Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับข้าราชการ

แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับข้าราชการ

Description: แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับข้าราชการ

Search

Read the Text Version

แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี ง สำหรับข้าราชการ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม



คำนำ หนังสือคู่มือเล่มน้ี มีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากร ทางทะเลและชายฝ่ัง ให้มีการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้เป็น กรอบความคิดและเป็นแนวทางในการปฏิบัติ ตลอดจนเป็นส่วนหน่ึง ของวิถีชีวติ ของตน รวมทั้งเพอื่ สร้างความร้คู วามเขา้ ใจท่ถี กู ตอ้ ง เก่ยี วกับ หลักเศรษฐกิจพอเพียงตามหลักปรัชญาฯ ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม และปลูกฝังปรับเปล่ียนกระบวนทัศน์ในการดำรงชีวิตให้อยู่บนพ้ืนฐานของ เศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนนำไปสู่การปรับแนวทางการพัฒนาให้อย ู่ บนพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะอย่างย่ิงผู้ที่เป็นหัวหน้า ส่วนราชการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังในส่วนภูมิภาค หรือ หัวหน้าส่วนราชการสังกัดส่วนกลาง แต่มีสำนักงานตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค เพ่ือใช้เป็นคู่มือ ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติราชการ หรือเป็นเครื่องเตือนใจ สำหรบั การปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ ประพฤตมิ ิชอบ ผู้จัดทำ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือคู่มือเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ สำหรับเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในการที่จะปฏิบัติ หน้าที่ราชการด้วยความซ่ือสัตย์ สุจริต ถูกต้องตามกฎหมาย ศีลธรรม จรรยา ตามหลักจริยธรรม คุณธรรม อันเป็นหัวใจของข้าราชการและ เจ้าหน้าที่ เพ่ือดำเนินการของหน่วยงานในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญ ก้าวหนา้ สบื ไป กลุ่มนติ กิ าร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรับข้าราชการ



สารบญั 7 การนอ้ มนำหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 36 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว มาดำเนินให้เกิดผล 39 หลกั แนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพียง 42 “พอเพียง” ตามรอยพระยุคลบาท 47 เศรษฐกจิ พอเพียงกบั ทฤษฎใี หม่ตามแนวพระราชดำร ิ 52 การปฏบิ ัตติ นตามแนวทางเศรษฐกิจแบบพอเพยี ง 55 ข้าราชการไทยกบั การปฏิบตั งิ านตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง 63 การเพ่มิ ผลผลิตกับเศรษฐกิจพอเพยี งในสังคมไทย 64 บรรณานกุ รม คณะผู้จดั ทำ แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรบั ขา้ ราชการ



การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว มาดำเนนิ ให้เกดิ ผล เพื่อให้ข้าราชการเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังเป็น การตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล ซ่ึงบริหารบนพื้นฐานของ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 10 ซ่ึงใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เปน็ กรอบในการขบั เคลือ่ นเศรษฐกจิ และสังคมของประเทศ ประเดน็ ของการเรียนรู้ ประกอบด้วย 1 การประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แนวพระราชดำริ เกย่ี วกับปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและพระบรมราโชวาทท่เี ก่ยี วข้อง 2 หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติฉบบั ท่ี 10 3 หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับการน้อมนำมาใช้ในภาคส่วน ต่างๆ 4 หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งกับขา้ ราชการ 5 หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งกบั ระบบข้าราชการ แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรับข้าราชการ

1. หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง “...ในการพัฒนาประเทศน้ันจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น เริม่ ดว้ ยการสร้างพน้ื ฐาน คือ ความมกี นิ มใี ชข้ องประชาชนก่อน ดว้ ยวิธีการทปี่ ระหยดั ระมดั ระวัง แตถ่ ูกต้องตามหลักวชิ า เมือ่ พ้ืนฐานเกิดขึ้นมั่นคงพอสมควรแล้ว จึงค่อยสร้างเสริมความ เจรญิ ขัน้ ท่สี ูงขึ้นตามลำดับตอ่ ไป ...การถือหลักที่จะส่งเสริมความเจริญ ให้ค่อยเป็นไปตาม ลำดับด้วยความรอบคอบระมัดระวังและประหยัดนั้น ก็เพ่ือ ป้องกันความผิดพลาดล้มเหลวและเพ่ือให้บรรลุผลสำเร็จได้ แน่นอนบริบรู ณ์...” (พระบรมราโชวาทในพธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบัตร ของมหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ วันท่ี 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2517) จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงสอนให้เราอยู่อย่างพอกินพอใช้ ให้ประหยัดรอบคอบและระมัดระวัง เมื่อมีพ้ืนฐานท่ีม่ันคงแล้วก็ค่อย พัฒนาต่อไปตามลำดับขั้น นอกจากนี้พระบรมราโชวาทขององค์น้ี ก็ยังมีพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสอีกหลายองค์ท่ีเกี่ยวข้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงที่ได้พระราชทานไว้ อันเป็นแนวทางท่ีสำคัญยิ่งอันจะยังผลให้ ประเทศของเรารอดพ้นจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจท่ีกำลังจะเกิดขึ้น ท่วั โลก  แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับขา้ ราชการ

“...ขอให้ทุกคนมีความปรารถนาท่ีจะให้เมืองไทยพออย ู่ พอกิน มีความสงบและทำงานต้งั อธิษฐาน ต้ังปณธิ านในทางนี้ ท่จี ะใหเ้ มอื งไทยอย่แู บบพออยูพ่ อกนิ ไมใ่ ช่ว่าจะรุง่ เรืองอยา่ งยอด แต่ว่ามีความพออยู่พอกิน มีความสงบเปรียบเทียบกับประเทศ อื่นๆ ถ้าเรารักษาความพออยู่พอกินนไ้ี ด้ เราจะยอดยง่ิ ยวดได้... ฉะนั้นถ้าทุกท่านซ่ึงถือได้ว่าเป็นผู้ท่ีมีความคิดและมีอิทธิพล มีพลังท่ีจะทำให้ผู้อื่น ซึ่งมีความคิดเหมือนกัน ช่วยกันรักษา ส่วนรวมให้อยู่ดีกินดีพอสมควร ขอย้ำพอควร พออยู่พอกิน มีความสงบ ไม่ให้คนอื่นมาแย่งคุณสมบัติน้ีจากเราไปได ้ ก็จะเปน็ ของขวญั วันเกิดท่ีถาวร ทีจ่ ะมีคุณคา่ อยู่ตลอดกาล...” พระราชดำรสั องค์น้ีได้พระราชทานเนอื่ งในโอกาส วนั เฉลมิ พระชนมพรรษา เม่ือวันที่ 23 ธนั วาคม พ.ศ. 2542 ซง่ึ พระองค์ได้ทรงเนน้ ย้ำอกี วา่ ใหพ้ วกเราพออยพู่ อกนิ จริงๆ แล้วยังมีพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสอีกหลายองค์ ที่ล้วนมีค่ายิ่งที่พวกเราควรจะได้ยึดและปฏิบัติตาม ผมเชื่อว่าเม่ือ พวกเราได้เรียนรู้ จะสามารถน้อมนำสิ่งที่พระองค์ได้พระราชทานมาเป็น แนวทางในการทำงานและดำเนินชวี ิตไดเ้ ป็นอยา่ งดี แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรบั ขา้ ราชการ

ความหมายของหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงทุกวันนี้ ทุกคนต่างก็พูดถึง เศรษฐกิจพอเพียง แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าจริงๆ แล้วหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงน้ัน คืออะไร มีหลักการอย่างไรบ้าง และใครสามารถ นำหลักปรัชญานี้ไปใช้ได้บ้าง หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงน้ ี อย่างที่ได้กล่าวไว้ต้ังแต่เบ้ืองต้นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานช้ีแนะแก่พสกนิกรชาวไทย เม่ือประมาณ 33 ปีมาแล้ว แล้วก็ทรงชี้แนะพวกเราอีกหลายๆครั้งด้วยกัน ดังปรากฏในพระราช ดำรัสและพระบรมราโชวาทในโอกาสต่างๆ และเม่ือประมาณ 10 ปี ที่แล้ว ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตทางเศรษฐกิจก็ยิ่งเป็นการพิสูจน์ และเน้นย้ำว่า หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวน้ัน สามารถน้อมนำมาประยุกต์ใช้กับระบบเศรษฐกิจของ ประเทศเราไดเ้ ป็นอย่างด ี เมอ่ื คราววิกฤตเศรษฐกิจนน้ั เศรษฐกิจแบบค้าขายเพียงอย่างเดยี ว นั้นไม่สามารถทำให้เราสามารถพึ่งพาตนเองได้ทั้งหมด ต้องพ่ึงพา คนอื่นหรือประเทศอื่นๆ อย่างเช่น ขับรถเราก็ต้องพ่ึงพาน้ำมัน แต่น้ำมันเราตอ้ งนำเขา้ จากตะวนั ออก เป็นต้น เวลาที่น้ำมันแพงพวกเรา ก็เดือดร้อนกันไปทั่ว ไม่ใช่แต่คนที่ต้องขับรถใช้น้ำมันอย่างเดียว เพราะว่านำ้ มันแพงข้าวของเครือ่ งใช้บางอยา่ งกแ็ พงข้ึนด้วย ก่อนอ่ืนเรามาดูกันก่อนว่าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาช้ีถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตน ของประชาชนในทุกระดับ ต้ังแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึง 10 แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรบั ขา้ ราชการ

ระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนาและการบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทาง สายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุค โลกาภิวตั น์ ความพอเพียง หมายถงึ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบคุ้มกันในตัวท่ีดีพอสมควรต่อการ กระทบใดๆ อันเกิดจากการเปล่ียนแปลงทั้งภายในภายนอก ทั้งน ี้ จะต้องอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวงั เป็นอย่างยิง่ ในการนำวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะตอ้ งเสริมสรา้ งพนื้ ฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะ เจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับให้มีสำนึกใน คุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนิน ชีวติ ดว้ ยความอดทน ความเพียร มสี ตปิ ัญญาและความรอบคอบเพ่ือให้ สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและ กว้างขวาง ท้ังด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมจากโลก ภายนอกได้เป็นอย่างด ี จะเหน็ ไดว้ ่าหลักเศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ ปรชั ญา ดังนน้ั ทุกๆ คนก็ สามารถนำไปใช้กับตนเอง ครอบครัว สังคม จนถึงระดับประเทศได ้ ไม่ว่าจะเป็นทหาร พลเรือน ประชาชน คนรวย คนจน สามารถเอามา ประยกุ ต์ใชก้ นั ได้หมด แนวคิดของหลักเศรษฐกิจพอเพียงก็คือ การตั้งอยู่บนพ้ืนฐาน ของทางสายกลาง ไม่ประมาท โดยที่จะต้องคำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความร ู้ ความรอบคอบและคุณธรรมไม่สุดโต่งไปด้านใดด้านหน่ึง ซึ่งทั้งหมดนี้ รวมกนั เป็นหลกั ที่ปฏบิ ตั ิได้ แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรับขา้ ราชการ 11

ขอเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา เม่ือวันท่ี 4 ธันวาคม พ.ศ. 2541 มาให้ท่านได้เรียนรู้กนั อีกครั้งหนึง่ “...คำว่าพอเพียงมีความหมายกว้างออกไปอีก ไม่ได้หมายถึง การมีพอสำหรับใช้เท่าน้ัน แต่มีความหมายว่าพอมีพอกิน...พอมี พอกินนี้กแ็ ปลวา่ เศรษฐกิจพอเพยี งนนั่ เอง...” “ ...ให้พอเพียงน้ีก็หมายความว่า มีกินมีอยู่ ไม่ฟุ่มเฟือย ไมห่ รูหรากไ็ ด้ แต่ว่าพอ แมบ้ างอยา่ งอาจจะดูฟมุ่ เฟือย แตถ่ า้ ทำใหม้ ีความสุข ถา้ ทำได้กส็ มควรจะทำ สมควรที่จะปฏิบตั ิ…” “...Self-sufficiency (พ่ึงตนเอง) นัน้ หมายความว่า ผลติ อะไร มพี อทีจ่ ะใช้ไม่ตอ้ งไปขอซ้ือคนอื่น อยู่ไดด้ ว้ ยตนเอง...” “...แต่พอเพียงนี้ มีความหมายกว้างขวางย่ิงกว่านี้อีก คือ คำวา่ พอก็พอเพียง เพียงน้กี ็พอ ดังน้ันเอง คนเราถ้าพอใจใน ความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อย ก็ เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศมีความคิด-อันน้ีไม่ใช่ เศรษฐกิจ-มีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่า พอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็จะอยู่อย่าง เปน็ สุข...” (พระราชดำรสั เนื่องในโอกาสวันเฉลมิ พระชนมพรรษา 4 ธนั วาคม พ.ศ. 2541) 12 แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรบั ข้าราชการ

ต่อไปขอให้ทุกท่านได้เรียนรู้จากการให้สัมภาษณ์ของ ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เก่ียวกับหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ท่านได้อธิบายเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไว้สรุปได้ว่า ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วยความพอประมาณ ซ่ึงหมายถึง ความพอดี ไม่น้อยและไม่มากเกินไปจนต้องเบียดเบียนตนเอง และคนอื่น ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจในระดับของความ พอเพียงน้ัน จะต้องเป็นไปอย่างความมีเหตุผล โดยต้องพิจารณาจาก เหตุปัจจัยที่เก่ียวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดข้ึนจากการ กระทำน้ันๆ อย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปล่ียนแปลงด้านต่างๆ ที่จะเกิดข้ึนโดยคำนึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ท่ีคาดว่า จะเกดิ ขึน้ ในอนาคตท้ังใกล้และไกล โดยจะตอ้ งมีเงือ่ นไข 2 ประการ คือ เงื่อนไขความรู้ ซึ่งประกอบไปด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ อย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาเพ่ือ ประกอบการวางแผนและความระมัดระวงั ในข้ันปฏิบัติ เงื่อนไขคุณธรรม ประกอบไปด้วยความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิตไม่โลภ ไม่ตระหนี่ ช่วยเหลือแบ่งปันผู้อื่น ทั้งหมดน้ีจะนำไปสู่การพัฒนาท ี่ สมดุลและยั่งยืนพร้อมรับต่อการเปล่ียนแปลงในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านเศรษฐกจิ สังคม สิ่งแวดล้อม ความร้แู ละเทคโนโลย ี แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรับขา้ ราชการ 13

2. หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับแผนพัฒนา เศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 10 หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ยังได้บรรจุไว้ในแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 10 ด้วย โดยได้มุ่งเน้นในเรื่อง สังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน มุ่งสร้างความสุขให้คนไทยและสังคมไทย อย่างย่ังยืนเราลองมาเรียนรู้จากการให้สัมภาษณ์ของ ดร.อำพน กิตติอำพน ท่านพูดถงึ แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ เก่ียวกับ การนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาบรรจุไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 10 และจะมีความสำคัญต่อการแก้วิกฤต ประเทศอย่างไร เม่ือเริ่มจัดทำแผนนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ทำการศึกษาหลักการทรงงานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วจึงได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงในภาวะ ของโลกปัจจุบันเพือ่ วางยุทธศาสตรใ์ นการพัฒนาประเทศขึ้นมา โดยทาง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ ทำการวิเคราะห์ 5 บริบทของการเปลี่ยนแปลงในกระแสโลกาภิวัตน ์ ไว้ 5 ประการดงั น้ ี 14 แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรบั ขา้ ราชการ

1. การรวมตัวของกลุ่มเศรษฐกิจและการเปล่ียนแปลงในตลาด เงนิ ของโลก 2. การเปลย่ี นแปลงทางเทคโนโลยอี ยา่ งก้าวกระโดด 3. การเปลีย่ นแปลงด้านสงั คม 4. การเคล่อื นย้ายคนอยา่ งเสรี 5. การเปลี่ยนแปลงดา้ นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม ในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 10 จึงไดว้ างยทุ ธศาสตรใ์ นการจดั ทำแผนพัฒนาประเทศข้นึ มา 5 ยุทธศาสตร์ ประกอบดว้ ย 1. ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพคนและสังคมไทยสู่สังคมแห่ง ภูมปิ ัญญาและการเรียนร ู้ 2. ยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและสังคมให้ เป็นรากฐานทมี่ น่ั คงของประเทศ 3. ยุทธศาสตรก์ ารปรับโครงสร้างเศรษฐกจิ ให้สมดลุ และย่ังยนื 4. ยุทธศาสตร์การพัฒนาบนฐานความหลากหลายทางชีวภาพ และการสรา้ งความม่นั คงของฐานทรัพยากรและสิง่ แวดล้อม 5. ยุทธศาสตร์การส่งเสริมธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ ประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 10 ได้น้อมนำ เอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้โดยเน้นในเรื่องของความสุข ของคนในสังคมไทยอย่างย่ังยืน โดยได้น้อมนำเอาหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางเพ่ือสร้างความสุขอันยั่งยืนนั้นให้กับ ประเทศไทย แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรับข้าราชการ 15

3. หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับการ นอ้ มนำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นภาคสว่ นตา่ งๆ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับการน้อมนำมาใช ้ ในภาคส่วนต่างๆ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงน้ันสามารถนำมา ใชก้ บั ทกุ คน ทุกหนว่ ยงาน และทกุ ๆ ภาคส่วน ซ่งึ กข็ นึ้ อย่กู บั วา่ ใครจะ ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร หากทุกคนมาร่วมกันน้อมนำหลักปรัชญาของ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวมาใช ้ กน็ า่ จะช่วยให้ประเทศไทยของเรามี ความสุขสงบได้ ซงึ่ ในขณะนี้กไ็ ดม้ ฝี ่ายต่างๆ มาชว่ ยกนั ขบั เคลื่อนหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นท่ีแพร่หลาย และนำไปสู่การปฏิบัติ ให้เป็นรูปธรรมและปฏิบัติให้เกิดผลอย่างจริงจัง เนื่องจากเศรษฐกิจ พอเพียงจะช่วยส่งเสริมให้ระบบเศรษฐกิจเสรีมีการเจริญเติบโตอย่างมี คุณภาพ มีความสมดลุ มคี วามย่งั ยนื มากขึน้ ซง่ึ จะช่วยใหป้ ระเทศไทยมี รากฐานที่มัน่ คง ในส่วนภาคเกษตรและภาคเอกชนเองจะนำเอาหลักเศรษฐกิจ พอเพยี งไปประยุกต์ใชก้ ับได้อย่างไร ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง ด้านองค์กร ธุรกิจเอกชน ในส่วนของภาคเอกชนน้ันได้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงไปใชอ้ ยา่ งไร ดร.อาชว์ เตาลานนท์ ประธานคณะทำงานขับเคล่ือนเศรษฐกิจ พอเพียงด้านองค์กรธุรกิจเอกชน ท่านได้เปรียบเทียบหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งกบั การขบั รถยนต์ ซงึ่ ในการขบั รถก็จะมีอปุ กรณ์ตา่ งๆ เช่น คนั เรง่ เบรก นำ้ มัน ซง่ึ เวลาเราขับรถจะใชอ้ ยา่ งใดอย่างหนง่ึ ในการ ขับไม่ได้ เราจะเหยียบคันเร่งตลอดไม่ได้ ต้องมีผ่อนมีลดความเร็ว 16 แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรบั ขา้ ราชการ

ต้องใช้เบรกและเพื่อความปลอดภัย ก็ควรเร่งความเร็วให้พอประมาณ เหตุผลนั่นก็คือต้องมีสติและต้องมีความระมัดระวัง ซึ่งน่ันก็คือ หลัก 3 ห่วง 2 เง่ือนไขนัน่ เอง ท่านยังได้บอกถึงการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้กับองค์กรเอกชนว่า ฝ่ายบริหารจะต้องกำหนดหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นนโยบายของบริษัท และต้องปฏิบัติให้เป็น รปู ธรรมตง้ั แตฝ่ ่ายบรหิ ารจนถึงระดบั พนักงาน นอกจากนก้ี ต็ อ้ งทำธรุ กิจ ด้วยความมีคุณธรรม จริยธรรม ด้วยเช่นกันไม่นึกถึงแต่กำไรเพียง อย่างเดียวและต้องคำนึงถึงใจพนักงานรวมถึงเข้าใจลูกค้าด้วย นอกจาก นี้แล้วธุรกิจต้องเป็นส่วนหน่ึงของสังคม ต้องคำนึงถึงการอยู่ร่วมกัน ในสังคม ทง้ั คน สังคมและส่ิงแวดลอ้ ม เม่ือได้เรียนรู้จากภาคธุรกิจไปแล้ว ขอให้ท่านได้เรียนรู้ทางด้าน ภาคเกษตร คุณลุงสำรอง แตงพลับ เป็นเกษตรกรดีเด่นและเพ่ิงได้รางวัล เกษตรกรผู้ผลิตผลผลิตทางการเกษตรปลอดสารพิษอันดับหน่ึงของ ประเทศ ซึ่งทางจังหวัดเพชรบุรีส่งเข้าประกวด ท่านได้นำเอาหลักมาใช้ กับการทำงานของภาคส่วนของท่านอย่างไร และท่านได้บอกวิธีใน การนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับชีวิตของท่านจนประสบความ สำเรจ็ จนไดเ้ ป็นเกษตรกรตัวอย่าง คุณลุงสำรองนำหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง และแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาประยุกต์ใช้กับงานของท่านเอง จากเดิมที่มีหนี้สินมากมาย มีบ้านหลังเล็กที่ไม่สามารถกันฝนได ้ จนกระท่ังหมดหนี้ มบี ้านหลังใหญ่และมรี ถป๊กิ อพั ขับ แต่ถงึ กระน้ันท่าน แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งสำหรบั ขา้ ราชการ 17

ก็ยังคงใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ท่านก็ยังได้ฝากบอกด้วยว่า ข้าราชการ สามารถนำหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใชไ้ ด้ เชน่ กัน โดยตอ้ งไมห่ ลง หรือโลภ มีเงินเดอื นนอ้ ยก็ต้องใช้ใหพ้ อดว้ ยการอดออมประหยดั หลังจากที่ได้เรียนรู้จากบุคคลต่างๆในแต่ละภาคส่วนที่ได้น้อมนำ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้กับการทำงานในแต่ละด้าน ท่านคงจะเห็นแล้วว่าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น เป็นปรัชญาท่ีเป็นสากลเน่ืองจากไม่ได้จำกัด การนำไปประยุกต์ใช้กับส่วนใดส่วนหน่ึง หน่วยงานใดหน่วยงานหน่ึง เท่านั้น แต่ทุกภาคส่วนสามารถนำไปใช้ได้โดยปรับให้เหมาะสมกับการ ทำงานและสง่ิ แวดลอ้ มในงานของแตล่ ะส่วน 4. หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับข้าราชการ สำหรับในบริบทการบริหารงานภาครัฐซึ่งประกอบด้วยบทบาท บุคลากรของรัฐและบทบาทประชาชนน้ันจะสามารถน้อมนำหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ได้อย่างไร คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค ์ ได้ใหส้ ัมภาษณ์เกยี่ วกบั เรื่องนีส้ รุปได้วา่ ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าท่ีโดยจะต้องอยู่บนหลักของความ พอประมาณ การพอประมาณไม่ใช่ทำแต่น้อยให้พอเสร็จๆ ไป แต ่ พอประมาณ หมายถึง การประเมินความสามารถของเราว่ามีแค่ไหน แล้วทำให้เต็มที่กับความสามารถท่ีเรามี นอกจากนี้เราจะต้องมีเหตุมีผล ต้องมีการวิเคราะห์และไตร่ตรองทุกคร้ังเมื่อทำงาน รวมท้ังต้องสร้าง ภูมิคุ้มกนั ในตวั ท่ีดใี หก้ ับตนเอง 18 แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งสำหรบั ขา้ ราชการ

การนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้กับตนเอง ได้โดยไมย่ ากเลย ซ่ึงทา่ นก็ได้เล่าว่าในสิ่งท่ีท่านได้ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เราตอ้ งบรหิ ารกเิ ลสตณั หา อย่าใหก้ เิ ลสตัณหามาบรหิ ารเรา ใช้ชีวติ อย่าง มีสติ สิ่งใดท่ีไม่ได้เป็นส่ิงจำเป็นก็ไม่จำเป็นต้องหามาเพ่ือสนองความ อยากความต้องการของตัวเอง ถ้าสิ่งน้ันไม่ได้มีประโยชน์กับตัวท่านเอง ซึ่งถ้าเราสามารถปฏิบัติได้ก็จะสามารถเป็นตัวอย่างให้กับครอบครัว ทำใหค้ รอบครัวของท่านปฏิบตั ติ ามไดด้ ้วย นอกจากน้ีนายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการ ก.พ. ได้ให้สัมภาษณ์ เก่ียวกับเร่ืองเดียวกันนี้ สรุปได้ว่าข้าราชการนั้นจะต้องพยายามทำความ เข้าใจกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งให้ถอ่ งแท้ เพือ่ ท่จี ะไดป้ ฏบิ ัติ ราชการได้ด้วยการคำนึงถึงความพอเพียงท้ังในการใช้ความรู้ ความ สามารถของตนและสามารถใชช้ วี ิตอยา่ งพอเพยี ง มกี ารคิดดี พูดดี ทำดี และปฏิบัติตนอยู่ในความสุจริตและตระหนักถึงความเป็นข้าราชการที่ดี เพือ่ ท่ีจะไดเ้ ปน็ แบบอยา่ งทด่ี ีในสงั คม การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับ ตัวข้าราชการ ในฐานะท่เี ปน็ บุคลากรของรัฐ ในมุมมองของคณุ หญงิ ทพิ าวดี เมฆสวรรค์ ได้กลา่ ววา่ หลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวน้ัน สามารถ ประยุกต์ใช้ได้กับคนทุกระดับ ทุกอาชีพ ดังน้ันพวกเราข้าราชการ ก็สามารถน้อมนำมาใช้สำหรับชีวิตประจำวันของพวกเราได้เช่นกัน ดว้ ยการนำหลกั พอเพียง พอประมาณ มีเหตมุ ีผล รวมถึงหลักภมู ิคุ้มกนั ท่ีดีมาใช้กับตนเองด้วย การประหยัด อดออม มีน้อยใช้น้อย ไม่ใช้จ่าย เกินตัว แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งสำหรับข้าราชการ 19

5. หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงกับระบบ ราชการ สำนักงาน ก.พ. ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในการท่ีจะให้ส่วนราชการ ต่างๆ รวมถึงเหล่าข้าราชการได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งมาประยุกตใ์ ชใ้ นสว่ นราชการ ใน 2 หัวขอ้ ใหญ่ คือ 1. เรอื่ งของการกำหนดนโยบายและกลยุทธ ์ 2. เรือ่ งการจัดทำแผนงาน ในเรื่องของการกำหนดนโยบายและกลยุทธ์น้ัน ต้องตั้งอยู่ในหลัก ของเหตุและผล รวมท้ังให้ประเมินศักยภาพของหน่วยงานของเราว่า ทำอะไร มีหน้าท่ีอะไร และใครเป็นผู้รับบริการ ซ่ึงหน่วยงานต้อง พิจารณาให้ดีว่านโยบายหรือกลยุทธ์ของหน่วยงานของเราสามารถ ตอบสนองต่อความต้องการท่แี ท้จรงิ ของผ้ทู ต่ี อ้ งการรบั บริการหรอื ไม่ ส่วนเร่ืองของการจัดทำแผนงานนั้น ต้องตั้งอยู่บนหลักพอประมาณ โดยต้องประเมินศักยภาพของหน่วยงานของเราว่าจะทำตามแผนงาน ได้เท่าใด และจะทำได้อย่างไร ดังนั้นจึงต้องไม่วางแผนจนเกินตัว จนไม่สามารถทำได้จริง รวมถึงให้ใช้ความสามารถและทรัพยากร ของหนว่ ยงานของเราไดอ้ ย่างเตม็ ท่ ี อีกเร่ืองหน่ึงที่สำคัญที่สามารถน้อมนำเอาหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาใชไ้ ด้ก็คือ เร่อื งของการบริหารงานบคุ คล ในส่วนราชการ การบริหารงานบุคคลน้ันได้มีการน้อมนำหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ด้วย เราแบ่งงานด้านการบริหารงาน บุคคลออกเปน็ 4 ด้านด้วยกัน ก็คอื 20 แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรับขา้ ราชการ

1. การสรรหา 2. การพัฒนา 3. การรักษาไว้ 4. การใช้ประโยชน ์ สำนักงาน ก.พ. แนะแนวทางและการประยุกต์ใช้กับงานบริหาร งานบคุ คล สรุปได้ดังน ้ี ในเรื่องของการสรรหา แต่งต้ัง และบรรจุขา้ ราชการนน้ั เราสามารถ ใชห้ ลักการของ 3 หว่ ง 2 เง่ือนไข ของหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ไดอ้ ย่างครบถ้วน นับต้งั แต ่ การสรรหาบุคคลนั้น จะต้องดำเนินการสรรหาตามหลักการของ ระบบคุณธรรม คือ ผู้ท่ีดำเนินการสรรหาจะต้องเป็นผู้ท่ีมีคุณธรรม ไม่มี อคตหิ รอื เอนเอยี งเขา้ ข้างผู้เข้ารบั การสรรหาคนใดคนหนงึ่ เปน็ พิเศษ หลักต่อมาจะต้องใช้หลักของความมีเหตุผล คือ ต้องใช้เหตุและ ผลในการคัดเลือกบุคคล เพื่อให้ได้คนท่ีมีความรู้ความสามรถจริงๆ เขา้ มารบั ราชการ ส่วนในหลักของความพอประมาณน้ันคือ การดำเนินการใน กระบวนการสรรหาที่คุ้มค่า ไม่สิ้นเปล้ือง แต่สามารถคัดเลือกบุคคลที่ เป็นคนดี คนเก่ง เข้ามารับราชการได้ น่ีเป็นในส่วนของการสรรหา บคุ คลเข้ารับราชการ สำหรับในเรื่องของการพัฒนาบุคลากร ขอให้ยึดหลักของความ มีเหตุมีผล นั่นคือ ให้พัฒนาข้าราชการตามความจำเป็นและควรมีการ ศึกษาความต้องการในการพัฒนาก่อน เพื่อท่ีได้รับรู้ความต้องการท ี ่ แท้จริงของผู้ที่ต้องเข้ารับการพัฒนาและไม่ต้องเสียงบประมาณไปในเรื่อง ท่ไี มม่ คี วามจำเปน็ ท่จี ะตอ้ งพฒั นา แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรบั ข้าราชการ 21

อีกหน่ึงหลักที่ใช้ได้ก็คือ หลักของการสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี น่ันคือ ข้าราชการท่ีได้รับการพัฒนาแล้วจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั โดยเฉพาะอย่างยงิ่ จะตอ้ งมีคณุ ธรรม เชน่ ขยัน อดทน พากเพียร ซ่ือสัตย์สุจริต ทั้งน้ีจะได้มีความสามารถที่จะรับรองการเปล่ียนแปลง ต่างๆ ที่จะเกิดข้ึนในอนาคตได้และพร้อมรับมือกับปัญหาหรือวิกฤต ตลอดจนสามารถหาวิธีในการแกป้ ัญหาทถี่ กู ต้องและเหมาะสมได ้ ในหัวข้อการรักษาไว้นั้น สามารถใช้หลักความมีเหตุมีผลโดยการ ให้สิ่งจูงใจในการทำงานท่ีตอบสนองต่อความต้องการของมนุษย ์ โดยพืน้ ฐานได้ รวมท้ังใหส้ ิทธิประโยชน์ที่ข้าราชการควรจะได้รับ รวมถงึ หลักประกันท่ีม่ันคงในการทำงาน แต่ท้ังนี้ต้องมีเหตุผลในการให้ไม่ใช ่ ให้เพราะเป็นคนที่เราชอบหรือเป็นพวกเราแต่ต้องให้เพราะบุคคลน้ัน สมควรท่จี ะไดร้ บั จรงิ ๆ อย่างนีจ้ งึ จะเรียกว่ามเี หตุผลในการให้ ในการใช้ประโยชน์จากบุคลากรควรเร่ิมกันตั้งแต่การแต่งตั้ง คือ การแต่งตั้งบุคคลให้เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าท่ี รวมทั้งการมอบหมาย งานก็ควรชัดเจน ถูกต้องและเหมาะสมกับความรู้ความสามารถของ บุคคลน้ัน ต้องมีการประเมินสมรรถนะของบุคคลที่เราต้องการใช้ ประโยชน์จากข้าราชการแต่ละคนและต้องสร้างสมดุลในชีวิตการทำงาน และชีวิตสว่ นตัวใหก้ ับขา้ ราชการดว้ ย สว่ นในเรอ่ื งของการสรา้ งภมู ิคุ้มกนั ทดี่ ีใหก้ บั ระบบราชการ และใน เร่ืองของการบริหารการเงิน สรุปออกมาเป็นประเด็นดังน้ี ในเร่ืองของ การสร้างภูมิคุ้มกันท่ีดีนั้น ต้องมีหลักประกันในเรื่องของการพิทักษ์ ระบบคุณธรรม โดยต้องมีกลไกในการที่จะปกป้องข้าราชการให้ได้รับ ความเป็นธรรมในด้านต่างๆ รวมทั้งต้องสร้างและพัฒนาข้าราชการให้ พรอ้ มรับกับการเปลีย่ นแปลงต่างๆ ดว้ ย 22 แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับขา้ ราชการ

ส่วนการบรหิ ารการเงินของสว่ นราชการนั้นต้องตระหนกั วา่ 1. ต้องใช้งบประมาณอย่างสมเหตุสมผล เพราะต้องไม่ลืมว่า งบประมาณน้ันเป็นเงินของแผ่นดินท่ีได้มาจากประชาชนผู้เสียภาษี และนำมาจดั สรรใหข้ า้ ราชการนำมาใช้จ่ายเพ่อื พฒั นาประเทศ 2. ต้องใช้งบประมาณน้ันโดยมุ่งให้เป็นประโยชน์ที่สูงสุดกับ ประเทศชาตแิ ละประชาชน 3. ต้องมีการจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสมลดหลั่นกันไป ตามความจำเป็น 4. ตอ้ งมเี หตุผลในการจา่ ยงบประมาณ ในการเรียนรู้เก่ียวกับการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา ปรับใช้กับการบริหารงานบุคคลในด้านต่างๆ จะขอสรุปในภาพรวมให้ ท่านได้เรียนรู้ โดยแบ่งออกมาเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ การบริหาร จัดการภายในส่วนราชการและส่วนที่สอง คือ การบริหารทรัพยากร บุคคลภาครฐั ในราชการ สำหรับการบริหารจัดการภายในส่วนราชการน้ัน เราสามารถ น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นองค์ความรู้เพ่ือวาง รากฐานการบริหารจัดการในส่วนราชการให้เป็นไปโดยสุจริต เป็นธรรม โปร่งใส และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน อำนวยประโยชน์ให้เกิดกับ ประชาชนได้อย่างแท้จริงตลอดไป และจะเป็นแนวทางปฏิบัติให้แก่ส่วน ราชการในการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ ซง่ึ จะแบง่ ออกเป็น 8 ดา้ น ดังต่อไปน้ี ดา้ นท่ี 1. การบรหิ ารจัดการระบบขอ้ มูลของสว่ นราชการ ด้านท่ี 2. การบริหารจดั การระบบการสอื่ สารของส่วนราชการ ด้านที่ 3. การบริหารจดั การระบบการตัดสนิ ใจของส่วนราชการ แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรบั ขา้ ราชการ 23

ด้านที่ 4. การบริหารจัดการระบบการตรวจสอบถ่วงดุลของส่วน ราชการ ดา้ นที่ 5. การบริหารจดั การระบบการมสี ว่ นรว่ มของส่วนราชการ ด้านท่ี 6. การบริหารจัดการระบบการบริการประชาชนของส่วน ราชการ ดา้ นท่ี 7. การบริหารจัดการระบบการติดตามและประเมินผลการ ปฏิบตั งิ านของส่วนราชการ ด้านท่ี 8 การบรหิ ารจัดการความเสยี่ งของส่วนราชการ ด้านท่ี 1 การบริหารจัดการระบบขอ้ มูลของสว่ นราชการ ในด้านนี้จะให้ส่วนราชการจัดทำระบบข้อมูลเพ่ือใช้ในการบริหาร งานของสว่ นราชการใหม้ ลี กั ษณะดงั น ี้ 1. ข้อมูลครอบคลุมพ้ืนที่ท้ังในระดับต่างๆ เช่น ชุมชน ตำบล อำเภอ จงั หวัด และประเทศ 2. ขอ้ มูลจะต้องมีความถกู ต้องและมีการปรับปรุงแกไ้ ขอยเู่ สมอ 3. ข้อมูลต้องมีความทันสมัยพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงสามารถ เช่ือมโยงผ่านระบบเครอื ข่าย นำไปใชป้ ระโยชน์อยา่ งรวดเร็ว สำหรับการน้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามา ใช้ในการบริหารจัดการระบบข้อมูลของส่วนราชการจะต้องดำเนินการ และนำไปใช้งานด้วยความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวังอย่างมีสติ มีเหตุ มีผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะและ ความต้องการของประเทศ มีความพร้อมต่อการเปล่ียนแปลงและก้าว ทันตอ่ โลกยคุ โลกาภิวัฒน์ 24 แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรบั ขา้ ราชการ

ดา้ นที่ 2 คอื การบรหิ ารจดั การระบบการสอ่ื สารของส่วนราชการ แต่ละส่วนราชการต้องจัดทำระบบการสื่อสาร เพ่ือใช้ในการ บรหิ ารงานของสว่ นราชการ ดงั นี ้ 1. ควรจัดให้มีระบบการสื่อสารภายในและภายนอกของส่วน ราชการให้มีประสิทธิภาพ อย่างเช่น ให้มีระบบเสียงตามสาย ระบบ E-mail และ Internet สำหรบั งานระบบงานสารบรรณก็ควรจดั ให้มีการ On-Line ทางคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ท้ังน้ีก็เพื่อสร้างความเข้าใจและ การมสี ว่ นรว่ มจากหน่วยงานท้งั ภายในและภายนอก 2. ให้มีระบบการสื่อสารสองทาง ระหว่างองค์การกับประชาชน เป้าหมาย โดยมีเน้ือหาท่ีเป็นสารประโยชน์ นำเสนออย่างต่อเน่ือง ในรูปแบบต่างๆ อย่างเช่น ข้อมูลเก่ียวกับโภชนาการ การป้องกัน โรคติดต่อ การป้องกันอัคคีภัยและเพื่อการประชาสัมพันธ์ ทำความ เข้าใจให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเน่ืองในรูปของเอกสาร จดหมายข่าว หนงั สอื พมิ พ์ วทิ ยุ โทรทศั น์ เปน็ ต้น สำหรับการน้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามา ใช้ในการบริหารจัดการระบบการส่ือสารของส่วนราชการน้ัน จะต้อง ดำเนนิ การดว้ ยความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั มคี ุณธรรม มีเหตุมีผล ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีและทำให้ส่วนราชการมีการพัฒนาที่สมดุล มัน่ คงและยง่ั ยนื แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับข้าราชการ 25

ด้านท่ี 3 การบริหารจัดการระบบการตัดสินใจมาใช้ในการ บรหิ ารงานของส่วนราชการ โดยยึดหลกั การดังน้ี 1. หลักประชาธิปไตย คือ รบั ฟังเสยี งประชาชน เจา้ หนา้ ท่ผี ปู้ ฏิบตั ิ ผู้บริหารและหน่วยงานข้างเคียง เพ่ือให้ทุกฝ่ายช่วยเสนอความเห็น ได้ร่วมในการตัดสินใจ ทำให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความสูญเสียด้านเวลา ความคิด แรงงาน ลดความขัดแย้งในการ ทำงานทจ่ี ะเกิดขน้ึ 2. ในการบริหารจัดการระบบการตัดสินใจของส่วนราชการน้ัน การมอบอำนาจและกระจายอำนาจจะเป็นไปในรูปของคณะกรรมการ คณะทำงานท่ีมุ่งประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์และสัมฤทธิผล เป็นธรรม ถูกต้องและเกิดประโยชน์ต่อสาธารณะ ซ่ึงจะทำให้การตัดสินใจเป็นไป อย่างรอบรูไ้ ดข้ อ้ มลู จากทกุ ฝา่ ย การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้การ บริหารจัดการระบบการตัดสินใจของส่วนราชการจะต้องทำด้วยความ รอบคอบ ระมัดระวัง มีความซ่ือสัตย์สุจริต ถูกต้อง โปร่งใสและการ บริหารงานมีความเป็นธรรม โปร่งใส่ มีเหตุผล มุ่งผลสัมฤทธ์ิ ทันต่อ เหตกุ ารณ์และเกดิ ประโยชนต์ ่อสาธารณะ ดา้ นท่ี 4 คือ ในการบรหิ ารจัดการระบบการตรวจสอบถ่วงดลุ ของสว่ นราชการมาใชใ้ นการบริหารงาน ควรใหส้ ว่ นราชการทำดังน ้ี 1. มีการตรวจสอบถ่วงดุลเก่ียวกับแผนงาน เช่น ให้มีปฏิทิน การจัดทำแผนงานประจำปี มีการพิจารณาแผนงานต้ังแต่ระดับล่างถึง ระดับบนและแก้ไขปรับปรุงได้ และเป็นไปตามความต้องการของ 26 แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งสำหรบั ข้าราชการ

ประชาชน ตรวจสอบผลงานให้เป็นไปตามเป้าหมายและตรวจสอบการ บริหารภายในเก่ียวกับบัญชีการเงิน การใช้งบประมาณ การใช้ทรัพยากร ของทางราชการใหถ้ ูกต้องตามระเบียบของทางราชการ 2. ควรมีระบบผู้ตรวจการ คือ ให้มีผู้ตรวจราชการกรมและ กระทรวงต่างๆ ตรวจสอบผลการปฏิบัติงานตามแผนงาน การใช้จ่าย งบประมาณ โดยใช้ภาคเอกชนและประชาชนมีสิทธิในการตรวจสอบ เรอ่ื งดงั กลา่ ว ในการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการ บริหารจัดการระบบการตรวจสอบถ่วงดุลของส่วนราชการ จะต้อง ดำเนินดว้ ยความรอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต เพอื่ ให้การ ดำเนินงานของส่วนราชการเป็นไปด้วยความมีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกันใน ตวั ทดี่ ีเกดิ ความสมดุล มน่ั คงและย่ังยนื ด้านที่ 5 คือ การบริหารจัดการระบบการมีส่วนร่วมของ ส่วนราชการ ต้องให้ส่วนราชการจัดทำระบบการมีสว่ นร่วมมาใช ้ ในการบริหารงาน ดังนี้ 1. ให้ผู้รับบริการและหน่วยงานข้างเคียงจากสภาพแวดล้อม ภายนอกได้มีส่วนร่วมในการร่วมคิดร่วมวางแผน ตัดสินใจ ร่วมทำ ติดตามประเมินผล ร่วมรับผิดชอบและปรับปรุงแก้ไข โดยจะต้องระดม พลังจากทุกฝา่ ยดำเนินการเรื่องดงั กลา่ ว 2. ให้สมาชิกองค์การและผู้บริหารในหน่วยงาน มีโอกาสได ้ เข้ามามีส่วนร่วมในการปรึกษาหารือเกี่ยวกับสภาพปัญหา การแก้ไข ปัญหาและพัฒนาวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมในการบริหารงานตามภารกิจ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรบั ข้าราชการ 27

ของส่วนราชการซึ่งจะต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ รอบรู้ ระมดั ระวัง ตดั สนิ ใจ ดำเนนิ การอย่างมีสติปญั ญา มีเหตุผล มคี ุณธรรม เกิดภูมิคุ้มกันท่ีดี ทำให้การบริหารจัดการในส่วนราชการเป็นไปอย่าง สมดลุ มั่นคงยง่ั ยนื พรอ้ มตอ่ การเปล่ยี นแปลง การนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการ บริหารจัดการระบบการมีส่วนร่วมของส่วนราชการจะต้องดำเนินการ ด้วยความรอบคอบ รอบรู้ ระมัดระวัง ตัดสินใจ ดำเนินการอย่างมีสติ ปัญญา มีเหตุผล มีคุณธรรม เกิดภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ทำให้การบริหาร จัดการในส่วนราชการเป็นไปอย่างสมดุล ม่ันคง ย่ังยืน พร้อมต่อการ เปลย่ี นแปลง ด้านท่ี 6 คือ การบริหารจัดการระบบการบริการประชาชน ของส่วนราชการ ต้องให้สว่ นราชการจัดระบบการใหบ้ ริการประชาชนท่มี ีประสิทธภิ าพ รวดเร็ว เสียค่าบริการที่เหมาะสมพอคุ้มทุน ไม่หวังผลกำไร มีความ พร้อมในการให้บริการตลอด 24 ช่ัวโมง บริการท่ัวถึงเพียงพอต่อเน่ือง เปน็ ธรรม เสมอภาค ไม่เลอื กปฏบิ ัติ สจุ รติ โปรง่ ใส รบั ผดิ ชอบ เปน็ ทีพ่ งึ พอใจของผู้รับบริการ ในการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการ บริหารจัดการระบบการบริการประชาชนของส่วนราชการนั้น จะต้อง ดำเนนิ การด้วยความรอบรู้ ระมัดระวงั รอบคอบ ขยัน อดทน มีความเพยี ร พอประมาณ มีคุณธรรม เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี มีความสมดุล มั่นคง ย่ังยืน 28 แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรบั ขา้ ราชการ

ด้านที่ 7 คือ การบริหารจัดการระบบการตดิ ตามและประเมนิ ผล การปฏบิ ัติงานของส่วนราชการ จะต้องประกอบด้วย 1. ประสิทธิภาพเพ่ือดูผลิตภาพต่อหน่วย กำลังคน ผลิตภาพ ตอ่ เวลา 2. ประสทิ ธผิ ลเพ่ือดูการบรรจเุ ป้าหมายเทยี บกบั คา่ ใช้จ่าย 3. ความกา้ วหนา้ เพื่อดูสดั ส่วนกิจกรรมที่แล้วเสร็จ 4. ความประหยัดเพ่อื ดูจำนวนทรพั ยากรการจัดการทีป่ ระหยัดได้ 5. ความพึงพอใจเพื่อดูความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้รบั บรกิ าร 6. ความสอดคล้องเพื่อดูปัญหากับมาตรการแก้ไขว่าตรงกัน และสนองตอบต่อกลุ่มเปา้ หมายหรอื ไม่ 7. สมั ฤทธผิ ลเพอื่ ดกู ารบรรลุเป้าหมายสุดท้าย 8. ผลกระทบเพ่ือดูผลกระทบ ด้านสังคมจิตวิทยา สิ่งแวดล้อม ที่พึงปรารถนาและไมพ่ งึ ปรารถนา 9. ความยั่งยืนเพื่อดูความสามารถในการอยู่รอดได้ในเชิงเศรษฐกิจ และโอกาสในการขยายผลซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทำให้ส่วนราชการ มีความรอบรู้ถึงผลการปฏิบัติงานมีความรอบคอบในการปฏิบัติงาน มากขึ้น และปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังซื่อสัตย์สุจริต มีเหตุผล มีความพอประมาณ มีภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี มีความสมดุล มั่นคง ย่ังยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง และสามารถกา้ วทนั ต่อโลกยคุ โลกาภิวฒั น ์ แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรับขา้ ราชการ 29

ด้านที่ 8 คือ การบริการจัดการความเสี่ยงของสว่ นราชการ ส่วนราชการศึกษาจะต้องสำรวจและระบุหรือกำหนดว่า ส่วนราชการมีความเสี่ยงจากปัจจัยในส่วนราชการที่เป็นไปได้ว่ามีอะไรบ้าง ท่ีเกิดขึ้นในอดีต และท่ีอาจจะเกิดขึ้นว่ามีความรุนแรงและผลกระทบ อย่างไรบ้าง เช่น ความเสี่ยงเกี่ยวกับการโยกย้ายบุคลากรหรือบุคลากร ขาดทักษะในการปฏิบัติงานและขาดการพัฒนาฝึกอบรม การเปล่ียน ผู้บริหารบ่อยก็มีความเส่ียงเช่นกัน เพราะจะทำให้นโยบายขาดความ ต่อเน่ือง นอกจากน้ีก็ยังมีความเส่ียงจากปัจจัยภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ฯลฯ เพ่ือให้ส่วนราชการวางแผนจัดการ รบั มือกับความเสี่ยงทอ่ี าจจะเกิดขึ้น ซ่ึงจำเป็นต้องอาศัยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดย ดำเนินการด้วยความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง มีความอดทน พากเพียรในการปฏิบัติงาน ต้องใช้สติปัญญาในการดำเนินการและสร้าง ภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีให้กับส่วนราชการ จะทำให้ส่วนราชการเกิดความ มน่ั คงปลอดภยั พรอ้ มรบั กบั ภยั อันตรายทอ่ี าจจะเกดิ ขนึ้ ในดา้ นการบริหารงานทรพั ยากรบุคคลภาครัฐในราชการนน้ั จะเหน็ ได้ว่าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สามารถน้อมนำมาประยุกต์ใช้ ในการบริหารทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะครอบคลุม ทั้งในเรื่อง ความมีเหตผุ ล ความพอประมาณ และการมีภมู คิ มุ้ กันในตัวทด่ี ี 1. การวางแผนทรัพยากรบคุ คล ในการวางแผนทรพั ยากรบุคคลนั้นเราสามารถทำไดโ้ ดยอันดับแรก 1.1 เราต้องศึกษาวิจัยจำนวนกำลังคนหรือบุคคลและความ 30 แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรับขา้ ราชการ

สามารถทักษะของบุคคลท่ีต้องการในส่วนราชการ เพื่อให้การทำงาน ของส่วนราชการบรรลเุ ป้าหมาย 1.2 จัดทำแผนรองรับกำลังคนท่ีต้องการหรือที่ขาดหายไป และ เปน็ ที่ต้องการของสว่ นราชการ 1.3 สร้างโอกาสการจ้างงานที่เท่าเทียมกัน โดยไม่คำนึงถึงเพศ ฐานะ หรือภูมลิ ำเนา 1.4 ลดจำนวนกำลังคนท่ีมมี ากเกินไป ในการวางแผนทรัพยากรบุคคลน้ันส่วนราชการจะต้องดำเนินการ ด้วยความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง มีเหตุผล สร้างความเป็นธรรม เสมอภาค โปร่งใส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ส่วนราชการมีการวางแผนทรัพยากรบุคคล ท่ีเหมาะสมและสามารถดำเนินการตามภารกิจจนเกดิ ผลสมั ฤทธ ิ์ 2. การสรรหา สำหรับหัวข้อการสรรหานั้น ส่วนราชการควรดำเนินการสรรหา บุคคลเข้าทำงาน ดังนี้ 2.1 ศึกษาและดำเนินการสรรหาบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบทุกขั้นตอนท่ีกำหนดไว้ ด้วยความรอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง 2.2 สรรหาบุคคลโดยวิธีจากภายในและภายนอก ควรใช้เหตุผล ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ เพ่ือให้ได้บุคคลท่ีมีความรู้ ความสามารถเพยี งพอในการทำงานให้แก่ส่วนราชการ 2.3 ดำเนินการสรรหาบุคคล ต้องยึดนโยบายโปร่งใส เสมอภาค เป็นธรรม ซ่ือสัตยส์ จุ ริต ไม่เลือกปฏิบัตแิ ละตรวจสอบได ้ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรบั ข้าราชการ 31

สำหรับวธิ ีในการดำเนินการรบั สมคั รควรปฏิบัติดังน้ี 1. ส่วนราชการจะต้องประกาศรับสมัครให้ทุกคนทราบอย่าง ทว่ั ถงึ และเปิดเผย 2. จะต้องประกาศล่วงหน้าให้ทราบอย่างน้อยไม่น้อยกว่า 10 วันทำการ โดยใช้สือ่ ท่ปี ระชาชนสามารถเข้าถึงไดง้ ่าย 3. ต้องตรวจสอบคุณสมบัติและประสบการณ์ของบุคคลด้วย ความรอบคอบและถูกต้อง หากเป็นการสรรหาจากบุคคลภายใน ส่วนราชการควรแจ้งให้บุคคลทราบก่อนประกาศเป็นทางการและบุคคล ที่เป็นข้าราชการอยู่ในระหว่างการลาควรได้รับการแจ้งให้ทราบตามสิทธิ ด้วย 4. ควรให้มีการรบั สมคั ร ทดลองใหค้ ัดเลอื กอย่างสม่ำเสมอ 5. ควรให้โอกาสในการสรรหาแก่ผู้ด้อยโอกาส ชนกลุ่มน้อย สตรีและผู้สูงอายุ โดยอาจใช้หลักเกณฑ์เฉพาะที่ยืดหยุ่นตามความ ต้องการของส่วนราชการ โดยอยู่บนพื้นฐานของความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง เสมอภาค โปร่งใส เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติตามหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3. การคดั เลอื ก สำหรับการคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการ ส่วนราชการต้องดำเนิน การคัดเลือกบุคคลเพื่อให้ได้บุคคลที่ดีที่สุดมีความรู้ความสามารถ ในการทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามความต้องการของส่วนราชการ โดยวิธีการทดสอบ สัมภาษณ์ ตรวจสอบภูมิหลัง ตรวจสอบอ้างอิง ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ดงั นี้ 32 แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งสำหรบั ขา้ ราชการ

3.1 คัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และทักษะในการ ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส่ เป็นธรรม ไม่ใช้วิธีไม่สุจริต หรือระบบอุปถัมภ์ 3.2 ใช้กระบวนการคัดเลือกด้วยวิธีการที่พอประมาณไม่สร้าง ภาระแก่ผ้สู มคั ร 3.3 ดำเนินการคัดเลือกด้วยความถูกต้อง เที่ยงตรง เช่ือถือได้ ยุตธิ รรม โปรง่ ใส และมคี วามรับผดิ ชอบ 3.4 ตรวจสอบให้มีความถูกต้องตามกฎหมายและป้องกันไม่ให ้ มีความไม่รอบคอบในการจา้ งงาน 4. การฝกึ อบรมและพัฒนา การฝึกอบรมและพัฒนา ส่วนราชการต้องดำเนินการฝึกอบรม และพัฒนาบุคคลด้วยความรอบคอบและเพียงพอตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง ดังน ้ี 4.1 ต้องอบรมและพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะและประสบการณ์ ในการทำงานที่เพียงพอ โดยขยายการฝึกอบรมเพิ่มเติมแก่บุคคล ท่ีทำงานตามกระบวนการท่ีเป็นอันตรายในการปฏิบัติงาน และให้การ ค้มุ ครองสุขภาพและความปลอดภยั ของผู้เข้ารับการอบรม 4.2 อบรมตามความจำเปน็ และตามความตอ้ งการของส่วนราชการ ไมฟ่ มุ่ เฟือย แต่เกดิ ประโยชนแ์ ละคุ้มค่าแก่สว่ นราชการ 4.3 สรา้ งองค์ความรแู้ กบ่ ุคคลในส่วนราชการอยา่ งตอ่ เนือ่ ง 4.4 พัฒนาผู้บริหารของส่วนราชการให้มีคุณธรรม ส่งเสริมความ ก้าวหน้าและปรับเปล่ยี นพฤตกิ รรมใหเ้ ออ้ื ตอ่ การทำงาน แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรบั ข้าราชการ 33

5. การรักษาและใช้ประโยชน์จากบุคคล และสำหรับในหัวข้อสุดท้าย คือ การรักษาและใช้ประโยชน์จาก บุคคล ให้ส่วนราชการดำเนินการรักษาและใช้ประโยชน์จากบุคลากร โดยนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้เพื่อรักษาและใช้ ประโยชน์จากบุคคลท่ีดีมีคุณค่าและมีความรู้ความสามารถให้อยู่ใน สว่ นราชการ ดังนี ้ 5.1 ศึกษาวิเคราะห์วิจัยเพ่อื หาปัจจยั ทสี่ ่งเสรมิ ให้บุคคลอยใู่ นส่วน ราชการไมอ่ อกจากงาน เพอ่ื วางแนวทางสร้างภูมิค้มุ กันท่ดี ไี ว้ลว่ งหน้า 5.2 กำหนดนโยบายและแผนงานท่ีชัดเจน ในการอบรมพัฒนา บุคคลในส่วนราชการ และให้มีความก้าวหน้าในการทำงาน โดยใช้หลัก ความเป็นธรรม ความเสมอภาค ความโปรง่ ใส เพื่อให้ได้รับความเช่ือถอื และการยอมรับจากบุคคลในสว่ นราชการ 5.3 มีระบบการบริหารค่าตอบแทน/สวัสดิการ และรางวัลท ี่ เป็นธรรม เพ่ือจูงใจให้บุคคลอยู่ในราชการและทำประโยชน์ให้แก่ราชการ มคี วามซอื่ สัตย์สจุ ริต อทุ ศิ ตนใหก้ ับทางราชการ 5.4 ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตที่ดีของบุคคลในส่วนราชการ เชน่ การทำงานโดยผา่ นเทคโนโลยีโดยให้ทำงานทบ่ี ้าน ทำงานวนั เสาร์ - วันอาทติ ย์ เป็นต้น การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ในการ บริหารจัดการภายในส่วนราชการและการบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐ จะเห็นได้ว่าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นทั้งวิธีการและ เป้าหมายที่ส่วนราชการสามารถนำมาปรับใช้ในการบริหารจัดการภายใน ส่วนราชการและการบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐได้อย่างสมบูรณ ์ 34 แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งสำหรับข้าราชการ

แตล่ ะส่วนราชการสามารถใช้เงอ่ื นไขความรู้ (รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั ) และเงื่อนไขคุณธรรม (ซอ่ื สตั ย์ ขยนั อดทน มีความเพียร มสี ติ มีปญั ญา แบ่งปัน) มาใช้เป็นมรรควิธีในการบริหารจัดการ โดยควบคู่ไปกับการ ยดึ หลกั ทางสายกลางซ่ึงไดแ้ ก่ ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมี ภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีมาเป็นองค์ประกอบ ทั้งน้ีเพ่ือให้ส่วนราชการต่างๆ สามารถบริหารจัดการได้โดยเกิดความสำเร็จ มีการพัฒนาอย่างสมดุล ด้วยความมั่นคง ยั่งยืน พร้อมต่อการเปล่ียนแปลง ก้าวทัน สามารถ จัดการและสนองตอบต่อโลกยคุ โลกาภิวัตน์ได้อย่างมสี ัมฤทธิผล หลังจากท่ีได้เรียนรู้เรื่องหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละท่านแล้ว หวังว่าทุกท่านคงจะได้เข้าใจกันในเรื่อง ของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกันอย่างถ่องแท้มากข้ึน เศรษฐกิจพอเพียงนั้นไม่ใช่เรื่องของการเกษตรแต่เพียงอย่างเดียว และก็ ไม่ใช่เรื่องของใครผู้ใดผู้หนึ่งแต่เป็นเรื่องของพวกเราทุกคน ซ่ึงทุกคน สามารถนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาประยุกตใ์ ช้ได้หมด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานชี้แนะหนทางเพื่อท่ี จะให้ประเทศไทยได้อยู่รอดปลอดภัย สามารถพ่ึงตนเองและพร้อมท่ีจะรับ ต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ไม่ว่าจะต้องประสบกับวิกฤตการณ์ทาง เศรษฐกิจอกี ก่ีหน ไมว่ า่ โลกของเราจะเปล่ยี นแปลงไปมากแคไ่ หน หรอื มี สถานการณ์ต่างๆ เกิดข้ึนขอให้ทุกท่านได้น้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นภูมิคุ้มกันในตัว ทีด่ ีเพอ่ื เตรียมรับความเปลย่ี นแปลงน้นั ๆ แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งสำหรบั ขา้ ราชการ 35

หลกั แนวคิดของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ตั้งอยู่บน พื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคำนึงถึงความ พอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจน ใชค้ วามรู้ความรอบคอบและคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสนิ ใจ และการกระทำ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มีหลกั พิจารณาอยู่ 5 สว่ น ดงั น้ ี • กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาท่ีช้ีแนะแนวทางการดำรงอยู่และ ปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็น โดยมีพ้ืนฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของ สังคมไทย สมารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลาและเป็นการมองโลก เชิงระบบท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวกิ ฤต เพอ่ื ความมน่ั คงและความย่งั ยืนของการพฒั นา • คุณลักษณะเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ การปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการปฏิบัติบนทางสายกลางและ การพฒั นาอย่างเปน็ ข้นั ตอน • คำนิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะ พรอ้ มๆ กนั ดังน ้ี - ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดีทไี่ ม่น้อยเกินไป และไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อ่ืน เช่น การผลิต และการบริโภคทอี่ ยู่ในระดับพอประมาณ 36 แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรบั ข้าราชการ

- ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับ ของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุ ปัจจัยที่เก่ียวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำ นั้นๆ อย่างรอบคอบ - การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัว ให้พร้อมรับผลกระทบและการเปล่ียนแปลงด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้น ในอนาคตทัง้ ใกลแ้ ละไกล • เง่ือนไขการตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ใน ระดบั พอเพยี งน้นั ต้องอาศัยทั้งความรแู้ ละคณุ ธรรมเป็นพืน้ ฐาน กล่าวคอื - เงอื่ นไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบร้เู กย่ี วกบั วชิ าการ ต่างๆ ที่เก่ียวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่าน้ัน มาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความ ระมัดระวงั ในขนั้ ปฏิบัติ - เง่ือนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซ่ือสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สตปิ ญั ญาในการดำเนินชีวติ • แนวทางปฏิบัติ/ผลท่ีคาดว่าจะได้รับจากการนำปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปล่ียนแปลงในทุกด้าน ท้ังด้านเศรษฐกิจ สังคม สง่ิ แวดลอ้ ม ความรแู้ ละเทคโนโลยี แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับขา้ ราชการ 37



“พอเพยี ง” ตามรอยพระยคุ ลบาท “ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง” เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาช้ีถึงแนวทางการดำรงอยู่ และ ปฏบิ ตั ติ นของประชาชนในทุกระดบั ตงั้ แตร่ ะดับครอบครวั ระดบั ชมุ ชน จนถึงระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทาง สายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุค โลกาภิวัตน์ “ความพอเพียง” หมายถึง ความพอประมาณ ความมี เหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและ ภายใน ท้งั นี้จะตอ้ งอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวัง อย่างย่ิงในการนำวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการ ทุกขั้นตอนและขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพ้ืนฐานจิตใจของคน ในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับ ใหม้ สี ำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สจุ รติ และให้มคี วามรอบรู้ทเ่ี หมาะสม ดำเนนิ ชีวติ ด้วยความอดทน ความเพียรมสี ตปิ ญั ญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และกว้างขวาง ท้ังด้านวัตถุ สังคม ส่ิงแวดล้อมและวัฒนธรรมจาก โลกภายนอกได้เป็นอย่างดี แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรับข้าราชการ 39

(พระราชดำรัส เน่อื งในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2540) “กิจการใดท่ีไม่มีนโยบายที่แน่วแน่ท่ีสอดคล้องกัน หรอื มวั แตท่ ะเลาะกนั ก็ไม่สำเรจ็ ไม่เกิดประโยชนจ์ ากโครงการ นัน้ ...” (พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบคุ คลต่างๆ ทเี่ ขา้ เฝา้ ถวาย ชัยมงคลเนอ่ื งในโอกาสวันเฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดสุ ดิ าลัย สวนจิตรลดาฯ พระราชวังดสุ ติ วนั ศกุ ร์ที่ 4 ธันวาคม 2541) พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวได้พระราชทานพระบรมราโชวาท เกยี่ วกบั ความฟุง้ เฟ้อ มีขอ้ ความทีส่ ำคญั ดังน้ ี “ความฟุ้งเฟ้อทำให้เกิดความไม่พอ คนเราฟุ้งเฟ้อก็ไม่มี ทางท่จี ะหาทรัพย์มาปอ้ นความฟงุ้ เฟ้อได้ ความฟงุ้ เฟ้อเปน็ ปาก ท่ีหิวไมห่ ยุด เปน็ ปากที่หวิ ตลอดเวลา ปอ้ นเท่าไรไมพ่ อ ฉะนน้ั จะต้องหาทางป้องกัน วิธีที่จะนำมาป้อนความฟุ้งเฟ้อ ซ่ึงก็คือ การทจุ รติ ” 40 แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรับข้าราชการ

(พระราชทานแนวปรชั ญา “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” แก่สำนกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาต ิ เมอื่ วนั ที่ 21 พฤศจกิ ายน 2542) “ทำโครงการอะไร กจ็ ะต้องนึกถึงขนาดท่ีเหมาะสม กับท่ี เรียกว่า อัตภาพ หรือกับส่ิงแวดล้อม ฉะนั้นการที่จะทำ โครงการอะไร จะต้องทำดว้ ยความรอบคอบและอยา่ ตาโตเกนิ ไป แต่ข้อสำคญั ทอี่ ยากจะพูดถึง คือ ถ้าเราทำโครงการทีเ่ หมาะสม ขนาดที่เหมาะสม อาจจะไม่ดูหรูหรา แต่จะไม่ล้มหรือถ้ามีอัน เป็นไปกไ็ ม่เสยี มาก” (พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ท่ีเขา้ เฝ้าฯ ถวายชัยมงคลเนือ่ งในโอกาสวันเฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดสุ ิดาลัย สวนจติ รลดาฯ พระราชวังดสุ ติ วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม 2542) “... ใหพ้ อเพียงนก้ี ็หมายความว่า มีกนิ มอี ยู่ ไม่ฟ่มุ เฟือย ไมห่ รูหรากไ็ ด้ แตว่ ่าพอ แมบ้ างอย่างอาจจะดฟู ุ่มเฟือย แตถ่ า้ ทำให้มีความสขุ ถ้าทำไดก้ ็สมควรท่ีจะทำ สมควรท่จี ะปฎิบัต.ิ ..” แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับข้าราชการ 41

เศรษฐกจิ พอเพียงกบั ทฤษฎีใหม ่ ตามแนวพระราชดำร ิ เศรษฐกิจพอเพียงและแนวทางปฏิบัติของทฤษฎีใหม่ เป็น แนวทางในการพัฒนาที่นำไปสู่ความสามารถในการพ่ึงตนเอง ในระดับ ต่างๆ อยา่ งเป็นขนั้ ตอน โดยไม่ตอ้ งกงั วลกับความผันแปรของธรรมชาติ หรือการเปล่ียนแปลงจากปัจจัยต่างๆ โดยอาศัยความพอประมาณและ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ความเพียรและความอดทนสติ ปญั ญา การช่วยเหลือซ่ึงกันและกันและความสามัคค ี เศรษฐกิจพอเพียงมีความหมายกว้างกว่าทฤษฎีใหม่ โดยที่ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นกรอบแนวคิดท่ีชี้บอกหลักการและแนวทางปฏิบัติ ของทฤษฎีใหม่ ในขณะที่แนวพระราชดำริเกย่ี วกบั ทฤษฎีใหมห่ รอื เกษตร ทฤษฎีใหม่ ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาภาคเกษตรอย่างเป็นข้ันตอนน้ัน เป็นตัวอย่างการใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในทางปฏิบัติท่ีเป็นรูปธรรม เฉพาะในพน้ื ทท่ี ี่เหมาะสม 42 แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับข้าราชการ

ทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ สามารถเปรียบเทียบกับหลัก เศรษฐกิจพอเพียงซ่ึงมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบพื้นฐานกับแบบก้าวหน้า ไดด้ ังนี้ ความพอเพียงในระดับบุคคลและครอบครัว โดยเฉพาะเกษตรกร เป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบพ้ืนฐาน ตรงกับ ทฤษฎีใหม่ขั้นท่ี 1 ท่ีมุ่ง แก้ปัญหาของเกษตรกรที่อยู่ห่างไกลแหล่งน้ำ ต้องพึ่งน้ำฝนและประสบ ความเส่ียงจากการที่น้ำไม่พอเพียง แม้กระทั่งสำหรับการปลูกข้าวเพ่ือ บริโภคและมีข้อสมมติว่า มีท่ีดินพอเพียงในการขุดบ่อเพ่ือแก้ปัญหา เรื่องดังกล่าว จากการแก้ปัญหาความเสี่ยงเร่ืองน้ำจะทำให้เกษตรกร สามารถมีข้าวเพ่ือการบริโภคยังชีพในระดับหนึ่งได้และใช้ท่ีดินในส่วน อ่ืนๆ สนองความต้องการพ้ืนฐานของครอบครัว รวมทั้งขายในส่วนท่ี เหลือเพ่ือมีรายได้ท่ีจะใช้เป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่สามารถผลิตเองได้ ทงั้ หมดน้ีเปน็ การสรา้ งภมู คิ ุ้มกนั ในตวั ใหเ้ กิดขนึ้ ในระดบั ครอบครวั อยา่ งไรก็ตามแม้กระทัง่ ในทฤษฎีใหมข่ ั้นท่ี 1 กจ็ ำเปน็ ทท่ี างเกษตรกร จะต้องได้รับความช่วยเหลือจากทางราชการ มูลนิธิและภาคเอกชน ตามความเหมาะสม ความพอเพยี งในระดบั ชมุ ชนเปน็ เศรษฐกจิ พอเพียง แบบก้าวหน้าและตรงกับทฤษฎีใหม่ข้ันที่ 2 เป็นเร่ืองของการสนับสนุน ให้เกษตรกรรวมพลงั กนั ในรูปกลุ่มหรือสหกรณ์ กลา่ วคอื เมอ่ื สมาชกิ ใน แต่ละครอบครัวมีความพอเพียงขั้นพ้ืนฐานเป็นเบ้ืองต้นแล้วก็จะทำให้ ครอบครัวต่างๆ เหล่านั้นหันมารวมกลุ่มเพื่อร่วมมือกันสร้างประโยชน์ เพ่ือกลุ่มและส่วนรวมบนพ้ืนฐานของความแบ่งปันและช่วยเหลือ ซ่ึงกันและกันตามกำลังและความสามารถของตน ซึ่งจะสามารถทำให้ ชุมชนโดยรวมเกิดความพอเพียงในการดำเนินชีวิตและมีชีวิตที่สมดุล อย่างแท้จริง แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งสำหรบั ขา้ ราชการ 43

ความพอเพียงในระดับประเทศ เป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบ ก้าวหน้าและตรงกับทฤษฎีใหม่ข้ันท่ี 3 ซ่ึงส่งเสริมให้ชุมชนสร้างความ ร่วมมอื กบั องค์กรอื่นๆ ในประเทศ เช่น บรษิ ัทขนาดใหญ่ ธนาคาร และ การสร้างเครือข่ายดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนความรู้ สืบทอดภูมิปัญญาและบทเรียนจากการพัฒนาหรือร่วมมือกันทำการ พัฒนาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงร่วมกันทำให้ประเทศอันเป็นสังคม ใหญ่ที่ประกอบด้วยชุมชนต่างๆ ที่ดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง กลายเป็น เครือข่ายชุมชนพอเพียงที่เชื่อมโยงกันด้วยหลักไม่เบียดเบียน แบ่งปัน และชว่ ยเหลอื ซ่ึงกนั และกันได้ในทสี่ ุด 44 แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรบั ข้าราชการ

“ฉะน้ันโครงการต่างๆ หรือเศรษฐกิจท่ีใหญ่ ต้องมีความ สอดคลอ้ งกนั ดีทไี่ ม่ใชเ่ หมือนทฤษฎใี หมท่ ่ใี ช้ท่ดี นิ เพยี ง 15 ไร่ และสามารถท่ีจะปลูกข้าวพอกิน กิจการน้ีใหญ่กว่า แต่ก็เป็น เศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน คนไม่เข้าใจว่ากิจการใหญ่ๆ เหมือนสร้างเข่ือนป่าสักก็เป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน เขานึกว่าเป็นเศรษฐกิจสมัยใหม่เป็นเศรษฐกิจท่ีห่างไกลจาก เศรษฐกจิ พอเพยี งแต่ท่จี ริงแลว้ เปน็ เศรษฐกจิ พอเพยี งเหมือน กัน” (พระราชดำรสั เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 23 ธันวาคม 2552) แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรบั ขา้ ราชการ 45



กาเศรปรฏษบิฐัตกจิติ แนบตบาพมอแนเพวียทงาง 1 ยึดความประหยดั ตัดทอนค่าใชจ้ า่ ยในทกุ ด้าน ลดละความฟมุ่ เฟือย ในการดำรงชีวิตอย่างจริงจัง มีชีวิตเรียบง่าย ดังกระแสพระดำรัส ความวา่ “ความเปน็ อยู่ที่ต้องไมฟ่ ุ้งเฟอ้ ตอ้ งประหยัดไปในทาง ที่ถูกตอ้ ง” 2 ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความถูกต้องสุจริต (สัมมาอาชีวะ) แม้จะตกอยู่ในภาวะขาดแคลนในการดำรงชีพก็ตาม ดังกระแส พระราชดำรัส ความว่า “ความเจริญของคนท้ังหลาย ย่อมเกิด มาจากการประพฤตชิ อบและการหาเลย้ี งชีพชอบเป็นหลกั สำคญั ” 3 ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์และแข่งขันกันในทางการค้าขาย ประกอบอาชีพ แบบตอ่ สู้กนั อยา่ งรนุ แรงดังอดตี (สัมมากัมมันตะ) ดังกระแสพระราชดำรัสในเร่ืองนี้ ความว่า “ความสุขความเจริญ อันแท้จริงน้ัน หมายถึง ความสุขความเจริญท่ีบุคคลแสวงหา ได้ด้วยความเป็นธรรม ท้ังในเจตนาและการกระทำไม่ใช่ได้มา ด้วยความบังเอิญหรอื ด้วยการแกง่ แย่งเบียดบงั มาจากผอู้ น่ื ” แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรบั ขา้ ราชการ 47

4 ไม่หยุดนิ่งท่ีจะหาทางให้ชีวิตหลุดพ้นจากความทุกข์ยากคร้ังน ี ้ โดยต้องขวนขวายใฝ่หาความรู้ให้เกิดมีรายได้เพ่ิมพูนข้ึนจนถึงขั้น พอเพียงเป็นเป้าหมายสำคัญ (สัมมาวายามะ) ดังกระแสพระราช ดำรสั ตอนหน่งึ ทใ่ี หค้ วามหมายชดั เจนวา่ “การท่ีตอ้ งการใหท้ ุกคน พยายามท่ีจะหาความรู้และสร้างตนเองให้ม่ันคงนี้เพื่อตนเอง เพ่ือทจี่ ะใหต้ วั เองมีความเปน็ อยู่ที่กา้ วหน้าท่มี ีความสุข พอมพี อกิน เปน็ ขั้นหนงึ่ และข้ันต่อไป ก็คอื ใหม้ เี กียรตวิ ่ายืนไดด้ ว้ ยตนเอง” 5 ปฏิบัตติ นในแนวทางทีด่ ี ลดละสง่ิ ชั่ว (อบายมขุ 6) ให้หมดส้ินไป ท้ังนี้ด้วยสังคมไทยที่ล่มสลายลงในครั้งนี้ เพราะยังมีบุคคลจำนวน มิใช่นอ้ ยที่ดำเนินการโดยปราศจากความละอายแผ่นดิน (หิริโอตตัปปะ) ดังกระแสพระราชดำรัส ความว่า “พยายามไมก่ ่อความชว่ั ให้เปน็ เคร่อื งทำลายตัว ทำลายผูอ้ นื่ พยายามลด พยายามละความชว่ั ที่ตัวเองมีอยู่ พยายามก่อความดีให้แก่ตัวอยู่เสมอ พยายาม รักษาและเพ่มิ พูนความดที ่มี ีอยู่นั้นให้งอกงามสมบูรณ์ขึน้ ” 48 แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรับข้าราชการ

4 ป. หลักในการครองงาน โปร่งใส การปฏิบัติงานด้วยความสุจริต เที่ยงตรง พร้อมรับการตรวจสอบ ในทุกกระบวนการ มีความเข้มแข็งและสร้างเกราะกำบังให้ตนเอง เพอ่ื ยืนหยดั ต่อสกู้ ับการทจุ รติ และประพฤติมชิ อบในทุกกรณี เปน็ ธรรม การปฏิบัติด้วยความเสมอภาค เพ่ือสร้างความอุ่นใจและเป็นท่ีพ่ึง ให้แก่ประชาชน รวมถึงการหลีกเล่ียงและต่อต้านสิ่งไม่ดีท้ังปวง เพอ่ื รักษาความชอบธรรมในสงั คม ประหยัด การใช้จ่ายอย่างพอดีตัว ไม่สร้างหนี้สินเกินความจำเป็น รู้จัก อดออมและแบ่งปัน ไม่ทะเยอทะยานฟุ้งเฟ้อเกินตัว มีภูมิคุ้มกัน ทางเศรษฐกจิ ท่ดี ี ท้ังทรพั ยส์ ินของทางราชการและทรพั ยส์ ินส่วนตัว ประสทิ ธภิ าพ การปฏิบัติงานท่ีคำนึงถึงผลสัมฤทธิ์ของงาน โดยมีประโยชน์สุข ของประชาชนและการพฒั นาประเทศทย่ี งั่ ยืนเป็นหลกั ชยั แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรับขา้ ราชการ 49

4 พ. หลกั ในการครองตน พึ่งตนเอง การพึ่งตนเองด้วยสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ เพ่ือนำพาให้ ตนประสบความสำเร็จในชีวิตและคล่ีคลายจากปัญหาที่ประสบอยู่ การพ่ึงตนเองของข้าราชการจำเป็นต้อง มีความม่ันใจในความรู้ ความสามารถ สมรรถนะและศักยภาพของตนเองเพ่ือเป็นหลักใน การปฏิบัติราชการให้ประสบผลสัมฤทธิ์ตามภาระหน้าท่ีที่ได้รับ มอบหมาย พอด ี ความพอเหมาะพอควรและเป็นขั้นตอน ไม่ช้าไป ไม่เร็วไป ไม่ก้าว กระโดด ไม่ประมาท รจู้ กั เลือกสรรและใช้อย่างเหมาะสมระมัดระวัง การปฏิบัติราชการจำเป็นต้องเข้าใจขอบเขตของเรื่องหรือกรอบของ งานให้กระจา่ งและลงมือปฏิบัตไิ ด้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม 50 แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับข้าราชการ