ในกกาารรยใหใตุน้สิธกินรารบรมยนตุเแจิธล้ารพะรนเมจักเ้ารงพียานกนัรกทับงัวสาไนปินทบ/ัวนไป /
ความผดิ ฐานใหส ินบนและรบั สินบน เกร่นิ นํา ประเทศไทยไดกําหนดความผิดฐานใหและรับสินบนของเจา พนักงานของรฐั ในประมวลกฎหมายอาญา ซ่งึ ศาลฎีกาไดต คี วามคําวา เจา พนักงาน หมายถึง ผูไดร ับแตงตัง้ โดยทางการของรัฐไทยใหป ฏิบตั ิ ราชการของรฐั ไทยเทานัน้ จึงไมหมายความรวมถงึ เจา พนักงานของรัฐ ตางประเทศ ดงั นัน้ หากมีการใหแ ละรับสนิ บนของเจา พนักงานของรฐั ทาง ประเทศทงั้ ผใู หและผูรบั สนิ บน กไ็ มม ีความผดิ ฐานใหและรับสนิ บนแก เจาพนักงานของรฐั ตางประเทศตามประมวลกฎหมายอาญา ซ่ึงประมวลกฎหมายอาญาไดบ ญั ญัตคิ วามผิดเร่อื งใหส นิ บนแก เจา พนักงานทวั่ ไปไวใน มาตรา 144 บญั ญัติวา ผใู ดให ขอใหห รือ รบั วา จะใหท รัพยส ินหรอื ประโยชนอ่นื ใดแกเจา พนักงาน สมาชกิ สภาเทศบาล สมาชิกสภานิติบัญญตั แิ หง รฐั สมาชกิ สภาจงั หวดั หรอื สมาชกิ สภาเทศบาล เพ่อื จงู ใจใหกระทําการ ไมกระทําการ หรือประวงิ การกระทําอันมิชอบดวยหนาท่ี ตองระวางโทษจําคุก ไมเกินหาปี หรือปรบั ไมเ กินหน่ึงแสนบาท หรอื ทัง้ จาํ ทงั้ ปรบั ไดบญั ญัติความผิดเร่ืองใหสนิ บนแกเจาพนักงานในการยตุ ธิ รรม ไวใ น มาตรา 167 บัญญัตวิ า ผูใดให ขอใหหรือรับวา จะให ทรัพยส นิ หรอื ประโยชนอ่นื ใดแกเ จา พนักงานในตําแหนงตลุ าการ พนักงานอยั การ ผวู าคดหี รอื พนักงานสอบสวน เพ่ือจูงใจให กระทําการ ไมก ระทําการ หรอื ประวิงการกระทําใดอนั มิชอบดว ย หนาท่ี ตอ งระวางโทษจําคุกไมเกนิ เจ็ดปี และปรบั ไมเกนิ หน่ึงแสน ส่หี ม่นื บาท ไดบ ญั ญัติความผดิ เร่ืองเจาพนักงานทวั่ ไปรับสนิ บนไวใ น มาตรา 149 บัญญัตวิ า ผใู ดเป็ นเจาพนักงาน สมาชกิ สภา นิติบญั ญตั ิแหง รฐั สมาชิกสภาแหง รัฐ สมาชิกสภาจังหวดั หรอื สมาชกิ สภาเทศบาล เรยี ก รบั หรอื ยอมจะรับทรพั ยส ิน หรอื ประโยชนอ่ืนใดสําหรบั ตนเองหรอื ผอู ่นื โดยมิชอบ เพ่อื กระทําการ หรอื ไมก ระทําการอยา งใดในตําแหนงไมว า การนัน้ จะชอบหรือมิ ชอบดว ยหนาท่ี ตอ งระวางโทษจาํ คุกตงั้ แตห า ปี ถงึ ย่สี บิ ปี หรอื จาํ คกุ ตลอดชวี ติ และปรับตงั้ แตห น่ึงแสนบาทถงึ ส่ีแสนบาทหรอื ประหารชวี ติ ไดบ ญั ญตั คิ วามผดิ เร่อื งเจาพนักงานในการยตุ ิธรรมเรียกรับ สินบนไวใ น มาตรา 201 บัญญตั ิวา ผใู ดเป็ นเจาพนักงานใน ตาํ แหนงตุลาการ พนักงาน อัยการ ผูวา คดี หรือพนักงาน สอบสวน เรยี ก รบั หรือยอมจะรับทรัพยสนิ หรอื ประโยชนอ่นื ใด สาํ หรับตนเองหรือผูอ่ืนโดยมิชอบเพ่ือกระทาํ การหรือไมกระทาํ การอยางใดในตําแหนง ไมวาการนัน้ จะชอบหรอื มิชอบดวยหนาท่ี ตอ งระวางโทษจําคกุ ตัง้ แตหา ปี ถึงย่ีสบิ ปี หรอื จําคกุ ตลอดชีวติ และปรบั ตงั้ แตหน่ึงแสนบาทถึงส่ีแสนบาท หรอื ประหารชวี ติ
ใหสนิ บนแกเจา พนักงานท่วั ไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 บัญญตั ิวาผใู ด ให ขอใหห รือรบั วา จะใหท รัพยสนิ หรอื ประโยชนอ่นื ใดแกเจา พนักงาน สมาชกิ สภาเทศบาล สมาชิกสภานิตบิ ัญญัติแหงรฐั สมาชิกสภาจงั หวดั หรือสมาชิกสภาเทศบาล เพ่อื จูงใจใหก ระทาํ การ ไมกระทําการ หรือประวงิ การกระทาํ อันมิชอบดวยหนาท่ี ตอ งระวางโทษจําคุกไมเ กินหาปี หรอื ปรับไมเกินหน่ึงแสนบาท หรอื ทงั้ จําทัง้ ปรับ จากหลกั กฎหมายดังกลาว เป็นเร่ืองที่เกี่ยวกับการใหสนิ บน แกเ จา พนักงานทัว่ ไป มใิ ชเ ป็นการใหสินบนแกเจา พนักงานในการ ยตุ ธิ รรม หลกั เกณฑของการใหส ินบนเจาพนักงาน ท่วั ไป จากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 สามารถจาํ แนก หลกั เกณฑห ลกั ๆได ดงั ตอ ไปนี้ 1. ผูใด คือ บุคคลท่ีมสี ภาพบคุ คลตามประมวลกฎหมายแพง และ พาณิชย มาตรา 15 บัญญัตวิ า สภาพบุคคลยอมเร่มิ แตเม่ือ คลอดแลวอยูรอดเป็ นทารกและสนิ ้ สดุ ลงเม่ือตาย ทารกในครรภมารดากส็ ามารถมสี ทิ ธติ า ง ๆ ไดหากวา ภายหลังคลอดแลวอยูรอดเป็ นทารก
2. ให ทรัพยสนิ หรือประโยชนอ่ืนใด หมายถงึ มอบทรพั ยส ินหรอื ประโยชนอยา งอ่นื ขอให ทรพั ยส ินหรือประโยชนอ่ืนใด หมายถึง เสนอทีจ่ ะให ทรพั ยส นิ หรอื ประโยชนอยางอ่นื รับวา จะให ทรพั ยสินหรอื ประโยชนอ่นื ใด หมายถึง สญั ญาหรอื รับรองวาจะใหท รพั ยส ินหรือประโยชนอยางอ่ืน 3. ใหแ กเจา พนักงานทวั่ ไป หมายถงึ ผูไดรับแตงตัง้ โดยทางการของ รฐั เพ่อื ปฏบิ ตั ริ าชการของรฐั - สมาชิกสภานิตบิ ญั ญตั ิแหงรัฐ ไดแ ก สมาชิกสภาผแู ทนราษฎร (สส.) สมาชกิ วฒุ สิ ภา (สว.) - สมาชกิ สภาจงั หวัด (สจ.) - สมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) 4. เพ่ือจูงใจใหก ระทาํ การอนั มิชอบดวยหน าท่ี หมายถึง กระทําการ อันหน่ึงอนั ใดทเี่ ป็นการทจุ รติ ตอหน าที่ เพ่อื จงู ใจไมใ หก ระทาํ การอันมิชอบดว ยหน าท่ี หมายถงึ ไม กระทําการอนั หน่ึงอนั ใดทเี่ ป็นการทุจรติ ตอหน าที่ ประวิงกระทําการอันมิชอบดว ยหน าท่ี หมายถงึ ถว งเวลาใหเ นิ่น ชา ในการปฏิบตั ิหน าที่ตามกฎหมาย เพ่อื จูงใจใหกระทาํ การ ไมกระทําการ หรือประวิงการกระทําอันมิ ชอบดวยหน าทเ่ี ป็นเจตนาพิเศษ ซ่ึงเจตนาพิเศษ หมายถงึ มูลเหตจุ งู ใจในการกระทําความ ผดิ
5. โดยเจตนา (ธรรมดา) หมายถึง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง บัญญตั วิ า กระทําโดยเจตนา ไดแก กระทําโดยรูสาํ นึกในการท่กี ระทาํ และในขณะเดียวกนั ผกู ระทาํ ประสงคตอ ผล หรอื ยอมเล็งเหน็ ผลของการกระทํานัน้ อตั ราโทษของการใหสนิ บนเจาพนักงานทัว่ ไปตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 144 คอื ตองระวางโทษจําคกุ ไมเ กินหาปี หรือ ปรบั ไมเ กนิ หน่ึงแสนบาท หรือทัง้ จาํ ทงั้ ปรับ ตัวอยา งฎีกาการใหสนิ บนเจาพนักงานท่วั ไป คาํ พพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 342/2506 ความผิดฐานใหทรพั ยส นิ หรือประโยชนแกเจาพนักงานตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 จะตองเป็นเร่ือง ให หรือขอ ใหท รพั ยส ินแกเจา พนักงานเพ่อื จงู ใจใหกระทําการ หรอื ไมก ระทาํ การ หรือประวงิ การกระทําอนั มชิ อบดวยหน าทซี่ ่ึงอยใู นอาํ นาจ หน าที่ของเจา พนักงานผนู ัน้ เอง การท่จี ําเลยใหเ งนิ กํานันเพ่ือให กาํ นันชวยเหลอื ไปตดิ ตอกับเจา พนักงานอาํ เภอหรือพนักงานอสบ สวนใหกระทําการใหค ดีของจาํ เลยเสรจ็ ไปในชัน้ อาํ เภออยางให ตองถงึ ฟ องศาลเน่ืองจากกํานันรายงานกลา วโทษจําเลยไปอําเภอ และอาํ เภอเรียกพยานทําการสอบสวนไปแลว ดังนี้ เป็นการพน อาํ นาจหน าท่ขี องกํานันแลว จําเลยยอมไมมคี วามผดิ ฐานให ทรัพยส นิ แกเจาพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 คาํ พิพากษาศาลฎกี าท่ี 3096/2552 จาํ เลยทัง้ สองไปติดตอ กับดาบตาํ รวจ ช. เพ่อื ขอใหช วย เหลอื พ. กบั พวก โดยเปล่ียนขอ หาจากเดิมขอหารวมกันมแี มทแอ มเฟตามนี ไวใ นครอบครองเพ่อื จาํ หนายและจาํ หนายเป็นขอ หารว ม
กันมเี มทแอมเฟตามนี ไวใ นครอบครองโดยไมไดร บั อนญุ าต โดย เสนอใหเ งิน 70,000 บาท ยอ มเป็นการกระทําทีม่ ุงประสงคข อให ทรพั ยส ินเพ่ือจงู ใจใหด าบตํารวจ ช. ไปดําเนินการใหผบู งั คับบญั ชา กระทาํ การอนั มชิ อบดว ยหน าที่ เม่อื พันตํารวจตรี ต. ผบู ังคับบัญชา ของดาบตํารวจ ช. ทราบความประสงคของจาํ เลยทงั้ สองจากดาบ ตํารวจ ช. และวางแผนจับกมุ โดยตอบตกลงและนัดหมายใหนําเงนิ มอบให และจับกมุ ไดพรอมเงินของกลาง จงึ ถือไดว า จาํ เลยทัง้ สองได ขอใหท รัพยส ินแกด าบตํารวจ ช. และพนั ตาํ รวจตรี ต. เพ่ือจูงใจให กระทําการอันมิชอบดว ยหน าท่ีอนั เป็นความผดิ ตาม ประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 144 สรุปการใหส ินบนแกเจา พนักงานท่ัวไป การใหสนิ บนแกเ จา พนักงานทวั่ ไป เป็นการทผ่ี ใู ดให ขอให รบั วา จะให ทรพั ยสนิ ไมว าจะเป็นสังหาริมทรพั ยหรืออสงั หาริมทรพั ย หรอื ใหประโยชนในดานอ่นื ๆ เชน อทิ ธพิ ล อาํ นาจ ความนิยม แกเจา พนักงานทวั่ ไป คือ สมาชกิ สภาเทศบาล สมาชกิ สภานิตบิ ญั ญัติแหง รัฐ สมาชกิ สภาจังหวดั หรือสมาชกิ สภาเทศบาล เพ่อื ใหเ จาพนักงาน กระทาํ การ งดเวน การกระทําการ ประวงิ การกระทาํ การซ่งึ เป็นอนั ทุ จรติ ตอหน าที่ ขดั ตอ กฎหมาย ผูท่ีใหส นิ บนนัน้ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไม เกินหา ปี หรอื ปรับไมเกนิ หน่ึงแสนบาท หรือทัง้ จาํ ทัง้ ปรบั
ใหสินบนแกเ จา พนักงานในการยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 167 บัญญัตวิ า ผใู ด ให ขอใหหรอื รบั วา จะใหทรัพยสิน หรือประโยชนอ่ืนใดแกเ จา พนักงานในตาํ แหนงตลุ าการ พนักงานอัยการ ผูวาคดีหรือ พนักงานสอบสวน เพ่อื จงู ใจใหก ระทําการ ไมกระทาํ การ หรอื ประวงิ การกระทําใดอันมชิ อบดว ยหนาท่ี ตอ งระวางโทษจําคุก ไมเกนิ เจ็ดปี และปรับไมเกนิ หน่ึงแสนส่ีหม่นื บาท จากหลกั กฎหมายดังกลา วเป็นเร่อื งในการใหส ินบนแกเจา พนักงานในการยุติธรรม ซ่ึงแตกตา งจากเร่ืองการใหสนิ บนแกเ จา พนักงานทวั่ ไป หลกั เกณฑข องการใหสินบนแกเ จาพนักงาน ในการยตุ ิธรรม จากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 167 สามารถจาํ แนกหลัก เกณฑตา ง ๆ ไดด งั ตอ ไปนี้ 1. ผใู ด คอื บคุ คลทีม่ สี ภาพบุคคลตามประมวลกฎหมายแพง และ พาณิชย มาตรา 15 บญั ญัตวิ า สภาพบุคคลยอมเร่ิมแตเม่อื คลอดแลวอยูรอดเป็ นทารกและสนิ ้ สดุ ลงเม่ือตาย ทารกในครรภม ารดาก็สามารถมีสทิ ธติ า ง ๆ ได หากวาภายหลังคลอดแลวอยูรอดเป็ นทารก
2. ให ทรัพยส ินหรือประโยชนอ่ืนใด หมายถงึ มอบทรัพยสินหรือ ประโยชนอยา งอ่นื ขอให ทรพั ยสินหรอื ประโยชนอ่ืนใด หมายถึง เสนอท่จี ะให ทรพั ยสนิ หรอื ประโยชนอยางอ่นื รับวาจะให ทรัพยสนิ หรอื ประโยชนอ่นื ใด หมายถึง สัญญาหรือ รบั รองวาจะใหท รพั ยส นิ หรือประโยชนอยา งอ่นื 3. แกเจาพนักงานในการยตุ ธิ รรม หมายถึง ผูท่ไี ดร บั แตงตัง้ โดย ทางการของรฐั ในปฏบิ ัตริ าชการในหน าท่ีเกยี่ วกบั การยตุ ธิ รรม - ตลุ าการ คือ บคุ คลผูใ ชอ ํานาจตลุ าการในการพจิ ารณาพพิ ากษา คดีในศาลทัง้ หมด - พนักงานอยั การ คอื เจา พนักงานผมู ีหน าท่ฟี องผตู อ งหาตอ ศาล อาจเป็นขา ราชการประจาํ สํานักงานอัยการสงู สุด หรอื เจา พนักงานอ่ืนผมู ีอํานาจเชน นัน้ กไ็ ด - ผวู า คดี - พนักงานสอบสวน คือ เจา พนักงานซ่งึ กฎหมายใหมอี าํ นาจและ หน าท่ีทําการสอบสวน 4. เพ่ือจูงใจใหก ระทําการอนั มชิ อบดวยหน าที่ หมายถงึ กระทาํ การ อันหน่ึงอันใดทเ่ี ป็นการทจุ ริตตอ หน าที่ เพ่ือจงู ใจไมใ หก ระทาํ การอันมิชอบดว ยหน าท่ี หมายถึง ไมก ระทํา การอันหน่ึงอนั ใดทีเ่ ป็นการทุจรติ ตอ หน าที่ ประวงิ กระทําการอันมิชอบดวยหน าที่ หมายถงึ ถวงเวลาใหเน่ินชา ในการปฏิบัติหน าที่ตามกฎหมาย เพ่ือจงู ใจใหกระทาํ การ ไมก ระทาํ การ หรอื ประวิงการกระทาํ อันมิ ชอบดวยหน าทีเ่ ป็นเจตนาพเิ ศษ ซ่ึงเจตนาพิเศษ หมายถงึ มูลเหตุจงู ใจในการกระทําความผดิ
5. โดยเจตนา (ธรรมดา) หมายถงึ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง บญั ญัติวา กระทาํ โดยเจตนา ไดแ ก กระทาํ โดยรูสํานึกในการท่กี ระทําและในขณะเดยี วกนั ผกู ระทาํ ประสงคต อ ผล หรือยอ มเล็งเห็นผลของการกระทํานัน้ อัตราโทษของการใหส ินบนแกเจาพนักงานในการยุตธิ รรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 167 คอื ตอ งระวางโทษจําคุก ไมเกินเจ็ดปี และปรบั ไมเกนิ หน่ึงแสนส่หี ม่ืนบาท ตัวอยา งฎกี าการใหส ินบนแกเจา พนักงานใน การยตุ ิธรรม คําพิพากษาศาลฎกี าท่ี 3700/2529 ขอความในจดหมายท่จี าํ เลยเขียนถงึ บ.พนักงานสอบสวน มลี กั ษณะขอรอ งให บ.ชวยเปรียบเทียบปรับผูตอ งหาใหคดเี สรจ็ เด็ด ขาดไปในชัน้ สถานีตาํ รวจโดยไมตอ งใหคดถี ึงศาลเทานัน้ เพ่อื ทัง้ ฝาย ผูตองหาและฝายเจาพนักงานตาํ รวจจะไดไ มเสยี เวลาและเป็นการ ประหยดั เพราะจําเลยมคี วามเห็นวา ไมว า จะชัน้ ศาลหรอื ชัน้ สถานี ตํารวจกถ็ กู ลงโทษปรับเหมือนกนั จึงไมพ อแปลความหมายไดวา จาํ เลยขอใหหรือรับวาจะใหเ งินทรพั ยส ินหรอื ประโยชนอ่ืนใดแก บ.เพ่ือจูงใจไมใ หดําเนินคดีแกผ ตู องหาดังกลา ว อันจะเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144,167
คาํ พพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 8181/2547 วนิ ิจฉัยวา คําวา “พนักงานสอบสวน” ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 167 มคี วามหมายวา ตองเป็นพนักงานสอบสวนผูรับ ผดิ ในคดเี ทานัน้ ดงั นัน้ การใหเ งนิ แกเจา พนักงานตาํ รวจซ่ึงไมไ ด เป็นพนักงานสอบสวนผรู บั ผิดชอบในคดนี ัน้ เพ่อื ใหช ว ยเหลือไม ดําเนินคดี จงึ มใิ ชเป็นการใหท รัพยสินหรอื ประโยชนอ่นื ใดแก พนักงานสอบสวนตามความหมายของบทบัญญตั ดิ งั กลา ว จึงไมมี ความผิดตามมาตรานี้ คงมีความผดิ ตามมาตรา 144 เทา นัน้ คาํ พพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 3700/2529 วนิ ิจฉัยวา ขอความในจดหมายที่จําเลยเขยี นถึง บ. พนักงานสอบสวน มลี กั ษณะขอรองให บ. ชวยเปรยี บเทียบปรบั ผู ตอ งหาใหค ดเี สร็จเด็ดขาดไปในชนั้ สถานีตาํ รวจโดยไมต อ งใหคดถี ึง ศาลเทานัน้ เพ่ือทัง้ ฝายผูตองหาและฝายเจา พนักงานตาํ รวจจะไดไม เสียเวลาและเป็นการประหยดั เพราะจาํ เลยมีความเห็นวาไมวา จะ ชัน้ ศาลหรอื ชัน้ สถานีตาํ รวจก็ถกู ลงโทษปรบั เหมอื นกันจึงไมพอแปล ความหมายไดวา จาํ เลยขอใหหรอื รบั วาจะใหเ งนิ ทรพั ยสิน หรือ ประโยชนอ่ืนใดแก บ. เพ่อื จงู ใจไมใ หดําเนินคดีแกผูตอ งหาดังกลาว อนั จะเป็นความผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144 , 167 สรุปการใหสินบนแกเจาพนั กงานในการ ยตุ ิธรรม การใหสินบนแกเ จา พนักงานในการยตุ ิธรรม เป็นการทีผ่ ใู ดให ขอให รับวาจะให ทรัพยส ินไมว าจะเป็นสังหาริมทรพั ยหรือ อสงั หาริมทรัพย หรือใหประโยชนในดา นอ่นื ๆ เชน อิทธพิ ล อํานาจ ความนิยม แกเ จาพนักงานในการยุตธิ รรม คอื ตุลาการ พนักงาน
อัยการ ผูวาคดี พนักงานสอบสวน เพ่ือใหเจาพนักงานในการ ยุตธิ รรมกระทําการ งดเวนการกระทาํ การ ประวงิ การกระทาํ การซ่ึง เป็นอันทจุ ริตตอหน าท่ีในการยุติธรรม ขัดตอ กฎหมาย ผูทใี่ หส นิ บน นัน้ ตองระวางโทษจําคกุ ไมเ กินเจ็ดปี หรือปรบั ไมเ กนิ หน่ึงแสนสี่ หม่นื บาท เจา พนักงานท่วั ไปเรยี กรับสินบน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 บญั ญตั วิ า ผู ใดเป็ นเจาพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัตแิ หง รัฐ สมาชกิ สภา จังหวดั หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รบั หรือยอมจะรบั ทรัพยสนิ หรือประโยชนอ่นื ใดสาํ หรับตนเองหรือผูอ ่นื โดยมิ ชอบ เพ่อื กระทาํ การหรอื ไมกระทาํ การอยา งใดในตาํ แหนงไม วา การนัน้ จะชอบหรอื มชิ อบดวยหนาท่ี ตองระวางโทษจําคกุ ตัง้ แตหาปี ถึงย่ีสบิ ปี หรือจําคกุ ตลอดชีวิต และปรบั ตงั้ แตห น่ึง แสนบาทถึงส่แี สนบาท หรอื ประหารชวี ติ จากหลกั กฎหมายดงั กลา วเป็นเร่ืองท่เี จา พนักงานทัว่ ไป เรียกรับสินบน มใิ ชเ จา พนักงานในการยุติธรรมเรยี กรบั สินบน หลักเกณฑข องเจาพนักงานท่ัวไปเรยี กรบั สินบน จากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 สามารถจําแนกหลกั เกณฑต าง ๆ ไดด ังตอ ไปนี้ 1. เป็นเจา พนักงานทัว่ ไป หมายถึง ผไู ดร ับแตงตัง้ โดยทางการของรัฐ เพ่อื ปฏิบตั ิราชการของรัฐ - สมาชิกสภานิตบิ ัญญัตแิ หง รัฐ ไดแ ก สมาชิกสภาผแู ทนราษฎร (สส.) สมาชกิ วฒุ ิสภา (สว.) - สมาชิกสภาจงั หวัด (สจ.) - สมาชกิ สภาเทศบาล (ส.ท.) 2. เรยี กทรพั ยส ินหรือประโยชนอ่นื ใดเพ่ือตนเองหรือผอู ่ืนโดยมชิ อบ หมายถึง แสดงเจตนาใหส ง ทรพั ยส นิ หรอื ประโยชนในดานอ่ืน ๆ เพ่อื ตนเองหรอื ผูอ่นื โดยมิชอบดว ยกฎหมาย รบั ทรัพยส นิ หรือประโยชนอ่ืนใดเพ่อื ตนเองหรอื ผอู ่ืนโดยมิชอบ หมายถงึ เจา พนักงานไดรบั ทรัพยส ินหรือประโยชนในดานอ่นื ๆ เพ่ือ ตนเองหรอื ผูอ่ืนโดยมชิ อบดว ยกฎหมาย ยอมจะรับทรพั ยสนิ หรอื ประโยชนอ่ืนใดเพ่ือตนเองหรือผูอ่ืนโดยมิ ชอบ หมายถึง ไมปฏิเสธหรอื ไมขัดขนื ในการรับทรัพยสินหรอื ประโยชนในดา นอ่ืน ๆ เพ่ือตนเองหรอื ผูอ่นื โดยมิชอบดวยกฎหมาย
3. เพ่อื กระทําการอยางใดในตําแหนงไมวา การนัน้ จะชอบหรือมิ ชอบดวยหน าที่ หมายถงึ กระทําการอนั หน่ึงอันใดในตําแหนง ของเจาพนักงานทัว่ ไป ไมวา การกระทํานัน้ จะชอบหรือไมชอบดว ย หน าทกี่ ็ตาม เพ่อื ไมกระทาํ การอยา งใดในตาํ แหนงไมวาการนัน้ จะชอบหรือมิ ชอบดว ยหน าท่ี หมายถงึ ไมก ระทาํ การอนั หน่ึงอันใดในตาํ แหนง ของเจาพนักงานทัว่ ไป ไมว า การกระทาํ นัน้ จะชอบหรอื ไมช อบดว ย หน าท่ีก็ตาม ซ่ึงการกระทําหรือไมกระทาํ การอยางใดในตําแหนงไมว าการนัน้ จะชอบหรอื มิชอบดวยหน าทนี่ ัน้ ถอื วา เป็นเจตนาพิเศษ ซ่งึ เจตนาพเิ ศษ หมายถึง มูลเหตุจูงใจในการกระทาํ ความ ผดิ 4. โดยเจตนา (ธรรมดา) หมายถึง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง บัญญัติวา กระทําโดยเจตนา ไดแ ก กระทําโดยรสู าํ นึกในการท่ีกระทาํ และในขณะเดยี วกนั ผู กระทาํ ประสงคตอ ผล หรือยอมเล็งเห็นผลของการกระทํานัน้
อัตราโทษของการทเ่ี จา พนักงานทวั่ ไปเรียกรบั สินบนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 คอื ตองระวางโทษจําคกุ ตงั้ แต หา ปีถึงย่สี ิบปี หรอื จําคกุ ตลอดชวี ิต และปรบั ตัง้ แตหน่ึงแสนบาทถงึ ส่ี แสนบาท หรอื ประหารชีวิต ตัวอยา งฎีกาเจา พนักงานท่ัวไปเรียกรับ สนิ บน คําพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 3470/2543 จําเลยทัง้ สามเป็นเจา พนักงานตํารวจตําแหนงลูกแถว กอง กํากบั การอารักขาและรกั ษาความปลอดภัย กองบังคับการสายตรวจ และปฏบิ ตั ิการพเิ ศษกองบัญชาการตํารวจนครบาล ซ่งึ เป็นเจา พนักงานตํารวจมอี าํ นาจหน าทีส่ บื สวนจับกุมผกู ระทําผิดอาญา เม่อื ไดพ บและกลาวหาวาผเู สียหายใหท พ่ี ักอาศัยแกค นตา งดาวโดยไม ปฏิบตั ิตามกฎหมาย อนั เป็นความผิดตามพระราชบญั ญตั คิ นเขา เมอื งฯ จึงไมใชการกลัน่ แกลง กลาวหาวาผเู สยี หายกระทําผดิ อาญา โดยไมมมี ูลความผดิ การทีจ่ ําเลยทัง้ สามปฏิบตั ิการไปตามหน าทดี่ งั กลา วโดยชอบแลว กลับไมจับกุมแตขเู ขญ็ เรียกรองเอาเงินแลว ละเวนไมจ ับกุมผูเสียหาย การกระทาํ ของจําเลยทงั้ สามจงึ ไมเ ป็น ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 แตการทีจ่ าํ เลย ทัง้ สามขเู ข็ญเรียกรอ งเอาเงนิ จากผูเ สียหายภายหลงั เชนนี้ยอมเป็น ความผดิ ฐานเป็นเจา พนักงานเรียกรับทรัพยสนิ ในตําแหนงโดยมิ ชอบดว ยหน าท่ตี ามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 คดนี ี้โจทก มิไดฟ องขอใหล งโทษจาํ เลยทงั้ สามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 อันเป็นบทเฉพาะมาดวย แตโ จทกไดบรรยายฟ องวา เม่ือพบการกระทาํ ผดิ ซ่ึงจําเลยทงั้ สามมหี น าทีจ่ บั กุมผูกระทาํ ผดิ แต กลับรว มกันปฏิบัตหิ รือละเวนการปฏิบตั ิหน าที่โดยทุจริตโดยขมขนื ใจผูเสยี หายใหมอบเงินดังกลา ว อนั เป็นการใชอ ํานาจในตําแหนง โดยมชิ อบคําบรรยายฟ องดงั กลาวจึงเขาองคป ระกอบความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 แมคําขอทา ยฟ องโจทกจะอาง บทมาตราความผิดตามบทเฉพาะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148แตเม่อื คาํ บรรยายฟ องและขอ เท็จจริงที่พจิ ารณาไดค วาม วา การกระทําของจําเลยทัง้ สามเป็นความผดิ ตามบทเฉพาะตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 แลว จงึ ถือวา โจทกอา งฐาน ความผิดหรือบทมาตราผิด ศาลมอี ํานาจลงโทษจาํ เลยตามฐานความ ผิดทีถ่ กู ตองไดตามประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคหา จําเลยทงั้ สามรวมกันขูเขญ็ เรยี กรอ งเอาเงินจากผเู สยี หาย เพ่ือที่จะละเวนไมจับกมุ ผเู สียหายไปดําเนินคดี จนผูเสยี หายกลวั วา จะถกู จับกุมอนั จะเป็นอันตรายตอเสรีภาพของตน จงึ ยอมจะใหเ งิน แกจาํ เลยทัง้ สามนัน้ เป็นความผิดฐานเป็นเจาพนักงานปฏิบัตหิ รอื ละเวน การปฏิบัตหิ น าทโ่ี ดยทจุ รติ ตาม
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซ่ึงเป็นบททวั่ ไป และฐานกรรโชกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 วรรคแรก ดว ย หาใชเป็นเร่ืองทเ่ี ม่ือเป็นความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 149 แลว จะ ไมเ ป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 337 ดว ยไม เพียงแตเ ม่อื เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149ซ่งึ เป็นบทเฉพาะแลว กไ็ มจ าํ ตอ งปรบั บทตามประมวล กฎหมายอาญามาตรา 157 ซ่ึงเป็นบททัว่ ไปอีกเทานัน้ สรปุ เร่อื งเจาพนักงานท่ัวไปเรยี กรบั สนิ บน การทีเ่ จา พนักงานทัว่ ไป คือ สมาชกิ สภานิตบิ ญั ญตั ิแหง รัฐ สมาชกิ สภาจังหวัด หรอื สมาชิกสภาเทศบาล ไดมีการเรียก หรือรับ หรือยอมจะรับทรพั ยสนิ ไมวาจะเป็นสังหารมิ ทรพั ยห รือ อสงั หารมิ ทรพั ย หรอื ประโยชนในดา นตาง ๆ เพ่ือตัวเจา พนักงาน ทวั่ ไปเองหรือผูอ่นื โดยไมชอบดวยกฎหมาย เพ่อื ใหตวั เจาพนักงาน ทัว่ ไปนัน้ กระทําการหรือไมก ระทาํ การอยางหน่ึงอยา งใดใน ตาํ แหนงของตัวเจาพนักงานทัว่ ไปเองไมวาการนัน้ จะชอบหรือไม ชอบดวยหน าท่ขี องเจาพนักงานทวั่ ไป ซ่ึงอตั ราโทษ คอื จําคกุ ตงั้ แตห า ปีถงึ ย่ีสบิ ปี หรอื จาํ คกุ ตลอดชวี ิต และปรบั ตัง้ แตห น่ึงแสน บาทถงึ สี่แสนบาทหรอื ประหารชีวติ
เจา พนักงานในการยตุ ธิ รรมเรยี กรับสินบน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201 บญั ญตั ิวา ผูใด เป็ นเจาพนักงานในตาํ แหนงตุลาการ พนักงานอัยการ ผูว า คดี หรอื พนักงานสอบสวน เรยี ก รบั หรอื ยอมจะรบั ทรพั ยส ิน หรอื ประโยชนอ่นื ใดสําหรับตนเองหรือผูอ่นื โดยมิชอบเพ่อื กระทาํ การหรอื ไมกระทาํ การอยางใดในตาํ แหนง ไมวา การนัน้ จะชอบหรอื มิชอบดว ยหนาท่ี ตองระวางโทษจาํ คุกตัง้ แตหา ปี ถึงย่สี บิ ปี หรอื จาํ คกุ ตลอดชวี ิต และปรบั ตงั้ แตห น่ึงแสนบาท ถงึ ส่แี สนบาท หรือประหารชีวติ จากหลกั กฎหมายดังกลา วเป็นเร่ืองท่เี จา พนักงานในการ ยตุ ิธรรมเรียกรับสนิ บน มิใชเ จาพนักงานทวั่ ไปเรียกรับสินบน หลกั เกณฑข องเจา พนักงานในการยตุ ิธรรม เรียกรบั สนิ บน จากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201 สามารถจําแนกหลกั เกณฑต าง ๆ ไดดังตอ ไปนี้ 1. เป็นเจา พนักงานในการยตุ ธิ รรม หมายถงึ ผทู ่ีไดร บั แตง ตัง้ โดย ทางการของรัฐในปฏบิ ัติราชการในหน าที่เก่ียวกบั การยตุ ิธรรม - ตลุ าการ คอื บคุ คลผูใ ชอํานาจตุลาการในการพิจารณาพพิ ากษาคดี ในศาลทัง้ หมด - พนักงานอยั การ คอื เจาพนักงานผูมีหน าทฟ่ี องผตู อ งหาตอ ศาล อาจเป็นขาราชการประจาํ สาํ นักงานอัยการสูงสดุ หรอื เจา พนักงาน อ่นื ผมู อี าํ นาจเชนนัน้ ก็ได - ผวู า คดี
- พนักงานสอบสวน คอื เจาพนักงานซ่ึงกฎหมายใหม อี ํานาจและ หน าที่ทาํ การสอบสวน 2. เรยี กทรพั ยสินหรอื ประโยชนอ่นื ใดเพ่อื ตนเองหรอื ผอู ่ืนโดยมิชอบ หมายถงึ แสดงเจตนาใหสงทรพั ยสินหรอื ประโยชนในดานอ่ืน ๆ เพ่อื ตนเองหรือผูอ่นื โดยมชิ อบดวยกฎหมาย รับทรพั ยส ินหรอื ประโยชนอ่ืนใดเพ่อื ตนเองหรอื ผูอ่นื โดยมิชอบ หมายถงึ เจา พนักงานในการยุตธิ รรมไดร ับทรัพยส นิ หรือประโยชน ในดานอ่ืน ๆ เพ่อื ตนเองหรอื ผูอ่ืนโดยมชิ อบดวยกฎหมาย ยอมจะรับทรัพยสนิ หรือประโยชนอ่ืนใดเพ่อื ตนเองหรอื ผูอ่ืนโดยมิ ชอบ หมายถึง ไมป ฏเิ สธหรอื ไมข ัดขืนในการรับทรัพยส นิ หรอื ประโยชนในดา นอ่นื ๆ เพ่ือตนเองหรือผูอ ่ืนโดยมิชอบดวยกฎหมาย
3. เพ่ือกระทาํ การอยา งใดในตาํ แหนงไมว าการนัน้ จะชอบหรือมิ ชอบดว ยหน าท่ี หมายถึงกระทําการอันหน่ึงอนั ใดในตําแหนงของ เจาพนักงานในการยุติธรรม ไมวาการกระทํานัน้ จะชอบหรอื ไมช อบ ดวยหน าทกี่ ็ตาม เพ่ือไมกระทําการอยา งใดในตําแหนงไมวา การนัน้ จะชอบหรอื มิ ชอบดว ยหน าที่ หมายถึงไมก ระทาํ การอนั หน่ึงอันใดในตําแหนง ของเจาพนักงานในการยุติธรรม ไมว า การกระทาํ นัน้ จะชอบหรอื ไม ชอบดวยหน าที่กต็ าม ซ่ึงการกระทาํ หรอื ไมก ระทําการอยางใดในตาํ แหนงไมว าการนัน้ จะชอบหรือมิชอบดวยหน าที่นัน้ ถือวา เป็นเจตนาพเิ ศษ ซ่งึ เจตนาพเิ ศษ หมายถงึ มลู เหตจุ ูงใจในการกระ ทําความผิด
4. โดยเจตนา (ธรรมดา) หมายถงึ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง บัญญตั วิ า กระทําโดยเจตนา ไดแ ก กระทาํ โดยรสู าํ นึกในการท่กี ระทาํ และในขณะเดยี วกนั ผู กระทาํ ประสงคต อผล หรือยอมเลง็ เหน็ ผลของการกระทาํ นัน้ อตั ราโทษของการท่เี จา พนักงานในการยุติธรรมเรยี กรบั สินบน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201 คอื ตองระวาง โทษจําคกุ ตัง้ แตหาปีถงึ ยีส่ บิ ปี หรอื จาํ คุกตลอดชีวติ และปรับตัง้ แต หน่ึงแสนถึงส่ีแสนบาท หรือประหารชวี ิต ตัวอยา งฎีกาเจา พนักงานในการยุติธรรม เรยี กรับสนิ บน คาํ พพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 931/2532 จําเลยบอกให ล. ลงลายมอื ช่ือแทน ท. ได ล. จึงปลอม ลายมอื ช่อื ท. ลงในคาํ รองขอประกนั แลวจาํ เลยรว มกับ ล.ขอ ประกนั ตัว อ.ผูตอ งหาในคดอี าญาโดยใชโฉนดทด่ี ินของท.เป็นหลกั ทรพั ย เสนอตอ พันตาํ รวจตรี ช.จนพนั ตํารวจตรชี .อนญุ าตใหป ระกนั ตวั อ. ได การกระทาํ ของจําเลยจึงเป็นความผดิ ฐานรวมกนั ทาํ เอกสารปลอมกระทงหน่ึง และฐานใชเอกสารปลอมอกี กระทงหน่ึง และการทจี่ าํ เลยเป็นพนักงานสอบสวนมีหน าทีเ่ สนอความเห็นตอ ผู บงั คบั บญั ชาเก่ียวกบั การอนญุ าตใหประกนั อ. ทงั้ ๆ ทรี่ วู า ล. ปลอม ลายมอื ช่ือ ท. ผขู อประกัน จําเลยกย็ งั เสนอความเห็นวา ควรให ประกัน อ. ทัง้ จาํ เลยยังรบั ทรพั ยส ินสําหรับตนเองโดยมิชอบเพ่ือ กระทาํ การให อ. ไดร ับประกันตวั ไป การกระทําของจําเลยจงึ เป็น ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 201 ดวย
คําพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 7008/2541 แมศ าลชนั้ ตนมีคาํ สงั่ ในฎกี าของจําเลยท่ี 1 เพียงวา \"รอไวส งั่ เม่อื ผู พิพากษาศาลอทุ ธรณไดพ ิจารณาคาํ รอง ขอใหรับรองฎกี าเสร็จแลว\" แตเม่อื ผูพิพากษาซ่ึงลงช่อื ในคาํ พพิ ากษาศาลอทุ ธรณอนุญาตให จาํ เลยที่ 1 ฎกี าใน ปัญหาขอเทจ็ จริงแลว ศาลชัน้ ตน มิไดมคี ําสัง่ เกยี่ วกับฎีกา ของจาํ เลยท่ี 1 อกี คงมีแตร ายการระบวุ าโจทกไ ดรบั สาํ เนาฎีกาของจําเลยที่ 1 และเจา หน าที่รายงานวาโจทกรบั สาํ เนา ฎกี าครบกาํ หนดแลวไมย่นื คําแกฎ กี า ศาลชนั้ ตน มีคําสัง่ ในรายงาน ของเจา หน าท่ีวา สง สาํ นวนไปศาลฎีกา พฤตกิ รรมดังกลา วถอื ไดวา ศาลชัน้ ตน ไดส ัง่ รับฎีกาของจาํ เลยท่ี 1 และปฏิบัติการใหเ ป็นไปตาม ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญามาตรา 216 วรรคสอง ประกอบดว ยมาตรา 200 และ 201 แลว ศาลฎกี าจงึ รับวินิจฉัยฎีกา ของจาํ เลยท่ี 1 ได การลกั ทรัพยโดยการถอดชิน้ สว นรถยนตท ่จี อด ไวเป็นพฤตกิ ารณทเ่ี ป็นภัยรายแรงตอสงั คม แมทรพั ยท ล่ี ักไปจะมี ราคาน อยกต็ าม และทผ่ี ูเ สียหายไดร บั ทรัพยคนื ไปก็เน่ืองจากเจา พนักงานจับจําเลยท่ี 1 ไดพรอ มกับทรพั ยท ่ีถกู ลกั การทผ่ี ูเสียหาย ไดทรพั ยคนื มา จึงไมใ ชก ารบรรเทาผลรายของจําเลยท่ี 1 พฤติการณแหงคดจี ึงไมมีเหตรุ อการลงโทษให
สรุปเร่อื งเจาพนักงานในการยตุ ิธรรมเรยี ก รับสนิ บน การท่ีเจา พนักงานในการยุติธรรม คือ ตลุ าการ พนักงาน อยั การ ผวู า คดี พนักงานสอบสวน ไดมกี ารเรียก หรือรับ หรือยอม จะรบั ทรัพยส ินไมว า จะเป็นสงั หารมิ ทรพั ยหรอื อสังหาริมทรพั ย หรือ ประโยชนในดานตา ง ๆ เพ่ือตัวเจา พนักงานในการยตุ ิธรรมเองหรอื ผอู ่นื โดยไมช อบดว ยกฎหมาย เพ่อื ใหตัวเจา พนักงานในการ ยุติธรรมนัน้ กระทําการหรือไมก ระทําการอยางหน่ึงอยา งใดใน ตาํ แหนงของตวั เจาพนักงานในการยุติธรรมเองไมว า การนัน้ จะชอบ หรอื ไมชอบดว ยหน าทขี่ องเจา พนักงานในการยตุ ิธรรม ซ่งึ อตั รา โทษ คือ จําคกุ ตัง้ แตหาปีถงึ ยีส่ บิ ปี หรอื จําคกุ ตลอดชีวติ และปรบั ตัง้ แตหน่ึงแสนบาทถึงสแ่ี สนบาทหรอื ประหารชวี ิต
บรรณานุกรม 1. https://deka.in.th/view-34155.html 2. วารสารมหาลยั ทักษณิ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/tsujournal/issue/archive 3. การใหแ ละรบั สนิ บน http://www.iadopa.org/KM/17.pdf
การใหส ินบนเจาพนักงานทัว่ ไป / ในการยตุ ิธรรมและ เจา พนักงานทวั่ ไป / ในการยุตธิ รรมรับสนิ บน วิชา อาญา 2 รหสั วิชา 0801221 เสนอ อาจารยว ีณา สวุ รรณโน โดย นายสรันย สพุ ิทกั ษ รหสั นิสติ 631081311 คณะนิตศิ าสตร มหาลัยทกั ษณิ
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: