Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดการเรียนโมดูลที่ 1 ระบบนิเวศ

ชุดการเรียนโมดูลที่ 1 ระบบนิเวศ

Published by phadcharamon.pjs, 2021-02-24 02:26:32

Description: ชุดการเรียนโมดูลที่ 1 ระบบนิเวศ

Search

Read the Text Version

1 บทเรียนโมดูล หมวดวิชาวทิ ยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ สาหรับนกั เรยี นระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) ผู้จัดทา นางสาวพัชรมน พนู ใจสม แผนกวชิ าสามญั สมั พนั ธ์ วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีกาแพงเพชร สานกั งานครธกรรมการการอาชีวศกึ ษา

2 คานา บทเรียนโมดูลชุดท่ี 1 เรื่อง ระบบนิเวศ ฉบับน้ี ข้าพเจ้าเรียบเรียงขึ้นเพ่ือใช้ประกอบการเรียน วิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต รหัสวิชา 20000-1301 ระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) โดยข้าพเจ้าเขียนให้นักเรียนเข้าใจง่าย นักเรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง เพื่อให้มีความรู้พื้นฐาน ก่อนที่จะศึกยาเน้ือหาน้ันจรงิ ๆ และยังได้เพิ่มเติมเน้ือหาบางตอนเพื่อช่วยเสรมิ ความรู้ความเข้าใจแก่นักเรียน นอกจกน้ยี ังได้เพิ่มใบกิจกรรมเสรมิ ให้นักเรีขนมีประสบการณ์กว้างขวางย่ิงขนึ้ บทเรียนโมดูลชุดน้ีมีจุดประสงค์เพ่ือให้นักเรียนได้ศึกษา ความหมายของระบบนิเวศ โครงสร้างของ ระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการดารงชีวิตของส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ของส่ิงมีชีวิตต่างชนิดกัน การหมุนเวียนของสารและธาตุอาหารในระบบนิเวศ จุดประสงค์การ เรียนรู้ แบบทดสอบภาคความรู้ก่อนเรียน เนื้อหาใบกิจกรม แบบทดสอบภาคกวามรู้หลังเรีขน รวมทั้งเฉลย ใบกิจกรรมและแบบทดสอบ บทเรียนโมดูลนี้นักเรียนสามารถศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองและเรียนรู้กันเป็น กลมุ่ เลก็ ๆ ได้ ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าบทเรียนโมดูลชุดน้ีจะช่วยให้นักเรียนได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ ระบบนิเวศ มากยิ่งข้ึนและส่งผลให้ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนสูงข้ึนอย่างไรก็ตามในบทเรียนโมดูล เล่มน้ีอามีบางจุดที่มีข้อบกพร่องผิดพลาด ข้าพจ้ายินดีรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทน และพร้อม ท่จี ะนามาแกไ้ ขปรบั ปรงุ บทเรียนโมดูลล่มน้ีให้มคี วามสมบรู ณ์และถูกต้อง

3 สารบัญ คานา …………………………………………………………………………………………………………………………………………..…2 สารบัญ …………………………………………………………………………………………………………………………………………..3 คาแนะนาการใชบ้ ทเรยี นโมดูล …………………………………………………………………………………………………………..4 ขน้ั ตอนในการใช้บทเรยี นโมคล …………………………………………………………………….……………………………………4 หลักการและเหตผุ ล …………………………………………………………………………………………………………………………5 จุดประสงค์การเรียน …………………………………………………………………………………………………………………………5 แบบทดสอบก่อนเรยี น …………………………………………..…………………………………………………………………………6 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน …………………………..…………………………………………………………………………………9 เนอ้ื หาการเรียนรู้ …………………………..………………………………………….……………………………………………………10 กิจกกรมเรยี นรู้ 1 …………………………..……………………………….………………………………………………………………13 แบบเฉลยกิจกกรมเรียนรู้ 1 …………………….……………………….………………………………………………………………14 แบบทดสอบหลงั เรยี น …………………………………………..…………………………………………………………………………6 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน …………………………..…………………………………………………………………………………9

4 คาชแ้ี จงในการใช้โมดูล การใช้บทเรยี นโมดูลให้เกิดประสทิ ธิภาพต่อการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนได้อยา่ งสูงสุด นักเรยี น ควรปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ 1. การเตรียมตวั ของนักเรียน 1.1 ศึกยาบทเรียนโมคลู ดวงหนา้ ก่อนท่จี ะทาการทดลอง หรอื ปฏิบัตกิ ิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือใหม้ คี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั จุดประสงค์ ของระบบนิเวศ 1.2 วางแผน และจัดตรยี มอปุ กรณท์ ีใ่ ช้ประกอบการเรียนรู้ของตนเองหรอื ของกลมุ่ ให้พรอ้ ม สาหรบั การปฏบิ ัติกจิ กรรมตามที่ได้รับมอบหมาย 2. ดาเนนิ การจดั กิจกรรมในแต่ละคร้ัง นักรีขนควรปฏบิ ตั ิ ดังน้ี 2.1 ศกึ ยาแนวทางในการปฏิบัติกิจกรรมใหม้ คี วามเข้าใจอยา่ งถอ่ งแท้ หากพบปญั หา หรอื ไม่เขา้ ใจใหส้ อบถามข้อมูลเพิม่ เดมิ จากครู 2.2 ปฏิบัติกจิ กรรมต่าง ๆ ตามลาดบั ข้ันตอนทีก่ าหนด ดังนี้ 2.2.1 นกั เรียนทาแบบทดสอบภาคความร้กู ่อนเรยี น 2.2.2 นักเรียนศกึ ษาและปฏิบตั กิ าจกรรมตา่ ง ๆ ตามแนวทางการจัดกิจกรรม การเรียนรูต้ ามลาดบั ขั้นตอนทีก่ าหนด 2.2.3 นกั เรยี นส่งผลงานหรอื ขึน้ งานในการปฏิบตั ิกิงกรรม มีสว่ นรว่ ม ในการนาเสนอผลงานหรืออภิปรายความรู้ 2.2.4. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน ข้นั ตอนการใชบ้ ทเรยี นโมดลู 1. ครูแนะนานกั เรยี นเกี่ยวกบั องก์ประกอบของบทเรยี นโมดูล ชดุ ท่ี 1 เรอื่ ง ระบบนเิ วศ 2. นักเรียนศกึ ษา และตรวงสอบองคป์ ระกอบของบทเรียนโมดูล ชุดที่ 1 ว่าครบถ่วั นหรอื ไม่ 3. นักเรียนศกึ ยา และปฏิบัติกิจกรรม ตามลาดบั ดังนี้ 3.1 ความหมายของระบบนิเวศ 3.2 โครงสร้างของระบบนิเวศ 3.3 การถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ 3.4 ปัจจยั ที่มีอิทธพิ ลต่อการดารงชวี ติ ของสง่ิ มชี ีวติ ในระบบนิเวศ 3.5 ความสมั พนั ธ์ของสงิ่ มีชวี ิตตา่ งชนิดกัน 3.6 การหมนุ เวยี นของสารและธาตอุ าหารในระบบนิเวศ

แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 17 5 รหสั 20000-1301 วทิ ยาศาสตรเ์ พ่อื พัฒนาทกั ษะชวี ติ (1-2-2) หนว่ ยที่ 9 ช่อื หน่วย/เร่อื ง ระบบนเิ วศ สอนครัง้ ที่ 17 (49-51) จานวน 3 ช.ม. หลักการและเหตผุ ล ระบบนิเวศเป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตต่างๆ กับปัจจัยแวดลอ้ มที่มีความสัมพันธ์ ซ่ึง กนั และกนั ทาให้เกดิ การถา่ ยทอดพลงั งาน การหมุนเวยี นธาตุอาหาร และการรักษาสมดลุ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายของระบบนเิ วศได้ 2. อธบิ ายโครงสร้างของระบบนิเวศได้ 3. แสดงความรเู้ กยี่ วกับการถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศได้ 4. อธบิ ายปัจจัยทีม่ อี ิทธิพลต่อการดารงชีวิตของส่งิ มีชวี ติ ในระบบนิเวศได้ 5 สามารถระบุความสัมพนั ธ์ของสง่ิ มชี วี ติ ต่างชนดิ กนั ได้ 6. แสดงความรู้เกยี่ วกบั การหมุนเวียนของสารและธาตุอาหารในระบบนิเวศได้

6 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1. ระบบนิเวศประกอบด้วยองค์ประกอบใด ก. ส่งิ มีชีวติ สิ่งไม่มีชีวติ สิง่ แวดลอ้ ม ข. สง่ิ มีชวี ิต, สิ่งแวดลอ้ ม ค. สิ่งไมม่ ีชีวิต, ส่งิ แวดล้อม ง. ส่งิ มชี ีวิต, สิง่ ไมม่ ีชีวติ 2. ปัจจยั ท่ีเกี่ยวข้องกบั ระบบนิเวศได้แก่ปจั จัยใดบา้ ง ก. ปจั จัยทางชวี ภาพ, ปัจจยั ทางเคมี ข. ปจั จัยทางชวี ภาพ, ปัจจัยทางกายภาพ ค. ปัจจัยทางกายภาพ, ปัจจยั ทางเคมี ง. ปจั จยั ทางเคม,ี ปัจจยั อื่นๆ 3. ระบบนิเวศหมายถึงขอ้ ใด ก. ความสมั พันธข์ องสิง่ มีชีวิตกับส่งิ ไม่มีชวี ิต ข. ความสัมพนั ธข์ องสงิ่ มีชีวติ กบั ส่ิงมีชวี ิต ค. ความสมั พนั ธ์ของส่ิงมีชีวติ กบั ส่ิงแวดลอ้ ม ง. ความสัมพันธข์ องสิง่ แวดลอ้ มกับสิง่ ไม่มีชีวิต 4. องคป์ ระกอบของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศตรงกบั ข้อใด ก. ผู้ผลิต, ผู้บริโภค, ผยู้ อ่ ยสลาย ข. ผ้ผู ลิต, ผู้บริโภค ค. ผู้บรโิ ภค, ผู้ยอ่ ยสลาย ง. ผูผ้ ลิต, ผูย้ ่อยสลาย 5. ปัจจัยชีวภาพในระบบนเิ วศหมายถึงขอ้ ใด ก. ส่ิงมีชวี ิต ข. สงิ่ แวดล้อม ค. สง่ิ ไมม่ ชี วี ติ ง. อุณหภูมแิ ละความช้ืน 6. ปจั จยั ทางกายภาพในระบบนเิ วศ หมายถงึ ข้อใด ก. สง่ิ แวดลอ้ ม ข. สง่ิ มชี ีวิต ค. ส่ิงไมม่ ชี วี ติ ง. ผูผ้ ลติ

7 7. ข้อใดเป็นปจั จัยทางกายภาพในระบบนเิ วศ ก. ผู้ผลิต ข. ผูบ้ ริโภค ค. ผู้ย่อยสลาย ง. นา้ และความชน้ื 8. ขอ้ ใดต่อไปนเี้ ป็นความสมั พนั ธ์ของสง่ิ มชี วี ติ ชนิดเดียวกันในระบบนิเวศ ก. นกเอ้ียงกับควาย ข. การแบง่ หนา้ ท่ีของผึ้ง ค. กาฝากกบั ตน้ ไมใ้ หญ่ ง. ดอกไม้กับแมลง 9. ข้อใดต่อไปนีเ้ ป็นความสมั พนั ธข์ องสิ่งมชี ีวติ ในระบบนิเวศแบบภาวะพ่ึงพา ก. นกเอ้ยี งกับควาย ข. ดอกไม้กับแมลง ค. ไลเคน ง. กาฝากกบั ต้นไมใ้ หญ่ 10. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นความสัมพนั ธ์ของส่งิ มีชวี ิตในระบบนเิ วศแบบภาวะเก้ือกูล ก. กล้วยไมก้ ับตน้ ไม้ใหญ่ ข. กาฝากกับต้นไม้ใหญ่ ค. นกเอ้ยี งกับควาย ง. จระเขก้ ับนกกระสา 11. การที่ตน้ กระบองเพชรเปลยี่ นโครงสร้างใบใหเ้ ป็นหนามเนอ่ื งจากปัจจัยในข้อใดต่อไปน้ี ก. อณุ ภูมิ ข. แสงสว่าง ค. แร่ธาตุ ง. นา้ 12. ความสมั พนั ธข์ องสงิ่ มชี ีวิตสองชนดิ ท่ีตา่ งฝ่ายต่างได้ประโยชน์ร่วมกนั และแยกออกจากกันไมไ่ ด้ หมายถึงข้อใดต่อไปนี้ ก. ภาวะเก้ือกูล ข. ภาวะปรสิต ค. ภาวะพ่ึงพา ง. ภาวะยอ่ ยสลาย

8 13. ในการสรา้ งอาหารของกลมุ่ ผผู้ ลติ ในระบบนเิ วศจะมกี ารเปลย่ี นพลงั งานแสงเป็นพลังงานชนิดใด ก. พลงั งานเคมี ข. พลังงานศกั ย์ ค. พลังงานจลน์ ง. พลงั งานกล 14. ในกระบวนการสงั เคราะหแ์ สงของพืช พืชจะใช้องค์ประกอบใด ก. ราก ข. ลาต้น ค. ดอก ง. คลอโรฟิลส์ 15. การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนเิ วศโดยการกนิ ตอ่ กันเป็นทอดๆเรียกว่า ก. การดารงชวี ิต ข. หว่ งโซ่อาหาร ค. การสรา้ งอาหาร ง. การกินอาหาร

9 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน ขอ้ เฉลย 1ง 2ข 3ค 4ก 5ง 6ค 7ง 8ข 9ข 10 ก 11 ง 12 ก 13 ก 14 ง 15 ข

10 เนือ้ หาการเรียนรู้ 1. ความหมายของระบบนิเวศ 2. โครงสร้างของระบบนเิ วศ 3. การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนเิ วศ 4.ปัจจยั ที่มอี ทิ ธิพลต่อการดารงชวี ติ ของสิ่งมีชีวติ ในระบบนิเวศ 5. ความสมั พนั ธข์ องสงิ่ มชี วี ติ ต่างชนดิ กัน 6. การหมุนเวยี นของสารและธาตอุ าหารในระบบนิเวศ กิจกรรมการเรยี นรุ้ ขั้นนาเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครูสนทนากับผู้เรียนถึงระบบนิเวศท่ีมีขนาดใหญ่ระดับโลกเรียกว่า ชีวาลัย (Biosphere) หรือโลก ของส่ิงมชี วี ิตเปน็ ระบบนิเวศขนาดใหญ่ ทีม่ คี วามสัมพันธข์ องส่งิ มชี วี ติ และส่ิงไม่มีชีวติ มากมาย 2.ครกู ล่าวเพิม่ เติมวา่ การศึกษานเิ วศวิทยา(ecology) จึงเป็นศาสตรแ์ ขนงหนึ่งว่าด้วยการศกึ ษาสง่ิ มีชวี ิต ในแหล่งอาศัยรวมถึงการศึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับส่ิงแวดล้อมท่ีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ความสมั พันธ์ท้งั สองลักษณะน้ี เชือ่ มโยงเกย่ี วข้องกันและเกดิ ขึ้นพรอ้ ม ๆ กันต้องพ่ึงพาอาศยั กันและกนั 3. ผูเ้ รยี นยกตัวอยา่ งประกอบ ขั้นสอน 4.ครูและผู้เรียนใช้เทคนิคการบรรยาย อธิบายความหมายของระบบนิเวศ โดยความสัมพันธ์ระหว่าง กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ณ ที่ใดท่ีหน่ึง ความสัมพันธ์มี 2 ลักษณะ ได้แก่ ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่ม ส่ิงมชี ีวิตกับสง่ิ มชี ีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกบั ส่ิงไมม่ ีชีวติ อันได้แก่ กับสภาพแวดล้อมของแหล่งที่ อยู่ ไ ดิน น้า แสง โดยมีการถ่ายทอดหรือการหมุนเวียนของสารอาหาร (Nutrient Cycle) และการถ่ายทอด หรือหมุนเวียนพลังงาน (Energy Flow) ระหว่างกลุ่มสิ่งมีชีวิตกลุ่มต่าง ๆ และจากสิ่งแวดล้อมสู่สิ่งมีชีวิตหรือ จากสง่ิ มีชีวิตสู่สง่ิ แวดล้อม 5.ผเู้ รียนสารวจระบบนิเวศร และยกตวั อย่างของสิ่งต่าง ๆ ในระบบนเิ วศ 6.ครแู ละผู้เรยี นใชส้ ื่อ Power Point เพ่อื อธบิ ายและสาธิตโครงสรา้ งของระบบนิเวศ โดยโครงสร้างของ ระบบนิเวศ (Ecosystem structure) ทุกแห่ง จะมีองค์ประกอบพ้ืนฐานที่คล้ายคลึงกัน ซ่ึงพอจะแบ่งออกได้ เปน็ 2 สว่ น คือ องค์ประกอบที่ไม่มีชวี ิต และองค์ประกอบที่มชี ีวิต

11 7.ผู้เรียนยกตัวอย่างขององคป์ ระกอบในระบบนเิ วศ 8.ครูและผู้เรียนใช้วีดีโอเป็นสื่อในการเรียนการถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ โดยปัจจัยที่สาคัญ ที่มีอิทธิพลต่อสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ คือ พลังงานแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ พลังงานศักย์ (Potential Energy) และพลงั งานศกั ย์ (Potential Energy)

12 9.ผ้เู รียนเขียนห่วงโซ่อาหารและสายโซอ่ าหารมาอยา่ งละ 1 ตัวอย่าง พร้อมภาพและคาอธบิ ายเกย่ี วกับ หว่ งโซน่ ้นั ๆ 10.ครูใช้เทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) หมายถึงกระบวนการ เรียนรู้ที่จัดให้ผู้เรียนได้ร่วมมือและช่วยเหลือกันในการเรียนรู้โดยแบ่งกลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถต่างกัน ออกเป็นกลมุ่ เลก็ ซึ่งเป็นลกั ษณะการรวมกล่มุ อย่างมโี ครงสรา้ งที่ชดั เจน มีการทางานร่วมกัน มกี ารแลกเปลย่ี น ความคิดเห็นมีการช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยซ่ึงกันและกัน มีความรับผิดชอบร่วมกันท้ังในส่วนตนและส่วนรวม เพื่อให้ตนเองและสมาชิกทกุ คนในกลุ่มประสบความสาเร็จตามเปา้ หมายที่กาหนดไว้ ดังน้ี 1) แบ่งผ้เู รยี นเป็นกลุ่มๆ ละ 3-4 คน 2) สืบค้นข้อมูลในหวั ข้อ 1). ความหมายของระบบนเิ วศ 2). โครงสร้างของระบบนิเวศ 3). การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ 4).ปัจจัยทีม่ อี ิทธพิ ลต่อการดารงชีวติ ของสงิ่ มชี ีวติ ในระบบนิเวศ 5). ความสัมพนั ธข์ องส่งิ มีชวี ติ ตา่ งชนิดกัน 6). การหมุนเวยี นของสารและธาตุอาหารในระบบนเิ วศ 3) นาข้อมลู ท่ีไดม้ าอภิปรายร่วมกนั นาเสนอและแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ 11.ผู้เรยี นทากจิ กรรใบงาน 12.ครเู น้นใหผ้ ูเ้ รยี น ระมดั ระวัง รอบคอบทกุ ครง้ั ในการทาข้อสอบ ข้นั สรุปและประยุกต์ 14.ครูและผ้เู รยี นทบทวน เช่น 15.ครูสุ่มถามตอบผูเ้ รียนเกยี่ วกับเนือ้ หาทเ่ี รยี น

13 กิจกรรมใบงานที่ 1 คาชี้แจ้ง ให้นักเรียนดูภาพและระบุความสัมพันธข์ องสิง่ มชี วี ิต 1. ชนิดของสิ่งมชี ีวิตที่อยูร่ ่วมกัน :…………………………………………………………………………………………………….. ความสัมพันธ์ของสง่ิ มชี ีวิตแต่ละชนดิ ………………………………………………………………………………………………….. รูปแบบความสมั พันธข์ องส่งิ มีชวี ติ ………………………………………………………………………………………………….. 2. ชนดิ ของสิ่งมชี ีวติ ท่ีอยู่ร่วมกัน :…………………………………………………………………………………………………….. ความสมั พันธ์ของสงิ่ มีชวี ิตแตล่ ะชนิด ………………………………………………………………………………………………….. รปู แบบความสมั พันธ์ของสงิ่ มีชีวิต ………………………………………………………………………………………………….. 3. ชนิดของสงิ่ มชี วี ติ ทอ่ี ยูร่ ว่ มกนั :…………………………………………………………………………………………………….. ความสัมพนั ธ์ของสิ่งมีชวี ติ แตล่ ะชนดิ ………………………………………………………………………………………………….. รูปแบบความสัมพนั ธ์ของส่งิ มีชีวติ ………………………………………………………………………………………………….. 4. ชนิดของส่งิ มชี วี ิตที่อยรู่ ่วมกนั :…………………………………………………………………………………………………….. ความสัมพันธ์ของสง่ิ มีชีวติ แตล่ ะชนดิ ………………………………………………………………………………………………….. รูปแบบความสมั พันธ์ของสิง่ มีชีวติ ………………………………………………………………………………………………….. 5. ชนิดของส่ิงมีชีวิตที่อยู่รว่ มกัน :…………………………………………………………………………………………………….. ความสัมพนั ธ์ของส่งิ มชี ีวติ แต่ละชนดิ ………………………………………………………………………………………………….. รูปแบบความสัมพันธ์ของส่งิ มีชีวติ …………………………………………………………………………………………………..

14 เฉลยกิจกรรมใบงานที่ 1 คาชี้แจ้ง ให้นกั เรยี นดภู าพและระบุความสมั พันธข์ องสิง่ มชี วี ิต 1. ชนดิ ของสิง่ มชี วี ิตท่ีอยู่รว่ มกัน :เต่า กบั สาหร่าย ความสัมพันธข์ องสงิ่ มีชีวิตแตล่ ะชนิด เต่ากนิ สาหร่ายเป็นอาหาร เตา่ ได้ประโยชน์ สาหรา่ ยเสยี ประโยชน์ แต่อาจไมต่ าย รูปแบบความสมั พันธข์ องสิ่งมีชวี ติ ภาวะฝ่ายหนึ่งไดป้ ระโยชน์ อกี ฝา่ ยเสยี ประโยชน์ 2. ชนดิ ของสิ่งมีชีวติ ทอี่ ย่รู ่วมกัน นกกะยาง กบั ปลา ความสัมพนั ธ์ของสงิ่ มีชีวติ แต่ละชนิด นกกะยางกินปลาเป็นอาหาร นกกะยางไดป้ ระโยน์ แต่ปลาเสียประโยชน์ (ตาย) รูปแบบความสัมพนั ธ์ของสง่ิ มีชิวิต ภาะวะการล่าเหยอ่ื 3. ชนดิ ของสิ่งมีชวี ติ ท่ีอยู่ร่วมกนั เสือดา กับ กวาง ความสัมพนั ธ์ของสง่ิ มีชวี ติ แต่ละชนิด เสือดากนิ กวางเป็นอาหาร เสอื ดาไดป้ ระโยน์ แตก่ วางเสียประโยชน์ (ตาย) รูปแบบความสัมพันธ์ของสิง่ มีชิวติ ภาะวะการลา่ เหยอ่ื

15 แบบทดสอบหลังเรยี น 1. องค์ประกอบของสงิ่ มชี ีวิตในระบบนิเวศตรงกับข้อใด ก. ผู้ผลิต, ผูบ้ รโิ ภค, ผยู้ อ่ ยสลาย ข. ผู้ผลติ , ผูบ้ รโิ ภค ค. ผบู้ รโิ ภค, ผยู้ ่อยสลาย ง. ผู้ผลิต, ผู้ยอ่ ยสลาย 2. ปจั จัยชวี ภาพในระบบนเิ วศหมายถงึ ข้อใด ก. ส่ิงมีชีวิต ข. สง่ิ แวดลอ้ ม ค. สิ่งไมม่ ชี ีวติ ง. อณุ หภูมิและความช้ืน 3. ในการสรา้ งอาหารของกลุ่มผู้ผลิตในระบบนเิ วศจะมีการเปลีย่ นพลังงานแสงเปน็ พลงั งานชนดิ ใด ก. พลงั งานเคมี ข. พลังงานศกั ย์ ค. พลังงานจลน์ ง. พลงั งานกล 4.องค์ประกอบทส่ี าคญั ทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั การถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศคือข้อใด ก. ผู้ผลติ , ผบู้ ริโภค, ผยู้ อ่ ยสลาย ข. ผูผ้ ลติ , ผู้บรโิ ภค ค. ผ้บู ริโภค, ผู้ยอ่ ยสลาย ง. ผู้ผลติ , ผูย้ ่อยสลาย 5. การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนเิ วศโดยการกินตอ่ กันเป็นทอดๆเรยี กว่า ก. การดารงชวี ิต ข. ห่วงโซอ่ าหาร ค. การสรา้ งอาหาร ง. การกินอาหาร 6. ข้อใดต่อไปนเี้ ป็นความสมั พนั ธข์ องส่งิ มีชวี ิตในระบบนเิ วศแบบภาวะพึ่งพา ก. นกเอย้ี งกบั ควาย ข. ดอกไม้กับแมลง ค. ไลเคน ง. กาฝากกับตน้ ไมใ้ หญ่

16 7. การทต่ี ้นกระบองเพชรเปลยี่ นโครงสรา้ งใบใหเ้ ป็นหนามเน่อื งจากปัจจัยในข้อใดตอ่ ไปน้ี ก. อณุ ภมู ิ ข. แสงสวา่ ง ค. แรธ่ าตุ ง. นา้ ค. ขอ้ ใดต่อไปนเี้ ป็นผบู้ รโิ ภคลาดับสูงสดุ ก. พชื ข. กวาง ค. นกอินทรีย์ ง. แบคทเี รยี 9. ระบบนิเวศประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบใด ก. สิง่ มชี ีวิต สิ่งไมม่ ีชวี ติ สิง่ แวดลอ้ ม ข. สิง่ มีชวี ิต, สิ่งแวดลอ้ ม ค. สิง่ ไม่มีชวี ติ , สิ่งแวดล้อม ง. สิ่งมชี ีวติ , ส่งิ ไม่มีชวี ิต 10. ปจั จัยที่เกี่ยวขอ้ งกับระบบนเิ วศได้แกป่ จั จัยใดบา้ ง ก. ปัจจยั ทางชีวภาพ, ปัจจัยทางเคมี ข. ปจั จัยทางชวี ภาพ, ปจั จัยทางกายภาพ ค. ปจั จัยทางกายภาพ, ปจั จัยทางเคมี ง. ปัจจยั ทางเคม,ี ปัจจยั อน่ื ๆ 11. ระบบนเิ วศหมายถึงข้อใด ก. ความสมั พนั ธ์ของสิ่งมีชีวิตกบั ส่ิงไม่มชี ีวติ ข. ความสมั พันธข์ องสงิ่ มชี วี ติ กบั สิง่ มชี วี ิต ค. ความสมั พันธ์ของสง่ิ มีชวี ิตกบั สิ่งแวดลอ้ ม ง. ความสัมพนั ธข์ องส่ิงแวดล้อมกับสงิ่ ไม่มชี ีวิต 12. ปจั จยั ทางกายภาพในระบบนิเวศ หมายถงึ ข้อใด ก. สง่ิ แวดล้อม ข. ส่ิงมชี ีวติ ค. สิง่ ไม่มชี ีวติ ง. ผู้ผลิต

17 13. ข้อใดเป็นปจั จยั ทางกายภาพในระบบนิเวศ ก. ผ้ผู ลิต ข. ผ้บู รโิ ภค ค. ผูย้ อ่ ยสลาย ง. นา้ และความช้ืน 14. ขอ้ ใดต่อไปนี้เป็นความสัมพนั ธข์ องส่ิงมีชีวติ ชนดิ เดียวกันในระบบนเิ วศ ก. นกเอย้ี งกับควาย ข. การแบง่ หน้าที่ของผ้ึง ค. กาฝากกบั ตน้ ไม้ใหญ่ ง. ดอกไม้กับแมลง 15. ความสัมพันธ์ของส่งิ มีชวี ิตสองชนิดทต่ี า่ งฝ่ายต่างได้ประโยชนร์ ว่ มกันและแยกออกจากกันไมไ่ ด้ หมายถึงข้อใดต่อไปนี้ ก. ภาวะเก้อื กูล ข. ภาวะปรสติ ค. ภาวะพึ่งพา ง. ภาวะยอ่ ยสลาย

18 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ขอ้ เฉลย 1ก 2ง 3ก 4ก 5ข 6ข 7ง 8ค 9ก 10 ข 11 ค 12 ค 13 ง 14 ข 15 ก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook