Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เลี้ยงกุ้งกุลาดำระบบปิดหรือระบบรีไซเคิ้ล

เลี้ยงกุ้งกุลาดำระบบปิดหรือระบบรีไซเคิ้ล

Description: เลี้ยงกุ้งกุลาดำระบบปิดหรือระบบรีไซเคิ้ล

Search

Read the Text Version

ที่มา : เอกสารคําแนะนํา กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ เลี้ยงกุงกุลาดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล อนันต ตนั สตุ ะพานชิ นักวิชาการประมง สถานีเพาะเลี้ยงสัตวนํ้าชายฝงจังหวัดเพชรบุรี ศนู ยพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตวนํ้าชายฝงสมุทรสาคร กองเพาะเลี้ยงสัตวนํ้าชายฝง กรมประมง พ.ศ. 2538 โทร. (032) 478210-1 เอกสารในโครงการฟนฟูการเลี้ยงกุงกลุ าดําฯ ฉบับนี้เปนการนําขอมูลจากประสบการณ หลกั เกณฑท าง วิชาการสาขาตางๆ ทเ่ี กย่ี วขอ งมาจดั การเชอ่ื มโยงประยกุ ตใ ชใ หส อดคลอ งเหมาะสมกบั สภาพความเปนจริงตามธรรมชาติ • เลย้ี งกงุ กลุ าดําระบบปด หรอื ระบบรไี ซเคล้ิ • ลกั ษณะแผนผงั โครงสรา งฟารม • การเตรยี มฟารม การบําบดั ปรบั ปรงุ ฟารม กอ นเลย้ี งกงุ รนุ ตอ ไป • การเตรยี มน้ํา การบําบดั ปรบั ปรงุ คณุ ภาพน้ํากอ นใชเ ลย้ี งกงุ รนุ ตอ ไป • การปลอ ยกงุ ลงเลย้ี ง • การใหอาหาร • การควบคมุ และรกั ษาคณุ ภาพน้ําระหวา งการเลย้ี ง • การจบั • แนวทางแกป ญ หาบางประการ

การเลย้ี งกงุ กลุ าดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 2 เลย้ี งกงุ กลุ าดําระบบปด หรอื ระบบรไี ซเคล้ิ กงุ กลุ าดํา เปน ชอ่ื เรยี กตามภาษาพน้ื บา นของไทย มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษวา ไจแอนท ไท เกอร ชริมพ (giant tiger shrimp) มชี ือ่ เรยี กทางวทิ ยาศาสตรว า พเี นยี ส โมโนดอน (penaeus monodon) เปน สตั วน ้ําเคม็ อกี ชนดิ หนง่ึ มคี ณุ คา ทางอาหารสงู รสชาดดี มคี วามสําคัญทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยสามารถเพาะเลย้ี งกงุ ชนดิ นไ้ี ดผ ลผลติ มาก จนกระท่งั มปี รมิ าณเหลอื จากการบรโิ ภคภายใน ประเทศ แลว สง เปน สนิ คา ออกนํารายไดเ ขา ประเทศมากเปน อนั ดบั หนง่ึ ในบรรดาสนิ คา สตั วน ้ํา จากสภาพที่เปนจริง แหลงนํ้าธรรมชาตนิ น้ั ตง้ั อยใู นทต่ี ่ํา และเปน สาธารณสมบตั ริ ว มกนั ใช จงึ เปน แหลง รองรบั สง่ิ ปฏกิ ลู ของผคู นทกุ สาขาอาชพี ที่มไิ ดรบั การบําบดั อยา งตอ เนอ่ื งจากการประกอบ กจิ ตา งๆ ดงั นน้ั เมอ่ื มสี ง่ิ ปฏกิ ลู ตา ง ๆ สะสมมากเกนิ กวา ทก่ี ลไกตามธรรมชาตขิ องแหลง น้ํานน้ั จะบําบดั ไดทัน จึงเปน อีกสาเหตหุ นึ่งที่กอใหเกดิ สภาพแวดลอ มในหลายพ้ืนทเ่ี สอื่ มโทรมมากจนกระทง่ั อยใู นภาวะ วกิ ฤต แลวกอใหเกิดมลพิษและโรคภัยไขเจ็บตาง ๆ โดยเฉพาะอยางยิ่ง สตั วน ้ําซง่ึ อาศยั อยใู นแหลง น้ํา ตลอดจนการเพาะเลย้ี งกงุ ระบบเปด ( opened system) “แบบพัฒนา” ซง่ึ ใชว ธิ กี ารจดั การเลย้ี งโดย การเปลย่ี นถา ยระบบทง้ิ ระหวา งฟารม กบั แหลง น้ําธรรมชาตโิ ดยตรงนน้ั กจ็ ะไดรับอนั ตรายเปน พวกแรก อกี ทง้ั ลกั ษณะโครงสรา งฟารม ขน้ั พน้ื ฐานและวธิ จี ดั การฟารม เลย้ี งกงุ ระบบเปด “แบบพัฒนา” กไ็ มเ ออ้ื โอกาสตอ การปอ งกนั มลภาวะจากภายนอก ไมเ ออ้ื อํานวยตอ การบําบดั ควบคมุ และรกั ษาความสมดลุ ของสภาพแวดลอ มภายในฟารม ภาพที่ 1 แผนภมู แิ สดงความสมั พนั ธ ระหวางฟารมเล้ียงกงุ ระบบเปดแบบพฒั นากบั แหลงนํ้าธรรมชาติ เสื่อมโทรม นอกจากนฟ้ี ารม ตา งๆ มกั จะอยตู ดิ กนั คลา ยสลมั จงึ ไมเ ออ้ื อํานวยตอ การปอ งกนั มลพษิ โรคและ ปรสติ ตา งๆ ตลอดจนไมค ํานงึ ถงึ เชอ้ื ตา งๆ ทต่ี กคา งอยใู นรปู ของซสี ท-สปอร ไมค ํานงึ ถงึ การนําขอ มลู และหลกั เกณฑท างวชิ าการสาขาตา งๆ มาจดั การเชอ่ื มโยงใหส อดคลอ งกบั สภาพทเ่ี ปน จรงิ ตามกลไกทาง ธรรมชาติ อีกทั้งความเชื่อและวิธีการแกปญหาบางประการที่ปฏิบัติ และสง่ั สอนตอ ๆกนั มานน้ั กไ็ มค ํานงึ ถงึ ผลตอ เนอ่ื งทส่ี ะทอ นกลบั มากอ ใหเ กดิ ปญ หาดา นอน่ื ๆ

การเลย้ี งกงุ กลุ าดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 3 ตามภาพที่ 1 การเพาะเลย้ี งกงุ ในลกั ษณะดงั กลา วขา งตน นน้ั นา จะเปน อกี สาเหตหุ นง่ึ ทม่ี ผี ล สะทอ นกลบั มาทําลายกจิ การของทง้ั ตนเองและผอู น่ื ดังจะเห็นไดจากสภาพที่เปนจริงของทุกพื้นที่ เมอ่ื เรม่ิ ตน เพาะเลย้ี งกงุ ระบบเปด “แบบพัฒนา” สภาพแวดลอมโดยทั่วไปยังดีอยู กม็ ักจะไดผ ลผลิตกงุ ท่ีดี แตเ มอ่ื ดําเนนิ การเพาะเลย้ี งรนุ ตอ ๆ ไป มคี วามรู ความชํานาญ ประสบการณม ากขน้ึ แทนที่จะได ผลผลติ ดขี น้ึ ปญ หาลดลง แตในสภาพที่เปนจริงกลับมีปญหาสภาพแวดลอมเสื่อมโทรม เกดิ มลพษิ และโรคภัยไขเจ็บตางๆ มากยง่ิ ขน้ึ จนกระทง่ั ไมส ามารถเพาะเลย้ี งกงุ ระบบเปด “แบบพัฒนา” ไดอ กี ตอ ไป จงึ มกั จะยา ยพน้ื ทเ่ี ลย้ี งกงุ ในลกั ษณะเสมอื นกบั การทําไรเ ลอ่ื นลอย ทําใหพื้นที่หลายแหงซึ่งเคยเลี้ยง กงุ ไดผ ลผลติ ดกี ลบั ถกู ปลอ ยรา ง หากขนื เลย้ี งกงุ ระบบเปด “แบบพัฒนา” ตอ ไปกม็ แี นวโนม สงู เปน อยางย่ิงวาจะตองประสบภาวะลมสลายเชนเดียวกับท่ีเกิดแลวในประเทศอน่ื ๆ ซงึ่ จะกอใหเกดิ ความสูญ เสียทางเศรษฐกิจเปนอยางมาก อนึ่ง ถา จะฟน ฟกู ารเลย้ี งกงุ และสตั วน ้ําอน่ื ๆ ใหก ลบั มคี วามมน่ั คง ดํารงอยูไดอยางย่ังยืนตอไปน้ัน มีความจําเปนอยางย่ิงทค่ี วรจะตอ งเลกิ การเปลย่ี นถา ยระบายทง้ิ (ทง้ั เลน ตะกอน และนํ้า) คอื ควรเลกิ การเลย้ี งกงุ ระบบเปด “แบบพัฒนา” ทใี่ ชกันอยูแตเ ดิมแลว ควรหันมาเล้ียงกุงระบบเปดหรือรีไซเคิ้ล ซ่ึงเปนการเลี้ยงโดยใชวิธีการปองกันมลภาวะจากภาย นอก พรอ มดําเนนิ การบําบดั ควบคมุ และรกั ษาความสมดลุ ของสภาพแวดลอ มภายในฟารม อยา ง ตอ เนอ่ื ง โดยไมต อ งเปลย่ี นระบายทง้ิ แตก อ นดําเนนิ การเลย้ี งจะตอ งปรบั ปรงุ ลกั ษณะแผนผงั โครง สรา งขน้ั พน้ื ฐาน และเปลย่ี นวธิ กี ารจดั การฟารม ทกุ ขน้ั ตอน ใหส อดคลอ งกบั สภาพตามความเปน จรงิ ทางธรรมชาติ ใหเ ออ้ื อํานวยตอ การปอ งกนั มลภาวะตา งๆ จากภายนอก สะดวกตอ การบําบดั มลภาวะ ตา ง ๆ ภายในฟารม (ทง้ั กอ น ระหวาง และหลังการเพาะเลีย้ ง) จนกระทง่ั กลบั คนื สภู าวะสมดลุ สะอาด ถกู สขุ อนามยั แลวนํากลบั มาใชเ พาะเลย้ี งกงุ และสตั วน ้ําอน่ื ๆ ไดอ ยา งตอ เนอ่ื งครบวงจร ลกั ษณะแผนผงั โครงสรา งฟารม ฟารม เลย้ี งกงุ ระบบปด หรอื ระบบรไี ซเคล้ิ ทจ่ี ะเออ้ื โอกาสใหส ามารถจดั การเลย้ี งไดอ ยา งมี ประสทิ ธภิ าพสอดคลอ งกบั สภาพความเปน จรงิ ตามกลไกทางธรรมชาติ สะอาดถกู สขุ อนามยั เออ้ื อํานวย ตอ การฟนฟู ควบคมุ และรกั ษาสภาพแวดลอ มอยา งตอ เนอ่ื ง โดยไมตองใชกากชา ไมต อ งทําสนี ้ํา ไม ตอ งดดู เลน ไมต อ งเปลย่ี นถา ยระบบทง้ิ นน้ั จะตอ งวางรปู แบบแผนผงั โครงสรา งฟารม (นอกเหนอื จาก รปู แบบแผนผงั โครงสรา งฟารม ในระบบเปด “แบบพัฒนา” ท่ใี ชก นั อยูเดมิ ) ใหเหมาะสม ตามภาพท่ี 2 นน้ั แบง องคป ระกอบตา ง ๆ ภายในฟารม เลย้ี งโดยสงั เขป ดงั ตอ ไปน้ี - ฟารม ขนาดเลก็ “small scale farm” หลาย ๆ ฟารม ประกอบกนั เขา เปน ฟารม ขนาดใหญ “large scale farm” และระหวา งฟารม กนั พน้ื ทไ่ี วเ ปน เขตกน้ั กลาง “buffer zone” โดยรอบ (กวาง ระหวา ง 10-40 เมตร) ในเขตกน้ั กลางระหวา งฟารม ควรมที ง้ั ทพ่ี กั อาศยั ดา นสําหรับฆาเชื้อชําระลา ง ใหส ะอาดกอ นเขา ฟารม และควรปลกู พรรณไม (สวนปา ) ที่เหมาะสมดวย เพอ่ื จะไดม ีโอกาสจัดการ ปอ งกนั และลดปญ หาเกย่ี วกบั มลพษิ โรค ปรสิตและภัยพิบัติตาง ๆ ตามธรรมชาตจิ ากภายนอกฟารม - ฟารม เลย้ี งกงุ ขนาดเลก็ แตล ะฟารม นน้ั ควรแบง พน้ื ทอ่ี อกเปน เขตบอ เลย้ี งกงุ (50-70%) กบั เขตบอ บําบดั น้ํา “หรอื เขตบอ เลย้ี งพรรณไมน ้ํา (สวนปา ) และสตั วน ้ําอน่ื ๆ แบบครบวงจร” (30-

การเลย้ี งกงุ กลุ าดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 4 50%) สาํ หรบั ในสว นทเ่ี ปน แนวคลองผนั น้ําท่ีระบายจากบอเล้ียงกงุ กลบั ไปบําบดั นน้ั ควรอยโู ดยรอบ ฟารม ระดบั พน้ื กน คลองตอ งลกึ กวา พน้ื ทก่ี น บอ และมที อ หรอื ประตบู งั คบั น้ําปด กน้ั คลองตา ง ๆ (รวม ทง้ั ปด กน้ั คลองระหวา งฟารม กบั แหลง น้ําธรรมชาตดิ ว ย เพอ่ื รองรบั น้ําทั้งจากการระบายและการรั่วซึม แลว สง กลับไปบําบดั ถา รกั ษาระดบั น้ําในคลองดงั กลา วใหต ่ํากวา พน้ื ทข่ี า งเคยี งอยา งตอ เนอ่ื ง ก็จะชวย ปอ งกนั มใิ หก การเลย้ี งกงุ สง ผลกระทบตอ สภาพแวดลอ มภายนอก ภาพท่ี 2 แสดงลกั ษณะแผนผงั โครงสรา งฟารม เลย้ี งกงุ ระบบเปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 1 = คลองสง น้ําเขา บอ บําบดั 3 = คลองรวมน้ําบําบดั แลว 4 = คลองสง น้ําที่บําบดั แลว เขา บอ เลย้ี งกงุ 6 = คลองผันน้ําท่รี ะบายจากบอเล้ียงกุงกลบั ไปบําบดั การเตรยี มฟารม การบําบดั ปรบั ปรงุ ฟารม กอ นเลย้ี งกงุ รนุ ตอ ไป” หลงั จบั กงุ แตล ะรนุ แลว ภายในฟารมทั้งที่พื้นดิน ตะกอน เลน น้าํ เครอ่ื งมอื และอปุ กรณต า งๆ นน้ั กจ็ ะปนเปอ นดว ยสงิ ขบั ถา ย เศษอาหาร ซากสง่ิ มชี วี ติ สารพิษ จุลินทรีย ตลอดจนเชอ้ื โรค-ปรสติ ตา ง ๆ รวมทง้ั ทเ่ี ขา เกราะอยใู นรปู ของซสี ท สปอร ซง่ึ ดอ้ื และทนทานตอ ทง้ั ยา สารเคมี และสภาพแวด ลอ มทไ่ี มเ หมาะสมดว ย) ดงั นน้ั ถาหากยังทําความสะอาดฟารม โดยการลา งแลว เปลย่ี นถา ยระบบทง้ิ ลงสแู หลง น้ําธรรมชาตหิ รอื เกบ็ กกั ไวภ ายในฟารม โดยมไิ ดร บั การบําบดั กอ นทจ่ี ะใชเ พาะเลย้ี งรนุ ตอ ไป ก็ นา จะเปน อกี สาเหตหุ นง่ึ ทม่ี ผี ลสะทอ นกลบั มาทําลายกจิ การของตนเองและผอู น่ื ดว ย ดงั นน้ั ถาจะเลี้ยง กงุ โดยไมม กี ารทง้ิ เลนและตะกอนออกจากฟารม นน้ั มคี วามจําเปน อยา งยง่ิ ทจ่ี ะตอ งจดั การยอ ยสลายสง่ิ ปฏกิ ลู ตา ง ๆ ภายในฟารม ใหก ลบั คนื สภู าวะสมดลุ สะอาด ถกู สขุ อนามยั กอ นทจ่ี ะเลย้ี งกงุ รนุ ตอ ไป ซง่ึ มี ขน้ั ตอนโดยสงั เขป ดงั น้ี 1. การบําบดั ปรบั ปรงุ เลนในบอ - หลงั จบั กงุ แลว ระบายน้ําเขา พอทว มเลนทพ่ี น้ื บอ (5-30 ซม.) แลวฉีด และ ดดู และ คราดเลนทพี่ น้ื ใหกระจายอยเู ฉพาะในบอ (สําหรบั เอกสารฉบบั นจ้ี ะกลา วเฉพาะการคราด ตามภาพที่ 3) โดยคราดใหเ ลนแตกกระจายผสมกบั น้ํา สมั ผสั กบั อากาศในหลกั การเดยี วกนั กบั การเตรยี มนาหวา น

การเลย้ี งกงุ กลุ าดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 5 นา้ํ ตม และการทําปุยหมัก 2-3 ครง้ั ระยะหางแตละครั้งปลอยพักไวระหวาง 5-7 วัน/ครง้ั ซง่ึ ใน ระหวางการคราดอากาศจะเขาไปแทนที่แกสพิษตาง ๆ ทอ่ี ยใู นเลน กจ็ ะมผี ลตอ เนอ่ื ง ชวยเรง ใหจุลนิ ท รยี ต า ง ๆ ทม่ี อี ยแู ลว ตามธรรมชาตยิ อ ยสลายเศษอาหาร สง่ิ ขบั ถา ย ซากสง่ิ มชี วี ติ ตลอดจนสารพษิ ตา ง ๆ ใหแ ปรสภาพตามกลไกลทางธรรมชาตเิ ปลย่ี นเปน ฮวิ มสั ปุย แรธ าตตุ า ง ๆ จนกระทง่ั กลับคืนสูภาวะสม ดลุ (ใสจ ลุ นิ ทรยี เ สรมิ ลงในเลนระหวา งการคราดอาจยน ระยะเวลาในการยอ ยสลาย) แลว จงึ หวา นปูน ขาวพรอ มคราดอกี ครง้ั เพ่อื ฆา เชือ้ (ยกเวน เชอ้ื ทอ่ี ยใู นรปู ของ ซีสท สปอร ไมส ามารถกําจดั ไดใ นขน้ั ตอนน้ี) พรอ มปรบั pH ใหอยใู นระดับทเี่ หมาะสม เสรจ็ แลว ปลอ ยใหต กตะกอนกอ นระบายเฉพาะน้ํา ออกใหห มด ตากใหแหง เลนกจ็ ะแปรสภาพกลบั เปน ดนิ แขง็ พรอ มขดุ ลอกเสรมิ ตกแตง ภายในฟารม ให อยใู นสภาพที่ดีพรอมกอนที่จะดําเนนิ การในขอ 2 ตอ ไป ภาพที่ 3 แสดงการคราดบําบดั เลนในบอ เลย้ี งกงุ 2. การบําบดั ปรบั ปรงุ ผวิ ดนิ ในบอ - หลังจากตากบอแหงแลวระบายน้ําเขาบอพอทว มพืน้ (5-30 ซม.) พรอ มคราดผวิ ดนิ ทพ่ี น้ื บอ ใหแตกกระจายผสมกบั น้ํา แลว ปลอ ยพักไวประมาณ 3-5 วัน เชอ้ื ตา ง ๆ ทเ่ี ขา เกราะอยใู นรปู ของ ซสี ท สปอร “ ซง่ึ ปนอยกู บั ดนิ ” เมอ่ื ไดร บั น้ําและอากาศทีเ่ หมาะสม ก็จะเพาะฟกออกจากเกราะเปนตัว ออ น ซ่ึงจะอยูในสภาพทเ่ี ราสามารถกําจดั ได - หวา นปนู ขาวแลว คราดอกี ครง้ั เพื่อกําจดั เชอ้ื พรอ มปรบั pH บรเิ วณพน้ื บอ ใหอ ยใู นระดบั ท่ี เหมาะสม ปลอ ยใหต กตะกอนระบายน้ําออกใหห มด ตากพอแหง พรอ มบดอดั พน้ื บอ ใหแนน ตามภาพท่ี 4 ภาพท่ี 4 แสดงการบดอดั พน้ื บอ เลย้ี งกงุ

การเลย้ี งกงุ กลุ าดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 6 3. การบําบดั ปรบั ปรงุ เครอ่ื งมอื และอปุ กรณต า ง ๆ หลงั จากทําความสะอาด ซอ มบํารงุ เครอ่ื งมอื และอปุ กรณต า งๆ เสร็จพรอมตากแหงแลว นํา อปุ กรณต า งๆ (เฉพาะสว นทเ่ี คลอ่ื นยา ยไดแ ละตอ งใชใ นน้ํา) ไปแชนํ้าไวป ระมาณ 3-5 วัน เพื่อใหเชื้อ ตา งๆ ทอ่ี าจตกคา งอยใู นรปู ของซสี ท สปอร ฟกออกจากเกราะ จากนน้ั ฆา เชอ้ื ตากใหแ หง อกี ครง้ั การเตรยี มน้ํา การบําบดั ปรบั ปรงุ คณุ ภาพน้ํากอ นใชเ ลย้ี งกงุ รนุ ตอ ไป” เมอ่ื แหลง น้ําธรรมชาตเิ ปน สาธารณสมบตั ิ ของผคู นทกุ สาขาอาชพี รว มกนั ใชจ งึ เปน แหลง รองรบั สง่ิ ปฏกิ ลู ตา ง ๆ ทม่ี ไิ ดร ับการบําบดั จากการประกอบกจิ การตา งๆ เมอ่ื มสี ะสมมากเหลอื ลน เกนิ กวา กล ไกทางธรรมชาตจิ ะบําบัดไดทัน กจ็ ะเปน อนั ตรายตอ สตั วน ้ําและไมส ามารถใชน ้ําจากแหลง น้ําธรรมชาติ ทเ่ี สอ่ื มโทรมนน้ั เพาะเลย้ี งสตั วน ้ําโดยตรงไดอ กี ตอ ไป แตเ มอ่ื มคี วามจําเปน ทจ่ี ะตอ งใชน ้ําทม่ี สี ง่ิ ปฏกิ ลู ปน เปอ น ในการเพาะเลย้ี งกงุ และสตั วน ้ําอน่ื ๆ ตอ ไป จงึ มคี วามจําเปน อยา งยง่ิ ทจ่ี ะตอ งนําน้าํ ท่มี สี ่งิ ปฏกิ ลู ตา งๆปนเปอ นเหลา นน้ั มาบําบดั จัดการชวยเรงในการยอยสลายจนกระทั่งแปรสภาพกลับคืนสูสภาวะสม ดลุ สะอาด ถกู สขุ อนามยั กอ นทจ่ี ะนําไปใชใ นการเพาะเลย้ี งซง่ึ มขี น้ั ตอนในการบําบดั โดยสงั เขป ดงั น้ี 1. สบู น้ําเขาเก็บกักพักไวภายในฟารมใหเต็มทุกบอ โดยจัดการใหน้ําในเขตบอ ทจ่ี ะใชเ ลย้ี งกงุ มี ความเคม็ เรม่ิ ตน ระหวา ง 2-35 สว นในพนั สว นน้ําในเขตบอ บําบดั (เขตเลย้ี งพรรณไมน ้ํา และ สตั วน ้ําอน่ื ๆ ) จดั การใหค วามเคม็ เรม่ิ ตน ระหวา ง 0-35 สว นในพนั เสรจ็ แลว ปด ประตบู งั คบั น้ําทุก ประตภู ายในฟารม ถา น้ําทน่ี ําเขา มาเกบ็ กกั ไวเ ปน น้ําสะอาด ก็ใหดําเนนิ การตอ ไปในขน้ั ตอนท่ี 3 ไดทัน ที แตถ า เปน น้ําทม่ี สี ง่ิ ปฏกิ ลู ตา ง ๆ ปนเปอ นมากจนกระทง่ั ไมส ามารถใชเ ลย้ี งกงุ โดยตรงอกี ตอ ไปแลว ก็ ตองนําน้ําที่มีสิ่งปฏิกูลปนเปอนนั้นมาเก็บกักพักไวภายในฟารมแลวปลอ ยใหก ลไกตามธรรมชาตทิ างชวี ภาพบาํ บดั จนกระทง่ั กลบั คนื สภาวะสมดลุ กอนที่จะดําเนนิ การในขน้ั ตอนตอ ไปนน้ั กต็ อ งใชร ะยะเวลา ระหวาง 6-8 สัปดาห แตถ า ตอ งการยน ระยะเวลาในการบําบดั กค็ วรตอ งเปด เครอ่ื งชว ยเพม่ิ อากาศใน นา้ํ และอาจใสจ ลุ นิ ทรยี เ สรมิ เพอ่ื ชว ยยน ระยะเวลาในการยอ ยสลาย 2. สบู นา้ํ จากเขตบอ บําบดั มาใชท ลี ะบอ สําหรบั เตมิ ใสบ อ ในเขตเลย้ี งกงุ ทดแทนสว นทร่ี ะเหยและ รวั่ ซมึ (สว นน้ําในเขตบอ บําบดั ทกุ บอ ทถ่ี กู นําไปใช “บอ ละ 70-80 %” กส็ บู น้ําจากแหลง น้ําธรรมชาติ เขามาทดแทนเพื่อบําบดั ไวใ ชต อ ไป) 3. เปด เครอ่ื งชว ยเพม่ิ อากาศในเขตบอ เลย้ี งเปน เวลาประมาณ 3-5 วัน (ควรปรบั pH ดวยปูน ขาวใหอ ยใู นระดบั 8-9 และอลั คาลนิ ติ ใ้ี หอ ยใู นระดบั 80-150 สว นในลา น) เพอ่ื เรง ใหเ ชอ้ื ตา ง ๆ ที่ คงตกคา งอยใู นรปู ของ ซีสท สปอร ฟก ออกจากเกราะเปน ตวั ออ น กอนที่จะดําเนนิ การตอ ตามขอ 4 4. ใสส ารประกอบพวกทเ่ี ปน ทง้ั ออกซไิ ดซง่ิ เอเจนเปน ตวั เตมิ ออกซเิ จน และเปน สารฆา เชอ้ื พรอ ม กนั ไป (เฉพาะในบอ ท่ีจะใชเลยี้ งกงุ ยกเวน ในเขตบอ บําบดั น้ําทางชีวภาพ) โดยใชใ นปรมิ าณทม่ี าก เพียงพอที่จะแปรสภาพสารพิษ เชน พวกโลหะตาง ๆ ใหเ ปลย่ี นไปอยใู นรปู ทไ่ี มเ ปน พษิ จนกระทง่ั หมดตลอดจนฆา เชอ้ื พรอ มสง่ิ มชี วี ติ ตา ง ๆ ทม่ี อี ยใู นบอ ทจ่ี ะใชเ ลย้ี งกงุ ดว ย สารทจ่ี ะเลอื กใชม ี

การเลย้ี งกงุ กลุ าดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 7 อยหู ลายชนิด อาทิ คลอรนี ผง (เกรด 60%) 10-30 กรัม/ตนั “20-50 กิโลกรัม/ไร” หรอื คลอรนี น้ํา (เกรด 10%) 30-100 ซีซี/ตนั หรือดางทับทิม (5-15 สว นในลา น) ฯลฯ 5. หลงั จากปฏบิ ตั ติ ามขอ 4 แลวประมาณ 1 วัน ถา หากในน้ํานน้ั มซี ากสง่ิ มชี วี ติ ตา ง ๆ ใน ปรมิ าณมาก (ระหวา งการเนา สลาย) ควรเรม่ิ ตน ควบคมุ คณุ ภาพน้ําภายในบอ ดงั ตอ ไปน้ี 5.1 ใสสารประกอบพวกที่จะทาํ ปฏกิ รยิ ากบั แกส คารบ อนไดออกไซด และแกส ไขเ นา ในน้ํา แลว เปลย่ี นสภาพไปอยใู นรปู ทไ่ี มเ ปน อนั ตรายตอ สตั วน ้ํา (อาทิ ปนู ขาว 0.5-3 สว นในลา น “1-5 กิโลกรัม/ ไร” ยกเวน ในกรณที น่ี ้ํามี pH และอลั คาลนิ ติ ส้ี งู มากเกนิ กวา ระดบั ทเ่ี หมาะสม ควรงดใช) 5.2 ใสสารประกอบพวกที่จะทาํ ปฏกิ รยิ ากบั แอมโมเนยี แลวเปลย่ี นสภาพไปอยูในรูปทีไ่ มเ ปน อนั ตรายตอ สตั วน ้ํา อาทิ ฟอรมาลนิ 0.25-3 สว นในลา น “0.5-5 ลติ ร/ไร” หรอื กรดเกลอื 0.25- 0.50 สว นในลา น “0.5-1 ลติ ร” หรอื คลอรนี ผง (เกรด 60%) 0.025-0.1 สว นในลา น “50-100 กรัม/ไร” คลอรนี น้ํา (เกรด 10%) 0.25-0.1% “300-600 ซีซี/ไร” ยกเวน ในกรณที ่ี pH และอลั คาลนิ ติ ต้ี ่ํากวา ระดบั ทเ่ี หมาะสมควรงดใช 5.3 ใสสารประกอบพวกที่จะชวยลดความเปนพิษของสารพิษพวกโลหะตางๆ โดยจะไปจับกับ พวกสารพษิ แลว เชอ่ื มโยงตอ เขา ดว ยกนั อยใู นรปู กา มปู (chelated) ทไ่ี มเ ปน อนั ตรายตอ สตั วน ้ํา อาทิ อดี ที เี อ 0.01-0.05 สว นในลา น “25-100 กรัม/ไร หรือโซเดียมทัยโอซัลเฟต 0.01-0.05 สว นใน ลา น 25-100 กรัม/ไร” ยกเวนกรณีที่ไมมีสารพิษงดใช ซง่ึ สารแตล ะกลมุ ตามขอ 5.1, 5.2, 5.3 ดงั กลา วขา งตน จะใชส ลบั กนั ทกุ ๆ ระยะ 4-6 ชวั่ โมง/ครง้ั ควรเรม่ิ ตน ใชส ารประกอบดงั กลา ว (ควรเดนิ ทวนทศิ ทางของกระแสน้ําในบอ ) จากระดับ ความเขม ขน สงู สดุ ทก่ี ําหนด แลว ลดปรมิ าณลงวนั ละประมาณ 20-30% จนกระทง่ั อยใู นระดบั ต่ําสดุ (ซงึ่ ใชระยะเวลาระหวาง 3-5 วัน) แลวหยุดดําเนนิ การในขน้ั ตอนนป้ี ระมาณ 2 วนั กอ นปลอ ยกงุ (สาร ใด ๆ กต็ ามทจ่ี ะใชใ นขน้ั ตอน 5 นจ้ี ะตอ งใชร ะดบั ความเขม ขน ทต่ี ่ํามากจนกระทง่ั ไมก อ ใหเ กดิ อนั ตรายตอ จลุ นิ ทรยี แ ละสง่ิ มชี วี ติ ตา ง ๆ ที่กําลงั จะเกดิ ขน้ึ ใหมใ นบอ ตามกลไกทางธรรมชาติ) เพื่อแปรสภาพสาร และแกสพิษตาง ๆ ที่เกิดจากกระบวนการยอยสลาย (ซากสง่ิ มชี วี ติ ตา ง ๆ) มใิ หส ะสมภายในบอ อีกทั้ง เพ่ือตองการใหสงผลกระทบในทางออ มยอ นกลับมาควบคมุ สภาพแวดลอ มภายในบอ ใหไ มเ ออ้ื อํานวยตอ การดาํ รงชวี ติ ของพวกจลุ นิ ทรยี  และสง่ิ มชี วี ติ อน่ื ๆ ทก่ี อ ใหเ กดิ อนั ตรายตอ กงุ แตเ ออ้ื อํานวยตอ การ ดาํ รงชวี ติ ของจลุ นิ ทรยี  แพลงกตอน และสง่ิ มชี วี ติ อน่ื ๆ พวกที่จะกอใหเกิดสายใยธรรมชาติซึ่งเปน ประโยชนตอกุง (ควรตรวจเชก็ คณุ สมบตั ขิ องน้ําทั้งชีวะ ฟส กิ สแ ละเคมี พรอ มปรบั ใหก ลบั คนื สภู าวะ สมดลุ มคี ณุ สมบตั เิ หมาะสมทกุ ประการกอ นปลอ ยลกู กงุ ลงเลย้ี ง) การปลอ ยกงุ ลงเลย้ี ง - เปด เครอ่ื งชว ยเพม่ิ อากาศในน้ําทจ่ี ะปลอ ยกงุ ลงเลย้ี งตลอดเวลา กอ นนําลกู กงุ มาปลอ ยอยา ง นอ ย 1 วัน

การเลย้ี งกงุ กลุ าดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 8 - ลกู กงุ ทจ่ี ะปลอ ยลงเลย้ี งควรเปน กงุ ทแ่ี ขง็ แรง ไมเ ปนโรคท่เี กดิ จากการติดเช้ือ ความเคม็ ของ นา้ํ ในบอ อนบุ าลลกู กงุ ควรปรบั ใหใ กลเ คยี งกบั ความเคม็ ของน้ําในบอ ทจ่ี ะปลอ ยลกู กงุ ลงเลย้ี ง - ปลอ ยลกู กงุ ลงเลย้ี งในอตั ราระหวา ง 30,000-100,000 ตวั /ไร ขน้ึ อยกู บั รปู แบบวธิ กี าร จดั การเลย้ี งและขนาดกงุ ทจ่ี ะจบั ขาย การใหอาหาร อาหารสําเรจ็ รปู ทด่ี นี น้ั นอกจากจะตอ งมคี ณุ คา ทางอาหารครบถว นแลว ยงั ตอ งมขี นาดเมด็ เหมาะสมกบั วยั ละลายน้ําชา ไมก อ ใหเ กดิ ฟอง สะอาดและถกู สขุ อนามยั ดว ย - เรม่ิ ใหอ าหารสําเรจ็ รปู 50-100 กรัม/มอ้ื /100,000 ตวั หลงั จากปลอ ยลกู กงุ พี 10-15 ลงเลย้ี ง ถา ในบอ มอี าหารธรรมชาติ พวก โคพีพอด ลกู น้ํา หนอนแดง และอน่ื ๆ ควรปรบั ลดปรมิ าณ อาหารสําเรจ็ รปู ใหเ หมาะสมสอดคลอ งกบั ปรมิ าณอาหารธรรมชาตดิ ว ย - ใหก งุ กนิ อาหารวนั ละ 4-6 มอ้ื (กลางคนื 2-3 มอ้ื กลางวนั 2-3 มอ้ื ) เมอ่ื ปลอ ยลกู กงุ ลง เลย้ี งแลว ถา ไมม อี าหารธรรมชาติ ควรเรม่ิ ใหอ าหารสําเรจ็ รปู ปรมิ าณ 6 มอ้ื แลวคอย ๆ ลดจํานวน มอ้ื ลงพรอ มปรบั ปรมิ าณอาหารตามความเหมาะสม เมอ่ื กงุ มขี นาดโตขน้ึ หลัง (เดนิ ทวนทศิ ทางของ กระแสนํ้าในบอ ) หวา นอาหาร โดยรอบบอ ใหก งุ กนิ แตล ะมอ้ื เสรจ็ แลว (สกั ครู “5-15 นาที” เพอ่ื รอ ใหก ระแสนํ้าพาอาหารกระจายทั่วบอ) จึงนําอาหารสว นทแ่ี บง มาใสย อละประมาณ 1 กํามอื พรอ มปด เครอ่ื งชว ยเพม่ิ อากาศในน้ําประมาณ 1 ชั่วโมง เพอ่ื ใหก งุ กนิ อาหารสว นทห่ี วา นกอ น (ในกรณที เ่ี รม่ิ เปลย่ี นเบอรอ าหารควรนําอาหารประมาณ 5 กรัม ใสถ งุ อวนมงุ ไนลอน แลวผูกไวกับยอ เพื่อตรวจเช็ก การละลายน้ําดว ย) ควรปรบั ปรมิ าณอาหารทใ่ี หก งุ กนิ แตล ะมอ้ื จนกระทง่ั อาหารในยอหมดกอ น เปด เครอ่ื งกงั หนั ตนี ้ํา (อาหารหมดไปจากยอในชว งนม้ี ไิ ดห มายความวา อาหารทใ่ี หก งุ กนิ ภายในบอ หมดไปดว ย ยงั มสี ว นทเ่ี ปน เศษอาหาร และสว นทก่ี งุ กนิ เหลอื ตกคา งอยู) ดงั นน้ั ควรแยกยอตรวจดู ปรมิ าณอาหารกอ นเปด เครอ่ื งชว ยเพม่ิ อากาศในน้ํา หลงั จากตรวจอาหารในยอแตล ะมอ้ื แลว ควรนํายอ ขน้ึ ตาก) ระหวา งตรวจเชก็ ปรมิ าณอาหารในยอควรตรวจดสู ขุ ภาพกงุ และคณุ ภาพน้ําทางฟสิกสบาง ประการพรอ มกนั ไปดว ย จากนน้ั ปรบั ปรมิ าณอาหารมอ้ื ตอ ไปใหเ หมาะสม ในกรณที อ่ี ณุ หภมู ลิ ดลง ทอ งฟา ปด ตอ เนอ่ื ง รวมทง้ั เมอ่ื กงุ ปว ยยง่ิ ตอ งปรบั ลดปรมิ าณอาหารท่ี ใหก งุ กนิ ลงจากระดบั ปกติ (ระหวาง 20-50%) พรอ มเสรมิ วติ ามนิ ซหี รอื และวติ ามนิ รวมในอาหาร ประมาณ 2-5 กรัม/กิโลกรัม และตรวจเชก็ พรอ มปรบั ปรมิ าณอาหารใหเ หมาะสมอยา งตอ เนอ่ื งเปน กรณีพิเศษ จนกวาสุขภาพกุงที่เลี้ยง สภาพแวดลอ มทเี่ ปล่ียนแปลงและสภาพน้ําภายในบอ จะกลบั คนื สู ภาวะปกติ การควบคมุ และรกั ษาคณุ ภาพน้ําระหวา งการเลย้ี ง ตามกลไกธรรมชาตภิ ายในบอ ระหวา งการเลย้ี งกงุ จะมที ง้ั เศษอาหาร สง่ิ ขบั ถา ย ซากสง่ิ มชี วี ติ จุลนิ ทรีย ฮวิ มสั ปุย แรธ าตุ แกสพิษ อากาศ แพลงกตอน เบนโทส และอน่ื ๆ อยกู อ นแลว ดังน้ันถาจะเลี้ยงกุงโดยที่ไมมีการเปลีย่ นถา ยระบายน้ําทง้ิ ในระหวา งการเลย้ี งนน้ั มคี วามจําเปน อยา งยง่ิ ท่ี

การเลย้ี งกงุ กลุ าดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 9 จะตองควบคุมและรักษาสภาพแวลอมภายในฟารมทั้งทางชีวภาพ ฟสิกส และเคมใี หค งอยใู นภาวะสมดลุ สะอาด ถกู สขุ อนามยั อยา งตอ เนอ่ื ง ซง่ึ มขี น้ั ตอนโดยสงั เขป ดงั น้ี ภาพท่ี 5 แผนภูมิแสดงความสัมพันธภายในฟารมเลี้ยงกุงระบบปด (แบบใชบอเลี้ยงเปนบอบําบัดนํ้าทางชีวภาพดว ย) 1. การควบคมุ และรกั ษาคณุ ภาพน้ําทางชวี ภาพ มีหลายรูปแบบ แลวแตจะเลือกใช (ควร เลอื กใชเ พยี งรปู แบบเดยี วตามความเหมาะสม) แต ณ ที่นี้จะกลาวเพียง 3 รปู แบบดงั น้ี 1.1แบบใชบ อ เลย้ี งกงุ เปน บอ บําบดั น้ําทางชีวภาพระหวา งการเลยี้ งกงุ ดวย (รูปแบบนี้เหมาะสม สาํ หรบั ฟารม ขนาดเลก็ ) ตามภาพท่ี 5 ขอ 1.1 การควบคุมและรักษาคุณภาพนํ้าทางชีวภาพ รปู แบบนต้ี ลอดการเลย้ี ง จะไมม กี ารระบายน้ําออกจากบอ เลย้ี งกงุ มแี ตก ารใชน ้ําสะอาด จากบอบําบดั น้ําทางชีวภาพ (หรอื และ ใชน าํ้ จากแหลงน้ําธรรมชาตทิ ส่ี ภาพแวดลอ มยงั ดอี ยู แตจะมีปญหา สตั วน ้ําวยั ออ นชนดิ ทไ่ี มต อ งการตดิ เขา ไปเจรญิ เตบิ โตอยใู นบอ ดว ย) เติมใสบอ เลี้ยงกงุ ทดแทนสว นทีร่ ะเหยและรั่วซมึ (ระหวา งการเลย้ี งกงุ ระบบปด หรอื ระบบรไี ซเคล้ิ นน้ั ควรเลิกใหกากชา เลิกการทําสนี ้ํา เลกิ ดดู ตะกอนและเลกิ ปฏบิ ตั กิ าร อน่ื ๆ ทจ่ี ะกอ ใหเ กดิ ความไมส มดลุ ของสภาพแวดลอ ม) หลงั จากปลอ ยลกู กงุ ลงเลย้ี งในบอ แลว ควรนําสตั วน ้ําทม่ี ขี นาดเลก็ ระหวา ง 1-3 เซนตเิ มตร ที่ กนิ แพลงกต อนเปน อาหาร เชน ปลาหางนกยงู ปลอ ยลงในบอ เลย้ี งกงุ (ถา หากพน้ื บอ เรม่ิ เนา เสยี ควร ใสจ ลุ นิ ทรยี เ สรมิ ลงในบอ เพอ่ื ชว ยยน ระยะเวลาในการยอ ยสลายดว ย) หรอื และปลอ ยใหส ตั วน ้ําทม่ี ขี นาด เลก็ ซง่ึ มอี ยตู ามธรรมชาตใิ นบอ บําบดั น้ําทางชีวภาพ เชน ปลาบแู คระ บใู ส ซง่ึ ลอดผา นถงุ กรองน้ํา (ที่ ทาํ ดว ยอวนมงุ ไนลอน ขนาดตาระหวา ง 16-20 ตา/นว้ิ ) ในระหวา งสบู น้ําจากบอ บําบดั (ทางชีวภาพ) เติมใสบอเลี้ยงกุงโดยสัตวน้ําท่ีมีขนาดเล็กเหลานั้นจะเจริญเติบโตขยายพันธุภายในบอเล้ียงกุงทําหนาที่ เสมอื นพนกั งานรกั ษาความสะอาด เกบ็ กนิ แพลงกต อน เศษอาหาร สง่ิ ขบั ถา ยและซากสง่ิ มชี วี ติ ตา งๆ เมอ่ื กงุ เจรญิ เตบิ โตจนกระทง่ั มขี นาดนอ ยกวา 80 ตวั /กิโลกรัม กจ็ ะเรม่ิ จบั สตั วน ้ําเหลา นน้ั กนิ เปน อาหาร อกี ทอดหนง่ึ ตราบใดกต็ ามทส่ี ายใยอาหารธรรมชาตภายในบอ เลย้ี งกงุ ยงั คงสมดลุ พรอ มทง้ั ใชวิธกี าร ทางฟส กิ ส (ตามขอ 2) และเคมี (ตามขอ 3) รว มดว ยก็จะสามารถควบคุมและรกั ษาคณุ ภาพน้ําภาย ในบอ ใหค งอยใู นภาวะสมดลุ ไดโ ดยไมต อ งระบายน้ําออกจากบอ เลย้ี งกงุ ตลอดการเลย้ี ง

การเลย้ี งกงุ กลุ าดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 10 1.2 แบบผนั น้ําระหวา งเขตบอ เลย้ี งกงุ กบั เขตบอ บําบดั น้ําแบง แนวทางเลอื กใชอ อกเปน 2 รปู แบบยอย 1.2.1 แบบผนั น้ําจากบอ เลย้ี งกงุ ใหไ หลผา นบอ บําบดั น้ําทางชวี ภาพตา งๆ เรยี งตามลําดับหวง โซอ าหารธรรมชาติ (เชน บอ ตกตะกอน บอ จลุ นิ ทรยี แ ละแพลงกต อน บอ เลย้ี งสตั วน ้ําพวกกินแพลงก ตอน บอ พรรณไมน ้ํา) และบอบําบดั น้ําทางเคมี แลว เวยี นกลบั ไปใชเ ลย้ี งกงุ อยา งตอ เนอ่ื ง (การเลย้ี งกงุ ในรปู แบบนง้ี า ยตอ การปฏบิ ตั ิ แตไ มเ ออ้ื อํานวยตอ การปอ งกนั ควบคมุ และรกั ษาโรคทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ภายใน ฟารม ระหวา งการเลย้ี ง) 1.2.2 แบบผนั น้ําจากเขตบอ เลย้ี งกงุ ใสเ ขตบอ บําบดั น้ําทางชีวภาพใหเต็มทีละบอ (เมอ่ื คนื สภาพกลับสูภาวะปกติแลวนํากลับไปใชทีละบอ) ภาพท่ี 6 แผนภูมิแสดงความสัมพันธในฟารมเลี้ยงกุงระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล (แบบผนั น้ําจากเขตบอ เลย้ี งกงุ ใสเ ขตบําบัดนํ้าทางชีวภาพใหเต็มทีละบอ) ตามภาพที่ 6 ขอ 1.2.2 ควรมบี อ บําบดั น้ํารวม (ภาพที่ 7) จํานวนระหวา ง 3-6 บอ แตล ะ บอ นน้ั จะมสี ายใยอาหารธรรมชาตคิ รบวงจร เชน จุลินทรีย แพลงกตอน พรรณไมน ้ํา (สวนปา ) ตลอดจนสตั วน ้ําอน่ื ๆ (เชน พวกปลาและหอย ทก่ี นิ แพลงกต อนเปน อาหาร พวกปลาทก่ี นิ เนอ้ื เปน อาหาร ฯลฯ) เมอ่ื บําบดั จนกระทง่ั คนื ความสมดลุ กลบั สภู าวะปกตแิ ลว จึงนําน้าํ ที่บําบดั แลว ทีละบอ (ประมาณ 80% ของน้าํ ในบอ บําบดั ) กลบั ไปใสบ อ เลย้ี งกงุ 1.3 แบบผสมผสานโดยใชท ง้ั แบบใชบ อ เลย้ี งกงุ เปน บอ บําบดั น้ํา ระหวา งการเลย้ี งกงุ ดว ย ตามขอ 1.1 ควบคูไปกับแบบผันนํ้าระหวา งเขตบอ เลย้ี งกงุ กบั เขตบอ บําบดั น้ํา (ตามขอ 1.2) เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพทั้งในการจัดการฟารม การปอ งกนั โรค และการควบคมุ สภาพแวดลอ มภายในฟารม ใหอ ยู ในภาวะสมดลุ

การเลย้ี งกงุ กลุ าดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 11 ภาพที่ 7 แสดงบอบําบัดนํ้าทางชีวภาพ ซง่ึ ภายในแตล ะบอ มสี าหรายทะเลหรอื หญา ทะเล พรอมสายใยอาหารธรรมชาตคิ รบวงจร ภาพท่ี 8 แสดงเครอ่ื งชว ยเพม่ิ อากาศในบอ เลย้ี งกงุ 2. การควบคมุ และรกั ษาคณุ ภาพน้ําทางฟส กิ ส 2.1 การควบคุมและรักษาคุณภาพนํ้าทางฟส กิ สใ นบอ เลย้ี งกงุ ตามภาพที่ 8 ควรตดิ ตง้ั เครอ่ื งชว ยเพม่ิ อากาศในระยะหา งระหวา ง 40-50 เมตร/แขนใน ตาํ แหนง และทศิ ทางทเ่ี หมาะสม แลว เปด เครอ่ื งทําใหน ้ําเคลอ่ื นทส่ี มั ผสั กบั อากาศอยา งตอ เนอ่ื งจนกระทง่ั เกดิ กระแสนํ้าภายในบอ เลย้ี งกงุ พยุงใหเศษอาหาร สง่ิ ขบั ถา ย และซากสง่ิ มชี วี ติ ตา งๆ แขวนลอย ยอ ย สลายกลางนํ้า(เหลอื เปน ตะกอนตกกองรวมกนั นอ ยทส่ี ดุ ) เพอ่ื ชว ยเรง เพม่ิ ออกซเิ จนในน้ําใหม มี ากเพยี ง พอตอ การดํารงอยขู องทกุ สง่ิ มชี วี ติ ภายในบอ อยา งตอ เนอ่ื ง เพอ่ื เรง ในการบําบัดทางชีวภาพ และเคมี พรอ มกนั ไปดว ยและชว ยปอ งกนั มใิ หเ กดิ ปรากฏการณท างธรรมชาตติ า งๆ (เชน ปอ งกนั มใิ หเ กดิ การแบง ชน้ั ของความเคม็ และคณุ ภาพน้ําอน่ื ๆ ปอ งกนั มใิ หเ กดิ การสะสมความรอ น หรอื เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเรอื นกระจก ในน้ํา) ทจ่ี ะเปน อนั ตรายตอ ทกุ สง่ิ ทม่ี ชี วี ติ ภายในบอ เลย้ี งกงุ (ยกเวน หลงั จากหวา นอาหารใหก งุ กนิ แต ละมอ้ื เสรจ็ แลว ปด เครอ่ื งชว ยเพม่ิ อากาศในน้ําประมาณ 1 ชั่วโมง) 2.2 การควบคมุ และรกั ษาคณุ ภาพน้ําทางฟสิกส ในบอ บําบดั น้ํา ตดิ ตง้ั เครอ่ื งชว ยเพม่ิ อากาศน้ําอยา งนอ ยบอ ละ 1 เครอ่ื ง ในตําแหนงและทิศทางที่เหมาะสม แลวเปดเครื่องชวยเพิ่มอากาศในบอบําบัดทางชีวภาพอยางนอยก็ในระหวางเติมนํ้าและระหวางฝนตก เพอ่ื ปอ งกนั มใิ หค วามเคม็ อณุ หภูมแิ ละคุณภาพนํ้าอน่ื ๆ แบงชั้น และเพอ่ื ปอ งกนั มใิ หเ กดิ การสะสม ความรอ นหรอื เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเรอื นกระจกในน้ําทบ่ี รเิ วณพน้ื บอ ทจ่ี ะเปน อนั ตรายตอ สง่ิ มชี วี ติ ตา ง ๆ ภายใน บอ บาํ บดั ตลอดจนเพอ่ื ยน ระยะเวลาในการบําบดั 3. การควบคมุ และรกั ษาคณุ ภาพน้ําทางเคมี

การเลย้ี งกงุ กลุ าดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 12 สําหรับสารที่จะใชในการควบคุมและรักษาคุณภาพน้ํานั้นจะตองใชในระดับความเขมขนที่ตํ่า มาก (ต่ํากวา ระดบั ต่ําสดุ ทจ่ี ะเปน อนั ตรายตอ กงุ ระหวา ง 10-50 เทา) จนกระทง่ั ไมก อ ใหเ กดิ อนั ตราย ตอ สง่ิ มชี วี ติ ตา ง ๆ ที่มีอยูภายในบอ สว นระยะเวลาและวธิ กี ารจดั การใชน น้ั จะตอ งสอดคลอ งกบั สภาพ ความเปน จรงิ ตามกลไกทางธรรมชาตอิ ยา งตอ เนอ่ื ง อาทิ ในการควบคมุ สารและแกส พษิ ตา ง ๆ (ซ่งึ มที ่ี มาทง้ั จากซมึ ออกมาจากในดนิ จากมลพษิ ในอากาศ จากการหายใจ และจากการยอยสลาย) มใิ หต ก คา งสะสมหรอื ตกคา งภายในบอ ควรดําเนนิ การเฉพาะในชว งเวลากลางคนื และกลางวนั ทท่ี อ งฟา ปด ทง้ั นี้เพราะชวงทไ่ี มมแี สงแดด กจ็ ะไมม กี ระบวนการทางชวี ภาพในขน้ั ตอนการสงั เคราะหแ สงของสง่ิ มี ชวี ติ พวกทม่ี คี ลอโรฟล ล จงึ ไมม กี ารใชส ารและแกส พษิ ใหห มดไปในกระบวนการดงั กลา ว แตทุกสิ่งที่มี ชวี ติ ยงั คงตอ งกนิ อาหาร ตอ งขบั ถา ย ตอ งการใชอ อกซเิ จนในการหายใจและยอ ยสลาย แลว คาย คารบ อนไดออกไซดแ ละสารพษิ อน่ื ๆ สะสมในน้ํามากยง่ิ ขน้ึ ดงั นน้ั ถา ตอ งการควบคมุ และรกั ษาปรมิ าณ ออกซเิ จนมใิ หล ดลง และสารพิษตาง ๆ ในชว งเวลาดงั กลา วมใิ หเ พม่ิ ขน้ึ ก็มีความจําเปน ทจ่ี ะตอ งใชว ธิ ี ทางเคมีชวยเสริมวิธีทางชีวภาพ (ขอ 1) และฟสิกส (ขอ 2) โดยจดั การใชส ารเคมสี ําหรบั การปอ งกนั ควบคมุ และรกั ษาคณุ ภาพน้ําในบอ ระหวา งการเลย้ี งกงุ ใหอ ยใู นภาวะสมดลุ อยา งตอ เนอ่ื งในกรณตี า ง ๆ กัน โดยสงั เขปดงั ตอ ไปน้ี 3.1 ใชส ารเคมใี นการปอ งกนั มใิ หแ กส คารบ อนไดออกไซด และแกส ไขเ นา สะสมในบอ เลย้ี งกงุ (โดยจดั การใหเ ปลย่ี นสภาพไปอยใู นรปู ของเกลอื แรท ไ่ี มเ ปน อนั ตรายตอ สตั วน ้ํา) ในกรณใี ชส ารประกอบ ทมี่ ฤี ทธิ์เปนดาง อาทิ ปนู ขาว 0.5-3 สว นในลา น (1-5 กก./ไร) ยกเวน ในกรณที น่ี ้ําในบอ มี pH หรือ และอลั คาลนิ ติ ม้ี คี า สงู เกนิ กวา ระดบั ทเ่ี หมาะสมควรงดใช เพราะในน้ํานน้ั มสี ารซง่ึ ออกฤทธด์ิ า งตามธรรม ชาตสิ ะสมมากเกนิ พออยกู อ นแลว 3.2 ใชส ารเคมใี นการปอ งกนั มใิ หแ กส แอมโมเนยี มสี ะสมในบอ เลย้ี งกงุ (โดยจัดการใหเปลี่ยน สภาพไปอยใู นรปู ของเกลอื แรท ไ่ี มเ ปน อนั ตรายตอ สตั วน ้ํา) ในกรณนี ใ้ี ชส ารประกอบทม่ี ฤี ทธเ์ิ ปน กรด อาทิ - ฟอรมาลนิ 0.25-3 สว นในลา นหรอื 0.5-5 ลติ ร/ไร - คลอรนี ผง (เกรด 60% ) 0.01-0.1 สว นในลา นหรอื 25-100 กรัม/ไร - คลอรนี น้ํา (เกรด 10%) 0.01-0.1 สว นในลา นหรอื 150-600 ซี.ซี/ไร เลอื กใชส ารดงั กลา ว (ในขอ 3.2 น้)ี ครง้ั ละชนดิ เดยี ว ยกเวน ในกรณที ่ี pH และ อลั คาลนิ ติ ้ี มคี า ต่ํากวา ระดบั ทเ่ี หมาะสมควรงดใชเ พราะในน้ํานน้ั มสี ารพวกทอ่ี อกฤทธก์ิ รดตามธรรมชาติ สะสมมากเกนิ พออยกู อ นแลว 3.3 ใชส ารเคมใี นการชว ยลดความเปน พษิ ของสารพษิ ตา งๆ ทล่ี ะลายอยใู นน้ํา โดยจัดการใส สารสาํ หรบั เชอ่ื มโยงสารพษิ เขา ดว ยกนั ใหอ ยใู นรปู กา มปู (chelated) ซง่ึ จะไมเ ปน อนั ตรายตอ สตั วน ้ํา ใน กรณนี ใ้ี ชอ ดี ที เี อ 0.01-0.05 สว นในลา นหรอื 25-100 กรัม/ไร (ยกเวน ในกรณที ไ่ี มม สี ารพษิ ปนเปอ น ควรงดใช) ในการใชส ารเคมใี นกรณดี งั กลา ว ตามขอ 3.1 3.2 และ 3.3 นน้ั ควรเจอื จางกบั น้ํา แลว สาดโดยรอบบอ (เดนิ ทวนทศิ ทางของกระแสน้ําในบอ ) กอ นใหอ าหารแตล ะมอ้ื 30 นาที สลบั กนั เฉพาะในชว งเวลากลางคนื ชว งทอ งฟา ปด เวลากลางวนั ชวงกงุ ปว ย ชว งหลงั จากทม่ี กี ารตายของ สง่ิ มชี วี ติ ตา งๆ ภายในบอ และชว งทส่ี ภาพแวดลอ มในบอ อยใู นสภาวะไมป กติ (พรอ มปรบั ปรมิ าณ อาหารใหเ หมาะสม) เพื่อควบคุมแกสและสารพิษตางๆ ใหอ ยใู นรปู ของสารประกอบทไ่ี มเ ปน อนั ตรายตอ

การเลย้ี งกงุ กลุ าดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 13 สตั วน า้ํ (อกี ทง้ั ในสภาพความเปน จรงิ ตามธรรมชาติ เมื่อแกสพิษตาง ๆ ในน้ําถูกกําจัดไป ออกซเิ จน ในอากาศก็จะละลายลงไปแทนที่ไดโดยเฉียบพลัน โดยมเี ครอ่ื งชว ยเพม่ิ อากาศในน้ําชว ยเรง ใหน ้ําเคลอ่ื น ทส่ี มั ผสั กบั อากาศซง่ึ เทา กบั เปน การเพม่ิ ออกซเิ จนในน้ําพรอ มกนั ไปดว ย) อกี ทง้ั เพอ่ื ตอ งการควบคมุ และ รกั ษาคณุ ภาพน้ําภายในบอ เลย้ี งกงุ ใหค งอยใู นระดบั ทเ่ี หมาะสม สะอาด ถกู สขุ อนามยั อยา งตอ เนอ่ื ง แลว ใหส ง ผลกระทบในทางออ มยอ นกลบั มาควบคมุ และรกั ษาสภาพแวดลอ มตาง ๆ ภายในฟารม (ใหไ ม เออื้ อาํ นวยตอ การดํารงชวี ติ ของจลุ นิ ทรยี แ ละสง่ิ มชี วี ติ ตา ง ๆ พวกที่กอใหเกิดมลพิษแตเอื้อโอกาสตอการ เกดิ และการดํารงชวี ติ ของพวกจลุ นิ ทรยี  แพลงกตอน และสง่ิ มชี วี ติ อน่ื ๆ ทไ่ี มเ ปน อนั ตรายตอ กงุ ทเ่ี ลย้ี ง) แลว สง ผลสะทอ นตอ ไป ชว ยในการเสรมิ สรา งโอกาส ในการปอ งกนั และควบคมุ โรค - ในการใชส ารประกอบตา ง ๆ ตามขอ 3 ดงั กลา วขา งตน ตามปรกติ เมอ่ื กงุ ยงั มขี นาดเลก็ จะ ใชใ นอตั ราความเขม ขน ต่ําสดุ ตามทก่ี ําหนดไว และเมอ่ื กงุ มขี นาดโตขน้ึ ยอ มมขี องเสยี จากเศษอาหาร สงิ่ ขบั ถา ย และซากสง่ิ มชี วี ติ ตา งๆ มากขน้ึ จึงคอยๆ เพม่ิ ปรมิ าณสารตามความเหมาะสมในการควบคมุ และรกั ษาคณุ ภาพน้ําใหย งั อยใู นภาวะสมดลุ ยกเวน ในชว งทเ่ี กดิ มกี ารตายของสง่ิ มชี วี ติ ตา งๆ เชน พวกจุ ลนิ ทรยี แ ละแพลงกต อนในบอ เลย้ี งกงุ โดยเฉยี บพลนั หรอื และในชว งเกดิ แพลงกต อนเปน พษิ (ภาวะน้ํา เปลย่ี นสี “Red Tide” พรายนํ้าเรอื งแสงในเวลากลางคนื ) ภายในบอ หรอื และในชว งทเ่ี ตมิ น้ําใสบ อ เลย้ี งกงุ แลว น้ําไมส ะอาดพอหรอื และในชว งกงุ ปว ย ใหดําเนนิ การใชส ารเคมดี งั กลา วตามขอ 3.1 3.2 และ 3.3 อยา งตอ เนอ่ื งเปน กรณพี เิ ศษ โดยเรม่ิ ตน สลบั กนั จากระดบั ความเขม ขน สงู สดุ ทก่ี ําหนด แลว คอ ย ๆ ลดลงวนั ละ 10-30% จนกวาจะกลับคืนสูภาวะปกติ การจบั สบู นา้ํ ใสบ อ ทว่ี า งเพอ่ื รกั ษาระดบั น้ําในคลองระบายน้ําหรอื ในชอ งทม่ี มุ บอ (ซง่ึ มเี ฝอ กและไม ปด กน้ั เปน ผนงั กน้ั น้ําไว) ใหเ กอื บแหง อยา งตอ เนอ่ื งในระหวา งทใ่ี ชอ วนรอจบั กงุ ทางชอ งระบายน้ํา ก็จะ สามารถจบั กงุ ไดอ ยา งรวดเรว็ สด สะอาด ถกู สขุ อนามยั ไมก อ ใหเ กดิ มลภาวะตอ สภาพแวดลอ มภาย นอกดว ย แนวทางแกป ญ หาบางประการ สํ าห รั บ ก ารแกไขปญหาเฉพาะหนาระหวางการเลี้ยงกุงระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ลควรนํ า ขอ มลู ผลการตรวจคณุ ภาพน้ําทั้งทางชีวะ ฟสิกส และเคมี มาใชภ มู ปิ ญ ญาวเิ คราะหเ ชอ่ื มโยงใหส อดคลอ ง กบั หลกั เกณฑท างวชิ าการสาขาตา งๆ เพอ่ื ใชเ ปน แนวทางปรบั วธิ กี ารจดั การเลย้ี ง ใหส ามารถควบคมุ และ รกั ษาความสมดลุ ของสภาวะแวดลอ มภายในบอ อยา งตอ เนอ่ื ง อีกทั้งควรตรวจเช็กสุขภาพกุงระหวางการ ตรวจเชก็ อาหารในยอพรอ มกนั ไปดว ย เมอ่ื เรม่ิ พบกงุ มอี าการผดิ ปกตใิ หร บี นํากุงที่ปวยไปใหคลินิกโรค สตั วน ํ้า เพื่อตรวจวิเคราะหหาสาเหตุที่แทจริงและหาวิธีการปองกันรักษาใหถกู ตอ ง สําหรับในกรณีที่กุง เปนโรคที่เกี่ยวกับ ไวรสั ลงตบั เชน หัวเหลือง ใหร บี จดั การเบอ้ื งตน กอ น โดยสงั เขปดงั ตอ ไปน้ี 1. งดการใชย าปฏชิ วี นะ และนํ้ามนั ปลา…..ทจี่ ะผสมอาหารใหก งุ กนิ เพ่อื ชว ยลดภาระของตับมใิ ห ตอ งทํางานหนกั ซง่ึ จะชว ยยดื อายขุ องกงุ ออกไป (ถาใหย าปฏชิ ีวนะและนํ้ามนั ปลา…..จงึ เทากบั เปน การ เรง ทําลายตบั ทําใหก งุ ทเ่ี ลย้ี งตายเรว็ ขน้ึ )

การเลย้ี งกงุ กลุ าดํา ระบบปดหรือระบบรีไซเคิ้ล 14 2. ลดอาหารสําหรบั หวา นใหก งุ แตล ะมอ้ื ลงจากระดบั ปกติ ระหวาง 20-25% (ประมาณ 2-4 เมด็ /ตวั /มอ้ื ) โดยไมต อ งไปสนใจเรอ่ื งอาหารในลําไสก งุ ขาดตอน 3. ลดความเครยี ดของกงุ โดยไมค วรรบกวนพรอ มเสรมิ วติ ามนิ ซี หรอื และวติ ามนิ เกลอื แรต า ง ๆ ในอาหาร (เพื่อบํารงุ สขุ ภาพของกงุ ใหม โี อกาสเสรมิ สรา งภมู คิ มุ กนั ตนเอง)ประมาณ 2-5 กรัม/กิโลกรัม (โดยใชใ นอตั ราสงู สดุ ทก่ี ําหนดกอ น จากนน้ั คอ ย ๆ ลดปรมิ าณลงวนั ละประมาณ 1 กรัม แลว คงใชอ ยา ง ตอ เนอ่ื งในอตั ราต่ําสุดที่กําหนด จนกวาจะกลับคืนสูภาวะปกติ) 4. ดําเนนิ การควบคมุ คณุ ภาพน้ําทางเคมี ตามขอ 3 โดยเรม่ิ ตน ใชส ารตา ง ๆ ในระดบั ความ ระดบั สงู สดุ ทก่ี ําหนด แลวคอย ๆ ลดลงจนกระทง่ั อยใู นระดบั ทส่ี ามารถควบคมุ คณุ ภาพน้ําใหม คี ณุ สมบตั เิ หมาะสมคนื สภาพกลบั สภู าวะสมดลุ อยา งตอ เนอ่ื ง 5. ระหวา งดําเนนิ การตามขอ 1-4 อยนู น้ั ในชว ง 3-5 วนั แรก ตามปรกตแิ ลว กงุ จะวา ยน้ําผิด ปกตหิ รอื เกาะขา งบอ มากขน้ึ ถา กงุ ยงั ไมต ายใหด ําเนนิ การตอ ไปจนกวา จะหายปว ย (แตถาตายใหรีบ จับ) จดั ทําเอกสารอิเล็กทรอนิกสโดย : สาํ นักสงเสริมและฝกอบรม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร