Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ศาสตร์พระราชา

Description: ศาสตร์พระราชา

Search

Read the Text Version

ท่ดี ินท�ำกนิ ทบั ซอ้ นทดี่ ินสาธารณประโยชน์ โจทย์ทีร่ อคอยการแกไ้ ข จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 47

“กฎหมาย” กับ “ความเป็นธรรม” อ�ำเภอแม่สอด เมืองการค้าชายแดน เขตเศรษฐกิจพิเศษ ตามค�ำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 17/2558 เรื่อง การจัดหาท่ีดินเพ่ือใช้ ประโยชน์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) ปี 2557 ได้ก�ำหนดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตาก เน้ือที่ 2,183 ไร่ ให้เป็นที่อยู่อาศัยและที่ท�ำกินของชาวบ้านวังตะเคียน หมู่ท่ี 4 และหมู่ท่ี 7 ต�ำบลท่าสายลวด อ�ำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยราษฎร ท่ีได้รับผลกระทบจ�ำนวน 6 ราย ไม่ขอรับเงินค่าชดเชย แต่ขอรับที่ดิน บริเวณเดิมหรือบริเวณใกล้เคียง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงแต่งต้ัง คณะท�ำงานเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จากการลงพ้ืนที่ของคณะท�ำงาน เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหา เมื่อวันท่ี 19 พฤษภาคม 2561 ได้เจรจากับผู้ได้รับผลกระทบทั้ง 6 ราย โ ด ย ผู ้ ไ ด ้ รั บ ผ ล ก ร ะ ท บ ย อ ม รั บ เ งิ น ช ่ ว ย เ ห ลื อ ต า ม สิ ท ธ์ิ ท่ี กรมธนารกั ษ์ และกรมทางหลวงจา่ ยให้ พร้อมทั้งยินยอมสละสิทธ์ิ ในท่ีดินด้วยราคาท่ีเหมาะสมให้กับราษฎรผู้ครอบครองที่ดินส�ำนักงาน การปฏิรูปที่ดินเพ่ือเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เดิม ท่ีอยู่ในรัศมีของที่ดิน ผืนเดิมระยะทาง 5 กิโลเมตร 48 ศาสตร์พระราชา

หลังจากท่ีรัฐบาลได้ประกาศให้อ�ำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็น “เขตพัฒนา เศรษฐกิจพิเศษ” ส่งผลให้อ�ำเภอแม่สอด จากเดิมท่ีเป็นแค่เมืองเล็ก ๆ ติดกับชายแดนประเทศเมียนมา กลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ข้ึนทันที โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครแม่สอด เดิมราคาท่ีดินอยู่ที่ไร่ละ 1-2 ล้านบาท ปัจจุบันราคาพุ่งไปถึงไร่ละ 20-30 ล้านบาท นักลงทุนจากท่ัวทุกสารทิศ มองเห็นช่องทางการลงทุน จึงต่างหอบห้ิวกระเป๋าเงินเข้ากว้านซ้ือท่ีดินเพ่ือ สร้างโรงงานและโรงแรมเป็นจ�ำนวนมาก เพราะเป็นพ้ืนที่ส่งเสริมการลงทุน ที่มีการยกเว้นภาษีให้สารพัด การพัฒนาท่ยี ่ังยนื ต้องไม่ทง้ิ ใคร ใหเ้ ดอื ดร้อนอยขู่ ้างหลัง จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 49

น่าน นาน้อย... ฟื้นฟู พัฒนา ฅนอยู่กับป่า... พ้ืนที่จังหวัดน่าน มีการเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยวบนพ้ืนท่ีภูเขาสูงชัน มาเป็นเวลานาน ท�ำให้เสียพื้นท่ีป่าต้นน้�ำประมาณ 1.5 ล้านไร่ เกิดเป็นภูเขา หัวโล้น ไร้ความเขียวขจี สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เกิดปัญหาน�้ำแล้ง น้�ำท่วม ทั้งในเขตจังหวัดน่านและจังหวัดในภาคกลาง 50 ศาสตร์พระราชา

การแก้ปัญหาดังกล่าว ต้องช่วยกันพลิกฟื้นเขาหัวโล้นให้เป็นเขาหัวจุก และน้อมน�ำศาสตร์พระราชาร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ขุดหลุมขนมครก ตามพื้นท่ีลุ่มและพ้ืนที่สูง เพ่ือเก็บกักน้�ำให้ได้ 100% วันท่ี 30 มีนาคม 2558 หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 33 (สถาน) ได้มีค�ำส่ัง ห้ามราษฎรเข้าและด�ำเนินการใด ๆ ในพื้นท่ี โดยมีราษฎรจ�ำนวน 298 ราย ถูกแจ้งข้อหาเป็นผู้บุกรุกและท�ำลายสวนป่าของรัฐในพ้ืนที่กว่า 7,820 ไร่ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 51

ฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรรมท่ีย่ังยืน...เพ่ือคุณภาพชีวิต วันท่ี 11 พฤษภาคม 2561 ราษฎรท่ีได้รับผลกระทบจากค�ำสั่งห้าม เข้าพ้ืนท่ีด�ำเนินกิจการใด ๆ จ�ำนวน 48 ราย ร้องขอเข้าท�ำการเกษตร ในพ้ืนท่ี โดยปลูกป่าบนพื้นที่สูง ท้ังน้ี ยังได้ส่งสมาชิกแกนน�ำกลุ่มจ�ำนวน 9 ราย เข้ารับการอบรมการพัฒนากสิกรรมธรรมชาติสู่ระบบเศรษฐกิจ พอเพียง จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ และน้อมน�ำศาสตร์พระราชาในรูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล มาประยุกต์ใช้ในพ้ืนท่ีของตนเอง ณ ศูนย์กสิกรรม ธรรมชาติ ชุมชนต้นน�้ำน่าน อ�ำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน 52 ศาสตร์พระราชา

สร้างพนื้ ที่ “ฅน อยู่กบั ปา่ ” อย่างย่ังยืน จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 53

ปิดต�ำนาน สวนส้ม เชียงใหม่ ประชาชนรอความหวัง ตามคำ� สง่ั หวั หนา้ คสช.ท่ี 36/2559 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 เร่ือง ม า ต ร ก า ร ใ น ก า ร แ ก ้ ไ ข ป ั ญ ห า ก า ร ค ร อ บ ค ร อ ง ท่ี ดิ น ใ น เ ข ต ป ฏิ รู ป ท่ี ดิ น เพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งส�ำนักงานการปฏิรูป ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ออกประกาศที่ 45/2559 ลงวันท่ี 2 9 ก ร ก ฎ า ค ม 2 5 5 9 ก� ำ ห น ด พื้ น ท่ี เ ป ้ า ห ม า ย ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร กั บ ผู้ครอบครองท่ีดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมายในจังหวัด เชียงใหม่ จ�ำนวน 5 แปลง ได้แก่ No 786, No 787, No 788, No 789, และ No 790 รวมเนื้อที่ 6,363 ไร่ ท่ีดินตั้งอยู่ต�ำบลสันต้นหมื้อ ต�ำบลบ้านหลวง อ�ำเภอแม่อาย และต�ำบลเวียง อ�ำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ สภาพการท�ำประโยชน์ที่ดินเป็นสวนส้มท้ังแปลง ประกอบด้วย 54 ศาสตร์พระราชา

บรษิ ทั เชยี งใหมม่ ติ รเกษตร จำ� กดั 3,287 ไร่ (สวนทรายทอง) 2,140 ไร่ บรษิ ทั สวนสม้ ธนาธร จำ� กดั 502 ไร่ 31 ไร่ บรษิ ทั เพช็ รเมอื งฝาง จำ� กดั (สวนอมรมติ ร) 5,960 ไร่ พนื้ ทท่ี ไ่ี มม่ ผี คู้ ดั คา้ น รวม จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 55

ในการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ (คทช. จังหวัดเชียงใหม่) คร้ังท่ี 1/2561 เมื่อวันท่ี 23 กุมภาพันธ์ 2561 เห็นชอบให้ก�ำหนดผังแปลงที่ดินแบ่งเป็น 5 โซน ส�ำหรับจัดเป็นที่อยู่อาศัย ให้เกษตรกรจ�ำนวน 300 ราย มีพ้ืนท่ีแปลงรวมให้ท�ำประโยชน์ในสวนส้ม ในรูปแบบสหกรณ์การเกษตร รวมทั้งให้ปรับผังแปลงที่ดินเฉพาะ โซน 2 และโซน 3 โดยไม่กระทบต่อแผนการจัดท่ีดินตามมติ และให้ ส�ำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพ่ือเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัดเชียงใหม่ สร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไข ในการจัดท่ีดิน ซ่ึงมีผู้ย่ืนค�ำร้องลงช่ือไว้เป็นหลักฐาน ขอรับการจัดที่ดิน รวม 3,069 ราย เพื่อให้ คทช. จังหวัดเชียงใหม่พิจารณาอนุมัติต่อไป โดยการประชุม คทช. จังหวัดเชียงใหม่ในคร้ังท่ี 2/2561 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2561 ได้มีมติให้ชี้แจงและสร้างการรับรู้ ความเข้าใจต่อกลุ่ม เป้าหมายท้ัง 3,069 ราย ลดความเหลื่อมล้�ำ สร้างความเป็นธรรม วันที่ 23 มิถุนายน 2561 ผู้บริหารบริษัท สวนส้มธนาธร จ�ำกัด ได้ย่ืน หนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้พนักงานที่ได้ลงทะเบียนขอรับการ จัดที่ดิน โดยอ้างว่าไม่มีอาชีพอื่น ๆ รองรับ จ�ำนวนกว่า 146 ราย คณะท�ำงานได้มีการส�ำรวจแปลงสวนส้มของผู้ครอบครองรายใหญ่ 3 ราย แบ่งออกเป็น 5 โซน รวมเนื้อที่ 5,958 ไร่ จัดแปลงเป็นที่อยู่ อาศัย 600 ไร่ และการเกษตรอีก 300 ไร่ โดยลงตรวจ 2 พ้ืนท่ี คือ บริษัท สวนส้ม ธนาธร จ�ำกัด และ บริษัท เชียงใหม่มิตรเกษตร จ�ำกัด อ�ำเภอฝาง และอ�ำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้ด�ำเนินการปรบั สภาพ พน้ื ทส่ี ำ� หรบั จดั ทด่ี นิ ทำ� กนิ ใหเ้ กษตรกรรายละ 2 ไร่ จำ� นวน 300 รายแล้ว จากนั้นได้มีการพบปะแกนน�ำหมู่บ้าน หมู่ท่ี 17 หมู่ท่ี 6 และหมู่ที่ 7 ที่ถูกข่มขู่ จนไม่กล้าเข้าพื้นที่บริษัท สวนส้ม ธนาธร จ�ำกัด และพบกับนางสาว วิมลมาลย์ ศรีสุข จากเรือนจ�ำอ�ำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งด�ำเนินการ ขอสิทธ์ิให้ผู้ท่ีก�ำลังพ้นโทษจ�ำนวน 14 ราย รวมถึงเจ้าหน้าที่เรือนจ�ำ ท่ี ต ้ อ ง ก า ร ส ร ้ า ง อ า ชี พ ต ้ น แ บ บ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง ใ ห ้ แ ก ่ ผู ้ ที่ พ ้ น โ ท ษ เพ่ือการยอมรับจากบุคคลภายนอก 56 ศาสตร์พระราชา

จากการติดตามความก้าวหน้าในการด�ำเนินงานเมื่อวันท่ี 7 กรกฎาคม 2561 พบว่ายังไม่มีความคืบหน้า พ้ืนที่สวนส้มทั้ง 3 แปลง ยังเข้าท�ำ ประโยชนไ์ ดเ้ หมอื นเดมิ ปัจจุบัน คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด เชียงใหม่ (คทช. จังหวัดเชียงใหม่) อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติรายช่ือ ผู้ที่สมควรจะได้รับการจัดท่ีดินจ�ำนวน 300 คน ที่ผ่านการพิจารณาของ คณะท�ำงานคัดกรองฯ เพ่ือด�ำเนินการจัดที่ดินต่อไป เกษตรกร รอคอยความหวัง รฐั จริงใจแก้ปัญหา สร้างตน้ แบบ... พอเพยี ง จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 57

ฟลอรา่ พารค์ ไรฟ่ า้ ประทาน ความเหลอื่ มล�้ำ: สิทธ์กิ ารครอบครองพืน้ ท่ี วนั ท่ี 19 ตลุ าคม 2561 ไดม้ รี าษฎรรอ้ งเรยี นเรอื่ ง การไมไ่ ดร้ บั ความเปน็ ธรรม ในการยดึ คนื พน้ื ทสี่ ำ� นกั งานการปฏริ ปู ทดี่ นิ เพอื่ เกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ทยี่ งั ไมไ่ ด้ ด�ำเนินการตามกฎหมายของแปลงไร่องุ่นฟ้าประทาน และฟลอร่าพาร์ค อ�ำเภอวังน้�ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไดม้ ีค�ำส่ังให้ทาง ส.ป.ก. จงั หวัดนครราชสมี า ตรวจสอบสิทธก์ิ ารครอบครอง ที่ดินของ ส.ป.ก. ในเขตอ�ำเภอวังน้�ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ทั้ง 2 แห่ง ไดแ้ ก่ ทดี่ นิ ฟลอรา่ พารค์ ทด่ี นิ ฟา้ ประทานฟารม์ 103 ไร่ 279 ไร่ 58 ศาสตร์พระราชา

โดยพน้ื ที่ 2 แหง่ ถอื วา่ เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วชอื่ ดงั ของอำ� เภอวงั นำ�้ เขยี ว จงั หวดั นครราชสมี า หลงั จากทม่ี ผี รู้ อ้ งเรยี นวา่ พื้นท่ีท้ัง 2 แห่ง มีนายทุนใหญ่ เข้ามาถือครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาทาง ส.ป.ก. จังหวัดนครราชสมี า ไดล้ งพนื้ ที่ตรวจสอบเบ้อื งตน้ พบว่า พื้นที่ดินทั้ง 2 แหง่ เปน็ ของ ส.ป.ก. ชัดเจน และยงั ไม่ได้อนุญาตให้ใครเข้ามา ถอื ครองแตอ่ ย่างใด ความเป็นธรรมในสังคม ทาง ส.ป.ก. จังหวัดนครราชสีมา ได้ท�ำหนังสือแจ้งไปยังผู้ถือครองท่ีดิน ทั้ง 2 ราย ให้น�ำเอกสารหลักฐานมาโต้แย้งสิทธ์ิภายใน 15 วัน แต่เม่ือครบ กำ� หนดก็ยังไม่มีตัวแทนของทั้ง 2 รายมาย่ืนเอกสารโตแ้ ยง้ สิทธิ์ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 59

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คณะท�ำงานก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถือครอง ที่ดนิ ตามกฎหมาย โดยในส่วนของฟา้ ประทานฟาร์มน้นั การประกอบกจิ การ คือ ท�ำการเกษตร ปลูกองุ่น และผักผลไม้นานาชนิด โดยเชื่อมโยง กับเกษตรกรในพื้นท่ีอ�ำเภอวังน้�ำเขียว เพื่อซื้อผลไม้ของเกษตรกรมาให้ ฟา้ ประทานฟารม์ ซอื้ ในราคาสงู เพอ่ื นำ� ไปจำ� หนา่ ย และมกี ารจา้ งงานเกษตรกร ในพนื้ ทท่ี งั้ หมด ซง่ึ ถอื วา่ เปน็ ไปตามวตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ของการใชพ้ นื้ ที่ ส.ป.ก. แต่ในส่วนของการถือครองสิทธ์ิน้ันไม่เป็นไปตามกฎหมาย เนอ่ื งจากทาง ส.ป.ก. ยงั ไมไ่ ดอ้ อกเอกสารสทิ ธ์ิ 4-01 ใหบ้ คุ คลใดเขา้ ไปถอื ครอง วันที่ 14 ธันวาคม 2561 ส.ป.ก. จังหวัดนครราชสีมาได้น�ำป้ายประกาศ แสดงกรรมสิทธิ์ในท่ีดิน ส.ป.ก. และส่ังให้ผู้ท่ีไม่ได้รับอนุญาตเข้าใช้พื้นท่ี ไปติดตั้งไว้บริเวณด้านหน้าฟลอร่าพาร์ค และฟ้าประทานฟาร์ม เพ่ือแจ้งให้ ผู้ครอบครองที่ดินทั้ง 2 แปลงรับทราบ และผู้ถือครองท่ีดินทั้ง 2 แปลง ได้ย่ืนเรื่องอุทธรณ์ต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว ซ่ึงมีระยะเวลา 6 เดือน 60 ศาสตร์พระราชา

เพอ่ื ความเสมอภาคและเทา่ เทียม ในการบังคบั ใช้ กฎหมาย จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 61

ภเู กต็ กะรน ถลาง... คทช. มากมลู คา่ คนรุน่ ใหมก่ ับการพฒั นาพ้นื ทศี่ ักยภาพสูง วันท่ี 27 กุมภาพันธ์ 2562 หน่วยงานที่เก่ียวข้องในพื้นที่โครงการจัดท่ีดิน ท�ำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) จังหวัดภูเก็ต ลงส�ำรวจพื้นท่ี ทสี่ ำ� นกั งานการปฏริ ปู ทดี่ นิ เพอื่ เกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ยดึ คนื จากผคู้ รอบครอง ทขี่ าดคณุ สมบตั ิ รวม 3 แปลง เพอื่ ปผู งั แบง่ แปลง และคดั เลอื กเกษตรกรรนุ่ ใหม่ เข้ามาท�ำประโยชน์ในพื้นท่ี ประกอบด้วย 62 ศาสตร์พระราชา

1) ท่ีดิน ส.ป.ก. บริเวณหมู่ท่ี 2 ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต รวมเนอ้ื ทปี่ ระมาณ 39-2-27 ไร่ แบง่ เป็น แปลงเลขท่ี 1 ระวาง ส.ป.ก. กลุ่มที่ 111 เนื้อที่ประมาณ 21-0-79 ไร่ ลักษณะพ้ืนที่ลาดชัน ปลูกยางพาราบางส่วน เคยจัดคนรุ่นใหม่เข้าท�ำ ประโยชน์ในพื้นท่ีแล้ว แต่ไม่สามารถด�ำเนินกิจกรรมต่อได้ เนื่องจากความ ไม่พร้อมของสภาพพื้นที่ แหล่งน�้ำ และพื้นฐานคนรุ่นใหม่เป็นคนต่างถ่ิน ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับพื้นที่ได้ จึงท�ำการถอนตัว แต่ยังมีโรงเรือน ผักกางมุ้งท่ียังใช้งานได้อยู่จ�ำนวน 3 โรงเรือน โดยมีข้อเสนอแนะว่า การคัดบุคคลเข้าใช้ประโยชน์ ควรเป็นคนรุ่นใหม่ในภาคใต้ท่ี ผ่านการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการอย่างเข้มข้น เปน็ ไปตามเงอื่ นไข ท่ีคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด (คปจ.) ก�ำหนด โดยควรเตรียมแปลงให้ สมบูรณ์ ทั้งการปรับสภาพดิน น้�ำ ไฟฟ้า และวางแผนกิจกรรมให้เหมาะสม จัดพื้นท่ีเป็นลักษณะแปลงรวม น�ำเทคโนโลยี นวัตกรรม สมัยใหม่ผสมผสานกับภูมิปัญญาพ้ืนบ้าน มาปรบั ใชใ้ นพืน้ ที่ แปลงเลขที่ 3 ระวาง ส.ป.ก. กลมุ่ ท่ี 58 เนอ้ื ทีป่ ระมาณ 18-1-48 ไร่ ลกั ษณะ พ้ืนที่ลาดชันเล็กน้อย ปลูกปาล์มน�้ำมัน สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว โดยมขี อ้ เสนอแนะวา่ ควรจดั เปน็ แปลงรวม และเกษตรกรทเ่ี ขา้ รว่ มตอ้ งผา่ น การฝึกอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ ารอย่างเขม้ ขน้ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 63

64 ศาสตร์พระราชา

2) ท่ีดิน ส.ป.ก. บริเวณหมู่ที่ 5 ต�ำบลฉลอง อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต รวมเนอื้ ท่ีประมาณ 23-3--01 ไร่ แปลงเลขท่ี 1 ระวาง ส.ป.ก. กลุ่มที่ 223 เน้ือที่ประมาณ 6-0-76 ไร่ และกล่มุ ท่ี 243 เน้ือที่ประมาณ 17-2-25 ไร่ ลักษณะพื้นท่ีเป็นภูเขาเหนืออ่างเก็บน�้ำ คลองกะทะ มคี วามลาดชนั ปลกู ยางพาราเตม็ พนื้ ท่ี โดยมขี อ้ เสนอแนะวา่ ควรมี ฝายชะลอน�้ำ 2 ตัว เพอ่ื เกบ็ กกั นำ้� ไวใ้ ชใ้ นการเกษตร และคดั เลอื กเกษตรกร ที่มีคุณสมบัติครบเข้าท�ำประโยชน์ในพ้ืนท่ี พร้อมท้ังปลูกพืชแซมยางพารา เพอื่ สรา้ งรายไดท้ ีเ่ พมิ่ ข้ึน ที่ดนิ ...มศี กั ยภาพสงู ดา้ นเศรษฐกิจ คุ้มคา่ ตอ่ การพฒั นา ใหเ้ กษตรกรรุ่นใหมเ่ ขา้ มาท�ำประโยชน์ โดยยึดแนวทางเกษตรกรรม ยง่ั ยืนเปน็ หลัก จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 65

วงั หบี คลองสงั ข์ เหมอื งตะกว่ั ทางเลือกที่มมี ากกว่าการสร้างเข่ือน อ่างเก็บนำ�้ คลองวงั หีบอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ความจุ สง่ นำ�้ ให้พื้นท่เี กษตรกรรม 20.10 13,014 ไร่ ล้านลกู บาศก์เมตร โครงการชลประทานขนาดกลางประเภทอ่างเก็บน�้ำ ราษฎรท่ีได้รับผลกระทบ จากการก่อสร้างบางส่วนไม่ยินยอมและไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโครงการ โดยมีประเดน็ คัดค้าน ดงั นี้ 66 ศาสตร์พระราชา

1) ความจ�ำเป็นของการมีโครงการ ราษฎรเห็นว่า ในพื้นท่ีลุ่มน�้ำคลองวังหีบ มีการก่อสร้างอ่างเก็บน้�ำขนาดเล็กและฝายอยู่แล้วหลายแห่ง ซ่ึงยังไม่ได้ใช้ ประโยชนอ์ ยา่ งเต็มศักยภาพ บางแห่งชำ� รดุ ใช้งานไม่ได้ จึงเสนอแนะใหร้ าชการ ปรับปรุงซ่อมแซมโครงสร้างทม่ี ีอย่ใู ห้ใช้งานได้ดีเต็มศักยภาพกอ่ น 2) จากวตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ เพอ่ื การเพาะปลกู ในฤดฝู นและฤดแู ลง้ ราษฎร เหน็ วา่ การใชป้ ระโยชนท์ ด่ี นิ ในพน้ื ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไป เพราะมกี ารปรบั เปลยี่ นชนดิ การปลกู พชื จากนาขา้ วเปน็ ยางพารา ปาลม์ และไมผ้ ลเกอื บทงั้ หมด ซงึ่ ใชน้ ำ้� ฝน เป็นหลัก จึงไม่มีความจ�ำเป็นตอ้ งก่อสรา้ งอ่างเก็บนำ�้ 3) ความเขา้ ใจตอ่ วตั ถปุ ระสงคก์ ารปอ้ งกนั นำ�้ ทว่ มเทศบาลทงุ่ สงคลาดเคลอ่ื น โดยราษฎรเขา้ ใจว่า อา่ งเก็บน้�ำคลองวงั หีบจะชว่ ยปอ้ งกนั อุทกภยั เขตเทศบาล ทุ่งสง ท�ำให้มีความขัดแยง้ กับกลุ่มราษฎรผ้คู ดั ค้านการก่อสรา้ งโครงการ 4) ผลกระทบตอ่ การประกอบอาชีพและการอยู่อาศัย เนื่องจากพ้นื ท่ีโครงการ บางส่วนทบั ซอ้ นในเขตพน้ื ท่ีลุม่ น�้ำคณุ ภาพ ล่มุ นำ้� ชั้น 1AR ซ่ึงราษฎรบางส่วน ทำ� การเพาะปลกู พชื อาทิ ยางพารา ไมผ้ ล ฯลฯ รวมทง้ั มผี ลกระทบตอ่ พน้ื ทอี่ าศยั และพื้นท่ีท�ำกนิ ของราษฎรตำ� บลนาหลวงเสนอีกจ�ำนวนหนงึ่ 5) ขาดการน�ำเสนอทางเลือกการบริหารจัดการน�้ำ ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบ ตอ้ งการใหท้ างราชการนำ� เสนอทางเลอื กอนื่ ๆ ในการบรหิ ารจดั การนำ�้ กรณไี มม่ ี การกอ่ สรา้ งอา่ งเกบ็ นำ�้ คลองวงั หบี อยา่ งไรกต็ าม กระบวนการมสี ว่ นรว่ มของ ภาครัฐส่วนใหญ่เป็นการประชาสัมพันธ์เพื่อน�ำไปสู่การก่อสร้างโครงการ จึงไม่มีการน�ำเสนอทางเลือกอนื่ ๆ อีกทงั้ ยงั มกี ารสรุปตวั เลขของผู้ที่เหน็ ด้วย เปรยี บเทยี บกบั ผทู้ ไี่ มเ่ หน็ ดว้ ย ซง่ึ จำ� นวนของผทู้ เี่ หน็ ดว้ ยมกั จะมมี ากกวา่ ทำ� ให้ ประเดน็ ความขดั แยง้ ของผทู้ ่ไี มเ่ หน็ ดว้ ยไมถ่ กู หยบิ ยกเขา้ สกู่ ารพจิ ารณา จงึ ไมน่ ำ� ไปสูก่ ารแกป้ ญั หาความขัดแย้งของราษฎรในพนื้ ทไ่ี ด้ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 67

วันท่ี 6 กันยายน 2561 คณะท�ำงานการบริหารจัดการน้�ำแบบมีส่วนร่วม ในพนื้ ทอี่ ำ� เภอทงุ่ สงและลมุ่ นำ้� วงั หบี นำ� โดย พลเอกธนศกั ดิ์ เกง่ ถนอมมา้ ประธาน คณะท�ำงาน และนายวิวัฒน์ ศัลยก�ำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ จัดประชุมเพ่ือแลกเปลี่ยนข้อมูลทางเทคนิคที่รวบรวมและส�ำรวจ พื้นท่ีโครงการวังหีบ และพื้นที่เทศบาลเมืองทุ่งสง พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็น จากราษฎรผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี จากการดำ� เนนิ โครงการ ซงึ่ ประเดน็ ปญั หาทไี่ ดจ้ าก การแลกเปล่ยี นความคิดเหน็ ต่อแนวทางการแกไ้ ข คือ 1) ปญั หานำ้� ดบิ ของการประปาสว่ นภมู ภิ าค (กปภ.) ทงุ่ สง ขาดแคลนในฤดแู ลง้ คณะท�ำงานได้ช้ีแจงถึงปริมาณน�้ำต้นทุนของคลองท่าแพ ซ่ึงเป็นแหล่ง น้�ำดิบของ กปภ. สาขาทุ่งสงว่า มีเพียงพอต่อความต้องการน�้ำดิบของ กปภ. แตข่ าดพนื้ ทเี่ กบ็ กกั นำ�้ ทพ่ี อเพยี งสำ� หรบั สำ� รองไวใ้ นฤดแู ลง้ คณะทำ� งานจงึ เสนอแนวทางพัฒนาแหล่งน้ำ� ดบิ ของ กปภ. ซงึ่ เป็นพันธกจิ ตามพระราชบัญญตั ิ ทรัพยากรน�้ำท่ีเพิ่งผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดย นักวิชาการในคณะท�ำงานยินดีให้การสนับสนุนผ่าน พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรฐั มนตรี และส�ำนักงานทรพั ยากรน�้ำแหง่ ชาติ (สทนช.) 68 ศาสตร์พระราชา

2) ปัญหาน�้ำอุทกภัยในพ้ืนที่เทศบาลเมืองทุ่งสง ราษฎรได้เสนอแนวทาง การแก้ไข คือ การผันน้�ำจากคลองท่ีจะไหลผ่านตัวเทศบาลทุ่งสงให้อ้อมเมือง โดยผันน�้ำจากคลองท่าเลาไปลงคลองวังหีบ และผันน�้ำจากคลองท่าโลนไปลง คลองท่าแพ ขยายทางออกน้�ำในช่วงท้ายเทศบาล คือ บริเวณฝายควนกรด (ปัจจบุ นั ช�ำรดุ ใชก้ ารไม่ได)้ ใหก้ ว้างพอส�ำหรบั ระบายน�ำ้ จากตวั เทศบาลทุง่ สง 3) ปัญหาอุทกภัยในพ้ืนท่ีท้ายน้�ำของลุ่มน�้ำคลองวังหีบ ราษฎรเสนอแนวทาง แก้ปัญหาโดยการขุดบ่อ สระ และอ่างในพื้นท่ีสาธารณะ เพื่อใช้กักเก็บน้�ำฝน (ราษฎรได้แนะน�ำพื้นที่สาธารณะให้ 3 จุด) และในพ้ืนที่สวนไม้ผล เพ่ือเก็บน้�ำไว้ใช้ ในฤดูแล้ง และการตัดยอดน�้ำเพื่อบรรเทาน้�ำท่วม (ราษฎรบางคนได้เสนอพ้ืนท่ี ในครอบครองของตนเอง เพ่ือใช้ขุดสระเก็บน้�ำและยอมให้นำ้� ท่วมได้) ขอ้ เสนอ ความขัดแย้งท่ีเกิดขึ้นระหว่างกรมชลประทาน ผู้ด�ำเนินโครงการ และราษฎรผเู้ สยี หายในพนื้ ทโี่ ครงการ ซง่ึ มแี นวโนม้ จะรนุ แรงขน้ึ หากภาครฐั ใช้กระบวนการกดดัน ไม่ชัดเจนด้านความจ�ำเป็นของการมีโครงการ อนั เนอ่ื งมาจากการเปลย่ี นแปลงการใชท้ ดี่ นิ บรบิ ททางสงั คม และวถิ ชี วี ติ ที่ เปลยี่ นแปลงไปจากอดตี ทำ� ใหค้ วามตอ้ งการการใชน้ ำ�้ และรปู แบบทเ่ี หมาะสม ส�ำหรับการบริหารจัดการน้�ำเปลี่ยนไป ซึ่งอ่างเก็บน�้ำขนาดใหญ่อาจ ไม่ใช่ค�ำตอบเดียวของการแก้ปัญหาน้�ำในพ้ืนท่ี และกรมชลประทานยังไม่ สามารถเสนอทางเลือกการบริหารจัดการน้�ำ (ที่ไม่ใช่การสร้างอ่างเก็บน้�ำ ขนาดใหญ่) ให้แกร่ าษฎรได้ โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ แนวทางทมี่ ีการบรู ณาการ ร่วมกับหน่วยงานอ่ืน ๆ และภาคประชาชน และความไม่ชัดเจนในประเด็น ความคมุ้ คา่ ทางเศรษฐศาสตร์ หากไมค่ ดิ การผนั นำ้� ขา้ มลมุ่ สำ� หรบั การผลติ น้�ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาทุ่งสง จึงเห็นสมควรให้ชะลอ การกอ่ สรา้ งโครงการอา่ งเกบ็ นำ้� คลองวงั หบี ออกไปกอ่ น อยา่ งไรกต็ าม ปญั หาอทุ กภยั ในพน้ื ทเ่ี ทศบาลเมอื งทงุ่ สง เปน็ ปญั หาทส่ี ำ� คญั และควรแกไ้ ข อยา่ งเรง่ ดว่ น โดยยดึ หลกั การ “แกป้ ญั หาเกา่ ไมส่ รา้ งปญั หาใหม่ และไมย่ า้ ย ปญั หา” โดยความรว่ มมอื ระหวา่ งเทศบาลทงุ่ สง กรมชลประทาน และราษฎร จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 69

อ่างเก็บน�้ำคลองสังข์ อันเน่อื งมาจากพระราชดำ� ริ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ความจุ 36.575 ลา้ นลูกบาศกเ์ มตร โครงการตั้งอยู่หมู่ท่ี 2 และ หมู่ที่ 8 ต�ำบลกรุงหยัน อ�ำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัด นครศรีธรรมราช เป็นโครงการชลประทานขนาดกลางประเภทอ่างเก็บน�้ำ วันท่ี 22 พฤษภาคม 2561 คณะท�ำงานศึกษาข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาความ ขัดแย้งในโครงการพัฒนาแหล่งน้�ำ ได้ส�ำรวจสภาพพ้ืนท่ีเบื้องต้นพบว่า มีแหล่งเก็บกักน�้ำในพื้นที่คลองสังข์หลายแห่ง มีปริมาณน้�ำมาก แต่ไม่ถูกน�ำไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มท่ี ไม่ว่าจะเป็นด้านการเกษตร หรือการอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ยังพบว่า เกษตรกรเปลี่ยนวิถีชีวิต จากการท�ำนาเป็นการปลูกยางพาราและไม้ผล ท�ำให้ความต้องการใช้น�้ำ ลดลง ใช้เพียงน้�ำฝนก็เพียงพอ โดยในวันท่ี 7 กันยายน 2561 คณะท�ำงาน สามารถสรปุ ผลการพจิ ารณาขอ้ เทจ็ จรงิ จากการลงพน้ื ทร่ี บั ฟงั ความคดิ เหน็ จากราษฎร ดังนี้ 1) ส�ำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพ่ือเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และการยางแห่ง ประเทศไทย (กยท.) ซึ่งเป็นเจ้าของท่ีดินส่วนใหญ่ของโครงการฯ ยังไม่ สามารถก�ำหนดแนวทางท่ีชัดเจนเกี่ยวกับการยึดกรรมสิทธ์ิถือครองคืนจาก ราษฎรเพื่อก่อสร้างโครงการ รวมทั้งแนวทางการเยียวยาราษฎรท่ีได้รับ ผลกระทบตามหลักกฎหมายและมนุษยธรรม 70 ศาสตร์พระราชา

2) ประเด็นการจ่ายค่าชดเชยของกรมชลประทาน มีข้อควรพิจารณา เพ่ิมเติมอีกหลายประเด็น ได้แก่ หลกั เกณฑใ์ นการจา่ ยคา่ อาสนิ ของกรมชลประทาน เปน็ การจา่ ย ตามชนิดพืช อายุพืช และจ�ำนวน โดยไม่พิจารณาค่าเสียโอกาส ท�ำให้ราษฎรในพ้ืนที่ ส.ป.ก. และ กยท.เสียโอกาสท�ำกิน และเห็นว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม กรมชลประทานไม่สามารถจ่ายค่าชดเชยให้แก่ราษฎรผู้ได้รับ ผลกระทบพร้อมกันทั้งหมดทุกราย เนื่องจากระบบงบประมาณ ของกรมชลประทานต้องจ่ายตามงวดงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ ท�ำให้ราษฎรที่ได้รับค่าชดเชยในรอบหลังมีความเดือดร้อนในการ จดั ซอื้ ทดี่ นิ เพอื่ อยอู่ าศยั และทำ� กนิ เนอื่ งจากทดี่ นิ บรเิ วณโครงการ มีแนวโน้มราคาสูงข้ึน กรมชลประทานยังไม่จ�ำแนกแจกแจงผู้ได้รับผลกระทบในแต่ละ ประเภททดี่ นิ อยา่ งชดั เจน ทำ� ใหไ้ มส่ ามารถกำ� หนดแนวทางปฏบิ ตั ิ ต่อราษฎรแต่ละรายได้อย่างเหมาะสม จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 71

ข้อเสนอ 1) ควรวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์การก่อสร้างโครงการ โดยค�ำนึงถึงบริบทสังคม วิถีชีวิต และการใช้ท่ีดินที่เปล่ียนแปลงไป เพ่ือน�ำไปสู่การพิจารณาในประเด็นการใช้งบประมาณท่ีได้ใช้จ่าย ไปแล้วประมาณ 35 ล้านบาท ในปี 2561 กับงบประมาณท่ีต้องใช้ ในการก่อสร้างอีกประมาณ 845 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดิน) 2) หากผลการวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์เหมาะสม ท่ีจะด�ำเนินโครงการนี้ หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง อาทิ ส.ป.ก. กยท. กรมป่าไม้ หน่วยงานฝ่ายปกครอง และกรมชลประทาน จ�ำเป็นจะต้อง หาทางออกร่วมกันในการแก้ปัญหาพ้ืนท่ีในส่วนท่ีราษฎรได้รับ ผลกระทบจนได้ข้อยุติอย่างเป็นรูปธรรม 3) กรมชลประทานควรด�ำเนินการส�ำรวจอาคารและโครงสร้างทาง ชลศาสตร์ท่ีมีอยู่แล้วในพ้ืนที่ เพื่อเสนอแนะแนวทางปรับปรุงและ พัฒนาให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากผลวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์โครงการ มีความไม่เหมาะสมและไม่คุ้มค่าต่อการใช้งบประมาณท่ีต้ังไว้ ควรมีการ พิจารณาทางเลือกเพื่อการบริหารจัดการน้�ำและแก้ปัญหาท่ีเกี่ยวข้อง เชิงพื้นที่ในรูปแบบอื่นอย่างมีส่วนร่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแนวทาง ทฤษฎีใหม่ประยุกต์ 72 ศาสตร์พระราชา

อา่ งเกบ็ นำ�้ เหมอื งตะกว่ั อันเน่อื งมาจากพระราชดำ� ริ จังหวดั นครศรธี รรมราช โครงการต้ังอยู่ที่บ้านเหมืองตะกั่ว หมู่ท่ี 1 ต�ำบลหนองธง อ�ำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง เป็นโครงการชลประทานขนาดกลาง ความจุ ส่งน้�ำให้พื้นที่ ชลประทานในฤดูฝน 10.14 7,500 ไร่ ลา้ นลูกบาศก์เมตร จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 73

วนั ท่ี 5 มกราคม 2557 นายสาที สมพงศ์ อาศยั อยพู่ นื้ ทหี่ มทู่ ี่ 1 ตำ� บลหนองธง อ�ำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน แห่งชาติว่า ได้รับความเสียหายหรืออาจจะได้รับความเสียหายจากการท่ี กรมชลประทานจะด�ำเนินโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้�ำบ้านเหมืองตะกั่ว โดยผู้ร้องและชาวบ้านในพื้นท่ีไม่ได้รับรู้ข้อมูล รายละเอียด และผลกระทบจาก โครงการดังกล่าว ขาดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นและการ มีส่วนร่วมในรูปแบบอื่น วันที่ 29 ธันวาคม 2557 เครือข่ายประชาชนปกป้องป่าต้นน้�ำโตนสะตอ ได้ส่งหนังสือร้องเรียนเพ่ิมเติม เนื่องจากมีคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิง บ้านของผู้อ�ำนวยการโรงเรียนบ้านคลองใหญ่ คือ นายสุวิทย์ เจะโซะ แกนน�ำชาวบ้านท่ีคัดค้านโครงการ ซึ่งในจังหวัดพัทลุงมีโครงการสร้าง อ่างเก็บน�้ำในพื้นที่ใกล้เคียงอยู่แล้วจ�ำนวน 3 อ่าง ได้แก่ อ่างเก็บน้�ำ ป่าพะยอม อ่างเก็บน้�ำคลองป่าบอน และอ่างเก็บน้�ำคลองหัวช้าง ซึ่งก่อสร้างเสร็จแล้วแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มท่ี หากก่อสรา้ งโครงการ จะเป็นการท�ำลายผืนป่าต้นน�้ำท่ีอุดมสมบูรณ์ เป็นท่ีอยู่ของสัตว์ป่าและแหล่ง อาหาร รวมทงั้ นำ้� ตกโตนสะตอ เปน็ การปดิ กนั้ สายนำ้� ตามธรรมชาติ อาจสง่ ผล ต่อระบบนิเวศและการใช้น้�ำของประชาชน 74 ศาสตร์พระราชา

นายวินัย บังประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง มอบหมายให้นายอ�ำเภอ ป่าบอนเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับองค์การบริหารส่วนต�ำบลหนองธง ในการด�ำเนินการตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เม่ือวันที่ 31 สิงหาคม 2558 เห็นสมควรให้กรมชลประทานพิจารณา ยกเลิกโครงการอ่างเก็บน้�ำบ้านเหมืองตะก่ัว และจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น ของประชาชนในพื้นท่ีต�ำบลหนองธงเก่ียวกับปัญหาการขาดแคลนน�้ำ ทางเลือกการแก้ปัญหาวิธีอื่น ๆ ที่แก้ไขปัญหาได้จริงและส่งผลกระทบ ต่อประชาชนน้อยท่ีสุด วันที่ 5 กันยายน 2561 คณะท�ำงานศึกษาข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาความ ขัดแย้งในโครงการพัฒนาแหล่งน้�ำ ลงพื้นที่เพ่ือรับฟังความคิดเห็นทั้ง ผทู้ เี่ หน็ ดว้ ยและผทู้ ไ่ี มเ่ หน็ ดว้ ยกบั การกอ่ สรา้ งโครงการอา่ งเกบ็ นำ้� เหมอื งตะกวั่ ณ ศาลาบริเวณน้�ำตกโตนสะตอ บ้านเหมืองตะกั่ว ซึ่งมีการขึ้นป้ายท้ัง สนบั สนนุ และคดั คา้ นในบรเิ วณเดยี วกนั บรรยากาศการรบั ฟงั ในชว่ งแรกคอ่ นขา้ ง ตึงเครียด แต่ก็คลี่คลายลงเม่ือการพูดคุยและรับฟังด�ำเนินไปได้ระยะหนึ่ง จนนำ� ไปสู่ความรว่ มมอื ในการปลดท้งั ป้ายสนับสนุนและป้ายคดั คา้ นออก จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 75

ข้อเสนอ กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องค�ำนึงถึงเจตนารมณ์ ของการดำ� เนนิ โครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� รใิ นการแกป้ ญั หา ของประชาชน ซงึ่ ควรเปน็ ไปตามหลักการ ดงั นี้ 1. มีรูปแบบท่ีเหมาะสมกับรายละเอียดของภูมิประเทศและภูมิสังคม ของพื้นที่ 2. ไมม่ ีขอ้ พพิ าทเรอื่ งทดี่ ิน หรอื เกิดขอ้ ขดั แยง้ อ่นื ๆ ในชนุ ชน 3. ประชาชนในพน้ื ทตี่ อ้ งรว่ มกนั แกไ้ ขปญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ ใหแ้ ลว้ เสรจ็ กอ่ น 4. ตอ้ งไม่เกิดผลกระทบตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม 5. หน่วยงานท่ีรับผิดชอบต้องด�ำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการ รบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชน ปี 2548 โดยการประชุมชแ้ี จง ท�ำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมอบความ เหน็ ชอบท่จี ะให้ดำ� เนนิ กจิ กรรมดังกลา่ ว 6. ประชาชนตอ้ งมสี ว่ นรว่ มรบั ผลประโยชนจ์ ากการดำ� เนนิ โครงการ ตง้ั แตต่ น้ และเปน็ ผู้รว่ มรบั ประโยชน์จากการดำ� เนินโครงการ 7. หากพ้ืนที่ที่จะด�ำเนินโครงการอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย หรือป่าสงวนแห่งชาติ หน่วยงานท่ีรับผิดชอบโครงการต้อง ตรวจสอบและวเิ คราะห์ผลกระทบทีจ่ ะเกดิ ขน้ึ ดว้ ย 76 ศาสตร์พระราชา

การพัฒนาเพื่อสร้างความม่ันคง มั่งค่ัง และย่ังยืน ต้องมีทางเลือก มากกว่าหนึ่งทางเสมอ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 77

Young Creative Sharing (YCS) คนรนุ่ ใหม่ ไทยนิยม ย่งั ยืน “คนรุ่นใหม่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ กลุ่มคนที่พร้อมจะเปล่ียนแปลง แนวคิด และร่วมกันขับเคล่ือนงานของกระทรวงฯ โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ เกษตรกรมีชีวิตที่ดีขึ้น ภายใต้การขับเคล่ือนด้วยศาสตร์พระราชา” 78 ศาสตร์พระราชา

“คนรุ่นใหม่ ไทยนิยม” คือ นโยบายขับเคล่ือนบุคลากรของกระทรวงฯ ให้พร้อมรับทุกสถานการณ์ปัจจุบันและสถานการณ์ในอนาคตที่เปล่ียนแปลง ตลอดเวลา บุคลากรทุกคนของกระทรวงฯ ต้องมีศักยภาพและประสิทธิภาพ เป็นนักคิดสร้างสรรค์ (Creative Young Generation) มีทักษะความรู้ ในการปฏิบัติงานที่ชาญฉลาด หรือ “Smart Officer” พัฒนาตนเอง จนน�ำไปสู่ความเช่ียวชาญ ฉลาดคิด มีภาวะผู้น�ำ โดยไม่ลืมจิตวิญญาณ ความเป็นจิตอาสา รู้จักรับผิดชอบ และท�ำงานเป็นทีมได้ยอดเย่ียม นี่ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบที่เพ้อฝัน เพราะคุณสมบัติเหล่าน้ี สร้างได้ในตัวทุกคน การจดั อบรม “คนรนุ่ ใหม่ ไทยนยิ ม ยง่ั ยนื : Young Creative Sharing (YCS)” จึงถูกจัดข้ึนและอบรมไปแล้ว 2 รุ่น รุ่นละ 60 คน โดยมีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปน็ เจา้ ภาพ เปา้ หมายคอื เพอ่ื ใหข้ า้ ราชการของกระทรวงฯ ขบั เคลอ่ื นงานตาม นโยบายใหส้ ำ� เรจ็ วดั ผลได้ โดยทกุ คนตอ้ งลงพนื้ ทปี่ ฏบิ ตั งิ านจรงิ กบั เกษตรกร เรียนรู้วิถีชีวิต ท�ำความเข้าใจ และเข้าถึงปัญหาของเกษตรกรในทุกมิติ ฝึกทักษะวางแผน การแก้ปัญหาร่วมกับหน่วยงานในพื้นท่ีและเกษตรกร น้อมน�ำหลักการทรงงานตามแนวทางศาสตร์พระราชา ปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ให้เหมาะกับสภาพภูมิสังคม เพื่อให้ เกษตรกรมีความรู้ สามารถพ่ึงพาตนเอง พร้อมท้ังดูแลสมดุลของธรรมชาติ ได้อย่างดี จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 79

ททท. ท�ำทันที ลงพ้ืนท่ีปฏิบัติงานร่วมกับชาวบ้าน ภาคีเครือข่าย และหน่วยงานท้องถ่ิน นำ� โดย นายอ�ำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ปัญหาจ�ำนวน 5 เร่ือง ท่ีค้นพบคือ เกษตรกรไม่มีกรรมสิทธิ์ในท่ีดินท�ำกิน ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ (ดินเสื่อม หน้าดินถูกท�ำลาย ดินถล่ม เขาหัวโล้น น�้ำท่วม น�้ำแล้ง น�้ำเสีย ปัญหาหมอกควันและไฟป่า) ปัญหาหน้ีสินเกษตรกร ความเหล่ือมล�้ำในการพัฒนา ปัญหาสุขภาพ 80 ศาสตร์พระราชา

YCS ท้งั 2 รุน่ ไดท้ ำ� กจิ กรรม ณ บ้านแมข่ ม้ี ูก (บา้ นสองธาร) ตำ� บลบ้านทับ อ�ำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างต้นแบบการแก้ไขปัญหาด้วย ศาสตร์พระราชา โดยกิจกรรมคือ • สร้างความรู้ความเข้าใจให้เกษตรกร เพื่อให้ตระหนักถึงการเกษตร ท่ีไม่ท�ำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การอยู่อย่างพอเพียงตามทฤษฎี บนั ได 9 ขน้ั • รว่ มกบั เกษตรในการนำ� “โคก หนอง นา โมเดล” มาปรบั ใช้ เพอื่ เกบ็ กกั นำ�้ ท�ำฝายเพอ่ื ใหด้ ินมีความชุม่ ชน้ื ฯลฯ • เจรจากับสถาบนั การเงิน เพอื่ แกไ้ ขปัญหาหนส้ี ินของเกษตรกร แผนการด�ำเนินงานในอนาคต ขยายผลการอบรมโครงการ “คนรุ่นใหม่ ไทยนิยม ยั่งยืน” ตามแนวทาง ศาสตร์พระราชา โดยไม่จ�ำกัดอายุและต�ำแหน่ง หรือที่เข้าใจกันได้ง่าย ๆ ว่า คนรุ่นใหม่อยู่ท่ีใจ ไม่ใช่อายุ (Young At Heart) โดยเบ้ืองต้นก�ำหนดปีละ 1 รุ่น ซ่ึงรุ่นท่ี 3 กรมพัฒนาท่ีดินเป็นเจ้าภาพในการด�ำเนินการ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 81

เพมิ่ จำ� นวน เกษตรอาสา พฒั นากสกิ รรมไทยใหย้ งั่ ยนื แ ท บ ทุ ก พื้ น ท่ี ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ยั ง ค ง มี ป ั ญ ห า ด ้ า น ก า ร เ ก ษ ต ร เ กิ ด ข้ึ น ท้ังเรื่องดิน น�้ำ พืช การจัดการฟาร์ม รวมถึงตัวเกษตรกรท่ีอาจยังขาด ความเข้าใจด้านเกษตรกรรมท่ียั่งยืนและดีกว่าที่ท�ำอยู่ เรียกได้ว่าเป็น ปัญหาใหญ่ของประเทศ ท่ีผ่านมาภาครัฐยังมีข้อจ�ำกัดเร่ืองก�ำลังคน ซึ่งลงพื้นท่ีได้ยังไม่ท่ัวถึง ชาวบ้านในพ้ืนท่ีจึงเป็นก�ำลังหลักในการสื่อสาร เพื่อให้เกิดการประสานงาน ช่วยเหลือจากภาครัฐ และแก้ปัญหาได้ตรงจุด 82 ศาสตร์พระราชา

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีอาสาสมัครเกษตรท่ีเป็นก�ำลังส�ำคัญในการ ปฏิบัติงาน แต่ด้วยสภาพของปัญหาท่ีหลากหลาย และกระจายอยู่ในทุกจุด ของประเทศ จ�ำนวนอาสาสมัครท่ีมีจึงยังไม่เพียงพอ นโยบายการสร้าง และพัฒนาอาสาสมัครเกษตรจึงเป็นกุญแจส�ำคัญของเรื่องน้ี 100,169 1 Millon เบ้ืองต้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ ขับเคล่ือนนโยบายดังกล่าว ให้ครอบคลุมทุกปัญหาท่ีกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยรวบรวมก�ำลังคน และสร้างอาสาสมัครเพิ่มเติมจากหน่วยงานในสังกัด กรมพัฒนาที่ดิน กรมชลประทาน กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมหม่อนไหม กรมตรวจบัญชี สหกรณ์ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ส�ำนักงานการปฏิรูปท่ีดินเพื่อ เกษตรกรรม จ�ำนวนรวมกว่า 100,169 คน เพ่ือให้ครอบคลุมปัญหา ที่กระจายอยู่แทบทุกจุดในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายท่ีจะสร้างอาสา สมัครเกษตรให้ได้ไม่น้อยกว่า 1,000,000 คน ด้วยเครือข่ายการมี ส่วนร่วม ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชน และหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งหมดน้ันก็เพื่อความครอบคลุมในพื้นที่ สามารถแก้ปัญหาและพัฒนา ไปพร้อมกันได้ ที่ส�ำคัญคือต้องเห็นผลส�ำเร็จที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่ค�ำกล่าว สวยหรู จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 83

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ผลักดันให้เกิดการบูรณาการการท�ำงาน ร่วมกับกระทรวงอื่น ๆ เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติได้อย่าง ย่ังยืน ประกอบด้วย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง มหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 84 ศาสตร์พระราชา

เพราะการพัฒนาใด ๆ กต็ าม ตอ้ งใช้พลงั จากคนทีม่ ีใจ และพรอ้ มจะทำ� ใหส้ ง่ิ ต่าง ๆ ดีขึ้นกว่าเดมิ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 85

Climate Change การเปล่ียนแปลงของสภาพภูมอิ ากาศ กับภาคการเกษตรไทย การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) คือส่ิงที่ท่ัวโลก ก�ำลังเผชิญ เป็นปัญหาใหญ่ท่ีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องรวมพลังและร่วมมือกันทุกหน่วยงาน รวมถึงภาคประชาชนด้วย 86 ศาสตร์พระราชา

ส�ำหรับประเทศไทย การขับเคล่ือนยุทธศาสตร์การเปล่ียนแปลงของสภาพ ภูมิอากาศด้านการเกษตร อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการ นโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้แต่งต้ังคณะท�ำงานจาก ส�ำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ด�ำเนินนโยบายโดยน้อมน�ำศาสตร์ พระราชามาเป็นแนวทาง ก�ำหนดยุทธศาสตร์ปี 2550-2564 ไว้ 4 ข้อ คือ 1.รวบรวม พัฒนา สร้างฐานข้อมูลองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม เก่ียวกับเร่ืองสภาพภูมิอากาศ 2.เพิ่มความสามารถในการปรับตัว รองรับการเปล่ียนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ให้ภาคการเกษตร 3.สร้างการมีส่วนร่วม เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พัฒนาการเติบโตที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม 4.สร้างขีดความสามารถ ในการบริหารจัดการ รองรับการเปล่ียนแปลง ของสภาพภูมิอากาศท่ีส่งผลต่อการเกษตร จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 87

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ที่ 1 ก่อน โดยก�ำหนด กลุ่มเป้าหมาย (Target group) และพื้นที่เป้าหมาย (Target area) รวมถึง ลักษณะข้อมูลเพ่ือสร้างการรับรู้ได้ตรงจุด ซึ่งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศด้านการเกษตรได้เห็นชอบแผน ดังกล่าว โดยด�ำเนินงานร่วมกับสถาบันวิจัยเพ่ือการพัฒนาประเทศไทย สนับสนุนโดย องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของสหพันธ์สาธารณรัฐ เยอรมนี สิ่งที่ด�ำเนินงานไปเบื้องต้นแล้ว มีดังน้ี 1) ขับเคลื่อนการจัดท�ำโครงการและมาตรการเพ่ือสนับสนุนการลดภาวะ ก๊าซเรือนกระจก ส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (Sustainable Consumption and Production) ในภาคเกษตร ร่วมกับองค์การกองทุน สัตว์ป่าโลกสากล หรอื WWF (World Wild Fund for Nature) ภายใตก้ าร สนบั สนนุ ของกระทรวงสง่ิ แวดลอ้ ม คมุ้ ครองธรรมชาติ การกอ่ สรา้ ง และความ ปลอดภยั ทางปรมาณแู หง่ สหพนั ธส์ าธารณรฐั เยอรมนี (BMUB) ซงึ่ ดำ� เนนิ งาน วิจัยโดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย รวมท้ังจัดท�ำโครงการ สนับสนนุ ในพ้นื ที่นำ� รอ่ ง จงั หวดั นา่ น และจงั หวดั เชียงใหม่ รว่ มกับภาคเอกชน เพอ่ื ท�ำกิจกรรมเกษตรอินทรีย์ เชื่อมโยงตลาดของเกษตรกรกับภาคเอกชน และสร้างโมเดลธุรกิจหาแหล่งเงินทุน 88 ศาสตร์พระราชา

2) จัดท�ำกรอบการเจรจาส�ำหรับภาคเกษตร เพ่ือใช้ในการประชุมภายใต้ กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change (UNFCCC) 3) จัดท�ำวีดิทัศน์ส�ำหรับใช้ประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักและรับมือ การเปล่ียนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยภาคการเกษตรจะมีส่วนช่วย ลดปัญหาในแนวทางท่ีเหมาะสม 4) ประชุมคณะท�ำงานเฉพาะกิจของหน่วยงาน คือ กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข มหาวิทยาลัย ฯลฯ ขับเคลื่อน แผนจัดการปัญหาฝุ่นละอองท่ีเกิดจากเกษตรกรรมในประเทศไทย 5) วิจัยและพัฒนา เพื่อก�ำหนดแนวทางเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงสภาพ ภูมิอากาศในภาคเกษตรของหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส นั บ ส นุ น ก า ร ท� ำ ง า น ร ่ ว ม กั บ ส� ำ นั ก ง า น พั ฒ น า ก า ร วิ จั ย ก า ร เ ก ษ ต ร (องค์การมหาชน) จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 89

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก�ำหนดแนวทางด�ำเนินการไว้ ดังน้ี 1 จัดล�ำดับความส�ำคัญของภารกิจ ที่ต้องด�ำเนินการก่อน-หลังในแต่ละด้าน (พืช สัตว์ ประมง) 2 สร้างบุคลากรที่มีองค์ความรู้ในเรื่องที่ต้องการ เพื่อน�ำไปถ่ายทอดให้เกษตรกร 3 ส�ำรวจความต้องการและจัดหาเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม จัดให้มีผู้น�ำในการใช้เทคโนโลยี 4 ส�ำรวจและส่งเสริมเกษตรกรผู้น�ำ เตรียมพร้อมในการสร้างเกษตรกรผู้น�ำ 5 จัดตั้งคณะท�ำงานเพื่อรวบรวมข้อมูล และประมวลผลการด�ำเนินงาน 90 ศาสตร์พระราชา

สภาพภูมอิ ากาศท่ีเปลยี่ นแปลง สง่ ผลกระทบต่อทุกคน ทุกฝ่ายจึงตอ้ ง ร่วมมอื กัน จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 91

ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ าร เทคโนโลยอี จั ฉรยิ ะ (STOC) เชอ่ื มโยงทุกขอ้ มลู การเกษตร อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เทคโนโลยีล�้ำสมัยขึ้นจนสามารถบริหารจัดการส่ิงต่าง ๆ แทนมนุษย์ได้ ซึ่งเป็นส่ิงที่ควรน�ำมาใช้กับภาคการเกษตร เพราะในอดีตการบริหาร จัดการทรัพยากรด้านการเกษตรของไทยยังขาดความเป็น เอกภาพ การเช่ือมโยงข้อมูลกระจัดกระจายไปตามหน่วยงานต่าง ๆ การด�ำเนินงานบางอย่างจึงล่าช้าและไม่ทันต่อเหตุการณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงมอบหมายให้กรมชลประทานจัดต้ังและ พัฒนา “ศูนย์ปฏิบัติการเทคโนโลยีอัจฉริยะ” (SMART TECHNOLOGY OPERATION CENTER: STOC) เพื่อบูรณาการข้อมูลการเกษตรท่ีเกี่ยวข้อง จากทุกหน่วยงาน โดยเปิดศูนย์ฯ ไปเม่ือวันที่ 9 เมษายน 2561 92 ศาสตร์พระราชา

บทบาทของ STOC 1. เปน็ ศนู ยก์ ลางดา้ นนวตั กรรม เทคโนโลยสี ารสนเทศ และเปน็ คลงั ขอ้ มูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2. เปน็ ศนู ยก์ ลางสำ� หรบั ตดิ ตาม รวบรวม วเิ คราะห์ บรหิ าร จัดการ และคาดการณ์สถานการณ์การด�ำเนินภารกิจตาม นโยบายตา่ ง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 3. สนับสนุนข้อมูลสถานการณ์และความเดือดร้อนด้าน การเกษตร เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้บริหารและ หน่วยงานที่เก่ียวข้องไดอ้ ยา่ งแม่นยำ� ทนั ตอ่ สถานการณ์ 4. เปน็ ศนู ยก์ ลางบญั ชาการ บรหิ ารจดั การ เฝา้ ระวงั ตดิ ตาม สถานการณ์ ประชาสัมพันธ์ และแจ้งเตือนภัยให้หน่วยงาน ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งในภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 93

ส่ิงที่ด�ำเนนิ งานไปแล้ว เช่ือมโยงข้อมูลจากทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เก่ียวข้องกับการพัฒนาการเกษตร และบริหารจัดการน้�ำ แบบ Real Time ใช้ติดตาม วิเคราะห์ และคาดการณส์ ถานการณ์เพือ่ สัง่ การ ไดแ้ มน่ ยำ� สอ่ื สารดว้ ยเทคโนโลยที นั สมยั บรู ณาการการทำ� งาน 10 หนว่ ยงาน คือ กรมชลประทาน กรมพัฒนาท่ีดิน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ส�ำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพ่ือเกษตรกรรม กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบญั ชสี หกรณ์ กรมหมอ่ นไหม สำ� นกั งานพฒั นาการวจิ ยั การเกษตร สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และสำ� นักงานพิพิธภัณฑ์ เกษตรเฉลิมพระเกยี รตพิ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั (องค์การมหาชน) ประโยชนท์ ่เี กดิ ขึน้ : 1. เชอ่ื มโยงข้อมูล ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวข้อง 2. เป็นขอ้ มลู ใหผ้ ้บู ริหาร ในการกำ� กบั ตดิ ตามสถานการณ์ และการตดั สินใจ 3. เชือ่ มโยงข้อมลู เครอื ขา่ ย ของหน่วยงานภมู ภิ าคและการประชุมวิดโี อคอนเฟอเรนซ์ 4. ตดิ ตามความกา้ วหน้าของการท�ำงาน ไดม้ ปี ระสทิ ธิภาพมากขึน้ 5. มเี วบ็ ไซต์และแอปพลิเคชัน สำ� หรับสบื ค้นขอ้ มูลด้านการเกษตร 94 ศาสตร์พระราชา

ท้ังหมดน้ีคือการด�ำเนินงานในระยะเริ่มต้น ซึ่งในระยะยาวได้มอบหมายให้ ศนู ยเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้รวบรวมข้อมูลแบบบูรณาการ โดยมีข้อมูลจากหน่วยงานภายนอก ทเี่ กย่ี วขอ้ งดา้ นการเกษตร และยังต้องพัฒนาเว็บไซต์รวมถึงแอปพลิเคชัน ใหด้ ีย่งิ ขน้ึ ต่อไป ภาคการเกษตรต้องกา้ วหน้า ดว้ ยเทคโนโลยี ท่ีมปี ระสิทธิภาพ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 95

องค์กรเขม้ แขง็ เศรษฐกจิ “ม่งั คงั่ ” 96 ศาสตร์พระราชา