พลังงานทดแทน

พลังงาน ทดแทน

พลังงานทดแทน หมายถึง พลงั งานท่ไี ดม้ าจากกระบวนการทางธรรมชาติ เช่น แสงอาทิตย์ ลม ความร้อนใต้พิภพ พลังงานน้า พลังงานชวี ภาพ และพลังงานจากมหาสมุทร

พลังงานทดแทนมี 6 ประเภท 01 พลังงานชวี มวล 04 พลังงานคลน่ื 02 พลังงานความร้อนใตพ้ ภิ พ 05 พลังงานแสงอาทิตย์ 03 พลงั งานน้า 06 พลังงานลม

พลงั งานชวี มวล หมายถึง พลังงานท่ีได้มาจากการน้าชีวมวล มาใช้เป็นเชือเพลิงโดยตรง หรือผ่าน กระบวนการแปรรูปเปน็ ของเหลวและกา๊ ซ

ชีวมวล คือ สารอินทรีย์ท่ีเป็นแหล่งกักเก็บพลังงานจาก ธรรมชาติและสามารถน้ามาใช้ผลิตพลังงานได้ สารอินทรีย์เหล่านีได้มาจากพืชและสัตว์ต่าง ๆ เช่น เศษไม้ ขยะ วสั ดุเหลอื ใชท้ างการเกษตร

กระบวนการแปรรูปพลงั มี4แบบ คอื 1 การเผาไหมโ้ ดยตรง คือ เมื่อนา้ ชวี มวลมาเผา ความรอ้ นทไี่ ด้จากการเผาสามารถ น้าไปใชใ้ นการผลติ ไอน้าที่มีอณุ หภูมิและความดันสูง ไอนา้ นี จะถกู น้าไปขับกงั หนั ไอน้าเพ่ือผลติ ไฟฟา้ ตอ่ ไป 2 การผลติ กา๊ ซ คือ เป็นก๊าชเชือเ พลิ ง เรียกว่า ก๊าชชีวภาพ มี อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ข อ ง ก๊ า ช มี เ ท น ไ ฮ โ ด ร เ จ น แ ล ะ คารบ์ อนมอนอกไซด์ สามารถนา้ ไปใช้กบั กงั หนั ก๊าช

3 การหมัก คือ การน้าชีวมวลมาหมักด้วยแบคทเี รยี ในสภาวะไรอ้ ากาศ ชีวมวลจะถูกยอ่ ยสลายและแตกตัว เกิดก๊าชชีวภาพ ที่มอี งคป์ ระกอบ ของกา๊ ชมีเทนและคารบ์ อนไดออกไซด์ กา๊ ชมเี ทนใชเ้ ป็นเชอื เพลงิ BRANDIG

4 การผลติ เชอื เพลงิ เหลวจากพืช มีกระบวนการทใ่ี ชผ้ ลิตดงั นี 4.1 กระบวนการทางชวี ภาพ ADAPTABILITY 4.2 กระบวนการทางฟิสิกสแ์ ละเคมี 4.3 กระบวนการใชค้ วามรอ้ นสงู

พลงั งานความร้อนใตพ้ ิภพ หมาถึง พลังงานที่สามารถน้ามาผลิตพลังงานไฟฟ้า คอื พพลลงั งังานงทาี่สนามคาวรถานมามรา้อผลนติ พทลงี่ัมงาีคนาไฟรฟ์บา้ อพนลงัตงา้่านคโวดามยรเอ้ ปน็นทก่ีมีคาารรบ์ผอลนิตต่า โดย เป็นกพารลผังลติงพาลนงั งทาไี่นดท่ีไม้ ดาม้ าจจาากกนนา้ ท้าี่มทอี ม่ี ณุ อี หณุภมู หสิ งู ภูมิสูง กระบวนการแปรรปู พลังงาน โดย ใชก้ ังหนั ไอนา้ แปลงพลงั งานความรอ้ นในนา้ รอ้ นหรือ พโดภิ ยไพใอชเปก้น็นงั า้หกรนัจะไาแอสกนไา้แฟแฟหปา้ลลงง่พลคงั วงาานมครวา้อมนรอ้ ในตใน้พนภิา้ รพอ้ นเหปรน็ือไกอนรา้ะจแากสแไหฟลง่ฟคว้าามรอ้ นใต้

พลงั งานน้า หมายถึง พลงั งานทไี่ ดม้ าจากการปนั่ กังหันนา้ โดยใชก้ ารไหลของน้า ซง่ึ อาจเป็นน้าจากแหลง่ นา้ ธรรมชาติ เช่น แหลง่ น้าท่มี นษุ ยส์ รา้ งขึนเพอ่ื กักเกบ็ นา้ หรอื แม่น้า ล้าคลอง กระบวนการแปรรูปพลังงาน โดยอา่ งเกบ็ นา้ จะปลอ่ ยน้าเพ่ือให้น้าไหลผ่านใบพดั ท่ี เครื่องก้าเนดิ ไฟฟา้ เพื่อให้ใบพดั หมุน และเม่ือใบพดั หมุนจะทา้ เกดิ การผลิตไฟฟ้า

พลงั งานคล่ืน หมายถงึ พลังงานท่ีได้จากคลน่ื ของมหาสมุทร ปรมิ าณพลังงานคล่นื ท่มี ากน้อยขึนอยู่กบั ความเร็วคล่ืน ความสงู ของคล่ืน ความยาวคล่ืน และความหนาแน่นของน้า กระบวนการแปรรูปพลงั งาน โดย อาศัยอุปกรณ์ท่ีติดตัง พลังงานจากคล่ืน มาใช้โดยตรง ซ่ึงท้าการแปลงจากการ เคล่ือนไหวแนวตังของคล่ืนและการพองตัว ของฟองอากาศไปผลักให้เคร่ืองก้าเนิดไฟฟ้า หมุน

พลังงานแสงอาทติ ย์ หมายถงึ พลงั งานทไ่ี ด้มาจากการแปลงแสงแดดให้อยูใ่ นรูปพลงั งานทส่ี ามารถใช้งานได้ เชน่ น้าไปผลิตไฟฟ้า พลังงานแสงอาทติ ย์ โดยเทคโนโลยพี ลงั งานแสงอาทติ ยผ์ ลติ กระแสไฟฟ้า กระบวนการแปรรูปพลงั งาน ผลติ ไฟฟ้าดว้ ยเซลลแ์ สงอาทติ ย์ คือ การแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า โดยตรง เทคโนโลยผี ลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ที่ ได้รบั การยอมรับมากที่สุด

พลังงานลม กระบวนการแปรรูปพลงั งานพลงั งาน โดยน้าการเคลื่อนไหวของลมเพอื่ นา้ มาใช้กังหันลมหมนุ หมายถึง ซ่ึงสะอาดและบริสุทธ์ิใช้แล้วไม่มีวันหมดสินไปจากโลก ได้รับความสนใจน้ามาพัฒนาให้เกิด ประโยชนอ์ ย่างกว้างขวาง ในขณะเดียวกัน กังหันลมก็เป็นอุปกรณ์ชนิดหน่ึงที่สามารถน้าพลังงานลมมาใช้ ให้เป็นประโยชน์ได้ โดยเฉพาะในการผลิตกระแสไฟฟ้า และในการสูบน้า ซ่ึงได้ใช้งานกันมาแล้วอย่าง แพร่หลายพลังงานลมเกิดจากพลังงานจากดวงอาทิตย์ตกกระทบโลกท้าให้อากาศร้อน และลอยตัว สูงขึน อากาศจากบริเวณอ่ืนซึ่งเย็นและหนาแน่นมากกว่าจึงเข้ามาแทนท่ี การเคลื่อนท่ีของอากาศเหล่านี เป็นสาเหตุให้เกิดลมและมีอิทธิพลต่อสภาพลมฟ้าอากาศในบางพืนท่ีของประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวฝ่ังทะเลอันดามันและดา้ นทะเลจนี (อ่าวไทย)มีพลังงานลมท่ีอาจน้ามาใช้ประโยชน์ในลักษณะพลังงาน กล (กังหันสบู นา้ กังหันผลติ ไฟฟา้ ) ศกั ยภาพของพลังงานลมที่สามารถน้ามาใช้ประโยชน์ได้ส้าหรับประเทศ ไทยมคี วามเร็วอยู่ระหว่าง 3 - 5 เมตรต่อวินาที และความเข้มพลังงานลมท่ีประเมินไว้ได้อยู่ระหว่าง 20 - 50 วัตตต์ อ่ ตารางเมตร