Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อาจูหนานหลักสูตรวิชาธรรมวิภาค นักธรรมชั้น โท

อาจูหนานหลักสูตรวิชาธรรมวิภาค นักธรรมชั้น โท

Published by อาจูหนานภิกขุ, 2020-01-06 07:38:15

Description: อาจูหนานหลักสูตรวิชาธรรมวิภาค นักธรรมชั้น โท

Search

Read the Text Version

จริต ๖ จริต หมายถงึ ความประพฤตจิ นเคยชิน เป็ นกริ ิยาอาการทตี่ ิดแน่นเป็ น สันดาน ซึ่งมกั แสดงออกมาให้เห็นมี ๖ ประเภท คือ • ๑. ราคจริต มรี าคะเป็ นปกติ • ๒. โทสจริต มโี ทสะเป็ นปกติ • ๓. โมหจริต มโี มหะเป็ นปกติ • ๔. วติ กั กจริต มวี ติ กเป็ นปกติ • ๕. สัทธาจริต มศี รัทธาเป็ นปกติ • ๖. พทุ ธิจริต มคี วามรู้เป็ นปกติ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย0เ1อด็

ธรรมคุณ ๖ ธรรมคุณ หมายถงึ คุณของพระธรรม เป็ นสัจธรรมทมี่ คี ุณค่าอยู่ในตวั มี คุณ ๖ อย่าง คือ • สวากขาโต ภควตา ธัมโม พระธรรมอนั พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดแี ล้ว • ๒. สันทฏิ ฺ ฐิโก อนั ผู้ได้บรรลุจะพงึ เห็นเอง • ๓. อกาลโิ ก ไม่ประกอบด้วยกาล • ๔. เอหิปัสสิโก ควรเรียกให้มาดู • ๕. โอปนยโิ ก ควรน้อมเข้ามา • ๖. ปัจจตั ตงั เวทติ พั โพ วญิ ญูหิ อนั วญิ ญูพงึ รู้เฉพาะตน พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย02เอด็

ปิ ยรูป สาตรูป ปิ ยรูป หมายถงึ สภาวะอนั เป็ นทรี่ ัก สาตรูป หมายถึง สภาวะอนั เป็ นท่ชี ่ืนใจคือ • อายตนะภายใน สัญญา • อายตนะภายนอก สัญเจตนา • วญิ ญาณ ตัณหา • สัมผสั วติ ก • เวทนา วจิ าร พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย0เ3อด็

สวรรค์ ๖ ช้ัน สวรรค์ หมายถึง ภูมหิ รือแผ่นดินทม่ี ีอารมณ์เลศิ เป็ นทอ่ี ยู่ของเทวดา เป็ นภูมิทมี่ ี แต่สิ่งดงี าม ท่านจัดไว้เป็ นช้ันๆตามความแตกต่างกนั ในด้านอายุ ผวิ พรรณ ความสุขอนั เป็ นทพิ ย์ ได้แก่ • ช้ันจาตุมหาราชิก • ช้ันดาวดึงส์ • ช้ันยาม • ช้ันดุสิต • ช้ันนิมมานรดี • ช้ันปรนิมมิตวสวัดดี พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อย1เ0อ4็ด

วชิ าธรรมวภิ าค นักธรรมช้ันโท หมวด ๗ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย0เ5อด็

วญิ ญาณฐิติ ๗ วญิ ญาณฐิติ หมายถงึ ภูมเิ ป็ นทต่ี ้งั แห่งวญิ ญาณ แจกเป็ น ๗ ประเภท ดงั นี้ • ๑. สัตว์เหล่าหน่ึง มกี ายต่างกนั มสี ัญญาต่างกนั เช่นพวกมนุษย์ พวกเทพบางหมู่ พวกวิ นิปาตกิ ะ (เปรต) บางหมู่ • ๒. สัตว์เหล่าหนึ่ง มกี ายต่างกนั มสี ัญญาอย่างเดยี วกนั เช่น พวกเทพผ้อู ยู่ในจาพวก พรหม ผู้เกดิ ในภูมปิ ฐมฌาน • ๓. สัตว์เหล่าหนง่ึ มกี ายอย่างเดยี วกนั มสี ัญญาต่างกนั เช่น พวกเทพอาภัสสระ. • ๔. สัตว์เหล่าหนง่ึ มกี ายอย่างเดยี วกนั มสี ัญญาอย่างเดยี วกนั เช่น พวกเทพสุภกณิ หะ • ๕. สัตว์เหล่าหนึ่ง ผู้เข้าถึงช้ันอากาสานัญจายตนะ. • ๖. สัตว์เหล่าหนึ่ง ผ้เู ข้าถงึ ช้ันวญิ ญาณญั จายตนะ. • ๗. สัตว์เหล่าหนึ่ง ผู้เข้าถึงช้ันอากญิ จญั ญาญตนะ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย06เอ็ด

อนุสัย ๗ กเิ ลส คือเครื่องเศร้าหมองแห่งจติ น้ันแบ่งเป็ น ๓ ระดบั แต่อนุสัยกเิ ลส คือกเิ ลสทลี่ ะเอยี ดอ่อนทส่ี ุด กเิ ลสนีก้ าจดั ด้วยปัญญา มี ๗ อย่าง คือ • กามราคะ ความกาหนัดในกาม • ปฏฆิ ะ ความหงุดหงิดด้วยอานาจโทสะ • ทิฏฐิ ความเห็นทผ่ี ดิ จากธรรมดาทตี่ ิดในสันดาน • วจิ กิ จิ ฉา ความลงั เลในส่ิงทค่ี วรเช่ือ • มานะ ความถือตัว ชอบยกตัวเองเบ่งข่มผู้อื่น • ภวราคะ ความกาหนัดในภพ หลงไหลในส่ิงทเี่ ป็ นอยู่ • อวชิ ชา ความเขลาไม่รู้จงิ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อ1ย0เ7อด็

เมถุนสังโยค ๗ ความประพฤตทิ ย่ี งั เกยี่ วเน่ืองพวั พนั ในเมถุน ๑. ยนิ ดกี ารลบู ไล้ การประคบ การให้อาบนา้ การนวดแห่งมาตะคา ปลืม้ ใจด้วยการบาเรอน้ัน ๒. ไม่ถงึ อย่างน้ัน แต่ซิกซี้เล่นหัวสัพยอกกบั มาตุคาม ปลืม้ ใจด้วยการเสสรวลน้ัน. ๓. ไม่ถึงอย่างน้ัน แต่เพ่งดูจ้องดูจักษุแห่งมาตุคามด้วยจักษุของตน ปลืม้ ใจด้วยการเลง็ แลน้ัน ๔. ไม่ถึงอย่างน้ัน แต่ฟังเสียงแห่งมาตุคามหัวเราะอยู่กด็ ี พูดอยู่กด็ ี ขับร้องอยู่กด็ ี ร้องให้อย่กู ด็ ี ข้างนอกฝากด็ ี ข้างนอกกาแพงกด็ ี ปลืม้ ใจด้วยเสียงน้ัน ๕. ไม่ถึงอย่างน้ัน แต่ตามนึกถึงการเก่าทไ่ี ด้เคยหัวเราะพูดเล่นกบั มาตุคาม แล้วปลืม้ ใจ. ๖. ไม่ถึงอย่างน้ัน แต่เห็นคฤหบดกี ด็ ี บุตรคฤหบดกี ด็ ี ผู้อมิ่ เอบิ พร่ังพร้อมด้วยกามคุณ ๕ บาเรอ ตนอยู่ แล้วปลืม้ ใจ ๗. ไม่ถงึ อย่างน้ัน แต่ประพฤตพิ รหมจรรย์ ต้งั ปรารถนาเพื่อจะได้เป็ นเทพเจ้าหรือเทพองค์ใด องค์หน่ึง แล้วปลืม้ ใจ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย0เ8อด็

วสิ ุทธิ ๗ วสิ ุทธิ หมายถงึ ความบริสุทธ์ิในการประพฤตพิ รหมจรรย์ เพื่อชาระกาย วาจา ใจ และปัญญา ให้บริสุทธ์ิ มี ๗ ประการ คือ • ๑. สีลวสิ ุทธิ ความหมดจดแห่งศีล • ๒. จิตตวสิ ุทธิ ความหมดจดแห่งจติ • ๓. ทฏิ ฐิวสิ ุทธิ ความหมดจดแห่งทิฏฐิ • ๔. กงั ขาวติ รณวสิ ุทธิ ความหมดจดแห่งญาณเป็ นเคร่ืองข้ามพ้นความสงสัย • ๕. มคั คามคั คญาณทสั สนวสิ ุทธิ ความหมดจดแห่งญาณเป็ นเครื่องเห็นว่าทางหรือมิใช่ทาง • ๖. ปฏิปทาญาณทสั สนวสิ ุทธิ ความหมดจดแห่งญาณเป็ นเครื่องเห็นทางปฏิบัติ • ๗. ญาณทสั สนวสิ ุทธิ ความหมดจดแห่งญาณทสั สนะ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย0เ9อ็ด

วชิ าธรรมวภิ าค นักหธมรรวมดช้ั๘นโท พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย10เอด็

อริยบุคคล ๘ อริยบุคคล หมายถงึ บุคคลผู้ประเสริฐ ท่านจดั เป็ นคู่ๆตามมรรค ผลท่ี บรรลไุ ด้ของรพะอริยบุคคลท้งั ๘ ดูคาอธิบายได้ทอ่ี ริยบุคคล ๔ มรรค ๔ ผล ๔ • พระผู้ต้งั อยู่ในโสดาปัตติมรรค และพระผู้ต้ังอยู่ในโสดาปัตตผิ ลเป็ นคู่ที่ ๑ • พระผู้ต้งั อยู่ในสกทาคามมิ รรค และพระผู้ต้ังอยู่ในสกทาคามิผลเป็ นคู่ท่ี ๒ • พระผู้ต้งั อยู่ในอนาคามมิ รรค และพระผู้ต้งั อยู่ในอนาคามิผลเป็ นคู่ท่ี ๓ • พระผู้ต้ังอยู่ในอรหัตตมรรค แลพระผู้ต้ังอยู่ในอรหัตตผลเป็ นคู่ที่ ๔ • นับเรียงองค์เป็ น ๘ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อ1ย1เ1อด็

อวชิ ชา ๘ อวชิ ชา หมายถงึ ความไม่รู้ ความเขลาไม่รู้จริงในส่ิงต่างๆ มี ๘ อย่าง คือ • ๑. ไม่รู้จักทุกข์ • ๒. ไม่รู้จกั เหตุเกดิ แห่งทุกข์ • ๓. ไม่รู้จักความดบั ทุกข์ • ๔. ไม่รู้จกั ทางถงึ ความดบั ทุกข์ • ๕. ไม่รู้จักอดีต • ๖. ไม่รู้จกั อนาคต • ๗. ไม่รู้จกั ท้งั อดตี ท้งั อนาคต • ๘. ไม่รู้จักปฏิจจสมุปบาท พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อย1เ1อ2ด็

วชิ ชา ๘ วชิ ชา หมายถึง ความรู้แจ้ง เป็ นความรู้จากคนธรรมดาทว่ั ไป จดั เป็ น ๘ อย่างคือ • ๑. วปิ ัสสนาญาณ ญาณอนั นับเข้าในวปิ ัสสนา • ๒. มโนมยทิ ธิ ฤทธ์ิทางใจ • ๓. อทิ ธิวธิ ิ แสดงฤทธ์ิได้ • ๔. ทพิ พโสต หูทพิ ย์ • ๕. เจโตปริยญาณ รู้จักกาหนดใจผู้อื่น • ๖. ปุพเพนิวาสานุสสติ ระลกึ ชาติได้ • ๗. ทพิ พจกั ขุ ตาทพิ ย์ • ๘. อาสวกั ขยญาณ รู้จกั ทาอาสวะให้สิ้น พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อย1เ1อ3ด็

วชิ าธรรมวภิ าค นักหธมรรวมดช้ัน๙โท พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย1เ4อด็

สมาบตั ิ ๘ สมาบตั ิ หมายถงึ ธรรมอนั เป็ นเคร่ืองเพ่งพนิ ิจ ท่านจดั เป็ น ๘ ระดบั ตามความประณีตของ อารมณ์ คือ • ปฐมฌาน ฌานท่ี ๑ • ทุตยิ าน ฌานที่ ๒ • ตตฌิ าน ฌานท่ี ๓ • จตุตถฌาน ฌานที่ ๔ - ๑. อากาสานัญจายตนะ - ๒. วญิ ญาณญั จายตนะ - ๓. อากจิ จัญญาบตนะ - ๔. เนวสัญญานาสัญญายตนะ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อย1เ1อ5็ด

อนุบุพพวหิ าร ๙ • อนุปพุ พวหิ าร หมายถง ธรรมเป็ นเคร่ืองอย่โู ดยลาดบั กนั คือ ในการเข้าหรือออก ต้องเป็ นไปตามลาดบั มี ๙ ข้นั คือ • ๑. รูปฌาน ๔ • ๒. อรูปฌาน ๔ • สัญญาเวทยติ นิโรธ ๑ ได้แก่ การดับสัญญาและเวทนาที่ ละเอยี ด พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อ1ย1เ6อ็ด

มานะ ๙ มานะ ๙ หมายถงึ ความถือตวั ความเย่อหยง่ิ เปรียบเทยี บ คือ • ๑. เป็ นผู้เลศิ กว่าเขา สาคญั ตวั ว่าเลศิ กว่าเขา • ๒. เป็ นผู้เลศิ กว่าเขา สาคญั ตวั ว่าเสมอเขา • ๓. เป็ นผู้เลศิ กว่าเขา สาคัญตวั ว่าเลวกว่าเขา • ๔. เป็ นผ้เู สมอเขา สาคญั ตวั ว่าเลศิ กว่าเขา • ๕. เป็ นผ้เู ลศิ กว่าเขา สาคญั ตวั ว่าเสมอเขา • ๖. เป็ นผ้เู ลศิ กว่าเขา สาคัญตวั ว่าเลวกว่าเขา • ๗. เป็ นผ้เู ลวกว่าเขา สาคญั ตวั ว่าเลศิ กว่าเขา • ๘. เป็ นผ้เู ลศิ กว่าเขา สาคญั ตัวว่าเสมอเขา • ๙. เป็ นผู้เลศิ กว่าเขา สาคัญตวั ว่าเลวกว่าเขา พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อ1ย1เ7อด็

วปิ ัสสนาญาณ ๙ อริยบุคคล คือ บุคคลทป่ี ระเสริฐ ปราศจากกเิ ลส เป็ นผู้รักษาศีลได้สมบูรณ์ มี สมาธิและปัญญาพอประมาณ มี ๒ จาพวก คือ • ๑. อุทยพั พยานุปัสสนาญาณ ปรีชาคานึงเห็นท้งั ความเกดิ ท้งั ความดบั • ๒. ภังคานุปัสสนาญาณ ปรีชาคานึงเห็นความดบั • ๓. ภยตูปัฏฐานญาณ ปรีชาคานึงเห็นสังขารปรากฏ เป็ นของน่ากลวั • ๔. อาทนี วานุปัสสนาญาณ ปรีชาคานึงเห็นโทษ • ๕. นิพพทิ านุปัสสนาญาณ ปรีชาคานึงถึงความเบื่อหน่าย • ๖. มุญจติ ุกามยตาญาณ ปรีชาคานึงด้วยใคร่จะพ้นไปเสีย • ๗. ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ ปรีชาคานึงด้วยพจิ ารณาหาทาง • ๘. สังขารุเปกขาญาณ ปรีชาคานึงด้วยความวางเฉยเสีย • ๙. สัจจานุโลมกิ ญาณ ปรีชาเป็ นไปโดยสมควรแก่กาหนดรู้อริยสัจ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อ1ย18เอด็

พทุ ธคุณ ๙ พทุ ธคุณ หมายถึง พระคุณของพระพุทธเจ้า ได้แก่ คุณสมบตั ิพเิ ศษของ พระพทุ ธเจ้า มี ๙ ประการ คือ • ๑. อรหัง เป็ นพระอรหันต์ • ๒. สัมมาสัมพทุ โธ เป็ นผู้ตรัสรู้ชอบเอง • ๓. วชิ ชาจรณสัมปันโน เป็ นผู้ถงึ พร้อมด้วยวชิ ชา และจรณะ • ๔. สุคโต เป็ นผู้เสดจ็ ไปดแี ล้ว • ๕. โลกวทิ ู เป็ นผู้รู้แจ้งโลก • ๖. อนุตตโร ปุริสทมั มสารถิ เป็ นสารถแี ห่งบุรุษพงึ ฝึ กได้ ไม่มบี ุรุษอื่นยงิ่ ไปกว่า • ๗. สัตถา เทวมนุสสานัง เป็ นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ท้งั หลาย • ๘. พทุ โธ เป็ นผู้ต่ืนแล้วเป็ นผู้เบกิ บานแล้ว • ๙. ภควา เป็ นผู้มโี ชค พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย1เ9อด็

โลกตุ ตรธรรม ๙ โลกตุ ตรธรรม หมายถงึ ธรรมอนั ยอดเยย่ี มอยู่เหนือวสิ ัยของโลก เป็ น ภาวะทห่ี ลุดพ้นจากโลกยิ ะ มี ๙ ประการ คือ • มรรค ๔ คือ - โสดาปัตติมรรค,สกทาคามิมรรค,อนาคามีมรรค,อรหัตตมรรค • ผล ๔ คือ - โสดาปัตติผล,สกทาคามผิ ล,อนาคามีผล,อรหัตตผล • นิพพาน คือ - อนุปาทเิ สสนิพพาน พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย2เ0อด็

สังฆคุณ ๙ สังฆคุณ หมายถงึ คุณของพระสงฆ์ เรียกเตม็ ๆว่า พระอริยสงฆ์ เป็ นคุณทเ่ี กือ้ กลู ประโยชน์ ต่อผู้อ่ืน ๙ ประการ คือ • ๑. สุปฏปิ ันโน เป็ นผู้ปฏิบตั ดิ แี ล้ว • ๒. อุชุปฏิปันโน เป็ นผู้ปฏิบตั ิตรงแล้ว • ๓. ญายปฏปิ ันโน เป็ นผู้ปฏบิ ตั ิเป็ นธรรม • ๔. สามจี ิปฏปิ ันโน เป็ นผู้ปฏิบตั สิ มควร (ยาททิ งั นีค้ ือใคร) (จัตตาริ ปุริสยุคานิ คู่แห่งบุรุษ ๔) (อฏฺ ฐ ปุริสปุคคลา บุรุษบุคคล ๘) (เอส ภควโต สาวกสังโฆ น่ีพระสงฆ์สาวกของพระผู้มพี ระภาค) • ๕. อาหุเนยโย เป็ นผู้ควรของคานับ • ๖. ปาหุเนยโย เป็ นผู้ควรของต้อนรับ • ๗. ทกั ขเิ ณยโย เป็ นผู้ควรของทาบุญ • ๘. อญั ชลกิ รณโี ย เป็ นผู้ควรทาอญั ชลี (ประณมมือไหว้) • ๙. อนุตฺตรัง ปุญญกั เขตตงั เป็ นนาบุญของโลก ไม่มนี าบุญอ่ืนโลกสฺส ยงิ่ กว่า พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อ1ย2เ1อด็

สัตตาวาส ๙ สัตตาวาส หมายถงึ ภพเป็ นทอี่ ยู่ของสัตว์ทุกประเภท เแจกเป็ น ๙ อย่าง คือ • ๑. สัตว์เหล่าหนึ่ง มกี ายต่างกนั มสี ัญญาต่างกนั เช่นพวกมนุษย์ พวกเทวดาบางหมู่ พวกวนิ ิปาตกิ ะ เปรต บางหมู่ • ๒. สัตว์เหล่าหน่ึง มกี ายต่างกนั มสี ัญญาอย่างเดยี วกนั เช่นพวกเทพผู้อยู่ในจาพวกพรหม ผู้เกดิ ในภูมิ ปฐมฌาน • ๓. สัตว์เหล่าหนึ่ง มกี ายอย่างเดยี วกนั มสี ัญญาต่างกนั เช่นพวกเทพอาภสั สระ • ๔. สัตว์เหล่าหน่ึง มกี ายอย่างเดยี วกนั มสี ัญญาอย่างเดยี วกนั เช่นพวกเทพสุภกณิ หะ • ๕. สัตว์เหล่าหนึ่ง ไม่มสี ัญญา ไม่เสวยเวทนา เช่นพวกเทพผู้เป็ นอสัญญสี ัตว์ • ๖. สัตว์เหล่าหนึ่ง ผู้เข้าถงึ ช้ันอากาสานัญจายตนะ • ๗. สัตว์เหล่าหนึ่ง ผู้เข้าถึงช้ันวญิ ญาญญั จายตนะ • ๘. สัตว์เหล่าหน่ึง ผู้เข้าถงึ ช้ันอากญิ จญั ญายตนะ • ๙. สัตว์เหล่าหน่ึง ผู้เข้าถงึ ช้ันเนวสัญญานาสัญญายตนะ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อย1เ2อ2ด็

วชิ าธรรมวภิ าค นักหธมรรวมดช้ัน๑โ๐ท พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย2เ3อด็

อนั ตคาหิกทิฏฐิ ๑๐ ความเห็นอนั ถือเอาทสี่ ุด คือเล่นเข้าไปถึงทส่ี ุด ในอย่างหน่ึงๆ เรียก อนั ตคาหิกทิฏฐิ แจก ออกไปเป็ น ๑๐ คือ • ๑. โลกเทยี่ ง • ๒. โลกไม่เทยี่ ง • ๓. โลกมที ส่ี ุด • ๔. โลกไม่มที สี่ ุด • ๕. ชีพกอ็ นั น้ัน สรีระกอ็ นั น้ัน • ๖. ชีพเป็ นอนั สรีระกเ็ ป็ นอ่ืน • ๗. สัตว์เบือ้ งหน้าแต่ตายแล้ว ย่อมเป็ นอกี เกดิ อกี • ๘. สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้ว ย่อมไม่เป็ นอกี • ๙. สัตว์เบือ้ งหน้าแต่ตายแล้ว ย่อมเป็ นอกี กม็ ี ย่อมไม่เป็ นอกี กม็ ี • ๑๐. สัตว์เบือ้ งหน้าแต่ตายแล้ว ย่อมเป็ นอกี หามไิ ด้ ย่อมไม่เป็ นอกี กห็ ามไิ ด้ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อย1เ2อ4ด็

ทสพลญาณ ๑๐ ทสพลญาณ หมายถึง พระปรีชาญาณทเี่ ป็ นพระกาลงั ของพระพุทธเจ้า มี ๑๐ ประการ คือ • ๑. ฐานาฐานญาณ ปรีชากาหนดรู้ฐานะ คือเหตุทค่ี วรเป็ นได้ และอฐานะ คือมใี ช่เหตุทค่ี วรเป็ นได้ • ๒. วปิ ากญาณ ปรีชากาหนดรู้ผลแห่งกรรม • ๓. สัพพตั ถคามนิ ีปฏิปทาญาณ ปรีชากาหนดรู้ทางไปสู่ภูมทิ ้งั ปวง • ๔. นานาธาตุญาณ ปรีชากาหนดรู้ธาตุต่างๆ • ๕. นานาธิมุตตกญาณ ปรีชากาหนดรู้อธิมุตติคืออธั ยาศัยของสัตว์ท้งั หลายอนั เป็ นต่าง ๆ กนั • ๖. อนิ ทริยปโรปริยตั ตญาณ ปรีชากาหนดรู้ความหย่อนและยงิ่ แห่งอนิ ทรีย์ของสัตว์ท้งั หลาย • ๗. ฌานาทสิ ังกเิ ลสาทญิ าณ ปรีชากาหนดรู้อาการมคี วามเศร้าหมองเป็ นต้นแห่งธรรมมฌี านเป็ นต้น • ๘. ปุพเพนวิ าสานุสสติญาณ ปรีชากาหนดระลกึ ชาติหนหลงั ได้ • ๙. จุตูปปาตญาณ ปรีชากาหนดรู้จุติ และอุปบตั ิของสัตว์ท้งั หลายผู้เป็ นต่าง ๆ กนั โดยกรรม. • ๑๐. อาสวกั ขยญาณ ปรีชารู้จกั ทาอาสวะให้สิ้น พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อย1เ2อ5ด็

มจิ ฉัตตะ ๑๐ มจิ ฉัตตะ หมายถึง ความเป็ นผดิ เห็นหลกั ธรรมคาสอนทผ่ี ดิ จากทางคาสอนทางศาสนา มี ๑๐ ประการ คือ • ๑. มจิ ฉาทฏิ ฐิ เห็นผดิ • ๒. มจิ ฉาสังกปั ปะ ดาริผดิ • ๓. มจิ ฉาวาจา วาจาผดิ • ๔. มจิ ฉากมั มนั ตะ การงานผดิ • ๕. มจิ ฉาอาชีวะ เลยี้ งชีวติ ผดิ • ๖. มจิ ฉาวายามะ พยายามผดิ • ๗. มจิ ฉาสติ ระลกึ ผดิ • ๘. มจิ ฉาสมาธิ ต้ังจติ ผดิ • ๙. มจิ ฉาญาณะ รู้ผดิ • ๑๐. มจิ ฉาวมิ ุตติ พ้นผดิ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย2เ6อ็ด

บารมี ๑๐ บารมี หมายถงึ การบาเพญ็ คุณสมบตั ิ ด้วยเจตนาและสัจจะทมี่ น่ั คงม๑ี ๐ประการคือ • ทาน • ศีล • เนกขัมมะ • ปัญญา • วริ ิยะ • ขันติ • สัจจะ • อธิฏฐาน • เมตตา • อุเบกขา พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย2เ7อด็

สังโยชน์ ๑๐ สังโยชน์ หมายถงึ กเิ ลสทผ่ี กู มดั ใจของสัตว์ฝห้ตดิ อย่ใู นชาตภิ พของโลก มี ๑๐ ประการ คือ • ๑. สักกายทฏิ ฐิ ความเห็นเป็ นเหตุถือตวั ถือตน • ๒. วจิ ิกจิ ฉา ความลงั เลเป็ นเหตุไม่แน่ใจ ในปฏิปทาเคร่ืองดาเนินของตน • ๓. สีลพั พตปรามาส ความเชื่อถือศักด์สิ ิทธ์ิ ด้วยเข้าใจว่ามีได้ด้วยศีลหรือพรตอย่างน้ันอย่างนี้ • ๔. กามราคะ ความกาหนัดด้วยอานาจกเิ ลสกาม เรียกแต่เพยี งราคะกม็ ี • ๕. ปฏิฆะ ความกระทบกระทัง่ แห่งจติ ได้แก่ความหงุดหงดิ ด้วยอานาจโทสะ เรียกโทสะตรงทเี ดยี วกม็ ี • ๕ นี้ เป็ นสังโยชน์เบื้องต่า คืออย่างหยาบ เรียกโอรัมภาคยิ ะ • ๖. รูปราคะ ความตดิ ใจอยู่ในรูปธรรม เช่นชอบใจในบุคคลบางคน หรือในพสั ดุบางส่ิงหรือแม้ในวตั ถุอนั เป็ น อารมณ์แห่งรูปฌาน • ๗. อรูปราคะ ความตดิ ใจอยู่ในอรูปธรรม เช่นพอใจในสุขเทวนา • ๘. มานะ ความสาคญั ตวั ว่าเป็ นน่ันเป็ นนี่ • ๙. อุทธัจจะ ความคดิ พล่าน เช่นนึกอะไรกเ็ พลนิ เกนิ ไปกว่าเหตุ • ๑๐. อวชิ ชา ความเขลาอนั เป็ นเหตไุ ม่รู้จริง พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อย1เ2อ8ด็

สัมมตั ตะ ๑๐ สัญญา ๑๐ หมายถึง ความจาได้ ความหมายรู้ เป็ นสัญญาช่ันสูงทจ่ี ะนาไปสู่ปัญญา มี ๑๐ ประการ คือ • ๑. สัมมาทฏิ ฐิ เห็นถูก • ๒. สัมมาสังกปั ปะ ดาริถูก • ๓. สัมมาวาจา วาจาถูก • ๔. สัมมากมั มนั ตะ การงานถูก • ๕. สัมมาอาชีวะ เลยี้ งชีวติ ถูก • ๖. สัมมาวายามะ พยายามถูก • ๗. สัมมาสติ ระลกึ ถูก • ๘. สัมมาสมาธิ ต้ังจติ ถูก • ๙. สัมมาญาณะ รู้ถูก • ๑๐. สัมมาวมิ ุตติ พ้นถูก พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อย1เ2อ9ด็

สังโยชน์ ๑๐ • สังโยชน์ กเิ ลสทผ่ี ูกมดั สัตว์ ในหมวดนี้ ข้อ ๑-๕,๗, และ๑๐ โดยเค้า คือนาอนัสย ๗ เพม่ิ เข้ามาอกี ๓ ข้อ ๖,๘,๙,รวมเป็ น ๑๐ ประการ • กามราคะ ปฏฆิ ะ มานะ ทฏิ ฐิ • วจิ กิ จิ ฉา สีลพั พตปรามาส ภวราคะ • อสิ สา มจั ฉริยะ อวชิ ชา พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อ1ย3เ0อด็

สัทธรรม ๑๐ สัทธรรม หมายถงึ ความจาได้ ธรรมของ สัตบุรุษ ในทน่ี ีป้ ระสงค์ถงึ พระพุทธเจ้า โดย แท้จริง โลกตุ ตรธรรม ๙ ได้แก่ • มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ • ปริยตั ิธรรม ๑ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อ1ย3เ1อด็

สัญญา ๑๐ สัญญา ๑๐ หมายถึง ความจาได้ ความหมายรู้ เป็ นสัญญาชั่นสูงทจ่ี ะนาไปสู่ปัญญา มี ๑๐ ประการ คือ • ๑. อนิจจสัญญา กาหนดหมายความไม่เทยี่ งแห่งสังขาร. • ๒. อนัตตสัญญา กาหนดหมายความเป็ นอนัตตาแห่งธรรม. • ๓. อสุภสัญญา กาหนดหมายความไม่งามแห่งกาย • ๔. อาทนี วสัญญา กาหนดหมายโทษแห่งกาย คือมอี าพาธต่างๆ • ๕. ปหานสัญญา กาหนดหมายเพ่ือละอกศุ ลวติ กและบาปธรรม • ๖. วริ าคสัญญา กาหนดหมายวริ าคะคืออริยมรรค ว่าเป็ นธรรมอนั ละเอยี ด • ๗. นิโรธสัญญา กาหนดหมายนิโรธความดบั ตณั หา คืออริยผล ว่าเป็ นธรรมอนั ละเอยี ด • ๘. สัพพโลเก อนภริ ตสัญญา กาหนดหมายความไม่น่าเพลดิ เพลนิ ในโลกท้งั ปวง • ๙. สัพพสังขาเรสุ อนิฏฐสัญญา กาหนดหมายความไม่น่าปรารถนาในสังขารท้งั ปวง • ๑๐. อานาปานัสสติ สตกิ าหนดลมหายใจเข้าออก พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อ1ย3เ2อด็

วชิ าธรรมวภิ าค นักหธมรวรมดช๑้ัน๑โท พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อย1เ3อ3ด็

ปัจจยาการ ๑๑ • ปัจจยั าการ หมายถงึ อาการทเ่ี ป็ นปัจจัยแก่กนั ปฏจิ จสมุปบาท หมายถงึ สภาวะทอ่ี าศัยกนั และกนั เกดิ ขนึ้ • ๑. เพราะอวชิ ชา เป็ นปัจจยั มสี ังขาร • ๒. เพราะสังขาร เป็ นปัจจยั มวี ญิ ญาณ • ๓. เพราะวญิ ญาณ เป็ นปัจจยั มนี ามรูป • ๔. เพราะนามรูป เป็ นปัจจยั มสี ฬายตนะ • ๕. เพราะสฬายตนะ เป็ นปัจจัย มผี สั สะ • ๖. เพราะผสั สะ เป็ นปัจจยั มเี วทนา • ๗. เพราะเวทนา เป็ นปัจจยั มตี ัณหา • ๘. เพราะตณั หา เป็ นปัจจยั มอี ุปาทาน • ๙. เพราะอุปาทาน เป็ นปัจจยั มภี พ • ๑๐. เพราะภพ เป็ นปัจจยั มชี าติ • ๑๑. เพราะชาติ เป็ นปัจจัย มชี รามรณโสกปริเทว พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อ1ย3เ4อ็ด

นิโรธวาร ๑๑ ปัจจยาการท้งั ๑๑ มดี ังนี้ • ๑. ชรามรณะเป็ นต้นมเี พราะชาติ • ๒. ชาตมิ ี เพราะภพ • ๓. ภพมี เพราะอุปาทาน • ๔. อุปทานมี เพราะตัณหา • ๕. ตัณหามี เพราะเวทนา • ๖. เวทนามี เพราะผสั สะ • ๗. ผสั สะมี เพราะสฬายตนะ • ๘. สฬายตนะมี เพราะนามรูป • ๙. นามรูปมี เพราะวญิ ญาณ • ๑๐. วญิ ญาณมี เพราะสังขาร • ๑๑. สังขารมี เพราะอวชิ ชา พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อ1ย3เ5อด็

วชิ าธรรมวภิ าค นักธรรมช้ันโท หมวด ๑๒ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อ1ย3เ6อด็

กรรม ๑๒ กรรม หมายถงึ การกระทา เป็ นคากลางๆในการแทนคาว่า ดหี รือ ช่ัว มี ๑๒ ประการคือ หมวดท่ี ๑ ให้ผลตามคราว • ๑. ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม กรรมให้ผลในภพนี้ • ๒. อปุ ปัชชเวทนียกรรม กรรมให้ผลต่อเม่ือเกดิ แล้วในภพหน้า • ๓. อปราปเวทนียกรรม กรรมให้ผลในภพสืบ ๆ • ๔. อโหสิกรรม กรรมให้ผลสาเร็จแล้ว พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อ1ย37เอด็

กรรม ๑๒ หมวดที่ ๒ ให้ผลตามกจิ • ๕. ชนกกรรม กรรมแต่งให้เกดิ • ๖. อุปัตถมั ภกกรรม กรรมสนับสนุน • ๗. อปุ ปี ฬกกรรม กรรมบบี ค้นั • ๘. อปุ ฆาตกกรรม กรรมตัดรอน หมวดท่ี ๓ ให้ผลตามลาดบั • ๙. ครุกรรม กรรมหนัก • ๑๐. พหุลกรรม กรรมชิน • ๑๑. อาสันนกรรม กรรมเมื่อจวนเจยี น • ๑๒. กตัตตากรรม กรรมสักว่าทา พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อย1เ3อ8ด็

กรรม ๑๒ หมวดที่ ๒ ให้ผลตามกจิ • ๕. ชนกกรรม กรรมแต่งให้เกดิ • ๖. อปุ ัตถัมภกกรรม กรรมสนับสนุน • ๗. อุปปี ฬกกรรม กรรมบบี ค้นั • ๘. อุปฆาตกกรรม กรรมตดั รอน หมวดที่ ๓ ให้ผลตามลาดบั • ๙. ครุกรรม กรรมหนัก • ๑๐. พหุลกรรม กรรมชิน • ๑๑. อาสันนกรรม กรรมเม่ือจวนเจยี น • ๑๒. กตตั ตากรรม กรรมสักว่าทา พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย39เอด็

วชิ าธรรมวภิ าค นหักธมรวรดมช๑้ัน๓โท พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อย1เ4อ0ด็

ธุดงค์ ๑๓ ธุดงค์ หมายถงึ อุบายวธิ ีเครื่องขดั เกลากเิ ลส มกั น้อยสันโดษ เพ่ือความผ่องใสของศีล เป็ นข้อ ปฏบิ ตั ิ มี ๑๓ ประการ คือ หมวดที่ ๑ ปฏสิ ังยุตด้วยจวี ร • ๑. ปังสุกูลกิ งั คะ ถือทรงผ้าบังสุกลุ เป็ นวตั ร • ๒. เตจีวริกงั คะ ถือทรงเพยี งไตรจวี รเป็ นวตั ร หมวดท่ี ๒ ปฏสิ ังยุตด้วยบณิ ฑบาต • ๓. ปิ ณฑปาตกิ งั คะ ถือเทยี่ วบิณฑบาตเป็ นวตั ร • ๔. สปทานจาริกกงั คะ ถือเทย่ี วบิณฑบาตไปตามแถวเป็ นวัตร • ๕. เอกาสนิกงั คะ ถือนั่งฉัน ณ อาสนะเดยี วเป็ นวตั ร • ๖. ปัตตปิ ณฑิกงั คะ ถือฉันเฉพาะในบาตรเป็ นวตั ร • ๗. ขลปุ ัจฉาภตั ตกิ งั คะ ถือห้ามภตั อนั นามาถวายเมื่อภายหลงั เป็ นวัตร พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อ1ย4เ1อด็

ธุดงค์ ๑๓ หมวดที่ ๓ ปฏิสังยุตด้วยเสนาสนะ • ๘. อารัญญกิ งั คะ ถืออยู่ป่ าเป็ นวตั ร • ๙. รุกขมูลกิ งั คะ ถืออยู่โคนไม้เป็ นวตั ร • ๑๐. อพั โภกาสิกงั คะ ถืออยู่ในทแ่ี จ้ง ๆ เป็ นวตั ร • ๑๑. โสสานิกงั คะ ถืออยู่ป่ าช้าเป็ นวตั ร • ๑๒. ยถาสันถตกิ งั คะ ถือการอยู่ในเสนาสนะอนั ท่านจดั ให้อย่างไร หมวดท่ี ๔ ปฏิสังยุตด้วยวริ ิยะ • ๑๓. เนสัชชิกงั คะ ถือการนั่งเป็ นวตั ร พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อย1เ4อ2ด็

ธุดงค์ ๑๓ การถือธุดงค์นี้ สาเร็จด้วยการสมาทาน คือด้วยอธิษฐานใจหรือแม้ด้วยเปล่งวาจา คาสมาทานน้ันดงั นี้ • ๑. สาหรับปังสุกลู กิ งั คะว่า \"คหาปตจิ วี ร ปฏิกขฺ ปิ าม,ิ ปสุกลู กิ งฺค สมาทิยาม.ิ \" แปลว่า \"เราดคฤหบดจี ีวรเสีย สมาทานองค์ของ ผู้ถือผ้าบังสุกลุ เป็ นวตั ร.\" • ๒. สาหรับเตจีวริกงั คะว่า \"จตุตฺถจีวร ปฏกิ ขฺ ปิ าม,ิ เตจวี ริกงฺค สมาทิยาม.ิ \" แปลว่า \"เรา งดจีวรผืนที่ ๔ เสีย สมาทานองค์ของ ผู้ถือทรงไตรจวี รเป็ นวตั ร.\" • ๓. สาหรับปิ ณฑปาตกิ งั คะว่า \"อตเิ รกลาภ ปฏิกขฺ ปิ าม,ิ ปิ ณฺฑปาตกิ งฺค สมาทยิ ามิ. \" แปลว่า \"เรางดอตเิ รกลาภเสีย สมาทานองค์ของผ้ถู ือบณิ ฑบาตเป็ นวัตร.“ • ๔. สาหรับสปทานจาริกงั คะว่า \"โลลปุ ฺปจาร ปฏิกฺขปิ าม,ิ สปทานจาริกงฺค สมาทิยามิ.\" แปลว่า \"เรางดการเทยี่ วโลเลเสีย สมาทานองค์ของผ้ถู ือเทยี่ วบิณฑบาตไปตามแถวเป็ น วตั ร.\" พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อย1เ4อ3ด็

ธุดงค์ ๑๓ • ๕. สาหรับเอกาสนิกงั คะว่า \"นานาสนโภชน ปฏิกฺขปิ าม,ิ เอกาสนิกงฺค สมาทยิ ามิ.\" แปลว่า \"เรางดการฉัน ณ ต่างอาสนะ เสีย สมาทานองค์ของผู้ถือน่ังฉัน ณ อาสนะเดยี ว เป็ นวตั ร.\" • ๖. สาหรับปัตตปิ ณฑกิ งั คะว่า \"ทุตยิ ภาชน ปฏิกฺขิปาม,ิ ปตฺตปิ ณฺฑิกงฺค สมาทิยามิ.\" แปลว่า \"เรางดภาชนะที่ ๒ เสีย สมาทานองค์ของผู้ถือการฉันเฉพาะในบาตเป็ นวตั ร.\" • ๗. สาหรับขลุปัจฉาภตั ตกิ งั คะว่า \"อตริ ิตฺตโภชน ปฏกิ ฺขิปามิ,ขลปุ จฺฉาภตฺตกิ งฺค สมาทยิ า ม.ิ \" แปลว่า \"เรางดโภชนะอนั เหลือ เพื่อเสีย สมาทานองค์แห่งผ้หู ้ามภัตอนั นามาถวาย เม่ือภายหลงั เป็ นวตั ร.\" • ๘. สาหรับอารัญญกิ งั คะว่า \"คามนฺตเสนาสน ปฏิกขฺ ิปามิ,อารญฺญกิ งฺค สมาทิยาม.ิ \" แปลว่า \"เรางดเสนาสนะชายบ้านเสีย สมาทานองค์แห่งผู้ถือการอยู่ป่ าเป็ นวัตร.\" พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อย1เ4อ4็ด

ธุดงค์ ๑๓ • ๙. สาหรับรุกขมูลกิ งั คะว่า \"ฉนฺน ปฏกิ ฺขปิ ามิ, รุกฺขมูลกิ งฺค สมาทิยาม.ิ \" แปลว่า \"เรางดท่ีมุงท่ี บังเสีย สมาทานองค์ของผู้ถือ การอยู่โคนไม้เป็ นวตั ร.\" • ๑๐. สาหรับอพั โภกาสิกงั คะว่า \"ฉนฺนญฺจ รุกฺขมูลญฺจ ปฏกิ ฺขิปาม,ิ อพฺโภกาสิกงฺค สมาทิยามิ.\" แปลว่า \"เรางดท่ีมุง ท่บี ังและโคนไม้เสีย สมาทานองค์ของผู้ถือการอยู่ในที่แจ้ง ๆ เป็ น วตั ร.\" • ๑๑. สาหรับโสสานิกงั คะว่า \"อสุสาน ปฏิกฺขปิ ามิ, โสสานิกงฺค สมาทิยาม.ิ \" แปลว่า \"เรางดท่ี ไม่ใช่ป่ าข้าเสีย สมาทานองค์ของผู้ ถือการอยู่ป่ าช้าเป็ นวตั ร.\" • ๑๒. สาหรับยถาสันถตกิ งั คะว่า \"เสนาสนโลลุปฺป ปฏกิ ฺขปิ ามิ, ยถาสนฺถติกงฺค สมาทยิ ามิ.\" แปลว่า \"เรางดความโลเลในเสนาสนะเสีย สมาทานองค์ของผู้อยู่ในเสนาสนะอนั ท่านจัดให้ อย่างไร.\" • ๑๓. สาหรับเนสัชชิกงั คะว่า \"เสยฺย ปฏิกฺขปิ ามิ, เนสชฺชิกงฺคสมาทิยาม\"ิ แปลว่า \"เรางดการนอน เสีย สมาทานองค์ของผู้ถือ การนั่งเป็ นวตั ร.\" พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อย1เ4อ5็ด

วชิ าธรรมวภิ าค นักธรรมช้ันโท หมวด ๑๕ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อย1เ4อ6ด็

จรณะ ๑๕ หมวดที่ ๑ • ๑. สีลสัมปทา ถึงพร้อมด้วยศีล • ๒. อนิ ทริยสังวร สารวมอนิ ทรีย์ • ๓. โภชนมัตตญั ญุตา รู้ความพอดีในการกนิ อาหาร • ๔. ชาคริยานุโยค ประกอบความเพยี รของผู้ต่ืนอยู่ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อย1เ4อ7ด็

จรณะ ๑๕ หมวดท่ี ๓ (รูปฌาน ๔) • ๑๒. ปฐมฌาน ฌานที่หนึ่ง • ๑๓. ทุตยิ ฌาน ฌานทสี่ อง • ๑๔. ตติยฌาน ฌานทสี่ าม • ๑๕. จตุตถฌาน ฌานที่สี่ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อย1เ4อ8ด็

จรณะ ๑๕ หมวดที่ ๒ (สัทธรรม ๗) • ๕. สัทธา ความเช่ือ • ๖. หิริ ความละอายแก่ใจ • ๗. โอตตัปปะ ความเกรงกลวั ผดิ • ๘. พาหุสัจจะ ความเป็ นผู้ได้ฟังมาก คือได้รับศึกษา • ๙. วริ ิยะ ความเพยี ร • ๑๐. สติ ความระลกึ ได้ • ๑๑. ปัญญา ความรอบรู้ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าภรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ.เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. โรงเรียนสุเทพนครวิช อาเภอเมืองสรวง จงั หวัดร้อย1เ4อ9ด็

“ขอให้ทุกท่านจงโชคด”ี 150