Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือ

คู่มือ

Published by phiphat thamthawat, 2020-03-27 06:57:56

Description: คู่มือ

Search

Read the Text Version

ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1

ก คำนำ คู่มือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการเรียนวิชา เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง สถาบันการเงิน ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ซึ่งได้จัดทำขึ้นจากสภาพปัญหาในการเรียนการสอน โดยนำเอาเทคโนโลยี มาประยุกต์ใชใ้ นการเรียนการสอน เพ่ือชว่ ยใหผ้ ้เู รยี นมีความกระตือรือรน้ มคี วามสนใจจนเกดิ การเรยี นรู้ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ดงั นั้นการศกึ ษาค่มู ือการใชห้ นังสอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (E-book) จงึ มคี วามจำเป็นอย่าง มาก เพื่อให้ผู้ใช้หรือครูเข้าใจขั้นตอนในการปฏิบัติตั้งแต่การเริ่มต้นในหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เรื่อง สถาบันการเงนิ ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) จะเป็นประโยชน์ต่อท้ัง ครผู ู้สอนและนกั เรยี นในการพัฒนากจิ กรรมการเรยี นการสอนใหบ้ รรลุตามวัตถปุ ระสงค์ทกี่ ำหนดไว้ ผู้จัดทำต้องขอขอบคุณอาจารย์ดร.ทวัช บุญแสง อาจารย์ประจำวิชาสารสนเทศและนวัตกรรม สำหรับการสอนสังคมศึกษา และคณุ ครนู วลจันทร์ นุกูลประทีป ตำแหนง่ ครูชำนาญการพเิ ศษ วชิ าสังคม ศึกษา โรงเรียนเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้ให้คำแนะนำเพื่อให้เกิดความ ถูกตอ้ งและมีความสมบูรณใ์ นขอ้ มลู คณะผู้จดั ทำ

ข สารบญั เรือ่ ง หนา้ คำนำ ก สารบัญ ข สารบัญ (ต่อ) ค แนวคดิ และหลักการ 1 ขอบขา่ ยของสังคมศึกษา 1 หลักการสอนในหอ้ งเรียนวิชาสังคมศกึ ษา 2 คำแนะนำสำหรับครู 3 คำแนะนำสำหรับนักเรียน 3 ขั้นตอนการใช้งานหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ 4 ความรเู้ บอื้ งตน้ เกยี่ วกบั หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 7 7 1. ความหมายของหนังสอื อิเล็กทรอนกิ ส์ 8 2. ววิ ฒั นาการของหนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ 9 3. ทม่ี าของหนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ 10 4. วตั ถปุ ระสงคข์ องการสร้างหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ 10 5. ลกั ษณะของหนังสอื อิเล็กทรอนิกส์ 11 6. ความแตกตา่ งของหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ (E-Book) กับหนงั สอื ท่ัวไป 12 7. องคป์ ระกอบของหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ 13 8. กระบวนการและขัน้ ตอนการออกแบบและพัฒนาหนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ 15 9. ประโยชน์ของหนังสอื อิเล็กทรอนกิ ส์ 17 10. การตรวจสอบคณุ ภาพของหนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ 19 ความสำคญั ของสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 21 เป้าหมายวิชาเศรษฐศาสตร์ ตัวช้วี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง รายวชิ าเศรษฐศาสตร์ ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 22 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐานพทุ ธศกั ราช 2551

สารบญั (ตอ่ ) ค เร่ือง หน้า แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 ความหมายและความสำคญั ของสถาบนั การเงนิ 24 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ประเภทของสถาบนั การเงนิ 31 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3 สถาบันการเงินทส่ี ำคญั 40 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 ธนาคารกลาง 51 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 5 ความสมั พนั ธ์ระหว่างผผู้ ลิต ผ้บู ริโภค 59 และสถาบนั การเงิน บรรณานกุ รม ภาคผนวก

1 แนวคดิ และหลักการ การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ต้องก้าวข้าม “สาระวิชา” ไปสู่การเรียนรู้ “ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21” ซึ่งครูจะเป็นผู้สอนอย่างเดียวไม่ได้แต่ต้องให้ผู้เรียน เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยครูจะออกแบบการเรียนให้ตนเองเป็นโค้ช (Coach) และ อำนวยความสะดวก (Facilitator) ในการเรียนรู้แบบPBL (Problem-Based Learning) ของนักเรียน ซึ่งเป็นตัวช่วยของครูในการจัดการเรียนรู้คือ ชุมชนการ เรียนรู้เพื่อศิษย์ (Professional Learning Communities : PLC) เกิดจากการ รวมตวั กันของครูเพอ่ื แลกเปลยี่ นประสบการณก์ ารทำหน้าท่ีของครูแตล่ ะคนนั่นเอง ขอบขา่ ยของสังคมศกึ ษา สังคมศึกษา เป็นการบรู ณาการประสบการณ์และความรู้ที่เชือ่ มโยงความสัมพนั ธ์ ระหว่างมนุษย์หรือการศึกษาเพื่อความเป็นพลเมอื งดี สังคมศาสตร์กับสังคมศึกษา กลุ่มวิชาสังคมศาสตร์ ประกอบด้วย ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สังคมวิทยา มานุษยวิทยา เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ จิตวิทยากลุ่มวิชา ทางมนุษยศาสตร์เป็นศาสตร์ที่มีการจัดระเบียบและระบบ มีลำดับขั้นตอน แสดง โครงสร้างของวิชา ซึ่งประกอบไปด้วยมโนทัศน์พื้นฐาน กระบวนการวิธีการศึกษาหรือ แสวงหาความรใู้ นศาสตรน์ ัน้ ๆ

2 หลกั การสอนในหอ้ งเรียนวิชาสังคมศกึ ษา ในการเรียนการสอนหากนักเรียนไม่สามารถท่ีจะนั่งฟังได้นาน ๆ เกิน 20 นาที สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการเรยี นของนักเรียนอยา่ งหลีกเลี่ยงไม่ได้ วิธีการควบคุมพฤติกรรมของ นักเรียนนั้นสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การแบ่งกลุ่มให้กลุ่มควบคุมกันเอง การเสริมแรง ด้วยการใหร้ างวัล การลงโทษ ใชว้ ิธกี ารตัดสิทธใ์ิ นผลประโยชน์ทเ่ี ด็กพึงจะไดร้ ับ เชน่ ไม่ให้ ทำงานรว่ มกับคนอน่ื งดกิจกรรมบางอยา่ งทเี่ พ่ือนไดท้ ำกนั ให้นักเรียนมสี ว่ นร่วมในการเรียนการสอน ครูควรงดเวน้ การสอนด้วยการบรรยาย ที่มากเกินไป ถ้าจะใช้ก็พยายามใช้ให้น้อย ๆ เลือกสื่อการสอนให้น่าสนใจก็เป็นสิ่งสำคัญ เวลาสอนต้องยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลางให้นักเรียนมีส่วนร่วมมากที่สุด เช่น แบ่งกลุ่มให้ อภิปราย จัดนิทรรศการด้วยตนเอง หรือเตรียมสื่อขณะสอนสร้างความสนใจเรื่องที่จะ เรียนในชั่วโมงด้วยการใช้สื่อ หรือโดยเฉพาะสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้นกั เรยี นกระตอื รือรน้ สนใจที่จะเรยี นในเนื้อเร่อื งทจี่ ะสอน เพราะถา้ นักเรยี นมคี วาม สนใจการเรยี นยอ่ มตอ่ เนื่องไปในทางทีด่ ี ซึ่งหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือ e- book เรื่อง“สถาบันการเงิน” ที่ผู้จัดทำได้ คิดค้นจัดทำขึ้น เป็นสื่อนวัตกรรมในการเรียนการสอนประกอบด้วยเนื้อหาสาระ ภาพท่ี สวยงามดึงดดู ความสนใจจากผเู้ รียนได้เป็นอย่างดี อกี ท้ังเนื้อหาไมม่ ีความซับซ้อนหรือมาก จนเกินไป เหมาะสมอย่างยิง่ สำหรบั การเรียนรูใ้ นระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1 เนื้อหาสาระ นั้นประกอบด้วย ความหมายและความสำคัญของสถาบันการเงิน ประเภทของสถาบัน การเงิน สถาบันการเงินทีส่ ำคัญ ธนาคารกลาง และความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บรโิ ภค และสถาบันการเงิน ครูผู้สอนสามารถนำไปบูรณาการกับการสอนสังคมศึกษา และ ออกแบบการสอนได้ด้วยตนเอง หวังว่า นวัตกรรมชิ้นนี้จะมีประโยชน์และบทบาทในช้ัน เรยี นและนอกช้ันเรียนได้เป็นอย่างดี และหวงั ว่านวัตกรรมช้ินนี้จะสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้แกน่ กั เรียนและเสริมสร้างการเรียนรทู้ ีม่ ีประสทิ ธภิ าพ และตามวัตถปุ ระสงคท์ ี่ตัง้ ไว้

3 คำแนะนำสำหรับครู 1. ดำเนินกิจกรรมการสอนโดยใช้นวตั กรรมหนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์ (e-book) 2. ให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน เพอื่ ทบทวนความรู้ 3. ใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หดั เพอ่ื เสรมิ สร้างทักษะในการทำงานทง้ั งานกล่มุ และงานเดย่ี ว 4. ใช้เปน็ สอ่ื การสอนสำหรบั ครู 5. ใช้เป็นบทเรียนทีใ่ หน้ กั เรยี นเรยี นรแู้ ละซอ่ มเสริมตนเอง คำแนะนำสำหรับนกั เรียน บทเรียนเล่มนี้ เป็นบทเรียนท่ีใช้ประกอบการเรียนการสอน และเป็นบทเรียน ที่นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง โดยให้นักเรียนอ่านคำแนะนำและทำตาม ขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งนักเรียนจะสามารถได้ความรู้อย่างครบถ้วนโดยมีหลัก ปฏิบตั ิดังนี้ 1. ใหน้ ักเรียนอ่านจุดประสงค์ของการเรยี นรู้ 2. บทเรียนจะเสนอเน้อื เรือ่ งแบบย่อยท่ีมคี วามสำคญั ซง่ึ จะมคี วามต่อเน่ืองในทุก บทเรยี น 3. นักเรยี นสามารถเลือกหัวข้อทีจ่ ะเรียนรแู้ ละศกึ ษาเองได้

4 ขนั้ ตอนการใช้งานหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 1. นำแผ่นซีดีบทเรียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ภาพท่ี 1 เข้าสบู่ ทเรียน ใส่เข้าในเครื่องอ่านซีดี-รอม โปรแกรมจะทำการเปิดหนังสือ อิเล็กทรอนกิ ส์ และนำผู้เรยี นเข้าสู่บทเรียนซึ่งแผ่นซีดี 1 แผ่นจะมี เนื้อหาเกี่ยวกับหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สถาบันการเงิน ซึ่งในหน่วย การเรียนรู้ที่ 3 น้ีจะมีเนื้อหาประกอบด้วยความหมายและ ความสำคัญของสถาบันการเงิน ประเภทของสถาบันการเงิน สถาบนั การเงินทสี่ ำคญั ธนาคารกลาง ความสมั พันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค และสถาบันการเงิน ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนรู้ได้ตาม ความต้องการ ดังภาพท่ี 1 2. หลังจากเข้าสู่บทเรียนแลว้ จะปรากฏหน้าถัดไปคือ คำนำและสารบัญ แสดงถึงประเด็นใน การนำเสนอในหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เรื่อง สถาบันการเงิน ซึ่งจะมีเนื้อหาประกอบด้วย ความหมายและความสำคัญของสถาบนั การเงิน ประเภทของสถาบนั การเงิน สถาบนั การเงินท่ีสำคัญ ธนาคารกลาง ความสัมพันธร์ ะหว่างผูผ้ ลติ ผู้บริโภค และสถาบันการเงิน ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนรู้ ไดต้ ามความต้องการ ภาพท่ี 2 คำนำและสารบัญ

5 ภาพท่ี 3 ความหมาย และความสำคัญและประเภทของสถาบนั การเงิน ภาพท่ี 4 สถาบนั การเงินทส่ี ำคญั

6 ภาพที่ 5 ธนาคารกลาง ภาพที่ 6 ความสมั พันธร์ ะหว่างผผู้ ลิต ผู้บรโิ ภค และสถาบันการเงนิ

7 ความรู้เบือ้ งต้นเกย่ี วกับหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 1. ความหมายของหนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ 2. ววิ ัฒนาการของหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ 3. ทมี่ าของหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ 4. วตั ถุประสงค์ของการสร้างหนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ 5. ลักษณะของหนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์ 6. ความแตกต่างของหนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์ (E-Book) กบั หนังสอื ท่วั ไป 7. องคป์ ระกอบของหนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ 8. กระบวนการและขน้ั ตอนการออกแบบและพัฒนาหนังสอื อเิ ล็กทรอนิกส์ 9. ประโยชนข์ องหนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์ 10. การตรวจสอบคุณภาพของหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ 1. ความหมายของหนังสอื อเิ ล็กทรอนิกส์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนังสือซึ่งจัดทำขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์และสามารถอ่านได้จาก หน้าจอคอมพิวเตอร์เหมือนเปิดอ่านจากหนังสือโดยตรงที่เป็นกระดาษแต่ไม่มีการเข้าเล่มเหมือนหนังสือที่เป็น กระดาษ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มีความสามารถมากมาย คือ การเชื่อมโยง (LINK) กับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่ม อื่นๆได้ เพราะอยู่บนเครือข่าย www. และมีบราวเซอร์ที่หน้าทีด่ ึงข้อมูลมาแสดงตามที่เราต้องการเหมือนการเลน่ อินเตอร์เน็ตทั่วไปเพียงแต่เป็นหนังสือบนเครือข่ายเท่านั้น หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถแสดงข้อความ รูปภาพ เสยี ง และความเคล่อื นไหวได้ เราสามารถอ่านหนังสอื ค้นหาข้อมลู และสอบถามข้อมลู ตา่ ง ๆ ท้งั ในและต่างประเทศ ทั่วโลกได้จากอินเตอร์เน็ตจากคอมพิวเตอร์เพียงเคร่ืองเดยี ว ได้มผี ูใ้ หน้ ยิ ามเกีย่ วกับ หนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ไว้หลาย ทา่ น ดังน้ี รวีวรรณ ขำพล (2550, หน้า 18) กล่าวว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Books – E Books) เป็น หนังสือหรือเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้อ่านสามารถอ่านผ่านอินเทอร์เน็ตหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาอื่น ๆ มีการบันทกึ และนำเสนอเนื้อหาสาระของหนังสือในรูปสัญญาณดิจิทัลมีการบันทึกลงในสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ ประเภท ต่าง ๆ เช่น ซีดี-รอม (CD-ROM) ปาล์มบุ๊ค (Plam Book) หนังสือในระบบเครือข่าย (Online Book) และส่ือ อิเล็กทรอนิกสอ์ ่นื

8 ทองสุข คำแก้ว (2553 ,หน้า 11) ได้ให้ความหมายของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ว่าเป็นการประยุกต์ เทคโนโลยีสารสนเทศกับการอ่านเข้าด้วยกัน โดยการนำเสนอในรูปแบบของสื่อประสมที่หลากหลายโดยมี ส่วนประกอบทั้งข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียงเข้าด้วยกัน ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งที่อยูในแฟ้ม เดียวกนั หรือคนละแฟม้ มีลักษณะคล้ายกับหนงั สอื สะดวกและง่ายในการศกึ ษา ไพฑูรย์ ศรี ฟ้า (2551 , หน้า 14) กล่าวว่า “อีบุ๊ค” (E-book, e-Book, eBOOK , EBOOK) เป็นคำ ภาษาต่างประเทศ ย่อมาจากคำว่า Electronic Book หมายถึง หนังสือที่สร้างขึ้นด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มี ลักษณะเป็นเอกสารอเิ ล็กทรอนิกส์ โดยปกติมักจะเปน็ แฟ้มข้อมูลทสี่ ามารถอา่ นผ่านทางหนา้ จอคอมพิวเตอร์ ท้ังใน ระบบออฟไลน์และออนไลน์ กล่าวโดยสรุป หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การนำหนังสือเล่มหนึ่ง หรือหลายๆเล่ม มาออกแบบใหม่ ให้อยู่ในรูปของอิเล็กทรอนิกส์โดยปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลเหล่านั้นให้อยู่ ในรูปของตัวอักษร ภาพน่ิง ภาพเคลอ่ื นไหว เสยี งลักษณะทีต่ อบโตก้ ัน (Interactive) การเชือ่ มโยงแบบไฮเปอร์เท็กซ์ สามารถทบ๊คุ มาร์ก 2. วิวัฒนาการของหนังสอื อเิ ล็กทรอนิกส์ อาภรณ์ ไชยสุวรรณ (ออนไลน์, ม.ป.ป) กล่าวถึงวิวัฒนาการของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ว่าแนวคิดเกี่ยวกบั หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เกิดขึ้นภายหลังปี ค.ศ.1940 โดยปรากฏในนิยายวิทยาศาสตร์ ต่อมาได้มีพัฒนาการโดยนำ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยสแกนหนังสือจัดเก็บข้อมูลเป็นแฟ้มภาพตัวห นังสืออิเล็กทรอนิกส์และนำแฟ้ม ภาพตัวหนังสือมาผ่านกระบวนการแปลงภาพเป็นข้อความด้วยการทำ OCR (Optical character recognition) โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อแปลงภาพเปน็ ตัวหนังสือให้เป็นข้อความที่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ การถ่ายทอด ข้อมูลจะถ่ายทอดทางแป้นพิมพ์และประมวลผลออกมาเป็นตัวหนังสือและข้อความด้วยคอมพิวเตอร์ ดังนั้น หน้ากระดาษจึงเปลี่ยนรูปเป็นไฟล์ข้อมูลแทน ทั้งยังมีความสะดวกต่อการเผยแพร่และพิมพ์เป็นเอกสาร ทำให้ รูปแบบของหนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกสย์ ุคแรก ๆ มีลักษณะเปน็ เอกสารประเภท DOC,TXT , RTF และ PDF ไฟล์ เม่ือมี การพัฒนา ภาษา HTML (Hypertext marup) ต่อมาเมื่ออินเตอร์เน็ตได้รับความนิยมมากขึ้น บริษัทไมโครซอฟท์ได้ผลิตเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ คำแนะนำในรูปแบบ HTML Help ขึ้นมา มีรูปแบบไฟล์เป็น .CHM โดยมีตัวอ่านคือ Microsoft Reader และ หลังจากนั้นมีบริษัทผู้ผลิตโปรแกรมคอมพิวเตอร์จำนวนมากได้พัฒนาโปรแกรมจนกระทั่งสามารถผลิตเอกสาร อิเล็กทรอนิกส์ออกมาเป็นลักษณะเหมือนกับหนังสือทั่วไป กล่าวคือ สามารถแทรกข้อความ แทรกภาพ จัดหน้า หนงั สอื ได้ตามความตอ้ งการของผู้ผลติ

9 และที่พิเศษกว่านั้น คือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ สามารถสร้างจุดเชื่อมโยงเอกสารไปยังเว็บไซต์ท่ี เกี่ยวข้องอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกได้ อีกทั้งยังสามารถแทรกภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ ลงไปในหนังสือได้ คุณสมบัตเิ หลา่ น้ีไม่สามารถทำในหนังสือทวั่ ไปได้ กล่าวโดยสรุป หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มีวิวัฒนาการที่ยาวนาน มีการพัฒนาพร้อมกับอุปกรณ์ที่รองรับ ที่สามารถพกพาได้สะดวกหรือบรรจุลงแผ่นซีดีรอมแทนการพกพาหนังสือใช้งานง่าย เพราะเนื่องจากนำเสนอได้ รูปแบบไฟลต์ า่ ง ๆ และดาวนโ์ หลดมาอ่านโดยไม่เสยี คา่ ใช้จ่ายนำมาประยุกต์ใชใ้ นดา้ นการศึกษาไดอ้ ย่างแพร่หลาย 3. ทม่ี าของหนงั สืออิเล็กทรอนกิ ส์ ในอดีตผู้เรียนคุ้นเคยกับการค้นหาข้อมูลความรู้ต่าง ๆ จากหนังสือเรียน หรือคู่มือต่าง ๆ แต่ปัจจุบันมี แหล่งสารสนเทศมากมายบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่สามารถใช้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับความรู้ต่าง ๆ ได้ ซึ่งเป็น ทางเลอื กหนง่ึ ในการเรียนรู้ นอกเหนอื จากการเรียนในห้องเรยี นโดยใชห้ นงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ (E-book) ซ่งึ จะทำให้ ผู้เรียนสามารถเรยี นรู้ได้ทุกสถานท่ีและทุกเวลา ปัจจุบันส่ือสิ่งพิมพ์ถูกนำมาใช้ในสถานศกึ ษาอย่างกว้างขวางไม่ว่า จะเป็นหนังสือ ตำรา แบบเรียน แบบฝึกหัดต่าง ๆ ทำให้ผู้เรียนและผู้สอนเข้าใจเนื้อหาหลักสูตรต่าง ๆ ยิ่งขึ้นได้ดี สื่อสิ่งพิมพ์ดังกล่าวสามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้เรียนศึกษาได้รวดเร็วขึ้น สามารถดาวโหลดและอา่ นด้วยคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มอื ถอื สมารท์ โฟน แท็บแล็ต พีดเี อ หรอื เครอ่ื งอา่ น E-book การพัฒนาของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ส่งผลให้การเรียนรู้ของผูเ้ รียนเปลี่ยนแปลงไป เครื่องมือบนเครือขา่ ย เป็นอกี รปู แบบหน่ึงทีผ่ ูเ้ รยี นให้ความสนใจ โดยเฉาะผู้เรียนในระดับมธั ยมศึกษาจะชอบการอ่านผ่านโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟนต่าง ๆ โดยเฉพาะในเรื่องที่ตนเองสนใจ จะทำให้เกิดการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ อยากรู้อยากเห็นได้ เป็นอย่างดี อีกทั้งสามารถส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ซึ่งแตกต่างจากหนังสือเรียน ที่มีเพียงเนื้อหาและภาพประกอบ แต่หนังสืออิเล็กทรอนกิ สน์ ้ีสามารถใสล่ ูกเล่นได้ไม่ว่าจะภาพเคลื่อนไหว คลิปวิดีโอต่าง ๆ รวมถึงการเชือ่ มโยงไปยงั อินเทอร์เน็ต เพื่อให้ได้ความรู้อย่างครบถ้วนเป็นการพัฒนารูปแบบสื่อการศึกษาใหม่เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ไดร้ วดเร็วและสร้างสรรคม์ ากย่ิงขนึ้ เขมณัฏฐ์ มง่ิ ศริ ธิ รรม (2559: 43)

10 4. วัตถปุ ระสงคข์ องการสรา้ งหนงั สืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ การจดั ทำหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกสม์ ีวัตถุประสงคด์ ังนี้ (ชนญั ชิดา สวุ รรณเลิศ.2548:4) 4.1 เพอ่ื อำนวยความสะดวกแกผ่ ู้ใช้บริการ 4.2 เพอ่ื ความรวดเรว็ ในการเข้าถึงสารสนเทศ 4.3 เพือ่ เปน็ แหล่งสารสนเทศทที่ ันสมัย 4.4 เพอ่ื พัฒนารปู แบบการบริการ 4.5 เพื่อเปน็ แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ตลอด 24 ช่ัวโมง 4.6 เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางสำหรบั ผูใ้ ช้บริการ 5. ลกั ษณะของหนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) ย่อมาจากคำว่า Electronic Book หมายถึง หนังสือที่สร้างขึ้นด้วย โปรแกรมคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยคุณลักษณะของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถ เชื่อมไปยังส่วนต่าง ๆ ของหนังสือ เว็บไซต์ต่าง ๆ ตลอดจนมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกับผู้เรียนได้ นอกจากนี้หนังสือ อิเล็กทรอนิกส์สามารถแทรกภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว แบบทดสอบ และสามารถสั่งพิมพ์เอกสารที่ต้องการออก ทางเครอ่ื งพิมพ์ได้ อีกประการหนึ่งทีส่ ำคัญกค็ ือ หนงั สืออิเล็กทรอนิกสส์ ามารถปรับปรงุ ข้อมูลได้ตลอดเวลา หนงั สือ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์มรี ปู แบบการแสดงผลแบบ“พลิก” อ่านคลา้ ยกับการเปิดหนังสือจรงิ สามารถนำไปประยุกต์เพื่อสร้าง องค์ความรู้ให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนการสอนได้ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือแบบเรียน สื่อการสอนสอน เอกสาร เผยแพร่ รายงานตา่ ง ๆ ใหอ้ ยใู่ นรปู แบบของหนังสอื อิเลก็ ทรอนิกส์ 3 มิติ ทำให้ผู้อ่านเกิดความร้สู ึกเหมอื นได้เรียนรู้ จากหนงั สอื จรงิ ๆ เพือ่ ใหก้ ารนำเสนอมีความน่าสนใจและมปี ฏิสัมพนั ธก์ บั ผู้อ่านมากข้นึ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะแตกต่างจากหนังสือเล่มในการพลิกหน้า โดยที่ไม่ได้มีการพลิกหน้าจริงหากแต่ เป็นไปในลักษณะของการซ้อนทับกัน ส่งิ ทแี่ ตกต่างกันระหว่างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์กับหนงั สือเล่มอย่างเด่นชัดน่ัน ก็คอื การปฏสิ มั พันธ์ ซ่ึงอาจแตกต่างกนั บา้ งในหนงั สอื อิเล็กทรอนิกสแ์ ตล่ ะเล่ม ท้ังนขี้ ึ้นอยู่กบั จุดประสงค์การใช้งาน และการปฏิสัมพันธ์จากผู้อ่าน หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มีลักษณะเหมือนกับหนังสือเล่ม คือ มีหน้าปกเพื่อบอกข้อมูล ตา่ ง ๆ เกีย่ วกับหนังสือ หาก 1 หน้ามีข้อมลู เป็นหนา้ คู่ ด้านซ้ายมือเป็นหนา้ ซา้ ยด้าน ขวามือจะเป็นหนา้ ขวา กดปุ่ม ไปหน้าก็จะไปยังหน้าต่อไป กดปุ่มถอยหลงั จะกลับไปหนา้ กอ่ น เขมณัฏฐ์ มงิ่ ศริ ิธรรม (2559 : 44)

11 6. ความแตกตา่ งของหนงั สอื อิเล็กทรอนิกส์ ( ไพฑูรย์ ศรกีฟับ้า ห(25น5ัง1,สหนอื ้าท1ัว่ 5ไ-ป16) ได้อธิบายถึงความแตกต่างของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์กับ หนังสือทว่ั ไป ดงั น้ี 6.1 หนังสือท่ัวไปใช้กระดาษ หนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกสไ์ มใ่ ชก้ ระดาษ 6.2 หนังสือทั่วไปมีข้อความและภาพประกอบธรรมดา หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถสร้าง ภาพเคล่ือนไหวได้ 6.3 หนังสอื ทั่วไปไมม่ ีเสยี งประกอบ หนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์สามารถใสเ่ สียงประกอบได้ 6.4 หนงั สอื ทว่ั ไปแกไ้ ขปรับปรุงยาก หนังสอื อิเล็กทรอนิกส์แก้ไขและปรับปรุงข้อมูลง่าย 6.5 หนังสือทั่วไปสมบูรณ์ในตัวเอง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถสร้างจุดเช่ือมโยง (Links) ออกไปเชอื่ มตอ่ กับขอ้ มูลภายนอกได้ 6.6 หนงั สือทวั่ ไปใช้ตน้ ทุนการผลติ สูง หนังสืออิเล็กทรอนิกสต์ ้นทุนการผลิตหนงั สอื ต่ำ ราคาประหยัด 6.7 หนังสือทั่วไปมีขีดจกัดในการพิมพ์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไม่มีขีดจำกัดในการพิมพ์ สามารถ ทำสำนาไดง้ ่ายไม่จำกัด 6.8 หนังสือทั่วไปเปิดอ่านจากเล่ม หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ต้องอ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วย โปรแกรมผ่านจอคอมพวิ เตอร์ 6.9 หนังสือท่วั ไปอ่านได้อย่างเดียว หนังสืออเิ ล็กทรอนิกสน์ อกจากอ่านไดแ้ ลว้ ยังสามารถสั่งพิมพ์ ได้ (Print) 6.10 หนังสอื ท่วั ไปอ่านได้ 1 คนต่อ 1 เลม่ หนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ 1 เลม่ สามารถอ่านพร้อมกันได้ จำนวนมาก (อา่ นออนไลนผ์ า่ นอนิ เตอรเ์ น็ต) 6.11หนังสือทั่วไปพกพาลำบาก (ต้องใช้พื้นที่) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์พกพาสะดวกได้ครั้งละ จำนวนมาก ในรูปแบบของไฟลค์ อมพวิ เตอร์ Handyใน Dirve หรือ CD 6.12 หนังสืออเิ ล็กทรอนกิ ส์เป็นมติ รกับสิ่งแวดลอ้ ม กล่าวโดยสรุป หนังสืออิเล็กทรอนิกส์นั้นแตกต่างจากหนังสือทั่วไปในรูปแบบการสร้าง การผลิต และการใช้งาน หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช้กระดาษในการสร้าง สามารถสร้างให้มีภาพเคลื่อนไหวและ เสียงประกอบได้รวมทั้งแก้ไขและปรับปรุงข้อมูลสร้างจุดเชื่อ มโยงออกไปเชื่อมต่อกับข้อมู ลภายนอก สามารถอ่านพร้อมกนั ไดเ้ ปน็ จำนวนมากและพกพาสะดวก

12 7. องค์ประกอบของหนังสอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ อัครเดชกศบั รีมหณนพี ันังธส์ (อื25ท47ว่ั )ไไปดก้ ลา่ วถงึ องค์ประกอบของหนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ ดังนี้ 7.1 อกั ขระ (text) หรือขอ้ ความ เปน็ องคป์ ระกอบของโปรแกรมมลั ติมีเดีย สามารถนำอักขระมา ออกแบบเป็นส่วนหนึ่งของภาพ หรือสัญลักษณ์ กำหนดหน้าที่การเชื่อมโยงนำเนื้อหาเสียงภาพ กราฟฟิก หรอื วีดที ัศน์ เพือ่ ให้ผใู้ ช้เลือกข้อมลู ท่จี ะศึกษาการใช้อกั ขระเพ่ือกำหนดหน้าที่ในการส่ือสารความหมายใน คอมพิวเตอร์ ควรมีลกั ษณะ ดงั นี้ 1) สื่อความหมายให้ชัดเจน เพื่ออธิบายความสำคัญที่ต้องการนำเสนอส่วนของเนื้อห าสรุป แนวคิดทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ 2) การเช่ือมโยงอกั ขระบนจอภาพสำหรับการมีปฏิสัมพันธใ์ นมัลติมีเดีย การเช่ือมโยง ทำได้หลาย รูปแบบจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งในระบบเครือข่าย ด้วยแฟ้มเอกสารข้อมูลด้วยหรือต่างแฟ้มกันได้ทันทีใน ลักษณะรูปแบบตัวอักษร (font) เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ (symbol) การเลือกใช้แบบอักขระ เครื่องหมายหรอื สญั ลกั ษณ์ และการให้สีแบบใดท่ีได้องคป์ ระกอบการจัดวางดว้ ยองคป์ ระกอบดา้ นศิลป์ท่ีดี แลว้ มคี วามเหมาะสม 3) กำหนดความยาวเน้ือหาให้เหมาะสมแกก่ ารอา่ น 4) การสร้างเคลื่อนไหวใหอ้ ักขระ เพื่อสร้างความสนใจก่อนนำเสนอข้อมูลสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การเคลื่อนย้ายตำแหนง่ การหมุน การกำหนดให้เป็นชว่ ง ๆ จังหวะ เป็นต้น ข้อสำคัญคือ ควรศึกษา ถึงจิตวิทยาความต้องการรับรู้กับความต้องการรับรู้กับความถี่การใช้เทคนิคการเคลื่อนไหวของผู้ศึกษา โปรแกรมแต่ละวยั ใหเ้ หมาะกบั กลุ่มเปา้ หมาย 5) เครื่องหมายและสัญลักษณ์ เป็นสื่อกลางที่สำคัญที่ติดต่อกับผู้ศึกษาในบทเรียน มัลติมีเดีย ปฏิสัมพันธ์ การนำเสนอหรืออกแบบสัญลักษณ์หรือเครื่องหมาย ควรให้สัมพันธ์กับเนื้อหาในบทเรียน สามารถทำความเขา้ ใจกับความหมายและสัญลกั ษณต์ ่าง น้ันได้อย่างรวดเรว็ อกั ขระเปน็ ส่วนหน่ึงท่สี ำคัญต่อการเรียนรู้ การทำความเข้าใจ เสนอความหมายท่กี อ่ ประโยชน์ต่อ ผู้เรียน อักขระที่มีประสิทธิผลในการสื่อข้อความที่ตรงและชัดเจนได้ดีในขณะที่รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว และเสียง ชว่ ยทำใหผ้ ู้เรียนจดจำสารสนเทศได้ง่ายขน้ึ 7.2 ภาพนิ่ง (still image) เป็นภาพกราฟิก เช่น ภาพวาด ภาพถ่าย ภาพลายเส้น แผนภูมิ ที่ได้ จากการสร้างภายในดว้ ยโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 7.3 ภาพเคลื่อนไหว (animation) เกิดจากชุดภาพที่มีความแตกต่างนำมาแสดงเรียงต่อเนื่องกัน ไปความแตกตา่ งของแต่ละภาพท่นี ำเสนอทำใหม้ องเห็นเป็นการเคลือ่ นไหวของสิ่งต่าง ๆ

13 7.4 เสียง (sound) เป็นสือ่ ช่วยเสริมสรา้ งความเข้าใจในเน้ือหาได้ดีขึ้นและทำให้คอมพิวเตอร์มีชีวิตชีวาขึ้น อาจอยใู่ นรูปของเสียงดนตรีเสียงสังเคราะห์ปรุงแต่ง 7.5 ภาพวีดิทัศน์ (video) ภาพวีดิทัศน์เป็นภาพเหมือนจริงที่ถูกเก็บในรูปของดิจิทัลมีลักษณะแตกต่าง จากภาพเคล่อื นไหวทถี่ กู สร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์ ในลักษณะคลา้ ยภาพยนตร์ 7.6 การเชื่อมโยงข้อมูลแบบปฏิสัมพันธ์ (interactive links) หมายถึง การที่ผู้ใช้มัลติมีเดียสามารถเลือก ข้อมูลได้ตามต้องการโดยใช้ตัวอักษร ปุ่ม หรือรูปภาพ สำหรับตัวอักษรที่สามารถเชื่อมโยงได้จะเป็นตัวอักษรที่มีสี แตกต่างจากตัวอักษรอื่น ๆ ส่วนปุ่มก็จะมีลักษณะคล้ายกับปุ่มเพื่อชมภาพยนต์ หรือคลิกลงบนปุ่มเพื่อเข้าไปหา ข้อมูลที่ต้องการหรือเปลี่ยนหน้าข้อมูลส่วนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ (interactive multimedia) เป็นการสื่อสารผ่าน คอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะการสื่อสารไปมาทั้งสองทางคือการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้คอมพิวเตอร์และการมีปฏิสัมพันธ์ ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะดูข้อมูลดูภาพ ฟังเสียง หรือดูภาพวีดีทัศน์ ซึ่งรูปแบบของการมีปฏิสัมพันธ์อาจอยู่ในรูปแบบใด รปู แบบหนงึ่ ดงั ต่อไปน้ี 1) การใชเ้ มนู (menu driven) ลกั ษณะทพี่ บเหน็ ได้ท่ัวไปของการใชเ้ มนู คอื การจดั ลำดับ หัวขอ้ ทำให้ผู้ใช้ สามารถเลือกขา่ วสารขอ้ มลู ทีต่ อ้ งการไดต้ ามที่ต้องการและสนใจ เมนู ประกอบด้วย เมนหู ลัก เมนูย่อย 2) การใช้ฐานข้อมูลไฮเปอร์มีเดีย (hypermedia databa) เป็นรูปแบบปฏิสมั พันธท์ ี่ใหผ้ ู้ใช้ สามารถเลือก ไปตามเส้นทางที่เชื่อมคำสำคัญ ซึ่งอาจเป็นคำ ข้อความ เสียงหรือภาพ คำสำคัญเหล่านี้จะเชื่อมโยงกันอยู่ใน ลักษณะเหมือนใยแมงมุม โดยสามารถเดินหน้าและถอยหลังได้ตามความต้องการของผู้ใช้ เขมณัฏฐ์ มิ่งศิริธรรม (2559 : 47) 8. กระบวนการและข้ันตอนการออกแบบและพฒั นาหนังสือ กาอรอเิ อลกก็แบทบรกาอรเนรียกิ นสกา์ รสอนเป็นหกัวใับจหหลนักขงั อสงกอื าทรพวั่ ัฒไนปาส่ือการเรียนการสอนทุกประเภทกระบวนการ เรียนการสอนที่มีผู้นิยมนำมาเป็นหลักการเพื่อประยุกต์ใช้ในการออกแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ The Events of Instruction ของกาเย (ม.ป.ป. ,อา้ งถงึ ในณฐั กรสงคราม.2553,หน้า 85) ซงึ่ เสนอ ลำดบั ขั้นตอน กระบวนการเรยี นการสอนรวม 9 ข้นั ดงั นี้ 8.1 เร่งเร้าความสนใจ (Gaining Attention) ตามหลักจิตวิทยาแล้วผู้เรียนที่มีแรงจูงใจในการเรียนสูง ย่อมจะเรียนได้ดีกว่าผู้เรียนที่มีแรงจูงใจน้อยหรือไม่มีแรงจูงใจเลย ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มการนำเสนอเนื้อหา หนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ควรมีการจูงใจและเร่งเร้าความสนใจให้ผู้เรียนอยากเรียนด้วยการใช้ภาพแสงสีเสียงหรือใช้ส่ือ ประกอบกันหลายๆ สง่ิ

14 8.2 บอกวัตถุประสงค์ (Specify Objective) วัตถุประสงค์ของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์นับว่าเป็น สว่ นสำคัญย่งิ ตอ่ กระบวนการเรยี นรทู้ ีผ่ ู้เรียนจะได้ทราบถึงความคาดหวังของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และเป็น การแจ้งให้ทราบลว่ งหน้าถงึ ประเดน็ สำคัญของเน้ือหารวมท้ังเค้าโครงสรา้ งของเน้ือหาดว้ ย 8.3 ทบทวนความรู้เดิม (Activate Prior Knowledge) การปูความรู้พื้นฐานที่จำเป็นหรือการ ทบทวนความรู้เดิมก่อนที่จะนำเสนอความรู้ใหม่แก่ผู้เรียน จึงเป็นสิ่งจำเป็นวิธีปฏิบัติโดยทั่วไปสำหรับ หนังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ คือ การทดสอบก่อนเรยี น (Pre – test) อาจอยู่ในรปู แบบของการกระตุ้นให้ผูเ้ รียน คิดย้อนหลัง ถึงสิ่งที่เรียนรู้มาก่อนหน้านี้ก็ได้ การกระตุ้นดังกล่าวอาจแสดงด้วยคำพูด ข้อความภาพ หรือ ผสมผสานกัน แล้วแต่ความเหมาะสมปรมิ าณมากหรือน้อยข้นึ อยกู่ บั เนื้อหา 8.4 นำเสนอเนื้อหาใหม่ (Present New Information) การนำเสนอเนื้อหาใหม่ของหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์คือใช้ตัวกระตุ้นท่ีเหมาะสมในการเสนอเนื้อหาใหม่ทั้งนี้เพื่อช่วยในการรับรู้นั้นเปน็ ไปอย่างมี ประสิทธภิ าพ รปู แบบในการนำเสนอเนื้อหาน้นั มีด้วยกนั หลายลักษณะ ตั้งแตก่ ารใช้ข้อความภาพน่งิ ตาราง ขอ้ มลู กราฟ แผนภาพ กราฟกิ ไปจนถึงการใช้ภาพเคล่อื นไหว 8.5 ชี้แนะแนวทางการเรียนรู้ (Guide Learning) คือ พยายามค้นหาเทคนิคที่จะกระตุ้นให้ ผู้เรียนนำความรเู้ ดมิ มาใชใ้ นการศึกษาความรู้ใหม่และหาวธิ ที ีจ่ ะช่วยให้การศึกษาความรใู้ หม่ ถ้าเน้ือหายาก ควรให้ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมจนผู้เรียนสามารถค้นพบแนวคิดด้วยตนเองก่อนที่หนังสอื อิเล็กทรอนิกส์จะมี การสรุปแนวคิดให้ผู้เรียน อีกครั้งหนึ่ง ในขั้นนี้ผู้ออกแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะต้องยึดหลักการจัดการ เรียนร้จู ากสง่ิ ทเี่ ป็นประสบการณ์เดมิ ไปส่เู น้อื หาใหม่จากส่ิงทยี่ ากไปสสู่ ่งิ ท่งี ่ายตามลำดับขั้น 8.6 กระตุ้นการตอบสนองบทเรียน (Elicit Response) คือการอนุญาตให้ผู้สอนได้มีโอกาส ทดสอบว่า ผู้เรียนเข้าใจในสิ่งที่ตนกำลังสอนอยู่หรือไม่ การกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองนี้มักจะออกมาใน รปู ของกจิ กรรมตา่ ง ๆ ให้ผู้เรยี นไดม้ สี ว่ นรว่ มในการคดิ และการปฏบิ ัตใิ นเชิงโตต้ อบ 8.7 ให้ข้อมลู ย้อนกลับ Provide (Feedback) เปน็ การใหผ้ ลป้อนกลบั หรอื การใหข้ ้อมลู ย้อนกลับ ไปยัง ผู้เรียนเกี่ยวกับความถูกต้องและระดับความถูกต้องของคำตอบนั้น ๆ การให้ผลป้อนกลับถือว่าเป็น การ เสรมิ แรงอย่างหนึ่งซ่ึงทำให้เกดิ การเรียนรู้ในตวั ผู้เรยี น 8.8 ทดสอบความรู้ใหม่ (Assess Performance) เป็นการประเมนิ ว่าผู้เรยี นน้ันได้เกิดการเรียนรู้ ตามทไ่ี ด้ตงั้ เปา้ หมายหรือไม่ อยา่ งไรการทดสอบความรู้นั้นอาจเปน็ การทดสอบหลังจากที่ผูเ้ รียนได้เรียนจบ จากวัตถุประสงค์หนึ่งซึ่งอาจจะเป็นช่วงระหว่างบทเรียนของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรืออาจจะเป็นกา ร ทดสอบหลงั จากผู้เรยี นไดเ้ รยี นจบทง้ั บทแล้วก็ได้ 8.9 สรุปและนำไปใช้ (Review and Transfer) ขั้นตอนสุดท้ายคือการช่วยให้ผู้เรียนเกิดความ คงทนในการจำและสามารถในความรู้ทีไ่ ด้ไปใช้

15 ขั้นตอนการออกแบบการเรียนการสอนทั้ง 9 ประการของกาเย่ แม้จะดูเป็นหลักการที่กว้างแต่ก็ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งบทเรียนสำหรับการสอนปกติและหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เทคนิคอย่างหนึ่งใน การออกแบบหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เป็นหลักพจิ ารณาท่ัวไปคือ การทำให้ผเู้ รยี นเกิดความรสู้ ึกใกล้เคียงกับ การเรียนรู้โดยผู้สอนในชั้นเรียน โดยปรับเปลี่ยนกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับสมรรถนะของ คอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามขั้นตอนการออกแบบทั้ง 9 ขั้นตอนนี้ไม่ใช่ขั้นตอนที่ตายตัวแต่เป็น ขั้นตอนที่มีความยืดหยุ่น กล่าวคือผู้ออกแบบไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับตามตัวตามที่ได้กำหนดไว้ และไม่ จำเป็นต้องใช้ครบทั้งหมดโดยผู้ออกแบบสามารถนำขั้นตอนทั้ง 9 ขั้นนี้ไปใช้เป็นหลักการพื้นฐานดัดแปลงให้ สอดคลอ้ งกับปัจจัยตา่ ง ๆ ทมี่ ีอทิ ธพิ ลตอ่ การเรยี นรู้ของผเู้ รยี นในเนื้อหาหน่ึง ๆ จากกระบวนการดังกล่าวทั้ง 9 ประการของกาเย่ ได้นำมาประยุกต์ใช้เป็นหลักการ ในการออกแบบ กระบวนการเรียนรู้กับการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีปกติและการจัดเรียนรู้ ด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง สถาบันการเงิน ทั้ง 9 ขั้นของแผนการจัดการเรียนรู้จำนำมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยการ จัดการเรียนรู้ด้วยวิธีปกติ ใช้โปรแกรมนำเสนอประกอบการบรรยายส่วนการจัดการเรียนรู้ด้วยหนังสือ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เรอื่ งสถาบนั การเงนิ ทผี่ ้จู ัดทำสรา้ งข้ึนนอกจากนยี้ งั ได้นำหลักการในการออกแบบกระบวนการ เรียนรู้มาปรับปรุงให้สอดคล้องกับเนื้อหา เวลาและมีปฏิสัมพันธ์กับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สร้างกิจกรรมที่ทำ ให้ผู้เรียนไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเหมาะสมกับผู้เรียนและความแตกต่างระหว่างบุคคล การที่ผู้เรียนมีส่วนรวมกับ หนงั สืออเิ ล็กทรอนกิ สย์ อมสง่ ผลให้การจดจำของผ้เู รียนดขี ึ้น 9. ประโยชนข์ องหนังสอื อเิ ลก็ ทรอนิกสอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์ เสาวลกั ษณ์ (2545) ไดก้ ล่าวถึงประโยชนข์ องหนังสอื อิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ไว้ดงั นี้ 9.1 ช่วยให้ผู้เรียนสามารถย้อนกลับเพื่อทบทวนบทเรียนหากไม่เข้าใจ และสามารถเลือกเรียนได้ตาม เวลาและสถานทท่ี ่ีตนสะดวก 9.2 การตอบสนองทีร่ วดเร็วของคอมพิวเตอรท์ ใ่ี ห้ท้งั สีสัน ภาพ และเสียง ทำใหเ้ กดิ ความตน่ื เตน้ และไม่ และไมเ่ บอ่ื หน่าย

16 9.3 ช่วยให้การเรียนมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีประสิทธิภาพในแง่ที่ลดค่าใช้จ่ายสนองความ ตอ้ งการและความสามารถของบคุ คล มปี ระสิทธผิ ลในแง่ทีท่ ำให้ผู้เรียนบรรลุจุดมงุ่ หมาย 9.4 ผูเ้ รยี นสามารถเลือกเรยี นหัวข้อที่สนใจข้อใดก่อนก็ได้ และสามารย้อนกลับไปกลับมาในเอกสาร หรือ กลบั มาเรม่ิ ตน้ ทจ่ี ดุ เรม่ิ ต้นใหมไ่ ด้อย่างสะดวกรวดเรว็ 9.5 สามารถแสดงทั้งข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียงได้พร้อมกัน หรือจะเลือกให้แสดงเพียง อย่างใดอย่างหน่งึ ก็ได้ 9.6 การจัดเก็บข้อมูลจะสามารถจัดเก็บไฟล์แยกระหว่างตัวอักษร ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวและเสียง โดย ใชเ้ ทก็ ซ์ไฟล์เปน็ ศูนย์รวม แล้วเรยี กมาใชร้ ว่ มกนั ไดโ้ ดยการเชอื่ มโยงขอ้ มูลจากสือ่ ตา่ ง ๆ ท่ี ด้วยกัน 9.7 สามารถปรับเปลี่ยน แก้ไข เพิ่มเติมข้อมูลได้ง่ายสะดวกและรวดเร็ว ทำให้สามารถปรับปรุงบทเรียน ใหท้ ันสมยั กบั เหตุการณไ์ ด้เปน็ อยา่ งดี 9.8 ผู้เรียนสามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กำลังศึกษา จากแฟ้มเอกสารอื่น ๆ ท่ีเชื่อมโยงอยู่ได้ อย่างแม่นยำ ไมจ่ ำกดั จากทวั่ โลก 9.9 เสริมสรา้ งให้ผู้เรยี นเปน็ ผู้มีเหตผุ ล มีความคิดและทัศนะคตทิ เี่ ปน็ Logical เพราะการโตต้ อบกับเครื่อง คอมพวิ เตอร์ ผเู้ รยี นจะตอ้ งทำอย่างมีขั้นตอน มีระเบยี บ และมเี หตผุ ลพอสมควรเป็นการฝึกเป็นลักษณะนิสัยท่ีดี ใหก้ บั ผเู้ รียน 9.10 ผู้เรียนสามารถบูรณาการการเรียนการสอนในวิชาต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้อย่างเกี่ยวเนื่องและมี ความหมาย กล่าวโดยสรุป หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เป็นนวัตกรรมทางการศึกษารูปแบบใหม่ที่มีความน่าสนใจ เหมาะ สำหรับที่จะนำไปสร้างและพัฒนาเป็นสื่อประกอบการเรียนการสอนเพื่อกระตุ้นและเร้าความสนใจของนักเรียน ในการศึกษาค้นคว้าหาความรเู้ นอื่ งจากมลี กั ษณะของรปู แบบมลั ติมเี ดยี ท่ีปรับปรงุ ให้ทนั สมัยกับเหตุการณ์ผู้ เรยี น จึงได้พัฒนาตนเองตลอดเวลา สามารถเลือกเรียนหรือทบทวนเนือ้ หาตามความตอ้ งการ และทราบผลการเรยี นรู้ ด้วยตนเองเพราะข้อดีของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถแทรกได้ทั้งรูปภาพและเสียงซึ่งดีกว่ าหนังสือเรียน ธรรมดา ผศู้ ึกษาจงึ ได้ออกแบบพัฒนาหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์เร่ือง สถาบันการเงนิ สำหรบั นักเรียนชั้น มัธยมศกึ ษาปี ท่ี 1 เพือ่ เปน็ สอ่ื การเรียนรู้และพัฒนาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนให้สงู ขึ้น

17 10. การตรวจสอบคุณภาพของหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ 10.1 ด้านเนอ้ื หา 10.1.1 เนือ้ หาตรงกับสาระการเรยี นรแู้ ละระดบั ชัน้ เรยี น 10.1.2 เนื้อหามคี วามถูกต้องและชัดเจนตามหลกั สตู รและมาตรฐานการเรยี นรู้ 10.1.3 เนื้อหาสอดคล้องกบั วตั ถุประสงค์ 10.1.4 การจดั ลำดบั เนื้อหามคี วามเหมาะสมกบั การนำไปใชใ้ นระดับชน้ั ท่ีระบุ 10.1.5 สื่อมคี วามสอดคล้องกับการนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นการเรียนการสอน 10.2 ด้านกราฟิกและการออกแบบ 10.2.1 การออกแบบสือ่ มคี วามสวย สรา้ งสรรค์ 10.2.2 การใชภ้ าษาในเนื้อหาของสือ่ สามารถสอื่ ความหมายไดช้ ดั เจน 10.2.3 รปู ภาพประกอบเนอ้ื หา สามารถสอ่ื ความหมายได้ชัดเจน 10.2.4 มีความเหมาะสมของขนาด สี ตวั อกั ษร สามารถอ่านไดง้ า่ ย ชัดเจนในการนำเสนอ 10.2.5 การจดั สพี ื้นหลัง ชัดเจน มีความสวยงาม 10.2.6 การจดั องค์ประกอบโดยรวมมีความเหมาะสม 10.3 ดา้ นเทคนิค 10.3.1 มีการออกแบบโครงร่างและรายละเอียดของเน้ือหาและเขยี นสตอร่บี อรด์ ก่อนการจัดทำสื่อ ได้ถูกตอ้ งชดั เจนตามกลุ่มสาระการเรยี นรแู้ ละระดับชน้ั ท่นี ำไปใช้งาน 10.3.2 มแี ฟ้มเก็บสารสนเทศโดยใช้ ICT สืบคน้ ขอ้ มูล รปู ภาพและ Clip VDO ตา่ ง ๆ ให้สามารถ ตรวจสอบได้ 10.3.3 สอ่ื มีการออกแบบและจัดทำทางเทคนิคตามหลกั ของการออกแบบของ โปรแกรมท่ใี ช้ 10.3.4 สอ่ื มีการจดั ทำตามสตอรบี่ อร์ดท่อี อกแบบ 10.3.5 คุณภาพเสียงประกอบบทเรยี นในสอ่ื เหมาะสม ชดั เจน 10.3.6 มคี วามสมบูรณ์ของเนื้อหาและมกี ารเชื่อมโยงข้อมลู ในส่อื ได้ดี 10.3.7 มีความเสถยี รของตวั อกั ษร เมือ่ นำไปใช้กบั ระบบปฏบิ ัตกิ ารของออฟฟศิ ในเวอร์ชันตา่ ง ๆได้

18 กล่าวโดยสรุป การประเมินสื่อเป็นการพิจารณาประสิทธิภาพและคุณภาพของสื่อการเรียน การสอนผู้ประเมินจะต้องกำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการประเมิน วิธีการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล ตลอดจนสรุป เพื่อชี้แนะแนวทางการปรับปรุงสื่อนั้น ๆ การประเมินสื่อทำได้โดยการสังเกตพฤติกรรม การเรียน การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน การอภิปรายระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน ซึ่งการ ประเมินมี 5 วิธคี ือ 1) การประเมินโดยผู้สอนผู้ประเมินสื่อนั้นควรเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการใช้สื่อการเรียน การสอน ผ้สู อนมีความเช่ียวชาญเกี่ยวกับสอ่ื และวิธกี ารสอน 2) การประเมินโดยผู้ชำนาญ หมายถึง ผู้ชนาญด้านสื่อการเรียนการสอนและมีประสบการณ์ ด้านการประเมนิ ดว้ ย 3) การประเมินโดยคณะกรรมการเฉพาะกิจ คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อประเมินสื่อการสอน เปน็ กลมุ่ บุคคลที่หน่วยงานแตง่ ต้งั ขึน้ มาประเมนิ สือ่ 4) การประเมินโดยผู้เรียน ผู้เรียนเป็นผู้รับรู้และเรียนรู้จากสื่อ ดังนั้นการให้ผู้เรียนได้มีโอกาส ประเมนิ สื่อ จงึ ช่วยใหไ้ ด้ข้อคดิ ในการปรับปรงุ สอ่ื อยา่ งเหมาะสมกบั ผเู้ รยี น 5) การประเมินประสิทธิภาพของสื่อ การประเมินสื่ออีกวิธีหนึ่งเป็นการประเมินประสิทธิภาพ ของสื่อ สื่อที่จะต้องได้รับการประเมินประสิทธิภาพส่วนใหญ่จะเป็นสื่อที่ผลิตขึ้นมาตามหลักการของ การสอนแบบโปรแกรม

19 ความสำคญั ของสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช่วยใหผ้ ้เู รยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจว่ามนุษย์ดำรงชีวิตอย่างไร ท้งั ในฐานะปัจเจกบุคคลและ การอยูร่ ่วมกนั ในสังคม การปรบั ตัวตามสภาพแวดล้อม การจัดการทรัพยากรท่ีมีอยู่อย่างจำกัด นอกจากนี้ ยังช่วยผู้เรยี นเข้าใจถึงการพัฒนาเปล่ียนแปลงตามยุคสมัย กาลเวลาตามเหตุปัจจัยต่าง ๆ ทำให้เกิดความ เข้าใจในตนเองและผู้อื่น มีความอดทน อดกลั้น ยอมรับในความแตกต่าง และมีคุณธรรม สามารถนำ ความร้ไู ปปรบั ใช้ในการดำเนนิ ชวี ิต เปน็ พลเมืองดขี องประเทศชาติ และสังคมโลก กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมว่าด้วยการอยูร่ ่วมกันในสังคม ที่มีความ เชื่อมสัมพันธ์กัน และมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยให้สามารถปรับตนเองกับบริบท สภาพแวดลอ้ มเป็นพลเมืองดีมีความรับผิดชอบ มคี วามรู้ ทักษะ คุณธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม โดยได้ กำหนดสาระตา่ ง ๆ ไว้ดังน้ี ศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ การนำหลักธรรมคำสอนไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเอง และการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุข เป็นผู้กระทำความดี มีค่านิยมที่ดีงาม พัฒนาตนเองอยู่เสมอ รวมทง้ั บำเพญ็ ประโยชนต์ อ่ สงั คมและสว่ นรวม หนา้ ทพ่ี ลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชีวติ ระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปจั จบุ ัน การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข ลักษณะและความสำคัญการเป็นพลเมืองดี ความแตกต่างและความหลากหลาย ทางวฒั นธรรม คา่ นยิ ม ความเช่อื ปลกู ฝังคา่ นยิ มดา้ นประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ สทิ ธิ หนา้ ที่ เสรีภาพการดำเนนิ ชีวิต อย่างสนั ติสขุ ในสงั คมไทยและสงั คมโลก

20 เศรษฐศาสตร์ การผลิต การแจกจ่าย และการบริโภคสินค้าและบริการ การบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ การดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพและการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวัน ประวัติศาสตร์ เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ พัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์ และเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ผลกระทบที่เกิดจากเหตุการณ์สำคัญ ในอดีต บคุ คลสำคญั ท่มี ีอิทธิพลตอ่ การเปลีย่ นแปลงต่างๆในอดีต ความเป็นมา ของชาติไทย วฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย แหล่งอารยธรรมทส่ี ำคัญของโลก ภูมิศาสตร์ ลักษณะของโลกทางกายภาพ แหล่งทรัพยากร ภูมิอากาศของประเทศไทย และภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก การใช้แผนที่และ เครอ่ื งมือทางภูมิศาสตร์ ความสัมพันธก์ ันของส่งิ ตา่ ง ๆ ในระบบธรรมชาติ ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษย์ สร้างขึ้น การนำเสนอข้อมูลภูมิสารสนเทศ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพ่ือ การพัฒนาที่ยง่ั ยืน

21 เป้าหมายของวิชา เศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์มีเป้าหมายที่สําคัญในการมุ่งทำความเข้าใจในพฤติกรรมทางด้านเศรษฐกิจของ มนุษย์ เพื่อใช้ความรู้นั้นให้เกิดประโยชน์ในการนําเอาทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจํากัดมาใช้ให้เกิด ประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้สังคมมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ประชาชนมีการกินดีอยู่ดี โดยรัฐบาลจะมี บทบาทสำคัญในการศึกษา กำหนดนโยบายและเป้าหมายในการจัดสรรทรัพยากรของแต่ละสังคมหรือ แต่ละระบบเศรษฐกจิ ดังน้ี 1. เพือ่ ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ คอื การขยายตวั ทางเศรษฐกิจ การผลติ สินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ตลอดจนทำให้ประชาชน มีระดบั ความเป็นอยูท่ ด่ี ีขึ้น 2. สร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ คือ รักษาระดับราคาสินค้าและบริการให้มีความมั่นคง ไม่ผันผวนขึ้นลงอย่างรวดเร็ว อันจะก่อให้เกิดปัญหาภาวะเงินเฟ้อ และเงินฝืดขึ้น จนกระทั่งผู้ผลิตไม่กลา้ ลงทุน และผูบ้ ริโภคไม่ม่นั ใจท่ีจะซ้ือสนิ คา้ และบรกิ ารมาบริโภคในระยะเวลาน้ัน 3. การกระจายรายได้ที่เทา่ เทียมกัน คอื ใหร้ ายไดส้ ว่ นใหญข่ องประเทศตกอยกู่ ับกลุ่มบคุ คลที่เป็น ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ หรืออีกนัยหนึ่งประชากรส่วนใหญ่มีรายได้เฉลี่ยใกล้เคียงกัน ท ำให้ ชอ่ งวา่ งระหวา่ งคนรวยและคนจนมนี ้อยมาก ประชาชนมคี วามเป็นอย่ทู ่ีดีขึน้ ไม่มีปญั หาการกู้หนี้ยมื สนิ 4. ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ คือ ความสามารถในการใช้ทรัพยากรการผลิตต่าง ๆ เช่น ที่ดิน แรงงาน เครื่องจกั รอปุ กรณ์ต่าง ๆ เป็นตน้ ซ่ึงมอี ย่อู ยา่ งจํากดั ให้ค้มุ ค่ามากทีส่ ดุ 5. เสรีภาพทางเศรษฐกิจ คือ สิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลของประชาชนในการตัดสินใจกระทำสิ่ง ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเร่ืองการประกอบอาชีพ การจับจ่ายใช้สอย ตลอดจนการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ทั้งนเี้ พือ่ ใหบ้ รรลสุ ง่ิ ทต่ี นต้องการ 6. คุณภาพชีวิต คือ สถานะความเป็นอยู่ที่แสดงถึงการกินดีอยู่ดีของประชาชน ประกอบด้วย รายได้ที่สมดุลกับรายจ่าย สุขภาพอนามัยแข็งแรง มีระดับการศึกษาที่ดี มีความสมบูรณ์ทางด้านการ อปุ โภค และมีความปลอดภัยในชวี ติ และทรพั ยส์ ิน

22 หลกั สูตรแกนกลางรายวชิ า เศรษฐศาสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 มาตรฐาน ส.3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพ่อื การดำรงชีวติ อยา่ งมดี ลุ ยภาพ ช้นั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.1 1. อธิบายความหมายและความสำคัญของ  ค ว า ม ห ม า ย แ ล ะ ค ว า ม ส ำ ค ั ญ ข อ ง เศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตรเ์ บ้อื งตน้  ความหมายของคำว่าทรัพยากรมีจำกัดกับ ความต้องการมีไม่จำกัด ความขาดแคลน การเลือกและคา่ เสยี โอกาส 2. วิเคราะห์ค่านิยมและพฤติกรรมการบริโภค  ความหมายและความสำคญั ของการบริโภค ของคนในสังคมซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจของชุมชน อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ และประเทศ  หลกั การในการบริโภคท่ดี ี  ปัจจัยท่ีมีอทิ ธพิ ลตอ่ พฤตกิ รรมการบรโิ ภค  ค่านิยมและพฤติกรรมของการบริโภคของ คนในสังคมปจั จบุ ัน รวมท้ังผลดีและผลเสีย ของพฤตกิ รรมดังกล่าว 3. อธิบายความเป็นมาหลักการและความสำคญั  ความหมายและความเป็นมาของปรัชญา ของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งตอ่ สงั คมไทย ของเศรษฐกิจพอเพียง  ความเป็นมาของเศรษฐกิจพอเพียง และ หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยหู่ ัวรวมท้ังโครงการตามพระราชดำริ  หลกั การของเศรษฐกิจพอเพยี ง  การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงในการดำรงชีวติ  ความสำคัญ คุณค่าและประโยชน์ของ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งต่อสงั คมไทย

23 มาตรฐาน ส.3.2 เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและ ความจำเป็นของการรว่ มมือกันทางเศรษฐกจิ ในสงั คมโลก ชัน้ ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ม.1 1. ยกตัวอย่างการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจภายใน  การรวมกลุ่มเชิงเศรษฐกิจเพื่อประสาน ท้องถ่นิ ประโยชน์ในท้องถิ่น เช่น กลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มแมบ่ า้ น กองทนุ หมบู่ า้ น 2. วิเคราะห์บทบาทหน้าที่และความแตกต่างของ  ความหมาย ประเภท และความสำคัญ ของ สถาบันการเงินแตล่ ะประเภทและธนาคารกลาง สถาบนั การเงนิ ท่ีมตี อ่ ระบบเศรษฐกิจ  บทบาทหนา้ ท่แี ละความสำคญั ของ ธนาคาร กลาง  การหารายได้ รายจ่าย การออม การลงทุน ซึง่ แสดงความสมั พันธ์ระหวา่ งผูผ้ ลติ ผ้บู รโิ ภค และสถาบันการเงิน 3. ยกตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นการพึ่งพาอาศัยกัน  ยกตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นการพึ่งพาอาศัย และการแขง่ ขันกนั ทางเศรษฐกิจในประเทศ กันและกัน การแข่งขันกันทางเศรษฐกิจใน ประเทศ  ปญั หาเศรษฐกิจในชมุ ชน ประเทศ และเสนอ แนวทางแกไ้ ข 4. ระบปุ จั จัยทม่ี อี ทิ ธพิ ลต่อการกำหนดอุปสงค์และ  ความหมายและกฎอุปสงค์ อุปทาน อปุ ทาน  ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดอุปสงค์และ อปุ ทาน 5. อภปิ รายผลของการมีกฎหมายเกี่ยวกบั ทรัพยส์ นิ  ความหมายและความสำคัญของทรัพย์สิน ทางปัญญา ทางปญั ญา  กฎหมายทเี่ กย่ี วกับการคุ้มครองทรพั ย์สนิ ทาง ปัญญาพอสงั เขป  ตัวอย่างการละเมิดแห่งทรัพย์สินทางปัญญา แต่ละประเภท

24 แผนการจดั การเรยี นรู้รายชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภาคเรียนท่ี 2/2562 รายวิชา สังคมศกึ ษา 2 รหัสวชิ า ส 21102 ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง สถาบันการเงนิ เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เรอื่ ง ความหมายและความสำคญั ของสถาบนั การเงิน ผสู้ อน นางสาวสุธาทิพย์ อนิ ขาว และนายพิพฒั น์ ธรรมธวชั โรงเรียนเมืองสรุ าษฎรธ์ านี ……………………………………………………………………………………………………….……………………………………… 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส.3.2 เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและ ความจำเป็นของการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจในสังคมโลก 2. ตัวชว้ี ัด ม.1/1 วิเคราะห์บทบาทหน้าท่แี ละความแตกต่างของสถาบนั การเงินแตล่ ะประเภทและธนาคาร กลาง 3. สาระสําคญั สถาบันการเงินมหี ลายประเภทซงึ่ ล้วนมีความสำคัญตอ่ ระบบเศรษฐกจิ 4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เพื่อใหน้ ักเรยี นสามารถอธิบายความหมายของสถาบันการเงนิ ได้ (K) 2. เพื่อใหน้ ักเรียนสามารถอธิบายความสำคัญของสถาบันการเงินทม่ี ีต่อระบบเศรษฐกจิ ได้ (K) 3. เพ่ือให้นักเรียนสามารถตรวจสอบได้ว่าสถาบนั การเงินมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกจิ อย่างไร (P) 4. เพ่ือให้นักเรยี นปฏิบตั ิตามภาระงานท่ีมอบหมายได้อยา่ งถูกต้อง เรียบร้อย และสวยงาม (A) 5. สาระการเรียนรู้ ความหมายและความสำคญั ของสถาบันทางการเงิน 6. สมรรถนะสำคญั 1. ความสามารถในการส่ือสาร : สามารถบอกความหมายของสถาบนั การเงินท่ีได้ 2. ความสามารถในการคดิ : วิเคราะห์ความสำคัญของสถาบนั การเงนิ แตล่ ะประเภทได้ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม

25 7. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั : เข้าเรยี นตรงเวลา 2. ใฝ่เรยี นรู้ : มีความตัง้ ใจในการเรยี น แสวงหาความรูจ้ ากแหล่งเรยี นรู้ สอ่ื ประกอบการเรียน การสอน 3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน : มีความกระตือรอื รน้ ในการรว่ มกจิ กรรม 8. ชิน้ งานหรือภาระงาน ใบกิจกรรมที่ 1 เร่ือง ความสำคญั ของสถาบนั การเงนิ ที่มตี ่อระบบเศรษฐกิจ 9. กระบวนการเรียนร/ู้ รปู แบบการเรยี นร้/ู วิธสี อน วธิ กี ารสอนโดยใช้กระบวนการกลุ่ม 10. กระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ที่ 1 นำเข้าสู่บทเรียน 1. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง ความหมายและความสำคญั ของสถาบันการเงนิ 2. ครแู บง่ นกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กนั เพือ่ แขง่ ขันกนั เขยี นความสำคัญของสถาบันการเงินที่ มี่ต่อระบบเศรษฐกิจที่นักเรียนทราบ โดยใช้เวลา 5 นาที กลุ่มใดเขียนได้มากและถูกต้องที่สดุ ถอื เป็นผู้ชนะ ขั้นท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนการสอน 3. ครูอธิบายความหมายและความสำคัญของสถาบันการเงิน โดยใช้นวัตกรรมทางการศึกษา Electronic Book (E – book) เรอื่ ง ความหมายและความสำคัญของสถาบนั การเงนิ เปน็ สอ่ื การสอน ข้นั ท่ี 3 ขัน้ สรปุ 4. นกั เรยี นและครูชว่ ยกนั สรปุ ความหมายและความสำคญั ของสถาบนั การเงิน 5. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ความหมายและความสำคัญ ด้วยแอพพลิเคชัน kahoot 11. สือ่ และแหล่งเรยี นรู้ 1. นวตั กรรมทางการศึกษา Electronic Book (E – book) เร่ือง ความหมาย ความสำคญั และ ประเภทของสถาบนั ทางการเงนิ 2. ใบกจิ กรรมที่ 1 ความสำคญั ของสถาบันการเงนิ ท่มี ตี อ่ ระบบเศรษฐกจิ 3. แอปพพลิเคชัน kahoot

26 12. การวัดและการประเมนิ ผล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธกี ารวดั เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การผา่ น เพื่อให้นักเรียนสามารถอธิบาย ตรวจข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ความหมายของสถาบนั การเงนิ ทางการเรียน เรื่อง ทางการเรียน เรื่อง รอ้ ยละ 60 ได้ (K) ความหมายและ ความหมายและ ผ่านเกณฑ์ ความสำคัญของสถาบัน ความสำคัญของสถาบัน การเงนิ การเงนิ เพื่อให้นักเรียนสามารถอธิบาย ตรวจข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ข ้ อ ส อ บ ว ั ด ผ ล ส ั ม ฤ ท ธิ์ รอ้ ยละ 60 ความสำคัญของสถาบนั การเงิน ทางการเรียน เรื่อง ทางการเรียน เรื่อง ผา่ นเกณฑ์ ทีม่ ีตอ่ ระบบเศรษฐกิจได้ (K) ความหมายและ ความหมายและ ความสำคัญของสถาบัน ความสำคัญของสถาบัน การเงนิ การเงนิ เพื่อให้นักเรียนสา ม า ร ถ ตรวจข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ รอ้ ยละ 60 ตรวจสอบได้ว่าสถาบันการเงิน ท า ง ก า ร เ ร ี ย น เ ร ื ่ อ ง ทา งกา ร เ ร ี ยน เ ร ื ่อง ผา่ นเกณฑ์ มีความสำคัญต่อระบบ ค ว า ม ห ม า ย แ ล ะ ค ว า ม ห ม า ย แ ล ะ เศรษฐกจิ อยา่ งไร ความสำคัญของสถาบัน ความสำคัญของสถาบัน การเงนิ การเงนิ เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติตาม ตรวจใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง ภาระงานที่มอบหมายได้อย่าง ความสำคัญของสถาบัน ความสำคัญของสถาบัน รอ้ ยละ 60 ผา่ น ถกู ต้อง เรียบรอ้ ย และสวยงาม กา ร เ งิ นที ่ ม ี ต ่ อ ร ะ บ บ การเงินที่มีต่อระบบ เกณฑ์ (A) เศรษฐกจิ เศรษฐกจิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ประเมินคุณลักษณะ แบบประเมินคุณลักษณะ ระดับคุณภาพ 2 - มีวนิ ยั อันพึงประสงค์ อันพึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ - ใฝเ่ รยี นรู้ - มงุ่ ม่นั ในการทำงาน ลงชอ่ื .........................................................ผู้สอน ลงชอ่ื .........................................................ผ้สู อน (นางสาวสธุ าทิพย์ อินขาว) (นายพิพัฒน์ ธรรมธวชั )

27 13. ความคดิ เห็นของผูต้ รวจแผนการจดั การเรยี นรู้ ความคดิ เหน็ ของครพู ่ีเลีย้ ง ...………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ............................................................... (นางนวลจันทร์ นกุ ลู ประทีป) ครพู ี่เลยี้ ง

28 บนั ทกึ หลงั สอน - ผลการจดั การเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - ปญั หาที่เกดิ ข้ึน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - แนวทางแก้ปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการพฒั นาแผนการเรียนร้ใู นครั้งต่อไป …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..........................................ผสู้ อน ลงช่ือ..........................................ผูส้ อน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอื่ ..................................................... (นายเกรียงศกั ดิ์ เมฆสุข) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ................................................... (นางปยิ ดา คล้ายเพชร) รกั ษาราชการรองผอู้ ำนวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชือ่ .......................................... (นางวรรณา มณีรตั น์) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นเมอื งสรุ าษฎรธ์ านี

29 ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอื่ ง ความสำคญั ของสถาบนั การเงินทม่ี ตี อ่ ระบบเศรษฐกจิ คำส่งั ใหน้ กั เรยี นเขยี นความสำคัญของสถาบันการเงินทมี่ ตี ่อระบบเศรษฐกจิ ท่ีนักเรยี นทราบใหม้ ากทสี่ ุด กลุ่มใดเขยี นไดม้ ากท่ีสุดและถูกตอ้ งทีส่ ุด ถือเปน็ ผู้ชนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. สมาชกิ ในกลมุ่ ………………….………………………………………………. ………………….………………………………………………. ………………….………………………………………………. ………………….………………………………………………. ………………….……………………………………………….

30 เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลงั เรยี น 1. ข้อใดกลา่ วถึงความหมายของสถาบนั การเงินไดส้ มบรู ณ์ทสี่ ดุ ก. ธนาคารซ่ึงทำหน้าท่รี บั ฝากเงนิ และใหก้ ยู้ ืมเงนิ ข. สถาบันทท่ี ำหน้าที่ดำเนนิ ธรุ กิจเกีย่ วกับการเงนิ ทกุ ประเภท ค. ธนาคารและสถาบนั ที่มีหนา้ ทร่ี ับฝากเงนิ หรอื ระดมเงนิ ออม ง. สถาบันท่ที ำหน้าที่เปน็ ตวั กลางในการดำเนินธุรกรรมทางการเงินเป็นผู้รบั ฝากเงิน หรอื ระดม เงินออมและการใหส้ นิ เช่อื 2. ข้อความเก่ยี วกบั ลักษณะสำคญั ของสถาบันการเงินข้อใดถูกต้องชัดเจน มากทีส่ ดุ ก. หารายได้จากการกยู้ ืมเงิน ข. เปน็ ตัวกลางของผู้รับฝากเงนิ ค. รับความเส่ยี งแทนผู้ออมและผ้กู ูย้ ืมเงิน ง. ทำธรุ กิจเก่ียวกบั การเงินที่มีผลประโยชน์ 3. การสรา้ งสภาพคล่องทางการเงนิ ในข้อใดมีผลทำให้เศรษฐกจิ ขยายตัว ได้มากทส่ี ุด ก. การเปิดขายพนั ธบัตรรัฐบาลแก่ประชาชน ข. การจัดทำงบประมานแผ่นดินแบบเกินดุล ค. การเพ่ิมการปลอ่ ยสนิ เช่อื แก่ผปู้ ระกอบการ ง. การเพ่ิมอตั ราเงนิ สดสำรองของธนาคารพาณิชย์ 4. ขอ้ ใดไมใ่ ชห่ นา้ ที่ของสถาบนั การเงิน ก. รบั ทวงหน้ี ข. รับฝากเงิน ค. ระดมเงนิ ออม ง. เป็นแหล่งกยู้ ืม 5. ขอ้ ใดไม่ใช่การดำเนินธรุ กรรมทางการเงนิ ก. ถอนเงนิ จากตู้ ATM ข. การกู้ยืมเงินนอกระบบ ค. โอนเงนิ ผา่ นโทรศัพทม์ อื ถอื ง. ขอสนิ เชือ่ จากสถาบนั การเงิน

31 แผนการจัดการเรียนรู้รายช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภาคเรียนที่ 2/2562 รายวชิ า สังคมศึกษา 2 รหัสวิชา ส 21102 ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรื่อง สถาบันการเงิน แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ือง ประเภทของสถาบันการเงิน เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง ผสู้ อน นางสาวสธุ าทพิ ย์ อินขาว และนายพิพัฒน์ ธรรมธวัช โรงเรยี นเมืองสรุ าษฎร์ธานี ……………………………………………………………………………………………………….……………………………………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 3.2 เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และ ความจำเป็นของการร่วมมอื กันทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก 2. ตัวชีว้ ัด ม.1/1วิเคราะห์บทบาท หน้าที่ และความแตกต่างของสถาบันการเงินแต่ละประเภท และธนาคาร กลาง 3. สาระสําคัญ สถาบันการเงินแต่ละประเภทย่อมมีบทบาท หน้าที่แตกต่างกัน และมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของ ประเทศ 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เพื่อใหน้ กั เรยี นสามารถจำแนกประเภทของสถาบันการเงินได้ (K) 2. เพ่ือใหน้ กั เรยี นวิเคราะห์บทบาทหน้าที่ของสถาบันการเงินแต่ละประเภทได้ (K) 3. เพื่อให้นกั เรียนสามารถตรวจสอบได้วา่ สถาบนั การเงินแต่ละประเภทมลี ักษณะเดน่ อย่างไร (P) 4. เพ่ือใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิตามภาระงานท่มี อบหมายได้อยา่ งถูกต้อง เรียบร้อย และสวยงาม (A) 5. สาระการเรยี นรู้ ประเภทของสถาบนั ทางการเงิน

32 6. สมรรถนะสำคญั 1. ความสามารถในการส่ือสาร : สามารถบอกประเภทของสถาบันการเงินท่ีมีตอ่ ระบบเศรษฐกจิ ได้ 2. ความสามารถในการคดิ : วิเคราะหบ์ ทบาทหนา้ ท่ขี องสถาบันการเงนิ แตล่ ะประเภทได้ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : สามารถนำความรู้ไปปรับใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม 7. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั : เขา้ เรยี นตรงเวลา 2. ใฝ่เรียนรู้ : มคี วามต้ังใจในการเรยี น แสวงหาความรู้จากแหล่งเรยี นรู้ สื่อประกอบการเรียน การสอน 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน : มีความกระตือรือร้นในการรว่ มกิจกรรม 8. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน ใบกจิ กรรมที่ 2 เร่ือง สถาบันการเงินในประเทศไทย 9. กระบวนการเรียนรู้/รปู แบบการเรยี นร/ู้ วิธสี อน วิธกี ารสอนโดยใช้กระบวนการกลมุ่ 10. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นท่ี 1 นำเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครกู ล่าวทกั ทายนกั เรยี น พรอ้ มมกี ารแนะนำตวั ให้นกั เรยี นรับทราบ 2. ใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่อื ง ประเภทของสถาบันการเงิน 3. ครูแบ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน เพื่อแข่งขันกันเขียนชือ่ ของสถาบนั การเงินที่นักเรยี น รู้จกั โดยใช้เวลา 5 นาที กลมุ่ ใดเขยี นชื่อสถาบนั การเงินได้มากและถูกตอ้ งถือเปน็ ผ้ชู นะ ขัน้ ที่ 2 กิจกรรมการเรียนการสอน 4. ครูอธิบายประเภทของสถาบันการเงิน โดยใช้นวัตกรรมทางการศึกษา Electronic Book (E – book) เร่ือง ความหมาย ความสำคญั และประเภทของสถาบันการเงิน เป็นส่ือการสอน 5. นักเรียนและครูช่วยกันแยกประเภทสถาบันการเงิน ที่แบ่งตามลักษณะของกิจการ แบ่งตาม หน้าท่ีในการดำเนนิ การ แบง่ ตามอายุของหลักทรัพย์ และแบง่ ตามหน้าท่ีและลักษณะการดำเนิน กจิ กรรมหลกั ตามกรอบของกฎหมาย

33 ขั้นท่ี 3 ขั้นสรุป 6. นักเรยี นและครูช่วยกันสรปุ ประเภทของสถาบันการเงนิ 7. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ประเภทของสถาบันการเงิน ด้วยแอพพลิเคชัน quizizz 11. สือ่ และแหล่งเรียนรู้ 1. นวตั กรรมทางการศึกษา Electronic Book (E – book) เรอ่ื ง ความหมาย ความสำคัญ และ ประเภทของสถาบนั ทางการเงนิ 2. ใบกิจกรรมที่ 2 สถาบนั การเงนิ ในประเทศไทย 3. แอพพลเิ คชนั quizizz

34 12. การวดั และการประเมนิ ผล จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การผา่ น ร้อยละ 60 เพื่อให้นักเรียนสามารถ ต ร ว จ ข ้ อ ส อ บ วั ด ข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ผ่านเกณฑ์ จำแนกประเภทของสถาบัน ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ทางการเรียน เรื่อง ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การเงนิ ได้ (K) เรื่อง ประเภทสถาบัน ป ร ะ เ ภ ท ส ถ า บั น ร้อยละ 60 การเงิน การเงนิ ผา่ นเกณฑ์ เพื่อให้นักเรียนวิเคราะห์ ต ร ว จ ข ้ อ ส อ บ วั ด ข้อสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ บทบาทหน้าที่ของสถาบัน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทางการเรียน เรื่อง การเงินแต่ละประเภทได้ เรื่อง ประเภทสถาบัน ป ร ะ เ ภ ท ส ถ า บั น (K) การเงิน การเงิน เพื่อให้นักเรียนสามารถ ต ร ว จ ข ้ อ ส อ บ วั ด ข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ต ร ว จ ส อ บ ไ ด ้ ว ่ า ส ถ า บั น ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน ทางการเรียน เรื่อง การเงินแต่ละประเภทมี เรื่อง ประเภทสถาบัน ป ร ะ เ ภ ท ส ถ า บั น ลกั ษณะเด่นอย่างไร (P) การเงิน การเงนิ เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติตาม ตรวจใบกิจกรรมที่ 2 ใบกจิ กรรมท่ี 2 เรอ่ื ง รอ้ ยละ 60 ภาระงานที่มอบหมายได้ เรื่อง สถาบันการเงิน สถาบันการเงินใน ผา่ นเกณฑ์ อย่างถูกต้อง เรียบร้อย ในประเทศไทย ประเทศไทย และสวยงาม (A) ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ แ บ บ ป ร ะ เ มิ น - มวี ินยั ประเมินคุณลักษณะ คุณลักษณะอันพึง - ใฝเ่ รยี นรู้ อนั พึงประสงค์ ประสงค์ - มงุ่ มัน่ ในการทำงาน ลงช่อื .........................................................ผู้สอน ลงชือ่ .........................................................ผ้สู อน (นางสาวสุธาทิพย์ อนิ ขาว) (นายพิพัฒน์ ธรรมธวชั )

35 13. ความคดิ เห็นของผูต้ รวจแผนการจดั การเรยี นรู้ ความคดิ เหน็ ของครพู ่ีเลีย้ ง ...………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ............................................................... (นางนวลจันทร์ นกุ ลู ประทีป) ครพู ี่เลยี้ ง

36 บนั ทกึ หลงั สอน - ผลการจดั การเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - ปญั หาที่เกดิ ข้ึน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - แนวทางแก้ปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการพัฒนาแผนการเรียนร้ใู นครง้ั ต่อไป …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ..........................................ผสู้ อน ลงชื่อ..........................................ผูส้ อน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชือ่ ..................................................... (นายเกรียงศกั ดิ์ เมฆสุข) หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ................................................... (นางปยิ ดา คล้ายเพชร) รักษาราชการรองผ้อู ำนวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื .......................................... (นางวรรณา มณีรัตน์) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นเมอื งสรุ าษฎร์ธานี

37 ใบกิจกรรมท่ี 2 เรอ่ื ง สถาบันการเงินภายในประเทศไทย คำสั่ง ให้นักเรียนเขยี นรายช่อื สถาบนั การเงนิ ในประเทศไทยท่นี ักเรียนร้จู กั ให้ไดม้ ากทีส่ ดุ กล่มุ ใดเขียนได้ มากทีส่ ดุ และถูกต้องท่ีสุด ถือเป็นผ้ชู นะ สมาชกิ ภายในกลุ่ม …………………………………………… ………………………………………….. ………………………………………….. …………………………………………..

38 เฉลยแบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น 1. สถาบนั การเงินท่ีมีบทบาทในการรบั ฝากเงินและใหก้ ยู้ ืมเงนิ มากท่ีสดุ ในตลาดเงิน คือข้อใด ก. ธนาคารออมสิน ข. ธนาคารพาณชิ ย์ ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย ง. ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 2. สถาบันการเงินในตลาดเงิน เปน็ สถาบันการเงินท่ีออกหลกั ทรพั ย์ท่ีมีอายุครบ กำหนดไถถ่ อนในระยะเวลาเทา่ ไร ก. ไม่เกนิ 6 เดือน ข. ไมเ่ กิน 1 ปี ค. ไมเ่ กนิ 2 ปี ง. ไมเ่ กิน 3 ปี 3. ธนาคารใดไมร่ บั ฝากเงินจากประชาชน ก. ธนาคารออมสิน ข. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ค. ธนาคารอสิ ลามแห่งประเทศไทย ง. ธนาคารเพอ่ื การส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย 4. ข้อใดจดั เปน็ สถาบนั การเงินเฉพาะอยา่ ง ก. ธนาคารกรงุ ไทย ข. ธนาคารกรงุ เทพ ค. ธนาคารไทยพาณิชย์ ง. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 5. บรษิ ทั เงนิ ตดิ ลอ้ จำกัด จดั เป็นสถาบันการเงนิ ประเภทใด ก. บริษัทเงนิ ทุน ข. ธนาคารพาณิชย์ ค. บรษิ ัทประกันชวี ติ ง. กองทุนประกันสงั คม

39 6. การถอนเงินจากธนาคารไม่ต้องใชส้ ง่ิ ใด ก. สูติบตั ร ข. ใบถอนเงิน ค. สมดุ คู่ฝาก ง. บตั รประชาชน 7. ขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งท่สี ุดเกย่ี วกับเงินฝากเผื่อเรยี ก ก. แตงโมสามารถถอนเงินออกมาใช้ได้เมื่อครบ 6 เดือน ข. แตงไทยได้รับดอกเบยี้ จากเงนิ ตน้ เม่ือฝากครบ 3 เดือน ค. ชาลีต้องฝากเงินในบัญชคี รบ 1 ปี จงึ จะสามารถถอนเงินได้ ง. โกโก้ถอนเงินมาใชจ้ า่ ยอยบู่ ่อยครั้งเม่อื ต้องการซ้ือของทีต่ นเองชอบ 8. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้องเกยี่ วกบั เงนิ ฝากประจำ ก. อัตราดอกเบ้ียสงู ข. เปน็ การออมระยะสน้ั ค. สามารถเบกิ ถอนไดต้ ลอดเวลา ง. ไดร้ ับอตั ราดอกเบี้ยเป็นรายวัน 9. ข้อใดไมใ่ ชป่ ระโยชนจ์ ากการฝากเงินไวก้ บั ธนาคาร ก. ทำใหไ้ ด้รบั ดอกเบ้ีย ข. ทำให้เงนิ ไม่สูญหาย ค. ทำใหเ้ งนิ เกดิ การหมนุ เวียน ง. ทำให้ผอู้ นื่ รูว้ า่ เรามเี งินเท่าไร 10. ถา้ นกั เรียนต้องการสร้างทอ่ี ยู่อาศยั ควรติดต่อสถาบนั การเงนิ ใด ก. ธนาคารออมสิน ข. ธนาคารกรุงไทย ค. ธนาคารสงเคราะห์ ง. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์

40 แผนการจัดการเรียนรู้รายชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภาคเรยี นที่ 2/2562 รายวิชา สังคมศกึ ษา 2 รหัสวชิ า ส 21102 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เร่อื ง สถาบันการเงนิ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 3 เรอ่ื ง สถาบันการเงนิ ท่สี ำคัญ เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ผู้สอน นางสาวสุธาทิพย์ อนิ ขาว และนายพิพฒั น์ ธรรมธวัช โรงเรียนเมืองสุราษฎร์ธานี ……………………………………………………………………………………………………….……………………………………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 3.2 เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และ ความจำเปน็ ของการร่วมมือกนั ทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก 2. ตัวช้วี ัด ม.1/1 วิเคราะห์บทบาท หน้าที่ และความแตกต่างของสถาบันการเงินแต่ละประเภท และธนาคาร กลาง 3. สาระสําคัญ สถาบันการเงินแต่ละประเภทต่างก็มีบทบาทหน้าที่แตกต่างกัน โดยมีธนาคารกลางเป็นผู้ดูแล ควบคมุ ซง่ึ สถาบนั การเงินลว้ นมีความสำคญั ตอ่ ระบบเศรษฐกจิ 4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เพ่ือให้นักเรียนวิเคราะห์บทบาทหน้าที่และความแตกต่างของสถาบันการเงินได้ (K) 2. เพื่อใหน้ ักเรียนสืบค้น นำเสนอ และเผยแพร่ข้อมลู เก่ียวกบั สถาบนั การเงินท่ีสำคัญต่อระบบ เศรษฐกจิ ได้ (P) 3. เพื่อให้นักเรยี นปฏบิ ัติตามภาระงานที่มอบหมายได้อย่างถูกตอ้ ง เรียบร้อย และสวยงาม (A) 5. สาระการเรียนรู้ สถาบันการเงนิ ทสี่ ำคัญ

41 6. สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร :สามารถบอกความแตกต่างของสถาบันการเงินแตล่ ะประเภทได้ 2. ความสามารถในการคดิ : วิเคราะห์บทบาทของสถาบนั การเงนิ แต่ละประเภทได้ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ : สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม 7. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 4. มวี นิ ยั : เขา้ เรียนตรงเวลา 1. ใฝเ่ รยี นรู้ : มคี วามตั้งใจในการเรยี น แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรยี นรู้ สือ่ ประกอบการเรยี น การสอน 2. มุ่งม่นั ในการทำงาน : มคี วามกระตือรอื รน้ ในการร่วมกิจกรรม 8. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง สถาบันการเงินท่ีสำคญั 9. กระบวนการเรียนร้/ู รูปแบบการเรียนร/ู้ วธิ สี อน วิธีการสอนโดยใช้กระบวนการกลุ่ม 10. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นท่ี 1 นำเข้าสู่บทเรยี น 1. ใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่ือง สถาบนั การเงินทีส่ ำคญั 2. ครแู บง่ นักเรยี นเปน็ กลุ่ม กลุม่ ละเท่า ๆ กัน โดยครูจะให้เวลา 10 นาทีในการศึกษาเกี่ยวกับ ธนาคาร หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ธนาคาร และเมื่อครบ 10 นาที สมาชิกในแต่ละกลุ่ม จะต้องออกมาผลัดกันเล่าประสบการณ์และความรู้หน้าชั้นเรียนที่สมาชิกแต่ละคนได้ศึกษามา โดยใช้เวลาเล่าคนละ 3-5 นาที สมาชิกที่เป็นผู้ฟังจะต้องตั้งใจฟัง และจดบันทึกประเด็นสำคัญ ของข้อมูลท่ีได้รับฟงั ผลดั กันซกั ถามขอ้ สงสัยตา่ ง ๆ และชว่ ยกนั สรุปสาระสำคญั ทีไ่ ด้จากการฟงั 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน และให้สมาชิกกลุ่มอื่นซักถามข้อสงสัย ครูช่วย เสนอแนะเพ่มิ เตมิ 4. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ

42 ขัน้ ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนการสอน 5. ครูอธิบายสถาบันการเงินที่สำคัญและสถาบันการเงินในประเทศไทย โดยใช้นวัตกรรมทาง การศึกษา Electronic Book (E – book) เรื่อง สถาบันการเงินที่สำคญั เป็นส่อื การสอน ขั้นท่ี 3 ข้ันสรุป 6. นกั เรียนและครูชว่ ยกันสรปุ สถาบันการเงินทีส่ ำคญั 7. ใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เรือ่ ง สถาบันการเงนิ ทีส่ ำคญั ด้วยแอพพลิเคชัน kahoot 11. ส่ือและแหลง่ เรียนรู้ 1. นวัตกรรมทางการศึกษา Electronic Book (E – book) เรอื่ ง สถาบันการเงินท่สี ำคัญ 2. ใบงานที่ 1 เรอื่ ง สถาบนั การเงนิ ทีส่ ำคญั 3. แอพพลิเคชนั kahoot

43 12. การวดั และการประเมนิ ผล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ กี ารวัด เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารผ่าน เพื่อให้นักเรียนวิเคราะห์ ต ร ว จ ข ้ อ ส อ บ วั ด ข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ร้อยละ 60 บทบาทหน้าที่และความ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ทางการเรียน เรื่อง ผ่านเกณฑ์ แ ต ก ต ่ า ง ข อ ง ส ถ า บั น เรื่อง สถาบันการเงินท่ี สถาบันการเ ง ิ น ที่ การเงินแต่ละประเภทได้ ส ำ ค ั ญ แ ล ะ ส ถ า บั น ส ำ ค ั ญ แ ล ะ ส ถ า บั น (K) การเงนิ ในประเทศไทย การเงินในประเทศ ไทย เพื่อให้นักเรียนสืบค้น ต ร ว จ แ บ บ ป ร ะ เ มิ น แ บ บ ป ร ะ เ มิ น ร้อยละ 60 นำเสนอ และเผยแพร่ข้อมูล พฤติกรรมในการทำงาน พ ฤ ต ิ ก ร ร ม ใ น ก า ร ผ่านเกณฑ์ เกี่ยวกับสถาบันการเงินที่ เป็นรายบุคคลและเป็น ทำงานเป็นรายบุคคล สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจได้ กลุ่มในด้านการสื่อสาร และเป็นกลุ่มในด้าน (P) การคิด การแก้ปัญหา การสื่อสาร การคิด ฯลฯ การแกป้ ัญหา ฯลฯ เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติตาม ตรวจใบงานที่ 1 เรื่อง ใบงานท่ี 1 เรื่อง ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ภาระงานที่มอบหมายได้ สถาบนั การเงนิ ทสี่ ำคัญ สถาบันการเ ง ิ น ที่ ระดับคุณภาพ 2 อย่างถูกต้อง เรียบร้อย สำคัญ ผ่านเกณฑ์ และสวยงาม (A) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ประเมินคุณลักษณะ แ บ บ ป ร ะ เ มิ น - มีวินัย อนั พงึ ประสงค์ ค ุ ณ ล ั ก ษ ณ ะ อ ั น พึ ง - ใฝ่เรยี นรู้ ประสงค์ - มุ่งมั่นในการทำงาน ลงชือ่ .........................................................ผูส้ อน ลงชือ่ .........................................................ผู้สอน (นางสาวสุธาทพิ ย์ อินขาว) (นายพิพฒั น์ ธรรมธวัช)

44 13. ความคดิ เหน็ ของผ้ตู รวจแผนการจัดการเรียนรู้ ความคดิ เห็นของครพู ่ีเลยี้ ง ...………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ............................................................... (นางนวลจนั ทร์ นกุ ูลประทปี ) ครพู ่เี ลย้ี ง

45 บนั ทกึ หลงั สอน - ผลการจดั การเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - ปญั หาที่เกดิ ข้ึน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - แนวทางแก้ปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… - ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการพฒั นาแผนการเรียนร้ใู นครั้งต่อไป …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ..........................................ผสู้ อน ลงชื่อ..........................................ผูส้ อน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอื่ ..................................................... (นายเกรียงศกั ดิ์ เมฆสุข) หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ................................................... (นางปยิ ดา คล้ายเพชร) รกั ษาราชการรองผูอ้ ำนวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชือ่ .......................................... (นางวรรณา มณรี ตั น์) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นเมอื งสรุ าษฎรธ์ านี

46 ใบงานที่ 1 เรอื่ ง สถาบนั การเงนิ ท่สี ำคัญ คำสงั่ ใหน้ กั เรยี นอธบิ ายบทบาทหน้าทข่ี องสถาบนั การเงนิ ทก่ี าหนดให้ 1. ธนาคารพาณิชย์ 2. ธนาคารออมสนิ 3. ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 4. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 5. ธนาคารอสิ ลามแหง่ ประเทศไทย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook