตผุ ล เชงิ ตรรกะอย่างง่าย ตรวจหา สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ข้อผิดพลาด และแกไ้ ข • การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดย 3. ใช้อินเทอร์เนต็ ค้นหาข้อมลู เขยี น เป็นขอ้ ความหรือผงั งาน ตดิ ตอ่ ส่อื สาร และทำงานรว่ มกนั ประเมนิ • การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่มี ีการ ความนา่ เชื่อถือ ของข้อมลู ตรวจสอบ เง่ือนไขที่ครอบคลมุ ทกุ กรณี เพื่อใหไ้ ดผ้ ลลัพธ์ ที่ถูกต้องตรงตามความ ต้องการ • หากมขี ้อผดิ พลาดใหต้ รวจสอบการทำงาน ที ละคำส่งั เม่ือพบจุดทีท่ ำใหผ้ ลลัพธ์ไมถ่ ูกต้อง ให้ทำการแก้ไขจนกวา่ จะไดผ้ ลลัพธ์ทีถ่ ูกต้อง • การฝกึ ตรวจหาข้อผดิ พลาดจากโปรแกรม ของ ผอู้ ืน่ จะช่วยพฒั นาทักษะการหาสาเหตุ ของ ปัญหาได้ดีย่งิ ขน้ึ • ตัวอยา่ งโปรแกรม เช่น โปรแกรมตรวจสอบ เลขคู่ เลขค่ี โปรแกรมรับข้อมูลน้ำหนักหรอื สว่ นสูง แล้วแสดงผลความสมสว่ นของ รา่ งกาย โปรแกรม สั่งให้ตวั ละครทำตาม เงอ่ื นไขที่กำหนด • ซอฟตแ์ วรท์ ่ใี ช้ในการเขียนโปรแกรม เชน่ Scratch, logo • การคน้ หาข้อมลู ในอนิ เทอรเ์ น็ต และการ พจิ ารณา ผลการคน้ หา • การตดิ ต่อสื่อสารผ่านอนิ เทอร์เนต็ เช่น อเี มล บล็อก โปรแกรมสนทนา • การเขยี นจดหมาย (บรู ณาการกับวชิ า ภาษาไทย) • การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตในการติดต่อสอ่ื สารและ ทำงาน รว่ มกนั เช่น ใช้นดั หมายในการ ประชุมกลุ่ม ประชาสมั พันธก์ ิจกรรมใน หอ้ งเรียน การแลกเปลี่ยน ความร้คู วาม คดิ เห็นในการเรยี น ภายใต้การดูแล ของครู • การประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของข้อมลู เช่น เปรยี บเทยี บความสอดคล้อง สมบรู ณข์ อง ข้อมลู จากหลายแหล่ง แหลง่ ต้นตอของ ขอ้ มูล ผ้เู ขียน วนั ท่ีเผยแพรข่ ้อมลู • ขอ้ มูลท่ีดตี อ้ งมรี ายละเอยี ดครบทุกดา้ น เชน่ ขอ้ ดี และข้อเสีย ประโยชน์และโทษ
ช้นั ตัวช้วี ดั 24 4. รวบรวม ประเมิน นำเสนอขอ้ มลู และ สารสนเทศ ตามวัตถปุ ระสงค์โดยใช้ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ซอฟต์แวร์หรอื บรกิ าร บนอินเทอรเ์ นต็ ท่ี • การรวบรวมข้อมูล ประมวลผล สร้าง หลากหลาย เพอ่ื แก้ปญั หา ใน ชีวติ ประจำวัน ทางเลือก ประเมนิ ผล จะทำใหไ้ ดส้ ารสนเทศ เพือ่ ใชใ้ นการ แกป้ ัญหาหรือการตดั สินใจได้ 5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ มมี ารยาท เข้าใจสิทธแิ ละหน้าที่ของตน • การใช้ซอฟต์แวรห์ รือบริการบนอินเทอร์เนต็ เคารพในสิทธขิ อง ผู้อ่นื แจง้ ผู้เกย่ี วข้อง ทีห่ ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล เมือ่ พบข้อมลู หรือบุคคล ที่ไม่เหมาะสม สรา้ งทางเลอื ก ประเมนิ ผล นำเสนอ จะชว่ ย ป.6 1. ใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการอธบิ ายและ ให้ การแก้ปัญหาทำได้อย่างรวดเร็ว ถกู ต้อง ออกแบบ วธิ กี ารแก้ปัญหาที่พบใน และ แมน่ ยำ ชีวิตประจำวัน • ตัวอย่างปญั หา เช่น ถ่ายภาพ และสำรวจ แผนท่ี ในทอ้ งถ่ินเพ่อื นำเสนอแนวทางในการ จดั การ พ้นื ท่ีวา่ งให้เกิดประโยชน์ทำแบบ สำรวจความ คดิ เหน็ ออนไลน์และวเิ คราะห์ ข้อมลู นำเสนอข้อมูล โดยการใช้blog หรอื web page • อนั ตรายจากการใชง้ านและอาชญากรรม ทางอนิ เทอร์เนต็ • มารยาทในการตดิ ต่อสอื่ สารผ่านอินเทอรเ์ นต็ (บรู ณาการกับวิชาทีเ่ กี่ยวข้อง) • การแก้ปัญหาอย่างเปน็ ขัน้ ตอนจะชว่ ยให้ แก้ปญั หา ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ • การใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะเป็นการนำกฎเกณฑ์ หรอื เงอ่ื นไขที่ครอบคลมุ ทุกกรณีมาใช้ พจิ ารณา ในการแก้ปัญหา • แนวคดิ ของการทำงานแบบวนซำ้ และ เงือ่ นไข • การพิจารณากระบวนการทำงานทม่ี ีการ ทำงาน แบบวนซ้ำหรือเงอ่ื นไขเป็นวิธกี ารที่ จะชว่ ย ใหก้ ารออกแบบวิธีการแก้ปัญหา เปน็ ไปอย่างมี ประสิทธภิ าพ • ตวั อย่างปัญหา เช่น การคน้ หาเลขหนา้ ที่ ตอ้ งการ ให้เรว็ ทส่ี ดุ การทายเลข ๑- ๑,๐๐๐,๐๐๐ โดย ตอบให้ถูกภายใน ๒๐ คำถาม การคำนวณเวลา ในการเดนิ ทาง โดย คำนึงถึงระยะทาง เวลา จุดหยุดพกั
ช้นั ตวั ชว้ี ัด 25 2. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย เพ่ือ แกป้ ญั หาในชวี ิตประจำวนั ตรวจหา สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ขอ้ ผิดพลาด ของโปรแกรมและแก้ไข • การออกแบบโปรแกรมสามารถทำไดโ้ ดย 3. ใช้อนิ เทอร์เน็ตในการคน้ หาข้อมลู อยา่ ง เขียน เป็นข้อความหรอื ผังงาน มี ประสิทธภิ าพ • การออกแบบและเขียนโปรแกรมทม่ี กี ารใช้ 4. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทำงานรว่ มกนั ตัวแปร การวนซ้ำ การตรวจสอบเงื่อนไข อยา่ ง ปลอดภัย เข้าใจสิทธแิ ละหน้าทีข่ อง • หากมขี ้อผิดพลาดใหต้ รวจสอบการทำงานที ตน เคารพ ในสทิ ธิของผู้อืน่ แจ้ง ผเู้ กย่ี วข้องเม่ือพบข้อมูล หรือบคุ คลที่ไม่ ละ คำสง่ั เม่ือพบจดุ ท่ที ำใหผ้ ลลัพธไ์ มถ่ ูกต้อง เหมาะสม ให้ทำการแก้ไขจนกวา่ จะได้ผลลัพธ์ที่ถกู ต้อง • การฝกึ ตรวจหาข้อผิดพลาดจากโปรแกรม ม.1 1. ออกแบบอัลกอริทึมทีใ่ ช้แนวคดิ เชงิ ของ ผอู้ ื่นจะชว่ ยพฒั นาทักษะการหาสาเหตุ นามธรรม เพื่อแก้ปัญหาหรอื อธบิ ายการ ของปญั หา ได้ดีย่งิ ขึ้น ทำงานท่ีพบใน ชวี ติ จริง • ตัวอยา่ งโปรแกรม เช่น โปรแกรมเกม โปรแกรม หาคา่ ค.ร.น. เกมฝึกพมิ พ์ • ซอฟต์แวรท์ ีใ่ ช้ในการเขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, logo • การค้นหาอย่างมีประสิทธิภาพ เปน็ การ คน้ หา ข้อมลู ทไ่ี ด้ตรงตามความตอ้ งการใน เวลาทีร่ วดเรว็ จากแหล่งขอ้ มูลทนี่ ่าเชอ่ื ถือ หลายแหล่ง และข้อมูล มีความสอดคล้องกนั • การใช้เทคนิคการคน้ หาขั้นสูง เช่น การใช้ ตวั ดำเนินการ การระบุรปู แบบของข้อมลู หรือ ชนิดของไฟล์ • การจัดลำดับผลลัพธจ์ ากการค้นหาของ โปรแกรม คน้ หา • การเรยี บเรยี ง สรุปสาระสำคัญ (บรู ณาการ กบั วชิ าภาษาไทย) • อนั ตรายจากการใช้งานและอาชญากรรม ทางอินเทอรเ์ นต็ แนวทางในการปอ้ งกัน • วิธกี ำหนดรหสั ผ่าน • การกำหนดสิทธก์ิ ารใชง้ าน (สิทธิ์ในการ เขา้ ถึง) • แนวทางการตรวจสอบและป้องกนั มัลแวร์ • อนั ตรายจากการติดต้ังซอฟต์แวรท์ อ่ี ย่บู น อินเทอรเ์ นต็ • แนวคดิ เชงิ นามธรรม เปน็ การประเมิน ความสำคัญ ของรายละเอียดของปญั หา แยกแยะส่วนท่ีเปน็ สาระสำคัญออกจากสว่ น ทไ่ี ม่ใชส่ าระสำคัญ
ช้ัน ตวั ช้วี ัด 26 2. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย สาระการเรยี นรู้แกนกลาง เพ่ือแก้ปัญหาทางคณิตศาสตรห์ รือ • ตัวอยา่ งปัญหา เชน่ ต้องการปหู ญ้าในสนาม วิทยาศาสตร์ ตามพน้ื ท่ที ี่กำหนด โดยหญ้าหนงึ่ ผืนมีความ 3. รวบรวมขอ้ มลู ปฐมภูมปิ ระมวลผล กวา้ ง ๕๐ เซนตเิ มตร ยาว ๕๐ เซนตเิ มตร ประเมนิ ผล นำเสนอข้อมลู และ จะใช้หญ้า ทง้ั หมดกผ่ี ืน สารสนเทศตามวตั ถปุ ระสงค์ โดยใช้ • การออกแบบและเขยี นโปรแกรมท่มี กี ารใช้ ซอฟต์แวรห์ รอื บริการบนอินเทอรเ์ น็ต ที่ ตัวแปร เงอ่ื นไข วนซ้ำ หลากหลาย • การออกแบบอลั กอริทึม เพื่อแกป้ ัญหา ทาง คณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์อยา่ งง่าย อาจใช้ แนวคดิ เชิงนามธรรมในการออกแบบ เพ่ือให้ การแกป้ ัญหามีประสิทธภิ าพ • การแกป้ ัญหาอยา่ งเปน็ ขั้นตอนจะชว่ ยให้ แก้ปญั หา ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ • ซอฟต์แวร์ท่ีใช้ในการเขยี นโปรแกรม เชน่ Scratch, python, java, c • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรมสมการ การ เคลื่อนที่ โปรแกรมคำนวณหาพน้ื ที่ โปรแกรมคำนวณดชั นีมวลกาย • การรวบรวมข้อมลู จากแหลง่ ข้อมลู ปฐมภูมิ ประมวลผล สรา้ งทางเลอื ก ประเมินผล จะ ทำให้ ได้สารสนเทศเพ่ือใชใ้ นการแกป้ ัญหา หรอื การ ตัดสินใจไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ • การประมวลผลเปน็ การกระทำกับข้อมลู เพ่อื ให้ ได้ผลลัพธท์ มี่ ีความหมายและมี ประโยชนต์ อ่ การนำไปใชง้ าน สามารถทำได้ หลายวิธเี ชน่ คำนวณอตั ราส่วน คำนวณ ค่าเฉลี่ย • การใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือบริการบนอนิ เทอรเ์ น็ต ที่หลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมินผล นำเสนอ จะช่วย ให้ แกป้ ัญหาไดอ้ ย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และ แมน่ ยำ • ตวั อยา่ งปัญหา เนน้ การบรู ณาการกบั วิชาอื่น เช่น ต้มไข่ใหต้ รงกับพฤติกรรมการบรโิ ภคค่า ดชั นี มวลกายของคนในท้องถิ่น การสร้าง กราฟ ผลการทดลองและวิเคราะหแ์ นวโนม้
ช้นั ตวั ชีว้ ัด 27 4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ใชส้ ่ือ และแหล่งข้อมูลตามข้อกำหนดและ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ขอ้ ตกลง • ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เช่น ม.2 1. ออกแบบอัลกอริทมึ ท่ใี ช้แนวคดิ เชงิ การปกป้องความเปน็ ส่วนตัวและอตั ลักษณ์ คำนวณ ในการแก้ปญั หา หรือการทำงาน • การจัดการอัตลักษณเ์ ชน่ การตงั้ รหสั ผ่าน ทพี่ บในชีวติ จรงิ การปกป้องข้อมูลส่วนตวั 2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมทีใ่ ช้ • การพจิ ารณาความเหมาะสมของเนอื้ หา เช่น ตรรกะ และฟงั กช์ ันในการแก้ปญั หา ละเมดิ ความเป็นส่วนตัวผ้อู ื่น อนาจาร 3. อภิปรายองค์ประกอบและหลักการ วจิ ารณ์ ผอู้ ่นื อย่างหยาบคาย ทำงานของ ระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละ • ข้อตกลง ขอ้ กำหนดในการใช้ส่ือหรือ เทคโนโลยีการสือ่ สาร เพ่ือประยุกตใ์ ช้งาน แหล่งข้อมลู ตา่ ง ๆ เชน่ Creative หรอื แก้ปญั หาเบือ้ งต้น commons 4. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั • แนวคดิ เชิงคำนวณ มีความ รับผิดชอบ สร้างและแสดงสทิ ธใิ น • การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ การเผยแพร่ ผลงาน • ตวั อยา่ งปญั หา เช่น การเข้าแถวตามลำดับ ความสงู ให้เรว็ ทีส่ ดุ จดั เรียงเส้ือให้หาได้งา่ ย ทส่ี ุด • ตัวดำเนนิ การบลู ีน • ฟังกช์ นั • การออกแบบและเขยี นโปรแกรมที่มีการใช้ ตรรกะ และฟงั กช์ นั • การออกแบบอลั กอรทิ ึม เพ่ือแก้ปญั หาอาจใช้ แนวคดิ เชงิ คำนวณในการออกแบบ เพอ่ื ให้ การแกป้ ัญหามปี ระสทิ ธิภาพ • การแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ขั้นตอนจะช่วยให้ แกป้ ัญหา ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ • ซอฟตแ์ วร์ท่ใี ชใ้ นการเขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c • ตวั อยา่ งโปรแกรม เช่น โปรแกรมตัดเกรด หา คำตอบท้งั หมดของอสมการหลายตัวแปร • องคป์ ระกอบและหลกั การทำงานของระบบ คอมพวิ เตอร์ • เทคโนโลยีการสือ่ สาร • การประยุกตใ์ ช้งานและการแกป้ ญั หา เบอื้ งต้น • ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย โดย เลือก แนวทางปฏิบัติเมือ่ พบเนือ้ หาท่ีไม่ เหมาะสม เช่น แจ้งรายงานผู้เก่ยี วข้อง
ช้นั ตวั ชว้ี ดั 28 ม.3 1. พัฒนาแอปพลเิ คชันท่ีมกี ารบรู ณาการ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง กบั วิชาอื่น อยา่ งสร้างสรรค์ ป้องกันการเขา้ มาของ ข้อมูลท่ีไม่เหมาะสม ไมต่ อบโต้ไมเ่ ผยแพร่ 2. รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมนิ ผล • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความ นำเสนอ ข้อมลู และสารสนเทศตาม รับผดิ ชอบ เชน่ ตระหนักถงึ ผลกระทบในการ วัตถปุ ระสงค์โดยใช้ ซอฟต์แวร์หรอื บรกิ าร เผยแพร่ข้อมลู บนอินเทอรเ์ นต็ ที่ หลากหลาย • การสร้างและแสดงสทิ ธ์ิความเปน็ เจา้ ของ ผลงาน • การกำหนดสิทธิการใช้ข้อมลู • ขัน้ ตอนการพฒั นาแอปพลิเคชัน • Internet of Things (IoT) • ซอฟต์แวรท์ ี่ใชใ้ นการพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น Scratch, python, java, c, AppInventor • ตัวอย่างแอปพลเิ คชัน เชน่ โปรแกรมแปลง สกุลเงิน โปรแกรมผนั เสยี งวรรณยุกต์ โปรแกรม จำลองการแบ่งเซลลร์ ะบบรดน้ำ อัตโนมัติ • การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมลู ปฐมภมู ิ และ ทตุ ยิ ภมู ิประมวลผล สร้างทางเลอื ก ประเมนิ ผล จะทำใหไ้ ด้สารสนเทศเพ่ือใช้ใน การแกป้ ัญหา หรือการตดั สนิ ใจได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ • การประมวลผลเป็นการกระทำกบั ข้อมูล เพื่อให้ได้ ผลลัพธท์ ่ีมีความหมายและมี ประโยชนต์ ่อการ นำไปใชง้ าน • การใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รอื บริการบนอินเทอรเ์ น็ต ที่หลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้างทางเลอื ก ประเมินผล นำเสนอ จะชว่ ย ให้ แก้ปญั หาได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และ แมน่ ยำ • ตวั อย่างปญั หา เชน่ การเลือกโปรโมชนั โทรศัพท์ ใหเ้ หมาะกับพฤติกรรมการใช้งาน สนิ ค้าเกษตร ท่ีตอ้ งการและสามารถปลูกได้ ในสภาพดนิ ของ ท้องถ่ิน
ชนั้ ตวั ช้วี ัด 29 3. ประเมนิ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล วิเคราะห์สื่อ และผลกระทบจากการให้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ข่าวสารทีผ่ ิด เพ่ือการ ใช้งานอย่างรูเ้ ทา่ • การประเมนิ ความน่าเช่ือถือของข้อมลู เชน่ ทัน ตรวจสอบและยืนยันข้อมลู โดยเทยี บเคียง 4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั จาก ข้อมูลหลายแหล่ง แยกแยะข้อมูลท่ีเปน็ และมี ความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ปฏิบัติ ขอ้ เทจ็ จริง และข้อคิดเห็น หรอื ใชP้ ROMPT ตามกฎหมาย เก่ียวกับคอมพิวเตอรใ์ ช้ • การสบื ค้น หาแหลง่ ต้นตอของข้อมลู ลขิ สิทธข์ิ องผู้อ่นื โดยชอบธรรม • เหตุผลวิบัติ(logical fallacy) • ผลกระทบจากข่าวสารทผี่ ิดพลาด ม.4 1. ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการ • การรู้เทา่ ทันส่ือ เช่น การวิเคราะหถ์ ึง พัฒนา โครงงานที่มกี ารบูรณาการกับวชิ า จุดประสงค์ ของข้อมูลและผูใ้ ห้ข้อมลู ตคี วาม อนื่ อยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละเช่ือมโยงกบั ชวี ิต แยกแยะเน้ือหา สาระของส่ือ เลือกแนว จริง ปฏบิ ตั ิไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เมื่อพบข้อมูลตา่ ง ๆ ม.5 1. รวบรวม วิเคราะหข์ อ้ มูล และใชค้ วามรู้ ดา้ นวิทยาการคอมพิวเตอร์ส่ือดิจิทัล • การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย เทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปัญหา เช่น การทำธรุ กรรมออนไลนก์ ารซ้อื สินค้า หรือเพ่มิ มูลค่า ให้กับบรกิ ารหรือ ซอื้ ซอฟต์แวร์คา่ บริการสมาชิก ซือ้ ไอเท็ม ผลิตภัณฑ์ทีใ่ ช้ในชวี ติ จรงิ อย่างสรา้ งสรรค์ • การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งมีความ รับผดิ ชอบ เช่น ไม่สร้างขา่ วลวง ไมแ่ ชร์ ขอ้ มูลโดยไมต่ รวจสอบ ข้อเท็จจริง • กฎหมายเก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์ • การใชล้ ิขสทิ ธิ์ของผู้อน่ื โดยชอบธรรม (fair use) • การพฒั นาโครงงาน • การนำแนวคดิ เชิงคำนวณไปพัฒนาโครงงาน ทเ่ี กยี่ วกบั ชีวติ ประจำวนั เช่น การจัด การพลงั งาน อาหาร การเกษตร การตลาด การค้าขาย การทำธุรกรรม สุขภาพ และ สิง่ แวดลอ้ ม • ตวั อยา่ งโครงงาน เชน่ ระบบดูแลสขุ ภาพ ระบบ อัตโนมัติควบคุมการปลกู พืช ระบบจดั เส้นทาง การขนสง่ ผลผลิตระบบแนะนำการ ใชง้ านหอ้ งสมดุ ท่ีมีการโตต้ อบกับผูใ้ ช้และ เชอื่ มตอ่ กับฐานข้อมูล • การนำความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่อื ดจิ ิทัลและเทคโนโลยสี ารสนเทศ มาใช้ แก้ปญั หา กับชวี ติ จริง
ชัน้ ตวั ชวี้ ดั 30 ม.6 1. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง และ แบง่ ปันข้อมูลอย่างปลอดภัย มี • การเพ่ิมมลู คา่ ให้บรกิ ารหรอื ผลิตภณั ฑ์ จริยธรรม และ วิเคราะหก์ ารเปลี่ยนแปลง • การเกบ็ ข้อมลู และการจัดเตรียมขอ้ มลู ให้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ที่มผี ลต่อการ ดำเนนิ ชีวิต อาชพี สังคม และ วฒั นธรรม พรอ้ ม กับการประมวลผล • การวเิ คราะห์ข้อมูลทางสถิติ • การประมวลผลข้อมูล และเครอ่ื งมือ • การทำข้อมลู ให้เปน็ ภาพ (data visualization) เชน่ bar chart, scatter, histogram • การเลอื กใชแ้ หลง่ ข้อมูล เช่น data.go.th, wolfram alpha, OECD.org, ตลาด หลักทรัพย,์ world economic forum • คุณคา่ ของข้อมูลและกรณีศึกษา • กรณีศึกษาและวิธกี ารแก้ปัญหา • ตวั อย่างปัญหา เช่น - รปู แบบของบรรจุภณั ฑ์ ที่ดงึ ดดู ความสนใจ และ ตรงตามความ ต้องการผู้ใชใ้ นแตล่ ะประเภท - การกำหนด ตำแหนง่ ป้ายรถเมลเ์ พื่อลดเวลา เดินทางและ ปญั หาการจราจร - สำรวจความต้องการ รบั ประทานอาหาร ในชมุ ชน และเลือกขาย อาหารทจ่ี ะได้กำไรสงู สดุ - ออกแบบรายการ อาหาร ๗ วัน สำหรับผปู้ ว่ ย เบาหวาน • การนำเสนอและแบ่งปนั ข้อมูล เชน่ การ เขียน บลอ็ ก อัปโหลดวิดโี อ ภาพอินโฟ กราฟิก • การนำเสนอและแบ่งปนั ข้อมูลอย่างปลอดภยั เชน่ ระมดั ระวังผลกระทบท่ตี ามมา เมื่อมี การ แบง่ ปันข้อมูลหรือเผยแพรข่ ้อมูล ไม่ สร้าง ความเดอื ดร้อนต่อตนเองและผ้อู น่ื • จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ • เทคโนโลยีเกิดใหมแ่ นวโนม้ ในอนาคต การ เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี • นวตั กรรมหรอื เทคโนโลยีดา้ นต่าง ๆ ท่ี เก่ยี วขอ้ ง กับชีวิตประจำวนั • อาชพี เกย่ี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ • ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศต่อการ ดำเนินชวี ติ อาชพี สังคม และวฒั นธรรม
31 1.6 คำอธิบายรายวิชา ในกลุ่มสาระการเรียนรูท้ ีส่ ัมพันธก์ บั สาขาวชิ าของนกั ศกึ ษา คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน ว20103 วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศกึ ษาแนวคดิ เชิงคำนวณ การแก้ปญั หาโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ การเขยี นโปรแกรมท่ีมกี ารใช้ตรรกะ และฟังก์ชัน องค์ประกอบและหลักการทางานของระบบคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสื่อสาร แนวทางการปฏิบัติ เมือ่ พบเนื้อหาที่ไมเ่ หมาะสม การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งมีความรับผิดชอบ วธิ ีการสร้างและกำหนดสิทธิ ความเป็นเจ้าของผลงาน นำแนวคดิ เชิงคำนวณไปประยุกต์ใช้ในการเขยี นโปรแกรมหรือการแก้ปญั หาในชีวติ จรงิ สรา้ งและ กำหนดสิทธิ์การใช้ข้อมูล ตระหนกั ถึงผลกระทบในการเผยแพร่ข้อมูล ตวั ชว้ี ดั ว 4.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 รวมทั้งหมด 4 ตัวช้ีวดั
32 คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน ว20105 วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษาขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน Internet of Things (IoT) การเขียนโปรแกรมเพื่อพัฒนา แอปพลเิ คชนั ข้อมูลปฐมภมู ิและทุติยภูมิ การประมวลผลข้อมลู การสรา้ งทางเลือกและประเมินผล ซอฟต์แวร์ หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในการจัดการข้อมูล การประเมินการความน่าเชื่อถือของข้อมูลการสืบค้นหา แหล่งต้นตอของข้อมูล เหตุผลวิวัติ ผลกระทบจากข่าวสารที่ผิดพลาด การรู้เท่าทันสื่อ กฎหมายที่เกี่ยวกับ คอมพวิ เตอร์ การใชล้ ขิ สิทธิ์ของ ผอู้ ื่นโดยชอบธรรม รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิหรือทุติยภูมิ ประมวลผล สร้างทางเลือก และนำเสนอการตัดสินใจได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ออกแบบและเขียนโปรแกรม เพ่ือพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีการบูรณาการกับวิชาอื่น อย่างสรา้ งสรรค์ ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ อยา่ งรู้เท่าทนั และมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ตวั ชว้ี ัด ว 4.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4 ว 4.2 ม.3/1 พฒั นาแอปพลเิ คชันท่มี กี ารบูรณาการกบั วชิ าอืน่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ว 4.2 ม.3/2 รวบรวมขอ้ มลู ประมวลผล ประเมินผล นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรือบริการบนอินเทอร์เนต็ ท่หี ลากหลาย ว 4.2 ม.3/3 ประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถอื ของข้อมลู วเิ คราะห์ส่ือและผลกระทบจากการให้ขา่ วสารท่ผี ดิ เพื่อการใช้งาน อยา่ งรเู้ ทา่ ทัน ว 4.2 ม.3/4 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัยและมีความรับผดิ ชอบต่อสังคม ปฏิบตั ติ าม กฎหมายเก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์ ใช้ลิขสิทธ์ขิ องผอู้ ่ืนโดยชอบธรรม รวมทั้งหมด 4 ตัวชี้วัด
33 1.7 โครงสรา้ งรายวชิ า (นำเสนอเฉพาะหน่วยการเรียนรู้ทใี่ ช้ในการทดลองสอนจรงิ และสัมพนั ธ์กบั สาขาวิชาเอกของนักศึกษา) โครงสร้างรายวิชา ง20103 วทิ ยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ท่ี ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั / เวลา นำ้ หนกั เรียนรู้ เรียนรู้ / ตัวช้ีวดั ความคิดรวบยอด (ชัว่ โมง) คะแนน ว 4.2 ม.2/1 1. แนวคิดเชิงคำนวณ การใช้ชีวิตประจำวัน นักเรยี น 2 10 ว 4.2 ม.2/2 อาจพบสถานการณ์ทซี่ บั ซ้อน 4 2. การแก้ปญั หาด้วย และเปน็ ปญั หา ไม่สามารถคดิ 10 ภาษาไพทอน ว 4.2 ม.2/2 หาวธิ กี ารแก้ปญั หาไดโ้ ดยงา่ ย 4 หากนกั เรียนแบ่งปัญหาท่ี 10 3 การแกป้ ญั หาด้วย ซบั ซ้อนใหเ้ ป็นปัญหายอ่ ยอาจ Scratch ทำใหเ้ ข้าใจปญั หาและ สามารถออกแบบวิธีการ แกป้ ัญหา ไดง้ า่ ยข้นึ ภาษาโปรแกรม คอมพวิ เตอร์ระดับสงู (High-level programming language) เป็นเคร่ืองมือท่ีอำนวยความ สะดวกในการเขยี น โปรแกรม เชน่ Java, C/C++, C#, Ruby และ Python เป็นต้น โดยเปน็ ภาษาทถ่ี ูกออกแบบมา สำหรับมนษุ ยใ์ นการแปลง ความคิดของการแกป้ ัญหา ออกมาเปน็ ลำดบั ข้นั ตอน ต่าง ๆ ท่ีชัดเจนใหอ้ ยู่ใน รูปแบบของชุดคำส่ัง โปรแกรมภาษา ทผี่ เู้ รียน สามารถสร้างช้ินงานได้ อยา่ งงา่ ย เช่น นิทานที่
4 หลกั การทำงานของ ว 4.2 ม.2/3 สามารถโตต้ อบกบั ผอู้ ่านได้ 4 34 ระบบคอมพิวเตอร์ ด้วยภาพเคลื่อนไหว เกม 2 10 ดนตรี และศิลปะและเมือ่ 2 10 5 เทคโนโลยกี าร ว 4.2 ม.2/3 สรา้ งเป็นชน้ิ งานเสรจ็ แลว้ 10 ส่ือสาร สามารถนำชนิ้ งานที่ สร้างสรรค์น้ีแสดงและ 6 การใชเ้ ทคโนโลยี ว 4.2 ม.2/4 แลกเปลยี่ นความคิดเหน็ สารสนเทศอยา่ งมี ร่วมกับผอู้ นื่ บนเวบ็ ไซต์ได้ ความรับผดิ ชอบ เรมิ่ จากผ้ใู ชท้ ำการกรอก ขอ้ มูลหรือคำสั่งผา่ นทาง อปุ กรณร์ บั ข้อมูลรบั ข้อมลู คอมพิวเตอรจ์ ะรับข้อมูล และคำสง่ั ผ่านอุปกรณ์ นำเขา้ ข้อมูลและคำส่งั คือ คียบ์ อรด์ เมาส์ และ สแกนเนอร์ เป็นตน้ 2. ประมวลผลขอ้ มลู หรือ CPU (Central Processing Unit) ใช้คำนวณและ ประมวลผลคำสงั่ ต่างๆ ตาม โปรแกรมทีก่ ำหนด เทคโนโลยคี อมพิวเตอรซ์ ึ่ง เป็นเครอื่ งมือทชี่ ่วย ประมวลผลข้อมลู ให้ไดม้ า ซึ่งสารสนเทศ โดยระบบ คอมพวิ เตอรป์ ระกอบด้วย องคป์ ระกอบหลักทส่ี ำคัญ คอื ฮาร์ดแวร์ หรอื ตัวเคร่ือง และอุปกรณร์ อบขา้ ง ซอฟตแ์ วร์หรือโปรแกรม และผทู้ ำงานทตี่ ้องการ ทำงานอย่างสมั พันธก์ ัน หลกั ศีลธรรมจรรยาท่ี กำหนดข้นึ เพอ่ื ใช้เป็น ่ แนวทางปฏิบตั ิ หรอื ควบคุม การใชร้ ะบบคอมพวิ เตอร์ และสารสนเทศความสำคัญ คือ จรรยาบรรณการใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศทำให้ 18 35 การใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ เปน็ ไป อยา่ งสงบสุข ไมเ่ กิดปญั หา 1 60 การละเมดิ ลิขสทิ ธิ์ 1 20 อาชญากรรม การขโมย 20 20 ผลงานของคนอืน่ การมี 100 ความเป็นสว่ นตวั และการใช้ งานอินเทอร์เน็ตไมส่ รา้ ง ความรำคาญหรือรบกวนคน อื่น เปน็ ตน้ ทำให้สังคมเปน็ สขุ ระหวา่ งภาคเรยี น กลางภาคเรยี น ปลายภาคเรียน รวมตลอดภาคเรียน
36 โครงสรา้ งรายวิชา ว20105 วิทยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ท่ี ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั / เวลา น้ำหนกั เรยี นรู้ เรยี นรู้ / ตัวชว้ี ดั ความคิดรวบยอด (ชวั่ โมง) คะแนน ว 4.2 ม.3/1 1. การพัฒนาแอป ในการพัฒนาแอปพลเิ คชนั 2 10 พลิเคชัน ว 4.2 ม.3/2 หรือซอฟต์แวร์คอมพวิ เตอร์ 4 ถา้ เรามีการวางแผนพฒั นา 10 2 การแกป้ ัญหาดว้ ย อย่างเป็นระบบ โดยใช้ ภาษาไพทอน เครื่องมือมาช่วยวางแผนและ ติดตามความกา้ วหน้าของงาน ทท่ี ำจะช่วยใหพ้ ฒั นา ซอฟตแ์ วร์ไดต้ รงตามความ ตอ้ งการของผ้ใู ช้ได้อยา่ ง ครบถว้ นและลดความ ผดิ พลาดที่อาจเกดิ ขน้ึ รวมถงึ ช่วยลดตน้ ทุนในการพัฒนา ซง่ึ ขัน้ ตอน การพัฒนาแอปพลเิ คชัน ไดแ้ ก่ การศึกษาความต้องการ การ ออกแบบ การสร้าง แอปพลเิ คชนั และการ ทดสอบ ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ระดับสูง (High-level programming language) เปน็ เคร่อื งมือทอี่ ำนวยความ สะดวกในการเขยี นโปรแกรม เชน่ Java, C/C++, C#, Ruby และ Python เปน็ ตน้ โดยเปน็ ภาษาทถ่ี ูกออกแบบ มาสำหรับมนษุ ย์ในการแปลง ความคดิ ของการแก้ปัญหา ออกมาเปน็ ลำดับขั้นตอนตา่ ง
3 การแก้ปัญหาด้วย ว 4.2 ม.3/2 ๆ ที่ชัดเจนให้อยูใ่ นรูปแบบ 4 37 Scratch ของชดุ คำส่งั 4 10 2 4 การประมวลผล ว 4.2 ม.3/3 โปรแกรมภาษา ทีผ่ ู้เรียน 2 10 ข้อมูล สามารถสรา้ งช้ินงานได้ อยา่ ง งา่ ย เช่น นทิ านทส่ี ามารถ 10 5 อนิ เทอรเ์ น็ตสรรพ ว 4.2 ม.3/3 โต้ตอบกบั ผอู้ ่านได้ดว้ ย 10 ส่ิง ภาพเคลือ่ นไหว เกม ดนตรี และศิลปะและเมือ่ สรา้ งเป็น 6 การใช้เทคโนโลยี ว 4.2 ม.3/4 ชิ้นงานเสรจ็ แล้วสามารถนำ สารสนเทศอย่าง ชน้ิ งานที่สรา้ งสรรคน์ ีแ้ สดง รู้เทา่ ทนั และแลกเปลยี่ นความคดิ เห็น รว่ มกับผู้อน่ื บนเวบ็ ไซต์ได้ กระบวนการคดิ หรือ การจดั ระเบียบแบบแผนของข้อมลู เพื่อให้ไดผ้ ลลัพธต์ ามท่ี ต้องการ ซ่งึ ทำไดโ้ ดยการ คำนวณ เคลอ่ื นยา้ ยขอ้ มลู การเปรยี บเทียบ และการ วิเคราะห์ข้อมลู โดยอาจใช้ สูตร ทางคณิตศาสตร์ หรือ วิทยาศาสตร์ วิธีการต่าง ๆ เหล่าน้ี ทำไดโ้ ดย อาศยั คำสงั่ หรอื โปรแกรมทเี่ ขยี นขนึ้ ข่ายของวัตถุ อปุ กรณ์ พาหนะ สงิ่ ปลูกสร้าง และส่งิ ของอ่ืนๆ ทีม่ วี งจรอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ เซ็นเซอร์ และการ เช่อื มตอ่ กับเครือข่าย ฝงั ตวั อยู่ และทำใหว้ ัตถเุ หลา่ นนั้ สามารถเกบ็ บันทึกและ แลกเปล่ยี นข้อมลู ได้ การรูเ้ ท่าทันในการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศซึง่ จะ ช่วยใหผ้ ู้ใชร้ ูว้ า่ ควรปฏิบตั ิ อยา่ งไรในการใช้งาน เทคโนโลยีสารสนเทศใน ชวี ติ ประจำวนั รวมทงั้ การ
ปฏิบัตเิ ม่ือพบกบั ขา่ วลวง 18 38 หรือเนื้อหาทีไ่ มเ่ หมาะสม ซง่ึ จะชว่ ยให้การใช้งาน 1 60 เทคโนโลยีสารสนเทศมี 1 20 ความปลอดภยั ยง่ิ ขึน้ 20 20 ในขณะทก่ี ารใชง้ านอย่างมี 100 ความรบั ผดิ ชอบจะชว่ ยให้ ปัญหาตา่ ง ๆท่ีจะเกดิ ขน้ึ จากการใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศลดน้อยลง ระหวา่ งภาคเรยี น กลางภาคเรยี น ปลายภาคเรยี น รวมตลอดภาคเรยี น
2. การออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้ ใหน้ ักศึกษาออกแบบกิจกรรมการเรยี นร้ใู นหน่วยการเรียนรู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย รายวชิ า วิทยาการคำนวณ การออกแบบกิจ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา 3 คาบ/ชั่วโมง แผนการ เรอื่ งย่อยใน มาตรฐาน จดั การ หนว่ ยการ สาระการเรยี นรู้/เนือ้ หา การเรียนรู้/ จดุ ปร เรียนร้ทู ่ี เรียนรู้ ตวั ชีว้ ัด 1 เทคโนโลยี ปัจจบุ ันจะพบเห็นผู้คน ว.4.2 ม.2/3 1. ผเู้ ร การสื่อสาร จำนวนมากใช้งาน อธิบาย อนิ เทอรเ์ นต็ ทุกท่ีทุกเวลา ไม่ เทคโน ว่าจะเป็นการตดิ ต่อส่อื สาร ได้ (K) ในรูปแบบต่างๆ 2. ผู้เร การใช อนิ เทอ ส่อื สาร 3. ผเู้ ร เรยี นร เวลา ใฝ่เรยี หมายเหตุ 1. นักศึกษาสามารถนำเสนอเป็นตารางแนวนอนได้ 2. หวั ข้อกจิ กรรมการเรียนรู้ ใหน้ กั ศึกษาออกแบบกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ดย ของแต่ละข้ันตอนอย่างสั้นๆ สว่ นรายละเอียดของแต่ละขัน้ ใหข้ ยายความในแผนการจ
39 ยจากสถานศึกษาใน 1 สปั ดาห์ จกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เร่ือง เทคโนโลยกี ารสื่อสาร ระสงคก์ ารเรียนรู้ กิจกรรม ส่ือ/แหล่งการ การวดั และ การเรยี นรู้ เรียนรู้ ประเมนิ ผล รยี นสามารถ กจิ กรรมการเรียนรู้ โดย 1. สไลดก์ ารสอน วดั และ ยความหมายของ มี 3 ข้นั ตอน ขน้ั นำเข้าสู่ เรือ่ ง เทคโนโลยี ประเมินผล นโลยกี ารส่อื สาร บทเรียน, ขน้ั จัด และการสื่อสาร จากใบงานท่ี 1 ) กิจกรรมการเรยี นรู้ และ 2. ใบงานท1่ี เรอื่ ง รียนมีความเขา้ ใจ ขน้ั สรปุ การเรยี นรู้ ชือ่ โดเมน (Live ช้เครอื ขา่ ย Worksheet) อร์เนต็ เพื่อการ รได้ถูกต้อง (P) รยี นมุ่งม่นั ในการ รู้ ผู้เรยี นตรงต่อ ยนรู้ (A) ยนำเสนอรายละเอียด จดั การเรยี นรู้
การออกแบบกิจ รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 3 คาบ/ชั่วโมง แผนการ เรอ่ื งย่อย สาระการเรียนร้/ู เน้อื หา มาตรฐาน จ จดั การ ในหน่วย การเรยี นรู้/ เรียนร้ทู ่ี การ ตัวชว้ี ัด เรยี นรู้ 2 การ การพัฒนาแอปพลิเคชัน ว.4.2 ม.3/1 1. ผ พฒั นา (Application) หรอื ซอฟต์แวร์ อธิบ แอป คอมพิวเตอร์นนั้ อาจทำไดโ้ ดยใช้ ของ พลเิ คชัน เคร่อื งคอมพวิ เตอร์เพียงเคร่อื ง พลิเ เดยี ว ทำใหส้ ามารถเรมิ่ ตน้ ได้ง่าย 2. ผ เข้าใ แอป 3. ผ รบั ผ การ ควา หมายเหตุ 1. นกั ศึกษาสามารถนำเสนอเป็นตารางแนวนอนได้ 2. หวั ข้อกิจกรรมการเรียนรู้ ใหน้ ักศึกษาออกแบบกิจกรรมการเรียนร้โู ดย ของแต่ละขั้นตอนอย่างส้ันๆ สว่ นรายละเอียดของแตล่ ะขนั้ ใหข้ ยายความในแผนการจ
40 จกรรมการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง การพัฒนาแอปพลเิ คชัน จดุ ประสงคก์ าร กจิ กรรม สื่อ/แหลง่ การ การวดั และ เรียนรู้ การเรียนรู้ เรียนรู้ ประเมินผล ผเู้ รยี นสามารถ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. สไลด์การสอน วดั และ บายความหมาย โดยมี 3 ขั้นตอน ขัน้ เร่ือง การพฒั นา ประเมนิ ผล งการพฒั นาแอป นำเขา้ สู่บทเรยี น, ขนั้ แอปพลเิ คชนั จากใบงานท่ี 1 เคชนั ได้ (K) จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 2. ใบงานท1ี่ เรื่อง ผเู้ รยี นมคี วาม และขน้ั สรุปการเรยี นรู้ การพัฒนาแอป ใจในการพฒั นา พลเิ คชัน(Live ปพลิเคชันได้ (P) Worksheet) ผเู้ รยี นมีความ ผดิ ชอบ มงุ่ มัน่ ใน รเรยี นรู้ ผเู้ รยี นมี ามใฝ่เรยี นรู้(A) ยนำเสนอรายละเอียด จดั การเรยี นรู้
41 ตอนที่ 3 รายงานการฝึกปฏบิ ตั ิงานในหนา้ ทีค่ รู คำช้แี จง ให้นักศึกษาบนั ทึกกจิ กรรมในการปฏิบตั งิ านประจำวัน และงานในหน้าที่ครผู ู้สอน/ครูประจำช้ัน ลงในแบบรายงาน ร.01-ร.02 ซ่ึงมีรายละเอียดดังน้ี 1. รายงานการปฏิบตั งิ านประจำวัน (ร.01) ให้นักศึกษาบันทึกประจำวันตามสภาพจริงทุกวันเพื่อแสดงว่านกั ศึกษาได้ใช้เวลาในแต่ละวนั ปฏิบัติงานด้านการสอนและด้านอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายโดยให้ครูพี่เลี้ยงหรือบุคคลที่ผู้บริหารโรงเรียน มอบหมายลงนามทกุ วัน 2. รายงานการฝกึ ปฏิบัติงานในหน้าที่ครูผสู้ อนและครูประจำชัน้ (ร.02) ใหน้ กั ศึกษาบนั ทึกผลการปฏิบตั งิ าน ในหนา้ ทีค่ รูผ้สู อนและครปู ระจำชน้ั (ร.02) ใน 6 รายการดงั นี้ 1.การดูแลควบคมุ ใหน้ กั เรียนปฏิบัติตามระเบียบวนิ ัย 2.การติดตามและตรวจสอบการมาเรยี น 3.การทำหลักฐานการประเมนิ ผลการเรยี น 4.การติดตามและสง่ เสริมด้านสุขภาพอนามยั 5.การปลกู ฝงั คณุ ธรรม จริยธรรม 6.อน่ื ๆ .............. และให้สรปุ ส่ิงทีน่ กั ศึกษาได้เรียนรู้ แลว้ นำไปใหค้ รพู เี่ ล้ยี งลงนาม
รายงานการปฏิบตั ิงานประจำวนั 42 ร. 01 ชือ่ -สกุลนกั ศกึ ษา นางสาวณัฐวดี ครุธคลา้ ย สาขาวิชา คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยกี ารศึกษา รหัสนักศกึ ษา 61111806016 ปฏบิ ัติหนา้ ท่ผี ู้ช่วยครูในชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 และมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียน ทับกฤชพัฒนา ช่ือ-สกุล(ครพู เ่ี ล้ียง) นางสาวกาณชฐ์ ยิ ากร น้อยจนั ทร์ โทร.(มอื ถือ) 092-5989916
43 ร. 01 รายงานการปฏิบัตงิ านประจำวนั ชอ่ื -สกุลนักศึกษา นางสาวณัฐวดี ครธุ คลา้ ย สาขาวิชา คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการศึกษา รหัสนักศึกษา 61111806016 ปฏบิ ตั หิ นา้ ทีผ่ ู้ช่วยครูในช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 2 และมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรยี น ทบั กฤชพฒั นา ช่ือ-สกลุ (ครูพ่เี ลยี้ ง) นางสาวกาณชฐ์ ยิ ากร น้อยจันทร์ โทร.(มือถือ) 092-5989916 หมายเหตุ ขดี เส้นใต้คน่ั เม่ือบันทึกหมด 1 วัน แล้วบันทึกของต่อไป
รายงานการฝกึ ปฏิบตั ิงานในหน้าท่ีครูผสู้ อน/ครูประจำชั้น 44 ร. 02 ชอ่ื -สกุลนักศกึ ษา นางสาวณัฐวดี ครธุ คล้าย สาขาวชิ า คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยกี ารศึกษา รหัสนกั ศกึ ษา 61111806016 ปฏบิ ตั หิ น้าท่ผี ู้ช่วยครูในช้ัน มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 และมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรยี น ทบั กฤชพัฒนา ช่ือ-สกลุ (ครูพีเ่ ลี้ยง) นางสาวกาณชฐ์ ิยากร นอ้ ยจันทร์ โทร.(มอื ถือ) 092-5989916
45 ตอนที่ 4 แผนการจดั การเรยี นรู้ คำชแี้ จง ให้นกั ศึกษานำเสนอข้อมลู ใน 3 ด้านคือ 1. ตารางแสดงกำหนดการสอน 2. แผนการจดั การเรยี นรู้ และ 3. แบบแสดงส่ือการเรียนรู้ ซ่งึ มีรายละเอยี ดดังน้ี 1. ตารางแสดงกำหนดการสอน ให้นักศึกษานำเสนอกำหนดการสอนในหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ไดร้ ับ มอบหมายจากโรงเรียน อย่างน้อย 6 คาบ/ชวั่ โมง ใน 1 สัปดาห์ ดงั น้ี กำหนดการสอน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 รหัสวิชา ว.20103 ชือ่ รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ ช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 3 ช่วั โมง สปั ดาหท์ ี่ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เร่ือง เทคโนโลยีการส่ือสาร จำนวนคาบ วัน / เดอื น /ปี /สาระการเรียนรู้ 30 สงิ หาคม – 3 ปัจจุบันจะพบเห็นผู้คนจำนวนมากใช้งานอินเทอร์เน็ตทุกที่ทุก 3 กันยายน เวลา ไมว่ ่าจะเปน็ การตดิ ต่อสื่อสารในรูปแบบต่างๆ เช่น การสง่ พ.ศ.2564 ข้อความ การสนทนาแบบเห็นภาพและได้ยินเสียง การแบ่งปนั ข้อมูลระหว่างบุคคลหรือองค์กร จึงมีความจำเป็นที่เราทุกคน จะต้องรู้ถึงวิธีการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ถูกต้องแล้วพบและ เหมาะสมเพื่อป้องกันผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิด ข้ึนกบั ตัวเองหรือผอู้ ืน่ หมายเหตุ อาจารย์ผ้สู อนในรายวิชาฝึกปฏิบัตวิ ิชาชีพระหวา่ งเรียน 1 สามารถปรับรูปแบบกำหนดการสอน ให้สัมพันธ์กับสาขาวิชาของนักศึกษาไดต้ ามความเหมาะสม
46 กำหนดการสอน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 รหัสวชิ า ว.20105 ชอื่ รายวชิ า วิทยาการคำนวณ ชั้น มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 3 ช่ัวโมง สัปดาห์ท่ี หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง การพฒั นาแอปพลเิ คชนั จำนวนคาบ วัน / เดอื น /ปี /สาระการเรยี นรู้ 3 30 สิงหาคม – 3 การพัฒนาแอปพลิเคชัน (Application) หรือซอฟต์แวร์ กันยายน คอมพิวเตอร์นั้น อาจทำได้โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เพียง พ.ศ.2564 เครื่องเดียว ทำให้สามารถเริ่มต้นได้ง่าย แตกต่างจากการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางวิศวกรรม อื่นๆ ที่ต้องการแรงงานและ เครื่องจักรจำนวนมาก เช่น การผลิตรถยนต์ การสร้างรถไฟ ความเรว็ สูง การสรา้ งเครอื่ งบินโดยสาร หมายเหตุ อาจารย์ผู้สอนในรายวชิ าฝกึ ปฏิบตั วิ ชิ าชพี ระหวา่ งเรยี น 1 สามารถปรับรปู แบบกำหนดการสอน ให้สัมพันธก์ ับสาขาวิชาของนักศึกษาได้ตามความเหมาะสม
47 2. แผนการจดั การเรยี นรู้ ใหน้ กั ศึกษาเขียนแผนการจัดการเรยี นรู้ อยา่ งนอ้ ย 6 คาบ/ชั่วโมงใน 1 สปั ดาห์ โดยมีองคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นร้ดู งั นี้ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 รายวชิ า วิทยาการคำนวณ รหสั วชิ า ว.20103 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5 ชื่อหน่วย เทคโนโลยีการส่ือสาร เวลาเรียน 3 ช่ัวโมง เร่อื ง เทคโนโลยกี ารส่อื สาร เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ผสู้ อน นางสาวณัฐวดี ครธุ คล้าย วันทท่ี ำการสอน 30 สิงหาคม – 3 กันยายน พ.ศ.2564 1. มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้วี ัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมี ประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทันและมีจรยิ ธรรม ตัวช้ีวดั ม.2/3 อภปิ รายองคป์ ระกอบและหลักการทำงานของ ระบบคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีการ ส่ือสาร เพอื่ ประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปญั หาเบอ้ื งต้น 2. สาระสำคัญ ปัจจุบันจะพบเห็นผู้คนจำนวนมากใช้งานอินเทอร์เน็ตทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร ในรูปแบบต่างๆ เช่น การส่งข้อความ การสนทนาแบบเห็นภาพและได้ยินเสียง การแบ่งปันข้อมูลระหว่าง บุคคลหรือองค์กร จึงมีความจำเป็นที่เราทุกคนจะต้องรู้ถึงวิธีการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ถูกต้องแล้วพบและ เหมาะสมเพ่ือปอ้ งกนั ผลกระทบและความเสียหายท่ีอาจเกิดข้ึนกับตัวเองหรือผู้อ่นื 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ความรู้ (K) ผ้เู รียนสามารถอธิบายความหมายของเทคโนโลยกี ารสอื่ สารได้ 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ผ้เู รียนมคี วามเขา้ ใจการใช้เครือข่ายอินเทอร์เนต็ เพือ่ การส่ือสารได้ถกู ต้อง 3.3 เจตคติ (A) 3.3.1 ผเู้ รยี นมงุ่ ม่นั ในการเรยี นรู้ 3.3.2 ผู้เรียนตรงต่อเวลา ใฝเ่ รยี นรู้ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 4.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
48 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5.1 มุ่งมน่ั ในการทำงาน 5.2 ใฝเ่ รียนรู้ 6. สาระการเรยี นรู้ ดา้ นพทุ ธิพิสยั สามารถอธบิ ายความหมายของเทคโนโลยกี ารสอื่ สาร ดา้ นทักษะพสิ ัย ผเู้ รียนมคี วามเขา้ ใจการใชเ้ ครือข่ายอนิ เทอรเ์ น็ตเพ่อื การสอื่ สาร ด้านเจตคติ ผ้เู รยี นตรงต่อเวลา มงุ่ มน่ั ในการทำงาน และใฝเ่ รยี นรู้ 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเข้าสูบ่ ทเรยี น (10 นาที) 1. ครผู สู้ อนพดู คยุ กบั ผู้เรียนก่อนว่าใครมปี ัญหาในการเรยี นออนไลนแ์ ละทำแบบทดสอบ ใน Google from ได้ไหม 2. จากนั้นครูผู้สอนใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนผ่าน Google from เพื่อกระตนุ้ ให้ ผ้เู รียนมคี วามสนใจเรยี นในเนื้อหาทคี่ รผู สู้ อนจะมีการจัดการเรยี นการสอนในขัน้ ตอ่ ไป ขั้นจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (30 นาท)ี 1. ครูผู้สอนอธบิ ายเน้อื หาผ่านระบบ Google Meet ในหัวขอ้ เรื่อง เทคโนโลยแี ละการ สื่อสาร โดยระหวา่ งการอธิบายไดม้ กี ารซกั ถามและให้ผูเ้ รยี นได้มีการตอบโต้ เพอ่ื กระตุ้นใหผ้ ู้เรียนสนใจใน เนอ้ื หา 2. เมือ่ ครผู ูส้ อนอธบิ ายเนื้อหาเสร็จเรยี บร้อยแล้ว ให้นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นและ แลกเปลีย่ นความรจู้ ากทคี่ รูผู้สอนได้อธบิ ายหรือมีการเพ่ิมเตมิ จากท่ีครผู ู้สอนไดอ้ ธิบายไว้ เพ่อื ทบทวนเนื้อหาที่ เรียนดงั กลา่ ว 3. จากนน้ั ใหผ้ ูเ้ รียนทำใบงานที่ 1 ผ่าน Live Worksheet เม่อื ผู้เรยี นทำใบงานเสร็จเรยี บร้อย แล้วใหผ้ ้เู รียนส่งใบงานผา่ น E-Mail. ของครูผ้สู อน โดยครูผู้สอนคอยใหค้ ำแนะนำกับผ้เู รียนผ่านระบบ Google Meet 4. หลังจากทำใบงานเสรจ็ เรียบรอ้ ยแล้ว ครผู ้สู อนให้ผู้เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี นผา่ น Google from ขัน้ สรุปการเรียนรู้ (10 นาที) ครผู สู้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกันสรุปสาระสำคญั ในเรื่อง การพฒั นาแอปพลิเคชนั ผ่านระบบ Google Meet ถา้ นักเรยี นมขี ้อสงสยั หรือปัญหาสามารถตดิ ตอ่ สอบถามไดผ้ ่านระบบออนไลน์ได้ 8. สื่อ/แหล่งเรยี นร้/ู เอกสารประกอบการสอน 8.1 ส่อื การเรียนรู้ 8.1.1 Google Meet 8.1.2 สไลดก์ ารสอน เรอ่ื ง เทคโนโลยีและการส่ือสาร 8.1.3 Live Worksheet
Search