๒๒๗ พระราชดารัส สสมมเดเดจ็ จ็ พพรระะบบรรมใมนโอโพอรธิรพสเีสปราาะธดิ ธริรปริาาารชชชะดชฯำฯุมรสรสสั ัฐยยสาาภมมามมกกฎุ ุฎรราาชชกกุมมุ าารร ณในพริธะีเปทดิ่ีนปงั่ อรนะชันมุ ตรสฐั มสาภคาม วันณจนั พทระ์ ทีน่ ๑ั่งอสนงิ หันาตคสมม๒าค๕ม๕๔ วนั จนั ทร์ ที่ ๑ สงิ หาคม ๒๕๕๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจา้ มาปฏบิ ัติพระราชกรณยี กิจแทนพระองค์ ในพิธีเปิดประชมุ รฐั สภา ในวันน้.ี ควรเปน็ ทพ่ี ึงพอใจท่วั กนั ท่บี ดั น้ีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรได้เสร็จส้ินลง และมีการเรียกประชุมรัฐสภาตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแล้ว ต่อไปจึงเป็นภาระและความรับผดิ ชอบโดยตรงของท่านทง้ั หลาย ทจ่ี ะตอ้ งร่วมกันปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ในฐานะสมาชิกของสภานี้ ให้การปกครองประเทศดาเนินไปตามระบอบประชาธิปไตย เพื่ออานวยประโยชน์ที่พึงประสงค์ คือความเจริญมั่นคงของประเทศ และความผาสุกร่มเย็นของประชาชน. เช่ือว่า ทุกท่านต่างทราบเป็นอย่างดีถึงความรับผิดชอบในหน้าที่ของตนและมีความสุจริตจริงใจท่ีจะปฏิบัติหน้าที่ท้ังน้ัน ให้สาเร็จผลเป็นประโยชน์ตามท่ีกล่าวด้วยความสานึกโดยตระหนักว่า ประโยชน์ส่วนรวมนั้นเป็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ เหนือกว่าประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์อื่นใดท้ังส้ิน. ดังนั้น เร่ืองราวและปัญหาใด ๆ ที่เข้ามาสู่สภาแห่งนี้ จึงควรหวังได้ว่า จะมีการปรึกษาพิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบและตกลงกันด้วยเหตุและผล ด้วยความสมัครสมานปรองดอง และด้วยความเสียสละอดทนและอดกล้ัน โดยคานึงถึงประโยชน์ท่ีจะพึงเกิดมีแก่ประเทศชาติและประชาชนส่วนรวมเป็นสาคัญ. ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าพเจ้าขอเปิดประชุมรัฐสภาเพ่ือให้ทาหน้าท่ีฝ่ายนิติบัญญัติต้ังแต่วาระนี้เป็นต้นไป และขอให้ทุก ๆ ท่านท่ีประชุมร่วมกนั อยู่ ณ ทนี่ ี้ ประสบความสุขความสวัสดจี งทกุ เม่ือทั่วกนั . 149๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริยป์ ระชาธปิ ไตย
๒๒๙ พระราชดารัส สมเดจ็ พระบรมโอพรสราะธริราาชชดำฯรสั ยามมกฎุ ราชกุมาร สมเด็จใพนพระธิ บเี ปรมดิ ปโอรระสชามุ ธสิรภาาชนฯิตบิ สญั ยญามัตมแิ กหฎุง่ ชราชตกิ ุมาร ในพวิธันีเปพดิ ฤปหรัสะบชดมุ ีสทภี่ ๗านสติ งิ ิบหญัาคญม ตั๒ิแ๕ห๕ง่ ๗ชาติ วันพฤหสั บดี ท่ี ๗ สงิ หาคม ๒๕๕๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ ในวนั นี้. การเรียกประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาตคิ ร้ังน้ี ควรจะนับเป็นนิมิตหมายของ การเริ่มต้นท่ีดี เพราะตั้งแต่วาระนี้เป็นต้นไป ท่านท้ังหลายจะได้มีโอกาสประชุม ปรึกษาหารือกันท้ังในการจัดทารัฐธรรมนูญและการบัญญัติกฎหมาย เพื่อให้การปกครอง ดาเนินไปตามวิถีทางแห่งระบอบประชาธิปไตย และเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพของประเทศ ทุก ๆ ด้าน ให้บังเกิดความมั่งคงปลอดภัยและความวัฒนาผาสุกข้ึนแก่ประเทศชาติและ ประชาชน. บรรดาสมาชิกแห่งสภาน้ีจึงควรจะได้ตระหนักถึงความสาคัญในภาระหน้าที่ ของตน แล้วรีบเร่งพิจารณาดาเนินการให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและรวดเร็ว. จึงขอให้ทุก ท่านร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมความคิดอ่านกัน ปฏิบัติภาระหน้าที่ท้ังนั้น โดยเต็มสติปัญญา ความสามารถ ด้วยความสจุ รติ บรสิ ุทธ์ใิ จ ให้งานทุกดา้ นดาเนนิ ไปอยา่ งเท่ียงตรงถูกต้องท้ัง ตามหลักนิติธรรมและเหตุผลความชอบธรรม ทั้งสาเร็จผลเป็นประโยชน์อันพึงประสงค์ คือความผาสุกม่ันคงของประเทศชาตแิ ละประชาชนอย่างแท้จรงิ . บัดน้ี ได้เวลาอันเป็นมงคลแล้ว ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ข้าพเจ้าขอเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้ทาหน้าท่ีตามบทบัญญัติ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับช่ัวคราว พุทธศักราช ๒๕๕๗ ต้ังแต่บัดน้เี ปน็ ต้นไป.150 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริยป์ ระชาธปิ ไตย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ในรฐั พธิ เี ปิดประชมุ รฐั สภา วันจนั ทร์ ท่ี ๑ สิงหาคม ๒๕๓๑ ณ พระทนี่ ่งั อนันตสมาคม 151๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริยป์ ระชาธปิ ไตย
กฎหมายทีพ่ ระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ทรงลงพระปรมาภิไธย (ตัง้ แต่วนั ท่ี ๙ มิถนุ ายน ๒๔๘๙ ถงึ วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙) ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและประเพณีการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยที่มีประมุขของรัฐเป็น กษัตริย์และใช้ระบบรัฐสภานั้น พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ที่เก่ียวข้องกับกฎหมายคือ การตรากฎหมาย อันได้แก่ รัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติ โดยพระมหากษัตริย์จะทรงลงพระปรมาภิไธยใน ร่างกฎหมายที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ด่ังที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่า “พระมหากษัตริย์ทรงตราพระราชบัญญัติ และพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู โดยคำแนะนำและยนิ ยอมของรฐั สภา” ซง่ึ เมอ่ื พระมหากษตั รยิ ท์ รงลงพระปรมาภไิ ธย และได้ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาแล้ว จงึ มีผลใชบ้ งั คบั เป็นกฎหมาย นอกจากน้ี พระมหากษัตริยย์ งั ทรงไว้ซ่ึงพระราชอำนาจ ในการตราพระราชกำหนดให้ใช้บงั คับดังเชน่ พระราชบญั ญตั ิอีกด้วย ซ่ึงเม่อื พระมหากษตั รยิ ์ทรงลงพระปรมาภไิ ธยและประกาศ ใช้พระราชกำหนดแล้ว คณะรัฐมนตรีจะต้องเสนอพระราชกำหนดนั้นต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาว่าจะอนุมัติให้มีผลใช้บังคับเป็น พระราชบัญญตั ติ อ่ ไปหรอื ไม่ นับต้งั แตพ่ ระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดชเสด็จเถลงิ ถวลั ยราชสมบตั ิ เมอ่ื วันท่ี ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ เปน็ ตน้ มา ได้มีการประกาศใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นพระราชบัญญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู พระราชบัญญตั ิ และพระราชกำหนด จำนวน ๓,๕๐๖ ฉบับ (ณ วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙) โดยพระองค์ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยและได้มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ และพระราชกำหนด จำนวน ๓,๒๖๙ ฉบับ และมีพระราชบัญญัติ และพระราชกำหนดที่ประกาศใช้ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจำนวน ๒๓๗ ฉบับ โดยพระราชบัญญัติฉบับแรกท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงลงพระปรมาภิไธย คือ พระราชบัญญัติ บำเหน็จบำนาญผู้ที่ไปปฏบิ ตั กิ ารรว่ มกับสหประชาชาตใิ นกรณปี ระเทศเกาหลี พ.ศ. ๒๔๙๔ ซง่ึ ทรงลงพระปรมาภไิ ธย เมือ่ วันที่ ๒๒ ธนั วาคม ๒๔๙๔152 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ป์ ระชาธปิ ไตย
พระราชบัญญัติฉบบั แรกที่พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช ทรงลงพระปรมาภไิ ธย 153๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริย์ประชาธปิ ไตย
กฎหมายทีพ่ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดชทรงลงพระปรมาภไิ ธย (วันที่ ๙ มิถนุ ายน ๒๔๘๙ ถึงวันท่ี ๑๓ ตลุ าคม ๒๕๕๙) ลำดับท่ี ปที ี่ (พป.ศ ี .) พ ร ะราชบัญพรญะตัร(ฉปิาชบรบะับกญั)อญบตัรฐัิ ธรรมนญู พระราชกำหนด ในรชั กาลท่ี ๙ (ฉบับ) ๑. ๑ ๒๔๘๙ *๒๒ - ๒. ๒ ๒๔๙๐ *๔๙ *๑ ๓. ๓ ๒๔๙๑ *๒๑ - ๔. ๔ ๒๔๙๒ *๑๓ *๑ ๕. ๕ ๒๔๙๓ *๒๘ *๑ ๖. ๖ ๒๔๙๔ *๑๒๐๐ -๗. ๗ ๒๔๙๕ ๖๐ - ๘. ๘ ๒๔๙๖ ๕๒ ๑ ๙. ๙ ๒๔๙๗ ๗๓ - ๑๐. ๑๐ ๒๔๙๘ ๒๖ ๒ ๑๑. ๑๑ ๒๔๙๙ ๔*๑๙ -๑๒. ๑๒ ๒๕๐๐ ๓๑ - ๑๓. ๑๓ ๒๕๐๑ ๒๗ ๔ ๖๒ ๑๔. ๑๔ ๒๕๐๒ *๑ - ๓๑ *๑ ๑๕. ๑๕ ๒๕๐๓ *๓๓ หมายเหตุ * ผูส้ ำเรจ็ ราชการแทนพระองค์154 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ป์ ระชาธปิ ไตย
ลำดบั ท่ี ปีท ่ี (พป.ศี .) พ ร ะราชบัญพรญะตัร(ฉิปาชบรบะับกญั)อญบัตรัฐิ ธรรมนูญ พระราชกำหนด ในรัชกาลท่ี ๙ (ฉบับ) ๑๖. ๑๖ ๒๕๐๔ ๓*๑๗ ๓ ๑๗. ๑๗ ๒๕๐๕ *๓๑๗๑ ๓ ๑๘. ๑๘ ๒๕๐๖ ๓*๑๖ ๒ ๑๙. ๑๙ ๒๕๐๗ ๔*๒๗ ๑๒๐. ๒๐ ๒๕๐๘ ๔๕ ๑ ๑ ๒๑. ๒๑ ๒๕๐๙ ๓๙ *๑ *๒๔ ๓ ๒๒. ๒๒ ๒๕๑๐ ๕*๕๐ ๕๒๓. ๒๓ ๒๕๑๑ ๖๖ ๑ ๗ ๒๔. ๒๔ ๒๕๑๒ ๔๑ - - ๒๕. ๒๕ ๒๕๑๓ ๒๓ ๘ ๑ ๒๖. ๒๖ ๒๕๑๔ ๒๔ ๒ ๒๗. ๒๗ ๒๕๑๕ ๒ ๒๘. ๒๘ ๒๕๑๖ ๔๓ ๒๙. ๒๙ ๒๕๑๗ ๗๑ ๓๐. ๓๐ ๒๕๑๘ ๕๕ หมายเหตุ * ผู้สำเรจ็ ราชการแทนพระองค์ 155๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธิปไตย
ลำดับที ่ ปที ่ี (พป.ศ ี .) พ ร ะราชบัญพรญะัตร(ฉปิาชบรบะบั กญั)อญบัตรัฐิ ธรรมนญู พระราชกำหนด ในรัชกาลที่ ๙ (ฉบับ) ๓๑. ๓๑ ๒๕๑๙ ๓๓ ๑ ๓๒. ๓๒ ๒๕๒๐ ๓๘ ๔ ๓๓. ๓๓ ๒๕๒๑ ๗๐ ๑๒ ๓๔. ๓๔ ๒๕๒๒ ๙๙ ๖ ๓๕. ๓๕ ๒๕๒๓ ๓๓ ๙ ๓๖. ๓๖ ๒๕๒๔ ๓๓ ๗ ๓๗. ๓๗ ๒๕๒๕ ๔๑ ๖ ๓๘. ๓๘ ๒๕๒๖ ๓๗ ๖ ๓๙. ๓๙ ๒๕๒๗ ๕๑ ๕ ๔๐. ๔๐ ๒๕๒๘ ๒๘ ๘ ๔๑. ๔๑ ๒๕๒๙ ๕๔ ๖ ๔๒. ๔๒ ๒๕๓๐ ๙๓ ๑ ๔๓. ๔๓ ๒๕๓๑ ๔๑ - ๔๔. ๔๔ ๒๕๓๒ ๑๙ ๓ ๔๕. ๔๕ ๒๕๓๓ ๔๙ ๓ ๔๖. ๔๖ ๒๕๓๔ ๑๓๓ ๑ ๔๗. ๔๗ ๒๕๓๕ ๑๑๕ ๒ ๔๘. ๔๘ ๒๕๓๖ ๒๘ - ๔๙. ๔๙ ๒๕๓๗ ๔๔ - ๕๐. ๕๐ ๒๕๓๘ ๒๘ ๒ ๕๑. ๕๑ ๒๕๓๙ ๓๔ -156 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธปิ ไตย
ลำดับที่ ปีที่ (พป.ศี .) พ ร ะราชบญัพรญะัตร(ฉปิาชบรบะับกญั)อญบตัรัฐิ ธรรมนญู พระราชกำหนด ในรัชกาลที่ ๙ (ฉบับ) ๕๒. ๕๒ ๒๕๔๐ ๓๕ ๑๐ ๖๕ ๑๐ ๕๓. ๕๓ ๒๕๔๑ ๙๘ - ๖๗ - ๕๔. ๕๔ ๒๕๔๒ ๒๖ ๑ ๓๕ ๓ ๕๕. ๕๕ ๒๕๔๓ ๓๓ ๔ ๓๓ ๓ ๕๖. ๕๖ ๒๕๔๔ ๓๒ ๑ ๑๗ ๑ ๕๗. ๕๗ ๒๕๔๕ ๑๑๕ - ๙๘ - ๕๘. ๕๘ ๒๕๔๖ ๑๘ ๓ ๒๙ - ๕๙. ๕๙ ๒๕๔๗ ๒๔ - ๑๕ ๖ ๖๐. ๖๐ ๒๕๔๘ ๓๒ ๑ ๒๕ - ๖๑. ๖๑ ๒๕๔๙ ๑๐๗ ๕ ๕๑ ๑ ๖๒. ๖๒ ๒๕๕๐ ๓,๐๙๓ ๑๗๖ *๒๓๒ *๕ ๖๓. ๖๓ ๒๕๕๑ ๖๔. ๖๔ ๒๕๕๒ ๖๕. ๖๕ ๒๕๕๓ ๖๖. ๖๖ ๒๕๕๔ ๖๗. ๖๗ ๒๕๕๕ ๖๘. ๖๘ ๒๕๕๖ ๖๙. ๖๙ ๒๕๕๗ ๗๐. ๗๐ ๒๕๕๘ ๗๑. ๗๑ ๒๕๕๙ รวม หมายเหตุ * ผู้สำเรจ็ ราชการแทนพระองค์ 157๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริยป์ ระชาธิปไตย
รา่ งพระราชบญั ญัติทท่ี รงใชพ้ ระราชอำนาจยบั ยั้ง รัฐธรรมนูญบัญญัติสาระสำคัญไว้เหมือนกันทุกฉบับ เก่ียวกับพระราชอำนาจในการยับย้ังร่างพระราชบัญญัติ ของพระมหากษัตริย์ ซึ่งนับเป็นพระราชอำนาจทางด้านนิติบัญญัติท่ีสำคัญประการหน่ึง กล่าวคือ ร่างพระราชบัญญัติที่ได้รับ ความเหน็ ชอบจากรฐั สภาแลว้ และนายกรฐั มนตรนี ำขนึ้ ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายเพอ่ื ทรงลงพระปรมาภไิ ธย พระมหากษตั รยิ ์ อาจทรงยับย้ังได้ หากไม่ทรงเห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติน้ัน การยับย้ังทำได้ ๒ วิธี คือ พระราชทานคืนมาให้รัฐสภา พจิ ารณาใหม่ และกรณีทมี่ ิไดพ้ ระราชทานคนื มาจนพน้ เกา้ สบิ วนั แล้ว อย่างไรกต็ าม พระราชอำนาจของพระมหากษัตรยิ จ์ ำกดั อยู่แค่การยับยั้งเท่าน้ัน ถ้ารัฐสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติน้ันใหม่ และมีมติยืนยันตามเดิมด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า สองในสามของจำนวนสมาชิกท้ังหมดเท่าท่ีมีอยู่ของท้ังสองสภาแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีนำร่างพระราชบัญญัตินั้นข้ึนทูลเกล้า ทูลกระหม่อมถวายอีกคร้ังหน่ึง หรือพระมหากษัตริย์ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธยพระราชทานคืนมาภายในสามสิบวัน ให้นายกรัฐมนตรีนำพระราชบัญญัตินั้นประกาศในราชกิจจานุเบกษาใช้บังคับเป็นกฎหมายได้เสมือนหน่ึงว่าพระมหากษัตริย์ ไดท้ รงลงพระปรมาภิไธยแลว้ สำหรับร่างพระราชบัญญัติที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงใช้พระราชอำนาจยับยั้ง มีดังน้ี ๑) ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... ๒) ร่างพระราชบัญญัติ ระเบยี บขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. …. ๓) รา่ งพระราชบญั ญตั เิ หรยี ญเฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ เนื่องในโอกาสพระราชพธิ มี หามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ครบ ๖ รอบ ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๔๗ พ.ศ. .... ซงึ่ รา่ งพระราชบญั ญตั ิทั้ง ๓ ฉบับดงั กลา่ ว เสนอในสมยั รัฐบาลท่ตี า่ งกัน ๑.ร่างพระราชบัญญตั ิแกไ้ ขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. .... เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๓๕ คณะรัฐมนตรีชุดที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เสนอ ร่างพระราชบัญญัติ จำนวน ๒ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพ่ือพิจารณา คือ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบบั ท่ี ..) พ.ศ. .... และรา่ งพระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ (ฉบบั ท่ี ..) พ.ศ. .... ในคราวประชุมสภานติ ิบญั ญตั ิแห่งชาติ ครง้ั ท่ี ๘/๒๕๓๕ วันศุกร์ท่ี ๒๔ มกราคม ๒๕๓๕ ที่ประชุมไดม้ กี ารพจิ ารณา ร่างพระราชบัญญัติ ทั้ง ๒ ฉบับ ดังกล่าว โดยที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เป็นลำดับแรก ซ่ึงร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีหลักการแก้ไขเพิ่มเติมอัตราโทษในมาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๓๒๘ แห่งประมวลกฎหมายอาญาซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับท่ี ๔๑ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ซ่ึงมีสาระสำคัญ คือ การแก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษในส่วนของโทษปรับให้สูงข้ึน ซึ่งใน มาตรา ๓๒๖ กำหนดเรื่องความผิดฐานหม่นิ ประมาทโดยการใสค่ วามผอู้ ืน่ ตอ่ บุคคลทสี่ าม ซ่ึงระวางโทษ “จำคุกไมเ่ กนิ หน่งึ ปี หรอื ปรับไมเ่ กินสองพันบาท หรือทงั้ จำทง้ั ปรบั ” ได้ปรบั แก้ในส่วนของโทษปรับให้สูงขน้ึ เปน็ “ปรบั ไม่เกนิ สองหมื่นบาท” ส่วนมาตรา ๓๒๘ กำหนดเร่ืองความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซ่ึงระวางโทษ “จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ได้ปรับแก้ในส่วนของโทษปรับให้สูงข้ึนเป็น “และปรับไม่เกินสองแสนบาท” เช่นเดยี วกนั โดยที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็น ๓ วาระในคราวประชุมเดียวกัน โดยการพจิ ารณาในวาระท่ี ๑ เปน็ การพิจารณาข้ันรบั หลกั การ ซงึ่ มสี มาชกิ ในทีป่ ระชุมได้มกี ารอภิปรายกันอยา่ งกว้างขวางว่า เปน็ โทษทส่ี งู มาก ซง่ึ ทป่ี ระชมุ ไดเ้ หน็ ชอบรบั หลกั การแหง่ รา่ งพระราชบญั ญตั ดิ งั กลา่ ว ตอ่ จากนน้ั ทป่ี ระชมุ ไดล้ งมตอิ นมุ ตั ใิ หพ้ จิ ารณา158 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ป์ ระชาธิปไตย
โดยกรรมาธิการเต็มสภาตามท่ีรัฐมนตรีร้องขอ และที่ประชุมได้พิจารณาต่อในวาระที่ ๒ เรียงตามลำดับมาตราจนจบร่างและได้ลงมติเห็นชอบในวาระท่ี ๓ ให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ และส่งให้นายกรัฐมนตรีนำข้ึนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพอื่ พระมหากษตั รยิ ท์ รงลงพระปรมาภไิ ธย และประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เมอื่ วนั ที่ ๒๕ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๓๕ ใหม้ ผี ลบงั คบั ใช้เปน็ กฎหมายตอ่ ไป ต่อมาที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีหลักการ คือ กำหนดค่าเสียหายข้ันต่ำกรณีกระทำละเมิดโดยการหม่ินประมาท โดยมีสาระสำคัญของร่าง คือ ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา ๔๓๘ และให้ใช้ความใหม่ว่า“ภายใต้บังคับมาตรา ๔๔๗ ทวิ ค่าสินไหมทดแทนจะพึงใช้โดยสถานใดเพียงใดน้ันให้ศาลวินิจฉัยตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแหง่ ละเมิด” และให้เพม่ิ ความเป็นมาตรา ๔๔๗ ทวิ วา่ “ค่าเสียหายตามมาตรา ๔๒๓ วรรคหนึ่ง ถ้าเปน็การกระทำโดยการโฆษณาดว้ ยหนงั สอื พมิ พ์ วทิ ยุ โทรทศั น์ หรอื ดว้ ยสอ่ื มวลชนอยา่ งอน่ื ใหศ้ าลกำหนดใหเ้ ทา่ กบั เงนิ จำนวนย่ีสิบเท่าของอัตราโทษปรับขั้นสูงที่กำหนดไว้ในมาตรา ๓๒๘ แห่งประมวลกฎหมายอาญา เว้นแต่จะมีการพิสูจน์ความเสยี หายได้มากกว่านั้น” โดยท่ีประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็น ๓ วาระในคราวประชุมเดียวกันโดยการพิจารณาในวาระที่ ๑ เป็นการพิจารณาขั้นรับหลักการ ซึ่งมีสมาชิกในที่ประชุมได้มีการอภิปรายทักท้วงว่าเป็นการแทรกแซงการใช้ดุลพินิจของศาล โดยการท่ีกำหนดโทษข้ันต่ำไว้แทนที่จะให้ศาลใช้ดุลพินิจตามความร้ายแรงแห่งพฤตกิ ารณ์ และเปน็ การกำหนดอตั ราโทษทส่ี งู เกนิ ไป อยา่ งไรกต็ ามทป่ี ระชมุ ไดม้ มี ตเิ หน็ ชอบรบั หลกั การแหง่ รา่ งพระราชบญั ญตั ิฉบบั นี้ ตอ่ จากนนั้ ทป่ี ระชมุ ไดล้ งมตอิ นมุ ตั ใิ หพ้ จิ ารณาโดยกรรมาธกิ ารเตม็ สภาตามทร่ี ฐั มนตรรี อ้ งขอ และทปี่ ระชมุ ไดพ้ จิ ารณาตอ่ในวาระท่ี ๒ ซ่ึงมีสมาชิกได้แปรญัตติในเรื่องอัตราโทษ โดยแปรญัตติว่า “ขอให้ศาลกำหนดให้เท่ากับจำนวนสองเท่าของอัตราโทษปรับข้ันสูงที่กำหนดไว้ในมาตรา ๓๒๘ ของร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับท่ี ..)พ.ศ. ....” แต่ปรากฏวา่ รัฐมนตรชี ่วยวา่ การกระทรวงมหาดไทยได้ยนื ยันในอัตราโทษปรบั ย่ีสบิ เท่าตามรา่ งเดมิ ซ่ึงเสยี งท่ีประชุมส่วนมากเห็นด้วยกับร่างเดิมของรัฐบาล และเม่ือได้พิจารณาเรียงลำดับมาตราจนจบร่างแล้ว ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบในวาระท่ี ๓ ให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ และส่งให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพ่ือพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย แต่ปรากฏว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ี พระมหากษัตริย์ยังมิได้พระราชทานกลับคืนมาภายใน ๙๐ วันกอปรกับสมาชิกภาพของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้สิ้นสุดลงก่อนกำหนดระยะเวลา ๙๐ วัน ทำให้ร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ีเปน็ อันตกไป ตามมาตรา ๑๔๔ ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๓๔ ๒.ร่างพระราชบญั ญัตริ ะเบยี บขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. …. เม่ือวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๔๕ คณะรัฐมนตรีชุดท่ีมี พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. …. ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา นอกจากนี้มีสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรได้เสนอร่างพระราชบญั ญตั ิทำนองเดยี วกนั ให้สภาผูแ้ ทนราษฎรพิจารณาอกี ๔ ฉบับ สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ....ท้ัง ๕ ฉบับดงั กล่าวในวาระท่ี ๑ ข้นั รบั หลักการ ในคราวประชุมสภาผูแ้ ทนราษฎร ชดุ ท่ี ๒๑ ปที ่ี ๒ ครง้ั ท่ี ๓ (สมยั สามญั นติ บิ ญั ญตั )ิวันพุธท่ี ๑๔ สิงหาคม ๒๕๔๕ โดยลงมติรับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติท้ัง ๕ ฉบับพร้อมกันไป และมีมติให้ต้ังคณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั จำนวน ๓๕ คน เพอ่ื พจิ ารณา โดยถอื เอารา่ งพระราชบญั ญตั ขิ องคณะรฐั มนตรเี ปน็ หลกั ในการพจิ ารณา 159๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริยป์ ระชาธปิ ไตย
กำหนดการแปรญัตติภายใน ๑๕ วัน เมื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาเสร็จแล้ว จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ พรอ้ มดว้ ยรายงานการพจิ ารณาต่อประธานสภาผแู้ ทนราษฎร โดยในคราวประชมุ สภาผ้แู ทนราษฎร ชุดท่ี ๒๑ ปีที่ ๓ ครงั้ ที่ ๗ (สมัยสามัญท่ัวไป) วันพุธที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ และในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๑ ปีท่ี ๓ คร้ังที่ ๙ (สมยั สามญั ทวั่ ไป) วนั พธุ ที่ ๕ มนี าคม ๒๕๔๖ ทป่ี ระชมุ สภาผแู้ ทนราษฎรไดพ้ จิ ารณาในวาระที่ ๒ เรยี งตามลำดบั มาตราจนจบรา่ ง แลว้ ลงมติในวาระท่ี ๓ เหน็ ชอบด้วยกบั รา่ งพระราชบญั ญตั ิฉบับดงั กล่าว และเสนอใหว้ ุฒสิ ภาพจิ ารณาต่อไป วุฒิสภาได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. .... ในวาระท่ี ๑ ในคราวประชุมวุฒิสภา ครั้งท่ี ๑๐ (สมัยสามัญทั่วไป) วันศุกร์ท่ี ๑๔ มีนาคม ๒๕๔๖ โดยลงมติรับร่างพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. .... ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้วไว้พิจารณาและ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน ๓๑ คน เพื่อพิจารณากำหนดการแปรญัตติภายใน ๑๔ วันเม่ือคณะกรรมาธิการวิสามัญ ได้พิจารณาเสร็จแล้ว จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติพร้อมด้วยรายงานการพิจารณาต่อประธานวุฒิสภา โดยในคราวประชุม วุฒิสภา คร้ังท่ี ๒๐ (สมัยสามัญทั่วไป) วันศุกร์ท่ี ๒ พฤษภาคม ๒๕๔๖ ที่ประชุมวุฒิสภาได้พิจารณาในวาระท่ี ๒ เรียงตามลำดบั มาตราจนจบร่าง แล้วลงมตใิ นวาระที่ ๓ ใหแ้ ก้ไขเพิม่ เตมิ และสง่ ใหส้ ภาผ้แู ทนราษฎรดำเนินการตอ่ ไป สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. .... ซ่งึ วฒุ ิสภามีมติใหแ้ กไ้ ขเพมิ่ เติม ในคราวประชมุ สภาผู้แทนราษฎร ชดุ ที่ ๒๑ ปที ่ี ๓ ครั้งท่ี ๒๖ (สมัยสามญั ท่ัวไป) วันพุธที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๔๖ โดยลงมติไม่เห็นชอบด้วยกับการแก้ไขเพ่ิมเติมของวุฒิสภา จากน้ัน ท่ีประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติ กำหนดจำนวนบุคคลท่ีจะประกอบเป็นคณะกรรมาธิการร่วมกัน เพ่ือพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ี สภาละ ๑๒ คน และตั้งกรรมาธิการร่วมกันฝ่ายสภาผู้แทนราษฎร ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๑๗๕ (๓) ส่วนวุฒิสภาได้ลงมติตั้งกรรมาธิการร่วมกันฝ่ายวุฒิสภา จำนวน ๑๒ คน เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ฉบบั น้ี ในคราวประชมุ วฒุ สิ ภา คร้ังที่ ๒๘ (สมัยสามญั ท่ัวไป) เปน็ พเิ ศษ วันองั คารที่ ๓ มถิ ุนายน ๒๕๔๖ เม่ือคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติพร้อมด้วยรายงานการพิจารณาต่อสภา ท้ังสอง สภาผแู้ ทนราษฎรไดพ้ จิ ารณาร่างพระราชบญั ญัตฉิ บบั นี้ ในคราวประชุมสภาผแู้ ทนราษฎร ชุดท่ี ๒๑ ปที ่ี ๓ คร้ังที่ ๗ (สมยั สามัญนติ บิ ญั ญตั ิ) วันพุธที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๔๖ โดยลงมติไมเ่ หน็ ชอบดว้ ยกับร่างพระราชบัญญตั ทิ ค่ี ณะกรรมาธิการ ร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว จึงถือว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ีถูกยับย้ังไว้ตามมาตรา ๑๗๕ (๓) ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ในส่วนของวุฒิสภาได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวในคราวประชุม วุฒิสภาครั้งท่ี ๑๒ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันศุกร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๔๖ โดยลงมติเห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติ ท่ีคณะกรรมาธกิ ารร่วมกนั พิจารณาเสรจ็ แล้ว ตอ่ มาในคราวประชมุ สภาผแู้ ทนราษฎร ชุดท่ี ๒๑ ปที ี่ ๓ คร้ังที่ ๑๔ (สมัยสามัญนติ บิ ญั ญัต)ิ วันพธุ ท่ี ๑๗ กนั ยายน ๒๕๔๖ ทปี่ ระชมุ สภาผแู้ ทนราษฎรมมี ตเิ หน็ ชอบใหน้ ำรา่ งพระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. .... ท่ีถูกยับยั้ง ข้ึนมาพิจารณาใหม่ แต่ที่ประชุมลงมติยืนยันร่างเดิมซึ่งสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบในคร้ังแรก ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกท้ังหมดเท่าท่ีมีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร จึงถือว่าร่างพระราชบัญญัติ ระเบียบขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. .... เปน็ อันได้รบั ความเหน็ ชอบของรัฐสภาแลว้ ตามมาตรา ๑๗๖ ของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐160 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธปิ ไตย
จากนน้ั นายกรฐั มนตรไี ดน้ ำรา่ งพระราชบญั ญตั ดิ งั กลา่ วขน้ึ ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายเพอ่ื ทรงลงพระปรมาภไิ ธยต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักราชเลขาธิการว่าพระราชทานร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวคืนมายังรัฐสภา เมื่อวันท่ี ๒๕พฤศจกิ ายน ๒๕๔๖ เน่ืองจากมขี อ้ บกพร่องในถอ้ ยคำและในการอ้างอิงกฎหมายหลายประการ นายกรฐั มนตรจี ึงมีหนังสือกราบเรียนประธานรฐั สภาเพอื่ ดำเนนิ การตามข้นั ตอนต่อไป รฐั สภาไดป้ รกึ ษารา่ งพระราชบญั ญตั ฉิ บบั นใ้ี หม่ ตามมาตรา ๙๔ ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช๒๕๔๐ ในคราวประชมุ ร่วมกันของรัฐสภา ชดุ ที่ ๒๑ ปีที่ ๓ คร้งั ท่ี ๓ (สมยั สามญั นติ บิ ัญญัต)ิ วันพุธท่ี ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๖โดยลงมติยืนยันตามเดิมด้วยคะแนนเสียงไม่ถึงสองในสามของจำนวนสมาชิกท้ังหมดเท่าที่มีอยู่ของท้ังสองสภา จึงถือว่าร่างพระราชบัญญัตฉิ บับนเี้ ปน็ อันตกไปตามมาตรา ๙๔ ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๐ ต่อมาคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดียวกันนี้ได้ปรับแก้ข้อบกพร่องและนำเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. .... ใหม่อีกคร้ัง เม่ือสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้พิจารณาตามกระบวนการนิติบัญญัติแล้ว ถือว่าได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา นายกรัฐมนตรีนำข้ึนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพอ่ื พระมหากษัตรยิ ท์ รงลงพระปรมาภไิ ธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวนั พฤหัสบดีท่ี ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๗มีผลบงั คับใช้เป็นกฎหมายต่อไป ๓.ร่างพระราชบัญญัติเหรียญเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เน่ืองในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ ๖ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ พ.ศ. .... เมื่อวันท่ี ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๖ คณะรัฐมนตรีชุดท่ีมี พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติเหรียญเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ เน่ืองในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพ่ือพจิ ารณา สภาผแู้ ทนราษฎรไดพ้ จิ ารณารา่ งพระราชบญั ญตั เิ หรยี ญเฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถเนอ่ื งในโอกาสพระราชพธิ ีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ พ.ศ. .... โดยพิจารณาเปน็ ๓วาระในคราวประชุมเดียวกนั โดยในวาระท่ี ๑ ขนั้ รบั หลกั การ ในคราวประชมุ สภาผแู้ ทนราษฎร ชุดท่ี ๒๑ ปที ่ี ๓ ครงั้ ท่ี ๒๔(สมยั สามญั นติ ิบัญญัติ) เป็นพิเศษ วนั พธุ ที่ ๒๙ ตลุ าคม ๒๕๔๖ ท่ีประชมุ ไดล้ งมตริ บั หลกั การแหง่ รา่ งพระราชบญั ญัติดงั กล่าวตอ่ มาทปี่ ระชุมได้พิจารณาในวาระท่ี ๒ โดยกรรมาธกิ ารเตม็ สภา แลว้ ลงมตใิ นวาระท่ี ๓ เหน็ ชอบด้วยกบั ร่างพระราชบัญญัติดงั กลา่ ว และเสนอให้วฒุ สิ ภาพจิ ารณาตอ่ ไป วุฒิสภาได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติเหรียญเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถเน่ืองในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ พ.ศ. .... โดยพิจารณาเป็น๓ วาระในคราวประชุมเดยี วกนั โดยในวาระท่ี ๑ ในคราวประชมุ วุฒิสภา คร้งั ท่ี ๒๔ (สมัยสามัญนติ บิ ญั ญัต)ิ วันอังคารที่ ๔พฤศจกิ ายน ๒๕๔๖ ทปี่ ระชมุ ไดล้ งมตริ บั รา่ งพระราชบญั ญตั ิ ซง่ึ สภาผแู้ ทนราษฎรลงมตเิ หน็ ชอบแลว้ ไวพ้ จิ ารณา ตอ่ มาทปี่ ระชมุได้พิจารณาในวาระที่ ๒ โดยกรรมาธิการเต็มสภา และลงมติในวาระที่ ๓ เห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติของสภาผูแ้ ทนราษฎร จึงเป็นกรณีท่รี ฐั สภาได้ใหค้ วามเห็นชอบรา่ งพระราชบัญญัติดังกลา่ วแล้ว จากนน้ั นายกรฐั มนตรไี ดน้ ำรา่ งพระราชบญั ญตั ดิ งั กลา่ วขน้ึ ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายเพอ่ื ทรงลงพระปรมาภไิ ธยต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักราชเลขาธิการว่า พระราชทานร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวคืนมายังรัฐสภา เม่ือวันที่ ๒๕พฤศจกิ ายน ๒๕๔๖ เนอ่ื งจากมคี วามบกพรอ่ งในมาตรา ๓ ถอ้ ยคำทว่ี า่ พระองั สาเบอ้ื งซา้ ยประดบั เหรยี ญรตั นาภรณ์ รชั กาลท่ี ๘นายกรัฐมนตรจี ึงมหี นังสอื กราบเรยี นประธานรัฐสภาเพ่อื ดำเนนิ การตามขัน้ ตอนตอ่ ไป 161๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริยป์ ระชาธิปไตย
รัฐสภาได้ปรึกษาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ใหม่ ตามมาตรา ๙๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ในคราวประชุมร่วมกันของรัฐสภา ชุดท่ี ๒๑ ปีท่ี ๓ ครั้งท่ี ๓ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธท่ี ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ โดยลงมติยืนยันตามเดิมด้วยคะแนนเสียงไม่ถึงสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของ ทั้งสองสภา จึงถือว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นอันตกไปตามมาตรา ๙๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้ปรับแก้ข้อบกพร่องและนำเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ เหรียญเฉลมิ พระเกยี รติสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ิติ์ พระบรมราชนิ นี าถ เนอ่ื งในโอกาสพระราชพิธมี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ ๖ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ พ.ศ. .... ใหม่อีกครั้ง เมื่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้พิจารณาตามกระบวนการ นิติบัญญัติแล้ว ถือว่าได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา นายกรัฐมนตรีนำข้ึนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพ่ือพระมหากษัตริย์ ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เม่ือวันท่ี ๒๙ มถิ นุ ายน ๒๕๔๗ มีผลบังคับใชเ้ ป็นกฎหมายต่อไป162 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธิปไตย
พระมหากรณุ าธคิ ณุ ต่อกจิ การดา้ นต่างประเทศของรฐั สภา กิจการด้านต่างประเทศของรัฐสภาไทยนับได้ว่าเริ่มข้ึนอย่างเป็นทางการจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพรัฐสภา[Inter-Parliamentary Union (IPU)] เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๔๙๓ และต่อมาในเดือนกันยายนปีเดียวกัน รัฐสภาไทยได้ส่งผู้แทนเดินทางเข้าร่วมการประชุมสหภาพรัฐสภาเป็นครั้งแรก ในการประชุมใหญ่ประจำปี คร้ังที่ ๓๙ แห่งสหภาพรัฐสภาณ กรุงดับลิน ประเทศไอแลนด์ โดยมีคณะผู้แทนเข้าร่วมประชุม ๔ คน ประกอบด้วย เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศเป็นหัวหน้าคณะ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช นายพจน์ สารสนิ และ นายสุกิจ นิมมานเหมินท์ เป็นคณะผูแ้ ทน นอกเหนือจากการเป็นสมาชิกสหภาพรัฐสภา [Inter-Parliamentary Union (IPU)] แล้ว รัฐสภาไทยยังเป็นสมาชิกองค์การระหว่างประเทศท่ีสำคัญอีก ๒ องค์การ คือ สหภาพสมาชิกรัฐสภาเอเชียและแปซิฟิก [Asian-PacificParliamentarians’ Union (APPU)] สมัชชารัฐสภาอาเซียน [ASEAN Inter–Parliamentary Assembly (AIPA)]และยังได้เข้าร่วมในกิจกรรมของกลุ่มรัฐสภาระหว่างประเทศอีกหลายกลุ่ม ท้ังนี้ รัฐสภาไทยในฐานะสมาชิกองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศทั้ง ๓ องค์การ ได้ปฏิบัติตามข้อผูกพันท่ีกำหนดไว้ในธรรมนูญขององค์การฯ เช่น การส่งคณะผู้แทนเข้าร่วมประชุม การเสียค่าบำรุงประจำปี การเปน็ เจา้ ภาพจดั การประชุม ฯลฯ กิจการด้านต่างประเทศของรัฐสภาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชหลายประการ อาทิ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการประชุมเม่ือรัฐสภาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างประเทศในกรณีท่ีมิได้เสด็จพระราชดำเนินก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ และด้วยรัฐสภาไทยมีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐสภาต่างประเทศทั่วโลก และได้มีโอกาสต้อนรับประธานรัฐสภาและบุคคลสำคัญจากประเทศต่าง ๆ ในการเดินทางมาเยือนประเทศไทยอยู่เสมอ ในการน้ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานรัฐสภานำบุคคลสำคัญและคณะเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท บางคราวโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเลี้ยงรับรองผู้ท่ีเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทดว้ ย 163๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธปิ ไตย
๒๔๕ พพรระะรราาชชสสาาสสน์ ์น แสแดสงดคงวคาวมายมนิ ยดนิ ีเดนีเอ่ื นง่ือในงใโนอโกอากสาคสรคบรรบอรอบบ๑๑๐๐๐๐ปปขี ขี อองงกการก่อตงั้งสสหหภภาาพพรรฐั ัฐสสภภาา ระหระวห่าวงา่วงนั วทันี่ ท๔ี่ ๔––๙๙ กนั ยายยนน๒๒๕๕๓๓๒๒ _________________ ข้ า พ เ จ้ า ยิ น ดี ด้ ว ย อ ย่ า ง ยิ่ ง ที่ ส ห ภ า พ รั ฐ ส ภ า จ ะ เ ฉ ลิ ม ฉ ล อ ง ว า ร ะ ค ร บ ร อ บ ร้ อ ย ปี แห่งการก่อตั้ง ในคราวประชุมสหภาพครั้งที่ ๘๒ นี้. ตลอดเวลาอันยาวนานที่ ผ่านมานั้น สหภาพรัฐสภาได้ปฏิบัติภารกิจทุกด้านด้วยความเข้มแข็งเที่ยงตรงตาม อุดมการณ์และวัตถุประสงค์ในอันที่จะเสริมสร้างความเข้าใจ และความร่วมมืออันดี ในหมู่ชนทุกชาตทิ ุกภาษาจนปรากฏเกียรติคุณเป็นทปี่ ระจกั ษแ์ กส่ ายตาโลก. ข้าพเจ้าเชื่อว่า สติปัญญาความสามารถ และความ สมัครสมานร่วมงาน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมวลสมาชิก จะเกื้อกูลส่งเสริมให้สหภาพรัฐสภาเป็น องค์การระหว่างประเทศที่มั่นคงที่สุดองค์การหนึ่ง ซึ่งสามารถอานวยประโยชน์ให้ แก่มหาชนชาวโลกอยา่ งกว้างไกลไพศาล. ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนา ดีมายังบรรดาสมาชิก สหภาพรัฐสภาทุกท่าน และขออวยพรให้สหภาพรัฐสภา มีความเจริญรุ่งเรืองและ ความยืนยงสถาพรตลอดนิรันดรกาล. พระตาหนักจติ รลดารโหฐาน วันที่ ๒๕ สิงหาคม พทุ ธศักราช ๒๕๓๒164 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ์ประชาธปิ ไตย
การจดั การประชุมระหวา่ งประเทศของรฐั สภาการประชมุ สหภาพรฐั สภา คร้ังท่ี ๔๕ วันพุธท่ี ๒๑ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ เวลาบ่าย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหป้ ระธานหนว่ ยรฐั สภาไทยนำประธานและกรรมการบรหิ ารของสหภาพรฐั สภา รวมทง้ั หวั หนา้ คณะผแู้ ทนหน่วยรัฐสภาประเทศต่าง ๆ ซ่ึงมาเข้าร่วมประชุมสหภาพรัฐสภา ณ กรุงเทพฯ และภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณพระท่ีน่ังจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา คร้ังท่ี ๔๕ ได้มีการจัดขึ้นระหว่างวันท่ี ๑๕ - ๒๒ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ ณ ศาลาสันติธรรม กรงุ เทพฯ จอมพล ป. พิบลู สงคราม นายกรัฐมนตรี พลเอก พระประจนปจั จนึก ประธานสภาผูแ้ ทนราษฎร และกล่าวสุนทรพจน์ ในพีธเี ปดิ การประชุมสหภาพรัฐสภา คร้ังที่ ๔๕ หัวหน้าคณะผแู้ ทนหนว่ ยรฐั สภาไทย กล่าวสนุ ทรพจน์ ณ หอ้ งประชุมศาลาสันตธิ รรม ๑๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ ในพธิ ีเปิดการประชมุ สหภาพรฐั สภา คร้ังท่ี ๔๕ ณ กรุงเทพฯหอ้ งประชมุ ศาลาสนั ตธิ รรม ซงึ่ ใช้เป็นท่ปี ระชุมสหภาพรัฐสภา คร้ังท่ี ๔๕ 165๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ป์ ระชาธิปไตย
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชทรงเปิดการประชุมสหภาพรฐั สภา ครั้งท่ี ๗๘ การประชมุ สหภาพรัฐสภา ครง้ั ที่ ๗๘ วันจันทร์ที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๓๐ เวลา ๑๖.๒๕ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จ พระราชดำเนินไปทรงเปิดการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ ๗๘ จัดข้ึนระหว่างวันท่ี ๑๒ - ๑๗ ตุลาคม ๒๕๓๐ ณ หอ้ งวภิ าวดีบอลรมู โรงแรมไฮแอทเซน็ ทรลั พลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร166 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริยป์ ระชาธปิ ไตย
๒๔๘ พระราชดารสั ในพิธีเปดิ การปรพะชระุมรสาหชดภำารพัสรฐั สภา ครั้งท่ี ๗๘ ณ หอ้ในงพวธิภีเาปวดิ ดกีบาอรปลรระมู ชมุ โสรงหแภรามพไรฮัฐแสอภทาเซค็นรง้ัททรี่ ลั ๗พ๘ลาซา ณ ห้องวิภววาันันวจจดันันบี _ททอ_รลร_์ ์ทร_ทูมี่ _๑ี่ _๑โ๒ร_๒ง_แต_ตรลุ _มลุ า_ไาคฮ_คมแ_มอ_๒ท๒_เ๕ซ๕็น๓๓ท๐๐รลั พลาซา ข้าพเจ้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ท่ีได้ต้อนรับท่านทั้งหลายซึ่งเป็นผู้แทนรัฐสภาจากนานาประเทศทั่วโลก และไดม้ าทาพธิ ีเปิดประชุมสหภาพรัฐสภา ครั้งท่ี ๗๘ ในวาระน้.ี การร่วมมือร่วมแรงกันธารงรักษาสันติภาพและความมั่นคงปลอดภัยในโลก เป็นกรณียกิจสาคัญที่สุดประการหนึ่งของอารยประเทศและอารยชน ผู้ปรา รภปรารถนาให้โลกมีความสงบร่มเย็น ให้ประชาชนทุกเชื้อชาติศาสนาอยู่ร่วมกันโดยสวัสดี มีความสุขความเจริญตามควรแก่อัตภาพ และมีอิสรภาพทั่วถึงเสมอหน้ากัน. เหตุฉะนั้น ประเทศต่าง ๆ จึงพยายามก่อตั้งองค์การระหว่างประเทศขึ้นเป็นอันมาก เพื่อสถาปนาสันติภาพและความมั่นคงอันถาวรขึ้น. สหภาพรัฐสภา ที่ท่านทั้งหลายเป็นสมาชิกอยู่ ก็เป็นสถาบันหนึ่งที่ปฏิบัติบาเพ็ญกรณียกิจด้านนี้อย่างเข้มแข็งต่อเนื่องมาเกือบศตวรรษ. คราวนี้ยังได้มาประชุมปรึกษาพร้อมกันอีกในกรุงเทพมหานคร เพ่ือแสวงหาข้อยุติปัญหาต่าง ๆ ที่กระทบกระเทือนความสงบม่ันคงของโลก กับท้ังพิจารณาหาวิถีทางอันเหมาะสมที่จะเสริมสร้างและรักษาเอกราชอธิปไตย พร้อมทั้งความอยู่ดีมีสุขของประชาชนทุกชาติ. ข้าพเจ้าเชื่อว่าความหวังตั้งใจอันแน่วแน่ ประกอบกับสติปัญญาความรอบรู้ และความร่วมมือร่วมความคิดโดยสมานฉันท์เป็นเอกภาพของท่าน จะเกื้อกูลส่งเสริมให้สามารถมองเห็นลู่ทางและค้นหาวิธีปฏิบัติดาเนินงานได้สาเร็จ อันจะเป็นปัจจัยช่วยให้โลกของเราดารงอยู่โดยสันติ และวฒั นาก้าวหนา้ ตลอดตอ่ ไปโดยราบรื่น. ได้เวลาอันเป็นมงคลแล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดประชุมสหภาพรัฐสภ า ครั้งที่ ๗๘ ณบัดนี้. ขออวยพรให้การประชุมดาเนินลุล่วงไปด้วยความเรียบร้อย สาเร็จประโยชน์ตามที่มุ่งหมายทุกประการ และขอให้ทุกท่านท่ีร่วมชุมนุมในพิธีนี้ มีความสุข ความเจริญและความมั่นคงสวัสดีทกุ เมอ่ื ทว่ั กัน. 167๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ป์ ระชาธปิ ไตย
การประชมุ สมชั ชาสหภาพรัฐสภา ครั้งท่ี ๑๒๒ และการประชมุ อ่ืน ๆ ท่ีเกยี่ วข้อง วันเสาร์ท่ี ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๙.๓๐ นาฬิกา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไปทรงเปิดการประชุมสมัชชาสหภาพ รฐั สภา ครงั้ ท่ี ๑๒๒ และการประชมุ อ่นื ๆ ท่เี กี่ยวข้อง (The 122nd Assembly of the Inter–Parliamentary Union and Related Meetings) ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๗ มนี าคม ถงึ วนั ที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๓ ณ โรงแรมเซน็ ทารา แกรนด์ และบางกอกคอนเวนชนั เซ็นเตอร์ เซน็ ทรลั เวลิ ด์ กรุงเทพมหานคร168 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ป์ ระชาธปิ ไตย
๒๕๐ พระราชดำรัส ในณณพิธโโีเรรปงงิดแแกรรามมรเเปซซสใน็ร็นนะมททสพชเามาดิธมุรรเจ็ีเสาดาปพมจ็ ิดแแรพัชวกแกกะชนัรลเรราทะาเวะนนรสเสกพนัปทดดาหาเรร์พร์สรภแัตะแ์รปาชลาทลนัตรรมุพะะี่ร์นะพบบ๒สทราชรัฐาารม่ีชมุา๗๒งงสะสชัชอกรก๗ภชุดสา่นืออามาุดาชมกสกนี คาๆดคีนฯหคาราอาฯคทภงั้อรสคนทัสม่ีเาสนมยกเี่พวยเ๑า่ยีว๒น๒ารม๒วนมชฐั๕๕บข๒ชบสน่ั๕๕ร้อันภรเ๓มแซง๓เมาซลร็นร็นาะคาเชกตเชตรกาอก้ังอรุมรมุทปร์าา่ี์รร๑รเะเซีีซ๒ช็น็นุม๒ททอรรืน่ ัลลั เๆเววลิ ิลทดด่เี ก์์ ย่ี วข้อง __________ พ ร ะ บ า ท ส มเ ด็จพ ระ เ จ้า อ ยู่หัวท ร งพ ระ ก รุณ า โ ปร ด เ ก ล้า โ ป รด ก ระ หม่อมให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีเปิดการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ ๑๒๒ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในวันนี้. ขอต้อนรับท่านทั้งหลายด้วยความยินดี และหวังว่าทุกท่านจะได้รับความสุขสะดวกสบายทุกอย่างตลอดเวลาทพ่ี านกั อยใู่ นประเทศของเรา. รัฐสภาถือเป็นกลไกสาคัญในระบอบประ ชาธิปไตย ซึ่งทาหน้าที่แทนเสียงของประชาชน และมีอานาจทางนิติบัญญัติในการพิจารณาร่างกฎหมายสาคัญ อันจะควบคุมงานต่าง ๆ ของแผ่นดินให้เป็นไปโดยชอบ. การประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภาในครั้งน้ีนับเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศสมาชิกจะได้ปรึกษาหารือกัน เก่ียวกับประเด็นทางการเมืองเศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งกาลังเผชิญร่วมกันอยู่ เพื่อส่งเสริมข้อกาหนดทางนิติบัญญัติที่สอดคล้องกัน สาหรับใช้ในการควบคุมและแก้ปัญหาต่าง ๆ. จึงทาให้หวังได้ว่าผลที่ได้จากการประชุม นอกจากจะทาให้ประเทศสมาชิกมีความเข้าใจอันดีต่อกันและร่วมมือร่วมงานกันได้อย่างเป็นเอกภาพแล้ว ยังจะเป็นประโยชน์แก่การดาเนินงานด้านนิติบัญญตั ิ ตลอดจนการเสรมิ สร้างระบอบประชาธิปไตยให้มั่นคงสถาวรอีกดว้ ย. ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าพเจ้าขอเปิดการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ ๑๒๒ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ บัดนี้.ขอให้การประชุมดาเนินไปโดยเรียบร้อย และสาเร็จผลตามเจตจานงทุกประการ ทั้งขอให้ทุกท่านท่ีมาร่วมในงานน้ี มีความสุขสวัสดีทั่วกัน. 169๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริย์ประชาธปิ ไตย
พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานรัฐสภานำบคุ คลสำคญั และคณะบุคคลต่าง ๆ จากรฐั สภาต่างประเทศ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท วนั พฤหสั บดที ี่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๑๗ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ สริ นิ ธรเทพรตั นสดุ า เสดจ็ ลง ณ ศาลาดสุ ดิ าลยั พระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหน้ ายประภาสน์ อวยชยั ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นำคณะผู้แทนสหภาพสมาชิกรัฐสภาเอเชีย ซึ่งมาประชุมสมัชชาใหญ่ของสหภาพสมาชิก รัฐสภาเอเชีย ครั้งที่ ๑๐ ท่ีกรุงเทพฯ และภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พร้อมทั้งนางอัลมา ลิงค์ ซ่ึงนำนาวาอากาศเอก เลยี วนาร์ด เชสเชอร์ โฮมส์ ผู้ก่อต้ังเชสเชอร์ โฮมส์ พร้อมดว้ ยคณะรวม ๙ คน ร่วมเฝา้ ทูลละอองธลุ พี ระบาทดว้ ย ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มพระราชทานเลย้ี งรบั รองผู้ทีเ่ ฝา้ ทูลละอองธลุ พี ระบาท170 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริย์ประชาธิปไตย
วันพฤหสั บดที ี่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๒๑ เวลา ๑๕.๑๐ นาฬิกา พลอากาศเอก หะริน หงสกุล ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นำนายอิล ควอน ชุงประธานรัฐสภาแหง่ สาธารณรฐั เกาหลี พร้อมดว้ ยคณะ เฝ้าทลู ละอองธลุ พี ระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยอื นประเทศไทย ในโอกาสน้ี พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณม์ หาปรมาภรณ์ช้างเผอื กแก่ประธานรฐั สภาแห่งสาธารณรฐั เกาหลีดว้ ยวนั พุธที่ ๒๗ ธนั วาคม ๒๕๒๑ เวลา ๑๕.๑๐ นาฬกิ า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เสด็จออก ณ พระตำหนกั จิตรลดารโหฐานพรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลอากาศเอก หะรนิ หงสกลุประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคุณหญิง นำ นายยิชาค ชาเมียร์ ประธานรัฐสภาแห่งประเทศอิสราเอลและภรยิ า พร้อมด้วยเจา้ หน้าท่ี เฝ้าทลู ละอองธุลีพระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยอื นประเทศไทย 171๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธปิ ไตย
วันเสารท์ ่ี ๙ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๒๓ เวลา ๑๕.๐๐ นาฬกิ า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช เสด็จออก ณ พระตำหนัก ภูพิงคราชนเิ วศน์ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พลอากาศเอก หะริน หงสกุล ประธานวุฒิสภาและประธานรัฐสภา นำมาดามเติ้ง ยงิ เชา รองประธานสภาประชาชนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยือน ประเทศไทยในฐานะแขกของรฐั บาล ในการน้ี มาดามเติ้ง ยิง เชา รองประธานสภาประชาชนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย สิ่งของท่รี ะลึกด้วย วันพฤหัสบดีท่ี ๑๘ ตลุ าคม ๒๕๒๗ เวลา ๑๕.๔๐ นาฬกิ า พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เสดจ็ ออก ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐาน พระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหพ้ ลอากาศเอก สทิ ธิ เศวตศลิ า รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการตา่ งประเทศ นำนายโลแมนโต จเู นยี ร์รองประธานคนทห่ี นง่ึ ของวฒุ สิ ภาแหง่ รฐั สภาสหพนั ธส์ าธารณรฐั บราซลิ พรอ้ มดว้ ยภรยิ าและคณะเฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทย172 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธิปไตย
วันอังคารท่ี ๑๑ ธันวาคม ๒๕๒๗ เวลา ๑๖.๐๐ นาฬิกา พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช เสด็จออก ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐานพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอกุ ฤษ มงคลนาวนิ ประธานรฐั สภา นำนายเย่ เฟย รองประธานสภาประชาชนแหง่ ชาติสาธารณรฐั ประชาชนจนี และคณะ เฝ้าทลู ละอองธลุ พี ระบาท ในโอกาสเดนิ ทางมาเยอื นประเทศไทยวนั ศุกรท์ ี่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๓๑ เวลา ๑๖.๓๕ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชนิ นี าถ เสด็จออก ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พร้อมดว้ ยสมเด็จพระบรมโอรสาธริ าช ฯ สยามมกฎุ ราชกุมารพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานรัฐสภา นำนายเบอร์นาร์ด เวทเธอร์อิลประธานสภาผู้แทนราษฎรสหราช อาณาจักร และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของขวัญจากสภาผูแ้ ทนราษฎร สหราชอาณาจกั ร ในโอกาสเดนิ ทางมาเยอื นประเทศไทย 173๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริย์ประชาธิปไตย
วนั จนั ทรท์ ี่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๓๒ เวลา ๑๖.๔๐ นาฬิกา พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช เสด็จออก ณ พระตำหนกั จิตรลดารโหฐาน พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายปัญจะ เกสรทอง ประธานสภาผู้แทนราษฎร นำนายนิโคไล โจวซัน ประธานรัฐสภา สาธารณรัฐสังคมนิยมโรมาเนีย และคณะ เฝา้ ทูลละอองธลุ พี ระบาท ในโอกาสเดนิ ทางมาเยอื นประเทศไทย วนั พุธที่ ๑๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๓๓ เวลา ๑๖.๓๕ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จออก ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายปัญจะ เกสรทอง รองประธานรัฐสภา รักษาราชการแทนประธานรัฐสภา นำนายเจซุน คิม ประธานรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมด้วยภริยา และคณะ เฝา้ ทูลละอองธุลพี ระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทย174 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ป์ ระชาธปิ ไตย
วันพุธท่ี ๒๓ ธนั วาคม ๒๕๓๕ เวลา ๑๖.๔๐ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช เสด็จออก ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐานพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายมารุต บุนนาค ประธานสภาผแู้ ทนราษฎรและประธานรฐั สภา นำนายปารค์ ชนุ คู(Mr. Park Jyun-Kyu) ประธานรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลี และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยวันพฤหสั บดที ่ี ๕ สิงหาคม ๒๕๓๖ เวลา ๑๖.๓๘ นาฬกิ า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เสดจ็ ออก ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐานพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายมารุต บุนนาค ประธานรฐั สภา นำนายเฉียว สอื (Mr. Qiao Shi) ประธานรัฐสภาแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของขวัญจากสาธารณรัฐประชาชนจนี ในโอกาสเดินทางเยอื นประเทศไทย 175๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธิปไตย
วนั จันทรท์ ี่ ๑๑ ตลุ าคม ๒๕๓๖ เวลา ๑๗.๓๙ นาฬกิ า พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เสดจ็ ออก ณ พระตำหนกั ทกั ษณิ ราชนเิ วศน์ จังหวัดนราธิวาส พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายมารุต บุนนาค ประธานรัฐสภา นำนายยาง ยอง ซอฟ (H.E. Mr. Yang Hyong Sop) ประธานรฐั สภาแหง่ สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนเกาหลี และคณะ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท เพอ่ื ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายของขวญั จากสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนเกาหลี ในโอกาสเดนิ ทางมาเยอื นประเทศไทย อยา่ งเป็นทางการในฐานะแขกของรฐั สภาไทย วันอังคารที่ ๒๑ มถิ ุนายน ๒๕๓๗ เวลา ๑๖.๔๙ นาฬิกา พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช เสดจ็ ออก ณ พระตำหนกั จิตรลดารโหฐาน พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ศาสตราจารย์มารุต บุนนาค ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา นำนายโฮเซ เด เวเนเซีย จูเนียร์ (Mr. Jose de Venecia, Jr.) ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และคณะ เฝา้ ทูลละอองธลุ พี ระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของรฐั สภาไทย176 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริย์ประชาธปิ ไตย
วันพฤหัสบดที ี่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๓๘ เวลา ๑๗.๕๐ นาฬกิ า พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เสดจ็ ออก ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐานพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายมีชยั ฤชุพนั ธุ์ ประธานวฒุ ิสภา นำนายหล่ี ลยุ่ หวน (Mr. Li Ruihuan) ประธานสภาท่ีปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของประธานวุฒสิ ภาวันพฤหสั บดีท่ี ๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๐ เวลา ๑๗.๔๑ นาฬกิ า พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เสดจ็ ออก ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐานพระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหน้ ายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผ้แู ทนราษฎรและประธานรฐั สภา นำนาย พ.ี เอ.ซงั มา ประธานโลกสภา (สภาผแู้ ทนราษฎร) สาธารณรฐั อนิ เดยี เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ในโอกาสเดนิ ทางมาเยอื นประเทศไทยอยา่ งเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐสภา 177๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ์ประชาธิปไตย
วันเสารท์ ่ี ๑๗ เมษายน ๒๕๔๒ เวลา ๑๗.๓๗ นาฬกิ า พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชและสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ ออก ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐาน พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผูแ้ ทน ราษฎรและประธานรัฐสภา นำนายหลี่ เผิง ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีนและสมาชิกถาวร คณะกรรมการโปลิตบุโรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน พร้อมด้วยภริยา และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสเดินทาง มาเยอื นประเทศไทยอยา่ งเปน็ ทางการในฐานะแขกของรัฐสภา วนั พุธท่ี ๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๓ เวลา ๑๗.๓๙ นาฬกิ า พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เสดจ็ ออก ณ พระตำหนกั เปยี่ มสขุ วงั ไกลกงั วล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายพิชัย รัตตกุล ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรฐั สภา นำนายโช แต บอค ประธานสมัชชาประชาชนสงู สุด สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนเกาหลี และคณะ เฝา้ ทูลละอองธลุ ีพระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอยา่ งเป็นทางการในฐานะแขกของรฐั สภาไทย178 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ์ประชาธิปไตย
วันจนั ทร์ท่ี ๓ กันยายน ๒๕๔๔ เวลา ๑๗.๔๑ นาฬกิ า พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เสดจ็ ลง ณ ทอ้ งพระโรง ศาลาเรงิ วงั ไกลกงั วลอำเภอหวั หิน จังหวัดประจวบครี ขี ันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พลตรี มนูญกฤต รูปขจร ประธานวุฒิสภาและรองประธานรัฐสภาในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การรัฐสภาอาเซียน คร้ังที่ ๒๒นำหวั หน้าคณะผ้แู ทนรัฐสภาจากประเทศสมาชิกขององค์การรัฐสภาอาเซียน จำนวน ๘ ประเทศ ประเทศผู้สงั เกตการณพ์ ิเศษจำนวน ๒ ประเทศ ประเทศผ้สู งั เกตการณ์ จำนวน ๗ ประเทศ และสภายุโรป พรอ้ มดว้ ยภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในโอกาสเดินทางมาประชมุ สมชั ชาใหญ่องค์การรัฐสภาอาเซียน ครง้ั ที่ ๒๒ ซ่ึงรฐั สภาไทยเป็นเจ้าภาพจดั การประชมุ ระหว่างวนั ท่ี ๒ – ๗ กันยายน ๒๕๔๔ ณ โรงแรมรอยัล ออร์คดิ เชอราตนัวันพธุ ท่ี ๔ กนั ยายน ๒๕๔๕ เวลา ๑๗.๕๐ นาฬกิ า พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เสดจ็ ออก ณ พระตำหนกั เปย่ี มสขุ วงั ไกลกงั วลอำเภอหวั หนิ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พรอ้ มด้วยสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายอุทยั พิมพ์ใจชน ประธานสภาผ้แู ทนราษฎรและประธานรฐั สภา นำนายหลี่ เผิง ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีนและสมาชิกถาวรคณะกรรมการโปลิตบุโรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และภริยา พร้อมด้วยคณะเฝา้ ทลู ละอองธุลพี ระบาท ในโอกาสเดนิ ทางมาเยือนประเทศไทยอยา่ งเปน็ ทางการในฐานะแขกของรัฐสภาไทย 179๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธปิ ไตย
วันพธุ ที่ ๘ มกราคม ๒๕๔๖ เวลา ๑๗.๔๘ นาฬกิ า พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เสดจ็ ออก ณ พระตำหนกั เปย่ี มสขุ วงั ไกลกงั วล อำเภอหวั หิน จงั หวดั ประจวบคีรขี นั ธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายอทุ ัย พมิ พใ์ จชน ประธานสภาผ้แู ทนราษฎรและ ประธานรฐั สภา นำนายเกนาดี เอน็ . เซเลสเนฟ ประธานสภาผแู้ ทนราษฎรสหพนั ธรฐั รสั เซยี และคณะ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ในโอกาสทเ่ี ดนิ ทางมาเยือนประเทศไทยอยา่ งเป็นทางการในฐานะแขกของรฐั สภาไทย วนั องั คารท่ี ๑๖ กันยายน ๒๕๔๖ เวลา ๑๗.๓๘ นาฬกิ า พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เสดจ็ ออก ณ พระตำหนกั เปยี่ มสขุ วงั ไกลกงั วล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา นำนายเหงียน วัน อาน (Mr. Nguyen Van An) ประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และภริยา พรอ้ มดว้ ยคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของ รัฐสภาไทย180 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธิปไตย
วันพฤหสั บดที ี่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๗.๓๐ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จออก ณ พระตำหนักเป่ียมสุขวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาและประธานสมชั ชารฐั สภาอาเซยี น นำคณะผแู้ ทนประเทศสมาชกิ สมชั ชารฐั สภาอาเซยี น และคณะผแู้ ทนประเทศผสู้ งั เกตการณ์พิเศษ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ ๓๐ (The 30thGeneral Assembly of the ASEAN Inter-Parliamentary Assembly : AIPA) ระหว่างวันที่ ๒ - ๘ สงิ หาคม ๒๕๕๒ 181๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ์ประชาธิปไตย
รฐั สภาเฉลมิ พระเกียรติ ดวยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และความจงรักภักดี รัฐสภาไดจัดกิจกรรม และจัดทำสิ่งของที่ระลึกข้ึนใน โอกาสพิเศษเนือ่ งในโอกาสมหามงคลวาระตา ง ๆ ในพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช ซงึ่ ไดน้ ำมารวบรวมไว้ ดังนี้ ๑. บุษบกเงินลงถมตะทอง (จำลอง) ๒. ตาลปัตร – ย่ามพระ โครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เน่อื งในโอกาสมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๐ ๓. ตาลปัตร – ย่ามพระ โครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนอ่ื งในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๔ ๔. ตาลปตร – ยามพระ ที่ระลึกพิธีมอบพระแผนที่ประเทศไทยและเจริญพระมนต์มหาสันติงหลวง เน่ืองในโอกาส พระราชพิธมี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ๕. โมเดลจำลองอาคารเฉลิมพระเกียรตินวมินทราธิราชและบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสท่ีสภาผู้แทนราษฎร จัดทำโครงการจัดสร้างอาคารเรียนสำหรับนักเรียนชาวเขาและโรงเรียนท่ีขาดแคลนอาคารเรียนเฉลิมพระเกียรติพระบาท สมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสพระราชพธิ มี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๔ และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เนือ่ งในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๕๕ ๖. หนังสอื “ธ ทรงเปน รม ฉตั รรัฐสภา” ๗. หนงั สือ “รัฐสภาไทยใตรมพระบารมี ๖๐ ปท รงครองราชย” ๘. หนังสือ “๘๔ พระชนมพรรษา รฐั สภารอ ยดวงใจถวายพระพร” ๙. หนังสือ “บันทึกบทความรอยเรียงความประทับใจในพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชของสมาชกิ รัฐสภา” ๑๐. หนงั สือทรี่ ะลึกการจัดสรา งอาคารเฉลมิ พระเกยี รตนิ วมินทราธริ าชและบรมราชนิ นี าถ ๑๑. นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๕๙182 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริยป์ ระชาธิปไตย
เนื่องในศุภวาระที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖ รอบ ในวันที่ ๕ธันวาคม ๒๕๔๒ นบั เปน็ มหามงคลอนั พิเศษอกี วาระหน่ึง รฐั สภาจึงเห็นสมควรดำเนินการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้ เพ่ือเป็นการแสดงความจงรักภักดีถวายแด่อ ง ค์ พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ ป ร มิ น ท ร ม ห า ภู มิ พ ล อ ดุ ล ย เ ด ชป ร ะ ธ า น รั ฐ ส ภ า จึ ง ไ ด้ แ ต่ ง ต้ั ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ด ำ เ นิ น ก า รเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม๒๕๔๒ ข้ึน โดยคณะกรรมการฯ มมี ติให้จดั สรา้ งบุษบกเงนิ ลงถมตะทองภายในประดษิ ฐานตราสญั ลกั ษณเ์ ฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม๒๕๔๒ เพื่อเป็นของที่ระลึกน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งนี้ บุษบกจัดได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมไทยช้ันสูงท่ีมีการสร้างสืบทอดกันมาช้านานจากอดีตจนถึงปัจจุบัน แสดงถึงความสูงส่งด้วยศักดิ์ศรีเกียรติยศ ฐานันดรสำหรับพระมหากษัตริย์ไทย ทรงใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ การจัดสร้างบษุ บกท่ีมคี วามวิจิตร งดงามสูงส่งทางความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมไทย แสดงถึงวิชาช่างศิลปกรรมด้านลงถมตะทององค์แรก นับเป็นเอกลักษณ์องค์หนึ่งที่หาได้ยากยิ่ง เพราะท่ีปรากฏอยู่จะเป็นงานทางด้านแกะสลกั ไม้ปดิ ทอง หรอื ดนุ ลายทองประดับลายบนไม้ บุษบกเงินลงถมตะทอง ภายในประดิษฐานตราสญั ลกั ษณเ์ ฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ล บุษบกเงินลงถมตะทองอดุลยเดช เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม ประดิษฐานตราสัญลกั ษณเ์ ฉลมิ พระเกยี รติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒ มีรายละเอยี ด ดังน้ี เนื่องในโอกาสพระราชพธิ มี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๔๒ 183๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั ริยป์ ระชาธิปไตย
๑. ทำดว้ ยเนื้อเงนิ ถมทองคำทั้งองค์ ๒. จากฐานลา่ งสดุ มขี นาดความกวา้ ง ๔๓ เซนตเิ มตร ขนาดความสงู ไมร่ วมฐานไม้ ๑๓๐ เซนตเิ มตร รวมฐานไม้ ๑๖๐ เซนตเิ มตร มีตรารฐั สภา บดุ ุนโลหะเงนิ ทาทองประจำอยู่ ๔ ด้าน ๓. ฐานชัน้ บนท่ีวางฉตั ร มฉี ัตรขนาด ๗ ชน้ั ประจำอยู่ ๔ ทิศ ๔. บวั ฐานสงิ ห์ ๔ ดา้ น ๕. ฐานครฑุ แบกประจำอยูโ่ ดยรอบ ๖. ฐานเทพนมประจำอยู่โดยรอบ ๗. ฐานรองรับตราสัญลกั ษณ์เฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา ๘. ตราสญั ลกั ษณ์เฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา ทองคำ น้ำหนกั ๑๙๗.๖ กรัม ฝงั เพชร ๒ ดา้ น ประดับเพชร ๖๑๒ เมด็ ๑๒ กะรตั พลอยพาราไดซ์สเี ขยี ว ๓๔๖ เมด็ ๑๕ กะรัต บษุ ราคัม ๕๒ เมด็ ๔ กะรตั ๙. ยอดพุ่มข้าวบิณฑ์ทองคำ น้ำหนกั ๓๑ กรมั ฝงั เพชร ๒.๒ กะรตั ๖๔ เม็ด การจัดสร้างบุษบกเงินลงถมตะทอง ประดิษฐานตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภมู พิ ลอดลุ ยเดช เนือ่ งในโอกาสพระราชพธิ มี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒ ใชร้ ะยะเวลาในการ จดั สรา้ ง ๕ เดอื น ซ่ึงออกแบบและควบคุมดำเนนิ การจัดสร้าง โดยสำนักชา่ งสิบหมู่ สถาบนั ศิลปกรรม กรมศลิ ปากร อนึ่ง รัฐสภาได้กราบทูลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก เพื่อทรงพระเมตตา อธิษฐานจิตบุษบกเงินลงถมตะทอง ในโอกาสนี้ได้ทรงมีพระบัญชาให้สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง แผ่เมตตาอธิษฐานจิตบุษบกเงิน ลงถมตะทอง ซ่ึงพิธีอธิษฐานจิตบุษบกเงินลงถมตะทอง ได้จัดขึ้นในวันอาทิตย์ท่ี ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๔๒ ณ พระอโุ บสถ วดั บวรนเิ วศวิหาร กรงุ เทพมหานคร วันศุกร์ท่ี ๒๘ มกราคม ๒๕๔๓ เวลา ๑๘.๒๙ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จออกแทนพระองค์ ณ พระทน่ี ั่งบรมพมิ าน ในพระบรมมหาราชวัง พระราชทานพระราชวโรกาสใหน้ ายวนั มหู ะมดั นอร์ มะทา ประธานรฐั สภา และ ประธานคณะกรรมการดำเนนิ การเฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เนอ่ื งในโอกาสมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๔๒ นำคณะกรรมการฯ คณะอนกุ รรมการจดั ทำหนังสือทร่ี ะลึกในงานสโมสรสันนิบาตสมาชิกรฐั สภา และคณะอนุกรรมการจัดหารายได้ เฝ้าทูลละออง พระบาทน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายบุษบกเงินลงถมตะทอง และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เน่ืองในโอกาส ๖๗ ปี รฐั สภาไทย และหนงั สอื ๖๗ ปี สมาชิกรฐั สภาไทย184 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ป์ ระชาธิปไตย
ตาลปตั ร – ยา่ มพระ ตาลปัตร – ย่ามพระ โครงการอปุ สมบทเฉลิมพระเกยี รติ โครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดชเนือ่ งในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๐ ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๔ 185๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริยป์ ระชาธิปไตย
ตาลปตั ร – ย่ามพระ ทีร่ ะลกึ พธิ มี อบพระแผนทปี่ ระเทศไทย และเจริญพระมนต์มหาสันตงิ หลวง เน่อื งในโอกาสพระราชพธิ ีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๔ โมเดลจำลองอาคารเฉลิมพระเกียรตนิ วมนิ ทราธิราชและบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสท่ีสภาผแู้ ทนราษฎรจัดทำโครงการจดั สรา้ งอาคารเรียน สำหรับนกั เรียนชาวเขาและโรงเรียนที่ขาดแคลนอาคารเรียนเฉลมิ พระเกยี รติพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช เน่อื งในโอกาสพระราชพธิ ีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๔ และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถ เนอ่ื งในโอกาสมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕186 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธปิ ไตย
รัฐสภาไทย (จัดพมิ พ์เนอ่ื งในโอกาสฉลองสริ ริ าชสมบตั ิ ครบ ๕๐ ปี พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดชภาษาไทยและภาษาองั กฤษ) เนื้อหาหนังสือประกอบด้วย พระราชประวัติพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช การเถลิงถวัลย ราชสมบตั ิ พระราชกรณยี กจิ ในดา้ นตา่ ง ๆ เชน่ การพฒั นาประเทศ การอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ ด้านการสาธารณสุข ฯลฯ พระราชสถานะพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย พัฒนาการประชาธิปไตยในเบื้องแรก รัฐสภาไทยในอดีต รฐั สภาไทยในปจั จบุ นั สำนกั งานเลขาธกิ ารสถานทส่ี ำคญั ในบรเิ วณ รัฐสภา เช่น พระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจา้ อยู่หัว ศลิ ปกรรมต่าง ๆ ในบริเวณ รัฐสภา พร้อมภาคผนวกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทำเนียบนายกรัฐมนตรี ทำเนียบประธานรัฐสภา พฤฒสภา วฒุ ิสภา และสภาผแู้ ทนราษฎร และทำเนยี บเลขาธิการรฐั สภา รฐั สภาไทยใต้รม่ พระบารมี ๖๐ ปี ทรงครองราชย์ (จัดพมิ พ์เน่อื งในโอกาสฉลองสริ ิราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในเดือนมถิ นุ ายน ๒๕๔๘ และพระราชพธิ ีมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐) เน้ือหาหนังสือประกอบด้วย การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญพระราชพิธีฉลองรัฐธรรมนูญ รัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย ความหมายความเปน็ มา รฐั พธิ เี ปดิ ประชมุ รฐั สภาในรชั กาลปจั จบุ นั รปู แบบของรฐั พธิ เี ปดิ ประชมุ สภาประมวลพระราชดำรสั ในรัฐพิธีเปดิ ประชุมรฐั สภา ตง้ั แต่ พ.ศ. ๒๔๙๓ – พ.ศ. ๒๕๔๘ทรงดับทุกข์ วันมหาวิปโยค ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ เหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙เหตุการณ์เดือนพฤษภาคม ๒๕๓๕ เร่ืองพระท่ีนั่งอนันตสมาคม และรัฐสภาสดุดีพร้อมบทความจากอดตี ประธานรฐั สภา 187๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ์ประชาธปิ ไตย
ธ ทรงเปน็ ร่มฉตั รรัฐสภา (จัดพิมพ์เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐) เนอื้ หาหนงั สอื ประกอบดว้ ย รฐั ธรรมนญู ในพระปกเกลา้ กษตั ราประชาธปิ ไตย พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช การเปล่ียนแปลง พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทย พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ พระราชกรณียกิจเก่ียวกับรัฐสภา เช่น การลงพระปรมาภิไธยในรัฐธรรมนูญ รัฐพิธี เปดิ ประชมุ รฐั สภา พระราชดำรสั ในพธิ เี ปดิ ประชมุ รฐั สภา พระราชดำรสั ในพธิ เี ปดิ ประชมุ สมัชชาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๖ พระราชดำรัสในพิธีเปิดประชุมสภาปฏิรูปการปกครอง แผ่นดิน พระราชดำริเกี่ยวกับประชาธิปไตย จากอดีตนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงดับทุกข์...แห่งวันมหาวิปโยค ๑๔ ตลุ าคม ๒๕๑๖ ทรงเปน็ ศูนย์กลางดวงใจไทยทง้ั ชาติ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ เหตกุ ารณ์ เดือนพฤษภาคม ๒๕๓๕ ทรงยุติความขัดแย้ง...สูญเสีย ประมวลเหตุการณ์ ร่างรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ ความเป็นมาและแนวคิดในการจัดทำรฐั ธรรมนูญฉบบั สมดุ ไทย สาระสำคัญของรฐั ธรรมนญู ฉบบั จารึก ลงสมดุ ไทย เรอ่ื งเกย่ี วกบั การเลอื กตง้ั จากรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ กจิ กรรมทส่ี ำนกั งานเลขาธกิ าร สภาผูแ้ ทนราษฎรจัดขนึ้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พระชนมพรรษา รัฐสภาร้อยดวงใจถวายพระพร (จัดพมิ พเ์ น่ืองในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๔) เน้ือหาหนังสือประกอบด้วย พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา คำถวายพระพรชัยมงคลของประธานรัฐสภา พระราชพิธีรัชดาภิเษก พระราชพิธี กาญจนาภิเษก พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี (พร้อมพระราชดำรัส และคำถวายพระพรชยั มงคลของประธานรัฐสภา) บทร้อยกรองถวายพระพร ประมวล พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับรัฐสภา (ทรงเปิดประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๔๙๓ และพ.ศ. ๒๕๑๒ เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีฉลอง วนั พระราชทานรฐั ธรรมนญู ทรงลงพระปรมาภไิ ธยในรฐั ธรรมนญู ทรงลงพระปรมาภไิ ธย ในประกาศพระบรมราชโองการแต่งต้ังนายกรัฐมนตรี ผู้แทนรัฐสภาต่างประเทศ เฝา้ ทูลละอองธลุ พี ระบาท)188 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ป์ ระชาธิปไตย
บนั ทกึ บทความร้อยเรียงความประทบั ใจในพระราชกรณยี กิจ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัวของสมาชกิ รัฐสภา (จัดพมิ พเ์ นือ่ งในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔) เนอ้ื หาหนงั สอื ประกอบดว้ ย บทความอนั แสดงถงึ ความประทบั ใจในพระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช การปฏิบัติหน้าท่ีตามแนว พระราชดำริ และตามรอยพระยุคลบาท ของสมาชิกรัฐสภาซ่ึงประกอบด้วยสมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎร ชุดท่ี ๒๓ (วนั ท่ี ๒๓ ธนั วาคม ๒๕๕๐) ชดุ ท่ี ๒๔ (วนั ท่ี ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔) และสมาชกิ วฒุ สิ ภา ชดุ ท่ี ๑๐ (วนั ที่ ๑๙ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๑ วนั ท่ี ๒ มนี าคม ๒๕๕๑ และวนั ท่ี ๑๒ เมษายน ๒๕๕๔) เพ่ือเป็นการเฉลิมพระเกียรติและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชท่ีมีต่อปวงชนชาวไทย ซึ่งเนื้อหาของ บทความจะทำใหท้ ราบถงึ พระจรยิ วตั รอนั งดงาม กอปรดว้ ยทศพธิ ราชธรรม พระอจั ฉรยิ ภาพ และพระราชกรณียกิจที่สำคัญ ท้ายเล่มมีการจัดทำดัชนีคำสำคัญของเน้ือหาหนังสือเพ่ือ ความสะดวกในการศึกษาค้นคว้าดว้ ย หนงั สือท่ีระลกึ การจดั สร้างอาคารเฉลมิ พระเกียรตนิ วมินทราธริ าชและบรมราชนิ นี าถ (จัดพมิ พ์เนือ่ งในโอกาสที่สภาผแู้ ทนราษฎรจัดทำโครงการจดั สร้างอาคารเรยี นสำหรบั นกั เรยี น ชาวเขาและโรงเรียนทข่ี าดแคลนอาคารเรยี น เฉลมิ พระเกยี รติพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว เนือ่ งในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๔ และสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินนี าถ เนือ่ งในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕) เนื้อหาหนังสือประกอบด้วย พระราชกรณียกิจด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถการประมวลเร่ืองการดำเนินการจัดสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรตินวมินทราธิราชและบรมราชินีนาถของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกับประวัติของโรงเรียนที่ได้รับการจัดสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ซ่ึงประกอบด้วย ข้อมูลพ้ืนฐานของโรงเรียนภาพการก่อสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ภูมิทัศน์ของโรงเรียน สภาพภูมิประเทศและสิ่งแวดล้อม การลงพน้ื ทส่ี ำรวจและติดตามการดำเนินการสรา้ งอาคารเรียน 189๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ป์ ระชาธปิ ไตย
นทิ รรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช เนอ่ื งในโอกาสการจดั งานฉลองสริ ิราชสมบัตคิ รบ ๗๐ ปี และเฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระนางเจา้ สริ กิ ิต์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ เน่ืองในโอกาสพระราชพธิ มี หามงคล เฉลมิ พระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๕๙ เม่ือวันท่ี ๗ มิถุนายน ๒๕๕๙ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรด กระหม่อมให้ พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นผ้แู ทนพระองค์เปดิ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เนอื่ งในโอกาสการจดั งานฉลองสริ ริ าชสมบตั คิ รบ ๗๐ ปี และเฉลมิ พระเกยี รติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ ์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ เน่อื งในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๕๙ ณ รัฐสภา โดยมี ศาสตราจารยพ์ ิเศษพรเพชร วชิ ิตชลชัย ประธานสภานติ ิบญั ญัตแิ ห่งชาติ (สนช.) ร้อยเอก ทนิ พนั ธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคล่ือนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) นำคณะสมาชิก สนช. สปท. และคณะผู้บริหารของสำนักงาน เลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร สำนกั งานเลขาธกิ ารวุฒิสภา รอรับผู้แทนพระองค์190 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธิปไตย
โอกาสน้ี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เยี่ยมชมนิทรรศการภายในรัฐสภา ซ่ึงแบ่งออกเป็นสองส่วน ประกอบด้วย“นิทรรศการ ๗๐ ปี ครองราชย์ พระภูวนาถประชาธิปไตย” ซ่ึงนำเสนอพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเก่ียวกับรัฐสภา อาทิ รัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา การพระราชทานรัฐธรรมนูญ รวมถึงภาพถ่าย วีดิทัศน์เอกสาร และสิ่งของจัดแสดงท่ีหลายคนอาจไม่เคยมีโอกาสรับทราบหรือพบเห็นมาก่อน แสดงถึงบทบาทสำคัญของพระองค์ในระบอบประชาธิปไตยในระบบรฐั สภา อนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ และสะทอ้ นถงึ ความเปน็ ศูนยร์ วมใจของชาวไทยมาตลอดระยะเวลาอนั ยาวนานทท่ี รงครองราชย์ ขณะทน่ี ทิ รรศการสว่ นทส่ี อง คอื “นทิ รรศการ ๗ รอบ พระชนมพรรษา มหาราชนิ ีรัฐสภาถวายสดุดี คู่พระบารมีศรีแผ่นดิน” เป็นการแสดงถึงพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจท่ีเกี่ยวกับรัฐสภาในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทรงเป็นคู่พระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเสริมความเขม้ แข็งของระบอบประชาธปิ ไตย ด้วยการพัฒนาทุกคนให้เปน็ พลเมอื งที่ดีของชาต ิ นิทรรศการดังกล่าวเปิดให้ประชาชนท่ัวไปเข้าชมตลอดท้ังปี ๒๕๕๙ เพ่ือแสดงถึงความจงรักภักดี และความผูกพันระหวา่ งสถาบันพระมหากษัตรยิ ก์ บั รัฐสภา 191๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริย์ประชาธปิ ไตย
กษตั ราประชาธปิ ไตย
กษตั ราประชาธปิ ไตย พระบรมเดชานุภาพของพระมหากษตั ริย์ไทย ประวัติศาสตร์อันยาวนานของชาติไทยไม่เคยว่างเว้นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชบัลลังก์เพ่ือทรงนำพาประเทศ ให้ผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤติ และทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงในยามสงบ ทรงเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง นับเนื่องจากอดีตสู่ปัจจุบัน พระมหากษัตริย์จึงเป็นสถาบันทางสังคมท่ีเคียงคู่และผูกพันกับเหล่าพสกนิกรอย่างกลมกลืน เหล่าพสกนิกรต่างได้รับพระมหากรุณาธิคุณที่มีพระมหากษัตริย์เป็นที่พ่ึง พระมหากษัตริย์ไทยทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ นานัปการเพ่ือให้พสกนิกรอยู่เย็นเป็นสุข สถาบันพระมหากษัตริย์จึงหมายถึงสถาบันสูงสุด โดยทรงเป็นพระประมุขของชาติ ทรงเป็นศูนย์รวมแห่งความจงรักภักดี ทรงเป็นท่ียึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทยท้ังชาติ ทรงไว้ซึ่งคุณธรรมอันประเสริฐ และทรงเปน็ ที่เคารพรกั เทิดทนู อย่างสูงย่งิ ของประชาชนไทยทั้งประเทศ พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุขแห่งรัฐที่เสด็จข้ึนเถลิงถวัลยราชสมบัติโดยการสืบราชสันตติวงศ์ตามกฎหมาย หรือธรรมเนียมราชประเพณีของแต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทยเป็นไปตามกฎมณเฑียรบาล พระพุทธศักราช ๒๔๖๗ แต่ละประเทศอาจเรียกประมุขแห่งรัฐแตกต่างกันตามรูปแบบการปกครองและตามพระราชสถานะ เช่น อังกฤษ เบลเยี่ยม และไทย เรียกวา่ “พระมหากษัตรยิ ์” ขณะท่ีประเทศญี่ป่นุ เรียกว่า “พระจักรพรรดิ” หรอื ราชรัฐโมนาโก เรียกวา่ “เจา้ ชาย” หรือกลุ่มประเทศท่ีนับถือศาสนาอิสลามเรียกว่า “สุลต่าน” เป็นต้น ในเชิงนามธรรมท่ีได้รับอิทธิพลจากภาษาสันสกฤต พระมหากษัตริย์ หมายถึง พระผู้ซึ่งดูแลพื้นที่ทำการเกษตรหรือผู้ครอบครองผืนดินทั้งมวลที่ปกครองคนในสังคมให้อยู่ร่วมกัน อยา่ งสงบสุข ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ปกครองมาแต่โบราณกาล นับแต่แรกสร้างบ้านแปงเมืองสถาปนากรุงสุโขทัยเป็น ราชธานี พระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ผูน้ ำชาติท้ังในยามศกึ สงครามและยามสงบ ทรงปกป้องค้มุ ครองภยนั ตรายแก่ประชาชน และ ทรงเป็นผู้รวมชาติไทยให้เป็นปึกแผ่นมาโดยตลอด แม้จะทรงมีพระราชอำนาจอย่างล้นพ้น แต่ก็ทรงใช้เพื่อประโยชน์สุขของ ทวยราษฎร์และความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติอย่างแท้จริง นอกจากน้ันพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ยังทรงบำเพ็ญ พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาประชาราษฎร์ ซึ่งการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจดังกล่าวน้ีต้องทรง ตรากตรำพระวรกายเป็นอย่างมาก แต่ก็มิได้ทรงย่อท้อต่อความยากลำบาก และมิได้ทรงเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด จึงกล่าวได้ว่าพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างในการสร้างความเจริญก้าวหน้าและความมั่นคงมา สู่ประเทศชาติเสมอมาอย่างแท้จริง นับว่าพระมหากษัตริย์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันหาท่ีสุดมิได้ สถาบันพระมหากษัตริย์ จงึ มีความสำคัญอยา่ งยง่ิ ตอ่ สงั คมไทย ทำใหส้ งั คมไทยมีความเป็นเอกลกั ษณ์ของตนเองและแตกตา่ งจากสังคมอ่นื แม้ว่าการเปล่ียนแปลงการปกครอง เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ ทำให้พระราชอำนาจและพระราชสถานะของ พระมหากษัตริย์เปล่ียนไป ด่ังจะเห็นได้จากพระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามช่ัวคราว พุทธศักราช ๒๔๗๕ มาตรา ๑ บัญญัติให้ “อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรท้ังหลาย” พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ท่ี เปลย่ี นแปลงไป ปรากฏชดั เจนในรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รสยาม พทุ ธศกั ราช ๒๔๗๕ มาตรา ๒ บญั ญตั วิ า่ “อำนาจอธปิ ไตย ย่อมมาจากปวงชนชาวสยาม พระมหากษตั รยิ ผ์ ้ทู รงเปน็ ประมขุ ทรงใช้อำนาจนัน้ แตโ่ ดยบทบญั ญตั ิแห่งรัฐธรรมนูญนี้”194 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ป์ ระชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม พระราชสถานะของพระมหากษัตริย์ได้ถูกรัฐธรรมนูญทุกฉบับบัญญัติว่า “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยใู่ นฐานะอนั เปน็ ทเ่ี คารพสกั การะ ผใู้ ดจะละเมดิ มไิ ด”้ การทบ่ี ญั ญตั ไิ วเ้ ชน่ นแ้ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ สถานะของพระมหากษตั รยิ ์ว่าทรงดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดของประเทศ และเป็นท่ีเคารพสักการะของประชาชนเสมอมา ผู้ใดจะทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยคุ ลบาทมไิ ด้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ พระราชอำนาจของพระมหากษัตริยน์ น้ั ทรงเป็นลน้ พ้น และแสดงให้เห็นเป็น ๒ นยั คอื นยั แรก ตามบทบัญญัติแหง่ กฎหมาย นัยที่สอง ตามจารีตประเพณีการปกครองที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน เช่น พระราชอำนาจท่ีจะทรงพิจารณาฎีกาที่ประชาชนผู้เดือดร้อนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย และท่ีสำคัญโดยเฉพาะในภาวะวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่สถาบันทางการเมืองอ่อนแอ หรือขาดความชอบธรรมทางการปกครองพระราชอำนาจตามนัยนี้ ได้แผ่พระบรมเดชานุภาพ ทรงเป็นศูนย์กลางในการปัดเป่าบรรเทาเหตุ ยงั ความสงบสนั ตกิ ลบั คนื ดังเชน่ เหตกุ ารณจ์ ลาจลเมอ่ื เดอื นตุลาคม ๒๕๑๖ และ ๒๕๑๙เหตกุ ารณ์ความไมส่ งบเมอ่ื เดอื นพฤษภาคม ๒๕๓๕พระราชอำนาจในฐานะประมุขแห่งรัฐ รฐั ธรรมนญู ได้บญั ญัติไว้เป็นนัยเดียวกันทกุ ฉบับเพือ่ เปน็ การรับรองพระราชสถานะของพระมหากษัตริย์ ไดแ้ ก่ - พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหา หรือฟ้องร้องพระมหากษตั ริย์ในทางใด ๆ มิได้ - พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพทุ ธมามกะและทรงเปน็ อัครศาสนปู ถมั ภก - พระมหากษตั ริยท์ รงใชอ้ ำนาจอธปิ ไตยทางรัฐสภา คณะรฐั มนตรแี ละศาล ตามบทบญั ญัตแิ ห่งรัฐธรรมนูญ - พระมหากษัตริย์ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๔๙๒บัญญตั ิเพิม่ เตมิ ว่า “ทรงเปน็ ผูบ้ งั คบั บญั ชาสงู สดุ ของทหารท้ังปวง” ส่วนการใช้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในฐานะทรงเป็นประมุขของประเทศนั้น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้กำหนดหลักการสำคัญไว้คล้ายคลึงกันว่า “อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผทู้ รงเป็นประมขุ ทรงใชอ้ ำนาจนนั้ ทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรีและศาล ตามบทบัญญตั ิแห่งรฐั ธรรมนูญนี้” พระมหากษัตริย์ไม่ต้องรับผิดชอบในพระบรมราชโองการหรือการกระทำในพระปรมาภิไธยของพระองค์ในกรณีที่มีความเสียหายหรือบกพร่องเกิดข้ึน ผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการจะต้องรับผิดชอบ เพราะในทางปฏิบัตินั้นพระมหากษัตริย์มิได้ทรงริเร่ิมหรือดำเนินข้อราชการการต่าง ๆ ด้วยพระองค์เอง จะต้องมีเจ้าหน้าที่หรือองค์กรหน่ึงองค์กรใดเป็นฝ่ายดำเนินการและกราบทูลขึ้นมา และเม่ือทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วผู้รับสนองพระบรมราชโองการจะต้องเป็นผู้รับไปปฏิบัติและรับผิดชอบเอง จะไปละเมิดกล่าวโทษพระมหากษัตริย์มิได้ เช่น พระมหากษัตริย์ทรงมีพระบรมราชโองการแต่งต้ังนายกรัฐมนตรี หากนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้งน้ันบริหารประเทศให้ประชาชนไม่ได้รับความสุข ถ้าวิพากษ์วิจารณ์การแต่งต้ังก็ต้องมุ่งไปท่ีรัฐสภา ที่ให้ความเห็นชอบในการต้ังนายกรัฐมนตรีผู้นั้น เพราะเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีท่ีแทจ้ ริง หาใชอ่ งค์พระมหากษัตรยิ ์ไม่ 195๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตริยป์ ระชาธปิ ไตย
พระมหากษตั ริย์ในฐานะทรงเป็นประมขุ แห่งรัฐ ทรงมีพระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ดงั นี้ ทรงใช้พระราชอำนาจทางฝ่ายนิตบิ ัญญตั ิ ดังนี้ ๑. ทรงเรียกประชุมรฐั สภา ทรงเปิดและทรงปิดประชุมรัฐสภา ๒. ทรงแต่งตั้งสมาชกิ วฒุ สิ ภา ๓. ทรงแตง่ ตง้ั ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร และรองประธานสภาผแู้ ทนราษฎร ประธานวฒุ สิ ภาและรองประธานวฒุ สิ ภา ๔. ทรงแต่งตัง้ ผนู้ ำฝา่ ยค้านในสภาผูแ้ ทนราษฎร ๕. ทรงลงพระปรมาภิไธยในร่างกฎหมาย ๖. ทรงยบั ยง้ั ร่างกฎหมาย ๗. การยบุ สภาผู้แทนราษฎร ทรงใชพ้ ระราชอำนาจทางฝา่ ยบริหาร ดังนี้ ๑. ทรงแต่งตั้งนายกรฐั มนตรีและรัฐมนตรี ๒. ทรงตราพระราชกำหนด ๓. ทรงตราพระราชกฤษฎกี า ๔. การประกาศใช้และเลกิ ใช้กฎอัยการศึก ๕. การประกาศสงคราม ๖. พระราชอำนาจในดา้ นการต่างประเทศ ๗. การพระราชทานอภยั โทษ ๘. ทรงแตง่ ต้งั และให้ข้าราชการฝ่ายทหารและพลเรือนตำแหนง่ ปลัดกระทรวง อธบิ ดแี ละเทียบเท่าพน้ จากตำแหนง่ ทรงใช้อำนาจทางฝา่ ยตลุ าการ ดงั นี้ ๑. พระราชอำนาจในการพิพากษาคดี ๒. ทรงแตง่ ตั้งและให้ผู้พิพากษาและตลุ าการพน้ จากตำแหนง่ ๓. ทรงแตง่ ตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและประธานศาลรัฐธรรมนญู ทรงใชพ้ ระราชอำนาจทางองคก์ รอ่นื ดังนี้ ๑. ทรงแตง่ ตัง้ คณะกรรมการการเลอื กตัง้ ๒. ทรงแต่งต้งั ผูต้ รวจการแผน่ ดนิ ๓. ทรงแต่งต้ังคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ ๔. ทรงแตง่ ตัง้ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผ้วู ่าการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ๕. ทรงแตง่ ตง้ั คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหง่ ชาติ196 ๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษตั รยิ ป์ ระชาธปิ ไตย
197๗๐ ปี ครองราชย์ มหากษัตรยิ ์ประชาธปิ ไตย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260