47 ช้นั ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย • การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดยเขียน เพอื่ เป็นข้อความหรอื ผงั งาน แกป้ ญั หาในชีวิตประจำวัน ตรวจหา • การออกแบบและเขยี นโปรแกรมที่มกี ารใชต้ ัวแปร ขอ้ ผดิ พลาด การวนซำ้ การตรวจสอบเงื่อนไข ของโปรแกรมและแก้ไข • หากมขี ้อผดิ พลาดใหต้ รวจสอบการทำงานทลี ะ 3. ใช้อินเทอรเ์ น็ตในการค้นหาขอ้ มูลอยา่ งมี คำส่ัง เมอ่ื พบจดุ ท่ีทำใหผ้ ลลพั ธ์ไมถ่ กู ตอ้ ง ประสิทธภิ าพ ให้ทำการแก้ไขจนกว่าจะไดผ้ ลลพั ธ์ทถ่ี ูกต้อง 4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศทำงานรว่ มกัน • การฝกึ ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดจากโปรแกรมของ อย่าง ผู้อน่ื จะช่วยพฒั นาทักษะการหาสาเหตุของปัญหา ปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าทขี่ องตน ไดด้ ยี ิ่งขน้ึ เคารพ • ตัวอยา่ งโปรแกรม เชน่ โปรแกรมเกม โปรแกรม ในสทิ ธิของผู้อนื่ แจ้งผเู้ ก่ยี วข้องเมื่อพบ หาค่า ค.ร.น. เกมฝกึ พิมพ์ ข้อมูล • ซอฟตแ์ วรท์ ่ีใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม หรือบุคคลท่ีไมเ่ หมาะสม • การค้นหาอย่างมีประสิทธภิ าพ เปน็ การคน้ หาข้อมลู ที่ ได้ตรงตามความต้องการในเวลาทีร่ วดเรว็ จาก แหลง่ ข้อมูลที่นา่ เช่ือถือหลายแหลง่ และข้อมูลมีความ สอดคล้องกนั • การใชเ้ ทคนิคการค้นหาขน้ั สงู เช่น การใช้ตวั ดำเนินการ การระบุรูปแบบของข้อมูล • การจดั ลำดับผลลัพธจ์ ากการค้นหาของโปรแกรม • การเรียบเรยี ง สรุปสาระสำคัญ (บรู ณาการกบั วิชาภาษาไทย) • อนั ตรายจากการใช้งานและอาชญากรรม ทางอนิ เทอรเ์ น็ต แนวทางในการปอ้ งกัน • วธิ ีกำหนดรหสั ผ่าน • การกำหนดสิทธ์ิการใช้งาน (สทิ ธใ์ิ นการเข้าถึง) • แนวทางการตรวจสอบและป้องกันมัลแวร์ • อันตรายจากการติดตั้งซอฟต์แวร์ทีอ่ ยู่บนอินเทอรเ์ น็ต
48 รายวชิ าที่เปดิ สอน รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาพ้นื ฐาน ระดับช้ันประถมศึกษา ป. 1 - ป. 6 จำนวน 80 ชว่ั โมง ว 11101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 80 ชัว่ โมง ว 12101 วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวน 80 ช่วั โมง ว 13101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 80 ชั่วโมง ว 14101 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวน 80 ชว่ั โมง ว 15101 วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวน 80 ชั่วโมง ว 16101 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
49 คำอธบิ ายรายวิชาและโครงสร้างรายวชิ าพน้ื ฐาน รายวิชาพนื้ ฐาน ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 คำอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน จำนวน 3.0 หน่วยกติ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว 11101 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลาเรียน 120 ชวั่ โมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห)์ ศึกษา วิเคราะห์ลักษณะ หน้าที่และการดูแลรักษาส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ ลักษณะและหน้าที่ ของส่วนต่าง ๆ ของสัตว์และพืช ชนิดและสมบัติของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุรอบตัว การเกิดเสียงและ ทิศทางการ เคล่ือนทีข่ องเสยี ง ลักษณะของหิน และการมองเห็นดาวบนท้องฟ้าในเวลากลางวัน และกลางคนื การแกป้ ญั หา โดยการลองผิดลองถูก การเปรียบเทียบ การเขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ ซอฟต์แวร์หรือสื่อ การใช้งาน อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีเบ้อื งตน้ การใชง้ านซอฟต์แวร์เบอื้ งตน้ โดยใชก้ ารสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทกั ษะการ เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิต วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด ว 1.1 ป.1/1, ป.1/2 ว 1.2 ป.1/1, ป.1/2 ว 2.1 ป.1/1, ป.1/2 ว 2.3 ป.1/1 ว 3.1 ป.1/1, ป.1/2 ว 3.2 ป.1/1 ว 4.2 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4, ป.1/5 รวม 15 ตัวช้ีวดั
50 โครงสรา้ งรายวชิ า รหสั วิชา ว 11101 รายวิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 เวลา 120 ช่ัวโมง จำนวน 3.0 หนว่ ยกิต สัดสว่ นคะแนน ระหว่างปกี ารศกึ ษา : ปลายปี = 70 : 30 หนว่ ยที่ ชอ่ื มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนัก หน่วยการเรยี นรู้ เรยี นร้/ู ตัวชี้วดั (ช่วั โมง) คะแนน (120) (100) 1 ตวั เรา พืชและสตั ว์ ว1.2 ป.1/1 ร่างกายของเรามีอวัยวะต่างๆซึ่งอวัยวะ 27 15 ป.1/2 เหล่านั้นทำหน้าที่แตกต่างกัน เราจึงควรดูแล อวัยวะให้สะอาดและปลอดภัยอยู่เสมอ พืชและสัตว์มีลักษณะของส่วนต่างๆ ภายนอกที่แตกต่างกันไป โดยโครงสร้างแตล่ ะ ส่วนของพืชและสัตว์ทำหน้าที่แตกต่างกัน เพือ่ ให้เหมาะสมตอ่ การดำรงชวี ติ 2 พชื และสตั วใ์ นท้องถนิ่ ว1.1 ป.1/1 บรเิ วณต่างๆในท้องถ่ินจะพบพืชและสัตว์ 12 10 ป.1/2 หลายชนิด ซง่ึ สภาพกวดลอ้ มในแตล่ ะบรเิ วณมี ความเหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของพืชและ สตั วแ์ ตกต่างกันออกไป หากสภาพแวดล้อมใน บริเวณนั้นเปลี่ยนแปลงไปจะมีผลต่อการ ดำรงชวี ติ ของพชื และสตั ว์ 3 โปง้ ก้อย และอมิ่ ว4.2 ป.1/1 การเปรยี บเทียบของสองสิ่งอาจพบความ 5 1 เหมือนและความแตกต่าง ความเหมือนและ ความแตกต่าง อาจขึ้นอยู่กับลักษณะภายนอก หรือการใช้งาน 4 ครอบครัวของเรา ว4.2 ป.1/2 การเล่าเหตุการณ์ หรือเรื่องราว จะต้อง 4 1 จัดลำดับขั้นตอนให้ถูกต้อง ในบางครั้งอาจมี ลำดับท่ถี กู ต้องมากกวา่ 1 แบบ 5 เส้นทางกลบั บา้ น ว4.2 ป.1/1 การลองผิดลองถูกเป็นการแก้ปัญหา 4 1 รูปแบบหนึ่ง สามารถทำได้โดยทดลอง แก้ปัญหาหลายๆ วิธี แล้วพิจารณาผลลัพธ์เพอื่ เลือกวิธที เ่ี หมาะสม
51 หนว่ ยท่ี ชอ่ื มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนัก 6 หน่วยการเรยี นรู้ เรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน 7 โปรแกรมแกห้ ิว (120) (100) วสั ดุและการเกดิ เสยี ง ว4.2 ป.1/2 โปรแกรม คือ ชุดคำสั่งที่สั่ง ใ ห้ 8 7 2 หินและท้องฟ้า ป.1/3 คอมพิวเตอร์ทำงาน การเขียนโปรแกรมต้องส่งั 1 10 9 22 12 หนูน้อยบ้านนา เปน็ ขนั้ ตอนที่ชัดเจนครบถ้วน 17 8 สอบปลายภาคเรียน 4 2 ว2.1 ป.1/1 วัสดุที่เป็นของเล่นและของใช้รอบตัวเรา ป.1/2 ทำจากวัสดุต่างๆที่มีลักษณะเหมือนกันหรือ ว2.2 ป.1/1 ต่างกัน เช่น สี ความแข็ง พื้นผิว เป็นต้น เราสามารถใช้วัสดุที่สังเกตได้มาเป็นเกณฑ์ใน การจัดกลุ่มวัสดไุ ด้ เสียงเกิดจากการสั่นของวัตถุที่เป็น แหล่งกำเนิดเสียง ซึ่งมีทั้งแหล่งกำเนิดเสียง ตามธรรมชาติและแหล่งกำเนิดเสียงที่มนุษย์ สร้างขึ้น เสียงเคลื่อนที่ออกจากแหล่งกำเนิด เสยี งทกุ ทิศทาง ว3.1 ป.1/1 หินในธรรมชาติมักมีลักษณะภายนอก ป.1/2 เฉพาะตัวที่สังเกตได้ เช่น สี ลวดลาย ว.3.2 ป1/1 น้ำหนกั ความแขง็ เน้อื หิน เปน็ ต้น ท้องฟ้า มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และ ดาวในเวลากลางวันเราจะมองเห็นดวงอาทิตย์ และอาจมองเห็นดวงจันทร์บางวัน ในเวลา กลางคืนเราจะมองเห็นดาวต่างๆและมองเห็น ดวงจันทร์เกือบทกุ คนื ว4.2 ป.1/4 อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เช่น คีย์บอร์ด ป.1/5 จอภาพ ทัชแพด เมาส์ พอร์ตยูเอสบี กล้อง ตัวอย่างคอมพิวเตอร์ เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก แล็ปท็อป สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต การ ใช้งานคอมพิวเตอร์ เช่น ใช้สร้างงานเอกสาร ใช้วาดภาพ ใช้เล่นเกม ใช้ค้นหาข้อมูล ใช้ ติดต่อสื่อสาร การใช้งานคอมพิวเตอร์อย่าง
52 ช่อื มาตรฐานการ เวลา นำ้ หนัก หน่วยการเรียนรู้ เรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด คะแนน หน่วยท่ี สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (ชว่ั โมง) (100) 10 งานบ้านงานเรา ว4.2 ป.1/3 11 วนั งานโรงเรยี น ว4.2 ป.1/1 (120) 2 12 13 ฝนตกนำ้ ท่วม ว4.2 ป.1/3 ปลอดภัย เช่น ระวังไฟดูด นั่งหลังตรง ไม่ใช่ 2 ทุง่ ข้าวรวงทอง ว4.2 ป.1/4 คอมพวิ เตอรน์ านเกนิ ไป 2 การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ เช่น ใช้ผ้าแห้งเช็ด 2 ระมัดระวังไม่ให้เปียกน้ำ เมื่อพบปัญหาจาก ก า ร ใ ช ้ ค อ ม พ ิ ว เ ต อ ร ์ ค ว ร แ จ ้ ง ใ ห ้ ค ร ู ห รื อ ผปู้ กครองทราบ การแก้ปัญหาโดยแสดงลำดับขั้นตอนใน 4 การทำงานที่มีเป้าหมายต่อเนื่องกนั มากกว่า 1 เป้าหมาย ทำได้โดยการจัดลำดับเป้าหมาย แล้ววางแผนการเดินทางจากจุดเริ่มต้นไปยัง เปา้ หมายที่ 1 จากนั้นจึงเดนิ ทางไปยังเป้าหมาย ต่อไปตามลำดบั การค้นหาอย่างเป็นระบบทำให้เรามั่นใจ 4 ได้ว่าสามารถแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องและ ครบถว้ น การค้นหาอย่างเป็นระบบทำได้หลายวิธี เช่น ค้นหาจากซ้ายไปขวา จากบนลงล่าง จาก ใกล้ไปไกล หรือค้นหาทีละส่วนการค้นหาอยา่ ง เป็นระบบทำให้เราสามารถแบ่งงานกันทำ เพ่ือ นำไปสผู่ ลลัพธ์ได้รวดเร็วยงิ่ ขึ้น การแก้ปัญหาให้สำเร็จต้องแสดงขั้นตอน 4 ที่ชัดเจน ครบถ้วน และทดสอบผลลัพธ์ก่อนลง มือปฏิบัติจริง ปัญหาที่มีเงื่อนไข เช่น ต้องหลบ หลีกอุปสรรคหรือสิ่งกีดขวาง สามารถ แก้ปัญหาได้โดยสร้างแนวทางการแก้ปัญหา หลายๆ แนวทางแล้วทดสอบว่า แนวทางใดท่ี จะไปสู่เปา้ หมายได้โดยไม่ผา่ นสงิ่ กีดขวาง โปรแกรมวาดภาพ เช่น เพนต์ (Paint) 3 โฟโตชอ็ ป (Photoshop) และ กมิ พ์ (GIMP)
53 ชอื่ มาตรฐานการ เวลา นำ้ หนกั หน่วยการเรียนรู้ เรียนรู/้ ตัวชี้วัด คะแนน หนว่ ยที่ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด (ช่วั โมง) (100) (120) 70 30 การเซฟ (save) คือ การบันทึกข้อมูลไว้ในไฟล์ 100 (file)ไฟล์ คือ แฟ้มข้อมูล ซึ่งเป็นได้ทัง้ ข้อความ ภาพ และเสียงควรตั้งชื่อไฟล์ให้สอดคล้องกับ เนอื้ หาในไฟล์ เช่น * / \\ < > : “ ? | “ โฟลเดอร์ คือ ที่เก็บไฟล์ ใช้ในการจัดหมวดหมู่ ไฟล์ให้เป็นระบบการเปิดไฟล์ จะต้องค้นหา ไฟล์จากโฟลเดอรเ์ ดียวกับท่ไี ด้บันทกึ ไฟลไ์ ว้ รวมระหวา่ งปี 118 สอบปลายปี 2 รวมท้ังสน้ิ ตลอดปี 120
54 รายวชิ าพื้นฐาน ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน จำนวน 3.0 หน่วยกิต กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว 12101 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลาเรียน 120 ช่ัวโมง (3 ชั่วโมง/สปั ดาห)์ ศึกษา วิเคราะห์ลักษณะของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต ความจำเป็นของแสงและน้ำต่อการ เจริญเติบโตของพืช วัฏจักรชีวิตของพืชดอก สมบัติการดูดซับน้ำของวัสดุและการนำไปใช้ประโยชน์ สมบัติของวัสดุที่เกิดจากการนำวัสดุมาผสมกัน การเลือกวัสดุมาใช้ทำวัตถุตามสมบัติของวัสดุ การนำ วัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ การเคลื่อนที่ของแสง การมองเห็นวัตถุ การป้องกันอันตรายจากการมอง วัตถุในบริเวณที่มีแสงสว่างไม่เหมาะสม ส่วนประกอบและการจำแนกชนิดของดิน การใช้ประโยชน์จาก ดิน การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม การใช้งานซอฟต์แวร์ เบื้องต้น การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ การใช้งานและดูแลรักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีใน ชีวิตประจำวนั การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั โดยใชก้ ารสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทกั ษะการ เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิต วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด ว 1.2 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3 ว 1.3 ป.2/1 ว 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4 ว 2.3 ป.2/1, ป.2/2 ว 3.2 ป.2/1, ป.2/2 ว 4.2 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4 รวม 16 ตัวช้ีวัด
55 โครงสรา้ งรายวชิ า รหสั วชิ า ว 12101 รายวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 120 ชั่วโมง จำนวน 3.0 หน่วยกติ สัดสว่ นคะแนน ระหวา่ งปกี ารศึกษา : ปลายปี = 70 : 30 หนว่ ยท่ี ชอื่ หน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก การเรยี นรู้ การเรียนรู้/ (ช่ัวโมง) คะแนน ตัวชี้วัด (100) 1 วสั ดรุ อบตัวเรา ว 2.1 ป.2/1 วัสดุแต่ละชนิดมีสมบัติการดูดซับน้ำ 24 15 ป.2/2 แตกต่างกัน วัสดุบางอย่างสามารถนำมาผสมกนั ป.2/3 ซึ่งทำให้ได้สมบัติที่เหมาะสมการนำวัสดุมาทำ ป.2/4 เปน็ วัตถุ ในการใชง้ านตาม วัตถุประสงค์ขึ้นอยู่กับสมบัติของวัสดุ และ นำมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ 2 แสง ว 2.3 ป.2/1 แสงเคลื่อนที่จากแหล่งกำเนิดแสงทุก 16 8 ป.2/2 ทิศทางเป็นแนวตรง การมองเห็นวัตถุที่เป็น แหล่งกำเนิดแสง แสงจากวัตถุนั้นจะเข้าสู่ตา โดยตรง ถ้ามีแสงที่สว่างมากๆ เข้าสู่ตาอาจเกิด อนั ตรายต่อตาได้ 3 การแกป้ ัญหา ว 4.2 ป.2/1 ในชีวิตประจำวันของนักเรียนแต่ละคนจะ 7 2 อย่างง่าย พบปัญหามากมาย ซึ่งในแต่ละปัญหาที่พบน้ัน อาจแตกต่ างกั นไปตามสถานการณ์ แ ล ะ สภาพแวดล้อม เช่น การลืมสิ่งของที่จะนำไป โรงเรียนการค้นพบปัญหานั้นจะช่วยให้เรา สามารถหาวธิ ีการแก้ปญั หาได้สำเร็จ การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา สามารถทำ ได้หลายวิธี โดยการเขียน บอกเล่า การวาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์ โดยก่อนแก้ปัญหาต้องมีการ วางแผนการแก้ปัญหาก่อน แล้วค่อยลงมือ แก้ปัญหา ซึ่งจะช่วยให้กาแก้ปัญหาประสบ ผลสำเรจ็ มปี ระสิทธภิ าพ และประหยดั เวลา เกมการแก้ปัญหา เป็นการฝึกการแก้ปญั หา อย่างเป็นระบบ โดยใช้ขั้นตอนการแก้ปัญหาเข้า มาชว่ ยในการแกป้ ัญหา และเกมการแก้ปญั หา ยัง
56 หนว่ ยท่ี ช่ือหน่วย มาตรฐาน สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั การเรียนรู้ การเรยี นรู้/ (ชวั่ โมง) คะแนน ตัวช้ีวัด (100) ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านสติปัญญา และให้ ความสนุกสนานเพลดิ เพลินอีกด้วย 4 การเขียนโปรแกรม ว 4.2 ป.2/2 ในการเริ่มเขียนโปรแกรมจะต้องออกแบบ 12 5 เบื้องตน้ การทำงานของโปรแกรมข้ึนมาก่อน หรอื เรียกว่า 10 15 ขั้นตอนวิธี ซึง่ ทำไดโ้ ดยการสร้างลำดับของคำสั่ง เช่น ถ้าให้หุ่นยนต์เดินไปทางขวา 3 บล็อก แล้ว เดินขึ้นด้านบน เราอาจคิดขั้นตอนวิธีเป็นคำพูด ขึ้นมาก่อน แล้วเปลี่ยนเป็นโปรแกรมโดยใช้บัตร คำส่ัง การเขียนโปรแกรมมีเครื่องมือในการเขียน โปรแกรมหลายรูปแบบ เช่น เขียนโปรแกรมโดย ใช้คำสั่ง ของภาษาโปรแกรมตามที่ออกแบบไว้ หรือเขียนโปรแกรมโดยใช้บัตรคำสั่งที่ออกแบบ ไว้ให้หุ่นยนตเ์ ข้าใจ แหลง่ การเรียนรู้เกีย่ วกับการเขยี นโปรแกรม ที่น่าสนใจในปัจจุบันมีอยู่มากมาย เช่น เว็บไซต์ https://code.org จะมีบทเรียนให้เลือกเรียน หรือฝกึ เขยี นโปรแกรมมากมาย ก า ร เ ข ี ย น โ ป ร แ ก ร ม บ า ง ค ร ั ้ ง อ า จ ม ี ข้ อ ผิดพลาด เกิดขึ้น เช่น การเขียนโปรแกรมด้วย คำสั่งแล้วเราสะกดผิดหรือเขียนคำสั่งที่โปรแกรม เข้าใจ หากตรวจสอบทีละคำสั่งแล้วแก้ไขให้ ถกู ตอ้ ง โปรแกรมสามารถทำงานต่อไปได้ สอบปลายภาคเรยี นท่ี 1 1 5 สิ่งมีชีวิตรอบตัว ว 1.2 ป.2/1 พืชตอ้ งการน้ำ แสง เพอ่ื การเจริญเติบโตพืช 23 ป.2/2 ดอกเมื่อเจริญเติบโตจะมีดอก พืชต้นใหม่จะ ป.2/3 เจริญเติบโตออกดอกเพื่อสืบพันธุ์มีผลต่อไปได้ ว 1.3 ป.2/2 อีกหมุนเวียนต่อเนื่องเป็นวัฏจักรชีวิตของพืช ดอก
57 หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั การเรียนรู้ การเรียนรู้/ (ชว่ั โมง) คะแนน ตัวชี้วัด (100) สิ่งที่อยู่รอบตัวเรามีทั้งที่เป็นสิ่งมีชีวิตและ สิ่งไม่มีชีวิต สิ่งมีชีวิตต้องการอาหาร มีการ หายใจเจริญเติบโต ขับถ่าย เคลื่อนไหว ตอบสนองตอ่ สิ่งเร้าและสบื พนั ธุ์ ส่วนส่ิงไม่มีชีวิต จะไมม่ ีลักษณะดงั กล่าว 6 ดินในท้องถิ่น ว 3.2 ป.2/1 ดินประกอบด้วยเศษหิน ซากพืช ซากสัตว์ 15 7 5 ป.2/2 ผสมอยู่ในเนื้อดิน มีอากาศและน้ำแทรกอยู่ตาม ช่องว่างในเนื้อดิน ดินจำแนกเป็น ดินร่วน ดิน เหนียวและดินทราย ดินแต่ละชนิดนำไปใช้ ประโยชน์ได้แตกต่างกันตามลักษณะและสมบัติ ของดนิ 7 การใชซ้ อฟต์แวร์ใน ว 4.2 ป.2/3 โปรแกรมประมวลคำเป็นโปรแกรมที่ใช้ใน 12 การทำงาน การพิมพ์งานด้านเอกสาร ซงึ่ มอี ยู่หลายโปรแกรม เช่น โปรแกรมโน้ตแพด โปรแกรมเวิร์ดแพด และ โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวิร์ด ซึ่งเป็นที่ ได้รับความนิยม เพราะมีความสามารถในการ ทำงานได้อย่างหลากหลาย โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวิร์ด มีความ สามารถที่โดดเด่นในเรื่องของงานด้านการจัดทำ เอกสารและอีกความสามารถหนึ่ง คือ การทำ เอกสารในรูปแบบแผ่นพับที่ใช้ในการนำเสนอ เอกสารให้น่าสนใจ เช่น แผ่นพับแนะนำสถานท่ี ทอ่ งเท่ียว โปรแกรมกราฟิก เป็นโปรแกรมสำหรับวาด ภาพระบายสี เช่น โปรแกรมระบายสี (Paint) ซึ่ง จะมีเคร่ืองมือในการวาดภาพระบายสีและจัดการ กับภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพลิกหรือหมุน ภาพ การยอ่ ขนาดภาพ และการเอยี งภาพ โปรแกรมนำเสนอมีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ ละประเภทจะมีรูปแบบและความสามารถท่ี
58 ชอื่ หน่วย มาตรฐาน เวลา นำ้ หนกั การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน หนว่ ยท่ี การเรยี นรู้/ สาระสำคัญ (100) 8 การใช้และบำรุงรักษา 8 อปุ กรณ์เทคโนโลยี ตวั ช้ีวัด 3 118 ว 4.2 ป.2/4 แตกต่างกันออกไป แต่ที่ได้รับความนิยมเป็น 2 70 อย่างมาก คือ โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศ 120 30 เพาเวอร์พอยตท์ ่สี ามารถนำเสนอข้อมูลได้ หลาย 100 รูปแบบ เช่น ภาพ ข้อความภาพ เคลื่อนไหว และเสียง เครื่องคอมพิวเตอร์มีการเก็บข้อมูลใน ลักษณะต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากการใช้ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ สร้างขึ้นมาจนเป็นไฟล์ และมีการคัดแยกไฟล์ ตามหมวดหมู่ โดยมีการจัดเรียงให้เป็นระเบียบ เรียกว่า โฟลเดอร์ อปุ กรณ์เทคโนโลยมี หี ลายชนดิ แตก่ ารใช้ ว 4.2 ป.2/4 งานเบือ้ งตน้ มกั เปน็ อุปกรณท์ ี่นำมาใชป้ ระโยชน์ สำหรับค้นหาข้อมลู รวบรวมขอ้ มลู การ ประมวลผลขอ้ มูล การทำสำเนาขอ้ มูล การแสดง ผลลพั ธ์ อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์มีอยูห่ ลายอยา่ ง เมอ่ื ใช้ งานไประยะหนึ่งอาจเกิดการชำรุดหรือเสียหาย ได้ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ถ้าดูแลรักษา อปุ กรณอ์ ย่างถกู วิธีจะทำใหใ้ ช้งานได้นานมากขนึ้ การใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีเราอาจต้องใช้ รว่ มกนั ซงึ่ จะทำใหก้ ารเข้าถึงขอ้ มูลต่าง ๆ ที่เก็บ ไว้ในเครื่องได้และอุปกรณ์บางชนิดสามารถ ติดต่อกับเครือข่ายได้ หากผู้ไม่หวังดีนำไปใช้ ในทางทีไ่ มถ่ ูกตอ้ งจะส่งผลเสียหายกับตัวเราได้ ระหว่างปี สอบปลายปี รวมทั้งสิน้ ตลอดปี
59 รายวชิ าพนื้ ฐาน ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 คำอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน จำนวน 3.0 หน่วยกิต กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ว 13101 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลาเรยี น 120 ช่วั โมง (3 ชั่วโมง/สปั ดาห)์ ศึกษา วิเคราะห์ ปัจจัยในการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตของมนุษย์และสัตว์ วัฏจักรชีวิตของสัตว์ วัตถุประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนย่อยซึ่งสามารถแยกออกจากกันและประกอบกันเป็นวัตถุ ชิ้นใหม่ได้การ เปลี่ยนแปลงของวัสดุเมื่อทำให้ร้อนขึ้นหรือเย็นลง ผลของแรงที่มีต่อการเปลี่ยนแปลง การเคลื่อนท่ีของวัตถุ แรงสมั ผสั และแรงไม่สัมผัส วัสดทุ ี่แม่เหลก็ ดงึ ดูดได้ แรงแมเ่ หลก็ ขว้ั แม่เหลก็ การเปล่ยี นพลงั งานหนึ่งไปเป็นอีก พลังงานหนึ่ง การทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้า การใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด และปลอดภัย การเกิดกลางวันกลางคืน การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ การกำหนดทิศ ความสำคัญของดวง อาทิตย์ ส่วนประกอบของอากาศ ความสำคัญของอากาศ ผลกระทบของมลพิษทางอากาศ การเกิดลม ประโยชนแ์ ละโทษของลม การแสดงข้นั ตอนการแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะเบื้องตน้ การเขยี นโปรแกรม แบบวนซ้ำโดยใช้บัตรคำสั่งและการตรวจหาข้อผิดพลาด การใช้อินเทอร์เน็ตและข้อตกลงในการใช้งาน การ รวบรวมข้อมลู การประมวลผลข้อมูลเบื้องต้น การนำเสนอขอ้ มูล เทคโนโลยี ในงานด้านตา่ ง ๆ ข้อดแี ละข้อเสีย ในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร โดยใชก้ ารสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทักษะการ เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิต วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด ว 1.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4 ว 2.1 ป.3/1, ป.3/2 ว 2.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4 ว 2.3 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ว 3.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ว 3.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4 ว 4.2 ป.3/1, ป 3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5 รวม 25 ตัวชี้วัด
61 โครงสรา้ งรายวชิ า รหสั วชิ า ว 13101 รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลา 120 ช่ัวโมง จำนวน 3.0 หนว่ ยกติ สัดส่วนคะแนน ระหว่างปกี ารศกึ ษา : ปลายปี = 70 : 30 ท่ี ชื่อหนว่ ย มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก การเรยี นรู้ เรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั (ช่วั โมง) คะแนน (120) (100) 1 กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ เป็นการศึกษาเกี่ยวกับสิ่ง 10 5 วทิ ยาศาสตร์ ต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา วิธีการและขั้นตอน ที่ใช้ เพื่อตอบปัญหาที่เราสงสัยรียกว่าวิธีการ วิทยาศาสตร์ เมื่อเราทำการศึกษาโดยใช้ กระบว นการว ิ ทย าศ าส ตร ์ จะเกิ ด จิ ต วิทยาศาสตร์ ทำให้เราเป็นคนมีความสนใจใฝร่ ู้ มีความรับผิดชอบ มีเหตุมีผล และมีความ ซือ่ สตั ย์ 2 ชวี ิตของสตั ว์ ว 1.2 ป.3/1 มนุษย์นำความรู้ที่ได้เกี่ยวกับการ 20 10 ว 1.2 ป.3/2 ถา่ ยทอดลักษณะทาง พันธกุ รรมมาใช้ประโยชน์ ว 1.2 ป.3/3 ในการพัฒนาสายพันธุ์ของสัตว์ สิ่งมีชีวิตที่ไม่ ว 1.2 ป.3/4 สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่ เปลี่ยนแปลงไปได้ ก็จะสูญพันธุ์ไปในที่สุด ส ิ ่ ง ม ี ช ี ว ิ ต ท ี ่ ส า ม า ร ถ ป ร ั บ ต ั ว เ ข ้ า กั บ สภาพแวดลอ้ มท่ี เปลีย่ นแปลงไปได้ 3 การเปลย่ี นแปลงของ ว 2.1 ป.3/1 วัตถุอาจมาจากชนิ้ สว่ นย่อยๆ แต่ละชิ้นมี 10 5 วัตถุและวสั ดุ ว 2.1 ป.3/2 ลักษณะเหมือนกันมาประกอบเข้าด้วยกัน เมื่อ แยกชิ้นส่วนย่อยๆแต่ละชิ้นเหล่านั้นมาประกบ เป็นชน้ิ ส่วนใหม่ได้ 1 Coding อะไรเอ่ย ว4.2 ป.3/1 อัลกอลิทึม (Algorithm) เป็นขั้นตอนท่ี 5 2 ใช้แก้ปัญหา ประกอบด้วยวิธีการเป็นขั้นๆ จนกระทั่งแก้ปัญหาได้สำเร็จ การแสดง อัลกอริทึม ทำได้หลายวิธี เช่น การเขียน บอก เลา่ วาดภาพ หรอื ใชส้ ัญลกั ษณ์
ท่ี ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั การเรยี นรู้ เรียนรู้/ตัวช้วี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน (120) (100) 2 ตามใจฉันกำหนด ว4.2 ป.3/2 การเริ่มเขียนโปรแกรมจะต้องออกแบบ 3 2 การทำงานของโปรแกรมขึ้นมาก่อน หรือ เรียกวา่ ข้ันตอนวธิ ีโดยสรา้ งเป็นลำดับของคำส่ัง ที่ตอ้ งการใหท้ ำงาน 3 ทอ่ งโลกกว้าง ว4.2 ป.3/3 เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่าย 3 2 ขนาดใหญ่ ทำให้แลกเปลี่ยนกันได้ง่ายข้ึน ติดต่อสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และมี โปรแกรมใหบ้ รกิ ารตา่ งๆ เป็นจำนวนมาก 4 โลกไร้พรมแดน ว4.2 ป.3/3 การสืบค้นข้อมูลที่เราสนใจโดยใช้ 4 2 Search Engine นั้นจะต้องใช้สิ่งที่เรียกว่า คำค้น เมอ่ื ปอ้ นคำค้นท่ีต้องการค้นหาลงไปแล้ว กดแป้น Enter จะพบข้อมูลรายการต่างๆ แสดงออกมา 5 ค้นหาเรื่องราว ว4.2 ป.3/3,ป. การนำความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต มา 4 2 3/4 ประยุกต์ใช้ในการศึกษาหาความรู้ ได้แก่ การ สืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต โดยการใช้งาน อินเทอรเ์ นต็ เกย่ี วกับการศึกษา สอบกลางภาคเรียน 1 10 4 แรงและการเคล่ือนที่ ว 2.2 ป.3/1 การดึงหรือการผลัก เป็นการออกแรง 10 5 ของวตั ถุ ว 2.2 ป.3/2 กระทำของวัตถุ อาจทำให้วัตถุเคลื่อนที่ไปจาก ว 2.2 ป.3/3 ตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่งได้ หรือ ว 2.2 ป.3/4 เคลือ่ นทช่ี ้า ลง เร็วขนึ้ หรอื หยุดการเคลือ่ นทไ่ี ด้ 5 อากาศบนโลก ว 3.2 ป.3/1 อากาศ ประกอบด้วยแก๊สไนโตรเจน 10 5 ว 3.2 ป.3/2 แก๊สออกซิเจน แก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ ว 3.2 ป.3/3 และแก๊สอื่นๆ รวมทั้งไอน้ำและฝุ่น ละออง ว 3.2 ป.3/4 อากาศมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต สิ่งมีชีวิต ทุกชนิดต้อง ใช้อากาศในการหายใจ มีแนวทาง ในการปฏิบัติตนเพอ่ื ลดมลพษิ ในอากาศ
62 ช่ือหนว่ ย มาตรฐานการ เวลา น้ำหนัก การเรยี นรู้ เรียนรู/้ ตัวชี้วัด คะแนน ท่ี ว 2.3 ป.3/1 สาระสำคัญ (ช่ัวโมง) (100) ว 2.3 ป.3/2 ว 2.3 ป.3/3 (120) 5 6 พลังงานบนโลกของ ว 3.1 ป.3/1 เมื่อถูวัตถุบางชนิดแล้วเข้าใกล้กันจะ 15 5 เรา ว 3.1 ป.3/2 ว 3.1 ป.3/3 ดึงดูดหรือผลักกันได้ แรงที่เกิดขึ้นนี้ เรียกว่า 2 ว4.2 ป.3/3,ป. แรงไฟฟา้ และวตั ถุนนั้ จะดึงดูด วตั ถุเบาๆ ได้ 3/4 ไฟฟ้าจากเซลล์ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ สามารถทำงานได้ ไฟฟ้า จึงเป็นพลังงาน พลังงานไฟฟ้าเปลี่ยนเป็นพลังงานอื่นได้ ซ่ึง ตรวจสอบได้จาก เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน การ ผลิตไฟฟ้าใช้พลังงานจากแหล่งพลังงาน ธรรมชาติ เป็นแหล่งพลังงานที่มีจำกัด และ แหล่งพลังงานหมุนเวียน เราใช้ไฟฟ้าอย่าง รวมทั้งใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภยั 7 ดวงอาทติ ย์กับชวี ติ ดวงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ 4 ของโลก เพราะให้ทั้ง พลังงานความร้อนและ พลังงานแสง ซึ่งช่วยในการ ดำรงชีวิตของ สง่ิ มชี ีวติ โ ล ก ห ม ุ น ร อ บ ต ั ว เ อ ง ท ำ ใ ห ้ เ กิ ด ปรากฏการณ์ เกิดกลางวันและกลางคืน กำหนดทิศโดยสังเกตจากการขึ้นและการตก ของดวง อาทิตย์ ให้ด้านที่เห็นดวงอาทิตย์ขึ้น เป็นทิศตะวันออก และด้านที่เห็นดวงอาทิตย์ ตกเป็นทิศตะวันตก เมื่อใช้ทิศ ตะวันออกเป็น หลัก โดยให้ด้านขวามืออยู่ทางทิศ ตะวันออก ด้านซ้ายมืออยู่ทางทิศตะวันตก ด้านหน้าจะ เปน็ ทิศเหนอื และด้านหลังจะเป็นทิศใต้ 13 หนูน้อยนกั ขาย ซอฟแวร์นำเสนอ เป็นโปรแกรมที่ใช้ 4 นำเสนอข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และเป็น ซอฟแวร์ประยุกต์ที่สามารถนำเสนอข้อมูลใน รูปแบบตัวอักษร ตาราง กราฟ ภาพน่ิง ภาพเคล่อื นไหว และเสยี ง
63 ท่ี ช่อื หน่วย มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั การเรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด (ชวั่ โมง) คะแนน (120) (100) 14 ปลอดภยั ไวก้ ่อน ว4.2 ป.3/5 ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาท 6 3 สำคัญและส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเปน็ ด้านการดำเนินชีวิตประจำวัน การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม การเมือง และการ ดำเนินงานในทุกสาขาอาชีพ ทำให้ทึกคนใน สงั คมตอ้ งมกี ารปรบั ตวั และพฒั นาตนเองให้ทัน ต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศมีทั้งคุณและ โทษนักเรียนต้องศึกษาเพื่อใช้งานได้อย่างรู้เท่า ทัน และสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัยใน สังคมปจั จบุ ัน นอกจากนน้ียังต้องสามารถเลือก และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศด้านต่างๆ อย่าง สร้างสรรคแ์ ละมจี รยิ ธรรม 15 ชีวิตรวดเรว็ ว4.2 ป.3/4,ป. ปัจจุบันเราในชีวิตประจำวันกับ 4 3 ดา้ นเทคโนโลยี 3/5 เทคโนโลยีต่างๆ จนเป็นปกติ โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การสอนในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยี เป็นเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้ หรือ การใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความ สะดวกในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุผลนี้ คนรุ่น ใหม่จึงควรเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี สารสนเทศ 16 ขอ้ ตกลงของส่วนรวม ว4.2 ป.3/5 อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่ทำให้ผู้ใช้ 4 2 สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่แหล่งข้อมูลต่างๆ ได้ อย่างกว้างขวาง ดงั นนั้ ผู้ใช้ อินเทอร์เน็ตจึงต้องเรียนรู้และทำความ เข้าใจเกี่ยวกับมารยาท ข้อปฏิบัติ รวมไปถึง กฎหมายในการใช้งานอนิ เทอร์เน็ต เพื่อให้การใช้งานเครือข่ายร่วมกับผู้อื่น เกดิ ประโยชนใ์ นทางสร้างสรรค์
64 ท่ี ช่อื หน่วย มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั การเรียนรู้ เรียนร้/ู ตัวชี้วดั (ชัว่ โมง) คะแนน (120) (100) เวลาเรียนกลางปี – เวลาเรียนปลายปี สอบปลายปี 118 70 รวมท้ังสน้ิ ตลอดปี 2 30 120 100
65 คำอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน รายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 ว 14101 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวน 3.0 หน่วยกิต เวลาเรยี น 120 ชัว่ โมง (3 ช่ัวโมง/สัปดาห)์ ศึกษา วิเคราะห์ การจำแนกส่ิงมีชวี ิตเปน็ กลุม่ พืช กลุม่ สัตว์ และกลุ่มท่ี ไม่ใช่พืชและสตั ว์ การจำแนก พืชออกเป็นพชื ดอกและพชื ไม่มีดอก การจำแนกสตั วอ์ อกเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลงั และสัตวไ์ มม่ ีกระดกู สนั หลงั ลักษณะเฉพาะของสตั วม์ กี ระดูกสนั หลงั ในกลุ่มปลา กลุม่ สตั วส์ ะเทนิ น้ำสะเทนิ บก กลุ่มสัตวเ์ ล้ือยคลาน กล่มุ นก และกลุ่มสตั ว์เลยี้ งลูกดว้ ยน้ำนม หน้าท่ีของ ราก ลำตน้ ใบและดอกของพืชดอก สมบัติทางกายภาพ ดา้ น ความแขง็ สภาพยืดหยนุ่ การนำความร้อน และการน าไฟฟ้าของวัสดุ การนำสมบตั ิทางกายภาพของวัสดไุ ปใช้ ในชีวิตประจำวนั สมบตั ิของสสารทงั้ 3 สถานะ ผลของแรงโน้มถ่วงทีม่ ีต่อวัตถุ การวดั นำ้ หนักของวัตถุ มวล ของวตั ถุทม่ี ีผลต่อการ เปล่ยี นแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ และตัวกลางของแสง การขน้ึ และตกและรูปรา่ งดวง จันทร์ และ องค์ประกอบของระบบสรุ ยิ ะ การใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การออกแบบและเขียน โปรแกรมอยา่ งงา่ ย การตรวจหาข้อผดิ พลาดในโปรแกรม การค้นหาข้อมลู ในอนิ เทอร์เนต็ และการใช้ คำค้น การประเมนิ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล การรวบรวม นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ โดยใชก้ ารสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทกั ษะการ เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิต วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั ว 1.2 ป.4/1 ว 1.3 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 ว 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 ว 2.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 ว 2.3 ป.4/1 ว 3.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 ว 4.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5 รวม 21 ตัวช้ีวัด
66 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว 14101 รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 120 ชั่วโมง จำนวน 3.0 หน่วยกติ สัดส่วนคะแนน ระหว่างปีการศกึ ษา : ปลายปี = 70 : 30 ที่ ชื่อหน่วย มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก การเรยี นรู้ เรยี นรู/้ ตัวช้วี ดั (ช่ัวโมง) คะแนน (100) เทอม 1 - 6 10 1 การเรียนรู้สงิ่ ตา่ งๆ วทิ ยาศาสตร์ เป็นการศึกษาเกี่ยวกบั สงิ่ ตา่ งๆ ที่ รอบตัว อยู่รอบตวั เรา วธิ กี ารและข้นั ตอน ทีใ่ ช้เพื่อตอบ ปญั หาที่เราสงสัยเรียกว่าวิธกี ารวิทยาศาสตร์ ซงึ่ มี ท้งั เปน็ ทกั ษะขนั้ พ้ืนฐาน เชน่ การสังเกต การวัด การใช้จำนวน และทักษะขัน้ ผสม เชน่ การตั้ง สมมตุ ิฐาน การกำหนดนิยามเชงิ ปฏิบตั ิการ การ กำหนดและควบคุมตวั แปร การทดลอง การ ตีความหมายและการลงข้อสรุป เมอ่ื เรา ทำการศึกษาโดยใช้กระบวนการวทิ ยาศาสตร์ จะ เกดิ จิตวิทยาศาสตร์ ทำให้เราเปน็ คนมคี วามสนใจ ใฝร่ ู้ มีความรับผิดชอบ มีเหตุมีผล และมคี วาม ซอื่ สัตย์ 2 ส่ิงมชี วี ติ ว 1.2 ป.4/1 สิ่งมชี ีวติ โดยใช้ความเหมือน และความ 24 20 ว 1.3 ป.4/1 • แตกต่างของลกั ษณะของส่ิงมีชีวติ ออกเปน็ กลุม่ ว 1.3 ป.4/2 • พืช กลมุ่ สตั ว์ และกลุ่มท่ีไมใ่ ช่พชื และสตั ว์ ว 1.3 ป.4/3 • พืชดอกและพืชไม่มีดอก สัตว์ออกเป็นสัตว์มีกระดกู ว 1.3 ป.4/4 สนั หลังและสัตวไ์ มม่ ีกระดูกสันหลงั แบ่ง ลักษณะ เฉพาะที่สังเกตได้ของสัตว์มีกระดูกสันหลงั ในกลุม่ ปลา กลมุ่ สัตว์สะเทินนำ้ สะเทนิ บก กลุ่ม สตั ว์เลื้อยคลาน กลมุ่ นก และกลุ่มสตั วเ์ ล้ียงลูกด้วย นำ้ นม 3 แรงและพลงั งาน ว 2.2 ป.4/1 แรงโน้มถ่วงของโลกเป็นแรงดึงดูดท่โี ลกกระทำต่อ 9 10 ว 2.2 ป.4/2 วตั ถุ ซึ่งมที ศิ ทางเข้าส่าจุดศูนยก์ ลางของโลก จงึ ว 2.2 ป.4/3
67 ท่ี ช่ือหนว่ ย มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก การเรยี นรู้ เรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั (ชั่วโมง) คะแนน (100) ว 2.3 ป.4/4 ทำใหว้ ตั ถุตกลงสู่พ้ืนเสมอ เม่ือมองสง่ิ ตา่ งๆผ่าน วัตถตุ า่ งชนิดกนั เปน็ ตัวกลาง จะทำใหเ้ รา มองเห็นสิ่งตา่ ง ๆ แตกต่างกันออกไป ซงึ่ จำแนก ออกเปน็ ตัวกลางโปรง่ ใส โปรง่ แสง และทบึ แสง 4 การแกป้ ัญหา ว 4.1 ป4/1 การออกแบบโปรแกรมการแก้ปญั หา เป็นการ 9 5 (วทิ ยาการคำนวณ) ว 4.2 ป.4/1 ออกแบบข้ันตอนการแกป้ ัญหาทค่ี วรออกแบบให้ 5 ครอบคลุมทุกกรณีตามเง่ือนไขที่โจทยก์ ำหนด และ 10 15 อาจนำขั้นตอนนี้ไปใช้ได้หลาย ๆ คร้ังตามต้องการ การเขียนโปรแกรมเปน็ การสร้างลำดบั ของคำส่งั ให้ คอมพวิ เตอร์ทำงาน เพื่อใหไ้ ด้ผลลพั ธต์ ามความ ต้องการ หากมีขอ้ ผิดพลาดให้ตรวจสอบการทำงาน ทลี ะคำสัง่ เมื่อพบจุดท่ีทำใหผ้ ลลัพธไ์ มถ่ ูกต้องให้ทำ การแก้ไขจนกวา่ จะไดผ้ ลลัพธ์ท่ีถกู ต้อง 5 เครือข่าย ว 4.2 ป.4/2 การนำคอมพวิ เตอรห์ ลาย ๆ เคร่ืองและอุปกรณ์ 11 คอมพิวเตอร์ ว 4.2 ป.4/3 เทคโนโลยีมาเช่อื มต่อกันมากกว่า 1 เคร่ืองเปน็ (วทิ ยาการคำนวณ) ว 4.2 ป.4/4 เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ ทำใหส้ ามารถแลกเปลยี่ น ขอ้ มลู สำรองข้อมลู รวมถงึ การตดิ ต่อสื่อสารได้ และเพื่อคน้ หาข้อมลู ทั้งข้อมูลที่เปน็ ตวั อักษรและภาพ เปรยี บเทยี บเลือกขอ้ มูลทม่ี คี วามสอดคล้องและ สมั พนั ธก์ ันประเมินความน่าเชอื่ ถือของข้อมลู การใช้ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ยูทบู บริการเครือขา่ ยสงั คม ออนไลน์ ข้อปฏิบัติในการใช้อินเทอร์เนต็ และการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ถูกต้อง และ เหมาะสม สอบกลางภาคเรยี น 1 เทอม 2 6 วสั ดแุ ละสสาร ว 2.1 ป.4/1 สมบัติทางกายภาพด้านความแข็ง สภาพยดื หยุ่น 25 ว 2.1 ป.4/2 การนำความร้อน และการนำ ว 2.1 ป.4/3 ไฟฟา้ ของวัสดุโดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจักษจ์ าก
68 ที่ ชื่อหนว่ ย มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก การเรียนรู้ เรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด (ชั่วโมง) คะแนน (100) ว 2.1 ป.4/4 การทดลองและระบุการนำสมบัตเิ ร่อื งความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนำความร้อน และการนำ ไฟฟา้ ของวัสดไุ ปใช้ในชีวติ ประจำวัน 7 โลกและอวกาศ ว 3.1 ป.4/1 ระบบสรุ ยิ ะ มีดวงอาทิตย์เป็นศูนยก์ ลาง และมี 15 5 ว 3.1 ป.4/2 10 5 ว 3.1 ป.4/3 ดวงดาวบริวารโคจรอยู่โดยรอบ อกี ทง้ั ยะมวี ตั ถุ 8 5 8 การรวบรวมข้อมูล ว 4.2 ป.4/4 ท้องฟ้าอ่นื ๆ ดวงจนั ทร์ปรากฏขนึ้ ทางทศิ และซอฟต์แวร์ ประยุกต์ ตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก และในแตล่ ะ (วิทยาการคำนวณ) คืนเราจะมองเหน็ ดวงจนั ทร์ ทมี่ รี ูปร่างเปลี่ยนไป 9 การเขียนโปรแกรม ว 4.2 ป.4/2 เบ้ืองต้น หรือในบางคนื เราอาจจะมองไม่เห็นดวงจันทร์ (วทิ ยาการคำนวณ) -การรวบรวมข้อมูล กำหนดอาจใชว้ ิธีการจดบันทึก ถ่ายภาพหรือบันทกึ เปน็ ไฟล์ในคอมพิวเตอร์ ถ้ามี ขอ้ มูลหลายประเภทอาจนำข้อมลู ประเภทเดยี วกนั จดั ไว้กลุ่มเดียวกนั ถา้ มีขอ้ มูลในลักษณะตัวเลขอาจใช้ ตวั เลขเรียงลำดับของข้อมูลและมีการนำเสนอข้อมลู ทหี่ ลากหลาย โดยใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟศิ เวริ ์ดในการแกป้ ัญหา ซอฟตแ์ วรต์ ารางทำงานเปน็ โปรแกรมทีช่ ่วยในการคดิ คำนวณ ใช้สรา้ งตาราง สร้างกราฟ และแผนภูมใิ นรูปแบบตา่ ง ๆ โดยใช้ โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเอกซ์เซล คอมพวิ เตอร์มีการทำงานตามข้นั ตอน โดยการสรา้ ง หรอื เขียนลำดับคำสงั่ ให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ ผเู้ ขยี นโปรแกรมออกแบบไว้ เม่ือพบจดุ ท่ีทำให้ ผลลัพธ์ไม่ถูกต้องให้ทำการแก้ไขจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ ที่ถูกต้อง การเขยี นโปรแกรมด้วย Scratch เป็น เครื่องมือหน่ึงท่ีนำมาใชฝ้ ึกเขยี นโปรแกรม สามารถ เรียนรู้ไดง้ ่าย โดยการออกแบบอลั กอริทมึ เขียน โปรแกรมในการนำบล็อกคำสง่ั ต่าง ๆ มาวางให้ตวั
69 ท่ี ช่อื หนว่ ย มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก การเรยี นรู้ เรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั (ช่ัวโมง) คะแนน (100) ละครเคลื่อนท่ตี ามคำสั่ง ทำให้มีความเข้าใจการ ทำงานของคอมพวิ เตอร์มากขึ้น เวลาเรียนกลางปี – เวลาเรยี นปลายปี 118 70 สอบปลายปี 2 30 รวมท้ังสน้ิ ตลอดปี 120 100
70 คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน รายวิชาพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 ว 15101 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวน 3.0 หน่วยกิต เวลาเรยี น 120 ช่วั โมง (3 ชั่วโมง/สปั ดาห)์ ศกึ ษา วิเคราะห์ โครงสรา้ งและลักษณะของส่ิงมชี ีวิตทีเ่ หมาะสมในแตล่ ะแหล่งที่อยู่ ความสัมพันธ์ ระหวา่ งส่งิ มีชวี ิตกับส่ิงมีชีวิตและความสัมพนั ธ์ระหว่างสง่ิ มีชีวิตกับสิ่งไม่มชี ีวิต การถา่ ยทอดลกั ษณะทาง พนั ธุกรรมของพชื สัตว์ และมนษุ ย์ การเปลยี่ นสถานะของสสาร การละลายของสาร ในน้ำ การเปลยี่ นแปลง ทางเคมี การเปลี่ยนแปลงทผ่ี ันกลับได้และผันกลับไมไ่ ด้ แรงลพั ธ์ แรงเสยี ดทาน การได้ยินเสียงผ่านตวั กลาง ลักษณะและการเกิดเสียงสงู เสยี งตำ่ เสยี งดัง และเสียงค่อย ระดบั เสียงและมลพิษทางเสียง ความแตกต่างของ ดาวเคราะหแ์ ละดาวฤกษ์ การใชแ้ ผนที่ดาว แบบรูปเส้นทางการขนึ้ และตกของดวงอาทติ ย์ กล่มุ ดาวฤกษ์บน ทอ้ งฟ้าในรอบปี ปริมาณน้ำในแต่ละแหลง่ ปรมิ าณน้ำท่ีมนุษย์สามารถนำมาใช้ได้ การใช้น้ำอยา่ งประหยัดและ การอนรุ ักษ์นำ้ วฏั จกั รน้ำ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำคา้ ง และนำ้ ค้างแข็ง กระบวนการเกดิ ฝน หิมะ และ ลกู เห็บ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแกป้ ญั หา การเขยี นรหสั ลำลองเพอ่ื แสดง วิธแี กป้ ัญหา การออกแบบ และการเขยี นโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขและการทำงานแบบวนซ้ำ การใชซ้ อฟตแ์ วร์ ประมวลผลข้อมลู การ ตดิ ตอ่ สอ่ื สารผ่านอินเทอร์เนต็ การใช้อินเทอรเ์ นต็ ค้นหาข้อมูลและการประเมิน ความนา่ เช่ือถอื ของข้อมลู อันตรายจากการใชง้ านและอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ โดยใชก้ ารสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะการ เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิต วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด ว 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 ว 1.3 ป.5/1, ป.5/2 ว 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 ว 2.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5 ว 2.3 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5 ว 3.1 ป.5/1, ป.5/2 ว 3.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5 ว 4.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5 รวม 32 ตัวช้ีวัด
71 โครงสร้างรายวชิ า รหัสวิชา ว 15101 รายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 120 ชั่วโมง จำนวน 3.0 หนว่ ยกิต สัดส่วนคะแนน ระหวา่ งปกี ารศึกษา : ปลายปี = 70 : 30 หนว่ ยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั การเรียนรู้ การเรียนรู้/ (ชั่วโมง) คะแนน ตวั ช้ีวัด (100) 1 แรงและพลงั งาน ว 2.2 ป.5/1 แรงลัพธ์เป็นผลรวมของแรงที่กระทำ 24 15 ป.5/2 ต่อวัตถุ แรงทั้งสองอยู่ในแนวเดียวกันและมี ป.5/3 ทิศทางเดียวกัน แต่แรงทั้งสองอยู่ในแนว ป.5/4 เดียวกันแต่มีทิศทาง ตรงข้ามกัน แรงลัพธ์ท่ี ป.5/5 กระทำต่อวัตถุมีค่าเป็นศูนย์ การเขียน ว 2.3 ป.5/1 แผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุสามารถ ป.5/2 เขยี นไดโ้ ดยใชล้ ูกศร แรงเสยี ดทานเป็นแรงท่ี ป.5/3 เกิดขึ้นระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุ เพื่อต้าน ป.5/4 การเคลื่อนที่ของวัตถุนั้น แรงเสียดทานจาก ป.5/5 พื้นผิวนั้นก็จะต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุ แต่ ถ้าวัตถุกำลงั เคลื่อนที่แรงเสียดทานก็จะทำให้ วัตถุนน้ั เคลอื่ นท่ชี ้าลงหรือหยุดนงิ่ การไดย้ ินเสยี งต้องอาศัยตวั กลาง เสียง ที่ได้ยินมีระดับสูงต่ำของเสียงต่างกันขึ้นกับ ความถีข่ องการส่ันของแหล่งกำเนดิ เสยี ง ส่วนเสียงดังคอ่ ยท่ไี ดย้ นิ ข้ึนกับพลังงาน การสั่นของแหล่งกำเนิดเสียง แต่เสียงดังมาก ๆ เป็นอันตรายต่อการได้ยินและเสียงท่ี ก่อให้เกิดความรำคาญเป็นมลพษิ ทางเสียง ความดังของเสียงมหี นว่ ยเปน็ เดซเิ บล 2 การเปล่ยี นแปลง ว 2.1 ป.5/1 การเปลี่ยนสถานะของสสารเป็นการ 16 10 ของสาร ป.5/2 เปล่ียนแปลงทางกายภาพ แตเ่ มอื่ ผสมสาร 2 ป.5/3 ชนิดขึ้นไปแล้วมีสารใหม่เกิดขึ้นซึ่งมีสมบัติ ป.5/4 ต่างจากสารเดิมหรือเมื่อสารชนิดเดียว เกิด การเปลี่ยนแปลงแล้วมีสารใหม่เกิดขึ้นการ เปลี่ยนแปลงนี้เรียกว่า การเปลี่ยนแปลงทาง
72 หนว่ ยที่ ชือ่ หน่วย มาตรฐาน สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั 3 การเรียนรู้ การเรยี นรู้/ (ชว่ั โมง) คะแนน ตุ๊กตาแมล่ ูกดก ตวั ชี้วดั เคมี เมื่อสารเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว สาร (100) 4 ว 4.2 ป.5/1 สามารถเปลี่ยนกลับเป็นสารเดิมได้ เป็นการ 4 ชิม ชอป แชะ เปลี่ยนแปลงทผี่ นั กลับได้ 1 5 ว 4.2 ป.5/3 4 เส้นทางเดิน ป.5/5 รหัสลำลอง เปน็ การเขยี นข้อความเป็น 1 เหนือเรอื นยอดไม้ ขั้นตอนเพื่อแสดงอัลกอริทึมในการทำงาน 4 ว 4.2 ป.5/5 หรือการแก้ปัญหา รหัสลำลองที่ดีควรมคี วาม 1 ชัดเจน ทุกคนสามารถเข้าใจได้ตรงกัน เรา สามารถนำความรู้เกี่ยวกับการเขียนรหัส ลำลองไปประยุกตใ์ ช้ในการแสดงข้ันตอนการ ทำงานต่างๆ เช่น การประดิษฐ์ดอกไม้ กระดาษ การทำอาหาร การยืมคืนหนังสือใน ห้องสมุด อัลกอริทึมสามารถแสดงได้ใน รูปแบบของรหสั ลำลองหรือผังงาน การใช้อีเมล์ต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับ ส่วนประกอบต่างๆ และเนื้อหาของอีเมล์ ก่อนส่งอีเมล์ควรตรวจดูความเรียบร้อย เพื่อใหแ้ นใ่ จว่ามรี ายละเอียดที่สำคัญครบถ้วน การใช้อีเมลช่วยให้การติดต่อสื่อสารและการ ทำงานร่วมกนั สะดวกยิง่ ขึ้น ไม่ควรส่งอีเมล์หรือข้อความถึงผู้อ่ืน บ่อยเกินไปเนื่องจากจะเป็นการรบกวนควร ให้ความสนใจพูดคุยกับคนที่อยู่รอบข้าง มากกว่าการใช้อปุ กรณเ์ ทคโนโลยี เราสามารถใช้โปรแกรมตารางทำงาน ในการประมวลผลข้อมูล เช่น นับจำนวน คำนวณผลรวม เรียงลำดับข้อมูล การนับ จำนวนทำได้โดยใช้สูตร เช่น COUNT , COUNTA , COUNTIF การเรียงลำดับข้อมูล ทำไดโ้ ดยใช้คำสั่ง Sort & Filter
73 ชอ่ื หน่วย มาตรฐาน เวลา น้ำหนกั การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน หนว่ ยท่ี ดาวกระจาย การเรยี นรู้/ สาระสำคญั (100) 6 ที่ค่ายลูกเสือ 4 7 ตวั ช้ีวัด 3 1 ไลฟส์ าระ 8 ว 4.2 ป.5/2 เราสามารถวางแผนเขียนโปรแกรม 1 1 วฏั จกั รน้ำและวฏั 20 จกั รการปรากฏ โดยเขียนรหัสลำลองเพื่อแสดงขั้นตอนการ 10 ของกลุ่มดาว 15 ทำงาน บล็อกคำสั่ง repeat ในโปรแกรม Scratch ใช้ในการทำงานแบบวนซ้ำ บล็อก คำสั่ง forever ใช้ครอบชุดคำสั่งที่ต้องการ ทำซ้ำไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด ว4.2 ป.5/3 การถ่ายทอดสดมีประโยชน์ ช่วย ป.5/5 เผยแพร่ความรู้หรือสิง่ ที่ต้องการนำเสนอให้ผู้ ที่สนใจ สามารถโ ต้ตอบก ับผู ้ ช ม ไ ด้ สถานการณ์ที่ไม่ควรถ่ายทอดสด เช่น เมื่ออยู่ ตามลำพัง การแสดงพฤติกรรมที่ไมเ่ หมาะสม หรือการกระทำที่สร้างความเดือดร้อนแก่ ตนเองและผู้อื่น ผู้ที่ถ่ายทอดสดควรปกป้อง ข้อมูลส่วนตัว ระมัดระวังความปลอดภัยใน ชวี ติ และทรพั ย์สิน การถา่ ยทอดสดอาจมีคนท่ี เราไม่รู้จักเข้ามาดู และมารบกวนสร้างความ เดือดร้อนให้เราได้ การแสดงความคิดเห็นใน สื่อสังคมต้องแสดงความคิดเห็นอย่าง สรา้ งสรรค์ และใชค้ ำสภุ าพ ข้อเทจ็ จริงเปน็ ข้อความหรือเหตุการณ์ ที่สามารถตรวจสอบได้ว่าจริงหรือไม่ส่วน ข้อคิดเห็นเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล อาจจะไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะแต่ละ คนมคี วามเชอื่ แตกต่างกัน สอบกลางปี ว 3.2 ป.5/1 โลกมีทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มซึ่งอยู่ใน ป.5/2 แหล่งน้ำต่าง ๆ น้ำจืดที่มนุษย์นำมาใช้ได้มี ป.5/3 ปริมาณน้อยมากจึงควรใช้น้ำอย่างประหยัด ป.5/4 และร่วมกันอนุรักษ์น้ำ วัฏจักรน้ำ เป็นการ ป.5/5 หมุนเวียนของน้ำที่มีแบบรูปซ้ำเดิม และ
74 หน่วยท่ี ชอื่ หน่วย มาตรฐาน สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั 9 การเรยี นรู้ การเรยี นรู้/ (ชัว่ โมง) คะแนน ตวั ชี้วัด (100) ส่งิ มชี วี ิต ว 3.1 ป.5/1 ต่อเนื่องระหว่างน้ำในบรรยากาศ น้ำผิวดิน 10 ป.5/2 และน้ำใต้ดิน โดยพฤติกรรมการดำรงชีวิต ของพืชและสัตว์ส่งผลต่อวัฏจักรน้ำ ส่วนฝน หิมะ ลูกเห็บ เป็นหยาดน้ำฟ้าซึ่งเป็นน้ำที่มี สถานะต่างๆ ดาวที่มองเห็นบนท้องฟ้า ซึ่งเป็น บริเวณท่อี ย่นู อกบรรยากาศของโลก มีทัง้ ดาว ฤกษ์และดาวเคราะห์ การมองเห็นกลุ่มดาว ฤกษ์มรี ูปรา่ งตา่ ง ๆ เกิดจากจินตนาการของผู้ สังเกต กลุ่มดาวฤกษ์ต่าง ๆ ที่ปรากฏใน ท้องฟ้าแต่ละกลุ่มมีดาวฤกษ์แต่ละดวงเรียง กนั ที่ตำแหน่ง คงที่ และมีเส้นทางการขึ้นและตกตาม เส้นทางเดิมทุกคืน ซึ่งจะปรากฏตำแหน่งเดิม การสังเกตตำแหน่งและการขึ้นและตกของ ดาวฤกษแ์ ละกลุ่มดาวฤกษ์ สามารถทำได้โดย ใช้แผนที่ดาว ซึ่งระบุมุมทิศและมุมเงยที่กลุ่ม ดาวนัน้ ปรากฏ ว 1.1 ป.5/1 สิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์มีโครงสร้าง 19 ป.5/2 และลักษณะที่เหมาะสมในแต่ละแหล่งที่อยู่ ป.5/3 ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวของสิ่งมีชีวิต ป.5/4 เพอื่ ให้ดำรงชวี ิตและอยรู่ อดได้ ในแหล่งท่ีอยู่ ว 1.3 ป.5/1 หนึ่ง ๆ สิ่งมีชีวิตจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและ ป.5/2 กันและสัมพันธ์กับสิ่งไม่มีชีวิต เพื่อประโยชน์ ต่อการดำรงชีวิต สิ่งมีชีวิตมีการกินกันเป็น อาหาร โดยกินต่อกันเป็นทอด ๆ ในรูปแบบ ของโซ่อาหาร ทำให้สามารถระบุบทบาท หนา้ ท่ีของสง่ิ มชี ีวติ เป็นผผู้ ลิตและผู้บริโภค
75 หน่วยท่ี ชอื่ หน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั 10 การเรยี นรู้ การเรียนรู้/ (ชวั่ โมง) คะแนน 11 ตวั ชี้วดั (100) โรบอทเอ็กโป สงิ่ มีชีวิตท้งั พชื สตั ว์ และมนษุ ย์ เม่ือโต 1 แฟนตะกร้อ เต็มที่จะมีการสืบพันธุ์เพื่อเพิ่มจำนวนและ 2 ดำรงพันธุ์ โดยลูกที่เกิดมาจะได้รับการ ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ ทำให้มีลักษณะทางพันธุกรรมที่เฉพาะ แตกตา่ งจากส่ิงมีชวี ิตชนิดอื่น พืชมีการถ่ายทอดลักษณะทาง พันธกุ รรม เชน่ ลกั ษณะของใบ สดี อก สัตว์มีการถ่ายทอดลักษณะทาง พนั ธกุ รรม เชน่ สขี น ลกั ษณะของขน ลกั ษณะ ของหู มนุษย์มีการถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรม เช่น เชิงผมที่หน้าผาก ลักย้ิม ลกั ษณะหนังตา การห่อลิน้ ลักษณะของติ่งหู ว 4.2 ป.5/2 บล็อกคำสั่ง if ใช้ในการตรวจสอบ 4 เงื่อนไข หากตรวจสอบแล้วเป็นไปตาม เงื่อนไข โปรแกรมจะทำตามคำสั่งที่ถูกครอบ อยู่ การเขียนโปรแกรมโดยใช้บล็อกคำสั่ง if เป็นการฝึกแนวคิดเกี่ยวกับการใช้เหตุผลเชิง ตรรกะ บล็อกคำสั่ง touching color (สัมผัส สี) อยู่ในกลุ่มบล็อก Sensing สามารถนำมา เปน็ เง่อื นไขในคำส่งั if บล็อกคำสั่ง ask and wait ใช้สำหรับ ถามและรอรับข้อมูลจากผู้ใช้โดยคำตอบจะ ถกู เกบ็ ไว้ในบล็อกคำสงั่ answer ว4.2 ป.5/5 การติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตควร 5 ใช้ภาษาที่สุภาพ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตควร ระมัดระวังใช้งานอย่างรู้เท่าทัน และไม่สร้าง ความเสียหายหรอื ความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นเมื่อ
76 หนว่ ยที่ ช่ือหน่วย มาตรฐาน สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก การเรยี นรู้ การเรียนรู้/ (ช่วั โมง) คะแนน ตัวชี้วัด (100) โปรแกรมไม่ตอบสนองต่อการใช้งานอาจ แ ก ้ ป ั ญ ห า เ บ ื ้ อ ง ต ้ น โ ด ย ใ ช ้ ค ำ ส ั ่ ง เ พ ื ่ อ ปิ ด โปรแกรม 12 กีฬาฮาเฮ ว 4.2 ป.5/1 การใช้เหตุผลเชิงตรรกะเป็นการหา 5 1 ข้อสรุปของปัญหาอย่างสมเหตุสมผล การ 5 1 แก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะทำได้โดย เขียนแนวทางที่เป็นไปได้ทั้งหมด แล้ว พิจารณาข้อมูลหรือเงือ่ นไขทีม่ ีอยู่ จากนั้นตดั แนวทางที่ไม่สอดคล้องเพื่อนำไปสู่แนวทางที่ เป็นข้อสรปุ 13 ดาวหาง ณ กลาง ว 4.2 ป.5/3 การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล หาว อาจทำได้จากการตรวจสอบต้นตอของ แหล่งข้อมูล ซึ่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือควร มาจากผู้เชีย่ วชาญ หรือหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง กับเรื่องน้ันโดยตรง ถ้าคำค้นทใ่ี ช้ในการค้นหาข้อมูลเป็นคำ ทับศัพท์จากภาษาอังกฤษ อาจพิมพ์คำค้น เป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตาม ความต้องการ นอกจากจะใช้โปรแกรมค้นหา ในการหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ แล้ว ยังสามารถใช้หาคำตอบอื่นๆ ได้ เช่น แปล คำศัพท์เป็นภาษาต่างๆ หาข้อมูลพยากรณ์ อากาศ คำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงิน แปลง คา่ หนว่ ยวดั คำนวณทางคณิตศาสตร์ ข้อมูลที่ปรากฏในบางเว็บไซต์อาจ กล่าวถึงเฉพาะข้อดีหรือข้อเสียของเรื่องนั้นๆ เราควรพิจารณาและหาข้อมูลให้ครบรอบ ดา้ น
77 หนว่ ยที่ ชอ่ื หน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั การเรียนรู้ การเรยี นรู้/ (ช่ัวโมง) คะแนน ตัวช้ีวัด (100) 118 เวลาเรยี นกลางปี – เวลาเรยี นปลายปี 2 70 120 สอบปลายปี 30 รวมท้ังสนิ้ ตลอดปี 100
78 คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน รายวิชาพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ว 16101 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวน 3.0 หน่วยกิต เวลาเรียน 120 ชั่วโมง (3 ช่ัวโมง/สัปดาห)์ ศึกษา วิเคราะห์ สารอาหาร การเลอื กรบั ประทานอาหารใหไ้ ดส้ ารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนท่ี เหมาะสมและปลอดภัยตอ่ สุขภาพ ระบบย่อยอาหาร การแยกสาร แรงไฟฟา้ การต่อวงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย การ ตอ่ เซลล์ไฟฟา้ การต่อหลอดไฟฟา้ และการนำไปใชป้ ระโยชน์ การเกดิ เงามดื เงามวั ปรากฏการณ์สรุ ยิ ปุ ราคา และจันทรุปราคา เทคโนโลยีอวกาศ กระบวนการเกิดหนิ อัคนี หนิ ตะกอน และหนิ แปร และวฏั จักรหนิ ลกั ษณะและสมบัติของหินและแร่ การใช้ประโยชนข์ องหนิ และแร่ การเกิดซากดึกดำบรรพแ์ ละสภาพแวดล้อม ในอดีตของซากดึกดำบรรพ์ การเกดิ ลมบก ลมทะเล และมรสุม ผลของมรสมุ ต่อการเกดิ ฤดขู องประเทศไทย ลกั ษณะและผลกระทบของน้ำท่วม การกัดเซาะชายฝงั่ ดนิ ถล่ม แผน่ ดนิ ไหว สนึ ามิ การเกิดและผลกระทบ ของปรากฏการณ์เรือนกระจก การใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะและออกแบบวธิ กี ารแก้ปญั หา การออกแบบ การเขียน โปรแกรมและการตรวจหาข้อผดิ พลาด การคน้ หาขอ้ มูลในอนิ เทอร์เนต็ อย่างมีประสิทธภิ าพ การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ โดยใช้การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทักษะการ เรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิต วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด ว 1.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5 ว 2.1 ป.6/1 ว 2.2 ป.6/1 ว 2.3 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8 ว 3.1 ป.6/1, ป.6/2 ว 3.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9 ว 4.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4 รวม 30 ตัวชี้วัด
79 โครงสร้างรายวชิ า รหัสวิชา ว 16101 รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 120 ช่ัวโมง จำนวน 3.0 หนว่ ยกติ สัดส่วนคะแนน ระหว่างปกี ารศึกษา : ปลายปี = 70 : 30 หนว่ ยที่ ชอ่ื มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั หน่วยการเรยี นรู้ เรยี นรู้/ตวั ชี้วดั (ชั่วโมง) คะแนน (120) (100) 1 อาหารและ ว1.2 ป.6/1 ประเภทของสารอาหารท่พี บในอาหาร 3 2 สารอาหาร ป.6/2 ประโยชนข์ องสารอาหารและพลงั งานที่ ป.6/3 เหมาะสมกับเพศและวัย 2 รา่ งกายของเรา ว1.2 ป.6/4 ระบบยอ่ ยอาหารประกอบดว้ ยอวัยวะ 13 10 ป.6/5 ต่างๆ ไดแ้ ก่ ปาก หลอดอาหาร กระเพาะ อาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ทวาร หนกั ตบั และตบั อ่อน ซ่ึงทำหน้าทีร่ ว่ มกันใน การย่อยและดดู ซึมสารอาหาร อวยั วะ ตา่ ง ๆ ในระบบย่อยอาหารมีความสำคญั จึง ควรปฏิบตั ิตน ดแู ลรักษาอวัยวะใหท้ ำงานเปน็ ปกติ 3 การแยกสารผสม ว2.1 ป.6/1 สารผสมประกอบดว้ ยสาร 42 ตัง้ แต่ 2 ชนิดขึ้นไปผสมกัน เช่น นำ้ มัน ผสมน้ำ ข้าวสารปนกรวดทราย วิธีการที่ เหมาะสมในการแยกสารผสมข้ึนอยูก่ ับ ลกั ษณะและสมบัติของสารท่ีผสมกัน ถ้า องคป์ ระกอบของสารผสมเป็นของแข็งกบั ของแขง็ ท่ีมขี นาดแตกต่างกนั อย่าง ชัดเจน อาจใช้วิธีการหยิบออกหรือการ ร่อนผา่ นวัสดุทม่ี รี ู ถ้ามสี ารใดสารหนึ่งเป็น สารแม่เหล็กอาจใชว้ ธิ ีการใชแ้ ม่เหล็ก ดงึ ดดู ถา้ องค์ประกอบเปน็ ของแขง็ ที่ไม่ ละลายในของเหลว อาจใชว้ ิธีการรนิ ออก การกรอง หรือการตกตะกอน ซง่ึ วิธกี ารแยกสารสามารถนำไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจำวันได้
80 หนว่ ยท่ี ชื่อ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนัก คะแนน หนว่ ยการเรียนรู้ เรยี นรู้/ตวั ชี้วดั (ชัว่ โมง) (100) (120) 7 4 แรงไฟฟ้าและพลังงาน ว2.2 ป.6/1 วัตถุ 2 ชนิดทีผ่ า่ นการขัดถแู ล้ว เมอ่ื นำเขา้ 15 2 ไฟฟ้า ว2.3 ป.6/1 2 ป.6/2 ใกล้กนั อาจดึงดูดหรอื ผลกั กนั แรงที่เกดิ ขึ้นนี้เปน็ ป.6/3 5 ป.6/4 แรงไฟฟ้าเกดิ ขน้ึ ระหวา่ งวตั ถทุ ม่ี ปี ระจุไฟฟา้ ซงึ่ ป.6/5 ป.6/6 ประจไุ ฟฟา้ มี 2 ชนิด คือ ประจไุ ฟฟ้าบวกและ ประจไุ ฟฟา้ ลบ วตั ถทุ ่ีมปี ระจไุ ฟฟา้ ชนิดเดียวกัน ผลักกัน ชนดิ ตรงข้ามกนั ดึงดดู กนั วงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ยประกอบดว้ ยแหลง่ กำเนิด ไฟฟ้า ตวั นำไฟฟา้ และอุปกรณไ์ ฟฟ้า การต่อ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รม แบบขนาน 5 แสงและเงา ว2.3 ป.6/7 เม่ือนำวตั ถทุ บึ แสงมาก้นั แสงจะเกดิ เงาบน 4 ป.6/8 ฉาก รับแสงท่อี ย่ดู า้ นหลงั วตั ถุ โดยเงามรี ปู ร่าง ป.6/9 คลา้ ยวัตถุท่ที ำให้เกดิ เงา เงามวั เป็นบรเิ วณท่มี ีแสง บางส่วนตกลงบนฉาก สว่ นเงามดื เปน็ บรเิ วณทไ่ี มม่ ี แสงตกลงบนฉากเลย 6 การออกแบบวิธีการ ว4.2 ป.6/1 การแก้ปญั หาอย่างเป็นขน้ั ตอนจะชว่ ยให้ 4 แก้ปญั หา แกป้ ัญหาได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพการ ใชเ้ หตผุ ลเชิง ตรรกะเป็นการนำกฎเกณฑ์ หรอื เง่ือนไขท่ี ครอบคลุมทุกกรณมี าใช้พิจารณาในการแก้ ปญั หา แนวคดิ ของการทำงานแบบวนซำ้ และเงื่อนไข พิจารณากระบวนการทำงานทมี่ ีการทำงานแบบ วนซำ้ หรอื เง่ือนไขเป็นวธิ ีการทจี่ ะช่วยใหก้ าร ออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหาเป็นไปอยา่ งมี ประสิทธิภาพตัวอย่างปัญหา เชน่ การคน้ หาเลข หนา้ ทตี่ ้องการใหเ้ ร็วทสี่ ุดการทายเลข 1- 1,000,000โดยตอบให้ถูกภายใน 20 คำถาม การ คำนวณเวลาในการเดินทางโดยคำนงึ ถงึ ระยะทาง เวลา จุดหยดุ พัก 7 การเขยี นโปรแกรมเพื่อ ว 4.2 ป.6/2 การออกแบบโปรแกรมสามารถทำไดโ้ ดยเขียน 16 แกป้ ญั หา เป็นข้อความหรือผังงาน การเขยี นโปรแกรมทม่ี ีการ ใชต้ วั แปร การวนซำ้ การวนซำ้ การตรวจสอบ เงอื่ นไข หากมขี ้อผดิ พลาดให้ตรวจสอบการทำงาน ทลี ะคำสงั่ เมอื่ พบจดุ ท่ี
81 หนว่ ยท่ี ช่ือ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนัก 7 หน่วยการเรียนรู้ เรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด (ชั่วโมง) คะแนน (120) (100) การเขียนโปรแกรม ว 4.2 ป.6/2 ทำใหผ้ ลลพั ธ์ไม่ถูกต้องให้ทำการแก้ไขจนกว่า เพ่ือแกป้ ัญหา (ต่อ) จะได้ผลลัพธท์ ี่ถกู ต้อง 1 10 การฝกึ ตรวจหาข้อผดิ พลาดจากโปรแกรม ของผู้อื่น จะชว่ ยใหพ้ ัฒนาทักษะการหาสาเหตุ ของปญั หาได้ดยี ่ิงขึน้ ตัวอย่างโปรแกรม เชน่ โปรแกรมเกม โปรแกรมหาค่า ค.ร.น. เกมฝกึ พมิ พ์ ซอฟตแ์ วรท์ ี่ใช้ในการเขียน โปรแกรม เชน่ Scratch, logo สอบปลายภาคเรยี นท่ี 1
82 หนว่ ยท่ี ช่อื มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนกั 8 หน่วยการเรียนรู้ เรยี นรู/้ ตวั ชีว้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน โลกและดวงจนั ทร์ โคจรมาอย่ใู นแนว (120) (100) ดาราศาสตรแ์ ละ ว3.1 ป.6/1 เสน้ ตรงเดยี วกนั กับดวงอาทติ ย์ในระยะทางท่ี เทคโนโลยอี วกาศ ป.6/2 เหมาะสม ทำใหด้ วงจันทรบ์ งั ดวงอาทติ ย์ เงา 12 8 ของดวงจันทร์ทอดมายังโลก ผสู้ ังเกตทอ่ี ยู่ บริเวณเงาจะมองเห็น ดวงอาทติ ย์มืดไป เกิด ปรากฏการณ์สุริยุปราคา ซึง่ มีทง้ั สุรยิ ปุ ราคา เต็มดวง สรุ ยิ ุปราคาบางส่วน และสุริยุปราคา วงแหวน หากดวงจันทรแ์ ละโลกโคจรมาอยู่ ในแนวเสน้ ตรงเดยี วกนั กบั ดวงอาทิตย์ แล้วดวง จนั ทร์เคล่อื นที่ผ่านเงาของโลก จะมองเห็นดวง จันทรม์ ืดไป เกิดปรากฏการณ์จนั ทรุปราคา ซง่ึ มที ั้งจันทรปุ ราคาเต็มดวง และจนั ทรุปราคา บางสว่ น 9 หนิ และซากดกึ ดำ ว3.2 ป.6/1 หนิ เปน็ วัสดแุ ข็งเกิดข้ึนเองตาม 11 7 บรรพ์ ป.6/2 ธรรมชาติ ประกอบดว้ ย แรต่ ั้งแต่หน่งึ ชนิดขึ้น ป.6/3 ไป สามารถจำแนกหนิ ตามกระบวนการเกิดได้ ป.6/4 เป็น 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หนิ ตะกอน ป.6/5 และหนิ แปร หินและแรแ่ ตล่ ะชนดิ มลี ักษณะ ป.6/6 และสมบตั แิ ตกตา่ งกนั มนุษยใ์ ชป้ ระโยชน์จากแร่ ป.6/7 ในชีวติ ประจำวนั ในลกั ษณะตา่ ง ๆ เช่น นำแร่มา ป.6/8 ทำเคร่ืองสำอาง ยาสีฟนั เครือ่ งประดับ อปุ กรณ์ ป.6/9 ทางการแพทย์ และนำหนิ มาใช้ในงานกอ่ สร้างตา่ ง เปน็ ต้น ซากดกึ ดำบรรพค์ ือซากของสงิ่ มชี วี ติ ท่ี กลายเป็นหนิ สามารถใชเ้ ปน็ หลกั ฐานหนึ่งท่ี ชว่ ยอธบิ ายสภาพแวดลอ้ มของพ้นื ที่ในอดตี ขณะเกดิ สง่ิ มีชีวติ นน้ั
83 หนว่ ยท่ี ชือ่ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั 10 หน่วยการเรยี นรู้ เรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั (ช่ัวโมง) คะแนน ลมบกและลมทะเลเป็นลมประจำถน่ิ ที่ (120) (100) การเกิดลม มรสุม ว3.2 ป.6/4 พบบริเวณชายฝง่ั โดยลมบกเกดิ ในเวลา และธรณีภยั พิบัติ ป.6/5 กลางคืนลมทะเลเกดิ ในเวลากลางวัน มรสุม 13 7 ป.6/6 เปน็ ลมประจำฤดเู กิดบรเิ วณเขตร้อนของ ป.6/7 โลก ประเทศไทยไดร้ บั ผลจากมรสุม ป.6/8 ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ในช่วงประมาณ ป.6/9 กลางเดือนตลุ าคมจนถงึ เดือนกมุ ภาพันธท์ ำให้ เกดิ ฤดูหนาว และได้รบั ผลจากมรสมุ ตะวันตก เฉยี งใตใ้ นชว่ งประมาณกลางเดอื นพฤษภาคม จนถงึ กลางเดือนตุลาคมทำใหเ้ กดิ ฤดู ฝน ปรากฏการณเ์ รอื นกระจกเกิดจากแก๊ส เรือนกระจกในชัน้ บรรยากาศของโลกกักเก็บ ความรอ้ นแล้วแล้ว คายความร้อนบางส่วนกลบั สผู่ วิ โลก ทำให้อากาศ บนโลกมอี ุณหภูมิ เหมาะสมต่อการดำรงชวี ิตหากปรากฏการณ์ เรือนกระจกรุนแรงมากขึ้น จะมีผลต่อการ เปลี่ยนแปลงภูมอิ ากาศโลก มนุษยจ์ งึ ควร รว่ มกันลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดแก๊สเรือนกระจก 11 การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต ว 4.2 ป.6/3 การคน้ หาอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการ 11 5 ค้นหาข้อมลู ค้นหาขอ้ มูลที่ไดต้ รงตามความตอ้ งการในเวลา ทรี่ วดเรว็ จากแหลง่ ข้อมูล ท่ีน่าเชือ่ ถือหลาย แหลง่ และข้อมลู มีความสอดคลอ้ งกัน การใช้เทคนิคการค้นหาขั้นสูง เชน่ การใช้ ตวั ดำเนนิ การ การระบุรปู แบบของข้อมลู หรือ ชนิดของไฟล์ จัดลำดบั ผลลัพธ์จากการค้นหา ของโปรแกรมคน้ หา เรียบเรยี ง สรปุ สาระสำคัญ (บรู ณาการกับวิชาภาษาไทย)
84 หน่วยที่ ช่ือ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนกั (ชวั่ โมง) คะแนน หน่วยการเรยี นรู้ เรียนรู/้ ตัวช้วี ัด (120) (100) 12 การใชเ้ ทคโนโลยี ว4.2 ป.6/4 อันตรายจากการใช้งานและอาชญากรรม 9 3 สารสนเทศ ทางอนิ เทอรเ์ นต็ แนวทางในการป้องกัน 118 70 2 30 รว่ มกนั อย่างปลอดภยั วิธีกำหนดรหสั ผา่ น การกำหนดสิทธ์กิ ารใช้งาน 120 100 (สทิ ธิใ์ นการเข้าถึง) แนวทางการตรวจสอบ และป้องกนั มลั แวร์อันตรายจากการตดิ ตัง้ ซอฟตแ์ วร์ท่ีอยู่บนอินเทอร์เน็ต เวลาเรยี นกลางปี – เวลาเรยี นปลายปี สอบปลายปี รวมท้ังสิ้นตลอดปี
85 สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดทำสื่อและจัดให้มีแหล่งเรียนรู้ ตามหลักการ และนโยบายของการจดั การศกึ ษาขั้นพื้นฐาน ดังน้ี สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อการเรียนรู้มี หลากหลายประเภท ทั้งสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่ายการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่มีในท้องถิ่น การเลอื กใช้สอ่ื ควรเลอื กให้มคี วามเหมาะสมกบั ระดบั พฒั นาการ และลลี าการเรยี นร้ทู ห่ี ลากหลายของผ้เู รียน การจัดหาสือ่ การเรยี นรู้ ผเู้ รยี นและผูส้ อนสามารถจดั ทำและพัฒนาข้ึนเอง หรือปรับปรงุ เลอื กใช้อย่างมีคุณภาพ จากสื่อต่าง ๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสารให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ควรดำเนินการ ดังนี้ 1. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรยี นรู้ และเครือข่ายการเรียนรู้ท่ี มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การ เรียนรู้ ระหว่างสถานศกึ ษา ท้องถ่ิน ชมุ ชน สงั คมโลก 2. จัดทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมท้ัง จดั หาสิ่งทีม่ อี ย่ใู นทอ้ งถนิ่ มาประยกุ ตใ์ ช้เปน็ สือ่ การเรยี นรู้ 3. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้องกับวิธีการ เรยี นรู้ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ และความแตกต่างระหว่างบคุ คลของผเู้ รียน 4. ประเมนิ คุณภาพของสอื่ การเรียนรู้ทเี่ ลือกใชอ้ ย่างเปน็ ระบบ 5. ศึกษาคน้ คว้า วิจยั เพอ่ื พัฒนาสอื่ การเรยี นรใู้ ห้สอดคล้องกบั กระบวนการเรียนรขู้ องผเู้ รียน 6. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเก่ียวกับสื่อและการใช้สือ่ การเรียนรู้ เป็นระยะ ๆ และสมำ่ เสมอ ในการจัดทำ การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษาควรคำนึงถึง หลักการสำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความมั่นคง ของชาติ ไมข่ ดั ต่อศลี ธรรม มีการใชภ้ าษาที่ถูกต้อง รูปแบบการนำเสนอท่ีเข้าใจงา่ ย และนา่ สนใจ
86 การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ คะแนน (70) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 60 1. อัตราส่วนคะแนน (ระดบั ประถมศึกษา) 10 คะแนนระหวา่ งปีการศกึ ษา : สอบปลายปกี ารศกึ ษา = 70 : 30 (30) 100 รายการวดั ➢ ระหวา่ งภาค มกี ารวดั และประเมินผล ดังนี้ 1. คะแนนระหว่างปีการศกึ ษา 1.1วัดโดยใชแ้ บบทดสอบ 1.2วัดทักษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ (เลือกวดั ตามแผนการจัดการเรียนร้)ู 1.2.1 ภาระงานท่มี อบหมาย - การทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทักษะ - การแก้ปัญหาวิทยาศาสตร์ - การศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ - การรว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ 1.2.2 แฟ้มสะสมงานวิทยาศาสตร์ 1.2.3 โครงงานวทิ ยาศาสตร์ 1.2.4 ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1.3 วดั คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์ - มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ - ใฝเ่ รยี นรู้ - มุ่งม่นั ในการทำงาน - มจี ติ สาธารณะ 2. คะแนนสอบกลางปกี ารศกึ ษา มกี ารวดั และประเมนิ ผลโดยใช้แบบทดสอบ ➢ คะแนนสอบปลายปีการศึกษา มกี ารวัดและประเมินผลโดยใชแ้ บบทดสอบ รวมท้ังภาคเรยี น
87 2. อัตราส่วนคะแนน (ระดบั มัธยมศึกษา) คะแนน (70) คะแนนระหวา่ งภาคเรียน : สอบปลายภาคเรยี น = 70 : 30 60 รายการวัด 10 (30) ➢ ระหว่างภาค 100 มกี ารวดั และประเมนิ ผล ดังน้ี 1. คะแนนระหว่างภาคเรียน 1.1 วดั โดยใช้แบบทดสอบ 1.2 วัดทกั ษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ (เลือกวัดตามแผนการจัดการเรียนร้)ู 1.2.1ภาระงานทีม่ อบหมาย - การทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทักษะ - การแก้ปัญหาวทิ ยาศาสตร์ - การศกึ ษาค้นคว้าทางวทิ ยาศาสตร์ - การรว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1.2.2แฟม้ สะสมงานวิทยาศาสตร์ 1.2.3โครงงานวิทยาศาสตร์ 1.2.4ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 1.3 วัดคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และเจตคติท่ีดีตอ่ วชิ าวทิ ยาศาสตร์ - มีวินยั รบั ผิดชอบ - ใฝเ่ รียนรู้ - ม่งุ มั่นในการทำงาน - มีจิตสาธารณะ 2. คะแนนสอบกลางภาคเรียน มีการวัดและประเมินผลโดยใชแ้ บบทดสอบ ➢ คะแนนสอบปลายภาคเรยี น มกี ารวัดและประเมนิ ผลโดยใช้แบบทดสอบ รวมท้ังภาคเรยี น
88 3. เกณฑก์ ารวดั ผลประเมินผล 1. การวดั และประเมินผลโดยใชแ้ บบทดสอบ กำหนดเกณฑ์การใหค้ ะแนนแตล่ ะแบบทดสอบ ดงั นี้ 1.1 เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบเลอื กตอบ พิจารณาจากความถกู ผิดของการเลือกตอบ ตอบถูกให้ 1 คะแนน ตอบผดิ ให้ 0 คะแนน 1.2 เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบถกู ผดิ พจิ ารณาจากความถูกผิดของคำตอบ ตอบถูกให้ 1 คะแนน ตอบผดิ ให้ 0 คะแนน 1.3 เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบจับคู่ พจิ ารณาจากความถูกผิดของการจบั คู่ จบั คถู่ กู ให้ 1 คะแนน จับคู่ผดิ ให้ 0 คะแนน 1.4 เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบเปรยี บเทยี บ พิจารณาจากความถูกผิดของการเปรยี บเทียบ เปรยี บเทียบถกู ให้ 1 คะแนน เปรียบเทียบผิดให้ 0 คะแนน 1.5 เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบเตมิ คำ พิจารณาจากความถูกผดิ ของคำตอบ ตอบถูกให้ 1 คะแนน ตอบผดิ ให้ 0 คะแนน 1.6 เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบเขยี นตอบ พจิ ารณาจากคำตอบในภาพรวมท้ังหมด โดยกำหนดระดบั คะแนนเป็น 4 ระดับ ดงั น้ี ระดบั คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน 4 ตอบได้ถูกต้อง และสามารถอธบิ ายเหตุผลได้อย่างชดั เจน พร้อมทัง้ แสดงแนวคิดเชิงเปรียบเทยี บ 3 ตอบได้ถูกต้อง และสามารถอธิบายเหตุผลได้อยา่ งชัดเจน 2 ตอบได้ถูกต้อง และสามารถอธบิ ายเหตผุ ลได้เป็นบางสว่ น แตย่ ังไม่อย่างชัดเจน 1 ตอบได้ถกู ต้อง แตไ่ มส่ ามารถอธบิ ายเหตผุ ลได้ 0 ตอบได้ถูกต้อง และไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้ 1.7 เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบต่อเนื่อง 1.7.1 เกณฑใ์ ห้คะแนนแบบทดสอบแบบต่อเน่ืองที่กำหนดสถานการณ์ พิจารณาจากความถูกผิดของคำตอบ ตอบถกู ให้ 1 คะแนน ตอบผิดให้ 0 คะแนน 1.7.2 เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบตอ่ เนื่องสองขน้ั ตอน โดยกำหนดระดับคะแนนเป็น 3 ระดับ ดังนี้ ระดบั คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน 2 เลือกคำตอบและบอกเหตุผลประกอบถูกต้อง 1 เลือกคำตอบถกู ต้อง แตบ่ อกเหตผุ ลประกอบไม่ถูกต้อง หรือ เลอื กคำตอบไม่ถกู ตอ้ ง แต่บอกเหตุผลประกอบไดส้ อดคลอ้ งกับคำตอบทีเ่ ลือก 0 เลือกคำตอบและบอกเหตผุ ลประกอบไมถ่ ูกต้อง
89 1.8 เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบแสดงวิธที ำ โดยกำหนดระดบั คะแนนเป็น 4 ระดับ ดังน้ี ระดับคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน 4 คำตอบถูกต้องและแสดงวิธที ำทมี่ ปี ระสิทธิภาพโดยแสดงถึงการคิดอยา่ งเปน็ ระบบ และการคิดวิเคราะห์ 3 คำตอบถูกต้องและแสดงวิธที ำถกู ต้องสมบูรณ์ 2 คำตอบถูกต้อง แต่แสดงวิธที ำถกู ต้อง 1 คำตอบถกู ต้อง มีการแสดงแสดงวิธที ำ แต่ยังไมส่ มบรู ณ์ 0 คำตอบไม่ถูกต้อง และแสดงวิธีทำไม่ถูกต้อง 2. การวดั และประเมนิ ผลด้านทักษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ 2.1 ภาระงานทม่ี อบหมาย ดงั น้ี - ใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทกั ษะ กำหนดเกณฑ์การประเมินผลของการทำใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝกึ ทักษะ เปน็ 4 ระดับ ดังนี้ ระดับคุณภาพ เกณฑ์การพิจารณา 4 - ทำใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝึกทกั ษะครบถว้ นและเสร็จตามกำหนดเวลา - ทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝึกทกั ษะได้ถูกต้อง (ดีมาก) - แสดงลำดบั ขน้ั ตอนของการทำใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝึกทักษะชดั เจนเหมาะสม - ทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝึกทกั ษะครบถว้ นและเสรจ็ ตามกำหนดเวลา 3 - ทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝึกทกั ษะไดถ้ ูกต้อง (ดี) - สลับขัน้ ตอนของการทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทกั ษะ หรือไม่ระบุขน้ั ตอนของการ 2 ทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทักษะ (พอใช้) - ทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝึกทกั ษะครบถ้วน แตเ่ สรจ็ หลงั กำหนดเวลาเล็กนอ้ ย - ทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทกั ษะข้อไม่ถกู ต้อง 1 - สลบั ข้นั ตอนของการทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทกั ษะ หรือไมร่ ะบุขน้ั ตอนของการ (ตอ้ งปรบั ปรุง) ทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝึกทกั ษะ - ทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝึกทกั ษะไม่ครบถว้ น หรอื ไมเ่ สรจ็ ตามกำหนดเวลาเล็ก - ทำใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝึกทักษะไม่ถกู ต้อง - แสดงลำดบั ข้นั ตอนของการทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทักษะไมส่ ัมพันธ์กบั โจทย์ หรอื ไม่แสดงลำดบั ข้ันตอน
90 - การประเมินผลการแกป้ ัญหาทางวิทยาศาสตร์ กำหนดเกณฑ์การประเมินผลการแก้ปัญหาโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ดังนี้ รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา 1. การสงั เกต 3 (ด)ี - เขา้ ใจและระบุปัญหาได้ถูกตอ้ ง เพือ่ ระบุปัญหา 2 (พอใช้) - เข้าใจและระบปุ ัญหาบางส่วนไม่ถูกต้อง 1 (ตอ้ งปรบั ปรุง) - เขา้ ใจปญั หานอ้ ยมากหรอื ไมส่ ามารถระบุปัญหา 2. การตัง้ สมมติฐาน 3 (ดี) - ตง้ั สมมตฐิ านของปัญหาได้เหมาะสมและถูกต้อง 3. การรวบรวมขอ้ มลู 2 (พอใช)้ - ต้งั สมมติฐานของปัญหาได้ซ่ึงอาจนำไปสคู่ ำตอบที่ถูก แต่ยงั มี 4. การสรปุ ผล บางสว่ นผดิ 1 (ตอ้ งปรบั ปรุง) 3 (ด)ี - ตง้ั สมมติฐานของปัญหาไม่ถกู ต้อง 2 (พอใช)้ - นำวธิ ีการปญั หาไปใชไ้ ดถ้ ูกต้อง 1 (ตอ้ งปรับปรุง) - นำวิธกี ารปัญหาไปใช้ไดถ้ ูกตอ้ งเปน็ บางครง้ั 3 (ดี) - นำวิธีการปญั หาไปใชไ้ ม่ถูกต้อง 2 (พอใช้) - สรุปผลได้ถกู ต้อง สมบูรณ์ 1 (ต้องปรับปรุง) - สรุปผลทไี่ ม่สมบรู ณ์หรอื ไม่ถกู ต้อง - ไม่มกี ารสรปุ ผล
91 - การประเมินผลการศกึ ษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ 1) กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ผลการศึกษาคน้ ควา้ ทางวทิ ยาศาสตร์ดา้ นทฤษฎี เป็น 4 ระดบั ดังน้ี ระดับคุณภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา 4 - การวางแผนชดั เจนและทำงานเป็นระบบ - แสดงข้อมูลละเอยี ดชัดเจน (ดีมาก) - แสดงความเชื่อมโยงระหวา่ งเนือ้ หาวิชาได้ชดั เจน - ลงข้อสรปุ ท่ีถกู ต้องชดั เจน 3 - นำเสนอผลงานอยา่ งเหมาะสม (ด)ี - การวางแผนชัดเจน - แสดงข้อมลู ท่ลี ะเอยี ดชัดเจน 2 - แสดงความเชื่อมโยงระหวา่ งเนื้อหาวิชาไดช้ ัดเจน (พอใช้) - ลงข้อสรปุ ที่ถูกต้องชดั เจน - นำเสนอผลงานได้ยงั ไม่ชดั เจน 1 - การวางแผนไม่ชดั เจน (ต้องปรบั ปรุง) - แสดงขอ้ มูลบางสว่ นผิดพลาด - แสดงความเชือ่ มโยงระหวา่ งเนื้อหาวชิ าได้ไม่ชดั เจน - ลงขอ้ สรปุ บางส่วนผิดพลาด - นำเสนอผลงานได้ไมช่ ัดเจน - การวางแผนไมช่ ัดเจน - แสดงข้อมลู ท่ีไม่ถูกต้อง - แสดงความเชอ่ื มโยงระหว่างเนื้อหาวิชาไดไ้ ม่ชดั เจน - ลงข้อสรุปที่ไม่ถูกต้อง - นำเสนอผลงานได้ไม่ถูกต้อง
92 2) กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ผลการศกึ ษาค้นคว้าทางวทิ ยาศาสตรท์ มี่ ีผลงานเปน็ สงิ่ ประดษิ ฐ์ เปน็ 4 ระด-บั ดังนี้ เลือกและใช้เครื่องมือวัดพร้อมระบหุ น่วยวัดได้ไม่เหมาะสม ระดบั คุณภาพ - ช้ินงานขัดข้อง ใช้งานไมไ่ ด้ตาเมกคณวฑาม์กคาราพดหจิ าวรงั ณา 4 - มคี วามคิดริเร่ิมสรา้ งสรรคแ์ ละแปลกใหม่ (ดมี าก) - แกป้ ญั หาและตอบสนองตามความต้องการ - วางแผนการสร้างโดยใช้เทคนิคระดบั สงู และมีคณุ ภาพ พรอ้ มทัง้ แสดงรายละเลียด ของชนิ้ งานในแตล่ ะส่วนชดั เจนสมบูรณ์ - เลอื กและใชเ้ คร่ืองมือวดั พร้อมระบุหน่วยวดั ไดเ้ หมาะสม - ดงึ ดดู ความสนใจและมีประสิทธิภาพในการทำงานสงู สดุ ตลอดจนปลอดภยั ประหยดั แข็งแรงและนา่ เชือ่ ถือ - ใช้งานไดต้ ามความคาดหวัง - สรา้ งและเกบ็ รักษาง่าย - คูม่ ือแนะนำการใชม้ ีความชดั เจนและเขา้ ใจงา่ ย 3 - มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และแปลกใหม่ (ดี) - แก้ปัญหาและตอบสนองตามความตอ้ งการ - วางแผนการสร้างและแสดงรายละเลยี ดของแต่ละส่วนชดั เจน - เลอื กและใชเ้ คร่ืองมือวดั พร้อมระบุหน่วยวดั ได้เหมาะสม - ดึงดูดความสนใจ - ใช้งานได้ตามความคาดหวงั - สรา้ งและเกบ็ รักษาง่าย 2 - มีความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ (พอใช)้ - แกไ้ ขปัญหาและตอบสนองตามความต้องการ - วางแผนการสร้างและแสดงรายละเลียดของแต่ละสว่ นได้ชดั เจนสมบรู ณเ์ ปน็ ส่วนใหญ่ - เลือกและใช้เคร่ืองมือวดั พร้อมระบหุ น่วยวัดไดเ้ หมาะสม - ดงึ ดูดความสนใจ - ใช้งานไดต้ ามความคาดหวัง - สร้างและเก็บรักษางา่ ย 1 - ขาดความคดิ รเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ (ต้องปรบั ปรุง) - ไม่ตอบสนองต่อแกไ้ ขปญั หาและความต้องการ - วางแผนการสรา้ งได้ชัดเจนเพียงบางสว่ น - เลือกและใชเ้ ครื่องมือวดั พร้อมระบุหนว่ ยวัดได้ไมเ่ หมาะสม - ชน้ิ งานขดั ข้อง ใชง้ านไม่ได้ตามความคาดหวัง
93 - การประเมินผลการรว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ การรว่ มกิจกรรมการเรียนรสู้ ่วนใหญ่จะมอบหมายภาระงานเป็นกลุ่ม กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ผลการ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ ดงั นี้ รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การพิจารณา 1. การวางแผน 3(ด)ี - วางแผนและมอบหมายหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบให้สมาชกิ 2. ความรว่ มมือในกลุ่ม 2 (พอใช)้ ไม่ชัดเจน - วางแผน แตม่ อบหมายหน้าทคี่ วามรบั ผดิ ชอบใหส้ มาชิก 3. ทักษะการปฏบิ ัตกิ าร 1 (ต้องปรบั ปรุง) 3.1 การสังเกตเพือ่ ระบุ 3 (ดี) ไมช่ ดั เจน - ไม่มกี ารวางแผน ปัญหา 2 (พอใช)้ - ทกุ คนทำงานตามหน้าท่รี ับผิดชอบ 3.2 การตงั้ สมมตฐิ าน 1 (ต้องปรบั ปรุง) - สมาชิกส่วนมากทำงานตามหน้าท่ี 3.3 การรวบรวมข้อมูล - สมาชิกไมท่ ำงานตามหนา้ ท่ี 3.4 การแปลความ 3 (ด)ี - ปฏบิ ตั ไิ ดค้ รบทกุ อยา่ งถูกต้องเหมาะสม ขอ้ มูล 2 (พอใช)้ - ปฏบิ ัตไิ ดค้ รบทุกข้อแตย่ ังมีข้อผดิ พลาดเปน็ บางส่วน 3.5 การลงข้อสรุป 1 (ต้องปรับปรุง) - ไม่สามารถปฏิบตั ไิ ด้ครบทุกข้อด้วยตนเองและมีความ 4. การเขียนรายงาน ผิดพลาดในการลงข้อสรุป 5. เวลา 3 (ดี) - เขียนรายงานดว้ ยรูปแบบที่ถกู ต้องเหมาะสมและนำเสนอ ได้สมบรู ณ์ 2 (พอใช)้ 1 (ตอ้ งปรับปรุง) - เขยี นรายงานได้ไมส่ มบรู ณ์ - รายงานมีขอ้ ผิดพลาด หรือไมเ่ ขียนรายงาน 3 (ด)ี - ปฏบิ ตั งิ านเสร็จสมบรู ณต์ ามเวลาที่กำหนด 2 (พอใช)้ - ปฏบิ ตั งิ านเสร็จตามเวลาทก่ี ำหนดแต่ไมส่ มบรู ณ์ 1 (ต้องปรับปรุง) - ปฏิบตั ิงานไม่เสร็จสมบูรณ์ตามเวลาท่ีกำหนด
94 2.2 แฟ้มสะสมงานวิทยาศาสตร์ การประเมนิ ผลแฟ้มสะสมงานวิทยาศาสตร์ กำหนดเกณฑ์การประเมิน ดงั นี้ ระดับคุณภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา 4 - ผลงานมรี ายละเอยี ดอย่างเพียงพอที่แสดงถึงระดับความรู้และพัฒนาการของผเู้ รยี น (ดีมาก) และแสดงถึงความเข้าใจในเรื่องที่ศึกษา การนำเสนอข้อมูลแสดงถงึ การบรู ณาการ หรือเชื่อมโยงมโนทัศนต์ ่าง ๆ เข้าดว้ ยกัน 3 - ผลงานมีรายละเอียดอยา่ งเพียงพอที่แสดงถึงระดับความรู้และพัฒนาการของผ้เู รยี น (ด)ี ไมม่ ีขอ้ ผิดพลาดทแ่ี สดงว่าไมเ่ ขา้ ใจ แตก่ ารนำข้อมูลไม่แสดงถงึ การบรู ณาการ ระหวา่ งข้อมูลหรือมโนทัศน์ในเรือ่ งที่ศึกษา 2 - ผลงานมรี ายละเอียดแสดงไว้ในบนั ทกึ ให้เห็นถึงระดบั ความร้แู ละพัฒนาการของ (พอใช้) ผู้เรียน แต่พบวา่ บางสว่ นมคี วามผิดพลาดหรือไม่ชัดเจนหรือแสดงถึงความไม่เขา้ ใจ ในเร่ืองที่ศกึ ษาของผูเ้ รียน 1 - ผลงานมขี อ้ มูลน้อย ไมม่ รี ายละเอยี ดแสดงไว้ในบันทกึ หรือแสดงใหเ้ ห็นถึงระดับ (ต้องปรบั ปรุง) ความร้แู ละพัฒนาการของผู้เรียน
95 2.3 โครงงานวิทยาศาสตร์ การประเมนิ ผลโครงงานวทิ ยาศาสตร์ กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ดงั น้ี ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา 4 - แสดงถงึ ความเขา้ ใจปัญหาอย่างชัดเจน - มีความคดิ ริเริ่มสร้างสรรคใ์ นการออกแบบโครงงาน (ดมี าก) - ใชเ้ ทคนคิ วธิ ีการตา่ ง ๆ ในการจัดทำโครงงานจนประสบผลสำเรจ็ - การนำเสนอรายงานเปน็ ลำดับข้ันตอนดีมากและใช้เปน็ แบบอย่างได้ 3 - มีการวางแผนการทำงานเป็นระบบและทำงานเสร็จตามกำหนดเวลาท่ีกำหนด (ดี) - มีการศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ทนี่ ่าเชือ่ ถือและหลากหลาย - แสดงถงึ ความเขา้ ใจปัญหา 2 - การออกแบบโครงงานถูกต้องเปน็ บางส่วน (พอใช)้ - ใชเ้ ทคนคิ วธิ ีการในการจดั ทำโครงงานให้ประสบผลสำเรจ็ เพียงบางส่วน - การนำเสนอรายงานเปน็ ลำดับขัน้ ตอน 1 - มีการวางแผนการทำงานและทำงานเสรจ็ ตามกำหนดเวลาทกี่ ำหนด (ต้องปรับปรุง) - มกี ารศึกษาคน้ ควา้ ข้อมลู จากแหลง่ การเรียนรทู้ ่หี ลากหลาย - เข้าใจปัญหาแตใ่ ช้เวลานานมาก - ต้องอาศัยการแนะนำในการออกแบบโครงงาน - ตอ้ งได้รับคำแนะนำเกี่ยวกบั เทคนคิ วิธีการในการจดั ทำโครงงาน - ตอ้ งได้รับคำแนะนำในการเขียนรายงาน - มกี ารวางแผนการทำงาน แตไ่ ม่ชัดเจนและทำงานเสร็จช้ากว่าที่กำหนดไว้ - มกี ารศึกษาคน้ คว้าข้อมูลนา่ เชอื่ ถอื ได้เพยี งบางส่วน - ไม่เขา้ ใจปัญหา - การออกแบบโครงงานและการทดลองไมถ่ ูกต้อง - ต้องได้รบั คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนคิ วธิ กี ารในการจดั ทำโครงงานทกุ ข้นั ตอน - การเขยี นรายงานยังมีข้อบกพรอ่ ง - มีการวางแผนการทำงาน ไมเ่ ปน็ ระบบและทำงานเสรจ็ ชา้ กว่าทกี่ ำหนดไว้ - มกี ารศึกษาค้นควา้ ข้อมลู น้อยมากไมส่ มั พันธก์ บั โครงงานทจ่ี ัดทำ
96 2.4 สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น การประเมินผลสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ประเมนิ โดยใชแ้ บบประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน โดยกำหนดเกณฑใ์ นการประเมิน ดงั น้ี ระดบั คุณภาพ ความหมาย (3) ผู้เรียนปฏบิ ัติตนตามสมรรถนะจนเปน็ นสิ ยั และนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั เพ่อื ประโยชนส์ ุขของตนเองและสังคม โดยพิจารณาจากผลการประเมนิ ระดับดเี ยยี่ ม ดเี ย่ียม จำนวน 3-5 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดไดผ้ ลการประเมนิ ตำ่ กวา่ ระดบั ดี ผู้เรียนมสี มรรถนะในการปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑ์ เพ่ือใหเ้ ป็นการยอมรบั ของสังคม (2) โดยพิจารณาจาก ดี 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเย่ียม จำนวน 1-2 สมรรถนะ และไม่มี (1) สมรรถนะใดไดผ้ ลการประเมินตำ่ กวา่ ระดับดี หรือ ผา่ น 2. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีเยย่ี ม จำนวน 2 สมรรถนะ และไมม่ ีสมรรถนะ (0) ใดได้ผลการประเมนิ ต่ำกว่าระดบั ผา่ น หรือ ไม่ผ่าน 3. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดี จำนวน 4-5 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใด ไดผ้ ลการประเมินตำ่ กว่าระดับผา่ น ผเู้ รยี นรบั ร้แู ละปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑ์และเง่ือนไขทส่ี ถานศกึ ษากำหนด โดย พิจารณาจาก 1. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ผ่าน จำนวน 4-5 สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะ ใดได้ผลการประเมินต่ำกว่าระดบั ผา่ น หรอื 2. ไดผ้ ลการประเมินระดับดี จำนวน 2 สมรรถนะ และไมม่ ีสมรรถนะใด ได้ผลการประเมินตำ่ กว่าระดับผ่าน ผูเ้ รียนรับรแู้ ละปฏบิ ัติได้ไม่ครบตามเกณฑ์และเง่ือนไขท่ีกำหนด โดยพิจารณา จากผลการประเมนิ ระดับตอ้ งปรับปรุง ตง้ั แต่ 1 สมรรถนะ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ ระดบั คุณภาพตามสมรถนะรายข้อ พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติสม่ำเสมอ พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตบิ ่อยคร้งั ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ างคร้ัง ให้ 2 คะแนน 13 - 15 ดีเยีย่ ม (3) พฤติกรรมท่ีปฏิบัตนิ ้อยคร้งั ให้ 1 คะแนน 9 - 12 ดี (2) ให้ 0 คะแนน 5-8 ผา่ น (1) ตำ่ กวา่ 5 ไมผ่ ่าน (0)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113