ÖêĉÖćÖĊāćüĂúđú÷ïŤ Ăú Āšćöหà้าĚĂČ ม×ซć้อื ÷-ขาย จดั ทำ� ÝโดéĆ ยìćĞ ēé÷ การกฬี าแหง่ ปÖรĂะÜเทüĉßศćไทÖćยøÖĊāć ÖćøÖāĊ ćĒพĀ.ศÜŠ .ð2ø5ą6đì3ýĕì÷ www.satc.oór.týhǰ
đ ì Ö Ē đ Ē ü Ö Ö
ÙćĞ îćĞ ĶกÖตêกิ าÖĉ กćาÖรāĊ กćฬี üาĂวúอđลúเ÷ลïŤยบ์Ăอúลķเǰลđúม่ öŠ นîี้ แǰĊĚ ÖปćลøแÖลāĊ ะćเรĒยี ĀบÜŠ เðรยี øงąโđดìยýเĕรìอื ÷อǰาĕกéาÝš ศéĆ โìทćĞช×าîċĚญđฤóทĂęČ ธิ์ đวñง÷ษĒ์ปóรøะĔŠ เĀสĒšริฐÖñŠ คìšĎ ณÿĊę îะกĔÝรĕรéมøš กïĆ าÙรบüćรöิหøาǰšĎ รÙสüหćöพđัน×ธćš ์วĔÝอìลëęĊเลÖĎ ยê์บĂš อÜลǰêนúาĂนéาÝชîาđตðิ îŨแĀละîÜĆ เÿลĂČ ขĂาćšธÜิกĂาÜĉ ร ìสหćÜพÖันćธø์วýอċÖลþเลćยǰ์บēéอ÷ลแĕéหšø่งĆïทÙวปีüเćอöเซøŠüียöรöว่ มČĂกÝับćÖนǰาđยøทČĂรĂงćศÖักćดý์ิ เēจìรßิญćพâงùศì์ คíณĉĝǰะüกÜþรรŤðมøกąาđรÿฝøา่ ĉåยǰ Öผøตู้ øัดöสÖินćสøหïพøĀันĉ ธćø์วÿอĀลเóลîĆยíบ์ üŤ อĂลúนđúาน÷าïŤ ชĂาúตîิ แćลîะćßปćรêะĉǰธĒาúนąคøณĂÜะðกøรąรíมćกîาÿรĀฝó่ายîĆ ผíู้ตüŤ ดัĂสúนิđúส÷หïŤ พĂันúธ์ ĒวอĀลÜŠ เđลĂยđßบ์ ÷Ċอǰลîแćห÷ง่ ìทøวÜปี ýเอÖĆ เéซǰĉĝยี đÝผøแู้ ĉâปลóแÜลýะǰŤ เðรøยี ąบíเรćยี îงòทćś งั้ ÷สñอšĎêงทéĆ า่ÿนĉîนÿเี้ ปĀน็óบîĆ คุ íคŤüลĂาúกđรúท÷ที่ŤïรĂงúคĒณุ ĀคŠÜา่ đขĂอđงßสĊ÷มǰาĒคúมąวÙอèลąเลÖยø์บøอöลÖแćหøò่งปść÷ระñเĎšêทĆéศÿไĉîทÿยĀไóดĆî้ใชí้คŤüวĂาúมđรúู้แ÷ลŤïะĂปúรîะćสîบćกßาćรêณĉǰ đ์ตð่าŨîงñๆĎšĒแðปúล ĒแúลąะđเรøียĊ÷บïเđรøียĊ÷งÜกǰ ตĕéิกšÖาøกčèารćแöขĂ่งïขêันšîทÞี่มïีกĆïารĔเĀปšÝลĆéี่ยóนĉöแóปŤđลóงČęĂใหđñม÷่ใĒหó้ทันøŠĔสĀมšĒัยÖเŠñพĎšìื่อęĊÿเผîยĔแÝพÖรĊā่ใćห้ üผĂู้ฝúึกđสúอ÷ŤïนĂนúักกีฬา ผู้ตัดสินและผู้ที่สนใจในกีฬาวอลเลย์บอลได้ศึกษาหาความรู้ เพอื่ พัฒนÖาćกøีฬÖาĊāวćอĒลĀเลŠÜยð์บøอąลđìขอýงĕìปร÷ะǰ×เทĂศ×ไĂทïยÙใหèč ท้ ǰัดîเćท÷ยี ÿมöกóับøนǰĔาßนïšาอćÜา÷รยćปÜǰรîะćเ÷ทÖศÿöćÙö Ö ĊāćüĂúกđาúร÷กŤïฬี ĂาแúหĒง่ĀปŠÜรðะøเทąศđìไทýยĕขìอ÷ขǰอĒบúคąณุ ïčÙเรúือćอÖาøกìาศĊęöโĊÿทŠüชîาญđÖฤĊę÷ทüธ×ิ์ šĂวงÜษìป์ ĊęÿรîะĆïเสÿรîิฐčîแĔลĀะš ÖนêายÖĉ ทćüรงĂศúกั đúด์ิ÷เจïŤ รĂญิ úพÞงïศïĆ ์ แîลđĚĊ ะðผîŨ ทู้ ìเ่ี กîęĊ ยี่ ÷ĉ วöขĒอ้ óงทøŠĀสี่ นúบัć÷สĕนüนุ ǰš èใหǰก้ ēĂฬี ÖาวćอÿลîเĊĚลยบ์ อล เปน็ ทน่ี ยิ มและ แพรห่ ลายไว้ ณ โอกาสนี้ ÖćøÖāĊ ćĒĀŠÜðøąđìýĕì÷ǰ óýǰ กองวิชาการกีฬา การกฬี าแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2563
สารบัญ หนห้านา้ ลกั ษณะของการเล่น (GAME CHARACTERISTIC) ลกั ษหณมะวดขทอี่ ง1กกาารแเลข่งนขนั(G(GAAMMEE)CHARACTERISTIC) หมวบดททท่ี ่ี1 กาสร่ิงอแาํ ขน่งวขยคนั วา(มGสAะดMวกEแ)ล ะอุปกรณ์ (FACILITIES AND EQUIPMENT) 1 บททก่ี ต1ิกาสขงิ่้ออทำ� ่ี น1.วยพคืน้ วทาเ่ี มล่นสละูกด(วPกLแAลYะINอGปุ กAรRณEA์ ()FACILITIES AND EQUIPMENT) 1 กติกาข้อท ี่ 1. พ้ืน1.ท1 เี่ ล่นขลนกู าด(สPนLาAมY(DINIMGENASRIOENAS)) 1 2.11111.....11111ต45231.....า 23456ขขอเเพ่าขสนุณยืน้ ต้นแาสหแลใอพเเแดขสนนะลสุณภ้ืนตส้นเสางสะหสมูแนใสมานพลนนภิขวา(ะาูมานื้สาTงึ่(มพมมPงิตนท(E้ืนTLา((า(Mตี่LP(ขDEมทALLI่าา่M่ีตIPGY(IยAMงNLา่ EPIHงYN(IEEEๆNRNTๆIGRSNNIEAEN(A(SGTTSZZOSGTIUOOOASUO)UNNNURNNRRNERDETTEFESSF)HH)APS )AA ECOECNACESECDNTO)) OSDAU)URRAETRRA)TES))A S) กติกาข้อท ่ี 1.26. 1แสงคสววาา่ มงสูง(LขอIGงตHาTขI่าNยG(H) EIGHT OF THE NET) กติกาขอ้ ท ี่ 2. ตา2ข.2่ายแลโคะรเงสสารข้างงึ (ตSาTขRUา่ CยT(UNRET) AND POSTS) 4 2.21. 3ควาแมถสบูงขขา้ องง(SตIาDขE่าBยAN(HDESI)GHT OF THE NET) 2.22. 4โครงเสสารอา้ างกา(ศS(TARNUTCENTNUAREE)) กติกกาตขกิ อ้ าทข้อ ่ี ท 3 ่ี .3 .ล2222....ูก333ล226543.....บกู 32615บอเแอเสสอถลปุ ลาาบกอข((มเอรรBสขรBูงึาปะุปาAณาา้ตบกตAแกขงLรบาบาร์เึงLฐLสขณศกตบ(LาSSาารา่ข์นเSรสข)(IิมยอDขAใ)่ารงอชอย ิมNE(ลล้งPื่นอ(ูกTลPูกBO่ืนบูOกEบๆAอบSๆSNอNลTTอ(ลN(AลSAD(S5UA)DD)S(ล NSEDD)ูกT I)IFI ATT(OFNIIIOROVDMNNEAAI-RATBLDYLAESLOEQ)LFQUSBIUYPAMSIPLTELMENSME)T)N) T) 5 บทท่ี 2 ผู้เ3ข.้า1ร่ วมมกาาตรรแขฐ่งาขนันข(อPงAลRูกTบICอIลPA(SNTTAS)NDARDS) กตกิ าข้อท ี่ 4.3.ท2มี ร(Tปู EแAบMบSข)องลูกบอล (UNIFORMITY OF BALLS) 3.43. 1ระบบสก่วานรปใชระ้ลกกู อบขออลงท5ีมล(ูกTE(AFMIVEC-OBMAPLOLSISTYIOSNT)EM) บทท่ี 2 ผเู้ ขา้ รว่ ม4ก.2ารแข่งตขาํ แนั หน(P่งAที่อRยTขู่ IอCงทIPีมA(NLOTCSA)T ION OF THE TEAM) 7 กตกิ าขอ้ ท ่ี 4. ทมี4.3(TEAMเครSื่อ)ง แตง่ กาย (EQUIPMENT) 7 4.41. 4สว่ นปกราะรเกปอลบี่ยนขเคอรง่ือทงมีแต(่งกTาEยA(CMHACNOGME POOF ESQITUIOIPNM)E NT) 4.2 ตำ� แหนง่ ทอ่ี ยขู่ องทมี (LOCATION OF THE TEAM)
4.3 เครือ่ งแต่งกาย (EQUIPMENT) 10 4.4การเปลี่ยนเครอ่ื งแตง่ กาย (CHANGE OF EQUIPMENT) 13 4.5 สงิ่ ท่ีหา้ มสวมใส่ (FORBIDDEN OBJECTS) 13 กตกิ าข้อท ่ี 5. ผู้น�ำของทมี (TEAM LEADERS) 15 5.1 หัวหนา้ ทมี (CAPTAIN) 5.2 ผฝู้ กึ สอน (COACH) 19 5.3 ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน (ASSISTANT COACH) 19 บทท่ี 3 รูปแบบของการแข่งขัน (PLAYING FORMAT) กตกิ าขอ้ ท ี่ 6. การไดค้ ะแนนการชนะในแตล่ ะเซต และในแต่ละนัด (TO SCORE A POINT, TO WIN A SET AND THE MATCH) 6.1 การไดค้ ะแนน (TO SCORE A POINT) 6.2 การชนะในแตล่ ะเซต (TO WIN A SET) 6.3 การชนะในแต่ละนัด (TO WIN THE MATCH) 6.4 ทมี ท่ผี ดิ ระเบยี บการแข่งขันและไมพ่ ร้อมจะแข่งขนั (DEFAULT AND INCOMPLETE TEAM) กตกิ าขอ้ ท ่ี 7. โครงสร้างของการแข่งขัน (STRUCTURE OF PLAY) 7.1 การเส่ยี ง (THE TOSS) 7.2 การอบอุ่นรา่ งกาย (WARM-UP SESSION) 7.3 ตำ� แหนง่ เร่มิ ตน้ ของทีม (TEAM STARTING LINE-UP) 7.4 ตำ� แหน่ง (POSITION) 7.5 การผดิ ต�ำแหนง่ (POSITION FAULT) 7.6 การหมุนตำ� แหน่ง (ROTATION) 7.7 การหมุนตำ� แหนง่ ผดิ (ROTATION FAULT) บทท่ี 4 ลักษณะของการเล่น (PLAYING ACTION) กติกาขอ้ ท ี่ 8. รปู แบบตา่ งๆของการเล่น (STATES OF PLAY) 8.1 ลูกที่อยูใ่ นการเล่น (BALL IN PLAY) 8.2 ลูกทไ่ี ม่ได้อยูใ่ นการเลน่ “ลกู ตาย” (BALL OUT OF PLAY)
8.3 ลกู ดี (BALL IN) 20 8.4 ลูกบอลออกนอกสนาม (BALL OUT) 21 กติกาข้อท ่ี 9. การเล่นลูกบอล (PLAYING THE BALL) 22 9.1 การถูกลูกบอลของทีม (TEAM HITS) 24 9.2 ลกั ษณะของการถูกลกู บอล (CHARACTERISTICS OF THE HIT) 9.3 การท�ำผิดกตกิ าในการเลน่ ลกู บอล (FAULTS IN PLAYING THE BALL) กตกิ าข้อท ่ี 10. ลูกบอลที่บริเวณตาข่าย (BALL AT THE NET) 10.1 การขา้ มตาขา่ ยของลูกบอล (BALL CROSSING THE NET) 10.2 ลูกบอลถูกตาขา่ ย (BALL TOUCHING THE NET) 10.3 ลูกบอลชนตาขา่ ย (BALL IN THE NET) กติกาข้อท ี่ 11. ผู้เล่นทบ่ี รเิ วณตาข่าย (PLAYER AT THE NET) 11.1 การลำ้� เหนอื ตาข่าย (REACHING BEYOND THE NET) 11.2 การลำ�้ ใตต้ าขา่ ย (PENETRATION UNDER THE NET) 11.3 การถูกตาขา่ ย (CONTACT WITH THE NET) 11.4 ผเู้ ลน่ ทำ� ผิดกตกิ าทบ่ี รเิ วณตาข่าย (PLAYER’S FAULTS AT THE NET) กติกาข้อท ่ี 12. การเสริ ฟ์ (SERVICE) 12.1 การเสิรฟ์ ครัง้ แรกในแตล่ ะเซต (FIRST SERVICE IN A SET) 12.2 ลำ� ดบั การเสริ ฟ์ (SERVICE ORDER) 12.3 การอนญุ าตใหท้ �ำการเสิร์ฟ (AUTHORIZATION OF THE SERVICE) 12.4 การปฏบิ ตั ิในการเสริ ์ฟ (EXECUTION OF THE SERVICE) 12.5 การกำ� บัง (SCREENING)
12.6 การท�ำผดิ ขณะทำ� การเสริ ์ฟ 26 (FAULTS MADE DURING THE SERVICE) 28 12.7 การเสิรฟ์ ทผ่ี ดิ กติกาและการผิดต�ำแหนง่ (SERVICE FAULTS AND POSITIONAL FAULTS) 30 กตกิ าขอ้ ท ี่ 13. การรุก (ATTACK HIT) 30 13.1 ลักษณะของการรุก (CHARISTERISTIC OF THE ATTACK HIT) 13.2 ข้อจำ� กัดของการรกุ (RESTRICTIONS OF THE ATTACK HIT) 13.3 การรุกทผ่ี ิดกตกิ า (FAULTS OF THE ATTACK HIT) กตกิ าขอ้ ท ่ี 14. การสกดั กน้ั (BLOCK) 14.1 การสกัดกน้ั (BLOCKING) 14.2 การถูกลูกบอลในการสกดั ก้นั (BLOCK CONTACT) 14.3 การสกัดกนั้ ในแดนของฝา่ ยตรงข้าม (BLOCKING WITHIN THE OPPONENT’S SPACE) 14.4 การสกดั กัน้ และการถูกลูกบอลของทีม (BLOCK AND TEAM HITS) 14.5 การสกัดกน้ั ลูกเสิร์ฟ (BLOCKING THE SERVICE) 14.6 การสกดั ก้ันทผ่ี ดิ กตกิ า (BLOCKING FAULTS) บทที่ 5 การหยุดการเล่น การถ่วงเวลา และการหยุดต่างๆ (INTERRUPTIONS, DELAYS AND INTERVAL) กติกาข้อท ี่ 15. การหยุดการเล่น (INTERRUPTIONS) 15.1 จำ� นวนครัง้ ของการขอหยดุ การเล่นตามกตกิ า (NUMBER OF REGULAR GAME INTERRUPTIONS) 15.2 ลำ� ดบั ของการขอหยุดการเล่น (SEQUENCE OF REGULAR GAME INTERRUPTION
15.3 การขอหยุดการเล่นตามกติกา 34 (REQUEST FOR REGULAR GAME INTERRUPTIONS) 35 15.4 เวลานอกและเวลานอกทางเทคนคิ (TIME-OUTS AND TECHNICAL TIME-OUTS) 15.5 การเปลี่ยนตัว (SUBSTITUTION) 15.6 ขอ้ จำ� กัดของการเปล่ยี นตัว (LIMITATION OF SUBSTITUTIONS) 15.7 การเปลีย่ นตัวทไ่ี ดร้ ับการยกเวน้ (EXCEPTIONAL SUBSTITUTION) 15.8 การเปลยี่ นตวั ผเู้ ลน่ ทถี่ กู ทำ� โทษใหอ้ อกจากการเลน่ หรอื ถกู ตัดสทิ ธิ์ออกจากการแขง่ ขนั เล่น (SUBSTITUTION FOR EXPULSION OR DISQUALIFICATION) 15.9 การเปล่ียนตวั ทผ่ี ิดกติกา (ILLEGAL SUBSTITUTION) 15.10 ขบวนการเปล่ียนตวั (SUBSTITUTION PROCEDURE) 15.11 การขออนญุ าตท่ีผิดระเบยี บ (IMPROPER REQUESTS) กตกิ าข้อท ่ี 16. การถว่ งเวลาการเล่น (GAME DELAYS) 16.1 ชนิดของการถ่วงเวลา (TYPES OF DELAYS) 16.2 การลงโทษในการถ่วงเวลา (DELAY SANCTIONS) กตกิ าขอ้ ท ี่ 17. การหยดุ การเล่นทไี่ ดร้ ับการยกเวน้ (EXCEPTIONAL GAME INTERRUPTIONS) 17.1 การบาดเจบ็ หรอื เจ็บปว่ ย (INJURY/ ILLNESS) 17.2 เหตขุ ัดข้องนอกเหนือกตกิ าการแข่งขนั (EXTERNAL INTERFERENCE) 17.3 เหตุขัดข้องทเี่ กิดขน้ึ เปน็ เวลายาวนาน (PROLONGED INTERRUPTIONS)
กตกิ าขอ้ ท ่ี 18. การหยุดพกั และการเปล่ียนแดน 36 (INTERVALS AND CHANGE OF COURTS) 37 18.1 การหยดุ พัก (INTERVALS) 37 18.2 การเปลย่ี นแดน (CHANGE OF COURTS) บทท่ี 6 ผเู้ ลน่ ตวั รับอิสระ (THE LIBERO PLAYER) 42 กติกาขอ้ ท ่ี 19. ผู้เล่นตัวรับอิสระ (THE LIBERO PLAYER) 42 19.1 การแตง่ ต้ังตัวรบั อสิ ระ 42 (DESIGNATIONNOF THE LIBERO) 19.2 เครอื่ งแต่งกาย (EQUIPMENT) 19.3 การเล่นทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับตวั รบั อิสระ (ACTIONS INVOLVING THE LIBERO) 19.4 การต้ังตวั รับอิสระใหม่ (RE-DESIGNATION OF A NEW LIBERO) 19.5 สรปุ (SUMMARY) บทท่ี 7 การปฏบิ ตั ิของผรู้ ่วมการแข่งขนั (PARTICIPANT’S CONDUCT) กติกาขอ้ ท ี่ 20. ขอ้ กำ� หนดเรอื่ งมารยาท (REQUIREMENTS OF CONDUCT) 20.1 ความมีนำ้� ใจนักกีฬา (SPORTMANLIKE CONDDUCT) 20.2 การเล่นทีบ่ ริสุทธย์ิ ตุ ธิ รรม (FAIR PLAY) กตกิ าข้อท ่ี 21. การผิดมารยาทและการลงโทษ (MISCONDUCT AND ITS SANCTIONS) 21.1 การผิดมารยาทเลก็ น้อย (MINOR MISCONDUCT) 21.2 การผิดมารยาททน่ี �ำไปสู่การลงโทษ (MISCONDUCT LEADING TO SANCTIONS) 21.3 ระดับการลงโทษ (SANCTION SCALE) 21.4 การท�ำโทษเรอื่ งการผิดมารยาท (APPLICATION OF MISCONDUCT SANCTIONS)
21.5 การผิดมารยาทก่อนเริม่ ต้นเซตและระหวา่ งเซต 46 (MISCONDUCT BEFORE AND BETWEEN SETS) 46 21.6 สรปุ เรื่องการผดิ มารยาท และการใช้บัตรลงโทษ 46 (SUMMARY OF MISCONDUCT AND CARDS 48 USED) 50 หมวดที่ 2 ผ้ตู ัดสนิ ความรับผิดชอบ และสัญญาณมอื ทีใ่ ช้อย่างเปน็ ทางการ 52 (THE REFEREES, THEIR RESPONSIBILITY AND OFFICIAL 53 HAND SIGNALS) บทท่ี 8 ผตู้ ัดสิน (REFEREES) กตกิ าขอ้ ท ี่ 22. คณะกรรมการตดั สนิ และการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี (REFEREEING CORPS AND PROCEDURES) 22.1 องค์ประกอบ (COMPOSITION) 22.2 วธิ กี ารปฏิบัตหิ นา้ ที่ (PROCEDURES) กติกาข้อท ี่ 23. ผตู้ ดั สนิ ที่ 1 (FIRST REFEREE) 23.1 ตำ� แหน่ง (LOCATION) 23.2 อ�ำนาจหนา้ ท่ี (AUTHORITY) 23.3 ความรบั ผดิ ชอบ (RESPONSIBILITIES) กตกิ าขอ้ ท ่ี 24. ผตู้ ัดสินที่ 2 (SECOND REFEREE) 24.1 ตำ� แหน่ง (LOCATION) 24.2 อ�ำนาจหน้าที่ (AUTHORITY) 24.3 ความรับผดิ ชอบ (RESPONSIBILITIES) กตกิ าขอ้ ท ่ี 25. ผูบ้ นั ทกึ (SCORER) 25.1 ตำ� แหนง่ (LOCATION) 25.2 ความรบั ผดิ ชอบ (RESPONSIBILITIES) กติกาขอ้ ท ่ี 26. ผู้ชว่ ยผู้บันทึก (ASSISTANT SCORER) 26.1 ตำ� แหน่ง (LOCATION) 26.2 ความรับผิดชอบ (RESPONSIBILITIES)
กติกาข้อท ี่ 27. ผู้กำ� กับเส้น (LINE JUDGES) 54 27.1 ตำ� แหน่ง (LOCATION) 55 27.2 ความรับผดิ ชอบ (RESPONSIBILITIES) 59 กตกิ าข้อท ี่ 28. สัญญาณท่ใี ช้อย่างเป็นทางการ (OFFICIAL SIGNALS) 60 28.1 สญั ญาณมอื ของผตู้ ดั สนิ (REFEREE’S HAND SIGNALS) 61 28.2 สัญญาณธงของผกู้ ำ� กบั เสน้ (LINEJUDGE’S FLAG 62 SIGNALS) 63 หมวดที่ 3 ภาพประกอบ (DIAGRAMS) 64 ภาพที่ 1a. พนื้ ทสี่ ำ� หรบั การแขง่ ขนั และพน้ื ที่ควบคมุ 65 (COMPETITION/CONTROL AREA) ภาพท่ี 1b. พ้ืนท่ีเล่นลูก (THE PLAYING AREA) 67 ภาพที่ 2 สนามแข่งขัน (THE PLAYING COURT) 67 ภาพท่ี 3 รูปแบบของตาขา่ ย (DESIGN OF THE NET) 68 ภาพท่ี 4 ตำ� แหนง่ ของผเู้ ล่น (POSITION OF PLAYERS) 69 ภาพท่ี 5 5a ลกู บอลข้ามแนวของตาขา่ ยไปยังแดนของทมี ตรงข้าม 69 (BALL CROSSING THE VERTICAL PLANE OF THE NET TO THE OPPONENT COURT) 5b ลกู บอลขา้ มแนวตั้งของตาข่ายไปยงั พน้ื ที่เลน่ ลกู ของทมี ตรงขา้ ม (BALL CROSSING THE VERTICAL PLANE OF THE NET TO THE OPPONENT FREE ZONE) ภาพที่ 6 การกำ� บังเป็นกลุม่ (COLLECTIVE SCREEN) ภาพที่ 7 การสกัดก้นั ทีส่ มบูรณ์ (COMPLETED BLOCK) ภาพที่ 8 การรกุ ของผ้เู ล่นแถวหลัง (BACK ROW PLAYER’ S ATTACK) ภาพท่ี 9 ระดับของการเตือน การลงโทษ และผลของการลงโทษ (WARNINGS AND SANCTIONS SCALES AND THEIR CONSEQUENCE) ภาพท่ี9a การเตือนการผิดมารยาท และการทำ� โทษ (MISCONDUCT WARNINGS AND SANCTION)
ภาพที่9b การเตอื นถ่วงเวลาและการทำ� โทษ 69 (DELAY WARNINGS AND SANCTION) 70 ภาพที่ 10 ตำ� แหน่งของคณะกรรมการตดั สนิ และผชู้ ว่ ย (LOCATION OF THE REFEREEING CORPS AND THEIR 71 ASSISTANTS) 78 ภาพที่ 11 สญั ญาณมอื ของผู้ตัดสนิ (REFEREE’ OFFICIAL HAND SIGNALS) 80 ภาพที่ 12 สญั ญาณธงของผู้ก�ำกบั เสน้ (LINE JUDGES’ OFFICIAL FLAG SIGNAL) คณะผู้จดั ท�ำ
ลกั ษณะของการเล่น (GAME CHARACTERISTIC) วอลเลยบ์ อลเป็นกีฬาท่ีเล่นโดยทีมสองทีม บนสนามที่แบ่งแดนดว้ ยตาข่าย ลกั ษณะของการเล่นอาจ แตกต่างกนั ไดต้ ามสภาพที่จาํ เป็น เพ่ือใหเ้ ล่นกนั ไดอ้ ยา่ งแพร่หลาย จุดมุ่งหมายของการเล่นก็คือ การส่งลูกบอลใหข้ า้ มตาข่ายไปลงบนพ้นื ในแดนของฝ่ ายตรงขา้ ม และ ป้องกนั ไมใ่ หฝ้ ่ ายตรงขา้ มส่งลูกบอลขา้ มตาข่าย มาตกบนพ้นื ในแดนของตน แตล่ ะทีมจะถูกลูกบอลได้ 3 คร้ังใน การส่งลูกบอลไปยงั แดนของฝ่ ายตรงขา้ ม (ยกเวน้ การถูกลูกบอลในการสกดั ก้นั ) การเล่นเร่ิมตน้ ดว้ ยการเสิร์ฟลูกบอล โดยผเู้ สิร์ฟส่งลูกบอลขา้ มตาข่ายไปยงั ฝ่ ายตรงขา้ ม การเล่นจะ ดาํ เนินไปจนกวา่ ลูกบอลจะตกลงบนพ้นื ในเขตสนามหรือนอกเขตสนาม หรือฝ่ ายไม่สามารถส่งลูกบอลกลบั ไป ยงั ฝ่ ายตรงขา้ มไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามกติกา การเล่นวอลเลยบ์ อลน้นั ทีมท่ีชนะการเล่นลูกจะได้ 1 คะแนน (Rally Point System) เม่ือทีมท่ีเป็ นฝ่ าย รับลูกเสิร์ฟชนะการเล่นลูก จะไดค้ ะแนน 1 คะแนน และไดส้ ิทธิทาํ การเสิร์ฟ ผเู้ ล่นทีมน้นั ตอ้ งหมุนตามเขม็ นาฬิกาไป 1 ตาํ แหน่ง
บทที่ 1 กติกากฬี าวอลเลยบ์ อล ส่ิงอาํ นวยความสะดวกและอุปกรณ์ (FACILITIES AND EQUIPMENTS) กตกิ าข้อที่ 1 พืน้ ทเี่ ล่นลูก (PLAYING AREA) พ้ืนท่ีเล่นลูกรวมถึงสนามแข่งขนั และเขตรอบสนาม ตอ้ งเป็นรูปส่ีเหล่ียมผนื ผา้ และ เหมือนกนั ทุกดา้ น (1.1/ ภาพที่ 1a/ 1b) 1.1 ขนาดสนาม (DIMENSION) (ภาพท่ี 2) สนามแขง่ ขนั เป็ นรูปส่ีเหล่ียมผนื ผา้ ขนาด 18 x 9 เมตร ลอ้ มรอบดว้ ยเขตรอบสนาม กวา้ งอยา่ งนอ้ ยท่ีสุด 3 เมตร ทุกดา้ น ที่วา่ งสาํ หรับเล่นลูก คือ ที่วา่ งเหนือพ้ืนที่เล่นลูก ซ่ึงไม่มีสิ่งใดกีดขวาง สูงข้ึนไปอยา่ ง นอ้ ยท่ีสุด 7 เมตรจากพ้ืนสนาม สําหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการแข่งขนั ท่ี เป็ นทางการ เขตรอบสนามต้องกว้าง 5 เมตรจากเส้นข้าง และ 6.5 เมตรจากเส้นหลงั . ทว่ี ่าง เหนือสนามสําหรับเล่นลกู ต้องสูงจากพืน้ สนามขึน้ ไปอย่างน้อย 12.50 เมตร 1.2 พืน้ สนาม (PLAYING SURFACE) 1.2.1 พ้ืนสนามตอ้ งเรียบ เป็ นพ้นื ราบและเหมือนกนั ท้งั สนาม ตอ้ งไม่เป็นอนั ตราย จนเป็นเหตุใหผ้ เู้ ล่นบาดเจบ็ และไมอ่ นุญาตใหแ้ ขง่ ขนั บนพ้ืนสนามท่ีขรุขระ หรือลื่น สําหรับการแข่งขนั ระดบั โลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการแข่งขนั ทเ่ี ป็ นทางการ อนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะพืน้ ผวิ สนามทเี่ ป็ นไม้ หรือพืน้ ผวิ สังเคราะห์เท่าน้ัน พืน้ ผวิ สนามอื่นใดต้องได้รับการรับรองจาก สหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติก่อน 1.2.2 สนามแข่งขนั ในร่ม พ้ืนสนามตอ้ งเป็ นสีสวา่ ง สําหรับการแข่งขนั ระดบั โลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการแข่งขนั ทเ่ี ป็ นทางการ เส้นสนามต้องเป็ นสีขาว ส่วนพืน้ ผวิ สนามแข่งขันและบริเวณเขตรอบสนามต้องเป็ นสีอ่ืน แตกต่างกนั ออกไป (1.1/ 1.3) 1
2 กตกิ ากฬี าวอลเลยบ์ อล 1.2.3 สนามแข่งขนั กลางแจง้ อนุญาตใหพ้ ้นื ผวิ สนามลาดเอียงได้ 5 มิลลิเมตร ต่อ 1 เมตร เพอ่ื การระบายน้าํ หา้ มใชข้ องแขง็ ทาํ เป็ นเส้นสนาม (1.3) 1.3 เส้นบนสนาม (LINES ON THE COURT) (ภาพที่ 2) 1.3.1 เส้นทุกเส้นกวา้ ง 5 เซนติเมตร เป็นสีสวา่ งแตกตา่ งจากสีของพ้นื ผวิ สนาม และสีของเส้นอื่นๆ (1.2.2) 1.3.2 เส้นเขตสนาม (Boundary line) เส้นขา้ ง 2 เส้น และเส้นหลงั 2 เส้นเป็นเส้น กาํ หนดเขตสนามแข่งขนั เส้นท้งั หมดน้ีตอ้ งอยภู่ ายในเขตของสนามแข่งขนั (1.1) 1.3.3 เส้นแบง่ แดน (Center line) ก่ึงกลางของเส้นแบง่ แดน จะแบ่งสนามแข่งขนั ออกเป็ น 2 ส่วนเทา่ ๆกนั ขนาด 9 x 9 เมตร อยา่ งไรก็ตามความกวา้ งของเส้น น้ีใหน้ บั เป็นเขตสนามของท้งั สองฝ่ ายเทา่ ๆกนั เส้นน้ีลากจากเส้นขา้ งดา้ น หน่ึงไปยงั เส้นขา้ งอีกดา้ นหน่ึง (ภาพที่ 2) 1.3.4 เส้นเขตรุก (Attack line) แต่ละแดนของสนาม จะมีเส้นเขตรุกซ่ึงริมสุดดา้ น นอกของเส้นน้ีจะลากห่างจากจุดก่ึงกลางของเส้นแบง่ แดน 3 เมตร เป็ น กาํ หนดของเขตรุก (1.3.3/1.4.1) สําหรับการแข่งขนั ระดบั โลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการแข่งขนั อย่างเป็ นทางการ เส้นเขตรุกจะถูกลากต่อออกไปจากเส้นข้าง ท้งั 2 เส้น เป็ นเส้นประ กว้าง 5 เซนติเมตร ยาวเส้นละ15 เซนติเมตร จํานวน 5 เส้น และเว้นช่องว่างระหว่างเส้นไว้ช่องละ 20 เซนติเมตร รวมความยาว ข้างละ 1.75 เมตร เส้นเขตกาํ หนดสําหรับผู้ฝึ กสอน(เป็ นเส้นประต่อจากเส้น เขตรุก ถึงเส้นหลงั ของสนาม ขนานและห่างจาก เส้นข้าง 1.75 เมตร โดย ประกอบด้วยเส้นยาว 15 เซนตเิ มตร ลากห่างกนั ช่วงละ 20เซนติเมตร เพื่อ เป็ นเคร่ืองหมายเขตกาํ หนดการทาํ หน้าท่ขี องผู้ฝึ กสอน(ภาพท2ี่ ) 1.4 เขตและพืน้ ทต่ี ่างๆ (ZONES AND AREAS) (ภาพท่ี 1b และภาพท่ี 2) 1.4.1 แดนหนา้ (Front zone) (19.3.1.4/23.3.2.3e, ภาพท่ี 2 ) แดนหนา้ ของแต่ละแดน จะถูกกาํ หนดจากก่ึงกลางของเส้นแบง่ แดน ไปจนถึงริมสุดดา้ นนอกของเส้นเขตรุก (1.3.3/1.3.4/19.3.1.4/23/3/2/3e) แดนหนา้ ถือเสมือนวา่ มีความยาวตอ่ จากเส้นขา้ งท้งั สองขา้ ง ไป จนถึงริมสุดของเขตรอบสนาม (1.1/1.3.2) 2
3 กตกิ ากฬี าวอลเลยบ์ อล 1.4.2 เขตเสิร์ฟ (Service zone) เขตเสิร์ฟมีพ้ืนท่ีกวา้ ง 9 เมตร อยเู่ ลยเส้นหลงั แต่ละเส้นออกไป เขตเสิร์ฟกาํ หนดโดยเส้นขนานส้นั ๆ 2 เส้น ยาวเส้นละ 15 เซนติเมตร เส้นท้งั สองน้ีจะตีห่างจากเส้นหลงั 20 เซนติเมตร เสมือนวา่ เป็นแนวต่อจาก เส้นขา้ ง และรวมอยใู่ นความกวา้ งของเขตเสิร์ฟดว้ ย (1.3.2/12/ ภาพท่ี 1b) ในแนวลึก เขตเสิร์ฟจะยาวออกไปจนถึงปลายสุดของเขตรอบสนาม (1.1) 1.4.3 เขตเปล่ียนตวั (Substitution zone) เขตเปล่ียนตวั กาํ หนดโดยแนวตอ่ ของเส้นรุกท้งั สองเส้นไปจนถึง โตะ๊ ผบู้ นั ทึก (1.3.4 15.6.1/ภาพท่ี 1b) 1.4.4 เขตเปลยี่ นตัวรับอสิ ระ (Libero Replacement Zone) เขตเปลย่ี นตัวรับอสิ ระเป็ นส่วนหน่ึงของเขตรอบสนามด้านเดยี วกบั ม้าน่ังของทมี กาํ หนดโดยเส้นทต่ี ่อจากเส้นเขตรุกถึงเส้นหลงั (19.3.2.7,/ ภาพที่ 1b) 1.4.5 พืน้ ทอี่ บอุ่นร่างกาย (Warm - up area) สําหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการแข่งขนั อย่างเป็ นทางการ พืน้ ทอี่ บอุ่นร่างกายขนาด 3 x 3 เมตร จะ อย่นู อกพืน้ ทเ่ี ล่นลูก มุมสนามด้านเดยี วกบั ม้านั่งของผู้เล่นท้งั สองทมี , (24.2.5/รูปที่ 1 a/1 b) 1.4.6 พืน้ ทลี่ งโทษ (Penalty area) พ้ืนที่ลงโทษแตล่ ะดา้ นมีขนาดประมาณ 1x1 เมตร ประกอบดว้ ยเกา้ อ้ี 2 ตวั ต้งั อยใู่ นพ้ืนท่ีควบคุม(control area) ท่ีห่างจากบริเวณเส้นหลงั แต่ละดา้ น โดยใชเ้ ส้นสีแดงขนาด 5 เซนติเมตร 1.5 อณุ หภูมิ (TEMPERATURE) อุณหภูมิข้นั ต่าํ สุดตอ้ งไมต่ ่าํ กวา่ 10 องศาเซลเซียส (50 องศาฟาเรนทไ์ ฮด์) สําหรับการแข่งขนั ระดับโลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและการแข่งขนั อย่าง เป็ นทางการ อุณหภูมิสูงสุดต้องไม่เกนิ 25 องศาเซลเซียส (77 องศาฟาเรนท์ไฮด์) และ อณุ หภูมติ าํ่ สุด ต้องไม่ต่ํากว่า 16 องศาเซลเซียส (61 องศาฟาเรนท์ไฮด์) 3
4 กติกากีฬาวอลเลย์บอล 1.6 แสงสว่าง (LIGHTING) สําหรับการแข่งขนั ระดับโลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการแข่งขนั อย่างเป็ นทางการ แสงสว่างบนพืน้ ทเี่ ล่นลกู ต้องมีความสว่าง 1000 – 1500 ลกั ซ์ โดยวัดท่ี ระดับความสูงจากพืน้ สนาม 1 เมตร กตกิ าข้อที่ 2 ตาข่ายและเสาขึงตาข่าย (NET AND POSTS) (ภาพที่ 3) 2.1 ความสูงของตาข่าย (HEIGHT OF THE NET) 2.1.1 ตาขา่ ยถูกขึงเป็นแนวด่ิงเหนือเส้นแบง่ แดน สาํ หรับทีมชาย ขอบบนสุดตอ้ ง สูงจากพ้นื 2.43 เมตร ทีมหญิงสูง 2.24 เมตร (1.3.3) 2.1.2 ความสูงของตาขา่ ย วดั ที่ก่ึงกลางของสนาม ความสูงของตาข่าย (ท่ีเหนือเส้น ขา้ งท้งั สองดา้ น) ตอ้ งสูงเทา่ กนั แต่จะตอ้ งไม่สูงเกินกวา่ ความสูงที่กาํ หนด 2 เซนติเมตร (1.1/1.3.2/2.1.1) 2.2 โครงสร้าง (Structure) ตาขา่ ยมีความกวา้ ง 1 เมตร และยาว 9.50 ถึง 10.00 เมตร (โดยมีความยาว เหลืออยู่ 25 ถึง 50 เซนติเมตร จากแถบขา้ งแต่ละดา้ น) ทาํ ดว้ ยวสั ดุสีดาํ เป็นตา ส่ีเหลี่ยมจตั ุรัสขนาด 10 เซนติเมตร (ภาพท3ี่ ) การแข่งขนั ระดบั โลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการแข่งขัน อย่างเป็ นทางการ เพ่ือให้สอดคล้องกบั ระเบยี บข้อบงั คับการแข่งขันเฉพาะในรายการ น้ันๆ อาจมกี ารกาํ หนดให้ตาข่ายสามารถปรับให้มตี ิดการโฆษณาได้ตามข้อตกลงด้าน การตลาด ที่ขอบบนของตาขา่ ย มีแถบขนานกบั พ้นื พบั 2 ช้นั สีขาวกวา้ ง 7 เซนติเมตร เยบ็ ติดตลอดความยาวของตาข่าย ท่ีปลายสุดแต่ละขา้ ง เจาะรูไวข้ า้ งละ 1 รู เพือ่ ร้อย เชือกผกู กบั เสาขึงตาขา่ ย เพื่อดึงใหแ้ ถบบนสุดของตาข่ายตึง ภายในแถบ มีสายท่ียดื หยนุ่ ไดส้ าํ หรับผกู กบั เสา เพ่ือทาํ ใหส้ ่วนบนสุดของ ตาข่ายตึง ท่ีแถบล่างสุดของตาขา่ ยมีแถบขนานกบั พ้นื กวา้ ง 5 เซนติเมตร คลา้ ยกบั แถบ บนของตาขา่ ย ภายในแถบมีสายท่ียดื หยนุ่ ไดส้ าํ หรับผกู กบั เสาเพอ่ื ทาํ ใหส้ ่วนล่างของ ตาข่ายตึง 2.3 แถบข้าง (SIDE BANDS) 4
5 กตกิ ากฬี าวอลเลยบ์ อล แถบสีขาว 2 เส้นผกู ในแนวต้งั กบั ตาข่ายเหนือเส้นขา้ งท้งั 2 เส้น (1.3.2/ ภาพท่ี 3) แถบขา้ งมีขนาด กวา้ ง 5 เซนติเมตร ยาว 1 เมตร และถือวา่ เป็นส่วนหน่ึงของ ตาข่าย 2.4 เสาอากาศ (ANTENNAE) เสาอากาศ เป็นแทง่ กลมยดื หยนุ่ ได้ ยาว 1.80 เมตร เส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 10 มิลลิเมตร ทาํ ดว้ ยใยแกว้ หรือวสั ดุท่ีคลา้ ยคลึงกนั เสาอากาศแต่ละตน้ ถูกยดึ ติดอยทู่ ่ีริมดา้ นนอกของแถบขา้ งท้งั สอง ซ่ึงอยู่ คนละดา้ นของตาข่าย (2.3/ภาพท่ี 3) ส่วนบนสุดของเสาอากาศท่ียนื่ เลยเหนือตาขา่ ยข้ึนไป 80 เซนติเมตร จะเป็ น แถบสีสลบั กนั เป็นช่วงๆ ยาวช่วงละ 10 เซนติเมตร นิยมใชส้ ีแดงและสีขาว เสาอากาศถือเป็นส่วนหน่ึงของตาข่าย และเป็นแนวขนานที่กาํ หนดใหเ้ ป็ น พ้ืนท่ีที่ลูกบอลขา้ มตาขา่ ย (10.1.1 /ภาพท่ี 3, ภาพท่ี5a ภาพท5ี่ b) 2.5 เสาขึงตาข่าย (POSTS) 2.5.1 เสาขึงตาข่ายยดึ ติดกบั พ้นื สนาม ห่างจากเส้นขา้ ง 0.50 -1.00 เมตร มีความสูง 2.55 เมตร สามารถปรับระดบั ได้ (ภาพที่ 3) สําหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการแข่งขนั อย่างเป็ นทางการ เสาขึงตาข่ายต้องยดึ ตดิ กบั พืน้ สนาม ห่าง จากเส้นข้าง 1 เมตร และต้องมีเบาะนวมหุ้ม. 2.5.2 เสาขึงตาขา่ ยมีลกั ษณะกลมและเรียบ ยดึ ติดกบั พ้นื สนามโดยไมใ่ ชส้ ายยดึ และไมม่ ีส่ิงกีดขวางใดๆท่ีก่อใหเ้ กิดอนั ตราย 2.6 อุปกรณ์เสริมอื่นๆ (ADDITIONAL EQIPMENT) อุปกรณ์เสริมอื่นใดใหข้ ้ึนอยกู่ บั ขอ้ กาํ หนดตามระเบียบของสหพนั ธ์ วอลเลยบ์ อลนานาชาติ กติกาข้อที่ 3 ลูกบอล (BALLS) 3.1 มาตรฐานของลูกบอล (STANDARD) ลูกบอลตอ้ งกลม ทาํ ดว้ ยหนงั ฟอกหรือหนงั สังเคราะห์ท่ียดื หยนุ่ ได้ ห่อหุม้ ลูก ทรงกลม ทาํ ดว้ ยยาง หรือวสั ดุที่คลา้ ยคลึงกนั สีของลูกบอลอาจเป็ นสีออ่ นๆเหมือนกนั ท้งั ลูก หรืออาจเป็นหลายสีผสมกนั กไ็ ด้ 5
6 กติกากีฬาวอลเลยบ์ อล สาํ หรับการแข่งขนั ระดบั นานาชาติอยา่ งเป็ นทางการ ใชล้ ูกบอลท่ีทาํ ดว้ ยวสั ดุที่ เป็นหนงั สงั เคราะห์มีหลายสีผสมกนั ตอ้ งมีมาตรฐานตามที่สหพนั ธ์วอลเลยบ์ อล นานาชาติกาํ หนด ลูกบอลตอ้ งมีเส้นรอบวงยาว 65 – 67 เซนติเมตร และมีน้าํ หนกั 260 – 280 กรัม มีแรงดนั ลม 0.30 – 0.325 กิโลกรัม/ตารางเซนติเมตร(4.26-4.61 psi) (294.3 to 318.82 mbar or hPa) 3.2 รูปแบบของลูกบอล (UNIFORMITY OF BALLS) ลูกบอลท่ีใชใ้ นการแข่งขนั ตอ้ งมีมาตรฐานเดียวกนั ไดแ้ ก่เส้นรอบวง น้าํ หนกั แรงอดั ชนิด และสี (3.1) การแข่งขนั ระดบั โลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และรวมท้ังระดับชาติ หรือ การแข่งขันลกี (League) ของแต่ละประเทศต้องใช้ลกู บอลทส่ี หพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ รับรองเท่าน้ัน เว้นแต่ได้รับการยนิ ยอมจากสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ 3.3 ระบบการใช้ลกู บอล 5 ลกู (FIVE-BALL SYSTEM) การแข่งขันระดบั โลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการแข่งขันอย่างเป็ น ทางการ จะใช้ลูกบอล 5 ลกู ในกรณนีจ้ ะมีผู้กลงิ้ บอล 6 คน ประจําทม่ี ุมของเขตรอบสนาม ท้งั ส่ีมุม ๆ ละ 1 คน และหลังผู้ตดั สินด้านละ 1 คน (ภาพที่ 10) 6
บทท่ี 2 กตกิ ากฬี าวอลเลยบ์ อล ผ้เู ข้าร่วมการแข่งขนั (PARTICIPANTS) กตกิ าข้อที่ 4 ทมี (TEAMS) 4.1 ส่วนประกอบของทมี (TEAM COMPOSITION) 4.1.1 ในการแข่งขนั ทีมประกอบดว้ ยผเู้ ล่นสูงสุด 12 คน รวมกบั • คณะผฝู้ ึกสอน ประกอบดว้ ย ผฝู้ ึกสอน 1 คน ผชู้ ่วยผฝู้ ึกสอน ไมเ่ กิน 2 คน • คณะแพทย์ ประกอบดว้ ย นกั กายภาพบาํ บดั 1 คน และแพทย1์ คน (5.2/ 5.3) เฉพาะผทู้ ่ีมีรายชื่ออยใู่ นใบบนั ทึกเท่าน้นั ที่สามารถเขา้ ภายใน บริเวณพ้ืนที่ควบคุม และเขา้ ร่วมในการอบอุ่นร่างกายรวมถึงการแข่งขนั ดว้ ย สําหรับการแข่งขันระดบั โลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ประเภทประชาชน สามารถมีผู้เล่นได้ถึง 14 คน มเี จ้าหน้าท่ีทที ทสี่ ามารถน่ังทมี่ ้านั่งได้ไม่เกนิ 5 คน(รวมถึงผู้ ฝึ กสอนด้วย) ซ่ึงเลือกโดยผู้ฝึ กสอน แต่จะต้องมชี ่ือในใบบันทกึ และใน O2(bis) ผู้จัดการทมี หรือนักข่าวประจําทมี ไม่สามารถน่ัง บริเวณทนี่ ั่งผู้เล่น หรือ ด้านหลงั ทน่ี ั่งภายในพื้นทค่ี วบคุม(Competition Control Area) แพทย์ หรือ นักกายภาพบาํ บัด ทใ่ี ช้ในการแข่งขันในรายการแข่งขัน ของ FIVB จะต้องได้รับการรับรองจากสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ก่อน การแข่งขนั (ภาพที่ 1a,) อย่างไรกต็ ามในการแข่งขนั ระดับโลกและการแข่งขันอย่างเป็ น ทางการ สําหรับประเภทประชาชน ถ้าแพทย์ และนักกายภาพบาํ บดั ไม่ได้มี รายชื่อทมี่ สี ิทธ์ินั่งทม่ี ้านั่งของทมี เขาสามารถไปนั่งในทก่ี าํ หนดไว้ภายใน พืน้ ทคี่ วบคุม และถ้าผู้ตัดสินได้อนุญาตให้มาดูแลผู้เล่นเป็ นการฉุกเฉินได้. 7
กติกากีฬาวอลเลยบ์ อล 8 นักกายภาพบาํ บดั ของทมี สามารถเข้าร่วมการอบอุ่นร่างกาย จนถึงเร่ิมอบอุ่น ร่างกายทต่ี าข่าย (7.2.1) ข้อบงั คับในแต่ละรายการ สามารถค้นหาได้จากคู่มือการแข่งขนั เฉพาะ รายการน้ันๆ 4.1.2 ผเู้ ล่นคนหน่ึงของทีม ท่ีไมใ่ ช่ตวั รับอิสระ เป็นหวั หนา้ ทีม ซ่ึงไดร้ ะบุไวใ้ นใบ บนั ทึกการแขง่ ขนั (5.1/19.1.3) 4.1.3 ผเู้ ล่นที่มีชื่ออยใู่ นใบบนั ทึกการแขง่ ขนั เท่าน้นั ที่สามารถลงสนามและร่วม การแข่งขนั ได้ ทนั ทีที่ผฝู้ ึกสอนและหวั หนา้ ทีม (TEAM CAPTAIN) ไดล้ ง ชื่อในใบบนั ทึกการแข่งขนั แลว้ จะเปล่ียนแปลงผเู้ ล่นอีกไม่ได(้ 1/4.1.1/5.1.1/ 5.2.2) 4.2 ตําแหน่งทอ่ี ยู่ของทมี (LOCATION OF THE TEAM) 4.2.1 ผเู้ ล่นที่ไม่ไดล้ งแข่งขนั ควรนงั่ บนมา้ นงั่ หรืออยใู่ นพ้ืนที่อบอุน่ ร่างกายของ ทีมตนเอง ผฝู้ ึกสอนและผรู้ ่วมทีมคนอื่นตอ้ งนง่ั บนมา้ นงั่ แต่อาจลุกจาก มา้ นง่ั ไดเ้ ป็นคร้ังคราว (1.4.5/ 5.2.3/ 7.3.3) มา้ นง่ั ของทีมต้งั อยดู่ า้ นขา้ งโตะ๊ ผบู้ นั ทึก นอกเขตรอบสนาม (ภาพท่ี 1 a / ภาพท1่ี b) 4.2.2 เฉพาะผรู้ ่วมทีมเท่าน้นั ท่ีไดร้ ับอนุญาตใหเ้ ขา้ ในบริเวณพ้ืนท่ีเล่นลูก นงั่ บน มา้ นง่ั ระหวา่ งการแข่งขนั และร่วมการอบอุ่นร่างกายก่อนการแขง่ ขนั (4.1.1/ 7.2) 4.2.3 ผเู้ ล่นที่ไม่ไดล้ งแขง่ ขนั สามารถอบอุ่นร่างกายโดยไมใ่ ชล้ ูกบอลไดด้ งั น้ี 4.2.3.1 ในระหวา่ งการแข่งขนั : ในพ้ืนที่อบอุ่นร่างกาย (1.4.5/ 8.1 ภาพท1ี่ a/ภาพท1่ี b) 4.2.3.2 ในระหวา่ งขอเวลานอกและเวลานอกทางเทคนิค: ในเขตรอบ สนามดา้ นหลงั ในแดนของทีมตนเอง (1.3.3/ 15.4) 4.2.4 ช่วงพกั ระหวา่ งเซต ผูเ้ ล่นสามารถอบอุ่นร่างกายโดยใชล้ ูกบอลได้ในเขตรอบ สนามในแดนของทมี ตนเอง (18.1) ในระหว่างการยืดเวลาในช่วงเวลาพกั ระหว่างเซ็ทที่ 2 และ 3 (ถ้าม)ี ผู้เล่นสามารถใช้พืน้ ทใ่ี นสนามในแดนของ ตนเองได้ 8
9 กตกิ ากีฬาวอลเลยบ์ อล 4.3 เคร่ืองแต่งกาย (EQUIPMENT) เคร่ืองแต่งกายของผเู้ ล่นประกอบดว้ ย เส้ือ กางเกงขาส้นั ถุงเทา้ (ชุดแขง่ ขนั ) และ รองเทา้ กีฬา 4.3.1 สีและแบบของเส้ือ กางเกงขาส้นั และถุงเทา้ ตอ้ งเหมือนกนั ท้งั ทีม (ยกเวน้ ตวั รับอิสระ) ชุดแขง่ ขนั ตอ้ งสะอาด (4.1/ 19.2) 4.3.2 รองเทา้ ตอ้ งเบาและอ่อนนุ่ม พ้นื เป็นยางหรือ พ้ืนที่มีส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ ไมม่ ีส้น 4.3.3 เส้ือผเู้ ล่นตอ้ งมีหมายเลขต้งั แต่1–20 (4.3.3.2) 4.3.3.1 ตอ้ งติดหมายเลขท่ีกลางหนา้ อกและกลางหลงั สีของหมายเลข ตอ้ งตดั กบั สีเส้ืออยา่ งชดั เจน 4.3.3.2 หมายเลขดา้ นหนา้ ตอ้ งสูงอยา่ งนอ้ ยท่ีสุด 15 เซนติเมตร ดา้ นหลงั อยา่ งนอ้ ยท่ีสุด 20 เซนติเมตร และความกวา้ งของแถบที่ทาํ หมายเลข ตอ้ งกวา้ งอยา่ งนอ้ ยที่สุด 2 เซนติเมตร 4.3.4 หวั หนา้ ทีมตอ้ งมีแถบขนาด 8 x 2 เซนติเมตร ติดอยใู่ ตห้ มายเลขตรง หนา้ อกเส้ือ (5.1) 4.3.5 หา้ มใส่ชุดแขง่ ขนั ที่มีสีท่ีแตกตา่ งจากผเู้ ล่นอื่น(ยกเวน้ ตวั รับอิสระ) และไม่มี หมายเลข (19.2) 4.4 การเปลย่ี นเคร่ืองแต่งกาย (CHANGE OF EQUIPMENT) ผตู้ ดั สินท่ี 1 มีอาํ นาจท่ีจะอนุญาตใหผ้ ูเ้ ล่น 1 คน หรือมากกวา่ : (23) 4.4.1 ลงแขง่ ขนั โดยไมใ่ ส่รองเทา้ 4.4.2 เปล่ียนชุดแข่งขนั ที่เปี ยกหรือชาํ รุดในช่วงพกั ระหวา่ งเซต หรือหลงั จาก การเปลี่ยนตวั ได้ โดยสี แบบ และหมายเลขของชุดใหม่ตอ้ งเหมือนกบั ชุด เดิม (4.3/ 15.5) 4.4.3 สวมชุดวอร์มลงแข่งขนั ไดถ้ า้ อากาศหนาว โดยสีและแบบของชุดวอร์ มตอ้ งเหมือนกนั ท้งั ทีม (ยกเวน้ ตวั รับอิสระ) และมีหมายเลขตามกติกา ขอ้ 4.3.3 (4.1.1/ 19.2) 4.5 สิ่งทหี่ ้ามสวมใส่ (FORBIDDEN OBJECTS) 4.5.1 หา้ มสวมใส่สิ่งของซ่ึงอาจเป็ นสาเหตุให้เกิดการบาดเจบ็ หรือช่วยใหผ้ เู้ ล่น ไดเ้ ปรียบผอู้ ื่น 9
10 กติกากฬี าวอลเลย์บอล ผเู้ ล่นสามารถสวมแวน่ ตาหรือเลนซ์ได้ โดยรับผิดชอบอนั ตรายที่อาจเกิดข้ึน 4.5.2 ดว้ ยตวั เอง อุปกรณ์รัดเพื่อป้องกนั ก่ารบาดเจบ็ สามารถใชเ้ พื่อป้องกนั หรือรองรับได้ 4.5.3 สําหรับการแข่งขนั ระดับโลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ประเภท ประชาชน อปุ กรณ์รัดนีจ้ ะต้องมสี ีเหมือนกนั เปรีบยเสมือนชุดแข่งขัน สีดาํ สีขาว หรือสีกลางอื่นๆสามารถใช้ได้. กติกาข้อท่ี 5 ผู้นําของทมี (TEAM LEADER) ท้งั หวั หนา้ ทีมและผฝู้ ึกสอนเป็นผรู้ ับผดิ ชอบเก่ียวกบั ความประพฤติและระเบียบวนิ ยั ของผู้ ร่วมทีม (20) ตวั รับอิสระจะเป็ นหวั หนา้ ทีมไมไ่ ด้ 5.1 หวั หน้าทมี (CAPTAIN) 5.1.1 ก่อนการแข่งขนั หวั หนา้ ทีมทาํ หนา้ ที่เป็นผูแ้ ทนทีมในการเส่ียง และลงนาม ในใบบนั ทึก (7.1/ 25.2.1.1) 5.1.2 ขณะแข่งขนั และขณะอยใู่ นสนามแข่งขนั หวั หนา้ ทีม (TEAM CAPTAIN) ทาํ หนา้ ที่เป็นหวั หนา้ ทีมในสนามแขง่ ขนั (GAME CAPTAIN) เมื่อหวั หนา้ ทีมไมไ่ ดเ้ ล่นอยใู่ นสนาม ผฝู้ ึ กสอนหรือ ตวั หวั หนา้ ทีมเองตอ้ งแตง่ ต้งั ผเู้ ล่น คนหน่ึงที่อยใู่ นสนาม แต่ตอ้ งไมใ่ ช่ตวั รับอิสระ ทาํ หนา้ ท่ีหวั หนา้ ทีมใน สนามแข่งขนั (GAME CAPTAIN) และตอ้ งรับผดิ ชอบไปจนกวา่ หวั หนา้ ทีม (TEAM CAPTAIN) จะเปล่ียนตวั กลบั ลงมาเล่นอีก หรือจนกวา่ จะสิ้นสุด ในเซตน้นั (15.2.1/ 19.1.3) เมื่อลูกตาย หวั หนา้ ทีมในสนามแขง่ ขนั เท่าน้นั ท่ีมีสิทธิเป็ นผแู้ ทน ของทีมเพื่อสนทนากบั ผตู้ ดั สิน(8.2) 5.1.2.1 ขอคาํ อธิบายในการตีความกติกา หรือนาํ กติกามาใช้ และร้องขอหรือ ยน่ื คาํ ถามของเพอ่ื นร่วมทีม ถา้ คาํ อธิบายไม่เป็นที่พอใจ หวั หนา้ ทีมใน สนามแขง่ ขนั ตอ้ งขอสงวนสิทธิบนั ทึกการทกั ทว้ งน้นั อยา่ งเป็นทางการใน ใบบนั ทึกการแข่งขนั เม่ือการแขง่ ขนั สิ้นสุดลง (23.2.4) 5.1.2.2. การขอสิทธิ ก. เปลี่ยนอุปกรณ์การแขง่ ขนั บางส่วนหรือท้งั หมด (4.3/ 4.4.2) 10
11 กติกากฬี าวอลเลยบ์ อล ข. ตรวจตาํ แหน่งผเู้ ล่นของทีม (7.4, 7.6) ค. ตรวจพ้ืนสนาม ตาขา่ ย และลูกบอล เป็นตน้ (1.2/ 2/ 3) 5.1.2.3 ถา้ ผฝู้ ึกสอนไมอ่ ยเู่ ป็นผทู้ าํ หนา้ ที่ขอเวลานอก และเปล่ียนตวั ผเู้ ล่น (15.3.1 / 15.4.1 /15.5.2) 5.1.3 เมื่อสิ้นสุดการแข่งขนั หวั หนา้ ทีมตอ้ ง: (6.3) 5.1.3.1 แสดงความขอบคุณผูต้ ดั สิน และลงชื่อในใบบนั ทึกการแข่งขนั เพื่อ รับรองผลการแข่งขนั (25.2.3.3) 5.1.3.2 เมื่อมีการแจง้ กบั ผตู้ ดั สินที่ 1ไวแ้ ลว้ สามารถยนื ยนั และขอบนั ทึกการ ทกั ทว้ งอยา่ งเป็นทางการตอ่ ผตู้ ดั สินเกี่ยวกบั การนาํ กติกามาใชห้ รือ ตีความกติกา ในใบบนั ทึกการแขง่ ขนั (5.1.2.1/ 25.2.3.2) 5.2 ผ้ฝู ึ กสอน (COACH) 5.2.1 ตลอดการแขง่ ขนั ผฝู้ ึกสอนทาํ หนา้ ท่ีเป็นผูค้ วบคุมการเล่นของทีมภายนอก บริเวณพ้ืนที่เล่นลูก เป็นผูเ้ ลือกผเู้ ล่น 6 คนแรก เปลี่ยนตวั ผูเ้ ล่นและขอเวลา นอก ผฝู้ ึกสอนทาํ หนา้ ท่ีดงั กล่าวไดโ้ ดยขอผา่ นทางผตู้ ดั สินที่2 (1.1/ 7.3.2/ 15.4/ 15.5) 5.2.2 ก่อนการแขง่ ขนั ผฝู้ ึกสอนตอ้ งบนั ทึกหรือตรวจสอบรายชื่อและหมายเลข ของผเู้ ล่นในใบบนั ทึกการแข่งขนั และลงช่ือในใบบนั ทึกการแข่งขนั น้นั (4.1/ 19.1.3/25.2.1.1) 5.2.3 ระหวา่ งการแข่งขนั ผฝู้ ึกสอนตอ้ ง:- 5.2.3.1 ก่อนการแข่งขนั ทุกเซต ส่งใบส่งตาํ แหน่งของผเู้ ล่นที่ลงช่ือแลว้ ใหผ้ ู้ ตดั สินที่ 2 หรือผบู้ นั ทึก (7.3.2/7.4/7.6) 5.2.3.2 นง่ั ที่มา้ นง่ั ของทีมซ่ึงใกลก้ บั ผบู้ นั ทึกมากท่ีสุดแต่อาจลุกจาก มา้ นง่ั ได้ (4.2) 5.2.3.3 ขอเวลานอกและเปลี่ยนตวั ผูเ้ ล่น(15.4/ 15.5) 5.2.3.4 ผฝู้ ึกสอนรวมท้งั ผรู้ ่วมทีมอื่นๆ อาจใหค้ าํ แนะนาํ ผเู้ ล่นในสนามได้ โดยผฝู้ ึกสอนอาจใหค้ าํ แนะนาํ ขณะท่ียนื หรือเดินภายในเขตเล่นลูก (FREE ZONE) ดา้ นหนา้ ของมา้ นงั่ ผเู้ ล่นสาํ รอง ต้งั แต่แนวท่ียน่ื ออกมาของเส้นเขตรุก จนถึงพ้ืนที่อบอุ่นร่างกาย แต่ตอ้ งไมร่ บกวน หรือถ่วงเวลาการแขง่ ขนั (1.3.4/ 1.4.5 ภาพที่ 1a, , ภาพที่ 1b, ภาพที่ 2 11
12 กติกากีฬาวอลเลยบ์ อล สําหรับการแข่งขนั ระดบั โลก และการแข่งขันทเี่ ป็ นทางการ ผู้ฝึ กสอน ถูกกาํ หนดให้ทาํ หน้าทจ่ี ากหลงั เส้นเขตกาํ หนดของผู้ฝึ กสอนตลอด การแข่งขัน 5.3 ผู้ช่วยผู้ฝึ กสอน (ASSISTANT COACH) 5.3.1 ผชู้ ่วยผฝู้ ึกสอนนงั่ บนมา้ นง่ั ของทีม แต่ไมม่ ีสิทธิใดๆท่ีจะขอหยดุ การแข่งขนั 5.3.2 ถา้ ผฝู้ ึกสอนตอ้ งออกจากการทาํ หนา้ ที่ดว้ ยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม รวมถึงการถูก ลงโทษ แตไ่ มร่ วมถึงการลงสนามในฐานะผเู้ ล่น ผชู้ ่วยผฝู้ ึกสอนอาจทาํ หนา้ ท่ีแทนผฝู้ ึกสอน ในช่วงเวลาท่ีผฝู้ ึกสอนตอ้ งออกจากการทาํ หนา้ ท่ี โดย การยนื ยนั จากหวั หนา้ ทีม (Game Captain) (5.1.2/ 5.2) 12
บทที่ 3 กตกิ ากฬี าวอลเลยบ์ อล รูปแบบของการแข่งขนั (PLAYING FORMAT) กตกิ าข้อท่ี 6 การได้คะแนน การชนะในแต่ละเซต และการชนะในแต่ละนัด (TO SCORE A POINT, TO WIN A SET AND THE MATCH) 6.1 การได้คะแนน (TO SCORE A POINT) 6.1.1 คะแนน ทีมจะไดค้ ะแนนเมื่อ: 6.1.1.1 ทาํ ใหล้ ูกบอลตกลงบนพ้ืนสนามในแดนของทีมตรงขา้ ม(8.3/ 10.1.1) 6.1.1.2 ฝ่ ายตรงขา้ มทาํ ผดิ กติกา (6.1.2) 6.1.1.3 ฝ่ ายตรงขา้ มถูกทาํ โทษ (16.2.3/ 21.3.1) 6.1.2 การทาํ ผดิ กติกา ทีมทาํ ผดิ กติกาเม่ือกระทาํ ลกั ษณะการเล่นท่ีผดิ กติกาการแขง่ ขนั (หรือขดั แยง้ กบั กติกาดว้ ยวธิ ีการใด ๆ) ผตู้ ดั สินจะพิจารณาตดั สินการทาํ ผดิ น้นั และจะ ตดั สินการทาํ ผิดกติกาน้นั ๆดงั น้ี 6.1.2.1 ถา้ มีการทาํ ผดิ กติกาสองอยา่ งหรือมากกวา่ เกิดข้ึนต่อเนื่องกนั จะ ลงโทษเฉพาะการผดิ กติกาท่ีเกิดข้ึนก่อนเท่าน้นั 6.1.2.2 ถา้ ท้งั สองทีมเล่นผดิ กติกาสองอยา่ งหรือมากกวา่ พร้อมๆกนั ท้งั สองทีม จะถือวา่ เป็นการกระทาํ ผดิ ท้งั คู่ (DOUBLE FAULT) และจะเล่นลูกน้นั ใหม่(6.1.2./ภาพท่ี 11(23) 6.1.3 การเล่นและการสิ้นสุดการเล่น (Rally and completed rally) การเล่น(Rally) เป็นลกั ษณะการเล่นที่เร่ิมตน้ ต้งั แต่ผเู้ สิร์ฟทาํ การเสิร์ฟ จนกระทง่ั ลูกตาย การสิ้นสุดการเล่น (A completed rally) เป็นลกั ษณะการ เล่นที่สิ้นสุดลง ซ่ึงมีผลตอ่ การไดค้ ะแนน ซ่ึงจะรวมถึง - คะแนนท่ีไดจ้ ากการลงโทษ - เสียสิทธ์ิการเสิร์ฟเนื่องจากการเสิร์ฟเกินเวลาที่กาํ หนด (8.1/8.2/12.2.2.1/15.2.3/15.11.1.3/19.3.2.1/19.3.2.9) 13
กติกากฬี าวอลเลยบ์ อล 13 6.1.3.1 ถา้ ทีมท่ีเป็นฝ่ ายเสิร์ฟชนะการเล่นลูกจะไดค้ ะแนน และ ไดเ้ สิร์ฟต่อ 6.1.3.2 ถา้ ทีมที่เป็นฝ่ ายรับลูกเสิร์ฟชนะการเล่นลูกจะไดค้ ะแนน และ ไดเ้ สิร์ฟในคร้ังต่อไป 6.2 การชนะในแต่ละเซต (TO WIN A SET) (ภาพท1่ี 1 (9) ทีมที่ทาํ ได้ 25 คะแนนก่อน (ยกเวน้ เซตตดั สิน) จะเป็นทีมชนะการแขง่ ขนั เซตน้นั ถา้ ทาํ คะแนนได้ 24 - 24 คะแนนเท่ากนั จะตอ้ งแขง่ ขนั กนั ต่อไปจนกวา่ ทีมใดทีมหน่ึงทาํ คะแนนนาํ อีก ทีมหน่ึง 2 คะแนน (26 - 24, 27–25,……) (6.3.2) 6.3 การชนะในแต่ละนัด (TO WIN THE MATCH) (ภาพที่ 11 (9) 6.3.1 ทีมท่ีทาํ ได้ 3 เซต ก่อน เป็นทีมท่ีชนะการแขง่ ขนั นดั น้นั (6.2) 6.3.2 ในกรณีที่ทาํ ได้ 2 – 2 เซตเทา่ กนั การแข่งขนั ในเซตตดั สิน (เซตท่ี 5) จะ แข่งขนั กนั 15 คะแนน และตอ้ งมีคะแนนนาํ อีกทีมหน่ึงอยา่ งนอ้ ยท่ีสุด 2 คะแนน (7.1) 6.4 ทมี ทผ่ี ดิ ระเบียบการแข่งขันและไม่พร้อมจะแข่งขนั (DEFAULT AND INCOMPLETE TEAM) 6.4.1 ถา้ ทีมปฏิเสธท่ีจะแขง่ ขนั หลงั จากไดร้ ับแจง้ ใหแ้ ขง่ ขนั ตอ่ ทีมน้นั จะถูกแจง้ วา่ ทาํ ผดิ ระเบียบการแข่งขนั และปรับเป็นแพใ้ นการแขง่ ขนั นดั น้นั ดว้ ยผล การแข่งขนั 0-3 เซต และมีคะแนน 0–25 ในแต่ละเซต(6.2/ 6.3) 6.4.2 ทีมที่ไม่มาปรากฏตวั ณ สนามแข่งขนั ตามเวลาที่กาํ หนด โดยไมม่ ีเหตุผลอนั สมควร ถือวา่ ผดิ ระเบียบการแขง่ ขนั และมีผลการแข่งขนั เช่นเดียวกบั กติกา ขอ้ 6.4.1 6.4.3 ทีมท่ีถูกแจง้ วา่ ไม่พร้อมจะแข่งขนั ในเซตใดเซตหน่ึง หรือการแข่งขนั นดั ใด นดั หน่ึง จะแพใ้ นเซตน้นั หรือการแขง่ ขนั นดั น้นั ทีมตรงขา้ มจะไดค้ ะแนน หรือไดท้ ้งั คะแนนและเซตเพ่ือเป็นทีมชนะในเซตหรือการแขง่ ขนั นดั น้นั ส่วนทีมที่ไม่พร้อมจะแขง่ ขนั จะยงั คงไดค้ ะแนนและเซตท่ีทาํ ไวไ้ ด้ (6.2/ 6.3/7.3.1) 14
14 กติกากีฬาวอลเลยบ์ อล กตกิ าข้อท่ี 7 โครงสร้างของการแข่งขัน (STRUCTURE OF PLAY) 7.1 การเส่ียง (TOSS) ก่อนการแขง่ ขนั ผตู้ ดั สินที่ 1 จะทาํ การเสี่ยงเพ่ือตดั สินวา่ ทีมใดจะเสิร์ฟก่อน หรืออยู่ แดนใดในเซตท่ี 1 (12.1.1) ถา้ ตอ้ งแข่งขนั เซตตดั สิน จะตอ้ งทาํ การเส่ียงใหม่อีกคร้ัง(6.3.2) 7.1.1 การเส่ียงตอ้ งทาํ โดยมีหวั หนา้ ทีมท้งั สองทีมร่วมอยดู่ ว้ ย (5.1) 7.1.2 ผชู้ นะการเส่ียงจะไดส้ ิทธิเลือก อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงดงั น้ี 7.1.2.1 ไดส้ ิทธ์เสิร์ฟหรือรับลูกเสิร์ฟก่อน หรือ (12.1.1) 7.1.2.2 เลือกแดนใดแดนหน่ึง ผแู้ พก้ ารเสี่ยงจะไดร้ ับส่วนที่เหลือ 7.2 การอบอุ่นร่างกาย (WARM-UP SESSION) 7.2.1 ก่อนการแขง่ ขนั ถา้ มีสนามอบอุน่ ร่างกายท่ีจดั ไว้ ทีมจะทาํ การอบอุ่นร่างกาย ท่ีตาข่ายพร้อมกนั ได้ 6 นาที ถา้ ไมม่ ีสนามอบอุน่ ร่างกาย จะใชเ้ วลาอบอุ่น ร่างกาย 10 นาที สําหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการ แข่งขันทเ่ี ป็ นทางการ ทมี จะอบอุ่นร่างกายทต่ี าข่ายพร้อมกนั 10 นาท.ี 7.2.2 ถา้ หวั หนา้ ทีมมีความประสงคท์ ี่จะอบอุ่นร่างกายแยกกนั แต่ละทีมมีสิทธ์ิ อบอุน่ ร่างกายได้ 3 นาที หรือ 5 นาที (7.2.1) 7.2.3 ในกรณีท่ีอบอุ่นร่างกายตอ่ เน่ืองกนั ทีมที่เสิร์ฟก่อนไดอ้ บอุน่ ร่างกายท่ีตาขา่ ย ก่อน 7.3 ตําแหน่งเริ่มต้นของทมี (TEAM STARTING LINE-UP) 7.3.1 ทีมตอ้ งมีผเู้ ล่นในสนาม 6 คนตลอดเวลา (6.4.3) ตาํ แหน่งเร่ิมตน้ ของทีมแสดงถึงลาํ ดบั การหมุนตาํ แหน่งของผเู้ ล่น ในสนาม ลาํ ดบั น้ีจะคงอยตู่ ลอด เซตน้นั (7.6) 7.3.2 ก่อนเร่ิมการแขง่ ขนั แตล่ ะเซต ผฝู้ ึกสอนตอ้ งแจง้ ตาํ แหน่งเร่ิมตน้ ของทีม ตนเองในใบส่งตาํ แหน่ง ซ่ึงเขียนหมายเลขของผเู้ ล่นและลงชื่อกาํ กบั แลว้ ส่งใหผ้ ตู้ ดั สินที่ 2 หรือผบู้ นั ทึกการแขง่ ขนั (5.2.3.1//24.3.1/25.2.1.2) 15
15 กติกากฬี าวอลเลย์บอล 7.3.3 ผเู้ ล่นท่ีไมไ่ ดอ้ ยใู่ นใบส่งตาํ แหน่งเร่ิมตน้ ของทีม จะเป็นผเู้ ล่นสาํ รองในเซต น้นั (ยกเวน้ ตวั รับอิสระ) (7.3.2/ 15.5/) 7.3.4 เม่ือใบส่งตาํ แหน่งเล่นถูกนาํ ส่งใหผ้ ตู้ ดั สินท่ี 2 หรือผบู้ นั ทึกการแข่งขนั แลว้ จะไม่อนุญาตใหม้ ีการเปลี่ยนแปลงใบส่งตาํ แหน่งอีก นอกจากเป็นการ เปลี่ยนตวั ผเู้ ล่นตามปกติ (15.2.2/15.5/ภาพที่ 11(5)) 7.3.5 ถา้ พบวา่ มีการผดิ พลาดระหวา่ งใบส่งตาํ แหน่งกบั ตาํ แหน่งของผเู้ ล่นใน สนามจะตอ้ งปฏิบตั ิดงั น้ี: (24.3.1) 7.3.5.1 ถา้ พบการผดิ พลาดก่อนเร่ิมการแข่งขนั ของเซต ผเู้ ล่นตอ้ ง เปล่ียนตวั ใหเ้ ป็ นไปตามใบส่งตาํ แหน่ง โดยไม่มีการลงโทษ (7.3.2) 7.3.5.2 ในทาํ นองเดียวกนั ถา้ พบวา่ มีผเู้ ล่นอยใู่ นสนาม ที่ไม่ไดร้ ะบุไวใ้ น ใบส่งตาํ แหน่ง ตอ้ งเปลี่ยนตวั ผเู้ ล่นในสนามใหเ้ ป็ นไปตามใบส่ง ตาํ แหน่ง โดยไมม่ ีการลงโทษเช่นกนั (7.3.2) 7.3.5.3 อยา่ งไรก็ตามถา้ ผฝู้ ึกสอนตอ้ งการใหผ้ เู้ ล่น ท่ีไม่ไดร้ ะบุไวใ้ นใบส่ง ตาํ แหน่งยงั คงอยใู่ นสนาม ผูฝ้ ึกสอนตอ้ งแสดงสัญญาณมือขอ เปลี่ยนตวั ตามปกติ และตอ้ งบนั ทึกลงในใบบนั ทึกการแข่งขนั ถา้ พบการผดิ พลาดระหวา่ งผเู้ ล่นในสนามกบั ใบส่ง ตาํ แหน่งภายหลงั ทีมที่ทาํ ผดิ ตอ้ งแกไ้ ขตาํ แหน่งใหถ้ ูกตอ้ ง คะแนนของฝ่ ายตรงขา้ มใหค้ งไวแ้ ละไดค้ ะแนนเพม่ิ อีก 1 คะแนนและไดเ้ ป็นฝ่ ายเสิร์ฟ คะแนนของทีมที่ทาํ ผดิ ตอ้ งถูก ยกเลิกจนถึงเมื่อเริ่มเกิดการทาํ ผดิ จริง(15.2.2) 7.3.5.4 ถา้ พบวา่ มีผเู้ ล่นท่ีอยใู่ นสนามไมม่ ีชื่อในใบบนั ทึก ใหค้ งคะแนน ของฝ่ ายตรงขา้ มไว้ และไดค้ ะแนนเพ่มิ อีก 1 คะแนน พร้อมท้งั ได้ สิทธ์ิการเสิร์ฟ ทีมที่ทาํ ผดิ จะเสียคะแนนและเซตท่ีทาํ ไดท้ ้งั หมด ต้งั แต่ผเู้ ล่นที่ไม่มีชื่อไดล้ งสนาม พร้อมท้งั ปรับเปลี่ยนใบส่ง ตาํ แหน่งใหม่ และส่งผเู้ ล่นท่ีมีชื่อในใบบนั ทึกลงสนามแทน ตาํ แหน่งผเู้ ล่นท่ีไม่มีช่ือน้นั (6.1.2/7.3.2) 7.4 ตาํ แหน่ง (POSITIONS) (ภาพที่ 4) ขณะท่ีผเู้ สิร์ฟทาํ การเสิร์ฟ แต่ละทีมตอ้ งอยใู่ นแดนของตนเองตามลาํ ดบั การ หมุนตาํ แหน่ง (ยกเวน้ ผเู้ สิร์ฟ) (7.6.1/ 8.1/ 12.4) 16
16 กตกิ ากฬี าวอลเลยบ์ อล 7.4.1 ตาํ แหน่งของผเู้ ล่นจาํ แนกไดด้ งั น้ี 7.4.1.1 ผเู้ ล่น 3 คนที่อยใู่ กลต้ าขา่ ยเป็นผเู้ ล่นแถวหนา้ อยใู่ นตาํ แหน่งที่ 4 (หนา้ ซา้ ย) ตาํ แหน่งท่ี 3 (กลางหนา้ ) และตาํ แหน่งท่ี 2 (หนา้ ขวา) 7.4.1.2 ส่วนอีก 3 คน เป็นผเู้ ล่นแถวหลงั อยใู่ นตาํ แหน่งที่ 5 (หลงั ซา้ ย) ตาํ แหน่งท่ี 6(กลางหลงั ) และตาํ แหน่งที่ 1(หลงั ขวา) 7.4.2 ความเก่ียวขอ้ งของตาํ แหน่งระหวา่ งผเู้ ล่น 7.4.2.1 ผเู้ ล่นแถวหลงั แต่ละคน ตอ้ งมีตาํ แหน่งอยหู่ ่างจากเส้นแบ่งแดน มากกวา่ คู่ของตนเองท่ีเป็นผเู้ ล่นแถวหนา้ 7.4.2.2 ผเู้ ล่นแถวหนา้ และแถวหลงั แตล่ ะคูต่ อ้ งอยใู่ นตาํ แหน่งขา้ งเดียวกนั ตามลาํ ดบั การหมุนตาํ แหน่งที่ระบุไวใ้ น กติกาขอ้ 7.4.1 7.4.3 ตาํ แหน่งของผเู้ ล่นจะพจิ ารณาและควบคุมจากตาํ แหน่งของเทา้ ท่ีสัมผสั พ้ืน ดงั น้ี: (ภาพท่ี 4) 7.4.3.1 ผเู้ ล่นแถวหนา้ แตล่ ะคน ตอ้ งมีส่วนหน่ึงส่วนใดของเทา้ อยใู่ กลเ้ ส้น แบง่ แดนมากกวา่ เทา้ ของผเู้ ล่นแถวหลงั ที่เป็นคูข่ องตน (1.3.3) 7.4.3.2 ผเู้ ล่นที่อยทู่ างขวา (หรือซา้ ย) ตอ้ งมีส่วนใดส่วนหน่ึงของเทา้ ใกลก้ บั เส้นขา้ งทางขวา (หรือซา้ ย) มากกวา่ ผเู้ ล่นท่ีอยใู่ นตาํ แหน่ง กลางของแถวเดียวกนั (1.3.2) 7.4.4 เม่ือทาํ การเสิร์ฟลูกบอลไปแลว้ ผเู้ ล่นสามารถเคล่ือนท่ีไปอยตู่ าํ แหน่งใดก็ได้ ในแดนและเขตรอบสนามของตน 7.5 การผดิ ตําแหน่ง (POSITIONAL FAULT) (ภาพท่ี 4/ ภาพท1่ี 1 (13) 7.5.1 ทีมจะผดิ ตาํ แหน่ง ถา้ ผเู้ ล่นคนใดคนหน่ึงไม่อยใู่ นตาํ แหน่งท่ีถูกตอ้ ง ขณะที่ ผเู้ สิร์ฟทาํ การเสิร์ฟลูกบอล รวมถึงผเู้ ล่นท่ีอยใู่ นสนามที่เปล่ียนตวั ผดิ กติกา และการเล่นไดเ้ ร่ิมเล่นแลว้ ซ่ึงจะถือวา่ เป็นการผดิ ตาํ แหน่งโดยมีผลถึงการ เปลี่ยนตวั ที่ผดิ กติกา(7.3/ 7.4/15.9) 7.5.2 ถา้ ผเู้ สิร์ฟ เสิร์ฟผดิ กติกาขณะท่ีทาํ การเสิร์ฟ จะถือวา่ การเสิร์ฟผดิ กติกา เกิดข้ึนก่อนการผดิ ตาํ แหน่งของทีมตรงขา้ ม(12.4/ 12.7.1) 7.5.3 ถา้ การเสิร์ฟไดท้ าํ ผดิ หลงั จากทาํ การเสิร์ฟลูกออกไปแลว้ จะถือวา่ การผดิ ตาํ แหน่งเกิดข้ึนก่อน (12.7.2) 7.5.4 การผดิ ตาํ แหน่งจะมีผลตามมาดงั น้ี: 17
17 กติกากีฬาวอลเลย์บอล 7.5.4.1 ทีมถูกทาํ โทษโดยเสียคะแนนและฝ่ ายตรงขา้ มไดเ้ ป็นฝ่ ายเสิร์ฟ (6.1.3) 7.5.4.2 ตาํ แหน่งของผเู้ ล่นตอ้ งปรับเปลี่ยนใหถ้ ูกตอ้ ง(7.3/ 7.4) 7.6 การหมุนตําแหน่ง (ROTATION) 7.6.1 ลาํ ดบั การหมุนตาํ แหน่งจะเป็ นไปตามใบส่งตาํ แหน่งของทีม และควบคุม ลาํ ดบั การเสิร์ฟและตาํ แหน่งของผเู้ ล่นน้ีตลอดท้งั เซต (7.3.1/ 7.4.1 / 12.2) 7.6.2 เม่ือทีมที่รับลูกเสิร์ฟไดส้ ิทธิทาํ การเสิร์ฟ ผเู้ ล่นตอ้ งหมุนตาํ แหน่งตามเขม็ นาฬิกาไป 1 ตาํ แหน่ง ผเู้ ล่นตาํ แหน่งที่ 2 จะหมุนไปตาํ แหน่งที่ 1 เพอ่ื ทาํ การ เสิร์ฟ และผเู้ ล่นตาํ แหน่งท่ี 1 หมุนไปตาํ แหน่งที่ 6 เป็นตน้ (12.2.2.2) 7.7 การหมุนตําแหน่งผดิ (ROTATIONAL FAULT) (ภาพท่ี 11(13) 7.7.1 การเสิร์ฟผดิ ตาํ แหน่ง เกิดข้ึนเมื่อการเสิร์ฟไมเ่ ป็ นไปตามลาํ ดบั การเสิร์ฟและ มีผลตามมาดงั น้ี (7.6.1/ 12) 7.7.1.1 ทีมถูกทาํ โทษโดยฝ่ ายตรงขา้ มไดค้ ะแนนและไดเ้ ป็ นฝ่ ายเสิร์ฟ (6.1.3) 7.7.1.2 ตาํ แหน่งของผเู้ ล่นตอ้ งแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง(7.6.1) 7.7.2 ผบู้ นั ทึกตอ้ งหยดุ การแข่งขนั ทนั ทีที่มีการผดิ ตาํ แหน่งเกิดข้ึน และคะแนนท่ี ทาํ ไดท้ ้งั หมดขณะผดิ ตาํ แหน่ง ตอ้ งยกเลิก ส่วนคะแนนของทีมตรงขา้ มให้ คงไวต้ ามเดิม (25.2.2.2) ถา้ คะแนนขณะผดิ ตาํ แหน่งไม่สามารถตรวจพบได้ ใหล้ งโทษเพยี ง ใหฝ้ ่ ายตรงขา้ มไดค้ ะแนนและเป็นฝ่ ายเสิร์ฟเท่าน้นั (6.1.3) 18
บทท่ี 4 กตกิ ากีฬาวอลเลยบ์ อล ลกั ษณะของการเล่น (PLAYING ACTIONS) กตกิ าข้อท่ี 8 รูปแบบของการเล่น (STATES OF PLAY) 8.1 ลูกทอี่ ยู่ในการเล่น (BALL IN PLAY) ลูกจะอยใู่ นการเล่นต้งั แต่ขณะท่ีทาํ การเสิร์ฟ โดยผตู้ ดั สินที่ 1 เป็นผอู้ นุญาต(12.3) 8.2 ลกู ทไ่ี ม่ได้อยู่ในการเล่น “ลกู ตาย” (BALL OUT OF PLAY) ลูกไม่อยใู่ นการเล่น ต้งั แต่ขณะท่ีมีการทาํ ผดิ กติกา โดยผตู้ ดั สินคนใดคนหน่ึง เป็นผใู้ หส้ ญั ญาณนกหวดี การทาํ ผดิ กติกาสิ้นสุดลงพร้อมๆกบั สัญญาณนกหวดี 8.3 ลูกลงในสนาม (BALL IN) (ภาพที่ 11(14) และภาพท่ี 12(1)) ลูกลงในสนาม คือ ทุกขณะที่บางใดๆของลูกบอลถูกพ้ืนสนามแข่งขนั รวมท้งั เส้นเขต สนาม (1.1/1.3.2) 8.4 ลกู ออกนอกสนาม (BALL OUT) (ภาพท่ี 11(15) ลูกออกนอกสนามเม่ือ: 8.4.1 ทุกส่วนของลูกบอลตกลงบนพ้ืนนอกเส้นเขตสนามอยา่ งสมบูรณ์ (1.3.2/ ภาพที่ 11(15) และภาพท่ี 12 (2) 8.4.2 ลูกถูกส่ิงกีดขวางที่อยภู่ ายนอกสนาม เพดาน หรือผทู้ ี่ไม่ไดแ้ ข่งขนั (ภาพท่ี 11(5) และภาพท่ี 12 (4)) 8.4.3 ลูกถูกเสาอากาศ เชือก เสา หรือตาขา่ ยที่อยนู่ อกแถบขา้ ง (2.3//ภาพที่ 12(4) / ภาพท่ี 5 และภาพท1่ี 1(15)) 8.4.4 ลูกขา้ มตาข่ายท้งั ลูกหรือเพยี งส่วนใดส่วนหน่ึงของลูก นอกเขตแนวขา้ มตา ขา่ ยท่ีกาํ หนดให้ ยกเวน้ กรณีกติกาขอ้ 10.1.2 (10.1.1/ ภาพท่ี 5/ ภาพท่ี 11 (15) และภาพท1ี่ 2(4)) 8.4.5 ลูกลอดใตต้ าขา่ ยไปยงั แดนของทีมตรงขา้ มอยา่ งสมบูรณ์ (23.3.2.3f/ ภาพที่ 5 และภาพท1่ี 1 (22)) 19
19 กตกิ ากีฬาวอลเลย์บอล กติกาข้อที่ 9 การเล่นลกู บอล (PLAYING THE BALL) แตล่ ะทีมตอ้ งเล่นลูกบอลภายในพ้นื ท่ีเล่นลูก และพ้ืนท่ีวา่ งเหนือตาข่ายของทีมตนเอง (ยกเวน้ กติกาขอ้ 10.1.2) อยา่ งไรกต็ าม ผเู้ ล่นสามารถนาํ ลูกบอลกลบั มาเล่นจากเขตพ้ืนที่เล่น ลูกในแดนของตนเองได้ 9.1 การถูกลูกบอลของทมี (TEAM HITS) การถูกลูกบอล (A hit) หมายถึงการถูกลูกบอลโดยผเู้ ล่นท่ีอยใู่ นการเล่นทุกลกั ษณะ แต่ละทีมสามารถถูกลูกไดส้ ูงสุด 3 คร้ัง (นอกจากการสกดั ก้นั ) เพื่อส่งลูกกลบั ไปยงั ทีมตรง ขา้ ม ถา้ ถูกลูกมากกวา่ น้ี ถือวา่ ทีมทาํ ผดิ กติกา “ถูกลูก 4 คร้ัง” 9.1.1 การถูกลูกอย่างต่อเน่ือง (CONSECUTIVE CONTACTS) ผเู้ ล่นจะถูกลูกบอล 2 คร้ังติดตอ่ กนั ไม่ได้ (ยกเวน้ กติกาขอ้ 9.2.3/ 14.2 และ 14.4.2) (9.2.3/14.2/ 14.4.2) 9.1.2 การถูกลูกพร้อมกนั (SIMULTENEOUS CONTACTS) ผเู้ ล่น 2 คน หรือ 3 คน อาจถูกลูกบอลพร้อม ๆ กนั ไดใ้ นเวลาเดียวกนั 9.1.2.1 เมื่อผเู้ ล่นทีมเดียวกนั 2 คนหรือ 3 คน ถูกลูกบอลพร้อม ๆ กนั จะถือวา่ เป็นการถูกลูกบอล 2 คร้ัง หรือ 3 คร้ัง ยกเวน้ เมื่อทาํ การ สกดั ก้นั ถา้ ผเู้ ล่นหลายคนถึงลูกบอลพร้อมกนั แตม่ ีผเู้ ล่นถูก ลูกบอลเพยี งคนเดียว จะถือวา่ ถูกลูกบอล 1 คร้ัง ถึงแมว้ า่ ผเู้ ล่นจะ ชนกนั กไ็ ม่ถือวา่ ผดิ กติกา 9.1.2.2 เมื่อท้งั สองฝ่ ายถูกลูกบอลพร้อม ๆ กนั เหนือตาขา่ ยและยงั คงเล่น ลูกน้นั ตอ่ ไปได้ ทีมท่ีรับลูกน้นั สามารถถูกลูกบอลไดอ้ ีก 3 คร้ัง ถา้ ลูกบอลออกนอกสนาม จะถือวา่ ทีมท่ีอยฝู่ ่ังตรงขา้ มกบั ลูก บอลเป็นฝ่ ายทาํ ลูกน้นั ออกนอกสนาม 9.1.2.3 ถา้ การถูกลูกพร้อมๆกนั ของท้งั สองฝ่ ายเหนือตาข่ายและมีการ พกั ลูกบอลชวั่ ขณะ การเล่นจะดาํ เนินต่อไป (9.1.2.2) 9.1.3 การถูกลูกโดยมีการช่วยเหลือ (ASSISTED HIT) ภายในบริเวณพ้ืนท่ีเล่นลูก ไม่อนุญาตใหผ้ ูเ้ ล่นอาศยั เพ่ือนร่วมทีม หรือส่ิงใด ๆ เพ่ือช่วยเหลือใหเ้ ล่นลูกน้นั ได้ (1) 20
20 กตกิ ากฬี าวอลเลยบ์ อล อยา่ งไรกต็ าม ผเู้ ล่นที่กาํ ลงั จะทาํ ผดิ กติกา (ถูกตาขา่ ยหรือขา้ มเส้น แบ่งแดน ฯลฯ) อาจไดร้ ับการฉุดหรือดึงโดยเพ่อื นร่วมทีมได้ (1.3.3/11.4.4) 9.2 ลกั ษณะของการถูกลูกบอล (CHARACTERISTICS OF THE HIT) 9.2.1 ลูกบอลอาจถูกส่วนใดส่วนหน่ึงของร่างกายได้ 9.2.2 การถูกลูกบอลตอ้ งเป็นการกระทบ ไมใ่ หจ้ บั และ/หรือทุม่ ลูกบอล จะกระดอนกลบั ในทิศทางใดก็ได้ (9.3.3) 9.2.3 ลูกบอลอาจถูกหลายส่วนของร่างกายได้ ถา้ การถูกน้นั เกิดข้ึนพร้อม ๆ กนั ข้อยกเว้น: 9.2.3.1 ในการสกดั ก้นั ลูกบอลอาจถูกผสู้ กดั ก้นั คนเดียว หรือมากกวา่ ติดต่อกนั ได้ ถา้ การถูกลูกน้นั เป็นลกั ษณะการถูกลูกเพยี งคร้ัง เดียว (During one action) (14.1.1/ 14.2) 9.2.3.2 การถูกลูกคร้ังแรกของทีม ลูกบอลอาจถูกส่วนตา่ ง ๆ ของ ร่างกายตอ่ เน่ืองกนั ได้ ถา้ การถูกลูกบอลเป็นลกั ษณะการถูกลูก คร้ังเดียว (During one action) (9.1/ 14.4.1) 9.3 การทาํ ผดิ กติกาในการเล่นลกู บอล (FAULT IN PLAYING THE BALL) 9.3.1 การถูกลูก 4 คร้ัง (FOUR HIT) ทีมถูกลูกบอล 4 คร้ัง ก่อนท่ีจะส่งส่งลูกบอล ไปยงั ฝ่ ายตรงขา้ ม (9.1/ ภาพท่ี 11(18)) 9.3.2 การถูกลูกโดยมีการช่วยเหลือ (ASSISTED HIT) ผเู้ ล่นอาศยั เพอื่ นร่วมทีม หรือส่ิงของใด ๆ ช่วยใหเ้ ขา้ ถึงลูกบอลภายในบริเวณพ้นื ที่เล่นลูก (9.1.3) 9.3.3 การจบั ยดึ ลูก (CATCH) เป็นการจบั หรือทุ่มลูกบอล โดยลูกบอลไมไ่ ด้ กระดอนจากจุดสมั ผสั (9.2.2/ ภาพท1ี่ 1 (16)) 9.3.4 การถูกลูก 2 คร้ัง (DOUBLE CONTACT) ผเู้ ล่นคนหน่ึงถูกลูกบอล 2 คร้ัง หรือลูกบอลถูกส่วนต่างๆของร่างกายหลายส่วนตอ่ เนื่องกนั (9.2.3/ภาพท่ี 11(17)) กตกิ าข้อท่ี 10 ลูกบอลทบ่ี ริเวณตาข่าย (BALL AT THE NET) 10.1 การข้ามตาข่ายของลูกบอล (BALL CROSSING THE NET) 21
21 กตกิ ากฬี าวอลเลยบ์ อล 10.1.1 ลูกบอลท่ีส่งไปยงั แดนของฝ่ ายตรงขา้ ม ตอ้ งขา้ มเหนือตาขา่ ยภายในพ้นื ที่ สาํ หรับส่งลูกบอลขา้ มตาข่าย พ้ืนที่สาํ หรับส่งลูกบอลขา้ มตาข่ายคือพ้ืนที่ใน แนวต้งั ของตาข่ายที่ถูกกาํ หนดดว้ ยสิ่งต่อไปน้ี (10.2/ ภาพท่ี 5) 10.1.1.1 ส่วนต่าํ สุด โดยขอบบนของตาขา่ ย (2.2) 10.1.1.2 ดา้ นขา้ ง โดยเสาอากาศและแนวสมมุติท่ีสูงข้ึนไป (2.4) 10.1.1.3 ส่วนบนสุด โดยเพดาน 10.1.2 ลูกบอลท่ีขา้ มแนวตาข่ายไปยงั เขตรอบสนามของทีมตรงขา้ มท้งั ลูก หรือ เพยี งบางส่วนของลูกภายนอกแนวขา้ มตาขา่ ย ลูกบอลน้นั สามารถนาํ กลบั มา เล่นตอ่ ได้ โดยเล่นลูกไมเ่ กิน 3 คร้ัง โดย (9.1) 10.1.2.1 ผเู้ ล่นตอ้ งไมถ่ ูกแดนของทีมตรงขา้ ม (11.2.2) 10.1.2.2 ลูกบอลท่ีนาํ กลบั มา ตอ้ งขา้ มนอกเขตขา้ มตาขา่ ย ทางดา้ น เดียวกนั ของสนามท้งั ลูกหรือเพยี งบางส่วนของลูก ฝ่ ายตรงขา้ มตอ้ งไม่กีดขวางการเล่น 10.1.3 ลูกบอลท่ีกาํ ลงั จะเขา้ ไปในแดนของฝ่ ายตรงขา้ มบริเวณใตต้ าขา่ ยเป็นลูกท่ีอยู่ ในการเล่น จนกระทง่ั ลูกบอลท้งั ลูกไดผ้ า่ นแนวใตต้ าข่ายโดยสมบูรณ์ (ภาพที่ 5 และภาพท่ี 11(22)/23.3.2.3f) 10.2 ลกู บอลถูกตาข่าย (BALL TOUCHING THE NET) ลูกบอลอาจถูกตาข่ายไดข้ ณะท่ีกาํ ลงั ขา้ มตาข่าย (10.1.1 10.3 ลูกบอลชนตาข่าย (BALL IN THE NET) 10.3.1 ลูกบอลที่พงุ่ ชนตาขา่ ย ยงั เล่นตอ่ ไปไดจ้ นครบ 3 คร้ัง ตามกาํ หนดการเล่นลูก (9.1) 10.3.2 ถา้ ลูกบอลทาํ ใหต้ าของตาขา่ ยขาด หรือทาํ ใหต้ าข่ายหลุด ใหย้ กเลิกการเล่น ลูกคร้ังน้นั และใหเ้ ล่นใหม่ กติกาข้อที่ 11 ผู้เล่นทบ่ี ริเวณตาข่าย (PLAYER AT THE NET) 11.1 การลาํ้ เหนือตาข่าย (REACHING BEYOND THE NET) 11.1.1 ในการสกดั ก้นั ผสู้ กดั ก้นั สามารถล้าํ เหนือตาขา่ ยเขา้ ไปถูกลูกบอลได้ ท้งั น้ี จะตอ้ งไมก่ ีดขวางการเล่นลูกของฝ่ ายตรงขา้ มก่อนหรือขณะท่ีฝ่ ายตรงขา้ ม กาํ ลงั ทาํ การรุก (14.1/14.3) 22
22 กตกิ ากีฬาวอลเลยบ์ อล 11.1.2 ภายหลงั จากการรุก มือของผูเ้ ล่นสามารถล้าํ เหนือตาข่ายได้ ท้งั น้ีขณะท่ีถูก ลูก จะตอ้ งเป็นการถูกลูกบอลในพ้ืนที่วา่ งเหนือตาข่ายในแดนของตนเอง 11.2 การลาํ้ ใต้ตาข่าย (PENETRATION UNDER THE NET) 11.2.1 อนุญาตใหล้ ้าํ เขา้ ไปในท่ีวา่ งใตต้ าขา่ ยของฝ่ ายตรงขา้ มได้ ถา้ ไมก่ ีดขวางการ เล่นของฝ่ ายตรงขา้ ม 11.2.2 การล้าํ เส้นแบ่งแดน เขา้ ไปในแดนของทีมตรงขา้ ม (1.3.3/11.2.2.1/ ภาพที่ 11(22)) 11.2.2.1 อนุญาตใหส้ มั ผสั พ้นื สนามของฝ่ ายตรงขา้ มดว้ ยเทา้ หรือสองเทา้ ได้ ท้งั น้ีจะตอ้ งมีส่วนใดส่วนหน่ึงของเทา้ น้นั สัมผสั หรืออยู่ เหนือเส้นแบ่งแดน (1.3.3, / และภาพท่ี 11(22)) 11.2.2.2 อนุญาตใหส้ ่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่อยเู่ หนือเทา้ ข้ึนไปสัมผสั พ้ืน สนามของฝ่ ายตรงขา้ มได้ ท้งั น้ีจะตอ้ งไม่กีดขวางการเล่นของ ฝ่ ายตรงขา้ ม (1.3.3, 11.2.2.1,ภาพท่ี11(22)) 11.2.3 ผเู้ ล่นอาจเขา้ ไปในแดนของทีมตรงขา้ มไดห้ ลงั จากลูกตายแลว้ (8.2) 11.2.4 ผเู้ ล่นอาจล้าํ เขา้ ไปในเขตรอบสนามของทีมตรงขา้ มได้ ถา้ ไม่กีดขวางการ เล่นของทีมตรงขา้ ม 11.3 การถูกตาข่าย (CONTACT WITH THE NET) 11.3.1 ผ้เู ล่นถูกตาข่ายระหว่างเสาอากาศในขณะกาํ ลงั เล่นลูกบอล ถือว่าผดิ กติกา (11.4.4, 23.3.2c,24.3.2.3,ภาพท3ี่ ) ในขณะกาํ ลงั เล่นลกู บอล(The action of playing the ball) ให้รวมถึง การเร่ิมกระโดด (take-off), การเล่นลูก หรือพยายามเล่น(hit) และการลงสู่ พืน้ ทท่ี รงตัวได้อย่างสมบูรณ์ และพร้อมทจี่ ะเล่นในช่วงใหม่ 11.3.2 ผเู้ ล่นสามารถถูกเสา เชือก หรือ ส่วนอ่ืน ๆ ที่อยนู่ อกเสาอากาศรวมถึง ตวั ตาขา่ ยได้ ท้งั น้ีจะตอ้ งเป็นการไม่รบกวนต่อการเล่น (ภาพท่ี 3) 11.3.3 ขณะที่ลูกบอลพุง่ เขา้ ชนตาขา่ ย และทาํ ใหต้ าข่ายถูกผเู้ ล่นฝ่ ายตรงขา้ ม ไม่ถือวา่ เป็นการทาํ ผดิ กติกา 11.4 ผู้เล่นทาํ ผดิ ทบี่ ริเวณตาข่าย (Player fault at the net) 11.4.1 ผเู้ ล่นถูกลูกบอลหรือถูกผเู้ ล่นฝ่ ายตรงขา้ ม ในพ้นื ที่วา่ งเหนือตาข่ายของฝ่ าย ตรงขา้ ม ก่อนหรือขณะที่ฝ่ ายตรงขา้ มทาํ การรุก (11.1.1/ ภาพที่ 11(20)) 23
23 กตกิ ากีฬาวอลเลย์บอล 11.4.2 ผเู้ ล่นรบกวนการเล่นของฝ่ ายตรงขา้ ม ในขณะท่ีล้าํ แนวใตต้ าข่ายเขา้ ไปใน พ้ืนที่วา่ งใตต้ าขา่ ยของฝ่ ายตรงขา้ ม (11.2.1) 11.4.3 เทา้ ใดเทา้ หน่ึงหรือสองเทา้ ของผเู้ ล่นล้าํ เขา้ ไปในแดนของฝ่ ายตรงขา้ มโดย สมบูรณ์ (11.2.2.2/ ภาพท่ี 11 (22)) 11.4.4 ผเู้ ล่นรบกวนการเล่นของฝ่ ายตรงขา้ มโดย: (11.3.1) - ถูกตาข่ายระหวา่ งเสาอากาศ หรือตวั เสาอากาศในขณะกาํ ลงั เล่นลูกบอล(11.3.1/ภาพท่ี 11(19) - ใชต้ าข่ายระหวา่ งเสาอากาศเพื่อช่วยเหลือหรือพยงุ ตวั - กระทาํ ในส่ิงที่ไม่ยตุ ิธรรมต่อฝ่ ายตรงขา้ ม โดยใชต้ าขา่ ย - กระทาํ ในลกั ษณะที่เป็นการขดั ขวางความพยายามในการ เล่นของฝ่ ายตรงขา้ ม - จบั หรือดึงตาขา่ ย ผเู้ ล่นที่อยใู่ กลล้ ูกบอลซ่ึงอยใู่ นการเล่นและพยายามที่จะเล่นลูก จะถือวา่ เป็นการเล่นลูก แมว้ า่ จะไม่ถูกลูกน้นั กต็ าม แต่อยา่ งไรก็ตาม การถูกตาข่ายนอกเสาอากาศ จะไมถ่ ือวา่ เป็นการทาํ ผดิ กติกา (ยกเวน้ กติกาขอ้ 9.1.3) กติกาข้อท่ี 12 การเสิร์ฟ (SERVICE) การเสิร์ฟ เป็ นการนาํ ลูกบอลเขา้ สู่การเล่น โดยผูเ้ ล่นตาํ แหน่งหลงั ขวาที่อยใู่ นเขตเสิร์ฟ (1.4.2/8.1/ 12.4.1) 12.1 การเสิร์ฟคร้ังแรกในแต่ละเซต (FIRST SERVICE IN A SET) 12.1.1 การเสิร์ฟคร้ังแรกในเซตท่ี 1 และเซตตดั สิน (เซตที่ 5) จะทาํ โดยผลมาจาก การเส่ียง (6.3.2/ 7.1) 12.1.2 ในเซตอื่นๆทีมที่ไมไ่ ดเ้ สิร์ฟลูกแรกในเซตที่ผา่ นมาจะเป็ นทีมท่ีเสิร์ฟลูกแรก 12.2 ลาํ ดับการเสิร์ฟ (SERVICE ORDER) 12.2.1 ลาํ ดบั การเสิร์ฟของผเู้ ล่นตอ้ งเป็นไปตามท่ีบนั ทึกไวใ้ นใบส่งตาํ แหน่ง (7.3.1/ 7.3.2) 24
24 กตกิ ากีฬาวอลเลยบ์ อล 12.2.2 หลงั จากการเสิร์ฟคร้ังแรกในแตล่ ะเซต ผเู้ ล่นที่เสิร์ฟคร้ังต่อไป จะเป็นดงั น้ี (12.1) 12.2.2.1 เมื่อฝ่ ายเสิร์ฟชนะการเล่นลูกน้นั ผทู้ ี่ทาํ การเสิร์ฟอยแู่ ลว้ (หรือผเู้ ล่นสาํ รองท่ีเปล่ียนตวั เขา้ มาแทน) จะทาํ การเสิร์ฟต่อ (6.1.3/ 15.5) 12.2.2.2 เม่ือฝ่ ายรับลูกเสิร์ฟชนะในการเล่นลูกน้นั จะไดส้ ิทธิทาํ การเสิร์ฟ และตอ้ งหมุนตาํ แหน่งก่อนทาํ การเสิร์ฟ ผเู้ ล่นที่หมุนจาก ตาํ แหน่งหนา้ ขวาไปยงั ตาํ แหน่งหลงั ขวาจะเป็นผเู้ สิร์ฟ (6.1.3/ 7.6.2) 12.3 การอนุญาตให้ทาํ การเสิร์ฟ (AUTHORIZATION OF THE SERVICE) ผตู้ ดั สินที่ 1 เป็นผอู้ นุญาตให้ทาํ การเสิร์ฟ หลงั จากตรวจดูวา่ ท้งั สองทีมพร้อมจะ แขง่ ขนั และผเู้ สิร์ฟไดถ้ ือลูกบอลไวแ้ ลว้ (12/ ภาพที่ 11(1) 12.4 การปฏบิ ตั ิในการเสิร์ฟ (EXECUTION OF THE SERVICE)(ภาพท่ี 11(10)) 12.4.1 จะตอ้ งเสิร์ฟดว้ ยมือเดียว หรือส่วนใดส่วนหน่ึงของแขนเพยี งขา้ งเดียว หลงั จากผู้ เสิร์ฟโยนหรือปล่อยลูกบอลออกจากมือแลว้ 12.4.2 อนุญาตใหโ้ ยนหรือปล่อยลูกบอลเพ่ือทาํ การเสิร์ฟไดเ้ พียงคร้ังเดียว แต่ อนุญาตใหเ้ ดาะหรือเคลื่อนไหวลูกบอลในมือได้ 12.4.3 ขณะทาํ การเสิร์ฟหรือกระโดดเสิร์ฟ ผเู้ สิร์ฟตอ้ งไมถ่ ูกพ้นื เขตสนาม (รวมท้งั เส้นหลงั ดว้ ย) หรือพ้ืนนอกเขตเสิร์ฟ (1.4.2/27.2.1.4/ภาพที่ 12 (4) และภาพ ที่ 12(22) หลงั จากทาํ การเสิร์ฟแลว้ ผเู้ สิร์ฟสามารถเหยยี บหรือถูกพ้นื นอกเขต เสิร์ฟหรือพ้ืนในเขตสนามได้ 12.4.4 ผเู้ สิร์ฟตอ้ งทาํ การเสิร์ฟลูกภายใน 8 วนิ าที หลงั จากผตู้ ดั สินท่ี 1 เป่ านกหวีด ใหท้ าํ การเสิร์ฟ (12.3/ ภาพที่ 11(11)) 12.4.5 การเสิร์ฟก่อนสญั ญาณนกหวดี ใหย้ กเลิก และใหท้ าํ การเสิร์ฟใหม่ (12.3) 12.5 การกาํ บงั (SCREENING) (ภาพท่ี 11 (12)) 12.5.1 ผเู้ ล่นฝ่ ายเสิร์ฟ ตอ้ งไมบ่ งั ทีมตรงขา้ มเป็นรายบุคคล หรือเป็นกลุ่ม เพอ่ื มิให้ ฝ่ ายตรงขา้ มมองเห็นการเสิร์ฟและวถิ ีของลูกบอล (12.5.2) 25
25 กติกากฬี าวอลเลย์บอล 12.5.2 ผเู้ ล่นคนเดียวหรือหลายคนของฝ่ ายเสิร์ฟ ทาํ การกาํ บงั โดยโบกแขนไปมา กระโดด หรือเคล่ือนท่ีไปขา้ ง ๆ ขณะที่กาํ ลงั ทาํ การเสิร์ฟ หรือยนื เป็นกลุ่ม เพ่อื บงั ผเู้ สิร์ฟและวถิ ีของลูกบอล จนกระทงั่ ลูกบอลไดถ้ ึงแนวด่ิงของตาขา่ ย (12.4/ภาพที่ 6) 12.6 การทาํ ผดิ ขณะทาํ การเสิร์ฟ (FAULTS MADE DURING THE SERVICE) 12.6.1 การเสิร์ฟท่ีผดิ กติกา การผดิ กติกาต่อไปน้ีจะตอ้ งเปลี่ยนเสิร์ฟ ถึงแมว้ า่ ทีมตรงขา้ มจะผดิ ตาํ แหน่ง โดยผเู้ สิร์ฟ:- (12.2.2.2/ 12.7.1) 12.6.1.1 ทาํ การเสิร์ฟผดิ ลาํ ดบั การเสิร์ฟ (12.2) 12.6.1.2 ทาํ การเสิร์ฟไม่ถูกตอ้ ง (12.4) 12.6.2 การผดิ กติกาหลงั จากเสิร์ฟ ถา้ ลูกไดถ้ ูกเสิร์ฟออกไปอยา่ งถูกตอ้ งแลว้ การเสิร์ฟน้นั จะเสีย ถา้ ลูกบอล:- (ยกเวน้ ผเู้ ล่นผิดตาํ แหน่ง) (12.4/ 12.7.2) 12.6.2.1 ลูกบอลถูกผเู้ ล่นของทีมที่ทาํ การเสิร์ฟ หรือไมข่ า้ มผา่ นพ้ืนท่ีวา่ ง เหนือตาข่ายอยา่ งสมบูรณ์ (8.4.4/ 8.4.5/10.1.1/ภาพท่ี 11(19)) 12.6.2.2 ลูก “ออก” (8.4/ภาพท1ี่ 1(15)) 12.6.2.3 ลูกบอลผา่ นเหนือการกาํ บงั (12.5/ภาพท1่ี 1(12)) 12.7 การเสิร์ฟทผ่ี ดิ กติกาและการผดิ ตําแหน่ง (SERVICE FAULTS AND POSITIONAL FAULT) 12.7.1 ถา้ ผเู้ สิร์ฟทาํ การเสิร์ฟผดิ กติกาขณะเสิร์ฟ (เสิร์ฟไม่ถูกตอ้ ง หรือผดิ ลาํ ดบั การเสิร์ฟ เป็นตน้ ) และทีมตรงขา้ มผดิ ตาํ แหน่ง การเสิร์ฟผดิ กติกาจะ ถูกทาํ โทษ(7.5.1/ 7.5.2/ 12.6.1) 12.7.2 ถา้ การเสิร์ฟกระทาํ ไปอยา่ งถูกตอ้ ง แต่เป็นลูกเสียในเวลาตอ่ มา (ลูกออก หรือ ผา่ น เหนือการกาํ บงั เป็ นตน้ ) จะถือวา่ การผิดตาํ แหน่งเกิดข้ึนก่อน และ การผดิ ตาํ แหน่ง จะถูกทาํ โทษ(7.5.3/12.6.2) กติกาข้อที่ 13 การรุก (ATTACK HIT) 13.1 ลกั ษณะของการรุก (CHARACTERISTICS OF THE ATTACK HIT) (12/ 14.1.1) 26
26 กติกากีฬาวอลเลยบ์ อล 13.1.1 การกระทาํ ใด ๆ ที่ส่งลูกบอลไปยงั ทีมตรงขา้ ม ยกเวน้ การเสิร์ฟ และการสกดั ก้นั ถือวา่ เป็นการรุก (ภาพท่ี 2) 13.1.2 ขณะทาํ การรุก อนุญาตใหใ้ ชป้ ลายนิ้วเล่นลูกได้ ถา้ การถูกลูกเป็นไปอยา่ ง ชดั เจน และไม่ไดเ้ ป็นการจบั หรือทุม่ ลูกบอล (9.2.2) 13.1.3 การรุกจะสมบูรณ์ เม่ือลูกไดข้ า้ มแนวดิ่งของตาข่ายไปแลว้ ท้งั ลูก หรือเมื่อทีม ตรงขา้ มถูกลูกบอล 13.2 ข้อจํากดั ของการรุก (RESTRICTIONS OF THE ATTACK HIT) 13.2.1 ผเู้ ล่นแถวหนา้ สามารถทาํ การรุกไดท้ ุกระดบั ความสูง ถา้ การถูกลูกบอลอยู่ ภายในแดนของตนเอง (ยกเวน้ กติกาขอ้ 13.2.4) (7.4.1.1) 13.2.2 ผเู้ ล่นแถวหลงั สามารถทาํ การรุกไดท้ ุกระดบั ความสูงจากหลงั แดนหนา้ โดย: (1.4.1/ 7.4.1.2/19.3.1.2/ ภาพท่ี 8) 13.2.2.1 ขณะกระโดด เทา้ ขา้ งหน่ึง (ท้งั สองขา้ ง) ตอ้ งไม่แตะหรือขา้ ม เส้นรุก (1.3.4) 13.2.2.2 หลงั จากตบลูกแลว้ เขาสามารถลงยนื ในเขตรุกได้ (1.4.1) 13.2.3 ผเู้ ล่นแถวหลงั สามารถทาํ การรุกในเขตรุกได้ ถา้ ขณะถูกลูกบอลน้นั มีส่วน ของลูกบอลอยตู่ ่าํ กวา่ ขอบบนสุดของตาข่าย (1.4.1/ 7.4.1.2/ ภาพที่ 8) 13.2.4 ไม่อนุญาตใหผ้ เู้ ล่นทาํ การรุกโดยสมบูรณ์จากลูกที่มาจาการเสิร์ฟของทีมตรง ขา้ ม โดยในขณะทาํ การรุก ลูกบอลอยใู่ นเขตรุก และอยเู่ หนือขอบบนสุดของ ตาขา่ ยท้งั ลูก (1.4.1) 13.3 การรุกทผ่ี ดิ กติกา (FAULTS OF THE ATTACK HIT) 13.3.1 ผเู้ ล่นตบลูกบอลในแดนของทีมตรงขา้ ม (13.2.1/ภาพที่ 11(20) 13.3.2 ผเู้ ล่นตบลูกบอลออกนอกเขตสนาม (8.4/ภาพท่ี 11(15)) 13.3.3 ผเู้ ล่นแถวหลงั ทาํ การรุกโดยสมบูรณ์ในเขตรุก ขณะที่ลูกบอลอยเู่ หนือขอบ บนสุดของตาข่ายท้งั ลูก (1.4.1/ 7.4.1.2/13.2.3/ ภาพที่ 11(21)) 13.3.4 ผเู้ ล่นทาํ การรุกโดยสมบูรณ์จากลูกท่ีมาจากการเสิร์ฟของฝ่ ายตรงขา้ ม โดย ในขณะที่ลูกบอลอยใู่ นเขตรุกและอยเู่ หนือขอบบนสุดของตาขา่ ยท้งั ลูก (1.4.1/13.2.4/ ภาพที่ 11(21)) 13.3.5 ตวั รับอิสระทาํ การรุกโดยสมบูรณ์ ถา้ ขณะทาํ การรุกลูกบอลท้งั ลูกอยเู่ หนือ ขอบบนสุดของตาข่าย (19.3.1.2/23.3.2.3d/ภาพท1่ี 1(21)) 27
27 กตกิ ากีฬาวอลเลย์บอล 13.3.6 ผเู้ ล่นทาํ การรุกโดยสมบูรณ์ขณะลูกบอลอยเู่ หนือขอบบนสุดของตาข่าย จาก ลูกที่ตวั รับอิสระอยใู่ นแดนหนา้ และใชน้ ิ้วมือส่งลูกบอลมาใหด้ ว้ ยการเล่น ลูกมือบน (1.4.1/19.3.1.4/23.3.2.3e และภาพท1ี่ 1(21) กติกาข้อ 14 การสกดั ก้นั (BLOCK) 14.1 การสกดั ก้นั (BLOCKING) 14.1.1 การสกดั ก้นั คือ การเล่นโดยผเู้ ล่นท่ีอยชู่ ิดตาขา่ ย ยนื่ มือข้ึนสูงกวา่ ระดบั สูงสุด ของตาข่าย ทาํ การป้องกนั ลูกบอลท่ีจะมาจากทีมตรงขา้ ม ผเู้ ล่นแถวหนา้ เท่าน้นั ที่ไดร้ ับอนุญาตใหท้ าํ การสกดั ก้นั โดยสมบูรณ์ได้ โดยขณะท่ีถูกลูก บอลน้นั ส่วนของร่างกายตอ้ งอยเู่ หนือขอบบนสุดของตาข่าย (7.4.1.1) 14.1.2 ความพยายามทาํ การสกดั ก้นั คือลกั ษณะของการทาํ การสกดั ก้นั แต่ไมถ่ ูก ลูกบอล 14.1.3 การสกดั ก้นั โดยสมบูรณ์ คือการสกดั ก้นั ท่ีผสู้ กดั ก้นั ถูกลูกบอล (ภาพท่ี 7) 14.1.4 การสกดั ก้นั เป็นกลุ่ม คือการสกดั ก้นั โดยผเู้ ล่นสองหรือสามคนท่ีอยใู่ กลก้ นั และการสกดั ก้นั จะสมบูรณ์เมื่อผเู้ ล่นคนใดคนหน่ึงถูกลูกบอล 14.2 การถูกลูกบอลขณะทาํ การสกดั ก้นั (BLOCK CONTACT) การถูกลูกบอลหลายคร้ัง(อยา่ งรวดเร็วและต่อเน่ือง) โดยผสู้ กดั ก้นั คนเดียวหรือ มากกวา่ อาจเกิดข้ึนได้ ถา้ การถูกลูกน้นั เป็นลกั ษณะการถูกลูกเพยี งคร้ังเดียว (During one action) (9.1.1/9.2.3) 14.3 การสกดั ก้นั ในแดนของฝ่ ายตรงข้าม (BLOCKING WITHIN THE OPPONENT’S SPACE) ในการสกดั ก้นั ผเู้ ล่นสามารถยน่ื มือและแขนล้าํ เหนือตาขา่ ยได้ ถา้ ไม่กีดขวางการเล่น ของทีมตรงขา้ ม จะไม่อนุญาตใหถ้ ูกลูกบอลในแดนของทีมตรงขา้ มก่อนที่ทีมตรงขา้ มจะทาํ การรุกแลว้ (13.1.1) 14.4 การสกดั ก้นั และการถูกลกู บอลของทมี (BLOCK AND TEAM HITS) 14.4.1 การถูกลูกบอลในการสกดั ก้นั จะไม่นบั เป็นการถูกลูกบอลของทีม หลงั จาก ถูกลูกบอลโดยการสกดั ก้นั แลว้ ทีมน้นั ยงั ถูกลูกบอลไดอ้ ีก 3 คร้ังเพอ่ื ส่งลูก กลบั ไปยงั ทีมตรงขา้ ม (9.1/14.4.2) 14.4.2 การถูกลูกแรกหลงั จากการสกดั ก้นั สามารถเล่นไดท้ ุกคน รวมท้งั ผเู้ ล่นที่ถูก ลูกบอลในการก้นั ดว้ ย (14.4.1) 14.5 การสกดั ก้นั ลกู เสิร์ฟ (BLOCKING THE SERVICE) 28
28 กติกากีฬาวอลเลยบ์ อล หา้ มสกดั ก้นั ลูกบอลท่ีมาจากการเสิร์ฟของฝ่ ายตรงขา้ ม (ภาพท1่ี 1 (12) 14.6 การสกดั ก้นั ท่ผี ดิ กติกา (BLOCKING FAULT) 14.6.1 ผสู้ กดั ก้นั ถูกลูกบอลในแดนของทีมตรงขา้ ม ก่อนหรือพร้อมกบั การรุกของ ทีมตรงขา้ ม (ภาพที่ 11(12)/ 14.3) 14.6.2 ผเู้ ล่นแถวหลงั หรือตวั รับอิสระทาํ การสกดั ก้นั โดนสมบูรณ์ หรือร่วมกลุ่มทาํ การสกดั ก้นั โดยสมบูรณ์ (14.1/ 14.5/19.3.1.3) 14.6.3 สกดั ก้นั การเสิร์ฟของทีมตรงขา้ ม (14.5/ภาพที่ 11(12)) 14.6.4 ลูกบอลถูกสกดั ก้นั แลว้ ออกนอกเขตสนาม (8.4) 14.6.5 สกดั ก้นั ลูกบอลดา้ นนอกเสาอากาศในแดนของทีมตรงขา้ ม 14.6.6 ตวั รับอิสระพยายามทาํ การสกดั ก้นั ดว้ ยตนเอง หรือร่วมกบั ผเู้ ล่นอื่น (14.1.1/ 19.3.1.3) 29
กติกากีฬาวอลเลย์บอล บทที่ 5 การหยุดการเล่น การถ่วงเวลา และการหยุดพกั (INTERRUPTION DELAYS AND INTERVALS) กตกิ าข้อที่ 15 การหยดุ การเล่น ( INTERRUPTION) การหยดุ การเล่น คือเวลาระหวา่ งการสิ้นสุดการเล่นลูก กบั ช่วงเวลาที่ผตู้ ดั สินท่ี 1 เป่ า นกหวดี ใหท้ าํ การเสิร์ฟคร้ังต่อไป (6.1.3/8.1/8.2/15.4/15.5/24.2.6) การหยดุ การเล่น มีเพยี งการขอเวลานอกและการเปลี่ยนตวั เทา่ น้นั 15.1 จํานวนคร้ังของการขอหยุดการเล่นตามกตกิ า (NUMBER OF REGULAR INTERRUPTIONS) แตล่ ะทีมจะขอเวลานอกไดไ้ ม่เกิน 2 คร้ัง และเปลี่ยนตวั ผเู้ ล่นได้ 6 คนต่อเซต (6.2/ 15.4/ 15.5) สําหรับการแข่งขนั ระดับโลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการแข่งขันทเ่ี ป็ น ทางการระดบั ประชาชน สหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ อาจจะลดจํานวนคร้ังของเวลานอก และ/ หรือเวลานอกทางเทคนิค ตามข้อตกลงของผ้ใู ห้การสนับสนุน การตลาด และการถ่ายทอด 15.2 ลาํ ดับของการขอหยุดการเล่น (SEQUENCE OF REGULAR GAME INTERRUPTION) 15.2.1 ทีมสามารถขอเวลานอกหน่ึงหรือสองคร้ังติดตอ่ กนั ได้ และตามดว้ ยการขอ เปลี่ยนตวั ไดใ้ นช่วงการขอหยดุ การเล่นเดียวกนั (15.4/ 15.5) 15.2.2 ไม่อนุญาตใหท้ ีมขอเปลี่ยนตวั สองคร้ังติดต่อกนั ในช่วงท่ีขอหยดุ การเล่นคร้ัง น้นั การเปล่ียนตวั แต่ละคร้ังจะเปลี่ยนคร้ังละสองคนหรือมากกวา่ ก็ได้ (15.5/ 15.6.1) 15.2.3 การขอเปลี่ยนตวั ที่แบ่งออกเป็นสองคร้ังโดยทีมเดียวกนั จะตอ้ งใหม้ ีการ สิ้นสุดการเล่นลูกก่อน(ยกเวน้ การเปลี่ยนตวั ที่เกิดจากการบาดเจบ็ หรือให้ ออกจากการแข่งขนั /หรือตดั สิทธ์ิออกจากการแขง่ ขนั (6.1.3/15.5) 15.3 การขอหยุดการเล่นตามกตกิ า (REQUEST FOR REGULAR INTERRUPTIONS) 30
29 กตกิ ากฬี าวอลเลยบ์ อล 15.3.1 การขอหยดุ การเล่นจะตอ้ งทาํ โดยผฝู้ ึกสอนหรือหวั หนา้ ทีมท่ีลงแข่งขนั (Game captain) ในกรณีที่ผฝู้ ึ กสอนไม่อยเู่ ทา่ น้นั (5.1.2/ 5.2/ 5.3.2/15) 15.3.2 การขอเปลี่ยนตวั ก่อนเริ่มการเล่นของแต่ละเซตสามารถทาํ ได้ และตอ้ ง บนั ทึกไวเ้ ช่นเดียวกบั การขอเปล่ียนตวั ปกติในเซตน้นั (7.3.4) 15.4 เวลานอก และเวลานอกทางเทคนิค (TIME-OUTS AND TECHNICAL TIME- OUTS) 15.4.1 การขอเวลานอกจะตอ้ งทาํ โดยแสดงสัญญาณมือ ในขณะทีลูกตายและก่อน สญั ญาณนกหวดี เพื่อการเสิร์ฟ การขอเวลานอกแต่ละคร้ังใชเ้ วลา 30 วนิ าที (6.1.3/8.2/12.3/ภาพที่11(4) สําหรับการแข่งขันระดบั โลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและการ แข่งขันทเ่ี ป็ นทางการ จะต้องใช้ออด และแสดงสัญญาณมือเพื่อขอเวลานอก (ภาพท่ี 11(4)) 15.4.2 สําหรับการแข่งขนั ระดับโลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและ แข่งขันทเ่ี ป็ นทางการ ในเซ็ตท่ี 1-4 มีเวลานอกทางเทคนิคเพมิ่ ขนึ้ อกี 2 คร้ังๆ ละ 60 วนิ าทโี ดยอตั โนมตั ิ เมื่อทมี ใดนําไปถงึ คะแนนท่ี 8 และคะแนนท่ี 16 (15.3.1) 15.4.3 ในเซตตดั สิน (เซตท่ี 5) ไม่มกี ารให้เวลานอกทางเทคนิค จะมีเพยี งให้แต่ละ ทมี ขอเวลานอกตามปกตไิ ด้ทมี ละ 2 คร้ัง ๆ ละ 30 วนิ าที (6.3.2) 15.4.4 ระหว่างการขอเวลานอก(รวมท้งั เวลานอกทางเทคนิค ) ผู้เล่นในสนามทกุ คนต้องออกไปอยู่ท่ีเขตรอบสนามใกล้ม้านั่งของทมี ตนเอง 15.5 การเปลย่ี นตวั ผู้เล่น (PLAYER SUBSTITUTION) (ภาพที่ 11(5) 15.5.1 การเปล่ียนตวั เป็นการกระทาํ โดยผเู้ ล่น รวมถึงตวั รับอิสระและคูข่ องเขา หลงั จากท่ีผบู้ นั ทึกไดท้ าํ การบนั ทึกการขอเปล่ียนตวั และเขา้ เล่นแทนใน ตาํ แหน่งท่ีเปลี่ยนตวั ออกมา (ภาพท่ี 11(5)/15.10/19.3.2)) 15.5.2 ขณะท่ีมีการเปล่ียนตวั ผเู้ ล่นท่ีบาดเจบ็ ท่ีอยใู่ นสนาม ผฝู้ ึกสอน หรือ หวั หนา้ ทีม (Game captain) ควรแสดงสญั ญาณมือประกอบดว้ ย (5.1.2.3, 5.2.3.3, 6.1.3, 8.2, 12.3, D11) (5) 31
30 กติกากฬี าวอลเลย์บอล 15.6 ข้อจํากดั ในการเปลยี่ นตวั (LIMITATION OF SUBSTITUTION) 15.6.1 ผเู้ ล่นที่เร่ิมเล่นในแต่ละเซต สามารถออกจากการเล่นไดเ้ พยี ง 1 คร้ัง และ กลบั เขา้ มาเล่นใหมใ่ นตาํ แหน่งเดิมไดอ้ ีก 1 คร้ัง (7.3.1) 15.6.2 ผเู้ ล่นสาํ รองสามารถเปลี่ยนตวั กบั ผเู้ ล่นที่เร่ิมเล่นในแตล่ ะเซตไดเ้ พียง 1 คร้ัง ต่อเซต และเขาจะสามารถเปล่ียนตวั ออกไดก้ บั ผเู้ ล่นท่ีเป็ นคูเ่ ดิมเทา่ น้นั (7.3.1) 15.7 การเปลยี่ นตัวทไ่ี ด้รับการยกเว้น (กรณพี เิ ศษ) (EXCEPTIONAL SUBSTUTION) ผ้เู ล่นคนใด (ยกเว้นตวั รับอสิ ระ) ทไี่ ม่สามารถเล่นต่อได้ เน่ืองจากบาดเจ็บหรือ เจ็บป่ วย จะต้องเปลย่ี นตัวตามปกติ ถ้าไม่สามารถเปลย่ี นตัวตามปกติได้ ทมี สามารถขอ เปลยี่ นตวั ในกรณพี เิ ศษได้ ตามข้อกาํ หนดของกตกิ าข้อ15.6 (6.1.3, 15.6/19.4.3) การเปล่ียนตวั ท่ีไดร้ ับการยกเวน้ หมายถึงผเู้ ล่นคนใดที่ไม่ไดอ้ ยใู่ นสนามขณะที่มีการ บาดเจบ็ หรือเจบ็ ป่ วย (ยกเวน้ ตวั รับอิสระ ตวั รับอิสระคนที่ 2 หรือผเู้ ล่นปกติท่ีเปล่ียนตวั กบั ตวั รับอิสระ) สามารถเปล่ียนตวั กบั ผเู้ ล่นท่ีบาดเจบ็ ได้ ผเู้ ล่นท่ีบาดเจบ็ หรือเจบ็ ป่ วยจะไม่ สามารถกลบั เขา้ เล่นอีกในนดั น้นั การเปลี่ยนตวั กรณีพเิ ศษน้ี จะไม่นบั เป็นจาํ นวนคร้ังของการเปลี่ยนตวั ตามปกติ แต่ จะตอ้ งมีการบนั ทึกไวใ้ นใบบนั ทึก ซ่ึงจะเป็นส่วนของการเปล่ียนตวั รวมในเซตน้นั และใน นดั น้นั 15.8 การเปลย่ี นตวั ผ้เู ล่นทถ่ี ูกให้ออก หรือถูกตัดสิทธ์ิออกจากการเล่น (SUBSTITUTION FOR EXPULSION OR DISQUALIFICATION) ผเู้ ล่นที่ถูกใหอ้ อกหรือถูกตดั สิทธ์ิออกจากการเล่นจะตอ้ งเปลี่ยนตวั ตามปกติทนั ที ถา้ ไมส่ ามารถเปล่ียนตวั ตามปกติได้ ทีมจะถูกปรับเป็ นไม่พร้อมท่ีจะแข่งขนั (6.4.3/7.3.1/15.6/21.3.2/21.3.3/ภาพท่ี 11(5) 15.9 การเปลย่ี นตวั ทผี่ ดิ กติกา (ILLEGAL SUBSTITUTION) 15.9.1 การเปล่ียนตวั จะผดิ กติกา ถา้ มีการเปล่ียนตวั ที่ไม่เป็นไปตามกติกาขอ้ 15.6 (ยกเวน้ กรณีกติกาขอ้ 15.7) หรือในกรณีมีผเู้ ล่นที่ไม่มีช่ือลงเล่นดว้ ย 15.9.2 เม่ือทีมมีการเปล่ียนตวั ท่ีผดิ กติกา และไดม้ ีการเล่นต่อไปแลว้ จะตอ้ ง ดาํ เนินการดงั น้ี (8.1/15.6) 15.9.2.1 ทีมถูกลงโทษโดยฝ่ ายตรงขา้ มไดค้ ะแนนและเป็นฝ่ ายเสิร์ฟ (6.1.3) 32
31 กตกิ ากฬี าวอลเลยบ์ อล 15.9.2.2 แกไ้ ขการเปลี่ยนตวั ใหถ้ ูกตอ้ ง 15.9.2.3 ยกเลิกคะแนนของทีมที่ทาํ ผิดต้งั แต่พบวา่ มีการกระทาํ ผดิ เกิดข้ึน คะแนนของฝ่ ายตรงขา้ มใหค้ งไว้ 15.10 ขบวนการเปลยี่ นตวั (SUBSTITUTION PROCEDURE) 15.10.1 การเปลี่ยนตวั จะตอ้ งทาํ ในเขตเปลี่ยนตวั (1.4.3/ภาพที่ 1b) 15.10.2 การเปลี่ยนตวั จะใชเ้ วลาเทา่ ที่จาํ เป็นเพ่ือบนั ทึกการเปลี่ยนตวั ผเู้ ล่นในใบ บนั ทึกเท่าน้นั และอนุญาตให้ผเู้ ล่นเขา้ และออกจากสนาม (15.10.24.2.6/25.2.2.3) 15.10.3a การขอเปล่ยี นตัวคือ การทผ่ี ู้เล่นสํารองเข้าไปในเขตเปลยี่ นตัว พร้อมทจ่ี ะ เล่น ขณะทม่ี กี ารหยุดการเล่น ผู้ฝึ กสอนไม่จําเป็ นต้องแสดงสัญญาณมือ ยกเว้นถ้าเป็ นการขอเปลย่ี นตวั ในกรณบี าดเจ็บหรือก่อนเริ่มต้นเซต (1.4.3/7.3.3/15.6.3) 15.10.3b ถ้าผ้เู ล่นไม่พร้อมทีจ่ ะเปลยี่ นตัว การเปลี่ยนตวั น้ันจะถูกระงบั และทมี น้ัน จะถูกทาํ โทษถ่วงเวลา (16.2/ภาพท่ี 9) 15.10.3c การขอเปล่ียนตัว จะรับทราบโดยสัญญาณออดจากผู้บนั ทกึ หรือสัญญาณ นกหวดี จากผู้ตัดสินท่ี 2 ผู้ตัดสินท่ี 2 จะเป็ นผู้อนุญาตการเปลยี่ นตวั น้ัน สําหรับการแข่งขันระดับโลกของสหพนั ธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และการแข่งขันทเ่ี ป็ นทางการ ให้ใช้ป้ายเปลยี่ นตวั เพื่ออาํ นวยความสะดวก ในการเปลยี่ นตัว (รวมถงึ ในกรณีทม่ี กี ารใช้เครื่องมืออเิ ลก็ โทรนิค) 15.10.4 ถา้ ทีมตอ้ งการขอเปลี่ยนตวั พร้อมกนั มากกวา่ 1 คน ผเู้ ล่นท่ีจะเปลี่ยนตวั ตอ้ งเขา้ เขตเปลี่ยนตวั พร้อมกนั เพือ่ ใหเ้ ห็นวา่ เป็นการขอในเวลาเดียวกนั ในกรณีน้ี การเปลี่ยนตวั จะทาํ เป็นคูๆ่ ถา้ มีคูใ่ ดท่ีขอเปลี่ยนตวั ผดิ กติกา ผเู้ ล่นคู่น้นั จะตอ้ งถูก ระงบั การขอเปล่ียนตวั และตอ้ งถูกทาํ โทษถ่วงเวลา (1.4.3/15.2.2) 15.10 การขออนุญาตทผ่ี ดิ ระเบียบ (IMPROPER REQUEST) 15.11.1 การขออนุญาตหยดุ การเล่นใดๆจะผดิ ระเบียบ เม่ือ: (15) 15.11.1.1 ขอระหวา่ งที่มีการเล่น หรือในขณะท่ีมีการเป่ านกหวดี ให้เสิร์ฟ หรือภายหลงั การเป่ านกหวดี ใหเ้ สิร์ฟ (12.3) 15.11.1.2 ขอโดยสมาชิกของทีมท่ีไมม่ ีสิทธ์ิ (5.1.2.3/15.2.3.3) 15.11.1.3 การขอเปลี่ยนตวั ผเู้ ล่นคร้ังท่ี2ในแรลลี่น้นั โดยทีมเดิมก่อนท่ีจะมี การเล่นหลงั จากการเปล่ียนตวั คร้ังแรก (ก่อนจบแรลลล่ีตอ่ ไป) 33
32 กติกากฬี าวอลเลยบ์ อล ยกเวน้ ในกรณีบาดเจบ็ หรือป่ วยของผเู้ ล่นที่อยใู่ นการเล่น (15.2.2/15.2.3/16.1/25.2.2.6) 15.11.1.4 หลงั จากหมดจาํ นวนคร้ังการขอเวลานอกและการเปล่ียนตวั ผู้ เล่น (15.1) 15.11.2 การขออนุญาตท่ีผดิ ระเบียบคร้ังแรกของทีมในนดั น้นั ท่ีไม่เป็นผลหรือไมม่ ี การทาํ ใหก้ ารเล่นตอ้ งล่าชา้ จะไดร้ ับการปฏิเสธโดยไม่มีผลใด ๆ ( 16.1/ 25.2.2.6) 15.11.3 การขออนุญาตที่ผดิ ระเบียบคร้ังต่อๆมาของทีมเดิมในนดั น้นั จะเป็นการถ่วง เวลา (16.1.4) กติกาข้อที่ 16 การถ่วงเวลาการเล่น (GAME DELAYS) 16.1 ชนิดของการถ่วงเวลาการเล่น (TYPES OF DELAYS) การกระทาํ ใด ๆ ของทีมท่ีเป็ นเหตุใหก้ ารเล่นตอ้ งล่าชา้ ถือวา่ เป็นการถ่วงเวลาซ่ึง ประกอบดว้ ย 16.1.1 การเปล่ียนตวั ล่าชา้ (15.10.2) 16.1.2 เมื่อไดร้ ับแจง้ ใหเ้ ร่ิมเล่นแลว้ ยงั ทาํ ใหก้ ารขอหยดุ การเล่นตอ้ งเนิ่นนาน ออกไปอีก (15) 16.1.3 ขอเปล่ียนตวั ผดิ กติกา (15.9) 16.1.4 ขอหยดุ การเล่นผดิ ระเบียบซ้าํ อีก (15.11.3) 16.1.5 การถ่วงเวลาการเล่นโดยสมาชิกของทีม 16.2 บททาํ โทษในการถ่วงเวลา (DELAY SANCTIONS) (ภาพท9ี่ ) 16.2.1 การเตือนถ่วงเวลา (Delay Warning) และการลงโทษถ่วงเวลา (Delay Penalty) เป็นการทาํ โทษของทีม 16.2.1.1 การถูกทาํ โทษถ่วงเวลาจะมีผลตอ่ เน่ืองตลอดการแข่งขนั นดั น้นั (6.3) 16.2.1.2 การถูกทาํ โทษและการถูกเตือนถ่วงเวลาตอ้ งบนั ทึกลงในใบ บนั ทึกการแข่งขนั (25.2.2.6) 16.2.2 การถ่วงเวลาคร้ังแรกของทีมในนดั น้นั จะถูกทาํ โทษดว้ ยการเตือนถ่วงเวลา (Delay Warning) (4.1.1/ ภาพท่ี 11(25)) 16.2.3 การถ่วงเวลาคร้ังที่ 2 และคร้ังตอ่ ๆ ไปทุกชนิด ในการแข่งขนั นดั เดียวกนั โดยผเู้ ล่นหรือสมาชิกของทีมเดียวกนั ถือวา่ เป็นการทาํ ผดิ กติกาและจะถูกทาํ 34
33 กติกากีฬาวอลเลยบ์ อล โทษถ่วงเวลา (DELAY PENALTY) ฝ่ ายตรงขา้ มจะไดค้ ะแนนและไดส้ ิทธ์ิ เสิร์ฟ (6.1.3/ภาพที่ 11(25)) 16.2.4 การทาํ โทษถ่วงเวลา ก่อนเร่ิมตน้ เซตหรือระหวา่ งเซตจะมีผลในเซตถดั ไป (18.1) กตกิ าข้อที่ 17 การหยุดการเล่นทไ่ี ด้รับการยกเว้น (EXCEPTIONAL GAME ITERRUPTIONS) 17.1 การบาดเจ็บ หรือการเจ็บป่ วย (INJURY/ILLNESS) (8.1) 17.1.1 เม่ือเกิดอุบตั ิเหตุร้ายแรงขณะมีการเล่นลูก ผตู้ ดั สินตอ้ งหยดุ การแข่งขนั ทนั ที และอนุญาตใหผ้ ชู้ ่วยแพทยล์ งไปในสนามได้ และใหเ้ ล่นลูกน้นั ใหม่ (6.1.3) 17.1.2 ถา้ ผเู้ ล่นท่ีบาดเจบ็ หรือเจบ็ ป่ วยไม่สามารถเปล่ียนตวั ตามกติกา หรือตาม ขอ้ ยกเวน้ จะอนุญาตใหพ้ ยาบาลผเู้ ล่นน้นั ได้ 3 นาที แต่จะทาํ ไดเ้ พียงคร้ัง เดียวในการแข่งขนั นดั น้นั สาํ หรับผเู้ ล่นคนเดิม (15.6/15.7/24.2.8) ถา้ พยาบาลแลว้ ยงั เล่นตอ่ ไปไมไ่ ด้ จะถือวา่ ทีมน้นั ไม่พร้อมทาํ การแขง่ ขนั (6.4.3/ 7.3.1) 17.2 เหตุขดั ข้องนอกเหนือกติกาการแข่งขนั (EXTERNAL INTERFERENCE) ถา้ มีเหตุขดั ขอ้ งนอกเหนือกติกาเกิดข้ึนระหวา่ งการเล่น จะตอ้ งหยดุ การเล่น และ ใหเ้ ล่นลูกน้นั ใหม่ (6.1.3/ภาพท่ี 21(23)) 17.3 เหตุขัดข้องเป็ นเวลายาวนาน (PROLONGED INTERRUPTIONS) 17.3.1 ถา้ มีเหตุไม่คาดคิดทาํ ใหก้ ารเล่นตอ้ งหยดุ ลง ผตู้ ดั สินที่ 1 ฝ่ ายจดั การแขง่ ขนั และคณะกรรมการควบคุมการแขง่ ขนั จะร่วมกนั ตดั สินใจใหก้ ารแข่งขนั ดาํ เนินต่อไปตามปกติ (23.2.3) 17.3.2 ถา้ ตอ้ งหยดุ การเล่นคร้ังเดียวหรือหลาย ๆ คร้ัง แต่รวมแลว้ ไมเ่ กิน 4 ชวั่ โมง: (17.3.1) 17.3.2.1 ถา้ การเล่นไดเ้ ร่ิมใหมท่ ี่สนามเดิม เซตท่ีหยดุ เล่นไปจะถูกนาํ กลบั มาเล่นตามปกติ โดยใชค้ ะแนน ผเู้ ล่น (ยกเวน้ ผูเ้ ล่นท่ีถูกให้ ออกจากการแขง่ ขนั หรือถูกตดั สิทธ์ิออกจาการแข่งขนั )และ ตาํ แหน่งเดิม ผลการแข่งขนั ของเซตท่ีผา่ นไป ยงั มีผลเหมือนเดิม (1/ 7.3) 17.3.2.2 ถา้ ไดเ้ ร่ิมใหมท่ ่ีสนามอื่น ให้ยกเลิกผลการแขง่ ขนั ในเซตที่หยดุ เล่น แลว้ เริ่มตน้ เล่นใหมต่ ามตาํ แหน่งเดิม(ยกเวน้ ผเู้ ล่นท่ีถูกให้ ออกจากการแข่งขนั หรือถูกตดั สิทธ์ิออกจาการแข่งขนั ) และการ 35
34 กติกากีฬาวอลเลยบ์ อล ลงโทษที่ไดบ้ นั ทึกไวใ้ หค้ งไวเ้ ช่นเดิม ผลการแข่งขนั ของเซตที่ ผา่ นไป ยงั มีผลเหมือนเดิม (7.3/21.4.1/ภาพที่ 9) 17.3.3 ถา้ ตอ้ งหยดุ การเล่นคร้ังเดียวหรือหลาย ๆ คร้ัง รวมกนั แลว้ เกิน 4 ชวั่ โมง จะตอ้ งทาํ การเล่นนดั น้นั ใหม่. กติกาข้อที่ 18 การหยดุ พกั และการเปลย่ี นแดน (INTERVALS AND CHANGE OF COURTS) 18.1 การหยดุ พกั ระหว่างเซต (INTERVALS) การหยดุ พกั เป็นช่วงเวลาระหวา่ งเซต จะพกั เซตละ 3 นาที ระหวา่ งการหยดุ พกั น้ี จะทาํ การเปลี่ยนแดน และบนั ทึกตาํ แหน่งเร่ิมแขง่ ขนั ลงในใบ บนั ทึกผลการแขง่ ขนั (7.3.2/18.1/25.2.1.2) การหยดุ พกั ระหวา่ งเซตที่ 2 และเซตท่ี 3 อาจขยายเวลาพกั เป็น10 นาทีได้ ตามคาํ ขอ ของฝ่ ายจดั การแข่งขนั 18.2 การเปลยี่ นแดน (CHANGE OF COURTS) (ภาพที่ 11(3) 18.2.1 เมื่อการแข่งขนั แตล่ ะเซตจบลง ท้งั สองทีมจะเปล่ียนแดน ยกเวน้ เซตตดั สิน (7.1) 18.2.2 ในเซตตดั สิน เม่ือทีมใดทาํ ได้ 8 คะแนนจะทาํ การเปล่ียนแดนทนั ที และ ตาํ แหน่งของผเู้ ล่นใหเ้ ป็นไปตามเดิม (6.3.2/ 7.4.1/25.2.2.5) ถา้ ไมไ่ ดเ้ ปลี่ยนแดนเม่ือทีมนาํ ทาํ คะแนนถึง 8คะแนน จะตอ้ งทาํ การ เปลี่ยนแดนทนั ทีเมื่อพบขอ้ ผดิ พลาด ส่วนคะแนนใหเ้ ป็นไปตามเดิม 36
Search