ilovepdf_merged

บันทกึ องคค์ วามรรู้ ายบุคคล เรือ่ ง การเสริมสรา้ งภาพลักษณอ์ งคก์ รและ ประชาสัมพนั ธ์ผา่ นโซเชยี ลมีเดียใหม้ ปี ระสิทธภิ าพ เจ้าขององค์ความรู้ นายรฎิ วาน บินอุเซ็ง ตาแหน่ง นักวชิ าการพัฒนาชมุ ชนชานาญการ สังกัด สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอเมอื งนราธวิ าส

แบบบนั ทกึ องค์ความร้รู ายบุคคล 1. ชื่อองคค์ วามรู้ การเสรมิ สรา้ งภาพลกั ษณอ์ งคก์ รและประชาสัมพนั ธผ์ า่ นโซเชียลมีเดยี ใหม้ ีประสิทธิภาพ 2. ชื่อเจ้าของความรู้ นายริฎวาน บินอเุ ซ็ง ตาแหน่ง นักวชิ าการพัฒนาชุมชนชานาญการ 3. องคค์ วามร้ทู ีบ่ ่งช้ี (เลือกไดจ้ านวน 1 หมวด)  หมวดท่ี 1 สรา้ งสรรค์ชมุ ชนพ่ึงตนเองได้  หมวดที่ 2 ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากใหข้ ยายตัวอย่างสมดุล  หมวดท่ี 3 เสริมสร้างทนุ ชมุ ชนใหม้ ีธรรมาภิบาล  หมวดที่ 4 เสริมสรา้ งองคก์ รให้มีขดี สมรรถนะสงู 4. ทีม่ าและความสาคญั ในการจัดทาองค์ความรู้ เน่ืองจากในปัจจุบัน องค์กรหรือหน่วยงาน ต่างเสาะแสวงหาเทคโนโลยี กลยุทธ์ เพ่ือช่วยให้การ ทางานมีความรวดเร็วและมีคุณภาพสูง เพ่ือให้องค์กรดาเนินงาน ให้บรรลุตามเป้าหมายที่ต้ังไว้ หลาย หนว่ ยงานไดน้ านวตั กรรมท่ที ันสมัยเข้ามาใช้ในหน่วยงาน รวมทั้งมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพ่ือก้าวทันต่อ โลกในยุคโลกาภิวัฒน์ สามารถตอบสนองวิถีการดาเนินชีวิต และความต้องการที่เปล่ียนแปลงไปของผู้มาใช้ บริการ ท้ังยังมีการวางแผนกลยุทธ์ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ ทจี่ ะสามารถดึงดูดผู้ใช้บริการให้หันมาเลือกใช้บริการ กบั องคก์ ร รวมถงึ การบรกิ ารทเ่ี หนือความคาดหวงั เปน็ ส่ิงท่ีผู้บรโิ ภคยุคใหม่มคี วามตอ้ งการอย่างย่ิง นับเป็นอีก วิธีการท่ีหน่วยงานนามาปรับใช้ในการดาเนินงานการประชาสัมพันธ์เป็นการติดต่อสื่อสาร เพ่ือแจ้งข้อมูล ข่าวสาร สร้างความน่าเชื่อถือความรู้สึกท่ีดี สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับกลุ่มเป้าหมาย รวมท้ังเปิดรับข้อมูลท่ี สะท้อนกลบั ซึง่ อาจเรียกวา่ การประชาสมั พันธอ์ งคก์ ร โดยอาจแบ่งเปน็ การประชาสัมพันธ์ภายในองค์กร และ ภายนอกองค์กร ซ่ึง การส่ือสารเพ่ือสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างองค์กรกับบุคคลเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ นโยบาย เป้าหมาย และกิจกรรมต่างๆขององค์กร เพ่ือลดช่องว่างความไม่เข้าใจหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเพื่อ บคุ ลากรในองค์กรรบั ทราบข้อมูลและมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ท่ีดีให้กับ องค์กร เรียกว่า “การประชาสัมพันธ์ภายในองค์กร” ส่วนการดาเนินการประชาสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับ ประชาชน หรอื องคก์ รอื่นท่ีเกย่ี วขอ้ ง หรือกลุ่มเป้าหมายต่างๆ รวมถึงสื่อมวลชน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจท่ี ถกู ตอ้ งในการดาเนินงานขององคก์ รตลอดจนให้ขอ้ มูลเหตุการณ์หรือบริการต่างๆแก่สาธารณชนเพ่ือสร้างและ เผยแพร่ชอ่ื เสียงขององคก์ รใหเ้ ป็นทร่ี ู้จกั และเชือ่ ถือศรทั ธา เรยี กว่า “การประชาสมั พนั ธภ์ ายนอกองค์กร” โดย ส่ือท่ีใชใ้ นการเผยแพรป่ ระชาสัมพันธ์ เช่น นทิ รรศการ แผ่นพบั ใบปลิว นิทรรศการ ภาพกิจกรรม การประชุม การสัมมนาอินเตอร์เน็ต ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ สื่อสิ่งพิมพ์ เสียงตามสาย การทัศนศึกษา ตู้ประกาศ สติกเกอร์ กลอ่ งรับฟงั ความคิดเหน็ ซงึ่ ผ้ทู าหนา้ ที่ประชาสมั พนั ธ์ของหนว่ ยงานเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับลักษณะ ของหนว่ ยงานและกลมุ่ เปา้ หมาย โซเชียลมีเดีย หมายถึงสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทาง โดยผ่าน เครอื ขา่ ยอินเตอร์เน็ต หรือเว็บไซตท์ บี่ คุ คลบนโลกนีส้ ามารถมปี ฏสิ ัมพนั ธโ์ ต้ตอบกนั ได้ ภาพลกั ษณอ์ งคก์ ร หมายถึงภาพทีเ่ กิดข้นึ ในจิตใจหรอื ความรู้สกึ นึกคดิ ของคนตอ่ หนว่ ยงาน นั้นๆ ทั้งนก้ี ารรบั รู้หรือภาพดงั กลา่ วเปน็ ผลมาจากการกระทาของคนในองคก์ รนน้ั นนั่ เอง ไม่วา่ จะเป็นคาพูด หรอื การกระทาดังน้นั หากองค์กรใดมีสมาชกิ ท่เี ข้มแข็งมผี ลงานเป็นท่ีปรากฏเปน็ รูปธรรม มกี ารบริการ เป็นเลิศ มคี ุณธรรมจริยธรรมเป็นทนี่ า่ เลือ่ มใสศรัทธา ภาพขององค์กรทเี่ กิดขน้ึ ในจติ ใจของประชาชนยอ่ มเป็น ภาพท่ีดนี า่ เชื่อถือ มีผลใหก้ ารปฏิบัตงิ านตามพันธกิจขององคก์ รบรรลเุ ป้าหมาย การสรา้ งภาพลักษณ์องค์กร

Gregony และ Wiechmann ไดก้ ล่าวไว้ มี 7 วธิ กี าร หน่งึ ในน้นั คือการประชาสัมพันธ์ในส่ิงทไ่ี ด้ กระทาจรงิ ใหถ้ งึ กล่มุ เปา้ หมายอยา่ งสมา่ เสมอ การประชาสัมพันธจ์ ึงถอื เปน็ งานสร้างภาพลกั ษณ์ เป็นการสื่อสารข้อมลู ไปยังกลมุ่ เปา้ หมาย โดยผ่านส่อื สังคม(Social Media)เพ่อื ให้เกิดภาพลักษณ์ที่พึงปรารถนาแก่องค์กร ด้วยวิธีการให้ข้อมูลข่าวสาร รูปแบบต่างๆ ในการสื่อสารเพ่ือให้ไปถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากท่ีสุด เพ่ือวัตถุประสงค์ให้ กล่มุ เป้าหมายเกิดความรคู้ วามเข้าใจ มีทัศนคตทิ ีด่ ีตอ่ องคก์ ร ป้องกันและแกไ้ ขปญั หาความเข้าใจผิด สนับสนุน นโยบายและการดาเนินงานขององค์กรและเสรมิ สรา้ งความนา่ เชื่อถือขององคก์ รการประชาสัมพันธ์จึงเป็นงาน ทส่ี ามารถชว่ ยใหก้ ารดาเนินงานต่างๆขององค์กรประสบความสาเร็จได้ หากแต่เป็นงานท่ีแยบยลและต่อเน่ือง ซึง่ เป็นงานที่ทาได้ไมง่ า่ ยนกั แต่หากองคก์ รมีวธิ กี ารทจ่ี ะสรา้ งภาพลักษณ์ท่ีดีในสายตาประชาชนกลุ่มเป้าหมาย อยา่ งเหมาะสม ก็จะส่งผลให้องค์กรสามารถดารงอยู่ในจิตใจของประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้ 5. รูปแบบ กระบวนการ หรือลาดบั ขัน้ ตอน 1. รวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ กิจกรรม โครงการ และนโยบายสาคัญของกรมการพัฒนาชุมชนและ จงั หวดั นราธิวาส 2. จัดหมวดหมู่และรปู แบบการประชาสัมพันธ์ทงั้ ภายในและภายนอกองคก์ ร 3. กาหนดแผนปฏบิ ตั ิงาน (Action Plan) 4. ดาเนนิ การตามแผนปฏิบัตงิ านและตดิ ตามประเมนิ ผล 5. แกไ้ ขปรับปรุงรูปแบบการประชาสัมพนั ธใ์ ห้สอดคล้องกับสถานการณ์ 6. เทคนคิ ในการปฏิบัติงาน 1. ศึกษาปัญหาอุปสรรค ความต้องการ และสภาพการประชาสัมพันธ์รวมถึงภาพลักษณ์ในปัจจุบัน ของสานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอเมืองนราธิวาส และวิเคราะห์ผลที่ได้เพ่ือนามาวางแผนการประชาสัมพันธ์ เพือ่ เสรมิ สรา้ งภาพลักษณ์ 2. การสง่ เสรมิ สานกังานพัฒนาชุมชนอาเภอเมอื งนราธิวาสใหม้ สี มรรถนะสูง 3. การสรา้ งแบรนด์สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอเมอื งนราธวิ าส เพื่อสร้างอตั ลกั ษณ์ขององคก์ รให้ เป็นท่รี ู้จัก 4. การพัฒนากระบวนการประชาสัมพันธ์แบบมีส่วนร่วม โดยการสร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์กับ กลุ่ม/องค์กรดา้ นการประชาสมั พันธ์ในระดับหนว่ ยงานและในท้องถิ่น 5. การประเมินผลการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ทราบถึงจุดอ่อน ข้อบกพร่อง ข้อผิดพลาดของการดา เนนิ งานประชาสมั พันธ์เพ่อื ที่จะนาไปแกไ้ ขปรับปรุงให้ดขี ึน้ ในครั้งตอ่ ไป 7. ปญั หาที่พบและแนวทางการแก้ไขปัญหา 1. พฒั นาการอาเภอ ควรให้ความสาคัญกับการประชาสัมพันธ์ เพราะการประชาสัมพันธ์องค์กรเป็น กลไกสาคัญในการบริหารเพื่อสร้างภาพลักษณ์ ความนิยม การสร้างความเข้าใจและการสนับสนุนจาก ประชาชนตอ่ หนว่ ยงานดงั น้ันพัฒนาการอาเภอจงึ ควรแบง่ เวลาและใหค้ วามสาคัญกบั การประชาสมั พันธ์ องคกร์ ควบคูก่ ับการดาเนินงานตามภารกจิ 2. พฒั นากร ควรมีความกระตอื รือรน้ ในการประชาสมั พันธ์เพ่ือเสริมสร้างภาพลักษณ์ตลอดจนศึกษา หาความรู้เพ่ิมเติมอยู่เสมอ การประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ ทุกคนในองค์กรต้องช่วยกัน ประชาสัมพนั ธไ์ ม่ใชเ่ ป็นเพยี งหนา้ ทีข่ องผูร้ ับผดิ ชอบงานประชาสมั พันธเ์ ทา่ น้ัน

3. การให้บริการตามภารกิจขององค์กร ซึ่งสานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอเป็นหน่วยงานท่ีให้บริการ ดา้ นขอ้ มูลข่าวสารตามภารกจิ เช่น การดาเนนิ งานหมูบ่ ้านเศรษฐกจิ พอเพียงต้นแบบ การดาเนินงานกลุ่มออม ทรพั ย์เพือ่ การผลิต งานสง่ เสริมและสนบั สนุนสนิ คา้ หนึง่ ตาบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) การดาเนินงานกองทุน พฒั นาบทบาทสตรีเป็นตน้ ควรสรา้ งกระบวนงานทมี่ คี วามชดั เจนมแี บบแผน และเป็นทย่ี อมรบั ของประชาชน 4. นโยบายการดาเนนิ งาน การดาเนินงานด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว และดาเนนิ งานด้วยความโปร่งใส เปน็ ธรรมอย่างตอ่ เนือ่ ง เหน็ แกป่ ระโยชนส์ ่วนรวมมากกว่าประโยชน์สว่ นตน และสอดคล้องกับนโยบายการดา เนนิ งานขององคก์ร 5. กจิ กรรมรว่ มกับภาคกี ารพัฒนา องค์กรควรเข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือสังคมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัด ขนึ้ เพ่อื ประชาสมั พันธ์องค์กร และเปน็ การสรา้ งเครอื ขา่ ยการประชาสมั พันธ์ 6. อปุ กรณ/์ เครอื่ งมอื ในการประชาสัมพันธ์เพ่ือเสรมิ สรา้ งภาพลกั ษณอ์ งคก์รควรมีอุปกรณ์/เครื่องมือ ทีท่ นั สมัยโดยใช้งานผ่านส่ือช่องทางตา่ งๆ ประโยชนข์ ององค์ความรู้ 1. เปน็ หนว่ ยงานท่มี ีช่ือตดิ ปากของประชาชน 2. เกดิ โอกาสในการเรียนรู้ ท่ีจะปดิ จุดอ่อนขององคก์ ร โดยการสร้างจุดแข็งให้องค์กร เกดิ ความโดนเด่น 3. เกิดการพัฒนาและปรบั ปรุงองคก์ รอย่างสม่าเสมอ