Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่องเล่าเจ้ากำพร้า

Description: เรื่องเล่าเจ้ากำพร้า

Search

Read the Text Version

วรร³กรรมเยาวªนพืéนบ้าน ภาคตะวันออกเ©ียงเหนือ เรื่องเลา่ เจ้ากำพร้า เรอ่ื ง สุนีย์ เลี่ยวเพญ็ วงษ์ ภาพประกอบ เดชาชาติ เทยี นเสม

ผูเ้ ชี่ยวชาญทป่ี รกึ ษาคณะบรรณาธิการ ศ.ดร.ฉวีลักษณ์ บณุ ยะกาญจน ผศ.วีณา วสี ะเพญ็ คณะบรรณาธิการอำนวยการ นางทศั นยั วงศ์พิเศษกลุ นางสาวเฉยี ดฉัตรโฉม ปรพิ นธพ์ จนพสิ ุทธิ์ นายวฒั นชยั วินิจจะกลู นางสาวนันธนา เจริญภักดี คณะบรรณาธกิ ารตน้ ฉบบั รศ.สกุ ัญญา สุจฉายา ผศ.ดร.ชลภัสส์ วงษ์ประเสรฐิ นายเรืองศกั ดิ์ ปิ่นประทีป นายณฐั พร ศรมี ุกด ์ พิสจู น์อักษร นนั ท์ธนตั ถ์ จติ ประภัสสร อารีณะ วีระวฒั น ์ เรอ่ื งเลา่ เจา้ กำพร้า เร่ือง สนุ ีย์ เลย่ี วเพญ็ วงษ์ ภาพประกอบ เดชาชาติ เทียนเสม เหมาะสำหรบั เด็กและเยาวชนอายุ 9 ปีขนึ้ ไป พมิ พค์ รงั้ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 จำนวนพมิ พ์ 3,000 เลม่ ราคา 110 บาท เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสอื 978-974-287-792-7 เจ้าของโครงการและดำเนินการจัดพมิ พ์ สำนักงานอุทยานการเรียนร ู้ สำนกั งานบรหิ ารและพฒั นาองคค์ วามรู้ (องค์การมหาชน) สงั กดั สำนกั นายกรัฐมนตรี สว่ นบรกิ าร อาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ช้นั 8 Dazzle Zone โทรศัพท์ 0-2257-4300 โทรสาร ตอ่ 125 ส่วนสำนักงาน 999/9 อาคารสำนักงานเซ็นทรลั เวิลด์ ชัน้ 17 ถนนพระราม 1 โทรศัพท์ 0-2264-5963-65 โทรสาร 0-2264-5966 www.tkpark.or.th ดำเนนิ การจัดทำตน้ ฉบับ มลู นธิ ิหนงั สือเพื่อเดก็ โทรศัพท์ 0-2805-0202 โทรสาร 0-2805-1308 www.thaibby.in.th ออกแบบรูปเลม่ จัดพิมพ์ และจัดจำหนา่ ย บรษิ ัท แปลน ฟอร์ คดิ ส์ จำกัด 1/999 ถนนกำแพงเพชร 6 (โลคัลโรด) แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210 โทรศพั ท์ 0-2575-2828 โทรสาร 0-2575-2558 www.planforkids.com

คำนำ ในการจดั ตง้ั อทุ ยานการเรยี นรภู้ มู ภิ าคตน้ แบบแตล่ ะภาคนน้ั สำนกั งาน อทุ ยานการเรียนรู้ (TK Park) ไดม้ กี ารเตรยี มการคขู่ นานกนั ไปทั้งดา้ นกายภาพ และเนอื้ หาสาระ กลา่ วคอื ในระหวา่ งทอ่ี งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ กำลงั ปรบั ปรงุ หรือก่อสร้างอาคารสถานที่สำหรับห้องสมุดมีชีวิตในรูปแบบอุทยานการเรียนรู้ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ก็ประชุมหารือกับบุคลากรในท้องถ่ินและร่วมกัน คัดเลือกหนังสือ ดนตรี และกิจกรรมต่างๆ ไปพร้อมกัน เพื่อเตรียมการด้าน หนังสือและสือ่ ต่างๆซึ่งถอื เสมือนเปน็ จิตวิญญาณของห้องสมดุ โครงการนิทานพื้นบ้าน เป็นส่วนหน่ึงของการเตรียมการทางด้าน เนื้อหาสาระ ด้วยเล็งเห็นว่าเรื่องเล่าในแต่ละชุมชน มีทั้งสาระ ความสนุกสนาน และจินตนาการ สืบทอดกันมาจากภมู ิปัญญาท้องถิ่นอันล้ำลกึ มีความหมายต่อ การเช่ือมโยงวิถีชีวิต วัฒนธรรม และการดำรงอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับ มนุษย์ และมนุษย์กับธรรมชาติ แม้จะเป็นเรื่องเล่าเฉพาะกลุ่มชนในพ้ืนท่ี แต่ สาระทแี่ ฝงอยูใ่ นเนือ้ หาเร่ืองราวของนทิ านน้ันคือคติสอนใจ ซึ่งเป็นความรูส้ ากล ทสี่ ามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ได้ทกุ หนแห่ง สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ จึงมอบให้มูลนิธิหนังสือเพ่ือเด็ก เป็นผู้ ดำเนนิ การประสานงานกบั ปราชญช์ าวบา้ น นกั วชิ าการ และผทู้ รงคณุ วฒุ ิ รว่ มกนั คัดเลือกนิทานเร่ืองเล่าพื้นบ้านที่มีคุณค่า มีอิทธิพลต่อความคิดและจินตนาการ ของเยาวชนในทางสร้างสรรค์ นำมาเรียบเรียงและจัดทำภาพวาดประกอบ ข้ึนใหม่ เพื่อจัดพิมพ์เป็นหนังสือท่ีมุ่งเสริมสร้างจินตนาการให้อ่านง่ายและ เพลิดเพลิน โดยหวังว่าจะเป็นส่ือจูงใจให้เด็กและเยาวชนทั่วไปสนใจและรัก การอ่านมากยิ่งข้ึน ทั้งยังสามารถนำไปประกอบการเล่านิทานในครอบครัว โรงเรียน และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เป็นการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ สืบไป

หวังเป็นอย่างย่ิงว่า นอกเหนือจากบทบาทในฐานะผู้จุดประกาย แนวคดิ หอ้ งสมดุ มชี วี ติ ในประเทศไทย ใหเ้ ปน็ พน้ื ทแี่ สวงหาความรใู้ นบรรยากาศ การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์และทันสมัยแล้ว สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ยังจะ ได้ทำหน้าที่ปลูกฝังและส่งเสริมนิสัยรักการอ่านแก่เด็กและเยาวชน บนพื้นฐาน ของความเคารพและภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่น เสริมสร้างการ ยอมรับความแตกต่างหลากหลายและใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา อันจะนำไปสู่ สังคมสันติสมานฉนั ท์ในที่สุด สำนกั งานอุทยานการเรยี นร้ ู

สารบัญ 7 13 ≤ กำพรา้ 19 ≤ กำพร้าไกย่ ่าง 25 ≤ กำพร้าปลาท ู 29 ≤ กำพร้ากบั หลวงตา 33 ≤ กำพรา้ เรียนหนงั สือ 37 ≤ กำพรา้ อดทน 41 ≤ กำพร้าเอาคนื 49 ≤ กำพร้าหายา 57 ≤ กำพรา้ พบเพ่ือนใหม่ ≤ กำพร้าเป็นหว่ ง



หนึง่ กำพร้า ผืนแผ่นดินท่ีอุดมสมบูรณ์ริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นแหล่งปลูกยาสูบพันธ์ุดี สืบต่อกันมายาวนาน ผืนดินชายฝ่ังน้ำไม่เหมาะสำหรับการทำนา เพราะในฤดู น้ำหลาก แมน่ ำ้ โขงจะสูงท่วมขึน้ ถงึ ตลิ่ง ชาวบ้านต้องอาศัยทำนาในอกี ฟากของ ถนนทีต่ ัดเลยี บแมน่ ำ้ โขงไปตลอดชายแดนไทย ในฤดูแล้งที่น้ำโขงไหลออกไปสู่ทะเล พื้นดินมีปุ๋ยธรรมชาติท่ีมาพร้อม น้ำหลาก ทำให้มีผืนดินท่ีอุดมสมบูรณ์กว้างขวางมากพอสำหรับการเพาะปลูก การปลูกผัก ปลูกยาสูบ ปลูกหอม กระเทียม ความอุดมสมบูรณ์ของดินริมฝ่ัง โขง ทำให้พืชพันธ์ุที่เพาะปลูกไว้งอกงาม ผลิช่อ ต่อยอดขึ้นมาอย่างสงบและ เบิกบาน เปน็ ผลงานทนี่ า่ ภาคภูมิใจ ผลิตผลเหล่านี้ไดห้ ล่อเลี้ยงชวี ติ ชาวบา้ นริม โขงให้มีพออยู่พอกินมายาวนาน การดำเนินชีวิตท่ีเรียบง่าย ตามวิถีชนบท ท่ามกลางธรรมชาติแวดล้อมท่ีร่มรื่น ความเอื้อเฟื้อของเพื่อนบ้าน ทำให้ทุกคน มคี วามสขุ อย่กู นั ได้อยา่ งพอเพยี ง เช่นเดียวกับยายแม้น หญิงวัยเลยกลางคน ท่ีครั้งหนึ่งเคยมีครอบครัว ที่อบอุ่นกับตาม่ัน และลูกสาวสวยชื่อ ชื่น ท้ังสามพ่อ แม่ ลูก ช่วยกันปลูกผัก ปลูกยาสูบ พอได้เก็บขายเลี้ยงชีวิตได้อย่างสุขสบาย จนกระท่ังชื่นออกเรือนไป อยู่ห่างไกล สองผัวเมียก็ยังคงยึดการทำไร่ยาสูบหาเล้ียงชีวิตตามเดิม แต่ เรยี่ วแรงทนี่ อ้ ยลง ทำใหป้ ลกู ยาสบู ไดล้ ดลง เพยี งพอแคก่ ารมชี วี ติ อยา่ งเรยี บงา่ ย ไมส่ ะสม การอย่กู ารกนิ ไมย่ าก เก็บผกั หาปลามาแบ่งปนั กันไดท้ ุกครวั เรือน

เร่อื งเล่าเจ้ากำพร้า เวลาผ่านไป ชื่นพาครอบครัวมาเย่ียมพ่อแม่ทุกปี ยายแม้นและตาม่ัน ได้ชื่นชมหลานชายคนแรก เม่ือชื่นออกเรือนไปเป็นปีท่ีสาม แต่คราวน้ีช่ืนมา เพียงสองคนกับลูก พร้อมๆ กับความตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นหน้าหลานชาย ยาย แม้นก็สังเกตเห็นลูกสาวซูบผอมลง ช่ืนเล่าให้แม่ฟังว่า สามีของช่ืนได้พาโรค ร้ายมาในบ้าน และช่ืนกำลังต่อสู้กับความเจ็บปวดนั้น ชื่นฝากลูกชายไว้กับแม่ ยายแม้นรับหลานชายไว้ด้วยความยินดี แต่ก็ห่วงลูกสาว ช่ืนบอกว่า สามีของ นางตายไปเมื่อเดือนก่อน และนางจะกลับไปรักษาตัวท่ีโรงพยาบาลในเมือง ยายแม้นจงึ ยอมใหล้ กู สาวกลบั ไป ชนื่ สง่ ข่าวมาหาแม่อีก 3-4 ครง้ั แลว้ ก็จากไป ในขณะทล่ี ูกชายมอี ายุไดห้ า้ ขวบ ยายแมน้ กับตามน่ั ช่วยกนั เลยี้ งหลานกำพร้าดว้ ยความรัก ตง้ั ชอื่ ใหว้ ่า ชม แทนความรู้สึกช่ืนชมหลานชาย ท้ังคู่มีความสุขในการเฝ้ามองความเจริญ เติบโตของหลานชายอยู่ได้ไม่นาน ยายแม้นก็พบกับทุกข์จากความพลัดพราก อีกครั้ง เมื่อได้รับรู้ว่า ตามั่นถูกรถเก๋งคันงามชน ขณะท่ีข่ีจักรยานอยู่ริมถนน เพื่อจะเอาใบยาสูบไปส่งโรงบ่มยาใกล้ๆ หมู่บ้าน ตาม่ันนอนโรงพยาบาลได้ไม่ก่ี วนั ก็จากไปอีกคน ยายแม้นจึงอยูก่ บั ชมเพียงสองคน สองยายหลานชว่ ยกนั ปลกู ยาสูบไวข้ าย และปลกู ผักไวเ้ กบ็ กิน ชมช่วย ยายได้เพียงเล็กน้อย ยายแม้นก็ปลูกยาสูบได้น้อยลง ทั้งยังต้องฝากเพื่อนบ้าน ช่วยเอาใบยาสูบไปโรงบ่มให้ด้วย แต่ท้ังสองก็อยู่ได้อย่างมีความสุข และไม่ เดือดรอ้ นอะไร ยายแมน้ สอนหลานให้เปน็ คนดี มีความอดทน ชว่ ยเหลือเผ่อื แผ่ เพ่ือนบ้าน และรู้จักรักคนอื่น เพราะการท่ีเราให้สิ่งดีๆ กับผู้อ่ืน เราก็จะได้รับ ส่ิงดีๆ ตอบแทน เช่นเดียวกับท่ีเพื่อนบ้านช่วยเหลือเรา ชมจึงเติบโตมาอย่าง สมบูรณ์จนอายุย่างเข้าแปดปี ยายแม้นเริ่มคิดถึงอนาคตของหลาน จึงนึกถึง หลวงตาขนึ้ มา “นชี่ ม ยายวา่ จะใหเ้ อง็ ไดเ้ รยี นหนงั สอื เอง็ จะวา่ อยา่ งไร” ยายแมน้ เรมิ่ ตน้ ชวนหลานคุยในคำ่ วันหนึง่

กำพร้า  “เหรอยาย แถวน้ีไม่เห็นมีโรงเรียนเลย ต้องไปอีกไกล เห็นคนโตๆ ท่ี เรียนหนงั สอื ต้องข้ึนรถไปในเมืองกนั แลว้ หนูจะไปยังไงล่ะ เพ่อื นไปอยู่บา้ นญาติ ในเมอื งกนั หลายคน” ชมพูดเสยี งเบา “อ๋อ เอ็งก็รู้ว่าเพ่ือนหายไปเรียนหนังสือกันเหรอ แสดงว่าก็อยากเรียน เหมือนกนั สิ” ยายเย้าหลาน “ก็อยากอยู่เหมือนกัน เห็นพวกคนโตเขาอ่านหนังสือ มีรูปสวยๆ ก็ อยากอา่ นได้มั่งน่ะยาย” “เออ เออ เอ็งก็อายุเกือบจะแปดปีแล้ว ยายว่าก็น่าจะได้เรียนหนังสือ กับเขาซะที แต่ถ้าจะไปเรยี นในเมอื ง เดนิ ทางทุกวัน มนั ก็อันตรายน่ะ ค่าใช้จ่าย ก็แพง เอาอย่างนี้ ยายจะฝากเอง็ ไปอยู่กบั หลวงตา จำได้ไหม หลวงตาเปน็ ญาติ กับยาย เคยมาตอนงานตามั่นด้วยไง นึกออกหรือยัง” ยายแม้นคิดไปพูดไป ใหห้ ลานฟงั “จำได้ตั้งนานแล้วละยาย ตอนไปหาหลวงตา สนุกออก วัดหลวงตาก็ รม่ ร่ืน ต้นไมเ้ ยอะแยะ เย็นสบาย เห็นมเี ณรต้ังหลายรูป ยงั ได้รู้จักสองรปู เลย แต่ ชอ่ื อะไร ลมื ไปแลว้ ” ชมต่นื เตน้ “เออ แล้วเอง็ วา่ จะอยู่ได้ไหมละ่ ” ยายถาม “ไดส้ ยิ าย อา้ วแลว้ ยายละ่ หนกู ไ็ มไ่ ดอ้ ยกู่ บั ยายนะ่ สิ แลว้ ยายจะทำยงั ไง ละ่ ” “โอย้ ไม่เปน็ ไรหรอก ดซี ะอีก ยายจะได้ไมต่ อ้ งห่วงเอ็ง เพอ่ื นบ้านแถว นีก้ ็ดที งั้ นนั้ ยายก็มีเพื่อนบ้านเปน็ เพื่อนไง ไมเ่ หน็ จะลำบากเลย” ยายพดู “ก็จริงนะยาย แต่ว่าเราอยู่อย่างน้ีก็มีความสุขดีอยู่แล้วนะยาย จะต้อง เรียนไปทำไม” “อ้าว แล้วกัน ก็ไหนว่าอยากอ่านออกเขียนได้ไง ก็ต้องเรียนสิ แล้วถ้า จะเรียนก็ต้องไปอยู่กับหลวงตาเพราะยายจะได้ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องขึ้นรถเข้า เมืองทุกวัน เราไม่มีเงินมากพอสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายหรอก ไปอยู่กับหลวงตา ช่วยทำงาน แลกข้าว แลกวิชา ยายว่าเอ็งจะได้ฝึกฝนหลายๆ อย่างเลยนะ เอ็ง ต้องเติบโตต่อไป จะอยู่กับยายไปตลอดอย่างนี้คงไม่ได้ สักวันยายก็จะแก่และ จากไป เอ็งต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง ตอนนี้จึงต้องฝึกฝนตัวเองให้มากๆ จะได้ช่วย

10 เรอ่ื งเลา่ เจ้ากำพรา้ ตัวเองให้อยไู่ ด้ในทกุ ท่ี ยายรูว้ า่ ตอ่ ไปเราจะอยู่อยา่ งนีไ้ มไ่ ด้แล้ว เวลาเดนิ ทางยงั ไม่ค่อยเห็นใครถีบจักรยานอย่างตาม่ันเลย เห็นแต่คนข่ีรถเคร่ือง แล้วเอ็งก็ต้อง อยู่กับความเจริญอย่างท่ีเราเห็นในเมืองน่ะ เอ็งจึงต้องเรียนหนังสือ จะได้อ่าน ออกเขียนได้ มีความรู้ ทันคนอื่นๆ เขา จะรู้แต่ปลูกผัก ปลูกยาก็คงไม่พอแล้ว ล่ะ” ยายพดู เสียยาว สองยายหลาน คยุ กันอย่างเพลิดเพลิน จนชมหลบั ไปกับตักยายนนั่ เอง แมช้ มจะมชี ่อื ของตนเอง แต่คนอ่ืนๆ มกั จะเรยี กชมว่า “เจา้ กำพร้า” ซงึ่ ชมก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เพราะเขาอยู่ท่ามกลางความรักและความอบอุ่น ในที่สุดเขาก็ลืมช่ือชม และยอมรับชื่อ “กำพร้า” เป็นชื่อตัวเอง แม้แต่ยายก็ยัง เรียก “เจา้ กำพร้า” ตามคนอ่นื ๆ

11



สอง กำพร้าไก่ย่าง กำพรา้ เปน็ เด็กชายตวั เลก็ ผอมเกร็ง ผิวคลำ้ ทา่ ทางขี้อาย เขาอาศัย อยกู่ ับยายทีห่ ลงั วดั ของหมบู่ า้ น ทุกเช้ากำพร้าจะตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวันของตนเองอย่างกระฉับ กระเฉง เขาจะรีบไปตักน้ำมาไว้จนเต็มตุ่ม และปัดกวาดบ้านจนเรียบร้อย เพ่ือ รอยายกลับจากไปใส่บาตรที่วัด กำพร้ารักยายมาก ยายเองก็รักเขาเหมือนกัน หรอื อาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ “ยาย มากนิ ขา้ วเถอะ” กำพรา้ ร้องเรียกยาย อาหารเกือบทุกม้ือประกอบด้วยปิ้งปลา น่ึงผัก แจ่ว และข้าวเหนียว ซ่ึงกำพรา้ มักจะบ่นอยูบ่ อ่ ยๆวา่ “หนูกนิ ปลาจนหน้าจะเหมือนปลาอยู่แลว้ ” และยายกม็ กั จะตอบว่า “กินไปเถอะ ปลามันมีประโยชน์นะ ผักก็ด้วย กินแล้วแข็งแรง ไม่ป่วย ไมไ่ ข้” กำพร้าก็เห็นด้วยกับคำพูดของยายเพราะการกินปลากับผักทำให้เขา สามารถวิ่งแข่งชนะเด็กคนอ่ืนๆ และไม่ค่อยเจ็บป่วยอะไร แต่ที่เขาชอบบ่น นั่น ก็เพราะว่าเขาอยากกินอาหารอย่างอื่นเช่นน้ำอัดลมสีต่างๆ อย่างที่ลูกชาย ผใู้ หญ่บา้ นกนิ บ่อยๆบ้าง

14 เรื่องเล่าเจา้ กำพร้า เม่ือนึกถึงลูกชายผู้ใหญ่บ้าน เขาก็เจ็บใจทุกครั้งเพราะเด็กคนนั้นชอบ แกลง้ เขาบอ่ ยๆโดยการเอาพุงใหญๆ่ มาชนเขาจนลม้ และล้อเขาเสมอว่า “ไอ้เดก็ ไมม่ ีพอ่ ” ทุกวันหลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ยายจะต้องไปรดน้ำยาสูบท่ีปลูกไว้ริม ตลิ่งขนานกับลำน้ำโขง หลังจากนั้นยายจะไปทอผ้ารับจ้างที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ซึ่ง ผู้หญิงหลายคนในหม่บู า้ นทำเหมอื นกับยาย แต่ไม่มใี ครทำไดส้ วยเหมอื นยาย หนา้ ทข่ี องกำพรา้ จงึ เปน็ การทำอาหารกลางวนั ใหย้ ายทกุ วนั แตบ่ างวนั เขาก็แอบไปเล่นกับเพื่อนๆ ท่ีลานวัดและรอคอยเวลาฉันเพล เพราะพวกเด็กๆ มักจะไดร้ ับแจกอาหารจากหลวงตาเสมอ เวลาเพลของวันน้ีก็เป็นเหมือนทุกวัน กำพร้ากับเด็กอ่ืนๆ ได้รับแจก ไกย่ า่ งและขนมแหง้ เขาดีใจมากจึงรีบวิง่ กลบั บา้ น เม่ือถึงบ้านแล้ว ด้วยความรีบร้อน กำพร้าจึงเอาไก่ย่างวางไว้บนโต๊ะ เต้ียๆ ไม่เอาเก็บไว้ที่ตู้กบั ข้าวเหมือนเดิม “เอาไว้ตรงน้ีแหละ” เขาบอกกับตัวเอง แลว้ รบี วิง่ ไปเรียกยายมากินอาหารกลางวนั ไม่นานนัก ก็มีหมาผอมโซตัวหน่ึง แอบย่องเข้ามาขโมยไกย่ า่ งชน้ิ น้นั ไป เม่ือกำพร้ากลับมาก็พบว่า ไก่ ย่างช้นิ นั้นหายไปแลว้ “เอะ๊ ไกห่ ายไปไหน” เขาเกาหัว และพยายามเดินหาจนท่ัว แต่หายังไงก็ หาไม่พบ จึงรู้สึกสงสัยมากว่าไก่หายไป ได้อย่างไรและรู้สึกเสียดายจับใจ เขาคิด ในใจวา่ ตอ้ งมใี ครมาขโมยแน่ๆ

กำพรา้ ไกย่ ่าง 15 “โธ่ ถา้ เราเก็บไกไ่ ว้ดีกว่านี้ก็คงไม่โดนขโมย ไม่น่าเลย” ดังนั้น มื้อนี้เขาก็ต้องกินอาหารที่เหลือจากม้ือเช้า ซ่ึงก็คือปิ้งปลา เขา บอกกับยายวา่ “หนจู ะตอ้ งร้ใู หไ้ ด้เลยยาย วา่ ใครมนั ขโมยไกย่ ่างไป” วันต่อมา กำพร้าแบ่งปิ้งปลาเอาไว้ส่วนหนึ่งและวางไว้ที่เดิมเพ่ือจะเอา มาเปน็ เหยอื่ ล่อขโมย จากนั้นเขากแ็ อบอยขู่ า้ งตกู้ ับขา้ วอย่างใจจดใจจ่อ ไม่นานนัก หมาตัวเดิมกเ็ ขา้ มาและคาบปิง้ ปลาไป กำพร้าไม่รอช้า เขา รีบว่ิงไล่เตะมันทันทีด้วยความโกรธ เจ้าหมาร้อง “เอ๋ง” ด้วยความเจ็บ แต่มันก็ไม่ยอมให้ปลา หลุดจากปาก มันรีบว่ิงหนีด้วยความเร็ว กำพร้าจึงวิ่งตามไปอย่างไม่ลดละ เขา วิ่งตามไปจนพบว่าหมาผอมโซตัวนั้น มุดเข้าไปท่ีใต้ถุนเตี้ยๆ ของศาลาวัด กำพร้ามุดกน้ ตามไปดทู ันที ภาพที่ปรากฏให้เห็นตรงหน้าคือ เจ้าหมาผอมโซตัวนน้ั คาบปง้ิ ปลาไปใหล้ ูกตวั เล็กๆ อกี สามตวั พวกมันรีบเขา้ มา กินอยา่ งหวิ โหย สว่ นแม่หมาไดแ้ ต่นอนมองดอู ยา่ งเงียบๆ กำพร้าจึงเข้าใจเรื่องราวท้ังหมดทันที เขารู้สึกสงสารพวกมันจับใจ รีบ วิง่ กลับไปทบี่ ้านและเอาอาหารทพ่ี อมีเหลือมาใหพ้ วกมันกินอีก เจ้าหมาพวกนั้นส่งสายตาขอบคุณเขา กำพร้ารู้สึกปล้ืมจนตัวลอย เพยี งครูเ่ ดียวเขาก็นำ้ ตาคลอเบา้ “มันยังโชคดีที่มีแม่ แต่เราสิไม่มีใครเลย” กำพร้านึกในใจ แล้วเขาก็น่ัง ลงรอ้ งไหจ้ นยายเดินมาพบเขา้ “กำพร้าเอ๋ย เอง็ มาทำอะไรทนี่ ่ี แลว้ นน่ั รอ้ งไหท้ ำไม” “ยายจา๋ หนูคิดถงึ แมก่ ับพอ่ ” กำพรา้ โผเขา้ ไปกอดยาย “อยา่ รอ้ งไห้เลยนะกำพร้า เอง็ มียายอยูน่ ีท่ ัง้ คน” ยายปลอบ

16 เร่ืองเล่าเจา้ กำพร้า กำพร้าเงยหน้าขึ้นมองยายด้วยน้ำตาคลอ จริงสินะ...เขายังมียายอยู่ ทงั้ คนนีน่ า “ไปกินข้าวกันเถอะ ยายหิวแล้ว วันนี้หลวงตาท่านแบ่งไก่ต้มให้เรา ด้วยนะ” “จริงเหรอยาย” กำพร้าพูดขึ้นอย่างดีใจ เด็กอย่างเขาไม่มีโอกาสได้กิน อาหารแบบนบี้ ่อยนกั “จริงสิ ยายจะโกหกทำไม ไปกันเร็ว” กำพร้าเช็ดน้ำตา เขาวิ่งนำหน้ายายไปท่ีบ้านด้วยความดีใจ ส่วนยาย เดนิ ชา้ ๆตามไป พรอ้ มกบั ย้ิมน้อยๆท่เี ห็นหลานกลับมามคี วามสขุ อกี ครัง้ หน่ึง

17



สาม กำพร้าปลาทู ชาวบ้านในหมู่บ้านมักจะหาอาหารกินตามธรรมชาติ ซ่ึงส่วนใหญ่ก็จะ เป็นผักตามท้องไร่ท้องนากับปลาจากห้วยท่ีไหลผ่านด้านหลังหมู่บ้านน่ันเอง นานๆ คร้ังพวกเขาจึงจะไปหาปลาที่น้ำโขง หรือไม่ก็ไปซ้ืออาหารแปลกๆ อย่าง อน่ื ท่ตี ลาด สองสามวันมานี้ ชาวบา้ นตา่ งพากนั พูดถงึ ปลาชนดิ หนึ่งท่ีไมม่ ใี นแถบน้ี วา่ กนั ว่ามนั มาจาก “ทะเล” ซงึ่ ใหญ่กวา่ ห้วย และเปน็ น้ำเคม็ ปลาชนิดนเ้ี รียกว่า “ปลาท”ู คนท่มี ีเงนิ เทา่ นั้นจึงจะซือ้ มากินได ้ กำพร้าเองก็สนใจปลาชนิดนี้มาก เขาอยากรู้ว่าปลาท่ีมาจาก “ทะเล” นห่ี นา้ ตาเปน็ ยงั ไง รสชาตเิ หมอื นปลาทเ่ี ขากนิ ทกุ วนั ไหม และอยากไปชมิ นำ้ ทะเล ดสู ักครั้งเพ่อื พิสูจนว์ ่ามันจะเคม็ จริงรเึ ปลา่ แตเ่ ขาก็รูต้ วั วา่ เขากบั ยายคงไม่มีเงนิ ไปซอื้ ของแพงๆแบบนนั้

20 เรอ่ื งเลา่ เจ้ากำพร้า เย็นวันหน่ึง กำพร้าออกไปเดินเล่นไกลถึงลานดินข้างร้านขายของชำ ในหมู่บ้านซ่ึงมักจะมีพวกขี้เหล้ามาต้ังวงท่ีร้านนั่นเสมอ วงเหล้านี้สร้างความ รำคาญให้กบั ชาวบา้ นมากเพราะสง่ เสยี งดังตลอดเวลา วันนี้กเ็ ชน่ กัน ในบรรดาคนที่ชอบมาด่ืมเหล้านั้น มีอยู่ไม่ก่ีคนท่ีกำพร้ารู้จัก หน่ึงใน นั้นคือ “ทิดคำ” ซึ่งมีเมียท่ีเข้มงวดมากและชอบด่าว่าทิดคำเสมอท่ีมักมาด่ืม เหล้าจนไมท่ ำการทำงาน แตแ่ กก็มกั จะแอบมาทกุ คร้งั ท่มี โี อกาส วันน้ีเมียของทิดคำสั่งให้เขาหาปลาเอาไปทำกับข้าวตอนเย็นและขู่ ด้วยว่า “อย่าไปกินเหล้าท่ีไหนอีก ไม่งั้นจะไม่ให้เข้าบ้าน” ทิดคำรับปากรับคำ อยา่ งดี แต่ขณะที่เขาเดินผ่านวงเหล้าน้ัน เพ่ือนๆ ของทิดคำก็เรียกให้ไปกิน เหล้าเหมือนทุกครง้ั “เฮ้ย วันน้ีท่าจะไม่ไหวว่ะ เมียให้ไปหาปลาท่ีห้วยนู่น แล้วยังกำชับว่า ห้ามกินเหล้าด้วย” ทดิ คำปฏิเสธเสยี งแขง็ “เออน่า นิดเดียวเอง อย่าให้เพื่อนเสียน้ำใจสิวะ หรือว่าเอ็งกลัวเมีย” เพอื่ นคนหน่ึงเอย่ ข้ึนพร้อมกบั เสยี งหัวเราะ ซึ่งพลอยทำให้คนอนื่ ๆ หวั เราะเสยี ง ดังตามไปดว้ ย ทิดคำร้สู กึ หงดุ หงิดมาก เขาทนไมไ่ หวทถ่ี ูกเพ่อื นเยาะเยย้ อย่างนนั้ “เอานา่ นดิ เดยี วเอง ไม่เป็นไรหรอก กินนดิ เดยี วเมียคงไมร่ ้”ู ทดิ คำนกึ ในใจ ว่าแลว้ เขากเ็ ข้าไปน่ังในวงเหล้าเหมอื นเดิม ไม่นานเขาก็ลืมท่ีต้ังใจไว้เสียหมด เขานั่งอยู่กับเพ่ือนจนเวลาบ่าย คล้อยจึงนึกข้ึนได้ถึงคำสั่งของเมีย ซ่ึงถ้าจะไปหาปลาตอนนี้ก็คงไม่ทันได้ปลา แลว้ ทดิ คำจงึ เริ่มปรกึ ษาเรือ่ งนก้ี ับเพอ่ื นๆ

กำพรา้ ปลาทู 21 เพื่อนคนหนึ่งในวงเสนอข้นึ มาวา่ เขาควรไปซ้ือปลาที่ตลาดใส่ขอ้ งกลบั ไปใหเ้ มีย ซ่ึงทดิ คำกเ็ หน็ ดว้ ย เขารีบมองหาคนทีจ่ ะชว่ ยเหลือเขาทันทีเพราะยัง สนุกกบั วงเหล้าอยู่ ขณะนนั้ กำพร้าเดนิ ผ่านวงเหล้ามาพอดี ทดิ คำตะโกนเรยี กกำพร้า “กำพร้า ลงุ จ้างไปซ้ือปลาท่ีตลาดให้หน่อยนะ” “หนจู ะกลบั บ้านแลว้ ” กำพรา้ บอกปัด “เฮ้ย ช่วยข้าหน่อยสิวะ นี่ข้ามีค่าจ้างให้ด้วยนะเอ้า” ทิดคำย้ำ ในท่ีสุด กำพรา้ กต็ กลงยอมไปซ้ือปลาใหท้ ิดคำ “จะให้หนูซือ้ ปลาอะไรล่ะลุง” “ปลาอะไรก็ได้น่า ซื้อมาเถอะ ซ้ือให้หมดเงินน่ีเลย เอาเร็วๆ นะเว้ย” ทิดคำสัง่ อย่างขอไปท ี กำพร้ารีบไปที่ตลาด เขาเดินผ่านแผงปลาและมา หยุดท่ีแผงปลาทูด้วยความ สนใจ เขาอยากดูปลาทูใกล้ๆ มานานแล้ว แล้วก็ตัดสินใจซ้ือ ทันที ในใจก็คิดว่าทิดคำต้อง พอใจแน่ เพราะปลาทูหายาก ไม่ได้มีโอกาสกินบ่อยนัก เพ่ิง จะมีมาขายในหมู่บ้านไม่นาน นเ้ี อง กำพร้าซื้อปลาทูใส่ในข้องจนเต็มและรีบวิ่งกลับไปหาทิดคำ ทิดคำนึก กระหยิ่มใจ ไม่ซักถามสักนิดว่ากำพร้าซ้ือปลาอะไรมาให้ เขาให้รางวัลกำพร้า และรีบสะพายขอ้ งตรงกลบั บา้ น

22 เรื่องเล่าเจา้ กำพร้า เม่ือได้รางวัลแล้วกำพร้าก็รีบกลับบ้าน เขาเข้าไปเล่าให้ยายฟัง ยาย รู้สึกไม่สบายใจเลยที่กำพร้าทำเช่นนั้น ยายไม่ต้องการให้เขาไปคลุกคลีกับพวก ชอบกินเหลา้ “ยายกลวั แตว่ ่าเอง็ จะเดือดรอ้ นทหี ลงั ” ยายว่า ฝ่ายทิดคำเมื่อไปถึงบ้านแล้วก็รีบเอาข้องปลาไปให้ภรรยาทันที เธอ ดีใจมากท่เี ขาหาปลาไดเ้ ตม็ ขอ้ ง แตก่ ไ็ ดก้ ลิน่ เหลา้ ฟ้งุ “นี่พไ่ี ปกินเหล้ามาอกี แลว้ ใช่ไหม” “เปล่า กินเหล้าแล้วจะไปหาปลาได้ยังไง น่ีๆ คนอุตส่าห์ไปหามาให้ เหน่ือยนะนี่ รับๆไปไมต่ ้องบ่นน่า” เมียทิดคำเปิดข้องออกดูพบว่า ในข้องนั้นมีแต่ปลาทูเต็มข้อง จึงถาม ทดิ คำด้วยเสยี งเยน็ ชาว่า “พไ่ี ปหาปลาท่ีไหน” “ทีห่ ว้ ยไงเลา่ ” “แลว้ นี่มันปลาอะไร หา...หาทีห่ ้วยได้ดว้ ยเหรอ” ทิดคำรีบมองดูปลาในข้องด้วยความตกใจ เขาหน้าซีดท่ีพบว่ามีปลาทู อย่เู ต็มขอ้ ง เมียทดิ คำไมร่ อช้า เธอคว้ามีดอโี ตไ้ ลท่ ิดคำทันที ทิดคำรีบว่ิงหนีหัวซุกหัวซุน ในใจก็คิดโกรธกำพร้า เขาคิดว่ากำพร้า แกลง้ เขาแนน่ อน “หนอยแน่เจ้ากำพร้า ขา้ ตอ้ งไปจัดการเอง็ แน่ คอยดูเถอะ”

23



สี่ กำพร้ากับหลวงตา ทดิ คำวิ่งไปที่บา้ นของกำพรา้ เมอื่ เห็นกำพรา้ เขากร็ บี วงิ่ เข้าไปจะเตะใน ทันที กำพร้าร้องไห้วิ่งหนีเข้าไปเกาะแขนยาย ยายร้องห้าม เสียงของทิดคำ ยาย และกำพรา้ ดังเอะอะ จนชาวบา้ นออกมามุงดูและนำเรอื่ งไปบอกหลวงตา ไม่นานหลวงตาก็เข้ามาห้าม เมื่อได้ยินเสียงหลวงตา ทิดคำก็หยุดไล่ เตะกำพร้า “นี่มันเร่ืองอะไรกัน เป็นผู้ใหญ่ทำไมมารังแกเด็ก” หลวงตาตะโกนถาม ทิดคำ “ก็เจา้ กำพร้ามันแกล้งผมนีข่ อรับหลวงตา” ทดิ คำบอก “ผมไมไ่ ด้แกลง้ ผมทำตามท่ีทดิ คำสั่งทุกอยา่ ง” กำพร้ารีบเถยี ง “เอาอย่างน้ี ทั้งสองคนเลา่ มาซิวา่ เกดิ อะไรขนึ้ ” หลวงตาบอก เมื่อได้ฟงั เรื่องราวท้งั หมด หลวงตาก็เข้าใจทกุ อยา่ งจงึ กล่าวขน้ึ ว่า “ทิดคำ เจา้ นั่นแหละเป็นฝา่ ยผดิ เจา้ เขา้ ไปเกี่ยวข้องในอบายมุข ทต่ี อ้ ง ทะเลาะกับเมียก็เพราะเหล้า จะมาโทษเด็กได้อย่างไร คิดให้ดีๆ ว่าท่ีข้าพูดมัน จรงิ ไหม” หลวงตาพดู ทดิ คำเงยี บไป เขากม้ หนา้ คดิ เงียบๆ

26 เร่ืองเลา่ เจ้ากำพรา้ “น่ีถ้าเจ้าไม่กินเหล้า แต่ไปหาปลาอย่างที่เมียบอก เจ้าท้ังสองก็คงไม่ ตอ้ งทะเลาะกนั ” ทิดคำคิดดูแล้วก็เห็นว่าตนนั้นผิดจริง เขาขอโทษกำพร้า และบอกว่า จะรับผิดชอบแก้ไขเรือ่ งนเ้ี อง “ไปแก้ไขชีวิตของเจ้าก่อนเถอะ” หลวงตาว่า ทิดคำจึงเดินกลับบ้านไป หลวงตาหันมาหากำพร้า “เจ้าก็ผิด ผิดท่ีไปคบคนพาล กินเหล้าเมายา เคยได้ยินไหมท่ีเขาว่า คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบณั ฑติ บัณฑิตพาไปหาผลนะ่ ” “ไม่เคยขอรบั ” กำพรา้ ตอบ หลวงตาหยดุ พิจารณากำพรา้ แล้วบอกกบั ยายวา่ “หน่วยก้านมันดีนะเจ้าเด็กคนนี้ เจ้าจะว่าอย่างไรถ้าข้าจะให้มันเรียน หนงั สอื ” ยายตกใจอยชู่ ่ัวขณะ และมีสหี น้ากังวล “อฉิ นั กค็ ดิ เหมอื นกัน เพราะมนั กโ็ ตแล้ว แต่อฉิ ันไมม่ เี งินสง่ ใหม้ ันเรยี น หรอกเจ้าค่ะ” ยายตอบ “เอาอย่างน้ีแล้วกัน ให้มันมาเรียนกับข้า ข้าจะสอนวิชาหนังสือให้มัน เอง” ได้ยินดังน้ัน ท้ังยายและกำพร้าต่างดีใจมาก กำพร้าดีใจที่จะได้เรียน หนังสือเหมอื นเด็กคนอ่นื ๆ “พรุ่งน้ีเจา้ ไปหาขา้ ที่วดั หลังฉันเช้านะ” หลวงตาพูดและเดินจากไป

27



ห้า กำพร้าเรียนหนังสือ กำพร้ามาอยู่กับหลวงตา ได้เรียนวิชาหนังสือจนพออ่านออกเขียนได้ และยงั ไดค้ วามรเู้ ก่ียวกบั พรรณไมท้ ีห่ ลวงตาปลกู ไวร้ อบวัด รู้ว่าตน้ ไมเ้ หลา่ น้นั มี สรรพคุณในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บแตกต่างกัน เขาจดจำต้นไม้พันธุ์ต่างๆ ได้ อย่างแม่นยำ เพราะต้องคอยรดน้ำ ดูแลต้นไม้ของหลวงตาทุกวัน และหลวงตา กถ็ ามถงึ อยู่บอ่ ยๆทำใหเ้ ขาต้องหมัน่ สังเกตทุกๆอย่างเกย่ี วกับต้นไมน้ ั้น การเรียนหนังสือวันแรกเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยสำหรับกำพร้า เพราะเขา มักจะสงสัยส่ิงต่างๆ อยู่เสมอ กว่าจะเข้าใจอะไรก็ต้องถามหลวงตาซ้ำไปซ้ำมา หลายรอบ “ทำไม คอ คน ถงึ ไม่ได้ใช้เขียนหนังสอื ละ่ ขอรับ” “เจ้าน่ีช่างซักถามจริง ก็เพราะคนเด๋ียวน้ีมันข้ีเกียจ ตัวน้ีมันเสียงคอ คล้าย คอ ควาย แต่ออกเสียงยากกว่า คนเลยไม่นิยมใช้ยังไงล่ะ” หลวงตา พยายามอธบิ ายใหฟ้ งั ง่ายๆ “เจา้ มีอะไรสงสัยอกี ไหม” “ไม่ขอรบั เด๋ียวหลวงตาว่า” “วา่ อะไร หือ”

30 เร่อื งเล่าเจ้ากำพรา้ “กว็ ่าผมโงน่ ะ่ สิขอรบั ” กำพรา้ ตอบอายๆ หลวงตาหัวเราะเสียงดงั กบั ทา่ ทางและคำพดู ของกำพร้า และบอกว่า “คนท่ีรู้วา่ ตวั เองโง่ คือคนฉลาด จำเอาไว้” ในสายตาของกำพร้า หลวงตาคือพระท่ีขรึมและดูน่ากลัว หลวงตาจะ จริงจังทุกคร้ังท่ีสอนหนังสือ เมื่อใดที่เห็นกำพร้าหาวหรือแอบมองส่ิงอื่นก็จะเอา ไม้เท้าเคาะหัวพร้อมกับดุเสียงดัง ขณะท่ีเรียนหนังสือ กำพร้าชอบมองสีจีวร ของหลวงตา เพราะมองแล้วรสู้ ึกอบอุ่นทกุ คร้ัง “เหมอื นมแี สงสว่างฉายออกมา” กำพรา้ คิดในใจ วันน้ันกำพร้าได้เรียนอ่านและเริ่มเขียนตัวอักษรไทย แต่ตอนบ่ายมี ชาวบ้านมาให้หลวงตารักษาโรคให้ น่ันเป็นคร้ังแรกที่กำพร้าได้เห็นหลวงตาฝน ยาสมุนไพรให้คนป่วยกิน ยาที่ใช้ฝน มีท้ังรากไม้ เปลือกหอย แล้วก็ก้อนหิน สีขาว หลวงตาฝนทุกอย่างลงไปในขันหิน แล้วเป่าคาถาลงไป คนป่วยคนนน้ั ก็ยกขึ้นไปดื่มแล้วนอนพัก ไม่นานสีหน้าเขาก็ดีข้ึนแล้วก็ลุกเดินกลับบ้านได้ ญาติที่พามาดีใจมาก รีบเข้าไปกราบหลวงตาและเอาปจั จยั ไปถวาย แตห่ ลวงตา ปฏิเสธ “เจ้าเอาเงนิ ไปซอ้ื อาหารดๆี ให้ไอ้ผนั มนั กินบำรุงดีกวา่ ” ชาวบ้านคนนนั้ และท้าวผันก้มลงกราบหลวงตาอีกครั้งหน่ึงด้วยความสำนึกรู้คุณ กำพร้าสังเกต เห็นท้าวผันมนี ำ้ ตาคลอเบ้า “การรกั ษาคน มันมคี วามสขุ อย่างน้ีนเี่ อง” กำพรา้ คิดในใจ “สักวันหน่ึง เราจะต้องเป็นหมอรักษาคนป่วยอย่างหลวงตาให้ได้” กำพร้าคดิ พรอ้ มกับสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด

31



หก กำพร้าอดทน กำพร้าเรียนหนังสือกับหลวงตาได้หลายเดือนแล้ว เขารู้สึกมีความสุข มาก เขาชอบท่ีจะรจู้ กั ตน้ ไม้ต่างๆ ทเ่ี อามาใชท้ ำยารกั ษาโรคไดม้ ากมาย แตเ่ ขา ก็ต้องหัดสังเกตและจดจำลักษณะของต้นยาแต่ละชนิด และสรรพคุณทางการ รักษาโรคต่างๆ ให้ได้อย่างแม่นยำ หลวงตาเร่ิมต้นพาเขาไปดูต้นยาที่มีอยู่ใน บริเวณวัด พร้อมท้ังอธิบายสรรพคุณ วิธีเก็บ วิธีใช้ให้ฟัง ทีละต้น ทีละต้น กำพรา้ ตอ้ งจดจำใหไ้ ดท้ กุ ตน้ เขารสู้ กึ วา่ เปน็ เรอ่ื งทยี่ ากมาก เพราะตน้ ไมส้ ว่ นใหญ่ ก็มีใบสีเขียวๆ เหมือนกันหมด กำพร้าต้องพยายามเขียน วาดรูป และทำ สัญลักษณ์ไว้ในสมุดบันทึก เพ่ือจะได้ทบทวนความจำ ทีละต้น ทีละต้น ทุกวัน อย่างสม่ำเสมอ ไม่นานนัก เขาก็เร่ิมแยกแยะได้ว่าต้นไหนเป็นต้นไหน มีสรรพคุณ อย่างไร นอกจากต้นไม้ที่หลวงตาเอามาไว้รอบๆ วัดแล้ว หลวงตายังพากำพร้า ขึ้นเขาเขา้ ป่าท้ายหม่บู า้ นเพ่ือหาเกบ็ สมนุ ไพรมาตากแหง้ ไวใ้ ชอ้ ีกด้วย วันก่อน หลวงตาบอกให้เขารู้จักต้นไม้ชนิดหนึ่ง ซ่ึงถ้ากินผลของมัน เข้าไปจะท้องร่วงอย่างรุนแรง แต่ก็มีต้นยาท่ีแก้ได้ด้วย กำพร้ารู้สึกต่ืนเต้นมาก ท่ีไดร้ จู้ ักตน้ ไมแ้ ปลกๆแบบนี้

34 เรอ่ื งเล่าเจ้ากำพรา้ ในตอนเย็นของทุกวัน กำพร้าจะเดินดูสวนสมุนไพรในวัดเพ่ือทบทวน ความรู้เร่ืองตน้ ยาทีห่ ลวงตาสอน เยน็ วันนี้ก็เช่นกัน “แกทำอะไรน่ะ เจ้ากำพร้า” เสียงท่ีไม่ค่อยเป็นมิตรนักดังข้ึนด้านหลัง กำพร้า เขาหันกลับไปมอง เจ้าของเสียงคือคนท่ีกำพร้าชอบเรียกว่า “ไอ้หวัน” ลกู ชายผูใ้ หญบ่ ้านทีต่ ัวอว้ นเหมอื นหมูนน่ั เอง “ได้ข่าวว่าแกมาเรียนหนังสือกับหลวงตารึ เด็กกำพร้าอย่างแก มันจะ เรียนรเู้ รอื่ งเร้อ” ไอ้หวันหาเรอื่ งตอ่ “ทำไมข้าจะเรียนไมไ่ ด้” กำพร้าพดู “ก็แกมันเด็กกำพร้าน่ี ขนาดพ่อแม่แกยังไม่อยากอยู่ด้วยเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ไอ้หวันปล่อยหัวเราะเสยี งดงั “พอ่ แมข่ า้ ตายไปแล้ว” กำพร้าพูดต่อ “พอ่ แมเ่ อง็ ตายจรงิ รเึ ปลา่ กไ็ มร่ .ู้ ..พอ่ ขา้ บอกวา่ เขาหนไี ปตา่ งหาก เพราะ เขาเกลยี ดแกไง” “ไม่จรงิ ” “จริง” “ไมจ่ รงิ !” “จริงโว้ย...ไอ้เด็กกำพร้า พ่อแม่ไม่เอาๆๆๆ” ไอ้หวันพูดพร้อมกับว่ิงไป รอบๆ ตัวกำพร้า เขาเคยถูกไอ้หวันล้อบ่อยๆ ว่า เป็นเด็กกำพร้าและเขาก็ พยายามหลบหลีกออกไปตลอดมา แต่คราวนี้ไอ้หวันลบหลู่พ่อแม่ของเขาด้วย เขากำกำปั้นแน่น พล่กั ! เสียงกำปน้ั ของกำพรา้ กระทบกับใบหนา้ ของไอห้ วนั “โอ๊ย!” ไอ้หวันร้องขึ้นอย่างเจ็บปวด จากนั้นท้ังสองก็ชกต่อยกันชุลมุน ผทู้ ่ีเขา้ มาห้ามคนแรกคือผูใ้ หญบ่ ้าน และแยกเด็กท้ังสองคนออกจากกัน “ไอ้กำพร้ามันชกผมก่อน” ไอห้ วันชิงพดู ขนึ้ “แตไ่ อห้ วันหาเรอื่ งผมกอ่ น” กำพร้าเถียง “ข้าไม่เชื่อ ลูกข้ามันไม่เคยเกเร มานี่...มา ไอ้เด็กกำพร้าข้ีโกหก มาให้ ขา้ ลงโทษเสียดี ๆ”

กำพร้าอดทน 35 กำพร้าวิ่งหนีไปอยา่ งหวดุ หวดิ เขารบี วิง่ ไปทกี่ ฏุ ิหลวงตา สองพอ่ ลูกวิ่ง ตามไป กำพรา้ ขอให้หลวงตาช่วยตดั สนิ ความ หลวงตาให้เด็กท้ังสองเล่าเร่ืองราวทั้งหมดให้ฟัง หลังจากแย่งกันเล่า เรอื่ งราวท่ีเกิดขึ้นแลว้ หลวงตาก็ว่า “มนั ก็เจ็บดว้ ยกนั ทั้งคู่ ถอื วา่ ต่างคนต่างผิดกแ็ ล้วกนั ขอโทษกนั เสยี ” เด็กทงั้ สองคนขอโทษกนั อยา่ งไมเ่ ตม็ ใจนัก ผใู้ หญบ่ ้านบ่นว่าลกู ของตัว เจ็บกว่ากำพร้าเสียอีก แต่เขาก็เถียงหลวงตาไม่ได้เพราะไอ้หวันเป็นฝ่ายหา เรอ่ื งกอ่ น เขารีบพาลกู กลบั บ้าน แตห่ ลวงตาเรยี กไว้ก่อน “เอายานไ่ี ปทา” หลวงตาหยิบตลบั ยาเลก็ ๆ สง่ ให้ ผใู้ หญ่บา้ นยกมอื ไหว้ หลวงตาแลว้ รบี พาลูกลงกฏุ ิไป “เจ้ากำพร้า เจ้ารู้ตัวไหมว่าเจ้าทำผิด ข้าสอนให้เจ้าอดทนอดกล้ันแต่ เจา้ ก็ทำไมไ่ ด”้ “ผมทนไม่ได้จรงิ ๆขอรับ มันลอ้ เร่ืองพ่อแม่ของผม” หลวงตาเงียบไป “หลวงตา...พ่อแม่ผมตายด้วยโรคระบาดจริงๆ ใช่ไหมขอรบั ” หลวงตาหนั หลงั ใหเ้ ขา “ไดเ้ วลาทบทวนความรแู้ ลว้ นง่ั ลงเถอะ เจา้ ตอ้ งเรยี นรอู้ กี หลายเรอ่ื งนกั ” พูดแล้วหลวงตาก็เดนิ จากไป ปล่อยให้กำพร้าอา่ นตำราทบทวนความรู้ อยู่คนเดยี วเงยี บๆ



เจ็ด กำพร้าเอาคืน บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่กำพร้ากำลังเดินดูสมุนไพรในวัดอยู่ ผู้ใหญ่บ้านก็ ว่ิงหนา้ ตาตน่ื มาหาหลวงตา “หลวงตา ชว่ ยลกู ชายผมดว้ ย มนั เจบ็ ทอ้ งมาก” หลวงตารบี มาดคู นปว่ ย ทันที หลังจากซักถามอาการอยู่พักใหญ่ๆ หลวงตาก็รู้ได้ว่าไอ้หวันกินอาหาร มากเกนิ ไปและกนิ เนือ้ สตั ว์เข้าไปเยอะ กระเพาะอาหารจึงย่อยอาหารไมท่ ัน “เฮ้อ คนอ้วนก็ไม่สบายเพราะกินน่ีแหละ ไม่ต้องห่วงนะโยมผู้ใหญ่ ข้า จะให้ยาเอาไปต้มให้มันกิน ให้ท้องได้ระบายออกบ้าง ไม่นานก็หายแต่ต้องหัด กินผกั กนิ ผลไมบ้ ้างนะ ไมง่ ั้นกจ็ ะเป็นอกี แล้วกจ็ ะรกั ษาไม่หาย” หลวงตาเดินไปท่ีห้องเก็บยาเพื่อหายามาให้ไอ้หวัน กำพร้าเดินตาม เข้าไป ทันใดน้นั ก็มเี สยี งชายคนหนึ่งดงั ขนึ้

38 เรอื่ งเล่าเจ้ากำพรา้ “หลวงตา หลานผมถูกงูกดั ช่วยมนั ด้วยเถอะ” ชายคนน้ันอุ้มเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งขึ้นมาบนกุฏิ เด็กหญิงร้องไห้ เสยี งแผว่ เบานา่ สงสาร หลวงตารบี หนั ไปดดู ว้ ยทา่ ทางรอ้ นใจแลว้ หนั มาสงั่ กำพรา้ “กำพรา้ เจ้าจำยาแก้ทอ้ งอืดทขี่ ้าเคยบอกได้ใช่ไหม” “ได้ขอรบั ” “จดั ยาให้ผ้ใู หญไ่ ปต้มใหล้ ูกกินนะ แล้วเจ้ารบี ต้มใหห้ ม้อหน่งึ ก่อน ข้าจะ รีบไปดูเด็กคนน้นั ” หลวงตาพูดจบกร็ ีบออกไป กำพร้ารู้สึกต่ืนเต้นท่ีจะได้จัดยาต้มรักษาคนจริงๆ จึงรีบเดินไปเตรียม ยาและจดั แจงตม้ ยาใหไ้ อ้หวัน ทนั ใดนนั้ ความคดิ แวบหนง่ึ ก็ปรากฏขึน้ ในสมอง “เสร็จแลว้ หรอื ” หลวงตาถาม กำพร้าสะดุ้งเฮือก หลวงตาเดนิ ออกมาดู แลว้ ย้ิมอย่างพอใจ “อมื ...ตม้ ใชไ้ ด้น่ี สขี นาดนย้ี ากำลงั ออกฤทธด์ิ ”ี “ขอรบั ” กำพร้าตอบเสียงสัน่ เขารบี ส่งถ้วยยาให้ไอห้ วัน กินยาเข้าไปไม่นาน อาการปวดแนน่ ทอ้ งของไอห้ วนั ก็ดีขึน้ ผ้ใู หญ่บ้าน จงึ ขอพาลกู ชายกลับบ้าน เมื่อกลับถึงบ้าน ไอ้หวันก็มีอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง ผู้ใหญ่บ้านคิด วา่ นา่ จะเกิดจากยาต้มท่ีกินเขา้ ไป เขาจงึ พาลูกชายกลบั มาทีก่ ฏุ ิหลวงตาอกี ครงั้ “หลวงตาเอายาอะไรใหล้ ูกผมกิน น่มี ันถา่ ยมาเจด็ รอบแลว้ แย่กว่าเดิม อีก ลูกผมต้องผอมแน่ๆ...ไม่รู้ล่ะ หลวงตาต้องรับผิดชอบ ไม่งั้นผมจะไปป่าว ประกาศให้ใครๆ ได้รู้ว่าหลวงตาแกล้งลูกผม เพราะลูกผมไปมีเร่ืองกับลูกศิษย์ หลวงตา” ผ้ใู หญ่บ้านมองมาที่เจ้ากำพรา้ ทกี่ ำลงั กม้ หนา้ มองพน้ื ใจเตน้ ตบุ ๆ “เอาละ ขา้ จะต้มยาให้ใหม่แลว้ กันนะ” หลวงตาตดั บท

กำพร้าเอาคืน 39 ไอ้หวันกินยาหม้อใหม่ของหลวงตาไม่นาน สีหน้าก็ดีข้ึน ผู้ใหญ่บ้านจึง รบี พาลูกชายกลบั บา้ นโดยไม่ทันบอกลาหลวงตา เมือ่ สองพอ่ ลกู กลบั ไป หลวงตาหันมองกำพรา้ ดว้ ยสายตามีคำถาม กำพร้ามองหน้าหลวงตาแล้วร้องไห้ คลานไปกอดขาหลวงตาแล้วพูด ปนเสียงสะอ้ืน “ต่อไป ผมจะไม่ทำอย่างน้ีอีกแล้ว ผมจะอดทนและมีเมตตากับทุกคน อยา่ งท่หี ลวงตาสอนครบั ”



แปด กำพร้าหายา วนั หนึ่ง ยายของกำพรา้ ป่วยด้วยโรคประหลาด กำพร้าตกใจมาก เขามี ยายคนเดยี ว ถา้ ยายตายไป เขากไ็ ม่รู้จะอย่อู ย่างไร หลวงตาบอกว่ายาท่ีจะใช้รักษายายหายากมาก แหล่งยาท่ีใกล้ที่สุดอยู่ ในป่าลึกลับท่ีภูเขาลูกใหญ่หลังหมู่บ้าน ชาวบ้านลือกันว่า แถวน้ันมีเมืองลับแล และมีคนท่ีเคยหลงเข้าไปเล่าว่าเจอยักษ์อาศัยอยู่ มันคอยจับสัตว์ต่างๆ กินเป็น อาหาร ตอนกลางคืนกส็ ่งเสียงรอ้ งโหยหวนใหช้ าวบา้ นไดย้ ินอย่บู ่อยๆ ทั้งๆ ที่กลัวแทบขาดใจ แต่กำพร้าก็บอกกับยายว่า เขาจะหายามา รักษายายใหไ้ ด้ แตห่ ลวงตาบอกวา่ จะไปเก็บยามารกั ษายายให ้ “ไมไ่ ดข้ อรับ หลวงตาจะตอ้ งอยรู่ ักษาชาวบา้ นทน่ี ่ี ถา้ หลวงตาเป็นอะไร ไป ชาวบา้ นจะทำยังไงขอรบั ” “แลว้ ถา้ เจา้ เป็นอะไรไป ยายของเจ้าจะทำยงั ไง” หลวงตาถามกลบั “แลว้ เจา้ รรู้ วึ า่ ตน้ ยามนั หนา้ ตาเปน็ ยงั ไง ถงึ จะไดไ้ ปเกบ็ ยาในปา่ บนเขา คนเดยี ว”

42 เร่ืองเล่าเจ้ากำพร้า วันรงุ่ ข้ึน กำพร้าและหลวงตาออกเดนิ ทางตัง้ แต่เช้ามดื แมจ้ ุดหมายจะ ไม่ไกลจากหมู่บ้านมาก แต่เสียงเล่าลือถึงความน่าสะพรึงกลัวของเมืองลับแล และยกั ษ์ก็ทำให้ทง้ั สองต้องรีบเร่งฝีเท้า จะไดก้ ลบั มารกั ษายายไดท้ นั “สมัยเด็กๆ ข้าเคยมาเก็บยาที่น่ีบ่อยๆ” หลวงตาเล่าเพ่ือทำลายความ เงียบขณะเดนิ ทาง “อ้อ...มิน่าหลวงตาถึงจำต้นยาได้เยอะแยะ...แล้วหลวงตามากับใครล่ะ ขอรบั ” “ข้ามากับโยมพ่อ พ่อข้าเป็นหมอยา...ตอนนั้นแม่ข้าไม่สบาย ป่วยเป็น โรคแบบเดียวกบั ยายของเจ้าน่แี หละ พอ่ ข้ามาเกบ็ ยา ข้าเลยขอตามมาด้วย” “แลว้ เป็นอย่างไรบ้างล่ะขอรบั ” “เราเก็บยาได้สำเร็จ แต่...กลับลงมาไม่ทัน โยมพ่อเสียใจมาก เขายก ข้าใหห้ ลวงลุงพาไปบวช แลว้ ก็ไมม่ ใี ครเจอทา่ นอีก” น่ีเปน็ ครั้งแรกท่กี ำพรา้ ไดร้ บั ฟงั เรอื่ งราวของหลวงตา หากเปรียบเทียบ กัน เขากับหลวงตานับว่ามีส่วนคล้ายกันไม่น้อย กำพร้ารู้สึกต้ืนตันที่เด็กอย่าง เขาไม่ได้ทุกข์อยู่คนเดียว แต่ผู้ใหญ่ท่ีเป็นที่เคารพอย่างหลวงตาก็มีอดีตที่เป็น ทกุ ข์คล้ายกนั กบั เขาด้วย “หลวงตายังเข้มแขง็ ได้ เราก็ตอ้ งเข้มแขง็ ได้เหมอื นกัน” กำพรา้ คิดในใจ เม่ือทั้งสองเดินทางมาถึงชายป่าก็เป็นเวลาเกือบสิบโมงเช้า ทั้งสอง ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปในป่าทึบข้างหน้าทันที ระหว่างที่เดิน หลวงตามีท่าทาง ดีใจหลายคร้ัง เพราะพบสมุนไพรท่ีหายากหลายชนิด แต่น่าเสียดายที่ยังเก็บ ไม่ได้ เพราะยงั ไม่ถงึ ฤกษย์ ามของมนั หลวงตาบอกว่า ปา่ นยี้ ังอดุ มสมบรู ณ์มาก สมุนไพรกเ็ ลยมีมากมาย

กำพรา้ หายา 43 “แต่ต่อไปก็ไม่แน่หรอก คนมันมากข้ึน เขาก็ต้องทำมาหากิน หักไร ่ ถางพง ตัดต้นไม้ไปทำบ้าน ป่าก็จะถูกทำลายลงเรื่อยๆ สมุนไพรก็จะหายไป ด้วย” “เราห้ามเขาไม่ได้หรอื ขอรบั ” “การห้ามอย่างเดียวไม่มีประโยชน์หรอก เพราะเขาต้องหากิน เรา ต้องหาอาชีพให้เขาทำ เป็นอาชีพที่ไม่ต้องมาทำลายป่าน่ะ แล้วก็ต้องทำให้เขา เหน็ คณุ ค่าของปา่ ด้วย” ทันใดนั้น หลวงตาก็หยุดชะงัก สายตาเพ่งมองไม้พุ่มเล็กๆ มีใบเรียว แหลม ปลายใบเป็นสแี ดงเขม้ สม้ และเหลือง สลบั กันสวยงาม “นี่ไงต้นยาท่เี ราต้องการ แต.่ ..” “แต่อะไรขอรับ” กำพร้าจ้องดตู น้ ไมน้ ั้นตาไมก่ ะพริบ “มนั ยังเลก็ เกนิ ไป เกบ็ ไม่ได้หรอก แต่กด็ ีนะ...อย่างนอ้ ย ข้าก็แนใ่ จแลว้ วา่ ยังมีต้นยาอยู่” หลวงตาออกเดินต่อ กำพร้าเดินตาม ขณะน้ันเป็นเวลาใกล้เพลแล้ว หลวงตาจึงบอกกำพร้าให้พักกินข้าวใต้ร่มไม้ข้างหน้าก่อน จากน้ันทั้งสองก็เดิน ทางต่อไป ทางเดินเข้าป่าเร่ิมรกทึบข้ึนเรื่อยๆ ทั้งสองยังคงเดินมองหาต้นไม้ใบ สวยงามน้ันต่อไป เม่ือมาถงึ ทีต่ น้ ไม้ใหญ่แหง่ หนึง่ หลวงตากส็ ังเกตเห็นรอยเทา้ ขนาดใหญซ่ งึ่ มีลักษณะใกล้เคียงกบั รอยเท้าคน! กำพร้าตกใจกลัวและนึกถึงเร่ืองยักษ์ท่ีชาวบ้านเล่าลือกัน แต่หลวงตา ยังคงเงียบเฉย เดินต่อมาอีกไม่นาน ทั้งสองก็พบกับถ้ำใหญ่มหึมาขวางหน้าอยู่ หลวงตาดีใจมาก ท่านเดินไปที่ปากถ้ำและชะโงกมอง กำพร้าเดินตาม ภาพที่ อย่ขู ้างหนา้ ทำใหเ้ ขาต้องตกตะลึง

44 เรอื่ งเล่าเจ้ากำพรา้ มันคือต้นยาที่หลวงตาพบท่ีชายป่า แต่มีขนาดใหญ่กว่าประมาณสิบ เท่า ปลายใบของมันนอกจากจะมี สีแดง เหลือง ส้มแล้ว ยังมีสีน้ำตาล ม่วง และฟา้ ดว้ ย หลวงตาหันมาบอกกำพร้าว่า “เราต้องใช้ใบไม้ท่ีมีสีต่างๆ กันนั้นอย่าง ละหน่ึงใบ” เมอ่ื พดู จบทา่ นกเ็ ดนิ เงยี บๆ ไปทต่ี น้ ยา จากนนั้ จงึ ยนื ทอ่ งคาถาอยชู่ ว่ั ครู่ แลว้ เอ้อื มมือไปเดด็ ใบยา ทันใดน้ัน งูพิษท่ีแอบซ่อนอยู่บนต้นยาก็กัดเข้าที่ข้อมือของหลวงตา ท่านดึงมือกลับและล้มลง หลวงตาบอกว่าถูกงูจงอางกัด กำพร้าฉีกเส้ือของตน ออกเป็นริ้วและรัดท่ีต้นแขนของหลวงตาเพ่ือป้องกันไม่ให้พิษแล่นเข้าสู่หัวใจ เขามั่นใจว่าปากของเขาไม่มีบาดแผลจึงก้มลงดูดพิษออกให้หลวงตา จากนั้นก็ รบี ไปหายาแกพ้ ิษที่มีอยมู่ ากมายในปา่ แลว้ ก็ได้ยาสมนุ ไพรมาแก้พิษงูในทนั ที หลวงตามีสีหน้าดีข้ึนแต่ท่าทางยังเหนื่อยอ่อน ท่านเอนพิงผนังถ้ำและ บอกให้กำพร้ารบี ไปเก็บใบยาให้ยาย ท้ังสองไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ทั้งหมด ท่ีเกิดขึ้นล้วนอยู่ในสายตาของยักษ์ สองตนที่อาศัยอยู่ในถ้ำนั้น ขณะที่ กำพร้ากำลังจะเอ้ือมมือไปเก็บยา กม็ เี สียงหน่ึงดังข้ึน “หยุดนะ เจ้าจะเก็บยา ของเราไปไมไ่ ด้” กำพร้าตกใจ เขารีบหัน ไปมองเจ้าของเสียงทนั ท ี

กำพร้าหายา 45 “เราเป็นยักษ์ท่ีคอยรักษาต้นยาน้ี คนที่จะเอาต้นยาน้ีไป ต้องได้รับ อนุญาตจากเราก่อน” “ผะ...ผมขอ...ขอต้นยาไปรักษายายได้ไหมคะ...ครับ” กำพร้าพูดตะกุก ตะกกั “โยม...อาตมาขอเถอะ เราต้องการยาจริงๆ” หลวงตาเอ่ยด้วยน้ำเสียง แผ่วเบา เพราะรา่ งกายอ่อนเพลียมาก “ไมไ่ ด”้ ยกั ษาตัวน้ันตวาดเสียงดัง “พ่ีจ๋า...ให้เขาไปเถอะ เขาคงต้องการยาจริงๆ” อีกเสียงหนึ่งดังขึ้น คราวนี้เป็นเสียงยักษี นางเดินออกมาช้าๆ จากหลืบของถ้ำ สีหน้าของนาง ซดี เซียว “ไม่ไดเ้ ดด็ ขาด ขนื ใหย้ าเขาไป เจ้ากไ็ มม่ ียากนิ นะ่ สิ” “โธ่พ่ี...ฉันหายจากโรคน้ันแล้วล่ะ แต่ตอนน้ีฉันปวดท้องมากกว่า” พูด จบนางก็เอามือกมุ ท้องและทรุดลง ยักษารีบเขา้ ไปประคองนางยักษี กำพร้าหันไปมองหน้าหลวงตาเป็นเชิงขออนุญาต หลวงตาพยักหน้า กำพรา้ สูดลมหายใจเขา้ เตม็ ปอด กา้ วชา้ ๆไปหายักษท์ ั้งสอง “ให้ผมช่วยไหม ผมกับหลวงตาร้จู กั สมนุ ไพร” กำพรา้ พดู ยกั ษ์ทั้งสองมสี ีหน้าประหลาดใจ “จริงๆ แล้วขา้ กเ็ หน็ ตอนเจา้ รกั ษาพระแก่ๆ นน่ั แต่น่ันมันแคง่ ูกัด ข้ากร็ ู้ วิธีแก้ไข น่ีเจ้าแน่ใจหรือว่าจะรักษาเมียข้าได้ นางเป็นโรคประหลาดนะ” ยักษา พดู “ลองให้ผมรักษาดูก่อนเถอะ ดีกว่าปล่อยเอาไว้แบบน”้ี สายตากำพร้า มุ่งมั่น เขาจ้องตากับยักษาอยู่ชั่วครู่ ยักษ์เห็นแววตาของเขาแล้วก็พยักหน้า ตกลงปล่อยให้กำพร้าเข้าไปซักถามอาการของยักษี กำพร้าซักอย่างละเอียด เขาคิดว่านางไม่ได้เป็นอะไรมาก คงเป็นการกินเนื้อสัตว์เข้าไปมากแล้วไม่ได้ ออกไปไหน จงึ ปวดท้องอดึ อดั เพราะอาหารไม่ยอ่ ย

46 เร่ืองเลา่ เจ้ากำพร้า กำพร้าเดินไปหาหลวงตาแล้วเล่าอาการให้ฟัง หลวงตาคิดเหมือนกับ เขา กำพรา้ จึงบอกสาเหตุของโรคให้ยักษท์ ง้ั สองฟัง “โธ่ นึกว่าเปน็ โรคอะไร” ยกั ษ์ทง้ั สองเห็นด้วย “คงจะเกิดจากกินเน้ือมากไปหน่อย” กำพร้าพูด พลางนึกกลัวยักษ์จับ กนิ ข้นึ มา “คงจะใช่ พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าให้เจ้ากินผักเข้าไปด้วย ทีนี้เป็นยังไงล่ะ” ยกั ษารบี สำทบั “จ้ะๆตอ่ ไปฉันจะไมเ่ กลียดการกนิ ผกั อกี แล้วจะ้ ” ยกั ษีรสู้ กึ ผดิ “เด็กน้อย เจ้าช่วยรักษาเมียเราด้วยเถอะ ถ้านางหายป่วยจริง เจ้า อยากได้อะไร เรากจ็ ะให”้ กำพรา้ ยนื คิดอยู่ชั่วครู่ เขาตอบยกั ษาไปว่า “ผมไมต่ ้องการอะไรมาก ขอให้ท่านไมก่ นิ เรา แลว้ ก็ให้ใบยากบั เราบ้าง” “ได้สิ เจ้าจะเอาเท่าไหร่ก็เอาไป ขอเพียงอย่าตัดรากถอนโคนมันก็พอ เพราะตน้ ยาน้จี ะเจริญเตบิ โตได้ดีในถำ้ นเี้ ทา่ นั้น” “ถา้ งนั้ ผมจะไปเกบ็ ยามาให”้ กำพรา้ หนั ไปมองหลวงตา ทา่ นพยกั หนา้ และย้มิ ให้ กำพรา้ จึงรบี วง่ิ ไปหายามารกั ษายักษี เพราะความอุดมสมบูรณ์ของป่าทำให้กำพร้าพบยาในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อเขากลับมา ภาพท่ีเห็นตรงหน้าคือยักษ์ทั้งสองนั่งพนมมือฟังหลวงตาเทศน์ เขารู้สึกประหลาดใจท่ียักษ์ทั้งสองนอบน้อมกับหลวงตาขนาดนั้น แต่เขาก็ไม่รอ ชา้ รบี ก่อไฟตม้ ยาใหย้ ักษที ันท ี เม่ือได้กินยา ยักษีกร็ ู้สึกดีข้นึ นางกลา่ วขอบคุณกำพร้า ยักษามองเขา ด้วยความประหลาดใจ มันไม่อยากเช่ือเลยว่าคนตัวเล็กๆ จะมีความรู้และรักษา โรคได้ กำพร้าปาดเหง่ือและย้ิมอย่างภาคภูมิ ไม่เสียแรงที่เขาต้ังใจเรียนกับ หลวงตาทุกวนั

กำพรา้ หายา 47 “เจา้ กำพร้า” หลวงตาเรยี กชอ่ื เขา “ขอรับหลวงตา” “นม่ี นั บา่ ยคลอ้ ยแลว้ เจา้ รบี เกบ็ ยาเถอะ เดย๋ี วจะคำ่ เสยี กอ่ น เราจะกลบั ลำบาก” หลวงตาเตือน กำพร้ารีบไปเก็บยา เขาค่อยๆ เด็ดใบยาใส่ย่ามอย่างระมัดระวัง แล้ว ไปพยุงหลวงตาให้ลุกข้ึน หลวงตาบอกตำรับยาสมุนไพรให้กับยักษ์ทั้งสองเพ่ือ ให้มันรู้จักเก็บยามารักษาตนเองได้ ยักษ์ทั้งสองซาบซ้ึงมาก ยักษาบอกกับ หลวงตาและกำพร้าว่า “มาเถอะ...ขา้ กบั เมียจะไปสง่ ทา่ น” พอยักษ์ตนนั้นพูดจบ มันก็แบกหลวงตานั่งบนบ่า แล้วยักษีก็แบก กำพรา้ ขน้ึ บา่ ดว้ ย ยกั ษท์ งั้ สองพาหลวงตากบั กำพรา้ เดนิ ลงจากเขาอยา่ งรวดเรว็ ไม่นานก็มาถึงชายป่า มันวางคนทั้งสองลง ขณะท่ีหลวงตากับกำพร้ากำลังจะ หนั ไปขอบคุณ ยักษท์ ง้ั สองกห็ ายไปเสียแล้ว หลวงตากับกำพร้ามองหน้ากันและกันคล้ายกับจะถามกันว่าสิ่งที่เกิด ขึน้ ท้งั หมดคือความฝันหรือความจรงิ กนั แน่ “ไปกันเถอะ เดยี๋ วจะไปรักษายายเจา้ ไมท่ ัน” หลวงตาเอย่ ข้ึนในทสี่ ุด



เก้า กำพร้าพบเพือ่ นใหม่ หลังจากได้รับการรักษาจากหลวงตาไม่นานนัก ยายก็หายเป็นปกติ อยา่ งนา่ อศั จรรย์ เพอ่ื นบา้ นหลายคนตา่ งโจษจนั เรอื่ งนก้ี นั ไปทว่ั บา้ งกว็ า่ หลวงตา เป็นผู้วิเศษรักษาโรคประหลาดได้ บ้างก็ว่าหลวงตามีเวทมนตร์คาถาอาคม ลึกลับ ข่าวน้ีแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ จึงมีชาวบ้านจากหลายท้องถิ่นท ี่ ห่างไกลพากันมาให้หลวงตารกั ษามากขนึ้ เร่อื ยๆ เมื่อมีผู้คนแห่กันมาให้หลวงตารักษาไม่ขาดสาย หลวงตาจึงมีเวลา สอนกำพรา้ นอ้ ยลง แมแ้ ต่เวลาส่วนตวั ของหลวงตาเองกน็ ้อยลงเชน่ กัน กำพร้า สังเกตเห็นว่าระยะหลงั มาน้หี ลวงตาดูอ่อนเพลยี และเหนอื่ ยง่ายกว่าปกต ิ แมจ้ ะมีเวลาเรียนวชิ าต่างๆ นอ้ ยลง แต่กำพร้ากไ็ ม่เคยท้ิงการเรยี นเลย ทุกคร้ังที่หลวงตาอนุญาตให้เข้าไปดูการรักษา กำพร้าจะเข้าไปดูและพยายาม จดจำชื่อยาและสรรพคุณให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ กำพร้าบอกกับตนเองว่า สักวันหน่ึง เขาจะเป็นหมอสมุนไพรที่เก่งและรักษาคนได้เยอะๆ อย่างหลวงตา ให้ได ้