ภาษาไทยหลักภาษาและการใช้ภาษา

การอา่ นตคี วาม

แนวทางการอา่ น ๑๒๓ ๔๕ อ่านอยา่ งครา่ วๆ อ่านอย่างละเอยี ด วิเคราะห์ถ้อยคา พจิ ารณาน้าเสียง สรปุ สิ่งทีไ่ ด้จากการอ่าน สารวจชนิดของงานเขียน ใจความสาคญั ทกี่ ล่าวถึง อาจมคี วามหมายเฉพาะ เจตนาของการสอ่ื สาร ตีความข้อความท้ังหมด เชน่ สารคดี เรื่องสัน้ เนอื้ หาเป็นขอ้ เทจ็ จรงิ เช่น โวหาร ภาพพจน์ เชน่ สง่ั สอน ประชด เพ่ือใหเ้ กดิ ความเข้าใจ บทความ นวนยิ าย ขอ้ คดิ เห็น หรอื อารมณ์ หรอื มีความหมายโดยนัย ส่งิ ทผี่ ู้เขยี นตอ้ งการจะสอื่ ยินดี เสยี ใจ ความรูส้ ึก อยา่ งชดั เจน

ประเภทของการอา่ น การอา่ นตคี วามบทร้อยกรอง การอา่ นตคี วามบทรอ้ ยแกว้ เป็นการสือ่ สารผา่ นรูปแบบคาประพนั ธ์ เป็นความเรยี ง มกั พบในชวี ิตประจาวัน ทีใ่ ช้คานอ้ ย กินความมาก การตีความ เชน่ คาพดู ขา่ วสาร สารคดี บันเทิงคดี จงึ มีความซบั ซ้อนย่ิงข้ึน สง่ิ ท่ีควรคานึงถึงคือ ซง่ึ ส่วนมากสอื่ สารแบบตรงไปตรงมา ส่งิ ทค่ี วรคานึงถึงคอื ความหมายโดยนยั (ภาพพจน์) การตีความหมายของคาตามบรบิ ท จุดประสงคส์ าคัญของการแต่ง การใชค้ าท่แี สดงนา้ เสียงของผู้สอื่ สาร

การอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความเห็น

แนวทางการอ่าน วจิ ารณ์ อ่านอย่างละเอียด แสดงความคิดเห็นตอ่ เร่อื งทอี่ า่ น ท้งั ดา้ นดแี ละไม่ดี มี ๒ ขั้นตอนย่อยคอื เพือ่ เขา้ ใจองคป์ ระกอบของเน้อื หา และสรุปใจความสาคัญ ๑. อธิบายลกั ษณะงานเขยี น ของเร่อื งที่อา่ น ๒. วินจิ ฉยั ประเมนิ ค่า วเิ คราะหส์ าร แยกแยะส่วนประกอบต่าง ๆ ของเรอ่ื ง เชน่ ข่าวสาร แยกข้อเท็จจริง ขอ้ คิดเหน็ ถ้าเปน็ บันเทงิ คดี แยกแกน่ เรอ่ื ง โครงเร่อื ง ตวั ละคร

ข้ันตอนในการฝึกฝน เลา่ เรอื่ ง บอกบรบิ ททเี่ ก่ียวขอ้ ง ประเมินคณุ ค่า บอกเก่ียวกบั เรอ่ื ง อธบิ ายภูมหิ ลัง ทม่ี า แสดงออกทางความคดิ หรอื เน้ือเร่อื งโดยสงั เขป ประวัติผ้เู ขียน หรือขอ้ มูล วา่ เหน็ ด้วย หรือโต้แย้ง ประกอบอน่ื ๆ ที่จะชว่ ย พรอ้ มเหตุผล เพ่ือสนบั สนุน เสรมิ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ความคดิ โดยปราศจากอคติ บอกประเภทและจดุ มงุ่ หมาย เรื่องทีอ่ ่านมากยง่ิ ขึน้ และยึดหลักการท่ีถกู ต้อง วิเคราะหเ์ นอื้ หาดา้ นต่าง ๆ ในการวิจารณ์ อธิบายเพื่อให้มองเห็นลกั ษณะเดน่ และ วเิ คราะห์ดา้ นต่าง ๆ ท่ีเปน็ จดุ สาคญั ของเร่ือง แนวคดิ ในการแต่ง เช่น โครงเรอื่ ง แกน่ เร่อื ง ตัวละคร ฉาก มุมมอง และอน่ื ๆ

การอ่านประเมนิ คุณคา่

การอา่ นประเมินคณุ คา่ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ ประเมิน คุณคา่ องค์ประกอบเนื้อหา คุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ คุณค่าดา้ นแนวคิด เขา้ ใจองคป์ ระกอบของเนอ้ื หา มองเห็นความงามของภาษาทใี่ ช้ มองเหน็ คุณค่าทางความคดิ มองแยกสว่ นและมองหา การสื่อให้เห็นภาพ รับรู้อารมณ์ ทส่ี ามารถตอ่ ยอดนาไปปรบั ใช้ ความสัมพนั ธไ์ ด้ ความรสู้ ึก การโน้มน้าวให้เกิด กับชวี ิตจริง สร้างความเพลดิ เพลนิ หรอื ส่งเสรมิ ให้เกิดสติปัญญา ความคลอ้ ยตาม

ตวั อย่างการอ่านวินจิ สาร ชม⦾โฉมพระเพง่ พินิจมะลิดตกั ประไพพักตรเ์ พียงจนั ทร์มะลันถี ลองเรียงลาดบั แต่ละบทแล้วประเมนิ ดวู ่าบทกลอนนี้ อรชรอ้อนแอ้นมะแรนจี ใหค้ ุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์อยา่ งไร เลศิ ล้านารีมะลีทา ฤๅหน่ึงนางในมะไลจึก อรชรออ้ นแอ้นมะแรนจี ฤๅหนึ่งยกั ษข์ ินผี ไี พร พระไพรพฤกษ์พระไทรมะไลตา๋ แกลง้ จาแลงแปลงกายมะไลทา ฤๅหนึง่ นางในมะไลจึก มาคดิ ปองลองใจมะไลถม มาหลอกเล่นเห็นมามะลาตม ฤๅหนง่ึ ยกั ษ์ขินีผไี พร มาหลอกเล่นเห็นมามะลาตม แกล้งจาแลงแปลงกายมะไลทา มาคิดปองลองใจมะไลถม จึงทรงโฉมโสภามะลางม พระไพรพฤกษ์พระไทรมะไลต๋า เลศิ ล้านารมี ะลที า จาจะปลุกชวนชมข้ึนลมปู ฯ ๖ คา ฯ ทม่ี า : บทละครเรื่องพระมะเหลเถไถ โดย คณุ สวุ รรณ

ตัวอย่างการอา่ นวนิ จิ สาร ชมโฉม องคป์ ระกอบเนื้อหา ⦾ พระเพ่งพนิ ิจมะลิดตัก แตง่ ข้นึ เพอื่ ล้อกลอนบทละครเร่ืองอเิ หนา บทนเ้ี ปน็ บทชมความงามสตรี ประไพพกั ตร์เพยี งจันทร์มะลันถี อรชรอ้อนแอ้นมะแรนจี ใชค้ าเลยี นสาเนียงภาษาชวา เลิศลา้ นารมี ะลีทา ฤๅหน่งึ นางในมะไลจึก คุณค่าวรรณศลิ ป์ พระไพรพฤกษพ์ ระไทรมะไลต๋า โดยสว่ นใหญ่ 3 คาสุดท้ายของแตล่ ะวรรค (คาทเ่ี ปน็ ตวั หนังสือสีแดง) แกลง้ จาแลงแปลงกายมะไลทา มาหลอกเล่นเห็นมามะลาตม เปน็ คาทไี่ ม่มีความหมาย แต่เน้นจังหวะเพอ่ื ให้เกิดความสนุกสนาน ฤๅหนึ่งยักษ์ขินีผีไพร และเออ้ื คาสัมผสั ระหวา่ งวรรค (คาทีข่ ดี เส้นใต้ในวรรคถัดไป) มาคิดปองลองใจมะไลถม จงึ ทรงโฉมโสภามะลางม เพื่อใหย้ งั คงมฉี นั ทลักษณท์ ต่ี รงตามรูปแบบของกลอนบทละครทม่ี มี าแตเ่ ดมิ จาจะปลุกชวนชมขึ้นลมปู ฯ ๖ คา ฯ คุณค่าดา้ นแนวคดิ ที่มา : บทละครเรอ่ื งพระมะเหลเถไถ โดย คณุ สวุ รรณ คาประพนั ธป์ ระเภทลอ้ เลยี นเพอื่ ความบนั เทงิ ในอดตี แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์โดยใช้คาที่มีลูกเลน่ เช่นเดียวกบั ระเด่นรนั ได ทล่ี อ้ เลยี นวรรณคดอี ิเหนาเช่นกัน

การตีความ สรปุ บทเรยี น ประเมนิ คุณค่า • พิจารณาชนดิ ของงาน การอา่ นวินิจสาร องค์ประกอบเน้อื หา • จับใจความสาคญั - มองเป็นสว่ นๆ • แยกขอ้ เท็จจริง / ขอ้ คิดเหน็ การวิเคราะห์ วิจารณ์ - หาความสัมพนั ธ์ • พิจารณาถ้อยคา แสดงความคดิ เหน็ • พจิ ารณาน้าเสยี ง คณุ ค่าด้านวรรณศิลป์ • บอกเนอ้ื หาครา่ วๆ - ความงามทางภาษา • แนวคิดในการแต่ง - การสะท้อนความรสู้ ึก • ภมู ิหลังของเรื่อง / ผ้แู ตง่ • วิเคราะห์โครงเรื่อง / ตัวละคร / คณุ คา่ ด้านแนวคดิ - ให้แงค่ ิดทนี่ าไปปรบั ใชไ้ ด้ ฉาก / อน่ื ๆ - ส่งเสรมิ สตปิ ญั ญา • แสดงความเหน็ เห็นดว้ ย / โต้แยง้ + เหตุผล

๑หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ตอน ๒ การคดั ลายมือ การพฒั นาทกั ษะการเขยี น ตวั ชี้วดั • การคัดลายมือตวั บรรจงครึง่ บรรทัด ตามรปู แบบการเขียนตวั อักษรไทย

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ การคดั ลายมอื ความรพู้ น้ื ฐานเกยี่ วกบั การคัดลายมือ ข้อควรปฏิบัตใิ นการเขยี นคดั ลายมอื แนวทางการคัดลายมอื ตวั บรรจงครึ่งบรรทดั ตวั อย่างการคัดลายมอื รูปแบบตา่ ง ๆ ตัวอกั ษรแบบกระทรวงศกึ ษาธิการ ตวั อกั ษรแบบหัวเหล่ียมหรือแบบอาลักษณ์

ความร้พู ื้นฐานเกี่ยวกบั การคัดลายมอื

ขอ้ ควรปฏบิ ัติในการคัดลายมือ ๔ รูปแบบของตัวอกั ษร ๑ การนั่ง ควรเปน็ รปู แบบเดียวกนั ในแตล่ ะครั้งทเี่ ขียน คอื แบบกลมหรือแบบเหลีย่ ม นง่ั หันหน้าเข้าหาโต๊ะ วางกระดาษตรงหนา้ ผ้เู ขยี น ๕ ระยะห่างของตวั อักษร (ช่องไฟ) ๒ จับปากกาหรอื ดนิ สอ ต้องเว้นชอ่ งไฟใหเ้ ทา่ กันอยา่ งสมา่ เสมอ จะทาให้ลายมอื สวยงามและเปน็ ระเบียบ ใหถ้ ูกวิธีในขณะท่เี ขยี น อวยั วะทีเ่ ก่ยี วข้อง กบั การเขยี น คอื แขน มอื และนิ้วจะตอ้ ง ๖ การเว้นวรรค เคลือ่ นไหวสัมพนั ธ์กัน ต้องได้ขนาดทแี่ น่นอน เชน่ วรรคขนาด ๓ การเขยี นตัวอกั ษร ๒ ช่องตวั อักษร หรอื ๔ ช่องตัวอักษร ปฏบิ ตั ิเหมือนกนั ทกุ ตอน จะเรม่ิ ต้นทห่ี วั ตวั อกั ษร ซึง่ ต้องไม่บอด มขี นาดเดียวกนั ลากใหส้ มั ผัสเสน้ บรรทดั บนและล่าง เสน้ แนวตง้ั ควรขนานกัน และหางมคี วามยาวพองาม ไม่เล่นหาง

หลักการการคดั ลายมอื พยญั ชนะ ผ ฝหยัก พฟพ ครึ่งบรรทัด ผ ฝ หยกั สงู คร่งึ หน่งึ ของตัวอักษร พ ฟ ฬ หยกั สูงเท่ากับตวั อักษร ฐ ฎ ญฐานและตัวเชิง คร่ึงหนึง่ ของตัวอกั ษร ฟ สหาง ความยาวของหางไม่เกนิ ๓ ส่วนของบรรทดั เตม็

หลักการการคัดลายมือ สระ บนพยัญชนะ กิ กั กื วางไว้สว่ นที่ ๓ ของบรรทดั เตม็ ใต้พยญั ชนะ กุ กู วางไวส้ ่วนที่ ๑ ของบรรทดั ถัดไป า เ ไ โความสูง ความสูงไมเ่ กิน ๓ สว่ นของบรรทดั เต็ม ฤ ฦหาง ยาวครง่ึ หนึ่งของตวั สระ

หลักการการคัดลายมือ วรรณยุกต์ ก่ ก้ ก๊ ก๋บนพยญั ชนะ วางไว้ส่วนที่ ๓ ของบรรทดั วางไวส้ ่วนท่ี ๔ ของบรรทัด บนสระ ก่ิ กิ้ ก๊ิ ก๋ิ

ตวั อยา่ งการคดั ลายมอื รปู แบบตา่ ง ๆ

ตัวอกั ษรแบบกระทรวงศึกษาธกิ าร สระ พยัญชนะ วรรณยุกต์ รูปแบบเลขไทย

ตัวอักษรแบบหัวเหลี่ยมหรือแบบอาลกั ษณ์ สระ พยญั ชนะ วรรณยกุ ต์ รปู แบบเลขไทย

สรปุ บทเรียน พยญั ชนะ สระ แบบอาลกั ษณ์ • ผ ฝ หยกั สูงครงึ่ หนึ่ง • บนพยัญชนะ วางไวส้ ว่ นที่ ๓ ของบรรทัดเต็ม • หัวและอกั ษรเป็นตัวเหลยี่ ม ของตัวอักษร • ใต้พยัญชนะ วางไว้ส่วนที่ ๑ ของบรรทดั ถัดไป • หางสระ ยาวครง่ึ หนงึ่ ของตัวสระ แบบกระทรวงศึกษาธกิ าร • พ ฟ ฬ หยกั สงู เท่ากับตัวอักษร • โ ใ ไ ความสูงไม่เกิน ๓ ส่วนของบรรทัดของบรรทัดเตม็ • ฎ ฏ ฐ ญ ฐานและตวั เชงิ ขนาดคร่ึงหนง่ึ ของตวั อกั ษร • หัวกลมและเสน้ ตัวอักษรโคง้ มน • ป ฝ ฟ ความยาวของหางไม่เกนิ ๓ ส่วนของบรรทัดเต็ม รปู แบบตวั อักษร • จัดทา่ ทางการน่ัง หลกั การคดั ลายมือ วรรณยกุ ต์ • จบั อุปกรณก์ ารเขยี น คร่ึงบรรทดั • เขยี นตวั อักษรใหถ้ ูกอักขรวธิ ี • บนพยญั ชนะ วางไว้ ความรพู้ น้ื ฐาน ส่วนท่ี ๓ ของบรรทดั เต็ม ข้อควรปฏิบตั ิ เกีย่ วกบั การคัดลายมือ ในการคดั ลายมอื • ใตพ้ ยัญชนะ วางไว้ ส่วนที่ ๔ ของบรรทัดเต็ม การคดั ลายมือ ลายมอื มคี วามสาคัญในการเขียนตดิ ตอ่ สอ่ื สาร ผู้ท่ีมลี ายมอื ที่สวยงาม อ่านง่าย และเขยี นได้ถกู ต้อง จะทาให้งานเขียน มีความนา่ สนใจ ผู้รับสารสามารถเข้าใจตามทีผ่ เู้ ขยี นตอ้ งการไดถ้ ูกต้อง การฝกึ ฝนคัดลายมือจะชว่ ยให้ลายมอื มีการพัฒนามากยง่ิ ข้นึ

๒หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ตอน ๒ การเขียนเพื่อการสื่อสาร ๑ การพัฒนาทกั ษะการเขยี น ตัวชีว้ ัด • เขียนขอ้ ความโดยใช้ถอ้ ยคาไดถ้ ูกตอ้ งตามระดับภาษา • เขียนชีวประวตั ิหรืออัตชีวประวตั ิโดยเล่าเหตกุ ารณ์ข้อคิดเหน็ และทศั นคติในเรือ่ งต่าง ๆ • เขยี นย่อความ • เขียนจดหมายกิจธรุ ะ • กรอกแบบสมคั รงานพรอ้ มเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ความรู้และทกั ษะของตนเองท่เี หมาะสม • มีมารยาทในการเขยี น

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ การเขียนเพ่อื การสือ่ สาร ๑ ความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับการเขยี น การเขียนยอ่ ความ หลักการใชภ้ าษาในการเขยี น โครงสรา้ งของย่อความ มารยาทในการเขยี น แนวทางการเขยี นยอ่ ความ การเขยี นตามโอกาสตา่ ง ๆ การเขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ การเขียนอวยพร องคป์ ระกอบ การเขยี นคาขวญั หลักการเขยี นจดหมายกจิ ธุระ การเขยี นคาคม การเขียนโฆษณา การกรอกแบบสมคั รงาน การเขียนสุนทรพจน์ แนวทางการกรอกแบบสมคั รงาน การเขียนชวี ประวตั ิและอัตชีวประวตั ิ ประเภทของแบบรายการ ประเภทของสารคดีชวี ประวัติ แนวทางการเขียนชีวประวัติและอตั ชวี ประวตั ิ

ความรู้พ้นื ฐานเก่ยี วกบั การเขยี น

หลกั การใช้ภาษาในการเขียน ระดับภาษา เหมาะสมและอยใู่ นระดับเดียวกนั เช่น พ่อกบั แม่ไปโรงหนงั บดิ าและมารดาไปโรงภาพยนตร์ การใชค้ า สละสลวย ไมก่ ากวม ถกู ตอ้ งตามความหมายและหน้าที่ สะกดคาถูกต้องตามหลกั โครงสรา้ งของคา เว้นวรรคถูกตอ้ ง ไม่ฉีกคา การใชป้ ระโยค เรียบเรียงตามหลักไวยากรณ์

มารยาทในการเขยี น กอ่ นเขยี น เลือกใช้สีกระดาษและสีของหมึกใหเ้ หมาะสม ไม่เขยี นเรอ่ื งละเอียดออ่ น เชน่ ชาติ ศาสนา ความเชอ่ื ค้นคว้าข้อมูลอย่างเพียงพอ ขณะเขยี น เขียนด้วยลายมือตวั บรรจง อ่านง่าย หากเขยี นผดิ ควรลบให้สะอาด ไม่มีอคติ ไมใ่ ช้อารมณ์ ไม่คดั ลอกบทความของผอู้ ืน่ หากจาเป็น จะตอ้ งอา้ งอิงแหล่งที่มา

การเขียนตามโอกาสตา่ ง ๆ

การเขียนอวยพร แนวทางการเขยี น เขียนถึงโอกาส ใชถ้ อ้ ยคาให้ ในการอวยพร เหมาะสมกบั ระดับ บุคคลและโอกาส ใชถ้ ้อยคาทีไ่ พเราะ ถ้าอวยพรใหก้ ับ สุภาพ เเละความหมายดี ผ้อู าวุโสกว่า ควรอา้ งสิ่งศกั ดิส์ ิทธ์ เกิดความประทับใจ

การเขียนอวยพร คาอวยพรเฉพาะโอกาส คาอวยพรทว่ั ไป วันเกดิ ของเธอในปนี ี้ ขอใหส้ ขุ ี สุขภาพดี ปราศจากโรคภยั ขอให้สง่ิ ศกั ด์ิสทิ ธ์ิทั้งหลาย ปกปอ้ งคุ้มครองพ่ี ต้น เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัยคะ่

การเขียนคาขวญั แนวทางการเขยี น กาหนดจุดมุง่ หมาย เขยี นร่างข้อความ ปรบั เปล่ียนถอ้ ยคา ใชถ้ อ้ ยคาสนั้ กะทัดรดั และกล่มุ เปา้ หมาย ในลกั ษณะร้อยแก้ว ให้มีลักษณะ มีความหมายลึกซ้ึง โดยเนื้อหามุง่ ตกั เตอื น สัมผสั คลอ้ งจอง ตอ้ งการใหท้ ุกคน ยาเสพติดสง่ ผลกระทบ ยาเสพติด เปน็ ภยั ตอ่ ชีวิต เปน็ พิษต่อสงั คม ห่างไกลจากยาเสพตดิ ในหลายดา้ น ทาลายทั้ง สุขภาพอนาคตของตนเอง และยงั เป็นภยั ตอ่ สงั คมดว้ ย

การเขียนคาคม แนวทางการเขยี น กาหนดจุดมุ่งหมาย เนอ้ื หาให้แง่คดิ ใช้ถอ้ ยคาสัน้ กะทดั รัด และกลุ่มเปา้ หมาย และอยากปฏิบตั ิตาม มคี วามหมายลกึ ซึง้

การเขียนคาคม คาคมท่เี ป็นคาพูดธรรมดา คาคมทีเ่ ป็นคาสัมผัสคลอ้ งจอง คาคมทเี่ ปน็ บทประพนั ธ์ จงเชอ่ื มัน่ วา่ จงเติบโตจากความผดิ พลาด “เราทาได้ดีกวา่ นี้” จงเฉลยี วฉลาดจากความผดิ หวงั สอนพวกสตั ว์ขัดใจไรป้ ระโยชน์ สอนคนโฉดด้อื เห็นไมเ่ ป็นผล สอนบัณฑิตผิดหมายจะอายคน สอนใจตนนัน่ แหละเลิศประเสริฐเอย ชาญ สิโรรส

การเขียนโฆษณา แนวทางการเขยี น กาหนดจดุ มุง่ หมาย เนื้อหาบ่งบอก ใชถ้ อ้ ยคากะทดั รัด ไม่ใชศ้ ัพทว์ ิชาการ และกลุม่ เป้าหมาย ถึงสินค้าและบริการ ชดั เจน เขา้ ใจง่าย หรอื ศพั ทเ์ ทคนิค ตามความเป็นจริง และดงึ ดดู ความสนใจ เกินความจาเป็น

การเขียนโฆษณา ซอ้ื ผกั ปลอดสารพิษวันนี้ เพยี ง ๑ ถุง รบั ฟรถี ุงผา้ มลู คา่ ๒๐๐ บาททนั ที ผักปลอดสารพษิ ปลูกในโรงเรอื นแบบปิด ไมใ่ ช้สารเคมีทกุ ชนิด สด กรอบ สะอาด ปลอดภัย ๑๐๐% *จาหน่ายระหว่างวนั ที่ ๑๗ มี.ค.-๓๑ มี.ค. หรอื จนกว่าสินคา้ หมด

การเขียนสนุ ทรพจน์ แนวทางการเขยี น กาหนดจุดมุ่งหมาย วางโครงเรอ่ื ง ค้นควา้ ข้อมลู เนื้อหาตอ้ ง ใช้ภาษาทางการ ประกอบดว้ ย และสละสลวย คานา เน้อื หา สรุป

การเขยี นสุนทรพจน์ สนุ ทรพจนจ์ รรโลงใจ มเี นอ้ื หาให้ขอ้ คดิ คตชิ วี ติ แก่ผู้ฟงั หรือผู้อา่ น ทาใหผ้ ฟู้ งั หรอื ผู้อ่านมสี ติปญั ญา ช่วยยกระดบั จติ ใจ และประพฤตติ นในทางที่ดี สุนทรพจน์กระตุ้นความรสู้ กึ และความคิด มีเนือ้ หากระตนุ้ ใหผ้ ้ฟู งั หรือผู้อา่ นเห็นคณุ คา่ ความสาคญั และมีจติ สานึกทดี่ ตี อ่ ส่ิงนั้น ๆ

การเขยี นชวี ประวตั ิและอตั ชีวประวตั ิ

ประเภทชีวประวตั ิและอัตชวี ประวัติ ชวี ประวัติ แบบจาลองลักษณ์ มงุ่ อธบิ ายรปู ร่าง บคุ ลิกลกั ษณะ นสิ ัยของเจ้าของชีวประวัติ แบบสดุดี มุ่งสรรเสริญบคุ คล แบบรอบวง ม่งุ ใหเ้ หน็ ความสาคัญเฉพาะด้านใดด้านหนงึ่ แบบประเมินคา่ มุ่งเสนอเสน้ ทางสคู่ วามสาเร็จ และมแี นวโนม้ ในอนาคตเปน็ อย่างไร อตั ชีวประวัติ เขยี นเก่ียวกบั ตนเอง

ประเภทชีวประวัติและอตั ชวี ประวตั ิ ชายชาวองั กฤษคนนีท้ ว่ั โลกรจู้ กั ประวัติของเขาเป็นอยา่ งดี เขาเปน็ นักวทิ ยาศาสตร์เอกของโลก ทม่ี คี วามเชย่ี วชาญหลายด้าน ไม่วา่ จะเปน็ ฟิสิกส์ คณติ ศาสตร์ ดาราศาสตร์ และปรัชญา นอกจากนี้ เขายังเปน็ ผสู้ รา้ งผลงานทีโ่ ดดเด่นมากทีส่ ดุ คือคน้ พบแรงโน้มถว่ งของโลก ชายชาวเยอรมันทส่ี ูญเสยี การไดย้ ิน เพราะมีอาการเกีย่ วกับประสาทหู ถึงขนั้ ดับสนิท แต่เขา เปย่ี มไปด้วยพรสวรรค์ท่ีเปน็ อจั ฉรยิ ะทางด้านดนตรี เขามีแนวดนตรที ีแ่ ตกต่างจากแนวดนตรที ่วั ไป ในสมยั นน้ั คือแนวดนตรคี ลาสสกิ คิดวา่ เปน็ ชวี ประวัติของบคุ คลสาคญั ทา่ นใดบา้ ง

แนวทางการเขียนชวี ประวตั ิและอัตชวี ประวตั ิ เลือกบคุ คลทีน่ า่ สนใจ เขยี นดว้ ยใจเป็นกลาง มอี ยจู่ ริง ไมใ่ ชเ่ รื่องสมมุติ ศกึ ษาคน้ ควา้ เรือ่ งราว ใชถ้ อ้ ยคาสละสลวย ที่ต้องการนาเสนอเกยี่ วกบั บุคคลทเี่ ลอื ก เช่น ประวัติส่วนตวั ประวัติการศกึ ษา งานอดเิ รก ผลงานสาคัญ

การเขยี นยอ่ ความ

โครงสร้างของยอ่ ความ การยอ่ ร้อยแกว้ ประกอบดว้ ย ประเภท ชอื่ เร่ือง ชื่อผูแ้ ต่ง ที่มา เลขหนา้ เนอื้ หา การย่อประกาศ คาสงั่ กาหนดการ ฯลฯ ประกอบด้วย ประเภท ชอ่ื เรอื่ ง ชอื่ ผอู้ อก วันเดือนปีทอี่ อก เน้อื หา การย่อจดหมายทั่วไป ประกอบดว้ ย ประเภท ช่อื ผสู้ ่งเร่ือง ชือ่ ผู้รับ ชื่อเรอ่ื ง วันเดอื นปีทล่ี ง เนือ้ หา การย่อหนงั สือราชการ ประกอบดว้ ย ประเภท ชอ่ื ผ้สู ่ง/สว่ นราชการเจ้าของหนงั สือ ช่อื ผู้รบั ชอื่ เร่ือง เลขท่วี นั เดือนปที ี่ลง เน้อื หา การยอ่ พระราชดารสั โอวาท ปาฐกถา ประกอบด้วย ประเภท ชื่อผู้พดู ชื่อผูฟ้ งั ชอ่ื เรอื่ ง โอกาสใด สถานที่ วนั เดือนปที ่พี ดู เน้ือหา ตวั อยา่ งรูปแบบมาตรฐาน ย่อ…….เร่อื ง …………..ของ.............จาก…………… หนา้ ………..ความวา่ …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………..

แนวทางการเขยี นย่อความ อ่านเรอ่ื งทีจ่ ะย่อ จบั ใจความสาคญั หากเปน็ ร้อยกรอง ตัง้ แต่ตน้ จนจบ แต่ละย่อหนา้ ต้องถอดคาประพันธ์ นาใจความสาคญั หากมีการกล่าวถึงบคุ คล แต่ละย่อหน้ามาเรยี บเรียงใหม่ ให้ใช้บุรุษสรรพนามที่ ๓ ดว้ ยสานวนภาษาของตนเอง หรือช่ือบุคคลน้นั ๆ

แนวทางการเขยี นยอ่ ความ ย่อ…….ของ …………..ถงึ .............เรื่อง…………… เลขท่ี………..ลงวันที่………..ความวา่ โรงเรียนเอเอจะจดั โครงการ “รณรงคร์ ักษ์สิง่ แวดลอ้ ม” จงึ ขอเรียนเชญิ คณุ ไตรรตั น์ ผาสุกมาเป็นวทิ ยากร ในวันที่ ๓๐ มนี าคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. ณ โรงแรมบี

การเขียนจดหมายกิจธรุ ะ

องคป์ ระกอบจดหมายกจิ ธรุ ะ สัญลักษณ์องคก์ ร(ถา้ ม)ี ชอ่ื และที่อยูอ่ งคก์ ร จดหมายท่ีออกโดยองคก์ ร วัน/เดือน/ปพี .ศ. ชอ่ื เร่อื ง เลขท่ีออกจดหมาย ช่อื หรือตาแหนง่ ผู้รับ สิ่งที่สง่ มาด้วย (มีหรือไม่มีกไ็ ด)้ ช่ือแผนกท่อี อกจดหมาย และข้อมลู ตดิ ต่อกลบั เน้ือหา คาลงทา้ ย ลงชื่อผูบ้ ังคับบัญชาสงู สดุ ในแผนก/องค์กร

องคป์ ระกอบจดหมายกิจธรุ ะ ท่ีอยูผ่ อู้ อกจดหมาย วนั /เดือน/ปพี .ศ. จดหมายที่ออกโดยบุคคลทั่วไป ชื่อเรอ่ื ง ชอื่ หรอื ตาแหนง่ ผู้รับ ข้อมูลตดิ ต่อกลบั สิ่งท่ีสง่ มาดว้ ย (มหี รือไม่มีก็ได้) ของผูอ้ อกจดหมาย เนอื้ หา คาลงทา้ ย ลงชอ่ื ผเู้ ขียน

หลักการเขียนจดหมายกิจธรุ ะ สิ่งท่ีสง่ มาด้วย (ถ้ามี) ควรระบจุ านวนดว้ ย จดหมายทอ่ี อกโดยองคก์ ร เนอื้ หา มี ๓ ยอ่ หน้า ได้แก่ ยอ่ หน้าแรก คือ สาเหตุ มกั ขึน้ ตน้ ดว้ ยคาวา่ ดว้ ย เนื่องดว้ ย เลขท่ีออกจดหมาย ใชค้ าว่า “ที”่ นาหนา้ เสมอ ยอ่ หนา้ ที่สอง คอื วัตถปุ ระสงค์ เลขหนา้ ทับ คือ เลขทีอ่ อกจดหมาย ย่อหน้าทส่ี าม คือ สว่ นสรุปเพื่อเนน้ ยา้ จุดประสงค์ เลขหลงั ทบั คอื พ.ศ. มักข้นึ ตน้ ด้วย จึงเรยี นมา…. บางหนว่ ยงานจะมตี วั อักษรเพิม่ เขา้ มา เชน่ กก 00/0000 คาลงท้าย ตอ้ งสมั พนั ธ์กับคาขึ้นต้น สญั ลักษณ์องค์กร จดั ให้อยูก่ ง่ึ กลาง การลงชือ่ ผู้บังคบั บัญชาสูงสุดในแผนก/องคก์ ร ทอ่ี ยู่องค์กร อยู่มมุ บนดา้ นขวา ข้อมลู ตดิ ต่อกลับ อยู่มมุ ลา่ งดา้ นซ้าย ควรมี หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร (ถา้ มี) ไปรษณยี อ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ (อเี มล) การเขยี นวันที่ ไมต่ อ้ งเขียนคาวา่ วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. และตัวเลขตัวแรกอยกู่ ึ่งกลางสญั ลักษณ์ การเขยี นเร่อื ง ควรขึ้นตน้ ด้วยคากริยา เช่น ขอความอนุเคราะห์ ขอเชญิ แจง้ กาหนดการ คาข้นึ ตน้ ถกู ต้องเเละเหมาะสมกับระดับบคุ คล เชน่ เรียน นมัสการ

หลักการเขียนจดหมายกจิ ธุระ จดหมายทอี่ อกโดยบคุ คลท่ัวไป ทอี่ ยู่ของผู้เขยี น มุมบนด้านขวา คาลงท้าย ต้องสมั พนั ธก์ บั คาขึ้นตน้ การเขียนวนั ที่ ไมต่ ้องเขียนคาว่า วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. การลงช่ือผู้เขยี น และตวั เลขตวั แรกอยูก่ งึ่ กลาง การเขียนเร่อื ง ควรขึ้นตน้ ดว้ ยคากรยิ า ขอ้ มลู ติดต่อกลับของผูเ้ ขียน อยู่มุมลา่ งด้านซ้าย ควรมี เชน่ ขอความอนุเคราะห์ ขอเชิญ แจง้ กาหนดการ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร (ถา้ มี) ไปรษณยี ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (อีเมล) คาข้ึนต้น ถูกต้องเเละเหมาะสมกบั ระดบั บคุ คล เช่น เรยี น นมัสการ สิ่งที่สง่ มาด้วย ควรแยกเปน็ รายการและระบจุ านวนดว้ ย เน้ือหา มี ๓ ย่อหน้า ได้แก่ ยอ่ หนา้ แรก คือ สาเหตุ มกั ขึน้ ต้นดว้ ยคาวา่ ด้วย เน่อื งด้วย ย่อหนา้ ท่ีสอง คอื วตั ถปุ ระสงค์ ยอ่ หนา้ ท่ีสาม คือ สว่ นสรุปเพอ่ื เนน้ ยา้ จุดประสงค์ มกั ขน้ ตน้ ดว้ ย จึงเรียนมา….