คู่มือสำหรับเกษตรกร-การปลูกกัญชาทางการแพทย์แบบเกษตรอินทรีย์

คู่มือสำ หรับเกษตรกร ก รปลูกกญั ช ท งก รแพทย์ แบบเกษตรอนิ ทรีย์ เสนอต่อ สำ นักง นคณะกรรมก รอ ห รและย กระทรวงส ธ รณสขุ โดย มลู นิธสิ ยใยแผน่ ดนิ 30 สิงห คม 2562 หนา้ 1 จาก 84























































เทคนิคพเิ ศษ • ทุกครงัC ทมี่ กี ารกลับกองใหใ้ ชจ้ อบขุดดา้ นบนกอง (ทำาเหมือนปล่องภูเขาไฟ) เสร็จ การเปลย่ี นแปลง แล้วให้นำาดนิ ท่ีเป็นก้อนทยี่ ังทบุ ไม่ละเอียดใสล่ งไป เพอื่ ใหเ้ ชCือจลุ นิ ทรยี ข์ ยาย ของจุลินทรียด์ นิ เขา้ ไปในก้อนดินไดง้ ่ายขึCน (เนอื่ งจากความชืนC และร้อนภายในกองดนิ จะระเหยสู่ ดา้ นบนของกอง) การนาำ ไปใช้ • เม่อื ถึงวนั ท่ี 5 วันสดุ ท้าย จะต้องหยดุ กระบวนการหมัก โดยการเกลี่ยให้กองปุย๋ แผ่ กระจายออกเป็นลกู คลนื่ ผึง่ ใหแ้ ห้งในที่ร่ม • จากนนัC บรรจุในกระสอบพลาสติก สามารถเก็บไวใ้ ช้ไดน้ านถงึ 6 เดอื น • ดนิ ที่นำามาใช้ควรมีเปอรเ์ ซน็ ตด์ นิ เหนยี วมาก (มี CEC สงู ) เพ่ือให้สามารถจบั ธาตุ อาหารไดม้ าก ในกรณที ่ีดนิ มกี ้อนใหญ่ ควรจะทบุ ใหม้ ีขนาดเลก็ เทา่ นิCวก้อย เพราะ การทีด่ ินมีก้อนใหญจ่ ุลินทรยี ์จะไมส่ ามารถเข้าไปอาศยั อยู่ได้ ก่อนนำาดินมาใช้ ควรจะตากดนิ กลางแดดก่อน เพ่อื ทาำ ลายจลุ ินทรีย์ชนดิ อ่ืนท่ีไมต่ ้องการซึง่ ตดิ มา กับดิน ดินทีน่ าำ มาใช้ควรเปน็ ดินบรสิ ทุ ธิ์ โดยเป็นดนิ ชัCนล่าง ลกึ ประมาณ 60 ซม.จากผิวดิน หรอื เปน็ ดินชCันล่างบรเิ วณทีไ่ ม่มีรากพชื เพราะดนิ บริเวณนีจC ะมี จลุ ินทรียอ์ าศยั อยนู่ ้อย • กรณที ่ไี ม่มีนำาC ตาลโมลาส เราอาจใช้แป้งมันสาำ ปะหลงั แทนได้ โดยต้มแปง้ ใหเ้ ป็น กาวแลว้ นำามาใช้เหมอื นนCำาตาล การใชแ้ ปง้ หรือนาำC ตาลนีCก็เพอ่ื เปน็ อาหารเบือC งต้น ใหก้ ับจลุ นิ ทรยี ์ หลงั จากทีจ่ ุลนิ ทรียไ์ ด้อาหารจากนCาำ ตาลหรือแป้งแล้ว จลุ ินทรียจ์ ึง จะใชร้ ำาทีใ่ ส่ลงไปเป็นอาหาร วนั ท่ี 1 เมอื่ ทาำ จุลนิ ทรยี เ์ สรจ็ ใชก้ ระสอบป่านคลมุ กองดิน วนั ที่ 2 กระสอบป่านท่ีใชค้ ลุมกองดนิ จะมคี วามชืCนเพราะนำาC และความรอ้ นภายในกอง จะระเหยออกมา รอบกองดนิ บรเิ วณท่ชี นืC จะมีเชอCื ราขึCนปกคลมุ ผิวด้านนอก ของกองปยุ๋ จะแขง็ เหมอื นขนมปงั แต่เมอื่ ใชม้ อื ลว้ งลงในกองดนิ ดนิ จะรว่ นซยุ และมีความร้อน ภายในกองดนิ บรเิ วณทเ่ี ชCือราเข้าไปถึง จะมีใยของเชอCื รา หอ้ ยอยู่ กลนิ่ ของกองดนิ จะมกี ล่ินใกลเ้ คยี งกบั หัวเชCือจุลนิ ทรีย์ท่เี ราใสล่ งไป วนั ที่ 3 ภายในกองปยุ๋ มเี ชCอื รามากขนCึ และใยของเชCือราท่ีหอ้ ยลงกม็ ีจำานวนมากขึCน ดนิ ท่ีเป็นก้อนจะรว่ นมากขึCน และมีราเข้าไปได้มากขึCน กอ้ นดนิ จะมคี วามตา่ ง ไปจากดินปกติ ดินก้อนใหญ่ เริม่ มนี อ้ ยลง วนั ที่ 4 บนกระสอบทีค่ ลุมจะเปียก แสดงว่านาำC ในกองปุย๋ ระเหยออกมา ด้านบนกอง ป๋ยุ จะร้อนกวา่ ดา้ นลา่ ง บนปลอ่ งภเู ขาไฟจะมเี ชCือราขCึนมากกว่าบรเิ วณอ่ืนๆ ดนิ รอบกองจะมีการเกาะตัวกันเป็นกอ้ น เชCือราจะจะเข้าถึงชัCนในสุดของกอง กลนิ่ ยงั เหมอื นหวั เชCอื ทใี่ สล่ งไป อณุ หภูมภิ ายในกองประมาณ 50 °C (ควร อยรู่ ะหว่าง 50 - 55 °C ) วันที่ 5 ให้แผ่กองออกบางๆ เป็นลกู คล่นื ผงึ่ ไวใ้ นร่มให้แหง้ สามารถใช้พดั ลมเป่าได้ แตต่ อ้ งไมน่ าำ กองป๋ยุ จุลนิ ทรียด์ นิ ไปตากแดด เพราะเชCือจุลินทรียท์ ี่ได้จะตาย (สาเหตทุ มี่ ีการหยุดเชอืC ในวันที่ 5 เพราะจะเปน็ ระยะเวลาที่ได้เชืCอจลุ นิ ทรยี ม์ ี การขยายตัวมากทีส่ ดุ ) ใชแ้ ทนหัวเชอCื จุลินทรยี ์ในการทาำ ปุ๋ยหมกั แบบตา่ งๆ แตจ่ ะตอ้ งใชใ้ นปรมิ าณที่มากกว่า หวั เชอCื จุลทรยี ์ เพราะมคี วามเข้มขน้ ของจุลนิ ทรีย์นอ้ ยกว่า  ในกรณีท่ีต้องการทำาปยุ๋ หมักในแปลงปลูก หรือป้องกันกาำ จดั ศัตรูพืชท่ีอยใู่ นดนิ ให้ใส่ จุลินทรยี ด์ นิ ลงไปในแปลง จากนนCั ก็ไถกลบพรอ้ มกับเศษซากพชื หรืออินทรยี ว์ ัตถุอ่ืนๆ เม่ืออินทรยี ว์ ตั ถุยอ่ ยสลายดแี ลว้ ก็สามารถปลูกพชื ได้ หน้า 29 จาก 84