Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรต้านทุจริต ป.2

หลักสูตรต้านทุจริต ป.2

Published by Yutthakan Chiatrakun, 2023-07-07 14:14:01

Description: หลักสูตรต้านทุจริต ป.2

Search

Read the Text Version

- 100 - 3.2 คุณแมแ่ นะนานอ้ งเจนใหช้ ว่ ยประหยดั พลงั งานอย่างไร 3.3 นักเรียนเคยทาแบบน้องเจนหรอื ไม่ 3.4 ถา้ เราไม่มีไฟฟา้ ใช้ จะเกิดผลอย่างไร 3.5 นกั เรยี นมีวิธกี ารดูแลรักษาทรัพยากรท่มี ีอยา่ งไร 4. ครูนานักเรียนไปสารวจการใช้ทรัพยากรน้าและไฟฟ้าภายในโรงเรียน เช่น ห้องน้า อ่างล้างมือ ตู้เย็น โทรทศั น์ คอมพิวเตอร์ และไฟฟา้ ตามหอ้ งต่าง 5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับการใช้ทรัพยากรภายในโรงเรียน เช่น การใช้น้า ใช้ไฟฟ้า เป็นอย่างไร เกิดประโยชน์คุ้มค่าหรือไม่ จากน้ันบันทึกประโยชน์และวิธีใช้ทรัพยากรน้าและไฟฟ้าอย่าง ประหยัดและคุ้มค่าลงในใบงานที่ ๑ เร่ือง น้าไหล...ไฟสว่าง จากนั้นนักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้น เรยี น 6. ครใู หน้ กั เรียนดูคลปิ วิดโี อปังปอนดล์ ดโลกร้อน ตอน “น้าใช้แล้วใช้ได้อีก” จากน้ันร่วมกันสรุปองค์ ความรู้เกี่ยวกบั การเหน็ คุณค่าในการใช้ทรัพยากรน้าและไฟฟ้าอย่างประหยัดและคุ้มค่า เพื่อให้มีใช้ได้นานขึ้น (การใช้ไฟฟ้าให้ประหยัด โดยปิดไฟทุกคร้ังเม่ือเลิกใช้ การใช้น้าควรปิดก๊อกน้าทุกคร้ังเมื่อใช้เสร็จ และใช้น้า พอประมาณ ไมเ่ ปิดน้าแรงจนเกินไป เป็นการปลูกฝังนิสัยในการใช้ทรัพยากรน้าและไฟฟ้าอย่างคุ้มค่า เพ่ือให้ มีไว้ใช้ไดย้ าวนานข้ึน) 4.2 ส่ือการเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้ 1) เพลง “ปิดน้าปดิ ไฟ” 2) นทิ านเร่อื ง “น้องเจนชว่ ยโลก” 3) คลิปวดี ีโอ เร่อื งปังปอนด์ลดโลกรอ้ น ตอน นา้ ใชแ้ ลว้ ใช้ไดอ้ ีก จาก https://www.youtube.com/watch?v=bMMYYGJaXcs 4) ใบงานที่ 1 เรอื่ ง น้าไหล...ไฟสวา่ ง 5. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5.1 วิธกี ารประเมนิ 1) ตรวจใบงาน 2) การสังเกตพฤติกรรมนักเรียน 5.2 เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ในการประเมิน 1) แบบตรวจผลงานการทาใบงาน 2) แบบสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน 5.3 เกณฑก์ ารตัดสนิ นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ 80 ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่าน 6. บันทกึ หลงั สอน ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ................................................................... .......................... ....................................................................................................................................... ....................................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ ................................................ ครูผสู้ อน (.................................................)

- 101 - 7. ภาคผนวก เพลงปดิ น้าปดิ ไฟ ศลิ ปิน ทมี งาน Right Edutainment อลั บัม้ : ใบตองสอนน้องรอ้ งเพลง ชดุ ท่ี 3 : รักษ์โลกของเรา ปดิ นา้ ปดิ ไฟ ปิดน้า ปิดไฟ เดก็ ดที ้ังหลาย ชว่ ยกันปิดเม่ือเลิกใช้ กว่าจะเปน็ น้า ต้องใชเ้ งนิ มากมาย เรามไี ฟใช้ ต้องแลกดว้ ยเงินทุน ปดิ นา้ ปดิ ไฟ ปิดน้า ปิดไฟ เด็กดีทุกคนทาเพื่อสงั คม ใหเ้ ราทกุ คนได้มนี า้ ใจ ช่วยชาตดิ ว้ ยการ ประหยดั นา้ ไฟ ใหน้ าน ใชไ้ ดน้ าน ไฟฟา้ ผลิตแรงด้วยนา้ มัน ขบั เคล่ือนให้ไปถงึ บ้านทุกวัน ไดม้ ีไฟใชป้ ระโยชนร์ ว่ มกนั ใหน้ าน ใชไ้ ด้นาน นา้ ที่เราใชต้ ้องผ่านระบบ กลน่ั กรองฆา่ เช้ือ ทาความสะอาด ด่มื นา้ ใส ร่างกายตอ้ งการ ดมื่ ทกุ วนั ด่ืมได้นาน ทุกวนั ธรรมชาติ ตอ้ งหมดสนิ้ ไป คงเหลือพอใช้ ใหเ้ ราไมน่ าน สานึกกันไว้ เราต้องประหยัด ใหน้ าน ใช้ไดน้ านทุกวนั ตลอดไป ปิดน้า ปดิ ไฟ ปิดน้า ปดิ ไฟ เด็กดีท้งั หลาย ชว่ ยกันปิดเม่ือเลิกใช้ กวา่ จะเป็นน้า ต้องใชเ้ งนิ มากมาย เรามีไฟใช้ ต้องแลกด้วยเงนิ ทุน ปิดน้า ปดิ ไฟ ปิดน้า ปิดไฟ เด็กดที งั้ หลาย ช่วยกนั ปดิ เม่ือเลิกใช้ กว่าจะเปน็ น้า ต้องใช้เงินมากมาย เรามีไฟใช้ ต้องแลกดว้ ยเงนิ ทุน แหลง่ ขอ้ มลู https://www.youtube.com/watch?v=SLard5hro6g

- 102 - นิทานเรอื่ ง นอ้ งเจนชว่ ยโลก (ไม่ทราบนามผู้แต่ง) วันนี้เป็นวันหยุดปิดเทอมวันแรกของน้องเจน น้องเจนดีใจและชอบช่วงเวลาปิดเทอม เพราะจะได้หยุดพักผ่อน อยู่กับบ้าน น้องเจนชื่นชอบการเล่นและทากิจกรรมในห้องนอน และ มักจะเปิดโทรทัศน์ท้ิงไว้ ไม่ว่าจะทาอะไรก็มักจะเปิดเคร่ืองใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้เสมอ อย่างเช่นวันนี้น้อง เจนนั่งอ่านหนังสือนิทานแล้วฟังเพลงจากวิทยุไปด้วย โดยท่ีเปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้โดยไม่ได้ดู แล้ว น้องเจนก็เผลอหลับไปจนกระท่ังช่วงบ่าย คุณแม่มาเรียกน้องเจนให้ไปทานอาหารกลางวัน เมื่อ คุณแม่เปิดประตูเข้าไปในห้องของน้องเจน คุณแม่ตกใจท่ีน้องเจนเปิดโทรทัศน์ท้ิงไว้ต้ังแต่เช้า และยังเปิดแอร์อุณหภูมิเย็นจนเกินไป จนน้องเจนต้องนอนขดตัวเพราะความหนาว คุณแม่จึง ปลุกน้องเจนให้ต่ืนและบอกน้องเจนว่า การเปิดแอร์ เปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้โดยไม่จาเป็นจะทาให้ ส้ินเปลืองพลังงานท่ีเป็นสาเหตุทาให้ โลกร้อน จะทาให้เกิดภัยธรรมชาติต่าง มากมายบนโลก ของเรา น้องเจนได้ยินดังน้ันก็เกิดความกลัว แล้วถามคุณแม่ว่ามีวิธีไหนบ้างที่สามารถช่วย ประหยดั พลังงานไฟฟ้าและช่วยไม่ให้โลกร้อน แม่จึงบอกน้องเจนว่า เมื่อน้องเจนไม่ได้ดูโทรทัศน์ แล้ว ควรปิดไม่ควรเปิดทิ้งไว้จนเผลอหลับไป ไม่มีใครดูทาให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก และ การเปดิ เครือ่ งปรับอากาศไว้ทัง้ วันกค็ วรจะเปลย่ี นเปน็ เปิดหน้าต่างรับลมเย็น จากธรรมชาติบ้าง ส่วนไฟในห้องท่ีเปิดทิ้งไว้ท้ังวัน คุณแม่ก็บอกน้องเจนว่าเมื่อไม่ใช้ให้ปิดอย่าเปิดท้ิงไว้ท้ังกลางวัน กลางคืน ตั้งแต่น้ันมาน้องเจนก็ปฏิบัติตามที่แม่แนะนาและทาให้ค่าใช้จ่ายเร่ืองค่าไฟฟ้าท่ีบ้าน ลดลง ทาใหไ้ ด้ช่วยลดโลกร้อน ช่วยประหยัดพลังงาน และประหยัดเงินด้วย

- 103 - ใบงานท่ี 1 เร่ือง นา้ ไหล...ไฟสว่าง ************************************************************************************************* คาช้ีแจง ให้นักเรยี นบอกประโยชนแ์ ละวธิ ใี ช้ของทรพั ยากรน้าและไฟฟา้ อย่างประหยดั และคุ้มค่า ประโยชน์ การใชอ้ ยา่ งประหยัดและคุ้มค่า น้า ไฟฟา้ ประโยชน์ การใช้อย่างประหยัดและคุ้มคา่

- 104 - แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน รายการประเมนิ สรุปผล ที่ ชอ่ื – สกลุ บอกประโยชน์ บอกวธิ กี ารใช้ รวม ผ่าน ไมผ่ า่ น ของทรพั ยากรนา้ ทรัพยากรน้า คะแนน และไฟฟ้า (5) และไฟฟ้าอย่าง (10) ประหยัดและ คุ้มคา่ (5) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงช่อื …………..…………………………….ผูต้ รวจ (………………….………………….……) …………/…………/……….. เกณฑก์ ารประเมิน - นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 80 ขึ้นไป ถือว่า ผา่ น (ได้คะแนน 8 คะแนน)

- 105 - แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน พฤติกรรมการใชท้ รัพยากรนา้ และ สรุปผล ไฟฟ้า รวม ท่ี ชือ่ – สกุล ปิดก๊อกน้า ปิดสวิตช์ไฟทกุ คะแนน ขณะแปรงฟนั (5) คร้ังเม่ือไม่ใชง้ าน (10) ผ่าน ไมผ่ า่ น (5) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 ลงชื่อ…………..…………………………….ผตู้ รวจ (………………….………………….……) …………/…………/……….. เกณฑก์ ารประเมิน - ปฏิบตั ิเปน็ ประจา ได้คะแนน 5 คะแนน - ปฏบิ ัติเปน็ บางคร้งั ได้คะแนน 4 คะแนน - ปฏิบัตินาน ครงั้ ไดค้ ะแนน 3 คะแนน - ปฏบิ ตั ิน้อย ไดค้ ะแนน 2 คะแนน - ปฏิบตั ิน้อยท่สี ดุ ไดค้ ะแนน 1 คะแนน - ไม่เคยปฏิบตั ิ ไดค้ ะแนน 0 คะแนน - นักเรยี นได้คะแนน 8 คะแนนขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น

- 106 - แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงใน ช่องทต่ี รงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 321 อันพึงประสงคด์ า้ น อยู่อยา่ งพอเพียง 1. ใช้ทรัพยส์ นิ และส่งิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั 2. ใช้อุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรู้คุณค่า 3. ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยัดและมีการเก็บออมเงิน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมิน พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติชดั เจนและสม่าเสมอ (.....................................................) พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตชิ ดั เจนและบ่อยครง้ั พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติบางครงั้ ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน

- 107 - แผนการจดั การเรียนรู้ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 1 ช่ัวโมง หน่วยที่ 3 ชือ่ หนว่ ย STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทุจรติ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง ความโปร่งใส (ประชาธปิ ไตยในหอ้ งเรยี น) 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั STRONG / จติ พอเพียงต่อตา้ นการทจุ รติ 1.2 ปฏิบัตติ นเป็นผทู้ ่ี STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทจุ ริต 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นกั เรยี นสามารถบอกคุณสมบัติที่ต้องการในการเลือกเป็นผนู้ าช้นั เรยี นได้ 2.2 นักเรียนสามารถบอกวธิ ีการเลือกผู้นาชั้นเรียนอย่างถกู ต้องและเหมาะสม 2.3 นักเรียนรูจ้ กั เลือกผู้นาชน้ั เรยี นอย่างเหมาะสม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ การออกเสียงเลือกต้ังผู้นาช้ันเรียนเป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการประชาธิปไตยที่แสดงออกถึงความ โปร่งใส ซึ่งสมาชิกทุกคนจะต้องรู้จักการเลือกผู้นาช้ันเรียนอย่างเหมาะสม คุณสมบัติควรเป็นคนน่าเช่ือถือ ตรงไปตรงมา กล้าเปิดเผยความจรงิ และไว้ใจได้ 3.2 ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกิด) 1) ความสามารถในการส่ือสาร 1.1 การแสดงความคดิ เหน็ 1.2 การรอ้ งเพลง 1.3 การทาใบงาน 2) ความสามารถในการคิด 2.1 การบอกคุณสมบตั ทิ ่ีต้องการในการเลือกเป็นผนู้ าชัน้ เรยี น 3) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 3.1 การเลอื กผู้นาช้ันเรยี นอย่างเหมาะสม 3.3 คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ / ค่านิยม 1) ความซอื่ สัตย์ 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1 ขนั้ ตอนการเรียนรู้ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันร้องเพลง “ความซ่ือสัตย์” และสนทนาเกี่ยวกับเนื้อหาของเพลง โดยใช้ คาถาม ดงั นี้ 1.1 เพลงนี้มีความหมายเกย่ี วกับอะไร (ความซอื่ สตั ย์) 1.2 การปฏิบัติตนอย่างไรท่ีแสดงว่าเป็นคนซื่อสัตย์ (ไม่พูดโกหก , ไม่ลอกการบ้าน , ทาตาม คาพดู ) 2. ครูให้นักเรียนดูคลิปวีดีโอ เรื่อง “หัวหน้าห้องของเรา” จากนั้นให้นักเรียนออกมาเล่า ประสบการณเ์ กี่ยวกบั วธิ ีการเลอื กหัวหน้าห้อง หรือการเลอื กประธานนกั เรยี น แล้วตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 2.1 ทาไมจึงตอ้ งมีการเลือกหัวหน้าห้อง 2.2 การเลือกหัวหน้าหอ้ งมีผลดอี ย่างไร

- 108 - 3. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั บอกคณุ สมบัติของการเป็นผนู้ าชัน้ เรยี นทเ่ี หมาะสม (ตั้งใจเรยี น , มี ความซื่อสตั ย์ , ไม่โกหก) 4. ให้นักเรียนบอกความต้องการของตนเองและสารวจคุณสมบัติของผู้นาชั้นเรียนท่ีเหมาะสม โดย การสอบถามจากเพ่อื น ในช้นั เรียน จานวน 5 คน จากนั้นให้จดบันทึกลงใบงานท่ี 1 เร่ือง ผู้นาของหนู และนาผลงานมาเสนอหน้าชนั้ เรียนใหเ้ พอ่ื น ได้ฟัง 5. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ คณุ สมบัติของผูน้ าช้ันเรยี นทนี่ กั เรียนตอ้ งการ 6. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปองค์ความรู้เก่ียวกับการเลือกผู้นาชั้นเรียนความโปร่งใส (คุณสมบัติท่ี เหมาะสมของการเปน็ ผ้นู าชนั้ เรยี นควรเป็นคนน่าเชือ่ ถือ ตรงไปตรงมา กล้าเปดิ เผยความจรงิ และไวใ้ จได้) 4.2 สอ่ื การเรยี นรู้ / แหลง่ การเรียนรู้ 1) เพลง “ความซื่อสัตย์” 2) คลิปวดี โี อ เรื่อง “หัวหนา้ หอ้ งของเรา” จาก https://www.youtube.com/watch?v=f4Tk2bNTuO8 3) ใบงานท่ี 1 เร่ือง ผนู้ าของหนู 5. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 5.1 วธิ ีการประเมิน 1) ตรวจใบงาน 2) การสังเกตพฤติกรรมนักเรียน 5.2 เคร่อื งมือทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ 1) แบบตรวจผลงานการทาใบงานท่ี 1 เร่อื งผู้นาของหนู 2) แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัตติ นในเลือกผู้นาชน้ั เรียน 5.3 เกณฑก์ ารตัดสนิ นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 80 ขึ้นไปถือวา่ ผ่าน 6. บนั ทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)

7. ภาคผนวก - 109 - เพลงความซือ่ สตั ย์ ความซื่อสัตย์ เป็นสมบตั ขิ องผูด้ ี หากวา่ ใครไมม่ ี ชาตนิ ี้เอาดีไมไ่ ด้ มคี วามรทู้ ว่ มหัว เอาตวั ไมร่ อดถมไป คดโกงแล้วใคร จะรับไว้ใหร้ ่วมการงาน

- 110 - ใบงานที่ 2 เร่อื ง ผู้นาของหนู ************************************************************************************************** คาชี้แจง ให้นักเรยี นบอกความตอ้ งการของตนเองและสารวจคณุ สมบตั ขิ องผนู้ าชนั้ เรียนทเ่ี หมาะสม โดยการ สอบถามจากเพื่อน ในช้นั เรียน จานวน 5 คน จากน้นั ใหจ้ ดบนั ทกึ และออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรียน คณุ สมบัตขิ องผ้นู าชัน้ เรยี น ชือ่ เพื่อน คุณสมบตั ิของผู้นาช้ันเรียนที่ต้องการ ตนเอง............................................................. ................................................................................... คนที่ 1.......................................................... ................................................................................... คนท่ี 2.......................................................... ................................................................................... คนที่ 3.......................................................... . .................................................................................. คนท่ี 4.......................................................... ................................................................................... คนท่ี 5.......................................................... ................................................................................... .3

- 111 - แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน รายการประเมิน สรุปผล บอกคุณสมบตั ิของ บอกวธิ ีการเลือก รวม ที่ ชอื่ – สกลุ ผนู้ าช้นั เรยี นได้ (5) ผนู้ าชั้นเรียนอย่าง คะแนน ผา่ น ไม่ผ่าน ถูกต้องและ (10) 1 2 เหมาะสม (5) 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ลงช่ือ…………..…………………………….ผตู้ รวจ (………………….………………….……) …………/…………/……….. เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ 80 ข้ึนไป ถือว่า ผ่าน (ได้คะแนน 8 คะแนน)

- 112 - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ติ นในเลือกผ้นู าชนั้ เรียน พฤติกรรมการปฏบิ ตั ติ นในเลือกผนู้ าชน้ั เรยี น รวม สรปุ ผล คะแนน ท่ี ชื่อ – สกุล การใช้ข้อมลู ทเี่ ป็นจรงิ การรู้จักเลอื กผนู้ าชนั้ (10) ผา่ น ไม่ และถูกต้อง (5) เรยี นอย่างเหมาะสม ผ่าน (5) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 รวม ลงช่ือ…………..…………………………….ผ้สู งั เกต (………………….………………….……) เกณฑก์ ารประเมนิ - ปฏบิ ัตเิ ป็นประจา ไดค้ ะแนน 5 คะแนน - ปฏบิ ตั ิเป็นบางครั้ง ไดค้ ะแนน 4 คะแนน - ปฏบิ ตั นิ าน ครงั้ ได้คะแนน 3 คะแนน - ปฏิบตั ิน้อย ไดค้ ะแนน 2 คะแนน - ปฏบิ ัตินอ้ ยที่สุด ได้คะแนน 1 คะแนน - ไม่เคยปฏบิ ัติ ไดค้ ะแนน 0 คะแนน - นกั เรียนไดค้ ะแนน 8 คะแนนขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่าน

- 113 - แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงใน ช่องที่ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 321 อันพึงประสงค์ด้าน ซือ่ สัตย์ 1. ใหข้ ้อมลู ที่ถูกต้อง และเป็นจรงิ 2. ปฏิบัตใิ นสิง่ ที่ถกู ตอ้ ง เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและสมา่ เสมอ (.....................................................) พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัตชิ ดั เจนและบอ่ ยคร้งั พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ิบางครง้ั ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน

- 114 - ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยที่ 3 ชื่อหน่วย STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง ตา้ นการทจุ รติ (การกระทาความผดิ ) 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจรติ 1.2 ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้ที่ STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทจุ ริต 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 นกั เรยี นสามารถบอกพฤตกิ รรมการกระทาความผดิ ได้ 2.2 นกั เรียนสามารถบอกวิธกี ารแก้ไขพฤติกรรมการกระทาผิดได้ 2.3 นักเรยี นรจู้ ักการปฏิบัตติ นต่อต้านการทจุ ริต 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ การบอกพฤติกรรมท่ีแสดงถึงการกระทาความผิด เช่น การลอกการบ้าน กาวิธีการแก้ไขพฤติกรรม การกระทาผดิ และปฏบิ ตั ติ นต่อตา้ นการทจุ ริต 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ ) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 1.1 การแสดงความคิดเห็น 1.2 การฟังนิทาน 1.3 การทาใบงาน 2) ความสามารถในการคิด 2.1 บอกพฤติกรรมการกระทาความผดิ และวธิ กี ารแก้ไขพฤตกิ รรมการกระทาผดิ 3) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 3.1 การปฏิบตั ิตนต้านการทุจรติ 3.3 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ / คา่ นยิ ม 1) ความซอื่ สตั ย์ 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ขน้ั ตอนการเรียนรู้ 1. ครูเล่านิทานเรื่อง “กระทิงน้อยจอมข้ีเกียจ” ให้นักเรียนฟังแล้วร่วมกันสนทนา โดยใช้ประเด็น คาถาม ดงั น้ี 1.1 จากนทิ านที่เล่ามีตวั ละครอะไรบ้าง (ครูนกฮูก , กระทิงน้อย , หมนี ้อย , ลงิ นอ้ ย และ ช้าง นอ้ ย) 1.2 กระทิงน้อยมนี ิสัยอย่างไร (ชวนเพอ่ื นไปเลน่ ก่อนแล้วคอ่ ยกลับมาทาการบ้าน , ชอบลอก การบา้ น) 1.3 ผลเสียท่เี กดิ ขึน้ ในการลอกการบา้ นของกระทิงน้อยเปน็ อยา่ งไร (สอบตก,ไดเ้ ลอ่ื นช้ันอย่าง เพ่ือน )

- 115 - 1.4 ถ้านกั เรยี นเป็นกระทิงน้อยจะทาพฤติกรรมแบบน้ีหรอื ไม่ เพราะอะไร (ถูกทุกคาตอบเพราะ เปน็ ความคิดของนักเรยี น) 2. ครใู ห้นักเรียนดูการ์ตูน นิทาน ทักษะชีวิต ตอนที่ 12 “ขอลอกหน่อยนะ” 3. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกพฤติกรรมที่เกดิ ขน้ึ จากการตัวอย่างการต์ นู นทิ านทักษะชีวิตที่ได้รับชมไป จากน้นั จดบันทึกไว้ลงใบงานท่ี 1 เรอื่ ง แคน่ ิดเดียวเอง แลว้ นามาสง่ ครู 4. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปองค์ความรู้เก่ียวกับพฤติกรรมการกระทาความผิด วิธีการแก้ไข พฤติกรรมการกระทาผิด และปฏิบัติตนต้านการทุจริต (การลอกการบ้านเพ่ือน ถือเป็นการกระทาความผิด ทุจริตต่อตนเอง ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง วิธีการแก้ไขพฤติกรรรม คือ ต้องต้ังใจเรียน เหลือให้เพื่อนช่วย สอน) 4.2 ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ 1) นทิ านเร่ือง “กระทิงน้อยจอมขเี้ กยี จ” 2) การต์ นู นทิ าน ทักษะชีวิต ตอนท่ี 12 “ขอลอกหนอ่ ยนะ” จาก https://www.youtube.com/watch?v=5qsTmUTyEG0 3) ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง แคน่ ดิ เดยี วเอง 5. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 5.1 วธิ กี ารประเมิน 1) ตรวจใบงาน 2) การสังเกตพฤติกรรมนักเรียน 5.2 เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการประเมิน 1) แบบตรวจผลงานการทาใบงานท่ี 1 เร่อื งแคน่ ิดเดยี วเอง 2) แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตติ นตา้ นการทจุ รติ 5.3 เกณฑก์ ารตัดสิน นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไปถือว่า ผ่าน 6. บนั ทกึ หลังสอน ………………………............................................................................................................................. ...................... ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. .................................................................... ......................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)

7. ภาคผนวก - 116 - นิทาน กระทิงนอ้ ยจอมขเ้ี กียจ ในป่าแห่งหนึ่งมีโรงเรียนสาหรับเด็ก ที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ีดีในอนาคต โดย หอ้ งเรยี นแห่งนีเ้ ปน็ เป็นศนู ย์กลางการเรยี นรู้การใช้ชวี ติ อยรู่ ่วมกันในป่า มีสมาชิกในห้องเรียนได้แก่ กระทิงน้อย หมีน้อย ลิงน้อย และช้างน้อย ทุก วันครูนกฮูกจะให้การบ้านเด็ก กลับไปทาเพื่อ ทบทวนบทเรยี นและสามารถทาข้อสอบได้ตอนปลายภาค พอหลังเลิกเรียน กระทิงน้อยมักจะชวน เพอ่ื น ทกุ คนไปเล่นก่อนแล้วค่อยกลบั มาทาการบ้าน ส่วนเพ่ือน จะทาการบ้านให้เสร็จก่อนแล้ว จึงออกไปเล่น วันหนึ่งกระทิงน้อยเล่นจนค่ามืด และรู้สึกอ่อนเพลียมาก พอกลับมาถึงก็เผลอหลับ ทันที พอเช้ามากระทิงน้อยนึกได้ว่ายังไม่ได้ทาการบ้าน ไม่รู้จะทาอย่างไรดี ถ้านั่งทาก็จะไม่ทันเข้า เรียน กระทิงน้อยจึงขอลอกการบ้านจากเพื่อน หลังจากนั้นกระทิงน้อยก็ติดนิสัยลอกการบ้านจาก เพอ่ื น เพราะง่ายและสบาย ไมต่ ้องมานัง่ คดิ เอง และยังมเี วลาไปเลน่ มากขึ้นดว้ ย จนกระทั่งเวลาสอบปลายภาคมาถึง เพ่ือน ออกจากห้องสอบกันหมดแล้ว กระทิง นอ้ ย ยงั น่งั หน้าเครยี ดอยทู่ ่โี ตะ๊ จนครนู กฮูกเดนิ เข้ามาเก็บกระดาษข้อสอบ ว่าหมดเวลาแล้ว กระทิง น้อยออกจากห้องสอบด้วยหน้าตาสลด กระทิงน้อยทาข้อสอบไม่ได้เลยสักข้อ เพราะท่ีผ่านมาเขา ไม่ได้ตั้งใจเรียนและไม่เคยทาการบ้านเองเลย สุดท้ายในปีน้ันเพื่อน ทุกคนได้เลื่อนช้ัน แต่กระทิง น้อยยังต้องซ้าชั้นอยู่ กระทิงน้อยเสียใจมาก เขาคิดว่าถ้าเขาตั้งใจเรียนและทาการบ้านด้วยตนเอง ไม่เอาเวลาไปเล่นอย่างเดียว เขาก็คงไม่ต้องนั่งซ้าช้ันอยู่อย่างน้ี เขาคงจะได้เล่ือนชั้นอย่างเพื่อน แล้ว ก่อนหน้าวันประกาศผลในห้องเรียนครูนกฮูกสงสัยว่าทาไมกระทิงน้อยถึงทาข้อสอบ ไม่ไดเ้ ลย ครนู กฮูกซกั ถามนักเรียนทุกคน จนทราบวา่ ทกี่ ระทิงนอ้ ยทาขอ้ สอบไม่ได้เพราะเขาไม่ต้ังใจ เรียน ไม่ยอมทาการบ้าน และยังมาลอกการบ้านเพ่ือนอีก ครูนกฮูกจึงสอนเด็ก ว่า “พวกเธอรู้ ไหมว่าท่ีกระทิงน้อยสอบตกเป็นเพราะใคร” พวกเธอเองก็มีส่วนผิดที่ยอมให้เพ่ือนลอกการบ้าน เพราะเพื่อนก็จะไม่รู้เรื่องและทาข้อสอบไม่ได้ เม่ือเธอเห็นเพื่อนทาผิดพวกเธอจะต้องเตือนเขา อธิบายให้เพอ่ื นฟงั ถ้าไมเ่ ข้าใจกม็ าถามครเู ข้าใจไหมจ๊ะเด็ก เดก็ ตา่ งสญั ญากบั คณุ ครูนกฮกู ว่าจะชว่ ยกันตักเตือนกระทิงน้อยและจะไม่ให้กระทิง น้อยลอกการบา้ นเหมอื นที่ผ่านมา แหลง่ ข้อมลู http://www.kamsonbkk.com/en/clip/1427-007811

- 117 - ใบงานท่ี 3 เร่อื ง แคน่ ิดเดยี วเอง ************************************************************************************************** คาชแี้ จง ให้นักเรยี นตอบคาถามเกย่ี วกับพฤติกรรมทีเ่ กิดขนึ้ จากการดูตวั อยา่ งการต์ ูน นิทาน ทักษะชีวิต เรื่อง “กระทงิ น้อยจอมขเ้ี กียจ” 1. นักเรยี นคิดว่าพฤติกรรมของใครที่ไม่ควรเอาเป็นแบบอยา่ ง เพราะอะไร ................................................................................................................... ................................................................................................................... ................................................................................................................ 2. ถา้ นักเรียนเป็นจอมแก่น จะมีวธิ ีการตักเตือนหรอื ชว่ ยเหลือเมฆอย่างไร ................................................................................................................... ................................................................................................................... ................................................................................................................ 3. ถา้ เพ่อื นขอลอกการบ้านนักเรยี นจะทาอยา่ งไร ................................................................................................................... ................................................................................................................... ................................................................................................................

- 118 - แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน รายการประเมนิ รวม สรุปผล คะแนน ผา่ น ไมผ่ า่ น ท่ี ชอื่ – สกลุ บอกพฤติกรรมที่ บอกวธิ กี ารแก้ไข (10) แสดงออกถึงการกระทา พฤติกรรมการกระทา ความผดิ (5) ความผดิ (5) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชือ่ …………..…………………………….ผ้ตู รวจ (………………….………………….……) …………/…………/……….. เกณฑ์การประเมิน - นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป ถือว่า ผา่ น (ไดค้ ะแนน 8 คะแนน)

- 119 - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตติ นตา้ นการทุจรติ พฤติกรรมการปฏบิ ตั ติ นในเลอื กผนู้ าช้ันเรียน รวม สรปุ ผล ท่ี ชอื่ – สกลุ ตงั้ ใจเรยี น (5) ไมใ่ ห้เพอื่ น คะแนน ผ่าน ไม่ผา่ น (10) 1 ลอกการบา้ น (5) 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 รวม ลงชื่อ…………..…………………………….ผูส้ ังเกต (………………….………………….……) เกณฑ์การประเมนิ - ปฏิบัติเป็นประจา ไดค้ ะแนน 5 คะแนน - ปฏิบัติเปน็ บางครง้ั ไดค้ ะแนน 4 คะแนน - ปฏบิ ัตนิ าน คร้ัง ไดค้ ะแนน 3 คะแนน - ปฏิบตั นิ อ้ ย ไดค้ ะแนน 2 คะแนน - ปฏิบัติน้อยทส่ี ุด ไดค้ ะแนน 1 คะแนน - ไม่เคยปฏบิ ัติ ได้คะแนน 0 คะแนน - นกั เรยี นได้คะแนน 8 คะแนนข้นึ ไป ถือว่า ผา่ น

- 120 - แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงใน ช่องที่ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 321 อันพึงประสงค์ด้าน ซือ่ สัตย์ 1. ใหข้ ้อมลู ที่ถูกต้อง และเป็นจรงิ 2. ปฏิบัตใิ นสิง่ ที่ถกู ตอ้ ง เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและสมา่ เสมอ (.....................................................) พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัตชิ ดั เจนและบอ่ ยคร้งั พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ิบางครง้ั ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน

- 121 - ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3 ชื่อหน่วย STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทจุ รติ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 เรอื่ ง ความเอือ้ อาทร (รว่ มคิด รว่ มทา) 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทจุ รติ 1.2 ปฏิบัตติ นเปน็ ผทู้ ่ี STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทจุ ริต 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 นกั เรียนสามารถบอกพฤติกรรมการให้ การช่วยเหลอื และการแบ่งปนั ได้ 2.2 นักเรยี นแสดงออกถึงการให้ การชว่ ยเหลือ และการแบง่ ปนั ตอ่ ผู้อน่ื 2.3 นกั เรยี นรจู้ กั การให้ การช่วยเหลือ และการแบ่งปันผูอ้ ื่นตามความเหมาะสม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ มีความร้คู วามเขา้ ใจเก่ียวกบั การให้ การช่วยเหลอื และการแบ่งปัน ตลอดจนสามารถให้การ ช่วยเหลอื แบง่ ปนั แกเ่ พอื่ นและผอู้ น่ื ได้ตามความเหมาะสมกับสถานะของตนเอง 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ ) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 1.1 การแสดงความคดิ เห็น 1.2 การอ่านบทกลอน 1.3 การทาใบงาน 2) ความสามารถในการคดิ 2.1 บอกพฤติกรรมการให้ การชว่ ยเหลอื และการแบ่งปัน 3) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 3.1 รูจ้ ักการให้ การชว่ ยเหลอื และการแบ่งปันผูอ้ น่ื 3.3 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ / คา่ นยิ ม 1) จิตสาธารณะ 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ข้นั ตอนการเรยี นรู้ 1. ครูให้นักเรียนอ่านบทกลอน “ช่วยเหลือแบ่งปัน” แล้วร่วมแสดงความคิดเห็นว่าบทกลอนน้ี เกย่ี วกบั เรอ่ื งใด 2. ครนู าภาพเด็กที่สมัครเป็นจติ อาสาเฉพาะกิจงานพระบรมศพพระสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ล อดลุ ยเดชมาให้นักเรยี นดู แล้วถามนักเรียนวา่ ร้สู กึ อยา่ งไรเมอื่ เหน็ ภาพน้ี

- 122 - 3. ครนู านกั เรียนไปช่วยกันทาความสะอาดบริเวณโรงเรียน จากนั้นให้กลับมาบันทึกความรู้สึกในการ ทาความดคี รั้งนี้ลงในใบงานท่ี 1 เร่ือง ร่วมคิด...ร่วมทา พรอ้ มกับวาดภาพประกอบ แลว้ นามาส่งครู 4. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปองค์ความรู้เก่ียวกับการให้ การช่วยเหลือ และการแบ่งปัน (การ ช่วยเหลือแบ่งปันกันเป็นสิ่งที่ดี นักเรียนต้องรู้ตนเองว่าตนเองมีความสามารถในการแบ่งปันให้ผู้อ่ืนได้แค่ไหน และอย่างไร การช่วยเหลือแบ่งปันทาให้สร้างความสัมพันธ์ท่ีดีกับเพ่ือนและทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างมี ความสุข) 4.2 ส่ือการเรียนรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ 1) บทกลอน “ช่วยเหลือแบง่ ปัน” 2) ภาพเด็กทสี่ มคั รเป็นจติ อาสาเฉพาะกิจ 3) ใบงานท่ี 1 เร่อื ง รว่ มคิด...รว่ มทา 5. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 5.1 วธิ ีการประเมนิ 1) ตรวจใบงาน 2) การสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น 5.2 เครอื่ งมือทีใ่ ช้ในการประเมนิ 1) แบบตรวจผลงานการทาใบงานที่ 1 เร่ืองร่วมคิด...รว่ มทา 2) แบบสังเกตพฤติกรรมการทาความดี 5.3 เกณฑก์ ารตัดสิน นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 80 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน 6. บันทึกหลงั สอน ……...……………….............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. .................................................................... ......................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ ................................................ ครผู ้สู อน (.................................................)

- 123 - 7. ภาคผนวก บทกลอนชว่ ยเหลอื แบ่งปนั โดย ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.แก้วเวียง นานาผล และคณะ มใี ครไหนเคยบ้าง ลมื นายางลบมาใช้ เพือ่ นฝงู ก็เหน็ ใจ ใหข้ อยืมเพราะลืมจรงิ นัน่ แหละเขาเอื้อเฟื้อ เผื่อแผใ่ หเ้ ต็มใจย่ิง เราต้องถือเปน็ สง่ิ ควรจดจาและทาตาม ชว่ ยเหลอื กันและกัน เปน็ นา้ ใจอนั งดงาม มีค่าเหลอื เมอ่ื ยาม ที่ขาดแคลนแสนสาคญั ของกนิ และของใช้ แบง่ ใหเ้ พื่อนยามจาเปน็ ทุกคนกจ็ ะเห็น วา่ เราดมี ีคุณธรรม

- 12 แหล่งข้อมูลภาพ https://www.matichon.co.th/wp-c

24 - content/uploads/2017/09/6yrs_jitarsa_cover.jpg

- 125 - ใบงานที่ 1 เรื่อง รว่ มคดิ ...รว่ มทา คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นบันทึกความร้สู กึ ในการทาความดี พรอ้ มกบั วาดภาพประกอบ บันทึกความด.ี .............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ......................................... .......................................................................................... ............................................................................ ............................................................................................................................. .........................................

- 126 - แบบตรวจให้คะแนนใบงาน รายการประเมนิ รวม สรปุ ผล ท่ี ชอ่ื – สกุล บนั ทกึ ความรสู้ กึ ในการ วาดภาพประกอบการ คะแนน ผ่าน ไม่ผา่ น ทาความดี (5) ทาความดี (5) (10) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 ลงชอ่ื …………..…………………………….ผูต้ รวจ (………………….………………….……) …………/…………/……….. เกณฑก์ ารประเมนิ - นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป ถือว่า ผ่าน (ได้คะแนน 8 คะแนน)

- 127 - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทาความดี พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ติ นในเลอื กผนู้ าช้ันเรยี น รวม สรุปผล ที่ ชือ่ – สกุล ชว่ ยรักษาทาความสะอาด รจู้ กั การให้ และ คะแนน ผ่าน ไมผ่ า่ น โรงเรยี น (5) ช่วยเหลอื ผอู้ น่ื (5) (10) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 รวม ลงชอ่ื …………..…………………………….ผู้สังเกต (………………….………………….……) เกณฑก์ ารประเมนิ - ปฏบิ ัติเปน็ ประจา ได้คะแนน 5 คะแนน - ปฏิบัติเปน็ บางคร้ัง ได้คะแนน 4 คะแนน - ปฏิบตั นิ าน คร้งั ไดค้ ะแนน 3 คะแนน - ปฏิบัติน้อย ไดค้ ะแนน 2 คะแนน - ปฏิบตั ินอ้ ยทสี่ ุด ได้คะแนน 1 คะแนน - ไมเ่ คยปฏบิ ัติ ไดค้ ะแนน 0 คะแนน - นกั เรยี นไดค้ ะแนน 8 คะแนนขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน

- 128 - แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คาชแ้ี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงใน ช่องทีต่ รงกับระดับคะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน 321 อนั พงึ ประสงคด์ ้าน จิตสาธารณะ 1. รจู้ กั ช่วยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทางาน 2. รู้จกั การดแู ล รกั ษาทรัพย์สมบตั ิและส่งิ แวดล้อมของ หอ้ งเรียนโรงเรยี น เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ (.....................................................) พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติชัดเจนและบ่อยครั้ง พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างครง้ั ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน

- 129 - หนว่ ยท่ี ๔ พลเมอื งกบั ความรับผดิ ชอบต่อสงั คม

- 130 - แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี ๔ ช่อื หนว่ ย พลเมอื งกบั ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 2 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เร่ือง การเคารพสิทธิหน้าท่ีตอ่ ตนเองกับต่อผ้อู ื่น เวลา 2 ช่ัวโมง 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับพลเมืองและมีความรับผิดชอบตอ่ สงั คมปฏบิ ัตติ นตามหนา้ ที่พลเมืองและ มคี วามรบั ผิดชอบต่อสงั คม 1.2 ปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ที่พลเมืองและมคี วามรับผดิ ชอบต่อสังคม 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 นกั เรียนสามารถบอกสิทธิและเสรภี าพในเคหสถานได้ 2.2 นักเรียนสามารถบอกสทิ ธิและเสรีภาพในการนับถอื ศาสนาได้ 2.3 นกั เรียนสามารถบอกสทิ ธิและเสรีภาพในการเดินทางและตดิ ต่อส่ือสาร 2.4 นกั เรียนสามารถบอกสทิ ธิและเสรภี าพในการศกึ ษาได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ การเคารพสทิ ธขิ องตนเองและผู้อ่ืนท่ีมีต่อชุมชนและสงั คม สมาชกิ ทุกคนในสงั คมมสี ิทธเิ ทา่ เทียม กนั ในการดาเนินชวี ิตในสงั คม โดยสทิ ธิดงั กล่าวจะต้องไม่ละเมิดสทิ ธิของสมาชกิ คนอืน่ ในสงั คม เชน่ เสรีภาพใน เคหสถาน เสรีภาพในการเดินทางและติดต่อส่ือสาร เสรีภาพในการนบั ถือศาสนา เสรีภาพในทางวชิ าการ 3.2 ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะที่เกิด) 1) ความสามารถในการส่ือสาร ( อ่าน ฟัง พูด เขยี น ) 2) ความสามารถในการคิด ( วเิ คราะห์ ) 3.3 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ / คา่ นยิ ม 1) มวี ินยั 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1 ขนั้ ตอนการเรียนรู้ 1) ชวั่ โมงท่ี 1 1. ใหน้ กั เรียนดภู าพที่ครเู ตรยี มมาดังนี้ ภาพคนกราบไหว้พระพุทธรูป ภาพคนนั่งละหมาด ภาพ ครูสอนหนงั สือ ภาพขโมยขึ้นบา้ น ภาพคนไปท่องเทีย่ ว 1.1 จากภาพบุคคลในภาพกาลังทาอะไร ภาพใดบา้ งท่ีเป็นการละเมดิ สิทธแิ ละเสรภี าพของ ผอู้ ืน่ 2. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเพ่อื ตอบคาถามจากข้อคาถาม โดยมีครูคอยใหค้ าปรกึ ษา และแสดงความคิดเหน็ ดังน้ี 2.1 ภาพที่ 1 ภาพคนกราบไหวพ้ ระพทุ ธรูป (นับถอื ศาสนาพทุ ธ มสี ิทธเิ สรีภาพในการนับ ถือศาสนา) 2.2 ภาพที่ 2 ภาพคนนง่ั ละหมาด (นบั ถือศาสนาอสิ ลาม สิทธิเสรีภาพในการนับถือ ศาสนา)

- 131 - 2.3 ภาพท่ี 3 ภาพครูสอนหนังสอื (สทิ ธเิ สรีภาพในการศึกษาเลา่ เรยี น) 2.3 ภาพท่ี 4 ภาพขโมยขึ้นบา้ น (ละเมิดสทิ ธเิ สรภี าพของผู้อ่ืน) 2.4 ภาพท่ี 5 ภาพคนไปท่องเท่ยี ว (สิทธิเสรีภาพในการเดนิ ทาง) 3. นกั เรยี นอา่ นออกเสียงใบความร้เู กย่ี วกับการเคารพสิทธขิ องตนเองและผู้อื่นท่ีมตี ่อชุมชนและ สงั คม 4. นักเรียนบันทกึ ความรู้ทไ่ี ด้รบั ลงในสมุด 2) ชว่ั โมงที่ 2 1. ให้นักเรยี นออกมาเลา่ ถงึ พฤติกรรมตา่ ง ที่กระทาแลว้ เปน็ การละเมดิ สทิ ธขิ องตนเองและผู้อ่นื 1.1 การลงคลิปให้ร้ายศาสนาอนื่ ท่ีไม่ใช่ศาสนาทีต่ นเองนบั ถือ (ศาสนาทุกศาสนาสอนให้ทุก คนทาความดี ทกุ คนมสี ิทธเิ สรีภาพในการนับถือศาสนา ไม่ควรแสดงพฤตกิ รรมท่ีเปน็ การดูถกู ศาสนาอน่ื ) 1.2 การขีดเขียนตามฝาผนงั ถ้า ตามสถานท่เี ดินทางไปทอ่ งเทีย่ ว (สถานที่ต่าง เปน็ สมบัติ ของสว่ นรวมท่เี ราต้องชว่ ยกนั อนรุ ักษ์และดูแลรักษาใหค้ งอยตู่ อ่ ไป) 1.3 การขดี เขยี นตามโตะ๊ เรียน อาคารเรยี น (เป็นการละเมิดสทิ ธิเสรภี าพในด้านการศกึ ษา โรงเรียนและอปุ กรณ์การเรยี นเปน็ สมบตั สิ ว่ นรวมที่เราต้องชว่ ยกันดแู ลรักษาไว้ใหค้ นรนุ่ ต่อไปใชศ้ ึกษาเลา่ เรยี น) 1.4 การเข้าบ้านผู้อ่ืนโดยไม่ไดร้ ับอนญุ าต (ถอื เปน็ การละเมดิ สิทธสิ ว่ นบุคคลถงึ แม้ว่าเราจะ รจู้ กั กับเจา้ ของบา้ น แต่ถา้ เจ้าของบ้านยงั ไม่อยู่ก็ไมค่ วรจะเขา้ ไป) 2. ให้นักเรียนเขียนคาขวัญเชญิ ชวนการประพฤตปิ ฏิบัตทิ ไ่ี ม่เป็นการละเมิดสิทธขิ องตนเองและ ผ้อู ่นื เชน่ บ้านนี้มเี จ้าของโปรดกดกรงิ่ กอ่ นค่ะ ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนทาดีอย่าย่ายีศาสนาอืน่ 3. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปความรู้เกย่ี วกบั การเคารพสทิ ธขิ องตนเองและผูอ้ ื่นที่มตี ่อชุมชน ดงั น้ี 3.1 เสรภี าพในเคหสถาน ชาวไทยทกุ คนมีเสรภี าพในเคหสถานทจ่ี ะสามารถอาศัยและ ครอบครองเคหสถานของตน การตรวจค้นเคหสถานของประชาชนก็จะต้องมีหมายค้นทีอ่ อกโดยศาลเทา่ นัน้ 3.2 เสรีภาพในการเดนิ ทางและติดต่อสอื่ สาร ชาวไทยทกุ คนมเี สรภี าพที่จะเดินทางไปในที่ต่าง บนผืนแผน่ ดินไทย และติดต่อสือ่ สารกับบคุ คลอน่ื ไมว่ า่ จะเปน็ ทางจดหมาย โทรศัพท์ หรอื อินเทอร์เน็ต 3.3 เสรภี าพในการนับถือศาสนา สมาชกิ ทุกคนในสงั คมมีสิทธิ เสรภี าพ ทจี่ ะนบั ถือศาสนาใด ก็ได้ 3.4 เสรีภาพในทางวิชาการ เยาวชนไทยทุกคนจะต้องได้รับการศกึ ษาข้นั พื้นฐานไมน่ อ้ ยกว่า 12 ปี โดยไมเ่ สียคา่ ใชจ้ ่าย 4.2 สื่อการเรยี นรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ 1) รปู ภาพ 2) ใบความรู้ 3) สีไม้ 5. การประเมินผลการเรยี นรู้ 5.1 วิธกี ารประเมนิ 1) ตรวจสมดุ 2) สังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น

- 132 - 5.2 เครือ่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น 5.3 เกณฑก์ ารตดั สนิ นักเรยี นผ่านการประเมนิ ร้อยละ 80 ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน 6. บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ ……………………….............................................................................................................................. ............................ ..................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ........................................................ ลงชื่อ ................................................ ครูผสู้ อน (.................................................)

- 133 - 7. ภาคผนวก ใบความรู้ การเคารพสิทธขิ องตนเองและผู้อ่นื ที่มีต่อชุมชนและสงั คม สมาชกิ ทกุ คนในสังคมมีสิทธเิ ท่าเทียมกันในการดาเนินชวี ิตในสงั คม โดยสิทธิดงั กลา่ วจะตอ้ งไม่ละเมดิ สทิ ธขิ องสมาชิกคนอื่นในสังคม ในทีน่ ขี่ อยกตัวอย่างสิทธิของตนเองท่ีมีต่อชมุ ชน และสงั คมทส่ี าคัญบาง ประการ ดังนี้ 1. เสรภี าพในเคหสถาน ชาวไทยทกุ คนย่อมมเี สรีภาพในเคหสถานทจ่ี ะสามารถอาศยั และครอบครอง เคหสถานของตนโดยปกตสิ ุข ไม่วา่ จะเกดิ จากการเชา่ หรอื เปน็ เจ้าของกรรมสิทธิ์ ซ่งึ บุคคลอ่ืนจะต้องใหค้ วาม เคารพในสิทธนิ ้ี แม้แต่เจ้าหน้าท่ขี องรฐั หากจะเข้าไปดาเนินการตามกฎหมายใด เช่น การตรวจคน้ เคหสถาน ของประชาชนก็จะกระทามิได้ เวน้ แตจ่ ะมหี มายค้นที่ออกโดยศาลเทา่ น้นั 2. เสรีภาพในการเดนิ ทางและติดต่อสือ่ สาร ชาวไทยทุกคนมเี สรภี าพทีจ่ ะเดินทางไปในที่ตา่ ง บน ผนื แผน่ ดนิ ไทย ได้ทกุ พนื้ ท่ีของประเทศไทยและสามารถเลอื กถนิ่ ท่ีอยู่อาศยั ณ ท่ีใดก็ไดภ้ ายในประเทศไทย รวมทงั้ ชาวไทยทุกคนสามารถท่จี ะตดิ ต่อสือ่ สารกับบคุ คลอ่ืนไมว่ า่ จะเป็นทางจดหมาย โทรศัพท์ หรือ อนิ เทอรเ์ น็ต 3. เสรภี าพในการนบั ถือศาสนา สมาชิกทุกคนในสังคมมีสิทธิ เสรภี าพ ที่จะนบั ถือศาสนาแตกต่างกนั ได้ ซ่งึ บคุ คลอ่นื ในสงั คมรวมทั้งรัฐจะตอ้ งใหค้ วามเคารพสทิ ธเิ สรภี าพในเร่อื งนีด้ ้วย 4. เสรีภาพในทางวิชาการ เยาวชนไทยทุกคนจะต้องไดร้ ับการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐานไมน่ ้อยกวา่ 12 ปี โดยไม่เสยี คา่ ใชจ้ า่ ย นอกจากนีค้ นไทยทุกคนยังมีสทิ ธิในการทจ่ี ะศึกษาคน้ คว้าหรือทาวจิ ยั ตามทีต่ ้องการ โดย ไมข่ ดั ต่อกฎหมาย

- 134 - บัตรรปู ภาพ ภาพคนกราบไหว้พระพุทธรูป ภาพคนนั่งละหมาด ภาพครูสอนหนังสือ

- 135 - ภาพขโมยขน้ึ บา้ น ภาพคนเดินทางท่องเท่ยี ว

- 136 - แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน ช่ือนกั เรียน................................................................................ ชน้ั ..............ภาคเรยี นท.ี่ ..........ปกี ารศึกษา............. คาช้แี จง การบนั ทึกให้กาเคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งทตี่ รงกับพฤตกิ รรมท่ีเกิดข้ึนจริง ท่ี พฤติกรรม ระดับการปฏบิ ตั ิ ๑ มคี วามรับผิดชอบในหน้าทีก่ ารงาน เป็น บางครัง้ นอ้ ย ไม่ทาเลย/ ๒ ต้ังใจและเอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหน้าท่ีท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ประจา (๒) ครง้ั ไม่ชดั เจน ๓ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายาม (๓) (๑) (๐) ๔ รจู้ ักแก้ปัญหาในการทางานเม่ือมีอปุ สรรค ๕ อดทนเพือ่ ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย ๖ ปรับปรงุ และพัฒนาการทางานใหด้ ีข้ึนด้วยตนเอง รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ ผปู้ ระเมิน  ครู  พ่อแม่/ผู้ปกครอง  ตนเอง  เพื่อน ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมิน (.................................................) เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การประเมิน ดีเยีย่ ม ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ข้อ ดี ใดขอ้ หนึ่งตา่ กวา่ ๒ คะแนน พอใช้ ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ข้อ ใดข้อหน่ึงตา่ กวา่ ๐ คะแนน ปรบั ปรงุ ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ใดขอ้ หน่ึงตา่ กวา่ ๐ คะแนน ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๐-๕ คะแนน

- 137 - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงใน ช่องท่ีตรงกับระดบั คะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 321 อันพงึ ประสงค์ดา้ น มีวนิ ัย 1. ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของ ครอบครัว มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรม ต่าง ในชีวิตประจาวนั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิชดั เจนและสม่าเสมอ (.....................................................) พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบ่อยคร้ัง พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัตบิ างครั้ง ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน

- 138 - แผนการจดั การเรยี นรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 1 ชวั่ โมง หนว่ ยท่ี ๔ ชือ่ หนว่ ย พลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบต่อสังคม แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เร่ือง การเคารพสทิ ธิหน้าทตี่ อ่ ชุมชนและสงั คม 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั พลเมืองและมีความรับผิดชอบตอ่ สงั คมปฏิบตั ติ นตามหนา้ ที่พลเมอื งและ มีความรบั ผิดชอบต่อสังคม 1.2 ปฏบิ ัติตนตามหนา้ ทพี่ ลเมืองและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นกั เรยี นสามารถบอกสทิ ธิและเสรภี าพในเคหสถานได้ 2.2 นกั เรยี นสามารถบอกสิทธิและเสรภี าพในการนบั ถอื ศาสนาได้ 2.3 นกั เรยี นสามารถบอกเสรีภาพในการเดนิ ทางและตดิ ต่อสือ่ สารได้ 2.4 นักเรยี นสามารถบอกสิทธแิ ละเสรภี าพในการศกึ ษาได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ การเคารพสทิ ธิของตนเองและผูอ้ นื่ ที่มตี ่อชุมชนและสงั คม สมาชิกทกุ คนในสงั คมมสี ิทธเิ ท่าเทยี ม กนั ในการดาเนินชีวิตในสังคม โดยสิทธิดังกล่าวจะตอ้ งไม่ละเมดิ สทิ ธขิ องสมาชกิ คนอ่นื ในสงั คม เชน่ เสรภี าพใน เคหสถาน เสรภี าพในการเดินทางและติดต่อส่ือสาร เสรีภาพในการนบั ถือศาสนา เสรีภาพในทางวิชาการ 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กิด) 1) ความสามารถในการสื่อสาร ( อ่าน ฟัง พูด เขยี น ) 2) ความสามารถในการคิด ( วิเคราะห์ ) 3.3 คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ / คา่ นยิ ม 1) มวี ินัย 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ข้ันตอนการเรียนรู้ 1) ทบทวนเนอ้ื หาเร่ืองการเคารพสทิ ธิของตนเองและผู้อ่ืนทีม่ ตี ่อชุมชนและสงั คม ในเรือ่ งสิทธิและ เสรภี าพในเคหสถาน , สิทธิและเสรีภาพในการนับถือศาสนา ,เสรีภาพในการเดนิ ทางและติดตอ่ ส่ือสาร และสทิ ธิ และเสรภี าพในการศึกษา 2) ใหน้ ักเรยี นยกตัวอย่างพฤติกรรมทีเ่ ป็นการละเมดิ สิทธแิ ละเสรีภาพในเคหสถาน เชน่ 2.1 เขา้ บา้ นคนอืน่ เม่ือเจา้ ของไม่อยบู่ า้ น 2.2 พดู จาดูถูกศาสนาอ่ืนที่ไม่ใช่ศาสนาท่ตี นนับถือ 2.3 แอบฟงั เพือ่ นพูดโทรศัพท์ 2.4 ผ้ปู กครองไม่ยอมส่งลูกใหเ้ รยี นเมอื่ มีอายุตามเกณฑ์การศึกษา 3. ใหน้ ักเรยี นเขียนแผนผงั ความคดิ เก่ยี วกับพฤตกิ รรมท่เี ป็นการละเมดิ สิทธิของผู้อน่ื 4. ทาแบบทดสอบหลังจบบทเรียน เมื่อนกั เรียนทาเสร็จทุกคนแล้วครเู ฉลยคาตอบทลี ะข้อ

- 139 - 4.2 สือ่ การเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ 1) แบบทดสอบ 5. การประเมินผลการเรยี นรู้ 5.1 วธิ ีการประเมิน 1) ตรวจทดสอบ 2) สังเกตพฤติกรรมนักเรียน 5.2 เครื่องมอื ที่ใช้ในการประเมนิ 1) แบบตรวจให้คะแนน 2) แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น 5.3 เกณฑ์การตัดสิน นกั เรียนผา่ นการประเมินร้อยละ 80 ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ น 6. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ........................................................ ..................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ........................................................ ลงช่อื ................................................ ครูผูส้ อน (.................................................)

- 140 - 7. ภาคผนวก แบบทดสอบ เร่ืองการเคารพสิทธขิ องตนเองและผูอ้ ่ืนทม่ี ีต่อชุมชนและสงั คม คาชแ้ี จง ให้นักเรียนเลือกคาตอบทถ่ี กู ต้องทสี่ ุดเพยี งคาตอบเดียว 1. เมอ่ื นักเรยี นอยู่ในโรงเรียนมสี ิทธทิ ีจ่ ะทากจิ กรรมตา่ ง ได้ ยกเว้นข้อใด ก. เขยี นชอื่ ลงบนโตะ๊ เรยี น ข. เล่นกีฬา ค. เข้าห้องสมุด 2. ใครปฏบิ ัติตนได้ถูกตอ้ ง ก. สมชายไม่เก็บเกา้ อีเ้ ม่ือลกุ จากท่ีน่งั ข. สมใจมาโรงเรียนทนั เขา้ แถว ค. สมศรหี ันหลังให้เมือ่ ครูเดนิ ผ่าน 3. ครพู านักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 ไปทัศนศึกษาทว่ี ดั พระแกว้ ใครปฏบิ ัตติ นไม่ถกู ตอ้ ง ก. มานะไหว้พระแก้วมรกต ข. มานีถ่ายภาพไว้เป็นทีร่ ะลึก ค. ปรดี าเขยี นช่อื ท่ีกาแพงวัด 4. ถ้านักเรยี นต้องการค้นควา้ เพม่ิ เติมจากหนงั สือควรไปสถานท่ีใด ก. ห้องสมดุ ข. ห้องพยาบาล ค. สนามฟตุ บอล 5. ใครปฏิบตั ิตนละเมดิ สิทธิในดา้ นการติดต่อส่ือสารกับผู้อ่ืน ก. ดวงใจเก็บโทรศัพท์เพอ่ื นได้เอามาสง่ คณุ ครู ข. ดวงตาแอบฟงั เพ่อื นคยุ โทรศพั ท์ ค. ดวงแก้วไปฟ้องครวู า่ ดวงใจเอาโทรศัพทม์ าโรงเรยี น

- 141 - 6. ถ้าตอ้ งการเล่นฟุตบอลควรไปสถานทใ่ี ด ก. ห้องเรยี น ข. ห้องสมุด ค. สนามฟุตบอล 7. เรามีหน้าทอี่ ย่างไรในฐานะนักเรียน ก. เช่อื ฟังคาและทาตามเพ่ือน ข. ช่วยกันรักษาทรัพยส์ มบตั ิของโรงเรียน ค. เชอ่ื ฟังคาสอนพอ่ แม่ 8. ขอ้ ใดไมใ่ ชเ่ หตุผลทเี่ ราต้องมาโรงเรียนกอ่ นเข้าแถวเคารพธงชาติ ก. เพราะต้องเขา้ แถวเคารพธงชาติ ข. เพราะต้องมาขอลอกการบ้านเพอื่ น ค. เพราะต้องรว่ มกจิ กรรมหน้าเสาธง 9. เอ๋เรยี นในโรงเรียนประถมศึกษาแล้วตอ่ ถงึ ระดับมธั ยมศึกษาโดยไม่ตอ้ งเสียคา่ เลา่ เรยี นแสดงถงึ สทิ ธใิ นเรื่องใด ก. สิทธิเสรีภาพในการศึกษา ข. สิทธิเสรภี าพในด้านเคหสถาน ค. สิทธเิ สรภี าพในการนับถือศาสนา 10. การกระทาของบุคคลในข้อใดแสดงถงึ การปฏิบตั ติ นตามสิทธเิ สรภี าพในเคหสถาน ก. อ้อมเปิดวทิ ยเุ สยี งดงั จนเพ่ือนบา้ นไม่พอใจ ข. อ๊อดเป็นยามจงึ สามารถเดินเขา้ ไปในบ้านอ้อมเพ่ือดูความปลอดภยั ค. ตารวจนาหมายค้นบา้ นเอ้เพอื่ คน้ ส่ิงผิดกฎหมาย เฉลยแบบทดสอบ 1. ค 2. ข 3. ค 4. ก 5. ข 6. ค 7. ข 8. ข 9. ก 10. ค

- 142 - แบบตรวจให้คะแนนแบบทดสอบ เลขท่ี ชื่อ – สกลุ คะแนนทไ่ี ด้ สรุปผล (10 คะแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 สรุป ลงช่อื .................................................ผตู้ รวจ (....................................................) เกณฑ์การให้คะแนน - ได้คะแนนรวม 8 คะแนนข้นึ ไป ถือว่า ผา่ น (ขอ้ ละ 1 คะแนน)

- 143 - แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น ชือ่ นกั เรียน................................................................................ ชัน้ ..............ภาคเรยี นท่.ี ..........ปีการศกึ ษา............. คาชีแ้ จง การบันทึกให้กาเคร่ืองหมาย  ลงในช่องทต่ี รงกับพฤติกรรมทเ่ี กิดขึ้นจรงิ ที่ พฤติกรรม ระดบั การปฏบิ ัติ ๑ มีความรับผดิ ชอบในหน้าท่กี ารงาน เป็น บางครงั้ น้อย ไม่ทาเลย/ ๒ ตง้ั ใจและเอาใจใส่ต่อการปฏิบัตหิ น้าที่ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ประจา (๒) คร้ัง ไม่ชดั เจน ๓ ทางานด้วยความเพยี รพยายาม (๓) (๑) (๐) ๔ รจู้ ักแกป้ ญั หาในการทางานเม่ือมีอปุ สรรค ๕ อดทนเพื่อให้งานสาเร็จตามเปา้ หมาย ๖ ปรบั ปรงุ และพฒั นาการทางานให้ดีข้นึ ดว้ ยตนเอง รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ ผปู้ ระเมิน  ครู  พ่อแม่/ผูป้ กครอง  ตนเอง  เพ่อื น ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน (.................................................) เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารประเมนิ ดีเยยี่ ม ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ดี ใดข้อหน่ึงต่ากว่า ๒ คะแนน พอใช้ ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อ ใดขอ้ หน่ึงตา่ กวา่ ๐ คะแนน ปรับปรงุ ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อ ใดขอ้ หน่ึงตา่ กว่า ๐ คะแนน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

- 144 - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คาช้แี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงใน ช่องท่ตี รงกบั ระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 321 อันพงึ ประสงคด์ า้ น มีวินยั 1. ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของ ครอบครวั มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกจิ กรรม ตา่ ง ในชวี ติ ประจาวัน ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ (.....................................................) เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัตบิ างคร้ัง

- 145 - แผนการจดั การเรียนรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ หนว่ ยท่ี ๔ ชื่อหนว่ ย พลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม เวลา 1 ช่วั โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 เร่ือง ระเบียบ กฎ กตกิ า กฎหมาย ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั พลเมืองและมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม ๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามหน้าท่ีพลเมอื งและมีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถบอกความหมาย กฎ กตกิ า ระเบียบ ในโรงเรียนได้ ๒.๒ นักเรียนสามารถปฏบิ ัตติ นตาม กฎ กติกา ระเบยี บ ในโรงเรียนได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ กฎ กตกิ า ระเบยี บ ในโรงเรียน หมายถึงข้อกาหนดในการปฏบิ ัติตนเพ่อื การอย่รู ว่ มกนั กับผู้อื่นใน โรงเรยี น ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเี่ กดิ ) ๑) ความสามารถในการส่ือสาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ / ค่านยิ ม 1) มวี นิ ยั 2) มีจติ สาธารณะ 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรยี นรู้ 1. ครูถามนกั เรียนว่าวนั นี้ใครทาหน้าทรี่ บั ผิดชอบในหอ้ งเรียนแล้วบ้าง และให้บอกผลว่าถา้ ทาผลจะ เปน็ อย่างไร แต่ถ้าไม่ทาจะมีผลท่ีตามมาคืออะไร 2. นักเรยี นชว่ ยกันตอบคาถามและบอกข้อดีข้อเสียของการไมร่ บั ผิดชอบต่อหน้าท่ี ดงั นี้ - ขอ้ ดี หอ้ งเรียนสะอาด โรงเรียนสะอาด น่าอยู่ เปน็ ระเบียบเรียบร้อย ฯลฯ - ข้อเสยี หอ้ งเรียนสกปรก ไม่น่าอยู่ ฯลฯ 3. ครถู ามนกั เรยี นวา่ ทาไมต่ ้องมีการแบ่งหนา้ ท่ีการทางานและมีบทลงโทษสาหรับคนที่ไม่ปฏิบตั ิตาม กฎ กติกาของโรงเรียน 4. นักเรยี นแบง่ กล่มุ กล่มุ ละ ๔-๕ คน ตามความสมคั รใจ ใหแ้ ต่ละกลุ่มศกึ ษาและสืบคน้ ขอ้ มูลเรื่อง กฎระเบยี บของโรงเรยี น จากใบความรเู้ รื่อง กฎ กติกา ระเบยี บในโรงเรยี น หรอื หนงั สอื ค้นคว้าเพิม่ เติมตาม ความเหมาะสม ในห้องสมดุ ของโรงเรยี น 5. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันสรุปความรู้ จากน้นั ใหช้ ว่ ยกนั คดิ ว่า กฎระเบยี บในโรงเรยี นของ นักเรียนมีอะไรเพ่ิมเติมบ้าง แล้วจดบนั ทึกลงในกระดาษ 6. ครูใหน้ ักเรยี นจดบนั ทกึ กฎ กตกิ า ระเบยี บในโรงเรียน และบอกข้อดขี องการปฏบิ ัตแิ ละ ขอ้ เสียของการไม่ปฏิบัติ 7. นักเรยี นนาเสนอผลงาน โดยครตู รวจสอบผลงาน

- 146 - 8. นักเรยี นทาใบงานกลุ่ม เร่อื ง ปฏิบตั ิตนตาม กฎ กติกา ระเบยี บ ในโรงเรยี น 9. ครใู ห้นักเรียนทาใบงานวาดรูประบายสี เร่อื ง ปฏิบตั ิตนตาม กฎ กตกิ า ระเบียบ ใน โรงเรียน 10. ครสู รุปใหน้ กั เรยี นว่าทีโ่ รงเรยี นตอ้ งมีกฎ กติกา ระเบียบของโรงเรียน เพราะเปน็ สิ่ง สาคัญในการอยู่ร่วมกนั เพื่อให้โรงเรียนสงบสขุ เรยี บรอ้ ย และ ยังสามารถควบคุมให้คนในโรงเรียนปฏบิ ัติตน อยา่ งเหมาะสมเปน็ ไปในทางเดียวกันได้ ๔.๒ สื่อการเรียนรู้ / แหล่งเรยี นรู้ ๑) ใบความรู้ เรอ่ื ง กฎ กตกิ า ระเบียบในโรงเรยี น 2) ใบงานท่ี ๑ เร่อื ง ปฏิบัติตนตาม กฎ กติกา ระเบียบในโรงเรยี น 3) ใบงานที่ ๒ เรื่องวาดรูประบายสีปฏบิ ัตติ นตาม กฎ กติกา ระเบียบ ในโรงเรยี น ๔) หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๕.การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมนิ - ตรวจใบงาน - การสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น ๕.๒ เครื่องมอื ทใี่ ชใ้ นการประเมิน - แบบตรวจให้คะแนนใบงาน - แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น ๕.๓ เกณฑ์การตดั สนิ - นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ถอื ว่า ผ่าน บันทึกหลังสอน ................................................................................................................................................ ......... ......................................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................ ...................... ลงช่ือ ................................................ ครผู ู้สอน (.................................................)

7. ภาคผนวก - 147 - ใบความรู้ เรอ่ื งกฎ กฎ กติกา ระเบียบในโรงเรยี น ปฏบิ ัตติ นตาม กฎ กตกิ า ระเบียบในโรงเรียน กฎ กตกิ า ระเบยี บ คือ ข้อกาหนดในการปฏิบตั ติ นเพือ่ การอยรู่ ่วมกนั กับผอู้ ื่นในโรงเรียน กฎ กติกา ระเบยี บของโรงเรียน เปน็ สง่ิ สาคัญในการอยูร่ ่วมกันเพื่อให้ โรงเรียนสงบสุข เรียบรอ้ ย และ ยงั สามารถควบคมุ ใหค้ นในโรงเรียนปฏิบตั ิตน อย่างเหมาะสมเปน็ ไปในทางเดียวกัน เราควรปฏบิ ัติตาม กฎ กตกิ า ระเบียบของโรงเรียนดงั นี้ ๑. รกั ษาความสะอาดโดยท้งิ ขยะลงในถังขยะทกุ ครงั้ ๒. รกั ษาสาธารณสมบตั ขิ องโรงเรียน ๓. ปฏิบัติตามขอ้ ตกลงที่ทางโรงเรยี นร่วมกนั คดิ ๔. ใหค้ วามรว่ มมอื ในกจิ กรรมต่าง ๖. ไมล่ กั ขโมยสงิ่ ของผอู้ น่ื

- 148 - ใบงานกลุม่ เรื่องการปฏิบัตติ นตาม กฎ กติกา ระเบยี บในโรงเรยี น คาช้แี จง ให้นักเรียนเขียนแผนผงั ความคิดการปฏิบัติตนตามกฎ กตกิ า ระเบียบของโรงเรียนแลว้ แสดงความคิดเหน็ 1.เมื่อนกั เรยี นปฏิบัติตนตามกฎ กตกิ า ระเบยี บในโรงเรียนจะเกดิ ผลดอี ย่างไร .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. ๒. เมือ่ นกั เรียนไมป่ ฏบิ ตั ิตนตามกฎ กติกา ระเบียบในโรงเรียนจะเกิดผลเสยี อยา่ งไร .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. ๑. ชือ่ -สกุล.............................................. ๒. ช่ือ-สกลุ .............................................. ๑. ชือ่ -สกลุ .............................................. ๔. ชือ่ -สกลุ .............................................. ๒. ชอื่ -สกลุ .............................................. ๔. ชือ่ -สกลุ ..............................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook