42ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากท่ีเสด็จข้ึนเสวยราชสมบัติแล้วในปี พ.ศ. 2489 ทานองเพลงอันเรียบง่ายที่อาศัยการดาเนินเสียงประสานของคอร์ดบลูส์ จานวน 12 ห้อง ซ่ึงเรียกว่า \"Blues Progression\" เป็นหลักสาคญั ในการพระราชนิพนธเ์ พลงประเภทน้ี นอกจากน้ียังมีเพลงท่ีทรงพระราชนิพนธ์ในช่วงนี้อีก คือ \"ดวงใจกับความรัก\" และ \"อาทิตย์อับแสง\"ซ่ึงมีลักษณะท่วงทานองท่ีต่างไปจากบลูส์รุ่นแรก ๆ คือ ทรงเปล่ียนทานองให้ระดับเสียงมีช่วงกว้างข้ึน และทรงพระราชนพิ นธใ์ ห้ทานองมีลีลาเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับผู้ประพนั ธค์ าร้องภาษาไทยใสค่ าร้องได้อย่าง \"นา่ รกั \" ทาให้เพลงท้ังสองเพลงน้ีมี \"ชวี ิตชวี า\" เพิ่มข้นึ และแตกตา่ งจากเพลงไทยสากลในยุคเดยี วกัน บทเพลงพระราชนิพนธ์ \"สายฝน\" เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการท่ีทรงมีจินตนาการสร้างทานองให้แตกต่างกันหลายประเภทได้อย่างไพเราะไม่ซ้าแบบผู้ใด และการท่ีเลือกใชล้ ีลาทสี่ งา่ งามแตอ่ อ่ นโยนของจังหวะวอลซ์ ทาให้ \"สายฝน\" ซ่ึงเป็นบทพระราชนพิ นธล์ ลี าวอลซเ์ พลงแรก ตดิ อันดบั เพลงลลี าศยอดนิยมของเมอื งไทยในยุคน้ันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเลา่ ถึงความลบั ของเพลงสายฝนดงั น้ี \"... เมื่อแต่งเป็นเวลา 6 เดือน หม่อมเจ้าจักรพันธ์ฯ ได้เขียนจดหมายมาถึง บอกว่ามีความปลาบปลื้มอย่างหนึ่ง เพราะไปเชียงใหม่ เดินไปตามถนนได้ยินเสียงคนผิวปากเพลงสายฝน ก็เดินตามเสียงไปเข้าไปในตรอกซอยแห่งหน่ึง ก็เห็นคนกาลังซักผ้าแล้วก็มีความร่าเริงใจ ผิวปากเพลงสายฝนและก็ซักผ้าไปด้วย ก็นับว่าสายฝนนี้มีประสิทธิภาพสูงซักผ้าได้สะอาด...ท่ีจริงความลับของเพลงมอี ย่างหน่ึง คือเขียนไป 4 ชว่ ง แล้วก็ ช่วงที่ 1 ท่ี 2 ท่ี 3 ที่ 4 เสร็จแล้วเอาช่วงท่ี 3 มาแลกช่วงที่ 2 กลับไป ทาให้เพลงนี้มีลีลาต่างกันไป... เป็น 1 3 2 4...\" เพลงพระราชนิพนธ์ลีลาวอลซ์อ่ืน ๆ คือ \"เทวาพาคู่ฝัน\" \"แก้วตาขวัญใจ\" \"ลมหนาว\" \"ค่าแล้ว\" และ\"ความฝันอันสูงสุด\" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีความรู้อย่างแตกฉานในทฤษฏีการประพันธ์ ทรงเป็นผู้นาในดา้ นการประพันธท์ านองเพลงสากลของเมืองไทย โดยใส่คอร์ดดนตรีที่แปลกใหม่และซับซ้อน ทาให้เกิดเสียงประสานที่เข้มข้นในดนตรี เมื่อประกอบกับลีลาจังหวะเต้นราที่หลากหลาย ทาให้บทพระราชนิพนธ์บรรเลงได้อย่างไพเราะ หลายบทกลายเปน็ เพลงอมตะของไทยในปัจจุบนั นอกจากนี้ยังทรงมีจินตนาการสร้างสรรค์ที่ไม่ซ้าแบบผู้ใด และแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา เพลงพระราชนิพนธ์ \"มหาจุฬาลงกรณ์\" ซึ่งเปน็ บทเพลงพระราชนิพนธบ์ ทแรก ท่ีพระราชทานเปน็ เพลงประจามหาวิทยาลัยนั้น แสดงถงึ พระปรชี าสามารถ ในจนิ ตนาการสร้างสรรคน์ ี้ ก่อนเสด็จฯ นิวัติพระนคร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้ระบบการประพันธ์แบบสิบสองเสียง(Chromatic Scale) ซึ่งเป็นประเพณีที่นิยมกันทางตะวันตกเพราะถือว่าสามารถสร้างสีสันของเสียงดนตรีได้มากมาย โดยการใส่คอร์ดต่าง ๆ อยา่ งสลบั ซับซ้อนและสามารถจาไดย้ ากจึงทรงเลือกประพนั ธ์ทานองเพลงใหม่โดยใช้ระบบห้าเสียง (Pentatonic Scale) ซึ่งเปน็ ระดับเสียงท่ีเรียบง่าย และมักจะพบในทานองเพลงพ้ืนบ้านเป็นการพสิ ูจนว์ า่ แม้ระบบบันไดเสยี งทเ่ี รียบงา่ ยกอ็ าจประพันธ์ทานองใหไ้ พเราะได้ ทรงเรียบเรยี งทานองเพลงที่จาได้ง่ายแต่มีระเบียบและมีความสมดุลกันเป็นอย่างดี ด้วยระบบบันไดเสียงท่ีเรียบง่ายและด้วยลีลามาร์ชที่หนักแน่น ดังนี้เมื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกราบบังคมทูลขอพระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์เป็นเพลง
43ประจามหาวิทยาลัย จึงได้พระราชทานทานองเพลงน้ี และให้ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้ประพันธ์คาร้อง \"มหาจุฬาลงกรณ์\" จึงเป็นเพลงประจามหาวิทยาลัยท่ีมีท่วงทานองงามสง่า มีจังหวะหนักแน่น มีความศักดิ์สิทธ์ิสมเป็นเพลงประจามหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ท่ีสุดแห่งหน่ึงของชาติ ซึ่งมีกาเนิดจากพระราชดาริของสมเด็จพระปิยมหาราช องค์สมเดจ็ พระอยั ยกาธิราชในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั หลังจากท่ีพระราชทานเพลงประจามหาวิทยาลัยให้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว จึงได้ทรงพระราชนิพนธ์เพลงเพื่อพระราชทานมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต่อมาตามลาดับดังปรากฏในพระราชดารสั ดังตอ่ ไปน้ี \"...เรื่องเพลงท่ีแต่งข้ึนใหม่น้ีต้องขอชี้แจงไว้นิด ฟังแล้วอาจจะตกใจ เพราะว่าเพลงที่ประจามหาวิทยาลัยในเมืองไทยเดี๋ยวน้ี ก็มีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วก็ของธรรมศาสตร์ที่ได้ให้ทั้งสองเพลงนี้กับเพลงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นี้ ต้องบอกว่ายาวเท่ากัน ไม่ต้องอิจฉาว่าของเขายาวกว่าหรือส้ันกว่า ยาวเท่ากัน แล้วก็การสร้างเพลงนี้ก็สร้างในแบบเดียวกัน ไม่ตอ้ งตอ้ งอิจฉาอะไร แล้วก็บอกว่าชอบ ถ้าไม่ชอบก็ไม่รู้จะทาอย่างไร อาจจะแก้ไข อย่างไรก็ตามแต่ก็มีอย่างหน่ึงคือ เพลงของจุฬาฯ เขาก็บอกว่าเพลงของเขาเพราะที่สุด ถ้าไปถามชาวธรรมศาสตร์ ว่าเพลงไหนเพราะท่ีสุด เขาก็บอกว่า เพลงธรรมศาสตร์ แล้วก็ถ้าถามพวกเกษตรน่ากลัวบอกเพลงเกษตรเพราะกว่า ก็เลยไม่รู้วา่ จะทาอย่างไรนะ แตว่ ่าเพลงของจุฬาฯ เขาโออ้ วดวา่ สงา่ผ่าเผยมาก แลว้ ก็เพราะมาก ถา้ พูดถงึ เพลงธรรมศาสตร์เขากบ็ อกว่า องอาจดี เดินก็ได้ จุฬาฯ เขากต็ อบว่า ของเขาก็เดินได้เหมือนกัน เปน็ เพลงสาหรับนาแถวได้ เพลงของเกษตรน้ีก็ท่ีจริงก็ควรจะตดั สินเอาเองว่า เป็นยังไงแต่ความคิดส่วนตัวของผู้แต่ง รู้สึกว่าเป็นเพลงท่ีอ่อนหวาน อ่อนหวานกว่าเพลงโน้น แต่อ่อนหวาน นี่ไม่ได้หมายความวา่ ไมเ่ ข้มแข็ง แต่อ่อนหวานนอี่ าจจะมีความหมายไดว้ า่ ผลิตผลของทางการเกษตรรวมทง้ั ผลไมห้ รือสิ่งที่บริโภค ถ้ารสหวาน รู้สึกว่าดี เพราะว่าเขานิยมกันอย่างนั้น ข้าวโพดหวานเขาก็ชอบ ก็เลยคิดว่า เพลงหวานไม่เป็นไร แต่ถ้านาไปเดินสาหรับนาแถวก็อาจจะได้เปล่ียนแปลงไปหน่อย ก็อาจจะเปน็ เพลงสาหรับแตรวงเดินก็อาจจะพอได้ แตข่ ออยา่ งเดียวอยา่ เดนิ ขบวน...\" รูปท่ี 166 ภาพขณะทรงแซกโซโฟนดว้ ยชดุ ลาลอง ที่มา http://nextoptim.com/script/packcpm.php?csid สบื คน้ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2560 \"ความฝนั อันสูงสดุ \" อาจกล่าวได้ว่าเป็นบทเพลงพระราชนพิ นธท์ ี่ไพเราะยิ่งบทหนึ่ง มลี ักษณะพเิ ศษคือเป็นเพลงพระราชนิพนธ์บทแรกท่ีทรงแต่งทานองภายหลังเพื่อใส่ในบทประพันธ์กลอนแปด ทานองเพลงพระราชนิพนธ์น้ีเสริมให้บทกลอนมีคุณค่า และงดงามประทับใจมากยิ่งข้ึน เนื่องจากภาษาไทยเป็นภาษาที่มีเสียงวรรณยุกต์ถึงห้าระดับเสียง การแต่งเพลงไทยจึงเป็นเร่ืองยากลาบาก เพราะจะต้องให้ได้ท่วงทานองท่ีไพเราะและยังรักษาเนื้อหาที่สาคัญของคาร้องในขณะเดียวกัน ถ้าทานองและเสียงวรรณยุกตไ์ ม่ตรงกัน จะทาให้เสียง
44เพ้ียนผิดความหมาย ร้องยากและฟังไม่ชัดเจนอีกด้วย การท่ีทรงพระราชนิพนธ์ทานองน้ีในระยะหลังขณะท่ีทรงมีพระราชกิจมากมายนี้แสดงถึงพระวริ ยิ ะอุตสาหะยง่ิ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเลือกพระราชนิพนธ์ทานองเพลงในกุญแจเสียงซีธรรมชาติ ซึ่งเป็นระดับเสียงพื้นฐาน ทาให้เพลงมีความหนักแน่น ทรงละท่ีจะใช้เสียงครึ่งตามแนวดนตรีตะวันตกตามที่เคยทรงนิยมปฏิบัติ \"ความฝันอนั สูงสุด\" จึงเปน็ เพลงพระราชนพิ นธส์ าหรบั แตล่ ะวรรคของกลอนทัง้ ห้าบท ยังเปล่ยี นไปทาให้แต่ละวรรคมีทานองที่แตกต่างและไม่ซ้ากันแม้แต่วรรคเดียว การที่ทรงจินตนาการสร้างทานองเพลงใหม่ข้ึนไดโ้ ดยมิตอ้ งแกไ้ ขบทประพันธเ์ ดิมนนั้ เปน็ เครอ่ื งแสดงถงึ พระปรีชาสามารถในการพระราชนพิ นธ์\"ความฝันอันสงู สุด\" เปดิ เสยี งดนตรีด้วยโนต้ ซสี งู เปน็ ความหวงั อันสดใสของเพลงน้ี\"ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเช่ือ ขอสู้ศึกทุกเมื่อไม่หวั่นไหว ขอทนทุกข์รุกโรมโหมกายใจ ขอฝ่าฟันผองภัยด้วยใจทะนง\" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสาคัญตอ่ ลักษณะพิเศษของเสียงวรรณยุกตท์ ่ีมีในภาษาไทยดังจะเห็นได้จากการท่ีทรงเลือกใช้ตัวโน้ตที่มีเวลาตรงกับพยางค์ของคาร้อง ท้ังยังทรงเน้นโน้ตเสียงเพลงให้เหมาะสมกบั เสียงของคา เชน่ คาตาย ทาให้เสียงดนตรีมีความหมายหนักแน่นขึน้ เป็นพิเศษหรือทรงเลือกใช้ ตวัโน้ตให้ตรงกับเสียงวรรณยุกต์ เช่น เสียงจัตวาท่ีมีในภาษาไทยอีกด้วย ดังนั้นจึงทาให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกถึงเอกภาพของคาร้องและทานองได้ไม่รู้ตัว เอกภาพนี้คือศิลปะสาคัญที่เกิดจากจินตนาการและพรสวรรค์ส่วนพระองคอ์ ันยากทีจ่ ะหาผู้ใดเทยี มได้ เป็นท่ีน่าสังเกตว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเลือกใช้ลีลาจังหวะวอลซ์สาหรับเพลงที่มีเน้ือหาปลุกใจประเภทนี้ แต่ผลปรากฏว่าทาให้เกิดบรรยากาศที่สงบน่ารื่นรมย์ สาหรับผู้ท่ีมีอุดมคติที่จะบาเพ็ญตนเพ่ือสาธารณประโยชน์.. เป็นความฝันอันสูงสุด เสียงเพลงพระราชนิพนธ์บทนี้ย่อมเตือนสติแก่ผู้ร้องได้เป็นอย่างดี ในการใชป้ ัญญาเพ่ือฟันฝ่าอุปสรรคนานาประการ ดว้ ยเน้ือหาและทานองดงั กล่าว เพลงพระราชนิพนธ์บทนจ้ี ึงเปน็ ท่ีแพร่หลายและกลายเป็นเพลง ท่ีเรียกวา่ \"เพลงเพ่อื ชีวติ \" ท่สี มบรู ณ์ย่งิ บทหน่งึ ในยุคท่ีมีการตนื่ ตัวในทางสังคมและการเมืองของประเทศ สาหรับนิสิตนักศึกษาท่ีทางานพัฒนาออกค่ายอาสาสมัครของมหาวิทยาลัย และข้าราชการทหารตารวจท่ีปฏิบัติหน้าที่ตามชายแดนนั้น เสียงร้องของเพลงพระราชนิพนธ์ที่ดังกังวานทา่ มกลางความมดื ทเี่ งียบสงบ \"ความฝันอนั สงู สดุ \" ยอ่ มมคี วามหมายลึกซ้ึงและซาบซ้งึ ใจ องคบ์ รมราชปู ถมั ภกด้านดนตรี นอกจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเป็นศิลปินผู้เพียบพร้อมด้วยพระปรีชาสามารถในการสร้างสรรค์ศิลปะด้านดนตรีแล้ว ยังทรงเป็นองค์บรมราชูปถัมภกทางดนตรีอีกด้วย ทรงส่งเสริมท้ังดนตรีไทยและสากล และมพี ระมหากรณุ าธิคณุ แก่ศลิ ปินดนตรอี ย่างท่ัวหน้า ทางด้านดนตรีไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นวา่ วิชาดนตรีไทยเป็นศิลปะท่ีสาคัญของชาติสมควรท่ีจะได้รวบรวมเพลงไทยเดิมต่าง ๆ ไว้มิให้เส่ือมสูญและผันแปรไปจากหลักเดิม โดยมีการบันทึกโน้ตเพลงให้ถูกต้องและจัดพิมพ์ข้ึนไว้เป็นหลักฐาน เพราะในการบันทึกแนวเพลงเป็นโน้ตสากลแต่เดิมนั้น ยังมิได้มีการบันทึกไว้อย่างครบถ้วนและจัดพิมพ์ให้เป็นการสมบูรณ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมศิลปากรรับเร่ืองนีไ้ ปดาเนนิ การ ทรงสละพระราชทรพั ย์ส่วนพระองค์ในการจดั พมิ พโ์ นต้ เพลงไทยชดุ นี้ เป็นการ
45รักษาศิลปะดนตรีอันสาคัญของไทยไว้มิให้เส่ือมสูญ และยังเป็นการเผยแพร่วิชาดนตรีของไทยออกไปในหมู่ประชาชนผู้สนใจ ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายย่ิงขึ้นอีกด้วย นอกจากนั้นยังทรงรเิ ร่ิมใหม้ ีการวจิ ัยเกี่ยวกับดนตรีไทยในด้านบันไดเสียงของเคร่ืองดนตรีไทยประเภทต่าง ๆ เช่น ความแตกต่างระหว่างบันไดเสียงของเคร่ืองสายและบนั ไดเสียงของระนาด ฯลฯ เป็นตน้ ซงึ่ ผเู้ ชีย่ วชาญทางดนตรกี าลงั ดาเนินการอยใู่ นขณะนี้ นอกจากน้ียังทรงริเร่ิมให้มีการบรรเลงเพลงไทยที่เรียบเรียงข้ึนจากเพลงสากล โดยโปรดเกล้าฯ ให้นายเทวาประสิทธ์ิ พาทยโกศล นาทานอง \"มหาจุฬาลงกรณ์\" มาแต่งให้เป็นแนวไทย นายเทวาประสิทธ์ิ ได้อัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์นี้มาดัดแปลงเพื่อใช้บรรเลงด้วยวงปี่พาทย์ถึง 2 คร้ัง ภายหลังจึงปรับปรุงเป็นเพลงโหมโรงในการบรรเลงดนตรีไทยของชมรมดนตรีไทย สโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นับว่าเป็นเพลงไทยเพลงแรกท่ีประดิษฐ์ข้ึนมาจากเพลงไทยสากล ตามพระราชดาริในการสร้างสรรค์และส่งเสริมดนตรีไทยและเปน็ การแสดงว่าดนตรไี ทยสามารถววิ ัฒนาการไปตามกาลเวลาอยา่ งไมห่ ยุดยงั้ภาษาดนตรี : สมั พันธไ์ มตรีระหวา่ งชาติ รปู ท่ี 47 ภาพบรมฉายาลกั ษณท์ ่สี โมสรนสิ ิตจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ทมี่ า http://oknation.nationtv.tv/blog/political79- สืบค้นเมอ่ื 16 พ.ย. 2560 \"Alexandra Welcome to thee Here in this land of sunshine and of flowers. May ye be blessed by the blessing The has made our country happy\" \"Alexandra\" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปรารภว่าดนตรีเป็นภาษาสากลที่สามารถขจัดอุปสรรคทางภาษา วัย ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เพราะภาษาดนตรีสามารถส่ือความหมายให้คนเข้าใจเป็นอย่างเดียวกันได้ ดนตรีจึงเป็นสื่อท่ีทาให้เกิดความเข้าใจท่ีดีต่อกันแม้ว่าเป็นคนละชาติ คนละภาษา หรือต่างศาสนา ด้วยเหตุนี้จึงทรงใช้ดนตรีเป็นส่ือในการเช่ือมความเข้าใจและความสัมพันธ์ทางความรู้สึกที่แน่นแฟ้นลึกซ้ึงระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์และนักศึกษา โดยที่เสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์ไปทรงดนตรี ณ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อเป็นโอกาสที่จะทรงมีพระราชปฏิสันถารกับบรรดานิสิตนักศึกษาอย่างใกล้ชิดและเปน็ กันเอง ในระดับชาติน้ันพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวทรงประสบความสาเร็จในการใช้ดนตรีเป็นภาษาสากลเพ่ือเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างประเทศได้อย่างงดงาม ดังเห็นได้จากการที่เสด็จพระราชดาเนินไปเยือนต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2503 ไดเ้ สด็จฯ ไปเสวยพระกระยาหารค่าณ วอชงิ ตันเพลส ซึง่ รฐั บาลฮาวายจัดถวาย ทางฝ่ายเจา้ ภาพเม่อื ไดท้ ราบวา่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรง
46มีพระปรีชาสามารถพเิ ศษด้านดนตรี จึงได้กราบบงั คมทูลเชิญเสดจ็ ฯ ให้ทรงร่วมบรรเลงดนตรีกับวงดนตรีที่จัดมาแสดงถวายหน้าพระที่นั่ง โดยเตรียมเครื่องดนตรีคลาริเน็ตไว้ถวายให้ทรงเล่นด้วย หลังจากท่ีทรงได้รับการ\"คะยั้นคะยอหนกั ข้ึน\" จากทั้งเจ้าภาพ นักดนตรี และผู้ร่วมงาน พรอ้ มกับเสียงปรบมอื ไม่หยุด จึงทรงรบั เชญิ ข้ึนไปทรงเล่นดนตรีพระราชทาน 2 เพลง แม้ว่าจะมิได้เตรียมพระองค์มาก่อน เหตุการณ์นี้เป็นท่ีประทับใจแก่ผู้ร่วมงานในวันน้ันอย่างยิ่งเพราะชาวอเมริกันชอบ \"ความเป็นกันเอง\" เช่นน้ีมาก และเม่ือเสด็จฯ ต่อไปยังนครนิวยอร์ค ก็ได้เสด็จไปทรงดนตรีร่วมกับวงดนตรีของ นายเบนน่ี กู๊ดแมน (Benny Goodman) นักดนตรีฝีมือเยี่ยมระดับโลก เม่ือคราวเสด็จฯ เยือนประเทศฟิลิปปินส์ ในปีพุทธศักราช 2506 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ได้ร่วมทรงดนตรีกับสมาชิกวุฒิสภาของฟิลิปปินส์ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงมะนิลา พระปรีชาสามารถในครั้งนั้นสร้างความประทับใจให้กับชาวฟิลิปปินส์ เป็นการช่วยกระชับสัมพันธไมตรีกับประเทศเพ่ือนบ้านให้แน่นแฟ้นยิ่งข้ึนกรงุ เวยี นนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งมีช่ือว่าเปน็ แหลง่ กาเนิดของนักดนตรีท่ีสาคญั และคีตกวีเอกของโลก ได้ยกย่องพระปรีชาสามารถด้านการดนตรีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยเฉพาะ คือ เม่ือคร้ังท่ีเสด็จฯ เยือนประเทศสาธารณรัฐออสเตรียอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2507 วงดุริยางค์ซิมโฟนีออเคสตร้า ควบคุมโดย ไฮน์ วัลลเบอร์ก แห่งกรุงเวียนนาได้อัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ ชุด \"มโนราห์\" \"สายฝน\" \"ยามเย็น\" \"มาร์ชราชนาวิกโยธิน\" และ \"มาร์ชราชวลั ลภ\" ไปบรรเลง ณ คอนเสิร์ตฮอลล์ กรุงเวยี นนา เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2507 พร้อมกันนี้สถานีวิทยุกระจายเสียงของรัฐบาลออสเตรียได้ส่งกระจายเสียงเพลงและเสนอข่าวนี้ไปทั่วประเทศ หลังจากน้ันอีก 2 วัน คือวันท่ี 5 ตุลาคม พ.ศ. 2507 สถาบันดนตรีและศิลปะแห่งกรุงเวียนนาได้ถวายพระเกียติให้ดารงตาแหน่งสมาชิกกิตติมศักด์ิ หมายเลขที่ 23 ดังปรากฏพระปรมาภไิ ธยจารึกบนแผ่นหินอ่อนของสถาบันอนั เก่าแกข่ องยโุ รปนี้ ประธานสถาบนั ไดก้ ล่าวสดดุ พี ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฐานะท่ีทรงเป็นผู้สร้างสัมพันธ์อันดียิ่งระหว่างดนตรีตะวันออกกับตะวันตก และทรงพระราชนิพนธ์เพลงด้วยพระปรชี าสามารถ นบั เปน็ คร้ังแรกที่พระมหากษัตริยแ์ หง่ ทวีปเอเชยี ทรงมีบทบาทสาคัญยิง่ ณศูนย์กลางแห่งการดนตรีในทวีปยุโรป ทรงเป็นชาวเอเชียพระองค์แรกที่ทรงได้รับการถวายพระเกียรติให้ดารงตาแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ขณะที่ทรงมีพระชนมพรรษาเพียง 37 พรรษา พสกนิกรชาวไทยทุกคนไม่เพียงแต่ชนื่ ชมในพระเกียรติยศทางดนตรีท่ีทรงได้รับจากนานาประเทศเท่านั้น แตย่ ังภาคภูมิใจในความสาเร็จจากการเสดจ็ พระราชดาเนินกระชับสมั พันธไมตรีระหวา่ งประเทศดว้ ย รูปท่ี 48 ภาพเอกสารท่ศี นู ยก์ ลางแห่งการดนตรีในทวปี ยุโรปถวายพระเกยี รติใหด้ ารงตาแหนง่ สมาชกิ กติ ติมศักด์ิ ที่มา http://oknation.nationtv.tv/blog/nucha888/gallery/8155 สืบคน้ เมอ่ื วันท่ี 16 พ.ย. 2560อคั รศลิ ปิน
47 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราโชวาทว่า การดนตรีเป็นศิลปะอย่างหนึ่งท่ีสามารถกอ่ ให้เกิดความปติ ิ ความสุข ความยินดี ความพอใจได้มากท่สี ุด หน้าที่ของนกั ดนตรีนั้นคอื ทาให้ผู้ฟังเกิดความพอใจ ความครกึ คร้นื ความอดทน ความขยัน มีความเข้มแข็งและความเปน็ อันหนงึ่ อันเดียวกนั คอื นอกจากจะสร้างความบันเทิงแล้ว ควรแสดงในส่ิงท่ีจะเป็นไปในทางสร้างสรรค์ เช่น ชักนาให้คนเป็นคนดีด้วย และมีพระราชกระแสยา้ วา่ \"...ฉะนั้น การดนตรีน้จี ึงมคี วามสาคญั ตอ่ ประเทศชาตสิ าหรบั สงั คม ถา้ ทาดี ๆ กจ็ ะทาให้คนมีกาลงั ใจท่ีจะปฏิบัติงานการก็เป็นหน้าที่ส่วนหน่ึงที่ให้ความบันเทิง ทาให้คนที่กาลังท้อใจมีกาลังใจขึ้นมาได้ คือเร้าใจได้คนกาลังไปทางหน่ึงทางที่ไม่ถูกตอ้ ง ก็อาจจะดึงกลับมาในทางท่ีถูกตอ้ งได้ ฉะนั้นดนตรีก็มีความสาคัญอย่างยิ่งจงึ พูดได้กับท่านท้งั หลายทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั ดนตรใี นรูปการณ์ต่าง ๆ วา่ มีความสาคญั และตอ้ งทาให้ถูกต้อง ตอ้ งทาให้ดที ั้งถูกตอ้ งในหลักวิชาการดนตรีอย่างหน่ึงและถูกต้องตามหลักวิชาของผู้ท่ีมีศีลมีธรรมมีความส่ือสัตย์สุจริตก็จะทาให้เป็นประโยชน์อย่างมาก เป็นประโยชน์ทั้งต่อส่วนรวมทั้งส่วนตัว เพราะก็อย่างที่กล่าวว่า เพลงน้ีมันเกิดความปีติภายในของตัวเองได้ ความปีติในผู้อ่ืนได้ ก็เกิดความดีได้ความเสียก็ได้ ฉะนั้นก็ต้องมีความระมดั ระวังให้ดี\" พระบรมราโชวาทดังกล่าวเป็นการส่งเสริมนักดนตรีให้ช่วยกันจรรโลงสังคมด้วยผลงานในเสียงดนตรีสร้างสรรค์งานศิลปะให้เป็นประโยชน์แกป่ ระเทศชาตดิ ว้ ย พระราชอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถด้านดนตรีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนับว่าเป็นอเนกอนันต์ ท้ังในด้านวิชาการ การดนตรี การพระราชนิพนธ์ การส่งเสริมและการอปุ ถัมภด์ ้านดนตรี ทั้งนี้ด้วยทรงเข้าพระราชหฤทัยอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ในศาสตร์แห่งศิลปะการดนตรี ท่ีสร้างความดีงามและความคิดสร้างสรรค์ อันเป็นประโยชน์นานัปการแก่สังคมและประชาชนชาวไทยโดยส่วนรวมอย่างเต็มเปี่ยม สมดังที่พสกนกิ รชาวไทยน้อมเกลา้ ฯ ถวายพระราชสมญั ญา \"อคั รศลิ ปิน\" โดยแท.้ ผลงานเพลงพระราชนิพนธ์ เป็นเคร่ืองพิสูจน์ได้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระปรีชาสามารถพร้อมมูลในทุกๆ ด้าน พระองค์ทรงเปน็ นักดนตรี นักประพันธเ์ พลง นักเรียบเรียงเสียงประสาน ท่ีทรงพระปรีชาสามารถอยา่ งสูงยิง่ ทรงเปน็ นกั แซกโซโฟน นักคลารเิ นต นกั ทรมั เป็ต และนกั เปยี โนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระปรีชาสามารถทางดนตรีเป็นพิเศษ ทั้งคลาริเนตและแซกโซโฟน มีนักดนตรีที่มีชื่อเสียงของโลก เดินทางมาแสดงในเมืองไทย และได้บรรเลงร่วมวงกับพระองค์ท่าน ทรงบรรเลงอย่างคตี ปฏิภาณ (Improvisation) ไดอ้ ย่างคล่องแคล่ว และฉับพลัน อาทิ เบนนี่ กูดแมน (Benny Goodman)นกั คลารเิ นต แจ๊ก ทกี าร์เดน (Jack Teagarden) ซงึ่ เปน็ นกั ระนาดฝรงั่ ลีโอเนล แฮมพ์ตนั (Lionel Hampton)นักทรอมโบน นอกจากนัน้ ยงั มแี สตน เกต็ ส์ (Stan Getz) ซึ่งเป็นนกั แซกโซโฟนเอกของโลกอีกคนหนึง่ นักดนตรีท่ีดีนั้นหายาก นักดนตรีที่ดีและประพันธ์เพลงด้วยน้ัน หายากยิ่งขึ้นไปอีกและถ้าหากจะหานกั ดนตรี นกั ประพันธ์เพลง และเป็นพระมหากษัตรยิ ด์ ว้ ยแล้ว มเี พียงพระองค์เดียวเท่าน้ัน พระบรมราโชวาทพระราชทาน เนอื่ งในงานสงั คตี มงคล คร้ังที่ 2 ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร วันพฤหสั บดีท่ี 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 ความตอนหนง่ึ วา่
48 \"...ดนตรีน้ีมีไว้สาหรับให้บันเทิง แล้วก็ให้จิตใจสบาย ดนตรีนี่คือเสียง แต่สิ่งประกอบยังมีว่า เสียงน้ันเป็นเสียงอะไร นั่นน่ะ ยังเปน็ คุณภาพของเสียง ...พวกเราเป็นนักดนตรี นักเพลง นักเก่ียวข้องกับเร่ืองศิลปะในด้านการแสดง การแสดงโดยเฉพาะดนตรี พวกเรานี่มีความสาคัญมาก ไม่ใช่น้อยสาหรับส่วนรวม เพราะว่าดนตรีนั้น เป็นส่ิงหนึ่งท่ีจะแสดงออก ซ่ึงความรู้สึกของชนหมู่หน่ึง ในที่นี้ชนคนไทยก็คือ ประชาชนคนไทยทง้ั หลาย จะแสดงความรู้สกึ ออกมา หรือจะรับความรู้สึกทีแ่ สดงออกมา กด็ ้วยดนตรี พวกเราท่ีเป็นนกั เพลงนักดนตรี จึงมีความสาคญั ยิ่ง...\" พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ชาวคณะสุนทราภรณ์ เนื่องในวาระครบรอบ 30 ปี สุนทราภรณ์ ณ พระตาหนักจิตรลดารโหฐาน เม่ือวันท่ี 20 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2512 ความตอนหนึ่งว่า\"...เดี๋ยวนี้สังเกตเห็นว่า เพลงมีทางดีและทางเสียได้ 2 อย่าง ถ้าอย่างที่ดีก็ทาให้ไม่เส่ือมเสียด้านศีลธรรม และสว่ นดีนนั้ กช็ กั จงู ให้คนประกอบอาชีพในทางถูกต้องเหมาะสม ไม่ทาลายบ้านเมือง ในส่วนเสียน้ันข้อหนึ่ง ก็คือทาให้เสื่อมเสียในศีลธรรม ข้อสองก็คือเส่ือมในความรักชาติรักประเทศ ท้ังสองอย่าง ถ้าตั้งใจทาก็ทาได้ จะทาให้ประชาชนไม่ทาลายศีลธรรม หรือทาให้มเี พลงท่ชี ่วยให้รักชาตไิ ม่ทาลายชาติ แต่วา่ มีเหมือนกันท่เี พลงทาลายบ้านเมือง และทาลายความเป็นปึกแผน่ ของบา้ นเมือง เราจึงต้องพยายาม ความพยายามน้นั ก็มไี ด้ 3 อย่างคือ 1. ตัง้ ใจดีตอ่ บา้ นเมือง ตอ่ ศิลปะ 2. เป็นสว่ นที่ตง้ั ใจรา้ ยต่อบา้ นเมือง 3. ไมด่ ไี มร่ า้ ย ทาเพยี งแตจ่ ะหากนิพวกเราอยา่ อยูอ่ ย่างพวก 2 กับ 3 การทามาหากนิ นัน้ เราก็ทา แตอ่ ย่าทาลายศลี ธรรม และอยา่ ทาลายชาติหรือศลิ ปะ...\" พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะกรรมการประกวดแผ่นเสียงทองคา ศิลปนิ นักแสดง นักวิชาการประกวดภาพยนตร์ คณะกรรมการจัดงานประกวดภาพยนตร์ ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังดุสิต วันพุธท่ี 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2518 ความตอนหนึ่งว่า \"...ศลิ ปะการดนตรี การเพลง การแสดงน้ัน เปน็ สิ่งทีส่ าคัญสาหรับบุคคลทุกคน จะเป็นในประเทศไทยหรือตา่ งประเทศทไ่ี หนก็ตาม ก็ถือวา่ ดนตรีคือการแสดง ถือว่าเพลงเป็นส่วนสาคญั เพราะเปน็ การแสดงออกมาซึ่งจิตใจท่ีมีอยู่ในตวั จิตใจนั้นจะมีอย่างไร เพลงหรือการแสดงดนตรี หรือการแสดงภาพยนตร์ แสดงละครก็ได้แสดงออกซึ่งความคิด หมายถึงความดีท่ีมีอยู่ในตัวได้ทั้งนั้น นอกจากน้ัน ก็สามารถท่ีจะแสดงความคิดในทางอนื่ ก็ได้ เช่น แม้จะลัทธิการเมือง หรือความรู้สึกในชาติบา้ นเมือง ความรู้สึกในเร่ืองของมวลมนุษย์ ก็ออกมาได้ทง้ั นัน้ อยู่ทบี่ คุ คลเท่าน้ันเองท่ีจะแสดงออกมาอย่างไร สาหรับผู้ทเี่ ป็นศิลปนิ ในด้านเพลง ในดา้ นแสดงดนตรี ในด้านแสดงละคร หรือภาพยนตร์ในประเทศไทย ข้าพเจ้าเข้าใจว่า มีจิตใจอยู่อย่างเดียวคือ อยากที่จะทาให้ประเทศชาติอยู่เป็นปึกแผ่น และเพ่ือให้ประเทศชาติ เป็นปึกแผ่นนั้นมีวิธีอย่างหน่ึง ซึ่งดีมากก็คือ แสดงว่าประเทศไทย เรามีจิตใจเป็นอนั หน่ึงอันเดียวกันหรือจะว่า มีเอกลักษณ์คือมีการแสดงออกมาได้ว่า คนไทยเรามีประเทศชาติ คนไทยเรามีประวัติศาสตร์ท่ียืนนานมานานเป็นร้อย ๆ ปี เรารักษามาได้แล้ว ก็ทาให้มีความเป็น
49ไทยอยู่ในจิตใจแท้ ๆ ความเป็นไทยท่ีมีอยู่ในจิตใจจะออกมาทางศิลปะ ...แต่ถ้าไม่ระมัดระวังและไปเช่ือว่าดนตรตี อ้ งเปน็ อย่างอื่น ไม่ใชก่ ารซ่ึงมอี ย่ใู นใจแท้ ๆ แต่เป็นการเรียกวา่ การรับจ้าง...\" พระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่คณะกรรมการของสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยฯ เฝ้าทูลเกล้าฯ ถวายเงินเพ่ือสมทบทุน \"โครงการพฒั นาตามพระราชประสงค์\" ณ ศาลาดุสิดาลัยพระราชวังดุสติ วันพธุ ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2524 ความตอนหนึ่งว่า \"...การดนตรีนี้จึงมีความสาคัญสาหรับประเทศชาติ สาหรับสังคม ถ้าทาดี ๆ ก็ทาให้คนเขามีกาลังใจท่ีจะปฏิบัติงานการ ก็เป็นหน้าที่ส่วนหนึ่งที่ให้ความบันเทิง ทาให้คนที่กาลังท้อใจมีกาลังใจข้ึนมาได้ คือเร้าใจได้คนกาลังไปทางหนง่ึ ทางทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง กอ็ าจจะดึงกลับมาในทางที่ถกู ต้องได้ ฉะน้นั ดนตรนี กี้ ็มีความสาคัญอย่างยิ่งจงึ พูดได้กับท่านทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกบั การดนตรีในรปู การณ์ตา่ งๆ ว่า มคี วามสาคัญและตอ้ งทาให้ถูกต้อง ตอ้ งทาให้ดีทั้งถูกต้อง ในทางหลักวิชาของการดนตรีอย่างหนึ่ง และก็ถูกต้องตามหลักวิชาของผู้ที่มีศีล มีธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต ก็จะทาให้เป็นประโยชน์อย่างมาก เป็นประโยชน์ทั้งต่อส่วนรวมทั้งส่วนตัว เพราะก็อย่างที่กล่าวว่า เพลงนี้มันเกิดความปตี ิภายในของตัวเองได้ ความปตี ิในผู้อ่นื ได้ ก็เกิดความดไี ด้ความเสียก็ได้ ฉะนั้นก็ตอ้ งมีความระมัดระวงั ให้ด.ี ..\"บทเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชนิพนธ์ทานองเพลงแล้วจึงใส่คาร้องภาษาอังกฤษด้วยพระองค์เองได้แก่ Echo, Still on My Mind, Old Fashioned Melody, No Moonและ Dream Island ทที่ รงพระราชนิพนธ์ทานองจากคาร้องภาษาไทย ไดแ้ ก่ เพลงความฝนั อันสูงสดุ และเราสู้นอกจากนั้นก็เป็นส่วนหน่ึงที่ทรงพระราชนิพนธ์ทานอง และโปรดเกล้าฯ ให้มีผู้แต่งคาร้องประกอบเพลงพระราชนิพนธ์หลายท่าน ได้แก่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ศาสตราจารย์ ท่านผู้หญิงนพคุณทองใหญ่ ณ อยุธยา ศาสตราจารย์ ดร.ประเสรฐิ ณ นคร ท่านผูห้ ญงิ สมโรจน์ สวัสดิกลุ ณ อยธุ ยา นายศภุ ร ผลชีวิน นายจานง ราชกิจ (จรัล บุณยรัตนพันธุ์) หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช และท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาคเพลงพระราชนิพนธ์ ระหว่างปีพทุ ธศักราช 2489-2538 มี 48 เพลง พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ทรงมีความรู้อย่างแตกฉานในทฤษฎกี ารประพันธ์ ทรงเปน็ ผู้นาในดา้ นการประพนั ธ์ทานองเพลงสากลของเมืองไทย โดยทรงใส่คอร์ดดนตรีที่แปลกใหม่และซับซ้อนทาให้เกิดเสียงประสานท่ีเข้มข้นในดนตรี เม่ือประกอบกับลีลาจังหวะเต้นราท่ีหลากหลาย ทาให้ทรงพระราชนิพนธ์เพลงบรรเลงได้อย่างไพเราะหลายบท กลายเปน็ เพลงอมตะของไทยในปจั จบุ ัน นอกจากน้ียังทรงมจี ินตนาการสรา้ งสรรคไ์ ม่ซา้ แบบผใู้ ด และแปลกใหมอ่ ยตู่ ลอดเวลา เพลงพระราชนิพนธ์แต่ละเพลงนั้น ล้วนแสดงออกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่าโดยถ้วนหน้า เช่น เพลงยามเย็น พระราชทานแก่สมาคมปราบวัณโรค เพ่ือนาออกแสดงเก็บเงินบารุงการกุศลเพลงใกล้รุ่ง บรรเลงเป็นปฐมฤกษ์ในงานของสมาคมเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย เพลงยิ้มสู้ พระราชทานแก่โรงเรียนสอนคนตาบอด เพลงลมหนาว พระราชทานในงานประจาปีของสมาคมนักเรียนเก่าองั กฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ เพลงพรปใี หม่ พระราชทานแก่พสกนกิ รเน่ืองในวันปีใหม่ เพลงเกดิ เปน็ ไทยตายเพอื่ ไทย เพลงความฝันอันสูงสุด และเพลงเราสู้ พระราชทานแก่ผู้ปฏิบตั ิหน้าท่ีเพื่อประเทศชาติ Kinari Suite พระราชทานเพ่ือใช้
50ประกอบการแสดงบัลเล่ต์ชุดมโนราห์ และมีเพลงประจาสถาบันท่ีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานได้แก่ เพลงมหาจุฬาลงกรณ์ เพลงธรรมศาสตร์ เพลงเกษตรศาสตร์ เพลงธงชัยเฉลิมพล ราชวัลลภ และ ราชนาวกิ โยธิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการรวมนักดนตรีสมัครเล่นมารวมกนั ต้งั เปน็ วงข้ึนเป็นครัง้ แรก ขณะท่ที รงประทบั ณ พระท่ีนัง่ อัมพรสถาน ประกอบดว้ ยพระราชวงศผ์ ้ใู หญ่ที่ทรงคุ้นเคย และเมื่อโปรดเกล้าฯ ให้จัดต้ังสถานีวทิ ยุ อ.ส. (อัมพรสถาน) ข้ึนในปพี ุทธศักราช 2495 เพื่อให้เป็นส่ือกลางท่ีให้ความบันเทิงและสาระประโยชน์ในด้านต่าง ๆ พระราชทานช่ือว่า “วงลายคราม” ก็ได้มีการออกอากาศส่งวิทยุกระจายเสียงกับวงดนตรีต่าง ๆ ด้วย ต่อมาโปรดเกล้าฯ ให้นักดนตรีรุ่นหนุ่มมาเล่นดนตรีร่วมกับวงลายคราม จึงเกิดเป็น วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ ข้ึน วงดนตรี อ.ส. วันศุกร์มีลักษณะพิเศษคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงร่วมบรรเลงกับสมาชิกของวง ออกอากาศกระจายเสียงทางสถานีวิทยุประจาวนั ศุกร์ และยังทรงจัดรายการเพลงเอง ทรงเลือกแผ่นเสียงเองในระยะแรก บางครั้งก็โปรดเกล้าฯ ให้มีการขอเพลง และจะทรงรับโทรศัพท์ด้วยพระองค์เองทุกวันศุกร์ และวันอาทิตย์เป็นวันฝึกซ้อม วงดนตรี อ.ส.วนั ศุกร์ ยังเป็นวงดนตรที ่ีโปรดให้ไปร่วมบรรเลงในงาน “วนั ทรงดนตรี” ตามท่ีมหาวิทยาลัยตา่ ง ๆ กราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ เพ่ือทรงสังสรรค์ร่วมกับนิสิตนักศึกษา เป็นการส่วนพระองค์ ก่อนท่ีจะยกเลิกไป เพราะทรงมีพระราชกรณยี กจิ เพ่มิ มากขนึ้ ในปีพุทธศักราช 2529 พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงต้ังแตรวง “สหายพฒั นา” ข้ึนอีกวงหนึ่งโดยโปรดฯ ให้รวบรวมผู้ปฏบิ ัติราชการใกล้ชิดเบ้ืองพระยุคลบาท และโดยเสด็จฯ ในการพัฒนาภูมิภาคต่าง ๆเป็นประจา เช่น นักเกษตรหลวง คณะแพทย์อาสาสมัคร ข้าราชการในพระองค์ ราชองค์รักษ์ ตลอดจนเจา้ หนา้ ท่หี นว่ ยรักษาความปลอดภยั ซ่งึ ส่วนใหญ่ไม่เคยเลน่ ดนตรีมาก่อน พระราชทานเวลาฝกึ สอนในชว่ งเวลาทรงออกพระกาลงั ในตอนค่าของทุก ๆ วัน ทรงตง้ั แตรวงขนึ้ สาเรจ็ และยังคงเล่นดนตรเี ป็นประจาทุกคา่ ของวันศุกร์ และวันอาทิตย์เป็นวันซ้อมร่วมกับนักดนตรี อ.ส. วันศุกร์ ณ สถานี อ.ส. และเกือบทุกเย็นกับวงสหายพฒั นา ณ ศาลาดุสดิ าลัย สวนจติ รลดา จนถงึ ปัจจบุ ัน รูปท่ี 49 ภาพทรงแซกโซโฟนในอิริยาบถน่งั ท่ีมา https://www.bloggang.com/m/mainblog.php?i สบื ค้นเมื่อวันท่ี 16 พ.ย. 2560
51 ลาดบั ปีพุทธศกั ราชทที่ รงพระราชนิพนธเ์ พลง 2489 เพลง สายฝน (Falling Rain) แสงเทยี น (Candle Light Blues) ยามเย็น (Love at Sundown)ใกล้รุง่ (Near Dawn) 2490 เพลง ชะตาชีวติ (The H.M. Blues) ดวงใจกบั ความรกั (Never Mind the H.M. Blues) 2492 เพลง มหาจฬุ าลงกรณ์ (Chulalongkorn Alma Mater) อาทิตยอ์ ับแสง (Blue Day) เทวาพาคู่ฝนั (Dream of Love Dream of You) คาหวาน (Sweet Words) 2493 เพลง แกว้ ตาขวัญใจ (Lovelight in My Heart) 2495 เพลง พรปีใหม่ (New Year Greetings) ยิ้มสู้ (Smiles) มาร์ชธงชัยเฉลิมพล (The ColoursMarch) 2496 เพลง ยามค่า (Twilight) มาร์ชราชวลั ลภ (The Royal Guards March) 2497 เพลง ศุกร์สัญลักษณ์ (Friday Night Rag) เม่ือโสมส่อง (I Never Dreamed) ลมหนาว (Lovein Spring) 2498 เพลง Oh I Say, Can't You Ever See, Lay Kram goes Dixie 2499 เพลง คา่ แล้ว (Lullaby) 2500 เพลง สายลม (I Think of You) ไกลกงั วล 2501 เพลง แสงเดอื น (Magic Beams) 2502 เพลง ฝัน (Somewhere Somehow) Alexandra, มาร์ชนาวิกโยธิน (The Royal MarinesMarch) มโนราห์ (The Kinari Suite): The Nature Waltz The Hunter Kinari Waltz มโนราห:์ ภิรมยร์ กั (The Kinari Suite: A Love Story) 2506 เพลง When (ทานองเพลงไกลกงั วล) ธรรมศาสตร์ (Thammasart Alma Mater) 2508 เพลง ในดวงใจนิรันดร์ (Still on My Mind) เกาะในฝัน (Dream Island), Old-FashionedMelody, No Moon 2509 เพลง เพลนิ ภพู งิ ค์ แวว่ (Echo) เกษตรศาสตร์ (Kasetsart Alma Mater) 2510 เพลง เตอื นใจ (ทานองเพลง Old-Fashioned Melody) 2512 เพลง ไร้เดอื น (ทานองเพลง No Moon) 2514 เพลง ความฝนั อันสูงสุด 2516 เพลง แผ่นดนิ ของเรา (ทานองเพลง Alexandra) เราสู้ 2238 เพลง รกั เมนูไข่ (ไข่เจยี ว) เม่ือเดอื นมกราคม 2538 ทรงพระราชทานเพลง \"รัก\" ทานองในพระราชนพิ นธ์ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และคาร้องในพระราชนิพนธ์ของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีซ่งึ ได้พระราชทานแกป่ วงชนชาวไทย ทงั้ เทป แผน่ เสยี ง และซีดเี พลงพระราชนิพนธ์
52 รปู ท่ี 50 ภาพเนื้อเพลงพรปีใหม่ ทมี่ า https://www.google.co.th/search?tbs=sbi: สืบคน้ เม่ือวันท่ี 16 พ.ย. 2560 ผลงานของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว ไดถ้ ูกนาไปบรรเลงในรปู แบบต่างๆ มากมายและหลากหลายทั้งที่เป็นเทป แผ่นเสียง (Long Play) และเป็นแผ่นซีดี (Compact Disc) จากทานองเพลงด้ังเดิม ก็ถูกนาไปถ่ายทอดในหลากหลายลีลา เพลงร้อง เพลงบรรเลง ท้ังในลีลาเพลงแจ๊ส เพลงสมัยนิยม และเพลงคลาสสิค มีต้ังแต่บรรเลงด้วยเคร่ืองดนตรีช้ินเดียว อย่างกีตาร์คลาสสคิ หรอื เปียโนไปกระท่งั วงขนาดใหญ่ (Big Band) และวงออรเ์ คสตรา้ (Orchestra) ด้านดนตรไี ทย พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว มีพระราชประสงคท์ ่จี ะอนรุ ักษ์ดนตรไี ทยและนาฏยศิลป์ไทยไว้ให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป โดยมีพระราชกระแสรับส่ังให้นักดนตรีไทยช่วยกันรักษาระดับเสียงของดนตรีไทยไว้เพ่ือเป็นมาตรฐานของวงดนตรีรุ่นหลัง ได้พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ให้กรมศิลปากรจัดพิมพ์หนังสือ “โน้ตเพลงไทย เล่ม 1” เพ่ือรวบรวมและรักษาศิลปะทางดนตรีไทยไว้ให้เป็นหลักฐานและมาตรฐานต่อไป และทรงสนับสนุนให้มีการค้นคว้าวิจัยบันไดเสียงของดนตรีไทย โดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ นอกจากนั้น พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จดั พิธีครอบประธานครูโขนละคร และต่อ กระบวนราเพลงหน้าพาทย์องค์พระพิราพ ซึ่งเป็นเพลงหน้าพาทย์ช้ันสูงในวิชาดนตรีและนาฏยศิลป์ไทยอีกด้วย ซึ่งกิจกรรมทั้ง 2 อย่างนั้น ดาเนินมาจนถึงจุดที่ใกล้จะสูญสิ้นแล้ว จึงนับได้ว่าทรงเป็นพระมหากษตั ริย์ท่ีอนุรักษศ์ ลิ ปะของไทยเพอื่ ใหเ้ ปน็ มรดกของชาติสืบต่อไปพระราชนพิ นธ์ “ในหลวง” พระอจั ฉริยภาพ “ภาษา-วรรณกรรม”
53 รปู ที่ 51 ภาพขณะทรงหนงั สอื ท่มี า https://www.sales100million.com/single-post/I-will- สบื คน้ เมอื่ วันที่ 16 พ.ย. 2560 ตลอดระยะเวลา 70 ปนี ับต้ังแต่ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช เสดจ็ ข้ึนครองสิริราชสมบัติ ทรงพระราชนิพนธ์งานเขียนไว้มากมาย แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพ และ พระปรีชาสามารถด้านภาษาและวรรณกรรมงานพระราชนิพนธช์ น้ิ แรกๆ ของพระองคน์ ั้น เปน็ บนั ทกึ เรื่องราวตา่ งๆ พระราชทานคือ “พระราชานุกิจรัชกาลท่ี 8” และพระราชนิพนธ์เรื่อง เม่ือข้าพเจ้าจากสยามสู่สวิตเซอร์แลนด์, พระมหาชนก, ทองแดง และทองแดงฉบับการ์ตูนต่อมาเม่ือพระองค์ทรงเห็นว่าภาษาอังกฤษได้กลายมาเป็นภาษาสาคัญ ในเวลาว่างพระองค์จะทรงพระอักษรและทรงพระราชนิพนธ์แปลบทความจากวารสารภาษาต่างประเทศ จนใน พ.ศ.2537 ทรงแปล “นายอินทรผ์ ู้ปดิ ทองหลังพระ” และในปีต่อมาทรงแปลเร่ือง “ติโต” นอกจากน้ี ยังมบี ทความที่ทรงแปลและเรียบเรยี ง ลงในนิตยสารต่างประเทศอีกหลายช้ินสาหรับหนงั สือพระราชนพิ นธแ์ ละทรงแปล ไดแ้ ก่1.เม่อื ข้าพเจ้าจากสยามส่สู วติ เซอร์แลนด,์ 2489 เป็นพระราชนพิ นธ์เร่อื งแรก และได้ตีพิมพ์ครัง้ แรกในหนังสือ รายเดือน วงวรรณคดี ฉบับประจาเดือนส.ค. 2490 เป็นตอนแรก ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในช่วงเวลาเสด็จพระราชดาเนินเพ่ือกลับไปศึกษาต่อที่ประเทศสวติ เซอร์แลนด์อีกครั้ง เม่ือวันท่ี 19 ส.ค. 2489 หลังจากพระองค์ท่านเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ลาดับท่ี 9 ในราชวงศจ์ ักรี เมื่อวันท่ี 9 ม.ิ ย. 2489พระองค์ได้ทรงบันทึกผ่านพระอักษรเป็นเรื่องราวการเดินทาง แสดงถึงความรู้สึกของพระองค์ ตลอดจนเหตกุ ารณ์ทท่ี รงได้ประสบขออญั เชิญความตอนหนึ่งในพระราชนพิ นธเ์ ล่มน้ี วันท่ี 19 ส.ค. 2489 – วันนีถ้ ึงวันท่ีเราจะตอ้ งจากไปแลว้ …พอถงึ เวลาก็ลงจากรถพระทีน่ ่ังพร้อมกับแม่ลาเจ้านายฝ่ายใน ณ พระท่ีน่ังช้ันล่าง แล้วก็ไปยังวัดพระแก้ว เพ่ือนมัสการลาพระแก้วมรกตและพระภิกษุสงฆ์ลาเจ้านายฝ่ายหน้า ลาข้าราชการท้ังไทยและฝรั่ง แล้วก็ไปขึ้นรถยนต์ พอรถแล่นออกไปได้ไม่ถึง 200 เมตร มีหญิงคนหน่ึงเข้ามาหยุดรถแล้วส่งกระป๋องให้เราคนละใบ ราชองครักษ์ไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรอยู่ในน้ัน บางทีจะเป็นลูกระเบิด! เมื่อมาเปิดดูภายหลังปรากฏว่าเป็นทอฟฟ่ีที่อร่อยมากตามถนนผู้คนช่างมากมายเสียจริงๆ ที่
54ถนนราชดาเนินกลาง ราษฎรเข้ามาใกล้ชิดรถที่เราน่ัง กลัวเหลือเกินว่าล้อรถของเราจะไปทับแข้งทับขาใครเข้าบา้ ง รถแล่นฝ่าฝูงชนไปไดอ้ ย่างช้าที่สุด ถึงวัดเบญจมบพิตร รถแล่นเร็วขึ้นได้บ้าง ตามทางที่ผ่านมาไดย้ ินเสียงใครคนหนงึ่ ร้องขนึ้ มาดังๆ ว่า “อยา่ ละทิง้ ประชาชน” อยากจะรอ้ งบอกเขาส่งไปว่า “ถ้าประชาชนไมท่ ้ิงข้าพเจา้แล้วข้าพเจา้ จะละทงิ้ อย่างไรได”้ แต่รถวิ่งเร็วและเลยไปไกลเสียแล้ว2.นายอินทร์ ผปู้ ิดทองหลงั พระ (แปล), 2537 รูปที่ 52 ภาพหนงั นายอินทร์ผูป้ ดิ ทองหลงั พระ ท่ีมา http://news.tlcthai.com/news/782168.html สบื ค้นเมื่อวนั ท่ี 16 พ.ย. 2560 ทรงแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษเร่ือง “A Man Called Intrepid” บทประพันธ์ของ เซอร์วิลเลียมสตีเฟนสัน เปน็ หนังสือที่ไดร้ ับความนิยมและมียอดจาหน่ายกว่า 2 ล้านเล่ม ทรงใช้ระยะเวลาในการแปลถึง 3ปี เร่ิมตัง้ แตเ่ ดอื นมิ.ย.2520 และเสร็จเม่ือเดือนม.ี ค.2523 มีจานวนถึง 501 หน้า แสดงให้เห็นวา่ ทรงมีพระราชอุตสาหะในการแปลเป็นอย่างมาก และในเดือนธ.ค.2536 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บริษัทอมรินทร์พร้ินต้ิงแอนด์พับลิชช่ิง จากัด (มหาชน) จัดพิมพ์และจัดจาหน่ายทั่วประเทศ ในปี พ.ศ.2537 โดยมอบรายได้จากการจัดจาหนา่ ยสมทบมูลนธิ ิชัยพฒั นาหนังสือเร่ือง \"นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ\" น้ี \"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช\" ทรงใช้เวลาว่างวันละเล็กวันละน้อยแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษเรื่อง \"A Man Called Intrepid\" ของ WilliamStevenson เป็นเวลาประมาณสามปี (ระหว่าง 20 มิถุนายน พ.ศ. 2520 ถึง 25 มีนาคม พ.ศ. 2523) จึงจบบริบูรณ์ เน้ือหาในเล่มเขียนจากชีวิตจริงของ \"นายอินทร์\" หรือ \"Intrepid\" ซ่ึงเปน็ นามรหัสของ \"เซอร์วลิ เลียมสตีเวนสัน\" เป็นหัวหน้าหน่วยราชการลับอาสาสมัครของอังกฤษ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 การท่ีพระองค์ต้องใช้เวลานานในการแปล นอกจากมีพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรมากมายแล้ว เป็นเพราะ \"A ManCalled Intrepid\" มีเน้ือหาที่สลับซับซ้อนและอิงประวัติศาสตร์ จึงยากต่อการแปล แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าเร่ืองน้ีมีประโยชน์ต่อมนุษยชาติเป็นอย่างย่ิง พระองค์จึงทรงใช้เวลาและพระราชวิริยะอุตสาหะแปลถ่ายทอดจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ มาเปน็ ภาษาไทย เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสกับ \"นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ\" อย่างใกล้ชดิ \"นายอินทร์\" ถือเป็นผู้มีบทบาทสาคัญในการต่อต้านแผนร้ายของ \"อดอร์ฟ ฮิตเลอร์\" ซ่ึงหวังแผ่อานาจเข้าครอบครองโลก โดยจัดต้ังหน่วยงานลับข้ึน เพ่ือหาความลับทางทหารของเยอรมันรายงาน
55แก่ \"เซอร์วินสตนั เชอรซิลล์\" นายกรัฐมนตรอี งั กฤษ และ \"ประธานาธบิ ดแี ฟรงคลนิ ดี รูสเวล\" ของสหรฐั ซึ่งได้ร่วมมือกันวางแผนต่อต้านฮิตเลอร์จนฝ่ายพันธมิตรได้รับชัยชนะ ว่ากันว่า หาก \"นายอินทร์\" และผู้ร่วมงานทางานล้มเหลว ฮิตเลอร์อาจจะชนะสงคราม และโฉมหนา้ ของโลกคงไม่เปน็ เช่นทุกวันน้ี สาหรับการปฏบิ ตั ิงานของ \"นายอินทร์\" และพวก มีผู้รู้เบื้องหลังเพียงไม่กี่คน จนกระทั่งเม่ือมีหนังสือ...A Man Called Intrepid...ตพี มิ พ์ จึงทาให้ \"ความลับ\" ทปี่ ิดมานานถกู เปิดเผย \"นายอินทร์\" และผ้รู ว่ มงาน ที่ร่วมกันทางานดว้ ยความกลา้ หาญ เสยี สละ ผู้ยอมอทุ ิศแม้ชวี ติ เพ่อื ความถูกต้อง ความยุติธรรม เสรีภาพและสันติภาพของโลก พวกเขาทั้งหมดทางานโดยไม่หวังให้ใครรับรู้ หรือหวังลาภยศคาสรรเสริญเยินยอใด ๆ พวกเขาคอื \"ผูป้ ดิ ทองหลังพระ\" อย่างแทจ้ ริง!3.ติโต (แปล), 2537 รูปท่ี 53 ภาพหนงั สือตโิ ต ทมี่ า http://news.tlcthai.com/news/782168.html สืบค้นเม่อื วันท่ี 16 พ.ย. 2560 ทรงแปลเรื่อง ติโต จากต้นฉบับเรื่อง TITO ของ Phyllis Auty เม่ือปี พ.ศ.2519 เพ่ือใช้ในศึกษาและเรียนรู้บุคคลท่ีน่าสนใจของโลกคนหนึ่ง รวมถึงผูส้ นใจในประวัติศาสตรไ์ ด้รจู้ ัก ติโต อย่างกว้างขวาง มากข้ึน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บริษัทอมรินทร์พร้ินต้ิงฯ จัดพิมพ์และจัดจาหน่ายทั่วประเทศ ในปี พ.ศ.2537โดยมอบรายได้จากการจัดจาหน่ายสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา ติโต รู้จักกันในนามของจอมพลติโต ผู้ที่ฟันฝ่าอุปสรรคในทกุ วถิ ีทางเพอ่ื สร้างความเปน็ ไทใหแ้ ก่ประเทศ ของเขา ทรงใช้ภาษาที่สามัญชนเข้าใจงา่ ย รวมท้ังการใชโ้ วหารเปรียบเทียบที่คมคาย “ความสามัคคีจะเกิดขึ้นได้ ส่วนหนงึ่ มาจากการไดผ้ ู้นาทด่ี แี ละมีความยตุ ธิ รรม” โดยมีเน้ือเรือ่ งเกี่ยวกบั ดนิ แดนยโุ รปตะวันออกแถบยูโกสวาเวียเป็นพ้นื ทเ่ี ตม็ ไปด้วยปัญหาทงั้ ขอ้ แยง้ ทางการเมือง ศาสนา และเช้อื ชาตมิ านาน แต่เดิมกอ่ นสงครามโลกครั้งที่สอง พวกเขาส่วนหน่ึงอยู่ภายใต้อาณาจักรออสโตร-ฮังการี อีกส่วนหนึ่งเป็นกองกาลังย่อยๆรักษาท้องถ่ินตนเอง บางส่วนศรัทธาในระบอบราชาธิปไตย บางส่วนศรัทธาในระบอบรัฐสภา บางส่วนเล่ือมใสในลัทธิคอมมวิ นสิ ต์ ในดนิ แดนทม่ี ที ้งั เช้ือชาติ เซิร์บ / โครแอต / มาร์ซิโตรเนียน / แขกขาว ดนิ แดนอยา่ ง สโลเวเนยี /บอสเนีย / มอนโตรเนโกร / เซอร์เบีย มีศาสนาที่นับถือหลักๆถึงสามส่วนคือ ออร์โธด๊อคค์ / คาทอลิก และมุสลมิ ติโตเกิดมาบนความขัดแย้ง พ่อเป็นชาวโครแอต แม่เป็นชาวสโลเวเนีย ในแรกรุ่นเขาไม่ได้สนใจอะไรมากในการเมือง เคยร่วมรบในสงครามที่โรมาเนียในวยั 20 เขาทางานหลายอย่างก่อนจะเร่ิมเรียนรู้ในแนวทางพรรคคอมมิวนิสต์ในขณะท่ีทางานเป็นกรรมกรโรงงาน ความเฉลียวฉลาดทาให้เขาได้ไปศึกษาที่รัสเซีย เขาเริ่มมีบทบาทในทางการเมืองใต้ดินของอาณาจักรยูโกสลาฟตามลาดับในฐานะสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ในช่วงปี1927 เป็นต้นมา (ชื่อเล่น ติโต ของเขาได้มาในช่วงนี้) ในสภาพท่ีประชาชนเบื่อหน่ายในระบอบราชาธิป
56ไตย เขาเร่ิมมีชื่อเสียงจนถึงกับหลบๆซ่อนๆ และต้องถูกจับเข้าคุกเป็นเวลาหลายปี ลูกก็เสียชีวิตไปถึง 3 ในทั้งหมด 4 คน ตโิ ตฉายแววอย่างชัดเจนในช่วงสงครามโลกครัง้ ท่ีสอง ในช่วงแรกของสงครามเขาตง้ั กลมุ่ ปารต์ ิซาน ยงัต้องช่วงชิงการนาประชาชนกับ พันเอก ดราจา มิไฮโลวิก ผู้ซ่ึงนากลุ่มเช็คนิก ท่ีมีสมเด็จราชาธิปดีท่ีหนีไปอยู่ลอนดอนหนุนหลัง แต่หลังจากใช้ความอดทนเป็นเวลาหลายปี และแสดงถึงความมุ่งมั่นชัดเจนท่ีจะสร้างประเทศยูโกสลาเวียให้เปน็ ปึกแผ่น และต่อสู้กับพวกนาซีในขณะท่ีกลุ่มเช็คนิค แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆซ้ายังไม่ยอมรับชนชาติเล็กๆเช่นมุสลิม จนฝ่ายสัมพันธมิตรท้ังรัสเซียและอังกฤษให้ความไว้วางใจและสนับสนุนทุกรูปแบบแกต่ ิโตจนกระทงั้ พวกเขาชนะสงคราม รูปที่ 54 ภาพนาย Josip Broz ติโต Tito 1892 – 1980 ทีม่ า http://www.blic.rs/vesti/drustvo/indipendent-titovo-naslede- สืบค้นเม่อื วนั ที่ 16 พ.ย. 2560 หลังสงครามเป็นอันว่าติโตได้ใจของประชาชนเกือบทั้ งหมดของประเทศเขาชนะเลือกตั้งได้เป็นนายกรัฐมนตรี และต่อมาเม่ือระบบการปกครองแบบเก่าหมดไปจากอาณาจักรยูโกสลาฟอย่างสิ้นเชิง เขาคือประธานธิบดที ี่กมุ อานาจทง้ั หมด อานาจไมไ่ ดท้ าลายติโต - เขาปกครองประชาชนในดินแดนท่ีเต็มไปดว้ ยความขดั แยง้ อยา่ งให้สิทธเิ ท่าเทยี ม ทุกชนชาติ - ศาสนา – ดินแดน \"Let that man be a Bosnian, Herzegovinian. Outside they don't call you by anothername, except simply a Bosnian. Whether that be a muslim (bosniak), serb or croat. Everyonecan be what they feel that they are, and no one has a right to force a nationality upon them.\"- ใช่แล้ว – ไม่มีใครมสี ทิ ธจิ ะบังคบั ใครทาเช่นน้ัน \"No one questioned 'who is Serb who is a Croat who is a Muslim we were all onepeople, that's how it was back then, and I still think it is that way today.\" - ใช่แล้ว - พวกเราอาจไมใ่ ช่เชอ้ื สาย / ศาสนาเดยี วกนั แต่เราคือคนชาตเิ ดยี วกัน ผมเลื่อมใสที่ติโตเป็นตัวของตัวเองสูง เขาเป็นคอมมิวนิสต์ท่ีดี เขาไม่ยอมทาตามนโยบายของรัสเซียหลายๆอย่างท่ีเขาเห็นวา่ จะเป็นผลเสียของประชาชนของเขา ไม่ยอมเอา Collettive Farm (นโยบายร่วมของพรรคคอมมิวนิสต์ที่จะใชก้ ันทั่วโลกในยุคน้ัน - และวิบัติล้มเหลวกันเป็นส่วนใหญ่) มาใช้ จนตวั เองถูกปลดออกจากองค์การคอมมิวนิสต์สากล และกิจการระหว่างประเทศที่ดีอีกอย่างคือ การก่อตั้งกระบวนการกับกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ร่วมกับนายกรัฐมนตรีเนรูห์ของอินเดีย ประธานาธิบดีนัสเซ อร์ของอียิปต์ประธานาธิบดซี กู าร์โนของอนิ โดนเี ซยี
57 รปู ที่ 55 ภาพประธานาธิบดซี กู ารโ์ นของอนิ โดนเี ซีย ทีม่ า https://plus.google.com/111697662483869309001/posts/aorQ5ULSmQ8 สบื ค้นเมื่อวันท่ี 16 พ.ศ. 2560ในปี 1974 รัฐธรรมนูญระบุให้จอมพลติโตเป็น \"ประธานธิบดีตลอดกาล\" - President for lifeหนังสือระบุรายละเอียดถึงคราวท่ีติโตได้ชนะเลือกต้ังหลังสงครามโลกคร้ังท่ีสองแล้วจบลง แต่ผมก็หาอ่านประวัติท่านต่อเป็นท่ีรู้กันว่าตลอดยุคของติโต ประเทศยูโกสลาเวียเป็นประเทศที่ไปได้อย่างมั่นคงทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและการกีฬา - มีความเจริญรุ่งเรืองตามสมควร ปัญหาข้อขัดแย้งในชาติน้อยมาก จาได้ว่าตอนผมเด็กๆทีมฟตุ บอลจากประเทศยูโกสวาเวียเก่งมาก ทมี ชาตพิ วกเขาได้รับสมญาวา่ \"บราซลิ แหง่ ยุโรป\" ทมี สโมสรอยา่ ง เรดสตาร์ เบลเกรด ก็ได้แชมป์ยุโรป (ยูฟ่าแชมป์เป้ียนลีกในปัจจุบัน) หลายต่อหลายครั้ง จอมพ ลติโตถึงแก่อสญั กรรมเมอ่ื ปี 1980 สริ ริ วมอายุได้ 88 ปี หลังจากน้ันความขัดแย้งต่างๆทั้งจากเชื้อชาติและศาสนาก็กลับมาอีก ด้วยหลายๆสาเหตุ โดยเฉพาะพวกผู้นาทางการเมืองที่เอาประชาธิปไตยมาบังหน้า แต่มีนโยบายกีดกันชนกลุ่มน้อยต่างๆ เพ่ืออาศัยหาเสียงข้างมาก ทาให้ไม่มีการตกลงด้วยดีดังที่คราวสมัยตโิ ตยงั มีชวี ิตที่ให้ความยตุ ิธรรมกับทกุ ฝ่าย เพยี งสบิ ปีหลังสิ้นติโต ประเทศท่ียิ่งใหญ่เริ่มมีสงครามกลางเมือง รุนแรงท่ีสุดเริ่มในปี 1991 มีการเข่นฆ่าคนต่างเช้ือชาติ ศาสนาและลงเอยด้วยการแตกสลายเปน็ ประเทศต่างๆ เร่มิ ตงั้ แต่โครเอเซียแยกประเทศ/ บอสเนีย / เซอรเ์ บยี จนปที ่ีแลว้ ดินแดนที่มีประชากรแค่ไม่ถงึ หนึ่งลา้ นคนอยา่ งมอนโตรเนโกรกแ็ ยกเปน็ รฐั อสิ ระลา่ สุด พระราชนิพนธ์แปลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเล่มนี้ออกจาหน่ายเม่ือปี พ.ศ. 2537 (ค.ศ 1994ตอนนน้ั รัฐยูโกสลาเวียแยกสลายแลว้ ) ทุกๆรัฐชาติย่อมประสานด้วยผู้คนที่หลากหลาย หากแต่เมื่อใดที่มีการแบ่งแยกประชาชนเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง แบ่งภาค แบ่งศาสนา แบ่งความคิดทางการเมือง โดยไม่ได้ให้ความเท่าเทียมกัน ข้อขัดแย้งน้นั ย่อมจะรุนแรงข้นึ เรื่อยๆ ย่ิงเมือ่ ใดทร่ี ฐั ชาติขาดมหาบุรุษท่ีทกุ ฝา่ ยเช่อื ถือ เชน่ ยูโกสวาเวยี ในคราวส้ินติโต รัฐน้นั กล็ ่มสลายอยา่ งสน้ิ เชิง ความสามัคคีคอื ตอ้ งเข้าใจวา่ ทุกคนคือคนของชาติ ไม่ใช่ว่าเปน็ เสียงขา้ งมากแล้วจะทาอะไรก็ไดอ้ ย่างที่บางคนหรือบางพรรคเข้าใจ รัฐชาติเป็นของของเราทุกคน ไม่ใช่ไปบอกประชาชนว่าเป็นของคนนับถือศาสนาใดศาสนาหน่ึงเท่าน้ัน ไม่ใช่เป็นของคนท่ีเลือกพรรคใดพรรคหน่ึงเท่านั้น หากใครสอนชาวบ้านกันแบบนี้ก็สามคั คีกันยาก ผุ้ปกครองประเทศคือคนทสี่ ามารถใหค้ วามยตุ ธิ รรมและเสรภี าพแกท่ ุกชนชาตแิ ละศาสนา จอมพลตโิ ตคือตัวอย่างอันดีท่ีสดุ ในการประสานความสามัคคีของคนในชาตไิ ด้
58 ท่านอดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ได้มีความเห็นในเรื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแปลหนังสือเรื่องติโตนี้ว่า \"เป็นการแปลท่ีกะทัดรัด เก็บสาระและประเด็นได้อย่างแยบคาย และรักษาเน้ือหาความตื่นเต้นของแนวเรื่องได้อย่างดี\" - \"เราเรียนชีวประวัติของคนเพื่อสะสมความรู้ และเพ่ือที่จะสอนให้เราไม่กระทาอะไรทัง้ สงั คมในอันทจ่ี ะกอ่ ใหเ้ กิดความผิดพลาด ท่ีประเทศอ่ืนเขาไดป้ ระสบมาแลว้ ในประวตั ศิ าสตร์\" \"คาว่า การต่อสู้เพื่อเอกราชของชาติบ้านเมือง ต้องหมายตลอดถึงเสรีภาพของชาวโครแอต สโลวีนเซิร์บ มารเ์ ซโดเนยี น ชิปตา้ ร์ มุสลมิ พรอ้ มกันหมด ตอ้ งหมายว่าการต่อสู้จะนามาซ่ึงอสิ ระภาพ เสมอภาค และภารดรภาพ สาหรับทุกชนชาตใิ นยูโกสวาเวียอย่างแท้จรงิ น่ีคือสารัตถ์สาคัญของการตอ่ สู้เพือ่ เอกราชของชาต\"ิตโิ ตกล่าวในปี 1942 - ตโิ ต พระราชนิพนธแ์ ปล หน้า 62 - 634.พระมหาชนก, 2539 รูปท่ี 56 ภาพหน้าปกหนังสือพระมหาชนก ที่มา http://news.tlcthai.com/news/782168.html สบื ค้นเมอื่ วนั ท่ี 16 พ.ย. 2560KONICA MINOLTA DIGITAL CAMERAพระราชนิพนธ์เร่ือง พระมหาชนก มีทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษอยู่ในเล่มเดียวกัน ทรงแปลพระมหาชนกชาดกเสร็จสมบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ.2531 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จัดพิมพ์ ในโอกาสเฉลิมฉลองกาญจนาภเิ ษกแหง่ รัชกาล เมอ่ื ปี พ.ศ.2539 พระราชนิพนธ์พระมหาชนกนี้ มภี าพวาดโดยศลิ ปินที่มีช่อื เสยี งหลายทา่ น ท่ีสาคัญมีภาพฝีพระหัตถข์ องพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อาทิ ภาพวันท่ีเรือล่ม โดยมีแผนที่อากาศแสดงเส้นทางพายจุ ริงๆ และภาพพระมหาชนกทรงว่ายน้า โดยมีนางมณีเมขลาเหาะอยู่เบือ้ งบน เป็นตน้ เร่ืองย่อบทพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก พระมหาชนก พระเจ้าแผ่นดิน ณ เมืองมิถิลาแห่งวิเทหะรัฐ ทรงมีพระโอรสสององค์ คือพระอริฏฐชนก และ พระโปลชนก เมื่อพระราชบิดาสวรรคต พระอริฏฐชนกผู้เป็นอุปราช ก็ได้ครองบ้านเมืองตอ่ มา พระโปลชนกทรงเป็นอุปราช คร้ังน้ันยังมีอามาตย์ออกอุบายให้พระอริฏฐชนกระแวงพระอนุชาว่า พระโปลชนกคิดขบถ พระราชาทรงเชื่ออามาตย์ จึงให้จับพระโปลชนกไปขังไว้ ด้วยบุญบารมีของพระโปลชนกจึงสามารถเสด็จหนีไปยังชายแดน ผู้คนจานวนมากพร้อมท่ีจะเข้าเป็นพวกด้วย เม่ือถึงกาลท่ีเอื้อ พระโปลชนกก็กองทัพไปตีเมืองมิถิลา บรรดาทหารแห่งเมืองมิถิลาพากันเข้ากับพระโปลชนกอกี เปน็ จานวนมากด้วยเห็นใจที่พระโปลชนกถูกจับไปขังไว้โดยไม่ยุติธรรม พระพระอริฏฐชนกตรัสส่ังพระมเหสีซึ่งกาลังทรงครรภ์แก่ ให้ทรงหลบหนี เอาตัวรอด ส่วนพระองค์เองทรงออกทาสงคราม และสิ้นพระชนม์ในสนามรบ พระโปลชนกจึงทรงได้เป็นกษัตริย์ ครองเมืองมถิ ลิ าสืบตอ่ มา ฝ่ายพระมเหสีของพระพระอรฏิ ฐชนก เสด็จหนไี ปอยเู่ มอื ง กาลจัมปากะ
59พระอินทร์จึงเสด็จมาช่วย ทรงแปลงกายเป็นชายชราขับเกวียนมา พาเสด็จไปน่ังพักอยู่ในศาลาแห่งหน่ึงในเมืองน้ัน บังเอิญอุทิจจพราหมณ์มหาศาลเดินผ่านมา เกิดความเอ็นดูสงสาร จึงรับพระนางไปอยู่ด้วย อุปการะเลี้ยงดูพระนางเหมือนเป็นน้องสาว ไม่นานนัก พระนางก็ประสูติพระโอรส ทรงต้ังพระนามว่า มหาชนกกุมารซ่ึงเป็นพระนามของพระอัยกา วันหน่ึง มหาชนกกุมารชกต่อยกับเพ่ือนเล่นเนื่องจากถูกเด็กล้อเลียนว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ มหาชนกพยายามสืบความจริง พระมารดาจึงตรัสเล่าเร่ืองทั้งหมดให้พระโอรสทราบ ก็ทรงตั้งพระทัยว่าจะได้เสด็จไปเอาราชสมบัติเมืองมิถิลาคืนมา พระมารดาจึงทรงนาเอาทรัพย์สินมีค่ามาจากมิถิลา 3 ส่ิง คือแก้วมณี แกว้ มกุ ดา และแก้ววิเชียร เพอื่ เปน็ ทนุ ล่องเรอื ไปค้าขายทสี่ วุ รรณภมู ิ ในระหวา่ งทางเกิดพายุใหญ่ โหมกระหนา่ ฝา่ ยมหาชนกกมุ าร เม่ือทรงทราบวา่ เรอื จะจมแน่แลว้ กเ็ สวยอาหารจนอมิ่ หนา ทรงนาผ้ามาชบุ น้ามนัจนชมุ่ แล้วนุ่งผ้าน้ันอย่างแน่นหนา คร้ันเม่ือเรือจมลง เหล่าพ่อค้ากลาสี เรือท้ังปวงก็จมน้า ส่วนพระมหาชนกทรงแหวกว่าย อยู่ในทะเลถึง 7 วัน นางมณีเมขลา เทพธิดาผู้รักษามหาสมุทร เห็นพระมหาชนก ว่ายน้าอยู่เช่นนั้น จึงสนทนาแลกเปลี่ยนกัน จนนางมณีเมขลาเข้าใจในปรัชญาของการบาเพ็ญวิริยบารมี นางมณีเมขลาจึงช่วยอุ้มพามหาชนกกุมาร ไปจนถึงฝ่ังเมืองมิถิลา ฝ่ายพระโปลชนกไม่มีพระโอรส ทรงมีแตพ่ ระธิดาพระนามว่า สิวลี ในเม่ือไม่ทรงมีพระโอรส พระโปลชนก ตรัสส่ังอมาตย์ว่า ผู้ใดสามารถไขปริศนาขุมทรัพย์ได้ก็ยกบา้ นเมืองใหแ้ ก่ผู้น้ัน ในท่สี ุดบรรดาเสนาข้าราชบรพิ ารจงึ ต้งั พิธีเสย่ี งราชรถ ราชรถหยุดอยู่หน้าศาลาทพ่ี ระมหาชนกประทับอยู่ ทรงไขปริศนาได้หมด ผู้คนจึงพากันสรรเสริญปญั ญาของพระมหาชนก พระองค์ได้ครองวิเทหรัฐด้วยความผาสุกตลอดมาด้วยทรงอยู่ในทศพิธราชธรรม ต่อมาพระนางสิวลีประสูติพระโอรส ทรงนามว่าทีฆาวุกุมาร เม่ือเจริญวัยขึ้น พระบิดาโปรดให้ดารงตาแหน่งอุปราช อยู่มาวันหนึ่ง พระราชามหาชนกเสด็จอุทยานทอดพระเนตร เหน็ มะม่วงตน้ หนึ่งมผี ล ต้นหนึง่ ไม่มผี ล ต้นทมี่ ีผล ผลมรี สชาตอิ รอ่ ย ตรสั ชมแลว้ ต้งั ใจจะเสวยเมื่ออกจากพระราชอุทยาน แต่เม่ืออกมาต้นมีผลก็เสียหายจนหมดเพราะผคู้ นพากันโค่นเพอ่ื เอาผลมะม่วงส่วนต้นไม่มีผลยังอยู่รอดได้ พระมหาชนกทรงคิดว่า ราชสมบัติ เปรียบเหมือนต้นไม้มีผลอาจถูกทาลาย แม้ไม่ถูกทาลายกต็ ้องคอย ระแวดระวังรักษา เกิดความกังวล พระองค์ประสงคจ์ ะทาตนเปน็ ผู้ไม่มีกังวลเหมือนตน้ ไม้ไม่มีผล แตก่ ็ไม่ทรงทาเช่นนั้นเพราะคิดว่าเป็นหน้าท่ีของพระราชาทีจ่ ะทาให้สังคมอยรู่ อดพน้ ก่อน เพราะสังคมยงั ขาดสตปิ ัญญาเห็นแกป่ ระโยชนเ์ ฉพาะหนา้ จึงทาลายตน้ มะม่วงมีผล คิดดังนั้นจึงเห็นควรทานุบารงต้นมะม่วงด้วยหลักวิชาการทางการเกษตร และจัดต้ังสถานศึกษาชื่อ ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย เพื่อให้คนเป็นคนดีมีสติปญั ญา พระเจ้ามหาชนกกษัตริย์แห่งกรุงมิถิลา มีพระราชโอรสสองพระองค์ พระนามว่า อริฏฐชนก และ โปลชนก เม่ือสวรรคตแล้ว พระอริฏชนกไดค้ รองราชสมบตั ิและทรงตั้งพระโปลชนกเป็นอุปราช อมาตย์ผู้ใกล้ชดิ ได้กราบทูลใส่ร้ายวา่ พระอุปราชโปลชนกคิดไม่ซ่ือ พระอริฏฐชนกก็หลงเชื่อ ส่ังจองจาพระโปลชนก แต่พระโปลชนกตั้งจิตอธิษฐานและหลบหนีไปได้ ภายหลังได้รวบรวมพลมาท้ารบและเอาชนะได้ในที่สุด พระอริฏฐชนกสิ้นพระชนม์ในท่ีรบ พระเทวีที่กาลังทรงครรถ์จึงปลอมตัวหนีออกนอกเมือง ด้วยความช่วยเหลือของท้าวสักกเทวราชจึงเสดจ็ หนีไปจนถึง เมืองกาลจัมปากะ ไดพ้ ราหมณ์ผู้หนึ่งอุปการะไวใ้ นฐานะน้องสาว ตอ่ มาทรงมีพระประสูตกิ าล ตงั้ พระนามพระโอรสตามพระอยั ยิกาวา่ \"มหาชนก\" จวบจนกระทง่ั มหาชนกเติบใหญ่ และไดท้ ราบความจริง ก็คิดจะไปค้าขายตั้งตัว แล้วจะไปเอาราชสมบัติคืน จึงนาสมบัติกึ่งหน่ึงของพระมารดาไปขาย แลก
60เป็นสินค้าออกเรือไปยังสุวรรณภูมิ ระหว่างทางในมหาสมุทร เรือต้องพายุล่มลง ลูกเรือตายหมดยังแต่พระมหาชนกรอดผู้เดียว ทรงอดทนวา่ ยนา้ ในมหาสมุทรดว้ ยความเพียร 7 วัน 7 คืน จนไดพ้ บนางมณีเมขลาในทีส่ ุดนางมณีเมขลาได้อุ้มพระมหาชนกไปส่งยังมิถิลานคร ฝ่ายมิถิลานคร พระโปลชนกได้สวรรคตเหลือเพียงพระราชธิดานาม \"สีวลีเทวี\" ก่อนสวรรคตทรงตั้งปริศนาเร่ืองขุมทรัพย์ทั้งสิบหกไว้สาหรับผู้จะขึ้นครองราชย์ต่อไปแต่ไม่มีผู้ใดไขปริศนาได้ เหล่าอมาตยจ์ ึงได้ประชมุ กันแล้วปล่อยราชรถ ราชรถก็แล่นไปยังท่มี หาชนกบรรทมอยู่เหล่าอมาตย์จงึ เชิญเสด็จขน้ึ ครองราชยแ์ ละอภเิ ษกกับสีวลีเทวี ทรงไขปรศิ นาต่างๆ ได้ และทรงครองราชสมบัติโดยธรรม วันหน่ึง พระมหาชนก ทรงประทับบนคอช้างเพื่อทอดพระเนตรอุทยาน ใกล้ประตูอุทยานมีมะม่วง 2 ต้น ต้นหนึ่งมีผล ต้นหนึ่งไม่มีผล ผลนั้นมีรสหวานเหลือเกิน พระมหาชนกทรงเก็บมาเสวยผลหนึ่งแล้วเสด็จเข้าอุทยาน คนอ่ืนๆ ต้ังแต่พระอุปราชลงมาต่างก็แย่งเก็บผลมะม่วง จนมะม่วงต้นนั้นโค่นลง พระมหาชนกทอดพระเนตรเหน็ ดังนนั้ ก็เกดิ ความสังเวชทค่ี นทั้งหลายหวงั แตป่ ระโยชน์อยา่ งขาดปญั ญา ราลึกไดว้ ่านางมณีเมขลาเคยสั่งให้พระองค์ตัง้ มหาวิทยาลัย จึงไดป้ รึกษากับพราหมณ์ ในท่ีสุดได้ต้ังมหาวิทยาลัยปูทะเลย์ขน้ึ โดยราลึกว่าขณะทท่ี รงวา่ ยนา้ ในมหาสมุทรทั้ง 7 วนั 7 คนื มีปูทะเลยกั ษ์มาชว่ ยหนนุ พระบาท รูปที่ 57 ภาพโปสเตอรพ์ ระมหาชนก ที่มา http://news.tlcthai.com/news/782168.html สืบค้นเมอื่ วนั ที่ 16 พ.ย. 2560พระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก มหี ลักคาสอนทีจ่ ะชว่ ยให้ทุกคนพจิ ารณาแนวดาเนนิ ชวี ิตที่เปน็ มงคล5.พระมหาชนก ฉบบั การ์ตูน, 2542 ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เมื่อปี พ.ศ.2542 พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิมพ์ พระมหาชนก เป็นฉบับการ์ตูนเพื่อสะดวกแก่การศึกษาทาความเข้าใจของเด็กและเยาวชนอกี ทัง้ ยังมกี ารจดั พมิ พเ์ ป็นฉบับอกั ษรเบรล เพ่ือเผยแพร่แก่คนตาบอดอีกดว้ ย6.เร่อื งทองแดง, 2545
61 รูปที่ 58 ภาพหนา้ ปกหนงั สือเร่อื งทองแดง ทีม่ า http://modischdaunenjacke.com/tag/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1% สบื คน้ เมอ่ื วันที่ 6 พ.ย 2560ทรงพระราชนิพนธ์ เรื่อง ทองแดง (The Story of Tongdaeng) เผยแพร่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษในเลม่ เดยี วกัน และเปน็ หนังสือทีต่ ิดอนั ดับขายดที ส่ี ดุ ของประเทศในปี พ.ศ.2545 คุณทองแดง สุนัขธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะมีลักษณะพิเศษทั้งด้านกายภาพและอุปนิสัย แสนรู้เฉลียวฉลาด เปน็ สุนัขทรงโปรดของพระองค์ท่านที่มีชื่อเสียงโดง่ ดัง เป็นท่ีประทับใจของประชาชนชาวไทยทุกคน เป็นสุนัขทรงเล้ียงตัวที่ 17 ติดตามถวายงานรับใช้พระองค์ท่านทกุ ครั้ง ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดาเนินไปที่ใดเนอ้ื หาเปน็ เรอ่ื งความกตญั ญูรู้คุณของ คุณทองแดง รวมทั้งความจงรักภกั ดี ความมมี ารยาท และการสัง่ สอนลูกของคุณทองแดง ในพระราชนิพนธ์ได้ทรงยกย่องคุณทองแดงในเร่ืองความกตัญญูรู้คุณที่มีต่อแม่มะลิ “ผิดกับคนอื่นทีเ่ มอ่ื กลายมาเปน็ คนสาคญั แลว้ มักจะลืมตัว และดู หนังสือของแผ่นดิน ชุดสุดยอดประทับใจ เรื่อง ทองแดง เป็นสารคดีเล่าเรื่องทองแดงสุนัขทรงเลี้ยงทรงพระราชนิพนธ์เปน็ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษควบค่กู นั ไป มภี าพ ๔ สี ประกอบท้ังเลม่ และต่อมาทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯให้ชัย ราชวัตร นาไปวาดเป็นภาพการต์ ูนเพอ่ื พมิ พ์ฉบับการ์ตูนเผยแพรด่ ้วย เรื่อง ทองแดง เป็นเร่ืองราวของทองแดงสุนัขทรงเลี้ยง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเล่าถึงประวัติท่ีมาของทองแดงอย่างละเอียดว่าเป็นลูกตัวหน่ึงในจานาน ๗ ตัวของสุนัขจรจัดเพศเมียช่ือแดง ที่เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครนามาปล่อยคืนไว้ที่ศูนย์แพทย์พัฒนาตามรับส่ังของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวพรอ้ มกับสนุ ัขจรจัด ๔ ตวั ซ่ึงเคยอยู่ในถ่ินน้ันและมีความผกู พนั กับชาวบ้านมาก แดงจึงเปน็ สุนขั จรจัดที่ไม่ทราบแน่ชัดว่ามาจากแหล่งใด แต่เมื่อมาอยู่ท่ีศูนย์แพทย์พัฒนาไม่นานก็ตกลูก พระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัวพระราชทานชื่อให้ทองแดงและพ่ีน้องทุกตัว พระองค์ทรงเล้ียงทองแดงต้ังแต่เป็นลูกสุนัขอายุได้ ๕สัปดาห์ ให้อาศัยกินนม “แม่มะลิ” สุนัขอีกตัวหนึ่ง จากน้ันทรงเล่าถึงพัฒนาการเติบโตของทองแดง ความเฉลียวฉลาดแสนรู้ฟังภาษาได้รู้เรื่อง มีความสามารถพิเศษในการเก็บลูกมะพร้าวและปลอกลูกมะพร้าวทองแดงเป็นสุนัขที่มีมารยาทเรียบร้อย มีความกตัญญูรู้คุณ และท่ีสาคัญมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นท่ีสุด จะหมอบเฝ้าอย่างระแวดระวังในขณะประทับ และจะออกเดินนาหน้าเม่ือทรงพระราชดาเนนิ ออกกาลังพระวรกาย เม่อื พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ทรงขบั รถพระทีน่ ั่งเองทองแดงจะตามเสด็จด้วยโดยน่ังบนเบาะข้างพระองค์ เมื่อทองแดงมีลูก ก็จะสอนลูก ๆ ให้มีระเบียบวินัย และให้ทาตามรับส่ังของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั
62พระราชนิพนธ์เร่ืองทองแดงจึงแสดงพระเมตตาของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวท่มี ีต่อสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ แม้จะเป็นเพยี งสนุ ขั ข้างถนน ที่ทรงเรยี กอย่างมีพระอารมณ์ขันว่า หมาเทศ(บาล) ใน “พระราชปรารภ” ถึงเหตุทที่ รงพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ ก็มีพระราชดาริว่าสุนัขจรจัดมีคุณสมบัติน่าเล้ียง ผู้ที่เลี้ยงสุนัขจรจัดยังมีส่วนช่วยแก้ปญั หาให้บา้ นเมอื งและช่วยส่งเสรมิ การพฒั นาสายพันธ์สุ ุนัขไทยอกี ด้วย ดังความว่า “เรอื่ งสุนขั สามตัวนี้ คือ แดง แมม่ ะลิ และทองแดง แสดงว่าสนุ ขั จรจดั มีคุณสมบตั ิที่นา่ ปราถนาสาหรบัเป็นสุนัขเล้ียงในบ้าน สุนัขจรจัดท่ีมีผู้เมตตารับเล้ียง ส่วนมากมักจะเจียมเน้ือเจียมตัว และมีความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อเจ้าของเป็นพิเศษเสมือนสานึกในบุญคุณ ทั้งยังฉลาดไม่แพ้สุนัขนอก บางตัวก็สวยงาม หรือมีความโดดเดน่ สง่างาม เช่นทองแดงเป็นต้นในประเทศไทยมีหลายแสนตัวที่จะเลือกได้ ความจริงมีล้นเหลือ แต่ถ้าหากเจ้าหน้าที่ราชการจะช่วย ก็จะมีผู้ยนิ ดอี ยา่ งย่งิ ในการเปดิ บ้านตอ้ นรบั สนุ ัขเหล่าน้ี จะเป็นการชว่ ยแก้ปัญหาสุนขั เรร่ อ่ นซึ่งเปน็ อันตราย นอกจากน้ียงั ช่วยแก้ปญั หาสัตว์เลี้ยงหรูหราราคาแพง ซึ่งทาให้เศรษฐกจิ ตกต่า ทั้งหันมาพัฒนาสายพันธ์ุไทยท่ีฉลาดน่ารักและซ้อื สัตยท์ ี่มีอยูม่ ากมาย” ทองแดงและลูก ๆ ทาให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระทัยเบิกบาน ทรงมีความสุข ดงั จะเห็นได้จากพระบรมฉายาลักษณ์ท่ีทรงฉายกับทองแดงและลูก ๆ จานวนหลายภาพ บางภาพพระองค์ทรงพระราชทานเป็น ส.ค.ส. ปีใหม่แก่พสกนิกร ส่งความสุขและความปีติแก่ปวงข้าแผ่นดิน พระราชนิพนธ์เร่ืองทองแดงเป็นพระราชนิพนธ์อีกแล่มหนึ่งท่ีจับใจผู้อ่านเพราะแสดงพระทัยเป่ียมเมตตาที่แผ่ไปสู่ทุกชีวิตบนแผ่นดินของพระองค์7.เรือ่ งทองแดง ฉบับการต์ ูน, 2547 รปู ท่ี 59 ภาพพระบรมชายาลักษณ์กบั สนุ ัขทรงเลย้ี งชอ่ื คณุ ทองแดง ทมี่ า http://modischdaunenjacke.com/tag/%E0%B8%9E%E0%B8%A3 สบื ค้นเม่ือวนั ที่ 16 พ.ย. 2560พระราชทานพระบรมราชานุญาตใหจ้ ดั พมิ พอ์ กี คร้งั หนง่ึ ในปี พ.ศ.2547 ในรปู แบบลายเสน้ การ์ตนู8.พระราชดารัส เปน็ พระราชนพิ นธท์ ีท่ รงแปลจากภาษาไทยเปน็ ภาษาอังกฤษ พระราชดารัส ที่พระราชทานแก่คณะบุคคลท่ีเข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของทกุ ปีพระองค์ทรงเริม่ แปลพระราชดารสั เร่อื งน้าและสิ่งแวดล้อมซง่ึ มีพระราชดารัสเม่ือ วันที่ 4ธ.ค.2532 พระราชดารัสในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากสหประชาชาติ และมีความประสงค์จะไดร้ ับฉบับท่ีแปลเปน็ ภาษาอังกฤษ ซง่ึ พระองค์ท่านมพี ระมหากรุณาธคิ ุณแปลพระราชดารสั เอง และจากพระราชดารัส ดังกลา่ ว
63ทาให้รัฐบาลมีมติประกาศให้วันท่ี 4 ธ.ค. ของทุกปี เปน็ วัน “ส่ิงแวดล้อมไทย” หลังจากนั้นก็ทรงแปลพระราชดารัสในวนั เฉลมิ พระชนมพรรษาเรื่อยมาจากผลงานของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถ พระวิริยอตุ สาหะอนั แรงกล้าในการทรงงาน กล่าวได้ว่า ทรงมีพระอัจฉริยภาพทางด้านภาษาอย่างแท้จริง นอกจากนี้พระองค์ทรงไม่มองข้ามความเป็นไทย อาทิ ภาพประกอบ ในรูปแบบลายเสน้ การต์ ูนแบบไทย และกระดาษที่ใช้จัดพมิ พ์ โปรดให้ใช้กระดาษท่ีผลิตในประเทศพระองค์เป็นแบบอย่างของประชาชนชาวไทย เนน้ ความเปน็ ไทย มคี วามภมู ิใจในความเป็นไทย และใชข้ องไทย พระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชการที่ 9 ทรงโปรดปราน เกี่ยวกับการถ่ายภาพอย่างมาก ตามท่ปี ระชาชนทัว่ ไปจะเห็นภาพของพระองค์ห้อยกลอ้ งไวท้ ่ีพระศอเสมอ รปู ที่ 60 พระบรมชายาลกั ษณข์ ณะทรงหอ้ ยกลอ้ งไวท้ ีพ่ ระศอ ทมี่ า http://btsstation.com/65223 สืบคน้ เมอ่ื วันที่ 16 พ.ย. 2560 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเร่ิมถ่ายภาพเม่ือมีพระชนมายุเพียง 8 พรรษเท่าน้ัน สมเด็จพระราชชนนีทรงได้ซ้ือกล้องถ่ายรูป Coronet Midget พระราชทานให้ พระองค์ทรงศึกษาวิธีการถ่ายภาพด้วยพระองค์เอง และถามจากผู้รู้ ผู้ชานาญ ในอดีตนั้น อุปกรณ์การถ่ายภาพไม่เจริญเท่าปัจจุบัน ยังคงเป็นกล้องฟิล์ม ที่ไม่มีระบบอัตโนมัติ เวลาจะถ่ายภาพแต่ละคร้ังต้องปรับรูรับแสง ต้ังความไวของชัตเตอร์ ซึง่ เปน็ เรอื่ งยงุ่ ยากมาก สาหรบั ผู้ทเี่ ร่มิ สนใจการถ่ายภาพ
64 รปู ท่ี 61 ภาพขณะฉายพระรูปใหส้ มเด็จพระราชินี ท่ีมา http://btsstation.com/65223 สบื ค้นเม่อื วันท่ี 16 พ.ย. 2560 แต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงศึกษาจนสามารถใช้กล้องได้อย่างชานาญต่อมาจนถึงปัจจุบันพระองค์ทรง ก็ได้ใช้กล้องถ่ายรูป อีกหลายรุ่นหลายย่ีห้อ อ่าทิเช่น กล้องที่ผลิตในเยอรมันรัสเซยี และญ่ปี นุ่ ในชว่ งเวลาท่ี พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ทรงดารงพระยศเป็นพระอนุชา ทรงถา่ ยภาพรามเกยี รติท์ ีผ่ นงั พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วดั พระแก้ว และทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ฯพระราชทานให้พิมพ์ลงในหนังสือพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร นอกจากนี้ พระองค์ท่านยังทาหน้าท่ีเสมือนช่างภาพส่วนพระองค์ในขณะตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลอีกด้วย เมื่อขึ้นครองราชสมบัติแล้ว ก็ทรงโปรดถ่ายภาพส่ิงต่าง ๆ เป็นประจาภาพถา่ ยฝพี ระหัตถ์ของพระองค์จะปรากฏบนปกนติ ยสารตา่ ง ๆ เสมอ เชน่ วารสารแสตนดารด์ ของพระวรวงศ์เธอ พระองคเ์ จ้าเปรมบุรฉตั รพระองค์เคยมีพระราชดารัสอย่างพระอารมณข์ ันแก่คนสนทิ วา่ “ฉันเป็นกษัตริย์ก็จริง แต่ฉันก็ยังมีอาชีพเป็นช่างภาพของหนังสือพิมพ์แสตนดาร์ด ได้เงินเดือนเดือนละ 100 บาท ต้งั หลายปี มาแล้ว จนบัดน้กี ็เหน็ เขายังไม่ขน้ึ เงนิ เดือนใหส้ ักที เขากค็ งถวายไวเ้ ดอื นละ 100 บาทอยเู่ รอื่ ยมา” อย่างท่ีได้เรียนไปแล้วว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีการถ่ายภาพอย่างมาก ทรงสะสมตาราเก่ียวกับการถ่ายภาพไว้เป็นจานวนมาก และพระองค์ทรงศึกษาจากตารา เหล่านั้น และทรงคิดค้นหาเทคนิคใหม่ ๆ มาใช้ในการถ่ายภาพอยู่เสมอ อาทิอย่างเช่น ทรงเคยนาแว่นกรองแสงชนิดพเิ ศษติดหน้าเลนส์ ลกั ษณะของแว่นกรองแสงเปน็ แผ่นใส ส่วนบนเป็นสีฟ้า ส่วนล่างเปน็ สีแสด และเม่ือถ่ายภาพ ผลท่ีได้ คือส่วนล่างเปน็ สีธรรมชาติ ส่วนบนจะไดส้ ีฟา้ และส่วนล่างจะได้สีแสด พระองค์ทรงเคยใช้แว่นกรองแสงน้ีทดลองฉายพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ณ พระตาหนักจิตรลดารโหฐาน ทาให้สีของสิ่งต่าง ๆ ในภาพ เช่น ชดุ ฉลองพระองค์ พระเก้าอ้ี พระวิสูตรพรม เป็นสีสอดคล้องสัมพันธ์เข้าเป็นสีชุดเดียวกัน พระองค์ทรงประดิษฐ์แว่นกรองพิเศษน้ีในขณะนั้น ยังไม่มบี รษิ ทั ใดผลติ แวน่ กรองแสงเพือ่ ใช้ในการถ่ายภาพมากอ่ น
65 รปู ท่ี 62 ภาพขณะกาลงั ฉายพระรปู ให้สมเดจ็ พระราชินแี ละพระราชธิดาท้งั สองพระองค์ ทมี่ า http://www.talkatalka.com/entertainment/2497/ สืบคน้ เม่ือวนั ท่ี 16 พ.ย. 2560 นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ยังทรงเชี่ยวชาญกระบวนการในห้องมืด เช่นการล้างฟิล์มและการอดั ขยายภาพทั้งขาวดาและสี ทรงเคยจัดทาหอ้ งมือที่บริเวณชัน้ ล่างของตกึ ที่ทาการสถานีวิทยุ อ.ส. เพื่อสาหรับล้างฟิล์มและขยายภาพสี โดยใช้เคร่ืองล้างและเคร่ืองขยายภาพสีอัตโนมัติ แบบที่ใช้ในห้องปฏบิ ตั กิ ารมาตรฐานท่ัวไป พระองค์ทรงรเู้ รอื่ งทฤษฎสี เี ป็นอย่างดี และทรงศึกษาการควบคมุ เครอ่ื งลา้ งและขยายภาพสอี ัตโนมตั ิ จนสามารถอัดขยายภาพสีและแก้สภี าพต่างๆด้วยพระองคเ์ อง รูปที่ 63 ภาพขณะกาลังฉายรปู พระบรมราชนิ ีนาถรมิ ชายหาด ทีม่ า http://www.talkatalka.com/entertainment/2497/ สบื คน้ เม่ือวนั ท่ี 16 พ.ย. 2560 ด้วยความสนพระราชหฤทัยในเร่ืองการถ่ายภาพ และพระปรีชาสามารถในการถ่ายภาพน้ี ประกอบกับมีพระราชประสงค์จะทรงใช้ประโยชน์จากภาพถ่ายอย่างกวา้ งขวาง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ จัดตั้งส่วนช่างภาพส่วนพระองค์ข้ึนในสานักพระราชวงั เพ่ือทาหนา้ ท่ีบันทึกภาพล้างอดัขยายภาพ อนุรกั ษ์ภาพ และใหบ้ ริการภาพแก่ผูท้ ่ีมาตดิ ตอ่ ขอไปใช้ประโยชนต์ า่ งๆ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ซึ่งมีจานวนมากมาย แต่สามารถจาแนกไดเ้ ปน็ 2 ประเภท หลกั ๆ ไดแ้ ก่ ภาพแนวจติ รศิลป์ และภาพแสดงพระปณธิ านในการพฒั นาประเทศ
66 รปู ที่ 64 ภาพสมเด็จพระบรมราชนิ ีในพระอริ ยิ าบถตา่ งๆ ท่ีมา http://www.talkatalka.com/entertainment/2497/ สบื ค้นเม่อื วนั ที่ 16 พ.ย. 2560 ในวาระโอกาสสาคัญๆต่าง ๆ ซึ่งพระองค์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ส่วนหนึ่งไปจัดแสดงนิทรรศการทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพ่ือให้ประชาชนท่ัวไป ได้มีโอกาสได้ชื่นชมพระปรีชาสามารถในดา้ นการถา่ ยภาพของพระองค์ท่าน รปู ท่ี 65 ภาพถ่ายมมุ เสยโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั รชั กาลท่ี 9 ทม่ี า http://www.talkatalka.com/entertainment/2497/ สบื ค้นเมื่อวนั ท่ี 16 พ.ย. 2560 พระปรีชาของพระองค์ท่าน สามารถด้านการถ่ายภาพได้ ขจรขจาย ไปทั่ววงการถ่ายภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วยเหตุน้ี ในปี พ.ศ. 2514 ทางสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย จึงได้ทูลเกล้าฯถวายเข็มทองศลิ ปะการถา่ ยภาพแด่พระองค์ท่าน
67 นอกจากน้ี ราชสมาคมถ่ายภาพแห่งสหราชอาณาจักร (The Royal Photographic Society of GreatBritain) ไดก้ ราบบงั คมทูลเชญิ ให้ดารงตาแหน่งราชบัณฑิตกิตติมศกั ด์ิ (Honorary Fellow) และสหพนั ธศ์ ิลปะการถา่ ยภาพนานาชาติ (Fediration International de l’Art Photographique) ไดข้ อพระราชทานทลู เกล้าฯถวายเกียรติบัตรสูงสดุ (Honorary Excellent FIAP) ดว้ ย พระอัจฉรยิ ภาพด้านจิตกรรม รูปที่ 66 พระบรมชายาลักษณ์คกู่ ับภาพวาดฝีพระหตั ถ์ ทมี่ า http://www.talkatalka.com/entertainment/2497/ สบื คน้ เมอ่ื วันที่ 16 พ.ย. 2560 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มหติ ลาธเิ บศรรามาธบิ ดี จกั รีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงเปน็ พระมหากษัตริย์ท่ีเป่ียมพระอัจฉริยภาพทั้งดา้ นศาสตร์และศิลป์ ไม่ว่าจะเป็นด้านศาสตร์การพัฒนาประเทศทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สาธารณสุข การจัดการน้า การศึกษาพลังงานหรือด้านศิลปอ์ ย่างเพลงพระราชนิพนธ์ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ พระราชนิพนธ์ต่างๆ ไปจนถึง ภาพวาดฝีพระหัตถ์ วันนี้เราขอนอ้ มนาภาพวาดฝีพระหัตถ์ พระอจั ฉริยภาพด้านจิตรกรรมแห่งองคอ์ คั รศิลปิน มาเผยแพร่ให้ลกู ๆ ของพอ่ ได้ช่ืนชมกัน ในบรรดางานศิลปกรรมฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ท่ีแสดงถึงพลานุภาพแห่งการสร้างสรรค์ งานจิตรกรรมฝีพระหัตถ์นับเป็นการสร้างสรรค์ที่สะท้อนถึงพระอัจฉริยภาพแห่งพระองค์เปน็ อย่างดี ทรงสนพระราชหฤทัยงานศลิ ปะแขนงน้นี ับแต่คร้งั ทรงพระเยาว์ ขณะประทับ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ประมาณพุทธศักราช ๒๔๘๐ – ๒๔๘๘) ทรงศึกษาและฝึกฝนด้วยพระองค์เองจากสรรพตาราท่ีทรงซ้ือ และท่ีมีผู้ทูลเกล้าฯ ถวาย ตลอดถึงการเสด็จพระราชดาเนินทรงเยี่ยมศิลปนิ ทที่ รงสนพระราชหฤทัย ทรงมีพระราชปฏิสนั ถาร และทอดพระเนตรวิธีการสรา้ งสรรค์งานของศลิ ปิน อาทิ การใช้สี กรรมวิธีการเขียนภาพตา่ ง ๆ เปน็ ต้น
68 รปู ที่ 67 พระบรมชายาลกั ษณข์ ณะทรงวาดรปู สมเด็จพระบรมราชนิ นี าถ ที่มา http://www.talkatalka.com/entertainment/2497/ สบื คน้ เม่ือวนั ท่ี 16 พ.ย. 2560 เม่ือทรงเข้าพระราชหฤทัยในการทางานของศิลปินน้ันแล้ว จะทรงฝึกฝนด้วยพระวิริยอุตสาหะจนกระท่ังทรงพระปรีชาสามารถในการสร้างงานศิลปะตามที่ทรงศึกษาและฝึกฝนจากศิลปินแต่ละท่านจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ท่ีทรงสร้างสรรค์ขึ้นจึงเกิดจากท่ีทรงนาวิธีการสร้างงานน้ัน มาเป็นแบบอย่างในการสรา้ งสรรค์งานจติ รกรรมทมี่ ีลกั ษณะเฉพาะพระองค์ ภายหลังจากท่ีเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ราวพุทธศักราช ๒๕๐๒ เป็นช่วงเวลาท่ีทรงงานจิตรกรรมอย่างต่อเนื่อง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เชิญจิตรกรไทยหลายรายเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพ่ือร่วมปฏิสันถาร ถวายคาปรึกษาด้านศิลปกรรม อาทิ นายเหม เวชกร นายเขียน ย้ิมศิริ นายจารัส เกียรติก้อง นายเฟื้อ หริพิทักษ์ นายจุลทัศน์ พยาฆรานนท์ นายเฉลิม นาคีรักษ์ นายอวบ สาณะเสน และนายพิริยะ ไกรฤกษ์เป็นตน้ อนั เป็นพระราชนิยมทท่ี รงปฏิบัติอยา่ งต่อเนอ่ื งเมือ่ ทรงวา่ งเว้นจากพระราชกรณยี กิจ พระองค์ทรงใช้ช่วงเวลาทรงงานจิตรกรรมในเวลาค่า โดยทรงใช้แสงเพ่ือบรรยากาศการทรงงานทั้งแสงธรรมชาติ และแสงไฟฟ้า ทาให้ผลงานจิตรกรรมฝีพระหตั ถ์มคี วามหลากหลายในสีสนั ของบรรยากาศ ภาพจิตรกรรมทท่ี รงเขยี นส่วนใหญเ่ ป็นจิตรกรรมสนี ้ามันบนผ้าใบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มเขียนภาพอย่างจริงจังเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ซ่ึงในระยะแรกตงั้ แต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๒-๒๕๐๓ ภาพวาดฝีพระหตั ถจ์ ะเปน็ ภาพท่มี ีแบบในการวาด อย่าง ภาพเหมือนจริง (Realistic) ส่วนใหญ่ทรงเขียนพระสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พระราชโอรส พระราชธิดา พระบรมวงศานุวงศ์ อาทิ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก หม่อมหลวงบัว กิติยากร พระชายาในพระวรวงศ์เธอพระเจ้านักขัตรมงคลกิติยากรฯลฯ ดา้ นหนา้ ตรงหรือหันข้างแค่ครึ่งพระองค์ และในปตี ่อมาจงึ ทรงเร่ิมวาดภาพท่ีมีลักษณะเป็นนามธรรมมากขึ้น โดยมีการนาแนวคิดส่วนพระองค์สอดแทรกลงในผลงานฝีพระหัตถ์ และส่วนใหญ่จะเป็นภาพของใบหน้าคนหรอื รปู คนแบบเต็มตัว ผลงานของพระองค์ทีไ่ ด้ทรงสร้างสรรค์ขน้ึ มานน้ั มี ๓ ลกั ษณะใหญ่ๆ คือ ๑. ภาพแบบเหมอื นจริง ภาพเหมือนผู้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท ภาพหุ่นน่ิง ภาพทิวทัศน์ ภาพเหล่านี้มีความงาม กลมกลืนด้วยแสงเงาท่ีนุ่มนวลให้บรรยากาศลึกซึ้ง แต่บางภาพทรงใช้ฝีแปรงอย่างกล้าหาญแม่นยา เช่น ภาพหญิงชราทรงวาดเมอื่ ราวพุทธศกั ราช ๒๕๐๗ เป็นต้น
69 รูปท่ี 68 ภาพเสมือนผใู้ กล้ชิดเบ้อื งพระยุคลบาท ท่ีมา https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝีพระหัตถ์ สบื คน้ เม่อื วนั ท่ี28 ต.ค. 2560 ๒. ภาพแบบลทั ธเิ อ็กซเ์ พรสช่ันนิสม์ ภาพที่สร้างสรรค์ตามคตินิยมแบบเอ็กซ์เพรสช่ันนิสม์ (Expressionism) เป็นลักษณะจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ท่ีทรงวาดในช่วงพุทธศักราช ๒๕๐๔ – ๒๕๐๙ ทรงสะท้อนพระอารมณ์จากส่วนลึกของพระราชหฤทัยดว้ ยสีสันท่ีสดใสและรนุ แรง รูปที่ 69 ภาพแบบลทั ธิเอ็กซเ์ พรสชั่นนิสม์ ทีม่ า https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝพี ระหัตถ์ สบื ค้นเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2560 ๓. ภาพนามธรรม ภาพนามธรรม (Abstractionism) เป็นจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ที่ทรงสร้างขึ้นในช่วงหลัง ทรงวาดภาพผสมผสานระหว่างข้อมูลที่ทรงเห็นจากธรรมชาติกับพระราชดาริส่วนพระองค์ มีลักษณะเป็นรูปทรงของสิ่งท่ีทรงเหน็ ทรงตัดทอนและเพิ่มเตมิ ตามพระราชดาริ จนเกดิ เปน็ รปู ทรงใหม่ จับต้องไมไ่ ด้ แต่เป็นสาระ เช่น ภาพช่ือ วัฏฏะ (ทรงวาดเมื่อพุทธศักราช ๒๕๐๖) ภาพช่ือ โลภะ ภาพช่ือ ยุแหย่ ภาพช่ือ อ่อนโยน ภาพชื่อ บุคลิกซ้อน ฯลฯ
70 รูปท่ี 70 ภาพนามธรรม ทมี่ า https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝพี ระหัตถ์ สืบค้นเมอื่ วันที่ 28 ต.ค. 2560ผลงานจิตรกรรมฝพี ระหตั ถ์ นอกจากนี้พระองค์ได้รับส่ังเกี่ยวกับการวาดภาพของพระองค์ว่า ทรงวาดอย่างนักวาดภาพสมัครเล่นคือทรงวาดตามพระราชหฤทัย มิได้ทรงคานึงถึงทฤษฎีหรือกฎเกณฑ์อันใดหรือนาแนวทาง ของผู้ใดเข้ามามีอทิ ธพิ ลกับงานเขยี นภาพ ทาใหผ้ ลงานออกมาได้ดงั่ จินตนาการและยงั มีเอกลกั ษณท์ ่ีมอี ิสระเฉพาะตวั อย่าง เห็นได้ชัด ทั้งยังทรงวาดภาพในลักษณะสวยงาม น่ารัก ได้เป็นอย่างดี ทั้งที่อาจไม่ตรงกับพระอัธยาศัยท่ีค่อนข้างเอาจริงเอาจังของพระองค์นัก แต่ในฐานะเมื่อทรงเป็นจิตรกรขณะทรงงาน ทรงถ่ายทอดพระอารมณ์ความรู้สึกเย่ียงจิตรกรอยา่ งเต็มท่ี ทรงแสดงความรสู้ ึกตรงและรุนแรงผา่ นสีสันที่สดและเส้นท่่ีกลา้ โดยส่วนใหญโ่ ปรดเส้นโค้ง แต่บางคร้ังอาจมขี ้อดลพระราชหฤทัย ใหท้ รงใช้เส้นตรงและเสน้ หยักฟนั เล่อื ยอยบู่ ้าง จิตรกรรมฝีพระหัตถ์ที่ทรงสร้างสรรค์ขึ้นเหล่านี้ เริ่มเผยแพร่แก่มวลพสกนิกรให้ได้ประจักษ์ในพระเกียรติคุณด้านศิลปกรรม นับแต่พุทธศักราช ๒๕๐๖ ในงานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ คร้ังที่ ๑๔ และอีกหลายครง้ั ต่อมาภาพแบบเหมือนจริง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สีน้ามันบนผ้าใบ ขนาด ๖๐ x ๗๕ เซนติเมตร (มีพระปรมาภิไธยย่อและข้อความ ภอ ๔-๒๕๐๓)
71 รูปที่ 71 ภาพภาพสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ นี าถ สีน้ามันบนผา้ ใบ ท่ีมา https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝพี ระหัตถ์ สบื คน้ เมือ่ วันท่ี 28 ต.ค. 2560 สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เทคนิคสีน้ามัน (HER MAJESTY QUEEN SIRIKIT) แบบลัทธิExpressionism รูปท่ี 72 สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถ เทคนคิ สนี ้ามนั แบบลทั ธิ Expressionism ท่ีมา https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝพี ระหัตถ์ สืบค้นเม่ือวนั ท่ี 28 ต.ค. 2560สชี อล์กบนกระดาษ ขนาด ๕๙ x ๗๖ เซนตเิ มตร รูปที่ 73 ภาพสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทีม่ า https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝีพระหตั ถ์ สบื ค้นเม่ือวันที่ 28 ต.ค. 2560ภาพสีน้ามันบนผ้าใบ ขนาด ๖๔ x ๖๑ เซนตเิ มตร
72 รปู ที่ 74 ภาพสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เทคนิคภาพสนี ้ามนั บนผ้าใบ ขนาด ๖๔ x ๖๑ เซนติเมตร ทีม่ า https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝีพระหัตถ์ สบื ค้นเม่ือวนั ที่ 28 ต.ค. 2560Portrait of Her Majesty the Queen ภาพสีนา้ มันบนผา้ ใบ ขนาด ๓๓ x ๔๖ เซนตเิ มตร รปู ที่ 75 Portrait of Her Majesty the Queen ภาพสีนา้ มนั บนผา้ ใบ ทีม่ า https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝีพระหตั ถ์ สืบคน้ เม่อื วันที่ 28 ต.ค. 2560ภาพสีน้ามันบนผ้าใบ ตดิ บนกระดาษแข็ง ขนาด ๒๑ x ๓๐.๕ เซนติเมตร รูปที่ 76 ภาพสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ นี าถภาพสนี ้ามันบนผ้าใบ ติดบนกระดาษแขง็ ขนาด ๒๑ x ๓๐.๕ เซนตเิ มตร ท่มี า https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝีพระหัตถ์ สบื คน้ เมือ่ วนั ท่ี 28 ต.ค. 2560กหุ ลาบไทย (Thai rose) เทคนคิ สีน้ามัน
73 รูปที่ 77 ภาพกหุ ลาบไทย (Thai rose) เทคนคิ สนี า้ มัน ท่ีมา https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝีพระหตั ถ์ สบื ค้นเมอื่ วนั ที่ 28 ต.ค. 2560พระบรมวงศานวุ งศ์พระสาทสิ ลักษณส์ มเดจ็ พระมหติ ลาธเิ บศอดลุ ยเดชวิกรม พระบรมราชชนก รูปที่ 78 พระสาทิสลกั ษณส์ มเด็จพระมหิตลาธเิ บศอดลุ ยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทม่ี า https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝพี ระหตั ถ์ สบื ค้นเมอ่ื วนั ท่ี 28 ต.ค. 2560ครอบครัว (Family), ๒๕๐๗ สีน้ามันบนผ้าใบ ขนาด ๖๐ x ๙๐.๕ เซนติเมตร (มีพระปรมาภิไธยย่อและข้อความ ภอ ๘-๐๗)
74 รูปท่ี 79 ครอบครัว (Family), ๒๕๐๗ สีนา้ มนั บนผา้ ใบ ขนาด ๖๐ x ๙๐.๕ เซนติเมตร' ทม่ี า https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝพี ระหัตถ์ สบื ค้นเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2560สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี คร้ังทรงพระเยาว์ ภาพสีน้ามันบนผ้าใบ ขนาด ๕๖ x ๗๑เซนติเมตร รูปท่ี 80 สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า สยามบรมราชกมุ ารี ครั้งทรงพระเยาว์ ภาพสีนา้ มนั บนผา้ ใบ ท่มี า https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝีพระหัตถ์ สืบคน้ เมอ่ื วันที่ 28 ต.ค. 2560ภาพพระพทุ ธเจา้ภาพสนี า้ มนั บนผ้าใบ ขนาด ๒๐ x ๒๖ เซนตเิ มตร รปู ท่ี 8117 ภาพพระพุทธเจา้ สนี า้ มัน ทม่ี า https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝีพระหัตถ์ สบื คน้ เมื่อวันท่ี 28 ต.ค. 2560ภาพแบบลัทธเิ อก็ ซเ์ พรสชน่ั นิสตแ์ ละนามธรรมภาพส่วนใหญ่ในหัวขอ้ น้ี เปน็ เทคนิคสนี า้ มันบคุ ลิกซอ้ น (Double Personality) เทคนิคสีนา้ มัน
75 รปู ท่ี 82 ภาพแบบลทั ธิเอ็กซเ์ พรสชนั่ นิสตแ์ ละนามธรรม ทม่ี า https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝพี ระหตั ถ์ สบื คน้ เมอ่ื วนั ที่ 28 ต.ค. 2560ดิน นา้ ลม ไฟ เทคนคิ สีนา้ มนั รูปที่ 83 ดนิ น้า ลม ไฟ เทคนคิ สนี า้ มัน ทม่ี า https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝพี ระหัตถ์ สบื ค้นเม่อื วันท่ี 28 ต.ค. 2560
76 . รูปท่ี 84 ภาพแบบลทั ธิเอก็ ซ์เพรสชั่นนสิ ต์และนามธรรม ท่ีมา https://daily.rabbit.co.th/ภาพวาดฝพี ระหตั ถ์ สบื ค้นเมื่อวนั ท่ี 28 ต.ค. 2560 ปัจจุบัน หออคั รศิลปินจัดแสดงภาพจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ต้นฉบับ ๔ ภาพ และสาเนาภาพจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานอีก ๑๓ ภาพ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ทกุ วันทาการตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 16.30 น.4.3 พระเกียรติคณุ พ.ศ. 2507 หลังจากวงดุริยางค์ เอ็นคิวโทนคุนสเลอร์ แห่งกรุงเวียนนา คัดเลือกบทเพลงพระราชนิพนธ์ไปบรรเลง มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศออสเตรีย และได้รับความนิยมอย่างสูง สถาบันการดนตรีและศิลปะแห่งกรุงเวียนนา โดยรัฐบาลออสเตรียจึงทูลเกล้าฯ ถวายสมาชิกภาพกิตติมศักดิ์ลาดับที่ 23 ของสถาบนั และเปน็ ผู้ประพนั ธ์เพลงชาวเอเชยี คนแรกท่ไี ดร้ ับเกียรติจารึกพระนามลงบนแผ่นหินสลักของสถาบนั พ.ศ. 2514 ราชสมาคมถ่ายภาพแห่งสหราชอาณาจักร กราบบังคมทูลเชิญให้ทรงดารงตาแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ของราชสมาคม และสมาคมสหพันธ์ศิลปะการถ่ายภาพนานาชาติ (FIAP) ทูลเกล้าฯ ถวายเกียรติบัตรสูงสุดเพ่ือสดุดีพระเกียรติคุณว่าทรงเป็นสมาชิกกิตติมศักด์ิท่ีมีพระปรีชาสามารถเป็นเลิศในศิลปะการถา่ ยภาพ รูปที่ 85 เหรยี ญสมาชิกกิตตมิ ศักดแิ์ หล่งสมาคมสหพนั ธศ์ ิลปะการถา่ ยภาพนานาชาติ (FIAP) ทมี่ า http://www.siamtownus.com/2016/New-1710000125-1.aspx สบื คน้ เมอ่ื วันที่ 16 พ.ย. 2560 พ.ศ. 2519 ประธานรัฐสภายุโรป และสมาชกิ ร่วมกนั ทลู เกลา้ ฯ ถวาย \"เหรียญรฐั สภายโุ รป\"
77 พ.ศ. 2529 ประธานคณะกรรมาธิการเพื่อสันตขิ องสมาคมอธิการบดีระหวา่ งประเทศทูลเกล้าฯ ถวาย\"รางวัลสนั ติภาพ\" พ.ศ. 2530 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ทูลเกล้าฯ ถวาย \"เหรียญทองเฉลิมพระเกียรติคุณในการนาชนบทให้พฒั นา\" พ.ศ. 2535 ผู้อานวยการใหญ่โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ทูลเกล้าฯ ถวาย\"เหรียญทองประกาศพระเกียรติคุณด้านสิ่งแวดล้อม\" และผู้อานวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO)ทลู เกล้าฯ ถวาย \"เหรียญทองสาธารณสุขเพือ่ มวลชน\" พ.ศ. 2436 คณะกรรมการสมาคมนิเวศวิทยาเชิงเคมีสากล (International Society of ChemicalEcology) ทูลเกลา้ ฯ ถวาย \"เหรยี ญรางวัลเทิดพระเกยี รติในการสงวนรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ\" และหัวหน้าสาขาเกษตร ฝ่ายวิชาการภูมิภาคเอเชียของธนาคารโลก ทูลเกล้าฯ ถวาย \"รางวัลหญ้าแฝกชุบสาริด\"สดุดีพระเกยี รตคิ ุณในฐานะทีท่ รงเปน็ นกั อนุรักษด์ นิ และน้า รูปที่ 86 ภาพถวาย \"เหรียญรางวลั เทดิ พระเกียรติในการสงวนรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ\" ทม่ี า https://www.svgroup.co.th/%E0%B สบื คน้ เมือ่ วันที่ 16 พ.ย. 2560 พ.ศ. 2537 ผู้อานวยการบริหารของยูเอ็นดีซีพี (UNDCP) แห่งสหประชาชาติ ทูลเกล้าฯ ถวาย\"เหรยี ญทองคาสดุดพี ระเกยี รตคิ ณุ ดา้ นการปอ้ งกนั แก้ไขปญั หายาเสพตดิ \" พ.ศ. 2539 องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ทูลเกล้าฯ ถวาย \"เหรียญสดุดีพระเกยี รตคิ ณุ ในดา้ นการพัฒนาการเกษตร\" พ.ศ. 2543- 2544 “กังหนั น้าชัยพัฒนา” 5 รางวลั บรัสเซลส์ ยเู รกา้ 2000 รางวลั ระดับนานาชาติดา้ นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่แสดงถึงพระปรชี าสามารถได้เด่นชัดที่สดุ ซ่ึงเราจะอดกลา่ วถึงไม่ได้ คอื รางวัลสงิ่ ประดิษฐด์ เี ดน่ ในการจดั งาน บรัสเซลส์ ยูเรกา้ “Brussels Eureka 2000”ซึ่งเป็นงานแสดงสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของโลกวิทยาศาสตร์ ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ที่จัดโดย TheBelgian Chamber of Inventors ซ่งึ เป็นสมาคมส่งเสรมิ และคุม้ ครองนกั ประดิษฐข์ องราชอาณาจักรเบลเยยี มท่มี ีอายุเก่าแก่ท่ีสดุ ในยโุ รป โดยทางคณะผู้จัดงานไดท้ ูลเกล้าฯ ถวายรางวลั แด่พระองค์ถงึ 2 ปีตดิ ต่อกัน คือ ในปี พ.ศ.2543 และปี พ.ศ.2544 รางวัลบรัสเซลส์ ยูเรก้า ท่ีทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายทั้ง 2 ปีนี้ ได้แก่ ในปี พ.ศ.2543 สภาวจิ ัยแห่งชาติ ได้นาผลงาน “เคร่ืองกลเติมอากาศท่ีผิวน้าหมุนช้าแบบทุ่นลอย” หรือ “กังหันน้าชัยพัฒนา” ใน
78พระองค์เข้าประกวดในส่ิงประดิษฐ์ประเภทท่ี 1 เก่ียวกับการควบคุมมลพิษและสิ่งแวดล้อม (PollutionControl - Environment) ปรากฏว่า ได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการจัดงานว่าเป็นผลงานที่ทรงคุณค่าและมปี ระโยชนอ์ ย่างย่ิงในการบาบดั นา้ เสีย ในครั้งนนั้ ทรงไดร้ ับทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลรวมทัง้ สิน้ 5 รางวัล คอื 1. เหรียญรางวัล Prix OMPI (Organisation Mondiale De La Propriete Intelietuelle) หรือรางวลั สิ่งประดิษฐด์ เี ด่นระดบั โลก พรอ้ มประกาศนยี บตั ร และเงินรางวลั จานวน 2,000 เหรยี ญดอลลารส์ หรฐั 2. เหรียญรางวัล Gold Medal with Mention หรอื รางวลั สรรเสรญิ พระอจั ฉริยภาพแห่งการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ และประกาศนียบัตรเกียรตนิ ยิ มจากบรัสเซลส์ ยูเรกา้ ประจาปี พ.ศ.2543 3. ถ้วยรางวลั Grand Prix International (International Grand Prize) หรือรางวัลผลงานประดิษฐ์ดีเด่นสงู สดุ 4.ถ้วยรางวลั Minister J.CHABERT (Minister of Economy of Brussels Capital Region) หรือรางวลั ผลงานส่งิ ประดษิ ฐ์ดีเดน่ 5. ถว้ ยรางวัล Yugosiavia หรอื รางวลั สรรเสรญิ พระอจั ฉรยิ ภาพดา้ นการประดษิ ฐ์ สาหรบั รางวัลในคร้งั นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหน้ ายอาพล เสนาณรงค์ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบรหิ ารสภาวิจัยแหง่ ชาตใิ นขณะนน้ั นานายโยเซ ลอริโย (Mr.Jose Loriaux) ประธานองคก์ รบรัสเซลส์ ยเู รกา้ แห่งราชอาณาจักรเบลเยียม พร้อมด้วยคณะทลู เกลา้ ฯ ถวายรางวลั ดงั กลา่ ว เมอื่ วนั ท่ี 16 ก.พ. 2544 ณ ศาลาเรงิ ใจ วงั ไกลกังวล อ.หวั หิน จ.ประจวบคีรขี นั ธ์ ทั้งน้ี ชอบวิทย์ ลับไพรี รองเลขาธกิ ารสภาวจิ ัยแห่งชาติ ซึ่งมีส่วนสาคญั ในการขอพระบรมราชานุญาตนากังหันน้าชัยพัฒนาไปร่วมแสดงในครั้งนั้น ได้เล่าว่า เม่ือนากังหันน้าชัยพัฒนาไปจัดแสดง ชาวต่างชาติต่างให้ความสนใจมาก โดยฝ่ายไทยได้สาธิตการทางานให้ผู้ร่วมงานได้เข้าชมอย่างใกล้ชดิ ซ่ึงในโอกาสนี้เองที่ในเวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานกังหันน้าชัยพัฒนาเพื่อเป็นของขวัญให้แก่ประเทศเบลเยียม ตามคาขอของนายโยเซ โดยต้ังอยู่ ณ สวนสาธารณะโวลูเว แซงต์-ปิแอร์ (Woluve Sainte-Pierre)กลางกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม เพ่ือเปิดโอกาสให้ชาวยุโรปได้ช่ืนชมพระปรีชาสามารถในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวต่อไป ฝนหลวง - ทฤษฎีใหม่ - ไบโอดีเซล ได้รบั เกียรตอิ กี 5 รางวลั ถัดมาในปี พ.ศ.2544 เป็นอีกครั้งหน่ึงที่คณะกรรมการจัดงานบรัสเซลส์ ยูเรก้า ได้เชิญประเทศไทยให้ร่วมจัดนิทรรศการส่ิงประดิษฐ์อีกคร้ังในงาน บรัสเซลส์ ยูเรก้า 2001 ระหว่างวันท่ี 13-18 พ.ย.2544 โดยสภาวิจัยแห่งชาติได้จัดแสดงผลงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจานวน 3 ช้ิน คือ ผลงานเร่ืองทฤษฎีใหม่ (The New Theory) ผลงานเรื่องน้ามันไบโอดีเซล สูตรสกัดจากน้ามันปาลม์ (Palm Oil Formula) และผลงานเรือ่ งฝนหลวง (Royal Rain Making)
79 ในงานบรัสเซลส์ ยูเรกา 2001 น้ีก็อีกเช่นกัน ที่พระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพในล้นเกล้าฯ ได้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตานานาประเทศอีกครั้ง โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวลั ถงึ 5 รางวัล คือ 1.รางวัล D’Un Concept Nouveau de Development de la Thailande พร้อมถ้วยรางวัลทาด้วยเงิน โดยคณะกรรมการตัดสินได้ลงมติเห็นชอบทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเทิดพระเกียรติคุณเป็นกรณีพิเศษแด่ผลงานประดษิ ฐค์ ดิ ค้นทงั้ 3 ผลงาน ซ่ึงเปน็ ผลงานท่เี กดิ จากแนวคดิ ใหม่ในการพัฒนาประเทศไทย 2.รางวัล Gold medal with mention หรือรางวัลสรรเสริญพระอัจฉริยภาพแห่งการใช้เทคโนโลยีอยา่ งมีประสิทธิภาพ พรอ้ มประกาศเกียรตคิ ณุ เทิดพระเกยี รตใิ ห้แก่ผลงานประดิษฐ์คิดค้น โครงการน้ามันไบโอดเี ซล สตู รสกัดจากนา้ มันปาลม์ 3.รางวลั Gold medal with mention หรอื รางวัลสรรเสรญิ พระอัจฉริยภาพแห่งการใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ พรอ้ มประกาศเกยี รติคณุ เทดิ พระเกยี รตใิ หก้ บั ผลงานประดษิ ฐ์คิดคน้ โครงการทฤษฎีใหม่ 4. รางวัล Gold medal with mention หรือรางวัลสรรเสริญพระอัจฉริยภาพแห่งการใชเ้ ทคโนโลยีอย่างมีประสิทธภิ าพ พรอ้ มประกาศเกียรติคณุ เทดิ พระเกียรตใิ ห้กับผลงานประดษิ ฐค์ ดิ ค้นโครงการฝนหลวง 5. ถ้วยรางวัล SPECIAL PRIX for His Majesty The King of Thailand พร้อมประกาศนียบัตร มอบให้ผลงานประดิษฐ์คิดค้นทฤษฎีใหม่ ปาล์มน้ามัน ฝนหลวง และประกาศนียบัตร Honored Member ofBACCI โดยเปน็ รางวัลจาก Bulgarina American Chamber of Commercial and Industry (BACCI) รูปท่ี 87 ภาพเครอื่ งบินทาฝนหลวงและขณะกาลงั รับรางวัลดา้ นสง่ิ ประดษิ ฐ์ ท่ีมา https://www.svgroup.co.th/%E0%B9%82%E0%B8 สบื ค้นเมื่อวนั ที่ 16 พ.ย. 2560 พ.ศ. 2549 สานักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ทูลเกล้าฯ ถวาย \"รางวัลความสาเร็จสูงสุดด้านการพฒั นามนุษย์\" จากการที่ไดท้ รงอุทิศกาลังพระวรกาย และทรงพระวิริยะอุตสาหะในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ เพ่ือยังประโยชน์ และความเจริญอย่างย่ังยืนมาสู่ประชาชนชาวไทยทงั้ ประเทศมาโดยตลอด
80 พ.ศ. 2551 องค์การทรัพย์สนิ ทางปัญญาโลก (WIPO) ทลู เกลา้ ฯ ถวายรางวัล \"ผู้นาโลกดา้ นทรพั ย์สนิ ทาง ปัญญา\" (WIPO Global Leaders Award) แดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั เนือ่ งด้วยงานทรพั ย์สินทาง ปญั ญาส่งเสรมิ และพฒั นาประเทศรวมถงึ ชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนกิ รชาวไทยให้ดขี ้นึ อย่างโดดเด่นเปน็ ท่ีประจักษ์แก่สายตาชาวโลก โดยทรงเปน็ ผูน้ าประเทศพระองคแ์ รกทีไ่ ดร้ ับทูลเกลา้ ฯ ถวายรางวัลน้ี นอกจากนี้ จากการหารือกนั ของสหพันธส์ มาคมนักประดิษฐร์ ะหว่างประเทศ (International Federal InventorAssociation : IFIA) ซ่งึ มสี มาชกิ 84 ประเทศท่วั โลกยงั มไิ ดม้ ีมติใหว้ ันท่ี 2 กุมภาพันธ์ของทุกปี ซึง่ เปน็ วนั ท่ีทรง ไดร้ ับการจดสิทธบิ ตั รกงั หนั น้าชัยพัฒนา เปน็ วันนกั ประดษิ ฐ์โลก รปู ท่ี 88 รางวลั นกั วิทยาศาสตรด์ นิ เพื่อมนษุ ยธรรม ท่ีมา http://www.hitcpm.com/watch?key=285f0c92c2254f4dd08d493217a932d4 สบื คน้ เมอ่ื วันท่ี 16 พ.ย. 2560 พ.ศ. 2555 สหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ (International Union of Soil Sciences-IUSS)นาโดยอดีตเลขาธิการสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดินเพ่ือมนุษยธรรม (The Humanitarian Soil Scientist) โดยทรงเป็นผู้นาประเทศพระองค์แรกที่ได้รับทูลเกล้าฯถวายรางวลั ดงั กล่าว รปู ท่ี 89 คาประกาศราชสดดุ เี ฉลมิ พระเกียรติ ท่มี า http://www.manager.co.th/astvweekend/viewnews.aspx? สบื ค้นเม่อื วนั ท่ี 16 พ.ย. 2560
81 บทท่ี 5อภิปรายผล5.1 ผลทีไ่ ด้จากการสืบคน้ และเรยี บเรียง ผลท่ไี ด้เป็นไปตามเป้าหมาย คอื สามารถรวบรวมขอ้ มูลทม่ี ีความครบถ้วนสมบูรณ์ มเี นอื้ หานา่ สนใจและมีเน้อื หาเก่ยี วโยงกับหวั ข้อในการทาโครงงาน คอื พระราชประวัติ พระอจั ฉรภิ าพ พระเกยี รติคุณ ของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ข้อมลู ทไี่ ด้น้ันสามารถนามาทา รายงาน PowerPoint และวดิ โี อในการนาเสนอได้ครบถว้ น พร้อมแก่การเผยแพรใ่ ห้ความรแู้ กน่ สิ ิต อาจารย์ และผ้สู นใจ
82บทสรปุสรุปผลของโครงงาน ปัจจุบันทรัพยากรสารสนเทศในระบบคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทในชีวติ ประจาอย่างไม่อาจเล่ียงซึ่งทรัพยากรสารสนเทศเหล่านี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ท้ังทางด้านปริมาณ วัตถุประสงค์ เนื้อหาสาระ และหลากหลายลักษณะ ดังนั้นจึงควรเลือกวิธีการท่ีเหมาะสมในการเข้าถึงและสืบค้นข้อมูลออกมาเพื่อความสะดวกรวดเร็ว การศึกษาพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพ และพระเกียรตคิ ุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยใช้วิธีการสืบค้นสารสนเทศผ่านเคร่ืองมือต่างๆ เช่นWebOPAC และ Search Engineกระบวนการสืบคน้ ทาใหไ้ ด้มาซงึ่ ข้อมลู ทสี่ อดคล้องกบัขอ้ เสนอแนะ อาจสามารถสืบคน้ แหล่งข้อมูลเพิม่ เติมไดจ้ ากเคร่อื งมอื ในการสบื ค้นสารสนเทศอ่ืนๆ เชน่ UnionCatalog ThaiLIS Digital Collection (TDC)และ Onesearch
83 เอกสารอ้างองิกติ ติ โล่เพชรตั น์. (๒๕๕๔). ราชันย์ผู้สร้างสรรค์ ดนตรี กีฬา ศิลปะ ของพระเจ้าแผ่นดิน. กรงุ เทพฯ : ก้าวแรก พับลิชชิง่ .คณะบรรณาธิการ ภทั ราวรรณ พูลทวเี กยี รต์.ิ (๒๕๕๕). ในหลวงของเรา = My king : theultimate knowledge of Thailand. กรุงเทพฯ : บรษิ ัทอมรนิ ทร์พริน้ ตง้ิ แอนด์พับลิชชิ่ง จากดั (มหาชน).ถวลั ย์ มาศจรสั . (2539). พระองคค์ อื อคั รศลิ ปนิ . กรุงเทพฯ :บรษิ ัท ตน้ ออ้ แกรมมี่ จากดั .แถมสนิ รัตนพนั ธ์. (๒๕๔๙). ใต้ละอองธุลพี ระบาทกบั ลดั ดาซุบซิบ. (พิมพค์ ร้ังท่ี ๕). กรงุ เทพ: พิมพด์ กี าร- พิมพ.์ทมี งานของ YeeSpaThailand.(๒๕๕๙).พระราชประวัติพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ย- เดชสยามินทราธิราชบรมนาถบพิตร(รชั กาลท่ี ๙).สบื ค้นเมื่อ ๑๓ ตลุ าคม ๒๕๖๐,จาก http://www.yesspathailand.com/The-King-Of-Thailandทีมงานสนุกกูรู. (๒๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖). พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงงานช่าง. สบื ค้นเมื่อ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๐, จาก http://guru.sanook.com/๑๙๖๕/ปิยนาถ บณุ นาค และคณะ. (๒๕๕๔). พระบามสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั พระอัจฉริภาพในการบรหิ ารจัดการ. กรุงเทพ: สานกั พมิ พ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั .ภูมิพลอดุลยเดช, พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหา. (๒๕๓๙). พระมหาชนก-The story of Mahajanaka. กรงุ เทพฯ : อมรินทรพ์ ร้นิ ต้งิ แอนดพ์ บั ลชิ ชิ่ง.มลู นิธหิ อศลิ ปะแห่งรัชกาลที่ ๙. (ม.ป.ป.). เรอื ใบฝีพระหัตถ์ สบื ค้นเม่ือวนั ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๐, จาก http://www.supremeartist.org/thai/design/work_design_๐๑.htmlลีซองดร์ เซ. เซไรดารสี . (๒๕๕๕). พระบทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว๚ รัชกาลที่๙. กรุงเทพฯ: บริษัทศริ วิ ัฒนา อนิ เตอรพ์ ริน้ ทจ์ ากดั .วรนชุ อุษณกร.(๒๕๔๔). ในหลวงผทู้ รงพระอัจฉริยภาพ. กรงุ เทพ: วชิ าการดอทคอม.วลั ย์ลดา หาญยุทธ.(๒๔สงิ หาคม ๒๕๕๙).รวมพระอัจฉรยิ ภาพของพ่อหลวง ร.๙(ตอนที่๑).สืบคน้ เมอ่ื วนั ที่ ๑๓ตุลาคม ๒๕๖๐,จากhttp://www.ddproperty.comวัลย์ลดา หาญยทุ ธ.(๒๔สิงหาคม ๒๕๖๐).รวมพระอจั ฉรยิ ภาพของพอ่ หลวง ร.๙(ตอนที่๒).สบื ค้นเมือ่ วนั ท่ี ๑๓ ตลุ าคม ๒๕๖๐,จากhttp://www.ddproperty.comวิรุณ ต้งั เจริญ. (๒๕๕๑). พระราชอจั ฉรยิ าภาพ อัครศลิ ปิน. (พิมพ์ครั้งที่ ๒). กรงุ เทพ: ศนู ย์การพมิ พ์ มหาวิทยาลัยศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ.วลิ เลียม สตีเวนสัน. (๒๕๕๙). หนังสอื นายอนิ ทรผ์ ปู้ ิดทองหลังพระ. กรงุ เทพ: อมรินทร์พรน้ิ ต้ิงแอนดพ์ บั
84วิไลวรรณ ตนั ติการณุ ย์และอไุ รวรรณ ฤกษ์ยาม.(๑สงิ หาคม ๒๕๔๙).พระอัจฉรยิ ภาพ.สบื ค้น เม่อื วันท่ี ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๐,จากhttps://kingofthailand.weebly.com ลชิ ชิง่ , บมจ.สถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (๒๕๕๕). อัจฉริยราชาผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญาแห่งแผ่นดิน =The lngeniousking : the wisdom of the land. กรุงเทพฯ : กระทรวงพาณิชยฯ์ .สยามกล้องฟลิ ์ม. (๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๙). พระอัจฉรยิ ภาพดา้ นการถ่ายภาพของ พระบาทสมเด็จ พ ร ะ ป ร มิ น ท ร ม ห า ภู มิ พ ล อ ดุ ล ย เ ด ช . สื บ ค้ น เ มื่ อ ๒ ๘ ตุ ล า ค ม ๒ ๕ ๖ ๐ , จ า กhttps://siamklongfilm .com/blogs/news/king-photography-skill.สานกั งานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร. (๒๕๕๐). เทดิ ไทจ้ อม กษัตรยิ ์ นกั ปราชญ์ไอซีที = The Great ICT KING. กรงุ เทพฯ : สานกั งานปลดั กระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร. สานักข่าวเจา้ พระยา. (ม.ป.ป.). พระอจั ฉรยิ ภาพด้านกีฬา. สืบคน้ เมือ่ วนั ที่ ๒๘ ตลุ าคม ๒๕๖๐, จาก https:// chaoprayanews.com.สานกั พิมพข์ ่าวสดออนไลน์. (๒๗ ตลุ าคม ๒๕๕๙). พระอัจฉรยิ ภาพ “ในหลวง”ทรงออกแบบ-ตอ่ เรือใบ สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๐, จาก https://www.khaosod.co.th/sports/news_๗๐๓๔๒องค์การคณะทางานรว่ มปฏิบัตงิ านพฒั นาหมบู่ า้ นชนบทสนองแนวพระราชดาร(ิ ครพ.). (๒๕๕๙).พระราช ประวัตพิ ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวโดยสงั เขป.สืบค้นเมอ่ื ๑๓ ตลุ าคม ๒๕๖๐, จาก http://www.wrp.or.th/BUILK TEAM. (๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๙). พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช “นายชา่ งใหญ่ ของแผน่ ดิน สืบคน้ เมื่อวันท่ี ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐, จาก https://www.builk.com/th/king-๙/muiyoo. (๒๕๕๙). ภาพวาดฝีพระหตั ถ์ พระอัจฉริยภาพแห่งองคอ์ คั รศลิ ปนิ . สืบคน้ เมอ่ื ๒๘ ตลุ าคม ๒๕๖๐, จาก https:// daily.rabbits.co.th.
85ประวัตผิ ดู้ าเนนิ โครงงาน ชอ่ื นางสาว คนษิ ตา สมเนตร Name Miss KANITTA SOMNET ปจั จบุ ัน กาลงั ศึกษา คณะแพทยศาสตร์ ชน้ั ปที ี่ 1 มหาวิทยาลัยนเรศวร E-mail: [email protected] ชือ่ นายคณุ านพ ธนศกั ดิ์เดชา Name Mr. KUNANOP THANASAKDECHA ปัจจุบัน กาลงั ศกึ ษา คณะแพทยศาสตร์ ชัน้ ปีท่ี 1 มหาวทิ ยาลัยนเรศวร E-mail:[email protected] ชอ่ื นางสาวจริ าพชั ร ครุฑเมือง Name Miss JIRAPHAT KHRUTMUANG ปจั จบุ นั กาลงั ศึกษา คณะแพทยศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวทิ ยาลัยนเรศวร E-mail:[email protected] ชือ่ นางสาว จุฬาลกั ษณ์ เอกสวุ รรณเจรญิ Name Miss JULALUCK EKSUWANCHAROEN ปัจจุบนั กาลงั ศกึ ษา คณะแพทยศาสตร์ ช้ันปีท่ี 1 มหาวิทยาลยั นเรศวร
86E-mail:[email protected]ชอื่ นายชญานนท์ พงษ์พานชิName Mr.CHAYANON PONGPANICHปัจจุบัน กาลงั ศกึ ษา คณะแพทยศาสตร์ชน้ั ปที ี่ 1 มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail: [email protected]ชื่อ นางสาว ชนภิ า อุดมสินName Miss CHANIPA UDOMSINปัจจบุ นั กาลงั ศึกษา คณะแพทยศาสตร์ชน้ั ปีท่ี 1 มหาวทิ ยาลัยนเรศวรE-mail: [email protected]ชื่อ นางสาวชลดา อรญั เจรญิ วัฒน์Name Miss CHONLADA ARANCHAROENWATปัจจุบัน กาลังศึกษา คณะแพทยศาสตร์ชน้ั ปีที่ 1 มหาวทิ ยาลัยนเรศวรE-mail: [email protected]ชือ่ นาย ฐปนนิ ทร์ บรรณาธรรม
87Name Mr. THAPANIN BANNATHAMปัจจุบนั กาลงั ศกึ ษา คณะแพทยศาสตร์ชนั้ ปีท่ี 1 มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail:[email protected]ช่ือ นาย ณตะวัน ล้ิมรวิกุลName Mr. NATAWAN LIMRAWIKULปัจจบุ นั กาลงั ศกึ ษา คณะแพทยศาสตร์ชน้ั ปที ี่ 1 มหาวทิ ยาลัยนเรศวรE-mail: [email protected]ชื่อ นางสาว ณฐั ชยา อินพลName Miss NATCHAYA INPONปัจจบุ ัน กาลังศึกษา คณะแพทยศาสตร์ชน้ั ปที ี่ 1 มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail: [email protected]
Search