สขุ สนั ต สทุ ธผิ ลไพบลู ย ในอดตี บรรพบรุ ษุ ของเรามคี วามสนใจใชพชื สมนุ ไพร เปน อาหารและยามานานนบั รอยป เชนเดียวกับประเทศอื่นๆ จึงมขี อ มลู เปนมรดกอันลา้ํ คา ตกทอดใหก บั นกั วจิ ยั สมยั ใหม ไดค นควาวิจยั กวางไกลย่งิ ขนึ้ ความรูพื้นฐานเพื่อการวิจัยพืชสมุนไพร อาจทําไดหลายแบบ เพอ่ื เปาหมายตา งๆ กัน ไดแก 1. รจู กั ลกั ษณะสรรี วทิ ยาของตน พชื ใบ ดอก เน้ือผล ราก เมล็ด อยา งครบ ทกุ ระบบ 2. รูจักการขยายพันธุแบบธรรมชาติและหาเทคนิคทันสมัยเพื่อเรงขยายพันธุ ดวย 3. รูจักลักษณะพื้นที่เหมาะสมเพื่อการปลูกใหเจริญเติบโตไดผลผลิตดีและมี คณุ ภาพตามตอ งการ 4. รจู กั คุณภาพทางชีวเคมขี องทุกๆ สว นของพชื สมนุ ไพร ซง่ึ ไดแ ก การรฤู ทธ์ิ เดนชัดของสารเปนยาที่มีอยูตามธรรมชาติในพืชน้ันๆเพราะสวนตางๆของ พชื อาจสะสมสารตา งชนดิ กนั และควรทราบวา สารออกฤทธเ์ิ ปน สารประเภท ใดเชน มสี ารเปน ยาสําหรับบาํ บดั อาการโรคใดฤทธอ์ิ อ นแรงอยา งไร มพี ษิ มากนอ ยเพยี งใด 5. รจู กั วธิ ปี รบั ปรงุ พชื สมนุ ไพรอยา งไรเพอ่ื การบรโิ ภคอยา งปลอดภยั การใชพืชสมุนไพรในยุคนี้ก็เพื่อประสงคใหประชาชนมีไวเสริมสุขภาพใหแข็งแรงอายุ ยนื นานโดยไมม ผี ลขา งเคยี งรวมทง้ั เพอ่ื การผลติ เปน สนิ คา พฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศ และ
ทดแทนการนาํ เขา ยาบางชนดิ ทีส่ ังเคราะหจากสารเคมี ซึ่งประกอบดว ย ดา นกสกิ รรมตอ งรู จักพืชสมุนไพรในเชงิ พฤกษศาสตรแ ขนงตางๆ เพื่อการเพาะปลูกผลิตใหไดปริมาณมากเพียง พอในเชิงพาณชิ ยนาํ มาซง่ึ อตุ สาหกรรมอาหารและยา ทางดา นเภสชั กรรมตอ งรจู กั ผลติ สาร ออกฤทธเ์ิ ปน ยาหรอื อาหารอนามยั เสรมิ สขุ ภาพ ขน้ั สดุ ทา ยการแพทยค วรสานตอ นาํ ไปใช ในการบาํ บดั โรคดา นสาธารณสขุ มลู ฐานของประชาชนทง้ั ในชนบทและในเมอื ง เทาที่ทราบพืชสมุนไพรมีจาํ นวนมากนบั หมน่ื ชนดิ แตต า งพนั ธอุ าจมคี ณุ สมบตั ขิ อง สารธรรมชาตอิ อกฤทธเ์ิ หมอื นกนั จงึ สามารถใชบ าํ บดั อาการโรคเดยี วกนั ได นกั วทิ ยาศาสตร ไดจ ดั พชื สมนุ ไพรตามชนดิ สารธรรมชาตอิ อกฤทธท์ิ ส่ี กดั ได รวมทั้งวิจัยคนควาบาํ บัดโรค และนาํ มาใชไดอ ยางเหมาะสม ดังการจัดหมวดหมูตอไปน้ี 1. ใชเ ปน ยาระบาย เชน ผักมะขามเปรี้ยว ใบฝกมะขามแขก วนุ วา นหางจระเข เนอ้ื เมลด็ คณู เมลด็ ชมุ เหด็ เทศ ฯลฯ 2. ใชเ ปน ยาแกท อ งอดื ขบั ลม เชน จุกเรว เหงา ขงิ ไหลวานนาํ้ ใบกะเพรา โหระพา ฯลฯ 3. ใชเ ปน ยาระงบั พษิ ภายนอก พษิ แมลงกดั ตอ ย พิษรอน เชน ใบเสลดพังพอน ตวั เมยี หวั หรอื ใบวา นมหากาฬ วุนวานหางจระเข ฯลฯ 4. เปนยาบาํ บัดโรคผวิ หนงั หรอื บาํ รงุ รกั ษาผวิ และผม เชน รากขมน้ิ ชนั วุนวาน หางจระเข วา นนางดาํ ฯลฯ 5. ใชท าถแู กบ วม เชน ไพล เอน็ เหลอื ง ฯลฯ 6. ใชบ รโิ ภคเพอ่ื เคลอื บกระเพาะสาํ หรบั ผปู ว ยโรคกระเพาะ เชน บุก ฯลฯ 7. ใชเ ปน ยาขบั ปส สาวะ เชน หญา หนวดแมว รากสามสิบ ฯลฯ 8. ใชเ ปน ยาฆา เชอ้ื เชน ใบพลูจีน หัวกระเทยี ม นา้ํ มนั กานพลู ฯลฯ 9. ใชเ ปน ยาแกท อ งเสยี เชน เปลือกมังคุด เนื้อผลดิบฝรั่ง ฯลฯ 10. ใชเปนยาลดความดันโลหิต เชน รากระทอ ม ฯลฯ นอกจากนย้ี งั มีพชื สมนุ ไพรทใี่ ชประโยชนไดอ กี มาก การศกึ ษาคน ควา พชื สมนุ ไพร แบง ออกได 2 แนวทางดวยกัน คอื ยุคเกา นิยมในความขลงั ของพืชซงึ่ เชอ่ื ถือตามศาสนา และมกี ารทดลองใชโ ดยอาศยั รปู รา งทม่ี คี วามคลา ยคลงึ กบั อวยั วะของมนษุ ยแ ละสตั ว เพื่อ นาํ มารักษาบาํ บดั โรคทเ่ี กดิ กบั อวยั วะนน้ั ๆ โดยอาศยั สถติ แิ บบงา ยๆ บางครั้งก็เปนการ เส่ียงแตไมไดยึดเปนหลักตายตัวเสมอไปซ่ึงเปนพื้นฐานการคนควาวิทยาการทางแพทยและ
เภสชั กรรมยคุ ตอ ๆ มา สว นยคุ ใหมป จ จบุ นั เปน ชว งความกา วหนา ทางวทิ ยาศาสตรท ม่ี กี ฏ เกณฑทฤษฎีพิสูจนความถูกตองไดแมนยาํ ในเรื่องชนิดสารธรรมชาติในพืชนั้นๆ ปริมาณที่ สกดั ไดแ ละนํามาใชป รงุ แตง เปน ตําหรับยาแพทยแผนปจจุบัน หรือนักวิจัยบางกลุมมุงไปใน เรอ่ื งสารเคมใี นพชื ชนดิ ตา งๆ เพ่ือสรางอตุ สาหกรรมผลิตยาและอาหารเสริมสุขภาพจากพชื สมุนไพร ขณะนส้ี หรฐั อเมรกิ า ญี่ปุน อังกฤษ และอน่ื ๆ กําลงั ผลติ สารธรรมชาตสิ าํ คัญจาก พชื สมนุ ไพรโดยใชเ ทคนคิ การเพาะเนอ้ื เยอ่ื เพื่อเพิ่มปริมาณอยางรวดเร็ว และตดั ขน้ั ตอน ดา นการสงั เคราะห ในอนาคตตอ งใชว ทิ ยาการไปโอเทคโนโลยยี งั ตามไมท นั คงตอ งผลติ พชื สมุนไพรในรูปสินคาวัตถุดิบและกึ่งสําเร็จรปู ในระยะเริ่มวิจัยพัฒนานี้การปลูกพืชสมุนไพร จะตองคาํ นึงถึงชนิดท่ีสนองความตองการนําไปใชเปนยาบาํ บัดโรคนานาชนิดที่ฝายแพทย เภสชั คน ควา ไดผ ลดแี ลว รวมทั้งสงออกไปจําหนา ยยงั ตา งประเทศดว ย อตุ สาหกรรมทใ่ี ช พืชสมุนไพรเปนวัตถุดิบ ไดแ ก 1. อุตสาหกรรมการผลิตจากพืชเสนใยเพื่อสุขภาพบรรเทาอาการโรคเบาหวาน ผไู มอ ยากอว นเกนิ ความจาํ เปน และผทู ม่ี รี ะบบการระบายไมป กติ 2. อุตสาหกรรมการผลิตทดแทนสารเคมีเพ่ือใชในการปองกันกาํ จัดโรคแมลง ศตั รพู ชื เชน หางไหล วานนํา้ ขา สะเดา หนอนตายยาก ฯลฯ เพื่อชวย ลดมลภาวะจากสารเคมีทั้งในดินและนาํ้ 3. อตุ สาหกรรมสผี สมอาหาร ยา เครอ่ื งสําอาง 4. อตุ สาหกรรมนา้ํ มนั ปรงุ ยาทา ถู นวด 5. ผลติ ยาจําพวกทใ่ี ชป ฐมพยาบาลในชนบทหา งไกล เชน ยาหามเลือด เปนตน 6. ผลติ ตน ออ นสมนุ ไพรพนั ธดุ ขี าย เชนเดียวกับ จีน เกาหลี ที่นาํ เงินเขา ประเทศไดม าก ประเทศท่ีมีการวจิ ยั พชื สมนุ ไพรเพอ่ื อตุ สาหกรรมจนเปน ทย่ี อมรบั ทางดา นการใชท าง การแพทยแผนปจจุบัน อาทเิ ชน สหรฐั อเมรกิ า ญี่ปุน เยอรมัน อนิ เดยี จีน อังกฤษ ฝรั่งเศล อติ าลี ไตหวัน เกาหลีใต แคนนาดา รัสเซีย ฯลฯ ซึ่งได 3 กลมุ คอื ใช เทคโนโลยชี น้ั สงู ไดแก สหรฐั อเมรกิ ามคี วามกา วหนา ทางวทิ ยาศาสตรส งู สดุ ในโลกไดใ ช เทคโนโลยชี วี ภาพเพอ่ื ผลติ สารธรรมชาตอิ ยา งแพรห ลาย สาํ หรบั ทใ่ี ชเ ทคโนโลยที นั สมยั ได แก เยอรมนั ญี่ปุน ฝรั่งเศส สว นทไ่ี มม เี ทคโนโลยหี รอื ตอ งซอ้ื เทคโนโลยมี าผลติ ซง่ึ มไี ทย
รวมอยดู ว ย โดยมบี รษิ ทั ขา มชาตเิ ขา มาดาํ เนนิ การคา ยาแผนปจ จบุ นั ทผ่ี ลติ จากพชื หลาย ชนดิ เชน บริษัททาเคดะก็มีสวนพืชสมุนไพรอยูที่เกาะคิวชิวดวย บรษิ ทั นทั เตอรม านของ เยอรมนั มสี ํานักงานตัวแทนอยูที่ลพบุรี รับซื้อใบและฝกมะขามแขกเพื่อใชผลิตยาระบาย รวมท้งั รบั ซือ้ เมลด็ และเหงา ดองดงึ ดว ย บริษัทไทยซังเงียวของญี่ปุนมาปลูกและรับซื้อเปลา นอ ยทป่ี ระจวบครี ขี นั ธ เพื่อสงออกไปผลิตยารักษาโรคแผลในกระเพาะมีผูรายงานวา ญี่ปุน ไดสะสมพันธุพืชของไทยไวแลวมากกวา 600 ชนดิ ขณะน้ีนักวิจยั ทางการแพทยใน ประเทศดังกลาวขางตนตางกําลังคนควาวัชพืชท่ีข้ึนในเรือกสวนไรนาทางแถบเอเซียตะวัน ออกเฉยี งเหนอื และอฟั รกิ า สาํ หรับใชปองกันบาํ บดั โรคมะเรง็ และโรคเอดส ดงั นน้ั เปลา นอ ยพชื พน้ื บา นของเราเปน บทเรยี นทม่ี คี า ยง่ิ ทญ่ี ป่ี นุ ไปจดทะเบยี นสทิ ธบิ ตั รนานแลว นัก วจิ ยั ไทยพบวา เมลด็ มะระขน้ี ก ของเราสามารถบรรเทาอาการโรคเอดสท ําใหผ ปู ว ย เจรญิ อาหารสขุ ภาพดมี ชี วี ติ ยนื นานขน้ึ ทางราชการควรจะไดรีบเรงพิจารณาจดสิทธิบัตร ดว นเพือ่ ปองกันตางชาตเิ อาไปอีก นอกจากน้ีนักวิจยั นา จะไดเ ฝาระวงั ตดิ ตามตรวจสอบการ วจิ ยั พชื สมนุ ไพรและวชั พชื ทม่ี อี ยใู นตา งประเทศเพอ่ื ประโยชนข องประเทศชาตดิ ว ย
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: