Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รอยธรรม…ไทอีสาน

Description: รอยธรรม…ไทอีสาน

Search

Read the Text Version

รอยธรรม ...ไทอสี าน



พระธาตพุ นม ปฐมบรมสารรี กิ ธาตุเจดยี ์ บนผืนแผ่นดินไทย พระพุทธศาสนามาถงึ ผนื แผน่ ดนิ อสี านอยา่ งไร ? หลักฐานไหน ? ถอื เปน็ หลกั ฐานการเข้ามาถึงของพระพทุ ธศาสนาในอสี าน ? พระธาตพุ นม ปฐมบรมสารรี กิ ธาตเุ จดยี บ์ นผนื แผน่ ดนิ ไทย บญุ ปฏิบัตบิ ูชาลาพรรษา ทพ่ี ระธาตุพนม พุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปี แหง่ การตรัสรู้ ปญั ญา – จารตี – ศลี ธรรม : ขว่ งผญา กบั ฮตี ๑๒ คอง ๑๔ อารยะประเพณพี ระพทุ ธศาสนาแสนงามของคนอสี าน กับ ๕ ประเพณบี ุญบชู าแนะน�ำ แนะนำ� ๖ กลุ่มเสน่้ ทางเรยี นรู้และบูชาพระพทุ ธศาสนาในภาคอีสาน ๑

มาถึงแผ่นดินอีสานอย่างไร ? แผนทีต่ ้งั พระธาตพุ นม และชมุ ชนโบราณ ตามหลักฐานประวัติ- ที่ ๙ – ๑๒ ในนามของ หลกั ฐานทางโบราณคดี ศาสตรโ์ บราณคดแี ละพงศาวดาร อารยธรรมทวารวดีที่แพร่ สำ�คัญของการเข้ามาถึงแผ่น พระพุทธศาสนา เชื่อกันว่า ห ล า ย ท่ั ว พ้ื น ท่ี ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ดินอีสานของพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาน่าจะมาถึง ปัจจุบัน โดยเฉพาะในเขต เมื่อสมัยทวารวดี มีกระจาย ผื น แ ผ่ น ดิ น ไ ท ย โ บ ร า ณ ใ น ที่ราบลุ่มแม่น้ำ�เพชรบุรี แม่ ทั่วทั้งภาคใน ๓ เขตลุ่มน้ำ� คาบสมทุ รเอเชยี อาคเนยต์ ง้ั แต่ กลอง ท่าจีน เจ้าพระยา สำ�คัญ คือ ลุ่มแม่น้ำ�ชี ลุ่ม สมยั พุทธกาล โดยมีหลักฐาน ลพบรุ ี ป่าสกั และ บางปะกง แม่น้ำ�มูล และ ลุ่มแม่น้ำ�โขง การเดินทางติดต่อค้าขาย โดยพบหลักฐานวา่ พระพทุ ธ- ประกอบด้วย ใบเสมาจารึก เผยแผ่และจาริกแสวงบุญของ ศ า ส น า น่ า จ ะ แ ผ่ ผ่ า น ลุ่ ม ธรรมจักร พระพุทธบาท และ ผ้คู นท่เี ช่อื ได้ว่ามีการนำ�ศาสนา นำ้�ป่าสักจากเขตพื้นที่ลพบุรี- พ ร ะ พุ ท ธ รู ป โดยเฉพาะพ ร ะ ศรัทธา ความเชื่อเข้ามาด้วย เพชรบรู ณ์ปัจจุบัน ข้ามเทอื ก ไสยาสน์ ที่พบหนาแน่นมากที่ แลว้ ดว้ ยบันทกึ แรกสดุ คอื การ เขาเพชรบูรณ์และป่าดงดิบ สุดในเขตล่มุ แม่นำ�้ ชีซ่ึงมีต้นนำ้� เข้ามายังสุวรรณภูมิของพระ ที่ต่อเนื่องจากดงพญาเย็น ต่อเนื่องกับพ้ืนท่ีลุ่มนำ้�ป่าสัก โสณะและพระอตุ ตระ ในสมัย ด ง พ ญ า ไ ฟ สู่ ท่ี ร า บ สู ง ภ า ค ต้ั ง แ ต่ จั ง ห วั ด น ค ร ร า ช สี ม า พระเจา้ อโศกมหาราชเมอ่ื พทุ ธ- ตะวันออกเฉียงเหนือในพื้นที่ ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ศตวรรษท่ี ๓ ก่อนทจ่ี ะค่อย ๆ ๔ จังหวดั ตะเข็บชายแดนภาค มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ลงมา ข ย า ย ตั ว ย ก ระดับจนแพร่ กลาง-เหนอื กบั ภาคตะวนั ออก บรรจบแม่นำ้�มูลซึ่งพบน้อย หลายถึงข้ันสถาปนาม่ันคง เฉียงเหนือ คือ นครราชสีมา ที่สุดที่อำ�เภอสูงเนิน ส่วนลุ่ม เมื่อประมาณพุทธศตวรรษ ชัยภูมิ ขอนแกน่ และ เลย ชายฝั่งแม่น้ำ�โขงตอนเหนือพบ ๒

ห ล ั ก ฐ า น ไ ห น ?พจงัรหะพวดัมิ มพห์การสุพารระคธาามตุนาดูน ถือเป็นหลักฐานการเข้ามาของพระพุทธศาสนาในอีสาน ? ใบเสมา สลกั ภาพพุทธประวตั ิตอนเสด็จกรุงกบลิ พัสด์ุ พระพทุ ธไสยาสน์ ภปู อ จังหวัดกาฬสนิ ธ์ุ พบทเ่ี มืองฟา้ แดดสงยาง จงั หวัดกาฬสนิ ธ์ุ จากเขตเมอื งพระนคร ศรยี โสธร ปุระ หรือ กัมพูชา ในสมยั ต่อ มากที่ไหล่เขาภูพาน จังหวัด ยาคู ที่เมืองฟ้าแดดสงยาง วัด มาหลังพทุ ธศตวรรษท่ี๑๕แลว้ อุดรธานี ในแอ่งสกลนคร และ โพธช์ิ ยั เสมาราม จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ปรากฏเป็นหลักฐานปราสาท นครพนม โดยเฉพาะที่ควรค่า กลมุ่ เสมาทวารวดจี าก หินจำ�นวนมากตามตะเข็บ แก่การเดินทางไปนมัสการ ทว่ั ภาคอสี าน พระบรมสารรี กิ - ช า ย แ ด น ไ ท ย - เข ม ร ตั้ ง แ ต่ ศึกษาเรียนรู้รอยศรัทธาพระ ธาตุและพระพิมพ์จากกรุพระ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ พุทธศาสนาท่ีเก่าแก่ท่ีสุดใน ธาตุนาดูน เมืองนครจำ�ปาศรี ศรสี ะเกษ อุบลราชธานี มีทไ่ี กล ภาคอีสาน เมื่อประมาณพทุ ธ- จังหวัดมหาสารคาม ในพิพิธ- เข้าไปถงึ ร้อยเอ็ด ชยั ภูมิ จนถึง ศตวรรษที่ ๑๐ – ๑๕ ประกอบ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ ขอนแกน่ สกลนครกม็ ี โดยส่วนใหญเ่ ปน็ ด้วย กลุ่มเสมาพระพุทธ- พุทธศาสนามหายาน พระพทุ ธรปู ปางแสดง บาทบวั บานบนอทุ ยานประวตั -ิ สำ�หรับพระธาตุพนม ธรรม ที่จังหวัดนครราชสีมา ศาสตร์ภูพระบาทและวัดโนน นน้ั มตี �ำ นานการกอ่ สรา้ งตง้ั แต่ กลุ่มธรรมจักรและ ศิลาอาสน์ จงั หวดั อุดรธานี พุทธศกั ราชท่ี ๘ แต่หลกั ฐาน พระพทุ ธไสยาสน์ วดั ธรรมจกั ร พระพุทธไสยาสน์ภู ทางโบราณคดีกลับพบมีอายุ เสมาราม เมืองเสมา อำ�เภอ ปอ ภูค่าว จังหวัดกาฬสินธ์ุ เพยี งพุทธศตวรรษท่ี ๑๒ – ๑๔ สูงเนิน จังหวัดนครราชสมี า รอยพระพุทธบาทบัว เท่าน้ัน โดยเฉพาะภาพสลักอฐิ ๒ จารกึ คาถาเยธัมมา บาน-บัวบก-หลังเต่า จังหวัด เรยี งและแกะสลกั แบบโบราณ หัวใจพระพุทธศาสนา พบที่ อดุ รธานี และ พระธาตเุ ชงิ ชมุ ทง้ั ๔ ดา้ นของฐานองคพ์ ระธาตุ จงั หวดั ชยั ภมู ิหรอื นครราชสมี า จังหวดั สกลนคร ดงเสมาและพระธาตุ โดยอีกกระแสท่ีขึ้นมา ๓

บนผืนแผ่นดินไทย ภาพการบรู ณะองค์พระธาตุพระพนมในสมยั แรกๆ รูปแบบคล้ายศิลปะทวารวดี อปุ ชั ฌายท์ า พระอาจารยเ์ สาร์ แ ต่ ใ น อุ รั ง ค นิ ท า น แบบฝีมือช่างพ้ืนเมืองท่ีบาง และ พระอาจารยม์ น่ั กบั คณะ ตำ�นานพระธาตุพนมได้กล่าว ฝ่ายเชื่อว่าอาจมีอิทธิพลจาก ได้ธุดงค์มาถึงแล้วอาราธนา ถึงพุทธประวัติว่าเม่ือสมัย จามผ่านการบรู ณปฏสิ ังขรณ์ นิมนต์พระครูวิโรจน์รัตโนบล ปัจฉิมโพธิกาล พระพุทธองค์ หลายคร้งั โดยเฉพาะในสมยั (พระครดู โี ลด)เจา้ คณะจงั หวดั มีพระอานนท์เป็นปัจฉาสมณะ ของพระเจ้าโพธิสารราชแห่ง อบุ ลราชธานีผมู้ คี วามรทู้ างการ ได้เสด็จมาทางทิศตะวันออก อาณาจกั รล้านชา้ ง ราว พ.ศ. ช่างมาซ่อมแซมก่อนที่รัฐบาล โดยทางอากาศมาลงทด่ี อนกอน- ๒๐๗๒ – ๒๑๐๓ การบูรณะ สมัยของจอมพล ป.พิบูล- เนา แล้วเสด็จไปหนองคันแท ของท่านราชครูโพนสะเม็ก สงคราม จะบรู ณะอีกครั้งในปี เสอ้ื น�้ำ (เวียงจนั ทน)์ ทำ�นายวา่ จากเมืองเวียงจันทน์ เมอ่ื พ.ศ. พ.ศ.๒๔๘๓ดว้ ยการเทคอนกรตี จะเกิดบ้านเมืองใหญ่ที่ตั้งพระ ๒๒๓๓ – ๒๒๓๕ ท่ีเชือ่ วา่ น�ำ เสริมเหล็กจากส่วนเหนือฐาน พทุ ธศาสนา แลว้ ล่องลงมาโดย รูปแบบส่วนยอดมาจากพระ ถึงยอดพระธาตุแล้วต่อข้ึนไป ลำ�ดับ ประทานรอยพระบาทท่ี ธาตุหลวงนครเวียงจันทน์มา อีก ๑๐ เมตร กับยังเพิ่มฉัตร โพนฉนั โปรดสขุ หัตถีนาค (พระ บูรณะจนเป็นรูปแบบขององค์ ทองคำ�ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ จน บาทโ พ น ฉั น ต ร ง ข้ า ม อำ � เ ภ อ พระธาตุพนมที่เป็นเอกลักษณ์ องค์พระธาตุล้มลงเมื่อวันที่ โพนพิสัย จังหวัดหนองคาย) สืบทอดมาเป็นแบบฉบับการ ๑๑สิงหาคมพ.ศ.๒๕๑๘ ก่อน แลว้ มาพระบาทเวนิ ปลา (เหนือ สร้างพระธาตุในเขตอีสาน ที่กรมศิลปากรจะบูรณะใหม่ เมอื งนครพนม) ท�ำ นายทต่ี ง้ั เมอื ง ตอนบน จนกระทง่ั มกี ารบรู ณะ ตามรูปแบบเดิมเสร็จในปี พ.ศ. มรุกขนครมาประทับแรมท่ี อกี ครง้ั ในปีพ.ศ.๒๔๔๔ เมอ่ื พระ ๒๕๒๒ ภูกำ�พร้า ๑ ราตรีรุ่งเช้าเสด็จ ๔

รปู ป้ันพระครโู พนสะเมก็ หรือ ยาคขู หี้ อม แห่งลุม่ นำ้�โขง ข้ า ม ไ ป บิ ณ ฑ บ า ต ที่ เ มื อ ง ศ รี ไว้ ณ ที่นั้น แล้วกลับสู่พระ ภิงคาร ท่กี �ำ ลังใหช้ ายและหญงิ โคตรบูร พักอยู่ร่มตน้ รงั (พระ เชตวัน ก่อนจะปรินิพพานที่ แข่งกันสร้างพระธาตุท่ีภูเพ็ก ธาตอุ ิงฮงั เมืองสะหวันนะเขต) กสุ ินารานคร ครนั้ มัลลกษัตรยิ ์ และในสวนอุทยาน(นางเวง) แลว้ กลบั มาท�ำ ภตั ตกจิ ทภ่ี กู �ำ พรา้ ถวายพระเพลิงและพระมหา เพื่อรอรับส่วนแบ่งพระบรม- ทางอากาศ ทรงพยากรณ์ถึง กสั สปะน�ำ พระสงฆก์ ระท�ำ เวยี น สารรี กิ ธาตุ แตพ่ ระมหากสั สปะ ประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้ง ประทักษิณแล้วอธิษฐานขอ วา่ มใิ ชภ่ กู �ำ พรา้ ผดิ พทุ ธประสงค์ ๓ พระองคท์ แ่ี ลว้ ในภทั ทกปั นี้ พระธาตุไปประดิษฐานที่ภู จะไมเ่ ปน็ มงคล จงึ มงุ่ ไปภกู �ำ พรา้ (กกสุ นั โธ โกนาคมและกสั สปะ) กำ�พร้าแล้วพระบรมอรุ งั คธาตุ มีท้าวพญายกกำ�ลังโยธามา ที่นิพพานแล้วสาวกย่อมนำ� ก็เสด็จออกมาอยู่บนฝ่ามือขวา ร่วมสร้าง คือ พญานันทเสน เอาพระบรมสารีริกธาตุมา เปน็ อศั จรรย์ หลงั การถวายพระ เมอื งศรีโคตรบรู (ลาว) มาปลกู บรรจุไว้ ณ ภูกำ�พร้า เมื่อพระ เพลิงและแจกพระธาตุเรียบ สร้างพลับพลาไว้รับกษัตริย์ องคน์ พิ พานแลว้ กสั สปะผเู้ ปน็ รอ้ ยแลว้ พระมหากสั สปะพรอ้ ม เมืองต่าง ๆ ตามริมโขง พญา สาวกจะนำ�เอาพระบรมสารี- ด้วยพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ จุลนีพรหมทัต(ตังเก๋ีย/เวียด- ริกธาตุมาบรรจุเช่นเดียวกัน ก็อัญเชิญพระอุรังคธาตุมา นาม)และพญาอินทปัตถนคร ตรัสปรารภเมืองศรีโคตรบูร โดยทางอากาศ ลงทด่ี อยแทน่ (เขมร/กัมพชู า)มาถงึ พร้อมกัน และมรุกขนคร แล้วเสด็จไป (ภูเพ็ก อำ�เภอพรรณนานิคม ให้ไพร่พลสกัดมุกด์หินทราย หนองหานหลวงเทศนาโปรด จงั หวดั สกลนคร) ไปบิณฑบาต ไวค้ อยทา่ พญาค�ำ แดง เมือง พญาสุวรรณภิงคารและพระ ที่เมืองหนองหานหลวงเพื่อ หนองหานน้อย อนุชาพญา นางเทวี ประทานรอยพระบาท บอกกล่าวแก่พญาสุวรรณ- สวุ รรณภิงคาร สมทบกบั โยธา ๕

พระธาตพุ นมองคเ์ ดมิ บูรณะ พ.ศ. ๒๒๓๖ - ๔๕ โดยพระครโู พนสะเมก็ พระธาตพุ นมองคเ์ ก่า บูรณะ พ.ศ. ๒๔๘๓ - ๘๔ โดยกรมศลิ ปากร เมอื งหนองหานหลวงอญั เชิญ พลาหกไวเ้ ปน็ ปริศนา พระอุรังคธาตุแห่ถึงภูกำ�พร้า ซึ่งก่อนองค์พระธาตุ แล้วประชุมปรึกษาตกลงป้ัน พนมล้มเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ดินดิบขนาดกว้างยาวเท่า นน้ั ต�ำ นานพระอรุ งั คธาตทุ ก่ี ลา่ ว ฝ่ามือ พระมหากัสสปะก่อขึ้น ถึงการประดิษฐานพระบรม- มณฑปทบ่ี รรจุพระบรมสารีรกิ ธาตุ อยภู่ ายในพระสถปู ชั้นท่ี ๔ เปน็ รปู เตา ๔ เหลีย่ ม สูง ๑ วา สารีริกธาตุไว้ในอุโมงค์ไม่ค่อย กวา้ งดา้ นละ ๒ วา ทา้ วพญาละ ได้รับความเชื่อถือว่าจะเป็น ด้าน พญาสุวรรณภิงคารขึ้น จริงและมีจริง จนกระทั่งวันที่ ก่อรวบยอดบนเป็นฝาปารมี ๑๗ – ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. สงู อกี ๑ วา รวมเป็น ๒ วา แล้ว ๒๕๑๘ ขณะทำ�การสำ�รวจ ธรรมจักรประดบั ด้วยสงิ่ ของมีค่า อยภู่ ายในพระสถูปชนั้ ท่ี ๓ ทำ�ประตูเผาสุมด้วยไฟทั้ง ๔ องค์พระธาตุที่ล้มแล้วนั้น ด้าน ๓ วัน ๓ คืน จนสุกดแี ลว้ ได้พ บ ผ อู บ สำ � ริ ด น้ำ�หนัก บริจาคมหัคฆภัณฑ์บูชาอัน ประมาณ ๑,๒๐๐ กิโลกรัม มีค่าบรรจุภายในอุโมงค์เป็น ที่เคยอยู่ในองค์พระธาตุที่ พทุ ธบชู า อญั เชญิ พระอรุ งั คธาตุ ระดับสูงจากพ้ืนดินประมาณ นานาพระพุทธรปู และส่งิ บูชา อยภู่ ายในพระสถปู ชนั้ ที่ ๒ เข้าบรรจุไว้ภายในท่ีอันสมควร ๑๔.๗๐ เมตร มีจารกึ แผน่ ทอง แลว้ ให้ปดิ ประตไู ว้ทงั้ ๔ ดา้ น ระบุ “ศกั ราช ๖๐ ตัว (๒๒๔๑) จากนน้ั จงึ ให้ฝงั เสาอินทขลิ รปู เดือน ๓ ขนึ้ ๒ คำ่� วันศุกร์ พ่อ อัศมุขี ม้าอาชาไนย และ ม้า พระออกขนานโคตรพร้อมท้ัง จิตรกรรมฝาผนังอนั วจิ ิตร ทีช่ ัน้ ในขององค์พระธาตพุ นม ๖

พระธาตพุ นมองค์ใหม่ สรา้ งใหมห่ ลังจากที่ล้มในรปู ทรงเหมือนเดมิ เม่อื พ.ศ. ๒๕๑๙ - ๒๒ โดยกรมศิลปากร บุตรภริยามีศรัทธาปสาทะใน เมื่อพบ เชื่อว่าเป็นของเดิม บวรพุทธศาสนายิง่ จงึ ไดน้ ำ�เอา ตั้งแต่สมัยพระมหากัสสปะ อูบพระชินธาตุเจ้าท่ีจันบุระ และท้าวพญาทงั้ ๕ เมื่อ พ.ศ. (เวียงจันทน์) มาสถาปนาไว้ที่ ๘ ซ่งึ หากเปน็ จริงตามต�ำ นาน พระอรุ ังคธาตุ ๘ องค์ ธาตุปะนมทานวิเศษเป็นเหตุ ก็น่าจะถือได้ว่าพระธาตุพนม ใหเ้ ถงิ สุข ๓ ประการ มนี ิพพาน เป็นปฐมบรมสารีริกธาตุเจดีย์ สุขเป็นที่แล้ว อย่าแคล้วอย่า ไม่เพียงที่ทางอีสานเท่านั้น คลา” แต่ของผืนแผ่นดินไทย และ ในผอบู มเี จดีย์ศิลาสูง อาจในเอเซียอาคเนย์ด้วย ลำ�ดับช้นั ของการบรรจุพระอุรังคธาตุ ๘๕ เซนติเมตร มีโพรงข้างใน ก็ได้ ขนาด ๒๐ X ๒๐ เซนตเิ มตร มีแผ่นเงินแผ่นทองดวงจารึก แ ล ะ บุ ษ บ ก ท อ ง คำ � ใ น ส มั ย เจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก ผอูบส�ำ ริดท่ีบรรจพุ ระอุรังคธาตุ ภายในมีตลับเงิน๑ชั้น ผอบ ทองคำ� ๓ ชั้น และ ผอบแก้ว อีก ๑ ชั้น ซึ่งมพี ระบรมสาร-ี รกิ ธาตุ ๘ องคป์ ระดิษฐานไว้ ภาพศรทั ธาพทุ ธศาสนกิ รว่ มบชู าองค์พระธาตุ กับนำ้�มันจันทน์มีกลิ่นหอมเย็น องค์พระธาตุล้ม เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ๗

บญุ ปฏิบัติบูชาลาพรรษา ท่พี ระธาตุพนม ปพี ทุ ธชยนั ตี ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรสั รู้ “ ”เกิดมาหนึ่งชาติ ต้องได้กราบพระธาตุพนมให้ได้ถึง ๗ ครั้ง คือคตทิ พี่ น่ี อ้ งชาวอีสานบางกลุ่มตั้งไว้เป็นหลักใจ แล้วทำ�ไมปีพุทธชยนั ตี ทก่ี ำ�ลังรำ�ลกึ ถงึ การตรสั รคู้ รบ ๒๖๐๐ ปขี องพระพทุ ธองค์ จงึ จะไม่คิดไปพระธาตพุ นมกันสกั ครงั้ ? แม้ประเพณีบุญบูชา มีผู้เข้าร่วมเร่ิมจากเรือนร้อย พระธาตุพนมประจำ�ปีท่ีจัด เป็นเรือนพัน แล้วขยายใหญ่ กันมาอยา่ งสืบเน่อื งใน ๗ วนั ๗ เป็นเกือบแสนคนในปีพุทธ- คืน ช่วงเพญ็ เดือน ๓ มาฆบชู า ชยนั ตี ๒๕๕๕ เมอ่ื วันท่ี ๑๓ ซ่ึงมหาชนจากท่ัวทุกสารทิศ - ๑๔ สิงหาคมทผี่ ่านมา การ ต่างหล่ังไหลเพื่อสักการบูชา จาริกมาของพุทธศาสนิกชน คลาคล่�ำ เป็นเรอื นแสน แตก่ าร ทุกเพศวัยจากทั่วทั้งประเทศ หมุนเวียนเข้ากระทำ�บุญบูชา รว่ ม ๗ หมน่ื คนผา่ นการบอก สักการะก็มีอยู่อย่างต่อเน่ืองไม่ ต่อผ่านเครือข่ายงานธรรม ขาดสาย ท่ี มุ่ ง ห ม า ย ม า สั ก ก า ร บู ช า ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้ ถือศีล ฟงั ธรรม และ เจริญสติ เกดิ การรเิ รม่ิ ประเพณใี หม่ ชอ่ื วา่ ภาวนาข้ามคืน ณ ลานองค์ “สบื ฮอยตา วาฮอยปู่ ยา่ งนำ� พระธาตพุ นม จงึ เปน็ ปรากฏ- ฮอยธรรม” เปน็ การเดินธรรม- การณ์ปฏิบัติบูชาที่ยิ่งใหญ่ท่ี ยาตราจากจังหวัดกาฬสินธุ์ ยืนยันถึงความแม่นมั่นของ เพื่อนมัสการพระธาตุพนม ผู้คน ในค�ำ สอนของพระพทุ ธ- พรอ้ มการถือศีล ฟังธรรม และ องค์ท่ีทรงย้ำ�เสมอว่าไม่มีบุญ จริงจังในการเจริญสติภาวนา บูชาใดย่ิงกว่าการปฏิบัติบูชา ปฏิบัติธรรมบูชาต่อเน่ืองทุกปี ด้วยศลี สมาธิ และ ภาวนา ๘

คณะศรทั ธาธรรมน�ำ โดยเครอื ขา่ ยปฏบิ ตั ธิ รรมชาวกาฬสนิ ธ์ุ นดั ปฏบิ ตั บิ ชู าถวายองคพ์ ระธาตพุ นมในวาระพทุ ธชยนั ตี ๒๖๐๐ ปี ตรสั รธู้ รรม และร�ำ ลกึ วนั องคพ์ ระธาตลุ ม้ ในวนั ท่ี ๑๓ - ๑๔ สงิ หาคม ๒๕๕๕ มผี เู้ ขา้ รว่ มกวา่ ๗๐,๐๐๐ คน หาได้มีการมหรสพร่ืนเริงหรือ รูปสำ�คัญมาแสดงธรรมและ ออกร้านงานเทศกาลแต่อย่าง นำ�ภาวนา ท่ามกลางหมู่พทุ ธ- ใด ศ า ส นิ ก ช น นั บ พั น พ ร้ อ ม ในโอกาสก่อนออก เครื่องบูชานานาจากทั่วภาค พรรษา ๑๐ วนั ในคนื วันที่ ๒๐ อีสานและข่วงผญาตลอดคืน ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ วัดพระ จนรุ่งเช้าวันอาทิตยท์ ่ี ๒๑ หลัง ธาตุพนมวรมหาวิหาร ร่วมกับ สวดมนต์ทำ�วัตรตกั บาตรถวาย คณะสงฆ์ ตลอดจนชาวจงั หวัด ภตั ตาหารแลว้ จะมพี ธิ บี ญุ บชู า นครพนม การท่องเที่ยวแห่ง ประทักษิณรอบองค์พระธาตุ ประเทศไทย (ททท.) และ หอ ครั้งสำ�คัญ ด้วยขบวนเครื่อง จดหมายเหตุพุทธทาส อินท- สกั การบูชาตา่ ง ๆ อย่างงดงาม ปัญโญ จงึ ถือเปน็ พรรษาแหง่ ปี เพ่ือสืบสานสร้างสรรค์เป็นงาน พุทธชยนั ตี ท่ีพระธรรมค�ำ สอน ประเพณีการปฏิบัติบูชา ลา ของพระองค์ได้รับการสืบสาน พรรษา ท่พี ระธาตพุ นมสบื ไป มาครบ ๒๖๐๐ ปี ควรที่จะ ได้ร่วมกนั ชุมนมุ ใหญ่ ปฎบิ ตั ิ บูชา ทพี่ ระธาตุพนม ก่อนออก พรรษาสกั ครง้ั โดยไดอ้ าราธนา นิมนต์พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ๙

กำ�หนดการงาน บญุ ปฏิบตั บิ ชู าลาพรรษา ท่ีพระธาตพุ นม ปพี ุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ วนั เสารท์ ่ี ๒๐ ตลุ าคม ๒๕๕๕ คณะสงฆ์ และ พุทธศาสนกิ ชนเดินทางถึงวดั พระธาตพุ นมวรมหาวิหาร เตรยี มเคร่อื งสกั การบชู า แลว้ เขา้ รว่ มเตรยี มและจดั การสถานที่ตามท่ตี กลงและกำ�หนดไว้ ๑๒.๐๐ น. ชุมนุมผสู้ าธิตเตรยี มความพรอ้ ม... ประกอบด้วย • มาลัยขา้ วตอกจากบา้ นฟา้ หยาด อำ�เภอมหาชนะชยั จังหวดั ยโสธร • ตน้ ดอกไมว้ ัดศรีโพธ์ชิ ัย ต�ำ บลแสงภา อ�ำ เภอนาแห้ว จงั หวดั เลย • มาลัยไม้ไผ่ ต�ำ บลกุดหว้า อ�ำ เภอกุฉนิ ารายณ์ จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ • ต้นกระธูป ตำ�บลหนองบวั แดง จังหวดั ชยั ภมู ิ • ปราสาทผ้ึงโบราณ จังหวดั สกลนคร ๑๖.๐๐ น. จัดวางเครือ่ งบชู าสักการะพระธาตพุ นมและขว่ งผญา ณ ลานพระธาตชุ ้นั นอก ๑๗.๐๐ น. ข่วงผญาบูชาพระอรุ งั คธาตุ ณ พระธาตุพนม รว่ มกบั หนงั สือ “ทางอศี าน” ถวายเครือ่ งสกั การบูชาชดุ น้อยทงั้ ๕ ๑๘.๐๐ น. รว่ มท�ำ วัตรเย็นแลว้ เจรญิ สตสิ มาธภิ าวนา ณ ลานองคพ์ ระธาตุพนม ๑๐

๑๙.๐๐ น. ขบวนถวายเครอ่ื งสกั การบชู ายามค�่ำ ๑. ตน้ ดอกไม้ วดั ศรีโพธช์ิ ยั อ.นาแห้ว จ.เลย ๒. ปราสาทผงึ้ โบราณ จ.สกลนคร ๑๙.๓๐ น. ธรรมกถาเปดิ งานปฏบิ ัติบชู าลาพรรษา ณ พระธาตพุ นม โดยพระพรหมสทิ ธิ เจา้ คณะภาค ๑๐ ผ้ชู ว่ ยเจา้ อาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวหิ าร ๒๐.๐๐ น. ธรรมกถาและน�ำ ภาวนา โดย พระราชภาวนาวกิ รม ๒๑.๐๐ น. ธรรมกถาและน�ำ ภาวนา โดย พระอาจารยอ์ นิ ทรถ์ วาย สนฺตุสฺสโก ๒๒.๐๐ น. ธรรมกถาและนำ�ภาวนา โดย พระอาจารยส์ าลี กนฺตสโี ล (สปป.ลาว) ๒๓.๐๐ น. ธรรมกถาและนำ�ภาวนา โดย พระอาจารย์สธุ รรม สธุ มฺโม ๒๔.๐๐ น. พกั วันอาทติ ย์ท่ี ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ๐๑.๐๐ น. ธรรมกถาและน�ำ ภาวนา โดย พระอาจารยเ์ ฮน็ นง่ิ เกวล ี ๐๒.๐๐ น. ธรรมกถาและน�ำ ภาวนา โดย พระอาจารย์จรญั อนงฺคโณ ๐๓.๐๐ น. ธรรมกถาและนำ�ภาวนา โดย พระอาจารย์ราวี จารุธมโฺ ม ๐๔.๓๐ น. รว่ มท�ำ วัตรเชา้ แลว้ เจริญสติสมาธภิ าวนา ณ ลานองคพ์ ระธาตุพนม ๐๖.๐๐ น. ทำ�บญุ ตักบาตรพระภกิ ษสุ ามเณร ๕๐๐ รูป ณ ประตูโขงหน้าวัด ๐๘.๐๐ น. พระภิกษฉุ นั ภัตตาหาร ๐๙.๐๐ น. ขบวนแห่เครอื่ งบูชาสกั การะ ประทักษณิ รอบองค์พระธาตุพนม ๑. มาลัยขา้ วตอก บ้านฟ้าหยาด จ.ยโสธร ๒. มาลยั ไมไ้ ผ่ งานข้าวประดับดนิ อ.กฉุ นิ ารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ๓. ต้นกระธูป อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ และแห่ผา้ ห่มองค์พระธาตุ ๐๙.๓๐ น. ธรรมกถาลาพรรษาพุทธชยันตี ท่ีพระธาตพุ นม โดยพระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตพุ นมวรมหาวหิ าร และ เจา้ คณะจังหวัดนครพนม ถวายผ้าปา่ บำ�รงุ พระธาตแุ ลว้ กราบลาองค์พระธาตุ ๑๑

ปัญญา – จารีต – ศีลธรรม ขว่ งผญา กบั ฮตี ๑๒ คอง ๑๔ อารยะประเพณีพระพุทธศาสนา แสนงามของคนอีสาน กับ ๕ ประเพณีบญุ บชู าแนะน�ำ ศลี กับธรรมพาเฮาดไี ด ้ ควรตดั สินใจนอ้ มเข้าเพงิ่ รตั นะพะไตรหน่วยแก้ว แนวพายัง้ อยูจ่ ัง่ เย็น เปน็ คนเสียชาตเิ ปล่า ไผบ่ถอื ศลี ธรรมพะพทุ ธเจา้ ตายทิม่ คา่ อยู่ไส ไผบ่เชอ่ื ธรรมพะพทุ ธเจา้ นค้ี อื หนง่ึ ใน “ค�ำ ผญา” ฮตี ๑๒ - ประเพณี ๑๒ เดอื นของคนอสี าน ประกอบดว้ ย ทป่ี ระมวลปวงปญั ญาญาณอนั ปราดเปรื่องของบรรพชนคน เดือนอ้าย งานบุญเขา้ กรรม อีสาน ที่สืบมาเป็นฮีต-จารีต บุญเกบ็ เกย่ี วขา้ วและผลผลติ นวดขา้ ว ทำ�ปลาแดกสะสม ประเพณี ๑๒ เดือนอันหลาก เสบียง แล้วท�ำ บุญเลย้ี งผีแถน อทุ ิศแด่บรรพบรุ ษุ นมิ นต์พระเข้า หลายงดงาม และสานเป็นศีล ปริวาสกรรม เป็นครรลองคลองธรรมท้ัง เดอื นย่ี งานบญุ คูนลาน ๑๔ ของผ้คู นทวั่ ทกุ หวั ระแหง บญุ ปลงข้าวในลอม ฟาดขา้ วในลานแล้วขนขน้ึ ยุ้ง นมิ นต์ แหง่ ภาคอสี านทเ่ี ชญิ ชวนสมั ผสั พระเทศน์ธรรมเร่อื งแม่โพสพบำ�รงุ ขวัญข้าวทง้ั ที่วดั และลานนวด เรยี นรู้ ดืม่ ด�่ำ แลว้ น้อมนำ�มา เดอื นสาม บญุ ขา้ วจ่ี เป็นหลักคิดและแนวปฏิบัติ บญุ เซ่นสรวงพระภมู ิเจา้ ทน่ี า “ตาแฮก” เอน้ิ -กู่ขวัญข้าว ของชีวติ ชุมชน ทอ้ งถน่ิ เพื่อ แผส่ ่วนกุศลให้ผีปู่ย่าตายายหลังขนขา้ วขึน้ ยุ้ง ทำ�ขา้ วจถ่ี วายพระ ความม่ันยนื สบื ไป แล้วท�ำ มาฆบชู า เข็นฝ้ายหาหลัวฟนื เดอื นสี่ บญุ พระเวส (อา่ นออกเสยี งพะ-เหวด) แหพ่ ระอปุ คุต ตั้งศาลเพียงตาแจกขา้ วอุทิศเป็นเปตพลี ขอใหฝ้ นฟ้าตกต้องตามฤดูกาล แล้วเขา้ วัดทำ�บุญพระเวสสนั ดร ฟังเทศนม์ หาชาติ เดือนห้า บญุ สรงน้�ำ หรอื เทศกาลสงกรานต์ – สังขานต์ ของชาวอีสาน ท�ำ ต่อเน่อื ง ๓ วนั ๗ วนั ถวายภัตตาหารพระด้วยจงั หนั ๑๒

คาวหวานตลอดเทศกาล แลว้ สรงนำ้�พระ รดน้ำ�ขอพรผ้อู าวุโสแล้ว ร่วมก่อเจดียท์ รายใสว่ ัด เดือนหก บญุ บงั้ ไฟ-ขอฝน บางแหง่ เรยี ก บุญวิสาขบชู า บุญบูชาแถนขอฝนตกต้องตามฤดูกาลมีความอุดม สมบรู ณ์ของขา้ วปลาอาหารในวนั ทก่ี �ำ หนด ครั้นวนั เพญ็ เดือน ๖ เขา้ วดั ทำ�บญุ ฟงั เทศนแ์ ละเวยี นเทยี น เดอื นเจ็ด บุญชำ�ฮะ พิธีเล้ียงตาแฮก เซน่ สรวงเจา้ ทีน่ าหลงั หวา่ นขา้ วกลา้ ดำ�นา บญุ เบิกบ้านเบกิ เมือง เลี้ยงปู่ตาหลักเมอื ง และเข้านาคของผจู้ ะ บวชเรียนเขา้ พรรษา เดือนแปด บุญเขา้ พรรษา หล่อเทียนพรรษา ตกแต่งแห่แหนถวายวัดเป็นพุทธบูชา พรอ้ มเล้ียงพระ ถวายเคร่ืองไทยทาน ผ้าอาบน้ำ�ฝนพระภกิ ษสุ งฆ์ ใช้ในกาลพรรษา เดือนเก้า บญุ ขา้ วประดับดิน บุญอุทิศส่วนกุศลเป็นเปตพลีแก่ผู้ตกทุกข์ไร้ญาติในวัน แรม ๑๔ คำ�่ เดือน ๙ ตง้ั แตเ่ ช้ามืด ด้วยการจดั อาหารคาวหวาน หมากพลูบหุ รใ่ี สก่ ระทงเลก็ วางตามลานบา้ น วัด ขา้ งพระอุโบสถ และ โคนไม้ ตกสายเข้าวดั ทำ�บุญฟงั เทศน์ เดอื นสบิ บุญข้าวสาก กวนกระยาสารทแล้วจัดสำ�รับคาวหวานและกระยาสารท เข้าวดั ท�ำ บญุ ตดิ สลากแลว้ ถวายเครอื่ งไทยทานเพือ่ พระภกิ ษสุ งฆ์ ทำ�สลากภัต ตกบ่ายฟังธรรม เดือนสิบเอด็ บญุ ออกพรรษา พิธีกวนข้าวทิพย์ ตกั บาตรเทโว ไหลเรอื ไฟ แห่ปราสาทผ้งึ ถวายผ้าห่ม ตั้งข่วงแข่งเรือ พร้อมงานบุญกุศลอื่นๆ อย่าง สนกุ สนานร่นื เริง เดือนสิบสอง บุญกฐนิ ทำ�ข้าวเม่าถวายพระพร้อมสำ�รับคาวหวานแล้วฟังเทศน์ ก่อนยกกองกฐินถวายวัดตามทจ่ี องไว้ ๑๓

คอง ๑๔ ๑.หเู มอื งเปน็ ผพู้ ดู จาความจรงิ ๙. แปเมือง เป็นผู้มีศีลธรรม หลักการ ไพเราะ ออ่ นหวาน อันดี ตดั สนิ คดคี วามเท่ยี งธรรม ครองตน ๒. ตาเมือง เปน็ ผู้มีความรอบรู้ ๑๐. เขตเมือง เป็นผู้ทำ�หน้าที่ ครองบ้าน ในวชิ าการบา้ นเมอื ง รหู้ ลกั ธรรม พิทักษ์เขตเมือง รักษาเขตแดน ครองเรือน ๓.แกน่ เมอื งเปน็ ผทู้ รงคณุ ธรรม บ้านเมอื ง ให้อยู่ใน ยุตธิ รรม ๑๑. ใจเมือง เป็นผู้ทำ�หน้าที่ ครรลอง ๔. ประตูเมือง เป็นผู้มีความ ปกครองบ้านเมอื งทดี่ ี คลองธรรม สามารถในการใช้ศัสตราวุธ ๑๒. ค่าเมือง เป็นผู้พิทักษ์ ๑๔ ประการ ยุทโธปกรณ์ รักษาให้เมืองมีค่า มีเงินทอง ๕.รากเมอื งเปน็ ผูร้ อบรใู้ นด้าน ติดต่อคา้ ขาย โหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ ๑๓. สติเมือง เป็นผู้รู้จักการ ๖. เหง้าเมือง เป็นผมู้ ีความซ่อื รักษาพยาบาล หมอยา สตั ย์ ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความซอ่ื สตั ย์ ๑๔. เมฆหมอกเมือง เป็นผู้ที่ ๗. ขางเมือง เป็นผู้ชำ�นาญใน ทำ�หน้าที่ประดุจเทพอารักษ์ การออกแบบ ช�ำ นาญในการศกึ พิทกั ษ์เมืองเป็นหลักเมอื ง ๘. ขื่อเมือง เป็นผู้มีตระกูล เปน็ นกั ปราชญผ์ ู้กลา้ หาญ ๕ เครอื่ งบูชาสาธติ แนะนำ� ในงานปฏบิ ัตบิ ชู า ลาพรรษาท่ีพระธาตพุ นม ๑)มาลยั ข้าวตอกของชาว บา้ นหยาดฟา้ อ�ำ เภอมหาชนะชยั จงั หวดั ยโสธร ส�ำ หรับแห่พทุ ธ- บูชาในงานบุญมาฆบูชา (เดือน ๓) ด้วยหมายเป็นมาลัยดอก มณฑารพแห่งสรวงสวรรค์ท่ี บานสะพร่งั ในวันมงคล ๑๔

๒) ตน้ ดอกไม้ ของชาวนาแหว้ จังหวัดเลย จากนานาดอกไม้สดจัดเข้าช่อและพานพุ่ม บายศรีเล็กใหญ่ขึ้นโครงไม้ไผ่บูชาพระรัตนตรัย ในวนั ตรษุ สงกรานต์ (เดอื น ๕) ๓) มาลัยไม้ไผ่ ของชาวกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมเครื่องห้อยแขวนถวาย พระภิกษุสงฆ์วันขึ้น ๑๕ ค่�ำ (เดือน ๙ หรอื ๑๐) ๔) ต้นกระธูป ของชาวหนองบวั แดง จังหวัดชัยภูมิ ที่นำ�ธูปมาพันกระดาษสีเป็น ลวดลายแล้วประกอบเป็นต้นสูงเสมือนต้นหว้า ประจำ�ชมพูทวีปท่ียังความร่มเย็นแก่สรรพ- สัตว์ ถวายสักการะและเฉลิมฉลองการเสด็จ ลงจากสวรรค์ช้ันดาวดึงส์หลังโปรดพุทธมารดา ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันออก พรรษา (เดือน ๑๑) ๕) ปราสาทผึ้งโบราณ ของชาวจังหวัด สกลนคร ถวายพุทธบูชาเนื่องในโอกาสออก พรรษา (เดือน ๑๑) ๑๕

กลุ่มปฐมบท • นมัสการพระพุทธไสยาสน์ ท่ีสวยท่ีสุดจากพระธาตุนาดูน พระพุทธศาสนา หินองค์ใหญ่และพระธรรม- แล้วตื่นตากับนานาใบเสมา ในอีสาน ที่ จักรท่ีวัดธรรมจักรเสมาราม จากท่ัวทั้งภาคอีสานท่ีนำ�มา เสมา นาดูน อำ�เภอสูงเนิน นครราชสีมา รวบรวมรักษาไว้ และแวะชม ๒จารกึ คาถาหวั ใจ พระพทุ ธศาสนา“เยธมั มาฯ”ท่ี ฟ้าแดดสงยาง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมหา- ภูปอ ภูค่าว วรี วงศ์และพมิ ายนครราชสีมา • นมัสการพระธาตุนาดูน นครจำ�ปาศรี ที่อำ�เภอนาดูน ภพู ระบาท ขอนแกน่ จงั หวดั มหาสารคามพทุ ธมณฑล แนะน�ำ ๖ กลแหง่ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื • นมัสการพระธาตุยาคู และ พระธรรมจกั ร วดั ธรรมจกั รเสมาราม จงั หวดั นครราชสมี า หมู่เสมาโบราณเมืองฟ้าแดด สงยาง ในพิพธิ ภณั ฑว์ ัดโพธิ์ชยั เรียนรแู้ ละบูชาพเสมาราม อำ�เภอกมลาไสย กาฬสนิ ธุ์ ในภาค • นมัสการพระพุทธไสยาสน์ พระธาตุยาคู จงั หวัดกาฬสนิ ธ์ุ แ ก ะ ส ลั ก หิ น ใ น เ พิ ง ผ า ถ้ำ � ภูปอ – ภูคา่ ว อำ�เภอเมอื งและ สหัสขนั ธ์ กาฬสินธ์ุ • ขึ้นอทุ ยานประวัตศิ าสตร์ ภูพระบาท นมัสการพระบาท พระพุทธบาท ภพู ระบาท จงั หวัดอดุ รธานี บัวบกและบัวบาน พร้อมหมู่ เสมา ๒๔ องค์ ทา่ มกลางหอ นางอุษาและนานาถำ้�โบราณ ทอ่ี ำ�เภอบ้านผอื อดุ รธานี • เข้าพิพิธภัณฑสถานแห่ง ชาติขอนแก่น นมัสการพระ เสมาโบราณในเมอื งฟา้ แดดสงยาง จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ บรมสารีริกธาตุและพระพิมพ์ ๑๖ พระธาตนุ าดูน จังหวัดมหาสารคาม

กลุ่มศรีโคตรบูร • นมัสการพระอุรังคธาตุใน กลุ่มพุทธมหายาน สองฝั่งโขง พระธาตุพนม ปฐมธาตุเจดีย์ เมื่อสมัยชัยวรมัน ธาตุพนม ของประชาคมลุ่มแม่น้ำ�โขง ที่ เชิงชมุ และ ฝ่งั ลาว อ�ำ เภอธาตพุ นม นครพนม ที่พิมาย • นมัสการพระธาตุเชิงชุม นครราชสีมา ภูเพก็ และ นารายณเ์ จงเวง ๓ พระธาตุบริเวณหนองหาน • หน่งึ เดยี วและสดุ ยอดมหา สกลนคร ที่ผูกพันในตำ�นาน ปราสาทหินในนิกายมหายาน อุรังคธาตุเมื่อแรกเริ่มสร้าง ลัทธิตันตระแห่งเมืองพิมาย • เลียบเลาะฝั่งโขง เวียน สมยั พุทธศตวรรษท่ี ๑๕ – ๑๖ นมัสการนานาพระธาตุประจำ� ก่อนการสร้างอภิมหาปราสาท วนั เกดิ ที่เพง่ิ สร้างสรรคใ์ หม่ ใน นครวัดแห่งศาสนาฮินดูอันย่ิง ลมุ่ เสน้่ ทาง จังหวัดนครพนม (วันอาทิตย์ ใหญ่ในพุทธศตวรรษที่ ๑๗ – พระธาตพุ นม อ.ธาตุพนม, ก่อนพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ผู้ พระพุทธศาสนา วันจันทร์ – พระธาตุเรณู นับถือพุทธศาสนามหายานผู้ อ.เรณูนคร, วันอังคาร – พระ สร้างสรรค์มหาปราสาทบายน คอสี าน ธาตุศรีคุณ อ.นาแก, วันพุธ – ทรงทำ�นุบำ�รุงพร้อมกับการ พระธาตุเชิงชมุ จงั หวัดสกลนคร พระธาตมุ หาชยั อ.ปลาปาก, สร้างนานาอโรคยศาลาและ วันพฤหัสบดี – พระธาตุ ประสิทธ์ิ อ.นาหว้า, วันศุกร์ – พระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน และ วันเสาร์ – พระธาตุนคร อ.เมือง) • ขา้ มโขงไปนมัสการพระธาตุ ศรีโคตรบองเมืองท่าแขกและ พระธาตุอิงฮัง สะหวันนะเขต ที่ฝัง่ ลาว พระธาตเุ รณู จงั หวัดนครพนม อุทยานประวัตศิ าสตร์พมิ าย จงั หวดั นครราชสมี า ๑๗

ปราสาทอีกหลายองค์ในภาค กลุ่มรอยพุทธ • ธาตเุ จดีย์ทรงระฆังเหลยี่ ม อีสานและภาคกลาง จุดสำ�คัญ ลาวล้านช้าง ที่วัดโพนชัย อำ�เภอด่านซ้าย อยู่ท่ีทับหลังของวิมานด้านใน นานาธาตุเจดีย์ จงั หวัดเลย และวัดสาวสุวรรณ องค์ปราสาทหินพิมายซึ่งเต็ม ทรงระฆังเหลี่ยม ทเ่ี วยี งคกุ อ�ำ เภอเมอื งหนองคาย ไปด้วยภาพพระวัชรสัตว์และ ถือเป็นรูปแบบเอกลักษณ์หน่ึง พระอมิตายุส ตลอดจนนานา ของลาวล้านช้างที่แพร่หลาย เทพทั้งหลาย เฉพาะอยา่ งยง่ิ และ พระพุทธรูป ทั่วไปโดยเฉพาะในหลวงพระ ทับหลังประตูมณฑปหน้าพระ ศิลปะล้านช้าง บาง ในขณะที่นานาธาตุเจดีย์ วิมานด้านใต้ แกะสลักเป็น อย่างองค์พระธาตุพนมในเขต ภาพมารวิชัยท่ีถือว่าเก่าแก่ นครพนมและอื่น ๆ นั้น ถือ ทีส่ ดุ ในประเทศไทย เป็นอีกแบบเอกลักษณ์ของ • หากมีเวลาควรแวะพิพิธ- พระธาตุพนมที่ผสมผสานด้วย ภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย นำ�องค์ระฆังเหล่ียมอย่างล้าน และ มหาวีรวงศ์ ซึ่งรวบรวม ช้างมาเสริมเติมต่อบนฐาน น า น า ห ลั ก ฐ า น รู ป เ ค า ร พ ปราสาทสี่เหลี่ยม ถือเป็นอีก มากมาย รวมทั้งพระวัชรสัตว์ รอยการประสมประสานงาน พทุ ธะมีนาคปรกงดงามยง่ิ พระพุทธศาสนาส�ำ คญั • พระปฏิมาล้านช้างองค์ สำ�คัญในจังหวัดหนองคาย นอกจากหลวงพ่อพระใส ที่ วดั โพธช์ิ ัย อำ�เภอเมอื งแล้ว ที่ พระธาตทุ รงระฆงั เหลย่ี ม วดั โพนชยั จงั หวดั เลย งดงามและศักด์ิสิทธิ์เป็นที่ หลวงพอ่ พระใส วดั โพธช์ิ ยั จงั หวดั หนองคาย ทพ่ี พิ พิธรภะัณโพฑธสิสตัถวา์อนวแโหลง่ กชเิ าตตศิ วพรมิ าย ๑๘

สกั การบชู ายงั มี พระเจา้ องคต์ อ้ื กลุ่มฮูบแต้มสิม • มหาสารคาม สิมวัดป่า วดั ศรชี มพอู งคต์ อ้ื อ�ำ เภอทา่ บอ่ อีสาน : ยอดแห่ง เรไร บ้านหนองพอก ต.ดงบัง หลวงพ่อสุก วัดศรีคุณเมือง จิตรกรรมชาวบ้าน อ.นาดนู ,วดั โพธารามบา้ นดงบงั อำ�เภอเมอื ง และ หลวงพ่อวดั แหง่ แผ่นดนิ อีสานที่ อ.นาดนู และวดั ยางทวงวราราม ศรเี มอื งสว่ นทเ่ี มอื งนครพนมนน้ั มีเอกลักษณ์เฉพาะ (วัดบ้านยาง) อ.บรบือ มีเพิ่ม หลวงพอ่ พระอนิ ทรแ์ ปลง ในวดั คอื นยิ มวาดภายนอก ภาพพระมาลัย สินไซ นางอร- อินทร์แปลงท่ีมีแต่ส่วนพระ อุโบสถมหาอุตม์ พิมพ์-ท้าวปาจติ ต์ และ พระลัก เศียรเทา่ นัน้ ที่หลอ่ ด้วยสำ�ริด พระราม ดว้ ย • พระบางและพระแกว้ ๒ ขนาดเล็ก • ร้อยเอ็ด สิมวัดกลางมิ่ง พระปฏมิ าส�ำ คญั ยง่ิ ของแผน่ ดนิ ดว้ ยภาพพทุ ธประวตั ิ เมอื ง และ วดั บา้ นขอนแกน่ เหนอื มอี งคจ์ �ำ ลองส�ำ คญั คอื พระบาง ชาดก นรกสวรรค์ อ.เมือง, วัดจักรวาลภูมิพินิจ เมอื งทรายขาว วัดศรสี ทุ ธาวาส บ้านหนองหมื่นถ่าน อ.อาจ- อำ�เภอเมืองเลย,พระบาง วัด นิทานพื้นบ้าน สามารถซึ่งมีภาพชุดสินไซเช่น ไตรภมู ิ อ�ำ เภอทา่ อเุ ทน นครพนม แทรกเรื่องราว กนั โดยที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ประเพณีวิถีชีวิตที่ • กาฬสินธุ์ สิมวัดอุดม อุบลราชธานี ยังมีทั้งพระบาง มีคุณค่าน่าชมยิ่ง ประชาราษฎร์รังสรรค์ บ้าน และ พระแก้วมรกตจำ�ลองงด นาจารย์ อ.เมอื ง ที่แทรกภาพ งามมีอายุหลายร้อยปอี ีกด้วย แสดงวิถีชีวิตในภาพเรื่องพระ เวสสันดรอย่างน่าติดตามและ สนุกสนานมาก รวมถงึ สิมวดั ใต้ โพธคิ์ �้ำ อ.เมือง พระบาง วดั ไตรภมู ิ จงั หวดั นครพนม ฮบู แตม้ สมิ วดั โพธาราม จงั หวดั มหาสารคาม

• ขอนแกน่ สมิ วัดไชยศรี บา้ น กลุ่มพ่อแม่ครูบา • ต้นเค้าครบู าวิปัสสนาจารย์ สาวะถี อ.เมอื ง และ วดั สนวน- อาจารย์ในถน่ิ อีสาน ภาคอีสานท่ีพระอาจารย์เสาร์ วารพี ฒั นารามอ.บา้ นไผ่ทม่ี เี พม่ิ แดนบูรพาจารย์ กันตสีโล ท่ีวัดเลียบ อ.เมอื ง วัด ภาพชุดสนิ ไซ กับ นานานรกภูมิ นานาสุปฏิปันโน ดอนธาตุ อ.พิบูลมงั สาหาร และ ใหไ้ ด้เตอื นตน ขณะท่ภี าพเร่อื ง ร่วมสมัย ปัจจุบัน วดั บรู พา อ.เมอื ง อบุ ลราชธานี พระเวสสันดรนอกสิมวัดมัช- • สายพระอาจารย์มั่น ภูริ- ฌมิ วทิ ยารามบา้ นลาน อ.บา้ นไผ่ ตั้งแต่ ทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สาย ก็เตม็ ไปดว้ ยสสี ันอย่างยง่ิ พระอาจารย์เสาร์ วิ ปั ส ส น า กั ม มั ฏ ฐ า น แ ล ะ • นครราชสีมา สมิ วัดศรีสภุ ณ พระอาจารย์มั่น ศิษย์ตั้งแต่บ้านเกิดท่ีคำ�บง บา้ นทองหลางน้อย อ.บัวใหญ่ พระอาจารย์ชา อ.โขงเจียม อุบลราชธานี และ และ วดั หน้าพระธาตุ บา้ นตะคุ ทั่วทั้งแดนอีสาน สองที่บรรพชา-อุปสมบท วัด อ.ปกั ธงชยั ทม่ี ฮี บู แตม้ ทง้ั ในและ ศรีบุญเรือง อ.โขงเจียม และ นอก พร้อมภาพชุดพระมาลัย รปู ปนั้ พระอาจารยม์ น่ั ภรู ิทัตโต วัดศรอี บุ ล อ.เมือง ก่อนฝากตัว นรกภมู ิ และ พระพทุ ธบาทดว้ ย วดั ป่าสุธาวาส จงั หวดั สกลนคร เป็นศิษย์พระอาจารย์เสาร์ที่ • บรุ ีรมั ย์ ฮบู แตม้ ทีว่ ดั ท่าเรยี บ วัดเลียบ ธุดงค์ที่ธาตุพนม บ้านหนองหว้า อ.นาโพธิ์ ที่มี ปฏิญญาชีวิตพรหมจรรย์ท่ี ภาพครบครันหลากหลายเร่ือง ภหู ล่น อ.ศรีเมืองใหม่ อบุ ลฯ รวมท้ังสินไซยอดนิยมของคน ก่ อ น ที่ จ ะ ผ่ า น อี ก ห ล า ย ป่ า อีสาน วั ด แ ล ะ จั ง ห วั ด เ กื อ บ ทั่ ว ทั้ ง • อุบลราชธานี สิมวัดทุ่ง ภาคอีสาน ก่อนจะกลับมาจำ� ศรีเมือง อ.เมือง ที่มีหอไตร พ ร ร ษ า ท่ี วั ด ป่ า น า ค นิ มิ ต ต์ กลางน้ำ�ท่ีงดงามที่สุดหลังหนึ่ง อ.โคกศรสี ุพรรณสกลนครแล้ว และ รูปเหมือนของพระครู จำ�พรรษา ๕ ปีสดุ ทา้ ยทีว่ ัดป่า ดี โ ล ด ผู้ นำ � บู ร ณ ะ อ ง ค์ พ ร ะ บ้านหนองผือ (วัดป่าภูริทัตต- ธาตุพนมตามที่พระอาจารย์ ถิราวาท) แล้วมรณภาพที่วัด เ ส า ร์ แ ล ะ พ ร ะ อ า จ า ร ย์ มั่ น ปา่ สุทธาวาส อ.เมือง สกลนคร อาราธนานิมนต์ มที ้ังฮูปสนิ ไซ บรรจพุ ระธาตุท่ีธรรมเจดยี ์ วัด และ นางอรพิมพ์-ท้าวปาจิตต์ โพธสิ มภรณ์ อ.เมือง อุดรธานี เชน่ กนั • คณะศษิ ยพ์ ระอาจารย์ม่ัน ภูริทัตโต ในแดนอีสานเป็น ๒๐

จำ�นวนมาก ทั้งวัดและป่าถ้ำ� และนานาสาขาวัดหนองป่าพง เจดยี พ์ ระอาจารยช์ า สุภัทโท สถานปฏิบัติธรรม ตลอดจน ท่ีขยายเป็นคณะใหญ่ท้ังใน วดั หนองปา่ พง จังหวดั อบุ ลราชธานี เจดียสถานต่าง ๆ เช่น หลวง และต่างประเทศถึง ๓๐๐ ปเู่ ทสก์ เทสรังสี วัดหินหมาก สาขาจากบา้ นกอ่ และวดั หนอง พระอาจารยส์ ุรยิ า มหาปญั โญ เป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ หนองคาย, ปา่ พงอ.วารินช�ำ ราบอบุ ลราช- วัดป่าโสมพนัส อ.พรรณานิคม หลวงปขู่ าวอนาลโยวดั ถ�ำ้ กลอง ธานี สทู่ ว่ั ทง้ั โลกผา่ นวดั ปา่ นานา สกลนคร พระอาจารย์คำ�ไม เพล อ.เมอื ง หนองบัวล�ำ ภู, วัด ชาติทีบ่ า้ นบุง่ หวาย อ.วารนิ ช�ำ - ฐติ สโี ล วดั ทับมิ่งขวัญ อ.เมอื ง ถ้ำ�ขาม สถานปฏิบัติธรรมของ ราบโดยมีวัดหรือสำ�นักสาขา เลย เครอื ข่ายสายพระอาจารย์ หลวงปเู่ ทสก์ และ พระอาจารย์ แ น ะ นำ � ก า ร เ ดิ น ท า ง เ รี ย น รู้ สมภพ โชติปญั โญ วัดไตรสิกขา ฝ้ัน รวมท้ังเปน็ ทลี่ ะสังขารของ และปฏิบัติธรรมหลายแห่ง ทลามลตาราม อ�ำ เภอค�ำ ตากลา้ หลวงปเู่ ทสก์ และ วัดป่าอุดม เช่น พระอาจารย์เลี่ยม ฐิต- จังหวดั สกลนคร พระปลดั เดชา สมพรอ.พรรณานคิ มเจดยี สถาน ธัมโม วัดหนองป่าพง จังหวัด อาสโภ เจ้าอาวาสวัดสวนป่า บรรจอุ ฐั ธิ าตอุ ฐั บรขิ าร ของพระ อบุ ลราชธานี พระอาจารยแ์ สวง ดอนย่านาง จังหวัดกาฬสินธุ์ อาจารยฝ์ น้ั อาจาโร,หลวงปดู่ ลู ย์ จันทสโร วัดคำ�มะฮี ยโสธร พระอาจารย์ราวี จารุธัมโม วัด อตุโล วัดบูรพาราม อ.เมือง พระอาจารยเ์ รอื งฤทธิ์ จันทสโร ปา่ โนนกดุ หลม่ จงั หวดั ศรสี ะเกษ สรุ นิ ทร,์ พระอาจารยแ์ บน ธนา- วัดป่าพรหมประทาน ร้อยเอ็ด กโร วัดดอยธรรมเจดีย์ อ.เมอื ง พระอาจารย์เอนก ยสทินโน บัญชา พงษ์พานิช สกลนคร, พลวงพ่อพธุ ฐานโิ ย วัดป่าไทรงาม อุบลราชธานี เพลนิ สถาน สวนสร้างสรรค์ วัดป่าสาลวนั อ.เมือง นครราช- พระอาจารย์ดำ�รง สุจิตโต สีมา, หลวงป่จู มู พนั ธโุ ล และ วัดปลื้มพัฒนา บุรีรัมย์ พระ นาคร – บวรรตั น์ หลวงปจู่ ันทรศ์ รี จันททีโป วดั อาจารย์ไพฑูรย์ ขันติโก วัด นครศรธี รรมราช และ โพธิสมภรณ์ อ. เมือง อุดรธานี, ปา่ สุภทั ทมงคล อบุ ลราชธานี หอจดหมายเหตุพุทธทาส พระอาจารย์มหาบัว ญาณสมั - พระอาจารย์เฮ็นนง่ิ เกวลี วัด อินทปญั โญ กรุงเทพมหานคร ปันโน วดั ป่าบ้านตาด อ.เมือง ปา่ นานาชาติ อุบลราชธานี อุดรธาน,ี หลวงปู่เหรียญ วร- สำ�นักส่งเสริมภาวนาและ ตุลาคม ๒๕๕๕ ลาโภวดั อรญั บรรพตอ.ศรีเชียง ปฏบิ ตั ธิ รรมอน่ื ๆ เชน่ เครอื ขา่ ย ใหม่หนองคาย,พิพธิ ภณั ฑพ์ ระ สายหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ อาจารย์วัน อตุ ตโม วดั ถ้�ำ อภัย กับหลวงพ่อคำ�เขียน สุวัณโณ ด�ำ รง อ.ส่องดาว สกลนคร, วัดปา่ สคุ ะโต อ.แก้งครอ้ ชยั ภูมิ • สายพระอาจารย์ชา สภุ ทั โท ๒๑

สอบถามขอ มลู การทอ งเท่ียว การทอ่ งเที่ยวแหง่ ประเทศไทย กองตลาดภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ Email : [email protected] Website : www.เท่ยี วอสี าน.com ททท. สำนกั งานนครราชสีมา (นครราชสมี า,ชยั ภมู ิ ) โทรศพั ท์. ๐ ๔๔๒๑ ๓๐๓๐, ๐ ๔๔๒๑ ๓๖๖๖ โทรสาร. ๐ ๔๔๒๑ ๓๖๖๗, ๐ ๔๔๓๕ ๑๗๒๑ Email: [email protected] ททท. สำนักงานอุบลราชธานี (อบุ ลราชธาน,ี อำนาจเจรญิ ,ยโสธร) โทรศพั ท์. ๐ ๔๕๒๔ ๓๗๗๐ , ๐ ๔๕๒๕ ๐๗๑๔ โทรสาร. ๐ ๔๕๒๔ ๓๗๗๑ Email: [email protected] ททท. สำนกั งานขอนแกน่ (ขอนแก่น,มหาสารคาม,รอ้ ยเอ็ด,กาฬสินธ)ุ์ โทรศัพท.์ ๐ ๔๓๒๒ ๗๗๑๔-๗ โทรสาร. ๐ ๔๓๒๒ ๗๗๑๙ Email: [email protected] ททท. สำนกั งานนครพนม (นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร) โทรศพั ท์. ๐ ๔๒๕๑ ๓๔๙๐-๑ โทรสาร. ๐ ๔๒๕๑ ๓๔๙๒ Email: [email protected] ททท. สำนักงานอดุ รธานี (อดุ รธานี,หนองคาย,บงึ กาฬ) โทรศพั ท.์ ๐ ๔๒๓๒ ๕๔๐๖-๗ โทรสาร. ๐ ๔๒๓๒ ๔๕๐๘ Email: [email protected] ททท. สำนักงานเลย (เลย,หนองบัวลำภ)ู โทรศพั ท.์ ๐ ๔๒๘๑ ๒๘๑๒ โทรสาร. ๐ ๔๒๘๑ ๑๔๘๐ Email: [email protected] ททท. สำนักงานสรุ ินทร์ (สรุ ินทร,์ บุรีรมั ย์,ศรสี ะเกษ) โทรศัพท.์ ๐ ๔๔๕๑ ๔๔๔๗-๘ โทรสาร. ๐ ๔๔๕๑ ๘๕๒๙ Email: [email protected] Dhammaintrend C35 M100 Y90 K30