51 โครงการสอนรายสปั ดาห์ (ต่อ) สปั ดาห์ ชือ่ หน่วย / หัวข้อการเรียน ชวั่ โมงท่ี รวม ที่ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 4 13 14-16 4 หนว่ ยที่ 2 หลกั การทางานการถอดประกอบ 4 17 18-20 4 และตรวจสอบช้ินสว่ นเครื่องยนตเ์ ลก็ (ตอ่ ) 4 21 22-24 2.6.8 เพลาขอ้ เหวย่ี ง 25 26-28 2.6.9 ล้อชว่ ยแรง 2.6.10 เพลาลูกเบยี้ ว 2.6.11 ลิน้ ไอดี ไอเสีย 2.6.12 เพลาสมดุล ใบงานท่ี 2.2 งานถอดประกอบและตรวจสอบฝาสบู และล้นิ ไอดีไอเสียเครื่องยนต์เลก็ ดเี ซล 5 หนว่ ยท่ี 2 หลักการทางานการถอดประกอบ และตรวจสอบชน้ิ ส่วนเครื่องยนต์เลก็ (ต่อ) 2.7 การถอดประกอบและตรวจสอบช้นิ ส่วนเครื่องยนต์ เล็กแก๊สโซลนี ใบงานที่ 2.3 งานถอดประกอบและตรวจสอบช้ินส่วน เครือ่ งยนต์เล็กแกส๊ โซลีน 6 หนว่ ยท่ี 2 หลกั การทางานการถอดประกอบ และตรวจสอบชน้ิ ส่วนเครื่องยนตเ์ ลก็ (ต่อ) 2.8 การถอดประกอบและตรวจสอบชน้ิ ส่วนเครอื่ งยนต์ เลก็ ดีเซล ใบงานที่ 2.4 งานถอดประกอบและตรวจสอบช้ินส่วน เครือ่ งยนตเ์ ล็กดีเซล 7 หนว่ ยที่ 3 ระบบระบายความร้อนและการหล่อลนื่ เครอื่ งยนตเ์ ลก็ 3.1 หนา้ ทขี่ องการระบายความร้อน 3.2 ประเภทของการระบายความรอ้ น 3.2.1 การระบายความร้อนดว้ ยอากาศ 3.2.2 การระบายความรอ้ นด้วยน้า
52 โครงการสอนรายสปั ดาห์ (ต่อ) สปั ดาห์ ชื่อหน่วย / หัวข้อการเรยี น ชว่ั โมงที่ รวม ที่ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 4 25 26-28 7 3.3 สว่ นประกอบของระบบระบายความร้อนดว้ ยนา้ 4 29 30-32 3.3.1 ฝาปดิ หม้อน้า 3.3.2 หม้อนา้ 3.3.3 พัดลมระบายความรอ้ น 3.3.4 ปัม๊ นา้ 3.3.5 เทอร์โมสตทั 3.3.6 วาล์วถ่ายนา้ 3.4 การบรกิ ารและตรวจสอบ ระบบระบายความร้อนของ เคร่อื งยนต์เล็ก ใบงานท่ี 3.1 งานบริการและตรวจสอบระบบระบาย ความรอ้ นเคร่อื งยนต์เล็กดเี ซล 8 หน่วยที่ 3 ระบบหล่อลื่นและระบายความร้อน เคร่ืองยนตเ์ ลก็ (ตอ่ ) 3.5 หน้าท่ขี องระบบหล่อลน่ื เครื่องยนต์ 3.6 ประเภทของการหล่อลนื่ เครอ่ื งยนต์ 3.6.1 การหลอ่ ลน่ื แบบวิดสาด 3.6.2 การหล่อล่นื แบบใช้แรงดนั 3.7 ส่วนประกอบของระบบหล่อลื่นเครื่องยนต์เล็ก แบบ ใช้แรงดัน 3.7.1 ปม๊ั นา้ มันหลอ่ ล่ืน 3.7.1.1 แบบเฟอื งเกยี ร์ 3.7.1.2 แบบโรเตอร์ 3.7.2 เกจวัดแรงดนั นา้ มันหลอ่ ล่นื 3.7.3 ลิน้ ควบคมุ แรงดันน้ามนั หลอ่ ลื่น 3.7.4 ไส้กรองน้ามนั หล่อล่ืน 3.7.5 ลิ้นระบายแรงดนั ไอน้ามนั หลอ่ ลน่ื
53 โครงการสอนรายสปั ดาห์ (ต่อ) สัปดาห์ ช่ือหน่วย / หัวข้อการเรียน ชั่วโมงที่ รวม ท่ี ทฤษฎี ปฏิบัติ 4 29 30-32 8 หน่วยท่ี 3 ระบบหล่อลื่นและระบายความร้อน 4 33 34-36 เครื่องยนต์เลก็ (ต่อ) 3.8 การบริการและตรวจสอบระบบหล่อลื่นเครื่องยนตเ์ ล็ก ใบงานท่ี 3.2 งานบรกิ ารและตรวจสอบช้ินส่วนระบบหล่อ ลืน่ แบบใชแ้ รงดัน เคร่ืองยนตเ์ ล็กดีเซล 9 หนว่ ยท่ี 4 ระบบจุดระเบิดเคร่ืองยนต์เล็กแกส๊ โซลีน 4.1 หนา้ ทีข่ องระบบจุดระเบิด 4.2 สว่ นประกอบของระบบจุดระเบดิ 4.2.1 ลอ้ แมเ่ หล็ก 4.2.2 หน้าทองขาว 4.2.3 คอนเดนเซอร์ 4.2.4 คอยลจ์ ดุ ระเบิด 4.2.5 หัวเทียน 4.2.6 สวติ ช์จดุ ระเบดิ 4.3 ประเภทของระบบจุดระเบิดเคร่อื งยนต์เลก็ 4.3.1 ระบบจุดระเบิดแบบหนา้ ทองขาว ใบงานที่ 4.1 งานตรวจสอบและปรบั ตั้งระยะหา่ งเข้ยี วหัวเทียน 10 หนว่ ยที่ 4 ระบบจดุ ระเบิดเครือ่ งยนต์เล็กแก๊สโซลีน(ต่อ) 37 38-40 4 4.3.2 ระบบจดุ ระเบิดแบบทรานซิสเตอร์ 4.3.3 ระบบจดุ ระเบดิ แบบ CDI 4.4 การเปรียบเทียบขอ้ ดี,ขอ้ เสยี ของระบบจดุ ระเบิดแบบต่างๆ 4.5 การบริการและตรวจสอบระบบจดุ ระเบิดเคร่ืองยนต์เล็ก ใบงานท่ี 4.2 งานตรวจสอบและปรับตั้งระยะห่างระหว่าง คอยล์จุดระเบิดและลอ้ แมเ่ หลก็ ใบงานที่ 4.3 งานตรวจวัดความต้านทานภายในวงจรของ คอยล์จดุ ระเบิดแบบทรานซิสเตอร์
54 โครงการสอนรายสปั ดาห์ (ต่อ) สัปดาห์ ชอ่ื หน่วย / หัวข้อการเรียน ชว่ั โมงท่ี ท่ี ทฤษฎี ปฏิบตั ิ รวม 41 42-44 4 11 หนว่ ยที่ 5 ระบบเช้ือเพลิงและกลไกควบคุมความเรว็ 45 47-48 4 รอบเคร่ืองยนตเ์ ล็กแก๊สโซลีน 5.1 หน้าทข่ี องระบบเชื้อเพลงิ 5.2 สว่ นประกอบของระบบเชื้อเพลงิ เคร่ืองยนตเ์ ล็ก แก๊สโซลีน 5.2.1 ถงั นา้ มันเชื้อเพลงิ 5.2.2 ฝาถังนา้ มันเชือ้ เพลิง 5.2.3 กรองน้ามนั เช้ือเพลิง 5.2.4 กรองอากาศ 5.2.4.1 การแบง่ ประเภทของกรองอากาศ 5.2.5 คาร์บูเรเตอร์ 5.2.5.1 สว่ นประกอบของคาร์บูเรเตอร์ 5.2.5.2 หลักการทางานของคารบ์ ูเรเตอร์ 5.2.5.3 การแบ่งประเภทของคารบ์ ูเรเตอร์ ใบงานท่ี 5.1 งานบริการกรองอากาศเครื่องยนต์เล็ก แก๊สโซลีนแบบเปียก 12 หนว่ ยท่ี 5 ระบบเชื้อเพลงิ และกลไกควบคุมความเรว็ รอบเครือ่ งยนตเ์ ล็กแกส๊ โซลีน(ต่อ) 5.3 หนา้ ทีข่ องระบบควบคุมความเรว็ รอบเครอื่ งยนต์ หรอื กาวานา 5.4 สว่ นประกอบของกาวานาเครอื่ งยนต์เล็กแกส๊ โซลนี 5.5 ประเภทของกาวานา 5.5.1 กาวานา แบบใชล้ ม 5.5.2 กาวานาแบบกลไก 5.6 การบรกิ ารระบบเช้ือเพลิงเครื่องยนตเ์ ล็กแกส๊ โซลีน 5.7 การบรกิ ารกลไกควบคุมความเรว็ รอบเคร่ืองยนต์ หรือกาวานา
55 โครงการสอนรายสัปดาห์ (ต่อ) สัปดาห์ ชื่อหน่วย / หัวข้อการเรียน ชวั่ โมงที่ รวม ที่ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 4 45 47-48 4 12 หน่วยท่ี 5 ระบบเช้ือเพลงิ และกลไกควบคุมความเรว็ 49 50-52 4 รอบเครือ่ งยนต์เลก็ แกส๊ โซลีน(ตอ่ ) 53 54-56 ใบงานท่ี 5.2 งานถอดประกอบและตรวจสอบ คารบ์ ูเรเตอร์ 13 หนว่ ยที่ 6 ระบบเช้ือเพลงิ และกลไกควบคุมความเรว็ รอบเคร่อื งยนตเ์ ลก็ ดีเซล 6.1 หน้าทข่ี องระบบเชือ้ เพลิง 6.2 ส่วนประกอบของระบบเชอื้ เพลงิ เครือ่ งยนตเ์ ล็กดเี ซล 6.2.1 ถังน้ามนั เชื้อเพลิง 6.2.2 ฝาถังนา้ มันเช้ือเพลงิ 6.2.3 กรองน้ามันเชือ้ เพลงิ 6.2.4 กรองอากาศ 6.2.5 ปมั๊ นา้ มันเช้ือเพลิง 6.2.5.1 สว่ นประกอบของปั๊มน้ามนั เชอ้ื เพลงิ 6.2.5.2 หลกั การทางานของปัม๊ น้ามันเชอื้ เพลิง 6.2.6 การบริการและตรว จสอบกรองอากาศ เครอ่ื งยนต์เล็กดีเซล 6.2.7 การบริการและตรวจสอบไส้กรองน้ามัน เช้อื เพลงิ เครื่องยนตเ์ ล็กดีเซล 6.2.8 การบริการและตรวจสอบปั๊มน้ามันเชื้อเพลิง เครอ่ื งยนต์เลก็ ดเี ซล ใบงานที่ 6.1 งานถอดประกอบและตรวจสอบปั๊มน้ามัน เชื้อเพลงิ เคร่อื งยนต์เลก็ ดเี ซล 14 หน่วยท่ี 6 ระบบเช้ือเพลิงและกลไกควบคุมความเร็ว รอบเครอื่ งยนตเ์ ล็กดเี ซล (ต่อ) 6.2.9 หัวฉีด 6.2.9.1 สว่ นประกอบของหวั ฉดี
56 โครงการสอนรายสปั ดาห์ (ตอ่ ) สัปดาห์ ช่อื หน่วย / หัวข้อการเรียน ชวั่ โมงท่ี รวม ท่ี ทฤษฎี ปฏิบัติ 4 53 54-56 14 หนว่ ยท่ี 6 ระบบเชื้อเพลิงและกลไกควบคุมความเรว็ 4 57 58-60 รอบเครอ่ื งยนตเ์ ล็กดเี ซล (ต่อ) 6.2.9.2 ประเภทของหัวฉีด 6.2.9.3 หลักการทางานของหัวฉีด 6.3 กลไกควบคุมความเรว็ รอบของเคร่ืองยนต์หรือกาวานา 6.4 ส่วนประกอบของกาวานาเครอื่ งยนต์เลก็ ดีเซล 6.5 หลักการทางานของกลไกกาวานาเครื่องยนต์เลก็ ดเี ซล 6.6 การบรกิ ารระบบและตรวจสอบหวั ฉดี เครื่องยนต์เลก็ ดเี ซล 6.7 การทดสอบแรงดันหวั ฉีด ดว้ ยเคร่ืองทดสอบแรงดนั หวั ฉดี 6.8 การทดสอบแรงดันของหัวฉดี โดยใช้แรงดันจาก ป๊ัมน้ามนั เช้อื เพลงิ ของเครื่องยนต์ 6.9 การตง้ั จงั หวะการฉีดน้ามันเช้ือเพลงิ ใบงานท่ี 6.2 งานถอดประกอบและตรวจสอบหวั ฉีดน้ามัน เชอื้ เพลิงเคร่ืองยนต์เล็กดเี ซล 15 หนว่ ยท่ี 7 การปรับแตง่ และการแกไ้ ขขอ้ ขัดข้อง เครอื่ งยนตเ์ ล็ก 7.1 ความสาคญั ของการปรับแต่งเครื่องยนต์เล็ก 7.2 การปรับตัง้ ระยะหา่ งลิน้ ไอดไี อเสยี เครื่องยนต์เล็ก 7.3 การปรบั ตงั้ รอบเดนิ เบาของเคร่อื งยนต์เครอ่ื งยนต์เลก็ แก๊สโซลนี 7.4 การปรับตั้งระยะห่างคอยล์จดุ ระเบดิ กับลอ้ แม่เหล็ก ใบงานที่ 7.1 งานปรับต้ังระยะห่างล้ินไอดีไอเสีย เครอื่ งยนตเ์ ลก็ 16 หนว่ ยที่ 7 การปรับแตง่ และการแกไ้ ขข้อขดั ข้อง 61 62-64 4 เครอื่ งยนต์เล็ก 7.5 การปรบั ตั้งกาวานาเครอ่ื งยนตเ์ ลก็ แกส๊ โซลนี
57 โครงการสอนรายสัปดาห์ (ต่อ) สัปดาห์ ชื่อหน่วย / หัวข้อการเรียน ชวั่ โมงท่ี รวม ที่ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 4 61 62-64 16 หนว่ ยที่ 7 การปรับแต่งและการแก้ไขข้อขดั ข้อง 4 65 66-68 เคร่อื งยนต์เล็ก(ต่อ) 7.6 การปรับต้ังความตึงหย่อนของสายพานพัดลมหม้อน้า เครอื่ งยนตเ์ ล็กดเี ซล 7.7 การแก้ไขขอ้ ขัดข้องเครื่องยนตเ์ ล็กแกส๊ โซลีน 7.8 การแก้ไขข้อขัดขอ้ งเคร่ืองยนตเ์ ล็กดีเซล ใบงานท่ี 7.2 งานปรบั ตงั้ กาวานาและรอบเดนิ เบาของ เครือ่ งยนต์แกส๊ โซลนี 18 หน่วยท่ี 8 การบารุงรักษาเครื่องยนต์เลก็ 8.1 ความสาคญั ของการบารงุ รกั ษาเคร่ืองยนต์เล็ก 8.2 การเปลี่ยนถา่ ยนา้ มันหล่อลน่ื เครือ่ งยนตเ์ ลก็ 8.2.1 ขั้นตอนการเปลี่ยนถา่ ยนา้ มันหลอ่ ลน่ื เคร่ืองยนต์เล็กแกส๊ โซลีน 8.2.2 ขน้ั ตอนการเปลี่ยนถา่ ยนา้ มันหล่อล่ืนเครื่องยนต์ เลก็ ดเี ซล 8.3 การตรวจสอบและทาความสะอาด ชุดกรองอากาศ เครื่องยนตเ์ ล็ก 8.4 การบารุงรักษาและทาความสะอาดชุดกรองน้ามัน เช้ือเพลิง 8.4.1 การทาความสะอาดกรองน้ามันเช้ือเพลิงภายใน ถว้ ยกรองคาร์บูเรเตอร์ 8.4.2 การทาความสะอาดกรองน้ามันเช้ือเพลิงภายในถัง น้ามันเชื้อเพลิงเคร่ืองยนต์เล็กแก๊สโซลนี 8.4.3 การทาความสะอาดชุดกรองนา้ มันเชื้อเพลิงดเี ซล 8.5 การบารงุ รกั ษาหวั เทยี น 8.6 ตารางการบารงุ รกั ษาเคร่อื งยนตเ์ ล็กแกส๊ โซลีน 8.7 ตารางการบารงุ รักษาเครือ่ งยนตเ์ ลก็ ดเี ซล
58 โครงการสอนรายสปั ดาห์ (ต่อ) สปั ดาห์ ชอื่ หน่วย / หัวข้อการเรยี น ชั่วโมงท่ี รวม ที่ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 4 65 66-68 4 17 หนว่ ยท่ี 8 การบารุงรักษาเครอื่ งยนต์เล็ก (ตอ่ ) 69 70-72 72 ใบงานท่ี 8.1 งานเปลย่ี นถ่ายนา้ มนั หล่อล่ืนเคร่ืองยนต์เลก็ 18 54 ใบงานที่ 8.2 งานตรวจสอบและทาความสะอาดชุดกรอง อากาศเคร่อื งยนตเ์ ลก็ ใบงานท่ี 8.3 งานตรวจสอบและทาความสะอาดกรอง นา้ มนั เช้ือเพลงิ เครือ่ งยนต์เลก็ ดเี ซล 18 หน่วยท่ี 9 การประมาณราคาคา่ บรกิ าร 9.1 ความหมายของการประมาณราคาค่าบรกิ าร 9.2 องคป์ ระกอบที่เกี่ยวขอ้ งในการประมาณราคา คา่ บริการ 9.2.1 ราคาตน้ ทุน 9.2.1.1 คา่ อะไหล่ 9.2.1.2 ค่าวัสดุ 9.2.1.3 คา่ แรง 9.2.1.4 เวลาทางาน 9.2.1.5 อัตราค่าแรงงานตอ่ ชั่วโมง 9.2.2 กาไร 9.3 ราคาคา่ บริการ ใบงานที่ 9.1 การประมาณราคาค่าบริการงานซ่อม เคร่ืองยนต์เล็ก รวม
59 คาชี้แจงการใช้เอกสารประกอบการสอน รายวิชา งานเคร่อื งยนต์เลก็ รหัสวิชา 2101 – 2101 ท-ป-น 1-3-2 หลักสูตรประกาศนยี บัตรวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช 2556 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวชิ าช่างยนต์ เอกสารประกอบการสอนนี้ ใช้สาหรับประกอบการจัดการเรียนการสอนนักเรียนระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างยนต์ ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชางาน เครื่องยนต์เล็ก รหัสวิชา 2101- 2101 กิจกรรมการเรียนการสอนจะถูกกาหนดไว้ในแผนการจัดการ เรยี นรู้ ซึ่งนกั เรียนจะต้องทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน จากนั้นจงึ เรยี นทฤษฎี และปฏิบัตงิ านตามใบงาน ทก่ี าหนด ทาแบบฝกึ หดั และแบบทดสอบหลังเรียนตามลาดบั โดยเนื้อหาวิชาจะประกอบไปดว้ ย 9 หนว่ ยดงั นี้ หนว่ ยที่ 1 หลกั ความปลอดภัยและเคร่ืองมือในงานเคร่ืองยนตเ์ ล็ก หนว่ ยท่ี 2 หลกั การทางานการถอดประกอบและตรวจสอบชิน้ ส่วนเครือ่ งยนตเ์ ล็ก หนว่ ยท่ี 3 ระบบระบายความร้อนและการหล่อล่นื เคร่ืองยนตเ์ ล็ก หนว่ ยท่ี 4 ระบบจดุ ระเบดิ เคร่อื งยนตเ์ ลก็ แกส๊ โซลนี หนว่ ยที่ 5 ระบบเชอื้ เพลิงและกลไกควบคุมความเรว็ รอบเคร่อื งยนต์เล็กแก๊สโซลนี หน่วยท่ี 6 ระบบเช้ือเพลงิ และกลไกควบคุมความเรว็ รอบเครือ่ งยนต์เล็กดเี ซล หนว่ ยท่ี 7 การปรบั แตง่ และการแกไ้ ขข้อขัดขอ้ งเคร่ืองยนต์เลก็ หน่วยที่ 8 การบารุงรักษาเคร่ืองยนตเ์ ล็ก หนว่ ยที่ 9 การประมาณราคาค่าบริการ เอกสารประกอบการสอนและจดั ทารายละเอียดไวม้ สี ว่ นประกอบดังน้ี 1. หลักสตู รรายวิชา 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ 3. ตารางกาหนดหวั ข้อเนือ้ หา 4. ตารางวเิ คราะห์หน่วยการเรียนรู้ 5. ตารางวิเคราะห์เนื้อหาทสี่ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์รายวิชาและสมรรถนะรายวิชา 6. ตารางวิเคราะหร์ ายละเอยี ด/หัวข้อยอ่ ย 7. ตารางวิเคราะห์คาอธบิ ายรายวิชาท่สี อดคลอ้ งกับพฤติกรรมทตี่ อ้ งการ 8. ตารางวเิ คราะห์จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 9. โครงการสอนรายวชิ า 10. แผนการจดั การเรียนรู้ ซ่งึ ประกอบด้วย
60 10.1 ใบเนอ้ื หา 10.2 แบบฝกึ หดั 10.2 เฉลยแบบฝกึ หดั 10.3 แบบทดสอบก่อนเรยี น/หลงั เรียน 10.4 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น/หลังเรียน 10.5 ใบงาน 10.6 แบบบนั ทึกผลการปฏิบัตงิ าน 10.7 ใบประเมินผลการปฏบิ ัติงานรายบุคคล 10.8 แบบประเมินคุณธรรมจริยธรรมค่านยิ มและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 10.9 บนั ทึกหลงั การสอน 1. คาชแ้ี จงสาหรับครูผู้สอน 1.1 ครูผู้สอนรายวิชางานเคร่ืองยนต์เล็กรหัสวิชา 2101- 2101 จะต้องศึกษาหลักการ ของหลักสูตรจุดหมายของหลักสูตร เนื้อหาวิชาและแผนการจัดการเรียนรู้ให้เข้าใจก่อนทาการสอน และต้องมีการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนตามท่ีระบุไว้ในแผนการ จดั การเรยี นร้แู ตล่ ะหนว่ ยการเรียน 1.2 ครผู สู้ อนตอ้ งดาเนินการจดั การเรยี นการสอน ตามแผนการเรยี นรอู้ ยา่ งเครง่ ครดั 1.3 การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนแบง่ ออกเปน็ ขนั้ ตอนดังนี้ ขน้ั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรยี น ขัน้ ที่ 2 ขนั้ การสอน ข้นั ท่ี 3 ขั้นสรปุ ขนั้ ท่ี 4 ขน้ั ประเมนิ ผล ในข้ันตอนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน ในช่วงขั้นการ นาเข้าสู่บทเรียนเม่ือนักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนเสร็จแล้ว ให้เข้าสู่ข้ันการสอนและให้เน้ือหา และฝึกปฏิบัติงานตามใบงานที่กาหนดให้โดยผู้เรียนจะต้องบันทึกผลการปฏิบัติงานลงในแบบบันทึก ผลการปฏิบัติงานและนาข้อมูลท่ีได้มาสรุปปัญหาและอุปสรรคพร้อมท้ังข้อเสนอแนะในข้ันตอนการ สรุปผล หลังจากนั้นให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดและแบบทดสอบหลังเรียนตามลาดับ โดยครูและ นกั เรียนร่วมกันเฉลยในข้ันการประเมินผล ในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนครูผู้สอนควรจะมีการ ใช้สื่อการสอนท่ีมีความหลากหลาย จะตอ้ งมีทักษะความชานาญการในการนาเสนอให้นักเรียนเกิด การเรยี นร้ไู ด้อย่างมีประสทิ ธิผล 1.4 การสรุปบทเรียนแตล่ ะคร้ังเป็นกจิ กรรมร่วมระหว่างครผู ู้สอนกบั นักเรียนหรือจะเปน็ กิจกรรมของนักเรยี น ทัง้ หมดก็ได้
61 1.5 หลังจากเรียนจบเนื้อหาการจัดการเรยี นการสอนแตล่ ะครัง้ แล้ว ครูผ้สู อนจะต้องให้นกั เรียน ทาแบบฝึกหัดและแบบทดสอบหลงั เรยี น และเก็บรวบรวมขอ้ มูลเอาไว้ 1.6 หลงั จากนักเรียนเรียนจบครบทุกหน่วยการเรยี นแล้วครูผ้สู อนจะตอ้ งวเิ คราะหผ์ ลของคะแนน เพอื่ ดูการเปลย่ี นแปลงพฤติกรรมและความก้าวหนา้ ทางการเรยี นของนักเรยี นเป็นรายบุคคล 2. บทบาทของนักเรยี น เอกสารประกอบการสอนรายวิชางานเคร่ืองยนต์เล็ก รหัสวิชา 2101- 2101 ใช้เพ่ือเป็นเอกสาร ประกอบการสอนของครูผู้สอน ซ่ึงเป็นผู้กาหนดกิจกรรมภายในช้ันเรียน โดยให้นักเรียนเป็นผู้ปฏิบัติ ตามบทบาทของผู้เรียนดังนี้ 2.1 นักเรียนจะตอ้ งปฏบิ ัติกิจกรรมตามคาแนะนาของครูผู้สอนอย่างเคร่งครัด 2.2 นกั เรยี นจะต้องทาแบบฝึกหดั และแบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรยี นอย่างเต็มความสามารถ 2.3 นักเรียนจะต้องอ่านคาชี้แจง และศึกษาขน้ั ตอนการปฏิบัติงานให้เข้าใจ จากน้ันจึงปฏิบัติงาน ตามข้นั ตอนการปฏบิ ัติงานในใบงานอย่างเครง่ ครดั 2.4 เม่ือนักเรียนมขี ้อสงสัยในขณะปฏิบตั ิงาน นักเรียนจะต้องถามครูผู้สอนให้เข้าใจอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน จึงลงมือปฏบิ ตั งิ านทั้งน้ีเพอื่ ความปลอดภยั ในการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ 2.5 การใช้เคร่ืองมอื ในการปฏิบัตงิ านจะต้องเลอื กใชใ้ ห้ถูกต้องและเหมาะสม กับลักษณะของงาน ที่ระบุไว้ในใบงาน เมื่อปฏิบัติงานเสร็จเรียบร้อยแล้วจะต้องเช็ดล้างทาความสะอาด และเก็บให้ เรยี บรอ้ ยทกุ ครงั้ 3. การจัดชน้ั เรียน การจดั ชั้นเรียนสาหรบั การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนในภาคทฤษฎี ซ่งึ เปน็ การจดั การเรยี นการ สอนแบบบรรยายหรือถามตอบ จะต้องจัดช้ันเรียนในพื้นท่ีท่ีเหมาะสมและเอ้ือต่อกระบวนการเรียนรู้ ของผู้เรียน โดยจัดให้เป็นพื้นที่ท่ีมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงสว่างเพียงพอ และมีเสียงรบกวนน้อย ในช้ันเรียนควรจะมีสื่อและอุปกรณ์สาหรับการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอน สาหรับการจัดช้ัน เรียนภาคปฏิบัติ ให้จัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ เพื่อให้นักเรียนสามารถฝึกปฏิบัติตาม กิจกรรมที่เสนอไว้ในแผนการจัดการเรยี นรู้ และครผู ู้สอนคอยกากับดแู ลให้คาปรกึ ษาอย่างใกล้ชดิ 4. โครงการสอนและแผนการจดั การเรยี นรู้ โครงการสอนและแผนการจัดการเรียนรู้จัดอยู่ในเอกสารประกอบการสอนนี้โดยจะแบ่งเป็น โครงการสอนรายสัปดาห์และมแี ผนการจัดการเรยี นรูแ้ ตล่ ะสัปดาหร์ วมท้ังสน้ิ 18 สปั ดาห์ 5. การวัดผลประเมินผล การวดั ผลประเมินผล จะได้จากคะแนนดงั ตอ่ ไปนี้ 5.1 คะแนนจากการทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลงั เรยี น 5.2 คะแนนจากการทาแบบฝกึ หดั
62 5.3 คะแนนจากแบบประเมนิ ผลการปฏิบัติงานตามใบงาน 5.4 คะแนนจากคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ค่านิยมและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6. เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การให้คะแนนจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ในรายวิชางานเครื่องยนต์เล็ก รหัสวิชา 2101- 2101 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างยนต์ ตามกระบวนการของเอกสาร ประกอบการสอนเล่มนี้ มเี กณฑ์การใหค้ ะแนนแตล่ ะส่วนตามรายละเอยี ดดังต่อไปน้ี 6.1 คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน ถา้ นกั เรยี นตอบถกู ใหข้ อ้ ละ 1 คะแนน ตอบผิดได้ 0 คะแนน 6.2 คะแนนจากการทาแบบฝึกหัด ถา้ นักเรียนตอบถกู ใหข้ อ้ ละ 1 คะแนน ตอบผดิ ได้ 0 คะแนน 6.3 คะแนนผลการปฏิบัตงิ านใหค้ ะแนนจุดประเมนิ ละ 1 คะแนน ( รายละเอียดแสดงอยูใ่ น ใบประเมินผลการปฏบิ ัติงาน ) 7. เกณฑก์ ารประเมนิ ผล คะแนนที่จะนาไปใช้ในการประเมินผลการเรียน โดยคิดจากการดาเนินการจัดการเรียนการสอน ตามกระบวนการของเอกสารประกอบการสอนทั้ง 9 หน่วย ได้แบ่งคะแนนออกเป็น 3 ส่วน และ ผลรวมของคะแนนทั้งหมดคดิ เป็น 100 คะแนน ตามรายละเอียดดังตอ่ ไปน้ี 7.1 คะแนนจากแบบทดสอบหลังเรยี น รวม 270 คะแนน คดิ เป็นร้อยละ 30 ซึ่งมีรายละเอียดของ คะแนนในแต่ละหน่วยดงั น้ี หนว่ ยที่ 1 คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น 30 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 3.33 หน่วยที่ 2 คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน 51 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 5.66 หนว่ ยที่ 3 คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น 36 คะแนน คิดเปน็ ร้อยละ 4 หนว่ ยท่ี 4 คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน 31 คะแนน คิดเปน็ รอ้ ยละ 3.44 หนว่ ยที่ 5 คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน 28 คะแนน คิดเป็นรอ้ ยละ 3.11 หนว่ ยที่ 6 คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น 31 คะแนน คิดเป็นรอ้ ยละ 3.44 หน่วยท่ี 7 คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน 23 คะแนน คดิ เป็นร้อยละ 2.55 หน่วยที่ 8 คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน 23 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 2.55 หนว่ ยที่ 9 คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น 17 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 1.88 รวมคะแนนแบบทดสอบหลังเรียนท้ัง 9 หนว่ ย เท่ากับ 270 คะแนน 7.2 คะแนนแบบฝึกหัดและผลการปฏิบัติงานรวม 494 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 50 มีรายละเอียด ของคะแนนในแต่ละหนว่ ยดงั ตอ่ ไปนี้ หนว่ ยที่ 1 คะแนนแบบฝกึ หัดและผลการปฏบิ ัตงิ านรวม 41 คะแนนคดิ เป็นรอ้ ยละ 4.15 หน่วยที่ 2 คะแนนแบบฝกึ หดั และผลการปฏบิ ัติงานรวม 123 คะแนน คิดเปน็ ร้อยละ12.45
63 หนว่ ยท่ี 3 คะแนนแบบฝกึ หดั และผลการปฏบิ ตั งิ านรวม 54 คะแนน คิดเปน็ รอ้ ยละ 5.46 หน่วยท่ี 4 คะแนนแบบฝึกหดั และผลการปฏบิ ตั งิ านรวม 46 คะแนน คิดเปน็ ร้อยละ 4.65 หน่วยที่ 5 คะแนนแบบฝึกหดั และผลการปฏบิ ตั งิ านรวม 60 คะแนน คิดเปน็ รอ้ ยละ 6.07 หนว่ ยที่ 6 คะแนนแบบฝกึ หัดและผลการปฏิบตั ิงานรวม 49 คะแนน คดิ เป็นร้อยละ 4.96 หน่วยที่ 7 คะแนนแบบฝกึ หัดและผลการปฏิบัติงานรวม 42 คะแนน คิดเปน็ ร้อยละ 4.25 หน่วยที่ 8 คะแนนแบบฝกึ หดั และผลการปฏบิ ตั ิงานรวม 58 คะแนน คิดเป็นรอ้ ยละ 5.87 หน่วยท่ี 9 คะแนนแบบฝกึ หัดและผลการปฏบิ ตั งิ านรวม 21 คะแนน คดิ เปน็ ร้อยละ 2.12 รวมคะแนนแบบฝกึ หดั และผลการปฏิบตั ิงาน ทั้ง 9 หน่วยเท่ากับ 494 คะแนน 7.3 คะแนนคณุ ธรรมจรยิ ธรรม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คิดเปน็ รอ้ ยละ 20 ผลรวมของคะแนนทั้ง 3 ส่วน เท่ากับ 100 คะแนน ซึ่งคะแนนที่ได้จะนาไปใช้ในการประเมินผลการ เรยี นโดยใชเ้ กณฑด์ งั ต่อไปน้ี คะแนน 80-100 คะแนน ผลการเรยี นเทา่ กับ 4 คะแนน 75-79 คะแนน ผลการเรียนเทา่ กบั 3.5 คะแนน 70-74 คะแนน ผลการเรียนเท่ากบั 3 คะแนน 65-69 คะแนน ผลการเรยี นเทา่ กับ 2.5 คะแนน 60-64 คะแนน ผลการเรยี นเท่ากบั 2 คะแนน 55-59 คะแนน ผลการเรยี นเท่ากบั 1.5 คะแนน 50-54 คะแนน ผลการเรยี นเทา่ กบั 1 คะแนน 0-50 คะแนน ผลการเรียนเท่ากับ 0
64 วิธีการใช้แบบประเมินคณุ ธรรมจริยธรรมและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ในการทากิจกรรมทุกครั้ง ครูจะใช้แบบประเมินคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ เพื่อ สังเกตและประเมินพฤตกิ รรมของนักเรียน 2. ในขณะเดียวกันเพ่ือความเที่ยงตรงในการประเมิน ครูผู้สอนจะมอบแบบประเมิน คุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์อีก 1 ชุดโดยเป็นชุดเดียวกันกับของครู ให้กับตัวแทน นกั เรียนหรอื หวั หน้ากลมุ่ สังเกตและประเมนิ พฤตกิ รรมของนักเรียนภายในกลุ่ม 3. คุณลักษณะท่ีประเมินตลอดจนพฤติกรรมบ่งช้ีที่ระบุในแบบประเมินคุณธรรมจริยธรรมและ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ของกรมอาชวี ศึกษากระทรวงศกึ ษาธิการท่ีศธ 191/ 3363 ลงวนั ที่ 9 กรกฎาคม 2544 เร่ืองแนวปฏิบัติในการกากับดูแลการบูรณาการคุณธรรมกาหนดให้ครูอาจารย์ ผู้สอนต้องบูรณาการคุณธรรมจริยธรรมค่านิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในทุกรายวิชาโดยไห้มี คะแนน 20% โดยกาหนดใว้เมื่อการจัดการเรียนการสอนครบทุกรายวิชาตามโครงสร้างของหลักสูตร แล้วจะต้องมีการบูรณาการคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดังนั้น คุณลักษณะที่ประเมินตลอดจนพฤติกรรมบ่งชี้จึงข้ึนกับสถานศึกษาและครูเห็นสมควรวา่ เหมาะสมกับ เน้อื หาวชิ ามากน้อยเพียงใดตัวอย่างท่ีแสดงมาน้จี ึงสามารถเปล่ยี นแปลงได้ ในที่นี้ได้เลือกคุณลักษณะ และพฤตกิ รรมบง่ ช้ีจานวน 5 คุณลักษณะ และกาหนดใหแ้ ตล่ ะข้อการประเมินมีคะแนนเทา่ กับ 1 คะแนน 4. ในข้ันตอนของการประเมินจะกระทาในทุกกิจกรรมท่ีทาการเรียนการสอน ครูผู้สอนจะนา คะแนนของนักเรียนแต่ละคนไปสรุปในแบบรวมของคะแนนการประเมินคุณธรรมจริยธรรมและ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เพือ่ ดพู ัฒนาการของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล 5. ครูผูส้ อนจะมอบหมายให้หวั หน้ากลุ่มหรือตัวแทนสรุปคะแนนการประเมินในแต่ละคร้งั ลงใน แบบรวมคะแนนการประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6. หลังจากดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนครบท้ัง 9 หน่วยรวม 18 สัปดาห์แล้ว ให้นา หลักฐานคะแนนการประเมินท่ีได้ทั้งสองส่วน คือจากครูและหัวหน้ากลุ่มหรือตัวแทน ใบสรุปลงใน แบบสรุปผลการประเมินคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ซ่ึงจะถูกแบ่งเป็นคะแนน ของครู 10% และจากหัวหน้ากลุ่มหรือตัวแทน 10% ซึ่งจะได้ผลรวมของคะแนนคุณธรรมจริยธรรม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์เท่ากับ 20%
65 หนว่ ยที่ 4 ระบบจดุ ระเบดิ เคร่ืองยนตเ์ ล็กแก๊สโซลนี (สอนครง้ั ที่ 9 ) สาระสาคญั ระบบจุดระเบิดมี หน้าท่ีสร้างประกายไฟเพ่ือเผาไหม้ส่วนผสมของเช้ือเพลิงกับอากาศหรือไอดี เพ่ือให้เครื่องยนต์สามารถทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามจังหวะการทางานของเคร่ืองยนต์ ระบบจุด ระเบิดท่ีดีต้องทางานได้อย่างแม่นยา หัวเทียนจะต้องสร้างประกายไฟได้เหมาะสมมีความทนทานต่อความ รอ้ นและความดันทเี่ กิดข้ึนขณะทางานในสภาวะต่างๆของเครือ่ งยนต์ สาระการเรยี นรู้ สอนครงั้ ที่ 9 4.1 หนา้ ท่ีของระบบจุดระเบดิ 4.2 สว่ นประกอบของระบบจดุ ระเบิด 4.2.1 ล้อแมเ่ หล็ก 4.2.2 คอยลจ์ ุดระเบดิ 4.2.3 หนา้ ทองขาว 4.2.4 คอนเดนเซอร์ 4.2.5 หัวเทียน 4.2.6 สวิตชจ์ ดุ ระเบิด 4.3 ประเภทของระบบจดุ ระเบิดเครือ่ งยนตเ์ ล็ก 4.3.1 ระบบจุดระเบดิ แบบหนา้ ทองขาว ใบงานที่ 4.1 งานตรวจสอบและปรับตัง้ ระยะหา่ งเขีย้ วหัวเทียน สอนครั้งที่ 10 4.3.2 ระบบจดุ ระเบดิ แบบทรานซสิ เตอร์ 4.3.3 ระบบจุดระเบดิ แบบ ซดี ีไอ (CDI) 4.4 การเปรียบเทียบข้อดี,ข้อเสยี ของระบบจดุ ระเบดิ แบบตา่ งๆ 4.5 การบรกิ ารและตรวจสอบระบบจดุ ระเบิดเครือ่ งยนต์เลก็ ใบงานท่ี 4.2 งานตรวจสอบและปรบั ตั้งระยะห่างระหว่างคอยล์จดุ ระเบดิ และล้อแมเ่ หล็ก ใบงานที่ 4.3 งานตรวจวัดความตา้ นทานภายในวงจรของคอยล์จุดระเบดิ แบบทรานซิสเตอร์ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม สอนคร้งั ท่ี 9 1. อธิบายหนา้ ทีข่ องระบบจดุ ระเบิดได้ถูกต้อง
66 2. บอกชอื่ ส่วนประกอบของระบบจดุ ระเบิดได้ถกู ตอ้ ง 3. บอกหนา้ ทข่ี องล้อแม่เหลก็ ไดถ้ กู ต้อง 4. บอกหนา้ ที่ของหนา้ ทองขาวได้ถูกตอ้ ง 5. บอกวิธีการตรวจสอบหนา้ ทองขาวได้ถกู ต้อง 6. บอกหนา้ ทขี่ องคอนเดนเซอรไ์ ด้ถูกต้อง 7. บอกชอ่ื ขดลวดภายในคอยล์จุดระเบิดได้ถกู ตอ้ ง 8. บอกหน้าที่ของคอยล์จุดระเบดิ ไดถ้ ูกตอ้ ง 9. บอกหน้าทีข่ องหัวเทยี นได้ถกู ต้อง 10. บอกประเภทของหัวเทียนได้ถกู ต้อง 11. บอกหน้าทขี่ องสวติ ชจ์ ุดระเบดิ ไดถ้ ูกตอ้ ง 12. บอกประเภทของระบบจุดระเบดิ เคร่อื งยนตเ์ ลก็ ได้ถูกตอ้ ง 13. บอกชอ่ื ส่วนประกอบของระบบจดุ ระเบดิ แบบหน้าทองขาวได้ถูกตอ้ ง 14. อธบิ ายหลกั การทางานของระบบจดุ ระเบดิ แบบหน้าทองขาวได้ถูกต้อง 15. บอกชอ่ื เคร่ืองมอื ทีใ่ ช้ในงานตรวจสอบและปรบั ต้ังระยะหา่ งเขยี้ วหัวเทยี นไดถ้ ูกต้อง 16. บอกข้อควรระวงั ในการปฏิบัตงิ านตรวจสอบและปรับตงั้ ระยะห่างเขยี้ วหัวเทียนได้ถูกตอ้ ง 17. ปฏบิ ตั ิงานตรวจสอบและปรบั ต้งั ระยะห่างเขย้ี วหวั เทยี นไดถ้ กู ตอ้ ง สอนครั้งที่ 10 18. บอกชอื่ ส่วนประกอบของระบบจุดระเบดิ แบบทรานซสิ เตอร์ ได้ถกู ต้อง 19. อธิบายหลักการทางานของระบบจุดระเบดิ แบบทรานซสิ เตอร์ 20. บอกชอ่ื สว่ นประกอบของระบบจดุ ระเบดิ แบบ ซีดไี อ (CDI) ไดถ้ ูกต้อง 21. อธบิ ายหลกั การทางานของระบบจุดระเบิดแบบ ซีดีไอ (CDI) ได้ถกู ตอ้ ง 22. เปรยี บเทยี บระบบจุดระเบิดแบบต่างๆไดถ้ ูกต้อง 23. อธบิ ายวธิ กี ารบรกิ ารและตรวจสอบระบบจดุ ระเบิดเคร่อื งยนตเ์ ล็กได้ถูกต้อง 24.บอกชอื่ เคร่อื งมือทใี่ ชใ้ นงานตรวจสอบและปรบั ต้ังระยะหา่ งระหว่างคอยลจ์ ดุ ระเบดิ กับลอ้ แมเ่ หลก็ ได้ถกู ต้อง 25. บอกขอ้ ควรระวังในการปฏิบตั ิงานตรวจสอบ และปรับตงั้ ระยะหา่ งระหว่างคอยล์จดุ ระเบิด กบั ลอ้ แมเ่ หลก็ ได้ถูกต้อง 26. ปฏบิ ตั ิงานตรวจสอบ และปรบั ตั้งระยะห่างระหว่างคอยล์จดุ ระเบดิ กับล้อแม่เหลก็ ได้ถกู ต้อง 27. บอกช่อื เครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นงานตรวจวัดความตา้ นทานภายในวงจรของคอยล์จุดระเบิดได้ถูกต้อง 28. บอกขอ้ ควรระวังในการปฏบิ ตั ิงานตรวจวดั ความต้านทานภายในวงจรของคอยล์จุดระเบิดได้ถูกต้อง 29. ปฏิบัตงิ านตรวจวัดความต้านทานภายในวงจรของคอยล์จุดระเบิดไดถ้ ูกตอ้ ง
67 4.1 หนา้ ทข่ี องระบบจุดระเบิด ระบบจุดระเบิด มีหน้าท่ีสร้างประกายไฟท่ีหัวเทียนเพ่ือเผาไหม้ส่วนผสมของอากาศกับน้ามัน เช้ือเพลิงหรือไอดี ให้ถูกต้องและแม่นยาตามจังหวะการทางานของเคร่ืองยนต์ ระบบจุดระเบิด เคร่ืองยนต์จะมีหน้าที่ เปล่ียนไฟฟ้าแรงดันต่า 6 – 12 โวลต์ ให้เป็นไฟฟ้าแรงดันสูงเพ่ิมข้ึนระหว่าง 15,000 – 22,000 โวลต์ เพื่อสร้างประกายไฟที่หัวเทียน ระบบจุดระเบิดในเครื่องยนต์เล็กโดยส่วน ใหญ่จะไม่ใช้แบตเตอรี่ แต่จะอาศัยหลักการเหน่ยี วนากระแสไฟฟ้าโดยใช้แม่เหล็กถาวรทต่ี ิดตั้งอยู่ใน ลอ้ แม่เหลก็ และขดลวดภายในคอยล์จดุ ระเบดิ ในการสรา้ งกระแสไฟฟ้า 4.2 ส่วนประกอบของระบบจุดระเบิด 4.2.1 ล้อแม่เหล็กหรือล้อช่วยแรง ในเคร่ืองยนต์เล็กแก๊สโซลีนจะติดตั้งแม่เหล็กถาวรเพื่อหมุน ตัดกับขดลวดปฐมภูมิภายในคอยล์จุดระเบิดให้เกิดการเหนี่ยวนาและสร้างไฟฟ้าแรงดันต่าภายในวงจรจุด ระเบิด รูปท่ี 4.1 แสดงล้อแม่เหลก็ เคร่อื งยนตเ์ ล็กแกส๊ โซลีน ( ท่มี า : ปญั ญกร โยธ.ี 2557) 4.2.2 คอยล์จุดระเบิด มีหนา้ ท่ีแปลงไฟฟ้าแรงดนั ต่า ให้เป็นไฟฟ้าแรงดันสูงเพ่ือให้สามารถสร้าง ประกายไฟท่ีหัวเทียน ภายในคอยล์จุดระเบิดจะประกอบด้วยขดลวด 2 ขดคือขดลวดปฐมภูมิซึ่งเป็น ขดลวดไฟแรงต่าและขดลวดทุติยภูมิซ่ึงเป็นขดลวดไฟแรงสูงโดยขดลวดทั้งสองจะพันอยู่รอบแกน เหล็กอ่อน รูปที่ 4.2 แสดงคอยลจ์ ุดระเบิด ( ท่ีมา : ปญั ญกร โยธ.ี 2557 )
68 4.2.3 หน้าทองขาว หนา้ ทองขาวจะมหี นา้ สมั ผัส2 อนั มีหน้าท่ี ตัดตอ่ ไฟฟา้ แรงดันต่าจากขดลวด ปฐมภูมิในคอยล์จุดระเบิดโดยได้รับกาลังจากเพลาลูกเบ้ียวของเคร่ืองยนต์ในการควบคุมการเปิดปิด ไห้ถกู ต้องตามจงั หวะการทางานของเคร่ืองยนต์ รปู ที่ 4.3 แสดงหน้าทองขาว ( ทีม่ า : ปัญญกร โยธี. 2557 ) 4.2.4 คอนเดนเซอร์ มหี นา้ ท่ี เกบ็ และคายประจุกระแสไฟฟ้าเพือ่ ป้องกนั ความเสียหาย ของหนา้ ทองขาว และช่วยยืดอายุการใช้งาน เนื่องจากเมื่อหน้าทองขาวเปิดจะทาให้เกิดแรงดันไฟฟ้าจานวนมากตกคร่อม ภายในวงจรสงู ซ่ึงจะทาให้เกิดการอาร์กทบ่ี ริเวณหน้าสัมผสั ของหน้าทองขาวทาใหเ้ กดิ รอยไหม้ขึ้นได้ รูปท่ี 4.4 แสดงคอนเดนเซอร์ ( ทมี่ า : ปัญญกร โยธ.ี 2557 ) 4.2.5 หัวเทียน มีหน้าท่ีสร้างประกายไฟเพื่อจุดระเบิดส่วนผสมไอดีภายในห้องเผาไหม้โดยได้รับ กระแสไฟฟ้าแรงดันสูงจากคอยล์จุดระเบิดหัวเทียนมีส่วนประกอบที่สาคัญคือ ข้ัวหัวเทียน ฉนวนกระเบื้อง เกลียวหัวเทียน เข้ียวหัวเทียน ข้ัวแกนกลาง เป็นต้น โดยหัวเทียนจะมีระยะห่างของข้ัวแกนกลางและเข้ียวดิน อยู่ท่ปี ระมาณ 0.6 - 0.8 มม. แบง่ ประเภทเป็นหวั เทียนรอ้ น และหวั เทียนเย็น รปู ท่ี 4.5 แสดงหัวเทียน ( ท่มี า : ปัญญกร โยธี. 2557 )
69 รปู ท่ี 4.6 แสดงสว่ นประกอบของหวั เทยี น ( ทม่ี า : http://www.magnum.co.th ) 4.2.5.1 หัวเทียนร้อน คือหัวเทียนที่มขี นาดของฉนวนที่ยาว ทาใหร้ ะบายความรอ้ นออกได้ช้า ความร้อนจะถูกสะสมอยู่ในตัวหัวเทียนได้มากกว่าปกติ มักจะใช้กับเคร่ืองยนต์ท่ีทางานความเร็วรอบ ไม่สงู มากนัก 4.2.5.2 หัวเทียนเย็น คือหัวเทียนที่มีขนาดของฉนวนท่ีส้ัน ทาให้ระบายความร้อนออกไป ได้ง่ายและรวดเร็ว ความร้อนท่ีสะสมอยู่ในตัวหัวเทียนจะมีไม่มากโดยปกติหัวเทียนเย็นจะถูกใช้กับ เครื่องยนตท์ ่ีใช้ความเรว็ และรอบการทางานของเครื่องยนต์สงู รปู ที่ 4.7 แสดงลักษณะของหัวเทียนรอ้ นและหัวเทียนเยน็ ( ทม่ี า : http://www.siamngk.co.th ) 4.2.6 สวิตช์จุดระเบิด มีหน้าท่ีควบคุมระบบจุดระเบิดโดยมีหน้าท่ี ตัดต่อวงจรไฟแรงดันต่าจาก คอยล์จดุ ระเบดิ เพอื่ สตาร์ทและดบั เครือ่ งยนต์
70 รูปท่ี 4.8 แสดงสวิตชจ์ ดุ ระเบิด ( ท่ีมา : ปัญญกร โยธี. 2557 ) 4.3 ประเภทของระบบจดุ ระเบดิ เครอื่ งยนต์เลก็ เครอ่ื งยนต์เล็กแก๊สโซลนี สามารถแบง่ ระบบจุดระเบิดได้เปน็ 3 ประเภทดังน้ี 4.3.1 ระบบจุดระเบิดแบบหนา้ ทองขาว 4.3.2 ระบบจดุ ระเบดิ แบบทรานซสิ เตอร์ 4.3.3 ระบบจดุ ระเบิดแบบ ซดี ีไอ (CDI) 4.3.1 ระบบจุดระเบิดแบบหน้าทองขาว เป็นระบบจุดระเบิดแบบท่ีใช้ในเครื่องยนต์รุ่นเก่า ปัจจบุ ันไม่นิยมนามาใช้งาน มสี ่วนประกอบหลกั ทีส่ าคัญดงั แสดงในรปู ท่ี 4.10 รูปท่ี 4.9 แสดงเครื่องยนต์ที่ใชร้ ะบบจุดระเบิดแบบหนา้ ทองขาว ( ที่มา : ปัญญกร โยธี. 2557 ) รูปท่ี 4.10 รูปแสดงส่วนประกอบสาคัญของระบบจดุ ระเบิดแบบหนา้ ทองขาว ( ทีม่ า : ปัญญกร โยธี. 2557 )
71 4.3.1.1 หลักการทางานของระบบจุดระเบิดแบบหนา้ ทองขาว เมอื่ ทาการสตาร์ทเครื่องยนต์ ล้อแม่เหล็กข้ัว N หมุนตัดกับขดลวดปฐมภูมิ ในคอยล์จุดระเบิดเกิดการเหน่ียวนาทาให้เกิดกระแสไฟฟ้าขึ้น ภายในขดลวดวงจรไฟแรงต่า แรงดันไฟฟ้าจะไหลผ่านหน้าทองขาวท่ีปิดสนิทลงกราวด์ครบวงจรเกิด เป็นสนามแม่เหล็กข้นึ รอบขดลวดปฐมภมู ิ รปู ท่ี 4.11 รปู แสดงการเหนีย่ วนากระแสไฟฟา้ ในขดลวดปฐมภมู ิ ( ทมี่ า : http://www.gamerth.com/kengbboy/) เม่อื ส่วนนูนของเพลาลกู เบย้ี วหมุนถงึ ตาแหน่งทกี่ าหนดตามไทม่ิงไดอะแกรมสว่ นนูนของเพลาลกู เบ้ียว จะดันเเขนหน้าทองขาว ทาใหห้ น้าสมั ผัสแยกออกจากกันแรงดันไฟฟ้าที่ไหลในวงจรไฟแรงตา่ ไม่สามารถไหล ลงกราวด์ให้ครบวงจรได้ แรงดันไฟฟ้าสว่ นหนึ่งจะถูกเก็บไว้ในคอนเดนเซอร์เพือ่ ป้องกันความเสียหาย ของหน้าทองขาวสนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้นจะยุบตัวตัดกับขดลวดทุติยภูมิเหน่ียวนากลายเป็นไฟฟ้า แรงดันสูงผ่านขดลวดทุติยภูมิไหลผา่ นสายไฟแรงสูงและกระโดดข้ามท่ีเขย้ี วหัวเทียนเป็นประกายไฟที่ ใชส้ าหรับการจุดระเบิด เมื่อส่วนนูนของลูกเบ้ยี วหมุนผ่านไปทาให้หน้าสัมผัสกลบั มาต่อกันเหมือนเดิม วงจรไฟแรงต่าภายในคอยล์จุดระเบิดก็จะสร้างกระแสไฟฟ้าขึ้นมาใหม่ซ่ึงจะทางานซ้าไปเรื่อยๆตามวัฏจักร การทางานของเครอื่ งยนต์ รูปท่ี 4.12 รปู แสดงการเหน่ียวนากระแสไฟฟา้ ในขดลวดทุตยิ ภมู ิในการสรา้ งไฟฟ้าแรงดันสูง ( ทีม่ า : http://www.gamerth.com/kengbboy/)
72 สรุปสาระสาคัญ ( สอนครงั้ ที่ 9 ) ระบบจุดระเบิดมีหน้าที่ สร้างประกายไฟ เพ่ือเผาไหม้ส่วนผสมของน้ามันเช้ือเพลิงกับอากาศ ภายในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ระบบจุดระเบิดท่ีดีจะต้องทางานได้ถูกต้องมีความแม่นยาในการทางาน และสร้างประกายไฟที่แรงพอให้เกิดการเผาไหม้ท่ีสมบูรณ์ ระบบจุดระเบิดแบบหน้าทองขาวจะมี ส่วนประกอบที่สาคัญคือล้อแม่เหล็กซึ่งเป็นช้ินส่วนขนาดใหญ่และติดตั้งแม่เหล็กถาวรไว้มีหน้าที่หมุน พร้อมกับเคร่ืองยนต์ เพ่ือเหน่ียวนาขดลวดแม่เหล็กภายในคอยล์จุดระเบิด เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า แรงดันต่าภายในวงจร และจะถูกตัดวงจรดังกล่าวโดยส่วนนูนของลูกเบี้ยวกับหน้าทองขาว เพ่ือทาให้ เกิดการเหน่ียวนาเป็นกระแสไฟฟ้าแรงสูงภายในคอยล์จุดระเบิดทาให้ได้ระบบจุดระเบิดอย่างง่าย สามารถทางานได้อยา่ งถกู ต้องแมน่ ยา
73 แบบฝกึ หัด หน่วยท่ี 4 ชอื่ วิชา งานเครือ่ งยนตเ์ ลก็ รหสั วิชา 2101-2101 ชอ่ื หน่วย ระบบระบายความร้อนและการหล่อล่ืนเครอื่ งยนตเ์ ล็ก สอนครงั้ ที่ 9 คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาตอบต่อไปน้ใี ห้ถูกต้อง 1. ระบบจดุ ระเบิด มหี น้าท่ี ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... 2. ระบบจุดระเบิดจะทาหนา้ ทีเ่ ปล่ียนแรงดนั ไฟฟ้าจาก………….โวลทใ์ หก้ ลายเป็น…………….โวลท์ 3. คอนเดนเซอร์ มหี น้าท่ี ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ 4. หวั เทยี นเยน็ คอื ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ 5. ระบบจดุ ระเบิดเครอ่ื งยนต์เล็กแก๊สโซลนี แบ่งออกไดเ้ ป็น ……...ประเภท คือ ............................................................................................................ ................................................ 6. จงบอกชือ่ ส่วนประกอบของระบบจุดระเบิดแบบหนา้ ทองขาว ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... ................................................................................................. ........................................................... 7. คอยล์จุดระเบิดมีขดลวดที่สาคญั จานวน ……...ขด คอื ............................................................................................................................. ............................... 8. ความต้านทานภายในของขดลวดไฟแรงต่า คือ…………..และความตา้ นทานของขดลวดไฟแรงสงู คือ ............................................................................................................................. ............................... 9. ระยะห่างเข้ยี วหวั เทยี นทีถ่ ูกตอ้ งคอื …………………………………………………………………………………. 10. อุปกรณ์ที่มีหน้าท่ี ตัดแรงดนั ไฟฟ้าท่ีไหลในวงจรไฟแรงต่าของระบบจุดระเบดิ แบบหนา้ ทองขาวคือ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
74 แบบทดสอบก่อนเรยี น / หลังเรียน หน่วยท่ี 4 ช่ือวชิ า งานเครื่องยนต์เลก็ รหัสวชิ า 2101- 2101 ชื่อหนว่ ย ระบบจดุ ระเบิดเครอ่ื งยนตเ์ ล็กแก๊สโซลีน สอนครง้ั ที่ 9 คาช้แี จง ใหท้ าเครื่องหมาย (X) หนา้ ข้อที่ถูกทส่ี ุดเพยี งข้อเดียวลงในกระดาษคาตอบ 1. ข้อใดต่อไปนีบ้ อกหนา้ ทข่ี องระบบจดุ ระเบิด ได้ถกู ต้องท่ีสดุ ก. สรา้ งประกายไฟให้กับหัวเทียน ข. เหนีย่ วนาและสรา้ งกระแสไฟฟา้ ภายในวงจร ค. สรา้ งประกายไฟเพื่อเผาไหม้ สว่ นผสมของอากาศกบั นา้ มันเชอ้ื เพลิง ง. แปลงกระแสไฟฟ้าแรงเคล่ือนตา่ ใหเ้ ป็นกระแสไฟฟา้ แรงสงู เพ่ือสรา้ งประกายไฟ ให้กับหวั เทยี น 2. ขอ้ ใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ ส่วนประกอบของระบบจุดระเบิด ก. กาวานา ข. ล้อแม่เหลก็ ค. สวิตช์จุดระเบดิ ง. คอยลจ์ ดุ ระเบิด 3. ขอ้ ใดต่อไปนี้บอกหนา้ ทข่ี องล้อแมเ่ หล็กได้ถูกต้อง ก. ตัดตอ่ กระแสไฟฟ้าแรงเคลื่อนตา่ จากขดลวดปฐมภมู ิ ข. เกบ็ และคายประจุ เพือ่ ป้องกันความเสยี หาย ของอุปกรณ์ ค. แปลงกระแสไฟฟ้าแรงเคล่ือนตา่ ให้เป็นกระแสไฟฟา้ แรงสงู ง. หมุนตัดกับขดลวดปฐมภูมิ ในคอยล์จดุ ระเบดิ เพื่อเหน่ียวนาและสรา้ งกระแสไฟฟา้ 4. หนา้ ทองขาว มีหนา้ ที่ ก. ตดั ตอ่ กระแสไฟฟา้ แรงเคล่ือนต่า จากขดลวดปฐมภมู ิ ข. เก็บและคายประจุ เพือ่ ป้องกนั ความเสียหาย ของอุปกรณ์ ค. แปลงกระแสไฟฟ้าแรงเคลื่อนต่าใหเ้ ปน็ กระแสไฟฟ้าแรงสูง ง. หมุนตัดกับขดลวดปฐมภูมิ ในคอยล์จดุ ระเบิด เพ่ือเหนย่ี วนาและสรา้ งกระแสไฟฟ้า 5. ขอ้ ใดเป็นวธิ ีการตรวจสอบหน้าทอ้ งขาว ที่ไม่ถูกต้อง ก. ตรวจสอบรอยไหม้ ทหี่ นา้ สมั ผัส ข. ตรวจสอบความตอ่ เนื่อง ของหน้าสัมผัส ค. ตรวจสอบ การรว่ั ลงกราวด์ระหวา่ งหนา้ สัมผัส ง. ตรวจสอบและบดั กรี หนา้ สมั ผสั หนา้ ทองขาว
75 แบบทดสอบกอ่ นเรียน / หลังเรียน (ตอ่ ) หน่วยที่ 4 ช่ือวชิ า งานเครือ่ งยนตเ์ ลก็ รหัสวิชา 2101- 2101 ชอื่ หนว่ ย ระบบจุดระเบิดเคร่อื งยนตเ์ ล็กแก๊สโซลนี สอนคร้งั ท่ี 9 คาชแ้ี จง ให้ทาเคร่ืองหมาย (X) หน้าขอ้ ที่ถูกทสี่ ดุ เพียงข้อเดยี วลงในกระดาษคาตอบ 6. ข้อใดต่อไปนี้บอกหน้าท่ขี องคอนเดนเซอร์ได้ถูกต้อง ก. ตดั ตอ่ กระแสไฟฟา้ แรงเคล่ือนต่า จากขดลวดปฐมภมู ิ ข. แปลงกระแสไฟฟา้ แรงเคล่ือนต่าใหเ้ ปน็ กระแสไฟฟา้ แรงสงู ค. เกบ็ และคายประจุ เพ่อื ป้องกันความเสยี หาย ของอปุ กรณ์ ง. หมุนตดั กับขดลวดปฐมภมู ิ ในคอยล์จดุ ระเบิด เพ่ือเหนีย่ วนาและสร้างกระแสไฟฟ้า 7. ข้อใดต่อไปน้ี เป็นขดลวดที่อยภู่ ายในคอยล์จดุ ระเบดิ ก. ขดลวดอุดมภมู ิ และขดลวดทุตยิ ภมู ิ ข. ขดลวดปฐมภูมิและขดลวดทตุ ยิ ภูมิ ค. ขดลวดปฐมภูมิ และขดลวดมธั ยมภูมิ ง. ขดลวดมัธยมภมู ิ และขดลวดทุติยภมู ิ 8. แปลงกระแสไฟฟา้ แรงเคลอื่ นตา่ ใหเ้ ปน็ กระแสไฟฟา้ แรงเคลอื่ นสงู เพื่อสร้างประกายไฟท่หี วั เทยี น คอื หน้าที่ของอุปกรณ์ใด ก. ล้อแม่เหลก็ ข. หนา้ ทองขาว ค. คอนเดนเซอร์ ง. คอยล์จุดระเบิด 9. สร้างประกายไฟเพอื่ เผาไหม้ส่วนผสมของนา้ มันเชอื้ เพลงิ และอากาศ คือหน้าทีข่ องอุปกรณ์ใด ก. หวั เทียน ข. ล้อแมเ่ หลก็ ค. หน้าทองขาว ง. คอนเดนเซอร์ 10. ขอ้ ใดบอกประเภทของหัวเทยี นได้ถูกตอ้ ง ก. หัวเทยี นร้อนและหัวเทยี นเย็น ข. หัวเทียนเยน็ และหวั เทียนเกลียวส้ัน ค. หวั เทยี นรอ้ นและหัวเทยี นเกลียวส้นั ง. หวั เทยี นรอ้ นและหวั เทยี นเกลยี วยาว
76 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น / หลังเรยี น (ตอ่ ) หน่วยที่ 4 ช่ือวชิ า งานเครอื่ งยนตเ์ ล็ก รหสั วชิ า 2101- 2101 ชอื่ หน่วย ระบบจดุ ระเบดิ เคร่อื งยนต์เล็กแกส๊ โซลีน สอนครัง้ ท่ี 9 คาชี้แจง ให้ทาเครือ่ งหมาย (X) หน้าขอ้ ที่ถูกทีส่ ุดเพียงขอ้ เดยี วลงในกระดาษคาตอบ 11. สวิตซ์จดุ ระเบิดมีหนา้ ที่ ก. ควบคุมระบบจุดระเบิดและตดั การทางานของเคร่ืองยนต์ ข. เกบ็ และคายประจุ เพอ่ื ป้องกนั ความเสียหาย ของอปุ กรณ์ ค. แปลงกระแสไฟฟา้ แรงเคล่ือนต่าใหเ้ ป็นกระแสไฟฟ้าแรงสูง ง. หมนุ ตัดกับขดลวดปฐมภูมิ ในคอยล์จุดระเบดิ เพ่ือเหน่ียวนาและสร้างกระแสไฟฟ้า 12. ระบบจดุ ระเบิดของเครื่องยนต์เลก็ แกส๊ โซลนี แบง่ ไดเ้ ป็นก่ีประเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท 13. ขอ้ ใด ไม่ใช่ สว่ นประกอบของระบบจุดระเบิดแบบหนา้ ทองขาว ก. หวั เทยี น ข. ลอ้ แมเ่ หลก็ ค. คอนเดนเซอร์ ง. ทรานซิสเตอร์ 14. ชิ้นสว่ นท่ีมหี น้าท่ี ถา่ ยทอดกาลงั งานใหก้ ับหนา้ ทองขาวเพอื่ ตัดต่อกระแสไฟฟ้าในขดลวดปฐมภูมิคอื ก. ลูกเบีย้ ว ข. ลอ้ แมเ่ หล็ก ค. ทรานซสิ เตอร์ ง. คอนเดนเซอร์ 15. เม่ือหน้าทองขาวแยกออกจากกันจะมีผลเกิดขึ้นอย่างไรภายในวงจรของคอยลจ์ ุดระเบดิ ก. กระแสไฟฟา้ ภายในขดลวดปฐมภมู จิ ะสูงข้ึน ข. กระแสไฟฟ้าที่เลย้ี งขดลวดทุตยิ ภูมจิ ะถูกตดั ค. กระแสไฟฟ้าทีเ่ ลย้ี งขดลวดปฐมภูมจิ ะถูกตดั ง. จะเกิดการเหนีย่ วนาสนามแม่เหลก็ ในขดลวดปฐมภูมิ
77 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น / หลังเรยี น (ต่อ) หน่วยที่ 4 ชอ่ื วชิ า งานเครือ่ งยนต์เลก็ รหสั วชิ า 2101- 2101 ชอ่ื หนว่ ย ระบบจดุ ระเบดิ เคร่อื งยนตเ์ ลก็ แก๊สโซลนี สอนครั้งท่ี 9 คาช้แี จง ใหท้ าเครอ่ื งหมาย (X) หน้าขอ้ ที่ถูกทสี่ ุดเพยี งขอ้ เดยี วลงในกระดาษคาตอบ 16. เครื่องมือที่ใชใ้ นการตรวจสอบ และปรบั ตั้งระยะห่างเข้ียวหัวเทยี นคือ ก. ไดอลั เกจ ข. ไมโครมเิ ตอร์ ค. เวอร์เนียร์คาลปิ เปอร์ ง. เกจวัดระยะหา่ งเขย้ี วหวั เทียน 17. ข้อใดคอื ข้อควรระวังในการทาความสะอาดและปรับตงั้ หัวเทียน ก. ล้างทาความสะอาดด้วยน้ามนั เชอื้ เพลิง ข. ใชแ้ ปรงขัดทาความสะอาดเขม่าหัวเทียน ค. เลือกใชเ้ ครื่องมือที่ถูกต้องเหมาะสมกบั งาน ง. ปฏบิ ัตงิ านบนพื้นที่ท่สี ะอาดและอากาศถ่ายเทได้สะดวก 18. การตรวจสอบช่องวา่ งเข้ียวหวั เทียนท่ีถูกต้อง จะต้องมีระยะหา่ งเท่าใด ก. 1.0 - 1.2 มม. ข. 0.3 - 0.4 มม. ค. 0.5 - 0.6 มม. ง. 0.7 - 0.8 มม.
78 ใบงานท่ี 4.1 ชอื่ วชิ า งานเคร่ืองยนต์เล็ก รหัสวชิ า 2101-2101 หน่วยที่ 4 ชือ่ หนว่ ย ระบบจดุ ระเบิดเคร่อื งยนต์เล็กแก๊สโซลนี เร่ือง งานตรวจสอบและปรบั ต้งั ระยะหา่ งเขย้ี วหวั เทียน เวลา 3 ช่ัวโมง คาชแ้ี จง 1. ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาใบความรู้เรอ่ื งระบบจุดระเบิดเคร่ืองยนต์เล็กแก๊สโซลนี 2. ศึกษาลาดับขั้นตอนการปฏบิ ตั งิ านจากใบงานท่ี 4.1 3. ปฏิบตั ติ ามใบงานท่ี 4.1 เรื่องงานตรวจสอบและปรับต้งั ระยะห่างเขยี้ วหัวเทยี น 4. บันทึกการปฏิบตั ิงานลงในแบบบนั ทึกผลการปฏบิ ัติงาน จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 1. บอกช่ือเคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในงานตรวจสอบและปรบั ต้ังระยะหา่ งเขยี้ วหัวเทยี นได้ถูกตอ้ ง 2. บอกขอ้ ควรระวังในการปฏบิ ตั งิ านตรวจสอบและปรบั ตั้งระยะหา่ งเขย้ี วหัวเทยี นได้ถูกต้อง 3. ปฏิบัตงิ านตรวจสอบและปรับต้ังระยะหา่ งเขย้ี วหัวเทยี นไดถ้ กู ต้อง เครือ่ งมอื และอุปกรณ์ 1. เครอื่ งยนต์ Honda Gx 160 2. หวั เทียน 3. ประแจกระบอกถอดหัวเทียน 4. ฟิลเลอรเ์ กจ 5. คีมปากแหลม 6. แปรงลวด 7. ถุงมือปฏบิ ตั งิ าน 8. ผ้าเช็ดมือและถาดใสอ่ ปุ กรณ์ รปู เครอ่ื งมือและอุปกรณ์ 1. 2.
79 รูปเครอื่ งมือและอุปกรณ์ (ต่อ) 3. 4. 5. 6. 7. 8.
80 ใบขั้นตอนการปฏิบตั ิงาน ชื่อวชิ า งานเครอ่ื งยนต์เลก็ รหัสวชิ า 2101 – 2101 หนว่ ยที่ 4 ชอื่ หนว่ ย ระบบจดุ ระเบิดเคร่อื งยนตเ์ ล็กแกส๊ โซลนี ชอ่ื เรอ่ื ง งานตรวจสอบและปรับตั้งระยะหา่ งเขย้ี วหวั เทียน รูปประกอบ ลาดับขนั้ การปฏิบตั ิงาน 1. เตรียมเครื่องมอื และอุปกรณ์ 2. ถอดปลั๊กหัวเทยี นออก 3. ใชป้ ระแจกระบอกถอดหัวเทยี นออก 4. ตรวจสอบสภาพท่ัวไปของหัวเทียนด้วย การสงั เกต ขอ้ สังเกต 4.1 ตรวจสอบสภาพทวั่ ไปของหัวเทียน ถ้ามี รอยกระเทาะหรือแตกร้าวท่ีฉนวนหี้มให้ เปลยี่ นหัวเทียนใหม่ 4.2 ตรวจสอบสภาพเขม่าและสีของเข้ียวหัว เทียนและฉนวนแกนกลางเพื่อวินิจฉัยการ ทางานของเครอ่ื งยนต์
รปู ประกอบ(ต่อ) 81 ลาดบั ข้นั การปฏิบัตงิ าน(ต่อ) 5. ใช้แปรงลวดทาความสะอาดคราบเขม่า บริเวณเขย้ี วหัวเทยี นและขั้วแกนกลาง ข้อสังเกต หากคราบเขม่าท่หี วั เทยี นมคี วามสกปรกมาก อาจจะใช้กระดาษทรายละเอียดช่วยขัดทา ความสะอาด 6. ใช้ฟิลเลอร์เกจที่มีความหนา 0.7 มม. หรือ 0.8 มม. สอดเข้าช่องว่างระหว่างเข้ียว หัวเทียนกับข้ัวแกนกลางเพ่ือวัดระห่างท่ี ถูกตอ้ งหากไม่อยู่ในคา่ ทีก่ าหนดให้ใช้คมี ปาก แหลมดัดเข้ียวของหัวเทียนให้ได้ตามตาม คา่ ทีก่ าหนด ข้อควรระวัง การใช้คีมปากแหลมดัดต้อง ระมัดระวังการแตก หักเสียหายของ เขีย้ วหัวเทียน 7. สวมหัวเทียนเข้ากับปล๊ักเพื่อตรวจสอบ ประกายไฟของหัวเทียนโดยจ้ีหัวเทียนเข้า กับตวั เครื่องยนต์จุดที่เป็นโลหะเปดิ สวืทช์จุด ร ะ เ บิ ด แ ล ะ ดึ ง ส ต า ร์ ท เ ค รื่ อ ง ย น ต์ เ พื่ อ ตรวจสอบประกายไฟ
รูปประกอบ 82 ลาดบั ข้นั การปฏบิ ตั ิงาน 8. ตรวจสอบแหวนรองหวั เทียน อยู่ในสรูปท่ี พร้อมใช้งานหรือไม่ จากน้ันขันหัวเทียนเข้า ด้วยมือ เพ่ือป้องกันเกลียวของหัวเทียน เสยี หาย 9.ใช้ประแจกระบอกขันหัวเทยี นเขา้ ใหแ้ นน่ ขอ้ สงั เกต หากมีการเปล่ียนหัวเทียนใหม่ให้ขันแน่น ด้วยประแจกระบอก 1/2 รอบ หากเป็นหัว เทียนเก่าให้ขันแน่นด้วยประแจกระบอก 1/8 – 1/4 รอบหลังจากแหวนรองถูกอัด แนน่ ข้อควรระวัง หัวเทียนจะต้องขันให้แน่น เพราะหากขันไม่แน่นพอจะทาให้หัวเทียน ทางานหนักและอาจจะทาให้เครื่องยนต์ เสยี หายได้ 10.สวมปลั๊กหวั เทยี นเขา้ กับหัวเทียน 11.ทาความสะอาดเครอ่ื งมือ อุปกรณ์และ พืน้ ทีฝ่ กึ ปฏบิ ัตงิ าน
83 แบบบันทกึ ผลการปฏบิ ัติงาน ชอื่ วชิ า งานเคร่อื งยนตเ์ ลก็ รหัสวชิ า 2101-2101 ใบงานท่ี 4.1 ชื่อหน่วย ระบบจดุ ระเบดิ เครอ่ื งยนต์เลก็ แก๊สโซลนี ช่ือเรือ่ ง งานตรวจสอบและปรับต้งั ระยะหา่ งเขยี้ วหวั เทียน ชือ่ ...................................กล่มุ ................เลขที่.....................วันที่ปฏบิ ตั ิงาน.........../........../......... 1. ยหี่ ้อเครื่องยนตท์ ี่บริการ ...............................................รนุ่ ..................................................... 2. หัวเทียนท่ใี ช้ ยห่ี อ้ ....................................รหสั .......................................................................... 3. การตรวจสภาพท่ัวไปของหวั เทียน O ปกติ O ผิดปกติ ระบลุ ักษณะท่ีผดิ ปกต.ิ ................................................................... ............................................................................................................................. ...................... 4. การตรวจสอบคราบเขมา่ หัวเทียน O มีคราบเขม่าดาน้อย O มีคราบเขมา่ ดาปานกลาง O มคี ราบเขม่าดามาก O อน่ื ๆ ระบุ.............................................................................................................................. 5. การตรวจวัดระยะห่างเขยี้ วหัวเทียน O อยู่ในคา่ ท่ีกาหนด O ระยะห่างชดิ เกนิ ไป การแกไ้ ข ........................................................................................ O ระยะห่างมากเกนิ ไป การแก้ไข ........................................................................................ 6. การตรวจสอบประกายไฟของหวั เทยี นโดยการสงั เกตด้วยสายตา O ประกายไฟมลี ักษณะสี......................................................................................................... 7. หลงั จากการตรวจสอบแลว้ สามารถสรุปผลไดว้ ่า O หวั เทียนอยใู่ นสภาพพร้อมใช้งานต่อได้ O เปลย่ี นหวั เทียนใหม่
84 แบบประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านรายบุคคล ช่อื วิชา งานเครือ่ งยนตเ์ ลก็ รหัสวิชา 2101-2101 ใบงานที่ 4.1 ชอื่ หนว่ ย ระบบจดุ ระเบิดเคร่อื งยนต์เล็กแก๊สโซลนี ชอื่ เร่อื ง งานตรวจสอบและปรบั ต้งั ระยะห่างเขยี้ วหวั เทียน ช่ือ........................................กลุ่ม...............เลขท.ี่ ....................วันที่ปฏบิ ตั ิงาน.........../........../......... รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ เตม็ ได้ 1. การเตรียมเครือ่ งมอื และอุปกรณ์ 1 การใหค้ ะแนน 2. การใชเ้ ครอื่ งมือทถี่ ูกต้องเหมาะสมกบั ลักษณะงาน 1 ปฏบิ ัติ = 1 3. การปฏบิ ตั ิงานถอดช้ินส่วนถูกต้องตามลาดบั ข้ันตอน 1 คะแนน 4. การตรวจสภาพทวั่ ไปของหวั เทียน 1 ไม่ปฏบิ ัติ = 0 5. การปรบั ตั้งระยะห่างของเขี้ยวหวั เทียน 1 คะแนน 6. การปฏบิ ัติงานประกอบชิ้นส่วนถกู ตอ้ งตามลาดบั ข้ันตอน 1 ระดบั คุณภาพ ดมี าก 7. ปฏบิ ัตงิ านเสรจ็ ตามระยะเวลาท่กี าหนด 1 รอ้ ยละ 90-100 ดี 8. ปฏบิ ัตงิ านแล้วเสร็จด้วยความปลอดภยั 1 ร้อยละ 70-89 ปานกลาง 9. บนั ทกึ ผลการปฏิบัตงิ านถูกต้อง 1 ร้อยละ 60-69 ปรบั ปรุง คุณธรรม จรยิ ธรรมและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รอ้ ยละ 40-59 ไมผ่ า่ น ตา่ 10. การเขา้ เรยี นตรงเวลา 1 กว่ารอ้ ยละ 39 11. การแตง่ กายถกู ตอ้ งตามระเบยี บ 1 12. ความร่วมมอื ในการทางานเป็นกลมุ่ 1 13. การเกบ็ รักษาเครอ่ื งมือ อุปกรณ์ 1 14. การรักษาความสะอาดพนื้ ทีป่ ฏิบตั ิงาน 1 รวม 14 คดิ เป็นร้อยละ เกณฑก์ ารประเมิน : คะแนนทไ่ี ด้ต้องไมน่ อ้ ยกว่า รอ้ ยละ 60 จงึ จะผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ สรุปผลการประเมนิ ผา่ นเกณฑป์ ระเมิน ในระดบั O ดีมาก O ดี O ปานกลาง ไมผ่ า่ นเกณฑ์ประเมนิ ในระดบั O ปรบั ปรงุ O ไม่ผ่าน ลงชอ่ื .........................................ครูผสู้ อน ( .....................................................................)
85 หนว่ ยที่ 4 ระบบจดุ ระเบดิ เครือ่ งยนตเ์ ล็กแก๊สโซลนี (สอนคร้ังที่ 10 ) 4.3.2 ระบบจุดระเบิดแบบทรานซิสเตอร์ ระบบจุดระเบดิ แบบหน้าทองขาวเป็นระบบจุดระเบิดท่ีใช้ ในเคร่ืองยนต์แก๊สโซลีนรุ่นเก่าปัจจุบันไม่นิยมใช้เนื่องจากความแม่นยาในการจุดระเบิดน้อยและมี อุปกรณ์ในระบบมากทาให้มีค่าใช้จ่ายในการบารุงรักษาในปัจจุบันเครื่องยนต์เล็กสมัยใหม่นิยมใช้ ระบบจุดระเบิดแบบทรานซิสเตอร์เนื่องจากมีความแม่นยาในการทางานสูง มีชิ้นส่วนและอุปกรณ์ นอ้ ยและการบารุงรักษาทง่ี ่าย รปู ท่ี 4.13 แสดงสว่ นประกอบของระบบจุดระเบดิ แบบทรานซสิ เตอร์ (ท่ีมา : แบบการเรียนและฝึกอบรมวิชาการ,แผนกบรกิ ารและเทคโนโลยี บ. เอเชยี่ นฮอนดา้ มอเตอร์ จากดั ) ระบบจุดระเบิดแบบทรานซิสเตอร์จะใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คือ ไทริสเตอร์ ในการควบคุม การสร้างไฟฟ้าแรงดันสูงแทนการใช้หน้าทองขาวแบบเดิมเพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพการทางานให้สูงขึ้น โดยมีส่วนประกอบท่ีสาคัญคือ ชุดทรานซิสเตอร์ที่เป็นหน่วยรวมของคอยล์จุดระเบิดและการควบคุม ระบบจุดระเบิดรวมไว้ในหน่วยเดียวกันทาให้ได้ระบบจุดระเบิดอย่างง่ายและให้ การจุดระเบิด ทมี่ ปี ระสิทธภิ าพสงู เชื่อถือไดใ้ นทกุ ความเร็วรอบของเครอื่ งยนต์ 4.3.2.1 หลักการทางานของระบบจุดระเบิดแบบทรานซิสเตอร์ เมื่อทาการสตาร์ท เคร่ืองยนต์ล้อเหล็กหมุนตัดกับขดลวดปฐมภูมิทาให้เกิดการเหนี่ยวนาเกิดเป็นแรงดันไฟฟ้า (V1) ถูก จ่ายให้กับตัวต้านทาน (R1) แรงดันไฟฟ้าส่วนหน่ึงจะไหลต่อไปยังจุด (B) และผ่านไปยังฐานของไทริสเตอร์ (TR1) ซึง่ จะทาให้เป็นการเปิดทรานซสิ เตอร์ (TR1) ทาให้กระแสไฟฟ้า (I1) ในขดลวดปฐมภมู ิลงกราวดค์ รบ วงจรเกิดเป็นสนามแมเ่ หล็กขน้ึ รอบขดลวดปฐมภูมิ ดังแสดงในรปู ท่ี 4.14
86 รปู ที่ 4.14 แสดงการเหน่ยี วนาไฟฟ้าแรงดันต่า (V1) ในวงจรขดลวดปฐมภูมิ ( ทมี่ า : แบบการเรียนและฝกึ อบรม, แผนกบรกิ ารและเทคโนโลยี บ.เอเช่ียนฮอนด้ามอเตอร์ จากัด ) เมื่อกระแสไฟฟ้า (I1) เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆแรงดันไฟฟ้าตกคร่อมที่ตัวต้านทาน (R2) และ (R3) ก็เพ่ิมมากข้ึนเร่ือยๆเช่นเดียวกัน จึงทาให้แรงดันไฟฟ้า (V2) ที่จุด (A) ถูกจ่ายให้กับฐานของ ทรานซิสเตอร์ (TR 2) ทาให้ทรานซสิ เตอร์ (TR 2) เปดิ วงจรแรงดันไฟฟ้าท่ีจุด (B) แรงดนั ไฟฟา้ จะไหล ผ่านทรานซิสเตอร์ (TR 2) แทนทาให้แรงดันที่ฐานของทรานซิสเตอร์ (TR1) ตกลงทันที มีผลทาให้ ทรานซิสเตอร์ (TR1) ปิด (เป็นลักษณะเดียวกันกับหน้าสัมผัสของหน้าทองขาวที่แยกออกจากกัน) เมื่อทรานซสิ เตอร์ (TR1) ปิด กระแสไฟฟา้ (I1) ทไ่ี หลในวงจรจะถกู ปิดก้ันทันทที าใหเ้ กดิ การเหนยี่ วนา ของแม่เหล็กตัดกับขดลวดทุติยภูมิทาให้เกิดแรงดันไฟฟ้าหลายหมื่นโวลท์ผ่านขดลวดทุติยภูมิ ผ่าน สายไฟแรงสูงและกระโดดขา้ มทเ่ี ขย้ี วหัวเทยี น ดังแสดงในรปู ที่ 4.15 รูปที่ 4.15 แสดงการทางานของไทริสเตอร์ 2 เพื่อตัดวงจรแรงดันไฟฟา้ ในขดลวดปฐมภมู ิ ( ท่ีมา : แบบการเรียนและฝึกอบรม, แผนกบริการและเทคโนโลยี บ.เอเชีย่ นฮอนด้ามอเตอร์ จากดั ) การทางานจะเริม่ ตน้ ใหม่ตามรอบการทางานท่ีกระแสไฟฟ้า (V1) จา่ ยใหก้ ับตวั ตา้ นทาน (R1)
87 โดยทางานซ้าวนกันไปเรื่อยๆตามไทมิ่งไดอะแกรม เม่ือทาการดับเคร่ืองยนต์โดยการปิดสวิตช์กุญแจ จะทาให้เกิดวงจรข้ึนระหว่างขดลวดปฐมภูมิและกราวน์ จึงเป็นผลให้กระแสไฟฟ้าท่ีถูกสร้างขึ้นใน ขดลวดปฐมภูมไิ หลลงกราวด์ ทาใหท้ รานซสิ เตอร์ปดิ จึงไมม่ ีการสรา้ งประกายไฟท่หี วั เทยี น ดงั แสดงในรปู ที่ 4.16 รปู ที่ 4.16 แสดงการตัดวงจรโดยการปดิ สวิทช์กญุ แจ ( ทม่ี า : แบบการเรยี นและฝกึ อบรม, แผนกบรกิ ารและเทคโนโลยี บ.เอเชย่ี นฮอนดา้ มอเตอร์ จากัด ) 4.3.3 ระบบจุดระเบิดแบบซีดีไอ (CDI) ระบบจุดระเบิดแบบซีดีไอจะไม่ใช้หน้าทองขาว เช่นเดียวกับระบบจุดระเบิดแบบทรานซิสเตอร์การทางานของระบบจุดระเบิดแบบซีดีไอ จะใช้ หลักการเก็บและปล่อยแรงดันไฟฟ้าโดยใช้คอนเดนเซอร์ ซึ่งจะได้รับสัญญาณกระตุ้นจากขดลวด ไฟสัญญาณเพื่อคายประจุโดยไทริสเตอร์ มีส่วนประกอบที่แตกต่างจากระบบจุดระเบิดแบบหน้า ทองขาวและระบบจดุ ระเบดิ แบบทรานซิสเตอร์ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1) ขดลวดไฟเลี้ยงคอยลถ์ ูกตดิ ตงั้ ไว้ตรงกลางระหว่างลอ้ ชว่ ยแรงมหี น้าที่ สร้างแรงดันไฟฟ้า กระแสสลับ ซงึ่ เกดิ ข้นึ จากการเหนยี่ วนาของแมเ่ หล็กถาวรทีต่ ดิ ตั้งอยใู่ นลอ้ ช่วยแรง 2) ไดโอด มีหน้าท่ียอมให้กระแสไฟฟ้าเคลื่อนที่ผ่าน ได้ในทิศทางเดียวเพ่ือแปลงไฟฟ้า กระแสสลบั จากขดลวดไฟเลี้ยงคอยใหก้ ลายเปน็ ไฟฟา้ กระแสตรงเพื่อป้อนใหก้ ับคอนเดนเซอร์ 3) ขดลวดไฟสัญญาณมหี นา้ ท่ี สร้างแรงดนั ไฟฟ้าเพ่อื กระตุน้ ขา G ของไทริสเตอร์ ในการปดิ เปิดวงจรไฟฟา้ ผ่านขดลวดปฐมภมู ขิ องคอยล์จดุ ระเบิด 4) ไทริสเตอร์ หรือ SCR เป็นอุปกรณ์สารก่ึงตัวนา 3 ขาคือ เกต(Gate) เอโหนด(Anode) และ เคโทด (Catode) จะมีหน้าที่ เป็นสวิทซ์อิเล็คทรอนิคส์ โดยใช้แรงดันไฟฟ้าเพียงเล็กน้อยในการ กระตุ้นขา G จะทาให้แรงดันไฟฟ้าจานวนมากไหลผ่านข้ัว A และ K โดยมีสถานะปิด หรือเปิด เท่าน้ัน
88 รูปที่ 4.17 แสดงส่วนประกอบของระบบจดุ ระเบดิ แบบ ซีดีไอ (CDI) ( ที่มา : http://www.gamerth.com/kengbboy/) 4.3.3.1 หลักการทางานของระบบจดุ ระเบดิ แบบ ซีดีไอ (CDI) เม่ือสตารท์ เคร่อื งยนต์ ล้อแม่เหล็กจะหมุนตัดกับขดลวดไฟเล้ียงคอยล์การเหน่ียวนา จะทาใหเ้ กดิ กระแสไฟฟ้าสลับไหลผ่าน ไดโอดตัวไดโอดจะทาการเรียงกระแส ให้กระแสไฟฟ้าสลับกลายเป็นกระแสไฟฟ้าตรงส่งเข้าไปเก็บไว้ ในคอนเดนเซอร์ แรงดันไฟฟ้าส่วนหนง่ึ จะไหลมารอทข่ี ้ัว A ของไทริสเตอร์ ดังแสดงในรปู ท่ี 4.18 รูปท่ี 4.18 แสดงการทางานของระบบจุดระเบิดแบบ ซีดีไอ (CDI) ในตาแหนง่ ไฟแรงดนั ตา่ ( ทม่ี า : http://www.gamerth.com/kengbboy/) เม่อื ล้อแมเ่ หลก็ หมนุ เลยมาตดั กับขดลวดไฟสญั ญาณ การเหน่ยี วนาจะทาใหเ้ กิดกระแสไฟฟ้าไหลมายัง ข้ัว G ของไทริสเตอร์ ทาให้ เกิดการกระตุ้นให้ ไทริสเตอร์ ทางาน โดยการเปิดให้กระแสไฟฟ้าจาก คอนเดนเซอร์ ไหลผ่านข้ัว A ไปยังขั้ว K และ ผ่านไปท่ีขดลวดปฐมภูมิของคอยล์จุดระเบิด เกิดเป็น สนามแมเ่ หล็กเหนียวนาตัดกับขดลวดทุติยภูมิ เกิดเป็นกระแสไฟฟ้าแรงสูงส่งไปสร้างประกายไฟท่ีหัว เทียน ดังแสดงในรูปที่ 4.19
89 รูปที่ 4.19 แสดงการทางานของระบบจุดระเบดิ แบบ ซดี ไี อ (CDI) ในตาแหนง่ ไฟแรงดนั สูง ( ทม่ี า : http://www.gamerth.com/kengbboy/) 4.4 การเปรยี บเทยี บข้อดี ข้อเสยี ของระบบจุดระเบดิ ประเภทต่างๆ ระบบจุดระเบิดของเคร่ืองยนต์แก๊สโซลีนในแต่ละประเภทจะมีลักษณะเฉพาะแล ะมีโครงสร้าง หลักการทางานที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งจะมีข้อแตกต่างปลีกย่อยในรายละเอียดของอุปกรณ์และข้อจากัด ในการทางานโดยสามารถจาแนกเป็นข้อดีข้อเสยี ของระบบจุดระเบดิ ประเภทต่างๆ ดังแสดงในตารางที่ 4.1 ตารางที่ 4.1 แสดงการเปรยี บเทียบข้อดี ขอ้ เสีย ของระบบจุดระเบดิ ประเภทตา่ งๆ ข้อดี ระบบจุดระเบดิ ระบบจุดระเบดิ ระบบจดุ แบบหน้า แบบ ระเบดิ 1. ไมต่ อ้ งใชแ้ บตเตอร่ีในระบบจุดระเบดิ ทองขาว แบบ ซดี ีไอ 2. ให้ไฟแรงสูงคงที่เม่ือเครอื่ งยนต์ ทรานซสิ เตอร์ ทางานท่ีความเรว็ รอบสงู 3. ชนิ้ สว่ นกลไกมีน้อยทาใหง้ ่ายตอ่ การ บารุงรกั ษา 4. คอยล์จุดระเบดิ ให้กาลังไฟสงู ทาให้ เครอ่ื งยนต์สตาร์ตติดงา่ ย 5. อายกุ ารใช้งานของหัวเทยี นยาวนาน เนอื่ งจากกาลังไฟมคี วามสมา่ เสมอ
90 ตารางที่ 4.1 แสดงการเปรียบเทยี บข้อดี ข้อเสีย ของระบบจดุ ระเบดิ ประเภทตา่ งๆ (ตอ่ ) ข้อดี ระบบจดุ ระเบิด ระบบจุดระเบดิ ระบบจดุ แบบหน้า แบบ ระเบดิ ทองขาว แบบ ซีดไี อ ทรานซิสเตอร์ 6. อุปกรณ์เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถทางานโดยอตั โนมัติ 7.การบารุงรกั ษาทาได้งา่ ย ข้อเสีย 1. กาลงั ไฟของหัวเทียนไมแ่ รงพอในการ จุดระเบิดทค่ี วามเร็วรอบของเคร่ืองยนต์ต่า 2.ตอ้ งมีการปรับตง้ั เป็นประจาทาใหม้ ี คา่ ใช้จา่ ยในการซอ่ มบารงุ 3.อปุ กรณ์ทเ่ี ปน็ อิเล็กทรอนิกส์หากมี อาการเสียไมส่ ามารถซ่อมบารุงได้ 4.อปุ กรณ์ท่ีเป็นอเิ ล็กทรอนิกส์มีราคาแพง 4.5 การบรกิ ารและตรวจสอบระบบจดุ ระเบิดเครอื่ งยนตเ์ ลก็ 4.5.1 การปรับต้ังระยะห่างคอยล์จุดระเบิด ในปัจจุบันระบบจุดระเบิดของเคร่ืองยนต์เล็กแก๊สโซลีน จะใช้หลักการเหน่ียวนาแม่เหล็กเพ่ือสร้างกระแสไฟฟ้า ในการสร้างประกายไฟท่ีหัวเทียนเม่ือมีการตรวจสอบ พบว่าประกายไฟที่หัวเทียนมีความผิดปกติซ่ึงอาจจะไม่แรงพอ และมีผลทาให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ ติดยาก จะต้องมีการตรวจสอบระยะห่างระหว่างขาคอยล์จุดระเบิดกับล้อแม่เหล็ก ให้มีระยะห่าง ตามที่คู่มือกาหนด เน่ืองจากหากระยะที่ห่างหรือชิดมากเกินไป จะมีผลทาให้การเหน่ียวนาแม่เหล็ก และขดลวดภายในคอยล์จุดระเบิด ไม่มีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอ โดยมีข้ันตอนในการปรับตั้ง ระยะห่างของจดุ ระเบดิ ดังตอ่ ไปน้ี 4.5.1.1 คลายโบลทแ์ ละถอดชดุ รคี อยลส์ ตารท์ ออก 4.5.1.2 คลายโบลทแ์ ละถอดฝาครอบพดั ลมออก 4.5.1.3 คลายโบลท์ยดึ ขาคอยลจ์ ดุ ระเบิด ทง้ั สองข้างใหพ้ อหลวมๆ 4.5.1.4 สอดฟลิ เลอรเ์ กจเขา้ ไประหวา่ งขาคอยลจ์ ุดระเบิด และล้อแม่เหลก็ 4.5.1.5 กดคอยล์จุดระเบิด ให้แนบสนิทกับฟิลเลอร์เกจ และล้อแม่เหล็กใช้มือขยับดึงฟิล เลอรเ์ กจใหม้ ีความฝดื เพียงเลก็ นอ้ ย 4.5.1.6 ขันโบลทย์ ดึ ขาคอยลจ์ ุดระเบดิ ท้ังสองข้างให้แน่นตามค่าท่ีคมู่ ือกาหนด
91 4.5.1.7 ประกอบช้นิ ส่วนอน่ื ย้อนตามข้ันตอนของการถอดชนิ้ สว่ น ตารางท่ี 4.2 แสดงค่ามาตรฐานระยะห่างคอยล์จุดระเบิด ระยะห่างคอยลจ์ ดุ ระเบดิ Honda รุน่ Gx 120T1 Gx 160T1 0.4 ± 0.2 มม. Gx200T ( ทมี่ า : คมู่ ือการซ่อมบารุง Honda Gx120 - Gx 200T, บริษทั เอเช่ยี นฮอนดา้ มอเตอร์ จากดั ) รูปท่ี 4.20 แสดงการปรบั ต้ังระยะห่างคอยล์จุดระเบิด ( ทมี่ า : ปญั ญกร โยธ.ี 2557 ) 4.5.2 การตรวจสอบค่าความต้านทานของคอยล์จุดระเบิด คอยล์จุดระเบิดของเคร่ืองยนต์เล็ก แก๊สโซลีนนั้น ภายในจะประกอบด้วยขดลวดปฐมภูมิ และขดลวดทุติยภูมิซึ่งเป็นขดลวดไฟแรงตา่ และไฟแรงสูงตามลาดับ โดยเมื่อมีการใช้งานเป็นระยะเวลาต่อเนื่องนานๆ อาจจะทาให้เกิดอาการ เส่ือมสภาพ เนื่องจากการทางานภายใต้สภาวะความร้อนของเครื่องยนต์และระยะเวลาการใช้งาน จึงมีความจาเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมกี ารตรวจสอบวัดค่าความต้านทานโดยใชโ้ อห์มมเิ ตอร์วา่ มคี ่าความ ตา้ นทานอยใู่ นคา่ ทีค่ มู่ ือกาหนดหรอื ไม่ โดยมีมีขนั้ ตอนการปฏิบัตดิ ังต่อไปน้ี 4.5.2.1 ถอดสายไฟแรงต่า ด้านสวทิ ชจ์ ุดระเบดิ ออกและถอดปล๊กั หัวเทยี นออก 4.5.2.2 คลายโบลท์ยดึ ขาคอยล์ จุดระเบิด และถอดคอยลจ์ ุดระเบิดออก 4.5.2.3 วัดความต้านทานด้านขดลวดไฟแรงต่าโดยใช้ขั้วบวกของโอห์มมิเตอร์ ต่อกับ สายไฟแรงต่า และข้ัวลบของโอห์มมิเตอร์ต่อเข้ากับ ขาของคอยล์จุดระเบิด ค่าที่อ่านได้ จะต้องอยู่ ระหว่าง 0.8 ถงึ 1.2 โอหม์
92 รูปท่ี 4.21 แสดงการวัดความต้านทานด้านขดลวดไฟแรงต่าของคอยล์จุดระเบดิ ( ทีม่ า : ปญั ญกร โยธี. 2557 ) 4.5.2.5 วัดความต้านทานขดลวดไฟแรงสูง โดยใช้ข้ัวบวกของโอห์มมิเตอร์ต่อเข้ากับ ปลั๊กหัวเทียน และข้ัวลบของโอห์มมิเตอรต์ อ่ เข้ากับขาของคอยล์จุดระเบดิ ค่าที่อา่ นไดจ้ ะตอ้ งอยรู่ ะหว่าง 5.9 ถงึ 7.1 กิโลโอห์ม รูปท่ี 4.22 แสดงการวดั ความต้านทานด้านขดลวดไฟแรงสูงของคอยลจ์ ดุ ระเบดิ ( ทีม่ า : ปัญญกร โยธ.ี 2557 ) ตารางที่ 4.3 แสดงคา่ มาตรฐานความตา้ นทานภายในขดลวดคอยล์จุดระเบิด ความต้านทานด้านขดลวดไฟแรงตา่ 0.8-1.0 Ω ความต้านทานขดลวดไฟแรงสงู 5.9-7.1 kΩ Honda รุ่น Gx 120T1, Gx 160T1, Gx200T ( ทมี่ า : คู่มอื การซ่อมบารุง Honda Gx120 - Gx 200T, บริษัท เอเช่ยี นฮอนด้ามอเตอร์ จากัด )
93 4.5.3 การตรวจสอบและทาความสะอาดหวั เทียน หัวเทียนคืออุปกรณ์ที่ทาหน้าที่ในการจุดระเบิดส่วนผสมของไอดี ภายในห้องเผาไหม้ และเพ่ือให้การเผาไหม้เชอ้ื เพลิงท่ีมีประสิทธภิ าพ หวั เทยี นจะต้องให้ประกายไฟท่แี รงเหมาะสม อย่างสม่าเสมอ ในทุกรอบการทางานของเคร่ืองยนต์ และสามารถทางานภายใต้สภาวะแรงดัน และอุณหภูมิท่ีสูงหัว เทียนท่ีดีจะต้องมีความทนทาน สูง สามารถระบายความร้อนได้ดี และมีอายุการใช้งานท่ียาวนาน โดยมีวิธีการตรวจสอบด้วยการสังเกตลกั ษณะของหวั เทยี นดงั น้ี รูปที่ 4.23 แสดงการสังเกตหัวเทียนจากลกั ษณะการใช้งาน ( ท่มี า : http://www.magnum.co.th/bosch/ ) 1) ภาพ ก แสดงถึงหัวเทียน ปกติ ปลายของฉนวนมีลักษณะสีขาวแสดงว่าเคร่ืองยนต์ ทางานปกติ อุณหภูมิจากการทางานมีความร้อนท่ีเหมาะสม ส่วนผสมของเชื้อเพลิงกับอากาศและ จังหวะการจดุ ระบิดถกู ตอ้ ง 2) ภาพ ข แสดงถึงหัวเทียนที่มีอาการของข้ัวแกนกลางเกิดการละลาย ปลายของฉนวนหุ้ม ออ่ นตัว และมีรูพรนุ เป็นจานวนมาก เนื่องจากเกดิ การชงิ จุดระเบดิ ก่อนถึงศูนย์ตายบนเน่อื งจากการตั้ง องศาการจดุ ระเบิดผิดพลาด หรอื อาจเกิดจากคราบเขม่าในห้องเผาไหมม้ ีมากเกนิ ไป 3) ภาพ ค แสดงถงึ หัวเทียนทีม่ ีอาการปลายของฉนวนหมุ้ เขย้ี วหัวเทยี นและส่วนที่ครอบมี คราบผงเขม่าสีดาเกาะอยู่ เนื่องจากส่วนผสมของไอดีไม่ถูกต้อง และไส้กรองอากาศสกปรกมากหรือ อาจจะเกิดเนอ่ื งจากการที่เครื่องยนต์ทางานในสรปู ที่ระดบั อุณหภูมติ ่าบอ่ ยเกินไป 4) ภาพ ง แสดงถึงหัวเทียนทีม่ ีอาการคราบตะกั่วจานวนมาก ลกั ษณะของส่วนปลายฉนวน หมุ้ จะมีสีน้าตาลหรืออาจจะมีสีเขยี วปนบางส่วน เน่ืองจากสว่ นผสมของน้ามนั เชื้อเพลงิ มีสารตะก่วั อยู่ คราบท่ีเคลอื บอยนู่ ้นั เกดิ ข้นึ เม่ือมีการใชง้ านเครื่องยนต์อย่างหนัก
94 5) ภาพ จ แสดงถึงหัวเทียนท่ีมีอาการปลายฉนวนหุ้มเกิดการแตกร้าวเป็นความเสียหายที่ เกิดเน่ืองจากการใช้งานหัวเทียนเป็นระยะเวลานานปลายฉนวนหุ้มนี้อาจจะแตกออกได้ ซึ่งคราบ เขมา่ ทเ่ี กาะอย่รู ะหว่างตวั เขย้ี วของหัวเทียนและขัว้ แกนกลางและความร้อนทาให้เกดิ การสึกกร่อน 6) ภาพ ฉ แสดงถึงหัวเทียนที่มีอาการเกิดคราบเถ้าเขม่าสะสมเป็นจานวนมากเน่ืองจาก การรั่วซึมของน้ามันหล่อลื่นเคร่ืองยนต์เข้าสู่ห้องเผาไหม้และการไม่เปล่ียนน้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์ เปน็ ระยะเวลานาน 4.5.3.1 การทาความสะอาดและปรบั ต้งั ระยะหา่ งเขยี วหวั เทยี น มีข้ันตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 1) ใช้แปรงลวด ทาความสะอาดคราบเขมา่ บริเวณเขีย้ วของหวั เทยี น 2) ใชฟ้ ิลเลอร์เกจ ท่ีมคี า่ ตามกาหนด ตรวจวัดระยะหา่ งระหวา่ งข้ัวหัวเทยี น และขั้ว แกนกลางให้ได้คา่ ตามท่ีคมู่ ือกาหนด หากมรี ะยะทีไ่ ม่ได้ตามกาหนดใหท้ าการดัด และปรบั ตง้ั ใหอ้ ย่ใู น คา่ ท่กี าหนด รปู ที่ 4.24 แสดงการทาความสะอาดคราบเขม่าทเ่ี ขี้ยวหัวเทยี น ( ที่มา : ปญั ญกร โยธ.ี 2557 ) รูปที่ 4.25 แสดงการใชฟ้ ิลเลอรเ์ กจวัดระยะห่างเขย้ี วหัวเทยี นและปรับตง้ั ระยะหา่ งใหอ้ ยู่ในค่าทีก่ าหนด ( ทมี่ า : ปัญญกร โยธ.ี 2557 )
95 สรปุ สาระสาคัญ (สอนคร้ังที่ 10 ) ระบบจุดระเบิดแบบทรานซิสเตอร์ เป็นระบบจุดระเบิดที่ใช้ทรานซิสเตอร์ในการตัดการไหล ของกระแสไฟฟ้าในวงจรแรงต่าของคอยล์จุดระเบิด จึงทาให้มีความแม่นยาในการทางานสูงมากกว่า ระบบจุดระเบิดแบบเก่าและถูกออกแบบให้มีช้ินส่วนการทางานที่น้อยง่ายต่อการซ่อมบารุง และลดค่าใช้จ่าย ในการบารุงรักษา ช้นิ สว่ นที่สาคัญก็คือชุดทรานซสิ เตอร์ ซง่ึ ถูกออกแบบให้รวมเป็นช้ินสว่ นเดยี วกันกับ คอยล์จดุ ระเบดิ ระบบจุดระเบิดแบบซีดีไอ (CDI) จะใช้หลักการเก็บและปล่อยแรงดันไฟฟ้าโดยใช้คอนเดนเซอร์ ซง่ึ ได้รับสัญญาณกระตุ้นจากขดลวดไฟสัญญาณเพ่อื คายประจดุ ้วยไทริสเตอร์ โดยมีอุปกรณ์ที่เพมิ่ เติม มาจากระบบจุดระเบิดแบบทรานซิสเตอร์คือ ไดโอด ขดลวดไฟเลี้ยงคอย และขดลวดสัญญาณ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเครื่องยนต์เล็กแก๊สโซลีนส่วนใหญ่นิยมใช้ระบบจุดระเบิดแบบทรานซิสเตอร์ เป็นหลกั เน่อื งจากมีช้นิ ส่วนการทางานทนี่ อ้ ยและง่ายตอ่ การบารุงรกั ษา การบริการระบบจุดระเบิดของเคร่ืองยนต์เล็กแก๊สโซลีน จะต้องตรวจสอบระยะห่างของเขี้ยวหัวเทียน คราบเขม่าท่ีเกิดจากการใช้งาน ตรวจสอบความต่อเน่ืองของวงจรภายในคอยล์จุดระเบิด และตรวจสอบระยะห่าง ระหว่างคอยลจ์ ดุ ระเบิดกบั ล้อแมเ่ หลก็ ใหม้ ีความถูกต้องตรงตามคมู่ ือการซ่อมบารงุ กาหนด
96 แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 4 ชอ่ื วิชา งานเครอื่ งยนตเ์ ล็ก รหัสวิชา 2101-2101 ชอ่ื หน่วย ระบบระบายความรอ้ นและการหล่อล่นื เครอ่ื งยนตเ์ ลก็ สอนครั้งที่ 10 คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นตอบคาตอบต่อไปน้ใี ห้ถูกต้อง 1. จงอธบิ ายหน้าท่ีของไทริสเตอร์ ในวงจรจุดระเบิดแบบทรานซสิ เตอร์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. จงอธบิ ายหลกั การเหนีย่ วนาไฟฟ้าแรงดันตา่ ในขดลวดปฐมภูมิ จากภาพวงจรท่ีกาหนดให้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. จงอธบิ ายหนา้ ที่ของไดโอด ในวงจรจดุ ระเบดิ แบบ ซดี ีไอ (CDI) ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. จงอธบิ ายหน้าทข่ี องขดลวดไฟสัญญาณ ในวงจรจุดระเบิดแบบ ซดี ไี อ (CDI) ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 5. เพราะเหตุใดจึงต้องมกี ารตั้งระยะห่างระหว่างคอยล์จดุ ระเบดิ กับล้อแมเ่ หล็ก ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 6. เพราะเหตุใดจึงตอ้ งมีการตรวจสอบ คราบเขมา่ ของหัวเทียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 7. จงอธบิ ายวิธกี ารวัดความต้านทานของขดลวดไฟแรงต่าและขดลวดไฟแรงสงู ภายในคอยลจ์ ุดระเบดิ ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………..
97 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น / หลังเรยี น หนว่ ยท่ี 4 ชอ่ื วชิ า งานเครอ่ื งยนต์เล็ก รหสั วิชา 2101- 2101 ช่อื หน่วย ระบบจุดระเบิดเครื่องยนต์เล็กแก๊สโซลีน สอนคร้ังท่ี 10 คาชีแ้ จง ใหท้ าเคร่ืองหมาย (X) หน้าขอ้ ที่ถกู ทีส่ ดุ เพียงข้อเดยี วลงในกระดาษคาตอบ 1. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบ ของระบบจดุ ระเบิดแบบทรานซิสเตอร์ ก. หัวเทยี น ข. ไทริสเตอร์ ค. ล้อแมเ่ หลก็ ง. คอนเดนเซอร์ 2. อุปกรณ์ที่มีหน้าท่ี ควบคุมและตัดกระแสไฟฟ้าที่เล้ียงขดลวดปฐมภูมิของระบบจุดระเบิดแบบ ทรานซสิ เตอร์ คือ ก. หัวเทยี น ข. ไทริสเตอร์ ค. ล้อแมเ่ หล็ก ง. คอนเดนเซอร์ 3. ข้อใดอธิบายหลักการทางานของไทรสิ เตอรไ์ ด้ถูกต้อง ก. กระแสไฟจะถูกกระตุ้นทขี่ า A เพอื่ ตอ่ วงจร ข.กระแสไฟจะถกู กระตุน้ ที่ขา G เพื่อตอ่ วงจร ค.กระแสไฟจะถูกกระตนุ้ ท่ีขา K เพอ่ื ตอ่ วงจร ง. กระแสไฟจะถูกกระตนุ้ ท่ขี า N เพอื่ ตอ่ วงจร 4. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของระบบจุดระเบิดแบบ ซดี ไี อ (CDI) ก. ไดโอด ข. ไทริสเตอร์ ค. ตวั ตา้ นทาน ง. คอนเดนเซอร์ 5. อุปกรณ์ที่ทาหน้าที่เก็บกระแสไฟฟ้าท่ีเกิดจากชุดขดลวดไฟเล้ียงคอยล์ในระบบจุดระเบิดแบบซีดีไอ (CDI) คอื ข้อใด ก. คอนเดนเซอร์ ข. ไดโอด ค. ไทรสิ เตอร์ ง. ตวั ต้านทาน
98 แบบทดสอบกอ่ นเรียน / หลังเรียน (ต่อ) หน่วยท่ี 4 ช่ือวิชา งานเครอ่ื งยนต์เล็ก รหสั วิชา 2101- 2101 ชือ่ หนว่ ย ระบบจดุ ระเบิดเครื่องยนต์เลก็ แก๊สโซลนี สอนครั้งท่ี 10 คาชี้แจง ให้ทาเครื่องหมาย (X) หนา้ ขอ้ ที่ถูกทส่ี ดุ เพียงข้อเดียวลงในกระดาษคาตอบ 6. ปจั จบุ นั ระบบจดุ ระเบิดในเคร่อื งยนตเ์ ล็กแกส๊ โซลีนนิยมใช้แบบทรานซสิ เตอร์แทนการใชง้ านแบบ หน้าทองขาวเพราะเหตใุ ด ก. มีอปุ กรณใ์ นระบบมากกว่า ข. การซ่อมบารุงมีความย่งุ ยาก ค. มคี วามแมน่ ยาในการทางานสงู กวา่ ง. อปุ กรณ์ในระบบจุดระเบิดมรี าคาแพง 7. หวั เทียนจะต้องมีการบริการหรือตรวจสอบทุกกี่ช่ัวโมง ก. 6 เดอื นหรือ 100 ช่ัวโมงทางาน ข. 7 เดอื นหรือ 150 ชั่วโมงทางาน ค. 1 ปี หรือ 100 ช่ัวโมงทางาน ง. 2 ปี หรอื 200 ชวั่ โมงทางาน 8. เคร่ืองมือที่ใช้ในการปรบั ต้ังระยะห่างระหว่างคอยลจ์ ุดระเบดิ และล้อแมเ่ หล็กคือ ก. ไดอัลเกจ ข. ฟลิ เลอร์เกจ ค. ไมโครมเิ ตอร์ ง. เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ 9. ข้อใดเป็นการไมป่ ฏิบตั ติ ามขอ้ ควรระวังในการ ตรวจสอบและปรับตงั้ ระยะห่างคอยล์จุดระเบดิ และลอ้ แมเ่ หล็ก ก. เลือกใชเ้ ครื่องมือที่ถูกต้องเหมาะสมกบั งาน ข. ปรบั ต้งั ในขณะที่ก้อนแม่เหลก็ ตรงกับคอยลจ์ ดุ ระเบิด ค. ปฏบิ ตั งิ านบนพนื้ ทีท่ ีส่ ะอาดและอากาศถา่ ยเทไดส้ ะดวก ง. ลา้ งทาความสะอาดลอ้ แมเ่ หล็กและขัดดว้ ยกระดาษทราย 10. ระยะห่างระหว่างคอยล์จุดระเบิดและลอ้ แมเ่ หล็ก ท่ถี ูกตอ้ งคือ ก. 0.4 - 0.6 มม. ข. 0.7 - 0.8 มม. ค. 1.0 - 1.2 มม. ง. 1.2 - 1.4 มม.
99 แบบทดสอบก่อนเรยี น / หลังเรยี น (ตอ่ ) หนว่ ยที่ 4 ชอ่ื วิชา งานเครอื่ งยนต์เลก็ รหสั วิชา 2101- 2101 ชื่อหน่วย ระบบจุดระเบิดเครื่องยนตเ์ ลก็ แกส๊ โซลีน สอนครัง้ ที่ 10 คาชแ้ี จง ให้ทาเครอื่ งหมาย (X) หนา้ ข้อท่ีถกู ทสี่ ดุ เพยี งข้อเดยี วลงในกระดาษคาตอบ 11. เคร่อื งมือที่ใชว้ ัดความตา้ นทานภายในวงจรคอยลจ์ ุดระเบิดคือ ก. ไทโรสโคป ข. โอหม์ มิเตอร์ ค. ไทริสเตอร์ ง. แอมปม์ ิเตอร์ 12. ข้อใดเปน็ การไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวัง ในการตรวจวัดความต้านทาน ภายในวงจรของคอยล์จุดระเบิด ก. เลอื กใช้เคร่ืองมือที่ถกู ต้องเหมาะสมกบั งาน ข. ปรบั ต้ังยา่ นการวัดคา่ ความตา้ นทานที่การวดั ค่าโอหม์ ค. ปรับตงั้ ย่านการวัดคา่ ความตา้ นทานที่การวดั ค่า DC volt ง. ปฏบิ ัติงานบนพ้นื ทีท่ ่สี ะอาดและอากาศถา่ ยเทไดส้ ะดวก 13. คา่ ความต้านทานของขดลวดไฟแรงดนั ต่า มคี ่าเท่าใด ก. 4.5 - 6 กโิ ลโอหม์ ข. 5.9 -7.1 กโิ ลโอหม์ ค. 0.6 - 0.7 โอหม์ ง. 0.8 - 1.0 โอหม์
100 ใบงานท่ี 4.2 ชือ่ วิชา งานเครื่องยนต์เลก็ รหสั วิชา 2101-2101 หนว่ ยที่ 4 ชือ่ หน่วย ระบบจุดระเบิดเครอื่ งยนตเ์ ลก็ แก๊สโซลนี เรอ่ื ง งานตรวจสอบ และปรับตั้งระยะหา่ งระหวา่ งคอยลจ์ ดุ ระเบิดกบั ล้อแมเ่ หล็ก เวลา 2 ชม. คาชีแ้ จง 1. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ ๆละ 2 คนเพือ่ ปฏิบตั ิงานตามใบงานท่ี 4.2 2. ใหน้ ักเรยี นศึกษาใบความรเู้ รอ่ื งระบบจดุ ระเบิดเคร่ืองยนต์เล็กแก๊สโซลีน 3. ศึกษาลาดบั ขน้ั ตอนการปฏบิ ัติงานจากใบงานที่ 4.2 4. ปฏิบตั ิตามใบงานท่ี 4.2 งานตรวจสอบ และปรับตง้ั ระยะห่างระหวา่ งคอยล์จุดระเบดิ และลอ้ แม่เหลก็ 5. บันทกึ การปฏบิ ตั ิงานลงในแบบบนั ทึกผลการปฏิบตั ิงาน จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. บอกช่ือเครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นงานตรวจสอบ และปรบั ตง้ั ระยะหา่ งระหว่างคอยล์จุดระเบิด และล้อแมเ่ หล็กได้ถกู ตอ้ ง 2. บอกข้อควรระวังในการปฏิบัติงานตรวจสอบ และปรับตั้งระยะห่างระหว่างคอยล์จุดระเบิด และ ลอ้ แมเ่ หล็กไดถ้ ูกตอ้ ง 3. ปฏิบัตงิ านตรวจสอบ และปรบั ต้ังระยะห่างระหว่างคอยลจ์ ุดระเบดิ และ ลอ้ แมเ่ หล็กได้ถูกตอ้ ง เครือ่ งมือและอุปกรณ์ 1. เครื่องยนต์ Honda Gx 160 2. ประแจรวม 3. ประแจตัวที 4. คมี ปากแหลม 5. ฟิลเลอรเ์ กจ 6. ประแจกระบอกถอดหวั เทยี น 7. ถุงมอื ปฏิบตั ิงาน 8. ผา้ เชด็ มอื และถาดใสอ่ ปุ กรณ์ รูปเครอ่ื งมือและอุปกรณ์ 1. 2.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120