Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อ ทิพ 0000

อ ทิพ 0000

Published by Guset User, 2022-08-16 06:34:27

Description: อ ทิพ 0000

Search

Read the Text Version

รายงาน เรอ่ื ง อนิ เทอร์เนต็ จดั ทำโดย พระภราดร พทุ ธิสริ ิ (ชสู ขุ ) เสนอ ผศ.ดร.ทิพมาศ เศวตวรโชติ รายงานนี้เปน็ สว่ นหนง่ึ ของวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศทาง ภมู ศิ าสตร์ สาขาวชิ าการสอนสังคมศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 มหาวทิ ยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตศรีธรรมาโศกราช

ก คำนำ รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา เทคโนโลยี สารสนเทศทางภูมิศาสตร์ ED1138 ชนั้ ปที ี่ 3 โดยมจี ุดประสงค์ เพื่อศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่อง อินเทอร์เน็ต ผู้จัดทำได้เลือก หวั ข้อนใ้ี นการทำรายงาน เนือ่ งมาจากเปน็ เร่ืองทน่ี า่ สนใจและ ต้องขอขอบคุณผู้ให้ความรู้และแนวทางการศึกษา เพื่อน ๆ ทกุ คนท่ใี ห้ ความช่วยเหลอื มาโดยตลอด ผู้จัดทำหวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็น ประโยชนแ์ ก่ผู้อ่านทกุ ๆ ท่าน ลงชื่อ พระภราดร พุทธฺ สิ ิริ (ชสู ขุ ) ผู้จัดทำ

สารบญั เรือ่ ง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข ท่ีมาของอินเทอรเ์ น็ต 1 อินเทอร์เนต็ คืออะไร 2 การประยกุ ตใ์ ช้งานอินเทอรเ์ นต็ 3 ความสำคญั ของอนิ เทอรเ์ นต็ กบั งานสื่อสารมวลชน 5 ความเป็นมาของอนิ เตอร์เน็ตในต่างประเทศ 6 ประวัติความเป็นมาของอนิ เทอเน็ตในประเทศไทย 10 จำนวนผ้ใู ช้อนิ เทอร์เน็ตในประเทศไทย 27 มาตรฐานการสือ่ สารดา้ นอนิ เทอรเ์ นต็ 28 การเชอื่ มตอ่ เขา้ สูร่ ะบบอนิ เทอรเ์ นต็ 32 ขอ้ มลู ข่าวสารบนเวบ็ ไซต์ 36 บริการต่าง ๆ บนเครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ น็ต 39

สารบัญ (ตอ่ ) เร่ือง หนา้ เหตผุ ลสำคัญทีท่ ำใหอ้ ินเตอรเ์ นต็ ได้รับความนยิ มแพรห่ ลาย 52 การเชือ่ มตอ่ อินเทอร์เน็ต 53 การใช้ิอนิ เตอร์เน็ตอยา่ งปลอดภัย 68 ประโยชน์และโทษของอนิ เทอร์เนต็ 84 ประโยชนข์ องอินเทอรเ์ นต็ 85 โทษของอินเทอรเ์ น็ต 87 โรคตดิ อินเทอรเ์ นต็ 89 อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ 91 จำนวนผูใ้ ชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ทัว่ โลก 96

1 อินเทอรเ์ นต็ ที่มาของอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) จากการเกิดเครือข่าย ซึ่งเป็น เครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยชั้นสูงของ กระทรวงกลาโหม ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์หลักของการสร้าง เครือข่ายคือ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถ เชื่อมต่อ และมีปฏิสัมพันธ์กันได้ เครือข่าย ARPANET ถือเป็นเครือข่ายเริ่มแรก ซ่ึง ต ่ อ ม า ไ ด ้ พ ั ฒ น า ใ ห ้ เ ป ็ น เ ค ร ื อ ข่ า ย อนิ เทอรเ์ นต็ ในปัจจบุ ัน

2 อินเทอร์เนต็ คืออะไร อ ิ น เ ท อ ร ์ เ น ็ ต ( Internet ) คื อ เครือข่ายของคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ท่ี เชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้า ด้วยกัน โดยอาศัยเครือข่ายโทรคมนาคม เป็นตัวเชื่อมเครือข่าย ภายใต้มาตรฐานการ เชื่อมโยงด้วยโปรโตคอลเดียวกันคือ TCP/IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol) เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องใน อินเทอร์เน็ตสามารถสื่อสารระหว่างกันได้ นับว่าเป็นเครือข่ายที่กว้างขวางที่สุดใน ปัจจุบัน เนื่องจากมีผู้นิยมใช้ โปรโตคอลอิน เทอร์เน็ตจากทั่วโลกมากที่สุดอินเทอร์เน็ต จึงมีรูปแบบคล้ายกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบ WAN แต่มีโครงสร้างการทำงานที่ แตกต่างกันมากพอสมควร เนื่องจากระบบ WAN เป็นเครือข่ายที่ถูกสร้างโดยองค์กรๆ เดียวหรือกลุ่มองค์กร เพื่อวัตถุประสงค์ ด้านใดด้านหนึ่ง และมีผู้ดูแลระบบที่

3 รับผิดชอบแน่นอน แต่อินเทอร์เน็ตจะเป็น การเชื่อมโยงกันระหว่างคอมพิวเตอร์นับ ล้านๆ เครื่องแบบไม่ถาวรขึ้นอยู่กับเวลา นั้นๆ ว่าใครตอ้ งการเข้าสู่ระบบอนิ เทอร์เน็ต บ้าง ใครจะติดต่อสื่อสารกับใครก็ได้ จึงทำ ให้ระบบอินเทอร์เน็ตไม่มีผู้ใดรับผิดชอบ หรอื ดแู ลทงั้ ระบบ การประยกุ ต์ใชง้ านอินเทอร์เน็ต การประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตใน ปัจจุบันทำได้หลากหลาย อาทิ ไปรษณีย์

4 อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล (email), สนทนา (chat), อ่านหรือแสดงความคิดเห็นในเว็บ บอร์ด, การติดตามข่าวสาร, การสืบค้น ข้อมูล / การค้นหาข้อมูล, การชม หรือซื้อ สินค้าออนไลน์, การดาวโหลด เกม เพลง ไ ฟ ล ์ ข ้ อ ม ู ล ฯ ล ฯ , ก า ร ต ิ ด ต า ม ข ้ อ มู ล ภาพยนตร์ รายการบันเทิงต่าง ๆ ออนไลน์, การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ออนไลน์, การ เรียนรู้ออนไลน์ (e-learning), การประชุม ท า ง ไ ก ล ผ ่ า น อ ิ น เ ท อ ร ์ เ น ็ ต ( video conference), โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP), การอับโหลดข้อมูล หรืออื่น ๆ แนวโน้มล่าสุดของการใช้อินเทอร์เน็ตคือ การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ เพื่อสร้างเครือข่ายสังคม(Social Network) ซึ่งพบว่าปัจจุบันเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ กจิ กรรมดงั กลา่ วกำลังได้รบั ความนยิ มอย่าง แพร่หลายเช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ ไฮไฟฟ์ และการใช้เริ่มมีการแพร่ขยายเข้า

5 ไปสู่การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ ( Mobile Internet) ม า ก ข ึ ้ น เ น ื ่ อ ง จ า ก เทคโนโลยีปัจจุบันสนับสนุนให้การเข้าถึง เครือข่ายผ่านโทรศัพท์มือถือทำได้ง่ายข้ึน มาก ความสำคัญของอินเทอร์เน็ตกับงาน ส่ือสารมวลชน ในปัจจุบันนี้อินเทอร์เน็ตมีอิทธิพลกบั งานทุกสาขาอาชีพรวมทั้งงาน สื่อสารมวลชนด้วย สำหรับงาน สื่อสารมวลชนเป็นงานที่ต้องเน้นความ รวดเร็วเป็นหลักให้ทันกับสถานการณ์ บ้านเมืองในปัจจุบัน เพราะข่าวสารนั้นมี การอัปเดตอยู่ตลอดเวลา มิใช่มีประโยชน์ เพียงแค่นี้ อีกทั้งยังยังสามารถใช้ในการ ตดิ ตอ่ สอ่ื สาร การโฆษณาสินคา้ การคา้ ขาย รวมท้ังการประชาสัมพนั ธ์

6 การสื่อสารโดยใช้อินเทอร์เน็ตใน ป ั จ จ ุ บ ั น น ั ้ น ถ ื อ ว ่ า เ ป ็ น ก า ร ส ื ่ อ ส า ร ท ี ่ ไ ร้ พรมแดน มีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ใน จำนวนมากได้เป็นเวลาอันรวดเร็วและใช้ ต้นทุนต่ำ และอินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นสื่อที่ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของ สื่อมวลชนตามความตอ้ งการดงั กล่าว ความเป็นมาของอินเตอร์เน็ตใน ตา่ งประเทศ อินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นโครงการของ ARPAnet (Advanced Research Projects Agency Network) ซ่งึ เป็นหนว่ ยงานทส่ี ังกดั ก ร ะ ท ร ว ง ก ล า โ ห ม ข อ ง ส ห รั ฐ ( U.S.Department of Defense - DoD)ค . ศ . 1960 (พ.ศ.2503) ARPA ได้ถูกก่อตั้งและได้ ถูกพัฒนาเรื่อยมา ค.ศ.1969 (พ.ศ.2512) ARPA ได้รับทุนสนันสนุน จากหลายฝ่าย ซึง่ หนึ่งในผู้สนับสนนุ ก็คือ Edward Kenedy

7 แ ล ะ เ ป ล ี ่ ย น ช ื ่ อ จ า ก ARPA เ ป็ น DARPA(Defense Advanced Research Projects Agency) พ ร ้ อ ม เ ป ล ี ่ ย น แ ป ล ง นโยบายบางอย่าง และในปีค.ศ.1969(พ.ศ. 2512)น ี ้ เ อ ง ท ี ่ ไ ด ้ ท ด ล อ ง ก า ร เ ช ื ่ อ ม ต่ อ คอมพิวเตอร์คนละชนิด จาก 4 แห่งเข้าหา ก ั น เ ป ็ น ค ร ั ้ ง แ ร ก ค ื อ ม ห า ว ิ ท ย า ลั ย แคลิฟอร์เนีย สถาบันวิจัยสแตนฟอร์ด ม ห า ว ิ ท ย า ล ั ย แ ค ล ิ ฟ อ ร ์ เ นี ย แ ล ะ มหาวิทยาลัยยูทาห์ เครือข่ายทดลอง ประสบความสำเร็จอย่างมาก ดังนั้นในปี ค.ศ.1975(พ.ศ.2518) จึงได้เปลี่ยนจาก เครือข่ายทดลอง เป็นเครือข่ายที่ใช้งานจริง ซึ่ง DARPA ได้โอนหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ให้แก่ หน่วยการสื่อสารของกองทัพสหรัฐ ( Defense Communications Agency - ปจั จบุ ันคือ Defense Informations Systems Agency) แ ต ่ ใ น ป ั จ จ ุ บ ั น Internet มี คณะทำงานที่รับผิดชอบบริหารเครือข่าย

8 โดยรวม เช่น ISOC (Internet Society) ดูแล ว ั ต ถ ุ ป ร ะ ส ง ค ์ ห ล ั ก , IAB (Internet Architecture Board) พ ิ จ า ร ณ า อ น ุ ม ั ติ มาตรฐานใหม่ในInternet, IETF (Internet Engineering Task Force) พัฒนามาตรฐาน ที่ใช้กับ Internet ซึ่งเป็นการทำงานโดย อาสาสมัคร ทั้งสิ้นค.ศ.1983 (พ.ศ.2526) DARPA ตัดสินใจนำ TCP/IP (Transmission Control Protocal/Internet Protocal) มาใช้ กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในระบบ ทำให้ เป็นมาตรฐานของวิธีการติดต่อ ในระบบ เครือข่าย Internet จนกระทั่งปัจจุบัน จึง สังเกตุไดว้ า่ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง ที่จะต่อ internet ได้จะต้องเพิ่ม TCP/IP ลง ไปเสมอ เพราะ TCP/IP คือข้อกำหนดที่ทำ ให้คอมพิวเตอร์ทั่วโลก ทุก platform คุยกัน รู้เรื่อง และสื่อสารกันได้อย่างถูกต้องการ กำหนดช่ือโดเมน (Domain Name System) มีขึ้นเมื่อ ค.ศ.1986 (พ.ศ.2529) เพื่อสร้าง

9 ฐ า น ข ้ อ ม ู ล แ บ บ ก ร ะ จ า ย ( Distribution database) อยู่ในแต่ละเครือข่าย และให้ ISP(Internet Service Provider) ช่วยจัดทำ ฐานข้อมูลของตนเอง จึงไม่จำเป็นต้องมี ฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ เหมือนแต่ก่อน เช่น การเรยี กเว็บ www.yonok.ac.th จะไป ท ี ่ ต ร ว จ ส อ บ ว ่ า ม ี ช ื ่ อ น ี ้ ห ร ื อ ไ ม ่ ที่ www.thnic.co.th ซึ่งมีฐานข้อมูลของเว็บท่ี ลงท้ายด้วย th ทั้งหมด เป็นต้น- DARPA ได้ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบ internet เรื่อยมาจนถึงค.ศ.1980 (พ.ศ.2533) และให้ มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ( National Science Foundation - NSF) เ ข้า มา ด ูแล แทนร่วม กับอีกหลายหน่วยงาน อินเทอร์เน็ตเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่ถือ กำเนิดเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ถือกำเนิด ขึ้นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ . 2512 โ ด ยองค ์กร ท างท ห า ร ข อ ง สหรัฐอเมริกา ชื่อว่า ยู.เอส.ดีเฟนซ์ ดีพาร์

10 ทเมนท์ ( U.S. Defence Department ) เปน็ ผู้คิดค้นระบบขึ้นมา มีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อใหม้ ีระบบเครือขา่ ยท่ีไม่มีวันตายแมจ้ ะมี สงคราม ระบบการสื่อสารถูกทำลาย หรือ ตัดขาด แต่ระบบเครือข่ายแบบนี้ยังทำงาน ได้ ซึ่งระบบดังกล่าวจะใช้วิธีการส่งข้อมูลใน รูปของคลื่นไมโครเวฟ ฝ่ายวิจัยขององค์กร จึงได้จัดตั้งระบบเน็ตเวิร์กขึ้นมา เรียกว่า ARPAnet ย ่ อ ม า จ า ก ค ำ ว ่ า Advance Research Project Agency net ซึ่งประสบ ความสำเร็จและได้รับความนิยมในหมู่ของ หน่วยงานทหาร องค์กร รัฐบาล และ สถาบนั การศกึ ษาตา่ งๆ เปน็ อย่างมาก ประวัติความเป็นมาของอินเทอเน็ตใน ประเทศไทย อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยการ เชื่อมต่อเข้าสู่อินเทอร์เน็ตของประเทศไทยมี จุดกำเนิดมาจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์

11 ระหว่างมหาวิทยาลัย หรือที่เรียกว่า \"แคมปัสเน็ตเวอร์ก\" ( Campus Network ) เครือข่ายดัง กล่าวได้รับการสนับสนุนจาก \"ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และ ค อ ม พ ิ ว เ ต อ ร ์ แ ห ่ ง ช า ต ิ \" ( NECTEC ) จนกระทั่งได้ เชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ตโดย สมบูรณ์ในเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ.2535 พัฒนาการ ประเทศไทยได้เริ่มติดต่อกับ อินเทอร์เน็ตโดยใช้ E-mail โดยเริ่มที่ \"มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต หาดใหญ่\" เป็นแห่งแรก และสถาบัน เทคโนโลยีแห่งเอเชีย ภายใต้ความร่วมมือ ระหว่างไทยและออสเตรเลียในช่วงเวลา ต่อมา ในขณะนั้นยังไม่ได้มีการเชื่อมต่อ แบบ On-line หากแต่เป็นการแลกเปลี่ยน ข่าวสาร ด้วย E-mail โดยใช้ระบบ MSHnet ละ UUCP โดยทางออสเตรเลียจะโทรศัพท์ เชื่อมเข้ามาสู่ระบบวันละ 2 ครั้ง ในปีถัดมา NECTEC ซ ึ ่ ง อ ย ู ่ ภ า ย ใ ต้

12 กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ การพลังงาน ( ชื่อเดิมในขณะนั้น ) ได้ จัดสรรทุนดำเนินโครงการ เครือข่าย คอมพิวเตอร์ของสถาบันอุดมศึกษา โดย แบ่ง โครงการออกเป็น 2 ระยะ การ ดำเนินงานใน ระยะแรกเป็นการเชื่อมโยง 4 หน่วยงาน ได้แก่ - กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ - จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย - สถาบันเทคโนโลยีแหง่ เอเชยี - สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วทิ ยาเขตเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ระยะท่ีสอง สถาบันอุดมศึกษาทีเ่ หลือ คอื - มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

13 - มหาวิทยาลัยมหิดล - มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช - สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตธนบุรี - สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วทิ ยา เขตพระนครเหนือ - มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ - มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ - มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ วทิ ยา เขตหาดใหญ่ เดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2534 คณะทำงาน ของ NECTEC ร่วมกับกลุ่มอาจารย์และ นักวิจัยจากสถาบันอุดมศึกษาได้ก่อตั้งกลุ่ม NEWgroup ( NECTEC E-mail Working Group) เพื่อ ประสานงานและแลกเปลี่ยน ข้อมูลข่าวสารด้วย E-mail โดยยังคงอาศัย สถาบัน เทคโนโลยีแห่งเอเชียเป็นทางออกสู่

14 อินเทอร์เน็ตผ่านทางออสเตรเลีย ปี พ.ศ. 2538 รัฐบาลไทยได้ประกาศให้เป็นปีแห่ง เ ท ค โ น โ ล ย ี ส า ร ส น เ ท ศ ( Information Technology Year ) เนื่องจากตระหนักถึง ความสำคัญของเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และ การสื่อสารข้อมูลใน ขณะเดียวกันก็มีการ ดำเนินการจัดวางเครือข่ายความเร็วสูงโดย ใช้ใยแก้วนำแสงเพื่อใช้เป็นสายสื่อสาร ไทยสาร เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2535 สำนัก วทิ ยบริการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไดเ้ ช่า วงจร สื่อสารความเร็ว 9600บิตต่อวินาที จากการสื่อสารแห่งประเทศไทยเพื่อเชื่อม เข้าสู่อินเทอร์เน็ตที่ \"บริษัท ยูยูเน็ต เทคโนโลยี ประเทศสหรัฐอเมริกา\" ภายใต้ ข ้ อ ต ก ล ง ก ั บ NECTEC ใ น ก า ร พ ั ฒ น า เ ค ร ื อ ข ่ า ย อ ิ น เ ท อ ร ์ เ น็ ต ข อ ง สถาบันอุดมศึกษาเพื่อร่วมใช้วงจรสื่อสาร จนกระทั่งในเดือนธันวาคมปีเดียวกันมี หน่วยงาน 6 แห่งที่ เชื่อมต่อแบบ On-line

15 โดยสมบูรณ์ ได้แก่ NECTEC ,จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ,สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ,มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,มหาวิทยาลัย ส ง ข ล า แ ล ะ ม ห า ว ิ ท ย า ล ั ย เ ก ษ ต ร ศ า ส ต ร์ เครือข่ายที่ก่อตั้งมี ชื่อว่า \"ไทยสาร\" หรือ \"ไทยสารอินเทอร์เน็ต\" ในปี พ.ศ. 2536 NECTEC ได้เช่าวงจรสื่อสารความเร็ว 64 กิโลบิตต่อวินาทีจากการสื่สารแห่งประเทศ ไทยเพื่อ เพิ่มความสามารถในการขนส่ง ข้อมูล ทำให้ประเทศไทยมีวงจรสื่อสาร ระดับ ที่ให้บริการแก่ผู้ใช้ไทยสาร อินเทอร์เน็ต 2 วงจร ในปัจจุบันวงจรเชื่อม ต ่อไ ปยังต ่างปร ะ เท ศ ท ี่จ ุฬาล ง ก ร ณ์ มหาวิทยาลัย และ NECTEC ได้รับการ ปรับปรุงให้มีความ เร็วสูงขึ้นตามลำดับ นับตั้งแต่นั้นมาเครือข่ายไทยสารได้ขยายตัว กว้างขึ้น และมีหน่วยงานอื่นเชื่อมเข้ากับ ไทยสารอีกหลายแห่งในช่วงต่อ มากลุ่ม สถาบันอุดมศึกษาประกอบด้วย สำนักวิทย

16 บริการ จุฬาฯ ,สถาบันเทค- -โนโลยีแห่ง เ อ เ ช ี ย ,ม ห า ว ิ ท ย า ล ั ย เ ช ี ย ง ใ ห ม ่ แ ล ะ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญได้ร่วมตัวกันเพ่ือ แบ่งสว่ นค่าใชจ้ ่ายวงจร สือ่ สาร โดยเรียกชอื่ กลุ่มว่า \"ไทยเน็ต\" ( THAInet ) สมาชิกส่วน ใหญ่ของไทยสาร คือ สถาบันอดุ มศกึ ษา กับ หน่วยงานราชการบางหน่วย งาน และ NECTECยังเปิดโอกาสให้กับบุคลากรของ หน่วยงานราชการที่ยังไม่มีเครือข่ายภายใน เป็นของตัว เองมาขอใช้บริการได้ แต่ทว่ายงั มีกลุ่มผู้ที่ต้องการใช้บริการอินเทอร์เน็ตอีก เป็นจำนวนมาก ทั้งบริษัทเอกชนและบุคคล ทั่วไปซึ่งไม่สามารถใช้บริการ จากไทยสาร อินเทอร์เน็ตได้ ทั้งนี้เพราะไทยสารเป็น เครือข่ายเพื่อการศึกษาและวิจัยที่ใช้เงิน งบประมาณอดุ หนนุ จากรัฐภาย ใตข้ ้อบังคับ ของกฏหมายด้านการสื่อสารจึงไม่สามารถ ให้นิติบุคคลอื่นร่วมใช้เครือข่ายได้ปี พ.ศ. 2535 เปน็ ปีเร่มิ ตน้ ของการจัดกลุ่มจดหมาย

17 อิเลก็ ทรอนกิ ส์ เพอ่ื การศกึ ษาและวิจยั โดยมี ชื่อว่า เอ็นดับเบิลยูจี ( NWG : NECTEC E- mail Workking Group) โดยหน่วยงานของ รัฐ คือ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และ คอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค ( NECTEC: National Electronic and Computer Technology Centre) ส ั ง กั ด กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มี เค ร ือข่าย \"ไ ท ยส าร \" ( ThaiSarn : Thai Social / Scientific andResearchNetwork ) พ.ศ. 2535 ได้มีการจัดตั้งเครือข่ายไทยสาร ขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยเนคเทค ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆเช่นมหาวิทยาลัยและ บริษัทเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์แรกคือ การทำให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและ เอกชนสามารถแลกเปลี่ยนจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก ทั้งนี้มี ค ณ ะ ท ำงานจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ( NECTEC Email Working Group ห รื อ

18 NEWgroup) เป็นผู้ช่วยกันพัฒนา และมีผู้ใช้ แรกเริ่มเพียง 28 ท่าน จาก 20 หน่วยงาน โดยใช้คอมพิวเตอร์ 8 เครื่อง เชื่อมต่อกัน ผ่านสายโทรศัพท์ โดยใช้ซอฟต์แวร์ UUCP และ MHSNet โดยในเดอื นเมษายน ประเทศ ไทยมีรหัสอักขระมาตรฐานประกาศในร่าง ม า ต ร ฐ า น ISO-10646 แ ล ะ ใ น เ ด ื อ น ก ร ก ฎ า ค ม ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ไ ด ้ เ ช ื ่ อ ม ต ่ อ กั บ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มเวลา (ผ่าน วงจรเช่าต่างประเทศ ระหว่าจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยและบริษัท UUNET) ด้วย ความเร็ว 9,600 บิต/วินาที และในเดือน ธันวาคม มีสถาบันไทยรวม 6 แห่ง ที่ เชื่อมโยงกันด้วยวงจรเช่าแบบถาวรเข้าถึง อินเทอร์เน็ตได้คลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน ได้แก่ เนคเทค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม ห า ว ิ ท ย า ล ั ย ธ ร ร ม ศ า ส ต ร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ สถาบัน เทคโนโลยีแห่งเอเซีย) พ.ศ. 2536 เนคเทค

19 เปิดใช้วงจรต่างประเทศความเร็วปานกลาง (64kbps) ขึ้นเป็นวงจรแรก เพื่อทำให้ผู้ใช้ ทั้งหมดในประเทศไทยได้รับและส่งข้อมูลได้ โดยสะดวกยิ่งขี้น และในเดือนสิงหาคม จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ก็ไดป้ รบั ปรุงวงจร 9,600 bps เป็น 64kbps ด้วย ในเดือน สิงหาคม ได้มีการเริ่มนำระบบ Linux Operating System เข้ามาใช้งานเป็นครั้ง แรกในประเทศไทย และเดือนตุลาคม ได้ เปิดบริการ WWW เป็นครั้งแรกในประเทศ ไทยเช่นเดียวกนั คือ www.nectec.or.th ซงึ่ ทำหน้าที่แนะนำประเทศไทยให้กับทั่วโลก เป็นภาษาอังกกฤษ ภายใตช้ ่ือ Thailand the Big Picture และเปิดบริการอย่างต่อเนื่อง มาเป็นเวลากว่า 7 ปีจนถึงปัจจุบัน [1] ในปี นั้น เครือข่ายไทยสารมีหน่วยงานเชื่อมต่อ อย่างถาวรรวม 19 หน่วยงาน พ.ศ. 2537 เป็นปีที่ประเทศไทยนำเครื่องคอมพิวเตอร์ สมรรถนะสงู สองเครื่อง ต่อเข้ากับเครือขา่ ย

20 ไทยสาร-อินเทอร์เน็ต เครื่องแรก คือ MasPar ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (เดือนกุมภาพันธ์) และเครื่องที่สอง คือ Cray Supercomputer ร ุ ่ น EL98 (เ ด ื อ น พฤษภาคม) และในเดือนกรกฎาคม ได้มี การสาธิตการเชอื่ มตอ่ อนิ เทอรเ์ นต็ ความเร็ว สูง 2 ล้านบิตต่อวินาที ระหว่างเนคเทค กับ งานวันสื่อสารแห่งชาติ ที่ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ ในเดือนกรกฎาคม เพ่ือ ส า ธ ิ ต ร ะ บ บ ม ั ล ต ิ ม ี เ ด ี ย แ ล ะ ก า ร ป ร ะ ชุ ม ทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IP Video Conference) ใ น ป ี น ี ้ เ ค ร ื อ ข ่ า ย ไทยสารได้เชื่อมโยงสถาบันอุดมศึกษาได้ 34 แห่ง ใน 27 สถาบันและพ.ศ. 2538 เป็นปี แห่งเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเปิดศักราช ด้วยการที่การสื่อสารแห่งประเทศไทย อ น ุ ญ า ต ใ ห ้ เ ป ิ ด บ ร ิ ก า ร อ ิ น เ ท อ ร ์ เ น ็ ต เ ชิ ง พาณิชย์ โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ ก่อตั้งบริษทั อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด

21 (การร่วมทุนระหว่างเนคเทค/สวทช. กับ กสท. และ ทศท.) เป็นผู้ให้บริการรายแรก ซึ่งได้มีการเริ่มบริการอย่างเป็นทางการใน วันที่ 1 มีนาคม 2538 และตั้งแต่เดือน มิถุนายนก็เริ่มมีผู้ให้บริการอื่นเริ่มได้รับ อ น ุ ญ า ต ใ ห ้ บ ร ิ ก า ร อ ิ น เ ท อ ร ์ เ น ็ ต ท ี ่ ถู ก กฎหมาย ในเดือนมีนาคมปีนี้ ก็เป็นการเริ่ม โครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร ์เ พื่อ โ ร ง เ ร ี ย น ไ ท ย ห ร ื อ SchoolNet โ ด ย มี โรงเรียนเข้าร่วมโครงการรุ่นแรก 30 โรงเรียน การใช้อินเทอร์เนต็ หลงั จากปี พ.ศ. 2538 เป็นต้นมา เริ่มเป็นที่แพร่หลายและ เป็นข่าวออกสู่หน้าหนังสือพิมพ์เป็นประจำ และค่อนข้างจะหาเอกสารอ้างอิงต่างๆได้ ง่าย อย่างไรก็ดี ก็มีเหตุการณ์ต่างๆที่ควร แกก่ ารบันทกึ ดังน้ี มีนาคม 2538 องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่อ อ ิ น เ ท อ ร ์ เ น ็ ต อ ย ่ า ง ถ า ว ร ด ้ ว ย ค ว า ม เ ร็ ว 64kbps รายแรก คือ ธนาคารไทยพาณิชย์

22 ม ิ ถ ุ น า ย น 2538 ม ี ก า ร ข ย า ย ว ง จ ร ต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในขณะนั้น คือ 512kbps โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ต ประเทศไทย และในเดือนเดียวกัน ได้มีการ รายงานผล การเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ต โดย นสพ.บางกอกโพสต์ร่วมกับเนคเทค กันยายน 2538 ประเทศไทยเปิดใช้วงจร อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิตต่อวินาทีเป็นวงจรแรกของ วงจรน้ี เชื่อมเนคเทคกับNACSIS (National Center for Science Information Systems) ใ น ประเทศญี่ปุ่น เป็นความร่วมมือเพื่อการ ศึกษาวิจัย โดยสถาบันเป็นสมาชิกเครือข่าย ไทยสารทุกแห่งสามารถเข้าถึงสถาบันต่างๆ ในญี่ปุ่นได้จากวงจรนี้ได้กุมภาพันธ์ 2539 ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูงเพือ่ อินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดย ศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทยเป็นผู้ ล ง ท ุ น เ ช ื ่ อ ม ร ะ ห ว ่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ยกับ

23 สหรัฐอเมริกาโดยผ่านเคเบิลใยแก้วนำแสง ทั้งนี้เป็นการลงทุนเพื่อทำให้ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด เอเซีย- ยุโรป พร้อมกับบริการอินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงให้แก่ผู้สื่อข่าวจากทั่วโลก และ บุคคลสำคัญได้อย่างเต็มภาคภูมิ วันที่ 5 ธันวาคม 2539 เวลา 9.09 น. ได้มีการเปิด บริการข้อมูลเครือข่ายกาญจนาภิเษก ตาม พระราชดำริของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ http://kanchanapisek.or.th เพื่อเป็นการ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับพระราช กรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช และผลงานของหน่วยงาน ต่างๆกว่าสิบหน่วยงาน ที่ทำงานสนอง พระราชดำริ รวมถงึ กจิ กรรมดา้ นเทคโนโลยี เพอ่ื การพัฒนาประเทศ พัฒนาสังคมตา่ งๆ ใ น โ อ ก า ส ต ่ อ ม า ใ น ว ั น ท ี ่ 27 ก ุ ม ภ า พ ั น ธ ์ 2540 ส ม เ ด ็ จ พ ร ะ เ ท พ

24 รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรง เปิดเครือข่ายกระจายความรู้แก่ประชาชน ให้บุคคลทั่วไป เข้าถึงข้อมูลเครื่อข่าย กาญจนาภิเษกได้ผ่านเลขหมายออนไลน์ 1509 ได้จากทุกแห่งในประเทศไทยโดยไม ต้องเสียค่าสมาชิกและค่าโทรศัพท์ทางไกล เครอื ข่ายนี้ ต่อมาได้รับพระราชาน ุญ าต ใ ห้ น ำ ม า ใ ช ้ เ ป ็ น access network ส ำ ห รั บ โ ร ง เ ร ี ย น ท ั ่ ว ป ร ะ เ ท ศ ใ น ก า ร เ ข ้ า ถึ ง อินเทอร์เน็ตโดยไม่ตอ้ งเสยี คา่ ใชจ้ ่ายโดยทรง เปิดเครือข่ายใหม่ ที่เชื่อมเครือข่ายกระจาย ความรู้ฯ กับเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพ่ือ โ ร ง เ ร ี ย น ไ ท ย เ ข ้ า ด ้ ว ย ก ั น เ ร ี ย ก ว่ า SchoolNet@1509 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ . ศ . 2541 [6] ท ำ ใ ห ้ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย เ ป็ น ประเทศแรกในอาเซียนที่จัดระบบ อินเทอร์เน็ตฟรีให้แก่ โรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อลดความด้อยโอกาสของโรงเรียนที่อยู่

25 ในชนบท ก่อนที่จะมีการกล่าวถึงคำว่า “digital divide” ในเวทนี านาชาติ พ.ศ. 2542 แม้ว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น ตัว และในวงการคอมพิวเตอร์ต่างก็ต้อง กังวลเรื่องการแก้ปัญหา Y2K แต่จัดได้ว่า เป็นปีแห่งการเพิ่มความเร็วของวงจร อินเทอร์เน็ตต่างประเทศ ในเดือนมกราคม มวี งจรตา่ งประเทศระดับ8 ลา้ นบิตตอ่ วินาที ถึงสองวงจร คือของอินเทอร์เน็ต ประเทศ ไทย และของการสื่อสารแห่งประเทศไทย ทั้งสองวงจรเป็นวงจรใยแก้วคุณภาพสูง ใน เดือนเมษายน มีเพิ่มอีกหนึ่งวงจร คือของ KSC (เป็นวงจรดาวเทียม 8 Mbps) และใน เดือนตุลาคม KSC เป็นรายแรกที่เปิดใช้ วงจรต่างประเทศขนาด 34 Mbps (เป็น วงจรดาวเทียมแบบSimplex คือ ส่งข้อมูล เข้าประเทศไทยทิศทางเดียว) เมื่อถึงสิ้นปี ประเทศไทยมีวงจรต่างประเทศรวมทั้งส้ิน 118.25 Mbps

26 พ.ศ. 2543 ซึ่งเริ่มเป็นปที ี่เงนิ บาทเริ่ม คงตัว และหนี้ที่ไม่ก่อรายได้ (NPL) เริ่ม ลดลง การเพิ่มความเรว็ ของอนิ เทอร์เนต็ ทงั้ ในประเทศและระหว่างประเทศได้เพิ่มความ เข้มข้นยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้จากสถิติ เปรียบเทียบดงั นี้ Growth of Internet International Bandwidth of Thailand in January of each year (January) 1998 1999 2000 2001 316.365 Mbps 32.75 49.5 153.25 106.44% Growth on 51.15% 209.60% previous year จะเห็นได้ชดั วา่ ในต้นปี 2543 ความเร็วของ การเชือ่ มตอ่ อินเทอร์เน็ตไดเ้ พิม่ ขึ้นถึง 209% (คือเพม่ิ เปน็ สามเท่า) จากเดอื นเดียวกันในปี 2542 ส่วนในเดือนมกราคม 2544 เป็นการ เพิ่มเป็นสองเท่าจากในปี 2542 สำหรับ อัตราการเพิ่มของการไหลเวียนข้อมูลใน ประเทศ กม็ กี ารเพ่มิ ข้ึนด้วยอตั ราที่สูงกว่าปี

27 ละ 160% ทั้งสามปีติดต่อกันดังตาราง ข้างลา่ ง Growth of Domestic Data Exchange Volume of Thailand (January) 1998 1999 2000 2001 47.400 Mbps at 2.300 6.100 17.600 PIE/IIR 165.22% 188.52% 169.32% Growth on previous year จำนวนผใู้ ช้อนิ เทอรเ์ น็ตในประเทศไทย จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศ ไทยมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ ปี 2534 (30 คน) ปี 2535 (200 คน) ปี 2536 (8,000 คน) ปี 2537 (23,000 คน) ข้อมูลล่าสุดของ สำนกั งานสถิติแห่งชาติ ปี 2551 จากจำนวน ประชากรอายุ 6 ปีขึ้นไปประมาณ 59.97 ล้านคน พบว่า มีผู้ใช้คอมพิวเตอร์ 16.99 ล้านคน คิดเป็น ร้อยละ 28.2 และมีผู้ใช้

28 อินเทอร์เน็ต 10.96 ล้านคน คิดเป็นรอ้ ยละ 18.2 มาตรฐานการส่ือสารดา้ นอินเทอรเ์ นต็ โปรโตคอล (Protocol) คือตัวกลาง หรือ ภาษากลาง ที่ใช้เป็นมาตรฐานสำหรับการ สื่อสาร ในระบบเครือขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต เพื่อ ใช้ติดต่อสื่อสารเชื่อมโยงกัน ระหว่างเครื่อง คอมพิวเตอร์ นับร้อยล้านเครื่องซึ่งแต่ละ เครื่องมีความแตกต่างกัน ทั้งรุ่นและขนาด ของคอมพิวเตอร์ ถ้าขาดโปรโตคอลก็จะไม่ สามารถที่จะติดต่อสื่อสาร ให้เข้าใจกันได้ เพราะฉะนั้นโปรโตคอล ก็เปรียบเหมือน เป็นล่ามที่ใช้แปลภาษา ของระบบเครือข่าย อินเทอร์เน็ต มาตรฐานนี้เรียกว่า TCP/IP การทำงานของ TCP/IP จะแบ่งข้อมูลที่จะ ส่งออกเป็นส่วนย่อย ๆ เรียกว่า แพ็คเก็ต (Packet) แล้วส่งไปตามเส้นทางต่าง ๆ ใน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยจะกระจายแพ็ค

29 เก็ตออกไปหลายเส้นทาง แพ็คเก็ตเหล่านี้ จะไปรวมกันที่ปลายทาง และถูกนำมา ประกอบรวมกัน เป็นข้อมูลที่สมบูรณ์อีก คร้ัง ระบบไอพีแอดเดรส (IP Address) เมื่อเรา ต้องการสื่อสารกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เราจะต้องทราบที่อยู่ของเครื่อง คอมพิวเตอร์เครื่องนั้น คอมพิวเตอร์ที่ใช้ โปรโตคอล TCP/IP จะมีหมายเลขประจำ เครื่องที่ไม่ซ้ำกับเครื่องอื่นในโลก มีชื่อ เรียกว่า ไอพีแอดเดรส ไอพีแอดเดรสจะมี ลักษณะเป็นตัวเลข 4 ชุดที่มีจุด ( . ) ค่ัน เช่น 193.167.15.1 เป็นต้น ตัวเลขแต่ละชุด จะมีค่าได้ตั้งแต่ 0-255 คอมพิวเตอร์ ที่มีไอ พีแอดเดรสเป็นของ ตัวเองและใช้เป็นที่เก็บ เว็บเพจ เราเรียกว่าเซิร์ฟเวอร์ (Server) ห ร ือโ ฮส ต ์ ( Host) ส ่ว น องค ์กร ห ร ื อ ผู้ ค ว บ ค ุ ม ด ู แ ล แ ล ะ จ ั ด ส ร ร ห ม า ย เ ล ข ไ อ พี

30 แ อ ด เ ด ร ส เ ร า เ ร ี ย ก ว่ า อ ิ น เ ท อร์นิก (InterNIC) โดเมนเนม (Domain Name) โ ด เ ม น เ น ม ( Domain Name) เ ป็ น ระบบที่นำตัวอักษร ที่จำได้ง่ายเข้ามาแทน ไอพีแอดเดรส ที่เป็นตัวเลข แต่ละโดเมนจะ มชี ่อื ไมซ่ ำ้ กัน และมกั จะถูกต้งั ใหค้ ล้ายกับชื่อ ของบริษัทหน่วยงาน หรือองค์กรของผู้เป็น เจา้ ของ เพ่ือความสะดวกในการจดจำชอ่ื ความหมายโดเมนเนม โดเมนเนม ความหมาย Com Edu กลุ่มองคก์ ารค้า Gov (Commercial) Mil กลุม่ การศกึ ษา Net (Education) กลุ่มองคก์ รรฐั บาล (Governmental) กลมุ่ องคก์ รทหาร (Military) กลุ่มองคก์ ารบริหาร (Network Service)

31 Org กลุ่มองคก์ รอน่ื ๆ (Organizations) ความหมายโดเมนทีเ่ ป็นชอื่ ย่อของประเทศ โดเมนท่ีเปน็ ช่อื ย่อของประเทศ ความหมาย au ออสเตรเลีย (Australia) fr ฝรงั่ เศส (France) th ไทย (Thailand) jp ญีป่ ุน่ (Japan) uk อังกฤษ (United Kingdom) โดเมนเนมเซิร์ฟเวอร์ โดเมนเนมเซิรฟ์ เวอร์ (Domain Name Server) ถึงแม้ระบบโดเมนเนม จะทำให้ จดจำชื่อได้ง่าย แต่การทำงานจริง ของ อินเทอร์เน็ต ก็จำเป็นต้องใช้ไอพีแอดเดรส อย่างเดิม ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีระบบ ที่จะ ท ำ ก า ร แ ป ล ง โ ด เ ม น เ น ม ไ ป เ ป ็ น ไ อ พี แอดเดรส โดยจะตอ้ งจดั การให้คอมพวิ เตอร์ เครื่องหน่ึง ทำหน้าที่ในการแปลงโดเมนเนม ไปเป็นไอพีแอดเดรส เครื่องคอมพิวเตอร์ที่

32 ทำหน้าที่นี้ จะถูกเรียกว่าโดเมนเนม เซริ ฟ์ เวอร์ (Domain Name Server) หรือ ดี เอ็นเซิร์ฟเวอร์ (DNS Server) ตำแหน่ง อ้างอิงเว็บเพจ เป็นตำแหน่งที่ใช้อ้างอิงเว็บ เพจต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตโดยพิมพ์ URL เข้าไปในช่อง Address ของเว็บเบราเซอร์ โดย URL ประกอบดว้ ย 3 สว่ น ดังน้ีคือ www.hotmail.com/data.html www คือ การแสดงว่าขณะนี้กำลังใช้ บรกิ าร www hotmail คือ โดเมนเนมของเว็บไซต์ท่ี กำลงั ใชง้ านอยู่ data.html คือ ตำแหน่งของไฟล์ที่เกบ็ เวบ็ เพจหนา้ น้นั อยู่ การเช่ือมตอ่ เข้าสู่ระบบอนิ เทอรเ์ น็ต การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ เข้าสู่อินเทอร์เน็ตผู้ใช้จะต้องสมัครเป็น

33 สมาชิกเครือข่ายจะต้องมีบีประจำเครื่อง (Account Number) ที่ศูนย์บริการ แล้วเชื่อ โยงคอมพิวเตอร์เข้ากับเครื่องที่ศูนย์บริการ โ ด ย ใ ช ้ ส า ย โ ท ร ศ ั พ ท ์ ผ ่ า น ท า ง โ ม เ ด็ ม (Modem) และจะมีซอฟต์แวร์ทำหน้าท่ี แปลงคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้เป็นเทอร์มินัล ของคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์บริการเมื่อสมัคร เป็นสมาชิกแล้ว ผู้ใช้จะมี User ID หรือ User name ห ร ื อ Login name แ ล ะ Password ผ ู ้ ใ ช ้ จ ะ ต ้ อ ง จ ั ด เ ต ร ี ย ม แ ล ะ เชอื่ มตอ่ อุปกรณด์ ังน้ี 1.เครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่จำกัดชนิด และย่หี อ้ สว่ นใหญท่ น่ี ยิ มใช้จะใชเ้ คร่ือง PC 2.โมเดม็ ทำหน้าท่ีชว่ ยให้คอมพิวเตอร์ แ ล ก เ ป ล ี ่ ย น ข ้ อ ม ู ล ผ ่ า น ส า ย โ ท ร ศ ั พ ท ์ ไ ด้ ความเร็วของโมเด็มเป็นความเร็วในการส่ง ข้อมูลผ่านสายโทรศัพท์ โมเด็มมีขนาด ความเร็วต่าง ๆ กัน โมเด็มมีขนาดความเร็ว สงู ต้ังแต่ 14.4 Kbps ข้ึนไป สว่ นใหญ่แล้วจะ

34 มีความสามารถรับส่ง Fax ได้ด้วย เรียก กว่า Fax Modem โมเด็มที่มีความเร็วสูงจะ มีราคาแพงกว่า ความเร็วของโมเด็มวัดเป็น บิดต่อวนิ าที (bps) โมเดม็ แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คอื 1.โมเด็มภายใน (internal modem) เป็นการ์ดที่เสียบลงบนสล็อต (slot) ของ เมนบอร์ด 2.โมเดม็ ภายนอก (External nodem) เป็นกล่องขนาดเล็ก มีพอร์ต (port) เพื่อ เสียบสัญาณจากคอมพิวเตอร์เข้าโมเด็ม มี ช่องสำหรับเสยี บสายโทรศัพท์ และมีสายไฟ จากโมเด็มเพ่ือต่อเข้ากบั ไฟบา้ น 3. โทรศัพท์ เพื่อเชื่อมต่อสายโทรศัพท์เข้า กับโมเด็ม เพื่อให้สัญญาณข้อมูลส่งผ่าน สายโทรศัพท์ ดังนั้นผู้ต้องการใช้บริการ อินเทอร์เน็ต จะต้องมีโทรศัพท์หนึ่งเลข หมายในการตอ่ เขา้ กบั อนิ เทอร์เนต็

35 4.ซอฟต์แวร์ ในการใช้อินเทอร์เน็ตจะมี โปรแกรมทีเ่ กย่ี วข้องอยู่ 3 ประเภทคอื 1.โ ป ร แ ก ร ม ท ี ่ ใ ช ้ ใ น ก า ร ต ิ ด ต ่ อ เ พื่ อ จัดการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ กับอินเทอร์เน็ต ถ้าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Window 95 จะมี โปรแกรม dial-Up Networking ที่ใช้ในการ สื่อสารอยู่แลว้ 2. โปรแกรมที่ใช้รับส่งจด หมาย อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (E-mail) เช่น Eudora 3. โปรแกรมที่ใช้ค้นหาข้อมูลบน อิน เท อร ์เน ็ต เร ียกกว ่า บร าว เซอร์ ( Browser) เ ช ่ น Netscape Navigator, Internet Exploer 5.ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP : Internet Service Provider) ผู้ใช้จะต้องสมัครเป็นสมาชิกเครือข่าย กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็น

36 ศูนย์บรกิ ารใหก้ บั สมาชิก ซงึ่ มีทง้ั ภาครัฐและ เอกชน ซึ่งผู้ให้บริการเหล่านี้จะเชื่อมโยงกับ ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกโดย ศ ู น ย ์ บ ร ิ ก า ร เ ห ล ่ า น ี ้ จ ะ ต ้ อ ง เ ส ี ย เ งิ น ค ่ า เ ช่ า สายสญั ญาณไปตา่ งประเทศให้กบั รฐั ขอ้ มูลข่าวสารบนเวบ็ ไซต์ 1. เว็บเพจ (Web Page) คือ ข้อมูลที่ แสดงบนเครือขา่ ยอินเตอร์เนต็ เปน็ เอกสาร ทส่ี ามารถเชื่อมโยงไปยงั หนา้ อื่น ๆ ได้ 2. เว็บไซต์ (Web Site) คือ เว็บเพจ ทั้งหลายที่มีอยู่ในอินเทอร์เน็ต และบรรจะ ไว้ในเครอื่ งคอมพิวเตอรห์ นง่ึ ๆ เช่น เว็บไซต์ www.google.com 3. โฮมเพจ (Home Page) คือ เว็บ เพจหลักของเว็บไซต์ ภายในโฮมเพจจะมีจะ เชื่อมต่อเปิดเข้าไปชม เว็บเพจอื่น ๆ ที่อยู่ ภายในเว็บไซต์นีไ้ ด้

37 4. โปรแกรมเว็บเบราเซอร์ (Web Browser) เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่ ในการ เปิดเว็บเพจ และสามารถรับส่ง ไฟล์ทาง อินเทอร์เน็ต โดยการแปลงภาษา HTML แล้วแสดงผลคำสั่งให้ออกมาเป็นรูปภาพ เสียง และข้อมูล ต่าง ๆ ที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน ไดแ้ ก่ NCSA Mosaic, Netscape Navigator, Internet Explorer และ Opera โปรแกรมท่ี ได้รบั ความนิยมสงู สุดคือ Internet Explorer 5. ภาษาHTML (Hyper TextMarkup Language) เป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนเว็บ เพจ โดยสามารถใสจ่ ุดเช่ือมโยง (Link) ไปยัง เอกสารหน้าอื่น ๆ ซึ่งการเชื่อมโยงนี้ถูก เรียกว่า Hypertextหรือเอกสาร HTML ซ่ึง เว็บเพจจะใช้รหัส คำสั่ง สำหรับควบคุมการ แสดงผลข้อความ หรือรูปภาพในลักษณะ ต่าง ๆกันได้ โดยใช้สิ่งที่เรียกว่า แท็ก (Tag) ซึ่งแท็กจะกำหนด ให้เบราเซอร์แปล ความหมายของรหัสคำสั่งดังกล่าว เป็น

38 ข้อมลู ของเว็บเพจและคณุ สมบัติพ้ืนฐานต่าง ๆ ด้วยนอกจากนี้ยังได้มีการนำเอาโค้ด ภาษาโปรแกรมที่เรียกว่าสคริปต์ (Script) มาช่วยเพิ่ม ความสามารถ และสีสันให้เว็บ เพจมากข้นึ 6. WYSIWYG (What-You-See-Is- What-You-Get) โปรแกรมแบบวิสสิวิกนี้ ใช้ สร้างเว็บเพจโดยการนำรูปภาพ หรือ ข้อความมาวางทับบนเว็บเพจ และเม่ือ แสดงผลเว็บเพจ จะปรากฎหน้าเอกสาร ของเว็บเพจ เหมือนกับขณะที่ ทำการสร้าง การใช้งานจะใช้งานได้ง่ายกว่า การเขียน ด้วยภาษา HTMLมาก โปรแกรมที่สามารถ ตอบสนอง การสร้างเว็บเพจแบบ WYSIWYG มีอยู่หลายโปรแกรมให้เลือกใช้ เชน่ FrontPage, Dreamweaver เป็นตน้

39 บริการตา่ ง ๆ บนเครือขา่ ยอินเทอร์เนต็ อินเทอร์เนต็ เปน็ แหล่งทใี่ ช้ในการ เก็บข้อมูลจำนวนมาก ท่ีเราสามารถค้นคว้า และรับส่งข้อมูลไปมา ระหว่างกันได้ อินเทอร์เน็ตจึงมีประโยชน์สำหรับยุคสังคม และข่าวสาร ในปัจจุบันอย่างมาก อินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่ เหมือนห้องสมุด อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ ส่งข้อมูลที่เรา ต้องการมาให้ถึงบ้านหรือที่ทำงาน ภายใน ไมก่ ี่นาที จากแหล่งขอ้ มลู ทว่ั โลก โดยจัดเป็น บริการในรปู แบบตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1. เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web : WWW) คือบริการค้นหาและแสดงข้อมูล แบบมัลติมีเดีย บนอินเทอร์เน็ตทุกประเภท ซึ่งข้อมูลและสารสนเทศอาจจัดอยู่ใน รปู แบบของข้อความ รปู ภาพ หรอื เสียงก็ได้ ข้อดีของบริการประเภทนี้คือ สามารถ เชื่อมโยงไปยังเว็บเพจหน้าอื่น หรือเว็บไซด์

40 อื่นได้ง่าย เพราะใช้วิธีการของไฮเปอร์เท็กซ์ ( Hypertext) โ ด ย ม ี ก า ร ท ำ ง า น แ บบไ ค ล เอนท์/เซิร์ฟเวอร์ (Client/Server) ซึ่งผู้ใช้ สามารถค้นหาข้อมูล จากเครื่องที่ให้บริการ ซึ่งเรียกว่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ โดยอาศัย โปรแกรม ที่ใชด้ ูข้อมลู เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ซึ่งผลที่ได้จะมีการแสดงเป็น ไฮเปอร์เท็กซ์ ซึ่งในปัจจุบันมีการผนวก รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และสามารถ เชื่อมโยงไปยังเอกสารหรือข้อมูลอื่น ๆ ได้ โดยตรงตัวอย่างเช่น www.yahoo.com สามารถค้นหาและเชื่อมโยงข้อมูลไปยัง เรื่องราวต่างๆ เช่น การศึกษาการท่องเที่ยว โรงแรมต่าง ๆ การรับส่งจดหมาย อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ฯลฯ เปน็ ตน้ 2. การสืบคน้ ขอ้ มูล (Search Engine) คือ บริการที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลทาง อินเทอร์เน็ต โดยพิมพ์ข้อความที่ต้องการ สืบค้นเข้าไป โปรแกรมจะทำการค้นหา

41 ข้อมูลที่ต้องการ ให้ภายในเวลาไม่กี่นาที โ ป ร แ ก ร ม ป ร ะ เ ภ ท น ี ้ เ ร า เ ร ี ย ก ว ่ า Search Engines เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่สามารถจำ ชื่อเว็บไซด์ บางเว็บได้ ก็สามารถใช้วิธีการ สืบค้นข้อมูล ในลักษณะนี้ได้ เว็บไซด์ที่ทำ ห น ้าที่เป็น Search Engines มีอยู่เป็น จำนวนมาก เชน่ google.com , yahoo.com , sanook.com ฯลฯ เป็นต้น 3. ก า ร ส น ท น า ก ั บ ผ ู ้ อ ื ่ น บ น อินเทอร์เน็ต จะคล้ายกับการใช้โทรศัพท์แต่ แตกต่างกันท่ี เปน็ การส่อื สาร ผา่ นเครอื ขา่ ย คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะใชไ้ มโครโฟน และลำโพง ทีต่ ่ออยู่กบั คอมพิวเตอรใ์ นการสนทนา 4. กระดานข่าวอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (News Group or Use Net) เป็นบริการกระดาน ข่าวอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้ใช้งาน อินเทอร์เน็ตสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร และแสดงความคิดเห็นลงไป บริเวณกระดานข่าวได้ มีการแบ่งกลุ่มผู้ใช้

42 ออกเป็นกลุ่ม ๆ ซึ่งแต่ละกลุ่มจะสนใจ เรื่องราวที่แตกต่างกันไป เช่นการศึกษา การท่องเที่ยว การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม การเกษตร และอตุ สาหกรรม เป็นต้น 5. การสื่อสารด้วยข้อความ IRC (Internet Relay Chat) เ ป ็ น ก า ร ตดิ ตอ่ ส่อื สารกับผ้อู ื่น โดยการพมิ พข์ ้อความ โต้ตอบกัน ซึ่งจำนวนผู้ร่วมสนทนาอาจมี หลายคนในเวลาเดียวกัน ทุกคนจะเห็น ขอ้ ความ ทีแ่ ต่ละคนพมิ พเ์ หมือนกับว่ากำลัง นั่งสนทนาอยู่ในห้องเดยี วกัน โปรแกรมที่ใช้ ในการติดต่อสื่อสารได้แก่โปรแกรม mIRC โปรแกรม PIRCH และโปรแกรม Comic Chat น อ ก จ า ก โ ป ร แ ก ร ม IRC แ ล ้ ว ใ น ปัจจุบันนี้ภายในเว็บไซต์ ยังเปิดให้บริการ ห้องสนทนาผ่านทางโปรแกรมเว็บเบรา เซอรไ์ ด้อีกด้วย 6.telnet เครื่องมือพื้นฐาน ที่ใช้ สำหรับติดต่อกับเครื่อง Server ที่เป็น UNIX

43 หรอื LINUX เพ่ือใช้เข้าไปควบคุม การทำงาน ของเครื่อง หรอื ใช้อ่าน mail หรือใชป้ รับปรงุ homepage ห ร ื อ ใ ช ้ เ ร ี ย ก โ ป ร แ ก ร ม ประมวลผลใด ๆ หรือใช้พัฒนาโปรแกรม และใช้งานในเครื่องนั้น เป็นต้น เพราะ ระบบ UNIX หรอื LINUX จะยอมให้ผใู้ ช้สร้าง application ด้วย Compiler ภาษาต่าง ๆ ได้ อย่างอิสระ และเชื่อมต่อกับ Internet ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ Internet เริ่มต้นมาจากระบบ UNIX นี้เอง ประโยชน์ อย่างหนึ่งที่ผู้ใช้โปรแกรม Telnet มักคุ้นเคย คือการใช้โปรแกรม PINE ซึ่งมีอยู่ใน Telnet สำหรับรับ-ส่ง mail และมีผู้ใช้อีกมากที่ไม่ รู้ตัว ว่าตนเองกำลังใช้งาน UNIX อยู่ ทั้ง ๆ ที่ใช้ PINE ติดต่องานอยู่ทุกวัน เดิมที่ระบบ UNIX ไม่มีโปรแกรม PINE แต่มีนักศึกษาที่ ม ห า ว ิ ท ย า ล ั ย WASHINGTON University เพราะใช้ง่ายกว่าการใช้คำสั่ง mail ในการ รับ-ส่งมาก แต่ผู้ใช้ที่ใช้ E-Mail กับเครื่อง

44 UNIX หรอื LINUX ซ่งึ ใช้ตามมาตรฐาน IMAP มักเป็นกลุ่มนักศึกษา ในมหาวิทยาลัย ที่ มหาวิทยาลัยได้ให้บริการ E-Mail ซึ่งมี ข้อจำกัดบางประการ และหลาย มหาวิทยาลัย เช่นกันที่ทำฐานข้อมูล Mail ใน UNIX และให้บริการ Mail ผ่าน browser ได้ ซึ่งเป็นหลักการที่ผู้ให้บริการ mail ฟรี หลายแหง่ ใช้กันอยู่ สำหรบั โปรแกรม Telnet ผู้ต้องการใช้บริการ ไม่จำเป็นต้องไป download เพราะเครื่องที่ทำการติดตั้ง TCP/IP จะติดตั้งโปรแกรม telnet.exe ไว้ใน ห้อง c:\\windows เพื่อให้ผู้ใช้สามารถ เรียกใช้ได้อยู่แล้ว แต่ ปัญหาหนักอยู่ที่ วิธกี ารใช้ เพราะระบบ UNIX เป็นการทำงาน ใน Text mode เป็นหลัก การจะใช้คำสัง่ ตา่ ง ๆ ผู้ใช้จะต้องเรียนรู้มาก่อน จึงจะใช้งานได้ ในระดับที่พึ่งตนเองได้ มิเช่นนั้นก็จะเหมือน คนตาบอดเดินอยู่ กลางถนน หากใช้คำส่ัง

45 ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดปัญหาทั้งกับตนเอง และระบบไดภ้ าพ mailtel.gif 7.Electronic mail • บริการ E-Mail ฟรี เป็นบริการที่มี ผู้ใช้กันมาก เพราะใช้สำหรับส่ง และอ่าน ข้อความ กับผู้ที่ต้องการติดต่อด้วย และใช้ แทนจดหมายได้อย่างดี เพราะไม่ต้องเสีย ค่าใช้จ่าย และผู้รับจะได้รับในเวลาเกือบ ทันทีที่ส่งไป ผู้ใหับริการ E-Mail ฟรีใน ปัจจุบัน เช่นของ hotmail หรือ yahoo mail หรือ ตามแต่ละประเทศ ที่คนในประเทศจะ ทำ Server ให้บริการ สำหรับกลุ่มที่มีความ สนใจคล้าย ๆ กัน เช่น thaimail.com หรือ chaiyo.com ซึ่งเป็นของคนไทย และ mail ฟรีเหล่านี้จะให้บริการไปเรื่อย ๆ ไม่มีการ หมดอายุ แต่จะหมดอายุถ้าผู้ใช้เกิดเลิกใช้ เป็นเวลานานเกินไป สำหรับ E-Mail ของ สถาบัน จะหมดอายุแน่นอน หลักจากท่ี สำเร็จการศกึ ษา จึงเป็นจุดบกพร่องข้อใหญ่

46 ที่ทำให้นักศึกษา หันไปใช้ E-Mail ฟรี มากกวา่ ท่สี ถาบนั จัดไวใ้ ห้ • การใช้ E-Mail กับผู้ให้บริการฟรี เชน่ thaimail.com,lampang.net, thaiall.com ห ร ื อ chaiyo.com น ั ้ น ผ ู ้ ใ ช ้ จ ะ ต ้ องไ ป download โ ป ร แ ก ร ม browser เ ช่ น netscape ห ร ื อ Internet Explorer ห รื อ Opera หรือ NeoPlanet มาไว้ในเครื่อง คอมพิวเตอร์ที่ต่อ Internet แล้วเปิดหน้า เว็บของแหล่งบริการ เพื่อใช้บริการ E-Mail ดังกล่าว ซึ่งผู้ใช้จะต้องขอใช้บริการ และจะ ได้รับ userid และ password ประจำตัว เพื่อ login เข้าใช้บริการ E-Mail ทกุ คร้ัง • ปัจจุบันการขอใช้บริการ E-Mail สามารถเลือกได้ที่จะใช้ web-based หรือ POP เพราะแต่ละแบบมีจุดเด่น จุดด้อยที่ แตกต่างกัน โดย web-based จะเหมาะกับ ผู้ที่เดินทางเป็นประจำ ส่วน pop จะเหมาะ กับผมู้ คี อมพิวเตอรส์ ว่ นตวั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook