Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Book หนังสือจากถ่านดิบสู่มณีที่(พอ)มีค่า_E Book

Book หนังสือจากถ่านดิบสู่มณีที่(พอ)มีค่า_E Book

Published by chirtsaksri, 2020-05-13 20:55:03

Description: Book หนังสือจากถ่านดิบสู่มณีที่(พอ)มีค่า_E Book

Search

Read the Text Version

จากถ่านดบิ ... ไมม่ ีอะไรเปน็ ไปไมไ่ ด้ ... ลองต้งั ใจที่จะท�ำ สมู่ ณที ่(ี พอ)มีคา่ 49 ไมม่ อี ะไรเปน็ ไปไมไ่ ด.้ .. ลองตง้ั ใจทจ่ี ะท�ำ ใครกต็ าม ท่ีสนทิ กับผมพอสมควร มักรูว้ ่า ผมเปน็ “นักเดนิ ” ดงั น้ัน “การเดิน” จึงเป็นประเด็นสนทนากบั ผม ที่เรมิ่ ต้นได้ง่ายๆ มีหลายคนถามผมวา่ ผมเดินอาทิตย์ละกี่วนั คร้ันเมื่อผมตอบวา่ ทุกวัน “Rain or no rain” เขาเหลา่ น้ัน มักทำ�หน้าตกตะลึง ประมาณว่า เดินไปได้ยงั ไง (วะ?)

ไมม่ ีอะไรเปน็ ไปไมไ่ ด้ ... ลองต้งั ใจที่จะท�ำ จากถ่านดิบ... 50 ส่มู ณีที่(พอ)มคี ่า ขอ้ สงสยั ดังกล่าว ไมใ่ ช่เรื่องแปลก ผมเรม่ิ เดนิ ออกก�ำ ลงั กายอยา่ งจรงิ จงั อยา่ งสม�ำ่ เสมอตง้ั แตเ่ ดอื นตลุ าคม 2554 ในชว่ งกอ่ นหน้านัน้ ผมเดินทางไปญป่ี ุ่น และมโี อกาสพบเพ่ือนซ่งึ รกั ผมทสี่ ุดคนหนงึ่ หลงั จากไมไ่ ดพ้ บเจอกันกว่าสิบปี ผมไปพบเขาที่บา้ น หลังจากกินอาหาร และพดู คยุ ถงึ เรอื่ งราวเกา่ แก่แลว้ ก่อนจากกัน เขาก็มอบของขวญั ชิน้ หน่งึ ให้ผม เป็นเครื่องนับจำ�นวนก้าวเดนิ ยี่หอ้ Omron พรอ้ มกำ�ชับ ทง้ั ส่งั ท้งั สอน ให้ผมหม่ันเดินออกก�ำ ลังกายทกุ วนั เฉล่ียหมน่ื กา้ วตอ่ วนั ค�ำ ถามแรกของผมกค็ อื “ทกุ วนั เลยหรอื ” เขาตอบสวนมาทนั ทวี า่ “ใชน่ ะซี 勿論” สิ่งเดียว ท่ผี มรับปากเพือ่ นคนนน้ั กค็ อื “ผมจะพยายาม 頑張ります” ผมเดินทางกลับเมอื งไทย พรอ้ มเครื่องนบั กา้ วเดินย่หี ้อ Omron นี้ โดยมีคำ�ถามทีต่ ิดใจมาตลอดทาง “หนง่ึ หมน่ื กา้ วเลยหรอื ” “ทกุ วนั นะ” ระยะสองสามเดอื นแรก ผมตอ้ งบังคบั ตัวเอง ใหล้ กุ จากเก้าอ้ี เพ่ือเดินไปมาในทีท่ ำ�งาน คา่ เฉลย่ี ประมาณ ห้าถงึ หกพนั กา้ ว บางวันดหี น่อยก็ร่วมหมื่นกา้ ว แถมเปน็ การเดินวนั เว้นวัน หรือหากดหี นอ่ ย อาจจะห้าวนั ต่อสัปดาห์ แต่...Whatever will be will be... อะไรท่มี ันต้องเป็นไป...มนั กต็ ้องเปน็ ไป (น่ันแหละ) บอ่ ยครัง้ เมือ่ ผมก้มลงอา่ นจ�ำ นวนก้าว ทเ่ี ดนิ ไปในแตล่ ะวนั

ไมม่ ีอะไรเปน็ ไปไมไ่ ด้ ... ลองต้งั ใจที่จะท�ำ จากถ่านดิบ... ู่สมณี ่ีท(พอ)มีค่า 51

ไมม่ ีอะไรเปน็ ไปไมไ่ ด้ ... ลองต้งั ใจที่จะท�ำ จากถา่ นดบิ ... 52 สมู่ ณีที(่ พอ)มีคา่ ก็มักรำ�ลกึ ถงึ เพ่ือนสนิทของผมคนน้นั และความห่วงกังวลที่เขามีให้ จากน้ัน อารมณฮ์ ดึ ก็เกิดตามมา ปนี ี้ เปน็ ปีทส่ี ่แี ลว้ ที่ผมเดินประจำ� สมำ่�เสมอ และผมเรม่ิ รูส้ ึกวา่ หมืน่ กา้ ว ทุกวัน...แลว้ ไง ? เพราะผมเริ่มมีวธิ ี ท่จี ะเดนิ เหนิ ใหไ้ ด้ทกุ วัน วันละหมนื่ ก้าว ไม่วา่ ฝนจะตก แดดจะออก ก็ตามที จรงิ อย่างท่เี นลสนั แมนเดลา ว่าไว้ It always seems impossible until it’s done ทกุ สงิ่ อย่างดูเหมือนจะเปน็ ไปไมไ่ ด้ กระทัง่ เมอ่ื เราทำ�มนั สำ�เร็จ จริงหรอื ไม.่ ..ลองท้าทายหวั ใจของทา่ นดูกนั สนกุ ...ออก

จากถา่ นดบิ ... ALS: Ice Bucket Challenge สูม่ ณที (่ี พอ)มีค่า 53 ALS: Ice Bucket Challenge ชว่ งน้ี Ice Bucket Challenge ก�ำ ลงั เปน็ แฟชัน่ ท่ีฮิต  มีพูดและแชรก์ นั ในโซเชียลมีเดยี กนั อยา่ งกว้างขวาง ผ้คู นที่พูดถงึ  Ice Bucket Challenge น่าจะมีไมม่ ากคน ทีร่ วู้ า่ มันเกย่ี วขอ้ งกับ ALS แม้ในบรรดาผู้ท่รี ู้ความเชอ่ื มโยงกับ ALS  กไ็ ม่นา่ จะมมี าก ทร่ี ู้ถึงโรครา้ ยซ่ึงยังไม่มีทางรกั ษานี้ ผมเรม่ิ ร้จู ัก ALS หลายสิบปมี าแล้ว โดยผา่ นผ้คู นในวงการ ซงึ่ ผมมคี วามสนใจ คนแรก คอื นกั วทิ ยาศาสตร์ Stephen Hawking อกี คนหน่ึง เปน็ นกั เบสบอล ชอื่ Lou Gehrig

ALS: Ice Bucket Challenge จากถา่ นดบิ ... 54 สมู่ ณีท(ี่ พอ)มคี ่า ผม “รจู้ กั ” Stephen Hawking ผา่ นหนงั สอื ทเ่ี ขาเขยี นชอ่ื A Brief History of Time เป็นหนังสอื ทผี่ มอ่านซ้ำ�อยูห่ ลายรอบ แต่ยงั ไม่เคยจบ และไม่เขา้ ใจมากกวา่ เข้าใจ ต่อมาผมก็ “ลดชนั้ ” หาหนังสือทีเ่ ขารว่ มเขียนอีกเลม่ A Briefer History of Time ซึง่ ดจู ะอ่านรเู้ รื่องมากขน้ึ แต่ก็เข้าใจไม่ง่ายอยูด่ ี Hawking ได้รบั การวินิจฉยั ว่าเป็นโรคนีเ้ มอ่ื อายุ 21 ปี หมอบอกเขาในขณะนน้ั วา่ เขาสามารถอยไู่ ด้อีกสองปี Hawking ใหส้ มั ภาษณ์ กบั CNN เม่ือปี ค.ศ.2010 ว่า “When I was first diagnosed with ALS, I was given two years to live. Now 45 years later, I am doing pretty well.” เมอ่ื ผมไดร้ บั การวนิ จิ ฉยั ครง้ั แรกวา่ เปน็ ALS หมอบอกวา่  ผมคงอยตู่ อ่ ไปไดส้ กั สองปี วนั น ้ี หลงั จากการวนิ จิ ฉยั นน้ั  45 ป ี ผมยงั ดปู กตดิ อี ยู่

จากถา่ นดบิ ... ALS: Ice Bucket Challenge ส่มู ณที ี(่ พอ)มคี า่ 55 สว่ น Lou Gehrig นน้ั เปน็ นกั เบสบอล ชาวอเมรกิ า ซง่ึ มสี มญานามวา่ Iron Man ทม่ี าของสมญานามดงั กลา่ ว นา่ จะอยทู่ ี่สถติ ซิ ึง่ เขาสรา้ งขึน้ โดยการเลน่ เบสบอลอาชพี ต่อเนื่องกันทกุ เกมส์ 2,120 เกมส์ ตง้ั แตป่ ี ค.ศ.1925-1934 สถิติดงั กลา่ ว ยืนยงคงอยู่มาถึง 56 ปี จนถูกท�ำ ลายในปี ค.ศ.1995 โรคร้ายแรงทด่ี ูไกลตัว กลายมาเปน็ เรอ่ื งใกลต้ วั ของผมขน้ึ เมื่อคณุ พอ่ ของผม ไดร้ ับการวนิ จิ ฉัยว่า เป็น ALS ประมาณปี ค.ศ.1995 โรคนไ้ี มม่ ยี ารกั ษา แตม่ โี ปรตนี สงั เคราะห์ ตอ้ งซอ้ื หาจากสหรฐั ฯ เพอ่ื บรรเทาอาการ สมยั นนั้ การหาซือ้ ทำ�ได้ยากลำ�บากมาก และการรับยาบางครั้งกไ็ มต่ อ่ เน่อื ง คณุ พอ่ อยกู่ บั ผม จนถงึ วนั ท่ี 7 ธนั วาคม 1997 ซง่ึ เปน็ หนง่ึ วนั กอ่ นวนั เกดิ ของผม เยน็ วนั นน้ั ทา่ นมอบ “แตะ๊ เอยี ” ใหผ้ มเชน่ ทกุ ปี พรอ้ มค�ำ อวยพร ซง่ึ ดแู ผว่ เบาลงมาก ตกคืนนั้น ประสาทส่วนทค่ี วบคุมปอดคงออ่ นแรงไปมาก ท่านหอบอยูพ่ ักใหญ่ๆ ก่อนจะจากไปอยา่ งสงบ ด้วยวยั 72 ปี โดยมีคณุ แม่ น้องสาว และลกู หลาน คอยดูใจเป็นครงั้ สุดทา้ ย

ALS: Ice Bucket Challenge จากถา่ นดิบ... 56 สู่มณีท(่ี พอ)มีค่า กอ่ นจบ ผมขอนำ�ค�ำ อธบิ ายอาการของ ALS ซงึ่ คณุ หมอจากมหาวทิ ยาลยั มหิดล เขยี นอธิบายไว้ที่ http://academic.ra.mahidol.ac.th/pdffile/health/health002.pdf ซ่ึงผมขอตดั ตอนบางส่วน มาลงดงั นี้ “...ค�ำ วา่ ALS ย่อมาจาก Amyotrophic Lateral Sclerosis โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ALS ไมใ่ ช่โรคของกลา้ มเนือ้ โดยตรง แตเ่ ปน็ โรคที่เกิดจากความผดิ ปรกตขิ องเซลลป์ ระสาทน�ำ ค�ำ สัง่ แลว้ ส่งผลท�ำ ให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เนือ่ งจากขาดเซลล์ประสาทน�ำ คำ�ส่ัง มาควบคมุ ซง่ึ เซลลเ์ หลา่ น้มี ีอยใู่ นไขสันหลังและสมอง โดยท่ีเซลล์ ประสาทนำ�ค�ำ ส่ังเหลา่ นค้ี ่อยๆ เกิดการเส่อื มและตายไปในท่ีสดุ และเนื่องจากโรคกลา้ มเน้อื ออ่ นแรง ALS เปน็ โรคทเ่ี กิดจากความผิดปรกตขิ องเซลลป์ ระสาทน�ำ คำ�ส่งั จงึ มชี อื่ เรยี กอกี อยา่ งหนึ่งวา่ “โรคของเซลลป์ ระสาทน�ำ ค�ำ สงั่ (Motor Neuron Disease; MND) หรือ โรคเซลลป์ ระสาทนำ�ค�ำ สั่งเส่ือม” ในประเทศสหรฐั อเมรกิ าจะรจู้ กั โรคน้ี ในชอ่ื ของโรค ล-ู เก-รกิ (Lou Gehrig Disease) ซึ่งต้ังชอื่ โรคตามชอ่ื นกั เบสบอลทม่ี ชี ่อื เสยี งทเี่ ป็นโรคนีใ้ นปี ค.ศ.1930...” ผมบันทกึ เร่ืองราว และขอ้ มลู เกี่ยวกบั โรคร้ายนี้ เพือ่ ให้พวกเรา ทา้ ทาย Ice Bucket Challenge กนั ไดอ้ ย่างมีความเขา้ ใจท่ดี ี และดว้ ยส�ำ นึกทีช่ ัดเจน...ว่า เรากำ�ลังท�ำ อะไรอยู่

จากถา่ นดบิ ... ท�ำ ไมมนุษยจ์ ึงมีหนึง่ ปากสองห?ู ? สู่มณที (่ี พอ)มคี ่า 57 ท�ำ ไมมนษุ ย์ จึงมีหนง่ึ ปากสองห?ู ? อา่ นเรอ่ื งตอ่ ไปน้แี ลว้ …ทา่ นอาจจะเขา้ ใจอะไรดขี นึ้ กอ่ นอื่น ลองทบทวนดคู รับวา่ ในขณะผคู้ นฟงั การสนทนากนั อยู่นัน้ เปา้ หมายของเขา อยทู่ ีไ่ หน Stephen Covey ผเู้ ขยี นหนงั สอื 7 Habits ทโ่ี ดง่ ดงั ไปทว่ั โลก ตง้ั ขอ้ สงั เกตไวว้ า่ “Most people do not listen with the intent to understand; they listen with the intent to reply.” Stephen R. Covey. ผู้คนสว่ นใหญ่ไม่ได้ฟงั ดว้ ยเจตนาทจ่ี ะทำ�ความเขา้ ใจ แต่พวกเขาฟังดว้ ยเจตนาท่ีจะตอบโต้ จริงไหมครบั ?? ผมค่อนขา้ งเหน็ ดว้ ย กบั ข้อสังเกตน้ี

ท�ำ ไมมนุษยจ์ ึงมีหนึง่ ปากสองห?ู ? จากถา่ นดบิ ... 58 สู่มณที (ี่ พอ)มีค่า ผมพบว่า ในวงสนทนา โดยเฉพาะวงสนทนาทีม่ ีผู้มี “ปัญญา” รว่ มอยู่ด้วย เจตนาของคู่สนทนา ก็มักมุ่งฟงั เพอื่ จะหาจุด “สวนกลับ” หรือ ตอบโต้ การสนทนา จงึ ไมใ่ ช่การสนทนา แต่กลายเป็น การโต้ตอบ หรอื โต้วาทไี ป แมใ้ นวงสนทนาทว่ั ไป เรากม็ กั พบวา่ เปน็ การถกเถยี ง เพอ่ื จะเอาชนะคะคานกนั มากกวา่ ที่จะปรกึ ษาหารือ หาข้อยุติ หาทางออกของปญั หารว่ มกนั Larry King นักจดั รายการข่าวที่โดง่ ดงั ไปท่ัวโลกของ CNN  ให้ข้อคิดท่ีแสนวิเศษ เก่ยี วกบั “การฟงั ” ไวว้ ่า I remind myself every morning: Nothing I say this day will teach me anything. So if I’m going to learn, I must do it by listening. Larry King ผมเตอื นตวั เองทกุ เชา้ (วา่ ) ไมม่ อี ะไรทผ่ี มพดู ในวนั น้ี ทจ่ี ะเพม่ิ พนู ความรแู้ กผ่ มได้ ดงั น้ัน หากผมตอ้ งการจะเรยี นรู้ ผมตอ้ งต้ังใจฟงั กอ่ นจะจบ ขอน�ำ อกี ความเหน็ หนง่ึ ของนกั เขยี นและนกั พดู ทเ่ี ขาสรปุ ไวด้ มี ากวา่

จากถ่านดบิ ... ท�ำ ไมมนุษยจ์ ึงมีหนึง่ ปากสองห?ู ? ส่มู ณีท(ี่ พอ)มีค่า 59 One of the most sincere forms of respectis actually listening to what another has to say. Bryant H. McGill รปู แบบหนง่ึ ของการแสดงความเคารพอย่างจริงใจทสี่ ดุ ก็คือ การ(ต้งั ใจ)ฟังสง่ิ ท่อี กี ฝ่ายต้องการจะพูด คงพอสรุปได้นะครบั วา่ การเอาแต่พดู นอกจากไม่ไดช้ ว่ ยใหเ้ ราฉลาดรอบรู้มากขึน้ แล้ว ยังท�ำ ให้วงสนทนา กลายเปน็ วงแหง่ การถกเถียง โต้แยง้ ในทางกลบั กัน หากเรามีจิตนอ้ ม “รบั ฟัง” เรายอ่ มมีโอกาส เรยี นรู้ รบั รสู้ งิ่ ใหม่ๆ ซ่งึ เราอาจไมเ่ คยรมู้ ากอ่ น พรอ้ มกนั นน้ั การ “นอ้ มรับฟงั ” ช่วยทำ�ให้เราสามารถเข้าใจประเด็นปัญหา ที่อกี ฝา่ ยตอ้ งการนำ�เสนอ อันจะนำ�พาไปสกู่ ารสนทนา ซงึ่ เปน็ การแลกเปลย่ี นบนพื้นฐานของความเขา้ ใจ และจบลงดว้ ยข้อสรปุ เพ่อื หาทางแก้ปัญหาได้ และ...การนอ้ มรบั ฟงั ยงั สรา้ งความประทับใจ ต่อคสู่ นทนา เพราะเป็นการแสดงความใหเ้ กยี รติสูงสุด ต่อผทู้ ีเ่ ราพดู คยุ ด้วย อ่านมาถงึ จดุ นี้ พอจะเขา้ ใจไหมครบั วา่ ทำ�ไม มนษุ ย์ถึงมสี องหู แต่มีแค่ปากเดียว

กาลามสตู ร 10 ประการ ส�ำ หรับคนในโลกโซเชยี ลมีเดยี จากถา่ นดบิ ... 60 ส่มู ณที (่ี พอ)มคี ่า 10กาลามสูตร ประการ ส�ำ หรบั คนในโลกโซเชียลมีเดีย ผมเช่ือว่า ในบรรดาสิ่งประดษิ ฐย์ ุคใหมข่ องมนุษย์ ไมม่ สี ิง่ ใด จะยงั ประโยชนม์ หาศาลเทา่ อนิ เทอรเ์ นต เพราะอินเทอร์เนต ชว่ ยใหก้ ารสอ่ื สารระหว่างผู้คน สะดวก รวดเรว็ เพิ่มขึ้นมากมาย ขณะเดยี วกัน อนิ เทอรเ์ นต ยงั เป็นชอ่ งทาง ใหใ้ ครท่ใี ฝร่ ู้ สามารถเข้าถงึ แหล่งความร้ไู ด้ โดยแทบไมม่ คี า่ ใช้จ่าย

จากถา่ นดบิ ... กาลามสตู ร 10 ประการ ส�ำ หรับคนในโลกโซเชยี ลมีเดยี สู่มณที ่(ี พอ)มีคา่ 61 ขณะเดียวกัน...ผมก็รูส้ ึกว่า ในบรรดาผลพวงทีเ่ กิดข้นึ จากอินเทอรเ์ นต ซึง่ มโี ทษต่อผ้คู นอย่างมหันต์ กค็ ือ Social Media และ Social Network เพราะทกุ วันนี้ “ความเท็จ” มากมาย ถูกแพร่กระจายอยู่ในเครอื ขา่ ย ทั้งโดยตั้งใจ และไมต่ ัง้ ใจและ “ความเทจ็ ” เหล่าน้ี เข้าไปถึงหอ้ งท�ำ งาน ห้องนอน ของพวกเราทุกคน วนั ละหลายๆ รอบ กระท่งั สามารถกล่อมเกลาให้หลายคน เช่ือ “ความเทจ็ ” วา่ คือ “ขอ้ เทจ็ จริง” ตวั อยา่ งหนงึ่ ที่ผมพบเห็นมากับตวั กค็ อื ขอ้ เขียนท่ีอ้างวา่ เปน็ การบรรยายของ คณุ Setsuo Iuchi อดีตประธานเจโทร ประจ�ำ กรุงเทพฯ เกยี่ วกบั จุดอ่อนสบิ ประการของสงั คมไทย คร้งั แรก ทีผ่ มเหน็ ขอ้ เขยี น ซง่ึ เวยี นอย่ใู น Facebook เมอ่ื เกือบปมี าน้ี ผมมคี วามเชือ่ ครงึ่ ไม่เชือ่ ครง่ึ เพราะโดยบุคลกิ ของคนญ่ปี ่นุ ซึ่งมีฐานะต�ำ แหน่งสูงระดับน้นั ไมน่ ่าจะพูดอะไรเชน่ น้ันออกมา (แม้หลายเรอื่ งจะจริง) ผมจงึ ตรวจสอบยอ้ นกลับไป โดยอาศัย “พก่ี ู (google)”

กาลามสตู ร 10 ประการ ส�ำ หรับคนในโลกโซเชยี ลมีเดยี จากถา่ นดิบ... 62 สูม่ ณีท(่ี พอ)มคี า่ ก็พบความจรงิ ว่า ข้อเขยี นนั้น เป็นของคุณวิกรม กรมดษิ ฐ์ และผมได้ตรวจสอบอกี สองแหล่ง กพ็ บข้อเท็จจริงทย่ี นื ยนั ตรงกนั วา่ เปน็ ของคณุ วกิ รมแน่นอน และเป็นเรื่องทีม่ ีการพูด และเขียนกันมานาน ถงึ เกือบสิบปมี าแลว้ หลงั จากน้ัน ผมจึงสง่ ขอ้ ความหลังไมค์ ถึงผทู้ เ่ี ผยแพร่ขอ้ ความเหล่านน้ั เพื่อแจง้ ให้ทราบว่า สง่ิ ทเ่ี ขาเผยแพร่ “เป็นเทจ็ ” มาจนถึงวนั น้ี หลงั จากท่ขี ้อความนนั้ เผยแพร่ไปแล้วประมาณหนึง่ ปี  และหลังจากเจ้าตวั คณุ Iuchi กไ็ ด้เขยี นข้อความยนื ยนั ว่าไมใ่ ชส่ ่งิ ทเ่ี ขาพดู “ความเทจ็ ” ดงั กล่าวน้นั กย็ งั มีการวนเวียน แชร์ กันอยู่แทบไมข่ าดสาย ในโอกาสวันมาฆบชู าวนั น้ี ผมจึงใครข่ อนำ�ค�ำ สอนของพระพุทธองค์ ซง่ึ แสดงไว้ กวา่ 2,500 ปีมาแล้ว และยงั คงมคี ณุ คา่ มีประโยชน์ ไม่นอ้ ยกวา่ เดิมเลย คำ�สอนของพระองค์นนั้ คือ กาลามสตู ร 10 ประการ อันเป็นหลกั แห่งความเชื่อท่ีทรงวางไวใ้ ห้แกพ่ ุทธศาสนกิ ชน  ไม่ใหเ้ ชือ่ ส่งิ ใดๆ อย่างงมงายโดยไมใ่ ช้ปญั ญาพจิ ารณาให้เหน็ จริง อันประกอบดว้ ย

จากถ่านดิบ... กาลามสตู ร 10 ประการ ส�ำ หรับคนในโลกโซเชยี ลมีเดยี ส่มู ณีท(่ี พอ)มคี า่ 63 มา อนสุ สฺ วเนน - อยา่ ปลงใจเชอื่ ด้วยการฟงั ตามๆ กนั มา มา ปรมปฺ ราย - อย่าปลงใจเชอื่ ดว้ ยการถือสบื ๆ กนั มา มา อิติกิราย - อย่าปลงใจเชือ่ ด้วยการเลา่ ลือ มา ปฏิ กสมฺปทาเนน - อย่าปลงใจเชอื่ ดว้ ยการอ้างตำ�ราหรือคัมภรี ์ มา ตกกฺ เหตุ - อย่าปลงใจเช่อื เพราะเดาวา่ เปน็ เหตผุ ลกนั มา นยเหตุ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนมุ าน คาดคะเน มา อาการปรวิ ิตกฺเกน - อย่าปลงใจเช่อื ด้วยการเดาจากอาการท่ีเห็น มา ทฎิ ฐนิ ชิ ฌฺ านกขฺ นตฺ ยิ า - อยา่ ปลงใจเชอ่ื เพราะเขา้ กนั ไดก้ บั ทฤษฎที พ่ี นิ จิ ไวแ้ ลว้ มา ภพฺพรูปตา - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะผู้พดู มลี ักษณะนา่ เช่ือถือ มา สมโณ โน ครตู ิ - อยา่ ปลงใจเชอ่ื เพราะนบั ถอื วา่ ทา่ นสมณะน้ี เปน็ ครขู องเรา การแสดงตนเปน็ พทุ ธศาสนิกชนอย่างดเี ย่ียมท่ีสุด คือ การน�ำ ค�ำ สอนของพระพุทธองค์มาปรบั ใชใ้ นสงั คม และชีวติ จริงของพวกเราทกุ คน...ครบั กาลามสูตร 10 ประการ จะช่วยน�ำ พาเรา ให้ก้าวเดนิ ผา่ นกองขยะ (และหลายครัง้ เปน็ อาจม) ข่าวสาร ทีว่ างกองเตม็ ไปหมด บนเสน้ ทางของโซเชยี ลมีเดีย

คนหลายศาสนา จากถ่านดบิ ... 64 สูม่ ณที ี(่ พอ)มคี ่า คนหลาย ศาสนา วนั น้ีเป็นวนั สำ�คญั ทางพุทธศาสนา... ผมจงึ ขอน�ำ เรื่องเบาๆ แบบหนกั ๆ หรอื เรอ่ื งหนักๆ แบบเบาๆ เกี่ยวกบั ศาสนา มาคุยกนั ฟังครับ... ในช่องสำ�หรับกรอกประวัติทางราชการ หรอื สมคั รงาน ชอ่ งทเ่ี กย่ี วกับ...ศาสนา (ทนี่ บั ถือ) ดูเหมอื นทกุ คนจะเข้าใจตรงกนั วา่ เราควรเติมไดศ้ าสนาเดียว นน่ั เปน็ สิง่ ทไ่ี ม่ตรงกบั ทีผ่ มเข้าใจ ผมนับถอื ศาสนาพทุ ธ เพราะตง้ั แต่ออ้ นแตอ่ อก กอ็ ยูใ่ นสิ่งแวดล้อมเช่นนนั้ เขา้ โรงเรยี น ผมก็ได้รับรู้ประวัติของพุทธศาสนา การถอื ศลี หา้ ... อยา่ งไรก็ดี ผมมีเพือ่ นที่นับถอื ศาสนาอสิ ลาม ซงึ่ มีทพี่ ักอาศยั อยไู่ มไ่ กลกันนกั ผมเรยี นรูเ้ รอื่ งการถือศลี อด และค�ำ สอนบางอยา่ งของศาสดา จากเพื่อนในวยั เด็กนบี้ ้าง

จากถ่านดบิ ... คนหลายศาสนา สมู่ ณีท่ี(พอ)มีค่า 65 เมือ่ ผมเรยี นชั้นมธั ยม กม็ ีชาวออสเตรเลยี ซงึ่ เป็นครูสอนศาสนา มาเปดิ หอ้ งแถวใจกลางเมือง เพอื่ เผยแพรศ่ าสนาคริสต์ ผมและเพอ่ื น เข้าไปน่งั ฟงั อยู่บอ่ ยครั้ง ด้วยความสนใจ อยากรู้ หลายครัง้ ผมก็ประทบั ใจกบั คำ�สอนใหม่ ๆ ในศาสนาน้ี อยูม่ าวนั หนง่ึ เมอื่ ผมต้องกรอกเอกสารในโรงเรยี น (ดเู หมอื นจะเป็นสมดุ พก) เพอ่ื แสดง “ศาสนา” ท่ีนบั ถอื ผมก็กรอกลงไป ด้วยความพาซ่อื ว่า พทุ ธ และคริสต์ มคี รู(ปากไม่ด)ี เอาเร่อื งน้ีของผม ไปพดู เสียดสหี นา้ ชนั้ เรยี นวา่ #เปน็ คนไม่มีศาสนา ท้งั ที่ผมก็ถือศลี หา้ เคร่งครดั ท่สี ุดคนหนึง่   ผมมีความเชอ่ื ม่นั ศรทั ธาในคำ�สอนของพระพุทธองค์ สว่ นดขี องพทุ ธศาสนา คอื ค�ำ สอนเหลา่ นน้ั เราน�ำ ไปปฏบิ ตั เิ พอ่ื พสิ จู นค์ วามจรงิ ได้ คำ�สอนเกย่ี วกับสติ เพอื่ พจิ ารณาศลี สมาธิ ปญั ญา ชว่ ยในการด�ำ รงตน และด�ำ เนินชีวิตในแต่ละวัน อยา่ งตนื่ รู้ อรยิ สจั 4 (ทกุ ข์ สมทุ ัย นิโรธ มรรค) นับเปน็ แนวทางเพอื่ กำ�หนดแก้ไขปญั หานานาชนดิ ทเี่ ราต้องพบเจอทกุ วัน อิทธบิ าท 4 (ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา) หลกั ธรรมส�ำ คัญ ในการทำ�งานให้ส�ำ เรจ็ ลุล่วง และอีกหน่ึง คอื กาลามสตู ร 10 ประการ ซ่งึ เป็นยันต์กนั การแพร่ขา่ วลอื ข่าวลวง และข่าวโกหกพกลม อนั มแี พร่หลาย ในโซเชยี ลมีเดยี แทบทกุ วัน

จากถ่านดิบ... 66 สู่มณีท่ี(พอ)มคี ่า คนหลายศาสนา

จากถา่ นดบิ ... คนหลายศาสนา ส่มู ณีท(่ี พอ)มีคา่ 67 แมด้ ว้ ยความเปน็ พทุ ธศาสนกิ ชนเชน่ นน้ั ความอยากทจ่ี ะฟงั และท�ำ ความเขา้ ใจ ถึงข้อคิด คำ�สอนของศาสดา ในศาสนาอื่นๆ กค็ งไมน่ ่าจะเป็นไรใชไ่ หม... อยา่ งแยห่ นอ่ ย ก็อาจจะเป็นคน #หลายศาสนา  แต่ไมใ่ ช่ #เปน็ คนไมม่ ีศาสนา แน่นอน ในสงั คมโลกทม่ี ีการแลกเปลี่ยนไปมาของผู้คน และของวฒั นธรรม รวมทัง้ แนวคิดซ่ึงตดิ มากับผคู้ นเหลา่ นนั้ ความสามารถน้อมรบั และรับฟงั แนวความคดิ ปรัชญา และค�ำ สอนทางศาสนา ท่แี ตกตา่ งไปอย่างรู้จักแยกแยะ ย่อมเป็นคุณสมบัตสิ �ำ คัญ ส�ำ หรบั การอยู่รว่ มกนั โดยสันติ และบนพน้ื ฐานของการใหค้ วามเคารพตอ่ กนั ไม่ใช่หรอื ??

ชวี ติ จะเหลอื อะไรหากไรเ้ กยี รต?ิ จากถา่ นดิบ... 68 สูม่ ณีท(่ี พอ)มคี า่ ชวี ติ จะเหลืออะไร หากไร้เกยี รติ? มีปราชญโ์ บราณเคยตงั้ ค�ำ ถาม...แกมสั่งสอนไว้วา่ What is left when honor is lost? ชวี ิตจะเหลืออะไรหากไร้ซึ่งเกยี รติ ? ขอ้ คิดคำ�ถามนี้ ดจู ะมีความหมาย และน้�ำ หนกั เพ่มิ มากขน้ึ เม่ือเราตา่ งใชช้ วี ติ อาศัยอย่ใู นสังคมโซเชียลมเี ดยี ท่ซี ึง่ ไม่มีอะไร ที่ใครผูใ้ ดสามารถซกุ ซอ่ นจากสายตาจ้องมองของผ้คู นได้ กลา่ วในมมุ กลับกนั ก็คือ มนษุ ยท์ ี่ไรเ้ กียรติ หมดความนา่ เชื่อถือ ไม่ไดร้ บั ความยอมรบั ในสังคม จะตา่ งอะไร จากคนทต่ี ายทงั้ ๆ ท่ียงั มลี มหายใจอยู่ ??

จากถ่านดิบ... ชวี ติ จะเหลอื อะไรหากไรเ้ กยี รต?ิ สูม่ ณที ่ี(พอ)มคี ่า 69 ขอ้ คดิ ท�ำ นองเดยี วกนั ทน่ี า่ จะเปน็ เขม็ ทศิ ชท้ี าง ส�ำ หรบั ผคู้ นในสงั คมปจั จบุ นั ไดด้ ี Live in such a way that if someone spoke badly of you, no one would believe it. ดำ�รงตน ดำ�เนนิ ชีวิต ในแบบอย่างซึง่ เมอื่ มีใครกต็ าม ไปกล่าวรา้ ยคุณลบั หลงั จะไม่มใี ครเช่ือขอ้ กล่าวหาเหลา่ นี้ ข้อคดิ ภาษาองั กฤษขา้ งตน้ มีความยาวเพยี งหน่ึงประโยค ประกอบด้วยค�ำ ภาษาองั กฤษงา่ ยๆ ธรรมดาๆ กระชบั ส้นั แต่มีใจความ พร้อมเนอื้ หาเต็มเปย่ี ม ทีค่ รอบคลมุ ยาวไกล  เป็นแนวทาง หรอื อาจยดึ เปน็ ปรัชญาเลก็ ๆ สำ�หรบั การใชช้ ีวติ ของผูค้ น (โดยเฉพาะ)ในยคุ นี้ ผมเห็นว่า ข้อคิดท้ังสองข้างตน้ บอกใหเ้ ราตระหนกั ว่า ความสำ�เรจ็ ท่ยี ง่ิ ใหญท่ ี่สดุ ในชวี ติ นัน้ คือ การดำ�รงตน ดำ�เนนิ ชีวิตในแบบอย่าง ท่สี ามารถสร้างความเชอ่ื ถอื เชื่อมน่ั จากผคู้ นรอบข้างอยา่ งไม่สั่นคลอน การท่ีใคร ผูใ้ ด จะสามารถบรรลุถงึ ความเชอื่ ถือในระดับดงั กล่าวน้ัน

ชวี ติ จะเหลอื อะไรหากไรเ้ กยี รต?ิ จากถา่ นดบิ ... 70 สมู่ ณีท(่ี พอ)มคี ่า เขาย่อมตอ้ งครองตน บนพืน้ ฐานของความถกู ตอ้ ง มีจรยิ ธรรม อยา่ งมสี ติ และอย่างแน่วแน่ เพราะเพยี งกิเลส หรือความอยากได้ใครม่ แี ค่ชว่ั วบู ก็อาจท�ำ ใหผ้ คู้ น ซึง่ ไมต่ ้ังมนั่ ไม่ม่ันคงเพียงพอ เกิดความหวนั่ ไหว และทำ�สง่ิ ผิดพลาด ซง่ึ เขาตอ้ งเสียใจไปตลอดชวี ิต Warren Buffet เสนอมมุ มอง ท่บี ่งบอกให้เราเห็นถึงความส�ำ คญั ของการด�ำ รงตน อย่างมีสติ และตงั้ มน่ั ดังกลา่ วไวไ้ ด้ดีวา่ It takes 20 years to build a reputation and five minutes to ruin it. If you think about that, you’ll do things differently. Warren Buffett เราตอ้ งใชเ้ วลาถงึ 20 ปี ในการสรา้ งสมชอ่ื เสยี งขน้ึ มา แคเ่ พยี ง 5 นาที ส่ิงเหล่าน้กี อ็ าจถูกท�ำ ลายลงสิ้น หากเราตระหนกั ถึงสง่ิ น้ี เรายอ่ มทำ�การใดๆ แตกต่างออกไป

จากถ่านดิบ... ชวี ติ จะเหลอื อะไรหากไรเ้ กยี รต?ิ สมู่ ณที ี่(พอ)มคี า่ 71 ชอ่ื เสยี ง เกียรตยิ ศของเรานน้ั เราตอ้ งสั่งสม ผ่านการท�ำ ส่งิ ดงี ามอยา่ งต่อเน่อื ง นบั เปน็ สบิ ๆ ปี สงั คมถึงจะยอมรับ ผู้คนถงึ จะเชือ่ ถอื แตเ่ พียงเพราะจติ ใจทไ่ี มต่ ้ังมัน่ หรอื เพราะอารมณ์ชั่ววูบของเรา อนั เนื่องจากการเยา้ ยวนของความอยากได้ใคร่มเี ทา่ นน้ั เกยี รตทิ ีส่ งั่ สมมา ตลอดสบิ ๆ ปี กจ็ ะมลายหายไปตอ่ หน้าตอ่ ตา แคเ่ สี้ยวนาที หลงั จากนั้น เราจะกลายเปน็ เพียงศพ ที่ยังหายใจอยู่เทา่ นัน้ Live in such a way that if Someone spoke badly of you No one would believe it

ปรชั ญาแหง่ นำ�้ จากถา่ นดบิ ... 72 สมู่ ณีที่(พอ)มคี ่า น�้ำปรัชแญหา่ง 水五則 บทเรยี นห้าประการจากนำ�้ ใครทเ่ี คยไปกินอาหารญ่ีปุน่ ร้าน Nippon Tei ซ่งึ ต้ังอยใู่ นอาคารเดยี วกนั กับส�ำ นกั งาน JETRO คงเคยสังเกตเห็นภาพที่แขวนอยูข่ ้างฝา อันเป็นอักษรญ่ปี นุ่ ซึ่งผมอา่ นออกไม่ทุกตวั แต่พอจบั ใจความได้ และชอบใจกับเนอ้ื หาสาระนน้ั ด้วยความอยากรูท้ ่ไี ปทม่ี า ผมจึงไหวว้ านลกู ชายคนโต (อู๊ด) ซง่ึ เกง่ ภาษาญป่ี ุ่นกว่า ชว่ ยตรวจสอบให้จงึ ได้รวู้ ่า ข้อความดงั กล่าว เป็นค�ำ สอนโบราณ ของ Kuroda Kanbei (黒田官兵衛) ซึ่งเปน็ นกั คิดชาวญ่ีปุ่น กอ่ นการปฏริ ปู เมอิจิ โดยขอ้ ความทงั้ หมด มดี งั น้ี

จากถ่านดบิ ... ปรชั ญาแหง่ นำ�้ สู่มณที (ี่ พอ)มคี า่ 73 水五則  บทเรียนห้าประการจากน�้ำ 一つ、自ら活動して他を動かしむるは水なり ประการหนึง่ เร่มิ ตน้ กิจกรรมด้วยตนเอง แลว้ ขับเคลื่อนผู้อื่นใหค้ ลอ้ ยตามไป นนั่ คอื น้ำ�   一つ、障害にあい激しくその勢力を百倍し得るは水なり ประการหนึ่ง เม่ือพบสิง่ กดี ขวาง พลังจะเพม่ิ ขึน้ รอ้ ยเท่าทวีคูณ นัน่ คอื น้ำ�  一つ、常に己の進路を求めて止まざるは水なり ประการหนึง่ ม่งุ หนา้ ไปตามวถิ ตี น โดยไม่ยอมหยุดน่ิง น่นั คือ น�้ำ   一つ、自ら潔うして他の汚れを洗い清濁併せ容るるは水なり ประการหนึง่ ท�ำ ตนใหบ้ ริสทุ ธิ์ ชะลา้ งความสกปรกของผูอ้ นื่ และโอบอมุ้ เอาไว้ น่ันคือ น�ำ้   一つ、洋々として大洋を充たし発しては蒸気となり雲となり雨となり 雪と変じ霰と化し疑っては玲瓏たる鏡となりたえるも其性を 失わざるは水なり ประการหนึง่ ไหลลงสู่มหาสมทุ รอยา่ งผึ่งผาย ระเหยกลายเปน็ เมฆ ตกลงมาเป็นฝน กลายมาเป็นหมิ ะหรือลกู เหบ็ ตกผลึกงดงามปานเพชร ขณะทีย่ งั คงรกั ษาคุณลกั ษณะของตวั ไมเ่ ปลี่ยนไป นั่นคอื นำ้�  

ปรชั ญาแหง่ นำ�้ จากถา่ นดบิ ... 74 สูม่ ณีท(ี่ พอ)มีค่า จากนพิ นธด์ งั กลา่ วน้ี จะเหน็ ไดว้ า่ Kuroda Kanbei ไดถ้ อดเอาลกั ษณะเดน่ ของน�ำ้ แสดงออกมาใหผ้ คู้ นได้เห็นอยา่ งชัดเจน  จากนิพนธ์ เราอาจสรปุ บคุ ลกิ ภาพของน้ำ� เพือ่ เทยี บเคยี งเข้ากบั ชีวติ ประจำ�วัน ได้ดงั น ้ี ● การรเิ ริม่ ท�ำ สง่ิ ตา่ งๆ ด้วยตนเอง ไมต่ อ้ งรอค�ำ สง่ั คำ�ขอรอ้ ง ● ความไมห่ วัน่ ไหวต่ออปุ สรรคท่ีขวางก้นั อปุ สรรคกลบั มาเสรมิ สรา้ งพลัง แหง่ ความมุ่งมั่นใหท้ บเทา่ ทวีคูณ ● ความมุง่ ม่ัน ไปในทิศทางเดิม แน่วแน่ ไมเ่ ปลีย่ นแปลง ● ความช่วยเหลือเกื้อกลู แกไ้ ขปญั หาใหผ้ ู้อน่ื ● ความมจี ดุ ยนื คงมั่น ไมเ่ ปล่ยี นแปลง ไม่วา่ จะอยู่ในสถานภาพใดๆ หากพวกเรา ลองเปลีย่ นคำ�วา่ “น�้ำ ” มาเปน็ “ผม” หรอื “ฉัน” ดู ชวี ิตเรา จะดมู คี วามสุข มคี วามภาคภมู ใิ จ เพ่มิ มากขน้ึ หรอื เปล่า ??  

จากถา่ นดบิ ... ทกุ คนลว้ นเปน็ อจั ฉรยิ ะ ส่มู ณีท(่ี พอ)มคี า่ 75 ทุกคนล้วน อัจฉริยะเปน็ ผมมลี ูกอยู่สองคน ชายท้งั คู่ ชื่อเล่นว่า อดู๊ และ ออ๊ ด อายหุ า่ งกันประมาณสามปี คนโตสขุ ภาพแขง็ แรง สนใจคณติ ศาสตร์ จนเป็นอจั ฉริยะทางศาสตรน์ ค้ี นหน่งึ คนเล็กสุขภาพไม่ดี เป็นหอบหืด ตัง้ แต่เด็ก ทง้ั คู่ เรยี นชัน้ ประถมศึกษา อย่ทู ่ีโรงเรยี นพญาไท ขณะทีค่ นโต ไปโรงเรียนไดท้ กุ วัน  ลูกคนเล็ก แทบวา่ จะไปเรยี นหนง่ึ อาทติ ย์ แลว้ หยุดเรียนหนึง่ อาทิตย์ ยามผมไปรบั ท้งั คทู่ ่โี รงเรยี น เราต้องเดินขน้ึ สะพานลอย เพื่อข้ามถนนไปยังรถทจี่ อดอยู่อีกฝั่งของโรงเรยี น ออ๊ ดตอ้ งใช้ความพยายามอย่างแสนสาหสั เพียงเดินข้นึ บนั ไดมาไดค้ รึง่ ทาง อ๊อดกต็ อ้ งหยุดหอบอยคู่ รู่หนึ่ง ก่อนจะเร่ิมปีนบนั ไดต่อ จนถงึ สะพานลอย เพอื่ จะกา้ วข้ามไปได้

ทกุ คนลว้ นเปน็ อจั ฉรยิ ะ จากถ่านดบิ ... 76 สมู่ ณีที่(พอ)มคี า่ เมอ่ื อดู๊ จบการศกึ ษาระดบั ประถมฯ กไ็ ปสอบเขา้ เรยี นตอ่ ทโ่ี รงเรยี นสาธติ ปทมุ วนั ขณะทอี่ อ๊ ด ยงั คงเรยี นอยูท่ ่ีโรงเรยี นพญาไทตอ่ อีกสองปี เมอื่ ถึงเวลาท่ีอ๊อดจบช้นั ประถม และมองหาโรงเรยี นท่ีจะเรยี นตอ่ ในชนั้ มัธยม ดว้ ยความมักง่าย คดิ แต่ความสะดวกของตัวเอง ผมจึงถามอ๊อดว่า “...อ๊อด ไปสอบทส่ี าธิตปทมุ วนั เรียนกับพ่ีอู๊ดไหม...” (ดว้ ยหวงั ความสะดวก ในการรับส่ง) อ๊อดตอบ แบบไมม่ หี างเสียงวา่ “ไม่เอา” เป็นครัง้ แรกๆ ทอ่ี ๊อดปฏเิ สธ ดว้ ยสำ�เนียงทีก่ ร้าวเช่นนน้ั ทำ�ให้ผมรู้สกึ เอะใจ วา่ คงมอี ะไรมากกว่าแคก่ ารปฏเิ สธ ค�ำ่ วนั หนง่ึ หลงั จากพดู เฮฮากนั เรอ่ื งตา่ งๆ จนสรา้ งบรรยากาศทจ่ี ะคยุ กนั ไดแ้ ลว้ ผมกถ็ ามอ๊อดว่า ท�ำ ไม ไมอ่ ยากไปเรยี นโรงเรยี นเดียวกับพีห่ รอื ? ออ๊ ดตอบ ดว้ ยนำ้�เสียงเกอื บสะอืน้ ว่า “...ครูทโี่ รงเรยี นเกา่ ชอบถามอ๊อดว่า ท�ำ ไมอ๊อดไม่เกง่ เหมอื นพ…่ี ”

จากถา่ นดิบ... ทกุ คนลว้ นเปน็ อจั ฉรยิ ะ ส่มู ณที ี(่ พอ)มีคา่ 77 เป็นคำ�ตอบ ที่ทำ�ใหผ้ มเยน็ วาบไปท้ังตัว และเริ่มเข้าใจ ถึงความกดดนั ทีอ่ อ๊ ดไดร้ บั ในโรงเรียน และเข้าใจไดว้ ่า ทำ�ไมทกุ คร้ังทใี่ กลส้ อบ อ๊อดจึงมอี าการหอบหืด ผมปรึกษากับภรรยา และตัดสินใจวา่ จะให้ออ๊ ดสอบโรงเรยี นตามท่ีเขาพอใจ ในทส่ี ดุ ออ๊ ดกม็ าเรียนระดบั มัธยมฯ ตอ่ ท่ีโรงเรยี นสามเสนวทิ ยาลัย คงดว้ ยภาวะร่างกายทป่ี รบั ตัวดขี น้ึ และความกดดันท่ีได้รับลดลง อ๊อดเป็นตัวของตัวเองมากขนึ้ และเติบใหญต่ ามแบบฉบบั ทีเ่ ขารกั จะเป็น

ทกุ คนลว้ นเปน็ อจั ฉรยิ ะ จากถา่ นดิบ... 78 สู่มณที (ี่ พอ)มีค่า อ๊อดจบมัธยมปลาย และสอบเข้าภาควชิ าวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย เขาจบปริญญาตรโี ดยไดร้ บั เกยี รตินยิ มอันดับหน่งึ ตอ่ มาไปเรียนต่อปรญิ ญาโท จนจบจาก Carnegie Melon University ผมเขียนเรอ่ื งน้ี ยาวหน่อย เพอื่ เป็นประสบการณ์ ส�ำ หรบั คุณพอ่ คุณแมย่ ุคน้ี อย่าเอาลกู คนหน่งึ ไปเปรียบเทียบกบั ลกู อีกคนหนึ่ง หรือแมแ้ ต่ เอาลกู ตัวเอง ไปเปรียบเทยี บกบั ลกู คนอนื่ เดก็ ทกุ คน มคี วามเป็นอจั ฉริยะในตัวของเขาเอง เปดิ โอกาส และสร้างสงิ่ แวดลอ้ มให้เขา แล้วเขาจะเบง่ บาน เติบใหญ่ ในแบบฉบับของเขา ใหค้ ณุ ๆ ได้ชนื่ ชม  Everybody is a genius. But if you judge a fish by its ability to climb a tree, it will live its whole life believing that it is stupid. Albert Einstein ทุกคนล้วนเป็นอจั ฉริยะ แตห่ ากคณุ ประเมินคุณคา่ ของปลา จากความสามารถ ในการปีนต้นไม้ ปลากจ็ ะตอ้ งอยู่ไปตลอดชวี ิต ดว้ ยความเช่อื ว่า ตนเองนั้นโงเ่ ขลา

จากถา่ นดบิ ... ดหู นงั ...ดนู ก...แลว้ ยอ้ นดู...ตวั เอง สู่มณีท่ี(พอ)มคี ่า 79 ดูหนงั ...ดนู ก... แล้วยอ้ นด.ู ..ตวั เอง ผมชอบดหู นงั และหนงั เรอ่ื งหนง่ึ ทช่ี อบมากเปน็ พเิ ศษ คอื Field of Dreams ผมดหู นงั เรื่องนค้ี รง้ั แรก บนเคร่ืองบนิ (แหะ แหะ... ประมาณวา่ เปน็ คนแรกๆ ในโลกท่ีด.ู ..) หลังจากน้นั ก็...ดูแล้วดอู กี ...หลายๆ รอบ ทัง้ จากชอ่ ง HBO และวีดีโอ เหตทุ ีต่ ้องดูกนั หลายรอบ กเ็ พราะ รอบแรกๆ ดูแลว้ ไมค่ อ่ ยรเู้ รอื่ ง ทั้งเพราะฟงั ภาษาไม่แตกแขนง และตีความหนงั ไม่ทะลุปรุโปรง่

ดหู นงั ...ดนู ก...แลว้ ยอ้ นดู...ตวั เอง จากถ่านดบิ ... 80 สมู่ ณที (่ี พอ)มีคา่ หนังเรอ่ื งน้ี มขี อ้ คดิ แฝงอยูม่ ากมายหลายตอน หน่งึ ในน้ัน ทผี่ มประทบั ใจเปน็ คำ�พดู ของ Archie Graham (นักเบสบอลซึ่งเปลีย่ นอาชพี ไปเปน็ หมอ) ทีก่ ล่าวไว้ตอนหน่ึงวา่ We just don’t recognize life’s most significant moments while they’re happening. Back then I thought, “Well, there’ll be other days.” I didn’t realize that that was the only day. เราไมร่ ู้ถึงช่วงเวลาซึง่ ส�ำ คัญท่สี ุดในชวี ติ ขณะท่เี หตุการณ์ก�ำ ลงั เกิดอยู่ ในห้วงเวลานั้น ผมเพยี งคิดวา่ “อืมม...มนั คงมีวนั หลังอีกแหละ...” ผมหารู้ไม่ว่า น่นั เป็นเพยี งวันเดยี วเทา่ นน้ั ...

จากถา่ นดบิ ... ดหู นงั ...ดนู ก...แลว้ ยอ้ นดู...ตวั เอง สูม่ ณีท(่ี พอ)มคี า่ 81 เวลาผมเดนิ ไปถ่ายรูป โดยเฉพาะถ่ายคณุ นก... มกั จะร�ำ ลกึ ถงึ คำ�พูดน้เี สมอ เพราะการจะถา่ ยคณุ นกแตล่ ะทา่ นนน้ั ...“ไมม่ วี นั หลงั ” และ “ไมม่ โี อกาสตอ่ ไป” คุณนกจะไมป่ รากฏมาใหเ้ ราเหน็ บ่อย และเมื่อเหน็ กไ็ มเ่ คยกวกั มือเรียก แถมไม่เคยยืนรอนานเกิน หา้ ถงึ สบิ วินาที ดังนน้ั ...ต้องท้งั แมน่ และ เรว็ หากถ่ายขณะนน้ั เวลานนั้ วินาทนี ้นั ไมไ่ ด้... ก็..ไม่ไดถ้ ่าย และต้อง...กินแหว้

ดหู นงั ...ดนู ก...แลว้ ยอ้ นดู...ตวั เอง จากถา่ นดบิ ... 82 สูม่ ณีท(ี่ พอ)มคี ่า ชวี ิตในแตล่ ะวันของคนเรา กไ็ ม่น่าจะตา่ งไปจากท่คี ุณหมอ Graham วา่ ไว้ “...that was the only day...” “...วนั เดียวนั้นเทา่ น้นั แหละ...” โอกาสของชีวิต ในการท�ำ ความดี ในการชว่ ยเหลือผ้คู น ในการแสดงมติ รไมตรี ในการแสดงฝีไม้ลายมอื มาแล้ว...ก็ไปเลย ดงั นนั้ สาธุชนทั้งหลาย...พงึ มีสติ ตงั้ ม่ัน ทำ�ความพร้อมให้มีอยทู่ กุ ขณะ พรอ้ มท่ีจะใชท้ ุกช่วงโอกาสซึ่งผ่านมาของชีวิต ให้เกิดประโยชน์สูงสดุ แก่ตน และผอู้ ่ืน ทง้ั ในยามทำ�งาน และเล่น... ฝากเปน็ ขอ้ คิดจาก “หนัง” ทผ่ี มดู และจาก “นก” ทผ่ี มถ่าย

จากถ่านดิบ... จติ ส�ำ นึกร้คู ณุ นำ�พาส่ชู ีวติ มสี ขุ สมู่ ณีท(่ี พอ)มคี ่า 83 จิตส�ำ นกึ รูค้ ณุ น�ำ พาสชู่ ีวติ มสี ขุ ทกุ ชาติ มีค�ำ พดู ทีแ่ สดงความสำ�นึกร้คู ุณ  กรณีของ ญ่ปี ุ่น คำ�พดู หลัก กค็ ือ どうも有り難うございます。。。 ส�ำ หรับฝงั่ ตะวันตก ก็นา่ จะเปน็ Thank you และ My appreciation ส่วนพไี่ ทย มีตัง้ แต่ ขอบใจ ขอบคุณ  ผมอ่านพบแนวคดิ ท่ีเชือ่ มโยงความรสู้ กึ “สำ�นึกรคู้ ณุ ”  กบั การมีชีวิตทเ่ี ป็นสุข โดยมสี �ำ นกั จิตวทิ ยาเชงิ บวก หรือ Positive Psychology ท่ีทำ�การศึกษา และพบวา่ ผคู้ นท่มี นี สิ ัยรู้สำ�นึก มจี ติ ใจขอบคุณสิง่ ต่างๆ จะมีความสขุ มากกวา่ ผคู้ นทีไ่ ม่มนี ิสัยเช่นนัน้ และความแตกตา่ งของผคู้ นสองกลมุ่ ดังกลา่ ว มีอย่างเป็นนัยส�ำ คญั ขณะเดยี วกนั ชวี ิตที่มสี ุข ยังนำ�พาสู่สุขภาพท่ีแข็งแรงสมบรู ณ์ดว้ ย

จติ ส�ำ นึกร้คู ณุ นำ�พาส่ชู ีวติ มสี ขุ จากถ่านดิบ... 84 สู่มณที (่ี พอ)มีคา่ เคร่ืองมอื หนง่ึ ท่ผี มพบเหน็ วา่ มีการใชก้ ันมากในโลกตะวนั ตก เพอ่ื พัฒนานสิ ัยดงั กล่าว ก็คอื การใช้เวลากอ่ นนอน มาทบทวนเหตุการณป์ ระจ�ำ วัน เพอ่ื ร�ำ ลกึ และจดบนั ทกึ ความส�ำ นกึ รคู้ ณุ หรอื Gratitude Journal ตอ่ สง่ิ ตา่ งๆ ทไ่ี ดเ้ กดิ ขน้ึ โดยทำ�การบนั ทกึ ความร้สู กึ ขอบคณุ สิง่ ทเ่ี ราพบเหน็ หรอื ได้รับความชว่ ยเหลอื สนบั สนุน หรอื ความเมตตาจากผอู้ ่นื ในแตล่ ะวนั Oprah Winfrey เป็นผ้หู นึ่งทบี่ ันทกึ ความส�ำ นกึ รู้คณุ ดังกล่าวมายาวนาน ดังทีเ่ ธอเล่าไวว้ า่ For years I’ve been advocating the power and pleasure of being grateful. I kept a gratitude journal for a full decade without fail—and urged you all to do the same. นับเปน็ ปๆี แลว้ ท่ีดิฉนั เนน้ ถึงพลังและความปติ ิยินดี จากความรู้สึกส�ำ นึกรคู้ ุณ ดฉิ ันจดบันทึกประจ�ำ วัน ของความสำ�นึกรู้คุณน้ี เป็นเวลาถึงสิบปเี ต็ม โดยไม่มีวา่ งเว้น และ ดฉิ ันขอกระตนุ้ ให้ทุกท่าน ท�ำ ส่งิ เดยี วกันนี้

จากถ่านดิบ... จติ ส�ำ นึกร้คู ณุ นำ�พาส่ชู ีวติ มสี ขุ สมู่ ณที (ี่ พอ)มคี า่ 85 ผมเอง ไดเ้ ริ่มบันทกึ ความสำ�นกึ รู้คณุ ท่วี า่ น้ี มาเปน็ เวลากว่าปี โดยการนั่งทบทวนเหตุการณ์ในแต่ละวนั กอ่ นเขา้ นอนทุกคืน เพื่อบันทกึ สง่ิ ทเี่ ราพงึ สำ�นึกรคู้ ุณ คนื ละสามเรื่อง ตั้งแต…่ ความช่วยเหลอื ที่เพือ่ นร่วมงานมีให้เรา รอยยม้ิ ของผู้บังคบั บญั ชา ท่ที �ำ ใหเ้ ราผอ่ นคลาย คนขบั รถทใี่ หท้ างกบั เรา ในยามจราจรตดิ ขดั ยิ่งเราทบทวน บันทกึ สง่ิ เหลา่ น้ีนานวนั เขา้ เราจะเพม่ิ ความปติ ิ และมองเหน็ ความดงี ามรอบตัว ที่มีส่วนเกื้อหนุนการใช้ชวี ติ ในแตล่ ะวันของเรา ไดเ้ ดน่ ชัดขึน้ ในญ่ีป่นุ ก็มแี นวคดิ ที่ชดั เจน ถงึ คุณคา่ ของความส�ำ นึกรู้คณุ รวมทงั้ พลัง ทม่ี ตี อ่ การดำ�รงชีวติ ของเรา ดงั ขอ้ คดิ ตอ่ ไปนี้ 当たり前と思っていることに เมื่อใด ทเี่ ราเหน็ ส่ิงท่คี ิดว่าปรกติธรรมดา 感謝できるようになると、 แลว้ มีความรสู้ ึกสำ�นึกรคู้ ณุ 世の中が違って見えてきます。 โลกใบนี้ จะดูแตกต่างไปทีเดยี ว

จติ ส�ำ นึกร้คู ณุ นำ�พาส่ชู ีวติ มสี ขุ จากถา่ นดบิ ... 86 ส่มู ณที ี(่ พอ)มีค่า 両親にありがとう、 รู้สึกขอบคุณต่อคุณพ่อคุณแม่ 会社の同僚にありがとう、 รสู้ ึกขอบคณุ ตอ่ เพ่อื นรว่ มงาน 自分にもありがとう。 ร้สู ึกขอบคณุ ตอ่ ตวั เราเอง そう考えるだけで、 เพียงแค่มีความคดิ เชน่ นี้ その人の運命さえも ชะตาชวี ติ ของคนคนนัน้ 変えてしまう力が、 อาจจะเปล่ยี นไปไดด้ ว้ ย 「感謝」にはあるのです。 พลงั ของ “ความสำ�นึกรู้คุณ” น้แี หละ

จากถ่านดบิ ... สมู่ ณที ี่(พอ)มคี า่ 87 ความสำ�นกึ รูค้ ณุ นน้ั เบ้อื งตน้ ชว่ ยขัดเกลาจติ ใจของเรา ให้มีความละเอยี ดออ่ น เกิดความปิติยนิ ดี ถดั มา...การแสดงความสำ�นกึ รคู้ ุณ ต่อผ้คู นรอบขา้ ง สรา้ งความรู้สกึ ปติ ิยินดตี ่อผู้ท่ีไดร้ ับ ช่วยให้ก�ำ ลงั ใจเขา และปรับเปลี่ยนชวี ติ ของเขาไปในทิศทางทดี่ ีขน้ึ จติ ส�ำ นึกร้คู ณุ นำ�พาส่ชู ีวติ มสี ขุ

เรอื ท่เี ทยี บอย่กู ับทา่ คอื เรือท่ปี ลอดภัย แต.่ ..เรือไมไ่ ดส้ รา้ งมาเพื่อการน้นั จากถา่ นดิบ... 88 ส่มู ณีท(ี่ พอ)มคี ่า เรือทเ่ี ทียบอยู่กับทา่ คือ เรอื ทป่ี ลอดภัย แต.่ ..เรอื ไมไ่ ด้สร้างมาเพื่อการนั้น มีคำ�คมข้อคดิ ตะวันตกดๆี ...กลา่ วไว้วา่ Life begins at the end of your comfort zone. ชีวติ คนเราเร่ิมต้น เมือ่ เราหลดุ ออกมาจากการอยู่ไปวนั ๆ...(Comfort zone) มหี ลายคนเคยถามผม ว่า Comfort zone หมายถึงอะไร และ ทำ�ไม ตอ้ งหลุดให้พน้ จากดินแดนแหง่ นี้ ผมเคยยกตวั อย่างของเด็ก ทีห่ ัดคลาน จนคลานไดเ้ ก่ง (ชนิดทีผ่ ูใ้ หญอ่ ย่างผม...ก็คลานเร็วสเู้ ขาไม่ได้) หากเด็กรักทจ่ี ะอยู่ไปวันๆ ในความสะดวกสบายแบบเดมิ ๆ ดว้ ยการคลานไปเช่นน.้ี .. โลกของเขา กค็ งไมก่ ว้างใหญก่ ว่าห้องเลก็ ๆ สกั ห้องหน่ึง คงดว้ ยสญั ชาตญาณของการเตบิ ใหญ่ ดังนนั้ แม้เมือ่ สามารถคลานไดเ้ กง่ กาจสามารถย่งิ เดก็ ก็ยังมวี ิริยะอุตสาหะ ทจี่ ะเกาะ ยืน และหัดเดิน

จากถา่ นดิบ... เรอื ท่เี ทยี บอย่กู ับทา่ คอื เรือท่ปี ลอดภัย แต.่ ..เรือไมไ่ ดส้ รา้ งมาเพื่อการน้นั สูม่ ณที (่ี พอ)มคี ่า 89 ในช่วงเปลย่ี นผา่ นนัน้ เดก็ อาจจะหกล้ม หวั ร้างข้างแตก แต่กไ็ ม่เคยละเลิกความพยายาม เม่ือเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่... จติ วญิ ญาณของการท้าทายแบบเดก็ ๆ เช่นนี้ เรม่ิ ตกหล่น สูญหายไป ในระหว่างทาง ผู้คนเรม่ิ รักทจ่ี ะมีชีวติ ภายในกรอบทตี่ นเองสบายตวั หลายคน หลงลืมเป้าหมายชวี ติ และความใฝ่ฝนั ซึง่ ตนเองเคยมอี ย่ใู นวัยเดก็ หรอื หน่มุ สาว แลว้ จมปลกั อยกู่ บั การใช้ชีวติ “แบบอยไู่ ปวันๆ” ลืมวิญญาณนักผจญภัยในวัยเด็กเสียสิ้น... ละท้งิ ศักยภาพมากมายท่ีตวั เองมอี ยู่

เรอื ท่เี ทยี บอย่กู ับทา่ คอื เรือท่ปี ลอดภัย แต.่ ..เรือไมไ่ ดส้ รา้ งมาเพื่อการน้นั จากถ่านดบิ ... 90 สูม่ ณที ่(ี พอ)มีคา่ แม.้ ..การอย่ไู ปแบบวันๆ นัน้ สะดวกสบาย และอาจจะปลอดภัย แต่นัน่ ไมใ่ ช่เหตผุ ล หรอื วตั ถปุ ระสงค์ทีเ่ ราเลา่ เรียนศึกษา และเติบโตขนึ้ มา Move out of your comfort zone. You can only grow if you are willing to feel awkward and uncomfortable when you try something new. Brian Tracy เดนิ ออกมาจากการอย่ไู ปวันๆ เถิด คณุ จะสามารถพฒั นาเตบิ ใหญ่ หากคณุ พร้อมท่ีจะรูส้ ึก งมุ่ ง่าม เก้งกา้ ง และไมส่ ะดวกสบาย เพราะคุณเร่มิ ท�ำ อะไรใหม่ๆ ความรู้สึกงมุ่ ง่าม เกง้ ก้างดงั กลา่ ว คือ ส่งิ ที่เดก็ ทุกคนพบเจอ ยามทต่ี อ้ งเปลีย่ นผา่ นจากการคลานอย่างคล่องแคล่ว มาสู่การค่อยๆ หดั เกาะยืน เดนิ ล้มลกุ คลกุ คลาน จนกระทั่งปกี กล้าขาแขง็

จากถา่ นดบิ ... เรอื ท่เี ทยี บอย่กู ับทา่ คอื เรือท่ปี ลอดภัย แต.่ ..เรือไมไ่ ดส้ รา้ งมาเพื่อการน้นั สมู่ ณที (ี่ พอ)มคี า่ 91 ในตอนทา้ ยน้ี ขอนำ�ข้อคิดของปราชญโ์ บราณ ซง่ึ กลา่ วไว้ดมี ากวา่ It is not because things are difficult that we do not dare, it is because we do not dare that things are difficult. ไม่ใชเ่ พราะเรื่องมนั ยากหรอก ที่ทำ�ให้เราไม่กล้าทา้ ทาย หากเป็นเพราะเราไมก่ ลา้ ทา้ ทายตา่ งหาก จึงทำ�ใหเ้ ร่อื งมนั ดูยาก ในการดำ�เนินชวี ิตของเราแต่ละวนั ...และโดยท่ีเราไมร่ ตู้ ัวและไม่ต้ังใจ เรามกั เผลอสรา้ งกรอบครอบตัวเราเอาไว.้ .. เพือ่ จะใช้ชวี ิตอยา่ งท่ีเปน็ อยู่ ไปวนั ๆ หรือไม?่ ? จนลืมไปหรือเปล่าวา่ เราทกุ คนต่างมีศักยภาพ รวมทั้งความใฝ่ฝันอีกมากมาย โลกท่นี า่ ตน่ื เตน้ และท้าทาย รอเราอยู่ เพียงเราก้าวออกจากความสะดวกสบายของการใชช้ ีวิตไปวนั ๆ และท้าทายกบั ส่ิงใหม่ๆ เหลา่ นัน้ ดู

อปุ นสิ ยั ดี น�ำ พาชีวติ ส่คู วามส�ำ เรจ็ จากถา่ นดบิ ... 92 สูม่ ณที ่ี(พอ)มีค่า อปุ นสิ ยั ดี นำ�พาชวี ติ สคู่ วามส�ำ เรจ็ เมอ่ื ประมาณสองทศวรรษเศษมาแลว้ ผมมีโอกาสท�ำ ความรจู้ กั กับแนวคดิ ดา้ น “อปุ นสิ ัย” จากสองวัฒนธรรมท่ีต่างกนั ในเวลาใกล้เคยี งกนั เบ้ืองตน้ ในขณะทผี่ มและเพอ่ื นไปทำ�การสมั ภาษณผ์ ู้บรหิ าร ของบรษิ ัทญี่ปนุ่ แห่งหนง่ึ ผมไปอ่านพบ ข้อคิด ท่ตี ดิ กรอบประดับไวใ้ นบรเิ วณหอ้ งรับแขก เป็นภาษาญปี่ ่นุ ความว่า

จากถ่านดิบ... อปุ นสิ ยั ดี น�ำ พาชีวติ ส่คู วามส�ำ เรจ็ ส่มู ณีที(่ พอ)มีค่า 93 เมือ่ จิตใจ(หรือทัศนคติ)ของเราเปล่ียนไป การกระทำ�ของเราก็เปลยี่ นตาม เมอ่ื การกระท�ำ ของเราเปล่ียนไป อุปนสิ ัยของเรากเ็ ปลยี่ นตาม เมือ่ อปุ นสิ ยั ของเราเปลีย่ นไป บคุ ลกิ ภาพของเราก็เปลย่ี นตาม  เม่ือบคุ ลกิ ภาพของเราเปล่ียนไป ชวี ติ อนาคตของเราก็เปลีย่ นตาม ความประทับใจแรกของผม กค็ ือ ข้อคิดน้ี คอ่ ยๆ เช่อื มโยงสงิ่ เลก็ ๆ น้อยๆ ทเ่ี ราท�ำ ประจำ�ทกุ วนั อันไดแ้ ก่ ทัศนคติ และอปุ นิสยั เข้ากบั สดุ สายปลายทางของชวี ติ คือ ชวี ติ อนาคต ท่อี าจเปดิ กว้าง หรืออับมดื น่ันเปน็ คร้ังแรกๆ ทผี่ มเร่มิ ตระหนัก และเหน็ ความสำ�คญั ของส่ิงทเี่ รียกกันวา่ “อุปนสิ ยั ” ช่วงเวลาใกลก้ นั น้นั เอง เพ่อื นร่วมงานคนหน่งึ แนะน�ำ ให้ผมอา่ นหนังสอื ชื่อ  The 7 habits of highly effective people ของ Stephen R. Covey ในขณะทห่ี นังสือเพง่ิ วางจำ�หน่ายไมน่ าน และผมน่าจะเป็นกลุ่มคนไทยแรกๆ ท่มี ีโอกาสอ่านหนงั สอื เลม่ น้นั

อปุ นสิ ยั ดี น�ำ พาชีวติ ส่คู วามส�ำ เรจ็ จากถ่านดิบ... 94 สูม่ ณีท(่ี พอ)มคี ่า ผมอ่านหนังสือเล่มดังกลา่ ว แทบจะเรียกวา่ ทกุ บรรทดั ของแต่ละหน้า พร้อมกนั นั้น กท็ ำ�สรปุ ประเด็นสำ�คัญในแตล่ ะบท สาระสำ�คัญ ทีผ่ มสรุปไดน้ นั้ ใกลเ้ คยี งกับข้อคดิ ภาษาญีป่ นุ่ ข้างต้น ก็คอื เน้นใหเ้ ห็นบทบาทของอปุ นิสยั ทีม่ ตี ่อชวี ิต และต่ออนาคตของผู้คน ในหนงั สือ Stephen Covey ยงั อ้างถงึ ขอ้ คิดของปราชญช์ าวกรีก Aristotle ทีเ่ คยกล่าวไว้นานมาแล้ววา่ “We are what we repeatedly do. Excellence, then, is not an act, but a habit.” เราทกุ คน คือ ผลกรรมของสิ่งท่เี ราประพฤติปฏบิ ัติซำ�้ แล้วซ�้ำ อีก ความเป็นเลิศ จึงไมใ่ ช่ผลของการกระทำ�หนึง่ เดียว หากเกิดจากอปุ นสิ ยั ของเราเอง

จากถา่ นดบิ ... อปุ นสิ ยั ดี น�ำ พาชีวติ ส่คู วามส�ำ เรจ็ สูม่ ณที (่ี พอ)มคี ่า 95 สำ�หรับหนงั สอื The 7 habits of highly effective people นั้น ผมเชอื่ ว่ามีผู้อ่านมาแล้วมากมาย รวมทัง้ มีอีกจ�ำ นวนมาก ที่เคยผา่ นการฝกึ อบรมหลักสตู รราคาแพงนีม้ าดว้ ย สงิ่ แตกต่างของการอ่าน การอบรม กบั สง่ิ ทห่ี นงั สอื ยำ้� คอื “การกระท�ำ ” อปุ นิสยั เกิดข้นึ และกลายเป็นส่วนหนง่ึ ของชวี ิตเรา ผา่ นการหมน่ั ประพฤติ ปฏิบตั ิ อย่างสม�ำ่ เสมอ กระทง่ั กลายเปน็ อปุ นสิ ยั   อปุ นสิ ัย จึงเกิดขึ้นไมไ่ ด้ เพยี งการอ่าน หรอื เขา้ รับการอบรม ในช่วงแรกของการ “สรา้ งอปุ นิสัย” ผูค้ นจงึ ต้องมสี ติ ต่ืนรู้ ท่ีจะเตอื นตนเอง ให้ปลูกฝัง อุปนิสัยดีๆ ให้เกิดข้ึนในตวั เรา ดงั ทมี่ กี ารศกึ ษา และสรปุ ถึงอปุ นสิ ยั ท่นี ำ�ส่คู วามส�ำ เรจ็ เจด็ ประการ ไวอ้ ยา่ งคอ่ นข้างสมบรู ณ์ในหนังสือดังกลา่ ว อันได้แก่ ● Be proactive  ● Begin with the end in mind ● Put first things first ● Think win win ● Seek first to understand. Then to be understood. ● Synergize ● Sharpen the saw

อปุ นสิ ยั ดี น�ำ พาชีวติ ส่คู วามส�ำ เรจ็ จากถ่านดบิ ... 96 สมู่ ณที (่ี พอ)มีคา่ ผมคงไม่ลงรายละเอียด ถงึ อุปนสิ ยั เชน่ วา่ แตส่ งิ่ ที่ผมเหน็ ควรกลา่ วปดิ ท้ายไว้อกี ครงั้ ก็คอื อปุ นิสัยท่ีดี จะนำ�พาชวี ิตของเราส่โู ลกทีเ่ ปดิ กวา้ ง หนทางที่ปลอดโปรง่ ในทางกลับกัน การปลอ่ ยให้มพี ฤตกิ รรมดา้ นลบ ใหพ้ อกพนู จนกลายมาเปน็ อุปนิสัยทไี่ ม่ดี ครอบง�ำ ตัวเรา  เรากจ็ ะถูกอปุ นสิ ยั แย่ๆ น้นั ลากจูงไปสมู่ ุมอับแหง่ ชีวิต และ... อปุ นสิ ยั น้ัน คอื ส่ิงทีเ่ รามงุ่ ประพฤตปิ ฏบิ ัติ อย่างสม่ำ�เสมอ ในระยะแรก ด้วยความมสี ติ ต้ังม่นั และมุ่งมน่ั ต่อเมอื่ ส่ิงทเี่ ราประพฤตปิ ฏิบตั ิ กลายมาเป็นสว่ นหนง่ึ ของชวี ติ เราแลว้ อปุ นิสัยน้ันเอง (ไม่วา่ จะดี หรือ จะเลว) จะนำ�พาเราไปสู่อนาคตทสี่ ดใส หรอื มมุ อับแหง่ ชีวติ   แลว้ แต.่ ..กรรมเวรแห่งอุปนิสัยเหลา่ นน้ั

จากถา่ นดิบ... คนดชี อบแกไ้ ข คนจญั ไรชอบแกต้ วั สู่มณีท่(ี พอ)มคี า่ 97 คนดชี อบแก้ไข คนจญั ไรชอบแกต้ ัว ผมเริม่ จว่ั หวั ด้วยภาษติ ไทย ตรงๆ แรงๆ เพ่อื น�ำ ทา่ นท้ังหลายเข้าสปู่ ระเดน็ ซึง่ เราพบเห็นอย่ทู ่ัวไปในสังคมไทย กอ่ นจะเข้าเร่อื ง ขอน�ำ ย้อนไปพบกับข้อคิดเตอื นใจต่างชาติ (เพ่ือให้เห็นว่า อาการโรคชี้นว้ิ เชน่ น้ี หาได้มอี ยแู่ ตใ่ นประเทศไทย เพียงแต่...พ่ไี ทยน่าจะมีทักษะล้ำ�เลิศกว่าเท่าน้นั เอง)

คนดชี อบแกไ้ ข คนจญั ไรชอบ จากถา่ นดิบ... 98 ส่มู ณีท่(ี พอ)มคี า่ When a man points a finger at someone else, he should remember that four of his fingers are pointing at himself. Louis Nizer เมอื่ คุณช้ีนิว้ ต�ำ หนใิ คร อยา่ ลมื ว่า อีกสนี่ ิ้วที่เหลอื มนั จะชกี้ ลับมาทีเ่ รา... ขอ้ คดิ ทั้งของไทย และตา่ งชาติน้ี นา่ จะเหมาะอยา่ งย่งิ ส�ำ หรับ “สงั คมชนี้ ิว้ (ด่าคนอ่ืน)” ที่ดจู ะฝงั รากลกึ ในหมคู่ นไทย และขยายตัว กระจายความนิยมอยา่ งกวา้ งขวางในโซเชียลมเี ดีย ผมไม่เชอ่ื ว่า การช้นี วิ้ ต�ำ หนิผู้อ่นื จะช่วยแกป้ ญั หาอะไรได้ นอกจากสร้างความโกรธเคอื ง อนั จะยง่ิ น�ำ ไปสกู่ ารถกเถียงโต้แยง้ กระทั่งประจันหนา้ ทร่ี งั แต่จะทำ�ให้ปัญหาบานปลาย แต่หากเราย้อนมองตาม “สีน่ วิ้ ” ที่เหลือ ซ่งึ พุง่ กลบั มาทตี่ ัวเรา แลว้ ลองพจิ ารณาตวั เองดู จะพบวา่ เรากม็ สี ว่ นไมน่ อ้ ยทจ่ี ะไดร้ บั ค�ำ ต�ำ หนนิ น้ั หากเร่ิมต้น “แก้ปัญหา” จากท่ตี วั เรากอ่ น เราจะพบว่า อยา่ งนอ้ ย โลกนีก้ ็จะมีคนท่ี “เป็นปัญหา” ลดนอ้ ยไปหนึง่ คน #จรงิ ไหมครับ???


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook