Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การให้สินบนเจ้าพนักงานทั่วไป ในการยุติธรรม และ เจ้าพนักงานทั่วไป ในการยุติธรรมเรียกรับสินบน

การให้สินบนเจ้าพนักงานทั่วไป ในการยุติธรรม และ เจ้าพนักงานทั่วไป ในการยุติธรรมเรียกรับสินบน

Published by sarun20062545, 2021-08-18 11:31:47

Description: การให้สินบนเจ้าพนักงานทั่วไป ในการยุติธรรม และ เจ้าพนักงานทั่วไป ในการยุติธรรมเรียกรับสินบน

Search

Read the Text Version

ในกกาารรยใหใตุน้สิธกินรารบรมยนตุเแจิธล้ารพะรนเมจักเ้ารงพียานกนัรกทับงัวสาไนปินทบ/ัวนไป /

ความผดิ ฐานใหส ินบนและรบั สินบน เกร่นิ นํา ประเทศไทยไดกําหนดความผิดฐานใหและรับสินบนของเจา พนักงานของรฐั ในประมวลกฎหมายอาญา ซ่งึ ศาลฎีกาไดต คี วามคําวา เจา พนักงาน หมายถึง ผูไดร ับแตงตัง้ โดยทางการของรัฐไทยใหป ฏิบตั ิ ราชการของรฐั ไทยเทานัน้ จึงไมหมายความรวมถงึ เจา พนักงานของรัฐ ตางประเทศ ดงั นัน้ หากมีการใหแ ละรับสนิ บนของเจา พนักงานของรฐั ทาง ประเทศทงั้ ผใู หและผูรบั สนิ บน กไ็ มม ีความผดิ ฐานใหและรับสนิ บนแก เจาพนักงานของรฐั ตางประเทศตามประมวลกฎหมายอาญา ซ่ึงประมวลกฎหมายอาญาไดบ ญั ญัตคิ วามผิดเร่อื งใหส นิ บนแก เจา พนักงานทวั่ ไปไวใน มาตรา 144 บญั ญัติวา ผใู ดให ขอใหห รือ รบั วา จะใหท รัพยส ินหรอื ประโยชนอ่นื ใดแกเจา พนักงาน สมาชกิ สภาเทศบาล สมาชิกสภานิติบัญญตั แิ หง รฐั สมาชกิ สภาจงั หวดั หรอื สมาชกิ สภาเทศบาล เพ่อื จงู ใจใหกระทําการ ไมกระทําการ หรือประวงิ การกระทําอันมิชอบดวยหนาท่ี ตองระวางโทษจําคุก ไมเกินหาปี หรือปรบั ไมเ กินหน่ึงแสนบาท หรอื ทัง้ จาํ ทงั้ ปรบั ไดบญั ญัติความผิดเร่ืองใหสนิ บนแกเจาพนักงานในการยตุ ธิ รรม ไวใ น มาตรา 167 บัญญัตวิ า ผูใดให ขอใหหรือรับวา จะให ทรัพยส นิ หรอื ประโยชนอ่นื ใดแกเ จา พนักงานในตําแหนงตลุ าการ พนักงานอยั การ ผวู าคดหี รอื พนักงานสอบสวน เพ่ือจูงใจให กระทําการ ไมก ระทําการ หรอื ประวิงการกระทําใดอนั มิชอบดว ย หนาท่ี ตอ งระวางโทษจําคุกไมเกนิ เจ็ดปี และปรบั ไมเกนิ หน่ึงแสน ส่หี ม่นื บาท ไดบ ญั ญัติความผดิ เร่ืองเจาพนักงานทวั่ ไปรับสนิ บนไวใ น มาตรา 149 บัญญัตวิ า ผใู ดเป็ นเจาพนักงาน สมาชกิ สภา นิติบญั ญตั ิแหง รฐั สมาชิกสภาแหง รัฐ สมาชิกสภาจังหวดั หรอื สมาชกิ สภาเทศบาล เรยี ก รบั หรอื ยอมจะรับทรพั ยส ิน หรอื ประโยชนอ่ืนใดสําหรบั ตนเองหรอื ผอู ่นื โดยมิชอบ เพ่อื กระทําการ หรอื ไมก ระทําการอยา งใดในตําแหนงไมว า การนัน้ จะชอบหรือมิ ชอบดว ยหนาท่ี ตอ งระวางโทษจาํ คุกตงั้ แตห า ปี ถงึ ย่สี บิ ปี หรอื จาํ คกุ ตลอดชวี ติ และปรับตงั้ แตห น่ึงแสนบาทถงึ ส่ีแสนบาทหรอื ประหารชวี ติ ไดบ ญั ญตั คิ วามผดิ เร่อื งเจาพนักงานในการยตุ ิธรรมเรียกรับ สินบนไวใ น มาตรา 201 บัญญตั ิวา ผใู ดเป็ นเจาพนักงานใน ตาํ แหนงตุลาการ พนักงาน อัยการ ผูวา คดี หรือพนักงาน สอบสวน เรยี ก รบั หรือยอมจะรับทรัพยสนิ หรอื ประโยชนอ่นื ใด สาํ หรับตนเองหรือผูอ่ืนโดยมิชอบเพ่ือกระทาํ การหรือไมกระทาํ การอยางใดในตําแหนง ไมวาการนัน้ จะชอบหรอื มิชอบดวยหนาท่ี ตอ งระวางโทษจําคกุ ตัง้ แตหา ปี ถึงย่ีสบิ ปี หรอื จําคกุ ตลอดชีวติ และปรบั ตงั้ แตหน่ึงแสนบาทถึงส่ีแสนบาท หรอื ประหารชวี ติ

ใหสนิ บนแกเจา พนักงานท่วั ไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 บัญญตั ิวาผใู ด ให ขอใหห รือรบั วา จะใหท รัพยสนิ หรอื ประโยชนอ่นื ใดแกเจา พนักงาน สมาชกิ สภาเทศบาล สมาชิกสภานิตบิ ัญญัติแหงรฐั สมาชิกสภาจงั หวดั หรือสมาชิกสภาเทศบาล เพ่อื จูงใจใหก ระทาํ การ ไมกระทําการ หรือประวงิ การกระทาํ อันมิชอบดวยหนาท่ี ตอ งระวางโทษจําคุกไมเ กินหาปี หรอื ปรับไมเกินหน่ึงแสนบาท หรอื ทงั้ จําทัง้ ปรับ จากหลกั กฎหมายดังกลาว เป็นเร่ืองที่เกี่ยวกับการใหสนิ บน แกเ จา พนักงานทัว่ ไป มใิ ชเ ป็นการใหสินบนแกเจา พนักงานในการ ยตุ ธิ รรม หลกั เกณฑของการใหส ินบนเจาพนักงาน ท่วั ไป จากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 สามารถจาํ แนก หลกั เกณฑห ลกั ๆได ดงั ตอ ไปนี้ 1. ผูใด คือ บุคคลท่ีมสี ภาพบคุ คลตามประมวลกฎหมายแพง และ พาณิชย มาตรา 15 บัญญัตวิ า สภาพบุคคลยอมเร่มิ แตเม่ือ คลอดแลวอยูรอดเป็ นทารกและสนิ ้ สดุ ลงเม่ือตาย ทารกในครรภมารดากส็ ามารถมสี ทิ ธติ า ง ๆ ไดหากวา ภายหลังคลอดแลวอยูรอดเป็ นทารก

2. ให ทรัพยสนิ หรือประโยชนอ่ืนใด หมายถงึ มอบทรพั ยส ินหรอื ประโยชนอยา งอ่นื ขอให ทรพั ยส ินหรือประโยชนอ่ืนใด หมายถึง เสนอทีจ่ ะให ทรพั ยส นิ หรอื ประโยชนอยางอ่นื รับวา จะให ทรพั ยสินหรอื ประโยชนอ่นื ใด หมายถึง สญั ญาหรอื รับรองวาจะใหท รพั ยส ินหรือประโยชนอยางอ่ืน 3. ใหแ กเจา พนักงานทวั่ ไป หมายถงึ ผูไดรับแตงตัง้ โดยทางการของ รฐั เพ่อื ปฏบิ ตั ริ าชการของรฐั - สมาชิกสภานิตบิ ญั ญตั ิแหงรัฐ ไดแ ก สมาชิกสภาผแู ทนราษฎร (สส.) สมาชกิ วฒุ สิ ภา (สว.) - สมาชกิ สภาจงั หวัด (สจ.) - สมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) 4. เพ่ือจูงใจใหก ระทาํ การอนั มิชอบดวยหน าท่ี หมายถึง กระทําการ อันหน่ึงอนั ใดทเี่ ป็นการทจุ รติ ตอหน าที่ เพ่อื จงู ใจไมใ หก ระทาํ การอันมิชอบดว ยหน าท่ี หมายถงึ ไม กระทําการอนั หน่ึงอนั ใดทเี่ ป็นการทุจรติ ตอหน าที่ ประวิงกระทําการอันมิชอบดว ยหน าท่ี หมายถงึ ถว งเวลาใหเ นิ่น ชา ในการปฏิบตั ิหน าที่ตามกฎหมาย เพ่อื จูงใจใหกระทาํ การ ไมกระทําการ หรือประวิงการกระทําอันมิ ชอบดวยหน าทเ่ี ป็นเจตนาพิเศษ ซ่ึงเจตนาพิเศษ หมายถงึ มูลเหตจุ งู ใจในการกระทําความ ผดิ

5. โดยเจตนา (ธรรมดา) หมายถึง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง บัญญตั วิ า กระทําโดยเจตนา ไดแก กระทําโดยรูสาํ นึกในการท่กี ระทาํ และในขณะเดียวกนั ผกู ระทาํ ประสงคตอ ผล หรอื ยอมเล็งเหน็ ผลของการกระทํานัน้ อตั ราโทษของการใหสนิ บนเจาพนักงานทัว่ ไปตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 144 คอื ตองระวางโทษจําคกุ ไมเ กินหาปี หรือ ปรบั ไมเ กนิ หน่ึงแสนบาท หรือทัง้ จาํ ทงั้ ปรับ ตัวอยา งฎีกาการใหสนิ บนเจาพนักงานท่วั ไป คาํ พพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 342/2506 ความผิดฐานใหทรพั ยส นิ หรือประโยชนแกเจาพนักงานตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 จะตองเป็นเร่ือง ให หรือขอ ใหท รพั ยส ินแกเจา พนักงานเพ่อื จงู ใจใหกระทําการ หรอื ไมก ระทาํ การ หรือประวงิ การกระทําอนั มชิ อบดวยหน าทซี่ ่ึงอยใู นอาํ นาจ หน าที่ของเจา พนักงานผนู ัน้ เอง การท่จี ําเลยใหเ งนิ กํานันเพ่ือให กาํ นันชวยเหลอื ไปตดิ ตอกับเจา พนักงานอาํ เภอหรือพนักงานอสบ สวนใหกระทําการใหค ดีของจาํ เลยเสรจ็ ไปในชัน้ อาํ เภออยางให ตองถงึ ฟ องศาลเน่ืองจากกํานันรายงานกลา วโทษจําเลยไปอําเภอ และอาํ เภอเรียกพยานทําการสอบสวนไปแลว ดังนี้ เป็นการพน อาํ นาจหน าท่ขี องกํานันแลว จําเลยยอมไมมคี วามผดิ ฐานให ทรัพยส นิ แกเจาพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 คาํ พิพากษาศาลฎกี าท่ี 3096/2552 จาํ เลยทัง้ สองไปติดตอ กับดาบตาํ รวจ ช. เพ่อื ขอใหช วย เหลอื พ. กบั พวก โดยเปล่ียนขอ หาจากเดิมขอหารวมกันมแี มทแอ มเฟตามนี ไวใ นครอบครองเพ่อื จาํ หนายและจาํ หนายเป็นขอ หารว ม

กันมเี มทแอมเฟตามนี ไวใ นครอบครองโดยไมไดร บั อนญุ าต โดย เสนอใหเ งิน 70,000 บาท ยอ มเป็นการกระทําทีม่ ุงประสงคข อให ทรพั ยส ินเพ่ือจงู ใจใหด าบตํารวจ ช. ไปดําเนินการใหผบู งั คับบญั ชา กระทาํ การอนั มชิ อบดว ยหน าที่ เม่อื พันตํารวจตรี ต. ผบู ังคับบัญชา ของดาบตํารวจ ช. ทราบความประสงคของจาํ เลยทงั้ สองจากดาบ ตํารวจ ช. และวางแผนจับกมุ โดยตอบตกลงและนัดหมายใหนําเงนิ มอบให และจับกมุ ไดพรอมเงินของกลาง จงึ ถือไดว า จาํ เลยทัง้ สองได ขอใหท รัพยส ินแกด าบตํารวจ ช. และพนั ตาํ รวจตรี ต. เพ่ือจูงใจให กระทําการอันมิชอบดว ยหน าท่ีอนั เป็นความผดิ ตาม ประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 144 สรุปการใหส ินบนแกเจา พนักงานท่ัวไป การใหสนิ บนแกเ จา พนักงานทวั่ ไป เป็นการทผ่ี ใู ดให ขอให รบั วา จะให ทรพั ยสนิ ไมว าจะเป็นสังหาริมทรพั ยหรืออสงั หาริมทรพั ย หรอื ใหประโยชนในดานอ่นื ๆ เชน อทิ ธพิ ล อาํ นาจ ความนิยม แกเจา พนักงานทวั่ ไป คือ สมาชกิ สภาเทศบาล สมาชกิ สภานิตบิ ญั ญัติแหง รัฐ สมาชกิ สภาจังหวดั หรือสมาชกิ สภาเทศบาล เพ่อื ใหเ จาพนักงาน กระทาํ การ งดเวน การกระทําการ ประวงิ การกระทาํ การซ่งึ เป็นอนั ทุ จรติ ตอหน าที่ ขดั ตอ กฎหมาย ผูท่ีใหส นิ บนนัน้ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไม เกินหา ปี หรอื ปรับไมเกนิ หน่ึงแสนบาท หรือทัง้ จาํ ทัง้ ปรบั

ใหสินบนแกเ จา พนักงานในการยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 167 บัญญัตวิ า ผใู ด ให ขอใหหรอื รบั วา จะใหทรัพยสิน หรือประโยชนอ่ืนใดแกเ จา พนักงานในตาํ แหนงตลุ าการ พนักงานอัยการ ผูวาคดีหรือ พนักงานสอบสวน เพ่อื จงู ใจใหก ระทําการ ไมกระทาํ การ หรอื ประวงิ การกระทําใดอันมชิ อบดว ยหนาท่ี ตอ งระวางโทษจําคุก ไมเกนิ เจ็ดปี และปรับไมเกนิ หน่ึงแสนส่ีหม่นื บาท จากหลกั กฎหมายดังกลา วเป็นเร่อื งในการใหส ินบนแกเจา พนักงานในการยุติธรรม ซ่ึงแตกตา งจากเร่ืองการใหสนิ บนแกเ จา พนักงานทวั่ ไป หลกั เกณฑข องการใหสินบนแกเ จาพนักงาน ในการยตุ ิธรรม จากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 167 สามารถจาํ แนกหลัก เกณฑตา ง ๆ ไดด งั ตอ ไปนี้ 1. ผใู ด คอื บคุ คลทีม่ สี ภาพบุคคลตามประมวลกฎหมายแพง และ พาณิชย มาตรา 15 บญั ญัตวิ า สภาพบุคคลยอมเร่ิมแตเม่อื คลอดแลวอยูรอดเป็ นทารกและสนิ ้ สดุ ลงเม่ือตาย ทารกในครรภม ารดาก็สามารถมีสทิ ธติ า ง ๆ ได หากวาภายหลังคลอดแลวอยูรอดเป็ นทารก

2. ให ทรัพยส ินหรือประโยชนอ่ืนใด หมายถงึ มอบทรัพยสินหรือ ประโยชนอยา งอ่นื ขอให ทรพั ยสินหรอื ประโยชนอ่ืนใด หมายถึง เสนอท่จี ะให ทรพั ยสนิ หรอื ประโยชนอยางอ่นื รับวาจะให ทรัพยสนิ หรอื ประโยชนอ่นื ใด หมายถึง สัญญาหรือ รบั รองวาจะใหท รพั ยส นิ หรือประโยชนอยา งอ่นื 3. แกเจาพนักงานในการยตุ ธิ รรม หมายถึง ผูท่ไี ดร บั แตงตัง้ โดย ทางการของรฐั ในปฏบิ ัตริ าชการในหน าท่ีเกยี่ วกบั การยตุ ธิ รรม - ตลุ าการ คือ บคุ คลผูใ ชอ ํานาจตลุ าการในการพจิ ารณาพพิ ากษา คดีในศาลทัง้ หมด - พนักงานอยั การ คอื เจา พนักงานผมู ีหน าท่ฟี  องผตู อ งหาตอ ศาล อาจเป็นขา ราชการประจาํ สํานักงานอัยการสงู สุด หรอื เจา พนักงานอ่ืนผมู ีอํานาจเชน นัน้ กไ็ ด - ผวู า คดี - พนักงานสอบสวน คือ เจา พนักงานซ่งึ กฎหมายใหมอี าํ นาจและ หน าท่ีทําการสอบสวน 4. เพ่ือจูงใจใหก ระทําการอนั มชิ อบดวยหน าที่ หมายถงึ กระทาํ การ อันหน่ึงอันใดทเ่ี ป็นการทจุ ริตตอ หน าที่ เพ่ือจงู ใจไมใ หก ระทาํ การอันมิชอบดว ยหน าท่ี หมายถึง ไมก ระทํา การอันหน่ึงอนั ใดทีเ่ ป็นการทุจรติ ตอ หน าที่ ประวงิ กระทําการอันมิชอบดวยหน าที่ หมายถงึ ถวงเวลาใหเน่ินชา ในการปฏิบัติหน าที่ตามกฎหมาย เพ่ือจงู ใจใหกระทาํ การ ไมก ระทาํ การ หรอื ประวิงการกระทาํ อันมิ ชอบดวยหน าทีเ่ ป็นเจตนาพเิ ศษ ซ่ึงเจตนาพิเศษ หมายถงึ มูลเหตุจงู ใจในการกระทําความผดิ

5. โดยเจตนา (ธรรมดา) หมายถงึ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง บญั ญัติวา กระทาํ โดยเจตนา ไดแ ก กระทาํ โดยรูสํานึกในการท่กี ระทําและในขณะเดยี วกนั ผกู ระทาํ ประสงคต อ ผล หรือยอ มเล็งเห็นผลของการกระทํานัน้ อัตราโทษของการใหส ินบนแกเจาพนักงานในการยุตธิ รรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 167 คอื ตอ งระวางโทษจําคุก ไมเกินเจ็ดปี และปรบั ไมเกนิ หน่ึงแสนส่หี ม่ืนบาท ตัวอยา งฎกี าการใหส ินบนแกเจา พนักงานใน การยตุ ิธรรม คําพิพากษาศาลฎกี าท่ี 3700/2529 ขอความในจดหมายท่จี าํ เลยเขียนถงึ บ.พนักงานสอบสวน มลี กั ษณะขอรอ งให บ.ชวยเปรียบเทียบปรับผูตอ งหาใหคดเี สรจ็ เด็ด ขาดไปในชัน้ สถานีตาํ รวจโดยไมตอ งใหคดถี ึงศาลเทานัน้ เพ่อื ทัง้ ฝาย ผูตองหาและฝายเจาพนักงานตาํ รวจจะไดไ มเสยี เวลาและเป็นการ ประหยดั เพราะจําเลยมคี วามเห็นวา ไมว า จะชัน้ ศาลหรอื ชัน้ สถานี ตํารวจกถ็ กู ลงโทษปรับเหมือนกนั จึงไมพ อแปลความหมายไดวา จาํ เลยขอใหหรือรับวาจะใหเ งินทรพั ยส ินหรอื ประโยชนอ่ืนใดแก บ.เพ่ือจูงใจไมใ หดําเนินคดีแกผ ตู องหาดังกลา ว อันจะเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144,167

คาํ พพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 8181/2547 วนิ ิจฉัยวา คําวา “พนักงานสอบสวน” ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 167 มคี วามหมายวา ตองเป็นพนักงานสอบสวนผูรับ ผดิ ในคดเี ทานัน้ ดงั นัน้ การใหเ งนิ แกเจา พนักงานตาํ รวจซ่ึงไมไ ด เป็นพนักงานสอบสวนผรู บั ผิดชอบในคดนี ัน้ เพ่อื ใหช ว ยเหลือไม ดําเนินคดี จงึ มใิ ชเป็นการใหท รัพยสินหรอื ประโยชนอ่นื ใดแก พนักงานสอบสวนตามความหมายของบทบัญญตั ดิ งั กลา ว จึงไมมี ความผิดตามมาตรานี้ คงมีความผดิ ตามมาตรา 144 เทา นัน้ คาํ พพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 3700/2529 วนิ ิจฉัยวา ขอความในจดหมายที่จําเลยเขยี นถึง บ. พนักงานสอบสวน มลี กั ษณะขอรองให บ. ชวยเปรยี บเทียบปรบั ผู ตอ งหาใหค ดเี สร็จเด็ดขาดไปในชนั้ สถานีตาํ รวจโดยไมต อ งใหคดถี ึง ศาลเทานัน้ เพ่ือทัง้ ฝายผูตองหาและฝายเจา พนักงานตาํ รวจจะไดไม เสียเวลาและเป็นการประหยดั เพราะจาํ เลยมีความเห็นวาไมวา จะ ชัน้ ศาลหรอื ชัน้ สถานีตาํ รวจก็ถกู ลงโทษปรบั เหมอื นกันจึงไมพอแปล ความหมายไดวา จาํ เลยขอใหหรอื รบั วาจะใหเ งนิ ทรพั ยสิน หรือ ประโยชนอ่ืนใดแก บ. เพ่อื จงู ใจไมใ หดําเนินคดีแกผูตอ งหาดังกลาว อนั จะเป็นความผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144 , 167 สรุปการใหสินบนแกเจาพนั กงานในการ ยตุ ิธรรม การใหสินบนแกเ จา พนักงานในการยตุ ิธรรม เป็นการทีผ่ ใู ดให ขอให รับวาจะให ทรัพยส ินไมว าจะเป็นสังหาริมทรพั ยหรือ อสงั หาริมทรัพย หรือใหประโยชนในดา นอ่นื ๆ เชน อิทธพิ ล อํานาจ ความนิยม แกเ จาพนักงานในการยุตธิ รรม คอื ตุลาการ พนักงาน

อัยการ ผูวาคดี พนักงานสอบสวน เพ่ือใหเจาพนักงานในการ ยุตธิ รรมกระทําการ งดเวนการกระทาํ การ ประวงิ การกระทาํ การซ่ึง เป็นอันทจุ ริตตอหน าท่ีในการยุติธรรม ขัดตอ กฎหมาย ผูทใี่ หส นิ บน นัน้ ตองระวางโทษจําคกุ ไมเ กินเจ็ดปี หรือปรบั ไมเ กนิ หน่ึงแสนสี่ หม่นื บาท เจา พนักงานท่วั ไปเรยี กรับสินบน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 บญั ญตั วิ า ผู ใดเป็ นเจาพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัตแิ หง รัฐ สมาชกิ สภา จังหวดั หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รบั หรือยอมจะรบั ทรัพยสนิ หรือประโยชนอ่นื ใดสาํ หรับตนเองหรือผูอ ่นื โดยมิ ชอบ เพ่อื กระทาํ การหรอื ไมกระทาํ การอยา งใดในตาํ แหนงไม วา การนัน้ จะชอบหรอื มชิ อบดวยหนาท่ี ตองระวางโทษจําคกุ ตัง้ แตหาปี ถึงย่ีสบิ ปี หรือจําคกุ ตลอดชีวิต และปรบั ตงั้ แตห น่ึง แสนบาทถึงส่แี สนบาท หรอื ประหารชวี ติ จากหลกั กฎหมายดงั กลา วเป็นเร่ืองท่เี จา พนักงานทัว่ ไป เรียกรับสินบน มใิ ชเ จา พนักงานในการยุติธรรมเรยี กรบั สินบน หลักเกณฑข องเจาพนักงานท่ัวไปเรยี กรบั สินบน จากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 สามารถจําแนกหลกั เกณฑต าง ๆ ไดด ังตอ ไปนี้ 1. เป็นเจา พนักงานทัว่ ไป หมายถึง ผไู ดร ับแตงตัง้ โดยทางการของรัฐ เพ่อื ปฏิบตั ิราชการของรัฐ - สมาชิกสภานิตบิ ัญญัตแิ หง รัฐ ไดแ ก สมาชิกสภาผแู ทนราษฎร (สส.) สมาชกิ วฒุ ิสภา (สว.) - สมาชิกสภาจงั หวัด (สจ.) - สมาชกิ สภาเทศบาล (ส.ท.) 2. เรยี กทรพั ยส ินหรือประโยชนอ่นื ใดเพ่ือตนเองหรือผอู ่ืนโดยมชิ อบ หมายถึง แสดงเจตนาใหส ง ทรพั ยส นิ หรอื ประโยชนในดานอ่ืน ๆ เพ่อื ตนเองหรอื ผูอ่นื โดยมิชอบดว ยกฎหมาย รบั ทรัพยส นิ หรือประโยชนอ่ืนใดเพ่อื ตนเองหรอื ผอู ่ืนโดยมิชอบ หมายถงึ เจา พนักงานไดรบั ทรัพยส ินหรือประโยชนในดานอ่นื ๆ เพ่ือ ตนเองหรอื ผูอ่ืนโดยมชิ อบดว ยกฎหมาย ยอมจะรับทรพั ยสนิ หรอื ประโยชนอ่ืนใดเพ่ือตนเองหรือผูอ่ืนโดยมิ ชอบ หมายถึง ไมปฏิเสธหรอื ไมขัดขนื ในการรับทรัพยสินหรอื ประโยชนในดา นอ่ืน ๆ เพ่ือตนเองหรอื ผูอ่นื โดยมิชอบดวยกฎหมาย

3. เพ่อื กระทําการอยางใดในตําแหนงไมวา การนัน้ จะชอบหรือมิ ชอบดวยหน าที่ หมายถงึ กระทําการอนั หน่ึงอันใดในตําแหนง ของเจาพนักงานทัว่ ไป ไมวา การกระทํานัน้ จะชอบหรือไมชอบดว ย หน าทกี่ ็ตาม เพ่อื ไมกระทาํ การอยา งใดในตาํ แหนงไมวาการนัน้ จะชอบหรือมิ ชอบดว ยหน าท่ี หมายถงึ ไมก ระทาํ การอนั หน่ึงอันใดในตาํ แหนง ของเจาพนักงานทัว่ ไป ไมว า การกระทาํ นัน้ จะชอบหรอื ไมช อบดว ย หน าท่ีก็ตาม ซ่ึงการกระทําหรือไมกระทาํ การอยางใดในตําแหนงไมว าการนัน้ จะชอบหรอื มิชอบดวยหน าทนี่ ัน้ ถอื วา เป็นเจตนาพิเศษ ซ่งึ เจตนาพเิ ศษ หมายถึง มูลเหตุจูงใจในการกระทาํ ความ ผดิ 4. โดยเจตนา (ธรรมดา) หมายถึง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง บัญญัติวา กระทําโดยเจตนา ไดแ ก กระทําโดยรสู าํ นึกในการท่ีกระทาํ และในขณะเดยี วกนั ผู กระทาํ ประสงคตอ ผล หรือยอมเล็งเห็นผลของการกระทํานัน้

อัตราโทษของการทเ่ี จา พนักงานทวั่ ไปเรียกรบั สินบนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 คอื ตองระวางโทษจําคกุ ตงั้ แต หา ปีถึงย่สี ิบปี หรอื จําคกุ ตลอดชวี ิต และปรบั ตัง้ แตหน่ึงแสนบาทถงึ ส่ี แสนบาท หรอื ประหารชีวิต ตัวอยา งฎีกาเจา พนักงานท่ัวไปเรียกรับ สนิ บน คําพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 3470/2543 จําเลยทัง้ สามเป็นเจา พนักงานตํารวจตําแหนงลูกแถว กอง กํากบั การอารักขาและรกั ษาความปลอดภัย กองบังคับการสายตรวจ และปฏบิ ตั ิการพเิ ศษกองบัญชาการตํารวจนครบาล ซ่งึ เป็นเจา พนักงานตํารวจมอี าํ นาจหน าทีส่ บื สวนจับกุมผกู ระทําผิดอาญา เม่อื ไดพ บและกลาวหาวาผเู สียหายใหท พ่ี ักอาศัยแกค นตา งดาวโดยไม ปฏิบตั ิตามกฎหมาย อนั เป็นความผิดตามพระราชบญั ญตั คิ นเขา เมอื งฯ จึงไมใชการกลัน่ แกลง กลาวหาวาผเู สยี หายกระทําผดิ อาญา โดยไมมมี ูลความผดิ การทีจ่ ําเลยทัง้ สามปฏิบตั ิการไปตามหน าทดี่ งั กลา วโดยชอบแลว กลับไมจับกุมแตขเู ขญ็ เรียกรองเอาเงินแลว ละเวนไมจ ับกุมผูเสียหาย การกระทาํ ของจําเลยทงั้ สามจงึ ไมเ ป็น ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 แตการทีจ่ าํ เลย ทัง้ สามขเู ข็ญเรียกรอ งเอาเงนิ จากผูเ สียหายภายหลงั เชนนี้ยอมเป็น ความผดิ ฐานเป็นเจา พนักงานเรียกรับทรัพยสนิ ในตําแหนงโดยมิ ชอบดว ยหน าท่ตี ามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 คดนี ี้โจทก มิไดฟ  องขอใหล งโทษจาํ เลยทงั้ สามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 อันเป็นบทเฉพาะมาดวย แตโ จทกไดบรรยายฟ องวา เม่ือพบการกระทาํ ผดิ ซ่ึงจําเลยทงั้ สามมหี น าทีจ่ บั กุมผูกระทาํ ผดิ แต กลับรว มกันปฏิบัตหิ รือละเวนการปฏิบตั ิหน าที่โดยทุจริตโดยขมขนื ใจผูเสยี หายใหมอบเงินดังกลา ว อนั เป็นการใชอ ํานาจในตําแหนง โดยมชิ อบคําบรรยายฟ องดงั กลาวจึงเขาองคป ระกอบความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 แมคําขอทา ยฟ องโจทกจะอาง บทมาตราความผิดตามบทเฉพาะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148แตเม่อื คาํ บรรยายฟ องและขอ เท็จจริงที่พจิ ารณาไดค วาม วา การกระทําของจําเลยทัง้ สามเป็นความผดิ ตามบทเฉพาะตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 แลว จงึ ถือวา โจทกอา งฐาน ความผิดหรือบทมาตราผิด ศาลมอี ํานาจลงโทษจาํ เลยตามฐานความ ผิดทีถ่ กู ตองไดตามประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคหา จําเลยทงั้ สามรวมกันขูเขญ็ เรยี กรอ งเอาเงินจากผเู สยี หาย เพ่ือที่จะละเวนไมจับกมุ ผเู สียหายไปดําเนินคดี จนผูเสยี หายกลวั วา จะถกู จับกุมอนั จะเป็นอันตรายตอเสรีภาพของตน จงึ ยอมจะใหเ งิน แกจาํ เลยทัง้ สามนัน้ เป็นความผิดฐานเป็นเจาพนักงานปฏิบัตหิ รอื ละเวน การปฏิบัตหิ น าทโ่ี ดยทจุ รติ ตาม

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซ่ึงเป็นบททวั่ ไป และฐานกรรโชกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 วรรคแรก ดว ย หาใชเป็นเร่ืองทเ่ี ม่ือเป็นความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 149 แลว จะ ไมเ ป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 337 ดว ยไม เพียงแตเ ม่อื เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149ซ่งึ เป็นบทเฉพาะแลว กไ็ มจ าํ ตอ งปรบั บทตามประมวล กฎหมายอาญามาตรา 157 ซ่ึงเป็นบททัว่ ไปอีกเทานัน้ สรปุ เร่อื งเจาพนักงานท่ัวไปเรยี กรบั สนิ บน การทีเ่ จา พนักงานทัว่ ไป คือ สมาชกิ สภานิตบิ ญั ญตั ิแหง รัฐ สมาชกิ สภาจังหวัด หรอื สมาชิกสภาเทศบาล ไดมีการเรียก หรือรับ หรือยอมจะรับทรพั ยสนิ ไมวาจะเป็นสังหารมิ ทรพั ยห รือ อสงั หารมิ ทรพั ย หรอื ประโยชนในดา นตาง ๆ เพ่ือตัวเจา พนักงาน ทวั่ ไปเองหรือผูอ่นื โดยไมชอบดวยกฎหมาย เพ่อื ใหตวั เจาพนักงาน ทัว่ ไปนัน้ กระทําการหรือไมก ระทาํ การอยางหน่ึงอยา งใดใน ตาํ แหนงของตัวเจาพนักงานทัว่ ไปเองไมวาการนัน้ จะชอบหรือไม ชอบดวยหน าท่ขี องเจาพนักงานทวั่ ไป ซ่ึงอตั ราโทษ คอื จําคกุ ตงั้ แตห า ปีถงึ ย่ีสบิ ปี หรอื จาํ คกุ ตลอดชวี ิต และปรบั ตัง้ แตห น่ึงแสน บาทถงึ สี่แสนบาทหรอื ประหารชีวติ

เจา พนักงานในการยตุ ธิ รรมเรยี กรับสินบน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201 บญั ญตั ิวา ผูใด เป็ นเจาพนักงานในตาํ แหนงตุลาการ พนักงานอัยการ ผูว า คดี หรอื พนักงานสอบสวน เรยี ก รบั หรอื ยอมจะรบั ทรพั ยส ิน หรอื ประโยชนอ่นื ใดสําหรับตนเองหรือผูอ่นื โดยมิชอบเพ่อื กระทาํ การหรอื ไมกระทาํ การอยางใดในตาํ แหนง ไมวา การนัน้ จะชอบหรอื มิชอบดว ยหนาท่ี ตองระวางโทษจาํ คุกตัง้ แตหา ปี ถึงย่สี บิ ปี หรอื จาํ คกุ ตลอดชวี ิต และปรบั ตงั้ แตห น่ึงแสนบาท ถงึ ส่แี สนบาท หรือประหารชีวติ จากหลกั กฎหมายดังกลา วเป็นเร่ืองท่เี จา พนักงานในการ ยตุ ิธรรมเรียกรับสนิ บน มิใชเ จาพนักงานทวั่ ไปเรียกรับสินบน หลกั เกณฑข องเจา พนักงานในการยตุ ิธรรม เรียกรบั สนิ บน จากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201 สามารถจําแนกหลกั เกณฑต าง ๆ ไดดังตอ ไปนี้ 1. เป็นเจา พนักงานในการยตุ ธิ รรม หมายถงึ ผทู ่ีไดร บั แตง ตัง้ โดย ทางการของรัฐในปฏบิ ัติราชการในหน าที่เก่ียวกบั การยตุ ิธรรม - ตลุ าการ คอื บคุ คลผูใ ชอํานาจตุลาการในการพิจารณาพพิ ากษาคดี ในศาลทัง้ หมด - พนักงานอยั การ คอื เจาพนักงานผูมีหน าทฟ่ี  องผตู อ งหาตอ ศาล อาจเป็นขาราชการประจาํ สาํ นักงานอัยการสูงสดุ หรอื เจา พนักงาน อ่นื ผมู อี าํ นาจเชนนัน้ ก็ได - ผวู า คดี

- พนักงานสอบสวน คอื เจาพนักงานซ่ึงกฎหมายใหม อี ํานาจและ หน าที่ทาํ การสอบสวน 2. เรยี กทรพั ยสินหรอื ประโยชนอ่นื ใดเพ่อื ตนเองหรอื ผอู ่ืนโดยมิชอบ หมายถงึ แสดงเจตนาใหสงทรพั ยสินหรอื ประโยชนในดานอ่ืน ๆ เพ่อื ตนเองหรือผูอ่นื โดยมชิ อบดวยกฎหมาย รับทรพั ยส ินหรอื ประโยชนอ่ืนใดเพ่อื ตนเองหรอื ผูอ่นื โดยมิชอบ หมายถงึ เจา พนักงานในการยุตธิ รรมไดร ับทรัพยส นิ หรือประโยชน ในดานอ่ืน ๆ เพ่อื ตนเองหรอื ผูอ่ืนโดยมชิ อบดวยกฎหมาย ยอมจะรับทรัพยสนิ หรือประโยชนอ่ืนใดเพ่อื ตนเองหรอื ผูอ่ืนโดยมิ ชอบ หมายถึง ไมป ฏเิ สธหรอื ไมข ัดขืนในการรับทรัพยส นิ หรอื ประโยชนในดา นอ่นื ๆ เพ่ือตนเองหรือผูอ ่ืนโดยมิชอบดวยกฎหมาย

3. เพ่ือกระทาํ การอยา งใดในตาํ แหนงไมว าการนัน้ จะชอบหรือมิ ชอบดว ยหน าท่ี หมายถึงกระทําการอันหน่ึงอนั ใดในตําแหนงของ เจาพนักงานในการยุติธรรม ไมวาการกระทํานัน้ จะชอบหรอื ไมช อบ ดวยหน าทกี่ ็ตาม เพ่ือไมกระทําการอยา งใดในตําแหนงไมวา การนัน้ จะชอบหรอื มิ ชอบดว ยหน าที่ หมายถึงไมก ระทาํ การอนั หน่ึงอันใดในตําแหนง ของเจาพนักงานในการยุติธรรม ไมว า การกระทาํ นัน้ จะชอบหรอื ไม ชอบดวยหน าที่กต็ าม ซ่ึงการกระทาํ หรอื ไมก ระทําการอยางใดในตาํ แหนงไมว าการนัน้ จะชอบหรือมิชอบดวยหน าที่นัน้ ถือวา เป็นเจตนาพเิ ศษ ซ่งึ เจตนาพเิ ศษ หมายถงึ มลู เหตจุ ูงใจในการกระ ทําความผิด

4. โดยเจตนา (ธรรมดา) หมายถงึ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง บัญญตั วิ า กระทําโดยเจตนา ไดแ ก กระทาํ โดยรสู าํ นึกในการท่กี ระทาํ และในขณะเดยี วกนั ผู กระทาํ ประสงคต อผล หรือยอมเลง็ เหน็ ผลของการกระทาํ นัน้ อตั ราโทษของการท่เี จา พนักงานในการยุติธรรมเรยี กรบั สินบน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201 คอื ตองระวาง โทษจําคกุ ตัง้ แตหาปีถงึ ยีส่ บิ ปี หรอื จาํ คุกตลอดชีวติ และปรับตัง้ แต หน่ึงแสนถึงส่ีแสนบาท หรือประหารชวี ิต ตัวอยา งฎีกาเจา พนักงานในการยุติธรรม เรยี กรับสนิ บน คาํ พพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 931/2532 จําเลยบอกให ล. ลงลายมอื ช่ือแทน ท. ได ล. จึงปลอม ลายมอื ช่อื ท. ลงในคาํ รองขอประกนั แลวจาํ เลยรว มกับ ล.ขอ ประกนั ตัว อ.ผูตอ งหาในคดอี าญาโดยใชโฉนดทด่ี ินของท.เป็นหลกั ทรพั ย เสนอตอ พันตาํ รวจตรี ช.จนพนั ตํารวจตรชี .อนญุ าตใหป ระกนั ตวั อ. ได การกระทาํ ของจําเลยจึงเป็นความผดิ ฐานรวมกนั ทาํ เอกสารปลอมกระทงหน่ึง และฐานใชเอกสารปลอมอกี กระทงหน่ึง และการทจี่ าํ เลยเป็นพนักงานสอบสวนมีหน าทีเ่ สนอความเห็นตอ ผู บงั คบั บญั ชาเก่ียวกบั การอนญุ าตใหประกนั อ. ทงั้ ๆ ทรี่ วู า ล. ปลอม ลายมอื ช่ือ ท. ผขู อประกัน จําเลยกย็ งั เสนอความเห็นวา ควรให ประกัน อ. ทัง้ จาํ เลยยังรบั ทรพั ยส ินสําหรับตนเองโดยมิชอบเพ่ือ กระทาํ การให อ. ไดร ับประกันตวั ไป การกระทําของจําเลยจงึ เป็น ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 201 ดวย

คําพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 7008/2541 แมศ าลชนั้ ตนมีคาํ สงั่ ในฎกี าของจําเลยท่ี 1 เพียงวา \"รอไวส งั่ เม่อื ผู พิพากษาศาลอทุ ธรณไดพ ิจารณาคาํ รอง ขอใหรับรองฎกี าเสร็จแลว\" แตเม่อื ผูพิพากษาซ่ึงลงช่อื ในคาํ พพิ ากษาศาลอทุ ธรณอนุญาตให จาํ เลยที่ 1 ฎกี าใน ปัญหาขอเทจ็ จริงแลว ศาลชัน้ ตน มิไดมคี ําสัง่ เกยี่ วกับฎีกา ของจาํ เลยท่ี 1 อกี คงมีแตร ายการระบวุ าโจทกไ ดรบั สาํ เนาฎีกาของจําเลยที่ 1 และเจา หน าที่รายงานวาโจทกรบั สาํ เนา ฎกี าครบกาํ หนดแลวไมย่นื คําแกฎ กี า ศาลชนั้ ตน มีคําสัง่ ในรายงาน ของเจา หน าท่ีวา สง สาํ นวนไปศาลฎีกา พฤตกิ รรมดังกลา วถอื ไดวา ศาลชัน้ ตน ไดส ัง่ รับฎีกาของจาํ เลยท่ี 1 และปฏิบัติการใหเ ป็นไปตาม ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญามาตรา 216 วรรคสอง ประกอบดว ยมาตรา 200 และ 201 แลว ศาลฎกี าจงึ รับวินิจฉัยฎีกา ของจาํ เลยท่ี 1 ได การลกั ทรัพยโดยการถอดชิน้ สว นรถยนตท ่จี อด ไวเป็นพฤตกิ ารณทเ่ี ป็นภัยรายแรงตอสงั คม แมทรพั ยท ล่ี ักไปจะมี ราคาน อยกต็ าม และทผ่ี ูเ สียหายไดร บั ทรัพยคนื ไปก็เน่ืองจากเจา พนักงานจับจําเลยท่ี 1 ไดพรอ มกับทรพั ยท ่ีถกู ลกั การทผ่ี ูเสียหาย ไดทรพั ยคนื มา จึงไมใ ชก ารบรรเทาผลรายของจําเลยท่ี 1 พฤติการณแหงคดจี ึงไมมีเหตรุ อการลงโทษให

สรุปเร่อื งเจาพนักงานในการยตุ ิธรรมเรยี ก รับสนิ บน การท่ีเจา พนักงานในการยุติธรรม คือ ตลุ าการ พนักงาน อยั การ ผวู า คดี พนักงานสอบสวน ไดมกี ารเรียก หรือรับ หรือยอม จะรบั ทรัพยส ินไมว า จะเป็นสงั หารมิ ทรพั ยหรอื อสังหาริมทรพั ย หรือ ประโยชนในดานตา ง ๆ เพ่ือตัวเจา พนักงานในการยตุ ิธรรมเองหรอื ผอู ่นื โดยไมช อบดว ยกฎหมาย เพ่อื ใหตัวเจา พนักงานในการ ยุติธรรมนัน้ กระทําการหรือไมก ระทําการอยางหน่ึงอยา งใดใน ตาํ แหนงของตวั เจาพนักงานในการยุติธรรมเองไมว า การนัน้ จะชอบ หรอื ไมชอบดว ยหน าทขี่ องเจา พนักงานในการยตุ ิธรรม ซ่งึ อตั รา โทษ คือ จําคกุ ตัง้ แตหาปีถงึ ยีส่ บิ ปี หรอื จําคกุ ตลอดชีวติ และปรบั ตัง้ แตหน่ึงแสนบาทถึงสแ่ี สนบาทหรอื ประหารชวี ิต

บรรณานุกรม 1. https://deka.in.th/view-34155.html 2. วารสารมหาลยั ทักษณิ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/tsujournal/issue/archive 3. การใหแ ละรบั สนิ บน http://www.iadopa.org/KM/17.pdf

การใหส ินบนเจาพนักงานทัว่ ไป / ในการยตุ ิธรรมและ เจา พนักงานทวั่ ไป / ในการยุตธิ รรมรับสนิ บน วิชา อาญา 2 รหสั วิชา 0801221 เสนอ อาจารยว ีณา สวุ รรณโน โดย นายสรันย สพุ ิทกั ษ รหสั นิสติ 631081311 คณะนิตศิ าสตร มหาลัยทกั ษณิ