ประโยชน์ ลานเป็นพืชท่ีมีประโยชน์มากมายหลายด้าน จะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์ที่ท�ำจาก สว่ นตา่ งๆ ของตน้ ลาน คมั ภรี ใ์ บลาน จารกึ เรอื่ งราวตา่ งๆ การปลกู ในบรเิ วณวดั บรเิ วณไรน่ า ซึ่งแบง่ ประโยชน์ของตน้ ลานออกเป็น 3 ดา้ นหลกั ๆ ไดแ้ ก่ 1. ดา้ นสงั คม ลานหรอื ตน้ ลาน เปน็ ต้นไมท้ มี่ ีความผกู กบั พระพทุ ธศาสนา และวถิ ี ชวี ติ ของคนไทย การจารกึ พระไตรปฎิ ก ประวตั ศิ าสตร์ ตำ� รายา และเรอื่ งราวตา่ งๆ ลงบนใบลาน ดงั เช่นการบนั ทกึ หรอื ท่เี รียกวา่ “คัมภรี ์ใบลาน” ในไทยมกี ารจารกึ อักษรลงในใบลานมาก่อน พ.ศ.1800 ตามวัดในหลายพ้ืนท่ียังพบต้นลาน ท้ังท่ีขึ้นเองตามธรรมชาติและมีการปลูกไว้ ในอดตี มกี ารใชก้ ระดกู ลาน (ขอบก้านใบใกลก้ ับบรเิ วณหนามแหลม) เป็นเครอ่ื งราง ป้องกันภูตผี ส่ิงไม่ดีต่างๆ ใช้อมแก้ปวดฟัน บางแห่งใช้ใบลานเผาไฟเป็นยาดับพิษอักเสบ ฟกช้�ำ บวม ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเรียกท่ัวไปว่า “ยามหานิล” ใบลานแก่ใช้ท�ำวัสดุก่อสร้าง มงุ หลงั คา และทำ� ผนังหรือฝาบา้ น ก้านใบใชท้ ำ� โครงสร้าง ไมข้ อื่ ไม้แป และผนงั บางแหง่ ใช้ มดั สง่ิ ของแทนเชอื ก ซงึ่ เหนียวมาก บางแห่งใช้ลูกลานทุบทง้ั เปลือก โยนลงนำ้� ทำ� ให้ปลาเมา แตไ่ ม่ถึงตาย สะดวกแก่การจับปลา 45 ลาน พชื พ้นื เมืองของไทย
2. ด้านเศรษฐกิจ ลาน ถือได้ว่าเป็นไม้เศรษฐกิจชนิดหน่ึง แม้ว่าจะมีการใช้ประโยชน์เฉพาะกลุ่ม แต่ก็สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน ได้อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนต่างๆ ของต้นลานน�ำมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ เชน่ ยอดลาน (ใบลานออ่ น) ใ ช ้ จั ก ส า น ท� ำ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ ์ ข อ ง ใ ช ้ อาทิ งอบ หมวก กระเป๋า บรรจุภัณฑ์ ต่างๆ พัด เสื่อ ภาชนะในครัวเรือน ปลาตะเพียนสาน การ์ด นามบัตร ที่ค่นั หนังสือ ทางภาคใต้น�ำยอดลานพรุมาฉีก เปน็ ใบ สางออกเป็นเสน้ ป่นั เปน็ เสน้ ยาว คล้ายด้าย น�ำไปทอเป็นแผ่น เรียกว่า หา่ งอวน หรือ หางอวน น�ำมาทำ� เปน็ ถงุ รูปสามเหล่ยี ม ส�ำหรบั ไวต้ ่อปลายอวน 46 ลาน พืชพื้นเมอื งของไทย
ก้านใบ หรอื กาบใบ ชาวบ้านท่ีอ�ำเภอด่านขุนทด จังหวัด นครราชสีมา น�ำก้านลานพรุมา ท�ำไมก้ วาด กระดกู ลาน ขอบก้านใบใกล้กับบริเวณหนามแหลม มีความแข็งและเหนียมากกว่าส่วนอื่น ใช้ท�ำคันกลดพระธุดงค์ ทำ� ขอบภาชนะ จักสาน เชน่ กระด้ง ตะกร้า ลำ� ตน้ น�ำมาตัดเป็นท่อนๆ ส�ำหรับนั่งเล่น หรือใช้ตกแต่งประดับสวน ท�ำฟืนเป็น เช้ือเพลิงหุงต้ม ภาคใต้บางแห่งใช้ท�ำ ครกและสาก ลำ� ตน้ ใชเ้ ล้ยี งด้วง 47 ลาน พชื พนื้ เมอื งของไทย
ปลกู เป็นไม้ประดับบริเวณสวน ใช้จัดสถานที่กว้างๆ ดูแลง่าย ข้ึนได้ดี ในดินท่ัวไป เจริญเติบโตในดินที่ขาดความ สมบูรณไ์ ด้ ลานพรสุ ามารถทนแล้ง และทน เค็มได้ดี 48 ลาน พืชพ้ืนเมอื งของไทย
เมล็ด ในชว่ งที่ผลออ่ นสามารถนำ� เนอ้ื ในเมล็ดมารบั ประทานแบบลกู ชดิ สว่ นเปลือกรับประทานเปน็ ยาขบั ระบายดี เมลด็ ลานพรุ มคี วามแขง็ แรง สามารถนำ� ไปทำ� ลกู ประค�ำ หรือเคร่ืองประดบั ได้ 49 ลาน พืชพน้ื เมืองของไทย
โครงการวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ได้ศึกษาถึงคุณค่าทางโภชนาการ ของผลลานสด ในเอกสารเผยแพร่ เรื่อง “ลาน” ตามการด�ำเนินการโครงการ อนรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรมพชื อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ดังน้ี 50 ลาน พชื พืน้ เมืองของไทย
3. ประโยชน์ทางดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม 1) เพม่ิ ความหลากหลายทางชีวภาพ รกั ษาสมดุลทางธรรมชาติ 2) เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ เช่น ผึ้ง ต่อ นก รวมถึงสัตว์หน้าดินและสัตว์ใต้ดิน เช่น มด ดว้ ง ไสเ้ ดือน เปน็ ต้น 3) เป็นแหล่งอาหารของสัตว์หลายชนิด เช่น ค้างคาว นกกก ผ้ึง ต่อ มด ชัน โรงและวัว เป็นต้น 4) ช่วยยดึ เกาะหน้าดนิ เนื่องจากลานมรี ะบบรากแบบรากฝอย (fibrous root system) ระบบรากสานกนั อย่างหนาแน่นอยู่บรเิ วณผวิ ดินระดับลึก 30 - 70 เซนติเมตร ชว่ ยยึด เกาะหน้าดิน และค�ำ้ ยนั ต้น 5) ชว่ ยดูดซบั กา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ ทาใหอ้ ากาศบรสิ ทุ ธ์ิ 6) ช่วยลดแรงปะทะและดดู ซับนำ�้ ฝน เน่ืองจากมีใบ และทรงพ่มุ ขนาดใหญ่ ช่วยลดแรง ปะทะของฝนก่อนถงึ หนา้ ดินได้ และดดู ซบั น�ำ้ ฝนได้เป็นอยา่ งดี 51 ลาน พืชพน้ื เมืองของไทย
ปัจจยั คุกคาม ลาน เป็นพชื ท่ีมอี ายยุ ืน ประมาณ 50 - 80 ปี มกี ารผสมพันธุ์ภายในตน้ เดยี วกัน เป็นส่วนใหญ่ จึงท�ำให้ความหลากหลายทางพันธุกรรมค่อนข้างต่�ำ มีศัตรูตามธรรมชาติท่ี คล้ายกบั พชื วงศ์ปาลม์ ชนิดอืน่ ๆ เชน่ โรค แมลง มดคันไฟ ปลวก หนู นก รวมท้ังสตั ว์อ่ืนๆ แตป่ จั จัยคุกคามตอ่ การคงอยขู่ องตน้ ลานทส่ี ำ� คญั คอื มนษุ ย์ ซึง่ มสี าเหตุ ดงั นี้ 1. การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน ถ่ินอาศัยของลานมักอยู่ที่ราบลุ่ม ใกล้แหลง่ น�้ำ ซ่ึงถูกเปลยี่ นเป็นพนื้ ทช่ี ุมชน พ้นื ทเี่ กษตรกรรม อ่างเก็บน้ำ� เปน็ ตน้ ต้นลานจึง ถกู กำ� จัดออกจากพื้นท่ี เน่อื งจากลกั ษณะของต้นและช่อ ดอกที่มขี นาดใหญ่ต้องใช้พน้ื ที่มาก และเสย่ี งตอ่ การโคน่ ลม้ รวมถงึ ความเชอื่ ตา่ งๆ เชน่ ลานเปน็ ตน้ ไมข้ องวดั เมอื่ ตน้ ลานบา้ นไหน ออกดอกจะมคี นตาย เปน็ ตน้ 2. การใช้ประโยชน์ลดน้อยลง เน่ืองจากสามารถใช้วัสดุอ่ืนทดแทนได้ บางพ้ืนท่ี ต้นลานจึงกลายเป็นวัชพืชท่ีถูกก�ำจัดออกไปจากพื้นท่ีด้วยการไถท้ิง หยอดน้�ำมันเบนซิน หรอื สมุ่ ไฟเผาจนตน้ เสอื่ มโทรมและตายลง 52 ลาน พืชพน้ื เมอื งของไทย
3. การใช้ประโยชน์มากเกินก�ำลังการผลิต ในบ้างพน้ื ที่ ได้แก่ 1) การใช้ประโยชน์จากใบ ในบางพ้ืนท่ีมี ก า ร ตั ด ย อ ด ห รื อ ใ บ อ ่ อ น ข อ ง ต ้ น ล า น ไ ป ใ ช ้ ประโยชน์ ซ่ึงมีทั้งการลักลอบตัดจากพ้ืนท่ี อนุรักษ์ และตัดจากต้นที่ข้ึนในพ้ืนที่ชุมชน บางครั้งมีการตัดยอดหรือก้านใบไปจ�ำนวนมาก ทำ� ใหต้ น้ ลานมใี บไมเ่ พยี งพอตอ่ การสงั เคราะหแ์ สง สรา้ งอาหาร ต้นจึงเสอ่ื มโทรมลง 2) การใช้ประโยชน์จากผล เนื้อในเมล็ดลาน สามารถรบั ประทานได้ นยิ มนำ� มาเชอื่ ม ทำ� เปน็ ของ หวาน การตัดช่อผลมักจะตัดทั้งหมด ซ่ึงลานต้น น้นั จะหมดโอกาสในการสบื พนั ธ์ุ 53 ลาน พืชพน้ื เมอื งของไทย
สถานภาพการอนุรักษ์ สถานภาพการอนุรักษ์ของพันธุ์พืชหรือพันธุ์สัตว์ ได้รวบรวมไว้ในบัญชีแดง ของสหภาพเพอ่ื การอนรกัุ ษธ์ รรมชาติ หรอื บญั ชแี ดง (IUCN Red List of Threatened Species หรือ IUCN Red List หรือ Red Data List) ซึ่งเริ่มสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1948 สหภาพระหวา่ งประเทศเพอื่ การอนรุ กั ษธ์ รรมชาตแิ ละทรพั ยากรธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature and Natural Resources หรอื World Conservative Union : IUCN) เปน็ สถาบนั หลกั ผู้มีอำ� นาจในการระบุฐานะสถานภาพต่างๆ ของชนิดพนั ธุ์นอกจาก บญั ชแี ดง โดยทัว่ ไปแล้วก็ยังมีบัญชแี ดงระดับท้องถน่ิ (Regional Red List) ที่รวบรวมขน้ึ โดย ประเทศ หรอื องคก์ ารตา่ งๆ ทปี่ ระเมนิ ระดบั ความเสย่ี งของชนดิ พนั ธ์ุ ภายในเขตการปกครอง ของแต่ละท้องถนิ่ ในความรบั ผิดชอบ IUCN Red List คอื การประเมนิ ความเสย่ี งต่อการสูญพันธ์ของชนดิ พนั ธอ์ุ ยา่ ง เปน็ ระบบ โดยสถานภาพของชนดิ พนั ธจ์ุ ะถกู แบง่ ออกเปน็ 8 หมู่ ภายใตเ้ กณฑใ์ นการพจิ ารณา โดยการวเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธ์ ดา้ นแนวโนม้ การเพม่ิ ขน้ึ หรอื ลดลงของจำ� นวนประชากร ขนาด โครงสร้างประชากร และขอบเขตของภูมิศาสตร์ โดยชนิดพันธุ์ที่อยู่ในภาวะถูกคุกคามน้ัน จะอยู่ใน 3 หมวด ดังนี้ 1. ชนิดพันธ์ทุ ีใ่ กลส้ ญู พนั ธุอ์ ยา่ งยงิ่ 2. ใกลส้ ญู พนั ธ์ุ 3. มีแนวโน้มใกล้สญู พนั ธุ์ 54 ลาน พชื พ้ืนเมืองของไทย
“บัญชแี ดงของสหภาพระหวา่ งประเทศเพื่อการอนุรักษธ์ รรมชาต”ิ กำ� หนดข้นึ จาก ข้อก�ำหนด (criteria) ที่วางไว้อย่างจ�ำเพาะเจาะจง ในการประเมินระดับความเสี่ยงของชนิด พันธุ์และชนิดพันธุ์ย่อยเป็นจ�ำนวนมาก วัตถุประสงค์ ของการรวบรวมดัชนีรายช่ือก็เพื่อ เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอันเร่งด่วน เกี่ยวกับความจ�ำเป็นในการอนุรักษ์แก่สาธารณชน และ ผู้มีอ�ำนาจในการวางนโยบาย รวมท้ังเพื่อช่วยเหลือประชาคมนานาชาติในการพยายามลด จ�ำนวนการสูญพันธุ์ของชนิดพันธุ์ต่างๆ ตามที่ระบุในดัชนี ส�ำหรับพืชสกุลลาน IUCN Red Data (Plants) (2013) ระบุว่า ลานพรุ มีสถานภาพเป็นพืชท่ีมีความเป็นกังวลน้อยท่ีสุด (Least Concern; LC) แตล่ านป่ายังไมม่ กี ารประเมินสถานภาพ กลุ่มงานวิจัยพันธุ์พืชป่ามีค่า หายาก และใกล้สูญพันธุ์ จึงได้ท�ำการส�ำรวจ การกระจายพันธ์ุและประเมินสถานภาพการอนรุ ักษข์ องตน้ ลาน ตามเกณฑ์ของ IUCN Red list categories and criteria Version 3.1 (2014) พบว่า ตน้ ลานทงั้ 2 ชนิด มีสถานภาพการ อนรุ ักษอ์ ย่ใู นเกณฑ์ “มีแนวโน้มใกล้สญู พันธุ์” (vulnerable : VU) 55 ลาน พืชพืน้ เมอื งของไทย
สถานภาพของตน้ ลานปา่ สถานภาพการอนุรักษ์ของต้นลานป่า จัดอยู่ในเกณฑ์มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ (Vulnerable) ตามเกณฑ์ IUCN red list (2014) ข้อ B1ab(v) หมายความว่า มีขอบเขต การกระจายน้อยกว่า 20,000 ตารางกโิ ลเมตร ถ่ินทอ่ี ย่อู าศยั หรือประชากรของตน้ ลานป่า ถกู แบง่ แยกนอ้ ยกวา่ 10 กลมุ่ มกี ารลดลงอยา่ งตอ่ เนอื่ งของจำ� นวนประชากรในวยั เจรญิ พนั ธ์ุ 56 ลาน พชื พน้ื เมอื งของไทย
สถานภาพของต้นลานพรุ สถานภาพการอนุรักษ์ของต้นลานพรุ จัดอยู่ในเกณฑ์มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ (Vulnerable) ตามเกณฑ์ IUCN Red List (2014) ข้อ B1ab(i,v) หมายความว่า มีขอบเขต การแพร่กระจายนอ้ ยกว่า 20,000 ตารางกโิ ลเมตร ถ่ินทอี่ ยู่อาศยั หรือประชากรถกู แบง่ แยก น้อยกว่า 10 กลุ่ม มีการลดลงอย่างต่อเนื่องของจ�ำนวนแหล่งท่ีพบการปรากฏ และ กลมุ่ ประชากรยอ่ ย และมีการลดลงอยา่ งต่อเนื่องของจ�ำนวนประชากรในวยั เจริญพนั ธุ์ 57 ลาน พืชพน้ื เมืองของไทย
แนวทางในการอนุรักษ์ การอนุรักษ์ (conservation) คือ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีเหตุผล ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่กระทบต่อการด�ำรงชีวิตของชนิดพันธุ์นั้นในธรรมชาติ และมไี วใ้ หค้ นรุน่ หลังไดใ้ ชป้ ระโยชน์ตอ่ ไปด้วย ลาน เป็นทรัพยากรธรรมชาติประเภทท่ีสามารถทดแทนตัวเองได้ (renewable resource) ซ่ึงการใช้ประโยชน์อาจส่งผลให้จ�ำนวนประชากรลดลง หากมีการน�ำมาใช้เกิน สมดลุ ธรรมชาติ ยอ่ มกอ่ ใหเ้ กดิ การเสอ่ื มโทรม และเสย่ี งตอ่ การสญู พนั ธ์ุ ดงั เชน่ การสญู เสยี ความหลากหลายทางชีวภาพท่เี กิดขึน้ ทัว่ โลก ดังน้ัน จึงควรมีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงต้นลานเพื่อรักษา ความหลากหลายทางชีวภาพและคงไว้ซึ่งทรัพยากรให้ได้ใช้ตลอดไป โดยมีแนวทางในการ อนรุ กั ษด์ ังนี้ 58 ลาน พืชพื้นเมืองของไทย
1 การใช้แบบยง่ั ยนื โดยใชไ้ ม่เกินกำ� ลังการผลิต 1) การใช้ประโยชน์จากส่วนของใบ ท้ังส่วน ของยอดอ่อน ใบแก่ หรือก้านใบ ต้องเหลือใบ ไวอ้ ยา่ งนอ้ ยสกั 10 - 20 ใบ เพอื่ ใชส้ งั เคราะหแ์ สง สรา้ งอาหาร และเจริญเติบโตต่อไปได้ 2) การใช้ประโยชน์จากส่วนของผล โดยมากจะเก็บผลอ่อนท่ีเนื้อในเมล็ด มีลักษณะ คล้ายจาวตาล เพื่อนำ� ไปรบั ประทาน การเก็บตอ้ ง ไม่ตัดหรือโค่นช่อผลทั้งหมด แต่ควรเหลือช่อ ด้านล่างซึ่งผลจะแก่มากเกินไป หรือท่ีปลายยอด ทผ่ี ลจะออ่ นมากจนไม่มเี น้ือในใหร้ บั ประทานได้ไว้ 59 ลาน พืชพ้ืนเมืองของไทย
2 การฟื้นฟสู งิ่ เสือ่ มโทรม 1) รักษาถ่ินอาศัยให้เหมาะสม โดยป้องกันการบุกรุกท�ำลายในพ้ืนท่ีป่าอนุรักษ์ 2) ปลกู ทดแทนในพื้นทป่ี า่ อนรุ กั ษ์ พื้นท่สี ว่ นราชการ เพอ่ื เปน็ แหลง่ อนุรกั ษ์พันธุกรรม และปลูกในพื้นที่ชุมชน ที่รกรา้ ง พี้นที่เกษตรกรรมเพอ่ื เอาไว้ใชป้ ระโยชน์ 3) ส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์ และปลูกต้นลานไว้เพ่ือให้ได้ใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง และไมก่ ระทบกับการคงอยู่ในธรรมชาตขิ องตน้ ลาน 60 ลาน พชื พ้ืนเมอื งของไทย
3 การสงวนรักษา 1) การใชม้ าตรการทางสงั คมและกฎหมาย เชน่ การจดั ตงั้ กลมุ่ ชมรม การสรา้ งแรง จงู ใจในการอนรุ กั ษต์ น้ ลานและทรพั ยากรปา่ ไมก้ ารออกกฎ ระเบยี บในการคมุ้ ครองตน้ ลานและ ถนิ่ ทอี่ ยอู่ าศยั เปน็ ตน้ 2) การกำ� หนดพนื้ ทส่ี งวน เพอื่ เปน็ แหลง่ อนรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรมในถน่ิ กำ� เนดิ เพอ่ื ปอ้ งกนั การ บกุ รกุ และท าลายถนิ่ อาศยั ของตน้ ลาน เชน่ การจดั ตง้ั พนื้ ทห่ี รอื หนว่ ยงานภาครฐั เพอ่ื การ สงวนพันธุกรรมพืชนอกถ่ินก�ำเนิดและในถ่ินก�ำเนิด เพ่ือการรักษาจ�ำนวนประชากรที่มั่นคง และพนั ธกุ รรมพชื ทหี่ ลากหลายไว้ 61 ลาน พชื พ้นื เมอื งของไทย
เอกสารอ้างองิ แกว้ นภา กติ ติบรรพชา และจำ� นรรจ์ เพียรอนุรักษ์. 2550. ชีพลักษณ์ ลกั ษณะดอกและผล และความสำ� เรจ็ ในการสบื ตอ่ พนั ธข์ุ องผกั หวานปา่ . น. 145 - 154. ใน การสมั มนา ทางวนวัฒนวิทยา ครั้งที่ 8 เทคโนโลยีวนวัฒน์เพื่อขจัดความยากจน. คณะวนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร.์ โครงการวิทยาศาสตรช์ ีวภาพ. มปป. ลาน. กรมวิทยาศาสตร์บริการ, กรงุ เทพฯ. ประเสรฐิ สอนสถาพรกลุ . 2542. ศกั ยภาพการสบื ตอ่ พนั ธโ์ุ ดยอาศยั เพศของไมล้ กู ผสระหวา่ ง กระถินเทพาและกระถินณรงค์. เอกสารทางวิชาการ ส่วนวนวัฒนวิจัย, ส�ำนกั วิชาการป่าไม้, กรมปา่ ไม.้ ปฏิ ฐะ บนุ นาค. 2535. ปาลม์ . ฉบบั ปรบั ปรงุ ใหม.่ สำ� นกั พมิ พบ์ รรณกจิ เทรดดงิ้ , กรงุ เทพฯ. พงศเ์ ทพ สวุ รรณวาร.ี 2556. การศกึ ษาลกั ษณะทางนเิ วศวทิ ยาและการใชป้ ระโยชนใ์ นทอ้ งถนิ่ ของต้นลานป่า (Corypha lecomtei Becc.) ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน. สาขาวชิ าชวี วิทยา ส�ำนักวชิ าวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยสี รุ นาร.ี พนู ศกั ดิ์ วชั รากร. 2548. ปาลม์ และปรงในปา่ ไทย. พมิ พค์ รง้ั ท1ี่ . สำ� นกั พมิ พบ์ า้ นและสวน, กรุงเทพฯ. วลัยพร สถิตวิบูรณ์ และประเสริฐ สอนสถาพรกุล. 2544. ชีพลักษณ์การพัฒนา ของผลและความส�ำเร็จการสืบต่อพันธุ์ของหวายดง. ส่วนวนวัฒนวิจัย ส�ำนกั วิชาการป่าไม้ กรมปา่ ไม,้ กรงุ เทพฯ. ลกั ขณา แสงอไุ รเพญ็ และนริ นั ดรร์ ัตน์ ป้อมอมิ่ . 2559. ชวี วทิ ยาและการประเมินสถานภาพ ลานในประเทศไทย. กลุ่มงานวิจัยพันธุ์พืชป่ามีค่า หายาก และใกล้สูญพันธุ์ กองคมุ้ ครองพนั ธส์ุ ตั วป์ า่ และพชื ปา่ ตามอนสุ ญั ญา, กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั วป์ า่ และพันธุ์พชื , กรุงเทพฯ.
สายสดุ ใจ ชนุ เชาวฤทธ.์ิ 2547. ตน้ ลานในประเทศไทย. กลมุ่ งานวจิ ยั พนั ธพ์ุ ชื ปา่ มคี า่ หายาก และใกล้สูญพันธุ์ กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา, กรมอุทยานแหง่ ชาติ สตั วป์ า่ และพันธ์พุ ชื , กรุงเทพฯ. สชุ าดา แสงทบั ทมิ . 2551. การพฒั นาของดอกและผลของไมก้ ฤษณา. วทิ ยานพิ นธป์ รญิ ญาโท, มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร.์ สวุ มิ ล อทุ ยั รศั มี และ ดำ� รง พพิ ฒั นวัฒนากลุ . 2555. ชวี วทิ ยาการสบื พนั ธข์ุ องไมเ้ ทพทาโร ใน การประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คร้ังที่ 50 สาขา ทรัพยากร ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม. มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. อุทยานแห่งชาติทับลาน. 2553. อุทยานแห่งชาติทับลาน. ส�ำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปา่ และพันธพุ์ ืช, กรงุ เทพฯ. Barford, A.S. and J. Dransfield. 2013. Arecaceae. In Flora of Thailand. Vol. 11 part 3: 392 - 395. Hodel, D.R., D. Hill and P. Vatcharakorn. 1997. The Palms and Cycads of Thailand. Allen Press, Inc., Lawrence, USA. International Union for Conservation of Nature. 2014. IUCN Red List Categories and Criteria: Version 3.1: IUCN Species Survival Commission. IUCN, Gland, Switzerland and Cambridge, UK. The Plant List. 2013. Corypha. http://www.theplantlist.org/1.1/browse/A/Arecaceae/Corypha/. Weins, D., C.L. Calvin, C.A. Wilson, C.I. Davern, D. Frank and S.R. Seavey. 1987. Reproductive success, spontaneous embryo abortion, and genetic load in flowering plants. Oecologia 71.
Search