ใบควมรู้ที่ 1.3 เรื่อง การพัฒนาตนเองสู่การเป็นผู้ประกอบการ

หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ ช่ือวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ ใบเนือ้ หา หน้าท่ี หน่วยที่ 1 : การพฒั นาคณุ ลกั ษณะผปู้ ระกอบการ 57 เรื่อง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นท่ี : 1 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็น 1.3.1 การสร้างแรงบนั ดาลใจ ผปู้ ระกอบการ แรงบนั ดาลใจหาไดง้ ่ายๆ ใกลๆ้ ตวั คุณ หลายๆ คนท่ีตอ้ งการจะ เริ่มตน้ ทาธุรกิจ คาถามแรกคือ \"จะทาอะไรดี?\" บางคนใชเ้ วลาหาเป็ น ปี ๆ เพ่ือท่ีจะได้ คาตอบ มีวิธีดีๆมานาเสนอ สาหรับคนที่กาลงั มอง หาแรง บนั ดาลใจในการทาธุรกิจ ดงั น้ี 1. มองดูตัวเอง ในแต่ละวนั ซ่ึงตวั เราเองมีปัญหา มากมายที่ อาจจะมองผา่ นไป เช่น เวลาลงไปกินขา้ ว กลางวนั แถวๆ ออฟฟิ ศ คน เบียดเสียดไม่มีที่น่งั แยง่ กนั เป็ นเกา้ อ้ีดนตรี คุณสามารถเอาไอเดียน้ี มาทาเป็นธุรกิจ ได้ โดยการ \"เปิ ดบริการรับซ้ือขา้ วกลางวนั \" เห็นไหม วา่ มนั เป็นเรื่องใกลต้ วั มากและหาง่ายท่ีสุดดว้ ย ทีม่ า : http://www.thaifranchisecenter.com 2. เปิ ดโลกให้กว้าง การไดไ้ ปกินขา้ วกบั เพ่ือนที่ พาเพ่ือนของ เพ่ือนมาดว้ ย ทาใหเ้ ราไดร้ ู้จกั คนมากข้ึน และยงั ไดค้ วามรู้ใหม่ๆอีก ดว้ ย นอกจากน้ี คนนอกยงั มีไอเดียดีๆ ท่ีคนในไม่มีอีกดว้ ย แถมการ แลกเปลยี่ น วิสยั ทศั นแ์ ละความรู้ยงั สามารถต่อยอดความคิดเราได้ซ่ึง ดีมากๆเลย การพดู คุยและถกู เถียงกนั ก่อใหเ้ กิดอะไร ใหม่ๆไดเ้ สมอ การดูหนังโฆษณา คลิปใน Youtubeหรือ อตั ชีวประวตั ิของเจา้ ของ ธุรกิจ ก็สามารถสร้างแรง บนั ดาลใจไดเ้ ช่นกนั ท่ีมา :http://www.thaigoodview.com 3. เป็ นผู้ฟังทดี่ ี การฟังให้มากกว่าพดู จะทาให้ เราสามารถเก็บ เก่ียวสาระไดม้ ากมาย เร่ืองบางเร่ือง อาจจะดไู ร้สาระแต่หากพิจารณา ใหด้ ีจะรู้วา่ มสี าระแฝง อยกู่ เ็ ป็นแรงบนั ดาลใจที่อยรู่ อบตวั เรา เพียงแต่ ว่าเราจะ สงั เกตมนั หรือเปล่าเท่าน้นั เอง ท่ีมา : http://www.mindstationblog.com/

หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ ใบเนือ้ หา หน้าที่ ช่ือวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นที่ : 2 58 หน่วยที่ 1 : การพฒั นาคุณลกั ษณะผปู้ ระกอบการ เรื่อง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ 4. จดทุกอย่างทีเ่ ข้ามาในหัว เวลามีไอเดียเขา้ มาในหวั ให้จดบนั ทึกไวก้ ่อน ตอนน้ีอาจจะ ยงั ใชไ้ ม่ได้ แต่เมื่อเวลาผา่ นไป มมุ มองเรากวา้ งข้ึน ไอเดียเม่ือปี ท่ีแลว้ มนั อาจจะสามารถต่อยอด ไดใ้ นอนาคต ทมี่ า : http://trisbieber.blogspot.com 1.3.2 ทกั ษะด้านสารสนเทศทจ่ี าเป็ นสาหรับผู้ประกอบการ ในปัจจุบนั อินเทอร์เน็ตจดั ว่าเป็ นช่องทางท่ีเขา้ ถึงไดง้ ่าย และ ที่มา :http://www.crdata.org/ สะดวกที่สุด มอี ทิ ธิพลต่อชีวิตประจาวนั ของคนทว่ั โลก ส่งผล ใหเ้ กิด การเปลย่ี นแปลงกิจกรรมต่างๆ รวมท้งั รูปแบบการใชช้ ีวิต ของผคู้ น ในทุกประเทศ เป็ นช่องทางท่ีดีท่ีสุด ท่ีจะใชเ้ ป็ นแหล่ง คน้ หาขอ้ มูล ข่าวสาร สารสนเทศต่างๆ เพ่ือการเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งไม่มี ขอ้ จากดั ท้งั ทาง อายุ เพศ ระดบั การศึกษา เวลา และระยะทาง ดงั น้นั คนเราทุกคน จึง ตอ้ งเรียนรู้และพฒั นาทกั ษะทางดา้ น สารสนเทศในดา้ นต่างๆ ดงั น้ี 1. ทกั ษะทางภาษา ภาษาที่สาคญั ที่สุด คือ ภาษาองั กฤษ ซ่ึงเป็ น ภาษากลางของ โลก ประชาชนอาเซียนจึงควรมีทกั ษะทาง ภาษาองั กฤษข้นั พ้ืนฐาน ในระดบั เพียงพอที่จะส่ือสารกนั ในโลก อินเทอร์เน็ตได้ เช่น ทกั ษะ การอา่ น ทกั ษะการฟัง เป็นตน้ 2. ทกั ษะทางด้านคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์เชื่อมต่อต่างๆ เน่ืองจากการเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน สามารถ เช่ือมต่อไดด้ ว้ ยคอมพวิ เตอร์ต้งั โต๊ะ โทรทศั น์ รวมถึง อุปกรณ์พกพา ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไอแพด และอ่ืน ๆ ประชาชน ปัจจุบันจึงต้องมีความสามารถในการใชอ้ ุปกรณ์ต่างๆ ดังกล่าว เพอ่ื ใหส้ ามารถเชื่อมต่อสู่โลกอนิ เทอร์เน็ตไดด้ ว้ ยตนเอง

หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ ใบเนือ้ หา หน้าท่ี ชื่อวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นที่ : 3 59 หน่วยท่ี 1 : การพฒั นาคุณลกั ษณะผปู้ ระกอบการ เรื่อง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ 3. ทกั ษะในการสืบค้น เป็ นทกั ษะที่จาเป็ นในการคน้ หาขอ้ มูลหรือสารสนเทศ ท่ี ตอ้ งการผา่ นเครื่องมอื คน้ หา (search engine) อาทิเช่น การสืบคน้ ผ่าน google ทุกคนจึงตอ้ งเรียนรู้ เช่น การสืบคน้ โดยการใส่เครื่องหมาย คาพูด แตกต่างจากการไม่ใส่ เคร่ืองหมายคาพูดอย่างไร การใส่ เคร่ืองหมาย + ระหว่าง คาคน้ มีประโยชน์อย่างไร ท้งั น้ี เพ่ือใหก้ าร สืบคน้ มี ประสิทธิภาพคือไดส้ ารสนเทศท่ีตอ้ งการโดยใชเ้ วลานอ้ ย ท่ีสุด 4. ทกั ษะในการวเิ คราะห์ เป็ นการนาเอาข้อมูลท่ีมาจากหลายๆท่ี เพ่ือมาทาการ ต ร ว จ ส อ บ อี ก ร ะ ดับ ห น่ึ ง ว่ า ส่ิ ง ท่ี สื บ ค้น มี ค ว า ม ถูก ต้อ ง น่ า เ ชื่ อ ถื อ เพียงใด โดยหนทางหน่ึงท่ีสามารถทาได้ง่ายคือการสืบคน้ ไป ถึง แหล่งอา้ งอิง การสืบคน้ เร่ืองที่เกี่ยวขอ้ ง หรือสืบคน้ จาก เว็บไซต์ ต่างประเทศ และนามาเปรียบเทียบกนั หลาย ๆ แหลง่ เพ่อื ให้ไดข้ อ้ มลู ท่ีครบถว้ น สมบูรณ์ และน่าเช่ือถอื มาก 5. ทกั ษะในการจดั เกบ็ เป็ นสิ่งหน่ึงที่ตอ้ งเรียนรู้เพราะบางคร้ังการจดั เก็บ ขอ้ ความ การจดั เกบ็ ภาพ การจดั เก็บภาพและเสียง การ จดั เก็บหนา้ เวบ็ ไซตท์ ้งั หน้า และอื่น ๆ ทาให้สามารถนาไปใช้ งานตามเวลา สถานท่ีท่ี ตอ้ งการหรือใชง้ านในขณะท่ีออกจาก อนิ เทอร์เน็ตได้

หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ ใบเนือ้ หา หน้าท่ี ชื่อวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นที่ : 4 60 หน่วยท่ี 1 : การพฒั นาคณุ ลกั ษณะผปู้ ระกอบการ เรื่อง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ ท่ีมา : http://runningmanloveso.blogspot.com/ 6. ทกั ษะในการเชื่อมต่อระหว่างชนิดอปุ กรณ์ คนจานวนไม่น้อยที่ไม่มีทกั ษะในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ เช่น ถ่ายภาพมาแลว้ ไม่รู้ว่าจะนาเข้าคอมพิวเตอร์อย่างไร สร้างไฟล์ นาเสนอมาแลว้ ไม่ทราบว่าจะแปลงไปใชง้ านกบั อุปกรณ์อีกประเภท หน่ึงไดอ้ ยา่ งไร รวมถึงการใชง้ านขา้ มค่ายผผู้ ลิต ซ่ึงสิ่งต่างๆ เหล่าน้ี จาเป็นตอ้ งเรียนรู้และฝึกฝนเพ่อื เพม่ิ ขีดความสามารถส่วนบุคคล และ ลดอปุ สรรคในการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ 7. ทกั ษะในการสงั เคราะห์ เป็ นการนาเอาขอ้ มูลข่าวสารต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ในการ สร้างสารสนเทศใหมซ่ ่ึงเป็นสิ่งสาคญั ที่จะช่วยให้การใชอ้ ินเทอร์เน็ต มีคุณภาพย่ิงข้ึน เช่น ในกรณีที่ตอ้ งการเผยแพร่อาหารของประเทศ ตนเองโดยใส่ขอ้ ความและเสียงประกอบผจู้ ดั ทาจะตอ้ งทราบว่าจะหา ภาพท่ีไม่ละเมิดลิขสิทธ์ิจากแหล่งใด จะใส่ตวั อกั ษรดว้ ยเคร่ืองมือ อะไรจะใส่เพลงประกอบภาพด้วยโปรแกรมอะไร ซ่ึงท้งั หมดเป็ น การสังเคราะห์ส่ิ งท่ี กระจัดกระจายกันอยู่ตามแหล่งต่ างๆ นามาประกอบข้ึนมาใหเ้ ป็นงานช้ินใหมท่ ่ีไมเ่ คยมีมาก่อน 8. ทกั ษะในการเผยแพร่ เป็ นทกั ษะในการนาขอ้ มลู ข่าวสาร สารสนเทศต่างๆออกสู่ ประชาคมหรือชุมชน เช่น การใชจ้ ดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การใชส้ ่ือ สงั คมออนไลน์ต่างๆ การนาภาพถ่ายไปเผยแพร่กบั บริการฟรีต่างๆ การเผยแพร่ขอ้ ความและภาพผ่านเวบ็ บอร์ด การเผยแพร่สารสนเทศ ผา่ นเวบ็ บลอ็ ก/เวบ็ ไซต์ การเผยแพร่คลปิ วิดีโอผา่ นยทู ูป เป็นตน้

หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ ใบเนือ้ หา หน้าท่ี ช่ือวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นที่ : 5 61 หน่วยท่ี 1 : การพฒั นาคณุ ลกั ษณะผปู้ ระกอบการ เรื่อง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ ท่ีมา : www.Slideshare.net 9. ทักษะในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ปัจจุบนั มีเครือข่ายสงั คมออนไลน์ที่ไดร้ ับความ นิยมหลาย ประเภท เช่น facebook, line, instagram, twitter และอื่น ๆ ซ่ึง ผใู้ ชง้ านจะตอ้ งมที กั ษะในการอยู่ ร่วมกนั ในสงั คมออนไลน์ ทกั ษะใน การนาเขา้ ขอ้ มูลที่ไม่มี ขอ้ ห้าม ไม่ผดิ กฎหมาย ทกั ษะในการรักษา มารยาทในการ สนทนา ทกั ษะในการแสดงความคิดเห็นไม่ใหเ้ กิด เป็ น ประเด็นขดั แยง้ สิ่งต่างๆ ดงั กล่าวน้ีจะช่วยใหก้ ารใชส้ ่ือ สงั คม ออนไลนม์ ปี ระโยชนแ์ ละเกิดผลในเชิงบวกตามที่ ตอ้ งการ ท่ีมา : www.med.Cmu.ac.th 10. ทกั ษะในการดูแลความปลอดภัยในการ ตดิ ต่อส่ือสาร เป็ นทักษะที่ผใู้ ช้เทคโนโลยีต้องระมดั ระวงั เก่ียวกับการ จดั เกบ็ รหสั การใชง้ านหรือบอกรหสั การใชง้ าน ใหเ้ พือ่ น ส่งผลใหเ้ กิด ความยงุ่ ยากตามมาในภายหลงั ผใู้ ชง้ านอินเทอร์เน็ตจะตอ้ งมีความ ตระหนกั และ ระมดั ระวงั เรื่องความปลอดภยั ในการเขา้ ใชง้ านและ การ ติดต่อสื่อสาร รวมถึงการมที กั ษะในการรักษาความ ปลอดภยั ของ ขอ้ มูล เช่น รู้วิธีเขา้ รหัสไฟล์ไม่ให้เปิ ดอ่านโดย พลการไดร้ ู้วิธีการ ติดต้ังโปรแกรมรักษาความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ที่ใช้ในการ ติดต่อสื่อสารไม่ใหถ้ กู บุกรุกหรือ ถกู คุกคามจากผไู้ ม่พงึ ประสงคไ์ ด้

หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ ใบเนือ้ หา หน้าท่ี ชื่อวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นที่ : 6 62 หน่วยที่ 1 : การพฒั นาคณุ ลกั ษณะผปู้ ระกอบการ เร่ือง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ ท่ีมา : finnomena.com 1.3.3 ความคดิ เชิงระบบ โดยใช้ IPO Model การคิดเชิงระบบเป็ นการคิดอย่างเป็ นข้ันเป็ นตอน แต่ละ ข้นั ตอนมีความเกี่ยวขอ้ งเชื่อมโยงสอดคลอ้ งกนั การคิดเชิง ระบบเป็ น คุณลกั ษณะสาคญั ท่ีผปู้ ระกอบการตอ้ งมี เพราะ ในองค์กรธุรกิจจะ ประกอบดว้ ย ส่วนประกอบต่างๆที่ เช่ือมโยงสมั พนั ธก์ นั อยา่ งแยกไม่ ออก ท้งั หมดรวมเป็นหน่ึง เดียวกนั การคิดเชิงระบบจะไม่มองเฉพาะฝ่ ายการผลิต ฝ่ าย การตลาด ฝ่ ายขาย หรือฝ่ ายบญั ชีถา้ ผปู้ ระกอบการคิดเชิง ระบบไม่เป็ น เม่ือเกิด ปัญหาข้ึนก็จะมองเฉพาะการ แกป้ ัญหาท่ีจุดน้นั ๆ แลว้ คิดว่าตนเอง แกป้ ัญหาที่เกิดข้ึนได้ แลว้ และมองว่านน่ั คือการแกป้ ัญหาขององคก์ ร ธุรกิจ การคิดเชิงระบบที่แท้จริ งน้ันผูป้ ระกอบการจะต้อง มอง เหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในภาพรวมท้งั หมด ไม่ใช่ฝ่ ายใดฝ่ าย หน่ึงเท่าน้นั ปัญหาทุกอยา่ งยอ่ มเก่ียวเน่ืองสมั พนั ธก์ นั จนไม่ สามารถแยกออกจาก กนั ได้ แก่นแทข้ องการคิดเชิงระบบ คือ มองเห็นความสมั พนั ธข์ องกนั และกนั และมองเห็น กระบวนการเปล่ียนแปลง เทคนิคการคดิ เชิงระบบโดยใช้ IPO Model ทฤษฎีเชิงระบบ มโี ครงสร้างง่าย เมือ่ นากรอบน้ีไป ประเมิน ทา ไดง้ ่ายรวดเร็ว กรอบทฤษฎีเชิงระบบน้นั มี รายละเอียดคือ \" ปัจจยั นาเข้าหรือปัจจัยป้ อนสู่ กระบวนการผลิตออกมาเป็ นผลผลิตและ ผลลพั ธ์ หากมี ผลกระทบกน็ าเขา้ สู่ปัจจยั ป้ อนหรือกระบวนการผลิต ใหม่ กรรมทนกั งาน อกี คร้ัง

หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ ใบเนือ้ หา หน้าท่ี ช่ือวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นที่ : 7 63 หน่วยท่ี 1 : การพฒั นาคุณลกั ษณะผปู้ ระกอบการ เร่ือง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ ที่มา : https://humanrevod.wordpress.com ปัจจยั นาเข้า (Input) เช่น โครงการน้ีใชเ้ งินเท่าไร ใชค้ น ก่ีคน ผลผลติ มีประสิทธิภาพคุม้ ทุน คือใครบา้ ง ใชว้ สั ดุมากนอ้ ยเท่าใด เหมาะสม หรือไม่ ใชเ้ ครือข่ายใด กระบวนการ (process) ใชว้ ิธีใดในการทางาน ใชเ้ ทคโนโลยี อะไรบา้ งใชก้ ารประสานสมั พนั ธอ์ ยา่ งไร ผลผลิต (Output) ผลผลิตที่ ไดม้ ีประสิทธิภาพคุม้ ทุน หรือไม่ และจะมีผลลพั ธ์ (Outcome) อื่น ตามมาหรือไม่ อยา่ งไร เพยี งใด การใชท้ ฤษฎีเชิงระบบ หรือ System Approach ในการ ประเมินทาให้ การวางแผนงานโครงการมีความชดั เจน และผดิ พลาดไดน้ อ้ ย อีกท้งั ยงั เป็นการคาดการณ์ถงึ ผลกระทบท่ีอาจเกิดข้ึนล่วงหนา้ แนวทางการนาความคดิ เชิงระบบไปใช้ในการปฏิบตั งิ าน 1. กาหนดวตั ถปุ ระสงคข์ องงานใหช้ ดั เจน 2. กาหนดงานที่เก่ียวขอ้ งที่จะทาให้บรรลุวตั ถุประสงค์ ให้ ครบถว้ น 3. กาหนดกระบวนการทางานในแต่ละงานท้งั ในส่วน ระบบ ใหญ่และระบบยอ่ ยใหค้ รบถว้ น 4. วิเคราะหร์ ะบบการทางานและตดั สินใจเลือกวิธีการ ทางาน ใหเ้ หมาะสม 5. ประเมินผลท้งั ระบบและปรับปรุงแกไ้ ข การคดิ เชิงระบบจะมองเห็นความสัมพนั ธ์

หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ ใบเนือ้ หา หน้าที่ ช่ือวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นท่ี : 8 64 หน่วยท่ี 1 : การพฒั นาคณุ ลกั ษณะผปู้ ระกอบการ เรื่อง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com ประโยชน์ของการคดิ เชิงระบบ 1. ทราบและเขา้ ใจถึงวสิ ยั ทศั น์และพนั ธกิจขององคก์ ร 2. มองเห็นความสัมพนั ธข์ องงานท่ีทากบั วิสยั ทศั น์และพนั ธกิจของ องคก์ ร 3. มองเห็นความสมั พนั ธร์ ะหว่างงานของตนเองกบั งาน ของผอู้ ่นื 4. มกี ารวางแผนและจดั ลาดบั ความสาคญั ของงาน 5. มีความยืดหยุ่นในการทางาน สามารถปรับเปลี่ยนได้ ตาม สถานการณ์ 6. เรียนรู้จากประสบการณ์ท้งั ดา้ นท่ีสาเร็จและลม้ เหลว ท้งั ของตนเอง และของผอู้ น่ื 7. เรียนรู้และสามารถหลีกเลยี่ งปัญหาท่ีเคยเกิดข้ึน 8. มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมนิ ผลงาน

หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ ใบเนือ้ หา หน้าท่ี ช่ือวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นท่ี : 9 65 หน่วยที่ 1 : การพฒั นาคุณลกั ษณะผปู้ ระกอบการ เรื่อง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ คดิ อย่างไรให้สร้างสรรค์ 1.3.4 ความคดิ เชิงสร้างสรรค์ การคิด เชิ งสร้ างสรรค์ ( Creativethinking) หมายถึ ง ความสามารถในการมองเห็นความสมั พนั ธข์ อง ส่ิงต่างๆ การขยาย ขอบเขตความคิดออกไปจากกรอบ ความคิดเดิมท่ีมีอย่สู ู่ความคิด ใหม่ๆ ท่ีไม่เคยมีมาก่อน เป็ นความคิดท่ีหลากหลาย คิดไดก้ วา้ งไกล หลายแง่หลาย มุม เนน้ ท้งั ปริมาณและคุณภาพ ทีม่ า : http://rsu-leadership.exteen.com/dr-apichai

หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ ใบเนือ้ หา หน้าที่ ชื่อวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นท่ี : 10 66 หน่วยที่ 1 : การพฒั นาคณุ ลกั ษณะผปู้ ระกอบการ เร่ือง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ องค์ ประกอบของความคิดสร้ างสรรค์ เป็ นส่ิงใหม่ (New Original) ใช้การได้ (Workable) ความเหมาะสม (Appropriate) สิ่งใหม่ใช้การได้ การคดิ เชิงสร้างสรรค์ เพื่อการเปล่ียนแปลงจากส่ิงเดิมไปสู่ สิ่งใหม่ที่ ดีกว่า จะไดผ้ ลลพั ธท์ ่ีเรียกว่า \"นวตั กรรม\" (Innovation) มี 3 ประเด็น หลกั คือ 1. ความคิดแง่บวก หรือ Positive thinking 2. การกระทาท่ีไมท่ าร้ายใคร หรือ Constructive thinking 3. การคิดสร้างสรรคส์ ่ิงใหม่ๆ หรือ Creative thinking ท่ีมา : http://travelzeed.com/

หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ ใบเนือ้ หา หน้าท่ี ชื่อวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นที่ : 11 67 หน่วยที่ 1 : การพฒั นาคุณลกั ษณะผปู้ ระกอบการ เรื่อง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ ความคดิ สร้างสรรค์เกิดขึน้ ได้ 2 ทางคอื จิน ต น า ก าร ท า ใ ห้ ค วา ม ฝันเป็ นจริงความรู้ท่ีมีแล้ว คดิ ต่อยอดสิ่งใหม่ที่เรียกว่า นวตั กรรม วธิ ีการฝึ กเพอ่ื พฒั นาความคดิ เชิงสร้างสรรค์ 1 . ฝึ กคิดเชิงบวก ( Positive Thinking ) จะช่วยให้เราฝึ ก การ แสวงหาโอกาส และช่วยใหเ้ ราเกิดการเรียนรู้ท่ี เหนือกวา่ คนอื่น 2 . ฝึ กคิดยอ้ นศร ( Backward Thinking ) จึงทาใหเ้ กิด ธุรกิจข้ึน เช่น ธุรกิจบริการซ่อมรถฉุกเฉิน การส่งดอกไม้ ร้านหนงั สือ 3 . ฝึ กคิดในส่ิงท่ีเป็ นไปไม่ได้ ( Impossible Thinking ) ตวั อยา่ ง ความคิดสร้างสรรคจ์ ะเห็นไดจ้ ากภาพยนตร์การ์ตูน ที่มา : http://www.oknation.net

หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ ใบเนือ้ หา หน้าท่ี ชื่อวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นท่ี : 12 68 หน่วยที่ 1 : การพฒั นาคณุ ลกั ษณะผปู้ ระกอบการ เร่ือง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ 4 . ฝึกคิดบนหลกั ของความเป็ นจริง ( Thinking Based Principle ) การฝึ กคิดแบบน้ีคือการคิด วิเคราะห์สิ่งต่างๆ โดย ยอ้ นกลบั ไปหา หลกั ความเป็นจริงของสิ่งน้นั ๆ 5 . ฝึกคิดขา้ มกล่องความรู้ ( Lateral Thinking ) การคิดขา้ มกล่อง ความรู้คือการนาเอาความรู้ท่ีมอี ยใู่ นหวั ในเรื่องต่างๆมาคิดไขวก้ นั ยงิ่ เรามกี ล่องความรู้หลากหลาย โอกาสท่ีเราจะคิดขา้ มกล่องเพ่ือใหเ้ กิด ความคิดใหมๆ่ มากยง่ิ ข้ึน ปัจจยั การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมความเป็น อสิ ระในการ เรียนรู้อยา่ งเช่น O การส่งเสริมใหใ้ ชจ้ ิตนาการตนเอง O ส่งเสริมและกระตุน้ การเรียนรู้อยา่ งต่อเน่ือง O ยอมรับความสามารถและคุณค่าของคนอยา่ งไมม่ ีเง่ือนไข O แสดงใหเ้ ห็นว่าความคิดของทุกคนมีคุณค่า และนาไปใช้ ประโยชนไ์ ด้ O ใหค้ วามเขา้ ใจ เห็นใจและความรู้สึกของคนอนื่ O อยา่ พยายามกาหนดใหท้ ุกคนคิดเหมือนกนั ทาเหมือนกนั O ควรสนบั สนุนผคู้ ิดคน้ ผลงานแปลกใหม่ไดม้ ีโอกาสนาเสนอ O เอาใจใส่ความคิดแปลกๆของคนดว้ ยใจเป็นกลาง O ระลกึ เสมอวา่ การพฒั นาความคิดสร้างสรรคต์ อ้ งค่อยเป็นค่อย ไปและใชเ้ วลา http://www.dek-d.com

หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ ใบเนือ้ หา หน้าท่ี ชื่อวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นที่ : 13 69 หน่วยท่ี 1 : การพฒั นาคณุ ลกั ษณะผปู้ ระกอบการ เร่ือง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ เทคนิคการพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์ การพฒั นาความคิดสร้างสรรค์น้ันมีเทคนิคที่ใช้กันอยู่หลาย วธิ ีการดว้ ยกนั อนั ไดแ้ ก่ • การระดมสมอง ( Brainstorming ) เป็ นเทคนิคเพ่ือรวบรวม ทางเลือกและการแกป้ ัญหาโดยให้โอกาสในการคิด อย่างอิสระที่สุด และไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์ใดๆระหว่างการคิด เพราะการ วิพากษว์ ิจารณ์จะเป็นการขดั ขวางความคิด สร้างสรรค์ • การปลกู ฝังความกลา้ ที่จะทาสิ่งสร้างสรรค์ เป็ นเทคนิคที่ใช้ การต้งั คาถามง่ายๆเพ่อื ให้คิดโดยจดั ใหอ้ ยู่ ในสภาพแวดลอ้ มท่ีเป็ นที่ ยอมรับของผอู้ ่ืน เมื่อฝึ กฝนมาก เขา้ ก็จะช่วยในการพฒั นาความคิด สร้างสรรคใ์ หม้ ีมากข้ึน • การสร้างความคิดใหม่ เป็นอีกเทคนิคหน่ึงโดยใชก้ ารแจกแจง วิธีการในการแกป้ ัญหาใดปัญหาหน่ึงมาให้ ได้ 10 วิธีการ จากน้นั ก็ แบ่ง 10 วธิ ีการที่ไดอ้ อกเป็นวิธีการยอ่ ยๆลงไปอีก เพอ่ื ใหไ้ ดท้ างเลือก หรือคาตอบท่ีดีที่สุด http://www.dek-d.com

หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ ช่ือวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ ใบเนือ้ หา หน้าที่ หน่วยท่ี 1 : การพฒั นาคุณลกั ษณะผปู้ ระกอบการ 70 เรื่อง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นที่ : 14 การคดิ แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ กิลฟอร์ ด ได้กล่าวถึง บุ คลิกภาพของคนท่ีมีความคิ ด คดิ แก้ปัญหาอย่าง สร้างสรรค์ว่า จะตอ้ งมีความฉับไวท่ีรู้ปัญหาและมองเห็น ปัญหา มี สร้างสรรค์ ความวอ่ งไวและสามารถจะเปล่ียนความคิดใหม่ๆ ไดง้ ่าย ซ่ึงแสดงให้ เห็นว่าการแกป้ ัญหาเป็ นกิจกรรมที่สาคัญ ยิ่งของชีวิตท่ีต้องทาให้ สาเร็จลุล่วงจึงจะทาให้ชีวิตสามารถ ดาเนินไปไดอ้ ย่างมีความสุข ดังน้ันจึงมีความจาเป็ นที่จะต้อง เรี ยนรู้วิธีการแก้ปัญหาอย่าง สร้างสรรค์ โดยปกติคนเราทว่ั ไปมกั เลือกวิธีการที่จะเล่ียงปัญหา มากกว่า การเผชิญปัญหา ซ่ึงถา้ คนเรารู้จกั ท่ีจะเรียนรู้การ แก้ปัญหาอย่าง สร้างสรรคก์ ็จะมีชีวิตท่ีสนุกสนานร่าเริงและ มคี วามสุขมากยง่ิ ข้ึน ที่มา : game.sanook.com การคิดแก้ ปั ญหาอย่ างสร้ างสรรค์ น้ันประกอบไปด้วย ท่ีมา : th.jobsdb.com กระบวนการคิด 4 ข้นั ตอนคือ 1 . การค้นหาความหมายของปัญหา ข้นั ตอนน้ีจะมี ความสาคญั มาก เพราะถา้ เรารู้วา่ อะไรคือปัญหาท่ีแทจ้ ริง ก็ สามารถหาหนทางใน การแกไ้ ดต้ รงมากข้ึน อีกท้งั ทาให้เกิด ความมน่ั ใจมองเห็นปัญหาได้ ทะลุปรุโปร่ง อนั จะทาให้ได้ คาตอบที่ชดั เจนและเป็ นการแกป้ ัญหา อยา่ งสร้างสรรคด์ ว้ ย 2 . การเปิ ดใจกว้างเพอื่ นาไปสู่วธิ ีการแก้ไขปัญหา นักคิดแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์จะทาการคดั เลือก ความ คิดเห็นและขอ้ มลู ต่างๆไวเ้ ป็นจานวนมากกอ่ นท่ีจะ พิสูจนแ์ ยกแยะให้ ไดค้ วามคิดเห็นท่ีดีท่ีสุด ดงั น้นั คนเราจึง ตอ้ งแสวงหาและเปิ ดประตูสู่ ความคิดไมว่ า่ จะเป็นจากการ อ่าน การสงั เกตและการทางานร่วมกนั

หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ ใบเนือ้ หา หน้าท่ี ช่ือวชิ า : การเป็นผปู้ ระกอบการ แผ่นท่ี : 15 71 หน่วยท่ี 1 : การพฒั นาคุณลกั ษณะผปู้ ระกอบการ เร่ือง/งาน : 1.3 การพฒั นาตนเองสู่การเป็นผปู้ ระกอบการ ท่มี า : https://yupawanthowmuang. 3 . การพสิ ูจน์แยกแยะให้ได้ความคดิ เห็นทด่ี ที ีส่ ุด wordpress.com การคิดแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรคน์ ้นั มกั ตอ้ งใชว้ ธิ ี แกป้ ัญหา ท่ีมา : http://game.sanook.com หรือคาตอบท่ีดีกวา่ หรือมากกวา่ วิธีการ แกป้ ัญหาหรือคาตอบท่ีไดม้ า คร้ังแรกเพยี งอยา่ งเดียว เพราะความคิดเห็นและขอ้ มูลท่ีสาคญั ๆน้ันมี อยอู่ ยา่ ง มากมาย จึงจาเป็นท่ีจะตอ้ งพยายามให้ไดม้ าซ่ึงความ คิดเห็น ท่ีดีที่สุดโดยการแยกแยะและคดั เลือกออกมา เพือ่ ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ที่ดีที่สุด 4 . การเปลยี่ นความคดิ เหน็ ให้เป็ นการกระทา จุดมุ่งหมายสาคญั ของการแกป้ ัญหาก็คือการ เปลี่ยนแปลง ความคิดเห็นไปสู่การปฏบิ ตั ิจริง คนส่วน ใหญ่มีความคิดสร้างสรรค์ แต่ไมเ่ คยนาไปสู่การ ปฏบิ ตั ิ ซ่ึงกระบวนการคิดสร้างสรรคน์ ้นั ไม่ได้ จบลงแค่ คิดในใจ การเปล่ียนความคิดไปสู่การปฏิบตั ิน้ันตอ้ ง เอาชนะอปุ สรรคหลายอยา่ ง เช่นความไม่มนั่ ใจใน ตวั เอง ความขลาด กลวั และต้องมีความมุ่งมนั่ เด็ดเด่ียว ในความเพียรไม่ว่าจะใช้ เวลานานสกั เท่าใด ก็จะไม่ แปรเปล่ียนความคิดสร้างสรรคท์ ่ีไดเ้ พราะ ตวั เป็นรูปร่าง และติดตามจนกระทงั่ เกิดความสมบรู ณ์ในทางปฏบิ ตั ิ