Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนวัดสายลำโพงใต้ พุทธศักราช 2564 กลุ่มสาระการงานอาชีพ

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนวัดสายลำโพงใต้ พุทธศักราช 2564 กลุ่มสาระการงานอาชีพ

Description: เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนวัดสายลำโพงใต้ พุทธศักราช 2564 กลุ่มสาระการงานอาชีพ

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศกึ ษา กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) พุทธศักราช ๒๕๖๔ โรงเรยี นวดั สายลาโพงใต้ สังกัดสำนักงำนเขตพ้นื ที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำนครสวรรค์ เขต ๓ สังกดั สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดสายลำโพงใต้ พทุ ธศักราช 2564 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษานครสวรรค์ เขต 3 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

คำนำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาการงานอาชพี ได้จัดทำหลักสูตรกล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ ฉบับนี้ ซึ่งเป็น เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนวดั สายลำโพงใต้ พุทธศักราช 2564 ตาม หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 เพ่อื เปน็ เป้าหมายในการพฒั นาคุณภาพผ้เู รยี น และกระบวนการจัดการเรียนรู้ เพื่อเป็นกรอบและทิศทางในการจัดการเรียนการสอน ให้ตรงตาม มาตรฐานตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้ของกลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ โดยพิจารณาตามหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน 2551 หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดสายลำโพงใต้ พุทธศกั ราช 2564 ซ่ึงมอี งคป์ ระกอบ ดังนี้ - วิสัยทัศน์ หลกั การ จดุ หมาย - สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น - คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ - ทกั ษะดา้ นการงานอาชีพ - คณุ ภาพผู้เรียน - ตัวชวี้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง - รายวิชาทเี่ ปดิ สอน - คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน - โครงสรา้ งรายวชิ าพน้ื ฐาน - ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ - การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ คณะผู้จัดทำขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาและจัดทำหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ ฉบับนี้ จนสำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี และหวังเป็นอย่างย่ิงว่าจะเกิดประโยชน์ตอ่ การจัดการ เรียนรู้ใหก้ ับผเู้ รียนต่อไป กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี ผูจ้ ดั ทำ

สารบญั หน้า คำนำ 1 สารบญั 1 วสิ ัยทศั น์ 1 หลักการ 1 จุดมุ่งหมาย 2 สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 3 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 4 ทำไมตอ้ งเรียนการงานอาชพี 4 เรียนร้อู ะไรในการงานอาชพี 8 สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ 6 ทักษะดา้ นการอาชีพ 9 คุณภาพผเู้ รยี น 11 ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง 12 รายวชิ าทเ่ี ปดิ สอน 18 คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน 28 โครงสรา้ งรายวิชาพน้ื ฐาน 32 สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ 54 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 55 ภาคผนวก 58 59 อภิธานศัพท์ บรรณานุกรม คณะผจู้ ัดทำ

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนวัดสายลาํ โพงใต พทุ ธศกั ราช 2564 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพ วสิ ยั ทศั น์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ มุ่งเน้นให้ผู้เรียน มีการพัฒนาด้านหัตถกรรม เพื่อนเป็นแนวทาง ในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ รกั การเปน็ ผู้ผลิต แบบเพียงพอเพือ่ การดำรงชวี ิต หลกั การ กล่มุ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี มหี ลกั การทสี่ ำคัญในการพัฒนาผเู้ รียน ดงั นี้ 1. ภูมิใจในความเป็นไทย เห็นคุณคา่ ภมู ิปญั ญาไทย นยิ มไทยและดำรงไว้ซง่ึ ความเปน็ ไทย 2. สามารถคดิ วเิ คราะห์ คดิ สร้างสรรค์ การสรา้ งผลงานได้อย่างเปน็ ระบบ 3. บรู ณาการท้ังศาสตรแ์ ละศิลปท์ กุ แขนงในการสร้างชนิ้ งานให้เหมาะสมลงตวั 4. แสวงหาความรู้และเทคนิควิธีใหม่ ๆ รับฟังความคิดเห็นและยอมรับการเปล่ียนแปลงในทิศทาง ที่ถกู ต้องเหมาะสม จดุ มงุ่ หมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพใน การศึกษาต่อและประกอบอาชีพ จงึ กำหนดเปน็ จดุ หมายเพอื่ ให้เกิดกับผ้เู รยี น เมอื่ จบการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน ดังน้ี 1. มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทตี่ นนบั ถอื ยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 2. มีความรู้ ความสามารถในการส่ือสาร การคดิ การแกป้ ัญหา การใช้เทคโนโลยีและมีทักษะชวี ิต 3. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพ ลเมืองไทยและพลโลก ยึดม่ันในวิถีชีวิตและ การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข 4. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อมมี จิตสาธารณะท่มี ุ่งทำประโยชน์และสรา้ งส่งิ ที่ดีงามในสงั คมและอย่รู ่วมกันในสงั คมอย่างมคี วามสุข สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ซ่ึงเป็น การพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ท่ีกำหนดนั้น จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังน้ี 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์อนั จะเป็นประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเองและสงั คม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหา ความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลกั เหตุผลและความถกู ต้อง ตลอดจนการเลือกใช้ วธิ กี ารสอ่ื สารท่มี ีประสทิ ธภิ าพโดยคำนึงถึงผลกระทบทมี่ ีตอ่ ตนเองและสงั คม

2 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพ่ือนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ เพอ่ื การตัดสินใจเก่ียวกบั ตนเองและสังคมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ท่ีเผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการ ปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหา และมกี ารตัดสินใจทีม่ ีประสิทธิภาพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบทเี่ กดิ ขึน้ ต่อตนเอง สังคมและ สิง่ แวดล้อม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ ดำเนนิ ชวี ิตประจำวนั การเรียนรูด้ ้วยตนเอง การเรยี นรู้อยา่ งต่อเนอ่ื ง การทำงาน และการอยรู่ ว่ มกนั ในสังคมดว้ ย การสร้างเสริมความสัมพันธอ์ ันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การ ปรับตัวให้ทันกับการเปล่ียนแปลงของสังคมและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการ เปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อ ตนเองและผ้อู น่ื 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยี ด้านต่างๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสอ่ื สาร การทำงาน การแกป้ ญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกต้องเหมาะสมและมีคุณธรรม คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมี ความสุขในฐานะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก โดยมคี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดงั น้ี ข้อท่ี 1 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถงึ คุณลักษณะทีแ่ สดงออกถงึ การเป็นพลเมืองดีของชาติ ธำรง ไว้ซึ่งความเป็นชาติไทย ศรัทธา ยึดม่ันในศาสนาและเคารพเทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้ท่ีรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือ ผู้ท่ีมีลักษณะซ่ึงแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มคี วามสามัคคีปรองดอง ภูมใิ จ เชิดชูความ เป็นชาติไทย ปฏบิ ตั ิตนตาม หลกั ศาสนาท่ตี นนบั ถือและแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ข้อที่ 2 ซื่อสัตย์สุจริต หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการยึดมนั่ ในความถูกต้อง ประพฤติตรงตาม ความเป็นจริงต่อตนเองและผู้อื่น ทั้งทางกาย วาจา ใจ ผู้ที่มีความซ่ือสัตย์สุจริต คือ ผู้ที่ประพฤติตรงตามความ เป็นจริงท้ังทางกาย วาจา ใจ และยดึ หลักความจริง ความถูกต้องในการดำเนนิ ชีวิต มีความละอายและเกรงกลัว ต่อการกระทำผดิ ข้อท่ี 3 มีวินัย หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการยึดม่ันในข้อตกลง กฎเกณฑ์และระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียนและสังคม ผู้มีวินัย คือ ผู้ท่ีปฏิบัติตนตามข้อตกลงกฎเกณฑ์และระเบียบ ข้อบังคับของครอบครวั โรงเรียนและสงั คมเป็นปกติวิสัย ไม่ละเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ นื่ ขอ้ ที่ 4 ใฝ่เรียนรู้ หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรยี น แสวงหา ความรู้จากแหล่งเรียนรทู้ ั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ผู้ที่ใฝ่เรียนรู้ คือ ผู้ท่ีมีลักษณะแสดงออกถึงความต้ังใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและ ภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ ความรู้ แลกเปล่ียนเรียนรู้ ถา่ ยทอด เผยแพร่ และนำไปใช้ใน ชวี ิตประจำวันได้

3 ข้อที่ 5 อยู่อย่างพอเพียง • หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม มีภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีและปรับตัวเพ่ือ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ผู้ที่อยู่อย่าง พอเพียง คือ ผู้ท่ีดำเนินชีวิตอย่างประมาณตน มีเหตุผล รอบคอบ ระมัดระวัง อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนด้วยความ รบั ผิดชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อ่ืน เห็นคุณค่าของ ทรัพยากรต่าง ๆ มีการวางแผนป้องกันความเส่ียงและพร้อมรับ การเปลย่ี นแปลง ข้อท่ี 6 มุ่งม่ันในการทำงาน หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงความตั้งใจและรับผิดชอบในการทำ หนา้ ท่กี ารงานดว้ ยความเพียรพยายาม อดทน เพอ่ื ให้งานสำเรจ็ ตาม เป้าหมาย ผู้ท่ีม่งุ มั่นในการทำงาน คือ ผู้ท่มี ี ลักษณะซ่ึงแสดงออกถึงความตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมายด้วยความเพียรพยายาม ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการปฏิบัติ กิจกรรมต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายท่ีกำหนดด้วยความรับผิดชอบและมีความ ภาคภูมิใจในผลงาน ขอ้ ที่ 7 รกั ความเป็นไทย หมายถึง คุณลักษณะทแี่ สดงออกถึงความภาคภูมใิ จ เห็นคณุ ค่า รว่ มอนุรักษ์ สบื ทอดภมู ิปญั ญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ใช้ภาษาไทยในการส่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และเหมาะสม ผู้ที่รักความเป็นไทย คือ ผู้ที่มีความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ชื่นชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ สืบทอด เผยแพร่ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรมไทย มีความกตัญญูกตเวทีใช้ ภาษาไทยในการส่ือสารอย่างถูกต้องเหมาะสม ข้อท่ี 8 มีจิตสาธารณะ หมายถึง คณุ ลกั ษณะทีแ่ สดงออกถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือสถานการณ์ ท่กี ่อให้เกดิ ประโยชน์แก่ผู้อ่ืน ชุมชนและสังคม ด้วยความเต็ม ใจ กระตือรือร้น โดยไม่หวังผลตอบแทน ผู้ท่ีมีจิต สาธารณะ คือ ผู้ที่มีลักษณะเป็นผู้ให้และช่วยเหลือผู้อ่ืน แบ่งปันความสุขส่วนตนเพ่ือทำประโยชน์แก่ส่วนรวม เข้าใจ เห็นใจผู้ท่ีมีความเดือดร้อน อาสา ช่วยเหลือสังคม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยแรงกาย สติปัญญา ลงมือ ปฏิบตั เิ พ่ือแก้ปญั หา หรอื ร่วมสรา้ งสรรคส์ งิ่ ทีด่ งี ามให้เกดิ ในชุมชน โดยไม่หวังสง่ิ ตอบแทน ทำไมตอ้ งเรยี นการงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพเป็นกลุ่มสาระท่ีช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ พื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงเพ่ือการดำรงชีวติ ในปัจจุบัน สามารถนำความรู้ เก่ียวกบั การดำรงชีวติ และการอาชีพ มาใช้ประโยชนใ์ นการทำงานอย่างมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ สามารถแขง่ ขนั ใน สงั คมไทยและสากลได้ เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ รกั การทำงานและมเี จตคติทีด่ ีต่อการทำงาน สามารถ ดำรงชวี ิตอยใู่ นสังคมไดอ้ ยา่ งพอเพียงและมีความสุข การเรียนคอมพิวเตอร์ (รายวิชาเพ่ิมเติม) มีความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบนั และอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการ ใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องพบเจอกับคอมพิวเตอร์ การประกอบอาชีพที่ต้องใช้งานคอมพิวเตอร์ หรือประกอบ อาชีพเกีย่ วกับคอมพิวเตอร์ ในอนาคต คอมพวิ เตอรจ์ ะกลายเปน็ ปัจจยั หน่ึงในการดำรงชีวิต

4 เรียนรอู้ ะไรในการงานอาชพี รายวิชาพน้ื ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ มงุ่ พฒั นาผู้เรียนแบบองคร์ วม เพื่อใหม้ ีความรคู้ วามสามารถ มที ักษะ ในการทำงาน เหน็ แนวทางในการประกอบอาชีพและการศกึ ษาตอ่ ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ โดยมีสาระสำคญั ดังน้ี การดำรงชีวิตและครอบครัว เป็นสาระเก่ียวกับการทำงานในชีวิตประจำวัน ช่วยเหลือตนเอง ครอบครัวและสงั คมได้ในสภาพเศรษฐกิจทพี่ อเพียง ไมท่ ำลายส่ิงแวดลอ้ ม เนน้ การปฏิบัติจริงจนเกดิ ความม่ันใจ และภมู ใิ จในผลสำเร็จของงาน เพือ่ ให้ค้นพบความสามารถ ความถนัดและความสนใจของตนเอง การอาชพี เป็นสาระทีเ่ กีย่ วข้องกับทักษะท่จี ำเป็นตอ่ อาชพี เหน็ ความสำคัญของคุณธรรม จริยธรรม และเจตคตทิ ่ดี ตี อ่ อาชีพ เหน็ คณุ ค่าของอาชพี ทสี่ ุจรติ และเหน็ แนวทางในการประกอบอาชพี อยา่ งเหมาะสม สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ (รายวิชาพ้นื ฐาน) สาระท่ี 1 การดำรงชีวิตและครอบครวั มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา ทกั ษะการทำงานร่วมกนั และทกั ษะการแสวงหาความรมู้ ีคณุ ธรรม และลักษณะนิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึกในการใช้พลังงานทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมเพ่ือ การดำรงชีวิตและครอบครัว สาระท่ี 2 การอาชพี มาตรฐาน ง 2.1 เขา้ ใจ มีทักษะที่จำเป็น มปี ระสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ มีคุณธรรมและมเี จตคติที่ดี ต่ออาชีพ

5 ทักษะด้านการงานอาชีพ ทักษะการทำงาน ทักษะกระบวนการทำงานเป็นการลงมือทำด้วยตนเอง โดยมุ่งเน้นฝึกวิธีการทำงานตามข้ันตอนอย่าง สม่ำเสมอ เพอื่ ใหส้ ามารถทำงานไดบ้ รรลวุ ัตถุประสงค์ ข้ันตอนของกระบวนการทำงาน ดังนี้ ข้ันตอนที่ 1 การวิเคราะห์งาน เป็นการศึกษาข้อมูลเพ่ือนำมาวางแผนในการทำงาน ได้แก่ ลักษณะ ของงาน คุณสมบตั ิของผู้ปฏบิ ตั ิงาน ขั้นตอนที่ 2 การวางแผนในการทำงาน เป็นการกำหนดวตั ถปุ ระสงค์และวิธีการไว้ลว่ งหน้าอย่างครา่ ว ๆ โดยอาศัยขอ้ มลู จากข้ันตอนที่ 1 มาใชป้ ระกอบการพจิ ารณาและตดั สินใจ ข้ันตอนที่ 3 การปฏิบัติงานตามลำดับข้ันตอน เป็นการลงมือตามแผนที่วางไว้ เพ่ือให้งานสำเร็จตาม วัตถุประสงค์ การลงมอื ทำงานในขนั้ ตอนนี้ตอ้ งมีการควบคมุ ด้วย เพราะบางคนวางแผนไว้อยา่ งละเอยี ด แตไ่ ม่ได้ ปฏิบัติตามซ่ึงอาจทำใหเ้ กิดผลเสียตามมาได้ นอกจากน้ีควรตรวจสอบความกา้ วหน้าของแผนดว้ ย บางครัง้ อาจมี การปรับเปล่ียนแผนเพ่อื หลีกเลี่ยงปัญหาท่ีเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดมากก่อน ข้นั ตอนท่ี 4 การประเมินผลการทำงาน สามารถประเมนิ ไดท้ ง้ั กอ่ นทำงาน ขณะทำงาน และหลังจาก ทำงานเสร็จแล้ว ซึ่งทำให้ทราบว่างานท่ีทำประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ท่ีตั้งไว้หรือไม่ ถ้าไม่สำเร็จมี สาเหตุมาจากอะไรและมีวิธีการปรบั ปรุงแกไ้ ขอย่างไร โดยสรปุ เปน็ แผนที่ความคิดดงั น้ี ทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หา กระบวนการแกป้ ญั หา มขี ้ันตอน ดงั นี้ 1. การพิจารณาปญั หา เป็นการกำหนดปญั หา สังเกตและทำความเข้าใจเกีย่ วกับปัญหาทีเ่ กิดขึน้ โดย สงั เกตลักษณะของปัญหาและพยายามมองให้ถูกจดุ 2. การวิเคราะห์ปัญหา โดยแยกแยะว่าปัญหาที่ต้องการแก้ไขน้ันมีสภาพเป็นอย่างไร เป็นต้น แลว้ รวบรวมข้อมลู ตา่ ง ๆ พจิ ารณาวา่ ข้อมูลหรือเงอื่ นไขทกี่ ำหนดมีเพยี งพอท่ีจะแกป้ ญั หาหรอื ไม่ ถา้ ไม่พอกค็ วร หาเพม่ิ เติม 3. การสร้างทางเลือกในการแก้ปัญหา หมายถึง การคิดแก้ปัญหาด้วยวิธีการที่หลากหลาย จน สามารถ แกป้ ญั หาน้ัน ๆ ไดห้ รอื ไม่ ทักษะการทำงานร่วมกัน การทำงานร่วมกับผู้อื่น หมายถึง การทำงานร่วมกับผู้อื่นต้ังแต่สองคนขึ้นไป โดยมีวัตถุประสงค์หรือ เป้าหมายในการทำงานอย่างเดียวกัน สมาชิกในกลุ่มรู้จักหน้าท่ีของตนเอง และยึดหลักของการทำงานเป็นกลุ่ม เปน็ สำคัญ รวมทัง้ การมมี นุษย์สัมพันธ์ทด่ี เี พ่อื ดำเนนิ งานตา่ ง ๆ ให้ประสบผลสำเรจ็ กระบวนการในการทำงานรว่ มกัน มขี ้ันตอนดังน้ี 1. การเลือกหัวหน้ากลุ่ม หรือผู้นำ คือ ผู้ท่ีทำให้งานสำเรจ็ ตามเป้าหมายโดยอาศัยความร่วมมือจาก สมาชิกในกลุ่ม หัวหน้ากลุ่มที่มีความสามารถจะสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกับกลุ่ม เป็นศูนย์กลางในการประสานพลัง เพอ่ื ดำเนนิ งานให้บรรลเุ ปา้ หมายทต่ี ้องการได้

6 2. การกำหนดเปา้ หมาย เปน็ ตัวกำหนดส่ิงทกี่ ลุ่มต้องการวา่ คอื อะไร สมาชิกในกลุ่มจะตอ้ งมเี ปา้ หมาย ตรงกัน มคี วามชดั เจนและมองเห็นผลท่ีจะไดร้ ับเมอ่ื ปฏิบัติงานเสร็จ 3. การวางแผนในการทำงาน เปน็ การกำหนดกิจกรรมไวล้ ่วงหนา้ ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง แบง่ หน้าทีใ่ น การทำงานอย่างไร มีข้ันตอนอย่างไรเพือ่ ให้บรรลเุ ปา้ หมาย ซึง่ การวางแผนทีด่ ีจะช่วยให้บรรลเุ ปา้ หมายไดง้ า่ ยข้ึน และจะตอ้ งอาศัยวิสัยทศั นข์ องสมาชิกในกลุ่มดว้ ย 4. การแบ่งงานตามความสามารถ เป็นการป้องกันปัญหาการก้าวก่ายหน้าท่ีซ่ึงกันและกัน หรือ การทำงานที่ซำ้ ซ้อนกนั ซึ่งเป็นหน้าทข่ี องหัวหน้ากลุ่มทีจ่ ะมอบหมายงาน 5. การปฏิบัติตามบทบาทหนา้ ท่ี เมื่อสมาชิกแต่ละคนได้รบั มอบหมายงาน จึงลงมือปฏิบัติตามหน้าที่ และควบคมุ การปฏบิ ตั ิงานของตนเองใหเ้ ป็นไปตามแผนที่วางไว้ 6. การประเมินผลและปรับปรุงงาน เป็นข้นั ตอนสุดทา้ ยของกระบวนการทำงานร่วมกัน ทำให้ทราบ ว่าการทำงานของกล่มุ บรรลตุ ามเป้าหมายท่กี ำหนดไว้หรือไม่ หรือมีข้อบกพร่องใดเพื่อนำมาปรับปรุงการทำงาน ให้ดีข้นึ ทักษะการแสวงหาความรู้ ทักษะการแสวงหาความรู้ คือ วิธีการและกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าเพื่อนำไปใช้ ประกอบการเรียนเนื้อหาต่าง ๆ หรือการทำงานอาชีพ เป็นการพัฒนาตนเองให้มีความก้าวหน้า ทันสมัยและ สามารถดำรงชีวติ อยู่กับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้อย่างมคี วามสุข ทักษะการจัดการ ทักษะการจดั การเป็นความพยายามของบุคคลท่ีจะจัดระบบงานและจัดระบบคน เพือ่ ให้ได้ผลงานสำเร็จ ตามเปา้ หมายอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ มขี นั้ ตอนดังนี้ 1. การตง้ั เปา้ หมาย เป็นการกำหนดส่งิ ที่ตอ้ งการได้รบั จากการทำงานไว้ลว่ งหนา้ ซ่ึงอาจเป็นเป้าหมาย ระยะสัน้ ระยะยาว หรือเป้าหมายท่มี ีการเปล่ียนแปลงได้ 2. การวเิ คราะห์ทรพั ยากร เป็นการพิจารณาว่าทรพั ยากรที่นำมาใช้สามารถทำให้บรรลุเป้าหมายท่ีตั้ง ไว้หรอื ไม่ 3. การวางแผนและกำหนดทรัพยากร เป็นการกำหนดกิจกรรมไว้ล่วงหน้าว่า จะต้องทำอะไร สิ่งใด อย่างไร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทีต่ ้ังไว้ โดยใชท้ รัพยากรทมี่ อี ยอู่ ย่างเหมาะสมและเกิดประโยชนส์ ูงสดุ 4. การปฏิบัติตามแผนและการปรับแผน เป็นการนำแนวทางปฏิบัติงานที่กำหนดมาดำเนินการ ใหส้ ำเร็จตามวัตถปุ ระสงคห์ รือเป้าหมายท่ตี ง้ั ไว้ หรือปรับเปลย่ี นแผนที่วางไว้ เพอื่ หลกี เลย่ี งปญั หาท่ีจะเกดิ ขึ้น 5. การประเมินผล เป็นการตรวจสอบเพื่อให้ทราบว่าการปฏิบัติงานของตนเองหรอื ของทีมงานบรรลุ ตามเปา้ หมายทีก่ ำหนดไวห้ รือไม่ (www.wpp.co.th)

7 คณุ ภาพผ้เู รยี น คุณภาพผู้เรยี น (รายวชิ าพืน้ ฐาน) จบชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เข้าใจวิธีการทำงานเพื่อช่วยเหลือตนเอง ครอบครัวและส่วนรวม ใช้วัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือ ถูกต้องตรงกับลักษณะงาน มีทักษะกระบวนการทำงาน มีลักษณะนิสัยการทำงานท่ีกระตือรือร้น ตรงเวลา ประหยัด ปลอดภัยสะอาด รอบคอบและมีจิตสำนึกในการอนรุ ักษ์สงิ่ แวดล้อม เข้าใจประโยชน์ของสิ่งของเคร่ืองใช้ในชีวิตประจำวัน มีความคิดในการแก้ปัญหาหรือสนองความ ตอ้ งการอย่างมีความคิดสร้างสรรค์มีทักษะในการสรา้ งของเลน่ ของใช้อย่างงา่ ย โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี ไดแ้ ก่กำหนดปัญหาหรือความตอ้ งการ รวบรวมข้อมูล ออกแบบโดยถา่ ยทอดความคิดเปน็ ภาพรา่ ง ๒ มิติ ลงมือ สร้างและประเมินผล เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์อย่างถูกวิธี เลอื กใช้สิ่งของเคร่ืองใช้ ในชวี ิตประจำวนั อย่างสร้างสรรค์ และมีการจัดการสิ่งของเครอ่ื งใชด้ ้วยการนำกลับมาใชซ้ ้ำ เข้าใจและมที ักษะการค้นหาข้อมูลอย่างมขี น้ั ตอน การนำเสนอขอ้ มลู ในลกั ษณะตา่ ง ๆ จบช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เขา้ ใจการทำงานและปรับปรุงการทำงานแต่ละขั้นตอน มีทกั ษะการจัดการ ทักษะการทำงานรว่ มกัน ทำงานอย่างเป็นระบบและมีความคิดสร้างสรรค์ มีลักษณะนิสัยการทำงานที่ขยันอดทน รับผิดชอบ ซื่อสัตย์ มมี ารยาทและมจี ิตสำนกึ ในการใช้นำ้ ใชไ้ ฟฟา้ อย่างประหยัดและค้มุ ค่า เข้าใจหลักการแก้ปัญหาเบื้องต้น มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ในการค้นหาข้อมูล เก็บรักษาข้อมูล สรา้ งภาพกราฟิก สรา้ งงานเอกสาร นำเสนอขอ้ มลู และสร้างชน้ิ งานอย่างมีจติ สำนกึ และรบั ผดิ ชอบ รู้และเข้าใจเก่ยี วกับอาชีพ รวมท้งั มคี วามรู้ ความสามารถและคุณธรรมทีส่ มั พันธก์ ับอาชีพ

8 ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระที่ 1 การดำรงชีวิตและครอบครัว มาตรฐาน ง 1. 1 เข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทำงานร่วมกันและทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและ ส่ิงแวดลอ้ มเพอ่ื การดำรงชีวิตและครอบครวั ชน้ั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป. 1 1. บอกวิธกี ารทำงานเพอื่ ช่วยเหลือตนเอง การทำงานเพ่อื ชว่ ยเหลือตนเอง เชน่ การแตง่ กาย 2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครอ่ื งมอื ง่าย ๆ - การเก็บของใช้ ในการทำงานอย่างปลอดภัย - การหยบิ จับและใช้ของใชส้ ว่ นตัว 3. ทำงานเพอื่ ช่วยเหลือตนเองอย่าง - การจัดโต๊ะ ตู้ ชัน้ กระตือรือรน้ และตรงเวลา การใช้วัสดุ อุปกรณแ์ ละเคร่อื งมอื ง่าย ๆ ในการทำงาน อย่างปลอดภยั เชน่ - การทำความคุน้ เคยการ ใชเ้ ครอ่ื งมือ - การรดนำ้ ต้นไม้ - การถอนและเกบ็ วชั พชื - การพบั กระดาษเปน็ ของเล่น ความกระตอื รอื ร้นและตรงต่อเวลาเป็นลักษณะนสิ ยั ในการ ทำงาน ป. 2 1. บอกวธิ กี ารและประโยชน์การทำงาน การทำงานเพอ่ื ชว่ ยเหลือตนเองและครอบครวั เชน่ เพื่อช่วยเหลอื ตนเองและครอบครวั - บทบาทและหนา้ ทข่ี องสมาชกิ ในบ้าน 2. ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่องมอื ใน - การจัดวาง เกบ็ เส้อื ผา้ รองเทา้ การทำงานอย่างเหมาะสมกับงานและ - การชว่ ยครอบครัวเตรียมประกอบอาหาร ประหยัด - การกวาดบ้าน - การลา้ งจาน 3. ทำงานเพื่อชว่ ยเหลือตนเองและ การใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และ เคร่ืองมอื เช่น ครอบครัวอย่างปลอดภยั - การเพาะเมล็ด - การดูแลแปลงเพาะกลา้ - การทำของเล่น - การประดษิ ฐ์ของใช้สว่ นตัว ป. 3 1. อธิบายวิธกี ารและประโยชนก์ าร การทำงานเพ่ือช่วยเหลอื ตนเอง ครอบครวั และ ทำงานเพื่อช่วยเหลือตนเองครอบครัวและ ส่วนรวม เช่น ส่วนรวม - การเลือกใชเ้ สื้อผา้ 2. ใช้วสั ดุ อปุ กรณแ์ ละเคร่อื งมอื ตรงกบั - การจัดเตรยี มอปุ กรณ์การเรียน ลักษณะงาน - การทำความสะอาดรองเทา้ กระเปา๋ นักเรียน - การกวาด ถู ปดั กวาด เช็ดถู บา้ นเรอื น

9 ชน้ั ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 3. ทำงานอยา่ งเปน็ ขั้นตอนตามกระบวน - การทำความสะอาดห้องเรยี น การทำงานดว้ ยความสะอาดความรอบคอบและ การใช้วสั ดุ อปุ กรณ์และเครอ่ื งมือ เชน่ อนุรักษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม - การปลกู ผกั สวนครัว - การบำรุงรกั ษาของเลน่ - การซอ่ มแซมของใชส้ ่วนตวั - การประดษิ ฐ์ของใชใ้ นโอกาสตา่ ง ๆ โดยใช้วสั ดุในท้องถน่ิ การทำงานอย่างเปน็ ช้ันตอนตามกระบวนการทำงาน ด้วยความสะอาด รอบคอบและอนุรกั ษ์สิ่งแวดล้อมเป็น คณุ ธรรมและลักษณะนสิ ัยในการทำงาน ป. 4 1. อธบิ ายเหตุผลในการทำงานใหบ้ รรลุ การทำงาน เชน่ เป้าหมาย - การดูแลรักษาของใช้ 2. ทำงานบรรลุเป้าหมายท่ีวางไว้อยา่ ง - การจดั ตู้เส้ือผา้ โต๊ะเขียนหนังสอื และกระเปา๋ นักเรยี นส่วนตัว เปน็ ขนั้ ตอนด้วยความขยันอดทนรบั ผดิ ชอบ - การปลกู ไม้ดอก หรอื ไมป้ ระดบั และซื่อสตั ย์ - การซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์และเคร่อื งมอื 3. ปฏิบัติตนอยา่ งมมี ารยาทในการทำงาน - การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากใบตองและกระดาษ 4. ใชพ้ ลังงานและทรพั ยากรในการทำงาน - การจัดเกบ็ เอกสารสว่ นตัว อย่างประหยดั และคุ้มค่า มารยาท เชน่ - การต้อนรบั บดิ ามารดาหรอื ผู้ปกครองในโอกาสต่าง ๆ - การรบั ประทานอาหารและหอ้ งสว้ ม - การใช้ห้องเรียน หอ้ งนำ้ การใช้พลังงานและทรัพยากรอยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่ เป็น คุณธรรมในการทำงาน 1. อธิบายเหตุผลการทำงานแตล่ ะ ขนั้ ตอนการทำงาน เชน่ ป. 5 ขนั้ ตอนถูกตอ้ งตามกระบวนการทำงาน - การซ่อมแซม ซัก ตากเกบ็ รีด พับ เส้อื ผา้ 2. ใช้ทกั ษะการจดั การในการทำงาน - การปลกู พชื - การทำบญั ชคี รวั เรอื น อ ย่างเป็ น ระบบประณี ตและมี ความคิ ด การจัดการในการทำงาน เชน่ สรา้ งสรรค์ - การจัดโต๊ะอาหาร ตู้อาหาร ตูเ้ ยน็ และห้องครัว 3. ปฏบิ ตั ติ นอยา่ งมีมารยาทในการ - การทำความสะอาดหอ้ งน้ำและหอ้ งส้วม ทำงานกับสมาชิกในครอบครวั - การซอ่ มแซมอปุ กรณ์ของใช้ในบ้าน 4. มจี ติ สำนกึ ในการใช้พลังงานและ - การประดิษฐข์ องใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดุเหลอื ใชท้ ่ีมอี ยู่ใน ทรพั ยากรอยา่ งประหยัดและคมุ้ ค่า ท้องถนิ่ - การจัดเกบ็ เอกสารสำคญั - การดแู ลรกั ษาและใช้สมบตั ิสว่ นตัว ครอบครัวและส่วนรวม มารยาท เช่น - การทำงานกับสมาชิกในครอบครวั การมจี ิตสำนกึ ในการใชพ้ ลงั งานและทรพั ยากร อยา่ งประหยัดและคุ้มค่าเป็นคุณธรรมในการทำงาน ป. 6 1. อภิปรายแนวทางในการทำงาน การทำงานและการปรับปรุงการทำงาน เช่น และปรบั ปรุงการทำงานแตล่ ะขั้นตอน - การดแู ลรักษาสมบัติภายในบา้ น 2. ใชท้ ักษะการจดั การ ในการทำงาน - การปลกู ไม้ดอก หรือไมป้ ระดับ หรือปลูกผักหรอื เลยี้ งปลา และมีทักษะการทำงานร่วมกัน สวยงาม

10 ชน้ั ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 3. ปฏิบตั ิตนอย่างมมี ารยาทในการทำงานกับ - การบันทึกรายรับ -รายจ่ายของหอ้ งเรยี น ครอบครัวและผู้อ่ืน - การจดั เกบ็ เอกสารการเงนิ การจัดการในการทำงานและทักษะการทำงานร่วมกัน เช่น - การเตรยี ม ประกอบ จัดอาหาร ให้สมาชกิ ในครอบครัว - การตดิ ตัง้ ประกอบ ของใชใ้ นบ้าน - การประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแต่งใหส้ มาชิกในครอบครวั หรอื เพื่อน ในโอกาสต่าง ๆ มารยาท เช่น - การทำงานกับสมาชกิ ในครอบครวั และผอู้ ื่น การมจี ติ สำนึกในการใชพ้ ลังงานและทรพั ยากรอยา่ ง ประหยดั และคมุ้ คา่ เปน็ คณุ ธรรมในการทำงาน สาระท่ี ๒ การอาชีพ มาตรฐาน ง 2.1 เข้าใจ มที ักษะทีจ่ ำเป็น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ มคี ณุ ธรรมและมเี จตคติ ทต่ี ่ออาชพี ชน้ั ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ป. 1 - - ป. 2 - - ป. 3 - - ป. 4 1. อธิบายความหมายและความสำคัญของ ความหมายและความสำคัญของอาชพี อาชีพ ป. 5 1. สำรวจข้อมูลท่ีเก่ียวกับอาชีพต่าง ๆในชมุ ชน อาชีพตา่ ง ๆ ในชุมชน 2. ระบุความแตกต่างของอาชีพ - ค้าขาย - เกษตรกรรม - รบั จ้าง - รับราชการ พนักงานของรัฐ - อาชีพอิสระ ความแตกตา่ งของอาชีพ - รายได้ - ลกั ษณะงาน - ประเภทกิจการ ขอ้ ควรคำนึงเกยี่ วกบั อาชีพ - ทำงานไม่เป็นเวลา - การยอมรับนับถอื จากสงั คม - มคี วามเสย่ี งตอ่ ชวี ติ สูง ป. 6 1. สำรวจตนเองเพื่อวางแผนในการเลือก การสำรวจตนเอง อาชีพ - ความสนใจ ความสามารถ และทกั ษะ 2. ระบุความรู้ ความสามารถและคุณธรรม คุณธรรมในการประกอบอาชพี เช่น ทีส่ มั พนั ธก์ บั อาชพี ทส่ี นใจ - ความซื่อสตั ย์ - ความขยัน อดทน - ความยุตธิ รรม - ความรับผดิ ชอบ

11 รายวิชาทเ่ี ปิดสอน รายวชิ าพนื้ ฐานและเพม่ิ เติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ รายวชิ าพืน้ ฐาน ระดบั ชั้นประถมศึกษา ป.1 - ป.6 จำนวน 40 ชั่วโมง ง 11101 การงานอาชพี จำนวน 40 ชัว่ โมง ง 12101 การงานอาชพี จำนวน 40 ชั่วโมง ง 13101 การงานอาชีพ จำนวน 40 ชั่วโมง ง 14101 การงานอาชพี จำนวน 40 ชว่ั โมง ง 15101 การงานอาชพี จำนวน 40 ชั่วโมง ง 16101 การงานอาชพี

12 คำอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี รายวชิ าพื้นฐาน ง 11101 การงานอาชีพ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลาเรียน 40 ชั่วโมง (1 ชั่วโมง/สัปดาห)์ จำนวน 1 หน่วยกิต ศึกษาความเข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทำงานร่วมกันและทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและมีลักษณะ นิสัยในการทำงาน มจี ติ สำนึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและสิง่ แวดล้อม เพื่อการดำรงชวี ติ และครอบครัว บอก วิธีการทำงานเพ่ือช่วยเหลือตนเอง ใช้วัสดุ อุปกรณ์และเคร่ืองมือง่ายๆ ในการทำงานอย่างปลอดภัย ทำงานเพ่ือ ช่วยเหลอื ตนเองอยา่ งกระตือรอื รน้ และตรงเวลา วิธีการทำงานเพ่ือช่วยเหลอื ตนเองเป็นการลงมือทำงานท่มี งุ่ เน้น การฝึกทำงานอย่างสม่ำเสมอ ใช้วัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือง่ายๆ ในการทำงานอย่างปลอดภัยมีความ กระตอื รอื รน้ และตรงต่อเวลาเปน็ ลักษณะนิสยั ในการทำงาน รหสั ตวั ช้ีวัด ง 1.1 ป. 1/1 , ป. 1/2 , ป. 1/3 รวมท้งั หมด 3 ตัวชวี้ ัด

13 คำอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ รายวิชาพ้นื ฐาน ง 12101 การงานอาชีพ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 เวลาเรียน 40 ช่ัวโมง (1 ช่ัวโมง/สปั ดาห)์ จำนวน 1 หนว่ ยกติ ศึกษาความเข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปญั หา ทักษะการทำงานร่วมกันและทักษะการแสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรมและมีลักษณะ นสิ ยั ในการทำงาน มจี ิตสำนึกในการใชพ้ ลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม เพื่อการดำรงชีวติ และครอบครวั บอก วธิ ีและประโยชน์การทำงานเพ่อื ชว่ ยเหลือตนเองและครอบครัว ใช้วัสดุ อปุ กรณแ์ ละเครอ่ื งมือในการทำงานอยา่ ง เหมาะสมกับงานและประหยดั ทำงานเพือ่ ชว่ ยเหลอื ตนเองและครอบครวั อยา่ งปลอดภัย รหสั ตัวชี้วดั ง 1.1 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 รวมทงั้ หมด 3 ตัวช้ีวัด

14 คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี รายวิชาพื้นฐาน ง 13101 การงานอาชพี ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลาเรยี น 40 ชัว่ โมง (1 ชั่วโมง/สปั ดาห)์ จำนวน 1 หน่วยกิต ศึกษาความเข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทำงานร่วมกันและทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและมีลักษณะ นิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพื่อการดำรงชีวิตและครอบครัว อภิปรายวิธีการและประโยชน์การทำงานเพื่อช่วยเหลือตนเอง ครอบครัวและส่วนรวม ใช้วัสดุ อุปกรณ์และ เคร่ืองมอื ตรงกบั ลักษณะงาน ทำงานอยา่ งเป็นขั้นตอนตามกระบวนการทำงาน ดว้ ยความสะอาด รอบคอบและ อนรุ กั ษ์สิง่ แวดลอ้ ม รหสั ตัวช้ีวัด ง 1.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 รวมทงั้ หมด 3 ตัวชี้วัด

15 คำอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ รายวชิ าพื้นฐาน ง 14101 การงานอาชีพ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลาเรยี น 40 ช่ัวโมง (1 ชั่วโมง/สปั ดาห์) จำนวน 1 หนว่ ยกติ ศึกษาความเข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปญั หา ทักษะการทำงานร่วมกันและทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและมีลักษณะ นิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม เพ่ือการดำรงชีวิตและครอบครัว อภิปรายเหตุผลในการทำงานให้บรรลเุ ปา้ หมาย ทำงานบรรลุเป้าหมายทีว่ ่างไวอ้ ย่างเป็นขั้นตอนด้วยความขยัน อดทน รับผิดชอบและซื่อสัตย์ ปฏิบัติตนอย่างมีมารยาทในการทำงาน ใช้พลังงานและทรัพยากรในการทำงาน อยา่ งประหยัดและรูค้ ่า เข้าใจ มีทักษะท่ีจำเป็น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาอาชีพ มีคณุ ธรรมและมีเจตคตทิ ่ดี ตี ่ออาชีพ อธิบายความหมายและความสำคญั ของอาชพี รหสั ตวั ช้ีวดั ง 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 ง 2.1 ป.4/1 รวมท้งั หมด 5 ตัวชว้ี ัด

16 คำอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี รายวิชาพ้ืนฐาน ง 15101 การงานอาชพี ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง (1 ชั่วโมง/สัปดาห)์ จำนวน 1 หน่วยกิต ศึกษาความเข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทำงานร่วมกันและทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและมีลักษณะ นิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพ่ือการดำรงชีวิตและครอบครัว อภิปรายเหตุผลในการทำงานแตล่ ะขั้นตอนถกู ต้องตามกระบวนการทำงาน ใช้ทักษะในการจัดการในการทำงาน อย่างเป็นระบบ ประณีต และมีความคิดสร้างสรรค์ ปฏิบัติตนอย่างมีมารยาทในการทำงานกับสมาชิกใน ครอบครวั มจี ิตสำนึกในการใช้พลังงานและทรัพยากรอยา่ งประหยดั และคุ้มคา่ เข้าใจ มที ักษะทจี่ ำเปน็ มปี ระสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชพี ใช้เทคโนโลยเี พ่อื พัฒนาอาชีพ สำรวจ ขอ้ มูลที่เกี่ยวกับอาชพี ตา่ งๆ ในชมุ ชน ระบุความแตกต่างของอาชีพ รหัสตัวช้ีวดั ง 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 ง 2.1 ป.5/1, ป.5/2 รวมท้ังหมด 6 ตัวชี้วัด

17 คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี รายวชิ าพนื้ ฐาน ง 16101 การงานอาชีพ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เวลาเรียน 40 ชั่วโมง (1 ช่ัวโมง/สปั ดาห์) จำนวน 1 หนว่ ยกิต ศึกษาความเข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทกั ษะกระบวนการแก้ปญั หา ทักษะการทำงานร่วมกันและทักษะการแสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรมและมีลักษณะ นิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพ่ือการดำรงชีวิตและครอบครัว อภิปรายแนวทางในการทำงานและปรับปรุงการทำงานแต่ละข้ันตอน ใช้ทักษะการจัดการในการทำงานและ มที ักษะการทำงานรว่ มกนั ปฏบิ ัติตนอย่างมมี ารยาทในการทำงานกับครอบครัวและผอู้ ่ืน เข้าใจ มีทักษะทจี่ ำเป็น มีประสบการณ์ เหน็ แนวทางในงานอาชพี ใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือพัฒนาอาชีพ สำรวจ ตนเองในการวา่ งแผนเพื่ออาชีพ ระบคุ วามรู้ ความสามารถและคุณธรรมที่สัมพันธก์ ับอาชีพทสี่ นใจ รหัสตัวชี้วดั ง 1.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3 ง 2.1 ป.6/1, ป.6/2 รวมทั้งหมด 5 ตัวช้ีวัด

18 โครงสรา้ งรายวชิ าพ้นื ฐาน โครงสร้างรายวิชา กล่มุ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี วิชา การงานอาชีพ รหสั วิชา ง 11101 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง น้ำหนัก 1 หน่วยกิต นำหนกั สดั ส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 คะแนน (100) ลำดับท่ี หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคญั เวลาเรียน ตัวช้วี ดั (ช่ัวโมง) 20 1 งานบา้ น ง 1.1 ป.1/1 1. งานบ้าน ทั้งงานดูแลบ้านบริเวณบ้าน 11 20 ง 1.1 ป.1/2 และเคร่ืองใช้ในบ้านและงานอำนวยความ 9 ง 1.1 ป.1/3 สะดวกให้แก่สมาชิกในครอบครัว หาก สมาชิกในครอบครัวช่วยกันทำงานบ้านด้วย 2 เส้อื ผา้ และเครอ่ื งแต่ง ง 1.1 ป.1/1 ความเต็มใจจะทำให้ บ้านสะอาด เป็น กาย ง 1.1 ป.1/2 ระเบียบเรียบรอ้ ย น่าอยู่อาศยั ง 1.1 ป.1/3 2. งานบา้ นเป็นงานทีม่ ีประโยชน์ตอ่ บ้านและ สมาชิกในครอบครัวช่วยสร้างนิสัยท่ีดีแก่ ตนเอง สร้างความผูกพันระหว่างสมาชิกใน ครอบครัว เป็นการทำให้ร่างกายไดอ้ อกแรง และเคลื่อนไหวและยงั ทำให้บา้ นสะอาด เป็น ระเบียบเรียบร้อย ไม่มีกล่ินเหม็นสัตว์และ แมลงตา่ ง ๆ ไม่มารบกวน 3. การทำงานเพื่อช่วยเหลือตนเองทั้งการ จัดเก็บของเล่น ของใช้บนโต๊ะ ตู้ ชั้นวางของ และการหยิบจับและใช้ของใช้ส่วนตัวหากมี วิ ธี การท ำงาน อย่ างเป็ น ลำดั บ ข้ั น ต อน แล ะ เหมาะสม จะทำให้เกิดความเป็นระเบียบ เรียบร้อย ส่ิงของไม่สูญหาย หรือเสียหาย ใช้ งานไดส้ ะดวกและไมเ่ กิดโรคติดต่อ 1. คนเราต้องสวมใส่เสื้อผ้าและเคร่ืองแต่ง กายทุกวัน เสื้อผ้า เป็นสิ่งที่ต้องสวมใส่เพ่ือ ปกปิดร่างกาย ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ส่วน เคร่ืองแต่งกายเป็นสิ่งที่ใช้สวมใส่เพ่ือความ สวยงาม มีประโยชน์ตอ่ การทำกิจกรรมตา่ ง ๆ 2. เสื้อผ้าและเคร่ืองแต่งกายใช้ปกปิดร่างกาย ให้อบอุ่น และประดับ ตกแต่งร่างกายให้ สวยงามเส้อื ผ้าและเครอ่ื งแตง่ กายมีหลากหลาย รูปแบบจึงควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับฤดูกาล โอกาสและสถานท่ี

19 ลำดับท่ี หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคญั เวลาเรยี น นำหนกั 3 งานเกษตร ตัวชี้วดั (ช่ัวโมง) คะแนน (100) 4 งานประดษิ ฐ์ ง 1.1 ป.1/1 3. การแต่งกายเป็นงานอย่างหนึ่งที่ต้องปฏิบัติ 11 5 สอบปลายภาค ง 1.1 ป.1/2 ด้วยตนเอง เพ่ือเป็นการฝึกนิสัยที่ดีในการ 20 ง 1.1 ป.1/3 ช่วยเหลือตนเองความมีวินัยมีความรับผิดชอบ 9 และเป็นการชว่ ยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง 20 ง 1.1 ป.1/1 1. งานเกษตร เป็นการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ - ง 1.1 ป.1/2 เพ่ือนำพืชและเนื้อสัตว์มาใช้ประโยชน์ในการ 40 20 ง 1.1 ป.1/3 ดำรงชวี ติ 100 2. งานเกษตรมีหลายประเภท เช่นการปลูกพืช รวมทั้งสิน้ การเล้ียงสัตว์ การประมงและการเกษตร ผสมผสานซึ่งงานเกษตรทุกประเภทให้ผลผลิต ทางการเกษตรที่สามารถทำประโยชน์ให้กับ มนษุ ย์ได้ 3. งานเกษตรเป็นการเพาะปลกู พืชต่าง ๆ รวมท้ังการเลย้ี งสัตว์ เพอื่ นำผลผลติ ท่ีได้ จากการปลูกพืชและเล้ียงสัตว์มาใช้ประกอบ อาหารจำหนา่ ยหรือแปรรปู 4. การดูแลรักษาพืชอย่างถูกวิธีเป็นประจำจะ ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดี จนถึงเวลาท่ีให้ผล ผลติ 1. งานประดิษฐ์เปน็ การนำวัสดุหรือเศษวสั ดุ ที่มีในบ้านหรือหาได้งา่ ยในท้องถิ่นมาทำเป็น ของเล่น ของใช้ และของตกแต่ง 2. ประโยชน์ของงานประดิษฐ์ทำให้มีของ เล่น ของใช้ และของประดับตกแตง่ ไวใ้ ช้งาน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนส่งเสริม ให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ ชิน้ งาน 3. การพับกระดาษ เป็นงานประดิษฐ์อย่าง หนึ่งท่ีทำให้กระดาษมีรปู ร่างและรูปทรงตาม ความคิดของผูพ้ ับ

20 โครงสรา้ งรายวชิ า กลุม่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี วิชา การงานอาชีพ รหสั วชิ า ง 12102 ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 น้ำหนัก 1 หน่วยกติ เวลา 40 ช่วั โมง สัดส่วนคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 80 : 20 นำหนัก คะแนน ลำดับท่ี หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคญั เวลาเรียน (100) ตวั ชว้ี ดั (ชวั่ โมง) 15 1 งานบา้ น ง 1.1 ป.2/1 1. การทำงานเพ่ือช่วยเหลือตนเอง 7 ง 1.1 ป.2/2 และครอบครวั เชน่ 6 10 ง 1.1 ป.2/3 - บทบาทและหน้าที่ของสมาชกิ ในบ้าน 7 15 - การกวาดบ้าน 11 2 เส้ือผา้ และเครอื่ ง ง 1.1 ป.2/1 - การล้างจาน 20 แต่งกาย 2. การใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเครอื่ งมอื ง 1.1 ป.2/2 ให้เหมาะสมกบั งาน ช่วยใหป้ ระหยดั และปลอดภัย ง 1.1 ป.2/3 3. ความปลอดภยั เป็นลักษณะนิสัย ในการทำงาน 3 อาหารและ ง 1.1 ป.2/1 1. การทำงานเพ่อื ชว่ ยเหลอื ตนเอง โภชนาการ ง 1.1 ป.2/2 และครอบครัว เชน่ ง 1.1 ป.2/3 - การจัดวาง เกบ็ เสอื้ ผา้ รองเท้า 2. การใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ 4 งานเกษตร ง 1.1 ป.2/1 ให้เหมาะสมกับงานช่วยให้ประหยัด ง 1.1 ป.2/2 และปลอดภยั 3. ความปลอดภยั เป็นลักษณะนสิ ยั ง 1.1 ป.2/3 ในการทำงาน 1. การทำงานเพือ่ ชว่ ยเหลอื ตนเอง และครอบครัว เชน่ - การช่วยครอบครัวเตรยี ม ประกอบ อาหาร 2. การใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเครอ่ื งมือ ใหเ้ หมาะสมกบั งาน ช่วยใหป้ ระหยดั และปลอดภัย 3. ความปลอดภยั เป็นลกั ษณะนิสัย ในการทำงาน 1. การทำงานเพอื่ ชว่ ยเหลอื ตนเอง และครอบครัว 2. การใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือให้ เหมาะสมกับงานช่วยให้ประหยัด และ ปลอดภัย เช่น - การเพาะเมล็ด - การดแู ลแปลงเพาะกลา้

21 ลำดบั ท่ี หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคญั เวลาเรียน นำหนกั ตวั ชว้ี ดั (ชั่วโมง) คะแนน (100) 5 งานประดษิ ฐ์ ง 1.1 ป.2/1 3. ความปลอดภัยเปน็ ลกั ษณะนิสัย 9 ง 1.1 ป.2/2 ในการทำงาน 20 ง 1.1 ป.2/3 1. การทำงานเพ่อื ชว่ ยเหลอื ตนเอง - และครอบครัว 40 20 6 สอบปลายภาค 2. การใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือให้ 100 เหมาะสมกับงานช่วยให้ประหยัดและ ปลอดภยั เช่น - การทำของเล่น - การประดษิ ฐ์ของใช้ส่วนตวั 3. ความปลอดภยั เป็นลักษณะนิสัย ในการทำงาน รวมทง้ั สิ้น

22 โครงสร้างรายวชิ า กลุม่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ วชิ า การงานอาชีพ รหสั วิชา ง 13101 น้ำหนัก 1 หนว่ ยกติ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลา 40 ชวั่ โมง สัดสว่ นคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 นำหนกั ลำดบั ที่ หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคญั เวลาเรยี น คะแนน ตัวช้ีวัด (ชว่ั โมง) (100) 1 งานบา้ น ง 1.1 ป.3/1 การ ท ำงาน เพื่ อ ช่วยเห ลื อต น เอ ง 7 15 ง 1.1 ป.3/2 ค ร อ บ ค รั ว แ ล ะ ส่ ว น ร ว ม ใ ห้ มี 7 ง 1.1 ป.3/3 ประสทิ ธภิ าพ และไดผ้ ลงานทมี่ คี ณุ ภาพ 6 15 ตอ้ งใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือตรง 2 เสื้อผา้ และ ง 1.1 ป.3/1 กับลักษ ณ ะงาน ทำงานอย่างเป็น 10 เครอื่ งแตง่ กาย ง 1.1 ป.3/2 ขั้นตอนตามกระบวนการทำงาน ด้วย 20 ง 1.1 ป.3/3 ความสะอาด รอบคอบและอนุรักษ์ 20 ส่งิ แวดลอ้ ม 20 3 งานเกษตร ง 1.1 ป.3/1 1. การเลือกใช้เสื้อผ้าได้เหมาะสมกับ 100 ง 1.1 ป.3/2 สภาพอากาศจะทำให้ร่างกายอบอุ่น ง 1.1 ป.3/3 หรือเย็นสบายตามสภาพอากาศ การ สวมใส่เส้ือผา้ ไดเ้ หมาะสมกับโอกาสเป็น การแสดงมารยาทที่ดีตนเองเกิดความ มนั่ ใจและเปน็ ท่ีชื่นชมของผพู้ บเห็น 2. การซ่อมแซมเส้ือผ้าของตนเองด้วย วิธีการเนา จะทำให้เกิดความภูมิใจ ประหยดั ค่าใช้จา่ ยในการจา้ งช่างซอ่ ม การปลูกผักสวนครัวในภาชนะให้ได้ ผลผลิตดีต้องทำตามหลักการที่ถูกต้อง ใช้วัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมอื ให้ตรงกับ ลักษณะงาน ปลูกและดูแลรักษาอย่าง ถูกวธิ ี 4 งานช่าง ง 1.1 ป.3/1 การบำรุงรักษาของเล่นและซ่อมแซม 9 ง 1.1 ป.3/2 ของใช้ส่วนตัวอย่างถูกวิธี จะช่วยยืด ง 1.1 ป.3/3 อายกุ ารใช้งาน จงึ ประหยัดค่าใชจ้ ่ายใน การซือ้ ของเล่นและของใช้สว่ นตัวใหม่ 5 งานประดษิ ฐ์ ง 1.1 ป.3/1 การประดิษฐ์ของใชใ้ นโอกาสตา่ ง ๆ โดย 11 ง 1.1 ป.3/2 ใช้วสั ดุในท้องถิ่นเป็นการเพ่ิมมูลค่าของ - ง 1.1 ป.3/3 วสั ดุในท้องถิ่น ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถนำไป 6 สอบปลายภาค จำหนา่ ยเพือ่ สรา้ งรายได้ รวมทั้งสิ้น 40

23 โครงสรา้ งรายวชิ า กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี ชา การงานอาชพี รหสั วชิ า ง 14101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลา 40 ชั่วโมง นำ้ หนกั 1 หนว่ ยกติ นำ้ หนกั สดั สว่ นคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 คะแนน (100) ลำดับท่ี หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคญั เวลาเรยี น ตัวชี้วัด (ชัว่ โมง) 20 15 1 งานบา้ น ง 1.1 ป.4/1 - การดแู ลรักษาของใช้ส่วนตัวอย่างถูก 10 2 งานเกษตร ง 1.1 ป.4/2 วธิ ีจะทำให้ของใชส้ ะอาดปราศจากเชื้อ 6 5 ง 1.1 ป.4/3 โรคและใชง้ านไดน้ าน 20 ง 1.1 ป.4/4 - ของใช้ส่วนตัวเป็นสิ่งของเครื่องใช้ 6 ง 1.1 ป.4/2 เฉพาะบุคคลท่ีไม่ควรใช้ร่วมกับผู้อ่ืน 9 เพอื่ ป้องกันโรคติดตอ่ ต่าง ๆ 3 งานช่าง ง 1.1 ป.4/1 - ปลูกไม้ดอก ไม้ประดับท่ีถูกวิธีตาม ขั้นตอนช่วยให้ ไม้ดอกไม้ประดับ 4 งานประดิษฐ์ ง 1.1 ป.4/1 เจรญิ เตบิ โตสวยงาม ง 1.1 ป.4/2 - การใช้เคร่ืองมือและอุปกรณ์ปลูกไม้ ดอกไมป้ ระดับให้เหมาะสมกบั ลักษณะ ของงานและการเก็บรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยให้งานเสร็จเร็ว มีคุณภาพและ ยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือและ อุปกรณ์ยาวนานขึ้น ช่วยประหยัด ค่าใช้จา่ ยในการซ้อื อปุ กรณ์ใหม่ - อุปกรณ์เคร่ืองมือเคร่ืองใช้ในบ้าน เป็ น ส่ิ ง อ ำ น ว ย ค ว า ม ส ะ ด ว ก ใ น ก า ร ดำเนินชีวิตประจำวัน อาจมีการชำรุด ได้จึงต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพื่อให้มี การใช้งานได้นาน และเม่ือซ่อมแซม แล้วส ามาร ถน ำกลั บ มาใช้ ได้ เป็ น ก า ประหยัดค่าใชจ้ า่ ย - งานประดิษฐ์ช่วยให้เรามีแนวคิดใน การประดิษฐผ์ ลงานได้ด้วยตนเอง งาน ประดิษฐ์ของใช้ตกแต่งทำให้เกิดผล ง า น ส า ม า ร ถ น ำ ไป ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ใ น ชีวิตประจำวันและจำหน่ายเพ่ือสร้าง รายได้

24 ลำดับท่ี หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคญั เวลาเรียน น้ำหนัก 5 งานธุรกิจและ ตวั ชี้วดั (ชว่ั โมง) คะแนน อาชีพ (100) ง 1.1 ป.4/2 - เอกสารส่วนตัวแต่ละประเภท มี 9 ง 2.1 ป.4/1 วธิ กี ารจดั เกบ็ แตกต่างกนั จึงควรเกบ็ ให้ 20 เหมาะสมและถูกวิธีจะทำให้เอกสาร เป็นระเบียบเรียบร้อย ค้นหาได้ง่าย น้ำหนัก หยิบใช้สะดวกรวดเร็วเอกสารไม่สูญ คะแนน หาย (100) - อาชีพ เป็ นกิจ กรรม ที่ก่อให้ เกิด ผลผลิตและรายได้ ซึ่งมคี วามสำคัญต่อ 20 100 ลำดบั ที่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสำคญั เวลาเรยี น ตวั ชว้ี ดั (ชั่วโมง) 6 สอบปลายภาค ตนเอง ตอ่ ทอ้ งถ่นิ และตอ่ ประเทศชาติ - ทกุ คนจงึ ตอ้ งประกอบอาชีพ 40 รวมทง้ั ส้นิ

25 โครงสรา้ งรายวชิ า กลุ่มสาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพ วิชา การงานอาชพี รหสั วิชา ง 15101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 40 ช่ัวโมง น้ำหนัก 1 หนว่ ยกติ สดั ส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 นำ้ หนกั ลำดับที่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคญั เวลาเรียน คะแนน ตวั ชี้วัด (ชัว่ โมง) (100) 1 งานบา้ น ง 1.1 ป.5/1 - งานบ้านที่สมาชิกในครอบครัว ต้อง 6 15 ง 1.1 ป.5/2 ช่วยกันทำ แบ่งได้เป็น 2 ลักษณะคือ ง 1.1 ป.5/3 งานบ้านท่ีได้รับมอบหมาย และงาน 6 10 ง 1.1 ป.5/4 บา้ นท่ีไม่ได้รับมอบหมาย เช่น งานทำ 6 10 ความสะอาดบ้าน งานบำรุงรักษาและ 4 5 2 เสอื้ ผา้ และเครอ่ื ง ง 1.1 ป.5/1 ดูแลบริเวณบ้าน งานดูแลรักษาและ 7 15 แต่งกาย ง 1.1 ป.5/2 ทำความสะอาดเสื้อผ้า และเครอ่ื งแต่ง 6 15 ง 1.1 ป.5/4 กาย งานเก็บลา้ ง งานประกอบอาหาร - การดูแลรักษาเสื้อผ้าด้วยวิธกี ารต่าง 3 งานเกษตร ง 1.1 ป.5/2 ๆ ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ได้ด้วยตนเอง ง 1.1 ป.5/4 ทำให้เสื้อผ้าคงสภาพใช้งานได้นาน ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อเส้ือผ้า 4 งานชา่ ง ง 1.1 ป.5/1 ให ม่ และเกิดความภ าคภูมิใจใน ง 1.1 ป.5/2 ความสามารถของตนเอง - การปลูกพืชคือการนำเอาเมล็ดพันธุ์ 5 งานประดิษฐ์ ง 1.1 ป.5/1 นอ หั ว มาใส่ลงในดินห รือส่ิงอื่น ง 1.1 ป.5/2 เพ่ือให้งอกหรือเติบโต และสามารถ ขยายพันธ์ุต่อไปได้ การปลูกพืชแบ่ง 6 งานธุรกิจ ง 1.1 ป.5/1 ตาม การใช้ประโยชน์ได้ 2 ประเภท ง 1.1 ป.5/2 คือ พชื สวน และพืชไร่ - อุปกรณ์ของใช้ในบ้าน เป็นสิ่งท่ีช่วย อำนวยความสะดวกในการทำกิจกรรม ต่าง ๆ ภายในบ้าน เมื่อใช้ไประยะ หน่ึงอาจเกิดการชำรุดเสียหาย การ ซ่อมแซม จะทำให้สามารถนำกลับมา ใช้ได้ใหม่ เปน็ การประหยดั คา่ ใช้จ่าย - การประดิษฐ์ของใช้และของตกแต่ง ด้วยวัสดุเหลือใช้ในท้องถ่ิน เป็นการ ทำงานโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ ซ่ึง ต้องทำตามกระบวนการเทคโนโลยี เพื่อใหม้ ีคณุ ภาพ - การทำบัญชีครัวเรือนเป็นการทำ บนั ทึกบญั ชีทางการเงินของครอบครัว เพ่ือใช้เป็นข้อมูลวางแผนชีวิต การ จัดเก็บเอกสาร การดูแลรักษาสมบัติ สว่ นตวั สมบัติครอบครวั และส่วนรวม อย่างถูกต้อง ทำให้เอกสารและสมบัติ

26 ลำดบั ท่ี หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคญั เวลาเรียน นำ้ หนกั ตวั ชี้วดั ไม่สญู หาย (ช่วั โมง) คะแนน - การประกอบอาชีพมรี ายได้ตอบแทน (100) 7 อาชพี ในชมุ ชน ง 2.1 ป.5/1 เพ่ือบุคคลจะนำรายได้น้ันไปใช้ในการ 5 ง 2.1 ป.5/2 ดำรงชีวิตของตนเองและครอบครัว 10 อาชีพสุจริตก่อให้เกิดประโยชน์กับ - 8 สอบปลายภาค สั ง ค ม โ ด ย ไ ม่ ท ำ ใ ห้ ต น เอ ง แ ล ะ ผู้ อื่ น 40 20 เดอื ดร้อน ผูอ้ าศัยอยู่ในชุมชนมีรายได้ 100 มี สั ม พั น ธภ า พ ท่ี ดี ต่ อ กั น แ ล ะ ชุ ม ช น ไดร้ บั การพฒั นาด้านตา่ ง ๆ รวมทง้ั สนิ้

27 โครงสรา้ งรายวชิ า กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพ วชิ า การงานอาชีพ รหสั วิชา ง 16101 ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 เวลา 40 ชัว่ โมง นำ้ หนกั 1 หนว่ ยกิต สดั สว่ นคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 80 : 20 นำ้ หนัก ลำดับที่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคญั เวลาเรยี น คะแนน ตวั ชีว้ ัด (ชว่ั โมง) (100) 1 งานบ้าน ง 1.1 ป.6/1 - การดูแลรักษาสมบัติภายในบ้าน 5 10 ง 1.1 ป.6/2 เครื่องเรือน เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าอย่างถูกวธิ ี ง 1.1 ป.6/3 จะช่วยให้ยืดอายุการใช้งานให้ใช้ได้ 5 10 นาน เป็นการประหยัดคา่ ใช้จ่าย 5 10 2 เสือ้ ผ้าและเคร่อื ง ง 1.1 ป.6/1 - การทำงานกับสมาชิกในครอบครัว แตง่ กาย และผู้อ่ืนอย่างมีมารยาทที่ดีต่อกันจะ 5 10 ช่วยให้งานสำเร็จราบรื่นได้รับความ 5 10 3 อาหารและ ง 1.1 ป.6/1 รว่ มมอื ในการทำงานอยา่ งดี 5 10 โภชนาการ - การซ่อมแซมเส้ือผ้าที่ขาดไม่มาก ทันทีที่พบด้วยการปะและการชุน จะ 4 งานเกษตร ง 1.1 ป.6/1 ช่วยให้นำเสื้อผ้ากลับมาใช้งานได้อีก ง 1.1 ป.6/2 ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ้ือเสื้อผ้า ใหม่ 5 งานช่าง ง 1.1 ป.6/1 - การจัดอาห ารให้ กับ สมาชิกใน ง 1.1 ป.6/2 ครอบครัวต้องมีคุณค่าอาหารครบ 5 หมู่ เหมาะกบั เพศและวัย เพียงพอกับ 6 งานประดษิ ฐ์ ง 1.1 ป.6/1 จำนวนส มาชิก เพ่ื อให้ สมาชิกมี ง 1.1 ป.6/2 สขุ ภาพแข็งแรงเตบิ โตสมวยั - การเตรียมการประกอบอาหารแบะ เคร่ืองดื่มให้กับสมาชิกในครอบครัว อย่างถูกวิธี ต้องมีการวางแผน เพื่อ การประหยดั เวลา คา่ ใช้จ่าย - การเลีย้ งปลาสวยงามเป็นงานอดเิ รก ที่ให้เกิดความเพลิดเพลินแก่ผู้เลี้ยง และผู้พบเหน็ ปลาสวยงามจะเติบโตดี มีสีสนั สวยงามผู้เลย้ี งต้องเอาใจใส่เร่อื ง การให้อาหาร การป้องกัน รักษาโรค อย่างถกู วิธี - การติดตั้งประกอบของใช้ในบ้าน อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องทำตาม ข้ันตอนท่ีถูกต้อง ใช้วัสดุอุปกรณ์ให้ ตรงกับลักษณะของงานและมีสมาธใิ น การทำงาน เพ่ือให้ได้งานท่ีมีคุณภาพ และปลอดภยั - การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งให้ ส ม า ชิ ก ใส ค ร อ บ ค รั ว ห รื อ เพื่ อ น ใ น โอกาสต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

28 สอื่ /แหลง่ เรียนรู้ กลุม่ สาระการงานอาชีพได้เหน็ ความสำคญั ของผ้เู รยี น ในการทจ่ี ะได้รบั ความรู้ ความเข้าใจ ในบทเรยี น เพือ่ ท่ีจะนำความรู้ ความสามารถไปพัฒนาตอ่ ยอดในอนาคต ในการจัดการเรียนการสอนแต่ละคร้ัง จึงมีความ จำเป็นท่จี ะต้องมีสอ่ื การสอนเพอ่ื เป็นตวั กลางทจี่ ะทำใหผ้ ู้เรียนเกิดความเขา้ ใจมากยงิ่ ขน้ึ ดงั นี้ สอื่ การเรยี นการสอน หมายถงึ ตัวกลางที่ใชถ่ ่ายทอด หรอื นำความรู้ ในลักษณะต่าง ๆ จากผู้สอนไปยัง ผู้เรียนให้เข้าใจความหมายได้ตรงกัน ในการเรียนการสอนสื่อท่ีใช้เป็นตัวกลางนำความรู้ในกระบวนการสื่อ ความหมายระหวา่ งผ้สู อนกบั ผู้เรียน เรียกว่าส่ือการสอน (Instruction Media) เช่น สือ่ การสอน (Instructional Media or Teaclning Media) ส่อื การสอน (Educational media) อุปกรณ์ชว่ ยสอน (Teaching Aids) เปน็ ต้น ในปัจจุบันมักจะเรียกการนำสื่อการเรียนการสอนชนิดต่าง ๆ มารวมกันว่าเทคโนโลยีทางการศึกษา (Educational) ซ่ึงหมายถึงการนำเอาวัสดุอุปกรณ์และวิธีการมาใช้ร่วมกันอย่างมีระบบในการเรียนการสอน เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการสอน ส่ือการเรียนการสอน หมายถึง ส่ิงต่างๆ ที่เป็นบุคคล วัสดุ อุปกรณ์ ตลอดจนเทคนิควิธีการ ซ่ึงเป็น ตวั กลางทำใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์ของการเรยี นการสอนทก่ี ำหนดไวไ้ ด้อยา่ งง่ายและรวดเร็วเป็น เคร่ืองมือและตัวกลางซึ่งมีความสำคัญในกระบวนการเรียนการสอนมีหน้าที่เป็นตัวนำความต้องการของผู้สอน ไปสู่ตัวผู้เรียนอย่างถูกต้องและรวดเร็วเป็นผลให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปตามจุดมุ่งหมายการเรียน การสอนได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เช่น อุปกรณ์การสอน โสตทัศนูปกรณ์ เทคโนโลยีการศึกษา ส่ือการเรียน การสอน สอื่ การศกึ ษา เปน็ ต้น หลักการใชส้ ื่อการเรียนการสอน การใช้สื่อการเรียนการสอนนั้นอาจจะใช้เฉพาะข้ันตอนใดขั้นตอนหน่ึงของการสอน หรือจะใช้ในทุก ข้นั ตอนกไ็ ด้ ดงั น้ี 1. ข้ันนำเข้าสู่บทเรียน เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในเนื้อหาท่ีกำลังจะเรียน หรือเน้ือหาท่ี เกี่ยวข้องกับการเรียนในครั้งก่อน แต่มิใช่สื่อที่เน้นเน้ือหาเจาะลึกอย่างแท้จริง เป็นส่ือที่ง่ายในการนำเสนอใน ระยะเวลาอันส้ัน 2. ขัน้ ดำเนนิ การสอน หรอื ประกอบกิจกรรมการเรียน เป็นขน้ั สำคัญในการเรียนเพราะเป็นขัน้ ท่ีจะให้ ความรู้เนื้อหาอย่างละเอยี ดเพื่อสนองวัตถปุ ระสงค์ท่ีตั้งไว้ ต้องมีการจัดลำดับขั้นตอนการใชส้ ื่อให้เหมาะสมและ สอดคล้องกับกจิ กรรมการเรยี น 3. ขนั้ วิเคราะห์และฝึกปฏิบัติ ส่ือในขั้นน้ีจึงเป็นสื่อที่เป็นประเด็นปัญหาให้ผู้เรียนได้ขบคิดโดยผู้เรียน เป็นผ้ใู ช้สอื่ เองมากทีส่ ดุ 4. ข้ันสรุปบทเรียน เป็นข้ันของการเรียนการสอนเพื่อการย้ำเนื้อหาบทเรียนให้ผู้เรยี นมีความเข้าใจที่ ถูกต้องและตรงตามวัตถุประสงค์ทตี่ ้ังไว้ ควรใชเ้ พียงระยะเวลาสน้ั ๆ 5. ขัน้ ประเมนิ ผูเ้ รยี น เป็นการทดสอบความสามารถของผเู้ รียนว่าผู้เรียนเขา้ ใจในสง่ิ ที่เรยี นถูกต้องมาก น้อยเพียงใด สว่ นใหญ่แลว้ จะเป็นการประเมนิ จากคำถามจากเนอื้ หาบทเรยี นโดยอาจจะมีภาพประกอบดว้ ยกไ็ ด้

29 ประเภทของสือ่ การเรยี นการสอน 1. สอ่ื ประเภทวัสดุ ได้แก่ สื่อเลก็ ซึง่ ทำหนา้ ท่ีเก็บความรู้ในลักษณะของภาพเสียงและอักษรในรูปแบบ ต่าง ๆ ที่ผู้เรยี นสามารถใช้เป็นแหล่งหาประสบการณ์ หรือศึกษาได้อย่างแท้จริงและกว้างขวาง แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.1 วัสดุท่ีเสนอความรู้ได้จากตัวมันเอง ได้แก่หนังสือเรียนหรือตำราของจริง หุ่นจำลอง รูปภาพ แผนภูมิ แผนที่ ป้ายนิเทศ เป็นตน้ 1.2 วสั ดุที่ต้องอาศัยส่ือประเภทเคร่ืองกลไก เปน็ ตัวนำเสนอความรไู้ ด้แกฟ่ ิล์มภาพยนตร์ แผน่ สไลด์ ฟิล์มสตริป เส้นเทปบันทึกเทป รายการวิทยุ รายการโทรทัศน์ รายการที่ใช้เคร่ืองช่วยสอน เป็นต้น 2. ส่ือประเภทเครื่องมือ หรือโสตทัศนูปกรณ์ ได้แก่ ส่ือใหญ่ ท่ีเป็นตัวกลาง หรือทางผ่านของความรู้ ท่ีถ่ายทอดไปยังครูและผู้เรียน ส่ือประเภทนี้ตัวมันเองแทบไม่มีประโยชน์ต่อการสื่อความหมายเลยถ้าไม่มี ความรู้ในรูปแบบต่าง ๆ มาป้อนผ่านเคร่ืองกลไกลเหล่านี้ ส่ือประเภทน้ีจึงจำเป็นต้องอาศัยส่ือประเภทวัสดุ บางชนิดเป็นแหล่งความรู้ให้มันส่งผ่าน ซึ่งจะทำให้ความรู้ท่ีส่งผ่านมีการเคลื่อนไหวไปสู่ผู้เรียนจำนวนมาก ได้ไกลๆ และรวดเร็วและบางทีก็ทำหน้าท่ีเหมือนครูเสียเอง เช่น เคร่ืองช่วยสอน ได้แก่เครื่องฉายภาพยนตร์ เครอ่ื งเล่นแผ่นเสียงเครอ่ื งบันทึกเสยี ง เครื่องรบั วิทยุ เครื่องฉายภาพนง่ิ ท้ังหลาย 3. สอ่ื ประเภทเทคนิค หรือวิธกี าร ตัวกลางในกระบวนการเรียนการสอนไม่จำเป็นต้องใช้แตว่ ัสดุหรือ เครอ่ื งมอื เท่าน้นั บางครั้งจะตอ้ งใช้เทคนิคและกลวิธตี า่ ง ๆ ควบค่กู ันไป โดยเนน้ ทีเ่ ทคนคิ และวธิ กี ารเป็นสำคญั สือ่ การเรยี นการสอนจำแนกตามประสบการณ์ 1. ประสบการณ์ตรงและมคี วามมุ่งหมาย ประสบการณ์ขนั้ น้ี เป็นรากฐานสำคญั ของการศกึ ษาทั้งปวง เปน็ ประสบการณท์ ่ีผู้เรยี นไดร้ ับมาจากความเป็นจริงและด้วยตัวเองโดยตรง ผู้รบั ประสบการณ์น้ีจะได้เหน็ ไดจ้ ับ ได้ทำ ได้รู้สึกและได้ดมกลิ่นจากของจริง ดังนั้นส่ือการสอนที่ไห้ประสบการณ์การเรียนรู้ในขั้นน้ีก็คือของจริง หรือความเปน็ จริงในชีวิตของคนเรานัน่ เอง 2. ประสบการณ์จำลอง เป็นที่ยอมรับกันว่าศาสตร์ต่าง ๆ ในโลก มีมากเกินกว่าท่ีจะเรียนรู้ได้หมดส้ิน จากประสบการณต์ รงในชวี ิต บางกรณีกอ็ ยู่ในอดีต หรอื ซับซอ้ น เร้นลบั หรอื เปน็ อนั ตรายไมส่ ะดวกตอ่ การเรียนรู้ จากประสบการณจ์ ริง จึงได้มกี ารจำลองสงิ่ ตา่ ง ๆ เหล่านั้นมาเพอื่ การศึกษา ของจำลองบางอยา่ งอาจจะเรียนได้ ง่ายกว่าและสะดวกกวา่ 3. ประสบการณ์ต่าง ๆ ของคนเราน้ันมีหลายสงิ่ หลายอย่างที่เราไม่สามารถประสบได้ด้วยตนเอง เช่น เหตุการณ์ในอดีต เร่ืองราวในวรรณคดี การเรียนในเรื่องท่ีมีปัญหาเกี่ยวกับสถานท่ี หรือเร่ืองธรรมชาติที่เป็น นามธรรม การแสดงละครจะช่วยไปให้เราได้เขา้ ไปใกล้ความเป็นจริงมากที่สดุ เช่น ฉากเครอ่ื งแต่งตัว เคร่ืองมือ หนุ่ ตา่ ง ๆ เป็นต้น 4. การสาธิต คือ การอธิบายถงึ ข้อเท็จจรงิ หรือแบ่งความคิด หรอื กระบวนการต่าง ๆ ให้ผู้เรียนแลเห็น ไปดว้ ย เช่น ครูสอนการงานเตรยี มอปุ กรณ์ต่าง ๆ ให้ผเู้ รยี นดู กเ็ ป็นการสาธิตเหมือนกับนาฏการหรือการศึกษา นอกสถานท่ีเราถือเป็นสื่อการสอนอย่างหนึ่ง ซึ่งในการสาธิตนี้อาจรวมเอาสิ่งของที่ใช้ประกอบหลายอย่าง นับตั้งแต่ของจริงไปจนถึงตัวหนังสือ หรือคำพูดเข้าไว้ด้วย แต่เราไม่เพ่งเล็งถึงสิ่งเหล่านี้ เราจะให้ความสำคัญ กบั กระบวนการท้งั หมดที่ผูเ้ รียนจะตอ้ งเฝ้าสงั เกตอยโู่ ดยตลอด

30 5. การศึกษานอกสถานท่ี เป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตเพ่ือให้ได้เรียนรู้จากแหล่งข้อมูลแหล่ง ความรู้ท่ีมีอยู่จรงิ ภายนอกห้องเรียน ดังน้ันการศกึ ษานอกสถานท่ีจึงเป็นวิธีการหน่ึงทีเ่ ป็นสื่อกลางใหไ้ ด้เรียนจาก ของจรงิ 6. นิทรรศการ มีความหมายที่กว้างขวาง หมายถงึ การจัดแสดงส่ิงต่าง ๆ เพ่ือใหค้ วามรแู้ ก่ผชู้ ม ดังน้ัน นิทรรศการจึงเป็นการรวมส่ือต่าง ๆ มากมายหลายชนิด การจัดนิทรรศการที่ให้ผู้เรียนมามีส่วนร่วมในการจัด จะส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นได้มีโอกาสคิดสร้างสรรค์มสี ่วนรว่ มและได้รบั ขอ้ มลู ย้อนกลบั ด้วยตัวของเขาเอง 7. โทรทัศน์และภาพยนตร์ โทรทัศน์เป็นสื่อการสอนท่ีมีบทบาทมากในปัจจุบัน เพราะได้เห็นทั้งภาพ และได้ยินเสียงในเวลาเดียวกันและยังสามารถแพร่และถ่ายทอดเหตุการณ์ท่ีกำลังเกิดขึ้นได้ด้วย นอกจากนั้น โทรทศั น์ยงั มีหลายรูปแบบ เชน่ โทรทัศนว์ งจรปดิ ซ่งึ โรงเรียนสามารถนำมาใช้ในการเรยี นการสอนได้เปน็ อยา่ งดี นอกจากน้ียังมีโทรทัศน์วงจรปิดที่เอ้ือประโยชน์ต่อการศึกษาอย่างกว้างขวาง ภาพยนตร์เป็นสื่อท่ีจำลอง เหตุการณ์มาให้ผู้ชม หรือผู้เรียนได้ดูและได้ฟังอย่างใกล้เคียงกับความจริง แต่ไม่สามารถถ่ายทอดเหตุการณ์ ทกี่ ำลังเกิดขึ้นได้ ถึงอย่างไรกต็ ามภาพยนตร์ก็ยงั นับว่าเป็นสื่อที่มีบทบาทมากในการเรยี นการสอน เช่นเดียวกัน กบั โทรทศั น์ 8. ภาพนิ่ง การบนั ทึกเสียงและวิทยุ ภาพน่งิ ได้แก่ ภาพถ่าย ภาพวาดซงึ่ มีทัง้ ภาพทบึ แสงและโปร่งแสง ภาพทบึ แสงคือรูปถ่าย ภาพวาด หรือภาพในสิ่งพิมพต์ า่ ง ๆ ส่วนภาพน่งิ โปร่งใสหมายถงึ สไลด์ ฟิล์มสตรปิ ภาพ โปร่งใสที่ใช้กับเครื่องฉายวสั ดุโปรง่ ใส เปน็ ต้น ภาพนิ่งสามารถจำลองความเปน็ จรงิ มาใหเ้ ราศึกษาบนจอได้ การ บันทึกเสียง ได้แก่ แผ่นเสยี งและเคร่ืองเลน่ แผ่นเสยี ง เทปและเคร่ืองบันทึกเสียงและเครื่องขยายเสียงตลอดจน อปุ กรณ์ต่าง ๆ ทเี่ กี่ยวกับเสียงซง่ึ นอกจากจะสามารถนำมาใช้อย่างอสิ ระในการเรยี นการสอนด้วยแลว้ ยังใช้กับ รายการวิทยุและกิจกรรมการศึกษาอ่ืน ๆ ได้ด้วย ส่วนวิทยุน้ัน ปัจจุบันท่ียอมรับกันแล้วว่า ช่วยใน การศึกษาและการเรียนการสอนได้มาก ซ่ึงไม่จำกัดอยู่แต่เพยี งวทิ ยโุ รงเรียนเทา่ น้นั แตย่ ังหมายรวมถงึ วทิ ยุท่วั ไป อกี ด้วย 9. ทัศนสัญลักษณ์ สื่อการสอนประเภททัศนสัญลกั ษณ์นี้ มมี ากมายหลายชนิด เชน่ แผนภูมิ แผนภาพ แผนท่ี แผนผัง ภาพโฆษณา การ์ตูน เป็นต้น สื่อเหล่าน้ีเป็นสื่อท่ีมีลักษณะเป็นสัญลักษณ์สำหรับถ่ายทอด ความหมายใหเ้ ขา้ ใจได้รวดเรว็ ขนึ้ 10. วจนสัญลักษณ์ ส่ือข้ันนี้เป็นส่ือที่จัดว่า เป็นข้ันท่ีเป็นนามธรรมมากที่สุด ซ่ึงได้แก่ตัวหนังสือหรือ อักษร สัญลักษณ์ทางคำพูดที่เป็นเสียงพูด ความเป็นรูปธรรมของสื่อประเภทนี้จะไม่คงเหลืออยู่เลย อย่างไรก็ดี ถึงแม้ส่ือประเภทน้จี ะมลี ักษณะที่เปน็ นามธรรมท่ีสุดก็ตามเราก็ใช้ประโยชน์จากสื่อประเภทนี้มาก เพราะต้องใช้ ในการส่ือความหมายอยู่ตลอดเวลา

31 ประโยชน์ของสือ่ การเรียนการสอน สอื่ การเรียนการสอนเปน็ ตวั กลางท่ีจะทำใหผ้ เู้ รยี นเข้าใจในบทเรียนมากขนึ้ ส่อื การสอนจงึ มปี ระโยชน์ ดังน้ี 1. ชว่ ยใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรยี นรูอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ไดแ้ ก่ 1.1 เรยี นรูไ้ ด้ดีขึ้นจากประสบการณท์ ี่มคี วามหมายในรปู แบบตา่ งๆ 1.2 เรยี นรูไ้ ด้อย่างถูกต้อง 1.3 เรียนรู้ไดง้ ่ายและเข้าใจไดช้ ดั เจน 1.4 เรียนรไู้ ดม้ ากขนึ้ 1.5 เรยี นรไู้ ด้ในเวลาที่จำกัด 2. ชว่ ยใหส้ ามารถเอาชนะขอ้ จำกดั ตา่ ง ๆ ในการเรียนรู้ ได้แก่ 2.1 ทำส่งิ นามธรรมให้เป็นรปู ธรรมมากขึน้ 2.2 ทำส่ิงซับซ้อนใหง้ า่ ยขึน้ 2.3 ทำสิ่งเคลื่อนไหวชา้ ใหเ้ รว็ ขึ้น 2.4 ทำส่ิงเคลอ่ื นไหวเรว็ ใหช้ า้ ลง 2.5 ทำสงิ่ เล็กให้ใหญ่ขึน้ 2.6 ทำสง่ิ ใหญใ่ ห้เลก็ ลง 2.7 นำสงิ่ ท่อี ยไู่ กลมาศึกษาได้ 2.8 นำสิ่งท่ีเกดิ ในอดีตมาศึกษาไดช้ ว่ ยกระต้นุ ความสนใจของผู้ 2.9 ช่วยให้จดจำไดน้ าน เกดิ ความประทับใจและมน่ั ใจในการเรยี น 2.10 ช่วยให้ผู้เรียนได้คิดและแก้ปญั หา 2.11 ช่วยแกป้ ัญหาเรื่องความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล คุณค่าของส่อื การเรยี นการสอน สื่อการเรยี นการสอนสามารถทำใหผ้ ู้เรียนไดเ้ รียนรู้และเข้าใจในส่ิงท่ผี ู้สอนถ่ายทอดออกมาในเวลานน้ั ได้ เขา้ ใจตรงกัน ส่ือจงึ เป็นสิง่ ทม่ี คี ุณค่า ดังนี้ 1. สือ่ การเรียนการสอนสามารถเอาชนะข้อจำกัดเรือ่ งความแตกตา่ งกนั ของประสบการณด์ ้ังเดมิ ของ ผู้เรียน คอื เม่อื ใช้สื่อการเรยี นการสอนแล้วจะชว่ ยให้ผู้ซึง่ มปี ระสบการณ์เดิมต่างกนั เข้าใจได้ใกลเ้ คียงกนั 2. ขจดั ปัญหาเกี่ยวกบั เรอ่ื งสถานที่ ประสบการณ์ตรงบางอยา่ ง หรอื การเรียนรู้ 3. ทำใหเ้ ด็กได้รบั ประสบการณต์ รงจากสิง่ แวดลอ้ มและสังคม 4. สอ่ื การเรยี นการสอนทำใหเ้ ดก็ มีความคิดรวบยอดเปน็ อยา่ งเดียวกัน 5. ทำให้เดก็ มมี โนภาพเรม่ิ แรกอยา่ งถูกตอ้ งและสมบูรณ์ 6. ทำให้เดก็ มคี วามสนใจและตอ้ งการเรยี นในเร่ืองต่าง ๆ มากขึ้น เชน่ การอ่าน ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ ทัศนคติ การแก้ปญั หา ฯลฯ 7. เปน็ การสรา้ งแรงจูงใจและเร้าความสนใจ 8. ช่วยใหผ้ ้เู รียนไดม้ ีประสบการณ์จากรูปธรรมสูน่ ามธรรม

32 ส่ือการเรียนการสอนมปี ระโยชนส์ ำหรับครผู ูส้ อน สอ่ื การเรียนการสอนสามรถช่วยการเรียนการสอนของผู้สอนได้ดีมาก ซ่ึงเราจะเห็นว่าผูส้ อนน้ันสามารถ จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้มาก แถมยังชว่ ยให้ผู้สอนมีความรู้มากข้ึนในการจดั แหลง่ วิทยาการที่ เป็นเนอื้ หาเหมาะสมแกก่ ารเรียนรตู้ ามจดุ มงุ่ หมายในการสอนชว่ ยผู้สอนในด้านการคุมพฤตกิ รรม การเรียนรู้และ สามารถสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียนได้มาก ส่ือการสอนจะช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมหลาย ๆ รูปแบบ เช่น การใช้ศูนย์การเรียน การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน การสาธิต การแสดงนาฏการ เป็นต้น ช่วยให้ ผสู้ อนได้สอนตรงตามจุดมุ่งหมายการเรียนการสอนและยังชว่ ยในการขยายเนื้อหาที่เรียน ทำให้การสอนง่ายข้ึน และยงั จะช่วยประหยัดเวลาในการสอน ผู้เรียนจะได้มีเวลาในการทำกจิ กรรมการเรียนมากขน้ึ จากขอ้ มูลเราจะได้ เห็นถึงประโยชน์ของส่ือการเรียนการสอน ซึ่งทำให้เรามองเห็นถึงความสำคัญของส่ือมีประโยชน์และมีความ จำเป็นสามารถช่วยพัฒนาการเรยี นการสอนไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ การเลอื กและจดั หาสื่อการเรียนการสอน ในการเลือกสื่อการเรียนการสอนเพ่ือให้เกิดประสิทธิภาพต่อการเรียนการสอนน้ัน ผู้สอนจำเป็นต้อง คำนึงถึงองค์ประกอบในการเลือกสื่อ ได้แก่ จุดมุงหมายของการสอน รูปแบบและระบบของการเรียนการสอน ลักษณะของผู้เรียน เกณฑ์เฉพาะของส่ือ วัสดุอุปกรณ์และตลอดจนส่ิงอำนวยความสะดวกท่ีมีอยู่นอกจากนี้ยัง ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเภทของสื่อกับคณุ สมบตั ิเฉพาะและจุดประสงคข์ องการเรยี นการสอน การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ กำหนดการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สำหรับผู้เรียนไว้ 8 ประการ คอื 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซื่อสตั ยส์ จุ รติ 3. มีวนิ ัย 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ เพื่อปลูกฝังและพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้ท่ีมีความรู้คู่คุณธรรม มีคุณลักษณะท่ีดีสำหรับการดำรงชีวิตใน สงั คม ซึ่งการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคน์ ั้น ตอ้ งใช้ขอ้ มูลจากการสังเกตพฤติกรรมตามสภาพจริงใช้เวลา ในการสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนแต่ละคนเพือ่ นำมาประเมนิ และตดั สิน การให้คะแนนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของแต่ละขอ้ ตามตวั ชี้วดั เป็นตัวเลข ระดับ 0, 1, 2 และ 3 ซึ่ง ตวั เลขมคี วามหมาย ดงั นี้ ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถงึ ระดับ ดเี ย่ยี ม ระดับคณุ ภาพ 2 หมายถงึ ระดบั ดี ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ระดับ ผ่าน ระดบั คุณภาพ 0 หมายถงึ ระดับ ไม่ผา่ น

33 การสรุปคะแนนผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ท้ัง 8 ข้อ เป็นคะแนนเฉล่ีย และใช้เกณฑ์ พจิ ารณาสรุปผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี นรายบคุ คล ดงั นี้ คะแนน 2.5 - 3.0 หมายถึง ระดบั คณุ ภาพ ดีเยย่ี ม (3) คะแนน 1.5 - 2.4 หมายถึง ระดับคุณภาพ ดี (2) คะแนน 1.0 - 1.4 หมายถงึ ระดับคณุ ภาพ ผ่าน (1) คะแนน 0 - 0.9 หมายถงึ ระดบั คุณภาพ ไมผ่ า่ น (0) ***หมายเหตุ*** ผู้เรียนตอ้ งได้รบั การประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ในระดับ 1 ขึ้นไปทุกข้อ จึงจะอนุมตั ิ ให้ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ตวั ชี้วัด พฤตกิ รรมบ่งชีแ้ ละเกณฑ์การให้คะแนน ขอ้ ท่ี 1 รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ หมายถึง คุณลักษณะทีแ่ สดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ ธำรงไวซ้ ึ่ง ความเป็นชาตไิ ทย ศรัทธา ยดึ มนั่ ในศาสนาและเคารพเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้ที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือผู้ท่ีมีลักษณะซึ่งแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มีความสามัคคี ปรองดอง ภูมิใจ เชิดชูความเป็นชาติไทย ปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่ตนนับถือและแสดงความจงรักภักดีต่อ สถาบันพระมหากษตั ริย์ ตวั ช้วี ัด 1.1 เปน็ พลเมืองดีของชาติ 1.2 ธำรงไวซ้ ง่ึ ความเป็นชาตไิ ทย 1.3 ศรัทธา ยดึ มน่ั และปฏิบัติตนตามหลกั ศาสนา 1.4 เคารพเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ตวั ชวี้ ดั พฤตกิ รรมบง่ ชี้ 1.1 เป็นพลเมืองดขี องชาติ 1.1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ และอธิบายความหมายของเพลงชาติได้ ถูกต้อง 1.1.2 ปฏิบตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทพี่ ลเมอื งดขี องชาติ 1.1.3 มคี วามสามคั คีปรองดอง 1.2 ธำรงไว้ซึ่งความเป็นชาตไิ ทย 1.2.1 เข้าร่วมส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมท่ีสร้างความสามคั คีปรองดองที่เป็นประโยชน์ ตอ่ โรงเรยี นชุมชน และสงั คม 1.2.2 หวงแหน ปกป้อง ยกย่องความเปน็ ชาตไิ ทย 1.3 ศรัทธา ยึดมน่ั และปฏิบตั ิตน 1.3.1 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนับถอื ตามหลักของศาสนา 1.3.2 ปฏิบัตติ นตามหลักของศาสนาท่ตี นนับถือ 1.3.3 เป็นแบบอย่างท่ีดีของศาสนิกชน 1.4 เคารพเทิดทูน สถาบัน 1.4.1 เข้ารว่ มและมีสว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมท่ีเกี่ยวกบั สถาบนั พระมหากษัตริย์ พระมหากษตั ริย์ 1.4.2 แสดงความสำนกึ ในพระมหากรุณาธคิ ณุ ของพระมหากษัตรยิ ์ 1.4.3 แสดงออกซึ่งความจงรกั ภักดตี ่อสถาบันพระมหากษัตรยิ ์

34 ตัวชี้วัดที่ 1.1 เปน็ พลเมืองดีของชาติ ดี (2) พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดเี ย่ยี ม (3) 1.1.1 ยนื ตรงเคารพธง ไม่ยืนตรง ยนื ตรงเมอ่ื ได้ยินเพลง ยืนตรงเมื่อไดย้ ินเพลง ยืนตรงเมือ่ ไดย้ ินเพลง ชาติ รอ้ งเพลงชาติและ เคารพธงชาติ ชาติ รอ้ งเพลงชาติ ชาติ รอ้ งเพลงชาติ และ ชาตริ ้องเพลงชาติ และ อธิบาความหมายของ และอธิบาความหมาย อธบิ ายความหมายของ อธบิ ายความหมายของ เพลงชาติได้ถูกต้อง ของเพลงชาตไิ ดถ้ กู ตอ้ ง เพลงชาติได้ถูกต้อง เพลงชาติไดถ้ ูกต้อง 1.1.2 ปฏบิ ัตติ นตาม ปฏบิ ตั ิตนตามสทิ ธแิ ละ ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละ ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธแิ ละ สทิ ธิและหนา้ ทพ่ี ลเมือง หน้าทข่ี องนกั เรยี นและ หน้าทขี่ องนักเรยี นและ หน้าทขี่ องพลเมอื งดีและ ดีของชาติ ใหค้ วามร่วมมือร่วมใจ ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจใน ใหค้ วามร่วมมือร่วมใจใน 1.1.3 มคี วามสามคั คี ในการทำกิจกรรมกบั การทำกิจกรรมกับ การทำกจิ กรรมกบั ปรองดอง สมาชกิ ในชน้ั เรียน สมาชกิ ในโรงเรียน สมาชิกในโรงเรียนและ ชุมชน ตัวช้วี ัดที่ 1.2 ธำรงไว้ซึ่งความเป็นชาตไิ ทย พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยยี่ ม (3) 1.2.1 เข้ารว่ มสง่ เสรมิ ไม่เข้ารว่ ม เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ี เข้าร่วมกิจกรรมและมี เข้าร่วมกจิ กรรมและมี สนบั สนุนกจิ กรรมที่ กิจกรรมทส่ี ร้าง สรา้ งความสามัคคี สว่ นรว่ มในการจัด สว่ นรว่ มในการจดั สรา้ งความสามคั คี ความสามคั คี ปรองดองและเป็น กิจกรรมท่ีสร้างความ กจิ กรรมทีส่ ร้างความ ปรองดองท่เี ปน็ ประโยชน์ต่อ สามัคคีปรองดอง และ สามัคคีปรองดอง และ ประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น โรงเรียนและชมุ ชน เปน็ ประโยชน์ตอ่ เปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชุมชน และสังคม โรงเรียนและชุมชน ชุมชน และสังคม ชนื่ ชม 1.2.2 หวงแหน ในความเปน็ ชาตไิ ทย ปกป้องยกยอ่ งความ เปน็ ชาตไิ ทย ดเี ยี่ยม (3) เข้าร่วมกจิ กรรมทาง ตัวชีว้ ัดท่ี 1.3 ศรัทธา ยดึ มั่น และปฏบิ ัติตนตามหลกั ของศาสนา ศาสนาทต่ี นนับถอื และ พฤติกรรมบง่ ช้ี ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ของ 1.3.1 เขา้ ร่วมกิจกรรม ไม่เข้ารว่ ม เขา้ รว่ มกจิ กรรมทาง เขา้ ร่วมกจิ กรรมทาง ศาสนาอย่างสมำ่ เสมอ ทางศาสนาที่ตนนับถอื กจิ กรรม ศาสนาทตี่ นนับถือ ศาสนาทีต่ นนับถอื และ และเป็นแบบอยา่ งท่ีดี 1.3.2 ปฏบิ ตั ติ นตาม ทางศาสนา และปฏิบัติ ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของ ของศาสนิกชน หลกั ของศาสนาทตี่ น ที่ตนนับถอื ตนตามหลกั ของ ศาสนาอยา่ งสม่ำเสมอ นบั ถอื ศาสนาตามโอกาส 1.3.3 เป็นแบบอย่างท่ี ดีของศาสนิกชน

35 ตัวช้ีวัดท่ี 1.4 เคารพเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเย่ยี ม (3) 1.4.1 เข้ารว่ มและมี ไม่เข้ารว่ มกจิ กรรม เขา้ ร่วมกิจกรรมที่ เข้ารว่ มกิจกรรมและมี เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมี สว่ นรว่ มในการจัด ท่เี ก่ียวกับสถาบัน เกี่ยวกบั สถาบัน ส่วนร่วมในการจดั ส่วนร่วมในการจัด กจิ กรรมทเ่ี กยี่ วกบั สถา พระมหากษัตริย์ พระมหากษตั ริย์ กจิ กรรมทเี่ กีย่ วกบั กิจกรรมทเ่ี กยี่ วกบั สถา บพั ระมหากษตั ริย์ ตามทโ่ี รงเรยี นและ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ บัพระมหากษตั รยิ ์ตามที่ 1.4.2 แสดงความ ชุมชนจัดข้ึน ตามทีโ่ รงเรยี นและ โรงเรยี น สำนึกในพระมหา ชมุ ชนจัดข้นึ และชุมชนจัดขน้ึ ชนื่ ชมใน กรณุ าธคิ ณุ ของ พระราชกรณยี กิจพระ พระมหากษัตรยิ ์ ปรชี าสามารถของ 1.4.3 แสดงออกซงึ่ พระมหากษัตริย์ ความจงรัก และพระราชวงศ์ ภกั ดตี ่อสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ เกณฑ์พิจารณาสรปุ ผลการประเมิน ระดับ เกณฑ์การพิจารณา ดเี ยี่ยม (3) 1. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดีเยี่ยม ทกุ ตวั ชี้วดั หรอื 2. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีเยย่ี ม ตง้ั แต่ 2 ตัวขึน้ ไปและได้ผลการประเมนิ ระดบั ดี อย่างน้อย 1 ตัวช้วี ัด ดี (2) 1. ได้ผลการประเมนิ ระดับดี ทุกตัวชวี้ ัด หรอื 2. ได้ผลการประเมนิ ไมต่ ำ่ กว่าดี จำนวน 3 ตัวชี้วัด และตัวชว้ี ดั ท่ีเหลอื ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับผ่าน 1 ตัวชว้ี ดั ผา่ น (1) 1. ได้ผลการประเมินระดบั ผา่ น ทุกตัวชี้วัด หรือ 2. ไดผ้ ลการประเมินระดับผา่ น จำนวน 3 ตวั ชวี้ ัด และไม่มผี ลการประเมินตัวชี้วัดใดตำ่ กวา่ ระดับผา่ น ไม่ผ่าน (0) มีผลการประเมินตัวชวี้ ัดข้อใดข้อหนง่ึ ได้ระดับไมผ่ ่าน ข้อท่ี 2 ซอ่ื สตั ย์สุจริต หมายถึง คุณลกั ษณะที่แสดงออกถงึ การยึดม่นั ในความถกู ตอ้ ง ประพฤติ ตรงตาม ความเป็นจรงิ ตอ่ ตนเองและผ้อู น่ื ทง้ั ทางกาย วาจา ใจ ผ้ทู ีม่ ีความซื่อสตั ย์สุจริต คือ ผู้ท่ีประพฤติตรงตามความเป็นจริงท้ังทางกาย วาจา ใจ และยึดหลักความ จริงความถูกต้องในการดำเนนิ ชีวติ มคี วามละอายและเกรงกลวั ต่อการกระทำผดิ ตัวชี้วัด 2.1 ประพฤติตรงตามความเป็นจรงิ ต่อตนเองท้ังทางกาย วาจา ใจ 2.2 ประพฤตติ รงตามความเป็นจรงิ ตอ่ ผูอ้ ่นื ท้ังทางกาย วาจา ใจ ตวั ช้วี ัด พฤตกิ รรมบง่ ชี้ 2.1 ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ 2.1.1 ใหข้ อ้ มูลทถี่ ูกตอ้ งและเปน็ จริง ตนเองทั้งทางกาย วาจา ใจ 2.1.2 ปฏบิ ตั ิตนโดยคำนงึ ถงึ ความถูกต้อง ละอายและเกรงกลัวตอ่ การกระทำผิด 2.1.3 ปฏิบตั ติ ามคำมัน่ สัญญา 2.2 ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ต่อ 2.2.1 ไมถ่ อื เอาสงิ่ ของหรอื ผลงานของผ้อู นื่ มาเปน็ ของตนเอง ผู้อน่ื ทั้งทางกาย วาจา ใจ 2.2.2 ปฏิบตั ิตนตอ่ ผู้อ่ืนด้วยความซอื่ ตรง 2.2.3 ไมห่ าประโยชนใ์ นทางทไี่ ม่ถูกตอ้ ง

36 ตวั ช้ีวัดที่ 2.1 ประพฤติตรงตามความเป็นจรงิ ต่อตนเองทัง้ ทางกาย วาจา ใจ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม (3) 2.1.1 ให้ข้อมูลที่ ไมใ่ หข้ ้อมูลที่ ให้ขอ้ มูลทถี่ กู ต้อง ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ใหข้ ้อมลู ทีถ่ กู ตอ้ ง ถูกต้องและเปน็ จรงิ ถกู ตอ้ ง และเปน็ จรงิ ปฏบิ ัติใน และเป็นจรงิ ปฏบิ ัติ และเป็นจริง ปฏบิ ตั ิในสิ่ง 2.1.2 ปฏบิ ตั ติ นโดย และเป็นจริง สิ่งทีถ่ ูกต้อง ทำตาม ในสิง่ ท่ีถกู ต้อง ทำ ที่ถูกตอ้ ง ทำตามสัญญาที่ คำนึงถงึ ความถกู ต้อง สญั ญาทตี่ นใหไ้ ว้กบั ตามสญั ญาท่ตี นใหไ้ ว้ ตนใหไ้ ว้กับเพ่ือน พ่อแม่ ละอายและเกรงกลัว เพ่ือน พอ่ แม่หรือ กับเพ่ือน พ่อแม่หรอื หรอื ผู้ปกครองและครู ตอ่ การกระทำผดิ ผปู้ กครองและครู ผ้ปู กครองและครู ละอายและเกรงกลวั ทีจ่ ะ 2.1.3 ปฏบิ ตั ติ าม ละอายและเกรงกลวั ทำความผิด คำมนั่ สัญญา ที่จะทำความผิด เปน็ แบบอยา่ งที่ดี ดา้ นความซือ่ สตั ย์ ตวั ชี้วัดที่ 2.2 ประพฤติตรงตามความเปน็ จรงิ ต่อผ้อู ่นื ทั้งทางกาย วาจา ใจ พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม (3) 2.2.1 ไมถ่ อื เอา นำสิง่ ของของคน ไม่นำสงิ่ ของและผลงาน ไมน่ ำสงิ่ ของและ ไม่นำสิง่ ของและผลงาน สิ่งของหรือผลงาน อ่ืนมาเปน็ ของ ของผอู้ ืน่ มาเป็นของ ผลงานของผู้อนื่ มา ของผู้อนื่ มาเปน็ ของ ของผ้อู นื่ มาเปน็ ของ ตนเอง ตนเองปฏิบัติตนต่อผ้อู ื่น เป็นของตนเองปฏบิ ตั ิ ตนเองปฏบิ ัติตนต่อผู้อืน่ ตนเอง ดว้ ยความซื่อตรง ตนตอ่ ผู้อน่ื ดว้ ยความ ดว้ ยความซื่อตรงไม่หา 2.2.2 ปฏิบัติตนตอ่ ซือ่ ตรงไมห่ า ประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง ประโยชนใ์ นทางทไ่ี ม่ ถูกต้อง และเป็น 2.2.3 ไม่หาประโยชน์ ถกู ตอ้ ง แบบอยา่ งทด่ี แี กเ่ พือ่ น ในทางท่ีไมถ่ กู ต้อง ด้านความซอื่ สตั ย์ เกณฑพ์ ิจารณาสรุปผลการประเมนิ ระดับ เกณฑก์ ารพจิ ารณา 1. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเยี่ยม ทกุ ตัวชว้ี ัด หรือ ดเี ย่ยี ม (3) 2. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดเี ยย่ี ม และดี ระดบั ละ ๑ ตัวช้วี ดั ดี (2) 1. ได้ผลการประเมินระดับดี ทุกตัวชว้ี ดั หรือ 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีเยีย่ ม และระดบั ผา่ น ระดับละ ๑ ตัวชีว้ ัด 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ผ่าน ทุกตัวชว้ี ัด หรอื ผา่ น (1) 2. ไดผ้ ลการประเมินระดับดี และระดบั ผา่ น ระดบั ละ ๑ ตัวชี้วัด ไมผ่ ่าน (0) มผี ลการประเมินตวั ชว้ี ัดข้อใดข้อหนง่ึ ได้ระดบั ไม่ผา่ น

37 ข้อที่ 3 มีวินัย หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการยึดม่ันในข้อตก ลงกฎเกณฑ์และระเบียบ ข้อบังคับของครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม ผูม้ ีวินัย คือผ้ทู ี่ปฏิบตั ิตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม เปน็ ปกตวิ สิ ยั ไมล่ ะเมดิ สทิ ธิของผอู้ ่ืน ตัวชว้ี ดั 3.1 ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บขอ้ บงั คับของครอบครัว โรงเรียนและสังคม ตัวชี้วัด พฤติกรรมบง่ ชี้ 3.1 ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ 3.1.1 ปฏิบตั ติ นตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบขอ้ บังคบั ของครอบครวั โรงเรียน ระเบียบข้อบังคบั ของครอบครัว และสงั คม ไม่ละเมิดสิทธิของผอู้ น่ื โรงเรียน และสงั คม 3.1.2 ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจำวนั และรบั ผิดชอบใน การทำงาน ตวั ชี้วัดท่ี 3.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บขอ้ บังคับของครอบครวั โรงเรียน และสงั คม พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไม่ผ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ย่ียม (3) 3.1.1 ปฏิบัตติ นตาม ไมป่ ฏิบตั ิตนตาม ปฏบิ ัติตามข้อตกลง ปฏบิ ัติตามข้อตกลง ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ระเบยี บขอ้ บังคบั ของ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อบงั คับของ ข้อบงั คบั ของ ขอ้ บงั คับของ ครอบครวั ของครอบครวั และ ครอบครวั และ ครอบครัว และ ครอบครวั โรงเรียน โรงเรยี น และสังคม ไม่ โรงเรียน โรงเรยี น ตรงต่อเวลา โรงเรยี น ตรงตอ่ เวลา และสงั คม ไมล่ ะเมดิ ละเมดิ สิทธขิ องผูอ้ น่ื ในการปฏิบตั ิกจิ กรรม ในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม สทิ ธิของผูอ้ นื่ ตรงตอ่ 3.1.2 ตรงตอ่ เวลาในการ ตา่ ง ๆ ใน ตา่ ง ๆ ใน เวลาในการปฏิบตั ิ ปฏิบตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ ใน ชวี ติ ประจำวนั ชีวติ ประจำวัน และ กิจกรรมตา่ งๆใน ชีวิตประจำวันและ รับผิดชอบในการ ชวี ติ ประจำวนั และ รบั ผดิ ชอบในการทำงาน ทำงาน รบั ผิดชอบในการ ทำงาน เกณฑพ์ ิจารณาสรปุ ผลการประเมนิ ระดบั เกณฑก์ ารพจิ ารณา ดเี ยย่ี ม (3) ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีเย่ียม ดี (2) ได้ผลการประเมินระดับดี ผ่าน (1) ได้ผลการประเมินระดับผา่ น ไม่ผา่ น (0) ไดผ้ ลการประเมินระดบั ไมผ่ ่าน ขอ้ ท่ี 4 ใฝเ่ รยี นรู้ หมายถงึ คณุ ลกั ษณะท่ีแสดงออกถึงความตง้ั ใจ เพียรพยายามในการเรยี น แสวงหา ความรูจ้ ากแหล่งเรยี นรูท้ ้ังภายในและภายนอกโรงเรียน ผู้ท่ีใฝ่เรียนรู้ คือผู้ท่ีมีลักษณะซึ่งแสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการ เลือกใช้ส่ืออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ แลกเปล่ียนเรียนรู้ ถ่ายทอด เผยแพร่ และนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้

38 ตัวชว้ี ดั 4.1 ตง้ั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 4.2 แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรยี นด้วยการเลือกใช้ ส่ืออย่างเหมาะสม สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ ตวั ชว้ี ดั พฤตกิ รรมบ่งช้ี 4.1 ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรียน 4.1.1 ตัง้ ใจเรียน และเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1.2 เอาใจใส่และมีความเพยี รพยายามในการเรยี นรู้ 4.1.3 สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ 4.2 แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรู้ 4.2.1 ศกึ ษาค้นคว้าหาความรจู้ ากหนงั สอื เอกสาร สง่ิ พมิ พ์ สอ่ื เทคโนโลยตี ่าง ๆ ตา่ งๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น แหล่งเรยี นรทู้ ั้งภายในและภายนอก ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น และเลือกใช้ ดว้ ยการเลอื กใช้ส่อื อย่างเหมาะสม สอ่ื ได้อย่างเหมาะสม สรุปเป็นองคค์ วามร้แู ละสามารถ 4.2.2 บันทกึ ความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบ จากสงิ่ ท่ีเรียนรู้ สรุปเปน็ องค์ความรู้ นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ 4.2.3 แลกเปล่ียนความรูด้ ้วยวิธีการต่าง ๆ และนำไปใช้ในชีวติ ประจำวัน ตัวชี้วัดที่ 4.1 ตงั้ ใจ เพยี รพยายาม ในการเรียน และเข้าร่วมกจิ กรรม ดี (2) พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไม่ผา่ น (0) ผ่าน (1) ดีเย่ียม (3) 4.1.1 ตงั้ ใจเรยี น ไมต่ ั้งใจเรียน เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา ต้งั ใจ 4.1.2 เอาใจใสแ่ ละมี ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ใน ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ เรียน เอาใจใส่และมี ความเพียรพยายามใน การเรยี น มีส่วนรว่ ม และมคี วามเพียร ความเพยี รพยายามใน การเรียนรู้ ในการเรยี นรู้ และเข้า พยายามในการ การเรียนรู้ และเข้ารว่ ม 4.1.3 เข้ารว่ ม ร่วมกจิ กรรมการ เรยี นรูแ้ ละเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรตู้ า่ งๆ กิจกรรมการเรียนรูต้ า่ ง เรียนรู้ตา่ งๆเป็น กจิ กรรมการเรียนรู้ ท้ังภายในและภายนอก ๆ บางครงั้ ตา่ ง ๆบอ่ ยครงั้ โรงเรียนเป็นประจำ ตัวชว้ี ัดที่ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ งๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลอื กใช้สอ่ื อยา่ งเหมาะสม สรปุ เป็นองค์ความรู้ สามารถนำไปใช้ชีวติ ประจำวันได้ พฤติกรรมบ่งช้ี ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเย่ียม (3) 4.2.1 ศกึ ษาค้นคว้าหา ไม่ศึกษาค้นควา้ ศกึ ษาค้นควา้ หา ศกึ ษาค้นคว้าหา ศกึ ษาค้นควา้ หา ความรู้จากหนังสือ เอกสาร หาความรู้ ความรู้จากหนงั สือ ความร้จู ากหนงั สือ ความรูจ้ ากหนังสือ ส่ิงพิมพ์ ส่ือเทคโนโลยตี ่างๆ เอกสาร สิง่ พิมพ์ สอ่ื เอกสาร ส่งิ พิมพ์ สื่อ เอกสาร ส่ิงพมิ พ์ สื่อ แหล่งเรียนรทู้ ้ังภายในและ เทคโนโลยี แหล่ง เทคโนโลยแี ละ เทคโนโลยแี ละ ภายนอกโรงเรียน และ เรียนรู้ทัง้ ภายในและ สารสนเทศ แหลง่ สารสนเทศ แหล่ง เลือกใชส้ ือ่ ไดอ้ ยา่ ง ภายนอกโรงเรียน เรียนรทู้ ้ังภายในและ เรยี นรู้ท้ังภายในและ เหมาะสม เลือกใช้สอ่ื ไดอ้ ย่าง ภายนอกโรงเรียน ภายนอกโรงเรยี น 4.2.2 บนั ทึกความรู้ เหมาะสม และมีการ และเลือกใช้ส่อื ได้ เลอื กใชส้ ่ือไดอ้ ย่าง วิเคราะหข์ อ้ มลู จากส่งิ ที่ บันทึกความรู้ อย่างเหมาะสม มี เหมาะสม มกี าร เรียนรู้ สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ การบันทึกความรู้ บนั ทึกความรู้ 4.2.3 แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ วิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ขอ้ มลู สรปุ ดว้ ยวิธีการต่างๆ และ สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ เป็นองคค์ วามร้แู ละ นำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั และแลกเปลีย่ น แลกเปล่ียนเรยี นรู้ด้วย เรียนรกู้ บั ผ้อู ืน่ ได้ วิธีการท่หี ลากหลาย และนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้

39 เกณฑพ์ ิจารณาสรปุ ผลการประเมนิ ระดับ เกณฑก์ ารพจิ ารณา 1. ได้ผลการประเมินระดับดีเย่ียมทุกตวั ชี้วัด หรือ ดีเย่ียม (3) 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดเี ยย่ี มและดี ระดบั ละ 1 ตัวชว้ี ัด ดี (2) 1. ได้ผลการประเมนิ ระดับดี ทกุ ตัวชวี้ ดั หรอื 2. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดเี ยี่ยมและระดับผ่าน ระดบั ละ 1 ตัวชี้วัด 1. ไดผ้ ลการประเมินระดับผา่ น ทกุ ตัวชี้วัด หรอื ผา่ น (1) 2. ได้ผลการประเมินระดบั ดีและระดับผา่ น ระดบั ละ 1 ตวั ชีว้ ดั ไม่ผ่าน (0) มผี ลการประเมนิ ตวั ชี้วดั ข้อใดข้อหนึ่งได้ระดบั ไมผ่ า่ น ข้อที่ 5 อยู่อย่างพอเพียง หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มคี ณุ ธรรม มภี มู ิค้มุ กนั ในตวั ที่ดแี ละปรับตัวเพื่อยู่ในสงั คมได้อย่างมคี วามสุข ผู้ท่ีอยู่อย่างพอเพียง คือ ผู้ท่ีดำเนินชีวิตอย่างประมาณตนมีเหตุผล รอบคอบ ระมัดระวัง อยู่ร่วมกับ ผอู้ ื่นด้วยความรับผิดชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อ่ืน เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่าง ๆ มีการวางแผนป้องกันความเสี่ยง และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ตัวช้ีวัด 5.1 ดำเนนิ ชวี ติ อยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มคี ุณธรรม 5.2 มีภูมิคุ้มกนั ในตวั ที่ดี ปรับตวั เพื่อยใู่ นสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ตัวชี้วัด พฤติกรรมบง่ ชี้ 5.1 ดำเนินชีวติ อยา่ งพอประมาณ 5.1.1 ใชท้ รพั ย์สินของตนเอง เช่น เงิน สิ่งของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด ค้มุ คา่ มเี หตผุ ล รอบคอบ มีคณุ ธรรม และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี รวมทั้งการใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม 5.1.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รักษาดูแลอย่างดี 5.1.3 ปฏิบตั ติ นและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล 5.1.4 ไมเ่ อาเปรียบผ้อู ่นื และไมท่ ำใหผ้ อู้ ื่นเดือนร้อน พร้อมใหอ้ ภยั เมอ่ื ผู้อน่ื กระทำ ผิดพลาด 5.2 มีภูมคิ ุ้มกนั ในตวั ที่ดี ปรบั ตัว 5.2.1 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชีวติ ประจำวันบนพ้ืนฐานของความรู้ เพอ่ื ยูใ่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ ขอ้ มูล ขา่ วสาร 5.2.2 รู้เทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรบั ตวั อยู่ ร่วมกบั ผ้อู ื่นไดอ้ ย่างมีความสุข

40 ตวั ชี้วัดท่ี 5.1 ดำเนนิ ชวี ติ อยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มคี ณุ ธรรม พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม (3) 5.1.1 ใชท้ รัพย์สนิ ของ ใช้เงินและของใช้ ใชท้ รพั ย์สินของ ใชท้ รัพยส์ นิ ของตนเอง ใชท้ รัพย์สินของ ตนเอง เช่น เงิน สง่ิ ของ ส่วนตัวอยา่ งไม่ ตนเองและ และทรัพยากรของ ตนเองและ เครื่องใช้ ฯ อยา่ งประหยัด ประหยดั ทรัพยากรของ ส่วนรวม อย่าง ทรพั ยากรของ คุม้ คา่ และเกบ็ รักษาดแู ลอยา่ งดี สว่ นรวมอยา่ ง ประหยัด คุม้ ค่า เกบ็ ส่วนรวม อยา่ ง รวมทั้งการใช้เวลาอยา่ ง ประหยดั คุ้มคา่ รกั ษาดูแลอย่างดี ประหยัด คุม้ ค่า เหมาะสม เก็บรักษาดูแล รอบคอบ มีเหตุผล ไม่ เกบ็ รกั ษาดูแลอยา่ ง 5.1.2 ใชท้ รัพยากรของส่วน อย่างดี รอบคอบ เอาเปรยี บผู้อน่ื และไม่ ดี รอบคอบ มี รวมอยา่ งประหยดั คุ้มค่าและ มีเหตผุ ล ทำให้ผ้อู ่นื เดือดรอ้ น เหตุผล ไม่เอา เก็บรักษาดูแลอยา่ งดี เปรียบผู้อ่ืนและไม่ 5.1.3 ปฏบิ ตั ิตนและ ทำใหผ้ ู้อ่ืเดอื ดร้อน ตดั สนิ ใจด้วยความ และให้อภัยเมือ่ ผู้อืน่ รอบคอบ มเี หตุผล กระทำผดิ พลาด 5.1.4 ไม่เอาเปรียบผู้อื่นและไม่ ทำให้ผู้อืน่ เดอื นร้อนพร้อมให้ อภยั เม่อื ผู้อนื่ กระทำผิดพลาด ตวั ชวี้ ัดท่ี 5.2 มีภูมิคุ้มกนั ในตัวทด่ี ี ปรับตัวเพอ่ื ยู่ในสงั คมได้อยา่ งมคี วามสุข พฤติกรรมบง่ ช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ย่ียม (3) 5.2.1 วางแผนการเรียน ไมว่ างแผนการ ใชค้ วามรู้ ขอ้ มูล ใช้ความรู้ ขอ้ มูล ใช้ความรู้ ข้อมลู การทำงาน และการใช้ เรียนและการใช้ ข่าวสาร ในการวาง ขา่ วสาร ในการวาง ข่าวสารในการวาง ชวี ติ ประจำวนั บนพ้ืนฐาน ชีวติ ประจำวัน แผนการเรียน การ แผนการเรยี น การ แผนการเรียน การ ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ทำงานและใช้ใน ทำงานและใชใ้ น ทำงานและใชใ้ น 5.2.2 ร้เู ท่าทนั การ ชวี ิตประจำวนั รับรู้ ชวี ิตประจำวัน ชวี ติ ประจำวัน เปล่ยี นแปลงของสงั คม และ การเปล่ยี นแปลงของ ยอมรับการ ยอมรับการ สภาพแวดลอ้ ม ยอมรับ ครอบครวั ชมุ ชน เปลยี่ นแปลงของ เปล่ยี นแปลงของ และปรบั ตัวอยู่รว่ มกบั ผูอ้ ื่นได้ และสภาพแวดล้อม ครอบครวั ชมุ ชน ครอบครัว ชุมชน อยา่ งมีความสุข สังคมและ สงั คม สภาพ สภาพแวดลอ้ ม แวดล้อมและปรบั ตวั อยูร่ ว่ มกบั ผอู้ ื่นได้ อยา่ งมีความสขุ เกณฑ์พิจารณาสรุปผลการประเมนิ ระดับ เกณฑก์ ารพจิ ารณา ๑. ได้ผลการประเมินระดบั ดเี ยี่ยม ทุกตัวชวี้ ัด หรือ ดีเยี่ยม (3) ๒. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดีเย่ียมและดี ระดับละ 1 ตัวชี้วัด ดี (2) ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดับดี ทกุ ตัวชี้วดั หรือ ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเย่ียมและระดับผ่านระดับละ1 ตวั ช้ีวัด ๑. ได้ผลการประเมินระดบั ผ่าน ทุกตัวชว้ี ดั หรือ ผ่าน (1) ๒. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดแี ละระดบั ผา่ น ระดบั ละ ตวั ชว้ี ดั ไม่ผา่ น (0) มีผลการประเมินตวั ช้ีวดั ขอ้ ใดข้อหนงึ่ ไดร้ ะดบั ไมผ่ ่าน

41 ขอ้ ที่ 6 มุ่งม่ันในการทำงาน หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความตั้งใจและรับผิดชอบในการทำ หนา้ ทก่ี ารงาน ดว้ ยความเพียรพยายาม อดทน เพอ่ื ให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย ผู้มุ่งม่ันในการทำงาน คือผู้ที่มีลักษณะซึ่งแสดงออกถึงความต้ังใจปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วย ความเพียรเพียรพยายาม ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่ กำหนดดว้ ยความรบั ผิดชอบและมีความภาคภูมิใจในผลงาน ตวั ชี้วัด 6.1 ตัง้ ใจและรับผิดชอบหนา้ ทีก่ ารทำงาน 6.2 ทำงานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพ่ือให้งานสำเร็จตามเปา้ หมาย ตัวช้วี ดั พฤติกรรมบง่ ชี้ 6.1 ตั้งใจและรับผิดชอบหน้าทก่ี าร 6.1.1 เอาใจใสต่ ่อการ ปฏิบัติหนา้ ทท่ี ี่ ได้รับมอบหมาย ทำงาน 6.1.2 ตั้งใจและรับผดิ ชอบใน การทำงานให้ สำเร็จ 6.1.3 ปรับปรงุ และ พัฒนาการทำงานด้วยตนเอง 6.2 ทำงานดว้ ยความเพียรพยายามและ 6.2.1 ทมุ่ เททำงาน อดทน ไม่ยอ่ ท้อต่อปญั หาและ อดทนเพื่อใหง้ านสำเร็จตามเปา้ หมาย อปุ สรรคในการทำงาน 6.2.2 พยายามแก้ปัญหาและอปุ สรรคในการทำงานให้สำเรจ็ 6.2.3 ช่นื ชมผลงานดว้ ยความภาคภูมิใจ ตัวชีว้ ัดที่ 6.1 ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั หิ น้าทกี่ ารงาน ดี (2) ดีเย่ียม (3) พฤติกรรมบง่ ชี้ ไม่ผา่ น (0) ผ่าน (1) ตั้งใจและรับผดิ ชอบ ต้ังใจและรับผิดชอบ 6.1.1 เอาใจใส่ตอ่ การปฏิบัติ ไม่ต้งั ใจปฏบิ ตั ิ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ีท่ี ในการปฏบิ ตั ิหน้าท่ที ี่ หน้าทท่ี ่ี ไดร้ บั มอบหมาย หน้าท่ีการงาน ในการปฏิบตั หิ นา้ ทที่ ี่ ไดร้ ับมอบหมายให้ ไดร้ ับมอบหมายให้ 6.1.2 ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบ ไดร้ ับมอบหมายให้ สำเรจ็ มีการ สำเร็จ มีการ ใน การทำงานให้ สำเร็จ สำเร็จ มกี ารปรบั ปรุง ปรับปรงุ และ ปรับปรงุ และ 6.1.3 ปรบั ปรงุ และพัฒนา การทำงานใหด้ ขี ึ้น พัฒนาการทำงานให้ พฒั นาการทำงานให้ การทำงานด้วยตนเอง ดขี น้ึ ดขี ึน้ ด้วยตนเอง ตวั ชวี้ ัดที่ 6.2 ทำงานดว้ ย ความเพียรพยายาม และอดทนเพื่อใหง้ านสำเรจ็ ตามเป้าหมาย พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยยี่ ม (3) 6.2.1 ทุม่ เททำงาน อดทน ไม่ขยนั อดทน ทำงานดว้ ยความ ทำงานด้วยความ ทำงานด้วยความ ไมย่ ่อทอ้ ตอ่ ปัญหา และ ในการทำงาน ขยัน อดทน และ ขยนั อดทน และ ขยันอดทน และ อปุ สรรคในการทำงาน พยายามใหง้ าน พยายามใหง้ าน พยายามใหง้ าน 6.2.2 พยายามแกป้ ัญหา สำเรจ็ ตามเป้าหมาย สำเร็จตามเปา้ หมาย สำเร็จตามเปา้ หมาย แลอุปสรรคในการทำงานให้ และช่นื ชมผลงาน ไม่ยอ่ ท้อตอ่ ปญั หาใน ภายในเวลาทกี่ ำหนด สำเร็จ ด้วยความภาคภมู ิใจ การทำงาน และชน่ื ไม่ย่อทอ้ ต่อปัญหา 6.2.3 ช่นื ชมผลงานดว้ ย ชมผลงานด้วยความ อปุ สรรคในการ ความภาคภมู ิใจ ภาคภมู ิใจ ทำงาน และชืน่ ชม ผลงานด้วยความ ภาคภูมใิ จ

42 เกณฑ์พจิ ารณาสรุปผลการประเมิน ระดับ เกณฑ์การพิจารณา 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดเี ยยี่ ม ทุกตวั ชี้วัด หรอื ดีเยีย่ ม (3) 2. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีเย่ียมและดี ระดบั ละ 1 ตัวชว้ี ดั ดี (2) 1. ไดผ้ ลการประเมินระดับดี ทุกตัวชว้ี ัด หรือ 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเย่ยี มและระดบั ผา่ น ระดับละ 1 ตัวช้ีวัด 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ผา่ น ทุกตัวชี้วัด หรอื ผา่ น (1) 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีและระดบั ผ่าน ระดับละ 1 ตัวชวี้ ดั ไม่ผ่าน (0) มีผลการประเมินตัวชว้ี ดั ข้อใดขอ้ หนง่ึ ได้ระดับไมผ่ ่าน ข้อที่ 7 รักความเป็นไทย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่าร่วม อนุรักษ์ สืบทอดภูมิปญั ญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้ อย่างถูกต้องและเหมาะสม ผู้ท่ีรักความเป็นไทย คือ ผู้ท่ีมีความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ช่ืนชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สืบทอด เผยแพร่ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวฒั นธรรมไทย มีความกตัญญูกตเวที ใช้ภาษาไทย ในการสือ่ สารอย่างถูกต้องเหมาะสม ตัวชี้วัด 7.1 ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะและวฒั นธรรมและมีความกตญั ญูกตเวที 7.2 เห็นคณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม 7.3 อนุรกั ษ์ และสบื ทอดภูมปิ ญั ญาไทย ตัวชี้วัด พฤติกรรมบง่ ช้ี 7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียม 7.1.1 แต่งกายและมมี ารยาทงดงามแบบไทย มสี มั มาคารวะ กตญั ญูกตเวทตี ่อ ประเพณี ศิลปะและวฒั นธรรมและมี ผู้มีพระคุณ ความกตัญญกู ตเวที 7.1.2 ร่วมกจิ กรรมทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับประเพณศี ิลปะ และวัฒนธรรม 7.1.3 ชักชวนแนะนำใหผ้ ูอ้ ืน่ ปฏบิ ตั ิตามขนบธรรมเนียมประเพณีศิลปะ และ วัฒนธรรม 7.2 เห็นคณุ ค่าและใชภ้ าษาไทยในการ 7.2.1 ใชภ้ าษาไทยและเลขไทยในการสื่อสารไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม ส่อื สารไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม 7.2.2 ชกั ชวน แนะนำให้ผอู้ ื่นเหน็ คุณค่าของการใชภ้ าษาไทยทถี่ ูกต้อง 7.3 อนุรกั ษ์และสบื ทอดภมู ิปัญญาไทย 7.3.1 นำภมู ปิ ัญญาไทยมาใชใ้ หเ้ หมาะสมในวถิ ชี ีวิต

43 ตวั ชว้ี ัด 7.1 ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวฒั นธรรมและมคี วามกตัญญูกตเวที พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยี่ยม (3) 7.1.1 แตง่ กายและ ไมม่ ีสมั มาคารวะ ปฏบิ ตั ิตนเป็นผ้มู ี ปฏบิ ัตติ นเป็นผมู้ ี ปฏบิ ัติตนเป็นผูม้ ีมารยาท มีมารยาทงดงาม ตอ่ ผใู้ หญ่ มารยาทแบบไทยมี มารยาทแบบไทย มี แบบไทย มีสมั มาคารวะ แบบไทย สัมมาคารวะ กตญั ญู สมั มาคารวะ กตญั ญู กตญั ญกู ตเวทีต่อผผู้ มู้ ีพระคณุ มีสมั มาคารวะ กตเวทีตอ่ ผู้มีพระคณุ กตเวทีต่อผผู้ ู้มี แต่งกายแบบไทยดว้ ยความ กตัญญูกตเวทีตอ่ ผู้มี และแตง่ กายแบบไทย พระคุณ และแตง่ ภาคภูมิใจเข้ารว่ ม หรอื มี พระคุณ เขา้ รว่ มหรอื มีส่วน กายแบบไทยด้วย สว่ นร่วมในการจัดกจิ กรรมท่ี 7.1.2 รว่ ม ร่วม ในกิจกรรมท่ี ความภาคภูมิใจเข้า เกยี่ วขอ้ งกบั ประเพณี ศิลปะ กิจกรรมท่เี กี่ยวขอ้ ง เกยี่ วขอ้ งกับประเพณี รว่ ม หรอื มสี ่วนรว่ ม และวัฒนธรรมไทย ชักชวน กบั ประเพณศี ิลปะ ศลิ ปะ และ ในกิจกรรมที่เกยี่ วข้อง แนะนำเพ่อื น และคนอนื่ และวฒั นธรรม วฒั นธรรมไทย กบั ประเพณี ศิลปะ ปฏิบัตติ ามขนบธรรมเนยี ม 7.1.3 ชกั ชวน และวัฒนธรรมไทย ประเพณี ศลิ ปะ และ แนะนำใหผ้ ู้อ่ืนปฏิบัติ วัฒนธรรมไทย ตามขนบธรรมเนียม ประเพณศี ลิ ปะ และ วัฒนธรรม ตวั ชว้ี ัด 7.2 เหน็ คณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการสือ่ สารไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ย่ยี ม (3) 7.2.1 ใช้ภาษาไทย ไมส่ นใจใชภ้ าษาไทย ใช้ภาษาไทยเลขไทย ใช้ภาษาไทย เลขไทย ใชภ้ าษาไทย เลขไทยในการ และเลขไทยในการ อยา่ งถกู ตอ้ ง ในการสื่อสารได้ ในการส่ือสารได้ ส่อื สารไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม ส่ือสารไดอ้ ยา่ ง ถูกต้องเหมาะสม ถกู ตอ้ งเหมาะสม และแนะนำ ชกั ชวนให้ผอู้ ่ืน ถกู ต้องเหมาะสม และแนะนำให้ผ้อู ่นื และแนะนำ ชักชวน ใช้ภาษาไทยท่ีถูกตอ้ งเปน็ 7.2.2 ชักชวน ใชภ้ าษาไทยท่ี ใหผ้ ้อู ื่นใชภ้ าษาไทยที่ ประจำ เปน็ แบบอย่างทดี่ ี แนะนำ ให้ผูอ้ นื่ เหน็ ถูกตอ้ ง ถูกต้อง ด้านการใช้ภาษาไทย คณุ ค่าของการใช้ ภาษาไทยทีถ่ กู ต้อง ตัวชวี้ ัด 7.3 อนรุ ักษแ์ ละสบื ทอดภมู ปิ ัญญาไทย ดีเยยี่ ม (3) พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) 7.3.1 นำภูมิ ไมส่ นใจภูมิปัญญา สืบคน้ ภมู ิปัญญาไทย สบื ค้นภมู ิปัญญาไทยที่ สืบค้นภูมิปัญญาไทย เขา้ ปัญญาไทยมาใชใ้ ห้ ไทย ท่ใี ช้ในทอ้ งถิน่ เข้า มอี ยู่ในท้องถนิ่ เข้ารว่ ม รว่ ม และชกั ชวนคนใน เหมาะสมในวถิ ชี ีวิต รว่ ม และชกั ชวนคน และชักชวนคนใน ครอบครัว เพื่อน และผู้อนื่ 7.3.2 ร่วม ในครอบครวั หรอื ครอบครวั เพ่ือน และ เข้ารว่ มกจิ กรรมทเี่ กย่ี วข้อง กจิ กรรมที่เกี่ยวขอ้ ง เพอื่ นเขา้ ร่วมกิจกรรม ผ้อู ่นื เขา้ ร่วมกิจกรรมที่ กบั ภมู ิปัญญาไทย ใชแ้ ละ กับภมู ปิ ัญญาไทย ทเ่ี ก่ยี วข้องกบั ภมู ิ เกี่ยวขอ้ งกับภูมิปญั ญา แนะนำใหเ้ พ่ือนใชภ้ มู ปิ ัญญา 7.3.3 แนะนำ มี ปัญญาไทยใน ไทย ใช้และแนะนำให้ ไทยในชีวิตประจำวันและมี ส่วนรว่ มในการสืบ ชีวติ ประจำวัน เพื่อนใชภ้ ูมิปญั ญาไทย สว่ นรว่ มในการสืบทอดภูมิ ทอดภมู ปิ ัญญาไทย ในชีวติ ประจำวนั ปัญญาไทย

44 เกณฑพ์ ิจารณาสรปุ ผลการประเมนิ ระดบั เกณฑก์ ารพิจารณา 1. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเยี่ยม ทุกตัวชวี้ ดั หรอื ดเี ยย่ี ม (3) 2. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเย่ียม จำนวน 2 ตวั ชี้วัด และ ไม่มผี ลการประเมินตวั ชี้วดั ใดต่ำกว่าระดับผ่าน 1. ไดผ้ ลการประเมินระดับ 2 ทุกตวั ชีว้ ัด หรือ ดี (2) 2. ได้ผลการประเมินระดบั ดเี ยย่ี ม จำนวน 1 ตวั ชว้ี ัด และ ไมม่ ีผลการประเมนิ ตัวชีว้ ดั ใดตำ่ กว่าระดับผ่าน 1. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ผ่าน ทุกตัวช้ีวัด หรอื ผ่าน (1) 2. ไดผ้ ลการประเมินระดับดี และไมม่ ผี ลการประเมนิ ตัวชีว้ ดั ใดตำ่ กว่าระดับผา่ น ไมผ่ า่ น (0) มีผลการประเมนิ ตัวช้วี ัดขอ้ ใดข้อหนงึ่ ไดร้ ะดับ ไม่ผา่ น ข้อท่ี 8 มีจิตสาธารณะ หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือ สถานการณ์ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อ่ืน ชุมชนและสังคม ด้วยความเต็มใจ กระตือรือร้น โดยไม่หวัง ผลตอบแทน ผู้ที่มีจิตสาธารณะ คือผู้ท่ีมีลักษณะเป็นผู้ให้และช่วยเหลือผู้อ่ืน แบ่งปันความสุขส่วนตนเพ่ือทำ ประโยชน์แก่สว่ นรวม เขา้ ใจ เหน็ ใจผทู้ ี่มคี วามเดือดร้อน อาสาช่วยเหลือสังคม อนุรักษ์สงิ่ แวดล้อมดว้ ยแรงกาย สติปัญญา ลงมือปฏิบัติเพ่ือแก้ปัญหา ลงมือปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา หรือร่วมสร้างสรรค์ส่ิงที่ดีงามให้เกิดในชุมชน โดยไมห่ วังส่ิงตอบแทน ตัวชวี้ ัด 8.1 ชว่ ยเหลือผอู้ นื่ ดว้ ยความเตม็ ใจโดยไมห่ วงั ผลตอบแทน 8.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชมุ ชนและสังคม ตัวชีว้ ัด พฤตกิ รรมบ่งช้ี 8.1 ชว่ ยเหลือผอู้ น่ื ดว้ ยความเตม็ ใจ 8.1.1 ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทำงานด้วยความเตม็ ใจ โดยไมห่ วังผลตอบแทน 8.1.2 อาสาทำงานใหผ้ ูอ้ นื่ ด้วยกำลังกาย กำลงั ใจ และ กำลงั สตปิ ญั ญา ดว้ ยความสมัครใจ 8.1.3 แบง่ ปนั ส่งิ ของทรัพยส์ นิ และอน่ื ๆและชว่ ยแก้ปญั หา หรือสร้างความสุขให้กับผอู้ นื่ 8.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทเี่ ปน็ 8.2.1 ดแู ลรกั ษา สาธารณะสมบตั ิ และสง่ิ แวดลอ้ มด้วยความเตม็ ใจ ประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชมุ ชน และ 8.2.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทีเ่ ปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรียน ชุมชน และสังคม สงั คม 8.2.3 เข้าร่วมกจิ กรรมเพอ่ื แกป้ ัญหาหรือร่วมสรา้ งสงิ่ ท่ดี ีงามของ ส่วนรวมตามสถานการณ์ท่ีเกดิ ข้นึ ดว้ ยความกระตือรอื ร้น

45 ตัวชี้วัด 8.1 ช่วยเหลือผู้อ่ืนด้วยความเตม็ ใจโดยไมห่ วังผลตอบแทน พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ย่ียม (3) 8.1.1 ชว่ ยพ่อแม่ ไมช่ ว่ ยเหลอื ชว่ ยพ่อแม่ ช่วยพ่อแม่ ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครองและ ผู้ปกครองและครู พ่อแม่ ผูป้ กครองและครู ผู้ปกครองและครู ครู ทำงาน อาสาทำงาน ทำงานดว้ ยความเต็ม ผูป้ กครอง ทำงาน อาสา ทำงาน อาสา ช่วยคิด ช่วยทำ แบง่ ปนั ใจ และครู ทำงานและ ทำงาน ชว่ ยคิด ส่งิ ของและช่วยแก้ปัญหา 8.1.2 อาสาทำงาน แบง่ ปันสิง่ ของให้ ช่วยทำและ ให้ผ้อู ืน่ ดว้ ยความเตม็ ใจ ให้ผ้อู นื่ ดว้ ยกำลงั กาย ผูอ้ ่นื ดว้ ยความ แบ่งปนั สิ่งของให้ กำลังใจและ เตม็ ใจ ผอู้ ื่นดว้ ยความ กำลงั สตปิ ัญญา ดว้ ย เต็มใจ ความสมคั รใจ 8.1.3 แบ่งปัน สงิ่ ของทรพั ย์สนิ และอื่น ๆ และชว่ ย แกป้ ัญหา หรอื สร้าง ความสุขให้กบั ผูอ้ น่ื ตวั ชวี้ ัด 8.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ ป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชมุ ชนและสังคม ดีเยยี่ ม (3) พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) 8.2.1 ดูแลรักษา ไม่สนใจดูแล ดูแลรกั ษาทรัพย์ ดแู ลรักษาทรัพย์ ดแู ลรกั ษาทรัพยส์ มบัติ สาธารณะสมบัติและ รกั ษา สมบตั ิ ส่งิ แวดล้อม สมบัติ ส่ิงแวดล้อม สิ่งแวดล้อมของหอ้ งเรียน สง่ิ แวดลอ้ มด้วยความเตม็ ทรัพยส์ ินและ ของหอ้ งเรียน ของห้องเรียน โรงเรยี น ชุมชน และเขา้ รว่ ม ใจ ส่ิงแวดลอ้ ม โรงเรยี น และเขา้ โรงเรยี น ชมุ ชน และ กิจกรรมเพอ่ื สังคมและ 8.2.2 เข้าร่วม ของโรงเรยี น ร่วมกจิ กรรมเพอ่ื เขา้ ร่วมกิจกรรมเพอื่ สาธารณะประโยชน์ของ กิจกรรมทีเ่ ป็นประโยชน์ สังคมและ สงั คมและสาธารณะ โรงเรยี นด้วยความเตม็ ใจ ต่อโรงเรยี น ชมุ ชนและ สาธารณะ ประโยชนข์ อง สงั คม ประโยชน์ของ โรงเรียนดว้ ยความ 8.2.3 เข้ารว่ มกจิ กรรม โรงเรียนด้วยความ เต็มใจ เพ่อื แก้ปญั หาหรือร่วม เต็มใจ สร้างสง่ิ ทีด่ ีงามของ สว่ นรวมตามสถานการณ์ ทเ่ี กดิ ขึ้นดว้ ยความ กระตือรอื รน้

46 เกณฑพ์ จิ ารณาสรปุ ผลการประเมิน ระดบั เกณฑก์ ารพจิ ารณา 1. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดเี ยีย่ ม ทุกตวั ช้ีวัด หรอื ดเี ยี่ยม (3) 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดเี ยี่ยมและดี ระดับละ 1 ตัวช้ีวดั ดี (2) 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี ทุกตัวช้ีวัด หรือ 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดเี ยี่ยมและระดับผา่ นระดับละ 1 ตัวชว้ี ัด 1. ไดผ้ ลการประเมินระดับผ่าน ทกุ ตัวช้ีวัด หรือ ผา่ น (1) 2. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดแี ละระดับผา่ น ระดับละ 1 ตัวชี้วดั ไม่ผา่ น (0) มผี ลการประเมินตวั ชว้ี ดั ขอ้ ใดข้อหน่งึ ได้ระดบั ไม่ผา่ น เกณฑ์พิจารณาสรปุ ผลการประเมินรวมทุกคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ รายภาค ระดับ เกณฑ์การพิจารณา 1. ได้ผลการประเมินระดบั ดีเยีย่ ม จำนวน 5-8 คณุ ลักษณะและไมม่ ีคุณลกั ษณะใด ดีเยี่ยม (3) ไดผ้ ลการประเมนิ ต่ำกว่าระดบั ดี 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั เยี่ยม จำนวน 1 - 4 คณุ ลักษณะและไม่มคี ณุ ลกั ษณะใดได้ผล การประเมินตำ่ กว่าระดบั ดี หรอื 2. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเยีย่ มจำนวน 4 คณุ ลักษณะและไม่มีคุณลกั ษณะใดไดผ้ ล ดี (2) การประเมินตำ่ กว่าระดบั ผ่านหรือ 3. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับ ดี จำนวน 5 – 8 คณุ ลกั ษณะและไม่มีคณุ ลักษณะใดได้ผล การประเมินตำ่ กวา่ ระดบั ผ่าน 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ผ่าน จำนวน 5 – 8 คุณลกั ษณะและไมม่ ีคุณลกั ษณะใด ได้ผลการประเมินตำ่ กวา่ ระดับผา่ น หรือ ผา่ น (1) 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดี จำนวน 4 คุณลกั ษณะและไมม่ คี ุณลกั ษณะใดไดผ้ ลการ ประเมินต่ำกวา่ ระดบั ผา่ น ไมผ่ ่าน (0) ได้ผลการประเมินระดับไม่ผา่ น ตั้งแต่ 1 คณุ ลักษณะ เกณฑพ์ ิจารณาสรุปผลการประเมินรวมทุกคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับ เกณฑก์ ารพจิ ารณา 1. ได้ผลการประเมนิ ระดับดเี ย่ยี ม จำนวน 5-8 คุณลกั ษณะ และไม่มคี ุณลักษณะใด ดเี ยี่ยม (3) ไดผ้ ลการประเมินตำ่ กวา่ ระดับดี 1. ไดผ้ ลการประเมินระดบั เยีย่ ม จำนวน 1-4 คณุ ลกั ษณะและไมม่ คี ณุ ลกั ษณะใดได้ผล การประเมนิ ตำ่ กว่าระดบั ดี หรอื 2. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเยี่ยมจำนวน 4 คณุ ลักษณะและไมม่ คี ณุ ลกั ษณะใดได้ผลการ ดี (2) ประเมนิ ตำ่ กวา่ ระดับ ผา่ นหรือ 3. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับ ดี จำนวน 5 – 8 คณุ ลกั ษณะและไม่มีคุณลกั ษณะใดได้ผล การประเมินตำ่ กว่าระดบั ผ่าน 1. ไดผ้ ลการประเมินระดับผา่ น จำนวน 5 – 8 คณุ ลักษณะและไม่มคี ุณลกั ษณะใดไดผ้ ล การประเมนิ ต่ำกวา่ ระดบั ผ่าน หรอื ผา่ น (1) 2. ได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน 4 คุณลกั ษณะและไมม่ ีคุณลักษณะใดไดผ้ ลการ ประเมนิ ต่ำกว่าระดับ ผา่ น ไมผ่ ่าน (0) ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับไมผ่ ่าน ตั้งแต่ 1 คณุ ลักษณะ