๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ป์ ระชาธปิ ไตย
ช่อื หนงั สือ : ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธิปไตยเลขหนงั สือ : ISBN 978-616-399-056-3ปีท่พี ิมพ ์ : ๒๕๖๐จำนวนหน้า : ๒๕๖ หนา้พมิ พ์ครง้ั ที่ : ๑จำนวนพมิ พ์ : ๒,๕๐๐ เลม่ภาพปก : พระบรมสาทสิ ลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ฝีมอื จักรพันธ์ ุ โปษยกฤต ศิลปินแห่งชาติ โดยไดร้ บั อนุญาตจากมูลนธิ จิ ักรพนั ธุ์ โปษยกฤต สงวนลิขสิทธิ์จดั ทำโดย : คณะกรรมการจัดทำหนงั สอื ทร่ี ะลกึ เฉลมิ พระเกยี รติพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั เนื่องในโอกาสการจดั งานฉลองสิริราชสมบัตคิ รบ ๗๐ ปี และเฉลมิ พระเกียรติ สมเด็จพระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ เน่อื งในโอกาสพระราชพิธมี หามงคล เฉลมิ พระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ สภานิตบิ ัญญัตแิ หง่ ชาติ สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎรพิมพ์ท่ี : บริษทั อมรนิ ทรพ์ ริน้ ติง้ แอนดพ์ บั ลชิ ชง่ิ จำกดั (มหาชน) สงวนลิขสทิ ธ ์ิ ข้อมลู ทางบรรณานุกรม คณะกรรมการจัดทำหนงั สอื ที่ระลึกเฉลมิ พระเกียรตพิ ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั เนอื่ งในโอกาสการจดั งานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี และเฉลิมพระเกยี รติ สมเด็จพระนางเจา้ สิรกิ ิติ์ พระบรมราชนิ ีนาถ เน่อื งในโอกาสพระราชพธิ มี หามงคล เฉลมิ พระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ สภานิตบิ ญั ญตั แิ ห่งชาติ ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริย์ประชาธิปไตย. กรุงเทพฯ : สำนกั งานเลขาธกิ าร สภาผแู้ ทนราษฎร, ๒๕๖๐. ๒๕๖ หนา้ . ภาพประกอบ. ๑. ภมู ิพลอดลุ ยเดช, พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหา, ๒๔๗๐-๒๕๕๙ – พระราชประวตั ิ. ๒. ภูมิพลอดุลยเดช, พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา, ๒๔๗๐-๒๕๕๙ – พระราชกรณียกิจ. ๓. ชือ่ เรอื่ ง.2 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธิปไตย
ตราสญั ลกั ษณ์ งานฉลองสริ ริ าชสมบตั ิครบ ๗๐ ปี อักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. สีเหลืองนวลทอง เป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพ ขอบริมอักษรสีทองบนพื้นสีขาบเข้ม (น้ำเงินแก่) เป็นสีประจำสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายในกรอบลายทองปนนากมีลายเนื่องสีทองมากกว่า๗๐ ดวง เป็นการถวายพระพรให้ทรงสถิตดำรงในสิริราชสมบัติมากกว่าปีที่ ๗๐ ให้สถาพรโดยสวัสดีเป็นอเนกอนันต์ยงิ่ กวา่ พระมหากษัตริย์พระองค์ใด อกั ษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. และกรอบลายทองปนนากนี้สถติ อยภู่ ายใตพ้ ระมหาพชิ ยั มงกุฎ ประกอบพระอุณาโลมสีทอง แวดล้อมด้วยพระแสงขรรค์ชัยศรีและพระแส้จามรีอยู่เบื้องซ้ายแห่งพระมหาพิชัยมงกุฎ มีธารพระกรและพัชนีฝักมะขามอยู่เบื้องขวา มีฉลองพระบาททอดอยู่ท่ีปลายพระแสงและธารพระกรน้ันเบื้องล่าง รวมเรียกว่าเคร่ืองเบญจสิริราชกกุธภัณฑ์ เป็นนิมิตหมายแห่งการฉลองสิริราชสมบัติ ล่างลงมาเป็นแพรแถบสีหงชาด (ชมพู) ขลิบทองเขียนอักษรสีทอง ความว่าฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ปลายด้านขวาของแพรแถบระบุ พ.ศ. ๒๔๘๙ อันเป็นปีท่ีเสดจ็ เถลงิ ถวัลยราชสมบัติ ปลายด้านซา้ ยของแพรแถบระบุ พ.ศ. ๒๕๕๙ แสดงกาลเวลาท่ีล่วงมา ๗๐ ปี ตราบจนปัจจุบนั 3๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ป์ ระชาธปิ ไตย
4 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ป์ ระชาธปิ ไตย
สารบญั หนา้ สารจากประธานสภานติ บิ ญั ญัตแิ หง่ ชาต ิ ๖ สารจากประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ๘ สารจากประธานคณะกรรมการจัดทำหนงั สอื ทรี่ ะลกึ เฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว ๑๐ เนอ่ื งในโอกาสการจดั งานฉลองสริ ริ าชสมบตั คิ รบ ๗๐ ปี และเฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ เนอ่ื งในโอกาสพระราชพธิ มี หามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๕๙ สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาติ สารจากบรรณาธิการ ๑๒ คำนำ ๑๔ พระราชประวัติ ๑๗ พระราชพิธบี รมราชาภิเษก ๒๗ พระราชพธิ ีเก่ยี วกบั การครองสริ ิราชสมบัต ิ ๔๑ พระราชกรณยี กิจเก่ียวกับรัฐสภา ๕๕ พิธเี ททองหลอ่ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ๕๖ พระราชพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรยี ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ๖๐ พระราชพธิ ฉี ลองวันพระราชทานรัฐธรรมนญู ๖๔ พระราชพิธีพระราชทานรฐั ธรรมนญู และรัฐธรรมนูญท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทร ๖๙ มหาภูมิพลอดุลยเดชทรงลงพระปรมาภไิ ธย ๘๐ พระราชทานคำแนะนำเก่ียวกบั ร่างรัฐธรรมนูญ ๘๒ รัฐพธิ ีเปิดประชุมรฐั สภา ๘๙ พระราชดำรัสในรัฐพิธีเปดิ ประชุมรฐั สภา ๑๕๒ กฎหมายท่ีพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดชทรงลงพระปรมาภิไธย ๑๕๘ (ต้ังแตว่ นั ที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ ถงึ วนั ที่ ๑๓ ตลุ าคม ๒๕๕๙) ๑๖๓ รา่ งพระราชบญั ญตั ิท่ที รงใช้พระราชอำนาจยับยัง้ ๑๘๒ พระมหากรุณาธคิ ุณตอ่ กจิ การด้านตา่ งประเทศของรฐั สภา รฐั สภาเฉลิมพระเกียรต ิ กษัตราประชาธปิ ไตย ๑๙๓ พระบารมปี กปอ้ งคุ้มครองไทย ๑๙๙ โครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำร ิ ๒๑๑ สดดุ พี ระเกยี รติคุณ ๒๑๗ พระยศยิง่ ยงดำรงนริ นั ดรก์ าล ๒๓๑ บรรณานกุ รม ๒๔๒ ภาคผนวก ๒๔๙ 5๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธิปไตย
สารจากประธานสภานติ ิบัญญตั ิแห่งชาติ วันท่ี ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ เป็นมหามงคลสมัยท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธเิ บศรรามาธิบดี จกั รนี ฤบดนิ ทร สยามนิ ทราธิราช บรมนาถบพติ ร เสด็จเถลงิ ถวลั ยราชสมบตั คิ รบ ๗๐ ปี นับเปน็ โอกาส อันมงคลประเสริฐสุดที่ทรงครองราชย์ยาวนานกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในประวัติศาสตร์ไทย เหล่าพสกนิกรล้วน ปลาบปลื้มปีติยินดีในมงคลวารคร้ังนี้ จึงพร้อมใจกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและ แสดงความจงรกั ภักดใี ห้เปน็ ทปี่ ระจกั ษแ์ กส่ ากลโลก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นพระประมุขท่ีเป่ียมด้วยทศพิธราชธรรมนับตั้งแต่ทรง ครองสิริราชสมบัติเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ และทรงมีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ วา่ “เราจะครองแผน่ ดนิ โดยธรรม เพ่ือประโยชนส์ ุขแห่งมหาชนชาวสยาม” จนกระทงั่ ปจั จุบัน ปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ ประชาชนชาวไทยต่างเห็นประจักษ์แล้วว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระปรีชาญาณอันลึกซึ้ง ทรงมุ่งม่ันที่จะแก้ปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนของราษฎร โดยมิได้ทรงย่อท้อต่อความ ยากลำบาก ทรงอุทิศและทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ ตรากตรำพระวรกายเสด็จพระราชดำเนินไปทั่วราชอาณาจักร เพื่อทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยน้ำพระราชหฤทัยท่ีเป่ียมล้นด้วยพระเมตตา ดังจะเห็นได้จากโครงการ อันเน่ืองมาจากพระราชดำริที่มีอยู่มากมาย อีกทั้งยังพระราชทานแนวทางในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามแนว ทฤษฎีใหม่ และพระราชทานวิถีทางดำรงชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือให้ประชาชนทุกระดับสามารถดำเนินชีวิตด้วย ความผาสุกในทกุ สถานการณ์ สงิ่ เหล่านลี้ ้วนเปน็ พระมหากรุณาธคิ ณุ อเนกอนันต์ตอ่ พสกนิกรชาวไทยอย่างหาท่สี ดุ มิได้ รัฐสภาเป็นองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติท่ีได้รับพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดชทรงใช้พระราชอำนาจในฐานะประมุขของประเทศในการพระราชทานรัฐธรรมนูญ ทรงลงพระปรมาภิไธย ประกาศใช้พระราชบัญญัติต่าง ๆ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐสภา นอกจากน้ี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพระราชกรณียกิจเก่ียวกับรัฐสภาในโอกาสสำคัญ อาทิ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบรัฐพิธีเปิดประชุมของรัฐสภาและพระราชทานพระราชดำรัสอันทรงคุณค่าเป็นแนวทาง ต่อการปฏิบัตหิ นา้ ท่ีของสมาชิกรัฐสภา6 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธปิ ไตย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราชบรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต เมือ่ วันพฤหสั บดที ี่ ๑๓ ตลุ าคม ๒๕๕๙ สริ ิพระชนมพรรษาปที ี่ ๘๙ ทรงครองสิรริ าชสมบตั ิได้๗๐ ปี ๔ เดอื น ๔ วนั นำมาซึ่งความทุกข์โทมนัสเกนิ พรรณนาสพู่ สกนกิ รชาวไทย สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาตแิ ละสภาขบั เคลอ่ื นการปฏริ ปู ประเทศ นอ้ มสำนกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ ลน้ เกลา้ ลน้ กระหมอ่ มเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ จึงจัดทำหนังสือที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เน่ืองในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ เร่ือง ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธิปไตยเพ่ือน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นราชสดุดี เพ่ือสนองพระมหากรุณาธิคุณและเพ่ือเผยแพร่พระเกียรติคุณในพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พระผู้เสดจ็ สู่สวรรคาลัย ให้จารึกย่งั ยืนอยตู่ ราบนจิ นริ นั ดร์ ขอมหิทธานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและส่ิงศักด์ิสิทธ์ิทั้งหลายท่ัวสากลจักรวาล ตลอดจนพระราชกุศลกฤดาธิการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงปฏิบัติบำเพ็ญมาแล้วอย่างบริสุทธ์ิบริบูรณ์ ตลอดท้ังความเคารพและจงรักภักดีมิเส่ือมคลายของปวงชนชาวไทย จงเป็นพลวปัจจัยบันดาลดลให้พระองค์เสด็จสู่ทิพยสถานบรมสุขสถติ เสถียรพร่งั พร้อมด้วยทิพยสมบัตสิ ขุ ารมณ์เปน็ นิจนริ ันดรสืบไป (ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วชิ ิตชลชัย) ประธานสภานิติบญั ญัติแหง่ ชาติ 7๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริยป์ ระชาธิปไตย
สารจากประธานสภาขับเคลอื่ นการปฏิรปู ประเทศ ถวายสดดุ ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช พระมหากษัตรยิ ์ประชาธปิ ไตย ๗๐ ปที ่คี รองราชย์ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทรงครองราชยค์ รบ ๗๐ ปี นบั แต่ พ.ศ. ๒๔๘๙ ยาวนานทสี่ ดุ ในโลก และในประวตั ศิ าสตร์ไทย ไดท้ รงทุ่มเทพระสตปิ ัญญา พระวรกาย ทรงมีพระวิรยิ อตุ สาหะ ตรากตรำบำเพญ็ พระราชกรณียกิจ น้อยใหญ่นานปั การ ดงั นี้ ๑. “ทรงเป็นพระเจ้าทรงธรรม” จากพระปฐมบรมราชโองการทว่ี า่ “เราจะครองแผน่ ดนิ โดยธรรม เพื่อประโยชนส์ ุข แหง่ มหาชนชาวสยาม” เป็นตน้ มา พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ เพราะเหตุแห่งธรรมที่ทรงยึดมั่นอย่างเคร่งครัด เสมอมา พระมหากษัตริย์ไทยนับแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน ทรงปรารถนาท่ีจะได้เป็นพระเจ้าทรงธรรม โดยทรงยึดมั่นใน ทศพธิ ราชธรรม ซงึ่ ไดแ้ ก่ การให้ การสำรวม การทำสาธารณประโยชน์ ความซือ่ ตรง ความสุภาพ การชนะความช่ัว การไมโ่ กรธ ความไม่เบยี ดเบียน ความอดทน และความยุติธรรม ทั้งน้ี นอกเหนือจากจักรวรรดิวตั รและราชสังคหวัตถุอกี ดว้ ย ๒. ทรงเปน็ นกั ปกครองทด่ี เี ลศิ ทท่ี รงเสยี สละเพอ่ื ผลประโยชนส์ ว่ นรวมของผรู้ บั การปกครอง ในทกุ พระราชกรณยี กจิ และทุกขณะ ซ่ึงเป็นผู้ปกครองในอุดมคติท่ีบรรดานักปรัชญาการเมืองแสวงหามากว่า ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว พระราชดำรัส พระราชดำริ และพระราชกรณยี กจิ รวมถึงโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ก็เพอ่ื ผลประโยชนส์ ว่ นรวมทง้ั นน้ั บางทีเราอาจรสู้ กึ ว่า พระบรมราโชวาทของพระองค์น้ัน เป็นย่ิงกว่าคำสอนของคำพระเสียอีก จึงทรงได้รับการยกย่องจากต่างประเทศว่าทรงเป็น กษัตรยิ ์ของกษัตริย์ (King of Kings) ๓. ทรงแบกรับภาระของชาติอันหนักอ้ึงไว้แต่พระองค์เดียวในรอบ ๗๐ ปีท่ีผ่านมา ไม่อาจทรงวางมือหรือทรง ผ่องถ่ายไปให้ผู้อื่นได้ เม่ือเปรียบเทียบกับนายกรัฐมนตรีแต่ละคนที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามารับภาระของชาติ เม่ือพ้นวาระไปแล้วก็ไม่ต้องรับรู้ เครียด และเหนื่อยกับปัญหาใด ๆ ของประเทศอีก แบบผ่านมาแล้วก็ผ่านไป สามารถ พกั ผอ่ นและหาความสขุ สว่ นตวั ทบี่ ้านได้ ๔. ทรงช่วยรักษาประชาธิปไตยไว้ได้ถึง ๗๐ ปีท่ีทรงครองราชย์มา ถึงแม้ว่าจะเกิดการปฏิวัติ รัฐประหาร และ การกบฏข้ึนเป็นครั้งคราว เม่ือเหตุการณ์ผ่านพ้นไประยะหน่ึง ประเทศไทยก็จะกลับเข้าสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข และที่สำคัญก็คือ อุดมการณ์ “ชาติ ศาสน์ กษัตริย”์ ได้ทำใหป้ ระเทศไทยของเรารอดพ้น มาจากการเป็นสงั คมคอมมิวนิสต์แบบหลาย ๆ ประเทศในอินโดจีนได้ ๕. ทรงสามารถระงบั วกิ ฤตการณท์ างการเมอื งไดอ้ ยา่ งประเสรฐิ จากการทท่ี รงเปน็ พทุ ธมามกะและอคั รศาสนปู ถมั ภก จงึ ทำใหท้ รงสามารถทำนุบำรุงชนชาตอิ ่ืน ศาสนาอนื่ ได้ จึงทำให้ทรงเป็นศนู ยร์ วมจิตใจของชาวไทยท้งั ชาติ ซ่ึงอยู่กนั ด้วยความ ร่มเย็นเป็นสุขและทรงเป็นท่ีเคารพรักและเทิดทูนไว้เหนือเกล้าของพวกเราทุกคนเสมอมา นอกจากนี้แล้ว การที่ทรงอยู่เหนือ การเมืองเพ่ือจะได้ทรงเป็นกลางทางการเมือง เป็นพระมหากษัตริย์ของชาวไทยของทุกคนทุกหมู่เหล่าทุกฝ่าย และด้วย พระบารมีจึงทรงสามารถระงับวิกฤตการณ์วุ่นวาย รุนแรง โศกสลด ท่ีทำให้คนไทยต้องบาดเจ็บและสูญเสียชีวิตมากมาย หลายคร้งั เชน่ เหตุการณ์วันท่ี ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ และเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๕8 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริย์ประชาธปิ ไตย
นอกจากน้ีแล้ว ในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙ ยังได้ทรงช่วยผ่าทางตันที่ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายรัฐบาลไม่อาจทำหนา้ ท่ีได้ จงึ ทรงขอใหส้ ถาบนั ตลุ าการรว่ มกันแกไ้ ขวกิ ฤตของประเทศจนผ่านพน้ ภาวะนัน้ ไปได้ ๖. ทรงยึดม่ันในหลักนิติธรรมของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เมื่อเกิดวิกฤตทางการเมืองและมีการเรียกร้องขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน โดยอ้างถึงมาตรา ๗ แห่งรัฐธรรมนูญบางฉบับ จะทรงมีพระราชดำรัสกับคณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดว่า มาตราดังกล่าวไม่ได้หมายถึงการให้พระมหากษัตริย์มีอำนาจท่ีจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ หรือจะตัดสินทำได้ทุกเร่ือง เพราะจะเป็นการทำเกินหน้าท่ีไป ส่วนการแต่งตั้งนายสัญญา ธรรมศักด์ิ เป็นนายกรัฐมนตรีน้ันไม่ได้ทรงทำผิดรัฐธรรมนูญ เพราะมีรองประธานสภาเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ดังนั้น การขอนายกรัฐมนตรีพระราชทานจงึ ไมใ่ ชแ่ บบประชาธิปไตย ๗. โครงการพระราชดำริ จากที่ทรงตรัสว่า “ประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากประชาชนยังหิวอยู่” จึงได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนพสกนิกรท่ัวราชอาณาจักร ทำให้ทรงทราบปัญหาและความเดือดร้อนของพวกเขา เพื่อจะได้ทรงแก้ปัญหาให้พวกเขาได้ จึงเกิดโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดำริอันเป็นประโยชน์ส่วนรวม นับแต่ พ.ศ. ๒๔๙๕จำนวน ๔,๐๐๐ กว่าโครงการ เพื่อสร้างชีวิตใหม่ให้กับประชาชนท่ียังหิวอยู่ ด้วยการพลิกฟ้ืน “ดิน น้ำ ป่า” ในพ้ืนที่ชนบททุรกนั ดาร ๘. พระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามฐานะของแต่ละคน ให้ใช้ความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง คือเพียงพอที่จะสร้างความพออยู่พอกิน สร้างรายได้เล้ียงครอบครัวได้อย่างพอเพียง ซ่ึงได้รับการยอมรับกันอย่างกว้างขวางท้ังในและนานาประเทศวา่ เปน็ แนวทางการดำเนินชีวติ ที่เปน็ ทางสายกลางของการพฒั นาและรจู้ กั พอนน่ั เอง นอกจากนีแ้ ล้ว ยังไดท้ รงแนะนำแนวคิดการเกษตรแนวใหม่สำหรบั การประกอบเกษตรกรรมทัว่ ทุกภูมภิ าคอกี ดว้ ย ๙. การสดุดีพระเกียรติคุณ พระราชดำริและพระราชกรณียกิจท้ังหลาย สามารถทำให้พสกนิกรชาวไทยรอดพ้นจากวกิ ฤตการณ์ตา่ ง ๆ ท้ังในด้านการเมอื ง เศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม จึงทรงไดร้ บั รางวลัสดุดีพระเกียรติคุณ ๔๔ ครั้ง นับแต่ พ.ศ. ๒๕๑๘ ถึง พ.ศ. ๒๕๕๕ เช่น องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ ๕ ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันดินโลก และได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเหรียญแอกริโคลาท่ีปรากฏพระบรมรปู ของพระองค์ประทับนั่งทา่ มกลางเกษตรกร นอกจากนี้ โครงการพฒั นาแห่งสหประชาชาติได้ทลู เกล้าทลู กระหมอ่ มถวายรางวัลความสำเร็จด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และองค์การสหประชาชาติเองก็ได้ประกาศเป็นปณิธานแน่วแน่ทีจ่ ะส่งเสริมปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้เพื่อจุดประกายแนวคิดการพฒั นาแบบใหม่ไปสู่นานาประเทศด้วย ๑๐. การปกครองจาก “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพ่ือประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” จึงได้รับการยกย่องจากผู้นำท่ัวโลกว่า ทรงเป็นต้นแบบของนักปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ทรงเป็นกษัตริย์ของกษัตริย์ เพราะเหตุแหง่ ธรรมดังกล่าวทที่ รงยึดมน่ั มาอยา่ งเคร่งครดั ในทกุ พระราชกรณียกิจ ทกุ ขณะ ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปีที่ผา่ นมา นัน่ เอง พระองค์ท่านจงึ มไิ ดท้ รงจากพวกเราไปไหน แตย่ ังคงสถิตอยใู่ นจติ ใจของชาวไทยไปอีกนานเท่านาน รอ้ ยเอก (ทินพนั ธุ์ นาคะตะ) ประธานสภาขบั เคลื่อนการปฏิรปู ประเทศ 9๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริย์ประชาธปิ ไตย
สารจากประธานคณะกรรมการจดั ทำหนงั สอื ทร่ี ะลึกเฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว เนื่องในโอกาสการจดั งานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี และเฉลิมพระเกยี รติ สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ เนือ่ งในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๕๙ สภานติ ิบัญญตั ิแหง่ ชาติ เน่ืองในศุภวาระที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ รัฐบาลและประชาชนทุกภาคส่วน มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม ทที่ รงอุทิศพระวรกาย พระสติปัญญา และพระราชหฤทัย เพื่อประโยชนส์ ขุ ของเหล่าพสกนกิ รทกุ หมเู่ หลา่ ซึ่งเป็นทปี่ ระจกั ษ์ชดั จากพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ทั้งปวงท่ีทรงพระราชอุตสาหะปฏิบัติบำเพ็ญตลอดต่อเน่ืองมานับตั้งแต่ทรงครองราชย์ สืบราชสันตติวงศ์ จึงพร้อมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายราชสักการะ ด้วยความจงรักภักดี ในวาระอนั เปน็ มหามงคลนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติร่วมกับสภาขับเคล่ือนการปฏิรูปประเทศ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำหนังสือที่ระลึก เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เน่ืองในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี และเฉลิมพระเกียรติ สมเดจ็ พระนางเจา้ สิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ ีนาถ เนือ่ งในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๕๙ สภานติ ิบญั ญัติแหง่ ชาติ และแต่งต้ังคณะอนุกรรมการศกึ ษา และจัดทำหนงั สือทีร่ ะลกึ เฉลมิ พระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เน่ืองในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี โดยดำเนินการศึกษา รวบรวม เรียบเรียง และจัดทำ หนังสือท่ีระลึกเฉลิมพระเกียรติ เรื่อง ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธิปไตย เพ่ือแสดงความกตัญญูกตเวทิตา น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีในโอกาสอันประเสริฐครั้งน้ี เนื้อหาหนังสือประกอบด้วย พระราชประวัติ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีเกี่ยวกับการครองสิริราชสมบัติ พระราชกรณียกิจเกี่ยวกับรัฐสภา กษัตราประชาธิปไตย พระบารมีปกป้องคุ้มครองไทย โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สดุดีพระเกียรติคุณ และพระยศยิ่งยงดำรงนิรันดร์กาล พร้อมท้ังอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ในพระราชจริยวัตรและพระราชกรณียกิจใน โอกาสต่าง ๆ ท้ังหมดล้วนเป็นการรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ท่ีเปี่ยมด้วยคุณค่าเป็นอย่างยิ่งมาบันทึกไว้เพ่ือเผยแพร่ให้ สาธารณชนท่วั ไปไดใ้ ช้ประโยชนใ์ นการศึกษาคน้ ควา้ และอา้ งอิง10 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธิปไตย
หนังสือฉบับน้ีได้เริ่มมีการจัดทำมาตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นระยะเวลาท่ีประชาชนชาวไทยทุกคนยังมีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอยู่ และคณะผู้จัดทำหนังสือมีจุดมุ่งหมายที่จะให้หนังสือเล่มน้ีเป็นหนังสือเฉลิมพระเกียรติของพระองค์ แต่เม่ือถึงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ศกน้ี ซ่ึงเป็นวันมหาวิปโยคของปวงชนชาวไทยท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จสวรรคต การจัดทำหนังสือจำเป็นท่ีจะต้องดำเนินต่อไป แม้ว่าจะไมท่ ันต่อการเฉลิมพระเกียรติของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช หนงั สอื ทร่ี ะลกึ เฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เรอ่ื ง ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธปิ ไตยฉบบั น้ี จะได้นำไปเผยแพร่สู่สถาบนั การศกึ ษา หอ้ งสมุด หน่วยงานตา่ ง ๆ และประชาชนท่วั พระราชอาณาจักรเพ่ือยังประโยชน์แก่ประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษาทุกระดับ โดยตระหนักแน่ชัดว่าการสนองพระมหากรุณาธิคุณด้วยการร่วมสร้างสรรค์ผลงานอันทรงคุณค่าเพ่ืออำนวยประโยชน์เกื้อกูลแก่สาธารณชนเช่นนี้ เป็นการแสดงกตัญญูกตเวทิตาธรรมสนองพระมหากรณุ าธิคุณอนั ย่ิงใหญ่ให้ปรากฏยั่งยนื สบื ไปช่วั กาลนาน ทั้งน้ี ขอขอบพระคุณประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ท่ีกรุณาให้คำปรึกษา ข้อแนะนำ อันเป็นประโยชน์อย่างย่ิง และขอขอบคุณสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตลอดจนข้าราชการเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้องท่ีร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจคร้ังนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยความจงรักภักดีเพอ่ื สนองพระมหากรณุ าธคิ ณุ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ผทู้ รงพระคณุ อนั ประเสรฐิ แหง่ ประชาชาตไิ ทย ขอมหิทธานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธ์ิทั้งหลายท้ังปวงท่ัวสากลพิภพ ตลอดจนพระราชกุศลกฤดาธิการท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระวิริยอุตสาหะปฏิบัติบำเพ็ญมาอย่างสืบเนื่องตลอดพระชนมพรรษา และมโนสำนึกอันต้ังม่ันในกตัญญุตาธรรม ความจงรักภักดีของปวงพสกนิกรชาวไทยที่พร้อมใจกันมาถวายสักการะ และถวายความสวามิภักด์ิต่อเบ้ืองพระยุคลบาท จงเป็นพลวปัจจัยดลบันดาลให้พระองค์เสด็จสถิตเสถียรธำรงอยใู่ นทิพยสถานอนั สมบรู ณพ์ รง่ั พรอ้ มด้วยทิพยสมบตั ทิ กุ เม่ือ เทอญ (นางสาววลยั รัตน์ ศรีอรณุ ) รองประธานสภาขบั เคลื่อนการปฏิรปู ประเทศ คนทส่ี อง ประธานคณะกรรมการจัดทำหนังสือที่ระลกึ เฉลมิ พระเกียรตฯิ 11๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธิปไตย
สารจากบรรณาธิการ “มหากษัตริย์ประชาธิปไตย” ในความหมายที่รู้สึกจากส่วนลึกของจิตใจน้ันปรากฏเป็นภาพพระราชกรณียกิจ ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปี ทีท่ รงครองราชย์ ซึง่ เป็นระยะเวลาทอี่ ยากให้ทา่ นผู้อ่านหลับตาลงแลว้ จินตนาการถึงความยาวนานของ หว้ งเวลา ๗๐ ปี เทยี บกบั ระยะเวลาในชวี ติ ของแตล่ ะคน นน่ั จงึ เปน็ ระยะเวลาทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่ยิ่งใหญ่ ในฐานะผู้นำและในฐานะกษัตริย์ของประเทศ นับจากวันที่พระราชทานพระปฐมบรม ราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เมื่อวันท่ี ๕ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ เป็นต้นมา พระองค์ก็ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในฐานะพระมหากษัตริย์ที่ปกครองโดยธรรมอย่าง เคร่งครดั และดว้ ยธรรมน้ีเอง จึงเปน็ เบอ้ื งลึกของความเป็นนกั ประชาธปิ ไตยในจติ วญิ ญาณท่ีแท้จริง การปกครองที่เป็น “ประชาธิปไตย” น้ัน พระองค์ท่านตรัสไว้อย่างลึกซึ้งว่า “ประชาธิปไตยจะเกิดข้ึนไม่ได้เลย หากคนยังหิวอยู่” ดังนั้น จึงได้ทรงดำเนินการโครงการในพระราชดำรินานัปการ เพื่อสร้างชีวิตใหม่ให้กับประชาชน พลิกฟื้น “ดิน น้ำ ป่า” ให้เกษตรกรและประชาชนในพ้ืนที่ทุรกันดารสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในท้องถิ่นของตนเองอย่างม่ันคง ยั่งยืน มีความรู้ที่ “รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง” เพียงพอท่ีจะสร้างความพออยู่ พอกินสร้างรายได้เล้ียงครอบครัวได้อย่างพอเพียง โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับความเปล่ียนแปลงอย่างรุนแรงของยุคโลกาภิวัตน์ และความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ จากผลกระทบของสภาวะโลกรอ้ นทีน่ บั วนั จะรนุ แรงมากขนึ้ และกำลังเป็นกระแสความกงั วลใหญ่ของทั่วโลก หากผู้ใดก็ตามที่ได้ศึกษาพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับงานพัฒนา งานวิจัยสิ่งแวดล้อม จะพบว่าพระองค์ทรงมี สายพระเนตรอันยาวไกล และได้ทรงทดลอง วิจัย พัฒนาการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจนสามารถสร้าง นวัตกรรมเป็นที่ประจักษ์ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะเร่ืองการพัฒนาดิน ซ่ึงได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง โดยองคก์ ารอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations - FAO) ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กำหนดนำวันเฉลิมพระชนมพรรษาวันท่ี ๕ ธันวาคมของทุกปีเป็น วันดินโลก (World Soil Day) นอกจากน้ี FAO ได้ทลู เกลา้ ทูลกระหมอ่ มถวายเหรยี ญแอกรโิ คลา (Agricola Medal) ซึง่ ปรากฏพระบรมรูป ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชประทับน่ังท่ามกลางเกษตรกร เพื่อเป็นการสดุดีพระเกียรติคุณ ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ และอุทิศพระองค์เพ่ือประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบอาชีพ กสิกรรม นอกจากน้ีพระองค์ได้มีพระวิริยอุตสาหะริเริ่มแนวคิดใหม่ ๆ เพ่ือจัดหาแหล่งน้ำ ฟื้นฟูและอนุรักษ์แหล่งน้ำสำคัญ เพือ่ การกสกิ รรมดว้ ยความเขา้ ใจอยา่ งลึกซง้ึ ในภมู ปิ ระเทศนด้ี ้วย เม่ือกาลเวลาผ่านไป สังคมมนุษย์เผชิญกับคลื่นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลายต่อหลายคร้ัง การปฏิวัติ การเกษตรและการปฏิวัติอุตสาหกรรมขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบเป็นกระแสหลักของการพัฒนาเข้าสู่โลกยุคใหม่ ท่ีวัดความเจริญของประเทศด้วยมูลค่าการสร้างผลผลิตและการค้าขาย เรียกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ หรือ GDP (Gross Domestic Product) การพฒั นาไปในทศิ ทางกระแสหลกั น้ี ผลกั ดนั ใหป้ ระเทศไทยนำพาตนเองเขา้ สสู่ งั คมอตุ สาหกรรม ทิง้ รากเหงา้ สังคมกสกิ รรม ซ่งึ เป็นกลุ่มคนส่วนใหญข่ องประเทศ ทำใหเ้ กดิ ชอ่ งว่างทางสังคมและความเหลือ่ มลำ้ อย่างมหาศาล12 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริยป์ ระชาธิปไตย
เพราะการพัฒนาดังกล่าวมุ่งหวังแต่จะสร้างตัวเลข GDP โดยไม่ได้มองว่าทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมได้ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็วเพียงใด รวมท้ังตัวเลขความเจริญที่มุ่งแสวงหามาพร้อมกับปัญหาคอร์รัปชั่น และประชาชนที่อดอยาก ยากจนสง่ ผลใหส้ ังคมแตกสาแหรกลึกจนถงึ ระดบั ครอบครัว ท่ามกลางกระแสหลักของโลกยุคโลกาภิวัตน์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชกลับมุ่งสนพระทัยความทุกข์ยากของพสกนิกร ทรงเปล่ียนมุมมองของการพัฒนาตามกระแสหลัก ให้หันกลับมามองการพัฒนาที่เน้นการอยู่ร่วมกันระหว่างคน ดิน น้ำ ป่า โดยสร้างความพอเพียงให้เกิดกับคนทุกกลุ่ม พระองค์ทรงฟังเสียงที่เปล่งเพียงเบาๆ ของพสกนิกรท่ียากไร้ จากหุบเขาบนดอยสูง ที่ห่างไกลและยากลำบากในการเข้าถึงโอกาส รวมท้ัง คนชายขอบและกลุ่มชาติพันธุ์ท่ีเข้ามาอาศัยร่มพระบารมี ซึ่งเสียงเหล่านี้ผู้คนส่วนใหญ่อาจไม่ได้ยิน แต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงได้ยิน นอกจากน้ีพระองค์ยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปทุกท่ี ประทับลงนั่งกับดินเพื่อฟังเสียงของพสกนิกรเหล่าน้ีเมื่อพิจารณาแลว้ “จะมนี ักประชาธิปไตยสักกี่คนบนโลกน้ี ทีใ่ หค้ วามสำคญั และไม่ทอดทิง้ กับเสียงทกุ เสยี งของประชาชน” พระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชซึ่งสะท้อนให้ประจักษ์ชัดที่สุด คือการพระราชทาน “ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง” ใหเ้ ปน็ ทางรอดของโลก เปน็ ปรชั ญาทอ่ี ยบู่ นทางสายกลางของปรชั ญาการพฒั นาท่ีไม่ได้ปฏิเสธท้ังเศรษฐกิจทุนนิยมและเศรษฐกิจชุมชนนิยม หากแต่มุ่งสร้างรากฐานเศรษฐกิจให้ม่ันคงแข็งแรงก่อนให้คนมีพอกินแล้ว จึงนำส่วนที่เหลือคืนกลับแก่สังคม สร้างสังคมบุญ ทาน ยึดม่ันในการให้และแบ่งปันก่อนทำการค้าโดยคำนึงถึงความสมดุลของการอยู่ร่วมกนั เพ่ือลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจึงเป็นนักประชาธิปไตย ท่ีให้ความสำคัญกับการพัฒนาท่ีสมดุลมุ่งการพัฒนาคนในทุกกลุ่มทุกระดับซึ่งหลักปรชั ญานี้ มิใช่เฉพาะคนไทยเทา่ นัน้ ท่ีไดป้ ระจกั ษ์และยอมรับ แตย่ งั ได้ขยายไปยงั นานาประเทศ จากพระราชกรณียกิจที่กล่าวมา ท้ังการทรงงานด้านการพัฒนา และการพัฒนามนุษย์ รวมท้ังสิ่งแวดล้อมน้ันล้วนเป็นการพัฒนาท่ีย่ังยืน พระองค์จึงทรงเป็นผู้นำที่โลกยกย่อง โดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United NationsDevelopment Programme - UNDP) ไดท้ ลู เกลา้ ทูลกระหมอ่ มถวายรางวลั ความสำเร็จดา้ นการพัฒนามนษุ ย์ (The UNDPHuman Development Lifetime Achievement Award) ซ่ึงเปน็ รางวลั ทรี่ เิ ริ่มขน้ึ ใหม่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการพัฒนามนุษย์เป็นเร่ืองสำคัญท่ีสุด และเส้นทางสายใหม่ที่จะพัฒนามนุษย์ให้มีวิถีท่ีอยู่ร่วมกับโลกน้ีได้อย่างยั่งยืน คือ การพัฒนาให้มีความ “พอ” ในจิตใจน่ีเอง นอกจากน้ี ภายใต้ปรัชญาการพัฒนาดงั กล่าวนำไปสกู่ ารทีอ่ งค์การสหประชาชาติ (United Nations – UN) ประกาศเป็นปณิธานแนว่ แน่ ท่ีจะส่งเสรมิ ประสบการณ์และแนวทางปฏิบัติในการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอันทรงคุณค่าอย่างหาท่ีสุดไม่ได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดชไปใช้เพ่อื จดุ ประกายแนวคิดการพัฒนาแบบใหม่ สู่นานาประเทศ กล่าวโดยสรุปแล้ว แนวทางครองแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่มุ่งเน้นการปกครองโดยธรรม ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งการปกครองดังกล่าว ได้รับคำยกย่องจากนักปกครองทั่วโลกว่าพระองค์ทรงเป็นต้นแบบของนักปกครอง ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยเป็น “กษัตริย์ของกษัตริย์ หรือ King of Kings”เพราะเหตุแห่งธรรมที่พระองค์ทรงยึดมั่น ในพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพ่ือประโยชน์สุขแหง่ มหาชนชาวสยาม” ในทุกพระราชกรณียกจิ ตลอดระยะเวลาการครองราชย์ ๗๐ ปี ทผี่ า่ นมา (นายวิวฒั น์ ศัลยกำธร) บรรณาธกิ ารหนังสอื ทรี่ ะลกึ เฉลมิ พระเกียรตฯิ 13๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริย์ประชาธปิ ไตย
คำนำ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” พระปฐมบรมราชโองการของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เม่ือวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ และ ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปี ตั้งแต่ทรงครองราชย์สืบราชสันตติวงศ์ เม่ือวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ พระองค์ทรงบำเพ็ญ พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่อย่างครบถ้วน สมบูรณ์ บริบูรณ์ เป่ียมด้วยพระราชวิริยอุตสาหะ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ หลายประการ ท้งั การส่งเสริมการศึกษา การทำนบุ ำรุงการศาสนา การสาธารณสุข การสังคมสงเคราะห์ และศลิ ปวัฒนธรรม ทรงริเริ่มและพระราชทานโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดำริท่ีเกี่ยวเนื่องกับการประกอบอาชีพหลายสาขา เพ่ือส่งเสริม ให้ราษฎรมีอาชีพ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น กระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศมากกว่า ๔,๐๐๐ โครงการ ทั้งยังพระราชทาน แนวทางในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามแนว “ทฤษฎีใหม่” และพระราชทานวิถีการดำรงชีวิตตามแบบ “เศรษฐกิจพอเพียง” เพ่ือให้ประชาชนสามารถดำรงชีพได้ด้วยความผาสุกในทุกสภาวการณ์ และสามารถพ่ึงพาตนเองได้ อันเป็นการพัฒนาท่ีย่ังยืน พระราชกรณียกิจเหล่านั้นล้วนแต่มุ่งช่วยเหลือประชาชนให้มีความสุขและพัฒนาบ้านเมืองให้มี ความเจริญก้าวหน้า เหนืออื่นใดพระองค์ทรงเป็นหลักชัยและศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทรงยึดหลัก ทศพิธราชธรรมเพื่อนำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ปวงชนชาวไทยโดยไม่แบ่งเช้ือชาติ ศาสนา เพ่ือประโยชน์สุขและความเจริญ รุ่งเรืองแก่อาณาประชาราษฎร์นานัปการอย่างต่อเน่ืองตลอดมา ทรงทำให้ประเทศไทยดำรงความเป็นประเทศที่สงบสุข ประเทศหนึ่งในโลก และยังทรงเป็นพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ที่ทรงครองราชย์มาเป็นเวลายาวนานกว่าพระมหากษัตริย์ไทย ทกุ พระองค์ เนื่องในโอกาสมหามงคลท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ เหล่าพสกนกิ รชาวไทยตา่ งปล้ืมปตี ยิ ินดแี ละสำนกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ุณทไี่ ดอ้ ยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ของพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถ และเป่ียมล้นด้วยน้ำพระราชหฤทัยท่ีทรงเมตตาห่วงใยราษฎร และด้วยสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศร่วมกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้จัดทำหนังสือ “๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธิปไตย” เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสมหามงคลและเพ่ือเฉลิมพระเกียรติ โดยรวบรวมพระราชประวัติ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีเก่ียวกับการครองสิริราชสมบัติ พระราชดำรัสใน รัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา พระราชกรณียกิจเก่ียวกับรัฐสภา กฎหมายที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงลงพระปรมาภิไธย ต้ังแต่วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ ถึง วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ พระมหากรุณาธิคุณต่อกิจการด้าน ต่างประเทศของรัฐสภา กษัตราประชาธิปไตย พระบารมีปกป้องคุ้มครองไทย โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สดุดีพระเกียรติคุณ และพระยศย่ิงยงดำรงนิรันดร์กาล น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นราชสักการะ เป็นเคร่ืองเชิดชู พระเกียรติคุณและพระบรมเดชานุภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชให้ขจรขจายแผ่ไพศาล ไปทว่ั ทิศานทุ ศิ เป็นทปี่ ระจกั ษ์และรำลกึ ถงึ พระเกียรตคิ ุณตลอดไป14 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ป์ ระชาธิปไตย
๒ ๑๔ ๓ ๗๘ ๖ ๕ ๑๐ ๑๒ ๑๑ ๙ ลำดับราชสกลุ มหิดล ๑. พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยู่หวั ๒. สมเด็จพระศรสี วรินทริ าบรมราชเทวี พระพนั วัสสาอยั ยิกาเจา้ ๓. สมเดจ็ พระมหิตลาธเิ บศร อดลุ ยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ๔. สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ๕. สมเด็จพระเจ้าพีน่ างเธอ เจา้ ฟ้ากลั ยาณวิ ัฒนา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครินทร์ ๖. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอฐั มรามาธบิ ดินทร ๗. พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช ๘. สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ๙. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวฒั นาพรรณวดี ๑๐. สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ๑๑. สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ๑๒. สมเดจ็ พระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟ้าจุฬาภรณวลัยลกั ษณ์ อัครราชกุมารี 15๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธปิ ไตย
พระราชประวตั ิ
พระราชประวัติ พระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์เล็กในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และ สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระราชสมภพ ณ โรงพยาบาลเมาท์ ออเบิรน์ (Mount Auburn) เมืองเคมบริดจ์ (Cambridge) มลรัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts) สหรัฐอเมริกา เม่ือวันจันทร์ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ จุลศักราช ๑๒๘๙ เวลา ๐๘.๔๕ นาฬิกา ตรงกับวันจันทร์ท่ี ๕ ธันวาคม ๒๔๗๐ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระนามวา่ พระวรวงศ์เธอ พระองคเ์ จา้ ภูมพิ ลอดุลยเดช18 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ์ประชาธิปไตย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีสมเด็จพระเชษฐภคินี และสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชรวม ๒ พระองค์ คือ ๑. สมเด็จพระเจ้าพ่ีนางเธอ เจา้ ฟา้ กัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครนิ ทร์ ๒. พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอฐั มรามาธิบดนิ ทรทรงศกึ ษาวชิ าการ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเร่ิมเข้ารับการศกึ ษาชนั้ ตน้ เมือ่ ปีพทุ ธศักราช ๒๔๗๕ ขณะมพี ระชนมพรรษา ๕ พรรษาณ โรงเรียนมาแตร์เดอี ถนนเพลินจิต จังหวัดพระนคร จนถึงปีพุทธศักราช๒๔๗๖จงึ เสดจ็ พระราชดำเนนิ ไปประทบั ณเมอื งโลซานน์ประเทศสวติ เซอรแ์ ลนด์พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระเชษฐภคินี และสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เพ่ือทรงศึกษาต่อในชั้นประถมศึกษา ณโรงเรยี นเมียร์มองต์ (Miremont) ทรงศกึ ษาวชิ าภาษาฝรงั่ เศส ภาษาเยอรมนัและภาษาอังกฤษ 19๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ป์ ระชาธปิ ไตย
จากนั้นทรงเข้าศึกษาช้ันมัธยมศึกษา ณ เอกอล นูแวล เดอ ลา ชอื อิส โรมองต์ (Ecole Nouvelle de la Suisse Romande) เมืองแชลลี ชือ โลซานน์ (Chailly sur Lausanne) และต่อมาทรงได้รับ ประกาศนยี บตั รทางอกั ษรศาสตร์ (Bachelier es Lettres) จากโรงเรียน ยิมนาส กลาชีค กังโดนาล (Gymnase Classique Cantonal) แห่งเมืองโลซานน์ หลังจากน้ัน ทรงเข้าศึกษาต่อในแขนงวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ณ มหาวทิ ยาลยั โลซานน์ ภายหลังจากได้รับการสถาปนาข้ึนเป็น พระมหากษัตริย์สืบต่อจากสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เมอ่ื ปีพุทธศกั ราช ๒๔๘๙ ทรงเปลีย่ นแนวการศึกษาของ พระองคเ์ ป็นวชิ าเกี่ยวกับกฎหมายและวชิ ารัฐศาสตร์ ทรงครองราชย์ หลังจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จสวรรคต เมื่อวันท่ี ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ ได้มีการประชุมรัฐสภา เปน็ กรณพี เิ ศษ ในเวลา ๒๐.๐๐ นาฬกิ า ของวนั เดยี วกนั หลงั จากทป่ี ระชมุ รบั ทราบแถลงการณจ์ ากรฐั บาลแลว้ นายปรดี ี พนมยงค์ นายกรฐั มนตรี ได้เสนอขอความเห็นชอบจากรัฐสภาใหอ้ ญั เชญิ สมเด็จพระเจา้ น้องยาเธอ เจ้าฟ้าภมู ิพลอดลุ ยเดช ขนึ้ ครองราชย์ สบื ราชสันตติวงศต์ ่อไป ท่ปี ระชมุ มีมตใิ ห้ความเหน็ ชอบเปน็ เอกฉนั ท์ ต่อจากนั้น ประธานพฤฒสภา ประธานสภาผู้แทน รองประธานพฤฒสภา และรองประธานสภาผู้แทน ได้ไปถวาย พระพรและกราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ขึ้นครองราชย์ตามมติของรัฐสภา และ มปี ระกาศให้ประชาชนทราบโดยทว่ั กัน20 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธิปไตย
ในขณะนน้ั พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ยงั ทรงพระเยาว์ และมพี ระราชภารกจิ ดา้ นการศกึ ษาจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกครั้งในเดือนสิงหาคม ๒๔๘๙ เพื่อทรงศึกษาต่อ ดังน้ันในวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๔๘๙ รัฐสภาอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๔๘๙ ได้ประชุมปรึกษาและลงมติตั้งคณะผสู้ ำเร็จราชการแทนพระองค์ ประกอบดว้ ย ๑. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขนุ ชัยนาทนเรนทร เปน็ ประธาน ๒. พระยามานวราชเสวี โดยมีขอ้ ตกลงว่า ในการลงนามในเอกสารราชการนัน้ ให้ผสู้ ำเร็จราชการแทนพระองคท์ ง้ั สองเปน็ ผลู้ งนาม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินกลับไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อทรงศกึ ษาตอ่ เมอื่ วนั ที่ ๑๙ สงิ หาคม ๒๔๘๙ ไดท้ รงมพี ระราชนพิ นธ์ “เมอ่ื ขา้ พเจา้ จากสยามมาสสู่ วสิ เซอรแ์ ลนด”์ ซง่ึ เปน็ บนั ทกึที่พระราชนิพนธ์ขึ้นในช่วงเวลาหลังจากเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ ๙ โดยทรงบันทึกแสดงถึงความรู้สึกของพระองค์ตลอดจนเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทรงได้ประสบในคร้ังน้ัน ต่อมา ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้หนังสือ “วงวรรณคดี” ฉบับเดือนสิงหาคม ๒๔๙๐ ตีพิมพ์พระราชนิพนธ์ดังกล่าวเป็นคร้ังแรก ซึ่งปรากฏเหตุการณ์สำคัญย่ิงตอ่ ประชาชนชาวไทย ดงั ความตอนหนึง่ ในพระราชนพิ นธท์ ี่อญั เชิญมา ดงั นี้ ...วันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ วันนี้ถึงวันท่ีเราจะต้องจากไปแล้ว พอถึงเวลาที่ลงจากพระท่ีน่ัง พร้อมกบั แม่ ลาเจ้านายฝา่ ยใน ณ พระท่ีน่ังชน้ั ลา่ งนัน้ แล้วก็ไปยงั วัดพระแกว้ เพือ่ นมัสการลาพระแก้วมรกต และพระภกิ ษสุ งฆ์ ลาเจ้านายฝา่ ยหน้า ลาขา้ ราชการทง้ั ไทย และฝรัง่ แล้วก็ขน้ึ รถยนต์ พอรถแล่นออกไปถึง ๒๐๐ เมตร มีหญิงคนหน่ึงเข้ามาหา หยุดรถแล้วส่งกระป๋องให้เราคนละใบ ราชองครักษ์ไม่แน่ใจว่า มีอะไรอยู่ในนั้น บางทีจะเป็นลูกระเบิด เมื่อมาเปิดดูภายหลังปรากฏว่าเป็นทอฟฟ่ีที่อร่อยมาก ตามถนน ผู้คนช่างมากมายเสียจริง ๆ ท่ีถนนราชดำเนินกลางราษฎรเข้ามาใกล้ชิดรถท่ีเรานั่ง กลัวเหลือเกินว่าล้อรถ ของเราจะไปทบั แขง้ ขาใครเขา้ บา้ ง รถแลน่ ฝา่ ฝงู คนไปไดอ้ ยา่ งชา้ ทส่ี ดุ ถงึ วดั เบญจมบพติ ร รถแลน่ เรว็ ขนึ้ ไดบ้ า้ ง ตามทางทผี่ า่ นมา ไดย้ นิ เสยี งใครคนหนง่ึ ขนึ้ มาดงั ๆ วา่ “อยา่ ทง้ิ ประชาชน” อยากจะรอ้ งออกบอกเขาลงไปวา่ ถ้าประชาชนไม่ “ทงิ้ ” ข้าพเจ้าแลว้ ขา้ พเจา้ จะ “ละทง้ิ ” อยา่ งไรได้ แต่รถวิ่งเรว็ และเลยไปไกลเสียแล้ว... จากพระราชนิพนธ์เม่ือปี ๒๔๘๙ จนกระท่ังปี ๒๕๕๙ เป็นท่ีประจักษ์ชัดแล้วว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงไม่เคย “ละทิ้ง” ประชาชนของพระองค์ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการเพื่อประโยชน์สขุ ของพสกนกิ รชาวไทยตลอดระยะเวลา ๗๐ ปี 21๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริยป์ ระชาธิปไตย
พระราชพิธรี าชาภิเษกสมรส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรง ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร (สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ) ธิดาในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถและหม่อมหลวงบัว กิติยากร เม่ือวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๔๙๓ ณ พระตำหนักสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ในวังสระปทุม จังหวัดพระนคร ซึ่งในการ พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสน้ี มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ข้ึนเป็น สมเดจ็ พระราชนิ สี ริ ิกิต์ิ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้า สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชินนี าถ มีพระราชโอรส พระราชธิดา ๔ พระองค์ คือ ๑. สมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟา้ อบุ ลรตั นราชกญั ญา สริ ิวัฒนาพรรณวดี ๒. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ต่อมาทรงได้รับการ สถาปนาพระราชอิสริยยศ เป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร และทรงราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู ๓. สมเด็จพระเจ้าลกู เธอ เจา้ ฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์ ต่อมาทรงได้รับการสถาปนาพระราชอิสริยยศ เป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรนิ ธร รฐั สีมาคณุ ากรปยิ ชาติ สยามบรมราชกุมารี ๔. สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟา้ จุฬาภรณวลัยลักษณ์ อคั รราชกุมารี22 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริยป์ ระชาธิปไตย
23๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริยป์ ระชาธิปไตย
ทรงพระผนวช ด้วยพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนา พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงได้เสด็จออก ทรงพระผนวชเม่อื วนั ท่ี ๒๒ ตุลาคม ๒๔๙๙ ณ พระอโุ บสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง แล้วเสด็จ พระราชดำเนนิ ไปประทบั จำพรรษาอยู่ ณ พระตำหนกั ปนั้ หยา วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา ๑๕ วัน ซึ่งในระหว่างที่ทรง พระผนวชอยู่น้ัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งต้ังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินี เป็นผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ (ต่อมาทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เฉลิมพระอภิไธยว่า “สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ” เมื่อวันท่ี ๕ ธันวาคม ๒๔๙๙)24 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ป์ ระชาธิปไตย
สวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราชบรมนาถบพติ ร เสดจ็ พระราชดำเนนิ ไปประทบั รกั ษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศริ ริ าช ตง้ั แตว่ นั ศกุ รท์ ี่ ๓ ตลุ าคม ๒๕๕๗แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลำดับถึงวนั พฤหัสบดีท่ี ๑๓ ตลุ าคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๕ นาฬกิ า ๕๒ นาที เสดจ็ สวรรคต ณ โรงพยาบาลศริ ิราช ด้วยพระอาการสงบสริ ิพระชนมพรรษาปีท่ี ๘๙ ทรงครองราชสมบตั ิได้ ๗๐ ปี 25๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธปิ ไตย
พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก
พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก คือ พระราชพิธีที่แสดงความสมบูรณ์แห่งพระมหากษัตริย์ตามที่กำหนดในโบราณ ราชประเพณี ท้ังนี้ เม่ือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบต่อจากสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันท่ี ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ และในระหว่างท่ีปวงชนชาวไทยยังมิได้ถวายพระปรมาภิไธย เน่ืองในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ด้วยพระองค์ยังทรงพระเยาว์และจะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ชั่วคราว จึงได้ประกาศเฉลิมพระนามให้เหมาะสมแก่พระเกียรติว่า “สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวภูมิพลอดุลยเดช” หลังจากเสด็จนิวัตพระนคร เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๓ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กำหนดการ พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกและพระราชพธิ เี ฉลมิ พระราชมนเทยี ร ซงึ่ มพี ิธีการขน้ั ตน้ ในเดือนมนี าคม ถงึ เดือนพฤษภาคม ๒๔๙๓ กอ่ นงานพระราชพธิ ี ไดแ้ ก่ ๑. การทำน้ำอภเิ ษก ๒. การจารึกพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และแกะพระราชลญั จกรประจำรชั กาล ๓. การทรงถวายราชสกั การะสมเดจ็ พระบรมราชบุพการี28 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ป์ ระชาธปิ ไตย
การพระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษกกำหนดข้นึ ระหวา่ งวันท่ี ๔ – ๖ พฤษภาคม ๒๔๙๓ ดงั นี้ วนั ท่ี ๔ พฤษภาคม ๒๔๙๓ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา เจ้าพนักงานอาลักษณ์เชิญพานพระสุพรรณบัฏ ซึ่งจารึกพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รวมท้ังดวงพระบรมราชสมภพ และพระราชลัญจกรประจำรัชกาล ออกจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามไปประดิษฐาน ณพระราชพิธมี ณฑล ในพระท่นี งั่ ไพศาลทักษิณเวลา ๑๘.๐๐ นาฬกิ า พิธีจุดเทียนชยั พธิ ีประกาศการพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษกและเจริญพระพทุ ธมนต์ การเชิญพานพระสพุ รรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพและพระราชลัญจกรประจำรชั กาล พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทร พระสาสนโสภณ (จวน อฏุ ฐาย)ี มหาภมู ิพลอดุลยเดช อา่ นประกาศการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกทรงจุดเทยี นพระมหามงคล เทยี นเท่าพระองค์ 29๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริย์ประชาธิปไตย
วนั ท่ี ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ เวลา ๑๐.๐๐ – ๑๑.๔๖ นาฬกิ า พระบาทสมเด็จพ ร ะ ป ร มิ น ท ร ม ห า ภู มิ พ ล อ ดุ ล ย เ ด ช ท ร ง เ ศ ว ต พั ส ต ร์(พระภูษาสีขาว) เสด็จไปสู่มณฑปพระกระยาสนานประทับเหนืออุทุมพรราชอาสน์ แปรพระพักตร์สู่ทิศบูรพาสรงมุรธาภิเษก เจ้าพนักงานไขสหัสสธารา อันเจือด้วยน้ำปัญจมหานที ในมัธยมประเทศ น้ำเบญจสุทธคงคาในแม่น้ำสำคัญทั้ง ๕ และน้ำ ๔ สระ ในราชอาณาจักรไทยซ่ึงเคยแต่งเป็นน้ำสรงพระมุรธาภิเษกสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราช เป็นพระราชประเพณีมาแต่โบราณกาลเม่ือสรงสหัสสธาราแล้ว สมเด็จพระสังฆราช พระบรมวงศ์และเจ้าหน้าทต่ี า่ ง ๆ ถวายน้ำด้วยพระครอบ พระเต้า และพระมหาสังข์ ตามลำดับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดชทรงเศวตพสั ตร์ ทรงจดุ เคร่อื งบูชาสงั เวยเทวดากลางหาว พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช สมเด็จพระวชริ ญาณวงศ์ สมเดจ็ พระสงั ฆราช สรงพระมุรธาภเิ ษก ถวายน้ำพระพุทธมนตด์ ้วยพระครอบพระกร่งิ30 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธปิ ไตย
การถวายน้ำอภเิ ษก ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมีขั้นตอนท่ีสำคัญอีกประการหน่ึง คือ การทรงรับน้ำอภิเษกเพื่อแสดงความเป็นใหญ่ในแคว้น ๘ ทิศ ในอดีตน้ันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับ ณ พระท่ีนั่งอัฐทิศ ทรงรับน้ำอภิเษกจากพระมหาราชครูพิธีพราหมณ์และราชบัณฑิตทั้ง ๘ ทิศ ถวายความเป็นใหญ่ ครอบครองแผน่ ดินตามโบราณราชประเพณี พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เปลี่ยนผู้ถวายน้ำอภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นสมาชิกรัฐสภาซง่ึ เปน็ ตวั แทนของประชาชน สะทอ้ นใหเ้ หน็ วา่ พระบาทสมเดจ็พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงยอมรับว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนและพระองค์ทรงเป็นประมุขภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย ในส่วนของน้ำอภิเษก ข้าหลวงประจำจังหวัดให้ราชบุรุษไปพลีกรรมตักน้ำท่ีเป็นสิริมงคล ณ สถานศักดิ์สิทธ์ิในจังหวดั น้ัน บรรจุภาชนะแลว้ นำเข้าพิธีประกอบด้วยเครื่องสักการบูชา ต้ังพิธีทำน้ำอภิเษก ณ พุทธเจดียสถานสำคัญตามภูมิภาค ๑๘ แห่ง ท้ังน้ี การถวายน้ำอภิเษกมีข้ันตอนตามกำหนด ดงั น้ี พระท่นี ั่งอัฐทิศอุทมุ พรราชอาสน์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทรงเครอ่ื งบรมขตั ตยิ ราชภูษิตาภรณ์ เสด็จออกพระที่น่ังไพศาลทักษิณ สถิตเหนือพระแท่นอัฐทิศภายใต้พระบวรเศวตฉัตรแปรพระพักตร์สู่บูรพทิศเปน็ ปฐม สมหุ พระราชพธิ ที ลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายพระเต้าเบญจคัพย์สำหรับทรงรับน้ำอภิเษกสมาชกิ รฐั สภาจะไดเ้ ชญิ นำ้ อภเิ ษก นายควง อภยั วงศ์ สมาชกิ สภาผแู้ ทน พระราชครวู ามเทพมนุ ี ถวายนำ้ เทพมนตร์ซง่ึ ไดพ้ ลกี รรมตกั ไปประกอบการพระราชพธิ ี ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายนำ้ อภเิ ษกแ ล้ ว ม า ทู ล เ ก ล้ า ทู ล ก ร ะ ห ม่ อ ม ถ ว า ยเพื่ออัญเชิญให้ทรงแผ่พระราชอาณาปกครองประชาชนในทิศท้ัง ๘ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงรับน้ำอภิเษก พราหมณ์พิธีถวายน้ำเทพมนตร์ด้วยพระสังข์ เสด็จแปรท่ปี ระทับทรงรับน้ำอภิเษกน้นั ไป แล้วประทับทิศต้นประธานวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนจะได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายน้ำอภิเษกสำหรับส่วนกลางและกราบบังคมทูลถวายพระพร 31๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริยป์ ระชาธิปไตย
สมาชิกรฐั สภาผูถ้ วายน้ำอภิเษก มีดงั นี้ ทิศกลาง เจ้าพระยาศรีธรรมาธเิ บศ ทิศกลาง นายเพยี ร ราชธรรมนเิ ทศ (จิตร ณ สงขลา) ประธานวุฒสิ ภา ประธานสภาผู้แทน (ผู้แทนจังหวดั ปทุมธานี)ทิศบูรพา นายควง อภัยวงศ์ ทิศอาคเนย์ พระยาอดุ มพงศเ์ พญ็ สวัสด์ิ ทิศทกั ษณิ นายยกเสยี ง เหมะภตู ิ ทิศหรดี พลโท พระยาศรีสรราชภกั ดี สมาชกิ สภาผูแ้ ทน (หมอ่ มราชวงศ์ประยรู อศิ รศกั ดิ)์ สมาชิกสภาผ้แู ทน (หม่อมราชวงศ์ฉาย กำภ)ู สมาชกิ วฒุ สิ ภา (ผแู้ ทนจังหวัดระนอง) สมาชิกวุฒิสภา (ผแู้ ทนจงั หวัดพระนคร)ทศิ ปศั จมิ พระยาอชั ราชทรงสิริ ทิศพายัพ พลโท พระยาวชิ ิตวงศว์ ุฒไิ กร ทศิ อดุ ร นายเกษม บุญศรี ทศิ อีสาน หมอ่ มราชวงศเ์ สนีย์ ปราโมช (แมน้ อรณุ ลักษณ)์ (หมอ่ มราชวงศส์ ิทธิ สทุ ัศน)์ สมาชิกสภาผ้แู ทน สมาชิกสภาผ้แู ทน สมาชิกวุฒิสภา สมาชกิ วุฒิสภา (ผแู้ ทนจงั หวัดนครสวรรค)์ (ผแู้ ทนจงั หวัดพระนคร)32 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริยป์ ระชาธปิ ไตย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช เสด็จพระราชดำเนนิ ไปประทบั เหนือพระทนี่ ัง่ภัทรบิฐภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร แปรพระพักตร์สู่ทิศบูรพา พระราชครูวามเทพมุนีกล่าวเวทสรรเสริญเปิดศิวาลัยไกลาศ จบแล้วเจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญพระสพุ รรณบฏั เบญจราชกกธุ ภัณฑ์ ขตั ตยิ ราชวราภรณ์เคร่ืองขัตติยราชูปโภคและพระแสงราชศัสตราวุธ จากพระแท่นที่บูชาในพระราชพิธีมณฑลมอบให้พระราชครูวามเทพมุนีทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงรับทรงสวม และทรงวางไว้บนโต๊ะ ๒ ข้างพระท่นี ่งั ภทั รบิฐ พระสงฆเ์ จริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานประโคมสังข์ บัณเฑาะว์ฆอ้ งชยั แตร มโหระทกึ และเคร่ืองดรุ ิยางค์ 33๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธปิ ไตย
เม่ือสิ้นสุดเสียงประโคมแล้ว พระราชครูวามเทพมุนีถวายอนุษฎุภศิวเวทวิษณุมนตร์ และถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระบรมราชโองการตอบพระราชทานอารักขาแด่ประชาชนไทย และ ทรงหลั่งน้ำทกั ษิโณทกตงั้ พระราชสตั ยาธิษฐานจะทรงปฏิบตั ิพระราชกรณียกจิ ปกครองราชอาณาจกั รไทย โดยทศพิธราชธรรม จรยิ าว่า “เราจะครองแผน่ ดนิ โดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”34 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ป์ ระชาธิปไตย
เวลา ๑๔.๔๐ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์เสด็จขึ้นพระท่ีน่ังไพศาลทักษิณ ประทับเหนือพระท่ีน่ังภัทรบิฐ ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อาลักษณ์อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาสมเด็จพระราชินีสิริกิต์ิให้ดำรงฐานนั ดรศกั ด์เิ ป็น สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ิต์ิ พระบรมราชินี 35๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธิปไตย
เวลา ๑๖.๐๐ นาฬิกา พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดชทรงเครอ่ื งบรมขัตติยราชภูษติ าภรณ์ ทรงพระมหามาลา เสดจ็ ออกเกยหนา้ พระทวารเทเวศร์รักษา ประทับพระทนี่ ง่ั ราชยานพดุ ตานทอง เสดจ็ พระราชดำเนิน โดยกระบวนราบใหญ่ไปเทียบเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถ ทรงมี พระราชดำรัสประกาศพระองค์เปน็ อคั รศาสนปู ถัมภก36 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริยป์ ระชาธิปไตย
วันท่ี ๖ พฤษภาคม ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ ์ิ พระบรมราชนิ ี เสดจ็ พระราชดำเนนิไปยังพระบรมมหาราชวงั ในการพระราชพิธีเฉลมิ พระราชมนเทียร เวลา ๑๙.๕๔ – ๒๒.๐๒ นาฬกิ า พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราช มนเทียร มีเชื้อพระราชวงศ์เชิญเคร่ืองเฉลิมพระราชมนเทียร เคร่ืองราชูปโภค และพระแสง ตามเสด็จไปยังพระท่ีนั่ง จักรพรรดิพิมาน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ประทบั แรม ณ พระทน่ี ง่ั จกั รพรรดพิ มิ าน พระบรมมหาราชวงั 37๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธปิ ไตย
ภายหลงั พระราชพธิ บี รมราชาภิเษก พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช จะเสดจ็ พระราชดำเนินไปตา่ งประเทศเพอ่ื รกั ษาพระองค์ ได้ทรงมพี ระราชหัตถเลขาถึง เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร ณ สงขลา) ประธานรัฐสภา เกยี่ วกบั การแต่งต้งั ผู้สำเรจ็ ราชการแทนพระองค์38 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริยป์ ระชาธปิ ไตย
39๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริยป์ ระชาธิปไตย
พระราชพธิ ีเกี่ยวกบัการครองสิรริ าชสมบตั ิ
พระราชพิธเี กีย่ วกับการครองสริ ริ าชสมบัติ พระราชพธิ ีรัชดาภเิ ษก ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีรัชดาภิเษก ๙ มิถุนายน ๒๕๑๔ มีลักษณะเป็นรูปพระมหามงกุฎ ประดิษฐาน บนพานแว่นฟ้ามีรัศมีแผ่โดยรอบตั้งอยู่บนวิมานเมฆ ระหว่างพระมหามงกุฎและพานมีตราอุณาโลมหรือเลข ๙ อันหมายถึง รัชกาลท่ี ๙ ข้างพานมีราชสีห์และคชสีห์ ค้ำจุนเศวตฉัตรขนาบซ้ายขวา ด้านล่างมีอักษร “รัชดาภิเษก ๙ มิถุนายน ๒๕๑๔ ทรี่ ะลึกพระราชพธิ ฉี ลองสิรริ าชสมบตั คิ รบ ๒๕ ป”ี ตราสัญลักษณ์นี้มีปรากฏใช้เพียง ๒ แห่ง คือ ภายในพัดรองจำนวน ๒๐๐ เล่ม เพ่ือถวายแด่พระสงฆ์ตั้งแต่ ชั้นเจ้าคณะจงั หวัดข้ึนไปตามโบราณราชประเพณี และหนังสือทร่ี ะลกึ ซึง่ จัดพมิ พข์ ึ้นในวโรกาสน้ี มไิ ดม้ ใี ชท้ ัว่ ไป42 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธปิ ไตย
พระราชพิธีรัชดาภิเษก เป็นพระราชพิธีท่ีจัดขึ้นในโอกาสท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงดำรงสริ ิราชสมบตั คิ รบ ๒๕ ปี วนั ท่ี ๙ มิถุนายน ๒๕๑๔ วันท่ี ๘ มิถุนายน ๒๕๑๔ เวลา ๐๘.๐๐ นาฬิกา เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีตรวจพลสวนสนามและการแสดงแสนยานภุ าพของกองทัพไทย ณ บริเวณอนุสาวรียป์ ระชาธปิ ไตย ถนนราชดำเนนิ เวลา ๑๕.๓๐ นาฬิกา คณะรัฐบาลเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเหรียญดุษฎีมาลาเข็มศิลปวิทยา เหรียญจักรพรรดิมาลา เหรียญรัชดาภิเษก และเหรียญท่ีระลึก เพ่ือเฉลิมพระเกียรติในมหามงคลสมัยพระราชพิธีรัชดาภิเษก ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์ถนนรัชดาภิเษกณ พธิ มี ณฑล เชงิ สะพานกรุงเทพตอ่ กับถนนเจริญกรงุ พระนคร วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๑๔ เวลา ๑๐.๓๐ นาฬิกา เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่น่ังอมรินทรวินิจฉัยในพระบรมมหาราชวัง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี คณะรัฐมนตรี และข้าราชการชน้ั ผใู้ หญ่เฝ้าทลู ละอองธลุ ีพระบาท ถวายพระพรชยั มงคล เวลา ๑๖.๒๕ นาฬิกา เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระวิหาร วัดสุทัศนเทพวราราม ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมราชชนก และบำเพ็ญพระราชกุศลคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานนั ทมหิดล จากน้นั เสด็จพระราชดำเนินไปยงั พระทนี่ ่ังอมรนิ ทรวนิ ิจฉัย ถวายบงั คมพระบรมอัฐสิ มเดจ็ พระบรมราชชนกและพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๑๔ เวลา ๑๑.๓๕ นาฬิกา เสด็จออก ณ ท้องพระโรงกลาง พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทพระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหค้ ณะทูตานุทูต และผูแ้ ทนฝา่ ยกงสลุ เฝ้าทูลละอองธลุ พี ระบาท ถวายพระพรชยั มงคล เวลา ๑๕.๕๕ นาฬิกา เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระสงฆ์ ๘๐ รูปเจริญพระพุทธมนต์คาถาถวายพระพร เน่ืองในโอกาสมหามงคลสมัยเถลิงถวัลยราชสมบัติบรรจบครบ ๒๕ ปี แล้วเสด็จออกหนา้ พระอุโบสถ ใหบ้ รรพชติ ญวนและจีนถวายพระพรชยั มงคล เวลา ๑๘.๕๕ นาฬิกา เสด็จพระราชดำเนินไปงานสโมสรสันนิบาต ซ่ึงรัฐบาลจัดถวายเพ่ือเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ในมหามงคลสมัยเถลงิ ถวัลยราชสมบตั คิ รบ ๒๕ ปี ณ ทำเนยี บรัฐบาล 43๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธิปไตย
พระราชพธิ ีรชั มังคลาภเิ ษก ตราสัญลักษณ์งานพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ลักษณะเป็นรูปพระราชลัญจกรประจำพระองค์พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร คือพระที่น่ังอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ภายใต้ สัปตปฎลเศวตฉัตร เหนือพระท่ีน่ังประดิษฐานพระแสงจักรพร้อมด้วยเปลวรัศมี กลางวงจักรมีอุณาโลม ทั้งหมดนี้อยู่ภายใน กรอบรูปวงรีแวดล้อมด้วยเคร่ืองเบญจราชกกุธภัณฑ์ ได้แก่ พระมหาพิชัยมงกุฎ พระแสงขรรค์ชัยศรี ธารพระกร วาลวิชนี (พัดและพระแส้) ฉลองพระบาท ใต้พระมหาพิชัยมงกุฎมีเลขเก้า สองข้างพระราชลัญจกรเป็นสัปตปฎลเศวตฉัตร เบ้ืองล่าง เปน็ แพรแถบมีอักษรข้อความวา่ “พระราชพธิ รี ัชมงั คลาภเิ ษก วนั ที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๑” ประมวลความหมายของตราสญั ลกั ษณน์ ้ี คือ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยเสด็จประทับบนพระท่ีน่ังอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ภายใต้สัปตปฎลเศวตฉัตร มีราชบัณฑิต คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากทศิ ทัง้ แปดเปน็ ผถู้ วายนำ้ อภิเษกเพ่ือความเปน็ เจ้าเปน็ ใหญใ่ นแผ่นดิน คอื ความเปน็ พระมหากษัตริย์ พระแสงจักรเวยี นขวา พรอ้ มด้วยเปลวรศั มีและอุณาโลม หมายถงึ ทรงมพี ระบรมเดชานุภาพแผ่กระจายไปทั่วทุกสารทศิ เพ่ือปกปอ้ งค้มุ ครองพสกนิกร ของพระองค์ เครอื่ งเบญจราชกกุธภัณฑ์และเลขเก้า หมายถงึ ไดเ้ สดจ็ เถลงิ ถวลั ยราชสมบตั ิบรมราชาภิเษก เปน็ พระมหากษตั ริย์ รัชกาลที่ ๙ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และได้เสด็จดำรงสิริราชสมบัติยืนนานยิ่งกว่าพระเจ้าแผ่นดินพระองค์อื่น ๆ เมื่อนับถึง วันที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๑ อันเป็นวันประกอบพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก สัปตปฎลเศวตฉัตรเป็นเคร่ืองแสดง พระบรมราชอสิ รยิ ยศ44 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริย์ประชาธปิ ไตย
ความหมายของสีในตราสัญลักษณ์ พระท่ีนั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ พระแสงจักร เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์และสัปตปฎลเศวตฉัตร เป็นสีทองและสีขาวตามลักษณะของจริง เปลวรัศมีของพระแสงจักรเป็นสีขาว เขียว และเหลืองอนั หมายถงึ ความโชตชิ ่วง เจรญิ รุ่งเรือง พน้ื ภายในวงกรอบเป็นสีน้ำเงินเข้ม อนั เปน็ สีของราชาธิราช คอื พระมหากษัตริยผ์ ู้ทรงพระบรมเดชานุภาพ เลขเก้าและกรอบรูปวงรีเป็นสีทอง สอดคล้องกับสีของเคร่ืองเบญจราชกกุธภัณฑ์ แพรแถบสีชมพูเปน็ สปี ระจำวนั องั คาร หมายถงึ วนั พระบรมราชสมภพในพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาจฬุ าลงกรณ์ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วัพระบรมอยั กาธริ าช ซึ่งทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกทปี่ ระกอบพระราชพธิ ีรชั มังคลาภิเษก พระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก เป็นพระราชพิธีท่ีจัดข้ึนเน่ืองในโอกาสท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองสิริราชสมบัติยาวนานกว่าพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ของไทย พระราชพิธีรัชมังคลาภิเษกจัดข้ึนเป็นคร้ังแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เม่ือพุทธศักราช ๒๔๕๑ เน่ืองในโอกาสท่ีทรงดำรงอยู่ในสิริราชสมบัตินานถึง ๔๐ ปี เสมอด้วยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยา และเมื่อวันท่ี ๒ กรกฎาคม ๒๕๓๑นบั เป็นมหามงคลสมัยท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทรงครองสิริราชสมบัตยิ าวนานกวา่ พระบาทสมเดจ็พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมอัยกาธิราช โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองสิริราชสมบัติเป็นเวลานานถึง ๔๒ ปี ๒๒ วัน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดการพระราชพิธีขึ้นเป็นเวลา ๓ วัน คือวนั ที่ ๒ วันที่ ๓ และวันที่ ๕ กรกฎาคม ดงั นี้ วันท่ี ๒ กรกฎาคม ๒๕๓๑ พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ทรงพระราชอุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย และทรงถวายเครื่องราชสักการะพระพุทธรูปประจำรัชกาลของพระมหาบรู พกษตั รยิ ใ์ นอดตี ที่หอพระราชกรมานุสรและหอพระราชพงศานสุ ร ในพระบรมมหาราชวงั วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๓๑ พระราชพิธีสมโภชสิริราชสมบัติรัชมังคลาภิเษก ณ พระท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาททรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ทุกรัชกาลประดิษฐานท่ีพระแท่นมุก และเครื่องราชกกุธภัณฑ์ พระแสงราชศัสตราวุธ พระกรัณฑ์ทองคำลงยาบรรจุดวงพระราชสมภพ พระสุพรรณบัฏพระปรมาภิไธยประดิษฐานที่พระแท่นราชบัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร และอัญเชิญพระสยามเทวาธิราชออกประดิษฐานท่ีมุขเด็จต้ังเครื่องบวงสรวงสังเวย แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะพราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชสิริราชสมบัติรชั มังคลาภิเษก วันท่ี ๕ กรกฎาคม ๒๕๓๑ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟพระท่ีนั่งจากสถานีรถไฟจิตรลดาไปยังจังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา เพอื่ ทรงประกอบการพระราชพธิ บี วงสรวงสงั เวยสมเดจ็ พระมหากษตั รยิ ใ์ นอดตี ณ พลบั พลาตรมี ขุ พระราชวงั โบราณโดยอนโุ ลมตามแบบเมอ่ื ครั้งพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั 45๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริยป์ ระชาธปิ ไตย
พระราชพธิ กี าญจนาภเิ ษก ตราสัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี ตราพระราชลัญจกรเป็นตราประจำพระองค์ในพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๙ มีตราพระบรมราชวงศ์จักรี และพระมหามงกุฎอยู่ด้านบนเป็นเคร่ืองแสดงถึงความเป็น พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีมีพานเคร่ืองสูง ๒ ช้ัน เทินรัฐธรรมนูญท่ีเป็นเคร่ืองหมายแสดงถึงการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตย โดยมีช้าง ๒ เชือกเทินตราอยู่ภายใต้พระเศวตฉัตร โดยมีความหมายได้หลายทาง ดังนี้ ความหมายท่ี ๑ ช้างเป็นพาหนะของพระเจ้าแผ่นดิน เป็นเสมือนข้าช่วงใช้ของพระมหากษัตริย์ จึงเปรียบได้กับประชาชน ซึ่งเป็นเหมือน ข้ารับใช้ใต้เบ้ืองพระยุคลบาทในสัญลักษณ์จึงเสมือนพสกนิกรเทิดทูนและเชิดชูองค์พระมหากษัตริย์และราชวงศ์จักรี ขณะเดียวกันก็ได้อยู่เย็นเป็นสุขภายใต้ร่มฉัตร ความหมายท่ี ๒ ช้างเผือกเป็นสัตว์คู่พระบารมีของพระองค์พระมหากษัตริย์ อีกท้ังตามความเชื่อทางพราหมณ์ ช้างเผือกท่ีมีลักษณะตรงตามตำราจะมีส่วนช่วยหนุนให้เกิดทั้งทางแสนยานุภาพ และปรชี าสามารถ ความรอบรแู้ กอ่ งคพ์ ระมหากษตั รยิ ์ จงึ แสดงถงึ ความเปน็ ผมู้ บี ญุ ญาธกิ าร และทรงพระปรชี าญาณ ความหมาย ที่ ๓ ช้างมีความเป็นมาคู่กับประวัติศาสตร์ของชาติมาโดยตลอด อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์ท่ีเคยใช้ในธงชาติไทยในอดีต และเป็นสตั วท์ ่ีมีอายยุ นื ยาว จึงเปรียบได้กับประเทศไทย ซง่ึ มอี ายุและประวตั ศิ าสตร์ยาวนานเช่นกนั ความหมายอนื่ ๆ ชา้ งเป็น หนึ่งในสัตว์ท่ีใกล้จะสูญพันธ์ุ ท่ีสมควรช่วยกันอนุรักษ์พันธ์ุไว้ การนำมาใช้ในสัญลักษณ์ก็เพื่อหวังผลต่อเนื่องท่ีอาจจะช่วย กระตุ้นให้คนมองเห็นถึงความสำคัญของช้าง และความสำคัญของสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์และช่วยกันเกื้อกูลอนุรักษ์ไว้บ้าง และหากแม้ว่าวันข้างหน้าสูญพันธ์ุไป อย่างน้อยก็มีรูปพรรณและความเป็นมาของช้างเหลือไว้ในสัญลักษณ์ให้คนรุ่นหลังได้ ระลึกถงึ กนั บา้ ง46 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริยป์ ระชาธิปไตย
พระราชพิธีกาญจนาภิเษก เป็นพระราชพิธีท่ีจัดข้ึนเพ่ือเฉลิมฉลองเน่ืองในโอกาสท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติยาวนานถึง ๕๐ ปี เม่ือวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๓๙ นับเป็นมหามงคลสมัยยาวนานกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใด ๆ ในอดีต โอกาสนี้รัฐบาลกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดงานเฉลิมพระเกียรติน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานช่ือพระราชพิธีซึ่งกำหนดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ ๘ - ๑๒ มิถุนายน ๒๕๓๙ ว่า พระราชพิธีกาญจนาภิเษก พระราชทานช่ือการจัดงานว่าการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี มีช่ือเป็นภาษาอังกฤษว่า The Fiftieth Anniversary (Golden Jubilee)Celebrations of His Majesty’s Accession to the Throne สำหรบั งานเฉลิมฉลองมขี ึน้ ระหวา่ งวันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๓๙ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๓๙ วันท่ี ๘ มิถุนายน ๒๕๓๙ พระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลพระอัฐมรามาธบิ ดนิ ทร และพระราชกุศลทกั ษณิ านปุ ทาน ณ พระทีน่ ่ังอมรินทรวินจิ ฉยั วันท่ี ๙ มิถุนายน ๒๕๓๙ เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีตและเสด็จออกมหาสมาคม ถวายพระพรชยั มงคล ณ พระทนี่ ่งั กาญจนาภเิ ษก ทอ้ งสนามหลวง วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๓๙ เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปีและการสถาปนาสมณศกั ดิ์พระสงฆ์ ณ พระที่น่ังจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๓๙ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะทูตานุทูตและผู้แทนฝ่ายกงสุลเฝ้าทูลละอองธลุ ีพระบาท ถวายพระพรชยั มงคล ณ ท้องพระโรงกลาง พระท่ีน่ังจักรมี หาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วนั ท่ี ๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๓๙ พระราชพธิ เี สดจ็ พระราชดำเนนิ ถวายผา้ พระกฐนิ โดยกระบวนพยหุ ยาตราทางชลมารคจากท่าวาสกุ รีไปยงั วดั อรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร 47๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธปิ ไตย
พระราชพธิ ีฉลองสิรริ าชสมบัติครบ ๖๐ ปี ตราสัญลกั ษณ์ฉลองสริ ริ าชสมบัตคิ รบ ๖๐ ปี อกั ษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. สีเหลืองนวลทอง อันเปน็ สปี ระจำวนั พระราชสมภพ ขลิบรอบตัวอักษรด้วยสีทองบนพื้นสีน้ำเงินเจือทอง อันเป็นสีประจำสถาบันพระมหากษัตริย์ ล้อมด้วย เพชรอันเป็นเอกแห่งรัตนะ หมายความว่า เหล่านักปราชญ์ ราชกวีสำคัญ อีกบรรดาช่างอันมีช่ือ พระยาช้างสำคัญ นางงาม เหล่าทแกล้วทหาร ข้าราชบริพาร อันยอดฝีมือในการปฏิบัติราชการอันสุจริตย่ิง เหล่านี้เปรียบด้วยเพชรอันได้ช่ือว่ารัตนะ แวดล้อมประดับเกียรติยศแห่งพระมหากษัตริยาธิราชพระองค์น้ันเหนือย่ิงกว่าเพชร อันได้ชื่อว่ารัตนะท้ังปวง คือ พระมหากษัตริย์ผู้ทรงสถิตเป็นเพชรอันยอดค่ายิ่งในดวงใจราษฎร์ ทรงบำบัดทุกข์ผดุงสุขเป็นที่พึ่งอันเกษมสุขร่มเย็น แก่ปวงพสกนิกร ซึ่งต่างเชื้อชาติศาสนาในพระราชอาณาจักรของพระองค ์ อน่ึง อักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. นี้ประดิษฐาน บนพระที่น่ังภัทรบิฐภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎประกอบพระอุณาโลม อันเป็นหนึ่งในเคร่ืองเบญจสิริราชกกุธภัณฑ์ แวดลอ้ มดว้ ยพระแสงขรรคช์ ยั ศรแี ละพระแสข้ นหางจามรี ทอดสอดอยใู่ นกงพระทน่ี ง่ั ภทั รบฐิ เบอ้ื งซา้ ยแหง่ พระมหาพชิ ยั มงกฎุ มีธารพระกรและพระพัชนีฝักมะขามทอดสอดอยู่เบื้องขวาแห่งกงพระที่นั่งภัทรบิฐ อันประดิษฐานบนฐานเขียง ซ่ึงทอดฉลองพระบาทประดิษฐานอยู่ เหล่าน้ีรวมเรียกว่า เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ ประกอบด้วยส่ิงอันแสดงความเป็น กษัตริย์ทั้ง ๕ คือ พระมหาพิชัยมงกุฎ ๑ พระแสงขรรค์ชัยศรี ๑ ธารพระกร ๑ พัดวาลวิชนีและพระแส้ ๑ ฉลองพระบาท ๑ หมายถึง ปีแห่งการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ ล่างลงมาเป็นแพรแถบสีชมพูขลิบทอง เขียนอักษรสีทอง ความว่า ฉลองสริ ริ าชสมบตั คิ รบ ๖๐ ปี พทุ ธศักราช ๒๕๔๙ ปลายแหง่ แพรแถบผกู เปน็ ภาพกระบีเ่ ป็นวานรกายขาว มอื ถอื กา้ นลายซมุ้ อันเป็นกรอบลายของตราสัญลักษณ์อยู่ด้านขวา ส่วนด้านซ้ายเป็นแพรแถบผูกเป็นภาพครุฑ เป็นครุฑหน้าขาวกายสีเสน ปนทอง มือถือก้านลายกรอบแห่งตราสัญลักษณ์ พ้ืนภาพตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติท้ังหมดสีเขียวปนทอง อันหมายถึง48 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธปิ ไตย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260