Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book สถาบันการเงิน

E-book สถาบันการเงิน

Published by phiphat thamthawat, 2020-03-26 02:31:12

Description: E-book สถาบันการเงิน

Search

Read the Text Version

ม.1

ก ห นั ง สื อ เ รี ย น อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ เ ล่ ม นี้ เ ป็ น ส่ ว น ห น่ึ ง ข อ ง ร า ย วิ ช า ESO0201 สารสนเทศและนวัตกรรมสาหรับการสอนสังคมศึกษา ใช้ประกอบการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ซ่ึงจะอยู่ในรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ท้ังน้ีเพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับสถาบันการเงินซึ่งใน เนื้อหาจะประกอบไปด้วย ความหมายและความสาคัญของสถาบันการเงิน ประเภทของสถาบันการเงิน สถาบันการเงินที่สาคัญ ธนาคารกลาง ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค และสถาบันการเงิน ตลอดจนการ นามาปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวนั นอกจากน้ียังเป็นสื่อท่ีสามารถตอบสนองความแตกต่างระหว่าง ผู้เรียนได้เป็นอย่างดี รวมท้ังสามารถที่จะประเมินและตรวจสอบความ เขา้ ใจของผ้เู รยี นได้ ผู้จัดทาขอขอบคุณอาจารย์ ดร.ทวัช บุญแสง อาจารย์ประจาวิชา สารสนเทศและนวัตกรรมสาหรับการสอนสังคมศึกษา และคุณครู นวลจันทร์ นุกูลประทีป ตาแหน่งครูชานาญการพิเศษ วิชาสังคมศึกษา โรงเรียนเมืองสุราษฎร์ธานี อาเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้ให้ คาแนะนาเพือ่ ให้เกดิ ความถูกตอ้ งและมคี วามสมบูรณใ์ นข้อมลู

ข คานา ก สารบัญ ข ความหมาย ความสาคญั และประเภทของสถาบันการเงิน 1 สถาบันการเงนิ ทีส่ าคัญ 19 ธนาคารกลาง 37 ความสัมพนั ธร์ ะหว่างผูผ้ ลิต ผู้บรโิ ภค และสถาบันการเงนิ 45

1

2 สถาบันการเงินแต่ละประเภทย่อมมีบทบาท หน้าที่ แตกตา่ งกัน และมคี วามสาคญั ต่อเศรษฐกจิ ของประเทศ ส 3.2 ม.1/1 วิเคราะห์บทบาท หน้าที่ และความแตกต่างของสถาบัน การเงินแตล่ ะประเภท และธนาคารกลาง 1.เพื่อให้นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของสถาบัน ทางการเงินได้ (K) 2.เพ่ือให้นักเรียนสามารถอธิบายความสาคัญของสถาบัน การเงินท่ีมตี ่อระบบเศรษฐกิจได้ (K) 3.เพื่อให้นักเรยี นเขียนรายชื่อธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ไทยได้ (P) 4.เพื่อให้นกั เรียนเห็นประโยชน์ของสถาบันการเงินท่ีมีต่อ ระบบเศรษฐกิจได้ (A)

3 แบบทดสอบก่อนเรียน 1. ขอ้ ใดกลา่ วถึงความหมายของสถาบนั การเงินได้สมบูรณท์ ่สี ุด ก. ธนาคารซ่งึ ทาหน้าทร่ี ับฝากเงินและใหก้ ้ยู ืมเงนิ ข. สถาบันท่ีทาหน้าที่ดาเนินธุรกิจเกี่ยวกบั การเงินทุกประเภท ค. ธนาคารและสถาบนั ท่มี หี น้าทร่ี ับฝากเงิน หรอื ระดมเงนิ ออม ง. สถาบันที่ทาหนา้ ทีเ่ ป็นตวั กลางในการดาเนินธุรกรรมทางการ เงินเป็นผรู้ ับฝากเงิน หรอื ระดมเงินออมและการให้สินเชอื่ 2. ขอ้ ความเก่ียวกบั ลักษณะสาคญั ของสถาบันการเงินขอ้ ใดถูกต้องชดั เจน มากท่สี ดุ ก. หารายไดจ้ ากการกูย้ ืมเงนิ ข. เป็นตัวกลางของผ้รู ับฝากเงิน ค. รบั ความเส่ยี งแทนผอู้ อมและผูก้ ู้ยืมเงนิ ง. ทาธุรกจิ เกยี่ วกบั การเงินทีม่ ผี ลประโยชน์ 3. การสร้างสภาพคลอ่ งทางการเงินในขอ้ ใดมีผลทาให้เศรษฐกิจขยายตวั ไดม้ ากทสี่ ดุ ก. การเปดิ ขายพันธบัตรรัฐบาลแก่ประชาชน ข. การจัดทางบประมาณแผน่ ดินแบบเกินดุล ค. การเพ่มิ การปล่อยสนิ เชื่อแกผ่ ู้ประกอบการ ง. การเพิม่ อตั ราเงนิ สดสารองของธนาคารพาณชิ ย์ 4. ขอ้ ใดไม่ใชห่ นา้ ทข่ี องสถาบันการเงิน ก. รับทวงหน้ี ข. รับฝากเงิน ค. ระดมเงินออม ง. เปน็ แหล่งก้ยู มื 5. ขอ้ ใดไมใ่ ชก่ ารดาเนินธุรกรรมทางการเงิน ก. ถอนเงนิ จากตู้ ATM ข. การก้ยู มื เงินนอกระบบ ค. โอนเงินผา่ นโทรศัพท์มือถือ ง. ขอสนิ เชือ่ จากสถาบันการเงิน

4 1 ความหมาย และความสาคัญ ของสถาบนั การเงิน สถาบันการเงิน หมายถึง สถาบันที่ทาหน้าที่ เป็นตัวกลางในการดาเนินธุรกรรมทางการเงิน เป็น ผู้รับฝากหรอื ระดมเงินออมและการให้สินเช่อื Mobile Banking โอนเงนิ ขอสินเช่อื ธรุ กรรมทางการเงิน คือ การกระทาทางการเงินผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงิน สถาบนั การเงนิ มลี ักษณะสาคัญดงั น้ี 1) เปน็ ตวั กลาง เป็นสถาบนั ท่ีอยรู่ ะหว่างผู้ออมกบั ผูท้ ี่ ตอ้ งการสินเชื่อกยู้ ืม 2) เปน็ ผู้รับความเสยี่ งแทน การปล่อยสนิ เชื่อให้กู้ยืม ย่อมจะต้องมีความเสี่ยง จากการผิดนัดชาระหน้ี เกิดหน้ีเสียต่าง ๆ สถาบัน การเงนิ ก็จะเปน็ ผรู้ ับความเสย่ี งนีแ้ ทนผฝู้ ากเงินออม

5 3) สร้างสภาพคลอ่ งทางการเงิน สถาบันการเงินจะทาหน้าท่ีชว่ ยสรา้ งสภาพคลอ่ ง ให้กบั ตราสารทาง การเงิน โดยทาหน้าท่ีประกันการออกเช็ค ตั๋วสัญญาใช้เงิน และอ่ืน ๆ ให้กับหน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน องค์กรต่าง ๆ ทาให้ตราสารดังกล่าว น้นั ไดร้ บั การยอมรบั มคี วามน่าเชอ่ื ถอื ตราสารทางการเงิน เป็นหลักฐานแสดงการถือครองและสิทธิ เรียกร้องท่ีสถาบันทางการเงินนาออกมาจาหน่ายเพ่ือระดมเงินจาก ผลู้ งทนุ นามาจดทะเบยี นเพือ่ ทาการซ้ือขาย สถาบนั การเงนิ มีบทบาทสาคัญในการชว่ ยพฒั นาและ สร้างความเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ ของประเทศ

6 แบบทดสอบหลังเรียน 1. ขอ้ ใดกลา่ วถึงความหมายของสถาบนั การเงินได้สมบูรณท์ ่ีสุด ก. ธนาคารซงึ่ ทาหน้าท่รี ับฝากเงินและให้กู้ยืมเงิน ข. สถาบันท่ที าหน้าท่ีดาเนินธุรกิจเก่ียวกับการเงินทกุ ประเภท ค. ธนาคารและสถาบันท่ีมหี น้าทร่ี ับฝากเงิน หรอื ระดมเงนิ ออม ง. สถาบนั ท่ที าหนา้ ท่ีเป็นตวั กลางในการดาเนินธุรกรรมทางการ เงินเป็นผู้รับฝากเงนิ หรอื ระดมเงนิ ออมและการให้สินเชื่อ 2. ข้อความเกี่ยวกับลกั ษณะสาคญั ของสถาบันการเงินข้อใดถกู ต้องชัดเจน มากที่สุด ก. หารายไดจ้ ากการกู้ยมื เงิน ข. เปน็ ตัวกลางของผู้รบั ฝากเงิน ค. รับความเส่ยี งแทนผอู้ อมและผู้กยู้ ืมเงิน ง. ทาธุรกจิ เกย่ี วกับการเงินที่มผี ลประโยชน์ 3. การสร้างสภาพคล่องทางการเงินในขอ้ ใดมีผลทาใหเ้ ศรษฐกิจขยายตัว ไดม้ ากทส่ี ดุ ก. การเปิดขายพันธบตั รรัฐบาลแก่ประชาชน ข. การจัดทางบประมาณแผ่นดินแบบเกินดุล ค. การเพ่ิมการปลอ่ ยสนิ เชอื่ แก่ผู้ประกอบการ ง. การเพิ่มอัตราเงนิ สดสารองของธนาคารพาณิชย์ 4. ข้อใดไม่ใชห่ นา้ ทขี่ องสถาบันการเงิน ก. รบั ทวงหน้ี ข. รบั ฝากเงนิ ค. ระดมเงนิ ออม ง. เป็นแหลง่ กู้ยมื 5. ข้อใดไมใ่ ชก่ ารดาเนินธรุ กรรมทางการเงิน ก. ถอนเงินจากตู้ ATM ข. การกูย้ มื เงินนอกระบบ ค. โอนเงินผา่ นโทรศัพท์มอื ถอื ง. ขอสนิ เช่ือจากสถาบันการเงิน

7 สถาบันการเงินแต่ละประเภทย่อมมีบทบาท หน้าที่ แตกตา่ งกัน และมีความสาคญั ต่อเศรษฐกิจของประเทศ ส 3.2 ม.1/1 วิเคราะห์บทบาท หน้าท่ี และความแตกต่างของ สถาบนั การเงินแตล่ ะประเภท และธนาคารกลาง 1.เ พ่ื อ ใ ห้ นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ จ า แ น ก ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง สถาบนั การเงนิ ได้ (K) 2. เพ่ือให้นักเรียนวิเคราะห์บทบาทหน้าที่ของ สถาบนั การเงินแต่ละประเภทได้ (K) 3. เพ่ือให้นักเรียนสามารถตรวจสอบได้ว่าสถาบัน การเงนิ แตล่ ะประเภทมีลักษณะเดน่ อย่างไร (P) 4. เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติตามภาระงานที่มอบหมาย ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง เรียบร้อย และสวยงาม (A)

8 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1. สถาบันการเงินที่มบี ทบาทในการรับฝากเงินและใหก้ ยู้ มื เงินมากทีส่ ดุ ในตลาดเงนิ คอื ข้อใด ก. ธนาคารออมสิน ข. ธนาคารพาณิชย์ ค. ธนาคารแหง่ ประเทศไทย ง. ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 2. สถาบันการเงนิ ในตลาดเงนิ เปน็ สถาบนั การเงนิ ทอี่ อกหลกั ทรพั ยท์ มี่ ีอายคุ รบ กาหนดไถ่ถอนในระยะเวลาเทา่ ไร ก. ไมเ่ กนิ 6 เดอื น ข. ไม่เกิน 1 ปี ค. ไม่เกิน 2 ปี ง. ไม่เกนิ 3 ปี 3. ธนาคารใดไมร่ บั ฝากเงินจากประชาชน ก. ธนาคารออมสิน ข. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ค. ธนาคารอสิ ลามแหง่ ประเทศไทย ง. ธนาคารเพอ่ื การสง่ ออกและนาเขา้ แหง่ ประเทศไทย 4. ข้อใดจัดเปน็ สถาบนั การเงนิ เฉพาะอยา่ ง ก. ธนาคารกรงุ ไทย ข. ธนาคารกรุงเทพ ค. ธนาคารไทยพาณชิ ย์ ง. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 5. บริษทั เงนิ ตดิ ล้อ จากดั จดั เป็นสถาบนั การเงนิ ประเภทใด ก. บริษทั เงนิ ทนุ ข. ธนาคารพาณชิ ย์ ค. บริษัทประกันชวี ิต ง. กองทุนประกันสงั คม

9 แบบทดสอบก่อนเรยี น 6. การถอนเงนิ จากธนาคารไมต่ ้องใช้สง่ิ ใด ก. สูตบิ ตั ร ข. ใบถอนเงิน ค. สมดุ คู่ฝาก ง. บตั รประชาชน 7. ขอ้ ใดกลา่ วได้ถกู ต้องท่สี ุดเกี่ยวกับเงนิ ฝากเผอื่ เรียก ก. แตงโมสามารถถอนเงินออกมาใชไ้ ดเ้ ม่ือครบ 6 เดือน ข. แตงไทยไดร้ ับดอกเบี้ยจากเงินตน้ เมือ่ ฝากครบ 3 เดอื น ค. ชาลตี อ้ งฝากเงินในบญั ชีครบ 1 ปี จึงจะสามารถถอนเงนิ ได้ ง. โกโก้ถอนเงนิ มาใช้จ่ายอยู่บอ่ ยครงั้ เมอื่ ต้องการซอ้ื ของทีต่ นเองชอบ 8. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งเก่ยี วกบั เงินฝากประจา ก. อตั ราดอกเบี้ยสงู ข. เป็นการออมระยะสัน้ ค. สามารถเบิกถอนไดต้ ลอดเวลา ง. ได้รับอตั ราดอกเบ้ียเป็นรายวนั 9. ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ระโยชน์จากการฝากเงนิ ไวก้ บั ธนาคาร ก. ทาใหไ้ ด้รบั ดอกเบ้ยี ข. ทาให้เงนิ ไม่สญู หาย ค. ทาให้เงนิ เกดิ การหมุนเวยี น ง. ทาใหผ้ ู้อนื่ รูว้ ่าเรามเี งนิ เทา่ ไร 10. ถ้านักเรยี นต้องการสรา้ งที่อยอู่ าศยั ควรตดิ ต่อสถาบันการเงนิ ใด ก. ธนาคารออมสนิ ข. ธนาคารกรุงไทย ค. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ง. ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์

10 2 ประเภทของสถาบนั การเงิน 2.1 แบง่ ตามลักษณะของกจิ การ 1) สถาบันการเงินประเภทธนาคาร หมายถึง สถาบันการเงิน ทีท่ าหนา้ ท่รี ับฝากเงินออมจากประชาชน แล้วนาเงินฝากนั้นปล่อยให้กับ ผู้ขอสินเช่ือ ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ธนาคารออมสิน ธนาคาร อาคารสงเคราะห์ 2) สถาบนั การเงนิ ประเภททม่ี ใิ ช่ธนาคาร หมายถึง สถาบันการเงินในลักษณะอ่ืน ๆ เช่น บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บริษัทประกันชีวิต สหกรณ์ออม ทรพั ย์ โรงรบั จานา บรษิ ทั รบั แลกเปล่ียนเงินตราต่างประเทศ เป็นต้น

11 สิ่งท่คี วรรู้ บริษัทเงินทุน สถาบันการเงินท่ีจดทะเบียนเป็นบริษัทจากัด เพ่ือดาเนินธุรกิจเงินทุน โดยการกู้ยืมเงินจากประชาชน โดยออกต๋ัว สญั ญาใช้เงินเป็นหลกั ฐาน บริษัทประกันชีวิต ทาหน้าท่ีในการระดมเงินออกจากประชาชน ในรูปของการขายกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อคุ้มครองผู้ซื้อกรมธรรม์ ประกนั ภยั 2.2 แบง่ ตามหนา้ ทีใ่ นการดาเนนิ การ 1) สถาบันการเงินทั่วไป เป็นสถาบันการเงินท่ีทาหน้าที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกรรมต่าง ๆ ทางการเงิน เช่น ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัท หลักทรพั ยจ์ ดั การกองทุนรวม เปน็ ตน้ ธนาคารพาณิชย์ มีหน้าท่ีในการให้บริการประชาชนท่ัวไปใน การรบั ฝากเงิน และปล่อยสนิ เช่ือให้กับผ้ทู ี่ต้องการลงทุน

12 2.2 แบง่ ตามหนา้ ทีใ่ นการดาเนนิ การ 2) สถาบันการเงนิ เฉพาะอย่าง เป็นสถาบนั ทท่ี าหน้าทีเ่ ฉพาะทาง การเงินหรือทาธุรกรรมทางการเงินเฉพาะด้าน เช่น ธนาคารอาคาร สงเคราะห์ ทเ่ี น้นการปลอ่ ยสนิ เช่ือ เพื่อท่ีอยูอ่ าศัย บรรษัทประกันสินเชื่อ อุตสาหกรรมขนาดย่อม ที่ทาหน้าที่เป็นผู้ค้าประกันให้ผู้ประกอบการ ธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดย่อมได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินมากขึ้น เปน็ ต้น 2.3 แบ่งตามอายุของหลักทรพั ย์ 1)สถาบันการเงินในตลาดเงิน เป็นสถาบันการเงินที่ออก หลักทรัพย์และซื้อขายหลักทรัพย์ท่ีมีอายุครบกาหนดไถ่ถอนไม่เกิน 1 ปี เป็นการให้กู้ยืมเงินในระยะส้ัน ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ ธนาคาร ออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร บริษัทเงินทุน ที่ออกตัวสัญญาใช้เงินอายุครบกาหนดไถ่ถอนไม่เกิน 1 ปี หรือบริษัท เงินทุนท่ีรับซื้อลดตราสารพาณิชย์ ตราสารทางการเงินอ่ืน ๆ ท่ีมีอายุ ครบกาหนดไถถ่ อนไม่เกนิ 1 ปี

13 2) สถาบันการเงินในตลาดทุน เป็นสถาบันที่ออกหลักทรัพย์และ การซอื้ ขายหลกั ทรพั ยท์ ีม่ ีอายุ ครบกาหนดไถถ่ อนมากกว่า 1 ปี เป็น การให้กู้ยืมในระยะยาว โดยใช้เคร่ืองมือทางการเงินต่าง ๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ ต๋ัวสัญญาใช้เงินท่ีมีอายุครบกาหนดไถ่ถอนเกิน 3 ปี เป็นหลกั ประกนั สง่ิ ท่ีควรรู้ พันธบัตรรัฐบาล เป็นตราสารท่ีรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเป็น ผู้ออก เพื่อกู้ยืมเงินจากประชาชน โดยการจ่ายดอกเบี้ยพร้อมเงินต้น ให้แก่ผู้ถือเมื่อครบกาหนดหรือจ่ายดอกเบ้ียเป็นงวด ๆ แล้วแต่จะตกลง กนั ผู้ซอื้ พันธบัตรจะมฐี านะเปน็ เจ้าหนี้รัฐบาลตามกฎหมาย หุ้นกู้ เป็นตราสารหน้ีท่ีผู้ออกเป็นบริษัทเอกชน เพ่ือขอกู้เงิน กับประชนโดยตรง เพ่ือนาไปขยายธุรกิจ ผู้ลงทุนในหุ้นกู้จึงมี ฐานะเป็นเจ้าหน้ี การจาหน่าย หุ้นกู้มักกระทาผ่านธนาคาร พาณิชย์ เพือ่ อานวยความสะดวกให้แก่ผ้ลู งทุน

14 2.4 แบง่ ตามหนา้ ท่ีและลักษณะการดาเนิน กิจกรรมหลกั ตามกรอบของกฎหมาย 1) สถาบนั การเงนิ เกยี่ วกับการรับฝากเงิน ทาหน้าท่ีหลักในการระดมทุน ส่วนใหญ่โดยวิธีการรับฝากเงินใน รูปแบบต่าง ๆ จากประชาชน เช่น เงินฝากเผื่อเรียก เงินฝาก ออมทรัพย์และเงินฝากประจา เงินทุนท่ีได้จะนาไปลงทุนหรือให้กู้ยืม ภายใต้กรอบท่ีกฎหมายกาหนด หรืออาจจะเป็นการให้สินเช่ือ สถาบัน ประเภทน้ี ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคาร สงเคราะห์ สหกรณ์ออมทรัพย์ ธนาคารเพ่ือการเกษตร และสหกรณ์ การเกษตร ธนาคารพาณชิ ยเ์ ป็นแหล่งระดมเงินทุนที่สาคญั โดยใช้วธิ กี ารเปดิ รับการฝากเงนิ ออมจากประชาชน ส่งิ ท่ีควรรู้ เงินฝากเผื่อเรียก เป็นเงินฝากในธนาคารท่ีเจ้าของบัญชีสามารถถอน ไดเ้ มื่อตอ้ งการ โดนธนาคารจะคดิ อัตราดอกเบ้ียรายวัน โดยไม่เสียภาษี เพอื่ อานวยความสะดวกแก่ผู้มเี งินฝาก เหมาะกับคนที่ออมเงินระยะส้ัน มกี ารใช้จ่ายหมนุ เวียน เงนิ ฝากประจา เปน็ เงินฝากในธนาคารทีม่ เี ง่ือนไขว่า ผูฝ้ ากจะต้องฝาก เงินไว้จนกว่าจะครบระยะเวลาที่กาหนด จึงจะได้รับดอกเบ้ียจาก เงนิ ต้น

15 2) สถาบันการเงนิ ทีม่ ีสัญญาผูกพนั กับแหลง่ เงินทุน เป็นสถาบันที่สร้างเครื่องมือทางเครดิตที่มีลักษณะเป็นสัญญา ผูกพันกับผู้ฝาก เช่น บริษัทประกันชีวิต กองทุนประกันสังคม เงินทุนท่ีระดมได้จะนาไปปล่อยกู้ต่อในรูปของการให้สินเชื่อ หรือ นาไปลงทุนในโครงการต่าง ๆ ที่มีช่วงระยะเวลายาว เพื่อให้ได้รับ ผลประโยชน์ตอบแทนท่ีมากกว่าและมั่นคงกว่า เช่น การซื้อ พันธบตั รของรัฐบาลการให้รัฐวิสาหกิจกู้ยืมเพื่อนาไปลงทุนทางด้าน สาธารณูปโภค เปน็ ตน้ 3) สถาบนั การเงนิ ที่ออกเครอ่ื งมอื ทางการเงินเพื่อระดมทนุ สถาบันการเงิน ประเภทน้ีจะใช้วิธีระดมทุนโดยการออก เครื่องมอื ทางการเงนิ ตา่ ง ๆ เชน่ ตั๋วสัญญาใชเ้ งนิ หุ้นกู้หรือตราสาร ท่ีมีลักษณะเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนจัดซ้ือไว้เพื่อการออมทรัพย์ โดยให้ดอกเบ้ียสูง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทเงินทุน กองทุน รวมต่าง ๆ เงินทุนที่ระดมได้จะนาไปปล่อยให้กู้ยืมเพ่ือการบริโภค การผลิต การพาณิชย์ และนาไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ตาม กรอบท่ีกฎหมายกาหนดไว้

16 4) สถาบนั การเงินท่ีมหี นา้ ทห่ี ลักในการให้สินเชอื่ สถาบัน การ เ งิน ป ระ เ ภท นี้ จะ เ น้น การ ป ล่อยสิน เ ชื่อห รือป ล่อย กู้ เป็นหลัก การระดมเงินทุนส่วนใหญ่ผู้ประกอบการเองหรือจากการ ขายหุ้น และเงินกู้ยืมภายในและภายนอกประเทศ รายได้มาจาก ดอกเบี้ย สถาบันการเงินประเภทน้ี เช่น โรงรับจานา บริษัทเงินทุน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เป็นตน้

17 แบบทดสอบหลังเรยี น 1. สถาบันการเงินทมี่ ีบทบาทในการรับฝากเงินและให้กยู้ ืมเงนิ มากทีส่ ดุ ในตลาดเงิน คอื ข้อใด ก. ธนาคารออมสิน ข. ธนาคารพาณชิ ย์ ค. ธนาคารแหง่ ประเทศไทย ง. ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 2. สถาบันการเงนิ ในตลาดเงนิ เป็นสถาบนั การเงนิ ทอี่ อกหลกั ทรพั ย์ทม่ี ีอายคุ รบ กาหนดไถ่ถอนในระยะเวลาเท่าไร ก. ไมเ่ กนิ 6 เดอื น ข. ไม่เกิน 1 ปี ค. ไม่เกิน 2 ปี ง. ไมเ่ กนิ 3 ปี 3. ธนาคารใดไมร่ บั ฝากเงนิ จากประชาชน ก. ธนาคารออมสิน ข. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ค. ธนาคารอสิ ลามแห่งประเทศไทย ง. ธนาคารเพอ่ื การส่งออกและนาเขา้ แหง่ ประเทศไทย 4. ข้อใดจัดเปน็ สถาบนั การเงินเฉพาะอยา่ ง ก. ธนาคารกรงุ ไทย ข. ธนาคารกรุงเทพ ค. ธนาคารไทยพาณชิ ย์ ง. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 5. บริษทั เงนิ ตดิ ล้อ จากดั จดั เป็นสถาบนั การเงนิ ประเภทใด ก. บริษทั เงนิ ทนุ ข. ธนาคารพาณิชย์ ค. บริษัทประกันชวี ิต ง. กองทุนประกันสงั คม

18 แบบทดสอบหลงั เรียน 6. การถอนเงนิ จากธนาคารไมต่ ้องใชส้ ิ่งใด ก. สตู บิ ัตร ข. ใบถอนเงิน ค. สมดุ คฝู่ าก ง. บัตรประชาชน 7. ขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งทส่ี ดุ เก่ียวกับเงนิ ฝากเผือ่ เรียก ก. แตงโมสามารถถอนเงนิ ออกมาใช้ไดเ้ มื่อครบ 6 เดอื น ข. แตงไทยได้รับดอกเบี้ยจากเงนิ ต้นเมื่อฝากครบ 3 เดือน ค. ชาลีตอ้ งฝากเงินในบัญชคี รบ 1 ปี จึงจะสามารถถอนเงินได้ ง. โกโก้ถอนเงนิ มาใช้จ่ายอยูบ่ ่อยครั้งเมื่อตอ้ งการซือ้ ของท่ตี นเองชอบ 8. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งเกยี่ วกับเงินฝากประจา ก. อัตราดอกเบ้ียสงู ข. เปน็ การออมระยะสัน้ ค. สามารถเบิกถอนได้ตลอดเวลา ง. ไดร้ บั อตั ราดอกเบยี้ เปน็ รายวนั 9. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์จากการฝากเงนิ ไว้กับธนาคาร ก. ทาใหไ้ ดร้ บั ดอกเบ้ีย ข. ทาใหเ้ งินไมส่ ญู หาย ค. ทาให้เงนิ เกิดการหมุนเวียน ง. ทาให้ผอู้ ืน่ รู้วา่ เรามีเงนิ เทา่ ไร 10. ถ้านกั เรียนต้องการสรา้ งที่อยูอ่ าศยั ควรติดตอ่ สถาบันการเงนิ ใด ก. ธนาคารออมสนิ ข. ธนาคารกรุงไทย ค. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ง. ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์

19

20 สถาบันการเงินแต่ละประเภทย่อมมีบทบาท หน้าที่ แตกตา่ งกัน และมคี วามสาคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ส 3.2 ม.1/1 วิเคราะห์บทบาท หน้าที่ และความแตกต่างของสถาบัน การเงินแตล่ ะประเภท และธนาคารกลาง 1. เพ่ือให้นักเรียนวิเคราะห์บทบาทหน้าที่และความ แตกตา่ งของสถาบันการเงินได้ (K) 2. เพ่ือให้นักเรียนสืบค้น นาเสนอ และเผยแพร่ข้อมูล เก่ยี วกบั สถาบนั การเงนิ ที่สาคญั ตอ่ ระบบเศรษฐกิจได้ (P) 3. เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติตามภาระงานท่ีมอบหมายได้ อยา่ งถกู ต้อง เรยี บร้อย และสวยงาม (A)

21 แบบทดสอบก่อนเรียน 1. ธนาคารใดทีบ่ รกิ ารสินเชื่อแกป่ ระชาชนผู้มรี ายไดน้ อ้ ยใหม้ ที อ่ี ยอู่ าศัย ก. ธนาคารกลาง ข. ธนาคารออมสิน ค. ธนาคารพาณชิ ย์ ง. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 2. สหกรณ์ใดที่ทาหน้าทจี่ ดั สรรทด่ี นิ ทากนิ ใหร้ าษฎร ก. สหกรณท์ ดี่ นิ ข. สหกรณ์นคิ ม ค. สหกรณ์บรกิ าร ง. สหกรณ์การเกษตร 3. สถาบนั การเงนิ ใดได้ชื่อวา่ “ธนาคารของคนยาก” ก. โรงรับจานา ข. ธนาคารออมสิน ค. ธนาคารพาณิชย์ ง. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 4. สถาบนั การเงินใดทม่ี ีวัตถปุ ระสงค์ทจ่ี ะชว่ ยสรา้ งหลักประกนั และ ความมน่ั คงในการดาเนนิ ชวี ิตใหแ้ กล่ กู จ้างท่จี ่ายเงินสมทบเข้ากองทนุ ก. โรงรับจานา ข. บรษิ ทั ประกนั ชีวติ ค. สหกรณ์ออมทรพั ย์ ง. กองทนุ ประกนั สงั คม 5. ธนาคารพาณิชยท์ ่ีเปิดทาการในประเทศไทยเปน็ ธนาคารแรก คอื ก. ธนาคารไทยพาณิชย์ ข. ธนาคารฮอ่ งกงและเซย่ี งไฮ้ ค. ธนาคารเอเชีย และธนาคารฮ่องกง ง. ธนาคารกรุงไทยและธนาคารกรุงเทพ 6. ขอ้ ความเกี่ยวกบั บทบาทหน้าทขี่ องธนาคารพาณิชย์ ขอ้ ใดถกู ต้อง ก. สนบั สนนุ นกั ธรุ กิจทนี่ าเข้าสง่ ออกสนิ ค้า ข. การใหส้ นิ เช่ือแก่ธรุ กิจทีเ่ นน้ การเกง็ กาไร ค. สง่ เสรมิ การออมทรพั ย์ของประชาชนผู้มีรายได้นอ้ ย ง. ระดมเงนิ ฝากและให้สินเช่ือในระบบเศรษฐกจิ มากกวา่ สถาบันอื่น

22 แบบทดสอบก่อนเรียน 7. ข้อใดไม่ใชน่ โยบายการปล่อยเงนิ ก้ขู องธนาคารเพ่อื การเกษตรและ สหกรณก์ ารเกษตร ก. ให้กู้เงนิ เพือ่ ใช้เป็นทุนให้แก่สมาชิก ข. ใหก้ ู้เงินเพ่ือจดั หาวสั ดอุ ุปกรณ์การเกษตร ค. ให้ก้เู งนิ เพ่ือสง่ เสรมิ ให้เกษตรกรมบี า้ นและท่ดี ินอยู่อาศยั ง. ใหก้ เู้ งินเพื่อการปรับปรุงผลิตผลทางการเกษตร พชื สวน พืชไร่ 8. ธนาคารออมสนิ จัดตัง้ ขนึ้ ในสมยั ใด ก. รัชกาลที่ 4 ข. รชั กาลที่ 5 ค. รชั กาลท่ี 6 ง. รชั กาลท่ี 7 9. ธนาคารท่ีไมใ่ ห้สินเช่ือแก่ธุรกจิ ทเ่ี กี่ยวข้องกบั การเกง็ กาไร การผกู ขาด การผดิ ศลี ธรรม คอื ธนาคารใด ก. ธนาคารพาณชิ ย์ ข. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ค. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ง. ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร 10. ขอ้ ใดอธบิ ายเกยี่ วกบั โรงรบั จานาไมถ่ กู ตอ้ ง ก. เปน็ แหลง่ เงนิ กู้ของผู้มีรายได้น้อย ข. ผกู้ ตู้ ้องนาโฉนดตราสารมาค้าประกนั ค. ใหส้ ินเช่อื แกผ่ ู้กู้รายย่อยทนี่ าสนิ ทรพั ย์มาฝากค้าประกนั ไว้ ง. โรงรบั จานาท่ีดาเนินการโดยเทศบาล เรียกว่า สถานธนานบุ าล

23 สถาบันการเงนิ ทสี่ าคัญ สถาบนั การเงนิ ทสี่ าคญั ของไทยมีอยู่เป็นจานวนมาก ในท่ีน้ี จะขอเลือกนามากล่าวเฉพาะ สถาบันการเงินท่ีผู้คนส่วนใหญ่ ค้นุ เคย และมโี อกาสไปตดิ ต่อทาธรุ กรรมบ่อยครง้ั ได้แก่ 1) ธนาคารพาณชิ ย์ ธนาคารพาณิชย์ มีหน้าท่ีหลักในการรับฝากเงินจากประชาชน ท่ัวไป แล้วรวบรวมนาเงินดังกล่าวไปให้หน่วยงาน องค์กร ธุรกิจ ตลอดจนบุคคลทั่วไปกู้ยืม รวมท้ังนาเงินฝากบางส่วนไปลงทุนใน ลกั ษณะตา่ ง ๆ เพอ่ื ให้เกิดผลประโยชน์ ธนาคารพาณิชย์เป็นสถาบันการเงินท่ีมีความสาคัญต่อเศรษฐกิจ ของประเทศมาก เนื่องจากเป็นสถาบันการเงินที่สามารถระดมเงินฝาก และใหส้ ินเชื่อในระบบเศรษฐกจิ มากกวา่ สถาบันการเงินอน่ื ๆ

24 ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ของรฐั ธนาคารทหารไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารพาณชิ ย์ของเอกชนไทย ธนาคารกรุงศรอี ยธุ ยา จากัด (มหาชน) ธนาคารเกียรตนิ าคนิ จากดั (มหาชน) ธนาคารกรงุ เทพ จากัด (มหาชน) ธนาคารทสิ โก้ จากดั (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จากดั (มหาชน) ธนาคารธนชาต จากดั (มหาชน) ธนาคารซไี อเอม็ บี ไทย จากัด(มหาชน) ธนาคารยูโอบี จากัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณชิ ย์ จากดั (มหาชน) ธนาคารไทยเครดติ เพอ่ื รายยอ่ ย จากัด ธนาคารไอซบี ีซี ไทย จากัด (มหาชน) (มหาชน) ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮา้ ส์ จากัด (มหาชน) ธนาคารสแตนดารด์ ชาร์เตอรด์ (ไทย) จากดั (มหาชน) ธนาคารเจพมี อร์แกน เชส ธนาคารเมกะ สากลพาณชิ ย์ จากดั ธนาคารซมู โิ ตโม มิตซยุ แบงก้ิง คอร์ปอเรช่ัน (มหาชน) ธนาคารคารบีเอน็ พี พารบี าส์ ธนาคารพาณิชย์สาขาต่างประเทศ ธนาคารแหง่ โตเกยี ว-มิตซูบชิ ิ ยเู อฟเจ จากดั ธนาคารคาลยิ ง ธนาคารซติ แี้ บงก์ ธนาคารดอยซแ์ บงก์ ธนาคารมิซูโฮ คอร์ปอเรต จากัด ธนาคารแห่งประเทศจีน จากัด ธนาคารแห่งอเมริกาเนชนั่ แนลแอสโซซิเอชน่ั ธนาคารอาร์ เอช บี จากัด ธนาคารอินเดยี นโอเวอรซ์ ีส์ ธนาคารเดอะรอยลั แบงกอ์ อฟสก็อตแลนด์เอน็ .วี ธนาคารโอเวอรซ์ ี-ไชนสี แบงก้ิงคอรป์ อเรช่นั ธนาคารฮอ่ งกงและเซยี่ งไฮ้แบงก้ิงคอร์ปอเรชั่น จากัด

25 ธนาคารพาณิชย์ตั้งขึ้นเป็นแห่งแรกเมื่อ พ.ศ. 2531 โดยเป็น ธนาคารของต่างประเทศ คือ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ ส่วนธนาคาร แห่งแรกของคนไทย คือ บริษัทแบงก์สยามกัมมาจลทุนจากัด ธนาคาร พาณิชย์สามารถรับฝากเงิน ได้ท้ัง 3 ประเภท ได้แก่ เงินฝากออมทรัพย์ หรือสะสมทรัพย์ เงนิ ฝากประจา และเงินฝากกระแสรายวนั นอกเหนือจากการให้บริการรับฝากเงินและให้กู้ยืมแล้ว ธนาคาร พาณิชย์ยังใช้ บริการธุรกรรมอื่น ๆ ด้วย เช่น ซ้ือขายเงินตรา ต่างประเทศ ค้าประกันการซ้ือขายสินค้า ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน จาหน่าย พันธบตั ร โอนเงิน รบั ชาระค่าสินค้าและบริการ เปน็ ต้น บรษิ ัทแบงกส์ ยามกัมมาจลทนุ จากดั

26 2) ธนาคารออมสิน ธน าคาร ออมสิ น เป็นส ถาบัน การเงิน ที่ ส่งเสริมการออมทรัพย์ของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ มีรายได้น้อย ให้มีการประหยัดแล้วนาเงินท่ีออมนั้น ไปฝากกั บธนาคาร จั ดต้ั งโดยพระบาทสมเด็ จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันท่ี 5 เมษายน พ.ศ. 2456 การดาเนินงานของธนาคารออมสินเป็นไปในลักษณะการรับฝาก เงินจากประชนท่ัวไปและนาเงินท่ีได้ไปลงทุน เช่น ซ้ือพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง ตั๋วสัญญาใช้เงินของกระทรวงการคลัง ถือเป็นแหล่งเงินทุน ภายในประเทศของรัฐบาล รวมท้ังให้หน่วยงานของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ กู้เงินนาไปลงทุนสร้างสาธารณูปโภคและพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ ให้เอกชนท่ีมีความจาเป็นต้องใช้เงินทุนในระยะสั้นกู้ยืมเงิน ให้สินเชื่อแก่ ประชาชนทั่วไปกู้ยืมเงิน เพื่อจัดหาท่ีอยู่อาศัย ให้สินเชื่อสวัสดิการสาหรับ ข้าราชการและพนักงานขององค์การของรัฐ นอกจากนี้ ยังจาหน่ายสลาก ออมสิน ซง่ึ ผอู้ อมมสี ทิ ธิถกู สลากไดร้ ับเงนิ รางวัล

27 3) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพ่อื การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เปน็ สถาบนั การเงนิ ที่ ทาหน้าท่ีในการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน เพ่ือส่งเสริมการประกอบ อาชีพของเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร ก่อตั้งข้ึนใน พ.ศ. 2509 เงินทุนหลักในการดาเนินงานของธนาคารได้มาจากฝากเงินเข้ามาของ ธนาคารพาณิชย์ เงินกู้จากกระทรวงการคลัง เงินกองทุนสงเคราะห์ เกษตรกร การออกพนั ธบตั รเงนิ กู้ และเงินจากแหล่งเงนิ ทนุ อืน่ ๆ หน้าที่สาคัญของธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร คือ เป็นสถาบนั ทใ่ี ห้สินเชื่อระยะส้ันและระยะกลางแก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร ในอัตราดอกเบี้ยต่า ท้ังนี้ เพราะมิได้มีเป้าหมายหลักใน การแสวงหากาไร แต่มุ่งส่งเสริมพัฒนาการเจริญก้าวหน้า ให้เกษตรกร สามารถประกอบอาชพี เลี้ยงตนเองและครอบครวั ได้

28 4) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ให้บริการสินเชื่อช่วยเหลือทาง การเงินแก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยและปานกลางให้มี ที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยการให้กู้ยืมเงินไปซื้อ บ้าน อาคาร ตลอดจนที่ดินเพื่อนาไปสร้างบ้าน ซ่อม ขยายอาคาร ไถ่ถอนจานอง เป็นแหล่งสินเชื่อของนิติบุคคล ที่จะทาการจัดสรรท่ีดิน อาคาร บ้าน จาหนา่ ยใหแ้ กป่ ระชาชนในราคาท่ีไมแ่ พง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ก่อตั้งข้ึนเม่ือ พ.ศ. 2496 เป็น รัฐวิสาหกิจภายใต้การควบคุมของกระทรวงการคลัง เป็นสถาบัน การเงินท่ีให้สินเช่ือ เพ่ือการเคหะมากเป็นลาดับสองรองจากธนาคาร พาณิชย์ทั้งระบบ

29 5) ธนาคารอิสลามแหง่ ประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เป็นธนาคารเฉพาะกิจ ที่ดาเนินงานตามพระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2545 ปัจจุบันมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการคลัง เริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกเม่ือ พ.ศ. 2546 โดยรูปแบบการให้บริการจะ คลา้ ยกบั ธนาคารพาณิชย์ทั่วไป คือ ให้บริการด้านเงินฝาก สินเชื่อ และ บริการทางการเงนิ อืน่ ๆ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดให้บริการกับลูกค้า ประชาชนทั่วไปโดยไม่มีการแบ่งแยก เพียงแต่ในการทาธุรกรรมจะใช้ ระบบและรูปแบบทางการเงินท่ีถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามเท่าน้ัน กล่าวคือ สินเช่ือของธนาคารจะไม่มีการคิดดอกเบ้ีย แต่จะเป็นการ บวกกาไรเข้าไปแทน เป็นลักษณะการซื้อขาย นั่นคือเม่ือลูกค้าแจ้ง ความประสงค์ในสินค้า หรือทรัพย์สินต่าง ๆ ธนาคารอิสลามจะไปซ้ือ มาเปน็ ของธนาคาร แล้วนามาคดิ กาไรจากต้นทุน จากน้ันจึงนาไปขาย ต่อให้กับลูกค้าในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเช่าซ้ือ การผ่อนชาระ เปน็ ต้น นอกจากนี้จะไมใ่ หส้ นิ เช่ือแกธ่ ุรกิจท่ีเกี่ยวข้อง กับการเก็งกาไร การผกู ขาด การผดิ ศลี ธรรม และอบายมุข

30 6) ธนาคารเพือ่ การสง่ ออกและนาเขา้ แหง่ ประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนาเข้าแห่งประเทศไทย เป็นสถาบัน การเงินเฉพาะกิจ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสนับสนุนแก่ผู้ดาเนินธุรกิจ ส่งออกและนาเข้า จัดต้ังข้ึนเมื่อ พ.ศ. 2536 เป็นธนาคารท่ีมิได้รับฝาก เงินจากประชาชน แหล่งเงินทุนสาคัญได้มาจากทุนประเดิมเมื่อแรก จัดตั้งเงินกู้จากธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ แหล่งเงินกู้ จากต่างประเทศ หน้าท่ีสาคัญ คือ ให้บริการสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ ส่งออก นาเข้า ท้ังระยะส้ัน ระยะปานกลาง และระยะยาว รับซ้ือต๋ัว สินค้าออก การรับประกันการส่งออกเพื่อลดความเสี่ยงให้แก่ ผู้ประกอบการในการเรยี กเกบ็ เงนิ 7) บริษทั เงนิ ทุน บริษัทเงินทุน เป็นสถาบันการเงินที่จดทะเบียนในรูปบริษัท ทาหน้าท่ีในการระดมเงินออมจากประชาชนแล้วออกต๋ัวสัญญาใช้เงิน เปน็ หลกั ประกนั ก้ยู ืมเงินจากสถาบนั การเงินอื่นท้ังในและนอกประเทศ แล้วนาเงินไปลงทุนในด้านต่าง ๆ เช่น ให้บริษัทธุรกิจกู้ยืมไปลงทุนอีก ต่อหน่ึง รับซื้อลดเช็ค ต๋ัวแลกเงิน ตราสารเครดิต ให้กู้ยืมเพ่ือ การพาณิชย์ การพัฒนา การจาหน่ายและการบริโภค หรือเพื่อ การเคหะ เป็นต้น

31 8) บริษัทเครดติ ฟองซเิ อร์ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เป็นสถาบันท่ีจัดหาเงินทุนหรือระดม เงินออมด้วยการรับฝากจากประชาชน โดยออกต๋ัวสัญญาใช้เงินเป็น หลกั ประกัน แลว้ นาเงนิ ท่ไี ด้ไปลงทุนหาผลประโยชน์ ด้วยการให้กู้ยืมเงิน โดยวิธีรับจานองอสังหาริมทรัพย์ หรือรับซ้ืออสังหาริมทรัพย์ตาม สัญญาขายฝาก ช่วยให้ประชาชนมีแหล่งเงินกู้ระยะยาวอีกแห่งหน่ึง สาหรับนาไปซือ้ ทอ่ี ยอู่ าศัย แบบผอ่ นสง่ ได้ นอกจากน้ียังให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ตลอดจนคาแนะนา ปรึกษาและควบคุมการจัดการเก่ียวกับโครงการพัฒนาเพ่ือที่อยู่อาศัย นิคมอุตสาหกรรม ศนู ยก์ ารค้า ศูนยก์ ลางทางธุรกิจต่าง ๆ 9) บรษิ ัทหลกั ทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เป็นสถาบันการเงินในรูปบริษัทจากัดท่ีได้รับ อ นุ ญ า ต จ า ก รั ฐ ม น ต รี ว่ า ก า ร ก ร ะ ท ร ว ง ก า ร ค ลั ง ใ ห้ ป ร ะ ก อ บ ธุ ร กิ จ หลักทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งหรือหลายประเภท ได้แก่ กิจการ นายหน้าซ้ือขายแลกเปล่ียนหลักทรัพย์ กิจการค้าหลักทรัพย์ กิจการที่ ปรึกษาการลงทุน กิจการจัดจาหน่ายหลักทรัพย์ และกิจการจัดการ ลงทนุ

32 บริษัทหลักทรัพย์ท่ีดาเนินธุรกิจรับเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกาหนด ไว้ จะได้รับการอนุญาตให้เข้าเป็นบริษัทสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย และมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่าบริษัทหลักทรัพย์ ทเ่ี ป็นสมาชกิ หรอื ท่ีรู้จกั กนั โดยทัว่ ไปวา่ โบรกเกอร์ สว่ นบรษิ ัทหลักทรพั ย์ อืน่ ๆ ท่ไี ม่ได้เขา้ เป็นบริษัทสมาชกิ จะเรยี กวา่ ซบั โบรกเกอร์ การดาเนินงาน ของบริษัทหลักทรัพย์ใช้วิธีการระดมเงินทุน ในรูปของการขายหุ้น การกูย้ มื เงนิ จากสถาบันการเงนิ อืน่ ทัง้ ในประเทศและตา่ งประเทศ 10) บรษิ ัทหลักทรพั ยจ์ ดั การกองทุนรวม จัดต้ังเป็นคร้ังแรกเมื่อ พ.ศ. 2517 เป็นสถาบันการเงินท่ีอยู่ภายใต้ การกากับของคณะกรรมการกากับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทาหน้าที่ระดมทุน โดยการจัดต้ังกองทุนรวม ซึ่งมี 2 แบบ คือ กองทุนเปิด เป็นกองทุนไม่มีการกาหนดอายุ ผู้ซ้ือหน่วยลงทุนสามารถนามาขายคืนได้ ตลอดเวลา และกองทุนปิดเป็นกองทุนมีอายุกาหนด จะขายคืนได้ตาม ระยะเวลาที่กาหนดไว้ แล้วขายหน่วยลงทุนให้กับประชาชนหรือองค์กร ที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุน เงินทุนท่ีได้จากการระดมทุน บริษัทจะนาไปลงทุน ต่อด้วยการซื้อหุ้นของกิจการต่าง ๆ ท้ังในและนอกตลาดหลักทรัพย์ ลงทุน ซื้อตราสารหน้ี เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ ตั๋วสัญญาใช้เงิน ในตลาดทุนและ ตลาดเงนิ

33 11) บรษิ ทั ประกนั ชีวิต บริษัทประกันชีวิต ทาหน้าท่ีระดมเงินฝากจากประชาชนในรูปของ การขายกรมธรรม์ให้แก่ผู้ซ้ือกรมธรรม์ ท่ีเรียกว่า จ่ายเบ้ียประกัน เป็นงวดๆ ตามกาหนดเวลา เมื่อผู้ซ้ือกรมธรรม์เจ็บป่วย พิการ เสียชีวิต หรือกรมธรรมค์ รบอายุ บรษิ ทั ก็จะต้องจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ซ้ือกรมธรรม์ หรือผู้เอาประกันหรือทายาทตามเง่ือนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ในการ ดาเนนิ ธรุ กจิ สถาบนั การเงนิ ประเภทนจ้ี ะตอ้ งกนั เงนิ เอาไว้บางส่วนเพ่ือจะ ได้สามารถจ่ายคา่ สนิ ไหมทดแทนใหแ้ ก่ผู้เอาประกันท่ีประสบความเสียหาย ได้ เงินส่วนท่ีเหลือก็นาไปแสวงหาผลประโยชน์ในรูปของการให้สินเชื่อ นาไปลงทุนตราสารทางการเงินระยะยาว การรับซื้อลดต๋ัวสัญญาใช้เงิน เปน็ ต้น 12) สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์ออมทรัพย์ จัดต้ังขึ้นโดยสมาชิกขององค์กรหรือหน่วยงาน หนึ่งๆ นับต้ังแต่ 10 คนข้ึนไปร่วมกันเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นและบริหารสหกรณ์ การระดมทุนใช้วิธีการขายหุ้น แล้วนาเงินนั้นมาปล่อยให้สมาชิกกู้ยืมโดยคิด อัตราดอกเบี้ยต่า หรือจัดซื้อหาสินค้าท่ีสมาชิกต้องการมาจาหน่ายในราคาที่ ถูกกว่าท้องตลาด ผลกาไรท่ีได้ส่วนหน่ึงจะนามาจ่ายคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นตาม สัดส่วนในรูปของเงินปันผล บางส่วนถูกนามาใช้จ่ายเป็นค่าสวัสดิการ สงเคราะห์ให้แก่สมาชิก หรือบริจาคเพ่ือสาธารณประโยชน์ สหกรณ์จึงเป็น สถาบันการเงินที่ดาเนินกิจการในรูปที่สมาชิกบริหารจัดการดูแลช่วยเหลือ กันเองเป็นเบ้ืองต้น สหกรณ์ออมทรัพย์แห่งแรกของไทยจัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2492

34 13) โรงรบั จานา โรงรับจานา เป็นสถาบันการเงินขนาดเล็กมีมาต้ังแต่ พ.ศ. 2509 ได้ชื่อว่า เป็นธนาคารของคนยาก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้ น้อย ให้บริการกู้เงินในวงเงินไม่มาก โดยผู้ขอกู้ต้องนาสินทรัพย์มาฝาก ค้าประกันไว้ เรียกว่า การจานา โรงรับจานามีท้ังที่ดาเนินการโดย เอกชน เรียกว่า ผู้ประกอบการจะเป็น ผจู้ ัดหามาเอง ถ้าเป็นการดาเนนิ การโดยกรมประชาสงเคราะห์ เรียกว่า ซ่ึงเงินทุนจะได้จากรัฐบาล และเงินทุนกู้ยืมจาก ธนาคารออมสิน ส่วนโรงรับจานาท่ีดาเนินการโดยเทศบาล จะเรียกว่า เงนิ ทนุ ไดม้ าจากงบประมาณของทอ้ งถิ่นนั้น ๆ 14) กองทุนประกนั สังคม กองทุนประกนั สงั คม จดั ต้ังข้นึ ตามพระราชบัญญัติกองทุนประกันสังคม พ.ศ. 2533 มีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยสร้างหลักประกันและความม่ันคงในการ ดาเนินชีวิตให้แก่ ลูกจ้างท่ีจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน ท่ีเรียกว่า ผู้ประกันตน เปน็ เบ้ืองต้น โดยมีสานกั งานประกนั สังคมเปน็ ผู้ดแู ลบริหารจัดการกองทุนให้มี ผลประโยชน์งอกเงย เช่น ซื้อพันธบัตรรัฐบาล แล้วนาเงินไปจ่ายให้แก่ ผู้ประกันตน เงินกองทุนได้จากเงินสมทบของลูกจ้างส่วนหน่ึง นายจ้างส่วน หนึ่ง รัฐบาลส่วนหน่ึง แล้วนารายได้เป็นเงินช่วยเหลือไปจ่ายคืนให้กับ ผู้ประกันตนภายใต้ความคุ้มครอง 7 ประเภท ได้แก่ กรณีเจ็บป่วยหรือประสบ อันตราย คลอดบุตร ทุพพลภาพ เสียชีวิต สงเคราะห์ บุตร ชราภาพ และ ว่างงาน

35 แบบทดสอบหลังเรียน 1. ธนาคารใดท่ีบรกิ ารสนิ เชอ่ื แกป่ ระชาชนผมู้ รี ายไดน้ อ้ ยใหม้ ที อ่ี ยูอ่ าศัย ก. ธนาคารกลาง ข. ธนาคารออมสนิ ค. ธนาคารพาณิชย์ ง. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 2. สหกรณ์ใดท่ีทาหน้าท่ีจดั สรรทด่ี ินทากินให้ราษฎร ก. สหกรณท์ ี่ดิน ข. สหกรณน์ คิ ม ค. สหกรณบ์ รกิ าร ง. สหกรณก์ ารเกษตร 3. สถาบันการเงินใดได้ชอ่ื ว่า “ธนาคารของคนยาก” ก. โรงรับจานา ข. ธนาคารออมสิน ค. ธนาคารพาณิชย์ ง. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 4. สถาบนั การเงนิ ใดที่มวี ัตถปุ ระสงค์ท่ีจะชว่ ยสร้างหลกั ประกนั และ ความม่นั คงในการดาเนินชวี ติ ให้แกล่ ูกจา้ งทจ่ี ่ายเงินสมทบเข้ากองทนุ ก. โรงรบั จานา ข. บริษทั ประกันชวี ติ ค. สหกรณ์ออมทรพั ย์ ง. กองทุนประกันสังคม 5. ธนาคารพาณิชย์ที่เปดิ ทาการในประเทศไทยเป็นธนาคารแรก คือ ก. ธนาคารไทยพาณชิ ย์ ข. ธนาคารฮอ่ งกงและเซ่ียงไฮ้ ค. ธนาคารเอเชยี และธนาคารฮ่องกง ง. ธนาคารกรงุ ไทยและธนาคารกรุงเทพ 6. ขอ้ ความเกี่ยวกบั บทบาทหนา้ ท่ีของธนาคารพาณชิ ย์ ข้อใดถูกตอ้ ง ก. สนบั สนุนนักธรุ กจิ ทนี่ าเข้าสง่ ออกสินค้า ข. การใหส้ นิ เชื่อแก่ธรุ กิจท่ีเนน้ การเก็งกาไร ค. สง่ เสริมการออมทรัพย์ของประชาชนผู้มรี ายไดน้ อ้ ย ง. ระดมเงินฝากและให้สนิ เช่อื ในระบบเศรษฐกิจมากกว่าสถาบันอ่นื

36 แบบทดสอบหลังเรยี น 7. ขอ้ ใด ไม่ใช่ นโยบายการปลอ่ ยเงนิ กขู้ องธนาคารเพ่ือการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร ก. ให้กเู้ งินเพ่อื ใชเ้ ป็นทนุ ใหแ้ กส่ มาชิก ข. ใหก้ เู้ งนิ เพอ่ื จดั หาวสั ดอุ ุปกรณ์การเกษตร ค. ใหก้ เู้ งนิ เพ่ือส่งเสริมใหเ้ กษตรกรมีบา้ นและทด่ี นิ อยอู่ าศัย ง. ใหก้ เู้ งินเพอื่ การปรับปรุงผลิตผลทางการเกษตร พืชสวน พชื ไร่ 8. ธนาคารออมสินจดั ตง้ั ขึน้ ในสมยั ใด ก. รัชกาลท่ี 4 ข. รชั กาลท่ี 5 ค. รัชกาลที่ 6 ง. รัชกาลที่ 7 9. ธนาคารทไี่ ม่ให้สนิ เชอ่ื แกธ่ รุ กิจทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การเกง็ กาไร การผูกขาด การผดิ ศลี ธรรม คือธนาคารใด ก. ธนาคารพาณิชย์ ข. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ค. ธนาคารอิสลามแหง่ ประเทศไทย ง. ธนาคารเพือ่ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 10. ข้อใดอธิบายเก่ียวกบั โรงรบั จานาไม่ถกู ต้อง ก. เปน็ แหล่งเงินกูข้ องผู้มีรายไดน้ อ้ ย ข. ผู้กู้ต้องนาโฉนดตราสารมาคา้ ประกัน ค. ให้สนิ เช่ือแกผ่ ้กู ู้รายยอ่ ยทน่ี าสนิ ทรพั ยม์ าฝากค้าประกนั ไว้ ง. โรงรบั จานาที่ดาเนนิ การโดยเทศบาล เรยี กวา่ สถานธนานบุ าล

37

38 สถาบันการเงินแต่ละประเภทย่อมมีบทบาท หน้าท่ี แตกต่างกัน และมคี วามสาคัญตอ่ เศรษฐกจิ ของประเทศ ส 3.2 ม.1/1 วิเคราะห์บทบาท หน้าท่ี และความแตกต่างของสถาบัน การเงนิ แตล่ ะประเภท และธนาคารกลาง 1. เพ่ือให้นกั เรยี นอธิบายความหมายและความสาคัญของ ธนาคารกลางได้ (K) 2. ตระหนักและเหน็ ความสาคัญของธนาคารกลาง (P) 3. เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติตามภาระงานที่มอบหมายได้ อย่างถกู ต้อง เรยี บร้อย และสวยงาม (A)

39 แบบทดสอบก่อนเรยี น 1. ธนาคารกลาง หมายถงึ ธนาคารใด ก. ธนาคารออมสนิ ข. ธนาคารกรุงเทพ ค. ธนาคารกรุงไทย ง. ธนาคารแหง่ ประเทศไทย 2. การทธ่ี นาคารแห่งประเทศไทยทาหน้าทจ่ี ดั พมิ พธ์ นบัตรใหม่ และ เกบ็ รักษาทนุ สารองท่ีหนุนหลังการพิมพธ์ นบัตรทใ่ี ชห้ มุนเวยี น ภายในประเทศน้นั เพ่อื จดุ มุ่งหมายในขอ้ ใด ก. เพื่อใหเ้ งนิ ที่หมนุ เวยี นในตลาดนั้นมสี ภาพคล่อง ข. เพ่อื ใหต้ ่างประเทศมคี วามเชอ่ื ถือในมลู ค่าธนบตั ร ค. เพอ่ื ใหธ้ นบตั รมคี ณุ ภาพคงทนสามารถใช้ได้นาน ง. เพ่อื ให้ธนบัตรท่จี ดั พิมพ์ออกมานน้ั มมี ูลค่าที่เป็นจรงิ 3. ข้อใดไมใ่ ช่หนา้ ที่หลักของธนาคารกลาง ก. ดูแลซื้อขายเงินตราตา่ งประเทศ ข. เป็นแหล่งกยู้ มื เงนิ ของประชาชนท่ัวประเทศ ค. ควบคมุ ปริมาณเงนิ ของประเทศให้อยู่ในปริมาณท่เี หมาะสม ง. ดแู ลควบคุมและตรวจสอบสถาบนั การเงินตา่ ง ๆ ทีอ่ ยใู่ นกากบั 4. ธนาคารกลาง มชี ื่อภาษาองั กฤษวา่ อะไร ก. City Bank ข. World Bank ค. Central Bank ง. Bangkok Bank 5. ธนาคารจัดตงั้ ข้นึ อยา่ งเป็นทางการเม่ือวันทเ่ี ท่าไหร่ ก. 24 มิถุนายน พ.ศ. 2483 ข. 27 มิถนุ ายน พ.ศ. 2483 ค. 24 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2493 ง. 25 มิถนุ ายน พ.ศ. 2493

40 ธนาคารกลาง ธนาคารกลาง คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) หรือ ธปท. เป็นสถาบันการเงินท่ีจัดต้ังขึ้นตามพระราชบัญญัติธนาคาร แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2485 เพื่อทาหน้าที่ในฐานะเป็นธนาคารกลาง ของประเทศ โดยมีบทบาทและหน้าท่ีสาคญั ดงั นี้ 1. เป็นนายธนาคารของรัฐบาล กล่าวคือ ธนาคารแหง่ ประเทศไทย จะรับฝากเงินของรัฐบาล จากหน่วยราชการต่าง ๆ จ่ายเงินตามคาส่ัง เบิกจ่าย เป็นแหล่งเงินทุนสารองให้กับรัฐบาล และรัฐวิสาหกิจกู้ยืม รับช้ือ ตวั เงินคลงั และพันธบัตรของรัฐบาล 2. ควบคุมปริมาณเงินของประเทศให้อยู่ในปริมาณท่ีเหมาะสม โดยใชม้ าตรการหรอื นโยบายทางการเงนิ ตา่ ง ๆ แล้วแตส่ ถานการณ์

41 3. ออกธนบัตรใหม่ ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานที่ ทาหน้าที่จัดพิมพ์ธนบัตรใหม่ ทาลายธนบัตรท่ีชารุด และเป็นผู้เก็บรักษา ทุนสารองที่หนุนหลังการพิมพ์ธนบัตรท่ีใช้หมุนเวียนอยู่ภายในประเทศ เพือ่ ใหธ้ นบตั รท่ีจดั พิมพอ์ อกมานนั้ มมี ูลค่าทเ่ี ป็นจรงิ 4. ดูแลการซื้อขายเงินตราระหว่างประเทศ โดยจะเป็น ผู้กาหนดอัตราแลกเปล่ียนระหว่างสกุลเงินบาทกับสกุลเงินตราท่ี สาคัญของโลก รักษาค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ และรักษาเงินทุน สารองระหวา่ งประเทศ

42 5. เปน็ นายธนาคารของสถาบนั การเงิน โดยจะรบั ฝากเงินและ เกบ็ รกั ษาเงินทุนสารองตามกฎหมายของสถาบันการเงิน เป็นศูนย์กลาง การหักบัญชีระหว่างสถาบันการเงิน บริการโอนเงินระหว่างส่วนกลาง กบั ส่วนภูมิภาค ตลอดจนเปน็ แหล่งเงนิ ทุนสุดท้ายท่ีสถาบันการเงินจะไป ขอกู้ยืมในกรณีท่ีสถาบันการเงินแห่งนั้น ๆ ขาดสภาพคล่อง มีปริมาณ เงินสดหมุนเวียนไม่เพียงพอและไม่สามารถขอกู้ยืมจากแหล่งเงินทุนอ่ืน ได้ทัน 6. ดูแลควบคุมและตรวจสอบสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่อยู่ใน กากับ เป็นต้นว่า ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทรับแลกเปล่ียน เงินตราต่างประเทศ ให้ดาเนินกิจการอย่างถูกต้องตามที่กฎหมาย กาหนดไว้ เพื่อสร้างเสถียรภาพความมั่นคงให้กับระบบเศรษฐกิจของ ประเทศและสถาบันการเงนิ แห่งนน้ั ๆ 7. บริหารจัดการหนี้สาธารณะ โดยจะทาหน้าท่ีจัดการเก่ียวกับ การกเู้ งินของรัฐบาล รฐั วิสาหกจิ เช่น การจาหน่ายและไถ่ถอนพันธบัตร รัฐบาลและต๋ัวเงินคลัง ชาระเงินต้นและจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นตัวแทน ของประเทศในการตดิ ต่อทาธุรกรรมกบั สถาบันการเงนิ ระหวา่ งประเทศ

43 8. ให้คาปรึกษาและข้อเสนอแนะ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะ เป็นผู้ให้คาปรึกษา ท้วงติง หรือเสนอแนะในการดาเนินนโยบายต่าง ๆ ทางการเงนิ การคลงั การกอ่ หน้ีสาธารณะ การก่อหนี้กับต่างประเทศแก่ รฐั บาล เพื่อทรี่ ฐั บาลจะไดด้ าเนนิ นโยบายได้อยา่ งเหมาะสม ด้วยบทบาทหน้าทที่ ม่ี ีความสาคัญต่อความม่ันคงทางด้านเศรษฐกิจ ของประเทศ ดังกล่าวข้างต้น ดังน้ัน ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงต้องมี ความเป็นอสิ ระ ปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง เพ่ือจะได้ทาหน้าที่ ในฐานะทเี่ ป็นธนาคารกลางของประเทศไดอ้ ยา่ งสมบรู ณเ์ ต็มท่ี

44 แบบทดสอบหลังเรยี น 1. ธนาคารกลาง หมายถงึ ธนาคารใด ก. ธนาคารออมสนิ ข. ธนาคารกรุงเทพ ค. ธนาคารกรุงไทย ง. ธนาคารแหง่ ประเทศไทย 2. การทธ่ี นาคารแห่งประเทศไทยทาหน้าทจี่ ดั พิมพ์ธนบัตรใหม่ และ เกบ็ รักษาทุนสารองทห่ี นนุ หลงั การพมิ พธ์ นบตั รทใี่ ชห้ มุนเวยี น ภายในประเทศน้ัน เพอ่ื จดุ มงุ่ หมายในขอ้ ใด ก. เพื่อให้เงินท่ีหมุนเวียนในตลาดนัน้ มสี ภาพคลอ่ ง ข. เพ่อื ใหต้ ่างประเทศมคี วามเช่ือถือในมลู คา่ ธนบัตร ค. เพอ่ื ใหธ้ นบตั รมีคณุ ภาพคงทนสามารถใช้ไดน้ าน ง. เพ่อื ให้ธนบัตรท่จี ดั พมิ พอ์ อกมาน้ันมมี ลู ค่าที่เปน็ จรงิ 3. ข้อใดไมใ่ ช่หนา้ ท่หี ลกั ของธนาคารกลาง ก. ดูแลซื้อขายเงินตราตา่ งประเทศ ข. เป็นแหล่งกยู้ มื เงนิ ของประชาชนทวั่ ประเทศ ค. ควบคมุ ปริมาณเงินของประเทศใหอ้ ยูใ่ นปรมิ าณทีเ่ หมาะสม ง. ดแู ลควบคมุ และตรวจสอบสถาบันการเงินตา่ ง ๆ ทอี่ ยู่ในกากับ 4. ธนาคารกลาง มีชอื่ ภาษาองั กฤษว่าอะไร ก. City Bank ข. World Bank ค. Central Bank ง. Bangkok Bank 5. ธนาคารจัดต้งั ข้นึ อยา่ งเปน็ ทางการเมอ่ื วันท่เี ทา่ ไหร่ ก. 24 มิถุนายน พ.ศ. 2483 ข. 27 มถิ ุนายน พ.ศ. 2483 ค. 24 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2493 ง. 25 มิถนุ ายน พ.ศ. 2493

45

46 สถาบันการเงินแต่ละประเภทย่อมมีบทบาท หน้าที่ แตกตา่ งกัน และมคี วามสาคญั ต่อเศรษฐกิจของประเทศ ส 3.2 ม.1/1 วิเคราะห์บทบาท หน้าท่ี และความแตกต่างของสถาบัน การเงินแตล่ ะประเภท และธนาคารกลาง 1. เพ่ือให้นักเรียนวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผูบ้ รโิ ภค และสถาบันการเงนิ ได้ (K) 2. เพ่ือให้นักเรียนนาเสนอ และเผยแพร่ข้อมูลเก่ียวกับ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างผผู้ ลติ ผ้บู ริโภคและสถาบันการเงนิ ได้ (P) 3. เพ่ือให้นักเรียนปฏิบัติตามภาระงานท่ีมอบหมายได้ อย่างถูกต้อง เรียบร้อย และสวยงาม (A)

47 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1. ขอ้ ความเกีย่ วกบั ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งผูผ้ ลิต ผูบ้ ริโภค และสถาบนั การเงิน ข้อใดถูกต้อง ก. มีการหารายได้ การใชจ้ า่ ยร่วมกนั ข. มีการลงทุน และการนาเงินมาใชใ้ นการลงทุนร่วมกนั ค. มกี ารระดมเงนิ ออมมาเพ่ือการลงทนุ เปน็ ประโยชนท์ กุ ฝา่ ย ง. มกี ารหารายได้ การใช้จ่าย การออม การลงทุน ที่มคี วามสัมพันธ์กัน 2. หากสถาบนั การเงินไดร้ ับเงินออมหรือสามารถระดมเงินฝากได้มาก จะสง่ ผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอยา่ งไร ก. ทาใหร้ ัฐบาลรวยขนึ้ ข. ทาใหต้ ่างชาติเข้ามาลงทนุ มากขน้ึ ค. ทาให้สถาบันการเงนิ มีเงนิ ทนุ ทจี่ ะปล่อยกูใ้ ห้กบั ภาคธรุ กิจมากขึ้น ง. ทาให้เงินหมุนเวยี นในระบบนอ้ ย และภาคธรุ กจิ ขาดสภาพคลอ่ ง ทางการเงิน 3. เพราะเหตใุ ดจงึ จดั หน่วยครอบครวั เปน็ ทง้ั ผผู้ ลติ และผบู้ ริโภค ก. หน่วยครอบครวั เปน็ ผูใ้ ชป้ ัจจยั การผลติ ข. หน่วยครอบครวั เป็นผู้ใชท้ รัพยากรทง้ั หมด ค. หน่วยครอบครวั เปน็ ท้งั ผู้ผลิตและผู้บริโภค ง. หนว่ ยครอบครัวเป็นผผู้ ลิตสินคา้ และบรกิ าร 4. สถาบนั การเงนิ จะเจรญิ เติบโตอย่างดี ถ้าเงินฝากกบั เงนิ กูเ้ ป็นไปแบบใด ก. สถาบนั การเงินแบบหดตัว ข. สถาบันการเงนิ แบบกึง่ ผสม ค. สถาบนั การเงนิ แบบขยายตัว ง. สถาบันการเงินแบบบังคับโดย รัฐบาล 5. หากเงนิ ออมในระบบเศรษฐกจิ มมี ากเกินไป จะส่งผลกระทบตอ่ ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศอยา่ งไร ก. เกดิ ภาวะเงนิ ฝดื ข. เกดิ ภาวะเงินเฟ้อ ค. มกี ารจา้ งงานเพิม่ มากขึน้ ง. มเี งินบริหารประเทศมากข้นึ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook