Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา

นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา

Published by ธนิต ภูพลอย, 2022-03-07 08:10:31

Description: นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา

Search

Read the Text Version

96 1) การค้นหาความรจู้ ากท่ีอยขู่ องขอ้ มลู บนอินเทอร์เนต็ (Uniform Resource Locator : URL) เป็นการค้นหาข้อมลู ความรโู้ ดยพิมพ์ท่ีอยู่ของข้อมลู ท่ีต้องการค้นหาลงในช่อง ที่กำหนด โดยผู้ค้นหา จะต้องทราบท่อี ยขู่ องเว็บไซตก์ ่อน 2) การหาข้อมูลโดยใช้ซอฟต์แวรค์ น้ ผา่ นเว็บ (Web browser) มี 2 วิธี คือ 2.1) การสืบคน้ (Browse) เป็นการเปิดดูเอกสารไปเรอื่ ยๆ ผ่านการเช่อื มโยง (Link) 2.2) การค้นหา (Search) โดยใช้ระบบโปรแกรมค้นหา (Search engine) โดยใช้คำ สำคญั (Keyword) ในการหาขอ้ มลู 3.7.4.2 เทคนคิ ในการหาข้อมูลโดยใช้ Search engine 1) บีบประเด็นให้แคบลง 2) ใช้คำที่ใกลเ้ คียงกนั 3) การใช้คำหลกั (Keyword) 4) หลกี เลีย่ งการใชต้ วั เลขโดยไม่จำเปน็ 5) ใช้เครื่องหมาย + หรอื – ในการชว่ ยคน้ หาข้อมูล 3.7.4.3 คณุ ธรรมและจริยธรรมในการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ 1) ปฏบิ ัติตามกฎ กติกา และมารยาททีแ่ ตล่ ะเว็บไซตก์ ำหนด 2) การใช้ E-mail ควรหม่ันลบจดหมายเพ่ือให้พ้นื ทีใ่ นการรบั -สง่ จดหมายมากขึ้น และไม่ ควรสง่ จดหมายลกู โซไ่ ปสรา้ งความรำคาญใจให้ผ้อู นื่ 3) การแชตนั้น ควรสนทนากับผู้ที่ต้องการสนทนาด้วยเท่านั้น ควรใช้คำสุภาพและไม่ ละเมดิ เรอ่ื งสว่ นตวั 4) การใช้เว็บบอร์ด ห้ามพาดพิงสถาบันสำคัญ ห้ามเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลลามา อนาจาร 5) การใช้ข้อมูลของเว็บไซต์ทางอินเทอร์เน็ต ไม่ควรคัดลอกไปใช้ในเชิงธุรกิจและไม่ควร แอบอา้ งข้อมลู ของผูอ้ ื่นไปเป็น ขอ้ มลู ของตนเอง 6) การส่งไฟล์ข้อมูล ไม่ควรสง่ ไฟล์ข้อมูลที่มีกลุ่มซอฟต์แวร์ประสงค์ร้าย เชน่ ไวรัส ไปให้ ผูอ้ ่นื

97 3.7.5 โดเมนเนม (Domain name) โดเมนเนม หมายถงึ ช่ือเว็บไซต์ ชอื่ บล็อก ซง่ึ เปน็ ชอ่ื ทีต่ ้ังขนึ้ เพ่อื ให้จดจำไดง้ า่ ย เกิดจากการ แปลงหมายเลขไอพีซึ่งประกอบไปด้วย ไอพีสาธารณะ (Public) และไอพีส่วนบุคคล (Private) ให้ กลายเปน็ ชือ่ โดเมน โดยโดเมนสามารถแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คอื 3.7.5.1 โดเมน 2 ระดับ เปน็ โดเมนทมี่ สี ่วนประกอบ 2 ส่วนหลัก คอื ชื่อโดเมนและประเภท ของโดเมน เชน่ Wikipedia.org เป็นตน้ ประเภทของโดเมน 2 ระดบั 1) .com บรษิ ัทหรือองคก์ รพาณิชย์ 2) .org องค์กรเอกชนไมแ่ สวงหาผลกำไร 3) .net องคก์ รท่เี ปน็ เกตเวย์ หรือจดุ เช่ือมต่อเครอื ขา่ ย 4) .edu สถาบันการศึกษา 5) .gov องคก์ รทานทหาร 3.7.5.2 โดเมน 3 ระดับ เป็นโดเมนที่มีส่วนประกอบ 3 ส่วนหลัก คือ ชื่อโดเมน,ประเภท โดเมน และประเทศ เช่น google.co.th เปน็ ต้น ประเภทของโดเมน 3 ระดับ 1) .co บรษิ ทั หรอื องคก์ รพาณิชย์ 2) .ac สถาบันการศกึ ษา 3) .go องค์กรรฐั บาล 4) .net องคก์ รให้บริการเครอื ข่าย 5) .or องคก์ รเอกชนท่ไี มแ่ สวงผลกำไร 3.8 สารสนเทศเพือ่ ใช้ในการจดั การเรยี นรู้ 3.8.1 ความหมาย ICT ICT (Information Communication Technology) หมายถึง การติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวกับ ขอ้ มูลข่าวสารโดยใช้เทคโนโลยี

98 I (Information) หมายถึง ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ต่างๆ ที่บันทึกเป็นระบบเพื่อนำมาใช้ งาน C (Communication) หมายถงึ การติดต่อสือ่ สาร T (Technology) หมายถึง คอมพวิ เตอร์และโทรคมนาคม ความหมายโดยรวม ของ ICT ก็คือ เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ การสื่อสาร เป็น เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างงาน การ สื่อสารขอ้ มลู ฯลฯ ซ่งึ รวมไปถงึ การให้บริการ การใช้ และการดูแลข้อมลู 3.8.2 องคป์ ระกอบ ICT ประกอบด้วย 5 สว่ น คือ ฮารด์ แวร์ ซอร์ฟแวร์ บุคลากร ข้อมูลและขน้ั ตอนปฏบิ ัติงาน 1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) คือ เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้งานในระบบสารสนเทศ แบง่ ตามการทำงาน 2. ซอฟต์แวร์ (Software) คือ โปรแกรมหรือคำสัง่ ที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็น ซอฟตแ์ วร์ระบบและซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ 3. บุคลากร (People ware) คือ คนที่ปฏิบัติงานในด้านคอมพิวเตอร์ โดยในระบบ สารสนเทศแบ่งได้ 4 ระดับ คือ นักวิเคราะห์ระบบ โปรแกรมเมอร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติงานเครื่อง และ ผใู้ ช้ 4. ข้อมูล (Data) ข้อมูลเป็นองค์ประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่ง และในชีวิตประจำวันเราก็มี การบันทึกขอ้ มลู เพอื่ นำมาใช้ประโยชนใ์ นภายหลังอยเู่ สมอ 5. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน มีกระบวนการทำงานของระบบสารสนเทศอยู่ 4 ขั้นตอนหลัก คอื การนำขอ้ มูลเข้าสูร่ ะบบ การประมวลผลข้อมูล การแสดงผล และการจัดเก็บข้อมูล 3.8.3 ประเภท ICTสำหรับครู การใช้สื่อ ICT ในการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนนั้น มีมากมายหลายรูปแบบ ในกรณีนี้จะ นำเสนอในส่วนท่เี ป็นประสบการณ์ท่เี คยนำสอ่ื ICT มาใชใ้ นการจัดการเรยี นรขู้ องครู ใน 2 ลักษณะ ดังน้ี 3.8.3.1 ครูผูส้ อนสอนโดยใช้ ICT มาเปน็ เครอ่ื งมือประกอบการจดั การเรียนรู้ 1) สอนโดยนำสื่อ ICT มาถ่ายทอดองค์ความรู้และสาระเนื้อหาวิชา เพื่อใช้ประกอบการ สอนในแต่ละรายวิชา ในลักษณะ ต่างๆ เช่น การนำเสนอเนื้อหาผ่านโปรแกรมนำเสนอ(Presentation), สอ่ื วิดที ศั น์ (VDO), สอ่ื Electronic อ่ืน ๆ

99 2) นำสื่อหรือแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ที่ได้จากการผลิต การสืบค้น หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ อ่ืน ๆ มาออกแบบการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบ E-Learning Courseware ด้วยระบบการจัดการ LMS (Learning Management System) ผ่านเครอื ข่ายอินเทอรเ์ นต็ 3) ครูผู้สอนนำ ICT เป็นเครื่องมือในการจัดเตรียมสื่อการเรียนการสอน เช่น นำ ICT มา ชว่ ยในการทำเอกสาร บัตรงาน ใบความรู้ โดยการค้นหาแหล่งเรียนรแู้ ละขอ้ มูล จากInternet เปน็ ต้น 3.8.3.2 ครูผู้สอนสอนให้นกั เรียน เรียนร้กู ารใช้ ICT และการ ตดิ ต่อสือ่ สารดว้ ย ICT โดยตรง 1) สอนให้นกั เรยี นใช้ ICT โดยตรง มกั จะปรากฏในรายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี และวิชาคอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้สอนสามารถจัดกระบวนการเรียนรู้ใหส้ อดคลอ้ งหลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ชีว้ ัด 2) ครูผู้สอน สอนให้นักเรียนสามารถใช้เครื่องมือในการติดต่อสื่อสารผ่านระบบ อินเทอร์เน็ต แล้วครูนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนรู้ และติดต่อกับผู้เรียน ได้แก่ การสืบค้น ขอ้ มลู Search Engine, E-mail, Twitter, Hi5, Face book, Twitter, Blocker ฯลฯ 3) สอนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามปกติแต่มีการและประเมินผลงานด้าน ICT ซึ่ง นักเรียนมีความสามารถในการใช้งานสื่อ ICT โดยได้เรียนรู้การใช้งานโปรแกรมต่างๆ มาแล้วในวิชา คอมพิวเตอร์ ให้นักเรียนจัดทำรายงานด้วยโปรแกรมจัดทำเอกสารสำนักงานต่าง ๆ นำเสนอเนื้อหาผ่าน โปรแกรม Presentation ต่าง ๆแล้วครูกป็ ระเมินผลการดำเนนิ งานตามสาระ เนือ้ หาและข้อมูลท่ีนักเรียน ได้นำเสนอ เปน็ ต้น 4) แนะนำ ICT สำหรับครู เพื่อประยุกต์ใช้พัฒนาการเรียนรู้ ตามจุดมุ่งหมายการศึกษา แบบใหม่ (A revision of Bloom’s Taxonomy of Educational Objectives) 3.8.5 การใช้ ICT เพอื่ การเรียนรู้ การเรียนรู้ในปัจจุบันแตกต่างจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหมายความว่า ผู้เรียนมีโอกาส มี อิสระในการเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง สรา้ งองค์ความรู้ สร้างทักษะดว้ ยตนเอง ครเู ปลยี่ นบทบาทจากผ้สู อนมาเป็น ผู้ให้คำแนะนำ นอกจากนี้ทั้งครูและศิษย์สามารถเรียนรู้ไปพร้อมกันได้ การจัดการเรียนที่โรงเรียน ดำเนินการได้ในขณะนี้ 3.8.5.1 การสอนโดยใช้สื่อ CAI ช่วยสอนให้เกิดการเรียนรู้ตามความสนใจ เช่น วิชา คณิตศาสตร์ วชิ าภาษาไทย วิชาวิทยาศาสตร์ วชิ าสงั คม วชิ าภาษาอังกฤษ 3.8.5.2 สง่ เสริมให้ผ้เู รยี นรู้จักสืบคน้ วทิ ยาการใหม่ ๆ จากอนิ เทอรเ์ นต็ จาก E-book จาก E- Library

100 3.8.5.3 ส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างเจตคติที่ดีในการเรียนและการค้นคว้าหาความรู้ โดย กำหนดให้ผเู้ รียนไดเ้ ลน่ เกมการศึกษา (Education Games ) ที่ผา่ นการวเิ คราะห์ของครูผู้รับผิดชอบว่าไม่ เปน็ พษิ ภัยตอ่ ผู้เลน่ และเป็นการสร้างเสรมิ ความคิดสร้างสรรค์ท่ีดใี หก้ บั เดก็ 3.8.5.4 ใช้แผนการสอนแบบ ICT บูรณาการเรียนรู้ในสาระวิชาต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาองั กฤษ และ คอมพิวเตอร์ 3.8.5.5 จดั ระบบขอ้ มลู สารสนเทศเพ่อื การบริหารจัดการเรียนรู้ 3.8.5.6 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดระบบและเผยแพรค่ วามรู้ 3.8.5.7 จดั ระบบข้อมลู สารสนเทศแหล่งเรยี นรู้ภายในโรงเรยี น และภูมิปัญญาชมุ ชนทอ้ งถิน่ 3.8.5.9 พฒั นาเครือข่ายการเรยี นร้ใู นการจัดการเรียนรขู้ องผสู้ อน 3.8.6 ประโยชน์ของ ICT เพ่อื พฒั นาการเรียนรู้ 3.8.6.1 การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดกิจกรรมและพัฒนาการเรียนการสอน โดยยดึ ผ้เู รยี นเป็นสำคญั นน้ั จะทำให้ผูเ้ รยี นเกิดความรแู้ ละความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์ โดยฝึกการคดิ วเิ คราะห์ อย่างมเี หตผุ ล เพื่อนำความร้แู ละองคค์ วามรูท้ ่ีเกดิ ข้ึนไปใช้ในการพฒั นาตนเองและสงั คมได้ 3.8.6.2 การจัดระบบเครือข่ายการเรียนรู้ที่ให้มีแหล่งความรู้ที่หลากหลาย สาหรับการ ค้นคว้าหาความรู้ทุก ๆ ด้านที่ผู้เรียนต้องการและเหมาะสมกับผู้เรียน เช่น สื่อมวลชนทุกแขนงเครือข่าย สารสนเทศ ทรัพยากรท้องถิ่น ชุมชน ภูมิปัญญาชาวบ้านและหน่วยงานต่าง ๆ จะทำให้ผู้เรียนสามารถ เรียนรู้พัฒนาตนเอง และพัฒนาสังคมและส่ิงแวดล้อมได้อยา่ งกว้างขวาง 3.8.6.3 การปรับกระบวนการเรียนการสอน โดยเน้นให้ครูเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก และชี้แนะใหผ้ ู้เรยี นทำการศึกษาค้นควา้ คิดและตดั สินใจด้วยตนเอง โดยใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและระบบ เครือข่ายการเรียนรู้เป็นเครื่องมือ ขณะเดียวกันครูต้องเป็นต้นแบบด้านคุณธรรม และจริยธรรมด้วย ซ่ึง ต้องปลกู ฝังทง้ั ในช่วั โมงเรยี นและกจิ กรรมการฝึกปฏบิ ตั ิ 3.8.6.4 ส่งเสริมการเรียนรู้ตามอัธยาศัยโดยการประสานกับชุมชนและท้องถิ่นในการ พัฒนาการเรียนการสอนตามอัธยาศัยเน้นการค้นคว้าและทักษะการสืบค้นสารสนเทศ ให้ผู้เรียนใช้ระบบ คอมพิวเตอร์ในการสื่อสารข้อมูลทางไกลผ่านระบบเครือข่ายได้ รวมทั้งประเมินผลจากการนำมาใช้ มากกวา่ การจดจำเนอ้ื หา

101 3.9 การวเิ คราะหป์ ัญหาทเ่ี กดิ จากการใชน้ วัตกรรม 3.9.1 ความหมาย ปญั หา ปญั หา หมายถงึ ประเดน็ ท่ีเป็นอุปสรรค ความยากลำบาก ความตา้ นทาน หรอื ความท้าทาย หรือเป็นสถานการณ์ใดๆ ที่ต้องมีการแก้ปัญหา ซึ่งการแก้ปัญหาจะรับรู้ได้จากผลลัพธ์ของการแก้ปัญหา หรอื ผลงานทน่ี ำไปสูว่ ัตถุประสงคห์ รือเป้าหมาย ประเดน็ ปญั หาแสดงถึงทางออกทตี่ ้องการ ควบคู่กับความ บกพรอ่ ง ขอ้ สงสยั หรือความไมส่ อดคลอ้ งท่ปี รากฏขน้ึ ซง่ึ ขดั ขวางมิใหผ้ ลลัพธ์ประสบผลสำเร็จ 3.9.2 วิธกี ารหรือกระบวนการวเิ คราะหป์ ัญหา วิธีการแก้ปัญหา ได้แก่ วิธีการลองผิดลองถูก การใช้เหตุผล การใช้วิธีขจัด และอีกมากมาย แตอ่ ย่างไรก็ตาม วิธีการเหลา่ นน้ั ลว้ นมีขน้ั ตอนท่ีคล้ายคลงึ กัน คอื มีลำดบั ขน้ั ตอนท้ังส้นิ 4 ข้ันตอน ซ่งึ เป็น เสมือนข้ันบันได (stair) ที่ทำให้มนุษย์สามารถประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาต่างๆ ได้ กระบวนการ ทงั้ 4 ขนั้ ตอน มีดงั นี้ 3.9.2.1 การวเิ คราะหแ์ ละกำหนดรายละเอยี ดของปัญหา 3.9.2.2 การเลือกเคร่ืองมือและออกแบบขน้ั ตอนวิธี 3.9.2.3 การดำเนนิ การแก้ปัญหา 3.9.2.4 การตรวจสอบและปรบั ปรงุ 3.9.3 เหตุผล ท่ี ครตู อ้ งมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เก่ียวกบั ปัญหาการจัดการเรียนรู้ท่ีเกิดจากการใช้ นวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.9.3.1 ทราบปญั หาทแ่ี ทจ้ รงิ 3.9.3.2 การดำเนินงานในขนั้ ต่อไปจะไมเ่ กดิ ความสูญเปลา่ 3.9.3.3 แกป้ ญั หาการเรยี นการสอนและพฒั นาการเรียนการสอนได้ตรงจดุ 3.9.3.4 ตรงตามเป้าหมายท่คี วรจะเปน็ 3.9.3.5 ครูผู้สอนสามารถตรวจสอบความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาหรือพัฒนางานได้อย่าง ตอ่ เนอื่ งเปน็ ระบบ 3.9.4 ปัญหา และสาเหตุ การจดั การเรียนร้ทู เ่ี กดิ จากการใชน้ วตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศ 3.9.4.1 ปัญหาด้านบุคลากร บุคลากรขาดความรู้ความเข้าใจในการผลติ สื่อประกอบการจัด กิจกรรม บุคลากรขาดประสบการณ์ในการใช้สื่อนวัตกรรมทางการศึกษา ไม่เข้าใจและรู้จักวิธีการใช้ นวัตกรรมที่ทางโรงเรียนจัดทำขึ้น ขาดความชำนาญในการใช้นวัตกรรม ขาดสื่อประกอบการเรียน บุคลากรสว่ นใหญใ่ หค้ วามรว่ มมือในการใช้นวัตกรรม แตข่ าดความตอ่ เนื่อง

102 3.9.4.2 ปัญหาด้านวัสดุ อุปกรณ์ และงบประมาณ เกี่ยวกับนวัตกรรม คือ ขาดงบประมาณ ในการพัฒนานวัตกรรม ขาดวัสดุอุปกรณ์และงบประมาณที่จะพัฒนาสือ่ นวัตกรรม การจัดหา การใช้ การ ดูแลรักษาและขาดงบจัดหาสือ่ ทนั สมัย 3.9.4.3 ปัญหาด้านสภาพแวดลอ้ ม และสถานทกี่ ารใช้นวตั กรรม สภาพแวดลอ้ มโดยทั่วไปยัง ไม่เหมาะสมกับการใชส้ ื่อ เนื่องจากความยุง่ ยากและไม่คล่องตัว มีสถานที่ไม่เป็นสัดสว่ น ไม่มีห้องที่ใชเ้ พอื่ เก็บรักษาสือ่ นวตั กรรมเปน็ การเฉพาะ ทำให้การดูแลทำไดย้ ากและขาดการพฒั นาที่ต่อเนื่อง 3.9.4.4 ปัญหาด้านสภาพการเรยี นการสอน เด็กมีความแตกต่างกันด้านสติปัญญา และด้าน รา่ งกาย ปัญหาครอบครวั แตกแยก เดก็ อาศัยอยู่กบั ญาติ มีเนอื้ หาวชิ าท่ีมากและสาระการเรียนการสอนแต่ ละครั้งไม่ต่อเนื่อง นักเรียนบางคนไม่สบายใจในกิจกรรม และทำไม่จริงจังจึงมีผลต่อการจัดกิจกรรม นักเรียนต้องเข้าคิวรอนานกับนวัตกรรมบางชนิด และสภาพการเรียนการสอน ครูยังยึดวิธีการสอน แบบเดิม คือ บรรยายหน้าชั้นเรียน แต่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มในการพัฒนาที่ดีขึ้น ครูยังไม่มีการ นำส่ือ นวตั กรรมมาใช้ในการจดั การเรยี นการสอนอยา่ งต่อเนอื่ ง 3.9.4.5 ปัญหาด้านการวัดผลและประเมินผล คือ บุคลากรขาดความรู้ในการที่จะนำส่ือ นวตั กรรมมาใช้ในการวดั ผลและประเมินผล นกั เรียนที่ไม่คอ่ ยสนใจหรอื ไม่ชอบกจิ กรรมกจ็ ะมีผลต่อการจัด ผลประเมนิ ผล ขาดนวัตกรรมส่ือคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต การวัดประเมินผล ครสู ว่ นใหญ่ยังใช้วิธีการทำ แบบทดสอบแบบปรนยั 3.9.5 สาเหตุ ของการเกิดปัญหาการจัดการเรียนรู้ที่เกิดจากการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี สารสนเทศ แตล่ ะด้าน โดยใชเ้ คร่ืองมือ 3.9.5.1 ผ้บู ริหาร ครู และนักเรยี น ผู้บริหาร ครู ขาดความรู้ความเข้าใจในการผลิตสื่อประกอบการจัดกิจกรรม ครูขาด ประสบการณ์ในการใช้สื่อนวัตกรรมทางการศึกษา ไม่เข้าใจและรู้จักวิธีการใช้นวัตกรรมที่ทางโรงเรียน จัดทำขึ้น ขาดความชำนาญในการใช้นวัตกรรม ขาดสื่อประกอบการเรียน บุคลากรส่วนใหญ่ให้ความ ร่วมมือในการใช้นวัตกรรม แต่ขาดความต่อเนื่อง นักเรียนไม่ให้ความสนในในการใช้ส่ือ หรือใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีสารสนเทศในทางท่ีไม่ถกู ต้อง 3.9.5.2 เครื่องมือ และอุปกรณ์ ขาดงบประมาณในจัดหาเครื่องมือ และอุปกรณ์ บางอย่างมีอายุการใช้งานไม่นาน และ ไมค่ งทน บางอย่างกไ็ มท่ ันสมยั ต้องมีการพัฒนาส่ือไปเรื่อยๆ สอ่ื บางชนิดกไ็ มส่ ะดวกในการขนย้าย 3.9.5.3 วัสดุ

103 ไม่สามารถใช้ได้ทุกสถานที่และโอกาสเพราะบางแห่งไม่มีเครื่องมือที่จะสนับสนุนการใช้ สอื่ ได้ 3.9.5.4 วธิ ีการ/กจิ กรรม ครูยังยึดติดกับการจัดการเรียนการสอนแบบเดิม ๆ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไม่ดึงดูด ความสนใจของผู้เรยี น 3.9.5.5 สภาพแวดลอ้ ม สภาพแวดล้อมโดยทั่วไปยังไม่เหมาะสมกับการใช้สื่อ เนื่องจากความยุ่งยากและไม่ คล่องตัว มีสถานที่ไม่เป็นสัดส่วน ไม่มีห้องที่ใช้เพื่อเก็บรักษาสื่อ นวัตกรรมเป็นการเฉพาะ ทำให้การดูแล ทำได้ยากและขาดการพัฒนาทต่ี อ่ เน่ือง 3.9.6. แนวทางการแก้ปัญหาการจัดการเรียนรู้ที่เกิดจากการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี สารสนเทศ แตล่ ะดา้ น 3.9.6.1 ผบู้ รหิ าร ครู และนักเรยี น สรา้ งความตระหนกั ความรับผิดชอบในส่วนท่ียงั บกพร่อง ทางนวัตกรรมของบุคลากร ส่งเสริมให้เข้าร่วมการอบรมสัมมนา ส่งเสริมให้เกิดการศึกษาด้วยตนเอง เพอ่ื ให้ความรูแ้ ละประสบการณ์ในการใชส้ ื่อนวตั กรรมทางการศึกษาที่มากขน้ึ 3.9.6.2 เครื่องมือ และอุปกรณ์ เพิ่มงบประมาณให้เพียงพอ ให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จัดหางบประมาณสนับสนุน สำนักงานเขตพื้นที่ต้องช่วยดูแลและให้ความช่วยเหลอื จัดสรรงบประมาณได้ เพอื่ ใช้ในการพัฒนานวัตกรรมใหม้ ีคณุ ภาพดีย่ิงขึน้ และระดมทรพั ยากรที่มีในทอ้ งถ่ิน มาชว่ ยสนบั สนุน 3.9.6.3 วัสดุ เพิ่มงบประมาณให้เพียงพอ ให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องจัดหางบประมาณ สนับสนุน สำนักงานเขตพื้นที่ต้องช่วยดูแลและให้ความช่วยเหลือจัดสรรงบประมาณได้ เพื่อใช้ในการ พัฒนานวัตกรรมใหม้ คี ณุ ภาพดยี ง่ิ ขน้ึ และระดมทรัพยากรท่มี ใี นท้องถิน่ มาช่วยสนบั สนนุ 3.9.6.4 วิธีการจัดกิจกรรม ครูควรยึดหลักการจัดการเรียนรู้แบบนักเรียนเป็นสำคัญ จัด กจิ กรรมการเรยี นการสอนให้ดงึ ดดู ความสนใจของนกั เรยี น ให้นักเรียนลงมอื ปฏิบตั ิดว้ ยตนเอง 3.9.6.5 สภาพแวดล้อม ใช้สื่อนวัตกรรมตามความเหมาะสมของเนื้อหาวิชาตามความยาก ง่ายของเนื้อหา จัดทำห้องสื่อเคลื่อนที่ แบ่งสื่อไปตามห้องให้ครูรับผิดชอบ ควรจัดหาห้องเพื่อการนี้เป็น การเฉพาะ 3.9.7 วิเคราะหป์ ญั หา ในชั้นเรียน โดยเลือกใชเ้ ครอื่ งมือท่ีเรยี นไปแล้ว สาเหตจุ ากครูสอนโดยใช้ส่ือทล่ี ้าสมัย เชน่ หนงั สือ สมุด หรอื การจดบรรยาย ทำใหไ้ ม่นา่ สนใจ วิธีการแก้ไข คอื การใช้เทคโนโลยที ่ีทนั สมยั ในการเรยี นการสอน เช่น kahoot, prezi, google classroom เป็นตน้

ขอ้ สอบเรื่อง นวัตกรรมทางการศึกษา คำช้แี จง : ขอ้ สอบเป็นขอ้ สอบแบบ ปรนยั 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ขอ้ 10 คะแนน 1. “นวตั กรรม” (Innovation) มรี ากศัพท์มาจาก Innovare ในภาษาใด 1. ภาษาฝร่งั เศษ 2. ภาษาอนิ เดยี 3. ภาษาโปตเุ กต 4. ภาษาลาตนิ 2. ขอ้ ใดคือ ความหมายของนวัตกรรม 1. หมายถึงการนำสิ่งใหม่ๆ เข้ามาเปลย่ี นแปลงเพ่ิมเตมิ จากวิธกี ารท่ที ำอยู่เดิม 2. หมายถึงการนำสง่ิ ใดๆ เข้ามาเปลยี่ นแปลงเพิ่มเตมิ จากวิธีการท่ที ำอยู่เดิม 3. หมายถงึ การนำสิง่ ตา่ งๆ เข้ามาเปล่ียนแปลงเพิม่ เติมจากวิธกี ารท่ีทำอยเู่ ดิม 4. หมายถึงการนำสงิ่ อื่นๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงเพ่มิ เติมจากวธิ ีการทีท่ ำอยเู่ ดิม 3. ข้อใดไมใ่ ช่ นวัตกรรมส่ือการสอน 1. คอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน (CAI) 2. การประชุมทางไกล (Teleconference) 3. วีดีทัศน์แบบมปี ฏิสมั พนั ธ์ (Interactive Video) 4. ส่ิงประดษิ ฐ์ (Invention) 4. ขอ้ ใดคือ ความหมายของ e-Learning 1. การเรียนทางอิเล็กทรอนิกส์ 2. การเรยี นรู้ด้วยตัวเอง 3. การเรียนร้ตู ามอธั ยาศยั 4. การเรียนทางไกล 5. กระบวนการเรียนร้แู บบ M – Learning มีดว้ ยกันทงั้ หมด ก่ขี ้นั ตอน 1. 5 2. 6 3. 7 4. 8

ขอ้ สอบเร่ือง ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ คำชีแ้ จง : ข้อสอบเปน็ ขอ้ สอบแบบ ปรนัย 4 ตวั เลือก จำนวน 5 ขอ้ 10 คะแนน 1. ข้อใดไม่ใช่ ววิ ฒั นาการของสารสนเทศ 1. ยุคกสิกรรม 2. ยุคอุตสาหกรรม 3. ยุคเกษตรกรรม 4. ยุคสารสนเทศ 2. ข้อใดไมใ่ ช่ ข้อมูล 1. ภาพ 2. เสียง 3. ข้อความ 4. ความรู้สึก 3. คณุ ภาพของสารสนเทศ จะมีคุณภาพสงู มาก หรือน้อย พิจารณาที่ 3 ประเด็น ยกเวน้ ขอ้ ใด 1. ตรงกับความต้องการ (Relevant) 2. สารสนเทศนน้ั เขม้ แขง็ (Robust) 3. นา่ นับถอื (Respect) 4. น่าเช่ือถอื (Reliable) 4. การนำสารสนเทศไปใช้ได้แกข่ อ้ ใด 1. ชว่ ยลดความเสี่ยงในการตัดสนิ ใจ (Decision) 2. ช่วย หรือสนับสนุนการจัดการ (Management) 3. ใชท้ ดแทนทรัพยากร (Resources) 4. ถูกทกุ ขอ้ 5. ขอ้ ใดคือส่วนประกอบของ ฮารด์ แวร์ 1. โปรแกรมระบบปฏบิ ตั ิการ 2. โปรแกรมแปลภาษา 3. หน่วยประมวลผลกลาง 4. โปรแกรมอรรถประโยชน์

ขอ้ สอบเรอื่ ง คอมพวิ เตอร์และอิน-เทอร์เน็ตกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ คำชแี้ จง : ข้อสอบเป�นข้อสอบแบบ ปรนยั 4 ตวั เลอื ก จำนวน 10 ข้อ 10 คะแนน 1. การจดั การศึกษาและการเรยี นร้ทู ส่ี อดคล้องกบั พัฒนาการของกระแสแหง่ สังคมดิจิตอล มี 3 ข้อ ขอ้ ใด ไม่ใช่ 1. เทคโนโลยกี ารศึกษา 2. สารสนเทศการศกึ ษา 3. เทคโนโลยสี ารสนเทศ 4. อเิ ล็กทรอนิกสแ์ ละคอมพวิ เตอร์ 2. ข้อเท็จจรงิ ต่าง ๆ เกย่ี วกบั การดำเนนิ งาน และการปฏบิ ัติการท่ตึ ้องเก็บรวบรวมไวเ้ พื่อใชป้ ระกอบการ อ้างอิง การตดั สินใจและการปฏบิ ัติงาน คือข้อใด 1. ฮาร์ดแวร์ 2. ซอฟต์แวร์ 3. ข้อมลู 4. บคุ ลากร 3. \"สอื่ \" ในภาษาไทยกับคำในภาษาองั กฤษ พบว่ามคี วามหมายตรงกบั คำวา่ \"media\" และ \"ส่อื \" (Media) เปน� คำทีม่ าจากภาษาละตนิ วา่ อะไร 1. medium 2. medize 3. medial 4. medio 4. หลักการออกแบบสอื่ ท่ัวไปไม่มีขอ้ ใด 1. ความสวยงาม 2. ประโยชน์ใช้สอย 3. ความกลมกลนื 4. ความสำคัญของการออกแบบ

5. การเรยี นรู้ตามทฤษฎีของ Bloom (Bloom's Taxonomy) มีกีข่ ัน้ 1. 5 2. 6 3. 7 4. 8 6. ถ้าจะจัดการความรู้อย่างเป�นระบบนัน้ จะต้องมีองคป์ ระกอบหลกั หรือ KM elements อยู่ 3 ด้าน 1. หาสาเหตุหลกั ของป�ญหา 2. ทรัพยกรดา้ นการจัดการความรู้ 3. กิจกรรมการจดั การความรู้ 4. อิทธพิ ลของการจัดการความรู้ 7. ข้อใดไม่ใชร่ ปู แบบการใชอ้ ินเตอรเ์ นต็ เพอ่ื การเรยี นรู้ 1. การใช้เครอื ขา่ ยเพื่อการติดตอ่ สือ่ สาร 2. การใช้เครือข่ายเพื่อการสืบค้นขอ้ มูล 3. การใชเ้ ครอื ขา่ ยเพ่ือการสอน 4. การใช้เครือข่ายเพื่อการตลาด 8. WWW ย่อมาจากข้อใด 1. World-Wida-Web 2. Worlb-Wide-Web 3. World-Wide-Web 4. Worlb-Wida-Web 9. ระบบสารสนเทศแบ่งได้ 4 ระดบั ข้อใดไมใ่ ช่ 1. นกั วเิ คราะห์ระบบ 2. โปรแกรมเมอร์ 3. ระบบปฏบิ ัติการ 4. ผใู้ ช้

10. ขนั้ บันได ที่ทำให้มนุษยส์ ามารถประสบความสำเรจ็ ในการแก้ป�ญหาต่างๆ ได้ กระบวนการทั้ง 4 ข้ันตอน 1. การวิเคราะห์และกำหนดรายละเอยี ดของปญ� หา 2. การเลือกวธิ ีออกแบบ 3. การดำเนินการแกป้ ญ� หา 4. การตรวจสอบและปรับปรุง

ขอ้ สอบเร่ือง ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ คำชีแ้ จง : ข้อสอบเปน็ ขอ้ สอบแบบ ปรนัย 4 ตวั เลือก จำนวน 5 ขอ้ 10 คะแนน 1. ข้อใดไม่ใช่ ววิ ฒั นาการของสารสนเทศ 1. ยุคกสิกรรม 2. ยุคอุตสาหกรรม 3. ยุคเกษตรกรรม 4. ยุคสารสนเทศ 2. ข้อใดไมใ่ ช่ ข้อมูล 1. ภาพ 2. เสียง 3. ข้อความ 4. ความรู้สึก 3. คณุ ภาพของสารสนเทศ จะมีคุณภาพสงู มาก หรือน้อย พิจารณาที่ 3 ประเด็น ยกเวน้ ขอ้ ใด 1. ตรงกับความต้องการ (Relevant) 2. สารสนเทศนน้ั เขม้ แขง็ (Robust) 3. นา่ นับถอื (Respect) 4. น่าเช่ือถอื (Reliable) 4. การนำสารสนเทศไปใช้ได้แกข่ อ้ ใด 1. ชว่ ยลดความเสี่ยงในการตัดสนิ ใจ (Decision) 2. ช่วย หรือสนับสนุนการจัดการ (Management) 3. ใชท้ ดแทนทรัพยากร (Resources) 4. ถูกทกุ ขอ้ 5. ขอ้ ใดคือส่วนประกอบของ ฮารด์ แวร์ 1. โปรแกรมระบบปฏบิ ตั ิการ 2. โปรแกรมแปลภาษา 3. หน่วยประมวลผลกลาง 4. โปรแกรมอรรถประโยชน์

ขอ้ สอบเรื่อง นวัตกรรมทางการศึกษา คำช้แี จง : ขอ้ สอบเป็นขอ้ สอบแบบ ปรนยั 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ขอ้ 10 คะแนน 1. “นวตั กรรม” (Innovation) มรี ากศัพท์มาจาก Innovare ในภาษาใด 1. ภาษาฝร่งั เศษ 2. ภาษาอนิ เดยี 3. ภาษาโปตเุ กต 4. ภาษาลาตนิ 2. ขอ้ ใดคือ ความหมายของนวัตกรรม 1. หมายถึงการนำสิ่งใหม่ๆ เข้ามาเปลย่ี นแปลงเพ่ิมเตมิ จากวิธกี ารท่ที ำอยู่เดิม 2. หมายถึงการนำสง่ิ ใดๆ เข้ามาเปลยี่ นแปลงเพิ่มเตมิ จากวิธีการท่ที ำอยู่เดิม 3. หมายถงึ การนำสิง่ ตา่ งๆ เข้ามาเปล่ียนแปลงเพิม่ เติมจากวิธกี ารท่ีทำอยเู่ ดิม 4. หมายถึงการนำสงิ่ อื่นๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงเพ่มิ เติมจากวธิ ีการทีท่ ำอยเู่ ดิม 3. ข้อใดไมใ่ ช่ นวัตกรรมส่ือการสอน 1. คอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน (CAI) 2. การประชุมทางไกล (Teleconference) 3. วีดีทัศน์แบบมปี ฏิสมั พนั ธ์ (Interactive Video) 4. ส่ิงประดษิ ฐ์ (Invention) 4. ขอ้ ใดคือ ความหมายของ e-Learning 1. การเรียนทางอิเล็กทรอนิกส์ 2. การเรยี นรู้ด้วยตัวเอง 3. การเรียนร้ตู ามอธั ยาศยั 4. การเรียนทางไกล 5. กระบวนการเรียนร้แู บบ M – Learning มีดว้ ยกันทงั้ หมด ก่ขี ้นั ตอน 1. 5 2. 6 3. 7 4. 8

ขอ้ สอบเรอื่ ง คอมพวิ เตอร์และอิน-เทอร์เน็ตกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ คำชแี้ จง : ข้อสอบเป�นข้อสอบแบบ ปรนยั 4 ตวั เลอื ก จำนวน 10 ข้อ 10 คะแนน 1. การจดั การศึกษาและการเรยี นร้ทู ส่ี อดคล้องกบั พัฒนาการของกระแสแหง่ สังคมดิจิตอล มี 3 ข้อ ขอ้ ใด ไม่ใช่ 1. เทคโนโลยกี ารศึกษา 2. สารสนเทศการศกึ ษา 3. เทคโนโลยสี ารสนเทศ 4. อเิ ล็กทรอนิกสแ์ ละคอมพวิ เตอร์ 2. ข้อเท็จจรงิ ต่าง ๆ เกย่ี วกบั การดำเนนิ งาน และการปฏบิ ัติการท่ตึ ้องเก็บรวบรวมไวเ้ พื่อใชป้ ระกอบการ อ้างอิง การตดั สินใจและการปฏบิ ัติงาน คือข้อใด 1. ฮาร์ดแวร์ 2. ซอฟต์แวร์ 3. ข้อมลู 4. บคุ ลากร 3. \"สอื่ \" ในภาษาไทยกับคำในภาษาองั กฤษ พบว่ามคี วามหมายตรงกบั คำวา่ \"media\" และ \"ส่อื \" (Media) เปน� คำทีม่ าจากภาษาละตนิ วา่ อะไร 1. medium 2. medize 3. medial 4. medio 4. หลักการออกแบบสอื่ ท่ัวไปไม่มีขอ้ ใด 1. ความสวยงาม 2. ประโยชน์ใช้สอย 3. ความกลมกลนื 4. ความสำคัญของการออกแบบ

5. การเรยี นรู้ตามทฤษฎขี อง Bloom (Bloom's Taxonomy) มีกีข่ ัน้ 1. 5 2. 6 3. 7 4. 8 6. ถ้าจะจัดการความรูอ้ ย่างเปน� ระบบนัน้ จะต้องมีองคป์ ระกอบหลกั หรือ KM elements อยู่ 3 ด้าน 1. หาสาเหตุหลกั ของป�ญหา 2. ทรัพยกรด้านการจัดการความรู้ 3. กจิ กรรมการจดั การความรู้ 4. อทิ ธพิ ลของการจัดการความรู้ 7. ข้อใดไม่ใชร่ ปู แบบการใช้อินเตอรเ์ นต็ เพ่อื การเรยี นรู้ 1. การใชเ้ ครอื ขา่ ยเพื่อการติดตอ่ สือ่ สาร 2. การใช้เครือข่ายเพื่อการสืบค้นขอ้ มูล 3. การใช้เครอื ขา่ ยเพ่ือการสอน 4. การใชเ้ ครอื ข่ายเพื่อการตลาด 8. WWW ย่อมาจากขอ้ ใด 1. World-Wida-Web 2. Worlb-Wide-Web 3. World-Wide-Web 4. Worlb-Wida-Web 9. ระบบสารสนเทศแบ่งได้ 4 ระดบั ข้อใดไมใ่ ช่ 1. นักวเิ คราะห์ระบบ 2. โปรแกรมเมอร์ 3. ระบบปฏิบตั ิการ 4. ผใู้ ช้

10. ขนั้ บันได ที่ทำให้มนุษยส์ ามารถประสบความสำเรจ็ ในการแก้ป�ญหาต่างๆ ได้ กระบวนการทั้ง 4 ข้ันตอน 1. การวิเคราะห์และกำหนดรายละเอยี ดของปญ� หา 2. การเลือกวธิ ีออกแบบ 3. การดำเนินการแกป้ ญ� หา 4. การตรวจสอบและปรับปรุง

บรรณานุกรม พันธุ์อาจ ชยั รตั น์. (2547). การจัดการนวัตกรรมสาหรบั ผ้บู ริหาร. กรุงเทพฯ: งานสง่ เสริม. ภาพลักษณ์ องคก์ ร สานักงานนวัตกรรมแห่งชาต.ิ พวงรัตน์ ทวรี ัตน.์ (2540). มหาวิทยาลัยรังสิต. (2549). นวัตกรรมการเรยี นการสอน. วารสารสนบั สนุนและพฒั นา วรวิทย์ นิเทศศิลป์ . (2551). สอื่ และนวัตกรรมแหง่ การเรยี นรู้. กรุงเทพฯ : สกายบกุ ส์ การเรียนการสอน, 1(3), 1-3. วทุ ธศิ กั ด์ิโภชนุกลู . (2550). กระบวนการทางนวตั กรรม. สบื คน้ เมือ่ 15 เมษายน 2553, จาก http://www.pochanukul.com/wp-tent/uploads/2007/12/innovation _process.pdf. อญั ชลี โพธทิ์ อง และอัปษรศรี ปลอดเปลีย่ ว. (2542). นวตั กรรมทางการศกึ ษาเพือ่ พัฒนาชีวติ และสงั คม EDUCATIONAL INNOVATION FOR LIFE AND SOCIAL DEVELOPMENT. กรุงเทพฯ : ส านกั พิมพ์มหาวิทยาลัยรามค าแหง. อรนุช ลมิ ตศริ ิ. พิมพลักษณ์กรงุ เทพฯ : สำนักพมิ พม์ หาวิทยาลัยรามคำแหง, 2557. อรนุช ลมิ ตศริ ิ. (2543). นวัตกรรมและเทคโนโลยีการเรยี นการสอน. กรุงเทพฯ : ส านกั พมิ พ์ มหาวิทยาลัยรามค าแหง. ครรชิต มาลยั วงศ์. (2538). กา้ วไกลไปกบั คอมพวิเตอร์ สาระคอมพวิเตอร์ท่ีข้าราชการต้องร้.ู กรุงเทพมหานคร: ศนู ยเ์ ทคโนโลยีอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ละคอมพิวเตอร์แห่งชาต.ิ จติ ติมา เทยี มบุญประเสรฐิ . 2544. ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ. พมิ พ์คร้ังท่ี 2. กรงุ เทพฯ : โปรแกรม วิชาวิทยาการคอมพวิ เตอร์ คณะวิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยีสถาบันราชภัฏสวนดสุ ติ . จมุ พจน์ วนชิ กลุ . 2549. สารสนเทศเพื่อการเรยี นร้.ู กรุงเทพฯ : สมาคมสง่ เสรมิ เทคโนโลย.ี ณฏฐั พนั ธ์ เขจรนนัทนแ์ ละไพบลู ยเ์ กยี รติโกมล. (2551). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. กรงุ เทพฯ: ซเี อ็ดยเู คชน่ั . ทพิ วรรณ หลอ่ สุวรรณรัตน.์ (2545). ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการ (พิมพค์รั้งท4ี่ ).กรุงเทพฯ: แซกโฟ พริน้ ตงิ้ . ปทปี เมธาคุณวุฒ.ิ (2544). เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการบริหารสถาบนั อุดมศกึษา.กรงุ เทพฯ: สำนกั พิมพ์ แห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ราชบณั ฑิตยสถาน. (2539). พจนานุกรมฉบับบราชบณั ฑติ ยสถาน. พ.ศ. 2539. กรงุ เทพฯ: อกั ษรเจริญ ทัศน์. หนา้ 463. สชุ าดา กรี ะนนั ท์. 2541. เทคโนโลยีสารสนเทศทางสถติ ิ : ขอ้ มลู ในระบบสารสนเทศ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. Baker. (2003). The effects of geographic information system (GIS) technologieson

2 students’attitudes, self efficacy, and achievement in middle school science classrooms. DissertationAbstracts International, 64(3), 866-A . Best, J. W, & Kahn, J. V. (1993). Research in Education (7th ed.). Boston: Allyn and Bacon. Kroenke, D. and Hatch, R. (1994).Management Information Sysem.3rd Edition, New York : McGraw-Hill. McLeod, Jr., Raymond., & Schell, George. (2001). Management information systems New Jersey: Prentice-Hall.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook