วทิ ยาลยั อาชวี ศึกษาแพร่ แผนการจัดการเรียนร้ฐู านสมรรถนะ บูรณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ หลกั สตู รประกาศนียบัตรวิชาชพี ช้ันสูง (ปวส.) พ.ศ. 2563 รหสั วิชา 30000-1501 ชอ่ื วิชา ชีวิตกับสงั คมไทย ประเภทวิชา บริหารธุรกิจ สาขาวชิ า การบัญชี ชื่อผู้สอน นางศิริรัตน์ เล็กอิม่ แผนกวิชาสามัญสัมพนั ธ์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร
ก คานา แผนการจดั การเรียนร้เู ล่มนี้ได้จัดทาขึน้ เพอื่ ใช้เปน็ แผนการสอนในรายวิชาชีวิตกับสงั คมไทย รหัสวิชา 30000-1501 ตามหลักสูตรประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) พุทธศักราช 2563 เนือ้ หาการจดั การเรยี นการสอนทฤษฎี แบง่ ออกเปน็ 10 หน่วยการเรยี น ซึง่ ประกอบด้วย ชื่อหน่วยการเรียน สาระสาคญั จุดประสงค์การเรียนรู้ สมรรถนะรายหนว่ ย เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื และแหง่ การเรียนรู้ งานที่มอบหมาย การวัดและประเมนิ ผล กจิ กรรมเสนอแนะ และ บันทกึ หลังการสอน ผ้เู ขียนหวังเปน็ อย่างยงิ่ วา่ แผนการจัดการเรยี นรูเ้ ล่มนีจ้ ะเป็นประโยชนต์ อ่ นกั เรียน นักศึกษา และ ครผู สู้ อนเปน็ อยา่ งยิง่ หากมีข้อบกพร่องประการใดผูเ้ ขียนขอน้อมรับคาติชมดว้ ยความเคารพ เพื่อจะไดน้ าไป ปรบั ปรุงแก้ไขในโอกาสต่อไป ลงช่ือ (นางศิริรตั น์ เลก็ อิม่ )
สารบญั ข คานา หน้า สารบัญ ลกั ษณะรายวชิ า ก กาหนดการสอน ข ตารางวเิ คราะหห์ ลักสตู ร ค เกณฑ์การวัดผลประเมนิ ผลรายวชิ า ง แผนการจดั การเรียนรู้ จ ฉ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 1 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 6 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 10 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 14 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 18 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 22 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 26 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 30 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 33 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 11 37 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 12 38 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 13 42 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 14 46 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 15 50 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 16 54 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 58 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 18 62 รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้ 66 77
ค ลกั ษณะรายวชิ า รหสั และชื่อวิชา 30000-1501 ชีวติ กบั สงั คมไทย หนว่ ยกติ (ชั่วโมง) 3(3 ) เวลาเรียนตอ่ ภาค 54 ชั่วโมง รายวิชาตามหลกั สตู ร จดุ ประสงคร์ ายวิชา 1. เข้าใจเกี่ยวกับสงั คม ศลิ ปวฒั นธรรมประเพณี และภมู ิปัญญาของไทย 2. สามารถวิเคราะหแ์ ละประเมินสถานการณ์การเปลย่ี นแปลงของสงั คมและวฒั นธรรมไทย 3. ตระหนักและเห็นคุณค่าของศิลปวฒั นธรรมประเพณี และภมู ิปญั ญาของไทย สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกับสังคม วฒั นธรรมไทย ภมู ิปัญญาไทย หลกั ธรรมาภิบาล หลักธรรม ในการ พัฒนางาน พัฒนาคนและสงั คม สันตวิ ัฒนธรรม ความเป็นพลเมืองดี เศรษฐกจิ พอเพียง ปัญหาการทจุ รติ และ ความรว่ มมือกบั ประเทศต่าง ๆ ทางสงั คม เศรษฐกจิ การเมือง และสง่ิ แวดลอ้ ม 2. วเิ คราะหแ์ ละประเมินสถานการณก์ ารเปล่ียนแปลงของสงั คมและวฒั นธรรมไทยกบั สังคมโลก 3. ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้เกย่ี วกบั คุณธรรม จรยิ ธรรม ศาสนธรรม วฒั นธรรม ประเพณี ภูมปิ ัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพยี ง ในการปอู งกนั และแกไ้ ขปัญหาการทจุ ริต ปญั หาสังคม การดาเนินชวี ติ ตามบทบาทหน้าที่ การเปน็ พลเมืองดี คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาเกย่ี วกบั สังคม การจัดระเบียบทางสังคม ศิลปวัฒนธรรมประเพณี และภูมิปัญญาของไทย หลัก ธรรมาภิบาล หลักธรรมเพ่ือพัฒนาคน พัฒนางานและสังคม สันติวัฒนธรรม ความเป็นพลเมืองดี เศรษฐกิจ พอเพียง ปญั หาการทจุ ริต ความร่วมกบั ประเทศต่างๆ ทางสงั คม เศรษฐกจิ การเมือง และสิ่งแวดล้อม เพ่ือการ อยู่รว่ มกันอยา่ งสันติสขุ สถานการณ์การเปล่ยี นแปลงของสงั คมและวฒั นธรรมไทย และสังคมโลก
กาหนดการสอน ง หนว่ ยท่ี ชอ่ื หน่วย/รายการสอน ช่ัวโมง สปั ดาห์ ปฐมนเิ ทศ 1 1 1. สังคม การจัดระเบยี บทางสังคม และสถาบนั ทางสงั คม 5 1-2 2. ศลิ ปะ วัฒนธรรม และภูมิปญั ญาของไทย 6 3-5 3. หลกั ธรรมาภิบาล 3 6 4. ความเป็นพลเมืองดี 6 7-8 5. สนั ติวัฒนธรรม 6 6. หลักธรรมเพอื่ พัฒนาคน พัฒนางาน และพัฒนาสังคม 3 9-10 7. การแกป้ ัญหาการทจุ ริต 6 11 8. STRONG / จติ พอเพยี งต่อตา้ นการทุจริต 3 12-13 9. ความรว่ มมอื กับประเทศต่างๆ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่าง 6 14 สนั ตสิ ุข 15-16 10. สถานการณ์การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และวฒั นธรรมไทยและ 3 สงั คมโลก 17 3 สอบปลายภาค 18
ตารางวิเคราะห์หลักสตู ร จ รหัส 30000-1501 ชวี ิตกบั สังคมไทย หน่วยกติ 3 ชัน้ ปวส.1 ประเภทวิชา สาขาวชิ า การบัญชี พฤตกิ รรม พทุ ธิพิสัย ชอ่ื หนว่ ยงาน ความรู้ ความเ ้ขาใจ นาไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเ ิมนค่า ัทกษะพิสัย ิจตพิสัย รวม ลา ัดบความสาคัญ จานวนคาบ จานวน ้ขอสอบ สังคม การจดั ระเบยี บทางสงั คม และ 2 2 2 2 2 10 6 10 สถาบนั ทางสงั คม 2 2 10 6 10 ศลิ ปะ วฒั นธรรม และภูมปิ ัญญา 2 2 2 2 2 10 3 10 2 2 10 6 10 ของไทย 2 2 10 6 10 2 2 10 3 10 หลักธรรมาภบิ าล 22 2 2 2 10 6 10 ความเป็นพลเมืองดี 22 2 2 2 10 3 10 สนั ติวฒั นธรรม 22 2 2 2 10 6 10 หลกั ธรรมเพือ่ พฒั นาคน พฒั นางาน 2 2 2 และพฒั นาสงั คม การแก้ปัญหาการทุจรติ 22 2 STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการ 2 2 2 ทุจริต ความร่วมมือกับประเทศตา่ งๆ เพือ่ 2 2 2 การอยรู่ ่วมกันอย่าง สันตสิ ขุ สถานการณ์การเปล่ยี นแปลงทาง 2 2 2 2 2 10 3 10 สงั คม และวัฒนธรรมไทยและ สังคมโลก สอบปลายภาค 3 54 100 รวม 20 20 20 20 20 10 ลาดับความสาคัญ
ฉ เกณฑก์ ารวัดผลประเมินผลรายวิชา 40 % การวัดผล 20 % 10 % สอบเก็บคะแนนระหว่างเรยี น 10 % สอบปลายภาค 20 % ผลงานการศึกษาคน้ ควา้ และการนาเสนอ แบบฝึกหดั /ใบงาน/แฟูมสะสมงาน บูรณาการคณุ ธรรมจรยิ ธรรมคา่ นิยมและลักษณะอันพึงประสงค์ หมายเหตุ นักศกึ ษาตอ้ งเข้าเรียนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด การประเมนิ ผล กาหนดคา่ ระดบั คะแนนตามเกณฑด์ ังน้ี คะแนน 80 - 100 ไดเ้ กรด 4 คะแนน 75 - 79 ได้เกรด 3.5 คะแนน 70 - 74 ไดเ้ กรด 3 คะแนน 65 – 69 ได้เกรด 2.5 คะแนน 60 – 64 ได้เกรด 2 คะแนน 55 - 59 ได้เกรด 1.5 คะแนน 50 - 54 ได้เกรด 1 คะแนน 0 - 49 ได้เกรด 0
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 ๑ ชอ่ื วิชา ชีวิตกับสังคมไทย (30000-1501) หน่วยท่ี 1 ชือ่ หน่วย สังคม การจดั ระเบียบทางสังคม และสถาบนั สัปดาหท์ ี่ 1 จานวน 3 ช่ัวโมง ทางสังคม แนวคดิ ลักษณะพิเศษของมนุษย์ประการหนึ่งคือมนุษย์เป็นสัตว์สังคม หมายความว่า มนุษย์จะอยู่ โดดเดยี่ วไมไ่ ด้จาเป็นต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม ที่เรียกว่า “สังคม” เพราะต้องพึ่งพาอาศัยซ่ึงกันและกัน ในขณะเดียวกันเม่ือมนุษย์มาอยู่ร่วมกัน จาเป็นต้องมีการจัดระเบียบทางสังคม เพ่ือให้การอยู่ร่วมกัน เปน็ สงั คมนน้ั เป็นไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธิบายความหมายของสังคม สาเหตุการอยรู่ ่มกนั เปน็ สังคม หน้าท่ีของสงั คม และ องค์ประกอบของสังคมได้ ๒. อธบิ ายความหมายและความสาคญั ของการจดั ระเบียบทางสังคมได้ ๓. อธบิ ายความสาคัญ บทบาทหน้าทแี่ ละความสัมพันธ์ของแต่ละสถาบันทางสงั คมได้ สมรรถนะประจาหน่วย แสดงความร้เู ก่ยี วกบั สงั คม การจัดระเบยี บทางสงั คมและสถาบันทางสังคมตามหลักการ
๒ สาระการเรยี นรู้ ๑. สงั คม ๒. การจัดระเบยี บทางสังคม ขั้นนาเข้าส่กู ารเรยี น 1. ครถู ามผ้เู รยี นวา่ ใครเคยอยู่คนเดียวบา้ ง อยู่ไดน้ านเท่าไร และทาอะไรบ้าง จากน้ันครูถาม ผูเ้ รียนว่า ใครทีค่ ดิ วา่ ตนเองอยูค่ นเดยี วได้ 2. ครหู าขอ้ โต้แยง้ ผเู้ รียนทค่ี ิดว่าอยู่คนเดียวไดว้ ่าถึงอย่าไรผู้เรยี นกย็ ังต้องคงพง่ึ พาผู้อืน่ เช่น รับประทานอาหาร แต่ผเู้ รยี นไม่สามารถผลติ อาหารเองได้ ขัน้ สอน 3. ครูให้ผูเ้ รยี นสนทนากนั เก่ียวกบั ความหมายของสังคมจากนน้ั ช่วยกนั สรปุ ความหมายของ สงั คม 4. ครอู ธบิ ายลกั ษณะของสงั คม จากนน้ั ให้ดูภาพและอภิปรายวา่ เกยี่ วขอ้ งกับสาเหตขุ องการ รวมกันเป็นสงั คมอยา่ งไร 5. ครูให้ผู้เรียนสนทนากนั เกี่ยวกับหน้าท่ีของสังคมจากนั้นช่วยกันสรุปหน้าท่ขี องสังคม 6. ครใู ห้นักเรยี นสนทนาอีกครง้ั รือ่ งหนา้ ท่ีของสังคมจากน้นั ครสู มุ่ ถามใหผ้ ้เู รยี นอธิบายเพ่ิม 7. ครูอธิบายเกยี่ วกับองค์ประกอบของสงั คม 8. ครูเปิดคลิปวิดโิ อเรื่อง ความรักของครูกับนกั เรียนสาว จาก https://www.youtube.com/watch?v=VE_yL_UOasM จากนนั้ ครูถามผูเ้ รียนว่าร้สู ึกอย่างไร
๓ 9. ครใู หผ้ เู้ รียนชว่ ยกนั วเิ คราะห์สถานภาพที่เกดิ ขึ้นจากคลิปวิดโิ อ จากนั้นจาแนกเรื่อง สถานภาพและบทบาท 10. ครูอธิบายเรอ่ื งการจดั ระเบยี บทางสงั คม 11. ครูใหผ้ เู้ รียนยกตัวอย่างบรรทดั ฐานทางสังคมประเภทต่างๆ 12. ครเู ขยี นคาว่า “สถานภาพโดยกาเนิด” กบั “สถานภาพโดยความสามารถ” จากนัน้ ให้ ผเู้ รียนชว่ ยกันยกตวั อยา่ ง 13. ครอู ธิบายเรอ่ื งความสัมพันธ์ระหวา่ งสถานภาพกบั บทบาท ขั้นสรปุ และประยกุ ต์ 14. ครเู ปิดคลิป ทุบโตะ๊ ข่าว : จบั ลกู นายพลขับจากัวรส์ ่งไอซ์-บา้ นซุกปืนอ้ือผูใ้ หญ่วิ่งปิดข่าว 24/09/59 จาก ทุบโต๊ะข่าว : จบั ลูกนายพลขับจากัวร์ส่งไอซ์-บ้านซุกปนื อ้ือผูใ้ หญว่ ่งิ ปิดข่าว 24/09/59 ใหผ้ ูเ้ รยี นดู จากนั้นถามผูเ้ รยี นวา่ การขัดกันของสถานภาพและบทบาทกอ่ ให้เกิดปัญหา อย่างไร 15. ครูใหผ้ ู้เรยี นช่วยกนั สรุปเก่ียวกับสถานภาพและบทบาท 16. ครใู หผ้ ู้เรยี นทาใบงานที่ ๑.๑-๑.๔ ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนวชิ าชวี ติ กับสงั คมไทย 2. กิจกรรมการเรยี นการสอน หลกั ฐาน 1. บนั ทกึ การสอนของครู 2. ใบเชค็ รายชือ่ 3. แผนการจดั การเรียนรู้ 4. เนอ้ื งานในหนังสอื เรียน การวัดผลและการประเมนิ ผล วธิ วี ัดผล 1. ประเมนิ ผลความก้าวหนา้ ของตนเอง 2. ประเมนิ ความเรียบรอ้ ยของ กจิ กรรมและแบบฝึกหัด 3. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 4. สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล 5. ประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม 6. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอัน พึงประสงค์
๔ เครอ่ื งมือวัดผล 1. แบบประเมินผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2. กิจกรรมและแบบฝึกหัดในหนงั สือเรยี น 3. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 4. สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 5. ประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม 6.การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอัน พึงประสงค์ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. แบบประเมนิ ผลความก้าวหน้าของตนเอง เกณฑผ์ ่าน 50% ขน้ึ ไป 2. กจิ กรรมและแบบฝึกหัดในหนงั สอื เรียน เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 3. แบบทดสอบเก็บคะแนน เกณฑผ์ ่าน 50% ขึ้นไป 4. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไมม่ ชี ่องปรับปรุง 5. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ขึน้ ไป) 6. การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อยู่กับการประเมนิ ตามสภาพจริง กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ครูให้ผ้เู รียนเขยี นเรยี งความเรื่องการขดั กันระหว่างสถานภาพกบั บทบาท
๕ บันทึกหลงั การสอน ข้อสรุปหลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาที่พบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรยี นรู้ทื่ 2 ๖ ชอื่ วิชา ชีวิตกับสังคมไทย (30000-1501) หน่วยที่ 1 ชอ่ื หน่วย สังคม การจดั ระเบียบทางสังคม และสถาบัน สปั ดาหท์ ี่ 2 จานวน 3 ช่วั โมง ทางสังคม แนวคดิ ลักษณะพิเศษของมนุษย์ประการหนึ่งคือมนุษย์เป็นสัตว์สังคม หมายความว่า มนุษย์จะอยู่ โดดเดีย่ วไมไ่ ด้จาเป็นต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม ท่ีเรียกว่า “สังคม” เพราะต้องพ่ึงพาอาศัยซ่ึงกันและกัน ในขณะเดียวกันเมื่อมนุษย์มาอยู่ร่วมกัน จาเป็นต้องมีการจัดระเบียบทางสังคม เพ่ือให้การอยู่ร่วมกัน เป็นสังคมน้นั เปน็ ไปด้วยความเรยี บรอ้ ย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธิบายความหมายของสงั คม สาเหตุการอยรู่ ม่ กนั เป็นสงั คม หนา้ ท่ีของสังคม และ องคป์ ระกอบของสังคมได้ ๒. อธบิ ายความหมายและความสาคญั ของการจดั ระเบียบทางสงั คมได้ ๓. อธบิ ายความสาคญั บทบาทหน้าท่ีและความสัมพันธ์ของแตล่ ะสถาบันทางสงั คมได้ สมรรถนะประจาหน่วย แสดงความรเู้ ก่ียวกับสังคม การจดั ระเบียบทางสงั คมและสถาบันทางสังคมตามหลักการ สาระการเรยี นรู้ ๑. สถาบันทางสังคม ๒. ความสัมพนั ธ์ของสถาบนั ทางสังคม ขั้นนาเข้าสู่การเรียน ๑. ครใู ห้ผ้เู รียนดูภาพ จากนน้ั ครูถามผู้เรียนว่า ภาพนีเ้ กีย่ วกับสถาบันทางสงั คมใดบ้าง ๒. ครสู ่มุ เลือกผู้เรยี นแสดงความเหน็ และครูเขียนคาตอบไว้บนกระดาน ๓. ครูสมุ่ ถามเพิ่มเตมิ
๗ ขนั้ สอน ๔. ครแู บ่งผู้เรียนออกเปน็ ๗ กลุ่ม อภปิ รายเกีย่ วกับสถาบันทางสังคมดังน้ี สถาบนั ครอบครวั สถาบันการศึกษา สถาบนั ศาสนา สถาบนั เศรษฐกจิ สถาบันการเมืองการปกครอง สถาบนั นันทนาการ สถาบันส่อื สารมวลชน ๕. ครใู หแ้ ตล่ ะกลุม่ ออกมานาเสนอลกั ษณะและหนา้ ท่ีของสถาบนั ประเภทต่างๆ ๖. ครูให้ผูเ้ รยี นจับกลมุ่ แบบเดิม จากนนั้ ให้ช่วยกันวเิ คราะห์ว่า กล่มุ ของตนเองมี ความสมั พนั ธก์ ับสถาบันอื่นๆอย่างไรบ้าง ใหช้ ่วยกันยกตวั อย่างอย่างน้อย ๓ ตวั อยา่ ง ๗. ครใู ห้แต่ละกลุ่มนาเสนอ ครูอธบิ ายสรุป ขน้ั สรุปและประยกุ ต์ ๘. ครูให้ผ้เู รยี นทาคาถามทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรูห้ น่วยท่ี ๑ ๙. ครเู ฉลยพร้อมผเู้ รยี นท้ังช้นั สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวชิ าชีวิตกับสงั คมไทย 2. กิจกรรมการเรียนการสอน หลกั ฐาน 1. บนั ทึกการสอนของครู 2. ใบเชค็ รายชื่อ 3. แผนการจดั การเรียนรู้ 4. เนอ้ื งานในหนงั สอื เรียน การวดั ผลและการประเมินผล วิธวี ัดผล 1. ประเมินผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2. ประเมินความเรียบรอ้ ยของ กิจกรรมและแบบฝกึ หัด 3. แบบทดสอบเก็บคะแนน 4. สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 5. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม
๘ 6. การสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอัน พงึ ประสงค์ เครือ่ งมอื วดั ผล 1. แบบประเมนิ ผลความก้าวหนา้ ของตนเอง 2. กิจกรรมและแบบฝึกหดั ในหนังสือเรยี น 3. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 4. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 5. ประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 6. การสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอัน พงึ ประสงค์ เกณฑ์การประเมินผล 1. แบบประเมินผลความกา้ วหน้าของตนเอง เกณฑผ์ า่ น 50% ข้ึนไป 2. กจิ กรรมและแบบฝึกหดั ในหนังสือเรยี น เกณฑผ์ ่าน 50% ขน้ึ ไป 3. แบบทดสอบเก็บคะแนน เกณฑผ์ า่ น 50% ขนึ้ ไป 4. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรับปรุง 5. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ขึน้ ไป) 6. การสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอัน พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ้ อยูก่ บั การประเมินตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ครูใหผ้ เู้ รยี นจัดบอร์ดเรือ่ งสถาบนั ทางสงั คม
๙ บันทึกหลังการสอน ขอ้ สรปุ หลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่ีพบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 ๑๐ ชอื่ วิชา ชวี ติ กับสงั คมไทย (30000-1501) หนว่ ยท่ี 2 ชือ่ หน่วย ศลิ ปะ วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาของไทย สปั ดาหท์ ี่ 3 จานวน 3 ช่วั โมง แนวคดิ ประเทศไทยเป็นประเทศท่ีรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและภูมิปัญญาไทย เพราะ เป็นดินแดนท่ีเป็นที่อยู่อาศัย ตังถิ่นฐานบ้านเรือนของมนุษย์อย่างต่อเนื่อง นับแต่ยุคก่อน ประวัติศาสตร์ จึงมีมรดกตกทอดทางศิลปวัฒนธรรมหลายยุคหลายสมัย สามารถเห็นได้ทั่วไป ซ่ึงทา ให้คนไทยเกิดความคุ้นเคย บางครั้งจึงอาจมองไม่เห็นคุณค่าความสาคัญ เป็นเหตุให้มรดกทาง ศิลปวฒั นธรรมอันล้าคา่ ของไทยถกู ทาลายไปดว้ ยความร้เู ท่าไม่ถึงการณ์ หนทางหน่ึงท่ีจะช่วยกันรักษา มรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันมอิ าจประเมินคา่ ไดใ้ ห้คงอยคู่ แู่ ผ่นดิน เป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานต่อไป นัน่ คือการใหค้ วามรแู้ กผ่ เู้ รยี นเพอื่ ใหเ้ กดิ ความภาคภมู ิใจ หวงแหน และซึมซบั คุณคา่ และความงามจาก มรดกทางศิลปวฒั นธรรม ประเพณี และภมู ิปญั าไทยทีบ่ รรพชนในอดีตฝากไวเ้ ป็นมรดกแผ่นดิน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธิบายความหมายของศิลปะ วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาได้ ๒. อธิบายศิลปะทเี่ กย่ี วขอ้ งกับศาสนา ประเพณวี ัฒนธรรมไทยและภูมปิ ัญญาไทยได้ ๓. อธิบายแนวทางการธารงศิลปะ วฒั นธรรม และภมู ิปัญญาไทยได้ สมรรถนะประจาหนว่ ย ๑. แสดงความร้เู กยี่ วกับความสาคญั ของศิลปะ วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทยที่มีตอ่ สงั คมไทย ๒. ธารงรักษาศิลปะ วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทยอยา่ งเหมาะสมตามหลักการ สาระการเรียนรู้ ๑. ความหมายของศลิ ปะ วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญา ๒. ศลิ ปะทเ่ี กีย่ วข้องกบั ศาสนา ประเพณวี ัฒนธรรมไทยและภมู ิปัญญาไทย ขั้นนาเขา้ ส่กู ารเรยี น ๑. ครูเปดิ คลปิ วดิ ิโอ Amazing Thailand: It Begins with the People (full length) จาก https://www.youtube.com/watch?v=Y-M9Z2RJIUE จากนั้นถามผู้เรยี นว่า อะไรบ้างท่ีเปน็ Amazing Thailand จากนน้ั ครูเขยี นแยกเปน็ ดา้ นศลิ ปะ วัฒนธรรม และดา้ นอืน่ ๆ
๑๑ ๒. ครูสุ่มถามผเู้ รยี นไปเร่ือยๆ ขน้ั สอน ๓. ครูอธิบายความหมายของศิลปะ วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญา ๔. ครูเขยี นคาวา่ “พุทธศาสนา” ไว้บนกระดาน จากนั้นให้ผู้เรียนชว่ ยกันคดิ ว่าอะไรบ้างท่ี เป็นศิลปะ วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท่ีเก่ยี วกับพุทธศาสนา ๕. ครูสมุ่ ถามและเขยี นคาตอบไว้บนกระดาน ๖. ครใู หผ้ เู้ รียนจับกลุ่มกนั อภิปรายว่า นอกจากพทุ ธศาสนาแล้ว ยงั มอี ะไรอีกทเี่ ป็นจึดกาเนิด ของศลิ ปวัฒนธรรมไทย ๗. ครใู หผ้ ้เู รยี นนาเสนอ ๘. ครูใหผ้ เู้ รียนจบั กล่มุ กนั เป็น ๓ กลมุ่ มอบหวั ข้อ การจดั นิทรรศการด้านศลิ ปะ วฒั นธรรม และภูมิปัญญาไทย ศลิ ปะท่ีเก่ียวข้องกับศาสนา ศิลปะทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ประเพณีวัฒนธรรมไทย ศิลปะทเี่ กย่ี วข้องกับภูมปิ ัญญาไทย ๙. ครูให้นักเรยี นคดิ เน้ือหาเก่ียวกับการกาหนดนิทรรศการ จากนน้ั นาเสนอ ครูช่วยปรับให้ อยูภ่ ายใต้ concept ๑๐. ครูนัดหมายวา่ ในชั่วโมงเรียนหนา้ จะจัดนทิ รรศการ ให้ผูเ้ รียนในสถาบนั มาชมใน ลักษณะ gallery walk ขัน้ สรปุ และประยุกต์ ๑๑. เมือ่ ไดข้ ้อสรุปแล้ว ครใู ห้ผเู้ รยี นทาใบงานที่ ๒.๑-๒.๕ ส่ือและแหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นวชิ าชีวิตกับสงั คมไทย 2. กจิ กรรมการเรียนการสอน หลกั ฐาน 1. บันทกึ การสอนของครู 2. ใบเช็ครายชือ่ 3. แผนการจดั การเรียนรู้ 4. เนือ้ งานในหนังสอื เรียน
๑๒ การวัดผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1. ประเมินผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2. ประเมินความเรียบร้อยของ กิจกรรมและแบบฝึกหัด 3. แบบทดสอบเก็บคะแนน 4. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 5. ประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 6. การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ เคร่ืองมือวดั ผล 1. แบบประเมนิ ผลความก้าวหนา้ ของตนเอง 2. กจิ กรรมและแบบฝึกหดั ในหนงั สอื เรยี น 3. แบบทดสอบเก็บคะแนน 4. สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 5. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม 6. การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. แบบประเมนิ ผลความก้าวหนา้ ของตนเอง เกณฑ์ผ่าน 50% ขน้ึ ไป 2. กิจกรรมและแบบฝึกหดั ในหนงั สอื เรียน เกณฑ์ผา่ น 50% ขึน้ ไป 3. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน เกณฑผ์ า่ น 50% ขึน้ ไป 4. เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ีช่องปรับปรุง 5. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ข้ึนไป) 6. การสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจริง กิจกรรมเสนอแนะ ครูใหผ้ เู้ รยี นทาโปสเตอรป์ ระชาสมั พันธเ์ ชิญชวนมาเยี่ยมชมและใหข้ ้อคิดเห็นใน gallery walk
๑๓ บันทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาท่ีพบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 ๑๔ ช่อื วิชา ชวี ติ กับสงั คมไทย (30000-1501) หน่วยที่ 2 ชื่อหน่วย ศิลปะ วัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาของไทย สปั ดาหท์ ่ี 4 จานวน 3 ชัว่ โมง แนวคดิ ประเทศไทยเป็นประเทศท่ีรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและภูมิปัญญาไทย เพราะ เป็นดินแดนท่ีเป็นท่ีอยู่อาศัย ตังถ่ินฐานบ้านเรือนของมนุษย์อย่างต่อเน่ือง นับแต่ยุคก่อน ประวัติศาสตร์ จึงมีมรดกตกทอดทางศิลปวัฒนธรรมหลายยุคหลายสมัย สามารถเห็นได้ทั่วไป ซ่ึงทา ให้คนไทยเกิดความคุ้นเคย บางครั้งจึงอาจมองไม่เห็นคุณค่าความสาคัญ เป็นเหตุให้มรดกทาง ศิลปวัฒนธรรมอนั ลา้ คา่ ของไทยถกู ทาลายไปด้วยความรู้เทา่ ไมถ่ งึ การณ์ หนทางหน่ึงที่จะช่วยกันรักษา มรดกทางศลิ ปวัฒนธรรมอนั มิอาจประเมินค่าไดใ้ หค้ งอยู่คแู่ ผ่นดิน เป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานต่อไป น่ันคอื การใหค้ วามร้แู ก่ผเู้ รยี นเพอ่ื ให้เกดิ ความภาคภมู ใิ จ หวงแหน และซมึ ซบั คณุ ค่าและความงามจาก มรดกทางศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาไทยท่ีบรรพชนในอดตี ฝากไวเ้ ป็นมรดกแผน่ ดนิ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายความหมายของศิลปะ วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาได้ ๒. อธิบายศลิ ปะทเ่ี กย่ี วข้องกับศาสนา ประเพณีวฒั นธรรมไทยและภูมปิ ัญญาไทยได้ ๓. อธบิ ายแนวทางการธารงศิลปะ วฒั นธรรม และภมู ิปญั ญาไทยได้ สมรรถนะประจาหนว่ ย ๑. แสดงความรู้เกีย่ วกบั ความสาคญั ของศิลปะ วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทยที่มตี ่อสงั คมไทย ๒. ธารงรักษาศิลปะ วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทยอย่างเหมาะสมตามหลักการ สาระการเรยี นรู้ ๑. ความหมายของศลิ ปะ วัฒนธรรมและภูมิปัญญา ๒. ศลิ ปะทเี่ กย่ี วข้องกบั ศาสนา ประเพณวี ฒั นธรรมไทยและภูมิปญั ญาไทย ขั้นนาเข้าสูก่ ารเรยี น ๑. ครใู หผ้ ้เู รยี นจดั เตรียม gallery walk และซกั ซ้อมการนาเสนอ ขนั้ สอน ๒. ใหผ้ ชู้ มทวั่ ไปเขา้ ชมการนาเสนอ ๓. ครูเข้าเย่ียมชมและจดบันทกึ การเสนอของแต่ละกล่มุ เพือ่ ไปสะทอ้ นในชว่ั โมงเรยี นหน้า
๑๕ ขนั้ สรุปและประยกุ ต์ - สอื่ และแหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนวิชาชีวิตกับสงั คมไทย 2. กิจกรรมการเรยี นการสอน หลักฐาน 1. บนั ทกึ การสอนของครู 2. ใบเชค็ รายชือ่ 3. แผนการจดั การเรียนรู้ 4. เนื้องานในหนงั สอื เรียน การวดั ผลและการประเมินผล วธิ ีวัดผล 1. ประเมินผลความก้าวหน้าของตนเอง 2. ประเมนิ ความเรียบรอ้ ยของ กจิ กรรมและแบบฝึกหัด 3. แบบทดสอบเก็บคะแนน 4. สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล 5. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 6. การสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เครือ่ งมอื วดั ผล 1. แบบประเมินผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2. กจิ กรรมและแบบฝึกหัดในหนงั สือเรยี น 3. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 4. สงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 5. ประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม 6. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอัน พงึ ประสงค์ เกณฑ์การประเมินผล 1. แบบประเมินผลความก้าวหน้าของตนเอง เกณฑ์ผา่ น 50% ขน้ึ ไป 2. กจิ กรรมและแบบฝึกหดั ในหนังสอื เรียน เกณฑผ์ ่าน 50% ข้นึ ไป 3. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน เกณฑ์ผ่าน 50% ข้ึนไป 4. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไม่มีช่องปรบั ปรุง
๑๖ 5. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ขึน้ ไป) 6. การสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กบั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ ครใู ห้ผเู้ รียนจัดการแสดงบนเวทเี กยี่ วกบั ศิลปะ วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
๑๗ บันทึกหลังการสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาท่ีพบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 ๑๘ ชอ่ื วิชา ชีวิตกับสงั คมไทย (30000-1501) หน่วยท่ี 2 ชอ่ื หน่วย ศิลปะ วัฒนธรรมและภูมิปญั ญาของไทย สปั ดาหท์ ี่ 5 จานวน 3 ชว่ั โมง แนวคิด ประเทศไทยเป็นประเทศท่ีรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและภูมิปัญญาไทย เพราะ เป็นดินแดนท่ีเป็นที่อยู่อาศัย ตังถ่ินฐานบ้านเรือนของมนุษย์อย่างต่อเนื่อง นับแต่ยุคก่อน ประวัติศาสตร์ จึงมีมรดกตกทอดทางศิลปวัฒนธรรมหลายยุคหลายสมัย สามารถเห็นได้ท่ัวไป ซึ่งทา ให้คนไทยเกิดความคุ้นเคย บางครั้งจึงอาจมองไม่เห็นคุณค่าความสาคัญ เป็นเหตุให้มรดกทาง ศิลปวฒั นธรรมอันลา้ ค่าของไทยถูกทาลายไปดว้ ยความรู้เท่าไมถ่ งึ การณ์ หนทางหน่ึงท่ีจะช่วยกันรักษา มรดกทางศิลปวฒั นธรรมอนั มอิ าจประเมนิ คา่ ได้ใหค้ งอยคู่ ่แู ผน่ ดิน เป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานต่อไป นนั่ คอื การใหค้ วามรูแ้ ก่ผู้เรียนเพ่ือใหเ้ กดิ ความภาคภมู ิใจ หวงแหน และซึมซับคุณคา่ และความงามจาก มรดกทางศลิ ปวฒั นธรรม ประเพณี และภมู ิปัญญาไทยทบ่ี รรพชนในอดตี ฝากไว้เปน็ มรดกแผ่นดนิ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธิบายความหมายของศลิ ปะ วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาได้ ๒. อธบิ ายศิลปะที่เกี่ยวขอ้ งกับศาสนา ประเพณีวฒั นธรรมไทยและภูมิปญั ญาไทยได้ ๓. อธิบายแนวทางการธารงศิลปะ วฒั นธรรม และภมู ิปัญญาไทยได้ สมรรถนะประจาหนว่ ย ๑. แสดงความรู้เกยี่ วกับความสาคัญของศลิ ปะ วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทยท่ีมตี ่อสงั คมไทย ๒. ธารงรกั ษาศิลปะ วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทยอย่างเหมาะสมตามหลักการ สาระการเรยี นรู้ ๑. ความหมายของศลิ ปะ วฒั นธรรมและภมู ิปัญญา ๒. ศลิ ปะทีเ่ กีย่ วข้องกบั ศาสนา ประเพณีวัฒนธรรมไทยและภมู ิปัญญาไทย ขน้ั นาเขา้ สู่การเรยี น ๑. ครใู หผ้ เู้ รยี นนั่งเป็นกลมุ่ ที่ทา gallery walk ขัน้ สอน ๒. ครูให้ผู้เรยี นทาการสะท้อนประเมนิ การทางานของกลมุ่ ตนเอง ๓. ครใู หผ้ เู้ รยี นกลุ่มอนื่ ๆสะท้อนการาเสนอของเพอ่ื น ๔. ครสู ะท้อนการจดั นทิ รรศการของผ้เู รียนแต่ละกลุ่ม
๑๙ ๕. ครใู ห้ผเู้ รยี นเขยี นอธิบายคุณค่าของการอนุรักษ์ศลิ ปะและวฒั นธรรมไทย ขน้ั สรุปและประยกุ ต์ ๖. ครใู ห้ผูเ้ รยี นทาคาถามท้ายหน่วยการเรียนรหู้ น่วยท่ี ๒ ๗. ครเู ฉลยพร้อมผ้เู รียนทั้งชน้ั สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นวชิ าชวี ติ กับสงั คมไทย 2. กิจกรรมการเรียนการสอน หลักฐาน 1. บันทกึ การสอนของครู 2. ใบเชค็ รายช่ือ 3. แผนการจดั การเรียนรู้ 4. เนอื้ งานในหนงั สือเรียน การวดั ผลและการประเมินผล วธิ ีวัดผล 1. ประเมนิ ผลความก้าวหน้าของตนเอง 2. ประเมินความเรยี บรอ้ ยของ กิจกรรมและแบบฝกึ หัด 3. แบบทดสอบเก็บคะแนน 4. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 5. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 6. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ เครอ่ื งมอื วดั ผล 1. แบบประเมนิ ผลความก้าวหน้าของตนเอง 2. กจิ กรรมและแบบฝึกหดั ในหนังสือเรียน 3. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 4. สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล 5. ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 6. การสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอัน พึงประสงค์
๒๐ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. แบบประเมินผลความกา้ วหน้าของตนเอง เกณฑ์ผ่าน 50% ขนึ้ ไป 2. กจิ กรรมและแบบฝึกหดั ในหนังสอื เรยี น เกณฑผ์ า่ น 50% ขึ้นไป 3. แบบทดสอบเก็บคะแนน เกณฑผ์ า่ น 50% ขึน้ ไป 4. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไม่มชี ่องปรบั ปรงุ 5. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ข้ึนไป) 6. การสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่กบั การประเมินตามสภาพจริง กิจกรรมเสนอแนะ ครใู ห้ผู้เรียนทาตารางทอ่ งเทย่ี ว “เทีย่ วเมืองไทย ไมไ่ ปไมร่ ู้” โดยเปน็ ตารางทอ่ งเท่ียวใน จังหวัดหนึ่งๆหรอื อาจรวมถึงจังหวดั ใกล้เคียง โดยเฉพาะการทอ่ งเทย่ี วเชงิ ศกึ ษาศลิ ปะ วฒั นธรรม และ ภมู ปิ ัญญาไทย
๒๑ บนั ทกึ หลังการสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่ีพบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 ๒๒ ชอ่ื วิชา ชีวติ กับสงั คมไทย (30000-1501) หน่วยท่ี 3 ชอ่ื หน่วย หลกั ธรรมาภิบาล สัปดาหท์ ่ี 6 จานวน 3 ชว่ั โมง แนวคดิ ธรรมาภิบาลหรือการบริหารจัดการบา้ นเมืองท่ีดี (Good Governance) คือ แนวคดิ เกีย่ วกบั การบริหารกจิ การบ้านเมืองที่ดี มพี ื้นฐานมาจากความร่วมมือของสถาบันทงั้ ภาครฐั และภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาสังคมทจ่ี ะชว่ ยพฒั นาองคก์ รและสงั คมท้งั ระบบให้มีคุณภาพและมีประสทิ ธิภาพโดย ยดึ หลัก ๖ ประการ คือ หลกั นติ ธิ รรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมสี ว่ นร่วม หลักความ รับผิดชอบ และหลกั ความคมุ้ ค่า ถือเปน็ หลักการบรหิ ารที่สาคัญของผูป้ กครอง ผูบ้ ริหารทุกระดับ ที่ สามารถนาไปใช้เปน็ แนวทางในการบรหิ ารจัดการองค์กรของตนให้มีประสิทธิภาพและกา้ วไปสู่ ความสาเร็จพร้อมๆกัน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายความหมาย ความสาคญั และองคป์ ระกอบของหลักธรรมาภบิ าลได้ ๒. อธบิ ายแนวทางปฏิบตั ติ ามหลกั ธรรมาภบิ าลได้ ๓. อธิบายความสาเรจ็ ในการสรา้ งระบบธรรมาภิบาลได้ ๔. อธบิ ายของประโยชนของธรรมาภิบาลที่มีตอ่ ภาครัฐและภาคธรุ กจิ ได้ สมรรถนะประจาหน่วย ๑. วิเคราะหค์ วามสาคญั ของหลักธรรมาภิบาลที่มตี ่อการพัฒนาสงั คมและประเทศ ๒. ประยกุ ต์ใชห้ ลกั ธรรมาภิบาลในการดาเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ สาระการเรียนรู้ ๑. ธรรมาภิบาล ๒. แนวทางปฏบิ ัตติ ามหลกั ธรรมาภิบาล ๓. ความสาเรจ็ ในการสร้างระบบธรรมาภิบาล ๔. ประโยชน์ของธรรมาภบิ าล ขนั้ นาเข้าสู่การเรยี น ๑. ครเู ขยี นคาว่า “ธรรมาภิบาล”ไวบ้ นกระดานจากนัน้ ครูถามผ้เู รยี นวา่ ใครเคยได้ยนิ คาน้ีบา้ ง ๒. ครสู มุ่ ถามผเู้ รียน
๒๓ ขน้ั สอน ๒. ครอู ธิบายความหมายของธรรมาภบิ าล ๓. ครูครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น ๖ กลมุ่ ใหอ้ ภิปรายเกี่ยวกับหลักของธรรมาภบิ าลดังนี้ หลัก นิติธรรม หลกั คณุ ธรรม หลกั ความโปรง่ ใส หลกั การมสี ่วนร่วม หลกั ความรับผิดชอบ และหลกั ความ ค้มุ คา่ ๔. ครใู ห้แต่ละกลุม่ มานาเสนอ และครูอธบิ ายสรุปแตล่ ะหลัก ครูให้เวลาผู้เรียน ๑๐ นาที ทา ใบงานท่ี ๓.๑ ๕. ครูบ่งผู้เรยี นออกเป็น ๓ กลุม่ ได้แก๑่ ) ผูป้ ฏิบัติงาน ๒)ผบู้ ริโภค ๓)สังคมและสง่ แวดล้อม จากนน้ั ใหผ้ เู้ รียนอภิปรายรว่ มกนั เกย่ี วกบั แนวทางปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมาภบิ าลวา่ แต่ละกลุม่ ทาได้ใน ลกั ษณะใดบา้ ง ๖. ครูให้ผ้เู รียนนาเสนอ และครูอธบิ ายสรุป ๗. ครูกับผู้เรยี นอภิปรายรว่ มกันเกย่ี วกบั การสรา้ งความสาเร็จในการสร้างระบบธรรมาภิบาล ๘. ครแู บ่งผู้เรียนออกเป็น ๒ กลุม่ คอื ภาครัฐ และเอกชน จากน้ันใหอ้ ภิปรายวา่ ธรรมาภิ บาลมีประโยชนต์ ่อภาครัฐและภาคเอกชนอย่างไร ๙. ครูใหแ้ ตล่ ะกล่มุ นาเสนอ และครสู รุป ครใู หผ้ เู้ รียนทาใบงานที่ ๓.๒ ข้นั สรุปและประยกุ ต์ ๑๐. ครใู ห้ผเู้ รียนทาคาถามท้ายหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ ๑๑. ครูเฉลยพร้อมผู้เรยี นทง้ั ช้นั สอื่ และแหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนวชิ าชวี ิตกับสงั คมไทย 2. กจิ กรรมการเรียนการสอน หลกั ฐาน 1. บันทกึ การสอนของครู 2. ใบเชค็ รายชื่อ 3. แผนการจัดการเรยี นรู้ 4. เน้อื งานในหนังสือเรียน
๒๔ การวัดผลและการประเมินผล วธิ ีวดั ผล 1. ประเมนิ ผลความก้าวหนา้ ของตนเอง 2. ประเมินความเรียบรอ้ ยของ กจิ กรรมและแบบฝึกหัด 3. แบบทดสอบเก็บคะแนน 4. สงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 5. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 6. การสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมอื วดั ผล 1. แบบประเมินผลความก้าวหน้าของตนเอง 2. กิจกรรมและแบบฝึกหดั ในหนงั สอื เรยี น 3. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 4. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 5. ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 6. การสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. แบบประเมินผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง เกณฑผ์ า่ น 50% ข้ึนไป 2. กิจกรรมและแบบฝึกหัดในหนังสอื เรยี น เกณฑ์ผา่ น 50% ข้ึนไป 3. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน เกณฑ์ผ่าน 50% ขึ้นไป 4. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีช่องปรบั ปรุง 5. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ขนึ้ ไป) 6. การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยกู่ ับการประเมินตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ ครใู หผ้ ู้เรียนจดั บอรด์ เร่ืองการสรา้ งธรรมาภิบาลในสถานศกึ ษา
๒๕ บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาท่ีพบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 ๒๖ ชอื่ วิชา ชีวิตกับสังคมไทย (30000-1501) หนว่ ยที่ 4 ชอ่ื หน่วย ความเป็นพลเมืองดี สปั ดาห์ที่ 7 จานวน 3 ชวั่ โมง แนวคดิ พลเมืองถือเปน็ องคป์ ระกอบสาคญั ของทุกสงั คม การเปน็ พลเมืองทม่ี ีคณุ ภาพหรอื พลเมืองดี ย่อมสง่ ผลดีต่อสังคมโดยรวม และการเป็นพลเมืองดีของประเทศน้นั ต้องเปน็ บุคคลท่ีเคารพและ ปฏบิ ัติตามกฎหมายและกติกาทีส่ ังคมและประเทศชาติกาหนดไว้ พร้อมท้ังสนบั สนนุ ให้บุคคลอ่ืน ปฏบิ ัติตาม นอกจากน้ี คนในสังคมต้องรู้จกั รบั ฟังความคิดเห็นของคนอน่ื มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง และสงั คม มีส่วนรว่ มในการปกครอง ปูองกันประเทศชาติ ใหป้ ลอดภยั ในทุกด้าน เปน็ ผูม้ ีคุณธรรม จริยธรรม ดารงชีวติ อย่อู ยา่ งเหมาะสมในฐานะพลเมืองดีของสงั คมไทย จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธบิ ายความหมายและคุณสมบัตขิ องพลเมืองได้ ๒. อธิบายแนวทางการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามระบอบประชาธิปไตยได้ ๓. อธบิ ายแนวทางการสรา้ งเสรมิ สานึกการเปน็ พลเมืองดีในระดบั ครอบครวั สถานศึกษา ชุมชนและโลกได้ สมรรถนะประจาหนว่ ย ๑. แสดงความรเู้ กยี่ วกบั พลเมืองและการปฏบิ ตั ิตนเปน็ พลเมอื งดีในระบอบประชาธปิ ไตย ๒. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผลเมืองดีตามระบอบประชาธิปไตย สาระการเรยี นรู้ ๑. ความหมายและคุณสมบัติของพลเมือง ๒. การปฏิบัตติ นเปน็ พลเมอื งดี ๓. แนวทางการสร้างเสริมสานกึ การเปน็ พลเมืองดี ขั้นนาเขา้ ส่กู ารเรยี น ๑. ครูเขียนคาว่า “พลเมือง”ไวบ้ นกระดาน จากน้นั ครถู ามผเู้ รียนวา่ ใครเคยได้ยนิ คานีบ้ า้ ง ๒. ครูส่มุ ถามผเู้ รยี น จากน้นั ครถู ามผู้เรยี นตอ่ ว่า คาวา่ พลเมอื ง ประชาชน ประชากร ราษฎร แต่ละคามีความหมายแตกตา่ งกนั อยา่ งไร ครสู มุ่ ถามผูเ้ รียน
๒๗ ขน้ั สอน ๓. ครอู ธบิ ายความหมายของพลเมือง จากนนั้ ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น ๖ กลมุ่ ให้อภปิ ราย เกี่ยวกับคุณสมบัติของพลเมืองดที ้งั ๖ ประการ ๔. ครูใหแ้ ต่ละกลมุ่ มานาเสนอ และครูอธบิ ายสรุปแตล่ ะหลกั ครูให้เวลาผู้เรยี น ๑๐ นาที ทา ใบงานที่ ๔.๑ ๕. ครูบง่ ผเู้ รียนออกเปน็ ๔ กลมุ่ อภปิ รายการเป็นพลเมืองดี ใน ๔ ระดบั ได้แก่ ๑)ระดับครอบครัว ๒)ระดบั สถานศกึ ษา ๓) ระดับชมุ ชน ๔)ระดับโลก ๖. ครูใหผ้ เู้ รียนนาเสนอ และครอู ธิบายสรปุ ๗. ครกู บั ผูเ้ รยี นทากจิ กรรมตามใบงานท่ี ๓.๒ ๘. ครูใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะคนมานาเสนอ ๙. ครใู ห้นกั เรยี นจดั เตรยี มกจิ กรรมประกวดสนุ ทรพจน์ ในหวั ข้อ “พลเมอื งดีในวิถี ประชาธปิ ไตย” ในช่ัวโมงเรียนหน้า โดยมีผ้สู มัครประกวด และผทู้ ไี่ มป่ ระกวดจะเป็นทมี งานจัดงาน ข้ันสรุปและประยุกต์ ๑๐. ครูให้ผเู้ รยี นทาคาถามทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๔ ๑๑. ครเู ฉลยพรอ้ มผูเ้ รยี นทั้งชน้ั สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวชิ าชีวติ กบั สงั คมไทย 2. กจิ กรรมการเรียนการสอน หลกั ฐาน 1. บนั ทกึ การสอนของครู 2. ใบเชค็ รายชื่อ 3. แผนการจัดการเรยี นรู้ 4. เนอื้ งานในหนงั สอื เรียน การวดั ผลและการประเมินผล วธิ ีวัดผล 1. ประเมินผลความก้าวหน้าของตนเอง 2. ประเมินความเรียบร้อยของ กิจกรรมและแบบฝึกหัด 3. แบบทดสอบเก็บคะแนน 4. สงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 5. ประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม 6. การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๒๘ เครื่องมือวดั ผล 1. แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2. กจิ กรรมและแบบฝึกหดั ในหนังสอื เรยี น 3. แบบทดสอบเก็บคะแนน 4. สงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 5. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม 6. การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. แบบประเมนิ ผลความก้าวหน้าของตนเอง เกณฑผ์ ่าน 50% ขน้ึ ไป 2. กจิ กรรมและแบบฝึกหัดในหนงั สือเรยี น เกณฑ์ผา่ น 50% ขน้ึ ไป 3. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน เกณฑผ์ า่ น 50% ขึ้นไป 4. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีช่องปรับปรุง 5. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ขนึ้ ไป) 6. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กบั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ ครใู ห้ผเู้ รยี นออกแบบโปสเตอรป์ ระชาสมั พันธ์กจิ กรรมประกวดสุนทรพจน์
๒๙ บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรปุ หลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาที่พบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 8 ๓๐ ชื่อวิชา ชีวติ กับสงั คมไทย (30000-1501) หนว่ ยที่ 4 ช่ือหน่วย ความเป็นพลเมืองดี สปั ดาหท์ ่ี 8 จานวน 3 ช่วั โมง แนวคิด พลเมืองถือเปน็ องค์ประกอบสาคัญของทุกสังคม การเป็นพลเมืองท่ีมีคุณภาพหรอื พลเมืองดี ยอ่ มส่งผลดตี อ่ สงั คมโดยรวม และการเปน็ พลเมืองดีของประเทศนนั้ ต้องเปน็ บุคคลทเ่ี คารพและ ปฏิบตั ติ ามกฎหมายและกติกาที่สังคมและประเทศชาติกาหนดไว้ พร้อมทั้งสนับสนนุ ให้บคุ คลอืน่ ปฏิบตั ติ าม นอกจากน้ี คนในสงั คมต้องรู้จักรับฟังความคดิ เหน็ ของคนอนื่ มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง และสงั คม มสี ว่ นร่วมในการปกครอง ปูองกนั ประเทศชาติ ให้ปลอดภยั ในทุกด้าน เปน็ ผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ดารงชวี ติ อยู่อย่างเหมาะสมในฐานะพลเมืองดีของสังคมไทย จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธิบายความหมายและคุณสมบตั ขิ องพลเมืองได้ ๒. อธบิ ายแนวทางการปฏบิ ัติตนเปน็ พลเมืองดีตามระบอบประชาธปิ ไตยได้ ๓. อธบิ ายแนวทางการสร้างเสริมสานึกการเป็นพลเมืองดใี นระดบั ครอบครัว สถานศึกษา ชุมชนและโลกได้ สมรรถนะประจาหน่วย ๑. แสดงความร้เู ก่ยี วกับพลเมืองและการปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตย ๒. ปฏิบตั ติ นเป็นผลเมืองดีตามระบอบประชาธิปไตย สาระการเรียนรู้ ๑. ความหมายและคุณสมบัติของพลเมือง ๒. การปฏิบัตติ นเปน็ พลเมืองดี ๓. แนวทางการสร้างเสริมสานึกการเป็นพลเมืองดี ขน้ั นาเขา้ ส่กู ารเรยี น ๑. ครูซกั ซ้อมความพร้อมของทุกฝุาย ขัน้ สอน ๒. เร่ิมการประกวดสุนทรพจน์ ขนั้ สรปุ และประยุกต์ ๓. กรรมการให้ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะ
๓๑ ส่ือและแหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนวชิ าชีวิตกบั สงั คมไทย 2. กจิ กรรมการเรยี นการสอน หลกั ฐาน 1. บันทกึ การสอนของครู 2. ใบเช็ครายชอ่ื 3. แผนการจดั การเรยี นรู้ 4. เน้อื งานในหนังสอื เรียน การวัดผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1. ประเมินผลความก้าวหน้าของตนเอง 2. ประเมนิ ความเรียบร้อยของ กจิ กรรมและแบบฝกึ หัด 3. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 4. สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 5. ประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม 6. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เครือ่ งมือวดั ผล 1. แบบประเมินผลความกา้ วหน้าของตนเอง 2. กิจกรรมและแบบฝึกหัดในหนงั สอื เรียน 3. แบบทดสอบเก็บคะแนน 4. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 5. ประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 6. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑ์การประเมินผล 1. แบบประเมนิ ผลความก้าวหนา้ ของตนเอง เกณฑ์ผา่ น 50% ขึน้ ไป 2. กิจกรรมและแบบฝึกหดั ในหนงั สือเรียน เกณฑผ์ ่าน 50% ข้นึ ไป 3. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน เกณฑผ์ า่ น 50% ขนึ้ ไป 4.เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีชอ่ งปรบั ปรุง 5. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ขึ้นไป) 6. การสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อย่กู ับการประเมินตามสภาพจรงิ
๓๒ กิจกรรมเสนอแนะ ครใู ห้ผูเ้ รียนออกแบบโปสเตอรป์ ระชาสมั พันธก์ ิจกรรมประกวดสุนทรพจน์ บันทกึ หลังการสอน ขอ้ สรุปหลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่ีพบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 ๓๓ ชื่อวิชา ชีวิตกับสังคมไทย (30000-1501) หนว่ ยท่ี 5 ชื่อหน่วย สังคม การจดั ระเบียบทางสงั คม และสถาบนั สัปดาหท์ ี่ 9 จานวน 3 ชวั่ โมง ทางสังคม แนวคิด ความสขุ ในสังคมเปน็ สิ่งที่ทกุ คนในทกุ ภาคส่วนของสงั คมจะตอ้ งร่วมมอื และช่วยกนั สรา้ งให้ เกิดขน้ึ โดยอาศัยเครื่องมือทางสงั คม เชน่ ขนบธรรมเนยี มประเพณีวฒั นธรรมอันดีงาม คตคิ วามเชอื่ ความศรทั ธาในศาสนาท่ตี นนับถอื เปน็ ต้น โดยมหี ลกั การพ้ืนฐาน คอื ทุกคนต้องดารงตนอย่างมี ความสุข มีหลกั การในการดาเนนิ ชีวติ ทถ่ี ูกตอ้ ง มศี รัทธาในศาสนาทต่ี นนบั ถือ และประพฤตปิ ฏิบตั ิได้ อย่างถูกต้องตามประเพณี วัฒนธรรม คตคิ วามเช่ือรวมถึงมคี วามรกั และปฏิบัติต่อเพ่ือนมนษุ ย์ สตั ว์ และสรรพสิง่ ทง้ั หลายอย่างมคี วามเสมอภาคเท่าเทียมกัน ซงึ่ หากสมาชกิ ในสังคมปฏิบตั ิตนอย่างนี้ ไม่ เพยี งแต่ความสขุ เท่านั้นที่จะเกดิ ข้นึ ยังถือได้ว่าเปน็ จุดเร่ิมต้นของแนวทางการปฏิบตั ิทีเ่ รียกวา่ “สันติ วฒั นธรรม” จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธิบายความหมายและลักษณะของสนั ติวฒั นธรรมได้ ๒. อธบิ ายเกณฑว์ ดั สงั คมที่มีสันตวิ ฒั นธรรมได้ ๓. อธิบายอปุ สรรคการสร้างสันติวฒั นธรรมในสงั คมได้ ๔. อธิบายแนวทางการสรา้ งสันติวฒั นธรรมในสังคมได้ สมรรถนะประจาหนว่ ย ๑. แสดงความรเู้ กยี่ วกับสนั ติวัฒนธรรมทม่ี ีต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม ๒. ปฏิบตั ติ นตามแนวทางการสรา้ งสนั ติวฒั นธรรมในสังคม สาระการเรียนรู้ ๑. ความร้เู บ้ืองตน้ เกย่ี วกบั สันติวฒั นธรรม ๒. แนวทางการสร้างสันตวิ ัฒนธรรมในสงั คม ข้นั นาเขา้ สกู่ ารเรียน ๑. ครูเขียนคาวา่ “สันติวฒั นธรรม” ไวบ้ นกระดาน จากน้ันครขู ีดเส้นใต้คาว่า สนั ติ และ คาวา่ วัฒนธรรม ๒. ครูถามความหมายจากผู้เรียน
๓๔ ขัน้ สอน ๓. ครูอธบิ ายคาวา่ สนั ตวิ ฒั นธรรม ๔. ครอู ธบิ ายเรอ่ื งลักษณะของสันติวฒั นธรรม ๕. ครเู ปิดคลปิ วิดิโอ เร่ือง News \"สันตวิ ัฒนธรรม\" ทางแกข้ ัดแย้งในรว้ั อุดมศึกษา จาก https://www.youtube.com/watch?v=-8AtcHM6aCg จากนั้นใหผ้ ้เู รียนสะท้อนสงิ่ ทไ่ี ดจ้ ากคลิป วิดิโอ ๖. ครใู ห้ผูเ้ รยี นดเู กณฑว์ ดั สังคมทมี่ ีสนั ติวฒั นธรรม ท้งั ๑๐ ด้าน โดยให้มคี ะแนน ๑-๑๐ จากนนั้ ให้ผเู้ รียนประเมินหอ้ งเรียนในแตล่ ะดา้ น ๗. ครแู บ่งผูเ้ รยี นออกเปน็ ๔ กลุ่ม คือ พุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู อภิปรายในหัวขอ้ แนวทางการสรา้ งสนั ตวิ ัฒนธรรมบนพ้นื ฐานคาสอนของศาสนาทตี่ นนบั ถือ จากน้ันออกมานาเสนอ ๘. ครูอธบิ ายสรปุ ขนั้ สรุปและประยุกต์ ๙. ครใู หผ้ เู้ รียนทาคาถามทา้ ยหนว่ ยการเรียนรหู้ น่วยท่ี ๕ ๑๐. ครูเฉลยพรอ้ มผู้เรียนท้ังชนั้ สอื่ และแหล่งเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรยี นวชิ าชีวติ กับสงั คมไทย 2.กิจกรรมการเรยี นการสอน หลกั ฐาน 1.บันทกึ การสอนของครู 2.ใบเชค็ รายชื่อ 3.แผนการจัดการเรยี นรู้ 4.เนื้องานในหนังสือเรยี น การวัดผลและการประเมนิ ผล วธิ วี ดั ผล 1.ประเมินผลความก้าวหนา้ ของตนเอง 2.ประเมนิ ความเรยี บร้อยของ กจิ กรรมและแบบฝกึ หดั 3.แบบทดสอบเก็บคะแนน 4.สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 5.ประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 6.การสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอัน พงึ ประสงค์
๓๕ เครือ่ งมอื วดั ผล 1.แบบประเมินผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.กจิ กรรมและแบบฝึกหดั ในหนงั สือเรยี น 3.แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 4.สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 5.ประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่ 6.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑก์ ารประเมินผล 1.แบบประเมินผลความก้าวหน้าของตนเอง เกณฑผ์ ่าน 50% ขึ้นไป 2.กจิ กรรมและแบบฝกึ หัดในหนงั สือเรยี น เกณฑ์ผ่าน 50% ขน้ึ ไป 3.แบบทดสอบเกบ็ คะแนน เกณฑ์ผา่ น 50% ขึ้นไป 4.เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไม่มีช่องปรับปรงุ 5.เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ขึน้ ไป) 6.การสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอัน พึงประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่กับการประเมินตามสภาพจรงิ กจิ กรรมเสนอแนะ ครใู ห้ผู้เรียนสบื คน้ ตวั อย่างองค์กรท่ีน่าช่ืนชมดา้ นสนั ตวิ ัฒนธรรม มาปิดไว้ทบ่ี อร์ด
๓๖ บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาท่ีพบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 10 ๓๗ ชื่อวิชา ชีวิตกับสงั คมไทย (30000-1501) หน่วยที่ - ช่ือหน่วย สอบกลางภาค สัปดาหท์ ่ี 10 จานวน 3 ชว่ั โมง แนวคิด การสอบกลางภาคเป็นการวดั ผลการเรยี นรูห้ น่วยการเรยี นรู้หนว่ ยท่ี 1-5 บนั ทึกหลังการสอน ข้อสรปุ หลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาท่ีพบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 11 ๓๘ ช่ือวิชา ชวี ติ กับสังคมไทย (30000-1501) หนว่ ยที่ 6 ชื่อหน่วย หลักธรรมเพื่อการพัฒนาคน พฒั นางาน และ สัปดาห์ที่ 11 พัฒนาสงั คม จานวน 3 ชว่ั โมง แนวคดิ หลักธรรมเพอ่ื การพฒั นาเปน็ การประยุกตห์ ลักคาสอนของศาสนาทนี่ ามาใช้ในการพัฒนาดา้ น ต่างๆ เพ่ือใหก้ ารพฒั นาเหล่านน้ั เปน็ ไปดว้ ยดแี ละประสบความสาเรจ็ ดงั วลีทวี่ ่า “งานกไ็ ด้ผล คนก็มี ความสขุ ” หมายความว่าสาระสาคัญของการประยกุ ต์ใชห้ ลักธรรมเพอ่ื การพัฒนานัน้ เน้นการพฒั นา ทต่ี วั มนุษย์ซงึ่ เป็นผนู้ าการพัฒนา หากมนุษย์มีธรรมประจาใจก็จะเกื้อกูลส่งผลใหก้ ารพฒั นานั้นเป็น ธรรม ถกู ตอ้ งตามธรรม และประสบความสาเรจ็ ดว้ ยดี อันจะเกื้อประโยชน์ทัง้ ตนเอง บคุ คลรอบขา้ ง และหนว่ ยงานที่รบั ผิดชอบ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑.อธิบายหลักธรรมเพอ่ื การพัฒนาคน พฒั นางานและพฒั นาสงั คมได้ ๒.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลักธรรมเพ่ือพัฒนาคน พฒั นางานและพัฒนาสงั คมในการดาเนิน ชวี ติ ประจาวันและการประกอบอาชีพ สมรรถนะประจาหน่วย พัฒนาคน พัฒนางานและพฒั นาสังคมตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สาระการเรียนรู้ ๑.หลักธรรมเพ่ือการพฒั นาคน ๒.หลักธรรมเพือ่ การพฒั นางาน ๓.หลักธรรมเพ่ือการพัฒนาสงั คม ขน้ั นาเข้าสกู่ ารเรยี น ๑.ครเู ปิดคลปิ วิดโิ อเร่อื ง ใครทางานเปน็ พนักงานบริษัทต้องดคู ลิปนี!้ ! จาก https://www.youtube.com/watch?v=Ih4kKd4Z4O4 ๒.ครูสุ่มถามผเู้ รยี นเกย่ี วกบั สถานการณ์ที่ตัวละครต้องเผชิญอยู่
๓๙ ข้ันสอน ๓.ครูแบ่งผูเ้ รียนออกเปน็ ๓ กลุม่ อภปิ รายในหัวขอ้ ต่อไปนี้ - หลักธรรมเพ่อื การพัฒนาคน - หลักธรรมเพ่อื การพฒั นางาน - หลักธรรมเพอ่ื การพัฒนาสังคม ๔.ครใู ห้แตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอ ๕.ครอู ธบิ ายสรุปเพมิ่ เติม ขนั้ สรุปและประยุกต์ ๖.ครูเปดิ คลปิ วิดิโอเรอื่ ง ใครทางานเปน็ พนกั งานบริษัทต้องดูคลปิ น้!ี ! จาก https://www.youtube.com/watch?v=Ih4kKd4Z4O4 ให้ผู้เรียนดูอกี คร้งั ๗.ครูใหผ้ ู้เรียนแตล่ ะกลุ่มอภิปรายวา่ หลกั ธรรมเพ่ือการพฒั นาของแต่ละกล่มุ ช่วยใหเ้ กิดการ พัฒนาตน พัฒนางาน และพัฒนาสงั คมได้อยา่ งไร ๘.ครใู ห้ผเู้ รยี นแต่ละกลมุ่ นาเสนอ ๙.ครูอธบิ ายสรปุ ๑๐.ครใู ห้ผู้เรียนทาคาถามท้ายหนว่ ยการเรียนร้หู นว่ ยที่ ๖ ๑๑.ครูเฉลยพร้อมผเู้ รยี นทั้งชั้น ส่อื และแหล่งเรียนรู้ 1.หนังสอื เรยี นวิชาชวี ิตกบั สังคมไทย 2.กิจกรรมการเรยี นการสอน หลักฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของครู 2.ใบเชค็ รายชอ่ื 3.แผนการจดั การเรยี นรู้ 4.เนื้องานในหนังสอื เรยี น การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธวี ัดผล 1.ประเมินผลความกา้ วหน้าของตนเอง 2.ประเมนิ ความเรียบร้อยของ กจิ กรรมและแบบฝกึ หัด 3.แบบทดสอบเก็บคะแนน 4.สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 5.ประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
๔๐ 6.การสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เครื่องมอื วดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.กิจกรรมและแบบฝกึ หดั ในหนังสือเรียน 3.แบบทดสอบเก็บคะแนน 4.สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 5.ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 6.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1.แบบประเมินผลความก้าวหน้าของตนเอง เกณฑผ์ ่าน 50% ขน้ึ ไป 2.กิจกรรมและแบบฝกึ หดั ในหนงั สอื เรยี น เกณฑผ์ า่ น 50% ขนึ้ ไป 3.แบบทดสอบเก็บคะแนน เกณฑผ์ ่าน 50% ข้นึ ไป 4.เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีช่องปรับปรุง 5.เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ข้นึ ไป) 6.การสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอัน พงึ ประสงค์ คะแนนข้ึนอย่กู บั การประเมินตามสภาพจริง กิจกรรมเสนอแนะ ครูให้ผู้เรยี นทาคลปิ วดิ ิโอเรื่อง ออฟฟิศสรา้ งสขุ
๔๑ บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาท่ีพบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 ๔๒ ช่ือวิชา ชีวติ กับสังคมไทย (30000-1501) หนว่ ยที่ 7 ช่อื หน่วย การแก้ปัญหาการทุจริต สปั ดาหท์ ี่ 12 จานวน 3 ชั่วโมง แนวคิด ปจั จัยสาคัญประหน่ึงทท่ี าให้การทจุ รติ ยังอยู่กบั สังคมไทย เน่ืองจากการขาดความละอายตอ่ การทจุ ริตและเป็นสงั คมที่เพิกเฉยต่อการทุจรติ การทาใหส้ งั คมเป็นสังคมท่ีละอายต่อการทุจรติ และไม่ ทนต่อการทุจริตจะชว่ ยให้การทุจริตในสงั คมไทยลดลง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑.อธิบายความหมาย รูปแบบและสาเหตกุ ารทจุ ริตได้ ๒.อธบิ ายสถานการณ์การทจุ ริตในประเทศและผลกระทบของการทุจริตตอ่ การพัฒนา ประเทศไทยได้ ๓.อธบิ ายวธิ กี ารปอู งกนั และปราบปรามการทุจริตได้ ๔.อธบิ ายลกั ษณะของสงั คมท่ีไมท่ นต่อการทุจริตได้ ๕.บอกหนว่ ยงานตอ่ ต้านการทจุ ริตในประเทศไทยได้ สมรรถนะประจาหน่วย วิเคราะห์เกีย่ วกับปัญหาการทุจริตและผลกระทบของการทุจริตที่มีตอ่ การพฒั นาประเทศ สาระการเรยี นรู้ ๑.ความหมาย รูปแบบและสาเหตกุ ารทุจริต ๒.สถานการณ์การทจุ รติ ในประเทศและผลกระทบของการทจุ รติ ตอ่ การพฒั นาประเทศไทย ๓.วธิ ีการปอู งกันและปราบปรามการทจุ รติ ๔.ลักษณะของสงั คมท่ีไม่ทนต่อการทุจริต ๕.หนว่ ยงานตอ่ ตา้ นการทจุ รติ ในประเทศไทย ขน้ั นาเข้าส่กู ารเรียน ๑.ครูเขียนคาวา่ “ทุจริต”ไวบ้ นกระดาน จากนน้ั ครูสุ่มถามผู้เรยี นวา่ เม่ือพดู ถึงการทจุ ริต ผเู้ รยี นนกึ ถึงอะไรบ้าง ครเู ขยี นเปน็ ผังมโนทศั น์ ๒.ครูบอกความสาคญั ของการรู้จักลักษณะของการทุจริต เพราะถา้ หากผ้เู รยี นไมร่ ้จู ักวา่ การ ทจุ ริตคืออะไร บางครั้งผู้เรียนอาจจะทาทุจริตโดยรู้เทา่ ไม่ถงึ การณ์
๔๓ ข้นั สอน ๓.ครูอธบิ ายความหมายของการทุจรติ ๔.ครูแบง่ ผู้เรยี นออกเปน็ ๓ กลุม่ อภปิ รายลกั ษณะของการทจุ ริต ดังน้ี -ลาดบั ของการทจุ ริต -ลกั ษณะการดาเนนิ การ -ขนาด ๕.ครูใหผ้ ู้เรียนนาเสนอ จากน้ันครูอธิบายสรุป ๖.ครใู ห้ผเู้ รยี นเขา้ ลิงค์ QR code ตามทปี่ รากฏในหนังสอื หน้า ๑๑๑ จากนน้ั อภปิ รายร่วมกนั ๗.ครถู ามผู้เรียนว่า สาเหตกุ ารทุจรติ ผูเ้ รียนคดิ วา่ มาจากกอะไรบา้ ง จากน้ันครจู ดั กลุ่ม และ อธิบายสรุป ๘.ครูให้ผู้เรียนสบื คน้ ตวั อยา่ งการทจุ รติ ในประเทศ จากนน้ั ครูถามผเู้ รยี นวา่ ของใครเป็น ทุจรติ ระดับชาติ ใหผ้ ้เู รียนยกตวั อย่าง และของใครเปน็ ระดับนโยบาย ให้ผ้เู รียนยกตัวอย่าง ๙.ครถู ามผู้เรียนวา่ การทจุ ริตกอ่ ให้เกดิ ผลเสยี ตอ่ สังคมไทยอย่างไร ๑๐.ครูส่มุ ถามผ้เู รยี น ๑๑.ครูให้ผูเ้ รยี นสืบคน้ ภาพข่าวสังคมทีไ่ ม่ทนต่อการทุจริต จากนนั้ นาเสนอ ๑๒.ครูอธบิ ายสรปุ โดยจาแนกเปน็ ระดบั นานาชาติ ระดับภูมิภาค ระดับประเทศ ระดบั ชมุ ชน และระดบั องค์กร ๑๓.ครใู ห้ผู้เรยี นอภิปรายเก่ยี วกบั บทบาทหน้าทีข่ ององค์กรต่อตา้ นการทจุ ริตในประเทศไทย ขั้นสรุปและประยุกต์ ๑๔.ครใู หผ้ ้เู รียนทากิจกรรมเสนอแนะในหน้า ๑๒๐ จากนนั้ อภิปรายร่วมกัน ๑๕.ครนู ดั หมายเวลาทัศนศึกษาพิพธิ ภณั ฑต์ า้ นโกง สานกั งานปูองกนั และปราบปรามการ ทจุ ริตแหง่ ชาติ ๑๖.ครใู หผ้ เู้ รียนทาคาถามทา้ ยหน่วยการเรยี นรหู้ น่วยที่ ๗ ๑๗.ครูเฉลยพรอ้ มผเู้ รียนทั้งชั้น สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1.หนงั สือเรียนวิชาชีวติ กับสังคมไทย 2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
Search