รายงาน ๒๕๖๓ปขผกอรลรงะะกจทผาาํรรตู ปวตรงงรวบมวจปจหรรราาาะดชมชกไากทาณายรร พ.ศ. สํานักงานผตู รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ 1 กระทรวงมหาดไทย ประจ�าปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
การแบง่ เขตตรวจราชการ เขตตรวจราชการที่ ๑๐ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ระดบั ส�ำนักนายกรัฐมนตรี ๑๘ เขต ตามการบรหิ าร ตอนบน ๑ งานแบบบรู ณาการเชิงยุทธศาสตรก์ ลุ่มจังหวดั จงั หวัดบงึ กาฬ เลย หนองคาย หนองบวั ล�ำภู อดุ รธานี แมฮ องสอน เชียงราย เขตตรวจราชการที่ ๑๑ เชียงใหม กลุม่ จังหวัดภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ๑๖ ตอนบน ๒ พะเยา จังหวัดนครพนม มุกดาหาร สกลนคร นาน ๑๕ ลาํ พูน ลาํ ปาง แพร หนองคาย บึงกาฬ เขตตรวจราชการท่ี ๑๕ อุตรดติ ถ อุดรธานี นครพนม กลุม่ จงั หวัดภาคเหนอื ๑๗ ตอนบน ๑ ตาก สโุ ขทัย พิษณโุ ลก เลย หนองบัวลาํ ภู ๑๐ สกลนคร ๑๑ จงั หวัดเชียงใหม่ แม่ฮอ่ งสอน ล�ำปาง ล�ำพนู ขอนแกน กาฬสนิ ธุ มกุ ดาหาร เขตตรวจราชการท่ี ๑๖ กลุ่มจงั หวัดภาคเหนือ ตอนบน ๒ กาํ แพงเพชร พจิ ติ ร เพชรบูรณ ๑๒ มหาสารคาม ยโสธร อาํ นาจเจรญิ ๑๘ นครสวรรค รอ ยเอ็ด จังหวดั เชียงราย นา่ น พะเยา แพร่ ชัยภูมิ เขตตรวจราชการท่ี ๑๗ อทุ ยั ธานี ๑๓ ๑๔ กลมุ่ จงั หวัดภาคเหนือ ตอนล่าง ๑ ชัยนาท ลพบุรี นครราชสีมา บุรรี มั ย สุรินทร ศรีสะเกษ อบุ ลราชธานี จังหวัดตาก พษิ ณโุ ลก เพชรบูรณ์ สโุ ขทัย อตุ รดติ ถ์ ๓ สพุ รรณบรุ ี ๑๐ ๑ ๙ สระบุรี เขตตรวจราชการท่ี ๑๘ กลุ่มจังหวัดภาคเหนอื ตอนล่าง ๒ กาญจนบุรี ๘ นครนายกปราจนี บรุ ี ราชบุรี จงั หวดั ก�ำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจติ ร อทุ ัยธานี ๔ ๒๒ ๓ ฉะเชงิ เทรา ๙ เขตตรวจราชการที่ ๑๒ ๖ ๘ สระแกว กล่มุ จงั หวัดภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื เขตตรวจราชการท่ี ๑ ๗ ๑ ตอนกลาง กลมุ่ จังหวัดภาคกลางตอนบน ๕ ชลบรุ ี จังหวดั กาฬสนิ ธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม รอ้ ยเอด็ จังหวัดชยั นาท พระนครศรอี ยุธยา ลพบรุ ี สระบุรี สงิ หบ์ รุ ี อา่ งทอง เพชรบุรี ๔ ระยอง จนั ทบุรี เขตตรวจราชการท่ี ๑๓ ชมุ พร กลุ่มจงั หวัดภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื เขตตรวจราชการที่ ๒ ตราด ตอนล่าง ๑ กลมุ่ จงั หวดั ภาคกลาง ปรมิ ณฑล จงั หวัดชัยภมู ิ นครราชสมี า บุรีรัมย์ สุรนิ ทร์ ประจวบ ีค ีร ัขน ธ ๑. กรุงเทพฯ จงั หวัดนนทบรุ ี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ ๒. นนทบรุ ี ๓. ปทุมธานี เขตตรวจราชการท่ี ๑๔ ๔. นครปฐม กลมุ่ จงั หวดั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ๕. สมุทรปราการ ตอนลา่ ง ๒ ๖. สมุทรสาคร จังหวดั ยโสธร ศรสี ะเกษ อำ� นาจเจริญ อุบลราชธานี ๗. สมทุ รสงคราม ๘. พระนครศรอี ยุธยา ๙. อางทอง ๑๐. สิงหบุรี เขตตรวจราชการที่ ๘ กลุ่มจงั หวัดภาคตะวันออก ๑ ระนอง จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา ชลบรุ ี ระยอง เขตตรวจราชการท่ี ๓ สรุ าษฎรธ านี เขตตรวจราชการท่ี ๙ กลุ่มจงั หวัดภาคกลาง ตอนล่าง ๑ ๕ กลมุ่ จังหวดั ภาคตะวนั ออก ๒ จงั หวดั กาญจนบุรี ราชบรุ ี สพุ รรณบุรี พงั งา ๖ กระบ่ี นครศรีธรรมราช จังหวดั จันทบุรี ตราด นครนายก ภเู ก็ต ตรงั พัทลุง ปราจนี บุรี สระแกว้ เขตตรวจราชการท่ี ๔ กลุ่มจังหวดั ภาคกลาง ตอนลา่ ง ๒ สตูล สงขลา ปตตานี เขตตรวจราชการท่ี ๖ ๗ กล่มุ จังหวดั ภาคใตฝ้ ง่ั อันดามัน จงั หวดั ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบรุ ี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ยะลา นราธิวาส จงั หวดั กระบี่ ตรงั พงั งา ภูเกต็ ระนอง สตูล เขตตรวจราชการที่ ๕ เขตตรวจราชการท่ี ๗ กลมุ่ จงั หวดั ภาคใตอ้ า่ วไทย กลมุ่ จังหวัดภาคใตช้ ายแดน จังหวดั ชมุ พร นครศรีธรรมราช พัทลงุ จังหวดั นราธวิ าส ปัตตานี ยะลา สรุ าษฎรธ์ านี สงขลา B
ค�าน�า การตรวจราชการของกระทรวงมหาดไทยเป็นมาตรการส�าคัญในการติดตาม ก�ากับ ดูแล การบรหิ ารราชการแผ่นดิน เพือ่ ให้การปฏบิ ัตริ าชการตามภารกิจของหนว่ ยงาน ภาครัฐเปน็ ไปตามเป้าหมายสามารถแกไ้ ขปัญหา อปุ สรรคต่าง ๆ และเกดิ ประโยชน์สขุ แก่ ประชาชน ดังหลกั วา่ “บ�าบดั ทกุ ข ์ บ�ารุงสขุ ” รวมท้ังทา� ใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านมปี ระสิทธผิ ลและ ประสิทธิภาพ เกิดความคุ้มค่าในการบริหารราชการแผ่นดิน มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นไปตามหลักการบริหารกจิ การบ้านเมืองทีด่ ี รายงานผลการตรวจราชการของกระทรวงมหาดไทยประจา� ป ี พ.ศ. ๒๕๖๓ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓) ฉบับน้ีเป็นรายงานท่ีได้จากการตรวจราชการตามแผนการ ตรวจราชการ ของผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ซ่ึงประกอบด้วย การตรวจราชการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย การตรวจราชการกรณพี เิ ศษตามทผ่ี บู้ งั คบั บญั ชามอบหมาย การตรวจราชการตามคา� รบั รอง การปฏิบัติราชการประจ�าปี ตามมติคณะรัฐมนตรีและตามตัวชี้วัดที่ ก.พ.ร. ก�าหนด และการตรวจราชการเรอ่ื งอน่ื ๆ ทผ่ี บู้ งั คบั บญั ชามอบหมาย ซงึ่ ผตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย ทงั้ ๑๘ เขตตรวจราชการ ไดด้ า� เนนิ การตรวจตดิ ตาม กา� กบั ดแู ล การปฏบิ ตั ริ าชการ พรอ้ มทงั้ ให้ ขอ้ สงั เกต ขอ้ เสนอแนะทงั้ เชงิ นโยบายและเชงิ พน้ื ทแ่ี กส่ ว่ นราชการ จงั หวดั หนว่ ยงานองคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถิน่ และหน่วยงานรฐั วสิ าหกจิ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย น�าไปพจิ ารณา ดา� เนนิ การตามอา� นาจหนา้ ทใี่ นการแกไ้ ขปญั หา พฒั นา และเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการขบั เคลอื่ น การด�าเนินงานให้บรรลุผลส�าเร็จตามเปา้ หมาย สา� นกั ตรวจราชการและเรอ่ื งราวรอ้ งทกุ ข ์ สา� นกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย ขอขอบคณุ คณะผู้บริหารกรมในสังกดั กระทรวงมหาดไทย สา� นัก/กองในสังกัดส�านกั งานปลัดกระทรวง มหาดไทย ขา้ ราชการ เจา้ หนา้ ท ี่ ทป่ี รกึ ษาผตู้ รวจราชการภาคประชาชน ตลอดจนประชาชน ทีร่ ว่ มแสดงความคิดเห็น และให้ความร่วมมือดว้ ยดีตลอดมา ท�าให้การจดั ท�ารายงานฉบับน้ี ส�าเร็จลุล่วง และหวังเป็นอย่างย่ิงว่ารายงานฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์ ต่อการปฏิบัติงาน ของหนว่ ยงานตา่ ง ๆ และเปน็ ขอ้ มลู สะทอ้ นกลบั ใหผ้ บู้ รหิ ารระดบั สงู ซงึ่ เปน็ ผกู้ า� หนดนโยบาย ไดร้ ับทราบเพือ่ นา� ไปก�าหนดนโยบาย ให้เกิดประโยชนส์ ูงสดุ ต่อประชาชนตอ่ ไป สาํ นกั ตรวจราชการและเร�่องราวรอ งทุกข สํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ ก กระทรวงมหาดไทย ประจ�าปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
สารบญั CONTENTS ๗ ยุทธศาสตร : ดานความม่ันคง ๒๓ ๒๙ • โครงการจต� อาสาพระราชทาน ๔๓ • การสรางความพรอ มในการปองกนั และบรรเทาสาธารณภยั ๕๐ ยุทธศาสตร : ดานการสรางโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม ๖๒ • การสรางการรับรสู ชู ุมชนในระดับพ�น้ ที่ ๗๗ ยุทธศาสตร : ดา นการปรบั สมดุลและพัฒนาระบบบร�หารจดั การภาครัฐ • การตรวจตดิ ตามผลการดาํ เนินงานของศูนยด าํ รงธรรม การตรวจราชการกรณพี �เศษ ตามท่ผี บู งั คบั บัญชามอบหมายเฉพาะเรอ่� ง • เร่อ� งท่เี กยี่ วกบั เหตกุ ารณไมปกติ โรคระบาด และสาธารณภัยตา งๆ ตามพระราชบญั ญัติ ปองกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ และแผนการปอ งกันและบรรเทาสาธารณภัย แหงชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ การตรวจราชการตามคํารับรองการปฏิบัติราชการประจําป ตามมติคณะรัฐมนตรแ� ละตามตัวช้ีวัดท่ี ก.พ.ร. กําหนด • การตรวจติดตามและประเมนิ ผลการดําเนนิ การตามแผนพัฒนาจงั หวัด/กลุม จงั หวดั ซ่งึ เปน การดําเนินการตามมาตรา ๓๔ แหงพระราชกฤษฎีกาวาดวยการบรห� ารงานจงั หวัด และกลุม จงั หวดั แบบบรู ณาการ พ.ศ. ๒๕๕๑ การตรวจราชการแบบบูรณาการ ประจําปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามท่สี ํานกั งานปลดั สํานักนายกรัฐมนตร�กาํ หนด • โครงการสัตวปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพ�ษสุนัขบา ตามพระปณธิ าน ของศาสตราจารย ดร. สมเดจ็ พระเจานอ งนางเธอ เจา ฟาจ�ฬาภรณวลัยลกั ษณ อัครราชกุมาร� กรมพระศร�สวางควฒั น วรขัตตยิ ราชนาร� ภาคผนวก ข รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจา� ปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ท�ากเนรียะทบรผว้ตู งรมวหจารดาไชทกยาร นายณฐั ภัทร สวุ รรณประทีป หวั หน้าผ้ตู รวจราชการกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบเขตตรวจราชการสว่ นกลาง กรงุ เทพมหานคร และส่วนราชการหนว่ ยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย และรบั ผิดชอบเขตตรวจราชการที่ ๓ นายนิพันธ์ บุญหลวง นายรังสรรค์ ตันเจริญ รองหวั หน้าผูต้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย รับผดิ ชอบเขตตรวจราชการท่ี ๑๕, ๑๖ รบั ผิดชอบเขตตรวจราชการที่ ๑ รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ ค กระทรวงมหาดไทย ประจ�าปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ท�ากเนรยีะทบรผวู้ตงรมวหจารดาไชทกยาร นายสมชาย บา� รุงทรพั ย์ นายสมบูรณ์ ศิริเวช ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผ้ตู รวจราชการกระทรวงมหาดไทย รบั ผดิ ชอบเขตตรวจราชการท่ี ๔ รบั ผิดชอบเขตตรวจราชการท่ี ๙ นายภิญโญ ประกอบผล นายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย รับผดิ ชอบเขตตรวจราชการท่ี ๘, ๑๑ รบั ผิดชอบเขตตรวจราชการท่ี ๑๒, ๑๔ ง รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�าปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ท�ากเนรียะทบรผวู้ตงรมวหจารดาไชทกยาร นายอา� พล อังคภากรณก์ ลุ นายราชิต สดุ พ�ม่ ผูต้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย รบั ผิดชอบเขตตรวจราชการท่ี ๒ รบั ผดิ ชอบเขตตรวจราชการท่ี ๕, ๗ นายกฤษณ์ คงเมอื ง นายนวิ ฒั น์ ร่งุ สาคร นายทรงพล ใจกริ่ม ผตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผูต้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย รบั ผดิ ชอบเขตตรวจราชการที่ ๑๗, ๑๘ รับผดิ ชอบเขตตรวจราชการที่ ๖ รับผิดชอบเขตตรวจราชการที่ ๑๐, ๑๓ รายงานผลการตรวจราชการของผูต้ รวจราชการ จ กระทรวงมหาดไทย ประจา� ปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
การตรวจราชการ ตามแผนการตรวจราชการ พประ.จศา� ป.งี ๒บป๕ระม๖าณ๓
การตรวจราชการตามแผนการตรวจราชการ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายฉัตรชัย พรหมเลิศ) ได้เป็น ประธาน การประชุมผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยผู้ตรวจราชการ กรมในสงั กดั ผชู้ ว่ ยผตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย และเจา้ หนา้ ทสี่ นบั สนนุ การตรวจราชการ ประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยได้มอบนโยบาย และแนวทางการตรวจราชการแก่ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และผตู้ รวจราชการกรมในสังกดั กระทรวงมหาดไทย ดังนี้ ๑. การตรวจราชการตอ้ งปรบั เปลย่ี นใหส้ ามารถสนองตอบนโยบายรฐั บาล และกระทรวงมหาดไทย โดยให้อ�ำนาจผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ในการเสนอความเหน็ ดา้ นการบรหิ ารงานบคุ คลตอ่ ปลดั กระทรวงมหาดไทย เพือ่ เป็นขอ้ มลู ประกอบการพิจารณาและด�ำเนินการดา้ นการบรหิ าร งานบุคคล ๒. สนับสนุนงบประมาณแก่ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เพ่ือการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนในเขต ตรวจราชการ ๓. มอบอำ� นาจการกำ� กบั การปฏบิ ตั ริ าชการของขา้ ราชการสำ� นกั ตรวจราชการและเรอื่ งราวรอ้ งทกุ ข์ สป. ใหห้ วั หนา้ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เร่ือง บคุ ลากร งบประมาณ โดยหวั หน้าผูต้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทยปฏิบตั ริ าชการ แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ๔. มอบผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย สื่อสารและสร้างการรับรู้การน�ำนโยบายของรัฐบาลและกระทรวง มหาดไทย เพ่ือน�ำไปถ่ายทอดหนว่ ยรบั ตรวจใหม้ คี วามเขา้ ใจตรงกัน และสามารถขบั เคลอ่ื นงานตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ๕. กำ� หนดแนวทางการตรวจราชการ โดยตรวจราชการเชงิ ยทุ ธศาสตรแ์ ละเชงิ พน้ื ที่ พรอ้ มทงั้ ใหร้ บั ฟงั ปญั หา อปุ สรรค และข้อเสนอแนะของจังหวัด รายงานตรงต่อปลัดกระทรวงมหาดไทยเพื่อน�ำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทราบ และพจิ ารณาสัง่ การ ๖. มอบหมายผตู้ รวจราชการกรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถนิ่ ประสานหนว่ ยงานภายในกรมฯ จดั ทำ� บทสรปุ ผบู้ รหิ าร ระเบียบ ข้อกฎหมายต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง เร่ืองการบริหารจัดการขยะ ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย ประกอบการชีแ้ จงต่อสาธารณชน และคณะรัฐมนตรี ๗. ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและผู้ตรวจราชการกรมในสังกัดติดตามการขับเคล่ือนการด�ำเนินงาน โครงการตลาดประชารฐั ท้งั ๙ ประเภท ให้เปน็ ไปตามนโยบายรฐั บาล ๘. การด�ำเนนิ งานของจติ อาสาท่ัวประเทศ ให้มกี ารดำ� เนินการอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและถาวร ๙. ให้หน่วยงานในสังกัดส�ำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยทุกหน่วยงาน น�ำแผนงาน/โครงการ/งบประมาณ ทุกประเภท มาน�ำเสนอผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและผู้ตรวจราชการกรมในสังกัดทราบ เพื่อเป็นข้อมูลน�ำเสนอ ในการแก้ไขปญั หาในระดับพื้นท่ี ๑. ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและผู้ตรวจราชการกรมฯ ตรวจติดตามงาน ยุทธศาสตร์ ๖ กลุม่ งานของกระทรวงมหาดไทย นายกรฐั มนตรมี อบหมาย รองนายกรฐั มนตรี ๖ ทา่ น ในการกำ� กบั ตดิ ตามงานระดบั จงั หวดั และอำ� เภอ จำ� แนกเปน็ งานยทุ ธศาสตร์ ๖ กลมุ่ งาน ไดแ้ ก่ ๑) กลมุ่ งานด้านความมั่นคง ๒) กลมุ่ งานด้านสงั คม ๓) กลุ่มงานดา้ นเศรษฐกจิ ๔) กลมุ่ งาน ดา้ นบรหิ ารงานราชการ ๕) กลมุ่ งานดา้ นการขบั เคลอื่ นประเทศไปขา้ งหนา้ ๖) กลมุ่ งานการเชอื่ มตอ่ โลจสิ ตกิ ส์ และการคมนาคม 2 รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ดงั นนั้ ใหผ้ ตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย/ผตู้ รวจราชการกรมในสงั กดั กระทรวงมหาดไทย ดำ� เนนิ การตดิ ตาม ผลการดำ� เนนิ งานใน ๖ กลมุ่ งานยทุ ธศาสตร์ ของจงั หวดั และอำ� เภอ โดยใหพ้ จิ ารณาใหส้ อดคลอ้ งกบั งานของกรมวา่ อยใู่ นกลมุ่ งานใดใน ๖ กลมุ่ งาน หากผตู้ รวจราชการกระทรวงและผตู้ รวจราชการกรมสามารถตรวจราชการโดยบรู ณาการตรวจพรอ้ มกนั ในพ้ืนทีไ่ ด้จะชว่ ยให้การขบั เคลื่อนการดำ� เนินงานเกิดประสทิ ธภิ าพย่ิงขึ้น ใหผ้ ตู้ รวจราชการเปน็ ตวั แทนปลดั กระทรวงมหาดไทย หรือตวั แทนกรม ในการทำ� หนา้ ทเี่ ปน็ คนกลางเชอื่ มตอ่ ระหว่างการนำ� ยทุ ธศาสตร์ ๖ กลุ่มงานไปปฏบิ ตั ิ และเช่ือมกลบั มายงั ปลดั กระทรวงมหาดไทย และอธิบดี เพ่ือรับทราบ ผลการดำ� เนินงาน โดยผูต้ รวจราชการมีการจดั ทำ� รายงานผลการตรวจราชการ และการรายงานข้อมลู ยอ้ นกลับ (Feedback) ว่าแต่ละจังหวดั มีผลการด�ำเนนิ งานอยา่ งไรบา้ ง ๒. เน้นแนวทางการตรวจราชการ ๓ แนวทาง ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและผู้ตรวจราชการกรมปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าท่ีของผู้ตรวจราชการ โดยทำ� หน้าท่ีตรวจราชการใน ๒ แนวทาง ประกอบดว้ ย ๒.๑ ตรวจตดิ ตาม หมายถงึ การตรวจตดิ ตามผลการดำ� เนนิ งานของจงั หวดั /อำ� เภอ เชน่ ตดิ ตามผลการดำ� เนนิ งาน ตามยทุ ธศาสตร์ ๖ กลุ่มงาน เพื่อให้ทราบว่าส่วนราชการตา่ ง ๆ ภายใต้สงั กัดไดด้ ำ� เนนิ การ และชว่ ยเหลอื ผูว้ า่ ราชการจังหวดั และนายอ�ำเภอ ในการขบั เคล่อื นการดำ� เนนิ การโครงการสำ� คญั ต่าง ๆ หรอื ไม่ อยา่ งไร เป็นลกั ษณะ “ตรวจตามตวั หนังสือ” ดังนนั้ ผชู้ ว่ ยผตู้ รวจราชการจึงต้องจดบนั ทึกไวอ้ ยา่ งชดั เจน ซึง่ จะให้ความรู้สกึ ว่ามกี ารตรวจราชการทเี่ ขม้ ข้น ๒.๒ ตรวจแนะน�ำ หมายถึง ในฐานะที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย/กรม เป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจ ในงานส่วนกลาง จึงมีประสบการณ์และมีรายละเอียดที่สามารถให้ค�ำแนะน�ำจังหวัด/อ�ำเภอ ในการปรับปรุงและพัฒนางาน ให้เกิดประสิทธิภาพย่ิงข้ึน เช่น อาจตรวจดูว่าผู้ว่าราชการจังหวัด นายอ�ำเภอ และส่วนราชการท่ีเก่ียวข้องได้มีการวางแผน การปฏิบตั งิ านหรอื ไม่ อย่างไร ๒.๓ ตรวจสอบข้อเท็จจริง หมายถึง กรณีท่ีส�ำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือส�ำนักนายกรัฐมนตรี ไดร้ บั เร่ืองร้องเรยี นให้ผู้ตรวจราชการกระทรวง/กรมได้ตรวจสอบขอ้ เทจ็ จริงในจงั หวดั โดยศนู ย์ดำ� รงธรรมตอ้ งสรุปว่าเรือ่ งท่ีร้องเรยี น จ�ำนวนมากๆ จากจังหวัดเป็นเร่ืองร้องเรียนเก่ียวกับประเด็นใดและจัดท�ำประเด็นให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย/ ผตู้ รวจราชการกรมทราบเพอ่ื ใหบ้ รรลขุ อ้ เทจ็ จรงิ และขอใหผ้ ตู้ รวจราชการไดใ้ หข้ อ้ เสนอแนะทเ่ี ปน็ ประโยชนใ์ นการแกไ้ ขปญั หา และรบั ฟงั ปญั หาอปุ สรรคของจงั หวดั /อำ� เภอ ซง่ึ ผตู้ รวจราชการสามารถเสนอขอ้ เทจ็ จรงิ และสามารถทำ� ความเขา้ ใจกบั หนว่ ยงาน ที่เกยี่ วขอ้ งเพ่อื ให้งานสามารถดำ� เนนิ การไปไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ ๓. เน้นประเด็นงานทต่ี รวจ ๓.๑ งานสำ� คญั เรง่ ดว่ นทรี่ ฐั บาลและรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทยใหค้ วามสนใจ ซง่ึ งานหลกั ไดแ้ ก่ เรอ่ื งความมนั่ คง แบง่ ออกเปน็ ๒ เรอ่ื งสำ� คญั ไดแ้ ก่ ๑) ความสงบเรยี บรอ้ ยภายในบา้ นเมอื งและ ๒) ความรสู้ กึ /กระแสในพน้ื ที่ ที่เก่ียวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ผู้ตรวจราชการ ไปสดับตรับฟังจากผู้ว่าราชการจังหวัดว่าในจังหวัดมีปัญหา ต่าง ๆ เหล่าน้ีหรือไม่ ซ่ึงเมื่อได้มีการตรวจสอบ ในพ้ืนท่ีอาจปรากฏว่าไม่มีปัญหาอย่างที่ส่ือน�ำเสนอก็ได้ ให้ผู้ตรวจราชการ ไดเ้ สนอขอ้ เทจ็ จรงิ ตอ่ ปลดั กระทรวงมหาดไทยเพอื่ ปลดั กระทรวงมหาดไทยนำ� เรยี นรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย เปน็ ตน้ ส่วนเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้มีการตรวจว่ามีการตอบรับในพ้ืนท่ีเป็นอย่างไร หรือได้มีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง กบั สถาบนั พระมหากษัตรยิ อ์ ย่างไร เปน็ ตน้ ๓.๒ การทำ� นายอนาคต โดยใหผ้ ตู้ รวจราชการสอบถามพนื้ ทที่ งั้ จงั หวดั อำ� เภอ และสว่ นราชการในการทำ� นาย อนาคตในอีก ๖ เดือนหรือ ๑ ปี ขา้ งหนา้ ว่าในพนื้ ท่ีคาดว่าจะมเี หตกุ ารณอ์ ะไรเกดิ ขน้ึ และมกี ารเตรยี มการแก้ไขปญั หานน้ั ไวอ้ ยา่ งไร เชน่ นายอำ� เภอรายงานวา่ “มปี ญั หาภยั แลง้ ” ตอ้ งถามตอ่ วา่ เมอ่ื เกดิ ภยั แลง้ แลว้ ไดเ้ ตรยี มการรบั มอื หรอื แกไ้ ขปญั หา ไวอ้ ย่างไร เป็นต้น ๓.๓ งานที่รัฐบาลก�ำลังด�ำเนินการ ให้ผูต้ รวจราชการไปติดตามดู และสอบถามผูว้ า่ ราชการจงั หวัดว่าแตล่ ะ โครงการของรฐั บาลสามารถสรา้ งรายได้ สรา้ งอาชพี เกดิ ประโยชนแ์ กป่ ระชาชนจรงิ หรอื ไม่ หรอื ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั นายอำ� เภอ สว่ นราชการในสงั กัดท่ีเกย่ี วขอ้ ง อาจจะมขี อ้ คดิ เหน็ เพิม่ เติมกใ็ ห้รบั มาแลว้ รายงานใหป้ ลดั กระทรวงทราบ เป็นตน้ ๓.๔ งานในหนา้ ทข่ี องแตล่ ะกรมหรอื ของสำ� นกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย ขอใหผ้ ตู้ รวจราชการไปตรวจ และสอบถามเลขานุการกรม และรองอธบิ ดี โดยยกตวั อยา่ งงานของกรมในสงั กัดกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้เห็นภาพทีช่ ดั เจน 3รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
๔. การตรวจราชการในพืน้ ท่ี ๔.๑ วิธกี ารตรวจราชการ ๔.๑.๑ การตรวจราชการเบ้ืองต้น หมายถึง ตรวจตามเอกสารข้ันตอนที่กระทรวง/กรมมีการส่ังการ ให้ด�ำเนนิ การว่าสามารถด�ำเนนิ การไดป้ ระสบความส�ำเร็จมากนอ้ ยเพยี งใด ๔.๑.๒ การตรวจแบบเจาะลกึ หมายถงึ ลงพน้ื ทจี่ รงิ เปน็ การสมุ่ ตรวจวา่ โครงการตา่ ง ๆ ไดม้ กี ารดำ� เนนิ การ ในพื้นที่จริง และเกิดประโยชน์แกป่ ระชาชนหรอื ไม่ อยา่ งไร ซงึ่ ผู้ตรวจราชการจะสามารถต้ังข้อสงั เกตได้ อาจจะถามจังหวดั หรอื นายอำ� เภอวา่ มโี ครงการดเี ด่นอะไรบา้ ง เมอ่ื ผูต้ รวจราชการลงพ้ืนทจ่ี ะทราบว่าดีเดน่ จริงหรือไม่ ๔.๒ การตรวจเชงิ พนื้ ท่ี ๔.๒.๑ ควรตรวจดูว่าผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอ�ำเภอได้มีการสอดส่องดูแล ในพ้ืนที่หรือไม่ อย่างไร เน่ืองจากพ้ืนท่ีแต่ละภูมิภาคอาจไม่เหมือนกัน ปัญหาจึงแตกต่างกัน โดยอาจแจ้งหรือไม่แจ้งล่วงหน้าในการลงพื้นที่ ตรวจราชการแต่ละครั้ง เมื่อลงไปในพื้นท่ีแล้วอาจสอบถามชาวบ้านเพ่ือจะได้ทราบว่าผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอ�ำเภอ มคี วามใกลช้ ดิ ประชาชนมากนอ้ ยเพยี งใด เชน่ อาจถามวา่ รจู้ กั ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั หรอื ไม่ นายอำ� เภอชอื่ อะไร ซง่ึ ประชาชนบางคน อาจบอกไดช้ ดั เจน หรอื บางคนบอกวา่ ไมเ่ คยเหน็ ไมเ่ คยรจู้ กั กจ็ ะพอรไู้ ดว้ า่ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั หรอื นายอำ� เภอไดล้ งพน้ื ทห่ี รอื ไม่ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดอาจไม่เคยเดินออกมารอบจวนเลย เพราะงานยุ่ง ไม่รู้จักใครเลย หากเกิดกรณีมีม็อบล้อมบ้านพัก ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ถา้ รจู้ กั ประชาชนรอบขา้ งทพี่ กั บา้ ง และมกี ารสรา้ งความคนุ้ เคยกบั ประชาชน ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั กจ็ ะไดร้ บั ความรว่ มมอื และการใหค้ วามชว่ ยเหลอื จากประชาชน หรอื กรณมี ผี นู้ ำ� สง่ิ ของใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั กอ็ าจมกี ารแจกจา่ ยใหก้ บั ประชาชนท่อี าศยั อยู่รอบทีพ่ ักผู้ว่าราชการจงั หวัด เพื่อใหเ้ ป็น “ผนงั ทองแดงก�ำแพงเหล็ก” ไวล้ ้อมดว้ ย ซ่งึ การแบง่ ปนั ส่งิ ของ เลก็ นอ้ ยดงั กล่าวถือเปน็ วฒั นธรรมอนั ดขี องไทย เพราะฉะนัน้ ในเชงิ พ้นื ทีใ่ หผ้ ้ตู รวจราชการไปตรวจในลักษณะนี้ ไมไ่ ด้ไปตรวจ ราชการทม่ี งุ่ เน้นผลการดำ� เนินงานในเชิงลบ หรือเชงิ บวก เท่าน้ัน ๔.๒.๒ ควรตรวจดกู ารใชอ้ ำ� นาจของผวู้ า่ ราชการจงั หวดั และการมคี วามคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรคโ์ ครงการ แปลก ๆ ใหม่ ๆ โดยใหผ้ ตู้ รวจราชการตดิ ตามดวู า่ มกี ารดำ� เนนิ การอยา่ งไร เพราะขณะนคี้ ำ� กลา่ วทน่ี ายกรฐั มนตรมี กั กลา่ วเปน็ ประจำ� คอื “ประชารฐั ” โดยตอ้ งพจิ ารณาวา่ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ตอ้ งสามารถนำ� ภาคเอกชนและภาคราชการมาทำ� งานรว่ มกนั ได้ เปน็ อยา่ งดี โดยมวี ธิ กี ารทำ� งานทท่ี นั สมยั และเปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ สามารถปฏบิ ตั งิ านรองรบั ยทุ ธศาสตรท์ งั้ ๖ ยทุ ธศาสตร์ จากรองนายกรัฐมนตรีได้เป็นอย่างดีซึ่งการใช้อ�ำนาจอย่างเดียวไม่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมให้เกิดความเป็นประชารัฐได้ ดังนน้ั การใชอ้ �ำนาจของผู้ว่าราชการจงั หวัดจึงควรแบง่ ออกเปน็ ๓ ประการ ดังนี้ ๑) การใช้อ�ำนาจแบบทางการ หมายถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถก�ำหนดหลักเกณฑ ์ ในการตรวจตดิ ตามผลการดำ� เนนิ งานในพนื้ ทไี่ ดต้ ามกำ� หนดระยะเวลาแลว้ เสรจ็ ซงึ่ ในสว่ นนส้ี ามารถใชอ้ ำ� นาจตามทกี่ ฎหมาย กำ� หนดหรือสามารถควบคมุ การด�ำเนินงานให้เปน็ ไปตามกฎหมายได้ ๒) การใช้อ�ำนาจแบบไม่ใช้เลย หมายถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมีการสร้างความคุ้นเคย กับประชาชนโดยมีการลงพื้นท่ีเยี่ยมประชาชน เพ่ือสร้างความรักและความผูกพันกับประชาชนให้ครอบคลุมในพ้ืนท่ีต่าง ๆ ของจงั หวัด ไดม้ ีส่วนรว่ มในงานบวช งานศพ ในพ้นื ท่ตี ามสมควร เพอ่ื ใหป้ ระชาชนได้รจู้ กั ควรไดพ้ ิจารณาว่าพื้นทใี่ ดเป็นพืน้ ท ่ี ผู้ว่าราชการจังหวดั คนเกา่ ไปเยยี่ มเยยี นพบปะน้อย ผู้ว่าราชการจงั หวัดใหมก่ ค็ วรไปเย่ยี มเยียน เมอ่ื ใดทเ่ี กิดปัญหาประชาชน เดินขบวนประชาชนเดือดร้อน ประชาชนได้เห็นหน้าผู้ว่าราชการจังหวัด ก็จะเกิดความคุ้นเคย ซึ่งวัฒนธรรมไทยหากได้เคย รู้จกั ก็จะเกดิ ความผูกพนั ระหว่างกนั เมื่อเกิดความผกู พันก็จะช่วยให้ปัญหาท่ีแกไ้ ขไดย้ ากจะสามารถดำ� เนินการไดง้ ่ายขน้ึ ๓) การใชอ้ ำ� นาจแบบกงึ่ ทางการ หมายถงึ ในกรณกี ารแกไ้ ขปญั หาบางเรอ่ื งทผี่ วู้ า่ ราชการจงั หวดั ไมส่ ามารถสง่ั การได้ จำ� เปน็ ตอ้ งใชอ้ ำ� นาจแบบกง่ึ ทางการ คอื การประชมุ กรรมการจงั หวดั ซงึ่ เปน็ การเชญิ หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง มาทงั้ หมด ทงั้ ภาคราชการ ภาคเอกชน ประธานชมรมกำ� นนั ผใู้ หญ่บา้ นประจำ� จังหวดั ฯลฯ ดังนั้น จงึ ควรปรบั การประชมุ กรมการจังหวัดในลักษณะที่จะช่วยให้เกิดความร่วมมือในการท�ำงานและการแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนางานได้มากข้ึน ในการประชุมแต่ละครั้ง วาระที่ ๑ ของการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องกล่าวถึงนโยบายส�ำคัญท่ีได้ไปประชุมมาจาก ส่วนกลาง วาระท่ี ๒ รับรองรายงานการประชมุ วาระท่ี ๓ เรอ่ื งเพือ่ พิจารณา ซึง่ ประกอบด้วย (๑) เร่ืองท่เี ป็นปัญหาอุปสรรค ของสว่ นราชการตา่ งๆ และ (๒) ผลการปฏบิ ตั ดิ เี ดน่ หรอื ผลการปฏบิ ตั งิ านทป่ี ระสบความสำ� เรจ็ ของสว่ นราชการตา่ งๆ ซงึ่ ในกรณี เรอื่ งใดทย่ี งั เปน็ ปญั หาอปุ สรรคในการดำ� เนนิ งานกไ็ ดม้ กี ารหารอื ทปี่ ระชมุ และไดม้ กี ารมอบหมายหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งทงั้ ภาครฐั ภาคเอกชน และภาคประชาชนไปดำ� เนินการในส่วนทเี่ กย่ี วขอ้ งเพ่อื รว่ มกนั แกไ้ ขปญั หาร้องเรยี นและเกิดการพฒั นา 4 รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
๔.๓ สรุปงานที่ผู้ตรวจราชการกระทรวง/กรม ต้องตรวจติดตามในพื้นท่ี จ�ำแนกเป็น ๓ ลักษณะ คือ ๔.๓.๑ งานดา้ นนโยบายหรืองานดา้ นยทุ ธศาสตรช์ าตกิ ับปญั หาความเดือดรอ้ นของประชาชน ๔.๓.๒ งานในอำ� นาจหนา้ ทขี่ องกระทรวงมหาดไทย กรมในสงั กดั กระทรวงมหาดไทย ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั และนายอำ� เภอ ๔.๓.๓ งานริเริ่มที่ผู้ว่าราชการจังหวัดคิดขึ้นมาเอง เช่นหน่วยงานในสังกัดกรมท่ีดินคิดวิธีการบริการ ท่ีสะดวกรวดเร็ว มีการตกแต่งส�ำนักงานให้มีความสวยงามแล้วอาจมีการจัดระบบคิวหรือระบบนัดหมายรังวัด ที่ดีย่ิงข้ึน เพ่อื ให้เกดิ การบริการทีส่ ะดวกรวดเร็วยงิ่ ขึน้ ๔.๔ ความพร่อ้ มในการปฏบิ ัติงาน ๒๔ ชัว่ โมง และระบบการสงั่ การนอกเวลาราชการของจังหวัด รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยปฏบิ ัติงานภายใตก้ ารบงั คับบญั ชาของนายกรฐั มนตรี ในการประสาน การทำ� งานระหวา่ งสว่ นราชการตา่ ง ๆ โดยไดม้ อบหมายใหผ้ ตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทยทำ� หนา้ ทใ่ี นการตรวจสอบ ตดิ ตาม การปฏิบัติงานในด้านการจัดระบบเฝ้าระวังของจังหวัดว่ามีความพร้อมส�ำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินตลอด ๒๔ ช่ัวโมงหรือไม่ รวมถงึ การจดั ระบบการสงั่ การนอกเวลา ตามความจำ� เป็นและความเหมาะสม ๕. การจัดทำ� โครงข่าย Line ผู้บรหิ ารและผตู้ รวจราชการ ใหส้ ำ� นกั ตรวจราชการ ฯ จดั ทำ� LINE โครงขา่ ยเฉพาะผตู้ รวจราชการกระทรวง ผตู้ รวจราชการกรมใหอ้ ยใู่ น LINE เดยี วกนั กบั ผบู้ รหิ ารกระทรวงดว้ ย ซงึ่ ตอ่ ไปในบางครงั้ ปลดั กระทรวงมหาดไทยจะไดแ้ จง้ ประเดน็ ทค่ี วรตรวจตดิ ตามในแตล่ ะชว่ ง ไปในกล่มุ ไลน์ ดงั นัน้ ผ้ตู รวจราชการกระทรวงและกรมจะตอ้ งใหค้ วามสนใจและมกี ารตรวจตดิ ตามอย่างตอ่ เนือ่ ง ๖. การตรวจราชการร่วมกันของผูต้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทยและกรมในสงั กดั ควรใหม้ กี ารตรวจราชการรว่ มกนั ของผตู้ รวจราชการ โดยผตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทยเปน็ หลกั และผตู้ รวจ ราชการกรมรว่ มตรวจดว้ ย จะชว่ ยใหเ้ กดิ ภาพการขบั เคลอ่ื นการดำ� เนนิ งานทดี่ แี ละเขม้ แขง็ มากขนึ้ ซง่ึ เขา้ ใจวา่ ผตู้ รวจราชการ มเี วลาวา่ งไมต่ รงกนั แตเ่ ขตตรวจราชการใดสามารถลงพน้ื ทต่ี รวจราชการรว่ มกนั ไดท้ ง้ั ผตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย และ มผี ู้ตรวจราชการกรมในสงั กดั ควรไปตรวจราชการพรอ้ มกนั เพอ่ื ทำ� ให้เกดิ ความเคลือ่ นไหวในการติดตามงาน และให้ผตู้ รวจ ราชการไดอ้ าศยั ประสบการณท์ เ่ี คยปฏบิ ตั หิ นา้ ทเี่ ปน็ ขา้ ราชการหรอื ดำ� รงตำ� แหนง่ ในภมู ภิ าคของจงั หวดั มากอ่ น หรอื เคยปฏบิ ตั งิ าน ตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้น�ำประสบการณ์ที่มีหรือเคยใช้ในการแก้ไขปัญหา หรือมี Best Practice ที่เคยด�ำเนินการแล้วประสบ ความส�ำเร็จมาเป็นข้อเสนอแนะหรือเป็นข้อสังเกตต่อผู้ว่าราชการจังหวัด นายอ�ำเภอ หรือส่วนราชการในระดับพื้นที่ ได้แลกเปลย่ี นเรยี นรแู้ ละสามารถนำ� ไปแก้ไขปัญหาใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพย่ิงขึ้น ๗. การแก้ไขปญั หาในพ้ืนท่ี การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ส่วนราชการท่ีเก่ียวข้องต้องท�ำงานเชิงรุก โดยให้ทุกจังหวัดทุกหน่วยงานได้แก้ปัญหา ทมี่ อี ยเู่ ดมิ กอ่ นทจ่ี ะมกี ารสรา้ งปญั หาใหม่ และการชแี้ จงแกไ้ ขปญั หาตอ้ งดำ� เนนิ การใหป้ ระชาชนมคี วามเขา้ ใจและพรอ้ มใหร้ ว่ มมอื อย่างต่อเนอื่ งก่อนจะด�ำเนินการใด ๆ ๘. การ Coaching วิธีการท�ำงาน ในระบบโครงขา่ ย Line ใหผ้ ตู้ รวจราชการกระทรวง และผตู้ รวจราชการกรมไดม้ กี ารตรวจและเนน้ ยำ�้ เรอ่ื งของวธิ กี ารทำ� งาน คอื จะมกี าร LINE วธิ ที ำ� งานไปเรอ่ื ยๆ ซง่ึ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ใชค้ ำ� วา่ Coaching ซง่ึ ใหป้ ลดั กระทรวงมหาดไทยไป Coaching ผ้ใู ตบ้ งั คบั บญั ชา ผวู้ ่าราชการจงั หวัด นายอ�ำเภอ ใหท้ �ำงานให้เกดิ ผลในทางปฏิบตั ิ เพราะฉะนนั้ ในส่ิงที่ LINE ไปจะบอกวิธี ท�ำงานท่ีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการท�ำงาน ให้ผู้ตรวจราชการได้ช่วยกระตุ้นเตือนให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอ�ำเภอ ดูใน LINE นอกจากนีจ้ ะมีการรายงานเรอื่ งส�ำคัญและจะชีแ้ นะวธิ หี รอื สง่ิ ท่นี ายกรัฐมนตรีสนใจลงใน Line ด้วย รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ 5 กระทรวงมหาดไทย ประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ยุทธศาสตร์ : ดา้ นความม่ันคง • โครงการจติ อาสาพระราชทาน • การสร้างความพรอ้ มในการปอ้ งกัน และบรรเทาสาธารณภยั
โครงการจติ อาสาพระราชทาน ความเป็นมา จิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชด�ำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ใหห้ นว่ ยราชการ ในพระองค์ ๙๐๔ รว่ มกนั จดั โครงการจติ อาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำ� รเิ พอ่ื เปน็ การเฉลมิ พระเกยี รติ และแสดงความส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร และสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง ทท่ี รงประกอบพระราชกรณยี กจิ นานัปการ เพ่ือประโยชน์สุขของประชาชน ทั้งน้ีเพ่ือให้ประชาชน มีความสมัครสมานสามัคคี มีความสุขและประเทศชาติ มีความม่ันคงอย่างย่ังยืน โดยมีหน่วยราชการในพระองค์ ๙๐๔ เป็นผู้ก�ำกับดูแลการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานภายนอก ทั้งภาครฐั และเอกชน และใหจ้ ดั ตง้ั ศูนย์อำ� นวยการใหญโ่ ครงการจติ อาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำ� ริ มหี นา้ ท่ีควบคุม อ�ำนวยการและประสานการปฏิบัติ เพ่ือให้การจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชด�ำริ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ถูกตอ้ งตามพระราโชบาย และสมพระเกียรติ ในระยะเริ่มแรก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชปณิธานในการบ�ำเพ็ญประโยชน์ พ้ืนที่ชุมชน โดยรอบพระราชวังดุสิต เป็นการท�ำความดีด้วยหัวใจ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์หน่วยทหารรักษาพระองค์ ข้าราชบริพารในพระองคฯ์ รว่ มกับประชาชนจิตอาสา “เราทำ� ความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย”์ ร่วมกนั ดแู ลและพัฒนารักษา พ้ืนทจ่ี ากชุมชนเลก็ ๆ รอบพระราชวงั ดสุ ติ ขยายสพู่ น้ื ท่ีโดยรวมของประเทศในการพฒั นาอย่างมนั่ คงและยง่ั ยืนสืบไป ความหมายของ “จติ อาสา” ตามพจนานุกรมฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน ฉบับ พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้ให้ความหมายของ “จติ อาสา” ดังน้ี “จติ ” เป็นค�ำนาม หมายถึง ใจ สงิ่ ทีม่ หี น้าที่รู้ คิด และนึก “อาสา” เปน็ ค�ำกรยิ าหมายถงึ เสนอตวั เข้ารบั ท�ำ ดงั นนั้ “จิตอาสา” จงึ หมายถงึ จติ แห่งการให้ความดงี ามทง้ั ปวง แกเ่ พอ่ื นมนษุ ยโ์ ดยเตม็ ใจสมคั ร ใจอม่ิ ใจ ซาบซง้ึ ใจ ปตี สิ ขุ ทพ่ี รอ้ มจะเสยี สละเวลา แรงกาย แรงสตปิ ญั ญา เพอื่ สาธารณประโยชน ์ ในการท�ำกิจกรรมหรือส่ิงท่ีเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่ืนโดยไม่หวังผลตอบแทน และมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อ่ืน เป็นจิตที่ไม่น่ิง ดูดายเม่ือพบเห็นปัญหาหรือความทุกข์ยากที่เกิดข้ึนกับผู้คน เป็นจิตท่ีมีความสุขเม่ือได้ท�ำความดีและเห็นน้�ำตาเปลี่ยนแปลง เป็นรอยย้ิม เป็นจิตที่เปี่ยมด้วย “บุญ” คือความสงบเยือกเย็น และพลังแห่งความดีอีกท้ังยัง ช่วยลด “อัตตา” หรือความเป็นตัวตนของตนเองลงได้ ความหมายของ จติ อาสา “เราทำ� ความดี เพือ่ ชาติ ศาสน์ กษัตริย”์ หมายถึง ประชาชนทุกหมู่เหล่าท้ังในและต่างประเทศที่สมัครใจช่วยเหลือผู้อ่ืนยอมเสียสละ เวลา แรงกาย แรงใจ และสตปิ ญั ญาใน การทำ� งานทเี่ ปน็ สาธารณประโยชน์ โดยไมห่ วงั ผลตอบแทนใด ๆ จติ อาสาตามพระราโชบาย แบง่ เปน็ ๓ ประเภท ดงั น้ี ๑. จติ อาสาพัฒนา : ได้แก่ กิจกรรมจิตอาสาพระราชทานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาท้องถิ่น ของแต่ละชุมชน ใหม้ คี ณุ ภาพชวี ติ และความเปน็ อยทู่ ดี่ ขี นึ้ ไมว่ า่ จะเปน็ กจิ กรรมบำ� เพญ็ สาธารณประโยชน์ การอนรุ กั ษธ์ รรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม การอ�ำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการด�ำรงชีวิตประจ�ำวัน การประกอบอาชีพ รวมท้ังการสาธารณสุข ฯลฯ แบง่ ตามภารกิจงานเปน็ ๘ กลมุ่ งาน ดังน้ี ๑.๑ จติ อาสาพัฒนาชุมชนเข้มแขง็ ประชามสี ขุ หมายถึง กลมุ่ งานจติ อาสาทเ่ี ข้าร่วม กจิ กรรมสาธารณประโยชน์ อาทิ การขุดลอกคูคลอง การดูแลรักษาความสะอาดเรียบร้อยของศาสนสถาน หรือสถานท่ีสาธารณะ การจัดเก็บผักตบชวา การปลูกตน้ ไม้ รวมทัง้ การพฒั นาโครงการตา่ ง ๆ ท่สี รา้ งความเปน็ อยขู่ องชุมชนให้เข้มแข็ง ประชาชนมีความสขุ อย่างยัง่ ยนื ๑.๒ จติ อาสางานประดษิ ฐแ์ ละเผยแพรง่ านศลิ ปาชพี หมายถงึ กลมุ่ งานจติ อาสาทน่ี ำ� ความรทู้ างดา้ นศลิ ปหตั ถกรรม พนื้ บ้าน/ภูมิปญั ญาทอ้ งถนิ่ มาเผยแพร่ และถา่ ยทอดเพือ่ ใหป้ ระชาชนน�ำความรทู้ ่ีได้รับไปพัฒนาให้เปน็ ประโยชน์ตอ่ ไป 8 รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
๑.๓ จติ อาสาฝา่ ยกจิ กรรมการแสดงและนทิ รรศการ หมายถงึ กลมุ่ งานจติ อาสาทป่ี ฏบิ ตั งิ านสนบั สนนุ ในการจดั งาน หรือกิจกรรมการแสดงและมีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เพ่ือเผยแพร่พระราชกรณียกิจและเผยแพร่กิจกรรมจิตอาสาฯ เช่น กิจกรรมการแสดงดนตรีบริเวณพระลานพระราชวังดุสิต การจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว งานเถลิงศกสุขสันต ์ มหาสงกรานต์ตำ� นานไทย เปน็ ตน้ ๑.๔ จติ อาสาฝา่ ยแพทยแ์ ละสาธารณสขุ หมายถงึ กลมุ่ งานจติ อาสาทป่ี ฏบิ ตั งิ าน สนบั สนนุ และชว่ ยอำ� นวยความ สะดวกแก่แพทย์ พยาบาล รวมถึงช่วยอ�ำนวยความสะดวกด้านการปฐมพยาบาลเบ้ืองต้น ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชน มคี วามรู้ความเขา้ ใจในการดูแลสขุ ภาพ ๑.๕ จิตอาสาฝ่ายทะเบียนและข้อมูล หมายถึง กลุ่มงานจิตอาสาที่ให้ค�ำแนะน�ำและอ�ำนวยความสะดวก ประชาชนที่มาลงทะเบยี นจติ อาสาฯ ๑.๖ จิตอาสาฝ่ายส่งก�ำลังบ�ำรุงและสนับสนุน หมายถึง กลุ่มงานจิตอาสาที่สนับสนุน อ�ำนวยความสะดวก ดูแลความเรยี บรอ้ ย จัดหาหรอื บรกิ ารอาหาร น�ำ้ ดมื่ ให้กับประชาชนทเ่ี ข้ารว่ มกจิ กรรม/ จติ อาสาทเ่ี ข้ารว่ มปฏบิ ัตงิ าน ๑.๗ จติ อาสาฝ่ายประชาสัมพนั ธ์ หมายถึง กลมุ่ งานจติ อาสาทชี่ ่วยงานประชาสัมพนั ธแ์ ละใหบ้ รกิ ารข้อมูลการ จัดกิจกรรมจติ อาสาฯ รวมถงึ ชว่ ยดแู ลตอ้ นรบั ประชาชนทีม่ าเข้ารว่ มกจิ กรรม ๑.๘ จติ อาสาฝา่ ยรกั ษาความปลอดภยั และจราจร หมายถงึ กลมุ่ งานจติ อาสาที่ สนบั สนนุ และชว่ ยอำ� นวยความ สะดวกในการสญั จรของประชาชน การแนะน�ำเส้นทาง การแจง้ อบุ ตั เิ หตุ การจราจรให้เจ้าพนกั งานทราบ ๒. จิตอาสาภยั พบิ ตั ิ : ไดแ้ ก่ กิจกรรมจติ อาสาพระราชทานทม่ี ีวัตถปุ ระสงค์เพอ่ื เฝ้า ตรวจ เตอื น และเตรยี มการ รองรบั ภยั พบิ ตั ทิ งั้ ทเ่ี กดิ จากธรรมชาติ และเกดิ จากสาเหตอุ นื่ ๆ ทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ ประชาชนในพนื้ ทโี่ ดยรวม และการเขา้ ชว่ ยเหลอื บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภยั พิบตั ิ ดงั กลา่ ว เช่น อุทกภยั วาตภัย อคั คีภยั เปน็ ต้น ๓. จติ อาสาเฉพาะกิจ : ได้แก่ กิจกรรมจิตอาสาพระราชทานที่มีวัตถุประสงค์ให้ปฏิบัติในงานพระราชพิธี หรือ การรับเสด็จในโอกาสต่าง ๆ เป็นการใช้ก�ำลังพลจิตอาสาร่วมปฏิบัติกับส่วนราชการท่ีเก่ียวข้องในการช่วยเหลือหรืออ�ำนวย ความสะดวกแก่ประชาชนที่มาร่วมงานรวมท้ังการเตรียมการ การเตรยี มสถานทแี่ ละการฟ้นื ฟสู ถานทภ่ี ายหลงั การปฏบิ ัตใิ น งานพระราชพิธี และการเสดจ็ ฯ นนั้ ๆ ให้เปน็ ไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ย การด�ำเนินงานจิตอาสาพระราชทานน้ันทุกจังหวัดมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน อย่างพร้อมเพรยี งกนั ดังเชน่ - ทกุ อำ� เภอมีแผนงานจติ อาสาพัฒนาพนื้ ที่อยา่ งน้อย ๑ แผนงาน - องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลและเทศบาลตำ� บลทกุ แหง่ มชี ดุ ปฏบิ ตั กิ ารจติ อาสาภยั พบิ ตั อิ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ เพื่อทำ� หน้าท่ีชว่ ยเหลือการปฏบิ ัติหนา้ ทขี่ องเจ้าพนกั งานในการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ในระดับพื้นที่ ๑. การลงทะเบียนจติ อาสาพระราชทาน ศูนย์อ�ำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอญ.จอส.พระราชทาน) ได้เปิดรับลงทะเบียนจิตอาสา นับตั้งแต ่ วนั ที่ ๒๑ มถิ นุ ายน ๒๕๖๐ เปน็ ตน้ มา ปจั จบุ นั มปี ระชาชนทลี่ งทะเบยี นเปน็ จติ อาสาพระราชทานแลว้ จำ� นวน ๖,๗๐๙,๐๔๙ คน (ข้อมลู ณ วันที่ ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๓) ดังน้ี แยกตามพ้นื ที่ (ภูมิล�ำเนา) ได้แก่ (๑) กรงุ เทพมหานคร จ�ำนวน ๔๕๕,๙๑๙ คน (๒) สว่ นภมู ิภาค จ�ำนวน ๖,๒๕๓,๑๓๐ คน 9รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
แยกตามเพศ ไดแ้ ก่ เพศชาย จำ� นวน ๒,๙๘๖,๔๗๑ คน เพศหญงิ จ�ำนวน ๓,๗๒๒,๕๗๘ คน ๒. กจิ กรรมจิตอาสา ในสว่ นภมู ภิ าค ผลการดำ� เนนิ กจิ กรรมตงั้ แตเ่ ดอื นตลุ าคม ๒๕๖๒ ถงึ วนั ที่ ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๓ ในสว่ นภูมิภาค มีดงั น้ี (๑) พัฒนาแหลง่ น�ำ้ จำ� นวน ๗,๙๘๙ ครั้ง จ�ำนวนจิตอาสา ๑,๓๘๙,๑๓๗ คน (๒) พัฒนาสถานท่ีสวนสาธารณะ จ�ำนวน ๒๘,๘๑๔ ครัง้ จ�ำนวนจิตอาสา ๓,๔๑๓,๑๔๘ คน (๓) สร้างฝายชะลอนำ้� จำ� นวน ๑,๗๔๔ คร้งั จ�ำนวนจติ อาสา ๒๓๖,๖๑๒ คน (๔) ปลูกต้นไม้ จำ� นวน ๔,๔๙๖ คร้งั จ�ำนวนจติ อาสา ๘๘๕,๗๑๑ คน (๕) สาธารณสุข จ�ำนวน ๔,๒๑๔ คร้งั จำ� นวนจิตอาสา ๓๑๐,๗๒๓ คน (๖) อน่ื ๆ (ทำ� แนวกนั ไฟ ชว่ ยเหลอื ผู้ยากไร้ แจกถงุ ยังชพี ผูป้ ระสบภัย) จำ� นวน ๔,๗๘๘ ครั้ง จ�ำนวนจติ อาสา ๙๖๕,๗๕๘ คน รวมกจิ กรรมทง้ั หมด ๕๒,๐๔๕ คร้ัง จำ� นวนจิตอาสา ๗,๒๐๑,๐๘๙ คน ๓. กจิ กรรมวิทยากรจิตอาสา การจดั บรรยาย ขยายผล ใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ก์ บั ประเทศไทย สรุปผลการดำ� เนนิ การ ดังนี้ (๑) ผลการด�ำเนนิ กิจกรรมตง้ั แตว่ ันที่ ๒ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๒ ถงึ วนั ท่ี ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ จำ� นวน ๑,๐๐๑ ครง้ั ผูเ้ ขา้ รับฟงั การบรรยาย ขยายผล จ�ำนวน ๖๓๔,๗๑๑ คน (๒) ผลการดำ� เนนิ กิจกรรมตั้งแต่วันที่ ๑ – ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ จ�ำนวน ๑๓ คร้ัง ผ้เู ข้ารับฟงั การบรรยาย ขยายผล จ�ำนวน ๔,๒๖๘ คน ๔. กจิ กรรมจติ อาสาภยั พบิ ัติ (๑) ผลการดำ� เนินกิจกรรมตงั้ แต่วนั ที่ ๑ กนั ยายน ๒๕๖๒ ถงึ วันท่ี ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๓ จ�ำนวน ๖๕๖ ครั้ง จติ อาสา ผเู้ ขา้ รว่ ม ๓๔,๕๕๐ คน (๒) ผลการดำ� เนนิ กจิ กรรมตง้ั แต่วันท่ี ๑ – ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๓ จำ� นวน ๑๓ คร้ัง จติ อาสาผเู้ ขา้ ร่วม ๘๖๓ คน ๕. การจดั กจิ กรรมจิตอาสาพฒั นา ในโอกาสวนั สำ� คญั ของชาติไทย ศนู ยอ์ ำ� นวยการใหญจ่ ติ อาสาพระราชทาน ได้จัดท�ำแนวทางปฏิบัติการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาในโอกาสวันส�ำคัญของชาติไทยตลอดทั้งปี เพ่ือให้ส่วนราชการ ศนู ย์อ�ำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค ๑ – ๔ และจงั หวดั ใช้เปน็ แนวทางปฏบิ ัตกิ จิ กรรมจิตอาสาในวันสำ� คัญของชาตไิ ทย ตามความเหมาะสม ในบริบทของพื้นที่ โดยกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งแนวทางการปฏิบัติการจัดจิตอาสาพัฒนา ในโอกาส วนั สำ� คัญของชาตไิ ทยดงั กล่าวใหส้ ว่ นราชการ/หนว่ ยงานรัฐวิสาหกิจในสงั กดั จงั หวดั และกรงุ เทพมหานครทราบและถอื เป็น แนวทางในการปฏิบัติ อาทิ เดอื นกรกฎาคม ๒๕๖๓ เดอื นสิงหาคม ๒๕๖๓ และเดือนกนั ยายน มีวนั ส�ำคญั ของชาติไทย ดังน้ี (๑) วนั ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ วนั คล้ายวนั พระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั (๒) วันท่ี ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ วันแมแ่ หง่ ชาติ (๓) วนั ท่ี ๒๔ กนั ยายน ๒๕๖๓ วนั มหิดล หรือ วนั คล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระมหิตลาธิเบศอดลุ ยเดชวิกรม พระบรมราชนก 10 รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
๖. การฝึกอบรมชุดปฏิบัติการจติ อาสาภยั พิบตั ปิ ระจำ� องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ๖.๑ การจดั ตงั้ ชดุ ปฏบิ ตั กิ ารจติ อาสาภยั พบิ ตั ปิ ระจำ� องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ จำ� นวน ๗,๕๕๐ แหง่ เปา้ หมาย ๓๗๗,๕๐๐ คน ปัจจุบันทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการจัดตั้งชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติฯ ครบทุกแห่งแล้ว โดยมกี ารบนั ทกึ รายชอ่ื ผสู้ มคั รในระบบรายงานแบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Report) ของกรมการปกครอง ซงึ่ ไดร้ บั การยนื ยนั ขอ้ มลู จากศูนย์อำ� นวยการจติ อาสาพระราชทานอำ� เภอ (ศอ.จอส.พระราชทาน อำ� เภอ) แล้ว ๔๔๘,๙๒๖ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๑๘.๙ ของจำ� นวนเป้าหมายทั้งหมด (ข้อมูล ณ วนั ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓) ท้ังนี้ สามารถจ�ำแนกไดด้ ังน้ี (๑) เป็นผู้ท่ีลงทะเบยี นจติ อาสาพระราชทานแลว้ รอ้ ยละ ๗๙ และยงั ไม่ลงทะเบียน รอ้ ยละ ๒๑ (๒) จ�ำแนกเปน็ เพศชาย รอ้ ยละ ๖๕ และเพศหญงิ ร้อยละ ๓๕ (๓) มีความถนดั ด้านชา่ ง ร้อยละ ๒๗ ดา้ นการดับเพลิง ร้อยละ ๑๖ ด้านการชว่ ยชวี ิตพ้ืนฐาน ร้อยละ ๑๐ ด้านกู้ภัย ร้อยละ ๗ และด้านอน่ื ๆ รอ้ ยละ ๔๐ (๔) สามารถจำ� แนกตามอาชพี ดงั น้ี อาชพี เกษตรกร รอ้ ยละ ๓๒ พนกั งาน/ลกู จา้ ง รอ้ ยละ ๒๐ ขา้ ราชการ ร้อยละ ๑๕ รบั จา้ ง ร้อยละ ๘ ธรุ กจิ ส่วนตัว/ค้าขาย รอ้ ยละ ๕ และอาชีพอื่น ๆ ร้อยละ ๒๐ ๖.๒ การฝึกอบรมชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติประจ�ำองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินกระทรวงมหาดไทย ได้รับรายงานผลการฝึกอบรมชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติประจ�ำองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน จ�ำนวน ๓,๘๐๐ องค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ (เทศบาลต�ำบล ๑,๑๖๐ แหง่ และองคก์ ารบริหารสว่ นต�ำบล ๒,๖๔๐ แหง่ ) โดยมีผ้ผู า่ นการฝกึ อบรม จำ� นวน ๑๙๔,๕๖๐ บาท (เทศบาลต�ำบล ๕๙,๘๘๖ คน และองค์การบรหิ ารส่วนตำ� บล ๑๓๔,๖๗๔ คน) (ขอ้ มูล ณ วันที่ ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๓) ทัง้ นี้ มจี งั หวดั ท่ีดำ� เนินการฝกึ อบรมฯ เสร็จสิน้ แล้ว จำ� นวน ๑๘ จังหวดั ประกอบด้วย กำ� แพงเพชร ชลบุรี ชมุ พร เชียงราย เชยี งใหม่ ตราด ตาก นครพนม ประจวบครี ขี นั ธ์ พิษณุโลก มุกดาหาร ระนอง สงขลา สมทุ รปราการ สมทุ รสาคร สระบรุ ี สิงห์บรุ ี และอุทยั ธานี ข้อเสนอแนะของผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ๑) การปฏิบตั งิ านของจติ อาสาพระราชทาน ๙๐๔ วปร. ๑.๑ ขอใหจ้ งั หวดั ประชาสมั พนั ธเ์ ชญิ ชวนประชาชนและประสานบรษิ ทั /โรงงาน ในพน้ื ที่ โดยเฉพาะทจ่ี ดทะเบยี น ในตลาดหลกั ทรพั ย์ เพ่ือเชญิ ชวนสมัครเข้าร่วมโครงการฯ กจิ กรรมจิตอาสาฯ และท�ำ CSR ภายในพืน้ ทจี่ ังหวัดอย่างต่อเนือ่ ง และให้อำ� เภอตรวจสอบคณุ สมบัตขิ องผู้สมัครอยา่ งละเอียดรอบคอบ ผลการดำ� เนนิ งานตามข้อเสนอแนะ จังหวัดได้แจ้งอ�ำเภอ อปท. เชิญชวนบริษัท ห้างร้าน และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสมัครเข้าร่วมโครงการ จติ อาสาภัยพิบตั ิ โดยให้สมคั รไดท้ ีอ่ �ำเภอ และ อปท. ทุกแห่ง ๑.๒ ขอให้จังหวัดเร่งรัดการจัดท�ำบัญชีรายช่ือชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติตามแบบท่ีศูนย์อ�ำนวยการใหญ่ จิตอาสาพระราชทาน ก�ำหนดให้แล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาที่ก�ำหนดและขอให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตรวจสอบอย่าง ละเอยี ดรอบคอบและถูกต้องเรียบร้อย 11รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ผลการดำ� เนินงานตามข้อเสนอแนะ จังหวัดได้แจ้งแนวทางการจัดฝึกอบรมชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติให้เทศบาลต�ำบลและองค์การบริหาร ส่วนต�ำบลในพ้นื ทไ่ี ดท้ ราบแล้ว โดยใหอ้ งค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ปฏิบตั ติ ามระเบียบ มท. ว่าด้วยค่าใชจ้ า่ ยในการฝกึ อบรม ของเจา้ หนา้ ท่ที ้องถน่ิ พ.ศ.๒๕๕๗ ซ่ึงองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ อาจพจิ ารณาดำ� เนนิ การโดยวธิ กี ารใดวิธีการหนงึ่ ดังนี้ - องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ จัดอบรมแหง่ เดยี ว - องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ รว่ มกนั จัดฝึกอบรม โดยกำ� หนดให้องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นท่รี ว่ มกนั จัดทุกแห่ง เป็นผู้รับผิดชอบโครงการร่วมกัน และก�ำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใดแห่งหน่ึงเป็นเจ้าภาพในการจัดฝึกอบรม รวมทงั้ ก�ำหนดหนา้ ท่คี วามรับผิดชอบและคา่ ใช้จ่ายขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ แต่ละแห่งไวใ้ นโครงการให้ชัดเจน - องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ จดั ฝกึ อบรมรว่ มกบั สว่ นราชการหรอื หนว่ ยงานอนื่ โดยกำ� หนดใหท้ กุ หนว่ ยงานทร่ี ว่ มกนั จัดฝึกอบรมเป็นผู้รับผิดชอบโครงการร่วมกัน และก�ำหนดให้หน่วยงานใดหน่วยงานหน่ึงเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดฝึกอบรม รวมทงั้ กำ� หนดหนา้ ทคี่ วามรบั ผดิ ชอบและคา่ ใชจ้ า่ ยในการฝกึ อบรมของแตล่ ะหนว่ ยงานไวใ้ นโครงการอยา่ งชดั เจนสำ� หรบั บญั ชี รายชอ่ื ชดุ ปฏบิ ตั ิการจิตอาสาภัยพบิ ตั ิอยู่ในความรบั ผดิ ชอบของทที่ �ำการปกครองจังหวดั ๑.๓ เนน้ ยำ้� ขอใหจ้ งั หวดั สนบั สนนุ การดำ� เนนิ งานและประชาสมั พนั ธท์ ำ� ความเขา้ ใจ แกป่ ระชาชนถงึ วตั ถปุ ระสงค์ การจดั ตงั้ ชดุ ปฏบิ ตั กิ ารจติ อาสาภยั พบิ ตั ิ และตรวจสอบรายชอ่ื ผสู้ มคั รจติ อาสาภยั พบิ ตั ติ อ้ งมคี ณุ สมบตั เิ บอ้ื งตน้ เปน็ ผทู้ ม่ี สี ขุ ภาพ ร่างกาย สมบูรณ์ แข็งแรง ไม่มีโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่สามารถท�ำงานจิตอาสาได้ มีอายุตั้งแต่ ๑๘ ปีข้ึนไป ไมจ่ ำ� กดั เพศ และเป็นผทู้ ่ีอาศยั อย่จู ริงในพนื้ ท่ีทีส่ มคั รเพราะจะไดส้ ะดวกในการปฏบิ ตั ิงาน ผลการดำ� เนนิ งานตามข้อเสนอแนะ จังหวัดได้ด�ำเนินการแจ้งประสานให้ศูนย์อ�ำนวยการจิตอาสาพระราชทานอ�ำเภอทุกแห่งทราบ ด�ำเนินการแจ้ง ไปยังองค์การบริหารส่วนต�ำบลทุกแห่งในพ้ืนท่ี พิจารณาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่มีจิตอาสาเข้ามาร่วมเป็นจิตอาสาภัยพิบัติ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ละอยา่ งนอ้ ย ๕๐ คน โดยให้มกี ารพจิ ารณาคุณสมบัตติ ามที่ก�ำหนดไว้ ๒) แนวทางการขบั เคล่ือนการปฏิบัตงิ านของชุดปฏิบตั กิ ารจติ อาสาภยั พบิ ตั ิ ๒.๑ ขอใหจ้ งั หวดั ดำ� เนนิ การตามหนงั สอื สง่ั การของกระทรวงมหาดไทยเปน็ หลกั โดยเฉพาะเกณฑก์ ารพจิ ารณา รบั สมคั รจติ อาสาเพอ่ื เขา้ รบั การฝกึ อบรมชดุ ปฏบิ ตั กิ ารจติ อาสาภยั พบิ ตั ิ เนน้ ยำ�้ ใหพ้ จิ ารณาจากคณุ สมบตั ทิ ก่ี ระทรวงมหาดไทย กำ� หนด โดยบคุ คลทจ่ี ะเขา้ รบั การฝกึ อบรมดงั กลา่ วตอ้ งอาศยั อยใู่ นพน้ื ทขี่ ององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ จรงิ และเมอื่ ผา่ นการ ฝึกอบรมแล้วต้องมีการแตง่ ต้งั เป็นผชู้ ่วยเหลือเจ้าพนักงานในการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ในพื้นที่ ผลการด�ำเนินงานตามข้อเสนอแนะ จงั หวัดไดด้ �ำเนินการตามหนงั สอื ส่ังการของกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะเกณฑก์ ารพิจารณารบั สมัครจิตอาสา เพอื่ เขา้ รบั การฝกึ อบรมชดุ ปฏบิ ตั กิ ารจติ อาสาภยั พบิ ตั ิ โดยเนน้ ยำ�้ ใหพ้ จิ ารณาจากคณุ สมบตั ทิ กี่ ระทรวงมหาดไทยกำ� หนด ทง้ั นี้ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ไดด้ ำ� เนนิ การเสรจ็ เรยี บรอ้ ยและสง่ ขอ้ มลู ใหอ้ ำ� เภอตรวจสอบและยนื ยนั ความถกู ตอ้ งครบทกุ องคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ แลว้ ๒.๒ เน้นย้�ำขั้นตอนการรับสมัครจิตอาสาเข้ารับการฝึกอบรมฯ ให้อ�ำเภอด�ำเนินการคัดกรองก่อนจะน�ำเสนอ ศนู ยอ์ ำ� นวยการจติ อาสาพระราชทานจงั หวดั โดยบคุ คลทจี่ ะเขา้ รบั การฝกึ อบรมฯ ตอ้ งมคี วามสมคั รใจและกำ� หนดแบบฟอรม์ เอกสารการรับสมคั รเข้าฝึกอบรมฯ เป็นแบบทผ่ี ู้สมคั รสามารถใสข่ อ้ มลู รายละเอยี ดและลงลายมอื ชื่อไดด้ ้วยตนเอง ผลการด�ำเนินงานตามขอ้ เสนอแนะ จงั หวดั ไดเ้ นน้ ยำ�้ ขน้ั ตอนการรบั สมคั รจติ อาสาเขา้ รบั การฝกึ อบรมฯ และคดั กรองกอ่ นจะนำ� เสนอศนู ยอ์ ำ� นวยการ จติ อาสาพระราชทานจังหวัด ๒.๓ ขอให้จังหวัดมอบหมายผู้รับผิดชอบในการปฏิบัติงานให้ชัดเจนเพื่อรองรับการปฏิบัติงานของจิตอาสา ในพ้ืนท่ี และดำ� เนินการฝึกอบรมให้แลว้ เสรจ็ ตามเวลาทีก่ �ำหนด หากมอี ปุ สรรคในการฝกึ อบรมให้ปรบั แผนการฝึกอบรมของ แต่ละอำ� เภอในสอดคลอ้ งกบั แผนปฏบิ ัติการฝึกอบรมฯ ของจงั หวัด ผลการด�ำเนนิ งานตามขอ้ เสนอแนะ จังหวดั ได้มหี นังสือเน้นย้�ำใหน้ ายอ�ำเภอทุกอำ� เภอด�ำเนนิ การตดิ ตามการฝึกอบรมใหม้ ีมาตรฐาน และเปน็ ไปตาม ตารางการฝกึ รวมถงึ ใหม้ อบหมายปลดั อำ� เภอรบั ผดิ ชอบในการประสานงาน และควบคมุ ดแู ลการฝกึ อบรม ณ สถานทฝ่ี กึ ตลอด ห้วงการฝึกอบรม โดยได้จัดท�ำแผนการฝึกอบรมโดยการรวม ๒ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ เป็น ๑ รุ่น เพ่อื ใหส้ ามารถอบรม ใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายในหว้ งเดอื นกรกฎาคม ๒๕๖๓ 12 รายงานผลการตรวจราชการของผูต้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
การพัฒนาพ้นื ท่ตี ามแนวพระราชด�ำรแิ ละหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งภายใต้ “แผนงานยุทธศาสตร์เสรมิ สรา้ งความมนั่ คงของสถาบันหลักของชาติ” สำ� นกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทยไดด้ ำ� เนนิ โครงการขบั เคลอื่ นการพฒั นาพนื้ ทตี่ ามแนวพระราชดำ� รแิ ละหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยไดร้ บั การจดั สรรงบประมาณจำ� นวนทงั้ หมด ๔๒,๑๒๒,๑๐๐ บาท ซงึ่ มีกิจกรรม/โครงการย่อยทส่ี �ำคัญ ได้แก่ โครงการพัฒนาพน้ื ท่ตี ามแนวพระราชดำ� ริและหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง โครงการสนบั สนุนการด�ำเนนิ กิจกรรมจิตอาสาของกระทรวงมหาดไทยและจงั หวดั ผลการด�ำเนนิ งานท่สี ำ� คัญ ภายใตโ้ ครงการขบั เคลอื่ นการพฒั นาพนื้ ทต่ี ามแนวพระราชดำ� รแิ ละหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ไดแ้ ก่ การดำ� เนนิ โครงการพฒั นาพน้ื ทต่ี ามแนวพระราชดำ� รแิ ละหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง งบประมาณ ๑๕,๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยสำ� นกั งาน ปลดั กระทรวงมหาดไทยไดแ้ จง้ ใหจ้ งั หวดั จดั ทำ� โครงการในกรอบวงเงนิ เบอ้ื งตน้ ไมเ่ กนิ จงั หวดั ละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยนอ้ มนำ� แนว พระราชด�ำริและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้เป็นหลักในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในพน้ื ที่ เพอื่ ใหส้ ามารถพง่ึ พาตนเองไดอ้ ย่างย่งั ยนื แบ่งออกเปน็ ๓ ประเภท ได้แก่ ๑) โครงการพฒั นาและแกไ้ ขปัญหาแหล่งน้�ำ เพ่ือการอุปโภคบริโภค ๒) โครงการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ ๓) โครงการขยายผลเกษตรเพ่ืออาหารกลางวัน อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ผลปรากฏวา่ จงั หวดั ทงั้ ๗๖จงั หวดั ไดจ้ ดั ทำ� โครงการรวมทง้ั หมด๒๐๖โครงการ งบประมาณทงั้ ส้ิน จำ� นวน ๑๕,๑๙๖,๘๙๔ บาท มจี ำ� นวนประชาชนที่ได้รบั ประโยชน์ จ�ำนวน ๗๘,๘๑๕ คน แบ่งเป็น (๑) โครงการพฒั นาและแกไ้ ขปญั หาแหลง่ นำ�้ เพอื่ การอปุ โภคบรโิ ภค จำ� นวน ๒๔โครงการ งบประมาณ ๓,๓๗๔,๑๙๐ บาท และมปี ระชาชนท่ีได้รบั ประโยชน์ จำ� นวน ๓๗,๓๔๑ คน (๒) โครงการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จ�ำนวน ๖๘ โครงการ งบประมาณ ๕,๙๕๖,๘๙๐ บาท และมปี ระชาชนทีไ่ ด้รบั ประโยชน์ จำ� นวน ๑๕,๐๔๗ คน (๓) โครงการขยายผลเกษตรเพอ่ื อาหารกลางวนั อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี จ�ำนวน ๑๑๔ โครงการ งบประมาณ ๕,๘๖๕,๘๑๔ บาท และมปี ระชาชนทีไ่ ด้รับ ประโยชน์ จำ� นวน ๒๖,๔๒๗ คน สำ� หรบั แนวทางการดำ� เนนิ โครงการพฒั นาพืน้ ทต่ี ามแนวพระราชดำ� รแิ ละหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ สำ� นกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทยไดร้ บั การจดั สรรงบประมาณรวมทงั้ หมด ๑๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยกำ� หนดใหจ้ งั หวดั เสนอโครงการในกรอบวงเงนิ ไมเ่ กนิ จงั หวดั ละ ๒๕๐,๐๐๐ บาท ในการดำ� เนนิ งาน สำ� นกั งานปลดั กระทรวง มหาดไทยจะมกี ารแตง่ ตง้ั คณะทำ� งานโครงการพฒั นาพน้ื ทตี่ ามแนวพระราชดำ� รแิ ละหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ประจำ� ป ี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อท�ำหนา้ ทีก่ ำ� หนดหลักเกณฑก์ ารเสนอโครงการ และพจิ ารณากลั่นกรองโครงการทจี่ งั หวดั เสนอ ขอรับการสนับสนนุ งบประมาณ เพอ่ื เสนอปลัดกระทรวงมหาดไทยพจิ ารณาอนมุ ตั แิ ละจัดสรรงบประมาณต่อไป ทงั้ น้ี หลกั การในการจดั ทำ� โครงการของจงั หวดั จะต้องเกิดจากปัญหา/ความต้องการของประชาชน โดยใช้ฐานข้อมูลจากการท�ำประชาคมชาวบ้านหรือ ผู้มีส่วนได้เสีย หรือเป็นโครงการท่ีปรากฏอยู่ในแผน พฒั นาจงั หวดั /อำ� เภอ หมบู่ า้ น/ชมุ ชน และมคี วามพรอ้ ม ทจี่ ะด�ำเนินการ ซ่งึ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ พื้นท่ี เป้าหมายท่ีจะส่งเสริม ได้แก่ พ้ืนที่หมู่บ้าน/ชุมชน ที่ยังขาดโอกาสทางรายได้ เพ่ือสนับสนุนให้เกิดการลด ความยากจนและความเหลื่อมล�้ำ รวมท้ังการพัฒนา คุณภาพชวี ิตของประชาชนให้สามารถพึง่ พาตนเองได้ 13รายงานผลการตรวจราชการของผ้ตู รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
การ “นอ้ มน�ำแนวพระราชดำ� รขิ องสมเดจ็ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี สแู่ ผนปฏบิ ัตกิ าร ๙๐ วนั ปลูกผกั สวนครวั เพือ่ สรา้ งความม่ันคงทางอาหาร” ในชว่ งทป่ี ระเทศเผชญิ สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19) กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพฒั นาชมุ ชน ได้ด�ำเนินการ “น้อมน�ำแนวพระราชด�ำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ ๙๐ วัน ปลูกผักสวนครัว เพ่ือสร้างความมั่นคงทางอาหาร” โดยเน้นการ พ่ึงพาตนเองและสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน เป็นการสร้างความ ม่ันคงทางอาหารในระดับครัวเรือน และลดรายจ่ายในการด�ำรงชีวิตของ ประชาชน สรา้ งรายไดร้ ะยะสน้ั ในระดบั ครวั เรอื นและระดบั กลมุ่ อาชพี โดยเรมิ่ ดำ� เนนิ การตง้ั แตว่ นั ท่ี ๑ เมษายน – ๓๐ มถิ นุ ายน ๒๕๖๓ โดยในการด�ำเนินการดังกล่าว ท�ำให้ประชาชนในเขตชนบทและเขตเมืองตื่นตัวและปลูกผักสวนครัวในบริเวณท่ีอยู่อาศัย เกดิ การเรยี นรแู้ นวทางการสรา้ งพนื้ ฐานความพอมี พอกนิ พอใชข้ องประชาชน เพอ่ื พง่ึ ตนเอง รวมทง้ั มกี ารแลกเปลย่ี น แบง่ ปนั ความรู้ เมล็ดพันธุ์และผลผลิตระหว่างกัน โดยผลการด�ำเนินเมื่อครบ ๙๐ วัน มีครัวเรือนเป้าหมายในพ้ืนที่ ๗๖ จังหวัด ทกุ อำ� เภอ ทกุ ตำ� บล และทกุ หมบู่ า้ น จำ� นวน ๑๒,๖๐๑,๔๙๑ ครวั เรอื น คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๙๗.๑๑ ของครวั เรอื นเปา้ หมายทต่ี ง้ั ไว้ ๑๒,๙๗๗,๐๓๙ ครวั เรอื น ไมร่ วมกรงุ เทพมหานคร ซงึ่ การดำ� เนนิ งานฯ ดงั กลา่ ว สง่ ผลใหเ้ กดิ ความยง่ั ยนื และอำ� นวยประโยชน์ แก่ประชาชนมากข้ึน กระทรวงมหาดไทย จึงได้ด�ำเนินการ “น้อมน�ำแนวพระราชด�ำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สแู่ ผนปฏบิ ตั กิ าร ๙๐ วัน ปลกู ผกั สวนครัว เพ่ือสรา้ งความม่นั คงทาง อาหาร” ระยะที่ ๒ สร้างวฒั นธรรมการปลูกพืชผักประจ�ำครวั เรอื น เพอื่ ตอบสนองตอ่ เปา้ หมายการพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื เป้าหมาย ที่ ๒ ยตุ ิความหิวโหยบรรลุความมั่นคงทางอาหาร ยกระดบั โภชนาการ สง่ เสรมิ การเกษตรท่ียงั่ ยืนขององคก์ ารสหประชาชาติ และสรา้ งความมั่นคงทางอาหารและพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของประชาชนชนบทและพึง่ ตนเองไดอ้ ยา่ งยั่งยนื รวมท้งั สร้างรายได้ และเสรมิ สรา้ งความรกั ความสามคั คี และการเกอ้ื กลู ของคนในชมุ ชน/หมบู่ า้ น มเี ปา้ หมายดำ� เนนิ การในทกุ หมบู่ า้ นทกุ ครวั เรอื น ที่เขา้ ร่วมดำ� เนินการ โดยเริม่ จากเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม ๒๕๖๓ จากการด�ำเนินการ ดังกล่าว พบว่า จังหวัดและอ�ำเภอมีการสนับสนุนให้เกิดกระบวนการความต่อเนื่อง คือพลัง โดยส่งเสริมให้ครัวเรือนปลูกผักอย่างต่อเนื่อง ๕ ชนิด เพ่ิมเติม เป็น ๑๐ ชนิด มีการท�ำเป็นบ้านสานเป็นกลุ่ม ส่งเสริม ใหป้ ระชาชนเกดิ การรวมกลมุ่ ปลกู พชื ผกั ประจำ� ครวั เรอื นและมกี ารบรหิ ารจดั การผลผลติ สว่ นเกนิ ใหม้ มี ลู คา่ เพม่ิ มกี ารดำ� เนนิ การ สร้างชุมชนสีเขียว เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม สร้างจิตวิญญาณรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างชุมชนสีเขียวโดยครัวเรือนในหมู่บ้าน มีการจัดท�ำถังขยะเปียกลดโลกร้อน และส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมเชิงนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหาร รวมทั้งเกิดชุมชนเก้ือกูล ท่ีสามารถดูแลช่วยเหลอื และแบ่งบัน โดยมกี ารจัดตั้งศนู ย์ขยายเมลด็ พนั ธุ์ ในระดบั ตำ� บล โครงการสง่ เสริมนกั การตลาดร่นุ ใหม่ (OTOP) กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้สนับสนุน การกระจายผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยการ ส่งเสริมช่องทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ชุมชนผ่านการด�ำเนิน โครงการส่งเสรมิ นักการตลาดรุ่นใหม่ (OTOP) เนอ่ื งจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยในส่วนของผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ชุมชนท่องเท่ียว OTOP นวัตวิถ ี และประชาชนทวั่ ไป โดยเฉพาะชอ่ งทางการจำ� หนา่ ยลดลง ดงั นนั้ เพอื่ ใหผ้ ลติ ภณั ฑ์ OTOP และชมุ ชนทอ่ งเทยี่ วมชี อ่ งทางการ ตลาดเพมิ่ ขน้ึ โดยเฉพาะการตลาดออนไลนท์ ต่ี อบสนองความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภคในสถานการณด์ งั กลา่ ว กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพฒั นาชมุ ชน จงึ ไดด้ ำ� เนนิ การจดั จา้ งนกั การตลาดรนุ่ ใหม่ (OTOP) จากผไู้ ดร้ บั ผลกระทบจาก COVID-19 ทมี่ ที กั ษะ ทางดา้ นการตลาด ในการสง่ เสริมการตลาดออนไลน์แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP รวม ๒๓๗ อัตรา และสามารถสร้างยอดขาย ใหก้ บั ผปู้ ระกอบการ OTOP รวมทง้ั สนิ้ ๕๓,๖๖๐,๒๓๕ บาท ภายในระยะเวลาเพยี ง ๕ เดอื นของการจดั จา้ ง ซง่ึ เปน็ การชว่ ยเหลอื ผู้ประกอบการ OTOP สู่การขายยุค New Normal อย่างเป็นรูปธรรม และเข้มแข็ง ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ อาทิ www.otoptoday.com เฟซบกุ๊ แฟนเพจ OTOP TODAY รวมถงึ แพลตฟอรม์ ออนไลนต์ า่ ง ๆ ทง้ั Shopee Lazada WeLove Shopping ควบคู่กับการเปิดโอกาสให้บัณฑิตที่มีส�ำนึกรักบ้านเกิด ได้กลับไปท�ำงานในบ้านเกิดตัวเอง โดยในปี ๒๕๖๔ กระทรวงมหาดไทย จะดำ� เนินการโครงการฯ นอี้ ย่างต่อเน่อื ง 14 รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
การตรวจติดตามการสร้างความพร้อม ในการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย การตรวจตดิ ตามของผตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย พบวา่ จงั หวดั ไดม้ กี ารจดั ตง้ั ศนู ยเ์ ฝา้ ระวงั ตดิ ตามสถานการณ์ และประสานการปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย เพื่อท�ำหน้าท่ีเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ วิเคราะห์ข้อมูล ประเมนิ สถานการณ์ การแจง้ เตอื นภยั อำ� นวยการระดบั สรรพกำ� ลงั ทรพั ยากร และประสานการปฏบิ ตั ริ ะหวา่ งหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ท้งั ฝา่ ยพลเรือน ทหาร ต�ำรวจและอาสาสมัคร เพอ่ื ให้การช่วยเหลือผูป้ ระสบภยั โดยมกี ารใช้กลไก “ประชารัฐ” มีการแบง่ หน้าที่และพ้ืนท่ีความรับผิดชอบ รวมท้ังการสร้างความตระหนักถึงปัญหาให้ประชาชนทราบ และให้เข้ามามีส่วนร่วมใน การป้องกันและแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยในการด�ำเนินการมีการก�ำหนดข้ันตอนการปฏิบัติท่ีชัดเจน ท้ังมาตรการเตรียม การป้องกันก่อนเกิดเหตุ เช่น การจัดท�ำแผนปฏิบัติการตรวจสอบข้อมูลพ้ืนที่เส่ียง การตรวจสอบความพร้อมของเครื่องมือ และอปุ กรณแ์ ละการประชาสมั พนั ธ์ มาตรการการปฏบิ ตั ขิ ณะเกดิ เหตุ เชน่ การจดั ชดุ เคลอ่ื นทเ่ี รว็ และมาตรการใหค้ วามชว่ ยเหลอื และเยยี วยาเมอื่ เกิดเหตกุ ารณ์ เป็นต้น ในการตรวจตดิ ตามผตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทยมขี อ้ คน้ พบและใหข้ อ้ เสนอแนะ/ขอ้ สงั เกตเพอื่ ใหห้ นว่ ยรบั ตรวจ น�ำไปพจิ ารณาดำ� เนนิ การตามอ�ำนาจหน้าท่ีด้วย ข้อเสนอแนะของผตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย ๑) ขอใหจ้ งั หวดั เนน้ ยำ�้ ตดิ ตามการพยากรณจ์ ากกรมอตุ นุ ยิ มวทิ ยาและหนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ งอยา่ งใกลช้ ดิ เพอื่ สง่ ขอ้ มลู การแจง้ เตอื นถงึ ประชาชน ตอ้ งรวดเรว็ ตอ่ เนอื่ ง และทว่ั ถงึ ในทกุ ชอ่ งทางประชาชนตอ้ งรบั ทราบขอ้ มลู การปฏบิ ตั งิ าน การเตรยี ม ความพรอ้ มของภาครฐั ชอ่ งทางการรับข้อมลู ขา่ วสารที่ถกู ตอ้ ง แนวทางการปฏบิ ตั ติ นของประชาชนใหเ้ กดิ ความปลอดภัย ๒) ช่องทางการแจ้งข้อมูลการขอรับความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์จากภาครัฐหน่วยงานที่รับผิดชอบและองค์กร ปกครองสว่ นท้องถ่ิน รวมท้งั การประชาสมั พันธข์ ้อมลู ข่าวสารใหก้ ับนักทอ่ งเท่ียวได้รับทราบเหตกุ ารณ์ทันทว่ งที ๓) ใหเ้ รง่ รดั ในการจดั ทำ� แผนเผชญิ เหตขุ องทกุ หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบใหค้ รบถว้ นทกุ แหง่ รวมทง้ั ใหม้ กี ารฝกึ ซอ้ มแผน เผชิญเหตเุ ปน็ ประจ�ำอยา่ งตอ่ เน่อื ง ผลการด�ำเนนิ การของจังหวดั ตามข้อเสนอแนะของผตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย ๑. จังหวัดด�ำเนินการจัดต้ังคณะท�ำงานติดตามการพยากรณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท้ังในระดับจังหวัด และในระดับอ�ำเภออย่างใกล้ชิด เพื่อส่งข้อมูลการแจ้งเตือนถึงประชาชนต้องรวดเร็ว ต่อเนื่องและทั่วถึง ในทกุ ชอ่ งทาง โดยประชาชนสามารถรบั ทราบขอ้ มลู การปฏบิ ตั งิ าน การเตรยี มความพรอ้ มของภาครฐั และแนวทางการปฏบิ ตั ติ น ของประชาชนให้เกิดความปลอดภัยในรูปแบบของช่องทางการแจ้งเตือนประชาชน และการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ใหก้ บั นกั ท่องเทีย่ วไดร้ ับทราบเหตุการณท์ ันท่วงทีดังน้ี ๑.๑ การแจ้งเตือนประชาชนแบบเป็นทางการจังหวัดได้ด�ำเนินการแจ้งการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ อทุ กภัย ดนิ ถล่ม และคลื่นลมแรง ไปยังอ�ำเภอ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น หน่วยงานดา้ นทหาร และหน่วยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง ด้านสาธารณภยั ทั้งนี้รวมถึงการแจ้งเตือนเมอ่ื ไดร้ ับโทรสารแจง้ เตือนจากกองบญั ชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๑.๒ แจ้งเตือนให้ประชาชนทราบในทุกช่องทาง ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เช่น ส่ือสังคม ออนไลน์ วทิ ยุชุมชน หอกระจายขา่ วประจำ� หม่บู ้าน เพื่อใหป้ ระชาชนรับทราบขอ้ มลู ข่าวสาร ตลอดจนแนวทางการปฏิบตั ิตน ให้เกิดความปลอดภัย ชอ่ งทางการแจ้งขอ้ มลู และการขอรบั การช่วยเหลอื จากภาครฐั และองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ ๒. ก�ำหนดให้มีช่องทางการแจ้งข้อมูลการขอรับความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์จากภาครัฐ หน่วยงานท่ีรับผิดชอบ และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ รวมทงั้ การประชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู ขา่ วสารใหก้ บั นกั ทอ่ งเทยี่ วไดร้ บั ทราบเหตกุ ารณท์ นั ทว่ งที ดงั นี้ ๒.๑ การแจ้งข้อมูลการขอรับความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์จากภาครัฐแบบเป็นทางการโดยสามารถด�ำเนินการ การแจง้ ขอ้ มลู การขอรบั ความชว่ ยเหลอื บรรเทาทกุ ขจ์ ากภาครฐั ไปยงั อำ� เภอ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ หนว่ ยงานดา้ นทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณภัย เพื่อจะได้รายงานการขอรับความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ดังกล่าวให้จังหวัดทราบ และเรง่ ใหก้ ารช่วยเหลอื ต่อไป 15รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
๒.๒ การแจง้ ขอ้ มลู การขอรบั ความชว่ ยเหลอื บรรเทาทกุ ขจ์ ากภาครฐั แบบไมเ่ ปน็ ทางการ โดยสามารถแจง้ ขอ้ มลู การ ขอรบั ความชว่ ยเหลอื บรรเทาทุกข์จากภาครฐั ผา่ นทางกล่มุ Line ตา่ ง ๆ เครอื ขา่ ยชุมชนต่าง ๆ เชน่ เครอื ขา่ ยมิสเตอร์เตอื นภยั เครอื ขา่ ย CBDRM เปน็ ตน้ เพือ่ จังหวดั จะไดป้ ระสานไปยงั หนว่ ยงานที่เกย่ี วขอ้ งเร่งด�ำเนินการให้การชว่ ยเหลือไดอ้ ยา่ งทันทว่ งที ๓. จังหวัดได้เร่งรัดและก�ำหนดให้มีการรายงานผลการจัดท�ำแผนปฏิบัติการในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ของทกุ หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ โดยเฉพาะองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ซงึ่ ไดด้ ำ� เนนิ การจดั ทำ� แผนปฏบิ ตั กิ ารในการปอ้ งกนั และ บรรเทาสาธารณภยั ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ เพอื่ เรง่ รดั การปฏบิ ตั งิ านแผนฯ รวมทง้ั เนน้ ยำ้� ใหม้ กี ารฝกึ ซอ้ มแผนเผชญิ เหต ุ เป็นประจำ� อย่างต่อเน่ือง ขอ้ เสนอแนะของผ้ตู รวจราชการกระทรวงมหาดไทย ๑) ขอให้จังหวัดก�ำชับให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เก่ียวข้องติดตามเฝ้าระวังสภาพอากาศ เตรียมความพร้อมรับ สถานการณ์ ภยั หนาว ภยั แลง้ ไฟปา่ วาตภยั อทุ กภยั และสภาพการณอ์ น่ื ทเี่ กดิ ขนึ้ และควรประชาสมั พนั ธแ์ จง้ เตอื นประชาชน ให้ทราบถึงสถานการณ์ การให้ค�ำแนะน�ำ และข้อควรระวัง หากเกิดเหตุสาธารณภัยขึ้นจักได้มีความพร้อมในการป้องกัน และแกไ้ ขไดท้ นั ที และขอใหจ้ งั หวดั เตรยี มความพรอ้ มในทกุ ดา้ น ทงั้ แผนงาน งบประมาณ กำ� ลงั คน วสั ดุ อปุ กรณ์ เครอ่ื งจกั รกล สาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติงานรองรับสถานการณ์ภัยท่ีอาจเกิดข้ึนในพื้นท่ีตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยให้ซักซ้อมระบบเตือนภัย ทั้งระบบเพ่อื แจง้ เตือนภยั อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ การจัดทำ� แผนเผชญิ เหตุในทกุ ระดบั ผลการดำ� เนินงานตามขอ้ เสนอแนะ การเตรียมการปอ้ งกันและแก้ไขปญั หาภัยหนาว ๑. จัดตั้งคณะท�ำงานติดตามสถานการณ์ภายใต้กองอ�ำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด โดยมี องค์ประกอบจากหน่วยงานในพ้ืนที่ ได้แก่ หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยา หน่วยงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หนว่ ยงานดา้ นทอ่ งเทย่ี ว ฝา่ ยปกครอง องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และหนว่ ยงานอน่ื ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ทำ� หนา้ ทต่ี ดิ ตามสภาวะอากาศ การคาดหมายลกั ษณะอากาศ การคาดหมายพน้ื ทเ่ี สยี่ งทม่ี โี อกาสเกดิ อากาศหนาวหรอื หนาวจดั เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มในการ ให้ความช่วยเหลอื ผูป้ ระสบภยั หนาวในพนื้ ท่ี 16 รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
๒. จดั ประชมุ กองอำ� นวยการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั รว่ มกบั อำ� เภอ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และ หนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ ง เพอื่ ซกั ซอ้ มแนวทางการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั ตลอดจนชแี้ จงระเบยี บ/ หลกั เกณฑก์ ารใหค้ วาม ช่วยเหลอื ทเ่ี กย่ี วข้อง ๓. ทบทวนและปรับปรุงแผนเผชิญเหตุของจังหวัดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ให้เป็นปัจจุบัน พร้อมท้ังจัดส่ง แผนเผชิญเหตใุ ห้กองอำ� นวยการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั กลาง ๔. การสรา้ งการรบั รใู้ หก้ บั ประชาชนโดยการประชาสมั พนั ธแ์ ละใหค้ ำ� แนะนำ� ในการดแู ลสขุ ภาพ พรอ้ มทงั้ ใหป้ ระสาน หนว่ ยงานสาธารณสขุ เฝ้าระวงั และเตรียมความพรอ้ มป้องกนั โรคติดตอ่ ในชว่ งฤดหู นาว ๕. กำ� หนดมาตรการในการปอ้ งกนั ในการเกดิ อคั คภี ยั และรณรงคข์ อความรว่ มมอื ใหเ้ กษตรกรใชว้ ธิ กี ารไถกลบแทน การเผาตอซังและวสั ดทุ างการเกษตร เนอ่ื งจากในชว่ งฤดหู นาวจะมีสภาพอากาศแห้ง การเตรยี มการปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หาภัยแลง้ ๑. จดั ต้ังคณะท�ำงานตดิ ตามสถานการณ์ เพื่อท�ำหน้าท่ีตดิ ตามสภาพอากาศ และการจดั การน�้ำ โดยมีองคป์ ระกอบ จากหนว่ ยงานในพน้ื ท่ี ไดแ้ ก่ หนว่ ยงานดา้ นอตุ นุ ยิ มวทิ ยา หนว่ ยงานดา้ นอทุ กวทิ ยา (กรมทรพั ยากรนำ�้ กรมทรพั ยากรนำ�้ บาดาล กรมชลประทาน) องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น สถาบนั การศกึ ษา ท่ีมผี ูเ้ ชี่ยวชาญ เปน็ ต้น เพ่อื ทำ� หนา้ ทีต่ ิดตาม วเิ คราะหแ์ ละ ประเมินสถานการณ์ ตลอดจนเสนอความเห็นต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ส�ำหรับใช้ในการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและ แก้ไขปัญหาภยั แล้งในพื้นที่ไดอ้ ยา่ งทนั ท่วงที ๒. ปรบั ปรงุ แผนเผชญิ เหตภุ ยั แลง้ ของจงั หวดั ใหส้ อดคลอ้ งกบั สถานการณป์ จั จบุ นั และใหจ้ ดั ประชมุ กองอำ� นวยการ ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (กอปภ.จ) เพ่อื ใหท้ ุกหนว่ ยงานรับทราบแนวทางการปฏบิ ตั ิตามแผนเผชญิ เหตภุ ยั แลง้ ของจังหวัด รวมถงึ การน�ำบทเรียนจากการปฏิบัติงาน ปญั หาอปุ สรรคจากปีทผ่ี า่ นมา ๓. มอบหมายส่วนราชการ หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในพื้นท่ี จัดเตรียมก�ำลังคน วัสดุ อุปกรณ์ เคร่อื งจกั รกลสาธารณภยั เชน่ รถยนต์บรรทกุ น้�ำ เครื่องสูบน้ำ� เปน็ ตน้ ใหม้ ีความพรอ้ มปฏิบัตงิ าน ตลอด ๒๔ ช่ัวโมง พร้อม ทง้ั ประสานความรว่ มมือกับภาคเอกชน องคก์ รสาธารณกุศลทมี่ ีศักยภาพ ตามแนวทางประชารัฐ ในการสนับสนนุ ทรพั ยากร ตลอดจนเครอื่ งมือเครื่องใช้ในการบรรเทาความเดอื ดร้อน ของประชาชนจากภยั แล้ง ๔. ให้อ�ำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส�ำรวจ ซ่อมแซมภาชนะเก็บกักน�้ำกลาง ให้อยู่ในสภาพท่ีใช้การได้ และจดั ทำ� แผนการแจกจา่ ยน�้ำในแตล่ ะหมู่บ้าน/ชุมชน ๕. ตรวจสอบข้อมูลพื้นที่เส่ียงภัยแล้งด้านการเกษตร ตามแผนเตรียมความพร้อมเพ่ือลดความเส่ียงจากภัยแล้ง ดา้ นการเกษตร และบรู ณาการหนว่ ยงานระดบั พนื้ ทใี่ นการตดิ ตาม เฝา้ ระวงั และแกไ้ ขปญั หาอยา่ งทนั ทว่ งที ตลอดจนสนบั สนนุ การดำ� เนนิ งานตามแผนการจดั สรรนำ้� แผนการเพาะปลกู พชื ฤดแู ลง้ ตลอดจนมาตรการตา่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งตามความเหมาะสม กับสถานการณ์ในพ้ืนท่ี ๖. สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ถึงมาตรการบริหารจัดการน�้ำของภาครัฐที่ประชาชนสามารถเข้าใจ และ เข้าถึงได้ง่าย มกี ารรณรงค์ให้ประชาชนมสี ่วนร่วมในการประหยดั นำ้� เชน่ การจัดหาภาชนะเก็บกกั น�้ำ การใช้น้ำ� เพอ่ื การอปุ โภค บรโิ ภค และการเกษตรอยา่ งประหยดั ถูกวธิ ี ถูกสุขลกั ษณะ ๗. การแจง้ เตอื นสถานการณใ์ นพน้ื ท่ี โดยใหค้ วามสำ� คญั ในเรอ่ื งการสง่ ขอ้ มลู การแจง้ เตอื นภยั ประชาชนอยา่ งรวดเรว็ ตอ่ เนอื่ ง และทวั่ ถงึ โดยทปี่ ระชาชนสามารถรบั ทราบขอ้ มลู การปฏบิ ตั งิ านการดำ� เนนิ การของภาครฐั ผา่ นชอ่ งทางการรบั ขอ้ มลู ข่าวสารทถี่ ูกตอ้ ง ตลอดจนชอ่ งทางการแจง้ ขอ้ มูล การขอรับความชว่ ยเหลอื บรรเทาทุกข์ จากภาครัฐและองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ๘. ให้ฝ่ายปกครองร่วมกับฝ่ายทหารในพื้นที่ สอดส่อง ท�ำความเข้าใจ และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบ ปัญหาความเดือดร้อน โดยเฉพาะกรณีการขาดแคลนน�้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และน้�ำเพื่อการเกษตร ตลอดจนระมัดระวัง อย่าให้เกิดปัญหาความขัดแย้งจากกรณีการแย่งชิงน้�ำ หรือการน�ำประเด็นการขาดแคลนน้�ำมาใช้จัดต้ังกลุ่มมวลชนเพ่ือสร้าง สถานการณค์ วามขัดแย้ง ๙. มอบหมายหน่วยงานท่ีมีศักยภาพในพ้ืนท่ี ในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เช่น การแจกจ่าย น้ำ� อุปโภคบริโภค การสบู น้ำ� จากแหลง่ น้ำ� ธรรมชาติไปยังแหล่งนำ�้ เพ่ือการผลิตน�้ำประปา แหล่งน�้ำเพอื่ การเกษตร หรอื ขอรบั การสนับสนุนเคร่ืองจักรกลสาธารณภัยจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต หน่วยทหาร หน่วยงานสังกัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม กระทรวงคมนาคม กรมชลประทาน เป็นตน้ 17รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
๑๐. ประสานกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อจัดท�ำฝนหลวงในพื้นที่เมื่อสภาวะ อากาศเอื้ออำ� นวย ๑๑. เมอ่ื จงั หวดั ประกาศเขตการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั แลง้ ของจงั หวดั ตามระเบยี บกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ย เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลอื ผู้ประสบภัยพบิ ตั ิกรณฉี กุ เฉนิ พ.ศ. ๒๕๕๖ แล้ว ใหเ้ รง่ สำ� รวจความเสียหาย และพิจารณาให้ ความช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภยั แลง้ ตามระเบียบ หลักเกณฑ์ และแนวทางที่ก�ำหนดอย่างเครง่ ครัด โดยใหด้ �ำเนนิ การอย่างรวดเร็ว ทว่ั ถงึ และเปน็ ธรรม การเตรยี มการปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หาไฟปา่ และหมอกควัน ๑. จดั ตงั้ ศูนยบ์ ัญชาการเหตุการณป์ อ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาไฟป่าและหมอกควนั ๒. จัดท�ำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยบูรณาการกับหน่วยงานที่เก่ียวข้อง จดั เตรียมเครื่องจกั รกล ยานพาหนะ เคร่ืองสบู น�ำ้ และอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ไว้ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั ๓. สำ� รวจ ตรวจสอบข้อมูลพ้ืนท่ีเส่ียงภยั ตลอดจนทรพั ยากรก�ำลงั คน วสั ดุอปุ กรณใ์ นพ้ืนท่ี ๔. รณรงค์ขอความร่วมมือ และควบคุมการเผาในพื้นที่ชุมชน จัดระบบการจัดเก็บ คัดแยก ควบคุมการเผาขยะ มลู ฝอยในเขตชมุ ชน และห้ามเผาหญ้าในบริเวณรมิ ทางโดยเด็ดขาด ๕. รณรงค์ ประชาสัมพนั ธ์ใหป้ ระชาชนเพ่ิมความระมดั ระวงั ในการประกอบกจิ กรรมทีเ่ สยี่ งตอ่ การเกิดอุบตั ิภัย ๖. การควบคุมไฟป่าในพื้นท่ีอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติให้ด�ำเนินมาตรการควบคุมป้องกันแจ้งเตือนสถานการณ์ และเตรียมความพรอ้ มในการระงบั เหตุไฟปา่ ๗. กำ� ชบั เจา้ หนา้ ทต่ี ามกฎหมายและเจา้ หนา้ ทท่ี เ่ี กยี่ วขอ้ งปอ้ งปรามกวดขนั การบกุ รกุ แผว้ ถางทำ� ลายทรพั ยากรปา่ ไม้ รวมทัง้ ดำ� เนินการบังคบั ใชก้ ฎหมายกบั ผูก้ ระทำ� ผดิ อยา่ งเด็ดขาด ๘. ด�ำเนินการส�ำรวจ ตรวจสอบ และจัดเตรียมเครื่องมือ ยานพาหนะ อุปกรณ์ดับเพลิงและกู้ภัยของหน่วยงาน ทีเ่ ก่ียวขอ้ งในพื้นท่ใี ห้มคี วามพร้อมปฏิบตั ิงาน ไดท้ ันทเี มอ่ื เกิดอคั คีภัยและไฟป่าข้ึน ๙. ขอความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ผู้น�ำชุมชนและประชาชนในพ้ืนที่ให้งดเว้นการจุดไฟ ใกล้บริเวณแนวป่า โดยเด็ดขาด รวมท้ังรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า อย่างต่อเนื่องเพื่อประชาชนทราบถึง แนวทางการปอ้ งกนั การปฏบิ ตั ติ นเมอ่ื เกดิ ไฟปา่ และผลกระทบจากหมอกควนั และไฟปา่ ทมี่ ตี อ่ สขุ ภาพอนามยั และสงิ่ แวดลอ้ ม ๑๐. ด�ำเนินการตามแผนและมาตรการอ่ืน ๆ ของจังหวัด ตามลักษณะเชิงภูมิศาสตร์เพ่ือให้การป้องกันเฝ้าระวัง และระงบั อคั คีภัย ไฟป่าและหมอกควนั เป็นไปอย่างเหมาะสมมปี ระสทิ ธภิ าพ การเตรยี มการปอ้ งกันและแก้ไขปญั หาอทุ กภยั และดินถลม่ จังหวัดได้ดำ� เนินการเตรียมการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาอทุ กภัย และดินถล่ม โดยสงั่ การแจง้ ให้อำ� เภอและหน่วยงาน ทเ่ี กยี่ วข้อง ด�ำเนนิ การ ดังน้ี ๑. ให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด จัดโครงสร้างให้สอดคล้องตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ ๒. จัดตั้งคณะท�ำงานตดิ ตามสถานการณ์ขน้ึ ในส่วนอ�ำนวยการของศูนยบ์ ัญชาการเหตกุ ารณจ์ งั หวดั ๓. ให้ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ/ท้องถ่ิน เร่งตรวจตราอาคารสถานท่ี ป้ายโฆษณาส่ิงก่อสร้างที่มีสภาพไม่ม่ันคง แข็งแรง รวมถึงไม้ยืนต้นตามท่ีสาธารณะ ท่ีอาจก่อให้เกิดสาธารณภัยได้ พร้อมทั้งแจ้งให้หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยการน้ันทราบ เพื่อตรวจสอบซ่อมแซมให้มั่นคงแข็งแรงตามอ�ำนาจหน้าที่ตลอดจนเชิญชวนประชาชนจิตอาสามีส่วนร่วมในการสอดส่อง ปรับปรงุ ดแู ลใหเ้ กิดความปลอดภัย 18 รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
๔. ตรวจสอบจดุ /พ้ืนทีป่ ลอดภัย ให้มคี วามพรอ้ มรองรับการอพยพประชาชน และปรบั ปรุงแผนการอพยพในพืน้ ที่ เสีย่ งภยั ให้มคี วามพรอ้ ม ๕. ในพ้ืนที่ติดชายฝั่งทะเล ให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีก�ำกับดูแลด้านการคมนาคมทางทะเล และการทอ่ งเทีย่ ว หรือคำ� สง่ั ของทางราชการใหด้ �ำเนินการทางกฎหมายในทุกกรณี ๖. จงั หวดั ทม่ี สี ถานทท่ี อ่ งเทย่ี วทางธรรมชาติ หากมสี ถานทเี่ สยี่ งภยั จะเกดิ ภยั อาทิ ถำ้� นำ�้ ตก ถำ้� ลอด ใหส้ ง่ั การหนว่ ยงาน รับผิดชอบประกาศแจ้งเตือน ปิดกั้นพื้นที่ และห้ามนักท่องเที่ยวหรือบุคคลใดเข้าพ้ืนท่ีโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ เฝ้าระวงั พนื้ ทเี่ สย่ี งภยั ดังกล่าวตลอด ๒๔ ช่ัวโมง ๗. ให้กำ� ชับศนู ยบ์ ัญชาการเหตุการณ์อ�ำเภอ ศนู ย์ปฏบิ ัติการฉกุ เฉินทอ้ งถิน่ ตลอดจนหน่วยงานตามแผนเผชญิ เหตุ อุทกภยั จงั หวัด ด�ำเนนิ การ ดังนี้ ๗.๑ จัดเตรยี มกำ� ลังเจา้ หนา้ ท่ี เคร่ืองจักรสาธารณภยั ตลอดจนวัสดุ อุปกรณ์ และพืน้ ทปี่ ลอดภยั ส�ำหรบั รองรับ การอพยพประชาชน ให้มคี วามพรอ้ มตลอด ๒๔ ชัว่ โมง ๗.๒ จดั ระบบสื่อสารระหวา่ งหน่วยงานภาครัฐ หนว่ ยทหาร องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน เครอื ข่ายด้าน การป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ๗.๓ เฝา้ ระวงั พ้ืนที่ชุมชน พืน้ ทสี่ �ำคญั ทางเศรษฐกจิ ตลอดจนสถานท่สี �ำคัญตา่ ง ๆ ๗.๔ หากเกดิ สถานการณอ์ ทุ กภยั ขน้ึ ในพนื้ ที่ ใหฝ้ า่ ยปกครอง หนว่ ยทหาร องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ เรง่ ดำ� เนนิ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ดา้ นการดำ� รงชพี แกป่ ระชาชนทปี่ ระสบภยั ตามวงรอบอยา่ งตอ่ เนอ่ื งพรอ้ มทงั้ เชญิ ชวนประชาชนจติ อาสา มีสว่ นรว่ มกับภาครฐั ตามทักษะความถนดั ในการให้ความช่วยเหลอื ประชาชนทปี่ ระสบภัย ๗.๕ การระบายน�้ำ และการพร่องน้�ำออกจากแหล่งน�้ำต่างๆ เพ่ือการแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้ใช้ข้อมูลทาง วิทยาศาสตร์ในมติ ติ ่าง ๆ ๗.๖ ให้เน้นย�้ำศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์ร่วม สื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนผ่านสื่อมวลชน ตลอดจน สือ่ แขนงต่าง ๆ ในทกุ ชอ่ งทาง พร้อมทั้งติดตามขา่ วสารความเดอื ดรอ้ นของประชาชนท่ีอาจปรากฏตามส่อื สังคมออนไลน์ตา่ ง ๆ การเผชญิ เหตุ เมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มในพื้นท่ี ให้ยึดแนวทางการจัดการสาธารณภัย ในภาวะฉุกเฉิน ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด/อ�ำเภอ และกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทา สาธารณภยั โดยด�ำเนินการตามแนวทาง ดงั น้ี ๑. จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับอ�ำเภอ เทศบาลเมือง และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในระดับองค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถน่ิ เพอื่ เปน็ ศนู ยค์ วบคมุ สง่ั การ และอำ� นวยการหลกั ในการระดมสรรพกำ� ลงั และประสานการปฏบิ ตั ริ ะหวา่ งหนว่ ยงาน ต่าง ๆ ทั้งฝ่ายพลเรือน หนว่ ยทหาร องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น และองคก์ รสาธารณกุศล ๒. ให้ศูนยบ์ ญั ชาการเหตกุ ารณ์อ�ำเภอ และเทศบาล ก�ำหนดกลไกของศูนยป์ ระสานการปฏบิ ตั ศิ ูนยป์ ระชาสมั พนั ธ์ รว่ มกบั คณะทป่ี รกึ ษา/ผเู้ ชย่ี วชาญ สว่ นปฏบิ ตั กิ าร สว่ นอำ� นวยการ และสว่ นสนบั สนนุ พรอ้ มทง้ั มอบหมายผรู้ บั ผดิ ชอบ ภารกจิ และพ้ืนท่ีปฏบิ ัตงิ านให้ชัดเจน พรอ้ มทั้งก�ำหนดช่องทางการสอื่ สารระหวา่ งหนว่ ยงาน แนวทางการจัดการทรพั ยากร แนวทาง การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ด�ำรงชีพและการบรรเทาทุกข์ 19รายงานผลการตรวจราชการของผ้ตู รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
๓. ให้มอบหมายฝ่ายปกครอง ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนอาสาสมัคร ประชาชน จิตอาสา เฝ้าระวังพ้ืนท่ีชุมชน พนื้ ทส่ี ำ� คญั ทางเศรษฐกจิ สถานทสี่ ำ� คญั ตา่ ง ๆ อาทิ โรงพยาบาล ศาสนสถานและรว่ มกนั กำ� จดั สงิ่ กดี ขวางทางนำ้� เมอื่ เกดิ ฝนตก หนกั ในพน้ื ท่ี ทงั้ นี้ หากมกี รณนี ำ�้ ทว่ มขงั สรา้ งความเดอื ดรอ้ น ความเสยี หายตอ่ ทรพั ยส์ นิ ของประชาชน ใหเ้ รง่ กำ� หนดแนวทาง การระบายนำ้� พรอ้ มทงั้ สง่ั ใชเ้ ครอ่ื งจกั รกลในพนื้ ทข่ี องหนว่ ยงานทงั้ ฝา่ ยพลเรอื น หนว่ ยทหาร และภาคเอกชนทไี่ ดข้ น้ึ ทะเบยี นไว ้ เพอื่ เรง่ ระบายน้�ำและเปดิ ทางน�้ำในพืน้ ท่ี ๔. จดั ชุดปฏบิ ัตกิ ารเร่งให้ความช่วยเหลือดา้ นการด�ำรงชพี แกป่ ระชาชนทีป่ ระสบภัยตามวงรอบอยา่ งต่อเนอ่ื ง อาทิ ความช่วยเหลอื ดา้ นอาหาร นำ�้ ดม่ื การรกั ษาพยาบาล โดยอยา่ ใหเ้ กดิ ความซำ�้ ซอ้ นในการปฏบิ ตั ขิ องแตล่ ะหนว่ ยงาน พรอ้ มทง้ั เชญิ ชวนประชาชนจิตอาสา มีสว่ นร่วมกับภาครฐั ตามทกั ษะความถนดั ในการให้ความชว่ ยเหลือประชาชนท่ีประสบภยั ๕. กรณบี า้ นเรอื นประชาชนได้รบั ความเสียหาย ให้บูรณาการทุกหน่วยงาน ทั้งหน่วยทหาร ตำ� รวจ หน่วยงานฝ่าย ปกครอง สถาบนั การศกึ ษา ตลอดจนประชาชนจิตอาสา เพ่อื จัดทีมช่าง ในพน้ื ทเี่ ปน็ ทมี ประชารฐั และเรง่ ซ่อมแซมบา้ นเรือน ประชาชนโดยเรว็ ๖. กรณีเส้นทางคมนาคมได้รับความเสียหาย หรือถูกน�้ำท่วมจนประชาชนไม่สามารถใช้ยานพาหนะสัญจรได้ ให้จัด เจา้ หน้าที่อ�ำนวยความสะดวกการจราจร แนะน�ำเสน้ ทางเลีย่ ง ที่ปลอดภยั รวมทง้ั จดั ยานพาหนะท่เี หมาะสม อาทิ เรอื รถยกสงู เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน หลังจากน้นั ใหเ้ รง่ ซ่อมแซมเสน้ ทางท่ีชำ� รดุ /ถูกตัดขาด เพือ่ ใหป้ ระชาชนใช้สญั จรไดโ้ ดยเร็ว ๗. เน้นย�ำ้ การสอื่ สารสรา้ งการรบั รู้ให้กับประชาชนในช่วงเกิดสถานการณ์อุทกภยั ผ่านสื่อมวลชน ตลอดจนสอื่ แขนงต่าง ๆ และส่อื สงั คมออนไลน์ เพือ่ ใหเ้ กิดความเข้าใจถงึ แนวทางการแก้ไขปัญหาของภาครฐั อย่างตอ่ เน่ือง ๘. แจ้งให้กองอ�ำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอ และเทศบาล ส�ำรวจข้อมูลพ้ืนท่ีเส่ียงอุทกภัย และการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระดับพื้นท่ี โดยประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพ้ืนที่ร่วมกับ หน่วยงานที่เกีย่ วข้องด�ำเนินการ การป้องกนั และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเลก็ (PM 2.5) ข้อเสนอแนะของผตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย ขอใหจ้ งั หวดั บรู ณาการรว่ มกบั ทกุ ภาคสว่ นทเี่ กย่ี วขอ้ ง ใหค้ วามสำ� คญั ในการแกป้ ญั หากนั อยา่ งจรงิ จงั กำ� ชบั เจา้ หนา้ ท่ี ด�ำเนินการตามกฎหมายและอ�ำนาจหน้าที่ที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวด ควบคุมต้นเหตุจากการเกิดฝุ่นละออง รวมท้ังการเผา ในท่โี ล่งหรอื กิจการท่กี อ่ ใหเ้ กดิ ควนั ควบคกู่ ับการสรา้ งการรับรู้และความตระหนกั ให้แกป่ ระชาชน ทั้งนี้ ขอให้รายงานผลการ ด�ำเนินงานและสถานการณ์ของจงั หวัดให้กรมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ทราบเป็นประจ�ำทุกวนั 20 รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ผลการด�ำเนินงานตามข้อเสนอแนะ จงั หวดั ไดม้ กี ารเฝา้ ระวงั ตดิ ตามขอ้ มลู คณุ ภาพอากาศอยา่ งใกลช้ ดิ และวเิ คราะห์ ตลอดจนประเมนิ แนวโนม้ สถานการณ์ และถอดบทเรียนในการแก้ไขปัญหาแล้ว ซึ่งสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ได้ตรวจวัดตามค่ามาตรฐานไม่เกิน ๕๐ ไมโครกรมั /ลบ.ม. สภาพอากาศอยใู่ นเกณฑค์ ณุ ภาพดี ทงั้ นี้ ไดด้ ำ� เนนิ การตามมาตรการ ๓ มาตรการ คอื (๑) มาตรการเพม่ิ ประสทิ ธิภาพในการจัดการเชิงพืน้ ที่ (การแก้ไขในระยะเรง่ ดว่ นและในช่วงวิกฤต) (๒) มาตรการป้องกันและลดการเกดิ มลพิษ ทตี่ น้ ทาง (แหลง่ กำ� เนดิ ) (๓) มาตรการเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจดั การมลพษิ โดยเนน้ มาตรการปอ้ งกนั และลดการเกดิ มลพษิ ทตี่ น้ ทาง (แหลง่ กำ� เนดิ ) โดยเนน้ ยำ้� หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งดำ� เนนิ การตามมาตรการปอ้ งกนั และลดผลกระทบจากปญั หาฝนุ่ ละออง ขนาดเลก็ (PM 2.5) ของจงั หวดั และเขม้ งวดตามมาตรการลดปรมิ าณ ฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ (PM 2.5) ๑๐ มาตรการ โดยการลด ต้นเหตุปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ส�ำหรับการประชาสัมพันธ์และรณรงค์สร้างความตระหนักในการป้องกันและ แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) โดยสร้างความเข้าใจห้ามเผาพื้นที่การเกษตร พร้อมท้ังเฝ้าระวังตรวจสอบพ้ืนท่ี เส่ียงการเกิดไฟป่า ข้อเสนอแนะของผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ขอให้จังหวัด ด�ำเนินการบูรณาการหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ในการควบคุมและลดมลพิษจากการเผาในที่โล่ง จากภาคการเกษตรและโรงงานอุตสาหกรรมท่ีมีการปลอ่ ยมลพษิ ทางอากาศ รวมท้งั เฝ้าระวงั และติดตามสถานการณ์ เพอ่ื ให้ คุณภาพอากาศในพ้ืนท่ีอยใู่ นเกณฑ์ทก่ี ำ� หนด ผลการด�ำเนินงานตามขอ้ เสนอแนะ จังหวัดได้ตดิ ตามสถานการณค์ า่ ฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากผลการตรวจวัดคณุ ภาพอากาศในพนื้ ท่ขี องจงั หวัด ในช่วงเดือนมีนาคม ๒๕๖๓ พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดอยู่ในเกณฑ์ “ปานกลาง” ซึ่งตามมติท่ีประชุมคณะกรรมการ ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของจังหวัด ปี ๒๕๖๓ หากค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 มคี า่ เกนิ ๕๐ ไมโครกรมั ตอ่ ลกู บาศกเ์ มตร ซง่ึ อยใู่ นเกณฑเ์ รมิ่ มผี ลกระทบตอ่ สขุ ภาพตดิ ตอ่ กนั ๒ วนั ในวนั ที่ ๓ ใหท้ ำ� การ ปฏบิ ตั กิ ารตอบโตส้ ถานการณแ์ กไ้ ขปญั หาฝนุ่ ละอองโดยระดมฉดี พน้ ละอองนำ้� พรอ้ มกนั บรเิ วณหนา้ ทวี่ า่ การอำ� เภอทกุ อำ� เภอ เพื่อเป็นการลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และให้ติดตามสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างใกล้ชิด อีกทั้ง ให้ส�ำนักงาน ปภ. จงั หวดั ดำ� เนนิ การจดั ทำ� แผนเผชญิ เหตฝุ นุ่ ละออง ขนาดเลก็ PM 2.5 จังหวัด ปี ๒๕๖๓ เรยี บร้อยแลว้ พร้อมทั้งออกประกาศจังหวัดเร่ืองมาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซ่ึงจังหวัดได้มีหนังสือเรื่องการป้องกันและลดผล กระทบกรณีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 แจ้งข้อสั่งการแก่หน่วยงานที่เก่ียวข้อง อ�ำเภอ ทุกอ�ำเภอ เพ่ือด�ำเนินการตามมาตรการท่ีเก่ียวข้อง และประชาสมั พนั ธ์ ใหป้ ระชาชนในพน้ื ทท่ี ราบแลว้ บางจงั หวดั มกี ารออกคำ� สง่ั เรอ่ื งการจดั ตง้ั ศนู ยบ์ ญั ชาการปอ้ งกนั และแกไ้ ข ปญั หาสถานการณฝ์ นุ่ ละอองขนาดเลก็ PM 2.5 ปี ๒๕๖๓ อกี ทง้ั จงั หวดั ไดใ้ หส้ ำ� นกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั ตดิ ตาม ตรวจสอบข้อมลู คณุ ภาพอากาศ และสถานการณฝ์ ุ่นละอองขนาดเลก็ PM 2.5 จากกรมควบคมุ มลพษิ รวมทัง้ ขอ้ มูล ดา้ นสขุ ภาพและแนวทางปฏบิ ตั ใิ นการดแู ลสขุ ภาพของประชาชน จากกระทรวงสาธารณสขุ เพอ่ื ใชใ้ นการประชาสมั พนั ธส์ รา้ ง การรับรู้ ความตระหนักถึงผลกระทบของฝุ่นละออง ตลอดจนสร้างความเข้าใจ ถึงสถานการณ์ มาตรการ และข้อกฎหมาย ให้กับประชาชน เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการด�ำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองของจังหวัด รวมท้ัง ได้มีการบูรณาการได้จัดประชุมและมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบพ้ืนท่ี และบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุม และลดมลพษิ รวมท้งั สรา้ งการมีสว่ นรว่ มและปลกู จติ สำ� นึกให้กับประชาชน 21รายงานผลการตรวจราชการของผูต้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ข้อเสนอแนะของผ้ตู รวจราชการกระทรวงมหาดไทย ขอใหจ้ งั หวดั เนน้ มาตรการปอ้ งกนั และลดการเกดิ มลพษิ ทต่ี น้ ทาง (แหลง่ กา� เนดิ ) เชน่ ตน้ กา� เนดิ จากยานพาหนะ ตอ้ งมี มาตรการตรวจสอบควบคมุ รถควนั ดา� การกา� หนดพนื้ ทใี่ นการจา� กดั เวลารถบรรทกุ เขา้ มาในพนื้ ทมี่ ปี รมิ าณฝนุ่ ละอองเกนิ ระดบั มาตรฐาน การจา� กดั การเผา ตอ้ งหา้ มการเผาในทโ่ี ลง่ แจง้ ทกุ ชนดิ สา� หรบั การเผาทางการเกษตรตอ้ งดใู หเ้ ปน็ ไปอยา่ งเหมาะสม และการควบคมุ ดแู ลโรงงานอตุ สาหกรรมและการกอ่ สรา้ งในพน้ื ทอี่ ยา่ งเขม้ งวด เปน็ ตน้ รวมทงั้ ตอ้ งสรา้ งการรบั รใู้ หป้ ระชาชน เขา้ ใจในมาตรการและขอ้ กฎหมาย โดยกา� ชบั ใหผ้ มู้ อี า� นาจหนา้ ทท่ี เี่ กยี่ วขอ้ งบงั คบั ใชก้ ฎหมายอยา่ งเครง่ ครดั รวมทง้ั ใหบ้ รู ณาการ หนว่ ยงานในพืน้ ทพ่ี จิ ารณาดา� เนนิ การแก้ไขปัญหา เพอ่ื ช่วยเหลือประชาชน อาทิ การดูแลประชาชนกลมุ่ เส่ยี งโดยหน่วยงาน ด้านสาธารณสุขและการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบภัยตามอ�านาจหน้าท่ีขององค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถิน่ พรอ้ มท้งั ปรบั มาตรการต่าง ๆ ใหท้ ันต่อสถานการณท์ ่เี ปลี่ยนแปลงไปในแตล่ ะพน้ื ทดี่ ้วย ผลการดา� เนินงานตามข้อเสนอแนะ จังหวัดได้มีการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ซ่ึงจังหวัดได้ด�าเนินการจัดท�าค�าสั่ง จัดตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๓), จัดท�าแผนเผชิญเหตุป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๓), จดั ทา� ค�าส่ังแต่งตง้ั คณะท�างานติดตามสถานการณไ์ ฟปา่ หมอกควนั และฝุน่ ละอองขนาดเลก็ (PM 2.5) (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๓), ประชมุ คณะกรรมการฯ เพอ่ื ตดิ ตามสถานการณไ์ ฟปา่ และหมอกควนั และเตรยี มความพรอ้ มในการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั ทั้งในระยะก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัยและหลังเกิดภัย, แจ้งอ�าเภอและส่วนราชการที่เก่ียวข้องให้ด�าเนินการตามมาตรการ ที่กระทรวงมหาดไทยก�าหนด และให้รายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่รับผิดชอบ ให้จังหวัดทราบเป็นประจ�าทุกวันเพ่ือให้จังหวัดรวบรวมเป็นข้อมูลรายงานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทราบ และสา� นกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั ไดแ้ จง้ ขา่ วประชาสมั พนั ธส์ ถานการณฝ์ นุ่ ละอองขนาดเลก็ (PM 2.5) ในพน้ื ทจี่ งั หวดั ในทกุ อา� เภอ และเพม่ิ ความเขม้ งวดในการดา� เนนิ การตามแผนเผชญิ เหตแุ ละมาตรการ พรอ้ มทงั้ บงั คบั ใชก้ ฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ งอยา่ งเครง่ ครดั 22 รายงานผลการตรวจราชการของผูต้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�าปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ยทุ ธศาสตร์ : ดทแลา้าะงนคสกวงั าาครมมสเสร้ามงอโอภกาคาส • การสรา้ งการรบั รู้สูช่ ุมชนในระดับพื้นท่ี
การสรา้ งการรับรู้ส่ชู มุ ชนในระดบั พ้นื ท่ี ความเปน็ มา นายกรัฐมนตรีได้มีข้อส่ังการในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ให้ทุกส่วนราชการ และหนว่ ยงานของรฐั จดั สง่ เอกสารหรอื สอื่ ตา่ ง ๆ ทจี่ ดั ทำ� ขนึ้ เพอ่ื สรา้ งการรบั รทู้ ถี่ กู ตอ้ ง เกยี่ วกบั การดำ� เนนิ โครงการ/กจิ กรรม ตามนโยบายของรัฐบาลให้กระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเพ่ือท�ำความเข้าใจและน�ำไปถ่ายทอดหรือ เผยแพร่ใหแ้ ก่เจา้ หน้าที่ผ้ปู ฏบิ ัติและประชาชน ในพ้นื ท่ที ีร่ บั ผิดชอบใหถ้ กู ต้อง รวดเรว็ และทั่วถึง โดยใหพ้ ิจารณาใช้ช่องทาง การเผยแพรท่ ีห่ ลากหลายและเหมาะสม ตามแต่กรณี ต่อมาได้มขี ้อสง่ั การนายกรฐั มนตรี เมื่อวันท่ี ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๑ อา้ งถึงขอ้ ส่งั การในคราวประชุมคณะรฐั มนตรี เมอื่ วนั ท่ี ๒๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๙ ให้ทุกสว่ นราชการพจิ ารณาก�ำหนดแนวทางการดำ� เนินการ ให้ข้าราชการในสงั กัดทุกระดับ ทงั้ ในสว่ นกลางและสว่ นภมู ภิ าค มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั นโยบายของรฐั บาล อยา่ งถกู ตอ้ ง ชดั เจน และสามารถนำ� นโยบาย ไปขับเคล่ือนได้อย่างเป็นรูปธรรมและเกิดผลสัมฤทธิ์ โดยเฉพาะอย่างย่ิงเร่ืองประเทศไทย ๔.๐ และเศรษฐกิจดิจิทัล รวมทงั้ ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั และนายอำ� เภอดำ� เนนิ การสง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนในพน้ื ทร่ี บั ผดิ ชอบไดใ้ ชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ใหม้ ากขนึ้ ด้วยนั้น ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานและเร่งรัดการด�ำเนินการสร้างการรับรู้ให้ประชาชน ในท้องถ่ินมี โดยให้แต่ละกระทรวงส่งเน้ือหา ข้อมูลการด�ำเนินนโยบายสำ� คัญของรัฐบาลให้เป็นภาษาที่กระชับ เข้าใจง่าย และมขี อ้ มลู ชอ่ งทางการตดิ ตอ่ กบั สว่ นราชการทช่ี ดั เจนใหก้ ระทรวงมหาดไทย ทงั้ นี้ ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั ทกุ จงั หวดั บรู ณาการ การท�ำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนด้วย และได้มีข้อส่ังการเพ่ิมเติมเม่ือวันท ่ี ๑๑ กันยายน ๒๕๖๑ ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเร่งด�ำเนินการตามข้อส่ังการของนายกรัฐมนตรีดังกล่าว อย่างต่อเน่ือง โดยให้ส่งข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องกับการด�ำเนินการ ในเรื่องส�ำคัญต่าง ๆ เช่น การพัฒนาพ้ืนที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวนั ออก การบริหารงบประมาณและการเงินการคลังภาครฐั การกระจายอ�ำนาจ หลกั ธรรมาภบิ าลภาครัฐ การพัฒนา ด้านการเกษตร การจัดการขยะ และความรู้เกี่ยวกับการเลือกต้ัง เป็นต้น ให้แก่กระทรวงมหาดไทยเพ่ือสร้างการรับรู ้ ใหแ้ กป่ ระชาชนในระดบั ชมุ ชนและทอ้ งถน่ิ ผา่ นชอ่ งทางตา่ ง ๆ ตอ่ ไป เชน่ การจดั เวทปี ระชาคม การประกาศผา่ นหอกระจายเสยี ง การจดั ประชมุ สัมมนา เป็นต้น กระทรวงมหาดไทยไดแ้ ตง่ ตง้ั คณะกรรมการบรู ณาการขอ้ มลู และสรา้ งการรบั รสู้ ชู่ มุ ชน ตามคำ� สงั่ กระทรวงมหาดไทย ที่ ๒๔๗๒/๒๕๖๑ ลงวนั ที่ ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๖๑ เพ่อื ท�ำหนา้ ท่ขี ับเคลือ่ น การบรู ณการขอ้ มูลขา่ วสารเพอื่ สรา้ งการรับรู้สูช่ มุ ชน และได้ร่วมกับทุกกระทรวง กรมประชาสัมพันธ์ และกองอ�ำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจัดพิธีลงนาม ในบันทึกข้อตกลงความรว่ มมือ การบูรณาการเสริมสร้างการรบั รสู้ ู่ชมุ ชน (MOU) ไปแล้ว เม่ือวันท่ี ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ณ ตึกสันติไมตรี ท�ำเนียบรัฐบาล รวมทั้งได้แต่งต้ังคณะท�ำงานบูรณาการข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้สู่ชุมชน ตามค�ำส่ัง กระทรวงมหาดไทย ที่ ๔๕๘/๒๕๖๒ ลงวันท่ี ๒๘ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๒ 24 รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพ่อื บรู ณาการขอ้ มูลข่าวสารจากทกุ กระทรวง กรมประชาสัมพันธ์ และกองอา� นวยการ รักษาความม่นั คงภายใน ราชอาณาจกั ร ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การดา� เนนิ การตามนโยบายรฐั บาล ผลการดา� เนนิ การ ตามนโยบายรฐั บาล และการปฏบิ ตั ริ าชการ ของหน่วยงานที่ส�าคัญ ท่ีมีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง รวมท้ังการชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อให้ประชาชนได้ทราบข้อมูล ที่ถกู ตอ้ ง ครบถ้วน น�าไปสู่การสร้างการรับร้ ู ของประชาชนในระดับพ้ืนท ่ี ๒. เพื่อสร้างช่องทางการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนให้มีความหลากหลายและสามารถน�าข้อมูลข่าวสารส่งถึง ประชาชนในระดบั ท้องท่ ี ทอ้ งถ่ินได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ๓. มีกลไกการขับเคล่ือนที่เป็นระบบ สามารถตรวจสอบ ติดตามการส่งข้อมูลและการเผยแพร่ข้อมูลได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ๔. ประชาชนไดร้ บั ขอ้ มลู ขา่ วสารการดา� เนนิ การตามนโยบายของรฐั ทค่ี รบถว้ น ถกู ตอ้ งทา� ใหม้ ขี อ้ มลู ในการตดั สนิ ใจ และเขา้ มามีส่วนรว่ มในการพฒั นาประเทศเพอ่ื ใหเ้ กิดความย่งั ยนื แนวทางการสร้างการรบั รูส้ ูช่ มุ ชน ๑. การบูรณาการข้อมูลข่าวสารจากส่วนกลาง ทุกกระทรวง รวมทั้งกรมประชาสัมพันธ์ และกองอ�านวยการรักษา ความมน่ั คงภายในราชอาณาจกั ร จดั ทา� ขอ้ มลู ขา่ วสารการดา� เนนิ การตามนโยบายรฐั บาล ผลการดา� เนนิ การตามนโยบายรฐั บาล และการปฏิบัติราชการของหน่วยงานที่ส�าคัญท่ีมีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง รวมท้ังการ ช้ีแจงข้อเท็จจริงเพ่ือให้ ประชาชนไดท้ ราบขอ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง ครบถว้ น ใหเ้ ปน็ ภาษาทก่ี ระชบั เขา้ ใจงา่ ยในรปู แบบขอ้ ความ ตามแบบฟอรม์ ทกี่ า� หนดและ สง่ ขอ้ มลู ดงั กลา่ วใหก้ ระทรวงมหาดไทย ซง่ึ จะมคี ณะทา� งานบรู ณาการขอ้ มลู ขา่ วสารเพอ่ื สรา้ งการรบั รสู้ ชู่ มุ ชน (ทมี Admin กลาง) ท�าหน้าท่ีในการก�าหนดประเด็นขอ้ มูล ขา่ วสารจากทกุ หนว่ ยงาน เพอ่ื น�าไปสกู่ ารสรา้ งการรับรใู้ ห้กับประชาชนในระดบั พื้นท่ ี การกา� หนดผงั รายการ หรอื ลา� ดบั การสรา้ งการรบั รสู้ ชู่ มุ ชนใหท้ นั ตอ่ สถานการณแ์ ละสง่ ตอ่ ไปยงั จงั หวดั เพอ่ื ใหจ้ งั หวดั ไดด้ า� เนนิ การ ส่งขอ้ มูลขา่ วสารดงั กลา่ วใหอ้ �าเภอ ทอ้ งถ่ิน และทอ้ งที่ จนถึงประชาชน ๒. แนวทางการสรา้ งการรบั รใู้ นระดบั พน้ื ท ี่ เพอื่ ใหก้ ารขบั เคลอื่ นการสรา้ งการรบั รสู้ ชู่ มุ ชนเปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ จึงใหจ้ ังหวดั อ�าเภอ ดา� เนนิ การดงั น ้ี แนวทางการขับเคลือ่ นการบูรณาการสร้างการรับร้สู ู่ชุมชน นโยบายของรฐั บาล (AGENDA) ภาพท่ี ๑ ภาพรวมการกลไกการขบั เคลอื่ นการสร้างการรบั รู้ 25รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�าปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
๒.๑ ระดับจงั หวดั ๑) แต่งตั้งคณะท�างานบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้ระดับจังหวัด (ทีม Admin จังหวัด) โดยใหม้ ผี วู้ า่ ราชการจงั หวดั เปน็ ประธาน ปลดั จงั หวดั และทอ้ งถนิ่ จงั หวดั เปน็ เลขานกุ ารรว่ ม และองคป์ ระกอบ อื่นตามความเหมาะสม ๒) รับข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้จากกระทรวงมหาดไทย (คณะท�างานบูรณาการข้อมูล ข่าวสาร เพือ่ สร้างการรบั ร้สู ชู่ ุมชน (ทีม Admin กลาง)) ๓) ส่งขอ้ มลู ขา่ วสารดงั กลา่ วให้อา� เภอและองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น เพ่ือนา� ไปสร้าง การรับรู้ในระดบั อ�าเภอและองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ๔) จัดท�าแผนการสร้างการรับรู้และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามข้อ ๑ ผ่านช่องทางที่หลากหลาย เชน่ สถานวี ทิ ยกุ ระจายเสยี งแหง่ ประเทศไทย วทิ ยชุ มุ ชน สถานวี ทิ ยโุ ทรทศั นแ์ หง่ ประเทศไทย (NBT) ในส่วน ภูมิภาค เวทีประชาคม การลงพ้ืนที่ของผู้บริหาร เปิดช่องทางศูนย์ด�ารงธรรมจังหวัด เพ่ือให้เป็นหน่วยให้บริการข้อมูลข่าวสารหรือสื่อโซเชียลของจังหวัด เช่น เว็บไซต์ของจังหวัด, เฟสบ๊กุ (Facebook), ไลน์ (Line) กล่มุ ต่าง ๆ และช่องทางอนื่ ตามบรบิ ทของพื้นท่ ี ๕) ประสานกบั สถานวี ิทยกุ ระจายเสยี งแห่งประเทศไทยในพน้ื ท่ี ขอเวลาในการออกอากาศ ในช่วงเวลา ท่เี หมาะสมในแตล่ ะพนื้ ที่ อย่างน้อยสปั ดาห์ละ ๓ วัน เพอื่ น�าข้อมลู ตามข้อ ๑ และข้อมลู อนื่ ทีเ่ ปน็ ประโยชนก์ บั ประชาชนในแต่ละพ้นื ที ่ ไปสรา้ งการรับรู้ตามชอ่ งทางดงั กลา่ ว โดยให้มผี ้นู �าเสนอข้อมูล ทม่ี ที กั ษะ ในการเลา่ เรอื่ ง ใชภ้ าษาทเ่ี ขา้ ใจงา่ ย หรอื ภาษาถนิ่ ในการสอ่ื สารขอ้ มลู กบั ประชาชนในพนื้ ที่ เชน่ ผวู้ า่ ราชการ จงั หวดั นายอา� เภอ หรอื นกั พดู ทม่ี คี วามเชยี่ วชาญ สบั เปลย่ี นหมนุ เวยี นกนั จดั รายการ และแจง้ ใหท้ กุ หมบู่ า้ น เปดิ รบั ฟังการกระจายเสียงผ่านหอกระจายข่าวในทุกพ้ืนท ี่ ๖) ติดตามการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพ่ือสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในระดับจังหวัด อ�าเภอ ท้องที่ และท้องถ่นิ ๒.๒ ระดบั อา� เภอ/ท้องถนิ่ ๑) แตง่ ตง้ั คณะทา� งานบรหิ ารจดั การขอ้ มลู ขา่ วสารเพอ่ื สรา้ งการรบั รรู้ ะดบั อา� เภอ/ทอ้ งถนิ่ (ทมี Admin อา� เภอ/ ท้องถน่ิ ) โดยมีองค์ประกอบตามความเหมาะสม ๒) รับข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้จากคณะท�างานบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารเพ่ือสร้างการรับรู้ ระดบั จงั หวัด (ทีม Admin จงั หวดั ) ๓) เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามข้อ ๒.๑ ผ่านช่องทางท่ีหลากหลาย เช่น วิทยุชุมชน การลงพ้ืนที่ของ ผบู้ ริหาร การประชมุ ก�านัน ผูใ้ หญ่บา้ น เปิดช่องทางศูนย์ด�ารงธรรมอ�าเภอเพอ่ื ให้เปน็ หนว่ ยใหบ้ รกิ าร ขอ้ มลู ขา่ วสาร สอ่ื โซเชยี ลของอ�าเภอ เชน่ เว็บไซต์, เฟสบกุ๊ (Facebook), ไลน ์ (Line) กลุ่มตา่ ง ๆ และชอ่ งอ่ืนตามบริบทของพ้นื ท ี่ เพอ่ื สรา้ งการรบั รูส้ ่ปู ระชาชนโดยตรง ๔) แจ้งให้หมู่บ้าน/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เปิดรับฟังรายการจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่ง ประเทศไทย ตามข้อ ๒.๑.๕ ในวันและเวลาท่ีจังหวัดก�าหนด และกระจายเสียง ผ่านหอกระจายข่าว อยา่ งต่อเนื่อง ๕) ติดตามการเผยแพรข่ ้อมูลข่าวสารเพอื่ สร้างการรับรใู้ หก้ บั ประชาชนระดบั อา� เภอ ทอ้ งท่ ี และทอ้ งถน่ิ ๒.๓ ระดบั หมบู่ ้าน/ท้องถน่ิ ๑) ก�านัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเปิดรับฟังรายการและกระจายเสียงผ่าน หอกระจายข่าว ตามรายการ วนั และเวลาทจี่ งั หวัดก�าหนด อย่างตอ่ เนือ่ งเป็นประจา� ๒) ตดิ ตามผลการเผยแพรข่ ้อมลู ขา่ วสารเพ่ือสรา้ งการรบั รใู้ หก้ บั ประชาชนในพืน้ ท่ี 26 รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจา� ปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
แนวทางการขับเคลอื่ นการสรางการรบั รสู ชู มุ ชนในระดับพ้�นท่ี คณะทา� งานบรู ณาการขอ้ มลู ขา่ วสารเพอ่ื สรา้ งการรับรู้ส่ชู ุมชน ชอ่ งทางการการเผยแพรร่ ะดบั สว่ นกลาง ( ทมี Admin กลาง ) Line@มหาดไทย/รายการวทิ ยมุ หาดไทยชวนร/ู้ จดหมายข่าวมหาดไทย/วทิ ยุกระจายเสียง ระดับจังหวัด ช่องทางการสง่ ขอ้ มูลไปยงั จงั หวัด แห่งประเทศไทย/โทรทัศน์ NBT/วทิ ยุชุมชน/ ไลน์กลมุ่ Line @ข่าวจรงิ ประเทศไทย/เครอ� ข่ายอาสา \"ขอ้ มลู และการสร้างการรบั ร\"ู้ สมคั ร ด้านการประชาสัมพันธ์ในพ้�นที่ ฯลฯ คณะทา� งานบริหารจดั การข้อมูลข่าวสาร ชอ่ งทางเผยแพร่ระดบั จังหวดั เพอื่ สร้างการรับรู้ระดับจังหวดั • การลงพน�้ ท่ีของขา้ ราชการทกุ ระดับ (ทมี Admin จงั หวัด) • Line กลมุ่ /เวทปี ระชาคม/ การประชมุ ระดบั ตา่ ง ๆ สือ่ ส�ิงพมิ พ์/โทรทศั นท์ ้องถิน� ช่องทางการสง่ ขอ้ มูลไปยงั อา� เภอ • ศนู ยด์ �ารงธรรมจงั หวดั • ไลนก์ ลุ่ม • โทรสาร (หน่วยบริการข้อมลู ขา่ วสาร) • วทิ ยุ สวท. และกระจายเสยี งผ่าน ระดบั อาํ เภอ / ทอ งถ�ิน หอกระจายขา่ วในทกุ หมู่บา้ น/ทอ้ งถน�ิ ฯลฯ คณะทา� งานบรหิ ารจดั การข้อมลู ข่าวสารเพ่อื สรา้ งการรับรู้ ชอ่ งทางเผยแพรร่ ะดบั อา� เภอ / ทอ้ งถ่นิ ระดบั อ�าเภอ / ท้องถิน่ (ทมี Admin อา� เภอ/ท้องถิ่น) • การประชุมกา� นัน ผู้ใหญ่บ้าน • เวทปี ระชาคม • วิทยชุ มุ ชน/โทรทัศน์ทอ้ งถิน� • ศนู ยด์ า� รงธรรมอา� เภอ (หน่วยบริการข้อมลู ข่าวสาร) ฯลฯ ระดับหมบู าน / ชุมชน หมบู่ า้ น / ชุมชน ชอ่ งทางเผยแพรร่ ะดบั หมบู่ า้ น / ชมุ ชน • หอกระจายข่าว (ก�านนั / ผู้ใหญ่บ้าน / ผนู้ า� ชุมชน) • การประชุมคณะกรรมการ หม่บู ้าน ฯลฯ ประชาชน หมายเหตุ : การดา� เนนิ งานในระดบั จงั หวดั อา� เภอ ทอ้ งถิ่น จะต้องมีชอ่ งทางการเผยแพรข่ ้อมลู ข่าวสารไปยงั ประชาชนโดยตรง ภาพที่ ๒ แนวทางการสรา้ งการรับรู้ในระดับพืน้ ท่ี 27รายงานผลการตรวจราชการของผ้ตู รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�าปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ขอ้ เสนอแนะของผตู้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย ๑) ขอให้จังหวัดก�าชับคณะท�างานบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้ระดับจังหวัด ระดับอ�าเภอ และระดบั ทอ้ งถนิ่ ได้ดา� เนินการสร้างการรับรู้สู่ชุมชนโดยเผยแพรข่ อ้ มลู ขา่ วสารในระดบั จังหวดั ระดบั อา� เภอ ระดับท้องถ่นิ และระดบั หมู่บ้าน ชุมชน ใหบ้ ังเกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริงต่อไป ผลการดา� เนินงานตามขอ้ เสนอแนะ จังหวดั ได้มีการแตง่ ตั้งคณะท�างานในระดับจงั หวดั และระดบั อ�าเภอ โดยมีการบรู ณาการทา� งานในทุกภาคสว่ น และจัดท�าแผนกการสร้างการรับรู้และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ผ่านช่องทางท่ีหลากหลาย เช่น สถานีวิทยุกระจายเสียง แห่งประเทศไทย วิทยุชุมชน สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย วิทยุชุมชน สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ในสว่ นภูมภิ าค เวทีประชาคมการลงพ้นื ทข่ี องผู้บรหิ าร เปดิ ช่องทางศนู ยด์ า� รงธรรม เพ่ือใหเ้ ปน็ หน่วยให้บริการข้อมลู ขา่ วสาร หรอื สอ่ื โซเชยี ลของจงั หวดั เชน่ การออกรายงานทางสถานวี ทิ ยกุ ระจายเสยี งฯ รายการผวู้ า่ พบประชาชน ทกุ วนั พธุ ของสปั ดาห ์ รายการเรอื่ งเลา่ เชา้ น ้ี ทกุ วนั เสาร ์ และอาทติ ย ์ ออกรายการทางสถานวี ทิ ยโุ ทรทศั นแ์ หง่ ประเทศไทย เพอื่ นา� ขอ้ มลู ไปสรา้ งการรบั รู้ ตามชอ่ งทางดงั กลา่ ว ทงั้ น ี้ ไดข้ อความรว่ มมอื อา� เภอแจง้ ใหท้ กุ หมบู่ า้ นเปดิ รบั ฟงั การกระจายเสยี งผา่ นหอกระจายขา่ วในทกุ พน้ื ท ี่ ๒) เพือ่ ให้ประชาชนเกดิ ความสนใจในข้อมูลขา่ วสารท่ที างราชการเผยแพร่ ควรสรปุ เนื้อหาให้ส้นั กระชบั เขา้ ใจงา่ ย และจดั ท�าในรปู แบบ Info Graphic เพ่ือดงึ ดูดความสนใจของประชาชน และสามารถสง่ ผา่ นสอ่ื ออนไลน์ไดส้ ะดวกมากย่งิ ข้นึ ผลการด�าเนินงานตามข้อเสนอแนะ การติดตามและประเมินผลการสร้างการรับรู้สู่ชุมชน โดยในระดับจังหวัด และระดับอ�าเภอได้มอบหมาย เจา้ หนา้ ทผ่ี รู้ บั ผดิ ชอบแนะนา� ใหค้ า� ปรกึ ษา หรอื แกไ้ ขปญั หาใหแ้ กอ่ า� เภอ หมบู่ า้ น และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ รบั ฟงั ความเหน็ ของประชาชน และมอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบด�าเนินการบันทึกผลการด�าเนินการในระบบรายงานอิเล็กทรอนิกส์ โดยก�านนั ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมบู่ า้ นได้แนะน�าใหค้ า� ปรึกษา หรอื แกไ้ ขปญั หาให้แกเ่ จา้ หน้าทป่ี ระชาสัมพนั ธ์ ๓) ขอให้จังหวัดบูรณาการการท�างานทุกภาคส่วน ทั้งระดับจังหวัด ระดับอ�าเภอ/ท้องถ่ิน ระดับหมู่บ้าน/ชุมชน ขับเคลอื่ นการด�าเนินงานอย่างต่อเนอื่ ง เพ่ือสรา้ งการรบั รู้ขอ้ มูลขา่ วสารฯ ทถี่ กู ตอ้ งใหก้ ับประชาชนในพนื้ ท ่ี ท้ังนี้ ขอให้มกี าร ประเมนิ ผลการด�าเนนิ งานฯ ว่าประชาชนในพ้ืนทีไ่ ด้รับรู้ข้อมลู ขา่ วสารฯ ทีถ่ กู ตอ้ งและครอบคลุมทุกพืน้ ท่หี รอื ไม่ ผลการด�าเนนิ งานตามขอ้ เสนอแนะ การประเมนิ ผลการสรา้ งการรบั รสู้ ชู่ มุ ชน ไดแ้ ตง่ ตง้ั คณะทา� งานประเมนิ ผลการสรา้ งการรบั รสู้ ชู่ มุ ชน ระดบั ตา� บล ท�าหน้าทีใ่ นการเกบ็ ข้อมูลการประเมินผลการสร้างการรบั รสู้ ู่ชมุ ชน มกี ารประชมุ ชี้แจงคณะท�างาน มอบหมายการเก็บขอ้ มูล และบันทึกข้อมลู ในระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ โดยการรายงานใหด้ า� เนินการทุกรอบ ๖ เดือน (มนี าคมและกันยายน) เม่อื ประเมินผลแล้ว ใหร้ ายงานคณะทา� งานฯ ในระดบั อ�าเภอ 28 รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจา� ปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ยทุ ธศาสตร์ : บแดลร้าะิหนพากัฒราจรนัดปากรรับาะรบสภมบาดคลุ รฐั • การตรวจติดตามผลการด�าเนนิ งาน ของศนู ย์ดา� รงธรรม
การตรวจติดตามผลการดำ� เนินงาน ของศนู ยข์ องดำ� รงธรรม บรกิ ารดว้ ยใจคนไทยยิ้มได้.. กระทรวงมหาดไทยได้ด�ำเนินการโดยให้จังหวัดทุกจังหวัดจัดตั้ง ศูนยด์ �ำรงธรรมจงั หวัดขึ้น มีภารกิจ ตามประกาศ คณะรักษาความสงบแหง่ ชาติ กล่าวคือ เพ่ือท�ำหน้าท่ีในการรบั เรื่องรอ้ งเรยี นร้องทกุ ข์ ให้บรกิ ารขอ้ มูลข่าวสาร ให้ค�ำปรึกษารับเรื่องปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชนและ ท�ำหน้าท่ีเป็นศูนย์บริการร่วมตามมาตรา ๓๒ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย หลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองท่ีดี พ.ศ.๒๕๔๖ โดยจัดต้ังข้ึน ณ ศาลากลางจังหวัดหรอื สถานท่อี น่ื ตามท่เี ห็นสมควร โดยประกาศใหป้ ระชาชน ทราบ และให้กระทรวงมหาดไทยก�ำกับดูแลการบริหารของศูนย์ด�ำรงธรรมและการบริหารงานจังหวัด ให้ด�ำเนินการ อย่างมีประสิทธิภาพประชาชนได้รับความพึงพอใจและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและการจัดตั้งศูนย์ด�ำรงธรรมขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นช่องทางที่รัฐบาล/คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะได้รับทราบความทุกข์สุขของประชาชน และสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ได้รับฟังข้อเสนอแนะหรือได้แก้ไขความคับข้องใจ ของประชาชนได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพและประชาชนไดร้ บั ความพงึ พอใจ โดยไดม้ กี ารจดั โครงสรา้ งและหนา้ ทภี่ ายในศนู ยด์ ำ� รงธรรมจงั หวดั ซงึ่ แบง่ เปน็ กล่มุ งาน/ฝ่ายเพือ่ มอบหมายการปฏิบตั ิงานแต่ละส่วนงาน และดำ� เนนิ งานตามภารกิจงานของศูนย์ด�ำรงธรรม ผลสมั ฤทธขิ์ องศูนย์ด�ำรงธรรมทุกจงั หวดั ท่ัวประเทศ ตามภารกจิ ๗ มิติ ไดแ้ ก่ (๑) การรับเร่ืองรอ้ งเรียน/รอ้ งทุกข์ (๒) บรกิ ารเบด็ เสรจ็ (๓) บรกิ ารสง่ ตอ่ (๔) บรกิ ารดา้ นขอ้ มลู (๕) บรกิ ารใหค้ ำ� ปรกึ ษา (๖) การปฏบิ ตั งิ านของหนว่ ยเคลอื่ นทเ่ี รว็ (๗) การดำ� เนนิ การตามนโยบายส�ำคัญของรฐั บาล การรับความเหน็ การปฏริ ูปประเทศผ่านชอ่ งทางโทรศัพทส์ ายดว่ น ๑๕๖๗ ทางเว็บไซต์ www.damrongdhama.moi.go.th ตู้ ป.ณ. ๑๐๑ ปณฝ.มหาดไทย กรงุ เทพ ฯ ๑๐๒๐๐ และเขา้ มารบั บริการ ดว้ ยตนเอง (Walk in) โดยสรปุ ดังน้ี 30 รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
สรปุ ผลการดา� เนนิ งาน ศนู ย์ด�ารงธรรมจังหวดั ทว่ั ประเทศ ๑. ผลการด�าเนินงานภาพรวมศนู ย์ด�ารงธรรมจงั หวดั ท่ัวประเทศ ตงั้ แต่วนั ท่ี ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ - ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ดงั น้ี ประเภทให้บริการ จา� นวนเรอื่ งเข้า ผลการดา� เนินงาน แล้วเสรจ็ ยตุ ริ อ้ ยละ คงเหลือ คงเหลอื รอ้ ยละ เร่อื งรอ้ งเรยี น/ร้องทกุ ข ๓๓๐,๓๖๖ ๓๒๖,๙๑๔ ๙๘.๙๖ ๓,๔๕๒ ๑.๐๔ บริการเบ็ดเสรจ็ ๓,๔๒๓,๑๐๐ ๓,๔๒๓,๑๐๐ ๑๐๐.๐๐ ๐ ๐ บริการส่งต่อ ๙๗.๙๘ บรกิ ารข้อมลู ๑๐๔,๐๖๒ ๑๐๑,๙๕๙ ๙๙.๙๒ ๒,๑๐๓ ๒.๐๒ บรกิ ารให้คา� ปรึกษา ๖๑๕,๕๓๓ ๖๑๕,๐๑๒ ๑๐๐.๐๐ ๕๒๑ ๐.๐๘ หน่วยเคลื่อนท่เี ร็ว ๓๑๓,๒๓๖ ๓๑๓,๒๓๖ ๘๖.๖๙ ๐ หนน้ี อกระบบ ๕๐,๘๑๓ ๔๔,๐๕๒ ๗๘.๖๒ ๐ ๕๕,๕๗๒ ๔๓,๖๘๘ ๖,๗๘๘ ๑๓.๓๕ ๑,๘๘๔ ๓.๓๙ รวม ๔,๘๙๒,๖๘๒ ๔,๘๖๗,๙๖๑ ๙๙.๔๙ ๑๔,๗๔๘ ๐.๓๐ 31รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�าปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
๒. ผลการด�าเนินงานภาพรวมศนู ยด์ �ารงธรรมจงั หวดั ทวั่ ประเทศ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตั้งแตว่ ันท่ี ๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ดงั น้ี ประเภทให้บรกิ าร จา� นวนเรื่องเขา้ ผลการด�าเนนิ งาน แล้วเสร็จ ยุติรอ้ ยละ คงเหลือ คงเหลอื ร้อยละ เร่ืองรอ้ งเรยี น/รอ้ งทุกข ๖๔,๙๔๓ ๖๒,๓๗๒ ๙๖.๐๔ ๒,๕๗๑ ๓.๙๕ บรกิ ารเบด็ เสร็จ ๒๖๓,๗๓๐ ๒๖๓,๗๓๐ ๑๐๐ ๐ ๐ บรกิ ารส่งตอ่ ๑๐,๖๕๓ ๑๐,๖๕๓ ๑๐๐ ๐ ๐ บรกิ ารขอ้ มูล ๓๘,๘๑๙ ๓๘,๘๑๙ ๑๐๐ ๐ ๐ บริการให้คา� ปรกึ ษา ๒๖,๒๕๖ ๒๖,๒๕๖ ๑๐๐ ๐ ๐ หนว่ ยเคลือ่ นทเ่ี ร็ว ๙ ๑,๙๕๔ ๑,๙๔๕ ๙๙.๕๓ ๐.๔๖ รวม ๔๐๖,๓๕๕ ๔๐๓,๗๗๕ ๙๙.๓๖ ๒,๕๘๐ ๐.๖๓ หมายเหตุ : จ�านวนเร่อื งหนนี้ อกระบบ เป็นจา� นวนเรื่องท่รี วมกบั เรื่องรอ้ งเรยี น/รอ้ งทุกข ์ และเป็นเรอื่ งเฉพาะ ท่ีศูนยด์ า� รงธรรมจังหวดั รบั เร่อื งเท่าน้นั 32 รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจา� ปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ตวั อยา่ ง ผลการดา� เนนิ งานของศูนย์ด�ารงธรรม จงั หวดั สงขลา เรอื่ ง ขอใหเ้ ร่งรดั การกอ่ สร้างถนนและครู ะบายนา�้ ความเป็นมา ศูนยด์ า� รงธรรมจังหวดั สงขลา ไดร้ บั เร่อื งร้องเรยี นกรณี ประชาชนไดร้ บั ผลกระทบจากโครงการกอ่ สรา้ งถนนเพอ่ื ขยาย ไหล่ทางและก่อสร้างคูระบายน้�า บริเวณส่ีแยกบ้านนาหลา ต.ทา่ ขา้ ม อ.หาดใหญ ่ เนอื่ งจากบรเิ วณดงั กลา่ วมกี ารปดิ เสน้ ทาง จราจร และมีการด�าเนินการก่อสร้างล่าช้ากว่าก�าหนด ท�าให้ ประชาชนท่ีสัญจรบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเป็น อย่างมาก ผลการด�าเนนิ การ เม่ือวันท่ี ๒๖ สงิ หาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๑.๐๐ น. ศูนยด์ า� รงธรรมจังหวดั สงขลารว่ มลงพืน้ ทแี่ กไ้ ขปัญหาความเดือดรอ้ น ณ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลทา่ ขา้ ม อ.หาดใหญ ่ จ.สงขลา นายรงุ่ โรจน ์ และสบุ ผอ.กลมุ่ งาน ศดธ.สข. เขา้ รว่ มประชมุ พรอ้ มดว้ ย ผู้แทนนายอ�าเภอหาดใหญ่ ผู้อ�านวยการแขวงทางหลวงชนบทสงขลา และนายก อบต.ท่าข้าม โดยมีนายสมหวัง เรืองเพ็ง รอง ผวจ.สงขลา เปน็ ประธาน เพอ่ื กา� หนดแนวทางการแกไ้ ขปญั หาผลกระทบ โดยเฉพาะการเรง่ รดั ผรู้ บั จา้ งใหด้ า� เนนิ การใหแ้ ลว้ เสรจ็ ส�าหรับโครงการก่อสรา้ งถนนคอนกรีตเสรมิ เหล็ก ถนนสายแยกทางหลวง หมายเลข ๔๓ - บ้านควนหิน ระยะทาง ๐.๔๕๐ กม. ก�าหนดแล้วเสร็จ ในวันท ่ี ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๓ แต่เนื่องจากสภาพปญั หาของพืน้ ท่ ี อาท ิ การปิดถนนแล้วยังมีพน่ี ้องประชาชน บางส่วนยงั คงใชเ้ ส้นทาง การเคลื่อนย้ายแนวเขตประปา เป็นต้น ทา� ให้ผู้รบั จา้ งไมส่ ามารถทจ่ี ะด�าเนนิ การไดอ้ ย่างเตม็ ท่อี ย่างไร กต็ ามแขวงทางหลวงชนบทสงขลาจะได้เรง่ รดั ใหผ้ รู้ บั จา้ งดา� เนนิ การ คาดวา่ จะแลว้ เสรจ็ ภายในวันท่ี ๒๐ กนั ยายน ๒๕๖๓ ประโยชนท์ ี่ประชาชนได้รบั ประชาชนทใ่ี ชเ้ สน้ ทางดงั กลา่ วในการสญั จรไป-มา ไดร้ บั การแกไ้ ขปญั หาอยา่ งเรง่ ดว่ นเพอื่ ใหถ้ นนสายดงั กลา่ วแลว้ เสรจ็ ในเวลาทก่ี า� หนด และประชาชนสามารถกลบั มาใชเ้ สน้ ทางในการสญั จรไดอ้ ยา่ งปกตโิ ดยเรว็ เพอ่ื เปน็ การลดปญั หาการจราจร และลดความส้ินเปลอื งในการทจ่ี ะตอ้ งไปใชเ้ สน้ ทางอน่ื ในการเดนิ ทางอีกด้วย 33รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�าปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
จงั หวดั มกุ ดาหาร เร่ือง ขอใหต้ รวจสอบการตงั้ โรงงานผลิตน้า� ในวดั ความเปน็ มา ๒.๔ กรณีการต้ังวัด ผอ.สนง.พศ.จ.มห. แจ้งว่า เม่ือวันท่ี ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ ผวจ.มุกดาหาร วดั ดงั กลา่ วตง้ั อยใู่ นเขตพนื้ ทอี่ ทุ ยานแหง่ ชาตภิ ผู ายล (ปจั จบุ นั มี มอบหมายให้ ศดธ.จ.มุกดาหาร ร่วมกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ฐานะเปน็ สา� นกั สงฆ)์ และกรมอทุ ยานไดอ้ นญุ าตใหใ้ ชพ้ นื้ ทแ่ี ลว้ ลงพนื้ ทต่ี รวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ และหาแนวทางในการแกไ้ ขปญั หา กรณ ี นางลภสั พร คนเทย่ี ง พรอ้ มพวกประมาณ ๒๐ คน เดนิ ทาง ๒.๕ ผแู้ ทน สนง.สสจ.มห. แจง้ วา่ ไดต้ รวจสอบเบอื้ งตน้ มายนื่ หนงั สอื รอ้ งทกุ ขต์ อ่ ศนู ยด์ า� รงดา� รงธรรมจงั หวดั มกุ ดาหาร แลว้ วดั ยงั ไม่ได้ขออนุญาตผลติ น้า� ดมื่ ซึ่งถอื เป็นความผดิ และ ว่าผู้ร้องและประชาชน บ.บ้านค�าเบิ่มบ่ามโนนสมบูรณ์ รวม จะด�าเนนิ การเปรียบเทยี บปรับตามกฎหมายตอ่ ไป ๑๐๗ คน ไดร้ บั ความเดอื ดรอ้ นมากกวา่ ๑๐ ป ี เนอ่ื งจากหมบู่ า้ น ๒.๖ ผู้แทน สนง.อุตสาหกรรม จ.มห. แจ้งว่า ต้ังอยู่บนภูเขาสูงในอดีตยังมีแหล่งน�้าตามธรรมชาติใช้ในการ ตรวจสอบมอเตอร์ท่ีใช้ในการผลิตน�้าดื่มเบ้ืองต้นแล้ว ไม่อยู่ อุปโภค บริโภค อย่างเพียงพอ ต่อมาต้นปี ๒๕๖๓ มีนายทุน ในเกณฑต์ ามกฎหมายโรงงานแตอ่ ย่างใด มาต้ังโรงงานผลิตน�้าดื่มในพ้ืนที่วัด จึงขอให้หน่วยงานราชการ ๒.๗ ผแู้ ทนสรรพากรพนื้ ทมี่ กุ ดาหาร แจง้ วา่ จากการ ตรวจสอบขอ้ เท็จจริงและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ตรวจสอบหลักฐานเบ้ืองต้นยังไม่มีการช�าระภาษีตาม กฎหมาย ซึ่งจะได้ตรวจสอบรายละเอียดหากอยู่ในเกณฑ์ ผลการด�าเนินการ ตอ้ งชา� ระภาษีก็จะเรยี กเกบ็ ตามกฎหมายตอ่ ไป จากการลงพน้ื ทต่ี รวจสอบข้อเท็จจริง สรุปไดด้ งั น้ี ๒.๑ เจ้าคณะอ�าเภอค�าชะอ ี แจง้ ว่า วัดได้ตดิ ตง้ั ถงั ประโยชนท์ ่ปี ระชาชนได้รับ รองรับน�้าจากภเู ขา จา� นวน ๒ ถงั โดยเป็นถงั คอนกรตี ๑ ถงั ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนกรณีน้�าประปา ความจ ุ ๑๐,๐๐๐ ลติ รและวางระบบทอ่ ลงมาใหช้ าวบา้ นไดใ้ ช ้ ไม่พอใช้ในการอุปโภค บริโภค ได้รับการตรวจสอบ และ ส่วนหมบู่ า้ นจะมถี งั แสตนเลส จา� นวน ๑ ถงั ความจปุ ระมาณ ด�าเนินการแก้ไขแล้ว ซึ่งจะท�าให้สามารถกลับมามีน้�าใช้ได้ ๕,๐๐๐ ลติ ร และวางระบบท่อไปยังวัด ซง่ึ ทผ่ี า่ นมาปริมาณ อยา่ งพอเพยี งอยา่ งยง่ั ยนื รวมทง้ั เปน็ การใหข้ อ้ มลู กบั หนว่ ยงาน น�้าเพียงพอตลอด แต่จะมีปัญหาบ้างในฤดูแล้ง ส่วนฤดูฝน ของรฐั เพอื่ ดา� เนนิ การตรวจสอบในกรณที เ่ี หน็ วา่ มกี ารดา� เนนิ การ น�้าจะมากจนล้นถังทางวัดจึงได้ต้ังโรงงานผลิตน้�าบรรจุขวด ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อท่ีจะเป็นการวางหลักการ ขึ้นภายในวัดและมีไว้เพื่อใช้ในกิจการของวัด และแจกจ่าย ใหท้ ุกคนดา� เนินการอย่างถกู ต้องตอ่ ไป ให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดรอ้ นและมาขอน้า� ๒.๒ ชาวบ้านได้มีการต้ัง คกก.บริหารจัดการน้�า และมีการติดตั้งมิเตอร์ผู้ใช้น�้า โดยเก็บค่าใช้น้�าหน่วยละ ๕ บาท เพ่ือน�าไปเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการและ ซอ่ มแซมกรณมี ีการชา� รดุ เสยี หาย ๒.๓ นายก อบต.บา้ นคอ้ แจง้ วา่ ปจั จบุ นั อบต. ไดร้ บั งบประมาณแก้ไขปัญหาภัยแล้งมาด�าเนินการก่อสร้างหอ ถังสูงในพ้ืนที่บ้านค�าเบิ่มบ่ามฯ โดยการท�าการสูบน้�าจาก ห้วยตาเปะซึง่ มีนา�้ ทั้งปี ซึง่ จะทา� ใหม้ นี �า้ ใช้อย่างเพยี งพอทั้งปี 34 รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจา� ปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
จังหวัดนครพนม เร่อื ง ขอใหต้ รวจสอบข้อเท็จจรงิ ความเปน็ มา ศนู ยด์ �ารงธรรมจังหวัดนครพนมไดร้ ับเรอื่ งร้องเรยี นจากนายพนั ธ ์ ชมภูพระ กบั ราษฎรกลมุ่ ชาติพันธ์ไุ ทโส้ บ้านหว้ ยพระ หมทู่ ่ี ๙ และหมทู่ ี่ ๑๔ ตา� บลทา่ จา� ปา อา� เภอทา่ อเุ ทน จงั หวดั นครพนม กรณกี รมทดี่ นิ ไดม้ คี า� สงั่ อธบิ ดกี รมทด่ี นิ ท ี่ ๓๘๗๙/๒๕๖๒ ลงวันท่ี ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ แต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา ๖๑ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยให้ คณะกรรมการฯ ด�าเนินการสอบสวนตามความในมาตรา ๖๑ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดินว่าการออกโฉนดท่ีดิน จ�านวน ๑๔ แปลง และหนงั สอื รับรองการทา� ประโยชน์ (น.ส.๓ ก.) จา� นวน ๓๒ แปลง ในพื้นทต่ี า� บลทา่ จ�าปา อ�าเภอทา่ อเุ ทน จังหวดั นครพนม ชอบดว้ ยกฎหมายหรอื ไม่ และรายงานความเห็นให้กรมท่ีดินเพือ่ พิจารณา ผลการดา� เนินการ คณะกรรมการฯ ไดส้ อบสวนและประชมุ สรุปความเห็นเมือ่ วนั ท่ี ๒๒ เมษายน ๒๕๖๓ โดยมมี ติเป็นเอกฉันท์ให้เสนอความเห็น ต่ออธิบดีกรมท่ีดินว่าควรเพิกถอนโฉนดท่ีดิน และ น.ส.๓ ก. ทุกแปลง ซ่ึงประธานกรรมการได้มอบหมายให้เลขานุการสรุป รายงานการสอบสวนความเหน็ คณะกรรมการฯ ใหอ้ ธบิ ดกี รมทด่ี นิ พจิ ารณา แตป่ รากฏวา่ เลขานกุ ารเพกิ เฉยและไมร่ ายงานการ สอบสวนดงั กลา่ วให้อธบิ ดีกรมทีด่ ินภายในระยะเวลาตามมาตรา ๖๑ วรรคส่ ี แหง่ ประมวลกฎหมายทด่ี นิ ซ่งึ ท�าใหร้ าษฎรบา้ น ห้วยพระได้รบั ความเดือดรอ้ น จึงมีความประสงคใ์ ห้หนว่ ยงานที่เกยี่ วขอ้ งตรวจสอบเรื่องดงั กลา่ ว และเรง่ รดั ให้สง่ รายงานการ สอบสวนของคณะกรรมการฯ ให้อธิบดีกรมท่ีดนิ เพอื่ พิจารณาด�าเนนิ การ ตามระเบยี บกฎหมายต่อไป ประโยชน์ที่ประชาชนได้รบั ชาวบา้ นกลมุ่ ชาตพิ นั ธไ์ุ ทโส ้ ทไี่ ดย้ นื่ เรอื่ งรอ้ งเรยี นไดร้ บั การแกไ้ ขปญั หาดงั กลา่ วแลว้ และเมอื่ การแกไ้ ขปญั หาไดข้ อ้ ยตุ เิ ปน็ ท่สี ิ้นสดุ ชาวบ้านสามารถกลับมาใช้ชวี ติ ไดอ้ ยา่ งปกติ รวมทงั้ กลบั มาประกอบอาชีพของตนเองได้อีกคร้ัง และยงั เปน็ การทา� ให้ ปัญหาเรอื่ งทด่ี ินมกี ารด�าเนนิ การแกไ้ ขใหถ้ ูกต้องต่อไปอีกดว้ ย 35รายงานผลการตรวจราชการของผูต้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจา� ปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
จังหวดั เพชรบูรณ์ เร่ือง ไดร้ บั ความเดอื ดร้อนจากฟาร์มเล้ียงสกุ รสง่ กล่นิ เหม็น ความเปน็ มา เมอื่ วันท ี่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ศูนยด์ า� รงธรรมจงั หวดั เพชรบรู ณ ์ ลงพืน้ ทตี่ �าบลนาป่า อ�าเภอเมืองเพชรบรู ณ ์ รว่ มกับ หนว่ ยงานทเี่ ก่ียวขอ้ ง ตรวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ กรณมี ปี ระชาชนร้องเรียน/ร้องทุกขผ์ า่ นศนู ย์ดา� รงธรรมจังหวดั ว่า ได้รบั ความเดอื ดร้อน จากการประกอบธุรกจิ ฟารม์ เลีย้ งสกุ ร ของนายสนั ต ิ จนั ทร์คะณา (เจ้าของ) ส่งกลน่ิ เหมน็ ในพื้นท่ีต�าบลนาป่า ผลการดา� เนนิ การ จากการลงพน้ื ทต่ี รวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ พบวา่ ในเบอื้ งตน้ ไมพ่ บกลน่ิ เหมน็ ตามท่ีมีผู้รอ้ งได้ร้องทกุ ข์ แตฟ่ าร์มสุกรดังกล่าว ยงั ไมไ่ ดม้ ีการขอใบอนุญาตเลี้ยงสุกร ทงั้ น ี้ องค์การบรหิ ารสว่ น ต�าบลนาป่า ได้ใหค้ �าแนะน�า และท�าบันทึกใหน้ ายสนั ติฯ เข้าขอ ใบอนุญาตเล้ียงสกุ รในพ้นื ทใ่ี ห้ถูกต้อง ประโยชนท์ ี่ประชาชนได้รับ ประชาชนบริเวณโดยรอบฟาร์มสุกรได้รับการแก้ไข ปัญหาอย่างเร่งด่วน ท�าให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ รวมท้ังกลับมามีอากาศที่ดี ทั้งน้ี ยังเป็นการก�าชับให้เจ้าของ ฟาร์มเล้ียงไก่ในทกุ ที่ให้ด�าเนินการตามกฎหมายให้ถกู ต้อง 36 รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจา� ปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
จังหวัดมหาสารคาม เรือ่ ง การแก้ไขปญั หาหนนี้ อกระบบ ความเป็นมา เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๓๐ น. นายเกียรติศักด์ิ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายธรรมนูญ แกว้ ค�า รองผวู้ า่ ราชการจังหวัดมหาสารคาม นายนราธร ศรประสทิ ธิ์ ปลดั จังหวดั มหาสารคาม มอบหมายให้ มว.อ.ทองแดง ปินะเกป้องกันจังหวัดมหาสารคาม สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดมหาสารคาม น�าโดย มว.ท.ภรันยู มายูร ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดมหาสารคาม และสมาชิก อส.บก.อส.จังหวัดมหาสารคามลงพ้ืนท่ีซุ่มจับกุมเจ้าหน้ี นอกระบบจ�านวน ๒ คน หลงั มชี าวบ้าน ๓ ราย เขา้ รอ้ งเรยี นต่อศูนย์ด�ารงธรรมจงั หวัดมหาสารคาม วา่ ไดร้ บั ความเดือดร้อน จากการเป็นหน้นี อกระบบ (หมวกกนั นอ็ ครายวนั ) โดยตอ้ งจา่ ยดอกเบ้ียสูงถงึ รอ้ ยละ ๒๐ ต่อ ๒๔ วัน ผลการด�าเนนิ การ จังหวัดมหาสารคามได้ด�าเนินการลงพื้นท่ีดังกล่าวเม่ือเจ้าหนี้นอกระบบมาถึงและได้มีการจ่ายเงินกันเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าท่ีท่ีดักซุ่มดูอยู่ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้ตัวเจ้าหน้ีนอกระบบ ๒ ราย ประกอบด้วยนายดนัย วงษ์ค�านา อายุ ๔๒ ป ี ชาวจังหวัดระนอง และนายศักด์ิดา เอ่ียมคุ้ม อายุ ๒๙ ปี ชาวจังหวัดชัยนาท โดยสอบถามท้ังสองทราบว่าได้ปล่อยเงินกู้ ใหก้ บั แม่ค้าทีม่ หาสารคาม รายละ ๖,๐๐๐ – ๑๐,๐๐๐ บาท โดยตอ้ งจ่ายคืนวันละ ๓๐๐ – ๕๐๐ บาท จากนนั้ เจ้าหน้าท่ี ได้ตรวจค้นรถยนต์ของผู้ต้องหาพบเงินสดจ�านวน ๓,๐๐๐ บาท ซ่ึงผู้ต้องหายอมรับว่าเก็บมาจากลูกค้าท่ีจังหวัดร้อยเอ็ด และกระดาษรายช่ือลูกค้าจ�านวน ๑ แผ่น ด้วย จึงได้ควบคุมตัวบุคคลท้ังสองพร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงิน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าท่ีกฎหมายก�าหนด พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาน�าส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม เพื่อด�าเนินคดตี ามกฎหมายตอ่ ไป ประโยชนท์ ี่ประชาชนได้รบั ประชาชนสามารถด�ารงชีวิตประจ�าวันได้อย่างเป็นปกติ และได้รับความเป็นธรรมจากการเก็บดอกเบ้ียเกินอัตราท่ี กฎหมายกา� หนด รวมทงั้ ปราบปรามผกู้ ระทา� ความผดิ ทา� ใหม้ คี วามเชอ่ื มน่ั ในการปฏบิ ตั งิ านของเจา้ หนา้ ทจี่ งั หวดั มหาสารคาม 37รายงานผลการตรวจราชการของผูต้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�าปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
จังหวดั พระนครศรีอยุธยา เร่อื ง ถวายฎกี าฯ กรณี ขอความช่วยเหลอื บุตรชายปว่ ย ความเป็นมา ตามท ่ี ผวจ.อย. ไดส้ งั่ การให ้ ศดธ.อย. บรู ณาการหนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ ง ตดิ ตามใหค้ วามชว่ ยเหลอื กรณนี างสาวศนกิ านต์ ค�าหอมกุล ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานพระมหากรุณาให้ทรงรับบุตรชายเป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ เน่ืองจาก ป่วยดว้ ยโรคไตอักเสบลูปัส โรคบกพรอ่ งทางการเรียนรู้และโรคสมาธสิ ัน้ นัน้ ผลการดา� เนนิ การ เมอ่ื วนั ท ี่ ๙ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๓๐ น. ณ บา้ นเลขท ่ี ๕๖/๑ ม.๑ ต.สะพานไทย อ.บางบาล จ.พระนครศรอี ยธุ ยา ศดธ.อย. ได้บูรณาการหนว่ ยงานทีเ่ กีย่ วข้อง ประกอบดว้ ย สา� นกั งาน พมจ. อ.บางบาล อบจ. ทต.มหาพราหมณ ์ รพ.บางบาล กา� นัน ผู้ใหญ่บา้ น ลงพื้นท่ตี ดิ ตามและหารอื แนวทางการใหค้ วามชว่ ยเหลือ โดยมผี ลการหารือร่วมกนั สรุปไดด้ งั นี ้ ๒.๑ ดา้ นการให้ความช่วยเหลอื อาชีพ • เมอื่ เดือน ธ.ค. ๖๒ พมจ. ไดม้ อบเงินสงเคราะหผ์ ้ปู ระสบปญั หาทางสังคม กรณฉี กุ เฉิน จ�านวน ๒,๐๐๐ บาท เพ่ือเป็นทุนตั้งต้นในการประกอบอาชีพ หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องจึงได้แนะน�าให้ น.ส.ศนิกานต์ฯ ประกอบอาชีพค้าขายเพ่ิมเติม เพอื่ เปน็ การสรา้ งรายได้อีกทางหนึ่ง จากเดิมทีข่ ายสินคา้ ออนไลนเ์ พยี งอยา่ งเดยี ว โดยทา� การคา้ ขายท่ตี ลาดนดั ในพืน้ ที่ จา� นวน ๒ แหง่ คอื บรเิ วณหนา้ อา� เภอและหนา้ วดั แกว้ โดยสามารถขอรบั ทนุ สนบั สนนุ เพมิ่ เตมิ จากเทศบาลฯ ไดอ้ กี จา� นวน ๒,๐๐๐ บาท หลงั จากนนั้ เมอื่ ประกอบอาชพี คา้ ขายไดร้ ะยะหนงึ่ แลว้ สามารถขอกยู้ มื เงนิ จากกองทนุ สง่ เสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนพกิ าร ของ พมจ. วงเงนิ อนุมัติไม่เกนิ ๔๐,๐๐๐ บาท เพ่ือเพิ่มศกั ยภาพในการพฒั นาอาชีพต่อไป ๒.๒ ดา้ นการรกั ษาพยาบาลของบตุ รชาย • เนื่องจากบุตรชายของ น.ส.ศนิกานต์ฯ ได้ข้ึนทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประเภทผู้พิการ จงึ สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลของรฐั ได้ทุกแห่งทว่ั ประเทศ และในปจั จบุ นั อ.บางบาล ได้ประสานหน่วย กู้ภัยในพน้ื ที่ เพื่อรบั -สง่ ในการเดินทางไปรักษาท่ ี รพ.ธรรมศาสตร์ เฉลมิ พระเกยี รติ จ.ปทุมธานี ๒.๓ ด้านการศึกษาของบตุ รชาย • เดก็ ชายปธานนิ ฯ ไดห้ ยดุ เรยี นตง้ั แตเ่ ดอื น ก.ค. ๖๒ ปจั จบุ นั อยรู่ ะหวา่ งรอผลการประเมนิ ของแพทย ์ วา่ จะสามารถ เขา้ เรยี นรว่ มกบั ผอู้ นื่ ไดห้ รอื ไม ่ หากเขา้ เรยี นได ้ พมจ. มที นุ การศกึ ษาของกองทนุ คมุ้ ครองเดก็ มอบใหป้ ลี ะ ๑ ครงั้ จา� นวนเงนิ ทนุ จะเพม่ิ ข้ึนตามระดับการศกึ ษา โดยเทศบาลฯ จะเปน็ ผปู้ ระสานงานในเรอ่ื งน้ ี ๔. ดา้ นการปรับปรุงซอ่ มแซมที่อยอู่ าศยั • เทศบาลฯ อยรู่ ะหวา่ งการดา� เนนิ การจดั ทา� ประมาณการ เพอ่ื ขอรบั การสนบั สนนุ งบประมาณจาก พมจ. ในการปรบั ปรงุ ซ่อมแซมทอ่ี ย่อู าศยั ในส่วนของพ้นื บ้านท่ชี �ารดุ ทรดุ โทรม ทั้งนี้ เม่อื เดือน มี.ค. ๖๒ อบจ.ได้สนับสนนุ เงินจากกองทุนฟ้ืนฟสู มรรถภาพ ผพู้ ิการ ปรับปรุงซ่อมแซมห้องน�า้ ใหม่ จ�านวน ๒๐,๐๐๐ บาท สา� หรบั ประเด็นข้างต้น หนว่ ยงานทเี่ กย่ี วข้องได้ชี้แจงระเบยี บ ขนั้ ตอน การดา� เนนิ งานของหนว่ ยงานภาครฐั ใหผ้ ทู้ ลู เกลา้ ฯ ถวายฎกี าทราบและเขา้ ใจดแี ลว้ ซงึ่ ผทู้ ลู เกลา้ ฯ เกดิ ความรสู้ กึ สบายใจและอบอนุ่ ใจ ทีห่ นว่ ยงานตา่ ง ๆ เข้ามาสอบถามและให้ความชว่ ยเหลือ และยนิ ดจี ะปฏิบัตติ ามค�าแนะน�าของหน่วยงานภาครฐั ต่อไป ประโยชน์ทป่ี ระชาชนไดร้ บั ไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื เบอ้ื งตน้ ทง้ั ดา้ นความชว่ ยเหลอื ด้านอาชีพ ดา้ นการรักษาบุตร และด้านการศึกษาบุตร ทา� ให้ สามารถดา� รงชีพไดด้ มี ากย่งิ ขึน้ 38 รายงานผลการตรวจราชการของผูต้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�าปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา เรือ่ ง ทลู เกล้าฯ ถวายฎีกา ขอพระราชทานความช่วยเหลือ ความเปน็ มา จงั หวัดฉะเชงิ เทราไดร้ บั แจง้ จากสา� นกั งานองคมนตร ี กรณ ี นางสา� เนยี ง อยู่เจรญิ อยู่บา้ นเลขท ่ี ๕๙ หม่ทู ่ ี ๓ ต�าบล วังตะเคียน อ�าเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกา ความว่า ราษฎรในพื้นท่ีปลูกสร้าง บ้านพักอาศัยต้ังอยู่ริมคลอง ได้รับความเดือดร้อนประสงค์ขอพระราชทานความช่วยเหลือ ในการจัดหาน�้าประปาและ การปรบั ปรุงซ่อมแซมทางเดินรมิ คลอง ผลการดา� เนินการ เมอ่ื วันท ี่ ๓ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ ศนู ย์ดา� รงธรรมจังหวัดฉะเชงิ เทรา ร่วมกับอา� เภอเมอื งฉะเชงิ เทรา องคก์ ารบริหารส่วนตา� บล วังตะเคียน และผู้ใหญ่บ้าน /ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ ๓ ลงพ้ืนท่ีติดตามผลความคืบหน้าการด�าเนินการให้ความช่วยเหลือ แกร่ าษฎรผไู้ ดร้ ับความเดือดรอ้ นกรณดี งั กล่าว โดยสรุปขอ้ เทจ็ จรงิ และผลการด�าเนินการได้ ดงั น้ี ๒.๑ เดมิ ผทู้ ลู เกลา้ ฯ อาศยั เดนิ เทา้ จากบา้ นพกั ผา่ นทดี่ นิ สว่ นบคุ คล (โรงงานผลติ เสน้ กว ยเตย๋ี ว/เสน้ ขนมจนี ) เพอื่ ออกสู่ ถนนสาธารณะ (กอ่ น ป ี พ.ศ. ๒๕๔๙) ต่อมาได้มีปญั หาขดั แย้งกับเอกชนรายดงั กล่าว จงึ ได้ท�าการปดิ กั้นทางเขา้ ออก โดยต้งั แต่ นนั้ มาถงึ ปจั จบุ นั ผทู้ ลู เกลา้ ฯ จงึ อาศยั ทางเดนิ เทา้ ทางอน่ื โดยลดั เลาะมาตามรมิ คลองลาว ซงึ่ ยงั คงตอ้ งผา่ นทด่ี นิ ของเอกชนราย ดงั กลา่ ว มาถงึ ทา้ ยซอยออกสถู่ นนสาธารณะ ระยะทางโดยประมาณ ๓๙๐ เมตร ซงึ่ ทางเดนิ เทา้ ดงั กลา่ วมสี ภาพคอ่ นขา้ งทรดุ โทรม และมตี น้ ไมข้ วางทางผา่ น ๒.๒ จากการส�ารวจพ้ืนท่ีดังกล่าว พบว่า มีชาวบ้านอยู่อาศัยจ�านวน ๑๐ หลังคาเรือน ประชากร ๕๖ ราย และ ทผี่ า่ นมา หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งไดม้ กี ารสา� รวจรงั วดั แนวเขตทด่ี นิ บรเิ วณรมิ คลองลาวซง่ึ เปน็ เสน้ ทางเดนิ เทา้ ทผี่ ทู้ ลู เกลา้ ใชส้ ญั จร ปจั จบุ ัน พบว่า มีพนื้ ทสี่ าธารณะเพียงพอส�าหรบั ท�าทางเดินเท้าบรเิ วณรมิ คลองลาว (กว้างประมาณ ๑.๕๐ เมตร) โดยองค์การ บริหารส่วนต�าบลวังตะเคียนจะเร่งรัดด�าเนินการปรับสภาพทางเดินริมคลองลาวซึ่งเป็นทางสาธารณะให้สามารถเดินทาง ผา่ นเขา้ -ออก ได้โดยสะดวกให้เสรจ็ สิ้นโดยเรว็ และจะไดป้ ระสานการประปาส่วนภมู ภิ าคสาขาฉะเชงิ เทรา เพื่อวางท่อประปา ตามแนวเสน้ ทางสาธารณะใหก้ บั ผู้ทูลเกลา้ ฯ ในลา� ดบั ต่อไป ทั้งน ี้ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลวงั ตะเคียนรับวา่ จะเขียนแบบและ ขออนุมัตงิ บประมาณใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในเดอื น กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๓ ๒.๓ เอกชนรายดงั กลา่ วยนิ ดใี หค้ วามรว่ มมอื แกอ่ งคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลวงั ตะเคยี นในการนา� แบค็ โฮและเครอื่ งจกั ร เขา้ พน้ื ท่ีของตนเพื่อด�าเนนิ การปรับสภาพเส้นทางใหแ้ ก่ผทู้ ลู เกล้าฯ ประโยชน์ท่ปี ระชาชนได้รบั ประชาชนมีชวี ติ เปน็ อยูท่ ่ีดขี ึ้นในทุก ๆ ดา้ น ท้งั ดา้ นท่อี ยู่อาศยั ดา้ นรายได้ และลดปญั หาความขัดแยง้ ในพ้ืนที่ 39รายงานผลการตรวจราชการของผตู้ รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�าปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
จังหวัดสิงหบ์ ุรี เร่อื ง ทลู เกลา้ ฯ ถวายฎีกา ขอความช่วยเหลอื ความเปน็ มา เมื่อวันท่ี ๑๐ สงิ หาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๓.๓๐ น. ศนู ยด์ �ารงธรรมจังหวดั สิงห์บรุ ี ได้ลงพืน้ ท่ีร่วมกบั ส�านกั งานพฒั นาสงั คม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสิงห์บุรี อ�าเภอค่ายบางระจัน เทศบาลต�าบลโพสังโฆ สาธารณสุขอ�าเภอ และผู้ใหญ่บ้าน ในพน้ื ท ี่ ตรวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ และหาแนวทางการชว่ ยเหลอื แก ่ นางสาวพรรตั น ์ อบกลนิ่ ทไ่ี ดท้ ลู เกลา้ ฯ ถวายฎกี า ขอพระราชทาน ความชว่ ยเหลอื กรณี ตนมีภาระเล้ียงด ู นายนริทร์ อาทร (น้องชาย) ทีเ่ ป็นผู้ป่วยติดเตียง แตค่ รอบครวั มรี ายได้ไมเ่ พียงพอตอ่ การด�ารงชีพและไม่สามารถรับภาระคา่ อุปกรณท์ างการแพทย์ส�าหรบั ดูแลผู้ป่วยตดิ เตยี งไหว ผลการดา� เนนิ การ แนวทางการชว่ ยเหลือ ๒.๑ ส�านักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสิงห์บุรี ได้ด�าเนินการจัดท�าบัตรประจ�าตัวคนพิการ ให้กับผู้ป่วยติดเตียง เพื่อที่จะได้รับสิทธิประโยชน์จากทางรัฐบาล และได้ช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทางสังคม กรณฉี กุ เฉนิ จา� นวน ๒,๐๐๐ บาท พรอ้ มกบั แนะนา� ใหผ้ ทู้ ลู เกลา้ ฯ พจิ ารณากยู้ มื เงนิ จากกองทนุ สง่ เสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนพกิ ารเพือ่ มาลงทุนประกอบอาชพี ได ้ โดยไมต่ ้องเสียดอกเบยี้ ๒.๒ สา� นกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั สงิ หบ์ รุ ี ไดพ้ จิ ารณาสนบั สนนุ เตยี งสา� หรบั ผปู้ ว่ ยตดิ เตยี ง และอปุ กรณท์ า� แผลสา� หรบั ผู้ปว่ ย พร้อมกบั ให้ รพ.สต.ในพืน้ ท ่ี ลงทา� กายภาพบา� บัดให้กบั ทางผู้ป่วยอย่างต่อเนอ่ื ง ๒.๓ นายกเทศมนตรตี า� บลโพสงั โฆ ไดช้ ว่ ยเหลอื เงนิ สว่ นตวั ใหผ้ ทู้ ลู เกลา้ ฯ อกี เดอื นละ ๑,๐๐๐ บาท ซง่ึ จงั หวดั สงิ หบ์ รุ ี จะจดั ประชุมเพื่อตดิ ตามการชว่ ยเหลอื ผทู้ ูลเกล้าฯ เพือ่ ให้สามารถช่วยเหลอื ตนเองได้ในการด�ารงชพี ในระยะยาวตอ่ ไป ประโยชน์ท่ปี ระชาชนได้รับ ประชาชนท่ไี ดร้ ับความเดือดรอ้ นในเรือ่ งต่าง ๆ ไดร้ บั การแกไ้ ขปญั หาจากหนว่ ยงานของรฐั และหน่วยงานทเ่ี กย่ี วข้อง ในการชว่ ยเหลอื เบอ้ื งตน้ เพอ่ื ทจี่ ะสามารถดา� รงชพี อยไู่ ดต้ ามสมควร ซง่ึ หนว่ ยงานฯ จะรว่ มกนั หาทางแกไ้ ขปญั หาในระยะยาวตอ่ ไป 40 รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจา� ปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
จงั หวัดลา� ปาง เร่ือง คดั ค้านโครงการปรบั ปรงุ ระบบสง่ น้�าอ่างเก็บน้า� แมม่ อน อนั เนือ่ งมาจากพระราชด�าริ อา� เภอแมท่ ะ ความเป็นมา เม่ือวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๐๐ น. ศูนย์ด�ารงธรรมจังหวัดล�าปาง น�าโดยนางศุกลรัตน์ จันทร์มณ ี ผู้อ�านวยการกลมุ่ งานศูนยด์ า� รงธรรมจงั หวัด รว่ มกบั หน่วยงานที่เกย่ี วข้อง ได้แก่ โครงการชลประทานลา� ปาง, สนง.ทรพั ยากร ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมจังหวดั ลา� ปาง, กอ.รมน., อ�าเภอแมท่ ะ ส�านกั จดั การทรัพยากรปา่ ไมท้ ี่ ๓ ลา� ปางและราษฎรในพืน้ ท่ี ลงพน้ื ท่ตี รวจสอบเรื่องร้องทกุ ข์/รอ้ งเรยี น กรณีราษฎรขอคัดคา้ นโครงการปรับปรงุ ระบบสง่ น้�าอ่างเก็บนา้� แมม่ อนอนั เน่อื งมาจาก พระราชด�าร ิ อ�าเภอแม่ทะ ผลการด�าเนินการ จากการประชุมมีชาวบ้านเข้าร่วมประมาณ ๘๐ ครัวเรือน จากท้ังหมด ๑๒๐ ครัวเรือน ซึ่งเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย และสนับสนุนให้ด�าเนินโครงการดังกล่าวต่อไป ท้ังน้ี ได้มอบหมายให้ ชป.ล�าปาง ก�านัน ผู้ใหญ่ สนง.ทสจ. ท�าความเข้าใจ กับกลุ่มผู้คัดค้านเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน ๗ วันเวลา ๑๔.๐๐ น. ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีราษฎร ขอความอนเุ คราะหซ์ อ่ มแซมพนงั กน้ั ตลง่ิ พงั บรเิ วณพนื้ ทห่ี มทู่ ี่ ๒ บา้ นนา�้ โทกหวั ดง ตา� บลแมท่ ะ อา� เภอแมท่ ะ สรปุ วา่ มอบหมาย ให้เทศบาลต�าบลแม่ทะ ซ่ึงได้ส�ารวจและออกแบบแล้ว ขอรับการสนับสนุนงบประมาณด�าเนินการจากหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เพอ่ื ดา� เนนิ การแกไ้ ขปญั หาโดยการกอ่ สรา้ งหนิ เรยี งยาแนวกน้ั ตลงิ่ เพม่ิ ความสงู จากของเดมิ บรเิ วณสองชว่ ง ชว่ งแรกสงู ประมาณ ๓ เมตร ยาว ๑๕ เมตร และชว่ งทีส่ องสงู ประมาณ ๓ เมตร ยาว ๒๕ เมตร ประโยชนท์ ป่ี ระชาชนไดร้ ับ ไดร้ บั การแกไ้ ขปญั หาอยา่ งเรง่ ดว่ น โดยมหี นว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบไปดา� เนนิ การในสว่ นทเ่ี กย่ี วขอ้ งแลว้ ซง่ึ จะทา� ใหไ้ ดร้ บั การแก้ไขปญั หาเร่อื งพนังกน้ั นา้� ท่ีเกดิ ความเสยี หายตอ่ ไป และทา� ให้ไม่เกดิ ความแตกแยกในพืน้ ที่ 41รายงานผลการตรวจราชการของผ้ตู รวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจ�าปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
แผนการพัฒนาศูนย์ดา� รงธรรม ปี ๒๕๖๔ ๑. ยกระดบั ศนู ยด์ �ารงธรรมจงั หวัดเปน็ ศนู ย์ราชการสะดวก ๒. พฒั นาระบบงานรบั เรอื่ งร้องเรียน รอ้ งทุกข ์ ระบบ Call Center ๓. เช่ือมโยงข้อมูลเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์กับหน่วยงานต่าง ๆ ท้ังภายในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และภายนอก (กรมในสงั กัดกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานภาคีเครอื ข่าย เช่น สา� นกั งานปลัดส�านกั นายกรฐั มนตร ี สา� นกั คณะกรรมการ คุม้ ครองผบู้ รโิ ภค สา� นกั งานตา� รวจแหง่ ชาติ กระทรวงดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคม ฯลฯ) ๔. ประชาสัมพันธ์เชญิ ชวนให้ประชาชนร้องเรียนรอ้ งทุกข์ผ่านช่องทาง Social Media ของศนู ย์ด�ารงธรรม ๕. เรง่ รดั การตรวจสอบเร่อื งที่ประชาชนทลู เกล้าฯ ถวายฎีกาในพน้ื ท่ ี ทง้ั เรอ่ื งที่คงคา้ งการด�าเนนิ การและเรอ่ื งทร่ี ับ เขา้ ใหม ่ โดยเชญิ หน่วยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ งมาบรู ณาการแก้ไขปญั หาร่วมกนั รวมทั้งช้แี จงท�าความเข้าใจกับประชาชนใหท้ ราบถึง ข้ันตอนกระบวนการในการด�าเนนิ การในเรอ่ื งน้นั ฯ ดว้ ย โดยถอื เป็นความเร่งดว่ นลา� ดบั แรก ทีต่ ้องด�าเนินการ ๖. ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์และเร่ืองท่ีประชาชนขอความช่วยเหลือผ่านศูนย์ด�ารงธรรมจังหวัดและอ�าเภอ ว่าเร่ืองท่ีไม่สามารถแก้ไขปัญหาในพ้ืนที่ได้น้ันเป็นเร่ืองประเภทใดหรือแก้ไขไม่ได้เพราะเหตุใด รวมทั้งรวบรวมข้อเสนอแนะ หรอื ความต้องการการชว่ ยเหลอื จากหน่วยงานส่วนกลาง เพอ่ื ก�าหนดแนวทางในการแกไ้ ขปัญหาใหไ้ ดข้ อ้ ยตุ ิโดยเร็ว ข้อเสนอแนะของผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ๑) ให้ตรวจสอบเรื่องท่ีประชาชนทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาในพื้นท่ีทั้งเรื่องท่ีคงค้างการด�าเนินการและเร่ืองท่ีรับเข้าใหม ่ ขอใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั ทกุ จงั หวดั เรง่ รดั ดา� เนนิ การโดยใหเ้ ชญิ หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งมาบรู ณาการแกไ้ ขปญั หารว่ มกนั นอกจากนนั้ ขอให้ช้ีแจงท�าความเข้าใจกับประชาชนให้ทราบถึงข้ันตอนกระบวนการในการด�าเนินงานในเร่ืองนั้น ๆ ด้วยและให้ถือเป็น ความเร่งดว่ นล�าดบั แรกทีต่ ้องดา� เนินการ ๒) เนอื่ งจากรฐั บาลใหค้ วามสา� คญั กบั การแกไ้ ขปญั หาความเดอื ดรอ้ นของประชาชนโดยใชก้ ลไกของศนู ยด์ า� รงธรรม ดงั นน้ั จงึ ขอใหต้ รวจสอบเรอื่ งร้องเรียนและเร่อื งท่ีประชาชนขอความชว่ ยเหลอื ผ่าน ศนู ยด์ �ารงธรรมจังหวัดและอ�าเภอว่าเรือ่ ง ท่ไี มส่ ามารถแกไ้ ขปญั หาในพนื้ ท่ไี ดน้ ้นั เปน็ เรือ่ งประเภทใด หรอื แกไ้ ขไม่ไดเ้ พราะเหตุใดหากมีข้อเสนอแนะหรอื ต้องการขอให้ สว่ นกลางเขา้ รว่ มในการแกไ้ ขปญั หากใ็ หแ้ จง้ มายงั กระทรวงมหาดไทยเพอื่ จะไดก้ า� หนดแนวทางในการแกไ้ ขปญั หาใหไ้ ดข้ อ้ ยตุ ิ โดยเรว็ ๓) เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาและจัดระเบียบสังคม เพ่ือให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็น สังคมน่าอยู่ จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดพิจารณาด�าเนินการสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับพ่ีน้องประชาชนใน การปฏิบตั ิงานของเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะในเรื่องของการบังคบั ใช้กฎหมายทอ่ี าจส่งผลกระทบต่อวถิ ีชีวิต ความเปน็ อย ู่ การท�า มาหากินโดยสุจริตและความสะดวกสบายของประชาชน โดยขอให้มุ่งเน้นการท�างานแบบบูรณาการทั้งกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนทุกฝ่าย นอกจากน้ันขอให้จังหวัดก�าหนดมาตรการที่เหมาะสมเพ่ือบรรเทาผลกระทบแก่ประชาชนจากการ ด�าเนินงานตามนโยบายดังกล่าวดว้ ย 42 รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ประจา� ปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
Search