Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดสายลำโพงใต้ พุทธศักราช 2564 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดสายลำโพงใต้ พุทธศักราช 2564 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Description: เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดสายลำโพงใต้ พุทธศักราช 2564 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Search

Read the Text Version

97 แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ช่ือ.......................................................นามสกุล....................................................เลขที่..............ชน้ั ................... คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี น และขดี  ลงในช่องทีต่ รงกับคะแนน ระดับคณุ ภาพ สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ดเี ยี่ยม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น (3) (2) (1) (0) 1. ความสามารถ 1.1 มีความสามารถในการรับ-สง่ สาร ในการส่อื สาร 1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ ของตนเอง โดยใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม 1.3 ใช้วิธีการสื่อสารทีเ่ หมาะสม มปี ระสิทธภิ าพ 1.4 เจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลดปัญหาความขดั แย้งต่าง ๆ ได้ 1.5 เลอื กรับและไม่รบั ข้อมูลข่าวสารดว้ ยเหตผุ ลและถกู ตอ้ ง สรุปผลการประเมนิ รวม .......... คะแนน ระดับ ............... 2. ความสามารถ 2.1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ ในการคิด 2.2 มีทักษะในการคดิ นอกกรอบอยา่ งสร้างสรรค์ 2.3 สามารถคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ 2.4 มีความสามารถในการสร้างองค์ความรู้ 2.5 ตดั สินใจแก้ปญั หาเก่ียวกบั ตนเองได้อยา่ งเหมาะสม สรุปผลการประเมนิ รวม .......... คะแนน ระดับ ............... 3. ความสามารถ 3.1 สามารถแก้ปัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ ทเ่ี ผชิญได้ ในการแกป้ ญั หา 3.2 ใชเ้ หตุผลในการแก้ปัญหา 3.3 เขา้ ใจความสมั พันธแ์ ละการเปลี่ยนแปลงในสังคม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรูม้ าใช้ในการปอ้ งกนั และแก้ไข ปญั หา 3.5 สามารติดสินใจไดเ้ หมาะสมตามวยั สรุปผลการประเมิน รวม .......... คะแนน ระดับ ............... 4. ความสามารถ 4.1 เรียนร้ดู ้วยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวัย ในการใช้ทกั ษะ 4.2 สามารถทำงานกลุ่มรว่ มกับผอู้ ่ืนได้ ชีวติ 4.3 นำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวัน 4.4 จัดการปญั หาและความขดั แย้งได้เหมาะสม 4.5 หลีกเล่ยี งพฤตกิ รรมไม่พงึ ประสงคท์ ่สี ่งผลกระทบตอ่ ตนเอง สรุปผลการประเมิน รวม .......... คะแนน ระดับ ............... 5. ความสามารถ 5.1 เลือกและใช้เทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวยั ในการใช้ 5.2 มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เทคโนโลยี 5.3 สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้พัฒนาตนเอง 5.4 ใชเ้ ทคโนโลยีในการแก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์

98 สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 5.5 มีคณุ ธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี ดเี ยีย่ ม ดี ผา่ น ไมผ่ ่าน สรุปผลการประเมิน (3) (2) (1) (0) ระดบั คณุ ภาพตามเกณฑก์ ารประเมินในหลักสูตรรายชน้ั รวม .......... คะแนน ระดับ ............... ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ

99 3. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ การประเมนิ ผลคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ประเมินโดยใชแ้ บบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยกำหนดเกณฑใ์ นการประเมิน ดงั นี้ ระดับคณุ ภาพ ความหมาย (3) ผู้เรียนปฏบิ ตั ติ นตามคณุ ลักษณะจนเป็นนสิ ัยและนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันเพ่อื ประโยชน์สขุ ของตนเองและสังคม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมนิ ท้ัง 8 ดีเยี่ยม คุณลกั ษณะ คอื ไดร้ ะดับ 3 จำนวน 5-8 คุณลักษณะ และไมม่ คี ุณลักษณะใดไดผ้ ล การประเมินต่ำกวา่ ระดบั 2 (2) ผู้เรียนมคี ุณลักษณะในการปฏิบตั ิตามเกณฑ์ เพื่อใหเ้ ปน็ ท่ียอมรับของสงั คม ดี โดยพิจารณาจาก (1) 1. ได้ผลการประเมินระดบั 3 จำนวน 1-4 คุณลกั ษณะ และไม่มีคุณลกั ษณะใด ผ่าน ไดผ้ ลการประเมินตำ่ กวา่ ระดับ 2 หรือ (0) 2. ไดผ้ ลการประเมินระดบั 3 จำนวน 4 คณุ ลักษณะ และไม่มีคุณลกั ษณะใด ไม่ผา่ น ได้ผลการประเมนิ ต่ำกวา่ ระดับ 1 หรือ 3. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับ 2 จำนวน 5-8 คณุ ลักษณะ และไม่มคี ณุ ลกั ษณะใด ไดผ้ ลการประเมนิ ต่ำกวา่ ระดับ 1 ผเู้ รยี นรบั ร้แู ละปฏิบตั ติ ามกฎเกณฑ์ และเง่ือนไขทสี่ ถานศึกษากำหนด โดยพิจารณาจาก 1. ได้ผลการประเมินระดบั 1 จำนวน 5-8 คณุ ลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใด ไดผ้ ลการประเมนิ ต่ำกวา่ ระดับ 1 หรือ 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับ 2 จำนวน 4 คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใด ไดผ้ ลการประเมินตำ่ กว่าระดับ 1 ผเู้ รียนรับรูแ้ ละปฏิบัตไิ ด้ไมค่ รบตามกฎเกณฑ์และเง่ือนไขท่ีสถานศึกษากำหนด โดย พิจารณาจากผลการประเมนิ ระดับ 0 ตัง้ แต่ 1 คุณลักษณะขึ้นไป เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั บิ ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติบางครงั้ ให้ 0 คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติน้อยครงั้

100 แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ช่อื .......................................................นามสกลุ ....................................................เลขท่.ี .............ชั้น................... คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น และขีด  ลงในชอ่ งทต่ี รงกับคะแนน ระดับคณุ ภาพ สมรรถนะด้าน รายการประเมนิ ดีเย่ยี ม ดี ผ่าน ไมผ่ ่าน (3) (2) (1) (0) 1. รกั ชาติ ศาสน์ - ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ กษตั รยิ ์ - เข้ารว่ มกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็น ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น - เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถอื ปฏบิ ัตติ ามหลกั ศาสนา - เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กยี่ วกับสถาบันพระมหากษตั รยิ ต์ ามท่ี โรงเรียนจดั ขึน้ 2. ซ่ือสัตย์ สจุ รติ - ให้ข้อมลู ท่ีถกู ตอ้ ง และเป็นจรงิ - ปฏิบัตใิ นสง่ิ ทีถ่ กู ตอ้ ง 3. มีวนิ ัย รับผิดชอบ - ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของ ครอบครัว มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจำวนั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ - รู้จกั ใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบตั ิได้ - รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม - เช่ือฟงั คำสัง่ สอนของบิดา - มารดา โดยไม่โต้แย้ง - ต้ังใจเรียน 5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง - ใชท้ รพั ยส์ นิ และสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั - ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรคู้ ณุ คา่ - ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน 6. มุ่งมน่ั ในการทำงาน - มีความตัง้ ใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย - มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสำเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย - มีจิตสำนกึ ในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทย - เห็นคณุ คา่ และปฏิบตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 1. รูจ้ ักช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน 2. รู้จกั การดแู ลรักษาทรพั ย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของ ห้องเรยี นและโรงเรียน ระดับคณุ ภาพตามเกณฑก์ ารประเมินในหลักสตู รรายช้นั ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมิน

101 4. เกณฑก์ ารตดั สินผลการเรียน 4.1 เกณฑ์การตดั สนิ ระดับผลการเรียน ระดบั ผลการเรยี น ความหมาย ช่วงคะแนน 0 ผลการเรยี นต่ำกวา่ เกณฑ์ 0 - 49 1 ผลการเรียนผ่านเกณฑข์ น้ั ต่ำ 50 - 54 1.5 55 - 59 2 ผลการเรียนพอใช้ 60 - 64 2.5 ผลการเรยี นปานกลาง 65 - 69 3 ผลการเรียนคอ่ นข้างดี 70 - 74 3.5 75 - 79 4 ผลการเรยี นดี 80 - 100 ผลการเรยี นดมี าก ผลการเรยี นดีเยีย่ ม 4.2 เกณฑ์การตัดสนิ ผลการเรยี น ร และ มส. 4.2.1 ตัดสินผลการเรียน ร หมายถึง รอการตัดสินและยังตัดสินผลการเรียนไม่ไดเ้ นื่องจาก ผ้เู รยี นไม่มีข้อมูลผลการเรียน ในรายวชิ าครบถ้วน ไดแ้ ก่ ไม่ไดว้ ัดผลกลางภาคเรยี น/ปลายภาคเรยี น ไมไ่ ดส้ ง่ งาน ท่มี อบหมายใหท้ ำ ซึ่งงานนั้นเป็นสว่ นหน่งึ ของการตัดสนิ ผลการเรียน หรือมเี หตุ สุดวสิ ยั ท่ีทำให้ประเมินผลการเรยี นไม่ได้ 1.2.2 ตัดสินผลการเรยี น มส. หมายถงึ ผู้เรียนไมม่ ีสิทธเิ ข้ารับการวดั ผลปลายภาคเรียน เน่ืองจากผเู้ รยี นมเี วลาเรยี นไม่ถงึ ร้อยละ 80 ของเวลาเรียนท้ังหมด และไม่ได้รบั การผอ่ นผันให้เขา้ รบั การวัดผล ปลายภาคเรียน

102 5. การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละการเขียน เกณฑ์การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละการเขียน คะแนนเต็ม 20 คะแนน ระดับคุณภาพ ความหมาย ช่วงคะแนน ดเี ยี่ยม มผี ลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ 16 - 20 ดี และเขยี น ท่ีมีคณุ ภาพดเี ลิศอย่เู สมอ 13 - 15 ผา่ น มผี ลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์ 10 - 12 และเขียน ท่ีมีคุณภาพเป็นทย่ี อมรบั ได้ ไมผ่ ่าน มผี ลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวิเคราะห์ 0–9 และเขียน ที่มคี ุณภาพเปน็ ทยี่ อมรับได้ แตย่ งั มีข้อบกพรอ่ ง บางประการ ไม่มผี ลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน หรอื ถ้ามผี ลงาน ผลงานนนั้ ยงั มขี ้อบกพร่องที่ ตอ้ งการได้รับการปรบั ปรงุ แก้ไขหลายประการ

ภาคผนวก

อภธิ านศัพท์ ศัพท์ท่ีเกีย่ วข้องกบั ตัวช้ีวัดสาระวทิ ยาศาสตร์ 1. กำหนดปัญหา Define problem ระบคุ ำถาม ประเดน็ หรือสถานการณท์ เี่ ปน็ ข้อสงสัยเพ่ือนำไปส่กู ารแกป้ ญั หาหรืออภิปรายร่วมกัน 2. แก้ปญั หา Solve problem หาคำตอบของปัญหาทย่ี ังไม่รู้วธิ ีการมากอ่ น ท้งั ปญั หาที่เกย่ี วขอ้ งกบั วิทยาศาสตร์โดยตรงและปัญหา ในชวี ติ ประจำวันโดยใชเ้ ทคนิคและวิธีการตา่ ง ๆ 3. เขียนแผนผงั /วาดภาพ Sonstruct diagram/ illustrate นำเสนอข้อมลู หรือผลการสำรวจตรวจสอบดว้ ยแผนผัง กราฟหรือภาพวาด 4. คาดคะเน Predict คาดการณผ์ ลทีจ่ ะเกิดขน้ึ ในอนาคตโดยอาศยั ข้อมลู ที่สังเกตไดแ้ ละประสบการณท์ ีม่ ี 5. คำนวณ Calculate หาผลลพั ธจ์ ากข้อมูล โดยใชห้ ลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการทางคณติ ศาสตร์ 6. จำแนก Classify จัดกลุม่ ของส่งิ ตา่ ง ๆ โดยอาศัย ลักษณะที่เหมือนกันเป็นเกณฑ์ 7. ต้ังคำถาม Ask question พูดหรอื เขยี นประโยค หรือวลี เพอื่ ให้ไดม้ าซึง่ การคน้ หา คำตอบทีต่ ้องการ 8. ทดลอง Conduct/experiment ปฏบิ ตั กิ ารเพ่ือหาคำตอบ ของคำถาม หรือปญั หาในการ ทดลอง โดยตั้งสมมติฐานเพอ่ื เป็นแนวทาง ในการกำหนด ตัวแปรและวางแผนดำเนนิ การ เพอ่ื ตรวจสอบสมมตฐิ าน 9. นำเสนอ Present แสดงขอ้ มูล เร่ืองราว หรือ ความคิด เพื่อใหผ้ ู้อ่นื รับรู้ หรือพจิ ารณา 10. บรรยาย Describe ให้รายละเอียดของเหตกุ ารณ์ หรือปรากฏการณท์ ่ีเกิดขน้ึ ให้ ผู้อนื่ ได้รับรูด้ ้วยการบอก หรือเขียน 11. บอก Tell ให้ข้อมลู ข้อเทจ็ จรงิ แก่ผู้อืน่ ด้วยการพดู หรอื เขยี น 12. บันทึก Record เขยี นขอ้ มูลทีไ่ ด้จากการสังเกต เพ่อื ช่วยจำ หรือเพอ่ื เป็นหลักฐาน 13. เปรยี บเทยี บCompare บอกความเหมือน และ/หรือ ความแตกต่าง ของสิ่งท่ี เทียบเคยี งกัน 14. แปลความหมาย Interpret แสดงความหมายของข้อมูล จากหลกั ฐานที่ปรากฏ เพือ่ ลงข้อสรปุ

105 15. ยกตัวอย่าง Give examples ใหข้ อ้ มูลเหตุการณห์ รือสถานการณ์ เพื่อแสดงความเข้าใจในส่ิงทไ่ี ด้ เรียนรู้ 16. ระบุ Identify ช้บี อกสงิ่ ตา่ ง ๆ โดยใช้ข้อมูล ประกอบอย่างเพียงพอ 17. เลือกใช้ Select พจิ ารณา และตดั สินใจนำวัสดุ ส่ิงของ อปุ กรณ์ หรือวธิ กี ารมาใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม 18. วัด Measure หาขนาด หรือปริมาณ ของ ส่ิงต่าง ๆ โดยใช้เคร่อื งมือ ท่ีเหมาะสม 19. วเิ คราะห์ Analyze แยกแยะ จัดระบบ เปรียบเทียบ จดั ลำดบั จดั จำแนก หรือ เชื่อมโยงข้อมลู 20. สร้างแบบจำลอง Construct model นำเสนอแนวคิด หรือเหตุการณ์ในรูปของแผนภาพ ชิ้นงานสมการ ข้อความ คำพูดและ/หรือใช้ แบบจำลองเพือ่ อธบิ ายความคิด วัตถุ หรอื เหตกุ ารณต์ ่าง ๆ 21. สงั เกต Observe หาข้อมูลด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ที่เหมาะสมตามข้อเท็จจริงทีป่ รากฏ โดยไม่ใช้ประสบการณ์ เดมิ ของผสู้ ังเกต 22. สำรวจ Explore หาข้อมูลเกี่ยวกบั สิ่งต่าง ๆโดยใช้วีธีการและเทคนคิ ทีเ่ หมาะสม เพื่อนำข้อมูลมาใช้ตามวัตถปุ ระสงคท์ ่ี กำหนดไว้ 23. สืบคน้ ขอ้ มลู Search หาขอ้ มลู หรือข้อสนเทศท่ีมผี ู้รวบรวมไว้แล้วจากแหล่งต่าง ๆมาใชป้ ระโยชน์ 24. สื่อสาร Communicate นำเสนอ และแลกเปล่ยี นความคดิ ขอ้ มลู หรอื ผลจากการสำรวจตรวจสอบ ดว้ ยวธิ ีท่ีเหมาะสม 25. อธิบาย Explain กล่าวถึงเร่ืองราวตา่ ง ๆ อยา่ งมีเหตผุ ล และมขี อ้ มูล หรอื ประจกั ษพ์ ยานอา้ งองิ

106 26. อภปิ ราย Discuss แสดงความคดิ เห็นต่อประเด็นหรอื คำถามอย่างมีเหตุผลโดยอาศยั ความรู้และประสบการณ์ ของผู้อภปิ รายและข้อมูลประกอบ 27. ออกแบบการทดลอง Design experiment กำหนด และวางแผนวธิ ีการทดลองใหส้ อดคลอ้ งกับสมมติฐานและตวั แปรต่าง ๆรวมท้ังการบนั ทกึ ข้อมูล ศัพท์ท่ีเกย่ี วข้องกับตัวชี้วัดสาระเทคโนโลยี 1. การใช้ลิขสิทธข์ิ องผ้อู น่ื Fair use การนำสือ่ หรอื ขอ้ มูลท่ีเป็นโดยชอบธรรม ลิขสิทธ์ขิ องผู้อ่นื ไปใช้โดยชอบดว้ ยกฎหมาย ภายใต้เงอ่ื นไข บางประการ เช่น 1) นำไปใช้ในการศึกษา หรือการค้า 2) งานน้ันเปน็ งานวชิ าการ หรือบันเทงิ 3) คดั ลอกเพยี งสว่ นนอ้ ย หรอื คัดลอกจำนวนมาก 4) ทำใหเ้ จา้ ของเสยี ผลประโยชนท์ างการเงิน มากน้อยเพียงใด 2. การตรวจและแกไ้ ข Debugging กระบวนการในการคน้ หาข้อผดิ พลาดข้อผิดพลาดของโปรแกรมเพ่ือแก้ไขใหท้ ำงานได้ถกู ต้อง 3. การประมวลผลข้อมลู Data processing การดำเนนิ การตา่ ง ๆ กับขอ้ มูลเพ่ือให้ได้ผลลพั ธ์ทีม่ ีความหมายและมีประโยชน์ตอ่ การนำไปใชง้ าน มากย่ิงข้ึน 4. การรวบรวมข้อมลู Data collection กระบวนการในการรวบรวมข้อมูลท่ีเกีย่ วข้องจากแหลง่ ข้อมูลตา่ ง ๆ 5. ขอ้ มลู ปฐมภูมิ Primary data ขอ้ มลู ท่ีรวบรวมโดยตรงจากแหลง่ ขอ้ มลู ขนั้ ต้น โดยอาจใช้วิธีการสงั เกต การทดลอง การสำรวจ การสมั ภาษณ์ 6. เทคโนโลยี Technology ส่งิ ท่ีมนษุ ยส์ ร้างหรือพฒั นาข้ึนซง่ึ อาจเป็นได้ทั้งช้ินงาน หรือวธิ กี าร เพื่อใช้แก้ปัญหาสนอง ความตอ้ งการ หรือเพิ่มความสามารถในการทำงานของมนุษย์ 7. แนวคดิ เชงิ คำนวณ Computational thinking กระบวนการในการแก้ปญั หาการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลเปน็ ข้นั ตอน เพอ่ื หาวธิ ีการ แกป้ ัญหาในรปู แบบท่ีสามารถนำไปประมวลผลได้ 8. แนวคิดเชิงนามธรรม Abstraction การพิจารณารายละเอียดทส่ี ำคญั ของปญั หา แยกแยะสาระสำคัญออกจากสว่ นที่ไมส่ ำคญั

107 9. ระบบทางเทคโนโลยี Technological system กลุ่มของส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ สองส่วนขึ้นไป ประกอบเข้าด้วยกัน และทำงานร่วมกัน เพื่อให้บรรลุ วตั ถุประสงค์ โดยในการทำงานของระบบทางเทคโนโลยจี ะประกอบไปดว้ ย ตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลติ (output) ทสี่ ัมพันธก์ นั นอกจากนี้ระบบทางเทคโนโลยี อาจมีข้อมลู ยอ้ นกลบั (feedback) เพื่อใชป้ รับปรงุ การทำงานไดต้ ามวตั ถุประสงค์ 10. เหตุผลเชิงตรรกะ Logical reasoning การใชเ้ หตุผล กฎ กฎเกณฑห์ รือเงอ่ื นไขที่เกี่ยวข้อง เพ่อื แก้ปญั หาไดค้ รอบคลุมทุกกรณี 11.เหตุผลวบิ ตั ิ Logical fallacy การใช้เหตผุ ลทผี่ ิดพลาด ไม่อยูบ่ นพ้ืนฐานของความจริง ไม่มนี ้ำหนักสมเหตสุ มผลมาสนับสนุน หรอื ชนี้ ำขอ้ สรปุ ที่ผิดให้ดูน่าเชื่อถือ 12. อัตลกั ษณ์ Identity ลักษณะเฉพาะหรือข้อมลู สำคัญท่ีบง่ บอกถึงความเป็นตวั ตนของบุคคลหรือสิง่ ใดส่ิงหน่ึง เชน่ ช่ือบัญชี ผู้ใช้ ใบหน้า ลายนว้ิ มอื 13. อัลกอริทึม Algorithm ข้ันตอนในการแก้ปญั หาหรือการทำงาน โดยมีลำดับของคำสง่ั หรือวธิ กี ารท่ีชดั เจนทคี่ อมพวิ เตอร์ สามารถปฏบิ ตั ติ ามได้ 14. แอปพลิเคชัน Software application ซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์ ท่ที ำงานบนคอมพิวเตอร์ สมารต์ โฟนแทบ็ เลต็ หรืออปุ กรณ์เทคโนโลยีอน่ื ๆ

1. นางสาวชรดิ า เหล่ียมดี คณะผู้จดั ทำ 3. นางสริ ภิ ัสสร ปานกล่ำ 4. นางจันทนา เกิดบญุ มา ประธานกรรมการ 5. นางจไุ ร พรพนม กรรมการ 6. นายจิรายุ คงเพ็ชรศักด์ิ กรรมการ 7. นางสาวจนิ ต์จฑุ า อว่ มทร กรรมการ 8. นางชญาณท์ ิพย์ จนั ทอง กรรมการ 8. นายคฑามาศ บำรุงอนิ ทร์ กรรมการ กรรมการ กรรมการและเลขานกุ าร

โรงเรียนวัดสายลาโพงใต้ สงั กดั สำนกั งำนเขตพ้นื ทกี่ ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำนครสวรรค์ เขต ๓ สังกัดสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขน้ั พ้นื ฐำน กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร